• ผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ...หายากนะรู้ไหม!!!

    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบางบริษัทถึงไปได้สวย แต่บางบริษัทดิ้นรนอยู่กับที่? คำตอบอาจจะซ่อนอยู่ในตัวผู้นำก็ได้นะ!

    จากงานวิจัยของ Harvard Business Review เค้าบอกว่า ผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำเนี่ย หายากยิ่งกว่าการหาไข่มุกในทะเลทรายซะอีก! มีแค่ 8% เท่านั้นที่ทำได้ทั้งสองอย่างแบบเป๊ะๆ

    ทำไมต้องเก่งทั้งคู่?

    วางแผนเก่ง: เหมือนมีแผนที่นำทาง ช่วยให้รู้ว่าจะไปทางไหน ถึงเป้าหมายแน่นอน

    ลงมือเก่ง: เอาแผนที่ไปใช้ให้เป็นจริง ทำให้ธุรกิจเติบโตได้

    ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เหมือนขับรถไปโดยไม่มีแผนที่ หรือมีแผนที่แต่รถเสียไงล่ะ!

    ทำไมถึงหายาก?

    ทักษะคนละแบบ: วางแผนต้องคิดวิเคราะห์ มองภาพใหญ่ แต่ลงมือต้องปฏิบัติจริง สื่อสารเก่ง

    ความกดดัน: องค์กรมักจะให้ผู้นำโฟกัสที่อย่างใดอย่างหนึ่ง

    โลกหมุนเร็ว: ธุรกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้นำต้องปรับตัวตลอด

    แล้วจะทำยังไงให้เก่งทั้งคู่?

    เรียนรู้ตลอดเวลา: อ่านหนังสือ เข้าคอร์ส หรือหาโค้ช

    ลงมือทำจริง: เอาความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์

    สร้างทีมแข็งแกร่ง: หาลูกทีมเก่งๆ มาช่วยกัน

    ตัวอย่างง่ายๆ

    สตีฟ จ็อบส์ น่ะเก่งมาก ทั้งคิดไอเดียเจ๋งๆ อย่าง iPhone แล้วก็ยังลงมือทำจนประสบความสำเร็จ

    การเป็นผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ อาจจะยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

    จำไว้ว่า ผู้นำที่ดี ไม่ใช่แค่บอกให้คนอื่นทำ แต่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน

    อยากเป็นผู้นำที่เก่งทั้งสองด้านแบบนี้บ้างไหมล่ะ? ลองเริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

    คำถาม คุณคิดว่าอะไรคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเป็นผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ? ลองมาแชร์กันดูสิ!

    ที่มา: Leinwand, P., & Mainardi, C. (2013). What drives a company's success? Harvard Business Review.

    #ผู้นำ #กลยุทธ์ #การลงมือทำ #HarvardBusinessReview

    สนใจพัฒนายุทธศาสตร์ - กลยุทธ์และขับเคลื่อนผลงาน สร้างความเป็นเลิศโดย 10X Consulting ที่ปรึกษามืออาชีพแบรนด์เดียวในไทยที่มีประสบการณ์ตรงกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ - กลยุทธ์กว่า 3,000 โครงการ เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาธุรกิจและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ

    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป
    ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
    บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ
    #เดชฤทธิ์กรุ๊ป
    #Dechritgroup
    #10Xconsulting
    #lifealignmentor
    พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก
    https://10-xconsulting.com
    ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี
    “ผสานความดี X ความเก่ง”
    https://lifealignmentor.com
    ผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ...หายากนะรู้ไหม!!! เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมบางบริษัทถึงไปได้สวย แต่บางบริษัทดิ้นรนอยู่กับที่? คำตอบอาจจะซ่อนอยู่ในตัวผู้นำก็ได้นะ! จากงานวิจัยของ Harvard Business Review เค้าบอกว่า ผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำเนี่ย หายากยิ่งกว่าการหาไข่มุกในทะเลทรายซะอีก! มีแค่ 8% เท่านั้นที่ทำได้ทั้งสองอย่างแบบเป๊ะๆ ทำไมต้องเก่งทั้งคู่? วางแผนเก่ง: เหมือนมีแผนที่นำทาง ช่วยให้รู้ว่าจะไปทางไหน ถึงเป้าหมายแน่นอน ลงมือเก่ง: เอาแผนที่ไปใช้ให้เป็นจริง ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เหมือนขับรถไปโดยไม่มีแผนที่ หรือมีแผนที่แต่รถเสียไงล่ะ! ทำไมถึงหายาก? ทักษะคนละแบบ: วางแผนต้องคิดวิเคราะห์ มองภาพใหญ่ แต่ลงมือต้องปฏิบัติจริง สื่อสารเก่ง ความกดดัน: องค์กรมักจะให้ผู้นำโฟกัสที่อย่างใดอย่างหนึ่ง โลกหมุนเร็ว: ธุรกิจเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้นำต้องปรับตัวตลอด แล้วจะทำยังไงให้เก่งทั้งคู่? เรียนรู้ตลอดเวลา: อ่านหนังสือ เข้าคอร์ส หรือหาโค้ช ลงมือทำจริง: เอาความรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ สร้างทีมแข็งแกร่ง: หาลูกทีมเก่งๆ มาช่วยกัน ตัวอย่างง่ายๆ สตีฟ จ็อบส์ น่ะเก่งมาก ทั้งคิดไอเดียเจ๋งๆ อย่าง iPhone แล้วก็ยังลงมือทำจนประสบความสำเร็จ การเป็นผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ อาจจะยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จำไว้ว่า ผู้นำที่ดี ไม่ใช่แค่บอกให้คนอื่นทำ แต่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน อยากเป็นผู้นำที่เก่งทั้งสองด้านแบบนี้บ้างไหมล่ะ? ลองเริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ คำถาม คุณคิดว่าอะไรคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเป็นผู้นำที่เก่งทั้งวางแผนและลงมือทำ? ลองมาแชร์กันดูสิ! ที่มา: Leinwand, P., & Mainardi, C. (2013). What drives a company's success? Harvard Business Review. #ผู้นำ #กลยุทธ์ #การลงมือทำ #HarvardBusinessReview สนใจพัฒนายุทธศาสตร์ - กลยุทธ์และขับเคลื่อนผลงาน สร้างความเป็นเลิศโดย 10X Consulting ที่ปรึกษามืออาชีพแบรนด์เดียวในไทยที่มีประสบการณ์ตรงกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ - กลยุทธ์กว่า 3,000 โครงการ เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาธุรกิจและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #Dechritgroup #10Xconsulting #lifealignmentor พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก https://10-xconsulting.com ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี “ผสานความดี X ความเก่ง” https://lifealignmentor.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024: ปีแห่งการเรียนรู้ พัฒนา และสร้างผู้นำ

    ปี 2024 ที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่ตอกย้ำบทเรียนสำคัญ ความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมนั้น ถูกหล่อหลอมขึ้นจากรากฐานของการเรียนรู้ไม่หยุดยั้ง การเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงใจ และความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้ก้าวไปสู่ศักยภาพสูงสุด
    ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้มุ่งมั่นพัฒนาภารกิจในการสร้างผู้นำเชิงปฏิรูป โดยผสานความรู้ทางวิชาการชั้นเลิศ เข้ากับการให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เราพิสูจน์ให้เห็นถึงการผสมผสานอันทรงพลังระหว่างทฤษฎีและการลงมือทำ ซึ่งส่งผลกระทบที่ยั่งยืน ดังตัวอย่างความสำเร็จเหล่านี้:
    • แต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ สาขาการจัดการองค์กรและพัฒนาองค์กร มุ่งเน้นการบูรณาการงานวิจัยทางวิชาการเข้ากับการประยุกต์ใช้จริง
    • ได้รับรางวัล ที่ปรึกษาการจัดการแห่งปี จากเวที CEO Today Global Awards 2024 (จากผู้เข้าชิงกว่า 19,450 คน)
    • ขยายเครือข่ายบริษัทที่ปรึกษาในเครือเดชฤทธิ์กรุ๊ป ในแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor ให้บริการอย่างครอบคลุม 21 อุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรต่างๆ ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด
    • พัฒนา โปรแกรมผู้นำเชิงนวัตกรรม ที่ผสมผสานภูมิปัญญาอันยาวนานเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาแรง

    3 บทเรียนสำคัญที่ได้รับความสนใจจากชุมชนของเรา
    • "หลักการพื้นฐานที่เปลี่ยนบริษัทที่ดีให้กลายเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม ผ่านภาวะผู้นำระดับ 5" บทความนี้กล่าวถึงผู้นำที่เปี่ยมด้วยความถ่อมตน มุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อเป้าหมายขององค์กร มากกว่าความสำเร็จส่วนตัว [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7201971142637621248/]
    • "สร้างความไว้วางใจในวิชาชีพที่ปรึกษาการจัดการ ผ่านการรับรองคุณวุฒิและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง" บทความนี้กล่าวถึงการได้รับรางวัล CEO Today Global Award [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7205862749413777410/]
    • "นกตื่นเช้ากินน้ำค้าง สะท้อนถึงข้อได้เปรียบของการเริ่มต้นก่อนผู้อื่น" บทความนี้กล่าวถึงหลักการผู้นำที่ได้แรงบันดาลใจจากผู้ประสบความสำเร็จที่เริ่มต้นแต่เช้า [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7276771519974809600/]

    ก้าวต่อไปในปี 2025
    เรายังคงมุ่งมั่นขยายผลกระทบของผู้นำเชิงปฏิรูป ผ่านความเป็นเลิศทางวิชาการและการให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ ควบคู่กับการสนับสนุนการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับการพัฒนาผู้นำ การบรรจบกันของทฤษฎีและการลงมือทำ จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน

    ถึงองค์กร ผู้นำ และพันธมิตรทุกท่าน
    ความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศของท่าน เป็นแรงบันดาลใจให้เราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาวิธีการสร้างผู้นำให้ก้าวหน้าต่อไป

    #เดชฤทธิ์กรุ๊ป#10XConsulting #LifeAlignmentor#ผู้นำยุคใหม่ #พัฒนาผู้นำ #ผู้นำเชิงปฏิรูป
    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป
    ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
    https://10-xconsulting.com
    https://lifealignmentor.com
    2024: ปีแห่งการเรียนรู้ พัฒนา และสร้างผู้นำ ปี 2024 ที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่ตอกย้ำบทเรียนสำคัญ ความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมนั้น ถูกหล่อหลอมขึ้นจากรากฐานของการเรียนรู้ไม่หยุดยั้ง การเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงใจ และความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้ก้าวไปสู่ศักยภาพสูงสุด ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้มุ่งมั่นพัฒนาภารกิจในการสร้างผู้นำเชิงปฏิรูป โดยผสานความรู้ทางวิชาการชั้นเลิศ เข้ากับการให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เราพิสูจน์ให้เห็นถึงการผสมผสานอันทรงพลังระหว่างทฤษฎีและการลงมือทำ ซึ่งส่งผลกระทบที่ยั่งยืน ดังตัวอย่างความสำเร็จเหล่านี้: • แต่งตั้ง ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ สาขาการจัดการองค์กรและพัฒนาองค์กร มุ่งเน้นการบูรณาการงานวิจัยทางวิชาการเข้ากับการประยุกต์ใช้จริง • ได้รับรางวัล ที่ปรึกษาการจัดการแห่งปี จากเวที CEO Today Global Awards 2024 (จากผู้เข้าชิงกว่า 19,450 คน) • ขยายเครือข่ายบริษัทที่ปรึกษาในเครือเดชฤทธิ์กรุ๊ป ในแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor ให้บริการอย่างครอบคลุม 21 อุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรต่างๆ ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด • พัฒนา โปรแกรมผู้นำเชิงนวัตกรรม ที่ผสมผสานภูมิปัญญาอันยาวนานเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังมาแรง 3 บทเรียนสำคัญที่ได้รับความสนใจจากชุมชนของเรา • "หลักการพื้นฐานที่เปลี่ยนบริษัทที่ดีให้กลายเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม ผ่านภาวะผู้นำระดับ 5" บทความนี้กล่าวถึงผู้นำที่เปี่ยมด้วยความถ่อมตน มุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อเป้าหมายขององค์กร มากกว่าความสำเร็จส่วนตัว [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7201971142637621248/] • "สร้างความไว้วางใจในวิชาชีพที่ปรึกษาการจัดการ ผ่านการรับรองคุณวุฒิและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง" บทความนี้กล่าวถึงการได้รับรางวัล CEO Today Global Award [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7205862749413777410/] • "นกตื่นเช้ากินน้ำค้าง สะท้อนถึงข้อได้เปรียบของการเริ่มต้นก่อนผู้อื่น" บทความนี้กล่าวถึงหลักการผู้นำที่ได้แรงบันดาลใจจากผู้ประสบความสำเร็จที่เริ่มต้นแต่เช้า [อ่านต่อ: https://www.linkedin.com/feed/update/urn:li:activity:7276771519974809600/] ก้าวต่อไปในปี 2025 เรายังคงมุ่งมั่นขยายผลกระทบของผู้นำเชิงปฏิรูป ผ่านความเป็นเลิศทางวิชาการและการให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ ควบคู่กับการสนับสนุนการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับการพัฒนาผู้นำ การบรรจบกันของทฤษฎีและการลงมือทำ จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน ถึงองค์กร ผู้นำ และพันธมิตรทุกท่าน ความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศของท่าน เป็นแรงบันดาลใจให้เราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาวิธีการสร้างผู้นำให้ก้าวหน้าต่อไป #เดชฤทธิ์กรุ๊ป#10XConsulting #LifeAlignmentor#ผู้นำยุคใหม่ #พัฒนาผู้นำ #ผู้นำเชิงปฏิรูป เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor https://10-xconsulting.com https://lifealignmentor.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่ารู้สึกผิดถ้าคุณไม่รักพ่อแม่ แต่จงรู้คุณและคิดตอบแทนในชีวิตคนเรา ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก ซึ่งไม่สามารถบังคับกันได้โดยตรง เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก ความรักระหว่างกันอาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เหนือกว่าความรักคือ "การตอบแทนบุญคุณ" ที่พ่อแม่มีต่อเราความรู้สึกต่อพ่อแม่: เข้าใจ ไม่ใช่ฝืนใจรัก1. ความรู้สึกเป็นสิ่งบังคับไม่ได้หากเราตัดสถานะพ่อแม่ออกไป แล้วมองพวกท่านในฐานะบุคคลทั่วไป อารมณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกันก็อาจเป็นทั้งความขัดเคือง ความไม่พอใจ หรือแม้กระทั่งความโกรธ แต่สิ่งสำคัญคือ การยอมรับว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์กัน2. ไม่ต้องฝืนใจ แต่ให้ "เข้าใจ"แทนที่จะเค้นใจให้รักพ่อแม่ ให้เริ่มต้นด้วยความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ของพวกท่าน พ่อแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีข้อดีและข้อเสีย มีความยึดติดและอารมณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับเรา หากมองเห็นความจริงนี้ได้ เราก็จะเริ่มปล่อยวาง และให้อภัยในสิ่งที่พวกท่านทำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสงบในใจเราเอง---การตอบแทนบุญคุณ: หาค่าของพ่อแม่ให้เจอ1. ค่าของชีวิตเริ่มต้นจากพ่อแม่ชีวิตของเรามีขึ้นมาได้เพราะพ่อแม่ หากไม่มีพวกท่าน เราก็ไม่มีโอกาสได้หาค่าของชีวิตหรือสร้างบุญสร้างกุศลในโลกนี้ การตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่จึงเริ่มต้นจากการ "เห็นคุณค่า" ของพวกท่านในฐานะผู้ให้ชีวิต2. ความกตัญญู: รู้คุณคนความกตัญญูคือการรับรู้และนึกถึงบุญคุณที่พ่อแม่ทำไว้ การเข้าใจว่าท่านมีส่วนช่วยให้เรามีชีวิตและโอกาสในวันนี้ แม้การตอบแทนบุญคุณในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมอาจยังไม่ชัดเจน แต่ความกตัญญูคือจุดเริ่มต้นที่จะแปรเปลี่ยนเป็นการตอบแทนในภายหลัง3. กตเวที: การลงมือทำเมื่อมีความกตัญญูในใจแล้ว ความอยากตอบแทนจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องบังคับ เช่น การดูแลพ่อแม่ในยามเจ็บป่วย การแสดงความห่วงใย หรือการปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่ยังเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเราเอง---วางใจต่อบาปบุญ และมุ่งสู่การหลุดพ้น1. ถือสาเฉพาะสิ่งที่ควรถือสาสิ่งที่เราควรใส่ใจที่สุดคือบาปบุญของตัวเอง หากมองว่าพ่อแม่มีบุญคุณล้นพ้นต่อเรา การกระทบกระทั่งหรือความทุกข์ใจใดๆ ที่เกิดขึ้นจากพวกท่านก็เป็นเรื่องเล็กน้อย2. ความทุกข์จากพ่อแม่คือบทเรียนทุกข์ที่เกิดจากความสัมพันธ์กับพ่อแม่อาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลดปล่อยเราออกจากความยึดติดและอยากเกิดในอนาคต การยอมรับและให้อภัยในเรื่องเหล่านี้คือหนทางหนึ่งที่ช่วยนำเราเข้าใกล้นิพพาน---สรุปอย่ารู้สึกผิดหากคุณไม่สามารถรักพ่อแม่ได้ในทันที เพราะความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกที่บังคับไม่ได้ แต่จงฝึก "ความเข้าใจ" และ "ความกตัญญู" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตอบแทนบุญคุณอย่างแท้จริง การตอบแทนไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่เพียงการปฏิบัติต่อพวกท่านด้วยความเคารพและใส่ใจก็เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของเราและพ่อแม่มีความหมายมากขึ้น.
    อย่ารู้สึกผิดถ้าคุณไม่รักพ่อแม่ แต่จงรู้คุณและคิดตอบแทนในชีวิตคนเรา ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก ซึ่งไม่สามารถบังคับกันได้โดยตรง เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูก ความรักระหว่างกันอาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เหนือกว่าความรักคือ "การตอบแทนบุญคุณ" ที่พ่อแม่มีต่อเราความรู้สึกต่อพ่อแม่: เข้าใจ ไม่ใช่ฝืนใจรัก1. ความรู้สึกเป็นสิ่งบังคับไม่ได้หากเราตัดสถานะพ่อแม่ออกไป แล้วมองพวกท่านในฐานะบุคคลทั่วไป อารมณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกันก็อาจเป็นทั้งความขัดเคือง ความไม่พอใจ หรือแม้กระทั่งความโกรธ แต่สิ่งสำคัญคือ การยอมรับว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์กัน2. ไม่ต้องฝืนใจ แต่ให้ "เข้าใจ"แทนที่จะเค้นใจให้รักพ่อแม่ ให้เริ่มต้นด้วยความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ของพวกท่าน พ่อแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีข้อดีและข้อเสีย มีความยึดติดและอารมณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับเรา หากมองเห็นความจริงนี้ได้ เราก็จะเริ่มปล่อยวาง และให้อภัยในสิ่งที่พวกท่านทำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสงบในใจเราเอง---การตอบแทนบุญคุณ: หาค่าของพ่อแม่ให้เจอ1. ค่าของชีวิตเริ่มต้นจากพ่อแม่ชีวิตของเรามีขึ้นมาได้เพราะพ่อแม่ หากไม่มีพวกท่าน เราก็ไม่มีโอกาสได้หาค่าของชีวิตหรือสร้างบุญสร้างกุศลในโลกนี้ การตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่จึงเริ่มต้นจากการ "เห็นคุณค่า" ของพวกท่านในฐานะผู้ให้ชีวิต2. ความกตัญญู: รู้คุณคนความกตัญญูคือการรับรู้และนึกถึงบุญคุณที่พ่อแม่ทำไว้ การเข้าใจว่าท่านมีส่วนช่วยให้เรามีชีวิตและโอกาสในวันนี้ แม้การตอบแทนบุญคุณในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมอาจยังไม่ชัดเจน แต่ความกตัญญูคือจุดเริ่มต้นที่จะแปรเปลี่ยนเป็นการตอบแทนในภายหลัง3. กตเวที: การลงมือทำเมื่อมีความกตัญญูในใจแล้ว ความอยากตอบแทนจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องบังคับ เช่น การดูแลพ่อแม่ในยามเจ็บป่วย การแสดงความห่วงใย หรือการปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่ยังเป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเราเอง---วางใจต่อบาปบุญ และมุ่งสู่การหลุดพ้น1. ถือสาเฉพาะสิ่งที่ควรถือสาสิ่งที่เราควรใส่ใจที่สุดคือบาปบุญของตัวเอง หากมองว่าพ่อแม่มีบุญคุณล้นพ้นต่อเรา การกระทบกระทั่งหรือความทุกข์ใจใดๆ ที่เกิดขึ้นจากพวกท่านก็เป็นเรื่องเล็กน้อย2. ความทุกข์จากพ่อแม่คือบทเรียนทุกข์ที่เกิดจากความสัมพันธ์กับพ่อแม่อาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลดปล่อยเราออกจากความยึดติดและอยากเกิดในอนาคต การยอมรับและให้อภัยในเรื่องเหล่านี้คือหนทางหนึ่งที่ช่วยนำเราเข้าใกล้นิพพาน---สรุปอย่ารู้สึกผิดหากคุณไม่สามารถรักพ่อแม่ได้ในทันที เพราะความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกที่บังคับไม่ได้ แต่จงฝึก "ความเข้าใจ" และ "ความกตัญญู" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตอบแทนบุญคุณอย่างแท้จริง การตอบแทนไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่เพียงการปฏิบัติต่อพวกท่านด้วยความเคารพและใส่ใจก็เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของเราและพ่อแม่มีความหมายมากขึ้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงมือทำ
    สม่ำเสมอ
    คือหนทางที่เร็วที่สุด
    และถูกต้องที่สุด

    จากหนังสือ |แด่เธอผู้เจ็บปวดกับการเรียน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #แด่เธอผู้เจ็บปวดกับการเรียน
    การลงมือทำ สม่ำเสมอ คือหนทางที่เร็วที่สุด และถูกต้องที่สุด จากหนังสือ |แด่เธอผู้เจ็บปวดกับการเรียน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #แด่เธอผู้เจ็บปวดกับการเรียน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อมั่นในการลงมือทำ
    และไว้วางใจสูงสุด 🥰🌷☘️🌿

    Great natuer by bee
    ครีมอาบน้ำ ล้างหน้า รังไหม&ว่านหางจระเข้&น้ำผึ้ง🐝🐝🐝
    สูตรจากน้ำมันธรรมชาติ
    👉🌿 ที่เพื่อนสั่งไม่ให้เลิกทำ
    เพราะฉันหาซื้อแบบนี้ที่ไหนไม่ได้🤣😁🥰

    ชำระล้างอย่างอ่อนโยน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
    ลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี

    อ่อนโยน สำหรับผิว มีสมุนไพร
    รังไหม&ว่านหางจระเข้&น้ำผึ้ง
    ☘️🌷🍀🌿
    มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง ผสมกลิ่นพฤกษานานาๆพันธุ์ ของดอกพรีเซีย และผลพลัม
    ทำให้กลิ่นหอมละมุน
    #Shower #ครีมอาบน้ำ #soap #ล้างหน้า
    #soapoil
    #thaitmies
    เชื่อมั่นในการลงมือทำ และไว้วางใจสูงสุด 🥰🌷☘️🌿 Great natuer by bee ครีมอาบน้ำ ล้างหน้า รังไหม&ว่านหางจระเข้&น้ำผึ้ง🐝🐝🐝 สูตรจากน้ำมันธรรมชาติ 👉🌿 ที่เพื่อนสั่งไม่ให้เลิกทำ เพราะฉันหาซื้อแบบนี้ที่ไหนไม่ได้🤣😁🥰 ชำระล้างอย่างอ่อนโยน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี อ่อนโยน สำหรับผิว มีสมุนไพร รังไหม&ว่านหางจระเข้&น้ำผึ้ง ☘️🌷🍀🌿 มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง ผสมกลิ่นพฤกษานานาๆพันธุ์ ของดอกพรีเซีย และผลพลัม ทำให้กลิ่นหอมละมุน #Shower #ครีมอาบน้ำ #soap #ล้างหน้า #soapoil #thaitmies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ความมั่นใจ' คือสิ่งล้ำค่า
    ที่หลายๆคนพยายามทุ่มเทหลายๆอย่างเพื่อให้ได้มา

    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อซื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ
    การซื้อรถหรูเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน
    หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อประดับสมอง

    อย่างที่แอดมินได้เคยบอกไว้ในหลายๆครั้งว่า *ทุกๆอย่างต้องมีความสมดุล*

    เพราะหากว่าความมั่นใจ มีมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่
    จะส่งผลเสียในหลายๆอย่าง

    หากเรามีความมั่นใจน้อยกว่าที่ควร <
    เราจะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก
    ไม่กล้าแม้กระทั่งออกความคิดเห็นของตัวเอง
    ไม่มีโอกาสได้รักษาในหลายๆสิทธิ์ของตัวเอง

    หากเรามีความมั่นใจมากกว่าที่ควร >
    ในหลายๆครั้งอาจทำให้เราสูญเสียมากกว่าได้รับ
    อย่างเช่นการวางแผนในการทำธุรกิจ โดยที่ความรู้ยังไม่เพียงพอ

    หรือการอ่านหนังสือไม่พอก่อนเข้าสอบ แต่พกความมั่นใจไปเต็มร้อย

    ดังนั้นวิธีแก้ไขคือ การจำลองการลงมือทำจริงๆขึ้นมา
    -สำหรับการทำธุรกิจ ก็เขียนแผนธุรกิจ กำไร-ขาดทุน ให้เจ๊งแค่ในกระดาษ
    -สำหรับการอ่านหนังสือ ก็ทำแบบทดสอบเยอะๆ หรือตั้งโจทย์ขึ้นมาแล้วทำให้มากๆ

    แล้วสำหรับคุณผู้อ่าน มีวิธีควบคุมความมั่นใจ ให้ไม่มากเกินไป-น้อยเกินไปอย่างไรบ้าง มาแชร์ในคอมเม้นกันได้นะคะ ^^

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือคิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง
    #หนังสือน่าอ่าน #Thaitimes
    'ความมั่นใจ' คือสิ่งล้ำค่า ที่หลายๆคนพยายามทุ่มเทหลายๆอย่างเพื่อให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อซื้อผ้าแฟชั่นทันสมัยเพื่อให้รู้สึกมั่นใจ การซื้อรถหรูเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้ เพื่อประดับสมอง อย่างที่แอดมินได้เคยบอกไว้ในหลายๆครั้งว่า *ทุกๆอย่างต้องมีความสมดุล* เพราะหากว่าความมั่นใจ มีมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่ จะส่งผลเสียในหลายๆอย่าง หากเรามีความมั่นใจน้อยกว่าที่ควร < เราจะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแม้กระทั่งออกความคิดเห็นของตัวเอง ไม่มีโอกาสได้รักษาในหลายๆสิทธิ์ของตัวเอง หากเรามีความมั่นใจมากกว่าที่ควร > ในหลายๆครั้งอาจทำให้เราสูญเสียมากกว่าได้รับ อย่างเช่นการวางแผนในการทำธุรกิจ โดยที่ความรู้ยังไม่เพียงพอ หรือการอ่านหนังสือไม่พอก่อนเข้าสอบ แต่พกความมั่นใจไปเต็มร้อย ดังนั้นวิธีแก้ไขคือ การจำลองการลงมือทำจริงๆขึ้นมา -สำหรับการทำธุรกิจ ก็เขียนแผนธุรกิจ กำไร-ขาดทุน ให้เจ๊งแค่ในกระดาษ -สำหรับการอ่านหนังสือ ก็ทำแบบทดสอบเยอะๆ หรือตั้งโจทย์ขึ้นมาแล้วทำให้มากๆ แล้วสำหรับคุณผู้อ่าน มีวิธีควบคุมความมั่นใจ ให้ไม่มากเกินไป-น้อยเกินไปอย่างไรบ้าง มาแชร์ในคอมเม้นกันได้นะคะ ^^ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือคิดอย่างไรไม่ให้คิดไปเอง #หนังสือน่าอ่าน #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 741 มุมมอง 0 รีวิว