“You Can’t cURL a Border” – เมื่อการเดินทางกลายเป็นปัญหาทางรัฐศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง
Vadim Drobinin นักพัฒนา iOS และนักเดินทางตัวยง เผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยคิด—การเดินทางระหว่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของตั๋วเครื่องบินและวีซ่า แต่คือการจัดการ “สถานะ” ที่ซับซ้อนระหว่างระบบราชการหลายประเทศ เช่น กฎ Schengen, การนับวันภาษีของ UK, การหมดอายุของพาสปอร์ต หรือแม้แต่การเปลี่ยนเขตเวลาในช่วงรอมฎอนของโมร็อกโก
เขาเล่าว่า ก่อนจะกดซื้อไฟลต์ราคาถูกไปไอซ์แลนด์ เขาต้องใช้เวลา 20 นาทีตรวจสอบว่า “ทริปนี้จะทำให้สถานะอะไรพังไหม” เช่น ทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษีใน UK หรือทำให้เกินจำนวนวันที่อนุญาตใน Schengen
จากความยุ่งยากนี้ เขาสร้างแอปชื่อ “Residency” ที่ทำหน้าที่เหมือน “ลินเตอร์” หรือเครื่องตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนเดินทาง โดยจำลองสถานะจากข้อมูลการเดินทาง, เอกสาร, เขตเวลา และกฎของแต่ละประเทศ เพื่อบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น”
ปัญหาการเดินทางข้ามประเทศ
ระบบราชการแต่ละประเทศมีเกณฑ์ต่างกันในการนับ “วัน”
Schengen ใช้ระบบ rolling window, UK นับเที่ยงคืน, Morocco เปลี่ยนเขตเวลาในรอมฎอน
พาสปอร์ตมีเงื่อนไขเช่น “ต้องมีหน้าเปล่า” หรือ “ต้องมีอายุเกิน 6 เดือน”
การสร้างแอป Residency
แอปทำงานแบบ local ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
จำลองสถานะจากข้อมูลจริง เช่น รูปถ่าย, GPS, เอกสาร
ใช้ “state machine” เพื่อจัดการกฎของแต่ละประเทศ
รองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น timezone database หรือกฎใหม่
การใช้งานจริง
แอปช่วยตรวจสอบก่อนซื้อไฟลต์ไปไอซ์แลนด์
บอกได้ว่าไม่ต้องใช้ IDP, ไม่เกินวันใน Schengen, และจะหมดสถานะภาษี UK
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเห็นข้อมูลตรงกันกับแอป
แนวคิดเบื้องหลัง
“You can’t cURL a border” หมายถึง API ไม่สามารถบอกสถานะคุณได้
ต้องสร้างระบบที่เข้าใจ “state” ของคุณเอง
เป้าหมายไม่ใช่โน้มน้าวเจ้าหน้าที่ แต่คือ “ไม่พลาดในสิ่งที่เขาจะจับผิดคุณได้”
ความซับซ้อนของระบบราชการ
ไม่มีระบบกลางที่บอกสถานะคุณได้ครบทุกมิติ
การนับวัน, เขตเวลา, และเงื่อนไขเอกสารแตกต่างกันมาก
ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจสอบก่อนเดินทาง
อาจทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษี
อาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองเพราะพาสปอร์ตหมดอายุหรือไม่ตรงเงื่อนไข
การเดินทางผ่านประเทศอาจนับเป็น “อยู่” แม้จะไม่ได้ออกจากสนามบิน
https://drobinin.com/posts/you-cant-curl-a-border/
Vadim Drobinin นักพัฒนา iOS และนักเดินทางตัวยง เผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยคิด—การเดินทางระหว่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของตั๋วเครื่องบินและวีซ่า แต่คือการจัดการ “สถานะ” ที่ซับซ้อนระหว่างระบบราชการหลายประเทศ เช่น กฎ Schengen, การนับวันภาษีของ UK, การหมดอายุของพาสปอร์ต หรือแม้แต่การเปลี่ยนเขตเวลาในช่วงรอมฎอนของโมร็อกโก
เขาเล่าว่า ก่อนจะกดซื้อไฟลต์ราคาถูกไปไอซ์แลนด์ เขาต้องใช้เวลา 20 นาทีตรวจสอบว่า “ทริปนี้จะทำให้สถานะอะไรพังไหม” เช่น ทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษีใน UK หรือทำให้เกินจำนวนวันที่อนุญาตใน Schengen
จากความยุ่งยากนี้ เขาสร้างแอปชื่อ “Residency” ที่ทำหน้าที่เหมือน “ลินเตอร์” หรือเครื่องตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนเดินทาง โดยจำลองสถานะจากข้อมูลการเดินทาง, เอกสาร, เขตเวลา และกฎของแต่ละประเทศ เพื่อบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น”
ปัญหาการเดินทางข้ามประเทศ
ระบบราชการแต่ละประเทศมีเกณฑ์ต่างกันในการนับ “วัน”
Schengen ใช้ระบบ rolling window, UK นับเที่ยงคืน, Morocco เปลี่ยนเขตเวลาในรอมฎอน
พาสปอร์ตมีเงื่อนไขเช่น “ต้องมีหน้าเปล่า” หรือ “ต้องมีอายุเกิน 6 เดือน”
การสร้างแอป Residency
แอปทำงานแบบ local ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
จำลองสถานะจากข้อมูลจริง เช่น รูปถ่าย, GPS, เอกสาร
ใช้ “state machine” เพื่อจัดการกฎของแต่ละประเทศ
รองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น timezone database หรือกฎใหม่
การใช้งานจริง
แอปช่วยตรวจสอบก่อนซื้อไฟลต์ไปไอซ์แลนด์
บอกได้ว่าไม่ต้องใช้ IDP, ไม่เกินวันใน Schengen, และจะหมดสถานะภาษี UK
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเห็นข้อมูลตรงกันกับแอป
แนวคิดเบื้องหลัง
“You can’t cURL a border” หมายถึง API ไม่สามารถบอกสถานะคุณได้
ต้องสร้างระบบที่เข้าใจ “state” ของคุณเอง
เป้าหมายไม่ใช่โน้มน้าวเจ้าหน้าที่ แต่คือ “ไม่พลาดในสิ่งที่เขาจะจับผิดคุณได้”
ความซับซ้อนของระบบราชการ
ไม่มีระบบกลางที่บอกสถานะคุณได้ครบทุกมิติ
การนับวัน, เขตเวลา, และเงื่อนไขเอกสารแตกต่างกันมาก
ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจสอบก่อนเดินทาง
อาจทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษี
อาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองเพราะพาสปอร์ตหมดอายุหรือไม่ตรงเงื่อนไข
การเดินทางผ่านประเทศอาจนับเป็น “อยู่” แม้จะไม่ได้ออกจากสนามบิน
https://drobinin.com/posts/you-cant-curl-a-border/
📰 “You Can’t cURL a Border” – เมื่อการเดินทางกลายเป็นปัญหาทางรัฐศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง
Vadim Drobinin นักพัฒนา iOS และนักเดินทางตัวยง เผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยคิด—การเดินทางระหว่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของตั๋วเครื่องบินและวีซ่า แต่คือการจัดการ “สถานะ” ที่ซับซ้อนระหว่างระบบราชการหลายประเทศ เช่น กฎ Schengen, การนับวันภาษีของ UK, การหมดอายุของพาสปอร์ต หรือแม้แต่การเปลี่ยนเขตเวลาในช่วงรอมฎอนของโมร็อกโก
เขาเล่าว่า ก่อนจะกดซื้อไฟลต์ราคาถูกไปไอซ์แลนด์ เขาต้องใช้เวลา 20 นาทีตรวจสอบว่า “ทริปนี้จะทำให้สถานะอะไรพังไหม” เช่น ทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษีใน UK หรือทำให้เกินจำนวนวันที่อนุญาตใน Schengen
จากความยุ่งยากนี้ เขาสร้างแอปชื่อ “Residency” ที่ทำหน้าที่เหมือน “ลินเตอร์” หรือเครื่องตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนเดินทาง โดยจำลองสถานะจากข้อมูลการเดินทาง, เอกสาร, เขตเวลา และกฎของแต่ละประเทศ เพื่อบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น”
✅ ปัญหาการเดินทางข้ามประเทศ
➡️ ระบบราชการแต่ละประเทศมีเกณฑ์ต่างกันในการนับ “วัน”
➡️ Schengen ใช้ระบบ rolling window, UK นับเที่ยงคืน, Morocco เปลี่ยนเขตเวลาในรอมฎอน
➡️ พาสปอร์ตมีเงื่อนไขเช่น “ต้องมีหน้าเปล่า” หรือ “ต้องมีอายุเกิน 6 เดือน”
✅ การสร้างแอป Residency
➡️ แอปทำงานแบบ local ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
➡️ จำลองสถานะจากข้อมูลจริง เช่น รูปถ่าย, GPS, เอกสาร
➡️ ใช้ “state machine” เพื่อจัดการกฎของแต่ละประเทศ
➡️ รองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น timezone database หรือกฎใหม่
✅ การใช้งานจริง
➡️ แอปช่วยตรวจสอบก่อนซื้อไฟลต์ไปไอซ์แลนด์
➡️ บอกได้ว่าไม่ต้องใช้ IDP, ไม่เกินวันใน Schengen, และจะหมดสถานะภาษี UK
➡️ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเห็นข้อมูลตรงกันกับแอป
✅ แนวคิดเบื้องหลัง
➡️ “You can’t cURL a border” หมายถึง API ไม่สามารถบอกสถานะคุณได้
➡️ ต้องสร้างระบบที่เข้าใจ “state” ของคุณเอง
➡️ เป้าหมายไม่ใช่โน้มน้าวเจ้าหน้าที่ แต่คือ “ไม่พลาดในสิ่งที่เขาจะจับผิดคุณได้”
‼️ ความซับซ้อนของระบบราชการ
⛔ ไม่มีระบบกลางที่บอกสถานะคุณได้ครบทุกมิติ
⛔ การนับวัน, เขตเวลา, และเงื่อนไขเอกสารแตกต่างกันมาก
‼️ ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจสอบก่อนเดินทาง
⛔ อาจทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษี
⛔ อาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองเพราะพาสปอร์ตหมดอายุหรือไม่ตรงเงื่อนไข
⛔ การเดินทางผ่านประเทศอาจนับเป็น “อยู่” แม้จะไม่ได้ออกจากสนามบิน
https://drobinin.com/posts/you-cant-curl-a-border/
0 Comments
0 Shares
32 Views
0 Reviews