• โดนไป 30 ล้านคนแล้ว...เตือนหน่อย : การ์ตูนการเมือง (16-09-67)
    #ทางรัฐ #เงินดิจิทัล #การ์ตูนการเมือง
    โดนไป 30 ล้านคนแล้ว...เตือนหน่อย : การ์ตูนการเมือง (16-09-67) #ทางรัฐ #เงินดิจิทัล #การ์ตูนการเมือง
    Like
    Haha
    Yay
    Sad
    58
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1096 มุมมอง 0 รีวิว


  • ตอนหนึ่ง………จากเด็กหลังห้อง……สู่นักศึกษากฏหมายยูโดสายดำ……!!

    ก็จะเล่าเรื่องของท่านผู้นำ Vladimir Vladimirovich Putin ตามที่เคยเกริ่นไว้นานมาแล้วนะคะ

    วลาดิเมียร์ ปูติน ถือกำเนิดในวันที่ 7 ตุลาคม 1952
    ที่เลนินกราด (เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก) สหภาพโซเวียต


    เขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ทั้งบิดา มารดา (Vladimir และ Maria) ที่ค่อนข้างทนุถนอมปูตินน้อย ที่มีชื่อเล่นๆว่า Volodya
    (โวโลเดียร์)
    เพราะบุตรชายคนนี้ คือผู้ที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลเพียงคนเดียว
    หลังจากที่ได้สูญเสียบุตรชายไปสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง
    วลาดิเมียร์ผู้พ่อเคยรับราชการทหารเรือ ในหน่วยเรือดำน้ำ เมื่อถูกปลดประจำการ เขาและมาเรียก็ปักหลักลงฐานอยู่ในเลนินกราดเช่นเดิม ไม่ได้ย้ายไปไหน
    ทางรัฐบาลได้จัดที่อยู่อาศัยให้ในอาคารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เลขที่ 12 ถนน Baskov ที่เป็นอาคารเก่าๆ มีสี่ห้องนอน แต่เขาต้องแบ่งกันอยู่กันอีกครอบครัวหนึ่ง
    ทั้งหมดยังต้องใช้เตาผิงฟืนเพื่อความอบอุ่น
    มาเรีย……ไม่ได้มีความรู้มากมาย ทำงานสารพัด ตั้งแต่รับล้างหลอดแก้วในแล็บ……ส่งขนมปัง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือ ต้องมีเวลาดูแลบุตรชายให้ดีที่สุด
    คู่สามีภรรยาที่เป็นเพื่อนร่วมแฟลต เป็นชาวยิว (เคร่งปฏิบัติ)
    ปูตินน้อย จึงเป็นละอ่อนคนเดียวในหมู่เพื่อนบ้าน
    เมื่อเขามีอายุได้เจ็ดอาทิตย์ มาเรีย และ บาบาอันยา (เพื่อนบ้าน) ได้พากันแอบเอาเขาไปทำพิธีล้างบาปในพิธีของออโธดอกซ์ ซึ่งเป็นความลับ (เพราะในยุคของคอมมิวนิสต์ พิธีทางศาสนาต่างๆต้องแอบซ่อน)
    เรื่องนี้ แม้แต่บิดาของเขาก็ไม่รู้ เป็นความลับดำมืด จนเมื่อสี่สิบปีต่อมา มาเรียได้นำกางเขนเล็กๆมาให้กับปูติน และเล่าเรื่องราวให้ฟัง ย้ำกับเขาว่า ถ้ามีโอกาสไปที่เยรูซาเล็ม ช่วยเอากางเขนนี้ ไปสวดที่ Church of the Holy Sepulcher ด้วย
    เลยพอเดาได้……ว่า มาเรียมีเชื้อสายเป็นยิวออโธดอกซ์ ที่ลบเลือนหายไปตามวิถีการเมืองและกาลเวลา
    นามสกุลเดิมของเธอ คือ Shelomova (ที่รากมาจาก Solomon
    ที่เป็นนามสกุลของยิว)

    ปูตินน้อยเป็นเด็กเฮี้ยวพอสมควร อายุเพียงเก้าขวบ เขาและเพื่อนพากันขึ้นรถไฟไปเที่ยวในชนบท กลับมาก็เจอกับพ่อที่ถือเข็มขัดรอไว้ในมือ……
    จากนั้นมา แม้แต่จะเดินไปหัวมุมถนน เขายังต้องขออนุญาต
    ความสัมพันธ์ในบ้าน ค่อนข้างที่จะเคร่งครัด ไม่มีการกอดจูบ
    หรือป้อนคำหวานใส่กัน
    วันเปิดเรียน……นักเรียนอื่นๆเขาจะนำช่อดอกไม้ไปให้ครู
    แต่ปูตินยกไปให้ครูทั้งกระถาง
    เขาเป็นที่ขำขันของเหล่าเพื่อนๆ เพราะตัวเล็ก แข้งขาลีบ
    เดินเป๋ๆ การเรียนไม่ค่อยดี
    จนครูต้องไปพบกับผู้ปกครอง เพื่อแนะนำว่า เด็กคนนี้หัวดีมาก แต่ไม่เอาใจใส่การเรียนเท่าที่ควร
    วลาดิเมียร์ผู้พ่อ ย้อนถามครูไปว่า
    “แล้วจะให้ผมทำยังไง……ฆ่ามันทิ้งงั้นเหรอ?”
    แต่ทั้งคู่ก็รับปากว่า จะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้

    สิ่งแรกเลยที่ปูตินต้องพบ……คือ พ่อพาเขาไปเรียนชกมวย
    ที่ปูตินไม่สนใจในเรื่องชกๆต่อยๆ เขาไปสนใจใน sambo มากกว่า (แซมโบ คือ การผสมผสานระหว่างยูโด กับมวยปล้ำ)
    ซึ่งเขามาได้ถูกทาง เพราะโค้ชได้เข้าไปพบกับ วลาดิเมียร์ และ มาเรีย เพื่อรับรองว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ปูตินน้อยมีความสามารถพิเศษในศาสตร์ด้านนี้

    ปูตินน้อยเข้าสู่วัยสิบสาม อยู่ชั้นมัธยมที่หนึ่ง
    เขาเริ่มมีทีมกลุ่มนักกีฬายูโดที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จากที่เดินติ๋มๆในละแวกที่อาศัยล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอบายมุข เหล้า บุหรี่
    ปูตินน้อย……สามารถเดินสบตาได้ทุกคน
    การเรียนเขาดีขึ้นมาก เขาได้รับเลือกขึ้นเป็นหัวหน้านักเรียนในชั้นมัธยมปีที่สอง
    พอมัธยมแปด เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปเข้าในสมาคมยุวคอมมิวนิสต์ และนี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการก้าวเข้าสู่สังคมโลกภายนอกโรงเรียน

    สิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของปูตินน้อย คือ ภาพยนตร์เรื่อง “The Sword and the Shield “ ที่เป็นเริ่องเกี่ยวกับ Major Aleksandr Belov ที่เป็น KGB ที่ไปทำงานสืบราชการลับในหน่วย SS ของนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นขาวดำ ยาวถึงห้าชั่วโมง แต่ปูตินน้อยสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย

    เขาบอกกับตัวเองว่า……สักวันหนึ่ง……เขาจะเป็นสายลับ KGB ให้ได้…!!!!

    เขาเริ่มดำเนินการตามฝัน เพราะ สำนักงานใหญ่ KGB ก็อยู่ในเลนินกราด ในตอนนั้นใครๆเรียกว่า The Big House
    เขาไปที่นั่น…ต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้งกว่าจะหาทางเข้าเจอ เพื่อที่จะขอใบสมัคร…
    เจ้าหน้าที่ที่มาคุยด้วย มองเขาด้วยความสมเพช ได้บอกกับเขาว่า……ที่นี่….ไม่รับหน่วยอาสา ถ้าจะมาสมัคร ต้องไปเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ เพราะเรารับคนที่เคยเป็นทหาร หรือจบจากมหาวิทยาลัย ……
    ปูตินน้อยไม่ละความพยายาม เขาถามไปว่า ถ้าเรียนมหาวิทยาลัย ต้องเรียนสาขาไหน ถึงจะมีสิทธิ
    คนตอบตอบอย่างเสียไปที…ว่า……กฎหมายมั้ง……!!!

    กฎหมาย……คำนั้นคำเดียว…ที่เขาจำได้แม่น……ที่เหลือคือเขาต้องไปหว่านล้อมพ่อแม่ ที่ตั้งเป้าหมายให้เขาเรียนพวกการบิน หรือเทคนิคต่างๆ หรือแต่โค้ชยูโดที่พยายามหว่านล้อมให้ไปเป็นตำรวจ……ที่เขาไม่ชอบเลย……!!

    ตั้งแต่เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น KGB ให้ได้นั้น ปูตินน้อยเปลี่ยนไป เขาเริ่มสนใจข่าวต่างประเทศ ข่าวการเมือง ฟังเพลง The Beatles ข้างเตียง
    แขวนภาพของ Jan Karlovich Berzin (ผอ. KGB คนแรกในยุคบอลเชวิค)

    ส่วนเรื่องสาวๆในวัยทีนก็ต้องมีบ้าง เขาและ Vera Brileva
    เพื่อนนักเรียนเคยมีการจูบกันตามเกมส์ที่เล่นหมุนปากขวด
    (แบบเด็กๆ) Vera เคยไปหาเขาที่บ้าน ในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือ ……เธอเริ่มต้นด้วยคำทักทายว่า…
    “เธอจำไม่ได้เหรอ…ว่า…..???
    แต่ปูตินลุกขึ้นยืน และตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใยว่า……
    “ชั้นจะจำในสิ่งที่ควรจำเท่านั้น………”

    ปูตินเรียนจบภาคการศึกษาที่เขาทำเกรดได้ดี ในวิชาภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    จนได้รับเลือกเข้าไปเป็นนักศึกษาใน Leningrad State University ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโซเวียต ยูเนี่ยน
    เพราะการรับนักศึกษานั้น โอกาสคือ สี่สิบต่อหนึ่ง

    และ……สาขาที่เขาเลือก คือ นิติศาสตร์…………!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ตอนหนึ่ง………จากเด็กหลังห้อง……สู่นักศึกษากฏหมายยูโดสายดำ……!! ก็จะเล่าเรื่องของท่านผู้นำ Vladimir Vladimirovich Putin ตามที่เคยเกริ่นไว้นานมาแล้วนะคะ วลาดิเมียร์ ปูติน ถือกำเนิดในวันที่ 7 ตุลาคม 1952 ที่เลนินกราด (เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก) สหภาพโซเวียต เขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ทั้งบิดา มารดา (Vladimir และ Maria) ที่ค่อนข้างทนุถนอมปูตินน้อย ที่มีชื่อเล่นๆว่า Volodya (โวโลเดียร์) เพราะบุตรชายคนนี้ คือผู้ที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลเพียงคนเดียว หลังจากที่ได้สูญเสียบุตรชายไปสองคนก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง วลาดิเมียร์ผู้พ่อเคยรับราชการทหารเรือ ในหน่วยเรือดำน้ำ เมื่อถูกปลดประจำการ เขาและมาเรียก็ปักหลักลงฐานอยู่ในเลนินกราดเช่นเดิม ไม่ได้ย้ายไปไหน ทางรัฐบาลได้จัดที่อยู่อาศัยให้ในอาคารสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เลขที่ 12 ถนน Baskov ที่เป็นอาคารเก่าๆ มีสี่ห้องนอน แต่เขาต้องแบ่งกันอยู่กันอีกครอบครัวหนึ่ง ทั้งหมดยังต้องใช้เตาผิงฟืนเพื่อความอบอุ่น มาเรีย……ไม่ได้มีความรู้มากมาย ทำงานสารพัด ตั้งแต่รับล้างหลอดแก้วในแล็บ……ส่งขนมปัง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือ ต้องมีเวลาดูแลบุตรชายให้ดีที่สุด คู่สามีภรรยาที่เป็นเพื่อนร่วมแฟลต เป็นชาวยิว (เคร่งปฏิบัติ) ปูตินน้อย จึงเป็นละอ่อนคนเดียวในหมู่เพื่อนบ้าน เมื่อเขามีอายุได้เจ็ดอาทิตย์ มาเรีย และ บาบาอันยา (เพื่อนบ้าน) ได้พากันแอบเอาเขาไปทำพิธีล้างบาปในพิธีของออโธดอกซ์ ซึ่งเป็นความลับ (เพราะในยุคของคอมมิวนิสต์ พิธีทางศาสนาต่างๆต้องแอบซ่อน) เรื่องนี้ แม้แต่บิดาของเขาก็ไม่รู้ เป็นความลับดำมืด จนเมื่อสี่สิบปีต่อมา มาเรียได้นำกางเขนเล็กๆมาให้กับปูติน และเล่าเรื่องราวให้ฟัง ย้ำกับเขาว่า ถ้ามีโอกาสไปที่เยรูซาเล็ม ช่วยเอากางเขนนี้ ไปสวดที่ Church of the Holy Sepulcher ด้วย เลยพอเดาได้……ว่า มาเรียมีเชื้อสายเป็นยิวออโธดอกซ์ ที่ลบเลือนหายไปตามวิถีการเมืองและกาลเวลา นามสกุลเดิมของเธอ คือ Shelomova (ที่รากมาจาก Solomon ที่เป็นนามสกุลของยิว) ปูตินน้อยเป็นเด็กเฮี้ยวพอสมควร อายุเพียงเก้าขวบ เขาและเพื่อนพากันขึ้นรถไฟไปเที่ยวในชนบท กลับมาก็เจอกับพ่อที่ถือเข็มขัดรอไว้ในมือ…… จากนั้นมา แม้แต่จะเดินไปหัวมุมถนน เขายังต้องขออนุญาต ความสัมพันธ์ในบ้าน ค่อนข้างที่จะเคร่งครัด ไม่มีการกอดจูบ หรือป้อนคำหวานใส่กัน วันเปิดเรียน……นักเรียนอื่นๆเขาจะนำช่อดอกไม้ไปให้ครู แต่ปูตินยกไปให้ครูทั้งกระถาง เขาเป็นที่ขำขันของเหล่าเพื่อนๆ เพราะตัวเล็ก แข้งขาลีบ เดินเป๋ๆ การเรียนไม่ค่อยดี จนครูต้องไปพบกับผู้ปกครอง เพื่อแนะนำว่า เด็กคนนี้หัวดีมาก แต่ไม่เอาใจใส่การเรียนเท่าที่ควร วลาดิเมียร์ผู้พ่อ ย้อนถามครูไปว่า “แล้วจะให้ผมทำยังไง……ฆ่ามันทิ้งงั้นเหรอ?” แต่ทั้งคู่ก็รับปากว่า จะเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ สิ่งแรกเลยที่ปูตินต้องพบ……คือ พ่อพาเขาไปเรียนชกมวย ที่ปูตินไม่สนใจในเรื่องชกๆต่อยๆ เขาไปสนใจใน sambo มากกว่า (แซมโบ คือ การผสมผสานระหว่างยูโด กับมวยปล้ำ) ซึ่งเขามาได้ถูกทาง เพราะโค้ชได้เข้าไปพบกับ วลาดิเมียร์ และ มาเรีย เพื่อรับรองว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ ปูตินน้อยมีความสามารถพิเศษในศาสตร์ด้านนี้ ปูตินน้อยเข้าสู่วัยสิบสาม อยู่ชั้นมัธยมที่หนึ่ง เขาเริ่มมีทีมกลุ่มนักกีฬายูโดที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน จากที่เดินติ๋มๆในละแวกที่อาศัยล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยอบายมุข เหล้า บุหรี่ ปูตินน้อย……สามารถเดินสบตาได้ทุกคน การเรียนเขาดีขึ้นมาก เขาได้รับเลือกขึ้นเป็นหัวหน้านักเรียนในชั้นมัธยมปีที่สอง พอมัธยมแปด เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปเข้าในสมาคมยุวคอมมิวนิสต์ และนี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการก้าวเข้าสู่สังคมโลกภายนอกโรงเรียน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของปูตินน้อย คือ ภาพยนตร์เรื่อง “The Sword and the Shield “ ที่เป็นเริ่องเกี่ยวกับ Major Aleksandr Belov ที่เป็น KGB ที่ไปทำงานสืบราชการลับในหน่วย SS ของนาซี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นขาวดำ ยาวถึงห้าชั่วโมง แต่ปูตินน้อยสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย เขาบอกกับตัวเองว่า……สักวันหนึ่ง……เขาจะเป็นสายลับ KGB ให้ได้…!!!! เขาเริ่มดำเนินการตามฝัน เพราะ สำนักงานใหญ่ KGB ก็อยู่ในเลนินกราด ในตอนนั้นใครๆเรียกว่า The Big House เขาไปที่นั่น…ต้องใช้ความพยายามถึงสามครั้งกว่าจะหาทางเข้าเจอ เพื่อที่จะขอใบสมัคร… เจ้าหน้าที่ที่มาคุยด้วย มองเขาด้วยความสมเพช ได้บอกกับเขาว่า……ที่นี่….ไม่รับหน่วยอาสา ถ้าจะมาสมัคร ต้องไปเรียนหนังสือให้มากกว่านี้ เพราะเรารับคนที่เคยเป็นทหาร หรือจบจากมหาวิทยาลัย …… ปูตินน้อยไม่ละความพยายาม เขาถามไปว่า ถ้าเรียนมหาวิทยาลัย ต้องเรียนสาขาไหน ถึงจะมีสิทธิ คนตอบตอบอย่างเสียไปที…ว่า……กฎหมายมั้ง……!!! กฎหมาย……คำนั้นคำเดียว…ที่เขาจำได้แม่น……ที่เหลือคือเขาต้องไปหว่านล้อมพ่อแม่ ที่ตั้งเป้าหมายให้เขาเรียนพวกการบิน หรือเทคนิคต่างๆ หรือแต่โค้ชยูโดที่พยายามหว่านล้อมให้ไปเป็นตำรวจ……ที่เขาไม่ชอบเลย……!! ตั้งแต่เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น KGB ให้ได้นั้น ปูตินน้อยเปลี่ยนไป เขาเริ่มสนใจข่าวต่างประเทศ ข่าวการเมือง ฟังเพลง The Beatles ข้างเตียง แขวนภาพของ Jan Karlovich Berzin (ผอ. KGB คนแรกในยุคบอลเชวิค) ส่วนเรื่องสาวๆในวัยทีนก็ต้องมีบ้าง เขาและ Vera Brileva เพื่อนนักเรียนเคยมีการจูบกันตามเกมส์ที่เล่นหมุนปากขวด (แบบเด็กๆ) Vera เคยไปหาเขาที่บ้าน ในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือ ……เธอเริ่มต้นด้วยคำทักทายว่า… “เธอจำไม่ได้เหรอ…ว่า…..??? แต่ปูตินลุกขึ้นยืน และตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใยว่า…… “ชั้นจะจำในสิ่งที่ควรจำเท่านั้น………” ปูตินเรียนจบภาคการศึกษาที่เขาทำเกรดได้ดี ในวิชาภาษาเยอรมัน ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จนได้รับเลือกเข้าไปเป็นนักศึกษาใน Leningrad State University ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโซเวียต ยูเนี่ยน เพราะการรับนักศึกษานั้น โอกาสคือ สี่สิบต่อหนึ่ง และ……สาขาที่เขาเลือก คือ นิติศาสตร์…………!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาตินิยม...ที่ฝังอยู่ในสายเลือด...!!

    ดิฉันกำลังพูดถึงตัวเอง...ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใคร หรือ เป็นเพราะการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ทางโค้ง

    แต่ถ้ามีคนถาม...ก็จะตอบว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึก”กลัว” เท่ากับในครั้งนี้ ที่กลัวเพราะว่ามันเป็นการเลือกตั้งที่เรากำลังต่อสู้กับเงาอสูร หรือมือที่เรามองไม่เห็น
    ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบครั้งก่อนๆที่เรารู้จักหน้าค่าตา รู้จักน้ำจิตน้ำใจ รู้จักนโยบาย
    ครั้งนี้...มองเห็นได้ชัดเจนว่าเราได้ถูกแทรกแซงจากแหล่งต่างๆ
    ที่มีทุนมหาศาล และ เขาได้สร้างนอมินีมาเป็นมือไม้ทำงานให้อย่างไม่ต้องลงแรง
    ส่วนนอมินีที่ว่านั้น....จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม...แต่พวกเขาได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝังมาในทางทฤษฎีให้เชื่อและคล้อยตาม
    คำว่า ชาตินิยม...กลายเป็นของแสลง เพราะเขาใช้คำว่า “คลั่งชาติ” มาตีกันเอาไว้ก่อน
    คำว่า “สลิ่ม” คือพวกที่อยู่ข้างสถาบัน ตามด้วยกิริยาว่า “โหนเจ้า”
    อีกทั้งหาพวกพ้องให้เกิดความแตกแยก โดยเรียกตัวเองว่า “ไพร่”
    ที่ต้องมาผนึกกำลังกันเรียกร้องหาความเสมอภาค

    คำเหล่านี้...คือการยุงยงปลุกปั่น สร้างความร้าวฉาน ทั้งๆที่ เราควรจะภูมิใจถ้าหากเราคลั่งชาติจริงๆ เพราะนี่คือทางออกทางเดียว
    ที่เห็นว่า เราจะแล้วรอดปลอดภัยจากนโยบายครองโลกของคนกลุ่มทุน

    เราปล่อยให้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาออกอากาศว่า ฟังเพลงชาติแล้วจะอ้วก...หรือ...ไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบแบบแผนที่มีมาดั้งเดิม เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย
    เรามองเห็นมะเร็งร้ายที่เริ่มจากการก่อตัว จนมันได้ขยายออกไป
    ถึงขั้นสี่ ขั้นห้า...แล้วไม่ทำอะไรกันเลย ต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
    เพราะความเป็นคนขี้รำคาญตามนิสัยคนไทย

    ดิฉันกลายมาเป็นคนชาตินิยมไปตั้งแต่เริ่มเข้าวัยกลางคน ทั้งที่อดีต
    เคยนิยมชาติอื่นอย่างมากมาย เพราะเขาให้สิทธิในการออกความเห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะออกความเห็นได้อย่างเสรีที่เขาว่า เพราะกฏหมายเขาเอาจริง จะเที่ยวพูดสุ่มสี่สุ่มห้า หรืออารมณ์เมาไวน์พาไปก็ไม่ได้ จะต้องมี”ความรู้” จริง
    ต้องมีการเตรียมตัวพร้อมหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ต้องคิดไตร่ตรองถ้วนถี่ เพราะไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็น “ปากพาจน”

    ถึงจะมีสามีเป็นฝรั่งเศส...แต่ไม่เคยที่จะเอามาเป็น”ตัวอ้างอิง”
    ทางความคิดเห็น ความเชื่อของเขากับดิฉันนั้น ต่างกันคนละสาย
    แต่เราไม่ก้าวก่ายกัน
    เขาแปลกใจที่เห็นดิฉัน รักเคารพบูชา เจ้าเหนือแผ่นดิน
    ในขณะที่ชาวฝรั่งเศสเห็นว่า เหนือกว่าอำมาตย์และชนชั้นฐานันดรนั้นคือ tyranny (มีบรรจุไว้ในเพลงชาติ La Marseillaise)
    เขาพร่ำสอนกันมาหลายร้อยปี ก็คงจะเปลี่ยนกันยาก
    นักวิชาการบางพวก...อาจจะเห่อหรือเอาใจเมีย หรืออยากจะอวดว่าเป็นคนที่มีความคิดเห็นแบบตะวันตก...เลยกลายเป็นคนที่ผีเจาะปากมาพูด

    แต่ในครอบครัวดิฉัน...เรื่องนี้...เราไม่ก้าวล่วงในความเชื่อของกันและกัน

    วันก่อน... เห็นมีคนเอาข่าวของการเผาไร่ข้าวโพดกว่าพันเอเคอร์ในฮังการีมาลง...แต่นั้นมันเป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ปี 2011
    ที่ชาวเกษตรอนุรักษ์นิยม ได้พบว่ามีเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด GMO หลงเข้ามา ซึ่งจะสร้างการแตกหน่อ ขยายแขนงไปจนเกิดโทษ
    จึงจัดการเผาผลผลิตทิ้งให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เกสรที่อาจปลิวไป
    ผสมพันธ์ที่อื่น...
    ฮังการีเปิดศึกกับบริษัทมอนซานโตในทุกทาง
    เท่านั้นไม่พอ...นายกรัฐมนตรี Viktor Orban ได้สั่งให้ มหาวิทยาลัย
    CEU (Central European University) ย้ายออกไปจากประเทศ
    ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในภาพพื้นยุโรปตะวันออก ที่สอนในหลักสูตรเดียวกับสหรัฐอเมริกา และ ปริญญาทุกใบ จะรับรองมาตรฐานโดยกระทรวงศึกษาธิการแห่งสหรัฐ

    CEU เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์ สอนด้วยภาษาอังกฤษ ก่อตั้งในปี 1990 จากทุนทรัพย์ส่วนตัวของนายจอร์จ โซรอส ที่ทุ่มลงมากว่า 800 ล้านยูเอส เพื่อให้เป็นตักศิลาทางการเมืองที่ทันสมัยที่สุด ใหญ่ที่สุด จนได้รับตำแหน่งว่าเป็นยูหนึ่งในร้อยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสิบสาม ที่เด่นทางรัฐศาสตร์ และ ทางกฏหมาย
    จากนั้นก็เพิ่มสาขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงการเงินและธุรกิจ ตามด้วยวิชาปรัชญาเพื่อรองรับกับนโยบายของ Open Society ที่เป็นที่เพาะพันธุ์ของเหล่า NGO ต่างๆ

    ฮังการีภายใต้การนำของนายออร์บัน ได้ระงับการต่อสัญญากับมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆคือ ให้ย้ายออกไปจากประเทศโดยไม่แคร์ว่านักศึกษาจะเคว้ง หรือไม่มีที่จะเรียน โดยเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ทุนโซรอสเข้ามาครอบงำประชาชนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังของประเทศ
    นั่นหมายถึงการล่มสลาย...
    ดังนั้นจึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม...
    วันที่ 3 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่การยื้อเวลาโดยใช้กลุ่ม อียูเข้ามาช่วยเจรจา หรือ ทางสหรัฐอเมริกาที่พยายามกดดันรัฐบาลทางการทูต....ไม่เป็นผลสำเร็จ
    ซ้ำร้าย....ฮังการีได้เปิดสงครามกับโซรอสโดยการปิดป้ายประจานไปทั่วเมืองนั้น...
    CEU ต้องถอยทัพ...ประกาศว่า จะย้ายมหาวิทยาลัยไปที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย...

    ผู้คนต่างก็ไม่พอใจ พากันเดินขบวนต่อต้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะการศึกษาคือเรื่องสำคัญต่ออนาคต
    แต่รัฐบาล....ต้องยอมให้ประชาชนก่นด่า ยอมให้ชาติต้องหยุดชะงัก
    ดีกว่าที่จะให้ เด็กฮังเกเรี่ยนมีหัวใจเป็นอเมริกัน มีสมองที่คิดแต่การเอาเปรียบ มีวิญญาณที่ซื้อได้ด้วยเงิน....

    จากนั้น...รัฐบาลได้ออกกฏหมายให้เหล่า NGO ทุกคนให้มาขึ้นบัญชี
    ที่ต้องแสดงรายได้ตามความเป็นจริง และต้องระบุด้วยว่า รับมาจากที่ใด...เล่นเอาเหล่า NGO ผู้ที่แอบแฝงมาในคราบต่างๆเกิดอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน รัสเซียได้เขี่ยองค์กร
    ลํบหน้าปะจมูกพวกนี้ออกมาจนหมดสิ้น
    นี่ฮังการีก็เริ่มจะเขี่ยทิ้งอีก....
    อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน
    จากเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่นายออร์บันคือผู้ที่ต่อต้านรัสเซียอย่างชัดเจน
    แต่ทกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ดำเนินนโยบายแบบยอมหักแต่ไม่ยอมงอนั้น ทำให้เกิดความเลื่อมใส จนแทบจะเดินรอยตามในทุกเรื่อง
    แม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ...ที่เป็นชนวนให้ต้องมีการขับไล่กลุ่ม
    โซรอสออกไปให้พ้นๆ
    มิไยที่สหภาพยุโรปจะกดดัน หรือ ใช้มาตรการเข้ม...ก็ไม่เป็นผล
    ประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน...

    แต่กลุ่มสหภาพยุโรปที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องการปฏิเสธการรับผู้อพยพของกลุ่มประเทศ ฮังการี, สโลเวเนีย และโปแลนด์ นั้น
    เริ่มที่จะเสียงแตก เพราะกลุ่มขวาจัดในรัฐบาลอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ต่างแสดงความเห็นใจประเทศที่ต้องโดนยัดเยียดเหล่านี้...
    ส่วนทางรัสเซีย...ที่ขยันออกคลิปของการ”ต้อนรับ” ผู้หลบหนีเข้าเมืองแบบถึงลูกถึงคนนั้น
    ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสภายุโรป
    จนเรียกร้องให้การ”คว่ำบาตร” รัสเซียดำเนินต่อไป...

    ฝรั่งเศส...เมื่อตอนที่นายมาครงขึ้นมาดำรงตำแหน่งในปี 2017
    เขาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า การรับและโอบอุ้มผู้อพยพคือการแสดงถึงความมีมนุษยธรรม...
    เวลาผ่านไปปีเศษเอง เขาเปลี่ยนไปแล้ว คราวนี้คือ การไม่ต้อนรับและไม่ได้พูดถึงเรื่องมนุษยธรรมอีกเลย
    ซ้ำกระโจมผู้อพยพที่ตั้งเรียงรายนับหมื่นคนที่ท่า Calais นั่น
    ที่หวังจะให้อังกฤษช่วยรับไปก็แห้วอีก...เพราะอังกฤษกำลังจะออกจากอียูอยู่รอมร่อ....เพราะเขาไม่ต้องการการยัดเยียดให้รับชาวต่างชาติอพยพ……

    ทีนี้ก็ถึงคราวที่นายมาครงจะต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
    จะกลืนน้ำลายตัวเองต่อไป หรือจะให้เสื้อกั๊กเหลืองเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน

    นี่คือตัวอย่างของการแทรกแซงที่ดิฉันรู้สึกว่าน่ากลัว....เพราะเห็นหน้าตากัน เชื้อชาติเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน
    แต่...ไม่ใช่ว่าเขามีจิตวิญญาณรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนเรา...

    อย่างฮังการีกับโซรอสนั่นไง....ที่มาทำท่าเป็นพ่อพระเพื่อช่วยส่งเสริมการศึกษา แจกทุน ตั้งองค์กรด้วยเงินจำนวนมหาศาล....
    แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง....

    ทั้งๆที่เขาและบรรพบุรุษของเขา.....เป็นฮังเกเรี่ยนแท้ๆ เขายังทำได้ลงคอ....!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ชาตินิยม...ที่ฝังอยู่ในสายเลือด...!! ดิฉันกำลังพูดถึงตัวเอง...ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใคร หรือ เป็นเพราะการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ทางโค้ง แต่ถ้ามีคนถาม...ก็จะตอบว่าไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่รู้สึก”กลัว” เท่ากับในครั้งนี้ ที่กลัวเพราะว่ามันเป็นการเลือกตั้งที่เรากำลังต่อสู้กับเงาอสูร หรือมือที่เรามองไม่เห็น ไม่ใช่การเลือกตั้งแบบครั้งก่อนๆที่เรารู้จักหน้าค่าตา รู้จักน้ำจิตน้ำใจ รู้จักนโยบาย ครั้งนี้...มองเห็นได้ชัดเจนว่าเราได้ถูกแทรกแซงจากแหล่งต่างๆ ที่มีทุนมหาศาล และ เขาได้สร้างนอมินีมาเป็นมือไม้ทำงานให้อย่างไม่ต้องลงแรง ส่วนนอมินีที่ว่านั้น....จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม...แต่พวกเขาได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝังมาในทางทฤษฎีให้เชื่อและคล้อยตาม คำว่า ชาตินิยม...กลายเป็นของแสลง เพราะเขาใช้คำว่า “คลั่งชาติ” มาตีกันเอาไว้ก่อน คำว่า “สลิ่ม” คือพวกที่อยู่ข้างสถาบัน ตามด้วยกิริยาว่า “โหนเจ้า” อีกทั้งหาพวกพ้องให้เกิดความแตกแยก โดยเรียกตัวเองว่า “ไพร่” ที่ต้องมาผนึกกำลังกันเรียกร้องหาความเสมอภาค คำเหล่านี้...คือการยุงยงปลุกปั่น สร้างความร้าวฉาน ทั้งๆที่ เราควรจะภูมิใจถ้าหากเราคลั่งชาติจริงๆ เพราะนี่คือทางออกทางเดียว ที่เห็นว่า เราจะแล้วรอดปลอดภัยจากนโยบายครองโลกของคนกลุ่มทุน เราปล่อยให้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาออกอากาศว่า ฟังเพลงชาติแล้วจะอ้วก...หรือ...ไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบแบบแผนที่มีมาดั้งเดิม เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย เรามองเห็นมะเร็งร้ายที่เริ่มจากการก่อตัว จนมันได้ขยายออกไป ถึงขั้นสี่ ขั้นห้า...แล้วไม่ทำอะไรกันเลย ต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะความเป็นคนขี้รำคาญตามนิสัยคนไทย ดิฉันกลายมาเป็นคนชาตินิยมไปตั้งแต่เริ่มเข้าวัยกลางคน ทั้งที่อดีต เคยนิยมชาติอื่นอย่างมากมาย เพราะเขาให้สิทธิในการออกความเห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะออกความเห็นได้อย่างเสรีที่เขาว่า เพราะกฏหมายเขาเอาจริง จะเที่ยวพูดสุ่มสี่สุ่มห้า หรืออารมณ์เมาไวน์พาไปก็ไม่ได้ จะต้องมี”ความรู้” จริง ต้องมีการเตรียมตัวพร้อมหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ต้องคิดไตร่ตรองถ้วนถี่ เพราะไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็น “ปากพาจน” ถึงจะมีสามีเป็นฝรั่งเศส...แต่ไม่เคยที่จะเอามาเป็น”ตัวอ้างอิง” ทางความคิดเห็น ความเชื่อของเขากับดิฉันนั้น ต่างกันคนละสาย แต่เราไม่ก้าวก่ายกัน เขาแปลกใจที่เห็นดิฉัน รักเคารพบูชา เจ้าเหนือแผ่นดิน ในขณะที่ชาวฝรั่งเศสเห็นว่า เหนือกว่าอำมาตย์และชนชั้นฐานันดรนั้นคือ tyranny (มีบรรจุไว้ในเพลงชาติ La Marseillaise) เขาพร่ำสอนกันมาหลายร้อยปี ก็คงจะเปลี่ยนกันยาก นักวิชาการบางพวก...อาจจะเห่อหรือเอาใจเมีย หรืออยากจะอวดว่าเป็นคนที่มีความคิดเห็นแบบตะวันตก...เลยกลายเป็นคนที่ผีเจาะปากมาพูด แต่ในครอบครัวดิฉัน...เรื่องนี้...เราไม่ก้าวล่วงในความเชื่อของกันและกัน วันก่อน... เห็นมีคนเอาข่าวของการเผาไร่ข้าวโพดกว่าพันเอเคอร์ในฮังการีมาลง...แต่นั้นมันเป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ปี 2011 ที่ชาวเกษตรอนุรักษ์นิยม ได้พบว่ามีเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด GMO หลงเข้ามา ซึ่งจะสร้างการแตกหน่อ ขยายแขนงไปจนเกิดโทษ จึงจัดการเผาผลผลิตทิ้งให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เกสรที่อาจปลิวไป ผสมพันธ์ที่อื่น... ฮังการีเปิดศึกกับบริษัทมอนซานโตในทุกทาง เท่านั้นไม่พอ...นายกรัฐมนตรี Viktor Orban ได้สั่งให้ มหาวิทยาลัย CEU (Central European University) ย้ายออกไปจากประเทศ ทั้งๆที่มหาวิทยาลัยนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในภาพพื้นยุโรปตะวันออก ที่สอนในหลักสูตรเดียวกับสหรัฐอเมริกา และ ปริญญาทุกใบ จะรับรองมาตรฐานโดยกระทรวงศึกษาธิการแห่งสหรัฐ CEU เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์ สอนด้วยภาษาอังกฤษ ก่อตั้งในปี 1990 จากทุนทรัพย์ส่วนตัวของนายจอร์จ โซรอส ที่ทุ่มลงมากว่า 800 ล้านยูเอส เพื่อให้เป็นตักศิลาทางการเมืองที่ทันสมัยที่สุด ใหญ่ที่สุด จนได้รับตำแหน่งว่าเป็นยูหนึ่งในร้อยที่ดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสิบสาม ที่เด่นทางรัฐศาสตร์ และ ทางกฏหมาย จากนั้นก็เพิ่มสาขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงการเงินและธุรกิจ ตามด้วยวิชาปรัชญาเพื่อรองรับกับนโยบายของ Open Society ที่เป็นที่เพาะพันธุ์ของเหล่า NGO ต่างๆ ฮังการีภายใต้การนำของนายออร์บัน ได้ระงับการต่อสัญญากับมหาวิทยาลัย พูดง่ายๆคือ ให้ย้ายออกไปจากประเทศโดยไม่แคร์ว่านักศึกษาจะเคว้ง หรือไม่มีที่จะเรียน โดยเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ทุนโซรอสเข้ามาครอบงำประชาชนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังของประเทศ นั่นหมายถึงการล่มสลาย... ดังนั้นจึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม... วันที่ 3 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา หลังจากที่การยื้อเวลาโดยใช้กลุ่ม อียูเข้ามาช่วยเจรจา หรือ ทางสหรัฐอเมริกาที่พยายามกดดันรัฐบาลทางการทูต....ไม่เป็นผลสำเร็จ ซ้ำร้าย....ฮังการีได้เปิดสงครามกับโซรอสโดยการปิดป้ายประจานไปทั่วเมืองนั้น... CEU ต้องถอยทัพ...ประกาศว่า จะย้ายมหาวิทยาลัยไปที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย... ผู้คนต่างก็ไม่พอใจ พากันเดินขบวนต่อต้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะการศึกษาคือเรื่องสำคัญต่ออนาคต แต่รัฐบาล....ต้องยอมให้ประชาชนก่นด่า ยอมให้ชาติต้องหยุดชะงัก ดีกว่าที่จะให้ เด็กฮังเกเรี่ยนมีหัวใจเป็นอเมริกัน มีสมองที่คิดแต่การเอาเปรียบ มีวิญญาณที่ซื้อได้ด้วยเงิน.... จากนั้น...รัฐบาลได้ออกกฏหมายให้เหล่า NGO ทุกคนให้มาขึ้นบัญชี ที่ต้องแสดงรายได้ตามความเป็นจริง และต้องระบุด้วยว่า รับมาจากที่ใด...เล่นเอาเหล่า NGO ผู้ที่แอบแฝงมาในคราบต่างๆเกิดอาการร้อนๆหนาวๆขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน รัสเซียได้เขี่ยองค์กร ลํบหน้าปะจมูกพวกนี้ออกมาจนหมดสิ้น นี่ฮังการีก็เริ่มจะเขี่ยทิ้งอีก.... อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน จากเมื่อยี่สิบปีก่อน ที่นายออร์บันคือผู้ที่ต่อต้านรัสเซียอย่างชัดเจน แต่ทกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ดำเนินนโยบายแบบยอมหักแต่ไม่ยอมงอนั้น ทำให้เกิดความเลื่อมใส จนแทบจะเดินรอยตามในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ...ที่เป็นชนวนให้ต้องมีการขับไล่กลุ่ม โซรอสออกไปให้พ้นๆ มิไยที่สหภาพยุโรปจะกดดัน หรือ ใช้มาตรการเข้ม...ก็ไม่เป็นผล ประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน... แต่กลุ่มสหภาพยุโรปที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องการปฏิเสธการรับผู้อพยพของกลุ่มประเทศ ฮังการี, สโลเวเนีย และโปแลนด์ นั้น เริ่มที่จะเสียงแตก เพราะกลุ่มขวาจัดในรัฐบาลอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ต่างแสดงความเห็นใจประเทศที่ต้องโดนยัดเยียดเหล่านี้... ส่วนทางรัสเซีย...ที่ขยันออกคลิปของการ”ต้อนรับ” ผู้หลบหนีเข้าเมืองแบบถึงลูกถึงคนนั้น ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนในสภายุโรป จนเรียกร้องให้การ”คว่ำบาตร” รัสเซียดำเนินต่อไป... ฝรั่งเศส...เมื่อตอนที่นายมาครงขึ้นมาดำรงตำแหน่งในปี 2017 เขาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า การรับและโอบอุ้มผู้อพยพคือการแสดงถึงความมีมนุษยธรรม... เวลาผ่านไปปีเศษเอง เขาเปลี่ยนไปแล้ว คราวนี้คือ การไม่ต้อนรับและไม่ได้พูดถึงเรื่องมนุษยธรรมอีกเลย ซ้ำกระโจมผู้อพยพที่ตั้งเรียงรายนับหมื่นคนที่ท่า Calais นั่น ที่หวังจะให้อังกฤษช่วยรับไปก็แห้วอีก...เพราะอังกฤษกำลังจะออกจากอียูอยู่รอมร่อ....เพราะเขาไม่ต้องการการยัดเยียดให้รับชาวต่างชาติอพยพ…… ทีนี้ก็ถึงคราวที่นายมาครงจะต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง จะกลืนน้ำลายตัวเองต่อไป หรือจะให้เสื้อกั๊กเหลืองเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน นี่คือตัวอย่างของการแทรกแซงที่ดิฉันรู้สึกว่าน่ากลัว....เพราะเห็นหน้าตากัน เชื้อชาติเดียวกัน พูดจาภาษาเดียวกัน แต่...ไม่ใช่ว่าเขามีจิตวิญญาณรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนเรา... อย่างฮังการีกับโซรอสนั่นไง....ที่มาทำท่าเป็นพ่อพระเพื่อช่วยส่งเสริมการศึกษา แจกทุน ตั้งองค์กรด้วยเงินจำนวนมหาศาล.... แต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง.... ทั้งๆที่เขาและบรรพบุรุษของเขา.....เป็นฮังเกเรี่ยนแท้ๆ เขายังทำได้ลงคอ....!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์ทัศนะของ วีระ ธีรภัทร จากเพจเฟซบุ๊ก สำนักพิมพ์โรนิน 25 สิงหาคม 2567

    “ คอลัมน์ ปากท้องชาวบ้าน

    ไม่มีอะไรจะเละไปกว่านี้(แล้ว)

    แม้ว่าผมจะไม่ห่วงเรื่องอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ก็ตาม

    แต่ก็อดคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๔ ไม่ได้

    หลังการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมในปีนั้น พรรคเพื่อไทยเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบถล่มทลายสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ

    อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ตามมาพร้อมกับการเป็นรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเลยกลายเป็นบททดสอบความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐบาลใหม่แบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว

    ผลเป็นไงคงพอจำกันได้

    บัดนี้เราได้รัฐบาลใหม่ มีคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าในขณะนี้ยังยุ่งขิงอยู่กับการสรรหาบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลไม่เสร็จ (อันนี้เละเทะมาก) ยังไม่สามารถเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ

    แต่น้ำเหนือก็หลากมาแล้ว แม้จะไม่น่ากลัวสำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑลเหมือนกับเมื่อสิบสามปีก่อนหน้านี้ก็ตามที

    อะไรมันจะซ้ำซากกันได้ถึงขนาดนี้

    แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นข้อใหญ่ในความของเรื่องที่ผมจะคุยอะไรให้ฟังวันนี้ ครับ

    ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมากมาย หลายเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น แม้ผมจะพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุพอสมควร

    ผมเลยอยากจะเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังแบบเพลินๆ เท่าที่จะคิดได้เป็นสำคัญ

    แน่นอนล่ะครับว่ารายการ Vision For Thailand ในช่วงหัวค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคมที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปแสดงวิสัยทัศน์ท่ามกลางคนมีอำนาจในแวดวงการเมืองและธุรกิจภาคเอกชนจำนวนมากนั้น ย่อมอยู่ในความสนใจของผู้คน จนลืมกันไปหมดว่าวันดังกล่าวตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีของการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ

    ความเป็นคุณทักษิณ ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และด้วยอำนาจวาสนาบารมีที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะพร่องไปบ้างในช่วงสิบห้าปีที่ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน

    สิ่งที่คุณทักษิณคิดจึงมองข้ามไม่ได้

    ทักษิณคิดเพื่อไทยทำอย่างที่รู้ๆ กัน

    ผมและคนอื่นๆ อีกไม่น้อยจึงเสียยอมเวลาฟังสิ่งที่คุณทักษิณคิดและอยากให้เกิดกับสังคมไทยในอนาคตตลอดหนึ่งชั่วโมงเศษที่แกคุยอยู่คนเดียวด้วยความตั้งอกตั้งใจ

    สำหรับผมสิ่งที่คุณทักษิณคิดออกมาดังๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นประเด็นปัญหาที่เราพอรู้พอทราบกันอยู่ แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าสิ่งที่คุณทักษิณ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเอาไปทำหรืออย่างน้อยก็เอาไปคิดต่อว่าจะทำต่อไปเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ

    ตรงนี้จึงมีความหมายมากกว่าการแสดงความคิดเห็นของคนทั่วไป

    แม้ว่าข้อเสนอจำนวนมากเป็นเรื่องที่ผมพอทราบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โครงการดิจิทัลวอลเลต การชี้นำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยและเพิ่มการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเติมสภาพคล่องให้กับภาคเศรษฐกิจ โครงการแลนด์บริดจ์ โครงการค่าโดยสารรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กองทุนวายุภักษ์ ฯลฯ ล้วนเป็นประเด็นที่จะต้องมีการตัดสินใจและขับเคลื่อนกันต่อไปในรัฐบาลของคุณแพทองธาร ชินวัตร ต่อไป

    นี่จึงเป็นข้อเสนอคำแนะนำที่ไม่ธรรมดาเพราะสามารถจะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลได้อย่างแยบคาย

    ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไรในเรื่องที่ว่าในตอนนี้ อยากจะรอดูก่อนว่าข้อเสนอดังกล่าวจะกลายเป็นนโยบายและมาตรการของรัฐบาลคุณแพทองธารในเนื้อหารายละเอียดอย่างไรให้ชัดเจนเสียก่อน

    แถมอันที่จริงแล้วในช่วงนี้ต้องบอกว่า ผมอยู่ในช่วงที่ผ่อนคลายมากมีเวลาเหลือมากขึ้น แถมได้ทำสิ่งที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้วอีกต่างหาก

    ลำดับแรกเลย งานในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งผมต้องไปประชุมรวมกันถึง ๔๐ ครั้งตลอดระยะเวลาสองเดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา (นับหนึ่งวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน) ถือว่าจบสิ้นแล้วในแง่ของกระบวนการพิจารณา แม้ยังไม่จบเสียทีเดียวเพราะต้องมีพิธีกรรมอีกเล็กน้อยในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า

    วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคมจะเป็นการประชุมครั้งที่ ๔๑ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของกรรมาธิการเพื่อตรวจทานและลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ว่าจะเอาแบบไหน? อย่างไร? โดยมีกรรมาธิการและสส.จำนวนไม่น้อย ได้สงวนความเห็นและขอแปรญัตติเพื่อจะไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะมีการลงมติให้ความเห็นชอบในวาระที่ ๒ และ ๓ ในช่วงวันที่ ๓-๕ กันยายนที่จะถึงนี้

    อันนี้น่าสนใจติดตามฟังกันครับ

    งานที่ว่านี้ดำเนินไปโดยยังไม่มีรัฐบาลใหม่ มีแต่เพียงนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้

    นี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแปลก แม้ผมจะเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็ตามที

    ลำดับถัดมา ผมไปร่วมรายการ BOT Press Trip 2024 ที่โรงแรม Andaz แถวหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี แม้จะห่างเหินจากการไปร่วมงานในฐานะสื่อมวลชนกับธนาคารแห่งประเทศไทยแบบนี้มานานมากแล้ว แต่ที่ผมอยากไปก็เพราะว่างานนี้มีประเด็นที่ผมอยากสอบถามให้แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรจากปากของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโอกาสดีมากเพราะว่าไปกันครบถ้วนเกือบทั้งหมด เหมือนเราไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของที่ต้องการได้ทั้งหมดในสถานที่เพียงแห่งเดียว

    ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย นำโดยคุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ปีหน้าครบวาระห้าปีเป็นต่อไม่ได้) พร้อมกับรองผู้ว่าการและผู้ช่วยผู้ว่าการ ๑๑ คนโดยไม่รวมระดับผู้บริหารระดับปฏิบัติการในฝ่ายต่างๆ ที่มากันเป็นกองทัพ

    อะไรที่ผมสงสัยไม่แน่ใจในเรื่องนโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบริหารจัดการอยู่ในเวลานี้ จึงถือโอกาสไปร่วมงานนี้ สอบถามพูดคุยกับคนที่ดูแลนโยบายและคนที่ลงมือปฏิบัติการจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและได้ข้อมูลที่ต้องการครบถ้วน

    เอาเป็นว่าเรื่องระหว่างรัฐบาล กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เคยปีนเกลียวกันในช่วงรัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมาและที่อาจจะมีการปะทะปะทั่งกันในช่วงรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร ในอนาคตอันใกล้นี้

    ผมพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว

    เรื่องหลายเรื่องที่รัฐบาลอยากทำแล้วทำไม่ได้ เรื่องหลายเรื่องที่ถกเถียงกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าควรทำแบบไหนไม่ควรทำแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอลวอลเลต การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบบาย ฯลฯ

    การได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้ผมพอปะติดปะต่อภาพได้เกือบครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว

    จะเอาไปทำอะไรต่อที่ไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? เดี๋ยวค่อยมาว่ากันครับ

    ผมยังมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติมแบบลงรายละเอียดสักหน่อย เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลเอาไว้ตรงนี้เพื่อให้คุณๆ ได้ติดตามความเป็นไปของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังได้อย่างครบถ้วนอยู่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นควรรู้ควรทราบอย่างยิ่ง

    เรื่องของเรื่องก็คือในช่วงสุดท้ายของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลโดยสำนักงบประมาณได้เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งเป็นเงินรวมกัน ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท

    รายการที่ว่านั้นเป็นการตั้งงบประมาณชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ให้หน่วยงานของรัฐออกเงินไปให้ก่อนตามมาตรา ๒๘ ของพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยโอนย้ายไปเป็นรายการในงบกลางแทน โดยระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจ (อันนี้เป็นชื่อของโครงการดิจิตอลวอลเลตที่รัฐบาลจะทำในเอกสารงบประมาณ) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท

    นั่นเลยทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการดิจิตอลวอลเลตในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ เพิ่มเป็น ๑๘๗,๗๐๐ ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว แต่จะหาจากไหนสำหรับส่วนที่เหลืออีก ๙๗,๓๐๐ ล้านบาทเพื่อให้ครบ ๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท

    อันนี้น่าสนใจ

    ผมอยากให้ข้อมูลตรงนี้เพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงโอนย้ายรายจ่ายที่จะจัดสรรให้รัฐวิหาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งที่ว่าไปไว้ที่อื่นนั้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดูเหมือนจะเจอหนักกว่าใครเพื่อน เพราะเงินที่คาดว่าจะได้รับการชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ธ.ก.ส.แบกรับภาระอยู่ประมาณ ๓๑,๒๐๐ ล้านบาท (จากยอดทั้งหมดประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) จะถูกเลื่อนออกไป

    แบบนี้อธิบายแบบชาวบ้านก็คือรัฐบาลขอต๊ะหนี้ที่มีกับธ.ก.ส.ไว้ก่อน ส่วนจะชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยให้เมื่อไหร่? ค่อยไปว่ากันในอนาคต

    เรื่องนี้ผมคัดค้านอย่างเต็มที่ตอนที่ถกเถียงกันในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯ

    แต่เมื่อเสียงข้างมากของกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยเฉพาะกรรมาธิการที่มาในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลได้ลงมติให้เป็นไปตามนั้น ผมจึงกลายเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยในกรณีนี้

    แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบจะต้องไปว่ากันต่อในที่ประชุมวาระที่ ๒ และ ๓ เพื่อให้สส.ลงมติให้ความเห็นชอบสุดท้ายก็ตามที

    แต่เรื่องนี้บอกเราได้อย่างหนึ่งว่าโครงการดิจิตอลวอลเลตยังเดินหน้าเต็มตัว แม้จะปรับเปลี่ยนไปเป็นการจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบางไปก่อนในเฟสแรกหรือระลอกแรก (หลักๆ คือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย) ทั้งเพื่อให้ทันใช้เงินให้หมดภายในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

    ส่วนจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ระหว่างวงเงิน ๑๔๕,๐๐๐ หรือ ๑๖๕,๐๐๐ ล้านบาทนั้นคงต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐสภาต่อไปถึงจะชัดเจน

    พายุหมุนทางเศรษฐกิจที่พูดๆ กันก่อนหน้านี้คงไม่ใช่แล้วสำหรับตอนนี้

    แต่ก็อย่างที่บอกมาโดยตลอดแหละครับว่า ผมจะไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินความจำเป็น

    แม้จะมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมายอย่างที่ว่าก็จริง แต่ผมก็แบ่งเวลาเพื่อทำงานที่ผมชอบอยู่เสมอ โชคดีว่าเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะเดินทางมาหาดจอมเทียน เพื่อร่วมงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ทางสำนักพิมพ์โรนินได้ส่งต้นฉบับหนังสือสองเล่มมาให้ผมตรวจทานรอบสุดท้าย

    เที่ยวเขมรฉบับพกพา และ ส่องภาพเขียนที่รัสเซีย

    ผมก็เลยเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเล่มตัวอย่างก่อนที่จะส่งไปให้สำนักพิมพ์ไปจัดการให้ทางโรงพิมพ์ดำเนินการพิมพ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกต่ออีกทอดในอนาคต

    แต่ที่น่ายินดีเป็นที่สุดก็คือเมื่อจบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพ.ศ.๒๕๖๘ ในช่วงต้นเดือนกันยายน (วันที่ ๓-๕ กันยายน) ก็ได้เวลาที่ผมจะไปพักผ่อนปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวที่ญี่ปุ่น (ดูภาพเขียน-ออนเซน) พร้อมกับวางแผนเดินทางไปรัสเซีย (ดูภาพเขียนกับเที่ยวชมเมือง) ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และเตรียมการจะไปเที่ยวเขมรนครวัด-นครธมในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ไปพร้อมกันด้วย

    พ้นจากนั้นจะไปทำอะไรที่ไหนค่อยว่ากันใหม่

    เมื่อมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ มาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของผม ได้ทำอะไรเยอะแยะไปหมด สะสางงานเก่าเริ่มงานใหม่และก้าวเข้าไปในพรมแดนใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกต่างหาก

    แม้ว่าบ้านเมืองของเรายามนี้ จะไม่มีอะไรให้เละมากไปกว่านี้ได้แล้วก็ตามที

    การเจริญอุเบกขาธรรมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ


    ป.ล. เรื่องการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร นี่ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ งานนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมืองไทย อย่าเพิ่งรำคาญอย่าไปหงุดหงิด แม้จะดูแล้วเละตุ้มเป๊ะได้ถึงขนาดนี้ พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์จะพาตัวเองให้รอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งรุนแรงในภายพรรคในเวลานี้ เพราะประเด็นการร่วมรัฐบาลของพรรคและการเป็นรัฐมนตรีของผู้บริหารของพรรคได้อย่างไร คงจะมีคำตอบภายในเร็ววันนี้

    การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าหากฟังจากที่นายเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางไปพูดที่เมืองตากอากาศแจคสันโฮล ในรัฐไวโอมิงว่าถึงเวลาต้องปรับนโยบายการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายได้แล้ว เพราะหมดห่วงเรื่องเงินเฟ้อแล้ว แต่มาห่วงเรื่องการว่างงานแทนจึงทำให้ต้องลดดอกเบี้ย นั่นก็หมายความว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕.๒๕-๕.๕๐ ในปัจจุบันจะเริ่มแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป จะลดมากน้อยลดเร็วช้าแค่ไหนไม่สำคัญเท่ากับทิศทางของดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างชัดเจน

    ค่าเงิน หุ้น และอะไรที่ผูกโยงกับนโยบายการเงินของสหรัฐคงต้องปรับตัวตามไปด้วย

    สำหรับบ้านเราอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ ๒.๕๐ นั้น เท่าที่ฟังจากเกณฑ์ในการตัดสินเรื่องนี้จากผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เจอกันสุดสัปดาห์นี้ คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ

    งานนี้คงต้องมีเรื่องมีราวเรื่องลดไม่ลดดอกเบี้ยระหว่างรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร กับธนาคารแห่งประเทศไทยไปอีกสักระยะหนึ่งครับ

    บันทึกเอาไว้กันลืมว่าเดือนสิงหาคม มีผู้นำสามประเทศในเอเชียต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ (เหมือน ๑๔ ตุลาคมปี ๒๕๑๖ ในบ้านเรา) ไทย (คงไม่ต้องบอกอะไรเพิ่มเติม) และญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ (Fumio Kishida) ได้ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง ส่วนกระบวนการคัดเลือกคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเขาน่าสนใจครับ ถ้ามีเวลาจะหาโอกาสมาคุยให้ฟัง

    ขอจบลงตรงนี้ด้วยการแจ้งให้ทราบว่าพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๒๒,๐๐๐ ล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม หลังจากได้นำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ใครที่รอแจกเงินสดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

    แต่ไม่ใช่โครงการดิจิตอลเลตเตรียมรับได้เลย


    วีระ ธีรภัทร
    วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม 2567”

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/ZPvoLGVkV5QkhJNR/?mibextid=CTbP7E

    Thaitimes
    รีโพสต์ทัศนะของ วีระ ธีรภัทร จากเพจเฟซบุ๊ก สำนักพิมพ์โรนิน 25 สิงหาคม 2567 “ คอลัมน์ ปากท้องชาวบ้าน ไม่มีอะไรจะเละไปกว่านี้(แล้ว) แม้ว่าผมจะไม่ห่วงเรื่องอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ก็ตาม แต่ก็อดคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๔ ไม่ได้ หลังการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมในปีนั้น พรรคเพื่อไทยเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบถล่มทลายสามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ตามมาพร้อมกับการเป็นรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเลยกลายเป็นบททดสอบความสามารถในการบริหารจัดการของรัฐบาลใหม่แบบชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว ผลเป็นไงคงพอจำกันได้ บัดนี้เราได้รัฐบาลใหม่ มีคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าในขณะนี้ยังยุ่งขิงอยู่กับการสรรหาบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลไม่เสร็จ (อันนี้เละเทะมาก) ยังไม่สามารถเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่น้ำเหนือก็หลากมาแล้ว แม้จะไม่น่ากลัวสำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑลเหมือนกับเมื่อสิบสามปีก่อนหน้านี้ก็ตามที อะไรมันจะซ้ำซากกันได้ถึงขนาดนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นข้อใหญ่ในความของเรื่องที่ผมจะคุยอะไรให้ฟังวันนี้ ครับ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมากมาย หลายเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น แม้ผมจะพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุพอสมควร ผมเลยอยากจะเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังแบบเพลินๆ เท่าที่จะคิดได้เป็นสำคัญ แน่นอนล่ะครับว่ารายการ Vision For Thailand ในช่วงหัวค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคมที่คุณทักษิณ ชินวัตร ไปแสดงวิสัยทัศน์ท่ามกลางคนมีอำนาจในแวดวงการเมืองและธุรกิจภาคเอกชนจำนวนมากนั้น ย่อมอยู่ในความสนใจของผู้คน จนลืมกันไปหมดว่าวันดังกล่าวตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีของการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณทักษิณ ความเป็นคุณทักษิณ ความเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และด้วยอำนาจวาสนาบารมีที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะพร่องไปบ้างในช่วงสิบห้าปีที่ลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน สิ่งที่คุณทักษิณคิดจึงมองข้ามไม่ได้ ทักษิณคิดเพื่อไทยทำอย่างที่รู้ๆ กัน ผมและคนอื่นๆ อีกไม่น้อยจึงเสียยอมเวลาฟังสิ่งที่คุณทักษิณคิดและอยากให้เกิดกับสังคมไทยในอนาคตตลอดหนึ่งชั่วโมงเศษที่แกคุยอยู่คนเดียวด้วยความตั้งอกตั้งใจ สำหรับผมสิ่งที่คุณทักษิณคิดออกมาดังๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นประเด็นปัญหาที่เราพอรู้พอทราบกันอยู่ แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าสิ่งที่คุณทักษิณ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเอาไปทำหรืออย่างน้อยก็เอาไปคิดต่อว่าจะทำต่อไปเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษ ตรงนี้จึงมีความหมายมากกว่าการแสดงความคิดเห็นของคนทั่วไป แม้ว่าข้อเสนอจำนวนมากเป็นเรื่องที่ผมพอทราบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โครงการดิจิทัลวอลเลต การชี้นำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยและเพิ่มการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเติมสภาพคล่องให้กับภาคเศรษฐกิจ โครงการแลนด์บริดจ์ โครงการค่าโดยสารรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กองทุนวายุภักษ์ ฯลฯ ล้วนเป็นประเด็นที่จะต้องมีการตัดสินใจและขับเคลื่อนกันต่อไปในรัฐบาลของคุณแพทองธาร ชินวัตร ต่อไป นี่จึงเป็นข้อเสนอคำแนะนำที่ไม่ธรรมดาเพราะสามารถจะกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลได้อย่างแยบคาย ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไรในเรื่องที่ว่าในตอนนี้ อยากจะรอดูก่อนว่าข้อเสนอดังกล่าวจะกลายเป็นนโยบายและมาตรการของรัฐบาลคุณแพทองธารในเนื้อหารายละเอียดอย่างไรให้ชัดเจนเสียก่อน แถมอันที่จริงแล้วในช่วงนี้ต้องบอกว่า ผมอยู่ในช่วงที่ผ่อนคลายมากมีเวลาเหลือมากขึ้น แถมได้ทำสิ่งที่ไม่ได้ทำมานานมากแล้วอีกต่างหาก ลำดับแรกเลย งานในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งผมต้องไปประชุมรวมกันถึง ๔๐ ครั้งตลอดระยะเวลาสองเดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา (นับหนึ่งวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน) ถือว่าจบสิ้นแล้วในแง่ของกระบวนการพิจารณา แม้ยังไม่จบเสียทีเดียวเพราะต้องมีพิธีกรรมอีกเล็กน้อยในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคมจะเป็นการประชุมครั้งที่ ๔๑ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของกรรมาธิการเพื่อตรวจทานและลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ว่าจะเอาแบบไหน? อย่างไร? โดยมีกรรมาธิการและสส.จำนวนไม่น้อย ได้สงวนความเห็นและขอแปรญัตติเพื่อจะไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะมีการลงมติให้ความเห็นชอบในวาระที่ ๒ และ ๓ ในช่วงวันที่ ๓-๕ กันยายนที่จะถึงนี้ อันนี้น่าสนใจติดตามฟังกันครับ งานที่ว่านี้ดำเนินไปโดยยังไม่มีรัฐบาลใหม่ มีแต่เพียงนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ นี่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแปลก แม้ผมจะเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นก็ตามที ลำดับถัดมา ผมไปร่วมรายการ BOT Press Trip 2024 ที่โรงแรม Andaz แถวหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี แม้จะห่างเหินจากการไปร่วมงานในฐานะสื่อมวลชนกับธนาคารแห่งประเทศไทยแบบนี้มานานมากแล้ว แต่ที่ผมอยากไปก็เพราะว่างานนี้มีประเด็นที่ผมอยากสอบถามให้แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรจากปากของผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโอกาสดีมากเพราะว่าไปกันครบถ้วนเกือบทั้งหมด เหมือนเราไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของที่ต้องการได้ทั้งหมดในสถานที่เพียงแห่งเดียว ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย นำโดยคุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ปีหน้าครบวาระห้าปีเป็นต่อไม่ได้) พร้อมกับรองผู้ว่าการและผู้ช่วยผู้ว่าการ ๑๑ คนโดยไม่รวมระดับผู้บริหารระดับปฏิบัติการในฝ่ายต่างๆ ที่มากันเป็นกองทัพ อะไรที่ผมสงสัยไม่แน่ใจในเรื่องนโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบริหารจัดการอยู่ในเวลานี้ จึงถือโอกาสไปร่วมงานนี้ สอบถามพูดคุยกับคนที่ดูแลนโยบายและคนที่ลงมือปฏิบัติการจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนและได้ข้อมูลที่ต้องการครบถ้วน เอาเป็นว่าเรื่องระหว่างรัฐบาล กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เคยปีนเกลียวกันในช่วงรัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่ผ่านมาและที่อาจจะมีการปะทะปะทั่งกันในช่วงรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมพอเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว เรื่องหลายเรื่องที่รัฐบาลอยากทำแล้วทำไม่ได้ เรื่องหลายเรื่องที่ถกเถียงกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าควรทำแบบไหนไม่ควรทำแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นโครงการดิจิตอลวอลเลต การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโบบาย ฯลฯ การได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้ผมพอปะติดปะต่อภาพได้เกือบครบถ้วนตามที่ต้องการแล้ว จะเอาไปทำอะไรต่อที่ไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? เดี๋ยวค่อยมาว่ากันครับ ผมยังมีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังเพิ่มเติมแบบลงรายละเอียดสักหน่อย เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลเอาไว้ตรงนี้เพื่อให้คุณๆ ได้ติดตามความเป็นไปของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังได้อย่างครบถ้วนอยู่เรื่องหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นควรรู้ควรทราบอย่างยิ่ง เรื่องของเรื่องก็คือในช่วงสุดท้ายของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลโดยสำนักงบประมาณได้เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายการจัดสรรเงินงบประมาณให้กับรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งเป็นเงินรวมกัน ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท รายการที่ว่านั้นเป็นการตั้งงบประมาณชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ให้หน่วยงานของรัฐออกเงินไปให้ก่อนตามมาตรา ๒๘ ของพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยโอนย้ายไปเป็นรายการในงบกลางแทน โดยระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข็มแข็งของเศรษฐกิจ (อันนี้เป็นชื่อของโครงการดิจิตอลวอลเลตที่รัฐบาลจะทำในเอกสารงบประมาณ) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท นั่นเลยทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการดิจิตอลวอลเลตในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๘ เพิ่มเป็น ๑๘๗,๗๐๐ ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว แต่จะหาจากไหนสำหรับส่วนที่เหลืออีก ๙๗,๓๐๐ ล้านบาทเพื่อให้ครบ ๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท อันนี้น่าสนใจ ผมอยากให้ข้อมูลตรงนี้เพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงโอนย้ายรายจ่ายที่จะจัดสรรให้รัฐวิหาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ๕ แห่งที่ว่าไปไว้ที่อื่นนั้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรดูเหมือนจะเจอหนักกว่าใครเพื่อน เพราะเงินที่คาดว่าจะได้รับการชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยที่ธ.ก.ส.แบกรับภาระอยู่ประมาณ ๓๑,๒๐๐ ล้านบาท (จากยอดทั้งหมดประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) จะถูกเลื่อนออกไป แบบนี้อธิบายแบบชาวบ้านก็คือรัฐบาลขอต๊ะหนี้ที่มีกับธ.ก.ส.ไว้ก่อน ส่วนจะชำระคืนเงินต้นและชดเชยดอกเบี้ยให้เมื่อไหร่? ค่อยไปว่ากันในอนาคต เรื่องนี้ผมคัดค้านอย่างเต็มที่ตอนที่ถกเถียงกันในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯ แต่เมื่อเสียงข้างมากของกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยเฉพาะกรรมาธิการที่มาในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลได้ลงมติให้เป็นไปตามนั้น ผมจึงกลายเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อยในกรณีนี้ แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบจะต้องไปว่ากันต่อในที่ประชุมวาระที่ ๒ และ ๓ เพื่อให้สส.ลงมติให้ความเห็นชอบสุดท้ายก็ตามที แต่เรื่องนี้บอกเราได้อย่างหนึ่งว่าโครงการดิจิตอลวอลเลตยังเดินหน้าเต็มตัว แม้จะปรับเปลี่ยนไปเป็นการจ่ายเงินสดให้กลุ่มเปราะบางไปก่อนในเฟสแรกหรือระลอกแรก (หลักๆ คือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย) ทั้งเพื่อให้ทันใช้เงินให้หมดภายในปีงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ซึ่งจะสิ้นสุดภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนจะเป็นเท่าไหร่กันแน่ระหว่างวงเงิน ๑๔๕,๐๐๐ หรือ ๑๖๕,๐๐๐ ล้านบาทนั้นคงต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐสภาต่อไปถึงจะชัดเจน พายุหมุนทางเศรษฐกิจที่พูดๆ กันก่อนหน้านี้คงไม่ใช่แล้วสำหรับตอนนี้ แต่ก็อย่างที่บอกมาโดยตลอดแหละครับว่า ผมจะไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานเกินความจำเป็น แม้จะมีเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมายอย่างที่ว่าก็จริง แต่ผมก็แบ่งเวลาเพื่อทำงานที่ผมชอบอยู่เสมอ โชคดีว่าเมื่อวันศุกร์ก่อนที่จะเดินทางมาหาดจอมเทียน เพื่อร่วมงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ทางสำนักพิมพ์โรนินได้ส่งต้นฉบับหนังสือสองเล่มมาให้ผมตรวจทานรอบสุดท้าย เที่ยวเขมรฉบับพกพา และ ส่องภาพเขียนที่รัสเซีย ผมก็เลยเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเล่มตัวอย่างก่อนที่จะส่งไปให้สำนักพิมพ์ไปจัดการให้ทางโรงพิมพ์ดำเนินการพิมพ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกต่ออีกทอดในอนาคต แต่ที่น่ายินดีเป็นที่สุดก็คือเมื่อจบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพ.ศ.๒๕๖๘ ในช่วงต้นเดือนกันยายน (วันที่ ๓-๕ กันยายน) ก็ได้เวลาที่ผมจะไปพักผ่อนปลีกวิเวกเป็นการชั่วคราวที่ญี่ปุ่น (ดูภาพเขียน-ออนเซน) พร้อมกับวางแผนเดินทางไปรัสเซีย (ดูภาพเขียนกับเที่ยวชมเมือง) ในช่วงต้นเดือนตุลาคม และเตรียมการจะไปเที่ยวเขมรนครวัด-นครธมในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ไปพร้อมกันด้วย พ้นจากนั้นจะไปทำอะไรที่ไหนค่อยว่ากันใหม่ เมื่อมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ๒๕๖๗ มาจนถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของผม ได้ทำอะไรเยอะแยะไปหมด สะสางงานเก่าเริ่มงานใหม่และก้าวเข้าไปในพรมแดนใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีกต่างหาก แม้ว่าบ้านเมืองของเรายามนี้ จะไม่มีอะไรให้เละมากไปกว่านี้ได้แล้วก็ตามที การเจริญอุเบกขาธรรมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ ป.ล. เรื่องการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร นี่ต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยครับ งานนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมืองไทย อย่าเพิ่งรำคาญอย่าไปหงุดหงิด แม้จะดูแล้วเละตุ้มเป๊ะได้ถึงขนาดนี้ พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์จะพาตัวเองให้รอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งรุนแรงในภายพรรคในเวลานี้ เพราะประเด็นการร่วมรัฐบาลของพรรคและการเป็นรัฐมนตรีของผู้บริหารของพรรคได้อย่างไร คงจะมีคำตอบภายในเร็ววันนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงวันที่ ๑๗-๑๘ กันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าหากฟังจากที่นายเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางไปพูดที่เมืองตากอากาศแจคสันโฮล ในรัฐไวโอมิงว่าถึงเวลาต้องปรับนโยบายการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายได้แล้ว เพราะหมดห่วงเรื่องเงินเฟ้อแล้ว แต่มาห่วงเรื่องการว่างงานแทนจึงทำให้ต้องลดดอกเบี้ย นั่นก็หมายความว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่กำหนดไว้ร้อยละ ๕.๒๕-๕.๕๐ ในปัจจุบันจะเริ่มแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป จะลดมากน้อยลดเร็วช้าแค่ไหนไม่สำคัญเท่ากับทิศทางของดอกเบี้ยมีแนวโน้มเป็นขาลงอย่างชัดเจน ค่าเงิน หุ้น และอะไรที่ผูกโยงกับนโยบายการเงินของสหรัฐคงต้องปรับตัวตามไปด้วย สำหรับบ้านเราอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ ๒.๕๐ นั้น เท่าที่ฟังจากเกณฑ์ในการตัดสินเรื่องนี้จากผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกรรมการเสียงข้างน้อยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เจอกันสุดสัปดาห์นี้ คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ งานนี้คงต้องมีเรื่องมีราวเรื่องลดไม่ลดดอกเบี้ยระหว่างรัฐบาลคุณแพทองธาร ชินวัตร กับธนาคารแห่งประเทศไทยไปอีกสักระยะหนึ่งครับ บันทึกเอาไว้กันลืมว่าเดือนสิงหาคม มีผู้นำสามประเทศในเอเชียต้องเผชิญชะตากรรมที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ (เหมือน ๑๔ ตุลาคมปี ๒๕๑๖ ในบ้านเรา) ไทย (คงไม่ต้องบอกอะไรเพิ่มเติม) และญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ (Fumio Kishida) ได้ประกาศวางมือลงจากตำแหน่ง ส่วนกระบวนการคัดเลือกคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเขาน่าสนใจครับ ถ้ามีเวลาจะหาโอกาสมาคุยให้ฟัง ขอจบลงตรงนี้ด้วยการแจ้งให้ทราบว่าพรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณพ.ศ๒๕๖๗ วงเงิน ๑๒๒,๐๐๐ ล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม หลังจากได้นำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครที่รอแจกเงินสดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่โครงการดิจิตอลเลตเตรียมรับได้เลย วีระ ธีรภัทร วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม 2567” ที่มา https://www.facebook.com/share/p/ZPvoLGVkV5QkhJNR/?mibextid=CTbP7E Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 716 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานเข้า! ธ.แห่งประเทศไทย เตือน
    แอปทางรัฐไม่ปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคลถูกแฮ็กได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    งานเข้า! ธ.แห่งประเทศไทย เตือน แอปทางรัฐไม่ปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคลถูกแฮ็กได้ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ไทยกลับมาเนื้อหอมในสายตามิจฉาชีพต่างชาติ เตรียมจ้างแฮกเกอร์ตัวเทพ ล้วงข้อมูลคนไทยจาก "ทางรัฐ"
    #7ดอกจิก
    #แอพทางรัฐ
    ♣ ไทยกลับมาเนื้อหอมในสายตามิจฉาชีพต่างชาติ เตรียมจ้างแฮกเกอร์ตัวเทพ ล้วงข้อมูลคนไทยจาก "ทางรัฐ" #7ดอกจิก #แอพทางรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ชาวบ้านยังไม่ทันแห่ลงทะเบียน ก็ล่มซะแล้ว โดนพี่มิจ-ฉา-ชีพ สวมรอยแห่ลง
    #7ดอกจิก
    #แอปทางรัฐ
    ♣ ชาวบ้านยังไม่ทันแห่ลงทะเบียน ก็ล่มซะแล้ว โดนพี่มิจ-ฉา-ชีพ สวมรอยแห่ลง #7ดอกจิก #แอปทางรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • 61.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/?
    62.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!!
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5093
    63.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม
    โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ
    รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5040
    64.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    65.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy)
    เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5060
    66.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
    ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ
    เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
    สิ่งที่ส่งมาด้วย
    ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง
    https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk
    ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค
    https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk
    ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829
    บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น.

    ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น.
    https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5058
    67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    68.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ
    ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา
    กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง
    ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน
    แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้
    https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5140
    69.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67
    เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป
    เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5202
    70.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม
    เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
    นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา
    สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ
    เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5204
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a
    71.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด
    ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty)
    https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i
    เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction=
    72.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA
    เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน
    เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย
    https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp
    ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย
    ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk
    ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk
    ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk
    ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk
    ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk
    ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk
    73.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“
    และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน)
    สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา
    และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์
    มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ
    รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453
    74.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่
    https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp
    75.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง
    ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
    ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์
    https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5358
    76.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA
    https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5379
    77. วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม
    นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์
    ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp
    ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น
    ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf )
    ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563
    https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5528
    78.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว?
    [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x)
    79.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2
    แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด
    ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579)
    80.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน
    ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
    เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท
    ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด
    ฎีกาที่กราบบังคมทูล
    [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu)
    [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg)
    81.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน
    สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    82.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704
    https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4
    83.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!”
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180
    84.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe
    85.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit
    https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR
    86.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
    ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม
    https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp
    87.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
    ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
    ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    88.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน
    https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/?
    89.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny)
    https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    90.วันที่ 8 ก.ค.2567 ประชาชนและเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อทวงสิทธิทางกัญชาเพื่อประชาชน
    https://www.amarintv.com/news/detail/224142
    https://ch3plus.com/news/social/morning/407582
    รวมภาพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7779990835431195&id=100002610663072 ไลฟ์จากอาจารย์เดชา ศิริภัทร และม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3689122691344973&id=100007418351447
    🇹🇭61.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/? 🇹🇭62.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!! https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/? https://t.me/ThaiPitaksithData/5093 🇹🇭63.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน https://t.me/ThaiPitaksithData/5040 🇹🇭64.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 🇹🇭65.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5060 🇹🇭66.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829 บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น. ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น. https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5058 🇹🇭67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html 🇹🇭68.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้ https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5140 🇹🇭69.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67 เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง https://t.me/ThaiPitaksithData/5202 🇹🇭70.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ https://t.me/ThaiPitaksithData/5204 https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a 🇹🇭71.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty) https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction= 🇹🇭72.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk 🇹🇭73.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“ และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน) สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์ มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453 🇹🇭74.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭75.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์ https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5358 🇹🇭76.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5379 🇹🇭77. วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf ) ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563 https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF https://t.me/ThaiPitaksithData/5528 🇹🇭78.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว? [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x) 🇹🇭79.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579) 🇹🇭80.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด ฎีกาที่กราบบังคมทูล [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu) [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg) 🇹🇭81.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g 🇹🇭82.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704 https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4 🇹🇭83.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!” เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180 🇹🇭84.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe 🇹🇭85.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR 🇹🇭86.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭87.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html 🇹🇭88.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839 https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/? 🇹🇭89.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny) https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE 🇹🇭90.วันที่ 8 ก.ค.2567 ประชาชนและเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อทวงสิทธิทางกัญชาเพื่อประชาชน https://www.amarintv.com/news/detail/224142 https://ch3plus.com/news/social/morning/407582 รวมภาพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7779990835431195&id=100002610663072 ไลฟ์จากอาจารย์เดชา ศิริภัทร และม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3689122691344973&id=100007418351447
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปุกาด แอพทางรัฐ "ล่ม" ขออภัยในความไม่สะดวก กีบแอบโหลดกันเยอะมาก อยากได้แหละดูออก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ปุกาด แอพทางรัฐ "ล่ม" ขออภัยในความไม่สะดวก กีบแอบโหลดกันเยอะมาก อยากได้แหละดูออก #คิงส์โพธิ์แดง
    Wow
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว