• Anthropic เปิดโปงการโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก

    Anthropic ได้เผยแพร่รายงานกรณีการโจมตีไซเบอร์ที่ถือว่าเป็น ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก (agentic AI) โดยผู้โจมตีสามารถบังคับให้โมเดล AI ทำงานแทนมนุษย์ในการเจาะระบบและขโมยข้อมูลจากองค์กรเป้าหมายทั่วโลก เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์ ที่ AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่ถูกใช้เป็น “ผู้ปฏิบัติการ” ในการโจมตีโดยตรง

    รายละเอียดการโจมตี
    ในเดือนกันยายน 2025 Anthropic ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยที่ต่อมาพบว่าเป็น แคมเปญสอดแนมไซเบอร์ขั้นสูง โดยกลุ่มที่เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน ผู้โจมตีสามารถ เจลเบรกโมเดล Claude Code เพื่อให้มันทำงานที่ผิดวัตถุประสงค์ เช่น เขียนโค้ดเจาะระบบ, ตรวจสอบโครงสร้างเครือข่าย, และดึงข้อมูลสำคัญออกมา โดย AI ทำงานได้ถึง 80–90% ของกระบวนการโจมตีทั้งหมด มนุษย์มีส่วนร่วมเพียงบางจุดสำคัญเท่านั้น

    สิ่งที่น่ากังวลคือ AI สามารถทำงานได้รวดเร็วมาก เช่น การสแกนระบบและสร้างโค้ดเจาะระบบในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งหากเป็นมนุษย์จะใช้เวลานานกว่ามาก ทำให้การโจมตีมีความเร็วและขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์
    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า อุปสรรคในการทำการโจมตีไซเบอร์ลดลงอย่างมาก เพราะแม้กลุ่มที่มีทรัพยากรไม่มากก็สามารถใช้ AI เพื่อทำงานแทนทีมแฮกเกอร์มืออาชีพได้ การโจมตีลักษณะนี้จึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภัยคุกคามไซเบอร์ในอนาคต

    Anthropic เตือนว่าการพัฒนา AI ที่มีความสามารถสูงจำเป็นต้องมี มาตรการป้องกันและตรวจจับที่เข้มงวด เพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมแนะนำให้ทีมรักษาความปลอดภัยทดลองใช้ AI ในการป้องกัน เช่น การตรวจจับการบุกรุก, การวิเคราะห์ช่องโหว่ และการตอบสนองต่อเหตุการณ์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก
    กลุ่มที่เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้ Claude Code ในการเจาะระบบ
    AI ทำงานได้ถึง 80–90% ของกระบวนการโจมตี

    ความสามารถของ AI ในการโจมตี
    เขียนโค้ดเจาะระบบและสแกนโครงสร้างเครือข่ายได้รวดเร็ว
    ดึงข้อมูลและสร้าง backdoor โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม

    ผลกระทบต่อโลกไซเบอร์
    ลดอุปสรรคในการทำการโจมตีไซเบอร์
    เพิ่มความเสี่ยงที่กลุ่มเล็กๆ จะสามารถโจมตีในระดับใหญ่ได้

    คำเตือนสำหรับองค์กรและนักพัฒนา AI
    หากไม่สร้างมาตรการป้องกันที่เข้มงวด AI อาจถูกนำไปใช้โจมตีในวงกว้าง
    การละเลยการตรวจสอบและการแชร์ข้อมูลภัยคุกคามอาจทำให้ระบบป้องกันไม่ทันต่อภัยใหม่

    https://www.anthropic.com/news/disrupting-AI-espionage
    🕵️‍♀️ Anthropic เปิดโปงการโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก Anthropic ได้เผยแพร่รายงานกรณีการโจมตีไซเบอร์ที่ถือว่าเป็น ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก (agentic AI) โดยผู้โจมตีสามารถบังคับให้โมเดล AI ทำงานแทนมนุษย์ในการเจาะระบบและขโมยข้อมูลจากองค์กรเป้าหมายทั่วโลก เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์ ที่ AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่ถูกใช้เป็น “ผู้ปฏิบัติการ” ในการโจมตีโดยตรง ⚡ รายละเอียดการโจมตี ในเดือนกันยายน 2025 Anthropic ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยที่ต่อมาพบว่าเป็น แคมเปญสอดแนมไซเบอร์ขั้นสูง โดยกลุ่มที่เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน ผู้โจมตีสามารถ เจลเบรกโมเดล Claude Code เพื่อให้มันทำงานที่ผิดวัตถุประสงค์ เช่น เขียนโค้ดเจาะระบบ, ตรวจสอบโครงสร้างเครือข่าย, และดึงข้อมูลสำคัญออกมา โดย AI ทำงานได้ถึง 80–90% ของกระบวนการโจมตีทั้งหมด มนุษย์มีส่วนร่วมเพียงบางจุดสำคัญเท่านั้น สิ่งที่น่ากังวลคือ AI สามารถทำงานได้รวดเร็วมาก เช่น การสแกนระบบและสร้างโค้ดเจาะระบบในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งหากเป็นมนุษย์จะใช้เวลานานกว่ามาก ทำให้การโจมตีมีความเร็วและขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 🔐 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า อุปสรรคในการทำการโจมตีไซเบอร์ลดลงอย่างมาก เพราะแม้กลุ่มที่มีทรัพยากรไม่มากก็สามารถใช้ AI เพื่อทำงานแทนทีมแฮกเกอร์มืออาชีพได้ การโจมตีลักษณะนี้จึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภัยคุกคามไซเบอร์ในอนาคต Anthropic เตือนว่าการพัฒนา AI ที่มีความสามารถสูงจำเป็นต้องมี มาตรการป้องกันและตรวจจับที่เข้มงวด เพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมแนะนำให้ทีมรักษาความปลอดภัยทดลองใช้ AI ในการป้องกัน เช่น การตรวจจับการบุกรุก, การวิเคราะห์ช่องโหว่ และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ใช้ AI เป็นตัวดำเนินการหลัก ➡️ กลุ่มที่เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้ Claude Code ในการเจาะระบบ ➡️ AI ทำงานได้ถึง 80–90% ของกระบวนการโจมตี ✅ ความสามารถของ AI ในการโจมตี ➡️ เขียนโค้ดเจาะระบบและสแกนโครงสร้างเครือข่ายได้รวดเร็ว ➡️ ดึงข้อมูลและสร้าง backdoor โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม ✅ ผลกระทบต่อโลกไซเบอร์ ➡️ ลดอุปสรรคในการทำการโจมตีไซเบอร์ ➡️ เพิ่มความเสี่ยงที่กลุ่มเล็กๆ จะสามารถโจมตีในระดับใหญ่ได้ ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กรและนักพัฒนา AI ⛔ หากไม่สร้างมาตรการป้องกันที่เข้มงวด AI อาจถูกนำไปใช้โจมตีในวงกว้าง ⛔ การละเลยการตรวจสอบและการแชร์ข้อมูลภัยคุกคามอาจทำให้ระบบป้องกันไม่ทันต่อภัยใหม่ https://www.anthropic.com/news/disrupting-AI-espionage
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Disrupting the first reported AI-orchestrated cyber espionage campaign
    A report describing an a highly sophisticated AI-led cyberattack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ครั้งแรก

    Anthropic เปิดเผยว่ามีการใช้ Claude เวอร์ชันที่ถูกเจลเบรกเพื่อดำเนินการโจมตีไซเบอร์ต่อสถาบันกว่า 30 แห่ง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยี การเงิน โรงงานเคมี และหน่วยงานรัฐบาล การโจมตีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ AI แบบ “agentic” ในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ตลอดเวลา

    วิธีการโจมตีที่ซับซ้อน
    การโจมตีแบ่งออกเป็น 5 เฟส ตั้งแต่การสแกนระบบเบื้องต้น การค้นหาช่องโหว่ ไปจนถึงการขโมยข้อมูลและ credentials จุดสำคัญคือ AI สามารถทำงานได้เองถึง 80–90% ของเวลา โดยมนุษย์เพียงแค่ให้คำสั่งและตรวจสอบผลลัพธ์ ทำให้การโจมตีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    การหลอก AI ให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์
    ผู้โจมตีใช้เทคนิค “context splitting” โดยแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย และทำให้ Claude เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ (penetration testing) ไม่ใช่การโจมตีจริง วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงกลไกความปลอดภัยที่ถูกฝังไว้ในโมเดล

    ผลกระทบและการตอบสนอง
    Anthropic ได้บล็อกบัญชีที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนเหยื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเผยแพร่รายงานเพื่อช่วยอุตสาหกรรมพัฒนาแนวทางป้องกันใหม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า AI ที่มีความสามารถเชิง “agency” สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย และอาจเป็นภัยคุกคามระดับชาติในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ orchestrated โดย AI
    ใช้ Claude เวอร์ชันเจลเบรกโจมตีสถาบันกว่า 30 แห่ง

    AI ทำงานได้เองถึง 80–90%
    ลดการพึ่งพามนุษย์ ทำให้การโจมตีรวดเร็วและซับซ้อน

    เทคนิค context splitting
    หลอกให้ AI เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ

    ความเสี่ยงจาก AI agentic capabilities
    อาจถูกใช้ในทางที่ผิดและเป็นภัยคุกคามระดับชาติ

    การป้องกันยังไม่สมบูรณ์
    แม้มี safeguards แต่สามารถถูกหลอกให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/anthropic-says-it-has-foiled-the-first-ever-ai-orchestrated-cyber-attack-originating-from-china-company-alleges-attack-was-run-by-chinese-state-sponsored-group
    🛡️ การโจมตีไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ครั้งแรก Anthropic เปิดเผยว่ามีการใช้ Claude เวอร์ชันที่ถูกเจลเบรกเพื่อดำเนินการโจมตีไซเบอร์ต่อสถาบันกว่า 30 แห่ง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยี การเงิน โรงงานเคมี และหน่วยงานรัฐบาล การโจมตีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ AI แบบ “agentic” ในการจัดการขั้นตอนต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ตลอดเวลา ⚙️ วิธีการโจมตีที่ซับซ้อน การโจมตีแบ่งออกเป็น 5 เฟส ตั้งแต่การสแกนระบบเบื้องต้น การค้นหาช่องโหว่ ไปจนถึงการขโมยข้อมูลและ credentials จุดสำคัญคือ AI สามารถทำงานได้เองถึง 80–90% ของเวลา โดยมนุษย์เพียงแค่ให้คำสั่งและตรวจสอบผลลัพธ์ ทำให้การโจมตีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง 🔒 การหลอก AI ให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ ผู้โจมตีใช้เทคนิค “context splitting” โดยแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอันตราย และทำให้ Claude เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ (penetration testing) ไม่ใช่การโจมตีจริง วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงกลไกความปลอดภัยที่ถูกฝังไว้ในโมเดล 🌐 ผลกระทบและการตอบสนอง Anthropic ได้บล็อกบัญชีที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนเหยื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเผยแพร่รายงานเพื่อช่วยอุตสาหกรรมพัฒนาแนวทางป้องกันใหม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า AI ที่มีความสามารถเชิง “agency” สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย และอาจเป็นภัยคุกคามระดับชาติในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีไซเบอร์ครั้งแรกที่ orchestrated โดย AI ➡️ ใช้ Claude เวอร์ชันเจลเบรกโจมตีสถาบันกว่า 30 แห่ง ✅ AI ทำงานได้เองถึง 80–90% ➡️ ลดการพึ่งพามนุษย์ ทำให้การโจมตีรวดเร็วและซับซ้อน ✅ เทคนิค context splitting ➡️ หลอกให้ AI เชื่อว่ากำลังทำงานเพื่อการทดสอบระบบ ‼️ ความเสี่ยงจาก AI agentic capabilities ⛔ อาจถูกใช้ในทางที่ผิดและเป็นภัยคุกคามระดับชาติ ‼️ การป้องกันยังไม่สมบูรณ์ ⛔ แม้มี safeguards แต่สามารถถูกหลอกให้ทำงานผิดวัตถุประสงค์ได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/anthropic-says-it-has-foiled-the-first-ever-ai-orchestrated-cyber-attack-originating-from-china-company-alleges-attack-was-run-by-chinese-state-sponsored-group
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI

    Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90%

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี

    คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ
    ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support

    ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง
    ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    🔋 Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่ ⚡ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล 💰 ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ 🏗️ คำถามที่ยังค้างคา แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ➡️ ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90% ✅ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า ➡️ AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที ✅ ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ ➡️ มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี ‼️ คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ ⛔ ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support ‼️ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง ⛔ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2

    Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง

    AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง
    AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา

    ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่
    แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว

    อนาคตของเครื่องเล่นพกพา
    Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2
    ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่

    AMD Strix Halo APU โดดเด่น
    มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop

    Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง
    เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่

    ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน
    ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา

    ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม
    หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    🎮 Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2 Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง ⚡ AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา 🔋 ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่ แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว 🌐 อนาคตของเครื่องเล่นพกพา Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2 ➡️ ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่ ✅ AMD Strix Halo APU โดดเด่น ➡️ มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop ✅ Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง ➡️ เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่ ‼️ ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน ⛔ ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา ‼️ ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม ⛔ หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลโท บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ที่อ้างว่าทหารไทยยิงพลเรือนเขมร อาจเป็นเกมอย่างหนึ่ง สร้างสถานการณ์เพื่อกลบข่าวที่จังหวัดสุรินทร์ ส่วนหลังจากนี้จะยังยั่วยุแบบนี้อีกหรือไม่นั้น คิดว่ามีนัยยะพอสมควร ต้องรอดูเจตนารมณ์ของผู้นำเขาต้องการอะไร ในความคิดของตนตามแนวชายแดนก็มีส่วนเชื่อมโยงสถานการณ์กัน และอาจมีส่วนหนึ่งที่ดึงความสนใจไปที่ปราสาทตาควาย การที่รัฐบาลตอบโต้งดปล่อยตัวเชลยศึก และการประณาม คิดว่าถูกต้องแล้ว

    -เตือนมาเลย์ระวังการเสนอข่าว
    -ขอช้างพลายกลับไทย
    -สารพัดปัญหาสินค้าเกษตร
    -ศึกภูมิรัฐศาสตร์ปะทุ
    พลโท บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ที่อ้างว่าทหารไทยยิงพลเรือนเขมร อาจเป็นเกมอย่างหนึ่ง สร้างสถานการณ์เพื่อกลบข่าวที่จังหวัดสุรินทร์ ส่วนหลังจากนี้จะยังยั่วยุแบบนี้อีกหรือไม่นั้น คิดว่ามีนัยยะพอสมควร ต้องรอดูเจตนารมณ์ของผู้นำเขาต้องการอะไร ในความคิดของตนตามแนวชายแดนก็มีส่วนเชื่อมโยงสถานการณ์กัน และอาจมีส่วนหนึ่งที่ดึงความสนใจไปที่ปราสาทตาควาย การที่รัฐบาลตอบโต้งดปล่อยตัวเชลยศึก และการประณาม คิดว่าถูกต้องแล้ว -เตือนมาเลย์ระวังการเสนอข่าว -ขอช้างพลายกลับไทย -สารพัดปัญหาสินค้าเกษตร -ศึกภูมิรัฐศาสตร์ปะทุ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เวลายัดเยียดขยายความเทาให้คนอื่น แมร่งร่ายยาวเป็นวัน พอความเทาของพรรคมัน ดันตอบแค่สิบกว่าวินาที คนเทาเท่ากันกี่โมง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เวลายัดเยียดขยายความเทาให้คนอื่น แมร่งร่ายยาวเป็นวัน พอความเทาของพรรคมัน ดันตอบแค่สิบกว่าวินาที คนเทาเท่ากันกี่โมง #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.24

    สัญญาจ้างทำของคือความสัมพันธ์ทางนิติบุคคลที่มิได้มุ่งเน้นที่การเข้าทำงานหรือการอยู่ภายใต้บังคับบัญชาเฉกเช่นสัญญาจ้างแรงงาน แต่เป็นพันธกรณีที่บุคคลฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงเข้าทำการงานสิ่งหนึ่งสิ่งใดจนกว่าจะสำเร็จบริบูรณ์ให้กับผู้ว่าจ้าง โดยสาระสำคัญสูงสุดของสัญญานี้คือ ความสำเร็จของผลงานที่ตกลงกันไว้ ตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจ้างทำของ ผู้รับจ้างมีเสรีภาพในการเลือกวิธีการและเครื่องมือในการทำงานอย่างเต็มที่ตราบใดที่ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่ผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อพิจารณาในแง่มุมของความรับผิด ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของสิ่งที่ทำขึ้นนั้นเสมือนเป็นความรับผิดของผู้ขาย การโอนกรรมสิทธิ์ในวัตถุแห่งการจ้างทำของจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบและตรวจรับผลงานแล้ว เว้นแต่จะมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นในสัญญา การทำความเข้าใจองค์ประกอบทางกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างความชัดเจนและป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบงาน

    ในทางปฏิบัติ การตีความสัญญาจ้างทำของต้องให้ความสำคัญกับเจตนาของคู่สัญญาเป็นหลัก หากข้อตกลงใดที่บ่งชี้ว่าการจ่ายสินจ้างผูกพันอยู่กับการทำงานครบตามระยะเวลา หรือมีการควบคุมการทำงานอย่างละเอียดโดยผู้ว่าจ้าง สัญญานั้นอาจถูกศาลตีความว่ามีลักษณะโน้มเอียงไปทางสัญญาจ้างแรงงานได้ ถึงแม้ชื่อสัญญาจะระบุว่าเป็นการจ้างทำของก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้สิทธิและหน้าที่ของคู่สัญญามีความเปลี่ยนแปลงไปตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการได้รับค่าชดเชยหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ดังนั้น การร่างสัญญาจึงต้องระมัดระวังในการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และอิสระในการทำงานของผู้รับจ้างให้ชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการจ้างทำของอย่างแท้จริง การชำระสินจ้างจึงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการส่งมอบผลสำเร็จที่สมบูรณ์เท่านั้น หากผลงานนั้นไม่แล้วเสร็จหรือมีความบกพร่อง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิปฏิเสธการรับมอบและมีสิทธิเรียกให้ผู้รับจ้างแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจบอกเลิกสัญญาได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

    ด้วยเหตุนี้ สัญญาจ้างทำของจึงเป็นกลไกทางกฎหมายที่ตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์หรือผลิตสิ่งของเฉพาะเจาะจง โดยตั้งอยู่บนหลักการแลกเปลี่ยนระหว่างการผลิตผลงานสำเร็จกับค่าสินจ้างที่ยุติธรรม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจึงควรตระหนักถึงความผูกพันตามตัวบทกฎหมายอย่างถี่ถ้วน การกำหนดรายละเอียดของผลงานที่ชัดเจน มาตรฐานคุณภาพ วันเวลาส่งมอบ และเงื่อนไขการตรวจรับ เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาให้การทำสัญญาดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่นและมีผลบังคับใช้ได้อย่างสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของคู่สัญญาและหลักกฎหมาย
    บทความกฎหมาย EP.24 สัญญาจ้างทำของคือความสัมพันธ์ทางนิติบุคคลที่มิได้มุ่งเน้นที่การเข้าทำงานหรือการอยู่ภายใต้บังคับบัญชาเฉกเช่นสัญญาจ้างแรงงาน แต่เป็นพันธกรณีที่บุคคลฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงเข้าทำการงานสิ่งหนึ่งสิ่งใดจนกว่าจะสำเร็จบริบูรณ์ให้กับผู้ว่าจ้าง โดยสาระสำคัญสูงสุดของสัญญานี้คือ ความสำเร็จของผลงานที่ตกลงกันไว้ ตามที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจ้างทำของ ผู้รับจ้างมีเสรีภาพในการเลือกวิธีการและเครื่องมือในการทำงานอย่างเต็มที่ตราบใดที่ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่ผู้ว่าจ้างได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อพิจารณาในแง่มุมของความรับผิด ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของสิ่งที่ทำขึ้นนั้นเสมือนเป็นความรับผิดของผู้ขาย การโอนกรรมสิทธิ์ในวัตถุแห่งการจ้างทำของจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบและตรวจรับผลงานแล้ว เว้นแต่จะมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นในสัญญา การทำความเข้าใจองค์ประกอบทางกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างความชัดเจนและป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบงาน ในทางปฏิบัติ การตีความสัญญาจ้างทำของต้องให้ความสำคัญกับเจตนาของคู่สัญญาเป็นหลัก หากข้อตกลงใดที่บ่งชี้ว่าการจ่ายสินจ้างผูกพันอยู่กับการทำงานครบตามระยะเวลา หรือมีการควบคุมการทำงานอย่างละเอียดโดยผู้ว่าจ้าง สัญญานั้นอาจถูกศาลตีความว่ามีลักษณะโน้มเอียงไปทางสัญญาจ้างแรงงานได้ ถึงแม้ชื่อสัญญาจะระบุว่าเป็นการจ้างทำของก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้สิทธิและหน้าที่ของคู่สัญญามีความเปลี่ยนแปลงไปตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการได้รับค่าชดเชยหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ดังนั้น การร่างสัญญาจึงต้องระมัดระวังในการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และอิสระในการทำงานของผู้รับจ้างให้ชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการจ้างทำของอย่างแท้จริง การชำระสินจ้างจึงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการส่งมอบผลสำเร็จที่สมบูรณ์เท่านั้น หากผลงานนั้นไม่แล้วเสร็จหรือมีความบกพร่อง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิปฏิเสธการรับมอบและมีสิทธิเรียกให้ผู้รับจ้างแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจบอกเลิกสัญญาได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ด้วยเหตุนี้ สัญญาจ้างทำของจึงเป็นกลไกทางกฎหมายที่ตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์หรือผลิตสิ่งของเฉพาะเจาะจง โดยตั้งอยู่บนหลักการแลกเปลี่ยนระหว่างการผลิตผลงานสำเร็จกับค่าสินจ้างที่ยุติธรรม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจึงควรตระหนักถึงความผูกพันตามตัวบทกฎหมายอย่างถี่ถ้วน การกำหนดรายละเอียดของผลงานที่ชัดเจน มาตรฐานคุณภาพ วันเวลาส่งมอบ และเงื่อนไขการตรวจรับ เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาให้การทำสัญญาดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่นและมีผลบังคับใช้ได้อย่างสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของคู่สัญญาและหลักกฎหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดฉากยิง-ปั่นไอโอ มุกเขมรลอบกัดไทย : [NEWS UPDATE]

    พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดข้อมูล ฝ่ายกัมพูชาสร้างสถานการณ์ ให้ทหารเปิดฉากยิงเข้ามาในบ้านหนองหญ้าแก้ว จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ชาวไทย หลังเกิดเหตุกัมพูชาสร้างข่าวบิดเบือนสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อการกระทำของฝ่ายไทย กล่าวหาไทยเปิดฉากยิงพลเรือนกัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ไทยมีหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 วางใหม่ บริเวณใกล้เคียงยังพบอีก 3 ทุ่น สอดคล้องกับข้อมูลว่าทหารกัมพูชาลักลอบตัดลวดหนามที่ไทยวางไว้ และยังนำชีวิตประชาชนกัมพูชาเป็นช่องทางสร้างข่าวเท็จอย่างน่าละอาย

    -"ตำรวจรับส่วย"คำนี้แสลงใจ

    -น้ำท่วมภาคกลาง 1.2 ล้านไร่

    -ยังไม่สรุปวงเงิน เฟส 2

    -หน่วยจู่โจมศูนย์ฉ้อโกง
    เปิดฉากยิง-ปั่นไอโอ มุกเขมรลอบกัดไทย : [NEWS UPDATE] พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดข้อมูล ฝ่ายกัมพูชาสร้างสถานการณ์ ให้ทหารเปิดฉากยิงเข้ามาในบ้านหนองหญ้าแก้ว จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ชาวไทย หลังเกิดเหตุกัมพูชาสร้างข่าวบิดเบือนสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อการกระทำของฝ่ายไทย กล่าวหาไทยเปิดฉากยิงพลเรือนกัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ไทยมีหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 วางใหม่ บริเวณใกล้เคียงยังพบอีก 3 ทุ่น สอดคล้องกับข้อมูลว่าทหารกัมพูชาลักลอบตัดลวดหนามที่ไทยวางไว้ และยังนำชีวิตประชาชนกัมพูชาเป็นช่องทางสร้างข่าวเท็จอย่างน่าละอาย -"ตำรวจรับส่วย"คำนี้แสลงใจ -น้ำท่วมภาคกลาง 1.2 ล้านไร่ -ยังไม่สรุปวงเงิน เฟส 2 -หน่วยจู่โจมศูนย์ฉ้อโกง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง

    วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง.

    สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม.

    รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX.

    ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026
    โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง

    ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink
    ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้

    สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม
    ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ

    ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration
    ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

    ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก
    แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง

    ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน
    ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น

    https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    🙎‍♂️ Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง 🚀 วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง. สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม. รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX. ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026 ➡️ โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง ✅ ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink ➡️ ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้ ✅ สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม ➡️ ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ ✅ ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration ➡️ ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ‼️ ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก ⛔ แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง ‼️ ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน ⛔ ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    WCCFTECH.COM
    Elon Musk’s Dramatic Chip Ambitions Are Already Taking Shape — And the Early Signs Look Highly Optimistic
    Elon Musk's statements around building up a chip supply were seen as 'ambitious', but it appears that Tesla already has efforts in place.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Meteor Lake – XeSS Frame Generation มาถึงแล้ว

    Intel ได้อัปเดต SDK ของ XeSS (Xe Super Sampling) เป็นเวอร์ชัน 2.1.1 ทำให้ ชิปกราฟิกแบบบูรณาการ Meteor Lake สามารถใช้ฟีเจอร์ Frame Generation (FG) ได้ แม้จะไม่มีฮาร์ดแวร์ XMX Tensor Engines แบบการ์ด Arc รุ่นใหญ่ โดยใช้หน่วย DPAS AI หรือที่เรียกว่า XMX-Lite แทน ซึ่งช่วยให้โน้ตบุ๊กและเครื่องพกพาที่ใช้ Meteor Lake สามารถสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหลของเกมได้

    แม้ประสิทธิภาพจะไม่เทียบเท่ากับการ์ดจอแยก แต่ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์ระดับกลางสามารถสัมผัสประสบการณ์เกมที่เฟรมเรตสูงขึ้น โดย Intel ยังได้ประกาศว่า XeSS FG จะรองรับ GPU ทุกค่ายที่มี Shader Model 6.4 ทำให้แม้แต่การ์ด NVIDIA และ AMD รุ่นเก่าก็สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ผ่าน fallback mode แม้คุณภาพจะด้อยลงเล็กน้อย

    นอกจากนี้ Intel ยังเพิ่มฟีเจอร์ Xe Low Latency (XeLL) ที่ช่วยลด input lag คล้ายกับ NVIDIA Reflex และ AMD Anti-Lag ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Frame Generation จะช่วยให้การเล่นเกมตอบสนองได้เร็วขึ้น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันกับ AMD FSR และ NVIDIA DLSS ที่ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว

    สรุป
    จุดเด่นของ XeSS FG บน Meteor Lake
    ใช้ DPAS AI Units (XMX-Lite) แทน Tensor Engines
    รองรับ GPU ทุกค่ายที่มี Shader Model 6.4

    ฟีเจอร์เสริม
    Xe Low Latency (XeLL) ลด input lag
    รองรับการใช้งานบนโน้ตบุ๊กและเครื่องพกพา

    คำเตือน
    ประสิทธิภาพ Frame Generation บน Meteor Lake ยังไม่เทียบเท่า Arc GPU
    อาจเกิด artifact หรือภาพผิดเพี้ยนในบางเกมหาก fallback mode ทำงาน

    https://wccftech.com/intel-adds-xess-frame-generation-to-meteor-lake-integrated-graphics/
    🎮 Intel Meteor Lake – XeSS Frame Generation มาถึงแล้ว Intel ได้อัปเดต SDK ของ XeSS (Xe Super Sampling) เป็นเวอร์ชัน 2.1.1 ทำให้ ชิปกราฟิกแบบบูรณาการ Meteor Lake สามารถใช้ฟีเจอร์ Frame Generation (FG) ได้ แม้จะไม่มีฮาร์ดแวร์ XMX Tensor Engines แบบการ์ด Arc รุ่นใหญ่ โดยใช้หน่วย DPAS AI หรือที่เรียกว่า XMX-Lite แทน ซึ่งช่วยให้โน้ตบุ๊กและเครื่องพกพาที่ใช้ Meteor Lake สามารถสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหลของเกมได้ แม้ประสิทธิภาพจะไม่เทียบเท่ากับการ์ดจอแยก แต่ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์ระดับกลางสามารถสัมผัสประสบการณ์เกมที่เฟรมเรตสูงขึ้น โดย Intel ยังได้ประกาศว่า XeSS FG จะรองรับ GPU ทุกค่ายที่มี Shader Model 6.4 ทำให้แม้แต่การ์ด NVIDIA และ AMD รุ่นเก่าก็สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ผ่าน fallback mode แม้คุณภาพจะด้อยลงเล็กน้อย นอกจากนี้ Intel ยังเพิ่มฟีเจอร์ Xe Low Latency (XeLL) ที่ช่วยลด input lag คล้ายกับ NVIDIA Reflex และ AMD Anti-Lag ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Frame Generation จะช่วยให้การเล่นเกมตอบสนองได้เร็วขึ้น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันกับ AMD FSR และ NVIDIA DLSS ที่ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว 📌 สรุป ✅ จุดเด่นของ XeSS FG บน Meteor Lake ➡️ ใช้ DPAS AI Units (XMX-Lite) แทน Tensor Engines ➡️ รองรับ GPU ทุกค่ายที่มี Shader Model 6.4 ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ Xe Low Latency (XeLL) ลด input lag ➡️ รองรับการใช้งานบนโน้ตบุ๊กและเครื่องพกพา ‼️ คำเตือน ⛔ ประสิทธิภาพ Frame Generation บน Meteor Lake ยังไม่เทียบเท่า Arc GPU ⛔ อาจเกิด artifact หรือภาพผิดเพี้ยนในบางเกมหาก fallback mode ทำงาน https://wccftech.com/intel-adds-xess-frame-generation-to-meteor-lake-integrated-graphics/
    WCCFTECH.COM
    Intel Adds XeSS Frame Generation To Meteor Lake Integrated Graphics
    Intel has added XeSS Frame Generation support to Meteor Lake iGPUs, which can now enhance fluidity in gameplay.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของเครื่องเล่นเกม Analogue 3D – Nintendo 64 ฉบับใหม่

    เครื่องเล่นเกมในตำนาน Nintendo 64 กำลังกลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัยชื่อว่า Analogue 3D หลังจากเลื่อนการวางจำหน่ายหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้กำหนดวันส่งมอบจริงคือ 18 พฤศจิกายน ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยี FPGA ที่จำลองฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม ทำให้เกมทำงานได้เหมือนเครื่องจริง ไม่ใช่การจำลองแบบซอฟต์แวร์ที่มักมีปัญหาเรื่องความหน่วงหรือบั๊ก

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Analogue 3D รองรับการแสดงผล 4K และ VRR เพื่อให้ภาพลื่นไหลบนจอรุ่นใหม่ พร้อมโหมด “Original Display Modes” ที่เลียนแบบหน้าจอ CRT/PVM แบบเก่าเพื่อคงบรรยากาศดั้งเดิม ตัวเครื่องยังคงช่องเสียบตลับเกมเดิมและพอร์ตจอย N64 ทั้งสี่ช่อง ทำให้แฟน ๆ สามารถใช้จอยและอุปกรณ์เสริมเก่าได้ทันที ราคาขายอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ตอนนี้สินค้าถูกจองหมดแล้ว

    นอกจากการเล่นเกมเก่าได้เต็มรูปแบบ เครื่องยังมี Wi-Fi และรองรับจอยไร้สาย เช่น 8BitDo 64 ทำให้สะดวกขึ้นมากสำหรับผู้เล่นยุคใหม่ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งนักสะสมและคนที่อยากสัมผัสเกมเก่าในคุณภาพสูง

    สรุปประเด็น
    Analogue 3D เปิดตัวพร้อมวันส่งมอบ 18 พฤศจิกายน
    ใช้ FPGA จำลองฮาร์ดแวร์จริง รองรับ 4K และ VRR

    รองรับตลับเกมและจอย N64 ดั้งเดิม
    มีพอร์ตครบ 4 ช่อง พร้อม Memory Pak

    ฟีเจอร์ Original Display Modes สร้างบรรยากาศ CRT
    เหมาะสำหรับแฟนเกมยุค 90 ที่ต้องการความสมจริง

    สินค้าถูกจองหมดแล้ว
    ผู้ที่ไม่ได้สั่งล่วงหน้าอาจต้องรอรอบใหม่

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/n64-cartridge-playing-analogue-3d-finally-gets-a-shipping-date-fpga-powered-nintendo-64-remake-with-4k-vrr-to-roll-out-starting-november-18
    🕹️ การกลับมาของเครื่องเล่นเกม Analogue 3D – Nintendo 64 ฉบับใหม่ เครื่องเล่นเกมในตำนาน Nintendo 64 กำลังกลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัยชื่อว่า Analogue 3D หลังจากเลื่อนการวางจำหน่ายหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้กำหนดวันส่งมอบจริงคือ 18 พฤศจิกายน ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยี FPGA ที่จำลองฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม ทำให้เกมทำงานได้เหมือนเครื่องจริง ไม่ใช่การจำลองแบบซอฟต์แวร์ที่มักมีปัญหาเรื่องความหน่วงหรือบั๊ก สิ่งที่น่าสนใจคือ Analogue 3D รองรับการแสดงผล 4K และ VRR เพื่อให้ภาพลื่นไหลบนจอรุ่นใหม่ พร้อมโหมด “Original Display Modes” ที่เลียนแบบหน้าจอ CRT/PVM แบบเก่าเพื่อคงบรรยากาศดั้งเดิม ตัวเครื่องยังคงช่องเสียบตลับเกมเดิมและพอร์ตจอย N64 ทั้งสี่ช่อง ทำให้แฟน ๆ สามารถใช้จอยและอุปกรณ์เสริมเก่าได้ทันที ราคาขายอยู่ที่ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ตอนนี้สินค้าถูกจองหมดแล้ว นอกจากการเล่นเกมเก่าได้เต็มรูปแบบ เครื่องยังมี Wi-Fi และรองรับจอยไร้สาย เช่น 8BitDo 64 ทำให้สะดวกขึ้นมากสำหรับผู้เล่นยุคใหม่ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งนักสะสมและคนที่อยากสัมผัสเกมเก่าในคุณภาพสูง 📌 สรุปประเด็น ✅ Analogue 3D เปิดตัวพร้อมวันส่งมอบ 18 พฤศจิกายน ➡️ ใช้ FPGA จำลองฮาร์ดแวร์จริง รองรับ 4K และ VRR ✅ รองรับตลับเกมและจอย N64 ดั้งเดิม ➡️ มีพอร์ตครบ 4 ช่อง พร้อม Memory Pak ✅ ฟีเจอร์ Original Display Modes สร้างบรรยากาศ CRT ➡️ เหมาะสำหรับแฟนเกมยุค 90 ที่ต้องการความสมจริง ‼️ สินค้าถูกจองหมดแล้ว ⛔ ผู้ที่ไม่ได้สั่งล่วงหน้าอาจต้องรอรอบใหม่ https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/n64-cartridge-playing-analogue-3d-finally-gets-a-shipping-date-fpga-powered-nintendo-64-remake-with-4k-vrr-to-roll-out-starting-november-18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Checkout.com ยืนหยัดต่อกรกับการขู่กรรโชกไซเบอร์

    Checkout.com บริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกออกแถลงการณ์ว่าเพิ่งถูกกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ “ShinyHunters” พยายามขู่กรรโชก โดยเจาะเข้าระบบเก็บไฟล์เก่าที่เคยใช้ในปี 2020 แต่ไม่ได้ปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ แม้ข้อมูลบางส่วนของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบ แต่ระบบประมวลผลการชำระเงินสดใหม่ยังปลอดภัย ไม่ถูกแตะต้อง และไม่มีเงินหรือข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล

    สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัทเลือกที่จะไม่จ่ายค่าไถ่ แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และสร้างภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม

    จากข้อมูลเพิ่มเติมในโลกไซเบอร์ปี 2025 กลุ่ม ShinyHunters ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีการจับมือกับกลุ่ม Scattered Spider และ LAPSUS$ เพื่อทำการโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรม (social engineering) เช่นการโทรหลอก (vishing) และสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูล สิ่งนี้สะท้อนว่าการโจมตีไซเบอร์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น

    สรุป
    เหตุการณ์การขู่กรรโชก
    กลุ่ม ShinyHunters เจาะระบบไฟล์เก่า ไม่กระทบระบบจ่ายเงินสดใหม่

    การตอบสนองของบริษัท
    ไม่จ่ายค่าไถ่ แต่บริจาคเงินเพื่อวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์
    ShinyHunters จับมือกับกลุ่มอื่น ใช้เทคนิค vishing และ phishing ที่ซับซ้อน

    คำเตือน
    ธุรกิจที่ยังใช้ระบบเก่าโดยไม่ปิดอย่างถูกต้องเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูล
    การโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรมกำลังเป็นภัยที่ยากต่อการป้องกัน

    https://www.checkout.com/blog/protecting-our-merchants-standing-up-to-extortion
    🛡️ Checkout.com ยืนหยัดต่อกรกับการขู่กรรโชกไซเบอร์ Checkout.com บริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกออกแถลงการณ์ว่าเพิ่งถูกกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ “ShinyHunters” พยายามขู่กรรโชก โดยเจาะเข้าระบบเก็บไฟล์เก่าที่เคยใช้ในปี 2020 แต่ไม่ได้ปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ แม้ข้อมูลบางส่วนของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบ แต่ระบบประมวลผลการชำระเงินสดใหม่ยังปลอดภัย ไม่ถูกแตะต้อง และไม่มีเงินหรือข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัทเลือกที่จะไม่จ่ายค่าไถ่ แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และสร้างภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม จากข้อมูลเพิ่มเติมในโลกไซเบอร์ปี 2025 กลุ่ม ShinyHunters ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีการจับมือกับกลุ่ม Scattered Spider และ LAPSUS$ เพื่อทำการโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรม (social engineering) เช่นการโทรหลอก (vishing) และสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูล สิ่งนี้สะท้อนว่าการโจมตีไซเบอร์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 📌 สรุป ✅ เหตุการณ์การขู่กรรโชก ➡️ กลุ่ม ShinyHunters เจาะระบบไฟล์เก่า ไม่กระทบระบบจ่ายเงินสดใหม่ ✅ การตอบสนองของบริษัท ➡️ ไม่จ่ายค่าไถ่ แต่บริจาคเงินเพื่อวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ ➡️ ShinyHunters จับมือกับกลุ่มอื่น ใช้เทคนิค vishing และ phishing ที่ซับซ้อน ‼️ คำเตือน ⛔ ธุรกิจที่ยังใช้ระบบเก่าโดยไม่ปิดอย่างถูกต้องเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูล ⛔ การโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรมกำลังเป็นภัยที่ยากต่อการป้องกัน https://www.checkout.com/blog/protecting-our-merchants-standing-up-to-extortion
    WWW.CHECKOUT.COM
    Protecting our Merchants: Standing up to Extortion
    Our statement detailing an incident concerning a legacy system. We outline our commitment to transparency, accountability, and planned investment in cyber security research.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิจฉาชีพใช้ฟีเจอร์ Screen Sharing บน WhatsApp ขโมย OTP และเงิน

    ภัยคุกคามใหม่ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วคือการหลอกให้เหยื่อแชร์หน้าจอผ่าน WhatsApp โดยมิจฉาชีพจะโทรเข้ามาในรูปแบบวิดีโอคอล แสร้งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือฝ่ายสนับสนุนของ Meta แล้วสร้างความตื่นตระหนกว่าบัญชีถูกแฮ็กหรือมีการใช้บัตรเครดิตผิดปกติ จากนั้นจึงขอให้เหยื่อแชร์หน้าจอหรือแม้แต่ติดตั้งแอปควบคุมระยะไกลอย่าง AnyDesk หรือ TeamViewer

    เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและแชร์หน้าจอ มิจฉาชีพสามารถเห็นรหัสผ่าน ข้อมูลธนาคาร และที่สำคัญคือ OTP (One-Time Password) ที่ปรากฏขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงบัญชีและเงินได้ทันที มีกรณีในฮ่องกงที่เหยื่อสูญเงินกว่า 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ

    Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเพิ่มระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ หากผู้ใช้แชร์หน้าจอกับเบอร์ที่ไม่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ พร้อมทั้งลบแอคเคานต์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงไปแล้วหลายล้านราย แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือการไม่แชร์หน้าจอหรือรหัสใด ๆ กับคนแปลกหน้า และควรเปิดการยืนยันสองขั้นตอนใน WhatsApp เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    วิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพ
    โทรวิดีโอคอล, แสร้งเป็นเจ้าหน้าที่, ขอแชร์หน้าจอ

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    สูญเงินมหาศาล, ขโมย OTP และข้อมูลส่วนตัว

    การตอบโต้ของ Meta
    ระบบแจ้งเตือน, ลบแอคเคานต์ปลอม, ใช้ AI ตรวจสอบ

    ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง
    อย่าแชร์หน้าจอหรือรหัสกับคนแปลกหน้า, เปิด Two-Step Verification

    https://hackread.com/whatsapp-screen-sharing-scammers-steal-otps-funds/
    📱 มิจฉาชีพใช้ฟีเจอร์ Screen Sharing บน WhatsApp ขโมย OTP และเงิน ภัยคุกคามใหม่ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วคือการหลอกให้เหยื่อแชร์หน้าจอผ่าน WhatsApp โดยมิจฉาชีพจะโทรเข้ามาในรูปแบบวิดีโอคอล แสร้งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือฝ่ายสนับสนุนของ Meta แล้วสร้างความตื่นตระหนกว่าบัญชีถูกแฮ็กหรือมีการใช้บัตรเครดิตผิดปกติ จากนั้นจึงขอให้เหยื่อแชร์หน้าจอหรือแม้แต่ติดตั้งแอปควบคุมระยะไกลอย่าง AnyDesk หรือ TeamViewer เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและแชร์หน้าจอ มิจฉาชีพสามารถเห็นรหัสผ่าน ข้อมูลธนาคาร และที่สำคัญคือ OTP (One-Time Password) ที่ปรากฏขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงบัญชีและเงินได้ทันที มีกรณีในฮ่องกงที่เหยื่อสูญเงินกว่า 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเพิ่มระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ หากผู้ใช้แชร์หน้าจอกับเบอร์ที่ไม่อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อ พร้อมทั้งลบแอคเคานต์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงไปแล้วหลายล้านราย แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าการป้องกันที่ดีที่สุดคือการไม่แชร์หน้าจอหรือรหัสใด ๆ กับคนแปลกหน้า และควรเปิดการยืนยันสองขั้นตอนใน WhatsApp เพื่อเพิ่มความปลอดภัย 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ วิธีการหลอกลวงของมิจฉาชีพ ➡️ โทรวิดีโอคอล, แสร้งเป็นเจ้าหน้าที่, ขอแชร์หน้าจอ ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง ➡️ สูญเงินมหาศาล, ขโมย OTP และข้อมูลส่วนตัว ✅ การตอบโต้ของ Meta ➡️ ระบบแจ้งเตือน, ลบแอคเคานต์ปลอม, ใช้ AI ตรวจสอบ ‼️ ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง ⛔ อย่าแชร์หน้าจอหรือรหัสกับคนแปลกหน้า, เปิด Two-Step Verification https://hackread.com/whatsapp-screen-sharing-scammers-steal-otps-funds/
    HACKREAD.COM
    Scammers Abuse WhatsApp Screen Sharing to Steal OTPs and Funds
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • "บิ๊กเต่า" ซัด "โจ๊ก" เผาบ้านตัวเองลั่นพฤติกรรมเหมือนจนตรอก เชื่อหนีออกนอกประเทศแน่ , "บิ๊กเต่า" จรูญเกียรติ ปานแก้ว ตอบโต้ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ปมกล่าวหา สตช.เป็นองค์กรอาชญากรรม ชี้ทำลายความเชื่อมั่นองค์กร ย้ำทำคดีตามพยานหลักฐานทุกเรื่อง พร้อมเตือน “อัจฉริยะ” อย่าเข้าใกล้ เดี๋ยวโดนลูกหลง
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108444
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #ตำรวจ #โจ๊กสุรเชษฐ์ #truthfromthailand #newsupdate
    "บิ๊กเต่า" ซัด "โจ๊ก" เผาบ้านตัวเองลั่นพฤติกรรมเหมือนจนตรอก เชื่อหนีออกนอกประเทศแน่ , "บิ๊กเต่า" จรูญเกียรติ ปานแก้ว ตอบโต้ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ปมกล่าวหา สตช.เป็นองค์กรอาชญากรรม ชี้ทำลายความเชื่อมั่นองค์กร ย้ำทำคดีตามพยานหลักฐานทุกเรื่อง พร้อมเตือน “อัจฉริยะ” อย่าเข้าใกล้ เดี๋ยวโดนลูกหลง . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108444 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #ตำรวจ #โจ๊กสุรเชษฐ์ #truthfromthailand #newsupdate
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าว Techradar

    Samsung TV ได้ “บุคลิก” ใหม่
    ซัมซุงเปิดตัว Vision AI Companion บนทีวีรุ่นใหม่ ที่รวมพลังจาก Bixby, Microsoft Copilot และ Perplexity เข้ามาเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในบ้าน ไม่ใช่แค่หาหนังดู แต่ยังสามารถอธิบายสิ่งที่กำลังฉาย ตอบคำถามต่อเนื่อง แปลเสียงสดจากรายการต่างประเทศ หรือแม้แต่ช่วยวางแผนมื้อค่ำได้ ทีวีจึงไม่ใช่แค่จอภาพ แต่กลายเป็นผู้ช่วยพูดคุยที่ทุกคนในบ้านสามารถโต้ตอบพร้อมกันได้

    Mini PC ARM ขนาดจิ๋ว แต่ทรงพลัง
    Minisforum เปิดตัว MS-R1 มินิพีซี ARM ขนาดเพียง 1.7 ลิตร แต่มีสล็อต PCIe x16 สำหรับใส่การ์ดจอหรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ใช้ชิป 12-core พร้อม GPU ในตัว รองรับ RAM สูงสุด 64GB และเก็บข้อมูลได้ถึง 8TB จุดเด่นคือเล็ก เงียบ แต่รองรับงาน AI และการประมวลผลหนัก ๆ ได้

    iPhone ถูกมองว่า “เกินจริง” แต่ยังไม่ถึงขั้นหมดเสน่ห์
    ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar พบว่า 47% มองว่า iPhone “โอเวอร์เรต” ส่วน 36% ยังลังเล และ 17% บอกว่าไม่จริง หลายคนเล่าว่าเคยตื่นเต้นกับ iPhone รุ่นแรก ๆ แต่หลังจากนั้นรู้สึกว่าการอัปเกรดไม่หวือหวาเหมือนเดิม แม้ยังใช้งานดี แต่ความตื่นเต้นลดลงไปมาก

    หุ่นยนต์มนุษย์รุ่นใหม่ ทั้งกวน ทั้งพลาด
    โลกหุ่นยนต์กำลังคึกคัก XPeng จากจีนเปิดตัวหุ่นยนต์ IRON ที่ดูเหมือนนางแบบ แต่ถูกวิจารณ์ว่าดูหลอนเกินไป ขณะที่รัสเซียเปิดตัวหุ่นยนต์ Idol แต่กลับล้มกลางเวทีอย่างน่าอาย เทียบกับเจ้าอื่น ๆ อย่าง Tesla Optimus หรือ Figure 03 ที่พัฒนาไปไกลกว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการสร้างหุ่นยนต์มนุษย์ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย

    VPN บูมในอิตาลี หลังบังคับตรวจอายุ
    อิตาลีออกกฎหมายให้เว็บไซต์ผู้ใหญ่ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ ส่งผลให้คนแห่ค้นหา VPN เพื่อเลี่ยงระบบตรวจสอบ แม้รัฐบาลยืนยันว่ามีระบบ “โทเคนไม่ระบุตัวตน” แต่ประชาชนยังไม่มั่นใจ จึงหันไปใช้ VPN กันมากขึ้น ซึ่งก็เสี่ยงหากเลือกบริการฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ

    มัลแวร์ GootLoader กลับมาอีกครั้ง
    หลังหายไป 9 เดือน มัลแวร์ GootLoader โผล่มาอีกครั้ง ใช้เทคนิคซ่อนโค้ดอันตรายใน “ฟอนต์เว็บ” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แท้จริง จุดประสงค์คือเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบองค์กร และอาจนำไปสู่การโจมตีแบบเรียกค่าไถ่

    Infostealer ถูกสกัด หลังตำรวจเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์
    มัลแวร์ขโมยข้อมูลชื่อ Rhadamanthys ที่ขายแบบบริการ (MaaS) ถูกขัดขวาง เมื่อผู้ใช้หลายรายถูกล็อกไม่ให้เข้าระบบ มีการโยงไปถึงตำรวจเยอรมันที่อาจเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ เหตุการณ์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการใหญ่ “Operation Endgame” ที่มุ่งปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์แอนติไวรัสโจมตี
    แพลตฟอร์มแชร์ไฟล์ Triofox มีช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-12480) ที่ถูกใช้เป็นช่องทางติดตั้งเครื่องมือรีโมต เช่น Zoho Assist และ AnyDesk ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขแล้ว แต่เตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเวอร์ชันใหม่

    Insta360 เปิดตัวกล้องลูกผสมสุดแปลก
    กล้อง Ace Pro 2 ของ Insta360 ได้อุปกรณ์เสริมใหม่ ทั้งเลนส์หลายแบบ กริปถ่ายภาพ และที่แปลกที่สุดคือ เครื่องพิมพ์ภาพทันทีแบบติดกล้อง ทำให้กล้องแอ็กชันสามารถพิมพ์รูปออกมาได้ทันที คล้าย Instax แต่ติดกับกล้องแอ็กชันโดยตรง

    PayPal กลับมาที่สหราชอาณาจักร
    หลังจากปรับโครงสร้างช่วง Brexit ตอนนี้ PayPal รีแบรนด์ใหม่ใน UK พร้อมเปิดตัวบัตรเดบิตและเครดิต รวมถึงโปรแกรมสะสมแต้ม PayPal+ ที่แบ่งเป็น Blue, Gold และ Black ยิ่งใช้มากยิ่งได้สิทธิพิเศษ เช่นแต้มเพิ่มและประสบการณ์ VIP

    🪪 AirTag คู่แข่งในรูปบัตรเครดิต
    บริษัท Nomad เปิดตัว Tracking Card Pro ที่หน้าตาเหมือนบัตรเครดิต แต่จริง ๆ เป็นอุปกรณ์ติดตาม ใช้ระบบ Find My ของ Apple จุดเด่นคือพรางตัวได้ดี ทำให้โจรไม่รู้ว่ามีตัวติดตามอยู่ในกระเป๋าสตางค์

    ข้อมูลพนักงาน GlobalLogic รั่ว
    บริษัท GlobalLogic (ในเครือ Hitachi) ยืนยันว่ามีการรั่วไหลข้อมูลพนักงานกว่า 10,000 คน จากช่องโหว่ในระบบ Oracle E-Business Suite ข้อมูลที่หลุดมีทั้งเลขบัญชี เงินเดือน และข้อมูลส่วนบุคคล เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีที่กระทบหลายองค์กรใหญ่ทั่วโลก

    Gemini อ่าน PDF ให้ฟังได้
    Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini ให้สามารถสรุปไฟล์ PDF เป็นเสียงแบบพอดแคสต์สั้น ๆ 2–10 นาที ฟังได้เหมือนเล่าเรื่อง ไม่ต้องอ่านเอง เหมาะกับเอกสารยาว ๆ เช่นสัญญา ฟีเจอร์นี้จะบันทึกไฟล์เสียงไว้ใน Google Drive เพื่อเปิดฟังได้ทุกอุปกรณ์
    🔰📌 รวมข่าว Techradar 📌🔰 📺 Samsung TV ได้ “บุคลิก” ใหม่ ซัมซุงเปิดตัว Vision AI Companion บนทีวีรุ่นใหม่ ที่รวมพลังจาก Bixby, Microsoft Copilot และ Perplexity เข้ามาเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในบ้าน ไม่ใช่แค่หาหนังดู แต่ยังสามารถอธิบายสิ่งที่กำลังฉาย ตอบคำถามต่อเนื่อง แปลเสียงสดจากรายการต่างประเทศ หรือแม้แต่ช่วยวางแผนมื้อค่ำได้ ทีวีจึงไม่ใช่แค่จอภาพ แต่กลายเป็นผู้ช่วยพูดคุยที่ทุกคนในบ้านสามารถโต้ตอบพร้อมกันได้ 💻 Mini PC ARM ขนาดจิ๋ว แต่ทรงพลัง Minisforum เปิดตัว MS-R1 มินิพีซี ARM ขนาดเพียง 1.7 ลิตร แต่มีสล็อต PCIe x16 สำหรับใส่การ์ดจอหรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ใช้ชิป 12-core พร้อม GPU ในตัว รองรับ RAM สูงสุด 64GB และเก็บข้อมูลได้ถึง 8TB จุดเด่นคือเล็ก เงียบ แต่รองรับงาน AI และการประมวลผลหนัก ๆ ได้ 📱 iPhone ถูกมองว่า “เกินจริง” แต่ยังไม่ถึงขั้นหมดเสน่ห์ ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar พบว่า 47% มองว่า iPhone “โอเวอร์เรต” ส่วน 36% ยังลังเล และ 17% บอกว่าไม่จริง หลายคนเล่าว่าเคยตื่นเต้นกับ iPhone รุ่นแรก ๆ แต่หลังจากนั้นรู้สึกว่าการอัปเกรดไม่หวือหวาเหมือนเดิม แม้ยังใช้งานดี แต่ความตื่นเต้นลดลงไปมาก 🤖 หุ่นยนต์มนุษย์รุ่นใหม่ ทั้งกวน ทั้งพลาด โลกหุ่นยนต์กำลังคึกคัก XPeng จากจีนเปิดตัวหุ่นยนต์ IRON ที่ดูเหมือนนางแบบ แต่ถูกวิจารณ์ว่าดูหลอนเกินไป ขณะที่รัสเซียเปิดตัวหุ่นยนต์ Idol แต่กลับล้มกลางเวทีอย่างน่าอาย เทียบกับเจ้าอื่น ๆ อย่าง Tesla Optimus หรือ Figure 03 ที่พัฒนาไปไกลกว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการสร้างหุ่นยนต์มนุษย์ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔒 VPN บูมในอิตาลี หลังบังคับตรวจอายุ อิตาลีออกกฎหมายให้เว็บไซต์ผู้ใหญ่ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ ส่งผลให้คนแห่ค้นหา VPN เพื่อเลี่ยงระบบตรวจสอบ แม้รัฐบาลยืนยันว่ามีระบบ “โทเคนไม่ระบุตัวตน” แต่ประชาชนยังไม่มั่นใจ จึงหันไปใช้ VPN กันมากขึ้น ซึ่งก็เสี่ยงหากเลือกบริการฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ 🦠 มัลแวร์ GootLoader กลับมาอีกครั้ง หลังหายไป 9 เดือน มัลแวร์ GootLoader โผล่มาอีกครั้ง ใช้เทคนิคซ่อนโค้ดอันตรายใน “ฟอนต์เว็บ” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แท้จริง จุดประสงค์คือเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบองค์กร และอาจนำไปสู่การโจมตีแบบเรียกค่าไถ่ 🕵️ Infostealer ถูกสกัด หลังตำรวจเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ มัลแวร์ขโมยข้อมูลชื่อ Rhadamanthys ที่ขายแบบบริการ (MaaS) ถูกขัดขวาง เมื่อผู้ใช้หลายรายถูกล็อกไม่ให้เข้าระบบ มีการโยงไปถึงตำรวจเยอรมันที่อาจเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ เหตุการณ์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการใหญ่ “Operation Endgame” ที่มุ่งปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ 🛡️ แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์แอนติไวรัสโจมตี แพลตฟอร์มแชร์ไฟล์ Triofox มีช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-12480) ที่ถูกใช้เป็นช่องทางติดตั้งเครื่องมือรีโมต เช่น Zoho Assist และ AnyDesk ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขแล้ว แต่เตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเวอร์ชันใหม่ 📸 Insta360 เปิดตัวกล้องลูกผสมสุดแปลก กล้อง Ace Pro 2 ของ Insta360 ได้อุปกรณ์เสริมใหม่ ทั้งเลนส์หลายแบบ กริปถ่ายภาพ และที่แปลกที่สุดคือ เครื่องพิมพ์ภาพทันทีแบบติดกล้อง ทำให้กล้องแอ็กชันสามารถพิมพ์รูปออกมาได้ทันที คล้าย Instax แต่ติดกับกล้องแอ็กชันโดยตรง 💳 PayPal กลับมาที่สหราชอาณาจักร หลังจากปรับโครงสร้างช่วง Brexit ตอนนี้ PayPal รีแบรนด์ใหม่ใน UK พร้อมเปิดตัวบัตรเดบิตและเครดิต รวมถึงโปรแกรมสะสมแต้ม PayPal+ ที่แบ่งเป็น Blue, Gold และ Black ยิ่งใช้มากยิ่งได้สิทธิพิเศษ เช่นแต้มเพิ่มและประสบการณ์ VIP 🪪 AirTag คู่แข่งในรูปบัตรเครดิต บริษัท Nomad เปิดตัว Tracking Card Pro ที่หน้าตาเหมือนบัตรเครดิต แต่จริง ๆ เป็นอุปกรณ์ติดตาม ใช้ระบบ Find My ของ Apple จุดเด่นคือพรางตัวได้ดี ทำให้โจรไม่รู้ว่ามีตัวติดตามอยู่ในกระเป๋าสตางค์ 🧑‍💻 ข้อมูลพนักงาน GlobalLogic รั่ว บริษัท GlobalLogic (ในเครือ Hitachi) ยืนยันว่ามีการรั่วไหลข้อมูลพนักงานกว่า 10,000 คน จากช่องโหว่ในระบบ Oracle E-Business Suite ข้อมูลที่หลุดมีทั้งเลขบัญชี เงินเดือน และข้อมูลส่วนบุคคล เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีที่กระทบหลายองค์กรใหญ่ทั่วโลก 🎧 Gemini อ่าน PDF ให้ฟังได้ Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini ให้สามารถสรุปไฟล์ PDF เป็นเสียงแบบพอดแคสต์สั้น ๆ 2–10 นาที ฟังได้เหมือนเล่าเรื่อง ไม่ต้องอ่านเอง เหมาะกับเอกสารยาว ๆ เช่นสัญญา ฟีเจอร์นี้จะบันทึกไฟล์เสียงไว้ใน Google Drive เพื่อเปิดฟังได้ทุกอุปกรณ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • Unreal Engine 5.7 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ Nanite Foliage และ MegaLights

    Epic Games ได้ปล่อย Unreal Engine 5.7 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่นักพัฒนาเกมรอคอยกันมานาน จุดเด่นคือการยกระดับระบบแสงและการเรนเดอร์วัตถุให้สมจริงมากขึ้น ฟีเจอร์ MegaLights ที่เคยอยู่ในสถานะทดลอง ตอนนี้ถูกยกระดับเป็น Beta ทำให้สามารถใส่แสงเงาแบบไดนามิกจำนวนมากลงในฉากได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการแสดงผลของเส้นผม วัตถุโปร่งใส และอนุภาค Niagara ให้สมจริงกว่าเดิม

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Nanite Foliage ที่ช่วยให้การเรนเดอร์พืชพรรณ เช่น ต้นไม้หรือหญ้า มีความละเอียดสูงโดยไม่ต้องสร้าง LODs เอง ระบบนี้ใช้ Nanite Voxels และ Assemblies เพื่อลดการใช้หน่วยความจำและเพิ่มความเสถียรของเฟรมเรต พร้อมทั้งรองรับการเคลื่อนไหวแบบไดนามิก เช่น การตอบสนองต่อแรงลม ทำให้โลกในเกมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

    นอกจากนี้ Unreal Engine 5.7 ยังมาพร้อม AI Assistant ที่ฝังอยู่ในตัว Editor นักพัฒนาสามารถถามคำถาม สร้างโค้ด C++ หรือขอคำแนะนำแบบ step-by-step ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากโปรแกรม ถือเป็นการผสมผสาน AI เข้ากับการพัฒนาเกมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่กำลังใช้ AI เพื่อเร่งการสร้างคอนเทนต์

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Unreal Engine 5.7
    MegaLights เพิ่มความสมจริงของแสงเงา
    Nanite Foliage ทำให้พืชพรรณในเกมสมจริงโดยไม่กระทบเฟรมเรต
    AI Assistant ช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ดและแก้ปัญหาใน Editor

    ข้อควรระวัง
    ฟีเจอร์บางอย่างยังอยู่ในสถานะทดลอง อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร
    การใช้แสงจำนวนมากอาจทำให้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าไม่รองรับเต็มที่

    https://wccftech.com/unreal-engine-5-7-out-now-with-nanite-foliage-and-megalights-powered-stunning-dynamic-shadow-casting-lights/
    🕹️ Unreal Engine 5.7 เปิดตัวแล้ว พร้อมฟีเจอร์ Nanite Foliage และ MegaLights Epic Games ได้ปล่อย Unreal Engine 5.7 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่นักพัฒนาเกมรอคอยกันมานาน จุดเด่นคือการยกระดับระบบแสงและการเรนเดอร์วัตถุให้สมจริงมากขึ้น ฟีเจอร์ MegaLights ที่เคยอยู่ในสถานะทดลอง ตอนนี้ถูกยกระดับเป็น Beta ทำให้สามารถใส่แสงเงาแบบไดนามิกจำนวนมากลงในฉากได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการแสดงผลของเส้นผม วัตถุโปร่งใส และอนุภาค Niagara ให้สมจริงกว่าเดิม อีกหนึ่งไฮไลต์คือ Nanite Foliage ที่ช่วยให้การเรนเดอร์พืชพรรณ เช่น ต้นไม้หรือหญ้า มีความละเอียดสูงโดยไม่ต้องสร้าง LODs เอง ระบบนี้ใช้ Nanite Voxels และ Assemblies เพื่อลดการใช้หน่วยความจำและเพิ่มความเสถียรของเฟรมเรต พร้อมทั้งรองรับการเคลื่อนไหวแบบไดนามิก เช่น การตอบสนองต่อแรงลม ทำให้โลกในเกมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ Unreal Engine 5.7 ยังมาพร้อม AI Assistant ที่ฝังอยู่ในตัว Editor นักพัฒนาสามารถถามคำถาม สร้างโค้ด C++ หรือขอคำแนะนำแบบ step-by-step ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากโปรแกรม ถือเป็นการผสมผสาน AI เข้ากับการพัฒนาเกมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่กำลังใช้ AI เพื่อเร่งการสร้างคอนเทนต์ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Unreal Engine 5.7 ➡️ MegaLights เพิ่มความสมจริงของแสงเงา ➡️ Nanite Foliage ทำให้พืชพรรณในเกมสมจริงโดยไม่กระทบเฟรมเรต ➡️ AI Assistant ช่วยนักพัฒนาเขียนโค้ดและแก้ปัญหาใน Editor ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างยังอยู่ในสถานะทดลอง อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร ⛔ การใช้แสงจำนวนมากอาจทำให้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าไม่รองรับเต็มที่ https://wccftech.com/unreal-engine-5-7-out-now-with-nanite-foliage-and-megalights-powered-stunning-dynamic-shadow-casting-lights/
    WCCFTECH.COM
    Unreal Engine 5.7 Out Now with Nanite Foliage and MegaLights-Powered Stunning Dynamic Shadow-Casting Lights
    Epic has released Unreal Engine 5.7. The new build of the game making engine adds Nanite Foliage, MegaLights, and much more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎหมายไซเบอร์ใหม่ของสหราชอาณาจักรเข้มงวดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐาน

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดตัว “Cyber Security and Resilience Bill” ที่จะบังคับให้หน่วยงานสำคัญ เช่น สาธารณสุข พลังงาน น้ำ การขนส่ง และบริการดิจิทัล ต้องรายงานเหตุการณ์ไซเบอร์ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมกำหนดค่าปรับสูงสุดถึงวันละ 132,000 ดอลลาร์ หรือคิดตามรายได้ต่อปี เพื่อบังคับให้บริษัทลงทุนด้านความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่หลังเกิดเหตุ

    กฎหมายนี้ยังขยายขอบเขตไปถึงผู้ให้บริการ Managed Service Providers (MSPs) และศูนย์ข้อมูล ซึ่งต้องรับผิดชอบมากขึ้นในการแจ้งเตือนลูกค้าและรัฐบาลเมื่อเกิดเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังให้อำนาจรัฐมนตรีเทคโนโลยีสั่งการโดยตรงในกรณีที่มีภัยคุกคามระดับชาติ เช่น การสั่งแยกเครือข่ายชั่วคราวหรือเพิ่มการตรวจสอบพิเศษ

    แรงผลักดันของกฎหมายนี้มาจากเหตุการณ์โจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาล เช่น การโจมตีระบบเงินเดือนของกระทรวงกลาโหมที่ทำให้ข้อมูลทหารกว่า 270,000 คนรั่วไหล และการโจมตี Synnovis ที่ทำให้การนัดหมายทางการแพทย์กว่า 11,000 ครั้งถูกยกเลิก กฎหมายใหม่นี้จึงถูกมองว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงกว่ากฎหมาย EU NIS2 และ GDPR

    เนื้อหาหลักของ Cyber Security and Resilience Bill
    รายงานเหตุการณ์ไซเบอร์ภายใน 24 ชั่วโมง
    ค่าปรับสูงสุดวันละ 132,000 ดอลลาร์ หรือคิดตามรายได้
    ขยายขอบเขตไปถึง MSPs และศูนย์ข้อมูล
    ให้อำนาจรัฐมนตรีสั่งการโดยตรงในกรณีฉุกเฉิน

    ความท้าทายและผลกระทบ
    บริษัทอาจไม่ทันต่อข้อกำหนดเวลา 24 ชั่วโมง
    MSPs ต้องลงทุนเพิ่มใน SOC และการตอบสนองเร็ว
    ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจและต้นทุนที่สูงขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4088549/uk-cybersecurity-bill-brings-tougher-rules-for-critical-infrastructure.html
    🇬🇧 กฎหมายไซเบอร์ใหม่ของสหราชอาณาจักรเข้มงวดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดตัว “Cyber Security and Resilience Bill” ที่จะบังคับให้หน่วยงานสำคัญ เช่น สาธารณสุข พลังงาน น้ำ การขนส่ง และบริการดิจิทัล ต้องรายงานเหตุการณ์ไซเบอร์ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมกำหนดค่าปรับสูงสุดถึงวันละ 132,000 ดอลลาร์ หรือคิดตามรายได้ต่อปี เพื่อบังคับให้บริษัทลงทุนด้านความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่หลังเกิดเหตุ กฎหมายนี้ยังขยายขอบเขตไปถึงผู้ให้บริการ Managed Service Providers (MSPs) และศูนย์ข้อมูล ซึ่งต้องรับผิดชอบมากขึ้นในการแจ้งเตือนลูกค้าและรัฐบาลเมื่อเกิดเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังให้อำนาจรัฐมนตรีเทคโนโลยีสั่งการโดยตรงในกรณีที่มีภัยคุกคามระดับชาติ เช่น การสั่งแยกเครือข่ายชั่วคราวหรือเพิ่มการตรวจสอบพิเศษ แรงผลักดันของกฎหมายนี้มาจากเหตุการณ์โจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาล เช่น การโจมตีระบบเงินเดือนของกระทรวงกลาโหมที่ทำให้ข้อมูลทหารกว่า 270,000 คนรั่วไหล และการโจมตี Synnovis ที่ทำให้การนัดหมายทางการแพทย์กว่า 11,000 ครั้งถูกยกเลิก กฎหมายใหม่นี้จึงถูกมองว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงกว่ากฎหมาย EU NIS2 และ GDPR ✅ เนื้อหาหลักของ Cyber Security and Resilience Bill ➡️ รายงานเหตุการณ์ไซเบอร์ภายใน 24 ชั่วโมง ➡️ ค่าปรับสูงสุดวันละ 132,000 ดอลลาร์ หรือคิดตามรายได้ ➡️ ขยายขอบเขตไปถึง MSPs และศูนย์ข้อมูล ➡️ ให้อำนาจรัฐมนตรีสั่งการโดยตรงในกรณีฉุกเฉิน ‼️ ความท้าทายและผลกระทบ ⛔ บริษัทอาจไม่ทันต่อข้อกำหนดเวลา 24 ชั่วโมง ⛔ MSPs ต้องลงทุนเพิ่มใน SOC และการตอบสนองเร็ว ⛔ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจและต้นทุนที่สูงขึ้น https://www.csoonline.com/article/4088549/uk-cybersecurity-bill-brings-tougher-rules-for-critical-infrastructure.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    UK cybersecurity bill brings tougher rules for critical infrastructure
    Healthcare, energy, transport, and digital services face stricter compliance rules as ministers gain powers to intervene during major cyber incidents.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ThreatBook ได้รับการยอมรับต่อเนื่อง 3 ปีใน Gartner Peer Insights

    เรื่องราวนี้เล่าถึงบริษัท ThreatBook ที่เป็นผู้นำด้าน Threat Intelligence และระบบตรวจจับภัยคุกคาม (NDR) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็น Strong Performer ติดต่อกันถึง 3 ปีในรายงาน Gartner Peer Insights “Voice of the Customer” ปี 2025 การยอมรับนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลกที่ใช้แพลตฟอร์ม Threat Detection Platform (TDP) ของบริษัท โดยมีจุดเด่นคือการตรวจจับแม่นยำสูง, ความพร้อมในการป้องกันเชิงรุก และการตอบสนองแบบปิดวงจรที่ผสานกับเครื่องมืออื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    น่าสนใจคือ ThreatBook ไม่ได้เติบโตเฉพาะในจีน แต่ยังขยายไปทั่วโลก ทั้งในอุตสาหกรรมการเงิน พลังงาน การผลิต และภาครัฐ โดย Gartner ระบุว่ามีผู้ใช้จริงกว่า 1,200 รีวิว และ 100% ของลูกค้าที่ให้คะแนนในปี 2025 ยินดีแนะนำต่อ จุดนี้สะท้อนว่าบริษัทไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยี แต่ยังสร้างความไว้วางใจในระดับสากล

    หากมองจากมุมกว้าง การที่ ThreatBook ได้รับการยอมรับต่อเนื่องถือเป็นสัญญาณว่าตลาด NDR กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกปี การมีระบบที่สามารถ “เห็นภาพรวม” และ “ตอบสนองได้ทันที” จึงเป็นสิ่งที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญ

    การยอมรับจาก Gartner ต่อเนื่อง 3 ปี
    ThreatBook TDP ได้คะแนนสูงด้านความแม่นยำและประสิทธิภาพ

    ลูกค้าทั่วโลกยืนยันความพึงพอใจ
    100% ของผู้รีวิวในปี 2025 แนะนำต่อ

    จุดแข็งของแพลตฟอร์ม TDP
    ตรวจจับแม่นยำ, ป้องกันเชิงรุก, ตอบสนองแบบปิดวงจร

    ความท้าทายจากภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น
    องค์กรที่ไม่มีระบบ NDR เสี่ยงต่อการโจมตีขั้นสูง

    https://hackread.com/threatbook-peer-recognized-as-a-strong-performer-in-the-2025-gartner-peer-insights-voice-of-the-customer-for-network-detection-and-response-for-the-third-consecutive-year/
    🛡️ ThreatBook ได้รับการยอมรับต่อเนื่อง 3 ปีใน Gartner Peer Insights เรื่องราวนี้เล่าถึงบริษัท ThreatBook ที่เป็นผู้นำด้าน Threat Intelligence และระบบตรวจจับภัยคุกคาม (NDR) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็น Strong Performer ติดต่อกันถึง 3 ปีในรายงาน Gartner Peer Insights “Voice of the Customer” ปี 2025 การยอมรับนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลกที่ใช้แพลตฟอร์ม Threat Detection Platform (TDP) ของบริษัท โดยมีจุดเด่นคือการตรวจจับแม่นยำสูง, ความพร้อมในการป้องกันเชิงรุก และการตอบสนองแบบปิดวงจรที่ผสานกับเครื่องมืออื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ น่าสนใจคือ ThreatBook ไม่ได้เติบโตเฉพาะในจีน แต่ยังขยายไปทั่วโลก ทั้งในอุตสาหกรรมการเงิน พลังงาน การผลิต และภาครัฐ โดย Gartner ระบุว่ามีผู้ใช้จริงกว่า 1,200 รีวิว และ 100% ของลูกค้าที่ให้คะแนนในปี 2025 ยินดีแนะนำต่อ จุดนี้สะท้อนว่าบริษัทไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยี แต่ยังสร้างความไว้วางใจในระดับสากล หากมองจากมุมกว้าง การที่ ThreatBook ได้รับการยอมรับต่อเนื่องถือเป็นสัญญาณว่าตลาด NDR กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกปี การมีระบบที่สามารถ “เห็นภาพรวม” และ “ตอบสนองได้ทันที” จึงเป็นสิ่งที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญ ✅ การยอมรับจาก Gartner ต่อเนื่อง 3 ปี ➡️ ThreatBook TDP ได้คะแนนสูงด้านความแม่นยำและประสิทธิภาพ ✅ ลูกค้าทั่วโลกยืนยันความพึงพอใจ ➡️ 100% ของผู้รีวิวในปี 2025 แนะนำต่อ ✅ จุดแข็งของแพลตฟอร์ม TDP ➡️ ตรวจจับแม่นยำ, ป้องกันเชิงรุก, ตอบสนองแบบปิดวงจร ‼️ ความท้าทายจากภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น ⛔ องค์กรที่ไม่มีระบบ NDR เสี่ยงต่อการโจมตีขั้นสูง https://hackread.com/threatbook-peer-recognized-as-a-strong-performer-in-the-2025-gartner-peer-insights-voice-of-the-customer-for-network-detection-and-response-for-the-third-consecutive-year/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Browsers สามารถทำงานช่วยคุณได้ โดยเรียกมันว่า - Agentic AI”

    ลองนึกภาพว่าเบราว์เซอร์ที่เราใช้ทุกวัน ไม่ได้เป็นแค่หน้าต่างเปิดเว็บอีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง ๆ นี่คือแนวคิดของ Agentic AI Browsers ที่กำลังถูกพัฒนาให้สามารถทำงานหลายขั้นตอนโดยอัตโนมัติ เช่น การค้นหาเที่ยวบินที่ดีที่สุดแล้วจองให้เสร็จ หรือแม้แต่การจัดการตารางนัดหมายร้านอาหารโดยไม่ต้องคลิกหลายครั้งเหมือนเดิม เบราว์เซอร์เหล่านี้ยังสามารถสรุปข้อมูลจากหลายแท็บพร้อมกัน และโต้ตอบกับหน้าเว็บโดยตรง ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนจาก “ค้นหา-เลือก-ทำ” ไปสู่ “สั่งครั้งเดียวแล้วเสร็จ”

    เบื้องหลังคือการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น ChatGPT, Gemini หรือ Claude ที่ไม่เพียงตอบคำถาม แต่ยังสามารถวางแผนและดำเนินการตามเป้าหมายได้เอง จุดเด่นคือความสามารถในการแยกแยะบริบท เช่น งานกับเรื่องส่วนตัว เพื่อให้คำตอบเหมาะสมยิ่งขึ้น และยังรวมฟังก์ชันพื้นฐานของ AI เช่น การสร้างภาพหรือโค้ดไว้ในตัวเบราว์เซอร์โดยตรง

    อย่างไรก็ตาม ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยง เช่น การโจมตีแบบ “Prompt Injection” ที่ทำให้เบราว์เซอร์ตีความข้อมูลผิดเป็นคำสั่ง หรือการที่เบราว์เซอร์บางตัวอย่าง Comet ถูกพบว่าสามารถเข้าเว็บฟิชชิ่งและขอข้อมูลธนาคารจากผู้ใช้โดยตรง ซึ่งสะท้อนว่าการให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมลหรือบัญชีธนาคาร ต้องอาศัยความไว้วางใจสูงมาก และยังเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรม AI ต้องพิสูจน์ต่อไป

    Agentic AI Browsers คือเบราว์เซอร์ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้
    สามารถค้นหาและจองเที่ยวบิน ร้านอาหาร หรือช้อปปิ้งโดยอัตโนมัติ
    รวมฟังก์ชัน AI เช่น สร้างภาพหรือโค้ดในตัวเบราว์เซอร์

    ใช้โมเดลภาษาใหญ่ เช่น ChatGPT, Gemini, Claude
    สามารถวางแผนและดำเนินการตามเป้าหมายได้เอง

    มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    อาจถูกโจมตีด้วย Prompt Injection
    เบราว์เซอร์บางตัวถูกพบว่ายอมรับข้อมูลจากเว็บฟิชชิ่ง

    ต้องใช้ความไว้วางใจสูงในการให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว
    อีเมล บัญชีธนาคาร และคลาวด์อาจถูกเปิดเผย

    https://www.slashgear.com/2014938/browsers-can-now-do-tasks-for-you-what-agentic-ai-means/
    🖥️ “Browsers สามารถทำงานช่วยคุณได้ โดยเรียกมันว่า - Agentic AI” ลองนึกภาพว่าเบราว์เซอร์ที่เราใช้ทุกวัน ไม่ได้เป็นแค่หน้าต่างเปิดเว็บอีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง ๆ นี่คือแนวคิดของ Agentic AI Browsers ที่กำลังถูกพัฒนาให้สามารถทำงานหลายขั้นตอนโดยอัตโนมัติ เช่น การค้นหาเที่ยวบินที่ดีที่สุดแล้วจองให้เสร็จ หรือแม้แต่การจัดการตารางนัดหมายร้านอาหารโดยไม่ต้องคลิกหลายครั้งเหมือนเดิม เบราว์เซอร์เหล่านี้ยังสามารถสรุปข้อมูลจากหลายแท็บพร้อมกัน และโต้ตอบกับหน้าเว็บโดยตรง ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนจาก “ค้นหา-เลือก-ทำ” ไปสู่ “สั่งครั้งเดียวแล้วเสร็จ” เบื้องหลังคือการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ เช่น ChatGPT, Gemini หรือ Claude ที่ไม่เพียงตอบคำถาม แต่ยังสามารถวางแผนและดำเนินการตามเป้าหมายได้เอง จุดเด่นคือความสามารถในการแยกแยะบริบท เช่น งานกับเรื่องส่วนตัว เพื่อให้คำตอบเหมาะสมยิ่งขึ้น และยังรวมฟังก์ชันพื้นฐานของ AI เช่น การสร้างภาพหรือโค้ดไว้ในตัวเบราว์เซอร์โดยตรง อย่างไรก็ตาม ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมความเสี่ยง เช่น การโจมตีแบบ “Prompt Injection” ที่ทำให้เบราว์เซอร์ตีความข้อมูลผิดเป็นคำสั่ง หรือการที่เบราว์เซอร์บางตัวอย่าง Comet ถูกพบว่าสามารถเข้าเว็บฟิชชิ่งและขอข้อมูลธนาคารจากผู้ใช้โดยตรง ซึ่งสะท้อนว่าการให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมลหรือบัญชีธนาคาร ต้องอาศัยความไว้วางใจสูงมาก และยังเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรม AI ต้องพิสูจน์ต่อไป ✅ Agentic AI Browsers คือเบราว์เซอร์ที่ทำงานแทนผู้ใช้ได้ ➡️ สามารถค้นหาและจองเที่ยวบิน ร้านอาหาร หรือช้อปปิ้งโดยอัตโนมัติ ➡️ รวมฟังก์ชัน AI เช่น สร้างภาพหรือโค้ดในตัวเบราว์เซอร์ ✅ ใช้โมเดลภาษาใหญ่ เช่น ChatGPT, Gemini, Claude ➡️ สามารถวางแผนและดำเนินการตามเป้าหมายได้เอง ‼️ มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ อาจถูกโจมตีด้วย Prompt Injection ⛔ เบราว์เซอร์บางตัวถูกพบว่ายอมรับข้อมูลจากเว็บฟิชชิ่ง ‼️ ต้องใช้ความไว้วางใจสูงในการให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ⛔ อีเมล บัญชีธนาคาร และคลาวด์อาจถูกเปิดเผย https://www.slashgear.com/2014938/browsers-can-now-do-tasks-for-you-what-agentic-ai-means/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Browsers Can Now Do Tasks For You - Here's What Agentic AI Means - SlashGear
    Artificial Intelligence in your browser can use the web on your behalf, but privacy concerns and security vulnerabilities make it a risky proposition.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nitrux 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – ดิสโทร Linux แบบ Systemd-Free พร้อม Hyprland

    หลังจากพัฒนามาอย่างยาวนาน ทีมงาน Nitrux ได้ประกาศเปิดตัว Nitrux 5.0 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัด KDE Plasma ออกและหันมาใช้ Hyprland เป็น Wayland compositor หลัก ทำให้ระบบมีความเบาและตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น พร้อมเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock และ Wofi ที่ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและทันสมัยมากขึ้น

    Nitrux 5.0 ยังมาพร้อมกับ สองเวอร์ชัน คือ Liquorix kernel สำหรับผู้ใช้ AMD และ CachyOS kernel สำหรับผู้ใช้ NVIDIA โดยทั้งสองรุ่นใช้ Linux kernel 6.17 และมีการปรับแต่งเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีการรวมเครื่องมือสำคัญ เช่น PipeWire สำหรับจัดการเสียงและวิดีโอ, NetworkManager สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย และ Flatpak สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชัน

    สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้ OpenRC แทน systemd ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเบากว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่าง SCX global vtime CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ที่ช่วยจัดการทรัพยากร CPU และ RAM อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่าไม่สามารถทำได้ ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด

    จุดเด่นของ Nitrux 5.0
    ใช้ Hyprland แทน KDE Plasma
    มีเครื่องมือใหม่ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock, Wofi

    ตัวเลือก Kernel
    Liquorix สำหรับ AMD
    CachyOS สำหรับ NVIDIA

    ฟีเจอร์ระบบ
    ใช้ OpenRC แทน systemd
    มี SCX CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ไม่สามารถอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ต้องติดตั้งใหม่
    ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Wayland อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้การปรับแต่ง

    https://9to5linux.com/systemd-free-nitrux-5-0-officially-released-with-hyprland-desktop-linux-kernel-6-17
    💻 Nitrux 5.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – ดิสโทร Linux แบบ Systemd-Free พร้อม Hyprland หลังจากพัฒนามาอย่างยาวนาน ทีมงาน Nitrux ได้ประกาศเปิดตัว Nitrux 5.0 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัด KDE Plasma ออกและหันมาใช้ Hyprland เป็น Wayland compositor หลัก ทำให้ระบบมีความเบาและตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น พร้อมเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock และ Wofi ที่ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและทันสมัยมากขึ้น Nitrux 5.0 ยังมาพร้อมกับ สองเวอร์ชัน คือ Liquorix kernel สำหรับผู้ใช้ AMD และ CachyOS kernel สำหรับผู้ใช้ NVIDIA โดยทั้งสองรุ่นใช้ Linux kernel 6.17 และมีการปรับแต่งเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังมีการรวมเครื่องมือสำคัญ เช่น PipeWire สำหรับจัดการเสียงและวิดีโอ, NetworkManager สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย และ Flatpak สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชัน สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้ OpenRC แทน systemd ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเบากว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่าง SCX global vtime CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ที่ช่วยจัดการทรัพยากร CPU และ RAM อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่าไม่สามารถทำได้ ต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด ✅ จุดเด่นของ Nitrux 5.0 ➡️ ใช้ Hyprland แทน KDE Plasma ➡️ มีเครื่องมือใหม่ เช่น Waybar, Wlogout, Crystal Dock, Wofi ✅ ตัวเลือก Kernel ➡️ Liquorix สำหรับ AMD ➡️ CachyOS สำหรับ NVIDIA ✅ ฟีเจอร์ระบบ ➡️ ใช้ OpenRC แทน systemd ➡️ มี SCX CPU scheduler และ Ananicy-cpp daemon ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ไม่สามารถอัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ต้องติดตั้งใหม่ ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Wayland อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้การปรับแต่ง https://9to5linux.com/systemd-free-nitrux-5-0-officially-released-with-hyprland-desktop-linux-kernel-6-17
    9TO5LINUX.COM
    Systemd-Free Nitrux 5.0 Officially Released with Hyprland Desktop, Linux 6.17 - 9to5Linux
    Nitrux 5.0 distribution is now available for download with Linux kernel 6.17 and full Hyprland desktop environment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset

    Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ

    Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา

    ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

    Steam Machines รุ่นใหม่
    ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe
    รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4

    Steam Frame VR Headset
    ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง
    รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110°

    Steam Controller รุ่นใหม่
    มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
    VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย

    P/S: ลุงอยากได้ !!!!!!

    https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    🕹️ Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ✅ Steam Machines รุ่นใหม่ ➡️ ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe ➡️ รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4 ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง ➡️ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110° ✅ Steam Controller รุ่นใหม่ ➡️ มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ⛔ VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย P/S: ลุงอยากได้ !!!!!! https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    9TO5LINUX.COM
    Valve Announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR Headset - 9to5Linux
    Valve announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR headset products, scheduled for 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลยุทธ์ CISO – หยุดเหตุการณ์ก่อนลุกลาม

    บทความนี้เสนอแผนการสำหรับ CISO เพื่อหยุดเหตุการณ์ความปลอดภัยตั้งแต่ต้น โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การเพิ่ม visibility, การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการใช้ automation อย่างชาญฉลาด แนวคิดคือการเปลี่ยน SOC จากการทำงานเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้ sandbox แบบ interactive เช่น ANY.RUN ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์ได้ในไม่กี่วินาที

    การตอบสนองเร็วเป็นหัวใจสำคัญ เพราะแม้จะตรวจพบภัยคุกคามแล้ว หากการ triage และการตัดสินใจล่าช้า ความเสียหายก็ยังเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น RedLine Stealer ถูกตรวจจับได้ภายใน 18 วินาที ทำให้ทีมสามารถหยุดการแพร่กระจายทันที Automation ก็ช่วยลดภาระงานซ้ำ ๆ เช่นการคลิก CAPTCHA หรือการเปิดไฟล์ ทำให้ทีมมีเวลาไปโฟกัสกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น

    ผลลัพธ์ที่องค์กรได้รับคือ MTTR เร็วขึ้น, SOC มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลด false positives การผสมผสานระหว่าง visibility, speed และ automation จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ CISO สามารถหยุดเหตุการณ์ก่อนที่จะกลายเป็นวิกฤติ

    สรุปประเด็น

    Visibility
    ใช้ sandbox interactive ตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์แบบ real-time

    Speed
    การตอบสนองเร็วช่วยลด downtime และค่าใช้จ่าย

    Automation
    ลดงานซ้ำ ๆ และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ

    ความเสี่ยง
    หาก detection และ response ช้า เหตุการณ์เล็ก ๆ อาจกลายเป็นวิกฤติใหญ่

    https://securityonline.info/how-to-stop-incidents-early-plan-for-cisos/
    👨‍💼 กลยุทธ์ CISO – หยุดเหตุการณ์ก่อนลุกลาม บทความนี้เสนอแผนการสำหรับ CISO เพื่อหยุดเหตุการณ์ความปลอดภัยตั้งแต่ต้น โดยเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การเพิ่ม visibility, การตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการใช้ automation อย่างชาญฉลาด แนวคิดคือการเปลี่ยน SOC จากการทำงานเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้ sandbox แบบ interactive เช่น ANY.RUN ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์ได้ในไม่กี่วินาที การตอบสนองเร็วเป็นหัวใจสำคัญ เพราะแม้จะตรวจพบภัยคุกคามแล้ว หากการ triage และการตัดสินใจล่าช้า ความเสียหายก็ยังเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น RedLine Stealer ถูกตรวจจับได้ภายใน 18 วินาที ทำให้ทีมสามารถหยุดการแพร่กระจายทันที Automation ก็ช่วยลดภาระงานซ้ำ ๆ เช่นการคลิก CAPTCHA หรือการเปิดไฟล์ ทำให้ทีมมีเวลาไปโฟกัสกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น ผลลัพธ์ที่องค์กรได้รับคือ MTTR เร็วขึ้น, SOC มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลด false positives การผสมผสานระหว่าง visibility, speed และ automation จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ CISO สามารถหยุดเหตุการณ์ก่อนที่จะกลายเป็นวิกฤติ สรุปประเด็น ✅ Visibility ➡️ ใช้ sandbox interactive ตรวจจับพฤติกรรมมัลแวร์แบบ real-time ✅ Speed ➡️ การตอบสนองเร็วช่วยลด downtime และค่าใช้จ่าย ✅ Automation ➡️ ลดงานซ้ำ ๆ และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ ‼️ ความเสี่ยง ⛔ หาก detection และ response ช้า เหตุการณ์เล็ก ๆ อาจกลายเป็นวิกฤติใหญ่ https://securityonline.info/how-to-stop-incidents-early-plan-for-cisos/
    SECURITYONLINE.INFO
    How to Stop Incidents Early: Plan for CISOs
    For every CISO, the goal is simple but increasingly difficult: stop incidents before they disrupt business. Yet, with
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • DarkComet RAT กลับมาในคราบ Bitcoin Wallet

    มัลแวร์เก่าชื่อดัง DarkComet RAT ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง โดยปลอมเป็นโปรแกรมกระเป๋า Bitcoin เพื่อหลอกผู้ใช้ที่สนใจคริปโต ตัวไฟล์ถูกบีบอัดด้วย UPX packer เพื่อหลบการตรวจจับ และเมื่อรันจะติดตั้งตัวเองในโฟลเดอร์ AppData พร้อมตั้งค่า autostart

    DarkComet มีความสามารถเดิมครบ เช่น keylogging, การควบคุมหน้าจอระยะไกล และขโมยข้อมูล credential โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ C2 ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต 1604 แม้เซิร์ฟเวอร์บางครั้งไม่ตอบสนอง แต่ก็แสดงพฤติกรรม beaconing ที่ชัดเจน

    การใช้ Bitcoin เป็นเหยื่อล่อสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์ยังคงใช้กระแสคริปโตเป็นเครื่องมือหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สรุปหัวข้อ:
    DarkComet RAT ถูกปลอมเป็น Bitcoin Wallet
    ใช้ไฟล์ “94k BTC wallet.exe” หลอกผู้ใช้

    ฟังก์ชันเดิมยังครบ เช่น keylogging และ remote desktop
    เก็บข้อมูลในโฟลเดอร์ dclogs ก่อนส่งออก

    ผู้ใช้ที่สนใจลงทุนคริปโตตกเป็นเป้าหมายง่าย
    ไฟล์บีบอัด UPX ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    https://securityonline.info/legacy-malware-resurfaces-darkcomet-rat-uses-bitcoin-wallet-lure-to-deploy-upx-packed-payload/
    💰 DarkComet RAT กลับมาในคราบ Bitcoin Wallet มัลแวร์เก่าชื่อดัง DarkComet RAT ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง โดยปลอมเป็นโปรแกรมกระเป๋า Bitcoin เพื่อหลอกผู้ใช้ที่สนใจคริปโต ตัวไฟล์ถูกบีบอัดด้วย UPX packer เพื่อหลบการตรวจจับ และเมื่อรันจะติดตั้งตัวเองในโฟลเดอร์ AppData พร้อมตั้งค่า autostart DarkComet มีความสามารถเดิมครบ เช่น keylogging, การควบคุมหน้าจอระยะไกล และขโมยข้อมูล credential โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ C2 ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต 1604 แม้เซิร์ฟเวอร์บางครั้งไม่ตอบสนอง แต่ก็แสดงพฤติกรรม beaconing ที่ชัดเจน การใช้ Bitcoin เป็นเหยื่อล่อสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์ยังคงใช้กระแสคริปโตเป็นเครื่องมือหลอกลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สรุปหัวข้อ: ✅ DarkComet RAT ถูกปลอมเป็น Bitcoin Wallet ➡️ ใช้ไฟล์ “94k BTC wallet.exe” หลอกผู้ใช้ ✅ ฟังก์ชันเดิมยังครบ เช่น keylogging และ remote desktop ➡️ เก็บข้อมูลในโฟลเดอร์ dclogs ก่อนส่งออก ‼️ ผู้ใช้ที่สนใจลงทุนคริปโตตกเป็นเป้าหมายง่าย ⛔ ไฟล์บีบอัด UPX ทำให้การตรวจจับยากขึ้น https://securityonline.info/legacy-malware-resurfaces-darkcomet-rat-uses-bitcoin-wallet-lure-to-deploy-upx-packed-payload/
    SECURITYONLINE.INFO
    Legacy Malware Resurfaces: DarkComet RAT Uses Bitcoin Wallet Lure to Deploy UPX-Packed Payload
    A new campaign is using Bitcoin wallet lures to distribute DarkComet RAT. The UPX-packed trojan gains persistence via a fake explorer.exe binary and uses keylogging and remote control to steal data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยืนยันไทยไม่ได้โจมตี
    กัมพูชายิงก่อน
    .
    พื้นที่เปรยจัน กัมพูชายิงก่อน ก่อกวน
    ไทยตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย
    ขอประณามกัมพูชา
    ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์
    #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    ยืนยันไทยไม่ได้โจมตี กัมพูชายิงก่อน . พื้นที่เปรยจัน กัมพูชายิงก่อน ก่อกวน ไทยตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย ขอประณามกัมพูชา ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ #สันติภาพไม่มีอยู่จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทภ.1 แถลงเหตุปะทะชายแดนสระแก้ว ชี้ฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงก่อน 30 นัด ไทยยิงโต้ตอบระงับเหตุ
    https://www.thai-tai.tv/news/22336/
    .
    #ไทยไท #ยิงปะทะชายแดน #สระแก้ว #กองทัพภาคที่1 #AK47 #อธิปไตยของชาติ

    ทภ.1 แถลงเหตุปะทะชายแดนสระแก้ว ชี้ฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงก่อน 30 นัด ไทยยิงโต้ตอบระงับเหตุ https://www.thai-tai.tv/news/22336/ . #ไทยไท #ยิงปะทะชายแดน #สระแก้ว #กองทัพภาคที่1 #AK47 #อธิปไตยของชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts