• ชุดไทยที่ฉันรักและภูมิใจงดงามมาก#📣ฉันรักประเทศไทย🇹🇭💛
    ชุดไทยที่ฉันรักและภูมิใจงดงามมาก#📣ฉันรักประเทศไทย🇹🇭💛
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 80 0 รีวิว
  • ชุดไทยสวยงาม
    ชุดไทยสวยงาม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันรำลึกถึงรัชกาลที่ 5 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีสิริกิติ์และพสกนิกรชาวไทยทั้วหล้าต่างร่วมถวายสดุดีให้กับพระองค์ ผู้ที่มีอุปการะคุณแก่ประเทศไทยอย่างมากล้น โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฉลองพระองค์ด้วยชุดไทยบรมพิมาน #รัชกาลที่5 #พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว #ในหลวงรัชกาลที่9 #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ #เคลมชุดไทย #ชุดไทย #ชุดไทยพระราชนิยม #ควีนสิริกิติ์แฟชั่น #jookkyporamin #longervideos
    วันรำลึกถึงรัชกาลที่ 5 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีสิริกิติ์และพสกนิกรชาวไทยทั้วหล้าต่างร่วมถวายสดุดีให้กับพระองค์ ผู้ที่มีอุปการะคุณแก่ประเทศไทยอย่างมากล้น โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฉลองพระองค์ด้วยชุดไทยบรมพิมาน #รัชกาลที่5 #พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว #ในหลวงรัชกาลที่9 #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ #เคลมชุดไทย #ชุดไทย #ชุดไทยพระราชนิยม #ควีนสิริกิติ์แฟชั่น #jookkyporamin #longervideos
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย สั่งได้ที่ช่อง ตต. ชื่อ ผ้าไทยงาม หรือค้นหาคำว่า phathaiham (รูปผู้หญิงใส่เสื้อสีขาวแขนระบายสั้น)
    #ชุดไทย #ชุดผ้าไทย #ชุดไทยประยุกต์ #ชุดไทยแฟชั่น #ผู้หญิง #แต่งตัว #ไลฟ์สไตล์
    ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย สั่งได้ที่ช่อง ตต. ชื่อ ผ้าไทยงาม หรือค้นหาคำว่า phathaiham (รูปผู้หญิงใส่เสื้อสีขาวแขนระบายสั้น) #ชุดไทย #ชุดผ้าไทย #ชุดไทยประยุกต์ #ชุดไทยแฟชั่น #ผู้หญิง #แต่งตัว #ไลฟ์สไตล์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 95 0 รีวิว
  • ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวยเสื้อลูกไม้สีขาวรัชกาลที่๕ใส่กับผ้าถุงอะไรก็สวย#ชุดไทยประยุกต์#เสื้อลูกไม้สีขาว#ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย
    ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวยเสื้อลูกไม้สีขาวรัชกาลที่๕ใส่กับผ้าถุงอะไรก็สวย#ชุดไทยประยุกต์#เสื้อลูกไม้สีขาว#ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 107 0 รีวิว
  • ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย เสื้อลูกไม้รัชกาลที่๕ ใส่กับผ้าถุงสีชมพูก็จะออกแนวหวานๆ ใครอยากได้ชุดผ้าไทยไปใส่ให้สวย 👉ไปที่ช่อง ตต.ชื่อ ผ้าไทยงาม หรือค้นหาด้วยคำนี้👉 @phathaiham มีแต่ของสวยๆค่า#ชุดไทย#ชุดไทยประยุกต์#ชุดไทยแฟชั่น#Fashion
    ชุดผ้าไทยใครใส่ก็สวย เสื้อลูกไม้รัชกาลที่๕ ใส่กับผ้าถุงสีชมพูก็จะออกแนวหวานๆ ใครอยากได้ชุดผ้าไทยไปใส่ให้สวย 👉ไปที่ช่อง ตต.ชื่อ ผ้าไทยงาม หรือค้นหาด้วยคำนี้👉 @phathaiham มีแต่ของสวยๆค่า#ชุดไทย#ชุดไทยประยุกต์#ชุดไทยแฟชั่น#Fashion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 86 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!!

    ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห
    แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง
    เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้
    ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป
    สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!!

    แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ???

    แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก……
    นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว

    ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ

    ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น
    แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง
    หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน
    การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล
    ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน
    ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง
    โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ
    (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป)

    เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ
    เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน
    Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า
    Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ)

    ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB
    เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด
    นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย
    งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง)
    คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก……

    ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……?
    คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น
    โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ………

    ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006
    หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา
    ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ
    เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี
    จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ
    Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร
    เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว

    ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich
    คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ
    เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ
    ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย
    จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน
    เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล
    ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes
    แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ

    Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!!
    นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน
    ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท

    Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ
    ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล
    ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB
    เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์

    BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า
    “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……”

    แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!!
    ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง

    เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!!

    นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย
    คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่
    โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย
    ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง
    คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย
    ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ
    จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก

    อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง
    จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้
    นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย
    รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง………

    ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด
    คือ
    1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง
    2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง
    3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ
    4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
    5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค

    ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด………
    ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี
    คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง
    แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส
    ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้
    เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้

    ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก
    รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ
    อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่

    เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ……
    เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว………

    นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด
    แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย
    ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่
    ประกาศให้โลกรู้ว่า……
    เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!!

    แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย
    อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!! ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้ ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!! แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ??? แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก…… นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป) เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ) ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง) คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก…… ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……? คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ……… ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006 หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!! นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์ BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……” แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!! ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!! นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่ โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง……… ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด คือ 1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง 2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง 3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ 4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ 5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด……… ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้ เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้ ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่ เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ…… เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว……… นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่ ประกาศให้โลกรู้ว่า…… เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!! แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนเค้าแต่งชุดไทยไม่มีความผิด เพราะไม่เจตนาล้อเลียนเหมือนมึงไง ในคุกรอรับสะเด็ดมึงอยู่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    คนเค้าแต่งชุดไทยไม่มีความผิด เพราะไม่เจตนาล้อเลียนเหมือนมึงไง ในคุกรอรับสะเด็ดมึงอยู่ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนเค้าแต่งชุดไทยไม่มีความผิด เพราะไม่เจตนาล้อเลียนเหมือนมึงไง ในคุกรอรับสะเด็ดมึงอยู่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    คนเค้าแต่งชุดไทยไม่มีความผิด เพราะไม่เจตนาล้อเลียนเหมือนมึงไง ในคุกรอรับสะเด็ดมึงอยู่ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน
    ผ้าไหมพื้นเรียบ ทอพิเศษ ถมดิ้นทอง พระภูษาลายพุ่มข้าวบินฑ์ยกทอง
    ทรงห่มผ้าทรงสะพักประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
    [28 กรกฎาคม 2567]
    .
    คำว่าพุ่มข้าวบิณฑ์ในทางช่างศิลป์ไทยแต่เดิมกำหนดเอารูปแบบ สวดทรงจากบาตรพระ โดยใช้สมมุติฐานเอาไว้ว่าถ้าพระภิกษุนำเอาบาตรออกบิณฑบาตตอนเช้าตรู่เพื่อเลี้ยง ชีพอันเป็นกิจวัตรหากผู้คนที่ตัก ข้าวใส่บาตรพระจนเต็มและพูนสูงขึ้นจนถึงที่สุดแล้ว(เป็น การสมมุติ เชิงศิลปะ) ทั้งนี้ไม่ต้องปิดฝาบาตรรูปทรงภายนอกของบาตรและข้าวที่บิณฑบาตได้ก็จะเข้ารูปส่งท้ายกับดอกบัวตูม เพราะถ้าพิจารณาดู แล้วส่วนก้นบาดของพระเป็นแบบมนๆ ค่อนข้างแหลมแหลม ถ้าวางไว้เฉพาะบาทบาทจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งวางให้ตรงๆไม่ได้ จึงต้องเชิงบาทเข้ารอบ รับจึงจะวางตรงได้ ช่วงที่เกิดจาก ท่าบิณฑบาตนี้ ท่านโบราณอาจารย์ในทางการช่างศิลปะไทยได้ขนานนามไว้ว่า “ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์”
    .
    ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด
    ----
    THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH
    THAI METAL-THREAD BROCADE PHUM KAO BIN MOTIF
    AND DECORATE’ S SHOULDER SASH OF THE MOST ILLUSTIOUS ORDER OF THE ROYAL HOUSE OF CHAKRI
    .
    Phum Khao Bin In Thai artisans, originally the style was specified. Praying from the monk's bowl Using the assumption that if the monks took their alms bowls to go out for alms early in the morning to earn a living as a routine practice, if the people who scooped rice into the monk's alms bowls were full and piled up to the max (this is an artistic supposition). There is no need to close the lid of the alms bowl. The outer shape of the alms bowl and the rice received will be shaped like a lotus bud. Because if you look at it, the bottom of the bowl is round and rather pointed. If placed only on the footpath, it will tilt to one side and cannot be placed straight. Therefore, you have to put your feet around it to be able to place it straight. The part that occurs from this alms-giving posture, the ancient teachers in Thai art called it the “rice bundle shape”.
    .
    Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ผ้าไหมพื้นเรียบ ทอพิเศษ ถมดิ้นทอง พระภูษาลายพุ่มข้าวบินฑ์ยกทอง ทรงห่มผ้าทรงสะพักประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ [28 กรกฎาคม 2567] . คำว่าพุ่มข้าวบิณฑ์ในทางช่างศิลป์ไทยแต่เดิมกำหนดเอารูปแบบ สวดทรงจากบาตรพระ โดยใช้สมมุติฐานเอาไว้ว่าถ้าพระภิกษุนำเอาบาตรออกบิณฑบาตตอนเช้าตรู่เพื่อเลี้ยง ชีพอันเป็นกิจวัตรหากผู้คนที่ตัก ข้าวใส่บาตรพระจนเต็มและพูนสูงขึ้นจนถึงที่สุดแล้ว(เป็น การสมมุติ เชิงศิลปะ) ทั้งนี้ไม่ต้องปิดฝาบาตรรูปทรงภายนอกของบาตรและข้าวที่บิณฑบาตได้ก็จะเข้ารูปส่งท้ายกับดอกบัวตูม เพราะถ้าพิจารณาดู แล้วส่วนก้นบาดของพระเป็นแบบมนๆ ค่อนข้างแหลมแหลม ถ้าวางไว้เฉพาะบาทบาทจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งวางให้ตรงๆไม่ได้ จึงต้องเชิงบาทเข้ารอบ รับจึงจะวางตรงได้ ช่วงที่เกิดจาก ท่าบิณฑบาตนี้ ท่านโบราณอาจารย์ในทางการช่างศิลปะไทยได้ขนานนามไว้ว่า “ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์” . ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด ---- THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH THAI METAL-THREAD BROCADE PHUM KAO BIN MOTIF AND DECORATE’ S SHOULDER SASH OF THE MOST ILLUSTIOUS ORDER OF THE ROYAL HOUSE OF CHAKRI . Phum Khao Bin In Thai artisans, originally the style was specified. Praying from the monk's bowl Using the assumption that if the monks took their alms bowls to go out for alms early in the morning to earn a living as a routine practice, if the people who scooped rice into the monk's alms bowls were full and piled up to the max (this is an artistic supposition). There is no need to close the lid of the alms bowl. The outer shape of the alms bowl and the rice received will be shaped like a lotus bud. Because if you look at it, the bottom of the bowl is round and rather pointed. If placed only on the footpath, it will tilt to one side and cannot be placed straight. Therefore, you have to put your feet around it to be able to place it straight. The part that occurs from this alms-giving posture, the ancient teachers in Thai art called it the “rice bundle shape”. . Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 753 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ
    พระภูษาผ้ายกไหม ลายลายประจำยามตาข่ายถมเกสร ยกเชิงทอง

    ลายประจำยาม เป็นแม่ลายสำคัญอีกแม่ลายหนึ่ง ของการเขียนภาพไทย โดยรูปทรงทั่วไปจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีสี่กลีบคล้ายกับดอกไม้ และกลีบทั้งสี่ก็มาจากรูปทรงของ แม่ลายกระจังตาอ้อยนั่นเอง ซึ่งแม่ลายประจำยามนี้ สามารถแตกแขนง ออกไปได้อีกมากมาย โดยการใส่ไส้ซ้อนเข้าไป จนดูหรูหรามากขึ้น และรูปทรงยังสามารถ เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดความงาม ที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    THAI DESIGN MOTIF METAL-THREAD BROCADE
    .
    This pattern is another important pattern in Thai painting. The general shape is a square with a circle in the center and four petals similar to a flower. The four petals come from the shape of the Krajan Ta Oi pattern. The pattern can be expanded in many ways by adding a layered filling to make it look more luxurious. The shape can also be changed from a square to a diamond shape.
    _______________________
    #thairoyalfamily
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ พระภูษาผ้ายกไหม ลายลายประจำยามตาข่ายถมเกสร ยกเชิงทอง ลายประจำยาม เป็นแม่ลายสำคัญอีกแม่ลายหนึ่ง ของการเขียนภาพไทย โดยรูปทรงทั่วไปจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีสี่กลีบคล้ายกับดอกไม้ และกลีบทั้งสี่ก็มาจากรูปทรงของ แม่ลายกระจังตาอ้อยนั่นเอง ซึ่งแม่ลายประจำยามนี้ สามารถแตกแขนง ออกไปได้อีกมากมาย โดยการใส่ไส้ซ้อนเข้าไป จนดูหรูหรามากขึ้น และรูปทรงยังสามารถ เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดความงาม ที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่ง ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI AMARIN THAI DESIGN MOTIF METAL-THREAD BROCADE . This pattern is another important pattern in Thai painting. The general shape is a square with a circle in the center and four petals similar to a flower. The four petals come from the shape of the Krajan Ta Oi pattern. The pattern can be expanded in many ways by adding a layered filling to make it look more luxurious. The shape can also be changed from a square to a diamond shape. _______________________ #thairoyalfamily #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 746 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน
    ผ้าไหมยกดอก ลายพุทธชาดรวงผึ้ง
    [ 27 กรกฎาคม 2567]
    .
    ลายพุทธชาดรวงผึ้ง เป็นลายคล้ายดอกพุดที่นำมาร้อยเป็นตาข่ายในรูปแบบต่างๆในงานร้อยมาลัยของไทย บ่งบอกถึงลวดลายความเป็นไทยละเอียดสวยงาม วิจิตรบรรจง
    .
    ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH THAI BROCADE
    PHUTTHA CHARD RUANG PHUENG MOTIF
    .
    Phuttha Chad Ruang Phueng Motif is a pattern similar to the jasmine flower that is woven into a net in various forms in Thai garland weaving. It reflects the delicate, beautiful, and intricate Thai patterns.

    Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides.
    ____________________________________
    ##พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ผ้าไหมยกดอก ลายพุทธชาดรวงผึ้ง [ 27 กรกฎาคม 2567] . ลายพุทธชาดรวงผึ้ง เป็นลายคล้ายดอกพุดที่นำมาร้อยเป็นตาข่ายในรูปแบบต่างๆในงานร้อยมาลัยของไทย บ่งบอกถึงลวดลายความเป็นไทยละเอียดสวยงาม วิจิตรบรรจง . ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH THAI BROCADE PHUTTHA CHARD RUANG PHUENG MOTIF . Phuttha Chad Ruang Phueng Motif is a pattern similar to the jasmine flower that is woven into a net in various forms in Thai garland weaving. It reflects the delicate, beautiful, and intricate Thai patterns. Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides. ____________________________________ ##พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 736 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยสากล
    ผ้าไหมพื้นเรียบสลับสีเส้นยืน (เครือก่วย หรือ เครือทิว)
    [ 1 สิงหาคม 2567 | งานวันสตรีไทย+งานโครงการหลวง]
    เครือก่วยหรือเครือทิว แต่โบราณ เรียกผ้าชนิดนี้ว่า "ซิ่นก่วย" ผ้าซิ่นก่วยเป็นผ้าซิ่นลายขวางลำตัวลายขวางจะมีจังหวะสม่ำเสมอ มีกรรมวิธีในการทำ เรียกว่า คือการก่วยทางเครือ เรียกว่าก่วยเครือหูก โดยมีไม้ไผ่ผ่าซีก(ไม่ก่วย)ไว้สอดเส้นไหมทีละเส้น เวลาค้นเครือหูก เพื่อให้เกิดจังหวะ ก่อนนำไปย้อมให้เกิดสีสลับกันไปมา เป็นผ้าลายขวางลำตัว มีจังหวะ สม่ำเสมอเป็นช่วงๆ..ลายผ้าเกิดจากเส้นยืนหรือเส้นเครือซึ่ง เรียกว่า"ลายทางเครือ"และมีเส้นทางต่ำหรือเส้นพุ่งหรือเส้นทอเป็นหลักสำคัญ เทคนิคเครือก่วยนี้ ก็ใช้กับผ้าโสร่ง เช่นกัน เรียกว่า ก่วยเครือผ้าโสร่ง
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS ATTIRE IN PLAIN SILK
    WITH ALTERNATING WARP COLORS PATTERN (KRUE KUAI OR KRUE THIW)
    .
    Krue Kuai or Krue Thiw In the past, this type of cloth was called "Sin Kuai". Sin Kuai is a horizontal striped cloth with a consistent rhythm. The process of making it is called "Kuai Khruea" or "Kuai Khruea Huk". A bamboo split (not Khruea) is used to insert silk threads one at a time. When searching for the ear, it creates a rhythm before being dyed to create alternating colors. It is a horizontal striped cloth with a consistent rhythm at intervals. It is called "network pattern" and has low or weft lines or woven lines as the main focus. This network technique It is also used with sarong cloth, called Kuai Khruea Sarong cloth.
    ______________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบสลับสีเส้นยืน (เครือก่วย หรือ เครือทิว) [ 1 สิงหาคม 2567 | งานวันสตรีไทย+งานโครงการหลวง] เครือก่วยหรือเครือทิว แต่โบราณ เรียกผ้าชนิดนี้ว่า "ซิ่นก่วย" ผ้าซิ่นก่วยเป็นผ้าซิ่นลายขวางลำตัวลายขวางจะมีจังหวะสม่ำเสมอ มีกรรมวิธีในการทำ เรียกว่า คือการก่วยทางเครือ เรียกว่าก่วยเครือหูก โดยมีไม้ไผ่ผ่าซีก(ไม่ก่วย)ไว้สอดเส้นไหมทีละเส้น เวลาค้นเครือหูก เพื่อให้เกิดจังหวะ ก่อนนำไปย้อมให้เกิดสีสลับกันไปมา เป็นผ้าลายขวางลำตัว มีจังหวะ สม่ำเสมอเป็นช่วงๆ..ลายผ้าเกิดจากเส้นยืนหรือเส้นเครือซึ่ง เรียกว่า"ลายทางเครือ"และมีเส้นทางต่ำหรือเส้นพุ่งหรือเส้นทอเป็นหลักสำคัญ เทคนิคเครือก่วยนี้ ก็ใช้กับผ้าโสร่ง เช่นกัน เรียกว่า ก่วยเครือผ้าโสร่ง ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS ATTIRE IN PLAIN SILK WITH ALTERNATING WARP COLORS PATTERN (KRUE KUAI OR KRUE THIW) . Krue Kuai or Krue Thiw In the past, this type of cloth was called "Sin Kuai". Sin Kuai is a horizontal striped cloth with a consistent rhythm. The process of making it is called "Kuai Khruea" or "Kuai Khruea Huk". A bamboo split (not Khruea) is used to insert silk threads one at a time. When searching for the ear, it creates a rhythm before being dyed to create alternating colors. It is a horizontal striped cloth with a consistent rhythm at intervals. It is called "network pattern" and has low or weft lines or woven lines as the main focus. This network technique It is also used with sarong cloth, called Kuai Khruea Sarong cloth. ______________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 741 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่ไงผลักดันกฏหมาย ทำtankได้ร่างกายกรู คะหรี่เสรี เอวีถูกกฏหมาย
    เพราะพวกแม่ม ไฝ่หมกมุ่นเรื่องพวกนี้จริงๆ
    รายละเอียดข่าว ตามนี้
    วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณี 'ครูบี' (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง ) อายุ 42 ปี ครูสาวท่านหนึ่ง ปัจจุบันรับราชการอยู่ในจังหวัดปทุมธานีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา ได้ถูกนักการเมืองดังในอยุธยา (ปัจจุบันเป็นผู้สมัครนายก อบจ.อยุธยา ในนามพรรคก้าวไกล) ทราบภายหลังว่าเป็นคน ทำร้ายร่างกายเมื่อหลายปีก่อน โดยมีการถ่ายคลิปหลักฐานเก็บไว้ และแจ้งความกับตำรวจ สภ.มหาราชไปแล้ว แต่คดีไม่คืบ โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นใครชื่อและนามสกุลอะไร ที่มาทำร้ายจนเพิ่งได้มาเห็นภาพจากทางโซเชียลว่าผู้ที่ทำร้ายตนเป็นนักนักการเมือง ซึ่งตนจำได้อย่างแม่นยำ จึงศึกษาจากผู้รู้กฎหมายพบว่าคดียังไม่ขาดอายุความ จึงต้องการทวงความเป็นธรรมที่ค้างคานานมาร่วม 5 ปี ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้แล้วพร้อมทั้งมีผลการตรวจแพทย์ยืนยันเป็นเอกสารราชการทั้งหมดจึงเข้าพบตำรวจเพื่อแจ้งว่าผู้ที่ทำร้ายตนเองเป็นใคร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ ครูบี กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ นั้นตนได้พาเด็กไปทำกิจกรรมทางนาฏศิลป์ในงานแห่งหนึ่ง ในอำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยาแล้วมีนักการเมืองคนนี้มาคุยใกล้ๆ ด้านหลังเวที ตนก็แจ้งว่าขอให้ไปคุยโทรศัพท์ที่อื่นเพราะมีน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงหลายคนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวชุดไทยกันอยู่ น้องๆ กลัวว่าอาจจะโป๊ หรือมีภาพหลุดออกไปได้
    .
    ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวก็เดินหายไป แต่พักหนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?" แต่ตนเองก็พยายามหลบหลีกเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่พอเริ่มเปิดการแสดงไปไม่ถึง 1 นาที นักการเมืองคนดังกล่าว ก็ขึ้นไปบนเวทีและสั่งหยุดการแสดง และเกิดการพูดจาโวยวายทะเลาะกัน สุดท้ายมาจบที่ตนเองไปยืนตรงหน้าศาลาที่พัก แล้วก็โดนนักการเมืองคนดังกล่าวกระโดดถีบ และท้าให้ไปแจ้งความ ซึ่งเธอก็ไปแจ้งความ แต่ขณะนั้นคดีก็เงียบไปจากตำรวจในพื้นที่ แถมยังถูกตอบกลับมาด้วยว่า "รู้ไหมคนที่คุณแจ้งความเป็นใคร"
    .
    โดย ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าให้ปากคำตำรวจที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครูสาวยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สาเหตุที่แจ้งความนั้นต้องการความถูกต้องและไม่อยากให้จังหวัดอยุธยาต้องนักการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้และขอยืนยันว่าไม่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นแต่ก็กลัวมากเพราะเขา ประกาศว่ามีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังอยู่ และทางนายกรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร) รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คนดังกล่าวในคลิปไม่ได้ผ่านขั้นตอนใดๆของพรรคที่สนับสนุน อย่างที่บอกทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เขาก็ใช้สีส้มและพยายามทำให้คนเข้าใจผิดว่าพรรคเป็นคนส่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เพราะมติพรรคไม่มีการ สนับสนุนคนลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระอยุธยาในนามตัวแทนของพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการตักเตือนไปถึง ส.ส. ก้าวไกล ในจังหวัดอยุธยา ในการวางตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็สบายใจชื้นแต่ก็รู้สึกกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นเตรียมเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยไม่คาดคิดได้
    -------------------------------‬
    แหล่งข่าว
    https://siamrath.co.th/n/553167
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธาคิโอ้
    #นายกว่าว
    นี่ไงผลักดันกฏหมาย ทำtankได้ร่างกายกรู คะหรี่เสรี เอวีถูกกฏหมาย เพราะพวกแม่ม ไฝ่หมกมุ่นเรื่องพวกนี้จริงๆ รายละเอียดข่าว ตามนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณี 'ครูบี' (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง ) อายุ 42 ปี ครูสาวท่านหนึ่ง ปัจจุบันรับราชการอยู่ในจังหวัดปทุมธานีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา ได้ถูกนักการเมืองดังในอยุธยา (ปัจจุบันเป็นผู้สมัครนายก อบจ.อยุธยา ในนามพรรคก้าวไกล) ทราบภายหลังว่าเป็นคน ทำร้ายร่างกายเมื่อหลายปีก่อน โดยมีการถ่ายคลิปหลักฐานเก็บไว้ และแจ้งความกับตำรวจ สภ.มหาราชไปแล้ว แต่คดีไม่คืบ โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นใครชื่อและนามสกุลอะไร ที่มาทำร้ายจนเพิ่งได้มาเห็นภาพจากทางโซเชียลว่าผู้ที่ทำร้ายตนเป็นนักนักการเมือง ซึ่งตนจำได้อย่างแม่นยำ จึงศึกษาจากผู้รู้กฎหมายพบว่าคดียังไม่ขาดอายุความ จึงต้องการทวงความเป็นธรรมที่ค้างคานานมาร่วม 5 ปี ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้แล้วพร้อมทั้งมีผลการตรวจแพทย์ยืนยันเป็นเอกสารราชการทั้งหมดจึงเข้าพบตำรวจเพื่อแจ้งว่าผู้ที่ทำร้ายตนเองเป็นใคร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง . ทั้งนี้ ครูบี กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ นั้นตนได้พาเด็กไปทำกิจกรรมทางนาฏศิลป์ในงานแห่งหนึ่ง ในอำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยาแล้วมีนักการเมืองคนนี้มาคุยใกล้ๆ ด้านหลังเวที ตนก็แจ้งว่าขอให้ไปคุยโทรศัพท์ที่อื่นเพราะมีน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงหลายคนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวชุดไทยกันอยู่ น้องๆ กลัวว่าอาจจะโป๊ หรือมีภาพหลุดออกไปได้ . ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวก็เดินหายไป แต่พักหนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?" แต่ตนเองก็พยายามหลบหลีกเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่พอเริ่มเปิดการแสดงไปไม่ถึง 1 นาที นักการเมืองคนดังกล่าว ก็ขึ้นไปบนเวทีและสั่งหยุดการแสดง และเกิดการพูดจาโวยวายทะเลาะกัน สุดท้ายมาจบที่ตนเองไปยืนตรงหน้าศาลาที่พัก แล้วก็โดนนักการเมืองคนดังกล่าวกระโดดถีบ และท้าให้ไปแจ้งความ ซึ่งเธอก็ไปแจ้งความ แต่ขณะนั้นคดีก็เงียบไปจากตำรวจในพื้นที่ แถมยังถูกตอบกลับมาด้วยว่า "รู้ไหมคนที่คุณแจ้งความเป็นใคร" . โดย ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าให้ปากคำตำรวจที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครูสาวยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สาเหตุที่แจ้งความนั้นต้องการความถูกต้องและไม่อยากให้จังหวัดอยุธยาต้องนักการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้และขอยืนยันว่าไม่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นแต่ก็กลัวมากเพราะเขา ประกาศว่ามีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังอยู่ และทางนายกรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร) รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คนดังกล่าวในคลิปไม่ได้ผ่านขั้นตอนใดๆของพรรคที่สนับสนุน อย่างที่บอกทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เขาก็ใช้สีส้มและพยายามทำให้คนเข้าใจผิดว่าพรรคเป็นคนส่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เพราะมติพรรคไม่มีการ สนับสนุนคนลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระอยุธยาในนามตัวแทนของพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการตักเตือนไปถึง ส.ส. ก้าวไกล ในจังหวัดอยุธยา ในการวางตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็สบายใจชื้นแต่ก็รู้สึกกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นเตรียมเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยไม่คาดคิดได้ -------------------------------‬ แหล่งข่าว https://siamrath.co.th/n/553167 #คิงส์โพธิ์แดง #พิธาคิโอ้ #นายกว่าว
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว