• ไร่กลิ่นเกสร นครนายก ที่ดินของผมให้เขาเช่าทำสวนดอกไม้ และสตรอเบอรี่ เปิดให้แวะเที่ยวชมสำหรับฤดูหนาวนี้แล้วนะครับ
    ไร่กลิ่นเกสร นครนายก ที่ดินของผมให้เขาเช่าทำสวนดอกไม้ และสตรอเบอรี่ เปิดให้แวะเที่ยวชมสำหรับฤดูหนาวนี้แล้วนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิทินผักตามฤดูกาล: เคล็ดลับเลือกผักให้เหมาะกับช่วงเวลาการเลือกผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะเราจะได้ผักที่สดใหม่ เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ดีที่สุด!ฤดูร้อน: • แนะนำผักที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน เช่น แตงกวา, บวบ, ฟักฤดูฝน: • ช่วงนี้เหมาะกับผักใบที่ชอบน้ำ เช่น ผักบุ้ง, คะน้า, ถั่วฝักยาวฤดูหนาว: • ฤดูนี้ปลูกผักได้หลากหลาย โดยเฉพาะผักที่ชอบอากาศเย็น เช่น กะหล่ำปลี, ผักชี, ผักกาดขาว, ขึ้นฉ่ายข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล: 1. ลดการใช้สารเคมี เพราะผักเติบโตตามธรรมชาติ 2. ประหยัดต้นทุน ลดค่าแรงและการดูแลรักษา 3. เพิ่มรายได้ เพราะผักที่มีคุณภาพดีย่อมขายได้ราคาสูงลองเลือกปลูกผักตามฤดูกาลที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ แล้วเราจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่าและยั่งยืน! 🌱#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #ผักตามฤดูกาล
    ปฏิทินผักตามฤดูกาล: เคล็ดลับเลือกผักให้เหมาะกับช่วงเวลาการเลือกผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะเราจะได้ผักที่สดใหม่ เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติที่ดีที่สุด!ฤดูร้อน: • แนะนำผักที่เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน เช่น แตงกวา, บวบ, ฟักฤดูฝน: • ช่วงนี้เหมาะกับผักใบที่ชอบน้ำ เช่น ผักบุ้ง, คะน้า, ถั่วฝักยาวฤดูหนาว: • ฤดูนี้ปลูกผักได้หลากหลาย โดยเฉพาะผักที่ชอบอากาศเย็น เช่น กะหล่ำปลี, ผักชี, ผักกาดขาว, ขึ้นฉ่ายข้อดีของการปลูกผักตามฤดูกาล: 1. ลดการใช้สารเคมี เพราะผักเติบโตตามธรรมชาติ 2. ประหยัดต้นทุน ลดค่าแรงและการดูแลรักษา 3. เพิ่มรายได้ เพราะผักที่มีคุณภาพดีย่อมขายได้ราคาสูงลองเลือกปลูกผักตามฤดูกาลที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ แล้วเราจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่าและยั่งยืน! 🌱#เกษตรน้อย #ร้านเกษตรน้อย #ผักตามฤดูกาล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณคงเคยได้ยินคำนึ้มาบ้าง ...เมื่อเข้าสู่ ฤดูหนาว...คือ เปิดแอร์ทำไม? อากาศก็หนาว...!! ...เดี๋ยวก่อน มาดูที่คุณหมอ บอกผู้เขียนเมื่อ 30 ปีก่อน....ว่า ให้อยู่ที่ อุณหภูมิ คงที่ ...ไม่สวิงขึ้นลง...แลล้วเราจะไม่ป่วย...(เป็นหวัด ภูมิแพ้) ซึ่งนั่นคือการอยู่ให้ห้องที่ควบคุมอุณหภูมิได้....นั่นก็คือ ห้องแอร์..... #ไม่ต้องเชื่อนะครับ เขียนให้อ่านแล้วลองคิดตาม.🫠🦚.
    คุณคงเคยได้ยินคำนึ้มาบ้าง ...เมื่อเข้าสู่ ฤดูหนาว...คือ เปิดแอร์ทำไม? อากาศก็หนาว...!! ...เดี๋ยวก่อน มาดูที่คุณหมอ บอกผู้เขียนเมื่อ 30 ปีก่อน....ว่า ให้อยู่ที่ อุณหภูมิ คงที่ ...ไม่สวิงขึ้นลง...แลล้วเราจะไม่ป่วย...(เป็นหวัด ภูมิแพ้) ซึ่งนั่นคือการอยู่ให้ห้องที่ควบคุมอุณหภูมิได้....นั่นก็คือ ห้องแอร์..... #ไม่ต้องเชื่อนะครับ เขียนให้อ่านแล้วลองคิดตาม.🫠🦚.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน
    .
    "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน
    .
    เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว
    .
    ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    .
    โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน"
    .
    ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน
    .
    เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน
    .
    "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน . "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน . เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว . ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว . โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน" . ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน . เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน . "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 872 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน
    .
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน
    .
    ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง
    .
    ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง
    .
    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้
    .
    แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน
    .
    อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป
    .
    อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล
    .
    ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS
    .
    ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน . การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน . ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง . ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ . สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง . ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด . ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร . ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้ . แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง . นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน . โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน . อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป . อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล . ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS . ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1016 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว
    ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off)
    ❌โรคไฟธอปธอรา
    ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)
    ❌โรคราแป้ง (Powder mildew)
    ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose)
    ❌โรคเน่าเละ
    ❎แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ
    ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅
    #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา
    อ่านน้อยลง
    เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off) ❌โรคไฟธอปธอรา ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) ❌โรคราแป้ง (Powder mildew) ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) ❌โรคเน่าเละ ❎แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅ #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา อ่านน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 34 0 รีวิว
  • เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว
    ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off)
    ❌โรคไฟธอปธอรา
    ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)
    ❌โรคราแป้ง (Powder mildew)
    ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose)
    ❌โรคเน่าเละ
    ❎แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ
    ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅
    #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา
    เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off) ❌โรคไฟธอปธอรา ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) ❌โรคราแป้ง (Powder mildew) ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) ❌โรคเน่าเละ ❎แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅ #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว
    #ทรงพระเจริญ
    ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต เป็นเครื่องทรงฤดูหนาว #ทรงพระเจริญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ukrenergo หน่วยงานด้านบริหารจัดการพลังงานของยูเครน กำลังเริ่มใช้มาตรการจำกัดการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ โดยจะเริ่มต้นใช้มาตรการนี้ในภูมิภาคเคียฟ โอเดสซา ดนีโปรเปตรอฟสค์ และโดเนตสค์

    ธุรกิจต่างๆ จะต้องลดการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 7.00 น. ถึง 20.00 น. เนื่องจาก "ระบบพลังงานขาดแคลนในขั้นวิกฤต" เจากการโจมตีของรัสเซีย และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
    Ukrenergo หน่วยงานด้านบริหารจัดการพลังงานของยูเครน กำลังเริ่มใช้มาตรการจำกัดการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ โดยจะเริ่มต้นใช้มาตรการนี้ในภูมิภาคเคียฟ โอเดสซา ดนีโปรเปตรอฟสค์ และโดเนตสค์ ธุรกิจต่างๆ จะต้องลดการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 7.00 น. ถึง 20.00 น. เนื่องจาก "ระบบพลังงานขาดแคลนในขั้นวิกฤต" เจากการโจมตีของรัสเซีย และเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว
    ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off)
    ❌โรคไฟธอปธอรา
    ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)
    ❌โรคราแป้ง (Powder mildew)
    ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose)
    ❌โรคเน่าเละ
    ✅แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ
    ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅
    #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา
    เตือนภัยโรคพืชที่ต้องระวังในช่วงฤดูหนาว ❌โรคเน่าคอดิน(damping-off) ❌โรคไฟธอปธอรา ❌โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) ❌โรคราแป้ง (Powder mildew) ❌โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) ❌โรคเน่าเละ ✅แต่พี่น้องเกษตรไม่ต้องกังวล สมรถป้องกันและแก้ไขได้ด้วยการฉีดพ่นยากำจัดเชื้อราผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้บ่อยๆ ✅ผงบิ๊กแจ๊สช่วยได้เป็นเกษตรปลอดภัย ไม่มีสารเคมีอันตราย ✅✅ #เชื้อรา #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดินเบิ๊กแจ๊สจัดให้ #รากเน่าโคนเน่า #เน่าคอดิน #แอนแทรคโนส #ราสนิม #ราดำ #ราน้ำค้า #ราแป้ง #ไฟธอปธอรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยามเช้า ช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว... หมอกเริ่มเยอะ
    ยามเช้า ช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว... หมอกเริ่มเยอะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่ำแล้ว…ในฤดูหนาว💕
    ค่ำแล้ว…ในฤดูหนาว💕
    Love
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • ❤️ #รีวิว เส้นทาง #จิ่วจ้ายโกว #เฉิงตู จากคุณสุรัตน์ นะคะ❤️
    เมื่อวันที่ 23-27 ต.ค.67 ที่ผ่านมานะคะ
    ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘

    ⭐️ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวจิ่วจ้ายโกว คือตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีทำให้ทิวทัศน์สวยงามที่สุด แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้เห็นวิวหิมะบนยอดเขาและทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็งที่สวยงามเช่นกัน

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e40ba7

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ❤️ #รีวิว เส้นทาง #จิ่วจ้ายโกว #เฉิงตู จากคุณสุรัตน์ นะคะ❤️ เมื่อวันที่ 23-27 ต.ค.67 ที่ผ่านมานะคะ ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 ⭐️ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวจิ่วจ้ายโกว คือตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีทำให้ทิวทัศน์สวยงามที่สุด แต่ถ้ามาในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้เห็นวิวหิมะบนยอดเขาและทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็งที่สวยงามเช่นกัน ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e40ba7 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หมายกำหนดการ
    วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567
    เปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้ว เป็นฤดูหนาว
    ณ วัดพระแก้ว

    วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #หมายกำหนดการ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้ว เป็นฤดูหนาว ณ วัดพระแก้ว วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 1 รีวิว
  • 🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น
    เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี
    ประเทศญี่ปุ่น
    พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
    ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า
    มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย
    ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี
    มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน
    กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี
    ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ
    "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้
    ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย
    ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ
    ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว
    ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ
    ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย
    การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
    นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้"
    แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี
    🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย
    หนังสือ
    อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี ประเทศญี่ปุ่น พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้" แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี 🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย หนังสือ อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น
    เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี
    ประเทศญี่ปุ่น
    พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
    ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า
    มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย
    ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี
    มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน
    กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี
    ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ
    "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้
    ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย
    ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ
    ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว
    ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ
    ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย
    การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
    นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้"
    แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี
    🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย
    หนังสือ
    อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี ประเทศญี่ปุ่น พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้" แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี 🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย หนังสือ อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น
    เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี
    ประเทศญี่ปุ่น
    พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
    ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า
    มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย
    ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี
    มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน
    กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี
    ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ
    "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้
    ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย
    ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ
    ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว
    ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ
    ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย
    การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
    นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้"
    แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี
    🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย
    หนังสือ
    อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    🚩 การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี ประเทศญี่ปุ่น พอใกล้ฤดูหนาวก็มีหลายคนแห่กันไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถ้านำกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กับกลุ่มทดลองที่ไม่ฉีดมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไข้หวัดใหญ่เลย ยิ่งกว่านั้นเมื่ออายุเกิน 60 ปี มีหลายคนในกลุ่มทดลองที่ฉีดวัคซีน กลับเสียชีวิตฉับพลัน แม้จะบอกว่าเป็นเพราะ "กล้ามเนื้อหัวใจตาย" แต่มองอย่างไรก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนเกือบทุกกรณี ทั้งองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นเว็บเพจ "ไม่สามารถรับประกันว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ ไม่มีหลักประกันว่าวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เลย ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ครับ ตามหลักการมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตวัคซีนซึ่งใช้ได้ผลกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมารวดเร็ว ไวรัสที่แพร่เชื้อเฉพาะมนุษย์และมีรหัสพันธุกรรมแน่นอนอย่างไวรัสโรคหัดสามารถผลิตวัคซีนได้ครับ ทว่าเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แพร่เชื้อสู่คนมันจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และแพร่เชื้อสู่สัตว์ เช่น นก หมู ด้วย การผลิตวัคซีนที่เหมาะ (ได้ผล) กับไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่าง ไข้หวัดใหญ่นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้ต่อให้ “สร้างแอนติบอดี อ่อนแอในเลือดได้" แต่ถ้าบริเวณจมูกและลำคอซึ่งเป็นทางเข้าของไวรัสไม่อาจ สร้างแอนติบอดีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้อยู่ดี 🚩วัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวัคซีนไม่ได้เลยนะครับ ป้องกันการติดเชื้อก็ไม่ได้ แล้วยังมีผลข้างเคียงร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หนัก หรือเสียชีวิตฉับพลันได้เลย หนังสือ อย่าให้หมอฆ่าคุณ น.199
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอ่วเหนือ 400 คนภาคอื่นไม่คุ้ม

    ไม่ปังอย่างที่คิด สำหรับโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ที่รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภาคเหนือหลังสถานการณ์อุทกภัย โดยใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท มอบส่วนลด 50% รวมไม่เกิน 400 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ์แก่นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่าน QR Code จากโรงแรมที่พักที่เข้าร่วมโครงการในภาคเหนือ 17 จังหวัด ก่อนใช้สิทธิ์กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สปา ภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) มีเสียงวิจารณ์ว่า นอกจากไปพ้องกับโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว ยังทำได้แย่กว่า

    จากเดิมที่นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.คาดว่า 10,000 สิทธิ์จะหมดทันทีในวันแรก ปรากฎว่าผ่านไป 2 วัน มีผู้มาใช้สิทธิ์ส่วนลดแค่ 1,814 สิทธิ์ คงเหลือ 8,186 สิทธิ์ แต่ด้วยระยะเวลาใช้จ่ายโครงการถึง 31 ธ.ค. 2567 คาดว่าสิทธิ์จะค่อยลดลงอย่างช้าๆ ในวันธรรมดา และเพิ่มขึ้นในวันหยุดราชการ ถึงกระนั้น ในมุมมองนักท่องเที่ยวถือว่าไม่คุ้ม เพราะให้ส่วนลด 50% เพียงแค่ 400 บาท และยังต้องใช้สิทธิ์เมื่อถึงปลายทาง ลงทะเบียนก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน (First Come First Served) ไม่สามารถจองสิทธิ์ล่วงหน้าได้ ไม่จูงใจมากพอที่คนภาคอื่นจะมาเที่ยว

    ยิ่งเดือน พ.ย. เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือช่วงฤดูหนาว ราคาที่พักสูงกว่าช่วงอื่น นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจองห้องพักล่วงหน้าไปแล้วไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ อีกส่วนหนึ่งใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักหมดแล้ว ก็ไม่ถึงมือร้านอาหาร สปา และผู้ประกอบการอื่น แถมมีโรงแรมบางแห่งจำกัดวันละ 5 สิทธิ์ต่อวัน คนมาที่หลังต้องจ่ายราคาเต็ม ซึ่งมุมมองของผู้ประกอบการ ต้องแบกรับภาระต้นทุนลูกค้าห้องละ 400 บาท หากมีลูกค้าใช้สิทธิ์ 100 ห้อง ต้องแบกภาระสูงถึง 40,000 บาท จนกว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ม.ค. 2568 ซึ่งไม่แน่นอนหากพบการทุจริต

    ย้อนกลับมาที่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 5 เฟส ตั้งแต่ปี 2563-2566 มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือต่อคืน ทำให้จองห้องพักหรูได้ในราคาที่ถูกลง ใช้สิทธิ์ได้ 10-15 ห้องหรือคืน และจองล่วงหน้าได้ เมื่อเช็กอินแล้วยังมีคูปอง e-voucher ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว 600-900 บาทต่อวัน และสามารถเบิกค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาทสำหรับจังหวัดท่องเที่ยว และ 2,000 บาทสำหรับจังหวัดอื่นๆ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 24,016 ล้านบาท แต่เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 58,621 ล้านบาท

    #Newskit #แอ่วเหนือคนละครึ่ง #เราเที่ยวด้วยกัน
    แอ่วเหนือ 400 คนภาคอื่นไม่คุ้ม ไม่ปังอย่างที่คิด สำหรับโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ที่รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแคมเปญเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภาคเหนือหลังสถานการณ์อุทกภัย โดยใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท มอบส่วนลด 50% รวมไม่เกิน 400 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ์แก่นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่าน QR Code จากโรงแรมที่พักที่เข้าร่วมโครงการในภาคเหนือ 17 จังหวัด ก่อนใช้สิทธิ์กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สปา ภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) มีเสียงวิจารณ์ว่า นอกจากไปพ้องกับโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว ยังทำได้แย่กว่า จากเดิมที่นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.คาดว่า 10,000 สิทธิ์จะหมดทันทีในวันแรก ปรากฎว่าผ่านไป 2 วัน มีผู้มาใช้สิทธิ์ส่วนลดแค่ 1,814 สิทธิ์ คงเหลือ 8,186 สิทธิ์ แต่ด้วยระยะเวลาใช้จ่ายโครงการถึง 31 ธ.ค. 2567 คาดว่าสิทธิ์จะค่อยลดลงอย่างช้าๆ ในวันธรรมดา และเพิ่มขึ้นในวันหยุดราชการ ถึงกระนั้น ในมุมมองนักท่องเที่ยวถือว่าไม่คุ้ม เพราะให้ส่วนลด 50% เพียงแค่ 400 บาท และยังต้องใช้สิทธิ์เมื่อถึงปลายทาง ลงทะเบียนก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน (First Come First Served) ไม่สามารถจองสิทธิ์ล่วงหน้าได้ ไม่จูงใจมากพอที่คนภาคอื่นจะมาเที่ยว ยิ่งเดือน พ.ย. เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือช่วงฤดูหนาว ราคาที่พักสูงกว่าช่วงอื่น นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งจองห้องพักล่วงหน้าไปแล้วไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ อีกส่วนหนึ่งใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักหมดแล้ว ก็ไม่ถึงมือร้านอาหาร สปา และผู้ประกอบการอื่น แถมมีโรงแรมบางแห่งจำกัดวันละ 5 สิทธิ์ต่อวัน คนมาที่หลังต้องจ่ายราคาเต็ม ซึ่งมุมมองของผู้ประกอบการ ต้องแบกรับภาระต้นทุนลูกค้าห้องละ 400 บาท หากมีลูกค้าใช้สิทธิ์ 100 ห้อง ต้องแบกภาระสูงถึง 40,000 บาท จนกว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ม.ค. 2568 ซึ่งไม่แน่นอนหากพบการทุจริต ย้อนกลับมาที่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 5 เฟส ตั้งแต่ปี 2563-2566 มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือต่อคืน ทำให้จองห้องพักหรูได้ในราคาที่ถูกลง ใช้สิทธิ์ได้ 10-15 ห้องหรือคืน และจองล่วงหน้าได้ เมื่อเช็กอินแล้วยังมีคูปอง e-voucher ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว 600-900 บาทต่อวัน และสามารถเบิกค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาทสำหรับจังหวัดท่องเที่ยว และ 2,000 บาทสำหรับจังหวัดอื่นๆ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 24,016 ล้านบาท แต่เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 58,621 ล้านบาท #Newskit #แอ่วเหนือคนละครึ่ง #เราเที่ยวด้วยกัน
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • • ทอท.รายงานผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20%
    • ช่วงไฮซีซั่น ปี 67 ตารางบินฤดูหนาวเต็ม ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23%
    • คาดการณ์ผู้โดยสารปีงบ 68 จะทะลุ 130 ล้านคน

    Tourist First, Thai People after บนพื้นที่ประเทศไทย

    https://mgronline.com/business/detail/9670000103905

    #Thaitimes
    • ทอท.รายงานผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% • ช่วงไฮซีซั่น ปี 67 ตารางบินฤดูหนาวเต็ม ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% • คาดการณ์ผู้โดยสารปีงบ 68 จะทะลุ 130 ล้านคน Tourist First, Thai People after บนพื้นที่ประเทศไทย https://mgronline.com/business/detail/9670000103905 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ทอท.โชว์ไฮซีซั่น ปี67 ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% คาดปีงบ 68 ผู้โดยสารรวมทะลุ 130 ล้านคน
    ทอท.โชว์ตัวเลขผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น20% ช่วงไฮซีซั่น ปี67 ตารางบินฤดูหนาวเที่ยวบินแน่น ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% คาดปีงบ 68 ผู้โดยสารทะลุ 130 ล้านคน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น
    .
    วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
    .
    รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
    .
    ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
    .
    สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่
    .
    1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ
    .
    2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน
    .
    ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ
    .
    ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง
    .
    โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์
    .
    ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37%
    .
    ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง
    .
    สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%
    .
    #สนามบิน
    #TheStandardNews
    UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น . วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น . รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) . ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล . สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ . 1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ . 2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน . ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ . ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง . โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์ . ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% . ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง . สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00% . #สนามบิน #TheStandardNews
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวอ้าง อิหร่านกำลังหาทางพัฒนา "คลังแสง" ระเบิดนิวเคลียร์ โดยมีเป้าหมายทำลายล้างอิสราเอล ความเห็นซึ่งมีขึ้น 2 วันหลังจากรัฐยิวทิ้งบอมบ์ถล่มเป้าหมายทางทหารในสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้
    .
    เมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.) อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน แก้แค้กรณีที่ถูกเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โดยในคราวนั้น อิหร่านลงมือแก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่พวกเขาให้การสนับสนุนและผู้บัญชาการระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
    .
    "อิหร่านมุ่งมั่นพัฒนาคลังแสงระเบิดนิวเคลียร์ เพื่อทำลายเรา ระเบิดนิวเคลียร์เหล่านั้นติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธข้ามทวีป ที่อิหร่านกำลังพยายามพัฒนา" เนทันยาฮูกล่าว "อิหร่านอาจคุกคามทั่วทั้งโลกได้ทุกเมื่อ" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ ระหว่างกล่าวกับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างเริ่มประชุมรัฐสภาอิสราเอลสมัยฤดูหนาว
    .
    "การหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อยู่ในลำดับต้นๆ ในความคิดของเรา และด้วยเหตุผลต่างๆ ผมไม่อาจบอกพวกคุณทุกคนเกี่ยวกับแผนของเราและแนวทางดำเนินการของเราในเรื่องนี้"
    .
    รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธมาช้านานต่อคำกล่าวหาที่ว่าพวกเขากำลังพยายามสร้างระเบิดนิวเคลียร์ และยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขานั้นมีจุดประสงค์เพื่อสันติ
    .
    ในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา พวกเขาลดความร่วมมือกับทบวงปรมาณูสากล ขณะเดียวกันก็ยกระดับโครงการนิวเคลียร์ของตนเอง ในนั้นรวมถึงสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะจำนวนมาก

    อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการหน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ระบุในสัปดาห์ที่แล้ว ว่า อิหร่านแสดงออกถึงความตั้งใจในการกลับมาให้ความร่วมมือในประเด็นนิวเคลียร์
    .
    เตหะรานซึ่งให้การสนับสนุนฮามาส เตือนว่าพวกเขาจะตอบโต้อย่างหนักหน่วงและมีประสิทธิผล ต่อปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
    .
    สงครามในกาซาระหว่างฮามาสและอิสราเอล ลากอิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส รวมถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเข้าร่วมวงด้วย
    .
    เนทันยาฮู กล่าวว่า "พวกอักษะแห่งปีศาจ ผู้บ้าคลั่งที่นำโดยอิหร่าน ข่มขู่ที่จะทำลายประเทศของเราและขู่ยึดครองประเทศอื่นๆ พวกเขาปรารถนาใช้กำลังเข้าควบคุมภูมิภาคของเรา อิสราเอลคือขวากหนามที่แท้จริงในเส้นทางของอิหร่าน เพราะว่าสำหรับอิหร่านแล้ว หากอิสราเอลล้มครืน ประเทศต่างๆ มากมายก็จะล้มตามไปด้วย ทั่วทั้งตะวันออกกลางจะตกไปอยู่ในมือของพวกเขา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103989
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวอ้าง อิหร่านกำลังหาทางพัฒนา "คลังแสง" ระเบิดนิวเคลียร์ โดยมีเป้าหมายทำลายล้างอิสราเอล ความเห็นซึ่งมีขึ้น 2 วันหลังจากรัฐยิวทิ้งบอมบ์ถล่มเป้าหมายทางทหารในสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ . เมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.) อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน แก้แค้กรณีที่ถูกเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โดยในคราวนั้น อิหร่านลงมือแก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่พวกเขาให้การสนับสนุนและผู้บัญชาการระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน . "อิหร่านมุ่งมั่นพัฒนาคลังแสงระเบิดนิวเคลียร์ เพื่อทำลายเรา ระเบิดนิวเคลียร์เหล่านั้นติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธข้ามทวีป ที่อิหร่านกำลังพยายามพัฒนา" เนทันยาฮูกล่าว "อิหร่านอาจคุกคามทั่วทั้งโลกได้ทุกเมื่อ" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ ระหว่างกล่าวกับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างเริ่มประชุมรัฐสภาอิสราเอลสมัยฤดูหนาว . "การหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อยู่ในลำดับต้นๆ ในความคิดของเรา และด้วยเหตุผลต่างๆ ผมไม่อาจบอกพวกคุณทุกคนเกี่ยวกับแผนของเราและแนวทางดำเนินการของเราในเรื่องนี้" . รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธมาช้านานต่อคำกล่าวหาที่ว่าพวกเขากำลังพยายามสร้างระเบิดนิวเคลียร์ และยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขานั้นมีจุดประสงค์เพื่อสันติ . ในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา พวกเขาลดความร่วมมือกับทบวงปรมาณูสากล ขณะเดียวกันก็ยกระดับโครงการนิวเคลียร์ของตนเอง ในนั้นรวมถึงสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการหน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ระบุในสัปดาห์ที่แล้ว ว่า อิหร่านแสดงออกถึงความตั้งใจในการกลับมาให้ความร่วมมือในประเด็นนิวเคลียร์ . เตหะรานซึ่งให้การสนับสนุนฮามาส เตือนว่าพวกเขาจะตอบโต้อย่างหนักหน่วงและมีประสิทธิผล ต่อปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ . สงครามในกาซาระหว่างฮามาสและอิสราเอล ลากอิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส รวมถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเข้าร่วมวงด้วย . เนทันยาฮู กล่าวว่า "พวกอักษะแห่งปีศาจ ผู้บ้าคลั่งที่นำโดยอิหร่าน ข่มขู่ที่จะทำลายประเทศของเราและขู่ยึดครองประเทศอื่นๆ พวกเขาปรารถนาใช้กำลังเข้าควบคุมภูมิภาคของเรา อิสราเอลคือขวากหนามที่แท้จริงในเส้นทางของอิหร่าน เพราะว่าสำหรับอิหร่านแล้ว หากอิสราเอลล้มครืน ประเทศต่างๆ มากมายก็จะล้มตามไปด้วย ทั่วทั้งตะวันออกกลางจะตกไปอยู่ในมือของพวกเขา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103989 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1281 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หมายกำหนดการ
    วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567
    ทอดพระเนตร โขนพระราชทาน
    ณ ศูนย์วัฒนธรรมฯ

    วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567
    เปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้ว เป็นฤดูหนาว
    ณ วัดพระแก้ว
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #หมายกำหนดการ วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ทอดพระเนตร โขนพระราชทาน ณ ศูนย์วัฒนธรรมฯ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้ว เป็นฤดูหนาว ณ วัดพระแก้ว #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ
    นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #englishtest

    Part one ตอน 1

    Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy.

    กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)
    little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย
    left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป
    mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่
    daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ
    summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน
    roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว
    woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้
    plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง
    games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม
    fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน
    happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข
    easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย
    friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน
    wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม
    given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้
    warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น
    welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ
    drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา
    close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด
    realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ
    folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน
    usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ
    jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน
    preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว
    winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว
    autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
    began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม
    rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก
    started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น
    feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก
    needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น
    real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง
    home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน
    knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้
    over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง
    now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้
    work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน
    like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ
    cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว
    decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ
    build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง
    laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ
    straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง
    hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #englishtest Part one ตอน 1 Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy. กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่ daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้ plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้ warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้ over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันจันทร์ที่เริ่มมีแสงแดด ปลายฤดูฝนเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
    วันจันทร์ที่เริ่มมีแสงแดด ปลายฤดูฝนเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!!

    ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!!

    ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง
    ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน
    ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป

    สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ
    ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ
    แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว
    พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด ……
    แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!!

    ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย
    ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน
    เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก)
    และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!!

    วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ
    เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21
    ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา
    แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ
    โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า
    เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน……
    เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

    แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน…
    ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน……
    (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…)
    แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์
    ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!!
    แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ
    จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ……
    เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน……

    ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน
    เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้…
    แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม
    แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย……
    นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!!

    เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง
    ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า
    “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน)
    จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน
    และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad
    ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้
    ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น
    การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!!

    ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง
    ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ

    ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน
    ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ)

    วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!!

    สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ
    การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……)
    แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว
    เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า
    “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “

    วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน
    แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น”
    เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย
    ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!!

    ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น
    แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่……
    มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น
    เต้นมาร้องกันใหม่……

    การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย
    นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน……
    นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย
    เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด
    ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน
    แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.……

    ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden
    แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์
    สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร
    กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์

    เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย
    ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม
    เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
    มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต
    ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า
    Novorossiya อันหมายถึง New Russia…

    ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์
    ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน
    ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป……

    ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ
    Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ)

    วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว
    แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน…
    เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง
    สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี
    จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป
    แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน
    วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์
    ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!!

    ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!! ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!! ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด …… แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!! ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก) และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!! วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21 ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน…… เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน… ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน…… (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…) แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!! แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ…… เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน…… ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้… แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย…… นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!! เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน) จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้ ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!! ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ) วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!! สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……) แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “ วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น” เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!! ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่…… มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น เต้นมาร้องกันใหม่…… การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน…… นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.…… ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์ สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์ เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า Novorossiya อันหมายถึง New Russia… ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์ ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป…… ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ) วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน… เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์ ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!! ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts