• มีรายงานเหตุปะทะในฝั่งกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและวิดีโอ ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นและสนามเพลาะของทหารกัมพูชา ในพื้นที่สตึงกัด ตำบลทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัตว์
    .
    รายงานระบุว่า ปฏิบัติการเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.50 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตทันที 18 นาย ตามข้อมูลที่อ้างจากมูลนิธิกู้ภัยสตึงกัดของกัมพูชา
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนความตึงเครียดของสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122614
    .
    #News1live #News1 #F16 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ข่าวด่วน
    มีรายงานเหตุปะทะในฝั่งกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและวิดีโอ ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นและสนามเพลาะของทหารกัมพูชา ในพื้นที่สตึงกัด ตำบลทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัตว์ . รายงานระบุว่า ปฏิบัติการเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.50 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตทันที 18 นาย ตามข้อมูลที่อ้างจากมูลนิธิกู้ภัยสตึงกัดของกัมพูชา . เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนความตึงเครียดของสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122614 . #News1live #News1 #F16 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ข่าวด่วน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด เปิดปฏิบัติการ “ตราดปราบปรปักษ์” ประสานกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการโจมตีบ่อนกาสิโนในพื้นที่ตำบลทมอดา อำเภอเวียลเวง จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    .
    รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกตรวจพบว่าเป็นที่ตั้งของฐานปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ซึ่งเข้าข่ายเป็นเป้าหมายทางทหารตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน
    .
    ภายหลังการปฏิบัติการ พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ที่อยู่ในพื้นที่ เร่งอพยพอุปกรณ์และหลบหนีออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122629
    .
    #News1live #News1 #F16 #โพธิสัตว์ #บ่อนกาสิโน #สแกมเมอร์ #สถานการณ์ชายแดน
    กองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด เปิดปฏิบัติการ “ตราดปราบปรปักษ์” ประสานกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการโจมตีบ่อนกาสิโนในพื้นที่ตำบลทมอดา อำเภอเวียลเวง จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก . รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกตรวจพบว่าเป็นที่ตั้งของฐานปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ซึ่งเข้าข่ายเป็นเป้าหมายทางทหารตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน . ภายหลังการปฏิบัติการ พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ที่อยู่ในพื้นที่ เร่งอพยพอุปกรณ์และหลบหนีออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122629 . #News1live #News1 #F16 #โพธิสัตว์ #บ่อนกาสิโน #สแกมเมอร์ #สถานการณ์ชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยภาพความเสียหายอาคารกาสิโนทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ของกัมพูชา หลังถูกเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยเข้าปฏิบัติการโจมตีในช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามการเผยแพร่ของเพจ Army Military Force
    .
    กาสิโนทมอดาเป็นโครงการที่ฝ่ายกัมพูชาก่อสร้างรุกล้ำดินแดนไทยและเคยถูกแจ้งให้รื้อถอนหลายครั้งแต่ไม่ดำเนินการ ภายใต้สถานการณ์สู้รบตั้งแต่ 8 ธ.ค. กองทัพไทยเปิดยุทธการปกป้องอธิปไตย สนธิกำลังบก เรือ อากาศ โดยใช้ F-16 ทำลายเป้าหมายดังกล่าวตามแผนปฏิบัติการ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119763
    .
    #News1live #News1 #F16 #กองทัพอากาศไทย #กาสิโนทมอดา #ทมอดาซิตี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการทางทหาร #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    เผยภาพความเสียหายอาคารกาสิโนทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ของกัมพูชา หลังถูกเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยเข้าปฏิบัติการโจมตีในช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามการเผยแพร่ของเพจ Army Military Force . กาสิโนทมอดาเป็นโครงการที่ฝ่ายกัมพูชาก่อสร้างรุกล้ำดินแดนไทยและเคยถูกแจ้งให้รื้อถอนหลายครั้งแต่ไม่ดำเนินการ ภายใต้สถานการณ์สู้รบตั้งแต่ 8 ธ.ค. กองทัพไทยเปิดยุทธการปกป้องอธิปไตย สนธิกำลังบก เรือ อากาศ โดยใช้ F-16 ทำลายเป้าหมายดังกล่าวตามแผนปฏิบัติการ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119763 . #News1live #News1 #F16 #กองทัพอากาศไทย #กาสิโนทมอดา #ทมอดาซิตี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการทางทหาร #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Haha
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศไทยเปิดปฏิบัติการเช้าวันนี้ เมื่อ F-16 เข้าทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะในจังหวัดโพธิสัตว์ของกัมพูชา ลึกเข้าไปจากชายแดนไทยราว 4–5 กิโลเมตร เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยภาพจุดถูกโจมตีและยืนยันว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อตัดโครงสร้างการสนับสนุนของผู้รุกราน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119745
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #F16 #กองทัพอากาศไทย #กัมพูชา #ความมั่นคง
    กองทัพอากาศไทยเปิดปฏิบัติการเช้าวันนี้ เมื่อ F-16 เข้าทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะในจังหวัดโพธิสัตว์ของกัมพูชา ลึกเข้าไปจากชายแดนไทยราว 4–5 กิโลเมตร เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียงกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยภาพจุดถูกโจมตีและยืนยันว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อตัดโครงสร้างการสนับสนุนของผู้รุกราน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119745 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #F16 #กองทัพอากาศไทย #กัมพูชา #ความมั่นคง
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้(13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.เพจ Army Military Force ได้โพสต์ภาพสะพานในกัมพูชาซึ่งถูกระเบิดจากเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทยยิงทำลาย พร้อมระบุข้อความว่า “ด่วน! เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะ ต.ทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา 4-5 กิโลเมตร เพื่อตัดเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงของฝ่ายผู้รุกราน”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000119747

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้(13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.เพจ Army Military Force ได้โพสต์ภาพสะพานในกัมพูชาซึ่งถูกระเบิดจากเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทยยิงทำลาย พร้อมระบุข้อความว่า “ด่วน! เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะ ต.ทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา 4-5 กิโลเมตร เพื่อตัดเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงของฝ่ายผู้รุกราน” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000119747 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 10 ธ.ค.68 รายงานข่าวจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เปิดเผยว่าได้ตรวจพบการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนใหญ่สนามที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยไทย เพื่อเป็นการตัดการส่งกำลังบำรุงและการเสริมกำลังของกัมพูชา ทาง กปช.จต.จำเป็นต้องทำการทำลายสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ เพื่อตัดเส้นทางการบำรุง
    .
    โดยขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อพยพออกจากบริเวณสะพานภายใน 3 ชั่วโมง และต้องออกจากบริเวณสะพานเกินรัศมี 1.5 กิโลเมตร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118585

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 10 ธ.ค.68 รายงานข่าวจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เปิดเผยว่าได้ตรวจพบการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะปืนใหญ่สนามที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยไทย เพื่อเป็นการตัดการส่งกำลังบำรุงและการเสริมกำลังของกัมพูชา ทาง กปช.จต.จำเป็นต้องทำการทำลายสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ เพื่อตัดเส้นทางการบำรุง . โดยขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสะพาน “จัยจุมเนี้ยะ” อพยพออกจากบริเวณสะพานภายใน 3 ชั่วโมง และต้องออกจากบริเวณสะพานเกินรัศมี 1.5 กิโลเมตร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118585 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามไทย อ้างกองทัพไทยยิงปืนใหญ่หนักใส่พื้นที่พลเรือนในจ.โพธิสัตว์ พร้อมกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธหนัก–F16–ก๊าซพิษ โจมตีหลายจังหวัดตั้งแต่ 7 ธ.ค. ทำให้พลเรือนเสียชีวิตและบ้านเรือนเสียหาย
    .
    คำแถลงยังโยงถึงข้อตกลงหยุดยิงเมื่อ 26 ต.ค. ที่มี “ทรัมป์–อันวาร์” เป็นสักขีพยาน อ้างไทยละเมิดข้อตกลงและทำให้ชาวบ้านต้องอพยพจำนวนมาก
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118242
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน
    กลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามไทย อ้างกองทัพไทยยิงปืนใหญ่หนักใส่พื้นที่พลเรือนในจ.โพธิสัตว์ พร้อมกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธหนัก–F16–ก๊าซพิษ โจมตีหลายจังหวัดตั้งแต่ 7 ธ.ค. ทำให้พลเรือนเสียชีวิตและบ้านเรือนเสียหาย . คำแถลงยังโยงถึงข้อตกลงหยุดยิงเมื่อ 26 ต.ค. ที่มี “ทรัมป์–อันวาร์” เป็นสักขีพยาน อ้างไทยละเมิดข้อตกลงและทำให้ชาวบ้านต้องอพยพจำนวนมาก . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118242 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes

    โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น

    เครือข่ายระดับโลก

    องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก
    แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations]
    A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division]
    A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning]
    B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit]
    B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit]
    C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project]
    C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech]
    ```

    ระดับความลับ

    ```python
    class OrganizationSecrecy:
    def __init__(self):
    self.security_levels = {
    "level_1": {
    "name": "ปฏิบัติการ",
    "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย",
    "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง"
    },
    "level_2": {
    "name": "ผู้บริหาร",
    "access": "รู้แผนกที่ดูแล",
    "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา"
    },
    "level_3": {
    "name": "สภาผู้ก่อตั้ง",
    "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร",
    "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน"
    }
    }
    ```

    ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์

    สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน

    แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม:

    1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ
    2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์
    3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์
    4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์
    5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
    6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม
    7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ

    อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

    องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ:

    ```python
    class OrganizationPhilosophy:
    def __init__(self):
    self.core_beliefs = [
    "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป",
    "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน",
    "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง",
    "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม"
    ]

    self.methods = [
    "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์",
    "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง",
    "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก"
    ]
    ```

    โครงการวิจัยลับ

    โครงการโอปปาติกะ

    องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น:

    ```mermaid
    graph LR
    A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร]
    B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง]
    C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ]
    ```

    เทคโนโลยีขั้นสูง

    องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย:

    ```python
    class SecretTechnology:
    def __init__(self):
    self.biotech = {
    "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่",
    "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ",
    "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต",
    "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์"
    }

    self.quantum_tech = {
    "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง",
    "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค",
    "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ",
    "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง"
    }
    ```

    ฐานปฏิบัติการลับ

    ที่ตั้งฐานสำคัญ

    องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก:

    1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ
    2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน
    3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม
    4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ

    ระบบความปลอดภัย

    ```python
    class SecuritySystems:
    def __init__(self):
    self.physical_security = [
    "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา",
    "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ",
    "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ",
    "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต"
    ]

    self.digital_security = [
    "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา",
    "ระบบเข้ารหัสควอนตัม",
    "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก",
    "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก"
    ]
    ```

    แหล่งเงินทุนและอำนาจ

    ระบบเศรษฐกิจลับ

    องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง:

    · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก
    · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด
    · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์

    เป้าหมายระยะยาว

    ```python
    class LongTermGoals:
    def __init__(self):
    self.phase_1 = [
    "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก",
    "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ",
    "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่"
    ]

    self.phase_2 = [
    "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ",
    "สร้างรัฐบาลโลก新型",
    "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ",
    "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ"
    ]
    ```

    ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ

    เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

    องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ]
    A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร]
    A --> D[โอปปาติกะยักษ์]
    A --> E[เทพระดับอะตอม]
    B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์]
    ```

    บทบาทของดร.อัจฉริยะ

    ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร:

    · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก
    · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว
    · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ

    จุดอ่อนขององค์กร

    ความขัดแย้งภายใน

    แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา:

    ```python
    class InternalConflicts:
    def __init__(self):
    self.ideological_splits = {
    "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ",
    "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด",
    "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน",
    "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์"
    }

    self.personal_conflicts = [
    "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง",
    "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ",
    "การแย่งชิงทรัพยากร",
    "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ"
    ]
    ```

    ช่องโหว่ที่สำคัญ

    1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล
    2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง
    3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก
    4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน

    แผนการในอนาคต

    โครงการล่าสุด

    องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่:

    ```python
    class CurrentProjects:
    def __init__(self):
    self.ongoing_operations = {
    "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ",
    "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร",
    "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์",
    "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ"
    }
    ```

    ภัยคุกคามต่อหนูดี

    องค์กรเห็นหนูดีเป็น:

    · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ
    · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง
    · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร

    ---

    คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง:
    "เราไม่ใช่ผู้ร้าย...
    เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต
    และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

    แม้เส้นทางจะมืดมน...
    แต่จุดหมายสว่างไสว

    และบางครั้ง...
    การทำลายคือการสร้างใหม่"

    บทเรียนแห่งอสรพิษ:
    "Behind every conspiracy,there is a vision
    Behind every secret,there is a reason
    And behind every enemy, there is a story waiting to be understood"
    O.P.K. 🕵️ เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes 🏢 โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น 🌐 เครือข่ายระดับโลก องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ ```mermaid graph TB A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations] A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division] A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning] B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit] B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit] C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project] C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech] ``` 🔒 ระดับความลับ ```python class OrganizationSecrecy: def __init__(self): self.security_levels = { "level_1": { "name": "ปฏิบัติการ", "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย", "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง" }, "level_2": { "name": "ผู้บริหาร", "access": "รู้แผนกที่ดูแล", "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา" }, "level_3": { "name": "สภาผู้ก่อตั้ง", "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร", "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน" } } ``` 👁️ ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์ 🎭 สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม: 1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ 2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์ 3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์ 4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์ 5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ 6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม 7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ 💡 อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ: ```python class OrganizationPhilosophy: def __init__(self): self.core_beliefs = [ "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป", "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน", "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง", "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม" ] self.methods = [ "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์", "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง", "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก" ] ``` 🔬 โครงการวิจัยลับ 🧬 โครงการโอปปาติกะ องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น: ```mermaid graph LR A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร] B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง] C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ] ``` 🤖 เทคโนโลยีขั้นสูง องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ```python class SecretTechnology: def __init__(self): self.biotech = { "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่", "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ", "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต", "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์" } self.quantum_tech = { "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง", "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค", "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ", "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง" } ``` 🏭 ฐานปฏิบัติการลับ 🌍 ที่ตั้งฐานสำคัญ องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก: 1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ 2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน 3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม 4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ 🛡️ ระบบความปลอดภัย ```python class SecuritySystems: def __init__(self): self.physical_security = [ "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา", "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ", "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ", "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต" ] self.digital_security = [ "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา", "ระบบเข้ารหัสควอนตัม", "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก", "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก" ] ``` 💰 แหล่งเงินทุนและอำนาจ 🏦 ระบบเศรษฐกิจลับ องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง: · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์ 🎯 เป้าหมายระยะยาว ```python class LongTermGoals: def __init__(self): self.phase_1 = [ "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก", "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ", "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่" ] self.phase_2 = [ "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ", "สร้างรัฐบาลโลก新型", "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ", "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ" ] ``` 🔗 ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ 🕸️ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี: ```mermaid graph TB A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ] A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร] A --> D[โอปปาติกะยักษ์] A --> E[เทพระดับอะตอม] B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์] ``` 🎭 บทบาทของดร.อัจฉริยะ ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร: · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ ⚔️ จุดอ่อนขององค์กร 💔 ความขัดแย้งภายใน แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา: ```python class InternalConflicts: def __init__(self): self.ideological_splits = { "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ", "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด", "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน", "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์" } self.personal_conflicts = [ "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง", "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ", "การแย่งชิงทรัพยากร", "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ" ] ``` 🔓 ช่องโหว่ที่สำคัญ 1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล 2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง 3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก 4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน 🎯 แผนการในอนาคต 🚀 โครงการล่าสุด องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่: ```python class CurrentProjects: def __init__(self): self.ongoing_operations = { "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ", "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร", "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์", "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ" } ``` ⚠️ ภัยคุกคามต่อหนูดี องค์กรเห็นหนูดีเป็น: · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร --- คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง: "เราไม่ใช่ผู้ร้าย... เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น แม้เส้นทางจะมืดมน... แต่จุดหมายสว่างไสว และบางครั้ง... การทำลายคือการสร้างใหม่"🕵️♂️✨ บทเรียนแห่งอสรพิษ: "Behind every conspiracy,there is a vision Behind every secret,there is a reason And behind every enemy, there is a story waiting to be understood" 🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 679 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา

    การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์

    ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า

    ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ...
    มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์

    ```mermaid
    graph TB
    A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์]
    B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ]
    C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ]
    D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน]
    ```

    ลักษณะของครุฑยักษ์

    พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น:
    "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน...
    ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก
    แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!"

    เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์

    ตำนานพระสุวรรณภูมิ

    ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร"
    ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ:

    ```python
    class GarudaDeva:
    def __init__(self):
    self.history = {
    "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช",
    "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ",
    "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ",
    "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ"
    }

    self.characteristics = {
    "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร",
    "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร",
    "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ",
    "special_ability": "บินข้ามมิติได้"
    }
    ```

    พันธะแห่งทวารบาล

    ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ:

    · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป
    · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน
    · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์

    การสอบสวนและเข้าถึง

    การตามหาร่องรอย

    ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ]
    B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้]
    C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง]
    ```

    การสนทนาด้วยภาษาทิพย์

    หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ:
    หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?"
    ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง"
    หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่"

    พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน

    ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา

    ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น:

    · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม
    · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง
    · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน

    แผนการปกป้องธรรมะ

    ครุฑเสนอวิธีการ

    ```python
    class GarudaMission:
    def __init__(self):
    self.modern_threats = {
    "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.protection_plans = [
    "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง",
    "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ"
    ]
    ```

    ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา

    การประชุมพิเศษ

    จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์

    · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ
    · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว
    · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน

    พิธีอัญเชิญเป็นทางการ

    จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่":

    ```mermaid
    graph TB
    A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ]
    B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่]
    C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง
    D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ]
    ```

    การปรับตัวของครุฑพาหนะ

    การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ

    ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด
    · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ
    · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล

    ครุฑพาหนะรับหน้าที่:

    · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ
    · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม
    · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน

    โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา

    แผนงานระยะยาว

    ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ:

    ```python
    class BuddhistRevival:
    def __init__(self):
    self.education_projects = {
    "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล",
    "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา",
    "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย",
    "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา"
    }

    self.preservation_efforts = [
    "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ",
    "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า",
    "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง",
    "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่"
    ]
    ```

    ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class PositiveImpacts:
    def __init__(self):
    self.spiritual = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น",
    "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา",
    "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น"
    ]

    self.social = [
    "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง",
    "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น"
    ]

    self.cultural = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย",
    "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน",
    "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น"
    ]
    ```

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

    สังคมพุทธ

    ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต:
    "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่...
    ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน"

    บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา

    ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก:

    · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา
    · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ
    · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับครุฑพาหนะ

    "ข้าเรียนรู้ว่า...
    การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม
    แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่

    และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ...
    ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย"

    สำหรับพุทธศาสนิกชน

    "เราเรียนรู้ว่า...
    พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น
    และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ

    การตื่นของครุฑ...
    คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ"

    สำหรับหนูดี

    "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน...
    สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด

    และโอปปาติกะ...
    สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราสามารถบินข้ามกาลเวลา

    ในการคุ้มครองสัจธรรม...
    จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย

    และในฐานะทวารบาล...
    ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า
    แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"

    พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่
    "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ...
    แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน

    เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา...
    ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"
    O.P.K. 🐉 คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา 🌅 การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์ 🚨 ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ... มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์ ```mermaid graph TB A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ] C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ] D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน] ``` 🦅 ลักษณะของครุฑยักษ์ พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น: "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน... ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!" 📜 เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์ 🏮 ตำนานพระสุวรรณภูมิ ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร" ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ: ```python class GarudaDeva: def __init__(self): self.history = { "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช", "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ", "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ", "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ" } self.characteristics = { "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร", "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร", "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ", "special_ability": "บินข้ามมิติได้" } ``` 🛡️ พันธะแห่งทวารบาล ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ: · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์ 🔍 การสอบสวนและเข้าถึง 🕵️ การตามหาร่องรอย ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย: ```mermaid graph LR A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ] B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้] C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง] ``` 🗣️ การสนทนาด้วยภาษาทิพย์ หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ: หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?" ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง" หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่" 💫 พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน 🌍 ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น: · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน 🛡️ แผนการปกป้องธรรมะ ครุฑเสนอวิธีการ ```python class GarudaMission: def __init__(self): self.modern_threats = { "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.protection_plans = [ "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง", "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ", "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ" ] ``` 🏛️ ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา 👥 การประชุมพิเศษ จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์ · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน 📿 พิธีอัญเชิญเป็นทางการ จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่": ```mermaid graph TB A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ] B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่] C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ] ``` 🌟 การปรับตัวของครุฑพาหนะ 💻 การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🎯 บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล ครุฑพาหนะรับหน้าที่: · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน 📚 โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา 🌱 แผนงานระยะยาว ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ: ```python class BuddhistRevival: def __init__(self): self.education_projects = { "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล", "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา", "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย", "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา" } self.preservation_efforts = [ "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ", "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า", "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง", "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่" ] ``` 🏆 ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ: ```python class PositiveImpacts: def __init__(self): self.spiritual = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น", "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา", "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น" ] self.social = [ "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง", "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น" ] self.cultural = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย", "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน", "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น" ] ``` 🔮 วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต 💝 สังคมพุทธ ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต: "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่... ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน" 🌍 บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก: · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม 📖 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับครุฑพาหนะ "ข้าเรียนรู้ว่า... การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ... ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย" 💫 สำหรับพุทธศาสนิกชน "เราเรียนรู้ว่า... พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ การตื่นของครุฑ... คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ" 🌟 สำหรับหนูดี "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน... สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด และโอปปาติกะ... สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราสามารถบินข้ามกาลเวลา ในการคุ้มครองสัจธรรม... จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย และในฐานะทวารบาล... ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"🐉✨ พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่ "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ... แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา... ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"🌅
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ
    เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ เนื้อผงพุทธคุณสีขาว ( พระขนาดใหญ่ สูง 2 นิ้ว ) อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ ปี2552 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ //@"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ"

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** พระผงเจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ ปี 2552 พิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ประธานฝ่ายสงฆ์ พระพรหมวชิรญาณ ( ประสิทธิ์ เขมังกโร ) กรรมการมหาเถรสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯโดยเจ้าพิธีพุทธาภิเษก ฝ่ายสงฆ์นั้น คือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดบ้านโนนแกด อำเภอเมือง และ เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส นั้นคือ นายจักรพรรดิ โพธิสัตว์ทองคำ ( อาจารย์หม่อม )

    พระเกจิอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ

    1. หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมพู
    2. หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ่งขี้เหล็ก
    3. หลวงปู่ทองวรรณ วัดปากโดม
    4. หลวงปู่ดี วัดสร้างแก้วใต้
    5. หลวงปู่หมี ปัญญาทโร
    6. หลวงพ่อสายทอง วัดพรหมนิวาสวรวิหาร
    7. หลวงปู่นอง ธัมมโชโต วัดวังสีทอง
    8. หลวงพ่อสมจิตร วัดบ้านด่าน (ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน)
    9. หลวงปู่สำราญ อนุตตโร วัดหนองบอน และร่างทรงจำนวน 36 ร่าง เจ้าพิธีโดยอาจารย์นิรนาม **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ เจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ เนื้อผงพุทธคุณสีขาว ( พระขนาดใหญ่ สูง 2 นิ้ว ) อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ ปี2552 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ //@"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ" ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** พระผงเจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ อาจารย์หม่อม นิรนาม ไตรภูมิ ปี 2552 พิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ประธานฝ่ายสงฆ์ พระพรหมวชิรญาณ ( ประสิทธิ์ เขมังกโร ) กรรมการมหาเถรสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯโดยเจ้าพิธีพุทธาภิเษก ฝ่ายสงฆ์นั้น คือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดบ้านโนนแกด อำเภอเมือง และ เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส นั้นคือ นายจักรพรรดิ โพธิสัตว์ทองคำ ( อาจารย์หม่อม ) พระเกจิอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ 1. หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมพู 2. หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ่งขี้เหล็ก 3. หลวงปู่ทองวรรณ วัดปากโดม 4. หลวงปู่ดี วัดสร้างแก้วใต้ 5. หลวงปู่หมี ปัญญาทโร 6. หลวงพ่อสายทอง วัดพรหมนิวาสวรวิหาร 7. หลวงปู่นอง ธัมมโชโต วัดวังสีทอง 8. หลวงพ่อสมจิตร วัดบ้านด่าน (ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน) 9. หลวงปู่สำราญ อนุตตโร วัดหนองบอน และร่างทรงจำนวน 36 ร่าง เจ้าพิธีโดยอาจารย์นิรนาม ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญมหายันต์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิมพ์ยืนหลั่งน้ำทักษิโณทก ปี2549
    เหรียญมหายันต์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิมพ์ยืนหลั่งน้ำทักษิโณทก เนื้อทองแดงบริสุทธิ์ (รุ่นไพรีพินาศ อริราชศัตรูพ่าย) อ.หม่อม พุทธิโพธิสัตว์ นิรนามไตรภูมิ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ สุดยอดประสบการณ์ชั้นเยี่ยมอีกเหรียญ สร้างน้อย ส่วนมากแจกกับข้าราชการ // จัดสร้างเพื่อแจกข้าราชการ ตำรวจ-ทหาร ในสามจังหวัดชายแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม **

    ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีกรรมดี วัตถุประสงค์ดี พุทธคุณเยี่ยม จัดสร้าง ณ บริเวณศาลพระเจ้านเรศวรมหาราช อาจารย์ หม่อม นิมนต์พระสายป่าจำนวนมากที่สุดใน จังหวัดอยุธยาที่เคยมีมา เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอยุธยา ..อาจารย์หม่อม นิรนาม จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ตามนิมิตว่า เทวดามาเขียนให้จัดสร้าง อาจารย์หม่อมเลยได้จัดสร้างและแจกเป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ชั้นเยี่ยมอีกเหรียญหนึ่ง พิธีกรรมดีวัตถุประสงค์ดี พุทธคุณเยี่ยม อาจารย์หม่อม นิมนต์หลวงปู่จันทร์หอม พระอาจารย์สายสมเด็จลุนและสมเด็จตัน แห่งประเทศลาว และพระสายป่าจำนวนมากที่สุดในจังหวัดอยุธยามาร่วมปลุกเสก ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และวัดหนองตะเคียนน จ.ศรีสะเกษ ถือเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญมหายันต์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิมพ์ยืนหลั่งน้ำทักษิโณทก ปี2549 เหรียญมหายันต์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิมพ์ยืนหลั่งน้ำทักษิโณทก เนื้อทองแดงบริสุทธิ์ (รุ่นไพรีพินาศ อริราชศัตรูพ่าย) อ.หม่อม พุทธิโพธิสัตว์ นิรนามไตรภูมิ ปี2549 // พระดีพิธีใหญ่ สุดยอดประสบการณ์ชั้นเยี่ยมอีกเหรียญ สร้างน้อย ส่วนมากแจกกับข้าราชการ // จัดสร้างเพื่อแจกข้าราชการ ตำรวจ-ทหาร ในสามจังหวัดชายแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ** ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีกรรมดี วัตถุประสงค์ดี พุทธคุณเยี่ยม จัดสร้าง ณ บริเวณศาลพระเจ้านเรศวรมหาราช อาจารย์ หม่อม นิมนต์พระสายป่าจำนวนมากที่สุดใน จังหวัดอยุธยาที่เคยมีมา เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอยุธยา ..อาจารย์หม่อม นิรนาม จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ตามนิมิตว่า เทวดามาเขียนให้จัดสร้าง อาจารย์หม่อมเลยได้จัดสร้างและแจกเป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ชั้นเยี่ยมอีกเหรียญหนึ่ง พิธีกรรมดีวัตถุประสงค์ดี พุทธคุณเยี่ยม อาจารย์หม่อม นิมนต์หลวงปู่จันทร์หอม พระอาจารย์สายสมเด็จลุนและสมเด็จตัน แห่งประเทศลาว และพระสายป่าจำนวนมากที่สุดในจังหวัดอยุธยามาร่วมปลุกเสก ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และวัดหนองตะเคียนน จ.ศรีสะเกษ ถือเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่มาก ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมซองเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก

    พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด
    เป็นนักเรียนนอก
    พูดได้หลายภาษา
    เป็นสุภาพบุรุษ
    แต่งกายดีที่สุด
    กิริยามารยาทดีเยี่ยม
    มีอารมณ์ขัน
    โรแมนติคมาก
    รักเดียวใจเดียว
    รักการศึกษา
    รักภาษาไทย
    รักสัตว์
    รักชาติที่สุด
    รักประชาชนที่สุด
    มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด
    บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น
    เป็นผู้มีศีลมั่นคง
    มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง
    รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด
    มีความเมตตาที่สุด
    มีความกรุณาที่สุด
    มีความเสียสละที่สุด
    มีความเพียรที่สุด
    มีความอดทนที่สุด
    มีความกตัญญูที่สุด
    มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด
    มีความรู้มากที่สุด
    ฉลาดที่สุด
    เป็นนักปราชญ์
    เป็นครู
    เป็นศิลปิน
    เป็นจิตรกร
    เป็นนักเขียน
    เป็นนักแปล
    เป็นนักประดิษฐ์
    เป็นนักพัฒนา
    เป็นนักสำรวจ
    เป็นนักเดินทาง
    เป็นนักกีฬา
    เก่งวิทยาศาสตร์
    เก่งวิศวะ
    เก่งเทคโนโลยี่
    เก่งสื่อสาร
    เก่งอักษรศาสตร์
    เก่งเศรษฐศาสตร์
    เก่งภูมิศาสตร์
    เก่งกฎหมาย
    เก่งการทหาร
    เก่งเกษตร
    เก่งเรื่องป่า
    เก่งเรื่องดินที่สุด
    เก่งเรื่องน้ำที่สุด
    เก่งเรื่องฝนที่สุด
    เก่งถ่ายรูปที่สุด
    เก่งดนตรีที่สุด

    เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ

    ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด

    #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทรเพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า
    มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด เป็นนักเรียนนอก พูดได้หลายภาษา เป็นสุภาพบุรุษ แต่งกายดีที่สุด กิริยามารยาทดีเยี่ยม มีอารมณ์ขัน โรแมนติคมาก รักเดียวใจเดียว รักการศึกษา รักภาษาไทย รักสัตว์ รักชาติที่สุด รักประชาชนที่สุด มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น เป็นผู้มีศีลมั่นคง มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด มีความเมตตาที่สุด มีความกรุณาที่สุด มีความเสียสละที่สุด มีความเพียรที่สุด มีความอดทนที่สุด มีความกตัญญูที่สุด มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด มีความรู้มากที่สุด ฉลาดที่สุด เป็นนักปราชญ์ เป็นครู เป็นศิลปิน เป็นจิตรกร เป็นนักเขียน เป็นนักแปล เป็นนักประดิษฐ์ เป็นนักพัฒนา เป็นนักสำรวจ เป็นนักเดินทาง เป็นนักกีฬา เก่งวิทยาศาสตร์ เก่งวิศวะ เก่งเทคโนโลยี่ เก่งสื่อสาร เก่งอักษรศาสตร์ เก่งเศรษฐศาสตร์ เก่งภูมิศาสตร์ เก่งกฎหมาย เก่งการทหาร เก่งเกษตร เก่งเรื่องป่า เก่งเรื่องดินที่สุด เก่งเรื่องน้ำที่สุด เก่งเรื่องฝนที่สุด เก่งถ่ายรูปที่สุด เก่งดนตรีที่สุด เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทร😍😍😍เพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า😇😇
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภูมิภาคที่ 5 กัมพูชา ยันข่าวทหารไทยบุกยึดพื้นที่ตำบลทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ไม่เป็นความจริง ชี้กองทัพไทยเคลียร์พื้นที่สร้างถนนในเขตไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099303

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    กองทัพภูมิภาคที่ 5 กัมพูชา ยันข่าวทหารไทยบุกยึดพื้นที่ตำบลทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ไม่เป็นความจริง ชี้กองทัพไทยเคลียร์พื้นที่สร้างถนนในเขตไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099303 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายแดนจังหวัดตราด พบโดรนกัมพูชาบินมาจากทิศทางฐานทมอดา จ.โพธิสัตว์ ของกัมพชา ติดชายแดนตราด จำนวนกว่า 10 ลำ เจ้าหน้าที่จับตาใกล้ชิด
    .
    เมื่อเวลา 20.47 น. ของวันที่ 14 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ลอยวนอยู่เหนือพื้นที่ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ติดชายแดนบ้านทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา
    .
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องอินฟาเรด (Night Vision) ตรวจสอบ พบว่าภายในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง มีโดรนบินขึ้นจากฝั่งกัมพูชามากกว่า 10 ลำ และวนเวียนเข้ามาเหนือพื้นที่ ต.ชำราก โดยต้นทางสันนิษฐานว่ามาจากฐานทหารกัมพูชาในพื้นที่บ้านทมอดา ซึ่งตามแผนที่ L7018 (มาตราส่วน 1:50,000) ถือเป็นจุดที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาสร้างฐานบนดินแดนฝั่งไทย
    .
    แหล่งข่าวเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการพบโดรนกัมพูชาบินเข้ามาในพื้นที่ไทยต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายไทย

    เครดิตเพจ: ตราดโพสต์นิวส์
    ชายแดนจังหวัดตราด พบโดรนกัมพูชาบินมาจากทิศทางฐานทมอดา จ.โพธิสัตว์ ของกัมพชา ติดชายแดนตราด จำนวนกว่า 10 ลำ เจ้าหน้าที่จับตาใกล้ชิด . เมื่อเวลา 20.47 น. ของวันที่ 14 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ลอยวนอยู่เหนือพื้นที่ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ติดชายแดนบ้านทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา . ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้องอินฟาเรด (Night Vision) ตรวจสอบ พบว่าภายในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง มีโดรนบินขึ้นจากฝั่งกัมพูชามากกว่า 10 ลำ และวนเวียนเข้ามาเหนือพื้นที่ ต.ชำราก โดยต้นทางสันนิษฐานว่ามาจากฐานทหารกัมพูชาในพื้นที่บ้านทมอดา ซึ่งตามแผนที่ L7018 (มาตราส่วน 1:50,000) ถือเป็นจุดที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาสร้างฐานบนดินแดนฝั่งไทย . แหล่งข่าวเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการพบโดรนกัมพูชาบินเข้ามาในพื้นที่ไทยต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายไทย เครดิตเพจ: ตราดโพสต์นิวส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "ไม่มีสิ่งใดจะศักสิทธิ์ไปกว่าตัวเราเอง ที่จะนำพาตัวเราให้รอดพ้นจาก วิบากกรรมและความทุกข์ทั้งปวง ไปสู่ความเจริญและความสุขที่แท้จริง"
    ~โพธิสัตว์กวนอิม~
    "ไม่มีสิ่งใดจะศักสิทธิ์ไปกว่าตัวเราเอง ที่จะนำพาตัวเราให้รอดพ้นจาก วิบากกรรมและความทุกข์ทั้งปวง ไปสู่ความเจริญและความสุขที่แท้จริง" ~โพธิสัตว์กวนอิม~
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผิดแล้ว อย่างน้อยมีใบทบ.ชัวร์ ,ทุกๆตารางนิ้ว คนไทยเข้ารู้กันเองในพื้นที่ว่าอันนี้เป็นของใคร อันนี้เป็นเขตของคนไทยคนไหน เขาถางเองปู่ย่าตายายเขาถางไร่นาถางสวนเอง ชาวบ้านปักเสารับรู้กันหมดล่ะเหมือนดินว่างนั้นล่ะ เขารู้ว่าเป็นของใครในหมู่บ้าน ,รัฐบาลเราเอาจริงๆนะ ไม่จริงใจแก้ไขที่ทำกินให้ชาวบ้านด้วย ,ประเทศไทยเราหมกขี้แบบนี้นานนมจริงๆ ที่ดินเรียกรับตังรับเงินชาวบ้านใต้โต๊ะก็เยอะแยะของจริง,อดีตถ่ายบัตรประขาชนชาวบ้านยังจ่ายค่าธรรมเนียมเถื่อนให้นายอำเภอเลย,เรียกกันหน้าด่านๆนี้ล่ะ หลายคนต่อวันก็หลายพัน เงินพันในอดีตมันน้อยที่ไหน,ทุจริตโกงกินจนเป็นสันดานเลวชั่วเช่นกันในระบบราชการไทยเรา,
    ..บาทคอยน์อาจต้องนำมาใช้ทดแทนจริงจังจริงในยุคอนาคตนี้ที่ฝ่ายมืดชั่วเลวแบบเดอะแก๊งการเมืองเลวๆต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากก่อน ทหารเลว ตำรวจชั่วก็ไม่เว้นนอกจากเจ้าของกิจการชั่วเลวแบยเจ้าสัวต่างๆด้วย,ประเทศไทยต้องกวาดล้างกำจัดให้คนเหล่านี้ไม่ให้มีชีวิตมาหนักแผ่นดินไทยเราอีกจริงๆ กำจัดจริงๆมิใช้แบบปัจจุบันหมายพระโพธิสัตว์เหรอ,เมตตาเหี้ยนักการเมืองเลว ทหารชั่วตำรวจชั่วเจ้าสัวชั่วครองบ้านครองเมืองแบบนี้,ไทยเราจึงอับจนดักดานจริงแบบนี้ร่ำรวยกระจุก ยากจนเต็มประเทศ กฎหมายกดขี่ประชาชนเต็มเมืองไม่ดคยยกเลิกเลยสักข้อ.มีแต่เขียนใช้บังคับลงรายละเอียดถี่ย่อยลึกมากขึ้น,บ้านหนองจานคือจุดพิสูจน์ชัดว่าบ้านเมืองเราเสื่อมโทรมชั่วร้าย เลวและร้ายของแท้ของจริงขนาดไหน,

    https://youtube.com/watch?v=hGbNK0HOnaA&si=wk3dn1WLWNC_J1wG
    ผิดแล้ว อย่างน้อยมีใบทบ.ชัวร์ ,ทุกๆตารางนิ้ว คนไทยเข้ารู้กันเองในพื้นที่ว่าอันนี้เป็นของใคร อันนี้เป็นเขตของคนไทยคนไหน เขาถางเองปู่ย่าตายายเขาถางไร่นาถางสวนเอง ชาวบ้านปักเสารับรู้กันหมดล่ะเหมือนดินว่างนั้นล่ะ เขารู้ว่าเป็นของใครในหมู่บ้าน ,รัฐบาลเราเอาจริงๆนะ ไม่จริงใจแก้ไขที่ทำกินให้ชาวบ้านด้วย ,ประเทศไทยเราหมกขี้แบบนี้นานนมจริงๆ ที่ดินเรียกรับตังรับเงินชาวบ้านใต้โต๊ะก็เยอะแยะของจริง,อดีตถ่ายบัตรประขาชนชาวบ้านยังจ่ายค่าธรรมเนียมเถื่อนให้นายอำเภอเลย,เรียกกันหน้าด่านๆนี้ล่ะ หลายคนต่อวันก็หลายพัน เงินพันในอดีตมันน้อยที่ไหน,ทุจริตโกงกินจนเป็นสันดานเลวชั่วเช่นกันในระบบราชการไทยเรา, ..บาทคอยน์อาจต้องนำมาใช้ทดแทนจริงจังจริงในยุคอนาคตนี้ที่ฝ่ายมืดชั่วเลวแบบเดอะแก๊งการเมืองเลวๆต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากก่อน ทหารเลว ตำรวจชั่วก็ไม่เว้นนอกจากเจ้าของกิจการชั่วเลวแบยเจ้าสัวต่างๆด้วย,ประเทศไทยต้องกวาดล้างกำจัดให้คนเหล่านี้ไม่ให้มีชีวิตมาหนักแผ่นดินไทยเราอีกจริงๆ กำจัดจริงๆมิใช้แบบปัจจุบันหมายพระโพธิสัตว์เหรอ,เมตตาเหี้ยนักการเมืองเลว ทหารชั่วตำรวจชั่วเจ้าสัวชั่วครองบ้านครองเมืองแบบนี้,ไทยเราจึงอับจนดักดานจริงแบบนี้ร่ำรวยกระจุก ยากจนเต็มประเทศ กฎหมายกดขี่ประชาชนเต็มเมืองไม่ดคยยกเลิกเลยสักข้อ.มีแต่เขียนใช้บังคับลงรายละเอียดถี่ย่อยลึกมากขึ้น,บ้านหนองจานคือจุดพิสูจน์ชัดว่าบ้านเมืองเราเสื่อมโทรมชั่วร้าย เลวและร้ายของแท้ของจริงขนาดไหน, https://youtube.com/watch?v=hGbNK0HOnaA&si=wk3dn1WLWNC_J1wG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษหรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
    ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษ🐍หรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป👉✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น😡👿👇🔥..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร🙄 ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ🤍#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย🙇‍♀️#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand🇹🇭✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา🙆‍♀️💛
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 07.00 น.
    กลาโหมกัมพูชาประณามไทยเหตุปะทะชายแดนตราด อ้างไทยยิงปืนใหญ่หนัก 5 ลูกเข้าไปในหลายพื้นที่ในหมู่บ้านเอกภาพ อ.เวียลแวง จ.โพธิสัตว์
    07.00 น. กลาโหมกัมพูชาประณามไทยเหตุปะทะชายแดนตราด อ้างไทยยิงปืนใหญ่หนัก 5 ลูกเข้าไปในหลายพื้นที่ในหมู่บ้านเอกภาพ อ.เวียลแวง จ.โพธิสัตว์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!!

    “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป

    ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

    จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้

    แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก

    ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก

    รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก

    ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป
    หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี

    เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย

    เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท

    แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง

    การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!! “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕ จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้ แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1095 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด

    หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ
    พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้  

    มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข
    AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม

    การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม
    AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา  

    สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ
    การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้  

    AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน
    แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)  

    การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก
    AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ  

    หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI
    ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI  

    นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  

    พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม

    มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม
    แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม

    ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา
    คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง  

    เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม
    ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต  

    ความยึดมั่นถือมั่นและมายา
    แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้  

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม
    มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา  

    นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"  

    สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน

    จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:  

    1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว  

    2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง  

    3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น  

    4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา  

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด ☸️☸️ หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้   🤖 มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา   👓 สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้   🙆‍♂️ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)   🧪 การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ   ☸️ หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI   นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม ‼️ มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม 👿 ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง   🛣️ เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต   🍷 ความยึดมั่นถือมั่นและมายา แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้   🤥 ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา   นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"   สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:   1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว   2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง   3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น   4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา   #ลุงเขียนหลานอ่าน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นพุทธรังษีบารมีโพธิสัตว์ รักชาติรัก รักแผ่นดิน คนวังหน้า
    เหรียญหลวงพ่อทวด (ตอกโค๊ดตรงสังฆาฏิ) รุ่นพุทธรังษีบารมีโพธิสัตว์ รักชาติรัก รักแผ่นดิน คนวังหน้า //พระดีพิธีใหญ่ สร้างแจก ทหาร-ตำรวจ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7000 เหรียญ ไม่ได้เปิดจอง ออกให้บูชา // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** เหรียญรุ่นนี้เข้าพิธีอธิษฐานจิตตามตำรับเดิมของการสร้างหลวงพ่อทวดเเละรูปลักษณ์ด้านหน้าจะเป็นหลวงพ่อทวดครึ่งองค์ด้านหลังจะบรรจุพระคาถาหลวงพ่อทวดเเละคาถายูงทองที่หลวงปู่มั่นใช้เขียนเป็นหลอดยันต์สมัยสงครามเเละพระยันต์จินดามณีหรือพระยันต์สารพัดนึก

    ** พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีนี้ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา
    พ่อท่านเเก้ว วัดสะพานไม้เเก่น พ่อท่านวัดต้นเลียบ วัดที่ฝังรกหลวงพ่อทวด พ่อท่านวัดดีหลวง วัดที่หลวงพ่อทวดบรรพชาเป็นสามเณร พ่อท่านวัดสีหยัง วัดที่หลวงพ่อทวดเรียนพระธรรม พ่อท่านเเสง วัดศิลาลอย ท่านเคยร่วมพิธีปี 2497 พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์ วัดไสหร้า พ่อท่านเจ้าคุณผัน วัดทรายขาว พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ พ่อท่านจ่าง วัดน้ำรอบ พ่อท่านชม นิ้วเพชร ปากละเเม พ่อท่านเนื่อง วัดสวนจันทร์ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นพุทธรังษีบารมีโพธิสัตว์ รักชาติรัก รักแผ่นดิน คนวังหน้า เหรียญหลวงพ่อทวด (ตอกโค๊ดตรงสังฆาฏิ) รุ่นพุทธรังษีบารมีโพธิสัตว์ รักชาติรัก รักแผ่นดิน คนวังหน้า //พระดีพิธีใหญ่ สร้างแจก ทหาร-ตำรวจ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7000 เหรียญ ไม่ได้เปิดจอง ออกให้บูชา // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** เหรียญรุ่นนี้เข้าพิธีอธิษฐานจิตตามตำรับเดิมของการสร้างหลวงพ่อทวดเเละรูปลักษณ์ด้านหน้าจะเป็นหลวงพ่อทวดครึ่งองค์ด้านหลังจะบรรจุพระคาถาหลวงพ่อทวดเเละคาถายูงทองที่หลวงปู่มั่นใช้เขียนเป็นหลอดยันต์สมัยสงครามเเละพระยันต์จินดามณีหรือพระยันต์สารพัดนึก ** พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีนี้ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พ่อท่านเเก้ว วัดสะพานไม้เเก่น พ่อท่านวัดต้นเลียบ วัดที่ฝังรกหลวงพ่อทวด พ่อท่านวัดดีหลวง วัดที่หลวงพ่อทวดบรรพชาเป็นสามเณร พ่อท่านวัดสีหยัง วัดที่หลวงพ่อทวดเรียนพระธรรม พ่อท่านเเสง วัดศิลาลอย ท่านเคยร่วมพิธีปี 2497 พ่อท่านนวล วาจาสิทธิ์ วัดไสหร้า พ่อท่านเจ้าคุณผัน วัดทรายขาว พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ พ่อท่านจ่าง วัดน้ำรอบ พ่อท่านชม นิ้วเพชร ปากละเเม พ่อท่านเนื่อง วัดสวนจันทร์ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระแม่ธรณี "วสุนธรา”มาปรากฏองค์และประกาศยืนยันต่อพญามารว่า พระมหาบุรุษเมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญบุญมามากมายสุดประมาณ แค่น้ำที่หลั่งทักษิโณทกลงบนมวยผม ก็เหลือจะคณานับ ว่าแล้วก็ปล่อยมวยผม บีบน้ำออกมาเป็นกระแสน้ำไหล่บ่ามาอย่างแรง จนพัดพาพญามารและเหล่าเสนามารลอยไปไกลสุดขอบฟ้า พญามารอัศจรรย์ใจยอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อกำจัดเหล่ามารแล้ว พระองค์ก็ทรงเจริญภาวนาสมาธิบำเพ็ญเพียรต่อไปจนตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนั้น ก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันวิสาขบูชานั่นเอง
    พระแม่ธรณี "วสุนธรา”มาปรากฏองค์และประกาศยืนยันต่อพญามารว่า พระมหาบุรุษเมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญบุญมามากมายสุดประมาณ แค่น้ำที่หลั่งทักษิโณทกลงบนมวยผม ก็เหลือจะคณานับ ว่าแล้วก็ปล่อยมวยผม บีบน้ำออกมาเป็นกระแสน้ำไหล่บ่ามาอย่างแรง จนพัดพาพญามารและเหล่าเสนามารลอยไปไกลสุดขอบฟ้า พญามารอัศจรรย์ใจยอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อกำจัดเหล่ามารแล้ว พระองค์ก็ทรงเจริญภาวนาสมาธิบำเพ็ญเพียรต่อไปจนตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนั้น ก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันวิสาขบูชานั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ยุคนี้พระโพธิสัตว์จัดสรร
    ให้กรรมนั้นได้ถูกชดใช้
    ให้เข้าใจในธรรมและน้อมรับในผลแห่งกรรม
    โดยเฉพาะอกุศลกรรมที่ได้กระทำต่อกันและกันมาอย่างยาวนาน
    เป็นวิบากกรรมที่ต้องตามมาชดใช้กัน ไม่รู้จบสิ้น
    มิอาจตัดกระแสการเวียนว่ายตายเกิดได้

    เมื่อความตายใกล้มาถึง
    มีเพียงจิตหนึ่งเดียวเท่านั้น
    ที่สามารถก้าวพ้นกรรมทั้งหลาย
    จำเป็นต้องเร่งศึกษาปฏิบัติให้เข้าถึงความรู้อันเป็นสัจธรรมของชีวิต

    เรามาใช้กรรมในรูปมนุษย์
    ไม่สร้างกรรมผูกพันใหม่
    ให้ยืดยาวต่อเนื่อง
    ยุติกรรมทั้งหลายได้
    เชื้อเกิดก็มิอาจกำเนิดขึ้น
    ทุกข์จากการเกิดไม่มี
    สุขาวดีแห่งโพธิสัตว์ธรรมอยู่ข้างหน้า
    มัวรีรออะไรกันอยู่

    HOS.HOLY SHIFT
    7 เมษายน 2568
    ยุคนี้พระโพธิสัตว์จัดสรร ให้กรรมนั้นได้ถูกชดใช้ ให้เข้าใจในธรรมและน้อมรับในผลแห่งกรรม โดยเฉพาะอกุศลกรรมที่ได้กระทำต่อกันและกันมาอย่างยาวนาน เป็นวิบากกรรมที่ต้องตามมาชดใช้กัน ไม่รู้จบสิ้น มิอาจตัดกระแสการเวียนว่ายตายเกิดได้ เมื่อความตายใกล้มาถึง มีเพียงจิตหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่สามารถก้าวพ้นกรรมทั้งหลาย จำเป็นต้องเร่งศึกษาปฏิบัติให้เข้าถึงความรู้อันเป็นสัจธรรมของชีวิต เรามาใช้กรรมในรูปมนุษย์ ไม่สร้างกรรมผูกพันใหม่ ให้ยืดยาวต่อเนื่อง ยุติกรรมทั้งหลายได้ เชื้อเกิดก็มิอาจกำเนิดขึ้น ทุกข์จากการเกิดไม่มี สุขาวดีแห่งโพธิสัตว์ธรรมอยู่ข้างหน้า มัวรีรออะไรกันอยู่ HOS.HOLY SHIFT 7 เมษายน 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • 243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา

    เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย

    "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่?

    243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง

    ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์

    "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี

    จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง

    เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน

    หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี”

    พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม

    ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ

    ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก

    ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา

    รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

    จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด

    ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325

    พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี

    แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน...

    พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน

    1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ

    2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี

    3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย”

    4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย

    เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น”

    จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ

    ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

    พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ

    มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน

    วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน

    ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่?

    พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย”

    มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์

    จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก

    แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568

    #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    243 ปี สำเร็จโทษ “พระเจ้าตาก” กษัตริย์ผู้กอบกู้ นักรบผู้เดียวดาย สู่ตำนานมหาราช เบื้องหลังความจริงของวันประหาร ที่ยังเป็นปริศนา 📌 เรื่องราวสุดลึกซึ้งของ "พระเจ้าตากสินมหาราช" วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราช สู่ฉากอวสานที่ยังคลุมเครือ หลังผ่านมา 243 ปี ความจริงของวันสำเร็จโทษ ยังรอการค้นหา ข้อเท็จจริงและปริศนา ที่ยังรอการคลี่คลาย ✨ 🔥 "พระเจ้าตาก" ตำนานนักรบผู้เดียวดาย ที่ยังไม่ถูกลืม วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญ ของประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 วันนั้นไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นราชวงศ์จักรีเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” เสด็จสวรรคตอย่างเป็นทางการ... หรืออาจจะไม่? 243 ปี ผ่านไป เรื่องราวของพระองค์ยังคงเป็นที่ถกเถียง 😢 ทั้งในแวดวงวิชาการ ประวัติศาสตร์ และสังคมไทยโดยรวม เพราะแม้จะได้รับการยกย่อง ให้เป็นวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติ แต่จุดจบของพระองค์ กลับเต็มไปด้วยข้อสงสัย ความคลุมเครือ และคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างแท้จริง ย้อนเวลากลับไปสำรวจเรื่องราวของ "พระเจ้าตากสิน" ตั้งแต่วีรกรรมกู้ชาติ ไปจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เพื่อค้นหาความจริง และความหมายที่ซ่อนอยู่ในตำนานของพระองค์ 👑 "พระเจ้าตากสิน" กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวแห่งกรุงธนบุรี 🌊 จากนายทหาร สู่กษัตริย์ผู้กอบกู้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า "สิน" เป็นบุตรของชาวจีนแต้จิ๋ว โดยทรงเข้ารับราชการในสมัย "สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์" รัชกาลสุดท้ายแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ในปี พ.ศ. 2310 พระยาตากคือผู้นำที่ยืนหยัด และฝ่าทัพพม่าออกไปตั้งหลักที่จันทบุรี 🐎 พร้อมกับรวบรวมผู้คนและกำลังพล จนสามารถกลับมากู้ชาติ และยึดกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน ✨ หลังจากนั้น ทรงย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรี พร้อมปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ และสถาปนา “อาณาจักรธนบุรี” 🏰 🌟 พระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ "พระเจ้าตากสิน" มิได้เป็นเพียงนักรบ แต่ทรงเป็นนักปกครอง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พระองค์ทรงฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศาสนา และวัฒนธรรม 🎨📚 🔸 ส่งเสริมการค้ากับจีนและต่างประเทศ 🔸 ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา โดยให้มีการอุปสมบทพระสงฆ์ใหม่จำนวนมาก 🔸 ส่งเสริมวรรณกรรม และการศึกษา 🔸 รวบรวมดินแดนที่แตกแยก กลับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระองค์ยังได้รับ การถวายพระราชสมัญญานามว่า “มหาราช” โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ 💖 ⚔️ จุดจบที่เป็นปริศนา วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสิน แม้พระองค์จะทรงกู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมือง แต่พระเจ้าตากก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายใน และการทรยศจากผู้ใกล้ชิด ในปี พ.ศ. 2325 พระยาสรรค์กับพวกได้ก่อการกบฏ อ้างว่าพระเจ้าตากสินมีพระสติวิปลาส ทำให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาคือรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ยกทัพกลับจากเขมรเข้ากรุงธนบุรี และสั่งสำเร็จโทษพระเจ้าตากสินโดยการ “ตัดศีรษะ” ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 👑 🕯️ พระชนมพรรษา 48 ปี ครองราชย์รวม 15 ปี แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? หลักฐานและคำบอกเล่าต่างๆ กลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน... 📚 พงศาวดาร หลากหลายข้อสันนิษฐาน 1️⃣ ฉบับพระราชหัตถเลขา ประหารโดยตัดศีรษะ เล่าว่า... พระเจ้าตากถูกตัดศีรษะโดยเพชฌฆาต ไม่มีการใช้คำว่า “สวรรคต” แต่ใช้คำว่า “ถึงแก่พิราลัย” แสดงว่าอาจถูกริดรอนพระยศ ก่อนที่สำเร็จโทษ 2️⃣ ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ม็อบพาไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง ระบุว่า... “ทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้น นำเอาพระเจ้าแผ่นดินไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมือง” โดยไม่ระบุวิธี 3️⃣ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ชนหมู่มากฆ่าพระองค์ กล่าวว่า... “ชนทั้งหลายมีความโกรธ ชวนกันกำจัดเสียจากราชสมบัติ แล้วพิฆาฎฆ่าเสีย” 4️⃣ พระยาทัศดาจัตุรงค์ หัวใจวายเฉียบพลัน เขียนว่า... “เกิดวิกลดลจิตประจุบัน ท้าวดับชีวัน” ซึ่งแปลว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยอาการหัวใจวาย 🕵️‍♂️ เรื่องเล่าหลัง 2475 สร้างตำนานใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 เรื่องราวของพระเจ้าตาก ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบใหม่ โดยเน้นไปที่... การเป็นวีรกษัตริย์ของประชาชน อาทิ วรรณกรรมเรื่อง “ใครฆ่าพระเจ้าตากสิน” ของภิกษุณีโพธิสัตว์ "วรมัย กบิลสิงห์" ซึ่งอ้างว่า “พระองค์ไม่ถูกประหาร แต่สับเปลี่ยนตัวกับนายมั่น” 🔍 จุดมุ่งหมายคือ การสร้างความรู้สึกร่วมของคนไทย สร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตย และเน้นความสามัคคีแห่งชาติ 🇹🇭 🧠 ข้อวิเคราะห์ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ พระเจ้าตากเสียสติจริงหรือ? เอกสารหลายฉบับระบุว่า พระองค์มีพระสติวิปลาส แต่บทสนทนาก่อนประหารที่ว่า “ขอเข้าเฝ้าสนทนาอีกสักสองสามคำ” นั้นชัดเจน และเต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ 🤔 ❓ มีการสับเปลี่ยนตัวจริงหรือ? ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนใด ๆ รองรับ แต่แนวคิดนี้ ปรากฏอย่างแพร่หลายในวรรณกรรม และความเชื่อของประชาชน 📜 วันที่พระองค์ถูกลืม? วันที่ 6 เมษายน ถูกกำหนดให้เป็น "วันจักรี" เพื่อระลึกถึงการสถาปนาราชวงศ์จักรี โดยไม่มีการกล่าวถึงพระเจ้าตากเลย ทั้งที่วันเดียวกันนั้น คือวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เช่นกัน ทำให้เกิดคำถามในใจใครหลายคนว่า พระเจ้าตากถูก “กลบ” จากประวัติศาสตร์หรือไม่? 😢 🛕 พระเจ้าตากในความทรงจำของประชาชน แม้ประวัติศาสตร์ทางการจะบอกว่า พระองค์ถูกประหารชีวิต แต่ในความเชื่อของประชาชนทั่วไป พระเจ้าตากยังคงเป็น “วีรกษัตริย์ผู้ไม่เคยพ่าย” 🙏 มีการสักการะพระบรมรูปที่วงเวียนใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนเรียกพระองค์ว่า “แต่อ่วงกง” มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพระองค์ 🧾 จากความจริง...สู่ตำนาน 243 ปีผ่านไป...วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราช ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม ปริศนา และความรู้สึกค้างคาใจ ของคนไทยจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ... พระเจ้าตากมิใช่เพียงนักรบผู้เดียวดาย แต่คือบุคคลผู้เปลี่ยนชะตากรรมของแผ่นดินนี้ ไว้ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 060744 เม.ย. 2568 📱 #พระเจ้าตาก #สมเด็จพระเจ้าตากสิน #ประวัติศาสตร์ไทย #243ปีพระเจ้าตาก #ตำนานพระเจ้าตาก #วันประหารพระเจ้าตาก #วันจักรี #ราชวงศ์ธนบุรี #วีรกษัตริย์ไทย #กษัตริย์ผู้กอบกู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1748 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเมืองหวุงเต่า
    สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธที่ประกอบอาชีพประมงในเมืองหวุงเต่า
    ด้วยความศรัทธาและความเชื่อว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจะช่วยคุ้มครองชาวประมงให้ปลอดภัยรอดพ้นจากภัยอันตรายในทะเลอันกว้างใหญ่
    พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเมืองหวุงเต่า สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธที่ประกอบอาชีพประมงในเมืองหวุงเต่า ด้วยความศรัทธาและความเชื่อว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจะช่วยคุ้มครองชาวประมงให้ปลอดภัยรอดพ้นจากภัยอันตรายในทะเลอันกว้างใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts