สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting
Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย
คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
สรุปสาระสำคัญ
การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense
ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ
เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH
บทบาทของ ISP
ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง
ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า
ความเสี่ยงจาก BPH
สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์
มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก
ข้อควรระวังในการป้องกัน
การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป
ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง
https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย
คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
สรุปสาระสำคัญ
การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense
ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ
เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH
บทบาทของ ISP
ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง
ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า
ความเสี่ยงจาก BPH
สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์
มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก
ข้อควรระวังในการป้องกัน
การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป
ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง
https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
🛡️ สหรัฐฯ และพันธมิตรนานาชาติร่วมกันจัดการ Bulletproof Hosting
Bulletproof Hosting (BPH) คือผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ ตั้งใจเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่าใช้งาน โดยไม่สนใจคำร้องเรียนหรือคำสั่งจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ในการกระจายมัลแวร์, ควบคุม Command-and-Control (C2), ส่งอีเมล Phishing และแม้กระทั่งโฮสต์เนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างปลอดภัย
คู่มือใหม่ที่ชื่อว่า “Bulletproof Defense: Mitigating Risks From Bulletproof Hosting Providers” ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป-เอเชีย โดยมีการแนะนำวิธีการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH เช่น การวิเคราะห์ทราฟฟิกที่ผิดปกติ, การสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง และการแชร์ข้อมูลข่าวกรองระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)
สิ่งที่น่ากังวลคือ BPH มักจะ แฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้การบล็อกแบบกว้าง ๆ อาจกระทบผู้ใช้งานทั่วไป คู่มือจึงเน้นการใช้ การกรองแบบแม่นยำ (Precision Filtering) เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนะนำให้ ISP ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวดก่อนให้บริการ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โครงสร้างพื้นฐาน BPH คือหัวใจของอาชญากรรมไซเบอร์สมัยใหม่ หากสามารถลดพื้นที่ปลอดภัยของแฮกเกอร์ได้ ก็จะช่วยลดการโจมตีต่อระบบสำคัญ เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ การเปิดตัวคู่มือ Bulletproof Defense
➡️ ร่วมมือระหว่าง CISA, FBI, NSA และพันธมิตรนานาชาติ
➡️ เน้นการตรวจจับและปิดกั้นโครงสร้าง BPH
✅ บทบาทของ ISP
➡️ ต้องสร้างรายการ IP/ASN ที่มีความเสี่ยงสูง
➡️ ใช้นโยบาย “Know Your Customer” เพื่อตรวจสอบลูกค้า
‼️ ความเสี่ยงจาก BPH
⛔ สนับสนุนการโจมตี Ransomware, Phishing และการกระจายมัลแวร์
⛔ มักแฝงตัวอยู่ในระบบคลาวด์ที่ถูกต้อง ทำให้ยากต่อการบล็อก
‼️ ข้อควรระวังในการป้องกัน
⛔ การบล็อกแบบกว้างอาจกระทบผู้ใช้ทั่วไป
⛔ ต้องใช้การกรองแบบแม่นยำและแชร์ข้อมูลข่าวกรองอย่างต่อเนื่อง
https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
15 มุมมอง
0 รีวิว