• มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ

    การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม

    อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว

    ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

    การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)

    #Newskit
    มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบ่งโซนสั่งงานน้ำท่วม อย่ามองเป็นการเมือง : [THE MESSAGE]

    นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ครั้งที่ 1/2568 ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ เริ่มจัดการข้อมูล โดยคัดกรองข้อมูลที่ประชาชนร้องเรียน ประสานท้องถิ่นว่าในส่วนที่รับผิดชอบมีผู้ประสบภัยเท่าใด เพื่อส่งต่อไปศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่มี พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ ศป.กฉ. ส่วนหน้า โดยจะแบ่งโซนรับผิดชอบชัดเจน ทำให้ทราบว่าต้องประสานงานกับใคร ส่วนฝ่ายปฏิบัติต้องฟังคำสั่งจาก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้น ใครอยู่ส่วนใดก็แบ่งโซนกัน ขออย่าถามเรื่องการเมือง ทุกคนทำงานเพื่อช่วยประชาชน ยืนยัน ไม่สับสน ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องแผนอพยพที่เริ่มมีผู้เสียชีวิตระหว่างรอความช่วยเหลือ กำลังเร่งดำเนินการ ศูนย์ฯนี้เพิ่งตั้ง ทุกฝ่ายเร่งประสานอพยพผู้ป่วย และ ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด สส. สงขลา พัทลุง สตูล แจ้งเตือนประชาชนให้อพยพก่อนมวลน้ำไปถึง ไม่ให้ซ้ำรอยหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นบทเรียน
    แบ่งโซนสั่งงานน้ำท่วม อย่ามองเป็นการเมือง : [THE MESSAGE] นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ครั้งที่ 1/2568 ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ เริ่มจัดการข้อมูล โดยคัดกรองข้อมูลที่ประชาชนร้องเรียน ประสานท้องถิ่นว่าในส่วนที่รับผิดชอบมีผู้ประสบภัยเท่าใด เพื่อส่งต่อไปศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่มี พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ ศป.กฉ. ส่วนหน้า โดยจะแบ่งโซนรับผิดชอบชัดเจน ทำให้ทราบว่าต้องประสานงานกับใคร ส่วนฝ่ายปฏิบัติต้องฟังคำสั่งจาก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้น ใครอยู่ส่วนใดก็แบ่งโซนกัน ขออย่าถามเรื่องการเมือง ทุกคนทำงานเพื่อช่วยประชาชน ยืนยัน ไม่สับสน ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องแผนอพยพที่เริ่มมีผู้เสียชีวิตระหว่างรอความช่วยเหลือ กำลังเร่งดำเนินการ ศูนย์ฯนี้เพิ่งตั้ง ทุกฝ่ายเร่งประสานอพยพผู้ป่วย และ ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด สส. สงขลา พัทลุง สตูล แจ้งเตือนประชาชนให้อพยพก่อนมวลน้ำไปถึง ไม่ให้ซ้ำรอยหาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นบทเรียน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คณะกรรมการการค้าแห่งเกาหลี (KFTC) ได้บุกตรวจสอบสำนักงานของ Arm ในกรุงโซล

    รายงานจาก The Korea Times ระบุว่า KFTC ได้ดำเนินการตรวจสอบภายในสำนักงาน Arm ที่กรุงโซล โดยมีเป้าหมายเพื่อหาหลักฐานว่าบริษัทมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิป หลังจาก Qualcomm ยื่นเรื่องร้องเรียนในเดือนมีนาคมต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

    ข้อพิพาทระหว่าง Arm และ Qualcomm
    ข้อพิพาทเริ่มต้นเมื่อ Arm ยกเลิกสัญญา Architecture License Agreement (ALA) ของ Nuvia ซึ่ง Qualcomm ซื้อกิจการในปี 2021 Qualcomm ยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ใช้เทคโนโลยี Nuvia ภายใต้สัญญา Arm เดิม แต่ Arm โต้แย้งว่าต้องทำสัญญาใหม่ ทำให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อมากว่า 3 ปี ล่าสุดศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Qualcomm ชนะคดี แต่ Arm ยังคงยื่นอุทธรณ์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การตรวจสอบครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเกาหลีเป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตชิป เช่น Samsung ที่เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรของ Qualcomm หากพบว่า Arm มีการจำกัดสิทธิ์จริง อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ และกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    แนวโน้มในอนาคต
    แม้ Qualcomm จะชนะคดีในสหรัฐฯ แต่การร้องเรียนต่อหลายประเทศ รวมถึงการตรวจสอบของ KFTC แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังไม่จบง่าย ๆ หาก Arm ถูกตัดสินว่ามีการละเมิดกฎการค้า อาจต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการออกใบอนุญาต ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    KFTC ตรวจสอบสำนักงาน Arm ในกรุงโซล
    สืบหาหลักฐานการจำกัดสิทธิ์การใช้งานสถาปัตยกรรมชิป

    ข้อพิพาท Arm–Qualcomm
    เกิดจากการยกเลิกสัญญา ALA ของ Nuvia
    Qualcomm ชนะคดีในสหรัฐฯ แต่ Arm ยื่นอุทธรณ์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Samsung และผู้ผลิตชิปในเกาหลีอาจได้รับผลกระทบ
    อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    หาก Arm ถูกตัดสินว่าละเมิด อาจต้องปรับโมเดลธุรกิจ
    ความไม่แน่นอนอาจกระทบต่อซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์โลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-fair-trade-commission-reportedly-raids-arms-seoul-office-amid-qualcomm-licensing-dispute-stems-from-allegations-of-unfair-market-practices
    ⚖️ คณะกรรมการการค้าแห่งเกาหลี (KFTC) ได้บุกตรวจสอบสำนักงานของ Arm ในกรุงโซล รายงานจาก The Korea Times ระบุว่า KFTC ได้ดำเนินการตรวจสอบภายในสำนักงาน Arm ที่กรุงโซล โดยมีเป้าหมายเพื่อหาหลักฐานว่าบริษัทมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมชิป หลังจาก Qualcomm ยื่นเรื่องร้องเรียนในเดือนมีนาคมต่อหน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป 🔍 ข้อพิพาทระหว่าง Arm และ Qualcomm ข้อพิพาทเริ่มต้นเมื่อ Arm ยกเลิกสัญญา Architecture License Agreement (ALA) ของ Nuvia ซึ่ง Qualcomm ซื้อกิจการในปี 2021 Qualcomm ยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ใช้เทคโนโลยี Nuvia ภายใต้สัญญา Arm เดิม แต่ Arm โต้แย้งว่าต้องทำสัญญาใหม่ ทำให้เกิดการฟ้องร้องยืดเยื้อมากว่า 3 ปี ล่าสุดศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Qualcomm ชนะคดี แต่ Arm ยังคงยื่นอุทธรณ์ 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การตรวจสอบครั้งนี้มีความสำคัญเพราะเกาหลีเป็นศูนย์กลางของผู้ผลิตชิป เช่น Samsung ที่เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรของ Qualcomm หากพบว่า Arm มีการจำกัดสิทธิ์จริง อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ และกระทบต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔮 แนวโน้มในอนาคต แม้ Qualcomm จะชนะคดีในสหรัฐฯ แต่การร้องเรียนต่อหลายประเทศ รวมถึงการตรวจสอบของ KFTC แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังไม่จบง่าย ๆ หาก Arm ถูกตัดสินว่ามีการละเมิดกฎการค้า อาจต้องปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและการออกใบอนุญาต ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ KFTC ตรวจสอบสำนักงาน Arm ในกรุงโซล ➡️ สืบหาหลักฐานการจำกัดสิทธิ์การใช้งานสถาปัตยกรรมชิป ✅ ข้อพิพาท Arm–Qualcomm ➡️ เกิดจากการยกเลิกสัญญา ALA ของ Nuvia ➡️ Qualcomm ชนะคดีในสหรัฐฯ แต่ Arm ยื่นอุทธรณ์ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Samsung และผู้ผลิตชิปในเกาหลีอาจได้รับผลกระทบ ➡️ อาจนำไปสู่การสอบสวนระดับนานาชาติ ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ หาก Arm ถูกตัดสินว่าละเมิด อาจต้องปรับโมเดลธุรกิจ ⛔ ความไม่แน่นอนอาจกระทบต่อซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์โลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-fair-trade-commission-reportedly-raids-arms-seoul-office-amid-qualcomm-licensing-dispute-stems-from-allegations-of-unfair-market-practices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting

    Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย

    คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

    สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense
    ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ
    เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH

    บทบาทของ ISP
    ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง
    ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า

    ความเสี่ยงจาก BPH
    สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์
    มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก

    ข้อควรระวังในการป้องกัน
    การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง

    https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
    🛡️ สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense ➡️ ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ ➡️ เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH ✅ บทบาทของ ISP ➡️ ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง ➡️ ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า ‼️ ความเสี่ยงจาก BPH ⛔ สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์ ⛔ มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก ‼️ ข้อควรระวังในการป้องกัน ⛔ การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA/FBI/NSA Unite to Dismantle Bulletproof Hosting Ecosystem with New Global Defense Guide
    CISA, NSA, and FBI released a guide to dismantle Bulletproof Hosting (BPH) networks. It advises ISPs on precision filtering and stricter vetting to curb infrastructure used by ransomware and phishing campaigns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหราชอาณาจักรเปิดโปงผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่เชื่อมโยงกับ LockBit และ Evil Corp

    Alexander Volosovik หรือที่รู้จักในโลกออนไลน์ว่า “Yalishanda” ถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน Bulletproof Hosting ภายใต้ชื่อบริษัท Media Land LLC และ ML.Cloud LLC ในรัสเซีย โครงสร้างนี้ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์และอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น LockBit, Evil Corp และ BlackBasta เพื่อดำเนินการโจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อองค์กรทั่วโลก ทั้งด้านการเงินและการหยุดชะงักของการดำเนินงาน

    บริการ Bulletproof Hosting มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจอาชญากรรมไซเบอร์ เพราะช่วย ซ่อนตัวตนลูกค้า, เพิกเฉยต่อการร้องเรียนการละเมิด, และต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถดำเนินการโจมตีได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรผ่าน FCDO ได้ประกาศคว่ำบาตร Volosovik และผู้ร่วมงานอีก 3 คน โดยประสานงานกับ US Treasury’s OFAC และ กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เพื่อสร้างแรงกดดันระดับนานาชาติ ขณะเดียวกันพันธมิตร Five Eyes (สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์) ได้ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากบริการโฮสติ้งประเภทนี้

    นอกจากนี้ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยังได้ ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 250 เครื่อง จากผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเชื่อมโยงกับการสอบสวนอาชญากรรมไซเบอร์กว่า 80 คดี การยึดครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักสืบได้เห็นโครงสร้างเบื้องหลังที่สนับสนุนการโจมตีไซเบอร์ขนาดใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดโปงและคว่ำบาตร
    Alexander Volosovik (“Yalishanda”) ถูกคว่ำบาตรโดย UK, US, และออสเตรเลีย
    โครงสร้าง Media Land LLC และ ML.Cloud LLC สนับสนุน LockBit, Evil Corp, BlackBasta

    บทบาทของ Bulletproof Hosting
    ซ่อนตัวตนลูกค้าและเพิกเฉยต่อการร้องเรียน
    ต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ
    เป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้แรนซัมแวร์ดำเนินการได้ต่อเนื่อง

    การดำเนินการระหว่างประเทศ
    Five Eyes ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจ
    ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยึดเซิร์ฟเวอร์ 250 เครื่อง เชื่อมโยงกับกว่า 80 คดี

    คำเตือนและความเสี่ยง
    บริการ Bulletproof Hosting ทำให้การโจมตีไซเบอร์ยากต่อการหยุดยั้ง
    ภาคธุรกิจที่ใช้บริการเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรและการสอบสวน
    การแพร่กระจายของแรนซัมแวร์ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    https://hackread.com/uk-bulletproof-hosting-operator-lockbit-evil-corp/
    🕵️ สหราชอาณาจักรเปิดโปงผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่เชื่อมโยงกับ LockBit และ Evil Corp Alexander Volosovik หรือที่รู้จักในโลกออนไลน์ว่า “Yalishanda” ถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน Bulletproof Hosting ภายใต้ชื่อบริษัท Media Land LLC และ ML.Cloud LLC ในรัสเซีย โครงสร้างนี้ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์และอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น LockBit, Evil Corp และ BlackBasta เพื่อดำเนินการโจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อองค์กรทั่วโลก ทั้งด้านการเงินและการหยุดชะงักของการดำเนินงาน บริการ Bulletproof Hosting มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจอาชญากรรมไซเบอร์ เพราะช่วย ซ่อนตัวตนลูกค้า, เพิกเฉยต่อการร้องเรียนการละเมิด, และต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถดำเนินการโจมตีได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง รัฐบาลสหราชอาณาจักรผ่าน FCDO ได้ประกาศคว่ำบาตร Volosovik และผู้ร่วมงานอีก 3 คน โดยประสานงานกับ US Treasury’s OFAC และ กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เพื่อสร้างแรงกดดันระดับนานาชาติ ขณะเดียวกันพันธมิตร Five Eyes (สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์) ได้ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากบริการโฮสติ้งประเภทนี้ นอกจากนี้ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยังได้ ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 250 เครื่อง จากผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเชื่อมโยงกับการสอบสวนอาชญากรรมไซเบอร์กว่า 80 คดี การยึดครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักสืบได้เห็นโครงสร้างเบื้องหลังที่สนับสนุนการโจมตีไซเบอร์ขนาดใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดโปงและคว่ำบาตร ➡️ Alexander Volosovik (“Yalishanda”) ถูกคว่ำบาตรโดย UK, US, และออสเตรเลีย ➡️ โครงสร้าง Media Land LLC และ ML.Cloud LLC สนับสนุน LockBit, Evil Corp, BlackBasta ✅ บทบาทของ Bulletproof Hosting ➡️ ซ่อนตัวตนลูกค้าและเพิกเฉยต่อการร้องเรียน ➡️ ต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ➡️ เป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้แรนซัมแวร์ดำเนินการได้ต่อเนื่อง ✅ การดำเนินการระหว่างประเทศ ➡️ Five Eyes ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจ ➡️ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยึดเซิร์ฟเวอร์ 250 เครื่อง เชื่อมโยงกับกว่า 80 คดี ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ บริการ Bulletproof Hosting ทำให้การโจมตีไซเบอร์ยากต่อการหยุดยั้ง ⛔ ภาคธุรกิจที่ใช้บริการเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรและการสอบสวน ⛔ การแพร่กระจายของแรนซัมแวร์ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ https://hackread.com/uk-bulletproof-hosting-operator-lockbit-evil-corp/
    HACKREAD.COM
    UK Exposes Bulletproof Hosting Operator Linked to LockBit and Evil Corp
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยทุกคนสบายใจได้เลย กต.จะร้องเรียนแล้วนะจ๊ะ!!! (18/11/68)
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กระทรวงการต่างประเทศ #การเมืองไทย #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    คนไทยทุกคนสบายใจได้เลย กต.จะร้องเรียนแล้วนะจ๊ะ!!! (18/11/68) . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กระทรวงการต่างประเทศ #การเมืองไทย #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แรงกดดันปริศนาต่อ Archive.today

    Archive.today หรือ Archive.is เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้บันทึก “snapshot” ของหน้าเว็บเพื่อเก็บรักษาเนื้อหาที่อาจหายไปในอนาคต แต่ล่าสุดกลับถูกกดดันจากองค์กรที่อ้างว่าต่อต้านสื่อลามกเด็กในฝรั่งเศส โดยเรียกร้องให้ผู้ให้บริการ DNS อย่าง AdGuard บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ เหตุผลคือมีการกล่าวหาว่า Archive.today ไม่ยอมลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023

    สิ่งที่น่าสงสัยคือองค์กรที่ยื่นเรื่องนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นไม่นาน มีข้อมูลสาธารณะน้อยมาก และใช้วิธีการที่ดูเหมือนจะปกปิดตัวตน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน

    กฎหมายฝรั่งเศสกับข้อถกเถียง
    ตามกฎหมายฝรั่งเศส (LCEN) บริษัทที่ได้รับแจ้งว่ามีเนื้อหาผิดกฎหมายอาจถูกบังคับให้บล็อกการเข้าถึง แม้จะไม่ใช่ผู้ให้บริการโฮสต์โดยตรง ซึ่งเป็นจุดที่ AdGuard มองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะการตัดสินว่าอะไรผิดกฎหมายควรเป็นหน้าที่ของศาล ไม่ใช่บริษัทเอกชนที่ถูกกดดันด้วยข้อร้องเรียนที่อาจไม่จริง

    นอกจากนี้ กฎหมายเดียวกันยังมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลเท็จ โดยอาจถูกจำคุกและปรับเงิน ทำให้กรณีนี้ยิ่งซับซ้อนขึ้น เพราะหากข้อร้องเรียนเป็นการปลอมแปลงจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นกัน

    มิติระหว่างประเทศและการสืบสวน
    ในเวลาเดียวกัน มีรายงานว่า FBI ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย การที่ทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแรงกดดันระดับนานาชาติที่ต้องการจำกัดการทำงานของเว็บไซต์นี้ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บรักษาข้อมูลออนไลน์

    สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของโลกดิจิทัล ที่เส้นแบ่งระหว่าง “การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ” และ “การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย” อาจทับซ้อนกัน และกลายเป็นประเด็นถกเถียงทั้งด้านกฎหมายและจริยธรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    Archive.today ถูกกดดันจากองค์กรฝรั่งเศส
    อ้างว่าไม่ลบเนื้อหาผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023
    เรียกร้องให้ AdGuard DNS บล็อกการเข้าถึง

    กฎหมายฝรั่งเศส LCEN มีผลบังคับใช้
    บริษัทอาจต้องบล็อกเนื้อหาตามคำร้องเรียน
    มีบทลงโทษสำหรับการแจ้งข้อมูลเท็จ

    FBI สหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today
    สงสัยเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาผิดกฎหมาย
    สร้างแรงกดดันระหว่างประเทศต่อเว็บไซต์

    ข้อร้องเรียนมีความน่าสงสัย
    องค์กรเพิ่งก่อตั้งและข้อมูลสาธารณะน้อย
    อาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดัน

    ความเสี่ยงต่อเสรีภาพการเก็บข้อมูลออนไลน์
    การบังคับบล็อกอาจกระทบการเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณค่า
    เส้นแบ่งระหว่างการเก็บรักษาและการเผยแพร่ผิดกฎหมายยังไม่ชัดเจน

    https://adguard-dns.io/en/blog/archive-today-adguard-dns-block-demand.html
    🕵️‍♂️ แรงกดดันปริศนาต่อ Archive.today Archive.today หรือ Archive.is เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้บันทึก “snapshot” ของหน้าเว็บเพื่อเก็บรักษาเนื้อหาที่อาจหายไปในอนาคต แต่ล่าสุดกลับถูกกดดันจากองค์กรที่อ้างว่าต่อต้านสื่อลามกเด็กในฝรั่งเศส โดยเรียกร้องให้ผู้ให้บริการ DNS อย่าง AdGuard บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ เหตุผลคือมีการกล่าวหาว่า Archive.today ไม่ยอมลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 สิ่งที่น่าสงสัยคือองค์กรที่ยื่นเรื่องนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นไม่นาน มีข้อมูลสาธารณะน้อยมาก และใช้วิธีการที่ดูเหมือนจะปกปิดตัวตน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน ⚖️ กฎหมายฝรั่งเศสกับข้อถกเถียง ตามกฎหมายฝรั่งเศส (LCEN) บริษัทที่ได้รับแจ้งว่ามีเนื้อหาผิดกฎหมายอาจถูกบังคับให้บล็อกการเข้าถึง แม้จะไม่ใช่ผู้ให้บริการโฮสต์โดยตรง ซึ่งเป็นจุดที่ AdGuard มองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะการตัดสินว่าอะไรผิดกฎหมายควรเป็นหน้าที่ของศาล ไม่ใช่บริษัทเอกชนที่ถูกกดดันด้วยข้อร้องเรียนที่อาจไม่จริง นอกจากนี้ กฎหมายเดียวกันยังมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลเท็จ โดยอาจถูกจำคุกและปรับเงิน ทำให้กรณีนี้ยิ่งซับซ้อนขึ้น เพราะหากข้อร้องเรียนเป็นการปลอมแปลงจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นกัน 🌐 มิติระหว่างประเทศและการสืบสวน ในเวลาเดียวกัน มีรายงานว่า FBI ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย การที่ทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแรงกดดันระดับนานาชาติที่ต้องการจำกัดการทำงานของเว็บไซต์นี้ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บรักษาข้อมูลออนไลน์ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของโลกดิจิทัล ที่เส้นแบ่งระหว่าง “การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ” และ “การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย” อาจทับซ้อนกัน และกลายเป็นประเด็นถกเถียงทั้งด้านกฎหมายและจริยธรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Archive.today ถูกกดดันจากองค์กรฝรั่งเศส ➡️ อ้างว่าไม่ลบเนื้อหาผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 ➡️ เรียกร้องให้ AdGuard DNS บล็อกการเข้าถึง ✅ กฎหมายฝรั่งเศส LCEN มีผลบังคับใช้ ➡️ บริษัทอาจต้องบล็อกเนื้อหาตามคำร้องเรียน ➡️ มีบทลงโทษสำหรับการแจ้งข้อมูลเท็จ ✅ FBI สหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today ➡️ สงสัยเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาผิดกฎหมาย ➡️ สร้างแรงกดดันระหว่างประเทศต่อเว็บไซต์ ‼️ ข้อร้องเรียนมีความน่าสงสัย ⛔ องค์กรเพิ่งก่อตั้งและข้อมูลสาธารณะน้อย ⛔ อาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดัน ‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพการเก็บข้อมูลออนไลน์ ⛔ การบังคับบล็อกอาจกระทบการเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณค่า ⛔ เส้นแบ่งระหว่างการเก็บรักษาและการเผยแพร่ผิดกฎหมายยังไม่ชัดเจน https://adguard-dns.io/en/blog/archive-today-adguard-dns-block-demand.html
    ADGUARD-DNS.IO
    Behind the complaints: Our investigation into the suspicious pressure on Archive.today
    Some time ago, we were contacted by a group fighting against online CSAM, demanding that AdGuard DNS blocks the Archive.today website. This was only the beginning of a much larger story…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ สุชาติ สั่ง "ฉก.มลพิษ" ลุยโคกสำโรง ตรวจโรงงาน 3 แห่ง หลังชาวบ้านร้องเรียนปัญหากลิ่นเหม็น
    https://www.thai-tai.tv/news/22372/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #ฉก.มลพิษ #โรงงานลพบุรี #สารหนู #กากอุตสาหกรรม

    รองนายกฯ สุชาติ สั่ง "ฉก.มลพิษ" ลุยโคกสำโรง ตรวจโรงงาน 3 แห่ง หลังชาวบ้านร้องเรียนปัญหากลิ่นเหม็น https://www.thai-tai.tv/news/22372/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #ฉก.มลพิษ #โรงงานลพบุรี #สารหนู #กากอุตสาหกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยอดร้องเรียน สคบ.ร้านค้าโกงคนละครึ่งพลัสพุ่งทั่วไทย , สคบ.เผย 14 วันแรกมีร้องเรียน 66 เคส ร้านค้าขึ้นราคา–เก็บ VAT–อ้างร่วมโครงการแต่สแกนไม่ได้ รัฐเร่งจัดการขั้นเด็ดขาด
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108597
    .
    #News1live #News1 #คนละครึ่งพลัส #สคบ #ร้านค้าโกงคนละครึ่ง #ร้องเรียนผู้บริโภค #ข่าวเศรษฐกิจ #กระทรวงการคลัง #คุ้มครองผู้บริโภค #ThailandNews #newsupdate
    ยอดร้องเรียน สคบ.ร้านค้าโกงคนละครึ่งพลัสพุ่งทั่วไทย , สคบ.เผย 14 วันแรกมีร้องเรียน 66 เคส ร้านค้าขึ้นราคา–เก็บ VAT–อ้างร่วมโครงการแต่สแกนไม่ได้ รัฐเร่งจัดการขั้นเด็ดขาด . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108597 . #News1live #News1 #คนละครึ่งพลัส #สคบ #ร้านค้าโกงคนละครึ่ง #ร้องเรียนผู้บริโภค #ข่าวเศรษฐกิจ #กระทรวงการคลัง #คุ้มครองผู้บริโภค #ThailandNews #newsupdate
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กเล็กเศร้าเหลือเกิน เสียใจทหารเสียขา อ้างบอกนายกเองยกเลิกปฏิญญา ส่งเอกสารร้องเรียนแล้ว (11/11/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #บิ๊กเล็ก #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #MOU43 #MOU44 #กัมพูชา #ข่าวชายแดน #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    บิ๊กเล็กเศร้าเหลือเกิน เสียใจทหารเสียขา อ้างบอกนายกเองยกเลิกปฏิญญา ส่งเอกสารร้องเรียนแล้ว (11/11/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #บิ๊กเล็ก #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #MOU43 #MOU44 #กัมพูชา #ข่าวชายแดน #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีเณรน้อยจอมซน: คนหลายร่างแห่งวัดร้าง

    การปรากฏตัวของเณรน้อยพิศวง

    การค้นพบในวัดร้าง

    ร.ต.อ. สิงห์ ได้รับแจ้งเหตุการณ์ประหลาดจากชาวบ้านใกล้ วัดร้างศรีมหาวิหาร:

    · ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะแต่ไม่เห็นตัว
    · วัตถุในวัดเคลื่อนไหวได้เอง
    · มีเห็นเด็กน้อยในชุดเณรปรากฏแล้วหายไป

    ```mermaid
    graph TB
    A[ชาวบ้าน<br>แจ้งเหตุประหลาด] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>และหนูดีออกสืบ]
    B --> C[พบเณรน้อย<br>หลายร่างในวัดเดียวกัน]
    C --> D[ค้นพบความลับ<br>การเกิดหลายร่าง]
    ```

    การพบกันครั้งแรก

    เมื่อสิงห์และหนูดีไปถึงวัด ก็พบกับเณรน้อยนั่งเล่นอยู่กลางลานวัด
    แต่ทันใดนั้น...มีเณรน้อยโผล่ออกมาจากรอบทิศทาง

    สิงห์: "นี่... มีเด็กกี่คนกันแน่?"
    หนูดี:"พ่อคะ... นี่คือเด็กคนเดียวกันทั้งหมด"

    ความลับของเณรน้อยหลายร่าง

    ต้นกำเนิดแห่งพลัง

    เณรน้อยชื่อ "เณรพุทธ" อายุ 8 ขวบ
    เป็นโอปปาติกะรุ่นพิเศษที่เกิดจากพลังงานศรัทธา ในวัดร้าง

    ```python
    class LittleMonkAbilities:
    def __init__(self):
    self.background = {
    "origin": "เกิดจากพลังงานศรัทธาที่สะสมในวัด",
    "age": "8 ปี (ร่างกาย), ไม่แน่นอน (จิตวิญญาณ)",
    "nature": "บริสุทธิ์แต่ซนตามประสาเด็ก"
    }

    self.powers = {
    "multi_body": "สร้างร่างย่อยได้สูงสุด 5 ร่าง",
    "object_animation": "ทำให้วัตถุไม่มีชีวิตเคลื่อนไหวได้",
    "faith_energy": "ดูดกลืนพลังงานศรัทธามาใช้",
    "temple_connection": "เชื่อมโยงกับวัดเป็นแหล่งพลัง"
    }
    ```

    เหตุผลของการหลายร่าง

    หนูดีอธิบายให้สิงห์ฟัง:
    "เขาไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างปัญหา...
    แต่เป็นเพราะพลังงานศรัทธาที่ล้นเกิน
    ทำให้เขาต้องปล่อยร่างย่อยออกมา"

    ปัญหาที่เณรพุทธสร้างขึ้น

    เรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน

    1. ขโมยของ: แต่เป็นการเล่นสนุก ไม่ได้ต้องการจริงๆ
    2. ทำให้ตกใจ: ปรากฏตัวแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
    3. เคลื่อนย้ายสิ่งของ: ย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านโดยไม่บอก

    พฤติกรรมเฉพาะตัว

    แต่ละร่างของเณรพุทธมีนิสัยต่างกัน:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>ขี้เล่น]
    A --> C[ร่างที่ 2<br>ขี้สงสัย]
    A --> D[ร่างที่ 3<br>ขี้อาย]
    A --> E[ร่างที่ 4<br>ขี้แกล้ง]
    ```

    จุดอ่อนของเณรพุทธ

    · ชอบขนม: ขบเคี้ยวนมเปรี้ยวและข้าวเกรียบ
    · ต้องการเพื่อน: รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่มีใครมองเห็น
    · อยากช่วยเหลือ: แต่ไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง

    กระบวนการช่วยเหลือ

    การเข้าใจของหนูดี

    หนูดีเข้าถึงจิตใจของเณรพุทธ:
    "เขาแค่ต้องการเล่นเหมือนเด็กทั่วไป...
    แต่ไม่มีใครมองเห็นหรือเล่นด้วย"

    การเสนอทางออก

    สิงห์เสนอ
    "เราต้องหาที่อยู่ใหม่ให้เขา...
    ที่เขาสามารถเล่นและเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม"

    การมีส่วนร่วมของสถาบัน

    หนูดีชวนเณรพุทธมาอยู่ที่ สถาบันวิวัฒนาการจิต

    · มีเด็กโอปปาติกะรุ่นอื่นๆ เป็นเพื่อน
    · มีครูคอยสอนการควบคุมพลัง
    · มีพื้นที่ให้เล่นอย่างอิสระ

    บทเรียนสำหรับเณรพุทธ

    การสอนการควบคุมพลัง

    ```python
    def training_program():
    lessons = [
    "การรวมร่างเมื่อไม่จำเป็น",
    "การขออนุญาตก่อนใช้พลัง",
    "การช่วยเหลือผู้อื่นแทนการแกล้ง",
    "การเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์"
    ]

    teachers = [
    "หนูดี: การควบคุมพลังงาน",
    "เทพตณู: การมีสติ",
    "ร.ต.อ.สิงห์: การอยู่ร่วมกันในสังคม"
    ]

    return lessons, teachers
    ```

    พัฒนาการของเณรพุทธ

    หลังการฝึก 1 เดือน:

    · ลดร่างย่อย จาก 5 เหลือ 2 ร่าง
    · เรียนรู้มารยาท ในการอยู่ร่วมกับมนุษย์
    · เริ่มช่วยงาน ในสถาบันแทนการสร้างปัญหา

    ผลกระทบเชิงบวก

    บทบาทใหม่ในสถาบัน

    เณรพุทธกลายเป็น:

    · ผู้ช่วยครู: ช่วยสอนเด็กโอปปาติกะรุ่นใหม่
    · นักเล่น: นำความรื่นเริงมาสู่สถาบัน
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างโอปปาติกะกับมนุษย์

    ความสัมพันธ์ใหม่

    กับหนูดี: เหมือนพี่น้อง
    กับสิงห์:เหมือนพ่อ
    กับโอปปาติกะอื่น:เพื่อนร่วมชั้น

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับสังคม

    ```python
    def societal_lessons():
    return {
    "understanding": "การเข้าใจในความแตกต่าง",
    "patience": "ความอดทนต่อพฤติกรรมเด็ก",
    "guidance": "การชี้นำที่ถูกต้องสำคัญกว่าการลงโทษ",
    "compassion": "ความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด"
    }
    ```

    สำหรับเณรพุทธ

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การมีพลังพิเศษอาจไม่เป็นคำสาป
    แต่คือของขวัญที่ต้องใช้อย่างมีความรับผิดชอบ"

    สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์

    "คดีนี้สอนฉันว่า...
    บางครั้ง'ปัญหา' ที่แท้จริงอาจเป็นพฤติกรรม
    แต่คือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม"

    การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

    ข้อเสนอใหม่

    หลังคดีนี้ มีการเสนอตั้ง "ศูนย์ดูแลโอปปาติกะเด็ก"

    · ให้การดูแลอย่างเหมาะสมตามวัย
    · สอนการควบคุมพลังและเข้าสังคม
    · มีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการ

    ความร่วมมือใหม่

    วัดต่างๆ เริ่มร่วมมือกับสถาบัน:

    · ดูแลโอปปาติกะที่เกิดจากพลังงานศรัทธา
    · สอนธรรมะและการมีสติ
    · เป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะสม

    ตอนจบแห่งความสุข

    การกลับไปเยี่ยมวัด

    เณรพุทธกลับไปเยี่ยมวัดร้างพร้อมหนูดี:
    "ขอบคุณที่ให้ฉันเกิดมาครับ...
    ฉันมีบ้านใหม่แล้ว"

    ของขวัญแห่งความทรงจำ

    เณรพุทธสร้าง ดอกไม้พลังงาน ให้วัด:

    · จะเบ่งบานเมื่อมีผู้มาทำบุญ
    · แสดงสีตามระดับพลังงานศรัทธา
    · เป็นเครื่องเตือนใจถึงเขา

    บทสรุป: จากปัญหาเป็นพลังสร้างสรรค์

    คำคมจากเณรพุทธ

    "ฉันเคยคิดว่าการเล่นสนุกคือการสร้างปัญหา...
    แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า
    การเล่นสนุกที่แท้คือการทำให้他人ยิ้มได้"

    ความสำเร็จ

    จากเณรน้อยจอมซน สู่...
    "ผู้ช่วยครูแห่งสถาบันวิวัฒนาการจิต"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "เด็กทุกคน deserve โอกาสที่จะเติบโต
    ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    และบางครั้ง...
    การเล่นสนุกที่ดูเหมือนเป็นปัญหา
    ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของพวกเขา"

    การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า...
    "Behind every 'problem child'
    there is just a child seeking love and guidance"
    O.P.K. 🏯 คดีเณรน้อยจอมซน: คนหลายร่างแห่งวัดร้าง 👦 การปรากฏตัวของเณรน้อยพิศวง 🏮 การค้นพบในวัดร้าง ร.ต.อ. สิงห์ ได้รับแจ้งเหตุการณ์ประหลาดจากชาวบ้านใกล้ วัดร้างศรีมหาวิหาร: · ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะแต่ไม่เห็นตัว · วัตถุในวัดเคลื่อนไหวได้เอง · มีเห็นเด็กน้อยในชุดเณรปรากฏแล้วหายไป ```mermaid graph TB A[ชาวบ้าน<br>แจ้งเหตุประหลาด] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>และหนูดีออกสืบ] B --> C[พบเณรน้อย<br>หลายร่างในวัดเดียวกัน] C --> D[ค้นพบความลับ<br>การเกิดหลายร่าง] ``` 🎭 การพบกันครั้งแรก เมื่อสิงห์และหนูดีไปถึงวัด ก็พบกับเณรน้อยนั่งเล่นอยู่กลางลานวัด แต่ทันใดนั้น...มีเณรน้อยโผล่ออกมาจากรอบทิศทาง สิงห์: "นี่... มีเด็กกี่คนกันแน่?" หนูดี:"พ่อคะ... นี่คือเด็กคนเดียวกันทั้งหมด" 🔮 ความลับของเณรน้อยหลายร่าง 🧘 ต้นกำเนิดแห่งพลัง เณรน้อยชื่อ "เณรพุทธ" อายุ 8 ขวบ เป็นโอปปาติกะรุ่นพิเศษที่เกิดจากพลังงานศรัทธา ในวัดร้าง ```python class LittleMonkAbilities: def __init__(self): self.background = { "origin": "เกิดจากพลังงานศรัทธาที่สะสมในวัด", "age": "8 ปี (ร่างกาย), ไม่แน่นอน (จิตวิญญาณ)", "nature": "บริสุทธิ์แต่ซนตามประสาเด็ก" } self.powers = { "multi_body": "สร้างร่างย่อยได้สูงสุด 5 ร่าง", "object_animation": "ทำให้วัตถุไม่มีชีวิตเคลื่อนไหวได้", "faith_energy": "ดูดกลืนพลังงานศรัทธามาใช้", "temple_connection": "เชื่อมโยงกับวัดเป็นแหล่งพลัง" } ``` 💫 เหตุผลของการหลายร่าง หนูดีอธิบายให้สิงห์ฟัง: "เขาไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างปัญหา... แต่เป็นเพราะพลังงานศรัทธาที่ล้นเกิน ทำให้เขาต้องปล่อยร่างย่อยออกมา" 🎪 ปัญหาที่เณรพุทธสร้างขึ้น 🏘️ เรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน 1. ขโมยของ: แต่เป็นการเล่นสนุก ไม่ได้ต้องการจริงๆ 2. ทำให้ตกใจ: ปรากฏตัวแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว 3. เคลื่อนย้ายสิ่งของ: ย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านโดยไม่บอก 🎯 พฤติกรรมเฉพาะตัว แต่ละร่างของเณรพุทธมีนิสัยต่างกัน: ```mermaid graph LR A[ร่างหลัก<br>เณรพุทธ] --> B[ร่างที่ 1<br>ขี้เล่น] A --> C[ร่างที่ 2<br>ขี้สงสัย] A --> D[ร่างที่ 3<br>ขี้อาย] A --> E[ร่างที่ 4<br>ขี้แกล้ง] ``` 🍬 จุดอ่อนของเณรพุทธ · ชอบขนม: ขบเคี้ยวนมเปรี้ยวและข้าวเกรียบ · ต้องการเพื่อน: รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่มีใครมองเห็น · อยากช่วยเหลือ: แต่ไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง 💞 กระบวนการช่วยเหลือ 🧠 การเข้าใจของหนูดี หนูดีเข้าถึงจิตใจของเณรพุทธ: "เขาแค่ต้องการเล่นเหมือนเด็กทั่วไป... แต่ไม่มีใครมองเห็นหรือเล่นด้วย" 🏡 การเสนอทางออก สิงห์เสนอ "เราต้องหาที่อยู่ใหม่ให้เขา... ที่เขาสามารถเล่นและเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม" 🌟 การมีส่วนร่วมของสถาบัน หนูดีชวนเณรพุทธมาอยู่ที่ สถาบันวิวัฒนาการจิต · มีเด็กโอปปาติกะรุ่นอื่นๆ เป็นเพื่อน · มีครูคอยสอนการควบคุมพลัง · มีพื้นที่ให้เล่นอย่างอิสระ 📚 บทเรียนสำหรับเณรพุทธ 🎓 การสอนการควบคุมพลัง ```python def training_program(): lessons = [ "การรวมร่างเมื่อไม่จำเป็น", "การขออนุญาตก่อนใช้พลัง", "การช่วยเหลือผู้อื่นแทนการแกล้ง", "การเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์" ] teachers = [ "หนูดี: การควบคุมพลังงาน", "เทพตณู: การมีสติ", "ร.ต.อ.สิงห์: การอยู่ร่วมกันในสังคม" ] return lessons, teachers ``` 🎭 พัฒนาการของเณรพุทธ หลังการฝึก 1 เดือน: · ลดร่างย่อย จาก 5 เหลือ 2 ร่าง · เรียนรู้มารยาท ในการอยู่ร่วมกับมนุษย์ · เริ่มช่วยงาน ในสถาบันแทนการสร้างปัญหา 🌈 ผลกระทบเชิงบวก 🏫 บทบาทใหม่ในสถาบัน เณรพุทธกลายเป็น: · ผู้ช่วยครู: ช่วยสอนเด็กโอปปาติกะรุ่นใหม่ · นักเล่น: นำความรื่นเริงมาสู่สถาบัน · สะพานเชื่อม: ระหว่างโอปปาติกะกับมนุษย์ 💝 ความสัมพันธ์ใหม่ กับหนูดี: เหมือนพี่น้อง กับสิงห์:เหมือนพ่อ กับโอปปาติกะอื่น:เพื่อนร่วมชั้น 🎯 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับสังคม ```python def societal_lessons(): return { "understanding": "การเข้าใจในความแตกต่าง", "patience": "ความอดทนต่อพฤติกรรมเด็ก", "guidance": "การชี้นำที่ถูกต้องสำคัญกว่าการลงโทษ", "compassion": "ความเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด" } ``` 🌟 สำหรับเณรพุทธ "ฉันเรียนรู้ว่า... การมีพลังพิเศษอาจไม่เป็นคำสาป แต่คือของขวัญที่ต้องใช้อย่างมีความรับผิดชอบ" 👮 สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์ "คดีนี้สอนฉันว่า... บางครั้ง'ปัญหา' ที่แท้จริงอาจเป็นพฤติกรรม แต่คือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม" 🏛️ การเปลี่ยนแปลงนโยบาย 📜 ข้อเสนอใหม่ หลังคดีนี้ มีการเสนอตั้ง "ศูนย์ดูแลโอปปาติกะเด็ก" · ให้การดูแลอย่างเหมาะสมตามวัย · สอนการควบคุมพลังและเข้าสังคม · มีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการ 🌍 ความร่วมมือใหม่ วัดต่างๆ เริ่มร่วมมือกับสถาบัน: · ดูแลโอปปาติกะที่เกิดจากพลังงานศรัทธา · สอนธรรมะและการมีสติ · เป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะสม 🎉 ตอนจบแห่งความสุข 🏮 การกลับไปเยี่ยมวัด เณรพุทธกลับไปเยี่ยมวัดร้างพร้อมหนูดี: "ขอบคุณที่ให้ฉันเกิดมาครับ... ฉันมีบ้านใหม่แล้ว" 💫 ของขวัญแห่งความทรงจำ เณรพุทธสร้าง ดอกไม้พลังงาน ให้วัด: · จะเบ่งบานเมื่อมีผู้มาทำบุญ · แสดงสีตามระดับพลังงานศรัทธา · เป็นเครื่องเตือนใจถึงเขา 🌟 บทสรุป: จากปัญหาเป็นพลังสร้างสรรค์ 💞 คำคมจากเณรพุทธ "ฉันเคยคิดว่าการเล่นสนุกคือการสร้างปัญหา... แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า การเล่นสนุกที่แท้คือการทำให้他人ยิ้มได้" 🏆 ความสำเร็จ จากเณรน้อยจอมซน สู่... "ผู้ช่วยครูแห่งสถาบันวิวัฒนาการจิต" --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "เด็กทุกคน deserve โอกาสที่จะเติบโต ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร และบางครั้ง... การเล่นสนุกที่ดูเหมือนเป็นปัญหา ก็คือวิธีการเรียนรู้โลกของพวกเขา"🏯✨ การเดินทางของเณรพุทธสอนเราว่า... "Behind every 'problem child' there is just a child seeking love and guidance"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผย ยังไม่ได้รับสัญญาณจากรัฐบาลขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ แต่มีพูดคุยกับคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าอาจต้องขอให้สภาเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาในวาระ 2 ก่อน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างจากกฎหมายอื่น เมื่อพิจารณาเสร็จวาระ 2 ต้องเว้นระยะ 15 วัน ก่อนลงมติในวาระ 3 อยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อยประนีประนอมในข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อไปทำประชามติตามที่รัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตรียมไว้ ส่วนกรณีการตรวจสอบประเด็นผู้ช่วย สส. ถ้ามีคนร้องว่ามีการกระทำไม่ถูกต้อง สภาก็ต้องตรวจสอบไม่เช่นนั้นอาจมีความผิดเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ช่วย สส. เปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ต้องมีคนร้องเรียนเข้ามาเพื่อจะได้มีข้อมูล ทางสภาจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผย ยังไม่ได้รับสัญญาณจากรัฐบาลขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ แต่มีพูดคุยกับคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าอาจต้องขอให้สภาเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาในวาระ 2 ก่อน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างจากกฎหมายอื่น เมื่อพิจารณาเสร็จวาระ 2 ต้องเว้นระยะ 15 วัน ก่อนลงมติในวาระ 3 อยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อยประนีประนอมในข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อไปทำประชามติตามที่รัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตรียมไว้ ส่วนกรณีการตรวจสอบประเด็นผู้ช่วย สส. ถ้ามีคนร้องว่ามีการกระทำไม่ถูกต้อง สภาก็ต้องตรวจสอบไม่เช่นนั้นอาจมีความผิดเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ช่วย สส. เปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ต้องมีคนร้องเรียนเข้ามาเพื่อจะได้มีข้อมูล ทางสภาจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “ยุโรปร่วมมือทลายแก๊งหลอกลงทุนคริปโต สูญเงินกว่า 689 ล้านดอลลาร์!”

    เรื่องเล่าที่ต้องฟังให้จบ! ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปถึงปี 2025 กลับยังมีมิจฉาชีพใช้ช่องทางดิจิทัลหลอกลวงผู้คนอย่างแยบยล ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ใหญ่ในยุโรป เมื่อเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส เบลเยียม ไซปรัส สเปน และเยอรมนี ร่วมมือกันจับกุมขบวนการฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่ากว่า 689 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!

    ขบวนการนี้สร้างแพลตฟอร์มลงทุนคริปโตปลอมหลายแห่ง อ้างผลตอบแทนสูงล่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียและการโทรเย็น (cold call) เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าไป เงินก็ถูกดูดหายไปทันที และถูกฟอกผ่านเครื่องมือบล็อกเชนต่าง ๆ อย่างแนบเนียน

    การจับกุมเกิดขึ้นในวันที่ 27 และ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย Eurojust หน่วยงานความร่วมมือด้านตุลาการของสหภาพยุโรปเป็นผู้ประสานงานหลัก มีการยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งเงินสด บัญชีธนาคาร คริปโต และนาฬิกาหรู รวมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

    คดีนี้เริ่มต้นจากการร้องเรียนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2023 และเป็นหนึ่งในหลายคดีที่สะท้อนว่าการหลอกลวงในโลกคริปโตยังคงระบาดหนัก แม้จะมีความพยายามออกกฎหมายควบคุมอย่าง MiCA ก็ตาม

    ขบวนการหลอกลงทุนคริปโตถูกจับกุมในยุโรป
    มูลค่าความเสียหายรวมกว่า $689 ล้าน
    จับกุมผู้ต้องหา 9 คนในหลายประเทศ
    ยึดทรัพย์สินรวมหลายล้านดอลลาร์ ทั้งเงินสด คริปโต และนาฬิกาหรู

    วิธีการหลอกลวงของขบวนการ
    สร้างแพลตฟอร์มลงทุนปลอม
    ใช้โซเชียลมีเดียและโทรเย็นล่อเหยื่อ
    เงินที่โอนเข้าไปถูกฟอกผ่านเครื่องมือบล็อกเชน

    การดำเนินการของเจ้าหน้าที่
    เริ่มจากการร้องเรียนในฝรั่งเศสปี 2023
    Eurojust เป็นผู้ประสานงานหลัก
    การจับกุมเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2025

    ความพยายามควบคุมตลาดคริปโต
    กฎหมาย MiCA ของสหภาพยุโรปช่วยให้ตรวจสอบแพลตฟอร์มได้
    นักลงทุนสามารถตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มได้รับการรับรองหรือไม่

    ความเสี่ยงจากการลงทุนในคริปโตที่ไม่ตรวจสอบ
    แพลตฟอร์มปลอมมักอ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง
    เมื่อโอนเงินแล้วมักไม่สามารถเรียกคืนได้

    การฟอกเงินผ่านบล็อกเชน
    ใช้เครื่องมือดิจิทัลซับซ้อนในการซ่อนเส้นทางเงิน
    ยากต่อการติดตามและตรวจสอบหากไม่มีความร่วมมือระหว่างประเทศ

    การหลอกลวงยังคงระบาดแม้มีเทคโนโลยีล้ำหน้า
    อีเมลฟิชชิ่งและการแอบอ้างยังพบได้บ่อย
    เหยื่อมักถูกล่อด้วยความโลภและความไม่รู้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/crypto-fraud-and-laundering-ring-that-stole-eur600m-usd689m-busted-by-european-authorities-9-arrests-made-across-multiple-countries-perps-face-a-decade-behind-bars-and-huge-fines
    🕵️‍♀️ “ยุโรปร่วมมือทลายแก๊งหลอกลงทุนคริปโต สูญเงินกว่า 689 ล้านดอลลาร์!” เรื่องเล่าที่ต้องฟังให้จบ! ในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปถึงปี 2025 กลับยังมีมิจฉาชีพใช้ช่องทางดิจิทัลหลอกลวงผู้คนอย่างแยบยล ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ใหญ่ในยุโรป เมื่อเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส เบลเยียม ไซปรัส สเปน และเยอรมนี ร่วมมือกันจับกุมขบวนการฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่ากว่า 689 ล้านดอลลาร์สหรัฐ! ขบวนการนี้สร้างแพลตฟอร์มลงทุนคริปโตปลอมหลายแห่ง อ้างผลตอบแทนสูงล่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียและการโทรเย็น (cold call) เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าไป เงินก็ถูกดูดหายไปทันที และถูกฟอกผ่านเครื่องมือบล็อกเชนต่าง ๆ อย่างแนบเนียน การจับกุมเกิดขึ้นในวันที่ 27 และ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย Eurojust หน่วยงานความร่วมมือด้านตุลาการของสหภาพยุโรปเป็นผู้ประสานงานหลัก มีการยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งเงินสด บัญชีธนาคาร คริปโต และนาฬิกาหรู รวมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ คดีนี้เริ่มต้นจากการร้องเรียนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2023 และเป็นหนึ่งในหลายคดีที่สะท้อนว่าการหลอกลวงในโลกคริปโตยังคงระบาดหนัก แม้จะมีความพยายามออกกฎหมายควบคุมอย่าง MiCA ก็ตาม ✅ ขบวนการหลอกลงทุนคริปโตถูกจับกุมในยุโรป ➡️ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า $689 ล้าน ➡️ จับกุมผู้ต้องหา 9 คนในหลายประเทศ ➡️ ยึดทรัพย์สินรวมหลายล้านดอลลาร์ ทั้งเงินสด คริปโต และนาฬิกาหรู ✅ วิธีการหลอกลวงของขบวนการ ➡️ สร้างแพลตฟอร์มลงทุนปลอม ➡️ ใช้โซเชียลมีเดียและโทรเย็นล่อเหยื่อ ➡️ เงินที่โอนเข้าไปถูกฟอกผ่านเครื่องมือบล็อกเชน ✅ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ➡️ เริ่มจากการร้องเรียนในฝรั่งเศสปี 2023 ➡️ Eurojust เป็นผู้ประสานงานหลัก ➡️ การจับกุมเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2025 ✅ ความพยายามควบคุมตลาดคริปโต ➡️ กฎหมาย MiCA ของสหภาพยุโรปช่วยให้ตรวจสอบแพลตฟอร์มได้ ➡️ นักลงทุนสามารถตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มได้รับการรับรองหรือไม่ ‼️ ความเสี่ยงจากการลงทุนในคริปโตที่ไม่ตรวจสอบ ⛔ แพลตฟอร์มปลอมมักอ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง ⛔ เมื่อโอนเงินแล้วมักไม่สามารถเรียกคืนได้ ‼️ การฟอกเงินผ่านบล็อกเชน ⛔ ใช้เครื่องมือดิจิทัลซับซ้อนในการซ่อนเส้นทางเงิน ⛔ ยากต่อการติดตามและตรวจสอบหากไม่มีความร่วมมือระหว่างประเทศ ‼️ การหลอกลวงยังคงระบาดแม้มีเทคโนโลยีล้ำหน้า ⛔ อีเมลฟิชชิ่งและการแอบอ้างยังพบได้บ่อย ⛔ เหยื่อมักถูกล่อด้วยความโลภและความไม่รู้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/crypto-fraud-and-laundering-ring-that-stole-eur600m-usd689m-busted-by-european-authorities-9-arrests-made-across-multiple-countries-perps-face-a-decade-behind-bars-and-huge-fines
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 504 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคนิค “โกหกเรื่องสัญญาณ” เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้มือถือ — จริงหรือหลอกกันแน่?

    บทความจาก Nick vs Networking เผยเทคนิคที่ผู้ให้บริการมือถือบางรายใช้เพื่อ “เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้” โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือการ “โกหกเรื่องความแรงของสัญญาณ” ด้วยการปรับเกณฑ์การแสดงแถบสัญญาณ (signal bars) ให้ดูดีขึ้นกว่าความเป็นจริง

    ตัวอย่างเช่น:
    เดิมทีอุปกรณ์จะแสดง 1 ขีดเมื่อสัญญาณอยู่ที่ -110 dBm
    แต่หากผู้ให้บริการปรับ threshold ให้แสดง 3 ขีดที่ระดับเดียวกัน ผู้ใช้จะ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ทั้งที่คุณภาพจริงไม่ได้เปลี่ยน

    แม้จะฟังดูเหมือนกลเม็ดทางการตลาด แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง — ผู้ใช้มีแนวโน้มร้องเรียนลดลง และรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น แม้คุณภาพการโทรหรือความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเท่าเดิมก็ตาม

    สาระสำคัญจากบทความ
    ผู้ให้บริการบางรายปรับเกณฑ์แสดงแถบสัญญาณให้ดูแรงขึ้น
    เปลี่ยนจากแสดง 1 ขีดที่ -110 dBm เป็น 3 ขีด
    ทำให้ผู้ใช้ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น

    เทคนิคนี้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงข่าย
    ไม่ต้องติดตั้งเสาสัญญาณเพิ่ม
    ลดต้นทุนแต่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

    ผู้ใช้ร้องเรียนลดลงแม้คุณภาพจริงไม่เปลี่ยน
    ความรู้สึกมีผลต่อประสบการณ์ใช้งาน
    แสดงให้เห็นว่า perception สำคัญพอ ๆ กับ performance

    การ “โกหก” เรื่องสัญญาณอาจสร้างความเข้าใจผิด
    ผู้ใช้อาจเข้าใจผิดว่าปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ ไม่ใช่เครือข่าย
    อาจทำให้การวิเคราะห์ปัญหาจริงยากขึ้น

    อาจขัดกับหลักจริยธรรมและความโปร่งใส
    ผู้ให้บริการควรให้ข้อมูลที่สะท้อนความจริง
    การบิดเบือนข้อมูลอาจกระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว

    https://nickvsnetworking.com/simple-trick-to-increase-coverage-lying-to-users-about-signal-strength/
    📶 เทคนิค “โกหกเรื่องสัญญาณ” เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้มือถือ — จริงหรือหลอกกันแน่? บทความจาก Nick vs Networking เผยเทคนิคที่ผู้ให้บริการมือถือบางรายใช้เพื่อ “เพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้” โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือการ “โกหกเรื่องความแรงของสัญญาณ” ด้วยการปรับเกณฑ์การแสดงแถบสัญญาณ (signal bars) ให้ดูดีขึ้นกว่าความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น: 💠 เดิมทีอุปกรณ์จะแสดง 1 ขีดเมื่อสัญญาณอยู่ที่ -110 dBm 💠 แต่หากผู้ให้บริการปรับ threshold ให้แสดง 3 ขีดที่ระดับเดียวกัน ผู้ใช้จะ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ทั้งที่คุณภาพจริงไม่ได้เปลี่ยน แม้จะฟังดูเหมือนกลเม็ดทางการตลาด แต่ผลลัพธ์กลับน่าทึ่ง — ผู้ใช้มีแนวโน้มร้องเรียนลดลง และรู้สึกพึงพอใจมากขึ้น แม้คุณภาพการโทรหรือความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเท่าเดิมก็ตาม ✅ สาระสำคัญจากบทความ ✅ ผู้ให้บริการบางรายปรับเกณฑ์แสดงแถบสัญญาณให้ดูแรงขึ้น ➡️ เปลี่ยนจากแสดง 1 ขีดที่ -110 dBm เป็น 3 ขีด ➡️ ทำให้ผู้ใช้ “รู้สึก” ว่าสัญญาณดีขึ้น ✅ เทคนิคนี้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในโครงข่าย ➡️ ไม่ต้องติดตั้งเสาสัญญาณเพิ่ม ➡️ ลดต้นทุนแต่เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ✅ ผู้ใช้ร้องเรียนลดลงแม้คุณภาพจริงไม่เปลี่ยน ➡️ ความรู้สึกมีผลต่อประสบการณ์ใช้งาน ➡️ แสดงให้เห็นว่า perception สำคัญพอ ๆ กับ performance ‼️ การ “โกหก” เรื่องสัญญาณอาจสร้างความเข้าใจผิด ⛔ ผู้ใช้อาจเข้าใจผิดว่าปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ ไม่ใช่เครือข่าย ⛔ อาจทำให้การวิเคราะห์ปัญหาจริงยากขึ้น ‼️ อาจขัดกับหลักจริยธรรมและความโปร่งใส ⛔ ผู้ให้บริการควรให้ข้อมูลที่สะท้อนความจริง ⛔ การบิดเบือนข้อมูลอาจกระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว https://nickvsnetworking.com/simple-trick-to-increase-coverage-lying-to-users-about-signal-strength/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีนิวยอร์กไทมส์ระบุ ไทยก็เป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ ยืนยัน รัฐบาลนี้ปราบสแกมเมอร์แล้ว ทั้งถอนสัญชาติ ยึดทรัพย์ คนทำงานไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ชี้แจง อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์แค่อาคารให้เช่า หลังดีเอสไอบุกตรวจสอบพบผู้ถือหุ้นชาวไทยของ ปริ้นซ์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในอาคาร ใครมาเช่าแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ชี้นิ้วบอกสื่อ คุณอย่าผูก ถ้าบริษัทซิโน-ไทย ทำสแกมเมอร์เองค่อยมาว่ากัน ส่วนข้อสงสัย อนุทิน-เนวิน เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ บทสรุปเซงกะบ๊วยอย่างงี้ไม่ได้ คุยกับนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง แล้ว ไม่กลัวถูกร้องเรียนเพราะตรวจสอบทุกอย่าง

    -ไม่มีเงินถึงมูลนิธิธรรมนัส
    -ไม่รู้เรื่องยกทรัพย์สินให้
    -วางกำลังป้องกันภูมะเขือ
    -เผาเคเค-พาร์คโชว์อาเซียน
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีนิวยอร์กไทมส์ระบุ ไทยก็เป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ ยืนยัน รัฐบาลนี้ปราบสแกมเมอร์แล้ว ทั้งถอนสัญชาติ ยึดทรัพย์ คนทำงานไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ชี้แจง อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์แค่อาคารให้เช่า หลังดีเอสไอบุกตรวจสอบพบผู้ถือหุ้นชาวไทยของ ปริ้นซ์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในอาคาร ใครมาเช่าแล้วทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ชี้นิ้วบอกสื่อ คุณอย่าผูก ถ้าบริษัทซิโน-ไทย ทำสแกมเมอร์เองค่อยมาว่ากัน ส่วนข้อสงสัย อนุทิน-เนวิน เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ บทสรุปเซงกะบ๊วยอย่างงี้ไม่ได้ คุยกับนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง แล้ว ไม่กลัวถูกร้องเรียนเพราะตรวจสอบทุกอย่าง -ไม่มีเงินถึงมูลนิธิธรรมนัส -ไม่รู้เรื่องยกทรัพย์สินให้ -วางกำลังป้องกันภูมะเขือ -เผาเคเค-พาร์คโชว์อาเซียน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ปิดเว็บไซต์ร้องเรียนสิทธิมนุษยชนของกองกำลังต่างชาติที่ได้รับอาวุธจากอเมริกา

    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยุติการให้บริการเว็บไซต์ที่เคยเปิดให้ประชาชนทั่วโลกสามารถร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองกำลังต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากสหรัฐฯ เว็บไซต์นี้เคยเป็นช่องทางสำคัญในการตรวจสอบการใช้อาวุธของสหรัฐฯ ว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ละเมิดสิทธิหรือไม่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีความขัดแย้งหรือการปราบปรามประชาชน

    การปิดเว็บไซต์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนทางทหารแก่พันธมิตรหลายประเทศ เช่น อิสราเอล, ยูเครน และฟิลิปปินส์ ซึ่งบางประเทศถูกวิจารณ์ว่ามีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง

    นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรระหว่างประเทศแสดงความกังวลว่า การปิดเว็บไซต์นี้อาจลดความโปร่งใสในการตรวจสอบการใช้อาวุธ และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดโดยไม่มีการตรวจสอบหรือรับผิดชอบ

    การเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลสหรัฐฯ
    ปิดเว็บไซต์สำหรับร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองกำลังต่างชาติ
    เว็บไซต์เคยเปิดให้ประชาชนทั่วโลกส่งข้อมูลการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสหรัฐฯ
    เป็นส่วนหนึ่งของระบบตรวจสอบการใช้ความช่วยเหลือทางทหาร

    บริบททางการเมือง
    เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนอาวุธแก่พันธมิตร
    ประเทศที่ได้รับอาวุธบางแห่งมีประวัติละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การปิดเว็บไซต์อาจลดแรงกดดันต่อพันธมิตรของสหรัฐฯ

    ความเห็นจากนักสิทธิมนุษยชน
    กังวลเรื่องความโปร่งใสในการใช้อาวุธ
    การไม่มีช่องทางร้องเรียนอาจทำให้เหยื่อไม่มีที่พึ่ง
    อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในฐานะผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชน

    คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบ
    การปิดเว็บไซต์อาจทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ถูกเปิดเผย
    อาจลดแรงจูงใจในการตรวจสอบการใช้อาวุธของพันธมิตร
    เหยื่อในประเทศที่มีการปราบปรามอาจไม่มีช่องทางร้องเรียน

    คำแนะนำเพิ่มเติม
    ควรมีช่องทางอื่นในการตรวจสอบการใช้อาวุธจากสหรัฐฯ
    องค์กรระหว่างประเทศควรเพิ่มบทบาทในการรับเรื่องร้องเรียน
    ประชาชนควรตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสอบความช่วยเหลือทางทหาร

    https://www.bbc.com/news/articles/cqx30vnwd4do
    🇺🇸 สหรัฐฯ ปิดเว็บไซต์ร้องเรียนสิทธิมนุษยชนของกองกำลังต่างชาติที่ได้รับอาวุธจากอเมริกา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยุติการให้บริการเว็บไซต์ที่เคยเปิดให้ประชาชนทั่วโลกสามารถร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองกำลังต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากสหรัฐฯ เว็บไซต์นี้เคยเป็นช่องทางสำคัญในการตรวจสอบการใช้อาวุธของสหรัฐฯ ว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ละเมิดสิทธิหรือไม่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีความขัดแย้งหรือการปราบปรามประชาชน การปิดเว็บไซต์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนทางทหารแก่พันธมิตรหลายประเทศ เช่น อิสราเอล, ยูเครน และฟิลิปปินส์ ซึ่งบางประเทศถูกวิจารณ์ว่ามีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรระหว่างประเทศแสดงความกังวลว่า การปิดเว็บไซต์นี้อาจลดความโปร่งใสในการตรวจสอบการใช้อาวุธ และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดโดยไม่มีการตรวจสอบหรือรับผิดชอบ ✅ การเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ ปิดเว็บไซต์สำหรับร้องเรียนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองกำลังต่างชาติ ➡️ เว็บไซต์เคยเปิดให้ประชาชนทั่วโลกส่งข้อมูลการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสหรัฐฯ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของระบบตรวจสอบการใช้ความช่วยเหลือทางทหาร ✅ บริบททางการเมือง ➡️ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนอาวุธแก่พันธมิตร ➡️ ประเทศที่ได้รับอาวุธบางแห่งมีประวัติละเมิดสิทธิมนุษยชน ➡️ การปิดเว็บไซต์อาจลดแรงกดดันต่อพันธมิตรของสหรัฐฯ ✅ ความเห็นจากนักสิทธิมนุษยชน ➡️ กังวลเรื่องความโปร่งใสในการใช้อาวุธ ➡️ การไม่มีช่องทางร้องเรียนอาจทำให้เหยื่อไม่มีที่พึ่ง ➡️ อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในฐานะผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชน ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบ ⛔ การปิดเว็บไซต์อาจทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ถูกเปิดเผย ⛔ อาจลดแรงจูงใจในการตรวจสอบการใช้อาวุธของพันธมิตร ⛔ เหยื่อในประเทศที่มีการปราบปรามอาจไม่มีช่องทางร้องเรียน ‼️ คำแนะนำเพิ่มเติม ⛔ ควรมีช่องทางอื่นในการตรวจสอบการใช้อาวุธจากสหรัฐฯ ⛔ องค์กรระหว่างประเทศควรเพิ่มบทบาทในการรับเรื่องร้องเรียน ⛔ ประชาชนควรตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสอบความช่วยเหลือทางทหาร https://www.bbc.com/news/articles/cqx30vnwd4do
    WWW.BBC.COM
    US axes website for reporting human rights abuses by US-armed foreign forces
    The Human Rights Reporting Gateway acted as a formal "tip line" to the US government.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • 112. วันที่ 1 ม.ค.2568 ประกาศถามหาจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทยสภา https://drive.google.com/file/d/1kV3jlyTl_JNAzYo5HJ_nrw9Hx8DJTl6R/view?usp=drive_link
    ตามที่ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk เนื่องจากปล่อยให้มีการใช้ใบยินยอมอันเป็นเท็จให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ได้มีการทำหนังสือ ขอให้ทบทวนแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวแล้ว แต่กระทรวงฯกลับไม่ใส่ใจที่จะทำให้ถูกต้อง ทางกลุ่มจึงจำเป็นต้อง ยื่นหนังสือให้แพทยสภา ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวกับ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดี แทนที่ แพทยสภา จะดำเนินการสอบสวนและเสนอให้มีการแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง แพทยสภากลับเลือกที่จะปกป้อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวมิได้เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่เป็นการกระทำในตำแหน่งบริหาร การปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขของแพทยสภาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กรรมการแพทยสภา มิได้สนใจที่จะปกป้อง สิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการรักษา อันเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานของการเป็นแพทย์ ทั้งที่ใบยินยอมดังกล่าว มิได้ให้ข้อมูลสำคัญที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองไว้ในเอกสารกำกับยา ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า วัคซีนดังกล่าว เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลงที่ยังอยู่ระหว่างการทำวิจัย และไม่ได้ทดสอบความปลอดภัยว่าก่อให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือไม่ได้ทดสอบว่า mRNA วัคซีนสามารถก่อมะเร็งหรือไม่
    ั้งนี้ หากแพทยสภามีเจตนาที่จะปกป้องความปลอดภัยเด็กและเยาวชน และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ แพทยสภาสามารถจัดแถลงข่าว เรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อมูลในใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง และลงโทษสถานเบาโดยการว่ากล่าวตักเตือนปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่แพทยสภากลับทำหนังสือ “ลับ” (ที่ พส.๐๑๑/๑/๑๗๔๐๖ วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗) พยายามปกป้องผู้ที่กระทำผิดโดยไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนแม้แต่น้อย การกระทำดังกล่าวของ คณะกรรมการแพทยสภา รวมทั้งพฤติกรรมของนายกแพทยสภา เลขาธิการนายกแพทยสภา และรองเลขาธิการแพทยสภา แสดงให้เห็นว่า มิได้ยึดถือจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์
    113. วันที่ 3 ม.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ส่งจดหมาย เรื่อง ขอให้ปกป้องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนก่อนการปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/12c_6_kI3Q9wMaIbahsz5t-P_fAqbyesj/view?usp=drive_link
    เรียน พ.ญ.นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา น.พ. นายอิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา น.พ. นายวิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา
    สำเนาเรียน (ส่งวันที่ 9มค.) กรรมการแพทยสภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ทุกสถาบัน สื่อสารมวลชน และสำนักข่าวทุกสำนัก
    114. วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567
    https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link
    https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/
    115. วันที่ 17 ม.ค.2568 กลุ่มฯได้ส่งจดหมายถึงเลขาธิการแพทยสภา ขอข้อมูลข่าวสาร
    https://drive.google.com/file/d/172-XOvnm43P4LUntgyydYHHM7ZTOtH8Y/view?usp=drive_link
    116. วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html
    117. วันที่ 11 ก.พ.2568 บ๊วยLive EP.16 I Full Disclosure การเปิดโปงขั้นสุด กับคุณซันนี่
    https://www.youtube.com/watch?v=8d3zRy35Iqw
    118. วันที่ 26 ก.พ.2568 อัพเดทผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่มีผลต่อร่างกาย | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/watch?v=nMawgnjhgcc
    119. วันที่ 6 มี.ค.2568 วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดเยอะ ยิ่งเปลี่ยนชีวิต |ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/watch?v=B3H0bySl-24
    120. วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้)
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179
    121. วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล
    https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk
    122. วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3
    (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย)
    https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/
    รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html
    หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy
    123. วันที่ 1 เม.ย.2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ จัดรายการ Health Nexus
    ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน
    https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1
    ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ?
    https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP
    ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ
    https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz
    ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ?
    https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6914
    124. วันที่ 14 เม.ย.2568 กลุ่มฯได้ส่งหนังสือ ขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎ
    อนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ
    กระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประธาน
    รัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก
    และเรียกร้องการจัดเวทีสาธารณะให้คนไทยทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
    https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/
    https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?u
    จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-
    r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    125. วันที่ 22 เม.ย.2568 คุณอดิเทพ จาวลาห์ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้ารับฟังการสัมมนาประชุมเชิงปฏิบัติการ
    ต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น
    ⭐️เหตุผลว่าทำไมต้องปฏิเสธ
    https://www.facebook.com/share/p/1EfD6VWF7A/?mibextid=wwXIfr
    ⭐️ร่าง กฏหมาย อนามัย
    https://drive.google.com/drive/folders/1aIfGOD-CE2dwcR1lFunjEFz4_yDriC-n
    รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein
    126. วันที่ 25 เม.ย. 2568
    ยื่นจดหมายขอแสดงความคิดเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับ
    แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔
    เรียน อธิบดีกรมควบคุมโรค
    สําเนาเรียน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
    ต่างประเทศ ประธานรัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก
    ข้าพเจ้าอดิเทพ จาวลาห์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการแก้ไขที่ได้รับการรับรองในการประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 77 ผ่านมติ WHA77.17 ในปี 2024 ซึ่งข้าพเจ้ามีความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งการใช้อํานาจในทางที่ผิดโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเพียงพอ ข้าพเจ้าจึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย คัดค้าน และเรียกร้องให้มีการพิจารณาและทบทวนข้อกําหนดดังกล่าวอย่างรอบคอบ
    ไฟล์เอกสาร
    https://drive.google.com/file/d/1l0OQkErvfCimQrYl68IcrKQIT0VjuVGD/view?usp
    =drivesdk
    https://www.facebook.com/share/p/192ygrBgKv/
    127. วันที่ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรม
    ควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดําเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไข
    เพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสําคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน
    7 วันทําการ
    https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977
    https://drive.google.com/file/d/1lOx-z6YYotg4x6sm3w0aWb3k3xyimC4U/view?usp=drivesdk
    128.วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา
    มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God
    เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/
    129.วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐
    เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk
    ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/
    https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/
    https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/
    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk
    130.วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ
    ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา
    จดหมายยื่นรัฐสภา
    https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f
    ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515
    https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/
    https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255
    https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/
    131. วันที่ 29พ.ค.2568 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 พร้อมด้วย
    อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    และ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม
    ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
    เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งการโดยเร่งด่วน กรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด19
    https://drive.google.com/file/d/167IaJuYpekFBg7Le5GleNykqNsZzbJz_/view?usp=dri
    ve_link
    ในหนังสือฉบับนี้ มีข้อเรียกร้องหลัก 6 ประการ ได้แก่:
    1. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ในเด็กและเยาวชน จนกว่าจะมีผลการสอบสวนผลข้างเคียงอย่าง
    เป็นระบบ
    2. ให้สํานักงาน อย. ทบทวนการอนุญาตวัคซีน mRNA ทุกยี่ห้อ โดยโปร่งใส พร้อมเปิดข้อมูลจาก
    ต่างประเทศประกอบการพิจารณา
    3. เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่ม mRNA ที่รัฐทําไว้กับบริษัทเอกชน
    4. เปิดให้รับคําร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดทําทะเบียนผู้เดือดร้อน
    5. จัดเวทีวิชาการสาธารณะ โดยกรมควบคุมโรคร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่ออภิปรายอย่าง
    เปิดเผยเรื่องผลกระทบจากวัคซีน โดยเชิญทั้งนักวิชาการและผู้ป่วยเข้าร่วม
    6. ให้แพทยสภาสอบสวนกรณีจริยธรรมทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบยินยอมที่อาจเป็น
    เท็จ

    การยื่นหนังสือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดกระบวนการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เป็นธรรม
    และมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้ง
    ในปัจจุบันและอนาคต

    รายการจดหมายทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    132. วันที่ 13ก.ย.2568 อสมท MCOT News FM100.5 ในรายการ สีสันชีวิต ช่วง เร้นไม่ลับกับเซเลบฯ คุณลักขณา จำปา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ สัมภาษณ์ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/p/1Gj4PLybRN/
    https://www.facebook.com/share/p/166ByWxQNb/
    https://www.youtube.com/watch?v=sbfllJghw7w
    133. วันที่ 6 ต.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคปรับแก้ข้อมูล แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค
    https://drive.google.com/file/d/1zKmgZ-nGb7mJnKQYbkX9AbbXi-8S0VpZ/view?usp=drivesdk
    134. วันที่ 21ม.ค.-21ต.ค.2568 ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความ
    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320
    ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549
    ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922
    ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797
    ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/
    ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/
    ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/
    ตอน 10
    https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 11
    https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 12
    https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr
    135. วันที่ 22ต.ค.2568 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายสั้นๆ ในภาควิชา จุฬาฯ เรื่องโควิด ข้อมูลที่จะเป็นดั่งรูรั่วเล็กๆที่จะทำให้ เขื่อน ที่ปิดกั้นความจริงพังทลายลงในไม่ช้า
    https://www.facebook.com/share/1D7vvevs4h/
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7563880418664107280

    รวบรวมข้อมูลโดยแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    🇹🇭112. วันที่ 1 ม.ค.2568 ประกาศถามหาจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทยสภา https://drive.google.com/file/d/1kV3jlyTl_JNAzYo5HJ_nrw9Hx8DJTl6R/view?usp=drive_link ตามที่ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk เนื่องจากปล่อยให้มีการใช้ใบยินยอมอันเป็นเท็จให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ได้มีการทำหนังสือ ขอให้ทบทวนแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวแล้ว แต่กระทรวงฯกลับไม่ใส่ใจที่จะทำให้ถูกต้อง ทางกลุ่มจึงจำเป็นต้อง ยื่นหนังสือให้แพทยสภา ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวกับ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดี แทนที่ แพทยสภา จะดำเนินการสอบสวนและเสนอให้มีการแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง แพทยสภากลับเลือกที่จะปกป้อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวมิได้เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่เป็นการกระทำในตำแหน่งบริหาร การปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขของแพทยสภาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กรรมการแพทยสภา มิได้สนใจที่จะปกป้อง สิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการรักษา อันเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานของการเป็นแพทย์ ทั้งที่ใบยินยอมดังกล่าว มิได้ให้ข้อมูลสำคัญที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองไว้ในเอกสารกำกับยา ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า ⚠️วัคซีนดังกล่าว เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลงที่ยังอยู่ระหว่างการทำวิจัย และไม่ได้ทดสอบความปลอดภัยว่าก่อให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือไม่ได้ทดสอบว่า mRNA วัคซีนสามารถก่อมะเร็งหรือไม่ ⁉️ ั้งนี้ หากแพทยสภามีเจตนาที่จะปกป้องความปลอดภัยเด็กและเยาวชน และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ แพทยสภาสามารถจัดแถลงข่าว เรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อมูลในใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง และลงโทษสถานเบาโดยการว่ากล่าวตักเตือนปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่แพทยสภากลับทำหนังสือ “ลับ” (ที่ พส.๐๑๑/๑/๑๗๔๐๖ วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗) พยายามปกป้องผู้ที่กระทำผิดโดยไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนแม้แต่น้อย การกระทำดังกล่าวของ คณะกรรมการแพทยสภา รวมทั้งพฤติกรรมของนายกแพทยสภา เลขาธิการนายกแพทยสภา และรองเลขาธิการแพทยสภา แสดงให้เห็นว่า มิได้ยึดถือจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ 🇹🇭113. วันที่ 3 ม.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ส่งจดหมาย เรื่อง ขอให้ปกป้องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนก่อนการปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/12c_6_kI3Q9wMaIbahsz5t-P_fAqbyesj/view?usp=drive_link เรียน พ.ญ.นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา น.พ. นายอิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา น.พ. นายวิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา สำเนาเรียน (ส่งวันที่ 9มค.) กรรมการแพทยสภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ทุกสถาบัน สื่อสารมวลชน และสำนักข่าวทุกสำนัก 🇹🇭114. วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567 https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/ 🇹🇭115. วันที่ 17 ม.ค.2568 กลุ่มฯได้ส่งจดหมายถึงเลขาธิการแพทยสภา ขอข้อมูลข่าวสาร https://drive.google.com/file/d/172-XOvnm43P4LUntgyydYHHM7ZTOtH8Y/view?usp=drive_link 🇹🇭116. วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html 🇹🇭117. วันที่ 11 ก.พ.2568 บ๊วยLive EP.16 I Full Disclosure การเปิดโปงขั้นสุด กับคุณซันนี่ https://www.youtube.com/watch?v=8d3zRy35Iqw 🇹🇭118. วันที่ 26 ก.พ.2568 อัพเดทผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่มีผลต่อร่างกาย | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/watch?v=nMawgnjhgcc 🇹🇭119. วันที่ 6 มี.ค.2568 วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดเยอะ ยิ่งเปลี่ยนชีวิต |ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/watch?v=B3H0bySl-24 🇹🇭120. วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179 🇹🇭121. วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk 🇹🇭122. วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3 (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย) https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/ รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy 🇹🇭123. วันที่ 1 เม.ย.2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ จัดรายการ Health Nexus ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1 ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ? https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ? https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ https://t.me/ThaiPitaksithData/6914 🇹🇭124. วันที่ 14 เม.ย.2568 กลุ่มฯได้ส่งหนังสือ ขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎ อนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประธาน รัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก และเรียกร้องการจัดเวทีสาธารณะให้คนไทยทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?u จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด https://drive.google.com/drive/folders/1xAV- r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna 🇹🇭125. วันที่ 22 เม.ย.2568 คุณอดิเทพ จาวลาห์ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้ารับฟังการสัมมนาประชุมเชิงปฏิบัติการ ต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ⭐️เหตุผลว่าทำไมต้องปฏิเสธ https://www.facebook.com/share/p/1EfD6VWF7A/?mibextid=wwXIfr ⭐️ร่าง กฏหมาย อนามัย https://drive.google.com/drive/folders/1aIfGOD-CE2dwcR1lFunjEFz4_yDriC-n รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein 🇹🇭126. วันที่ 25 เม.ย. 2568 ยื่นจดหมายขอแสดงความคิดเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับ แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔ เรียน อธิบดีกรมควบคุมโรค สําเนาเรียน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ต่างประเทศ ประธานรัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก ข้าพเจ้าอดิเทพ จาวลาห์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการแก้ไขที่ได้รับการรับรองในการประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 77 ผ่านมติ WHA77.17 ในปี 2024 ซึ่งข้าพเจ้ามีความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งการใช้อํานาจในทางที่ผิดโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเพียงพอ ข้าพเจ้าจึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย คัดค้าน และเรียกร้องให้มีการพิจารณาและทบทวนข้อกําหนดดังกล่าวอย่างรอบคอบ ไฟล์เอกสาร https://drive.google.com/file/d/1l0OQkErvfCimQrYl68IcrKQIT0VjuVGD/view?usp =drivesdk https://www.facebook.com/share/p/192ygrBgKv/ 🇹🇭127. วันที่ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรม ควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดําเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไข เพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสําคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทําการ https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977 https://drive.google.com/file/d/1lOx-z6YYotg4x6sm3w0aWb3k3xyimC4U/view?usp=drivesdk 🇹🇭128.วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/ 🇹🇭129.วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์ https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/ https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/ https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/ ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk 🇹🇭130.วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา จดหมายยื่นรัฐสภา https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515 https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/ https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255 https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/ 🇹🇭131. วันที่ 29พ.ค.2568 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 พร้อมด้วย อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งการโดยเร่งด่วน กรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด19 https://drive.google.com/file/d/167IaJuYpekFBg7Le5GleNykqNsZzbJz_/view?usp=dri ve_link ในหนังสือฉบับนี้ มีข้อเรียกร้องหลัก 6 ประการ ได้แก่: 1. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ในเด็กและเยาวชน จนกว่าจะมีผลการสอบสวนผลข้างเคียงอย่าง เป็นระบบ 2. ให้สํานักงาน อย. ทบทวนการอนุญาตวัคซีน mRNA ทุกยี่ห้อ โดยโปร่งใส พร้อมเปิดข้อมูลจาก ต่างประเทศประกอบการพิจารณา 3. เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่ม mRNA ที่รัฐทําไว้กับบริษัทเอกชน 4. เปิดให้รับคําร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดทําทะเบียนผู้เดือดร้อน 5. จัดเวทีวิชาการสาธารณะ โดยกรมควบคุมโรคร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่ออภิปรายอย่าง เปิดเผยเรื่องผลกระทบจากวัคซีน โดยเชิญทั้งนักวิชาการและผู้ป่วยเข้าร่วม 6. ให้แพทยสภาสอบสวนกรณีจริยธรรมทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบยินยอมที่อาจเป็น เท็จ การยื่นหนังสือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดกระบวนการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้ง ในปัจจุบันและอนาคต รายการจดหมายทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna 🇹🇭132. วันที่ 13ก.ย.2568 อสมท MCOT News FM100.5 ในรายการ สีสันชีวิต ช่วง เร้นไม่ลับกับเซเลบฯ คุณลักขณา จำปา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ สัมภาษณ์ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/p/1Gj4PLybRN/ https://www.facebook.com/share/p/166ByWxQNb/ https://www.youtube.com/watch?v=sbfllJghw7w 🇹🇭133. วันที่ 6 ต.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคปรับแก้ข้อมูล แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค https://drive.google.com/file/d/1zKmgZ-nGb7mJnKQYbkX9AbbXi-8S0VpZ/view?usp=drivesdk 🇹🇭134. วันที่ 21ม.ค.-21ต.ค.2568 ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความ ✍️โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320 ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549 ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922 ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797 ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/ ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/ ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/ ตอน 10 https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr ตอน 11 https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr ตอน 12 https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr 🇹🇭135. วันที่ 22ต.ค.2568 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายสั้นๆ ในภาควิชา จุฬาฯ เรื่องโควิด ข้อมูลที่จะเป็นดั่งรูรั่วเล็กๆที่จะทำให้ เขื่อน ที่ปิดกั้นความจริงพังทลายลงในไม่ช้า https://www.facebook.com/share/1D7vvevs4h/ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7563880418664107280 รวบรวมข้อมูลโดยแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รองนายกฯ สุชาติ” รับฟังปัญหาชาวเกาะสมุย พร้อมแจงผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีต่างชาติครอบครองพื้นที่ป่าเกาะพะงัน
    https://www.thai-tai.tv/news/21995/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #เกาะสมุย #บุกรุกป่า #คทช #กรมอุทยานฯ #ทรัพยากรธรรมชาติ
    “รองนายกฯ สุชาติ” รับฟังปัญหาชาวเกาะสมุย พร้อมแจงผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีต่างชาติครอบครองพื้นที่ป่าเกาะพะงัน https://www.thai-tai.tv/news/21995/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #เกาะสมุย #บุกรุกป่า #คทช #กรมอุทยานฯ #ทรัพยากรธรรมชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สิงคโปร์ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์” — เตรียมบล็อกเนื้อหาที่เป็นภัยต่อผู้ใช้

    สิงคโปร์กำลังเดินหน้าสร้างมาตรการใหม่เพื่อรับมือกับภัยออนไลน์ โดยเสนอร่างกฎหมายจัดตั้ง “คณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์” ซึ่งจะมีอำนาจสั่งให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบล็อกเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ภายในประเทศ

    แรงผลักดันของกฎหมายนี้เกิดจากผลการศึกษาของ Infocomm Media Development Authority ที่พบว่า กว่าครึ่งของการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่เป็นภัย เช่น การล่วงละเมิดเด็ก การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ และการเปิดเผยภาพลับ ไม่ได้รับการจัดการอย่างทันท่วงทีจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ

    คณะกรรมการใหม่นี้จะมีอำนาจในการสั่งให้บล็อกเนื้อหาทั้งในระดับโพสต์ กลุ่ม หรือแม้แต่เว็บไซต์ของแพลตฟอร์มโดยตรง พร้อมให้สิทธิผู้เสียหายในการตอบโต้ และสามารถแบนผู้กระทำผิดจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มได้

    นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเพิ่มประเภทของภัยออนไลน์ในอนาคต เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต และการยุยงให้เกิดความเกลียดชัง โดยคณะกรรมการจะเริ่มดำเนินการภายในครึ่งแรกของปี 2026

    ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ใช้กฎหมาย Online Criminal Harms Act สั่งให้ Meta ดำเนินมาตรการป้องกันการแอบอ้างตัวตนบน Facebook โดยขู่ว่าจะปรับสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด

    ข้อมูลในข่าว
    สิงคโปร์เสนอร่างกฎหมายตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์
    คณะกรรมการจะมีอำนาจสั่งบล็อกเนื้อหาที่เป็นภัย เช่น การล่วงละเมิด การกลั่นแกล้ง และภาพลับ
    ผู้เสียหายจะมีสิทธิในการตอบโต้ และสามารถแบนผู้กระทำผิดได้
    อำนาจครอบคลุมถึงการสั่งบล็อกกลุ่มหรือเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม
    จะเพิ่มประเภทภัยออนไลน์ในอนาคต เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และการยุยงให้เกิดความเกลียดชัง
    คณะกรรมการจะเริ่มดำเนินการภายในครึ่งแรกของปี 2026
    รัฐบาลเคยสั่ง Meta ดำเนินมาตรการป้องกันการแอบอ้างตัวตนบน Facebook

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอาจถูกลงโทษหากไม่ดำเนินการตามคำสั่งของคณะกรรมการ
    การไม่จัดการเนื้อหาที่เป็นภัยอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่การถูกบล็อกทั้งแพลตฟอร์ม
    ผู้ใช้อาจถูกแบนจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มหากกระทำผิด
    การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกจัดเป็นภัยออนไลน์ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/15/new-singapore-law-empowers-commission-to-block-harmful-online-content
    🛡️ “สิงคโปร์ตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์” — เตรียมบล็อกเนื้อหาที่เป็นภัยต่อผู้ใช้ สิงคโปร์กำลังเดินหน้าสร้างมาตรการใหม่เพื่อรับมือกับภัยออนไลน์ โดยเสนอร่างกฎหมายจัดตั้ง “คณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์” ซึ่งจะมีอำนาจสั่งให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบล็อกเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ภายในประเทศ แรงผลักดันของกฎหมายนี้เกิดจากผลการศึกษาของ Infocomm Media Development Authority ที่พบว่า กว่าครึ่งของการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่เป็นภัย เช่น การล่วงละเมิดเด็ก การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ และการเปิดเผยภาพลับ ไม่ได้รับการจัดการอย่างทันท่วงทีจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ คณะกรรมการใหม่นี้จะมีอำนาจในการสั่งให้บล็อกเนื้อหาทั้งในระดับโพสต์ กลุ่ม หรือแม้แต่เว็บไซต์ของแพลตฟอร์มโดยตรง พร้อมให้สิทธิผู้เสียหายในการตอบโต้ และสามารถแบนผู้กระทำผิดจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเพิ่มประเภทของภัยออนไลน์ในอนาคต เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต และการยุยงให้เกิดความเกลียดชัง โดยคณะกรรมการจะเริ่มดำเนินการภายในครึ่งแรกของปี 2026 ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ใช้กฎหมาย Online Criminal Harms Act สั่งให้ Meta ดำเนินมาตรการป้องกันการแอบอ้างตัวตนบน Facebook โดยขู่ว่าจะปรับสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ สิงคโปร์เสนอร่างกฎหมายตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยออนไลน์ ➡️ คณะกรรมการจะมีอำนาจสั่งบล็อกเนื้อหาที่เป็นภัย เช่น การล่วงละเมิด การกลั่นแกล้ง และภาพลับ ➡️ ผู้เสียหายจะมีสิทธิในการตอบโต้ และสามารถแบนผู้กระทำผิดได้ ➡️ อำนาจครอบคลุมถึงการสั่งบล็อกกลุ่มหรือเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม ➡️ จะเพิ่มประเภทภัยออนไลน์ในอนาคต เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว และการยุยงให้เกิดความเกลียดชัง ➡️ คณะกรรมการจะเริ่มดำเนินการภายในครึ่งแรกของปี 2026 ➡️ รัฐบาลเคยสั่ง Meta ดำเนินมาตรการป้องกันการแอบอ้างตัวตนบน Facebook ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอาจถูกลงโทษหากไม่ดำเนินการตามคำสั่งของคณะกรรมการ ⛔ การไม่จัดการเนื้อหาที่เป็นภัยอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่การถูกบล็อกทั้งแพลตฟอร์ม ⛔ ผู้ใช้อาจถูกแบนจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มหากกระทำผิด ⛔ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกจัดเป็นภัยออนไลน์ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/15/new-singapore-law-empowers-commission-to-block-harmful-online-content
    WWW.THESTAR.COM.MY
    New Singapore law empowers commission to block harmful online content
    SINGAPORE (Reuters) -Singapore will introduce a new online safety commission with powers to order social media platforms to block harmful posts, according to a new bill that was tabled in parliament on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กลุ่ม Telegram ของ It’s FOSS ถูกแบนโดยไม่มีคำอธิบาย — เมื่อระบบอัตโนมัติกลายเป็นผู้พิพากษาโดยไร้ความเข้าใจ”

    It’s FOSS เว็บไซต์ข่าวและชุมชนด้านโอเพ่นซอร์สชื่อดัง ได้เผยแพร่บทความแสดงความไม่พอใจต่อ Telegram หลังจากกลุ่ม “It’s FOSS Community” ที่มีสมาชิกกว่า 250 คน ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

    กลุ่มดังกล่าวมีเนื้อหาการพูดคุยเกี่ยวกับ Linux, โอเพ่นซอร์ส, DIY และบางครั้งก็มีการพูดถึงการเมืองเล็กน้อย แต่เนื้อหาหลักยังคงอยู่ในขอบเขตของเทคโนโลยีและการศึกษา อย่างไรก็ตาม Telegram แจ้งว่าเนื้อหาบางส่วนถูก “รายงานว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย” ซึ่งทีมงานของ It’s FOSS คาดว่าอาจเกิดจากระบบอัตโนมัติที่เข้าใจผิดว่า “free software” หมายถึง “ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์”

    ก่อนหน้านี้กลุ่มเคยได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชี Abuse Notifications ของ Telegram ว่ามีข้อความละเมิดเงื่อนไขการใช้งาน ซึ่งโพสต์โดยบอทที่หลุดเข้ามาในกลุ่ม แม้ทีมงานจะใช้บอท MissRose และระบบ CAPTCHA เพื่อป้องกัน แต่ก็ยังมีบอทที่สามารถหลบเลี่ยงระบบและโพสต์ข้อความหลอกลวงได้

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาการจัดการของ Telegram ที่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างกลุ่มที่ถูกโจมตีโดยบอท กับกลุ่มที่มีพฤติกรรมละเมิดจริง ๆ และยังไม่มีช่องทางให้ผู้ดูแลกลุ่มสามารถอุทธรณ์หรือสื่อสารกับทีมงาน Telegram ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    กลุ่ม “It’s FOSS Community” บน Telegram ถูกลบโดยไม่มีการแจ้งเตือน
    มีสมาชิกกว่า 250 คน พูดคุยเรื่อง Linux และโอเพ่นซอร์ส

    Telegram แจ้งว่าเนื้อหาถูกรายงานว่า “ผิดกฎหมาย”
    ทีมงานคาดว่าเกิดจากการเข้าใจผิดของระบบอัตโนมัติ

    เคยได้รับการแจ้งเตือนจาก Abuse Notifications ว่ามีข้อความละเมิด
    ข้อความนั้นโพสต์โดยบอท ไม่ใช่สมาชิกจริง

    ใช้บอท MissRose และ CAPTCHA เพื่อป้องกันบอท
    แต่บอทยังสามารถหลบเลี่ยงและโพสต์ข้อความหลอกลวงได้

    Telegram ไม่มีการตอบกลับคำร้องเรียนจากทีมงาน It’s FOSS
    แม้จะเป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงในวงการโอเพ่นซอร์ส

    มีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นกับกลุ่มอื่น ๆ บน Telegram
    Reddit และคอมเมนต์ต่าง ๆ ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อย

    https://news.itsfoss.com/telegram-unfair-community-ban/
    📵 “กลุ่ม Telegram ของ It’s FOSS ถูกแบนโดยไม่มีคำอธิบาย — เมื่อระบบอัตโนมัติกลายเป็นผู้พิพากษาโดยไร้ความเข้าใจ” It’s FOSS เว็บไซต์ข่าวและชุมชนด้านโอเพ่นซอร์สชื่อดัง ได้เผยแพร่บทความแสดงความไม่พอใจต่อ Telegram หลังจากกลุ่ม “It’s FOSS Community” ที่มีสมาชิกกว่า 250 คน ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า กลุ่มดังกล่าวมีเนื้อหาการพูดคุยเกี่ยวกับ Linux, โอเพ่นซอร์ส, DIY และบางครั้งก็มีการพูดถึงการเมืองเล็กน้อย แต่เนื้อหาหลักยังคงอยู่ในขอบเขตของเทคโนโลยีและการศึกษา อย่างไรก็ตาม Telegram แจ้งว่าเนื้อหาบางส่วนถูก “รายงานว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย” ซึ่งทีมงานของ It’s FOSS คาดว่าอาจเกิดจากระบบอัตโนมัติที่เข้าใจผิดว่า “free software” หมายถึง “ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์” ก่อนหน้านี้กลุ่มเคยได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชี Abuse Notifications ของ Telegram ว่ามีข้อความละเมิดเงื่อนไขการใช้งาน ซึ่งโพสต์โดยบอทที่หลุดเข้ามาในกลุ่ม แม้ทีมงานจะใช้บอท MissRose และระบบ CAPTCHA เพื่อป้องกัน แต่ก็ยังมีบอทที่สามารถหลบเลี่ยงระบบและโพสต์ข้อความหลอกลวงได้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาการจัดการของ Telegram ที่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างกลุ่มที่ถูกโจมตีโดยบอท กับกลุ่มที่มีพฤติกรรมละเมิดจริง ๆ และยังไม่มีช่องทางให้ผู้ดูแลกลุ่มสามารถอุทธรณ์หรือสื่อสารกับทีมงาน Telegram ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ กลุ่ม “It’s FOSS Community” บน Telegram ถูกลบโดยไม่มีการแจ้งเตือน ➡️ มีสมาชิกกว่า 250 คน พูดคุยเรื่อง Linux และโอเพ่นซอร์ส ✅ Telegram แจ้งว่าเนื้อหาถูกรายงานว่า “ผิดกฎหมาย” ➡️ ทีมงานคาดว่าเกิดจากการเข้าใจผิดของระบบอัตโนมัติ ✅ เคยได้รับการแจ้งเตือนจาก Abuse Notifications ว่ามีข้อความละเมิด ➡️ ข้อความนั้นโพสต์โดยบอท ไม่ใช่สมาชิกจริง ✅ ใช้บอท MissRose และ CAPTCHA เพื่อป้องกันบอท ➡️ แต่บอทยังสามารถหลบเลี่ยงและโพสต์ข้อความหลอกลวงได้ ✅ Telegram ไม่มีการตอบกลับคำร้องเรียนจากทีมงาน It’s FOSS ➡️ แม้จะเป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงในวงการโอเพ่นซอร์ส ✅ มีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นกับกลุ่มอื่น ๆ บน Telegram ➡️ Reddit และคอมเมนต์ต่าง ๆ ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อย https://news.itsfoss.com/telegram-unfair-community-ban/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    Telegram, Please Learn Who's a Threat and Who's Not
    Our Telegram community got deleted without an explanation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • พีระพันธุ์ ลุยดินแดง เฟส 2 รับเรื่องร้องเรียนปัญหาซ่อมแซมอาคารล่าช้า หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว
    https://www.thai-tai.tv/news/21873/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์ #แฟลตดินแดง #การเคหะแห่งชาติ #สาธารณูปโภค #แผ่นดินไหว #รวมไทยสร้างชาติ

    พีระพันธุ์ ลุยดินแดง เฟส 2 รับเรื่องร้องเรียนปัญหาซ่อมแซมอาคารล่าช้า หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว https://www.thai-tai.tv/news/21873/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์ #แฟลตดินแดง #การเคหะแห่งชาติ #สาธารณูปโภค #แผ่นดินไหว #รวมไทยสร้างชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไฟไหม้ศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้ — สูญข้อมูล 858TB เพราะไม่มีระบบสำรอง”

    เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ศูนย์ข้อมูล National Information Resources Service ในเมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยต้นเหตุคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ระเบิดระหว่างการบำรุงรักษา ส่งผลให้ระบบ G-Drive ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดเก็บเอกสารของรัฐบาลถูกทำลายทั้งหมด พร้อมข้อมูลกว่า 858 เทราไบต์ที่ไม่มีการสำรองไว้เลย

    G-Drive ถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 125,000 คนจาก 74 หน่วยงาน และเป็นศูนย์กลางของบริการสาธารณะกว่า 160 รายการ เช่น ระบบภาษี การติดตามฉุกเฉิน 119 ระบบร้องเรียน และอีเมลราชการ การสูญเสียข้อมูลครั้งนี้ทำให้ระบบหลายส่วนหยุดชะงักทันที และการกู้คืนยังคงดำเนินไปอย่างล่าช้า โดย ณ วันที่ 4 ตุลาคม มีเพียง 17.8% ของระบบที่กลับมาออนไลน์

    เจ้าหน้าที่อ้างว่า G-Drive ไม่สามารถสำรองข้อมูลได้เพราะมีขนาดใหญ่เกินไป แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปริมาณ 858TB นั้นสามารถสำรองบนคลาวด์ได้ในราคาประมาณ $20,000 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

    เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่โศกนาฏกรรม เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลการกู้คืนข้อมูลเสียชีวิตจากการกระโดดตึกในวันที่ 3 ตุลาคม โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเกิดจากความเครียดหรือแรงกดดันจากงานหรือไม่

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เกิดไฟไหม้ศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025
    ระบบ G-Drive ถูกทำลายพร้อมข้อมูล 858TB โดยไม่มีการสำรอง
    G-Drive ใช้โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 125,000 คนจาก 74 หน่วยงาน
    บริการสาธารณะกว่า 160 รายการได้รับผลกระทบ เช่น ภาษี อีเมล และระบบฉุกเฉิน
    ณ วันที่ 4 ตุลาคม มีเพียง 17.8% ของระบบที่กลับมาออนไลน์
    เจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่สามารถสำรองข้อมูลได้เพราะขนาดใหญ่เกินไป
    ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการสำรองข้อมูล 858TB บนคลาวด์มีค่าใช้จ่ายเพียง $20,000 ต่อเดือน
    เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลการกู้คืนข้อมูลเสียชีวิตจากการกระโดดตึก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีความหนาแน่นพลังงานสูงแต่เสี่ยงต่อการระเบิด
    เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดที่ OVHcloud ในฝรั่งเศสปี 2021 แต่มีระบบสำรองจากผู้ให้บริการภายนอก
    การไม่มีระบบสำรองแบบ geographic redundancy ทำให้ไฟไหม้กลายเป็นวิกฤตระดับชาติ
    ระบบ G-Drive มี quota 30GB ต่อเจ้าหน้าที่ และเป็นศูนย์กลางเอกสารราชการ
    การกู้คืนข้อมูลบางส่วนต้องใช้วิธี manual recreation ซึ่งใช้เวลานานและไม่สมบูรณ์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การไม่มีระบบสำรองข้อมูลทำให้เกิดการสูญเสียระดับชาติ
    การพึ่งพาศูนย์ข้อมูลเดียวโดยไม่มี geographic redundancy เป็นความเสี่ยงสูง
    การอ้างว่ข้อมูลใหญ่เกินกว่าจะสำรองได้ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน
    การกู้คืนข้อมูลล่าช้าอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน
    ความเครียดจากการกู้คืนข้อมูลอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/south-korean-government-learns-the-importance-of-backups-the-hard-way-after-catastrophic-fire-858-terabytes-of-data-goes-up-in-magic-smoke
    🔥 “ไฟไหม้ศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้ — สูญข้อมูล 858TB เพราะไม่มีระบบสำรอง” เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ศูนย์ข้อมูล National Information Resources Service ในเมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยต้นเหตุคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ระเบิดระหว่างการบำรุงรักษา ส่งผลให้ระบบ G-Drive ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดเก็บเอกสารของรัฐบาลถูกทำลายทั้งหมด พร้อมข้อมูลกว่า 858 เทราไบต์ที่ไม่มีการสำรองไว้เลย G-Drive ถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 125,000 คนจาก 74 หน่วยงาน และเป็นศูนย์กลางของบริการสาธารณะกว่า 160 รายการ เช่น ระบบภาษี การติดตามฉุกเฉิน 119 ระบบร้องเรียน และอีเมลราชการ การสูญเสียข้อมูลครั้งนี้ทำให้ระบบหลายส่วนหยุดชะงักทันที และการกู้คืนยังคงดำเนินไปอย่างล่าช้า โดย ณ วันที่ 4 ตุลาคม มีเพียง 17.8% ของระบบที่กลับมาออนไลน์ เจ้าหน้าที่อ้างว่า G-Drive ไม่สามารถสำรองข้อมูลได้เพราะมีขนาดใหญ่เกินไป แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปริมาณ 858TB นั้นสามารถสำรองบนคลาวด์ได้ในราคาประมาณ $20,000 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่โศกนาฏกรรม เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลการกู้คืนข้อมูลเสียชีวิตจากการกระโดดตึกในวันที่ 3 ตุลาคม โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเกิดจากความเครียดหรือแรงกดดันจากงานหรือไม่ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เกิดไฟไหม้ศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 ➡️ ระบบ G-Drive ถูกทำลายพร้อมข้อมูล 858TB โดยไม่มีการสำรอง ➡️ G-Drive ใช้โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 125,000 คนจาก 74 หน่วยงาน ➡️ บริการสาธารณะกว่า 160 รายการได้รับผลกระทบ เช่น ภาษี อีเมล และระบบฉุกเฉิน ➡️ ณ วันที่ 4 ตุลาคม มีเพียง 17.8% ของระบบที่กลับมาออนไลน์ ➡️ เจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่สามารถสำรองข้อมูลได้เพราะขนาดใหญ่เกินไป ➡️ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการสำรองข้อมูล 858TB บนคลาวด์มีค่าใช้จ่ายเพียง $20,000 ต่อเดือน ➡️ เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลการกู้คืนข้อมูลเสียชีวิตจากการกระโดดตึก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีความหนาแน่นพลังงานสูงแต่เสี่ยงต่อการระเบิด ➡️ เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดที่ OVHcloud ในฝรั่งเศสปี 2021 แต่มีระบบสำรองจากผู้ให้บริการภายนอก ➡️ การไม่มีระบบสำรองแบบ geographic redundancy ทำให้ไฟไหม้กลายเป็นวิกฤตระดับชาติ ➡️ ระบบ G-Drive มี quota 30GB ต่อเจ้าหน้าที่ และเป็นศูนย์กลางเอกสารราชการ ➡️ การกู้คืนข้อมูลบางส่วนต้องใช้วิธี manual recreation ซึ่งใช้เวลานานและไม่สมบูรณ์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การไม่มีระบบสำรองข้อมูลทำให้เกิดการสูญเสียระดับชาติ ⛔ การพึ่งพาศูนย์ข้อมูลเดียวโดยไม่มี geographic redundancy เป็นความเสี่ยงสูง ⛔ การอ้างว่ข้อมูลใหญ่เกินกว่าจะสำรองได้ไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ⛔ การกู้คืนข้อมูลล่าช้าอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ⛔ ความเครียดจากการกู้คืนข้อมูลอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/south-korean-government-learns-the-importance-of-backups-the-hard-way-after-catastrophic-fire-858-terabytes-of-data-goes-up-in-magic-smoke
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่านนทบุรีดูคลิปนี้ด่วน ปชช.ร้องเรียน15ปีไร้ผล (4/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #นนทบุรี
    #ร้องเรียน
    #ผู้ว่าราชการจังหวัด
    #ปัญหาชุมชน
    ผู้ว่านนทบุรีดูคลิปนี้ด่วน ปชช.ร้องเรียน15ปีไร้ผล (4/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #นนทบุรี #ร้องเรียน #ผู้ว่าราชการจังหวัด #ปัญหาชุมชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..ต้องร่วมให้กำลังใจทหารไทยน้ำดีเรา,แม้ทหารเลวทำเสีย เรา..ก็ถือว่าคือบทเรียนกองทัพไทยเราเองที่ปล่อยปละละเลยไม่จัดการทหารนายพลนอกแถวนี้รวมถึงข้าราชการคนศาลทหารไทยเราด้วยที่หน้าที่ตนเองเต็มต้องสแกนหาคนไม่ดีพวกนี้ด้วยมิใช่นั่งรอเชิงรับให้คนมาร้องเรียนเอง,บ้านสกปรกนั่งรอคนเอาไม้กวาดมาให้,ใช้ไม่ได้.
    ..สระแก้วคือตัวอย่างชัดเจน คุณภาพกองทัพที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายตลอดไม่รู้จักชั่วต่ออธิปไตยตนมันชั่วแบบใด,ดีต่ออธิปไตยตนต้องจัดการแบบใดอย่างเร่งด่วน.
    https://youtube.com/watch?v=nWZ2G9oCAyc&si=I7vYxu69OIhjSDzv
    ..ต้องร่วมให้กำลังใจทหารไทยน้ำดีเรา,แม้ทหารเลวทำเสีย เรา..ก็ถือว่าคือบทเรียนกองทัพไทยเราเองที่ปล่อยปละละเลยไม่จัดการทหารนายพลนอกแถวนี้รวมถึงข้าราชการคนศาลทหารไทยเราด้วยที่หน้าที่ตนเองเต็มต้องสแกนหาคนไม่ดีพวกนี้ด้วยมิใช่นั่งรอเชิงรับให้คนมาร้องเรียนเอง,บ้านสกปรกนั่งรอคนเอาไม้กวาดมาให้,ใช้ไม่ได้. ..สระแก้วคือตัวอย่างชัดเจน คุณภาพกองทัพที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายตลอดไม่รู้จักชั่วต่ออธิปไตยตนมันชั่วแบบใด,ดีต่ออธิปไตยตนต้องจัดการแบบใดอย่างเร่งด่วน. https://youtube.com/watch?v=nWZ2G9oCAyc&si=I7vYxu69OIhjSDzv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไฟจากแบตเตอรี่เดียวลามทำลายศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้ — บทเรียนราคาแพงของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล”

    เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ศูนย์ข้อมูลของ National Information Resources Service (NIRS) ในเมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบดิจิทัลของรัฐบาล ส่งผลให้ระบบออนไลน์ของหน่วยงานรัฐกว่า 647 ระบบต้องหยุดชะงักทันที รวมถึงบริการสำคัญอย่าง Government24, Korea Post, ระบบร้องเรียนออนไลน์ และระบบยืนยันตัวตนสำหรับธนาคาร

    ต้นเหตุของไฟไหม้มาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในระบบสำรองไฟ (UPS) ที่เกิดการลัดวงจรระหว่างการย้ายอุปกรณ์ลงไปยังชั้นใต้ดิน แม้จะมีการตัดไฟแล้ว แต่เกิดประกายไฟขึ้นภายหลัง ทำให้เกิด “thermal runaway” ลุกลามไปยังแบตเตอรี่กว่า 384 ก้อน อุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 160°C และใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง

    การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะไม่สามารถใช้น้ำจำนวนมากได้เนื่องจากต้องปกป้องเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลระดับชาติ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีระบายอากาศและฉีดน้ำแบบจำกัด รวมถึงการแช่แบตเตอรี่ในน้ำเพื่อป้องกันการลุกไหม้ซ้ำ

    ผลกระทบลุกลามไปถึงภาคการเงิน เพราะระบบยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และทะเบียนคนต่างชาติไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ธนาคารต้องใช้แผนฉุกเฉินในการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลชูซอกที่มีการใช้งานสูง

    รัฐบาลเกาหลีใต้และประธานาธิบดีลี แจ-มยองออกมาขอโทษประชาชน พร้อมสั่งเร่งฟื้นฟูระบบ โดยจะย้ายระบบที่เสียหายไปยังคลาวด์ในเมืองแทกู และคาดว่าการฟื้นฟูทั้งหมดจะใช้เวลาราว 4 สัปดาห์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เกิดไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูล NIRS ในเมืองแทจอน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025
    ต้นเหตุคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในระบบ UPS ที่เกิดประกายไฟระหว่างการย้าย
    ไฟลุกลามไปยังแบตเตอรี่กว่า 384 ก้อน ทำให้อุณหภูมิพุ่งถึง 160°C
    ใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง โดยต้องใช้การระบายอากาศและแช่แบตเตอรี่
    ระบบออนไลน์ของรัฐบาล 647 ระบบหยุดชะงัก โดย 96 ระบบเสียหายโดยตรง
    บริการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Government24, Korea Post, ระบบร้องเรียน และระบบยืนยันตัวตน
    ธนาคารหลายแห่ง เช่น Shinhan, KB, Woori ต้องใช้แผนฉุกเฉินในการให้บริการ
    รัฐบาลเตรียมย้ายระบบที่เสียหายไปยังคลาวด์ในเมืองแทกู และคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟู 4 สัปดาห์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แบตเตอรี่ที่ใช้ผลิตโดย LG Energy Solution และมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี
    ระยะห่างระหว่างแบตเตอรี่กับเซิร์ฟเวอร์เพียง 60 ซม. ต่ำกว่ามาตรฐานสหรัฐฯ ที่กำหนดไว้ 90 ซม.
    UPS มีระบบความปลอดภัยต่ำกว่าระบบ ESS ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าหรือโครงสร้างขนาดใหญ่
    การจัดวางแบตเตอรี่ในห้องเดียวกับเซิร์ฟเวอร์เป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง
    การใช้ระบบสำรองไฟแบบ rack-mounted ต้องมีการตรวจสอบความชื้น ความร้อน และการระบายอากาศอย่างเข้มงวด

    https://www.techradar.com/pro/hundreds-of-south-korean-government-services-go-offline-following-data-center-fire
    🔥 “ไฟจากแบตเตอรี่เดียวลามทำลายศูนย์ข้อมูลรัฐบาลเกาหลีใต้ — บทเรียนราคาแพงของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ศูนย์ข้อมูลของ National Information Resources Service (NIRS) ในเมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางระบบดิจิทัลของรัฐบาล ส่งผลให้ระบบออนไลน์ของหน่วยงานรัฐกว่า 647 ระบบต้องหยุดชะงักทันที รวมถึงบริการสำคัญอย่าง Government24, Korea Post, ระบบร้องเรียนออนไลน์ และระบบยืนยันตัวตนสำหรับธนาคาร ต้นเหตุของไฟไหม้มาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในระบบสำรองไฟ (UPS) ที่เกิดการลัดวงจรระหว่างการย้ายอุปกรณ์ลงไปยังชั้นใต้ดิน แม้จะมีการตัดไฟแล้ว แต่เกิดประกายไฟขึ้นภายหลัง ทำให้เกิด “thermal runaway” ลุกลามไปยังแบตเตอรี่กว่า 384 ก้อน อุณหภูมิภายในห้องเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงถึง 160°C และใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะไม่สามารถใช้น้ำจำนวนมากได้เนื่องจากต้องปกป้องเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลระดับชาติ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีระบายอากาศและฉีดน้ำแบบจำกัด รวมถึงการแช่แบตเตอรี่ในน้ำเพื่อป้องกันการลุกไหม้ซ้ำ ผลกระทบลุกลามไปถึงภาคการเงิน เพราะระบบยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และทะเบียนคนต่างชาติไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ธนาคารต้องใช้แผนฉุกเฉินในการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลชูซอกที่มีการใช้งานสูง รัฐบาลเกาหลีใต้และประธานาธิบดีลี แจ-มยองออกมาขอโทษประชาชน พร้อมสั่งเร่งฟื้นฟูระบบ โดยจะย้ายระบบที่เสียหายไปยังคลาวด์ในเมืองแทกู และคาดว่าการฟื้นฟูทั้งหมดจะใช้เวลาราว 4 สัปดาห์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เกิดไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูล NIRS ในเมืองแทจอน เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 ➡️ ต้นเหตุคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในระบบ UPS ที่เกิดประกายไฟระหว่างการย้าย ➡️ ไฟลุกลามไปยังแบตเตอรี่กว่า 384 ก้อน ทำให้อุณหภูมิพุ่งถึง 160°C ➡️ ใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง โดยต้องใช้การระบายอากาศและแช่แบตเตอรี่ ➡️ ระบบออนไลน์ของรัฐบาล 647 ระบบหยุดชะงัก โดย 96 ระบบเสียหายโดยตรง ➡️ บริการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Government24, Korea Post, ระบบร้องเรียน และระบบยืนยันตัวตน ➡️ ธนาคารหลายแห่ง เช่น Shinhan, KB, Woori ต้องใช้แผนฉุกเฉินในการให้บริการ ➡️ รัฐบาลเตรียมย้ายระบบที่เสียหายไปยังคลาวด์ในเมืองแทกู และคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟู 4 สัปดาห์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แบตเตอรี่ที่ใช้ผลิตโดย LG Energy Solution และมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี ➡️ ระยะห่างระหว่างแบตเตอรี่กับเซิร์ฟเวอร์เพียง 60 ซม. ต่ำกว่ามาตรฐานสหรัฐฯ ที่กำหนดไว้ 90 ซม. ➡️ UPS มีระบบความปลอดภัยต่ำกว่าระบบ ESS ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าหรือโครงสร้างขนาดใหญ่ ➡️ การจัดวางแบตเตอรี่ในห้องเดียวกับเซิร์ฟเวอร์เป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง ➡️ การใช้ระบบสำรองไฟแบบ rack-mounted ต้องมีการตรวจสอบความชื้น ความร้อน และการระบายอากาศอย่างเข้มงวด https://www.techradar.com/pro/hundreds-of-south-korean-government-services-go-offline-following-data-center-fire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts