• ใครรับใช้ระบอบทักษิณ ย่อมมีอันเป็นไปกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่สุนัขรับใช้ ลูกในไส้ พรรคร่วมไหนอยากตามก็เชิญได้เลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ใต้เงาทักษิณ
    #ทักษิณ
    ใครรับใช้ระบอบทักษิณ ย่อมมีอันเป็นไปกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่สุนัขรับใช้ ลูกในไส้ พรรคร่วมไหนอยากตามก็เชิญได้เลย #คิงส์โพธิ์แดง #ใต้เงาทักษิณ #ทักษิณ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🦮 นักศึกษามหาวิทยาลัย Rice พัฒนาเสื้อกั๊กไฮเทคช่วยสุนัขตาบอด
    กลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมจาก มหาวิทยาลัย Rice ได้ออกแบบ เสื้อกั๊กไฮเทคที่ช่วยให้สุนัขตาบอดสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ ระบบสั่นสะเทือนและกล้องสเตอริโอ เพื่อแจ้งเตือนสิ่งกีดขวาง

    🔍 วิธีการทำงานของเสื้อกั๊ก
    ✅ ใช้มอเตอร์สั่นสะเทือนเพื่อแจ้งเตือนสุนัข
    - มอเตอร์สั่นสะเทือนแบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน จะทำงานเมื่อมีสิ่งกีดขวาง
    - ความแรงและตำแหน่งของการสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับระยะห่างของสิ่งกีดขวาง

    ✅ ติดตั้งกล้องสเตอริโอเพื่อจับภาพแบบ 3 มิติ
    - กล้องสเตอริโอที่ติดตั้งใกล้หัวสุนัข จะสร้างแผนที่ความลึกของพื้นที่
    - ข้อมูลถูกประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์และแผงวงจรเฉพาะทาง

    ✅ ออกแบบให้สวมใส่สบายและทนทาน
    - ต้องทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองฮิวสตัน
    - ต้องมีน้ำหนักเบาและไม่รบกวนการเคลื่อนไหวของสุนัข

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือสัตว์
    ‼️ ต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริง
    - ทีมพัฒนากำลังทดสอบเสื้อกั๊กกับสุนัขชื่อ Kunde เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ‼️ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังค่อนข้างสั้น
    - ปัจจุบันแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    ‼️ ต้องติดตามว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับสัตว์อื่น ๆ ได้หรือไม่
    - อาจมีการพัฒนาเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว

    🚀 อนาคตของเทคโนโลยีสวมใส่สำหรับสัตว์
    ✅ สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ช่วยเหลือมนุษย์ได้
    - เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว

    ✅ การใช้ส่วนประกอบโอเพ่นซอร์สช่วยให้สามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น
    - นักพัฒนาสามารถนำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ

    https://www.techspot.com/news/108300-rice-university-students-design-high-tech-vest-help.html
    🦮 นักศึกษามหาวิทยาลัย Rice พัฒนาเสื้อกั๊กไฮเทคช่วยสุนัขตาบอด กลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมจาก มหาวิทยาลัย Rice ได้ออกแบบ เสื้อกั๊กไฮเทคที่ช่วยให้สุนัขตาบอดสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ ระบบสั่นสะเทือนและกล้องสเตอริโอ เพื่อแจ้งเตือนสิ่งกีดขวาง 🔍 วิธีการทำงานของเสื้อกั๊ก ✅ ใช้มอเตอร์สั่นสะเทือนเพื่อแจ้งเตือนสุนัข - มอเตอร์สั่นสะเทือนแบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน จะทำงานเมื่อมีสิ่งกีดขวาง - ความแรงและตำแหน่งของการสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับระยะห่างของสิ่งกีดขวาง ✅ ติดตั้งกล้องสเตอริโอเพื่อจับภาพแบบ 3 มิติ - กล้องสเตอริโอที่ติดตั้งใกล้หัวสุนัข จะสร้างแผนที่ความลึกของพื้นที่ - ข้อมูลถูกประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์และแผงวงจรเฉพาะทาง ✅ ออกแบบให้สวมใส่สบายและทนทาน - ต้องทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองฮิวสตัน - ต้องมีน้ำหนักเบาและไม่รบกวนการเคลื่อนไหวของสุนัข 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือสัตว์ ‼️ ต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริง - ทีมพัฒนากำลังทดสอบเสื้อกั๊กกับสุนัขชื่อ Kunde เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ‼️ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังค่อนข้างสั้น - ปัจจุบันแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ‼️ ต้องติดตามว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับสัตว์อื่น ๆ ได้หรือไม่ - อาจมีการพัฒนาเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว 🚀 อนาคตของเทคโนโลยีสวมใส่สำหรับสัตว์ ✅ สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ช่วยเหลือมนุษย์ได้ - เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ✅ การใช้ส่วนประกอบโอเพ่นซอร์สช่วยให้สามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น - นักพัฒนาสามารถนำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ https://www.techspot.com/news/108300-rice-university-students-design-high-tech-vest-help.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Rice University students design high-tech vest to help blind dogs navigate
    The project began when Kunde's owners, Grant Belton and AJ Price, reached out to Rice University's Oshman Engineering Design Kitchen, hoping for a solution that would let...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ ควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยกควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นค่ำคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจังอย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่งที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจแต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จพรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ ควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยกควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นค่ำคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจังอย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่งที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจแต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จพรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 9-6-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนักต่อเนื่องกับกรณีปัญหาพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดเขมรยอมถอยบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังมิอาจไว้วางใจได้ เพราะผู้นำอย่าง "ฮุนเซน" นั้นมีนิสัยไม่ได้ต่างจากสุนัขลอบกัด ที่สำคัญคือ คุณสนธิจะมาวิเคราะห์และชี้ทางว่าพวกเราคนไทยจะต้องทำอย่างไรต่อไปในการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #Sondhitalk #ไทยเขมร #ฮุนเซน
    สนธิเล่าเรื่อง 9-6-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนักต่อเนื่องกับกรณีปัญหาพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดเขมรยอมถอยบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังมิอาจไว้วางใจได้ เพราะผู้นำอย่าง "ฮุนเซน" นั้นมีนิสัยไม่ได้ต่างจากสุนัขลอบกัด ที่สำคัญคือ คุณสนธิจะมาวิเคราะห์และชี้ทางว่าพวกเราคนไทยจะต้องทำอย่างไรต่อไปในการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870 . #สนธิเล่าเรื่อง #Sondhitalk #ไทยเขมร #ฮุนเซน
    Like
    Love
    Haha
    18
    2 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 1 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 9-6-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนักต่อเนื่องกับกรณีปัญหาพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดเขมรยอมถอยบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังมิอาจไว้วางใจได้ เพราะผู้นำอย่าง "ฮุนเซน" นั้นมีนิสัยไม่ได้ต่างจากสุนัขลอบกัด ที่สำคัญคือ คุณสนธิจะมาวิเคราะห์และชี้ทางว่าพวกเราคนไทยจะต้องทำอย่างไรต่อไปในการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #Sondhitalk #ไทยเขมร #ฮุนเซน
    สนธิเล่าเรื่อง 9-6-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิจะมาจัดหนักต่อเนื่องกับกรณีปัญหาพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดเขมรยอมถอยบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังมิอาจไว้วางใจได้ เพราะผู้นำอย่าง "ฮุนเซน" นั้นมีนิสัยไม่ได้ต่างจากสุนัขลอบกัด ที่สำคัญคือ คุณสนธิจะมาวิเคราะห์และชี้ทางว่าพวกเราคนไทยจะต้องทำอย่างไรต่อไปในการแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870 . #สนธิเล่าเรื่อง #Sondhitalk #ไทยเขมร #ฮุนเซน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงศึกษาว่ากามเปรียบด้วยท่อนกระดูก
    สัทธรรมลำดับที่ : 262
    ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=262
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก
    --คฤหบดี ! เปรียบเหมือนสุนัข ที่หมดกำลังเพราะหิวจัด
    จะพึงเข้าไปยืนชะเง้ออยู่ ในที่ที่ฆ่าโค.
    คนฆ่าโคหรือลูกมือของเขา ผู้เชี่ยวชาญ
    ก็จะพึง เอาท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว
    ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่ แม้แต่น้อยเดียว
    เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง โยนไปให้สุนัขตัวนั้นแทะ.
    --คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ?
    สุนัขตัวนั้นแทะท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว
    ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว
    เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง นั้นอยู่,
    จะพึงบรรเทาความหมดกำลัง เพราะหิวจัด ได้ละหรือ ?
    --“หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
    “เพราะว่าท่อนกระดูกที่ชำแหละเนื้อ ออกหมดแล้วนั้น
    ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว
    เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง เท่านั้น.
    สุนัขตัวนั้น ก็จะได้รับแต่ความเหนื่อยใจ และความแค้นใจโดยแท้ พระเจ้าข้า !”
    --คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ สาวกของพระอริยเจ้า
    ย่อมพิจารณาเห็น โดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ว่า
    มี #อุปมาด้วยท่อนกระดูก เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก
    http://etipitaka.com/read/pali/13/41/?keywords=กาม+ทุกฺข
    ทำให้คับแค้นใจมาก และ มีโทษอย่างยิ่ง”
    ดังนี้,
    ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้
    แล้วก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ
    อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า),
    แล้วเจริญ ซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว
    (เช่นอุเบกขา ที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน)
    อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ-อุปาทาน อันมีอยู่ในเหยื่อโลก
    โดยประการทั้งปวงแล.-

    #ทุกขสมุท้ย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/36/47.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/36/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๔๑/๔๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/41/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=262
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=17&id=262
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=17
    ลำดับสาธยายธรรม : 17 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_17.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาว่ากามเปรียบด้วยท่อนกระดูก สัทธรรมลำดับที่ : 262 ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=262 เนื้อความทั้งหมด :- --กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก --คฤหบดี ! เปรียบเหมือนสุนัข ที่หมดกำลังเพราะหิวจัด จะพึงเข้าไปยืนชะเง้ออยู่ ในที่ที่ฆ่าโค. คนฆ่าโคหรือลูกมือของเขา ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะพึง เอาท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่ แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง โยนไปให้สุนัขตัวนั้นแทะ. --คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ? สุนัขตัวนั้นแทะท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง นั้นอยู่, จะพึงบรรเทาความหมดกำลัง เพราะหิวจัด ได้ละหรือ ? --“หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? “เพราะว่าท่อนกระดูกที่ชำแหละเนื้อ ออกหมดแล้วนั้น ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง เท่านั้น. สุนัขตัวนั้น ก็จะได้รับแต่ความเหนื่อยใจ และความแค้นใจโดยแท้ พระเจ้าข้า !” --คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ สาวกของพระอริยเจ้า ย่อมพิจารณาเห็น โดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ว่า มี #อุปมาด้วยท่อนกระดูก เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก http://etipitaka.com/read/pali/13/41/?keywords=กาม+ทุกฺข ทำให้คับแค้นใจมาก และ มีโทษอย่างยิ่ง” ดังนี้, ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ แล้วก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า), แล้วเจริญ ซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว (เช่นอุเบกขา ที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน) อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ-อุปาทาน อันมีอยู่ในเหยื่อโลก โดยประการทั้งปวงแล.- #ทุกขสมุท้ย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/36/47. http://etipitaka.com/read/thai/13/36/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๔๑/๔๗. http://etipitaka.com/read/pali/13/41/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=262 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=17&id=262 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=17 ลำดับสาธยายธรรม : 17 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_17.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก
    -กามเปรียบด้วยท่อนกระดูก คฤหบดี ! เปรียบเหมือนสุนัข ที่หมดกำลังเพราะหิวจัด จะพึงเข้าไปยืนชะเง้ออยู่ ในที่ที่ฆ่าโค. คนฆ่าโคหรือลูกมือของเขา ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะพึง เอาท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่ แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง โยนไปให้สุนัขตัวนั้นแทะ. คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ? สุนัขตัวนั้นแทะท่อนกระดูก ที่ชำแหละเนื้อออกหมดแล้ว ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง นั้นอยู่, จะพึงบรรเทาความหมดกำลัง เพราะหิวจัด ได้ละหรือ ? “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? “เพราะว่าท่อนกระดูกที่ชำแหละเนื้อ ออกหมดแล้วนั้น ไม่มีส่วนที่ยังเป็นเยื่ออ่อนเหลืออยู่แม้แต่น้อยเดียว เพียงแต่เปื้อนเลือดอยู่บ้าง เท่านั้น. สุนัขตัวนั้น ก็จะได้รับแต่ความเหนื่อยใจ และความแค้นใจโดยแท้ พระเจ้าข้า !” คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ สาวกของพระอริยเจ้า ย่อมพิจารณาเห็น โดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ว่า มี อุปมาด้วยท่อนกระดูก เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก ทำให้คับแค้นใจมาก และ มีโทษอย่างยิ่ง” ดังนี้, ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ แล้วก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า), แล้วเจริญ ซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว (เช่นอุเบกขา ที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน) อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ อุปาทานอันมีอยู่ในเหยื่อโลก โดยประการทั้งปวงแล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน
    .
    ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด
    .
    ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ
    .
    หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน
    .
    ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น
    .
    ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้
    .
    ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว
    .
    ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
    .
    หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน
    .
    ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ
    .
    ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น..
    .
    การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์
    .
    Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ
    .
    เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว...
    .
    พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง
    .
    หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น
    .
    ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว
    .
    แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย
    .
    เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected"
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) -
    .
    https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน . ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด . ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ . หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน . ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น . ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้ . ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว . ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว . หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน . ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา . ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ . ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น.. . การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์ . Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ . เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว... . พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง . หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น . ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว . แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย . เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected" . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) - . https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ งานถนัดเพื่อไทยเค้า พลิกวิกฤตให้เป็นหายนะ ตั้งแต่ทักษิณ ยันน้องสาว ยันลูกสาว สุนัขรับใช้ ลิ่วล้อนายเป็นรัฐบาลทีไรก็หายนะ แถมโทษกฎหมาย โทษทหาร โทษการเมือง
    #7ดอกจิก
    #ตัวแบก
    #แขกคำผกา
    ♣ งานถนัดเพื่อไทยเค้า พลิกวิกฤตให้เป็นหายนะ ตั้งแต่ทักษิณ ยันน้องสาว ยันลูกสาว สุนัขรับใช้ ลิ่วล้อนายเป็นรัฐบาลทีไรก็หายนะ แถมโทษกฎหมาย โทษทหาร โทษการเมือง #7ดอกจิก #ตัวแบก #แขกคำผกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุชายคลั่งยาเสพติดยิงปืน ย่านบางกอกน้อย ผ่านไปแล้วกว่า 5 ชม. เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าควบคุมตัวได้ รอง ผบช.น.เผย ตามยุทธวิธียังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยังคงใช้วิธีเจรจาต่อรอง พบคนร้ายมีระเบิดแสวงเครื่องทำเอง

    จากกรณีชายคลั่ง ถือปืนยิงขึ้นฟ้า และยิงต่อสู้ตำรวจ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หลังวัดลครทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐวัชต์ หรือ เต้ อายุ 31 ปี ตามที่เสนอข่าวนั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บชน. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราช ตำรวจ 191 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางกอกน้อย เดินทางมายังที่ยังที่เกิดเหตุ เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อ เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. พร้อมสุนัข K9 ลงพื้นที่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000045402

    #MGROnline #ชายคลั่ง #ปิดล้อม #ตำรวจ #อิสรภาพ44
    เหตุชายคลั่งยาเสพติดยิงปืน ย่านบางกอกน้อย ผ่านไปแล้วกว่า 5 ชม. เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าควบคุมตัวได้ รอง ผบช.น.เผย ตามยุทธวิธียังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ยังคงใช้วิธีเจรจาต่อรอง พบคนร้ายมีระเบิดแสวงเครื่องทำเอง • จากกรณีชายคลั่ง ถือปืนยิงขึ้นฟ้า และยิงต่อสู้ตำรวจ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หลังวัดลครทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐวัชต์ หรือ เต้ อายุ 31 ปี ตามที่เสนอข่าวนั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บชน. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราช ตำรวจ 191 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางกอกน้อย เดินทางมายังที่ยังที่เกิดเหตุ เวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อ เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. พร้อมสุนัข K9 ลงพื้นที่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000045402 • #MGROnline #ชายคลั่ง #ปิดล้อม #ตำรวจ #อิสรภาพ44
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุนัขรับใช้ สจ.กอล์ฟ และโกถึก ทำอะไรตำรวจไม่ได้ พาลมาลงที่ชาวบ้านคนแชร์ข่าว คนคอมเมนท์ ข่มขู่อุ้มหาย ฝากตำรวจเอาแม่มอีกคดีด้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เก่งกันจัง
    #สุนัขรับใช้
    #สจกอล์ฟ
    #โกถึก
    สุนัขรับใช้ สจ.กอล์ฟ และโกถึก ทำอะไรตำรวจไม่ได้ พาลมาลงที่ชาวบ้านคนแชร์ข่าว คนคอมเมนท์ ข่มขู่อุ้มหาย ฝากตำรวจเอาแม่มอีกคดีด้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #เก่งกันจัง #สุนัขรับใช้ #สจกอล์ฟ #โกถึก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค้นหาจนวินาทีสุดท้าย จบภารกิจกู้ภัยตึก สตง. : [NEWS UPDATE]

    น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งในวันที่ 13 พ.ค. นี้ สุนัข K9 จะสำรวจกองเศษวัสดุทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีชิ้นส่วนผู้สูญหายหลงเหลืออยู่ เพื่อถอนกำลังออกจากพื้นที่ ทั้งเครื่องจักร ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งมอบพื้นที่คืนให้ผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ จากยอดผู้ประสบเหตุ 109 ราย รอดชีวิต 9 ราย มีผู้ไม่ได้มาทำงานในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว 4 ราย นิติเวชระบุร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 89 ราย ซึ่งหลังยุติการค้นหาจะเป็นกระบวนของนิติเวชในการระบุตัวตนของชิ้นส่วนที่เหลือ 296 ชิ้น และตำรวจจะดำเนินการเกี่ยวกับคดี เตรียม ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และศูนย์พักคอยสำหรับญาติผู้สูญหาย แต่สำนักงานเขตจตุจักรยังจัดศูนย์พักพิงหากมีญาติประสงค์จะพักคอยอยู่

    -ประณามข่มขู่ทนายความ

    -ทดสอบเตือนภัย 5 จังหวัด

    -ท้องถิ่นสนใจตัวบุคคล

    -พายุเศรษฐกิจมาแน่
    ค้นหาจนวินาทีสุดท้าย จบภารกิจกู้ภัยตึก สตง. : [NEWS UPDATE] น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งในวันที่ 13 พ.ค. นี้ สุนัข K9 จะสำรวจกองเศษวัสดุทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีชิ้นส่วนผู้สูญหายหลงเหลืออยู่ เพื่อถอนกำลังออกจากพื้นที่ ทั้งเครื่องจักร ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งมอบพื้นที่คืนให้ผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ จากยอดผู้ประสบเหตุ 109 ราย รอดชีวิต 9 ราย มีผู้ไม่ได้มาทำงานในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว 4 ราย นิติเวชระบุร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 89 ราย ซึ่งหลังยุติการค้นหาจะเป็นกระบวนของนิติเวชในการระบุตัวตนของชิ้นส่วนที่เหลือ 296 ชิ้น และตำรวจจะดำเนินการเกี่ยวกับคดี เตรียม ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และศูนย์พักคอยสำหรับญาติผู้สูญหาย แต่สำนักงานเขตจตุจักรยังจัดศูนย์พักพิงหากมีญาติประสงค์จะพักคอยอยู่ -ประณามข่มขู่ทนายความ -ทดสอบเตือนภัย 5 จังหวัด -ท้องถิ่นสนใจตัวบุคคล -พายุเศรษฐกิจมาแน่
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการใช้ AI ในการคัดเลือกลูกสุนัขที่มีศักยภาพในการเป็นสุนัขนำทางหรือสุนัขบริการ โดยการวิจัยจากมหาวิทยาลัย East London พบว่า AI สามารถทำนายความเหมาะสมของลูกสุนัขได้ด้วยความแม่นยำถึง 80% ในระยะเวลา 12 เดือน การใช้ AI ช่วยลดปัญหาการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึกสุนัข ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบทั้งด้านอารมณ์และการเงิน

    AI ทำงานโดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกสุนัขผ่านแบบสอบถามที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอารมณ์ สมาธิ และบุคลิกภาพของสุนัขในช่วงอายุ 6 เดือนและ 12 เดือน AI สามารถตรวจจับรูปแบบพฤติกรรมที่แม้แต่ผู้ฝึกสุนัขที่มีประสบการณ์อาจมองข้าม

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระดับโลก เช่น The Seeing Eye และ Canine Companions ซึ่งเป็นทีมที่ปรากฏในสารคดี Netflix เรื่อง Inside the Mind of a Dog

    ✅ ความแม่นยำของ AI
    - AI สามารถทำนายความเหมาะสมของลูกสุนัขได้ด้วยความแม่นยำถึง 80%
    - ลดปัญหาการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึกสุนัข

    ✅ การวิเคราะห์พฤติกรรม
    - ใช้แบบสอบถามที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอารมณ์ สมาธิ และบุคลิกภาพของสุนัข
    - AI ตรวจจับรูปแบบพฤติกรรมที่ผู้ฝึกอาจมองข้าม

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรระดับโลก
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก The Seeing Eye และ Canine Companions
    - องค์กรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในวงการฝึกสุนัขนำทาง

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือกสุนัขนำทาง
    - ลดผลกระทบด้านอารมณ์และการเงินจากการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึก

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/ai-is-better-at-picking-which-puppy-will-make-a-good-guide-dog-than-humans-are
    บทความนี้กล่าวถึงการใช้ AI ในการคัดเลือกลูกสุนัขที่มีศักยภาพในการเป็นสุนัขนำทางหรือสุนัขบริการ โดยการวิจัยจากมหาวิทยาลัย East London พบว่า AI สามารถทำนายความเหมาะสมของลูกสุนัขได้ด้วยความแม่นยำถึง 80% ในระยะเวลา 12 เดือน การใช้ AI ช่วยลดปัญหาการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึกสุนัข ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบทั้งด้านอารมณ์และการเงิน AI ทำงานโดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกสุนัขผ่านแบบสอบถามที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอารมณ์ สมาธิ และบุคลิกภาพของสุนัขในช่วงอายุ 6 เดือนและ 12 เดือน AI สามารถตรวจจับรูปแบบพฤติกรรมที่แม้แต่ผู้ฝึกสุนัขที่มีประสบการณ์อาจมองข้าม โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระดับโลก เช่น The Seeing Eye และ Canine Companions ซึ่งเป็นทีมที่ปรากฏในสารคดี Netflix เรื่อง Inside the Mind of a Dog ✅ ความแม่นยำของ AI - AI สามารถทำนายความเหมาะสมของลูกสุนัขได้ด้วยความแม่นยำถึง 80% - ลดปัญหาการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึกสุนัข ✅ การวิเคราะห์พฤติกรรม - ใช้แบบสอบถามที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอารมณ์ สมาธิ และบุคลิกภาพของสุนัข - AI ตรวจจับรูปแบบพฤติกรรมที่ผู้ฝึกอาจมองข้าม ✅ การสนับสนุนจากองค์กรระดับโลก - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก The Seeing Eye และ Canine Companions - องค์กรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในวงการฝึกสุนัขนำทาง ✅ เป้าหมายของโครงการ - เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือกสุนัขนำทาง - ลดผลกระทบด้านอารมณ์และการเงินจากการล้มเหลวในขั้นตอนการฝึก https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/ai-is-better-at-picking-which-puppy-will-make-a-good-guide-dog-than-humans-are
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • “หมอโบว์” ลูกกตัญญู-นางฟ้าใจบุญ ทั้งดูแลแม่ป่วย ทั้งรักษาช้างฟรีทั่วภาคใต้ ภูมิใจ ได้ต่อชีวิตช้างป่วยและครอบครัวคนเลี้ยงช้าง!

    “ช้างเป็นสัตว์ที่เจ้าของเลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว ช้างบางเชือกเลี้ยงไว้เพื่อประกอบอาชีพ ช้างบางเชือกส่งลูกเรียนจนจบปริญญา ช้างบางเชือกเจือจุนครอบครัวของคนที่เลี้ยงช้าง เรารู้สึกว่า การรักษาช้าง 1 เชือกให้หายป่วย ไม่ใช่แค่การต่อชีวิตช้างอย่างเดียว แต่เป็นการต่อชีวิตของคนที่เลี้ยงช้างด้วย”

    นั่นคือเหตุผลและความภาคภูมิใจที่ทำให้ “หมอโบว์” สัตวแพทย์หญิง รัชดาภรณ์ ศรีสมุทร อยากเป็นหมอรักษาช้าง ทั้งที่ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ หากพลาดอาจเสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิตได้

    แม้หมอโบว์จะไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย โดยแม่เป็นครู ส่วนพ่อทำสวน และแม่ต้องกู้เงินเพื่อส่งหมอโบว์เรียนสัตวแพทย์ถึง 6 ปี แต่หมอโบว์ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหรือมุ่งเน้นทำงานเพื่อความมั่นคงหรือฐานะการเงินของตนเอง เพราะหากต้องการความร่ำรวย หมอโบว์คงเลือกเป็นหมอรักษาสัตว์เล็กอย่างแมวหรือสุนัข ที่สามารถเปิดคลินิกของตัวเองได้ แต่ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ การรักษาและค่ายาสูงมากตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ไม่สามารถเปิดคลินิกเพื่อรักษาได้ เพราะเก็บค่ารักษายาก แต่หมอโบว์กลับเลือกเส้นทางนี้ เพื่อรักษาช้างฟรี

    “บางท่านก็มีทุนในการจ่ายให้เราได้ แต่โบว์มองว่า บางคนเขาเป็นเจ้าของช้าง เขาเลี้ยงช้างเอง แล้วช้างเขาก็ทำงาน และรายได้เขาไม่ได้เยอะมาก ถ้าเราไปเก็บค่ารักษา เขาอาจไม่มีเงินจ่าย และเขาอาจไม่เรียกเราไปรักษา เขาอาจปล่อยให้ช้างนั้นป่วยหรือรักษาเอง ทำให้รู้สึกว่าเขาอาจไม่ได้เต็มที่กับการรักษา แล้วจะให้เราไปเก็บเงินจากปางช้างที่มีทุน คนนี้เก็บ คนนี้ไม่เก็บ ก็ไม่ได้ โบว์เลยรักษาฟรีให้หมดเลย”

    แม้เสี่ยงอันตราย แต่ไม่ถอดใจ!

    “ครั้งแรกที่เจอช้าง ตอนนั้นเป็นเด็กฝึกงาน เรียนอยู่ปี 6 เจอช้างชื่อ พลายสุดหล่อ เขาเจ็บตาด้านซ้าย เราไม่รู้จักการเข้าหาช้างเลย คิดว่าช้างมันก็น่ารักเหมือนหมาแมวแหละ เข้าไปลูบหัวได้ เราเข้าไปจะหยอดตาปุ๊บ สุดหล่อใช้งาสะบัด โบว์กระเด็นไปโน่นเลย กระเด็นไปเลยด้วยแรงช้าง ตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ที่โบว์รู้สึกว่า เราจะไปต่อสายนี้ดีไหมนะ หรือเราจะพอแล้ว เพราะมันดูน่ากลัว แต่พอวันหนึ่งเรามองกลับไปว่า ถ้าเราไม่ทำต่อ เราจะไม่ได้เห็นช้างที่น่ารักๆ อีกหลายเชือกเลยนะ ไม่ได้เห็นช้างที่เขาหายป่วยอีกหลายเชือกเลยนะ เลยเป็นแรงบันดาลใจทำให้เรามุ่งมั่นต่อไป”

    หลังเรียนจบสัตวแพทย์ หมอโบว์ได้ทำงานรักษาช้างฟรีที่ รพ.ช้างกระบี่ แม้จะได้ทำงานที่ตัวเองรัก แต่อีกด้าน กลับมีเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะแม่ที่คุณหมอรักมากป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โรคที่ทำให้ผู้ป่วยจำอะไรไม่ได้และไม่มีทางรักษา

    “ตอนนั้นเราไม่เชื่อว่าแม่จะลืมเรา โบว์พยายามจะฟื้นฟูความจำ เช่น พยายามบอกชื่อเราเองทุกวัน นี่โบว์นะ นี่แม่ หรือเอาสูตรคูณมาตั้ง 2-1 อะไร เมื่อก่อนเขาเป็นครูสอนที่เก่งมาก สูตรคูณเขาจำได้หมด แต่พอป่วย เขาเริ่มไม่รู้แล้ว โบว์มีการให้เขาท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก หรือทำโจทย์เลขง่ายๆ ตอนนั้นเรายังมีความหวัง เราไม่รู้ว่าโรคนี้อาจไม่มีความหวัง ก็พยายามทำตรงนั้น แต่สุดท้าย เขาก็ลืมเราลงเรื่อยๆ”

    ในที่สุด เมื่อพัฒนาการของโรคอัลไซเมอร์ ทำให้แม่แย่ลงเรื่อยๆ จึงถึงจุดที่หมอโบว์ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ “แม่เริ่มป่วยตั้งแต่โบว์เริ่มทำงาน ตอนทำงานที่ รพ.ช้างกระบี่ พาแม่ไปอยู่ด้วยที่บ้านพักของ รพ. ดูแลแม่ด้วย รักษาช้างด้วย โบว์ดูแลแม่คนเดียว เช้ามา ทำกับข้าวก่อน บางทีแม่เป็นอัลไซเมอร์หนักๆ ปุ๊บ อึฉี่เรี่ยราดแล้ว ต้องเก็บ หรือเปิดน้ำท่วมบ้านแล้ว เช้ามา โห น้ำ บ้านหรือทะเล คือแม่เปิดน้ำทิ้งไว้ ท่วมบ้านแล้ว นี่คือสิ่งที่โบว์ต้องจัดการในทุกเช้า และหลังๆ มา ก็รู้สึกว่าแม่ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ เหมือนกับเราไปทำงานไม่ได้เลย เขาอาจจะเปิดน้ำอีก หรือเขาอาจเกิดอันตราย เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้โบว์ลาออกจาก รพ.ช้าง”

    หมอโบว์ตัดสินใจลาออกจาก รพ.ช้างกระบี่หลังทำงานได้ 5 ปี ก่อนพาแม่กลับมาดูแลที่บ้านที่ จ.ภูเก็ต ถึงวันนี้เกือบ 2 ปีแล้วที่หมอโบว์พยายามดูแลแม่อย่างดีที่สุด ควบคู่กับการเป็นหมอช้างจิตอาสาที่พร้อมรักษาช้างฟรีทั่วภาคใต้ “(ถาม-ตอนนี้อาการแม่เป็นยังไงบ้าง?) คุยไม่รู้เรื่อง อ้อแอเหมือนเด็กเลย เดินได้น้อยลง เดินได้ไม่กี่ก้าวก็จะนั่ง ทำกิจวัตรไม่ได้ ต้องทำให้ตลอด แต่เรื่องกิน แม่ชอบ กินง่าย สุขภาพแข็งแรงดี ยกเว้นความจำ (ถาม-ตอนนี้หมอบริหารเวลายังไงกับการดูแลแม่และรักษาช้าง?) ถ้าโบว์อยู่บ้าน โบว์จะดูแลแม่เอง แต่ถ้าต้องออกไปรักษาช้าง จะมีพี่เลี้ยงคอยดูแล”

    การเป็นหมอรักษาช้างโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้หมอโบว์ต้องผลิตสินค้าช่วยช้างขึ้นมาจำหน่ายเพื่อหารายได้มารักษาช้างฟรี เช่น เสื้อยืด หมวก ถุงผ้า “ด้วยความที่เรามีฐานแฟนคลับอยู่แล้วจากโซเชียลมีเดีย โบว์เลยเอาสินค้าขึ้นมาขาย เป็นของที่ระลึก สินค้านี้ถ้าคุณได้ซื้อไป คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสนับสนุนพวกน้ำเกลือค่ายาให้กับช้าง แต่ถามว่า โบว์มีรายได้ไหมทุกวันนี้ โบว์มีรายได้จากการทำอย่างอื่น เช่น เป็นอินฟลูเอนเซอร์ รีวิวสินค้า เพราะโบว์มีโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามค่อนข้างมาก เลยทำให้โบว์สามารถมีรายได้ตรงนี้มาจุนเจือครอบครัว ดูแลแม่ได้”

    ถึงวันนี้ 7 ปีแล้วที่หมอโบว์ได้ให้การรักษาช้างป่วยนับพันเชือก ซึ่งล่าสุด หมอโบว์ยังได้ช่วยรักษาช้างป่วย ช้างชรา ช้างพิการ ในปางช้างที่ จ.ภูเก็ต (Phuket Elephant Sanctuary) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็น รพ.ที่ดูแลช้างฟรีอีกด้วย “รู้สึกว่า ถ้าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบั้นปลายชีวิตของช้าง จะเป็นอะไรที่ดีมากๆ เหมือนกับที่เราได้ดูแลแม่ในวัยชราเหมือนกัน ชีวิตตอนนี้มีความสุขมาก สุขจากการที่เราได้อยู่กับสิ่งที่เรารักทั้ง 2 สิ่ง คือแม่และช้าง เป็นความสุขที่สุดแล้ว”

    ขณะที่ “กาญจน์ณฐาน์ ธรรมวนาสินทร์” ผู้จัดการปางช้าง Following Giants Krabi ที่หมอโบว์เคยเดินทางไปรักษาช้างฟรี พูดถึงความประทับใจที่มีต่อหมอโบว์ว่า “รู้สึกขอบคุณที่มีหมอแบบนี้ดูแลช้าง อยากให้มีเยอะๆ เพราะบางเคสต้องเร่งด่วน บางทีหมอโบว์ก็แยกร่างไม่ทัน เราอยากได้หมอโบว์สัก 20 คนในประเทศ อยากให้หมอโบว์ทำอย่างนี้ต่อไป ทุกคนต้องการหมอโบว์”

    ติดตามเรื่องราวของหมอโบว์ ลูกกตัญญูและนางฟ้าใจบุญรักษาช้างฟรีได้
    ในรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “หมอโบว์...นางฟ้าใจบุญ”
    วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 11.30-12.00 น.
    ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 615 / กล่อง True ID ช่อง 19)

    และเฟซบุ๊ก / ยูทูบ / ติ๊กต็อก : ฅนจริงใจไม่ท้อ

    (หากท่านใดต้องการอุดหนุนสินค้าช่วยช้าง เพื่อสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาช้างฟรีของหมอโบว์ ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “หมอโบว์” หรือติ๊กต็อก “หมอโบว์ รักษาช้าง”)

    #หมอโบว์ #หมอโบว์รักษาช้าง #รักษาช้างฟรี #หมอตัวเล็กกับคนไข้ตัวใหญ่ #นางฟ้าใจบุญ #ลูกกตัญญู
    “หมอโบว์” ลูกกตัญญู-นางฟ้าใจบุญ ทั้งดูแลแม่ป่วย ทั้งรักษาช้างฟรีทั่วภาคใต้ ภูมิใจ ได้ต่อชีวิตช้างป่วยและครอบครัวคนเลี้ยงช้าง! “ช้างเป็นสัตว์ที่เจ้าของเลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว ช้างบางเชือกเลี้ยงไว้เพื่อประกอบอาชีพ ช้างบางเชือกส่งลูกเรียนจนจบปริญญา ช้างบางเชือกเจือจุนครอบครัวของคนที่เลี้ยงช้าง เรารู้สึกว่า การรักษาช้าง 1 เชือกให้หายป่วย ไม่ใช่แค่การต่อชีวิตช้างอย่างเดียว แต่เป็นการต่อชีวิตของคนที่เลี้ยงช้างด้วย” นั่นคือเหตุผลและความภาคภูมิใจที่ทำให้ “หมอโบว์” สัตวแพทย์หญิง รัชดาภรณ์ ศรีสมุทร อยากเป็นหมอรักษาช้าง ทั้งที่ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ หากพลาดอาจเสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิตได้ แม้หมอโบว์จะไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย โดยแม่เป็นครู ส่วนพ่อทำสวน และแม่ต้องกู้เงินเพื่อส่งหมอโบว์เรียนสัตวแพทย์ถึง 6 ปี แต่หมอโบว์ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหรือมุ่งเน้นทำงานเพื่อความมั่นคงหรือฐานะการเงินของตนเอง เพราะหากต้องการความร่ำรวย หมอโบว์คงเลือกเป็นหมอรักษาสัตว์เล็กอย่างแมวหรือสุนัข ที่สามารถเปิดคลินิกของตัวเองได้ แต่ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ การรักษาและค่ายาสูงมากตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน ไม่สามารถเปิดคลินิกเพื่อรักษาได้ เพราะเก็บค่ารักษายาก แต่หมอโบว์กลับเลือกเส้นทางนี้ เพื่อรักษาช้างฟรี “บางท่านก็มีทุนในการจ่ายให้เราได้ แต่โบว์มองว่า บางคนเขาเป็นเจ้าของช้าง เขาเลี้ยงช้างเอง แล้วช้างเขาก็ทำงาน และรายได้เขาไม่ได้เยอะมาก ถ้าเราไปเก็บค่ารักษา เขาอาจไม่มีเงินจ่าย และเขาอาจไม่เรียกเราไปรักษา เขาอาจปล่อยให้ช้างนั้นป่วยหรือรักษาเอง ทำให้รู้สึกว่าเขาอาจไม่ได้เต็มที่กับการรักษา แล้วจะให้เราไปเก็บเงินจากปางช้างที่มีทุน คนนี้เก็บ คนนี้ไม่เก็บ ก็ไม่ได้ โบว์เลยรักษาฟรีให้หมดเลย” แม้เสี่ยงอันตราย แต่ไม่ถอดใจ! “ครั้งแรกที่เจอช้าง ตอนนั้นเป็นเด็กฝึกงาน เรียนอยู่ปี 6 เจอช้างชื่อ พลายสุดหล่อ เขาเจ็บตาด้านซ้าย เราไม่รู้จักการเข้าหาช้างเลย คิดว่าช้างมันก็น่ารักเหมือนหมาแมวแหละ เข้าไปลูบหัวได้ เราเข้าไปจะหยอดตาปุ๊บ สุดหล่อใช้งาสะบัด โบว์กระเด็นไปโน่นเลย กระเด็นไปเลยด้วยแรงช้าง ตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ที่โบว์รู้สึกว่า เราจะไปต่อสายนี้ดีไหมนะ หรือเราจะพอแล้ว เพราะมันดูน่ากลัว แต่พอวันหนึ่งเรามองกลับไปว่า ถ้าเราไม่ทำต่อ เราจะไม่ได้เห็นช้างที่น่ารักๆ อีกหลายเชือกเลยนะ ไม่ได้เห็นช้างที่เขาหายป่วยอีกหลายเชือกเลยนะ เลยเป็นแรงบันดาลใจทำให้เรามุ่งมั่นต่อไป” หลังเรียนจบสัตวแพทย์ หมอโบว์ได้ทำงานรักษาช้างฟรีที่ รพ.ช้างกระบี่ แม้จะได้ทำงานที่ตัวเองรัก แต่อีกด้าน กลับมีเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะแม่ที่คุณหมอรักมากป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ โรคที่ทำให้ผู้ป่วยจำอะไรไม่ได้และไม่มีทางรักษา “ตอนนั้นเราไม่เชื่อว่าแม่จะลืมเรา โบว์พยายามจะฟื้นฟูความจำ เช่น พยายามบอกชื่อเราเองทุกวัน นี่โบว์นะ นี่แม่ หรือเอาสูตรคูณมาตั้ง 2-1 อะไร เมื่อก่อนเขาเป็นครูสอนที่เก่งมาก สูตรคูณเขาจำได้หมด แต่พอป่วย เขาเริ่มไม่รู้แล้ว โบว์มีการให้เขาท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก หรือทำโจทย์เลขง่ายๆ ตอนนั้นเรายังมีความหวัง เราไม่รู้ว่าโรคนี้อาจไม่มีความหวัง ก็พยายามทำตรงนั้น แต่สุดท้าย เขาก็ลืมเราลงเรื่อยๆ” ในที่สุด เมื่อพัฒนาการของโรคอัลไซเมอร์ ทำให้แม่แย่ลงเรื่อยๆ จึงถึงจุดที่หมอโบว์ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ “แม่เริ่มป่วยตั้งแต่โบว์เริ่มทำงาน ตอนทำงานที่ รพ.ช้างกระบี่ พาแม่ไปอยู่ด้วยที่บ้านพักของ รพ. ดูแลแม่ด้วย รักษาช้างด้วย โบว์ดูแลแม่คนเดียว เช้ามา ทำกับข้าวก่อน บางทีแม่เป็นอัลไซเมอร์หนักๆ ปุ๊บ อึฉี่เรี่ยราดแล้ว ต้องเก็บ หรือเปิดน้ำท่วมบ้านแล้ว เช้ามา โห น้ำ บ้านหรือทะเล คือแม่เปิดน้ำทิ้งไว้ ท่วมบ้านแล้ว นี่คือสิ่งที่โบว์ต้องจัดการในทุกเช้า และหลังๆ มา ก็รู้สึกว่าแม่ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ เหมือนกับเราไปทำงานไม่ได้เลย เขาอาจจะเปิดน้ำอีก หรือเขาอาจเกิดอันตราย เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้โบว์ลาออกจาก รพ.ช้าง” หมอโบว์ตัดสินใจลาออกจาก รพ.ช้างกระบี่หลังทำงานได้ 5 ปี ก่อนพาแม่กลับมาดูแลที่บ้านที่ จ.ภูเก็ต ถึงวันนี้เกือบ 2 ปีแล้วที่หมอโบว์พยายามดูแลแม่อย่างดีที่สุด ควบคู่กับการเป็นหมอช้างจิตอาสาที่พร้อมรักษาช้างฟรีทั่วภาคใต้ “(ถาม-ตอนนี้อาการแม่เป็นยังไงบ้าง?) คุยไม่รู้เรื่อง อ้อแอเหมือนเด็กเลย เดินได้น้อยลง เดินได้ไม่กี่ก้าวก็จะนั่ง ทำกิจวัตรไม่ได้ ต้องทำให้ตลอด แต่เรื่องกิน แม่ชอบ กินง่าย สุขภาพแข็งแรงดี ยกเว้นความจำ (ถาม-ตอนนี้หมอบริหารเวลายังไงกับการดูแลแม่และรักษาช้าง?) ถ้าโบว์อยู่บ้าน โบว์จะดูแลแม่เอง แต่ถ้าต้องออกไปรักษาช้าง จะมีพี่เลี้ยงคอยดูแล” การเป็นหมอรักษาช้างโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้หมอโบว์ต้องผลิตสินค้าช่วยช้างขึ้นมาจำหน่ายเพื่อหารายได้มารักษาช้างฟรี เช่น เสื้อยืด หมวก ถุงผ้า “ด้วยความที่เรามีฐานแฟนคลับอยู่แล้วจากโซเชียลมีเดีย โบว์เลยเอาสินค้าขึ้นมาขาย เป็นของที่ระลึก สินค้านี้ถ้าคุณได้ซื้อไป คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสนับสนุนพวกน้ำเกลือค่ายาให้กับช้าง แต่ถามว่า โบว์มีรายได้ไหมทุกวันนี้ โบว์มีรายได้จากการทำอย่างอื่น เช่น เป็นอินฟลูเอนเซอร์ รีวิวสินค้า เพราะโบว์มีโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามค่อนข้างมาก เลยทำให้โบว์สามารถมีรายได้ตรงนี้มาจุนเจือครอบครัว ดูแลแม่ได้” ถึงวันนี้ 7 ปีแล้วที่หมอโบว์ได้ให้การรักษาช้างป่วยนับพันเชือก ซึ่งล่าสุด หมอโบว์ยังได้ช่วยรักษาช้างป่วย ช้างชรา ช้างพิการ ในปางช้างที่ จ.ภูเก็ต (Phuket Elephant Sanctuary) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็น รพ.ที่ดูแลช้างฟรีอีกด้วย “รู้สึกว่า ถ้าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบั้นปลายชีวิตของช้าง จะเป็นอะไรที่ดีมากๆ เหมือนกับที่เราได้ดูแลแม่ในวัยชราเหมือนกัน ชีวิตตอนนี้มีความสุขมาก สุขจากการที่เราได้อยู่กับสิ่งที่เรารักทั้ง 2 สิ่ง คือแม่และช้าง เป็นความสุขที่สุดแล้ว” ขณะที่ “กาญจน์ณฐาน์ ธรรมวนาสินทร์” ผู้จัดการปางช้าง Following Giants Krabi ที่หมอโบว์เคยเดินทางไปรักษาช้างฟรี พูดถึงความประทับใจที่มีต่อหมอโบว์ว่า “รู้สึกขอบคุณที่มีหมอแบบนี้ดูแลช้าง อยากให้มีเยอะๆ เพราะบางเคสต้องเร่งด่วน บางทีหมอโบว์ก็แยกร่างไม่ทัน เราอยากได้หมอโบว์สัก 20 คนในประเทศ อยากให้หมอโบว์ทำอย่างนี้ต่อไป ทุกคนต้องการหมอโบว์” ติดตามเรื่องราวของหมอโบว์ ลูกกตัญญูและนางฟ้าใจบุญรักษาช้างฟรีได้ ในรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “หมอโบว์...นางฟ้าใจบุญ” วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 615 / กล่อง True ID ช่อง 19) และเฟซบุ๊ก / ยูทูบ / ติ๊กต็อก : ฅนจริงใจไม่ท้อ (หากท่านใดต้องการอุดหนุนสินค้าช่วยช้าง เพื่อสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาช้างฟรีของหมอโบว์ ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “หมอโบว์” หรือติ๊กต็อก “หมอโบว์ รักษาช้าง”) #หมอโบว์ #หมอโบว์รักษาช้าง #รักษาช้างฟรี #หมอตัวเล็กกับคนไข้ตัวใหญ่ #นางฟ้าใจบุญ #ลูกกตัญญู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1007 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ

    ความมีอยู่ว่า
    ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ...
    - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย)

    กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่)

    บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน

    ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ

    แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี

    เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน

    ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย

    บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html
    https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551
    https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html
    https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545
    https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00
    https://www.sohu.com/a/249005081_100234890

    #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    ช่วงนี้ Storyฯ กลับไปดูซีรีส์เก่าๆ ค่ะ มาลงเอยที่ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> และสะดุดกับเนื้อเรื่องตอนที่กล่าวถึงว่า พระรองพยายามจีบนางเอกด้วยการล่าสัตว์เอาสัตว์ป่ามาให้ ทำเอาพระเอกหึงจนร่ายยาวออกมาเป็นบทกวี แต่นางเอกฟังไม่เข้าใจ วันนี้มาคุยเรื่องบทกวีนี้กันค่ะ ความมีอยู่ว่า ... “กวางสิ้นใจในป่าทึบ หญ้าคาขาวห่อหุ้มตัวมันไว้ หญิงสาวความรักผลิบาน ชายหนุ่มไล่ตามพูดหยอกเย้า ป่ามีต้นอ่อนถือกำเนิด พณาร้างมีกวางหนึ่งสิ้นใจ ห่อคาขาวนี้คิดมอบให้ผู้ใด มอบให้หญิงงามดุจยอดหยก อย่าได้รีบร้อนถอดนักซิ อย่าแตะต้องผ้าคาดเอวข้า อย่าทำสุนัขเห่าหอนมา ชาตินี้ข้าติดตามท่านแน่แล้ว” ... กล่าวคือบุรุษในกลอนนี้นำผ้าขาวห่อสัตว์ที่ล่ามาได้หลอกล่อหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักชายผู้นั้น ... - ถอดบทสนทนาจาก <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> (ตามซับไทย) กลอนบทนี้มีชื่อว่า ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ (野有死麕 แปลได้ตามซับไทยของละครว่า ‘กวางสิ้นใจในป่าทึบ’) (หมายเหตุ ‘จวิน’ เป็นกวางขนาดเล็กไม่มีเขา ไม่แน่ใจว่าใช่กระจงหรือไม่) บทกวีนี้มีทั้งหมดสามท่อน ท่อนละสี่วรรค เป็นหนึ่งในบทกวีที่ถูกรวบรวมไว้ใน ‘ซือจิง’ (诗经 แปลตรงตัวว่าคัมภีร์บทกวี) ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นบทกวีจีนที่เก่าแก่ที่สุด โดยรวบรวมไว้ถึง 311 บท เป็นบทกวีตั้งแต่สมัยโจวตะวันตกตอนปลายจนถึงยุคชุนชิว (ประมาณปี1066 - 479 ก่อนคริสตกาล) จัดอยู่ในหมวด ‘กั๋วเฟิง’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเพลงพื้นบ้าน ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ เป็นบทกวีที่สะท้อนถึงการเกี้ยวพาราสีของชายหญิง โดยเฉพาะท่อนหลังดูจะบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ดูจะถึงเนื้อถึงตัว เป็นเนื้อหาที่ดูจะสะท้อนถึงอิสระของสตรีในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นในกลอนจีนโบราณ แต่จริงๆ แล้วมันสะท้อนถึงสถานะสตรีในยุคสมัยนั้นได้ดี เราอาจคุ้นเคยว่าคติสอนหญิงของจีนโบราณคือบุรุษเป็นใหญ่ แต่จริงๆ แล้วก่อนยุคสมัยชุนชิวสถานะทางสังคมของสตรีนั้นสูงไม่เบา ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี 1600-1050 ก่อนคริสตกาล) จนถึงราชวงศ์ฮั่น ปรากฏสตรีมีอำนาจทางการทหาร มีที่ได้รับการอวยยศเป็นโหวหลายสิบคน และสตรีสามารถถือครองทรัพย์สินได้ ในยุคสมัยนั้นสตรีมีอิสระด้านการครองเรือนและการออกมาปรากฏกายในสาธารณะ สามารถเลือกคู่ครองเองได้ ขอหย่าได้ หย่าร้างแล้วก็สามารถแต่งงานใหม่ได้โดยไม่ถูกมองอย่างหยามเหยียด และมีตัวอย่างฮองเฮาหลายคนในประวัติศาสตร์ที่เคยมีสามีอื่นมาก่อน ต่อมาจึงเกิดแนวคิดแยกบทบาทให้บุรุษเน้นเรื่องนอกบ้าน สตรีเน้นเรื่องในบ้าน จนกลายเป็นแนวคิดเรื่องบุรุษเป็นใหญ่ที่แพร่หลายในสมัยฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 25 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220) ในช่วงเวลานั้นมีนักประพันธ์และนักวิชาการหลายคนมีผลงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยที่โด่งดังมากและเป็นมรดกตกทอดไปอีกหลายพันปีคือวรรณกรรมเรื่อง ‘เตือนหญิง’ (女诫 หรือ ‘หนี่ว์เจี้ย’) ซึ่งเป็นผลงานของนักวิชาการสตรีนาม ‘ปันเจา’ ที่กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่สตรีต้องเล่าเรียนไปอีกหลายยุคหลายสมัย บทกวี ‘เหยียโหย่วสื่อจวิน’ ในบริบทของละครเป็นการเปรียบเปรยถึงการที่ผู้ชายพยายามจีบหญิง แต่พอเข้าใจถึงยุคสมัยที่เกี่ยวข้องก็ทำให้ Storyฯ อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า วัฒนธรรมจีนโบราณแต่บรรพกาลก็คล้ายๆ วัฒนธรรมโบราณอื่นๆ ที่สตรีเคยเป็นใหญ่และมีบทบาททางสังคมไม่น้อยไปกว่าชาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.qulishi.com/article/202101/478420.html https://view.inews.qq.com/a/20200704A03V3J00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/召南·野有死麕/19680551 https://shijing.5000yan.com/guofeng-zhaonan/yeyousijun.html https://baike.baidu.com/item/女诫/3423545 https://new.qq.com/rain/a/20200617A0R16W00 https://www.sohu.com/a/249005081_100234890 #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ซือจิง #คัมภีร์บทกวี #หนี่ว์เจี้ย #วรรณกรรมจีนเตือนหญิง #กวางสิ้นใจในป่าทึบ
    《我就是这般女子》在哪儿可以看?一周更新几集?-趣历史网
    关晓彤和侯明昊主演的《我就是这般女子》追剧日历出炉,自1月18日正式开播到2月15日大结局,见证班婳
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 811 มุมมอง 0 รีวิว
  • นุด!โดนตกแล้ว1"K9 เลม่อน"อ้อนขอ"ลาบูบู้" 12/04/68 #น้องเลม่อน #สุนัขตำรวจ K-9 #ลาบูบู้ #K-9 #เลม่อน K-9
    นุด!โดนตกแล้ว1"K9 เลม่อน"อ้อนขอ"ลาบูบู้" 12/04/68 #น้องเลม่อน #สุนัขตำรวจ K-9 #ลาบูบู้ #K-9 #เลม่อน K-9
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 749 มุมมอง 40 0 รีวิว
  • ในหลวง - พระราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบเงินพร้อมสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจทีมสุนัขค้นหาและกู้ภัย (K9)
    https://www.thai-tai.tv/news/18119/
    ในหลวง - พระราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบเงินพร้อมสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจทีมสุนัขค้นหาและกู้ภัย (K9) https://www.thai-tai.tv/news/18119/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • K9 ภารกิจ4ขา ค้นหาผู้ประสบภัย : คนเคาะข่าว 09-04-68

    ร่วมสนทนา
    ดร.อลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K-9 USAR และ ธนวรรณ ลีหัวสระ ผู้บังคับสุนัข K9 นารี
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #คนเคาะข่าว #news1
    #ตึกถล่ม #สุนัขK9 #K9USAR #K9USARThailand

    *บันทึกรายการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568*
    K9 ภารกิจ4ขา ค้นหาผู้ประสบภัย : คนเคาะข่าว 09-04-68 ร่วมสนทนา ดร.อลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ K-9 USAR และ ธนวรรณ ลีหัวสระ ผู้บังคับสุนัข K9 นารี ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #คนเคาะข่าว #news1 #ตึกถล่ม #สุนัขK9 #K9USAR #K9USARThailand *บันทึกรายการเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568*
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • Tue. Apr. 8, 2025 - NY time
    (Wed. Apr. 9, 2025 - Thai time)

    Oh, My Buddha!!!
    https://edition.cnn.com/2025/04/08/politics/video/vance-chinese-peasants-ripley-digvid

    ดู CNN link อันนี้แล้วอึ้งไปเลยค่ะ อย่าเปรียบเทียบวาจาของไอ้นี่กับสุนัข หรือเหี้ยนะคะ เพราะสัตว์โลกเหล่านั้นไม่ดูถูกใครค่ะ

    คราวก่อนก็ China virus
    คราวนี้ก็ Chinese peasants

    ต่อให้อยากจะกระพือกระแสแนว "กูลำบาก-มึงต้องลำบากกว่ากู" แต่การลองพูดจาแบบ "เอามือเปียกๆไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น" แบบนี้ ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ ป่านนี้ชาวจีนทั้งในจีนและใน US และคนชนชาติอื่นที่ไม่เห็นชอบด้วย คงหัวลุกเป็นไฟแน่ๆ

    เอาจริงๆ บ้านเรายังไม่ต้องส่งคนไปเจรจาที่ US หรอก ถ้า Mr. T & his team ผลัดกันสร้างความจัญไรให้โลกเห็นแบบนี้วันละหลายๆรอบนะ เราว่ารออีกไม่นาน ทั้งโลกน่าจะพร้อมใจกัน ยังไม่ทำการค้า ที่ต้องผ่านการควบคุมของคนกลุ่มนี้ไปสัก 4 ปี น่าจะดีที่สุดนะคะ
    Tue. Apr. 8, 2025 - NY time (Wed. Apr. 9, 2025 - Thai time) Oh, My Buddha!!! https://edition.cnn.com/2025/04/08/politics/video/vance-chinese-peasants-ripley-digvid ดู CNN link อันนี้แล้วอึ้งไปเลยค่ะ อย่าเปรียบเทียบวาจาของไอ้นี่กับสุนัข หรือเหี้ยนะคะ เพราะสัตว์โลกเหล่านั้นไม่ดูถูกใครค่ะ คราวก่อนก็ China virus คราวนี้ก็ Chinese peasants ต่อให้อยากจะกระพือกระแสแนว "กูลำบาก-มึงต้องลำบากกว่ากู" แต่การลองพูดจาแบบ "เอามือเปียกๆไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น" แบบนี้ ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ ป่านนี้ชาวจีนทั้งในจีนและใน US และคนชนชาติอื่นที่ไม่เห็นชอบด้วย คงหัวลุกเป็นไฟแน่ๆ เอาจริงๆ บ้านเรายังไม่ต้องส่งคนไปเจรจาที่ US หรอก ถ้า Mr. T & his team ผลัดกันสร้างความจัญไรให้โลกเห็นแบบนี้วันละหลายๆรอบนะ เราว่ารออีกไม่นาน ทั้งโลกน่าจะพร้อมใจกัน ยังไม่ทำการค้า ที่ต้องผ่านการควบคุมของคนกลุ่มนี้ไปสัก 4 ปี น่าจะดีที่สุดนะคะ
    EDITION.CNN.COM
    See how China responded to Vance’s ‘Chinese peasants’ comment | CNN Politics
    China slammed US Vice President JD Vance for his comments about “Chinese peasants” in an interview with Fox News that has drawn widespread ire and ridicule on China’s internet – and comparisons with Vance’s own self-proclaimed “hillbilly” background.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไม่รู้เจอเรื่องเหี้ยไร จะเนชั่น...สุนัข เวิร์คพล่อย ซ่อง8 ซ่อง7 ซ่อง3 ซ่องวันหลีหน้าฮบ ซ่องทุยPBS ซ่องพีพีบิวกิ้นกีบทีวี ซ่องอำหมาริน สื่อแม่งก์พูดตามขี้ปากยิวไซออนิสต์ทั้งสิ้น ยิ่งเห็นหน้าไอ้เหี้ยจักรภพ เพ็ญแข ผมนี่ยึ่งเจ็บใจเหี้ยๆที่ต้องมาเห็นหน้าคนเหี้ยๆแบบนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างและคนในครอบครัวล้วนๆเลยโดยเฉพาะพ่อ แต่ผมไม่อยากจะไปตอบโต้แก แต่บางทีผมอยากแยกกับพ่อเพราะบางทีพ่อไม่ควรล้วงลูกเรื่องของผมไปเสียทุกเรื่อง ไม่ควรจะสอดแทรกไปเสียทุกเรื่อง เป็นห่วงอันนี้เข้าใจ แต่พ่ออยากให้ผมสอบรับราชการ แต่รับงานที่ต้องย้ายทะเบียนบ้านตรงนี้เจ็บสุดๆ แต่ตอนนี้เหมือนต้องย้ายทะเบียนบ้านมาอีก โอ๊ยเครียด จะให้ย้ายทะเบียนบ้านบ่อยไปเพื่ออะไรกัน ผมอยู่จุดที่ผมอยู่ก็พอใจแล้ว ยุ่งเรื่องผม สทร.เรื่องผม จนผมจะประสาทรับประทานอยู่แล้ว บางทีผมอยากจะบอกพ่อตรงๆว่า จากนี้ไป ผมต่างคนต่างอยู่นะ เพราะอยู่ร่วมกันครอบครัวคนอื่นไม่เห็นต้องมาแทรกแซงชีวิตลูกแบบนี้นะ กลัวลูกถูกหลอกลวงต้มตุ๋น กลัวลูกทำงานเอกชนไม่ได้ กลัวลูกอยู่ร่วมสังคมที่ผมชอบอยู่ไม่ได้ แต่อยากให้ผมอยู่ในสังคมที่ผมไม่อยากอยู่และสุดแสนจะ Toxic เป็นห่วงผมมากขนาดนั้นเลยคาดคั้นบีบบังคับให้ผมสอบรับราชการ อ้าวรู้งี้ก็ไม่ต้องอยู่ร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ไปเดี๋ยวได้บาดหมางหนักกว่าเก่าอีก เพราะความคิดที่ต้องควบคุมลูก ให้ลูกเป็นแบบนี้แบบนั้น จ้ำจี้จ้ำไชตลอดเวลาจนผมรู้สึกอึดอัด คือผมจะกตัญญูคนอย่างเขาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองไหวหรือ ผมว่าไม่ไหวหรอก เพราะทัศนคติแย่ๆที่พ่อพยายามดูถูก ท็อกซิก ล้างสมองและหว่านล้อมต่อผม ผมไม่อยากจะฟังมันแล้ว ปีนี้เจ็บสุดแล้ว ปีก่อนก็เจ็บกว่านี้เพราะย้ายทะเบียนบ้าน เกือบฟิวส์ขาดที่อำเภอละ
    วันนี้ไม่รู้เจอเรื่องเหี้ยไร จะเนชั่น...สุนัข เวิร์คพล่อย ซ่อง8 ซ่อง7 ซ่อง3 ซ่องวันหลีหน้าฮบ ซ่องทุยPBS ซ่องพีพีบิวกิ้นกีบทีวี ซ่องอำหมาริน สื่อแม่งก์พูดตามขี้ปากยิวไซออนิสต์ทั้งสิ้น ยิ่งเห็นหน้าไอ้เหี้ยจักรภพ เพ็ญแข ผมนี่ยึ่งเจ็บใจเหี้ยๆที่ต้องมาเห็นหน้าคนเหี้ยๆแบบนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างและคนในครอบครัวล้วนๆเลยโดยเฉพาะพ่อ แต่ผมไม่อยากจะไปตอบโต้แก แต่บางทีผมอยากแยกกับพ่อเพราะบางทีพ่อไม่ควรล้วงลูกเรื่องของผมไปเสียทุกเรื่อง ไม่ควรจะสอดแทรกไปเสียทุกเรื่อง เป็นห่วงอันนี้เข้าใจ แต่พ่ออยากให้ผมสอบรับราชการ แต่รับงานที่ต้องย้ายทะเบียนบ้านตรงนี้เจ็บสุดๆ แต่ตอนนี้เหมือนต้องย้ายทะเบียนบ้านมาอีก โอ๊ยเครียด จะให้ย้ายทะเบียนบ้านบ่อยไปเพื่ออะไรกัน ผมอยู่จุดที่ผมอยู่ก็พอใจแล้ว ยุ่งเรื่องผม สทร.เรื่องผม จนผมจะประสาทรับประทานอยู่แล้ว บางทีผมอยากจะบอกพ่อตรงๆว่า จากนี้ไป ผมต่างคนต่างอยู่นะ เพราะอยู่ร่วมกันครอบครัวคนอื่นไม่เห็นต้องมาแทรกแซงชีวิตลูกแบบนี้นะ กลัวลูกถูกหลอกลวงต้มตุ๋น กลัวลูกทำงานเอกชนไม่ได้ กลัวลูกอยู่ร่วมสังคมที่ผมชอบอยู่ไม่ได้ แต่อยากให้ผมอยู่ในสังคมที่ผมไม่อยากอยู่และสุดแสนจะ Toxic เป็นห่วงผมมากขนาดนั้นเลยคาดคั้นบีบบังคับให้ผมสอบรับราชการ อ้าวรู้งี้ก็ไม่ต้องอยู่ร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ไปเดี๋ยวได้บาดหมางหนักกว่าเก่าอีก เพราะความคิดที่ต้องควบคุมลูก ให้ลูกเป็นแบบนี้แบบนั้น จ้ำจี้จ้ำไชตลอดเวลาจนผมรู้สึกอึดอัด คือผมจะกตัญญูคนอย่างเขาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองไหวหรือ ผมว่าไม่ไหวหรอก เพราะทัศนคติแย่ๆที่พ่อพยายามดูถูก ท็อกซิก ล้างสมองและหว่านล้อมต่อผม ผมไม่อยากจะฟังมันแล้ว ปีนี้เจ็บสุดแล้ว ปีก่อนก็เจ็บกว่านี้เพราะย้ายทะเบียนบ้าน เกือบฟิวส์ขาดที่อำเภอละ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเผยว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) กำลังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องปล่อยสัตว์อยู่ในรถยนต์ในสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัด เช่นเดียวกับกรณีของ Ashes สุนัขที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมบำบัดของแผนกดับเพลิงในเมือง Roseville, Minnesota รถ EV รุ่น Rivian ที่พวกเขาใช้งานนั้นมี ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบตั้งโปรแกรมได้

    ✅ ระบบควบคุมสภาพอากาศเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง
    - รถยนต์ EVs มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถตั้งค่าการควบคุมสภาพอากาศให้ทำงานอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากที่เจ้าของออกจากรถ โดยการตั้งค่าทำได้ผ่านตัวรถเองหรือแอปพลิเคชัน

    ✅ การใช้เทคโนโลยีที่สร้างคุณค่า
    - นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว รถ EV ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ใช้สัตว์เลี้ยงในภารกิจ เช่น ทีมบำบัดที่ใช้ Ashes ในการสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่

    ✅ สร้างความตระหนักในสังคม
    - ข่าวนี้ช่วยเน้นย้ำถึงปัญหาในการปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถแบบเดิมที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/someev-drivers-are-doing-it-for-the-dogs
    ข่าวล่าสุดเผยว่าเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) กำลังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องปล่อยสัตว์อยู่ในรถยนต์ในสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัด เช่นเดียวกับกรณีของ Ashes สุนัขที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมบำบัดของแผนกดับเพลิงในเมือง Roseville, Minnesota รถ EV รุ่น Rivian ที่พวกเขาใช้งานนั้นมี ระบบควบคุมสภาพอากาศแบบตั้งโปรแกรมได้ ✅ ระบบควบคุมสภาพอากาศเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง - รถยนต์ EVs มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของสามารถตั้งค่าการควบคุมสภาพอากาศให้ทำงานอย่างต่อเนื่องแม้หลังจากที่เจ้าของออกจากรถ โดยการตั้งค่าทำได้ผ่านตัวรถเองหรือแอปพลิเคชัน ✅ การใช้เทคโนโลยีที่สร้างคุณค่า - นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว รถ EV ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ใช้สัตว์เลี้ยงในภารกิจ เช่น ทีมบำบัดที่ใช้ Ashes ในการสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ✅ สร้างความตระหนักในสังคม - ข่าวนี้ช่วยเน้นย้ำถึงปัญหาในการปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถแบบเดิมที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/someev-drivers-are-doing-it-for-the-dogs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Some EV drivers are doing it for the dogs
    The Roseville, Minnesota, fire department has lots of trucks, but its latest had to be electric. That's the one that carries Ashes, its therapy dog, to and from fires, funerals and any other place where public safety officers need a morale boost.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผอ. K9 USAR THAILAND เผยเบื้องหลังการตัดสินใจถอนทีมสุนัขกู้ภัยออกจากซากอาคารถล่ม สตง. หลังลุยค้นหาผู้รอดชีวิตต่อเนื่อง 10 วันเต็ม เหตุเกรงอันตรายกับทีมงาน-น้องหมา ย้ำชัดไม่เกี่ยวกระแสโซเชียล แต่ทุกชีวิตต้องปลอดภัยก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033120

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผอ. K9 USAR THAILAND เผยเบื้องหลังการตัดสินใจถอนทีมสุนัขกู้ภัยออกจากซากอาคารถล่ม สตง. หลังลุยค้นหาผู้รอดชีวิตต่อเนื่อง 10 วันเต็ม เหตุเกรงอันตรายกับทีมงาน-น้องหมา ย้ำชัดไม่เกี่ยวกระแสโซเชียล แต่ทุกชีวิตต้องปลอดภัยก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033120 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีม K9 USAR THAILAND ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม หลังจากปฏิบัติภารกิจครบกำหนดวันแล้ว เผยหลังจากนี้อาจเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่สนับสนุนทั้งอาหาร ของใช้ และกำลังใจตลอดภารกิจ

    เพจ “K9 USAR THAILAND” หรือ ทีมเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย ได้ประกาศยุติภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย หลังจากหารือเจ้าหน้าที่ โดยได้ปฎิบัติหน้าที่มานาน 11 วัน และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีจนจบกำหนดแล้ว และวันต่อไปอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย ทั้งขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนทั้งอาหารและที่พักให้ทางทีมและส่งกำลังใจให้ทีมอย่างล้นหลาม

    โดยระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “การส่งมอบพื้นที่การค้นหาให้แก่เจ้าของพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานต่อไป K9 USAR THAILAND ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนภารกิจครั้งนี้ และขออนุญาตลากลับที่ตั้ง”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000033028

    #MGROnline #K9 #K9USARTHAILAND #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    ทีม K9 USAR THAILAND ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม หลังจากปฏิบัติภารกิจครบกำหนดวันแล้ว เผยหลังจากนี้อาจเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่สนับสนุนทั้งอาหาร ของใช้ และกำลังใจตลอดภารกิจ • เพจ “K9 USAR THAILAND” หรือ ทีมเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย ได้ประกาศยุติภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย หลังจากหารือเจ้าหน้าที่ โดยได้ปฎิบัติหน้าที่มานาน 11 วัน และได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีจนจบกำหนดแล้ว และวันต่อไปอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และสุนัขกู้ภัย ทั้งขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนทั้งอาหารและที่พักให้ทางทีมและส่งกำลังใจให้ทีมอย่างล้นหลาม • โดยระบุข้อความเพิ่มเติมว่า “การส่งมอบพื้นที่การค้นหาให้แก่เจ้าของพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานต่อไป K9 USAR THAILAND ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนภารกิจครั้งนี้ และขออนุญาตลากลับที่ตั้ง” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000033028 • #MGROnline #K9 #K9USARTHAILAND #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

    เดือนนี้ ต้องหนักแน่นอย่าหูเบาเพราะมีศัตรูคู่แข่งขันจะคอยจ้องทำร้ายจากการปล่อยข่าวลือให้ตื่นเต้นตกใจ หรือเป็นเพราะการได้ยินที่ผิดพลาดทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือเกิดจากการทรยศหักหลังส่งผลให้ความลับในองค์กรรั่วไหลเปิดเผย รวมทั้งกระทำการนอกกฎระเบียบจะถูกตัดสิทธิ์ริบเงินมัดจำ ตลอดจนลูกหลานบริวารไม่ยอมปฏิบัติเชื่อฟัง แม้กระทั่งสุนัขสัตว์เลี้ยงอาจจะแวงกัดตนหรือคนอื่นจนเกิดเป็นโรคร้ายให้ต้องเสียทรัพย์รักษาพยาบาล ชายที่ชอบเที่ยวเตร่ท่องสุรานารีเป็นประจำระวังจะเป็นโรคเลือด หรือแม้แต่การเดินทางไกลหรือเดินทางไปในสถานที่ๆชื้นแฉะหรือที่ๆมืดมิด ควรระมัดระวังภัยอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ เพราะมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บให้เลือดตกยางออกได้

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เดือนนี้ ต้องหนักแน่นอย่าหูเบาเพราะมีศัตรูคู่แข่งขันจะคอยจ้องทำร้ายจากการปล่อยข่าวลือให้ตื่นเต้นตกใจ หรือเป็นเพราะการได้ยินที่ผิดพลาดทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือเกิดจากการทรยศหักหลังส่งผลให้ความลับในองค์กรรั่วไหลเปิดเผย รวมทั้งกระทำการนอกกฎระเบียบจะถูกตัดสิทธิ์ริบเงินมัดจำ ตลอดจนลูกหลานบริวารไม่ยอมปฏิบัติเชื่อฟัง แม้กระทั่งสุนัขสัตว์เลี้ยงอาจจะแวงกัดตนหรือคนอื่นจนเกิดเป็นโรคร้ายให้ต้องเสียทรัพย์รักษาพยาบาล ชายที่ชอบเที่ยวเตร่ท่องสุรานารีเป็นประจำระวังจะเป็นโรคเลือด หรือแม้แต่การเดินทางไกลหรือเดินทางไปในสถานที่ๆชื้นแฉะหรือที่ๆมืดมิด ควรระมัดระวังภัยอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ เพราะมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บให้เลือดตกยางออกได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยากลำบากก็ต้องทำ ยังหวังพบผู้รอดชีวิต : [NEWS UPDATE]
    นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. เผยความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ได้เคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ มีทีมกู้ภัยนานาชาติผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเข้าร่วม ติดตั้งเครนขนาด 600 ตัน 1 ตัว, 500 ตัน 1 ตัว และ 200 ตัน 2 ตัว ยังมีความหวังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จากการสำรวจภายในพบอุณหภูมิไม่สูงมาก มีโพรงอากาศ อาจมีผู้รอดชีวิต ส่วนการสแกนพบ 50-60 คน เป็นเพียงประมาณการของเครื่องมือ ส่วนจุดที่พบร่างจำนวนมากคือโซน B และโซน D ซึ่งเป็นบริเวณบันไดหนีไฟเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ ส่วนโซน A และโซน D มีโอกาสรอดชีวิตน้อย เนื่องจากโครงสร้างทับซ้อนในลักษณะแพนเค้ก การเข้าช่วยเหลือยากลำบาก ผู้เชี่ยวชาญต้องถามข้อมูลจากผู้รอดชีวิต เพื่อระบุจุดที่มีคนหนีภัยมากที่สุด ข้อมูลเบื้องต้นระบุเป็นโซน B และโซน C ส่วนการระดมกำลังและทรัพยากรเพียงพอแล้ว หากขาดแคลนจะร้องขอแน่นอน ไม่อาย


    กู้ภัยยากสุดเท่าที่เคยทำ

    เซฟตี้สุนัข K9

    หาต้นเหตุไม่ได้ไทยอยู่ยาก

    เปิดช่องแจ้งเบาะแสตึก สตง.
    ยากลำบากก็ต้องทำ ยังหวังพบผู้รอดชีวิต : [NEWS UPDATE] นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. เผยความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ได้เคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ มีทีมกู้ภัยนานาชาติผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเข้าร่วม ติดตั้งเครนขนาด 600 ตัน 1 ตัว, 500 ตัน 1 ตัว และ 200 ตัน 2 ตัว ยังมีความหวังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต จากการสำรวจภายในพบอุณหภูมิไม่สูงมาก มีโพรงอากาศ อาจมีผู้รอดชีวิต ส่วนการสแกนพบ 50-60 คน เป็นเพียงประมาณการของเครื่องมือ ส่วนจุดที่พบร่างจำนวนมากคือโซน B และโซน D ซึ่งเป็นบริเวณบันไดหนีไฟเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ ส่วนโซน A และโซน D มีโอกาสรอดชีวิตน้อย เนื่องจากโครงสร้างทับซ้อนในลักษณะแพนเค้ก การเข้าช่วยเหลือยากลำบาก ผู้เชี่ยวชาญต้องถามข้อมูลจากผู้รอดชีวิต เพื่อระบุจุดที่มีคนหนีภัยมากที่สุด ข้อมูลเบื้องต้นระบุเป็นโซน B และโซน C ส่วนการระดมกำลังและทรัพยากรเพียงพอแล้ว หากขาดแคลนจะร้องขอแน่นอน ไม่อาย กู้ภัยยากสุดเท่าที่เคยทำ เซฟตี้สุนัข K9 หาต้นเหตุไม่ได้ไทยอยู่ยาก เปิดช่องแจ้งเบาะแสตึก สตง.
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • ChatGPT 4o เปิดให้ใช้ฟรีในการสร้างภาพแล้ว โดยสามารถ เปลี่ยนพื้นหลัง, สร้างภาพจากไอเดียใหม่ และปรับอารมณ์ภาพ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ฟรี เช่น สามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน และ ข้อจำกัดในการอัปโหลดรูปภาพเพื่อแก้ไข หากต้องการใช้งานเพิ่มเติม อาจต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน

    ✅ การสร้างภาพและแก้ไขพื้นหลัง
    - ChatGPT 4o สามารถ เปลี่ยนพื้นหลังของภาพได้อย่างแม่นยำ โดยตรวจจับวัตถุหลักและสร้างฉากที่เข้ากัน
    - ตัวอย่างเช่น เมื่อนำภาพของ French Bulldog ไปให้ AI และสั่งเปลี่ยนพื้นหลังเป็นชายหาด ChatGPT สามารถสร้างภาพใหม่ได้อย่างสมจริง

    ✅ ใช้ภาพอ้างอิงเพื่อสร้างภาพใหม่
    - ผู้ใช้สามารถให้ ChatGPT ใช้ภาพเดิมเป็นต้นแบบ และสร้างภาพใหม่ตามไอเดียที่ต้องการ
    - ตัวอย่างเช่น เมื่อให้ภาพของสุนัข และสั่งให้มัน แต่งตัวเป็นกบแล้วขี่สเก็ตบอร์ด AI สามารถสร้างภาพตามคำสั่งได้

    ✅ ปรับอารมณ์ของภาพ
    - AI สามารถปรับอารมณ์ของภาพได้ เช่น เปลี่ยนให้ สุนัขที่ดูเศร้าเป็นสุนัขที่ดูมีความสุข โดยใช้เทคนิคการปรับแต่งใบหน้า

    ✅ ข้อจำกัดของผู้ใช้ฟรี
    - OpenAI กำหนดให้ ผู้ใช้ฟรีสามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน
    - นอกจากนี้ มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ จำนวนครั้งที่สามารถอัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-4os-image-generation-is-now-free-for-everyone-3-ways-to-use-the-new-ai-tool-without-following-the-studio-ghibli-herd
    ChatGPT 4o เปิดให้ใช้ฟรีในการสร้างภาพแล้ว โดยสามารถ เปลี่ยนพื้นหลัง, สร้างภาพจากไอเดียใหม่ และปรับอารมณ์ภาพ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ฟรี เช่น สามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน และ ข้อจำกัดในการอัปโหลดรูปภาพเพื่อแก้ไข หากต้องการใช้งานเพิ่มเติม อาจต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน ✅ การสร้างภาพและแก้ไขพื้นหลัง - ChatGPT 4o สามารถ เปลี่ยนพื้นหลังของภาพได้อย่างแม่นยำ โดยตรวจจับวัตถุหลักและสร้างฉากที่เข้ากัน - ตัวอย่างเช่น เมื่อนำภาพของ French Bulldog ไปให้ AI และสั่งเปลี่ยนพื้นหลังเป็นชายหาด ChatGPT สามารถสร้างภาพใหม่ได้อย่างสมจริง ✅ ใช้ภาพอ้างอิงเพื่อสร้างภาพใหม่ - ผู้ใช้สามารถให้ ChatGPT ใช้ภาพเดิมเป็นต้นแบบ และสร้างภาพใหม่ตามไอเดียที่ต้องการ - ตัวอย่างเช่น เมื่อให้ภาพของสุนัข และสั่งให้มัน แต่งตัวเป็นกบแล้วขี่สเก็ตบอร์ด AI สามารถสร้างภาพตามคำสั่งได้ ✅ ปรับอารมณ์ของภาพ - AI สามารถปรับอารมณ์ของภาพได้ เช่น เปลี่ยนให้ สุนัขที่ดูเศร้าเป็นสุนัขที่ดูมีความสุข โดยใช้เทคนิคการปรับแต่งใบหน้า ✅ ข้อจำกัดของผู้ใช้ฟรี - OpenAI กำหนดให้ ผู้ใช้ฟรีสามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน - นอกจากนี้ มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ จำนวนครั้งที่สามารถอัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-4os-image-generation-is-now-free-for-everyone-3-ways-to-use-the-new-ai-tool-without-following-the-studio-ghibli-herd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts