• นานที ฝนตกแถวบ้านแล้วจะเห็น #รุ้งกินน้ำ
    นานที ฝนตกแถวบ้านแล้วจะเห็น #รุ้งกินน้ำ
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • เห้อ ก่อนไอเทมในเกมส์จะหมดอายุ งั้นก็ใช้ให้หมดและคุ้มค่าที่สุดก็แล้วกันนะครับ และวันนี้ฝนไม่ค่อยตกเช่นเคย รอดูตอนเย็นว่าฝนตกหรือไม่ตก ออกไปรดน้ำต้นไม้เพราะช่วงนี้แดดแรงมาก แม้เมฆจะมากก็ตามแต่ แต่อย่าสนโชคชะตา จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
    เห้อ ก่อนไอเทมในเกมส์จะหมดอายุ งั้นก็ใช้ให้หมดและคุ้มค่าที่สุดก็แล้วกันนะครับ และวันนี้ฝนไม่ค่อยตกเช่นเคย รอดูตอนเย็นว่าฝนตกหรือไม่ตก ออกไปรดน้ำต้นไม้เพราะช่วงนี้แดดแรงมาก แม้เมฆจะมากก็ตามแต่ แต่อย่าสนโชคชะตา จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • ดร.เอ้ ชี้ "ฝนตก น้ำท่วม กทม.จมน้ำ" อย่าเชื่อว่า แก้ไม่ได้ เรายังมีทางออก แต่ต้องเริ่มเดี๋ยวนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/18949/
    ดร.เอ้ ชี้ "ฝนตก น้ำท่วม กทม.จมน้ำ" อย่าเชื่อว่า แก้ไม่ได้ เรายังมีทางออก แต่ต้องเริ่มเดี๋ยวนี้ https://www.thai-tai.tv/news/18949/
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • ตำรวจน้ำดี
    ตำรวจฮีโร่ช่วยประชาชนกลางสายฝนตกกระหน่ำ แต่ตำรวจลพบุรีไม่หวั่นเร่งช่วยเหลือทันที
    //////////////////

    ตำรวจลพบุรี เป็นตำรวจน้ำดีไม่หวั่นไหวเร่งช่วยเหลือประชาชนกลางสายฝนตกกระหน่ำตัวเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัย ก็ดีใจแล้ว

    เมื่อเวลา 19:00 น ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเมืองลพ 191 ว่า
    มีรถยนต์ของประชาชนตกข้างทาง 2 นายตำรวจไม่รอช้าตะลุยกลางสายฝนช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนตัวเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัยก็ดีแล้ว
    เวลาต่อมาได้ทราบชื่อนายตำรวจน้ำดี
    ร.ต.ต.ธีรพงษ์ ชูเกษร ,จ.ส.ต.พิพัฒน์ วิลัย
    ขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้ช่วยเหลือรถยนต์ประชาชนตกข้างทาง ดำเนินการเรียกรถยกมานำรถออกพ้นจากการจราจรสามารถใช้ได้ปกติและผู้ใช้รถใช้ถนนปลอดภัยตัวเองเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัยก็ดีแล้ว
    ตำรวจน้ำดี ตำรวจฮีโร่ช่วยประชาชนกลางสายฝนตกกระหน่ำ แต่ตำรวจลพบุรีไม่หวั่นเร่งช่วยเหลือทันที ////////////////// ตำรวจลพบุรี เป็นตำรวจน้ำดีไม่หวั่นไหวเร่งช่วยเหลือประชาชนกลางสายฝนตกกระหน่ำตัวเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัย ก็ดีใจแล้ว เมื่อเวลา 19:00 น ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเมืองลพ 191 ว่า มีรถยนต์ของประชาชนตกข้างทาง 2 นายตำรวจไม่รอช้าตะลุยกลางสายฝนช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนตัวเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัยก็ดีแล้ว เวลาต่อมาได้ทราบชื่อนายตำรวจน้ำดี ร.ต.ต.ธีรพงษ์ ชูเกษร ,จ.ส.ต.พิพัฒน์ วิลัย ขณะปฏิบัติหน้าที่ ได้ช่วยเหลือรถยนต์ประชาชนตกข้างทาง ดำเนินการเรียกรถยกมานำรถออกพ้นจากการจราจรสามารถใช้ได้ปกติและผู้ใช้รถใช้ถนนปลอดภัยตัวเองเปียกไม่เป็นไรให้ประชาชนปลอดภัยก็ดีแล้ว
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • พายุฝนกระหน่ำลพบุรี
    //////////////////

    พายุกระหน่ำลพบุรี ฝนตกลงมาหนักอย่างนานกว่า 1 ชั่วโมง

    เมื่อเวลา 16.00 นาฬิกา ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
    แรกเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี พี่มีฝนตกลงมาอย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นในตลาดโต้รุ่ง ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
    อย่างเช่นถนนบริเวณ
    ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก ระดับน้ำสูงราว 20-30 ซม. เนื่องจากถนนบางจุดมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ และมวลน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมเป็นเวลานานไหลระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ส่วนถนนนารายณ์มหาราช ใน เขตเทศบาลเมืองลพบุรี
    ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นกัน จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประมาณ 2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงตามปกติตามสภาพเดิม
    พายุฝนกระหน่ำลพบุรี ////////////////// พายุกระหน่ำลพบุรี ฝนตกลงมาหนักอย่างนานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อเวลา 16.00 นาฬิกา ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรกเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี พี่มีฝนตกลงมาอย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นในตลาดโต้รุ่ง ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อย่างเช่นถนนบริเวณ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก ระดับน้ำสูงราว 20-30 ซม. เนื่องจากถนนบางจุดมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ และมวลน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมเป็นเวลานานไหลระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ส่วนถนนนารายณ์มหาราช ใน เขตเทศบาลเมืองลพบุรี ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นกัน จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประมาณ 2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงตามปกติตามสภาพเดิม
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 0 Reviews
  • พายุฝนกระหน่ำลพบุรี
    //////////////////

    พายุกระหน่ำลพบุรี ฝนตกลงมาหนักอย่างนานกว่า 1 ชั่วโมง

    เมื่อเวลา 16.00 นาฬิกา ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
    แรกเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี พี่มีฝนตกลงมาอย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นในตลาดโต้รุ่ง ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
    อย่างเช่นถนนบริเวณ
    ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก ระดับน้ำสูงราว 20-30 ซม. เนื่องจากถนนบางจุดมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ และมวลน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมเป็นเวลานานไหลระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ส่วนถนนนารายณ์มหาราช ใน เขตเทศบาลเมืองลพบุรี
    ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นกัน จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประมาณ 2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงตามปกติตามสภาพเดิม
    พายุฝนกระหน่ำลพบุรี ////////////////// พายุกระหน่ำลพบุรี ฝนตกลงมาหนักอย่างนานกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อเวลา 16.00 นาฬิกา ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรกเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบายหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี พี่มีฝนตกลงมาอย่างหนักนาน 1 ชั่วโมงทำให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นในตลาดโต้รุ่ง ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อย่างเช่นถนนบริเวณ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก ระดับน้ำสูงราว 20-30 ซม. เนื่องจากถนนบางจุดมีสภาพเป็นแอ่งกระทะ และมวลน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมเป็นเวลานานไหลระบายลงท่อระบายน้ำไม่ทัน ส่วนถนนนารายณ์มหาราช ใน เขตเทศบาลเมืองลพบุรี ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมขังเช่นกัน จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประมาณ 2 ชั่วโมงน้ำก็ลดลงตามปกติตามสภาพเดิม
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าเมฆต่างๆ บนท้องฟ้าหมายถึงอะไร นี่คือคำแนะนำสั้นๆ:• เมฆชั้นสูง (20,000+ ฟุต): เซอร์รัส เซอร์โรสเตรตัส เซอร์โรคิวมูลัส – บาง โปร่งแสง เกิดจากผลึกน้ำแข็ง• เมฆชั้นกลาง (6,500–20,000 ฟุต): อัลโตสเตรตัส อัลโตคิวมูลัส – หนากว่า บดบังแสงแดดได้• เมฆชั้นต่ำ (ผิวดินถึง 6,500 ฟุต): สตราตัส สตราโตคิวมูลัส นิมโบสเตรตัส – สีเทา หนาแน่น อาจทำให้เกิดฝนตกได้• เมฆคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัสครอบคลุมทุกชั้น – ฟูหรือสูงตระหง่าน และมักเป็นสัญญาณของพายุการทำความเข้าใจประเภทของเมฆช่วยให้คุณคาดการณ์สภาพอากาศได้เพียงแค่มองขึ้นไป!
    คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าเมฆต่างๆ บนท้องฟ้าหมายถึงอะไร นี่คือคำแนะนำสั้นๆ:• เมฆชั้นสูง (20,000+ ฟุต): เซอร์รัส เซอร์โรสเตรตัส เซอร์โรคิวมูลัส – บาง โปร่งแสง เกิดจากผลึกน้ำแข็ง• เมฆชั้นกลาง (6,500–20,000 ฟุต): อัลโตสเตรตัส อัลโตคิวมูลัส – หนากว่า บดบังแสงแดดได้• เมฆชั้นต่ำ (ผิวดินถึง 6,500 ฟุต): สตราตัส สตราโตคิวมูลัส นิมโบสเตรตัส – สีเทา หนาแน่น อาจทำให้เกิดฝนตกได้• เมฆคิวมูลัสและคิวมูโลนิมบัสครอบคลุมทุกชั้น – ฟูหรือสูงตระหง่าน และมักเป็นสัญญาณของพายุการทำความเข้าใจประเภทของเมฆช่วยให้คุณคาดการณ์สภาพอากาศได้เพียงแค่มองขึ้นไป!
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ฝนตกทั้งวัน⛈️อากาศน่านอน
    ฝนตกทั้งวัน⛈️อากาศน่านอน
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 0 Reviews
  • กาญจนบุรี - ดีเจเตเต้ หายตัวปริศนา 4 วัน ก่อนพบเป็นศพกลางป่าในสภาพสุดสะเทือนใจ ถูกมัดมือไพล่หลัง กระสุนเจาะกระหม่อม 2 นัด ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่บัญชาการเอง พ่อเผย “อย่างน้อยก็ได้เจอลูก” วอนตำรวจจับคนร้ายให้ได้

    วันนี้( 18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสากู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ เข้าตรวจสอบจุดพบศพชายเสียชีวิตในป่าลึก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งภายหลังยืนยันแล้วว่าเป็น “ดีเจเตเต้” ผู้สูญหายไปก่อนหน้านี้

    จุดพบศพอยู่ลึกในป่ากว่า 20 นาทีจากถนนใหญ่ ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปและเดินเท้าอีกประมาณ 5 นาที พบศพในสภาพนอนตะแคง มือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว สภาพศพเริ่มบวมอืด มีหนอนจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่กระหม่อม 2 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน

    ชาวบ้านผู้พบศพคนแรกเล่าว่า เข้าไปหาเห็ดในป่าแล้วหลงทาง เพราะฝนตกและฟ้ามืด ก่อนจะเจอขาศพยื่นออกมาจากพุ่มไม้ ด้วยความตกใจจึงกลับบ้าน แต่ภาพติดตาทำให้ตัดสินใจกลับไปดูอีกครั้ง จึงแน่ใจว่าเป็นดีเจเตเต้ เพราะชุดตรงกับวันที่หายตัวไป จึงรีบแจ้งตำรวจทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000046365

    #MGROnline #ดีเจเตเต้
    กาญจนบุรี - ดีเจเตเต้ หายตัวปริศนา 4 วัน ก่อนพบเป็นศพกลางป่าในสภาพสุดสะเทือนใจ ถูกมัดมือไพล่หลัง กระสุนเจาะกระหม่อม 2 นัด ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่บัญชาการเอง พ่อเผย “อย่างน้อยก็ได้เจอลูก” วอนตำรวจจับคนร้ายให้ได้ • วันนี้( 18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสากู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ เข้าตรวจสอบจุดพบศพชายเสียชีวิตในป่าลึก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งภายหลังยืนยันแล้วว่าเป็น “ดีเจเตเต้” ผู้สูญหายไปก่อนหน้านี้ • จุดพบศพอยู่ลึกในป่ากว่า 20 นาทีจากถนนใหญ่ ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปและเดินเท้าอีกประมาณ 5 นาที พบศพในสภาพนอนตะแคง มือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว สภาพศพเริ่มบวมอืด มีหนอนจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่กระหม่อม 2 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน • ชาวบ้านผู้พบศพคนแรกเล่าว่า เข้าไปหาเห็ดในป่าแล้วหลงทาง เพราะฝนตกและฟ้ามืด ก่อนจะเจอขาศพยื่นออกมาจากพุ่มไม้ ด้วยความตกใจจึงกลับบ้าน แต่ภาพติดตาทำให้ตัดสินใจกลับไปดูอีกครั้ง จึงแน่ใจว่าเป็นดีเจเตเต้ เพราะชุดตรงกับวันที่หายตัวไป จึงรีบแจ้งตำรวจทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000046365 • #MGROnline #ดีเจเตเต้
    0 Comments 0 Shares 308 Views 0 Reviews
  • ส่วนตัวผมวันนี้ตื่นเกือบเที่ยง แต่ต้องนอนอีกเพราะฝนตกหนัก ตื่นอีกทีก็บ่ายครึ่งแหละ ว่าจะเก็บกาแฟไว้ใส่ดินเสริมฮอร์โมนพืชผักหน้าบ้านดีกว่า กินเป็นกาแฟดำเดี๋ยวแฮงค์และน็อก สุดท้ายก็ต้องหยุดกาแฟไปอีกยาวเลย สั่งไข่เยี่ยวม้าทอดกะเพราะหมูกรอบได้ ไข่เค็มทอดกะเพราหมูกรอบ ไม่เป็นไร กินเข้าไป ที่ไหนได้ ไข่เค็ม คิดถึงไชยาจริงๆ กุ้งก็อร่อย ไข่เค็มก็นัว กุ้งโตๆซอสไข่เค็มคือหรอยจังฮู้ ช่วงนี้ก็ทำอะไรให้เต็มที่เลย ทำเลยไม่ต้องลังเล ที่ผ่านมาก็ลังเลเยอะ เรื่องมาก สุดท้ายอยู่ที่เราคิดว่าจะทำอะไร ลองค้นพบตัวเอง แต่การที่ถูกคนในครอบครัวล้วงลูก บังคับบงการทุกอย่าง ยิ่งผมรู้สึกอึดอัด เพราะการค้นพบตัวเองเป็นสิ่งที่ผมชอบ ผิดเองที่รอให้คนอื่นมายัดเยียด ฉวยโอกาสบงการทั้งๆที่ผมสมควรจะลงมือทำ สร้างตัวตน เพื่อนหลายคนทำงานประจำ ส่วนผมก็ได้ทำงานประจำ แต่เป็นลูกจ้างชั่วคราว เงินเดือนหมื่นต้นๆ ไม่ใช่ 35000 นี่แหละชีวิตที่ยอมให้คนอื่นบงการ พยายามบงการสุดท้ายผมก็ลำบากใจครับ
    ส่วนตัวผมวันนี้ตื่นเกือบเที่ยง แต่ต้องนอนอีกเพราะฝนตกหนัก ตื่นอีกทีก็บ่ายครึ่งแหละ ว่าจะเก็บกาแฟไว้ใส่ดินเสริมฮอร์โมนพืชผักหน้าบ้านดีกว่า กินเป็นกาแฟดำเดี๋ยวแฮงค์และน็อก สุดท้ายก็ต้องหยุดกาแฟไปอีกยาวเลย สั่งไข่เยี่ยวม้าทอดกะเพราะหมูกรอบได้ ไข่เค็มทอดกะเพราหมูกรอบ ไม่เป็นไร กินเข้าไป ที่ไหนได้ ไข่เค็ม คิดถึงไชยาจริงๆ กุ้งก็อร่อย ไข่เค็มก็นัว กุ้งโตๆซอสไข่เค็มคือหรอยจังฮู้ ช่วงนี้ก็ทำอะไรให้เต็มที่เลย ทำเลยไม่ต้องลังเล ที่ผ่านมาก็ลังเลเยอะ เรื่องมาก สุดท้ายอยู่ที่เราคิดว่าจะทำอะไร ลองค้นพบตัวเอง แต่การที่ถูกคนในครอบครัวล้วงลูก บังคับบงการทุกอย่าง ยิ่งผมรู้สึกอึดอัด เพราะการค้นพบตัวเองเป็นสิ่งที่ผมชอบ ผิดเองที่รอให้คนอื่นมายัดเยียด ฉวยโอกาสบงการทั้งๆที่ผมสมควรจะลงมือทำ สร้างตัวตน เพื่อนหลายคนทำงานประจำ ส่วนผมก็ได้ทำงานประจำ แต่เป็นลูกจ้างชั่วคราว เงินเดือนหมื่นต้นๆ ไม่ใช่ 35000 นี่แหละชีวิตที่ยอมให้คนอื่นบงการ พยายามบงการสุดท้ายผมก็ลำบากใจครับ
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • เช้าๆแดดแรง บ่ายๆฝนตก ธรรมชาติสวยงามเสมอ🌳🪴
    #ความสุขอยู่รอบตัวเรา
    เช้าๆแดดแรง บ่ายๆฝนตก ธรรมชาติสวยงามเสมอ🌳🪴 #ความสุขอยู่รอบตัวเรา
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย ฤดูฝนปี 68 มาแน่ 15 พ.ค. คาดปริมาณฝนโดยรวมต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย เตือนช่วง มิ.ย.-ก.ค. เหนือ-อีสาน-กลางตอนบน เสี่ยงฝนทิ้งช่วง ด้าน ส.ค.-ต.ค. ฝนชุก ลุ้นพายุหมุนเขตร้อน 1-2 ลูกซัดเข้าไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000044603

    #MGROnline #กรมอุตุนิยมวิทยา #ฤดูฝน
    อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย ฤดูฝนปี 68 มาแน่ 15 พ.ค. คาดปริมาณฝนโดยรวมต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย เตือนช่วง มิ.ย.-ก.ค. เหนือ-อีสาน-กลางตอนบน เสี่ยงฝนทิ้งช่วง ด้าน ส.ค.-ต.ค. ฝนชุก ลุ้นพายุหมุนเขตร้อน 1-2 ลูกซัดเข้าไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000044603 • #MGROnline #กรมอุตุนิยมวิทยา #ฤดูฝน
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • จอน อึ๊ง ผู้เนรคุณแผ่นดินและสถาบันฯ และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ iLaw - ประชาไท ลาโลกไปแล้ว มิน่า ฝนตกเมื่อคืนยันเช้านี้กลับไม่มีน้ำท่วม คนระญำตุยคนนึงแผ่นดินสูงพ้นน้ำท่วมทันที
    #คิงส์โพธิ์แดง
    จอน อึ๊ง ผู้เนรคุณแผ่นดินและสถาบันฯ และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ iLaw - ประชาไท ลาโลกไปแล้ว มิน่า ฝนตกเมื่อคืนยันเช้านี้กลับไม่มีน้ำท่วม คนระญำตุยคนนึงแผ่นดินสูงพ้นน้ำท่วมทันที #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • รองปลัด กทม.เผยสั่งปิดศูนย์พักพิง 4 แห่ง ใกล้เหตุโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไฟไหม้ ย้ายไปวัดสุทธาโภชน์ และที่โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา หลังตรวจพบคุณภาพอากาศยังเต็มไปด้วยสารพิษ

    วันนี้ (12 พ.ค.) นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง ย่านซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้เจ้าของโรงงานเดินทางมาให้ข้อมูลบางส่วนกับเจ้าหน้าที่แล้ว โดยพบว่า ภายในโกดังของโรงงานมีเม็ดพลาสติกมากถึง 300 ตัน หรือราว 300,000 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เผาไหม้จนเกือบหมดแล้ว และจากการตรวจสอบจุดความร้อนด้านใต้โรงงาน พบว่า ยังคงมีเปลวเพลิงเป็นกลุ่มเล็ก ๆ กระจายอยู่บริเวณอาคารหลังที่ 3 อีกประมาณ 20% จึงให้เจ้าหน้าที่นำรถแบ็คโฮและเครื่องจักรหนักไปทุบเจาะกำแพงโรงงานทางด้านซ้าย เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถนำสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิงได้ คาดว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดเร็วๆ นี้ ก่อนจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ เพราะหากมีฝนตกจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่า เนื่องจากสารพิษจะกระจายออกด้านข้างโรงงานได้ ส่วนโรงงานมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นพบว่าเจ้าของมีชื่อเป็นคนไทย และบุคคลที่มาแสดงตัวก็เป็นคนไทยด้วยเช่นกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000044300

    #MGROnline #ไฟไหม้ฉลองกรุง55 #โรงงานเฟอนิเจอร์ไฟไหม้
    รองปลัด กทม.เผยสั่งปิดศูนย์พักพิง 4 แห่ง ใกล้เหตุโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไฟไหม้ ย้ายไปวัดสุทธาโภชน์ และที่โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา หลังตรวจพบคุณภาพอากาศยังเต็มไปด้วยสารพิษ • วันนี้ (12 พ.ค.) นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง ย่านซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้เจ้าของโรงงานเดินทางมาให้ข้อมูลบางส่วนกับเจ้าหน้าที่แล้ว โดยพบว่า ภายในโกดังของโรงงานมีเม็ดพลาสติกมากถึง 300 ตัน หรือราว 300,000 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้เผาไหม้จนเกือบหมดแล้ว และจากการตรวจสอบจุดความร้อนด้านใต้โรงงาน พบว่า ยังคงมีเปลวเพลิงเป็นกลุ่มเล็ก ๆ กระจายอยู่บริเวณอาคารหลังที่ 3 อีกประมาณ 20% จึงให้เจ้าหน้าที่นำรถแบ็คโฮและเครื่องจักรหนักไปทุบเจาะกำแพงโรงงานทางด้านซ้าย เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถนำสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิงได้ คาดว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดเร็วๆ นี้ ก่อนจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ เพราะหากมีฝนตกจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่า เนื่องจากสารพิษจะกระจายออกด้านข้างโรงงานได้ ส่วนโรงงานมีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นพบว่าเจ้าของมีชื่อเป็นคนไทย และบุคคลที่มาแสดงตัวก็เป็นคนไทยด้วยเช่นกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000044300 • #MGROnline #ไฟไหม้ฉลองกรุง55 #โรงงานเฟอนิเจอร์ไฟไหม้
    0 Comments 0 Shares 270 Views 0 Reviews
  • เก็บรูปดอกไม้ที่บ้านหลังฝนตก🥰🥰🥰
    เก็บรูปดอกไม้ที่บ้านหลังฝนตก🥰🥰🥰
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • แม่สายระส่ำ หวั่นน้ำท่วมซ้ำรอย : [News story]

    ชาวบ้านแม่สายผวา! หวั่นน้ำท่วมซ้ำ หลังฝนตกเพียงเล็กน้อย วอนรัฐเร่งขุดลำน้ำสาย
    แม่สายระส่ำ หวั่นน้ำท่วมซ้ำรอย : [News story] ชาวบ้านแม่สายผวา! หวั่นน้ำท่วมซ้ำ หลังฝนตกเพียงเล็กน้อย วอนรัฐเร่งขุดลำน้ำสาย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 688 Views 18 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯ เชียงรายจ่อใช้ยาแรงแจ้งคนรุกล้ำลำน้ำสายรื้อถอน เปิดทางขุดลอก หลังฝนตกแค่ 69 มม.ทำท่วมป่วนทั้งฝั่งไทย-เมียนมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040217

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ว่าฯ เชียงรายจ่อใช้ยาแรงแจ้งคนรุกล้ำลำน้ำสายรื้อถอน เปิดทางขุดลอก หลังฝนตกแค่ 69 มม.ทำท่วมป่วนทั้งฝั่งไทย-เมียนมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040217 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 653 Views 0 Reviews
  • ดีเอสไอเรียก 2 บริษัท ส่งเอกสารคดีนอมินี : [NEWS UPDATE]
    ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เชิญผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมืองหารือประเด็นแบบอาคาร
    สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ขณะที่คณะทำงานจากหลายฝ่าย อาทิ ดีเอสไอ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง จะแบ่งเป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งให้ 2 กิจการร่วมค้า ที่ทำหน้าที่ก่อสร้างและควบคุมงาน ส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ในการสืบสวนสอบสวนคดีนอมินีในวันที่ 28 เมษายน นี้ ที่ไซต์งาน ซึ่งการตรวจสอบจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อคืนพื้นที่ให้ กทม. ดำเนินการรื้อถอนต่อไป


    รีบลงทะเบียนก่อนถูกระงับ

    ต้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคล

    ครูกลางคืนดูแลคนไร้บ้าน

    ลมเปลี่ยนทิศฝนตกหนัก
    ดีเอสไอเรียก 2 บริษัท ส่งเอกสารคดีนอมินี : [NEWS UPDATE] ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เชิญผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมืองหารือประเด็นแบบอาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ขณะที่คณะทำงานจากหลายฝ่าย อาทิ ดีเอสไอ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง จะแบ่งเป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งให้ 2 กิจการร่วมค้า ที่ทำหน้าที่ก่อสร้างและควบคุมงาน ส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ในการสืบสวนสอบสวนคดีนอมินีในวันที่ 28 เมษายน นี้ ที่ไซต์งาน ซึ่งการตรวจสอบจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อคืนพื้นที่ให้ กทม. ดำเนินการรื้อถอนต่อไป รีบลงทะเบียนก่อนถูกระงับ ต้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ครูกลางคืนดูแลคนไร้บ้าน ลมเปลี่ยนทิศฝนตกหนัก
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 659 Views 72 0 Reviews
  • คาดหมายอากาศทั่วไป
    ระหว่างวันที่ 22 – 28 เมษายน พ.ศ. 2568
    ในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย
    หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26 – 28 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน บริเวณภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลองช่วง

    ข้อควรระวัง
    ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยตลอดช่วง
    สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
    ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
    ออกประกาศ 22 เมษายน 2568 12:00 น.
    คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 22 – 28 เมษายน พ.ศ. 2568 ในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26 – 28 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน บริเวณภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน สำหรับบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลองช่วง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 23 – 25 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 28 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ออกประกาศ 22 เมษายน 2568 12:00 น.
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • ฝนตกแดดออก ตกๆ หยุดๆ ยิ่งร้อนอบอ้าว 🌦️🥵
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    ฝนตกแดดออก ตกๆ หยุดๆ ยิ่งร้อนอบอ้าว 🌦️🥵 #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • อาการกลัวของตัวแม่กับตัวลูก เวลาฝนตกฟ้าร้อง ตัวแม่ต้องนั่งชิดกับตัวเพื่อความอุ่นใจ ส่งนตัวลูก ห่างหน่อยก็ได้ แต่อยู่ในสายตา
    #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด
    #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    อาการกลัวของตัวแม่กับตัวลูก เวลาฝนตกฟ้าร้อง ตัวแม่ต้องนั่งชิดกับตัวเพื่อความอุ่นใจ ส่งนตัวลูก ห่างหน่อยก็ได้ แต่อยู่ในสายตา #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก**
    (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*)

    ---

    ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ*
    - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง
    - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน
    - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ
    - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม

    ---

    ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)**
    **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง*
    - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ
    - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้
    - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ
    - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน

    ---

    ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)**
    **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา*
    - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา
    - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ"
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย
    - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู

    ---

    ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง*
    - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"
    - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที
    - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ
    - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา

    ---

    ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม*
    - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว
    - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ
    - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม
    - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา

    ---

    ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต*
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ
    - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่
    - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา
    - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"

    ---

    ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ*
    - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้
    - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ
    - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล
    - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก** (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*) --- ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ* - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม --- ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)** **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง* - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้ - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน --- ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)** **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา* - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ" - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู --- ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง* - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต" - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา --- ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)** **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม* - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา --- ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต* - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่ - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" --- ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ* - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้ - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    0 Comments 0 Shares 804 Views 0 Reviews
  • วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก

    ความมีอยู่ว่า...
    หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป”
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย

    ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว)

    Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้

    ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น

    เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก

    บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html
    https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html
    https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468
    http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้



    วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก ความมีอยู่ว่า... หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป” - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว) Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้ ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468 http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้ 
    1 Comments 0 Shares 632 Views 0 Reviews
  • ปราจีนบุรี - เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถล่ม หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

    วันนี้ ( 16 เม.ย.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานทางลงสู่น้ำตกเหวนรกถล่มลงมา โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล

    และขณะนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเหวนรกแล้ว และจะทำการประเมินเสถียรภาพของพื้นที่ก่อนเปิดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

    ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันมาแล้ว 5 วัน ทำให้ดินอุ้มน้ำและเกิดการถล่มของหน้าผาดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000035945

    #MGROnline #น้ำตกเหวนรก #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    ปราจีนบุรี - เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถล่ม หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว • วันนี้ ( 16 เม.ย.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานทางลงสู่น้ำตกเหวนรกถล่มลงมา โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล • และขณะนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเหวนรกแล้ว และจะทำการประเมินเสถียรภาพของพื้นที่ก่อนเปิดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย • ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันมาแล้ว 5 วัน ทำให้ดินอุ้มน้ำและเกิดการถล่มของหน้าผาดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000035945 • #MGROnline #น้ำตกเหวนรก #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    0 Comments 0 Shares 551 Views 0 Reviews
More Results