• อาการกลัวของตัวแม่กับตัวลูก เวลาฝนตกฟ้าร้อง ตัวแม่ต้องนั่งชิดกับตัวเพื่อความอุ่นใจ ส่งนตัวลูก ห่างหน่อยก็ได้ แต่อยู่ในสายตา
    #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด
    #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    อาการกลัวของตัวแม่กับตัวลูก เวลาฝนตกฟ้าร้อง ตัวแม่ต้องนั่งชิดกับตัวเพื่อความอุ่นใจ ส่งนตัวลูก ห่างหน่อยก็ได้ แต่อยู่ในสายตา #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก**
    (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*)

    ---

    ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ*
    - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง
    - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน
    - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ
    - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม

    ---

    ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)**
    **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง*
    - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ
    - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้
    - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ
    - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน

    ---

    ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)**
    **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา*
    - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา
    - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ"
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย
    - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู

    ---

    ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง*
    - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"
    - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที
    - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ
    - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา

    ---

    ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม*
    - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว
    - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ
    - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม
    - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา

    ---

    ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต*
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ
    - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่
    - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา
    - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"

    ---

    ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ*
    - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้
    - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ
    - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล
    - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก** (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*) --- ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ* - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม --- ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)** **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง* - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้ - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน --- ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)** **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา* - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ" - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู --- ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง* - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต" - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา --- ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)** **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม* - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา --- ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต* - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่ - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" --- ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ* - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้ - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก

    ความมีอยู่ว่า...
    หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป”
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย

    ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว)

    Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้

    ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น

    เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก

    บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html
    https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html
    https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468
    http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้



    วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก ความมีอยู่ว่า... หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป” - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว) Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้ ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468 http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้ 
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราจีนบุรี - เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถล่ม หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

    วันนี้ ( 16 เม.ย.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานทางลงสู่น้ำตกเหวนรกถล่มลงมา โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล

    และขณะนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเหวนรกแล้ว และจะทำการประเมินเสถียรภาพของพื้นที่ก่อนเปิดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

    ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันมาแล้ว 5 วัน ทำให้ดินอุ้มน้ำและเกิดการถล่มของหน้าผาดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000035945

    #MGROnline #น้ำตกเหวนรก #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    ปราจีนบุรี - เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรกในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถล่ม หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว • วันนี้ ( 16 เม.ย.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุหน้าผาบริเวณสะพานทางลงสู่น้ำตกเหวนรกถล่มลงมา โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้หญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 รายได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าช่วยเหลือและลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อส่งรักษาตัวในโรงพยาบาล • และขณะนี้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเหวนรกแล้ว และจะทำการประเมินเสถียรภาพของพื้นที่ก่อนเปิดอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย • ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันมาแล้ว 5 วัน ทำให้ดินอุ้มน้ำและเกิดการถล่มของหน้าผาดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000035945 • #MGROnline #น้ำตกเหวนรก #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มันจดสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของด้วยนะ,หลักฐานการก่อภัยพิบัติโลกเต็มๆมือเลย.
    ..ไทยก็ขี้ข้ามันด้วย ผ่านกฎหมายสภาพอากาศรอรับคำสั่งด้วย,ทาสขี้ข้าสมุนรับใช้เหมือนหมาที่ซื่อสัตย์พร้อมจะฆ่าคนไทยทั้งประเทศอย่างอำมหิตแบบฉีดวัคซีนแก่คนไทยกว่า60ล้านคนสำเร็จล่ะ.
    ..ตื่นๆเถอะคนไทยเรา,คนกทม.ด้วย ตึกถล่มของสตง.ไม่ใช่แค่โกงกินตังหรอก มันวางหมากเตรียมบทเล่นกันรอนานแล้ว.

    ..สิทธิบัตรการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    (เทคโนโลยีการสมคบคิด ยกเว้นกรณีนี้)

    ปี - หมายเลขสิทธิบัตร - ชื่อสิทธิบัตร
    1891 – US462795A – วิธีการผลิตฝนตก
    1914 – US1103490A – เครื่องผลิตฝน (ภาพบอลลูน)
    1917 – US1225521A – การป้องกันก๊าซพิษในการทำสงคราม
    1920 – US1338343A – กระบวนการและเครื่องมือสำหรับการผลิตเมฆเทียม หมอก หรือละอองที่มีความเข้มข้นสูง
    1924 – US1512783A – องค์ประกอบสำหรับขจัดหมอก
    1927 – US1619183A – กระบวนการผลิตเมฆควันจากเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนที่
    1928 – US1665267A – กระบวนการผลิตหมอกเทียม
    1932 – US1892132A – อุปกรณ์พ่นละอองสำหรับไอเสียเครื่องยนต์เครื่องบิน
    1933 – US1928963A – ระบบและวิธีการไฟฟ้า (สำหรับการพ่นสารเคมีในชั้นบรรยากาศ)
    1934 – US1957075A – อุปกรณ์พ่นสารเคมีบนเครื่องบิน
    1936 – US2045865A – เครื่องมือเขียนข้อความบนท้องฟ้า
    1936 – US2052626A – วิธีการพ่นหมอก (MIT)
    1937 – US2068987A – กระบวนการพ่นหมอก
    1939 – US2160900A – วิธีการขจัดไอระเหย
    1941 – US2232728A – วิธีการและองค์ประกอบในการพ่นหมอก
    1941 – US2257360A – วัตถุระเบิดเพนตาเอริทริทอลเตตราไนเตรตที่ลดความไวแล้ว
    1946 – US2395827A – หน่วยพ่นสารเคมีบนเครื่องบิน (กรมการบินสหรัฐฯ) ของเกษตรกรรม)
    1946 – US2409201A – ส่วนผสมที่ทำให้เกิดควัน
    1949 – US2476171A – เครื่องกำเนิดม่านควัน
    1949 – US2480967A – เครื่องระบายควันทางอากาศ
    1950 – US2527230A – วิธีการสร้างผลึกและการตกตะกอน
    1951 – US2550324A – กระบวนการควบคุมสภาพอากาศ
    1951 – US2570867A – วิธีการสร้างผลึกและการตกตะกอน (เจเนอรัล อิเล็กทริก)
    1952 – US2582678A – เครื่องกระจายวัสดุสำหรับเครื่องบิน
    1952 – US2591988A – การผลิตเม็ดสี tio2 (ดูปองต์)
    1952 – US2614083A – ส่วนผสมควันที่คัดกรองโลหะคลอไรด์
    1953 – US2633455A – เครื่องกำเนิดควัน
    1954 – US2688069A – เครื่องกำเนิดไอน้ำ
    1955 – US2721495A – วิธีการและเครื่องมือสำหรับตรวจจับอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นผลึกที่แขวนลอยอยู่ในบรรยากาศก๊าซ (เจเนอรัล อิเล็กทริก)
    1956 – US2730402A – อุปกรณ์กระจายที่ควบคุมได้
    1957 – US2801322A – ห้องสลายตัวสำหรับเชื้อเพลิงโมโนโพรเพลแลนต์
    1958 – US2835530A – กระบวนการสำหรับการควบแน่นของความชื้นในบรรยากาศและการละลายของหมอก
    1959 – US2881335A – การสร้างสนามไฟฟ้า (HAARP – เพื่อชาร์จก้อนเมฆใหม่!)
    1959 – US2903188A – การควบคุมการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน
    1959 – US2908442A – วิธีการกระจายหมอกและเมฆในบรรยากาศตามธรรมชาติ
    1960 – US2962450A – องค์ประกอบการไล่หมอก (ดูเอกสารอ้างอิง)
    1960 – US2963975A – กระสุนคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับหว่านเมฆ
    1961 – US2986360A – อุปกรณ์พ่นยาฆ่าแมลงทางอากาศ
    1962 – US3044911A – ระบบขับเคลื่อน
    1962 – US3056556A – วิธีการสร้างอิทธิพลเทียมต่อสภาพอากาศ
    1964 – US3120459A – ผงไฟผสมที่มีเกลือออกซิไดซ์เคลือบโลหะ
    1964 – US3126155A – เครื่องกำเนิดหว่านเมฆซิลเวอร์ไอโอไดด์ (ส่วนผสมทางการค้าหลัก)
    1964 – US3127107A – การสร้างผลึกน้ำแข็ง
    1964 – US3131131A – การผสมไฟฟ้าสถิตในการแปลงจุลินทรีย์
    1965 – US3174150A – ระบบเสาอากาศโฟกัสอัตโนมัติ (HAARP)
    1966 – US3257801A – องค์ประกอบดอกไม้ไฟประกอบด้วยของแข็ง สารออกซิไดเซอร์ โบรอนและอลูมิเนียม สารเติมแต่งและสารยึดเกาะ
    1966 – US3234357A – อุปกรณ์ผลิตควันด้วยความร้อนไฟฟ้า
    1966 – US3274035A – องค์ประกอบโลหะสำหรับผลิตควันไฮโดรสโคปิก
    1967 – US3300721A – อุปกรณ์สื่อสารผ่านชั้นของก๊าซไอออนไนซ์ (HAARP)
    1967 – US3313487A – เครื่องหว่านเมฆ
    1967 – US3338476A – อุปกรณ์ทำความร้อนสำหรับใช้กับภาชนะบรรจุละอองลอย
    1968 – US3410489A – ระบบสเปรย์ปีกนกที่ปรับอัตโนมัติพร้อมปั๊ม
    1969 – US3429507A – เครื่องผลิตฝน
    1969 – US3430533A – ฝักจ่ายอากาศบนเครื่องบินที่มีท่อจ่ายแบบปิดผนึกด้วยตนเอง
    1969 – US3432208A – เครื่องจ่ายอนุภาคของเหลว (US Air แรง)
    1969 – US3437502A – เม็ดสีไททาเนียมไดออกไซด์เคลือบด้วยซิลิกาและอลูมิเนียม (ดูปองต์)
    1969 – US3441214A – วิธีการและเครื่องมือสำหรับการหว่านเมฆ
    2001 -US20030085296A1 - อุปกรณ์ควบคุมพายุเฮอริเคนและพายุทอร์นาโด

    สิทธิบัตรการควบคุมหรือปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    ..มันจดสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของด้วยนะ,หลักฐานการก่อภัยพิบัติโลกเต็มๆมือเลย. ..ไทยก็ขี้ข้ามันด้วย ผ่านกฎหมายสภาพอากาศรอรับคำสั่งด้วย,ทาสขี้ข้าสมุนรับใช้เหมือนหมาที่ซื่อสัตย์พร้อมจะฆ่าคนไทยทั้งประเทศอย่างอำมหิตแบบฉีดวัคซีนแก่คนไทยกว่า60ล้านคนสำเร็จล่ะ. ..ตื่นๆเถอะคนไทยเรา,คนกทม.ด้วย ตึกถล่มของสตง.ไม่ใช่แค่โกงกินตังหรอก มันวางหมากเตรียมบทเล่นกันรอนานแล้ว. ..สิทธิบัตรการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ (เทคโนโลยีการสมคบคิด ยกเว้นกรณีนี้) ปี - หมายเลขสิทธิบัตร - ชื่อสิทธิบัตร 1891 – US462795A – วิธีการผลิตฝนตก 1914 – US1103490A – เครื่องผลิตฝน (ภาพบอลลูน) 1917 – US1225521A – การป้องกันก๊าซพิษในการทำสงคราม 1920 – US1338343A – กระบวนการและเครื่องมือสำหรับการผลิตเมฆเทียม หมอก หรือละอองที่มีความเข้มข้นสูง 1924 – US1512783A – องค์ประกอบสำหรับขจัดหมอก 1927 – US1619183A – กระบวนการผลิตเมฆควันจากเครื่องบินที่กำลังเคลื่อนที่ 1928 – US1665267A – กระบวนการผลิตหมอกเทียม 1932 – US1892132A – อุปกรณ์พ่นละอองสำหรับไอเสียเครื่องยนต์เครื่องบิน 1933 – US1928963A – ระบบและวิธีการไฟฟ้า (สำหรับการพ่นสารเคมีในชั้นบรรยากาศ) 1934 – US1957075A – อุปกรณ์พ่นสารเคมีบนเครื่องบิน 1936 – US2045865A – เครื่องมือเขียนข้อความบนท้องฟ้า 1936 – US2052626A – วิธีการพ่นหมอก (MIT) 1937 – US2068987A – กระบวนการพ่นหมอก 1939 – US2160900A – วิธีการขจัดไอระเหย 1941 – US2232728A – วิธีการและองค์ประกอบในการพ่นหมอก 1941 – US2257360A – วัตถุระเบิดเพนตาเอริทริทอลเตตราไนเตรตที่ลดความไวแล้ว 1946 – US2395827A – หน่วยพ่นสารเคมีบนเครื่องบิน (กรมการบินสหรัฐฯ) ของเกษตรกรรม) 1946 – US2409201A – ส่วนผสมที่ทำให้เกิดควัน 1949 – US2476171A – เครื่องกำเนิดม่านควัน 1949 – US2480967A – เครื่องระบายควันทางอากาศ 1950 – US2527230A – วิธีการสร้างผลึกและการตกตะกอน 1951 – US2550324A – กระบวนการควบคุมสภาพอากาศ 1951 – US2570867A – วิธีการสร้างผลึกและการตกตะกอน (เจเนอรัล อิเล็กทริก) 1952 – US2582678A – เครื่องกระจายวัสดุสำหรับเครื่องบิน 1952 – US2591988A – การผลิตเม็ดสี tio2 (ดูปองต์) 1952 – US2614083A – ส่วนผสมควันที่คัดกรองโลหะคลอไรด์ 1953 – US2633455A – เครื่องกำเนิดควัน 1954 – US2688069A – เครื่องกำเนิดไอน้ำ 1955 – US2721495A – วิธีการและเครื่องมือสำหรับตรวจจับอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นผลึกที่แขวนลอยอยู่ในบรรยากาศก๊าซ (เจเนอรัล อิเล็กทริก) 1956 – US2730402A – อุปกรณ์กระจายที่ควบคุมได้ 1957 – US2801322A – ห้องสลายตัวสำหรับเชื้อเพลิงโมโนโพรเพลแลนต์ 1958 – US2835530A – กระบวนการสำหรับการควบแน่นของความชื้นในบรรยากาศและการละลายของหมอก 1959 – US2881335A – การสร้างสนามไฟฟ้า (HAARP – เพื่อชาร์จก้อนเมฆใหม่!) 1959 – US2903188A – การควบคุมการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน 1959 – US2908442A – วิธีการกระจายหมอกและเมฆในบรรยากาศตามธรรมชาติ 1960 – US2962450A – องค์ประกอบการไล่หมอก (ดูเอกสารอ้างอิง) 1960 – US2963975A – กระสุนคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับหว่านเมฆ 1961 – US2986360A – อุปกรณ์พ่นยาฆ่าแมลงทางอากาศ 1962 – US3044911A – ระบบขับเคลื่อน 1962 – US3056556A – วิธีการสร้างอิทธิพลเทียมต่อสภาพอากาศ 1964 – US3120459A – ผงไฟผสมที่มีเกลือออกซิไดซ์เคลือบโลหะ 1964 – US3126155A – เครื่องกำเนิดหว่านเมฆซิลเวอร์ไอโอไดด์ (ส่วนผสมทางการค้าหลัก) 1964 – US3127107A – การสร้างผลึกน้ำแข็ง 1964 – US3131131A – การผสมไฟฟ้าสถิตในการแปลงจุลินทรีย์ 1965 – US3174150A – ระบบเสาอากาศโฟกัสอัตโนมัติ (HAARP) 1966 – US3257801A – องค์ประกอบดอกไม้ไฟประกอบด้วยของแข็ง สารออกซิไดเซอร์ โบรอนและอลูมิเนียม สารเติมแต่งและสารยึดเกาะ 1966 – US3234357A – อุปกรณ์ผลิตควันด้วยความร้อนไฟฟ้า 1966 – US3274035A – องค์ประกอบโลหะสำหรับผลิตควันไฮโดรสโคปิก 1967 – US3300721A – อุปกรณ์สื่อสารผ่านชั้นของก๊าซไอออนไนซ์ (HAARP) 1967 – US3313487A – เครื่องหว่านเมฆ 1967 – US3338476A – อุปกรณ์ทำความร้อนสำหรับใช้กับภาชนะบรรจุละอองลอย 1968 – US3410489A – ระบบสเปรย์ปีกนกที่ปรับอัตโนมัติพร้อมปั๊ม 1969 – US3429507A – เครื่องผลิตฝน 1969 – US3430533A – ฝักจ่ายอากาศบนเครื่องบินที่มีท่อจ่ายแบบปิดผนึกด้วยตนเอง 1969 – US3432208A – เครื่องจ่ายอนุภาคของเหลว (US Air แรง) 1969 – US3437502A – เม็ดสีไททาเนียมไดออกไซด์เคลือบด้วยซิลิกาและอลูมิเนียม (ดูปองต์) 1969 – US3441214A – วิธีการและเครื่องมือสำหรับการหว่านเมฆ 2001 -US20030085296A1 - อุปกรณ์ควบคุมพายุเฮอริเคนและพายุทอร์นาโด สิทธิบัตรการควบคุมหรือปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sun. Apr. 6, 2025
    วันนี้คือวันจักรี
    ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ
    ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ
    ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ

    Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน
    คนเดินประท้วงกันทุก weekend
    ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน
    ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี
    และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก 👍

    ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน 👍

    และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน 🖕

    เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ 🖕

    ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ

    คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า"
    อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ

    เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ

    ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง 😢

    ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ
    เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า
    "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย"
    แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้
    จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ

    เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ
    หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน
    เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า
    #พฤษภาทมิฬAlumni
    Sun. Apr. 6, 2025 วันนี้คือวันจักรี ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน คนเดินประท้วงกันทุก weekend ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก 👍 ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน 👍 และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน 🖕 เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ 🖕 ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า" อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง 😢 ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย" แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้ จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า #พฤษภาทมิฬAlumni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนง.ศาลยุติธรรมแจง เสาเข็มก่อสร้างอาคารศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ล้มเอียง เป็นภาพเก่า เมื่อปี 2566 จากการขุดดินมากองไว้ด้านข้างเสาเข็ม แล้วฝนตกทำให้เสาล้มเอียง ไม่เกี่ยวเหตุการณ์แผ่นดินไหว

    วันนี้ (3 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กสื่อศาล ของสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า ตามที่มีภาพและข่าวในสื่อออนไลน์ว่า เสาเข็มอาคารที่ทำการศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเอียงล้มเสียหายนั้น สำนักงานศาลขอชี้แจงว่า เป็นภาพเสาเข็มของอาคารดังกล่าวในช่วงเดือน ต.ค. 2566 สาเหตุเสาเข็มล้มเอียงเกิดจากขั้นตอนการขุดดินฐานรากลิฟต์ และนำดินมากองไว้รวมกันด้านข้างหลุมเข็มฐานรากทับถมสูงประมาณ 3 เมตร เมื่อฝนตกลงมาบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ส่งผลให้เสาเข็มไม่สามารถรับน้ำหนักแรงดันของดินด้านข้างได้ จึงทำให้เสาเข็มเกิดการล้มเอียงเสียหายตามภาพข่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000031998

    #MGROnline #สำนักงานศาลยุติธรรม #อาคารศาลแพ่งมีนบุรี #ศาลอาญามีนบุรี
    สนง.ศาลยุติธรรมแจง เสาเข็มก่อสร้างอาคารศาลแพ่งมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ล้มเอียง เป็นภาพเก่า เมื่อปี 2566 จากการขุดดินมากองไว้ด้านข้างเสาเข็ม แล้วฝนตกทำให้เสาล้มเอียง ไม่เกี่ยวเหตุการณ์แผ่นดินไหว • วันนี้ (3 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กสื่อศาล ของสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ชี้แจงว่า ตามที่มีภาพและข่าวในสื่อออนไลน์ว่า เสาเข็มอาคารที่ทำการศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรีที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเอียงล้มเสียหายนั้น สำนักงานศาลขอชี้แจงว่า เป็นภาพเสาเข็มของอาคารดังกล่าวในช่วงเดือน ต.ค. 2566 สาเหตุเสาเข็มล้มเอียงเกิดจากขั้นตอนการขุดดินฐานรากลิฟต์ และนำดินมากองไว้รวมกันด้านข้างหลุมเข็มฐานรากทับถมสูงประมาณ 3 เมตร เมื่อฝนตกลงมาบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ส่งผลให้เสาเข็มไม่สามารถรับน้ำหนักแรงดันของดินด้านข้างได้ จึงทำให้เสาเข็มเกิดการล้มเอียงเสียหายตามภาพข่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000031998 • #MGROnline #สำนักงานศาลยุติธรรม #อาคารศาลแพ่งมีนบุรี #ศาลอาญามีนบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    ช่วงนี้สิ่งที่ต้องทำมันล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลามาลงบทความใน VK และอัพเดทสถานะใน Thaitimes ละ แต่ก็ดีที่ฝนตกเที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ แต่ก็ส่งสัญญาณให้ผมสู้ต่อไปไม่ต้องคิดอะไรลบเยอะมาก ยังไงก็ต้องทำตามโรดแมปที่เขียนไว้ทุกวัน และบางทีอาจจะแก้ไขโรดแมปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของผมครับ วันนี้กะว่าจะสมัครสอบท้องถิ่น วันก่อนก็ลืมเตรียมรูปถ่ายเอกสารแนบสมัคร (สำเนาบัตร ปชช. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนา สด.43) ยุ่งยากไปหมด เลยทำใจไม่สมัครไปเลย แต่โฟกัสไปที่งานที่ใช่อย่างเป็นฟรีแลนซ์เขียนโปรแกรมสร้างระบบทำแพลตฟอร์มยังจะดีกว่า พอพูดถึงฟรีแลนซ์นึกถึงคนที่จ้างผมเริ่มรู้จักผมใน Fastwork แล้วหลังจากนั้นก็ไลน์คุยแล้วบอกในไลน์ว่าจ่ายนอก Fastwork จนสุดท้ายผมต้องห่างเหินจาก Fastwork ไปสักพัก จนลืมลูกค้าใน Fastwork ทักขอบรีฟงาน สุดท้ายก็ลืมจนโดนระบบแคนเซิล ผมรู้เลยว่าทำให้เขาต่อไปเหมือนไม่เห็นอนาคต และต้องแคลเซิลไปโดยสิ้นเชิง ไม่รับเงินค่าแก้งานก้อนสุดท้าย เพราะได้มาก็ได้มาน้อยอยู่ดี เพราะติดอ่านหนังสือ สอบ ก.พ. สอบ 2 สนาม สนามกระดาษดินสอ2B กับ สนามหน้าคอม คือจะสมัครสอบอะไรนักหนา แต่บางทีผมสอบเอาผลผ่านเฉยๆ ไม่ได้ยื่นสมัครต่อที่ไหนเลยหลังจากนั้น แต่ว่าจะสอบ ก.ว. และ TOEIC ตามไปด้วย ค่อยๆเดินตามเกมส์ที่ผมกำหนดเอาไว้ ไม่ใช่เดินตามเกมส์ที่คนรอบข้างวางเอาไว้และกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถเคลียร์เกมส์ได่ต่อไป สุดท้ายก็ต้องดิ่งลงเหวอย่างเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศนางสงกรานต์ปี 68 นามว่า ‘ทุงสะเทวี’ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ พุทธศักราช 2568ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช 1387 ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 5 เวลา 04 นาฬิกา 28 นาที 28 วินาทีนางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะวันที่ 16 เมษายน เวลา 08 นาฬิกา 27 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1385 ปีนี้วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็น โลกาวินาศปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่าตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่าตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่านาคให้น้ำ 5 ตัวเกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วนธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะเป็นสุขสมบูรณ์แลเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก
    กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศนางสงกรานต์ปี 68 นามว่า ‘ทุงสะเทวี’ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ พุทธศักราช 2568ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช 1387 ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 5 เวลา 04 นาฬิกา 28 นาที 28 วินาทีนางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะวันที่ 16 เมษายน เวลา 08 นาฬิกา 27 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1385 ปีนี้วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็น โลกาวินาศปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่าตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่าตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่านาคให้น้ำ 5 ตัวเกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วนธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะเป็นสุขสมบูรณ์แลเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง หลังคาคลุมทางเท้า 20 ล้าน

    ยังคงมีเรื่องดรามาไม่หยุด สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อมีโครงการปรับรูปแบบโครงการทางเดินเท้าแบบมีหลังคาคลุม (Covered walkway) บริเวณถนนสาทรใต้ โดยสำนักการโยธา ได้ร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ศึกษาและออกแบบ ก่อสร้างนำร่องบริเวณถนนสาทรใต้ ช่วงสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี ถึงสกายวอล์กช่องนนทรี ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร งบประมาณ 20,523,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน

    แต่เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการท่อร้อยสายไฟ และมีแผนจะหักเสาไฟประมาณเดือน พ.ค. 2569 จึงต้องปรับรูปแบบการก่อสร้าง โดยทำการเว้าเพื่อหลบเสาไฟฟ้า เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงาน เมื่อการไฟฟ้านครหลวงหักเสาเสร็จแล้ว ถึงจะปรับปรุงบริเวณที่มีการเว้าให้สมบูรณ์ตามแบบต่อไป

    วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สามารถใช้สัญจรในทุกสภาพอากาศ ท่ามกลางอากาศร้อนจัดและฝนตกชุกหลายเดือน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเลือกสัญจรโดยขนส่งมวลขนและการเดินเท้า สามารถเดินเท้าเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการจราจรของเมือง และอ้างว่าประเทศสิงคโปร์ หรือเมืองต่างๆ ของไต้หวันได้ทำ

    โครงการหลังคาคลุมทางเท้า เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณตกเมตรละ 13,000 บาท คุ้มค่าหรือไม่ สารพัดข้อสงสัยมีตั้งแต่ สภาพทางเท้าที่แท้จริงเหมาะกับการเดินเท้าหรือไม่ กันแดดกันฝนได้จริงหรือไม่ คนพิการใช้งานสะดวกหรือไม่ มีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืนหรือไม่ การที่ยังไม่หักเสาไฟจะกลายเป็นมุมอับสำหรับมิจฉาชีพหรือไม่ ภูมิทัศน์ไม่รกสายตาหรือไม่ เมื่อหลังคาหรือเสาสกปรกเพราะสัตว์พาหะ เช่น สุนัข แมว หนู นก ฯลฯ เศษขยะ หรือมีคนมือบอนขีดเขียน จะสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่

    และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทางเท้ายังเป็นทางเท้า ไม่ถูกทำให้กลายเป็นทางสัญจรของรถจักรยานยนต์ กลายเป็นแหล่งขายของบรรดาหาบเร่แผงลอย หรือเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนของคนไร้บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเพจ Bangkok Sightseeing ยังเผยแพร่ภาพรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าถนนสาทรใต้ ที่กำลังก่อสร้างหลังคาคลุมทางเท้า และเริ่มมีวินรถจักรยานยนต์จอดรถกันเป็นกลุ่มเพื่อจับจองพื้นที่แล้ว

    หลังคาคลุมทางเท้าอาจกลายเป็นโครงการที่มีข้อครหา ไม่ต่างจากกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ที่พบว่าลู่วิ่งราคา 7.5 แสนบาท หรือการก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางรูปแบบใหม่ ที่มีราคาสูงถึงหลังละ 280,000-320,000 บาท หรือการจัดซื้อจัดจ้างอีกมากที่ยังเคลือบแคลงสงสัย

    #Newskit
    กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง หลังคาคลุมทางเท้า 20 ล้าน ยังคงมีเรื่องดรามาไม่หยุด สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อมีโครงการปรับรูปแบบโครงการทางเดินเท้าแบบมีหลังคาคลุม (Covered walkway) บริเวณถนนสาทรใต้ โดยสำนักการโยธา ได้ร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ศึกษาและออกแบบ ก่อสร้างนำร่องบริเวณถนนสาทรใต้ ช่วงสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี ถึงสกายวอล์กช่องนนทรี ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร งบประมาณ 20,523,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน แต่เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการท่อร้อยสายไฟ และมีแผนจะหักเสาไฟประมาณเดือน พ.ค. 2569 จึงต้องปรับรูปแบบการก่อสร้าง โดยทำการเว้าเพื่อหลบเสาไฟฟ้า เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงาน เมื่อการไฟฟ้านครหลวงหักเสาเสร็จแล้ว ถึงจะปรับปรุงบริเวณที่มีการเว้าให้สมบูรณ์ตามแบบต่อไป วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สามารถใช้สัญจรในทุกสภาพอากาศ ท่ามกลางอากาศร้อนจัดและฝนตกชุกหลายเดือน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเลือกสัญจรโดยขนส่งมวลขนและการเดินเท้า สามารถเดินเท้าเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการจราจรของเมือง และอ้างว่าประเทศสิงคโปร์ หรือเมืองต่างๆ ของไต้หวันได้ทำ โครงการหลังคาคลุมทางเท้า เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณตกเมตรละ 13,000 บาท คุ้มค่าหรือไม่ สารพัดข้อสงสัยมีตั้งแต่ สภาพทางเท้าที่แท้จริงเหมาะกับการเดินเท้าหรือไม่ กันแดดกันฝนได้จริงหรือไม่ คนพิการใช้งานสะดวกหรือไม่ มีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืนหรือไม่ การที่ยังไม่หักเสาไฟจะกลายเป็นมุมอับสำหรับมิจฉาชีพหรือไม่ ภูมิทัศน์ไม่รกสายตาหรือไม่ เมื่อหลังคาหรือเสาสกปรกเพราะสัตว์พาหะ เช่น สุนัข แมว หนู นก ฯลฯ เศษขยะ หรือมีคนมือบอนขีดเขียน จะสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่ และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทางเท้ายังเป็นทางเท้า ไม่ถูกทำให้กลายเป็นทางสัญจรของรถจักรยานยนต์ กลายเป็นแหล่งขายของบรรดาหาบเร่แผงลอย หรือเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนของคนไร้บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเพจ Bangkok Sightseeing ยังเผยแพร่ภาพรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าถนนสาทรใต้ ที่กำลังก่อสร้างหลังคาคลุมทางเท้า และเริ่มมีวินรถจักรยานยนต์จอดรถกันเป็นกลุ่มเพื่อจับจองพื้นที่แล้ว หลังคาคลุมทางเท้าอาจกลายเป็นโครงการที่มีข้อครหา ไม่ต่างจากกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ที่พบว่าลู่วิ่งราคา 7.5 แสนบาท หรือการก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางรูปแบบใหม่ ที่มีราคาสูงถึงหลังละ 280,000-320,000 บาท หรือการจัดซื้อจัดจ้างอีกมากที่ยังเคลือบแคลงสงสัย #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 816 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครสวรรค์ - เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลดอีก..รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย มุ่งหน้าไปวัดสาขาพื้นที่เพชรบูรณ์ ถึงท่าตะโก คาดคนขับหลับใน-ฝนตกพรำๆ รถพุ่งชนท้ายรถพ่วงชะลอเข้าข้างทางตูมสนั่น จนหลังคารถตู้ฉีกพังยับ ดับคาที่ 4 เป็นพระ 1 เจ็บอีก 5

    วันนี้(26 ก.พ.) พ.ต.ท.พิศลย์ ผาสุก ร้อยเวร สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายไดตาล-น้ำสาดเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 84+801 พื้นที่บ้านคอกควายใหญ่ ม.16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8552 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านท้ายตัวพ่วงถูกชนได้รับความเสียหาย

    ใกล้กันพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮย-1066 นครสวรรค์ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน หลังคารถหายไปทั้งแถบ โดยมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่กับซากรถตู้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระภิกษุสงฆ์ รวมอยู่ด้วย 1 รูป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/local/detail/9680000018985

    #MGROnline #รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย #นครสวรรค์ #เพชรบูรณ์
    นครสวรรค์ - เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลดอีก..รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย มุ่งหน้าไปวัดสาขาพื้นที่เพชรบูรณ์ ถึงท่าตะโก คาดคนขับหลับใน-ฝนตกพรำๆ รถพุ่งชนท้ายรถพ่วงชะลอเข้าข้างทางตูมสนั่น จนหลังคารถตู้ฉีกพังยับ ดับคาที่ 4 เป็นพระ 1 เจ็บอีก 5 • วันนี้(26 ก.พ.) พ.ต.ท.พิศลย์ ผาสุก ร้อยเวร สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายไดตาล-น้ำสาดเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 84+801 พื้นที่บ้านคอกควายใหญ่ ม.16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย • เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8552 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านท้ายตัวพ่วงถูกชนได้รับความเสียหาย • ใกล้กันพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮย-1066 นครสวรรค์ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน หลังคารถหายไปทั้งแถบ โดยมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่กับซากรถตู้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระภิกษุสงฆ์ รวมอยู่ด้วย 1 รูป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/local/detail/9680000018985 • #MGROnline #รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย #นครสวรรค์ #เพชรบูรณ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ กระรอก ญาติเสี่ยหนู สัตว์ตระกูลฟันแทะเหมือนกัน โผล่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา เชื่อแล้วว่า ซิโนไทย ผู้ก่อสร้างสภาฯ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถึงขั้นฝนตกกลางสภาฯ กระรอก หนู มาวิ่งเล่น
    #7ดอกจิก
    ♣ กระรอก ญาติเสี่ยหนู สัตว์ตระกูลฟันแทะเหมือนกัน โผล่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา เชื่อแล้วว่า ซิโนไทย ผู้ก่อสร้างสภาฯ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถึงขั้นฝนตกกลางสภาฯ กระรอก หนู มาวิ่งเล่น #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874

    #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874 • #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น

    เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี

    จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท

    รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก

    ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย

    แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน

    สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป

    #Newskit
    สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 903 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฝนตกเมื่อไหร่

    #รั่วเมื่อนั้น 😆
    #ฝนตกเมื่อไหร่ #รั่วเมื่อนั้น 😆
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ

    กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ

    ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์

    ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด

    ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

    ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่

    #Newskit
    ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์ ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่ #Newskit
    Like
    Haha
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟 "กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์" MLB รุ่น Basic Nylon คือของมันต้องมี ไม่มีก็ต้องหา! 🌟
    .
    💼 กระเป๋าทรงเว้ากลางยูนิเซ็กส์ ใบนี้บอกเลยว่าฮอตปรอทแตก ใส่ได้ทุกลุค จะเป็นสายเกาหลีแบบโอปป้า สายมินิมอลแบบไอดอล หรือสายแซ่บแบบสาวมั่น ก็เข้ากันได้หมด!
    .
    💅 วัสดุ Nylon น้ำหนักเบา แต่ทนถึกไม่แพ้ใคร! ลุยได้ทุกสถานการณ์ ฝนตกก็ไม่หวั่น แดดออกก็ยังปัง! สะพายไปคาเฟ่ ไปทำงาน หรือไปเดินช้อปปิ้งแบบชิคๆ รับรองว่ามีแต่คนเหลียวหลัง 😉
    .
    💰 ราคาดีเกินต้าน โปรแรงสุดในสามโลก รีบช้อปก่อนหมดสต็อก! (ของดีแบบนี้ หมดไวไม่รู้ตัวนะเออ! 😭)
    .
    พิกัด กระเป๋าผู้หญิง MLB ลด 40% 📌 https://s.shopee.co.th/3AsIpEFY3u
    .
    👀 แล้วคุณล่ะ? คิดว่ากระเป๋าใบนี้เหมาะกับลุคไหนของคุณที่สุด? มาคอมเมนต์กันให้สนั่นไปเลย! 🙌💥
    .
    __________
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ #แฟชั่นผู้หญิง #ของใช้ต้องมี #ลุคสวยด้วยกระเป๋าใบเดียว
    #กระเป๋าผู้หญิง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ราคาไม่แพง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไหนดี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ของแท้
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ญี่ปุ่น
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์lyn
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ดัง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์pantip
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์แท้
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์เกาหลี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์2025
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไอจี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์guess
    🌟 "กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์" MLB รุ่น Basic Nylon คือของมันต้องมี ไม่มีก็ต้องหา! 🌟 . 💼 กระเป๋าทรงเว้ากลางยูนิเซ็กส์ ใบนี้บอกเลยว่าฮอตปรอทแตก ใส่ได้ทุกลุค จะเป็นสายเกาหลีแบบโอปป้า สายมินิมอลแบบไอดอล หรือสายแซ่บแบบสาวมั่น ก็เข้ากันได้หมด! . 💅 วัสดุ Nylon น้ำหนักเบา แต่ทนถึกไม่แพ้ใคร! ลุยได้ทุกสถานการณ์ ฝนตกก็ไม่หวั่น แดดออกก็ยังปัง! สะพายไปคาเฟ่ ไปทำงาน หรือไปเดินช้อปปิ้งแบบชิคๆ รับรองว่ามีแต่คนเหลียวหลัง 😉 . 💰 ราคาดีเกินต้าน โปรแรงสุดในสามโลก รีบช้อปก่อนหมดสต็อก! (ของดีแบบนี้ หมดไวไม่รู้ตัวนะเออ! 😭) . พิกัด กระเป๋าผู้หญิง MLB ลด 40% 📌 https://s.shopee.co.th/3AsIpEFY3u . 👀 แล้วคุณล่ะ? คิดว่ากระเป๋าใบนี้เหมาะกับลุคไหนของคุณที่สุด? มาคอมเมนต์กันให้สนั่นไปเลย! 🙌💥 . __________ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ #แฟชั่นผู้หญิง #ของใช้ต้องมี #ลุคสวยด้วยกระเป๋าใบเดียว #กระเป๋าผู้หญิง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ราคาไม่แพง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไหนดี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ของแท้ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ญี่ปุ่น #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์lyn #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ดัง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์pantip #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์แท้ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์เกาหลี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์2025 #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไอจี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์guess
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • 🚀 หยุด! อย่าเลื่อนผ่าน ถ้ายังไม่มีกระเป๋าใบนี้! 🚀
    .
    🌟 กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์" MLB รุ่น Basic Nylon ต้องมี! 🌟 น้ำหนักเบา ทนถึก ลุคไหนก็เข้า ฝนตกแดดออกก็รอด! 💼 รีบช้อปก่อนหมดสต็อก!
    .
    👀 ลุคไหนที่เข้ากับกระเป๋าใบนี้สุด? คอมเมนต์เลย! 💥
    .
    พิกัด กระเป๋าผู้หญิง MLB ลด 40% 📌 https://s.shopee.co.th/3AsIpEFY3u
    .
    __________
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ #แฟชั่นผู้หญิง #ของใช้ต้องมี #ลุคสวยด้วยกระเป๋าใบเดียว
    #กระเป๋าผู้หญิง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ราคาไม่แพง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไหนดี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ของแท้
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ญี่ปุ่น
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์lyn
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ดัง
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์pantip
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์แท้
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์เกาหลี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์2025
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไอจี
    #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์guess
    🚀 หยุด! อย่าเลื่อนผ่าน ถ้ายังไม่มีกระเป๋าใบนี้! 🚀 . 🌟 กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์" MLB รุ่น Basic Nylon ต้องมี! 🌟 น้ำหนักเบา ทนถึก ลุคไหนก็เข้า ฝนตกแดดออกก็รอด! 💼 รีบช้อปก่อนหมดสต็อก! . 👀 ลุคไหนที่เข้ากับกระเป๋าใบนี้สุด? คอมเมนต์เลย! 💥 . พิกัด กระเป๋าผู้หญิง MLB ลด 40% 📌 https://s.shopee.co.th/3AsIpEFY3u . __________ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ #แฟชั่นผู้หญิง #ของใช้ต้องมี #ลุคสวยด้วยกระเป๋าใบเดียว #กระเป๋าผู้หญิง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ราคาไม่แพง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไหนดี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไทย #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ของแท้ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ญี่ปุ่น #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์lyn #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ดัง #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์pantip #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์แท้ #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์เกาหลี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์2025 #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์ไอจี #กระเป๋าผู้หญิงแบรนด์guess
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • ขนาดน้องชายที่มีบุญคุณกับพวกมัน มันยังกล้าหัก กล้าประJANให้ร้าย แล้วแค่อิ ผจก.เมิงจะเหลือรึ ฝนตกขรี้หมูไหลเจงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ขนาดน้องชายที่มีบุญคุณกับพวกมัน มันยังกล้าหัก กล้าประJANให้ร้าย แล้วแค่อิ ผจก.เมิงจะเหลือรึ ฝนตกขรี้หมูไหลเจงๆ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เทคนิคเด็ดแขนงเมล่อนให้ได้ผลผลิตดี 🍈🌿
    เมื่อต้นเมล่อนเริ่มตั้งเถา ต้องรีบ **#เด็ดแขนง** ออกจากข้อใบทันที! เพื่อไม่ให้แย่งอาหารต้นหลัก ช่วยให้ลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่ 🌱

    ### ทำไมต้องเด็ดแขนง?
    - ลดการแย่งอาหารจากต้นหลัก
    - กระตุ้นการเติบโตของผลเมล่อน
    - ป้องกันโรคจากความชื้นสะสมในทรงพุ่ม

    ### วิธีเด็ดแขนงแบบมือโปร ✅
    1. **ช่วงเวลา**: เด็ดในเช้ามืดถึงเช้าตรู่ ที่มีแสงแดดอ่อน 🌞 (ต้นไม่ช้ำ แผลแห้งเร็ว)
    2. **เทคนิคเด็ด**: ใช้มือดึงเบาๆ ตรงโคนแขนงที่เพิ่งแทงยอดใหม่ (ขนาด 2-3 ซม.) จะเด็ดง่าย ไม่ทำลายลำต้น
    3. **หลังเด็ด**: พ่น **#ไตรโคบิวพลัส** ช่วงเย็น เพื่อปิดแผล+ป้องกันเชื้อรา+เร่งฟื้นตัว 🛡️

    ### ข้อควรระวัง ❗
    - ห้ามเด็ดแขนงตอนแดดจัดหรือฝนตก (เสี่ยงเชื้อราเข้าทำลาย)
    - ใช้มีดสะอาดหากแขนงใหญ่เกินไป

    #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    เราพร้อมส่งมอบอุปกรณ์คุณภาพสำหรับเมล่อนทุกขั้นตอน!
    ✅ ปุ๋ย AB สูตรเร่งใบ-เร่งผล
    ✅ ไตรโคบิวพลัส ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง
    ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ
    ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพสูง

    📩 สอบถามหรือสั่งซื้อ:
    Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี)

    #เด็ดแขนงเมล่อน #ปลูกเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    #เทคนิคเด็ดแขนงเมล่อนให้ได้ผลผลิตดี 🍈🌿 เมื่อต้นเมล่อนเริ่มตั้งเถา ต้องรีบ **#เด็ดแขนง** ออกจากข้อใบทันที! เพื่อไม่ให้แย่งอาหารต้นหลัก ช่วยให้ลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่ 🌱 ### ทำไมต้องเด็ดแขนง? - ลดการแย่งอาหารจากต้นหลัก - กระตุ้นการเติบโตของผลเมล่อน - ป้องกันโรคจากความชื้นสะสมในทรงพุ่ม ### วิธีเด็ดแขนงแบบมือโปร ✅ 1. **ช่วงเวลา**: เด็ดในเช้ามืดถึงเช้าตรู่ ที่มีแสงแดดอ่อน 🌞 (ต้นไม่ช้ำ แผลแห้งเร็ว) 2. **เทคนิคเด็ด**: ใช้มือดึงเบาๆ ตรงโคนแขนงที่เพิ่งแทงยอดใหม่ (ขนาด 2-3 ซม.) จะเด็ดง่าย ไม่ทำลายลำต้น 3. **หลังเด็ด**: พ่น **#ไตรโคบิวพลัส** ช่วงเย็น เพื่อปิดแผล+ป้องกันเชื้อรา+เร่งฟื้นตัว 🛡️ ### ข้อควรระวัง ❗ - ห้ามเด็ดแขนงตอนแดดจัดหรือฝนตก (เสี่ยงเชื้อราเข้าทำลาย) - ใช้มีดสะอาดหากแขนงใหญ่เกินไป #ลิตเติ้ลฟาร์ม เราพร้อมส่งมอบอุปกรณ์คุณภาพสำหรับเมล่อนทุกขั้นตอน! ✅ ปุ๋ย AB สูตรเร่งใบ-เร่งผล ✅ ไตรโคบิวพลัส ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพสูง 📩 สอบถามหรือสั่งซื้อ: Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี) #เด็ดแขนงเมล่อน #ปลูกเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟังข่าวเมื่อวาน จากจุดเดียวกันกับที่เคยมีตำรวจขี่รถมอเตอร์ไซค์ชนหมอกระต่ายที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายจนลอยกระเด็นไปไกลและเสียชีวิต

    ไรเดอร์หนุ่มซิ่งมอเตอร์ไซค์ชนนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีขณะกำลังข้ามถนน เคราะห์ดียังไม่ถึงตาย

    ฟังคำอ้างของไรเดอร์แล้วได้แต่อนาถใจ เพราะเขาให้เหตุผลว่ามองไม่เห็นสัญญาณไฟคนข้าม

    หากให้พูดสำนวนนักเลงหน่อยคงต้องใช้ประโยคประมาณว่า

    "อะไรของมึง ตอบมาได้อย่างไร ใบขับขี่ซื้อมาเหรอ กฎหมายจราจรชัดเจนมีมานานตั้งแต่ไรเดอร์ยังไม่เกิดเลย"

    ข้อหนึ่งใจความประมาณว่าเมื่อผู้ขับขี่ขับมาถึงบริเวณที่มีทางข้ามอย่างทางม้าลาย ให้ระมัดระวัง เตรียมชะลอ หากมีคนรอข้าม ให้จอดรถสนิทห่างจากทางม้าลายอย่างน้อย 3 เมตร แต่ถ้าดูดีแล้วว่าไม่มีคนจึงค่อยออกรถวิ่งต่อได้ ฝ่าฝืนคือผิดกฎหมาย

    ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าไรเดอร์ทำผิดกฎแล้ว 100% มันน่าอับอายคนทั่วโลกเหลือเกิน ที่คนขับขี่รถในประเทศนี้ คุณภาพโดยรวมต่ำย่ำแย่ติดลบสุด ๆ

    ใน 100 คน หาสักคนที่จะชะลอจอดยังหาไม่ได้เลยมั้ง คนเหล่านี้ไม่สำนึก ผ่านวันนี้ไปก็คงลืมแล้ว วันต่อไปก็เป็นเช่นเดิม การบังคับใช้กฎหมายของ จนท.ก็ย่ำแย่พอกับคุณภาพคนขับขี่ ไม่ควรให้ออกมาขี่รถตลอดชีวิตด้วยซ้ำ มีโอกาสสูงมากที่สักวันต้องทำคนตายบนถนนแน่

    คิดถึงที่ข้าพเจ้าเคยเขียนไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขอรีโพสต์อีกครั้งแล้วกัน ดังมีเนื้อหาต่อไปนี้

    ...........

    #ทางม้าลายหรือทางตายแน่

    ทางม้าลายในไทยนี้มีก็ไม่แตกต่างจากไม่มีจริงนะ เคยพูดเรื่องนี้หลายหน ข้าพเจ้าเดินข้ามถนนมาตั้งแต่เด็กที่ต้องกลับบ้านเอง และการข้ามถนนในกรุงเทพสำหรับเด็กแล้ว มันคือการเสี่ยงดวงทุกครั้ง

    ถ้ามีสะพานลอย นั่นคือทางเลือกแรก แต่ในหลายที่ไม่มี ก็ต้องมองหาทางม้าลายแทน แต่แม้นจะหาเจอ บอกได้เลยว่าเจ้าลายขาวดำบนพื้นนั้น ไม่ได้ช่วยให้คนข้ามรู้สึกถึงความปลอดภัยเพิ่มขึ้นกว่าพื้นถนนที่ไม่มีลายแม้แต่นิดเดียว สำหรับในเมืองไทยนี้

    หลายครั้งก็หวุดหวิดเกือบโดนเฉี่ยวชน แต่ยังบุญรักษาที่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน

    ข้ามมาไม่รู้กี่พันครั้งในชีวิตนี้ เชื่อไหมว่าที่มีคนขับมีน้ำใจ มีมารยาทตามกฎจราจร หยุดจอดให้โดยดีก่อนถึงเส้นขาวดำนั้นมีไม่น่าจะถึง 10 ครั้ง

    เกือบทั้งหมดคือไม่สนเลยว่าใครจะข้าม จะมีคนแก่ คนท้อง เด็ก ผู้หญิง คนพิการ หรือแค่คนปกติธรรมดาที่เขายืนรอจังหวะหวังว่าจะพอมีช่วงที่รถชะลอให้พอข้ามได้

    ล้วนแล้วแต่อยากจะรีบไปของตัวเองกันแทบทั้งนั้น อย่าว่าแต่หยุดรถให้เลย แค่ลดความเร็วยังหายากมากถึงมากที่สุด จะข้ามได้คือต้องช่วงที่รถอยู่ห่างจากตัวหลายสิบเมตร แล้วกะจังหวะเวลาให้ดี ใหม่ๆก็วิ่งหน้าตั้ง หลังๆประสบการณ์พอตัว ก็ไม่วิ่ง ก้าวเร็วๆเอา

    แต่บางถนนที่มีการจราจรแน่นหนาคับคั่ง การข้ามทางม้าลายนี่ยังกับปีนไต่ต้นถั่วขึ้นไปบนฟ้า โอกาสร่วงลงมาตายสูง เผลอๆมีสิ่งคาดไม่ถึงเกิดขึ้นด้วย

    อาทิเรากะว่าน่าจะวิ่งข้ามทัน แต่รถดันมาไวมาก ถึงจวนตัวกระชั้นชิด ก็จะโดนบีบแตรไล่ยาว พอเราตกใจหยุดกะทันหันคนขับจะหัวเสียที่ต้องเบรกเอี๊ยด ทำหน้ายักษ์ใส่ แล้วยกมือขึ้นมาทำท่าโบกเหมือนไล่ให้รีบไปเร็วๆ อย่ามาเกะกะกู ครั้นพอเราได้สติ จะรีบข้ามต่อ แต่รถคันที่มาเลนกลางดันไม่สนใจว่าคันทางซ้ายนั้นจำใจจอดแล้ว ตัวเองควรต้องจอดด้วยเพื่อให้คนข้าม

    เขากลับทำตรงข้ามกับสิ่งที่ควรทำ คือยิ่งเร่งความเร็วจะผ่านตรงม้าลายนี้ไป ดังนั้นถ้าหากเราไม่ตาไวและระวังเพียงพอ ก็มีสิทธิถูกเสยกระเด็นไปเหมือนว่าวขาดลอย

    นี่คือจุดตายของคนข้ามทางม้าลายมานักต่อนัก อย่าชะล่าใจเป็นอันขาดที่คิดว่าคันแรกจอดให้เราข้าม แล้วคันอื่นๆที่วิ่งตามมาเลนอื่นจะจอดให้เราไปง่ายๆ

    น้ำใจบนท้องถนนของคนขับรถในบ้านเมืองนี้ ต้องบอกว่าแห้งแล้งยิ่งกว่าแผ่นดินอีสานเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นเช่นนั้นจริงๆ และนับวันจะเป็นมากขึ้น

    ที่จอดให้นั้น จำใจจอดซะเป็นส่วนใหญ่ ที่จะตั้งใจจอดให้เองอย่างยินดีตั้งแต่รถยังไม่ทันทับเส้นขาวดำนี่น่าจะเหมือนฝัน หากใครพบเจอในไทยนะ ขอแนะนำให้หันไปยิ้มให้และไหว้ขอบคุณคนขับอย่างงามๆเป็นการให้กำลังใจในสิ่งที่เขาทำสักหน่อยเถิด

    คนมีรถยนต์ส่วนตัวนั้น ที่จะขับขี่โดยไม่เห็นแก่ตัว และมองเห็นหัวคนเดินถนนบ้างนั้น หาได้น้อยแสนน้อยยิ่งนัก

    เอาง่ายๆ ใครมีรถ ลองถามใจตัวเอง ทุกครั้งที่วิ่งผ่านทางม้าลาย ต่อให้ไม่มีคนรอข้ามเลย เคยไหมที่จะชะลอลดความเร็วลง หรือว่าห้อตะบึงไปอย่างไม่ไยดี

    หรือหากมีคน แล้วกี่ครั้งกันที่คุณหยุดรถให้เขาเหล่านั้นได้เดินข้ามอย่างไม่ต้องวิ่งตาลีตาเหลือก

    หรือมีแต่บีบแตรกันไม่ให้เขาข้ามมา ทั้งที่ตัวเองก็ยังอยู่ห่างจากทางม้าลายพอสมควร แต่ไม่คิดจะหยุด จึงต้องบีบแตรไว้ก่อน เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าฉันจะไปยาวนะ ไม่จอด อย่าสะเออะข้ามมา

    ชนตายไม่รู้นะมึง

    ใช่เป็นแบบนั้นหรือไม่?

    น่าเศร้าใจนะไทยแลนด์

    ทำไมคนขับรถถึงใจดำได้เพียงนี้

    ช่วงหน้าฝนชัดเจนที่สุด คนยืนรอข้ามถนน รอขึ้นรถเมล์ หรือกำลังเดินริมถนน รถแต่ละคันวิ่งฝ่าน้ำบนพื้น กระฉูดใส่คนบนทางเท้าราวกับคลื่นทะเลที่มาเป็นอุโมงค์น้ำ

    คนเหล่านั้นเขาน่าสงสาร น่าเห็นใจขนาดไหน เด็กเล็กๆกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไปรับกลับบ้าน หรือมาโรงเรียน คนทำงานที่เหน็ดเหนื่อยรอที่จะกลับบ้านหรือกำลังจะไปที่ทำงาน ฝนตกยืนกางร่มก็ลำบากไม่น้อยแล้ว ยังต้องมาถูกซัดโครมเดียวด้วยน้ำสกปรกสีขุ่นและตะกอนฝุ่นผงดินโคลนทั้งหลายก็กระเด็น กระจัดกระจาย สร้างลวดลายไปบนชุดและร่างกายของเขาทั่วหัวยันตีน เข้าตา เข้าจมูก เข้าหู เข้าปากด้วยก็ไม่แน่

    เขาต้องทนไปจนกว่าจะกลับถึงบ้านจึงได้อาบน้ำ ถ้ากำลังไปเรียน ไปทำงาน ไปสอบ จะทำอย่างไร แต่คนขับที่ทำอุโมงค์น้ำซัดใส่นั้น หายไปไหนแล้วไม่รู้

    แล้วรู้อะไรไหม คนขับพวกนี้ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำร้ายใครไปแล้วบ้างกี่คน กว่าที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางของตัวเอง

    จากประสบการณ์จริงที่เคยเจอมาทั้งกับตัวเอง และเห็นคนที่โดนกระทำในขณะที่เราเป็นผู้โดยสารอยู่บนรถคันที่ก่อเหตุ

    เพราะเราเป็นคนเดินดินริมถนน เหมือนกันกับเขา จึงเข้าใจ แต่หลายคนที่เคยเป็นคนเดินถนน พอเริ่มมีรถเป็นของตนเองแล้วเมื่อไร ก็เหมือนโดนคำสาปสิงสู่ใจ ทำให้ลืมไปหมดในเรื่องที่ตนเคยประสบพบเจอมา แล้วก็กลายร่างเป็นคนชนิดเดียวกันกับคนที่เคยเบียดเบียนตนเองมาก่อนเช่นกัน

    อย่าลืมว่าเขาที่เดินเท้าบนถนนก็คือคนที่มีศักดิ์ มีศรี ควรต่อการให้ความใส่ใจ และปฏิบัติต่อกันเฉกเช่นคนในครอบครัวของเรา หาใช่ก้อนอิฐ หิน ดิน ทราย ที่ไร้ชีวิต

    ขอบคุณภาพฟรีจาก pixabay.com

    #บทความ
    #thaitimes
    #แง่คิด
    #รถชนนักท่องเที่ยว
    #ข้ามทางม้าลาย
    ฟังข่าวเมื่อวาน จากจุดเดียวกันกับที่เคยมีตำรวจขี่รถมอเตอร์ไซค์ชนหมอกระต่ายที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายจนลอยกระเด็นไปไกลและเสียชีวิต ไรเดอร์หนุ่มซิ่งมอเตอร์ไซค์ชนนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีขณะกำลังข้ามถนน เคราะห์ดียังไม่ถึงตาย ฟังคำอ้างของไรเดอร์แล้วได้แต่อนาถใจ เพราะเขาให้เหตุผลว่ามองไม่เห็นสัญญาณไฟคนข้าม หากให้พูดสำนวนนักเลงหน่อยคงต้องใช้ประโยคประมาณว่า "อะไรของมึง ตอบมาได้อย่างไร ใบขับขี่ซื้อมาเหรอ กฎหมายจราจรชัดเจนมีมานานตั้งแต่ไรเดอร์ยังไม่เกิดเลย" ข้อหนึ่งใจความประมาณว่าเมื่อผู้ขับขี่ขับมาถึงบริเวณที่มีทางข้ามอย่างทางม้าลาย ให้ระมัดระวัง เตรียมชะลอ หากมีคนรอข้าม ให้จอดรถสนิทห่างจากทางม้าลายอย่างน้อย 3 เมตร แต่ถ้าดูดีแล้วว่าไม่มีคนจึงค่อยออกรถวิ่งต่อได้ ฝ่าฝืนคือผิดกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าไรเดอร์ทำผิดกฎแล้ว 100% มันน่าอับอายคนทั่วโลกเหลือเกิน ที่คนขับขี่รถในประเทศนี้ คุณภาพโดยรวมต่ำย่ำแย่ติดลบสุด ๆ ใน 100 คน หาสักคนที่จะชะลอจอดยังหาไม่ได้เลยมั้ง คนเหล่านี้ไม่สำนึก ผ่านวันนี้ไปก็คงลืมแล้ว วันต่อไปก็เป็นเช่นเดิม การบังคับใช้กฎหมายของ จนท.ก็ย่ำแย่พอกับคุณภาพคนขับขี่ ไม่ควรให้ออกมาขี่รถตลอดชีวิตด้วยซ้ำ มีโอกาสสูงมากที่สักวันต้องทำคนตายบนถนนแน่ คิดถึงที่ข้าพเจ้าเคยเขียนไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขอรีโพสต์อีกครั้งแล้วกัน ดังมีเนื้อหาต่อไปนี้ ........... #ทางม้าลายหรือทางตายแน่ ทางม้าลายในไทยนี้มีก็ไม่แตกต่างจากไม่มีจริงนะ เคยพูดเรื่องนี้หลายหน ข้าพเจ้าเดินข้ามถนนมาตั้งแต่เด็กที่ต้องกลับบ้านเอง และการข้ามถนนในกรุงเทพสำหรับเด็กแล้ว มันคือการเสี่ยงดวงทุกครั้ง ถ้ามีสะพานลอย นั่นคือทางเลือกแรก แต่ในหลายที่ไม่มี ก็ต้องมองหาทางม้าลายแทน แต่แม้นจะหาเจอ บอกได้เลยว่าเจ้าลายขาวดำบนพื้นนั้น ไม่ได้ช่วยให้คนข้ามรู้สึกถึงความปลอดภัยเพิ่มขึ้นกว่าพื้นถนนที่ไม่มีลายแม้แต่นิดเดียว สำหรับในเมืองไทยนี้ หลายครั้งก็หวุดหวิดเกือบโดนเฉี่ยวชน แต่ยังบุญรักษาที่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน ข้ามมาไม่รู้กี่พันครั้งในชีวิตนี้ เชื่อไหมว่าที่มีคนขับมีน้ำใจ มีมารยาทตามกฎจราจร หยุดจอดให้โดยดีก่อนถึงเส้นขาวดำนั้นมีไม่น่าจะถึง 10 ครั้ง เกือบทั้งหมดคือไม่สนเลยว่าใครจะข้าม จะมีคนแก่ คนท้อง เด็ก ผู้หญิง คนพิการ หรือแค่คนปกติธรรมดาที่เขายืนรอจังหวะหวังว่าจะพอมีช่วงที่รถชะลอให้พอข้ามได้ ล้วนแล้วแต่อยากจะรีบไปของตัวเองกันแทบทั้งนั้น อย่าว่าแต่หยุดรถให้เลย แค่ลดความเร็วยังหายากมากถึงมากที่สุด จะข้ามได้คือต้องช่วงที่รถอยู่ห่างจากตัวหลายสิบเมตร แล้วกะจังหวะเวลาให้ดี ใหม่ๆก็วิ่งหน้าตั้ง หลังๆประสบการณ์พอตัว ก็ไม่วิ่ง ก้าวเร็วๆเอา แต่บางถนนที่มีการจราจรแน่นหนาคับคั่ง การข้ามทางม้าลายนี่ยังกับปีนไต่ต้นถั่วขึ้นไปบนฟ้า โอกาสร่วงลงมาตายสูง เผลอๆมีสิ่งคาดไม่ถึงเกิดขึ้นด้วย อาทิเรากะว่าน่าจะวิ่งข้ามทัน แต่รถดันมาไวมาก ถึงจวนตัวกระชั้นชิด ก็จะโดนบีบแตรไล่ยาว พอเราตกใจหยุดกะทันหันคนขับจะหัวเสียที่ต้องเบรกเอี๊ยด ทำหน้ายักษ์ใส่ แล้วยกมือขึ้นมาทำท่าโบกเหมือนไล่ให้รีบไปเร็วๆ อย่ามาเกะกะกู ครั้นพอเราได้สติ จะรีบข้ามต่อ แต่รถคันที่มาเลนกลางดันไม่สนใจว่าคันทางซ้ายนั้นจำใจจอดแล้ว ตัวเองควรต้องจอดด้วยเพื่อให้คนข้าม เขากลับทำตรงข้ามกับสิ่งที่ควรทำ คือยิ่งเร่งความเร็วจะผ่านตรงม้าลายนี้ไป ดังนั้นถ้าหากเราไม่ตาไวและระวังเพียงพอ ก็มีสิทธิถูกเสยกระเด็นไปเหมือนว่าวขาดลอย นี่คือจุดตายของคนข้ามทางม้าลายมานักต่อนัก อย่าชะล่าใจเป็นอันขาดที่คิดว่าคันแรกจอดให้เราข้าม แล้วคันอื่นๆที่วิ่งตามมาเลนอื่นจะจอดให้เราไปง่ายๆ น้ำใจบนท้องถนนของคนขับรถในบ้านเมืองนี้ ต้องบอกว่าแห้งแล้งยิ่งกว่าแผ่นดินอีสานเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นเช่นนั้นจริงๆ และนับวันจะเป็นมากขึ้น ที่จอดให้นั้น จำใจจอดซะเป็นส่วนใหญ่ ที่จะตั้งใจจอดให้เองอย่างยินดีตั้งแต่รถยังไม่ทันทับเส้นขาวดำนี่น่าจะเหมือนฝัน หากใครพบเจอในไทยนะ ขอแนะนำให้หันไปยิ้มให้และไหว้ขอบคุณคนขับอย่างงามๆเป็นการให้กำลังใจในสิ่งที่เขาทำสักหน่อยเถิด คนมีรถยนต์ส่วนตัวนั้น ที่จะขับขี่โดยไม่เห็นแก่ตัว และมองเห็นหัวคนเดินถนนบ้างนั้น หาได้น้อยแสนน้อยยิ่งนัก เอาง่ายๆ ใครมีรถ ลองถามใจตัวเอง ทุกครั้งที่วิ่งผ่านทางม้าลาย ต่อให้ไม่มีคนรอข้ามเลย เคยไหมที่จะชะลอลดความเร็วลง หรือว่าห้อตะบึงไปอย่างไม่ไยดี หรือหากมีคน แล้วกี่ครั้งกันที่คุณหยุดรถให้เขาเหล่านั้นได้เดินข้ามอย่างไม่ต้องวิ่งตาลีตาเหลือก หรือมีแต่บีบแตรกันไม่ให้เขาข้ามมา ทั้งที่ตัวเองก็ยังอยู่ห่างจากทางม้าลายพอสมควร แต่ไม่คิดจะหยุด จึงต้องบีบแตรไว้ก่อน เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าฉันจะไปยาวนะ ไม่จอด อย่าสะเออะข้ามมา ชนตายไม่รู้นะมึง ใช่เป็นแบบนั้นหรือไม่? น่าเศร้าใจนะไทยแลนด์ ทำไมคนขับรถถึงใจดำได้เพียงนี้ ช่วงหน้าฝนชัดเจนที่สุด คนยืนรอข้ามถนน รอขึ้นรถเมล์ หรือกำลังเดินริมถนน รถแต่ละคันวิ่งฝ่าน้ำบนพื้น กระฉูดใส่คนบนทางเท้าราวกับคลื่นทะเลที่มาเป็นอุโมงค์น้ำ คนเหล่านั้นเขาน่าสงสาร น่าเห็นใจขนาดไหน เด็กเล็กๆกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไปรับกลับบ้าน หรือมาโรงเรียน คนทำงานที่เหน็ดเหนื่อยรอที่จะกลับบ้านหรือกำลังจะไปที่ทำงาน ฝนตกยืนกางร่มก็ลำบากไม่น้อยแล้ว ยังต้องมาถูกซัดโครมเดียวด้วยน้ำสกปรกสีขุ่นและตะกอนฝุ่นผงดินโคลนทั้งหลายก็กระเด็น กระจัดกระจาย สร้างลวดลายไปบนชุดและร่างกายของเขาทั่วหัวยันตีน เข้าตา เข้าจมูก เข้าหู เข้าปากด้วยก็ไม่แน่ เขาต้องทนไปจนกว่าจะกลับถึงบ้านจึงได้อาบน้ำ ถ้ากำลังไปเรียน ไปทำงาน ไปสอบ จะทำอย่างไร แต่คนขับที่ทำอุโมงค์น้ำซัดใส่นั้น หายไปไหนแล้วไม่รู้ แล้วรู้อะไรไหม คนขับพวกนี้ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำร้ายใครไปแล้วบ้างกี่คน กว่าที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางของตัวเอง จากประสบการณ์จริงที่เคยเจอมาทั้งกับตัวเอง และเห็นคนที่โดนกระทำในขณะที่เราเป็นผู้โดยสารอยู่บนรถคันที่ก่อเหตุ เพราะเราเป็นคนเดินดินริมถนน เหมือนกันกับเขา จึงเข้าใจ แต่หลายคนที่เคยเป็นคนเดินถนน พอเริ่มมีรถเป็นของตนเองแล้วเมื่อไร ก็เหมือนโดนคำสาปสิงสู่ใจ ทำให้ลืมไปหมดในเรื่องที่ตนเคยประสบพบเจอมา แล้วก็กลายร่างเป็นคนชนิดเดียวกันกับคนที่เคยเบียดเบียนตนเองมาก่อนเช่นกัน อย่าลืมว่าเขาที่เดินเท้าบนถนนก็คือคนที่มีศักดิ์ มีศรี ควรต่อการให้ความใส่ใจ และปฏิบัติต่อกันเฉกเช่นคนในครอบครัวของเรา หาใช่ก้อนอิฐ หิน ดิน ทราย ที่ไร้ชีวิต ขอบคุณภาพฟรีจาก pixabay.com #บทความ #thaitimes #แง่คิด #รถชนนักท่องเที่ยว #ข้ามทางม้าลาย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อเพลง "ด้วยรักตลอดไป" แปลไทยโดย "แดนเจอร์" (ชื่อเดิมของเพลงนี้คือ Love Eternally เพื่อพ่อตลอดไป ประพันธ์โดย Paul Ewing
    เนื้อเพลง "ด้วยรักตลอดไป"
    แปลไทยโดย "แดนเจอร์"
    พ่อเดินท้าว ท่องทั่วไปทั่วทั้งผืนแผ่นดินไทย
    พ่อสัมผัสได้ถึง ทุกๆมือและหัวใจของประชาชน
    พ่อมองเห็นถึง การวางแผนที่ ที่ยิ่งใหญ่
    พวกเราให้ท่าน(พ่อหลวง)ทั้งหมดใจ(เท่าที่มี)
    ซึ่งท่านทำให้พวกเราสามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้(นั่นเอง)
    พ่อให้ฝนหลวง จากที่ๆไม่เคยมีฝนตกเลย
    พ่อมอบกำลังใจให้กับพวกเรา ในตอนที่พวกเราร่ำร้องไห้กับความยากจนเข็นใจ
    เพราะท่าน(พ่อหลวง)มีศรัทธาในพวกเรา จึงทำให้พวกเรามีความพยายาม(อย่างยิ่งยวด)
    จนถึง(ใน)ที่สุดแล้ว จนทำให้ประเทศชาติไทยมีความเจริญรุ่งเรือง
    จากตัวเลือกนับเป็นพันๆคน แต่พวกเรากลับเลือกท่านแค่เพียงแค่คนเดียว
    จนเป็นพันๆล้านเสียง จึงบังเกิดเป็นเพียงหนึ่งเดียว(ท่านพ่อหลวง)
    สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว
    ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเอกภาพ
    นับจากนี้ไปพวกเราจะให้ท่าน(พ่อหลวง)
    ด้วยรักตลอดไป
    ในทุกๆดวงใจ ในทุกๆบ้าน ในทุกๆที่
    ท่าน(พ่อหลวง)คือแสงสว่างแห่งความหวัง
    ท่าน(พ่อหลวง)คือที่คุ้มกันภัย(ของพวกเรา)
    และเมื่อเหล่าพายุฝนได้จางหายไป
    ท่านเป็นได้ดั่งแรงบันดาลใจของพวกเรา
    ดังนั้นพวกเราจึงได้ถือนำพาเอาไปด้วย
    เพราะท่านคือพ่อ(หลวง)
    เพราะท่านคือจิตวิญญาณ(ที่ศักดิ์สิทธิ์)
    ท่านเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของประเทศไทยนี้
    นับต่อจากนี้ไปพวกเราจะให้ท่าน(พ่อหลวง)
    ด้วยรัก(และเคารพยิ่ง)ตลอดไป(ชั่วนิดนิรันดร์)
    ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)ท่านเป็นพระมหากษัตริย์(ของพระมหากษัตริย์)
    ท่าน(พ่อหลวง)เป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์(และจะยังคงเป็นตลอดไป)ท่าน(พ่อหลวง)คือพระมหาโพธิสัตว์
    เนื้อเพลง "ด้วยรักตลอดไป" แปลไทยโดย "แดนเจอร์" (ชื่อเดิมของเพลงนี้คือ Love Eternally เพื่อพ่อตลอดไป ประพันธ์โดย Paul Ewing เนื้อเพลง "ด้วยรักตลอดไป" แปลไทยโดย "แดนเจอร์" พ่อเดินท้าว ท่องทั่วไปทั่วทั้งผืนแผ่นดินไทย พ่อสัมผัสได้ถึง ทุกๆมือและหัวใจของประชาชน พ่อมองเห็นถึง การวางแผนที่ ที่ยิ่งใหญ่ พวกเราให้ท่าน(พ่อหลวง)ทั้งหมดใจ(เท่าที่มี) ซึ่งท่านทำให้พวกเราสามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้(นั่นเอง) พ่อให้ฝนหลวง จากที่ๆไม่เคยมีฝนตกเลย พ่อมอบกำลังใจให้กับพวกเรา ในตอนที่พวกเราร่ำร้องไห้กับความยากจนเข็นใจ เพราะท่าน(พ่อหลวง)มีศรัทธาในพวกเรา จึงทำให้พวกเรามีความพยายาม(อย่างยิ่งยวด) จนถึง(ใน)ที่สุดแล้ว จนทำให้ประเทศชาติไทยมีความเจริญรุ่งเรือง จากตัวเลือกนับเป็นพันๆคน แต่พวกเรากลับเลือกท่านแค่เพียงแค่คนเดียว จนเป็นพันๆล้านเสียง จึงบังเกิดเป็นเพียงหนึ่งเดียว(ท่านพ่อหลวง) สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเอกภาพ นับจากนี้ไปพวกเราจะให้ท่าน(พ่อหลวง) ด้วยรักตลอดไป ในทุกๆดวงใจ ในทุกๆบ้าน ในทุกๆที่ ท่าน(พ่อหลวง)คือแสงสว่างแห่งความหวัง ท่าน(พ่อหลวง)คือที่คุ้มกันภัย(ของพวกเรา) และเมื่อเหล่าพายุฝนได้จางหายไป ท่านเป็นได้ดั่งแรงบันดาลใจของพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงได้ถือนำพาเอาไปด้วย เพราะท่านคือพ่อ(หลวง) เพราะท่านคือจิตวิญญาณ(ที่ศักดิ์สิทธิ์) ท่านเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของประเทศไทยนี้ นับต่อจากนี้ไปพวกเราจะให้ท่าน(พ่อหลวง) ด้วยรัก(และเคารพยิ่ง)ตลอดไป(ชั่วนิดนิรันดร์) ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)ท่านเป็นพระมหากษัตริย์(ของพระมหากษัตริย์) ท่าน(พ่อหลวง)เป็นจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์(และจะยังคงเป็นตลอดไป)ท่าน(พ่อหลวง)คือพระมหาโพธิสัตว์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • รหัสลับบทกวีจีนจาก <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก>

    Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณนี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยาย/ซีรีส์จีนจริงๆ ไม่ทราบว่ามีใครที่ดูซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> แล้วรู้สึกสะดุดหูกับจังหวะจะโคนของรหัสลับที่องครักษ์ชุดแดงใช้ยืนยันตัวตนกันหรือไม่? สำหรับ Storyฯ แล้วมันเตะหูพอสมควร เพราะรหัสลับเหล่านี้ล้วนเป็นวลีจากบทกวีจีนโบราณ

    รหัสลับที่ยกตัวอย่างมาคุยกันวันนี้ คือตอนที่หรูอี้ให้คนปลอมตัวไปหาองครักษ์ชุดแดงเพื่อสืบหาคนที่ฆ่าหลินหลงตาย รหัสลับถามตอบนี้คือ ‘ซานสือลิ่วกงถู่ฮวาปี้’ (三十六宫土花碧) และ ‘เทียนรั่วโหย่วฉิงเทียนอี้เหล่า’ (天若有情天亦老) Storyฯ ขอแปลว่า ‘สามสิบหกพระตำหนัก ตะไคร่คลุมธรณี / หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’

    ฟังแล้วคงไม่ได้ใจความนัก เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่วรรคที่ต่อเนื่องกัน แต่ทั้งสองวรรคนี้ปรากฏอยู่ในบทกวีเดียวกันที่มีชื่อว่า ‘จินถงเซียนเหรินฉือฮั่นเกอ’ (金铜仙人辞汉歌 แปลได้ประมาณว่า ลำนำเซียนจินถงลาจากแดนฮั่น) เป็นผลงานของหลี่เฮ่อ (ค.ศ. 790-816) สี่สุดยอดกวีแห่งสมัยถัง และนี่เป็นหนึ่งในบทกวีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของเขา มันเป็นบทกวียาวที่กล่าวถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮั่นที่ครั้งหนึ่งเคยเรืองรอง แต่กลับเหลือเพียงพระตำหนักที่ว่างร้างจนตะไคร่ปกคลุม เทพเซียนร่ำไห้ลาจาก จนถึงขนาดว่าถ้าฟ้ามีจิตใจรักได้เหมือนคน ก็คงรู้สึกอนาจใจเศร้าจนแก่ชราไปเช่นคน บทกวีนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าอาดูรและแค้นใจในเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงสภาพจิตใจของหลี่เฮ่อในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ถังอ่อนแอ และเขาเองจำเป็นต้องลาออกจากราชการและเดินทางจากนครฉางอันไปด้วยอาการป่วย

    แต่ที่ Storyฯ รู้สึกว่าน่าสนใจมากก็คือ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้ตั้งเป็นโจทย์ในการดวลบทกวีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับซีรีส์และนิยายจีนโบราณคงเคยผ่านตาว่า การดวลบทกวีนี้ เป็นการต่อกลอนคู่ โดยคนหนึ่งตั้งโจทย์วรรคแรก อีกคนมาแต่งวรรคต่อให้จบ ซึ่งวรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้เป็นวรรคแรกของกลอนคู่โดยไม่มีใครสามารถต่อวรรคท้ายได้อย่างสมบูรณ์มากว่าสองร้อยปี! ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมากสำหรับยุคสมัยที่มีนักอักษรและนักประพันธ์มากมายอย่างสมัยถัง

    อนึ่ง การต่อวรรคคู่ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่มีจำนวนอักษรเท่ากันและมีเสียงสูงเสียงต่ำคล้องจองกันเท่านั้น แต่ต้องมีความลงตัวในหลายด้าน เป็นต้นว่า 1) มีบริบทใกล้เคียง เช่น กล่าวถึงวัตถุที่จับต้องได้เหมือนกัน หรือจับต้องไม่ได้เหมือนกัน เป็นวัตถุที่สื่อความหมายในเชิงเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่วรรคแรกกล่าวถึงดอกไม้ วรรคหลังพูดถึงโต๊ะ อะไรอย่างนี้; 2) คุณศัพท์ที่ขยายนามหรืออารมณ์ที่สื่อต้องเหมือนกันหรือตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเพื่อแสดงความขัดแย้งบางอย่าง เช่น ฝนตกหนักกับแดดแรงจ้า หรือ ฝนตกหนักกับหยดน้ำเล็ก; ฯลฯ

    วรรค ‘หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ นี้มีคนต่อวรรคหลังมากมาย แต่ไม่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์จวบจนสมัยราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่ต่อวรรคหลังนี้คือสือเหยียนเหนียน (ค.ศ. 994-1041) นักอักษรและกวีสมัยซ่งเหนือ ในค่ำคืนหนึ่งหลังจากดื่มสุราไปหลายกรึ๊บ ในยามกึ่งเมากึ่งมีสตินั้น เขาได้ยินคนรอบข้างต่อวรรค ‘หากฟ้ามีใจฯ’ นี้กันอยู่ จึงโพล่งวรรคต่อออกมาในทันใด ซึ่งก็คือ ‘หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง’ (月如无恨月长圆 / เยวี่ยหรูอู๋เฮิ่นเยวี่ยฉางเหยวียน) เป็นการต่อวรรคที่สมบูรณ์จนคนตะลึง เพราะไม่เพียงอักขระ คำบรรยายและบริบทลงตัว หากแต่ความหมายแฝงที่สื่อถึงสัจธรรมแห่งชีวิตยังสอดคล้องอีกด้วย

    ... หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน ...
    ... หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง ...

    วรรคต้นที่ไม่มีใครต่อวรรคได้มากว่าสองร้อยปี เกิดวรรคต่อที่สะเทือนวงการนักอักษรในสมัยนั้นจนถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพื่อนเพจอ่านและตีความแล้วได้ความรู้สึกอย่างไรคะ? เห็นความเป็น ‘กลอนคู่’ ของมันหรือไม่?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_25539972
    https://k.sina.cn/article_6502395912_18392b008001004rs9.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_33199885635a.aspx
    https://baike.baidu.com/金铜仙人辞汉歌/1659854
    https://www.sohu.com/a/484704098_100135144
    https://www.workercn.cn/c/2024-02-06/8143503.shtml

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #หลี่เฮ่อ #กวีถัง #หากฟ้ามีใจรัก #สือเหยียนเหนียน
    รหัสลับบทกวีจีนจาก <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณนี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยาย/ซีรีส์จีนจริงๆ ไม่ทราบว่ามีใครที่ดูซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> แล้วรู้สึกสะดุดหูกับจังหวะจะโคนของรหัสลับที่องครักษ์ชุดแดงใช้ยืนยันตัวตนกันหรือไม่? สำหรับ Storyฯ แล้วมันเตะหูพอสมควร เพราะรหัสลับเหล่านี้ล้วนเป็นวลีจากบทกวีจีนโบราณ รหัสลับที่ยกตัวอย่างมาคุยกันวันนี้ คือตอนที่หรูอี้ให้คนปลอมตัวไปหาองครักษ์ชุดแดงเพื่อสืบหาคนที่ฆ่าหลินหลงตาย รหัสลับถามตอบนี้คือ ‘ซานสือลิ่วกงถู่ฮวาปี้’ (三十六宫土花碧) และ ‘เทียนรั่วโหย่วฉิงเทียนอี้เหล่า’ (天若有情天亦老) Storyฯ ขอแปลว่า ‘สามสิบหกพระตำหนัก ตะไคร่คลุมธรณี / หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ ฟังแล้วคงไม่ได้ใจความนัก เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่วรรคที่ต่อเนื่องกัน แต่ทั้งสองวรรคนี้ปรากฏอยู่ในบทกวีเดียวกันที่มีชื่อว่า ‘จินถงเซียนเหรินฉือฮั่นเกอ’ (金铜仙人辞汉歌 แปลได้ประมาณว่า ลำนำเซียนจินถงลาจากแดนฮั่น) เป็นผลงานของหลี่เฮ่อ (ค.ศ. 790-816) สี่สุดยอดกวีแห่งสมัยถัง และนี่เป็นหนึ่งในบทกวีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของเขา มันเป็นบทกวียาวที่กล่าวถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮั่นที่ครั้งหนึ่งเคยเรืองรอง แต่กลับเหลือเพียงพระตำหนักที่ว่างร้างจนตะไคร่ปกคลุม เทพเซียนร่ำไห้ลาจาก จนถึงขนาดว่าถ้าฟ้ามีจิตใจรักได้เหมือนคน ก็คงรู้สึกอนาจใจเศร้าจนแก่ชราไปเช่นคน บทกวีนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าอาดูรและแค้นใจในเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงสภาพจิตใจของหลี่เฮ่อในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ถังอ่อนแอ และเขาเองจำเป็นต้องลาออกจากราชการและเดินทางจากนครฉางอันไปด้วยอาการป่วย แต่ที่ Storyฯ รู้สึกว่าน่าสนใจมากก็คือ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้ตั้งเป็นโจทย์ในการดวลบทกวีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับซีรีส์และนิยายจีนโบราณคงเคยผ่านตาว่า การดวลบทกวีนี้ เป็นการต่อกลอนคู่ โดยคนหนึ่งตั้งโจทย์วรรคแรก อีกคนมาแต่งวรรคต่อให้จบ ซึ่งวรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้เป็นวรรคแรกของกลอนคู่โดยไม่มีใครสามารถต่อวรรคท้ายได้อย่างสมบูรณ์มากว่าสองร้อยปี! ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมากสำหรับยุคสมัยที่มีนักอักษรและนักประพันธ์มากมายอย่างสมัยถัง อนึ่ง การต่อวรรคคู่ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่มีจำนวนอักษรเท่ากันและมีเสียงสูงเสียงต่ำคล้องจองกันเท่านั้น แต่ต้องมีความลงตัวในหลายด้าน เป็นต้นว่า 1) มีบริบทใกล้เคียง เช่น กล่าวถึงวัตถุที่จับต้องได้เหมือนกัน หรือจับต้องไม่ได้เหมือนกัน เป็นวัตถุที่สื่อความหมายในเชิงเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่วรรคแรกกล่าวถึงดอกไม้ วรรคหลังพูดถึงโต๊ะ อะไรอย่างนี้; 2) คุณศัพท์ที่ขยายนามหรืออารมณ์ที่สื่อต้องเหมือนกันหรือตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเพื่อแสดงความขัดแย้งบางอย่าง เช่น ฝนตกหนักกับแดดแรงจ้า หรือ ฝนตกหนักกับหยดน้ำเล็ก; ฯลฯ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ นี้มีคนต่อวรรคหลังมากมาย แต่ไม่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์จวบจนสมัยราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่ต่อวรรคหลังนี้คือสือเหยียนเหนียน (ค.ศ. 994-1041) นักอักษรและกวีสมัยซ่งเหนือ ในค่ำคืนหนึ่งหลังจากดื่มสุราไปหลายกรึ๊บ ในยามกึ่งเมากึ่งมีสตินั้น เขาได้ยินคนรอบข้างต่อวรรค ‘หากฟ้ามีใจฯ’ นี้กันอยู่ จึงโพล่งวรรคต่อออกมาในทันใด ซึ่งก็คือ ‘หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง’ (月如无恨月长圆 / เยวี่ยหรูอู๋เฮิ่นเยวี่ยฉางเหยวียน) เป็นการต่อวรรคที่สมบูรณ์จนคนตะลึง เพราะไม่เพียงอักขระ คำบรรยายและบริบทลงตัว หากแต่ความหมายแฝงที่สื่อถึงสัจธรรมแห่งชีวิตยังสอดคล้องอีกด้วย ... หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน ... ... หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง ... วรรคต้นที่ไม่มีใครต่อวรรคได้มากว่าสองร้อยปี เกิดวรรคต่อที่สะเทือนวงการนักอักษรในสมัยนั้นจนถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพื่อนเพจอ่านและตีความแล้วได้ความรู้สึกอย่างไรคะ? เห็นความเป็น ‘กลอนคู่’ ของมันหรือไม่? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_25539972 https://k.sina.cn/article_6502395912_18392b008001004rs9.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_33199885635a.aspx https://baike.baidu.com/金铜仙人辞汉歌/1659854 https://www.sohu.com/a/484704098_100135144 https://www.workercn.cn/c/2024-02-06/8143503.shtml #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #หลี่เฮ่อ #กวีถัง #หากฟ้ามีใจรัก #สือเหยียนเหนียน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 950 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน
    ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’
    .
    เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน
    .
    มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    .
    หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง
    .
    คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า
    .
    ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
    .
    ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ
    .
    คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น
    .
    มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย
    .
    คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’ . เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน . มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ . หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง . คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า . ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว . ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ . คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น . มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย . คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 986 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts