• พีระพันธุ์ ลุยดินแดง เฟส 2 รับเรื่องร้องเรียนปัญหาซ่อมแซมอาคารล่าช้า หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว
    https://www.thai-tai.tv/news/21873/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์ #แฟลตดินแดง #การเคหะแห่งชาติ #สาธารณูปโภค #แผ่นดินไหว #รวมไทยสร้างชาติ

    พีระพันธุ์ ลุยดินแดง เฟส 2 รับเรื่องร้องเรียนปัญหาซ่อมแซมอาคารล่าช้า หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว https://www.thai-tai.tv/news/21873/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์ #แฟลตดินแดง #การเคหะแห่งชาติ #สาธารณูปโภค #แผ่นดินไหว #รวมไทยสร้างชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1

    ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก

    อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ?

    อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ?

    อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ

    อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ?

    อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู

    อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้

    ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ

    ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย?

    แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว

    อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ

    อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที)

    อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่

    อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน)

    หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่!

    LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง

    สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ)

    อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย?

    (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน)

    อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ

    อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่

    สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง

    อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

    1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้
    2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น
    3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที
    4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ
    5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง
    6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป
    7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ
    8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ
    9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง
    10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว
    11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร.
    12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70
    13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด
    14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ
    15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง

    หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน

    สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ

    อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย

    สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ

    อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง?

    ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ)

    ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย?

    นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ"

    บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที

    ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1 ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ? อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ? อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ? อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่ อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้ ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย? แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่) สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที) อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที) สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่ อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน) หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่! LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ) อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย? (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน) อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่ สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้ 1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้ 2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น 3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที 4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ 5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง 6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป 7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ 8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ 9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง 10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว 11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร. 12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70 13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด 14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ 15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง? ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ) ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย? นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ" บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก “คลิกเพื่อดูรูปฟรี” ถึง “เราสร้างพื้นที่ของเราเอง”: เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครอยากอยู่

    ในยุคแรกของโซเชียลมีเดีย เราเข้ามาเพื่อดูรูปงานแต่งของเพื่อน, สุนัขของญาติ, หรือโพสต์ที่มีความหมายจากคนที่เรารู้จักจริง ๆ แต่วันนี้ ฟีดของเรากลับเต็มไปด้วยโพสต์ซ้ำ ๆ จากบอท, รูปโปรไฟล์ปลอม, และคลิป AI ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดคลิก ไม่ใช่เพื่อสื่อสาร

    AI ไม่ได้แค่สร้างเนื้อหา แต่ยังสร้าง “ตัวตน” ที่ดูเหมือนมนุษย์—สาวสวยที่ตอบกลับโพสต์ด้วยคำพูดหวาน ๆ พร้อมลิงก์ไปยัง OnlyFans หรือบริการคล้ายกัน ซึ่งบางครั้งเธอเป็นคนจริง บางครั้งเป็นบอท และบางครั้งเป็นผู้ชายในห้องทำงานที่เมียนมาร์

    ในขณะที่เนื้อหาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การมีส่วนร่วมกลับลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้ไม่ได้พูดคุยกันอีกต่อไป แต่แค่เลื่อนผ่านเนื้อหาที่ดูเหมือนภาษาแต่ไม่มีความหมาย ความจริงถูกแทนที่ด้วยความบันเทิงแบบไร้ราก และความสัมพันธ์ถูกแทนที่ด้วยการตลาดแบบอัลกอริธึม

    ผู้คนเริ่มหนีออกจากแพลตฟอร์มใหญ่ ไปสู่พื้นที่เล็ก ๆ ที่มีความตั้งใจ เช่น Discord, Substack, Patreon และกลุ่มแชตส่วนตัว ที่เน้นความสัมพันธ์มากกว่าการเติบโตแบบไวรัล

    แม้แต่ผู้สร้างเนื้อหาเองก็เริ่มเหนื่อยล้า เพราะต้องแข่งขันกับ AI ที่ไม่หลับไม่พัก และสามารถสร้างโพสต์ที่ “ดูดี” ได้ในไม่กี่วินาที หลายคนจึงเลือกหยุด หรือหันไปใช้ Dumbphone เพื่อหลีกหนีจากการเสพติดหน้าจอ

    การเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย
    เนื้อหาจริงจากมนุษย์ถูกลดความสำคัญลงโดยอัลกอริธึม
    บอทและ AI สร้างโพสต์ซ้ำ ๆ เพื่อดึงดูดคลิก
    ความแตกต่างระหว่างคนจริงกับบอทเริ่มเลือนลาง

    การเกิดขึ้นของ “เศรษฐกิจสาวบอท”
    บอทที่ดูเหมือนมนุษย์ใช้เพื่อดึงดูดผู้ชายเข้าสู่บริการแบบเสียเงิน
    ผู้สร้างเนื้อหาบางคนเริ่มทำตัวเหมือนอัลกอริธึมเพื่อรักษาการมีส่วนร่วม
    ความสัมพันธ์กลายเป็นธุรกรรมที่แลกเปลี่ยนความสนใจกับเงิน

    การลดลงของการมีส่วนร่วม
    อัตราการมีส่วนร่วมใน Facebook และ X เหลือเพียง 0.15% โดยเฉลี่ย
    Instagram ลดลง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน
    ผู้ใช้เลื่อนฟีดแบบครึ่งรู้สึกครึ่งหลงลืม ไม่ได้มีเป้าหมายจริง

    การย้ายไปสู่พื้นที่ที่มีความตั้งใจ
    ผู้ใช้เริ่มหันไปใช้กลุ่มแชต, Discord, Substack และ Patreon
    พื้นที่เหล่านี้เน้นความสัมพันธ์และความไว้วางใจมากกว่าการเติบโต
    แพลตฟอร์มใหญ่เริ่มปรับตัว เช่น Instagram เน้น DMs, TikTok ทดลองกลุ่มส่วนตัว

    แนวคิดใหม่ในการออกแบบแพลตฟอร์ม
    เสนอให้เพิ่ม “friction” เช่น หน่วงเวลาโพสต์, แสดงเวลาที่ใช้ก่อนอัปโหลด
    แพลตฟอร์มอย่าง Are.na ไม่มีฟีดอัลกอริธึมหรือระบบ engagement
    การออกแบบเพื่อเจตนาแทนการเสพติด

    การผลักดันให้โซเชียลมีเดียเป็นสาธารณูปโภค
    เสนอให้มีการตรวจสอบอัลกอริธึมแบบโปร่งใส
    ให้ผู้ใช้เลือกอัลกอริธึมที่ต้องการ เช่น ฟีดตามเวลา, ฟีดจาก mutuals
    สร้างแพลตฟอร์มที่มี governance แบบประชาธิปไตย

    การส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัล
    เสนอให้สอน digital literacy ตั้งแต่เด็ก
    เน้นความเข้าใจอัลกอริธึมและการจัดการข้อมูลส่วนตัว
    สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน

    https://www.noemamag.com/the-last-days-of-social-media/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก “คลิกเพื่อดูรูปฟรี” ถึง “เราสร้างพื้นที่ของเราเอง”: เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครอยากอยู่ ในยุคแรกของโซเชียลมีเดีย เราเข้ามาเพื่อดูรูปงานแต่งของเพื่อน, สุนัขของญาติ, หรือโพสต์ที่มีความหมายจากคนที่เรารู้จักจริง ๆ แต่วันนี้ ฟีดของเรากลับเต็มไปด้วยโพสต์ซ้ำ ๆ จากบอท, รูปโปรไฟล์ปลอม, และคลิป AI ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดคลิก ไม่ใช่เพื่อสื่อสาร AI ไม่ได้แค่สร้างเนื้อหา แต่ยังสร้าง “ตัวตน” ที่ดูเหมือนมนุษย์—สาวสวยที่ตอบกลับโพสต์ด้วยคำพูดหวาน ๆ พร้อมลิงก์ไปยัง OnlyFans หรือบริการคล้ายกัน ซึ่งบางครั้งเธอเป็นคนจริง บางครั้งเป็นบอท และบางครั้งเป็นผู้ชายในห้องทำงานที่เมียนมาร์ ในขณะที่เนื้อหาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การมีส่วนร่วมกลับลดลงอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้ไม่ได้พูดคุยกันอีกต่อไป แต่แค่เลื่อนผ่านเนื้อหาที่ดูเหมือนภาษาแต่ไม่มีความหมาย ความจริงถูกแทนที่ด้วยความบันเทิงแบบไร้ราก และความสัมพันธ์ถูกแทนที่ด้วยการตลาดแบบอัลกอริธึม ผู้คนเริ่มหนีออกจากแพลตฟอร์มใหญ่ ไปสู่พื้นที่เล็ก ๆ ที่มีความตั้งใจ เช่น Discord, Substack, Patreon และกลุ่มแชตส่วนตัว ที่เน้นความสัมพันธ์มากกว่าการเติบโตแบบไวรัล แม้แต่ผู้สร้างเนื้อหาเองก็เริ่มเหนื่อยล้า เพราะต้องแข่งขันกับ AI ที่ไม่หลับไม่พัก และสามารถสร้างโพสต์ที่ “ดูดี” ได้ในไม่กี่วินาที หลายคนจึงเลือกหยุด หรือหันไปใช้ Dumbphone เพื่อหลีกหนีจากการเสพติดหน้าจอ ✅ การเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย ➡️ เนื้อหาจริงจากมนุษย์ถูกลดความสำคัญลงโดยอัลกอริธึม ➡️ บอทและ AI สร้างโพสต์ซ้ำ ๆ เพื่อดึงดูดคลิก ➡️ ความแตกต่างระหว่างคนจริงกับบอทเริ่มเลือนลาง ✅ การเกิดขึ้นของ “เศรษฐกิจสาวบอท” ➡️ บอทที่ดูเหมือนมนุษย์ใช้เพื่อดึงดูดผู้ชายเข้าสู่บริการแบบเสียเงิน ➡️ ผู้สร้างเนื้อหาบางคนเริ่มทำตัวเหมือนอัลกอริธึมเพื่อรักษาการมีส่วนร่วม ➡️ ความสัมพันธ์กลายเป็นธุรกรรมที่แลกเปลี่ยนความสนใจกับเงิน ✅ การลดลงของการมีส่วนร่วม ➡️ อัตราการมีส่วนร่วมใน Facebook และ X เหลือเพียง 0.15% โดยเฉลี่ย ➡️ Instagram ลดลง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน ➡️ ผู้ใช้เลื่อนฟีดแบบครึ่งรู้สึกครึ่งหลงลืม ไม่ได้มีเป้าหมายจริง ✅ การย้ายไปสู่พื้นที่ที่มีความตั้งใจ ➡️ ผู้ใช้เริ่มหันไปใช้กลุ่มแชต, Discord, Substack และ Patreon ➡️ พื้นที่เหล่านี้เน้นความสัมพันธ์และความไว้วางใจมากกว่าการเติบโต ➡️ แพลตฟอร์มใหญ่เริ่มปรับตัว เช่น Instagram เน้น DMs, TikTok ทดลองกลุ่มส่วนตัว ✅ แนวคิดใหม่ในการออกแบบแพลตฟอร์ม ➡️ เสนอให้เพิ่ม “friction” เช่น หน่วงเวลาโพสต์, แสดงเวลาที่ใช้ก่อนอัปโหลด ➡️ แพลตฟอร์มอย่าง Are.na ไม่มีฟีดอัลกอริธึมหรือระบบ engagement ➡️ การออกแบบเพื่อเจตนาแทนการเสพติด ✅ การผลักดันให้โซเชียลมีเดียเป็นสาธารณูปโภค ➡️ เสนอให้มีการตรวจสอบอัลกอริธึมแบบโปร่งใส ➡️ ให้ผู้ใช้เลือกอัลกอริธึมที่ต้องการ เช่น ฟีดตามเวลา, ฟีดจาก mutuals ➡️ สร้างแพลตฟอร์มที่มี governance แบบประชาธิปไตย ✅ การส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัล ➡️ เสนอให้สอน digital literacy ตั้งแต่เด็ก ➡️ เน้นความเข้าใจอัลกอริธึมและการจัดการข้อมูลส่วนตัว ➡️ สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน https://www.noemamag.com/the-last-days-of-social-media/
    WWW.NOEMAMAG.COM
    The Last Days Of Social Media
    Social media promised connection, but it has delivered exhaustion.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ

    Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS

    ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0

    หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย

    สเปกหลักของ Getac F120
    ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS)
    RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe
    รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0

    หน้าจอและความทนทาน
    หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits
    รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ
    ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66
    ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2
    มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6
    ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง

    การใช้งานในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ
    รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric
    Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม
    รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    🛡️ “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0 หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย ✅ สเปกหลักของ Getac F120 ➡️ ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS) ➡️ RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe ➡️ รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0 ✅ หน้าจอและความทนทาน ➡️ หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits ➡️ รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ ➡️ ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ➡️ ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2 ➡️ มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6 ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ ➡️ รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric ➡️ Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม ➡️ รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    บทสรุป
    อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร
    กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ
    เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ
    นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ?
    – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย
    – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration)
    – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu
    การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน
    ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี!
    ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ
    ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa
    ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย)
    ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ?
    นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้
    เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” บทสรุป อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ? – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration) – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี! ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย) ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ? นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้ เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 715 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรนลาดตระเวน มูลค่า 10 ล้านบาท จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เสริมภารกิจป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา เผยอุปกรณ์สาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ ห้องน้ำสําเร็จรูปเครื่องปั่นไฟ, แบตเตอรี่, โซลาร์เซลล์ , เสื้อรองในทหารและถุงเท้า เป็นต้น ทางมูลนิธิฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดหา

    วันนี้ (22 ก.ค.68) เวลา 08.30 น. ณ ห้องรับรอง 211 กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน (Drone) สำหรับลาดตระเวน มูลค่า 10,190,160 บาท จาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วย ทนายนิติธร ล้ำเหลือ, คุณจตุพร พรหมพันธุ์ และคุณสมชาย แสวงการ จากกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการลาดตระเวนของหน่วยทหาร ให้สามารถเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และตอบโต้ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยของกำลังพลและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงอย่างยั่งยืนต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000068949

    #Thaitimes #MGROnline #โดรนลาดตระเวน #อากาศยานไร้คนขับ #โดรน #สำหรับลาดตระเวน
    แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรนลาดตระเวน มูลค่า 10 ล้านบาท จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เสริมภารกิจป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา เผยอุปกรณ์สาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ ห้องน้ำสําเร็จรูปเครื่องปั่นไฟ, แบตเตอรี่, โซลาร์เซลล์ , เสื้อรองในทหารและถุงเท้า เป็นต้น ทางมูลนิธิฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดหา • วันนี้ (22 ก.ค.68) เวลา 08.30 น. ณ ห้องรับรอง 211 กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน (Drone) สำหรับลาดตระเวน มูลค่า 10,190,160 บาท จาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วย ทนายนิติธร ล้ำเหลือ, คุณจตุพร พรหมพันธุ์ และคุณสมชาย แสวงการ จากกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการลาดตระเวนของหน่วยทหาร ให้สามารถเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และตอบโต้ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความปลอดภัยของกำลังพลและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงอย่างยั่งยืนต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000068949 • #Thaitimes #MGROnline #โดรนลาดตระเวน #อากาศยานไร้คนขับ #โดรน #สำหรับลาดตระเวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรนลาดตระเวน มูลค่า 10 ล้านบาท จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เสริมภารกิจป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา เผยอุปกรณ์สาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ ห้องน้ำสําเร็จรูปเครื่องปั่นไฟ, แบตเตอรี่, โซลาร์เซลล์ , เสื้อรองในทหารและถุงเท้า เป็นต้น ทางมูลนิธิฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดหา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068954

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบโดรนลาดตระเวน มูลค่า 10 ล้านบาท จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เสริมภารกิจป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชา เผยอุปกรณ์สาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ ห้องน้ำสําเร็จรูปเครื่องปั่นไฟ, แบตเตอรี่, โซลาร์เซลล์ , เสื้อรองในทหารและถุงเท้า เป็นต้น ทางมูลนิธิฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดหา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068954 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1042 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ระงับแผนการสร้างศูนย์ข้อมูลในรัฐโอไฮโอ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยแผนดังกล่าวรวมถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูลใน New Albany, Heath และ Hebron

    การระงับแผนการสร้างศูนย์ข้อมูล:
    - Microsoft ระบุว่าจะไม่ดำเนินการสร้างศูนย์ข้อมูลใน Licking County ในขณะนี้ แต่ยังคงถือครองที่ดินเพื่อพัฒนาในอนาคต
    - โครงการนี้มีมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์ และเคยวางแผนเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025

    ผลกระทบจากภาษีนำเข้า:
    - การนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมถูกเก็บภาษี 25% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
    - แม้ทรัมป์จะเพิ่งยกเลิกภาษีบางส่วน แต่ความผันผวนในตลาดยังคงมีอยู่

    การพัฒนาในพื้นที่:
    - Microsoft ยังคงดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสาธารณูปโภค เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่

    การยกเลิกโครงการอื่น ๆ:
    - มีรายงานว่า Microsoft ได้ยกเลิกโครงการศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ ยุโรป และภูมิภาค APAC รวมถึงสหราชอาณาจักร

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-shelves-another-usd1bn-data-center-project-as-tariff-fears-rise
    Microsoft ได้ระงับแผนการสร้างศูนย์ข้อมูลในรัฐโอไฮโอ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยแผนดังกล่าวรวมถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูลใน New Albany, Heath และ Hebron ✅ การระงับแผนการสร้างศูนย์ข้อมูล: - Microsoft ระบุว่าจะไม่ดำเนินการสร้างศูนย์ข้อมูลใน Licking County ในขณะนี้ แต่ยังคงถือครองที่ดินเพื่อพัฒนาในอนาคต - โครงการนี้มีมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์ และเคยวางแผนเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ✅ ผลกระทบจากภาษีนำเข้า: - การนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมถูกเก็บภาษี 25% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน - แม้ทรัมป์จะเพิ่งยกเลิกภาษีบางส่วน แต่ความผันผวนในตลาดยังคงมีอยู่ ✅ การพัฒนาในพื้นที่: - Microsoft ยังคงดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสาธารณูปโภค เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ ✅ การยกเลิกโครงการอื่น ๆ: - มีรายงานว่า Microsoft ได้ยกเลิกโครงการศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ ยุโรป และภูมิภาค APAC รวมถึงสหราชอาณาจักร https://www.techradar.com/pro/microsoft-shelves-another-usd1bn-data-center-project-as-tariff-fears-rise
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานวิเคราะห์จากเพจลงทุนแมน เกี่ยวกับสรุปวิกฤติค่าเงิน อินโดนีเซีย อ่อนสุดตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
    ถ้าบอกว่า อินโดนีเซียยังเป็นประเทศดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทุกอย่างกำลังดูดี โพสต์นี้อาจทำให้หลายคนมองภาพประเทศนี้เปลี่ยนไป

    เพราะตอนนี้ อินโดนีเซียกำลังเจอวิกฤติเงินรูเปียอ่อนค่าอย่างหนัก ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 เลยทีเดียว

    จนธนาคารกลางอินโดนีเซีย ต้องนำเงินทุนสำรองมาพยุงค่าเงินรูเปียไม่ให้อ่อนค่าไปมากกว่านี้

    วิกฤติค่าเงินของอินโดนีเซียรุนแรงแค่ไหน ?
    แล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงไปแตะระดับ 16,600 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ามากที่สุด ระดับเดียวกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540

    สถานการณ์ของอินโดนีเซียในครั้งนี้ อาจไม่ได้ซ้ำรอยกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เริ่มต้นจากการถล่มค่าเงินในภูมิภาค แต่เกิดขึ้นจากรากฐานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่อ่อนแอลง และถูกซ้ำเติมด้วยนโยบายภาครัฐ

    ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนและการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

    โดยในปี 2566 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากถึง 1.88 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า และมี GDP เติบโตเฉลี่ย 5% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

    เมื่อมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับเศรษฐกิจที่เติบโตดี มีฐานประชากรกว่า 281 ล้านคน คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

    อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซีย ดำเนินนโยบายแบบขาดดุลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอินโดนีเซียมีกรอบนโยบายขาดดุลงบประมาณราว -3% ต่อ GDP อย่างยาวนาน

    จนมาถึงยุคของ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต
    ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายปี 2567 ก็ยังคงเดินตามแบบแผนเดิม ๆ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุล

    พร้อมกับนโยบายประชานิยมหลากหลายอย่าง ที่เขาได้ประกาศใช้ ไม่ว่าจะเป็น

    - ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 6.5% สูงกว่าข้อเสนอของกระทรวงแรงงานที่เสนอไว้ 6%

    - อาหารกลางวันฟรี ให้กับประชาชนกว่า 83 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 950,000 ล้านบาทต่อปี

    - สั่งเบรกอัตราภาษี VAT ที่จะต้องปรับขึ้นเป็น 12% ในสินค้าทุกรายการ เป็นบังคับใช้เพียงสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น

    แน่นอนว่า การทำนโยบายประชานิยม ก็ยิ่งกดดันให้อินโดนีเซียต้องขาดดุลมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเลยกรอบ 3% ต่อ GDP ที่วางไว้

    ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลอินโดนีเซีย ตั้งเป้างบประมาณขาดดุลไว้ที่ 2.53% เพิ่มขึ้นจาก 2.29% ในปี 2567

    แล้วภาพเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เป็นอย่างไร ?

    สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ในปี 2567 อยู่ที่ 39% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย

    แต่หากดูในภาพรวม จะพบว่า GDP ของอินโดนีเซีย กำลังเติบโตลดลงทีละน้อย จาก 5.31% ในปี 2565 เหลือ 5.03% ในปี 2567

    ในขณะที่รายได้ของรัฐ เริ่มส่งสัญญาณโตไม่ทันรายจ่าย ทำให้ภาครัฐขาดดุลมากขึ้น

    ปี 2565 ขาดดุล 943,236 ล้านบาท
    ปี 2566 ขาดดุล 994,387 ล้านบาท
    ปี 2567 ขาดดุล 1,070,091 ล้านบาท

    เมื่อมีแนวโน้มขาดดุลงบประมาณมากขึ้น แต่การเติบโตของเศรษฐกิจกลับเริ่มอ่อนแรง การกู้เงินมาใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้น

    ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีปราโบโวเอง ก็เคยบอกไว้ว่ามีแผนจะปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ไปอยู่ในระดับ 50% ภายในเวลา 5 ปี

    นอกจากเรื่องการขาดดุลอย่างต่อเนื่องแล้ว ประธานาธิบดีคนนี้ ยังต้องการตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อว่า Danantara ที่คาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 30 ล้านล้านบาท

    Danantara มีโมเดลคล้าย Temasek กองทุน
    ความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ ที่เน้นนำเงินของประเทศ
    ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก

    รวมถึง รัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซีย กว่า 40 แห่ง ที่จะถูกรวมเข้ามาเป็นสินทรัพย์ภายใต้กองทุน เช่น
    - Pertamina บริษัทน้ำมันและก๊าซ
    - PLN บริษัทไฟฟ้า
    - Telkom Indonesia บริษัทโทรคมนาคม

    แต่ปัญหาคือ กองทุนนี้ต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดตั้งกองทุน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียทำ เป็นความเสี่ยงที่หลายคนกังวล

    เพราะรัฐบาลหาเงินมาทำกองทุนนี้ ด้วยการตัดงบประมาณบริการสาธารณะที่จำเป็น รวมถึงการลดเงินทุนสำหรับการศึกษาระดับประถมลง 24% และลดงบประมาณการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยลง 39% ลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลง 19% และที่สำคัญคือ การลดโครงการสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานลง 73%

    เรียกได้ว่า กองทุนนี้มีเงินตั้งต้นจากการลดค่าใช้จ่าย
    ในเศรษฐกิจ ที่เป็นอนาคตสำคัญของประเทศ

    จากปัญหาหลักทั้ง 2 เรื่องนี้ นั่นก็คือ การขาดดุลงบประมาณ และการลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกังวลกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจ และศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของอินโดนีเซีย

    ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX Composite) ปรับตัวลงไปแล้ว -10% นับจากต้นปี (ยังดีกว่าดัชนี SET ของไทยที่ -14%)

    ซึ่งวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียได้มีการประกาศหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว หลังจากดัชนีหลักทรัพย์ร่วงไป -5%

    โดยแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงอีกทาง

    ในที่สุด ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี 2540 ไปแล้ว (ในขณะที่ค่าเงินบาทไทยยังห่างไกลจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่อ่อนค่าลงไปแตะ 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)

    อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา และความท้าทายทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย

    แต่ถ้ารัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้ผู้นำที่ชื่อว่า ปราโบโว
    ซูเบียนโต ยังทำแบบเดิม ๆ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ยังไม่ฟื้นคืน

    สุดท้าย ก็อาจทำให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงหนักไปมากกว่านี้ก็ได้..

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

    รู้ไหมว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Danantara
    ของอินโดนีเซีย มีคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย
    ╔═══════════╗
    ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    TikTok - tiktok.com/@longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References
    -https://www.reuters.com/markets/currencies/indonesia-cbank-says-rupiah-weakness-reflects-global-domestic-factors-2025-03-25/?utm_source=chatgpt.com
    -https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-26/indonesia-stock-market-why-are-investors-fleeing-what-role-has-prabowo-played
    -https://tradingeconomics.com/indonesia/indicators
    -https://www.bps.go.id/en/statistics-table/2/MTA4NSMy/actual-government-expenditures--finance-.html
    -https://asiatimes.com/2025/03/danantara-indonesias-ticking-financial-time-bomb
    รายงานวิเคราะห์จากเพจลงทุนแมน เกี่ยวกับสรุปวิกฤติค่าเงิน อินโดนีเซีย อ่อนสุดตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน ถ้าบอกว่า อินโดนีเซียยังเป็นประเทศดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทุกอย่างกำลังดูดี โพสต์นี้อาจทำให้หลายคนมองภาพประเทศนี้เปลี่ยนไป เพราะตอนนี้ อินโดนีเซียกำลังเจอวิกฤติเงินรูเปียอ่อนค่าอย่างหนัก ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 เลยทีเดียว จนธนาคารกลางอินโดนีเซีย ต้องนำเงินทุนสำรองมาพยุงค่าเงินรูเปียไม่ให้อ่อนค่าไปมากกว่านี้ วิกฤติค่าเงินของอินโดนีเซียรุนแรงแค่ไหน ? แล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงไปแตะระดับ 16,600 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ามากที่สุด ระดับเดียวกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 สถานการณ์ของอินโดนีเซียในครั้งนี้ อาจไม่ได้ซ้ำรอยกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เริ่มต้นจากการถล่มค่าเงินในภูมิภาค แต่เกิดขึ้นจากรากฐานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่อ่อนแอลง และถูกซ้ำเติมด้วยนโยบายภาครัฐ ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนและการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากถึง 1.88 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า และมี GDP เติบโตเฉลี่ย 5% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับเศรษฐกิจที่เติบโตดี มีฐานประชากรกว่า 281 ล้านคน คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซีย ดำเนินนโยบายแบบขาดดุลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอินโดนีเซียมีกรอบนโยบายขาดดุลงบประมาณราว -3% ต่อ GDP อย่างยาวนาน จนมาถึงยุคของ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายปี 2567 ก็ยังคงเดินตามแบบแผนเดิม ๆ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุล พร้อมกับนโยบายประชานิยมหลากหลายอย่าง ที่เขาได้ประกาศใช้ ไม่ว่าจะเป็น - ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 6.5% สูงกว่าข้อเสนอของกระทรวงแรงงานที่เสนอไว้ 6% - อาหารกลางวันฟรี ให้กับประชาชนกว่า 83 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 950,000 ล้านบาทต่อปี - สั่งเบรกอัตราภาษี VAT ที่จะต้องปรับขึ้นเป็น 12% ในสินค้าทุกรายการ เป็นบังคับใช้เพียงสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น แน่นอนว่า การทำนโยบายประชานิยม ก็ยิ่งกดดันให้อินโดนีเซียต้องขาดดุลมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเลยกรอบ 3% ต่อ GDP ที่วางไว้ ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลอินโดนีเซีย ตั้งเป้างบประมาณขาดดุลไว้ที่ 2.53% เพิ่มขึ้นจาก 2.29% ในปี 2567 แล้วภาพเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เป็นอย่างไร ? สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ในปี 2567 อยู่ที่ 39% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย แต่หากดูในภาพรวม จะพบว่า GDP ของอินโดนีเซีย กำลังเติบโตลดลงทีละน้อย จาก 5.31% ในปี 2565 เหลือ 5.03% ในปี 2567 ในขณะที่รายได้ของรัฐ เริ่มส่งสัญญาณโตไม่ทันรายจ่าย ทำให้ภาครัฐขาดดุลมากขึ้น ปี 2565 ขาดดุล 943,236 ล้านบาท ปี 2566 ขาดดุล 994,387 ล้านบาท ปี 2567 ขาดดุล 1,070,091 ล้านบาท เมื่อมีแนวโน้มขาดดุลงบประมาณมากขึ้น แต่การเติบโตของเศรษฐกิจกลับเริ่มอ่อนแรง การกู้เงินมาใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีปราโบโวเอง ก็เคยบอกไว้ว่ามีแผนจะปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ไปอยู่ในระดับ 50% ภายในเวลา 5 ปี นอกจากเรื่องการขาดดุลอย่างต่อเนื่องแล้ว ประธานาธิบดีคนนี้ ยังต้องการตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อว่า Danantara ที่คาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 30 ล้านล้านบาท Danantara มีโมเดลคล้าย Temasek กองทุน ความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ ที่เน้นนำเงินของประเทศ ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง รัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซีย กว่า 40 แห่ง ที่จะถูกรวมเข้ามาเป็นสินทรัพย์ภายใต้กองทุน เช่น - Pertamina บริษัทน้ำมันและก๊าซ - PLN บริษัทไฟฟ้า - Telkom Indonesia บริษัทโทรคมนาคม แต่ปัญหาคือ กองทุนนี้ต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดตั้งกองทุน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียทำ เป็นความเสี่ยงที่หลายคนกังวล เพราะรัฐบาลหาเงินมาทำกองทุนนี้ ด้วยการตัดงบประมาณบริการสาธารณะที่จำเป็น รวมถึงการลดเงินทุนสำหรับการศึกษาระดับประถมลง 24% และลดงบประมาณการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยลง 39% ลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลง 19% และที่สำคัญคือ การลดโครงการสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานลง 73% เรียกได้ว่า กองทุนนี้มีเงินตั้งต้นจากการลดค่าใช้จ่าย ในเศรษฐกิจ ที่เป็นอนาคตสำคัญของประเทศ จากปัญหาหลักทั้ง 2 เรื่องนี้ นั่นก็คือ การขาดดุลงบประมาณ และการลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกังวลกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจ และศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของอินโดนีเซีย ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX Composite) ปรับตัวลงไปแล้ว -10% นับจากต้นปี (ยังดีกว่าดัชนี SET ของไทยที่ -14%) ซึ่งวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียได้มีการประกาศหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว หลังจากดัชนีหลักทรัพย์ร่วงไป -5% โดยแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงอีกทาง ในที่สุด ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี 2540 ไปแล้ว (ในขณะที่ค่าเงินบาทไทยยังห่างไกลจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่อ่อนค่าลงไปแตะ 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา และความท้าทายทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย แต่ถ้ารัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้ผู้นำที่ชื่อว่า ปราโบโว ซูเบียนโต ยังทำแบบเดิม ๆ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ยังไม่ฟื้นคืน สุดท้าย ก็อาจทำให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงหนักไปมากกว่านี้ก็ได้.. ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Danantara ของอินโดนีเซีย มีคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย ╔═══════════╗ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download ╚═══════════╝ ติดตามลงทุนแมนได้ที่ Website - longtunman.com Blockdit - blockdit.com/longtunman Facebook - facebook.com/longtunman Twitter - twitter.com/longtunman Instagram - instagram.com/longtunman YouTube - youtube.com/longtunman TikTok - tiktok.com/@longtunman Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829 Soundcloud - soundcloud.com/longtunman References -https://www.reuters.com/markets/currencies/indonesia-cbank-says-rupiah-weakness-reflects-global-domestic-factors-2025-03-25/?utm_source=chatgpt.com -https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-26/indonesia-stock-market-why-are-investors-fleeing-what-role-has-prabowo-played -https://tradingeconomics.com/indonesia/indicators -https://www.bps.go.id/en/statistics-table/2/MTA4NSMy/actual-government-expenditures--finance-.html -https://asiatimes.com/2025/03/danantara-indonesias-ticking-financial-time-bomb
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1621 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขาย... อาคารพานิชใจกลางเมือง
    ติดถนนหลัก เดินทางสะดวกสบาย​
    อยู่ใกล้ โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
    ใกล้ศูนย์ราชการ
    ใกล้สถานศึกษาประจำจังหวัด
    อยู่ในเขตเทศบาล​เมือง​
    สาธารณูปโภค​ครบครัน​
    1 คูหา สูง 4 ชั้น + ชั้นดาดฟ้า
    กว้าง 6 เมตร ลึก 23 เมตร
    เข้าออกได้หน้าหลัง จอดรถหลังบ้านได้
    หลังบ้าน​มีถนน​สาธารณะ​ของ​หมู่บ้าน​
    มี รปภ รักษาความปลอดภัย
    ตัวอาคาร​อยู่ตรงข้ามตลาดเมืองทองเซ็นเตอร์พอยท์
    ใกล้ตลาดของกินทั้งเช้า, กลางวัน, เย็น
    เดินทางสะดวก ใกล้ถนนบายพาส
    สามารถเดินทางลงใต้ผ่านเพชรบุรี
    หรือไปกทม. ก็สะดวก
    ตัวบ้านยกสูงกว่าระดับถนน​
    หายห่วงเรื่องน้ำท่วม​
    ซึ่งจังหวัด​ราชบุรี​ไม่เคยมีน้ำท่วม
    สนนราคา 14.5 ล้านบาทถ้วน
    ค่าโอนคนละครึ่งกับเจ้าของ​บ้าน
    มีการต่อเติม​โครงสร้าง​บ้านให้แข็งแรง​ขึ้น​
    เจ้าของ​ขาย​ เพราะต้อง​การ​ย้ายทำเล
    บ้านพร้อมที่ดิน
    สนใจดูตัวบ้าน นัดเจอ​ต่อรอง​ได้​นิดหน่อย​นัดหมายล่วงหน้า
    ขอคนพร้อม พาชมบ้านจริง
    สนใจ ติดต่อ ไช้สมบูรณ์​กุล​(0946494298)
    ขาย... อาคารพานิชใจกลางเมือง ติดถนนหลัก เดินทางสะดวกสบาย​ อยู่ใกล้ โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ใกล้ศูนย์ราชการ ใกล้สถานศึกษาประจำจังหวัด อยู่ในเขตเทศบาล​เมือง​ สาธารณูปโภค​ครบครัน​ 1 คูหา สูง 4 ชั้น + ชั้นดาดฟ้า กว้าง 6 เมตร ลึก 23 เมตร เข้าออกได้หน้าหลัง จอดรถหลังบ้านได้ หลังบ้าน​มีถนน​สาธารณะ​ของ​หมู่บ้าน​ มี รปภ รักษาความปลอดภัย ตัวอาคาร​อยู่ตรงข้ามตลาดเมืองทองเซ็นเตอร์พอยท์ ใกล้ตลาดของกินทั้งเช้า, กลางวัน, เย็น เดินทางสะดวก ใกล้ถนนบายพาส สามารถเดินทางลงใต้ผ่านเพชรบุรี หรือไปกทม. ก็สะดวก ตัวบ้านยกสูงกว่าระดับถนน​ หายห่วงเรื่องน้ำท่วม​ ซึ่งจังหวัด​ราชบุรี​ไม่เคยมีน้ำท่วม สนนราคา 14.5 ล้านบาทถ้วน ค่าโอนคนละครึ่งกับเจ้าของ​บ้าน มีการต่อเติม​โครงสร้าง​บ้านให้แข็งแรง​ขึ้น​ เจ้าของ​ขาย​ เพราะต้อง​การ​ย้ายทำเล บ้านพร้อมที่ดิน สนใจดูตัวบ้าน นัดเจอ​ต่อรอง​ได้​นิดหน่อย​นัดหมายล่วงหน้า ขอคนพร้อม พาชมบ้านจริง สนใจ 📞 ติดต่อ ไช้สมบูรณ์​กุล​(0946494298)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางบัวทอง-บางปะอิน อนาคตมอเตอร์เวย์

    เมื่อวันก่อน สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง เผยแพร่ภาพโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3901 สายทางคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ด้านซ้ายทาง ตอน 2 ระหว่างกิโลเมตรที่ 73+800 ถึงกิโลเมตรที่ 86+559.873 แล้วเสร็จ ระยะทาง 12.759 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นการก่อสร้างทางขนาน (Frontage Road) ขนาด 3 ช่องจราจร จากภาพมีการสร้างสะพานข้ามทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา โดยให้รถยนต์จากทางขนานทุกคันข้ามสะพานดังกล่าว ปิดช่องทางหลัก (Main Road) ที่มีอยู่เดิมซึ่งจะลอดใต้สะพานไปยังด่านบางปะอิน

    การก่อสร้างดังกล่าวเป็นการรองรับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 สายบางบัวทอง-บางปะอิน ที่จะก่อสร้างแทนที่บนทางหลัก โดยมีแนวเขตทาง 42 เมตร ขนาด 6 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.60 เมตร พร้อมรั้วกั้น เหมือนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงทางแยกต่างระดับคีรีถึงทางแยกต่างระดับโป่ง (พัทยา) ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อสร้างทางขนานพร้อมกำหนดให้เป็นทางหลวงหมายเลข 3901 (ด้านซ้ายทาง) และ 3902 (ด้านขวาทาง) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเหลือการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 27 ส.ค. 2569 แต่ติดปัญหาสาธารณูปโภคและการรุกล้ำแนวเขตทาง

    สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่มาจากบางบัวทอง ช่องทางหลักมีสภาพผิวจราจรชำรุด ไม่แนะนำให้ใช้ทาง ส่วนช่องทางขนาน ช่วงบางบัวทอง ผ่านทางแยกต่างระดับลาดหลุมแก้ว และทางแยกต่างระดับสามโคก ก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี แต่เมื่อถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะเบี่ยงทางให้ใช้สะพานเก่าระหว่างการก่อสร้าง เมื่อลงจากสะพานแล้วจะมีทางขนานที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่รถส่วนใหญ่จะใช้ทางหลัก ผ่านทางด่วนอุดรรัถยา ทางแยกต่างระดับเชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 347) สะพานข้ามทางรถไฟ แล้วจะถึงสะพานที่เบี่ยงให้รถทุกคันขึ้นไป มุ่งหน้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2566 กรมทางหลวงเคยเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงบางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว งบประมาณ 4,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ตอนทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางขึ้น 8 จุด ทางลง 6 จุด ทางแยกต่างระดับ 5 แห่ง มูลค่าโครงการ 68,686.63 ล้านบาท ลงทุนร่วมกับเอกชนในรูปแบบ PPP NET Cost ขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

    #Newskit
    บางบัวทอง-บางปะอิน อนาคตมอเตอร์เวย์ เมื่อวันก่อน สำนักก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง เผยแพร่ภาพโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3901 สายทางคู่ขนานวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ด้านซ้ายทาง ตอน 2 ระหว่างกิโลเมตรที่ 73+800 ถึงกิโลเมตรที่ 86+559.873 แล้วเสร็จ ระยะทาง 12.759 กิโลเมตร ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นการก่อสร้างทางขนาน (Frontage Road) ขนาด 3 ช่องจราจร จากภาพมีการสร้างสะพานข้ามทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา โดยให้รถยนต์จากทางขนานทุกคันข้ามสะพานดังกล่าว ปิดช่องทางหลัก (Main Road) ที่มีอยู่เดิมซึ่งจะลอดใต้สะพานไปยังด่านบางปะอิน การก่อสร้างดังกล่าวเป็นการรองรับโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 สายบางบัวทอง-บางปะอิน ที่จะก่อสร้างแทนที่บนทางหลัก โดยมีแนวเขตทาง 42 เมตร ขนาด 6 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.60 เมตร พร้อมรั้วกั้น เหมือนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงทางแยกต่างระดับคีรีถึงทางแยกต่างระดับโป่ง (พัทยา) ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อสร้างทางขนานพร้อมกำหนดให้เป็นทางหลวงหมายเลข 3901 (ด้านซ้ายทาง) และ 3902 (ด้านขวาทาง) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเหลือการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 27 ส.ค. 2569 แต่ติดปัญหาสาธารณูปโภคและการรุกล้ำแนวเขตทาง สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่มาจากบางบัวทอง ช่องทางหลักมีสภาพผิวจราจรชำรุด ไม่แนะนำให้ใช้ทาง ส่วนช่องทางขนาน ช่วงบางบัวทอง ผ่านทางแยกต่างระดับลาดหลุมแก้ว และทางแยกต่างระดับสามโคก ก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี แต่เมื่อถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะเบี่ยงทางให้ใช้สะพานเก่าระหว่างการก่อสร้าง เมื่อลงจากสะพานแล้วจะมีทางขนานที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่รถส่วนใหญ่จะใช้ทางหลัก ผ่านทางด่วนอุดรรัถยา ทางแยกต่างระดับเชียงรากน้อย (ทางหลวงหมายเลข 347) สะพานข้ามทางรถไฟ แล้วจะถึงสะพานที่เบี่ยงให้รถทุกคันขึ้นไป มุ่งหน้าทางแยกต่างระดับบางปะอิน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2566 กรมทางหลวงเคยเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงบางบัวทอง-ลาดหลุมแก้ว งบประมาณ 4,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ตอนทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางขึ้น 8 จุด ทางลง 6 จุด ทางแยกต่างระดับ 5 แห่ง มูลค่าโครงการ 68,686.63 ล้านบาท ลงทุนร่วมกับเอกชนในรูปแบบ PPP NET Cost ขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ

    กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ

    ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์

    ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด

    ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

    ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่

    #Newskit
    ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์ ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่ #Newskit
    Like
    Haha
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1144 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์ชิดตะวันพูดอยู่ตอนหนึ่งว่า "...คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือว่าประเทศไทย มันคือตัวคนคนนั้นเป็นคนเช่นไร คือต้องมีทั้งความรอบรู้ และก็ต้องเป็นคนดี..."

    ผมก็เลยขอขยายความเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ

    เพราะว่าพออาจารย์พูดขึ้นมา ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2542 ความสำคัญตอนหนึ่งว่า

    "...ถ้านับดูปีนี้ที่น่าจะมีความเสียหายหมื่นล้าน ไม่ต้องเสีย ที่ไม่ต้องเสียนี้ก็ทำให้เกิดมีผลผลิต โดยเฉพาะอย่างเกษตร เขามีผลผลิตได้ แม้จะปีนี้ ซึ่งเขื่อนยังไม่ได้ทำงานในด้านชลประทาน ก็ทำให้ป้องกันไม่ให้มีน้ำท่วม ทำให้เกษตรกรเพาะปลูกได้ ก็เป็นเงินหลายพันล้าน ฉะนั้นในปีเดียวเขื่อนป่าสักนี้ได้คุ้มแล้ว

    ...หมายความว่ากิจการเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงแบบพื้นฐาน แต่ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า ก็พอเพียงเพราะว่าถ้าทำแล้ว คนอาจจะเกี่ยวข้องกับกิจการนี้มากมาย ทำให้ส่วนรวมได้รับประโยชน์และจะทำให้เจริญ

    ...ไม่ใช่เป็นแต่เหมือนทฤษฎีใหม่ 15 ไร่ แล้วก็สามารถจะปลูกข้าวพอกิน นี่ใหญ่กว่า แต่อันนี้ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ๆ เหมือนสร้างเขื่อนป่าสัก คนนึกว่าเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจที่ไกลจากเศรษฐกิจพอเพียง

    ...ในเมืองไทยนี้ถ้าทำกิจการ หมายความว่าปกครอง หรือดำเนินกิจการ ทั้งในด้านการเมือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทั้งในด้านธุรกิจ ในด้านอาชีพ มีทุจริต เมืองไทยพัง ของเรา เมืองไทยที่ยังไม่พังแท้ ก็เพราะว่าเมืองไทยนี้นับว่าแข็งมาก..."

    สรุปก็คือ ต่อให้เป็นการทำโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีกระแสหลักของ Harrod-Domar [deltaY/Y = s/k โดยที่ S=I]) ถ้าทำโดยมี "ประโยชน์สุข" ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มีความ "คุ้มค่า" เมื่อเทียบต้นทุนกับผลได้ และ "ปราศจากการทุจริต" ก็ถือได้ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน

    ฉะนั้น ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก (โดยเฉพาะ Harrod-Domar model ซึ่งเก่ามากแล้ว - ตั้งแต่ปี 2482) แม้จะมี "จุดอ่อน" แต่ถ้าเอามาใช้ โดยกำกับด้วย "สติปัญญา" และ "คุณธรรม" (2 เงื่อนไขในแผนภาพปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ

    อ้างอิง:

    พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับไม่เป็นทางการ). (2555). เครือข่ายกาญจนาภิเษก. http://kanchanapisek.or.th/speeches/1999/1223.th.html

    อภิชัย พันธเสน. (2560). เศรษฐกิจพอเพียง : พระอัจฉริยภาพ และพระกรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ ๙. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต. https://anyflip.com/tocrx/skhf/

    คลิปรายการของไทยโพสต์:
    https://www.youtube.com/watch?v=lQfWzMHWRWs
    อาจารย์ชิดตะวันพูดอยู่ตอนหนึ่งว่า "...คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือว่าประเทศไทย มันคือตัวคนคนนั้นเป็นคนเช่นไร คือต้องมีทั้งความรอบรู้ และก็ต้องเป็นคนดี..." ผมก็เลยขอขยายความเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ เพราะว่าพออาจารย์พูดขึ้นมา ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2542 ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "...ถ้านับดูปีนี้ที่น่าจะมีความเสียหายหมื่นล้าน ไม่ต้องเสีย ที่ไม่ต้องเสียนี้ก็ทำให้เกิดมีผลผลิต โดยเฉพาะอย่างเกษตร เขามีผลผลิตได้ แม้จะปีนี้ ซึ่งเขื่อนยังไม่ได้ทำงานในด้านชลประทาน ก็ทำให้ป้องกันไม่ให้มีน้ำท่วม ทำให้เกษตรกรเพาะปลูกได้ ก็เป็นเงินหลายพันล้าน ฉะนั้นในปีเดียวเขื่อนป่าสักนี้ได้คุ้มแล้ว ...หมายความว่ากิจการเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงแบบพื้นฐาน แต่ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า ก็พอเพียงเพราะว่าถ้าทำแล้ว คนอาจจะเกี่ยวข้องกับกิจการนี้มากมาย ทำให้ส่วนรวมได้รับประโยชน์และจะทำให้เจริญ ...ไม่ใช่เป็นแต่เหมือนทฤษฎีใหม่ 15 ไร่ แล้วก็สามารถจะปลูกข้าวพอกิน นี่ใหญ่กว่า แต่อันนี้ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ๆ เหมือนสร้างเขื่อนป่าสัก คนนึกว่าเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจที่ไกลจากเศรษฐกิจพอเพียง ...ในเมืองไทยนี้ถ้าทำกิจการ หมายความว่าปกครอง หรือดำเนินกิจการ ทั้งในด้านการเมือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทั้งในด้านธุรกิจ ในด้านอาชีพ มีทุจริต เมืองไทยพัง ของเรา เมืองไทยที่ยังไม่พังแท้ ก็เพราะว่าเมืองไทยนี้นับว่าแข็งมาก..." สรุปก็คือ ต่อให้เป็นการทำโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีกระแสหลักของ Harrod-Domar [deltaY/Y = s/k โดยที่ S=I]) ถ้าทำโดยมี "ประโยชน์สุข" ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มีความ "คุ้มค่า" เมื่อเทียบต้นทุนกับผลได้ และ "ปราศจากการทุจริต" ก็ถือได้ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน ฉะนั้น ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก (โดยเฉพาะ Harrod-Domar model ซึ่งเก่ามากแล้ว - ตั้งแต่ปี 2482) แม้จะมี "จุดอ่อน" แต่ถ้าเอามาใช้ โดยกำกับด้วย "สติปัญญา" และ "คุณธรรม" (2 เงื่อนไขในแผนภาพปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง) ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ อ้างอิง: พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับไม่เป็นทางการ). (2555). เครือข่ายกาญจนาภิเษก. http://kanchanapisek.or.th/speeches/1999/1223.th.html อภิชัย พันธเสน. (2560). เศรษฐกิจพอเพียง : พระอัจฉริยภาพ และพระกรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ ๙. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต. https://anyflip.com/tocrx/skhf/ คลิปรายการของไทยโพสต์: https://www.youtube.com/watch?v=lQfWzMHWRWs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 785 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเวเฟอร์ของ TSMC ถึง 20,000 แผ่น. แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโรงงานของ TSMC แต่บริษัทต้องหยุดการผลิตและอาจต้องปรับเทียบเครื่องมือใหม่

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่เมือง Dapu Township, Chiayi, และมีความลึก 9.4 กิโลเมตร. TSMC ได้อพยพพนักงานออกจากโรงงานในภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวัน และหยุดการผลิตชั่วคราว โรงงานที่ได้รับผลกระทบหลักคือ Fab 18 ใน Southern Taiwan Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป 3nm, Fab 8 ที่ผลิตชิปขนาด 200mm, และ Fab 14 ที่ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4nm และ 5nm

    แม้ว่าการหยุดการผลิตจะส่งผลกระทบต่อเวเฟอร์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต แต่ TSMC คาดว่าจะกลับมาผลิตได้เต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ การตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาโครงสร้างหรือการหยุดชะงักของระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าและน้ำ. อย่างไรก็ตาม เครื่องมือการผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงอาจต้องปรับเทียบใหม่ ซึ่งจะใช้เวลา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/earthquake-may-have-affected-20-000-tsmc-wafers-the-majority-will-likely-have-to-be-scrapped
    เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเวเฟอร์ของ TSMC ถึง 20,000 แผ่น. แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโรงงานของ TSMC แต่บริษัทต้องหยุดการผลิตและอาจต้องปรับเทียบเครื่องมือใหม่ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่เมือง Dapu Township, Chiayi, และมีความลึก 9.4 กิโลเมตร. TSMC ได้อพยพพนักงานออกจากโรงงานในภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวัน และหยุดการผลิตชั่วคราว โรงงานที่ได้รับผลกระทบหลักคือ Fab 18 ใน Southern Taiwan Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป 3nm, Fab 8 ที่ผลิตชิปขนาด 200mm, และ Fab 14 ที่ผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4nm และ 5nm แม้ว่าการหยุดการผลิตจะส่งผลกระทบต่อเวเฟอร์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต แต่ TSMC คาดว่าจะกลับมาผลิตได้เต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ การตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหาโครงสร้างหรือการหยุดชะงักของระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าและน้ำ. อย่างไรก็ตาม เครื่องมือการผลิตชิปที่มีความแม่นยำสูงอาจต้องปรับเทียบใหม่ ซึ่งจะใช้เวลา https://www.tomshardware.com/tech-industry/earthquake-may-have-affected-20-000-tsmc-wafers-the-majority-will-likely-have-to-be-scrapped
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/1/68

    https://thaipublica.org
    Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons
    กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา

    จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล

    มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค

    3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร

    และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488
    ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา

    ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า
    อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส

    10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง

    การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา
    จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น"
    โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ

    ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู"

    วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา

    เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน
    ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้"

    ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน"

    สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์
    เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน

    ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ

    * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

    * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน

    * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง

    * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย

    * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country"

    จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน
    แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย

    สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย

    ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน
    ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ

    ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง
    ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี

    ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว

    เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น
    นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา

    กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    17/1/68 https://thaipublica.org Integrated Resort ที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons กาสิโนซีรีส์ตอนที่แล้ว(จากบ่อน 1.0 ถึงกาสิโน 5.0) ได้พูดถึงวิวัฒนาการของบ่อนพนันในบ้านเรา จากยุค 1.0 "ยุคบ่อนบ้าน" ที่มีมาแต่อดีตกาล มายุค 2.0 "ยุคบ่อนเบี้ย" ที่ยาวนานจากสมัยอยุธยาจนถึงรัตน โกสินทร์ตอนต้นมาถึงยุค 3.0 "ยุคของการปิดบ่อน" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 ที่ต้องใช้เวลานานร่วม 30 ปีกว่าจะปิดบ่อนเบี้ยได้ทั่วราชอาณาจักร และมาถึงยุค 4.0 "ยุคของกาสิโนโดยรัฐบาล" หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร ในปี พ.ศ.2475 ที่นำมาสู่การออกพ.ร.บ.การพนันในปี พ.ศ.2478 และนำมาสู่การทดลองเปิดกาสิโน 11 แห่งทั่วประเทศในปี 2481 ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่กลับมาเปิดจริงจังในอีก 7 ปีต่อมาในปี 2488 ที่ปราณบุรี ที่เปิดได้เพียง 82 วันก็ต้องปิดตัวลง เพราะ "เอาไม่อยู่"กับปัญหาสังคมที่เกิดตามมา ก้าวสู่ยุค 5.0 "ยุคกาสิโนโดยกลุ่มทุน" กรณีศึกษาที่ทั่วโลกยอมรับมากที่สุด คือ "สิงคโปร์" มีเรื่องเล่าพาดพิงถึงชีวิตของบุคคล 2 คน คนแรกคือ "ลีกวนยู" แห่งสิงคโปร์ คนที่สอง คือ "สแตนลีย์ โฮ" แห่งมาเก้า คนหนึ่งคือผู้นำประเทศ คนหนึ่งคือเจ้าพ่อกาสิโน คนหนึ่งปฏิเสธกาสิโน คนหนึ่งร่ำรวยเพราะกาสิโน ทั้งคู่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างกันเพียง 2 ปีสแตนลีย์ โฮ เกิดก่อนเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่ฮ่องกงในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจากภาวะสงครามโลกทำให้ครอบครัวเขาได้รับผลกระทบ โฮไม่ทันได้เรียนจบมหาวิทยาลัยก็ต้องเลิกเรียน ชีวิตต้องระหกระเหิน จนต้องลี้ภัยมาทำมาค้าขายอยู่ที่มาเก้า อายุ 27 ปี โฮได้แต่งงานกับลูกสาวของทนายความใหญ่ในมาเก้าที่มีสายสัมพันธ์กับเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส 10 ปีต่อมาพ่อตาได้ใช้เส้นสายช่วยให้โฮได้สัมปาทานกาสิโนในมาเก้า เป็นสัมปทานผูกขาดที่ยาวนานถึง 40 ปี สแตนลีย์ โฮ จึงเป็นเจ้าพ่อกาสิโนในมาเก้ามาจนถึงปี 2002 จนหมดอายุสัมปทาน เขาเป็นเจ้าของกาสิโนถึง 19 แห่ง การได้รับสัมปทานคือจุดสำคัญที่ทำให้โฮกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ โฮกล่าวว่า "ผมไม่เล่นพนัน" และเตือนด้วยว่า "อย่าหวังรวยจากการพนัน มันเป็นแค่เกมเท่านั้น" โฮจึงเหมือนคนปลูกผักที่ไม่กินผักที่ตัวเองปลูก เพราะรู้ดีว่ามันมีสารพิษ ด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาสิโน ทำให้โฮมองหาลู่ทางขยายอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และพบที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นประเทศเกิดใหม่ที่เพิ่งได้รับเอกราชและกำลังสร้างชาติ นั่นคือ สิงค โปร์ ที่มีผู้นำชื่อ "ลึกวนยู" วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรท์ เขียนถึงเรื่องราวการสร้างชาติสิงคโปร์ของลึกวนยูในหนังสือ "สร้างชาติจากศูนย์" ว่า ปี พ.ศ.2508 เกาะสิงคโปร์ถูกมาเลเซียปฏิเสธ "ไม่ให้ไปต่อ" ไม่รับสิงคโปร์เป็นรัฐหนึ่งของสหพันธรัฐมาเลเซียอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ลีกวน ยู ที่ขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 35 ปี และเพิ่งชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้บริหารรัฐสิงคโปร์ได้เพียง 2 ปีคาดไม่ถึงว่าจะถูกมาเลเซียตัดขาด เป็นเอกราชที่ไม่ได้ปรารถนา เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ เป็นเพียงเมืองท่าที่เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพกับยุงณ เวลานั้น ลีกวนยู กล่าวว่า "สิงคโปร์ไม่ควรจะดำรงอยู่ เราไม่มีฐาน ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเงินทุน ไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยที่จะสร้างประเทศ" สิงคโปร์มีแต่ความเป็นเมืองท่าและมีคน ในอดีตสมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษ สิงคโปร์เต็มไปด้วยชาวจีนอพยพ และแน่นอนเต็มไปด้วยการเล่นพนัน 3 ปีหลังจากเป็นเอกราช ลีกวนยูประกาศให้การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย วินทร์ เรียววาริณ เล่าว่า "ลีกวนยูมองเห็นหายนะของการพนันมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาติดพนัน และขอเครื่องทองของแม่ไปจำนำเพื่อเล่นการพนัน ลีกวนยูจึงไม่เคยเล่นการพนัน และต่อต้านเรื่องนี้" ลีกวนยู จึงปฏิเสธข้อเสนอขอสร้างกาสิโนในสิงคโปร์ของสแตนลีย์ โฮ อย่างไม่สนใจใยดี และประกาศว่า "ขอสร้างชาติด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และจะไม่ขอพึ่งเงินจากการพนัน" สิงคโปร์เองในสมัยนั้นน่าจะไม่ต่างจากมาเก๊า ตรงที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นเมืองท่า หรืออาจจะไม่ต่างจากสปป.ลาวหรือกัมพูชา ที่บอบซ้ำกับสงครามคอมมิวนิสต์ เพียงแต่ ลีกวนยู ไม่เลือกง้อเงินพนัน ขณะที่ผู้ปกครองมาเก้า ลาว และกัมพูชาคิดต่างออกไป ลีกวนยู ตั้งใจจะทำให้สิงคโปร์เป็น "First World Oasis" เป็นจุดแวะพักจุดแรกของชาวตะวันตกที่เดินทางมาทวีปเอเซียไม่น่าเชื่อว่า เพียง 8 ปีหลังจากได้รับเอกราชที่คาดไม่ถึง ลีกวนยู และชาวสิงคโปร์ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาตัวเองเป็นเมืองท่าปลอดภาษี เป็นศูนย์กลางการบินและการเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า และเป็นศูนย์กลางการเงิน ความสำเร็จของสิงคโปร์ นอกจากการทำงานหนักแล้วก็คือ * การมุ่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน * การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด ไม่มีสองมาตรฐาน * การปราบคอรัปชั้นอย่างจริงจัง * และการให้ความสำคัญกับ "การพัฒนาคน" เพราะทรัพยากรธรรมชาติอย่างเดียวที่สิงคโปร์มีคือ "คน"การพยายามสร้างตัวเองให้เป็น "First World Oasis" ทำให้สิงคโปร์พยายามสร้างจุดดึงดูด นักท่องเที่ยวด้วย * โปรเจคมากมาย ถมทะเลเพื่อสร้างสนามบิน ถมทะเลเพื่อสร้างอ่าว ปลูกต้นไม้ทั้งเกาะให้เป็น "อุทยานนคร" และสร้างเมืองให้สะอาดและปลอดภัย สิงคโปร์จึงเต็มไปด้วย "ข้อห้ามและค่าปรับ" จนถูกกระแนะกระแหนว่า "Singapore is Fine country" จวบจนปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทำทุกอย่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว จนประเทศมีระบบที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากจนเป็น ที่เลื่องลือ สิงคโปร์จึงยอมรับข้อเสนอเรื่องการเปิด "Integrated Resort" หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการที่รวมเอากิจการหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน รวมทั้งกาสิโน แต่นั่นไม่ใช่ในสมัยของลีกวนยู เป็นยุคของผู้นำรุ่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า "ลีเซียนลุง" บุตรชายของเขาเอง ซึ่งลึกวนยู ก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการหวังเงินจากการพนันเช่นเคย สิ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลีกวนยู ยอมให้ลูกชายที่เป็นนายกรัฐมนตรีเปิดกาสิโน คือ งานวิจัยเพราะใช่ว่าชาวสิงคโปร์ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับโปรเจคนี้ ถึงขนาดฝ่ายคัดค้านกดดันให้ ลีเซียนลุง จัดทำประชามติ แต่เขาปฏิเสธ ด้วย ข่าวจากทั่วทุกสารทิศทั่วโลกต่างรายงานถึงผลกระทบจากการมีกาสิโน ที่สหรัฐอเมริกา การเปิดกาสิโนมากมายที่เมืองแอตแลนติกซิตี้ มลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ตามรอยของลาสเวกัส ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมในพื้นที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในปีเดียว และ ปัจจุบันกาสิโนหลายแห่งทะยอยปิดตัวลง ที่มาเก้า เมื่อมีการเปิดกาสิโนเพิ่มขึ้นจาก 19 แห่งในยุคสแตนลีย์ โฮ ขยายเป็น 35 แห่งในยุคหลัง กาสิโนนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาประชากรแออัด ปัญหาจราจร มลพิษทางอากาศ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยในสังคมตามมา สำนักงานตำรวจของมาเก้า เปิดเผยว่าอาชญากรรมเกี่ยวกับการพนัน เพิ่มขึ้นถึง 37.8% ในช่วงเวลาเพียง 3ปี ที่สปป.ลาว รัฐบาลมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด แต่การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้กาสิโนตามตะเข็บชายแดนรอบประเทศกลายเป็นสถานที่คุ้นเคยของประชาชนลาว ที่ "คิงส์โรมัน" สถานกาสิโนชื่อดัง พบว่านักพนันกว่า 60% ที่เข้าไปเล่นเป็นนักพนันชาวลาว เช่นเดียวกับที่กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาไม่อนุญาตให้คนกัมพูชาเข้ากาสิโน แต่พบว่าคนกัมพูชา ในท้องถิ่นที่กาสิโนตั้งอยู่ต่างกรูกันเข้าไปเล่น นี่คือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ กับมาเก๊า สปป.ลาว กัมพูชา รวมถึงสหรัฐอเมริกา กาสิโนในยุค 5.0 จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารประเทศว่า จะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กับความสงบสุขทางสังคมได้อย่างไร?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1825 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี

    ......................................

    เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW)

    นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น

    ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว

    สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล

    แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น

    เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย

    ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี

    นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี

    ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก

    เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่

    เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท)

    สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป

    พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

    ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า

    “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี ...................................... เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW) นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่ เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท) สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 802 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘บ้านเพื่อคนไทย’บนที่ดินรถไฟ อสังหาฯจากพ่อสู่ลูก

    1 ใน 5 นโยบายที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 คือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) คอนโดมิเนียมและเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า ให้สิทธิคนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจ่ายครบยอดได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาทไม่มีแล้ว อยากให้นักศึกษาจบใหม่ (First Jobber) มีบ้านเป็นของตนเอง โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐบาลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใกล้ตัวเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างให้ดู มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ทำงานร่วมกัน

    ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า จะใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้าง โดยจะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เริ่มต้น 4 แห่ง ได้แก่ ย่านบางนา ธนบุรี เชียงราก และ จ.เชียงใหม่ ประมาณ 1,000 ยูนิต แต่หากจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ ผู้จับจองต้องอาศัยแล้วอย่างน้อย 5 ปี

    ปัจจุบันการรถไฟฯ มีที่ดินเชิงพาณิชย์ (Non Core) ทั้งหมด 38,469 ไร่ ทำสัญญาแล้ว 12,233 สัญญา

    อย่างไรก็ตาม บ้านเพื่อคนไทย แตกต่างจากโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เมื่อปี 2547 ซึ่งรับผิดชอบโดยการเคหะแห่งชาติ เพราะเป็นการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแถว และบ้านแฝดสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีเป้าหมายสร้างบ้านทั่วประเทศ 1 ล้านหลัง

    แม้ระยะแรกมีผู้สนใจจองบ้านล้นหลามต้องจับสลาก แต่ต่อมาขายไม่ออก หลายทำเลไกลปืนเที่ยง การคมนาคมลำบาก ต้องใช้รถยนต์หรือจักรยานยนต์ส่วนตัว บางโครงการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้างไปดื้อๆ เช่น บ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกปล่อยทิ้งร้างกว่า 10 ปี ไม่นับรวมเปิดช่องให้ทุจริต หนึ่งในนั้นคือนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมฯ ถูกศาลสั่งจำคุก 99 ปี

    ถึงกระนั้น ลักษณะบ้านเพื่อคนไทยเป็นการเช่าระยะยาว สูงสุด 99 ปี บนที่ดินของรัฐซึ้งซื้อขายไม่ได้ ไม่มีโฉนดที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด เมื่อเทียบกับบ้านเอื้ออาทร ที่หากผ่อนกับ ธอส. มาแล้ว 5 ปี สามารถทำเรื่องโอนให้เป็นของผู้ซื้อได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพชีวิตที่ต้องวัดดวงในระยะยาว เหมือนกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ประสบปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ

    #Newskit
    ‘บ้านเพื่อคนไทย’บนที่ดินรถไฟ อสังหาฯจากพ่อสู่ลูก 1 ใน 5 นโยบายที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 คือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) คอนโดมิเนียมและเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า ให้สิทธิคนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจ่ายครบยอดได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาทไม่มีแล้ว อยากให้นักศึกษาจบใหม่ (First Jobber) มีบ้านเป็นของตนเอง โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐบาลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใกล้ตัวเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างให้ดู มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ทำงานร่วมกัน ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า จะใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้าง โดยจะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เริ่มต้น 4 แห่ง ได้แก่ ย่านบางนา ธนบุรี เชียงราก และ จ.เชียงใหม่ ประมาณ 1,000 ยูนิต แต่หากจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ ผู้จับจองต้องอาศัยแล้วอย่างน้อย 5 ปี ปัจจุบันการรถไฟฯ มีที่ดินเชิงพาณิชย์ (Non Core) ทั้งหมด 38,469 ไร่ ทำสัญญาแล้ว 12,233 สัญญา อย่างไรก็ตาม บ้านเพื่อคนไทย แตกต่างจากโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เมื่อปี 2547 ซึ่งรับผิดชอบโดยการเคหะแห่งชาติ เพราะเป็นการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแถว และบ้านแฝดสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีเป้าหมายสร้างบ้านทั่วประเทศ 1 ล้านหลัง แม้ระยะแรกมีผู้สนใจจองบ้านล้นหลามต้องจับสลาก แต่ต่อมาขายไม่ออก หลายทำเลไกลปืนเที่ยง การคมนาคมลำบาก ต้องใช้รถยนต์หรือจักรยานยนต์ส่วนตัว บางโครงการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้างไปดื้อๆ เช่น บ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกปล่อยทิ้งร้างกว่า 10 ปี ไม่นับรวมเปิดช่องให้ทุจริต หนึ่งในนั้นคือนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมฯ ถูกศาลสั่งจำคุก 99 ปี ถึงกระนั้น ลักษณะบ้านเพื่อคนไทยเป็นการเช่าระยะยาว สูงสุด 99 ปี บนที่ดินของรัฐซึ้งซื้อขายไม่ได้ ไม่มีโฉนดที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด เมื่อเทียบกับบ้านเอื้ออาทร ที่หากผ่อนกับ ธอส. มาแล้ว 5 ปี สามารถทำเรื่องโอนให้เป็นของผู้ซื้อได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพชีวิตที่ต้องวัดดวงในระยะยาว เหมือนกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ประสบปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1407 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้ฤกษ์ กทม.จ่ายหนี้ค้างชำระ 3 รัฐวิสาหกิจ ปรับรูปแบบโครงการก่อสร้าง “นำสายสาธารณูปโภคลงดิน” รอบเกาะรัตนโกสินทร์ วงเงินเกือบ 250 ล้าน หลังปรับปรุงเสร็จมามากกว่า 10 ปี ตามคำแนะนำบอร์ดเกาะรัตนโกสินทร์-กรมศิลป์ ยุคก่อน ให้เจาะอุโมงค์แนวต่ำกว่าแหล่งโบราณคดี ก่อนลอดใต้ผิวดินลึกเกินกว่า 3 เมตร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อแหล่งโบราณคดี

    วันนี้ (12 ธ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการนำสายสาธารณูปโภคลงดิน รอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่ราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน และถนนมหาราช ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549

    ที่ผ่านมา ผู้รับจ้างทั้ง การไฟฟ้านครหลวง บริษัท ทีโอที จํากัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) ได้ดําเนินการนําสายสาธารณูปโภคลงดินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

    และได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย และคณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับสภาพงานไว้เรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาดําเนินการ 540 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 13 มิถุนายน 2556 แต่ไม่ขอรับเบิกเงิน

    หลังจาก กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แจ้งให้ดําเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนําสายสาธารณูปโภคลงดิน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000119463

    #MGROnline #สายสาธารณูปโภคลงดิน #รอบเกาะรัตนโกสินทร์
    ได้ฤกษ์ กทม.จ่ายหนี้ค้างชำระ 3 รัฐวิสาหกิจ ปรับรูปแบบโครงการก่อสร้าง “นำสายสาธารณูปโภคลงดิน” รอบเกาะรัตนโกสินทร์ วงเงินเกือบ 250 ล้าน หลังปรับปรุงเสร็จมามากกว่า 10 ปี ตามคำแนะนำบอร์ดเกาะรัตนโกสินทร์-กรมศิลป์ ยุคก่อน ให้เจาะอุโมงค์แนวต่ำกว่าแหล่งโบราณคดี ก่อนลอดใต้ผิวดินลึกเกินกว่า 3 เมตร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อแหล่งโบราณคดี • วันนี้ (12 ธ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการนำสายสาธารณูปโภคลงดิน รอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่ราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ถนนท้ายวัง ถนนเชตุพน และถนนมหาราช ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 • ที่ผ่านมา ผู้รับจ้างทั้ง การไฟฟ้านครหลวง บริษัท ทีโอที จํากัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) ได้ดําเนินการนําสายสาธารณูปโภคลงดินรอบเกาะรัตนโกสินทร์ในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว • และได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย และคณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับสภาพงานไว้เรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาดําเนินการ 540 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 13 มิถุนายน 2556 แต่ไม่ขอรับเบิกเงิน • หลังจาก กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แจ้งให้ดําเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนําสายสาธารณูปโภคลงดิน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000119463 • #MGROnline #สายสาธารณูปโภคลงดิน #รอบเกาะรัตนโกสินทร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน
    .
    "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน
    .
    เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว
    .
    ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว
    .
    โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน"
    .
    ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน
    .
    เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน
    .
    "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย จะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" สำหรับเคียฟ จากความเห็นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของ อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน . "มันจะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ยูเครนสามารถโจมตีได้ไกลขึ้น สงครามจะสั้นลง" ซีบีฮา บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนหน้าการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวาระครบรอบ 1,000 วัน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน . เขาอ้างว่า เคียฟมีสิทธิ์โดยชอบธรรมเต็มขั้น ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของรัสเซีย "มันอาจก่อผลกระทบในทางบวกมากๆต่อสถานการณ์ในสมรภูมิรบ" ซีบีฮากล่าว . ความเคลื่อนไหวที่ทำตามคำร้องขอของยูเครนมาช้านาน ในการอนุมัติให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย มีขึ้น 2 เดือน ก่อน ไบเดน พ้นจากตำแหน่ง และเขาจะถูกแทนที่โดยว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีแนวโน้มจะลดความช่วยเหลือที่มอบให้แก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(18พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน โหมกระพือความตึงเครียด ด้วยความเคลื่อนไหวดังกล่าว . โรสแมรี ดิคาร์โล รองเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ด้านกิจการการเมือง อ้างถึงการไฟเขียวของสหรัฐฯ ระบุว่า "ทุกฝ่ายต้องรับประกันความปลอดภัยและปกป้องพลเรือน โดยไม่สนใจว่าพลเรือนเหล่านั้นจะอยู่ในจุดไหน" . ดิคาร์โล ซึ่งกล่าวในนาม อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ต่อว่า นี่คือวาระครบรอบ 1,000 วัน แห่งการเสียชีวิตในวงกว้าง การทำลายล้างและความสิ้นหวังที่ยังคงเกาะกุมประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคน . เธอประณามกรณีที่มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่ยกระดับการโจมตีเล่นงานยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ 120 ลูกและโดรน 90 ลำ ที่ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่เครือข่ายพลังงานของยูเครน . "การเล็งเป้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครน อาจทำให้ฤดูหนาวที่กำลังมาถึง กลายเป็นฤดูหนาวที่หนักหนาสาหัสที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น" เธอกล่าวเตือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111067 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1260 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟม.ย้ำ 15 พฤศจิกายนนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เริ่มปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทาง ส่วนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ประชาชนยังสัญจรได้ตามปกติ

    ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อรื้อถอนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น

    การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ในฐานะผู้รับจ้างของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ร่วมลงทุน) หรือ BEM มีกำหนดจะเริ่มปิดเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรก โดยจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรชิดทางเท้า 1 ช่องจราจร ยกเว้นสถานีศิริราช จะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร สำหรับสถานีส่วนที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000109231

    #MGROnline #โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ
    รฟม.ย้ำ 15 พฤศจิกายนนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เริ่มปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทาง ส่วนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ประชาชนยังสัญจรได้ตามปกติ • ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อรื้อถอนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ในฐานะผู้รับจ้างของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ร่วมลงทุน) หรือ BEM มีกำหนดจะเริ่มปิดเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรก โดยจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรชิดทางเท้า 1 ช่องจราจร ยกเว้นสถานีศิริราช จะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร สำหรับสถานีส่วนที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000109231 • #MGROnline #โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 982 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งอเมริกา 2024 ช่วงหาเสียง ระหว่างการดีเบต ในรัฐ New Hampshire นางแม็กกี้ กูดแลนเดอร์ ภรรยาของนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติจากพรรคเดโมแครต( DEM )ดับอนาถคาเวที หลังจากกล่าวหา Lily Tang Williams คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน (GOP:Grand Old Party) ว่าต้องการช่วยเหลือแต่พวกคนรวยเท่านั้น

    Tang สวนกลับว่าคนที่รวยคือหล่อนเพราะมีทรัพย์สินมูลค่า 20-30 ล้านเหรียญ น้ำหน้าอย่างเธอจะมารู้อะไรว่าคนหาเช้ากินค่ำกำลังลำบาก ขนาดฉันยังไม่มีเงินจะลงโฆษณาแคมเปญทางทีวีด้วยซ้ำ อย่ามาทำตัวว่าเป็นคนจนเห็นใจคนจนและบ่นว่าค่าเช่าบ้านแพง ไสหัวกลับไปนอนบ้านราคา 2 ล้านเหรียญของคุณซะ

    ปัญหาของชนชั้นกลางและพวกหาเช้ากินค่ำ คือไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวต้องทำงาน 2-3 กะ เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวถูกฟ้องขับไล่ที่ออกจาก APT และตึกที่คุมค่าเช่าก็เหลือน้อยและเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ย่านดีๆราคาก็สูงมาก หลายคนเลือกที่จะนอนในรถแทน

    ขนาดพวกที่ทำงานร้านแมค แบบฟูลไทม์ รายได้ยังไม่พอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภคเลย เวลานี้คือต้องหาคนแชร์ห้องและช่วยกันหารแต่การแชร์มันก็อันตรายเพราะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยจะเป็นคนดีหรือโจร ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเห็นคนอเมริกันกินแต่อาหารขยะหรือเลี้ยงลูกด้วยอาหารขยะ

    ทั้งนี้วิกิพีเดียระบุถึงประวัติ ลิลี่ ถัง วิลเลียมส์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1964 ใน เมือง เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนทางตอนกลางของจีน เธอ เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ไม่รู้หนังสือ เธอเติบโตภายใต้การปกครองของเหมาเจ๋อตุงและวัยเด็กของเธอตรงกับช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งกินเวลานานจนกระทั่งเหมาเจ๋อตุงเสียชีวิตในปี 1976 เธอเติบโตมาในความยากจนและประสบความสำเร็จในโรงเรียน จบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดของชั้นเรียนมัธยมปลาย และได้คะแนนใกล้เคียงกับอันดับต้นๆ ของการสอบระดับชาติของจีน

    Tang Williams ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Fudanในเซี่ยงไฮ้ในขณะที่เรียนอยู่วิทยาลัย เธอได้พบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐอเมริกาที่แสดงรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาและคำประกาศอิสรภาพ ฉบับพกพาให้เธอ ดู ซึ่งทำให้เธอสนใจที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา
    เธอได้รับปริญญาตรีในปี 1985 และต่อมาได้เข้าร่วมคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Fudan และฝึกฝนกฎหมายองค์กรในขณะที่จีนเริ่มสร้างเศรษฐกิจใหม่ เธอมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 1988 เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินและได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยใน ภายหลังในปี 1991 เธอได้รับปริญญาโทสาขาการทำงานสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินเธอได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1994

    https://youtu.be/yOF78Mb2Rtc?si=yArv0mHiHm048Sbk

    #Thaitimes
    เลือกตั้งอเมริกา 2024 ช่วงหาเสียง ระหว่างการดีเบต ในรัฐ New Hampshire นางแม็กกี้ กูดแลนเดอร์ ภรรยาของนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติจากพรรคเดโมแครต( DEM )ดับอนาถคาเวที หลังจากกล่าวหา Lily Tang Williams คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน (GOP:Grand Old Party) ว่าต้องการช่วยเหลือแต่พวกคนรวยเท่านั้น Tang สวนกลับว่าคนที่รวยคือหล่อนเพราะมีทรัพย์สินมูลค่า 20-30 ล้านเหรียญ น้ำหน้าอย่างเธอจะมารู้อะไรว่าคนหาเช้ากินค่ำกำลังลำบาก ขนาดฉันยังไม่มีเงินจะลงโฆษณาแคมเปญทางทีวีด้วยซ้ำ อย่ามาทำตัวว่าเป็นคนจนเห็นใจคนจนและบ่นว่าค่าเช่าบ้านแพง ไสหัวกลับไปนอนบ้านราคา 2 ล้านเหรียญของคุณซะ ปัญหาของชนชั้นกลางและพวกหาเช้ากินค่ำ คือไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวต้องทำงาน 2-3 กะ เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวถูกฟ้องขับไล่ที่ออกจาก APT และตึกที่คุมค่าเช่าก็เหลือน้อยและเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ย่านดีๆราคาก็สูงมาก หลายคนเลือกที่จะนอนในรถแทน ขนาดพวกที่ทำงานร้านแมค แบบฟูลไทม์ รายได้ยังไม่พอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภคเลย เวลานี้คือต้องหาคนแชร์ห้องและช่วยกันหารแต่การแชร์มันก็อันตรายเพราะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยจะเป็นคนดีหรือโจร ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเห็นคนอเมริกันกินแต่อาหารขยะหรือเลี้ยงลูกด้วยอาหารขยะ ทั้งนี้วิกิพีเดียระบุถึงประวัติ ลิลี่ ถัง วิลเลียมส์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1964 ใน เมือง เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนทางตอนกลางของจีน เธอ เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ไม่รู้หนังสือ เธอเติบโตภายใต้การปกครองของเหมาเจ๋อตุงและวัยเด็กของเธอตรงกับช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งกินเวลานานจนกระทั่งเหมาเจ๋อตุงเสียชีวิตในปี 1976 เธอเติบโตมาในความยากจนและประสบความสำเร็จในโรงเรียน จบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดของชั้นเรียนมัธยมปลาย และได้คะแนนใกล้เคียงกับอันดับต้นๆ ของการสอบระดับชาติของจีน Tang Williams ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Fudanในเซี่ยงไฮ้ในขณะที่เรียนอยู่วิทยาลัย เธอได้พบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐอเมริกาที่แสดงรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาและคำประกาศอิสรภาพ ฉบับพกพาให้เธอ ดู ซึ่งทำให้เธอสนใจที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา เธอได้รับปริญญาตรีในปี 1985 และต่อมาได้เข้าร่วมคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Fudan และฝึกฝนกฎหมายองค์กรในขณะที่จีนเริ่มสร้างเศรษฐกิจใหม่ เธอมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 1988 เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินและได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยใน ภายหลังในปี 1991 เธอได้รับปริญญาโทสาขาการทำงานสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินเธอได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1994 https://youtu.be/yOF78Mb2Rtc?si=yArv0mHiHm048Sbk #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1387 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องที่ อากง
    ว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา
    เอาเงินจากไหนมาบริหารประเทศ

    ในระยะ 6 ปีแรกก่อนโควิดจะเข้ามา ไม่น่าแปลก
    ที่รัฐบาลประยุทธ ได้ลงทุนสร้างสาธารณูปโภค ไปทั่วประเทศ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ถนนทั้งหนทางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ทั่วไปหมด

    เมื่อมา เจอ โควิด 3 ปีหลัง ก่อนเปลี่ยนรัฐบาล
    รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ ้ เหตุเพราะทั้งโรงงาน กับร้านค้างานบริการปิดสนิท เครื่องบินหยุดบิน การขนส่งหยุดชะงัก เพราะโรคระบาดโควิด

    แต่แปลก รัฐบาลประยุทธ กลับมีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ และโครงการสร้างสาธารณูปโภคทุก ๆโครงการ กลับไม่มีการหยุดชะงักเลยแม้แต่โครงการเดี๋ยว

    แถมหลังเลือกตั้ง รัฐบาลประยุทธ แพ้เลือกตั้ง กับมีเงินคงคลังเหลืออีกตั้ง 2 แสน 4 หมื่นกว่าล้านบาทและมีทองคำในคลังอีกกว่า 240 ตัน มันน่าแปลกจริงๆ

    สงสัยไหมว่าประยุทธ ไปหาเงินมาจากไหน

    ลิ้งค์ ความเชื่อของ อากง
    https://linevoom.line.me/post/1172690200578051732

    แต่ความเชื่อของผม เชื่อว่า
    รายได้ที่รัฐบาลตาตู่ ได้มาจากการที่
    รัชกาลที่ 10 เปลี่ยนชื่อของสำนักงานทรัพย์สิน..ส่วน..พระมหากษัตริย์

    ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องเข้ามานั่งเป็นกรรมการบริหาร
    โดยตำแหน่ง
    จากทุก ๆรัฐบาลที่ผ่านมา
    สำนักงานทรัพย์สิน..ส่วน..พระมหากษัตริย์ ในยุคนั้น

    #จึงไม่ต้องเสียภาษี

    หลังจากพระองค์ทรงตัดคำว่า
    ..ส่วน..
    ที่เป็น ทรัพย์สินส่วนของประชาชน
    ออกไปแล้ว

    จึงเหลือ ชื่อว่า
    สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

    #ที่ต้องจ่ายภาษี
    เหมือนธุรกิจของเอกชนทั่ว ๆไป

    แต่จะมีเหลือมากมาย ตามคำของ อากง หรือไม่ ผมไม่อาจรู้ได้

    แต่ที่แน่ ๆ มีทองคำในยุครัฐบาลประยุทธ์ เหลือแน่ ๆ90 ตัน เมื่อรวมทองคำทั้งหมดแล้วเป็น 240 กว่าตัน

    ยังมีเงินคงคลังเหลืออีกกว่า สองแสนล้านบาท

    ตามความเชื่อของผม
    และยิ่งได้เห็นพระองค์ท่านทรงลงพระปรมาภิไธยใน พรบ. สองฉบับ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ก่อนที่โควิดจะเข้ามา
    ฉบับที่ 1. พรบ.
    การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค
    (พรบ.สร้างอำนาจให้ประชาชน)
    ฉบับที่ 2. พรบ.
    ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
    เมื่อนำบทบัญญัติทั้งสองฉบับมาร่วมกันแล้วทำไปพร้อม ๆกัน ผลออกมาจะคล้าย ๆแนวทางการบริหารของ

    สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

    หรือจะเรียกว่า

    สำนักงานทรัพย์สินส่วนของประชาชน
    ก็ได้

    เป็นการยืนยันว่า พระองค์ท่านทรง ปรารถนาที่จะสืบสวนและต่อยอด

    ระบบสหกรณ์ทฤษฎีใหม่
    ให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมกันบริหาร
    จัดการ ตาม
    พรบ. ทั้งสองฉบับ
    ประชาชนก็จะมีอำนาจตาม มาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 อย่างแท้จริง

    แต่อำนาจของประชาชนจะมีได้จริง ต้องรวมตัวกันทำตามคำอธิบายในลิ้งค์นี้ให้สำเร็จเท่านั้น.
    https://www.facebook.com/share/p/369cmL1Yg995hDdv/

    เรื่องที่ อากง ว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาเงินจากไหนมาบริหารประเทศ ในระยะ 6 ปีแรกก่อนโควิดจะเข้ามา ไม่น่าแปลก ที่รัฐบาลประยุทธ ได้ลงทุนสร้างสาธารณูปโภค ไปทั่วประเทศ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ถนนทั้งหนทางในกรุงเทพฯและปริมณฑล ทั่วไปหมด เมื่อมา เจอ โควิด 3 ปีหลัง ก่อนเปลี่ยนรัฐบาล รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ ้ เหตุเพราะทั้งโรงงาน กับร้านค้างานบริการปิดสนิท เครื่องบินหยุดบิน การขนส่งหยุดชะงัก เพราะโรคระบาดโควิด แต่แปลก รัฐบาลประยุทธ กลับมีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ และโครงการสร้างสาธารณูปโภคทุก ๆโครงการ กลับไม่มีการหยุดชะงักเลยแม้แต่โครงการเดี๋ยว แถมหลังเลือกตั้ง รัฐบาลประยุทธ แพ้เลือกตั้ง กับมีเงินคงคลังเหลืออีกตั้ง 2 แสน 4 หมื่นกว่าล้านบาทและมีทองคำในคลังอีกกว่า 240 ตัน มันน่าแปลกจริงๆ สงสัยไหมว่าประยุทธ ไปหาเงินมาจากไหน ลิ้งค์ ความเชื่อของ อากง https://linevoom.line.me/post/1172690200578051732 แต่ความเชื่อของผม เชื่อว่า รายได้ที่รัฐบาลตาตู่ ได้มาจากการที่ รัชกาลที่ 10 เปลี่ยนชื่อของสำนักงานทรัพย์สิน..ส่วน..พระมหากษัตริย์ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องเข้ามานั่งเป็นกรรมการบริหาร โดยตำแหน่ง จากทุก ๆรัฐบาลที่ผ่านมา สำนักงานทรัพย์สิน..ส่วน..พระมหากษัตริย์ ในยุคนั้น #จึงไม่ต้องเสียภาษี หลังจากพระองค์ทรงตัดคำว่า ..ส่วน.. ที่เป็น ทรัพย์สินส่วนของประชาชน ออกไปแล้ว จึงเหลือ ชื่อว่า สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ #ที่ต้องจ่ายภาษี เหมือนธุรกิจของเอกชนทั่ว ๆไป แต่จะมีเหลือมากมาย ตามคำของ อากง หรือไม่ ผมไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ มีทองคำในยุครัฐบาลประยุทธ์ เหลือแน่ ๆ90 ตัน เมื่อรวมทองคำทั้งหมดแล้วเป็น 240 กว่าตัน ยังมีเงินคงคลังเหลืออีกกว่า สองแสนล้านบาท ตามความเชื่อของผม และยิ่งได้เห็นพระองค์ท่านทรงลงพระปรมาภิไธยใน พรบ. สองฉบับ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ก่อนที่โควิดจะเข้ามา ฉบับที่ 1. พรบ. การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค (พรบ.สร้างอำนาจให้ประชาชน) ฉบับที่ 2. พรบ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เมื่อนำบทบัญญัติทั้งสองฉบับมาร่วมกันแล้วทำไปพร้อม ๆกัน ผลออกมาจะคล้าย ๆแนวทางการบริหารของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือจะเรียกว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนของประชาชน ก็ได้ เป็นการยืนยันว่า พระองค์ท่านทรง ปรารถนาที่จะสืบสวนและต่อยอด ระบบสหกรณ์ทฤษฎีใหม่ ให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมกันบริหาร จัดการ ตาม พรบ. ทั้งสองฉบับ ประชาชนก็จะมีอำนาจตาม มาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 อย่างแท้จริง แต่อำนาจของประชาชนจะมีได้จริง ต้องรวมตัวกันทำตามคำอธิบายในลิ้งค์นี้ให้สำเร็จเท่านั้น. https://www.facebook.com/share/p/369cmL1Yg995hDdv/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 672 มุมมอง 0 รีวิว
  • 02-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.41 ชื่อตอนว่า "FCUK JEWS SCREAM LOUDER" ไอ้สัส! ล่อกันเมามันส์แต่เช้า! มาตามนัด โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกพร้อมเพรียงกัน มาทุกทิศ ทุกทาง นับ 100 ลูก ทั่วประเทศ ทั่วแผ่นดินแม่เหี้ย อียิวกระอักเลือด ยังหน้าด้านขั้นสุด โทรไปร้องขอชีวิตสายตรงปูติน อีจัญไร อีตุ๊ดแต๋วแตกไม่เลือกเผ่าพันธุ์ ไล่ฆ่าชาวบ้าน ยังเสือกมีหน้ามาขอให้หยุดยิง เหี้ยอัปรีย์จัญไรได้ใจจุงเบย? ปูตินไม่พูดเยอะ ขอเวลาคิด(ขอปรึกษากันก่อนซัก 100 ปีน่ะ ดีออก ค่อยให้คำตอบ! ทำไม กูจะไม่รู้ ใครสั่งให้อีวอชิงตันสั่งอียูเครนไปตายดาบหน้า ส่งอาวุธให้มาเปิดกับกู อียิว มรึงมันสัดเดรัจฉานไร้ยางอายหนักสุดใน 3 โลก) ผู้นำตัวจริงโลกอาหรับหลบอยู่หลังฉากหมดแล้ว คนใหม่ขึ้นมาคือ "เพชรฆาตใบสั่ง" ล่ออย่างเดียว ไม่มีหยุดยิง มรึงตายห่าก่อน แล้วค่อย "พัก" เทลอาวีฟ แตกเละเทะ ชาวเมืองหนีตายหลบใต้ดิน หลุมหลบภัย ยังไม่วายโดนกระหน่ำซ้ำ ท่าเรือ สนามบินไปหมด แม้แต่ฐานลับอีมดสัด ยังโดนดาบสอง หลังเพิ่งโดนมาหมาดๆ เละเทะทั้งประเทศแล้ว ไร้การควบคุม คือสูญเสียอธิปไตยไปแล้ว เพราะบรรดาทหารยิวไปตายห่าแนวหน้าซะเยอะ ไอ้ที่เหลืออยู่ คือทหารอเมริกัน ทหารรับจ้าง ทหาร NATO ตายห่าลงหลุมตามกันไปติดๆ "อาหรับคลั่ง" ฮามาสเปิดเกมส์เจาะใน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน เปิดเกมส์เจาะนอก มันส์ล่ะมรึงเอ่ย? อ้าว..ไหนเพิ่งจะฆ่าผู้นำไปหมาดๆ มิใช่เหรอ ผู้นำอิหร่าน ผู้นำฮามาส ผู้นำเฮซบอเลาะห์ ต่อไปก็คาเมเนอี แล้วทำไม ตายโหงตายห่าเกลื่อนเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ล่ะจ๊ะ สรุปใครชนะ? สรุปใครเอาใครอยู่? สรุปใครคือเหยื่อ? แค่พักซักนิด แดร๊ก KIT KAT แล้วตั้งสติ มรึงก็คิดเองได้ว่า ที่ผ่านมา "ไอ้สัส ต้มเปื่อยหม้อตุ๋น ชัดๆ" โลกประกาศศักดาขยี้เหี้ยกันแล้ว ปล่อยตะวันออกกลางให้เค้าเล่นเทศกาลพลุไฟกันอย่างเมามันส์ต่อไป ด้านรัสเซีย ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะลุยยึดฐานกองกำลัง ศูนย์บัญชาการใหญ่สุด ศูนย์ยุทธศาสตร์กลยุทธของยูเครนสำเร็จ แปลว่าอะไร จากนี้ คือเก็บกวาดงานย่อยไงจ๊ะ งานใหญ่บรรลุผลสำเร็จแล้ว! ยูเครนแพ้ราบคาบนานแล้ว แค่รอประกาศเป็นทางการเท่านั้นเอง! ภาพรวมโลกชัดเจน อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล NATO ชาติหมา แพ้ยับขั้วใหม่อย่างหมดรูป หมดสภาพ โลกรวมตัวสำเร็จ ก่อตัวต่อต้านยิวเหี้ยสุดตรีน! อุตสาหกรรมการบินอีเหี้ยยิวกำลังจะเจ๊ง ยุโรปเพิ่งตื่น งัดทีเด็ดสู้ บินรบเหี้ยมีแต่วางยา ซ่อนดักฟัง ติดตาม ทำลายตัวเองไว้เพี๊ยบ ไม่มีใครเชื่อใจอีเหี้ยวอชิงตัน นอกจากขี้ข้า อะไรก็ตาม MADE IN USA มีเครื่องติดตาม ดักฟัง แจมสัญญาน ควบคุมโดยเหี้ย C หมด แล้วมรึงจะสั่งทำพ่อง? อียุโรปหน้าโง่ ตราบใดที่มรึงยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ทั้งหมด เหี้ยยิวก็ยังได้เปรียบอยู่ดี จะพึ่งพาใครไม่พึ่ง ไปพึ่งเหี้ย เพราะเกาะแดร๊ก ปล้นสะดมภ์ชาวโลกมาด้วยกัน มาช้านานสิน่ะ สมควร ได้เวลาชดใช้แล้วมรึง ยุโรปจะพินาศทั้งทวีป ชักศึกเข้าบ้านเต็มตรีน ปูตินจะไม่อดทนรออีกต่อไป หลังตะวันออกกลางกำลังเพลิดเพลินกับการเผาอียิวทั้งเป็น ถึงตายุโรปบ้างแล้วมรึง ถอยไม่ทันก็สิ้นชื่อ สิ้นชาติ กล้ามั้ยล่ะ? หลังอีเนรคุณทันยาปากดี ไปคุยโวกลางที่ประชุม UN จะยึดตอนกลางของตะวันออกกลางทั้งหมด หมายังรู้ แผนราดน้ำมันลงบนกองไฟโหมกระหน่ำ ทำไมต้องเหี้ยให้สุด ก็เพื่อจะดึงพวกมรึงมาฆ่ากูไงล่ะ ไม่งั้น WWIII จะเกิดเหรอ แต่พลิกล็อค รัสเซีย จีน ไม่ยุ่ง ปล่อยอิหร่านกับโลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวอย่างเมามันส์ กลายเป็นสงครามครูเสด สงครามแห่งศรัทธา และสงครามภูมิภาค ยังยกระดับเป็น WWIII มิได้ ใครหมากันล่ะ? ไม่ได้พูดเล่น กองกำลังอียิวตายห่าวันละ 1000 ตัว พลเรือนตายห่าไม่นับ ไม่รู้จำนวน เพราะอยู่ใต้ซากปรักหักพัง งานนี้ ไม่มีแบ่งชนชั้น ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ตรงนั้น คือเป้าหมายถล่มทั้งหมด แบบนี้เค้าเรียก "ล้างป่าช้าไงล่ะ" ฆ่า 1 คน แต่ตายห่าเพิ่ม 1000 ตัว ใครโง่? ตัวโคลนตาย แต่ตัวเป็น ตัวจริง ไม่มีที่จะอยู่ เจ็บจี๊ด! ภาพที่มรึงจะได้เห็น ไม่มีอิสราเอลอีกต่อไป มีแต่ชุมชน "มนุษย์ถ้ำ" อาศัยใต้ดิน หลุมหลบภัยกันเป็นปีปี นี่ไง กรรมตามสนองมรึงแล้ว! ไม่ต้องเห็นเดือน เห็นดาวกันอีกต่อไป ล่าสุด อิหร่านแจกจ่ายอาวุธชุดใหม่ล่าสุด ให้นักฆ่าอาหรับ หมดทุกประเทศแล้วจ๊ะ มีของโสมแดงพ่วงไปด้วย ช่วยทดสอบ และบอกผลลัพธ์ทีน่ะ ไม่มีโชว์รูมที่ไหนจะดีเท่าที่นี่อีกแล้ว "เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ทะเลเพลิง" หมดเวลาคุย ได้เวลาฆ่า! งานเข้า พิสูจน์ชัด ขีปนาวุธโลกอาหรับ ทะลุ ทะลวงตับไตไส้พุงอียิวจนหมดสิ้น ระบบป้องกันภัยใช้งานไม่ได้ ถึงเวลาพลิกแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อียิวทำได้แค่ลอบฆ่า ลอบกัด แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานศัตรูได้ แต่โลกอาหรับ ทำลายทุกสรรพสิ่งในเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา สนามบิน ท่าเรือ เส้นทางลำเลียงถูกตัดออกจนหมด ด้านอีบาห์เรนไม่มีขยับ เรือรบเหี้ยมะกันในฐานกองเรือที่ 5 ยังไม่กระดิก อิหร่านจึงยังไม่ปิดช่องแคบเฮอร์มูซ รอเรือเหี้ยมรึงออกมาก่อน กูถึงจะปิดประตูกระตืบเหี้ยจมมหาสมุทร

    ปล.ดราม่า! อีส้มซ่าส์ไม่เลิก ชอบเห็นความทุกข์ การสูญเสียเป็นเรื่องน่าขำ ควายไทยบัดซบ 14 ล้านเสียงระอา กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก ไม่น่าเชื่อลูกหลานอัปรีย์จัญไรให้เลือกมรึงเลย คุณภาพควายไทย ดังไกลถึงนอกโลก! อียิวคิดจะบุกเลบานอน ยกพลขึ้นบน กลายเป็นศพตายเกลื่อน เค้าเตรียมต้อนรับมรึงอยู่แล้ว ดีออก? อียิวอ่อนยวบลงไปเยอะ โดนถล่มหนักเช้าเย็น หลังบ้านรั่วเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม ใกล้เวลา 3 ฮอ จะได้พบหน้าเพ่น้อง ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน แล้วสิน่ะ? ยกพลขึ้นบกกันแล้ว กองหนุนตามไปเติมเลบานอนอีกเพี๊ยบ อาวุธมีไม่อั้น ขีปนาวุธนับ 100000 ลูก พร้อมถล่มอียิวตายคาตรีน เรื่องนี้ ปักกิ่ง มอสโคว์ จะไม่ยุ่ง แกล้งหลับตาข้างนึง แต่อีกข้างกระพริบตาให้ใส่อียิวไม่ยั้ง? UN หมดปัญญา ไม่มีใครสั่งใครได้อีก โลกต้องพิพากษากันเอง ได้เวลายุบแล้ว? ขณะที่อียิวจ้องจะบุกเลบานอน อิหร่าน เลบานอน ซีเรีย อิรัก ก็จ้องปิดเกมส์ที่ราบสูงโกลานเช่นกัน มาดูสิว่า ใครจะทำสำเร็จก่อนกัน? สภาพยูเครน เยรูซาเล็ม แทบไม่แตกต่างกันแล้ว สาธารณูปโภค ถูกทำลายยับเยิน โครงสร้างพื้นฐานไปหมดเกลี้ยง นี่ไง สูตรอียิว เมื่อกูจะไป จะต้องไม่เหลือเหี้ยอะไรเอาไว้ ขั้วใหม่บอกเสริม รวมถึงชีวิตมรึงด้วย ไอ้สัส! E-DOK! ละครหลอกควาย อีเหลี่ยมชั่ว ด่าลูกสาวร่าน แจกทำไม 10000 มีแต่คนปัญญาอ่อนทำ! เชิญไปหลอกควายต่อในนรกเหอะ? อียิวส่งตระกูลเหี้ยมรึงมา ปั้นจนขึ้นมามีอำนาจ ก็เอาคืนมรึงได้เช่นกัน รู้เช่นเห็นชาติ รับงานเหี้ย C มาเพื่อบ่อนทำลายชาติ ทุกนโยบายอีแดง อีส้มเน่า ส่งตรงมาจากวอชิงตัน มันมีนโยบายจริงๆ ซักที่ไหนกันล่ะ เป้าหมายคือทำลายแผ่นดินไทย ทำลายแก้ว 3 ประการ ล้มวัง เท่านั้น และตัวพ่อเหลี่ยมเหี้ยก็รู้ดีว่า มันจะจบยังไงเกมส์นี้ รีบชิงด่าลูกสาวตัวเอง เพื่อให้ควายเห็นว่า กูไม่รู้ ไม่เห็น ลูกสาวคิดเอง ทำเอง เป็นตัวของตัวเอง หลอกควายจนควายเปื่อย แต่กฎหมายไม่รอมรึงดอก เค้ายิ้มตั้งแต่ 10000 บาทถึงมือคนแรกไปเรียบร้อยแล้ว ผิดทั้งอาญา แพ่ง กฎระเบียบ แบบแผน เอากี่กรรม กี่วาระดีล่ะ? ขังลืมจนถึงชาติหน้าได้สบาย? แต่มันไม่อยู่ให้ขังดอกน่ะ เผ่นออกนอกชัวร์ พร้อมต้องทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีในไทยไว้ที่นี่ ทรัพย์สินที่นอมินี่ถือก็ไม่รอด เค้ารู้หมดของใคร? แผนยึดทรัพย์นักการเมืองทั่วประเทศกำลังจะเกิดขึ้นจริง ใครที่รอดูความวินาศ ฉิบหาย ของไอ้อีหนักแผ่นดินทั้งหลาย มรึงคงยิ้มออก ได้เห็นเต็ม 2 ตา ก่อนตายชัวร์ กูการันตี! ปลดปล่อยจิตวิญญานมรึงซะ ไอ้ที่เครียดแค้นจัด เป็นอโหสิกรรม แล้วแผ่เมตตาบุญให้พวกมัน มันจะเหมือนถูกไฟนรกคอกซ้ำสอง ดิ้นทุรนทุรายยิ่งกว่าหมาซะอีก บุญกุศลไม่เหมาะกับวิญญานสันดานต่ำช้าชาติชั่ว หนักแผ่นดิน น้ำเย็นจะกลายเป็นน้ำร้อนทันที ลองเปลี่ยนจากสาปแช่งเป็นแผ่กุศลสิ เคล็ดลับ เหี้ยร้องเจี๊ยก ทันที! เหี้ย สัดนรก มันรับสิ่งดีงามไม่ได้ นี่คือกฎเหล็ก! เกมส์โลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว อยู่ที่จะปิดเกมส์เมื่อไหร่เท่านั้นเอง นวดไปเรื่อยๆ ขยี้ไปเรื่อยๆ ขี้ข้าย้ายฝั่ง โลกเดินตามกัน เหี้ยจะเหลือใคร? ส่วนประเทศกูมี ได้อานิสงค์โลกไปเต็มตรีน โลกสะอาด ศรีธนญชัยก็งานเบา วาระสุดท้ายของไอ้อีหนักแผ่นดินกำลังจะมาถึงแล้ว มรึงบ่นกันเป็นปีปี แค่ไม่กี่เดือน กำลังจะได้ชมละครฉากใหญ่ มหรสพ ครั้งประวัติศาสตร์ อย่าพลาดเชียว "เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู" กำกับโดย เสธ.แดง และผู้รักชาติทั้งแผ่นดิน 3 หน่วยมหาเทพองครักษ์แผ่นดินประสานมือ 100 เหี้ยก็เอาไม่อยู่? เตรียมเผ่นให้ทันน่ะ กูเตือนแล้วน่ะ!

    หมี CNN(สดใหม่ ตายห่าทุกวัน เหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดินโลก เช้ามาแผ่นดินเบาไปเยอะ ยังต้องมีตายห่าอีกเป็นแสน อย่าเร่งรีบ มันคือสคริปต์สวรรค์เค้า ชั่วก็ชั่วให้สุด ดีก็ดีให้จบ ทองแท้ไม่กลัวไฟ แต่เหี้ยแท้ กลัวแสงมว๊ากจ๊ะ ละครปาหี่มีหลอกควายทุกวัน อย่าอินเยอะ ดูภาพใหญ่เข้าไว้ ดูผลลัพธ์เท่านั้น อย่าถูกปั่นหัวง่ายๆ เพราะใครที่ตามหมีมา 10 ปี มรึงต้องตกผลึกเป็นเพชรกันไปหมดได้แล้ว ข้ามคริสตอลไปได้แล้ว ใช้สติ ใช้ปัญญา มากกว่าตาและ หู มรึงดวงตาเห็นธรรม โลกก็จะเห็นทางสว่างนั่นเอง)
    02 ตุลาคม 67
    11.57 น.
    https://linevoom.line.me/post/1172784511812954889

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    02-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.41 ชื่อตอนว่า "FCUK JEWS SCREAM LOUDER" ไอ้สัส! ล่อกันเมามันส์แต่เช้า! มาตามนัด โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกพร้อมเพรียงกัน มาทุกทิศ ทุกทาง นับ 100 ลูก ทั่วประเทศ ทั่วแผ่นดินแม่เหี้ย อียิวกระอักเลือด ยังหน้าด้านขั้นสุด โทรไปร้องขอชีวิตสายตรงปูติน อีจัญไร อีตุ๊ดแต๋วแตกไม่เลือกเผ่าพันธุ์ ไล่ฆ่าชาวบ้าน ยังเสือกมีหน้ามาขอให้หยุดยิง เหี้ยอัปรีย์จัญไรได้ใจจุงเบย? ปูตินไม่พูดเยอะ ขอเวลาคิด(ขอปรึกษากันก่อนซัก 100 ปีน่ะ ดีออก ค่อยให้คำตอบ! ทำไม กูจะไม่รู้ ใครสั่งให้อีวอชิงตันสั่งอียูเครนไปตายดาบหน้า ส่งอาวุธให้มาเปิดกับกู อียิว มรึงมันสัดเดรัจฉานไร้ยางอายหนักสุดใน 3 โลก) ผู้นำตัวจริงโลกอาหรับหลบอยู่หลังฉากหมดแล้ว คนใหม่ขึ้นมาคือ "เพชรฆาตใบสั่ง" ล่ออย่างเดียว ไม่มีหยุดยิง มรึงตายห่าก่อน แล้วค่อย "พัก" เทลอาวีฟ แตกเละเทะ ชาวเมืองหนีตายหลบใต้ดิน หลุมหลบภัย ยังไม่วายโดนกระหน่ำซ้ำ ท่าเรือ สนามบินไปหมด แม้แต่ฐานลับอีมดสัด ยังโดนดาบสอง หลังเพิ่งโดนมาหมาดๆ เละเทะทั้งประเทศแล้ว ไร้การควบคุม คือสูญเสียอธิปไตยไปแล้ว เพราะบรรดาทหารยิวไปตายห่าแนวหน้าซะเยอะ ไอ้ที่เหลืออยู่ คือทหารอเมริกัน ทหารรับจ้าง ทหาร NATO ตายห่าลงหลุมตามกันไปติดๆ "อาหรับคลั่ง" ฮามาสเปิดเกมส์เจาะใน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน เปิดเกมส์เจาะนอก มันส์ล่ะมรึงเอ่ย? อ้าว..ไหนเพิ่งจะฆ่าผู้นำไปหมาดๆ มิใช่เหรอ ผู้นำอิหร่าน ผู้นำฮามาส ผู้นำเฮซบอเลาะห์ ต่อไปก็คาเมเนอี แล้วทำไม ตายโหงตายห่าเกลื่อนเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ล่ะจ๊ะ สรุปใครชนะ? สรุปใครเอาใครอยู่? สรุปใครคือเหยื่อ? แค่พักซักนิด แดร๊ก KIT KAT แล้วตั้งสติ มรึงก็คิดเองได้ว่า ที่ผ่านมา "ไอ้สัส ต้มเปื่อยหม้อตุ๋น ชัดๆ" โลกประกาศศักดาขยี้เหี้ยกันแล้ว ปล่อยตะวันออกกลางให้เค้าเล่นเทศกาลพลุไฟกันอย่างเมามันส์ต่อไป ด้านรัสเซีย ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะลุยยึดฐานกองกำลัง ศูนย์บัญชาการใหญ่สุด ศูนย์ยุทธศาสตร์กลยุทธของยูเครนสำเร็จ แปลว่าอะไร จากนี้ คือเก็บกวาดงานย่อยไงจ๊ะ งานใหญ่บรรลุผลสำเร็จแล้ว! ยูเครนแพ้ราบคาบนานแล้ว แค่รอประกาศเป็นทางการเท่านั้นเอง! ภาพรวมโลกชัดเจน อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล NATO ชาติหมา แพ้ยับขั้วใหม่อย่างหมดรูป หมดสภาพ โลกรวมตัวสำเร็จ ก่อตัวต่อต้านยิวเหี้ยสุดตรีน! อุตสาหกรรมการบินอีเหี้ยยิวกำลังจะเจ๊ง ยุโรปเพิ่งตื่น งัดทีเด็ดสู้ บินรบเหี้ยมีแต่วางยา ซ่อนดักฟัง ติดตาม ทำลายตัวเองไว้เพี๊ยบ ไม่มีใครเชื่อใจอีเหี้ยวอชิงตัน นอกจากขี้ข้า อะไรก็ตาม MADE IN USA มีเครื่องติดตาม ดักฟัง แจมสัญญาน ควบคุมโดยเหี้ย C หมด แล้วมรึงจะสั่งทำพ่อง? อียุโรปหน้าโง่ ตราบใดที่มรึงยังพึ่งพาตัวเองไม่ได้ทั้งหมด เหี้ยยิวก็ยังได้เปรียบอยู่ดี จะพึ่งพาใครไม่พึ่ง ไปพึ่งเหี้ย เพราะเกาะแดร๊ก ปล้นสะดมภ์ชาวโลกมาด้วยกัน มาช้านานสิน่ะ สมควร ได้เวลาชดใช้แล้วมรึง ยุโรปจะพินาศทั้งทวีป ชักศึกเข้าบ้านเต็มตรีน ปูตินจะไม่อดทนรออีกต่อไป หลังตะวันออกกลางกำลังเพลิดเพลินกับการเผาอียิวทั้งเป็น ถึงตายุโรปบ้างแล้วมรึง ถอยไม่ทันก็สิ้นชื่อ สิ้นชาติ กล้ามั้ยล่ะ? หลังอีเนรคุณทันยาปากดี ไปคุยโวกลางที่ประชุม UN จะยึดตอนกลางของตะวันออกกลางทั้งหมด หมายังรู้ แผนราดน้ำมันลงบนกองไฟโหมกระหน่ำ ทำไมต้องเหี้ยให้สุด ก็เพื่อจะดึงพวกมรึงมาฆ่ากูไงล่ะ ไม่งั้น WWIII จะเกิดเหรอ แต่พลิกล็อค รัสเซีย จีน ไม่ยุ่ง ปล่อยอิหร่านกับโลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวอย่างเมามันส์ กลายเป็นสงครามครูเสด สงครามแห่งศรัทธา และสงครามภูมิภาค ยังยกระดับเป็น WWIII มิได้ ใครหมากันล่ะ? ไม่ได้พูดเล่น กองกำลังอียิวตายห่าวันละ 1000 ตัว พลเรือนตายห่าไม่นับ ไม่รู้จำนวน เพราะอยู่ใต้ซากปรักหักพัง งานนี้ ไม่มีแบ่งชนชั้น ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ตรงนั้น คือเป้าหมายถล่มทั้งหมด แบบนี้เค้าเรียก "ล้างป่าช้าไงล่ะ" ฆ่า 1 คน แต่ตายห่าเพิ่ม 1000 ตัว ใครโง่? ตัวโคลนตาย แต่ตัวเป็น ตัวจริง ไม่มีที่จะอยู่ เจ็บจี๊ด! ภาพที่มรึงจะได้เห็น ไม่มีอิสราเอลอีกต่อไป มีแต่ชุมชน "มนุษย์ถ้ำ" อาศัยใต้ดิน หลุมหลบภัยกันเป็นปีปี นี่ไง กรรมตามสนองมรึงแล้ว! ไม่ต้องเห็นเดือน เห็นดาวกันอีกต่อไป ล่าสุด อิหร่านแจกจ่ายอาวุธชุดใหม่ล่าสุด ให้นักฆ่าอาหรับ หมดทุกประเทศแล้วจ๊ะ มีของโสมแดงพ่วงไปด้วย ช่วยทดสอบ และบอกผลลัพธ์ทีน่ะ ไม่มีโชว์รูมที่ไหนจะดีเท่าที่นี่อีกแล้ว "เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ทะเลเพลิง" หมดเวลาคุย ได้เวลาฆ่า! งานเข้า พิสูจน์ชัด ขีปนาวุธโลกอาหรับ ทะลุ ทะลวงตับไตไส้พุงอียิวจนหมดสิ้น ระบบป้องกันภัยใช้งานไม่ได้ ถึงเวลาพลิกแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อียิวทำได้แค่ลอบฆ่า ลอบกัด แต่ไม่สามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานศัตรูได้ แต่โลกอาหรับ ทำลายทุกสรรพสิ่งในเยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา สนามบิน ท่าเรือ เส้นทางลำเลียงถูกตัดออกจนหมด ด้านอีบาห์เรนไม่มีขยับ เรือรบเหี้ยมะกันในฐานกองเรือที่ 5 ยังไม่กระดิก อิหร่านจึงยังไม่ปิดช่องแคบเฮอร์มูซ รอเรือเหี้ยมรึงออกมาก่อน กูถึงจะปิดประตูกระตืบเหี้ยจมมหาสมุทร ปล.ดราม่า! อีส้มซ่าส์ไม่เลิก ชอบเห็นความทุกข์ การสูญเสียเป็นเรื่องน่าขำ ควายไทยบัดซบ 14 ล้านเสียงระอา กูโง่ยิ่งกว่าควายซะอีก ไม่น่าเชื่อลูกหลานอัปรีย์จัญไรให้เลือกมรึงเลย คุณภาพควายไทย ดังไกลถึงนอกโลก! อียิวคิดจะบุกเลบานอน ยกพลขึ้นบน กลายเป็นศพตายเกลื่อน เค้าเตรียมต้อนรับมรึงอยู่แล้ว ดีออก? อียิวอ่อนยวบลงไปเยอะ โดนถล่มหนักเช้าเย็น หลังบ้านรั่วเป็นรูเบ้อเริ่มเทิ่ม ใกล้เวลา 3 ฮอ จะได้พบหน้าเพ่น้อง ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน แล้วสิน่ะ? ยกพลขึ้นบกกันแล้ว กองหนุนตามไปเติมเลบานอนอีกเพี๊ยบ อาวุธมีไม่อั้น ขีปนาวุธนับ 100000 ลูก พร้อมถล่มอียิวตายคาตรีน เรื่องนี้ ปักกิ่ง มอสโคว์ จะไม่ยุ่ง แกล้งหลับตาข้างนึง แต่อีกข้างกระพริบตาให้ใส่อียิวไม่ยั้ง? UN หมดปัญญา ไม่มีใครสั่งใครได้อีก โลกต้องพิพากษากันเอง ได้เวลายุบแล้ว? ขณะที่อียิวจ้องจะบุกเลบานอน อิหร่าน เลบานอน ซีเรีย อิรัก ก็จ้องปิดเกมส์ที่ราบสูงโกลานเช่นกัน มาดูสิว่า ใครจะทำสำเร็จก่อนกัน? สภาพยูเครน เยรูซาเล็ม แทบไม่แตกต่างกันแล้ว สาธารณูปโภค ถูกทำลายยับเยิน โครงสร้างพื้นฐานไปหมดเกลี้ยง นี่ไง สูตรอียิว เมื่อกูจะไป จะต้องไม่เหลือเหี้ยอะไรเอาไว้ ขั้วใหม่บอกเสริม รวมถึงชีวิตมรึงด้วย ไอ้สัส! E-DOK! ละครหลอกควาย อีเหลี่ยมชั่ว ด่าลูกสาวร่าน แจกทำไม 10000 มีแต่คนปัญญาอ่อนทำ! เชิญไปหลอกควายต่อในนรกเหอะ? อียิวส่งตระกูลเหี้ยมรึงมา ปั้นจนขึ้นมามีอำนาจ ก็เอาคืนมรึงได้เช่นกัน รู้เช่นเห็นชาติ รับงานเหี้ย C มาเพื่อบ่อนทำลายชาติ ทุกนโยบายอีแดง อีส้มเน่า ส่งตรงมาจากวอชิงตัน มันมีนโยบายจริงๆ ซักที่ไหนกันล่ะ เป้าหมายคือทำลายแผ่นดินไทย ทำลายแก้ว 3 ประการ ล้มวัง เท่านั้น และตัวพ่อเหลี่ยมเหี้ยก็รู้ดีว่า มันจะจบยังไงเกมส์นี้ รีบชิงด่าลูกสาวตัวเอง เพื่อให้ควายเห็นว่า กูไม่รู้ ไม่เห็น ลูกสาวคิดเอง ทำเอง เป็นตัวของตัวเอง หลอกควายจนควายเปื่อย แต่กฎหมายไม่รอมรึงดอก เค้ายิ้มตั้งแต่ 10000 บาทถึงมือคนแรกไปเรียบร้อยแล้ว ผิดทั้งอาญา แพ่ง กฎระเบียบ แบบแผน เอากี่กรรม กี่วาระดีล่ะ? ขังลืมจนถึงชาติหน้าได้สบาย? แต่มันไม่อยู่ให้ขังดอกน่ะ เผ่นออกนอกชัวร์ พร้อมต้องทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีในไทยไว้ที่นี่ ทรัพย์สินที่นอมินี่ถือก็ไม่รอด เค้ารู้หมดของใคร? แผนยึดทรัพย์นักการเมืองทั่วประเทศกำลังจะเกิดขึ้นจริง ใครที่รอดูความวินาศ ฉิบหาย ของไอ้อีหนักแผ่นดินทั้งหลาย มรึงคงยิ้มออก ได้เห็นเต็ม 2 ตา ก่อนตายชัวร์ กูการันตี! ปลดปล่อยจิตวิญญานมรึงซะ ไอ้ที่เครียดแค้นจัด เป็นอโหสิกรรม แล้วแผ่เมตตาบุญให้พวกมัน มันจะเหมือนถูกไฟนรกคอกซ้ำสอง ดิ้นทุรนทุรายยิ่งกว่าหมาซะอีก บุญกุศลไม่เหมาะกับวิญญานสันดานต่ำช้าชาติชั่ว หนักแผ่นดิน น้ำเย็นจะกลายเป็นน้ำร้อนทันที ลองเปลี่ยนจากสาปแช่งเป็นแผ่กุศลสิ เคล็ดลับ เหี้ยร้องเจี๊ยก ทันที! เหี้ย สัดนรก มันรับสิ่งดีงามไม่ได้ นี่คือกฎเหล็ก! เกมส์โลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว อยู่ที่จะปิดเกมส์เมื่อไหร่เท่านั้นเอง นวดไปเรื่อยๆ ขยี้ไปเรื่อยๆ ขี้ข้าย้ายฝั่ง โลกเดินตามกัน เหี้ยจะเหลือใคร? ส่วนประเทศกูมี ได้อานิสงค์โลกไปเต็มตรีน โลกสะอาด ศรีธนญชัยก็งานเบา วาระสุดท้ายของไอ้อีหนักแผ่นดินกำลังจะมาถึงแล้ว มรึงบ่นกันเป็นปีปี แค่ไม่กี่เดือน กำลังจะได้ชมละครฉากใหญ่ มหรสพ ครั้งประวัติศาสตร์ อย่าพลาดเชียว "เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู" กำกับโดย เสธ.แดง และผู้รักชาติทั้งแผ่นดิน 3 หน่วยมหาเทพองครักษ์แผ่นดินประสานมือ 100 เหี้ยก็เอาไม่อยู่? เตรียมเผ่นให้ทันน่ะ กูเตือนแล้วน่ะ! หมี CNN(สดใหม่ ตายห่าทุกวัน เหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดินโลก เช้ามาแผ่นดินเบาไปเยอะ ยังต้องมีตายห่าอีกเป็นแสน อย่าเร่งรีบ มันคือสคริปต์สวรรค์เค้า ชั่วก็ชั่วให้สุด ดีก็ดีให้จบ ทองแท้ไม่กลัวไฟ แต่เหี้ยแท้ กลัวแสงมว๊ากจ๊ะ ละครปาหี่มีหลอกควายทุกวัน อย่าอินเยอะ ดูภาพใหญ่เข้าไว้ ดูผลลัพธ์เท่านั้น อย่าถูกปั่นหัวง่ายๆ เพราะใครที่ตามหมีมา 10 ปี มรึงต้องตกผลึกเป็นเพชรกันไปหมดได้แล้ว ข้ามคริสตอลไปได้แล้ว ใช้สติ ใช้ปัญญา มากกว่าตาและ หู มรึงดวงตาเห็นธรรม โลกก็จะเห็นทางสว่างนั่นเอง) 02 ตุลาคม 67 11.57 น. https://linevoom.line.me/post/1172784511812954889 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 811 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts