• "พวกบัดซบ"

    พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร
    แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์
    ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี
    หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต

    เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้
    หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม

    พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม)
    นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ
    นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า
    มีประโยชน์สำหรับตน

    มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย
    เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ
    หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย

    ทั้งหมดนี้นักการเมือง
    และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้
    นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง)

    มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก
    การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า

    พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง
    สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ
    ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม
    ตัวจริงและของจริง.

    #ขอบพระคุณ
    วิมล ไทรนิ่มนวล
    ภาพประกอบ
    #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    "พวกบัดซบ" พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์ ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้ หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม) นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า มีประโยชน์สำหรับตน มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย ทั้งหมดนี้นักการเมือง และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้ นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง) มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม ตัวจริงและของจริง. #ขอบพระคุณ วิมล ไทรนิ่มนวล ภาพประกอบ #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ครูเชื่อมั่นในตั้มเสมอ
    ใครจะรักใครจะชอบ ใครเป็นครูใครเป็นศิษย์
    ของแบบนี้มันก็บังคับกันไม่ได้
    ครูเคยยืนยัน ว่าตั้มเป็นบุคคลตัวอย่าง
    ที่สังคมไทยต้องการ
    เยี่ยมเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ครูเชื่อมั่นในตั้มเสมอ ใครจะรักใครจะชอบ ใครเป็นครูใครเป็นศิษย์ ของแบบนี้มันก็บังคับกันไม่ได้ ครูเคยยืนยัน ว่าตั้มเป็นบุคคลตัวอย่าง ที่สังคมไทยต้องการ เยี่ยมเลย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เดชาทูเดย์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน
    อาจด้วยเพราะอายุของพี่เดเริ่มมากขึ้น
    หรือเพราะอุปนิสัยส่วนตัวก็ไม่แน่ชัด
    ความเปลี่ยนมาเปลี่ยนไป มีความไม่นิ่ง
    และมักจะสวนกระแสชาวบ้าน อ้างว่าตนเป็นอินฟูล
    ผู้ให้ความรู้ทางกฏหมายแก่ประชาชน โดยไม่ได้มีใครแต่งตั้ง
    ตั้งเอง เรียกตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเอง ก็แปลกคนดี
    แต่มีประเด็นสังคมเมื่อไหร่ พี่เดจะกระโดดไปอยู่ฝ่ายคนซั่วเสมอ
    และเย้ยสังคมไทยว่า จุ๊กกรู๊วววว จุ๊กกรู๊ววว
    จนมาถึงประเด็นของไอ่ตั้มทนายนักตบซับ
    จากที่พี่เดออกตัวคล้ายปกป้องไอ่ตั้มหิวแสง
    ล่าสุดก็โพสบาดใจสหายตั้มอย่างไม่น่าให้อภัย
    คาดว่า จากเป็นคนติดแอลขั้นสุด
    อยู่ดีๆ จะให้เปลี่ยนจากแดรกแอลเป็นแดรกเยื่ยว
    แบ่งเบาภาระ 71 แก้วให้กับสหายตั้มก็คงไม่ไหว
    ออกตัวแรง เบรคตัวเองก็แรง ได้แสงแล้วจบ
    หรือไม่ อย่างไร นะครับพี่เด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เดชาทูเดย์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน อาจด้วยเพราะอายุของพี่เดเริ่มมากขึ้น หรือเพราะอุปนิสัยส่วนตัวก็ไม่แน่ชัด ความเปลี่ยนมาเปลี่ยนไป มีความไม่นิ่ง และมักจะสวนกระแสชาวบ้าน อ้างว่าตนเป็นอินฟูล ผู้ให้ความรู้ทางกฏหมายแก่ประชาชน โดยไม่ได้มีใครแต่งตั้ง ตั้งเอง เรียกตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเอง ก็แปลกคนดี แต่มีประเด็นสังคมเมื่อไหร่ พี่เดจะกระโดดไปอยู่ฝ่ายคนซั่วเสมอ และเย้ยสังคมไทยว่า จุ๊กกรู๊วววว จุ๊กกรู๊ววว จนมาถึงประเด็นของไอ่ตั้มทนายนักตบซับ จากที่พี่เดออกตัวคล้ายปกป้องไอ่ตั้มหิวแสง ล่าสุดก็โพสบาดใจสหายตั้มอย่างไม่น่าให้อภัย คาดว่า จากเป็นคนติดแอลขั้นสุด อยู่ดีๆ จะให้เปลี่ยนจากแดรกแอลเป็นแดรกเยื่ยว แบ่งเบาภาระ 71 แก้วให้กับสหายตั้มก็คงไม่ไหว ออกตัวแรง เบรคตัวเองก็แรง ได้แสงแล้วจบ หรือไม่ อย่างไร นะครับพี่เด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ให้ปัญญาแก่สังคมไทยไป
    อีกนานๆนะครับ

    แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ ครับคุณสนธิ
    ให้ปัญญาแก่สังคมไทยไป อีกนานๆนะครับ แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ ครับคุณสนธิ
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌳 จากหน้าข่าว หลายข่าว..จากประสบการณ์ 30 กว่าปี ทำธุรกิจมาก็มาก เป็นที่ปรึกษา สร้างงานสร้างคนมาก็มาก..คลุกคลีอยู่ในทุกสี จะขาว จะเทา จะดำ .
    อยากบอกหลายๆท่านว่า ...จงอย่าเชื่อคนที่ท่านคิดว่า "เชื่อได้" ในทุกเรื่อง....
    1. เขารู้จริงในเรื่องเหล่านั้นหรือเปล่า? ต้องยอมรับในสังคมไทย ผู้อวดรู้มีมากมายจริงๆ
    2. คำแนะนำเหล่านั้น มีประโยชน์ อื่นใดแฝงอยู่ไหม?
    3. บางจังหวะ บางช่วงเวลาของชีวิตของคนบางคน..อาจมีภาวะ จำเป็น ที่โดยปกติเขาจะไม่กระทำ...ในบางสิ่ง.....ถ้าคุณไปเจอ คราวจำเป็นของเขา ก็ซวยไป. คนดีมาทั้งชีวิต ..ก็ยังเสียมามากแล้ว เพราะความจำเป็น..
    🎃 ไม่นับไอ้พวก ใช้สื่อSocial เป็น สร้างตัวตนเก๊ๆ ขึ้นมาอีกไม่น้อย.
    ___
    สิ่งที่จำมาตลอด เพราะพบเจอกับตนเอง...คนที่มันไม่เคยมีมากๆ...ถ้าทำให้มันมีมากๆขึ้นมา โดยง่าย...คนเหล่านี้ มันจะเสพติด..การมั่งมี...ทั้งเงิน อำนาจ เส้นสาย....สุดท้าย มันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา...โดยไม่เลือกวิธีการแล้ว..........
    🌳 จากหน้าข่าว หลายข่าว..จากประสบการณ์ 30 กว่าปี ทำธุรกิจมาก็มาก เป็นที่ปรึกษา สร้างงานสร้างคนมาก็มาก..คลุกคลีอยู่ในทุกสี จะขาว จะเทา จะดำ . อยากบอกหลายๆท่านว่า ...จงอย่าเชื่อคนที่ท่านคิดว่า "เชื่อได้" ในทุกเรื่อง.... 1. เขารู้จริงในเรื่องเหล่านั้นหรือเปล่า? ต้องยอมรับในสังคมไทย ผู้อวดรู้มีมากมายจริงๆ 2. คำแนะนำเหล่านั้น มีประโยชน์ อื่นใดแฝงอยู่ไหม? 3. บางจังหวะ บางช่วงเวลาของชีวิตของคนบางคน..อาจมีภาวะ จำเป็น ที่โดยปกติเขาจะไม่กระทำ...ในบางสิ่ง.....ถ้าคุณไปเจอ คราวจำเป็นของเขา ก็ซวยไป. คนดีมาทั้งชีวิต ..ก็ยังเสียมามากแล้ว เพราะความจำเป็น.. 🎃 ไม่นับไอ้พวก ใช้สื่อSocial เป็น สร้างตัวตนเก๊ๆ ขึ้นมาอีกไม่น้อย. ___ สิ่งที่จำมาตลอด เพราะพบเจอกับตนเอง...คนที่มันไม่เคยมีมากๆ...ถ้าทำให้มันมีมากๆขึ้นมา โดยง่าย...คนเหล่านี้ มันจะเสพติด..การมั่งมี...ทั้งเงิน อำนาจ เส้นสาย....สุดท้าย มันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา...โดยไม่เลือกวิธีการแล้ว..........
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทุกวันนี้วิธีการแบบเก่าๆที่เหมือนการนำน้ำเมาย้ายมาใส่ในขวดใหม่จริงๆ
    ก่อนอื่น ต้องเข้าใจนิยามของคำว่า เชิงหมาแก่ก่อน
    — อาการ 'ฟอร์มหมาแก่' อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่ชอบแสดงออกให้เพื่อนรู้แบบหนึ่ง แต่จริงๆ ตั้งใจอีกอย่าง
    ยกตัวอย่างนักข่าว ที่ชื่อดนัย หรือที่พี่คิงส์มักเรียกแกว่า ดนูยหมาแก่ ไม่ได้แซะนะ แกเรียกตัวเองว่าหมาแก่จริงๆ สาเหตุก็เพราะแกมีวิธีการนำเสนอข่าวแบบนี้ ทำติดอ่างบ้าง พูดกำกวมบ้าง จนคนในวงการสื่อเรียกว่า ไอ่ดนัย ฟอร์มหมาแก่ เรื่องนี้นี่รู้กันเฉพาะสายสื่อสารมวลชนเลยนะ
    วีรกรรมของดนัย มีเยอะมากนะ แต่ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆก็คือ เทพโจ๊กของกระผ๊ม ที่ดนัยใช้คำนี้เรียกแทนชื่อบิ๊กโจ๊ก หรือนายสุรเชษฐ์ หักพาล
    ที่เริ่มสตาร์ทด้วยการยกโจ๊กเข้ามาให้เป็นจุดสนใจของสังคม พร้อมเปิดแอร์ทาร์มให้สัมภาษณ์ จนกลายเป็นรายการพีอาร์ของโจ๊ก นอกจากนั้นประเด็นใดก็ตามที่อาจเป็นภาพลบให้โจ๊ก ดนัยจะให้โอกาสในการชี้แจง และใช้สไตล์การพูดแบบกำกวม หรือเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเข้าใจไปในแบบที่โจ๊กต้องการ เช่น การที่โจ๊กถูกเปิดเผยเรื่องเงินดาร์ค และถูกตั้งกรรมการสอบ ดนัยได้สร้างวาทะกรรม ว่าเป็นเรื่องของตร.มีปัญหากัน ระหว่างรองผบตร.สองคน ในเวลานั้น ทั้งๆที่สิ่งที่โจ๊กถูกสอบล้วนมีหลักฐานและพยานที่ชัดเจน จนท้ายที่สุดกรรมได้ตามทันโจ๊ก และดนัยก็สละเรือในวันนี้ นี่คือตัวอย่างของนักข่าวที่อ้างตัวว่าเป็นกลาง แต่ใช้ฟอร์มหมาแก่ เพื่อซักฟอกผู้ว่าจ้าง ที่มีความชัดเจนเหมาะสมต่อการยกตัวอย่าง
    - ส่วนของทนายเดชา ที่พูดเสมอว่า ตนเองเป็นกลาง แต่ในหลายๆครั้ง ทนายเดชาแสดงตัวอยู่ข้างบุคคลที่เป็นคนที่สังคมไทย มองว่าซั่ว ตั้งแต่ครู่จุ๋ม กับการกระทำต่อน้องอนุบาล รวมถึงอีกหลายกรณี โดยทุกครั้งที่คนไทยแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย เดชา ก็จะเย้ยหยันกลับมา ด้วยคำว่า จุ๊กกรู๊ และล่าสุด กับเรื่องของตั้ม ที่สื่อทุกช่องต่างออกมาเปิดเผยเรื่องราว รวมทั้งผสห. อย่างเจ๊อ้อย เรียกได้ว่า ทุกสื่อไปในทิศทางเดียวกัน แต่เดชา ที่บอกว่าตนเองนั้นเป็นกลาง และเป็นผู้ให้ความรู้ด้านกฏหมาย กลับให้ข้อมูลในเชิงการยืนยันของความบริสุทธิ์ของตั้ม จนโดนสื่อตำนานอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาปรามและท้าให้ดนคด. แต่เดชาก็อยู่เป็น ไลฟ์สดว่า จะทำทำไมไม่มีประโยชน์ และอธิบายเพิ่มว่า ทางสนธิ มีข้อมูลจาก ผสห. แต่ตน มีข้อมูลจากตั้ม มันคนละชุดข้อมูล
    - จากที่พี่คิงส์ฯฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยอมรับว่า เดชา ควรแสดงตนในฐานะที่เป็นคนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ด้วยการปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องคนซั่ว อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว ร่องรอยแห่งความชราก็มาปรากฏเต็มใบหน้า อยากให้เดชามีภาพจำที่ดีสำหรับคนไทย เลิกเหอะ วิธีการมีแสง ด้วยการยืนขวางความถูกต้อง โดยไม่แยแสความรู้สึกของ ผสห เอาพรรคเอาพวก ไม่มีความยั่งยืน กับชื่อเสียงที่ได้มาจากวิธีการแบบนี้ เลิกใช้ "ฟอร์มหมาแก่" เสียที
    เชื่อพี่คิงส์ฯ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทุกวันนี้วิธีการแบบเก่าๆที่เหมือนการนำน้ำเมาย้ายมาใส่ในขวดใหม่จริงๆ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจนิยามของคำว่า เชิงหมาแก่ก่อน — อาการ 'ฟอร์มหมาแก่' อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่ชอบแสดงออกให้เพื่อนรู้แบบหนึ่ง แต่จริงๆ ตั้งใจอีกอย่าง ยกตัวอย่างนักข่าว ที่ชื่อดนัย หรือที่พี่คิงส์มักเรียกแกว่า ดนูยหมาแก่ ไม่ได้แซะนะ แกเรียกตัวเองว่าหมาแก่จริงๆ สาเหตุก็เพราะแกมีวิธีการนำเสนอข่าวแบบนี้ ทำติดอ่างบ้าง พูดกำกวมบ้าง จนคนในวงการสื่อเรียกว่า ไอ่ดนัย ฟอร์มหมาแก่ เรื่องนี้นี่รู้กันเฉพาะสายสื่อสารมวลชนเลยนะ วีรกรรมของดนัย มีเยอะมากนะ แต่ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆก็คือ เทพโจ๊กของกระผ๊ม ที่ดนัยใช้คำนี้เรียกแทนชื่อบิ๊กโจ๊ก หรือนายสุรเชษฐ์ หักพาล ที่เริ่มสตาร์ทด้วยการยกโจ๊กเข้ามาให้เป็นจุดสนใจของสังคม พร้อมเปิดแอร์ทาร์มให้สัมภาษณ์ จนกลายเป็นรายการพีอาร์ของโจ๊ก นอกจากนั้นประเด็นใดก็ตามที่อาจเป็นภาพลบให้โจ๊ก ดนัยจะให้โอกาสในการชี้แจง และใช้สไตล์การพูดแบบกำกวม หรือเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเข้าใจไปในแบบที่โจ๊กต้องการ เช่น การที่โจ๊กถูกเปิดเผยเรื่องเงินดาร์ค และถูกตั้งกรรมการสอบ ดนัยได้สร้างวาทะกรรม ว่าเป็นเรื่องของตร.มีปัญหากัน ระหว่างรองผบตร.สองคน ในเวลานั้น ทั้งๆที่สิ่งที่โจ๊กถูกสอบล้วนมีหลักฐานและพยานที่ชัดเจน จนท้ายที่สุดกรรมได้ตามทันโจ๊ก และดนัยก็สละเรือในวันนี้ นี่คือตัวอย่างของนักข่าวที่อ้างตัวว่าเป็นกลาง แต่ใช้ฟอร์มหมาแก่ เพื่อซักฟอกผู้ว่าจ้าง ที่มีความชัดเจนเหมาะสมต่อการยกตัวอย่าง - ส่วนของทนายเดชา ที่พูดเสมอว่า ตนเองเป็นกลาง แต่ในหลายๆครั้ง ทนายเดชาแสดงตัวอยู่ข้างบุคคลที่เป็นคนที่สังคมไทย มองว่าซั่ว ตั้งแต่ครู่จุ๋ม กับการกระทำต่อน้องอนุบาล รวมถึงอีกหลายกรณี โดยทุกครั้งที่คนไทยแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย เดชา ก็จะเย้ยหยันกลับมา ด้วยคำว่า จุ๊กกรู๊ และล่าสุด กับเรื่องของตั้ม ที่สื่อทุกช่องต่างออกมาเปิดเผยเรื่องราว รวมทั้งผสห. อย่างเจ๊อ้อย เรียกได้ว่า ทุกสื่อไปในทิศทางเดียวกัน แต่เดชา ที่บอกว่าตนเองนั้นเป็นกลาง และเป็นผู้ให้ความรู้ด้านกฏหมาย กลับให้ข้อมูลในเชิงการยืนยันของความบริสุทธิ์ของตั้ม จนโดนสื่อตำนานอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาปรามและท้าให้ดนคด. แต่เดชาก็อยู่เป็น ไลฟ์สดว่า จะทำทำไมไม่มีประโยชน์ และอธิบายเพิ่มว่า ทางสนธิ มีข้อมูลจาก ผสห. แต่ตน มีข้อมูลจากตั้ม มันคนละชุดข้อมูล - จากที่พี่คิงส์ฯฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยอมรับว่า เดชา ควรแสดงตนในฐานะที่เป็นคนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ด้วยการปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องคนซั่ว อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว ร่องรอยแห่งความชราก็มาปรากฏเต็มใบหน้า อยากให้เดชามีภาพจำที่ดีสำหรับคนไทย เลิกเหอะ วิธีการมีแสง ด้วยการยืนขวางความถูกต้อง โดยไม่แยแสความรู้สึกของ ผสห เอาพรรคเอาพวก ไม่มีความยั่งยืน กับชื่อเสียงที่ได้มาจากวิธีการแบบนี้ เลิกใช้ "ฟอร์มหมาแก่" เสียที เชื่อพี่คิงส์ฯ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดมีผู้สูงวัยเยอะมาก
    เรื่องนี้ที่ต้องนำเสนอเพราะแฟนเพจคิงส์ฯสงสัย
    ว่าเพราะเหตุใด วันที่มีการถ่ายทอดการไลฟ์วันที่แฟนคลับ
    ไปต้อนรับจีกามินที่สนามบิน จึงมีผู้สูงวัยเยอะมาก
    ต้องออกตัวก่อน ว่าโพสนี้ไม่มีแขวะ หรือแซะ แต่วิเคราะห์เพื่อเป็นประโยชน์
    และให้เกิดการตระหนักถึงปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบัน
    - วันนี้มีจักรวาล แน๊กชาลี มีจักรวาลจีกามิน ที่แยกฐานแฟนอย่างชัดเจน ซึ่งจะบอกว่า จีกามินไม่หลงเหลือคนที่คลั่งไคล้ หรือรักนางจริงๆแล้วเลย ก็ไม่ยุติธรรมนัก แต่มันก็ไม่ได้มากมายอะไรที่จะกำหนดเทรนนทวิทได้ ตามกลไกของสังคม นอกเสียจากการใช้ระบบบอทในการเจนข้อความตามที่ได้เคยอธิบายวิธีการไปแล้ว และจากที่เห็นคนที่ไปรอรับจีกามิน ก็จะมีความสุขที่ได้เจอคนที่พวกเค้ารอคอย มันก็เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เค้ารัก เค้าหลงของเค้า เราจะไปห้ามก็ไม่ได้ คนเรามันก็ชอบไม่เหมือนกัน
    - ส่วนเรื่องที่สงสัยกันมากว่า ทำไม มีคนสูงอายุเยอะเลย จ้างมาหรือเปล่าอะไรแบบนี้ พี่คิงส์ก็จะพูดเป็นกลางๆครับ ว่าไม่ได้จ้างมา และพี่ก็ไม่ได้มาแก้ต่างแก้ตัวแทน และอยากให้ทุกคนอ่านให้จบ
    - พี่คิงส์ เคยขุดก่อนที่จะมูฟออน และรับรู้ถึงแฟนคลับชั้นลึก หมายถึงในกลุ่มเทพ ห้อง DC ที่ในช่วงแรกๆนั้น เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่รักจีกามิน และชาลี แต่ด้วยชาลีเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการจัดบิ๊กแม๊ต และต้องให้คนไทยด้วยกัน ต้องใช้จ่ายมากมาย ก็ทำให้เกิดความขัดอกขัดใจของผู้ที่เสียประโยชน์ จึงเป็นเหตุให้ ชาลีกลายเป็นคนแปลกหน้า ในสายตาคนในกลุ่ม ซึ่งก็มีป้า จ. ที่เป็นคนที่ออกตัวแรงสุด เพราะป้าเอง ก็มีกำลังใจขึ้นมาจากการฝากใจไว้กับจีกามิน และเหมือนเป็นการบำบัดจิตตัวเองอย่างไม่รู้ตัว จากชอบ เป็นรัก จากรักเป็นคลั่งไคล้ และเทิดทูน อยากให้เป็นนางฟ้าในใจตลอดไป
    - ในกลุ่มนี้ อดีตมีจำนวนถึงห้าพันกว่าคน แต่หลังจากที่จีกามินกลับไปเกาหลี และไม่ติดต่อกับแน๊กชาลี จำนวนสมาชิกที่พร้อมซัพพอตจีกามิน ก็ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน มีจำนวนใกล้จะต่ำกว่าพันไปทุกที
    - พี่คิงส์จึงสืบต่อ และพบว่า จากเมื่อก่อนในจำนวนเริ่มต้นของสมาชิกกลุ่มดีซี ห้าพันกว่าคนนั้น จะเป็นผช.ซัก 80 % ที่เหลือเป็น ผญ. แต่วันนี้เป็นผญ.90% ในจำนวนพันคนนิดๆนี้ และ ป้า จ. ก็เหมือนเป็นจุดเชื่อมใจ ระหว่างคนในห้องกับ จีกามิน โดยจะช่วยกันเชียร์ให้ส่งของขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจให้ยายหนูของเธอ ซึ่งการทำหน้าที่ของป้า จ. ก็จะใช้เวลาไปกับการแสดงออกทางจิตวิทยา ในการห่วงใย เพราะป้าๆที่เป็นเทพดีซี ในปัจจุบันแทบจะ 100% ที่เป็น ผญ. ล้วนผ่านประสบการณ์ชีวิต และครอบครัวที่่ล้มเหลว คนที่เปย์หนักๆบางคน ยอมเปย์ให้จีกามิน แทนที่จะเก็บเงินไว้ในการรักษาตัวจากโรคะที่ร้ายแรง ซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ของป้าเค้านะครับ ก็ได้แค่สงสารแต่ช่วยอะไรไม่ได้ - - ดังนั้น ท่ามกลางภาพของหญิงมีอายุจำนวนมาก ที่มารอรับจีกามิน มันมีเบื้องหลังแห่วงความหดหู่อยู่ไม่น้อย ว่าในประเทศของเรา มีหญิงสูงอายุจำนวนมาก ที่พบความล้มเหลว หรือผ่านความเสียใจ ถึงแม้จะมีเงินมากมายเท่าไหร่ มีธุรกิจใหญ่โต มีทรัพย์มากถึงขนาดที่สามารถเปย์จีกามินได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง แต่กลับไม่พบกับความสุขในชีวิตจริง และยอมเลือก และยอมแลก ทั้งเวลา และทรัพย์สิน เพียงเพื่อได้ชื่นชม ได้เชียร์ ใครซักคนหนึ่ง ที่เป็นตัวละคร พร้อมสตอรี่ที่พาเพ้อฝัน จากป้า จ. ให้ได้มาซึ่งกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป
    - ก็อย่างที่พี่คิงส์บอกจุดยืนของพี่ไปแล้วเมื่อวาน ว่าพี่คิงส์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสาวต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย แต่ที่ทำโพสนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ชายที่ได้มาอ่านโพสนี้ ให้ใส่ใจและดูแลภรรยาของคุณ อย่าให้เธอต้องมีอนาคตที่เป็นหนึ่งในเกมส์แห่งความเศร้านี้ ต้องไปนั่งชม นั่งเชียร์ นั่งเปย์ เสียเวลาทั้งวันทั้งคืน เป็นปีๆ เพียงเพื่อรับเศษความสนใจจากคนที่ไม่เคยรู้จัก เพราะคนที่เปย์ ก็จะได้รับเพียง "ขอบคุณค่า" ขอบคุณมั่กๆ ฉันรักคุณ มันก็แค่นี้จริงๆ ซึ่งตัวแสดงแบบนี้ หรือเหล่านี้ เค้าก็ไม่ได้รู้จักคนเปย์จริง ก็เป็นเพียงแค่เป็นงานที่สร้างรายได้ ก็อย่างที่ให้คำนิยามว่า "เป็นแค่ต่างด้าวมาหากินในไทย" แค่นั้นเอง
    บางที ก็หดหู่นะ แต่ก็ได้แค่รู้สึก เพราะสุดท้าย มันเป็นเงินเค้า เวลาของเค้า ชีวิตของเค้า ที่เค้าควักด้วยความเต็มใจ ถึงบางคนจะอิ๊บอ๋าย หมดเนื้อ หมดตัว มันก็เป็นความอิ๊บอ๋าย ที่อาบด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ดั่งที่เราได้เห็นในภาพป้าๆที่ไปรอต้อนรับนั่นเอง
    #ก็แค่แอบสงสารคนไทยด้วยกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เหตุใดมีผู้สูงวัยเยอะมาก เรื่องนี้ที่ต้องนำเสนอเพราะแฟนเพจคิงส์ฯสงสัย ว่าเพราะเหตุใด วันที่มีการถ่ายทอดการไลฟ์วันที่แฟนคลับ ไปต้อนรับจีกามินที่สนามบิน จึงมีผู้สูงวัยเยอะมาก ต้องออกตัวก่อน ว่าโพสนี้ไม่มีแขวะ หรือแซะ แต่วิเคราะห์เพื่อเป็นประโยชน์ และให้เกิดการตระหนักถึงปัญหาของสังคมไทยในปัจจุบัน - วันนี้มีจักรวาล แน๊กชาลี มีจักรวาลจีกามิน ที่แยกฐานแฟนอย่างชัดเจน ซึ่งจะบอกว่า จีกามินไม่หลงเหลือคนที่คลั่งไคล้ หรือรักนางจริงๆแล้วเลย ก็ไม่ยุติธรรมนัก แต่มันก็ไม่ได้มากมายอะไรที่จะกำหนดเทรนนทวิทได้ ตามกลไกของสังคม นอกเสียจากการใช้ระบบบอทในการเจนข้อความตามที่ได้เคยอธิบายวิธีการไปแล้ว และจากที่เห็นคนที่ไปรอรับจีกามิน ก็จะมีความสุขที่ได้เจอคนที่พวกเค้ารอคอย มันก็เป็นเรื่องของความรู้สึกที่เค้ารัก เค้าหลงของเค้า เราจะไปห้ามก็ไม่ได้ คนเรามันก็ชอบไม่เหมือนกัน - ส่วนเรื่องที่สงสัยกันมากว่า ทำไม มีคนสูงอายุเยอะเลย จ้างมาหรือเปล่าอะไรแบบนี้ พี่คิงส์ก็จะพูดเป็นกลางๆครับ ว่าไม่ได้จ้างมา และพี่ก็ไม่ได้มาแก้ต่างแก้ตัวแทน และอยากให้ทุกคนอ่านให้จบ - พี่คิงส์ เคยขุดก่อนที่จะมูฟออน และรับรู้ถึงแฟนคลับชั้นลึก หมายถึงในกลุ่มเทพ ห้อง DC ที่ในช่วงแรกๆนั้น เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่รักจีกามิน และชาลี แต่ด้วยชาลีเองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการจัดบิ๊กแม๊ต และต้องให้คนไทยด้วยกัน ต้องใช้จ่ายมากมาย ก็ทำให้เกิดความขัดอกขัดใจของผู้ที่เสียประโยชน์ จึงเป็นเหตุให้ ชาลีกลายเป็นคนแปลกหน้า ในสายตาคนในกลุ่ม ซึ่งก็มีป้า จ. ที่เป็นคนที่ออกตัวแรงสุด เพราะป้าเอง ก็มีกำลังใจขึ้นมาจากการฝากใจไว้กับจีกามิน และเหมือนเป็นการบำบัดจิตตัวเองอย่างไม่รู้ตัว จากชอบ เป็นรัก จากรักเป็นคลั่งไคล้ และเทิดทูน อยากให้เป็นนางฟ้าในใจตลอดไป - ในกลุ่มนี้ อดีตมีจำนวนถึงห้าพันกว่าคน แต่หลังจากที่จีกามินกลับไปเกาหลี และไม่ติดต่อกับแน๊กชาลี จำนวนสมาชิกที่พร้อมซัพพอตจีกามิน ก็ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน มีจำนวนใกล้จะต่ำกว่าพันไปทุกที - พี่คิงส์จึงสืบต่อ และพบว่า จากเมื่อก่อนในจำนวนเริ่มต้นของสมาชิกกลุ่มดีซี ห้าพันกว่าคนนั้น จะเป็นผช.ซัก 80 % ที่เหลือเป็น ผญ. แต่วันนี้เป็นผญ.90% ในจำนวนพันคนนิดๆนี้ และ ป้า จ. ก็เหมือนเป็นจุดเชื่อมใจ ระหว่างคนในห้องกับ จีกามิน โดยจะช่วยกันเชียร์ให้ส่งของขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจให้ยายหนูของเธอ ซึ่งการทำหน้าที่ของป้า จ. ก็จะใช้เวลาไปกับการแสดงออกทางจิตวิทยา ในการห่วงใย เพราะป้าๆที่เป็นเทพดีซี ในปัจจุบันแทบจะ 100% ที่เป็น ผญ. ล้วนผ่านประสบการณ์ชีวิต และครอบครัวที่่ล้มเหลว คนที่เปย์หนักๆบางคน ยอมเปย์ให้จีกามิน แทนที่จะเก็บเงินไว้ในการรักษาตัวจากโรคะที่ร้ายแรง ซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ของป้าเค้านะครับ ก็ได้แค่สงสารแต่ช่วยอะไรไม่ได้ - - ดังนั้น ท่ามกลางภาพของหญิงมีอายุจำนวนมาก ที่มารอรับจีกามิน มันมีเบื้องหลังแห่วงความหดหู่อยู่ไม่น้อย ว่าในประเทศของเรา มีหญิงสูงอายุจำนวนมาก ที่พบความล้มเหลว หรือผ่านความเสียใจ ถึงแม้จะมีเงินมากมายเท่าไหร่ มีธุรกิจใหญ่โต มีทรัพย์มากถึงขนาดที่สามารถเปย์จีกามินได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง แต่กลับไม่พบกับความสุขในชีวิตจริง และยอมเลือก และยอมแลก ทั้งเวลา และทรัพย์สิน เพียงเพื่อได้ชื่นชม ได้เชียร์ ใครซักคนหนึ่ง ที่เป็นตัวละคร พร้อมสตอรี่ที่พาเพ้อฝัน จากป้า จ. ให้ได้มาซึ่งกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป - ก็อย่างที่พี่คิงส์บอกจุดยืนของพี่ไปแล้วเมื่อวาน ว่าพี่คิงส์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสาวต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย แต่ที่ทำโพสนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ชายที่ได้มาอ่านโพสนี้ ให้ใส่ใจและดูแลภรรยาของคุณ อย่าให้เธอต้องมีอนาคตที่เป็นหนึ่งในเกมส์แห่งความเศร้านี้ ต้องไปนั่งชม นั่งเชียร์ นั่งเปย์ เสียเวลาทั้งวันทั้งคืน เป็นปีๆ เพียงเพื่อรับเศษความสนใจจากคนที่ไม่เคยรู้จัก เพราะคนที่เปย์ ก็จะได้รับเพียง "ขอบคุณค่า" ขอบคุณมั่กๆ ฉันรักคุณ มันก็แค่นี้จริงๆ ซึ่งตัวแสดงแบบนี้ หรือเหล่านี้ เค้าก็ไม่ได้รู้จักคนเปย์จริง ก็เป็นเพียงแค่เป็นงานที่สร้างรายได้ ก็อย่างที่ให้คำนิยามว่า "เป็นแค่ต่างด้าวมาหากินในไทย" แค่นั้นเอง บางที ก็หดหู่นะ แต่ก็ได้แค่รู้สึก เพราะสุดท้าย มันเป็นเงินเค้า เวลาของเค้า ชีวิตของเค้า ที่เค้าควักด้วยความเต็มใจ ถึงบางคนจะอิ๊บอ๋าย หมดเนื้อ หมดตัว มันก็เป็นความอิ๊บอ๋าย ที่อาบด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ดั่งที่เราได้เห็นในภาพป้าๆที่ไปรอต้อนรับนั่นเอง #ก็แค่แอบสงสารคนไทยด้วยกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 822 มุมมอง 1 รีวิว
  • 05-11-67/01 : หมี CNN / เปิดเช้าด้วย "คุณค่าของความเป็นคน" ยุคทอง ความดีก่อเกิด ศรัทธาเปี่ยมล้น ชูคนดี เหยียดคนชั่ว กลียุค ชูเงินเป็นพระเจ้า รวยคือคำตัดสิน กรณี เจ้าของ LV เข้าตึกตัวเองไม่ได้ เพราะขับรถถูกจอดหน้าตึก จะเดินเข้าถูกรปภ.ไล่ ชี้ชัด คนยุคนี้ ตัดสินด้วยเปลือก! เพราะทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ล้างสมองควายโลก ให้ดูฐานะมาก่อนสิ่งอื่นใด รวยต้องแต่งรวยเสมอไปเหรอ รวยต้องมีคฤหาสน์เหรอ? ใครตัดสิน? เงินกู จะอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง หรือส่วนรวมได้ทั้งนั้น? ดูผิวเผิน อาจจะไม่สาระ แต่มรึงดูความจริง ข้อเท็จจริง ชีวิตประจำวันมรึง แม้แต่ไปสมัครงาน แต่งตัว เครื่องประดับ ทั้งหมดเพื่อการยอมรับ ใช่หรือไม่? ไม่มีใครสนใจว่ามรึงเป็นคนดี หรือเป็นคนเก่ง มีคุณภาพต่อสังคมดอก รู้แค่ว่า มรึงรวย กูจะได้ขอเศษเงินมรึงได้ ก็เท่านั้นเอง? เข้าประเด็น จุดนี้แหละ ที่ไอ้อีไฮโซ ดารา ทุนสีเทา มันใช้ล่อเหยื่อ เพราะคุณค่าที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง" ถามว่า หากมีคนใส่เสื้อผ้าขาด เก่าสกปรก จะเดินเข้าห้างหรู แม้แต่โชว์รูมรถหรู รปภ.มันถูกสั่งอยู่แล้ว ไม่ให้คนจนมาเสนอหน้า มันก็จนเหมือนเค้า แต่เป็นลูกจ้าง ปัญญาให้มาแค่นี้ มรึงจะไปโทษใครได้? แล้วทำไมคนรวยต้องแต่งจน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างเหรอ? คำตอบคือ "สะท้อนสังคม" เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือก่อน คือ ผู้มีอันจะกิน เพราะทุกคนคิดว่า อาจได้สินไหมทดแทนกลับบ้าง จริงเหรอ? ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนน้อยมากจริงๆ คนที่ดูคนที่คุณค่าของคน มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปปลูกฝัง ขนาดพ่อแม่มันเอง ยังเต้นเมื่อเห็นคนรวย เพราะกิเลส ครอบงำ เงินคือทุกอย่าง ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ก็มีมาให้เห็นแล้ว อะไรที่จะหยุดสิ่งนี้ได้ นั่นคือ "สติ" หากคนมีปัญญามากพอ โชว์รูมรถหรู เห็นยาจกเดินเข้ามา หากผู้จัดการฉลาดซักกะนิด คนจนที่ไหนจะกล้าเข้ามาซื้อรถ หากไม่ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" มีเรื่องเล่า ในสวีเดนให้ฟัง กลายเป็นตำนาน เรื่องเล่าขาน ไม่มีใครรู้จริงเท็จอย่างไร เศรษฐีใหญ่เดินเข้าห้างหรู ห้างดังในสต๊อกโฮล์ม ไปดู "แชนเดอเลียร์" โคมไฟสุดหรู ลุงถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายว่า ราคาเท่าไหร่จ๊ะ? คนขายบอก "มันแพงน่ะ" ลุงก็ถามกลับอีกครั้งว่า "ราคาเท่าไหร่จ๊ะ" คนขายตอบ "มันแพงมากน่ะลุง" คราวนี้ ลุงถึงกับใช้ไม้เท้า เหวี่ยงจีแชนเดอเลียร์แตกกระจุยกลางห้าง เสียงดังสนั่นชั้น คนแห่มาดู เกิดอะไรขึ้น? คนขาย "หน้าซีดทันที" ลุงถามว่า "คราวนี้ เธอบอกชั้น(ฉาน)ได้รึยัง ว่าราคาเท่าไหร่?" ไม่มีใครรู้ว่า อีตาลุงคนนี้ คือเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดน นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" แท้จริง! หากลุงไม่ตีแชนเดอเลียร์แตกยับ มรึงจะรู้มั้ยว่า "กูเป็นใคร?" คนรวยจริงไม่โอ้อวด ไม่คุยเยอะ ไอ้ที่ไม่รวย เพิ่งจะมี เพิ่งจะรวยต่างหาก ที่อยาก SHOW OFF มรึงโชว์ไปทำไม? สร้างบารมีเหรอ? งั้นกูให้อีกมุมมองนึงคิด เศรษฐีใหญ่เหมือนกัน เอาข้าว เอาน้ำ ไปแจก สร้างถนน สร้างรพ. สถานีอนามัย เพื่อชุมชนบ้านเกิด ใช้เงินตัวเอง ไม่ต้องเบียดเบียนภาษีรัฐ คนจะจดจำมรึงได้ดีกว่า เอาเงินไปแจก ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เงินมีเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แตกต่างกัน นั่นคือ "คุณค่าในตัวมรึงไงล่ะ" วันนี้ นาทีนี้ มรึงกับกูอยู่ใน กลียุค ความดี เปรียบเหมือยแสงเทียน ที่แม้จะน้อยนิด แต่มันจะสว่างไสวในความมืดทมิฬ มันคือโอกาส และความหวัง ของการดำรงอยู่ หากโลกไม่มีธรรม ไม่มีเมตตา ไม่มีแบ่งปัน มันจะต่างอะไรกับขุมนรก ที่แย่งชิงกันทุกเรื่องเช้าเย็น ทุนนิยมคือดาบ 2 คม เอาเปรียบก็จบเร็ว แบ่งกันกิน ก็อยู่ยาว พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอบอกต่อเลยว่า "โลกยุคอนาคต" เงินไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่อจิตใจถูกชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจนหมดเกลี้ยง ฐานะ ความเหลื่อมล้ำ จะลดลง ไม่ต้องรวย แค่มีกิน ไม่มีหนี้ ทุกคนเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานได้หมด แล้วมรึงยังต้องการอะไรอีก? กิเลส ตัวเดียว ที่กลืนกินโลกทั้งใบได้ สติจะเรียกความเป็นคนในตัวมรึงกลับมา อะไรที่ปู่ย่าตายายสอนมา มันใช้ได้จริง ไม่มีอะไรจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาลได้ดอก ลูกหลานไทยจะเหี้ยกว่านี้มั้ย? สังคมไทยจะฉิบหายกว่านี้มั้ย? มรึงไม่ต้องคิดมาก และกังวลไป ทุกอย่างมีทางออกของมันเอง แค่รอ "ฟ้าเปลี่ยนสี" ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรอย่างที่มรึงไม่คาดคิด เพราะแสงทำงานได้ดีกว่าปาก!

    ปล.หลังข่าวมหาเศรษฐี กลุ่ม ELITE ทั้งหลาย เทหุ้น ถอนการลงทุน ตลาดหุ้นนิวยอร์คระส่ำทันที ดอลล่าร์กำลังจะเน่า ใครถือเยอะ ก็คือเศษกระดาษ แปรรูปสิจ๊ะ ไอ้พวกนกรู้ ELITE สายแดร๊ก ขนเงินหอบไปลงทุนเอเซียกันหมด ธนบัตร BRICS ยังไม่ทันจะออกเลย แม่งเตรียมจองไว้เพี๊ยบ คริปโต ถูกโอนถ่ายแทนเงินสด ไม่มีใครเชื่อมั่นในดอลล่าร์อีกแล้ว เพราะอีนกรู้ มันอ่านขาด มรึงจะเผาดอลล่าร์กันในไม่ช้า ใครที่ยังตามโลกตอแหลอยู่ บาทไทยอ่อน ข้าวไทยทรุด สั้นๆ น่ะ "อีตอแหล" ทองคำใครมี คือความมั่นคง ข้าวปลาใครเยอะ คือความมั่งคั่ง มีแต่เหี้ยนั่นแหละ ที่เอามุกนี้มาหลอกควายเช้าเย็น ใครกำหนดค่าเงินล่ะ? หากมรึงยังผูกดอลล่าร์ มันจะสะกดมรึงให้ 1USD=1000000THB ยังได้เลย มรึงยังจะโง่ต่อมุย? ควายยังอายแทน ใครที่ยังคิดว่าดอลล่าร์มีตัวตนอยู่? ทั้งหมดมันมีแค่ตัวเลข ของจริงไม่มีเหลือ ตัวเลขลอยกลางอากาศ แล้วไอ้โง่หน้าไหนไม่ยู้ ไปยอมรับตัวเลขควายเหล่านั้น จับต้องไม่ได้ ตลาดหุ้นคือตลาดหลอกควาย ปั่นกันไปมา สุดท้าย ก็แค่โยกย้ายกระเป๋าใส่พวก ELITE สติเท่านั้น ที่ทำให้มรึงตื่น และมองเห็นภาพความเป็นจริง ชาติที่ไม่มีวัตถุดิบ ไม่มีเหี้ยอะไรเลย สั่งเค้ามา แล้วขายต่อ มรึงเอาเหี้ยอะไรมากำหนดค่าเงินชาวบ้าน? แต่ก่อนเอาแสนยานุภาพข่มขู่ แต่วันนี้ แม้แต่หมา แมว ยังไม่กลัวมรึงเลย? รอทุกอย่างสะเด็ดน้ำก่อน ไอ้อีขี้ข้าหมารับใช้ยิวทั่วโลก จะกลายร่างเป็นปรสิต เกาะกินนายใหม่เพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น รัสเซีย จีน อ่านขาดหมดแล้ว ดูดเพื่อยุบขั้วเก่า แล้วค่อยเอามาบดทำน้ำยาล้างตรีนภายหลัง? ประเทศกูมี มันมีกรรม และได้ชดใช้กรรมจนเกือบหมดแล้ว จากนี้คือขาขึ้น มุ่งหน้าสู่โคชิเองชัวร์ พุ่งทะยานฟ้า เพราะขั้วใหม่เค้าใจดี วางมรึงเป็นฮับอาเซียน จะรวยกันแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ? แค่ทิ้งเหี้ยคือจบ แค่กำจัดขยะคือรอด เราเดินมาสู่โหมด "ชำระล้าง ฆ่าล้างโคตรเหี้ย กันแล้ว" จงดีใจ อย่ากังวลมากเกินไป ความมั่นคงชาติและแผ่นดิน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ตัวจริงหมดแล้ว เรารอดมาได้ไม่รู้กี่ครั้งเพราะพวกเค้า "ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง" อย่ากลัว พ่อยังอยู่ จะไม่มีอะไรทำร้ายแผ่นดินทองนี้ได้อีก พอเหอะ เลิกพูดเรื่องอีขะแมร์ซะที คนมีสติปัญญา มองเห็นหมดว่า ใครเป็นใคร? กูเคยบอกแล้วชิมิว่า ทหารอีขะแมร์มีหน้าที่จุดไฟแช็ตในตชด.ไทย มรึงยังไม่เข้าใจความหมายอีกเหรอ? พูดให้ชัดคือ "อีขะแมร์เป็นเบ๊ไทย ตั้งแต่อดีตกาล ยันไปถึงโลกอนาคต และจะเป็นเบ๊ไปยันชั่วลูกชั่วหลานของมัน จนกว่าจะถึงการรวมแผ่นดิน" ไบ้เยอะไปแล้วน่ะ แค่เห็นทหารไทย แม่งก็เยี่ยวแตกแล้ว เรียกลวกเพ่ทุกคำ ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ยว่า มันจะบุกมายึดเกาะหมา เกาะแมว เหี้ยอะไรนี่อีก ไอ้ที่มรึงเห็นตามโซเชี่ยล "PROPAGANDA ชั้นประถม ทั้งนั้น" ฝ่ายความมั่นคงขำกลิ้ง ถามกลับ ยังมีควายหลงเชื่ออยู่อีกเหรอ? จบน่ะ อีขะแมร์แค่เบ๊ อย่าไปให้ราคาอะไรมันมาก มรึงจะไปลดตัวทำไม พูดชัดพอรึยัง? สาแก่ใจพอรึยัง?

    หมี CNN(คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน รวยหรือจน อยู่ที่มรึงให้ราคา จะรวยไปเพื่อ จะจนอีกนานไปเพื่อ? รวยยิ่งต้องแบ่ง จนยิ่งต้องขยัน เรื่องไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เปลี่ยนความคิด เรียกสติ พลังงานบวกมาทันที ทำซะน่ะ)
    05 พฤศจิกายน 67
    10.10 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    05-11-67/01 : หมี CNN / เปิดเช้าด้วย "คุณค่าของความเป็นคน" ยุคทอง ความดีก่อเกิด ศรัทธาเปี่ยมล้น ชูคนดี เหยียดคนชั่ว กลียุค ชูเงินเป็นพระเจ้า รวยคือคำตัดสิน กรณี เจ้าของ LV เข้าตึกตัวเองไม่ได้ เพราะขับรถถูกจอดหน้าตึก จะเดินเข้าถูกรปภ.ไล่ ชี้ชัด คนยุคนี้ ตัดสินด้วยเปลือก! เพราะทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ล้างสมองควายโลก ให้ดูฐานะมาก่อนสิ่งอื่นใด รวยต้องแต่งรวยเสมอไปเหรอ รวยต้องมีคฤหาสน์เหรอ? ใครตัดสิน? เงินกู จะอยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง หรือส่วนรวมได้ทั้งนั้น? ดูผิวเผิน อาจจะไม่สาระ แต่มรึงดูความจริง ข้อเท็จจริง ชีวิตประจำวันมรึง แม้แต่ไปสมัครงาน แต่งตัว เครื่องประดับ ทั้งหมดเพื่อการยอมรับ ใช่หรือไม่? ไม่มีใครสนใจว่ามรึงเป็นคนดี หรือเป็นคนเก่ง มีคุณภาพต่อสังคมดอก รู้แค่ว่า มรึงรวย กูจะได้ขอเศษเงินมรึงได้ ก็เท่านั้นเอง? เข้าประเด็น จุดนี้แหละ ที่ไอ้อีไฮโซ ดารา ทุนสีเทา มันใช้ล่อเหยื่อ เพราะคุณค่าที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง" ถามว่า หากมีคนใส่เสื้อผ้าขาด เก่าสกปรก จะเดินเข้าห้างหรู แม้แต่โชว์รูมรถหรู รปภ.มันถูกสั่งอยู่แล้ว ไม่ให้คนจนมาเสนอหน้า มันก็จนเหมือนเค้า แต่เป็นลูกจ้าง ปัญญาให้มาแค่นี้ มรึงจะไปโทษใครได้? แล้วทำไมคนรวยต้องแต่งจน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างเหรอ? คำตอบคือ "สะท้อนสังคม" เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือก่อน คือ ผู้มีอันจะกิน เพราะทุกคนคิดว่า อาจได้สินไหมทดแทนกลับบ้าง จริงเหรอ? ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนน้อยมากจริงๆ คนที่ดูคนที่คุณค่าของคน มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปปลูกฝัง ขนาดพ่อแม่มันเอง ยังเต้นเมื่อเห็นคนรวย เพราะกิเลส ครอบงำ เงินคือทุกอย่าง ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ก็มีมาให้เห็นแล้ว อะไรที่จะหยุดสิ่งนี้ได้ นั่นคือ "สติ" หากคนมีปัญญามากพอ โชว์รูมรถหรู เห็นยาจกเดินเข้ามา หากผู้จัดการฉลาดซักกะนิด คนจนที่ไหนจะกล้าเข้ามาซื้อรถ หากไม่ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" มีเรื่องเล่า ในสวีเดนให้ฟัง กลายเป็นตำนาน เรื่องเล่าขาน ไม่มีใครรู้จริงเท็จอย่างไร เศรษฐีใหญ่เดินเข้าห้างหรู ห้างดังในสต๊อกโฮล์ม ไปดู "แชนเดอเลียร์" โคมไฟสุดหรู ลุงถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายว่า ราคาเท่าไหร่จ๊ะ? คนขายบอก "มันแพงน่ะ" ลุงก็ถามกลับอีกครั้งว่า "ราคาเท่าไหร่จ๊ะ" คนขายตอบ "มันแพงมากน่ะลุง" คราวนี้ ลุงถึงกับใช้ไม้เท้า เหวี่ยงจีแชนเดอเลียร์แตกกระจุยกลางห้าง เสียงดังสนั่นชั้น คนแห่มาดู เกิดอะไรขึ้น? คนขาย "หน้าซีดทันที" ลุงถามว่า "คราวนี้ เธอบอกชั้น(ฉาน)ได้รึยัง ว่าราคาเท่าไหร่?" ไม่มีใครรู้ว่า อีตาลุงคนนี้ คือเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสวีเดน นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" แท้จริง! หากลุงไม่ตีแชนเดอเลียร์แตกยับ มรึงจะรู้มั้ยว่า "กูเป็นใคร?" คนรวยจริงไม่โอ้อวด ไม่คุยเยอะ ไอ้ที่ไม่รวย เพิ่งจะมี เพิ่งจะรวยต่างหาก ที่อยาก SHOW OFF มรึงโชว์ไปทำไม? สร้างบารมีเหรอ? งั้นกูให้อีกมุมมองนึงคิด เศรษฐีใหญ่เหมือนกัน เอาข้าว เอาน้ำ ไปแจก สร้างถนน สร้างรพ. สถานีอนามัย เพื่อชุมชนบ้านเกิด ใช้เงินตัวเอง ไม่ต้องเบียดเบียนภาษีรัฐ คนจะจดจำมรึงได้ดีกว่า เอาเงินไปแจก ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เงินมีเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์แตกต่างกัน นั่นคือ "คุณค่าในตัวมรึงไงล่ะ" วันนี้ นาทีนี้ มรึงกับกูอยู่ใน กลียุค ความดี เปรียบเหมือยแสงเทียน ที่แม้จะน้อยนิด แต่มันจะสว่างไสวในความมืดทมิฬ มันคือโอกาส และความหวัง ของการดำรงอยู่ หากโลกไม่มีธรรม ไม่มีเมตตา ไม่มีแบ่งปัน มันจะต่างอะไรกับขุมนรก ที่แย่งชิงกันทุกเรื่องเช้าเย็น ทุนนิยมคือดาบ 2 คม เอาเปรียบก็จบเร็ว แบ่งกันกิน ก็อยู่ยาว พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอบอกต่อเลยว่า "โลกยุคอนาคต" เงินไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป เมื่อจิตใจถูกชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปจนหมดเกลี้ยง ฐานะ ความเหลื่อมล้ำ จะลดลง ไม่ต้องรวย แค่มีกิน ไม่มีหนี้ ทุกคนเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานได้หมด แล้วมรึงยังต้องการอะไรอีก? กิเลส ตัวเดียว ที่กลืนกินโลกทั้งใบได้ สติจะเรียกความเป็นคนในตัวมรึงกลับมา อะไรที่ปู่ย่าตายายสอนมา มันใช้ได้จริง ไม่มีอะไรจะอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาลได้ดอก ลูกหลานไทยจะเหี้ยกว่านี้มั้ย? สังคมไทยจะฉิบหายกว่านี้มั้ย? มรึงไม่ต้องคิดมาก และกังวลไป ทุกอย่างมีทางออกของมันเอง แค่รอ "ฟ้าเปลี่ยนสี" ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรอย่างที่มรึงไม่คาดคิด เพราะแสงทำงานได้ดีกว่าปาก! ปล.หลังข่าวมหาเศรษฐี กลุ่ม ELITE ทั้งหลาย เทหุ้น ถอนการลงทุน ตลาดหุ้นนิวยอร์คระส่ำทันที ดอลล่าร์กำลังจะเน่า ใครถือเยอะ ก็คือเศษกระดาษ แปรรูปสิจ๊ะ ไอ้พวกนกรู้ ELITE สายแดร๊ก ขนเงินหอบไปลงทุนเอเซียกันหมด ธนบัตร BRICS ยังไม่ทันจะออกเลย แม่งเตรียมจองไว้เพี๊ยบ คริปโต ถูกโอนถ่ายแทนเงินสด ไม่มีใครเชื่อมั่นในดอลล่าร์อีกแล้ว เพราะอีนกรู้ มันอ่านขาด มรึงจะเผาดอลล่าร์กันในไม่ช้า ใครที่ยังตามโลกตอแหลอยู่ บาทไทยอ่อน ข้าวไทยทรุด สั้นๆ น่ะ "อีตอแหล" ทองคำใครมี คือความมั่นคง ข้าวปลาใครเยอะ คือความมั่งคั่ง มีแต่เหี้ยนั่นแหละ ที่เอามุกนี้มาหลอกควายเช้าเย็น ใครกำหนดค่าเงินล่ะ? หากมรึงยังผูกดอลล่าร์ มันจะสะกดมรึงให้ 1USD=1000000THB ยังได้เลย มรึงยังจะโง่ต่อมุย? ควายยังอายแทน ใครที่ยังคิดว่าดอลล่าร์มีตัวตนอยู่? ทั้งหมดมันมีแค่ตัวเลข ของจริงไม่มีเหลือ ตัวเลขลอยกลางอากาศ แล้วไอ้โง่หน้าไหนไม่ยู้ ไปยอมรับตัวเลขควายเหล่านั้น จับต้องไม่ได้ ตลาดหุ้นคือตลาดหลอกควาย ปั่นกันไปมา สุดท้าย ก็แค่โยกย้ายกระเป๋าใส่พวก ELITE สติเท่านั้น ที่ทำให้มรึงตื่น และมองเห็นภาพความเป็นจริง ชาติที่ไม่มีวัตถุดิบ ไม่มีเหี้ยอะไรเลย สั่งเค้ามา แล้วขายต่อ มรึงเอาเหี้ยอะไรมากำหนดค่าเงินชาวบ้าน? แต่ก่อนเอาแสนยานุภาพข่มขู่ แต่วันนี้ แม้แต่หมา แมว ยังไม่กลัวมรึงเลย? รอทุกอย่างสะเด็ดน้ำก่อน ไอ้อีขี้ข้าหมารับใช้ยิวทั่วโลก จะกลายร่างเป็นปรสิต เกาะกินนายใหม่เพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น รัสเซีย จีน อ่านขาดหมดแล้ว ดูดเพื่อยุบขั้วเก่า แล้วค่อยเอามาบดทำน้ำยาล้างตรีนภายหลัง? ประเทศกูมี มันมีกรรม และได้ชดใช้กรรมจนเกือบหมดแล้ว จากนี้คือขาขึ้น มุ่งหน้าสู่โคชิเองชัวร์ พุ่งทะยานฟ้า เพราะขั้วใหม่เค้าใจดี วางมรึงเป็นฮับอาเซียน จะรวยกันแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ? แค่ทิ้งเหี้ยคือจบ แค่กำจัดขยะคือรอด เราเดินมาสู่โหมด "ชำระล้าง ฆ่าล้างโคตรเหี้ย กันแล้ว" จงดีใจ อย่ากังวลมากเกินไป ความมั่นคงชาติและแผ่นดิน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ตัวจริงหมดแล้ว เรารอดมาได้ไม่รู้กี่ครั้งเพราะพวกเค้า "ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง" อย่ากลัว พ่อยังอยู่ จะไม่มีอะไรทำร้ายแผ่นดินทองนี้ได้อีก พอเหอะ เลิกพูดเรื่องอีขะแมร์ซะที คนมีสติปัญญา มองเห็นหมดว่า ใครเป็นใคร? กูเคยบอกแล้วชิมิว่า ทหารอีขะแมร์มีหน้าที่จุดไฟแช็ตในตชด.ไทย มรึงยังไม่เข้าใจความหมายอีกเหรอ? พูดให้ชัดคือ "อีขะแมร์เป็นเบ๊ไทย ตั้งแต่อดีตกาล ยันไปถึงโลกอนาคต และจะเป็นเบ๊ไปยันชั่วลูกชั่วหลานของมัน จนกว่าจะถึงการรวมแผ่นดิน" ไบ้เยอะไปแล้วน่ะ แค่เห็นทหารไทย แม่งก็เยี่ยวแตกแล้ว เรียกลวกเพ่ทุกคำ ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ยว่า มันจะบุกมายึดเกาะหมา เกาะแมว เหี้ยอะไรนี่อีก ไอ้ที่มรึงเห็นตามโซเชี่ยล "PROPAGANDA ชั้นประถม ทั้งนั้น" ฝ่ายความมั่นคงขำกลิ้ง ถามกลับ ยังมีควายหลงเชื่ออยู่อีกเหรอ? จบน่ะ อีขะแมร์แค่เบ๊ อย่าไปให้ราคาอะไรมันมาก มรึงจะไปลดตัวทำไม พูดชัดพอรึยัง? สาแก่ใจพอรึยัง? หมี CNN(คุณค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน รวยหรือจน อยู่ที่มรึงให้ราคา จะรวยไปเพื่อ จะจนอีกนานไปเพื่อ? รวยยิ่งต้องแบ่ง จนยิ่งต้องขยัน เรื่องไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เปลี่ยนความคิด เรียกสติ พลังงานบวกมาทันที ทำซะน่ะ) 05 พฤศจิกายน 67 10.10 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้
    .
    ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง . ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้ . ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง . ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ส่วนตัว ชอบวงคาราวาน&น้าหงาสหายพันตานะ,จริงๆตอนนี้ก็มิทราบว่า อยู่ลัทธิไหนแล้ว.,เพลงแก่บอกเรื่องราวอะไรๆสะท้อนชีวิตได้ดีบนสังคมไทย.
    ..ส่วนตัว ชอบวงคาราวาน&น้าหงาสหายพันตานะ,จริงๆตอนนี้ก็มิทราบว่า อยู่ลัทธิไหนแล้ว.,เพลงแก่บอกเรื่องราวอะไรๆสะท้อนชีวิตได้ดีบนสังคมไทย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • …คุณธรรมพื้นฐาน…
    ความรู้สึกสำนึก
    “ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี”
    ในการกระทำของตน และการแสดงความรับผิดชอบ
    มันเลือนหายไปจากสังคมไทยนานเท่าใดแล้ว บ้านเมืองเราถึงได้ย่ำแย่ลงทุกวัน อย่างสิ้นหวัง
    …คุณธรรมพื้นฐาน… ความรู้สึกสำนึก “ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี” ในการกระทำของตน และการแสดงความรับผิดชอบ มันเลือนหายไปจากสังคมไทยนานเท่าใดแล้ว บ้านเมืองเราถึงได้ย่ำแย่ลงทุกวัน อย่างสิ้นหวัง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย.
    ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง.
    ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย. ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง. ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 254 0 รีวิว
  • 24/10/67

    เด็กสลัมเก่งกว่าเด็กปริญญา … รวม
    มหาเปรียญ 9
    สมควรมอบปริญญา “ดร.”
    ให้มันนะ?
    หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือ เหยื่อของ บอสพอล

    คุณจะแปลกใจไหม ถ้าพบว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่เขามีแผนวางพลอต เหล่านี้ ไว้ทั้งหมดมานานแล้ว

    จากกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นจาก มหากาพย์ ดิ ไอคอน (The iCon) แรกๆทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกิดจากความโลภของคน แต่ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น หลายเรื่อง ผมมองว่าอาจเกิดจากความตั้งใจให้เรื่องมันมาเป็นแบบนี้เอง และให้จบลงแบบนี้ เพียงแต่ว่าวันไหนเท่านั้นเอง เข้าคุกก็ยอมคุกไทยอยู่ไม่นาน ก็ออกมาเสวยสุข ดูตัวอย่างแม่ชม้อยซิ ตอนนี้ออกคุกมา แต่โคตรรวย

    จากประวัติ บอสพอล ที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เราจะพบว่า เขามีประสบการณ์ในวัยเด็ก ที่ขมขื่น อย่างรุนแรง เพราะชีวิตยากจน ในสลัมท่าเรือ โดนคนดูถูก ทำร้ายทางอารมณ์ ทั้งเขากับแม่มาตลอด ถ้าใครเคยฟังเรื่องส้ม ที่เขาเคยอยากกิน และโดนแม่ค้้าด่ากลางตลาด อย่ารุนแรง จนต้องร้องไห้กอดกับแม่ว่า ไม่อยากกินแล้ว และเป็นภาพ psychic trauma บาดแผลทางใจ ที่เป็นจุดพลิกผัน ให้เขาบอกกับตัวเองว่า ชีวิตต้องหลุดจากจุดนี้ให้ได้

    แต่ชีวิตที่เคี่ยวกรำเขาขนาดหนักในวัยเด็ก อาจจะเป็นบ่อเกิด ให้เขามีอาการ ASPD หรือ Antisocial Personality Disorder
    ที่ภาษาไทยเรียกว่า “โรคต่อต้านสังคม” แต่เอาจริงๆก็คือ โกรธสังคมนี้ และ ตามมาด้วย คาแรคเตอร์หลายๆอย่างที่คล้ายๆกับที่เราได้เห็น เช่น

    1 Superficial charm จะเป็นคนมีเสน่ห์ภายนอกอย่างล้นเหลือ ดูเหมือนเป็นมิตร ใครคุยก็ติดใจ สงสารได้แบบง่ายๆ

    2 Lack of emphathy
    แสดงความรู้สึก เพื่อผลประโยชน์ แต่ไม่จริงใจ

    3 Lack of anxiety or stress
    ไม่แสดงอาการตึงเครียด หรือสับสนในสถานการณ์กดดัน

    4 ต้องการการควบคุม หรือครอบงำ คือชอบคอนโทรลคนอื่น จะด้วยวาจา หรือกำลัง หรือน้ำตา คือใช้ได้หมด สามารถไล่ตามความสำเร็จได้ โดยไร้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

    5 ไม่เคารพกฎสังคมหรือกฎหมาย เพราะมองว่าการทำลายกฎเกณฑ์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ หรือท้าทาย

    จริงๆแล้วมีอีกหลายข้อ ที่ผมดูแล้วเขามีครบ บุคคลที่สำคัญในประวิติศาสตร์ ที่นักจิตวิทยาพยายามวิเคราะห์ ว่าเข้าข่ายพวกนี้ ดังๆ ก็เช่น ฮิตเลอร์ คือคิดใหญ่ขนาดจะครองโลก และดันกล่อมคนทั้งประเทศ ไปทำจริงๆ และคนเสือกเชื่อทั้งหมด ด้วยเสน่ห์ทางการพูดและท่าทางของเขา จนโลกพินาศกลายเป็น สงครามโลกครั้งที่สอง โดยไม่จำเป็นอะไรเลย คนปกติ ใครมันจะคิดครองทั้งโลก และทำมันให้ได้จริงๆ ให้คนตายไปหลายสิบล้านคน คนคิดต้องมีความบ้าอยู่อย่างแน่นอน

    คนแบบนี้ มองทุกอย่างเป็นเกม เป็นพล้อตหนัง ที่เขาสร้างขึ้นมาในหัว สร้างอาณาจักร ซับซ้อน พิสดารโดยใช้ความโลภของคนเป็นตัวตั้ง เพื่อจะคอนโทรลผู้คน ผ่านกิเลสตัณหา มีจริตจะร้องไห้เมื่อไหร่ก็ได้ ยิ้มเมื่อไหร่ก็ได้ หัวเราะเมื่อไหร่ก็ได้ ไร้อารมณ์ที่แท้จริง และทุกคนคือเบี้ยในกระดานสำหรับเขา

    ดารา บรรดาบอสทั้งหลาย เป็นเพียงหมากที่เขาชวนมาวางไว้ตามตำแหน่ง เพื่อให้หมากรุกเขาบรรลุเป้าหมาย
    เขารู้ไหมว่า เกมนี้มีวันจบ อ๋อ! รู้แน่นอน ถูกจับเข้าคุก สารภาพเดี๋ยวก็ออกมาใช้เงินสบายๆ และวางหมากไว้แล้ว ว่าจะให้ระเบิดใส่ใครบ้าง ตั้งแต่การเคลียใต้โต๊ะ ที่ผ่านมา เขาอัดเสียงทุกคนไว้หมด ตั้งแต่วันแรก เผลอๆมีภาพวีดีโอ และหลักฐานทั้งหมด แอบฝากขึ้น คลาวด์ไปแล้ว

    ตอนออกรายการโหนกระแส การเอาคลิปเสียงว่า ติดสินบนเจ้าพนักงาน มาเปิดแบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรให้ เขาดีขึ้นเลย นอกจากจะเพิ่มคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ให้อีกกระทง คลิปนี้ใครอัดมา ไม่ใช่นักการเมืองแน่ๆ ก็คุยกันอยู่สองคน จะหลุดได้ไง ถ้าไม่ใช่ ใครจะตั้งใจจะล่อใครสักคน

    ในกองบัญชาการสอบสอนกลาง เจ้าหน้าที่ที่สอบสวนคงเหงื่อออกในห้องแอร์ จากรายชื่อ “เทวดา” ที่เขาทยอยบอกออกมา เทวดาแทบทั่วฟากฟ้า ประเทศไทย อยู่ในมือบอสพอล พร้อมหลักฐาน ที่บอกว่า เจอในโทรศัพท์ นั่นส่วนน้อยที่เขาตั้งใจให้เจอ

    อีกเพียบ จะทยอยเปิดออกมา ที่เขาเซฟไว้ข้างนอก โดยให้คนของเขาส่งผ่านพวกเพจดัง เพราะเขารู้ดีว่าการส่งให้ จนที่.ไปเฉยๆนั้น เทวดาอาจมีฤทธ์ เสกหายลับไปกับสายลม โถ! พวกเพจดัง จะไปเอาคลิปเสียงมาจากไหน บอสพอลทำโทรศัพท์หายที่มาบุญครองเหรอ? เขาตั้งใจรึเปล่าคิดดู

    ถ้าเขาอัดทุกอย่างไว้แต่วันแรก เขาตั้งใจจะล่อให้หมดทุกคนสักวันรึเปล่า อันนี้น่าคิด ไม่งั้นจะอัดเทปไว้หมดทำไม? จริงมั๊ย?

    การบอกกลางรายการโหนกระแสว่า มีหลายหน่วยงาน ที่รับใต้โต๊ะ และบอกชื่อหน่วยงาน มาด้วย แต่พูดเหมือนเป็น สุภาพบุรุษว่า ให้จบที่ผม ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ฟังเหมือนดูดี แต่เอาจริงเข้าคือการเสือกไปแฉ แบบโต้งๆทำไมล่ะ นายกฯฟังอยู่ ไม่สั่งสอบทุกหน่วยงาน ก็ต้องโดน ม.157 แทนแล้ว ละเว้นปฏิบัตรหน้าที่!
    แล้วเดี๋ยวหลักฐานจะค่อยๆทยอยลอยออกมาเอง หนาวกันอีกหลายคน

    เขาได้ประโยชน์อะไรจากการแฉ แบบนี้ บอกว่าทำธุรกิจปกติ ไม่เคยจ่ายใคร รอกระแสซาๆ แล้วให้เทวดาช่วยปัดเป่า ง่ายกว่าไหม แต่นี่ออกมาเชือดเทวดาโชว์ทีละคนๆ ใครจะกล้าช่วยอีก มึงอัดเสียงแน่นอน เขาทำ ทำไม ถ้าไม่ใช่อารมณ์แบบ ASPD

    คนทุกคนที่อยู่ข้างเขา จะไม่มีวันรู้อะไรทุกเรื่อง เขาจะแยกให้รู้เป็นส่วนๆ เป็นเรื่องๆ เหมือนม้าในกระดานหมากรุก แค่รู้ว่าต้องเดินมายันตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าเกมทั้งหมด คืิออะไร จะตายวันไหน ด้วยสาเหตุอะไร พวกหมากในกระดานจะไม่มีวันรู้เลย บอสแซม บอสมิน บอสกัน ก็อาจเป็นแค่เรือ แค่โคน สำหรับเขาเท่านั้น

    หนังเรื่องนี้ สำหรับเขาสนุกมาก เขาใช้ตัวแสดงจริง ดาราระดับแถวหน้าระดับประเทศจริงๆ ตัวประกอบคือคนจริง ติดสินบนเทวดาจริงๆ พร้อบในฉากระดับ พันล้านจริงๆ ขึ้นบิลบอร์ดทั่วประเทศจริงๆ ไม่เคยมีซีรี่ส์ไหนทำได้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ไทย สร้างหนังก็ได้เงินร้อยล้าน

    เงินอีกล็อต เกือบหมื่นล้าน ถูกโอนหายไปในระบบกระเป๋าเงินดิจิตอล โดยที่ จนที่. ช้าไปเพียง 1 ชม. รู้กันหรือเปล่า ในขณะที่ สถานที่ที่ลูกน้องถูกจับนั้น ดันมีระเบิดปลอม ทำเหมือนเด๊ะ พร้อมนาฬิกา ทำให้ จนท EOD ต้องลุยนำทัพเข้าไปกู้ พลอตสนุกยิ่งกว่า vegabond ระเบิดปลอมนี้ ได้ข่าวว่าถูกนำมาวางไว้สองอาทิตย์แล้ว ราวกับมีหมอดูมาบอกว่า ดิไอคอน จะโดนแฉ วันนั้น วันนี้ และ จนท จะเข้ามาจับ เอาระเบิดไปวางถ่วงเวลาไว้ได้ ใครหนอ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแม่นขนาดนี้

    วันนี้สังคมไทยเดือดระอุ ทุกวงการเลือดสาด จนท รัฐ สคบ
    วงการบันเทิง วงการสงฆ์ วงการนักร้อง สื่อทุกสื่อ ฯลฯ ออกมาล่อกันยับ สาวไส้กันอีกเละเทะ อีกนาน ไม่รู้เทวดาอีกกีองค์ จะต้องตกสวรรค์ เมื่อหลักฐานแฉออกมา

    ทุกคน ทุกบอส ทุกแม่ข่าย เครียดลมจับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต่างจากบอสพอล ภาพตัดมา ที่นั่งสมาธิ เย็นใจในที่คุมขัง
    นักข่าวบอกเขาเครียด ผมว่าไม่หรอก เขาเย็นใจที่พล้อตหนังของเขา เดินมาตามบทที่เขาวางไว้ไม่สะดุดเลย ใครมันจะบ้านั่งสมาธิ กลางกรงวันแรกที่ถูกจับ โดยไร้อารมณ์แบบนี้ คนปกติที่ไหน จะทำได้ลงคอ

    มหากาพย์ เรื่องนี้เพิ่งเริ่ม จะมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเป็นเหยื่อสังเวย เทวดาอีกมากมายจะตกสวรรค์ สังคมไทยเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง ในประวัติศาสตร์ไทย ที่เบื้องหลังฟอนเฟะได้ขนาดนี้

    บอสพอล คงอมยิ้มอย่างสะใจ สังคมที่เคยทำร้ายเขาในวัยเด็ก จนเกิด Childhood disrupted. วันนี้ เขากลับมาถล่มทุกวงการคืนอย่างราบคาบแล้ว ถ้าเงิน แปดพันกว่าล้านนั้นคือลอตสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ที่โอนไปแล้วล่วงหน้า คงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่ น่าจะหลายหมื่นล้าน แต่เขารู้ดีว่า ขนาดคดีแม่ชม้อย ติดคุกหลายแสนปี ติดจริงแค่เจ็ดปี อย่างเขาไม่ถึงห้าปี น่าจะออกมาได้แน่นอน

    ตำรวจ: ขอรหัส ดิจิตอล วอลเลต เดี๋ยวนี้
    บอสพอล : ผมจำไม่ได้จริงๆครับ (ร้องห่ม ร้องไห้) พีืไม่เคยลืมรหัสเฟสบุคหรือ ใครๆก็ลืมกัน ตั้ง 16 ตัว

    ในอนาคตอันไม่ไกล วันที่เขาหลุดจากที่คุมขัง ดิไอคอน ภาคแรก จะจบไป และรหัสนี้จะถูกจำได้อีกครั้ง

    เตรียมตัวพบกับ ซี่รี่ภาคสอง กำกับโดยบอสพอล โดยมาในรูปแบบของสถานธรรม อลังกาากว่าภาคแรกอย่างแน่นอน การันตี

    นิทานเรื่องนี้ สนุกไหม
    ขอเชิญนักวิจารณ์ ติชม
    To be continued.
    หมายเหตุ

    บุคลิกภาพต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder – ASPD) เป็นภาวะทางจิตที่ส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ทำให้คนที่มีบุคลิกภาพต่อต้านสังคมมักละเมิดสิทธิ์และความรู้สึกของผู้อื่น ขาดความเห็นอกเห็นใจ และไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้
    24/10/67 เด็กสลัมเก่งกว่าเด็กปริญญา … รวม มหาเปรียญ 9 สมควรมอบปริญญา “ดร.” ให้มันนะ? หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือ เหยื่อของ บอสพอล คุณจะแปลกใจไหม ถ้าพบว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่เขามีแผนวางพลอต เหล่านี้ ไว้ทั้งหมดมานานแล้ว จากกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นจาก มหากาพย์ ดิ ไอคอน (The iCon) แรกๆทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกิดจากความโลภของคน แต่ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น หลายเรื่อง ผมมองว่าอาจเกิดจากความตั้งใจให้เรื่องมันมาเป็นแบบนี้เอง และให้จบลงแบบนี้ เพียงแต่ว่าวันไหนเท่านั้นเอง เข้าคุกก็ยอมคุกไทยอยู่ไม่นาน ก็ออกมาเสวยสุข ดูตัวอย่างแม่ชม้อยซิ ตอนนี้ออกคุกมา แต่โคตรรวย จากประวัติ บอสพอล ที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เราจะพบว่า เขามีประสบการณ์ในวัยเด็ก ที่ขมขื่น อย่างรุนแรง เพราะชีวิตยากจน ในสลัมท่าเรือ โดนคนดูถูก ทำร้ายทางอารมณ์ ทั้งเขากับแม่มาตลอด ถ้าใครเคยฟังเรื่องส้ม ที่เขาเคยอยากกิน และโดนแม่ค้้าด่ากลางตลาด อย่ารุนแรง จนต้องร้องไห้กอดกับแม่ว่า ไม่อยากกินแล้ว และเป็นภาพ psychic trauma บาดแผลทางใจ ที่เป็นจุดพลิกผัน ให้เขาบอกกับตัวเองว่า ชีวิตต้องหลุดจากจุดนี้ให้ได้ แต่ชีวิตที่เคี่ยวกรำเขาขนาดหนักในวัยเด็ก อาจจะเป็นบ่อเกิด ให้เขามีอาการ ASPD หรือ Antisocial Personality Disorder ที่ภาษาไทยเรียกว่า “โรคต่อต้านสังคม” แต่เอาจริงๆก็คือ โกรธสังคมนี้ และ ตามมาด้วย คาแรคเตอร์หลายๆอย่างที่คล้ายๆกับที่เราได้เห็น เช่น 1 Superficial charm จะเป็นคนมีเสน่ห์ภายนอกอย่างล้นเหลือ ดูเหมือนเป็นมิตร ใครคุยก็ติดใจ สงสารได้แบบง่ายๆ 2 Lack of emphathy แสดงความรู้สึก เพื่อผลประโยชน์ แต่ไม่จริงใจ 3 Lack of anxiety or stress ไม่แสดงอาการตึงเครียด หรือสับสนในสถานการณ์กดดัน 4 ต้องการการควบคุม หรือครอบงำ คือชอบคอนโทรลคนอื่น จะด้วยวาจา หรือกำลัง หรือน้ำตา คือใช้ได้หมด สามารถไล่ตามความสำเร็จได้ โดยไร้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 5 ไม่เคารพกฎสังคมหรือกฎหมาย เพราะมองว่าการทำลายกฎเกณฑ์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ หรือท้าทาย จริงๆแล้วมีอีกหลายข้อ ที่ผมดูแล้วเขามีครบ บุคคลที่สำคัญในประวิติศาสตร์ ที่นักจิตวิทยาพยายามวิเคราะห์ ว่าเข้าข่ายพวกนี้ ดังๆ ก็เช่น ฮิตเลอร์ คือคิดใหญ่ขนาดจะครองโลก และดันกล่อมคนทั้งประเทศ ไปทำจริงๆ และคนเสือกเชื่อทั้งหมด ด้วยเสน่ห์ทางการพูดและท่าทางของเขา จนโลกพินาศกลายเป็น สงครามโลกครั้งที่สอง โดยไม่จำเป็นอะไรเลย คนปกติ ใครมันจะคิดครองทั้งโลก และทำมันให้ได้จริงๆ ให้คนตายไปหลายสิบล้านคน คนคิดต้องมีความบ้าอยู่อย่างแน่นอน คนแบบนี้ มองทุกอย่างเป็นเกม เป็นพล้อตหนัง ที่เขาสร้างขึ้นมาในหัว สร้างอาณาจักร ซับซ้อน พิสดารโดยใช้ความโลภของคนเป็นตัวตั้ง เพื่อจะคอนโทรลผู้คน ผ่านกิเลสตัณหา มีจริตจะร้องไห้เมื่อไหร่ก็ได้ ยิ้มเมื่อไหร่ก็ได้ หัวเราะเมื่อไหร่ก็ได้ ไร้อารมณ์ที่แท้จริง และทุกคนคือเบี้ยในกระดานสำหรับเขา ดารา บรรดาบอสทั้งหลาย เป็นเพียงหมากที่เขาชวนมาวางไว้ตามตำแหน่ง เพื่อให้หมากรุกเขาบรรลุเป้าหมาย เขารู้ไหมว่า เกมนี้มีวันจบ อ๋อ! รู้แน่นอน ถูกจับเข้าคุก สารภาพเดี๋ยวก็ออกมาใช้เงินสบายๆ และวางหมากไว้แล้ว ว่าจะให้ระเบิดใส่ใครบ้าง ตั้งแต่การเคลียใต้โต๊ะ ที่ผ่านมา เขาอัดเสียงทุกคนไว้หมด ตั้งแต่วันแรก เผลอๆมีภาพวีดีโอ และหลักฐานทั้งหมด แอบฝากขึ้น คลาวด์ไปแล้ว ตอนออกรายการโหนกระแส การเอาคลิปเสียงว่า ติดสินบนเจ้าพนักงาน มาเปิดแบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรให้ เขาดีขึ้นเลย นอกจากจะเพิ่มคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ให้อีกกระทง คลิปนี้ใครอัดมา ไม่ใช่นักการเมืองแน่ๆ ก็คุยกันอยู่สองคน จะหลุดได้ไง ถ้าไม่ใช่ ใครจะตั้งใจจะล่อใครสักคน ในกองบัญชาการสอบสอนกลาง เจ้าหน้าที่ที่สอบสวนคงเหงื่อออกในห้องแอร์ จากรายชื่อ “เทวดา” ที่เขาทยอยบอกออกมา เทวดาแทบทั่วฟากฟ้า ประเทศไทย อยู่ในมือบอสพอล พร้อมหลักฐาน ที่บอกว่า เจอในโทรศัพท์ นั่นส่วนน้อยที่เขาตั้งใจให้เจอ อีกเพียบ จะทยอยเปิดออกมา ที่เขาเซฟไว้ข้างนอก โดยให้คนของเขาส่งผ่านพวกเพจดัง เพราะเขารู้ดีว่าการส่งให้ จนที่.ไปเฉยๆนั้น เทวดาอาจมีฤทธ์ เสกหายลับไปกับสายลม โถ! พวกเพจดัง จะไปเอาคลิปเสียงมาจากไหน บอสพอลทำโทรศัพท์หายที่มาบุญครองเหรอ? เขาตั้งใจรึเปล่าคิดดู ถ้าเขาอัดทุกอย่างไว้แต่วันแรก เขาตั้งใจจะล่อให้หมดทุกคนสักวันรึเปล่า อันนี้น่าคิด ไม่งั้นจะอัดเทปไว้หมดทำไม? จริงมั๊ย? การบอกกลางรายการโหนกระแสว่า มีหลายหน่วยงาน ที่รับใต้โต๊ะ และบอกชื่อหน่วยงาน มาด้วย แต่พูดเหมือนเป็น สุภาพบุรุษว่า ให้จบที่ผม ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ฟังเหมือนดูดี แต่เอาจริงเข้าคือการเสือกไปแฉ แบบโต้งๆทำไมล่ะ นายกฯฟังอยู่ ไม่สั่งสอบทุกหน่วยงาน ก็ต้องโดน ม.157 แทนแล้ว ละเว้นปฏิบัตรหน้าที่! แล้วเดี๋ยวหลักฐานจะค่อยๆทยอยลอยออกมาเอง หนาวกันอีกหลายคน เขาได้ประโยชน์อะไรจากการแฉ แบบนี้ บอกว่าทำธุรกิจปกติ ไม่เคยจ่ายใคร รอกระแสซาๆ แล้วให้เทวดาช่วยปัดเป่า ง่ายกว่าไหม แต่นี่ออกมาเชือดเทวดาโชว์ทีละคนๆ ใครจะกล้าช่วยอีก มึงอัดเสียงแน่นอน เขาทำ ทำไม ถ้าไม่ใช่อารมณ์แบบ ASPD คนทุกคนที่อยู่ข้างเขา จะไม่มีวันรู้อะไรทุกเรื่อง เขาจะแยกให้รู้เป็นส่วนๆ เป็นเรื่องๆ เหมือนม้าในกระดานหมากรุก แค่รู้ว่าต้องเดินมายันตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าเกมทั้งหมด คืิออะไร จะตายวันไหน ด้วยสาเหตุอะไร พวกหมากในกระดานจะไม่มีวันรู้เลย บอสแซม บอสมิน บอสกัน ก็อาจเป็นแค่เรือ แค่โคน สำหรับเขาเท่านั้น หนังเรื่องนี้ สำหรับเขาสนุกมาก เขาใช้ตัวแสดงจริง ดาราระดับแถวหน้าระดับประเทศจริงๆ ตัวประกอบคือคนจริง ติดสินบนเทวดาจริงๆ พร้อบในฉากระดับ พันล้านจริงๆ ขึ้นบิลบอร์ดทั่วประเทศจริงๆ ไม่เคยมีซีรี่ส์ไหนทำได้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ไทย สร้างหนังก็ได้เงินร้อยล้าน เงินอีกล็อต เกือบหมื่นล้าน ถูกโอนหายไปในระบบกระเป๋าเงินดิจิตอล โดยที่ จนที่. ช้าไปเพียง 1 ชม. รู้กันหรือเปล่า ในขณะที่ สถานที่ที่ลูกน้องถูกจับนั้น ดันมีระเบิดปลอม ทำเหมือนเด๊ะ พร้อมนาฬิกา ทำให้ จนท EOD ต้องลุยนำทัพเข้าไปกู้ พลอตสนุกยิ่งกว่า vegabond ระเบิดปลอมนี้ ได้ข่าวว่าถูกนำมาวางไว้สองอาทิตย์แล้ว ราวกับมีหมอดูมาบอกว่า ดิไอคอน จะโดนแฉ วันนั้น วันนี้ และ จนท จะเข้ามาจับ เอาระเบิดไปวางถ่วงเวลาไว้ได้ ใครหนอ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแม่นขนาดนี้ วันนี้สังคมไทยเดือดระอุ ทุกวงการเลือดสาด จนท รัฐ สคบ วงการบันเทิง วงการสงฆ์ วงการนักร้อง สื่อทุกสื่อ ฯลฯ ออกมาล่อกันยับ สาวไส้กันอีกเละเทะ อีกนาน ไม่รู้เทวดาอีกกีองค์ จะต้องตกสวรรค์ เมื่อหลักฐานแฉออกมา ทุกคน ทุกบอส ทุกแม่ข่าย เครียดลมจับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต่างจากบอสพอล ภาพตัดมา ที่นั่งสมาธิ เย็นใจในที่คุมขัง นักข่าวบอกเขาเครียด ผมว่าไม่หรอก เขาเย็นใจที่พล้อตหนังของเขา เดินมาตามบทที่เขาวางไว้ไม่สะดุดเลย ใครมันจะบ้านั่งสมาธิ กลางกรงวันแรกที่ถูกจับ โดยไร้อารมณ์แบบนี้ คนปกติที่ไหน จะทำได้ลงคอ มหากาพย์ เรื่องนี้เพิ่งเริ่ม จะมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเป็นเหยื่อสังเวย เทวดาอีกมากมายจะตกสวรรค์ สังคมไทยเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง ในประวัติศาสตร์ไทย ที่เบื้องหลังฟอนเฟะได้ขนาดนี้ บอสพอล คงอมยิ้มอย่างสะใจ สังคมที่เคยทำร้ายเขาในวัยเด็ก จนเกิด Childhood disrupted. วันนี้ เขากลับมาถล่มทุกวงการคืนอย่างราบคาบแล้ว ถ้าเงิน แปดพันกว่าล้านนั้นคือลอตสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ที่โอนไปแล้วล่วงหน้า คงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่ น่าจะหลายหมื่นล้าน แต่เขารู้ดีว่า ขนาดคดีแม่ชม้อย ติดคุกหลายแสนปี ติดจริงแค่เจ็ดปี อย่างเขาไม่ถึงห้าปี น่าจะออกมาได้แน่นอน ตำรวจ: ขอรหัส ดิจิตอล วอลเลต เดี๋ยวนี้ บอสพอล : ผมจำไม่ได้จริงๆครับ (ร้องห่ม ร้องไห้) พีืไม่เคยลืมรหัสเฟสบุคหรือ ใครๆก็ลืมกัน ตั้ง 16 ตัว ในอนาคตอันไม่ไกล วันที่เขาหลุดจากที่คุมขัง ดิไอคอน ภาคแรก จะจบไป และรหัสนี้จะถูกจำได้อีกครั้ง เตรียมตัวพบกับ ซี่รี่ภาคสอง กำกับโดยบอสพอล โดยมาในรูปแบบของสถานธรรม อลังกาากว่าภาคแรกอย่างแน่นอน การันตี นิทานเรื่องนี้ สนุกไหม ขอเชิญนักวิจารณ์ ติชม To be continued. หมายเหตุ บุคลิกภาพต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder – ASPD) เป็นภาวะทางจิตที่ส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ทำให้คนที่มีบุคลิกภาพต่อต้านสังคมมักละเมิดสิทธิ์และความรู้สึกของผู้อื่น ขาดความเห็นอกเห็นใจ และไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anit Osathanugrah

    “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือเหยื่อของ บอสพอล ตอน2‼️

    วันนี้ ถึงแม้ตัวบอสพอล จะถูกนำไปอยู่ในที่คุมขังแล้ว แต่ผลงานของเขาที่วางทิ้งเอาไว้ ก็เริ่มทยอยออกมาระเบิดใส่ ผู้คนและเทวดาต่างๆไม่หยุดหย่อน หลายคนชอบวิเคราะห์ว่า เกมนี้ไม่มีอะไรหรอก บอสพอลแค่คนโลภ และพอจ่ายใต้โต๊ะใคร ก็แค่อัดเสียงไว้ เผื้อไว้แบลคเมล์ในวันหลัง อันนี้อาจจะเป็นการมองที่ตื้นเขินเกินไป

    จากข้อมูลที่ทยอยออกมาเรื่อยๆรายวัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการแฉโชว์ วันละคน ทั้งๆที่ตัวเขา เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว เขาทำได้อย่างไร ถ้าไม่ตระเตรียมเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน วันนี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า ทุกครั้งที่เขาเจรจากับใคร เขาจะอัดเสียง และเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ผ่านอุปกรณ์ it ล้ำๆต่างๆ ซุกไว้ในทีืคาดผม กางเกงชั้นใน เผลอๆพวกกล้องกระดุม กล้องรูเข็ม หรืออะไรที่คนธรรมดานึกไม่ถึง รับรองเขามีหมด คนทำธุรกิจปกติ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้หรือ

    วันนี้ ทุกที่ที่เขาจ่ายเงินไป จะมีข่าวเส้นทางการเงินเหล่านี้หลุดออกมา ทำบุญให้พระ แต่ไม่ได้เข้า บัญชีวัด เรื่องนึ้ทาง จนท จะทำอย่างไร คลิปเสียงนักร้อง รีดไถ และให้จ่ายผ่านมูลนิธิ ถ้าเรื่องเป็นตามนั้นจริง DSI ก็ต้องตามไปสอบมูลนิธินัินต่อ และรับประกันว่า ถ้่าเปิดทุกเส้นทางการเงินของมูลนิธินั้น คงไม่ใช่ของ บอสพอล คนเดียว ครั้งเดียวแน่ ที่ใช้มูลนิธิเป็นที่ฟอกเงิน จะเจอ อีกมากมายมหาศาล ทั้งบริษัทหรือนักการเมือง ที่แอบฟอกเงินผ่านการทำบุญ และจะเกิดโดมิโน แอฟเฟค ขึ้นในสังคมให้ตรวจสอบทุกมูลนิธิหรือไม่
    ซึ่งถ้าตรวจกันขึ้นมาจริงๆ คุกไทยอาจไม่พอขังคน
    และนี่คือระเบิดลูกแรกที่เขาวางเอาไว้

    สิ่งที่เราต้องคิดให้แตก อีกเรื่องคือ เขาวางแผนตั้งใจแฉเรื่องนี้ ชำแหละเบื้องหลัง สังคมไทยแบบนี้ หรือแค่บังเอิญแอบอัดไว้ แล้ววันนี้โดนจับ ก็เลย คิดง่ายๆแบบเด็กประถมลอกข้อสอบ แล้วพอครูจับได้ ก็เลยตีโพยตีพาย ฟ้องว่าเพื่อนๆก็ลอกเหมือนกัน บางคนก็บอกว่าไหนๆจะตายแล้ว ก็เลยลากคนมาตายหมู่ด้วยกัน เอาสะใจเฉยๆ
    คุณคิดว่าคนที่หาเงินได้หลายหมื่นล้าน ในเวลาไม่กี่ปี ผ่านผู้คนหลายแสนคน และระบบอันซับซ้อน เขาคิดได้แค่นี้เหรอ
    คนทำผิด ปกติ พอถูกจับ จะพยายามทำให้เรื่องเงียบไวๆที่สุด เพราะรู้ดีว่าสังคมไทยลืมง่าย อย่าง Forex 3 D ถามจริงๆ ว่ามีใครสนใจอีกไหม แค่เห็นดาราติดคุก ก็สะใจและแยกย้ายกันไปหาเรื่องอืืนมาดราม่าต่อแล้ว…ก็คนไืทย

    สิ่งที่บอสพอลควรทำ คือ ไม่พูดอะไร แค่บอกตัวเองบริสุทธ์ขอพิสูจน์ในชัินศาล ทำหน้าเศร้าเดินเข้าซังเตไป ไม่กี่เดือนคนไทยก็ลืมแล้ว และหลังจากนัิน ก็ใช้อำนาจเงินที่มีนับหมื่นล้าน เล็งเทวดา ฤทธ์ ระดับ องค์อินทร์ เจ้าสววรค์สักสององค์ ให้เคลียร์ให้ หัวหมูสักพันล้าน รับรองสำนวนคดีเบาหวิว เป็นปุยนุ่น ไม่นานก็ออกมาเดินเฉิดฉาย แต่นี่เล่นแฉ เล่นเชือดโชว์ทีละคน รายวัน วันนี้และวันหน้า ใครจะกล้ารับหน้าเสื่อเคลียร์ให้เขา โดนกล้องแอบอัดไว้คุกแน่นอน สิ่งที่เขาทำทั้งหมด วันนีิ คือทำให้ตัวเขาเดือดร้อน ซวยหนัก มากขึ้นในวันหน้า
    แต่เขาก็ทำ

    หลายคนบอก ไม่สะใจ เทวดาที่แฉมา ไฉนตัวเล็กราวกับลูกกรอก ยังหรอก นี่แค่น้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อย ยังมีอีกมากมายมหาศาล ที่เขาจะทยอยปล่อยออกมา พูดตามตรง สำหรับบอสพอลนัิน ข้าราชการระดับ รองเลขา หรือรอง ผอ นั้น ไม่ได้ถือเป็นเทวดาสำหรับเขาเลย คอนเนคชั่นของคนมีเงินหมื่นล้านอย่างเขา คุยกับ สส หรือรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแค่หนึ่งในบอส ของไอคอน เช่นพี่แซม นี่ก็ สส เก่า ระดับที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ถ้าเขาจะไหว้วานให้ยกหู หาเพื่อนสส หรือ รมต คนไหน พรรคไหน รับรองทำได้ทุกนาที
    แต่เขาเลือกจะเอาเงินไปเคลียร์ เทวดาลูกกรอก และอัดเสียงไว้แทน

    อำนาจเงินขนาดเขา ถ้าเอาไปสนับสนุนพรรคการเมืองระดับกลางๆ สัก 500-1000 ล้าน แทนที่จะไปซื้อรถสปอร์ตหลากสีเหมือนลูกกวาด นาฬิกาบ้าบอหลายร้อยล้าน รับรองป่านนี้มี นอมินี เป็น รมต ไปแล้วไม่รู้กี่คน แต่เขาไม่ทำ เลือกเดินทางอัดเสียง เก็บหลักฐาน เพื่อแฉ ทุกคนแทน ทำไปทำไม

    อีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าคิดที่สุด ในการที่จะบอกว่า เขาตั้งใจแฉ เอาคืนสังคมในวันนีิ แทนที่จะหนีไปใช้ชีวิตเสพสุข ทั้งๆที่จะทำก็ทำได้ ก็คือ วันที่เรื่องราวของไอคอน ระเบิดออกมาตามสื่อต่างๆ ผู้เสียหายโผล่มาเป็นดอกเห็ด ทีมทนาย อเวนเจอร์ ยกพล ออกทีวี แผลงฤทธ์ กันวุ่นวาย จนท ตำรวจถึงกับคำรามออกทีวี ว่า หมายจับจะออกภายใน 48 ชม คนทั่วประเทศออกมาโวยวายว่า พูดเหมือนจะส่งสัญญาณ บอกเขาว่าจะหนีให้รีบหนี

    วันนั้น บอสพอล มีทางเลือกสองทาง

    1 ซื้อตั๋วเครื่องบิน เฟิสคลาส ไปประเทศใดก็ได้ และเสพสุขผ่านเงินหลักหมื่นล้าน ที่เก็บไว้ในดิจิตอล วอลเลท ใช้ชีวิตสุขสบายที่ไหนก็ได้ในโลก จนคดีหมดอายุความ และค่อยกลับ ประเทศไทย เหมือนนักการเมือง พ่อมดการเงินทั้งหลาย รุ่นพี่ที่ทำกัน หรือออกช่องทางธรรมชาติใดก็ได้ วันนั้นเขายังไม่มีหมายจับ

    2 ไปรายการโหนกระแส ให้พี่หนุ่มขยี้ิออกทีวี รู้ทั้งรู้ว่า ไม่ได้ช่วยให้คดีอะไรเบาลงได้เลย และก็รอหมายจับออกมาเพื่อจะได้โดนรวบตัวเหมือนวันนี้ เข้าซังเต

    ทุกคนในประวัติศาสตร์ไทย เลือกหนีไปเสพสุข รึไม่จริง
    แต่บอสพอล เลือกทางที่สอง ไปออกรายการร้องห่มร้องไห้ ในโหนกระแส แต่จุดประสงค์จริงๆไม่ใช่ไปฟอกตัว แต่คือไปแฉดึงเทวดาลงนรกแทน และ จุดชนวนเรื่องนี้ขึ้นมา และก็สมใจเขาโดยพลัน

    วันนี้สังคมไทย ถูกเปิดแผลขึ้นมาเละเทะ ทุกวงการ ล่าแม่มดกันอย่างเมามัน จากฝีมือและหลักฐานของเขา ไม่พ้นกระทั่งวงการสงฆ์ รายการทีวี พิธีกรทีวี รุ่นเก๋า และอีกมากมายมหาศาล ที่กำลังรอถูกเปิดแผล ผ่านคลิปเสียงนับร้อยพัน ในมือของเขา ทุกคนที่เคยพูดคุยกับเขา ถึงกับต้องกลับมานั่งตรึกตรองคิด ว่าเคยพูดอะไรผิดไปไหม ถ้ามี น่าจะใกล้ถึงคิวโดนแฉ เป็นรายต่อไปแน่ๆ

    มหากาพย์เรื่องนี้ ยังอีกยาวไกล ถึงตัวบอสพอล จะอยู่ในที่คุมขัง แต่หมากที่เขาวางทิ้งเอาไว้ ผ่านผู้คน ผ่านหนอน ที่มีมากมายของเขา กำลังจะแผลงฤทธ์ ออกมาเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะไปสุดที่ใด จะเปลี่ยนสังคมไทย ในระดับโครงสร้างได้เลยรึไม่ โปรดติดตามชม

    บอสพอล เจ้าช่างอำมหิตจริงๆ

    To be continued.”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/MhAK17zppYH4p8oe/?mibextid=WC7FNe

    #Thaitimes
    รีโพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anit Osathanugrah “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือเหยื่อของ บอสพอล ตอน2‼️ วันนี้ ถึงแม้ตัวบอสพอล จะถูกนำไปอยู่ในที่คุมขังแล้ว แต่ผลงานของเขาที่วางทิ้งเอาไว้ ก็เริ่มทยอยออกมาระเบิดใส่ ผู้คนและเทวดาต่างๆไม่หยุดหย่อน หลายคนชอบวิเคราะห์ว่า เกมนี้ไม่มีอะไรหรอก บอสพอลแค่คนโลภ และพอจ่ายใต้โต๊ะใคร ก็แค่อัดเสียงไว้ เผื้อไว้แบลคเมล์ในวันหลัง อันนี้อาจจะเป็นการมองที่ตื้นเขินเกินไป จากข้อมูลที่ทยอยออกมาเรื่อยๆรายวัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการแฉโชว์ วันละคน ทั้งๆที่ตัวเขา เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว เขาทำได้อย่างไร ถ้าไม่ตระเตรียมเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน วันนี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า ทุกครั้งที่เขาเจรจากับใคร เขาจะอัดเสียง และเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ผ่านอุปกรณ์ it ล้ำๆต่างๆ ซุกไว้ในทีืคาดผม กางเกงชั้นใน เผลอๆพวกกล้องกระดุม กล้องรูเข็ม หรืออะไรที่คนธรรมดานึกไม่ถึง รับรองเขามีหมด คนทำธุรกิจปกติ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้หรือ วันนี้ ทุกที่ที่เขาจ่ายเงินไป จะมีข่าวเส้นทางการเงินเหล่านี้หลุดออกมา ทำบุญให้พระ แต่ไม่ได้เข้า บัญชีวัด เรื่องนึ้ทาง จนท จะทำอย่างไร คลิปเสียงนักร้อง รีดไถ และให้จ่ายผ่านมูลนิธิ ถ้าเรื่องเป็นตามนั้นจริง DSI ก็ต้องตามไปสอบมูลนิธินัินต่อ และรับประกันว่า ถ้่าเปิดทุกเส้นทางการเงินของมูลนิธินั้น คงไม่ใช่ของ บอสพอล คนเดียว ครั้งเดียวแน่ ที่ใช้มูลนิธิเป็นที่ฟอกเงิน จะเจอ อีกมากมายมหาศาล ทั้งบริษัทหรือนักการเมือง ที่แอบฟอกเงินผ่านการทำบุญ และจะเกิดโดมิโน แอฟเฟค ขึ้นในสังคมให้ตรวจสอบทุกมูลนิธิหรือไม่ ซึ่งถ้าตรวจกันขึ้นมาจริงๆ คุกไทยอาจไม่พอขังคน และนี่คือระเบิดลูกแรกที่เขาวางเอาไว้ สิ่งที่เราต้องคิดให้แตก อีกเรื่องคือ เขาวางแผนตั้งใจแฉเรื่องนี้ ชำแหละเบื้องหลัง สังคมไทยแบบนี้ หรือแค่บังเอิญแอบอัดไว้ แล้ววันนี้โดนจับ ก็เลย คิดง่ายๆแบบเด็กประถมลอกข้อสอบ แล้วพอครูจับได้ ก็เลยตีโพยตีพาย ฟ้องว่าเพื่อนๆก็ลอกเหมือนกัน บางคนก็บอกว่าไหนๆจะตายแล้ว ก็เลยลากคนมาตายหมู่ด้วยกัน เอาสะใจเฉยๆ คุณคิดว่าคนที่หาเงินได้หลายหมื่นล้าน ในเวลาไม่กี่ปี ผ่านผู้คนหลายแสนคน และระบบอันซับซ้อน เขาคิดได้แค่นี้เหรอ คนทำผิด ปกติ พอถูกจับ จะพยายามทำให้เรื่องเงียบไวๆที่สุด เพราะรู้ดีว่าสังคมไทยลืมง่าย อย่าง Forex 3 D ถามจริงๆ ว่ามีใครสนใจอีกไหม แค่เห็นดาราติดคุก ก็สะใจและแยกย้ายกันไปหาเรื่องอืืนมาดราม่าต่อแล้ว…ก็คนไืทย สิ่งที่บอสพอลควรทำ คือ ไม่พูดอะไร แค่บอกตัวเองบริสุทธ์ขอพิสูจน์ในชัินศาล ทำหน้าเศร้าเดินเข้าซังเตไป ไม่กี่เดือนคนไทยก็ลืมแล้ว และหลังจากนัิน ก็ใช้อำนาจเงินที่มีนับหมื่นล้าน เล็งเทวดา ฤทธ์ ระดับ องค์อินทร์ เจ้าสววรค์สักสององค์ ให้เคลียร์ให้ หัวหมูสักพันล้าน รับรองสำนวนคดีเบาหวิว เป็นปุยนุ่น ไม่นานก็ออกมาเดินเฉิดฉาย แต่นี่เล่นแฉ เล่นเชือดโชว์ทีละคน รายวัน วันนี้และวันหน้า ใครจะกล้ารับหน้าเสื่อเคลียร์ให้เขา โดนกล้องแอบอัดไว้คุกแน่นอน สิ่งที่เขาทำทั้งหมด วันนีิ คือทำให้ตัวเขาเดือดร้อน ซวยหนัก มากขึ้นในวันหน้า แต่เขาก็ทำ หลายคนบอก ไม่สะใจ เทวดาที่แฉมา ไฉนตัวเล็กราวกับลูกกรอก ยังหรอก นี่แค่น้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อย ยังมีอีกมากมายมหาศาล ที่เขาจะทยอยปล่อยออกมา พูดตามตรง สำหรับบอสพอลนัิน ข้าราชการระดับ รองเลขา หรือรอง ผอ นั้น ไม่ได้ถือเป็นเทวดาสำหรับเขาเลย คอนเนคชั่นของคนมีเงินหมื่นล้านอย่างเขา คุยกับ สส หรือรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแค่หนึ่งในบอส ของไอคอน เช่นพี่แซม นี่ก็ สส เก่า ระดับที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ถ้าเขาจะไหว้วานให้ยกหู หาเพื่อนสส หรือ รมต คนไหน พรรคไหน รับรองทำได้ทุกนาที แต่เขาเลือกจะเอาเงินไปเคลียร์ เทวดาลูกกรอก และอัดเสียงไว้แทน อำนาจเงินขนาดเขา ถ้าเอาไปสนับสนุนพรรคการเมืองระดับกลางๆ สัก 500-1000 ล้าน แทนที่จะไปซื้อรถสปอร์ตหลากสีเหมือนลูกกวาด นาฬิกาบ้าบอหลายร้อยล้าน รับรองป่านนี้มี นอมินี เป็น รมต ไปแล้วไม่รู้กี่คน แต่เขาไม่ทำ เลือกเดินทางอัดเสียง เก็บหลักฐาน เพื่อแฉ ทุกคนแทน ทำไปทำไม อีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าคิดที่สุด ในการที่จะบอกว่า เขาตั้งใจแฉ เอาคืนสังคมในวันนีิ แทนที่จะหนีไปใช้ชีวิตเสพสุข ทั้งๆที่จะทำก็ทำได้ ก็คือ วันที่เรื่องราวของไอคอน ระเบิดออกมาตามสื่อต่างๆ ผู้เสียหายโผล่มาเป็นดอกเห็ด ทีมทนาย อเวนเจอร์ ยกพล ออกทีวี แผลงฤทธ์ กันวุ่นวาย จนท ตำรวจถึงกับคำรามออกทีวี ว่า หมายจับจะออกภายใน 48 ชม คนทั่วประเทศออกมาโวยวายว่า พูดเหมือนจะส่งสัญญาณ บอกเขาว่าจะหนีให้รีบหนี วันนั้น บอสพอล มีทางเลือกสองทาง 1 ซื้อตั๋วเครื่องบิน เฟิสคลาส ไปประเทศใดก็ได้ และเสพสุขผ่านเงินหลักหมื่นล้าน ที่เก็บไว้ในดิจิตอล วอลเลท ใช้ชีวิตสุขสบายที่ไหนก็ได้ในโลก จนคดีหมดอายุความ และค่อยกลับ ประเทศไทย เหมือนนักการเมือง พ่อมดการเงินทั้งหลาย รุ่นพี่ที่ทำกัน หรือออกช่องทางธรรมชาติใดก็ได้ วันนั้นเขายังไม่มีหมายจับ 2 ไปรายการโหนกระแส ให้พี่หนุ่มขยี้ิออกทีวี รู้ทั้งรู้ว่า ไม่ได้ช่วยให้คดีอะไรเบาลงได้เลย และก็รอหมายจับออกมาเพื่อจะได้โดนรวบตัวเหมือนวันนี้ เข้าซังเต ทุกคนในประวัติศาสตร์ไทย เลือกหนีไปเสพสุข รึไม่จริง แต่บอสพอล เลือกทางที่สอง ไปออกรายการร้องห่มร้องไห้ ในโหนกระแส แต่จุดประสงค์จริงๆไม่ใช่ไปฟอกตัว แต่คือไปแฉดึงเทวดาลงนรกแทน และ จุดชนวนเรื่องนี้ขึ้นมา และก็สมใจเขาโดยพลัน วันนี้สังคมไทย ถูกเปิดแผลขึ้นมาเละเทะ ทุกวงการ ล่าแม่มดกันอย่างเมามัน จากฝีมือและหลักฐานของเขา ไม่พ้นกระทั่งวงการสงฆ์ รายการทีวี พิธีกรทีวี รุ่นเก๋า และอีกมากมายมหาศาล ที่กำลังรอถูกเปิดแผล ผ่านคลิปเสียงนับร้อยพัน ในมือของเขา ทุกคนที่เคยพูดคุยกับเขา ถึงกับต้องกลับมานั่งตรึกตรองคิด ว่าเคยพูดอะไรผิดไปไหม ถ้ามี น่าจะใกล้ถึงคิวโดนแฉ เป็นรายต่อไปแน่ๆ มหากาพย์เรื่องนี้ ยังอีกยาวไกล ถึงตัวบอสพอล จะอยู่ในที่คุมขัง แต่หมากที่เขาวางทิ้งเอาไว้ ผ่านผู้คน ผ่านหนอน ที่มีมากมายของเขา กำลังจะแผลงฤทธ์ ออกมาเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะไปสุดที่ใด จะเปลี่ยนสังคมไทย ในระดับโครงสร้างได้เลยรึไม่ โปรดติดตามชม บอสพอล เจ้าช่างอำมหิตจริงๆ To be continued.” ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/MhAK17zppYH4p8oe/?mibextid=WC7FNe #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน...

    แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์

    120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...

    โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร...

    และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล...

    แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ...

    การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา.

    https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/

    #Thaitimes
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน... แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย... โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร... และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล... แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ... การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา. https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    ศูนย์รวมจิตใจในยาม 'วิกฤต'
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเรื่องมหากาพย์ ดิ ไอคอน ที่เพิ่งเริ่มขึ้นมานั้น ทำให้เห็นปรากฎการณ์ ที่เหลือเชื่อหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย อย่างแรกคือ มาตราฐาน มายเซท ของคนไทยนั้นยัง ล้าหลังแบบไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชม คนที่อวดรวย แบบสะเหร่อๆ เอาเงินเป็นปึก มากองๆไว้ อวดนาฬิกาเรือนละหลายสิบล้าน แบบโต้งๆ คอตเทนท์เหล่านี้ คนจะแห่มาตามเยอะมาก และไม่เข้าใจว่าจะไปตาม เป็น FC คนที่ทำอะไรแบบนี้ทำไม ตรรกกะคนไทย ทำไมตื้นเขินขนาดนี้ ใครทำบุญออกกล้องเยอะๆ คือคนดี ใครโชว์เงินโชว์ทอง
    เฮ้าเลี่ยน มากๆคือคนประสบความสำเร็จ คิดกันได้แค่นี้
    จะเป็นลม

    เรื่องสองคือ คนไทยยังพยายามหาธุรกิจ ที่เป็น passive income นั่งเฉยๆ แล้วเงินงอก ลงหมืืนได้แสน ลงแสนได้ล้าน
    มหาลัย ไม่เคยสอนเหรอ ว่ามันไม่มีจริง ถ้ามันจริงเขาจะมาชวนมึงทำไม ทำเองรวยเองเงียบๆดิเห้ย Passive income จริงๆ มันมีแค่ เป็นเจ้าของที่ให้เขาเช่า 20-30 ปี อันนี้แหละ passive แน่ๆ หรือสัมปทานจากภาครัฐ พวกโรงไฟฟ้า อะไรที่คนอย่างเราๆท่านๆเอื้อมไม่ถึง นั่นแหละ ถึงจะจริง ที่เหลือ โกหกทั้งเพ

    เรื่องสาม คนไทย ยังโลภ แบบไม่ดูตาม้า ตาเรือ เห็นที่สัมภาษณ์กันคือ เห็นดาราแล้วเชื่อเลย ลงเงินเลยไม่ตรวจอะไรก่อน เอาจริงดิ ทำไมแยกหนังละคร กับชีวิตจริงไม่ออกกันเลยเหรอ ใครเล่นหนังดี ตีบทแตก คนนัินคือคนดีงั้นเหรอ
    เชี่ยยยย ไม่อยากจะเชื่อเลย

    หรือเราควรออกกฎหมายแบบ ประเทศจีน คือ ใครอวดรวยเว่อๆ นั้นโดนแบน ช่องปลิวไปเลย ข้อหา สร้างความฝัน ความเชื่อผิดเพี้ยน แพร่กระจาย ค่านิยมไม่ดี เป็นภัยหลอกลวงสังคม ถ้าคุณภาพคนของเรายังอ่อนแอขนาดนี้

    เรื่องสุดท้าย ทีืไม่อยากจะเชื่อ คือคนระดับพี่แซม ที่ถนอมเนื้อตัว พระเอกตลอดกาล เคยเป็นทั้ง สส ยันตัวเต็ง ผู้ว่ากทม บ้านก็รวยอยู่แล้ว ยังหลงหลุดไปวังวนนี้ แต่เอาเข้าจริง ผมว่า แกไม่รู้เบื้องลึก หนาบาง ขนาดนั้นหรอก อาจจะโดนเขาชวนมาทำให้ช่วยพูดให้ช่วงแรก แล้วได้เงินเยอะดี เช็คดูแล้วบริษัท ก็เปิดมาหลายปี แถมได้รางวัลโล่ จาก สคบ อีกตะหาก ก็ถลำเข้ามา คล้ายๆน้องมิน คุณหนูบ้านรวย นางเอกฮอต ถ้ารู้ว่า หลอกเขากินแน่ๆ ใครเขาจะมา ชีวิตก็สบายดีมากอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ กฎหมายไทย ทำผิดแล้วบอกว่าไม่รู้ ก็แก้ตัวไม่ได้ งานนี้ก็เลยหืดขึ้นคอ

    ส่วนกันต์ นั้น อีกเรื่อง เพราะอยู่มานานเกินกว่า จะบอกว่าไม่รู้แจ้ง แถมคอนเทนด์ที่ทำนั้น เรียกทัวร์ได้มหาศาล นาฬิการวมๆแล้ว เป็นร้อยล้าน กินขนม ห่อละสามล้าน ย้ำ ขนม ไปประมูลมา เมียแอบกิน ห่อละสามล้าน แล้วก็อะไรเว่อๆแบบเกินมนุษย มนา คนไทยแห่มากดไลค์ก็จริง แต่ลึกๆแล้ว ไม่มีใครชื่นชมด้วยใจบริสุทธ์ ส่วนมากมีแต่แอบอิจฉา และ
    รอวันล้ม จะได้ตามมาซ้ำได้ถนัดๆ คือได้เห็นมึงแย่ แล้วรู้สึกว่าชีวิตกูดีขึ้นอัตโนมัติ ไม่ต้องทำอะไร
    คนไทยส่วนมากก็รอดูวันนั้น…..ซึ่งมันก็คือวันนี้

    นิทานเรื่องนี้ สอนให้ผมรู้ว่า ชีวิตผมทุกวันนี้ พอมีพอกิน ขึ้นมั่งลงมั่ง ก็ไม่ใช่ชีวิตที่แย่ เพราะพวก รถซุปเปอร์คาร์ ครบสี อวดรวยเว่อวัง นาฬิกาเยอะๆ เงินสดกองๆ ชอปปิ้งทีละล้านสุดท้ายแม่งเงินสีเทา หรือหลอกเขาแดกทั้งนั้น

    เพราะคนทำมาหากินสุจริต และสติดีๆ ไม่มีใครเขาทำกันแบบนี้หรอกคุณ

    Cr: อนิศ โอสถานุเคราะห์
    จากเรื่องมหากาพย์ ดิ ไอคอน ที่เพิ่งเริ่มขึ้นมานั้น ทำให้เห็นปรากฎการณ์ ที่เหลือเชื่อหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย อย่างแรกคือ มาตราฐาน มายเซท ของคนไทยนั้นยัง ล้าหลังแบบไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชม คนที่อวดรวย แบบสะเหร่อๆ เอาเงินเป็นปึก มากองๆไว้ อวดนาฬิกาเรือนละหลายสิบล้าน แบบโต้งๆ คอตเทนท์เหล่านี้ คนจะแห่มาตามเยอะมาก และไม่เข้าใจว่าจะไปตาม เป็น FC คนที่ทำอะไรแบบนี้ทำไม ตรรกกะคนไทย ทำไมตื้นเขินขนาดนี้ ใครทำบุญออกกล้องเยอะๆ คือคนดี ใครโชว์เงินโชว์ทอง เฮ้าเลี่ยน มากๆคือคนประสบความสำเร็จ คิดกันได้แค่นี้ จะเป็นลม เรื่องสองคือ คนไทยยังพยายามหาธุรกิจ ที่เป็น passive income นั่งเฉยๆ แล้วเงินงอก ลงหมืืนได้แสน ลงแสนได้ล้าน มหาลัย ไม่เคยสอนเหรอ ว่ามันไม่มีจริง ถ้ามันจริงเขาจะมาชวนมึงทำไม ทำเองรวยเองเงียบๆดิเห้ย Passive income จริงๆ มันมีแค่ เป็นเจ้าของที่ให้เขาเช่า 20-30 ปี อันนี้แหละ passive แน่ๆ หรือสัมปทานจากภาครัฐ พวกโรงไฟฟ้า อะไรที่คนอย่างเราๆท่านๆเอื้อมไม่ถึง นั่นแหละ ถึงจะจริง ที่เหลือ โกหกทั้งเพ เรื่องสาม คนไทย ยังโลภ แบบไม่ดูตาม้า ตาเรือ เห็นที่สัมภาษณ์กันคือ เห็นดาราแล้วเชื่อเลย ลงเงินเลยไม่ตรวจอะไรก่อน เอาจริงดิ ทำไมแยกหนังละคร กับชีวิตจริงไม่ออกกันเลยเหรอ ใครเล่นหนังดี ตีบทแตก คนนัินคือคนดีงั้นเหรอ เชี่ยยยย ไม่อยากจะเชื่อเลย หรือเราควรออกกฎหมายแบบ ประเทศจีน คือ ใครอวดรวยเว่อๆ นั้นโดนแบน ช่องปลิวไปเลย ข้อหา สร้างความฝัน ความเชื่อผิดเพี้ยน แพร่กระจาย ค่านิยมไม่ดี เป็นภัยหลอกลวงสังคม ถ้าคุณภาพคนของเรายังอ่อนแอขนาดนี้ เรื่องสุดท้าย ทีืไม่อยากจะเชื่อ คือคนระดับพี่แซม ที่ถนอมเนื้อตัว พระเอกตลอดกาล เคยเป็นทั้ง สส ยันตัวเต็ง ผู้ว่ากทม บ้านก็รวยอยู่แล้ว ยังหลงหลุดไปวังวนนี้ แต่เอาเข้าจริง ผมว่า แกไม่รู้เบื้องลึก หนาบาง ขนาดนั้นหรอก อาจจะโดนเขาชวนมาทำให้ช่วยพูดให้ช่วงแรก แล้วได้เงินเยอะดี เช็คดูแล้วบริษัท ก็เปิดมาหลายปี แถมได้รางวัลโล่ จาก สคบ อีกตะหาก ก็ถลำเข้ามา คล้ายๆน้องมิน คุณหนูบ้านรวย นางเอกฮอต ถ้ารู้ว่า หลอกเขากินแน่ๆ ใครเขาจะมา ชีวิตก็สบายดีมากอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละ กฎหมายไทย ทำผิดแล้วบอกว่าไม่รู้ ก็แก้ตัวไม่ได้ งานนี้ก็เลยหืดขึ้นคอ ส่วนกันต์ นั้น อีกเรื่อง เพราะอยู่มานานเกินกว่า จะบอกว่าไม่รู้แจ้ง แถมคอนเทนด์ที่ทำนั้น เรียกทัวร์ได้มหาศาล นาฬิการวมๆแล้ว เป็นร้อยล้าน กินขนม ห่อละสามล้าน ย้ำ ขนม ไปประมูลมา เมียแอบกิน ห่อละสามล้าน แล้วก็อะไรเว่อๆแบบเกินมนุษย มนา คนไทยแห่มากดไลค์ก็จริง แต่ลึกๆแล้ว ไม่มีใครชื่นชมด้วยใจบริสุทธ์ ส่วนมากมีแต่แอบอิจฉา และ รอวันล้ม จะได้ตามมาซ้ำได้ถนัดๆ คือได้เห็นมึงแย่ แล้วรู้สึกว่าชีวิตกูดีขึ้นอัตโนมัติ ไม่ต้องทำอะไร คนไทยส่วนมากก็รอดูวันนั้น…..ซึ่งมันก็คือวันนี้ นิทานเรื่องนี้ สอนให้ผมรู้ว่า ชีวิตผมทุกวันนี้ พอมีพอกิน ขึ้นมั่งลงมั่ง ก็ไม่ใช่ชีวิตที่แย่ เพราะพวก รถซุปเปอร์คาร์ ครบสี อวดรวยเว่อวัง นาฬิกาเยอะๆ เงินสดกองๆ ชอปปิ้งทีละล้านสุดท้ายแม่งเงินสีเทา หรือหลอกเขาแดกทั้งนั้น เพราะคนทำมาหากินสุจริต และสติดีๆ ไม่มีใครเขาทำกันแบบนี้หรอกคุณ Cr: อนิศ โอสถานุเคราะห์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเชิงจิตวิทยาวิเคราะห์“บอสพอล”โดย อนิศ โอสถานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เนื้อหาน่าสนใจ

    “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือ เหยื่อของ บอสพอล‼️

    คุณจะแปลกใจไหม ถ้าพบว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่เขาวางพลอต เหล่านี้ ไว้ทั้งหมดมานานแล้ว
    จากกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นจาก มหากาพย์ ดิ ไอคอน แรกๆทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกิดจากความโลภของคน แต่ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น หลายเรื่อง ผมมองว่าอาจเกิดจากความตั้งใจให้เรื่องมันมาเป็นแบบนี้ และให้จบลงแบบนี้ เพียงแต่ว่าวันไหนเท่านั้นเอง

    จากประวัติ บอสพอล ที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เราจะพบว่า เขามีประสบการณ์ในวัยเด็ก ที่ขมขื่น อย่างรุนแรง เพราะชีวิตยากจน โดนคนดูถูก ทำร้ายทางอารมณ์ ทั้งเขากับแม่มาตลอด ถ้าใครเคยฟังเรื่องส้ม ที่เขาเคยอยากกิน และโดนแม่ค้้าด่ากลางตลาด อย่ารุนแรง จนต้องร้องไห้กอดกับแม่ ว่าไม่อยากกินแล้ว และเป็นภาพ trauma ที่เป็นจุดพลิกผัน ให้เขาบอกกับตัวเองว่า ชีวิตต้องหลุดจากจุดนี้ให้ได้ แต่ชีวิตที่เคี่ยวกรำเขาขนาดหนักในวัยเด็ก อาจจะเป็นบ่อเกิด ให้เขามีอาการ ASPD หรือ Antisocial personality disorder
    ที่ภาษาไทยเรียกว่าโรคต่อต้านสังคม แต่เอาจริงๆก็คือ โกรธสังคมนี้ และ ตามมาด้วย คาแรคเตอร์ หลายๆอย่างที่คล้ายๆกับที่เราได้เห็น เช่น
    1 superficial charm จะเป็นคนมีเสน่ห์ภายนอกอย่างล้นเหลือ ดูเหมือนเป็นมิตร ใครคุยก็ติดใจ สงสารได้แบบง่ายๆ

    2 lack of emphathy
    แสดงความรู้สึก เพื่อผลประโยชน์ แต่ไม่จริงใจ

    3 lack of anxiety or stress.
    ไม่แสดงอาการตึงเครียด หรือสับสนในสถานการณ์กดดัน

    4 ต้องการการควบคุม หรือครอบงำ คือชอบคอนโทรลคนอื่น จะด้วยวาจา หรือกำลัง หรือน้ำตา คือใช้ได้หมด สามารถไล่ตามความสำเร็จได้ โดยไร้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

    5 ไม่เคารพกฎสังคมหรือกฎหมาย เพราะมองว่าการทำลายกฎเกณฑ์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือท้าทาย

    จริงๆแล้วมีอีกหลายข้อ ที่ผมดูแล้วเขามีครบ บุคคลที่สำคัญในประวิติศาสตร์ ที่นักจิตวิทยาพยายามวิเคราะห์ ว่าเข้าข่ายพวกนี้ ดังๆ ก็เช่น ฮิตเลอร์ คือคิดใหญ่ขนาดจะครองโลก และดันกล่อมคนทั้งประเทศ ไปทำจริงๆ และคนเสือกเชื่อทั้งหมด ด้วยเสน่ห์ทางการพูดและท่าทางของเขา จนโลกพินาศกลายเป็น สงครามโลกครั้งทีืสอง โดยไม่จำเป็นอะไรเลย คนปกติ ใครมันจะคิดครองทั้งโลก และทำมันให้ได้จริงๆ ให้คนตายไปหลายสิบล้านคน คนคิดต้องมีความบ้าอยู่อย่างแน่นอน

    คนแบบนี้ มองทุกอย่างเป็นเกม เป็นพล้อตหนัง ที่เขาสร้างขึ้นมาในหัว สร้างอาณาจักร ซับซ้อน พิสดารโดยใช้ความโลภของคนเป็นตัวตั้ง เพื่อจะคอนโทรลผู้คน ผ่านกิเลสตัณหา
    ร้องไห้เมื่อไหร่ก็ได้ ยิ้มเมื่อไหร่ก็ได้ หัวเราะเมื่อไหร่ก็ได้ ไร้อารมณ์ที่แท้จริง และทุกคนคือเบี้ยในกระดานสำหรับเขา

    ดารา บรรดาบอสทั้งหลาย เป็นเพียงหมากที่เขาชวนมาวางไว้ตามตำแหน่ง เพื่อให้หมากรุกเขาบรรลุเป้าหมาย
    เขารู้ไหม ว่าเกมนี้มีวันจบ รู้แน่นอน และวางหมากไว้แล้ว ว่าจะให้ระเบิดใส่ใครบ้าง ตั้งแต่การเคลียใต้โต๊ะ ที่ผ่านมา เขาอัดเสียงทุกคนไว้หมด ตั้งแต่วันแรก เผลอๆมีภาพวีดีโอ และหลักฐานทั้งหมด แอบฝากขึ้น คลาวด์ไปแล้ว ตอนออกโหน
    กระแส การเอาคลิปเสียงว่าติดสินบน เจ้าพนักงาน มาเปิด แบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรให้ เขาดีขึ้นเลย นอกจากจะเพิ่มคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ให้อีกกระทง คลิปนี้ใครอัดมา ไม่ใช่นักการเมือง ส แน่ๆ ก็คุยกันอยู่สองคน จะหลุดได้ไง ถ้าไม่ใช่ใคา จะตั้งใจจะล่อใครสักคน

    ในกองบัญชาการสอบสอนกลาง เจ้าหน้าที่ที่สอบสวนคงเหงื่อออกในห้องแอร์ จากรายชื่อ เทวดา ที่เขาทยอยบอกออกมา เทวดาแทบทั่วฟากฟ้า ประเทศไทย อยู่ในมือบอสพอล พร้อมหลักฐาน ทีืบอกว่าเจอในโทรศัพท์ นั่นส่วนน้อยที่เขาตั้งใจให้เจอ อีกเพียบ จะทยอยเปิดออกมา ที่เขาเซฟไว้ข้างนอก โดยให้คนของเขาส่งผ่านพวกเพจดัง เพราะเขารู้ดีว่าการส่งให้ จนท ไปเฉยๆนั้น เทวดาอาจมีฤทธ์ เสกหายๆไปกับสายลม โถ พวกเพจดัง จะไปเอาคลิปเสียงมาจากไหน บอสพอลโทรศัพท์ หายที่มาบุญครองเหรอ เขาตั้งใจรึเปล่าคิดดู
    ถ้าเขาอัดทุกอย่างไว้แต่วันแรก เขาตั้งใจจะล่อให้หมดทุกคนสักวันรึเปล่า อันนี้น่าคิด ไม่งั้นจะอัดไว้ทำไม

    การบอกกลางรายการโหนกระแส ว่ามีหลายหน่วยงาน ที่รับใต้โต๊ะ และบอกชื่อหน่วยงาน มาด้วย แต่พูดเหมือน สุภาพบุรุษว่า ให้จบที่ผม ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ฟังเหมือนดูดี แต่เอาจริงเข้าคือการแฉ แบบโต้งๆ นายกฟังอยู่ ไม่สั่งสอบทุกหน่วยงาน ก็ต้องโดน 157 แทนแล้ว
    แล้วเดี๋ยวหลักฐานจะทยอยลอยออกมาเอง

    เขาได้ประโยชน์อะไรจากการแฉ แบบนี้ บอกว่าทำธุรกิจ ปกติ ไม่เคยจ่ายใคร รอกระแสซาๆ แล้วให้เทวดาช่วยปัดเป่า ง่ายกว่าไหม แต่นี่ออกมาเชือดเทวดาโชว์ทีละคน ใครจะกล้าช่วยอีก มึงอัดเสียงแน่นอน เขาทำ ทำไม ถ้าไม่ใช่อารมณ์แบบ ASPD.

    คนทุกคนที่อยู่ข้างเขา จะไม่มีวันรู้อะไรทุกเรื่อง เขาจะแยกให้รู้เป็นส่วนๆ เป็นเรื่องๆ เหมือนม้าในกระดานหมากรุก แค่รู้ว่าต้องเดินมายันตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าเกมทั้งหมด คืิออะไร จะตายวันไหน ด้วยสาเหตุอะไร พวกหมากในกระดานจะไม่มีวันรู้เลย บอส แซม บอส มิน บอสกัน ก็อาจเป็นแค่เรือ แค่โคน สำหรับเขาเท่านั้น

    หนังเรื่องนี้ สำหรับเขาสนุกมาก เขาใช้ตัวแสดงจริง ดาราระดับแถวหน้าระดับประเทศจริงๆ ตัวประกอบคือคนจริง ติดสินบนเทวดาจริงๆ พร้อบในฉากระดับ พันล้านจริงๆ ขึ้นบิลบอร์ด ทั่วประเทศจริงๆ ไม่เคยมีซีรี่ส์ไหนทำได้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ไทย

    เงินอีกลอต เกือบหมื่นล้าน ถูกโอนหายไปในระบบกระเป๋าเงินดิจิตอล โดยที่ จนท ช้าไปเพียง 1 ชม ในขณะที่ สถานที่ที่ลูกน้องถูกจับนั้น ดันมีระเบิดปลอม ทำเหมือนเด๊ะ พร้อมนาฬิกา ทำให้ จนท EOD ต้องลุยนำทัพเข้าไปกู้ พลอตสนุกยิ่งกว่า vegabond ระเบิดปลอมนี้ ได้ข่าวว่าถูกนำมาวางไว้สองอาทิตย์แล้ว ราวกับมีหมอดูมาบอกว่า ดิไอคอน จะโดนแฉ วันนั้น วันนี้ และ จนท จะเข้ามาจับ เอาระเบิดไปวางถ่วงเวลาไว้ได้ ใครหนอ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแม่นขนาดนี้

    วันนี้สังคมไทยเดือดระอุ ทุกวงการเลือดสาด จนท รัฐ สคบ
    วงการบันเทิง วงการสงฆ์ วงการนักร้อง สื่อทุกสื่อ ฯลฯ ออกมาล่อกันยับ สาวไส้กันอีกเละเทะ อีกนาน ไม่รู้เทวดาอีกกีองค์ จะต้องตกสวรรค์ เมื่อหลักฐานแฉออกมา

    ทุกคน ทุกบอส ทุกแม่ข่าย เครียดลมจับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต่างจากบอสพอล ภาพตัดมา ที่นั่งสมาธิ เย็นใจในที่คุมขัง
    นักข่าวบอกเขาเครียด ผมว่าไม่หรอก เขาเย็นใจที่พล้อตหนังของเขา เดินมาตามบทที่เขาวางไว้ไม่สะดุดเลย ใครมันจะบ้านั่งสมาธิ กลางกรงวันแรกที่ถูกจับ โดยไร้อารมณ์แบบนี้ คนปกติที่ไหน จะทำได้ลงคอ

    มหากาพย์ เรื่องนี้เพิ่งเริ่ม จะมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเป็นเหยื่อสังเวย เทวดาอีกมากมายจะตกสวรรค์ สังคมไทยเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง ในประวัติศาสตร์ไทย ที่เบื้องหลังฟอนเฟะได้ขนาดนี้

    บอสพอล คงอมยิ้มอย่างสะใจ สังคมที่เคยทำร้ายเขาในวัยเด็ก จนเกิด Childhood disrupted. วันนี้ เขากลับมาถล่มทุกวงการคืนอย่างราบคาบแล้ว ถ้าเงิน แปดพันกว่าล้านนั้นคือลอตสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ที่โอนไปแล้วล่วงหน้า คงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่ น่าจะหลายหมื่นล้าน แต่เขารู้ดีว่า ขนาดคดีแม่ชม้อย ติดคุกหลายแสนปี ติดจริงแค่เจ็ดปี อย่างเขาไม่ถึงห้าปี น่าจะออกมาได้แน่นอน

    ตำรวจ: ขอรหัส ดิจิตอล วอลเลต เดี๋ยวนี้
    บอสพอล : ผมจำไม่ได้จริงๆครับ (ร้องห่ม ร้องไห้) พีืไม่เคยลืมรหัสเฟสบุคหรือ ใครๆก็ลืมกัน ตั้ง 16 ตัว

    ในอนาคตอันไม่ไกล วันที่เขาหลุดจากที่คุมขัง ดิไอคอน ภาคแรก จะจบไป และรหัสนี้จะถูกจำได้อีกครั้ง

    เตรียมตัวพบกับ ซี่รี่ภาคสอง กำกับโดยบอสพอล โดยมาในรูปแบบของสถานธรรม อลังกาากว่าภาคแรกอย่างแน่นอน การันตี

    นิทานเรื่องนี้ สนุกไหม ขอเชิญนักวิจารณ์ ติชม
    To be continued.“

    ที่มา : เพจ Anit Osathanugrah
    https://www.facebook.com/share/p/kJ4gPk7ZStVcWxHs/?mibextid=WC7FNe

    #Thaitimes
    บทความเชิงจิตวิทยาวิเคราะห์“บอสพอล”โดย อนิศ โอสถานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เนื้อหาน่าสนใจ “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือ เหยื่อของ บอสพอล‼️ คุณจะแปลกใจไหม ถ้าพบว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่เขาวางพลอต เหล่านี้ ไว้ทั้งหมดมานานแล้ว จากกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นจาก มหากาพย์ ดิ ไอคอน แรกๆทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกิดจากความโลภของคน แต่ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น หลายเรื่อง ผมมองว่าอาจเกิดจากความตั้งใจให้เรื่องมันมาเป็นแบบนี้ และให้จบลงแบบนี้ เพียงแต่ว่าวันไหนเท่านั้นเอง จากประวัติ บอสพอล ที่ออกมาตามสื่อต่างๆ เราจะพบว่า เขามีประสบการณ์ในวัยเด็ก ที่ขมขื่น อย่างรุนแรง เพราะชีวิตยากจน โดนคนดูถูก ทำร้ายทางอารมณ์ ทั้งเขากับแม่มาตลอด ถ้าใครเคยฟังเรื่องส้ม ที่เขาเคยอยากกิน และโดนแม่ค้้าด่ากลางตลาด อย่ารุนแรง จนต้องร้องไห้กอดกับแม่ ว่าไม่อยากกินแล้ว และเป็นภาพ trauma ที่เป็นจุดพลิกผัน ให้เขาบอกกับตัวเองว่า ชีวิตต้องหลุดจากจุดนี้ให้ได้ แต่ชีวิตที่เคี่ยวกรำเขาขนาดหนักในวัยเด็ก อาจจะเป็นบ่อเกิด ให้เขามีอาการ ASPD หรือ Antisocial personality disorder ที่ภาษาไทยเรียกว่าโรคต่อต้านสังคม แต่เอาจริงๆก็คือ โกรธสังคมนี้ และ ตามมาด้วย คาแรคเตอร์ หลายๆอย่างที่คล้ายๆกับที่เราได้เห็น เช่น 1 superficial charm จะเป็นคนมีเสน่ห์ภายนอกอย่างล้นเหลือ ดูเหมือนเป็นมิตร ใครคุยก็ติดใจ สงสารได้แบบง่ายๆ 2 lack of emphathy แสดงความรู้สึก เพื่อผลประโยชน์ แต่ไม่จริงใจ 3 lack of anxiety or stress. ไม่แสดงอาการตึงเครียด หรือสับสนในสถานการณ์กดดัน 4 ต้องการการควบคุม หรือครอบงำ คือชอบคอนโทรลคนอื่น จะด้วยวาจา หรือกำลัง หรือน้ำตา คือใช้ได้หมด สามารถไล่ตามความสำเร็จได้ โดยไร้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 5 ไม่เคารพกฎสังคมหรือกฎหมาย เพราะมองว่าการทำลายกฎเกณฑ์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจหรือท้าทาย จริงๆแล้วมีอีกหลายข้อ ที่ผมดูแล้วเขามีครบ บุคคลที่สำคัญในประวิติศาสตร์ ที่นักจิตวิทยาพยายามวิเคราะห์ ว่าเข้าข่ายพวกนี้ ดังๆ ก็เช่น ฮิตเลอร์ คือคิดใหญ่ขนาดจะครองโลก และดันกล่อมคนทั้งประเทศ ไปทำจริงๆ และคนเสือกเชื่อทั้งหมด ด้วยเสน่ห์ทางการพูดและท่าทางของเขา จนโลกพินาศกลายเป็น สงครามโลกครั้งทีืสอง โดยไม่จำเป็นอะไรเลย คนปกติ ใครมันจะคิดครองทั้งโลก และทำมันให้ได้จริงๆ ให้คนตายไปหลายสิบล้านคน คนคิดต้องมีความบ้าอยู่อย่างแน่นอน คนแบบนี้ มองทุกอย่างเป็นเกม เป็นพล้อตหนัง ที่เขาสร้างขึ้นมาในหัว สร้างอาณาจักร ซับซ้อน พิสดารโดยใช้ความโลภของคนเป็นตัวตั้ง เพื่อจะคอนโทรลผู้คน ผ่านกิเลสตัณหา ร้องไห้เมื่อไหร่ก็ได้ ยิ้มเมื่อไหร่ก็ได้ หัวเราะเมื่อไหร่ก็ได้ ไร้อารมณ์ที่แท้จริง และทุกคนคือเบี้ยในกระดานสำหรับเขา ดารา บรรดาบอสทั้งหลาย เป็นเพียงหมากที่เขาชวนมาวางไว้ตามตำแหน่ง เพื่อให้หมากรุกเขาบรรลุเป้าหมาย เขารู้ไหม ว่าเกมนี้มีวันจบ รู้แน่นอน และวางหมากไว้แล้ว ว่าจะให้ระเบิดใส่ใครบ้าง ตั้งแต่การเคลียใต้โต๊ะ ที่ผ่านมา เขาอัดเสียงทุกคนไว้หมด ตั้งแต่วันแรก เผลอๆมีภาพวีดีโอ และหลักฐานทั้งหมด แอบฝากขึ้น คลาวด์ไปแล้ว ตอนออกโหน กระแส การเอาคลิปเสียงว่าติดสินบน เจ้าพนักงาน มาเปิด แบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรให้ เขาดีขึ้นเลย นอกจากจะเพิ่มคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ให้อีกกระทง คลิปนี้ใครอัดมา ไม่ใช่นักการเมือง ส แน่ๆ ก็คุยกันอยู่สองคน จะหลุดได้ไง ถ้าไม่ใช่ใคา จะตั้งใจจะล่อใครสักคน ในกองบัญชาการสอบสอนกลาง เจ้าหน้าที่ที่สอบสวนคงเหงื่อออกในห้องแอร์ จากรายชื่อ เทวดา ที่เขาทยอยบอกออกมา เทวดาแทบทั่วฟากฟ้า ประเทศไทย อยู่ในมือบอสพอล พร้อมหลักฐาน ทีืบอกว่าเจอในโทรศัพท์ นั่นส่วนน้อยที่เขาตั้งใจให้เจอ อีกเพียบ จะทยอยเปิดออกมา ที่เขาเซฟไว้ข้างนอก โดยให้คนของเขาส่งผ่านพวกเพจดัง เพราะเขารู้ดีว่าการส่งให้ จนท ไปเฉยๆนั้น เทวดาอาจมีฤทธ์ เสกหายๆไปกับสายลม โถ พวกเพจดัง จะไปเอาคลิปเสียงมาจากไหน บอสพอลโทรศัพท์ หายที่มาบุญครองเหรอ เขาตั้งใจรึเปล่าคิดดู ถ้าเขาอัดทุกอย่างไว้แต่วันแรก เขาตั้งใจจะล่อให้หมดทุกคนสักวันรึเปล่า อันนี้น่าคิด ไม่งั้นจะอัดไว้ทำไม การบอกกลางรายการโหนกระแส ว่ามีหลายหน่วยงาน ที่รับใต้โต๊ะ และบอกชื่อหน่วยงาน มาด้วย แต่พูดเหมือน สุภาพบุรุษว่า ให้จบที่ผม ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ฟังเหมือนดูดี แต่เอาจริงเข้าคือการแฉ แบบโต้งๆ นายกฟังอยู่ ไม่สั่งสอบทุกหน่วยงาน ก็ต้องโดน 157 แทนแล้ว แล้วเดี๋ยวหลักฐานจะทยอยลอยออกมาเอง เขาได้ประโยชน์อะไรจากการแฉ แบบนี้ บอกว่าทำธุรกิจ ปกติ ไม่เคยจ่ายใคร รอกระแสซาๆ แล้วให้เทวดาช่วยปัดเป่า ง่ายกว่าไหม แต่นี่ออกมาเชือดเทวดาโชว์ทีละคน ใครจะกล้าช่วยอีก มึงอัดเสียงแน่นอน เขาทำ ทำไม ถ้าไม่ใช่อารมณ์แบบ ASPD. คนทุกคนที่อยู่ข้างเขา จะไม่มีวันรู้อะไรทุกเรื่อง เขาจะแยกให้รู้เป็นส่วนๆ เป็นเรื่องๆ เหมือนม้าในกระดานหมากรุก แค่รู้ว่าต้องเดินมายันตรงนี้ แต่ไม่รู้ว่าเกมทั้งหมด คืิออะไร จะตายวันไหน ด้วยสาเหตุอะไร พวกหมากในกระดานจะไม่มีวันรู้เลย บอส แซม บอส มิน บอสกัน ก็อาจเป็นแค่เรือ แค่โคน สำหรับเขาเท่านั้น หนังเรื่องนี้ สำหรับเขาสนุกมาก เขาใช้ตัวแสดงจริง ดาราระดับแถวหน้าระดับประเทศจริงๆ ตัวประกอบคือคนจริง ติดสินบนเทวดาจริงๆ พร้อบในฉากระดับ พันล้านจริงๆ ขึ้นบิลบอร์ด ทั่วประเทศจริงๆ ไม่เคยมีซีรี่ส์ไหนทำได้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ไทย เงินอีกลอต เกือบหมื่นล้าน ถูกโอนหายไปในระบบกระเป๋าเงินดิจิตอล โดยที่ จนท ช้าไปเพียง 1 ชม ในขณะที่ สถานที่ที่ลูกน้องถูกจับนั้น ดันมีระเบิดปลอม ทำเหมือนเด๊ะ พร้อมนาฬิกา ทำให้ จนท EOD ต้องลุยนำทัพเข้าไปกู้ พลอตสนุกยิ่งกว่า vegabond ระเบิดปลอมนี้ ได้ข่าวว่าถูกนำมาวางไว้สองอาทิตย์แล้ว ราวกับมีหมอดูมาบอกว่า ดิไอคอน จะโดนแฉ วันนั้น วันนี้ และ จนท จะเข้ามาจับ เอาระเบิดไปวางถ่วงเวลาไว้ได้ ใครหนอ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแม่นขนาดนี้ วันนี้สังคมไทยเดือดระอุ ทุกวงการเลือดสาด จนท รัฐ สคบ วงการบันเทิง วงการสงฆ์ วงการนักร้อง สื่อทุกสื่อ ฯลฯ ออกมาล่อกันยับ สาวไส้กันอีกเละเทะ อีกนาน ไม่รู้เทวดาอีกกีองค์ จะต้องตกสวรรค์ เมื่อหลักฐานแฉออกมา ทุกคน ทุกบอส ทุกแม่ข่าย เครียดลมจับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต่างจากบอสพอล ภาพตัดมา ที่นั่งสมาธิ เย็นใจในที่คุมขัง นักข่าวบอกเขาเครียด ผมว่าไม่หรอก เขาเย็นใจที่พล้อตหนังของเขา เดินมาตามบทที่เขาวางไว้ไม่สะดุดเลย ใครมันจะบ้านั่งสมาธิ กลางกรงวันแรกที่ถูกจับ โดยไร้อารมณ์แบบนี้ คนปกติที่ไหน จะทำได้ลงคอ มหากาพย์ เรื่องนี้เพิ่งเริ่ม จะมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องเป็นเหยื่อสังเวย เทวดาอีกมากมายจะตกสวรรค์ สังคมไทยเหมือนถูกตบหน้าอย่างจัง ในประวัติศาสตร์ไทย ที่เบื้องหลังฟอนเฟะได้ขนาดนี้ บอสพอล คงอมยิ้มอย่างสะใจ สังคมที่เคยทำร้ายเขาในวัยเด็ก จนเกิด Childhood disrupted. วันนี้ เขากลับมาถล่มทุกวงการคืนอย่างราบคาบแล้ว ถ้าเงิน แปดพันกว่าล้านนั้นคือลอตสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ที่โอนไปแล้วล่วงหน้า คงมีอีกไม่รู้เท่าไหร่ น่าจะหลายหมื่นล้าน แต่เขารู้ดีว่า ขนาดคดีแม่ชม้อย ติดคุกหลายแสนปี ติดจริงแค่เจ็ดปี อย่างเขาไม่ถึงห้าปี น่าจะออกมาได้แน่นอน ตำรวจ: ขอรหัส ดิจิตอล วอลเลต เดี๋ยวนี้ บอสพอล : ผมจำไม่ได้จริงๆครับ (ร้องห่ม ร้องไห้) พีืไม่เคยลืมรหัสเฟสบุคหรือ ใครๆก็ลืมกัน ตั้ง 16 ตัว ในอนาคตอันไม่ไกล วันที่เขาหลุดจากที่คุมขัง ดิไอคอน ภาคแรก จะจบไป และรหัสนี้จะถูกจำได้อีกครั้ง เตรียมตัวพบกับ ซี่รี่ภาคสอง กำกับโดยบอสพอล โดยมาในรูปแบบของสถานธรรม อลังกาากว่าภาคแรกอย่างแน่นอน การันตี นิทานเรื่องนี้ สนุกไหม ขอเชิญนักวิจารณ์ ติชม To be continued.“ ที่มา : เพจ Anit Osathanugrah https://www.facebook.com/share/p/kJ4gPk7ZStVcWxHs/?mibextid=WC7FNe #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 1 รีวิว
  • คดี​แนวนี้เกิดขึ้นซ้ำๆในสังคมไทย
    คดี​แนวนี้เกิดขึ้นซ้ำๆในสังคมไทย
    ปคบ.บุกรวบ "บอสพอล" คาสำนักงาน สคบ. ศาลออกหมายจับในคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” 18 ราย ตามจับกุมตัวได้แล้ว 14 ราย รวม "แซม-มิน" ส่วน "กันต์" ยังไม่ได้ตัว ด้านกองปราบล้างห้องขังรอต้อนรับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099908

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง

    เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร

    ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม
    จึงมีเหยื่อมากมายนัก
    ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้

    🌻

    นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น

    เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้

    ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย

    สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้
    มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด
    ของ storyteller อย่างชัดๆ

    🌻

    “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา

    บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“

    เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^

    🌻

    เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ

    เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!"

    ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว

    ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย
    ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย
    เหมือนกบหูหนวก

    🌻

    คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา

    แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต”

    “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“

    คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์
    ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี
    นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ
    ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ
    หรือชวนเอ๊ะเลย

    ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู

    ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง

    อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้

    ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้

    ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป

    ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง

    ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด
    ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้
    เป็นหลักหมื่นแสนล้าน

    🌻

    เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย

    เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้

    สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง

    เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ )

    พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง

    ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง

    แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน

    ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม
    และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี

    🌻

    นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin

    One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น

    รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin
    เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่

    บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่

    วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน

    🌻

    ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง

    เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน

    นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ

    ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้

    One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI

    ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้

    🌻

    จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย

    คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency

    🌻

    ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย

    เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา

    🌻

    "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก"

    เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น

    🌻

    "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน"

    เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา"

    🌻

    นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด

    นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง

    บางครั้งนิทานเหล่านี้
    มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล
    อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์
    ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย
    อาจใช้เพื่อกดดัน
    ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร

    การยอมรับความจริง
    เลิกทนและถอยออกมา
    ก็อาจเป็นการตัดสินใจ
    ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน

    🌻

    “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)”

    ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี)

    ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์”

    ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

    การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล

    ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ

    ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น”

    ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง

    เพื่อรักษาสมดุล
    ระหว่างอารมณ์และเหตุผล
    ในยุคสมัยปัจจุบัน
    ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล
    มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​

    🌻

    จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง

    เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง

    นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์

    เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด

    Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ

    ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว

    เรื่องเล่าเหล่านี้
    มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน
    และความหวังของผู้คน
    ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง
    ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง

    🌻

    นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้

    ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ
    คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
    และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง
    เพื่อแยกแยะให้ออก
    ระหว่างการใช้ Storytelling
    ในทางที่สร้างสรรค์
    หรือการใช้เพื่อหลอกลวง

    🌻

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7

    #Thaitimes
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ปราย พันแสง เมื่อคืนดูคลิปบอสเล่านิทานเรื่อง“มดไต่แก้ว”แล้วนอนไม่หลับเอาเลย ยอมรับว่าเล่าเก่งโคตร ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม จึงมีเหยื่อมากมายนัก ก็มันชวนเคลิ้มซะขนาดนี้ 🌻 นานมาแล้ว สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลเคยบอกว่า "The most powerful person in the world is the storyteller.“ คนที่ทรงพลังที่สุดในโลกคือนักเล่าเรื่อง จอบส์ฟันธงไว้อย่างนั้น เขาบอกว่า“นักเล่าเรื่อง” หรือคนที่เล่าเรื่องเป็น(storyteller) จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ค่านิยม และระเบียบวาระต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นให้กับผู้คนทั้งเจเนอเรชั่น อาจจะกล่าวได้ว่า นักเล่าเรื่องเก่งๆ นั้นสามารถกำหนดเทรนด์หรือทิศทางของสังคมได้ ส่วนที่จอบส์ไม่ได้บอกไว้ก็คือ นักเล่าเรื่องเก่งๆ หลายคน สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดความฉิบหายระดับหมื่นล้านแสนล้านได้ด้วย สิ่งที่ปรากฏต่อสังคมไทยในวันนี้ มันอาจเป็นประจักษ์พยานด้านมืด ของ storyteller อย่างชัดๆ 🌻 “มดไต่แก้ว” เป็นเรื่องเล่าง่ายๆ เกี่ยวกับมดที่พยายามป่ายปีนออกไปให้พ้นแก้ว มดบางตัวปีนไปจนอยู่ในจุดสูงที่สุดของปากแก้ว แต่แล้วก็ตกลงมา บอสบอกไว้คมเฉียบว่า ”การตกลงมาจากจุดสูงสุดอย่างนั้น มันทำให้เจ็บที่สุด ทำให้มีมดบางตัวยอมแพั แต่ก็ยังมีมดบางตัวสู้ต่อ จนได้รับอิสรภาพในที่สุด“ เคลิ้มมั้ยล่ะ ^__^ 🌻 เอาจริง จากอาชีพอ่านๆ เขียนๆ เรื่องเล่าประเภทนี้ไม่ได้กินเราหรอก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลี อีกทั้งยังต้องอยู่ในสถานะลูกข่ายที่ต้องไล่ล่าทำยอดขาย พลังของเรื่องเล่าแบบนี้มันพุ่งปรี๊ดทะลุปม กระแทกต่อมได้ตรงจุด จึงไม่น่าแปลกใจถ้ามันจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับน้ำตาไหลพราก ซาบซึ้งตรึงใจ เราเองฟังเรื่องมดไต่แก้วนี้กลับไปคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้มีใครเคยฟังมั้ย เป็นนิทานเรื่องกบกระโดด เรื่องมีอยู่ว่า มีกบตัวหนึ่งพยายามปีนออกจากบ่อลึก ทุกครั้งที่มันพยายามกระโดด เพื่อนๆ กบจะพากันตะโกนห้ามว่า "เลิกเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก!" ทว่ากบตัวนั้นไม่ยอมแพ้ สุดท้ายในการกระโดดครั้งที่ 99 มันก็กระโดดออกจากบ่อได้สำเร็จ แต่ความจริงของเรื่องนี้คือ กบตัวนี้หูหนวก มันเลยไม่ได้ยินเสียงร้องห้ามจากเพื่อนๆ เลยสักนิดเดียว ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับผู้เสียหายมากมาย ที่ไม่ยอมฟังคำทัดทานจากใครเลย เหมือนกบหูหนวก 🌻 คดีบอสๆ นี้ เราว่านิทานเรื่องมดไต่แก้วนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ที่เรารู้สึกเองว่ามันทรงพลังแห่ง storytelling จริงๆ น่าจะเป็นนิทานเรื่องจริงที่แชร์กันเยอะๆ วันนี้ ที่เป็นคลิปเล่าเรื่องบอสพอลพาผู้ชมกลับไปทัวร์สลัมคลองเตยบ้านเกิด พาไปชมแฟลตเก่าชั้นสองห้อง 16 ที่เคยเติบโตมา แคปชั่นตรึงใจ “ผมไม่เคยลืม...ว่าผมเติบโตมาจากที่ไหน ชุมชนแออัด หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "สลัม"ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ในตอนที่ยังเริ่มต้นสร้างชีวิต” “20 ปีที่แล้ว กับภาพในวันนี้ ทุกอย่างมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ราวกับว่ามันหยุดเวลาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง มันคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมไม่เคยคิดดูถูกความฝันหรือความพยายามของใคร เพราะผมก็เคยเป็นหนึ่งคน ที่ชีวิตไม่พร้อม แต่มีความฝัน ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิตทุก ๆ ท่านครับ“ คลิปถ่ายสวย ไม่เวอร์ ภาพดี เสียงดี เล่าเรื่องดี นักแสดง(บอสพอล)แอ๊คติ้งเป็นธรรมชาติ ไม่มีตรงไหนชวนแหวะ หรือชวนเอ๊ะเลย ยิ่งตอนโทรคุยกับแม่หน้าแฟลตเก่า พูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอร่อยที่ยังขายอยู่นั่นก็ดูจะเป็นซีนที่น่าจดจำมากทีเดียว คือถ้าไม่ติดเรื่องข้อสงสัยว่าเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเนี่ย อยากเชิญคนทำคลิปนี้ไปสร้างหนังไทยเลย อยากดู ในคลิปนี้ บอสยืนพูดหน้าแฟลตที่สกปรกรุงรังว่า ตอนที่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในสลัมแห่งนี้ ชีวิตวัยนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายไปกว่าอยากดูแลแม่ให้มีความสุขเท่านั้น ตรงนี้เชื่อว่าเอฟซีอาจน้ำตาร่วง อีกทั้งน้ำเสียงของแม่ปลายสาย ก็ร่าเริงมีความสุข กับการพูดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำที่เคยกินสมัยอยู่สลัม สื่อให้เห็นว่าเมื่อก้าวพ้นความยากจนไปแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ในสลัมธรรมดาก็ยังงดงามขึ้นมาได้ ทุกอย่างสอดคล้องกลมกลืนลื่นไหล เป็นคลิปฟิลลิ่ง Nostalgia การรำลึกความหลังยากแค้นของเศรษฐีหมื่นล้านที่สุดละเมียดจริงแท้ ใครไม่เคลิ้มให้มันรูัไป ยอดขายระเบิดเถิดเทิงหมื่นล้านแสนล้าน ไม่ใช่ได้มาแบบฟลุคๆ แน่นอน มันผ่านการเล่าเรื่องที่คัดเค้นมาแล้วอย่างประณีต เพื่อพิชิตใจมหาชนคนสามัญที่คุ้นเคยชมชอบกับเรื่องดรามาชนิดซึมเข้ากระดูกดำแบบไทยๆ เราอย่างเหมาะเหม็ง ดูคลิปนี้แล้วยิ่งไม่แปลกใจเลยสักนิด ว่าทำไมลูกข่ายหอบเงินมาประเคนให้ เป็นหลักหมื่นแสนล้าน 🌻 เอาจริง เรื่องเล่าตรึงใจระคายต่อมพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอก มันเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่มีใช้กันนานแล้วในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในแวดวงหลอกลวงต้มตุ๋น ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินมหาศาลทำลายสถิติได้ทุกยุคสมัย เรื่องเล่ากระตุ้นต่อมที่ชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย ก็คงจะเป็นนิทานเรื่อง“ปลาทอง" ในคดีฉ้อฉลของเบอร์นี แมดอฟฟ์ในอเมริกา ที่น่าจะอื้อฉาวพอๆ กับคดีดิ ไอคอน ในเมืองไทยตอนนี้ก็ว่าได้ สมัยนั้น เบอร์นี แมดอฟฟ์ ก็มักจะชอบเล่าเรื่องเปรียบเทียบการลงทุนกับการให้อาหารปลาทอง โดยบอกว่าต้องให้อาหารสม่ำเสมอ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ปลาเติบโตอย่างแข็งแรง เขาใช้เรื่องนี้อธิบายกลยุทธ์การลงทุนที่ "สม่ำเสมอ" ของเขา ซึ่งในความเป็นจริงคือแผนการณ์หลอกลวงแบบพอนซี (Ponzi scheme- คล้ายแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่มีสินค้า ใช้วิธีเอาเงินคนใหม่ไปจ่ายให้คนเก่าวนไปเรื่อยๆ ) พอนซีของแมดอล์ฟฟ์มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 64.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แมดอล์ฟฟ์ใช้เรื่องเล่าเกี่ยวกับปลาทองเพื่อสื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนของเขานั้น "สม่ำเสมอ" และ "ปลอดภัย" เขาอ้างว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่และน่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร เรื่องเล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและทำให้พวกเขารู้สึกว่ากำลังลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีกลยุทธ์ที่มั่นคง ในความเป็นจริง แมดอล์ฟฟ์ไม่ได้นำเงินของลูกค้าไปลงทุนเลยสักนิด เขาใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่เพื่อจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของแผนพอนซี ผลตอบแทน "สม่ำเสมอ" ที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลขที่เขาสร้างขึ้นมาเอง แผนฉ้อโกงนี้ดำเนินมานานหลายทศวรรษก่อนจะถูกเปิดโปงในปี 2008 มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมถึงบุคคลทั่วไป องค์กรการกุศล และสถาบันการเงิน ปัจจุบันแมดอล์ฟฟ์ถูกจับกุม และถูกตัดสินจำคุก 150 ปี 🌻 นอกจากนิทานปลาทองของแมดอล์ฟฟ์ ยังมีนิทานอีกเรื่องที่โด่งดังไม่แพ้กัน นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “ช้างล่ามโซ่” ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงของบริษัท One Coin One Coin เป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) แต่ในความเป็นจริงเป็นแผนหลอกลวงแบบพีระมิด (pyramid scheme) ที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ต้มตุ๋น รูจา อิกนาโตวา (Ruja Ignatova) ผู้ก่อตั้ง One Coin เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองรูส ประเทศบัลแกเรีย ย้ายไปเยอรมนีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอนสแตนซ์ ประเทศเยอรมนี เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในปี 2014 เธอก่อตั้งบริษัท One Coin ซึ่งอ้างว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่ บริษัท One Coin เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก จนกระทั่งในปี 2016 เริ่มมีการสงสัยและตรวจสอบ One Coin ว่าอาจเป็นแชร์ลูกโซ่ วันที่ 25 ตุลาคม 2017 รูจาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากบินจากโซเฟียไปยังเอเธนส์ ในปี 2019 เธอถูกฟ้องในสหรัฐอเมริกาในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน 🌻 ในการหลอกล่อเหยื่อมาลงทุน รูจา อิกนาโตวา มักใช้นิทานเรื่องช้างล่ามโซ่ในการปราศรัยบ่อยครั้ง เธอเปรียบเทียบว่าคนทั่วไปเหมือนช้างที่ถูกล่ามด้วยโซ่ทางการเงิน ไม่กล้าที่จะหลุดพ้น เธอชี้ให้เห็นว่า One Coin คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ "ตัดโซ่" และเป็นอิสระทางการเงิน นิทานเรื่องนี้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าตนกำลัง "ติดกับดัก" ทางการเงิน สร้างความรู้สึกว่า One Coin เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากข้อจำกัดทางการเงิน สร้างแรงจูงใจให้คนกล้าที่จะ "ทำลายกรอบความคิดเดิมๆ" และเข้าร่วมโครงการ ในความเป็นจริง One Coin ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลจริง ไม่มีบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง เป็นระบบพีระมิดที่สร้างรายได้จากการรับสมาชิกใหม่เท่านั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินหรือแลกเปลี่ยน One Coin เป็นเงินจริงได้ One Coin มีผู้เสียหายทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน ความเสียหายทางการเงินประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รูจา อิกนาโตวา ได้รับฉายาว่า “ราชินีคริปโต” หรือ Cryptoqueen เธอหายตัวไปในปี 2017 ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่ต้องการตัวของ FBI ปัจจุบัน เธอกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย​​​​​​​​​​​​​​​​จนทุกวันนี้ 🌻 จะเห็นได้ว่า เรื่องเล่าอย่าง "ช้างล่ามโซ่" ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล จึงควรระวังโครงการที่สัญญาว่าจะทำให้รวยอย่างรวดเร็วหรือหลุดพ้นจากปัญหาทางการเงินอย่างง่ายดาย คดีนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าที่สร้างแรงบันดาลใจสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนักเช่น cryptocurrency 🌻 ยังมีนิทานประเภทสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายหลายเรื่อง ที่มักนำมาใช้ในบริบทการฉ้อโกงลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนิทานเรื่อง“มีดเหลาดินสอ”ที่หลายคนอาจจะคุ้น พวกคอร์สอบรมต่างๆ จะเอามาเล่าบ่อย เรื่องราวมีอยู่ว่า ดินสอบ่นว่าเจ็บเมื่อถูกเหลา แต่มีดเหลาบอกว่า "การเจ็บนี้จะทำให้เธอแหลมคมและเขียนได้ดีขึ้น“ นิทานเรื่องนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แง่คิดเรื่องความอดทนต่อความยากลำบากที่อาจทำให้เราได้เติบโตและพัฒนา 🌻 "นิทานเรื่องช้างและเชือกเส้นเล็ก" เรื่องมีอยู่ว่าในคณะละครสัตว์ มีช้างตัวใหญ่ถูกล่ามด้วยเชือกเส้นเล็กๆ เด็กน้อยสงสัยว่าทำไมช้างไม่ดึงเชือกให้ขาด คนเลี้ยงช้างอธิบายว่า ตั้งแต่ช้างยังเล็ก มันถูกล่ามด้วยโซ่ใหญ่ที่ไม่สามารถหลุดได้ ช้างจึงเชื่อว่าตัวเองไม่มีทางหลุดจากการล่าม แม้โตแล้วก็ยังคิดเช่นนั้น 🌻 "นิทานเรื่องหินสลักและค้อน" เรื่องราวของช่างแกะสลักกำลังทำงานบนหินก้อนใหญ่ เขาตีค้อนลงบนหินครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เห็นผล คนผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมเขาไม่ยอมแพ้ ในที่สุด หลังจากตีค้อนครั้งที่ 101 หินก็แตกออกตามที่เขาต้องการ ช่างแกะสลักอธิบายว่า "ไม่ใช่การตีครั้งสุดท้ายที่ทำให้หินแตก แต่มันเป็นผลรวมของการตีทุกครั้งที่ผ่านมา" 🌻 นิทานเหล่านี้มักถูกใช้เพื่อสื่อถึงความอดทน การไม่ยอมแพ้ และการเอาชนะข้อจำกัดทางความคิด นิทานไม่ได้มีพิษภัยในตัวมันเอง มันเป็นเรื่องเล่าแสนวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจได้จริง แต่เมื่อมีการนำมาใช้ในบริบทของการลงทุนหรือธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การตีความและการนำไปใช้ กลับเป็นสิ่งที่ต้องระวัง บางครั้งนิทานเหล่านี้ มักถูกใช้เพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าเหตุผล อาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์ ในบริบทของธุรกิจที่น่าสงสัย อาจใช้เพื่อกดดัน ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ควร การยอมรับความจริง เลิกทนและถอยออกมา ก็อาจเป็นการตัดสินใจ ที่ชาญฉลาดได้เช่นกัน 🌻 “ในยุคข้อมูลข่าวสาร ความจริงกำลังถูกบดบังด้วยเรื่องเล่าหรือเรื่องราวที่สร้างขึ้น (narratives)” ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ เขียนไว้ในหนังสือ"21 Lessons for the 21st Century"เมื่อหลายปีมาแล้ว (21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21 : ผู้แปล ธิดา จงนิรามัยสถิต, ดร. นำชัย ชีววิวรรธน์ , สำนักพิมพ์ยิปซี) ฮาราริอธิบายว่าผู้คนมักเชื่อในเรื่องราวที่สอดคล้องกับความเชื่อและอัตลักษณ์ของตน มากกว่าข้อเท็จจริงที่อาจขัดแย้งกับความเชื่อนั้น และชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะเชื่อในเรื่องเล่าที่ให้ความหมายและอธิบายโลกรอบตัว เขาบอกว่า“เรื่องเล่าเหล่านี้มีพลังมากกว่าข้อเท็จจริงเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการทางอารมณ์และจิตวิญญาณของมนุษย์” ฮาราริเตือนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะ AI และ Big Data สามารถใช้ในการสร้างและเผยแพร่เรื่องราวที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อย่างคลิปเรื่องเล่าสารพัดที่ผลิตออกมาชักจูงใจคน) เขาชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าใจและจัดการกับอารมณ์มนุษย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ การให้ความสำคัญกับ“อารมณ์”มากกว่า“ความจริง”อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการประชาธิปไตยและการตัดสินใจที่สำคัญ เขาเตือนว่าสังคมอาจถูกชี้นำด้วยการปลุกเร้าอารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผลและข้อมูล ในอนาคต ทักษะทางอารมณ์และความคิดสร้างสรรค์อาจมีความสำคัญมากกว่าความรู้ทางเทคนิค เขาแนะนำว่าระบบการศึกษาควรปรับตัวเพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับโลกที่อารมณ์และความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทสำคัญ ฮาราริเน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักและเข้าใจตนเอง รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ได้อย่างถ่องแท้ เขาบอกว่า“การเข้าใจตนเองจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการกระตุ้นทางอารมณ์ได้ดีขึ้น” ผู้เขียน "21 Lessons for the 21st Century" ไม่ได้บอกว่า แนวโน้มนี้เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่สำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การเมือง และการพัฒนาตนเอง เพื่อรักษาสมดุล ระหว่างอารมณ์และเหตุผล ในยุคสมัยปัจจุบัน ที่“อารมณ์”อาจมีอิทธิพล มากขึ้นเรื่อยๆ​​​​​​​​​​​​​​​​ 🌻 จากข่าวสารประเด็นร้อนแรงในประเทศไทยวันนี้ เราก็ได้เห็นการใช้ Storytelling ในทางที่ผิดหลายเรื่อง เรื่องเล่าถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้างภาพลวงตา มุ่งเน้นการกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการให้ข้อมูลที่เป็นจริง นิทานเหล่านี้สร้างความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำเร็จและความมั่งคั่ง ทำให้คนมองข้ามความเสี่ยงและความเป็นจริงของสถานการณ์ เรื่องเล่าที่น่าประทับใจอาจทำให้ผู้ฟังลดการใช้เหตุผลและการคิดวิเคราะห์ ผู้คนอาจตัดสินใจบนพื้นฐานของ“อารมณ์” มากกว่า“ความจริง” อย่างที่ยูวัล โนอาห์ ฮาราริ กล่าวไว้ไม่มีผิด Storytelling : นิทานหรือเรื่องเล่าที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างความไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว แม้กับคนแปลกหน้า ในกรณีของการหลอกลวง Storytelling ถูกใช้เพื่อลดความระแวดระวังของเหยื่อ เรื่องเล่าที่สวยงามอาจถูกใช้เพื่อปิดบังความจริงที่น่าเป็นห่วงหรือรายละเอียดที่สำคัญ ในกรณีของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM นิทาน เรื่องเล่า หรือ Storytelling ทั้งหลาย อาจถูกใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่กดดันให้สมาชิกไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญกับความล้มเหลว เรื่องเล่าเหล่านี้ มักเล็งเป้าไปที่ความฝัน และความหวังของผู้คน ทำให้เหยื่ออ่อนไหวและเปราะบาง ทำให้ง่ายที่จะหลอกลวง 🌻 นิทาน เรื่องเล่า Storytelling ทั้งหลาย มันไม่ได้เลวร้ายในตัวมันเอง แต่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถใช้ในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ในด้านบวก Storytelling สามารถใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สอน และสื่อสารความคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่คนเรายุคนี้ต้องรับมือ คือต้องพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันสื่อของตัวเอง เพื่อแยกแยะให้ออก ระหว่างการใช้ Storytelling ในทางที่สร้างสรรค์ หรือการใช้เพื่อหลอกลวง 🌻 ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/sg5pYj1hseTp1QGK/?mibextid=CTbP7 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 526 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
    .
    นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
    .
    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
    .
    แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
    .
    การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า
    .
    หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้
    .
    ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่
    .
    ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน
    .
    ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ
    .
    หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น
    .
    ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป
    .
    เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก
    ..............
    Sondhi X
    บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ . ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง . นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก . ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน . แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท . การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า . หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ . ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่ . ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน . ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ . หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น . ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป . เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เศรษฐพุฒิ”ผู้ว่าแบงก์ชาติเทวดา-หัวใจฝรั่ง บนซากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่
    .
    ผมไม่อยากจะพูดว่า 4 ปีเต็มที่คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิเป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ที่หล่อเหลา บุคลิกดี จบปริญญาโท ปริญญาเอก จากเยล พูดภาษาอังกฤษคล่องแบบน้ำไหลไฟดับเหมือนคนต่างชาติ ท่านคิดแบบฝรั่งหมดเลย ท่านไม่เข้าใจถึงบริบท ข้อเท็จจริงทางการเมือง หรือข้อเท็จจริงในสังคมไทย ไม่มีเหตุผลอะไรอื่นที่แบงก์ชาติจะต้องทำให้ค่าเงินบาทแข็งเพื่อลดแต้มต่อให้คู่แข่ง
    .
    เพราะฉะนั้นแล้วราคาสินค้าส่งออกไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญ ทั้งจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน โรงงานใหญ่โรงงานน้อยปิดกันไปหมด แล้วประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร สภาพมันลามไปถึงโรงงานใหญ่แล้ว SME ถูกปิดไปแล้ว สินค้าการเกษตรตกต่ำไปแล้ว ต่อไปนี้จะลามถึงโรงงานใหญ่ๆ ซึ่งโรงงานรถยนต์ปิดไปแล้ว โรงเหล็กก็ปิดไปแล้ว ธุรกิจขนาดเล็กของเรามีแต่ตายกับตาย คนงานที่เคยได้เงินเดือนประจำมาใช้จ่ายในครอบครัว แล้วมาโดนหนี้นอกระบบกระทืบซ้ำอีก คนพวกนี้เป็นคนที่น่าสงสารมาก
    .
    ทั้งหมดที่เขาโดนปิดโรงงานเพราะค่าเงินบาทแข็งจนเกินไป เพราะว่าท่านยึดถือ Dollar Index จริงๆ แล้วท่านน่าจะอยู่FED มากกว่านะ
    .
    คุณเศรษฐพุฒิ มักให้สัมภาษณ์ว่า เพราะเคยทำงานอยู่ธนาคารโลก จึงทำให้รู้ว่าธนาคารโลก และ ไอเอ็มเอฟ ต้องการอะไร คล้ายๆ อ่านทางอีกฝ่ายได้ทะลุปรุโปร่ง การเจรจาระหว่างประเทศไทยกับ 2 องค์กรการเงินโลกที่เป็นเจ้าหนี้ หยิบยื่นเงินกู้มาให้ไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงนั้น จึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
    .
    ผมอยากจะถามคำว่า "สำเร็จลุล่วงไปได้ดี" นั้น ดีอย่างไร ? ดีกับนายทุนฝรั่ง แต่เลวร้ายอย่างยิ่งกับคนไทยและนักธุรกิจไทย ใช่หรือเปล่า ? คำตอบ ใช่ครับ เพราะประวัติของ ปรส. ชี้ชัดเลยว่าคนไทยต้องฉิบหายวายป่วงเพราะฝรั่งอีแร้งเข้ามาสูบเลือดคนไทยไปหมด และนี่คือ "ลุล่วงไปด้วยดี" ของคุณเศรษฐพุฒิ
    .
    ท่านผู้ว่าฯ ครับ ผมไม่อยากจะพูดว่า ท่านกับคุณวิรไท สันติประภพ ทำให้ประเทศชาติฉิบหายไปแล้วในช่วงไอเอ็มเอฟ และ World Bank ตอนวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งครั้งหนึ่งแล้ว นี่จะเป็นครั้งที่สอง ท่านเกษียณไปบนซากปรักหักพังของหลายส่วนในภาคสังคมธุรกิจเล็กๆ กลางๆ และกำลังจะลามมาใหญ่แล้ว ท่านจะมีความสุขมากนักหรือ ท่านก็จะมีความสุข เพราะว่าท่านยังคงเท่เหมือนเดิม ท่านยังคงมี FC ที่เชื่อท่านอยู่
    .
    ท่านทั้งหล่อ เท่ มาดแมน ชงกาแฟได้ เป็นบาริสต้าที่เก่ง ถ้าทำได้อย่างที่พูดมาก็ดี แต่การที่ประชาชนมีหนี้ท่วมอย่างมหาศาล มากมาย ประเทศชาติตกอยู่ในวังวนของเงินฝืด เศรษฐกิจโตต่ำ ขณะที่นายแบงก์ นายทุนธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย กำไรอย่างมากมายมหาศาลโตขึ้นทุกปีๆ ด้วยความสัตย์จริง นี่คือผลงานในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของแบงก์ชาติ และนี่คือสิ่งที่สังคมควรจะได้รับจากความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือเปล่า ปล่อยให้บรรดานายทุน นายแบงก์เหล่านี้ทำนาบนหลังคน กอบโกยกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ภาวะวิกฤตหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ประมาณ 91% ของ GDPซึ่งGDPอยู่ที่18 ล้านล้านบาท
    .
    หลักฐานที่ผมพูดมานี้เป็นความจริง และหลักฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์แล้ว นี่ล่ะคือผลงานของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนปัจจุบัน ท่านผู้ว่าฯ ครับ กรุณาอย่าโกรธผม ท่านเป็นผู้ว่าฯเทวดา คนไทยหัวใจฝรั่ง
    “เศรษฐพุฒิ”ผู้ว่าแบงก์ชาติเทวดา-หัวใจฝรั่ง บนซากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่ . ผมไม่อยากจะพูดว่า 4 ปีเต็มที่คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิเป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ที่หล่อเหลา บุคลิกดี จบปริญญาโท ปริญญาเอก จากเยล พูดภาษาอังกฤษคล่องแบบน้ำไหลไฟดับเหมือนคนต่างชาติ ท่านคิดแบบฝรั่งหมดเลย ท่านไม่เข้าใจถึงบริบท ข้อเท็จจริงทางการเมือง หรือข้อเท็จจริงในสังคมไทย ไม่มีเหตุผลอะไรอื่นที่แบงก์ชาติจะต้องทำให้ค่าเงินบาทแข็งเพื่อลดแต้มต่อให้คู่แข่ง . เพราะฉะนั้นแล้วราคาสินค้าส่งออกไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญ ทั้งจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน โรงงานใหญ่โรงงานน้อยปิดกันไปหมด แล้วประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร สภาพมันลามไปถึงโรงงานใหญ่แล้ว SME ถูกปิดไปแล้ว สินค้าการเกษตรตกต่ำไปแล้ว ต่อไปนี้จะลามถึงโรงงานใหญ่ๆ ซึ่งโรงงานรถยนต์ปิดไปแล้ว โรงเหล็กก็ปิดไปแล้ว ธุรกิจขนาดเล็กของเรามีแต่ตายกับตาย คนงานที่เคยได้เงินเดือนประจำมาใช้จ่ายในครอบครัว แล้วมาโดนหนี้นอกระบบกระทืบซ้ำอีก คนพวกนี้เป็นคนที่น่าสงสารมาก . ทั้งหมดที่เขาโดนปิดโรงงานเพราะค่าเงินบาทแข็งจนเกินไป เพราะว่าท่านยึดถือ Dollar Index จริงๆ แล้วท่านน่าจะอยู่FED มากกว่านะ . คุณเศรษฐพุฒิ มักให้สัมภาษณ์ว่า เพราะเคยทำงานอยู่ธนาคารโลก จึงทำให้รู้ว่าธนาคารโลก และ ไอเอ็มเอฟ ต้องการอะไร คล้ายๆ อ่านทางอีกฝ่ายได้ทะลุปรุโปร่ง การเจรจาระหว่างประเทศไทยกับ 2 องค์กรการเงินโลกที่เป็นเจ้าหนี้ หยิบยื่นเงินกู้มาให้ไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงนั้น จึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี . ผมอยากจะถามคำว่า "สำเร็จลุล่วงไปได้ดี" นั้น ดีอย่างไร ? ดีกับนายทุนฝรั่ง แต่เลวร้ายอย่างยิ่งกับคนไทยและนักธุรกิจไทย ใช่หรือเปล่า ? คำตอบ ใช่ครับ เพราะประวัติของ ปรส. ชี้ชัดเลยว่าคนไทยต้องฉิบหายวายป่วงเพราะฝรั่งอีแร้งเข้ามาสูบเลือดคนไทยไปหมด และนี่คือ "ลุล่วงไปด้วยดี" ของคุณเศรษฐพุฒิ . ท่านผู้ว่าฯ ครับ ผมไม่อยากจะพูดว่า ท่านกับคุณวิรไท สันติประภพ ทำให้ประเทศชาติฉิบหายไปแล้วในช่วงไอเอ็มเอฟ และ World Bank ตอนวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งครั้งหนึ่งแล้ว นี่จะเป็นครั้งที่สอง ท่านเกษียณไปบนซากปรักหักพังของหลายส่วนในภาคสังคมธุรกิจเล็กๆ กลางๆ และกำลังจะลามมาใหญ่แล้ว ท่านจะมีความสุขมากนักหรือ ท่านก็จะมีความสุข เพราะว่าท่านยังคงเท่เหมือนเดิม ท่านยังคงมี FC ที่เชื่อท่านอยู่ . ท่านทั้งหล่อ เท่ มาดแมน ชงกาแฟได้ เป็นบาริสต้าที่เก่ง ถ้าทำได้อย่างที่พูดมาก็ดี แต่การที่ประชาชนมีหนี้ท่วมอย่างมหาศาล มากมาย ประเทศชาติตกอยู่ในวังวนของเงินฝืด เศรษฐกิจโตต่ำ ขณะที่นายแบงก์ นายทุนธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย กำไรอย่างมากมายมหาศาลโตขึ้นทุกปีๆ ด้วยความสัตย์จริง นี่คือผลงานในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของแบงก์ชาติ และนี่คือสิ่งที่สังคมควรจะได้รับจากความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือเปล่า ปล่อยให้บรรดานายทุน นายแบงก์เหล่านี้ทำนาบนหลังคน กอบโกยกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ภาวะวิกฤตหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ประมาณ 91% ของ GDPซึ่งGDPอยู่ที่18 ล้านล้านบาท . หลักฐานที่ผมพูดมานี้เป็นความจริง และหลักฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์แล้ว นี่ล่ะคือผลงานของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนปัจจุบัน ท่านผู้ว่าฯ ครับ กรุณาอย่าโกรธผม ท่านเป็นผู้ว่าฯเทวดา คนไทยหัวใจฝรั่ง
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 679 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนมีความสุขเจริญก้าวหน้าเราก็ต้องแสดงความยินดี
    นี่แหละคือสเน่ห์ของสังคมไทย
    จากดารา ก้าวสู่การเป็นบอส
    จากพรีเซนเตอร์ธรรมดา
    กับการตัดสินใจขั้นสูงสุด
    ก้าวเข้าสู่การเป็น บอส บอสมิน
    กับดิไอคอนกรุ๊ป นี่คือที่สุด
    ไอดอลของคนไทย ต้องก้าวไปสู่จุดหมาย
    เยี่ยมจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #คนมีความสุขเจริญก้าวหน้าเราก็ต้องแสดงความยินดี นี่แหละคือสเน่ห์ของสังคมไทย จากดารา ก้าวสู่การเป็นบอส จากพรีเซนเตอร์ธรรมดา กับการตัดสินใจขั้นสูงสุด ก้าวเข้าสู่การเป็น บอส บอสมิน กับดิไอคอนกรุ๊ป นี่คือที่สุด ไอดอลของคนไทย ต้องก้าวไปสู่จุดหมาย เยี่ยมจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 684 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.พ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 59 ประจำเดือนตุลาคม 2567 @ ประเทศไทยต้องมี “แผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาว”ออกจากปากของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็น“วิสัยทัศน์”ที่ควรค่าต่อการ“ปรบมือ”และ“ติดตาม”... “เหนือเมฆ” แนะให้ดู “วิธีคิด-วิธีการ”ของผู้บริหาร “แชงกรีลาเชียงใหม่โมเดล” เป็นแรงกระชากใจ...กล้าคิด กล้าทำ @ ดราม่าไอแพดบบนเวที ACD summit กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ชุดความรู้สำหรับ “สร.1 ป้ายแดง” “เหนือเมฆ”ให้กำลังใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คำเมืองเปิ้นว่า “แมงแสนตี๋นต๋ายตกน้ำบ่อ”...ประมาณว่า ไม่เคยมีใครไม่เคยผิดพลาด ภาวะผู้นำเบอร์ 1 ของประเทศ บางฟิลต้อง “นิ่ง”ให้เป็น.. “เหนือเมฆ” ใคร่อยากรู้นัก ใครเป็นทีมที่ปรึกษา-ทีมPR อยากหยิกให้เนื้อเขียวเชียว...@ “นายกอุ๊งอิ๊ง”อ้อนออดขอกำลังใจจากผู้อาวุโส“สายม๊อบ” ที่เอะอะก็จะเป่านกหวีดชวนคนลงถนนตะพึ่ด “เพิ่งทำงานได้แค่เดือนเดียวเอง..” ลำพัง“นิติสงคราม”จากพี่ๆนักร้องมืออาชีพที่เคารพก็กองพะเนินเทินทึกจ่อคอหอย ขบวนการตามล้างตามเช็ดตระกูล “ชินวัตร” รายล้อมรอบตัว...งานนี้ คุณพ่อที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ต้องติวเข้ม “ลูกอุ๊งอิ๊ง” ทุกกระเบียดนิ้วปฏิกริยา...ปล่อย“สหายใหญ่” เป็นโค้ชคนเดียวน่าจะเอาไม่อยู่ @ ก็ชอบแล้วที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาเพิ่มเติม 2 คน ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาศ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โปรเจ็คต์ปะจะฉะดะพะบู๊กับแรงเสียดทานทั้งสายบู๊สายบุ๋นนอกในสภา...คู่หูดูโอ้นี้น่าจะบรรเทาเบาแรงให้ “นายกอุ๊งอิ๊ง”มีเวลาทำงานเพิ่มมากขึ้น @ ยามนี้พรรคการเมืองไทยที่กระโดดโลดเต้นในหน้าสื่อรายวัน ดูเหมือนจะมีโดดเด่นเพียง “เพื่อไทย”กับ “ภูมิใจไทย” ขณะที่พรรคประชาชน พักหลังโดนกระแสสังคม “จับตา-จับตาย”หลายแอ๊คชั่นของส.ส.ในสังกัด ที่เหมือนบางท่านจะ“วุฒิภาวะบกพร่อง”กระบวนการ “คิด” และ “ประสบการณ์” แม้ว่ามวลหมู่คนเจนเนอเรชั่นเดียวกันในมุมมืดจะฟันธงล่วงหน้า “อย่างไรก็จะเลือก” แต่โอกาสที่พรรคประชาชนจะเทียบชั้นบริหารราชการแผ่นดินเบอร์ 1 ก็ยังคงมีขบวนการเตะตัดขา “ยุ่บ-ยั่บ”ต่อเนื่อ...แม้สนามหน้าจะแลนด์สไลด์ก็ตาม...เว้นแต่พรรคใหญ่สมัยหน้าจะกวักมือเทียบเชิญจัดตั้งรัฐบาลข้ามสปีชี่... @ “นักการเมือง”และ“สื่อ” คือ พลวัตรชี้นำสังคมไทย โดยมี “คุณภาพประชาชนไทย”เป็นฐานองคาพยพขับเคลื่อน ทั้งการ “ส่งต่อ”และ “การสังเคราะห์ข้อมูล” กระบวนการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นตัวอย่างแอ็คชั่นทางการเมืองเพื่อ “ฟอกขาว”ตนตัวของบรรดานักการเมือง เมื่อ “สื่อ”ระดม“สารมวลชน” ให้ประชาชนคำนวณบวกลบคูณหาร อาการลุกลี้ลุกลนตามสำนวน “ถอยแบบสุดซอย”จึงเกิดขึ้น... และแน่นอนก็ต้องตอบคำถามประชาชนด้วยเพราะบางพรรคร่วมรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง 1” ชูธงเป็นนโยบายหาเสียง @ หากพลิกประเด็นในนโยบายหาเสียงแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองไทยแล้ว โดยพิจารณาจากทุกพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฏร จะเห็นว่าทุกพรรค ออกอาการอุจจาระหดผายลมหายกับคำว่า “รัฐประหาร” ทั้งต่อต้าน ทั้งห้ามนิรโทษกรรม ทั้งกำหนดบทลงโทษ พาลโพเลโพเกไปถึงองค์กรอิสระที่เสนอให้ต้องลดบทบาทอำนาจ ให้มีการคานอำนาจ...อาการของนักการเมืองที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ “เหนือเมฆ”มองมุมไหนก็ล้วนแต่เป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองสาย “กินปูนร้อนท้อง”...@ วุฒิสภาสายสีน้ำเงิน...ก็เป็นผลลัพธ์เชิงประจักษ์ของพรรคการเมืองไทยที่พยายามอาศัยช่องว่างช่องโหว่ของนิยามการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาตัวแทนประชาชนจากทุกสาขาอาชีพ และสุดท้ายภาพของ “วุฒิสภา”ที่ต้องทำงานร้อยรัดกับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็เลยบังเกิดขึ้นในเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ... “เกียรติยศ”และ “ศักดิ์ศรี” กินไม่ได้แต่“เท่” มันมีจริงๆครับเสี่ย...! @ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและมท.1 เลี่ยงที่จะตอบคำถามกรณี คำถามสื่อที่ว่า ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ บ้านใหญ่ภูมิใจไทย ดอดเข้าพบ ทักษิณ ชินวัตร บ้านใหญ่เพื่อไทย...จริงหรือไม่ ณ นาทีนี้ “เหนือเมฆ”ยังไม่ฟันธง แต่อาการ “เลี่ยง” และโบกมือ “บ๊ายบาย”สื่อ มันผิดวิสัยปกติของมท.1 “พี่หนู”...แต่ที่แน่ๆ ถ้าจริง มันคงไม่ใช่เรื่อง “ไร้สาระ”แน่นอน...@ เสียงอำนวยอวยพรก้องฟ้าบุรีรัมย์ของ เนวิน ชิดชอบ “ขอให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี”ยังดังก้องในพิธีปะกำช้างวันคล้ายวันเกิดครูใหญ่เนวิน ขณะผูกข้อไม้ข้อมือ พรนี้ทำเอา “อนุทิน ชาญวีรกูล” ออกอาการสะดุ้งโหยง ไมครูใหญ่ช่างกล้า...เอาเรื่องจริงมาพูดเล่น..นิ ! @ ส่งท้าย น.ส.พ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ ขอแสดงความยินดีกับ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15 แห่งอาณาจักรพิทักษ์สันติราษฎร์ไทย คดีความต่อเนื่องใดๆที่ใครๆต่างก็ลุ้นระทึกตั้งแต่ครั้ง “รักษาการ” มาถึง “ตัวจริง-เสียงจริง”ในวันนี้ “เหนือเมฆ” ไม่คาดหวังสิ่งใด นอกจาก “ภาพลักษณ์เชิงบวก”ของวงการตำรวจไทย...ที่สาละวันถอยหลังและสาละวันเตี้ยลงมานานหลายขวบปี...มีฝีมือแค่ไหน “เดินหน้าลงมือทำทันที” ครับท่าน...ตะเบ๊ะ !
    -เหนือเมฆ-

    น.ส.พ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 59 ประจำเดือนตุลาคม 2567 @ ประเทศไทยต้องมี “แผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาว”ออกจากปากของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็น“วิสัยทัศน์”ที่ควรค่าต่อการ“ปรบมือ”และ“ติดตาม”... “เหนือเมฆ” แนะให้ดู “วิธีคิด-วิธีการ”ของผู้บริหาร “แชงกรีลาเชียงใหม่โมเดล” เป็นแรงกระชากใจ...กล้าคิด กล้าทำ @ ดราม่าไอแพดบบนเวที ACD summit กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ชุดความรู้สำหรับ “สร.1 ป้ายแดง” “เหนือเมฆ”ให้กำลังใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คำเมืองเปิ้นว่า “แมงแสนตี๋นต๋ายตกน้ำบ่อ”...ประมาณว่า ไม่เคยมีใครไม่เคยผิดพลาด ภาวะผู้นำเบอร์ 1 ของประเทศ บางฟิลต้อง “นิ่ง”ให้เป็น.. “เหนือเมฆ” ใคร่อยากรู้นัก ใครเป็นทีมที่ปรึกษา-ทีมPR อยากหยิกให้เนื้อเขียวเชียว...@ “นายกอุ๊งอิ๊ง”อ้อนออดขอกำลังใจจากผู้อาวุโส“สายม๊อบ” ที่เอะอะก็จะเป่านกหวีดชวนคนลงถนนตะพึ่ด “เพิ่งทำงานได้แค่เดือนเดียวเอง..” ลำพัง“นิติสงคราม”จากพี่ๆนักร้องมืออาชีพที่เคารพก็กองพะเนินเทินทึกจ่อคอหอย ขบวนการตามล้างตามเช็ดตระกูล “ชินวัตร” รายล้อมรอบตัว...งานนี้ คุณพ่อที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ต้องติวเข้ม “ลูกอุ๊งอิ๊ง” ทุกกระเบียดนิ้วปฏิกริยา...ปล่อย“สหายใหญ่” เป็นโค้ชคนเดียวน่าจะเอาไม่อยู่ @ ก็ชอบแล้วที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาเพิ่มเติม 2 คน ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาศ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โปรเจ็คต์ปะจะฉะดะพะบู๊กับแรงเสียดทานทั้งสายบู๊สายบุ๋นนอกในสภา...คู่หูดูโอ้นี้น่าจะบรรเทาเบาแรงให้ “นายกอุ๊งอิ๊ง”มีเวลาทำงานเพิ่มมากขึ้น @ ยามนี้พรรคการเมืองไทยที่กระโดดโลดเต้นในหน้าสื่อรายวัน ดูเหมือนจะมีโดดเด่นเพียง “เพื่อไทย”กับ “ภูมิใจไทย” ขณะที่พรรคประชาชน พักหลังโดนกระแสสังคม “จับตา-จับตาย”หลายแอ๊คชั่นของส.ส.ในสังกัด ที่เหมือนบางท่านจะ“วุฒิภาวะบกพร่อง”กระบวนการ “คิด” และ “ประสบการณ์” แม้ว่ามวลหมู่คนเจนเนอเรชั่นเดียวกันในมุมมืดจะฟันธงล่วงหน้า “อย่างไรก็จะเลือก” แต่โอกาสที่พรรคประชาชนจะเทียบชั้นบริหารราชการแผ่นดินเบอร์ 1 ก็ยังคงมีขบวนการเตะตัดขา “ยุ่บ-ยั่บ”ต่อเนื่อ...แม้สนามหน้าจะแลนด์สไลด์ก็ตาม...เว้นแต่พรรคใหญ่สมัยหน้าจะกวักมือเทียบเชิญจัดตั้งรัฐบาลข้ามสปีชี่... @ “นักการเมือง”และ“สื่อ” คือ พลวัตรชี้นำสังคมไทย โดยมี “คุณภาพประชาชนไทย”เป็นฐานองคาพยพขับเคลื่อน ทั้งการ “ส่งต่อ”และ “การสังเคราะห์ข้อมูล” กระบวนการพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นตัวอย่างแอ็คชั่นทางการเมืองเพื่อ “ฟอกขาว”ตนตัวของบรรดานักการเมือง เมื่อ “สื่อ”ระดม“สารมวลชน” ให้ประชาชนคำนวณบวกลบคูณหาร อาการลุกลี้ลุกลนตามสำนวน “ถอยแบบสุดซอย”จึงเกิดขึ้น... และแน่นอนก็ต้องตอบคำถามประชาชนด้วยเพราะบางพรรคร่วมรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง 1” ชูธงเป็นนโยบายหาเสียง @ หากพลิกประเด็นในนโยบายหาเสียงแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองไทยแล้ว โดยพิจารณาจากทุกพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฏร จะเห็นว่าทุกพรรค ออกอาการอุจจาระหดผายลมหายกับคำว่า “รัฐประหาร” ทั้งต่อต้าน ทั้งห้ามนิรโทษกรรม ทั้งกำหนดบทลงโทษ พาลโพเลโพเกไปถึงองค์กรอิสระที่เสนอให้ต้องลดบทบาทอำนาจ ให้มีการคานอำนาจ...อาการของนักการเมืองที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ “เหนือเมฆ”มองมุมไหนก็ล้วนแต่เป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองสาย “กินปูนร้อนท้อง”...@ วุฒิสภาสายสีน้ำเงิน...ก็เป็นผลลัพธ์เชิงประจักษ์ของพรรคการเมืองไทยที่พยายามอาศัยช่องว่างช่องโหว่ของนิยามการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาตัวแทนประชาชนจากทุกสาขาอาชีพ และสุดท้ายภาพของ “วุฒิสภา”ที่ต้องทำงานร้อยรัดกับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็เลยบังเกิดขึ้นในเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ... “เกียรติยศ”และ “ศักดิ์ศรี” กินไม่ได้แต่“เท่” มันมีจริงๆครับเสี่ย...! @ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและมท.1 เลี่ยงที่จะตอบคำถามกรณี คำถามสื่อที่ว่า ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ บ้านใหญ่ภูมิใจไทย ดอดเข้าพบ ทักษิณ ชินวัตร บ้านใหญ่เพื่อไทย...จริงหรือไม่ ณ นาทีนี้ “เหนือเมฆ”ยังไม่ฟันธง แต่อาการ “เลี่ยง” และโบกมือ “บ๊ายบาย”สื่อ มันผิดวิสัยปกติของมท.1 “พี่หนู”...แต่ที่แน่ๆ ถ้าจริง มันคงไม่ใช่เรื่อง “ไร้สาระ”แน่นอน...@ เสียงอำนวยอวยพรก้องฟ้าบุรีรัมย์ของ เนวิน ชิดชอบ “ขอให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี”ยังดังก้องในพิธีปะกำช้างวันคล้ายวันเกิดครูใหญ่เนวิน ขณะผูกข้อไม้ข้อมือ พรนี้ทำเอา “อนุทิน ชาญวีรกูล” ออกอาการสะดุ้งโหยง ไมครูใหญ่ช่างกล้า...เอาเรื่องจริงมาพูดเล่น..นิ ! @ ส่งท้าย น.ส.พ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์ ขอแสดงความยินดีกับ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15 แห่งอาณาจักรพิทักษ์สันติราษฎร์ไทย คดีความต่อเนื่องใดๆที่ใครๆต่างก็ลุ้นระทึกตั้งแต่ครั้ง “รักษาการ” มาถึง “ตัวจริง-เสียงจริง”ในวันนี้ “เหนือเมฆ” ไม่คาดหวังสิ่งใด นอกจาก “ภาพลักษณ์เชิงบวก”ของวงการตำรวจไทย...ที่สาละวันถอยหลังและสาละวันเตี้ยลงมานานหลายขวบปี...มีฝีมือแค่ไหน “เดินหน้าลงมือทำทันที” ครับท่าน...ตะเบ๊ะ ! -เหนือเมฆ-
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีชาวไทยไทม์ทุกท่าน...ขอบคุณผู้ผลิตเเอปคนไทยสังคมไทยไม่ต้องไปเสียตังค์กับเเอปต่างชาติ ฟังคุณสนธิทุกวันถึงทราบว่านี่คือเเอปสำหรับคนไทย..ต่อไปจะพัฒนา วงกว้างอีกเเน่นอน เอาใจช่วยครับ เเท้งกิ้ว ทรี ไทม์ Thank you 3 times....555555🤣🤣🤣🤣 วลีอมตะ 5555
    :STK-1: สวัสดีชาวไทยไทม์ทุกท่าน...ขอบคุณผู้ผลิตเเอปคนไทยสังคมไทยไม่ต้องไปเสียตังค์กับเเอปต่างชาติ ฟังคุณสนธิทุกวันถึงทราบว่านี่คือเเอปสำหรับคนไทย..ต่อไปจะพัฒนา วงกว้างอีกเเน่นอน เอาใจช่วยครับ เเท้งกิ้ว ทรี ไทม์ Thank you 3 times....555555🤣🤣🤣🤣 วลีอมตะ 5555
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หนูอยากเป็นนายกฯ" มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีสติและปัญญามากพอไหม
    .
    ท่านนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ แม่ไม่ต้องการให้เป็น คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พูดกับคนใกล้ชิดหมดเลย ขอร้อง อย่าเอาอุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ขอร้อง แต่ปรากฏว่าพ่อคุณ ท่านนายกฯ ต้องการให้ท่านเป็น แต่ก็ขัดแม่ไม่ได้ ทั้งสองคนผัวเมียเลยตัดสินใจว่าให้ลูกสาวตัดสินใจก็แล้วกัน ใช่หรือเปล่า อย่าโกหกผม
    .
    เมื่อท่านนายกฯ ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่สนามสงครามแล้ว ท่านนายกฯ ต้องยอมรับหอก ดาบ ง้าว กระสุนปืน ที่ถั่งโถมหาท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน อย่าควันออกหูเพียงเพราะว่าหนังสือพิมพ์ คอลัมน์ประจำคอลัมน์หนึ่งของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม"ท่านสติแตกเลย
    .
    ท่านนายกฯ ครับ การที่พ่อท่านเลือกท่าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ง่ายนิดเดียว พ่อท่านไม่เคยไว้ใจใครเลย ไม่เคย ไม่เคยไว้ใจใครเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง โอเค ได้ แต่ความที่แม่ คือคุณหญิงพจมาน ขัดขวาง ไม่ยอมให้เป็น เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา ก็เลยต้องตัดสินใจว่าโยนให้ท่านนายกฯ แพทองธารเป็นคนตัดสินใจ
    .
    ผมรู้ท่านนายกฯรักลูก คิดถึงลูก อยากจะใช้ชีวิตวันเสาร์-อาทิตย์อยู่กับลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ไม่ผิด ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านอย่ามาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยปัญหาชาติบ้านเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุด ท่านนายกฯต้องรู้จักตัวเองบ้างว่าท่านสวมหมวกอะไรอยู่ในขณะนี้
    .
    ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณเป็นห่วงท่าน ส่งทีมงานมา ตั้งคณะที่ปรึกษา ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว ประธานคือพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้ามาล้อมรอบ นั่งคุยด้วย ออกมาหมอเลี้ยบก็ให้สัมภาษณ์ทันทีเลยว่าจะอยู่จนครบ 4 ปี จะทำให้ประชาชนร่ำรวยขึ้น ประเด็นไม่ใช่ปัญหาประชาชนจะร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านนายกฯเป็นตัวของตัวเองได้ไหม
    .
    แต่เผอิญการเป็นตัวของตัวเองนั้น ท่านนายกฯ‘ต้องมีปัญญา’ คำถามคือ ท่านนายกฯ มีสติและมีปัญญามากพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ไหม ไม่ใช่ที่ท่านผิดพลาดไปในเรื่องของค่าเงินบาทแข็ง พอค่าเงินบาทแข็ง ท่านก็บอกว่า ดี ทำให้การส่งออกดีขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดที่เรือหายไปแล้วนะ ท่านพูดมาแล้วหลายครั้งเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ท่านเลย ผมเฉย ผมคิดในใจว่าท่านคงไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ น่าเห็นใจ
    .
    ท่านนายกฯ ครับ การศึกษาบ้านเราจะไปอย่างไร อนาคตบ้านเราจะเป็นอย่างไร คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทะเลาะกับคุณเศรษฐพุฒิ ท่านต้องบอกคุณพิชัยให้หยุดพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น คุณเศรษฐพุฒิท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าไป ตั้งใจทำงานไป
    .
    ท่านนายกฯ ครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้ ผมไม่รังแกคน แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม ท่านไม่ต้องกังวล ท่านทำงานไป ท่านตรวจสอบไป
    .
    ผมขอเถอะท่านนายกฯ ท่านตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ท่านทำได้หรือเปล่า เพื่อชาติจริงๆ ท่านต้องบอกพ่อ พ่อ หนูขอทำงานเพื่อส่วนรวมได้ไหม พ่ออย่ามายุ่งกับการงานของหนูได้ไหม พ่อหาคนมาแนะนำหนูได้ แต่พ่ออย่าสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หนูทำ เป้าหมายของหนูต้องการให้ประเทศชาติไปรอด เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เมื่อส่วนรวมเป็นตัวตั้งแล้ว หนูถือว่าหนูทำงานได้สำเร็จแล้วแต่ที่สำคัญที่สุด ท่านนายกฯ ท่านอย่าลืมตัวท่านเอง ท่านตัดสินใจจะเข้าสู่สงครามนี้ด้วยตัวท่านเอง
    .
    ถ้าท่านรับไม่ไหว ท่านก็ถอยออกมา แต่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านต้องสู้ ท่านอย่ามาโอดครวญบนพื้นฐานที่ไม่ใช่ความจริง บอกว่าเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งมาเดินถนนไล่ ท่านนายกฯ ท่านโกหก
    .
    ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมอายุ 78 แล้ว ผมแก่กว่าคุณพ่อท่านนายกฯ 2 ปี โดยวัยวุฒิตามสังคมไทย ผมต้องเป็นลุงท่านนายกฯ แต่ผมไม่กล้าไปนับญาติกับท่านนายกฯ ไม่กล้า ผมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ท่านนายกฯ ครับ ผมไม่เจียมเนื้อเจียมตัวหรอก
    .
    พฤศจิกายนนี้ ผม78 ผมตายเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าจะตายทั้งทีให้มันลือลั่นไปทั่วในประวัติศาสตร์ ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวล และให้รู้ด้วยว่าถ้าผมประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผม ไม่ต้องมาหาเลยว่าจะเป็นทหารคนไหน ไม่มี ผมไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำ กปปส. ที่มีกองทัพอยู่ข้างหลัง ผมตัวคนเดียว แต่ผมมีประชาชนที่รักความเป็นธรรม และเขารักผม และเขารู้ว่าผมทำงานโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำงานให้ชาติจริงๆ วันที่ผมออกไปสู้กับคุณพ่อท่านนายกฯ ผมบอกกับทุกคนเลย เฮ้ย ถ้าจะมีกูคนเดียว กูก็จะไป เพราะกูเชื่อของกูอย่างนี้
    .
    ถ้าผมจำเป็นต้องประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไร สุดแล้วแต่การทำงานของท่านนายกฯ ผมมีทางเลือกอยู่ทางเดียว ผมต้องชนะ ไม่อย่างนั้นผมยอมตาย
    .
    หวังว่าสิ่งที่ผมพูดนี้จะเป็นประโยชน์ ถ้าท่านนายกฯ เปิดใจรับฟังความเห็นของผม นี่กล่าวจากความจริงใจในใจ เพราะโดยวัยวุฒิแล้วท่านก็เหมือนหลานผม แต่ผมไม่กล้านับลุงนับหลานกับท่าน แต่ผมแก่กว่าพ่อท่านนายกฯ 2 ปี ผมอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว ท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คุณพ่อท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คำถาม ถ้าคุณพ่อท่านนายกฯ ตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ ตายอย่างมีสง่าราศีหรือเปล่า ? ไม่มี ท่านนายกฯ ต้องเข้ามากู้ศักดิ์ศรีของคุณพ่อท่านนายก ด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าไปใส่ใจพวกญาติพี่น้องท่าน
    .
    แล้วท่านนายกฯ ต้องไม่สติแตกง่ายๆ ถ้าตัดสินใจมาลงเล่นสงครามแล้ว ต้องพร้อมจะเจ็บ เท่านั้นล่ะครับ
    "หนูอยากเป็นนายกฯ" มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีสติและปัญญามากพอไหม . ท่านนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ แม่ไม่ต้องการให้เป็น คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พูดกับคนใกล้ชิดหมดเลย ขอร้อง อย่าเอาอุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ขอร้อง แต่ปรากฏว่าพ่อคุณ ท่านนายกฯ ต้องการให้ท่านเป็น แต่ก็ขัดแม่ไม่ได้ ทั้งสองคนผัวเมียเลยตัดสินใจว่าให้ลูกสาวตัดสินใจก็แล้วกัน ใช่หรือเปล่า อย่าโกหกผม . เมื่อท่านนายกฯ ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่สนามสงครามแล้ว ท่านนายกฯ ต้องยอมรับหอก ดาบ ง้าว กระสุนปืน ที่ถั่งโถมหาท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน อย่าควันออกหูเพียงเพราะว่าหนังสือพิมพ์ คอลัมน์ประจำคอลัมน์หนึ่งของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม"ท่านสติแตกเลย . ท่านนายกฯ ครับ การที่พ่อท่านเลือกท่าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ง่ายนิดเดียว พ่อท่านไม่เคยไว้ใจใครเลย ไม่เคย ไม่เคยไว้ใจใครเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง โอเค ได้ แต่ความที่แม่ คือคุณหญิงพจมาน ขัดขวาง ไม่ยอมให้เป็น เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา ก็เลยต้องตัดสินใจว่าโยนให้ท่านนายกฯ แพทองธารเป็นคนตัดสินใจ . ผมรู้ท่านนายกฯรักลูก คิดถึงลูก อยากจะใช้ชีวิตวันเสาร์-อาทิตย์อยู่กับลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ไม่ผิด ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านอย่ามาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยปัญหาชาติบ้านเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุด ท่านนายกฯต้องรู้จักตัวเองบ้างว่าท่านสวมหมวกอะไรอยู่ในขณะนี้ . ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณเป็นห่วงท่าน ส่งทีมงานมา ตั้งคณะที่ปรึกษา ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว ประธานคือพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้ามาล้อมรอบ นั่งคุยด้วย ออกมาหมอเลี้ยบก็ให้สัมภาษณ์ทันทีเลยว่าจะอยู่จนครบ 4 ปี จะทำให้ประชาชนร่ำรวยขึ้น ประเด็นไม่ใช่ปัญหาประชาชนจะร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านนายกฯเป็นตัวของตัวเองได้ไหม . แต่เผอิญการเป็นตัวของตัวเองนั้น ท่านนายกฯ‘ต้องมีปัญญา’ คำถามคือ ท่านนายกฯ มีสติและมีปัญญามากพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ไหม ไม่ใช่ที่ท่านผิดพลาดไปในเรื่องของค่าเงินบาทแข็ง พอค่าเงินบาทแข็ง ท่านก็บอกว่า ดี ทำให้การส่งออกดีขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดที่เรือหายไปแล้วนะ ท่านพูดมาแล้วหลายครั้งเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ท่านเลย ผมเฉย ผมคิดในใจว่าท่านคงไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ น่าเห็นใจ . ท่านนายกฯ ครับ การศึกษาบ้านเราจะไปอย่างไร อนาคตบ้านเราจะเป็นอย่างไร คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทะเลาะกับคุณเศรษฐพุฒิ ท่านต้องบอกคุณพิชัยให้หยุดพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น คุณเศรษฐพุฒิท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าไป ตั้งใจทำงานไป . ท่านนายกฯ ครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้ ผมไม่รังแกคน แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม ท่านไม่ต้องกังวล ท่านทำงานไป ท่านตรวจสอบไป . ผมขอเถอะท่านนายกฯ ท่านตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ท่านทำได้หรือเปล่า เพื่อชาติจริงๆ ท่านต้องบอกพ่อ พ่อ หนูขอทำงานเพื่อส่วนรวมได้ไหม พ่ออย่ามายุ่งกับการงานของหนูได้ไหม พ่อหาคนมาแนะนำหนูได้ แต่พ่ออย่าสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หนูทำ เป้าหมายของหนูต้องการให้ประเทศชาติไปรอด เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เมื่อส่วนรวมเป็นตัวตั้งแล้ว หนูถือว่าหนูทำงานได้สำเร็จแล้วแต่ที่สำคัญที่สุด ท่านนายกฯ ท่านอย่าลืมตัวท่านเอง ท่านตัดสินใจจะเข้าสู่สงครามนี้ด้วยตัวท่านเอง . ถ้าท่านรับไม่ไหว ท่านก็ถอยออกมา แต่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านต้องสู้ ท่านอย่ามาโอดครวญบนพื้นฐานที่ไม่ใช่ความจริง บอกว่าเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งมาเดินถนนไล่ ท่านนายกฯ ท่านโกหก . ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมอายุ 78 แล้ว ผมแก่กว่าคุณพ่อท่านนายกฯ 2 ปี โดยวัยวุฒิตามสังคมไทย ผมต้องเป็นลุงท่านนายกฯ แต่ผมไม่กล้าไปนับญาติกับท่านนายกฯ ไม่กล้า ผมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ท่านนายกฯ ครับ ผมไม่เจียมเนื้อเจียมตัวหรอก . พฤศจิกายนนี้ ผม78 ผมตายเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าจะตายทั้งทีให้มันลือลั่นไปทั่วในประวัติศาสตร์ ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวล และให้รู้ด้วยว่าถ้าผมประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผม ไม่ต้องมาหาเลยว่าจะเป็นทหารคนไหน ไม่มี ผมไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำ กปปส. ที่มีกองทัพอยู่ข้างหลัง ผมตัวคนเดียว แต่ผมมีประชาชนที่รักความเป็นธรรม และเขารักผม และเขารู้ว่าผมทำงานโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำงานให้ชาติจริงๆ วันที่ผมออกไปสู้กับคุณพ่อท่านนายกฯ ผมบอกกับทุกคนเลย เฮ้ย ถ้าจะมีกูคนเดียว กูก็จะไป เพราะกูเชื่อของกูอย่างนี้ . ถ้าผมจำเป็นต้องประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไร สุดแล้วแต่การทำงานของท่านนายกฯ ผมมีทางเลือกอยู่ทางเดียว ผมต้องชนะ ไม่อย่างนั้นผมยอมตาย . หวังว่าสิ่งที่ผมพูดนี้จะเป็นประโยชน์ ถ้าท่านนายกฯ เปิดใจรับฟังความเห็นของผม นี่กล่าวจากความจริงใจในใจ เพราะโดยวัยวุฒิแล้วท่านก็เหมือนหลานผม แต่ผมไม่กล้านับลุงนับหลานกับท่าน แต่ผมแก่กว่าพ่อท่านนายกฯ 2 ปี ผมอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว ท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คุณพ่อท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คำถาม ถ้าคุณพ่อท่านนายกฯ ตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ ตายอย่างมีสง่าราศีหรือเปล่า ? ไม่มี ท่านนายกฯ ต้องเข้ามากู้ศักดิ์ศรีของคุณพ่อท่านนายก ด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าไปใส่ใจพวกญาติพี่น้องท่าน . แล้วท่านนายกฯ ต้องไม่สติแตกง่ายๆ ถ้าตัดสินใจมาลงเล่นสงครามแล้ว ต้องพร้อมจะเจ็บ เท่านั้นล่ะครับ
    Like
    Love
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts