• บทความกฎหมาย EP.48

    อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร

    บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.48 อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายกัมพูชายอมรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนบริเวณชายแดนทะเล หลังฝ่ายไทยส่งสัญญาณกดดันขั้นเด็ดขาด หากไม่ดำเนินการจะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงบริเวณสะพานเกาะกง ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ
    .
    กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราดได้โดยสมบูรณ์ พร้อมเร่งเสริมฐานที่มั่นรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างเขื่อนดักตะกอนยื่นลงทะเล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ส่งผลให้ทิศทางกระแสน้ำเปลี่ยนและเกิดการกัดเซาะพื้นที่ฝั่งไทย
    .
    ฝ่ายไทยได้เปิดการเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา พร้อมแจ้งเงื่อนไขชัดเจนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวทันที โดยล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
    .
    ทั้งนี้ ฝ่ายไทยจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าการรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนความยาวประมาณ 300 เมตรจะแล้วเสร็จครบถ้วน และสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122822
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #ความมั่นคง #นาวิกโยธิน
    ฝ่ายกัมพูชายอมรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนบริเวณชายแดนทะเล หลังฝ่ายไทยส่งสัญญาณกดดันขั้นเด็ดขาด หากไม่ดำเนินการจะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงบริเวณสะพานเกาะกง ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ . กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราดได้โดยสมบูรณ์ พร้อมเร่งเสริมฐานที่มั่นรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง . เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างเขื่อนดักตะกอนยื่นลงทะเล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ส่งผลให้ทิศทางกระแสน้ำเปลี่ยนและเกิดการกัดเซาะพื้นที่ฝั่งไทย . ฝ่ายไทยได้เปิดการเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา พร้อมแจ้งเงื่อนไขชัดเจนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวทันที โดยล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา . ทั้งนี้ ฝ่ายไทยจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าการรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนความยาวประมาณ 300 เมตรจะแล้วเสร็จครบถ้วน และสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122822 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #ความมั่นคง #นาวิกโยธิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์

    รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW)

    โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ

    แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม.
    เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม.
    ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี

    PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต
    บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร
    มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย

    โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์
    ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam
    เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    🚁 รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม. ➡️ เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม. ➡️ ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี ✅ PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต ➡️ บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร ➡️ มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย ✅ โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์ ➡️ ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam ➡️ เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ดึงอดีต VP จาก AMD มานำทัพ Exynos: สัญญาณรีบูตยุทธศาสตร์ชิปครั้งใหญ่

    Samsung เดินหมากสำคัญในศึกชิปมือถือด้วยการดึง John Rayfield อดีตรองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมของ AMD เข้ามานำทีม Exynos เพื่อยกระดับด้าน GPU, System IP และสถาปัตยกรรม SoC โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนชัดว่า Samsung ต้องการ “รีเซ็ต” ภาพลักษณ์ Exynos หลังจากหลายปีที่ตามหลังคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ทั้งด้านประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์

    Rayfield เคยมีบทบาทสำคัญในงานด้านสถาปัตยกรรมประมวลผลระดับสูง และการเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการเสริมกำลังเชิงกลยุทธ์ให้กับทีม Exynos ที่กำลังพัฒนา Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นแรกของ Samsung ที่มีรายงานว่า yield “น่าพอใจ” และอาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip 8 รุ่นถัดไป

    การดึงผู้บริหารระดับนี้เข้ามาไม่ใช่แค่การเพิ่มคนเก่ง แต่เป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลัง “เปลี่ยนทิศทาง” ของ Exynos ใหม่ทั้งหมด—จากการเป็นชิปที่ถูกมองว่าเป็นตัวรอง กลับมาสู่การเป็นแกนหลักของ ecosystem Samsung อีกครั้ง โดยเฉพาะในยุคที่บริษัทต้องการลดการพึ่งพา Qualcomm และสร้างความแตกต่างเชิงสถาปัตยกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง

    แม้บทความไม่ได้ลงรายละเอียดเชิงเทคนิคมากนัก แต่การประกาศนี้สะท้อนว่า Samsung กำลังเร่งสร้างทีมสถาปัตยกรรมระดับโลกเพื่อแข่งขันในตลาดที่กำลังเปลี่ยนเร็ว ทั้งด้าน AI on‑device, GPU efficiency และการออกแบบ SoC แบบ custom ที่กำลังกลับมาเป็นเทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    Samsung จ้าง John Rayfield อดีต VP ของ AMD มานำทีม Exynos
    เน้นยกระดับ GPU, System IP และสถาปัตยกรรม SoC

    บริบทเชิงกลยุทธ์
    Samsung ต้องการรีบูตภาพลักษณ์ Exynos หลังตามคู่แข่งมาหลายปี
    ลดการพึ่งพา Qualcomm และสร้างความแตกต่างเชิงสถาปัตยกรรม
    สอดคล้องกับการผลักดันชิป 2nm GAA รุ่นใหม่

    ผลกระทบต่อ ecosystem
    Exynos 2600 มีรายงานว่า yield ดีและอาจใช้ใน Galaxy Z Flip 8
    การเสริมทีมระดับนี้อาจทำให้ Exynos กลับมาแข่งขันในตลาด high‑end ได้
    เป็นสัญญาณว่าศึกชิปมือถือกำลังเข้าสู่ยุค “custom architecture war”

    https://wccftech.com/samsung-hires-former-amd-vp-to-lead-exynos-innovation/
    🧠 Samsung ดึงอดีต VP จาก AMD มานำทัพ Exynos: สัญญาณรีบูตยุทธศาสตร์ชิปครั้งใหญ่ Samsung เดินหมากสำคัญในศึกชิปมือถือด้วยการดึง John Rayfield อดีตรองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมของ AMD เข้ามานำทีม Exynos เพื่อยกระดับด้าน GPU, System IP และสถาปัตยกรรม SoC โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนชัดว่า Samsung ต้องการ “รีเซ็ต” ภาพลักษณ์ Exynos หลังจากหลายปีที่ตามหลังคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ทั้งด้านประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์ Rayfield เคยมีบทบาทสำคัญในงานด้านสถาปัตยกรรมประมวลผลระดับสูง และการเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการเสริมกำลังเชิงกลยุทธ์ให้กับทีม Exynos ที่กำลังพัฒนา Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นแรกของ Samsung ที่มีรายงานว่า yield “น่าพอใจ” และอาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip 8 รุ่นถัดไป การดึงผู้บริหารระดับนี้เข้ามาไม่ใช่แค่การเพิ่มคนเก่ง แต่เป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลัง “เปลี่ยนทิศทาง” ของ Exynos ใหม่ทั้งหมด—จากการเป็นชิปที่ถูกมองว่าเป็นตัวรอง กลับมาสู่การเป็นแกนหลักของ ecosystem Samsung อีกครั้ง โดยเฉพาะในยุคที่บริษัทต้องการลดการพึ่งพา Qualcomm และสร้างความแตกต่างเชิงสถาปัตยกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แม้บทความไม่ได้ลงรายละเอียดเชิงเทคนิคมากนัก แต่การประกาศนี้สะท้อนว่า Samsung กำลังเร่งสร้างทีมสถาปัตยกรรมระดับโลกเพื่อแข่งขันในตลาดที่กำลังเปลี่ยนเร็ว ทั้งด้าน AI on‑device, GPU efficiency และการออกแบบ SoC แบบ custom ที่กำลังกลับมาเป็นเทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ Samsung จ้าง John Rayfield อดีต VP ของ AMD มานำทีม Exynos ➡️ เน้นยกระดับ GPU, System IP และสถาปัตยกรรม SoC ✅ บริบทเชิงกลยุทธ์ ➡️ Samsung ต้องการรีบูตภาพลักษณ์ Exynos หลังตามคู่แข่งมาหลายปี ➡️ ลดการพึ่งพา Qualcomm และสร้างความแตกต่างเชิงสถาปัตยกรรม ➡️ สอดคล้องกับการผลักดันชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ✅ ผลกระทบต่อ ecosystem ➡️ Exynos 2600 มีรายงานว่า yield ดีและอาจใช้ใน Galaxy Z Flip 8 ➡️ การเสริมทีมระดับนี้อาจทำให้ Exynos กลับมาแข่งขันในตลาด high‑end ได้ ➡️ เป็นสัญญาณว่าศึกชิปมือถือกำลังเข้าสู่ยุค “custom architecture war” https://wccftech.com/samsung-hires-former-amd-vp-to-lead-exynos-innovation/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Hires Former AMD Vice President John Rayfield To Lead Its Exynos Division And Strengthen Innovation In GPUs, System IP, SoC Architecture And More
    After the Exynos 2600, Samsung intends to change its chipset division entirely with the recent hiring of ex-AMD VP John Rayfield
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 5
    กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ)
    จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ)
    จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน
    จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ
    หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย
    รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด
    รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ)
    สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม
    เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่
    อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี
    ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ
    แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ
    แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ
    เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 5 กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ) จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ) จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ) สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่ อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 350” บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ช่วงชิงอำนาจการควบคุม
    .
    โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงระดมยิงอาวุธหนัก รวมถึงจรวด BM-21 ใส่พื้นที่พลเรือนและพื้นที่เกษตร ส่งผลให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการป้องกันตัว
    .
    รายงานยืนยันว่า ทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะแล้ว 20 นาย และเสียชีวิตจากภารกิจอีก 1 นาย รวม 21 นาย ขณะที่ในพื้นที่เนิน 350 ยังมีทหารอีก 2 นายที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ เนื่องจากสถานการณ์การรบยังรุนแรง
    .
    กองทัพบกระบุว่า ฝ่ายไทยยังคงควบคุมพื้นที่ได้หลายจุด และจะดำเนินการตอบโต้เพื่อยับยั้งการรุกล้ำอธิปไตย พร้อมยืนยันภารกิจปกป้องประชาชนและความมั่นคงของประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121759
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #กองทัพไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงมีการสู้รบอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 350” บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ช่วงชิงอำนาจการควบคุม . โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงระดมยิงอาวุธหนัก รวมถึงจรวด BM-21 ใส่พื้นที่พลเรือนและพื้นที่เกษตร ส่งผลให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการป้องกันตัว . รายงานยืนยันว่า ทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะแล้ว 20 นาย และเสียชีวิตจากภารกิจอีก 1 นาย รวม 21 นาย ขณะที่ในพื้นที่เนิน 350 ยังมีทหารอีก 2 นายที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ เนื่องจากสถานการณ์การรบยังรุนแรง . กองทัพบกระบุว่า ฝ่ายไทยยังคงควบคุมพื้นที่ได้หลายจุด และจะดำเนินการตอบโต้เพื่อยับยั้งการรุกล้ำอธิปไตย พร้อมยืนยันภารกิจปกป้องประชาชนและความมั่นคงของประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121759 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #กองทัพไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด กลาโหมเผยกัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 กว่า 100 นัดใส่พื้นที่พลเรือน จ.สระแก้ว ไฟไหม้พื้นที่เกษตรกว่าพันไร่ ทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะ 20 นาย และจากภารกิจอีก 1 นาย รวม 21 นาย ส่วน อีก 2 นาย ยังนำร่างออกมาไม่ได้ ขณะกองทัพบกยืนยันควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายจุดได้เปรียบ พร้อมตอบโต้เด็ดขาด สกัดการรุกล้ำอธิปไตยและปกป้องความปลอดภัยประชาชนไทยอย่างถึงที่สุด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000121761

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด กลาโหมเผยกัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 กว่า 100 นัดใส่พื้นที่พลเรือน จ.สระแก้ว ไฟไหม้พื้นที่เกษตรกว่าพันไร่ ทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะ 20 นาย และจากภารกิจอีก 1 นาย รวม 21 นาย ส่วน อีก 2 นาย ยังนำร่างออกมาไม่ได้ ขณะกองทัพบกยืนยันควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายจุดได้เปรียบ พร้อมตอบโต้เด็ดขาด สกัดการรุกล้ำอธิปไตยและปกป้องความปลอดภัยประชาชนไทยอย่างถึงที่สุด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000121761 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนปรับท่าทีด้านเทคโนโลยีเอไอ หลังสหรัฐฯภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางให้สามารถซื้อชิป Nvidia H200 ได้ โดยปักกิ่งตั้งเป้าใช้ชิประดับไฮเอนด์ดังกล่าวเพื่อเร่งงานวิจัยและพัฒนาเอไอในระยะเร่งด่วน
    .
    รายงานระบุว่า จีนเลือกใช้ยุทธศาสตร์ “สองเส้นทาง” คือ ใช้ H200 สำหรับการเทรนนิ่งโมเดลเอไอที่ต้องการพลังประมวลผลสูง ขณะเดียวกันยังคงผลักดันการพัฒนาชิปภายในประเทศสำหรับการใช้งานระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ
    .
    นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ H200 จะช่วยคลี่คลายปัญหาคอขวดด้านพลังคำนวณในระยะสั้น แต่จีนยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเทคโนโลยี และการพึ่งพาตนเองเป็นหลักในอนาคต
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121221
    .
    #News1live #News1 #จีน #เอไอ #Nvidia #H200 #ชิปเอไอ #เทคโนโลยีโลก #สงครามชิป
    จีนปรับท่าทีด้านเทคโนโลยีเอไอ หลังสหรัฐฯภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางให้สามารถซื้อชิป Nvidia H200 ได้ โดยปักกิ่งตั้งเป้าใช้ชิประดับไฮเอนด์ดังกล่าวเพื่อเร่งงานวิจัยและพัฒนาเอไอในระยะเร่งด่วน . รายงานระบุว่า จีนเลือกใช้ยุทธศาสตร์ “สองเส้นทาง” คือ ใช้ H200 สำหรับการเทรนนิ่งโมเดลเอไอที่ต้องการพลังประมวลผลสูง ขณะเดียวกันยังคงผลักดันการพัฒนาชิปภายในประเทศสำหรับการใช้งานระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ . นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ H200 จะช่วยคลี่คลายปัญหาคอขวดด้านพลังคำนวณในระยะสั้น แต่จีนยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเทคโนโลยี และการพึ่งพาตนเองเป็นหลักในอนาคต . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121221 . #News1live #News1 #จีน #เอไอ #Nvidia #H200 #ชิปเอไอ #เทคโนโลยีโลก #สงครามชิป
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Trump ดันดีล Korea Zinc – โรงงานแร่หายากใน Tennessee ลดการพึ่งพาจีน”

    การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสหรัฐฯ ในการสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โรงงานใหม่ใน Tennessee จะมีความสามารถในการผลิตแร่หายากกว่า 540,000 ตันต่อปี ครอบคลุม gallium, germanium, indium และทรัพยากรอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป, ดาวเทียม, เครื่องยนต์เจ็ต และระบบอาวุธสมัยใหม่

    สหรัฐฯ ปัจจุบันพึ่งพาจีนอย่างหนักในด้านการนำเข้าและการแปรรูปแร่หายาก โดยจีนครองตลาดโลกกว่า 90% การสร้างโรงงานนี้จึงถูกมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกจีนควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เมื่อจีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกเพื่อตอบโต้สงครามการค้า

    นอกจากโรงงานของ Korea Zinc แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้เงินทุนจาก CHIPS Act กว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานด้านแร่หายากและลิเธียม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแบตเตอรี่และเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในอนาคต การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นว่าแร่หายากกำลังถูกยกระดับเป็น “ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์” ไม่ต่างจากน้ำมันในศตวรรษที่ 20

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Trump ประกาศดีลกับ Korea Zinc
    สร้างโรงงานแปรรูปแร่หายากใน Tennessee

    กำลังการผลิตมหาศาล
    ผลิต gallium, germanium, indium และอื่น ๆ รวมกว่า 540,000 ตันต่อปี

    ลดการพึ่งพาจีน
    จีนครองตลาดแร่หายากกว่า 90% และเคยใช้มาตรการควบคุมการส่งออก

    เชื่อมโยงกับ CHIPS Act
    รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาใช้เงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์เสริมความมั่นคงด้านแร่หายาก

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การลงทุนต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะลดการพึ่งพาจีนได้จริง
    ความต้องการแร่หายากยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องจาก AI, พลังงานสะอาด และการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-secures-deal-with-korea-zinc-to-build-rare-earths-processing-facility-in-tennessee-facility-expected-to-have-annual-output-of-540-000-tons-of-gallium-germanium-indium-and-other-resources
    📰 “Trump ดันดีล Korea Zinc – โรงงานแร่หายากใน Tennessee ลดการพึ่งพาจีน” การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสหรัฐฯ ในการสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โรงงานใหม่ใน Tennessee จะมีความสามารถในการผลิตแร่หายากกว่า 540,000 ตันต่อปี ครอบคลุม gallium, germanium, indium และทรัพยากรอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป, ดาวเทียม, เครื่องยนต์เจ็ต และระบบอาวุธสมัยใหม่ สหรัฐฯ ปัจจุบันพึ่งพาจีนอย่างหนักในด้านการนำเข้าและการแปรรูปแร่หายาก โดยจีนครองตลาดโลกกว่า 90% การสร้างโรงงานนี้จึงถูกมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกจีนควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เมื่อจีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกเพื่อตอบโต้สงครามการค้า นอกจากโรงงานของ Korea Zinc แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้เงินทุนจาก CHIPS Act กว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานด้านแร่หายากและลิเธียม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแบตเตอรี่และเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในอนาคต การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นว่าแร่หายากกำลังถูกยกระดับเป็น “ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์” ไม่ต่างจากน้ำมันในศตวรรษที่ 20 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Trump ประกาศดีลกับ Korea Zinc ➡️ สร้างโรงงานแปรรูปแร่หายากใน Tennessee ✅ กำลังการผลิตมหาศาล ➡️ ผลิต gallium, germanium, indium และอื่น ๆ รวมกว่า 540,000 ตันต่อปี ✅ ลดการพึ่งพาจีน ➡️ จีนครองตลาดแร่หายากกว่า 90% และเคยใช้มาตรการควบคุมการส่งออก ✅ เชื่อมโยงกับ CHIPS Act ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาใช้เงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์เสริมความมั่นคงด้านแร่หายาก ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การลงทุนต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะลดการพึ่งพาจีนได้จริง ⛔ ความต้องการแร่หายากยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องจาก AI, พลังงานสะอาด และการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-secures-deal-with-korea-zinc-to-build-rare-earths-processing-facility-in-tennessee-facility-expected-to-have-annual-output-of-540-000-tons-of-gallium-germanium-indium-and-other-resources
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ปะทะบริเวณ ปราสาทตาควาย–เนิน 350–เนิน 225 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 22.06 น. หลังฝ่ายกัมพูชาพยายามรุกกลับเข้าพื้นที่ภายหลังฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่ได้
    .
    หน่วยทหารฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการตามแผน ใช้กำลังที่เหมาะสมในการ ยับยั้ง ควบคุมสถานการณ์ และยิงสนับสนุน เพื่อรักษาพื้นที่ ควบคุมเส้นทางยุทธศาสตร์ และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายตรงข้าม โดยสถานการณ์ยังอยู่ระหว่างการปฏิบัติการและการประเมินผลในพื้นที่
    .
    กองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่
    จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และ พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความกล้าหาญ
    .
    กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะดูแลสิทธิและสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลจากแหล่งทางการ เนื่องจากภารกิจในพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ
    .
    ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียสละ และขอสดุดีในความกล้าหาญของทหารไทยทุกนาย
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121202
    .
    #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ปราสาทตาควาย #ชายแดนไทยกัมพูชา #สดุดีทหารกล้า
    กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ปะทะบริเวณ ปราสาทตาควาย–เนิน 350–เนิน 225 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 22.06 น. หลังฝ่ายกัมพูชาพยายามรุกกลับเข้าพื้นที่ภายหลังฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่ได้ . หน่วยทหารฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการตามแผน ใช้กำลังที่เหมาะสมในการ ยับยั้ง ควบคุมสถานการณ์ และยิงสนับสนุน เพื่อรักษาพื้นที่ ควบคุมเส้นทางยุทธศาสตร์ และป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายตรงข้าม โดยสถานการณ์ยังอยู่ระหว่างการปฏิบัติการและการประเมินผลในพื้นที่ . กองทัพภาคที่ 2 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการสูญเสียกำลังพลจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และ พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความกล้าหาญ . กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะดูแลสิทธิและสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลจากแหล่งทางการ เนื่องจากภารกิจในพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ . ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียสละ และขอสดุดีในความกล้าหาญของทหารไทยทุกนาย . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121202 . #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ปราสาทตาควาย #ชายแดนไทยกัมพูชา #สดุดีทหารกล้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง
    .
    เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ
    .
    นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด
    .
    การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง . เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ . นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด . การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพปฏิบัติการกองทัพบกไทย เข้าตีและยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 677” และ “เนิน 500” บริเวณช่องอานม้า ได้สำเร็จ ก่อนส่งโดรนติดธงชาติไทยบินเหนือพื้นที่ เพื่อประกาศอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเป็นทางการ
    .
    เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการปฏิบัติการของกองพันทหารราบที่ 172 (พัน.ร.172) ซึ่งเปิดฉากเข้ายึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั้งสองเนิน หลังการควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทหารไทยได้อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเนิน 677 และเนิน 500 ท่ามกลางสมรภูมิที่ยังตึงเครียด
    .
    นอกจากนี้ ยังมีการส่งอากาศยานไร้คนขับติดธงชาติไทยขึ้นบินเหนือพื้นที่ช่องอานม้า เพื่อยืนยันเขตอธิปไตยของประเทศไทย และเทิดเกียรติวีรบุรุษทหารไทยที่สละชีพปกป้องผืนแผ่นดินในสมรภูมินี้
    .
    ปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงการยืนหยัดของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยังคงเปราะบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120760
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน677 #เนิน500 #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    เปิดภาพปฏิบัติการกองทัพบกไทย เข้าตีและยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 677” และ “เนิน 500” บริเวณช่องอานม้า ได้สำเร็จ ก่อนส่งโดรนติดธงชาติไทยบินเหนือพื้นที่ เพื่อประกาศอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเป็นทางการ . เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการปฏิบัติการของกองพันทหารราบที่ 172 (พัน.ร.172) ซึ่งเปิดฉากเข้ายึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั้งสองเนิน หลังการควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทหารไทยได้อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเนิน 677 และเนิน 500 ท่ามกลางสมรภูมิที่ยังตึงเครียด . นอกจากนี้ ยังมีการส่งอากาศยานไร้คนขับติดธงชาติไทยขึ้นบินเหนือพื้นที่ช่องอานม้า เพื่อยืนยันเขตอธิปไตยของประเทศไทย และเทิดเกียรติวีรบุรุษทหารไทยที่สละชีพปกป้องผืนแผ่นดินในสมรภูมินี้ . ปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงการยืนหยัดของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยังคงเปราะบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120760 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน677 #เนิน500 #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1

    “ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 1
    เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย
    ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย
    ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก
    ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน
    เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ
    จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย
    บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์
    หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว
    อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ
    อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป
    โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง
    อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี
    องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก
    คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 1 เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์ หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ##
    ..
    ..
    สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ
    .
    1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก
    .
    1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone)
    โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ
    .
    1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม
    ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก

    1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์
    ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง)
    ....
    ....
    และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร
    .
    ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย
    ....
    ....
    สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย
    .
    แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...???
    .
    รัสเซีย...???
    .
    ไม่ใช่ครับ...!!!
    .
    ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ
    .....
    .....
    2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย
    .
    3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย
    .
    3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน
    .
    มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน
    .
    เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม
    .
    3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย
    .
    จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN
    .
    เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง
    .
    และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน
    .
    การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน
    ....
    ....
    ดังนั้น...
    .
    ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก
    .
    และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน)
    .
    และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น)
    .....
    .....
    ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ
    .....
    .....
    https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ## .. .. สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ . 1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก . 1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone) โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ . 1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก 1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง) .... .... และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร . ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย .... .... สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย . แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...??? . รัสเซีย...??? . ไม่ใช่ครับ...!!! . ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ ..... ..... 2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย . 3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย . 3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน . มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน . เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม . 3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย . จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN . เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง . และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน . การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน .... .... ดังนั้น... . ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก . และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน) . และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น) ..... ..... ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ ..... ..... https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด ใช้เนิน 745, 677 พื้นที่สูง และใช้ระบบไฟเบอร์ออปติก ป้องกันเจมเมอร์ไทย ซากโดรนชี้ร่องรอยต่างชาติคุมโจมตีไทย พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.45

    ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม

    ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค

    โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    บทความกฎหมาย EP.45 ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 12

    “ลองเชิง”
    ตอน 12 (จบ)
    ผมเขียนเล่าเรื่อง ที่มาของฉากซีเรียในมิติใหญ่ ที่เกี่ยวกับเป้าหมายของอเมริกา ที่จะครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยการครอบครองยูเรเซีย ที่มีรัสเซียและจีน ยืนตัวใหญ่อยู่ในยูเรเซีย และอเมริกาจะครอบครองยูเรเซียได้ อเมริกาจะต้องครอบครอง (พลังงานใน) ตะวันออกกลางเสียก่อน เพื่อไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงพลังงานในตะวันออกกลาง มันเป็นแผน ที่อเมริกาวางไว้ ก่อนเข้าทำสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก
    อเมริกา อมตะวันออกกลางไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว โดยการเข้าไปครอบงำ และชักใยค่าย ซาอุดิอารเบียเสี่ยปั้มใหญ่ กับพวกเสี่ยปั๊มเล็ก สิงห์สำอางค์ทั้งหลาย แต่นั่น ยังไม่ทำให้อเมริกาได้ตะวันออกกลางทั้งหมด เพราะยังมีก้างขวางคออันใหญ่และแหลมคมคือ ค่ายของอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์และพวก และหมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ค่ายนี้กระเทือนคือ การอยู่ หรือการไปของซีเรีย หรือชัดๆ ก็คือ อัสซาด ผู้นำซีเรีย จะอยู่รอดหรือไม่
    และขณะเดียวกัน ซีเรีย ก็เป็นหมากตัวสำคัญ ของสงครามท่อส่งแก๊ส ซึ่ง เป็นการชิงเส้นทางท่อส่งแก๊สไปยุโรป ระหว่าง 2 ค่ายใหญ่ในตะวันออกกลาง และเรื่องท่อส่งแก๊สนี้ จึงเกี่ยวพันกับรัสเซีย ยุโรป และเอเซีย
    ซีเรีย จึงเป็นจุดชี้เป็น ชี้ตายในหลายมิติ และผลสรุปของการลองเชิง ที่ซีเรียน่าจะบอกอะไรเราได้หลายอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ในโลก
    ในสมัยก่อน การค้าขายหลายประเทศใช้เรือปืนนำหน้า ไปจอดตามอ่าวหน้าบ้านเขา เพื่อบังคับให้เจ้าของบ้านเปิดประตูมาค้าขายกัน และร้อยทั้งร้อย คนเปิดประตูก็เสียเปรียบ เพราะ (ยัง) ไม่มี ปืนใหญ่ไปต่อรองกับเขา ไอ้พวกใช้เรือปืนมาทำการค้านี่ ก็เลยติดสันดานเดิม เริ่มด้วยการข่มขู่ตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังใช้สันดานนี้อยู่ เว้นแต่ประเทศไหนจะมีอำนาจ หรือมีสิ่งต่อรอง
    สหภาพโซเวียต ซึ่งอเมริกามองว่า เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกอเมริกาล๊อกเป้าทำลายไว้แล้ว และอเมริกาก็ทำสำเร็จด้วยการใช้ ทฤษฏีสงครามเย็น ปิดล้อมโซเวียต จะกระดิกแทบไม่ออก ค้าขายไม่ได้ บวกกับการเสี้ยมให้รัฐเล็ก รัฐน้อย ทะยอยกันต้านแม่ใหญ่ ร่วมกับการสร้างหนอนในประเทศ ในที่สุด สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายในปี ค.ศ.1991
    สหภาพโซเสียตล่มสลาย แต่ไม่ตายสนิท รัสเซียฟื้นขึ้นมาได้ และฟื้นเร็วเกินกว่าที่อเมริกาคาด เพราะรัสเซียเรียนรู้จากการถูกปิดล้อมว่า เพื่อความอยู่รอดของรัสเซียใหม่ รัสเซียจะต้องเดินยุทธศาสตร์ประเทศ ที่จะไม่ให้ถูกปิดล้อมง่ายๆ และต้องมีอำนาจต่อรอง
    ด้วยยุทธศาสตร์ท่อส่งของรัสเซีย ที่กระจายไปทั่วยุโรป เอเซีย และกำลังจะมาถึงตะวันออกกลางนี้ ทำให้โอกาสที่อเมริกาจะปิดล้อมรัสเซียทำยากขึ้น เพราะการเดินท่อส่งแก๊สไปยังจุดต่างๆ เพื่อส่งต่อไปเลี้ยงยุโรป แต่ละจุดนั้น เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรอง รัสเซียส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านยุโรป โดยไม่ต้องเสียเวลาขนส่ง ไม่ต้องเสียเวลาสร้างเรือบรรทุก เอาเวลาไปสร้างเรือรบและอาวุธไว้ป้องกันประเทศดีกว่า และที่สำคัญ ท่อส่งผ่านที่ไหน ก็ลงทุนด้วยกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน ใครจะอยากทุบหม้อข้าวตัวเอง
    ด้วยยุทธศาสตร์นี้ ถึงคนยุโรปจะยังไม่สะดวกใจ ที่จะแหกคอกอเมริกามาคบกับรัสเซีย ขณะเดียวกัน ก็ไม่สะดวกใจ ที่จะรังเกียจแก๊สรัสเซียเหมือนกัน
    และตอนนี้ จีน เพื่อนกันไม่ทิ้งกันของรัสเซีย ก็ใช้ยุทธศาสตร์ท่อส่ง จากอาฟริกา ยาวมาถึงเอเซีย เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน
    ยุทธศาสตร์นี้ทำให้ยุโรปต้องคิดหนัก ถ้าจะเดินตามการชักใยของอเมริกาไปตลอด ถ้ารัสเซียเกิดปิดท่อแก็สที่จะมายุโรป อย่างน้อย ยุโรปจะขาดแก๊สไปถึง 60% ส่วนอเมริกาก็จะยอมให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองอย่างนี้ไม่ได้ ยูเครน ซึ่งอยู่ปลายท่อส่งแก๊สรัสเซียมาออกยุโรป จึงเกิดความไม่สงบอย่างไม่มีวันเลิก และตัวเลือกของอเมริกาจึงถูกส่งเข้ามาเป็นผู้นำยูเครน
    แต่การแก้เกมแบบนี้ของอเมริกา กระเทือนทั้ง 2 ทาง ถ้ายูเครนปิดทางไม่ให้แก๊สออก รัสเซียก็เหนื่อย ขาดรายได้สำคัญ แต่ยุโรปก็อาจแข็งตายไปด้วย ถ้าไม่มีแก๊สจากรัสเซีย ส่วนอเมริกาลอยตัวไม่กระทบกระเทือนอะไรด้วย ยุโรปถูกหลอกใช้ ไม่รู้ตัวเสียที
    รัสเซียจึงสร้างท่อส่งแก๊สอีกเส้น ลอดทะเลไปให้เยอรมัน และท่อส่งนี่ก็เสร็จแล้ว ถ้าแก็สส่งออกไปทางยูเครนไม่ได้ ก็มาออกเยอรมันได้ แล้วน่าคิดไหมครับ ทำไมตอนนี้ ผู้ลี้ภัยถึงมาทะลักกันเต็มอยู่ในเยอรมัน มันเป็นเรื่องการบีบคอเยอรมันหรือไม่ ป้าเข็มขัดเหล็ก คงกำลังเครียดหนัก จนตดแตกอีกแล้ว
    อเมริกา พยายามแก้อำนาจต่อรองของรัสเซียเรื่องท่อส่งแก๊สในยุโรป ด้วยการพยายามเดินท่อส่งสายใหม่ ซึ่งอเมริกาพยายามแก้เกมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เมื่อเห็นรัสเซีย และจีนเริ่มโต แต่ทั้ง 2 ประเทศ ก็เดินหมากของตัวเองอย่างระวัง
    ท่านผู้อ่านจะเข้าใจเรื่องราว มองเห็นภาพต่อเนื่อง ถ้าได้อ่านนิทานเรื่อง “หักหน้าหักหลัง” https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf ซึ่งแสดงถึงวืธีการเดินแผน ฝั่งรัสเซีย กับการเดินแผนของฝั่งอเมริกาต่อจีน ในนิทานเรื่อง ” แผนชั่ว ” https://www.dropbox.com/s/mzu294f5rhhrkyr/20150914.pdf
    ดังนั้น การสู้รบในซีเรีย จึงมีความหมายเกี่ยวกับการรักษาตำแหน่งพี่เบิ้มของอเมริกา และเป็นความอยู่รอดของฝั่งรัสเซีย จีน ด้วย
    การที่รัสเซีย เข้าไปเล่นในซีเรียใน “ตอนนี้ ” ภายใต้เรื่องราว และสถานการณ์ในซีเรีย ที่ดำเนินอยู่อย่างที่เล่ามาแล้วนั้น รวมทั้งการเลือกเวลาเล่น ให้สอดคล้องกับช่วงการประชุมของสหประชาชาติ รวมทั้งคำแถลง ของรัสเซียจีนและอิหร่านในช่วง นั้น มองอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมกัน มันแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะแปลว่า รัสเซีย จีน อิหร่าน ซีเรีย ได้แสดงตัวต่ออเมริกาแล้วว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้อง ฟัง หรือ จัดการกับปัญหาที่กระทบกับพวกเขา หรือที่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหา ตามวิธีการของอเมริกาและพวก อีกต่อไปแล้ว
    สรุปสั้นๆ เป็นภาษาแถวบ้านผม ก็คงจะทำนอง “กูไม่ชอบวิธีการของมึง และกูไม่จำเป็นต้องฟังมึงอีกต่อไป เพราะกูไม่กลัวมึง (แล้ว)”
    คำพูดแบบนี้ เป็นลุงนิทานพูด มันก็คงปิดเพจผม รวนเพจผม อย่างที่มันทำกับผมมาตลอด แต่ถ้าคำพูดแบบนี้ ตามความเข้าใจผม เป็นของประเทศใหญ่อย่างรัสเซีย จีน อิหร่าน และวันนี้ เกาหลีเหนือของน้องคิม ก็พูดทำนองนี้ เรื่องซีเรียนี้ จึงเป็นเรื่องใหญ่มาก ถึงได้ดิ้นกันเหมือนโดนน้ำร้อนลวกหลังกันเป็นแถวๆ
    และถ้าดูจากปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่เข้าไปในซีเรียเมื่อกลางเดือนสิงหาคมนี้ รวมทั้งข่าวเรื่องการขนทั้งอาวุธหนัก อาวุธเบา และกำลังพลมากมาย ที่ไม่ใช่มาจากข่าวของกระป๋องสีฝั่งตะวันตกแล้ว จะเห็นว่า คุณพี่ปูติน แสดงออกอย่างที่ผมสรุปนั่นแหละ เพราะแกจัดหนัก จัดเต็มจริงๆ
    และเมื่อรัสเซียกับพวก แสดงออกแบบนี้ อเมริกาและพวก จะแสดงอะไรล่ะ
    แรกๆ ก็คงทำอย่างที่กำลังทำอยู่นี่ คือดาหน้ากันออกมา ด่ารัสเซีย เหน็บแนมการปฎิบัติการของรัสเซีย ทำไมมึงไม่ไปถล่มไอซิส ทำไมมึงไปถล่มแต่พวกกบฏ โธ่เว้ย ถล่มกลุ่มไหน มันก็กลุ่มที่พวกมึงสร้างมาทั้งนั้น เพียงแต่ข้อตกลงภายในมันต่างกัน สุดท้ายคุณพี่ปูตินเขาคงถล่มหมดละน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก
    หลังจากตั้งหลักได้ อเมริกากับพวก มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง ทางหนึ่งคือ เจรจากันให้รู้เรื่องกับฝ่ายรัสเซียและพวก นั่นเป็นทางเลือกที่น่าจะเหมาะสม และโลกจะสะเทือนน้อยที่สุด แต่อเมริกาจะรู้สึกเสียหน้า แต่จะเจรจาอย่างไร ผมคาดว่า รัสเซียคงยังเดินหน้าเรื่องของซีเรียอยู่ดี
    ถ้าอเมริกาเลือกวิธีนี้ ไม่ได้หมายความว่า อเมริกา “ยอมรับ” ว่าฝ่ายรัสเซียเท่าเทียมตัวแล้ว แต่มันเป็นการ “ซื้อเวลา” ของอเมริกามากกว่า และปฏิบัติการหลากหลายเพื่อตอบโต้ฝ่ายรัสเซีย จะตามมาเป็นชุดและชุดใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ
    ทางเลือกที่ 2 สำหรับอเมริกาคือ ไม่มีเจรจา ไม่ซื้อเวลา และปฏิบัติการตอบโต้จะตามมารวดเร็ว
    ความต่างของ 2 ทางเลือกคือ ซื้อเวลา แปลว่า อเมริกายังไม่พร้อม และแปลว่าฝ่ายรัสเซีย เลือกจังหวะเดินหมากถูก ไม่ให้เวลาอเมริกาตั้งตัว แต่ถ้าอเมริกาไม่ซื้อเวลา แปลว่า อเมริกาพร้อมอยู่แล้ว และทางรัสเซียก็คงต้องรู้อยู่แล้ว จึงเดินหมากบังคับไปก่อน
    อเมริกาจะเลือกทางไหนก็ตาม โลกเราจะไม่มีวันถอยกลับไปที่เดิมอีกแล้ว
    ขั้วอำนาจโลก ไม่ได้มีเพียงขั้วเดียว ที่มีอเมริกาเป็นผู้นำเท่านั้นอีกแล้ว แต่มีอีกขั้วอำนาจใหม่
    ที่มีรัสเซียจีนอิหร่าน จับมือกันเกิดขึ้นแล้ว และการเผชิญหน้ากัน ของ 2 ขั้ว ก็จะรุนแรงขึ้น
    ขั้วไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องอะไรบ้าง มีโอกาสจะมาประเมินให้ฟังครับ
    วันนี้ ขอจบนิทานเรื่องลองเชิง ใครลองเชิง ใครเสียเชิง คงพอมองเห็นกัน
    คนเล่านิทาน
    11 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 12 “ลองเชิง” ตอน 12 (จบ) ผมเขียนเล่าเรื่อง ที่มาของฉากซีเรียในมิติใหญ่ ที่เกี่ยวกับเป้าหมายของอเมริกา ที่จะครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยการครอบครองยูเรเซีย ที่มีรัสเซียและจีน ยืนตัวใหญ่อยู่ในยูเรเซีย และอเมริกาจะครอบครองยูเรเซียได้ อเมริกาจะต้องครอบครอง (พลังงานใน) ตะวันออกกลางเสียก่อน เพื่อไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงพลังงานในตะวันออกกลาง มันเป็นแผน ที่อเมริกาวางไว้ ก่อนเข้าทำสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียอีก อเมริกา อมตะวันออกกลางไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว โดยการเข้าไปครอบงำ และชักใยค่าย ซาอุดิอารเบียเสี่ยปั้มใหญ่ กับพวกเสี่ยปั๊มเล็ก สิงห์สำอางค์ทั้งหลาย แต่นั่น ยังไม่ทำให้อเมริกาได้ตะวันออกกลางทั้งหมด เพราะยังมีก้างขวางคออันใหญ่และแหลมคมคือ ค่ายของอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์และพวก และหมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ค่ายนี้กระเทือนคือ การอยู่ หรือการไปของซีเรีย หรือชัดๆ ก็คือ อัสซาด ผู้นำซีเรีย จะอยู่รอดหรือไม่ และขณะเดียวกัน ซีเรีย ก็เป็นหมากตัวสำคัญ ของสงครามท่อส่งแก๊ส ซึ่ง เป็นการชิงเส้นทางท่อส่งแก๊สไปยุโรป ระหว่าง 2 ค่ายใหญ่ในตะวันออกกลาง และเรื่องท่อส่งแก๊สนี้ จึงเกี่ยวพันกับรัสเซีย ยุโรป และเอเซีย ซีเรีย จึงเป็นจุดชี้เป็น ชี้ตายในหลายมิติ และผลสรุปของการลองเชิง ที่ซีเรียน่าจะบอกอะไรเราได้หลายอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ในโลก ในสมัยก่อน การค้าขายหลายประเทศใช้เรือปืนนำหน้า ไปจอดตามอ่าวหน้าบ้านเขา เพื่อบังคับให้เจ้าของบ้านเปิดประตูมาค้าขายกัน และร้อยทั้งร้อย คนเปิดประตูก็เสียเปรียบ เพราะ (ยัง) ไม่มี ปืนใหญ่ไปต่อรองกับเขา ไอ้พวกใช้เรือปืนมาทำการค้านี่ ก็เลยติดสันดานเดิม เริ่มด้วยการข่มขู่ตอนนั้น ตอนนี้ก็ยังใช้สันดานนี้อยู่ เว้นแต่ประเทศไหนจะมีอำนาจ หรือมีสิ่งต่อรอง สหภาพโซเวียต ซึ่งอเมริกามองว่า เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกอเมริกาล๊อกเป้าทำลายไว้แล้ว และอเมริกาก็ทำสำเร็จด้วยการใช้ ทฤษฏีสงครามเย็น ปิดล้อมโซเวียต จะกระดิกแทบไม่ออก ค้าขายไม่ได้ บวกกับการเสี้ยมให้รัฐเล็ก รัฐน้อย ทะยอยกันต้านแม่ใหญ่ ร่วมกับการสร้างหนอนในประเทศ ในที่สุด สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายในปี ค.ศ.1991 สหภาพโซเสียตล่มสลาย แต่ไม่ตายสนิท รัสเซียฟื้นขึ้นมาได้ และฟื้นเร็วเกินกว่าที่อเมริกาคาด เพราะรัสเซียเรียนรู้จากการถูกปิดล้อมว่า เพื่อความอยู่รอดของรัสเซียใหม่ รัสเซียจะต้องเดินยุทธศาสตร์ประเทศ ที่จะไม่ให้ถูกปิดล้อมง่ายๆ และต้องมีอำนาจต่อรอง ด้วยยุทธศาสตร์ท่อส่งของรัสเซีย ที่กระจายไปทั่วยุโรป เอเซีย และกำลังจะมาถึงตะวันออกกลางนี้ ทำให้โอกาสที่อเมริกาจะปิดล้อมรัสเซียทำยากขึ้น เพราะการเดินท่อส่งแก๊สไปยังจุดต่างๆ เพื่อส่งต่อไปเลี้ยงยุโรป แต่ละจุดนั้น เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ทำให้รัสเซียมีอำนาจต่อรอง รัสเซียส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านยุโรป โดยไม่ต้องเสียเวลาขนส่ง ไม่ต้องเสียเวลาสร้างเรือบรรทุก เอาเวลาไปสร้างเรือรบและอาวุธไว้ป้องกันประเทศดีกว่า และที่สำคัญ ท่อส่งผ่านที่ไหน ก็ลงทุนด้วยกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน ใครจะอยากทุบหม้อข้าวตัวเอง ด้วยยุทธศาสตร์นี้ ถึงคนยุโรปจะยังไม่สะดวกใจ ที่จะแหกคอกอเมริกามาคบกับรัสเซีย ขณะเดียวกัน ก็ไม่สะดวกใจ ที่จะรังเกียจแก๊สรัสเซียเหมือนกัน และตอนนี้ จีน เพื่อนกันไม่ทิ้งกันของรัสเซีย ก็ใช้ยุทธศาสตร์ท่อส่ง จากอาฟริกา ยาวมาถึงเอเซีย เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ยุทธศาสตร์นี้ทำให้ยุโรปต้องคิดหนัก ถ้าจะเดินตามการชักใยของอเมริกาไปตลอด ถ้ารัสเซียเกิดปิดท่อแก็สที่จะมายุโรป อย่างน้อย ยุโรปจะขาดแก๊สไปถึง 60% ส่วนอเมริกาก็จะยอมให้รัสเซียมีอำนาจต่อรองอย่างนี้ไม่ได้ ยูเครน ซึ่งอยู่ปลายท่อส่งแก๊สรัสเซียมาออกยุโรป จึงเกิดความไม่สงบอย่างไม่มีวันเลิก และตัวเลือกของอเมริกาจึงถูกส่งเข้ามาเป็นผู้นำยูเครน แต่การแก้เกมแบบนี้ของอเมริกา กระเทือนทั้ง 2 ทาง ถ้ายูเครนปิดทางไม่ให้แก๊สออก รัสเซียก็เหนื่อย ขาดรายได้สำคัญ แต่ยุโรปก็อาจแข็งตายไปด้วย ถ้าไม่มีแก๊สจากรัสเซีย ส่วนอเมริกาลอยตัวไม่กระทบกระเทือนอะไรด้วย ยุโรปถูกหลอกใช้ ไม่รู้ตัวเสียที รัสเซียจึงสร้างท่อส่งแก๊สอีกเส้น ลอดทะเลไปให้เยอรมัน และท่อส่งนี่ก็เสร็จแล้ว ถ้าแก็สส่งออกไปทางยูเครนไม่ได้ ก็มาออกเยอรมันได้ แล้วน่าคิดไหมครับ ทำไมตอนนี้ ผู้ลี้ภัยถึงมาทะลักกันเต็มอยู่ในเยอรมัน มันเป็นเรื่องการบีบคอเยอรมันหรือไม่ ป้าเข็มขัดเหล็ก คงกำลังเครียดหนัก จนตดแตกอีกแล้ว อเมริกา พยายามแก้อำนาจต่อรองของรัสเซียเรื่องท่อส่งแก๊สในยุโรป ด้วยการพยายามเดินท่อส่งสายใหม่ ซึ่งอเมริกาพยายามแก้เกมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เมื่อเห็นรัสเซีย และจีนเริ่มโต แต่ทั้ง 2 ประเทศ ก็เดินหมากของตัวเองอย่างระวัง ท่านผู้อ่านจะเข้าใจเรื่องราว มองเห็นภาพต่อเนื่อง ถ้าได้อ่านนิทานเรื่อง “หักหน้าหักหลัง” https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf ซึ่งแสดงถึงวืธีการเดินแผน ฝั่งรัสเซีย กับการเดินแผนของฝั่งอเมริกาต่อจีน ในนิทานเรื่อง ” แผนชั่ว ” https://www.dropbox.com/s/mzu294f5rhhrkyr/20150914.pdf ดังนั้น การสู้รบในซีเรีย จึงมีความหมายเกี่ยวกับการรักษาตำแหน่งพี่เบิ้มของอเมริกา และเป็นความอยู่รอดของฝั่งรัสเซีย จีน ด้วย การที่รัสเซีย เข้าไปเล่นในซีเรียใน “ตอนนี้ ” ภายใต้เรื่องราว และสถานการณ์ในซีเรีย ที่ดำเนินอยู่อย่างที่เล่ามาแล้วนั้น รวมทั้งการเลือกเวลาเล่น ให้สอดคล้องกับช่วงการประชุมของสหประชาชาติ รวมทั้งคำแถลง ของรัสเซียจีนและอิหร่านในช่วง นั้น มองอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมกัน มันแปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะแปลว่า รัสเซีย จีน อิหร่าน ซีเรีย ได้แสดงตัวต่ออเมริกาแล้วว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้อง ฟัง หรือ จัดการกับปัญหาที่กระทบกับพวกเขา หรือที่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหา ตามวิธีการของอเมริกาและพวก อีกต่อไปแล้ว สรุปสั้นๆ เป็นภาษาแถวบ้านผม ก็คงจะทำนอง “กูไม่ชอบวิธีการของมึง และกูไม่จำเป็นต้องฟังมึงอีกต่อไป เพราะกูไม่กลัวมึง (แล้ว)” คำพูดแบบนี้ เป็นลุงนิทานพูด มันก็คงปิดเพจผม รวนเพจผม อย่างที่มันทำกับผมมาตลอด แต่ถ้าคำพูดแบบนี้ ตามความเข้าใจผม เป็นของประเทศใหญ่อย่างรัสเซีย จีน อิหร่าน และวันนี้ เกาหลีเหนือของน้องคิม ก็พูดทำนองนี้ เรื่องซีเรียนี้ จึงเป็นเรื่องใหญ่มาก ถึงได้ดิ้นกันเหมือนโดนน้ำร้อนลวกหลังกันเป็นแถวๆ และถ้าดูจากปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่เข้าไปในซีเรียเมื่อกลางเดือนสิงหาคมนี้ รวมทั้งข่าวเรื่องการขนทั้งอาวุธหนัก อาวุธเบา และกำลังพลมากมาย ที่ไม่ใช่มาจากข่าวของกระป๋องสีฝั่งตะวันตกแล้ว จะเห็นว่า คุณพี่ปูติน แสดงออกอย่างที่ผมสรุปนั่นแหละ เพราะแกจัดหนัก จัดเต็มจริงๆ และเมื่อรัสเซียกับพวก แสดงออกแบบนี้ อเมริกาและพวก จะแสดงอะไรล่ะ แรกๆ ก็คงทำอย่างที่กำลังทำอยู่นี่ คือดาหน้ากันออกมา ด่ารัสเซีย เหน็บแนมการปฎิบัติการของรัสเซีย ทำไมมึงไม่ไปถล่มไอซิส ทำไมมึงไปถล่มแต่พวกกบฏ โธ่เว้ย ถล่มกลุ่มไหน มันก็กลุ่มที่พวกมึงสร้างมาทั้งนั้น เพียงแต่ข้อตกลงภายในมันต่างกัน สุดท้ายคุณพี่ปูตินเขาคงถล่มหมดละน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก หลังจากตั้งหลักได้ อเมริกากับพวก มีทางเลือกอยู่ 2 ทาง ทางหนึ่งคือ เจรจากันให้รู้เรื่องกับฝ่ายรัสเซียและพวก นั่นเป็นทางเลือกที่น่าจะเหมาะสม และโลกจะสะเทือนน้อยที่สุด แต่อเมริกาจะรู้สึกเสียหน้า แต่จะเจรจาอย่างไร ผมคาดว่า รัสเซียคงยังเดินหน้าเรื่องของซีเรียอยู่ดี ถ้าอเมริกาเลือกวิธีนี้ ไม่ได้หมายความว่า อเมริกา “ยอมรับ” ว่าฝ่ายรัสเซียเท่าเทียมตัวแล้ว แต่มันเป็นการ “ซื้อเวลา” ของอเมริกามากกว่า และปฏิบัติการหลากหลายเพื่อตอบโต้ฝ่ายรัสเซีย จะตามมาเป็นชุดและชุดใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ทางเลือกที่ 2 สำหรับอเมริกาคือ ไม่มีเจรจา ไม่ซื้อเวลา และปฏิบัติการตอบโต้จะตามมารวดเร็ว ความต่างของ 2 ทางเลือกคือ ซื้อเวลา แปลว่า อเมริกายังไม่พร้อม และแปลว่าฝ่ายรัสเซีย เลือกจังหวะเดินหมากถูก ไม่ให้เวลาอเมริกาตั้งตัว แต่ถ้าอเมริกาไม่ซื้อเวลา แปลว่า อเมริกาพร้อมอยู่แล้ว และทางรัสเซียก็คงต้องรู้อยู่แล้ว จึงเดินหมากบังคับไปก่อน อเมริกาจะเลือกทางไหนก็ตาม โลกเราจะไม่มีวันถอยกลับไปที่เดิมอีกแล้ว ขั้วอำนาจโลก ไม่ได้มีเพียงขั้วเดียว ที่มีอเมริกาเป็นผู้นำเท่านั้นอีกแล้ว แต่มีอีกขั้วอำนาจใหม่ ที่มีรัสเซียจีนอิหร่าน จับมือกันเกิดขึ้นแล้ว และการเผชิญหน้ากัน ของ 2 ขั้ว ก็จะรุนแรงขึ้น ขั้วไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องอะไรบ้าง มีโอกาสจะมาประเมินให้ฟังครับ วันนี้ ขอจบนิทานเรื่องลองเชิง ใครลองเชิง ใครเสียเชิง คงพอมองเห็นกัน คนเล่านิทาน 11 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1004 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา “ยกสอง” เข้าสู่ยุคสงครามโดรนเต็มตัว ทั้งโดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพ FPV (Kamikaze) ที่ถูกใช้เป็นอาวุธหลักเพื่อชิงความได้เปรียบในสนามรบ
    .
    รายงานระบุว่า กัมพูชาเพิ่มการใช้โดรนโจมตีควบคู่ BM-21 และปืนใหญ่ในหลายจุดยุทธศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยโดรนติดอาวุธ การโจมตีเป้าหมายทางทหาร และการประสาน “โดรน+ปืนใหญ่” เพื่อค้นหาเป้า ระบุพิกัด และปรับการยิงแบบเรียลไทม์ จนกลายเป็นภาพสงครามรูปแบบใหม่ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน
    .
    ด้านกองทัพภาคที่ 2 เตือน “โดรนพลีชีพ” คือภัยคุกคามใหม่ พร้อมกำชับห้ามเข้าใกล้ซากโดรนหรือวัตถุต้องสงสัย และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขณะที่ กพท.ออกประกาศห้ามปล่อยอากาศยานไร้คนขับใน 7 จังหวัดชายแดน เพื่อป้องกันกระทบความมั่นคง
    .
    อ่านเต็ม >> https://news1live.com/detail/9680000119735
    .
    #News1Live #News1 #สงครามโดรน #โดรนพลีชีพ #FPV #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กองทัพไทย #โดรนทิ้งระเบิด #ข่าวความมั่นคง #TruthFromThailand
    ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา “ยกสอง” เข้าสู่ยุคสงครามโดรนเต็มตัว ทั้งโดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพ FPV (Kamikaze) ที่ถูกใช้เป็นอาวุธหลักเพื่อชิงความได้เปรียบในสนามรบ . รายงานระบุว่า กัมพูชาเพิ่มการใช้โดรนโจมตีควบคู่ BM-21 และปืนใหญ่ในหลายจุดยุทธศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยโดรนติดอาวุธ การโจมตีเป้าหมายทางทหาร และการประสาน “โดรน+ปืนใหญ่” เพื่อค้นหาเป้า ระบุพิกัด และปรับการยิงแบบเรียลไทม์ จนกลายเป็นภาพสงครามรูปแบบใหม่ที่เข้มข้นขึ้นทุกวัน . ด้านกองทัพภาคที่ 2 เตือน “โดรนพลีชีพ” คือภัยคุกคามใหม่ พร้อมกำชับห้ามเข้าใกล้ซากโดรนหรือวัตถุต้องสงสัย และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขณะที่ กพท.ออกประกาศห้ามปล่อยอากาศยานไร้คนขับใน 7 จังหวัดชายแดน เพื่อป้องกันกระทบความมั่นคง . อ่านเต็ม >> https://news1live.com/detail/9680000119735 . #News1Live #News1 #สงครามโดรน #โดรนพลีชีพ #FPV #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #กองทัพไทย #โดรนทิ้งระเบิด #ข่าวความมั่นคง #TruthFromThailand
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 8

    “ลองเชิง”
    ตอน 8
    เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน
    ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ
    ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น
    แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว …
    อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น
    ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง
    แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง
    อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก
    กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย
    จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ
    อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท
    แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ
    แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก
    อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ
    แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ
    อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน
    เห่ย ขนาดไหน
    อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ
    สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า
    อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น
    แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน
    แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ
    บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord
    แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์
    เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย
    หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน
    นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 8 “ลองเชิง” ตอน 8 เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว … อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน เห่ย ขนาดไหน อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเผยสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาด้าน จ.สระแก้วยังตึงเครียด ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธ BM-21 โจมตีพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ทำให้ฝ่ายไทยต้องปรับการวางกำลังชั่วคราว ยืนยันยังอยู่ในแผนเข้าควบคุมพื้นที่คืน
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพไทยคุมบ้านหนองหญ้าแก้วได้แล้ว และเดินหน้ารุกคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งช่องอานม้า ช่องคนา และปราสาทตาควายอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119492
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #สระแก้ว #BM21 #กองทัพไทย #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    กองทัพเผยสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาด้าน จ.สระแก้วยังตึงเครียด ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธ BM-21 โจมตีพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ทำให้ฝ่ายไทยต้องปรับการวางกำลังชั่วคราว ยืนยันยังอยู่ในแผนเข้าควบคุมพื้นที่คืน . ขณะเดียวกัน กองทัพไทยคุมบ้านหนองหญ้าแก้วได้แล้ว และเดินหน้ารุกคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งช่องอานม้า ช่องคนา และปราสาทตาควายอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119492 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #สระแก้ว #BM21 #กองทัพไทย #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอร่วมสดุดีและไว้อาลัยต่อการจากไปของทหารกล้า “ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน” กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 พนักงานวิทยุสนาม สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 ซึ่งพลีชีพปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
    .
    เพจ Army Military Force ระบุว่า ส.อ.พชร เป็นทหารกล้าพลีชีพรายที่ 10 จากสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใกล้รอยต่อจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา
    .
    การเสียสละของทหารไทยทุกนาย คือเกียรติยศสูงสุดของชาติ และจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของคนไทยตลอดไป
    .
    อ่านรายละเอียด:
    https://news1live.com/detail/9680000119488
    .
    #News1live #News1 #ทหารกล้า #สดุดีวีรชน #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #ปกป้องอธิปไตย
    ขอร่วมสดุดีและไว้อาลัยต่อการจากไปของทหารกล้า “ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน” กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 พนักงานวิทยุสนาม สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 ซึ่งพลีชีพปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ บริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี . เพจ Army Military Force ระบุว่า ส.อ.พชร เป็นทหารกล้าพลีชีพรายที่ 10 จากสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใกล้รอยต่อจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา . การเสียสละของทหารไทยทุกนาย คือเกียรติยศสูงสุดของชาติ และจะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของคนไทยตลอดไป . อ่านรายละเอียด: https://news1live.com/detail/9680000119488 . #News1live #News1 #ทหารกล้า #สดุดีวีรชน #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #ปกป้องอธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารไทยสามารถเข้ายึด “เนิน 677” บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้สำเร็จ หลังปะทะกับทหารกัมพูชาอย่างดุเดือดในช่วงเย็นวันนี้
    .
    ระหว่างปฏิบัติการ มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากสะเก็ดระเบิดและแรงอัดจากการยิงปะทะ โดยได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บทางเฮลิคอปเตอร์และรถยนต์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์แล้ว ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
    .
    การยึดเนิน 677 ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่ช่องอานม้า และเป็นอีกความคืบหน้าของปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000119236
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #เนิน677 #ช่องอานม้า #อุบลราชธานี #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    ทหารไทยสามารถเข้ายึด “เนิน 677” บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้สำเร็จ หลังปะทะกับทหารกัมพูชาอย่างดุเดือดในช่วงเย็นวันนี้ . ระหว่างปฏิบัติการ มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากสะเก็ดระเบิดและแรงอัดจากการยิงปะทะ โดยได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บทางเฮลิคอปเตอร์และรถยนต์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์แล้ว ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด . การยึดเนิน 677 ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่ช่องอานม้า และเป็นอีกความคืบหน้าของปฏิบัติการควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000119236 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #เนิน677 #ช่องอานม้า #อุบลราชธานี #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 6

    “ลองเชิง”
    ตอน 6
    รู้จักหน้าตาภูมิหลังอย่างสังเขปของดาราใหญ่ ดาราเล็กในตะวันออกกลางกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละรายนั้น เกี่ยวข้องกับซีเรีย ที่กำลังจะเป็นฉากสำคัญของโลกขนาดไหน พิษมากเผ็ดร้อน อย่างไร
    แน่นอน ตัวการใหญ่คงไม่พ้นอเมริกาหรอก ในช่วง 60 -70 ปีนี้ ความวิบัติฉิบหายในโลกนี้ รายการไหนบ้าง ที่ไม่มีอเมริกา มีส่วนสร้าง เสริม หรือเสี้ยม
    เมื่อแรกที่อเมริกาจับมือกับกษัตริย์ อับดุล อาซิส ผู้สถาปนาราชวงค์ อัล ซาอูดของซาอุดิอารเบีย ใน ช่วงประมาณปี ค.ศ.1930 กว่าๆนั้น อเมริกา ไม่ได้มีมุมมอง หรือมุมคิด เกี่ยวกับศาสนาอิสลามอยู่ในหัวเลย อเมริกาคิดแต่จะขุดน้ำมันซาอุมาขายให้รวยจ้ำบะไปเลยเท่านั้น กับ (จำใจ) รับปากจะช่วยดูแลด้านความมั่นคงของซาอุดิอารเบียให้ จริงๆก็คือ ดูแลบ่อน้ำมันซาอุ ไม่ให้มีใครมายุ่ง มาแย่งไปจากตัวเท่านั้นเอง และอเมริกาก็ทำอย่างนั้นมาหลายปี ทั้งเจ้าของบ่อ ทั้งคนขุด คนขาย ต่างก็มีความสุขเพลิดเพลินกับการนับกระดาษสีเขียว ตรานกอินทรีย์
    อเมริกา ซาอุ นับกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์เพลินอยู่นานหลายสิบปี แม้ไม่รักกัน แต่ก็เหมือนคู่แต่งงาน ที่อยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายจนถึงประมาณ ค.ศ.1990 กว่า รัสเซียดันเข้าใปเดินเล่นในอาฟกานิสถาน เอะ รัสเซียทะลึ่งเข้ามาทำไม อเมริกาทนไม่ได้ รัสเซียกำลังจะมาทำอะไรในอาฟกานิสาน จะมาคุกคามกันหรือไง จริงๆ อาฟกานิสถานก็ไกลกับบ้านอเมริกาแยะนะ แล้วก็ไม่ได้ใกล้กับบ่อน้ำมันของซาอุด้วย แต่ อเมริกาก็ไม่พอใจ แค่ได้ยินชื่อรัสเซีย อเมริกาก็ไม่พอใจแล้ว อย่าลืมว่า อาฟกานิสถานอุดมไปด้วยแหล่งแร่มีค่าขนาดไหน
    อเมริกาต้องหาทางไล่รัสเซียออกไปให้ได้ วิธีการไหนล่ะ ที่จะไล่รัสเซียได้
    อ้อ ลัทธิคอมมิวนิสม์ไง มันจะทำให้กระทบกับความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย ที่เคร่งศาสนาได้นะ อย่างนี้ ก็เข้าทาง นายซบิกเนียฟ เบรซินสกี้ Zbigniew Brzezinzki ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาขณะนั้น ที่ฝันจะสร้างแผนกินโลก ให้กับอเมริกามานานแล้ว
    เบรซินสกี้ เป็นคนที่เชื่อทฤษฏีครูแมค เรื่องการครองโลกโดยครองยูเรเซีย อย่างอย่างคลั่งไคล้ เขาเขียนถึงเรื่องยูเรเซียนี้ไว้ในหนังสือเรื่อง The Grand Chess Board กระดานหมากรุกโลก ซึ่งบอกแนวทางว่า อเมริกาจะต้องทำอย่างไร ในการจะครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ หนึ่งในสิ่งที่อเมริกาจะต้องทำคือ หาทางและวางยุทธศาสตร์ที่จะครอบครองยูเรเซีย นักภูมิศาสตร์การเมืองระดับโลกถึงกับบอกกันว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ “ต้องอ่าน” และนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 เป็นต้นมา ก็ดูเหมือนจะไม่หลุดจากแนวความคิดของไอ้หมอนี่ และการรุกราน การปิดล้อม การดักเส้นทางรัดคอ ต่างๆ ที่ผมเอามาเล่าไว้ในนิทานเรื่อง “แผนชั่ว” ก็มีรากฐานมาจากความคิดของเขาเป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้น จำชื่อเขาไว้ให้ดีๆ จะเผาพริกเผ่าเกลือด่า จะได้ไม่ผิดตัว
    เบรซินสกี้วางแผน ตั้งกองกำลังนักรบพลีชีพ จีฮาร์ด รุ่นแรก โดยตระเวนคุยกับซาอุดิอารเบีย ปากีสถาน และอาฟกานิสถาน เขาบอกกับกลุ่มนักรบว่า พระเจ้าคงพอใจ ที่พวกคุณจะได้ทำลายพวกคอมมิวนิสต์รัสเซีย ที่กำลังจะเข้ามาทำลายศาสนาของคุณ
    จี้จุดกันแบบนี้ ซาอุ ก็ตาเหลือก รีบจัดส่งพระเอกมาให้เบรซินสกี้ทันที อูซซามะ บิน ลาเดน มหาเศรษฐีหนุ่มศรัทธาแรง แห่งซาอุดิอารเบีย บอกกับอเมริกาว่า ได้เลย เราพร้อมทุกรูปแบบ เราพร้อมที่จะทิ้งบ้านที่ใหญ่ยังกับวัง และทรัพย์สมบัติมหาศาลของเรา เพื่อทุ่มเททำงานให้ศาสดาของเรา
    แล้วอเมริกาก็จัดการฝึก บิน ลาเดน และพรรคพวกอย่างจัดเต็ม พร้อมส่งอาวุธครบเครื่อง และกลุ่มอัลไคด้า หรืออัลกออิดะ ก็ถือกำเนิด บิน ลาเดน รวบรวมอิสลามหัวรุนแรงนักสู้จากทั่วโลก สร้างกองกำลัง เพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ศัตรูของศาสนาอิสลาม ตามการแปลพระคัมภีร์ของพวกหัวรุนแรง หรือตามที่อเมริกายุ ผมไม่แน่ใจ
    เมื่ออเมริกา เตรียมทำสงครามพายุทะเลทราย Desert Storm เพื่อไล่ซัดดัม
    ที่ไปบุกคูเวต รัฐบาลซาอุ อนุญาตให้กองทัพอเมริกันเคลื่อนพล ผ่านเข้ามาในแผ่นดินซาอุดิอารเบียได้ ข่าวนี้ทำให้ บิน ลาเดน ขัดใจมาก พวกคริสเตียน จะมาเหยียบย่ำบนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ ของอิสลามได้อย่างไร
    บิน ลาเดน ประท้วงเรื่องนี้ต่อราชวงศ์ซาอุ ที่หนุนให้เขาไปทำงานกับอเมริกา ราชวงค์บอก ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ให้พวกนอกศาสนาก้าวเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ( คือ เมือง เมกกะ เมดินา และฮิจาส) และพวกเขาจะออกไปจากแผ่นดินเรา เมื่อการรบกับอิรัคเสร็จสิ้น
    แต่แล้ว ก็ไม่มีคำสั่งจากทางซาอุ ให้กองทัพอเมริกันถอนกลับออกไป และบิน ลาเดน กลับกลายเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่ให้เข้าซาอุดิอารเบียเสียเอง บิน ลาเดน กับพวก จึงเบนเป้าไปที่อเมริกาแทน จากเป็นเด็กฝึกของอเมริกา กลับกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของอเมริกา แต่ บิน ลาเดนไม่เดือดร้อน เขาใช้สมบัติมหาศาลของตัวเอง มาเป็นทุนสู้กับอเมริกาอีกต่ออย่างเข้มข้น
    และแม้ไม่มีใครรู้แน่ว่า การถล่มตึกเวิลด์เทรดเป็นฝีมือใคร อเมริกากับอัลไคด้า ก็ประกาศตัดขาดกัน และต่างก็ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ทั้งในอาฟกานิสถาน และอิรัค
    อเมริกาโง่เง่า หรือใหญ่ยิ่ง จนไม่สนใจใส่ใจกับศาสนา ประเพณี และความรู้สึกของผู้อื่น
    ในปี ค.ศ.2003 เมื่อกองทัพของอเมริกาบุกเข้าไปถึงเมืองนาจาฟ เมืองสำคัญทางศาสนาของมุสลิมชีอะ เมื่อรถถังอเมริกันเคลื่อนเข้ามา ชาวบ้านไชโยโห่ร้องต้อนรับ แต่รถถังของอเมริกาก็วิ่งไปเรื่อยๆ เข้าไปในเขตสุเหร่าของอิหม่ามสูงสุดของนิกายชีอะ แม้ชาวบ้านจะตะโกนห้าม รถถังก็ยังวิ่งต่อ ในที่สุดชาวบ้านทนไม่ไหว พากันโดดลงไปนอนขวางไม่ให้รถวิ่งต่อ นี่คืออเมริกา
    อเมริกาทำพลาดเรื่อง อัลไคด้ามาแล้ว แต่อเมริกาหัวทึบ ไม่รู้จักจำ หรือไม่สนใจจำ อเมริกาทำซ้ำอีก ไม่ว่าพวกอิสลามหัวรุนแรง จะเรียกตัวเองว่าอัลไคด้า ตาลีบัน ไอซิส อัล นัสรา มูจาฮีดีน วาห์ฮะบี หรือชื่อใดก็ตาม พวกเขาก็เหมือนกันทั้งนั้น พวกเขามาจากความเคร่ง และการแปลความของพระคัมภีร์ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีทั้งผู้สนับสนุน และเห็นต่าง
    ขบวนการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด ก็เช่นเดียวกัน มันเริ่มจากการรวมตัวกันหลวมๆ ของพวกมุสลิมเคร่งครัด ที่เกลียดซีเรีย ภายใต้การปกครองของ บาชาร์ อัล อัสซาด Bashar Al-Assad ที่กล่าวกันว่า ไม่เคร่งศาสนา แล้วพวกมุสลิมเคร่งครัด ก็มาจับมืออีกต่อหนึ่ง กับพวก ศัตรู ที่ดูเหมือนจะมีไม่น้อย ของ อัสซาดที่ปกครองซีเรีย ตั้งแต่คนพ่อมาถึงคนลูกในปัจจุบัน
    ใครบ้างล่ะ ที่เห็นอัสซาด พ่อ ลูก เป็นศัตรูตัวร้าย นอกเหนือจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงต่างๆ
    เริ่มมาตั้งแต่อิสราเอล (ที่ไม่พอใจซีเรีย ที่ไปให้การสนับสนุนกลุ่ม เฮสบอลเลาะห์ ที่เป็นศัตรูของอิสราเอล) เสี่ยปั้มใหญ่ปั้มเล็ก ( เพราะซีเรียเป็นเพื่อนซี้กับอิหร่าน ที่พวกเสี่ยปั้มเกลียด) ตุรกี ( เพราะความเข้มแข็งของซีเรีย ขวางเส้นทางสู่ความฝันของ เอร์โดกานที่หวังจะเป็นสุลต่านยุคใหม่แห่งตุรกี)
    และที่สำคัญ คือ กองกำลังร่วมที่ 14 มีนา ของพวกเลบานอน (ที่กล่าวหาว่า ซีเรีย มีส่วนในการลอบฆ่า ราฟิก อัล ฮาริริ Rafiq Al-Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีของเลบานอน) กับ อีกกลุ่มที่แปลก คือ กลุ่มคริสเตียนขวาจัด ซึ่ง มาจับมือกับพวกนักรบมุสลิม
    ความหลากหลาย ของผู้ที่มารวมกลุ่มต่อต้านซีเรีย หรือซีเรียที่ปกครองโดย
    อัสซาด จึงสะท้อนให้เห็นเป้าหมายของการประท้วง ที่หลากหลายเช่นเดียวกัน
    คงมีใครทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การต่อต้าน หรือการขับไล่อัสซาด คงใช้เวลาเวลาไม่นาน และเมื่ออัสซาดถูกขับไล่ไป กลุ่มมุสลิมก็จะได้มาปกครองซีเรียแทน พวกเขาไม่ได้เตรียมตัว และเตรียมการณ์สำหรับการรบยืดเยื้อ และการแตกแยกในกลุ่มพวกกันเอง นับเป็นการประเมินอัสซาด และซีเรีย อย่างผิดพลาดยิ่งของผู้วางแผน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 6 “ลองเชิง” ตอน 6 รู้จักหน้าตาภูมิหลังอย่างสังเขปของดาราใหญ่ ดาราเล็กในตะวันออกกลางกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละรายนั้น เกี่ยวข้องกับซีเรีย ที่กำลังจะเป็นฉากสำคัญของโลกขนาดไหน พิษมากเผ็ดร้อน อย่างไร แน่นอน ตัวการใหญ่คงไม่พ้นอเมริกาหรอก ในช่วง 60 -70 ปีนี้ ความวิบัติฉิบหายในโลกนี้ รายการไหนบ้าง ที่ไม่มีอเมริกา มีส่วนสร้าง เสริม หรือเสี้ยม เมื่อแรกที่อเมริกาจับมือกับกษัตริย์ อับดุล อาซิส ผู้สถาปนาราชวงค์ อัล ซาอูดของซาอุดิอารเบีย ใน ช่วงประมาณปี ค.ศ.1930 กว่าๆนั้น อเมริกา ไม่ได้มีมุมมอง หรือมุมคิด เกี่ยวกับศาสนาอิสลามอยู่ในหัวเลย อเมริกาคิดแต่จะขุดน้ำมันซาอุมาขายให้รวยจ้ำบะไปเลยเท่านั้น กับ (จำใจ) รับปากจะช่วยดูแลด้านความมั่นคงของซาอุดิอารเบียให้ จริงๆก็คือ ดูแลบ่อน้ำมันซาอุ ไม่ให้มีใครมายุ่ง มาแย่งไปจากตัวเท่านั้นเอง และอเมริกาก็ทำอย่างนั้นมาหลายปี ทั้งเจ้าของบ่อ ทั้งคนขุด คนขาย ต่างก็มีความสุขเพลิดเพลินกับการนับกระดาษสีเขียว ตรานกอินทรีย์ อเมริกา ซาอุ นับกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์เพลินอยู่นานหลายสิบปี แม้ไม่รักกัน แต่ก็เหมือนคู่แต่งงาน ที่อยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายจนถึงประมาณ ค.ศ.1990 กว่า รัสเซียดันเข้าใปเดินเล่นในอาฟกานิสถาน เอะ รัสเซียทะลึ่งเข้ามาทำไม อเมริกาทนไม่ได้ รัสเซียกำลังจะมาทำอะไรในอาฟกานิสาน จะมาคุกคามกันหรือไง จริงๆ อาฟกานิสถานก็ไกลกับบ้านอเมริกาแยะนะ แล้วก็ไม่ได้ใกล้กับบ่อน้ำมันของซาอุด้วย แต่ อเมริกาก็ไม่พอใจ แค่ได้ยินชื่อรัสเซีย อเมริกาก็ไม่พอใจแล้ว อย่าลืมว่า อาฟกานิสถานอุดมไปด้วยแหล่งแร่มีค่าขนาดไหน อเมริกาต้องหาทางไล่รัสเซียออกไปให้ได้ วิธีการไหนล่ะ ที่จะไล่รัสเซียได้ อ้อ ลัทธิคอมมิวนิสม์ไง มันจะทำให้กระทบกับความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย ที่เคร่งศาสนาได้นะ อย่างนี้ ก็เข้าทาง นายซบิกเนียฟ เบรซินสกี้ Zbigniew Brzezinzki ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาขณะนั้น ที่ฝันจะสร้างแผนกินโลก ให้กับอเมริกามานานแล้ว เบรซินสกี้ เป็นคนที่เชื่อทฤษฏีครูแมค เรื่องการครองโลกโดยครองยูเรเซีย อย่างอย่างคลั่งไคล้ เขาเขียนถึงเรื่องยูเรเซียนี้ไว้ในหนังสือเรื่อง The Grand Chess Board กระดานหมากรุกโลก ซึ่งบอกแนวทางว่า อเมริกาจะต้องทำอย่างไร ในการจะครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ หนึ่งในสิ่งที่อเมริกาจะต้องทำคือ หาทางและวางยุทธศาสตร์ที่จะครอบครองยูเรเซีย นักภูมิศาสตร์การเมืองระดับโลกถึงกับบอกกันว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ “ต้องอ่าน” และนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 เป็นต้นมา ก็ดูเหมือนจะไม่หลุดจากแนวความคิดของไอ้หมอนี่ และการรุกราน การปิดล้อม การดักเส้นทางรัดคอ ต่างๆ ที่ผมเอามาเล่าไว้ในนิทานเรื่อง “แผนชั่ว” ก็มีรากฐานมาจากความคิดของเขาเป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้น จำชื่อเขาไว้ให้ดีๆ จะเผาพริกเผ่าเกลือด่า จะได้ไม่ผิดตัว เบรซินสกี้วางแผน ตั้งกองกำลังนักรบพลีชีพ จีฮาร์ด รุ่นแรก โดยตระเวนคุยกับซาอุดิอารเบีย ปากีสถาน และอาฟกานิสถาน เขาบอกกับกลุ่มนักรบว่า พระเจ้าคงพอใจ ที่พวกคุณจะได้ทำลายพวกคอมมิวนิสต์รัสเซีย ที่กำลังจะเข้ามาทำลายศาสนาของคุณ จี้จุดกันแบบนี้ ซาอุ ก็ตาเหลือก รีบจัดส่งพระเอกมาให้เบรซินสกี้ทันที อูซซามะ บิน ลาเดน มหาเศรษฐีหนุ่มศรัทธาแรง แห่งซาอุดิอารเบีย บอกกับอเมริกาว่า ได้เลย เราพร้อมทุกรูปแบบ เราพร้อมที่จะทิ้งบ้านที่ใหญ่ยังกับวัง และทรัพย์สมบัติมหาศาลของเรา เพื่อทุ่มเททำงานให้ศาสดาของเรา แล้วอเมริกาก็จัดการฝึก บิน ลาเดน และพรรคพวกอย่างจัดเต็ม พร้อมส่งอาวุธครบเครื่อง และกลุ่มอัลไคด้า หรืออัลกออิดะ ก็ถือกำเนิด บิน ลาเดน รวบรวมอิสลามหัวรุนแรงนักสู้จากทั่วโลก สร้างกองกำลัง เพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ศัตรูของศาสนาอิสลาม ตามการแปลพระคัมภีร์ของพวกหัวรุนแรง หรือตามที่อเมริกายุ ผมไม่แน่ใจ เมื่ออเมริกา เตรียมทำสงครามพายุทะเลทราย Desert Storm เพื่อไล่ซัดดัม ที่ไปบุกคูเวต รัฐบาลซาอุ อนุญาตให้กองทัพอเมริกันเคลื่อนพล ผ่านเข้ามาในแผ่นดินซาอุดิอารเบียได้ ข่าวนี้ทำให้ บิน ลาเดน ขัดใจมาก พวกคริสเตียน จะมาเหยียบย่ำบนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ ของอิสลามได้อย่างไร บิน ลาเดน ประท้วงเรื่องนี้ต่อราชวงศ์ซาอุ ที่หนุนให้เขาไปทำงานกับอเมริกา ราชวงค์บอก ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ให้พวกนอกศาสนาก้าวเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ( คือ เมือง เมกกะ เมดินา และฮิจาส) และพวกเขาจะออกไปจากแผ่นดินเรา เมื่อการรบกับอิรัคเสร็จสิ้น แต่แล้ว ก็ไม่มีคำสั่งจากทางซาอุ ให้กองทัพอเมริกันถอนกลับออกไป และบิน ลาเดน กลับกลายเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่ให้เข้าซาอุดิอารเบียเสียเอง บิน ลาเดน กับพวก จึงเบนเป้าไปที่อเมริกาแทน จากเป็นเด็กฝึกของอเมริกา กลับกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของอเมริกา แต่ บิน ลาเดนไม่เดือดร้อน เขาใช้สมบัติมหาศาลของตัวเอง มาเป็นทุนสู้กับอเมริกาอีกต่ออย่างเข้มข้น และแม้ไม่มีใครรู้แน่ว่า การถล่มตึกเวิลด์เทรดเป็นฝีมือใคร อเมริกากับอัลไคด้า ก็ประกาศตัดขาดกัน และต่างก็ต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ทั้งในอาฟกานิสถาน และอิรัค อเมริกาโง่เง่า หรือใหญ่ยิ่ง จนไม่สนใจใส่ใจกับศาสนา ประเพณี และความรู้สึกของผู้อื่น ในปี ค.ศ.2003 เมื่อกองทัพของอเมริกาบุกเข้าไปถึงเมืองนาจาฟ เมืองสำคัญทางศาสนาของมุสลิมชีอะ เมื่อรถถังอเมริกันเคลื่อนเข้ามา ชาวบ้านไชโยโห่ร้องต้อนรับ แต่รถถังของอเมริกาก็วิ่งไปเรื่อยๆ เข้าไปในเขตสุเหร่าของอิหม่ามสูงสุดของนิกายชีอะ แม้ชาวบ้านจะตะโกนห้าม รถถังก็ยังวิ่งต่อ ในที่สุดชาวบ้านทนไม่ไหว พากันโดดลงไปนอนขวางไม่ให้รถวิ่งต่อ นี่คืออเมริกา อเมริกาทำพลาดเรื่อง อัลไคด้ามาแล้ว แต่อเมริกาหัวทึบ ไม่รู้จักจำ หรือไม่สนใจจำ อเมริกาทำซ้ำอีก ไม่ว่าพวกอิสลามหัวรุนแรง จะเรียกตัวเองว่าอัลไคด้า ตาลีบัน ไอซิส อัล นัสรา มูจาฮีดีน วาห์ฮะบี หรือชื่อใดก็ตาม พวกเขาก็เหมือนกันทั้งนั้น พวกเขามาจากความเคร่ง และการแปลความของพระคัมภีร์ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีทั้งผู้สนับสนุน และเห็นต่าง ขบวนการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด ก็เช่นเดียวกัน มันเริ่มจากการรวมตัวกันหลวมๆ ของพวกมุสลิมเคร่งครัด ที่เกลียดซีเรีย ภายใต้การปกครองของ บาชาร์ อัล อัสซาด Bashar Al-Assad ที่กล่าวกันว่า ไม่เคร่งศาสนา แล้วพวกมุสลิมเคร่งครัด ก็มาจับมืออีกต่อหนึ่ง กับพวก ศัตรู ที่ดูเหมือนจะมีไม่น้อย ของ อัสซาดที่ปกครองซีเรีย ตั้งแต่คนพ่อมาถึงคนลูกในปัจจุบัน ใครบ้างล่ะ ที่เห็นอัสซาด พ่อ ลูก เป็นศัตรูตัวร้าย นอกเหนือจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงต่างๆ เริ่มมาตั้งแต่อิสราเอล (ที่ไม่พอใจซีเรีย ที่ไปให้การสนับสนุนกลุ่ม เฮสบอลเลาะห์ ที่เป็นศัตรูของอิสราเอล) เสี่ยปั้มใหญ่ปั้มเล็ก ( เพราะซีเรียเป็นเพื่อนซี้กับอิหร่าน ที่พวกเสี่ยปั้มเกลียด) ตุรกี ( เพราะความเข้มแข็งของซีเรีย ขวางเส้นทางสู่ความฝันของ เอร์โดกานที่หวังจะเป็นสุลต่านยุคใหม่แห่งตุรกี) และที่สำคัญ คือ กองกำลังร่วมที่ 14 มีนา ของพวกเลบานอน (ที่กล่าวหาว่า ซีเรีย มีส่วนในการลอบฆ่า ราฟิก อัล ฮาริริ Rafiq Al-Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีของเลบานอน) กับ อีกกลุ่มที่แปลก คือ กลุ่มคริสเตียนขวาจัด ซึ่ง มาจับมือกับพวกนักรบมุสลิม ความหลากหลาย ของผู้ที่มารวมกลุ่มต่อต้านซีเรีย หรือซีเรียที่ปกครองโดย อัสซาด จึงสะท้อนให้เห็นเป้าหมายของการประท้วง ที่หลากหลายเช่นเดียวกัน คงมีใครทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การต่อต้าน หรือการขับไล่อัสซาด คงใช้เวลาเวลาไม่นาน และเมื่ออัสซาดถูกขับไล่ไป กลุ่มมุสลิมก็จะได้มาปกครองซีเรียแทน พวกเขาไม่ได้เตรียมตัว และเตรียมการณ์สำหรับการรบยืดเยื้อ และการแตกแยกในกลุ่มพวกกันเอง นับเป็นการประเมินอัสซาด และซีเรีย อย่างผิดพลาดยิ่งของผู้วางแผน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.42

    กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม

    กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์.

    ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    บทความกฎหมาย EP.42 กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์. ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts