• สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน
    .
    เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้
    .
    ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน
    .
    วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย
    .
    มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย
    .
    กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต
    .
    สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม
    .
    อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้"
    .
    ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง
    .
    เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น
    .
    รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943
    ..............
    Sondhi X
    สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน . เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว . พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้ . ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน . วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย . มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย . กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต . สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม . อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้" . ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง . เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้ . พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น . รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1104 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เผยได้ร่างโรดแมปเตรียมพร้อมไว้แล้วกรณีที่ทรัมป์ฟื้นการเจรจานิวเคลียร์กับเปียงยาง แต่ยอมรับว่า สถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองทำให้การติดต่อประสานงานกับทีมงานของว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ สะดุด
    .
    ในวันพุธ (18 ธ.ค.) ที่งานแถลงข่าวร่วมต่อสื่อต่างประเทศซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศ และชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ พยายามฟื้นความมั่นใจของชาติพันธมิตรและนักลงทุนในตลาด นับจากที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พยายามประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และดึงประเทศเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี
    .
    โชเผยว่า เกาหลีใต้ได้สร้างเครือข่ายและช่องทางสื่อสารกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา “ที่แข็งแกร่งกว่าประเทศใดๆ” ทว่า การประกาศกฎอัยการศึกทำให้เครือข่ายและช่องทางเหล่านั้นสะดุดและบ่อนทำลายโมเมนตัมทางการเมืองระหว่างสองฝ่าย
    .
    ทีมงานของโชยังร่างโรดแมปสำหรับความเป็นไปได้ที่วอชิงตันและเปียงยางอาจฟื้นการเจรจานิวเคลียร์ โดยอ้างอิงการที่ทรัมป์เลือกอดีตผู้นำหน่วยข่าวกรองเป็นผู้แทนภารกิจพิเศษที่รวมถึงนโยบายต่อเกาหลีเหนือ
    .
    ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เปียงยางเพิกเฉยต่อการทาบทามเพื่อฟื้นการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ทีมงานของทรัมป์พยายามหาทางเจรจาโดยตรงกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในการปะทะทางทหาร
    .
    นอกจากนั้นทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า ต้องการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่โชเชื่อว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักพักจนกว่าจะเกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องหาทางตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียควบคู่กับการเฝ้าติดตามสถานการณ์
    .
    ในส่วนจีนนั้น โชเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกคาดหมายว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเกาหลีใต้ปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเยือนโซลครั้งแรกของประมุขจีนในรอบ 11 ปี
    .
    เขายังกล่าวถึงการที่จีนตัดสินใจขยายมาตรการเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าว่า เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงระหว่างกันและความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ และเสริมว่า โซลกำลังสำรวจความเป็นไปได้สำหรับมาตรการเดียวกัน
    .
    ทั้งนี้ นอกจากต้องพยายามควบคุมผลกระทบจากวิกฤตการเมืองต่อตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราแล้ว เกาหลีใต้ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนกับอเมริกาภายใต้คณะบริหารของทรัมป์
    .
    ภายหลังความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของยุนที่ถูกสภาลงมติถอดถอนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้นั้น วอชิงตันได้วิจารณ์สถานการณ์การเมืองของเกาหลีใต้อย่างตรงไปตรงมาผิดปกติ โดยเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ระบุว่า การตัดสินใจของยุน “ผิดพลาดร้ายแรง”
    .
    ทางด้านชอย รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และรับมือความผันผวนรุนแรงในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มที่
    .
    โชและชอยเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีที่คัดค้านแผนการประกาศกฎอัยการศึกของยุนอย่างเปิดเผยระหว่างการประชุมกลางดึกก่อนที่ยุนจะประกาศคำสั่งนี้ไม่นาน
    .
    ระหว่างให้การต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โชกล่าวว่า ได้เตือนว่า การประกาศกฎอัยการศึกอาจทำลายความสำเร็จที่เกาหลีใต้สร้างสมมาตลอด 70 ปี แต่ยุนไม่สนใจคำขอร้องของตนให้ทบทวนการตัดสินใจ
    .
    โชกล่าวในงานแถลงข่าวว่า ครั้งล่าสุดที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเกาหลีใต้คือปี 1979 ซึ่งเขาได้เข้าทำงานในกระทรวงต่างประเทศ และสำทับว่า เขา “อึ้ง” กับการตัดสินใจดังกล่าวและไม่นึกไม่ฝันว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 45 ปีต่อมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121640
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เผยได้ร่างโรดแมปเตรียมพร้อมไว้แล้วกรณีที่ทรัมป์ฟื้นการเจรจานิวเคลียร์กับเปียงยาง แต่ยอมรับว่า สถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองทำให้การติดต่อประสานงานกับทีมงานของว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ สะดุด . ในวันพุธ (18 ธ.ค.) ที่งานแถลงข่าวร่วมต่อสื่อต่างประเทศซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศ และชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ พยายามฟื้นความมั่นใจของชาติพันธมิตรและนักลงทุนในตลาด นับจากที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พยายามประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และดึงประเทศเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี . โชเผยว่า เกาหลีใต้ได้สร้างเครือข่ายและช่องทางสื่อสารกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา “ที่แข็งแกร่งกว่าประเทศใดๆ” ทว่า การประกาศกฎอัยการศึกทำให้เครือข่ายและช่องทางเหล่านั้นสะดุดและบ่อนทำลายโมเมนตัมทางการเมืองระหว่างสองฝ่าย . ทีมงานของโชยังร่างโรดแมปสำหรับความเป็นไปได้ที่วอชิงตันและเปียงยางอาจฟื้นการเจรจานิวเคลียร์ โดยอ้างอิงการที่ทรัมป์เลือกอดีตผู้นำหน่วยข่าวกรองเป็นผู้แทนภารกิจพิเศษที่รวมถึงนโยบายต่อเกาหลีเหนือ . ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เปียงยางเพิกเฉยต่อการทาบทามเพื่อฟื้นการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ทีมงานของทรัมป์พยายามหาทางเจรจาโดยตรงกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในการปะทะทางทหาร . นอกจากนั้นทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า ต้องการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่โชเชื่อว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักพักจนกว่าจะเกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องหาทางตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียควบคู่กับการเฝ้าติดตามสถานการณ์ . ในส่วนจีนนั้น โชเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกคาดหมายว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเกาหลีใต้ปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเยือนโซลครั้งแรกของประมุขจีนในรอบ 11 ปี . เขายังกล่าวถึงการที่จีนตัดสินใจขยายมาตรการเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าว่า เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงระหว่างกันและความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ และเสริมว่า โซลกำลังสำรวจความเป็นไปได้สำหรับมาตรการเดียวกัน . ทั้งนี้ นอกจากต้องพยายามควบคุมผลกระทบจากวิกฤตการเมืองต่อตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราแล้ว เกาหลีใต้ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนกับอเมริกาภายใต้คณะบริหารของทรัมป์ . ภายหลังความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของยุนที่ถูกสภาลงมติถอดถอนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้นั้น วอชิงตันได้วิจารณ์สถานการณ์การเมืองของเกาหลีใต้อย่างตรงไปตรงมาผิดปกติ โดยเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ระบุว่า การตัดสินใจของยุน “ผิดพลาดร้ายแรง” . ทางด้านชอย รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และรับมือความผันผวนรุนแรงในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มที่ . โชและชอยเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีที่คัดค้านแผนการประกาศกฎอัยการศึกของยุนอย่างเปิดเผยระหว่างการประชุมกลางดึกก่อนที่ยุนจะประกาศคำสั่งนี้ไม่นาน . ระหว่างให้การต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โชกล่าวว่า ได้เตือนว่า การประกาศกฎอัยการศึกอาจทำลายความสำเร็จที่เกาหลีใต้สร้างสมมาตลอด 70 ปี แต่ยุนไม่สนใจคำขอร้องของตนให้ทบทวนการตัดสินใจ . โชกล่าวในงานแถลงข่าวว่า ครั้งล่าสุดที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเกาหลีใต้คือปี 1979 ซึ่งเขาได้เข้าทำงานในกระทรวงต่างประเทศ และสำทับว่า เขา “อึ้ง” กับการตัดสินใจดังกล่าวและไม่นึกไม่ฝันว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 45 ปีต่อมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121640 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 729 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 ธันวาคม 2567-เวลา 10.00 น. สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “คิม ยองฮยอน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศเกาหลีใต้ พยายามฆ่าตัวตายในห้องคุมขัง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้คาดว่าเกิดจากความเครียด หลังนายคิมเกี่ยวพันกับการประกาศกฏอัยการศึกของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จนถูกจับกุมในเวลาต่อมา มีแหล่งข่าวรายงานว่า นายคิมได้แนะนําให้ประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    11 ธันวาคม 2567-เวลา 10.00 น. สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “คิม ยองฮยอน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศเกาหลีใต้ พยายามฆ่าตัวตายในห้องคุมขัง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้คาดว่าเกิดจากความเครียด หลังนายคิมเกี่ยวพันกับการประกาศกฏอัยการศึกของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จนถูกจับกุมในเวลาต่อมา มีแหล่งข่าวรายงานว่า นายคิมได้แนะนําให้ประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เชื่อ "คำโกหก" ของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อของชาวซีเรียเอง ที่พยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลของอัสซาดทำร้ายประชาชนของเขาด้วยก๊าซพิษ เพื่อสร้างความเกลียดชัง ต่อต้านรัฐบาล และในท้ายที่สุด ทุกอย่างประผลสำเร็จตามที่สื่อของซีเรียที่รับใช้ตะวันตกต้องการ

    วันนี้สื่อของซีเรียกำลังออกมาฟูมฟาย หลังจากประเทศของพวกเขากำลังแตกเป็นเสี่ยง จากการฉวยโอกาสยึดดินแดนโดยรอบจากกลุ่มอิทธิพลนอกประเทศที่ครั้งหนึ่งสื่อเหล่านี้เคย "อวยยศ" ไว้อย่างยิ่งใหญ่
    ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เชื่อ "คำโกหก" ของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อของชาวซีเรียเอง ที่พยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลของอัสซาดทำร้ายประชาชนของเขาด้วยก๊าซพิษ เพื่อสร้างความเกลียดชัง ต่อต้านรัฐบาล และในท้ายที่สุด ทุกอย่างประผลสำเร็จตามที่สื่อของซีเรียที่รับใช้ตะวันตกต้องการ วันนี้สื่อของซีเรียกำลังออกมาฟูมฟาย หลังจากประเทศของพวกเขากำลังแตกเป็นเสี่ยง จากการฉวยโอกาสยึดดินแดนโดยรอบจากกลุ่มอิทธิพลนอกประเทศที่ครั้งหนึ่งสื่อเหล่านี้เคย "อวยยศ" ไว้อย่างยิ่งใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    ทรงพระเจริญ

    @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ
    พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก 🙏💜
    .
    ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024"

    โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น

    ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป

    แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้

    (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้ 😂
    ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้)

    พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ

    ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน

    💜 ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว

    เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก

    #นักเรียนดี
    9/12/67 ทรงพระเจริญ @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก 🙏💜 . ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024" โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้ (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้ 😂 ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้) พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน 💜 ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก #นักเรียนดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • นี่คือรูปแบบการประท้วงในจอร์เจียที่มีกลุ่มทุนต่างชาติหนุนหลัง ชาวจอร์เจียรายหนึ่งทำตัวโดดเด่นด้วยการออกมานอกกลุ่มผู้ชุมนุมและอยู่ในรัศมีของทีมกล้องจากสื่อต่างประเทศ เพื่อให้ภาพที่ออกสู่สายตาประชาคมโลกคือเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าขัดขวางผู้ชุมนุม

    ขณะเดียวกันมีการนำภาพเมื่อช่วงต้นปีของคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน และได้เข้าร่วมการชุมนุม เพื่อพยายามนำเสนอให้ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับสิทธิและเสรีภาพ เป็นกลุ่มคนที่ยังมีความรัก มีความสุภาพ และยังต้องการความสุขในชีวิต ไม่ใช่กลุ่มหัวรุนแรงตามที่รัฐบาลนำเสนอ

    แต่ชาวจอร์เจียอาจลืมไปว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันคือวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่ยูเครนเคยโดนตะวันตกหลอกใช้มาก่อน
    นี่คือรูปแบบการประท้วงในจอร์เจียที่มีกลุ่มทุนต่างชาติหนุนหลัง ชาวจอร์เจียรายหนึ่งทำตัวโดดเด่นด้วยการออกมานอกกลุ่มผู้ชุมนุมและอยู่ในรัศมีของทีมกล้องจากสื่อต่างประเทศ เพื่อให้ภาพที่ออกสู่สายตาประชาคมโลกคือเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าขัดขวางผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันมีการนำภาพเมื่อช่วงต้นปีของคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน และได้เข้าร่วมการชุมนุม เพื่อพยายามนำเสนอให้ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับสิทธิและเสรีภาพ เป็นกลุ่มคนที่ยังมีความรัก มีความสุภาพ และยังต้องการความสุขในชีวิต ไม่ใช่กลุ่มหัวรุนแรงตามที่รัฐบาลนำเสนอ แต่ชาวจอร์เจียอาจลืมไปว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันคือวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่ยูเครนเคยโดนตะวันตกหลอกใช้มาก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานในช่วงต้นสัปดาห์ อิสราเอลยกเลิกแผนโจมตีแก้แค้นเตหะราน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนอิหร่านเมื่อวันเสาร์(5ต.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.6 สั่นสะเทือนอิหร่าน โดยมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองอราดัน จังหวัดเซมนัน ณ ความลึกเพียง 10 กิโลเมตร อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แรงสั่นสะเทือนสามารถสัมผัสได้ไกลถึงกรุงเตหะราน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางราวๆ 110 กิโลเมตร
    .
    แผ่นดินไหวดังกล่าว โหมกระพือข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการในประเด็นนี้ ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญเคยเชื่อว่าอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า ณ เวลานี้ อิหร่าน อาจจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    ข่าวลือและประเด็นถกเถียงโหมกระพือขึ้น ภายในไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหว ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคน โดยเฉพาะในอิสราเอล เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาครั้งนี้ในทันทีกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์แบบลับๆ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่าง 2 ชาติ
    .
    ผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่งคาดการณ์ว่า "อิหร่านทดสอบนิวเคลียร์ พวกเขาทดสอบระเบิดลึกลงไปใต้พื้นผิว 10 กิโลเมตร ใกล้กับเซมนัน เพื่อรับประกันการปล่อยกัมมันตภาพรังสีน้อยที่สุด และผลก็คือเครื่องวัดแผ่นดินไหวสามารถตรวจจับแผ่นดินไหวระดับ 4.6"
    .
    การคาดเดาในเรื่องนี้ โหมกระพือหนักหน่วงยิ่งขึ้น เนื่องจากจุดที่เกินแผ่นดินไหวนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก่อความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทดสอบนิวเคลียรใต้ดิน ในขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งอ้างว่า "แผ่นดินไหวอิหร่านก่อแรงสั่นสะเทือนไปถึงอิสราเอล พวกเขาคงต้องคิดทบทวนอย่างหนักหากคิดโจมตีอิหร่าน มันดูเหมือนว่าความลับคืออิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ไม่มีประเทศไหนที่อยากไปยุ่งกับพลังทำลายล้างของนิวเคลียร์"
    .
    อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนระบุว่าแม้นอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเอง แต่การทดสอบแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ ไม่ได้หมายความว่าประเทศนั้นๆ จะมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้จริงภายในไม่กี่สัปดาห์
    .
    กระนั้นก็ดีหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์ส อ้างรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุมีข่าวว่าอิสราเอลตัดสินใจยกเลิกแผ่นโจมตีแก้แค้นอิหร่าน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
    .
    รายงานของนิวยอร์กไทม์ส ไม่คาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แต่มีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะเล็งเป้าถล่มฐานทัพทหาร เป้าหมายข่าวกรองหรือพวกผู้นำของอิหร่านแทน อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะลงมือเลยเถิดมากกว่านั้น ด้วยการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ หากอิหร่านตอบโต้กลับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096126
    ..............
    Sondhi X
    สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานในช่วงต้นสัปดาห์ อิสราเอลยกเลิกแผนโจมตีแก้แค้นเตหะราน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนอิหร่านเมื่อวันเสาร์(5ต.ค.) ที่ผ่านมา . เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.6 สั่นสะเทือนอิหร่าน โดยมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองอราดัน จังหวัดเซมนัน ณ ความลึกเพียง 10 กิโลเมตร อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แรงสั่นสะเทือนสามารถสัมผัสได้ไกลถึงกรุงเตหะราน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางราวๆ 110 กิโลเมตร . แผ่นดินไหวดังกล่าว โหมกระพือข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการในประเด็นนี้ ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญเคยเชื่อว่าอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า ณ เวลานี้ อิหร่าน อาจจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . ข่าวลือและประเด็นถกเถียงโหมกระพือขึ้น ภายในไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหว ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคน โดยเฉพาะในอิสราเอล เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาครั้งนี้ในทันทีกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์แบบลับๆ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่าง 2 ชาติ . ผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่งคาดการณ์ว่า "อิหร่านทดสอบนิวเคลียร์ พวกเขาทดสอบระเบิดลึกลงไปใต้พื้นผิว 10 กิโลเมตร ใกล้กับเซมนัน เพื่อรับประกันการปล่อยกัมมันตภาพรังสีน้อยที่สุด และผลก็คือเครื่องวัดแผ่นดินไหวสามารถตรวจจับแผ่นดินไหวระดับ 4.6" . การคาดเดาในเรื่องนี้ โหมกระพือหนักหน่วงยิ่งขึ้น เนื่องจากจุดที่เกินแผ่นดินไหวนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก่อความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทดสอบนิวเคลียรใต้ดิน ในขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งอ้างว่า "แผ่นดินไหวอิหร่านก่อแรงสั่นสะเทือนไปถึงอิสราเอล พวกเขาคงต้องคิดทบทวนอย่างหนักหากคิดโจมตีอิหร่าน มันดูเหมือนว่าความลับคืออิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ไม่มีประเทศไหนที่อยากไปยุ่งกับพลังทำลายล้างของนิวเคลียร์" . อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนระบุว่าแม้นอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเอง แต่การทดสอบแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ ไม่ได้หมายความว่าประเทศนั้นๆ จะมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้จริงภายในไม่กี่สัปดาห์ . กระนั้นก็ดีหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์ส อ้างรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุมีข่าวว่าอิสราเอลตัดสินใจยกเลิกแผ่นโจมตีแก้แค้นอิหร่าน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ . รายงานของนิวยอร์กไทม์ส ไม่คาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แต่มีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะเล็งเป้าถล่มฐานทัพทหาร เป้าหมายข่าวกรองหรือพวกผู้นำของอิหร่านแทน อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะลงมือเลยเถิดมากกว่านั้น ด้วยการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ หากอิหร่านตอบโต้กลับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096126 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 1554 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายการบิน Southwest Airline รอดจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มเพราะความเชย ใช้วินโดว์รุ่นล้าสมัย ไม่สามารถอัพเดตของ ClowdStrikeได้จึงรอด

    23 กรกฏาคม 2567 - สื่อต่างประเทศ ITC รายงานว่า สายการบิน Southwest Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของสหรัฐอเมริกา แทบไม่ได้รับผลกระทบจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มจาก CrowdStrike เนื่องจากสายการบินนี้ยังคงใช้ Windows 3.1รุ่นเก่า ขณะที่ความโกลาหลวุ่นวายและเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะกับสายการบินที่ใช้ Windowsรุ่นปัจจุบันเท่านั้น

    Windows 3.1 ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 ไม่ได้รับการอัปเดตใดๆ ดังนั้น เมื่อ CrowdStrike ส่งการอัปเดตที่ผิดพลาดให้กับลูกค้าสายการบินทั้งหมด ยกเว้น Southwest ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่สายการบิน บริษัทอื่นๆ ถูกสถานการณ์บังคับให้ระงับยกเลิกเที่ยวบินและเที่ยวบินดีเลย์ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถออนไลน์ข้อมูลและระบบเช็คอินหลายแห่งใช้งานไม่ได้

    ที่ผ่านมา สายการบิน Southwest มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ระบบที่ล้าสมัย แต่จุดนี้ระบบปฏิบัติการเก่าตกรุ่นนี้กลับได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าหลุดพ้นจากความเครียดและความยุ่งยากโกลาหลได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหา CrowdStrike ไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้โดยสารสายการบิน SouthWest Airlineทั้งหมด100% แต่ผลกระทบยังเกิดกับสนามบินหลายแห่งที่ประสบปัญหาระบบล่มเช่นกัน

    นอกจากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 3.1 แล้ว สายการบิน Southwest ยังใช้ Windows 95 สำหรับระบบการจัดตารางเวลาทำงานของพนักงานอีกด้วย แม้นจะดูว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แต่เป็นระบบที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้พนักงานสายการบินนี้หลายคนร้องเรียนเรื่องนี้

    ที่มา : https://itc.ua/en/news/windows-3-1-saved-an-american-airline-from-crowdstrike/

    #Thaitimes
    สายการบิน Southwest Airline รอดจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มเพราะความเชย ใช้วินโดว์รุ่นล้าสมัย ไม่สามารถอัพเดตของ ClowdStrikeได้จึงรอด 23 กรกฏาคม 2567 - สื่อต่างประเทศ ITC รายงานว่า สายการบิน Southwest Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของสหรัฐอเมริกา แทบไม่ได้รับผลกระทบจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มจาก CrowdStrike เนื่องจากสายการบินนี้ยังคงใช้ Windows 3.1รุ่นเก่า ขณะที่ความโกลาหลวุ่นวายและเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะกับสายการบินที่ใช้ Windowsรุ่นปัจจุบันเท่านั้น Windows 3.1 ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 ไม่ได้รับการอัปเดตใดๆ ดังนั้น เมื่อ CrowdStrike ส่งการอัปเดตที่ผิดพลาดให้กับลูกค้าสายการบินทั้งหมด ยกเว้น Southwest ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่สายการบิน บริษัทอื่นๆ ถูกสถานการณ์บังคับให้ระงับยกเลิกเที่ยวบินและเที่ยวบินดีเลย์ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถออนไลน์ข้อมูลและระบบเช็คอินหลายแห่งใช้งานไม่ได้ ที่ผ่านมา สายการบิน Southwest มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ระบบที่ล้าสมัย แต่จุดนี้ระบบปฏิบัติการเก่าตกรุ่นนี้กลับได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าหลุดพ้นจากความเครียดและความยุ่งยากโกลาหลได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหา CrowdStrike ไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้โดยสารสายการบิน SouthWest Airlineทั้งหมด100% แต่ผลกระทบยังเกิดกับสนามบินหลายแห่งที่ประสบปัญหาระบบล่มเช่นกัน นอกจากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 3.1 แล้ว สายการบิน Southwest ยังใช้ Windows 95 สำหรับระบบการจัดตารางเวลาทำงานของพนักงานอีกด้วย แม้นจะดูว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แต่เป็นระบบที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้พนักงานสายการบินนี้หลายคนร้องเรียนเรื่องนี้ ที่มา : https://itc.ua/en/news/windows-3-1-saved-an-american-airline-from-crowdstrike/ #Thaitimes
    ITC.UA
    Windows 3.1 saved an American airline from CrowdStrike
    Southwest Airlines, the fourth largest airline in the United States, was hardly affected by the CrowdStrike — problem due to the use of Windows 3.1.
    Like
    Love
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 599 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ งามไส้ สำรอกข่าว BBC ปากร้องประชาธิปไตย จิตใจฝักใฝ่อำนาจ-เผด็จการ เลยเถิดถึงขั้นแนะสั่งเก็บ โดนัล ทรัมป์ เพราะเป็นภัยความมั่นคง
    #7ดอกจิก
    #มือถือสากปากถือศีล
    #สื่อต่างประเทศ
    ♣ งามไส้ สำรอกข่าว BBC ปากร้องประชาธิปไตย จิตใจฝักใฝ่อำนาจ-เผด็จการ เลยเถิดถึงขั้นแนะสั่งเก็บ โดนัล ทรัมป์ เพราะเป็นภัยความมั่นคง #7ดอกจิก #มือถือสากปากถือศีล #สื่อต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว