• มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ

    งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ

    การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว
    ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials
    1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016
    อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ
    สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง
    การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่

    https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    🧩 มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี 🔬 หลักฐานจากการศึกษา ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ 🌱 ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้ ⚠️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว ➡️ ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials ➡️ 1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี ✅ หลักฐานจากการศึกษา ➡️ อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 ➡️ อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก ✅ ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง ➡️ อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ ➡️ สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก ‼️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ⛔ ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง ⛔ การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    A Rare Cancer Is Surging in Young People, And Experts Are Puzzled
    A very rare type of cancer is on a sharp upward trajectory in younger generations, and no one knows why.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • นกดึกดำบรรพ์ที่เสียชีวิตเพราะหิน 800 ก้อน

    นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบฟอสซิลของนกโบราณชื่อ Chromeornis funkyi อายุราว 120 ล้านปี ที่มีหินเล็ก ๆ กว่า 800 ก้อนติดอยู่ในลำคอ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตโดยการสำลักหินก้อนมหึมาในครั้งเดียว

    ปริศนาพฤติกรรมการกินหิน
    โดยทั่วไปนกบางชนิดจะกินหินเล็ก ๆ หรือ gastroliths เพื่อช่วยบดอาหารในกระเพาะ แต่ Chromeornis ไม่มีโครงสร้างกระเพาะแบบนั้น อีกทั้งจำนวนหินที่พบมากเกินไปและมีองค์ประกอบแตกต่างกัน จึงไม่ใช่การกินเพื่อช่วยย่อยอาหาร นักวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติทางสุขภาพ เช่น การพยายามกำจัดพยาธิ หรือการขาดสารอาหาร

    หลักฐานจากฟอสซิลที่สมบูรณ์
    ฟอสซิลนี้ถูกค้นพบในจีนและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากจนยังเห็นร่องรอยเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ขน กล้ามเนื้อ และสีตา ทำให้นักวิจัยสามารถระบุได้ว่า Chromeornis เป็นสมาชิกของตระกูล Longipterygidae ซึ่งเป็นนกขนาดเล็ก มีฟันเฉพาะที่ปลายจะงอยปาก

    ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นสาเหตุการตายที่แปลกประหลาด แต่ยังช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความเปราะบางของนกดึกดำบรรพ์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปในเหตุการณ์ Cretaceous-Paleogene mass extinction เมื่อ 66 ล้านปีก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบฟอสซิล Chromeornis funkyi
    อายุราว 120 ล้านปี
    พบหินกว่า 800 ก้อนในลำคอ

    พฤติกรรมการกินหินผิดปกติ
    ไม่ใช่ gastroliths สำหรับช่วยย่อยอาหาร
    อาจเกิดจากความเจ็บป่วยหรือขาดสารอาหาร

    หลักฐานจากฟอสซิลสมบูรณ์
    เห็นร่องรอยขน กล้ามเนื้อ และสีตา
    จัดอยู่ในตระกูล Longipterygidae

    ข้อควรระวังในการตีความ
    ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Chromeornis กินหินจำนวนมาก
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมมติฐานทางสุขภาพและพฤติกรรม

    https://www.sciencealert.com/this-prehistoric-bird-choked-to-death-on-800-rocks-and-no-one-knows-why
    🐦 นกดึกดำบรรพ์ที่เสียชีวิตเพราะหิน 800 ก้อน นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบฟอสซิลของนกโบราณชื่อ Chromeornis funkyi อายุราว 120 ล้านปี ที่มีหินเล็ก ๆ กว่า 800 ก้อนติดอยู่ในลำคอ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตโดยการสำลักหินก้อนมหึมาในครั้งเดียว 🪨 ปริศนาพฤติกรรมการกินหิน โดยทั่วไปนกบางชนิดจะกินหินเล็ก ๆ หรือ gastroliths เพื่อช่วยบดอาหารในกระเพาะ แต่ Chromeornis ไม่มีโครงสร้างกระเพาะแบบนั้น อีกทั้งจำนวนหินที่พบมากเกินไปและมีองค์ประกอบแตกต่างกัน จึงไม่ใช่การกินเพื่อช่วยย่อยอาหาร นักวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติทางสุขภาพ เช่น การพยายามกำจัดพยาธิ หรือการขาดสารอาหาร 🧪 หลักฐานจากฟอสซิลที่สมบูรณ์ ฟอสซิลนี้ถูกค้นพบในจีนและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากจนยังเห็นร่องรอยเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ขน กล้ามเนื้อ และสีตา ทำให้นักวิจัยสามารถระบุได้ว่า Chromeornis เป็นสมาชิกของตระกูล Longipterygidae ซึ่งเป็นนกขนาดเล็ก มีฟันเฉพาะที่ปลายจะงอยปาก 🌍 ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นสาเหตุการตายที่แปลกประหลาด แต่ยังช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความเปราะบางของนกดึกดำบรรพ์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปในเหตุการณ์ Cretaceous-Paleogene mass extinction เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบฟอสซิล Chromeornis funkyi ➡️ อายุราว 120 ล้านปี ➡️ พบหินกว่า 800 ก้อนในลำคอ ✅ พฤติกรรมการกินหินผิดปกติ ➡️ ไม่ใช่ gastroliths สำหรับช่วยย่อยอาหาร ➡️ อาจเกิดจากความเจ็บป่วยหรือขาดสารอาหาร ✅ หลักฐานจากฟอสซิลสมบูรณ์ ➡️ เห็นร่องรอยขน กล้ามเนื้อ และสีตา ➡️ จัดอยู่ในตระกูล Longipterygidae ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Chromeornis กินหินจำนวนมาก ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมมติฐานทางสุขภาพและพฤติกรรม https://www.sciencealert.com/this-prehistoric-bird-choked-to-death-on-800-rocks-and-no-one-knows-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    This Prehistoric Bird Choked to Death on 800 Rocks, And No One Knows Why
    A prehistoric bird that lived and died 120 million years ago has presented forensic paleontologists with a baffling medical mystery.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคอาเจียนจากกัญชา: ปรากฏการณ์ใหม่ในสหรัฐฯ

    ข่าวนี้เล่าถึง Cannabinoid Hyperemesis Syndrome (CHS) หรืออาการอาเจียนรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการใช้กัญชาเรื้อรัง ซึ่งกำลังพบมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2020

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Illinois Chicago พบว่า จำนวนผู้ป่วย CHS ที่เข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ระหว่างปี 2016–2022 จาก 4 รายต่อประชากร 100,000 คน เป็น 22 รายต่อประชากร 100,000 คน แม้ยังถือว่าเป็นโรคหายาก แต่การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงความสำคัญที่สังคมและวงการแพทย์ต้องจับตามอง

    ลักษณะและอาการของ CHS
    CHS มักเกิดในผู้ใช้กัญชาเป็นเวลาหลายปี โดยเริ่มจากอาการคลื่นไส้หรือปวดท้องในตอนเช้า ก่อนจะพัฒนาเป็น อาการอาเจียนรุนแรงและต่อเนื่อง หลังใช้กัญชา อาการอาจคงอยู่หลายวันและทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาซ้ำ ๆ ที่น่าสนใจคือ การอาบน้ำร้อนหรืออาบน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการได้ชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง

    ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มขึ้น
    ช่วงการระบาด COVID-19 (2020–2021) ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งให้ CHS เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเครียด การแยกตัว และการใช้กัญชามากขึ้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่า การรับรู้และการวินิจฉัยที่ดีขึ้น ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงการใช้กัญชาที่มากขึ้นเท่านั้น

    ความท้าทายในการวินิจฉัย
    CHS มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome (CVS) ซึ่งมีวิธีรักษาต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง บางรายถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า “แกล้งทำ” อาการ ทั้งที่จริงแล้วเป็นโรคที่มีอยู่จริงและกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในวงการแพทย์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย CHS ในสหรัฐฯ
    จาก 4 รายต่อ 100,000 คน (2016) เป็น 22 รายต่อ 100,000 คน (2022)
    พบมากในภูมิภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือ

    ลักษณะอาการของ CHS
    คลื่นไส้ ปวดท้อง และอาเจียนรุนแรง
    อาบน้ำร้อนช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีรักษา

    ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
    การใช้กัญชาเรื้อรัง โดยเฉพาะในคนอายุน้อย
    ความเครียดและการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นช่วง COVID-19

    ความท้าทายในการวินิจฉัย
    มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome
    ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

    https://www.sciencealert.com/vomiting-syndrome-linked-to-cannabis-is-on-the-rise-in-the-us
    🚨 โรคอาเจียนจากกัญชา: ปรากฏการณ์ใหม่ในสหรัฐฯ ข่าวนี้เล่าถึง Cannabinoid Hyperemesis Syndrome (CHS) หรืออาการอาเจียนรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการใช้กัญชาเรื้อรัง ซึ่งกำลังพบมากขึ้นในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2020 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Illinois Chicago พบว่า จำนวนผู้ป่วย CHS ที่เข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า ระหว่างปี 2016–2022 จาก 4 รายต่อประชากร 100,000 คน เป็น 22 รายต่อประชากร 100,000 คน แม้ยังถือว่าเป็นโรคหายาก แต่การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนถึงความสำคัญที่สังคมและวงการแพทย์ต้องจับตามอง 🧑‍⚕️ ลักษณะและอาการของ CHS CHS มักเกิดในผู้ใช้กัญชาเป็นเวลาหลายปี โดยเริ่มจากอาการคลื่นไส้หรือปวดท้องในตอนเช้า ก่อนจะพัฒนาเป็น อาการอาเจียนรุนแรงและต่อเนื่อง หลังใช้กัญชา อาการอาจคงอยู่หลายวันและทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาซ้ำ ๆ ที่น่าสนใจคือ การอาบน้ำร้อนหรืออาบน้ำอุ่นสามารถบรรเทาอาการได้ชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง 📈 ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มขึ้น ช่วงการระบาด COVID-19 (2020–2021) ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งให้ CHS เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเครียด การแยกตัว และการใช้กัญชามากขึ้น นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตว่า การรับรู้และการวินิจฉัยที่ดีขึ้น ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงการใช้กัญชาที่มากขึ้นเท่านั้น ⚠️ ความท้าทายในการวินิจฉัย CHS มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome (CVS) ซึ่งมีวิธีรักษาต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง บางรายถึงขั้นถูกกล่าวหาว่า “แกล้งทำ” อาการ ทั้งที่จริงแล้วเป็นโรคที่มีอยู่จริงและกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในวงการแพทย์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย CHS ในสหรัฐฯ ➡️ จาก 4 รายต่อ 100,000 คน (2016) เป็น 22 รายต่อ 100,000 คน (2022) ➡️ พบมากในภูมิภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ ลักษณะอาการของ CHS ➡️ คลื่นไส้ ปวดท้อง และอาเจียนรุนแรง ➡️ อาบน้ำร้อนช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่การหยุดใช้กัญชาคือวิธีรักษา ✅ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ➡️ การใช้กัญชาเรื้อรัง โดยเฉพาะในคนอายุน้อย ➡️ ความเครียดและการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นช่วง COVID-19 ‼️ ความท้าทายในการวินิจฉัย ⛔ มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น cyclical vomiting syndrome ⛔ ผู้ป่วยบางรายต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งกว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง https://www.sciencealert.com/vomiting-syndrome-linked-to-cannabis-is-on-the-rise-in-the-us
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Vomiting Syndrome Linked to Cannabis Is on The Rise in The US
    A rare vomiting condition associated with chronic cannabis use is becoming more common at emergency departments in the US.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบครั้งสำคัญ: ยีนเดียวที่ก่อโรคทางจิต

    งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัย Leipzig พบว่า การกลายพันธุ์ในยีน GRIN2A สามารถทำให้เกิดโรคทางจิตได้โดยตรง เช่น โรคจิตเภทที่เกิดตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น ซึ่งต่างจากรูปแบบทั่วไปที่มักแสดงอาการในวัยผู้ใหญ่ การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่ายีนเดียวสามารถก่อโรคทางจิตได้

    ผลกระทบต่อการวินิจฉัยและการรักษา
    ทีมวิจัยได้ศึกษาผู้ป่วยกว่า 121 รายที่มีการเปลี่ยนแปลงในยีน GRIN2A พบว่า 25 รายมีอาการทางจิต เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า หรือโรคบุคลิกภาพผิดปกติ ที่น่าสนใจคือบางรายมีเพียงอาการทางจิต โดยไม่มีโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น ลมชักหรือปัญญาบกพร่อง ซึ่งปกติจะเชื่อมโยงกับยีนนี้

    แนวทางการรักษาใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
    ยีน GRIN2A เกี่ยวข้องกับตัวรับกลูตาเมตในสมอง ซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ประสาท งานวิจัยพบว่าผู้ป่วยบางรายที่ได้รับการรักษาด้วย L-serine (กรดอะมิโนที่กระตุ้นตัวรับกลูตาเมต) มีอาการทางจิตดีขึ้น เช่น ลดอาการหลอนหรือพฤติกรรมผิดปกติ แม้จะเป็นกลุ่มตัวอย่างเล็ก แต่ก็เปิดความเป็นไปได้ใหม่ในการรักษาโรคทางจิตแบบเฉพาะบุคคล

    ความหมายต่อสังคมและอนาคต
    การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวทางการวินิจฉัยโรคทางจิตในอนาคต โดยการตรวจพันธุกรรมอาจถูกนำมาใช้เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเลือกการรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลและทำความเข้าใจกลไกของยีนนี้อย่างละเอียด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบยีน GRIN2A
    เป็นยีนแรกที่สามารถทำให้เกิดโรคทางจิตได้โดยตรง
    อาการปรากฏตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น

    ผลการศึกษาในผู้ป่วย
    25 จาก 121 รายมีโรคทางจิต
    บางรายมีเพียงอาการทางจิตโดยไม่มีโรคประสาทอื่น

    แนวทางการรักษาใหม่
    การใช้ L-serine ช่วยให้อาการดีขึ้นในบางราย
    เปิดโอกาสสู่การรักษาแบบเฉพาะบุคคล

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ขนาดตัวอย่างยังเล็กและต้องการการศึกษาเพิ่มเติม
    กลไกการทำงานของ GRIN2A ยังไม่ถูกเข้าใจทั้งหมด

    https://www.sciencealert.com/scientists-discover-the-first-single-gene-to-directly-cause-mental-illness
    🧬 การค้นพบครั้งสำคัญ: ยีนเดียวที่ก่อโรคทางจิต งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัย Leipzig พบว่า การกลายพันธุ์ในยีน GRIN2A สามารถทำให้เกิดโรคทางจิตได้โดยตรง เช่น โรคจิตเภทที่เกิดตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น ซึ่งต่างจากรูปแบบทั่วไปที่มักแสดงอาการในวัยผู้ใหญ่ การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานชัดเจนว่ายีนเดียวสามารถก่อโรคทางจิตได้ 👩‍⚕️ ผลกระทบต่อการวินิจฉัยและการรักษา ทีมวิจัยได้ศึกษาผู้ป่วยกว่า 121 รายที่มีการเปลี่ยนแปลงในยีน GRIN2A พบว่า 25 รายมีอาการทางจิต เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า หรือโรคบุคลิกภาพผิดปกติ ที่น่าสนใจคือบางรายมีเพียงอาการทางจิต โดยไม่มีโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น ลมชักหรือปัญญาบกพร่อง ซึ่งปกติจะเชื่อมโยงกับยีนนี้ 💊 แนวทางการรักษาใหม่ที่อาจเกิดขึ้น ยีน GRIN2A เกี่ยวข้องกับตัวรับกลูตาเมตในสมอง ซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ประสาท งานวิจัยพบว่าผู้ป่วยบางรายที่ได้รับการรักษาด้วย L-serine (กรดอะมิโนที่กระตุ้นตัวรับกลูตาเมต) มีอาการทางจิตดีขึ้น เช่น ลดอาการหลอนหรือพฤติกรรมผิดปกติ แม้จะเป็นกลุ่มตัวอย่างเล็ก แต่ก็เปิดความเป็นไปได้ใหม่ในการรักษาโรคทางจิตแบบเฉพาะบุคคล 🌍 ความหมายต่อสังคมและอนาคต การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวทางการวินิจฉัยโรคทางจิตในอนาคต โดยการตรวจพันธุกรรมอาจถูกนำมาใช้เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเลือกการรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลและทำความเข้าใจกลไกของยีนนี้อย่างละเอียด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบยีน GRIN2A ➡️ เป็นยีนแรกที่สามารถทำให้เกิดโรคทางจิตได้โดยตรง ➡️ อาการปรากฏตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น ✅ ผลการศึกษาในผู้ป่วย ➡️ 25 จาก 121 รายมีโรคทางจิต ➡️ บางรายมีเพียงอาการทางจิตโดยไม่มีโรคประสาทอื่น ✅ แนวทางการรักษาใหม่ ➡️ การใช้ L-serine ช่วยให้อาการดีขึ้นในบางราย ➡️ เปิดโอกาสสู่การรักษาแบบเฉพาะบุคคล ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ขนาดตัวอย่างยังเล็กและต้องการการศึกษาเพิ่มเติม ⛔ กลไกการทำงานของ GRIN2A ยังไม่ถูกเข้าใจทั้งหมด https://www.sciencealert.com/scientists-discover-the-first-single-gene-to-directly-cause-mental-illness
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Scientists Discover The First Single Gene to Directly Cause Mental Illness
    Genetics is rarely as straightforward as a single gene driving a lone health outcome.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure

    ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika
    อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB
    มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส
    รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android
    มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering)
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด
    OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs
    Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง
    บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🛡️ React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure 📄 ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering) 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก

    รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026

    แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง

    ความท้าทายด้านเทคโนโลยี
    Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด
    Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production
    Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025

    Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่
    Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26
    อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้

    คำเตือนต่อ Samsung
    หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด
    เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง

    https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    📰 Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026 แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง 🔧 ความท้าทายด้านเทคโนโลยี Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย 🌍 ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production ➡️ Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 ✅ Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่ ➡️ Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน ✅ ผลกระทบต่อ Galaxy S26 ➡️ อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้ ‼️ คำเตือนต่อ Samsung ⛔ หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด ⛔ เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600 Has Yet To Enter Mass Production, With Latest Report Downplaying Previous Updates Regarding Samsung’s First 2nm GAA Chipset’s Progress
    The Exynos 2600 was recently announced in a small trailer, but a new update states that Samsung’s first 2nm GAA SoC has yet to enter mass production
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก

    ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI

    IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์

    การเผชิญหน้ากับ Kasparov
    ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา

    มุมมองจากปัจจุบัน
    แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995
    วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที

    การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997
    ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI
    สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI

    คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue
    วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI
    ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    ♟️ Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์ 🏆 การเผชิญหน้ากับ Kasparov ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5 🌍 ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา ⚠️ มุมมองจากปัจจุบัน แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995 ➡️ วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที ✅ การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997 ➡️ ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5 ✅ ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI ➡️ สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI ‼️ คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue ⛔ วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI ⛔ ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered

    นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง

    โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3

    การปรับแต่งและอัปเกรด
    เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย
    ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple
    สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed
    ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว

    ความหมายและผลกระทบ
    โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker

    ข้อควรระวัง
    แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3
    ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED

    การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่
    เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล

    ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล
    ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

    คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม
    ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D
    เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    🖥️ iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3 🔧 การปรับแต่งและอัปเกรด 💠 เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย 💠 ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple 💠 สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed 💠 ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว 🌍 ความหมายและผลกระทบ โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker ⚠️ ข้อควรระวัง แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3 ➡️ ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED ✅ การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่ ➡️ เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล ✅ ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล ➡️ ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม ⛔ ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ⛔ เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายสหรัฐฯ ถูกฟ้องคดี Cyberstalking โดยอ้าง ChatGPT

    Brett Michael Dadig จากเมือง Whitehall ถูกอัยการสหรัฐฯ ตั้งข้อหา 14 กระทงในคดี การคุกคามและตามรังควานผู้หญิง ทั้งใน Pittsburgh และอีกหลายรัฐ เขาถูกกล่าวหาว่าข่มขู่ โพสต์ภาพ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อบนอินเทอร์เน็ต โดย Dadig อ้างว่า ChatGPT แนะนำให้เขาไปพบ “ภรรยาในอนาคต” ที่ยิมหรือชุมชนกีฬา และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสร้างชื่อเสียง

    การใช้ AI ในทางที่ผิด
    ในพอดแคสต์ของเขา Dadig เรียก ChatGPT ว่าเป็น “นักบำบัด” และ “เพื่อนสนิท” พร้อมยอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจจากคำแนะนำของ AI ให้สร้างแพลตฟอร์มเพื่อโดดเด่นในสังคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นการคุกคามผู้หญิงและพนักงานยิมอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางโพสต์ออนไลน์ โทรศัพท์ และการปรากฏตัวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

    ผลกระทบทางกฎหมาย
    อัยการระบุว่าเหยื่อกว่า 11 คนได้รับผลกระทบจากการกระทำของ Dadig โดยบางคนถึงขั้นต้องขอคำสั่งคุ้มครอง (Protection-from-abuse orders) ซึ่งเขายังละเมิดซ้ำอีกด้วย หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 70 ปี และปรับเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการใช้ AI โดยไม่เข้าใจขอบเขตและผลกระทบ การพึ่งพา AI เป็น “ที่ปรึกษา” โดยไม่ใช้วิจารณญาณอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อผู้อื่นอย่างร้ายแรง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ชายสหรัฐฯ ถูกตั้งข้อหา Cyberstalking 14 กระทง
    เหยื่อกว่า 11 คนในหลายรัฐ รวมถึง Pittsburgh

    อ้างว่าได้รับคำแนะนำจาก ChatGPT
    ใช้ AI เป็น “นักบำบัด” และ “เพื่อนสนิท”

    ผลกระทบต่อเหยื่อและสังคม
    เหยื่อบางคนต้องขอคำสั่งคุ้มครอง แต่ถูกละเมิดซ้ำ

    คำเตือนด้านการใช้ AI
    การพึ่งพา AI โดยไม่ใช้วิจารณญาณอาจนำไปสู่พฤติกรรมผิดกฎหมาย
    เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายต่อผู้อื่นและสังคมโดยรวม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/a-us-man-was-indicted-for-allegedly-cyberstalking-women-he-says-he-took-advice-from-chatgpt
    📰 ชายสหรัฐฯ ถูกฟ้องคดี Cyberstalking โดยอ้าง ChatGPT Brett Michael Dadig จากเมือง Whitehall ถูกอัยการสหรัฐฯ ตั้งข้อหา 14 กระทงในคดี การคุกคามและตามรังควานผู้หญิง ทั้งใน Pittsburgh และอีกหลายรัฐ เขาถูกกล่าวหาว่าข่มขู่ โพสต์ภาพ และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อบนอินเทอร์เน็ต โดย Dadig อ้างว่า ChatGPT แนะนำให้เขาไปพบ “ภรรยาในอนาคต” ที่ยิมหรือชุมชนกีฬา และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสร้างชื่อเสียง 🎙️ การใช้ AI ในทางที่ผิด ในพอดแคสต์ของเขา Dadig เรียก ChatGPT ว่าเป็น “นักบำบัด” และ “เพื่อนสนิท” พร้อมยอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจจากคำแนะนำของ AI ให้สร้างแพลตฟอร์มเพื่อโดดเด่นในสังคม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นการคุกคามผู้หญิงและพนักงานยิมอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางโพสต์ออนไลน์ โทรศัพท์ และการปรากฏตัวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ⚖️ ผลกระทบทางกฎหมาย อัยการระบุว่าเหยื่อกว่า 11 คนได้รับผลกระทบจากการกระทำของ Dadig โดยบางคนถึงขั้นต้องขอคำสั่งคุ้มครอง (Protection-from-abuse orders) ซึ่งเขายังละเมิดซ้ำอีกด้วย หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 70 ปี และปรับเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ⚠️ ความเสี่ยงและคำเตือน กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการใช้ AI โดยไม่เข้าใจขอบเขตและผลกระทบ การพึ่งพา AI เป็น “ที่ปรึกษา” โดยไม่ใช้วิจารณญาณอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อผู้อื่นอย่างร้ายแรง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ชายสหรัฐฯ ถูกตั้งข้อหา Cyberstalking 14 กระทง ➡️ เหยื่อกว่า 11 คนในหลายรัฐ รวมถึง Pittsburgh ✅ อ้างว่าได้รับคำแนะนำจาก ChatGPT ➡️ ใช้ AI เป็น “นักบำบัด” และ “เพื่อนสนิท” ✅ ผลกระทบต่อเหยื่อและสังคม ➡️ เหยื่อบางคนต้องขอคำสั่งคุ้มครอง แต่ถูกละเมิดซ้ำ ‼️ คำเตือนด้านการใช้ AI ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ใช้วิจารณญาณอาจนำไปสู่พฤติกรรมผิดกฎหมาย ⛔ เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายต่อผู้อื่นและสังคมโดยรวม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/a-us-man-was-indicted-for-allegedly-cyberstalking-women-he-says-he-took-advice-from-chatgpt
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A US man was indicted for allegedly cyberstalking women. He says he took advice from ChatGPT.
    On his podcast, Mr Dadig called the AI chatbot his "therapist" and "best friend," the indictment says.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน

    องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
    รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น

    คำตอบจากบริษัท
    Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ
    ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน

    การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก
    เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
    สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ

    คำเตือนและข้อกังวล
    ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996
    การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    ⚖️ Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร 🌍 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น 🛑 คำตอบจากบริษัท Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ ➡️ ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน ✅ การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก ➡️ เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ➡️ สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 ⛔ การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple, Tesla accused of profiting from horrific abuses, environmental destruction
    According to the filing, Apple's suppliers engage in forced and child labour, and beatings of workers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery

    Netflix ประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ว่าได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Warner Bros Discovery ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และบริการสตรีมมิ่ง HBO Max ด้วยมูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Warner Bros ปฏิเสธข้อเสนอจาก Paramount และ Comcast ก่อนหน้านี้ และเลือก Netflix เพราะข้อเสนอมีความชัดเจนและมั่นคงกว่า

    กลยุทธ์และการตัดสินใจ
    Netflix เริ่มสนใจดีลนี้หลัง Warner Bros ประกาศแผนแยกธุรกิจเคเบิลทีวีออกจากสตูดิโอและสตรีมมิ่ง ทำให้ Netflix มองเห็นโอกาสในการเสริมคลังคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่ยังคงมีผู้ชมจำนวนมาก นอกจากนี้ Netflix ยังเสนอ ค่าปรับหากดีลล้มเหลวสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะผ่านการตรวจสอบด้านกฎหมายการแข่งขัน

    ผลกระทบต่อวงการบันเทิง
    การควบรวมครั้งนี้ทำให้ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง โดยมีทั้งคลังคอนเทนต์ใหม่และเก่า รวมถึงโครงสร้างการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับโลก ดีลนี้ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่งอย่าง Disney+, Amazon Prime และ Apple TV+ ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ Netflix ที่มีทั้ง คอนเทนต์, เทคโนโลยี และฐานผู้ใช้มหาศาล

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ดีลนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่ Netflix ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาด และแรงกดดันจากสหภาพแรงงานฮอลลีวูดที่กังวลเรื่องการรวมศูนย์อำนาจในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์
    ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และ HBO Max

    กลยุทธ์ Netflix เน้นเสริมคลังคอนเทนต์และสร้างความมั่นใจ
    เสนอค่าปรับ 5.8 พันล้านดอลลาร์หากดีลล้มเหลว

    ผลกระทบต่อวงการบันเทิงโลก
    Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง

    คำเตือนและความท้าทาย
    อาจถูกตรวจสอบด้านการผูกขาดและแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน
    ความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารองค์กรขนาดใหญ่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/exclusive-how-netflix-won-hollywood039s-biggest-prize-warner-bros-discovery
    🎬 Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery Netflix ประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ว่าได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Warner Bros Discovery ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และบริการสตรีมมิ่ง HBO Max ด้วยมูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Warner Bros ปฏิเสธข้อเสนอจาก Paramount และ Comcast ก่อนหน้านี้ และเลือก Netflix เพราะข้อเสนอมีความชัดเจนและมั่นคงกว่า 📊 กลยุทธ์และการตัดสินใจ Netflix เริ่มสนใจดีลนี้หลัง Warner Bros ประกาศแผนแยกธุรกิจเคเบิลทีวีออกจากสตูดิโอและสตรีมมิ่ง ทำให้ Netflix มองเห็นโอกาสในการเสริมคลังคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่ยังคงมีผู้ชมจำนวนมาก นอกจากนี้ Netflix ยังเสนอ ค่าปรับหากดีลล้มเหลวสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะผ่านการตรวจสอบด้านกฎหมายการแข่งขัน 🌍 ผลกระทบต่อวงการบันเทิง การควบรวมครั้งนี้ทำให้ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง โดยมีทั้งคลังคอนเทนต์ใหม่และเก่า รวมถึงโครงสร้างการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับโลก ดีลนี้ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่งอย่าง Disney+, Amazon Prime และ Apple TV+ ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ Netflix ที่มีทั้ง คอนเทนต์, เทคโนโลยี และฐานผู้ใช้มหาศาล ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ดีลนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่ Netflix ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาด และแรงกดดันจากสหภาพแรงงานฮอลลีวูดที่กังวลเรื่องการรวมศูนย์อำนาจในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และ HBO Max ✅ กลยุทธ์ Netflix เน้นเสริมคลังคอนเทนต์และสร้างความมั่นใจ ➡️ เสนอค่าปรับ 5.8 พันล้านดอลลาร์หากดีลล้มเหลว ✅ ผลกระทบต่อวงการบันเทิงโลก ➡️ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ อาจถูกตรวจสอบด้านการผูกขาดและแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน ⛔ ความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/exclusive-how-netflix-won-hollywood039s-biggest-prize-warner-bros-discovery
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-How Netflix won Hollywood's biggest prize, Warner Bros Discovery
    LOS ANGELES/NEW YORK, Dec 5 (Reuters) - What started as a fact-finding mission for Netflix culminated in one of the biggest media deals in the last decade and one that stands to reshape the global entertainment business landscape, people with direct knowledge of the deal told Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้

    ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน
    การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้
    เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI

    ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน
    ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ

    ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ

    คำเตือนและความท้าทาย
    การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า
    การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    🏭 Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ 🤝 ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📈 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ ➡️ เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ✅ ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน ➡️ ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ ✅ ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ➡️ สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า ⛔ การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoftBank's Arm plans to set up chip training facility in South Korea
    SEOUL, Dec 5 (Reuters) - South Korea's industry ministry and SoftBank's chip unit, Arm Holdings, have signed an agreement to strengthen the country's semiconductor and Artificial Intelligence sectors, a presidential policy adviser said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ

    บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก

    BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่

    ความซับซ้อนของการซ่อม
    แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล

    ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
    บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้
    ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร

    ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย
    ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้
    การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง

    คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม
    หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร
    BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง

    https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
    🚗 ข่าวใหญ่: BMW PHEV ซ่อมยากหลังอุบัติเหตุ บทความจาก EV Clinic วิจารณ์การออกแบบระบบแบตเตอรี่ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้การซ่อมหลังอุบัติเหตุแทบเป็นไปไม่ได้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายและขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่รวมฟิวส์นิรภัย (pyrofuse), คอนแทคเตอร์ และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ไว้ในตัวเดียวกัน แต่โมดูลนี้ถูกเชื่อมปิดสนิท ไม่มีช่องสำหรับการซ่อม ทำให้แม้เพียงฟิวส์ขาดก็ต้องเปลี่ยนทั้งชุดใหม่ ราคาประมาณ 1,100 ยูโร + ภาษี และยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ยูโร เพื่อทำการลงทะเบียนชิ้นส่วนใหม่ 🔧 ความซับซ้อนของการซ่อม แม้จะสามารถเปิดโมดูลได้ แต่ชิป Infineon TC375 ที่ใช้ควบคุมระบบถูกล็อกเข้ารหัส ทำให้ไม่สามารถล้างข้อมูล “Crash Flag” ได้ ส่งผลให้การซ่อมแซมแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการแฟลชซอฟต์แวร์ทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนชิ้นส่วนยังเสี่ยงต่อการทำให้ระบบเสียหายมากกว่าเดิม หากเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 6,000 ยูโรต่อโมดูล 🌍 ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม บทความชี้ว่าการออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ แต่ยังสร้าง ขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์มหาศาล เนื่องจากต้องทิ้งชิ้นส่วนที่ยังใช้งานได้ และผลิตใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ฟิวส์มีราคาเพียง 11 ยูโร และสามารถรีเซ็ตระบบได้ง่ายกว่า BMW จึงถูกวิจารณ์ว่าเป็น “วิศวกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม” มากกว่าการช่วยลดมลพิษ ⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม นอกจากค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่การซ่อมผิดขั้นตอนจะทำให้ระบบล็อกและลบข้อมูลทั้งหมด ส่งผลให้รถไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ขณะที่ BMW ยังไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจนให้กับศูนย์บริการภายนอก ทำให้ผู้ใช้และอู่ซ่อมอิสระต้องแบกรับความเสี่ยงเอง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ BMW PHEV รุ่นปี 2021 ใช้โมดูล iBMUCP ที่ไม่สามารถซ่อมได้ ➡️ ฟิวส์ขาดต้องเปลี่ยนทั้งชุด ราคาสูงกว่า 1,100 ยูโร ✅ ขั้นตอนการซ่อมซับซ้อนและเสี่ยงต่อความเสียหาย ➡️ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมูลค่า 25,000 ยูโร และเสี่ยงทำให้แบตเตอรี่ทั้งชุดเสียหาย ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายผู้ใช้ ➡️ การออกแบบทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูง ‼️ คำเตือนต่อเจ้าของรถและอู่ซ่อม ⛔ หากขั้นตอนผิดพลาด อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งชุด มูลค่าหลายพันยูโร ⛔ BMW ไม่เปิดการฝึกอบรมหรือคู่มือที่ชัดเจน ทำให้การซ่อมมีความเสี่ยงสูง https://evclinic.eu/2025/12/04/2021-phev-bmw-ibmucp-21f37e-post-crash-recovery-when-eu-engineering-becomes-a-synonym-for-unrepairable-generating-waste/
    EVCLINIC.EU
    2021 > PHEV BMW iBMUCP 21F37E Post-Crash Recovery — When EU engineering becomes a synonym for “unrepairable” + “generating waste”.
    2021 > PHEV BMW iBMUCP PHEV Post-Crash Recovery — When EU engineering becomes a synonym for “unrepairable” + "generating waste". If you own a BMW PHEV — or if you’re an insurance company — every pothole, every curb impact, small or large incideng and even any rabbit jumping out of a bush repre
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect

    ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง

    วิธีการแพร่กระจาย
    มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี

    วิธีป้องกัน
    ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat
    บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password
    ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม

    วิธีแพร่กระจาย
    ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น
    ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน
    พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat

    วิธีป้องกัน
    ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น
    ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง
    แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล

    https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    📰 ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง 🎭 วิธีการแพร่กระจาย มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ 🏢 ความเสี่ยงต่อธุรกิจ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี 🔒 วิธีป้องกัน ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat ➡️ บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password ➡️ ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น ➡️ ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง ✅ ความเสี่ยงต่อธุรกิจ ➡️ เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน ➡️ พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ✅ วิธีป้องกัน ➡️ ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง ⛔ แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    HACKREAD.COM
    New Variant of ClayRat Android Spyware Seize Full Device Control
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism

    บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น

    ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง

    ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร
    หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ

    สรุปสาระสำคัญ
    การวินิจฉัย Autism และ ADHD
    ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่
    ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองไม่กรองเสียงรบกวน
    สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ

    ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต
    Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight
    Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง
    ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น
    ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด

    https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    📰 หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค 🔊 ปัญหาการประมวลผลเสียง สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง 🛠️ ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน 🌐 เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การวินิจฉัย Autism และ ADHD ➡️ ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่ ➡️ ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก ✅ ปัญหาการประมวลผลเสียง ➡️ สมองไม่กรองเสียงรบกวน ➡️ สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ ✅ ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต ➡️ Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight ➡️ Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน ✅ เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง ➡️ Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง ➡️ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    My Autism Diagnosis Upended My Sense Of Self, But One Gadget Is Helping Me Reclaim It - SlashGear
    True wireless earbuds can be a great help for people with autism, thanks to their active noice cancelling and accessibility features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025

    Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel

    Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store
    มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป
    Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์

    วิธีอัปเดตระบบ
    ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung
    Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่
    Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต

    ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services
    การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับปรุงระบบ
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์
    ลดปัญหาการค้างและบั๊ก

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store
    คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect
    ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง

    การกระจายฟีเจอร์
    ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที
    ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign

    วิธีอัปเดต
    Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services
    Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ
    ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

    https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    📰 อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025 Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ 🛡️ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน 📲 การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์ 🔧 วิธีอัปเดตระบบ ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่ Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับปรุงระบบ ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ➡️ ลดปัญหาการค้างและบั๊ก ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store ➡️ คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect ➡️ ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง ✅ การกระจายฟีเจอร์ ➡️ ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที ➡️ ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign ✅ วิธีอัปเดต ➡️ Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services ➡️ Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ ⛔ ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Check Your Android Device: Google's December 2025 System Update Is Live - SlashGear
    If you have an Android device, a system update might be waiting for you. Here's what the update includes and how you can download it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.150 : มอง “มหาอุทกภัยหาดใหญ่” ย้อนบทเรียน “น้ำท่วมใหญ่ญี่ปุ่น”
    .
    ประเทศนึงที่ต้องเผชิญกับเหตุภัยพิบัติมากที่สุดก็คือ ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องประสบพบเจอทั้งแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ ภูเขาไฟปะทุ รวมถึงพายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม ดินถล่ม เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ญี่ปุ่นจะมีมาตรการ และการเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติที่ดีเยี่ยม ลดความสูญเสียได้อย่างมาก
    .
    แต่ว่าก็มีหลายครั้งที่ ญี่ปุ่นรับมือไม่ไหว-เอาไม่อยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น สนามบินนานาชาติคันไซ ที่จังหวัดโอซาก้า ก็เคยถูกน้ำท่วมจนต้องปิดสนามบินนานกว่า 2 สัปดาห์ หรือ เมื่อพายุ “ฮากีบิส” พัดถล่มญี่ปุ่นในปี 2562 ทำให้รถไฟความเร็วสูงชินกันเซ็น 10 ขบวนถูกน้ำท่วมจนเสียหายทั้งหมดเป็นต้นครับ ... วันนี้ เราจะเล่าถึงประสบการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ในการรับมือภัยพิบัติ โดยเฉพาะในอุทกภัย-น้ำท่วม ว่าทั้งภาครัฐและประชาชนทำอย่างไรถึงจะเอาชีวิตรอด ปลอดภัย และลดความสูญเสียได้
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=E86YSjfcXhw
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #ภัยพิบัติ #น้ำท่วมหาดใหญ่ #น้ำท่วมญี่ปุ่น
    บูรพาไม่แพ้ Ep.150 : มอง “มหาอุทกภัยหาดใหญ่” ย้อนบทเรียน “น้ำท่วมใหญ่ญี่ปุ่น” . ประเทศนึงที่ต้องเผชิญกับเหตุภัยพิบัติมากที่สุดก็คือ ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องประสบพบเจอทั้งแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ ภูเขาไฟปะทุ รวมถึงพายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม ดินถล่ม เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ญี่ปุ่นจะมีมาตรการ และการเตรียมพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติที่ดีเยี่ยม ลดความสูญเสียได้อย่างมาก . แต่ว่าก็มีหลายครั้งที่ ญี่ปุ่นรับมือไม่ไหว-เอาไม่อยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น สนามบินนานาชาติคันไซ ที่จังหวัดโอซาก้า ก็เคยถูกน้ำท่วมจนต้องปิดสนามบินนานกว่า 2 สัปดาห์ หรือ เมื่อพายุ “ฮากีบิส” พัดถล่มญี่ปุ่นในปี 2562 ทำให้รถไฟความเร็วสูงชินกันเซ็น 10 ขบวนถูกน้ำท่วมจนเสียหายทั้งหมดเป็นต้นครับ ... วันนี้ เราจะเล่าถึงประสบการณ์ของประเทศญี่ปุ่น ในการรับมือภัยพิบัติ โดยเฉพาะในอุทกภัย-น้ำท่วม ว่าทั้งภาครัฐและประชาชนทำอย่างไรถึงจะเอาชีวิตรอด ปลอดภัย และลดความสูญเสียได้ . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=E86YSjfcXhw . #บูรพาไม่แพ้ #ภัยพิบัติ #น้ำท่วมหาดใหญ่ #น้ำท่วมญี่ปุ่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • Calibre 8.16 เพิ่มฟีเจอร์ AI และแก้บั๊ก

    Calibre 8.16 เปิดตัวความสามารถใหม่ที่ให้ผู้ใช้ ถาม AI เกี่ยวกับหนังสือในคลัง โดยคลิกที่ปุ่ม “View” แล้วเลือก “Discuss selected book(s) with AI” นอกจากนี้ยังมีเมนู “Ask AI for what to read next” ที่ช่วยแนะนำหนังสือถัดไปจากรายการที่มีอยู่ ถือเป็นการผสมผสานการจัดการอีบุ๊กเข้ากับการช่วยเหลือจาก AI อย่างเต็มรูปแบบ

    รองรับ LM Studio และการทำงานแบบ Local
    เวอร์ชันนี้เพิ่ม backend สำหรับ LM Studio ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันโมเดล AI ได้แบบ local โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ทำให้การใช้งานปลอดภัยและรวดเร็วขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการจัดการข้อมูลหนังสือ

    การแก้บั๊กและปรับปรุง
    Calibre 8.16 แก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น ปัญหาใน PDF input engine ที่ไม่ escape HTML markup, ปัญหาเมนูเปลี่ยนตัวอักษรหายไปใน comments editor และการจัดการ metadata จาก Amazon ที่ผิดพลาด นอกจากนี้ยังปรับปรุงการสร้าง BiBTeX catalogs และการแสดงผลวันที่ใน timezone ท้องถิ่นให้ถูกต้องมากขึ้น

    การอัปเดตและการเข้าถึง
    Calibre 8.16 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน Linux, macOS และ Windows รวมถึงมี source tarball สำหรับผู้ที่ต้องการคอมไพล์เอง อีกทั้งยังมีการอัปเดตเล็กน้อยเป็นเวอร์ชัน 8.16.1 เพื่อแก้บั๊กที่ทำให้ฟีเจอร์ “Ask AI what to read next” ใช้งานไม่ได้

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ AI ใหม่
    ถาม AI เกี่ยวกับหนังสือในคลัง
    แนะนำหนังสือถัดไปที่ควรอ่าน

    รองรับ LM Studio
    รันโมเดล AI แบบ local
    เพิ่มความปลอดภัยและความเร็ว

    การแก้บั๊กสำคัญ
    ปัญหา PDF input engine
    Metadata จาก Amazon และ BiBTeX catalogs

    การอัปเดตเวอร์ชัน
    พร้อมดาวน์โหลดบน Linux, macOS, Windows
    เวอร์ชัน 8.16.1 แก้บั๊กเพิ่มเติม

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่อาจยังมีบั๊กเล็กน้อยในช่วงแรก
    ผู้ใช้ควรอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

    https://9to5linux.com/calibre-8-16-open-source-e-book-manager-adds-more-ai-features-bug-fixes
    📰 Calibre 8.16 เพิ่มฟีเจอร์ AI และแก้บั๊ก Calibre 8.16 เปิดตัวความสามารถใหม่ที่ให้ผู้ใช้ ถาม AI เกี่ยวกับหนังสือในคลัง โดยคลิกที่ปุ่ม “View” แล้วเลือก “Discuss selected book(s) with AI” นอกจากนี้ยังมีเมนู “Ask AI for what to read next” ที่ช่วยแนะนำหนังสือถัดไปจากรายการที่มีอยู่ ถือเป็นการผสมผสานการจัดการอีบุ๊กเข้ากับการช่วยเหลือจาก AI อย่างเต็มรูปแบบ 🖥️ รองรับ LM Studio และการทำงานแบบ Local เวอร์ชันนี้เพิ่ม backend สำหรับ LM Studio ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันโมเดล AI ได้แบบ local โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ทำให้การใช้งานปลอดภัยและรวดเร็วขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการจัดการข้อมูลหนังสือ 🛠️ การแก้บั๊กและปรับปรุง Calibre 8.16 แก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น ปัญหาใน PDF input engine ที่ไม่ escape HTML markup, ปัญหาเมนูเปลี่ยนตัวอักษรหายไปใน comments editor และการจัดการ metadata จาก Amazon ที่ผิดพลาด นอกจากนี้ยังปรับปรุงการสร้าง BiBTeX catalogs และการแสดงผลวันที่ใน timezone ท้องถิ่นให้ถูกต้องมากขึ้น 🌐 การอัปเดตและการเข้าถึง Calibre 8.16 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน Linux, macOS และ Windows รวมถึงมี source tarball สำหรับผู้ที่ต้องการคอมไพล์เอง อีกทั้งยังมีการอัปเดตเล็กน้อยเป็นเวอร์ชัน 8.16.1 เพื่อแก้บั๊กที่ทำให้ฟีเจอร์ “Ask AI what to read next” ใช้งานไม่ได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ AI ใหม่ ➡️ ถาม AI เกี่ยวกับหนังสือในคลัง ➡️ แนะนำหนังสือถัดไปที่ควรอ่าน ✅ รองรับ LM Studio ➡️ รันโมเดล AI แบบ local ➡️ เพิ่มความปลอดภัยและความเร็ว ✅ การแก้บั๊กสำคัญ ➡️ ปัญหา PDF input engine ➡️ Metadata จาก Amazon และ BiBTeX catalogs ✅ การอัปเดตเวอร์ชัน ➡️ พร้อมดาวน์โหลดบน Linux, macOS, Windows ➡️ เวอร์ชัน 8.16.1 แก้บั๊กเพิ่มเติม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่อาจยังมีบั๊กเล็กน้อยในช่วงแรก ⛔ ผู้ใช้ควรอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา https://9to5linux.com/calibre-8-16-open-source-e-book-manager-adds-more-ai-features-bug-fixes
    9TO5LINUX.COM
    Calibre 8.16 Open-Source E-Book Manager Adds More AI Features, Bug Fixes - 9to5Linux
    Calibre 8.16 open-source e-book management software is now available for download with various new AI features and several bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมากการเดินของเมกา เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นๆ
    เรื่องพวกนี้ ไม่ไกลตัวทุกคน เลือกตั้งคนผิด เดินสัมพันธไมตรีผิด คนทุกคน จะเดือดร้อน

    https://youtu.be/Zx4IaCLlFEk?si=kkvKa56_fD0ssL3z
    หมากการเดินของเมกา เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นๆ เรื่องพวกนี้ ไม่ไกลตัวทุกคน เลือกตั้งคนผิด เดินสัมพันธไมตรีผิด คนทุกคน จะเดือดร้อน https://youtu.be/Zx4IaCLlFEk?si=kkvKa56_fD0ssL3z
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าเดือดแยกเกษตร! ม.เกษตรฯ ออกตัวไม่เห็นด้วยมติ คจร. ที่จะเปลี่ยนอุโมงค์แยกเกษตรเป็น “ทางด่วนเก็บเงิน 30 บาท” ยันไม่เคยถูกหน่วยงานรัฐหารือก่อน ชี้หากจะทำทางด่วนต้อง “มุดดิน” เท่านั้น พร้อมหนุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลแทน บอกอย่าเสียเวลาเดินหน้าโครงการที่ประชาชนงงกันทั้งบาง
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000116828
    .
    #News1live #News1 #แยกเกษตร #มเกษตร #ทางด่วน30บาท #คจร #คมนาคม
    ดราม่าเดือดแยกเกษตร! ม.เกษตรฯ ออกตัวไม่เห็นด้วยมติ คจร. ที่จะเปลี่ยนอุโมงค์แยกเกษตรเป็น “ทางด่วนเก็บเงิน 30 บาท” ยันไม่เคยถูกหน่วยงานรัฐหารือก่อน ชี้หากจะทำทางด่วนต้อง “มุดดิน” เท่านั้น พร้อมหนุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลแทน บอกอย่าเสียเวลาเดินหน้าโครงการที่ประชาชนงงกันทั้งบาง . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000116828 . #News1live #News1 #แยกเกษตร #มเกษตร #ทางด่วน30บาท #คจร #คมนาคม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • บาดแผลเศรษฐกิจเรื้อรัง น้ำท่วมใต้เขย่าความเชื่อมั่น รายได้ประชาชนไม่แน่นอน ผลสำรวจผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นเล็กน้อยจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ สะท้อนความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัว ขณะที่น้ำท่วมภาคใต้ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และต้นทุนค่าครองชีพยังสูง ยิ่งซ้ำเติมความกังวลของประชาชน ภาคอุตสาหกรรมประเมินความเสียหายหนักสุดระดับสาธารณภัยร้ายแรง กระทบรายได้และโอกาสฟื้นตัวในปีหน้า
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000116832
    .
    #News1live #News1 #เศรษฐกิจไทย #น้ำท่วมใต้ #ความเชื่อมั่นผู้บริโภค #ค่าครองชีพ #อุตสาหกรรมไทย #GDPไทย #ผลกระทบน้ำท่วม #truthfromthailand #newsupdate
    บาดแผลเศรษฐกิจเรื้อรัง น้ำท่วมใต้เขย่าความเชื่อมั่น รายได้ประชาชนไม่แน่นอน ผลสำรวจผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นดีขึ้นเล็กน้อยจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ สะท้อนความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัว ขณะที่น้ำท่วมภาคใต้ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และต้นทุนค่าครองชีพยังสูง ยิ่งซ้ำเติมความกังวลของประชาชน ภาคอุตสาหกรรมประเมินความเสียหายหนักสุดระดับสาธารณภัยร้ายแรง กระทบรายได้และโอกาสฟื้นตัวในปีหน้า . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000116832 . #News1live #News1 #เศรษฐกิจไทย #น้ำท่วมใต้ #ความเชื่อมั่นผู้บริโภค #ค่าครองชีพ #อุตสาหกรรมไทย #GDPไทย #ผลกระทบน้ำท่วม #truthfromthailand #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 6
    ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
    แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
    จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา
    หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน
    เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก
    ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง
    ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก
    นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล
    แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้
    นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้
    AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน
    มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง
    แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา
    ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี
    กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council
    กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่
    กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย
    – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค)
    – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า
    – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย
    – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี
    – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย
    – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์
    – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท)
    – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25%
    TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1
    ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้
    หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง
    อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย
    ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง….
    ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว
    จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น
    แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน
    เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร…..
    แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ
    หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน
    2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive”
    นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย
    กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด
    เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า
    … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย….
    … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป
    .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead..
    …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 6 ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้ นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้ AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่ กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค) – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์ – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท) – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25% TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1 ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้ หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง…. ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร….. แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน 2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive” นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย…. … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead.. …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ” เผยแพร่รายงาน “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ปี 2025” หรือ National Security Strategy (NSS) 2025 ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารที่รัฐบาลของทรัมป์ใช้กำหนดทิศทางประเทศทั้งด้านทหาร เศรษฐกิจ การต่างประเทศ และเทคโนโลยี

    รายละเอียดบางส่วนของรายงานนี้ระบุถึง "ศัตรู" สำคัญ ที่เป็นมหาอำนาจและคู่แข่งขันของสหรัฐคือ:
    จีน ถูกจัดให้อยู่ในลำดับสูงสุด! ที่กำลังขยายอำนาจในแถบอินโดแปซิฟิกอย่างจริงจัง
    รัสเซีย อันดับรองลงมา ถูกสหรัฐมองว่าใช้ความได้เปรียบด้านอำนาจทางทหารและไซเบอร์เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพยุโรป
    อิหร่าน + เกาหลีเหนือ เป็นภัยในด้านผู้เผยแพร่เทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

    ทางด้านยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคของโลก:
    สหรัฐให้ความสำคัญภูมิภาค "อินโดแปซิฟิก" มากที่สุด เพื่อคานอำนาจของ "จีน" ในแถบทะเลจีนใต้ ด้วยการสร้างพันธมิตร “แถบปะการัง” ล้อมจีน เช่น ญี่ปุ่น–เกาหลี–ฟิลิปปินส์–ออสเตรเลีย
    .
    ความเห็นจาก Lyle Morris นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเรื่อง จีน

    ที่ผ่านมาตลอด 30 ปี สหรัฐวางนโยบายเกี่ยวกับจีนผิดพลาด โดยหวังว่าการเปิดตลาดให้จีนสู่โลกภายนอก และการอนุญาตให้ธุรกิจจากภายนอก เข้าไปลงทุนในจีน จะทำให้จีนมีค่านิยมเข้าหาระเบียบโลกใหม่แบบตะวันตกที่วางแผนไว้

    แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม จีนอาศัยโอกาสนี้ สร้างตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและอำนาจทางการเมือง และใช้ความได้เปรียบเหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเอง ขณะเดียวกัน ทำให้ยากต่อการควบคุมในที่สุด

    จนถึงยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เริ่มกลับทิศนโยบายด้วยการปรับเรื่องภาษีและการค้าใหม่ทั้งหมด เพื่อควบคุมการขยายอิทธิพลของจีน
    .
    https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2025/12/2025-National-Security-Strategy.pdf
    “สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ” เผยแพร่รายงาน “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ปี 2025” หรือ National Security Strategy (NSS) 2025 ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารที่รัฐบาลของทรัมป์ใช้กำหนดทิศทางประเทศทั้งด้านทหาร เศรษฐกิจ การต่างประเทศ และเทคโนโลยี รายละเอียดบางส่วนของรายงานนี้ระบุถึง "ศัตรู" สำคัญ ที่เป็นมหาอำนาจและคู่แข่งขันของสหรัฐคือ: 👉จีน ถูกจัดให้อยู่ในลำดับสูงสุด! ที่กำลังขยายอำนาจในแถบอินโดแปซิฟิกอย่างจริงจัง 👉รัสเซีย อันดับรองลงมา ถูกสหรัฐมองว่าใช้ความได้เปรียบด้านอำนาจทางทหารและไซเบอร์เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพยุโรป 👉อิหร่าน + เกาหลีเหนือ เป็นภัยในด้านผู้เผยแพร่เทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ทางด้านยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคของโลก: 👉สหรัฐให้ความสำคัญภูมิภาค "อินโดแปซิฟิก" มากที่สุด เพื่อคานอำนาจของ "จีน" ในแถบทะเลจีนใต้ ด้วยการสร้างพันธมิตร “แถบปะการัง” ล้อมจีน เช่น ญี่ปุ่น–เกาหลี–ฟิลิปปินส์–ออสเตรเลีย . ความเห็นจาก Lyle Morris นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเรื่อง จีน ที่ผ่านมาตลอด 30 ปี สหรัฐวางนโยบายเกี่ยวกับจีนผิดพลาด โดยหวังว่าการเปิดตลาดให้จีนสู่โลกภายนอก และการอนุญาตให้ธุรกิจจากภายนอก เข้าไปลงทุนในจีน จะทำให้จีนมีค่านิยมเข้าหาระเบียบโลกใหม่แบบตะวันตกที่วางแผนไว้ แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม จีนอาศัยโอกาสนี้ สร้างตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและอำนาจทางการเมือง และใช้ความได้เปรียบเหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเอง ขณะเดียวกัน ทำให้ยากต่อการควบคุมในที่สุด จนถึงยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เริ่มกลับทิศนโยบายด้วยการปรับเรื่องภาษีและการค้าใหม่ทั้งหมด เพื่อควบคุมการขยายอิทธิพลของจีน . https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2025/12/2025-National-Security-Strategy.pdf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๋วยจั๊บนายน้อย ร.ย.ส. สาขาศรีนครินทร์ #พาราไดซ์พาร์ค #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #food #foodie #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ก๋วยจั๊บนายน้อย ร.ย.ส. สาขาศรีนครินทร์ #พาราไดซ์พาร์ค #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #food #foodie #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts