• คราวที่แล้วเขียนเรื่องธรรมเนียมวันรับตัวเจ้าสาว วันนี้เลยมาคุยกันต่ออีกสักนิดถึงอีกหนึ่งธรรมเนียมจีนเกี่ยวกับประเพณีที่มีมาแต่โบราณคือการหวีผมให้เจ้าสาว ภาพประกอบอาจจะเก่านิดนึง แต่มาดูธรรมเนียมการหวีผมนี้กันโดยถอดบทสนทนาจากเรื่อง <เซียนกระบี่พิชิตมาร>

    ความมีอยู่ว่า
    ... “มา นั่งลง เหล่าเล้าจะหวีผมให้เจ้า” เหล่าเล้ากล่าว “หวีครั้งแรก หวีถึงปลาย หวีครั้งที่สอง ผมขาวบรรจบคิ้ว หวีครั้งที่สาม บุตรหลานเต็มบ้าน”...
    (หมายเหตุ Storyฯ ขอแปลความหมายเพิ่มเติมของ “ผมขาวบรรจบคิ้ว” ให้ว่า ชีวิตคู่ยืนยาวมีความสุขจากต้นจนปลาย อยู่คู่กันยืดยาวจนผมขาว)

    เพื่อนเพจอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า ในวันที่แต่งงาน แม่หรือญาติอาวุโสของเจ้าสาวจะหวีผมให้เจ้าสาวการหวีก็ต้องหวีด้านหน้าขึ้นบน แล้วหวีจากบนลงไปด้านหลังจนสุดปลาย พร้อมกับกล่าวคำมงคลดังๆ ในระหว่างที่หวี เช่นที่เหล่าเล้าหรือยายของนางเอกกล่าวตามความข้างต้น ประเพณีนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน และย่อสั้นเหลือเพียงสามประโยคข้างต้น (คำพูดอาจแตกต่างเล็กน้อยตามธรรมเนียมท้องถิ่น บางที่อาจมีประโยคที่สี่อวยพรให้ร่ำรวย) จากเดิมที่เคยต้องพูดกันยาวถึงสิบประโยค

    แต่สำหรับคนที่เคร่งครัดจริงๆ นั้น คนที่จะมาหวีผมให้เจ้าสาวนั้นต้องคัดสรรกันพอสมควร ไม่ใช่แค่ว่าเป็นแม่หรือญาติผู้ใหญ่คนไหนก็ทำได้ เพราะต้องเป็นคนที่มีชีวิตสมบูรณ์พูนสุข ซึ่งในที่นี่หมายถึง บิดามารดาพี่น้องสามีภรรยามีชีวิตอยู่ครบ บุตรหลานมากมาย และดวงไม่ชงกับบ่าวสาว เป็นเคล็ดว่าหากให้คนเช่นนี้หวีผมให้กับเจ้าสาว ดวงส่วนตัวของคนๆ นั้นจะสามารถนำพาให้เจ้าสาวได้พบความสมบูรณ์พูนสุขเหล่านี้เช่นกัน

    แต่ชีวิตใครจะเพอร์เฟ็ค? คนที่มีคุณสมบัติอย่างนี้หาได้ไม่ง่าย อีกทั้งสมัยโบราณการเกล้าผมเจ้าสาวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปกติคุณหนูคุณนายไม่เคยต้องทำเอง มักมีสาวใช้ทำให้ ดังนั้น ถ้าเจ้าสาวมาจากตระกูลผู้ดี การหาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีฝีมือเกล้าผมด้วยย่อมหายากเป็นธรรมดา (ก็เพราะว่าเครือญาติและเพื่อนฝูงด้วยกันล้วนแต่เป็นผู้ดีหรือคหบดีเช่นกัน ไม่ต้องทำผมเอง ดังนั้นอาจไม่มีฝีมือด้านนี้เหมือนกัน 555)

    ต่อมาจึงเกิดการว่าจ้างผู้ที่มาหวีและเกล้าผมมืออาชีพ (ใช่ค่ะ สมัยโบราณมีช่างทำผมค่ะ!... เท่าที่หาข้อมูลเจอกล่าวแต่ว่า “สมัยโบราณ” แต่เท่าที่ดูจากรูปภาพน่าจะเป็นในยุคสมัยราชวงศ์ชิง) สมัยโบราณเรียกกันว่า ซูโถวอี๋เหนียง (梳头姨娘) ต่อมาพัฒนาเป็นช่างทำผมทั่วไปเรียกกันว่า ซูโถวมา (梳头妈)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจากในละครและ: https://www.sohu.com/a/456348733_100129097
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://m.hunliji.com/bai_ke/detail_18650
    https://m.bxhyw.com/hunjia/41035.html
    https://www.163.com/dy/article/F9OQP5L00543A2C5.html

    #เซียนกระบี่พิชิตมาร #ประเพณีจีน #ประเพณีแต่งงานจีน #หวีผมเจ้าสาว
    คราวที่แล้วเขียนเรื่องธรรมเนียมวันรับตัวเจ้าสาว วันนี้เลยมาคุยกันต่ออีกสักนิดถึงอีกหนึ่งธรรมเนียมจีนเกี่ยวกับประเพณีที่มีมาแต่โบราณคือการหวีผมให้เจ้าสาว ภาพประกอบอาจจะเก่านิดนึง แต่มาดูธรรมเนียมการหวีผมนี้กันโดยถอดบทสนทนาจากเรื่อง <เซียนกระบี่พิชิตมาร> ความมีอยู่ว่า ... “มา นั่งลง เหล่าเล้าจะหวีผมให้เจ้า” เหล่าเล้ากล่าว “หวีครั้งแรก หวีถึงปลาย หวีครั้งที่สอง ผมขาวบรรจบคิ้ว หวีครั้งที่สาม บุตรหลานเต็มบ้าน”... (หมายเหตุ Storyฯ ขอแปลความหมายเพิ่มเติมของ “ผมขาวบรรจบคิ้ว” ให้ว่า ชีวิตคู่ยืนยาวมีความสุขจากต้นจนปลาย อยู่คู่กันยืดยาวจนผมขาว) เพื่อนเพจอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า ในวันที่แต่งงาน แม่หรือญาติอาวุโสของเจ้าสาวจะหวีผมให้เจ้าสาวการหวีก็ต้องหวีด้านหน้าขึ้นบน แล้วหวีจากบนลงไปด้านหลังจนสุดปลาย พร้อมกับกล่าวคำมงคลดังๆ ในระหว่างที่หวี เช่นที่เหล่าเล้าหรือยายของนางเอกกล่าวตามความข้างต้น ประเพณีนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน และย่อสั้นเหลือเพียงสามประโยคข้างต้น (คำพูดอาจแตกต่างเล็กน้อยตามธรรมเนียมท้องถิ่น บางที่อาจมีประโยคที่สี่อวยพรให้ร่ำรวย) จากเดิมที่เคยต้องพูดกันยาวถึงสิบประโยค แต่สำหรับคนที่เคร่งครัดจริงๆ นั้น คนที่จะมาหวีผมให้เจ้าสาวนั้นต้องคัดสรรกันพอสมควร ไม่ใช่แค่ว่าเป็นแม่หรือญาติผู้ใหญ่คนไหนก็ทำได้ เพราะต้องเป็นคนที่มีชีวิตสมบูรณ์พูนสุข ซึ่งในที่นี่หมายถึง บิดามารดาพี่น้องสามีภรรยามีชีวิตอยู่ครบ บุตรหลานมากมาย และดวงไม่ชงกับบ่าวสาว เป็นเคล็ดว่าหากให้คนเช่นนี้หวีผมให้กับเจ้าสาว ดวงส่วนตัวของคนๆ นั้นจะสามารถนำพาให้เจ้าสาวได้พบความสมบูรณ์พูนสุขเหล่านี้เช่นกัน แต่ชีวิตใครจะเพอร์เฟ็ค? คนที่มีคุณสมบัติอย่างนี้หาได้ไม่ง่าย อีกทั้งสมัยโบราณการเกล้าผมเจ้าสาวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปกติคุณหนูคุณนายไม่เคยต้องทำเอง มักมีสาวใช้ทำให้ ดังนั้น ถ้าเจ้าสาวมาจากตระกูลผู้ดี การหาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีฝีมือเกล้าผมด้วยย่อมหายากเป็นธรรมดา (ก็เพราะว่าเครือญาติและเพื่อนฝูงด้วยกันล้วนแต่เป็นผู้ดีหรือคหบดีเช่นกัน ไม่ต้องทำผมเอง ดังนั้นอาจไม่มีฝีมือด้านนี้เหมือนกัน 555) ต่อมาจึงเกิดการว่าจ้างผู้ที่มาหวีและเกล้าผมมืออาชีพ (ใช่ค่ะ สมัยโบราณมีช่างทำผมค่ะ!... เท่าที่หาข้อมูลเจอกล่าวแต่ว่า “สมัยโบราณ” แต่เท่าที่ดูจากรูปภาพน่าจะเป็นในยุคสมัยราชวงศ์ชิง) สมัยโบราณเรียกกันว่า ซูโถวอี๋เหนียง (梳头姨娘) ต่อมาพัฒนาเป็นช่างทำผมทั่วไปเรียกกันว่า ซูโถวมา (梳头妈) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจากในละครและ: https://www.sohu.com/a/456348733_100129097 Credit ข้อมูลจาก: https://m.hunliji.com/bai_ke/detail_18650 https://m.bxhyw.com/hunjia/41035.html https://www.163.com/dy/article/F9OQP5L00543A2C5.html #เซียนกระบี่พิชิตมาร #ประเพณีจีน #ประเพณีแต่งงานจีน #หวีผมเจ้าสาว
    WWW.SOHU.COM
    《仙剑奇侠传》将被翻拍,网友:谁能超越刘亦菲版啊!_年胡歌
    随着新消息的公开,该剧与2005年胡歌、刘亦菲主演的《仙剑奇侠传》角色所吻合,确认为第一部的翻拍。另外那时候电视剧也没后来出的那么频繁,玄幻剧占比也不多,《仙剑奇侠传》则凭借着强悍的演员阵容征服了大家的心。 …
    1 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨
    หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ
    เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก
    ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก

    ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้

    📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี
    📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย
    📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ
    📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
    📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย
    📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก
    📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที!

    🔧 ข้อมูลทางเทคนิค
    - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า
    - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป)
    - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม.
    - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม
    - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨ หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้ 📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี 📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย 📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ 📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย 📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก 📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที! 🔧 ข้อมูลทางเทคนิค - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป) - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม. - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • ถ้าจะพูดเรื่องประเพณีแต่งงานจีนโบราณ แน่นอนมีหลายเรื่องให้คุยกันได้ วันนี้มีเกร็ดเล็กๆ ที่แฟนละคร <ตำนานหยุนซี> อาจเคยผ่านหูผ่านตา ลองมาดูกันจากบทสนทนาที่ถอดคำพูดมาจากละครเรื่องนี้

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ฉินอ๋องเล่า? ฉินอ๋องอยู่ที่ใด? ธรรมเนียมแต่โบราณมา ไม่มีสะใภ้ใหม่กลับมาเยี่ยมบ้านหลังแต่งงานแต่เพียงผู้เดียว เจ้ากลับมาเพียงลำพัง หากมิใช่โดนปลดจากตำแหน่งชายาอ๋องแล้ว ยังมีเหตุผลใด? โอ้ว... ข้ากล่าวผิดไป มีแต่งจึงมีปลด ท่านฉินอ๋องมิเคยแม้แต่จะเตะเกี้ยวเจ้าสาวของเจ้า คงมิอาจนับได้ว่าแต่งเจ้าเข้าจวนอ๋องไปแล้วกระมัง?” หานรั่วเสวี่ยกล่าว

    บทสนทนาจากในละครข้างต้น เห็นได้ว่าหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในประเพณีแต่งงานคือการ ‘เตะเกี้ยวเจ้าสาว’ ทำไมจึงมีธรรมเนียมนี้และมันมีความหมายอย่างใด?

    จริงแล้วการเตะคานเกี้ยวเจ้าสาวเป็นหนึ่งในขั้นตอนสุดท้ายว่าด้วยเรื่องการรับตัวเจ้าสาวใน ‘สามหนังสือหกพิธีการ’ (三书六礼) ซึ่งเป็นพิธีการว่าด้วยงานแต่งงานที่สืบทอดมาจากยุคสมัยราชวงศ์โจว (1,100-771 ปีก่อนคริสต์ศักราช) แต่ในบทความภาษาไทยเกี่ยวกับพิธีการนี้ไม่ค่อยมีกล่าวถึงการเตะคานเกี้ยว
    แต่พิธีการรับเจ้าสาวมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างตามธรรมเนียมท้องถิ่น ในเรื่องการเตะคานเกี้ยวนี้ บางที่เตะคานเกี้ยวเจ้าสาวหนึ่งครั้ง แต่ส่วนใหญ่เตะสามครั้ง

    พิธีการเต็มๆ เท่าที่ Storyฯ เรียบเรียงข้อมูลมาได้ก็คือ... เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าประตูใหญ่บ้านเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวจะเตะคานประตูเกี้ยวเจ้าสาวหนึ่งครั้ง และเจ้าสาวก็จะเตะคานประตูตอบจากภายในหนึ่งครั้ง มีความหมายว่าชายมิกลัวภรรยาและสตรีมิอ่อนแอ (男不惧内,女不示弱) จากนั้นเจ้าสาวก็จะโยนกุญแจหีบสมบัติ (สินสมรสที่ฝ่ายเจ้าสาวนำติดตัวมาด้วย) ออกมา เจ้าบ่าวรับมาแล้วก็ต้องชูกุญแจขึ้น นัยว่าให้ฟ้าเป็นสักขีพยาน เป็นเคล็ดขอให้ได้ลูกชายหลายๆ คน

    พอได้ฤกษ์ก็จะมีการหามเกี้ยวเข้าไปที่หน้าโถงพิธีการ จากนั้นเจ้าบ่าวใช้พัดเคาะหลังคาเกี้ยวสามครั้งและเตะคานเกี้ยวสามครั้ง เป็นการแสดงอำนาจ เพื่อว่าต่อไปภรรยาจะได้เชื่อฟังผู้เป็นสามี จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีกราบไหว้ฟ้าดิน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก: https://www.jintjint.com/series/legend-of-yun-xi-%E8%8A%B8%E6%B1%90%E4%BC%A0-ep-1-48-end-eng-sub/
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://www.xiaozhishi.net/zhishi/1042699.html
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%BF%87%E9%97%A8_(%E4%B8%AD%E5%BC%8F%E5%A9%9A%E7%A4%BC)

    (หมายเหตุ บทความภาษาไทยเกี่ยวกับ ‘สามหนังสือหกพิธีการ’ อ่านได้ที่ http://www.ue-wedding.com/culture/)

    #ตำนานหยุนซี #ประเพณีแต่งงานจีน #ประเพณีจีน #เกี้ยวเจ้าสาว
    ถ้าจะพูดเรื่องประเพณีแต่งงานจีนโบราณ แน่นอนมีหลายเรื่องให้คุยกันได้ วันนี้มีเกร็ดเล็กๆ ที่แฟนละคร <ตำนานหยุนซี> อาจเคยผ่านหูผ่านตา ลองมาดูกันจากบทสนทนาที่ถอดคำพูดมาจากละครเรื่องนี้ ความมีอยู่ว่า ... “ฉินอ๋องเล่า? ฉินอ๋องอยู่ที่ใด? ธรรมเนียมแต่โบราณมา ไม่มีสะใภ้ใหม่กลับมาเยี่ยมบ้านหลังแต่งงานแต่เพียงผู้เดียว เจ้ากลับมาเพียงลำพัง หากมิใช่โดนปลดจากตำแหน่งชายาอ๋องแล้ว ยังมีเหตุผลใด? โอ้ว... ข้ากล่าวผิดไป มีแต่งจึงมีปลด ท่านฉินอ๋องมิเคยแม้แต่จะเตะเกี้ยวเจ้าสาวของเจ้า คงมิอาจนับได้ว่าแต่งเจ้าเข้าจวนอ๋องไปแล้วกระมัง?” หานรั่วเสวี่ยกล่าว บทสนทนาจากในละครข้างต้น เห็นได้ว่าหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในประเพณีแต่งงานคือการ ‘เตะเกี้ยวเจ้าสาว’ ทำไมจึงมีธรรมเนียมนี้และมันมีความหมายอย่างใด? จริงแล้วการเตะคานเกี้ยวเจ้าสาวเป็นหนึ่งในขั้นตอนสุดท้ายว่าด้วยเรื่องการรับตัวเจ้าสาวใน ‘สามหนังสือหกพิธีการ’ (三书六礼) ซึ่งเป็นพิธีการว่าด้วยงานแต่งงานที่สืบทอดมาจากยุคสมัยราชวงศ์โจว (1,100-771 ปีก่อนคริสต์ศักราช) แต่ในบทความภาษาไทยเกี่ยวกับพิธีการนี้ไม่ค่อยมีกล่าวถึงการเตะคานเกี้ยว แต่พิธีการรับเจ้าสาวมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างตามธรรมเนียมท้องถิ่น ในเรื่องการเตะคานเกี้ยวนี้ บางที่เตะคานเกี้ยวเจ้าสาวหนึ่งครั้ง แต่ส่วนใหญ่เตะสามครั้ง พิธีการเต็มๆ เท่าที่ Storyฯ เรียบเรียงข้อมูลมาได้ก็คือ... เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าประตูใหญ่บ้านเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวจะเตะคานประตูเกี้ยวเจ้าสาวหนึ่งครั้ง และเจ้าสาวก็จะเตะคานประตูตอบจากภายในหนึ่งครั้ง มีความหมายว่าชายมิกลัวภรรยาและสตรีมิอ่อนแอ (男不惧内,女不示弱) จากนั้นเจ้าสาวก็จะโยนกุญแจหีบสมบัติ (สินสมรสที่ฝ่ายเจ้าสาวนำติดตัวมาด้วย) ออกมา เจ้าบ่าวรับมาแล้วก็ต้องชูกุญแจขึ้น นัยว่าให้ฟ้าเป็นสักขีพยาน เป็นเคล็ดขอให้ได้ลูกชายหลายๆ คน พอได้ฤกษ์ก็จะมีการหามเกี้ยวเข้าไปที่หน้าโถงพิธีการ จากนั้นเจ้าบ่าวใช้พัดเคาะหลังคาเกี้ยวสามครั้งและเตะคานเกี้ยวสามครั้ง เป็นการแสดงอำนาจ เพื่อว่าต่อไปภรรยาจะได้เชื่อฟังผู้เป็นสามี จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีกราบไหว้ฟ้าดิน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.jintjint.com/series/legend-of-yun-xi-%E8%8A%B8%E6%B1%90%E4%BC%A0-ep-1-48-end-eng-sub/ Credit ข้อมูลจาก: https://www.xiaozhishi.net/zhishi/1042699.html https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%BF%87%E9%97%A8_(%E4%B8%AD%E5%BC%8F%E5%A9%9A%E7%A4%BC) (หมายเหตุ บทความภาษาไทยเกี่ยวกับ ‘สามหนังสือหกพิธีการ’ อ่านได้ที่ http://www.ue-wedding.com/culture/) #ตำนานหยุนซี #ประเพณีแต่งงานจีน #ประเพณีจีน #เกี้ยวเจ้าสาว
    1 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • แฟชั่นทรงผมของจีนโบราณนั้นหลากหลาย โดยเฉพาะที่เพื่อนเพจได้เคยเห็นในละคร/หนังจีนพีเรียดที่ดูอลังการงานสร้างมาก (รูปประกอบจากเรื่อง <หงส์ขังรัก>) ทำให้ Storyฯ คิดสงสัยว่าเป็นไปได้หรือที่ทุกคนจะใช้ผมจริงทั้งหมด จึงเป็นคำถามว่า สมัยโบราณนั้นมีใช้วิกผมหรือผมปลอมหรือไม่?

    หาคำตอบมาแล้ว คือมีแน่นอนจ้า

    ว่ากันว่าการใช้ผมปลอมมีมาแต่ยุคสมัยจ้านกั๋ว (ประมาณ 475-403 ก่อนคริสต์ศักราช) แต่ไม่ใช่ใครๆ จะมีผมปลอมใส่เพราะเป็นของแพง เริ่มแรกจึงมีใช้กันเฉพาะในวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 265–420) จึงมีการใช้กันในระดับสามัญชนในแวดวงคนมีอันจะกิน และมาเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618–907)

    ผมปลอมที่ใช้กันนี้ก็มีทั้งที่ทำมาจากขนสัตว์ย้อมสีดำ หรือถ้าแพงหน่อยก็จะทำจากผมจากคนจริงๆ โดยมีที่มาจากสามแหล่งหลักคือ ก) นักโทษที่โดนลงทัณฑ์อย่างรุนแรงจะถูกโกนหัว ข) ผู้ที่ปลงผมเพื่อบวช และ ค) คนที่สิ้นไร้ไม้ตอกประกาศตัดผมขายเพื่อเอาเงินมาใช้

    เดิมวิธีใช้ผมปลอมก็คือเอามาทอรวมกับผมจริงตอนเกล้าผม ต่อมาเมื่อแฟชั่นทรงผมสตรีมีลูกเล่นมากขึ้น จึงเริ่มมีวิกผมสำเร็จรูปเกล้าเป็นทรงต่างๆ โดยใช้มวยปลอมสอดไส้ ซึ่งมวยปลอมก็จะทำจากวัสดุอื่นๆ เช่นไม้หรือหมอนผ้า จากนั้นก็ใช้ผมปลอมถักคลุมปกปิดให้ดูเนียน

    แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า คนที่ใช้ผมปลอมจำนวนไม่น้อยเป็นผู้ชาย!

    กวีชื่อดังสมัยราชวงศ์ถังนามว่าหลี่ไป๋เคยประพันธ์ไว้ถึงตนเองยามท้อแท้ว่า “ยามเมื่อชีวิตคนเราล้มเหลวมิได้ดั่งใจ จะทำอันใดได้นอกจากปล่อยผมรุงรังล่องเรือตามยถากรรม” เห็นได้ว่าการปล่อยผมสยายเป็นการแสดงออกถึงความไม่สำรวม ไม่สุภาพ

    ดังนั้น สุภาพชนชายชาตรีสมัยโบราณต้องเกล้าผมปักปิ่นหรือครอบมงกุฎผมให้เนี๊ยบ ตอนหนุ่มๆ คงไม่เป็นปัญหา แต่เมื่ออายุมากขึ้นและผมน้อยลงตามการเวลา การมีผมไม่พอเกล้าจึงเป็นเรื่องชวนทุกข์ใจนัก เลยต้องพึ่งพาผมปลอมเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี

    ต่อมา สมัยราชวงศ์ชิงมีชายจีนไปเรียนต่างประเทศจำนวนไม่น้อย ล้วนแต่ตัดหางเปียออกเพื่อให้เข้ากับธรรมเนียมชาติตะวันตก เมื่อกลับมาจีนแผ่นดินใหญ่จึงต้องหาวิกหางเปียมาสวม บางคนใช้สวมหมวกที่มีหางเปียถักติดไว้เพื่อความสะดวก แบบที่เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยเห็นในหนังเรื่องหวงเฟยหงนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.jianshu.com/p/a042b95ee3ec
    https://www.163.com/ent/article/DD0TB8JN000380EO.html
    https://y.qichejiashi.com/tupian/1926174.html

    Credit ข้อมูลจาก:
    http://m.qulishi.com/article/201910/367225.html
    http://www.qulishi.com/article/202002/391814.html
    http://xn--fiq4m90j.com/Index/detail/catid/10/artid/04eb9650-68c6-44a2-897a-da8ebf712a5e/userid/bd2f4e82-9f87-452c-9f2d-7b290b6b006d
    https://www.guhanfu.com/60933.html

    #ทรงผมจีนโบราณ #ผมปลอม #วัฒนธรรมจีน
    แฟชั่นทรงผมของจีนโบราณนั้นหลากหลาย โดยเฉพาะที่เพื่อนเพจได้เคยเห็นในละคร/หนังจีนพีเรียดที่ดูอลังการงานสร้างมาก (รูปประกอบจากเรื่อง <หงส์ขังรัก>) ทำให้ Storyฯ คิดสงสัยว่าเป็นไปได้หรือที่ทุกคนจะใช้ผมจริงทั้งหมด จึงเป็นคำถามว่า สมัยโบราณนั้นมีใช้วิกผมหรือผมปลอมหรือไม่? หาคำตอบมาแล้ว คือมีแน่นอนจ้า ว่ากันว่าการใช้ผมปลอมมีมาแต่ยุคสมัยจ้านกั๋ว (ประมาณ 475-403 ก่อนคริสต์ศักราช) แต่ไม่ใช่ใครๆ จะมีผมปลอมใส่เพราะเป็นของแพง เริ่มแรกจึงมีใช้กันเฉพาะในวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 265–420) จึงมีการใช้กันในระดับสามัญชนในแวดวงคนมีอันจะกิน และมาเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618–907) ผมปลอมที่ใช้กันนี้ก็มีทั้งที่ทำมาจากขนสัตว์ย้อมสีดำ หรือถ้าแพงหน่อยก็จะทำจากผมจากคนจริงๆ โดยมีที่มาจากสามแหล่งหลักคือ ก) นักโทษที่โดนลงทัณฑ์อย่างรุนแรงจะถูกโกนหัว ข) ผู้ที่ปลงผมเพื่อบวช และ ค) คนที่สิ้นไร้ไม้ตอกประกาศตัดผมขายเพื่อเอาเงินมาใช้ เดิมวิธีใช้ผมปลอมก็คือเอามาทอรวมกับผมจริงตอนเกล้าผม ต่อมาเมื่อแฟชั่นทรงผมสตรีมีลูกเล่นมากขึ้น จึงเริ่มมีวิกผมสำเร็จรูปเกล้าเป็นทรงต่างๆ โดยใช้มวยปลอมสอดไส้ ซึ่งมวยปลอมก็จะทำจากวัสดุอื่นๆ เช่นไม้หรือหมอนผ้า จากนั้นก็ใช้ผมปลอมถักคลุมปกปิดให้ดูเนียน แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า คนที่ใช้ผมปลอมจำนวนไม่น้อยเป็นผู้ชาย! กวีชื่อดังสมัยราชวงศ์ถังนามว่าหลี่ไป๋เคยประพันธ์ไว้ถึงตนเองยามท้อแท้ว่า “ยามเมื่อชีวิตคนเราล้มเหลวมิได้ดั่งใจ จะทำอันใดได้นอกจากปล่อยผมรุงรังล่องเรือตามยถากรรม” เห็นได้ว่าการปล่อยผมสยายเป็นการแสดงออกถึงความไม่สำรวม ไม่สุภาพ ดังนั้น สุภาพชนชายชาตรีสมัยโบราณต้องเกล้าผมปักปิ่นหรือครอบมงกุฎผมให้เนี๊ยบ ตอนหนุ่มๆ คงไม่เป็นปัญหา แต่เมื่ออายุมากขึ้นและผมน้อยลงตามการเวลา การมีผมไม่พอเกล้าจึงเป็นเรื่องชวนทุกข์ใจนัก เลยต้องพึ่งพาผมปลอมเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี ต่อมา สมัยราชวงศ์ชิงมีชายจีนไปเรียนต่างประเทศจำนวนไม่น้อย ล้วนแต่ตัดหางเปียออกเพื่อให้เข้ากับธรรมเนียมชาติตะวันตก เมื่อกลับมาจีนแผ่นดินใหญ่จึงต้องหาวิกหางเปียมาสวม บางคนใช้สวมหมวกที่มีหางเปียถักติดไว้เพื่อความสะดวก แบบที่เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยเห็นในหนังเรื่องหวงเฟยหงนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.jianshu.com/p/a042b95ee3ec https://www.163.com/ent/article/DD0TB8JN000380EO.html https://y.qichejiashi.com/tupian/1926174.html Credit ข้อมูลจาก: http://m.qulishi.com/article/201910/367225.html http://www.qulishi.com/article/202002/391814.html http://xn--fiq4m90j.com/Index/detail/catid/10/artid/04eb9650-68c6-44a2-897a-da8ebf712a5e/userid/bd2f4e82-9f87-452c-9f2d-7b290b6b006d https://www.guhanfu.com/60933.html #ทรงผมจีนโบราณ #ผมปลอม #วัฒนธรรมจีน
    WWW.JIANSHU.COM
    电视剧《凤囚凰》观看第一集和第二集之后的说说
    在看《凤囚凰》这部电视剧的之前。我是带着挑剔的眼光去看的。看看于正到底有多么烂。网上吐槽凤囚凰被于正拍槽点很多,好先来看一看有那些被吐槽的点。 第一点,缝纫机头。 网上说的缝...
    1 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก

    “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า

    เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花)

    ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า?

    เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ

    แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html
    http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/
    https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/
    https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html
    https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html
    https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花) ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า? เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/ https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/ https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html Credit ข้อมูลจาก: https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    1 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • เที่ยว #เฉิงตู #เขาสี่ดรุณี 🍁
    14,900🔥🔥

    🗓 จำนวนวัน 5วัน 3คืน
    ✈ FD-แอร์เอเชีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐

    📍 ภูเขาสี่ดรุณี
    📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถอุทยาน)
    📍 สะพานโบราณหนานเฉียว
    📍 ร้านหนังสือจงซูเก๋อ
    📍 ถนนไท่กู่หลี่
    📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่
    📍 POP MART
    📍 วัดเจดีย์ขาว

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #เฉิงตู #เขาสี่ดรุณี 🍁 14,900🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 5วัน 3คืน ✈ FD-แอร์เอเชีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาสี่ดรุณี 📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถอุทยาน) 📍 สะพานโบราณหนานเฉียว 📍 ร้านหนังสือจงซูเก๋อ 📍 ถนนไท่กู่หลี่ 📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่ 📍 POP MART 📍 วัดเจดีย์ขาว รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 0 Reviews
  • วันนี้ Storyฯ ขอกล่าวถึงสำนวนจีนที่เตะตาเมื่ออ่านถึงบทความด้านล่างในนิยายจีน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “เขาไม่กลัวทำให้ท่านอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายขุ่นเคือง?” ปันฮว่านึกถึงประเด็นสำคัญ “เขารับราชการมีตำแหน่ง ท่านอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะให้เขาใส่รองเท้าเล็กหรือไม่?” ...
    - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    การ ‘ให้ (ใคร) ใส่รองเท้าเล็ก’ (ชวนเสี่ยวเสีย หรือ 穿小鞋) เพื่อนเพจบางคนอาจเคยอ่านเจอ ความหมายของสำนวนนี้แปลว่า ใช้อำนาจที่มี กลั่นแกล้งหรือสร้างความลำบากให้คนอื่น หรือบีบบังคับคนอื่นให้ฝืนทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ

    แล้วสำนวนนี้มีที่มาอย่างไร?

    เบื้องหลังของสำนวนนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนโบราณ นับแต่สมัยองค์หลี่อวี้แห่งถังใต้ (สมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น ค.ศ. 907-960) พระองค์ทรงมีความนิยมชมชอบสตรีเท้าเล็ก เกิดเป็นต้นฉบับของธรรมเนียมการรัดเท้าสตรี หลายคนเข้าใจว่าสำนวนนี้มาจากการบีบบังคับให้สตรีรัดเท้า

    แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่กล่าวขานมีที่มาจากประเพณีการแต่งงาน ซึ่งแม่สื่อจะส่งมอบแบบขนาดเท้าของฝ่ายหญิงให้กับฝ่ายชาย หากเล็กสวยงามเป็นที่พอใจก็จะหมั้นหมายกันและฝ่ายเจ้าบ่าวจะตัดเย็บรองเท้าตามแบบขนาดนั้นให้เจ้าสาวไว้ก่อนงานวันแต่งงาน เมื่อถึงวันแต่งงาน เจ้าสาวก็จะต้องสวมใส่รองเท้าที่ฝ่ายเจ้าบ่าวส่งมาให้ ทั้งนี้เพื่อว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะได้ไม่โดนหลอกลวงตบแต่งเจ้าสาวเท้าใหญ่เข้าบ้าน

    มีเรื่องเล่าต่อมาว่า ในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีสตรีนามว่าเฉี่ยวอวี้ ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้ง ส่งแบบขนาดรองเท้าที่เล็กเกินไปให้กับว่าที่เจ้าบ่าว พอถึงวันแต่งงาน นางพยายามบีบเท้าอย่างไรก็ใส่รองเท้าคู่นั้นไม่ลง จึงรู้สึกอับอายจนแขวนคอตาย แต่ก็มีที่เล่าว่าเฉี่ยวอวี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ทนบีบเท้าใส่รองเท้าที่เล็กไปจนเท้าบาดเจ็บ ต่อมาบิดานางทราบความจริงก็ทำโทษแม่เลี้ยงใจร้าย จบแบบสวยๆ

    แต่ไม่ว่าเรื่องราวที่แท้จริงจบลงอย่างไร เรื่องของเฉี่ยวอวี้นี้กลายเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า ‘ให้ (ใคร) ใส่รองเท้าเล็ก’ สำนวนนี้ยังคงมีการใช้อยู่ในปัจจุบัน มักใช้ในสถานการณ์ที่ผู้ใหญ่ใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้น้อย

    มีเพื่อนเพจท่านใดพอจะทราบไหมคะว่ามีสำนวนไทยที่มีความหมายคล้ายคลึงกันหรือเปล่า Storyฯ นึกไม่ออกจริงๆ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจากภาพโฆษณาละครและหน้าปกหนังสือ:
    http://www.peoplezzs.com/yule/2021/0112/53833.html
    https://readmoo.com/book/210027627000101
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://zhidao.baidu.com/question/4655693
    https://kknews.cc/history/8mmrpll.html
    http://xh.5156edu.com/page/z4417m6469j20897.html

    #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #เท้าบัวทอง #ใส่รองเท้าเล็ก #สำนวนจีน #วลีจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    วันนี้ Storyฯ ขอกล่าวถึงสำนวนจีนที่เตะตาเมื่ออ่านถึงบทความด้านล่างในนิยายจีน ความมีอยู่ว่า ... “เขาไม่กลัวทำให้ท่านอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายขุ่นเคือง?” ปันฮว่านึกถึงประเด็นสำคัญ “เขารับราชการมีตำแหน่ง ท่านอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายจะให้เขาใส่รองเท้าเล็กหรือไม่?” ... - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) การ ‘ให้ (ใคร) ใส่รองเท้าเล็ก’ (ชวนเสี่ยวเสีย หรือ 穿小鞋) เพื่อนเพจบางคนอาจเคยอ่านเจอ ความหมายของสำนวนนี้แปลว่า ใช้อำนาจที่มี กลั่นแกล้งหรือสร้างความลำบากให้คนอื่น หรือบีบบังคับคนอื่นให้ฝืนทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ แล้วสำนวนนี้มีที่มาอย่างไร? เบื้องหลังของสำนวนนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนโบราณ นับแต่สมัยองค์หลี่อวี้แห่งถังใต้ (สมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น ค.ศ. 907-960) พระองค์ทรงมีความนิยมชมชอบสตรีเท้าเล็ก เกิดเป็นต้นฉบับของธรรมเนียมการรัดเท้าสตรี หลายคนเข้าใจว่าสำนวนนี้มาจากการบีบบังคับให้สตรีรัดเท้า แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่กล่าวขานมีที่มาจากประเพณีการแต่งงาน ซึ่งแม่สื่อจะส่งมอบแบบขนาดเท้าของฝ่ายหญิงให้กับฝ่ายชาย หากเล็กสวยงามเป็นที่พอใจก็จะหมั้นหมายกันและฝ่ายเจ้าบ่าวจะตัดเย็บรองเท้าตามแบบขนาดนั้นให้เจ้าสาวไว้ก่อนงานวันแต่งงาน เมื่อถึงวันแต่งงาน เจ้าสาวก็จะต้องสวมใส่รองเท้าที่ฝ่ายเจ้าบ่าวส่งมาให้ ทั้งนี้เพื่อว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะได้ไม่โดนหลอกลวงตบแต่งเจ้าสาวเท้าใหญ่เข้าบ้าน มีเรื่องเล่าต่อมาว่า ในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีสตรีนามว่าเฉี่ยวอวี้ ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้ง ส่งแบบขนาดรองเท้าที่เล็กเกินไปให้กับว่าที่เจ้าบ่าว พอถึงวันแต่งงาน นางพยายามบีบเท้าอย่างไรก็ใส่รองเท้าคู่นั้นไม่ลง จึงรู้สึกอับอายจนแขวนคอตาย แต่ก็มีที่เล่าว่าเฉี่ยวอวี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ทนบีบเท้าใส่รองเท้าที่เล็กไปจนเท้าบาดเจ็บ ต่อมาบิดานางทราบความจริงก็ทำโทษแม่เลี้ยงใจร้าย จบแบบสวยๆ แต่ไม่ว่าเรื่องราวที่แท้จริงจบลงอย่างไร เรื่องของเฉี่ยวอวี้นี้กลายเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า ‘ให้ (ใคร) ใส่รองเท้าเล็ก’ สำนวนนี้ยังคงมีการใช้อยู่ในปัจจุบัน มักใช้ในสถานการณ์ที่ผู้ใหญ่ใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้น้อย มีเพื่อนเพจท่านใดพอจะทราบไหมคะว่ามีสำนวนไทยที่มีความหมายคล้ายคลึงกันหรือเปล่า Storyฯ นึกไม่ออกจริงๆ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจากภาพโฆษณาละครและหน้าปกหนังสือ: http://www.peoplezzs.com/yule/2021/0112/53833.html https://readmoo.com/book/210027627000101 Credit ข้อมูลจาก: https://zhidao.baidu.com/question/4655693 https://kknews.cc/history/8mmrpll.html http://xh.5156edu.com/page/z4417m6469j20897.html #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #เท้าบัวทอง #ใส่รองเท้าเล็ก #สำนวนจีน #วลีจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    《我就是这般女子》“关”方定档1月18日 关晓彤侯明昊甜辣互撩_人民在线
    由企鹅影视、谷元(上海)文化科技共同出品,陈伟祥、杨小波执导,关晓彤、侯明昊等主演,改编自月下蝶影同名小说的古装甜爽轻喜剧《我就是这般女子》正式定档1月18日,关晓彤下场 关方
    1 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก วัดท่าสาป จ.ยะลา ปี2553
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ( กดมือทั้งหมด จำนวน 7,716 องค์ ) วัดท่าสาป จ.ยะลา ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ ได้ผสมผงว่านที่ใช้สร้างหลวงพ่อทวด 2497 ลงไปด้วย การจัดสร้าง พระ-เณร ในวัดช่วยกันทำครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง >>

    ** เนื้อว่านหลวงพ่อทวด วัดท่าสาป จ.ยะลา พระดีที่อยากแนะนำ....วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสร้างโรงครัวของทางวัด และบูรณะกุฏิของพระสงฆ์ที่มีสภาพชำรุด การจัดสร้างพระ-เณร ในวัดช่วยกันทำ ที่สำคัญ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ มานั่งปรกปลุกเสกจุดเทียนชัย โดยหลวงพ่อแดง วัดบูรภาราม ปัตตานี ดับเทียนชัยโดยหลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา ชนวนแผ่นยันต์ ประกอบด้วย แผ่นทองหลวงพ่อทองวัดสำเภาเชย แผ่นทองหลวงพ่อเขียววัดห้วยเงาะ แผ่นทองหลวงปู่สุภา ภูเก็ต ตะกรุตแผ่นยันต์เจ้าอาวาสวัดดิตถมงคล เครื่องทองเหลืองโบราณ ได้ผสมผงว่านที่ใช้สร้างหลวงพ่อทวด 2497 ลงไปด้วย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก วัดท่าสาป จ.ยะลา ปี2553 เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ( กดมือทั้งหมด จำนวน 7,716 องค์ ) วัดท่าสาป จ.ยะลา ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ ได้ผสมผงว่านที่ใช้สร้างหลวงพ่อทวด 2497 ลงไปด้วย การจัดสร้าง พระ-เณร ในวัดช่วยกันทำครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง >> ** เนื้อว่านหลวงพ่อทวด วัดท่าสาป จ.ยะลา พระดีที่อยากแนะนำ....วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อสร้างโรงครัวของทางวัด และบูรณะกุฏิของพระสงฆ์ที่มีสภาพชำรุด การจัดสร้างพระ-เณร ในวัดช่วยกันทำ ที่สำคัญ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ มานั่งปรกปลุกเสกจุดเทียนชัย โดยหลวงพ่อแดง วัดบูรภาราม ปัตตานี ดับเทียนชัยโดยหลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา ชนวนแผ่นยันต์ ประกอบด้วย แผ่นทองหลวงพ่อทองวัดสำเภาเชย แผ่นทองหลวงพ่อเขียววัดห้วยเงาะ แผ่นทองหลวงปู่สุภา ภูเก็ต ตะกรุตแผ่นยันต์เจ้าอาวาสวัดดิตถมงคล เครื่องทองเหลืองโบราณ ได้ผสมผงว่านที่ใช้สร้างหลวงพ่อทวด 2497 ลงไปด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews

  • ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555
    ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า.

    https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    ..ถึงเวลานี้หมดเวลาแล้วครับ,พ้นเส้นขีดคำว่าอภัยโทษแล้ว,ยุคกากยุคข่าวสารแบบโบราณอะไร,จนรอข่าวสารก่อนค่อยตัดสินใจให้รอบคอบ,พ้นคลิปมาต้องตัดสินใจทันทีแบบพรรคภูมิใจไทยโน้น,อธิปไตยชาติไทยต้องมาก่อนมิใช่ผีบ้าห่วงเก้าอี้ตำแหน่งตนเอง,แค่ภาวะผู้นำด้านการตัดสินเรื่องอธิปไตยไทยตนเองขั้นพื้นฐานก็ไม่มี,ไม่สมควรเป็นว่าที่นายกฯอะไรในอนาคตแบบข่าวปล่อยลือออกมาได่หรอกในตอนนี้และยุคนี้ ปิดฝาโลงไปเลย,และนักการเมืองทั้งหมดด้วย จริงๆสมควรลาออกจากสถานะ สส.สว.ไปเลยทั้งสภา,เหี้ยขนาดนี้แล้ว สภาจะมีค่าอะไรอีก,เหมือนสมัยการศึกสงคราม ญี่ปุ่นยึดไทยขึ้นบกได้แล้ว หรือกำลังถล่มไทยเสือกประชุมสภาห่วงหวงตำแหน่งอำนาจสส.สว.อีกเหรอ,555เหี้ยหมด,เป็นผมลาออกจากสส.สว.ทันทีแล้ว อับอายเกียรติตนเองที่จะมาค้านเป็นฝ่ายค้านกับคนที่เนรคุณอธิปไตยชาติไทยตนเอง,เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นสส.ร่วมรัฐบาลละอายใจต่อบรรพบุรุษตนเองที่มาร่วมคนเนรคุณคนทรยศในอธิปไตยชาติไทยตน,ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใครหรอกสามัญสำนึกดีขั้นพื้นฐานเลย สำเนียกในใจขั้นต้นก็ว่า ทั้งสภาไม่มีสส.สว.ใครเลยจะกระทำแบบนี้,ยิ่งกฎหมายเขียนแบบในอดีต นายกฯสิ้นสถานะนายกฯต้องเลือกตั้งใหม่,ผมลาออกทันทีล้าน%,ด้วย,สส.สว.เรากากใจกระจอก ร่วมกันรักษาอะไร สภาเหรอ,นี้อธิปไตยไทยนะ ไม่มีชาติจะมีสภาผีบ้าอะไร,นัยยะขั้นพื้นฐาน สำนึกรักชาติขั้นพื้นฐานสส.สว.ยังไม่มีเลย.สส.สว.ลาออกทั้งสภาจะฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเหลือแค่พรรคเพื่อไทยจะบริหารแบบไหน.,นี้คือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของสถาบันการเมืองด้านนักการเมืองเลยคือจริยธรรมพื้นฐาน,ไม่จำเป็นต้องเขียนตีตราเป็นกฎหมายพิเศษใดๆก็ได้,สามัญสำนึกในสมองพื้นๆก็ว่า.,ทั้งมันคือตำนานอีก ชนะใจเกินร้อยแก่ประชาชนโน้น เสียดายโอกาสการเป็นคนในตำนานจริงๆ555,จังหวะมาก็ไม่ถือโอกาสดีขนาดนี้ไว้ ฉลาดล้ำอัจฉริยะด้วย สมัยหน้าได้รับเลือกตั้งอีกโน้น,นั่งในสภาครั้งใหม่อย่างองอาจอีกว่าข้าคือตำนานโน้น,ลาออกล่าสุดก็สามารถกลับมาได้ใหม่555 ..และส่วนตัวคนเช่นนี้พื้นฐานมีจิตสำนึกดีงามเพื่อชาติ ชาติไทยต้องมาก่อน แม้การเมืองจะเหี้ยภายในขนาดไหนก็ว่า. https://youtu.be/GFmW2tJ8MRc?si=iJ53XapolZtcXCHW
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’

    ความมีอยู่ว่า
    ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ...
    จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย

    Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’

    เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’

    แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น

    นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก

    นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง

    Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm

    ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html
    http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://theplayingcardfactory.com/history
    https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html
    http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2

    #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’ ความมีอยู่ว่า ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ... จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้) ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html Credit ข้อมูลจาก: https://theplayingcardfactory.com/history https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2 #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549
    หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ เนื้อผงพระธาตู (ขอบเกลียวเชือก) รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 //พระดีพิธีใหญ่ พระสงฆ์ร่วมพิธีปลุกเสกกว่า 5,000 รูป //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >>

    ** หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล พระดี พิธีใหญ่ พระสงฆ์ร่วมพิธีปลุกเสกกว่า 5,000 รูป เมื่อ 27 สิงหาคม 2549 พิธีมหาพุทธาภิเษกหน้ามณฑลพิธีหลวงพ่อทวด ส.ก. . เพิ่มความเข้มขลัง ได้นำหัวว่านไปให้เกจิอาจารย์ลงอักขระเลขยันต์ตามสูตรโบราณมีหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี เพื่อนำมาจัดทำวัตถุมงคลพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านรุ่นปาฏิหาริย์ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ เนื้อผงพระธาตู (ขอบเกลียวเชือก) รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 //พระดีพิธีใหญ่ พระสงฆ์ร่วมพิธีปลุกเสกกว่า 5,000 รูป //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >> ** หลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล พระดี พิธีใหญ่ พระสงฆ์ร่วมพิธีปลุกเสกกว่า 5,000 รูป เมื่อ 27 สิงหาคม 2549 พิธีมหาพุทธาภิเษกหน้ามณฑลพิธีหลวงพ่อทวด ส.ก. . เพิ่มความเข้มขลัง ได้นำหัวว่านไปให้เกจิอาจารย์ลงอักขระเลขยันต์ตามสูตรโบราณมีหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี เพื่อนำมาจัดทำวัตถุมงคลพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านรุ่นปาฏิหาริย์ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล

    แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน

    กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า

    ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก

    เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่

    ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน

    ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.bbc.com/news/magazine-35409594
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm
    http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid=

    #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.bbc.com/news/magazine-35409594 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid= #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药)

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม
    “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ....

    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร>

    จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药)

    จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง

    ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน

    และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้)

    ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones

    ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773
    https://www.sohu.com/a/458843590_120172967
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y
    https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html
    https://www.bilibili.com/read/cv10911896
    https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药) ความมีอยู่ว่า ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ.... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药) จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้) ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773 https://www.sohu.com/a/458843590_120172967 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html https://www.bilibili.com/read/cv10911896 https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/ #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    1 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • 🎉 Family Trip CHENGDU 4 วัน 3 คืน ✈️ เส้นทางสายมู ไหว้พระเสริมเฮง เที่ยวครบ จบแบบปัง! 🐼

    🛫 เดินทางโดย Thai Airways
    📅 วันนี้ - 31 ก.ค. 68
    🏨 พักดี 3 คืนที่ JINNIU EVEN HOTEL by IHG
    💼 น้ำหนักกระเป๋า 23 กก.
    💰 เริ่มต้นเพียง 26,888.-

    ไฮไลท์เสริมสิริมงคล & เที่ยวฟินๆ
    • วัดต้าสือ ขอพรโชคดี วัดที่ “พระถังซัมจั๋ง” เคยบวช
    • อารามเหวินซู ชมศิลปะโบราณราชวงศ์ถัง
    • ศาลเจ้าหลี่ปิง แห่งยุคสามก๊ก
    • ภูเขาชิงเฉิง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ระดับ A5
    • เมืองโบราณเจียจือ & ถนนโบราณจินหลี่
    • ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า สุดน่ารัก
    • ถนนคนเดินควานจ๋าย & ถนนชุนหลี่
    • ลิ้มรสของอร่อยขึ้นชื่อ: เสี่ยวหลงเปา, หม่าล่า, เต้าหู้เหม็น
    • แวะจิบชา Hey Tea สุดชิค ถ่ายรูปปังลง IG
    • 📸 เซลฟี่กับแพนด้าถือไม้เซลฟี่สีชมพู มุมห้ามพลาด!

    #เฉิงตู #สายมูต้องมา #FamilyTripChengdu #เที่ยวจีน2568 #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #สายบุญเสริมดวง #แพนด้าเฉิงตู #เที่ยวจีนกับครอบครัว #กินเที่ยวไหว้ครบจบในทริปเดียว 🐼⛰🧧

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e53048

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🎉 Family Trip CHENGDU 4 วัน 3 คืน ✈️ เส้นทางสายมู ไหว้พระเสริมเฮง เที่ยวครบ จบแบบปัง! 🐼 🛫 เดินทางโดย Thai Airways 📅 วันนี้ - 31 ก.ค. 68 🏨 พักดี 3 คืนที่ JINNIU EVEN HOTEL by IHG 💼 น้ำหนักกระเป๋า 23 กก. 💰 เริ่มต้นเพียง 26,888.- ไฮไลท์เสริมสิริมงคล & เที่ยวฟินๆ • วัดต้าสือ ขอพรโชคดี วัดที่ “พระถังซัมจั๋ง” เคยบวช • อารามเหวินซู ชมศิลปะโบราณราชวงศ์ถัง • ศาลเจ้าหลี่ปิง แห่งยุคสามก๊ก • ภูเขาชิงเฉิง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ระดับ A5 • เมืองโบราณเจียจือ & ถนนโบราณจินหลี่ • ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า สุดน่ารัก • ถนนคนเดินควานจ๋าย & ถนนชุนหลี่ • ลิ้มรสของอร่อยขึ้นชื่อ: เสี่ยวหลงเปา, หม่าล่า, เต้าหู้เหม็น • แวะจิบชา Hey Tea สุดชิค ถ่ายรูปปังลง IG • 📸 เซลฟี่กับแพนด้าถือไม้เซลฟี่สีชมพู มุมห้ามพลาด! #เฉิงตู #สายมูต้องมา #FamilyTripChengdu #เที่ยวจีน2568 #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #สายบุญเสริมดวง #แพนด้าเฉิงตู #เที่ยวจีนกับครอบครัว #กินเที่ยวไหว้ครบจบในทริปเดียว 🐼⛰🧧 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e53048 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น

    คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล

    ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด

    "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง"

    ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง

    นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน

    #Newskit
    นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง" ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน #Newskit
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • ## สมเด็จจากนรก ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่...!!! ##
    ..
    ..
    เอาจริงๆนะ...
    .
    พฤติกรรม เกเร ระราน เจ้าเล่ห์เพทุบาย...
    .
    ระดมใช้วิชามารต่างๆนานาเพื่อยึดครองแผ่นดินไทย...
    .
    ถ้าใคร ศึกษา หรือ ตามข่าวตลอด ก็จะพอเข้าใจ ทำไม "ไอ้สมเด็จจากนรก" มันเกาะยึด MOU43 และ แผนที่ 1:200,000 ไม่ปล่อย...
    .
    และ ท่าทีของรัฐบาลไทย และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่ อ่อนยวบ ไร้น้ำหนักราวกับล่องลอยอยู่ในอวกาศก็มิปาน...
    .
    ไม่หือ ไม่อือ ไม่โต้แย้ง ในทุกประเด็น ที่ เขมร มันประกาศวางเกม...
    .
    เพื่อที่ในอนาคต อาจจะได้มีโอกาส ใช้กฎหมายปิดปากจาก ชาติมหาอำนาจเจ้าจักรวรรดินิยมอีกครั้ง...
    ....
    ....
    ที่น่าแปลก คือ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมดุ ส่วน รัฐบาลไทย สวมวิญญาณ เดอะนุ่น...!!!
    .
    ทำทีราวกับตามเกมอะไร เขมรสองพ่อลูก ไม่ทันเลย...
    ..
    ..
    ทั้งๆที่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมเดือด ประกาศกร้าวว่า ตรงนั้นแผ่นดินเขมร ประเทศไทยเป็นโจรขโมยแผ่นดิน...
    .
    แต่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" ไม่เคยด่าคนใน รัฐบาลไทย จริงๆจังๆ
    .
    หนำซ้ำยังเย้ยว่า คุมกองทัพไม่ได้ 100%
    .
    บวกกับ เป็นเดือดเป็นแค้น สนธิ ลิ้มทองกุล และ ทวงบุญจาก ตู่ จตุพร...
    .
    ด่าว่า ลุงสนธิ ลิ้มทองกุล มองเขมรเป็นศัตรู ดูถูกเขมร คลั่งชาติ และ ปั่นหัวคนไทยหัวรุนแรงให้คลั่งชาติ
    .
    เพราะ ชาวคณะบ้านพระอาทิตย์ และ นักวิชาการ รวมทั้งประชาชน รวมพลังกันไปยื่นเรื่องให้รัฐบาล ยกเลิก MOU43 ยึดหลักสากล คือ สันปันน้ำ และ เปลี่ยนตัว ประธานคณะเจรจา JBC ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ว่าอาจจะยึดถือแผนที่ 1:200,000 ของ เขมร
    .
    ประกอบกับรอบก่อน สำนักบ้านพระอาทิตย์ โดย ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ก็ไปยื่นเรื่องให้ รัฐบาล ยกเลิก MOU44 กับ JC44 และ ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย...
    .
    จนรัฐบาลเงียบไปเรื่องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออก ตาม MOU44 และ JC44
    ....
    ....
    โอ้โห พฤติกรรมของ สมเด็จจากนรก นี่เขาเรียก "ตีปลาหน้าไซ" ใช่หรือไม่...???
    .
    ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เข้าทางรัฐบาลไทยทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย...!!!
    ...
    ...
    ตอนนี้คนไทย ไม่พอใจในท่าทีของ รัฐบาล อย่างมาก เพราะ แลดูอ่อนแอ ไม่ทันเกมเขมร อีกทั้งยังแลดูเหมือนไม่ได้มีท่าทีจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอย่างเข้มแข็งอีกด้วย...!!!
    ..
    ..
    นี่มัน ชงหวาน ให้รัฐบาลไทยชัดๆ...!!!
    ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่...!!!
    .
    แสดงว่าที่ ลุงสนธิ และ คณะบ้านพระอาทิตย์ ไปแตะ MOU43 + MOU44 + JC44 คือ ไปแตะโดนกล่องดวงใจ ของ สมเด็จจากนรก ใช่หรือไม่...???
    .
    ถ้าไม่มี MOU43 + MOU44 + JC44 แผนร้ายจะมีอันเป็นไป ใช่หรือไม่...???
    .
    "ไอ้สมเด็จจากนรก" หารู้ไม่...!!!
    .
    คนไทย เขาไม่ไม่กินหญ้า เหมือน สมเด็จเตโชจากนรก นะโว่ย..!!!
    .
    แบบนี้หลอกได้แต่ ชาวเหมนตาใสๆ เท่านั้นแหล่ะ...!!!
    .
    ขนาด ปราสาทตาเมือนธม ได้ขึ้นบัญชี โบราณสถานของไทยตั้งแต่ 2478 ก่อนที่เขมร จะได้รับเอกราช ในปี 2496 เป็นระยะเวลาถึง 18 ปี...
    .
    วันนี้ผ่านมาแล้ว 90 ปี แล้ว คุณเอาอะไรมาเคลม ว่าประเทศไทย ขโมยของคุณไป...???
    .
    พฤติกรรมของคุณมันส่อว่า วอนหา สหบาทาส้งตรีง จาก ชาวสยามเมืองยิ้ม ครับ ไอ้สมเด็จเตโชจากนรก...!!!
    .
    อ่อ แล้วไอ้พวกคนไทยใจเขมร ที่สมรู้ร่วมคิด ก็ระวัง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ไว้ให้ดีหล่ะ ประหารชีวิต นะมุง...!!!
    ..
    ..
    คนไทยรู้ทันพวกคุณนะครับ...
    ## สมเด็จจากนรก ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่...!!! ## .. .. เอาจริงๆนะ... . พฤติกรรม เกเร ระราน เจ้าเล่ห์เพทุบาย... . ระดมใช้วิชามารต่างๆนานาเพื่อยึดครองแผ่นดินไทย... . ถ้าใคร ศึกษา หรือ ตามข่าวตลอด ก็จะพอเข้าใจ ทำไม "ไอ้สมเด็จจากนรก" มันเกาะยึด MOU43 และ แผนที่ 1:200,000 ไม่ปล่อย... . และ ท่าทีของรัฐบาลไทย และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่ อ่อนยวบ ไร้น้ำหนักราวกับล่องลอยอยู่ในอวกาศก็มิปาน... . ไม่หือ ไม่อือ ไม่โต้แย้ง ในทุกประเด็น ที่ เขมร มันประกาศวางเกม... . เพื่อที่ในอนาคต อาจจะได้มีโอกาส ใช้กฎหมายปิดปากจาก ชาติมหาอำนาจเจ้าจักรวรรดินิยมอีกครั้ง... .... .... ที่น่าแปลก คือ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมดุ ส่วน รัฐบาลไทย สวมวิญญาณ เดอะนุ่น...!!! . ทำทีราวกับตามเกมอะไร เขมรสองพ่อลูก ไม่ทันเลย... .. .. ทั้งๆที่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" เล่นเกมเดือด ประกาศกร้าวว่า ตรงนั้นแผ่นดินเขมร ประเทศไทยเป็นโจรขโมยแผ่นดิน... . แต่ "ไอ้สมเด็จจากนรก" ไม่เคยด่าคนใน รัฐบาลไทย จริงๆจังๆ . หนำซ้ำยังเย้ยว่า คุมกองทัพไม่ได้ 100% . บวกกับ เป็นเดือดเป็นแค้น สนธิ ลิ้มทองกุล และ ทวงบุญจาก ตู่ จตุพร... . ด่าว่า ลุงสนธิ ลิ้มทองกุล มองเขมรเป็นศัตรู ดูถูกเขมร คลั่งชาติ และ ปั่นหัวคนไทยหัวรุนแรงให้คลั่งชาติ . เพราะ ชาวคณะบ้านพระอาทิตย์ และ นักวิชาการ รวมทั้งประชาชน รวมพลังกันไปยื่นเรื่องให้รัฐบาล ยกเลิก MOU43 ยึดหลักสากล คือ สันปันน้ำ และ เปลี่ยนตัว ประธานคณะเจรจา JBC ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ว่าอาจจะยึดถือแผนที่ 1:200,000 ของ เขมร . ประกอบกับรอบก่อน สำนักบ้านพระอาทิตย์ โดย ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ก็ไปยื่นเรื่องให้ รัฐบาล ยกเลิก MOU44 กับ JC44 และ ทำหน้าที่ปกป้องดินแดนไทย... . จนรัฐบาลเงียบไปเรื่องเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออก ตาม MOU44 และ JC44 .... .... โอ้โห พฤติกรรมของ สมเด็จจากนรก นี่เขาเรียก "ตีปลาหน้าไซ" ใช่หรือไม่...??? . ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เข้าทางรัฐบาลไทยทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย...!!! ... ... ตอนนี้คนไทย ไม่พอใจในท่าทีของ รัฐบาล อย่างมาก เพราะ แลดูอ่อนแอ ไม่ทันเกมเขมร อีกทั้งยังแลดูเหมือนไม่ได้มีท่าทีจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอย่างเข้มแข็งอีกด้วย...!!! .. .. นี่มัน ชงหวาน ให้รัฐบาลไทยชัดๆ...!!! ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่...!!! . แสดงว่าที่ ลุงสนธิ และ คณะบ้านพระอาทิตย์ ไปแตะ MOU43 + MOU44 + JC44 คือ ไปแตะโดนกล่องดวงใจ ของ สมเด็จจากนรก ใช่หรือไม่...??? . ถ้าไม่มี MOU43 + MOU44 + JC44 แผนร้ายจะมีอันเป็นไป ใช่หรือไม่...??? . "ไอ้สมเด็จจากนรก" หารู้ไม่...!!! . คนไทย เขาไม่ไม่กินหญ้า เหมือน สมเด็จเตโชจากนรก นะโว่ย..!!! . แบบนี้หลอกได้แต่ ชาวเหมนตาใสๆ เท่านั้นแหล่ะ...!!! . ขนาด ปราสาทตาเมือนธม ได้ขึ้นบัญชี โบราณสถานของไทยตั้งแต่ 2478 ก่อนที่เขมร จะได้รับเอกราช ในปี 2496 เป็นระยะเวลาถึง 18 ปี... . วันนี้ผ่านมาแล้ว 90 ปี แล้ว คุณเอาอะไรมาเคลม ว่าประเทศไทย ขโมยของคุณไป...??? . พฤติกรรมของคุณมันส่อว่า วอนหา สหบาทาส้งตรีง จาก ชาวสยามเมืองยิ้ม ครับ ไอ้สมเด็จเตโชจากนรก...!!! . อ่อ แล้วไอ้พวกคนไทยใจเขมร ที่สมรู้ร่วมคิด ก็ระวัง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ไว้ให้ดีหล่ะ ประหารชีวิต นะมุง...!!! .. .. คนไทยรู้ทันพวกคุณนะครับ...
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม

    เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้
    ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”...

    เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ?

    ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน

    ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต

    การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน

    ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง)

    Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748
    http://www.naradafoundation.org/content/6526
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html

    #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้ ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”... เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ? ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง) Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748 http://www.naradafoundation.org/content/6526 https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    1 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้

    ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม)

    ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต

    แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪)

    ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้

    จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ

    ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้

    แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ?

    จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย

    แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่

    ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต

    ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310
    https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc
    https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters
    http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm

    #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้ ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม) ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪) ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้ จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้ แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ? จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่ ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310 https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549
    หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ เนื้อว่านผสมมวลสารวิเศษ ฝังข้าวสารหิน วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป พิมพ์คมชัดเนื้อว่านมวลสารจัดจ้าน //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >>

    ** พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไฟพระฤกษ์ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2549 มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป เป็นประวัติศาสตร์ของวงการพระเครื่องเมืองไทย ** พระดี พิธีใหญ่ วิธีการทำแบบโบราณกาล พิธีกรรมครบถ้วน กดมือทุกองค์ มวลสารที่นำมาจัดสร้างว่าน 108 ผงเกสร ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงมหานิยม ผงนะหน้าทอง ผงอิติปิโส 108 ผงคัมภีร์กาฝากจากต้นไม้มงคล ผงสุวรรณมงคล ผงพลายตานี แร่มหามงคลอานุภาพคล้ายเหล็กไหลนำมาผสมเป็นพระเครื่อง พระรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยพุทธคุณ มีไว้ครอบครองย่อมเกิดผลแน่นอนที่สำคัญพิธีพุทธาภิเษก มีพระสงฆ์ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป มากเป็นประวัติศาสตร์การสร้างพระเครื่องของเมืองไทย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ เนื้อว่านผสมมวลสารวิเศษ ฝังข้าวสารหิน วัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป พิมพ์คมชัดเนื้อว่านมวลสารจัดจ้าน //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ เมตตาค้าขาย ป้องกันภัยทุกชนิด การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >> ** พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไฟพระฤกษ์ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2549 มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป เป็นประวัติศาสตร์ของวงการพระเครื่องเมืองไทย ** พระดี พิธีใหญ่ วิธีการทำแบบโบราณกาล พิธีกรรมครบถ้วน กดมือทุกองค์ มวลสารที่นำมาจัดสร้างว่าน 108 ผงเกสร ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงมหานิยม ผงนะหน้าทอง ผงอิติปิโส 108 ผงคัมภีร์กาฝากจากต้นไม้มงคล ผงสุวรรณมงคล ผงพลายตานี แร่มหามงคลอานุภาพคล้ายเหล็กไหลนำมาผสมเป็นพระเครื่อง พระรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยพุทธคุณ มีไว้ครอบครองย่อมเกิดผลแน่นอนที่สำคัญพิธีพุทธาภิเษก มีพระสงฆ์ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกมากถึง 19,999 รูป มากเป็นประวัติศาสตร์การสร้างพระเครื่องของเมืองไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น

    วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง

    ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น

    ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น

    ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว

    แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่?

    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก)

    ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน)

    แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว

    เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html
    https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN
    https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html
    https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament

    #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่? เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก) ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน) แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด หล่อโบราณ พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ // "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ตำนานเหยียบน้ำทะเลจืด สุดยอดพระเครื่องตลอดกาล เลื่องลือพุทธคุณแคล้วคลาด // พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    **หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษ 2หน้า วัดช้างให้ เนื้อโลหะผสมมีทั้งกระแสสีแดงและสีเหลือง เพราะโลหะที่ใช้ผสมส่วนใหญ่เป็นทองแดงและทองเหลือง และเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีเนื้อโลหะหลายชนิด เช่น ทองคำ นวะ เมฆพัตร แร่ เป็นต้น ฉะนั้น ธรรมชาติผิวพระที่เกิดจากการหล่อจึงเหมือนกันมากเพราะใช้วิธีการสร้างหรือหล่อแบบเดียวกัน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ หลวงพ่อทวดหลังเตารีด หล่อโบราณ พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ // "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ตำนานเหยียบน้ำทะเลจืด สุดยอดพระเครื่องตลอดกาล เลื่องลือพุทธคุณแคล้วคลาด // พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> **หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษ 2หน้า วัดช้างให้ เนื้อโลหะผสมมีทั้งกระแสสีแดงและสีเหลือง เพราะโลหะที่ใช้ผสมส่วนใหญ่เป็นทองแดงและทองเหลือง และเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีเนื้อโลหะหลายชนิด เช่น ทองคำ นวะ เมฆพัตร แร่ เป็นต้น ฉะนั้น ธรรมชาติผิวพระที่เกิดจากการหล่อจึงเหมือนกันมากเพราะใช้วิธีการสร้างหรือหล่อแบบเดียวกัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง จ.นครศรีธรรมราช ปี2537
    เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 // สร้างน้อยหายากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** วัดดอนมะปราง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๖ ตำบลท่าประจะ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ เป็นวัดโบราณที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยโบราณ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 // สร้างน้อยหายากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** วัดดอนมะปราง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๖ ตำบลท่าประจะ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ เป็นวัดโบราณที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยโบราณ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
More Results