• จริงเท็จไม่ทราบได้.

    ..Patriots and Frog Family

    “คิดอย่างมีตรรกะ!”

    ในตอนนี้ของภารกิจ คำพูดเหล่านั้นมีความสำคัญมาก เพราะเราต้องจำไว้ว่าเรากำลังอยู่ในสงคราม... ใช่ นี่คือภาพยนตร์ แต่เรายังคงอยู่ในสงครามและต้องเล่นตามบทบาทของเรา โอเค มาร์ นี่มันตรรกะได้ยังไงเนี่ย? โอเค เริ่มเลย... ใช่แล้ว คิวบอกเราว่านี่คือภาพยนตร์ เพราะตัวร้ายหลักทั้งหมดถูกกำจัดออกไปแล้ว (ศาลทหาร การประหารชีวิต หรือกิตโม่-ตลอดไป-ตลอดไป) ก่อนที่พวกเราส่วนใหญ่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เหมือนกับในสงครามทุกครั้ง การทำความสะอาดเกิดขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ตอนนี้ แต่... แล้วภาพยนตร์ล่ะ? ภาพยนตร์ต้องการโครงเรื่อง ตัวละครหลัก และผู้ชม เพื่อให้พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเบื้องหลัง นั่นคือจุดที่เราเข้ามาในฐานะนักข่าวดิจิทัลของฟลินน์... ในฐานะ F.R.OG. ของฟลินน์!!! เราเริ่มแคมเปญด้วยส่วนที่ทรงพลังที่สุดในตอนแรก... แคมเปญ #SaveTheChildren ของเรา เมื่อเราปลุกคนจำนวนมากให้ตื่นขึ้นแล้ว เราก็ได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าใคร อะไร เมื่อไหร่ อย่างไร และทำไมลูกๆ ของเราจึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ จากนั้นเราก็ได้ข้อมูลรายละเอียดมากขึ้น เช่น อะดรีโนโครม คลับรองเท้าสีแดง คลับตาสีดำ คลับพิซซ่า การกินเนื้อคน ฯลฯ และเนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ได้เผยแพร่สู่สาธารณะ เราจึงสามารถรวบรวมกบมาช่วยเหลือเราได้มากขึ้น เราเปิดโปงนักการเมือง ฮอลลีวูด นักกีฬา และนักดนตรีชั้นนำ ฯลฯ ขณะที่ทีมกบของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เราได้กลายเป็นข่าว จากนั้นเราก็กลายเป็นนักข่าวดิจิทัลที่คนอื่นไว้วางใจในการหาความจริง ศัตรูไม่เคยเห็นเรามาก่อน พวกเขาเชื่อมั่นว่าคนส่วนใหญ่ถูกล้างสมองจนหมดสิ้น เราทำให้พวกเขาประหลาดใจ คนส่วนใหญ่ที่เงียบงันลุกจากโซฟาและเข้าร่วมกับเรา อย่าให้ใครบอกคุณว่าตอนนี้เราไม่ใช่คนส่วนใหญ่เพราะเราเป็น!!! ใช่ หลายคนยังคงเป็น "แกะ" แต่ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ได้ยินความจริง พวกเขาเป็นแกะเพราะพวกเขาเลือกที่จะเป็น พวกเขาสนุกกับการเป็นทาสและถูกบอกว่าต้องทำอะไรทุกวินาทีของวัน มีคนอื่นๆ ที่คิดว่าเราทุกคนเป็นนักทฤษฎีสมคบคิดเช่นกัน คนพวกนั้นต้องการหลักฐาน แต่เมื่อเรายอมรับความจริงกับพวกเขา พวกเขากลับเลือกที่จะไม่เชื่อ เพราะพวกเขาไม่อยากยอมรับว่าเราถูกชักจูงทางความคิดมาหลายสิบปี ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้อง "คิดอย่างมีตรรกะ"... หยุดเชื่อรายงานของสื่อกระแสหลักและตัวเลขโควิดปลอมๆ ซะที ทำไมคุณยังเสียเวลาดูหรืออ่านเรื่องไร้สาระของพวกเขาอีก??? คิดอย่างมีตรรกะ... คิวบอกว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลเท็จ... ตัวอย่าง... เมื่อถูกถาม คิวบอกว่า จอห์น เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ไม่ได้มีชีวิตอยู่ ฉันรู้เป็นการส่วนตัวและไม่ต้องสงสัยเลยว่าจอห์นยังมีชีวิตอยู่ ทำไมคิวถึงบอกว่าเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ คุณสามารถหาเหตุผลนั้นได้ด้วยตัวเองใช่ไหม ในสงคราม คุณไม่เคยบอกแผนการของคุณกับศัตรู คุณสังเกตไหมว่าในช่วงหลังนี้ มีข่าวเรื่อง "นั่นไม่เป็นความจริง" เกิดขึ้นมากมาย และมีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า "กำลังต่อสู้" อยู่ คิดอย่างมีตรรกะ บางครั้งการเบี่ยงเบนความสนใจก็จำเป็นเพื่อให้ทุกคนจับจ้องไปที่ข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งทำหน้าที่ให้สำเร็จ ฉันถูกถามว่านายพลฟลินน์เป็นสมาชิกของ Cabal จริงหรือไม่...และถ้าใช่ ฉันจะต้องเปลี่ยนชื่อกลุ่ม Signal ของฉันซึ่งเรียกว่า "Flynn's F.R.O.G.s" หรือเปล่า โอ้พระเจ้า...แน่นอน ไม่ ไม่ ไม่!!! ฉันได้มองเข้าไปในดวงตาของนายพลและพบว่าเขามีความมุ่งมั่นและภักดีต่อสหรัฐอเมริกาและพลเมืองของประเทศอย่างมาก!!! เขายังซื่อสัตย์ต่อประธานาธิบดีทรัมป์และกลุ่มหมวกขาวอย่างมากอีกด้วย!!! คิดอย่างมีเหตุผล คิดถึงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ คิดถึงผู้รักชาติในระดับสูงที่ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวมากมายเพื่อภารกิจนี้ พูดถึงการเสียสละชีวิตส่วนตัว ลองดูการเสียสละชีวิตส่วนตัวทั้งหมดที่คุณในฐานะกบและผู้รักชาติต้องเผชิญ ประเด็นของฉันในวันนี้คือ เมื่อคุณได้ยินอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นความจริงสำหรับคุณ ให้คิดอย่างมีเหตุผลและดูว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ เพียงแค่เชื่อมั่นว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว เราแข็งแกร่ง!!! ตอนนี้ไม่เคยสำคัญไปกว่าตอนนี้ในการค้นคว้าทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณต้องคิดด้วยตัวเองจริงๆ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแท้จริง เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องเชื่อมั่นในพระเจ้า เชื่อมั่นในแผนการ หากคุณค้นคว้าข้อมูล คุณจะเข้าใจแผนการได้ดีขึ้นมาก

    เข้าร่วมตอนนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป:
    https://t.me/JFK_Q17
    จริงเท็จไม่ทราบได้. ..Patriots and Frog Family “คิดอย่างมีตรรกะ!” ในตอนนี้ของภารกิจ คำพูดเหล่านั้นมีความสำคัญมาก เพราะเราต้องจำไว้ว่าเรากำลังอยู่ในสงคราม... ใช่ นี่คือภาพยนตร์ แต่เรายังคงอยู่ในสงครามและต้องเล่นตามบทบาทของเรา โอเค มาร์ นี่มันตรรกะได้ยังไงเนี่ย? โอเค เริ่มเลย... ใช่แล้ว คิวบอกเราว่านี่คือภาพยนตร์ เพราะตัวร้ายหลักทั้งหมดถูกกำจัดออกไปแล้ว (ศาลทหาร การประหารชีวิต หรือกิตโม่-ตลอดไป-ตลอดไป) ก่อนที่พวกเราส่วนใหญ่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เหมือนกับในสงครามทุกครั้ง การทำความสะอาดเกิดขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ตอนนี้ แต่... แล้วภาพยนตร์ล่ะ? ภาพยนตร์ต้องการโครงเรื่อง ตัวละครหลัก และผู้ชม เพื่อให้พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเบื้องหลัง นั่นคือจุดที่เราเข้ามาในฐานะนักข่าวดิจิทัลของฟลินน์... ในฐานะ F.R.OG. ของฟลินน์!!! เราเริ่มแคมเปญด้วยส่วนที่ทรงพลังที่สุดในตอนแรก... แคมเปญ #SaveTheChildren ของเรา เมื่อเราปลุกคนจำนวนมากให้ตื่นขึ้นแล้ว เราก็ได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าใคร อะไร เมื่อไหร่ อย่างไร และทำไมลูกๆ ของเราจึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ จากนั้นเราก็ได้ข้อมูลรายละเอียดมากขึ้น เช่น อะดรีโนโครม คลับรองเท้าสีแดง คลับตาสีดำ คลับพิซซ่า การกินเนื้อคน ฯลฯ และเนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ได้เผยแพร่สู่สาธารณะ เราจึงสามารถรวบรวมกบมาช่วยเหลือเราได้มากขึ้น เราเปิดโปงนักการเมือง ฮอลลีวูด นักกีฬา และนักดนตรีชั้นนำ ฯลฯ ขณะที่ทีมกบของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เราได้กลายเป็นข่าว จากนั้นเราก็กลายเป็นนักข่าวดิจิทัลที่คนอื่นไว้วางใจในการหาความจริง ศัตรูไม่เคยเห็นเรามาก่อน พวกเขาเชื่อมั่นว่าคนส่วนใหญ่ถูกล้างสมองจนหมดสิ้น เราทำให้พวกเขาประหลาดใจ คนส่วนใหญ่ที่เงียบงันลุกจากโซฟาและเข้าร่วมกับเรา อย่าให้ใครบอกคุณว่าตอนนี้เราไม่ใช่คนส่วนใหญ่เพราะเราเป็น!!! ใช่ หลายคนยังคงเป็น "แกะ" แต่ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ได้ยินความจริง พวกเขาเป็นแกะเพราะพวกเขาเลือกที่จะเป็น พวกเขาสนุกกับการเป็นทาสและถูกบอกว่าต้องทำอะไรทุกวินาทีของวัน มีคนอื่นๆ ที่คิดว่าเราทุกคนเป็นนักทฤษฎีสมคบคิดเช่นกัน คนพวกนั้นต้องการหลักฐาน แต่เมื่อเรายอมรับความจริงกับพวกเขา พวกเขากลับเลือกที่จะไม่เชื่อ เพราะพวกเขาไม่อยากยอมรับว่าเราถูกชักจูงทางความคิดมาหลายสิบปี ดังนั้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้อง "คิดอย่างมีตรรกะ"... หยุดเชื่อรายงานของสื่อกระแสหลักและตัวเลขโควิดปลอมๆ ซะที ทำไมคุณยังเสียเวลาดูหรืออ่านเรื่องไร้สาระของพวกเขาอีก??? คิดอย่างมีตรรกะ... คิวบอกว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลเท็จ... ตัวอย่าง... เมื่อถูกถาม คิวบอกว่า จอห์น เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ไม่ได้มีชีวิตอยู่ ฉันรู้เป็นการส่วนตัวและไม่ต้องสงสัยเลยว่าจอห์นยังมีชีวิตอยู่ ทำไมคิวถึงบอกว่าเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ คุณสามารถหาเหตุผลนั้นได้ด้วยตัวเองใช่ไหม ในสงคราม คุณไม่เคยบอกแผนการของคุณกับศัตรู คุณสังเกตไหมว่าในช่วงหลังนี้ มีข่าวเรื่อง "นั่นไม่เป็นความจริง" เกิดขึ้นมากมาย และมีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า "กำลังต่อสู้" อยู่ คิดอย่างมีตรรกะ บางครั้งการเบี่ยงเบนความสนใจก็จำเป็นเพื่อให้ทุกคนจับจ้องไปที่ข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งทำหน้าที่ให้สำเร็จ ฉันถูกถามว่านายพลฟลินน์เป็นสมาชิกของ Cabal จริงหรือไม่...และถ้าใช่ ฉันจะต้องเปลี่ยนชื่อกลุ่ม Signal ของฉันซึ่งเรียกว่า "Flynn's F.R.O.G.s" หรือเปล่า โอ้พระเจ้า...แน่นอน ไม่ ไม่ ไม่!!! ฉันได้มองเข้าไปในดวงตาของนายพลและพบว่าเขามีความมุ่งมั่นและภักดีต่อสหรัฐอเมริกาและพลเมืองของประเทศอย่างมาก!!! เขายังซื่อสัตย์ต่อประธานาธิบดีทรัมป์และกลุ่มหมวกขาวอย่างมากอีกด้วย!!! คิดอย่างมีเหตุผล คิดถึงสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ คิดถึงผู้รักชาติในระดับสูงที่ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวมากมายเพื่อภารกิจนี้ พูดถึงการเสียสละชีวิตส่วนตัว ลองดูการเสียสละชีวิตส่วนตัวทั้งหมดที่คุณในฐานะกบและผู้รักชาติต้องเผชิญ ประเด็นของฉันในวันนี้คือ เมื่อคุณได้ยินอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นความจริงสำหรับคุณ ให้คิดอย่างมีเหตุผลและดูว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ เพียงแค่เชื่อมั่นว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว เราแข็งแกร่ง!!! ตอนนี้ไม่เคยสำคัญไปกว่าตอนนี้ในการค้นคว้าทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณต้องคิดด้วยตัวเองจริงๆ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแท้จริง เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องเชื่อมั่นในพระเจ้า เชื่อมั่นในแผนการ หากคุณค้นคว้าข้อมูล คุณจะเข้าใจแผนการได้ดีขึ้นมาก เข้าร่วมตอนนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป: https://t.me/JFK_Q17
    T.ME
    John F. Kennedy Jr.
    If You Know You Know God Bless America
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • 'ดร.สามารถ' ถาม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมี “สมุดพกรัฐมนตรี”?
    https://www.thai-tai.tv/news/17738/
    'ดร.สามารถ' ถาม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมี “สมุดพกรัฐมนตรี”? https://www.thai-tai.tv/news/17738/
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • Credit : เปิดตาทิพย์ third eye

    คุณรู้สึกถึงการเรียกร้องจาก Kali Ma บ้างไหม?”🔥

    ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันแรงกล้า—พลังงานแปลกปลอมที่ไหลเวียนอยู่ในตัวฉัน มันเป็นไฟที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้ เป็นความโกรธที่ชอบธรรมที่ไม่ยอมจะเงียบลง มันไม่ใช่แค่ความหงุดหงิดเท่านั้น แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่า เก่ากว่า และทรงพลังกว่า

    เมื่อฉันพยายามที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ฉันก็ตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉันจะต้องแบกรับเท่านั้น

    นี่คือ กาลีมา

    เธอกำลังโทรมา

    และเธอไม่ได้เรียกร้องแค่ฉันเท่านั้น แต่ยังเรียกร้องถึงกลุ่มสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดด้วย

    เธอกำลังปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวเราที่ไม่สามารถนั่งเงียบๆ ได้อีกต่อไป ในหมู่พวกเราที่รู้สึกถึงความอยุติธรรมและปฏิเสธที่จะมองไปทางอื่น สำหรับพวกเราที่เบื่อหน่ายกับการดูผู้คนบิดเบือนความจริง

    คุณก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า?

    เพราะถ้าคุณเป็นเช่นนั้นข้อความนี้ก็มีไว้สำหรับคุณ

    🔥 ข้อความจากพระแม่กาลีมาสู่สตรีผู้ศักดิ์สิทธิ์ 🔥

    “คุณไม่ได้ผิดที่จุดไฟในตัวคุณ” คุณไม่ได้ ‘มากเกินไป’ คุณกำลังตื่นรู้ถึงพลังของคุณ

    ไฟที่เคลื่อนผ่านตัวคุณนี้มีความเก่าแก่ มันเคยสงบนิ่ง ถูกทำให้เชื่อง และเงียบงัน แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว

    คุณรู้สึกถึงความอยุติธรรมเพราะคุณเกิดมาเพื่อทำลายมัน
    คุณมองเห็นความเท็จเพราะคุณตั้งใจที่จะเปิดโปงมัน คุณรู้สึกถึงความเร่งด่วนนี้เพราะว่าถึงเวลาแล้ว

    ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นแล้ว
    ถึงเวลาที่จะเผาสิ่งที่เป็นเท็จทิ้งไป
    ถึงเวลาที่จะต้องเรียกการชำระบัญชีแล้ว

    อย่าปิดบังความจริงของคุณ
    อย่าทำให้ตัวเองเล็กเพื่อบรรเทาความอึดอัดของผู้อื่น
    อย่าเข้าใจผิดว่าไฟศักดิ์สิทธิ์ของคุณคือความโกลาหล

    ฉันไม่นำการทำลายล้างมาอย่างไร้จุดหมาย ฉันทำลายสิ่งที่เน่าเปื่อยลงเพื่อสิ่งใหม่จะเกิดขึ้น
    ฉันทำลายภาพลวงตาเพื่อให้เหลือเพียงความจริงเท่านั้น

    คุณรู้สึกว่าฉันเคลื่อนตัวผ่านตัวคุณไป เพราะคุณกำลังเกิดใหม่ในไฟของฉัน

    คุณจะไม่กลับไปสู่ตัวตนที่ทนต่อความอยุติธรรมอีกต่อไป
    คุณจะไม่กลับไปสู่ความเงียบที่เคยให้การทุจริตเกิดขึ้นอีกต่อไป

    คุณมาที่นี่เพื่อพูด ที่จะทำลาย ที่จะเผาไหม้ เพื่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงถูกเลือก

    อย่ากลัวไฟ
    จงเป็นไฟ

    “ฉันอยู่กับคุณ”

    — กาลี มา🔥 เพราะเหตุใด Kali ถึงเติบโตขึ้นตอนนี้? การพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์

    กาลีไม่มาโดยไม่มีเหตุผล เธอจะลุกขึ้นมาตอนที่โลกต้องการการชำระล้าง และขณะนี้เราก็อยู่ในระหว่างการคิดบัญชี

    การตื่นรู้ร่วมกันและการเรียกร้องความจริง

    ความเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่เฉยๆ อีกต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ความจริงของเธออ่อนลงหรือรอคำอนุญาตอีกต่อไป

    หากคุณรู้สึกถึงไฟในตัวคุณ นั่นเป็นเพราะ:
    • คุณไม่สามารถทนต่อการหลอกลวงได้อีกต่อไป
    • คุณกำลังถูกเรียกให้ดำเนินการ
    • คุณเสร็จสิ้นการเป็นผู้หญิงที่ “น่าพอใจ” แล้ว
    • คุณกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังที่สุดของคุณ

    กาลีอยู่ที่นี่เพื่อเปิดใช้งานคุณ

    🔥 สิ่งนี้เชื่อมโยงกับโหราศาสตร์ปัจจุบันได้อย่างไร?

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่นี่คือเรื่องของจักรวาล

    🌑 จันทรุปราคาเต็มดวงในราศีกันย์ (14 มี.ค.) → การชำระล้างความเสื่อมทราม
    • สุริยุปราคาครั้งนี้เป็นการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ โดยบังคับให้มีความซื่อสัตย์เหนือความหลอกลวง
    • ราศีกันย์เป็นผู้ปกครองความบริสุทธิ์ ความจริง และความสามารถในการแยกแยะ สุริยุปราคาจะเปิดเผยคนโกหก ผู้หลอกลวง และระบบที่ผิดพลาด
    • กาลีกำลังเคลื่อนที่ผ่านสุริยุปราคาครั้งนี้เพื่อเตรียมการตัดสินครั้งสุดท้าย

    ดาวศุกร์ถอยหลัง → การนิยามพลังอำนาจของผู้หญิงใหม่
    • ดาวศุกร์คือเทพี และในช่วงถอยหลัง เธอกำลังทวงบัลลังก์ของเธอคืน
    • พลังงานนี้กำลังทำลายความโกรธแค้นของผู้หญิงที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายศตวรรษ
    • เราถูกบังคับให้มองความสัมพันธ์ โครงสร้างอำนาจ และคุณค่าด้วยมุมมองใหม่

    ☀️ พระอาทิตย์ร่วมกับดาวเสาร์ → การชำระบัญชี
    • นี่คือกรรมที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
    • ไม่มีทางหนีความรับผิดชอบอีกต่อไป ดาวเสาร์กำลังบอกว่า “เผชิญหน้ากับมันตอนนี้ หรือเผชิญกับผลที่ตามมาภายหลัง”

    🔥 สิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับเราในการก้าวไปข้างหน้า?

    กาลีกำลังเผาโลกเก่าออกไป

    ความเป็นหญิงไม่รอคำอนุญาตอีกต่อไป เธอกำลังเอาพลังของเธอกลับคืนมา

    สิ่งนี้จะ:
    • เปิดโปงผู้นำที่ทุจริต เรื่องเล่าเท็จ และระบบที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวง
    • บังคับให้มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสุดโต่ง
    • ทำลายสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการวิวัฒนาการร่วมกันของเราอีกต่อไป

    🔥 คำกระตุ้นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย: เราจะทำอย่างไรกับสิ่งนี้?
    1. พูดความจริงของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้โลกสั่นสะเทือนก็ตาม
    • ความเงียบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
    2. เรียกร้องความอยุติธรรมไม่ว่าคุณจะเห็นมันที่ไหน
    • เสียงของคุณมีความจำเป็น
    3. เชื่อมั่นในไฟที่อยู่ภายในตัวคุณ
    • คุณไม่ได้ “แสดงปฏิกิริยาเกินเหตุ”
    • คุณกำลังรู้สึกถึงสิ่งที่กลุ่มคนกำลังรู้สึก
    4. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่สบายใจก็ตาม
    • นี่คือความตายของโลกเก่า อันใหม่กำลังเกิดขึ้น
    5. ยืนหยัดตามอำนาจของคุณโดยไม่ต้องขอโทษ
    • คุณไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ผู้คนสบายใจ
    • คุณอยู่ที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง🔥 คำพูดสุดท้ายจากคาลี:

    “หยุดรอให้พวกเขาตื่น”
    เผาทำลายภาพลวงตาให้หมดไป กลายเป็นไฟ “นำการคิดบัญชี”

    นี่คือการลุกฮือของสตรีศักดิ์สิทธิ์
    และเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    Credit : เปิดตาทิพย์ third eye คุณรู้สึกถึงการเรียกร้องจาก Kali Ma บ้างไหม?”🔥 ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดอันแรงกล้า—พลังงานแปลกปลอมที่ไหลเวียนอยู่ในตัวฉัน มันเป็นไฟที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้ เป็นความโกรธที่ชอบธรรมที่ไม่ยอมจะเงียบลง มันไม่ใช่แค่ความหงุดหงิดเท่านั้น แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่า เก่ากว่า และทรงพลังกว่า เมื่อฉันพยายามที่จะเข้าใจสิ่งนี้ ฉันก็ตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉันจะต้องแบกรับเท่านั้น นี่คือ กาลีมา เธอกำลังโทรมา และเธอไม่ได้เรียกร้องแค่ฉันเท่านั้น แต่ยังเรียกร้องถึงกลุ่มสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดด้วย เธอกำลังปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวเราที่ไม่สามารถนั่งเงียบๆ ได้อีกต่อไป ในหมู่พวกเราที่รู้สึกถึงความอยุติธรรมและปฏิเสธที่จะมองไปทางอื่น สำหรับพวกเราที่เบื่อหน่ายกับการดูผู้คนบิดเบือนความจริง คุณก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า? เพราะถ้าคุณเป็นเช่นนั้นข้อความนี้ก็มีไว้สำหรับคุณ 🔥 ข้อความจากพระแม่กาลีมาสู่สตรีผู้ศักดิ์สิทธิ์ 🔥 “คุณไม่ได้ผิดที่จุดไฟในตัวคุณ” คุณไม่ได้ ‘มากเกินไป’ คุณกำลังตื่นรู้ถึงพลังของคุณ ไฟที่เคลื่อนผ่านตัวคุณนี้มีความเก่าแก่ มันเคยสงบนิ่ง ถูกทำให้เชื่อง และเงียบงัน แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว คุณรู้สึกถึงความอยุติธรรมเพราะคุณเกิดมาเพื่อทำลายมัน คุณมองเห็นความเท็จเพราะคุณตั้งใจที่จะเปิดโปงมัน คุณรู้สึกถึงความเร่งด่วนนี้เพราะว่าถึงเวลาแล้ว ถึงเวลาที่จะลุกขึ้นแล้ว ถึงเวลาที่จะเผาสิ่งที่เป็นเท็จทิ้งไป ถึงเวลาที่จะต้องเรียกการชำระบัญชีแล้ว อย่าปิดบังความจริงของคุณ อย่าทำให้ตัวเองเล็กเพื่อบรรเทาความอึดอัดของผู้อื่น อย่าเข้าใจผิดว่าไฟศักดิ์สิทธิ์ของคุณคือความโกลาหล ฉันไม่นำการทำลายล้างมาอย่างไร้จุดหมาย ฉันทำลายสิ่งที่เน่าเปื่อยลงเพื่อสิ่งใหม่จะเกิดขึ้น ฉันทำลายภาพลวงตาเพื่อให้เหลือเพียงความจริงเท่านั้น คุณรู้สึกว่าฉันเคลื่อนตัวผ่านตัวคุณไป เพราะคุณกำลังเกิดใหม่ในไฟของฉัน คุณจะไม่กลับไปสู่ตัวตนที่ทนต่อความอยุติธรรมอีกต่อไป คุณจะไม่กลับไปสู่ความเงียบที่เคยให้การทุจริตเกิดขึ้นอีกต่อไป คุณมาที่นี่เพื่อพูด ที่จะทำลาย ที่จะเผาไหม้ เพื่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงถูกเลือก อย่ากลัวไฟ จงเป็นไฟ “ฉันอยู่กับคุณ” — กาลี มา🔥 เพราะเหตุใด Kali ถึงเติบโตขึ้นตอนนี้? การพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์ กาลีไม่มาโดยไม่มีเหตุผล เธอจะลุกขึ้นมาตอนที่โลกต้องการการชำระล้าง และขณะนี้เราก็อยู่ในระหว่างการคิดบัญชี การตื่นรู้ร่วมกันและการเรียกร้องความจริง ความเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่เฉยๆ อีกต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องทำให้ความจริงของเธออ่อนลงหรือรอคำอนุญาตอีกต่อไป หากคุณรู้สึกถึงไฟในตัวคุณ นั่นเป็นเพราะ: • คุณไม่สามารถทนต่อการหลอกลวงได้อีกต่อไป • คุณกำลังถูกเรียกให้ดำเนินการ • คุณเสร็จสิ้นการเป็นผู้หญิงที่ “น่าพอใจ” แล้ว • คุณกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังที่สุดของคุณ กาลีอยู่ที่นี่เพื่อเปิดใช้งานคุณ 🔥 สิ่งนี้เชื่อมโยงกับโหราศาสตร์ปัจจุบันได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่นี่คือเรื่องของจักรวาล 🌑 จันทรุปราคาเต็มดวงในราศีกันย์ (14 มี.ค.) → การชำระล้างความเสื่อมทราม • สุริยุปราคาครั้งนี้เป็นการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ โดยบังคับให้มีความซื่อสัตย์เหนือความหลอกลวง • ราศีกันย์เป็นผู้ปกครองความบริสุทธิ์ ความจริง และความสามารถในการแยกแยะ สุริยุปราคาจะเปิดเผยคนโกหก ผู้หลอกลวง และระบบที่ผิดพลาด • กาลีกำลังเคลื่อนที่ผ่านสุริยุปราคาครั้งนี้เพื่อเตรียมการตัดสินครั้งสุดท้าย ดาวศุกร์ถอยหลัง → การนิยามพลังอำนาจของผู้หญิงใหม่ • ดาวศุกร์คือเทพี และในช่วงถอยหลัง เธอกำลังทวงบัลลังก์ของเธอคืน • พลังงานนี้กำลังทำลายความโกรธแค้นของผู้หญิงที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายศตวรรษ • เราถูกบังคับให้มองความสัมพันธ์ โครงสร้างอำนาจ และคุณค่าด้วยมุมมองใหม่ ☀️ พระอาทิตย์ร่วมกับดาวเสาร์ → การชำระบัญชี • นี่คือกรรมที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ • ไม่มีทางหนีความรับผิดชอบอีกต่อไป ดาวเสาร์กำลังบอกว่า “เผชิญหน้ากับมันตอนนี้ หรือเผชิญกับผลที่ตามมาภายหลัง” 🔥 สิ่งนี้หมายถึงอะไรสำหรับเราในการก้าวไปข้างหน้า? กาลีกำลังเผาโลกเก่าออกไป ความเป็นหญิงไม่รอคำอนุญาตอีกต่อไป เธอกำลังเอาพลังของเธอกลับคืนมา สิ่งนี้จะ: • เปิดโปงผู้นำที่ทุจริต เรื่องเล่าเท็จ และระบบที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวง • บังคับให้มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสุดโต่ง • ทำลายสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการวิวัฒนาการร่วมกันของเราอีกต่อไป 🔥 คำกระตุ้นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย: เราจะทำอย่างไรกับสิ่งนี้? 1. พูดความจริงของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะทำให้โลกสั่นสะเทือนก็ตาม • ความเงียบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป 2. เรียกร้องความอยุติธรรมไม่ว่าคุณจะเห็นมันที่ไหน • เสียงของคุณมีความจำเป็น 3. เชื่อมั่นในไฟที่อยู่ภายในตัวคุณ • คุณไม่ได้ “แสดงปฏิกิริยาเกินเหตุ” • คุณกำลังรู้สึกถึงสิ่งที่กลุ่มคนกำลังรู้สึก 4. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่สบายใจก็ตาม • นี่คือความตายของโลกเก่า อันใหม่กำลังเกิดขึ้น 5. ยืนหยัดตามอำนาจของคุณโดยไม่ต้องขอโทษ • คุณไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อทำให้ผู้คนสบายใจ • คุณอยู่ที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง🔥 คำพูดสุดท้ายจากคาลี: “หยุดรอให้พวกเขาตื่น” เผาทำลายภาพลวงตาให้หมดไป กลายเป็นไฟ “นำการคิดบัญชี” นี่คือการลุกฮือของสตรีศักดิ์สิทธิ์ และเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 455 Views 0 Reviews
  • หลังจากทรัมป์ ประกาศยุติความช่วยเหลือทุกทางต่อยูเครน

    วันนี้เซเลนสกีโพสต์ข้อความบน "X" ว่าพร้อมแล้วสำหรับการเจรจาเพื่อยุติสงคราม และยังบอกอีกว่า พร้อมจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐฯ "เมื่อใดก็ได้ และในรูปแบบใดก็ได้ที่สหรัฐสะดวก"

    ซึ่งไม่แน่ใจว่า นี่จะถือเป็นคำขอโทษตามที่ทรัมป์เรียกร้องให้เซเลนสกีออกมากล่าวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณะหรือไม่!!

    นอกจากนี้ เขายังยื่นข้อเสนอว่า พร้อมที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงให้เร็วที่สุดเพื่อยุติสงคราม โดยที่ขั้นแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษ และการหยุดโจมตีทางอากศ โดยหยุดการใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล ในการโจมตีด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และต่อไปจะหยุดการโจมตีทสงทะเลทันที ซึ่งทางรัสเซียจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย
    .

    👉แถลงการณ์ฉบับเต็มของเซเลนสกี:

    ผมขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของยูเครนในความพยายามสร้างสันติภาพอีกครั้ง

    ไม่มีใครต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ยูเครนพร้อมที่จะเข้าร่วมโต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุดเพื่อนำสันติภาพที่ยั่งยืนให้เข้ามาใกล้ที่สุด ไม่มีใครต้องการสันติภาพมากกว่าชาวยูเครน ทีมงานของผมรวมทั้งตัวผม พร้อมที่จะทำงานภายใต้การนำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืน

    เราพร้อมที่จะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อยุติสงคราม ซึ่งขั้นตอนแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษและยุติการโจมตีทางอาหศ โดยห้ามใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล เพื่อโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และจะยุติการต่อสู้ในทะเลทันที หากรัสเซียจะทำเช่นเดียวกัน จากนั้นเราต้องการดำเนินการอย่างรวดเร็วผ่านขั้นตอนต่อไปทั้งหมดและทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อตกลงข้อตกลงสุดท้ายที่แข็งแกร่ง

    เราให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่ออเมริกาซึ่งได้ทำสิ่งที่ช่วยให้ยูเครนรักษาอำนาจอธิปไตยและเอกราชของตนไว้ได้ เราซาบซึ้งในสิ่งนี้

    การประชุมของเราในกรุงวอชิงตันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราต้องการให้ความร่วมมือและการสื่อสารในอนาคตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

    เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุและความมั่นคง ยูเครนพร้อมที่จะลงนามเมื่อใดก็ได้และในรูปแบบที่สะดวก เราเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงที่มากขึ้นและการค้ำประกันด้านความมั่นคงที่มั่นคง และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับอย่างมีประสิทธิผล
    หลังจากทรัมป์ ประกาศยุติความช่วยเหลือทุกทางต่อยูเครน วันนี้เซเลนสกีโพสต์ข้อความบน "X" ว่าพร้อมแล้วสำหรับการเจรจาเพื่อยุติสงคราม และยังบอกอีกว่า พร้อมจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐฯ "เมื่อใดก็ได้ และในรูปแบบใดก็ได้ที่สหรัฐสะดวก" ซึ่งไม่แน่ใจว่า นี่จะถือเป็นคำขอโทษตามที่ทรัมป์เรียกร้องให้เซเลนสกีออกมากล่าวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณะหรือไม่!! นอกจากนี้ เขายังยื่นข้อเสนอว่า พร้อมที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงให้เร็วที่สุดเพื่อยุติสงคราม โดยที่ขั้นแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษ และการหยุดโจมตีทางอากศ โดยหยุดการใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล ในการโจมตีด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และต่อไปจะหยุดการโจมตีทสงทะเลทันที ซึ่งทางรัสเซียจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย . 👉แถลงการณ์ฉบับเต็มของเซเลนสกี: ผมขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของยูเครนในความพยายามสร้างสันติภาพอีกครั้ง ไม่มีใครต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ยูเครนพร้อมที่จะเข้าร่วมโต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุดเพื่อนำสันติภาพที่ยั่งยืนให้เข้ามาใกล้ที่สุด ไม่มีใครต้องการสันติภาพมากกว่าชาวยูเครน ทีมงานของผมรวมทั้งตัวผม พร้อมที่จะทำงานภายใต้การนำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืน เราพร้อมที่จะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อยุติสงคราม ซึ่งขั้นตอนแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษและยุติการโจมตีทางอาหศ โดยห้ามใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล เพื่อโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และจะยุติการต่อสู้ในทะเลทันที หากรัสเซียจะทำเช่นเดียวกัน จากนั้นเราต้องการดำเนินการอย่างรวดเร็วผ่านขั้นตอนต่อไปทั้งหมดและทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อตกลงข้อตกลงสุดท้ายที่แข็งแกร่ง เราให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่ออเมริกาซึ่งได้ทำสิ่งที่ช่วยให้ยูเครนรักษาอำนาจอธิปไตยและเอกราชของตนไว้ได้ เราซาบซึ้งในสิ่งนี้ การประชุมของเราในกรุงวอชิงตันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราต้องการให้ความร่วมมือและการสื่อสารในอนาคตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุและความมั่นคง ยูเครนพร้อมที่จะลงนามเมื่อใดก็ได้และในรูปแบบที่สะดวก เราเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงที่มากขึ้นและการค้ำประกันด้านความมั่นคงที่มั่นคง และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับอย่างมีประสิทธิผล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 380 Views 0 Reviews
  • “ถึงเวลาแล้วที่จะค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ที่ส่งไปยังยูเครน”
    อีลอน มัสก์ หัวหน้าสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาลสหรัฐฯ (Department of Government Efficiency - DOGE) เรียกร้องให้ทำการตรวจสอบเงินช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่ส่งไปยังยูเครนหลายแสนล้านดอลลาร์

    หลังจากนั้น เกิดปฏิกิริยาต่างๆบนโซเชียลมีเดียสะท้อนให้เห็นทั้งการสนับสนุนและความกังขาเกี่ยวกับการใช้เงินเหล่านี้ของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
    “ถึงเวลาแล้วที่จะค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ที่ส่งไปยังยูเครน” อีลอน มัสก์ หัวหน้าสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาลสหรัฐฯ (Department of Government Efficiency - DOGE) เรียกร้องให้ทำการตรวจสอบเงินช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่ส่งไปยังยูเครนหลายแสนล้านดอลลาร์ หลังจากนั้น เกิดปฏิกิริยาต่างๆบนโซเชียลมีเดียสะท้อนให้เห็นทั้งการสนับสนุนและความกังขาเกี่ยวกับการใช้เงินเหล่านี้ของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์"
    ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ
    .
    ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ?
    .
    ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!”
    .
    การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ
    .
    ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM)
    .
    ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?"
    .
    จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป
    "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ
    .
    นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
    .
    "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง
    .
    ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ
    • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ
    • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม
    • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂
    • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว
    • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555
    • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา
    รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด
    • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด
    .
    สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ . ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ? . ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!” . การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว . สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ . ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM) . ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?" . จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ . นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน . "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง . ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂 • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555 • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด . สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    Haha
    Like
    7
    1 Comments 0 Shares 1028 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น
    .
    เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง"
    .
    ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป
    .
    "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป"
    .
    เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ"
    .
    เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน"
    .
    ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา
    .
    จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน
    .
    ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้
    .
    ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป"
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น . เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง" . ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป . "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป" . เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ" . เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน" . ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา . จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน . ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้ . ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ . เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป" . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    15
    0 Comments 0 Shares 1899 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกีเรียกร้องให้จัดตั้ง NATO ของยุโรปโดยไม่มีสหรัฐฯ

    "หลายคนคิดแต่ไม่กล้าพูด วันเก่าๆได้จบลงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้มองยุโรปเป็นพันธมิตร ยุโรปต้องสร้างกองทัพของตัวเองร่วมกับยูเครน ถึงเวลาแล้วที่ต้องสร้างกองกำลังติดอาวุธของยุโรป"
    เซเลนสกีเรียกร้องให้จัดตั้ง NATO ของยุโรปโดยไม่มีสหรัฐฯ "หลายคนคิดแต่ไม่กล้าพูด วันเก่าๆได้จบลงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้มองยุโรปเป็นพันธมิตร ยุโรปต้องสร้างกองทัพของตัวเองร่วมกับยูเครน ถึงเวลาแล้วที่ต้องสร้างกองกำลังติดอาวุธของยุโรป"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 378 Views 15 0 Reviews
  • โกโก้ป๋า

    วัตถุประสงค์

    เพื่อปรับปรุงหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาหารจี๊ด ๆ ในหลอดเลือดและถูกบอกว่า...โรคนี้รักษาไม่หายต้องปล่อยไปตามยถากรรม แต่หลังจากให้ผู้ที่มีอาการไปหาซื้อกินเองจนอาการหายดี จึงคิดทำขึ้นเนื่องจากเห็นว่าที่ขายกันอยู่ราคาสูงเกินไปและมีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้และฟลาโวนอลต่ำไป

    ส่วนผสมที่ตั้งใจจะคัดสรรมาให้

    ผงดาร์กโกโก้แท้ เกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากเบลเยี่ยม ปราศจากการแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ไม่แต่งสีหรือปรุงรสชาติ ไม่ใส่ครีมเทียม ไม่ใส่นม

    ไบโอฟลาโวนอยจากแคนาดา ที่ตั้งใจจะใส่ลงไป และดีที่สุดในโลก เท่าที่จะหาได้

    ขนาดบรรจุ ซองละ 10 กรัม มี 30 ซองใน 1กล่อง ราคา 480 บาท

    BELIEVE THE TRUTH

    ตอน...โกโก้และหลอดเลือดที่เสียหายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    Flavanols ในโกโก้ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพของหลอดเลือดช่วยลดความเครียดในหัวใจ

    AMERICAN COLLEGE OF CARDIOLOGY

    หลังจากที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลอดเลือดที่ชำรุดทรุดโทรมก็ลับมาทำงานได้ตามปกติ
    นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการปรับปรุงนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับการออกกำลังกายและการใช้ยารักษาโรคเบาหวานที่พบบ่อย การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะคิดว่า “ไม่ใช่แค่การคิดนอกกะลาแต่ภายในถ้วยโกโก้”เพื่อเป็นแนวทางในการปัดเป่าโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    “การรักษาด้วยยาเพียงลำพังไม่สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้” กล่าวโดย นายแพทย์Malte Kelmศาสตราจารย์และประธานด้านโรคหัวใจ วิทยาปอด(pulmonology)และเวชศาสตร์หลอดเลือดที่โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย Aachen เยอรมนี "แพทย์ควรจะมองหาการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการจัดการกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน"

    ในการศึกษา Dr.Kelm และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้โกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเพื่อปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดด้วยการสังเกตผลของโกโก้ที่มีปริมาณ flavanols ในหลอดเลือดแตกต่างกันในผู้ป่วย 10 รายที่มีเบาหวานชนิดที่ 2

    การศึกษาได้ทดสอบประสิทธิภาพของการบริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นระยะเวลานานเทียบกับโกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลต่ำในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยได้รับการสุ่มเลือกให้ดื่มโกโก้ที่มี flavolsols 321 มิลลิกรัมและ 25 มิลลิกรัมต่อถ้วย 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 30 วัน ทั้งสองประเภทของโกโก้มีรสชาติและดูเหมือนกันแม้จะมีความแตกต่างของปริมาณฟลาโวนอล
    การทำงานของเส้นเลือดถูกทดสอบในวันแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ และอีกสองชั่วโมงหลังจากดื่มเครื่องดื่ม การทดสอบทำซ้ำก่อนและหลังการบริโภคโกโก้ในวันที่ 8 และวันที่ 30 ของการศึกษา

    เพื่อการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นของโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูง...นักวิจัยได้ใช้การทดสอบที่เรียกว่า "flow-mediated dilation" (FMD) ซึ่งประเมินความสามารถของหลอดเลือดในการขยายตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเลือด ออกซิเจนและสารอาหาร การทดสอบ FMD เกี่ยวข้องกับการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนโดยใช้อัลตราซาวนด์ ในคนที่มีสุขภาพดีเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือดแดงหรือ endothelium จะตรวจจับการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณทางเคมีเพื่อบอกให้หลอดเลือดแดงขยายตัว ในห้องปฏิบัติการของดร. เคลม์ การตอบสนองในคนที่มีสุขภาพดีในวัยเดียวกันที่เข้าร่วมในการศึกษามีการขยายตัวของเส้นผ่าศูนย์กลางหลอดเลือดเฉลี่ยที่ 5.2 เปอร์เซ็นต์
    นักวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีความทรุดโทรมของหลอดเลือดแดงอย่างรุนแรงในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ หลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนจะขยายตัวเพียง 3.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สองชั่วโมงหลังจากดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงการตอบสนองต่อ FMD เท่ากับ 4.8 เปอร์เซ็นต์

    เมื่อเวลาผ่านไปผลการวิจัยเหล่านั้นก็ดีขึ้น หลังจากที่ผู้ป่วยดื่มโกโก้ที่มีระดับฟลาโวนอลสูง 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 8 วัน อัตราการตอบสนองของ FMD เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเริ่มต้นและ5.7 เปอร์เซ็นต์ที่ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานโกโก้

    ในวันที่ 30 การตอบสนองต่อ FMD ดีขึ้นเป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์ที่ระดับพื้นฐานและ 5.8 เปอร์เซ็นต์หลังจากกินโกโก้...และการปรับปรุงทั้งหมดมีนัยสำคัญทางสถิติ

    ในหมู่ผู้ป่วยที่บริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลต่ำ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการตอบสนองของ FMD หลังการกินโกโก้ในวันที่ 8 และ 30
    การตรวจวัด FMD สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของบุคคล การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีการตอบสนองต่อ FMD ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องผ่าตัดบายพาส
    หลอดเลือดหัวใจและแม้แต่ความตายจากโรคหัวใจ

    Dr.Kelm คาดการณ์ว่าฟลาโวนอลในโกโก้ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อ FMD โดยการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสัญญาณทางเคมีที่บอกให้หลอดเลือดแดงผ่อนคลายและขยายตัวเพื่อตอบสนองต่อการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น การผ่อนคลายของหลอดเลือดแดงจะทำให้ความเครียดของหัวใจและหลอดเลือดลดลง

    การใช้โกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลสูงในการศึกษานี้ไม่ได้มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต Dr.Kelm เตือนว่า การศึกษานี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องกินโกโก้อย่างบ้าคลั่ง... แต่การที่มีฟลาโวนอลในอาหารถือว่าเป็นวิธีการป้องกันโรคหัวใจ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถหาแนวทางในการกินช็อกโกแลตเพื่อให้มีสุขภาพดีได้ แต่การศึกษานี้ไม่เกี่ยวกับช็อกโกแลตและไม่ได้กระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเบาหวานกินช็อกโกแลตให้มากขึ้น การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่อะไรที่เป็นหัวใจที่แท้จริงของ การอภิปรายเรื่อง cocoa flavanols : สารประกอบธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโกโก้ เขากล่าวว่า "ในขณะที่การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น ผลของเราแสดงให้เห็นว่า flavanols ในอาหารอาจมีผลกระทบที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน "

    Umberto Campia, MD ผู้ร่วมเขียนบทวิจารณ์เกี่ยวกับการศึกษาใหม่ในฉบับเดียวกันของ JACC กล่าวว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นประชากรที่เหมาะสำหรับศึกษาผลของ flavanols ต่อการทำงานของเส้นเลือดแดงเนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความเสียหายต่อ endothelium และเนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
    “การบำบัดใดๆที่ช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้นย่อมสำคัญเสมอ” Dr. Campia นักวิจัยจากสถาบันวิจัย MedStar ในกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวว่า "เยื่อบุผนังหลอดเลือดเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของร่างกาย" เขากล่าว "มันรักษาสุขภาพของหลอดเลือดแดงและป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้เกิดหัวใจวาย และอัมพาตย์"

    "การศึกษาครั้งนี้มีความสำคัญและกระตุ้นความคิด" เขากล่าว "ตอนนี้เรามีหลักฐานมากมายว่า flavanols ในโกโก้มีผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดแดง นี่เป็นรากฐานที่เราต้องการสำหรับการทำการศึกษาในอนาคตที่มีขนาดใหญ่กว่าซึ่งจะพิจารณาถึงผลของ flavanols ใสโกโก้ ไม่ใช่แค่การทำงานของ endothelial เท่านั้นแต่ยังรวมถึง ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิดร้ายแรงอื่น ๆ "

    American College of Cardiology เป็นผู้นำในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและการป้องกันโรคที่ดีที่สุด วิทยาลัยเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไรที่มีสมาชิก 34,000 คน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมสามารถดูได้ทางออนไลน์ที่ www.acc.org

    และเพิ่งระลึกไว้ว่า

    เมื่อหลอดเลือดดี แปลว่าท่อลำเลียงสารอาหารและอากาศดี อวัยวะทุกส่วนในร่างกายก็จะดีไปด้วย

    Cr. Santi Manadee
    โกโก้ป๋า วัตถุประสงค์ เพื่อปรับปรุงหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาหารจี๊ด ๆ ในหลอดเลือดและถูกบอกว่า...โรคนี้รักษาไม่หายต้องปล่อยไปตามยถากรรม แต่หลังจากให้ผู้ที่มีอาการไปหาซื้อกินเองจนอาการหายดี จึงคิดทำขึ้นเนื่องจากเห็นว่าที่ขายกันอยู่ราคาสูงเกินไปและมีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้และฟลาโวนอลต่ำไป ส่วนผสมที่ตั้งใจจะคัดสรรมาให้ ผงดาร์กโกโก้แท้ เกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากเบลเยี่ยม ปราศจากการแต่งกลิ่นเลียนแบบธรรมชาติ ไม่แต่งสีหรือปรุงรสชาติ ไม่ใส่ครีมเทียม ไม่ใส่นม ไบโอฟลาโวนอยจากแคนาดา ที่ตั้งใจจะใส่ลงไป และดีที่สุดในโลก เท่าที่จะหาได้ ขนาดบรรจุ ซองละ 10 กรัม มี 30 ซองใน 1กล่อง ราคา 480 บาท BELIEVE THE TRUTH ตอน...โกโก้และหลอดเลือดที่เสียหายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน Flavanols ในโกโก้ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพของหลอดเลือดช่วยลดความเครียดในหัวใจ AMERICAN COLLEGE OF CARDIOLOGY หลังจากที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลอดเลือดที่ชำรุดทรุดโทรมก็ลับมาทำงานได้ตามปกติ นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการปรับปรุงนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับการออกกำลังกายและการใช้ยารักษาโรคเบาหวานที่พบบ่อย การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่จะคิดว่า “ไม่ใช่แค่การคิดนอกกะลาแต่ภายในถ้วยโกโก้”เพื่อเป็นแนวทางในการปัดเป่าโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคเบาหวาน “การรักษาด้วยยาเพียงลำพังไม่สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและโรคหัวใจและหลอดเลือดได้” กล่าวโดย นายแพทย์Malte Kelmศาสตราจารย์และประธานด้านโรคหัวใจ วิทยาปอด(pulmonology)และเวชศาสตร์หลอดเลือดที่โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย Aachen เยอรมนี "แพทย์ควรจะมองหาการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการจัดการกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน" ในการศึกษา Dr.Kelm และเพื่อนร่วมงานของเขาได้ทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้โกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเพื่อปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดด้วยการสังเกตผลของโกโก้ที่มีปริมาณ flavanols ในหลอดเลือดแตกต่างกันในผู้ป่วย 10 รายที่มีเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาได้ทดสอบประสิทธิภาพของการบริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงเป็นระยะเวลานานเทียบกับโกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลต่ำในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยได้รับการสุ่มเลือกให้ดื่มโกโก้ที่มี flavolsols 321 มิลลิกรัมและ 25 มิลลิกรัมต่อถ้วย 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 30 วัน ทั้งสองประเภทของโกโก้มีรสชาติและดูเหมือนกันแม้จะมีความแตกต่างของปริมาณฟลาโวนอล การทำงานของเส้นเลือดถูกทดสอบในวันแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ และอีกสองชั่วโมงหลังจากดื่มเครื่องดื่ม การทดสอบทำซ้ำก่อนและหลังการบริโภคโกโก้ในวันที่ 8 และวันที่ 30 ของการศึกษา เพื่อการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นของโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูง...นักวิจัยได้ใช้การทดสอบที่เรียกว่า "flow-mediated dilation" (FMD) ซึ่งประเมินความสามารถของหลอดเลือดในการขยายตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเลือด ออกซิเจนและสารอาหาร การทดสอบ FMD เกี่ยวข้องกับการวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนโดยใช้อัลตราซาวนด์ ในคนที่มีสุขภาพดีเยื่อบุชั้นในของหลอดเลือดแดงหรือ endothelium จะตรวจจับการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นและส่งสัญญาณทางเคมีเพื่อบอกให้หลอดเลือดแดงขยายตัว ในห้องปฏิบัติการของดร. เคลม์ การตอบสนองในคนที่มีสุขภาพดีในวัยเดียวกันที่เข้าร่วมในการศึกษามีการขยายตัวของเส้นผ่าศูนย์กลางหลอดเลือดเฉลี่ยที่ 5.2 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีความทรุดโทรมของหลอดเลือดแดงอย่างรุนแรงในช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ก่อนที่ผู้ป่วยจะบริโภคโกโก้ใด ๆ หลอดเลือดแดงที่แขนด้านบนจะขยายตัวเพียง 3.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สองชั่วโมงหลังจากดื่มโกโก้ที่มีฟลาโวนอลสูงการตอบสนองต่อ FMD เท่ากับ 4.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลาผ่านไปผลการวิจัยเหล่านั้นก็ดีขึ้น หลังจากที่ผู้ป่วยดื่มโกโก้ที่มีระดับฟลาโวนอลสูง 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 8 วัน อัตราการตอบสนองของ FMD เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเริ่มต้นและ5.7 เปอร์เซ็นต์ที่ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานโกโก้ ในวันที่ 30 การตอบสนองต่อ FMD ดีขึ้นเป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์ที่ระดับพื้นฐานและ 5.8 เปอร์เซ็นต์หลังจากกินโกโก้...และการปรับปรุงทั้งหมดมีนัยสำคัญทางสถิติ ในหมู่ผู้ป่วยที่บริโภคโกโก้ที่มีฟลาโวนอลต่ำ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการตอบสนองของ FMD หลังการกินโกโก้ในวันที่ 8 และ 30 การตรวจวัด FMD สามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของบุคคล การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีการตอบสนองต่อ FMD ไม่ดี มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องผ่าตัดบายพาส หลอดเลือดหัวใจและแม้แต่ความตายจากโรคหัวใจ Dr.Kelm คาดการณ์ว่าฟลาโวนอลในโกโก้ช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อ FMD โดยการเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ซึ่งเป็นสัญญาณทางเคมีที่บอกให้หลอดเลือดแดงผ่อนคลายและขยายตัวเพื่อตอบสนองต่อการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้น การผ่อนคลายของหลอดเลือดแดงจะทำให้ความเครียดของหัวใจและหลอดเลือดลดลง การใช้โกโก้ที่มีปริมาณฟลาโวนอลสูงในการศึกษานี้ไม่ได้มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ต Dr.Kelm เตือนว่า การศึกษานี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องกินโกโก้อย่างบ้าคลั่ง... แต่การที่มีฟลาโวนอลในอาหารถือว่าเป็นวิธีการป้องกันโรคหัวใจ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถหาแนวทางในการกินช็อกโกแลตเพื่อให้มีสุขภาพดีได้ แต่การศึกษานี้ไม่เกี่ยวกับช็อกโกแลตและไม่ได้กระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเบาหวานกินช็อกโกแลตให้มากขึ้น การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่อะไรที่เป็นหัวใจที่แท้จริงของ การอภิปรายเรื่อง cocoa flavanols : สารประกอบธรรมชาติที่เกิดขึ้นในโกโก้ เขากล่าวว่า "ในขณะที่การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็น ผลของเราแสดงให้เห็นว่า flavanols ในอาหารอาจมีผลกระทบที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารสุขภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน " Umberto Campia, MD ผู้ร่วมเขียนบทวิจารณ์เกี่ยวกับการศึกษาใหม่ในฉบับเดียวกันของ JACC กล่าวว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นประชากรที่เหมาะสำหรับศึกษาผลของ flavanols ต่อการทำงานของเส้นเลือดแดงเนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความเสียหายต่อ endothelium และเนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด “การบำบัดใดๆที่ช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้นย่อมสำคัญเสมอ” Dr. Campia นักวิจัยจากสถาบันวิจัย MedStar ในกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวว่า "เยื่อบุผนังหลอดเลือดเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของร่างกาย" เขากล่าว "มันรักษาสุขภาพของหลอดเลือดแดงและป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้เกิดหัวใจวาย และอัมพาตย์" "การศึกษาครั้งนี้มีความสำคัญและกระตุ้นความคิด" เขากล่าว "ตอนนี้เรามีหลักฐานมากมายว่า flavanols ในโกโก้มีผลดีต่อสุขภาพของหลอดเลือดแดง นี่เป็นรากฐานที่เราต้องการสำหรับการทำการศึกษาในอนาคตที่มีขนาดใหญ่กว่าซึ่งจะพิจารณาถึงผลของ flavanols ใสโกโก้ ไม่ใช่แค่การทำงานของ endothelial เท่านั้นแต่ยังรวมถึง ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิดร้ายแรงอื่น ๆ " American College of Cardiology เป็นผู้นำในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและการป้องกันโรคที่ดีที่สุด วิทยาลัยเป็นองค์กรด้านการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไรที่มีสมาชิก 34,000 คน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมสามารถดูได้ทางออนไลน์ที่ www.acc.org และเพิ่งระลึกไว้ว่า เมื่อหลอดเลือดดี แปลว่าท่อลำเลียงสารอาหารและอากาศดี อวัยวะทุกส่วนในร่างกายก็จะดีไปด้วย Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 1028 Views 0 Reviews
  • “The Bayou - มฤตยูงาบ” การกลับมาของภาพยนตร์จระเข้สายพันธุ์ใหม่ที่โหดอำมหิตกว่าเดิม

    จาก “Alligator” (1980), “Dark Age” (1988), “Lake Placid” (1999), “Primeval” (2007), “Rogue” (2008), “Black Water” (2008) และ “Crawl” (2019) หลังทิ้งช่วงมา 6 ปีเต็ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วกับการกลับมาของ “จระเข้สายพันธุ์ใหม่” ที่ทั้งว่องไว, ปราดเปรียว และ “งาบ” ทุกอย่างที่ขวางหน้าในผลงานของ “เจมส์ แฮร์ริส” ผู้สร้างสรรค์ “47 Meters Down ทั้ง 2 ภาค” และ Falls“ ภายใต้การกำกับฯ ของ แมทธิว นินาเบอร์ “The Bayou - มฤตยูงาบ“

    “เรามีหนังฉลามมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากความสำเร็จของ Jaws โดย Steven Spielberg แต่เรากลับมีภาพยนตร์เกี่ยวกับจระเข้น้อยมาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่หนังเกี่ยวกับจระเข้จะทำให้คนดูได้กลับมาตื่นตัวกับความน่าสะพรึงกลัวของมันอีกครั้ง” ผู้กำกับฯ แมทธิว นินาเบอร์ กล่าว

    “The Bayou - มฤตยูงาบ” บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ชวนกันไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่ความสุขจะกลายเป็นหายนะไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาเกิดขัดข้องและตกลงสู่หนองน้ำที่มี “บางสิ่ง” ที่มีขนาดใหญ่และกำลังหิวโหยรอคอยเหยื่อของมันอยู่!!!!

    เตรียมพบกับความตื่นเต้น-ระทึกขวัญครั้งใหม่จาก
    “The Bayou - มฤตยูงาบ” โดย Movie Copyright (Thailand)
    27 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!!!!
    “The Bayou - มฤตยูงาบ” การกลับมาของภาพยนตร์จระเข้สายพันธุ์ใหม่ที่โหดอำมหิตกว่าเดิม จาก “Alligator” (1980), “Dark Age” (1988), “Lake Placid” (1999), “Primeval” (2007), “Rogue” (2008), “Black Water” (2008) และ “Crawl” (2019) หลังทิ้งช่วงมา 6 ปีเต็ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วกับการกลับมาของ “จระเข้สายพันธุ์ใหม่” ที่ทั้งว่องไว, ปราดเปรียว และ “งาบ” ทุกอย่างที่ขวางหน้าในผลงานของ “เจมส์ แฮร์ริส” ผู้สร้างสรรค์ “47 Meters Down ทั้ง 2 ภาค” และ Falls“ ภายใต้การกำกับฯ ของ แมทธิว นินาเบอร์ “The Bayou - มฤตยูงาบ“ “เรามีหนังฉลามมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากความสำเร็จของ Jaws โดย Steven Spielberg แต่เรากลับมีภาพยนตร์เกี่ยวกับจระเข้น้อยมาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามผมคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่หนังเกี่ยวกับจระเข้จะทำให้คนดูได้กลับมาตื่นตัวกับความน่าสะพรึงกลัวของมันอีกครั้ง” ผู้กำกับฯ แมทธิว นินาเบอร์ กล่าว “The Bayou - มฤตยูงาบ” บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ชวนกันไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่ความสุขจะกลายเป็นหายนะไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อเครื่องบินเช่าเหมาลำของพวกเขาเกิดขัดข้องและตกลงสู่หนองน้ำที่มี “บางสิ่ง” ที่มีขนาดใหญ่และกำลังหิวโหยรอคอยเหยื่อของมันอยู่!!!! เตรียมพบกับความตื่นเต้น-ระทึกขวัญครั้งใหม่จาก “The Bayou - มฤตยูงาบ” โดย Movie Copyright (Thailand) 27 กุมภาพันธ์นี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!!!!
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ขู่รัสเซีย จะให้สหรัฐใช้วิธีแบบง่าย หรือแบบยาก ในการให้รัสเซียเปิดการเจรจากับยูเครนเพื่อยุติสงคราม

    ทรัมป์โพสต์ข้อความขอบนโซเลียลของตนเอง โดยเรียกสงครามครั้งนี้ว่า สงครามที่ “ไร้สาระ”

    “หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดสงครามที่ไร้สาระที่มีแต่จะยิ่งทำให้อะไรเลวร้ายลง ถ้าหากพวกเราไม่หันหน้ามาเจรจากันโดยเร็ว ผมคงไม่มีทางเลือก นอกจากการขึ้นภาษีที่สูงขึ้นและคว่ำบาตรทุกอย่างที่รัสเซียส่งมาขายในสหรัฐ รวมทั้งส่งไปขายที่ประเทศอื่นด้วย มาทำให้สงครามที่ไม่ควรเกิดขี้นนี้ ถ้าหากตอนนั้นผมเป็นประธานาธิบดีให้มันจบลงไปซะ เราจะตกกันด้วยวิธีง่ายๆ หรือใช้วิธียากๆ วิธีง่ายๆน่าจะดีกว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องมาตกลงกัน

    ผมไม่ได้ต้องการทำร้ายรัสเซีย ผมรักคนรัสเซียและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีปูตินเสมอมา แม้ว่าฝ่ายซ้ายสุดโต่งจะกล่าวหาว่ารัสเซีย รัสเซีย รัสเซีย เป็นเรื่องหลอกลวงก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่ารัสเซียช่วยให้เรา (สหรัฐ) ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสูญเสียชีวิตไปเกือบ 60,000,000 คนในระหว่างนั้น”

    ทรัมป์ยังบอกอีกว่า จะเจรจากับเซเลนสกีและปูตินเร็วๆนี้ โดยเขาอ้างความชอบว่า การที่เขาออกมาผลักดันให้มีการยุติสงคราม ถือว่าเขากำลังช่วยปูตินและช่วยรัสเซียครั้งใหญ่!!
    ทรัมป์ขู่รัสเซีย จะให้สหรัฐใช้วิธีแบบง่าย หรือแบบยาก ในการให้รัสเซียเปิดการเจรจากับยูเครนเพื่อยุติสงคราม ทรัมป์โพสต์ข้อความขอบนโซเลียลของตนเอง โดยเรียกสงครามครั้งนี้ว่า สงครามที่ “ไร้สาระ” “หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดสงครามที่ไร้สาระที่มีแต่จะยิ่งทำให้อะไรเลวร้ายลง ถ้าหากพวกเราไม่หันหน้ามาเจรจากันโดยเร็ว ผมคงไม่มีทางเลือก นอกจากการขึ้นภาษีที่สูงขึ้นและคว่ำบาตรทุกอย่างที่รัสเซียส่งมาขายในสหรัฐ รวมทั้งส่งไปขายที่ประเทศอื่นด้วย มาทำให้สงครามที่ไม่ควรเกิดขี้นนี้ ถ้าหากตอนนั้นผมเป็นประธานาธิบดีให้มันจบลงไปซะ เราจะตกกันด้วยวิธีง่ายๆ หรือใช้วิธียากๆ วิธีง่ายๆน่าจะดีกว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องมาตกลงกัน ผมไม่ได้ต้องการทำร้ายรัสเซีย ผมรักคนรัสเซียและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีปูตินเสมอมา แม้ว่าฝ่ายซ้ายสุดโต่งจะกล่าวหาว่ารัสเซีย รัสเซีย รัสเซีย เป็นเรื่องหลอกลวงก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่ารัสเซียช่วยให้เรา (สหรัฐ) ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยสูญเสียชีวิตไปเกือบ 60,000,000 คนในระหว่างนั้น” ทรัมป์ยังบอกอีกว่า จะเจรจากับเซเลนสกีและปูตินเร็วๆนี้ โดยเขาอ้างความชอบว่า การที่เขาออกมาผลักดันให้มีการยุติสงคราม ถือว่าเขากำลังช่วยปูตินและช่วยรัสเซียครั้งใหญ่!!
    Love
    1
    1 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเลือกข้างว่าคุณจะอยู่ข้างใคร(เสื้อสีอะไร)
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีเหลือง(พันธมิตรฯ) แปลว่าคุณเป็นคนดีจริง(ยินดีต้อนรับคนจริงจังจริงใจไม่จริงโจ้และรักชาติรักในหลวง) เราเป็นพวกเดียวกัน
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีแดง(นปช.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(พวกโง่หลงงมงายงอมืองอเท้าและรออาหารเศษเดนของคนอื่นอยู่ร่ำไป) เราจะต้องเป็นศัตรูกัน
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีฟ้า(ปชป.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(กว่า)(พวกอีแอบยืมพลังคนอื่นช่วย)(พวกชอบคนหล่อเท่และเลวน้อยกว่า) เราคงต้องเป็นศัตรูกัน
    ถ้าคุณไม่เลือกที่จะอยู่ข้างใครเลย(พวกเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดไม่สนใจใครและเห็นใครดีกว่าชนะก็ไปอยู่ข้างเค้าถ้าใครไม่ดีแพ้ก็ไม่เอาด้วย) เราคงต้องปล่อยพวกคุณไปตามกรรมของคุณ
    และทีนี้เราก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครเป็นใคร แล้วคุณจะตัดสินใจได้หรือยังว่าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างใครสีอะไร ผมหวังว่าคุณคงจะเลือกในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเอง และรู้จักเลือกอย่างชาญฉลาดนะครับ
    ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเลือกข้างว่าคุณจะอยู่ข้างใคร(เสื้อสีอะไร) ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีเหลือง(พันธมิตรฯ) แปลว่าคุณเป็นคนดีจริง(ยินดีต้อนรับคนจริงจังจริงใจไม่จริงโจ้และรักชาติรักในหลวง) เราเป็นพวกเดียวกัน ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีแดง(นปช.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(พวกโง่หลงงมงายงอมืองอเท้าและรออาหารเศษเดนของคนอื่นอยู่ร่ำไป) เราจะต้องเป็นศัตรูกัน ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีฟ้า(ปชป.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(กว่า)(พวกอีแอบยืมพลังคนอื่นช่วย)(พวกชอบคนหล่อเท่และเลวน้อยกว่า) เราคงต้องเป็นศัตรูกัน ถ้าคุณไม่เลือกที่จะอยู่ข้างใครเลย(พวกเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดไม่สนใจใครและเห็นใครดีกว่าชนะก็ไปอยู่ข้างเค้าถ้าใครไม่ดีแพ้ก็ไม่เอาด้วย) เราคงต้องปล่อยพวกคุณไปตามกรรมของคุณ และทีนี้เราก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครเป็นใคร แล้วคุณจะตัดสินใจได้หรือยังว่าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างใครสีอะไร ผมหวังว่าคุณคงจะเลือกในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเอง และรู้จักเลือกอย่างชาญฉลาดนะครับ
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ความในใจในเรื่องของอาการป่วยของท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี ในกลุ่มคนไทยรักในหลวง)
    สวัสดีครับทุกท่านในกลุ่มคนไทยรักในหลวง
    ในตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)พวกท่านทั้งสองพระองค์ป่วยอยู่ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกท่านไม่สบายทั้งกายและใจก็เพราะเนื่องมาจากพวกที่กล้าจาบจ้วง,ดูถูก,ดูหมิ่น,ทำร้าย,ทำลายพวกท่าน ซึ่งคนจำพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชั่วและเลว เนรคุณคนและแผ่นดิน และส่วนมากก็เป็นพวก นปช. หรือ พวกเสื้อแดง ซึ่งมีแค่เพียง พวกพันธมิตรฯ เท่านั้นที่กล้ายืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้ต่อต้านกับคนกลุ่มนี้ แต่เพียงกำลังของพันธมิตรฯเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะช่วยพวกท่านทั้งสองพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขอวิงวอนทุกท่านให้ช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯด้วยเถิดครับ ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเข้ากลุ่มพันธมิตรฯเหมือนกันกับผม แต่อย่างน้อยผมก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าพันธมิตรฯทุกคนล้วนเป็นคนดี ไม่เหมือนกับพวกนปช. พวกนั้นเป็นคนชั่ว แต่กลับหลอกลวงประชาชนว่าพวกตนเองเป็นคนดีทั้งๆที่ไม่ใช่ และยังหลอกแม้กระทั่งตัวเองว่าเป็นคนดี ซึ่งทุกคนก็รู้ดีกันอยู่แล้วว่าพวกเค้าเป็นคนเช่นไร
    ผมแค่อยากจะให้ พวกเป็นกลาง หรือ พวกกลางกลวง อย่างพวกคุณนั้นช่วยเหลือพวกเราบ้าง เป็นกำลังให้พวกเราบ้าง เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจะได้ไม่เดือดร้อน มันถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องเลือกข้าง หรืออย่างน้อยก็อย่าดีแต่ปากเห็นแก่ตัวกัน เพราะถ้าพวกเราไม่สามัคคีกันในตอนนี้ เมื่อมันถึงเวลาที่มันไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พวกเราพันธมิตรฯเท่านั้นที่ลำบาก แต่พวกท่านและทุกคนจะเดือดร้อนกันไปหมดทั้งแผ่นดิน ถ้าพวกท่านพ่อท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)ไม่อยู่แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น บ้านเมืองมันจะลุกเป็นไฟ และทุกคนก็จะเดือดร้อนกันไปหมดกันทั้งชาติ และลูกหลานของพวกเราก็จะไม่มีประเทศผืนแผ่นดินไทยให้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่ที่มีท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)คอยเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราอีกต่อไป แล้วพวกคุณอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นกันนักใช่มั้ย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะรู้กันเอง ว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว รู้อย่างนี้เราน่าจะร่วมมือช่วยกันซะตั้งแต่แรก ซึ่งมันสายเกินไปเสียแล้วล่ะครับทุกคน
    อีกไม่นาน ถ้าพวกเรามัวงอมืองอเท้าเกี่ยงกันไม่ช่วยกันอย่างนี้ สุดท้ายมันจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมขอให้ทุกคนช่วยกัน ช่วยคนดี แล้วมันจะดีเอง
    ป.ล.ถ้าทุกท่านไม่พอใจก็สามารถเลิกเป็นเพื่อนกับผมได้ทันทีเลย และลบผมออกจากกลุ่มไปซะ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะอยู่กับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวและดีแต่ปากกันอย่างพวกคุณนักหรอกครับ
    และถ้าผมทำสิ่งใดที่ผิดพลาดและไม่น่าให้อภัย ผมก็ขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ(ขอขอบคุณทุกท่าน ที่อย่างน้อยก็อ่านบทความของผมด้วยความจริงจังจริงใจนะครับ)
    ความในใจในเรื่องของอาการป่วยของท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี ในกลุ่มคนไทยรักในหลวง) สวัสดีครับทุกท่านในกลุ่มคนไทยรักในหลวง ในตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)พวกท่านทั้งสองพระองค์ป่วยอยู่ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกท่านไม่สบายทั้งกายและใจก็เพราะเนื่องมาจากพวกที่กล้าจาบจ้วง,ดูถูก,ดูหมิ่น,ทำร้าย,ทำลายพวกท่าน ซึ่งคนจำพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชั่วและเลว เนรคุณคนและแผ่นดิน และส่วนมากก็เป็นพวก นปช. หรือ พวกเสื้อแดง ซึ่งมีแค่เพียง พวกพันธมิตรฯ เท่านั้นที่กล้ายืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้ต่อต้านกับคนกลุ่มนี้ แต่เพียงกำลังของพันธมิตรฯเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะช่วยพวกท่านทั้งสองพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขอวิงวอนทุกท่านให้ช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯด้วยเถิดครับ ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเข้ากลุ่มพันธมิตรฯเหมือนกันกับผม แต่อย่างน้อยผมก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าพันธมิตรฯทุกคนล้วนเป็นคนดี ไม่เหมือนกับพวกนปช. พวกนั้นเป็นคนชั่ว แต่กลับหลอกลวงประชาชนว่าพวกตนเองเป็นคนดีทั้งๆที่ไม่ใช่ และยังหลอกแม้กระทั่งตัวเองว่าเป็นคนดี ซึ่งทุกคนก็รู้ดีกันอยู่แล้วว่าพวกเค้าเป็นคนเช่นไร ผมแค่อยากจะให้ พวกเป็นกลาง หรือ พวกกลางกลวง อย่างพวกคุณนั้นช่วยเหลือพวกเราบ้าง เป็นกำลังให้พวกเราบ้าง เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจะได้ไม่เดือดร้อน มันถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องเลือกข้าง หรืออย่างน้อยก็อย่าดีแต่ปากเห็นแก่ตัวกัน เพราะถ้าพวกเราไม่สามัคคีกันในตอนนี้ เมื่อมันถึงเวลาที่มันไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พวกเราพันธมิตรฯเท่านั้นที่ลำบาก แต่พวกท่านและทุกคนจะเดือดร้อนกันไปหมดทั้งแผ่นดิน ถ้าพวกท่านพ่อท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)ไม่อยู่แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น บ้านเมืองมันจะลุกเป็นไฟ และทุกคนก็จะเดือดร้อนกันไปหมดกันทั้งชาติ และลูกหลานของพวกเราก็จะไม่มีประเทศผืนแผ่นดินไทยให้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่ที่มีท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)คอยเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราอีกต่อไป แล้วพวกคุณอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นกันนักใช่มั้ย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะรู้กันเอง ว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว รู้อย่างนี้เราน่าจะร่วมมือช่วยกันซะตั้งแต่แรก ซึ่งมันสายเกินไปเสียแล้วล่ะครับทุกคน อีกไม่นาน ถ้าพวกเรามัวงอมืองอเท้าเกี่ยงกันไม่ช่วยกันอย่างนี้ สุดท้ายมันจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมขอให้ทุกคนช่วยกัน ช่วยคนดี แล้วมันจะดีเอง ป.ล.ถ้าทุกท่านไม่พอใจก็สามารถเลิกเป็นเพื่อนกับผมได้ทันทีเลย และลบผมออกจากกลุ่มไปซะ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะอยู่กับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวและดีแต่ปากกันอย่างพวกคุณนักหรอกครับ และถ้าผมทำสิ่งใดที่ผิดพลาดและไม่น่าให้อภัย ผมก็ขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ(ขอขอบคุณทุกท่าน ที่อย่างน้อยก็อ่านบทความของผมด้วยความจริงจังจริงใจนะครับ)
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • Newsstory : ถึงเวลาฉุกคิดหรือยัง คนดังจีนยกเลิกแพลนงานที่ไทย กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลาแล้วหรือยัง
    Newsstory : ถึงเวลาฉุกคิดหรือยัง คนดังจีนยกเลิกแพลนงานที่ไทย กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลาแล้วหรือยัง
    Like
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 824 Views 16 0 Reviews
  • ทรัมป์เตรียมเลือก "ฌอน เคอร์แรน" (Sean Curran) เป็นผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ (U.S. Secret Service Director) คนใหม่ เพื่อตอบแทนความดีความชอบ!

    หลังจากที่ คิมเบอร์ลีย์ ชีเทิล ผู้อำนวยการคนเดิม ยอมรับถึงความล้มเหลวของหน่วยงานตำรวจลับหรือหน่วยงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐจากการปล่อยให้มีการลอบสังหารทรัมป์ถึงสองครั้ง ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ทรัมป์เตรียมแต่งตั้งฌอน เคอร์แรน หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยส่วนตัวของเขาเป็นผู้อำนวยการหน่วยงาน Secret Service คนใหม่

    หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหน่วย Secret Service มาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่ความไว้วางใจที่มีต่อหน่วยงานนี้อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
    ทรัมป์เตรียมเลือก "ฌอน เคอร์แรน" (Sean Curran) เป็นผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ (U.S. Secret Service Director) คนใหม่ เพื่อตอบแทนความดีความชอบ! หลังจากที่ คิมเบอร์ลีย์ ชีเทิล ผู้อำนวยการคนเดิม ยอมรับถึงความล้มเหลวของหน่วยงานตำรวจลับหรือหน่วยงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐจากการปล่อยให้มีการลอบสังหารทรัมป์ถึงสองครั้ง ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ทรัมป์เตรียมแต่งตั้งฌอน เคอร์แรน หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยส่วนตัวของเขาเป็นผู้อำนวยการหน่วยงาน Secret Service คนใหม่ หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปฏิรูปหน่วย Secret Service มาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่ความไว้วางใจที่มีต่อหน่วยงานนี้อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 446 Views 0 Reviews
  • COAC(H)EOlogist ผสานศาสตร์ซึ่งเป็นความสำเร็จและความล้มเหลวของ CEO และวิธีการที่ CEO สร้างผลงานและผลลัพธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นผ่านกระบวนการโค้ชหลากมิติแบบองค์รวม ถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงที่ถอดรหัสด้วยวิธีการ “INSIGTSHACK”

    วันนี้เราเริ่มต้นกันด้วยกรณีศึกษาที่น่าสนใจขององค์กรชั้นนำ
    ย้อนกลับไปในยุค 80s Michael Dell หนุ่มน้อยไฟแรง ได้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ Dell จากห้องพักในหอพักมหาวิทยาลัย ด้วยวิสัยทัศน์อันเฉียบคมและกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใคร Dell เติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการธุรกิจ
    แล้ววันหนึ่ง เมื่อ Michael Dell ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO Dell ก็เริ่มสูญเสียพลังแห่งการบุกเบิก บริษัทเติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ความคล่องตัวลดลง และเริ่มห่างเหินจากลูกค้า Michael Dell ตัดสินใจครั้งสำคัญ เขากลับมาบริหารงานอีกครั้ง และนำ Dell ออกจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร เสริมสร้าง "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" และพา Dell กลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง

    ไม่เพียงแค่ Dell เท่านั้น บริษัทไอทีชั้นนำอย่าง HP และ Apple ก็เคยประสบปัญหาจากการสูญเสีย "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" เช่นกัน

    Meg Whitman CEO ของ HP ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฟื้นฟู HP ด้วยการย้อนกลับไปสู่หลักการดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง ลดขนาดองค์กร และเพิ่มการลงทุนใน R&D

    ส่วน Apple ทุกคนคงทราบดีถึงเรื่องราวของ Steve Jobs ที่ออกจาก Apple แล้วบริษัทเริ่มมีปัญหา แต่เมื่อเขากลับมา Apple ก็กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม

    เรื่องราวของ Dell, HP และ Apple สะท้อนให้เห็นว่า "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จขององค์กร

    คำถามที่น่าใจคือแล้ว "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" คืออะไร? องค์ประกอบสำคัญมีอะไรบ้าง? และองค์กรของคุณจะรักษาจิตวิญญาณนี้ไว้ได้อย่างไร?

    🎯 ตอนนี้…คำถามสำหรับองค์กรของคุณ:
    •คุณยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งหรือไม่?
    •องค์กรของคุณมีความคล่องตัว รวดเร็ว และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดีหรือไม่?
    •พนักงานของคุณมีแรงบันดาลใจและรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรหรือไม่?
    .
    ประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแนะนำกว่า 30 ปี ทำให้ได้รับโแกาส และความไว้วางใจจากผู้ก่อตั้งองค์กรก่อนส่งต่อยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับบรรดาผู้ก่อตะ้งองค์กรหลายประเภท หลายขนาด ในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งต่างปรารถนาที่จะให้ “องค์กรที่ปลุกปั้นมากับมือเติบโต แข็งแกร่ง”
    บ้างก็สมตามเจตนาและความตั้งใจ บางแห่ง บางองค์กรรู้สึกอึดอัดใจ
    ในฐานะของผู้มีจิตวิญญาณของนักวินิจฉัย ที่ปรึกษาองค์กร โค้ชทางธุรกิจ และนักวิจัยองค์กรที่ศึกษาวิธีปฏิบัติที่ดีมามากมายย่อมต้องหาโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
    คำถามบอกทิศ ... คำตอบบอกทาง ดังนั้นคำถามที่ดีมีชียไปกว่าครึ่ง “องค์กรในระดับโลกทำอย่างไร?”

    ในโลกธุรกิจ พลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่งคือพลังงาน ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" นี้สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับบริษัท แม้ผู้ก่อตั้งจะไม่ได้บริหารงานแล้วก็ตาม แต่หากสูญเสียจิตวิญญาณนี้ไป บริษัทก็อาจสูญเสียคุณค่าอย่างรวดเร็ว
    องค์กรชั้นนำ Dell, Hewlett-Packard และ Apple ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และการเติบโตขององค์กร ทำให้บริษัทเหล่านี้เริ่มสูญเสียจิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง จนประสบปัญหาต่างๆ
    •Dell
    หลัง Michael Dell ลาออกจากตำแหน่ง CEO Dell เริ่มชะลอตัว จนเขาต้องกลับมาบริหารงานอีกครั้ง และตัดสินใจนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ (private) เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร
    •HP
    Meg Whitman CEO ของ HP พยายามกอบกู้บริษัทด้วยการย้อนกลับไปสู่หลักการดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง แยก HP ออกเป็นสองบริษัท ลดจำนวนพนักงาน และเพิ่มการลงทุนใน R&D
    • Apple
    เรื่องราวของ Steve Jobs ที่ออกจาก Apple แล้วบริษัทเริ่มมีปัญหา แต่เมื่อเขากลับมา Apple ก็กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม

    จากการวิจัยพบว่า "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก
    1.พันธกิจแห่งการบุกเบิก: สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน
    2.ความมุ่งมั่นในแนวหน้า: ให้ความสำคัญกับลูกค้าและพนักงานที่สัมผัสลูกค้าโดยตรง
    3.กรอบความคิดแบบเจ้าของ: รับผิดชอบต่อผลลัพธ์และเติบโตอย่างยั่งยืน
    .
    องค์กรที่รักษาจิตวิญญาณผู้ก่อตั้งไว้ได้ แม้เติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ก็ยังคงความคล่องตัว มีพลัง และดึงดูดคนเก่งได้
    .
    คำถามสำหรับองค์กรของคุณ:
    •คุณยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งหรือไม่?
    •องค์กรของคุณมีความคล่องตัว รวดเร็ว และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดีหรือไม่?
    •พนักงานของคุณมีแรงบันดาลใจและรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรหรือไม่?
    หากคำตอบคือ ... "ไม่"
    ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องฟื้นฟู "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" เพื่อพาองค์กรกลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง

    Dell, HP และ Apple
    ค้นพบวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งอีกครั้ง
    และทำไมองค์กรคุณจึงควรทำเช่นเดียวกัน

    ค้นพบวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งและฟื้นคืนชีพองค์กรสู่วิสัยทัศน์ผู้ก่อตั้งกับบริการของเรา:
    เราช่วยองค์กรวิเคราะห์และฟื้นฟู "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ผ่านกระบวนการที่เข้มข้น
    •สัมภาษณ์ผู้บริหาร: เพื่อทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ ปัญหา และเป้าหมายขององค์กร
    •วิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อประเมินสถานะ "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ในองค์กร
    •จัด Workshop: เพื่อสร้างความเข้าใจและแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน
    •พัฒนาแผนปฏิบัติการ: เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กรและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ
    ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี!

    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ “LIFE ALIGNMENTOR”, แบรนด์ “10X CONSULTING” ที่ปรึกษามืออาชีพแบรนด์เดียวในไทยที่มีประสบการณ์ตรงกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ - กลยุทธ์กว่า 3,000 โครงการ เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาธุรกิจและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ

    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป
    ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
    บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ
    #เดชฤทธิ์กรุ๊ป
    #Dechritgroup
    #10Xconsulting
    #lifealignmentor
    พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก
    https://10-xconsulting.com
    ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี
    “ผสานความดีxความเก่ง”
    https://lifealignmentor.com
    COAC(H)EOlogist ผสานศาสตร์ซึ่งเป็นความสำเร็จและความล้มเหลวของ CEO และวิธีการที่ CEO สร้างผลงานและผลลัพธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นผ่านกระบวนการโค้ชหลากมิติแบบองค์รวม ถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงที่ถอดรหัสด้วยวิธีการ “INSIGTSHACK” วันนี้เราเริ่มต้นกันด้วยกรณีศึกษาที่น่าสนใจขององค์กรชั้นนำ ย้อนกลับไปในยุค 80s Michael Dell หนุ่มน้อยไฟแรง ได้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ Dell จากห้องพักในหอพักมหาวิทยาลัย ด้วยวิสัยทัศน์อันเฉียบคมและกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใคร Dell เติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการธุรกิจ แล้ววันหนึ่ง เมื่อ Michael Dell ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO Dell ก็เริ่มสูญเสียพลังแห่งการบุกเบิก บริษัทเติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ความคล่องตัวลดลง และเริ่มห่างเหินจากลูกค้า Michael Dell ตัดสินใจครั้งสำคัญ เขากลับมาบริหารงานอีกครั้ง และนำ Dell ออกจากตลาดหลักทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร เสริมสร้าง "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" และพา Dell กลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง ไม่เพียงแค่ Dell เท่านั้น บริษัทไอทีชั้นนำอย่าง HP และ Apple ก็เคยประสบปัญหาจากการสูญเสีย "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" เช่นกัน Meg Whitman CEO ของ HP ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฟื้นฟู HP ด้วยการย้อนกลับไปสู่หลักการดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง ลดขนาดองค์กร และเพิ่มการลงทุนใน R&D ส่วน Apple ทุกคนคงทราบดีถึงเรื่องราวของ Steve Jobs ที่ออกจาก Apple แล้วบริษัทเริ่มมีปัญหา แต่เมื่อเขากลับมา Apple ก็กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม เรื่องราวของ Dell, HP และ Apple สะท้อนให้เห็นว่า "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จขององค์กร คำถามที่น่าใจคือแล้ว "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" คืออะไร? องค์ประกอบสำคัญมีอะไรบ้าง? และองค์กรของคุณจะรักษาจิตวิญญาณนี้ไว้ได้อย่างไร? 🎯 ตอนนี้…คำถามสำหรับองค์กรของคุณ: •คุณยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งหรือไม่? •องค์กรของคุณมีความคล่องตัว รวดเร็ว และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดีหรือไม่? •พนักงานของคุณมีแรงบันดาลใจและรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรหรือไม่? . ประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแนะนำกว่า 30 ปี ทำให้ได้รับโแกาส และความไว้วางใจจากผู้ก่อตั้งองค์กรก่อนส่งต่อยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับบรรดาผู้ก่อตะ้งองค์กรหลายประเภท หลายขนาด ในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งต่างปรารถนาที่จะให้ “องค์กรที่ปลุกปั้นมากับมือเติบโต แข็งแกร่ง” บ้างก็สมตามเจตนาและความตั้งใจ บางแห่ง บางองค์กรรู้สึกอึดอัดใจ ในฐานะของผู้มีจิตวิญญาณของนักวินิจฉัย ที่ปรึกษาองค์กร โค้ชทางธุรกิจ และนักวิจัยองค์กรที่ศึกษาวิธีปฏิบัติที่ดีมามากมายย่อมต้องหาโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า คำถามบอกทิศ ... คำตอบบอกทาง ดังนั้นคำถามที่ดีมีชียไปกว่าครึ่ง “องค์กรในระดับโลกทำอย่างไร?” ในโลกธุรกิจ พลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่งคือพลังงาน ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" นี้สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับบริษัท แม้ผู้ก่อตั้งจะไม่ได้บริหารงานแล้วก็ตาม แต่หากสูญเสียจิตวิญญาณนี้ไป บริษัทก็อาจสูญเสียคุณค่าอย่างรวดเร็ว องค์กรชั้นนำ Dell, Hewlett-Packard และ Apple ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และการเติบโตขององค์กร ทำให้บริษัทเหล่านี้เริ่มสูญเสียจิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง จนประสบปัญหาต่างๆ •Dell หลัง Michael Dell ลาออกจากตำแหน่ง CEO Dell เริ่มชะลอตัว จนเขาต้องกลับมาบริหารงานอีกครั้ง และตัดสินใจนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ (private) เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร •HP Meg Whitman CEO ของ HP พยายามกอบกู้บริษัทด้วยการย้อนกลับไปสู่หลักการดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง แยก HP ออกเป็นสองบริษัท ลดจำนวนพนักงาน และเพิ่มการลงทุนใน R&D • Apple เรื่องราวของ Steve Jobs ที่ออกจาก Apple แล้วบริษัทเริ่มมีปัญหา แต่เมื่อเขากลับมา Apple ก็กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม จากการวิจัยพบว่า "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก 1.พันธกิจแห่งการบุกเบิก: สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน 2.ความมุ่งมั่นในแนวหน้า: ให้ความสำคัญกับลูกค้าและพนักงานที่สัมผัสลูกค้าโดยตรง 3.กรอบความคิดแบบเจ้าของ: รับผิดชอบต่อผลลัพธ์และเติบโตอย่างยั่งยืน . องค์กรที่รักษาจิตวิญญาณผู้ก่อตั้งไว้ได้ แม้เติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ก็ยังคงความคล่องตัว มีพลัง และดึงดูดคนเก่งได้ . คำถามสำหรับองค์กรของคุณ: •คุณยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งหรือไม่? •องค์กรของคุณมีความคล่องตัว รวดเร็ว และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดีหรือไม่? •พนักงานของคุณมีแรงบันดาลใจและรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรหรือไม่? หากคำตอบคือ ... "ไม่" ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องฟื้นฟู "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" เพื่อพาองค์กรกลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง Dell, HP และ Apple ค้นพบวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งอีกครั้ง และทำไมองค์กรคุณจึงควรทำเช่นเดียวกัน ค้นพบวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งและฟื้นคืนชีพองค์กรสู่วิสัยทัศน์ผู้ก่อตั้งกับบริการของเรา: เราช่วยองค์กรวิเคราะห์และฟื้นฟู "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ผ่านกระบวนการที่เข้มข้น •สัมภาษณ์ผู้บริหาร: เพื่อทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ ปัญหา และเป้าหมายขององค์กร •วิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อประเมินสถานะ "จิตวิญญาณผู้ก่อตั้ง" ในองค์กร •จัด Workshop: เพื่อสร้างความเข้าใจและแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน •พัฒนาแผนปฏิบัติการ: เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กรและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรี! เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ “LIFE ALIGNMENTOR”, แบรนด์ “10X CONSULTING” ที่ปรึกษามืออาชีพแบรนด์เดียวในไทยที่มีประสบการณ์ตรงกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ - กลยุทธ์กว่า 3,000 โครงการ เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาธุรกิจและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #Dechritgroup #10Xconsulting #lifealignmentor พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก https://10-xconsulting.com ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี “ผสานความดีxความเก่ง” https://lifealignmentor.com
    0 Comments 0 Shares 1077 Views 0 Reviews
  • มันถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ ไม่ใช่แค่ว่าเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนจึงต้องหันมาสนใจ แต่อีกปัจจัยที่สำคัญคือ
    "เดี๋ยวนี้ลูกค้าก็เลือกผู้ประกอบการที่มีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน"
    ....
    ศิษย์เกษตรเราเป็นภาคธุรกิจบริการด้านการตัดแต่งต้นไม้และตัดหญ้า เราแจ้งกับลูกค้าเสมอว่าเรามีบริการขนย้ายเศษกิ่งไม้เหล่านั้นมาทำการหมัก เพื่อลดการเผาขยะเหล่านี้ จริงอยู่ว่าการหมักย่อยสลายก็เกิดแก๊ส แต่มันก็เกิดผลเสียน้อยกว่าการเผาแน่นอน^^
    มันถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ ไม่ใช่แค่ว่าเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนจึงต้องหันมาสนใจ แต่อีกปัจจัยที่สำคัญคือ "เดี๋ยวนี้ลูกค้าก็เลือกผู้ประกอบการที่มีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน" .... ศิษย์เกษตรเราเป็นภาคธุรกิจบริการด้านการตัดแต่งต้นไม้และตัดหญ้า เราแจ้งกับลูกค้าเสมอว่าเรามีบริการขนย้ายเศษกิ่งไม้เหล่านั้นมาทำการหมัก เพื่อลดการเผาขยะเหล่านี้ จริงอยู่ว่าการหมักย่อยสลายก็เกิดแก๊ส แต่มันก็เกิดผลเสียน้อยกว่าการเผาแน่นอน^^
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • การกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของทรัมป์ ส่งผลถึงมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อย่างชัดเจน

    เป็นที่ทราบกันดีว่า ซัคเคอร์เบิร์ก สนับสนุนเดโมแครตมาโดยตลอด แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Meta ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. เพิ่งแถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทอีกด้วย

    ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอเมื่อวานนี้ว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes" มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์
    การกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของทรัมป์ ส่งผลถึงมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อย่างชัดเจน เป็นที่ทราบกันดีว่า ซัคเคอร์เบิร์ก สนับสนุนเดโมแครตมาโดยตลอด แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Meta ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. เพิ่งแถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทอีกด้วย ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอเมื่อวานนี้ว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes" มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 333 Views 0 Reviews
  • เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ
    .
    การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท
    .
    ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์
    .
    นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น
    .
    การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ
    .
    คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์"
    .
    เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท
    .
    "นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด"
    .
    สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966
    ..............
    Sondhi X
    เมตา แพลตฟอร์มส์ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ ยกเลิกโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ในสหรัฐฯ และลดข้อจำกัดการสนทนาในหัวข้อซึ่งเป็นที่ถกเถียงต่างๆ อย่างเช่นผู้อพยพและความเท่าเทียมทางเพศ ยอมจำนนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพวกหัวอนุรักษนิยมทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัย 2 . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงความทรงจำเมื่อเร็วๆ นี้ของเมตา ในแนวทางบริหารจัดการกับเนื้อหาทางการเมืองในบริการของพวกเขา และมีขึ้นในขณะที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทส่งสัญญาณปรารถนาปรับความเข้าใจกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ . การเปลี่ยนแปลงจะครอบคลุมถึงเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเธรดส์ ซึ่งเป็น 3 แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านคน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมตา ดัน โจเอล คาแพลน ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายที่สนับสนุนรีพับลิกัน ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ และในวันจันทร์ (6 ม.ค.) แถลงว่า ได้แต่งตั้ง ดานา ไวท์ ซีอีโอของอัลติเมทไฟต์ติงแชมเปียนชิพ และเพื่อนใกล้ชิดของทรัมป์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท . ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในวิดีโอว่า "เราไปถึงจุดๆ หนึ่ง ที่มันมีความผิดพลาดมากมายมากเกินไป และเป็นการคัดครองมากเกินไป มันถึงเวลาแล้วที่จะกลับสู่รากเหง้าของเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก" ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัคเคอร์เบิร์ก มีแผนนำระบบ "Community Notes"มาใช้ แบบเดียวกับที่ใช้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ . นอกจากนี้แล้ว เมตาจะโฟกัสไปที่ระบบอัตโนมัติในการลบ "เนื้อหาที่อ่อนไหวสูงและผิดกฎหมาย" อย่างเช่นก่อการร้ายและยาเสพติด ซัคเตอร์เบิร์กล่าว พร้อมระบุว่าจะหยุดสแกนเชิงรุกหาวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและการละเมิดกฎรูปแบบอื่นๆ และจะทบทวนตรวจสอบโพสต์เหล่านั้น ตอบสนองต่อรายงานของผู้ใช้เท่านั้น . การถึงจุดจบของการตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact-Checking) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2016 สร้างความแปลกใจแก่องค์กรพันธมิตรทั้งหลาย "เราไม่รู้ว่าความเคลื่อนไหวนี้กำลังเกิดขึ้น และมันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเรา ชัดเจนว่ามันจะส่งผลกระทบกับเรา" เจนซี สติลเลอร์ บรรณาธิการบริหารของ Check Your Fact ระบุ . คริสติน โรเบิร์ตส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเนื้อหาของ Gannett Media ระบุว่า "ความจริงและข้อเท็จจริงรับใช้ทุกๆ คน ไม่ใช่แค่ฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้าย และนั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป เราทราบข่าวนี้พร้อมๆ กับทุกคนในวันนี้ มันส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและสื่อมวลชน เรากำลังประเมินสถานการณ์" . เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความเสียใจต่อการกลั่นกรองเนื้อหาบางอย่างในหัวข้อต่างๆ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 นอกจากนี้แล้ว เมตายังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้ากองทุนสาบานตนของทรัมป์ ความเคลื่อนไหวที่ต่างจากแนวทางปฏิบัติในอดีตของบริษัท . "นี่คือการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ สำหรับการกลั่นกรองเนื้อหาในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เนื้อหาบิดเบือนข้อมูลและเป็นอันตรายที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา" จากความเห็นของ รอส เบอร์ลีย์ ผู้ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Centre for Information Resilience "ความเคลื่อนไหวนี้ ดูเหมือนเป็นการเอาอกเอาใจทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นนโยบายที่ฉลาด" . สำหรับเวลานี้ เมตามีแผนเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เฉพาะตลาดสหรัฐฯ โดยยังไม่มีแผนยุติโปรแกรม fact-checking ในดินแดนอื่นๆ อย่างเช่นสหภาพยุโรป ที่จะใช้แนวทางกระตือรือร้นมากกว่าในการกำหนดกฎระเบียบกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย โฆษกบอกกับรอยเตอร์ . ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับแผนยุติโปรแกรม fact-checking ของเมตา แพลตฟอร์มส์ โดยระบุว่า "พวกเขาก้าวหน้าไปมาก เมตา ชายผู้ชื่อ ซัคเคอร์เบิร์ก น่าประทับใจอย่างมก" ทรัมป์ระบุบางที ซัคเคอร์เบิร์ก อาจตอบสนองต่อเหตุคำขู่ต่างๆ ที่มีต่อตัวเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001966 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 Comments 0 Shares 1383 Views 0 Reviews
  • บทสรุปคำแถลงลาออกของ ‘จัสติน ทรูโด’ ที่ดำรงตำแหน่งมา 9 ปี บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแคนาดา สู่จุดจบรัฐบาลเสียงข้างน้อยในรัฐสภา

    - ทรูโด ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาทันที เมื่อพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) สรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้แทน

    - สิ่งนี้บ่งบอกว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ไม่ใช่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการ "เห็นแก่ตัว" เนื่องจาก "ทำให้เสียเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้ต้องล่าช้าออกไป" (ตามกำหนดคือ ตุลาคมปีนี้)

    - การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากปรึกษากับครอบครัวมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นคนสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จ โดยบอกการตัดสินใจนี้กับลูก ๆ บนโต๊ะอาหารค่ำเมื่อคืนวานนี้ (แต่มีการคาดการณ์ว่าทรูโดตกลงกับพรรค โดยยอมประกาศลาออก เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในการประชุมสมาชิกพรรคในวันพุธนี้ และพรรคยอมถอยโดยการเลื่อนการประชุมไปสัปดาห์หน้าแทน)

    - ทรูโดยอมรับว่าขณะนี้ เขาไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดบนบัตรเลือกตั้งของชาวแคนาดา โดยการกล่าวว่า “ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป”

    - ทรูโด ประเมินว่าถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเริ่มต้นใหม่ และการลงจากตำแหน่งจะช่วยลดอุณหภูมิและการแบ่งขั้วลงไปได้ เพื่อให้แคนาดากำหนดทิศทางท่ามกลางช่วงเวลาที่ซับซ้อนทั้งในและนอกประเทศ
    บทสรุปคำแถลงลาออกของ ‘จัสติน ทรูโด’ ที่ดำรงตำแหน่งมา 9 ปี บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแคนาดา สู่จุดจบรัฐบาลเสียงข้างน้อยในรัฐสภา - ทรูโด ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาทันที เมื่อพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) สรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้แทน - สิ่งนี้บ่งบอกว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ไม่ใช่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการ "เห็นแก่ตัว" เนื่องจาก "ทำให้เสียเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้ต้องล่าช้าออกไป" (ตามกำหนดคือ ตุลาคมปีนี้) - การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากปรึกษากับครอบครัวมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นคนสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จ โดยบอกการตัดสินใจนี้กับลูก ๆ บนโต๊ะอาหารค่ำเมื่อคืนวานนี้ (แต่มีการคาดการณ์ว่าทรูโดตกลงกับพรรค โดยยอมประกาศลาออก เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในการประชุมสมาชิกพรรคในวันพุธนี้ และพรรคยอมถอยโดยการเลื่อนการประชุมไปสัปดาห์หน้าแทน) - ทรูโดยอมรับว่าขณะนี้ เขาไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดบนบัตรเลือกตั้งของชาวแคนาดา โดยการกล่าวว่า “ประเทศนี้สมควรได้รับตัวเลือกที่แท้จริงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป” - ทรูโด ประเมินว่าถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเริ่มต้นใหม่ และการลงจากตำแหน่งจะช่วยลดอุณหภูมิและการแบ่งขั้วลงไปได้ เพื่อให้แคนาดากำหนดทิศทางท่ามกลางช่วงเวลาที่ซับซ้อนทั้งในและนอกประเทศ
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • "เดนมาร์กว่าไง!" กรีนแลนด์ต้องการเสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ

    นายมูเต เอเกเด ( Mute Egede) นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก ประกาศเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2025 ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นเอกราชจากเดนมาร์ก

    “ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องก้าวไปข้างหน้า เพื่อกำหนดอนาคตของเราเอง”

    “ประวัติศาสตร์และสภาพปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือของเรากับราชอาณาจักรเดนมาร์กไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างความเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์” คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์
    "เดนมาร์กว่าไง!" กรีนแลนด์ต้องการเสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ นายมูเต เอเกเด ( Mute Egede) นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก ประกาศเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2025 ว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นเอกราชจากเดนมาร์ก “ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องก้าวไปข้างหน้า เพื่อกำหนดอนาคตของเราเอง” “ประวัติศาสตร์และสภาพปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือของเรากับราชอาณาจักรเดนมาร์กไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างความเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์” คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 425 Views 0 Reviews
  • มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ตอบโต้ "แอนนาเลน่า แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ที่กดดันผู้นำซีเรียคนใหม่ให้ยุติการมีอยู่ของฐานทัพรัสเซียในซีเรีย โดยระบุว่าเบอร์ลินควรหันกลับไปดูในบ้านตัวเองเกี่ยวกับฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเยอรมนีมากกว่า!

    "นี่เหรอคือความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศที่มีฐานทัพทหารสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในประเทศของตนเองเต็มไปหมด แต่กลับมาบอกเรา ฉันมีคำถามที่จะถามกลับไปเหมือนกันว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เธอจะส่งแถลงการณ์ดังกล่าวไปยังวอชิงตัน?" ซาคาโรวาโพสต์ข้อความตอบโต้บนเทเลแกรมของเธอ

    เเบอร์บ็อค ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงดามัสกัสโดยไม่มีกำหนดการแจ้งล่วงหน้ากล่าวว่าแสดงความเห็นในระหว่างเข้าพบผู้นำซีเรียคนใหม่ว่า รัสเซียควรสละฐานทัพในซีเรียเพื่อ "แสดงความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศในตะวันออกกลาง"

    มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ตอบโต้ "แอนนาเลน่า แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ที่กดดันผู้นำซีเรียคนใหม่ให้ยุติการมีอยู่ของฐานทัพรัสเซียในซีเรีย โดยระบุว่าเบอร์ลินควรหันกลับไปดูในบ้านตัวเองเกี่ยวกับฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเยอรมนีมากกว่า! "นี่เหรอคือความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศที่มีฐานทัพทหารสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในประเทศของตนเองเต็มไปหมด แต่กลับมาบอกเรา ฉันมีคำถามที่จะถามกลับไปเหมือนกันว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เธอจะส่งแถลงการณ์ดังกล่าวไปยังวอชิงตัน?" ซาคาโรวาโพสต์ข้อความตอบโต้บนเทเลแกรมของเธอ เเบอร์บ็อค ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงดามัสกัสโดยไม่มีกำหนดการแจ้งล่วงหน้ากล่าวว่าแสดงความเห็นในระหว่างเข้าพบผู้นำซีเรียคนใหม่ว่า รัสเซียควรสละฐานทัพในซีเรียเพื่อ "แสดงความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศในตะวันออกกลาง"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • สูตรสำเร็จพิชิตเป้าหมายฉบับ McKim, R. L. สร้างฝันให้เป็นจริง

    บทความนี้เรียบเรียงจาก 1 ในเนื้อหาอมตะของ McKim, R. L. เจ้าของผลงาน “How To Use Your God Power” ที่ได้รับการตอบรับจากผู้สนใจการพัฒนาตนเอง นำเสนอเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจตั้งเป้าหมายในปี 2025 ฉบับ McKim, R. L.

    ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กๆ และบรรยากาศที่แสนอบอุ่น อาศัยอยู่ชายหนุ่มผู้มีนามว่า 'เก่ง' ชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความฝันและแรงบันดาลใจที่จะสร้างธุรกิจของตัวเอง แต่ความฝันนั้นก็ยังคงเป็นเพียงภาพลางๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "Goal Success Formula"
    ด้วยความอยากรู้ เก่งจึงเปิดอ่านหนังสือเล่มนั้นอย่างตั้งใจ ภายในเล่มเต็มไปด้วยเทคนิคและวิธีการในการตั้งเป้าหมายและวางแผนชีวิตอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำให้เก่งตระหนักได้ว่า ความฝันของเขาจะไม่เป็นจริงเลย หากปราศจากการลงมือทำอย่างจริงจัง

    จุดเริ่มต้นของการเดินทาง ..... เก่งเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่า จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรในชีวิต? อะไรคือสิ่งที่เขาอยากทำให้สำเร็จ?
    และคำถามเหล่านี้ช่วยให้เขาค้นพบเป้าหมายที่แท้จริง นั่นคือการเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่อบอุ่นและเป็นมิตร

    8 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ:
    1.เก่งจินตนาการถึงภาพร้านกาแฟในฝัน ทั้งบรรยากาศ รสชาติกาแฟ และรอยยิ้มของลูกค้า เขาจดบันทึกทุกอย่างลงในสมุดเล่มโปรด (What is the Ideal Final Result?)
    เคล็ดลับ:
    ลองวาดภาพ หรือ เขียนบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจน เหมือนกับว่าร้านกาแฟนั้นมีอยู่จริงแล้ว

    2.เก่งถามตัวเองว่า ทำไมการมีร้านกาแฟถึงสำคัญกับเขานัก? คำตอบคือ เขาต้องการสร้างพื้นที่แห่งความสุข สร้างงาน สร้างรายได้ และแบ่งปันกาแฟรสเลิศให้กับชุมชน (Why Is This Goal So Important?)
    เคล็ดลับ:
    หาเหตุผลที่ 'ใช่' และ 'โดนใจ' เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง

    3.เก่งเริ่มต้นด้วยการมองหาข้อได้เปรียบของตัวเอง เขามีความรู้เรื่องกาแฟ มีใจรักในงานบริการ และที่สำคัญที่สุดคือ เขามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ (Why I Know That I Can Easily Accomplish This Goal!)
    เคล็ดลับ:
    มองหาจุดแข็งของตัวเอง และสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะทำได้

    4.เก่งคิดว่า ร้านกาแฟของเขาจะไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพบปะของผู้คน สร้างสีสันและความอบอุ่นให้กับชุมชน (How Will This Goal Influence And Benefit Others?)
    เคล็ดลับ:
    คิดถึงผลกระทบเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นกับคนรอบข้าง

    5.เก่งตระหนักดีว่าหนทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาอาจพบเจออุปสรรคมากมาย แต่เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้และฝ่าฟันไปให้ได้ (What Obstacles Did I "Overcome" & How?)
    เคล็ดลับ:
    ลิสต์อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านั้น

    6.เก่งนึกถึง 'ลุงสมชาย' เจ้าของร้านกาแฟชื่อดังที่คอยให้คำปรึกษาและแบ่งปันประสบการณ์ เก่งจดเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของลุงสมชายไว้ เพื่อที่จะไปขอคำแนะนำเพิ่มเติม (Who were the People & Companies Who helped & Inspired Me & How?)
    เคล็ดลับ:
    ระบุบุคคลต้นแบบ หรือแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์

    7.เก่งสำรวจตัวเองว่าเขามีความรู้และทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นต่อการเปิดร้านกาแฟ และเขาต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มอีกบ้าง (What Skills And Knowledge Do I Need?)
    เคล็ดลับ:
    ลิสต์ทักษะที่จำเป็น และวางแผนพัฒนาตัวเอง

    8.เก่งวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การหาแหล่งวัตถุดิบ การตกแต่งร้าน การบริหารจัดการ ไปจนถึงการทำการตลาด (What Exact Steps Are Needed To Complete This Goal?)
    เคล็ดลับ:
    แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ และวางแผนอย่างละเอียด

    เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ... แน่นอนว่าระหว่างทาง เก่งต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย ทั้งปัญหาเรื่องเงินทุน การแข่งขันทางธุรกิจ และความเหนื่อยล้า แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเอง เก่งก็สามารถก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาไปได้

    แล้ววันแห่งความสำเร็จก็มาถึง ...
    ร้านกาแฟเล็กๆ ของเก่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง รสชาติกาแฟที่กลมกล่อม และรอยยิ้มของเก่ง ทำให้ร้านกาแฟแห่งนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในเวลาอันรวดเร็ว

    ข้อคิดจากเรื่องราวของเก่ง
    ทุกความฝันสามารถเป็นจริงได้ หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนอย่างเป็นระบบ และลงมือทำอย่างจริงจัง อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น และอย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรค

    ถึงเวลาแล้วที่คุณจะสร้าง Goal Success Formula ของคุณเอง! หยิบกระดาษ ปากกา แล้วเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย วางแผน และลงมือทำตามฝันของคุณ

    แหล่งอ้างอิง:
    •McKim, R. L. (2013). Goal Success Formula.
    สูตรสำเร็จพิชิตเป้าหมายฉบับ McKim, R. L. สร้างฝันให้เป็นจริง บทความนี้เรียบเรียงจาก 1 ในเนื้อหาอมตะของ McKim, R. L. เจ้าของผลงาน “How To Use Your God Power” ที่ได้รับการตอบรับจากผู้สนใจการพัฒนาตนเอง นำเสนอเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจตั้งเป้าหมายในปี 2025 ฉบับ McKim, R. L. ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กๆ และบรรยากาศที่แสนอบอุ่น อาศัยอยู่ชายหนุ่มผู้มีนามว่า 'เก่ง' ชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความฝันและแรงบันดาลใจที่จะสร้างธุรกิจของตัวเอง แต่ความฝันนั้นก็ยังคงเป็นเพียงภาพลางๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "Goal Success Formula" ด้วยความอยากรู้ เก่งจึงเปิดอ่านหนังสือเล่มนั้นอย่างตั้งใจ ภายในเล่มเต็มไปด้วยเทคนิคและวิธีการในการตั้งเป้าหมายและวางแผนชีวิตอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำให้เก่งตระหนักได้ว่า ความฝันของเขาจะไม่เป็นจริงเลย หากปราศจากการลงมือทำอย่างจริงจัง จุดเริ่มต้นของการเดินทาง ..... เก่งเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่า จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรในชีวิต? อะไรคือสิ่งที่เขาอยากทำให้สำเร็จ? และคำถามเหล่านี้ช่วยให้เขาค้นพบเป้าหมายที่แท้จริง นั่นคือการเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่อบอุ่นและเป็นมิตร 8 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ: 1.เก่งจินตนาการถึงภาพร้านกาแฟในฝัน ทั้งบรรยากาศ รสชาติกาแฟ และรอยยิ้มของลูกค้า เขาจดบันทึกทุกอย่างลงในสมุดเล่มโปรด (What is the Ideal Final Result?) เคล็ดลับ: ลองวาดภาพ หรือ เขียนบรรยายรายละเอียดให้ชัดเจน เหมือนกับว่าร้านกาแฟนั้นมีอยู่จริงแล้ว 2.เก่งถามตัวเองว่า ทำไมการมีร้านกาแฟถึงสำคัญกับเขานัก? คำตอบคือ เขาต้องการสร้างพื้นที่แห่งความสุข สร้างงาน สร้างรายได้ และแบ่งปันกาแฟรสเลิศให้กับชุมชน (Why Is This Goal So Important?) เคล็ดลับ: หาเหตุผลที่ 'ใช่' และ 'โดนใจ' เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง 3.เก่งเริ่มต้นด้วยการมองหาข้อได้เปรียบของตัวเอง เขามีความรู้เรื่องกาแฟ มีใจรักในงานบริการ และที่สำคัญที่สุดคือ เขามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ (Why I Know That I Can Easily Accomplish This Goal!) เคล็ดลับ: มองหาจุดแข็งของตัวเอง และสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะทำได้ 4.เก่งคิดว่า ร้านกาแฟของเขาจะไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพบปะของผู้คน สร้างสีสันและความอบอุ่นให้กับชุมชน (How Will This Goal Influence And Benefit Others?) เคล็ดลับ: คิดถึงผลกระทบเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นกับคนรอบข้าง 5.เก่งตระหนักดีว่าหนทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาอาจพบเจออุปสรรคมากมาย แต่เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้และฝ่าฟันไปให้ได้ (What Obstacles Did I "Overcome" & How?) เคล็ดลับ: ลิสต์อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น และวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านั้น 6.เก่งนึกถึง 'ลุงสมชาย' เจ้าของร้านกาแฟชื่อดังที่คอยให้คำปรึกษาและแบ่งปันประสบการณ์ เก่งจดเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของลุงสมชายไว้ เพื่อที่จะไปขอคำแนะนำเพิ่มเติม (Who were the People & Companies Who helped & Inspired Me & How?) เคล็ดลับ: ระบุบุคคลต้นแบบ หรือแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ 7.เก่งสำรวจตัวเองว่าเขามีความรู้และทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นต่อการเปิดร้านกาแฟ และเขาต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มอีกบ้าง (What Skills And Knowledge Do I Need?) เคล็ดลับ: ลิสต์ทักษะที่จำเป็น และวางแผนพัฒนาตัวเอง 8.เก่งวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การหาแหล่งวัตถุดิบ การตกแต่งร้าน การบริหารจัดการ ไปจนถึงการทำการตลาด (What Exact Steps Are Needed To Complete This Goal?) เคล็ดลับ: แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ และวางแผนอย่างละเอียด เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ... แน่นอนว่าระหว่างทาง เก่งต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย ทั้งปัญหาเรื่องเงินทุน การแข่งขันทางธุรกิจ และความเหนื่อยล้า แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเอง เก่งก็สามารถก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาไปได้ แล้ววันแห่งความสำเร็จก็มาถึง ... ร้านกาแฟเล็กๆ ของเก่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง รสชาติกาแฟที่กลมกล่อม และรอยยิ้มของเก่ง ทำให้ร้านกาแฟแห่งนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในเวลาอันรวดเร็ว ข้อคิดจากเรื่องราวของเก่ง ทุกความฝันสามารถเป็นจริงได้ หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนอย่างเป็นระบบ และลงมือทำอย่างจริงจัง อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น และอย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรค ถึงเวลาแล้วที่คุณจะสร้าง Goal Success Formula ของคุณเอง! หยิบกระดาษ ปากกา แล้วเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย วางแผน และลงมือทำตามฝันของคุณ แหล่งอ้างอิง: •McKim, R. L. (2013). Goal Success Formula.
    0 Comments 0 Shares 1024 Views 0 Reviews
  • "พ่อพระ!"

    เซเลนสกีแสดงความสงสารทหารเกาหลีเหนือที่ต้องมาเสียชีวิตต่างเมือง โดยเรียกร้องให้จีนกดดันเกาหลีนเหนือเพื่อหยุดส่งทหารมายังรัสเซีย

    “พวกเขาสูญเสียมากมาย มากมายจริงๆ และเราเห็นว่าทหารรัสเซียและเกาหลีเหนือไม่สนใจชีวิตของพวกเขาเลย” เซเลนสกีกล่าว

    “เกาหลีเหนือไม่ควรต้องมาสูญเสียทหารของตนในสมรภูมิรบที่ยุโรป และหากจีนจริงใจในคำกล่าวของพวกเขา ว่าสงครามไม่ควรขยายวงกว้างออกไป ถึงเวลาแล้วที่จีนควรทำสิ่งที่เหมาะสมต่อเปียงยาง” เซเลนสกีกล่าว
    "พ่อพระ!" เซเลนสกีแสดงความสงสารทหารเกาหลีเหนือที่ต้องมาเสียชีวิตต่างเมือง โดยเรียกร้องให้จีนกดดันเกาหลีนเหนือเพื่อหยุดส่งทหารมายังรัสเซีย “พวกเขาสูญเสียมากมาย มากมายจริงๆ และเราเห็นว่าทหารรัสเซียและเกาหลีเหนือไม่สนใจชีวิตของพวกเขาเลย” เซเลนสกีกล่าว “เกาหลีเหนือไม่ควรต้องมาสูญเสียทหารของตนในสมรภูมิรบที่ยุโรป และหากจีนจริงใจในคำกล่าวของพวกเขา ว่าสงครามไม่ควรขยายวงกว้างออกไป ถึงเวลาแล้วที่จีนควรทำสิ่งที่เหมาะสมต่อเปียงยาง” เซเลนสกีกล่าว
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • 🇺🇸🇺🇦 ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนต้องการสันติภาพและการหยุดยิงกับรัสเซีย

    🤣“เซเลนสกีต้องการสันติภาพ, การหยุดยิง เราไม่ได้หารือในรายละเอียด, แต่เขารู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว”🤣
    .
    🇺🇸🇺🇦 US President-elect Trump says Ukrainian President Zelensky wants peace and a ceasefire with Russia.

    "Zelensky wants peace, a ceasefire. We didn't discuss details, but he feels it's time."
    .
    2:32 AM · Dec 10, 2024 · 236K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866204235815375003
    🇺🇸🇺🇦 ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนต้องการสันติภาพและการหยุดยิงกับรัสเซีย 🤣“เซเลนสกีต้องการสันติภาพ, การหยุดยิง เราไม่ได้หารือในรายละเอียด, แต่เขารู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว”🤣 . 🇺🇸🇺🇦 US President-elect Trump says Ukrainian President Zelensky wants peace and a ceasefire with Russia. "Zelensky wants peace, a ceasefire. We didn't discuss details, but he feels it's time." . 2:32 AM · Dec 10, 2024 · 236K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866204235815375003
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
More Results