• เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่”
    ตอน 1
    เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้ 
    คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก
    น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน...
    เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น
    รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร
    สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา
    บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา
    เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน
    ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ
    ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ
    
###############
ตอน 2
     
    เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน
     
    “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว
    เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น
    โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้
    และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม
    เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก
    ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา
    เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien
    นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้
    นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น
    นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น
    ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น
    เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน
    
###############
ตอน 3
    เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง
    นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม
    จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน
    แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา
    นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย
    เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม
    เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ!
    นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
    ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน
    
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่” ตอน 1 เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้  คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน... เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ 
###############
ตอน 2   เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน   “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้ และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้ นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน 
###############
ตอน 3 เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ! นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน 
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท.ผู้น้อยถามเดือด เป็นสุภาพบุรุษนอกจากท.เสียขาแล้วได้อะไร (10/11/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #MOU43 #MOU44 #กัมพูชา #ข่าวชายแดน #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    ท.ผู้น้อยถามเดือด เป็นสุภาพบุรุษนอกจากท.เสียขาแล้วได้อะไร (10/11/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #MOU43 #MOU44 #กัมพูชา #ข่าวชายแดน #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก

    พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด
    เป็นนักเรียนนอก
    พูดได้หลายภาษา
    เป็นสุภาพบุรุษ
    แต่งกายดีที่สุด
    กิริยามารยาทดีเยี่ยม
    มีอารมณ์ขัน
    โรแมนติคมาก
    รักเดียวใจเดียว
    รักการศึกษา
    รักภาษาไทย
    รักสัตว์
    รักชาติที่สุด
    รักประชาชนที่สุด
    มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด
    บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น
    เป็นผู้มีศีลมั่นคง
    มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง
    รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด
    มีความเมตตาที่สุด
    มีความกรุณาที่สุด
    มีความเสียสละที่สุด
    มีความเพียรที่สุด
    มีความอดทนที่สุด
    มีความกตัญญูที่สุด
    มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด
    มีความรู้มากที่สุด
    ฉลาดที่สุด
    เป็นนักปราชญ์
    เป็นครู
    เป็นศิลปิน
    เป็นจิตรกร
    เป็นนักเขียน
    เป็นนักแปล
    เป็นนักประดิษฐ์
    เป็นนักพัฒนา
    เป็นนักสำรวจ
    เป็นนักเดินทาง
    เป็นนักกีฬา
    เก่งวิทยาศาสตร์
    เก่งวิศวะ
    เก่งเทคโนโลยี่
    เก่งสื่อสาร
    เก่งอักษรศาสตร์
    เก่งเศรษฐศาสตร์
    เก่งภูมิศาสตร์
    เก่งกฎหมาย
    เก่งการทหาร
    เก่งเกษตร
    เก่งเรื่องป่า
    เก่งเรื่องดินที่สุด
    เก่งเรื่องน้ำที่สุด
    เก่งเรื่องฝนที่สุด
    เก่งถ่ายรูปที่สุด
    เก่งดนตรีที่สุด

    เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ

    ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด

    #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทรเพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า
    มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด เป็นนักเรียนนอก พูดได้หลายภาษา เป็นสุภาพบุรุษ แต่งกายดีที่สุด กิริยามารยาทดีเยี่ยม มีอารมณ์ขัน โรแมนติคมาก รักเดียวใจเดียว รักการศึกษา รักภาษาไทย รักสัตว์ รักชาติที่สุด รักประชาชนที่สุด มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น เป็นผู้มีศีลมั่นคง มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด มีความเมตตาที่สุด มีความกรุณาที่สุด มีความเสียสละที่สุด มีความเพียรที่สุด มีความอดทนที่สุด มีความกตัญญูที่สุด มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด มีความรู้มากที่สุด ฉลาดที่สุด เป็นนักปราชญ์ เป็นครู เป็นศิลปิน เป็นจิตรกร เป็นนักเขียน เป็นนักแปล เป็นนักประดิษฐ์ เป็นนักพัฒนา เป็นนักสำรวจ เป็นนักเดินทาง เป็นนักกีฬา เก่งวิทยาศาสตร์ เก่งวิศวะ เก่งเทคโนโลยี่ เก่งสื่อสาร เก่งอักษรศาสตร์ เก่งเศรษฐศาสตร์ เก่งภูมิศาสตร์ เก่งกฎหมาย เก่งการทหาร เก่งเกษตร เก่งเรื่องป่า เก่งเรื่องดินที่สุด เก่งเรื่องน้ำที่สุด เก่งเรื่องฝนที่สุด เก่งถ่ายรูปที่สุด เก่งดนตรีที่สุด เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทร😍😍😍เพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า😇😇
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศักดิ์สิทธิที่สำคัญของศาสนาอิสลาม

    ความเป็นอยู่ของประชาชน มีความแตกต่างกันมาก ระหว่างผู้ครองประเทศกับประชาชนทั่วไป แม้จะมีการเพิ่มสวัสดิการต่างๆ แต่ช่องว่างก็ยังห่างกันมาก

    รายงานสรุปได้น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ไม่ใช่แต่ทางซาอุดิอารเบียเท่านั้น ที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง อเมริกาเอง ก็ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี จากการเลือกตั้งเช่นกัน และความเปลี่ยนแปลงนั้น ก็กำลังจะมาพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี ค.ศ. 2016 นี้

    รายงานยังระบุอีกว่า ทุกประเทศคงต้องเจอกับการท้าทาย ทั้งจากภายใน และภายนอกประเทศ มันมีหลายมุมของอนาคต ที่เราไม่สามารถจะคาดการณ์ได้ และเราก็มักต้องใช้วิธีคิด ในกรณีเลวร้ายที่สุดไว้ก่อน ซาอุดิอารเบียเป็นประเทศที่ทันสมัยแล้วในหลายด้าน และการเมืองภายในประเทศของซาอุดิ ในขณะที่น่าสนใจ ก็มีความไม่แน่นอน แต่นั่นคงจะไม่ใช่เป็นสาเหตุของความไม่มั่นคง หรือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ในทางนโยบายและบทบาทของซาอุดิอารเบีย ในฐานะพันธมิตรของอเมริกา

    อเมริกาหมายความว่าอะไร อเมริกากำลังสื่ออะไร

    แปลความระหว่างบันทัด อเมริกากำลังบอกว่า ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่าง อเมริกากับซาอุดิอารเบีย มันไม่ใช่เพราะมีการเปลี่ยนกษัตริย์หรอก แต่มาจากปัจจัยภายนอกตัวอื่น เตียงเราไม่ได้หัก เราไม่ได้โกรธกัน แต่เราอาจจำเป็นต้องใช้อะไรอื่นแทนเตียงของซาอุดิ อย่างนั้นหรือ ?!

    70 ปี ก่อนของซาอุดิอารเบีย กับสภาพปัจจุบันของซาอุดิอารเบีย ย่อมแตกต่างกันมากมาย ยิ่งซาอุดิอารเบียในปี 2050 ที่จะมีประชากรถึง จำนวน 40 ล้านคน แต่อาจมีน้ำมันที่ลดน้อยลง โดยเฉพาะเป็นแหล่งที่ถูกใช้อย่างไม่ถนอม อเมริกาคงคิดหนัก อเมริกาคงไม่อยากรับภาระเกินรายได้ มันเป็นเรื่องปรกติตามสันดานของนักล่า ที่ไม่ชอบบัญชีตัวแดง

    อเมริกากำลังคิดเล่นเกม เลือกม้าต้วที่วิ่งเร็วสุด ในราคาถูกที่สุด และกำไรมากที่สุดหรือเปล่า?!

    อเมริกาปฏิบัติการคว่ำบาตรอิหร่าน นานถึงเกือบ 30 ปี ด้วยข้อหาอะไร ด้วยข้อหาว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
    ผ่านมาเกือบ 30 ปี ถ้าอิหร่านพัฒนานิวเคลียร์จริ ง และน่าจะจริง อิหร่านคงพัฒนาใกล้จะเสร็จ หรือเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีสมาชิกสภาของอเมริกัน กำลังเตรียมเสนอเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่นายโอบามาบอกว่า ไม่สมควร เพราะเรากำลังเจรจากับอิหร่านอยู่ ดังนั้นถ้ามีการเสนอเข้าสภามาเมื่อไหร่ เขาจะใช้สิทธิประธานาธิบดีคัดค้าน เป็นสุภาพบุรุษ ผิดนิสัยนักล่า!

    อืม แปลว่า จริงๆแล้ว อเมริกาไม่เดือดร้อนที่อิหร่าน จะมีอาวุธนิวเคลียร์ อเมริกาแค่ต้องการปิดประเทศอิหร่าน ไม่ให้ใครมายุ่งกับแหล่งน้ำมันอิหร่าน จนกว่าจะถึงเวลาที่อเมริกา จะเป็นผู้มาเปิดแหล่งน้ำมันใช้ต่อเอง เมื่อแหล่งอื่นร่อยหรอ หรือไม่คุ้มค่า อย่างนั้นหรือไม่

    ภายใต้ข้อสมมุติฐานว่า อเมริกาปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ แผ่อิทธิพลในตะวันออกกลาง คุมอิรัค ให้ท้ายซีเรีย จับมือกับตุรกี โอบอุ้ม Hezbollah และสนับสนุนให้อิหร่านกลายเป็นพี่ใหญ่ ของตะวันออกกลาง ด้วยความเห็นชอบของอเมริกาและอิหร่านเอง ผลคือ อเมริกาไม่ต้องออกแรงดูแลตะวันออกกลาง ให้เหนื่อยและหนักกระเป๋าตัวเองและเป็นเป้า ให้ประชาชนของตนด่า

    ส่วนในด้านพลังงาน แม้ตัวเลขของ US Energy Information ปัจจุบันจะระบุว่า ซาอุดิอารเบีย มี reserves มากกว่า อิหร่าน (ซาอุดิ 266 พันล้าน บาเรล : อิหร่าน 157 พันล้าน บาเรล) แต่อิหร่านยังมีแหล่งพลังงาน ที่ยังไม่เปิดเผยอีกมากมาย ซ่อนอยู่ และอีกประการที่สำคัญ การใช้พลังงานของทั้ง 2 ประเทศ ก็ต่างกันมาก (ซาอุดิ 2.9 ล้านบาเรลต่อวัน : อิหร่าน 1.75 ล้านบาเรลต่อวัน)

    แต่ประโยชน์ที่อเมริกาจะได้ และเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าดึงอิหร่าน ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจากกลุ่มรัสเซียได้ แนวต้านของรัสเซียจีน ในตะวันออกกลางจะโหว่ทันที และนั่นคือ เป้าหมายที่แท้จริงของอเมริกา

    มันเป็นเกมที่อเมริกาไม่มีเสีย มีแต่ได้ หรือเสมอตัวเท่านั้นเอง เปลี่ยน จากใช้หมากซาอุดิอารเบีย เป็น หมากชื่อ อิหร่าน

    ซื้ออิหร่านได้ รัสเซียจีนก็เหนื่อย อาจถึงจบเกม ถ้าอเมริกาซื้อไม่ได้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ซาอุดิไปไหนรอด มีทางเดียวคือ ไปทางตะวันออก จับมือกับจีน เกมนี้ ซาอุดิเล่นทันไหม สงสัยตัดสินใจช้าไปหน่อย แต่ยังไม่สายเกินไป อเมริกาไม่เคยนึกถึงจิตใจใครจริงๆ เวลาที่อเมริกาจะถีบหัวทิ้งหรอก เพราะสัมพันธ์ของอเมริกา ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์เท่านั้น อาจจะมียกเว้นกับกลุ่ม Anglo Saxon ด้วยกัน โดยเฉพาะอังกฤษเท่านั้น

    สำหรับเราๆ ก็คอยจับตาดู ถ้าอเมริกาคิดเล่นเกมนี้ และอิหร่านไม่เอาด้วย รับรอง ดอกเห็ดบานเร็วแน่ แต่ถ้าอิหร่านเอาด้วย เราก็คงลงต้องรู และคงไม่โผล่หัวอีกเลย เพรา ถ้าอเมริกาซื้ออิหร่านได้ กระดูกอ่อนๆ อย่างสมันน้อย จะเหลืออะไร

    แต่ถ้าจะให้ดี อิหร่านก็ไม่เอาอเมริกา และซาอุดิอารเบียก็รู้สึกเบื่อกับ marriage for covenience ที่อีกฝ่าย ชักจะเล่นเล่ห์หันเหไปทางอื่นมากกว่า ก็น่าลองมาเริ่มใช้ชีวิตใหม่ ด้วยการคบเพื่อนใหม่ และถีบเตียงเก่าทิ้งเสียด้วย แต่สงสัยว่า ผมคงฝันดีเกินไป !

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 มค. 2558
    ศักดิ์สิทธิที่สำคัญของศาสนาอิสลาม ความเป็นอยู่ของประชาชน มีความแตกต่างกันมาก ระหว่างผู้ครองประเทศกับประชาชนทั่วไป แม้จะมีการเพิ่มสวัสดิการต่างๆ แต่ช่องว่างก็ยังห่างกันมาก รายงานสรุปได้น่าสนใจอย่างยิ่งว่า ไม่ใช่แต่ทางซาอุดิอารเบียเท่านั้น ที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลง อเมริกาเอง ก็ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี จากการเลือกตั้งเช่นกัน และความเปลี่ยนแปลงนั้น ก็กำลังจะมาพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในปี ค.ศ. 2016 นี้ รายงานยังระบุอีกว่า ทุกประเทศคงต้องเจอกับการท้าทาย ทั้งจากภายใน และภายนอกประเทศ มันมีหลายมุมของอนาคต ที่เราไม่สามารถจะคาดการณ์ได้ และเราก็มักต้องใช้วิธีคิด ในกรณีเลวร้ายที่สุดไว้ก่อน ซาอุดิอารเบียเป็นประเทศที่ทันสมัยแล้วในหลายด้าน และการเมืองภายในประเทศของซาอุดิ ในขณะที่น่าสนใจ ก็มีความไม่แน่นอน แต่นั่นคงจะไม่ใช่เป็นสาเหตุของความไม่มั่นคง หรือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ในทางนโยบายและบทบาทของซาอุดิอารเบีย ในฐานะพันธมิตรของอเมริกา อเมริกาหมายความว่าอะไร อเมริกากำลังสื่ออะไร แปลความระหว่างบันทัด อเมริกากำลังบอกว่า ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่าง อเมริกากับซาอุดิอารเบีย มันไม่ใช่เพราะมีการเปลี่ยนกษัตริย์หรอก แต่มาจากปัจจัยภายนอกตัวอื่น เตียงเราไม่ได้หัก เราไม่ได้โกรธกัน แต่เราอาจจำเป็นต้องใช้อะไรอื่นแทนเตียงของซาอุดิ อย่างนั้นหรือ ?! 70 ปี ก่อนของซาอุดิอารเบีย กับสภาพปัจจุบันของซาอุดิอารเบีย ย่อมแตกต่างกันมากมาย ยิ่งซาอุดิอารเบียในปี 2050 ที่จะมีประชากรถึง จำนวน 40 ล้านคน แต่อาจมีน้ำมันที่ลดน้อยลง โดยเฉพาะเป็นแหล่งที่ถูกใช้อย่างไม่ถนอม อเมริกาคงคิดหนัก อเมริกาคงไม่อยากรับภาระเกินรายได้ มันเป็นเรื่องปรกติตามสันดานของนักล่า ที่ไม่ชอบบัญชีตัวแดง อเมริกากำลังคิดเล่นเกม เลือกม้าต้วที่วิ่งเร็วสุด ในราคาถูกที่สุด และกำไรมากที่สุดหรือเปล่า?! อเมริกาปฏิบัติการคว่ำบาตรอิหร่าน นานถึงเกือบ 30 ปี ด้วยข้อหาอะไร ด้วยข้อหาว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผ่านมาเกือบ 30 ปี ถ้าอิหร่านพัฒนานิวเคลียร์จริ ง และน่าจะจริง อิหร่านคงพัฒนาใกล้จะเสร็จ หรือเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีสมาชิกสภาของอเมริกัน กำลังเตรียมเสนอเพิ่มการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่นายโอบามาบอกว่า ไม่สมควร เพราะเรากำลังเจรจากับอิหร่านอยู่ ดังนั้นถ้ามีการเสนอเข้าสภามาเมื่อไหร่ เขาจะใช้สิทธิประธานาธิบดีคัดค้าน เป็นสุภาพบุรุษ ผิดนิสัยนักล่า! อืม แปลว่า จริงๆแล้ว อเมริกาไม่เดือดร้อนที่อิหร่าน จะมีอาวุธนิวเคลียร์ อเมริกาแค่ต้องการปิดประเทศอิหร่าน ไม่ให้ใครมายุ่งกับแหล่งน้ำมันอิหร่าน จนกว่าจะถึงเวลาที่อเมริกา จะเป็นผู้มาเปิดแหล่งน้ำมันใช้ต่อเอง เมื่อแหล่งอื่นร่อยหรอ หรือไม่คุ้มค่า อย่างนั้นหรือไม่ ภายใต้ข้อสมมุติฐานว่า อเมริกาปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ แผ่อิทธิพลในตะวันออกกลาง คุมอิรัค ให้ท้ายซีเรีย จับมือกับตุรกี โอบอุ้ม Hezbollah และสนับสนุนให้อิหร่านกลายเป็นพี่ใหญ่ ของตะวันออกกลาง ด้วยความเห็นชอบของอเมริกาและอิหร่านเอง ผลคือ อเมริกาไม่ต้องออกแรงดูแลตะวันออกกลาง ให้เหนื่อยและหนักกระเป๋าตัวเองและเป็นเป้า ให้ประชาชนของตนด่า ส่วนในด้านพลังงาน แม้ตัวเลขของ US Energy Information ปัจจุบันจะระบุว่า ซาอุดิอารเบีย มี reserves มากกว่า อิหร่าน (ซาอุดิ 266 พันล้าน บาเรล : อิหร่าน 157 พันล้าน บาเรล) แต่อิหร่านยังมีแหล่งพลังงาน ที่ยังไม่เปิดเผยอีกมากมาย ซ่อนอยู่ และอีกประการที่สำคัญ การใช้พลังงานของทั้ง 2 ประเทศ ก็ต่างกันมาก (ซาอุดิ 2.9 ล้านบาเรลต่อวัน : อิหร่าน 1.75 ล้านบาเรลต่อวัน) แต่ประโยชน์ที่อเมริกาจะได้ และเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าดึงอิหร่าน ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจากกลุ่มรัสเซียได้ แนวต้านของรัสเซียจีน ในตะวันออกกลางจะโหว่ทันที และนั่นคือ เป้าหมายที่แท้จริงของอเมริกา มันเป็นเกมที่อเมริกาไม่มีเสีย มีแต่ได้ หรือเสมอตัวเท่านั้นเอง เปลี่ยน จากใช้หมากซาอุดิอารเบีย เป็น หมากชื่อ อิหร่าน ซื้ออิหร่านได้ รัสเซียจีนก็เหนื่อย อาจถึงจบเกม ถ้าอเมริกาซื้อไม่ได้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ซาอุดิไปไหนรอด มีทางเดียวคือ ไปทางตะวันออก จับมือกับจีน เกมนี้ ซาอุดิเล่นทันไหม สงสัยตัดสินใจช้าไปหน่อย แต่ยังไม่สายเกินไป อเมริกาไม่เคยนึกถึงจิตใจใครจริงๆ เวลาที่อเมริกาจะถีบหัวทิ้งหรอก เพราะสัมพันธ์ของอเมริกา ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์เท่านั้น อาจจะมียกเว้นกับกลุ่ม Anglo Saxon ด้วยกัน โดยเฉพาะอังกฤษเท่านั้น สำหรับเราๆ ก็คอยจับตาดู ถ้าอเมริกาคิดเล่นเกมนี้ และอิหร่านไม่เอาด้วย รับรอง ดอกเห็ดบานเร็วแน่ แต่ถ้าอิหร่านเอาด้วย เราก็คงลงต้องรู และคงไม่โผล่หัวอีกเลย เพรา ถ้าอเมริกาซื้ออิหร่านได้ กระดูกอ่อนๆ อย่างสมันน้อย จะเหลืออะไร แต่ถ้าจะให้ดี อิหร่านก็ไม่เอาอเมริกา และซาอุดิอารเบียก็รู้สึกเบื่อกับ marriage for covenience ที่อีกฝ่าย ชักจะเล่นเล่ห์หันเหไปทางอื่นมากกว่า ก็น่าลองมาเริ่มใช้ชีวิตใหม่ ด้วยการคบเพื่อนใหม่ และถีบเตียงเก่าทิ้งเสียด้วย แต่สงสัยว่า ผมคงฝันดีเกินไป ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 มค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อภิสิทธิ์“ เผย ส.ส.บางส่วนแจ้งเตรียมไม่ร่วมทีมต่อ ยันเป็นสุภาพบุรุษพอ เข้าใจดี ไม่ถือเป็นอุปสรรคมั่นใจเดินหน้าฟื้นพรรค พร้อมสรรหาผู้สมัครลงสนามแข่งกับเวลาชูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโตยั่งยืน ยกเครื่องเกษตรลดเหลื่อมล้ำ สู่เศรษฐกิจสีเขียวและดิจิทัล ลั่นจะทำให้การเมืองกลับมาแก้ปัญหาประชาชนจริง ไม่ใช่เวทีต่อรองผลประโยชน์

    เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลา 10.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่ได้รับเลือกเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เราต้องรอการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนทํางานอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าเรามีเวลามันน้อยมาก สําหรับเรื่องหลักที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือ 1.นโยบาย เพราะสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ คือ 1.ต้องสร้างความหวังให้ประชาชนให้ได้ หัวใจหลักของนโยบายของพรรคนั้น เรายืนยันว่ามีสิ่งดีๆ และความคิดดีๆ มากมาย แต่วันนี้ประเทศไทยจะยังทําไม่ได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่โต เพราะเศรษฐกิจไทยติดหล่มมานานแล้ว เพราะฉะนั้น แนวคิดที่เราจะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงการยกเครื่องภาคการเกษตร การทําให้เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงลดความเหลื่อมล้ํา ลดการผูกขาด จะเป็นเรื่องที่เราต้องเร่งผลักดัน โดยได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเรามีการตั้งโจทย์ให้กับผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้ว่าประเทศไทยต้องการอะไรจากการเมือง ซึ่งกระบวนการดังกล่าว นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นี้จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนโยบายของพรรค

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000100055

    #MGROnline #พรรคประชาธิปัตย์
    “อภิสิทธิ์“ เผย ส.ส.บางส่วนแจ้งเตรียมไม่ร่วมทีมต่อ ยันเป็นสุภาพบุรุษพอ เข้าใจดี ไม่ถือเป็นอุปสรรคมั่นใจเดินหน้าฟื้นพรรค พร้อมสรรหาผู้สมัครลงสนามแข่งกับเวลาชูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโตยั่งยืน ยกเครื่องเกษตรลดเหลื่อมล้ำ สู่เศรษฐกิจสีเขียวและดิจิทัล ลั่นจะทำให้การเมืองกลับมาแก้ปัญหาประชาชนจริง ไม่ใช่เวทีต่อรองผลประโยชน์ • เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลา 10.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ที่ได้รับเลือกเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เราต้องรอการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนทํางานอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าเรามีเวลามันน้อยมาก สําหรับเรื่องหลักที่ได้พูดคุยกันในวันนี้ คือ 1.นโยบาย เพราะสิ่งสําคัญที่สุดในการทํางานของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ คือ 1.ต้องสร้างความหวังให้ประชาชนให้ได้ หัวใจหลักของนโยบายของพรรคนั้น เรายืนยันว่ามีสิ่งดีๆ และความคิดดีๆ มากมาย แต่วันนี้ประเทศไทยจะยังทําไม่ได้ ถ้าเศรษฐกิจไม่โต เพราะเศรษฐกิจไทยติดหล่มมานานแล้ว เพราะฉะนั้น แนวคิดที่เราจะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตซึ่งจะเกี่ยวพันไปถึงการยกเครื่องภาคการเกษตร การทําให้เศรษฐกิจไทยไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงลดความเหลื่อมล้ํา ลดการผูกขาด จะเป็นเรื่องที่เราต้องเร่งผลักดัน โดยได้มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความคิดเห็นกับเรา ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเรามีการตั้งโจทย์ให้กับผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้ว่าประเทศไทยต้องการอะไรจากการเมือง ซึ่งกระบวนการดังกล่าว นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นี้จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนโยบายของพรรค • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000100055 • #MGROnline #พรรคประชาธิปัตย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 8
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 8

    ในการทำสงคราม สิ่งสำคัญที่จะตัดสินแพ้ชนะกันคือ ยุทธศาสตร์ของแต่ละฝ่าย ซึ่งเราคงไม่สามารถจะไปรู้ได้ แต่ในการวางยุทธศาสตร์ มันก็คล้ายกับการเขียนบทละครและกำกับการแสดง ซึ่งจะต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ ยวข้อง เช่น ความสามารถของตัวละคร ฉากประกอบ งบประมาณ และองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะเอามาใช้ในการแสดงว่า ปัจจัยที่มีอยู่เหมาะสมกับการวางยุทธศาสตร์นั้นๆแค่ไหน ยุทธศาสตร์จะดีเลิศอย่างไร แต่ถ้าปัจจัยมันไม่เอื้อ มันก็ไม่แน่ว่าจะชนะใส หรืออาจจะชนะ แต่แบบหืดขึ้นคอก็เป็นได้

    สำหรับคู่ชิงสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เปิดหน้าเปิดตัวกันชัดเจนแล้วคือ อเมริกากับพวกฝ่ายหนึ่งและ รัสเซียกับพวก อีกฝ่ายหนึ่ง

    แม้เราจะไม่รู้ยุทธศาสตร์ หรือรู้ว่าบทละครชิงโลกของแต่ละฝ่าย ว่าจะเดินกันอย่างไร แต่มันก็พอมีหลายปัจจัยของแต่ละฝ่าย ที่เป็นส่วนสำคัญที่ฝ่ายวางยุทธศาสตร์เขาก็ต้องนำมาพิจารณา และเราก็น่าจะพอตามดูและประเมินได้ระดับหนึ่ง คือ

    – พันธมิตร
    – สภาพเศรษฐกิจ
    – กำลังอาวุธยุโธปกรณ์ ทั้งด้าน hardware และ software
    – กำลังพล ทั้งในระบบ และนอกระบบ

    สำหรับปัจจัยเกี่ยวกับพันธมิตร ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นมา การแบ่งค่าย แบ่งข้าง โดยความสมัครใจ หรือโดยการหักแขนล๊อกคอก็ตาม ต่างทำกันอย่างชัดเจน แทบไม่เหลือให้เดามาก แต่ละฝายคงคาดการณ์รู้กันเองแล้วว่า เวลาออกโรงแสดงฉากใหญ่ น่าจะใกล้เข้ามาทุกที ถึงมีการแจกบทให้แสดงกันอย่างเปิดเผย

    ดูตัวอย่างเล็กๆน้อยๆจากการ ประชุม APEC เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ที่แดนมังกร และการประชุม G20 ที่แดนจิงโจ้ ในกลางเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 นี่ก็แล้วกันเป็นการแสดงที่เห็นชัด ถึงการแบ่งพวกของ คู่ชิงศึกสงครามโลกชัดเจนดี
    ที่แดนมังกร ตัวละครเอก ผู้นำของแต่ละฝ่าย นายโอบามาและนายปูติน มีการเผชิญหน้ากันจังๆ แต่สื่อรายงานว่า นายโอบามา พยายามเลี่ยงนายปูตินอย่างเห็นชัด เลี่ยงทำไม ทำให้มองไม่เห็นความองอาจผ่าเผยของผู้นำฝ่ายอเมริกา แถมหน้าตาท่าทางของท่านผู้นำอเมริกา ก็เหมือนคนไปกินยาผิดมา ทั้งหมอง ทั้งหม่น ราศรีพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ไม่รู้หล่นไปไหนหมด

    ส่วนนายปูตินเดินอาดๆมาเข้าฉาก หลังจากแสดงบทสุภาพบุรุษคลุมไหล่คุณนายสีแล้ว ก็โดดมาเล่นบทตบไหล่ฝ่ายตรงข้าม เหมือนเป็นการทักทาย หรือท้าทาย ไม่แน่ใจ แต่นายโอบามาดันเอียงหลบ ยกแรกแสดงแบบนี้ นายปูตินก็น่าจะได้คะแนนนำ ส่วนนายโอบามา ถ้าพวกพันธมิตรลูกหาบ เห็นทั้ง โหงวเฮ้งและการแสดงเปิดตัวของลูกพี่แล้ว อาจเหนื่อยใจ แทน แทบไม่อยากไปเข้าฉากรบด้วย

    ส่วนมังกรเจ้าถิ่น ทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดูเหมือนกำลังดี แต่ตอนท้ายก็เปิดไต๋ แสดงตัวว่าเป็นคนรักเพื่อนแบบไม่กลัวถูกนินทา เวลาถ่ายรูปหมู่ จัดให้นายโอบามาไปยืนเสียไกลเกือบตกเฟรม ส่วนนายปูตินเอามายืนทำหน้าหล่ออยู่ติดกับเจ้าภาพ ให้มันรู้กันว่า คู่นี้เขารักจริง ไม่ทิ้งกันยามยาก

    ส่วนที่แดนจิงโจ้ ก็ตรงกันข้าม ทีใครทีมัน กลุ่มเจ้าภาพไม่เล่นบทลำเอียงเหมือนที่แดนมังกร มันไม่ถึงใจ แต่หยิบเอาบทผู้ดีรุมตีแขก (แถวบ้านผมเขาเรียกหมาหมู่ครับ) มา รับรองนายปูติน ไล่มาตั้งแต่เจ้าภาพ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แต่เยี่ยมสุดน่าจะได้รางวัลจากอเมริกา คือนายกรัฐมนตรีแคนาดาที่บอกว่า ผมคงต้องจับมือกับคุณกระมัง ปูติน แต่จะให้ดีรัสเซียควรจะออกไปจากไปUkraine ได้แล้ว กลุ่ม Anglo Saxon ช่วยกันแจกคำด่ารัสเซียเป็นของชำร่วย เป็นการต้อน มากกว่ารับนายปูติน

    ขนาดสื่อเรียกการประชุมนี้ว่า G20-1 เหมือนไม่เห็นหัวรัสเซียว่าเป็นสมาชิกด้วย

    นายปูตินก็ใช่เล่นที่ไหน ไม่ไปเข้าประชุมตัวเปล่า หอบเอาเรือรบบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ไปด้วย 4 ลำ อ้างว่า มีข่าวกรองมา ว่าจะมีการต้อนรับจัดเต็มแบบพิเศษจากใครก็ไม่รู้ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่เรื่องแบบนี้ประมาทไม่ได้ เอาชื่อไปทิ้งแถวแดนจิงโจ้คงไม่เท่ห์นัก ยังไม่ได้เริ่มเล่นบทพระเอกในสงครามชิงโลกกันเลย

    แต่ดูๆไปแล้ว เหมือนนายปูตินตั้งใจยียวน ก๊วน อเมริกากับพวกมากกว่า นายปูตินน่าจะกำลังส่งสัญญาณว่า ไม่ใช่แค่พร้อมสู้กับการรุมกินโต๊ะของอเมริกาและพวกเท่านั้นนะ เข้าใจไหม…!? มันเป็นการยกระดับการส่งสัญญาณของรัสเซีย !

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 ธค. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 8 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 8 ในการทำสงคราม สิ่งสำคัญที่จะตัดสินแพ้ชนะกันคือ ยุทธศาสตร์ของแต่ละฝ่าย ซึ่งเราคงไม่สามารถจะไปรู้ได้ แต่ในการวางยุทธศาสตร์ มันก็คล้ายกับการเขียนบทละครและกำกับการแสดง ซึ่งจะต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ ยวข้อง เช่น ความสามารถของตัวละคร ฉากประกอบ งบประมาณ และองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะเอามาใช้ในการแสดงว่า ปัจจัยที่มีอยู่เหมาะสมกับการวางยุทธศาสตร์นั้นๆแค่ไหน ยุทธศาสตร์จะดีเลิศอย่างไร แต่ถ้าปัจจัยมันไม่เอื้อ มันก็ไม่แน่ว่าจะชนะใส หรืออาจจะชนะ แต่แบบหืดขึ้นคอก็เป็นได้ สำหรับคู่ชิงสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เปิดหน้าเปิดตัวกันชัดเจนแล้วคือ อเมริกากับพวกฝ่ายหนึ่งและ รัสเซียกับพวก อีกฝ่ายหนึ่ง แม้เราจะไม่รู้ยุทธศาสตร์ หรือรู้ว่าบทละครชิงโลกของแต่ละฝ่าย ว่าจะเดินกันอย่างไร แต่มันก็พอมีหลายปัจจัยของแต่ละฝ่าย ที่เป็นส่วนสำคัญที่ฝ่ายวางยุทธศาสตร์เขาก็ต้องนำมาพิจารณา และเราก็น่าจะพอตามดูและประเมินได้ระดับหนึ่ง คือ – พันธมิตร – สภาพเศรษฐกิจ – กำลังอาวุธยุโธปกรณ์ ทั้งด้าน hardware และ software – กำลังพล ทั้งในระบบ และนอกระบบ สำหรับปัจจัยเกี่ยวกับพันธมิตร ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นมา การแบ่งค่าย แบ่งข้าง โดยความสมัครใจ หรือโดยการหักแขนล๊อกคอก็ตาม ต่างทำกันอย่างชัดเจน แทบไม่เหลือให้เดามาก แต่ละฝายคงคาดการณ์รู้กันเองแล้วว่า เวลาออกโรงแสดงฉากใหญ่ น่าจะใกล้เข้ามาทุกที ถึงมีการแจกบทให้แสดงกันอย่างเปิดเผย ดูตัวอย่างเล็กๆน้อยๆจากการ ประชุม APEC เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ที่แดนมังกร และการประชุม G20 ที่แดนจิงโจ้ ในกลางเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 นี่ก็แล้วกันเป็นการแสดงที่เห็นชัด ถึงการแบ่งพวกของ คู่ชิงศึกสงครามโลกชัดเจนดี ที่แดนมังกร ตัวละครเอก ผู้นำของแต่ละฝ่าย นายโอบามาและนายปูติน มีการเผชิญหน้ากันจังๆ แต่สื่อรายงานว่า นายโอบามา พยายามเลี่ยงนายปูตินอย่างเห็นชัด เลี่ยงทำไม ทำให้มองไม่เห็นความองอาจผ่าเผยของผู้นำฝ่ายอเมริกา แถมหน้าตาท่าทางของท่านผู้นำอเมริกา ก็เหมือนคนไปกินยาผิดมา ทั้งหมอง ทั้งหม่น ราศรีพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ไม่รู้หล่นไปไหนหมด ส่วนนายปูตินเดินอาดๆมาเข้าฉาก หลังจากแสดงบทสุภาพบุรุษคลุมไหล่คุณนายสีแล้ว ก็โดดมาเล่นบทตบไหล่ฝ่ายตรงข้าม เหมือนเป็นการทักทาย หรือท้าทาย ไม่แน่ใจ แต่นายโอบามาดันเอียงหลบ ยกแรกแสดงแบบนี้ นายปูตินก็น่าจะได้คะแนนนำ ส่วนนายโอบามา ถ้าพวกพันธมิตรลูกหาบ เห็นทั้ง โหงวเฮ้งและการแสดงเปิดตัวของลูกพี่แล้ว อาจเหนื่อยใจ แทน แทบไม่อยากไปเข้าฉากรบด้วย ส่วนมังกรเจ้าถิ่น ทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดูเหมือนกำลังดี แต่ตอนท้ายก็เปิดไต๋ แสดงตัวว่าเป็นคนรักเพื่อนแบบไม่กลัวถูกนินทา เวลาถ่ายรูปหมู่ จัดให้นายโอบามาไปยืนเสียไกลเกือบตกเฟรม ส่วนนายปูตินเอามายืนทำหน้าหล่ออยู่ติดกับเจ้าภาพ ให้มันรู้กันว่า คู่นี้เขารักจริง ไม่ทิ้งกันยามยาก ส่วนที่แดนจิงโจ้ ก็ตรงกันข้าม ทีใครทีมัน กลุ่มเจ้าภาพไม่เล่นบทลำเอียงเหมือนที่แดนมังกร มันไม่ถึงใจ แต่หยิบเอาบทผู้ดีรุมตีแขก (แถวบ้านผมเขาเรียกหมาหมู่ครับ) มา รับรองนายปูติน ไล่มาตั้งแต่เจ้าภาพ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แต่เยี่ยมสุดน่าจะได้รางวัลจากอเมริกา คือนายกรัฐมนตรีแคนาดาที่บอกว่า ผมคงต้องจับมือกับคุณกระมัง ปูติน แต่จะให้ดีรัสเซียควรจะออกไปจากไปUkraine ได้แล้ว กลุ่ม Anglo Saxon ช่วยกันแจกคำด่ารัสเซียเป็นของชำร่วย เป็นการต้อน มากกว่ารับนายปูติน ขนาดสื่อเรียกการประชุมนี้ว่า G20-1 เหมือนไม่เห็นหัวรัสเซียว่าเป็นสมาชิกด้วย นายปูตินก็ใช่เล่นที่ไหน ไม่ไปเข้าประชุมตัวเปล่า หอบเอาเรือรบบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ไปด้วย 4 ลำ อ้างว่า มีข่าวกรองมา ว่าจะมีการต้อนรับจัดเต็มแบบพิเศษจากใครก็ไม่รู้ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่เรื่องแบบนี้ประมาทไม่ได้ เอาชื่อไปทิ้งแถวแดนจิงโจ้คงไม่เท่ห์นัก ยังไม่ได้เริ่มเล่นบทพระเอกในสงครามชิงโลกกันเลย แต่ดูๆไปแล้ว เหมือนนายปูตินตั้งใจยียวน ก๊วน อเมริกากับพวกมากกว่า นายปูตินน่าจะกำลังส่งสัญญาณว่า ไม่ใช่แค่พร้อมสู้กับการรุมกินโต๊ะของอเมริกาและพวกเท่านั้นนะ เข้าใจไหม…!? มันเป็นการยกระดับการส่งสัญญาณของรัสเซีย ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 ธค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุภาพบุรุษการเมือง! ‘หิมาลัย’ โพสต์ชม ‘พีระพันธุ์’ เข้าใจเหตุผลการลาออก พร้อมขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
    https://www.thai-tai.tv/news/21360/
    .
    #ไทยไท #ดรหิมาลัยผิวพรรณ #ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า #พรรครวมไทยสร้างชาติ #พรรคกล้าธรรม #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    สุภาพบุรุษการเมือง! ‘หิมาลัย’ โพสต์ชม ‘พีระพันธุ์’ เข้าใจเหตุผลการลาออก พร้อมขอบคุณสำหรับทุกอย่าง https://www.thai-tai.tv/news/21360/ . #ไทยไท #ดรหิมาลัยผิวพรรณ #ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า #พรรครวมไทยสร้างชาติ #พรรคกล้าธรรม #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย
    คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย
    วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ
    ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ
    อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่
    มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555
    เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่
    ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก
    แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม
    คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน)
    ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์
    หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย !

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่ มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555 เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่ ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน) ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์ หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะ IOT ลงพื้นที่ดูความเสียหาย รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ถล่ม ก่อนดูจุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดช่องจุ๊ปตะโมก ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียเผยได้ข้อมูลคาดไม่ถึงหลายอย่าง ชมทหารไทยเป็นสุภาพบุรุษ แต่ฝั่งโน้นไม่เป้ฯมืออาชีพ เผยทหารเขมรป่วนช่องอานม้าเมื่อวานดทรขอโทษแล้ว อ้างเมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079367

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    คณะ IOT ลงพื้นที่ดูความเสียหาย รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ถล่ม ก่อนดูจุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดช่องจุ๊ปตะโมก ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียเผยได้ข้อมูลคาดไม่ถึงหลายอย่าง ชมทหารไทยเป็นสุภาพบุรุษ แต่ฝั่งโน้นไม่เป้ฯมืออาชีพ เผยทหารเขมรป่วนช่องอานม้าเมื่อวานดทรขอโทษแล้ว อ้างเมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079367 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารไทยล้อมรั้ว...#กัมพูชามันก็มารื้อออกแบบนี้ถ้าเป็นเวียดนาม,ลาว "เขมรมันคงได้ไปเฝ้ารากมะม่วงแล้ว#ทหารไทยคะคำว่าสุภาพบุรุษใช้ไม่ได้กับคนประเทศนี้นะคะ ต้องสอย
    ทหารไทยล้อมรั้ว...#กัมพูชามันก็มารื้อออกแบบนี้ถ้าเป็นเวียดนาม,ลาว "เขมรมันคงได้ไปเฝ้ารากมะม่วงแล้ว💀#ทหารไทยคะคำว่าสุภาพบุรุษใช้ไม่ได้กับคนประเทศนี้นะคะ ต้องสอย
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สงครามระหว่าง ไทย - เขมร รอบนี้ (2568) ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขมรถึงกล้ารบกับไทย ทั้งที่รู้กันทั่วโลกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ เทียบกับไม่ติด ถ้ามองแบบกลยุทธ์ซุมวู ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะไทยตอนนี้มองจากภายนอกเข้ามา อ่อนแออย่างน่าตกใจ ในกลยุทธ์ซุนวู รัฐที่เข้มแข็งคือรัฐที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง แต่ไทยมีความแตกแยกอย่างมาก ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล ผู้มีอำนาจในรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมรที่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีเทา หรือผลประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนี้เขมรเพิ่งเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงตกต่ำ ไม่มีอะไรจะหอมหวานเท่าแอ่งทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-เขมร วิธีที่จะทำให้คะแนนนิยมผู้นำเขมรเพิ่มขึ้นไม่มีอะไรดีไปกว่า การเปลี่ยนแนวเขตแดนทางบก เพื่อให้ได้พื้นที่ทางทะเลเพิ่มชึ้น

    แต่การจะเปิดสงครามกับไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย จีนที่สนับสนุนด้านเศรษฐกิจเขมรมาอย่างยาวนาน ไม่มีทางที่จะเอาด้วยกับการที่จะเป็นศัตรูกับไทย เพราะภูมิรัฐศาสตร์ของไทยมีความสำคัญกับจีนอย่างมาก ตัวเลือกสุดท้ายจึงไปตกที่สหรัฐ ที่พร้อมจะเข้ามาแทรกแซงในพื้นที่ยุทธศาสตร์นี้อยู่แล้วสำหรับการปิดล้อมจีน และทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเล การหักหลังจีนของเขมรจึงเป็นการเล่นไพ่แบบเกหมดหน้าตัก เขมรจึงไม่สนใจหน้าในเวทีโลก เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีใครหนุนหลัง การกุข่าวลวง การโจมตีพลเรือน-โรงพยาบาล การตั้งฐานทัพในที่โบราณสถาน จึงมีออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง

    ไทยเองก็ผิดพลาดทางการทูตและด้านยุทธศาสตร์ การมีอยู่ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่รุ้ว่ามีหรือไม่มีจะดีกว่ากัน เพราะครั้นเมื่อเขมรโจมตีพลเรือนไทยและโรงพบาบาล สิ่งที่ไทยต้องทำคือ ออกแถลงการณ์ประนาณเขมร พร้อมทั้งประกาศให้โลกรู้ว่าไทยจะตอบสนองอย่างหนัก เพราะการสูญเสียพลเมืองไทย เป็นสิ่งที่ไทยรับไม่ได้ แล้วจึงปฎิบัติการทางการทหาร โดยให้กองทัพภาคที่ 2 ทำการตรึงกำลัง และผลักดันเขมรออกจากแนวเขตแดน โดยทำทีโจมที่ในส่วนพื้นที่ของทัพภาคที่ 2 แต่ส่งกองทัพเรือ รวมถึงกองทัพภาคที่ 1 โจมตีแบบสายฟ้าแล่บและอย่างหนัก เพื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิล เพื่อเปลี่ยนแนวเขตแดนทางทะเล เพื่อเป็นการแก้เกมเขมร โดยที่เมื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิลได้ ก็ออกแถลงการณ์ให้เขมรเจรจาหยุดยิง ถ้าเขมรยังไม่หยุด ก็ให้เคลื่อนกำลังทัพภาคที่ 2 เข้ายึด พระตระบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และประกาศถ้าเขมรยังไม่ยอมแพ้ จะกินดินแดนจนถึงพนมเปญ

    การที่ไทยต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ โดยแลกมาด้วยชีวิตทหาร เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย นอกจากนี้การที่ไทยพยายามจะเป็นคนดีในสายตาโลก ทั้งๆที่สหประชาชาติไม่เคยเป็นกลาง มี hidden agenda ตามชาติมหาอำนาจอยู่ตลอดเวลา ไทยจึงเหมือนคนอ่อนต่อโลก เหมือนที่เดินไปให้เขาเชือดในศาลโลก เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไทยต้องทำสงครามสั่งสอนเขมร มิฉะนั้น ก็ต้องมีการยิงกัน และสูญเสียคนไทย อยู่ร่ำไป แต่หากไทยยังคงอ่อนแอด้วยการเมืองภายใน และมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์เหมือนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องยากที่ไทยจะรอดจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรงชึ้นเรื่อยๆ คงได้แต่หวังพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง สาธุ.........
    สงครามระหว่าง ไทย - เขมร รอบนี้ (2568) ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขมรถึงกล้ารบกับไทย ทั้งที่รู้กันทั่วโลกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ เทียบกับไม่ติด ถ้ามองแบบกลยุทธ์ซุมวู ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะไทยตอนนี้มองจากภายนอกเข้ามา อ่อนแออย่างน่าตกใจ ในกลยุทธ์ซุนวู รัฐที่เข้มแข็งคือรัฐที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง แต่ไทยมีความแตกแยกอย่างมาก ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล ผู้มีอำนาจในรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมรที่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีเทา หรือผลประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนี้เขมรเพิ่งเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงตกต่ำ ไม่มีอะไรจะหอมหวานเท่าแอ่งทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-เขมร วิธีที่จะทำให้คะแนนนิยมผู้นำเขมรเพิ่มขึ้นไม่มีอะไรดีไปกว่า การเปลี่ยนแนวเขตแดนทางบก เพื่อให้ได้พื้นที่ทางทะเลเพิ่มชึ้น แต่การจะเปิดสงครามกับไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย จีนที่สนับสนุนด้านเศรษฐกิจเขมรมาอย่างยาวนาน ไม่มีทางที่จะเอาด้วยกับการที่จะเป็นศัตรูกับไทย เพราะภูมิรัฐศาสตร์ของไทยมีความสำคัญกับจีนอย่างมาก ตัวเลือกสุดท้ายจึงไปตกที่สหรัฐ ที่พร้อมจะเข้ามาแทรกแซงในพื้นที่ยุทธศาสตร์นี้อยู่แล้วสำหรับการปิดล้อมจีน และทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเล การหักหลังจีนของเขมรจึงเป็นการเล่นไพ่แบบเกหมดหน้าตัก เขมรจึงไม่สนใจหน้าในเวทีโลก เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีใครหนุนหลัง การกุข่าวลวง การโจมตีพลเรือน-โรงพยาบาล การตั้งฐานทัพในที่โบราณสถาน จึงมีออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง ไทยเองก็ผิดพลาดทางการทูตและด้านยุทธศาสตร์ การมีอยู่ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่รุ้ว่ามีหรือไม่มีจะดีกว่ากัน เพราะครั้นเมื่อเขมรโจมตีพลเรือนไทยและโรงพบาบาล สิ่งที่ไทยต้องทำคือ ออกแถลงการณ์ประนาณเขมร พร้อมทั้งประกาศให้โลกรู้ว่าไทยจะตอบสนองอย่างหนัก เพราะการสูญเสียพลเมืองไทย เป็นสิ่งที่ไทยรับไม่ได้ แล้วจึงปฎิบัติการทางการทหาร โดยให้กองทัพภาคที่ 2 ทำการตรึงกำลัง และผลักดันเขมรออกจากแนวเขตแดน โดยทำทีโจมที่ในส่วนพื้นที่ของทัพภาคที่ 2 แต่ส่งกองทัพเรือ รวมถึงกองทัพภาคที่ 1 โจมตีแบบสายฟ้าแล่บและอย่างหนัก เพื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิล เพื่อเปลี่ยนแนวเขตแดนทางทะเล เพื่อเป็นการแก้เกมเขมร โดยที่เมื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิลได้ ก็ออกแถลงการณ์ให้เขมรเจรจาหยุดยิง ถ้าเขมรยังไม่หยุด ก็ให้เคลื่อนกำลังทัพภาคที่ 2 เข้ายึด พระตระบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และประกาศถ้าเขมรยังไม่ยอมแพ้ จะกินดินแดนจนถึงพนมเปญ การที่ไทยต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ โดยแลกมาด้วยชีวิตทหาร เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย นอกจากนี้การที่ไทยพยายามจะเป็นคนดีในสายตาโลก ทั้งๆที่สหประชาชาติไม่เคยเป็นกลาง มี hidden agenda ตามชาติมหาอำนาจอยู่ตลอดเวลา ไทยจึงเหมือนคนอ่อนต่อโลก เหมือนที่เดินไปให้เขาเชือดในศาลโลก เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไทยต้องทำสงครามสั่งสอนเขมร มิฉะนั้น ก็ต้องมีการยิงกัน และสูญเสียคนไทย อยู่ร่ำไป แต่หากไทยยังคงอ่อนแอด้วยการเมืองภายใน และมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์เหมือนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องยากที่ไทยจะรอดจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรงชึ้นเรื่อยๆ คงได้แต่หวังพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง สาธุ.........
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 981 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มาริษ" เผยส่งหนังสือประท้วงพร้อมหลักฐานกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงถึงอาเซียน-มาเลเซีย-สหรัฐฯ-จีน-ทูต UN รับทราบแล้ว ลั่น! ไทยยังมีสิทธิตอบโต้ตามสัดส่วน มั่นใจการบิดเบือนไม่สามารถเอาชนะได้ ลั่น! ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยความสุภาพบุรุษ - ไม่ยอมเสียอธิปไตย-บูรณภาพแห่งดินแดน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071663

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    "มาริษ" เผยส่งหนังสือประท้วงพร้อมหลักฐานกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงถึงอาเซียน-มาเลเซีย-สหรัฐฯ-จีน-ทูต UN รับทราบแล้ว ลั่น! ไทยยังมีสิทธิตอบโต้ตามสัดส่วน มั่นใจการบิดเบือนไม่สามารถเอาชนะได้ ลั่น! ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยความสุภาพบุรุษ - ไม่ยอมเสียอธิปไตย-บูรณภาพแห่งดินแดน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071663 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 623 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ถอยทัพกลับไปก็ดีแล้ว​ ละแวกก็หอกข้างแคร่​ ดีร้ายจะลอบตลบหลัง​ เราทีเผลอ คราวพลาด​ ”
    "เสธ.เบิร์ด" พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพไทย พูดบทในภาพยนตร์​ ช่วงพระยาละแวก

    นอกจากนี้ พลตรีวันชนะ ยังกล่าวว่า จากเหตุการวางทุ่นระเบิด ยืนยันว่าเป็นระเบิดที่วางใหม่แน่นอนและมีการลอบเข้ามาวางในเขตอธิปไตยของไทยแน่นอน ในห้วงที่ทหารกัมพูชา ล้ำแดนไทย อธิปไตยไทยเข้ามาวางกำลังและขุดคูเลต จากนั้นได้มีการวางระเบิดไว้ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปหลังการเจรจา เป็นการกระทำที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น แบบสุภาพบุรุษ ของทหารทำกับทหาร เพราะไม่ใช่เกิดผลกระทบต่อทหารเท่านั้น แต่กระทบต่อพี่น้องประชาชนที่อาจเข้ามาใช้พื้นที่ในการทำมาหากิน ด้วย

    เครดิตคลิป : Wassana Nanuam
    https://www.facebook.com/share/v/16qQm4Ver5/
    “ถอยทัพกลับไปก็ดีแล้ว​ ละแวกก็หอกข้างแคร่​ ดีร้ายจะลอบตลบหลัง​ เราทีเผลอ คราวพลาด​ ” "เสธ.เบิร์ด" พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพไทย พูดบทในภาพยนตร์​ ช่วงพระยาละแวก นอกจากนี้ พลตรีวันชนะ ยังกล่าวว่า จากเหตุการวางทุ่นระเบิด ยืนยันว่าเป็นระเบิดที่วางใหม่แน่นอนและมีการลอบเข้ามาวางในเขตอธิปไตยของไทยแน่นอน ในห้วงที่ทหารกัมพูชา ล้ำแดนไทย อธิปไตยไทยเข้ามาวางกำลังและขุดคูเลต จากนั้นได้มีการวางระเบิดไว้ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปหลังการเจรจา เป็นการกระทำที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น แบบสุภาพบุรุษ ของทหารทำกับทหาร เพราะไม่ใช่เกิดผลกระทบต่อทหารเท่านั้น แต่กระทบต่อพี่น้องประชาชนที่อาจเข้ามาใช้พื้นที่ในการทำมาหากิน ด้วย เครดิตคลิป : Wassana Nanuam https://www.facebook.com/share/v/16qQm4Ver5/
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "อนุทิน" สวน "ทักษิณ" ลั่น "หัวไม่ล้านจะน้อยใจอะไร" เมินคำเหน็บ หลังถูกกล่าวหาไม่เป็นสุภาพบุรุษ
    https://www.thai-tai.tv/news/20470/
    .
    #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ภูมิใจไทย #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย #สุภาพบุรุษ #ความสามัคคี #คำเหน็บแนม #พูดแล้วทำ #เลือกตั้งครั้งหน้า

    "อนุทิน" สวน "ทักษิณ" ลั่น "หัวไม่ล้านจะน้อยใจอะไร" เมินคำเหน็บ หลังถูกกล่าวหาไม่เป็นสุภาพบุรุษ https://www.thai-tai.tv/news/20470/ . #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ภูมิใจไทย #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย #สุภาพบุรุษ #ความสามัคคี #คำเหน็บแนม #พูดแล้วทำ #เลือกตั้งครั้งหน้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อย่าทิ้งความฝัน เพียงเพราะรู้สึกว่าอยู่ไกล ถ้าไม่ลองเดินจะรู้ได้อย่างไรว่า…ไกลแค่ไหน”
    #สุภาพบุรุษเกียกกาย
    “อย่าทิ้งความฝัน เพียงเพราะรู้สึกว่าอยู่ไกล ถ้าไม่ลองเดินจะรู้ได้อย่างไรว่า…ไกลแค่ไหน” #สุภาพบุรุษเกียกกาย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ภาค2 .. E:\- m1 ภาค ส่ง
    ตั้งพรรค “การเมืองใหม่” ตามครรลองฯสู่การเลือกตั้ง “ชิงอำนาจรัฐของประชาชนคืนมา”
    อำนาจรัฐ คืออำนาจครองเมือง ผู้ใดยึดได้ ผู้นั้น ก็ได้อำนาจยึดครองบ้านเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองก็ได้โอกาสกอบโกย
    ทุกวันนี้จึงมีแต่เหล่านักการเมืองแข่งกันเล่นการเมือง ผลัดกันครองเมือง ผลัดกันกอบโกยคอปรัปชั่น จนเกิดความรู้สึก น่าสะอิดสะเอียน-น่ารังเกียจ ต่อการคอปรัปชั่นของภาคประชาชน
    ภาคประชาชนเรามักแสดงตัวสุภาพบุรุษ “ไม่ลงเลือกตั้ง” จะได้ดูดี ที่ไม่ไปแปดเปื้อนอันน่า”สะอิดสเอียนฯ”นั้นๆ
    จึงเป็นโอกาสทองของเหล่านักการเมืองเริงร่าเล่นการเมืองที่ชิงห้ำหั่นกันจนต่างมี ”บ้านใหญ่”เป็นเครื่องมืออำนวยให้ !
    แต่ของเราล่ะ ภาคประชาชนแต่ละอาชีพจะมีอะไรไหม
    แต่ละอาชีพก็มีคนที่เขานับถือ-เชื่อถือเป็นผู้นำโดยธรรมชาติอยู่แล้วนั่นไง ต่างก็ เบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าในทุกวันนี้อยู่แล้ว วันที่22มิถุนา “วันรวมพลังแผ่นดิน” ที่มีมาเป็นคันรถก็มี
    เมื่อมีผู้ที่เป็นหลัก นำสร้าง “พรรคการเมืองใหม่” โดยมีภาพโครงสร้างสังคมยุคใหม่ให้เห็นเป็นทิศที่จะก้าวเดิน เขาก็จะร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่ประสานให้เป็นเอกภาพขึ้นมา
    เมื่อผู้นำร้านค้า ผู้นำแรงงาน ผู้นำเกษต ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา เมื่อตั้งพรรค “การเมืองใหม่”ทันปีนี้ (น่าจะทัน) ก็ลงเลือกตั้งตาม “ครรลอง”การเข้าสู่อำนาจรัฐ ซึ่งแต่ละอาชีพสามารถระดมกลุ่มของเขาซึ่งเป็นประชากรของทั้งประเทศ การลงเลือกตั้งก็ชนะขาดลอย!
    ประเทศไทย ก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ทันที !!! อำนาจรัฐก็จะเป็นของประชาชนทันใด ภาคประชาชนมีอำนาจเต็มที่ ภาคประชาชนกำหนดอนาคตของตัวเองได้

    ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ภาค2 .. E:\- m1 ภาค ส่ง ตั้งพรรค “การเมืองใหม่” ตามครรลองฯสู่การเลือกตั้ง “ชิงอำนาจรัฐของประชาชนคืนมา” อำนาจรัฐ คืออำนาจครองเมือง ผู้ใดยึดได้ ผู้นั้น ก็ได้อำนาจยึดครองบ้านเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองก็ได้โอกาสกอบโกย ทุกวันนี้จึงมีแต่เหล่านักการเมืองแข่งกันเล่นการเมือง ผลัดกันครองเมือง ผลัดกันกอบโกยคอปรัปชั่น จนเกิดความรู้สึก น่าสะอิดสะเอียน-น่ารังเกียจ ต่อการคอปรัปชั่นของภาคประชาชน ภาคประชาชนเรามักแสดงตัวสุภาพบุรุษ “ไม่ลงเลือกตั้ง” จะได้ดูดี ที่ไม่ไปแปดเปื้อนอันน่า”สะอิดสเอียนฯ”นั้นๆ จึงเป็นโอกาสทองของเหล่านักการเมืองเริงร่าเล่นการเมืองที่ชิงห้ำหั่นกันจนต่างมี ”บ้านใหญ่”เป็นเครื่องมืออำนวยให้ ! แต่ของเราล่ะ ภาคประชาชนแต่ละอาชีพจะมีอะไรไหม แต่ละอาชีพก็มีคนที่เขานับถือ-เชื่อถือเป็นผู้นำโดยธรรมชาติอยู่แล้วนั่นไง ต่างก็ เบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าในทุกวันนี้อยู่แล้ว วันที่22มิถุนา “วันรวมพลังแผ่นดิน” ที่มีมาเป็นคันรถก็มี เมื่อมีผู้ที่เป็นหลัก นำสร้าง “พรรคการเมืองใหม่” โดยมีภาพโครงสร้างสังคมยุคใหม่ให้เห็นเป็นทิศที่จะก้าวเดิน เขาก็จะร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่ประสานให้เป็นเอกภาพขึ้นมา เมื่อผู้นำร้านค้า ผู้นำแรงงาน ผู้นำเกษต ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา เมื่อตั้งพรรค “การเมืองใหม่”ทันปีนี้ (น่าจะทัน) ก็ลงเลือกตั้งตาม “ครรลอง”การเข้าสู่อำนาจรัฐ ซึ่งแต่ละอาชีพสามารถระดมกลุ่มของเขาซึ่งเป็นประชากรของทั้งประเทศ การลงเลือกตั้งก็ชนะขาดลอย! ประเทศไทย ก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ทันที !!! อำนาจรัฐก็จะเป็นของประชาชนทันใด ภาคประชาชนมีอำนาจเต็มที่ ภาคประชาชนกำหนดอนาคตของตัวเองได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลขาฯ ปชป.อ้าง “สุภาพบุรุษการเมือง” ทำพรรคจำต้องอยู่ต่อ ไม่ทิ้งเพื่อน แขวะ ภท.ถอนยวงหนีเพราะถูกยึดเก้าอี้ มท.1 แต่กลับอ้างปมขัดแย้งไทย-เขมร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058213

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เลขาฯ ปชป.อ้าง “สุภาพบุรุษการเมือง” ทำพรรคจำต้องอยู่ต่อ ไม่ทิ้งเพื่อน แขวะ ภท.ถอนยวงหนีเพราะถูกยึดเก้าอี้ มท.1 แต่กลับอ้างปมขัดแย้งไทย-เขมร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058213 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Sad
    5
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เสธ.ต๊อด” เชือดนิ่ม ๆ กัมพูชานั่นแหละละเมิด MOU มีภาพถ่ายหลักฐานชัด ชี้ทหารต้องเป็นสุภาพบุรุษพูดแต่เรื่องจริง
    https://www.thai-tai.tv/news/19493/
    “เสธ.ต๊อด” เชือดนิ่ม ๆ กัมพูชานั่นแหละละเมิด MOU มีภาพถ่ายหลักฐานชัด ชี้ทหารต้องเป็นสุภาพบุรุษพูดแต่เรื่องจริง https://www.thai-tai.tv/news/19493/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น

    วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง

    ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น

    ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น

    ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว

    แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่?

    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก)

    ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน)

    แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว

    เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html
    https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN
    https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html
    https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament

    #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่? เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก) ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน) แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 873 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บิ๊กป้อม' สอนมวย กติกาสากลมีไว้ใช้กับสุภาพบุรุษ ชี้เขมรปลุกปั่นป้ายสีไทยเพราะไม่เกรงใจรัฐบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/19238/
    'บิ๊กป้อม' สอนมวย กติกาสากลมีไว้ใช้กับสุภาพบุรุษ ชี้เขมรปลุกปั่นป้ายสีไทยเพราะไม่เกรงใจรัฐบาล https://www.thai-tai.tv/news/19238/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตะหานไทย คุณจะสุภาพบุรุษกับไอ้พระยาระแวกไม่ได้นะโว้ยย
    ตะหานไทย คุณจะสุภาพบุรุษกับไอ้พระยาระแวกไม่ได้นะโว้ยย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก

    Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม

    ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน”

    ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr

    เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน

    รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย

    https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน” ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    Germany to prepare children for war – Handelsblatt
    The newspaper has described a Russian attack on NATO territory as “a realistic scenario,” despite Moscow’s reassurances and peace talks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1375 มุมมอง 0 รีวิว
  • 56 ปี สิ้น “อิศรา อมันตกุล” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก
    ตำนานนักหนังสือพิมพ์ผู้กล้า สู่ต้นแบบนักสื่อสารมวลชนไทย

    รัฐจับขัง 5 ปี ไม่มีสั่งฟ้อง! แต่หัวใจนักข่าวไม่เคยสิ้นไฟ

    ถ้าพูดถึงตำนานนักข่าวไทย ชื่อ “อิศรา อมันตกุล” คงเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะคือผู้ที่ไม่เพียงแต่เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก แต่ยังเป็นนักข่าว นักเขียน และนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตัวจริงเสียงจริง วั

    ย้อนไปในอดีตเมื่อ 56 ปี ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงชายผู้พลิกโฉม วงการสื่อสารมวลชนไทย อย่างแท้จริง "อาจไม่ใช่คนดังในโลกออนไลน์ แต่ในยุคที่ปากกาคืออาวุธ อิศราคือหนึ่งในนักรบผู้ยิ่งใหญ่"

    “อิศรา อมันตกุล” นักหนังสือพิมพ์ที่ชีวิตจริงยิ่งกว่านวนิยาย
    🗓 เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2464
    เชื้อสายมุสลิมอินเดีย จากครอบครัวมูฮัมหมัดซาเลย์ อะมัน และวัน อมรทัต
    จบชั้นประถมจากโรงเรียนบำรุงวิทยา จ.นครปฐม และชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ปี 2479 คะแนนภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของประเทศ

    ชีวิตอิศราไม่ใช่เส้นตรง เริ่มจากครูสอนหนังสือในนครศรีธรรมราช ก่อนที่โชคชะตาจะพากลับสู่เส้นทางของ “นักข่าว”

    นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก บทบาทที่สร้างมาตรฐานวิชาชีพสื่อไทย ในปี พ.ศ. 2499 อิศราได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก และดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 3 สมัย (2499 - 2501)

    ผลงานสำคัญ เปลี่ยนรูปแบบการจัดหน้าหนังสือพิมพ์จาก 7 คอลัมน์เป็น 8 คอลัมน์ วางรากฐานจรรยาบรรณนักข่าวไทย ปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้ต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองก็ตาม "อิศราเชื่อว่า หนังสือพิมพ์คือบันทึกประวัติศาสตร์รายวัน"

    เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย เมื่อ “อิศรา” ต้องติดคุกเกือบ 6 ปี โดยไม่มีการฟ้องร้อง!
    วันที่ 21 ตุลาคม 2501 หลังรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ อิศราในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ บางกอกเดลิเมล์ ถูกจับกุมข้อหาคอมมิวนิสต์
    ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการส่งฟ้อง
    ถูกขัง 5 ปี 10 เดือน

    แม้จะอยู่ในเรือนจำ แต่อิศรายังคงเขียนงานอย่างต่อเนื่อง ใช้นามปากกามากกว่า 10 ชื่อ เช่น
    นายอิสระ
    มะงุมมะงาหรา
    ธนุธร
    ดร.x XYZ

    🗨 "เอ็งติดตะรางเพราะทำงานหนังสือพิมพ์ มันยังโก้กว่าติดตะรางเพราะเป็นหัวไม้" เสียงแม่ที่ยังอยู่ในใจอิศราเสมอ

    ผลงานเด่นในวงการหนังสือพิมพ์ ครอบคลุมทุกแขนงข่าว จนกลายเป็นต้นแบบนักข่าว
    หนังสือพิมพ์ที่อิศราเคยร่วมงาน สุภาพบุรุษ, สุวัณณภูมิ, บางกอกรายวัน, พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว, เอกราช, เดลินิวส์

    อิศราคือผู้ควบคุมการผลิตข่าว สารคดีเชิงข่าว เรื่องแรกของไทย คดีปล้นร้านทองเบ๊ลี่แซ นำไปสร้างเป็นละครเวที และภาพยนตร์ในเวลาต่อมา

    เทคนิคข่าวของอิศรา เน้นความถูกต้อง เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้ "ข่าวไม่ใช่การสร้างสีสัน แต่คือการสะท้อนความจริงของสังคม"

    จุดยืนเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรี ไม่เคยยอมอำนาจรัฐ ไม่รับสินบน ไม่หวั่นคำขู่ อิศราเป็นนักข่าว ที่ไม่ยอมให้นายทุน หรืออำนาจรัฐแทรกแซงสื่อ
    ตรวจสอบทุกแหล่งข่าว
    ไม่ประณามผู้ต้องหาโดยไม่มีหลักฐาน
    ✍ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล

    อิศราเคยกล่าวว่า "หนังสือพิมพ์อาจดูเหมือนกระดาษไร้ค่า แต่ในวันหน้า มันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์"

    นักเขียนนวนิยายที่ตีแผ่สังคมไทย ผลงานที่ฝังลึกในหัวใจคนไทย
    นวนิยาย นักบุญ-คนบาป (2486)
    เรื่องสั้น-นวนิยายกว่า 100 เรื่อง
    🖋 ภาษาเขียนที่สวิงสวาย แตกต่างจากนักเขียนร่วมยุค

    "...ชีพจรของงานเต้นเร็วถี่ขึ้นเป็นลำดับ..."
    "...เสียงซ่าของคลื่นที่ยื่นปากจูบชายหาย..."

    จอมพลสฤษดิ์ กับการปิดปากนักข่าว คุกคือคำตอบของรัฐต่อ “ปากกา” ของอิศรา
    ตุลาคม 2501 รัฐประหาร -> จับนักข่าว นักการเมือง นักวิชาการ รวมถึง กุหลาบ สายประดิษฐ์, สุวัฒน์ วรดิลก และอิศรา อมันตกุล ไม่มีการพิสูจน์ ไม่มีหลักฐาน แต่ถูกขังโดยไม่ไต่สวน

    "นักหนังสือพิมพ์ถูกจับเ พราะเขียนข่าวที่รัฐไม่พอใจ"

    แม้ไร้อิสรภาพ แต่หัวใจยังคงเสรี เขียนหนังสือแม้ในเรือนจำ ใช้หลายนามปากกาเขียนคอลัมน์ และเรื่องสั้น

    แสดงความกล้าหาญในการพูดถึงสังคม
    ปกป้องเสรีภาพผ่านตัวหนังสือ

    "การติดคุกเพราะทำหนังสือพิมพ์ ยังโก้กว่าเป็นหัวไม้!" แม่ของอิศรา

    วาระสุดท้ายที่ไม่สิ้นไฟ ปากกาวาง...แต่คำยังสะท้อนก้อง

    🕯 เสียชีวิต 14 มีนาคม 2512 ด้วยโรคมะเร็งลิ้น อายุ 47 ปี "ผมไม่เสียใจเลย ที่เกิดมาเป็นหนังสือพิมพ์"
    แม้เจ็บป่วยแ ต่ยังเขียนข้อความสั้นๆ ฝากถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพ

    ✒ ปณิธานนักข่าวไม่เคยจางหาย สารจากอิศรา ถึงคนข่าวรุ่นใหม่ "ข้าพเจ้าเป็นคนสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมั่นหมายจะเขียน เฉพาะเรื่องราวของประชาชน เพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความดิ้นรน และความหวังจากประชาชนไปสู่ประชาชน เพราะประชาชนเท่านั้นที่เป็นผู้กำลังต่อสู้ และกำลังทำงานเพื่อสร้างเสรีภาพอันถูกต้อง และศตวรรษแห่งสามัญชน"

    สรุปบทเรียนจากชีวิต “อิศรา อมันตกุล”
    นักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์
    เสรีภาพไม่ใช่ของขวัญจากรัฐ แต่คือสิทธิที่ต้องรักษา
    จรรยาบรรณต้องมาก่อนผลประโยชน์
    ปากกาคืออาวุธ แต่ใจต้องเป็นธรรม

    คำคมจากอิศรา 🖋 "หนังสือพิมพ์คือเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง และนักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์วันต่อวัน"

    “เพราะหนังสือพิมพ์ในวันนี้ คือประวัติศาสตร์ของวันหน้า”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141021 มี.ค. 2568

    #อิศราอมันตกุล #นักข่าวต้นแบบ #เสรีภาพสื่อไทย #สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย #นักหนังสือพิมพ์ในตำนาน #ประวัติศาสตร์ข่าวไทย #ชีวิตอิศรา #นักข่าวสายตรง #นักเขียนเพื่อประชาชน #สื่อเสรีไทย
    56 ปี สิ้น “อิศรา อมันตกุล” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก ตำนานนักหนังสือพิมพ์ผู้กล้า ✊ สู่ต้นแบบนักสื่อสารมวลชนไทย รัฐจับขัง 5 ปี ไม่มีสั่งฟ้อง! แต่หัวใจนักข่าวไม่เคยสิ้นไฟ 📌 ถ้าพูดถึงตำนานนักข่าวไทย ชื่อ “อิศรา อมันตกุล” คงเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะคือผู้ที่ไม่เพียงแต่เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก แต่ยังเป็นนักข่าว นักเขียน และนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตัวจริงเสียงจริง วั 💥 ย้อนไปในอดีตเมื่อ 56 ปี ที่ผ่านมา เพื่อรำลึกถึงชายผู้พลิกโฉม วงการสื่อสารมวลชนไทย อย่างแท้จริง "อาจไม่ใช่คนดังในโลกออนไลน์ แต่ในยุคที่ปากกาคืออาวุธ อิศราคือหนึ่งในนักรบผู้ยิ่งใหญ่" “อิศรา อมันตกุล” นักหนังสือพิมพ์ที่ชีวิตจริงยิ่งกว่านวนิยาย 🗓 เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2464 🏠 เชื้อสายมุสลิมอินเดีย จากครอบครัวมูฮัมหมัดซาเลย์ อะมัน และวัน อมรทัต 🎓 จบชั้นประถมจากโรงเรียนบำรุงวิทยา จ.นครปฐม และชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ปี 2479 คะแนนภาษาอังกฤษอันดับ 1 ของประเทศ ชีวิตอิศราไม่ใช่เส้นตรง เริ่มจากครูสอนหนังสือในนครศรีธรรมราช ก่อนที่โชคชะตาจะพากลับสู่เส้นทางของ “นักข่าว” นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก บทบาทที่สร้างมาตรฐานวิชาชีพสื่อไทย ในปี พ.ศ. 2499 อิศราได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยคนแรก และดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 3 สมัย (2499 - 2501) 💡 ผลงานสำคัญ เปลี่ยนรูปแบบการจัดหน้าหนังสือพิมพ์จาก 7 คอลัมน์เป็น 8 คอลัมน์ วางรากฐานจรรยาบรรณนักข่าวไทย 🌱 ปกป้องสิทธิเสรีภาพสื่อ แม้ต้องแลกด้วยอิสรภาพของตัวเองก็ตาม "อิศราเชื่อว่า หนังสือพิมพ์คือบันทึกประวัติศาสตร์รายวัน" เสรีภาพกับราคาที่ต้องจ่าย เมื่อ “อิศรา” ต้องติดคุกเกือบ 6 ปี โดยไม่มีการฟ้องร้อง! 📆 วันที่ 21 ตุลาคม 2501 หลังรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ อิศราในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ บางกอกเดลิเมล์ ถูกจับกุมข้อหาคอมมิวนิสต์ 🚫 ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการส่งฟ้อง ⏳ ถูกขัง 5 ปี 10 เดือน แม้จะอยู่ในเรือนจำ แต่อิศรายังคงเขียนงานอย่างต่อเนื่อง ใช้นามปากกามากกว่า 10 ชื่อ เช่น ✨ นายอิสระ ✨ มะงุมมะงาหรา ✨ ธนุธร ✨ ดร.x XYZ 🗨 "เอ็งติดตะรางเพราะทำงานหนังสือพิมพ์ มันยังโก้กว่าติดตะรางเพราะเป็นหัวไม้" เสียงแม่ที่ยังอยู่ในใจอิศราเสมอ ผลงานเด่นในวงการหนังสือพิมพ์ ครอบคลุมทุกแขนงข่าว จนกลายเป็นต้นแบบนักข่าว 📰 หนังสือพิมพ์ที่อิศราเคยร่วมงาน สุภาพบุรุษ, สุวัณณภูมิ, บางกอกรายวัน, พิมพ์ไทยเบื้องหลังข่าว, เอกราช, เดลินิวส์ 📍 อิศราคือผู้ควบคุมการผลิตข่าว สารคดีเชิงข่าว เรื่องแรกของไทย คดีปล้นร้านทองเบ๊ลี่แซ นำไปสร้างเป็นละครเวที และภาพยนตร์ในเวลาต่อมา 🎯 เทคนิคข่าวของอิศรา เน้นความถูกต้อง เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้ "ข่าวไม่ใช่การสร้างสีสัน แต่คือการสะท้อนความจริงของสังคม" จุดยืนเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรี ไม่เคยยอมอำนาจรัฐ ไม่รับสินบน ไม่หวั่นคำขู่ อิศราเป็นนักข่าว ที่ไม่ยอมให้นายทุน หรืออำนาจรัฐแทรกแซงสื่อ 💼 ตรวจสอบทุกแหล่งข่าว 🛑 ไม่ประณามผู้ต้องหาโดยไม่มีหลักฐาน ✍ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคล อิศราเคยกล่าวว่า "หนังสือพิมพ์อาจดูเหมือนกระดาษไร้ค่า แต่ในวันหน้า มันคือหลักฐานทางประวัติศาสตร์" นักเขียนนวนิยายที่ตีแผ่สังคมไทย ผลงานที่ฝังลึกในหัวใจคนไทย 📚 นวนิยาย นักบุญ-คนบาป (2486) 🎭 เรื่องสั้น-นวนิยายกว่า 100 เรื่อง 🖋 ภาษาเขียนที่สวิงสวาย แตกต่างจากนักเขียนร่วมยุค "...ชีพจรของงานเต้นเร็วถี่ขึ้นเป็นลำดับ..." "...เสียงซ่าของคลื่นที่ยื่นปากจูบชายหาย..." จอมพลสฤษดิ์ กับการปิดปากนักข่าว คุกคือคำตอบของรัฐต่อ “ปากกา” ของอิศรา 📅 ตุลาคม 2501 รัฐประหาร -> จับนักข่าว นักการเมือง นักวิชาการ 📌 รวมถึง กุหลาบ สายประดิษฐ์, สุวัฒน์ วรดิลก และอิศรา อมันตกุล ไม่มีการพิสูจน์ ไม่มีหลักฐาน แต่ถูกขังโดยไม่ไต่สวน "นักหนังสือพิมพ์ถูกจับเ พราะเขียนข่าวที่รัฐไม่พอใจ" แม้ไร้อิสรภาพ แต่หัวใจยังคงเสรี เขียนหนังสือแม้ในเรือนจำ ใช้หลายนามปากกาเขียนคอลัมน์ และเรื่องสั้น 📜 แสดงความกล้าหาญในการพูดถึงสังคม 📢 ปกป้องเสรีภาพผ่านตัวหนังสือ "การติดคุกเพราะทำหนังสือพิมพ์ ยังโก้กว่าเป็นหัวไม้!" แม่ของอิศรา วาระสุดท้ายที่ไม่สิ้นไฟ ปากกาวาง...แต่คำยังสะท้อนก้อง 🕯 เสียชีวิต 14 มีนาคม 2512 ด้วยโรคมะเร็งลิ้น อายุ 47 ปี "ผมไม่เสียใจเลย ที่เกิดมาเป็นหนังสือพิมพ์" แม้เจ็บป่วยแ ต่ยังเขียนข้อความสั้นๆ ฝากถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพ ✒ ปณิธานนักข่าวไม่เคยจางหาย สารจากอิศรา ถึงคนข่าวรุ่นใหม่ "ข้าพเจ้าเป็นคนสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมั่นหมายจะเขียน เฉพาะเรื่องราวของประชาชน เพื่อถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ความดิ้นรน และความหวังจากประชาชนไปสู่ประชาชน เพราะประชาชนเท่านั้นที่เป็นผู้กำลังต่อสู้ และกำลังทำงานเพื่อสร้างเสรีภาพอันถูกต้อง และศตวรรษแห่งสามัญชน" สรุปบทเรียนจากชีวิต “อิศรา อมันตกุล” ✨ นักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์ ✨ เสรีภาพไม่ใช่ของขวัญจากรัฐ แต่คือสิทธิที่ต้องรักษา ✨ จรรยาบรรณต้องมาก่อนผลประโยชน์ ✨ ปากกาคืออาวุธ แต่ใจต้องเป็นธรรม 🔖 คำคมจากอิศรา 🖋 "หนังสือพิมพ์คือเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง และนักข่าวคือผู้บันทึกประวัติศาสตร์วันต่อวัน" “เพราะหนังสือพิมพ์ในวันนี้ คือประวัติศาสตร์ของวันหน้า” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141021 มี.ค. 2568 🏷️ #อิศราอมันตกุล #นักข่าวต้นแบบ #เสรีภาพสื่อไทย #สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย #นักหนังสือพิมพ์ในตำนาน #ประวัติศาสตร์ข่าวไทย #ชีวิตอิศรา #นักข่าวสายตรง #นักเขียนเพื่อประชาชน #สื่อเสรีไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ
    .
    ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด"
    .
    เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร"
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
    ..............
    Sondhi X
    ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ . ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด" . เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร" . ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    Wow
    Angry
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2274 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายสุภาพบุรุษนายช่างกลหนุ่มในเครื่องแบบกรมรถไฟไทย
    นักเรียนนอกจากเมืองน้ำหอมฝรั่งเศส ภาพถ่ายในปี พ.ศ.๒๔๘๓
    ..........................................
    นายช่าง "อาชว์ กุญชร ณ อยุธยา"
    อาจารย์ใหญ่คนที่ ๒ ของโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ
    ๐๑ พฤศจิกายน ๒๔๘๕ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๘๖
    ..........................................
    ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากองโรงงาน
    ราชการฝ่ายการช่างกล กรมรถไฟ
    ภาพถ่ายสุภาพบุรุษนายช่างกลหนุ่มในเครื่องแบบกรมรถไฟไทย นักเรียนนอกจากเมืองน้ำหอมฝรั่งเศส ภาพถ่ายในปี พ.ศ.๒๔๘๓ .......................................... นายช่าง "อาชว์ กุญชร ณ อยุธยา" อาจารย์ใหญ่คนที่ ๒ ของโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๔๘๕ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๘๖ .......................................... ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากองโรงงาน ราชการฝ่ายการช่างกล กรมรถไฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts