• ⚡️ทัวร์นิวซีแลนด์ 9 วัน 7 คืน⚡️
    พิเศษ Hangi Dinner - บินภายใน 1 เที่ยว - รวมค่าธรรมเนียมวีซ่านิวซีแลนด์แบบกรุ๊ปแล้ว

    เกาะเหนือ - เกาะใต้ : อะโกรโดมฟาร์ม - Te Puia หมู่บ้านเมารี - ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์นกกีวี - ถ้ำหนอนเรืองแสง - นั่งรถไฟสายทรานส์อัลไพน์ - ธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ - อุทยานแห่งชาติเวสต์แลนด์ - นั่งกระเช้าชมอาทิตย์อัสดงบนเขาบ๊อบพีค - ล่องเรือชมฟยอร์ด - ทะเลสาบวาคาติปู

    📍 ช่วงวันเดินทาง : ก.พ.-ต.ค.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 165,000
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง
    📢 รหัสทัวร์ : Z11520
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : CX-คาเธ่ย์แปซิฟิค/NZ-แอร์ นิวซีแลนด์

    ✔️Travel License: 11/11450
    ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e58f00

    ดูทัวร์นิวซีแลนด์ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/f7b04d

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์นิวซีแลนด์ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    ⚡️ทัวร์นิวซีแลนด์ 9 วัน 7 คืน⚡️ พิเศษ Hangi Dinner - บินภายใน 1 เที่ยว - รวมค่าธรรมเนียมวีซ่านิวซีแลนด์แบบกรุ๊ปแล้ว เกาะเหนือ - เกาะใต้ : อะโกรโดมฟาร์ม - Te Puia หมู่บ้านเมารี - ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์นกกีวี - ถ้ำหนอนเรืองแสง - นั่งรถไฟสายทรานส์อัลไพน์ - ธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ - อุทยานแห่งชาติเวสต์แลนด์ - นั่งกระเช้าชมอาทิตย์อัสดงบนเขาบ๊อบพีค - ล่องเรือชมฟยอร์ด - ทะเลสาบวาคาติปู 📍 ช่วงวันเดินทาง : ก.พ.-ต.ค.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 165,000 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง 📢 รหัสทัวร์ : Z11520 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : CX-คาเธ่ย์แปซิฟิค/NZ-แอร์ นิวซีแลนด์ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e58f00 ดูทัวร์นิวซีแลนด์ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/f7b04d LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์นิวซีแลนด์ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ซึ่งมีชื่อภาษาจีนคือ ‘เล่อโหยวหยวน’ (乐游原)

    เล่อโหยวหยวน (แปลตรงตัวว่า สุข+ทัศนาจร+ดินแดน/ทุ่ง) จริงแล้วมีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก แต่เดิมชื่อว่า ‘เล่อโหยวย่วน’ (乐游苑 / สุข+ทัศนาจร+สวน/อุทยาน) เป็นสถานที่เสด็จประพาสต้นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นเซวียนตี้ (ปี 51-48 ก่อนคริสตกาล) และฮองเฮาสวี่ ต่อมาฮั่นเซวียนตี้ทรงโปรดให้ฝังฮองเฮาสวี่ที่นั่น ครั้นกาลเวลาผ่านไปอักษรท้ายถูกเรียกเพี้ยนจาก ‘ย่วน’ เป็น ‘หยวน’ จนกลายมาเป็นชื่อของอุทยานเล่อโหยวหยวนตราบจนปัจจุบัน และบางครั้งถูกใช้เป็นคำกริยาที่บรรยายถึงการท่องเที่ยวอย่างเบิกบานใจ

    ในตอนต้นๆ เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> มีฉากหนึ่งที่พระเอกนางเอกนั่งเรือชมดาวในเทศกาลชีซี (ปัจจุบันเรามักเรียกเป็นวันวาเลนไทน์จีน) พระเอกเล่าถึงว่า ตอนเด็กตนเองอยู่แต่ในเมืองหลวง มักขี่ม้าขึ้นไปเที่ยวเล่อโหยวหยวน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง มีภูมิประเทศสูง มองลงมาเห็นทั้งเมืองหลวงได้

    เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> นี้เล่าถึงรัชสมัยสมมุติ แต่ฉากหลังนั้นใกล้เคียงกับสมัยถังตอนปลาย และเล่อโหยวหยวนนี้เป็นสถานที่ฮอตฮิตในสมัยถังสำหรับการท่องเที่ยวและเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญของเหล่ากวี มีบทกวีไม่น้อยที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อบรรยายถึงความงดงามของทัศนียภาพบนนั้น

    เล่อโหยวหยวนเป็นอุทยานบนเขาตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนครฉางอัน ซึ่งปัจจุบันก็คือเมืองซีอาน (คือจุดที่วงสีเขียวไว้ในภาพประกอบ) รูปแผนที่ที่แปะมาให้ดูอาจจะละลานตาสักนิด เพราะเป็นแผนที่ภูมิประเทศที่มีระบุเส้นชั้นความสูง เพื่อให้เห็นว่าบริเวณนั้นของนครฉางอันเป็นเนินเขา ที่นี่เป็นจุดที่สูงที่สุดของนครฉางอัน มองลงมาสามารถมองเห็นทั่วนครฉางอันได้ ในสมัยราชวงศ์สุยมีการสร้างวัดขึ้นที่นี่ชื่อวัดหลินก่าน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดชิงหลง ปัจจุบันนับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวดังของเมืองซีอัน และเป็นวัดที่ถูกกล่าวถึงบ่อยในละครจีนโบราณ

    อนึ่ง เล่อโหยวหยวนเคยถูกกล่าวถึงในเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> แต่ Storyฯ จำเรื่องราวไม่ได้แล้ว เพื่อนเพจท่านใดจำได้มาเม้นท์บอกกันหน่อยว่าในเรื่องนี้มีเล่ารายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเล่อโหยวหยวนหรือไม่

    ในฉากเดียวกันของเรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ที่กล่าวถึงนี้ นางเอกได้ยินพระเอกเล่าเรื่องเล่อโหยวหยวนก็เกิดแรงบันดาลใจ ร่ายกลอนออกมาบทหนึ่ง มีใจความว่า บนเขาเล่อโหยวหยวนมีลมตะวันตกพัดผ่าน มีธรรมชาติงดงามทั้งหมู่ไม้เสียงจักจั่นและแสงรุ้ง องค์สุริยเทพทรงขี่รถม้าไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ตะวันตกดินและไม่ยอมให้ตะวันหันกลับไปทางทิศตะวันออก บทกวีนี้บรรยายความงามของวิวบนเล่อโหยวหยวนประหนึ่งว่าความงามนั้นสามารถสะกดให้เวลาหยุดอยู่กับที่

    กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เล่อโหยวหยวน’ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อภาษาจีนของซีรีส์เรื่องนี้ เป็นกลอนเจ็ด (กล่าวคือมีเจ็ดอักษรในหนึ่งวรรค) มีทั้งหมดสี่วรรค มันเป็นผลงานของหลี่ซังอิ่น (ปีค.ศ. 813-858) หนึ่งในกวีที่เลื่องชื่อของสมัยถังตอนปลาย มีผลงานที่สืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่า 600 บทกวี เขาเข้ารับราชการเมื่ออายุยี่สิบห้า ต่อมาสังกัดเจี๋ยตู้สื่อหวางเม่าหยวน และได้รับการโปรดปรานจากหวางเม่าหยวนถึงขนาดยกลูกสาวให้ จึงถูกลากเข้าไปพัวพันกับการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง

    บทกวีนี้มักถูกเข้าใจสลับกับบทกวีอีกบทที่โด่งดังมากกว่าของเขา มีชื่อว่า ‘เติงเล่อโหยวหยวน’ (登乐游原 / ขึ้นเขาเล่อโหยวหยวน) ซึ่งต่อมาถูกเรียกเป็น ‘เล่อโหยวหยวน’ เช่นกัน โดย ‘เติงเล่อโหยวหยวน’ เป็นกลอนห้า (อักษรห้าตัวในหนึ่งวรรค) มีสี่วรรคเช่นกัน กลอนบทนี้บรรยายถึงความงามของอาทิตย์อัสดงบนเล่อโหยวหยวนและพรรณนาความเสียดายที่ไม่อาจหยุดยั้งแสงอาทิตย์ไว้ได้ ถูกตีความกันต่อมาว่าความนัยแฝงคือความอาลัยและความอาดูรในสถานการณ์ของราชวงศ์ถังที่เสื่อมอำนาจลง โดยมีวรรคที่ฮอตฮิตคือ ‘ตะวันยอแสงงามไร้ขอบเขต แต่เสียดายใกล้อาทิตย์อัสดง’ (夕阳无限好,只是近黄昏 / ซีหยางอู๋เซี่ยนห่าว จื่อซื่อจิ้นหวงฮุน) เป็นการเปรียบเปรยถึงความไม่จีรังของชีวิต

    Storyฯ ยังดูซีรีส์เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ไม่จบ ไม่อาจกล่าวได้ว่ากลอนบทใดข้างต้น (หรือทั้งสองบท) มีความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องมากน้อยเพียงใด เพื่อนเพจท่านใดที่ดูจบแล้วมีความเห็นความรู้สึกอย่างใดก็เชิญมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.dianyingbaodian.com/wiki/乐游原_%282023%29
    https://www.sohu.com/a/390828068_120445432
    https://www.sgss8.net/tpdq/21096094/2.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://shici.yw11.com/shici_fanyi_2987_250.html
    https://www.shicile.com/detail/6070192050078
    https://www.sohu.com/a/680570874_121124391

    #พสุธารักเคียงใจ #ทุ่งเล่อโหยว #เล่อโหยวหยวน #กวีถัง #หลีซังอิ่น #วัดชิงหลง #นครฉางอัน #ซีอัน
    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ซึ่งมีชื่อภาษาจีนคือ ‘เล่อโหยวหยวน’ (乐游原) เล่อโหยวหยวน (แปลตรงตัวว่า สุข+ทัศนาจร+ดินแดน/ทุ่ง) จริงแล้วมีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก แต่เดิมชื่อว่า ‘เล่อโหยวย่วน’ (乐游苑 / สุข+ทัศนาจร+สวน/อุทยาน) เป็นสถานที่เสด็จประพาสต้นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นเซวียนตี้ (ปี 51-48 ก่อนคริสตกาล) และฮองเฮาสวี่ ต่อมาฮั่นเซวียนตี้ทรงโปรดให้ฝังฮองเฮาสวี่ที่นั่น ครั้นกาลเวลาผ่านไปอักษรท้ายถูกเรียกเพี้ยนจาก ‘ย่วน’ เป็น ‘หยวน’ จนกลายมาเป็นชื่อของอุทยานเล่อโหยวหยวนตราบจนปัจจุบัน และบางครั้งถูกใช้เป็นคำกริยาที่บรรยายถึงการท่องเที่ยวอย่างเบิกบานใจ ในตอนต้นๆ เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> มีฉากหนึ่งที่พระเอกนางเอกนั่งเรือชมดาวในเทศกาลชีซี (ปัจจุบันเรามักเรียกเป็นวันวาเลนไทน์จีน) พระเอกเล่าถึงว่า ตอนเด็กตนเองอยู่แต่ในเมืองหลวง มักขี่ม้าขึ้นไปเที่ยวเล่อโหยวหยวน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง มีภูมิประเทศสูง มองลงมาเห็นทั้งเมืองหลวงได้ เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> นี้เล่าถึงรัชสมัยสมมุติ แต่ฉากหลังนั้นใกล้เคียงกับสมัยถังตอนปลาย และเล่อโหยวหยวนนี้เป็นสถานที่ฮอตฮิตในสมัยถังสำหรับการท่องเที่ยวและเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญของเหล่ากวี มีบทกวีไม่น้อยที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อบรรยายถึงความงดงามของทัศนียภาพบนนั้น เล่อโหยวหยวนเป็นอุทยานบนเขาตั้งอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนครฉางอัน ซึ่งปัจจุบันก็คือเมืองซีอาน (คือจุดที่วงสีเขียวไว้ในภาพประกอบ) รูปแผนที่ที่แปะมาให้ดูอาจจะละลานตาสักนิด เพราะเป็นแผนที่ภูมิประเทศที่มีระบุเส้นชั้นความสูง เพื่อให้เห็นว่าบริเวณนั้นของนครฉางอันเป็นเนินเขา ที่นี่เป็นจุดที่สูงที่สุดของนครฉางอัน มองลงมาสามารถมองเห็นทั่วนครฉางอันได้ ในสมัยราชวงศ์สุยมีการสร้างวัดขึ้นที่นี่ชื่อวัดหลินก่าน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดชิงหลง ปัจจุบันนับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวดังของเมืองซีอัน และเป็นวัดที่ถูกกล่าวถึงบ่อยในละครจีนโบราณ อนึ่ง เล่อโหยวหยวนเคยถูกกล่าวถึงในเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> แต่ Storyฯ จำเรื่องราวไม่ได้แล้ว เพื่อนเพจท่านใดจำได้มาเม้นท์บอกกันหน่อยว่าในเรื่องนี้มีเล่ารายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเล่อโหยวหยวนหรือไม่ ในฉากเดียวกันของเรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ที่กล่าวถึงนี้ นางเอกได้ยินพระเอกเล่าเรื่องเล่อโหยวหยวนก็เกิดแรงบันดาลใจ ร่ายกลอนออกมาบทหนึ่ง มีใจความว่า บนเขาเล่อโหยวหยวนมีลมตะวันตกพัดผ่าน มีธรรมชาติงดงามทั้งหมู่ไม้เสียงจักจั่นและแสงรุ้ง องค์สุริยเทพทรงขี่รถม้าไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ตะวันตกดินและไม่ยอมให้ตะวันหันกลับไปทางทิศตะวันออก บทกวีนี้บรรยายความงามของวิวบนเล่อโหยวหยวนประหนึ่งว่าความงามนั้นสามารถสะกดให้เวลาหยุดอยู่กับที่ กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เล่อโหยวหยวน’ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อภาษาจีนของซีรีส์เรื่องนี้ เป็นกลอนเจ็ด (กล่าวคือมีเจ็ดอักษรในหนึ่งวรรค) มีทั้งหมดสี่วรรค มันเป็นผลงานของหลี่ซังอิ่น (ปีค.ศ. 813-858) หนึ่งในกวีที่เลื่องชื่อของสมัยถังตอนปลาย มีผลงานที่สืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่า 600 บทกวี เขาเข้ารับราชการเมื่ออายุยี่สิบห้า ต่อมาสังกัดเจี๋ยตู้สื่อหวางเม่าหยวน และได้รับการโปรดปรานจากหวางเม่าหยวนถึงขนาดยกลูกสาวให้ จึงถูกลากเข้าไปพัวพันกับการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง บทกวีนี้มักถูกเข้าใจสลับกับบทกวีอีกบทที่โด่งดังมากกว่าของเขา มีชื่อว่า ‘เติงเล่อโหยวหยวน’ (登乐游原 / ขึ้นเขาเล่อโหยวหยวน) ซึ่งต่อมาถูกเรียกเป็น ‘เล่อโหยวหยวน’ เช่นกัน โดย ‘เติงเล่อโหยวหยวน’ เป็นกลอนห้า (อักษรห้าตัวในหนึ่งวรรค) มีสี่วรรคเช่นกัน กลอนบทนี้บรรยายถึงความงามของอาทิตย์อัสดงบนเล่อโหยวหยวนและพรรณนาความเสียดายที่ไม่อาจหยุดยั้งแสงอาทิตย์ไว้ได้ ถูกตีความกันต่อมาว่าความนัยแฝงคือความอาลัยและความอาดูรในสถานการณ์ของราชวงศ์ถังที่เสื่อมอำนาจลง โดยมีวรรคที่ฮอตฮิตคือ ‘ตะวันยอแสงงามไร้ขอบเขต แต่เสียดายใกล้อาทิตย์อัสดง’ (夕阳无限好,只是近黄昏 / ซีหยางอู๋เซี่ยนห่าว จื่อซื่อจิ้นหวงฮุน) เป็นการเปรียบเปรยถึงความไม่จีรังของชีวิต Storyฯ ยังดูซีรีส์เรื่อง <พสุธารักเคียงใจ> ไม่จบ ไม่อาจกล่าวได้ว่ากลอนบทใดข้างต้น (หรือทั้งสองบท) มีความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องมากน้อยเพียงใด เพื่อนเพจท่านใดที่ดูจบแล้วมีความเห็นความรู้สึกอย่างใดก็เชิญมาเล่าสู่กันฟังนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.dianyingbaodian.com/wiki/乐游原_%282023%29 https://www.sohu.com/a/390828068_120445432 https://www.sgss8.net/tpdq/21096094/2.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://shici.yw11.com/shici_fanyi_2987_250.html https://www.shicile.com/detail/6070192050078 https://www.sohu.com/a/680570874_121124391 #พสุธารักเคียงใจ #ทุ่งเล่อโหยว #เล่อโหยวหยวน #กวีถัง #หลีซังอิ่น #วัดชิงหลง #นครฉางอัน #ซีอัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทิงป่าตาบอด อุทยานฯ ทับลาน เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติสู่หมู่บ้านใน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหาหวั่นทำร้ายชาวบ้านแต่ไม่พบ ล่าสุดพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย หัวหน้าอุทยานฯสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเฝ้าระวัง

    จากกรณีที่​มีการพบ กระทิงป่าอุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาซึ่งได้เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติในพื้นที่ ม.9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าสู่ชุมชนจนเกรงว่าจะทำร้ายชาวบ้านนั้น

    ล่าสุดในวันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวกระทิงป่าตัวดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบในช่วงเวลาเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังหาตัวไม่พบ และคาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในเขตป่าลึกแล้ว

    แต่เมื่อเวลา 16.40 น.เจ้าหน้าที่กลับได้รับแจ้งจาก น.ส.สนิท ประดิษฐ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 141 ม.9 ต.แก่งดินสอ ว่า กระทิงป่า ได้วิ่งชนบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001893

    #MGROnline #กระทิงป่าตาบอด #อุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน
    กระทิงป่าตาบอด อุทยานฯ ทับลาน เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติสู่หมู่บ้านใน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังค้นหาหวั่นทำร้ายชาวบ้านแต่ไม่พบ ล่าสุดพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย หัวหน้าอุทยานฯสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเฝ้าระวัง • จากกรณีที่​มีการพบ กระทิงป่าอุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ดวงตาซึ่งได้เดินออกนอกพื้นที่ป่าธรรมชาติในพื้นที่ ม.9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เข้าสู่ชุมชนจนเกรงว่าจะทำร้ายชาวบ้านนั้น • ล่าสุดในวันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวกระทิงป่าตัวดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบในช่วงเวลาเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังหาตัวไม่พบ และคาดว่าน่าจะเดินเข้าไปในเขตป่าลึกแล้ว • แต่เมื่อเวลา 16.40 น.เจ้าหน้าที่กลับได้รับแจ้งจาก น.ส.สนิท ประดิษฐ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 141 ม.9 ต.แก่งดินสอ ว่า กระทิงป่า ได้วิ่งชนบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001893 • #MGROnline #กระทิงป่าตาบอด #อุทยาน​แห่งชาติ​ทับลาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568
    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568

    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568
    .
    รัฐบาล เตรียมพร้อมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ประกอบด้วย 7 กิจกรรม ได้แก่
    .
    1. พิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ระหว่างวันที่ 13 – 20 ม.ค.68
    2. บูรณปฏิสังขรณ์ วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี
    3. จัดแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในวันที่ 14 ม.ค.68
    4. จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ
    5. จัดพิธีทางศาสนา และ กิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
    6. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระราชกุศล
    7. จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    .
    14 มกราคม 2568 เป็นโอกาสมหามงคลสมัยพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล (สะ–มะ-มง-คน) เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.phralan.in.th/
    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 . รัฐบาล เตรียมพร้อมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ประกอบด้วย 7 กิจกรรม ได้แก่ . 1. พิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ระหว่างวันที่ 13 – 20 ม.ค.68 2. บูรณปฏิสังขรณ์ วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี 3. จัดแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในวันที่ 14 ม.ค.68 4. จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ 5. จัดพิธีทางศาสนา และ กิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 6. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระราชกุศล 7. จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร . 14 มกราคม 2568 เป็นโอกาสมหามงคลสมัยพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล (สะ–มะ-มง-คน) เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.phralan.in.th/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • การถ่ายทำ VTR ประชาสัมพันธ์ งานสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี “นครเชียงใหม่เมืองแห่งความสุขด้วยวิถีวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน”
    วันเสาร์ที่ 4 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา ที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่

    งานจริงที่ยิ่งใหญ่อลังการ จะจัดขึ้นในวันที่ 18-20 เมษายน 2568 ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และบริเวณรอบคูเมือง (ประตูช้างเผือก ประตูท่าแพ ประตูเชียงใหม่ ประตูสวนปรุง ประตูสวนดอก)

    ในวันที่ 19 เมษายน 2568 จะมีคณะช่างฟ้อนเล็บอัตลักษณ์เชียงใหม่ จำนวน 19,901 คน(ตามภาพ) จากประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ สู่บริเวณพิธี
    การถ่ายทำ VTR ประชาสัมพันธ์ งานสมโภชเชียงใหม่ 729 ปี “นครเชียงใหม่เมืองแห่งความสุขด้วยวิถีวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” วันเสาร์ที่ 4 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา ที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ งานจริงที่ยิ่งใหญ่อลังการ จะจัดขึ้นในวันที่ 18-20 เมษายน 2568 ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และบริเวณรอบคูเมือง (ประตูช้างเผือก ประตูท่าแพ ประตูเชียงใหม่ ประตูสวนปรุง ประตูสวนดอก) ในวันที่ 19 เมษายน 2568 จะมีคณะช่างฟ้อนเล็บอัตลักษณ์เชียงใหม่ จำนวน 19,901 คน(ตามภาพ) จากประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ สู่บริเวณพิธี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้ว Storyฯ คุยถึงฉากหนึ่งใน <พสุธารักเคียงใจ> ที่พระนางนั่งเรือชมดาวกัน ความตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องบทกวีที่นางเอกกล่าวในฉากนี้ ซึ่งหลังจากนั้นพระเอกบอกว่ามีอีกบทกวีที่เขาชอบมากกว่า โดยนางเอกชิงท่องบทกวีดังกล่าวออกมาก่อน เป็นนัยว่าบทกวีบทนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของพระเอก เชื่อว่ามีเพื่อนเพจหลายคนที่คงงงเหมือนกับ Storyฯ ว่าเขาคุยอะไรกัน

    “หญ้าเขียวชอุ่มบนทุ่ง
    หนึ่งปีเหี่ยวเฉาสลับขึ้นใหม่
    ไฟป่าเผาไม่มอด
    ลมวสันต์โชยก็งอกงามอีก”
    - บทแปลจากซับไทย <พสุธารักเคียงใจ>

    บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘ฟู่เต๋อกู่หยวนเฉ่าซ่งเปี๋ย’ (赋得古原草送别) โดยคำว่า ‘ฟู่เต๋อ’ นั้น เป็นการเรียกนำหน้าบทกวีที่แต่งเติมจากวลีหรือวรรคจากบทประพันธ์โบราณ ต่อมาใช้เป็นกติกาในการสอบขุนนางว่า หากจะเขียนบทกวีที่มียกวรรคมาจากบทประพันธ์โบราณให้ใช้คำนำหน้าชื่อบทกวีนั้นว่า ‘ฟู่เต๋อ’ ส่วนคำว่า ‘กู่หยวนเฉ่า’ นั้นแปลตรงตัวว่าทุ่งหญ้าโบราณ แต่ในบทกวีโบราณมักถูกใช้แทนคำเรียก ‘เล่อโหยวหยวน’ ซึ่งเป็นอุทยานบนเขาในนครฉางอันที่เราคุยกันไปในสัปดาห์ที่แล้ว และคำว่า ‘ซ่งเปี๋ย’ คือการอำลาหรือส่งคนเดินทางจากไป ดังนั้น ชื่อของบทกวีนี้แปลได้ใจความว่า ‘บทอำลาบนเล่อโหยวหยวน’

    บทกวีนี้เป็นผลงานของกวีเอกและนักการเมืองชื่อดังในยุคช่วงปลายของราชวงศ์ถังคือ ไป๋จวีอี (ปีค.ศ. 772-846) จริงแล้วมีทั้งหมดแปดวรรค แต่ในซีรีส์กล่าวถึงเพียงสี่วรรค ซึ่งสี่วรรคหลังที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงว่า

    ปลายทางอันไกลโพ้น
    ทุ่งเขียวจรดเมืองอ้างว้าง
    ส่งลาราชนัดดาอีกครา
    ทุ่งขจีแฝงความอาดูร

    (หมายเหตุ คำว่า ‘ราชนัดดา’ นั้นในบทกวีโบราณอาจแปลได้เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลอันสูงส่ง และในบริบทของบทกวีนี้มีการแปลไว้ว่าหมายถึงสหายสนิท)

    จะเห็นว่า บทกวีนี้แรกเริ่มสี่วรรคกล่าวถึงความงามของทุ่งหญ้าที่สะท้อนถึงความไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แต่ในสี่วรรคหลัง ความงามนี้แปรเปลี่ยนเป็นความอ้างว้างเมื่อต้องอำลาจากกัน

    เมื่อมีชื่อนำหน้าว่า ‘ฟู่เต๋อ’ บทกวีนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับการสอบขุนนางและมีวลีที่อ้างอิงมาจากบทกวีโบราณ...

    บทกวีนี้ไป๋จวีอีประพันธ์ขึ้นเมื่อครั้งเขาเข้าร่วมสอบขุนนางหลวง และบทกวีโบราณที่อ้างอิงนั้นคือบทกวีสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกมีชื่อว่า ‘จาวอิ่นซื่อ’ (招隐士) มีใจความชักจูงให้เหล่าเชื้อสายตระกูลสูงส่ง (คือความหมายของ ‘ราชนัดดา’ ในที่นี้) ที่หลบซ่อนกันอยู่นอกเมืองพากันกลับมารับใช้ราชสำนัก โดยวรรคที่ไป๋จวีอีอ้างอิงนั้นมาจากวรรคที่ว่า ‘ราชนัดดาเดินทางไปไม่กลับ หญ้าวสันต์งอกเงยเขียวขจี’ ที่ใช้ความงามของทุ่งหญ้าบ่งบอกความอ้างว้างหากเหล่าผู้มีการศึกษามีความสามารถต่างพากันทิ้งราชสำนักไป

    ปัจจุบันสี่วรรคแรกของบทกวีนี้ถูกนำมาใช้รวมในการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษา เนื่องจากภาษาไพเราะและมีใจความเป็นแรงบันดาลใจให้ฟันฝ่าอุปสรรค แต่สี่วรรคหลังถูกละไว้ เนื่องจากใจความหดหู่รันทดเกินไปสำหรับเด็ก และวรรคที่ว่า ‘ไฟป่าเผาไม่มอด ลมวสันต์โชยก็งอกงามอีก’ (野火烧不尽 春风吹又生) กลายเป็นอีกหนึ่งวลียอดนิยมจวบจนปัจจุบัน

    ดังนั้น สรุปสั้นๆ ได้ว่า บทกวีที่นางเอกกล่าวว่าสะท้อนถึงอุปนิสัยของพระเอกนั้น คือบ่งบอกถึงความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ล้มแล้วลุกขึ้นสู้ใหม่ เพื่อนเพจคิดว่าตรงไหมคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละคร
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.zdic.net/hans/%E8%B5%8B%E5%BE%97
    https://www.sohu.com/a/708520507_389451
    https://www.kekeshici.com/shicimingju/ticai/jingse/998.html
    https://baike.baidu.com/item/赋得古原草送别/2873148
    https://baike.baidu.com/item/招隐士/1905316

    #พสุธารักเคียงใจ #กวีถัง #ไป๋จวีอี #เล่อโหยวหยวน
    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้ว Storyฯ คุยถึงฉากหนึ่งใน <พสุธารักเคียงใจ> ที่พระนางนั่งเรือชมดาวกัน ความตอนที่แล้วเราคุยกันเรื่องบทกวีที่นางเอกกล่าวในฉากนี้ ซึ่งหลังจากนั้นพระเอกบอกว่ามีอีกบทกวีที่เขาชอบมากกว่า โดยนางเอกชิงท่องบทกวีดังกล่าวออกมาก่อน เป็นนัยว่าบทกวีบทนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของพระเอก เชื่อว่ามีเพื่อนเพจหลายคนที่คงงงเหมือนกับ Storyฯ ว่าเขาคุยอะไรกัน “หญ้าเขียวชอุ่มบนทุ่ง หนึ่งปีเหี่ยวเฉาสลับขึ้นใหม่ ไฟป่าเผาไม่มอด ลมวสันต์โชยก็งอกงามอีก” - บทแปลจากซับไทย <พสุธารักเคียงใจ> บทกวีนี้มีชื่อว่า ‘ฟู่เต๋อกู่หยวนเฉ่าซ่งเปี๋ย’ (赋得古原草送别) โดยคำว่า ‘ฟู่เต๋อ’ นั้น เป็นการเรียกนำหน้าบทกวีที่แต่งเติมจากวลีหรือวรรคจากบทประพันธ์โบราณ ต่อมาใช้เป็นกติกาในการสอบขุนนางว่า หากจะเขียนบทกวีที่มียกวรรคมาจากบทประพันธ์โบราณให้ใช้คำนำหน้าชื่อบทกวีนั้นว่า ‘ฟู่เต๋อ’ ส่วนคำว่า ‘กู่หยวนเฉ่า’ นั้นแปลตรงตัวว่าทุ่งหญ้าโบราณ แต่ในบทกวีโบราณมักถูกใช้แทนคำเรียก ‘เล่อโหยวหยวน’ ซึ่งเป็นอุทยานบนเขาในนครฉางอันที่เราคุยกันไปในสัปดาห์ที่แล้ว และคำว่า ‘ซ่งเปี๋ย’ คือการอำลาหรือส่งคนเดินทางจากไป ดังนั้น ชื่อของบทกวีนี้แปลได้ใจความว่า ‘บทอำลาบนเล่อโหยวหยวน’ บทกวีนี้เป็นผลงานของกวีเอกและนักการเมืองชื่อดังในยุคช่วงปลายของราชวงศ์ถังคือ ไป๋จวีอี (ปีค.ศ. 772-846) จริงแล้วมีทั้งหมดแปดวรรค แต่ในซีรีส์กล่าวถึงเพียงสี่วรรค ซึ่งสี่วรรคหลังที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงว่า ปลายทางอันไกลโพ้น ทุ่งเขียวจรดเมืองอ้างว้าง ส่งลาราชนัดดาอีกครา ทุ่งขจีแฝงความอาดูร (หมายเหตุ คำว่า ‘ราชนัดดา’ นั้นในบทกวีโบราณอาจแปลได้เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลอันสูงส่ง และในบริบทของบทกวีนี้มีการแปลไว้ว่าหมายถึงสหายสนิท) จะเห็นว่า บทกวีนี้แรกเริ่มสี่วรรคกล่าวถึงความงามของทุ่งหญ้าที่สะท้อนถึงความไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แต่ในสี่วรรคหลัง ความงามนี้แปรเปลี่ยนเป็นความอ้างว้างเมื่อต้องอำลาจากกัน เมื่อมีชื่อนำหน้าว่า ‘ฟู่เต๋อ’ บทกวีนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับการสอบขุนนางและมีวลีที่อ้างอิงมาจากบทกวีโบราณ... บทกวีนี้ไป๋จวีอีประพันธ์ขึ้นเมื่อครั้งเขาเข้าร่วมสอบขุนนางหลวง และบทกวีโบราณที่อ้างอิงนั้นคือบทกวีสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกมีชื่อว่า ‘จาวอิ่นซื่อ’ (招隐士) มีใจความชักจูงให้เหล่าเชื้อสายตระกูลสูงส่ง (คือความหมายของ ‘ราชนัดดา’ ในที่นี้) ที่หลบซ่อนกันอยู่นอกเมืองพากันกลับมารับใช้ราชสำนัก โดยวรรคที่ไป๋จวีอีอ้างอิงนั้นมาจากวรรคที่ว่า ‘ราชนัดดาเดินทางไปไม่กลับ หญ้าวสันต์งอกเงยเขียวขจี’ ที่ใช้ความงามของทุ่งหญ้าบ่งบอกความอ้างว้างหากเหล่าผู้มีการศึกษามีความสามารถต่างพากันทิ้งราชสำนักไป ปัจจุบันสี่วรรคแรกของบทกวีนี้ถูกนำมาใช้รวมในการเรียนการสอนชั้นประถมศึกษา เนื่องจากภาษาไพเราะและมีใจความเป็นแรงบันดาลใจให้ฟันฝ่าอุปสรรค แต่สี่วรรคหลังถูกละไว้ เนื่องจากใจความหดหู่รันทดเกินไปสำหรับเด็ก และวรรคที่ว่า ‘ไฟป่าเผาไม่มอด ลมวสันต์โชยก็งอกงามอีก’ (野火烧不尽 春风吹又生) กลายเป็นอีกหนึ่งวลียอดนิยมจวบจนปัจจุบัน ดังนั้น สรุปสั้นๆ ได้ว่า บทกวีที่นางเอกกล่าวว่าสะท้อนถึงอุปนิสัยของพระเอกนั้น คือบ่งบอกถึงความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ล้มแล้วลุกขึ้นสู้ใหม่ เพื่อนเพจคิดว่าตรงไหมคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละคร Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.zdic.net/hans/%E8%B5%8B%E5%BE%97 https://www.sohu.com/a/708520507_389451 https://www.kekeshici.com/shicimingju/ticai/jingse/998.html https://baike.baidu.com/item/赋得古原草送别/2873148 https://baike.baidu.com/item/招隐士/1905316 #พสุธารักเคียงใจ #กวีถัง #ไป๋จวีอี #เล่อโหยวหยวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท

    เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท • เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” คนแน่นเอี้ยด! นักท่องเที่ยวแห่ท้าหนาวไม่ขาดสาย ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดตลอดทั้งวันอาจทะลุ 2 หมื่นคน ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 250 นาย ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนะเลือกใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทางขึ้นลงดอยมากกว่าและช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร

    รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(31 ธ.ค.67) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2567 ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศกรท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติและสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมารอเข้าอุทยานฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเพื่อรอชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวหลักกิโลเมตรที่ 42 กิ่วแม่ปาน จนทำให้การจราจรเป็นไปอย่างหนาแน่นและรถติดยาวเป็นช่วงๆ

    อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างไม่ผิดหวังกับการได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 6 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอย และที่กิ่วแม่ปาน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 7 องศาเซลเซียส ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยว เมื่อวานนี้(30 ธ.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 15,280 คน แบ่งเป็น คนไทย 13,662 คน ชาวต่างชาติ 1,618 คน ยานพาหนะ 4,065 คัน โดยที่ในวันนี้(31 ธ.ค.67) คาดว่าตลอดทั้งวันน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าวานนี้ และอาจจะมากถึง 20,000 คน จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อนและเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000125319

    #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” คนแน่นเอี้ยด! นักท่องเที่ยวแห่ท้าหนาวไม่ขาดสาย ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดตลอดทั้งวันอาจทะลุ 2 หมื่นคน ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 250 นาย ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนะเลือกใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทางขึ้นลงดอยมากกว่าและช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร • รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(31 ธ.ค.67) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2567 ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศกรท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติและสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมารอเข้าอุทยานฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเพื่อรอชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวหลักกิโลเมตรที่ 42 กิ่วแม่ปาน จนทำให้การจราจรเป็นไปอย่างหนาแน่นและรถติดยาวเป็นช่วงๆ • อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างไม่ผิดหวังกับการได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 6 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอย และที่กิ่วแม่ปาน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 7 องศาเซลเซียส ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยว เมื่อวานนี้(30 ธ.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 15,280 คน แบ่งเป็น คนไทย 13,662 คน ชาวต่างชาติ 1,618 คน ยานพาหนะ 4,065 คัน โดยที่ในวันนี้(31 ธ.ค.67) คาดว่าตลอดทั้งวันน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าวานนี้ และอาจจะมากถึง 20,000 คน จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อนและเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000125319 • #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • แสงแรกยามเช้า ที่ กิ่วแม่ปาน วนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สูงที่สุดแดยสยาม มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาขมวิวกันมากล้นหลามในปีนี้ ที่จอดรถทุกลานเต็ม ล้นลงมาตามถนนยาวหลายกิโลเมตร อัดแน่นยิ่งกว่างานกาชาด
    แสงแรกยามเช้า ที่ กิ่วแม่ปาน วนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สูงที่สุดแดยสยาม มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาขมวิวกันมากล้นหลามในปีนี้ ที่จอดรถทุกลานเต็ม ล้นลงมาตามถนนยาวหลายกิโลเมตร อัดแน่นยิ่งกว่างานกาชาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลา 05.00 น. ด่านตรวจอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดดอยได้ ปริมาณรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร ตั้งแต่ป้าย 10 กิโลเมตรแรกถึงยอดดอยอินทนนท์
    เวลา 05.00 น. ด่านตรวจอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดดอยได้ ปริมาณรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร ตั้งแต่ป้าย 10 กิโลเมตรแรกถึงยอดดอยอินทนนท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต๋ากู่ปิงชวน ภูผาหิมะกลาเซียร์❄
    เที่ยวช่วงไหนดี? อากาศเป็นอย่างไร?🤔

    ต๋ากู่ปิงชวน หรืออุทยานสวรรค์ภูเขาหิมะกลาเซียร์
    อยู่เมืองเฮ่ยซุ่ย มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    อุทยานแห่งชาติที่สวยงามที่สุด
    ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นในปี 1992
    ได้เป็นกลาเซียร์อายุน้อยที่สุดในโลก
    เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป

    🍃 ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม - พฤษภาคม
    อุณหภูมิอยู่ที่ 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส
    หิมะเริ่มละลาย ดอกไม้เริ่มบาน
    อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติสดใส

    ☀ ฤดูร้อน : มิถุนายน - สิงหาคม
    อุณหภูมิอยู่ที่ 15 ถึง 20 องศาเซลเซียส
    อากาศอบอุ่นที่สุด แต่ยังเย็นสบาย
    ดอกไม้บานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจีดูมีชีวิตชีวา

    🍂 ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน - พฤศจิกายน
    อุณหภูมิอยู่ที่ 0 ถึง 10 องศาเซลเซียส
    อากาศเย็นลงเล็กน้อย วิวทิวทัศน์งดงาม
    ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะเริ่มปกคลุมยอดเขา

    ❄ ฤดูหนาว : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
    อุณหภูมิลดต่ำถึง -5 ถึง -10 องศาเซลเซียส
    เหมาะสำหรับผู้ชอบหิมะ อากาศหนาวเย็น
    ธารน้ำแข็งและภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #ภูเขาสี่ดรุณี #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ต๋ากู่ปิงชวน ภูผาหิมะกลาเซียร์❄ เที่ยวช่วงไหนดี? อากาศเป็นอย่างไร?🤔 ต๋ากู่ปิงชวน หรืออุทยานสวรรค์ภูเขาหิมะกลาเซียร์ อยู่เมืองเฮ่ยซุ่ย มณฑลเสฉวน ประเทศจีน อุทยานแห่งชาติที่สวยงามที่สุด ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นในปี 1992 ได้เป็นกลาเซียร์อายุน้อยที่สุดในโลก เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป 🍃 ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม - พฤษภาคม อุณหภูมิอยู่ที่ 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส หิมะเริ่มละลาย ดอกไม้เริ่มบาน อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติสดใส ☀ ฤดูร้อน : มิถุนายน - สิงหาคม อุณหภูมิอยู่ที่ 15 ถึง 20 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่นที่สุด แต่ยังเย็นสบาย ดอกไม้บานสะพรั่ง ทุ่งหญ้าเขียวขจีดูมีชีวิตชีวา 🍂 ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน - พฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ที่ 0 ถึง 10 องศาเซลเซียส อากาศเย็นลงเล็กน้อย วิวทิวทัศน์งดงาม ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะเริ่มปกคลุมยอดเขา ❄ ฤดูหนาว : ธันวาคม - กุมภาพันธ์ อุณหภูมิลดต่ำถึง -5 ถึง -10 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับผู้ชอบหิมะ อากาศหนาวเย็น ธารน้ำแข็งและภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #ภูเขาสี่ดรุณี #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 662 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวถูกช้างป่าทำร้าย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศปิดการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติและปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119422

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวถูกช้างป่าทำร้าย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศปิดการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติและปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119422 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 936 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนรอย 20 ปีช้างป่าภูกระดึง ทำร้ายนักท่องเที่ยวดับ 5

    การเสียชีวิตของ น.ส.จีรนันท์ ปัญญาประเสริฐยิ่ง อายุ 49 ปี นักท่องเที่ยวชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ถูกช้างป่าทำร้ายร่างกาย บริเวณเส้นทางหลังองค์พระพุทธเมตตา-น้ำตกเพ็ญพบใหม่ หลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เมื่อเวลาประมาณ 09.47 น. ของวันที่ 11 ธ.ค. 2567 นับเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หากย้อนกลับไปในรอบ 20 ปี มีผู้เสียชีวิตจากการถูกช้างป่าภูกระดึงทำร้ายร่างกายที่เป็นข่าว รวมแล้ว 5 ราย

    ได้แก่ วันที่ 25 ก.พ. 2547 เวลาประมาณ 04.00 น. พระประพนธ์ วิจาธโร อายุ 27 ปี และพระเฉลิมเกียรติ สิขันลโย อายุ 26 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพ ขณะปักกลดพักอยู่ที่ลานพระแก้ว ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าวังกวางประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นวันที่ 4 พ.ค. 2548 เวลาประมาณ 05.30 น. น.ส.สุคนธ์ ภัทรกรรม อายุ 50 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ห่างจากผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นของภูกระดึง 150 เมตร และล่าสุดเมื่อ 11 ปีก่อน นายประเสริฐ ชุมพล อายุ 57 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่เก็บขยะ ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2556 ขณะนำขยะเปียกทิ้งลงหลุมบริเวณบ่อทิ้งขยะ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1 กิโลเมตร

    แม้ทางอุทยานฯ จะมีมาตรการเฝ้าระวัง โดยทุกเช้าจะจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ถ้าพบรอยเท้าช้างใหม่ หรือขี้ช้างใหม่ จะประกาศผ่านเสียงตามสายปิดเส้นทางนั้นทันที และตามแผนเผชิญเหตุถ้ามีช้างผ่านมา เจ้าหน้าที่จะจะส่งรถไถมาผลักดันช้าง ตามมาด้วยรถกระบะโฟร์วีลมารับนักท่องเที่ยว แต่ล่าสุดได้ประกาศปิดเส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่และทุกเส้นทางที่ช้างป่าออกมา พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เกิดเหตุและลาดตระเวนในจุดเสี่ยงอย่างเข้มข้น

    อีกปัญหาหนึ่งคือช้างป่าในจังหวัดเลยเพิ่มปริมาณทุกปี ทำให้แหล่งอาหารหากินไม่เพียงพอต่อความต้องการของช้างป่า และออกไปหากินนอกเขต ข้อมูลจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง เมื่อปี 2566 พบว่ามีช้างป่ามากกว่า 320 ตัว อาศัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเกือบ 200 ตัว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 65-70 ตัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อภูกระแต 53 ตัว ออกมาหาแหล่งที่อยู่ใหม่และแหล่งอาหาร เข้าพื้นที่อำเภอภูกระดึง ภูเรือ ด่านซ้าย ภูหลวง ท่าลี่ หนองหิน และผาขาว สร้างผลกระทบ และสร้างความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่ และเนื่องจากเป็นสัตว์ใหญ่ ถ้าไม่ได้กินก็มีอาการเครียด จากสถิติตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง ส.ค. 2566 ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 4 ราย และช้างป่าถูกยิงตาย 1 ตัว

    #Newskit
    ย้อนรอย 20 ปีช้างป่าภูกระดึง ทำร้ายนักท่องเที่ยวดับ 5 การเสียชีวิตของ น.ส.จีรนันท์ ปัญญาประเสริฐยิ่ง อายุ 49 ปี นักท่องเที่ยวชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ถูกช้างป่าทำร้ายร่างกาย บริเวณเส้นทางหลังองค์พระพุทธเมตตา-น้ำตกเพ็ญพบใหม่ หลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เมื่อเวลาประมาณ 09.47 น. ของวันที่ 11 ธ.ค. 2567 นับเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หากย้อนกลับไปในรอบ 20 ปี มีผู้เสียชีวิตจากการถูกช้างป่าภูกระดึงทำร้ายร่างกายที่เป็นข่าว รวมแล้ว 5 ราย ได้แก่ วันที่ 25 ก.พ. 2547 เวลาประมาณ 04.00 น. พระประพนธ์ วิจาธโร อายุ 27 ปี และพระเฉลิมเกียรติ สิขันลโย อายุ 26 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพ ขณะปักกลดพักอยู่ที่ลานพระแก้ว ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าวังกวางประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นวันที่ 4 พ.ค. 2548 เวลาประมาณ 05.30 น. น.ส.สุคนธ์ ภัทรกรรม อายุ 50 ปี ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ห่างจากผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นของภูกระดึง 150 เมตร และล่าสุดเมื่อ 11 ปีก่อน นายประเสริฐ ชุมพล อายุ 57 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่เก็บขยะ ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2556 ขณะนำขยะเปียกทิ้งลงหลุมบริเวณบ่อทิ้งขยะ ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1 กิโลเมตร แม้ทางอุทยานฯ จะมีมาตรการเฝ้าระวัง โดยทุกเช้าจะจัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน ถ้าพบรอยเท้าช้างใหม่ หรือขี้ช้างใหม่ จะประกาศผ่านเสียงตามสายปิดเส้นทางนั้นทันที และตามแผนเผชิญเหตุถ้ามีช้างผ่านมา เจ้าหน้าที่จะจะส่งรถไถมาผลักดันช้าง ตามมาด้วยรถกระบะโฟร์วีลมารับนักท่องเที่ยว แต่ล่าสุดได้ประกาศปิดเส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่และทุกเส้นทางที่ช้างป่าออกมา พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เกิดเหตุและลาดตระเวนในจุดเสี่ยงอย่างเข้มข้น อีกปัญหาหนึ่งคือช้างป่าในจังหวัดเลยเพิ่มปริมาณทุกปี ทำให้แหล่งอาหารหากินไม่เพียงพอต่อความต้องการของช้างป่า และออกไปหากินนอกเขต ข้อมูลจากสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง เมื่อปี 2566 พบว่ามีช้างป่ามากกว่า 320 ตัว อาศัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเกือบ 200 ตัว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 65-70 ตัว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อภูกระแต 53 ตัว ออกมาหาแหล่งที่อยู่ใหม่และแหล่งอาหาร เข้าพื้นที่อำเภอภูกระดึง ภูเรือ ด่านซ้าย ภูหลวง ท่าลี่ หนองหิน และผาขาว สร้างผลกระทบ และสร้างความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่ และเนื่องจากเป็นสัตว์ใหญ่ ถ้าไม่ได้กินก็มีอาการเครียด จากสถิติตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง ส.ค. 2566 ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 4 ราย และช้างป่าถูกยิงตาย 1 ตัว #Newskit
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางท่องเที่ยว..เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน
    2024-2025 Chiengmai Tourist Routes

    ฉันกำลังจะเกษียณปลายเดือนมกราคม 2025
    จึงเขียนเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไว้ให้เพื่อนๆ
    ที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่บ้านของฉัน สนุก-ประทับใจ

    --------------------------
    ทริปไหว้พระ ๙ วัด (ได้ทั้งปี)

    1.วัดศรีดอนมูลครูบาน้อย ลงนะหน้า ทอง. 2.วัดพระธาตุดอยคำ
    3.วัดป่าแดด 4.วัดอุโมงค์. 5.วัดศรีสุพรรณ. 6.วัดพระสิงห์
    7.วัดเจดีย์หลวง. 8.วัดพันเตา** 9.วัดอุปคุต

    แนะนำ วัดโลกโมฬี และ วัดป่าดาราภิรมย์***สวยมาก***
    วัดพันเตา กลางคืนสวย(มาก)เดินถนนคนเดินคืนวันอาทิตย์

    ---------------------------
    ทริปดอยอ่างขาง (กลางเดือน มกราคม สวยที่สุด)

    1.คาเฟ่เฮือนไม้60. 2.แดนเทวดา. 3.วัดบ้านเด่น. 4.สวนสนแม่แตง. 5.ถนนต้นยางประตูสู่เมืองคอง. 6.ถ้ำหลวงเชียงดาว. 7.ฮิโนกิแลนด์ บ้านญี่ปุ่น 8.สวนส้ม. 9.จุดชมวิวม่อนสวนสน. 10.สถานีเกษตรดอยอ่างขาง(ซากุระ) 11.ไร่ชา2000系 12.สวนสตอเบอรี่ บ้านนอแล. 13.ฐานปฏิบัติการ ชายแดนบ้านนอแล

    ----------------------------
    ทริปดอยหลวงเชียงดาว (มกราคม- กลางเดือนกุมภาฯ)

    1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เรือนไม้ 6 สวน. 3.แอร์เอเชียไดมอนด์. 4.แดนเทวดา. 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ประตูสู่เมืองคองถนนต้นยาง. 8.ถ้าหลวงเชียงดาว. 9.ที่พักระเบียงดาวโซนดอยหลวง 10. เมืองคอง

    -----------------------------
    ทริปแม่แตง (มค.-กพ. เทศกาลไม้ดอกเชียงใหม่)

    1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เฮือนไม้ 60. 3.คาเฟ่เครื่องบินแอร์เอเชียไดมอนด์. 4..แดนเทวดา 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ปางช้างแม่แตง. 8.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว. 9.แก่งกิ๊ดล่องแก่งล่องแพ. 10.ไร่ชาลุงเดช

    ----------------------------
    ทริปหมู่บ้านแม่กำปอง (เที่ยวได้ทั้งปี ยกเว้นฤดูฝน)

    1. ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง 2. ถ้ำเมืองออน 3.น้ำพุร้อนสันกำแพง 4.ม่อนกุเวรท้าวเวสสุวรรณ. 5. โครงการหลวงบ้านห้วยตีนตก. 6.กาแฟบ้านต้นไม้แม่กำปอง. 7.ถนนคนเดินบ้านแม่กำปอง. 8.วัดแม่กำปองอุโบสถกลางน้ำ 9.กาแฟระเบียงวิวชมหมู่บ้าน. 10.น้ำตกบ้านแม่กำปอง. 11.กาแฟสะพานแขวนเทสดู่ 12.the ธารทอง green coffee cafe สวยๆ. 13. The giant **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น
    14. กิ่วฝิ่น **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น.

    -----------------------------
    ทริปอำเภอกัลยาณิวัฒนา(พฤศจิกายน-ธันวาคม)

    1. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2.วัดต้นเกว๋น 3.คาเฟ่เฮือนหลองเข้าลำ 4.ทุ่งดอกเก๊กฮวย มีเฉพาะ พย-ธค. 5.ป่าสนวัดจันทร์

    ------------------------------
    ทริป อ.ปาย (ช่วงกุมภาพันธ์)

    1. กาแฟแม่มด 2. จุดเช็คอินเขตแดนปายแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่. 3. ห้วยน้ำดัง 4.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 5. ไหว้ขอพรพระธาตุแม่เย็น(ค้าง RELAX) 6. กะเหรี่ยงคอยาวห้วยมะเฟือง 7. เช็คอิน ที่ Cafe PAI in Love 8. พระอาทิตย์ตกดิน ที่ ปายแคนย่อน 9. ถนนคนเดินกลางคืน 10. ทะเลหมอกหยุนไหล 11. หมู่บ้านสันติชลบ้านจีนยูนนาน

    ------------------------------
    ทริปเชียงราย
    1. น้ำพุร้อนแม่ขะจาน 2. วัดร่องขุ่น 3. วัดร่องเสือเต้น 4. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ 5.ไร่ชาฉุยฟง 6. วัดห้วยปลากั้ง 7.ไร่บุญรอดสิงห์ปาร์ค 8.พระตำหนักดอยตุง 9. วัดพระธาตุดอยตุง 10. จุดชมวิวดอยช้างมูป 11.ดอยผาฮี้ (ที่พัก) 12.วัดพระธาตุดอยเวา-SKYWALK 13. ตลาดแม่สาย 14.สามเหลี่ยมทองคำ 15.ภูชี้ฟ้า 16. อาข่าฟาร์มวิลล์-ฟาร์มแกะ(แม่สรวย)

    ------------------------------
    ทริปแม่ฮ่องสอน-เมืองสามหมอก (กลาง พย-ธค)

    1. บ่อน้ำแร่ห้วยไทรงาม. 2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม. 3. ถ้ำน้ำลอดปางมะผ้าหรือ ถ้ำผีแมน. 4. ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ้(ค้าง 1 คืน). 5. จุดชมวิวบ้านห้วยรุกข้าวหลาม. 6. ถ้ำปลาแม่ฮ่องสอน. 7. พระธาตุดอยกองมู. 8. บ้านรักไทย. 9. ปางอุ๋ง ล่องแพตอนเช้า. 10. สะพานซูตองเป้
    เฉพาะกลางเดือนพฤศจิกายน ดอกบัวตอง ที่ ดอยแม่อูคอ สวยดั่งสวรรค์
    เส้นทางท่องเที่ยว..เชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน 2024-2025 Chiengmai Tourist Routes ฉันกำลังจะเกษียณปลายเดือนมกราคม 2025 จึงเขียนเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไว้ให้เพื่อนๆ ที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่บ้านของฉัน สนุก-ประทับใจ -------------------------- ทริปไหว้พระ ๙ วัด (ได้ทั้งปี) 1.วัดศรีดอนมูลครูบาน้อย ลงนะหน้า ทอง. 2.วัดพระธาตุดอยคำ 3.วัดป่าแดด 4.วัดอุโมงค์. 5.วัดศรีสุพรรณ. 6.วัดพระสิงห์ 7.วัดเจดีย์หลวง. 8.วัดพันเตา** 9.วัดอุปคุต แนะนำ วัดโลกโมฬี และ วัดป่าดาราภิรมย์***สวยมาก*** วัดพันเตา กลางคืนสวย(มาก)เดินถนนคนเดินคืนวันอาทิตย์ --------------------------- ทริปดอยอ่างขาง (กลางเดือน มกราคม สวยที่สุด) 1.คาเฟ่เฮือนไม้60. 2.แดนเทวดา. 3.วัดบ้านเด่น. 4.สวนสนแม่แตง. 5.ถนนต้นยางประตูสู่เมืองคอง. 6.ถ้ำหลวงเชียงดาว. 7.ฮิโนกิแลนด์ บ้านญี่ปุ่น 8.สวนส้ม. 9.จุดชมวิวม่อนสวนสน. 10.สถานีเกษตรดอยอ่างขาง(ซากุระ) 11.ไร่ชา2000系 12.สวนสตอเบอรี่ บ้านนอแล. 13.ฐานปฏิบัติการ ชายแดนบ้านนอแล ---------------------------- ทริปดอยหลวงเชียงดาว (มกราคม- กลางเดือนกุมภาฯ) 1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เรือนไม้ 6 สวน. 3.แอร์เอเชียไดมอนด์. 4.แดนเทวดา. 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ประตูสู่เมืองคองถนนต้นยาง. 8.ถ้าหลวงเชียงดาว. 9.ที่พักระเบียงดาวโซนดอยหลวง 10. เมืองคอง ----------------------------- ทริปแม่แตง (มค.-กพ. เทศกาลไม้ดอกเชียงใหม่) 1.สวนดอกไม้แม่ริม. 2. คาเฟ่เฮือนไม้ 60. 3.คาเฟ่เครื่องบินแอร์เอเชียไดมอนด์. 4..แดนเทวดา 5.วัดบ้านเด่น. 6.สวนสนแม่แตง. 7.ปางช้างแม่แตง. 8.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว. 9.แก่งกิ๊ดล่องแก่งล่องแพ. 10.ไร่ชาลุงเดช ---------------------------- ทริปหมู่บ้านแม่กำปอง (เที่ยวได้ทั้งปี ยกเว้นฤดูฝน) 1. ศูนย์หัตถกรรมร่มบ่อสร้าง 2. ถ้ำเมืองออน 3.น้ำพุร้อนสันกำแพง 4.ม่อนกุเวรท้าวเวสสุวรรณ. 5. โครงการหลวงบ้านห้วยตีนตก. 6.กาแฟบ้านต้นไม้แม่กำปอง. 7.ถนนคนเดินบ้านแม่กำปอง. 8.วัดแม่กำปองอุโบสถกลางน้ำ 9.กาแฟระเบียงวิวชมหมู่บ้าน. 10.น้ำตกบ้านแม่กำปอง. 11.กาแฟสะพานแขวนเทสดู่ 12.the ธารทอง green coffee cafe สวยๆ. 13. The giant **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น 14. กิ่วฝิ่น **ทางชันมาก ต้องเหมารถที่แม่กำปองเท่านั้น. ----------------------------- ทริปอำเภอกัลยาณิวัฒนา(พฤศจิกายน-ธันวาคม) 1. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2.วัดต้นเกว๋น 3.คาเฟ่เฮือนหลองเข้าลำ 4.ทุ่งดอกเก๊กฮวย มีเฉพาะ พย-ธค. 5.ป่าสนวัดจันทร์ ------------------------------ ทริป อ.ปาย (ช่วงกุมภาพันธ์) 1. กาแฟแม่มด 2. จุดเช็คอินเขตแดนปายแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่. 3. ห้วยน้ำดัง 4.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย 5. ไหว้ขอพรพระธาตุแม่เย็น(ค้าง RELAX) 6. กะเหรี่ยงคอยาวห้วยมะเฟือง 7. เช็คอิน ที่ Cafe PAI in Love 8. พระอาทิตย์ตกดิน ที่ ปายแคนย่อน 9. ถนนคนเดินกลางคืน 10. ทะเลหมอกหยุนไหล 11. หมู่บ้านสันติชลบ้านจีนยูนนาน ------------------------------ ทริปเชียงราย 1. น้ำพุร้อนแม่ขะจาน 2. วัดร่องขุ่น 3. วัดร่องเสือเต้น 4. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ 5.ไร่ชาฉุยฟง 6. วัดห้วยปลากั้ง 7.ไร่บุญรอดสิงห์ปาร์ค 8.พระตำหนักดอยตุง 9. วัดพระธาตุดอยตุง 10. จุดชมวิวดอยช้างมูป 11.ดอยผาฮี้ (ที่พัก) 12.วัดพระธาตุดอยเวา-SKYWALK 13. ตลาดแม่สาย 14.สามเหลี่ยมทองคำ 15.ภูชี้ฟ้า 16. อาข่าฟาร์มวิลล์-ฟาร์มแกะ(แม่สรวย) ------------------------------ ทริปแม่ฮ่องสอน-เมืองสามหมอก (กลาง พย-ธค) 1. บ่อน้ำแร่ห้วยไทรงาม. 2. จุดชมวิวดอยกิ่วลม. 3. ถ้ำน้ำลอดปางมะผ้าหรือ ถ้ำผีแมน. 4. ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ้(ค้าง 1 คืน). 5. จุดชมวิวบ้านห้วยรุกข้าวหลาม. 6. ถ้ำปลาแม่ฮ่องสอน. 7. พระธาตุดอยกองมู. 8. บ้านรักไทย. 9. ปางอุ๋ง ล่องแพตอนเช้า. 10. สะพานซูตองเป้ เฉพาะกลางเดือนพฤศจิกายน ดอกบัวตอง ที่ ดอยแม่อูคอ สวยดั่งสวรรค์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ยังต้องรอลุ้นเกิด “เหมยขาบ” แรกของปี ขณะที่นักท่องเที่ยวคึกคักต่อเนื่อง รับลมหนาวชมวิวสวย

    รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(11 ธ.ค.67) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงเป็นไปอย่างค่อนข้างคึกคัก แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์และเพิ่งผ่านพ้นช่วงวันหยุด โดยพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงต่างพากันท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นสบายและชื่นชมธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างประทับใจกับการได้ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางเมฆหมอกและลมเย็นที่พัดโชยไม่ขาดสาย

    ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 8 องศาเซลเซียส ที่บริเวณยอดดอย และกิ่วแม่ปาน ทำให้ยังต้องรอลุ้นการเกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “เหมยขาบ” ครั้งแรกของปีนี้ต่อไป ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,909 คน แบ่งเป็น คนไทย 3,674 คน ชาวต่างชาติ 1,235 คน และยานพาหนะ 1,307 คัน ซึ่งทางอุทยานฯ เน้นย้ำนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับขึ้นดอยและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อความปลอดภัย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118775

    #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ยังต้องรอลุ้นเกิด “เหมยขาบ” แรกของปี ขณะที่นักท่องเที่ยวคึกคักต่อเนื่อง รับลมหนาวชมวิวสวย • รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(11 ธ.ค.67) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงเป็นไปอย่างค่อนข้างคึกคัก แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์และเพิ่งผ่านพ้นช่วงวันหยุด โดยพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงต่างพากันท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นสบายและชื่นชมธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างประทับใจกับการได้ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางเมฆหมอกและลมเย็นที่พัดโชยไม่ขาดสาย • ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 8 องศาเซลเซียส ที่บริเวณยอดดอย และกิ่วแม่ปาน ทำให้ยังต้องรอลุ้นการเกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “เหมยขาบ” ครั้งแรกของปีนี้ต่อไป ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,909 คน แบ่งเป็น คนไทย 3,674 คน ชาวต่างชาติ 1,235 คน และยานพาหนะ 1,307 คัน ซึ่งทางอุทยานฯ เน้นย้ำนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับขึ้นดอยและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อความปลอดภัย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118775 • #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    ทรงพระเจริญ

    @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ
    พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก 🙏💜
    .
    ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024"

    โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น

    ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป

    แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้

    (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้ 😂
    ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้)

    พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ

    ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน

    💜 ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว

    เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก

    #นักเรียนดี
    9/12/67 ทรงพระเจริญ @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก 🙏💜 . ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024" โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้ (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้ 😂 ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้) พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน 💜 ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก #นักเรียนดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • เที่ยว #จีน #คุนหมิง #ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ #แผ่นดินสีแดงตงชวน ❄🔥
    เริ่มต้นเพียง 9,999 รวมอาหาร + ที่พัก + ตั๋วไปกลับ🎉😲

    🗓 จำนวนวัน 4 วัน 3 คืน
    ✈ KY-คุนหมิงแอร์ไลน์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐

    📍 ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ (รวมรถอุทยาน - ค่ากระเช้า)
    📍 แผ่นดินสีแดงแห่งตงชวน
    📍 เมืองคุนหมิง
    📍 ประตูม้าทองไก่หยก
    📍 ถนนคนเดินหนานผิงเจีย
    📍 POP MART
    📍 วัดหยวนทง
    📍 ตำหนักทอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จีน #คุนหมิง #ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ #แผ่นดินสีแดงตงชวน ❄🔥 เริ่มต้นเพียง 9,999 รวมอาหาร + ที่พัก + ตั๋วไปกลับ🎉😲 🗓 จำนวนวัน 4 วัน 3 คืน ✈ KY-คุนหมิงแอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ (รวมรถอุทยาน - ค่ากระเช้า) 📍 แผ่นดินสีแดงแห่งตงชวน 📍 เมืองคุนหมิง 📍 ประตูม้าทองไก่หยก 📍 ถนนคนเดินหนานผิงเจีย 📍 POP MART 📍 วัดหยวนทง 📍 ตำหนักทอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 647 มุมมอง 65 0 รีวิว
  • อ่านรีวิว https://www.siamsopha.com/post/เขาสันหนอกวัว

    เขาสันหนอกวัว ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
    โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,767 เมตร
    ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลา เดินและพักค้าง 2 วัน 1 คืน

    #สยามโสภา #สันหนอกวัว #อุทธยานแห่งชาติเขาแหลม #Thaitimes #Thaitimestravel
    อ่านรีวิว https://www.siamsopha.com/post/เขาสันหนอกวัว เขาสันหนอกวัว ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,767 เมตร ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลา เดินและพักค้าง 2 วัน 1 คืน #สยามโสภา #สันหนอกวัว #อุทธยานแห่งชาติเขาแหลม #Thaitimes #Thaitimestravel
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวภูเขาสี่ดรุณี ช่วงไหนดี?

    ภูเขาสี่ดรุณี
    อยู่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน
    อุทยานแห่งชาติระดับ 5A

    ได้รับฉายาว่า 'ภูเขาแอลป์แห่งเมืองจีน'
    หรือ 'สวิตเซอร์แลนด์แห่งเสฉวน'

    เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
    มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล

    🍃 ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม - พฤษภาคม
    อุณหภูมิเฉลี่ย -5 ถึง 16 องศา
    หิมะละลาย ดอกไม้เบ่งบาน
    ทุ่งหญ้าเขียวขจี

    ☀ ฤดูร้อน : มิถุนายน - สิงหาคม
    อุณหภูมิเฉลี่ย 17 ถึง 30 องศา
    อากาศกลางวันอุ่น กลางคืนจะหนาวเย็น
    ดอกไม้บานสวยงามเต็มหุบเขา

    🍂 ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน - พฤศจิกายน
    อุณหภูมิเฉลี่ย -8 ถึง 16 องศา
    อากาศหนาวเย็นขึ้น ใบไม้เปลี่ยนสี
    ต้นไม้สีเหลืองทองสลับกับสีแดง

    ❄ ฤดูหนาว : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
    อุณหภูมิเฉลี่ย -14 ถึง 5 องศา
    อากาศหนาวเย็นยะเยือก
    หิมะขาวโพลนปกคลุมทั่วบริเวณ

    👍 ฤดูที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว
    ฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูร้อน
    ต้นไม้เขียวขจี ท้องฟ้าสดใส

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #ภูเขาสี่ดรุณี #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวภูเขาสี่ดรุณี ช่วงไหนดี? ภูเขาสี่ดรุณี อยู่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน อุทยานแห่งชาติระดับ 5A ได้รับฉายาว่า 'ภูเขาแอลป์แห่งเมืองจีน' หรือ 'สวิตเซอร์แลนด์แห่งเสฉวน' เที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล 🍃 ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม - พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย -5 ถึง 16 องศา หิมะละลาย ดอกไม้เบ่งบาน ทุ่งหญ้าเขียวขจี ☀ ฤดูร้อน : มิถุนายน - สิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 17 ถึง 30 องศา อากาศกลางวันอุ่น กลางคืนจะหนาวเย็น ดอกไม้บานสวยงามเต็มหุบเขา 🍂 ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน - พฤศจิกายน อุณหภูมิเฉลี่ย -8 ถึง 16 องศา อากาศหนาวเย็นขึ้น ใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้สีเหลืองทองสลับกับสีแดง ❄ ฤดูหนาว : ธันวาคม - กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย -14 ถึง 5 องศา อากาศหนาวเย็นยะเยือก หิมะขาวโพลนปกคลุมทั่วบริเวณ 👍 ฤดูที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว ฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูร้อน ต้นไม้เขียวขจี ท้องฟ้าสดใส LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #ภูเขาสี่ดรุณี #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว

    1.เขาแผงม้า
    เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก

    จุดเด่น
    บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

    วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง

    2. ผาเก็บตะวัน
    ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย

    จุดเด่น
    ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

    วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง

    จุดเด่น
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน

    วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง

    4.น้ำตกม่านฟ้า
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน

    จุดเด่น
    น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00

    5.ทุ่งลาเวนเดอร์
    ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม

    จุดเด่น
    ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน

    วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว 1.เขาแผงม้า เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก จุดเด่น บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้ เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง 2. ผาเก็บตะวัน ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย จุดเด่น ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง จุดเด่น อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 4.น้ำตกม่านฟ้า น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน จุดเด่น น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก เวลาทำการและวิธีเดินทาง น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00 5.ทุ่งลาเวนเดอร์ ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม จุดเด่น ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชมซากุระเมืองไทย
    ขุนช่างเคี่ยน ดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
    ถึงแม้ว่าประเทศไทยเราจะไม่มีดอกซากุระเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะในวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมดอกซากุระเมืองไทย หรือต้นนางพญาเสือโคร่งกันที่ สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ในจังหวัดเชียงใหม่กัน🌸
    ต้องบอกเลยว่า ถ้าเรามาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวเป็นต้นไป ดอกนางพญาเสือโคร่งก็จะยิ่งออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทุกบริเวณเลย หากใครอยากเห็นดอกซากุระเมืองไทยกันแล้ว เราออกเดินทางไปเที่ยว ขุนช่างเคี่ยน กันเลย

    สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นมาเอง สามารถขับรถขึ้นมายังขุนช่างเคี่ยน โดยใช้เส้นทางเดียวกับวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ และจะต้องขับผ่านพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวขวาไปยังหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน หลังจากที่ขับผ่านอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยแล้ว ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 3 กม. พร้อมกับเลี้ยวขวาก็จะถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแล้ว แต่ระหว่างทางที่ขึ้นไปยังขุนช่างเคี่ยน เส้นทางจะมีความแคบและคดเคี้ยวมากเป็นพิเศษ ทั้งยังมีรถขับสวนทางอยู่ตลอดเวลา หากใครขับรถไม่ชำนาญแนะนำว่าให้นั่งรถสองแถวขึ้นไปจะปลอดภัยกว่า
    ชมซากุระเมืองไทย ขุนช่างเคี่ยน ดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงแม้ว่าประเทศไทยเราจะไม่มีดอกซากุระเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะในวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมดอกซากุระเมืองไทย หรือต้นนางพญาเสือโคร่งกันที่ สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ในจังหวัดเชียงใหม่กัน🌸 ต้องบอกเลยว่า ถ้าเรามาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวเป็นต้นไป ดอกนางพญาเสือโคร่งก็จะยิ่งออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทุกบริเวณเลย หากใครอยากเห็นดอกซากุระเมืองไทยกันแล้ว เราออกเดินทางไปเที่ยว ขุนช่างเคี่ยน กันเลย สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นมาเอง สามารถขับรถขึ้นมายังขุนช่างเคี่ยน โดยใช้เส้นทางเดียวกับวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ และจะต้องขับผ่านพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวขวาไปยังหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน หลังจากที่ขับผ่านอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยแล้ว ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 3 กม. พร้อมกับเลี้ยวขวาก็จะถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนแล้ว แต่ระหว่างทางที่ขึ้นไปยังขุนช่างเคี่ยน เส้นทางจะมีความแคบและคดเคี้ยวมากเป็นพิเศษ ทั้งยังมีรถขับสวนทางอยู่ตลอดเวลา หากใครขับรถไม่ชำนาญแนะนำว่าให้นั่งรถสองแถวขึ้นไปจะปลอดภัยกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติเอราวัณ สวยงามดั่งต้องมนต์เมืองสวรรค์

    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ มีเนื้อที่ 343,735 ไร่ หรือ 549.976 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 165-996 เมตร สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบตะวันออกและตะวันตกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนว โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ส่วนบริเวณตอนกลางจะเป็นแนวเขาทอดยาวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สำคัญ คือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

    น้ำตกเอราวัณเดิมเรียกว่าน้ำตกสะด่องม่องล่ายเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น ความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า“ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ“อุทยานแห่งชาติเอราวัณ”

    น้ำตกเอราวัณ (Erawan Waterfall)
    เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี มีระยะทางยาวประมาณ 2,200 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป และมีชื่อของแต่ละชั้น ดังนี้
    ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง
    ชั้นที่ 2 วังมัจฉา
    ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก
    ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ
    ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง
    ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา
    ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ
    ความพิเศษของชั้นนี้คือเมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า "ช้างเอราวัณ" จึงเป็นที่มาของ "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ"
    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ สวยงามดั่งต้องมนต์เมืองสวรรค์ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ มีเนื้อที่ 343,735 ไร่ หรือ 549.976 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 165-996 เมตร สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบตะวันออกและตะวันตกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนว โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ส่วนบริเวณตอนกลางจะเป็นแนวเขาทอดยาวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สำคัญ คือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง น้ำตกเอราวัณเดิมเรียกว่าน้ำตกสะด่องม่องล่ายเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น ความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า“ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ“อุทยานแห่งชาติเอราวัณ” น้ำตกเอราวัณ (Erawan Waterfall) เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี มีระยะทางยาวประมาณ 2,200 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป และมีชื่อของแต่ละชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ความพิเศษของชั้นนี้คือเมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า "ช้างเอราวัณ" จึงเป็นที่มาของ "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ขอประกาศ ปิด🚫 พื้นที่ลานกางเต้นท์ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ https://www.facebook.com/share/19AGFujW2Q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts