• นายกฯ แถลงผลปฏิบัติการใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด ย้ำยาเสพติด 1 เม็ดก็ผิดกฎหมาย
    https://www.thai-tai.tv/news/21813/
    .
    #ไทยไท #ยาเสพติด #อนุทิน #ปราบปรามยาเสพติด #ยาบ้า #วาระแห่งชาติ #ตำรวจ

    นายกฯ แถลงผลปฏิบัติการใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด ย้ำยาเสพติด 1 เม็ดก็ผิดกฎหมาย https://www.thai-tai.tv/news/21813/ . #ไทยไท #ยาเสพติด #อนุทิน #ปราบปรามยาเสพติด #ยาบ้า #วาระแห่งชาติ #ตำรวจ
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • ..นายกฯหนูถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ออกมาประกาศยกเลิกmou43,44,tor46อย่างเป็นทางการเลยนะ,น่าผิดหวังมาก แม้ให้บอกว่าให้อำนาจแม่ทัพจัดการเรื่องเขมรเต็มที่ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสิ่งแรกกลับไม่ยอมประกาศเพื่อสนับสนุนทหารให้ชอบธรรมต่อหน้าชาวโลกว่า ไทยยอมรับอัตรา1:50,000สากลเท่านั้น,ตนในนามรัฐบาลปัจจุบันจึงทำการยกเลิกmou43,44,tor46ที่มิชอบธรรมตั้งแต่แรกนี้ทันที จากการกระทำโดยมิชอบของรัฐบาลชุดอดีตซึ่งขัดแย้งเรื่องอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,นี้นายกฯหนูต้องประกาศให้ชัดเจนและเป็นทางการแบบนี้,ไม่เล่นเป็นเด็กขายของ เลอะเทอะไปวันๆ,อยากเป็นนายกฯต่อและคือตำนานที่ดีต้องกล้าตัดสินใจแบบนี้,ร้อยความผิดมีมามากมาย,แต่เมื่อในปัจจุบันตนมีโอกาสเต็มมือเต็มที่ในการทำเพื่อชาติแบบยกเลิกmou43,44,tor46ต้องทำเลย.,ลากยาวอัดโฆษณากัญชาเสรีเพื่อสมุนไพรพึ่งพาตนเองแห่งชาติ สร้างรายได้และรักษาตรเองพื้นบ้านยาครอบจักรวาลตนต้องต่อยอดคู่ขนานในอำนาจ4เดือนนี้ด้วย,อย่าสนใจการโจมตีขุดเชิงลบมาทำลายผลประโยชน์มากมายมหาศาลของประชาชนคนไทยเมื่อใช้ถูกทางถูกวิธีได้,สุราเหล้าเบียร์ยาบ้ามันโหดร้ายชั่วเลวมากกว่ามาก,ตั้งกระทรวงกัญชากัญชงแห่งชาติเลย,ใช้ใยกัญชากัญชงผสมเทคโนโลยีอื่นผลิตเครื่องบินรบ ยานบินอวกาศได้สบายโน้น,ชุดเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาก็ได้,อัดกราฟีนตรงกลางอีก,แข็งกว่าเพชรอีก, พืชกัญชากัญชงสามารถผสมผสานประยุกต์เป็นรายการสินค้าได้กว่า50,00-100,000รายการสินค้าได้อย่างสบาย,โรคซึมเศร้า เสียเส้น รักษาได้ดี ยาครอบจักรวาลด้วย, พืชฝิ่นก็เสรีปลูกเลย อเมริกายังให้อัฟกานิสถานปลูกเลยบังหน้า,สกัดยาแก้ปวดใช้เองภายในประเทศไทยเรา,ควบคุมดีๆจะเป็นเหี้ยอะไร,และมิใช่ปิดกั้นประชาชนแบบยุคกัญชาเสรีแหกตาแบบในอดีตที่ผ่านมากะทำแดกเองทรยศประชาชน,สร้างเงื่อนไขต้นทุนสูงสาระพัดห้ามประชาชนทางตรงและทางอ้อม,ปลูกหัวไร่ปลายนาก็โคตรงามปกติได้,ปลูกกัญชากัญชงสามารถล้างพิษโลหะหนักต่างๆในดินได้,ปรับสภาพดินเป็นปุ๋ยอย่างดีก็ได้,ที่ผ่านมาเลอะเทอะอย่างยิ่ง,บ่อเงินบ่อทองคำเขียวบนดินเพื่อประชาชนคนเกษตรชัดเจน แต่รัฐบาลเลวเกินไปจึงกระทำล้มเหลว,
    ..จริงๆจะตังดิจิดัล มีส่วนดีมากมาย ลดต้นทุนอะไรเยอะ,แค่คนควบคุมระบบมันโปร่งใส่แค่ไหน,แบงค์ชาติปัจจุบันจริงสมควรถูกยุบทิ้งเพราะรัฐบาลไม่สามารถสั่งการควบคุมได้ บริหารจัดการเด็ดขาดไม่ได้ ในกรณีรัฐบาลมาจากคนดีมีคุณธรรมโปร่งใส่จิตใจงามของผู้นำนายกฯนั้นของคนไทย,นายกฯต้องสามารถควบคุมทั้งหมดของทุกๆกลไกภายในประเทศ,แต่แบงค์ชาติไม่ใช่บวกก่อกำเนิดมาจากเป้าหมายdeep stateเพื่อปกครองครอบงำควบคุมประเทศนั้นๆโดยผ่านธนาคารกลางในชาตินั้นๆหรือแบงค์ชาติไทยนั้นเอง,ถูกควบคุมโดยผ่านกลไกระบบเงินโลกโดยอัตโนมัติ,ทิศทางต่างๆจึงพยายามควบคุมให้สอดคล้องกับนโยบายโลกเป็นสำคัญโดยลืมตัวตนไปว่าตนคือคนไทยต้องช่วยคนไทยก่อน ปกป้องคนไทยก่อนจากกฎหมาย เงื่อนไขกติกาธนาคารเอกชนที่เอาเปรียบประชาชนคนไทยตน ต้องเด็ดขาดออกกฎกติกาต่างๆควบคุมธนาคารพานิชย์ค้ากำไรดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมต่างๆหรือค่าบริการใดๆของบริการทางธุรกรรมต่างๆของธนาคารได้ แต่แบงค์ชาติไทยหาเป็นเช่นนั้น ดูจากการสวนกระแสทำกำไรรายได้มหาศาลของธนาคารเอกชนในไทยที่ผ่านมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วไทยประชาชนขาดทุนกิจการปิดตัวลงเป็นว่าเล่น หนี้สินประชาชนเต็มเพดาน แต่ธนาคารเหล่านีักลับประกาศผลกำไรประกอบการอันงดงามกว่าหมื่นล้านแสนล้านที่โชว์ในตลาดset,แบงค์ชาติจึงสมควรถูกยุบทิ้งเหมือนกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเด่นชัดในเรื่องอธิปไตยไทยดินแดนตนที่รับรู้ตื้นลึกหนาบางหมดแต่ละเว้นต่อหน้าที่ตนพึ่งกระทำจนนำไปสู่การสูญเสียดินแดนถึง1:150,000 จากกรณีmou43ใช้1:200,000นั้นไม่ใช้1:50,000ที่สากลทั่วโลกยอมรับปกติแบบกรณีเวียดนามกับเขมร,กรณีลาวใช้กับเขมรที่อัตรา1:50,000ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับรู้ดีทุกๆอย่าง,แต่ละเว้นในหน้าที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน สมควรถูกประหารชีวิตทั้งกระทรวงให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง,เมื่อชาติตกเป็นทาสเป็นเชลยศึกศัตรูสงครามแพ้ต่ออธิปไตยตนที่ปกป้องไม่ได้ ทุกข์แสนสาหัสต่อคนประชาชนทั้งแผ่นดินไทยตนต้องบังเกิดขึ้นแน่นอนชัดเจน.,คนกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดต้องถูกลงโทษไม่มีข้อยกเว้น ยิ่งปัจจุบันไร้สำนึก สันดานในจิตในใจตนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังแถลงไขช่วยเหลือเขมร,เรา..ประชาชนคนไทยรับสันดานพฤติกรรมจริตจัญไรชั่วเลวนี้ไม่ได้จริงๆ.,นายกฯใหม่ที่เป็นภาวะผู้นำดีมีคุณธรรมโปร่งใส่อ่านขาดทุกๆปัญหาย่อมยุบทิ้งทันทีกระทรวงการต่างประเทศนี้และแบงค์ชาติในไทย,ก่อตั้งใหม่ได้ทันที,เป็นหน่วยงานที่ยืนเคียงข้างประเทศและประชาชนคนไทยชัดเจนในการดำรงความผาสุกจริงแก่สัมมาชีวิตคนไทยเรา,กระบวนการดูดเงินที่ผิดปกติ กระบวนการอายัดบัญชีประชาชนที่มั่วไร้ประสิทธิภาพมีวาระซ่อนเร่นด้วยถูกว่าเป็นภัยคุกคามประเทศไทยตนเองสร้างโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองตนชัดเจนด้วย,เงินเทาเงินมืดเงินดำมากมายไหลผ่านเข้าออกในประเทศไทยตนเองแบงค์ชาตินี้รับรู้หมดล่ะแต่ไม่จัดการห่าอะไรตลอดเรื่อยมาที่ผ่านๆมา,เงินไหลเข้าจากต่างชาติมากมายมาปั่นป่วนไทยให้หน่วยองค์กรสากลผีบ้าต่างๆแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สามารถอายัดเงินชั่วเลวนั้นทันทีได้ด้วย ห้ามไหลออกก็ได้ มาปั่นค่าเงินบาทแบยโซรอสมันทำก็ห้ามเงินไหลออกก็ได้ ออกไปก็ประสานงานปลายทางให้โอนคืนด้วย,ถ้ามันไม่ช่วยก็ห้ามปลายทางนั้นมาเชื่อมระบบการเงินกับไทยทันที,บล็อคแบงค์ต่างชาตินั้นทันทีที่สนับสนุนอาชญากรรมทางการเงินเพื่อโจมตีค่าเวินบาทและเศรษฐกิจไทยให้พังพินาศ,นี้คือนายกฯต้องเห็นทุกๆบัญชีใครทั้งหมดในประเทศได้ มรึงจะร่ำรวยหลัก 100ล้านล้านบาทนายกฯต้องเข้าไปตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้,นี้ห่าอะไรปกปิดหมด บล็อคการเข้าถึงของอำนาจรัฐบาลตนเอง,สั่งลดดอกเบี้ยห่าอะไรก็ไม่ได้,เช่นนายกฯสั่งแบงค์เอกชนในไทยทั้งหมด,ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดจะMLR Mห่าอะไร มาใช้อัตราเดียวคือดอกเบี้ยเงินกู้ทุกๆกรณีที่0.25%ต่อปีทั้งหมด,ดอกเบี้ยเงินฝากที่0.01%ต่อปี จะกระตุ้นการใช้จ่ายทันที,แบงค์ไหนไม่พอใจในประเทศไทยก็ปิดตัวลงไป,ธนาคารรัฐ ใช้อัตราเงินกู้แค่0.15%ต่อปี,นี้บวกอะไรแอบแฝงเพื่อแดกสาระพัดไม่รวมค่าธรรมเนียมค่าดำเนินการค่านั้นค่านี้อีก,กำไรตรึมไม่รวมขายประกันในแบงค์ขายผ่านบัตรATMอีกเอาเปรียบประชาชนสาระพัดแต่แบงค์ชาติเลวเหล่านี้กลับนิ่งเฉย,deep stateจะควบคุมปกครองประเทศใดๆสำเร็จมันควบคุมธนาคารในชาตินั้นๆก่อน,จีนมันควบคุมไม่ได้ ก็ไปควบคุมวิธีอื่นแทน,แต่จีนสามารถจัดการได้ เรา..ไทยต้องจัดการได้เช่นกัน,แต่นายกฯต้องเป็นคนดีจริงๆนะมิใช่เหี้ยแบบอดีตๆที่ผ่านมาแบบไอ้หน้าหล่อเสือกเอาmouไปเข้าunเป็นสนธิสัญญาอีกถือว่าเข้า ม.119อาญาประหารชีวิตชัดเจน,แม้เรายกเลิกสนธิสัญญาได้ ปฏิเสธธุรกรรมลงนามบันทึกใดๆได้หมดล่ะที่ทำเหี้ยกับใครไว้ หากมิชอบไม่เป็นการดีต่ออธิปไตยไทย เราฉีกทิ้งได้หมดล่ะ ,
    ..นายกฯปัจจุบันจึงต้องแสดงตัวตนและบทบาทตนเองออกมาให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ในการจะกอดหรือยกเลิกmou43,44นี้,ตอนนี้ก็ผ่านมา20วันแล้ว,เจตนารมณ์อันชัดเจนของตนเองยังไม่มี,อ้างนั้นอ้างนี้ถือว่าไม่มีความจริงใจต่ออธิปไตยดิรแดนชาติที่ตั้นตอปัญหาทั้งหมดมาจากmouนี้ทั้งสิ้น,ตนต้องมั่นใจในตนเองในบทบาทนายกฯตนเองที่มีอำนาจเต็มแล้ว จนสามารถสั่งยุบสภาได้โน้น,พะสาประกาศยกเลิกmou43,44ด้วยตนเอง มันสามารถทำได้,ประชาชนทั้งประเทศเชียร์อยู่แล้วเสือกยังไม่มีความกล้าหาญ ยังขี้ขลาดอีกอยู่ ใช้ไม่ได้,ไม่จะบ้าบอว่ารอบคอบหรือไม่รอบคอบห่าอะไรเลย,ประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนต้องยกเลิกmouผีบ้านี้อยู่แล้ว,สมัยหน้านายกฯคนที่33เป็นอีกโน้น,คดีเขากระโดง ฮั่วสว.เรื่องขี้หมาเลย, นายกฯคนต่อไปได้เป็นแน่นอน.,ทำสิ่งที่ถูกต้องจบเลย,เขากระโดงก็คืนเสียแม้กรมที่ดินไม่ว่าไรพอเป็นพิธีให้เกียรติ จะมีอำนาจอยู่ก็ตาม เหยียบไม่เอาผิดก็ตาม, นายกฯคนต่อไปรื้อมาเล่นงานใหม่ได้หมดล่ะถ้าจะจัดการ,เมื่อตนสิ้นอำนาจอันตรายมากหากไม่สำนึกทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ต่ออีก,หากสำนึกกลับตัวกลับใจ สามารถนำพาพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนเป็นพรรคภูมิใจธรรมได้ ย่อมอาจเป็นราชสีห์แทนงูเห่าที่เขาเหยียดหยามทั้งประเทศได้.,โทนี่ก็เป็นนายกฯยังติดคุกได้นะ.,ความดีจะคุ้มครองคนกระทำดี.
    ..อาสนธิท้าทายวัดใจ,แต่วัดใจเพื่อสนับสนุนให้กระทำสิ่งดีๆความดี มันดีต่อตนเองและประเทศชาติด้วย ถ้าไม่ทำ เสียของ เสียหายแก่ตนเองทันที ตราบาปตลอดชีวิต อับอายแก่วงศ์ตระกูลอีกเมื่อมีโอกาสทำสิ่งดีๆความดีเสือกไม่ทำ,ใฝ่ต่อขั่วเลวด้วยเกรงกลัวมันที่จะแแสิ่งไม่ดีตนออกมา,มันไม่คุ้มหรอก,สู้ทำสิ่งดีๆไปเลย แฉออกมาก็ชั่งหัวมัน,ผิดคือผิด ,แต่กูตอนนี้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อตัวกูเองและประเทศชาติแผ่นดินไทยกูตอนนี้ กูยอมแลก,นี้ต้องประมาณนี้น่ะจึง อัพเลเวลได้แน่นอน.,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ที่ดีๆทันที ลูกหลานววศ์ตระกูลตนแม้เคยผ่านอดีตเหลวร้ายใดๆมา ผิดพลาดไป เขามาเห็นมาดูประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูลตนก็จะภาคภูมิใจ แม้กูเป็นโจรโกงกินเหี้ยสาระพัดภายในประเทศแต่กลับแดนอธิปไตยไทยกูปกป้องเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ,อนาคตเขาเหล่านั้นจะดำรงตั้งในกิจกรรมทำความดีสิ่งดีๆแน่นอน,ไม่ละอายใจต่อแผ่นดินแทนบรรพบุรุษตนเอง,ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าท้าฟ้าได้ เหินฟ้า!!!ประมาณนั้น,แต่ถ้าตัดสินใจผิด ก้มหน้าก้มตากอดmiuผีบ้านี้อยู่แถแถลงเลอะเทอะไม่เรื่อย,ดับอนาถแน่นอน,ทรัพย์สินอาจถูกยึดหมดทั้งตระกูลหรือพร้อมถูกประหารชีวิตด้วย.,ทหารไทยใจรักชาติรักแผ่นดินไทยดีๆเขามีข้อมูลว่าใครดีใครชั่วเลว ใครกลับตัวกลับใจหมดล่ะ,โอกาสมี2เส้นทาง ทางสวรรค์เห็นชัดเจน และทางลงนรกก็ไม่ธรรมดาด้วย,ทานยาสีเม็ดอะไรแค่นั้น.

    https://youtube.com/shorts/4if56ZNYpSQ?si=yH7PxuCOucsjv6Zq
    ..นายกฯหนูถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ออกมาประกาศยกเลิกmou43,44,tor46อย่างเป็นทางการเลยนะ,น่าผิดหวังมาก แม้ให้บอกว่าให้อำนาจแม่ทัพจัดการเรื่องเขมรเต็มที่ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญสิ่งแรกกลับไม่ยอมประกาศเพื่อสนับสนุนทหารให้ชอบธรรมต่อหน้าชาวโลกว่า ไทยยอมรับอัตรา1:50,000สากลเท่านั้น,ตนในนามรัฐบาลปัจจุบันจึงทำการยกเลิกmou43,44,tor46ที่มิชอบธรรมตั้งแต่แรกนี้ทันที จากการกระทำโดยมิชอบของรัฐบาลชุดอดีตซึ่งขัดแย้งเรื่องอธิปไตยชาติไทยโดยตรง,นี้นายกฯหนูต้องประกาศให้ชัดเจนและเป็นทางการแบบนี้,ไม่เล่นเป็นเด็กขายของ เลอะเทอะไปวันๆ,อยากเป็นนายกฯต่อและคือตำนานที่ดีต้องกล้าตัดสินใจแบบนี้,ร้อยความผิดมีมามากมาย,แต่เมื่อในปัจจุบันตนมีโอกาสเต็มมือเต็มที่ในการทำเพื่อชาติแบบยกเลิกmou43,44,tor46ต้องทำเลย.,ลากยาวอัดโฆษณากัญชาเสรีเพื่อสมุนไพรพึ่งพาตนเองแห่งชาติ สร้างรายได้และรักษาตรเองพื้นบ้านยาครอบจักรวาลตนต้องต่อยอดคู่ขนานในอำนาจ4เดือนนี้ด้วย,อย่าสนใจการโจมตีขุดเชิงลบมาทำลายผลประโยชน์มากมายมหาศาลของประชาชนคนไทยเมื่อใช้ถูกทางถูกวิธีได้,สุราเหล้าเบียร์ยาบ้ามันโหดร้ายชั่วเลวมากกว่ามาก,ตั้งกระทรวงกัญชากัญชงแห่งชาติเลย,ใช้ใยกัญชากัญชงผสมเทคโนโลยีอื่นผลิตเครื่องบินรบ ยานบินอวกาศได้สบายโน้น,ชุดเกราะกันกระสุนน้ำหนักเบาก็ได้,อัดกราฟีนตรงกลางอีก,แข็งกว่าเพชรอีก, พืชกัญชากัญชงสามารถผสมผสานประยุกต์เป็นรายการสินค้าได้กว่า50,00-100,000รายการสินค้าได้อย่างสบาย,โรคซึมเศร้า เสียเส้น รักษาได้ดี ยาครอบจักรวาลด้วย, พืชฝิ่นก็เสรีปลูกเลย อเมริกายังให้อัฟกานิสถานปลูกเลยบังหน้า,สกัดยาแก้ปวดใช้เองภายในประเทศไทยเรา,ควบคุมดีๆจะเป็นเหี้ยอะไร,และมิใช่ปิดกั้นประชาชนแบบยุคกัญชาเสรีแหกตาแบบในอดีตที่ผ่านมากะทำแดกเองทรยศประชาชน,สร้างเงื่อนไขต้นทุนสูงสาระพัดห้ามประชาชนทางตรงและทางอ้อม,ปลูกหัวไร่ปลายนาก็โคตรงามปกติได้,ปลูกกัญชากัญชงสามารถล้างพิษโลหะหนักต่างๆในดินได้,ปรับสภาพดินเป็นปุ๋ยอย่างดีก็ได้,ที่ผ่านมาเลอะเทอะอย่างยิ่ง,บ่อเงินบ่อทองคำเขียวบนดินเพื่อประชาชนคนเกษตรชัดเจน แต่รัฐบาลเลวเกินไปจึงกระทำล้มเหลว, ..จริงๆจะตังดิจิดัล มีส่วนดีมากมาย ลดต้นทุนอะไรเยอะ,แค่คนควบคุมระบบมันโปร่งใส่แค่ไหน,แบงค์ชาติปัจจุบันจริงสมควรถูกยุบทิ้งเพราะรัฐบาลไม่สามารถสั่งการควบคุมได้ บริหารจัดการเด็ดขาดไม่ได้ ในกรณีรัฐบาลมาจากคนดีมีคุณธรรมโปร่งใส่จิตใจงามของผู้นำนายกฯนั้นของคนไทย,นายกฯต้องสามารถควบคุมทั้งหมดของทุกๆกลไกภายในประเทศ,แต่แบงค์ชาติไม่ใช่บวกก่อกำเนิดมาจากเป้าหมายdeep stateเพื่อปกครองครอบงำควบคุมประเทศนั้นๆโดยผ่านธนาคารกลางในชาตินั้นๆหรือแบงค์ชาติไทยนั้นเอง,ถูกควบคุมโดยผ่านกลไกระบบเงินโลกโดยอัตโนมัติ,ทิศทางต่างๆจึงพยายามควบคุมให้สอดคล้องกับนโยบายโลกเป็นสำคัญโดยลืมตัวตนไปว่าตนคือคนไทยต้องช่วยคนไทยก่อน ปกป้องคนไทยก่อนจากกฎหมาย เงื่อนไขกติกาธนาคารเอกชนที่เอาเปรียบประชาชนคนไทยตน ต้องเด็ดขาดออกกฎกติกาต่างๆควบคุมธนาคารพานิชย์ค้ากำไรดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมต่างๆหรือค่าบริการใดๆของบริการทางธุรกรรมต่างๆของธนาคารได้ แต่แบงค์ชาติไทยหาเป็นเช่นนั้น ดูจากการสวนกระแสทำกำไรรายได้มหาศาลของธนาคารเอกชนในไทยที่ผ่านมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วไทยประชาชนขาดทุนกิจการปิดตัวลงเป็นว่าเล่น หนี้สินประชาชนเต็มเพดาน แต่ธนาคารเหล่านีักลับประกาศผลกำไรประกอบการอันงดงามกว่าหมื่นล้านแสนล้านที่โชว์ในตลาดset,แบงค์ชาติจึงสมควรถูกยุบทิ้งเหมือนกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเด่นชัดในเรื่องอธิปไตยไทยดินแดนตนที่รับรู้ตื้นลึกหนาบางหมดแต่ละเว้นต่อหน้าที่ตนพึ่งกระทำจนนำไปสู่การสูญเสียดินแดนถึง1:150,000 จากกรณีmou43ใช้1:200,000นั้นไม่ใช้1:50,000ที่สากลทั่วโลกยอมรับปกติแบบกรณีเวียดนามกับเขมร,กรณีลาวใช้กับเขมรที่อัตรา1:50,000ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับรู้ดีทุกๆอย่าง,แต่ละเว้นในหน้าที่ปกป้องอธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน สมควรถูกประหารชีวิตทั้งกระทรวงให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง,เมื่อชาติตกเป็นทาสเป็นเชลยศึกศัตรูสงครามแพ้ต่ออธิปไตยตนที่ปกป้องไม่ได้ ทุกข์แสนสาหัสต่อคนประชาชนทั้งแผ่นดินไทยตนต้องบังเกิดขึ้นแน่นอนชัดเจน.,คนกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดต้องถูกลงโทษไม่มีข้อยกเว้น ยิ่งปัจจุบันไร้สำนึก สันดานในจิตในใจตนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยังแถลงไขช่วยเหลือเขมร,เรา..ประชาชนคนไทยรับสันดานพฤติกรรมจริตจัญไรชั่วเลวนี้ไม่ได้จริงๆ.,นายกฯใหม่ที่เป็นภาวะผู้นำดีมีคุณธรรมโปร่งใส่อ่านขาดทุกๆปัญหาย่อมยุบทิ้งทันทีกระทรวงการต่างประเทศนี้และแบงค์ชาติในไทย,ก่อตั้งใหม่ได้ทันที,เป็นหน่วยงานที่ยืนเคียงข้างประเทศและประชาชนคนไทยชัดเจนในการดำรงความผาสุกจริงแก่สัมมาชีวิตคนไทยเรา,กระบวนการดูดเงินที่ผิดปกติ กระบวนการอายัดบัญชีประชาชนที่มั่วไร้ประสิทธิภาพมีวาระซ่อนเร่นด้วยถูกว่าเป็นภัยคุกคามประเทศไทยตนเองสร้างโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองตนชัดเจนด้วย,เงินเทาเงินมืดเงินดำมากมายไหลผ่านเข้าออกในประเทศไทยตนเองแบงค์ชาตินี้รับรู้หมดล่ะแต่ไม่จัดการห่าอะไรตลอดเรื่อยมาที่ผ่านๆมา,เงินไหลเข้าจากต่างชาติมากมายมาปั่นป่วนไทยให้หน่วยองค์กรสากลผีบ้าต่างๆแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สามารถอายัดเงินชั่วเลวนั้นทันทีได้ด้วย ห้ามไหลออกก็ได้ มาปั่นค่าเงินบาทแบยโซรอสมันทำก็ห้ามเงินไหลออกก็ได้ ออกไปก็ประสานงานปลายทางให้โอนคืนด้วย,ถ้ามันไม่ช่วยก็ห้ามปลายทางนั้นมาเชื่อมระบบการเงินกับไทยทันที,บล็อคแบงค์ต่างชาตินั้นทันทีที่สนับสนุนอาชญากรรมทางการเงินเพื่อโจมตีค่าเวินบาทและเศรษฐกิจไทยให้พังพินาศ,นี้คือนายกฯต้องเห็นทุกๆบัญชีใครทั้งหมดในประเทศได้ มรึงจะร่ำรวยหลัก 100ล้านล้านบาทนายกฯต้องเข้าไปตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินได้,นี้ห่าอะไรปกปิดหมด บล็อคการเข้าถึงของอำนาจรัฐบาลตนเอง,สั่งลดดอกเบี้ยห่าอะไรก็ไม่ได้,เช่นนายกฯสั่งแบงค์เอกชนในไทยทั้งหมด,ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดจะMLR Mห่าอะไร มาใช้อัตราเดียวคือดอกเบี้ยเงินกู้ทุกๆกรณีที่0.25%ต่อปีทั้งหมด,ดอกเบี้ยเงินฝากที่0.01%ต่อปี จะกระตุ้นการใช้จ่ายทันที,แบงค์ไหนไม่พอใจในประเทศไทยก็ปิดตัวลงไป,ธนาคารรัฐ ใช้อัตราเงินกู้แค่0.15%ต่อปี,นี้บวกอะไรแอบแฝงเพื่อแดกสาระพัดไม่รวมค่าธรรมเนียมค่าดำเนินการค่านั้นค่านี้อีก,กำไรตรึมไม่รวมขายประกันในแบงค์ขายผ่านบัตรATMอีกเอาเปรียบประชาชนสาระพัดแต่แบงค์ชาติเลวเหล่านี้กลับนิ่งเฉย,deep stateจะควบคุมปกครองประเทศใดๆสำเร็จมันควบคุมธนาคารในชาตินั้นๆก่อน,จีนมันควบคุมไม่ได้ ก็ไปควบคุมวิธีอื่นแทน,แต่จีนสามารถจัดการได้ เรา..ไทยต้องจัดการได้เช่นกัน,แต่นายกฯต้องเป็นคนดีจริงๆนะมิใช่เหี้ยแบบอดีตๆที่ผ่านมาแบบไอ้หน้าหล่อเสือกเอาmouไปเข้าunเป็นสนธิสัญญาอีกถือว่าเข้า ม.119อาญาประหารชีวิตชัดเจน,แม้เรายกเลิกสนธิสัญญาได้ ปฏิเสธธุรกรรมลงนามบันทึกใดๆได้หมดล่ะที่ทำเหี้ยกับใครไว้ หากมิชอบไม่เป็นการดีต่ออธิปไตยไทย เราฉีกทิ้งได้หมดล่ะ , ..นายกฯปัจจุบันจึงต้องแสดงตัวตนและบทบาทตนเองออกมาให้ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ในการจะกอดหรือยกเลิกmou43,44นี้,ตอนนี้ก็ผ่านมา20วันแล้ว,เจตนารมณ์อันชัดเจนของตนเองยังไม่มี,อ้างนั้นอ้างนี้ถือว่าไม่มีความจริงใจต่ออธิปไตยดิรแดนชาติที่ตั้นตอปัญหาทั้งหมดมาจากmouนี้ทั้งสิ้น,ตนต้องมั่นใจในตนเองในบทบาทนายกฯตนเองที่มีอำนาจเต็มแล้ว จนสามารถสั่งยุบสภาได้โน้น,พะสาประกาศยกเลิกmou43,44ด้วยตนเอง มันสามารถทำได้,ประชาชนทั้งประเทศเชียร์อยู่แล้วเสือกยังไม่มีความกล้าหาญ ยังขี้ขลาดอีกอยู่ ใช้ไม่ได้,ไม่จะบ้าบอว่ารอบคอบหรือไม่รอบคอบห่าอะไรเลย,ประชาชนทั้งประเทศสนับสนุนต้องยกเลิกmouผีบ้านี้อยู่แล้ว,สมัยหน้านายกฯคนที่33เป็นอีกโน้น,คดีเขากระโดง ฮั่วสว.เรื่องขี้หมาเลย, นายกฯคนต่อไปได้เป็นแน่นอน.,ทำสิ่งที่ถูกต้องจบเลย,เขากระโดงก็คืนเสียแม้กรมที่ดินไม่ว่าไรพอเป็นพิธีให้เกียรติ จะมีอำนาจอยู่ก็ตาม เหยียบไม่เอาผิดก็ตาม, นายกฯคนต่อไปรื้อมาเล่นงานใหม่ได้หมดล่ะถ้าจะจัดการ,เมื่อตนสิ้นอำนาจอันตรายมากหากไม่สำนึกทำสิ่งที่ไม่ดีอยู่ต่ออีก,หากสำนึกกลับตัวกลับใจ สามารถนำพาพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนเป็นพรรคภูมิใจธรรมได้ ย่อมอาจเป็นราชสีห์แทนงูเห่าที่เขาเหยียดหยามทั้งประเทศได้.,โทนี่ก็เป็นนายกฯยังติดคุกได้นะ.,ความดีจะคุ้มครองคนกระทำดี. ..อาสนธิท้าทายวัดใจ,แต่วัดใจเพื่อสนับสนุนให้กระทำสิ่งดีๆความดี มันดีต่อตนเองและประเทศชาติด้วย ถ้าไม่ทำ เสียของ เสียหายแก่ตนเองทันที ตราบาปตลอดชีวิต อับอายแก่วงศ์ตระกูลอีกเมื่อมีโอกาสทำสิ่งดีๆความดีเสือกไม่ทำ,ใฝ่ต่อขั่วเลวด้วยเกรงกลัวมันที่จะแแสิ่งไม่ดีตนออกมา,มันไม่คุ้มหรอก,สู้ทำสิ่งดีๆไปเลย แฉออกมาก็ชั่งหัวมัน,ผิดคือผิด ,แต่กูตอนนี้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อตัวกูเองและประเทศชาติแผ่นดินไทยกูตอนนี้ กูยอมแลก,นี้ต้องประมาณนี้น่ะจึง อัพเลเวลได้แน่นอน.,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ที่ดีๆทันที ลูกหลานววศ์ตระกูลตนแม้เคยผ่านอดีตเหลวร้ายใดๆมา ผิดพลาดไป เขามาเห็นมาดูประวัติศาสตร์วงศ์ตระกูลตนก็จะภาคภูมิใจ แม้กูเป็นโจรโกงกินเหี้ยสาระพัดภายในประเทศแต่กลับแดนอธิปไตยไทยกูปกป้องเพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ,อนาคตเขาเหล่านั้นจะดำรงตั้งในกิจกรรมทำความดีสิ่งดีๆแน่นอน,ไม่ละอายใจต่อแผ่นดินแทนบรรพบุรุษตนเอง,ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าท้าฟ้าได้ เหินฟ้า!!!ประมาณนั้น,แต่ถ้าตัดสินใจผิด ก้มหน้าก้มตากอดmiuผีบ้านี้อยู่แถแถลงเลอะเทอะไม่เรื่อย,ดับอนาถแน่นอน,ทรัพย์สินอาจถูกยึดหมดทั้งตระกูลหรือพร้อมถูกประหารชีวิตด้วย.,ทหารไทยใจรักชาติรักแผ่นดินไทยดีๆเขามีข้อมูลว่าใครดีใครชั่วเลว ใครกลับตัวกลับใจหมดล่ะ,โอกาสมี2เส้นทาง ทางสวรรค์เห็นชัดเจน และทางลงนรกก็ไม่ธรรมดาด้วย,ทานยาสีเม็ดอะไรแค่นั้น. https://youtube.com/shorts/4if56ZNYpSQ?si=yH7PxuCOucsjv6Zq
    0 Comments 0 Shares 413 Views 0 Reviews
  • นี้คือความผิดปกติของสังคมเรา,และทั่วโลก,ตังคือชีวิต ค่าครองชีพทุกๆวันนี้สาหัสจริงๆ,วิถีปกครองเราเองคือปัญหา ผัดมัดตัง และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายจ่ายในสังคมเกินไปจริงๆ,สินค้าแพง ของแพง แพงทั้งแผ่นดินเพราะเกิดจากยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผิดปกติไป,สายสัมพันธ์คนชุมชนเมืองขาดแคลนสิ้น,และกำลังขยายเชื้อนี้สู่สังคมชนบทด้วยวิถีปากกัดตีนถีบดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่งเพราะตัง ตังที่ต้องเอาไปใช้จ่ายสาระพัดสินค้าราคาที่แพงขึ้น.,
    ..รัฐบาลข้อหนึ่งใส่ใจแรงงานต่างด้าวคนต่างด้าวเกินไป ค่าแรงเจ้าสัวชั่วเลวกำหนดให้คนต่างด้าวได้ค่าแรงเทียบเท่าคนไทย มอบสวัสดิการก็ให้เสมอคนไทย,ทอดทิ้งคนไทย เพื่อทำลายประเทศจากภายในสู่การแตกแยกมากๆนั้นเอง,ตลอดต่างชาติมากมายมาอยู่ประเทศไทยก็พากันสร้างราคาสินค้าอาหารบริการมาตราฐานคนต่างชาติด้วยเช่นฝรั่งอเมริกา1$:35฿ก็ขายคนไทยแบบราคาต่างชาตินั้นเอง,เจ้าสัวขึ้นราคาสินค้าต่อเนื่องโดยดันจากต้นน้ำที่เจ้าสัวควบคุมกำหนดสั่งการได้อีก,จนถึงปลายน้ำตน,ทยอยดันค่าครองชีพกันมาหลายปี ทยอยดันราคาสินค้ากันมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน,ต่างชาติต่างด้าวกลืนกินวิถีชีวิตคนไทยไม่รู้ตัว ครอบงำด้วยหนี้สินเงินกู้บัตรเครดิตเป็นต้น,ทั้งหนี้ในระบบ หนี้นอกระบบกู้หมวกกันน็อคก็ว่า ร้อยละยี่ละสี่สิบตรึม,คือสาระพัดกลไกทำลายวิถีชุมชนสังคมไทยอย่างเสรี,ต่างชาติต่างด้าวปลูกบ้านครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทยเป็นว่าเล่น,นี้คือวิถีปกครองผ่านระบบราชการรัฐและการเมืองที่ล้มเหลวของแท้ ,ดูแค่ทหารไทยที่ผ่านๆมาปล่อยเขมรลุกล้ำยึดพื้นที่11จุดอีสานใต้ดูเถอะ นี้ไม่รวมแบบภาคตะวันออกบ้านหนองจานอีก,ตลอดวงการตำรวจโคตรเสื่อมลากไส้กันซื้อตำแหน่งแบบประชาชนทั่วไทยรับรู้ตรึมแต่ก็จัดการห่าอะไรจริงจังไม่มี ยาบ้าปราบไม่ได้ก็อนุญาตเสรีเสีย,คือภายในเรามันเน่าเต็มทนนั้นเอง สมควรเผาทันทีเช่นกันไม่สมควรเก็บซากพวกนี้ไว้ด้วย,เจอทุจริตเช้า ประหารเที่ยว เผาบ่าย ญาติพี่น้องเก็บกระดูกเย็น สวดหัวค่ำ อัดปูข้างกำแพงกลายหัวค่ำหน่อยจบพิธีเลย,ไม่ต้องขึ้นศาลอะไรเลยขนาดนั้น,ศาลก็มีข่าวถุงขนมอีก คนย่อมมีโลภกันหมดล่ะ ตราบใดที่ยังมีชีวิตมีครอบครัวมีห่วงลูกเมีย,จับลูกเมียเป็นตัวประกัน คดีก็พลิกได้แล้วเป็นต้น.,คือหาความแน่นอนยากจริงๆ
    ..
    ..ตราบใดยังสร้างสมดุลระบบไม่ได้ อันตรายใกล้นี้เอง.,ไทยปะทะเขมรแค่เปลือกนอก,เปลือกในคือสายสัมพันธ์สังคมไทยเราลักษณะนี้ด้วย,อย่าต่างคนต่างอยู่เลย ขนาดเผาผีกันทั้งชุมชนหมู่บ้านยังไม่มีดูจิตดูใจเหมือนแต่ก่อน,เรามุ่งแสวงหาเงินคือพระเจ้า เรา..ประเทศไทยรอการพังพินาศแบบอเมริกาแบบยุโรปเลย,แม้แต่จีนก็ไม่รอดจะอวดอ้างเทคโนโลยีล้ำกว่ายุโรปฝรั่งขนาดไหนแม้ต่างดาวมาถ่ายทอดล้ำให้ก็เถอะก็ไม่รอด,จะพังพินาศโดยง่ายเช่นกัน,เคลมเร็วจบเร็วนั้นล่ะ,
    ..วิถีดีงามที่เคยเป็นมาสมควรปลูกฝังกันกลับมาจริงๆ,ขจัดความยากจนทางวัตถุเบื้องต้น,เสริมความร่ำรวยทางวัตถุและทางจิตใจคู่ขนาน ใจที่เปิดออกจะประสานสังคมได้เพราะแต่ละบ้านมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนดิ้นรนอะไรมากนักหรือร่ำรวยแล้วในแต่ละบ้านใครมันครอบครัวใครมัน ชุมชนจะสร้างกิจกรรมเชื่อมใจกันโดยง่ายมิใช่ตังเป็นใหญ่อีกต่อไป.



    https://youtube.com/shorts/o5C0BoVFcPk?si=MB76bmPpdZI9i3sW
    นี้คือความผิดปกติของสังคมเรา,และทั่วโลก,ตังคือชีวิต ค่าครองชีพทุกๆวันนี้สาหัสจริงๆ,วิถีปกครองเราเองคือปัญหา ผัดมัดตัง และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายจ่ายในสังคมเกินไปจริงๆ,สินค้าแพง ของแพง แพงทั้งแผ่นดินเพราะเกิดจากยุทธศาสตร์ของประเทศที่ผิดปกติไป,สายสัมพันธ์คนชุมชนเมืองขาดแคลนสิ้น,และกำลังขยายเชื้อนี้สู่สังคมชนบทด้วยวิถีปากกัดตีนถีบดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่งเพราะตัง ตังที่ต้องเอาไปใช้จ่ายสาระพัดสินค้าราคาที่แพงขึ้น., ..รัฐบาลข้อหนึ่งใส่ใจแรงงานต่างด้าวคนต่างด้าวเกินไป ค่าแรงเจ้าสัวชั่วเลวกำหนดให้คนต่างด้าวได้ค่าแรงเทียบเท่าคนไทย มอบสวัสดิการก็ให้เสมอคนไทย,ทอดทิ้งคนไทย เพื่อทำลายประเทศจากภายในสู่การแตกแยกมากๆนั้นเอง,ตลอดต่างชาติมากมายมาอยู่ประเทศไทยก็พากันสร้างราคาสินค้าอาหารบริการมาตราฐานคนต่างชาติด้วยเช่นฝรั่งอเมริกา1$:35฿ก็ขายคนไทยแบบราคาต่างชาตินั้นเอง,เจ้าสัวขึ้นราคาสินค้าต่อเนื่องโดยดันจากต้นน้ำที่เจ้าสัวควบคุมกำหนดสั่งการได้อีก,จนถึงปลายน้ำตน,ทยอยดันค่าครองชีพกันมาหลายปี ทยอยดันราคาสินค้ากันมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน,ต่างชาติต่างด้าวกลืนกินวิถีชีวิตคนไทยไม่รู้ตัว ครอบงำด้วยหนี้สินเงินกู้บัตรเครดิตเป็นต้น,ทั้งหนี้ในระบบ หนี้นอกระบบกู้หมวกกันน็อคก็ว่า ร้อยละยี่ละสี่สิบตรึม,คือสาระพัดกลไกทำลายวิถีชุมชนสังคมไทยอย่างเสรี,ต่างชาติต่างด้าวปลูกบ้านครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทยเป็นว่าเล่น,นี้คือวิถีปกครองผ่านระบบราชการรัฐและการเมืองที่ล้มเหลวของแท้ ,ดูแค่ทหารไทยที่ผ่านๆมาปล่อยเขมรลุกล้ำยึดพื้นที่11จุดอีสานใต้ดูเถอะ นี้ไม่รวมแบบภาคตะวันออกบ้านหนองจานอีก,ตลอดวงการตำรวจโคตรเสื่อมลากไส้กันซื้อตำแหน่งแบบประชาชนทั่วไทยรับรู้ตรึมแต่ก็จัดการห่าอะไรจริงจังไม่มี ยาบ้าปราบไม่ได้ก็อนุญาตเสรีเสีย,คือภายในเรามันเน่าเต็มทนนั้นเอง สมควรเผาทันทีเช่นกันไม่สมควรเก็บซากพวกนี้ไว้ด้วย,เจอทุจริตเช้า ประหารเที่ยว เผาบ่าย ญาติพี่น้องเก็บกระดูกเย็น สวดหัวค่ำ อัดปูข้างกำแพงกลายหัวค่ำหน่อยจบพิธีเลย,ไม่ต้องขึ้นศาลอะไรเลยขนาดนั้น,ศาลก็มีข่าวถุงขนมอีก คนย่อมมีโลภกันหมดล่ะ ตราบใดที่ยังมีชีวิตมีครอบครัวมีห่วงลูกเมีย,จับลูกเมียเป็นตัวประกัน คดีก็พลิกได้แล้วเป็นต้น.,คือหาความแน่นอนยากจริงๆ .. ..ตราบใดยังสร้างสมดุลระบบไม่ได้ อันตรายใกล้นี้เอง.,ไทยปะทะเขมรแค่เปลือกนอก,เปลือกในคือสายสัมพันธ์สังคมไทยเราลักษณะนี้ด้วย,อย่าต่างคนต่างอยู่เลย ขนาดเผาผีกันทั้งชุมชนหมู่บ้านยังไม่มีดูจิตดูใจเหมือนแต่ก่อน,เรามุ่งแสวงหาเงินคือพระเจ้า เรา..ประเทศไทยรอการพังพินาศแบบอเมริกาแบบยุโรปเลย,แม้แต่จีนก็ไม่รอดจะอวดอ้างเทคโนโลยีล้ำกว่ายุโรปฝรั่งขนาดไหนแม้ต่างดาวมาถ่ายทอดล้ำให้ก็เถอะก็ไม่รอด,จะพังพินาศโดยง่ายเช่นกัน,เคลมเร็วจบเร็วนั้นล่ะ, ..วิถีดีงามที่เคยเป็นมาสมควรปลูกฝังกันกลับมาจริงๆ,ขจัดความยากจนทางวัตถุเบื้องต้น,เสริมความร่ำรวยทางวัตถุและทางจิตใจคู่ขนาน ใจที่เปิดออกจะประสานสังคมได้เพราะแต่ละบ้านมีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนดิ้นรนอะไรมากนักหรือร่ำรวยแล้วในแต่ละบ้านใครมันครอบครัวใครมัน ชุมชนจะสร้างกิจกรรมเชื่อมใจกันโดยง่ายมิใช่ตังเป็นใหญ่อีกต่อไป. https://youtube.com/shorts/o5C0BoVFcPk?si=MB76bmPpdZI9i3sW
    0 Comments 0 Shares 459 Views 0 Reviews
  • นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก.

    ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ.


    https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก. ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ. https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews
  • ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ,

    ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก.



    https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ, ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก. https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    0 Comments 0 Shares 423 Views 0 Reviews
  • การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า,
    ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป.

    https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า, ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป. https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    0 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น,
    ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย.
    ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น, ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย. ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย. .. ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    0 Comments 0 Shares 732 Views 0 Reviews
  • ..ถึงขนาดนี้แล้ว,ถือว่าทหารไทยเราอดทนผิดที่อดทนผิดเวลาอดทนผิดจังหวะ,ตัดตอนความโกลาหลเขาไม่เรียกว่าอดทน,ตัดตอนภัยคุกคามรุกรานอธิปไตยชาติเขาไม่เรียกว่าอดทน,เขาเรียกว่าไม่เหมาะสม ไม่ถูกแก่เวลาถูกแก่จังหวะเพราะด้วยระยะเวลาขนาดนี้มันนานเกินประมาณแล้ว,มิใช่ยุคกากๆไร้ข่าวกรอกข่าวสารแบบอดีต การข่าวมาช้าเนินนานจึงพออ้างว่าตัดสินใจไม่ทันกาลเพื่อพิจารณาต่อความรอบครอบกันผิดพลาดได้,นี้ห่าอะไร ตั้งโต๊ะพิจารณาการข่าวเรียลไทม์ก็ทันกาลแล้ว สามารถป้องกันการรุกรามของเชื้อโรคผีบ้านั้นได้ทันทีก่อนบ้าบอจะไม่เข้ากระแสเลือดติดเชื้อในกระแสเลือดพังทั้งร่างกายหรือตัดอวัยวะทิ้งแบบตัดเขาพระวิหารไปเช่นนั้นเหรอ,เชื่องช้านั้นล่ะ,ด้วยสถานการณ์การรับรู้ก็ชัดเจนแล้วขนาดนี้,บวกเขมรขู่ฆ่าลอบสังหารคนไทยภายในประเทศอิสระอีก,ถ้าไทยส่งมือสังหารพร้อมโดรนพลีชีพเขาสังหารคนตระกูลฮุนเซนในนามUNในนามจีนรัสเชีย เขมรจะมิตายดับอนาถเหรอ,ทหารไทยอ่อนแออ่อนหัดเกินไปแม้แต่เรื่องลอบสังหารคนไทยภายในประเทศไทยตนก็ให้เขาสร้างข่าวเหยียบหน้าได้,
    ..ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารก็จบ นี้คิดตื้นๆเลยนะแต่นักการเมืองชั่วคนชั่วข้าราชการชั่วเจ้าสัวชั่วหวาดกลัวเป็นอันมากแล้วอ้างประชาชนคนไทยเพื่อปกป้องตนเองว่าไม่ควรทำ ทำแล้วไม่ดีเสียหน้า เรามาไกลแล้วพะนะ คนจะไม่มาลงทุน อ้างไปโน้น,ที่จริงไม่เกี่ยวกันเลย จีนคอมมิวนิสต์โคตรเผด็จการนะ รัสเชียอีก,เขาเห็นว่าไทยปลอดภัยกว่าเขมรเขามาลงทุนมากมายเลยล่ะสำหรับคนดีๆ,ในภูมิภาคนี้ใครจะสู้ประเทศไทยได้,จึงพยายามให้ไทยไม่สงบสุขทุกๆรูปแบบโกลาหลทุกๆช่องทางเช่นกฎหมายยาบ้าอบายมุขเสรีเพื่อนัยยะจริงทำไทยอ่อนจากภายในโกลาหลภายในเหมือนแรงงานต่างด้าวล้นเมืองไทยก็เจ้าสัวชั่วบวกนักการเมืองข้าราชการระยำต่างสมคบคิดเพื่อการนี้ทั้งนั่นในหมากแผนแต่ละชุดละหน่วยหน้างานที่จะทำลายไทยเรา.
    ..จึงยึดอำนาจดีที่สุด,เพราะการยึดอำนาจของเราไม่เหมือนชาติใดในโลก ไม่เหมือนมุสลิมอาหรับ,เรายึดเพื่อกวาดล้างคนไม่ดีมิใช่ส่งเสริมคนไม่ดี,
    ..นายกฯลาออกหรือยุบสภามันก็แก้ไขปัญหาจริงไม่ได้,ประยุทธยึดอำนาจรุ่นล่าสุดก็เสียของมิได้กวาดล้างนักการเมืองชั่วเลวอะไรจริง กวาดล้างเจ้าสัวคหบดีชั่วเลวอะไรจริง กวาดล้างกิจการบริษัทชั่วเลวในไทยจริง,ฉีกทิ้งกฎหมายกระทรวงทบวงกรมที่เหี้ยๆหลากหลายฉบับจริงอะไร,จึงต้องปฏิวัติรัฐประหารใหม่หมดเปลี่ยนอะไรๆที่ผิดทางให้ถูกทาง ลงป่า ขึ้นมาถนนเพื่อพากันสามัคคีกันเดินบนทางที่ถูกต้องถูกศีลธรรมอันดีงาม มีแต่เสียงไชโยๆๆด้วยกุศลธรรมตลอดทางเดินของคนไทยเรา,มิใช่เหี้ยแบบปัจจุบันนี้.
    ..อาสนธิและคณะคนไทยรักชาติทุกๆคนทุกๆคณะพร้อมขึ้นบริหารดูแลจัดการพลิกฟื้นฟูประเทศได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน พวกมันหวาดกลัวสิ่งนี้ จึงจะตัดตอนอาสนธิก็ว่า,ศัตรูอาสนธิคือฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรานั่นล่ะ.

    https://youtu.be/B-BirmCWPmM?si=vxbKLiIrw5vuRs7L
    ..ถึงขนาดนี้แล้ว,ถือว่าทหารไทยเราอดทนผิดที่อดทนผิดเวลาอดทนผิดจังหวะ,ตัดตอนความโกลาหลเขาไม่เรียกว่าอดทน,ตัดตอนภัยคุกคามรุกรานอธิปไตยชาติเขาไม่เรียกว่าอดทน,เขาเรียกว่าไม่เหมาะสม ไม่ถูกแก่เวลาถูกแก่จังหวะเพราะด้วยระยะเวลาขนาดนี้มันนานเกินประมาณแล้ว,มิใช่ยุคกากๆไร้ข่าวกรอกข่าวสารแบบอดีต การข่าวมาช้าเนินนานจึงพออ้างว่าตัดสินใจไม่ทันกาลเพื่อพิจารณาต่อความรอบครอบกันผิดพลาดได้,นี้ห่าอะไร ตั้งโต๊ะพิจารณาการข่าวเรียลไทม์ก็ทันกาลแล้ว สามารถป้องกันการรุกรามของเชื้อโรคผีบ้านั้นได้ทันทีก่อนบ้าบอจะไม่เข้ากระแสเลือดติดเชื้อในกระแสเลือดพังทั้งร่างกายหรือตัดอวัยวะทิ้งแบบตัดเขาพระวิหารไปเช่นนั้นเหรอ,เชื่องช้านั้นล่ะ,ด้วยสถานการณ์การรับรู้ก็ชัดเจนแล้วขนาดนี้,บวกเขมรขู่ฆ่าลอบสังหารคนไทยภายในประเทศอิสระอีก,ถ้าไทยส่งมือสังหารพร้อมโดรนพลีชีพเขาสังหารคนตระกูลฮุนเซนในนามUNในนามจีนรัสเชีย เขมรจะมิตายดับอนาถเหรอ,ทหารไทยอ่อนแออ่อนหัดเกินไปแม้แต่เรื่องลอบสังหารคนไทยภายในประเทศไทยตนก็ให้เขาสร้างข่าวเหยียบหน้าได้, ..ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารก็จบ นี้คิดตื้นๆเลยนะแต่นักการเมืองชั่วคนชั่วข้าราชการชั่วเจ้าสัวชั่วหวาดกลัวเป็นอันมากแล้วอ้างประชาชนคนไทยเพื่อปกป้องตนเองว่าไม่ควรทำ ทำแล้วไม่ดีเสียหน้า เรามาไกลแล้วพะนะ คนจะไม่มาลงทุน อ้างไปโน้น,ที่จริงไม่เกี่ยวกันเลย จีนคอมมิวนิสต์โคตรเผด็จการนะ รัสเชียอีก,เขาเห็นว่าไทยปลอดภัยกว่าเขมรเขามาลงทุนมากมายเลยล่ะสำหรับคนดีๆ,ในภูมิภาคนี้ใครจะสู้ประเทศไทยได้,จึงพยายามให้ไทยไม่สงบสุขทุกๆรูปแบบโกลาหลทุกๆช่องทางเช่นกฎหมายยาบ้าอบายมุขเสรีเพื่อนัยยะจริงทำไทยอ่อนจากภายในโกลาหลภายในเหมือนแรงงานต่างด้าวล้นเมืองไทยก็เจ้าสัวชั่วบวกนักการเมืองข้าราชการระยำต่างสมคบคิดเพื่อการนี้ทั้งนั่นในหมากแผนแต่ละชุดละหน่วยหน้างานที่จะทำลายไทยเรา. ..จึงยึดอำนาจดีที่สุด,เพราะการยึดอำนาจของเราไม่เหมือนชาติใดในโลก ไม่เหมือนมุสลิมอาหรับ,เรายึดเพื่อกวาดล้างคนไม่ดีมิใช่ส่งเสริมคนไม่ดี, ..นายกฯลาออกหรือยุบสภามันก็แก้ไขปัญหาจริงไม่ได้,ประยุทธยึดอำนาจรุ่นล่าสุดก็เสียของมิได้กวาดล้างนักการเมืองชั่วเลวอะไรจริง กวาดล้างเจ้าสัวคหบดีชั่วเลวอะไรจริง กวาดล้างกิจการบริษัทชั่วเลวในไทยจริง,ฉีกทิ้งกฎหมายกระทรวงทบวงกรมที่เหี้ยๆหลากหลายฉบับจริงอะไร,จึงต้องปฏิวัติรัฐประหารใหม่หมดเปลี่ยนอะไรๆที่ผิดทางให้ถูกทาง ลงป่า ขึ้นมาถนนเพื่อพากันสามัคคีกันเดินบนทางที่ถูกต้องถูกศีลธรรมอันดีงาม มีแต่เสียงไชโยๆๆด้วยกุศลธรรมตลอดทางเดินของคนไทยเรา,มิใช่เหี้ยแบบปัจจุบันนี้. ..อาสนธิและคณะคนไทยรักชาติทุกๆคนทุกๆคณะพร้อมขึ้นบริหารดูแลจัดการพลิกฟื้นฟูประเทศได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน พวกมันหวาดกลัวสิ่งนี้ จึงจะตัดตอนอาสนธิก็ว่า,ศัตรูอาสนธิคือฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเรานั่นล่ะ. https://youtu.be/B-BirmCWPmM?si=vxbKLiIrw5vuRs7L
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • กฎหมายที่เขียนๆที่ร่างๆกันออกมา คณะใดเขียน ใครคือคนเบื้องหลังบอกให้เขียน คนเหล่านีัคือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยดินแดนของประเทศจริงแท้,การศึกสงครามยึดดินแดนในยุคปัจจุบัน นอกจากสงครามทางทหารแล้ว ยังมีสงครามทางด้านกฎหมายภายในประเทศเองนี้ล่ะ,จึงไม่น่าแปลกใจที่มีกฎหมายมากมายออกมาเพืีอกดขี่ข่มเหงประชาชนเป็นอันมากโดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชนบังหน้า เช่นกฎหมายไม่สวมหมวกกันน็อคบังคับใช้1มิย.68ล่าสุด ปรับ2,000บาท,ทัังคนขี่และคนนั่งมาด้วยบวกคูณ2เท่าหากคนนั่งมาด้วยไม่สวมหมวก,กฎหมายเอาคนขายยาบ้าคนผลิตยาบ้ามาลงทะเบียนขายลงมะเบียนผลิตยังไม่มีปัญญาออกมาใช้บังคับและไม่มีปัญญาแก้ไขจับกุมจริงจังถึงคนระดับสูง ,เรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว เรามีเจ้าหน้าที่เลวมากเกินไป.
    https://youtube.com/shorts/n0XoPqy8vtM?si=4laYakGwPVo1jK4a
    กฎหมายที่เขียนๆที่ร่างๆกันออกมา คณะใดเขียน ใครคือคนเบื้องหลังบอกให้เขียน คนเหล่านีัคือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยดินแดนของประเทศจริงแท้,การศึกสงครามยึดดินแดนในยุคปัจจุบัน นอกจากสงครามทางทหารแล้ว ยังมีสงครามทางด้านกฎหมายภายในประเทศเองนี้ล่ะ,จึงไม่น่าแปลกใจที่มีกฎหมายมากมายออกมาเพืีอกดขี่ข่มเหงประชาชนเป็นอันมากโดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชนบังหน้า เช่นกฎหมายไม่สวมหมวกกันน็อคบังคับใช้1มิย.68ล่าสุด ปรับ2,000บาท,ทัังคนขี่และคนนั่งมาด้วยบวกคูณ2เท่าหากคนนั่งมาด้วยไม่สวมหมวก,กฎหมายเอาคนขายยาบ้าคนผลิตยาบ้ามาลงทะเบียนขายลงมะเบียนผลิตยังไม่มีปัญญาออกมาใช้บังคับและไม่มีปัญญาแก้ไขจับกุมจริงจังถึงคนระดับสูง ,เรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว เรามีเจ้าหน้าที่เลวมากเกินไป. https://youtube.com/shorts/n0XoPqy8vtM?si=4laYakGwPVo1jK4a
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา

    วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

    ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ

    ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด

    รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205

    #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา • วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม • ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ • ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด • รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205 • #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    0 Comments 0 Shares 378 Views 0 Reviews
  • ..จริงๆประชาชนสามารถร่วมกันโมฆะกรรมกฎหมายที่กระทรวงทบวงกรมออกตีตรามาบังคับใช้อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจได้จริงๆ,ทำไมประชาชนต้องยอมรับทุกๆข้อกฎหมายที่กระทรวงทบวงกรมนั้นๆเขียนออกมาโดยไร้การมีส่วนร่วมลงมติจากประชาชนเมื่อส่งผลกระทบในอธิปไตยส่วนตัวของประชาชนด้วย,ทำไมไม่ตั้งใจเขียนกฎหมายบังคับตำรวจเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมโรงงานผู้ผลิตยาเสพติดให้สิ้นซากหรือจับมาลงทะเบียนทุกๆคนขายและโรงงานผลิตก่อนเปิดเสรียาบ้าคนละเม็ดละห้าเม็ดสิบเม็ดแบบๆในข่าวที่ปรากฎ,สิ่งเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ,ต่างชาติรุกอธิปไตยแย่งที่ดินทำกินคนไทยเป็นอันมากตำรวจทุกๆสายงานต่างประสานทำงานตรวจจับกุมได้หมดโดยเฉพาะการเดินทาง สามารถเห็นคนต่างชาติได้หมด.

    http://youtube.com/post/Ugkx8FBMzoIAlGi36-o2274g0PFwZoFZ4Yh6?si=2979uZZFSg2wWLUh
    ..จริงๆประชาชนสามารถร่วมกันโมฆะกรรมกฎหมายที่กระทรวงทบวงกรมออกตีตรามาบังคับใช้อย่างไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจได้จริงๆ,ทำไมประชาชนต้องยอมรับทุกๆข้อกฎหมายที่กระทรวงทบวงกรมนั้นๆเขียนออกมาโดยไร้การมีส่วนร่วมลงมติจากประชาชนเมื่อส่งผลกระทบในอธิปไตยส่วนตัวของประชาชนด้วย,ทำไมไม่ตั้งใจเขียนกฎหมายบังคับตำรวจเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมโรงงานผู้ผลิตยาเสพติดให้สิ้นซากหรือจับมาลงทะเบียนทุกๆคนขายและโรงงานผลิตก่อนเปิดเสรียาบ้าคนละเม็ดละห้าเม็ดสิบเม็ดแบบๆในข่าวที่ปรากฎ,สิ่งเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ,ต่างชาติรุกอธิปไตยแย่งที่ดินทำกินคนไทยเป็นอันมากตำรวจทุกๆสายงานต่างประสานทำงานตรวจจับกุมได้หมดโดยเฉพาะการเดินทาง สามารถเห็นคนต่างชาติได้หมด. http://youtube.com/post/Ugkx8FBMzoIAlGi36-o2274g0PFwZoFZ4Yh6?si=2979uZZFSg2wWLUh
    YOUTUBE.COM
    โพสต์จาก ข่าวช่องวัน
    เอาจริง! สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งทุกหน่วยจัดทำ “โครงการถนนปลอดภัย” เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 122 อย่างเคร่งค...
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 Comments 0 Shares 901 Views 0 Reviews
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 Comments 0 Shares 993 Views 0 Reviews
  • ความมีอยู่ว่า...

    ... เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ย “หลานจ้าน! อย่า! เจ้าอย่ายอมถอย!”
    หากแต่หลานว่างจีถอยไปห้าก้าวแล้วอย่างไม่ลังเล จินกวงเหยาจึงกล่าว “ดีมาก ขั้นต่อมาก็คือขอให้ท่านนำกระบี่ปี้เฉินเก็บเข้าฝักด้วย”
    ในความเงียบ หลานว่างจีทำตามอย่างไม่ชักช้า เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าว “เจ้าอย่าได้คืบเอาศอก!”
    จินกวงเหยากล่าว “เพียงเท่านี้ก็เรียกได้คืบเอาศอก? ข้าพเจ้ากำลังจะขอให้ท่านหานกวงจวินจี้สกัดจุดพลังของตนเองอยู่เชียว เช่นนั้นจะเรียกว่าอย่างไร?” ...

    - จากเรื่อง <ปรมาจารย์ลัทธิมาร>

    เพียงคนเดียวแต่กลับเรียกขานด้วยถึงสามชื่อ คือ หลานจ้าน หลานว่างจี และหานกวงจวิน ลูกเพจเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม?

    ชื่อจีนในสมัยโบราณ มีคำว่า หมิง (名) จึ้อ (字) และอาจมี ฮ่าว (号)

    หมิง (名) คือชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ มีทั้งที่มีความหมายดี หรือบางครั้งก็เป็นชื่อเรียกเล่นๆ ในที่นี่หลานจ้านของเรามีชื่อ (หรือหมิง) ว่า “จ้าน” ซึ่งแปลว่าความกระจ่างหรือความลึกซึ้ง

    ส่วน จึ้อ (字) คือชื่อรอง หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชื่อที่ครูบาอาจารย์หรือผู้ใหญ่ที่นับถือตั้งให้สำหรับผู้ที่ได้ผ่านการเล่าเรียนมา โดยทั่วไปจะได้รับการตั้งชื่อเมื่อสตรีอายุครบสิบห้าปี (หรือวัยปักปิ่น) หรือเมื่อบุรุษอายุครบยี่สิบปี (หรือวัยครอบมงกฎผม) ซึ่งชื่อนี้มักเป็นชื่อที่บ่งบอกคุณธรรมประจำตัวของลูกศิษย์ที่อาจารย์ได้สังเกตเห็น เมื่อมีชื่อเป็นทางการนี้แล้ว คนทั่วไปจะต้องเรียกขานเขาผู้นั้นด้วยชื่อทางการนี้เพื่อแสดงการให้เกียรติ ในขณะที่ชื่อที่ครอบครัวตั้งให้จะมีเฉพาะคนในครอบครัวหรือคนที่สนิทจริงๆ จึงจะเรียกได้ โดยสังเกตได้จากในเนื้อเรื่องที่มีเพียงพระเอก(เว่ยอู๋เซี่ยน)และพี่ชายของหลานจ้านที่เรียกเขาด้วยนามนี้ ซึ่ง “ว่างจี” เป็นชื่อทางการ มีความหมายว่าลืมหรือปล่อยวางเล่ห์กลหรือความคิดไม่สุจริต

    ส่วนฮ่าว (号) ก็คือฉายา ซึ่งลูกเพจที่คุ้นเคยกับนิยายกำลังภายในจะคุ้นกับการมีฉายาบ้าง ในจีนโบราณไม่ใช่ทุกคนที่จะมีฉายา คนที่ได้รับการตั้งฉายาจะเป็นผู้ที่มีสถานะหรือตำแหน่งสูงส่ง เพราะเป็นการเรียกอย่างยกย่องยิ่ง หลานจ้านมีฉายาว่า “หานกวงจวิน” แปลได้ว่าผู้ซึ่งมีแสงสว่างอยู่ภายใน

    Credit รูปภาพจาก: https://filmdaily.co/obsessions/the-untamed-supporting-characters/
    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    http://m.tianya999.com/question/2019/0902/18259581.html
    https://www.sohu.com/a/205641364_786465
    https://www.xingming.com/xmzs/1584.html

    #ปรมาจารย์ลัทธิมาร #ชื่อแซ่จีน StoryfromStory
    ความมีอยู่ว่า... ... เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ย “หลานจ้าน! อย่า! เจ้าอย่ายอมถอย!” หากแต่หลานว่างจีถอยไปห้าก้าวแล้วอย่างไม่ลังเล จินกวงเหยาจึงกล่าว “ดีมาก ขั้นต่อมาก็คือขอให้ท่านนำกระบี่ปี้เฉินเก็บเข้าฝักด้วย” ในความเงียบ หลานว่างจีทำตามอย่างไม่ชักช้า เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าว “เจ้าอย่าได้คืบเอาศอก!” จินกวงเหยากล่าว “เพียงเท่านี้ก็เรียกได้คืบเอาศอก? ข้าพเจ้ากำลังจะขอให้ท่านหานกวงจวินจี้สกัดจุดพลังของตนเองอยู่เชียว เช่นนั้นจะเรียกว่าอย่างไร?” ... - จากเรื่อง <ปรมาจารย์ลัทธิมาร> เพียงคนเดียวแต่กลับเรียกขานด้วยถึงสามชื่อ คือ หลานจ้าน หลานว่างจี และหานกวงจวิน ลูกเพจเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม? ชื่อจีนในสมัยโบราณ มีคำว่า หมิง (名) จึ้อ (字) และอาจมี ฮ่าว (号) หมิง (名) คือชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ มีทั้งที่มีความหมายดี หรือบางครั้งก็เป็นชื่อเรียกเล่นๆ ในที่นี่หลานจ้านของเรามีชื่อ (หรือหมิง) ว่า “จ้าน” ซึ่งแปลว่าความกระจ่างหรือความลึกซึ้ง ส่วน จึ้อ (字) คือชื่อรอง หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชื่อที่ครูบาอาจารย์หรือผู้ใหญ่ที่นับถือตั้งให้สำหรับผู้ที่ได้ผ่านการเล่าเรียนมา โดยทั่วไปจะได้รับการตั้งชื่อเมื่อสตรีอายุครบสิบห้าปี (หรือวัยปักปิ่น) หรือเมื่อบุรุษอายุครบยี่สิบปี (หรือวัยครอบมงกฎผม) ซึ่งชื่อนี้มักเป็นชื่อที่บ่งบอกคุณธรรมประจำตัวของลูกศิษย์ที่อาจารย์ได้สังเกตเห็น เมื่อมีชื่อเป็นทางการนี้แล้ว คนทั่วไปจะต้องเรียกขานเขาผู้นั้นด้วยชื่อทางการนี้เพื่อแสดงการให้เกียรติ ในขณะที่ชื่อที่ครอบครัวตั้งให้จะมีเฉพาะคนในครอบครัวหรือคนที่สนิทจริงๆ จึงจะเรียกได้ โดยสังเกตได้จากในเนื้อเรื่องที่มีเพียงพระเอก(เว่ยอู๋เซี่ยน)และพี่ชายของหลานจ้านที่เรียกเขาด้วยนามนี้ ซึ่ง “ว่างจี” เป็นชื่อทางการ มีความหมายว่าลืมหรือปล่อยวางเล่ห์กลหรือความคิดไม่สุจริต ส่วนฮ่าว (号) ก็คือฉายา ซึ่งลูกเพจที่คุ้นเคยกับนิยายกำลังภายในจะคุ้นกับการมีฉายาบ้าง ในจีนโบราณไม่ใช่ทุกคนที่จะมีฉายา คนที่ได้รับการตั้งฉายาจะเป็นผู้ที่มีสถานะหรือตำแหน่งสูงส่ง เพราะเป็นการเรียกอย่างยกย่องยิ่ง หลานจ้านมีฉายาว่า “หานกวงจวิน” แปลได้ว่าผู้ซึ่งมีแสงสว่างอยู่ภายใน Credit รูปภาพจาก: https://filmdaily.co/obsessions/the-untamed-supporting-characters/ Credit เนื้อหารวบรวมจาก: http://m.tianya999.com/question/2019/0902/18259581.html https://www.sohu.com/a/205641364_786465 https://www.xingming.com/xmzs/1584.html #ปรมาจารย์ลัทธิมาร #ชื่อแซ่จีน StoryfromStory
    FILMDAILY.CO
    'The Untamed': Don't overlook these amazing supporting characters – Film Daily
    Here are some of the best supporting characters in 'The Untamed' that cannot go overlooked in this C-drama fantasy.
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 791 Views 0 Reviews
  • BIG Story ตอน ปริศนาวิสามัญฆาตรกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส"

    จะพาไปย้อนคดีที่แม้ผ่านมา 5 ปี ก็ยังเป็นคดีที่ไม่มีผู้รับผิด นับจากเหตุการณ์ทหารวิสามัญฯ จะอุ๊ ชัยภูมิ ป่าแส’ เยาวชนนักกิจกรรม ชาวลาหู่ ที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิชาติพันธุ์ และผู้ขับเคลื่อนต่อต้านยาเสพติด โดยระบุว่าเขาขนยาบ้าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ขณะถูกจับ แต่หลายอย่างยังขัดแย้งและไร้การปรากฎของภาพกล้อวงจรปิดที่สาบสูญไปนาน 5 ปี จนกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกังขา

    #BigStory #ชัยภูมิป่าแส #วิสามัญฆาตกรรม #สิทธิชาติพันธุ์ #ความยุติธรรมที่หายไป #กระบวนการยุติธรรมไทย #ThaiTimes
    BIG Story ตอน ปริศนาวิสามัญฆาตรกรรม "ชัยภูมิ ป่าแส" จะพาไปย้อนคดีที่แม้ผ่านมา 5 ปี ก็ยังเป็นคดีที่ไม่มีผู้รับผิด นับจากเหตุการณ์ทหารวิสามัญฯ จะอุ๊ ชัยภูมิ ป่าแส’ เยาวชนนักกิจกรรม ชาวลาหู่ ที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิชาติพันธุ์ และผู้ขับเคลื่อนต่อต้านยาเสพติด โดยระบุว่าเขาขนยาบ้าและพยายามปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ขณะถูกจับ แต่หลายอย่างยังขัดแย้งและไร้การปรากฎของภาพกล้อวงจรปิดที่สาบสูญไปนาน 5 ปี จนกลายเป็นอีกคดีที่สะท้อนกระบวนการยุติธรรมที่ถูกกังขา #BigStory #ชัยภูมิป่าแส #วิสามัญฆาตกรรม #สิทธิชาติพันธุ์ #ความยุติธรรมที่หายไป #กระบวนการยุติธรรมไทย #ThaiTimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1259 Views 26 0 Reviews
  • ♣ โรมเคยหาเสียง ชูนโยบายปราบย าบ้า ยาเส พติด แต่คนของพรรคกลับขายเอง ไม่รู้ลักแอบทำกันมากี่คน กี๋ครั้ง กี่พื้นที่แล้ว พรรคพม่าประชาชน สู่พรรคยาบ้าประชาชน
    #7ดอกจิก
    ♣ โรมเคยหาเสียง ชูนโยบายปราบย าบ้า ยาเส พติด แต่คนของพรรคกลับขายเอง ไม่รู้ลักแอบทำกันมากี่คน กี๋ครั้ง กี่พื้นที่แล้ว พรรคพม่าประชาชน สู่พรรคยาบ้าประชาชน #7ดอกจิก
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • ถ้าพรรคส้มอยากจะปราบอะไร...
    .
    ให้เริ่มปราบปราม พ่อค้าเสพย์ติด พ่อค้ายาบ้า ในพรรคตัวเองก่อนเลย...
    .
    พรรคของคนรุ่นใหม่ หรือ พรรคค้ายาบ้า กันแน่...???
    ถ้าพรรคส้มอยากจะปราบอะไร... . ให้เริ่มปราบปราม พ่อค้าเสพย์ติด พ่อค้ายาบ้า ในพรรคตัวเองก่อนเลย... . พรรคของคนรุ่นใหม่ หรือ พรรคค้ายาบ้า กันแน่...???
    รวบผู้สมัคร สท.พรรคส้ม ร่วมแก๊งค้ายาบ้าเกือบ 5 แสนเม็ดพร้อมไอซ์-ยาเค ปชน.ร่อนแถลงการณ์เฉดหัวพ้นทีม ขอโทษ ปชช.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042834

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • รวบผู้สมัคร สท.พรรคส้ม ร่วมแก๊งค้ายาบ้าเกือบ 5 แสนเม็ดพร้อมไอซ์-ยาเค ปชน.ร่อนแถลงการณ์เฉดหัวพ้นทีม ขอโทษ ปชช.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042834

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รวบผู้สมัคร สท.พรรคส้ม ร่วมแก๊งค้ายาบ้าเกือบ 5 แสนเม็ดพร้อมไอซ์-ยาเค ปชน.ร่อนแถลงการณ์เฉดหัวพ้นทีม ขอโทษ ปชช. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042834 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    1 Comments 1 Shares 752 Views 0 Reviews
  • นายกฯ นำแถลง ตร.ภาค 1 จับยาบ้าล็อตใหญ่ 8.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 720 กก.
    https://www.thai-tai.tv/news/18559/
    นายกฯ นำแถลง ตร.ภาค 1 จับยาบ้าล็อตใหญ่ 8.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 720 กก. https://www.thai-tai.tv/news/18559/
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 Comments 0 Shares 1588 Views 0 Reviews
  • ตะลึงจับเด็ก 14 ค้ายาบ้า เอาเงินที่ตายายให้ไปลงทุน รับมาเม็ดละ 20 ปล่อยต่อ 50
    https://www.thai-tai.tv/news/18320/
    ตะลึงจับเด็ก 14 ค้ายาบ้า เอาเงินที่ตายายให้ไปลงทุน รับมาเม็ดละ 20 ปล่อยต่อ 50 https://www.thai-tai.tv/news/18320/
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 Comments 0 Shares 1906 Views 0 Reviews

  • ..ไม่ใช่เลื่อน ต้องฉีกทิ้งทั้งหมด,จับบ่อนเถื่อน หวยใต้ดิน หวยเกินราคาของคนเดินขายหวยที่ลงทะเบียนเปิดเผยชัดเจนก่อนเถอะ,และยาบ้าที่คนขายคนผลิตใครโรงงานไหนผลิตออกมาขายยาบ้าจับมาลงทะเบียนให้ได้ก่อนเถอะ,เจ้าหน้าที่พื้นที่ทั้งหมดตลอดคนข้าราชการรู้กันหมดล่ะ,
    ..การเด็ดขาดกับคนต้นเหตุของปัญหา เรรไม่เด็ดขาดเลย ไม่เปิดโปง ปกปิดให้ด้วย แฉก็ไม่แฉชี้ชัดก็ด้วย,จับเพียงพวกสมุน.
    ..ง่ายมากจะจัดการพวกเถื่อนๆบนแผ่นดินไทย สิ่งแรกคือผลักดันคนที่ไม่ใช่คนไทยออกไปทั้งหมดทุกๆกรณี ใครมีไว้ให้อาศัยหรือใช้แรงงานถือว่ามีความผิด,ชุมชนสังคมนั้นๆจะการข่าวดีเยี่ยมหมด,ต่างชาติต่าวด้าวที่ไม่ใช่คนไทยออกไปหมด จะเหลือคนไทยล้วนๆยิ่งระมัดระวังภัยที่ผิดปกติมันง่ายแสนง่ายเลยล่ะ,ตรวจสอบสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำไม่ดีก็แยกแยะชัดเจนรวดเร็วมาลงโทษได้ทันกาล,ไร้มือปั่นป่วนที่สร้างความผิดปกติมากมายลงได้หลายมิติของชุมชนสังคมไทยเราทันที เจ้าหน้าที่เราก็ไม่เหนื่อย กลับบ้านใครมันสร้างสุขในครอบครัวตามปกติ,นี้อะไรมั่วไปหมดเลอะเทอะไปหมด,ปกครองให้คนไทยยากจน ดิ้นรนจนบ้าคลั่ง ยากจนคือตังใช้จ่ายในชีวิตมีปัญหา ที่ระบบรัฐมุ่งใช้ระบบตังแลกเปลี่ยนกันและควบคุมกลไกสังคมด้วยตังด้วย,กฎหมายต่างๆก็ออกมาเพื่อแย่งชิงตังจากประชาชน เสียค่าปรับนั้นนี้ตรึม ขึ้นศาลก็เสียตัง สร้างแค่ความยุติธรรมยังคือภาระคนเรียกร้องหาความเป็นธรรมเสียตังใช้ตังนั่นล่ะ
    ..ปรับใบขับขี่ปรับขนส่งสมัยก่อนๆตรึม ประชาชนมีหน้าที่เสียค่าปรับตามกฎหมาย นี้ไง กฎหมายที่ดูดตังประชาชน ระบบใช้ตัง .ลองไม่เสียตังดูสิจะลดภาระประชาชนมากแค่ไหน,เอาตังไปเลี้ยงครอบครัวเขาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากมายแค่ไหน,ภาษีต่างๆอีก,สาระพัดกฎหมายมากสาระพัดมุกดูดตังประชาชน,พอประชาชนจะมีชีวิตดีหน่อยกลับไปบริหารปกครองเป็นไปเพื่ออย่างดีมีสุขแก่ประชาชน บ่อน้ำมันอีกล่ะคือตัวอย่างที่ดี,เสือกรัฐบาลในอดีตยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันให้เจ้าอื่น,ปกติรัฐบาลต้องแสดงสมองปัญญาความสามารถทำกิจการน้ำมันเองได้,แม้หมดอายุสัมปทานก็ไร้ปัญญาความสามารถคิดสมองหมาปัญญาควายสรรพสัตว์ไร้สมองไม่ตั้งใจก่อการทำเองเพื่อประชาชนคนไทยต้นทุนพลังงานน้ำมันราคาลดลง,ทำเองกลั่นเองขายเองลดต้นทุนค่าครองชีพประชาชนมันขาดทุนชาติเสียจะล้มสะลายตรงไหน,น้ำมันลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านคนไทยต้นทุนต่ำทันทีภายในชาติไทย ขนส่งขนส่งสินค้าไม่แพง ราคาสินค้าทั่วไทยจะลดลงทันที ทุกๆอย่างจะไม่แพง การพึ่งพาตนเองจะสูงสุดในคนไทยเรา,ส่งขายในตลาดราคาโลกจะไร้ปัญญาคิดอ่านไม่ได้เหรอ,เรามีผู้ปกครองที่กากขี้ขลาดไม่กล้าหาญเผชิญหน้าอะไรกับชาติมหาอำนาจหรือต่างชาติเลยเป็นบ๋อยสถุนมากในอดีตเรื่อยมา.
    ..ทหารประชาชนสมควรยึดอำนาจพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจริง,มีแต่ทหารฝ่ายการเมืองยึดอำนาจมากว่า10ครั้งชาติมีแต่จะพังพินาศขายชาติขายที่ดินไร่ละ40ล้านบาทพะนะแก่ต่างชาติ เช่าที่ดินได้99ปีอีก,ฉีกรัฐธรรมนูญโคตรเก่งสามารถและเหี้ยกับประชาชน,ฉีกกฎหมายปล้นชาติไทยปล้นชิงธิปไตยไทยเสือกไม่ฉีก อาทิฉีกกฎหมายสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ฉีกmouทั้งลับๆแบะแจ้งที่ทรยศแผ่นดินเป็นทาสถูกเขาต่างชาติเอาเปรียบทิ้งไปและโมฆะทั้งหมด,เราจะได้คืนวัตถุดิบพัฒนาชาติไทยคืนมา100%ทันที.

    ..ระบบปกครองไทยสไตล์ไทยเราเขียนเองสร้างกันเองได้ เหี้ยไปใช้ระบบปกครองคณะกบฎ2475ส่งออกสุมหัวกับฝรั่งทำไม.,เมื่อพิจารณาแล้วว่าสมบูรณญาสิทธิราชย์ไม่ดีและของคณะกบฎ2475สอบตกไม่ผ่านสู่ยุคสมัยล้ำๆก็สร้างระบบใหม่เองเลย
    ..คือระบบจักรวาลที่สากลใช้ปกครองทั่วจักรวาลเป็นส่วนใหญ่ของทางสายกลาง มิติสูงๆก็ยอมรับ คนเลวชั่วคนสัตว์นรกรับไม่ได้เป็นปกติแน่นอนคือ #ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะฝ่ายดีเป็นเครื่องครองใจในสัมมาชีวิตชอบของทุกๆคนไทยก็ว่า.,ภัยใดๆจะละเว้นซึ่งกระทำไม่ดีต่อกันและกันทันที,เจริญทัังกายวัตถุธาตุและเจริญทั้งทางจิตวิญญาณจะเติบโตเบ่งบานในชนเผ่าไทยเราทุกๆคนแน่นอน.สงครามใดๆเราจะชนะสิ้น,มิตรดีสหายดีทั่วมหาจักรวาลเอายานบินมาช่วยรบตรึมล่ะ.
    ..นายกฯพระราชทานภาคมหาชนน่าจะเหมาะสมที่สุด.
    ..
    #นายกฯพระราชทาน
    ..
    https://m.youtube.com/watch?v=B_IzmPwSQ9I&pp=0gcJCX4JAYcqIYzv
    ..ไม่ใช่เลื่อน ต้องฉีกทิ้งทั้งหมด,จับบ่อนเถื่อน หวยใต้ดิน หวยเกินราคาของคนเดินขายหวยที่ลงทะเบียนเปิดเผยชัดเจนก่อนเถอะ,และยาบ้าที่คนขายคนผลิตใครโรงงานไหนผลิตออกมาขายยาบ้าจับมาลงทะเบียนให้ได้ก่อนเถอะ,เจ้าหน้าที่พื้นที่ทั้งหมดตลอดคนข้าราชการรู้กันหมดล่ะ, ..การเด็ดขาดกับคนต้นเหตุของปัญหา เรรไม่เด็ดขาดเลย ไม่เปิดโปง ปกปิดให้ด้วย แฉก็ไม่แฉชี้ชัดก็ด้วย,จับเพียงพวกสมุน. ..ง่ายมากจะจัดการพวกเถื่อนๆบนแผ่นดินไทย สิ่งแรกคือผลักดันคนที่ไม่ใช่คนไทยออกไปทั้งหมดทุกๆกรณี ใครมีไว้ให้อาศัยหรือใช้แรงงานถือว่ามีความผิด,ชุมชนสังคมนั้นๆจะการข่าวดีเยี่ยมหมด,ต่างชาติต่าวด้าวที่ไม่ใช่คนไทยออกไปหมด จะเหลือคนไทยล้วนๆยิ่งระมัดระวังภัยที่ผิดปกติมันง่ายแสนง่ายเลยล่ะ,ตรวจสอบสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำไม่ดีก็แยกแยะชัดเจนรวดเร็วมาลงโทษได้ทันกาล,ไร้มือปั่นป่วนที่สร้างความผิดปกติมากมายลงได้หลายมิติของชุมชนสังคมไทยเราทันที เจ้าหน้าที่เราก็ไม่เหนื่อย กลับบ้านใครมันสร้างสุขในครอบครัวตามปกติ,นี้อะไรมั่วไปหมดเลอะเทอะไปหมด,ปกครองให้คนไทยยากจน ดิ้นรนจนบ้าคลั่ง ยากจนคือตังใช้จ่ายในชีวิตมีปัญหา ที่ระบบรัฐมุ่งใช้ระบบตังแลกเปลี่ยนกันและควบคุมกลไกสังคมด้วยตังด้วย,กฎหมายต่างๆก็ออกมาเพื่อแย่งชิงตังจากประชาชน เสียค่าปรับนั้นนี้ตรึม ขึ้นศาลก็เสียตัง สร้างแค่ความยุติธรรมยังคือภาระคนเรียกร้องหาความเป็นธรรมเสียตังใช้ตังนั่นล่ะ ..ปรับใบขับขี่ปรับขนส่งสมัยก่อนๆตรึม ประชาชนมีหน้าที่เสียค่าปรับตามกฎหมาย นี้ไง กฎหมายที่ดูดตังประชาชน ระบบใช้ตัง .ลองไม่เสียตังดูสิจะลดภาระประชาชนมากแค่ไหน,เอาตังไปเลี้ยงครอบครัวเขาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากมายแค่ไหน,ภาษีต่างๆอีก,สาระพัดกฎหมายมากสาระพัดมุกดูดตังประชาชน,พอประชาชนจะมีชีวิตดีหน่อยกลับไปบริหารปกครองเป็นไปเพื่ออย่างดีมีสุขแก่ประชาชน บ่อน้ำมันอีกล่ะคือตัวอย่างที่ดี,เสือกรัฐบาลในอดีตยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันให้เจ้าอื่น,ปกติรัฐบาลต้องแสดงสมองปัญญาความสามารถทำกิจการน้ำมันเองได้,แม้หมดอายุสัมปทานก็ไร้ปัญญาความสามารถคิดสมองหมาปัญญาควายสรรพสัตว์ไร้สมองไม่ตั้งใจก่อการทำเองเพื่อประชาชนคนไทยต้นทุนพลังงานน้ำมันราคาลดลง,ทำเองกลั่นเองขายเองลดต้นทุนค่าครองชีพประชาชนมันขาดทุนชาติเสียจะล้มสะลายตรงไหน,น้ำมันลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านคนไทยต้นทุนต่ำทันทีภายในชาติไทย ขนส่งขนส่งสินค้าไม่แพง ราคาสินค้าทั่วไทยจะลดลงทันที ทุกๆอย่างจะไม่แพง การพึ่งพาตนเองจะสูงสุดในคนไทยเรา,ส่งขายในตลาดราคาโลกจะไร้ปัญญาคิดอ่านไม่ได้เหรอ,เรามีผู้ปกครองที่กากขี้ขลาดไม่กล้าหาญเผชิญหน้าอะไรกับชาติมหาอำนาจหรือต่างชาติเลยเป็นบ๋อยสถุนมากในอดีตเรื่อยมา. ..ทหารประชาชนสมควรยึดอำนาจพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินจริง,มีแต่ทหารฝ่ายการเมืองยึดอำนาจมากว่า10ครั้งชาติมีแต่จะพังพินาศขายชาติขายที่ดินไร่ละ40ล้านบาทพะนะแก่ต่างชาติ เช่าที่ดินได้99ปีอีก,ฉีกรัฐธรรมนูญโคตรเก่งสามารถและเหี้ยกับประชาชน,ฉีกกฎหมายปล้นชาติไทยปล้นชิงธิปไตยไทยเสือกไม่ฉีก อาทิฉีกกฎหมายสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ฉีกmouทั้งลับๆแบะแจ้งที่ทรยศแผ่นดินเป็นทาสถูกเขาต่างชาติเอาเปรียบทิ้งไปและโมฆะทั้งหมด,เราจะได้คืนวัตถุดิบพัฒนาชาติไทยคืนมา100%ทันที. ..ระบบปกครองไทยสไตล์ไทยเราเขียนเองสร้างกันเองได้ เหี้ยไปใช้ระบบปกครองคณะกบฎ2475ส่งออกสุมหัวกับฝรั่งทำไม.,เมื่อพิจารณาแล้วว่าสมบูรณญาสิทธิราชย์ไม่ดีและของคณะกบฎ2475สอบตกไม่ผ่านสู่ยุคสมัยล้ำๆก็สร้างระบบใหม่เองเลย ..คือระบบจักรวาลที่สากลใช้ปกครองทั่วจักรวาลเป็นส่วนใหญ่ของทางสายกลาง มิติสูงๆก็ยอมรับ คนเลวชั่วคนสัตว์นรกรับไม่ได้เป็นปกติแน่นอนคือ #ระบบธรรมาธิปไตย ธรรมะฝ่ายดีเป็นเครื่องครองใจในสัมมาชีวิตชอบของทุกๆคนไทยก็ว่า.,ภัยใดๆจะละเว้นซึ่งกระทำไม่ดีต่อกันและกันทันที,เจริญทัังกายวัตถุธาตุและเจริญทั้งทางจิตวิญญาณจะเติบโตเบ่งบานในชนเผ่าไทยเราทุกๆคนแน่นอน.สงครามใดๆเราจะชนะสิ้น,มิตรดีสหายดีทั่วมหาจักรวาลเอายานบินมาช่วยรบตรึมล่ะ. ..นายกฯพระราชทานภาคมหาชนน่าจะเหมาะสมที่สุด. .. #นายกฯพระราชทาน .. https://m.youtube.com/watch?v=B_IzmPwSQ9I&pp=0gcJCX4JAYcqIYzv
    0 Comments 0 Shares 957 Views 0 Reviews
  • ..คาสิโนคือแหล่งฟอกตังฟอกเงินอย่างดี,&อนาคตฟอกคริปโตฯฟอกตังดิจิดัลโทเคนใดๆได้อย่าง และมากมายมหาศาลอาจกว่า100ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีได้สบาย,เพราะเป็นฮับทุกๆเทามาเยือนไทยจากทั่วโลกแน่นอน,เดอะแก๊งdeep stateใช้&สั่งคนของมันมารับตังที่ฟอกถูกกฎหมายแล้วไปทำภาระกิจยึดประเทศใดๆก็ได้ผ่านการผูกขาดกิจการต่างๆที่เปิดช่องออกกฎหมายให้ยึดได้ ใช้ตัวแทนไปถือครองแทนในนามตัวตนมันเองแบบจ้างใครไปเป็นceoปกครองดูแลแทนมันนั้นล่ะ,จะแบบceoบริษัทหรือceoพรรคการเมืองหรือceoสมุนคนของมันปกครองทั้งประเทศสายปกครองและสายทำตังครอบงำเศรษฐกิจมันทำได้หมดล่ะ, ให้นายเอ เข้าบ่อนไปเอามาสัก10ล้านล้านบาทไปเทคโอเวอร์กิจการบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นและนอกตลาดก็สบายมาก,ใครติดหนี้อะไรโดยเฉพาะคนไทยรับซื้อหนี้หมดจากนั้นตามยึดที่ดินยึดแผ่นดินไทยได้สบาย,ใครมีหนี้กับบ่อน มุกเจรจานอกบ่อนรับซื้อที่ดินจากไร่ละ10ล้านมันซื้อไร่ละ100ล้านบาทสบายมาก,จากนั้นนายทุนจะยึดที่ดินสบายๆ ใครจะเสนอซื้อคืนต้องมีตังกว่า100ล้านบาทล่ะ คนไทยไม่มีปัญญาไปเอาคืนหรอก,นายทุนพวกเดอะแก๊งนี้ลำบากตังที่ไหน,มิติยึดประเทศสบายๆจริงๆในอนาคต,กฎหมายจะจัดการมันได้ฝันไปเถอะหากมันตั้งบ่อนสำเร็จ.เสมือนตั้งฐานทัพพร้อมรบกับประเทศไทยในตัวล่ะก่อกบฎได้สบายๆ.
    ..เปิดบ่อนเมื่อไรชาติไทยพังพินาศเมื่อนั้น,ปัญหาเก่าๆยังไร้ปัญญาฝีมือความสามารถจัดการเลย อาทิยาบ้าก็เอาคนขายคนผลิตมาขึ้นทะเบียนลงทะเบียนคนขายคนผลิตไม่ได้,เสือกยังเสรีถึง5-10เม็ด,หรือ1เม็ดก็เถอะ,มุกอ้างข่วยคนถูกใส่ร้ายหรือตัดอนาคตคนเสพมีครอบครองเล็กน้อยพะนะ,หวยขายเกิน80บาทกับคนเดินขายหวยรัฐที่ลงทะเบียนชัดเจนยังขายเกินราคาใบละ100ใบละ110-120&200ตามมันอยากขายความดังของเลขล่ะ,ตำรวจหมู่บ้านมีตรึมรู้หมด,ไม่รวมตำรวจจริงของแต่ละอำเภอสน.นะ ใช้สายไปล่อซื้อ จับลงโทษได้หมดล่ะ แต่วงการไทยทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ คนพวกนี้ไม่เคยถูกกำจัดชีวิตจริงจังลดประชากรมัน มันจึงทำซ้ำๆเติมๆทั้งเพิ่มขึ้นดีสามัคคีกันได้ดีในทางชั่วเลวด้วยล่ะ,เอาแค่ยาบ้ากับหวยเกินราคามันก็บอกว่าระบบข้าราชการเรามันกาก เทียบสิงคโปร์ใกล้ยังไม่ขี้เล็บมันจริงๆ,เสือกแสดงอยากเปิดบ่อนคาสิโน.
    ..จริงๆไม่มีในนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยและนี้คือเรื่องใหญ่เป็นนโยบายกว่าแจกตังดิจิดัลอีก,เข้าข่ายยุบพรรคด้านหลอกลวงโกหกในความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนเลย ขาดคุณสมบัติทุกๆมิติในการขึ้นเป็นคณะจัดตั้งรัฐบาล อดีตนายกฯเศรษฐายังสิ้นสถานะเลย,พรรคร่วมยอมรับสุมหัวร่วมก่อคาสิโนอีก ยุบพรรคในข้อหาทำลายชาติก่อหายนะแก่ชาติไทยและสังคมชุมชนไทยทำลายประชาชนไทยภายในประเทศตนมากมายหลายมิติมุมมองอย่างอภัยไม่ได้เลย, เคสกรณีศึกษา&แค่นี้และนั้นตามคลิปในรายการนี้ก็เกินพอในภัยๆต่างๆที่ประเทศนั้นๆเปิดบ่อนโดนแก่คนชาติตนไปแล้ว
    ..ไม่มีในนโยบายหลักถือว่าขาดคุณสมบัติ&ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อประชาชนด้วย.สามารถเข้าข่ายยุบพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลได้มั้ยนะ.มันคือภัยร้ายชัดๆ คนไทยประเทศไทยยังไม่พร้อมด้วยประชาชนยังไกลคุณภาพรอบรู้ทันอะไร,ทั้งยังยากจนเต็มประเทศ จนทั่งตังจนทั้งความรู้องค์รอบรู้ใดๆพึ่งพาตนเองยังไม่ได้ ภาระตนเองและดัชนีต้นทุนชีวิตแพง.
    ..อยากได้ตังมาพัฒนาชาติ ไปโมฆะฉีกกฎหมายสัญญาสัมปทานบ่อน้ำมันโน้นยึดบ่อน้ำมันคืนมาทั้งหมด ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาทภายในประเทศ ขายส่งออกในราคาตลาดโลก,ยึดบ่อทองคำขุดเข้าทุนสำรองประเทศ ไทยยึดคืนทรัพยากรวัตถุดิบสร้างชาติคืนมาทั้งหมด เรามีวัตถุดิบแล้วทั้งหมดจะกลัวใครกลัวอะไร,.
    ..จริงๆอีกข้อยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่ยุคฝรั่งล่าอาณานิคมแล้ว โลกรับรู้เปิดเผยทั่วโลกแล้ว อะไรเอาเปรียบปล้นชิงทางสัญญาผูกทาสใดๆของฝรั่งต่างชาติสมควรโมฆะฉีกทิ้งทั้งหมด,ผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากประเทศไทยชั่วคราวไปทั้งหมดทุกๆกรณีเคลียร์คน,คนภายนอกนี้ล่ะอันตรายมากเสือกให้มาอยู่ร่วมกันกับคนภายในบ้านตนเอง,แทรกแซงปั่นแตกแยกเป็นมือที่สามสี่ห้าได้หมด,ก่อโกลาหลวุ่นวายใดๆก็สามารถทำง่ายๆ.ผลักดันออกไปมิติปัญหาต่างๆในประเทศไทยจะตัดตอนไปมหาศาลทันที,เหลือคนไทยคนสัญชาติไทยล้วนๆจากนั้นค่อยคัดกรองตรวจสืบสอบสวนคนปลอมคนเทาๆคนสวมสัญชาติไทยเพื่อกำจัดกวาดล้างไล่ล่าต่อไป,ความสงบสุขจะมาอัตโนมัติทันทีโดยส่วนมากของภาพรวมทั้งหมดของประเทศ..
    ..ประเทศไทยต้องพลิกแบบนี้.เช่นนั้นก้าวต่อไปไม่ได้หรอก,ชาติบ้าอะไรวัตถุดิบปรุงอาหารเลี้ยงคนในครัวเรือนครอบครัวตนเองก็ไม่มี เนื้อปิโตรเลียมแท้ๆยังครอบครองเป็นเจ้าของ100%อะไรห่าจริงก็ไม่ได้,เปิดสัมปทานหรือต่ออายุสัมปทานมันทำไม ยุคยึดอำนาจยังเสือกต่อสัมปทานให้ต่างชาติเลย,แค่นี้ยังไร้ปัญญาบริหารประชาชนพ้นยากจนจริง,ยังเสือกเพิ่มภัยอันตรายรอบด้านปล้นฆ่าชิงทรัพย์ขายตัวขายบ้าสาระพัดเสพติดค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนไทยคนเป็นๆใดๆจะเหลือเหรอ,ขายที่ดินขายบ้านใช้หนี้พนันมีตรึมแน่นอน,หรือตังมหาศาลจากเดอะแก๊งเทาๆนักธุรกิจเทาๆที่บินมาฟอกตังมหาศาลเอาออกจากบ่อนมาใช้ก่อการยึดแผ่นดินไทยที่ดินไทยกลืนกินเนียนๆก็สามารถทำได้สบายอีก,ซื้อคนข้าราชการซื้อตำแหน่ง จ้างตัวแทนตนไปนั่งควบคุมปกครองเปิดช่องทำชั่วสาระพัดออกกฎหมายสาระพัดเลวชั่วเนียนๆได้หมด,การตัดตอนทำให้สมุนขี้ข้าคนของเดอะแก๊งนี้ไม่ให้มีชีวิตลดประชากรมันทั้งหมดเรื่อยๆจึงสำคัญ ,จะมาก่อการทวนกระแสเลวชั่วได้อีกมีแต่พระเจ้ามันนั่นล่ะจะปล่อยมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก.
    https://m.youtube.com/watch?v=BPJH2RYgq-I
    ..คาสิโนคือแหล่งฟอกตังฟอกเงินอย่างดี,&อนาคตฟอกคริปโตฯฟอกตังดิจิดัลโทเคนใดๆได้อย่าง และมากมายมหาศาลอาจกว่า100ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีได้สบาย,เพราะเป็นฮับทุกๆเทามาเยือนไทยจากทั่วโลกแน่นอน,เดอะแก๊งdeep stateใช้&สั่งคนของมันมารับตังที่ฟอกถูกกฎหมายแล้วไปทำภาระกิจยึดประเทศใดๆก็ได้ผ่านการผูกขาดกิจการต่างๆที่เปิดช่องออกกฎหมายให้ยึดได้ ใช้ตัวแทนไปถือครองแทนในนามตัวตนมันเองแบบจ้างใครไปเป็นceoปกครองดูแลแทนมันนั้นล่ะ,จะแบบceoบริษัทหรือceoพรรคการเมืองหรือceoสมุนคนของมันปกครองทั้งประเทศสายปกครองและสายทำตังครอบงำเศรษฐกิจมันทำได้หมดล่ะ, ให้นายเอ เข้าบ่อนไปเอามาสัก10ล้านล้านบาทไปเทคโอเวอร์กิจการบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นและนอกตลาดก็สบายมาก,ใครติดหนี้อะไรโดยเฉพาะคนไทยรับซื้อหนี้หมดจากนั้นตามยึดที่ดินยึดแผ่นดินไทยได้สบาย,ใครมีหนี้กับบ่อน มุกเจรจานอกบ่อนรับซื้อที่ดินจากไร่ละ10ล้านมันซื้อไร่ละ100ล้านบาทสบายมาก,จากนั้นนายทุนจะยึดที่ดินสบายๆ ใครจะเสนอซื้อคืนต้องมีตังกว่า100ล้านบาทล่ะ คนไทยไม่มีปัญญาไปเอาคืนหรอก,นายทุนพวกเดอะแก๊งนี้ลำบากตังที่ไหน,มิติยึดประเทศสบายๆจริงๆในอนาคต,กฎหมายจะจัดการมันได้ฝันไปเถอะหากมันตั้งบ่อนสำเร็จ.เสมือนตั้งฐานทัพพร้อมรบกับประเทศไทยในตัวล่ะก่อกบฎได้สบายๆ. ..เปิดบ่อนเมื่อไรชาติไทยพังพินาศเมื่อนั้น,ปัญหาเก่าๆยังไร้ปัญญาฝีมือความสามารถจัดการเลย อาทิยาบ้าก็เอาคนขายคนผลิตมาขึ้นทะเบียนลงทะเบียนคนขายคนผลิตไม่ได้,เสือกยังเสรีถึง5-10เม็ด,หรือ1เม็ดก็เถอะ,มุกอ้างข่วยคนถูกใส่ร้ายหรือตัดอนาคตคนเสพมีครอบครองเล็กน้อยพะนะ,หวยขายเกิน80บาทกับคนเดินขายหวยรัฐที่ลงทะเบียนชัดเจนยังขายเกินราคาใบละ100ใบละ110-120&200ตามมันอยากขายความดังของเลขล่ะ,ตำรวจหมู่บ้านมีตรึมรู้หมด,ไม่รวมตำรวจจริงของแต่ละอำเภอสน.นะ ใช้สายไปล่อซื้อ จับลงโทษได้หมดล่ะ แต่วงการไทยทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ คนพวกนี้ไม่เคยถูกกำจัดชีวิตจริงจังลดประชากรมัน มันจึงทำซ้ำๆเติมๆทั้งเพิ่มขึ้นดีสามัคคีกันได้ดีในทางชั่วเลวด้วยล่ะ,เอาแค่ยาบ้ากับหวยเกินราคามันก็บอกว่าระบบข้าราชการเรามันกาก เทียบสิงคโปร์ใกล้ยังไม่ขี้เล็บมันจริงๆ,เสือกแสดงอยากเปิดบ่อนคาสิโน. ..จริงๆไม่มีในนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยและนี้คือเรื่องใหญ่เป็นนโยบายกว่าแจกตังดิจิดัลอีก,เข้าข่ายยุบพรรคด้านหลอกลวงโกหกในความไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนเลย ขาดคุณสมบัติทุกๆมิติในการขึ้นเป็นคณะจัดตั้งรัฐบาล อดีตนายกฯเศรษฐายังสิ้นสถานะเลย,พรรคร่วมยอมรับสุมหัวร่วมก่อคาสิโนอีก ยุบพรรคในข้อหาทำลายชาติก่อหายนะแก่ชาติไทยและสังคมชุมชนไทยทำลายประชาชนไทยภายในประเทศตนมากมายหลายมิติมุมมองอย่างอภัยไม่ได้เลย, เคสกรณีศึกษา&แค่นี้และนั้นตามคลิปในรายการนี้ก็เกินพอในภัยๆต่างๆที่ประเทศนั้นๆเปิดบ่อนโดนแก่คนชาติตนไปแล้ว ..ไม่มีในนโยบายหลักถือว่าขาดคุณสมบัติ&ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อประชาชนด้วย.สามารถเข้าข่ายยุบพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลได้มั้ยนะ.มันคือภัยร้ายชัดๆ คนไทยประเทศไทยยังไม่พร้อมด้วยประชาชนยังไกลคุณภาพรอบรู้ทันอะไร,ทั้งยังยากจนเต็มประเทศ จนทั่งตังจนทั้งความรู้องค์รอบรู้ใดๆพึ่งพาตนเองยังไม่ได้ ภาระตนเองและดัชนีต้นทุนชีวิตแพง. ..อยากได้ตังมาพัฒนาชาติ ไปโมฆะฉีกกฎหมายสัญญาสัมปทานบ่อน้ำมันโน้นยึดบ่อน้ำมันคืนมาทั้งหมด ขายน้ำมันแบบอิหร่านลิตรละ1-2บาทภายในประเทศ ขายส่งออกในราคาตลาดโลก,ยึดบ่อทองคำขุดเข้าทุนสำรองประเทศ ไทยยึดคืนทรัพยากรวัตถุดิบสร้างชาติคืนมาทั้งหมด เรามีวัตถุดิบแล้วทั้งหมดจะกลัวใครกลัวอะไร,. ..จริงๆอีกข้อยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่ยุคฝรั่งล่าอาณานิคมแล้ว โลกรับรู้เปิดเผยทั่วโลกแล้ว อะไรเอาเปรียบปล้นชิงทางสัญญาผูกทาสใดๆของฝรั่งต่างชาติสมควรโมฆะฉีกทิ้งทั้งหมด,ผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกจากประเทศไทยชั่วคราวไปทั้งหมดทุกๆกรณีเคลียร์คน,คนภายนอกนี้ล่ะอันตรายมากเสือกให้มาอยู่ร่วมกันกับคนภายในบ้านตนเอง,แทรกแซงปั่นแตกแยกเป็นมือที่สามสี่ห้าได้หมด,ก่อโกลาหลวุ่นวายใดๆก็สามารถทำง่ายๆ.ผลักดันออกไปมิติปัญหาต่างๆในประเทศไทยจะตัดตอนไปมหาศาลทันที,เหลือคนไทยคนสัญชาติไทยล้วนๆจากนั้นค่อยคัดกรองตรวจสืบสอบสวนคนปลอมคนเทาๆคนสวมสัญชาติไทยเพื่อกำจัดกวาดล้างไล่ล่าต่อไป,ความสงบสุขจะมาอัตโนมัติทันทีโดยส่วนมากของภาพรวมทั้งหมดของประเทศ.. ..ประเทศไทยต้องพลิกแบบนี้.เช่นนั้นก้าวต่อไปไม่ได้หรอก,ชาติบ้าอะไรวัตถุดิบปรุงอาหารเลี้ยงคนในครัวเรือนครอบครัวตนเองก็ไม่มี เนื้อปิโตรเลียมแท้ๆยังครอบครองเป็นเจ้าของ100%อะไรห่าจริงก็ไม่ได้,เปิดสัมปทานหรือต่ออายุสัมปทานมันทำไม ยุคยึดอำนาจยังเสือกต่อสัมปทานให้ต่างชาติเลย,แค่นี้ยังไร้ปัญญาบริหารประชาชนพ้นยากจนจริง,ยังเสือกเพิ่มภัยอันตรายรอบด้านปล้นฆ่าชิงทรัพย์ขายตัวขายบ้าสาระพัดเสพติดค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนไทยคนเป็นๆใดๆจะเหลือเหรอ,ขายที่ดินขายบ้านใช้หนี้พนันมีตรึมแน่นอน,หรือตังมหาศาลจากเดอะแก๊งเทาๆนักธุรกิจเทาๆที่บินมาฟอกตังมหาศาลเอาออกจากบ่อนมาใช้ก่อการยึดแผ่นดินไทยที่ดินไทยกลืนกินเนียนๆก็สามารถทำได้สบายอีก,ซื้อคนข้าราชการซื้อตำแหน่ง จ้างตัวแทนตนไปนั่งควบคุมปกครองเปิดช่องทำชั่วสาระพัดออกกฎหมายสาระพัดเลวชั่วเนียนๆได้หมด,การตัดตอนทำให้สมุนขี้ข้าคนของเดอะแก๊งนี้ไม่ให้มีชีวิตลดประชากรมันทั้งหมดเรื่อยๆจึงสำคัญ ,จะมาก่อการทวนกระแสเลวชั่วได้อีกมีแต่พระเจ้ามันนั่นล่ะจะปล่อยมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก. https://m.youtube.com/watch?v=BPJH2RYgq-I
    0 Comments 0 Shares 951 Views 0 Reviews
More Results