• ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 314 Views 0 Reviews
  • ⚜️ #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..⚜️

    🔱#ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์🔱

    ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี

    ✴️ #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์

    ✴️ #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย
    เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม
    มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11

    ✴️ #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี

    ✴️ #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ

    ✴️ #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    ✴️ #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง
    ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ
    ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์
    ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี
    และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน
    คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ
    การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน

    ✴️ #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    ✴️ #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง
    ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้
    ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ
    การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก
    ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้

    ✴️ #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก

    ✴️ #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก"
    หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก
    #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม
    (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ)

    ✴️ #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก
    ✴️ #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน
    นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

    ✴️ #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์

    ✴️ #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    🖋️📚หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ
    ⚜️พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​⚜️
    🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย
    🧘จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    ⚜️ #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..⚜️ 🔱#ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์🔱 ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี ✴️ #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ✴️ #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11 ✴️ #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี ✴️ #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ ✴️ #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์ ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน ✴️ #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้ ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้ ✴️ #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก ✴️ #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก" หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ) ✴️ #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก ✴️ #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ✴️ #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ✴️ #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง 🖋️📚หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ ⚜️พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​⚜️ 🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย 🧘จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    0 Comments 0 Shares 468 Views 0 Reviews
  • ​ทันทีที่คดีตากใบหมดอายุความ วิษณุ เลิศสงคราม ปลัด อ.ท่าอุเทน 1ใน 14 จำเลย โผล่ทำงานวันแรกหลังลางานหนีหมายจับโดยลางานตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา พอพ้นวันที่ 25 ต.ค.วันที่คดีหมดอายุความ นายวิษณุก็เข้าทำงานวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 26 ต.ค.ทันที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103903

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ​ทันทีที่คดีตากใบหมดอายุความ วิษณุ เลิศสงคราม ปลัด อ.ท่าอุเทน 1ใน 14 จำเลย โผล่ทำงานวันแรกหลังลางานหนีหมายจับโดยลางานตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา พอพ้นวันที่ 25 ต.ค.วันที่คดีหมดอายุความ นายวิษณุก็เข้าทำงานวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 26 ต.ค.ทันที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103903 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    Haha
    37
    8 Comments 1 Shares 3414 Views 0 Reviews
  • ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

    วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม

    สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950

    #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย • วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม • สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950 • #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • 11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวNBT Connext ของกรมประชาสัมพันธ์ระบุว่า นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร ออกมาระบุว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่โรงพยาบาลตำรวจ โดยที่ไม่ต้องเข้าเรือนจำ คือ นายวิษณุ ว่า ตนเองยังไม่เห็นข้อความที่นายสนธิโพสต์ ซึ่งเรื่องที่นายสนธิระบุไม่เป็นความจริง และนายสนธิจะมีหลักฐานอย่างไร หรือมีเหตุผลอะไรก็เรื่องของเขา ไม่อยากแก้ข่าวใด ๆ ไม่ขอพูด แต่ขอปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง

    นายวิษณุ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ขณะนั้นว่า ขณะนั้นอยู่บ้าน และมีเจ้าที่ที่หน้าจากกรมราชทัณฑ์โทรศัพท์มาแจ้งว่า นายทักษิณป่วยหนัก จะต้องนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ และนายทักษิณก็ไปอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วด้วย ซึ่งเวลาที่โทรมาก็เป็นเวลาดึกแล้ว ประมาณ 00.00 น. จึงได้แจ้งกลับว่า ก็แล้วแต่ ขอให้ดูตามอาการก็แล้วกัน ซึ่งคิดว่านายทักษิณน่าจะอยู่รักษาอาการประมาณ 2-3 วัน เพราะไม่รู้ว่า นายทักษิณป่วยหนักขนาดไหน และป่วยเป็นอะไร จากนั้นตนเองก็พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

    นายวิษณุ ยังระบุว่า เรื่องนี้จะไม่ฟ้องกลับนายสนธิ หรือพูดคุยเจรจา ที่ผ่านมาไม่เคยพูดคุยกับนายสนธิ ขอให้เป็นเรื่องของเขา

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/Mwy6Ccg2asAdku7j/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวNBT Connext ของกรมประชาสัมพันธ์ระบุว่า นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร ออกมาระบุว่า บุคคลที่อยู่เบื้องหลังที่ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่โรงพยาบาลตำรวจ โดยที่ไม่ต้องเข้าเรือนจำ คือ นายวิษณุ ว่า ตนเองยังไม่เห็นข้อความที่นายสนธิโพสต์ ซึ่งเรื่องที่นายสนธิระบุไม่เป็นความจริง และนายสนธิจะมีหลักฐานอย่างไร หรือมีเหตุผลอะไรก็เรื่องของเขา ไม่อยากแก้ข่าวใด ๆ ไม่ขอพูด แต่ขอปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง นายวิษณุ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ขณะนั้นว่า ขณะนั้นอยู่บ้าน และมีเจ้าที่ที่หน้าจากกรมราชทัณฑ์โทรศัพท์มาแจ้งว่า นายทักษิณป่วยหนัก จะต้องนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ และนายทักษิณก็ไปอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วด้วย ซึ่งเวลาที่โทรมาก็เป็นเวลาดึกแล้ว ประมาณ 00.00 น. จึงได้แจ้งกลับว่า ก็แล้วแต่ ขอให้ดูตามอาการก็แล้วกัน ซึ่งคิดว่านายทักษิณน่าจะอยู่รักษาอาการประมาณ 2-3 วัน เพราะไม่รู้ว่า นายทักษิณป่วยหนักขนาดไหน และป่วยเป็นอะไร จากนั้นตนเองก็พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ ยังระบุว่า เรื่องนี้จะไม่ฟ้องกลับนายสนธิ หรือพูดคุยเจรจา ที่ผ่านมาไม่เคยพูดคุยกับนายสนธิ ขอให้เป็นเรื่องของเขา ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/Mwy6Ccg2asAdku7j/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Haha
    10
    0 Comments 0 Shares 958 Views 0 Reviews
  • "วิษณุ" ปัดช่วย “ทักษิณ” ได้อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลัง “สนธิ” ปูดอยู่เบื้องหลัง อ้างวันนั้นอยู่บ้านดึกแล้วประมาณเที่ยงคืน มี จนท.ราชทัณฑ์โทรแจ้งว่า "ทักษิณ" ป่วยหนัก ส่ง รพ.ตำรวจแล้ว คิดว่าอยู่แค่ 2-3 วัน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000097204

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "วิษณุ" ปัดช่วย “ทักษิณ” ได้อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลัง “สนธิ” ปูดอยู่เบื้องหลัง อ้างวันนั้นอยู่บ้านดึกแล้วประมาณเที่ยงคืน มี จนท.ราชทัณฑ์โทรแจ้งว่า "ทักษิณ" ป่วยหนัก ส่ง รพ.ตำรวจแล้ว คิดว่าอยู่แค่ 2-3 วัน อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000097204 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    Sad
    22
    1 Comments 0 Shares 2439 Views 0 Reviews
  • กองทัพเรือเตรียมพร้อมเต็มที่ รับพระราชพิธีเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินทางชลมารค

    กองทัพเรือได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๗

    #ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคอันยิ่งใหญ่
    ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ จะประกอบด้วยเรือพระราชพิธีทั้งหมด ๕๒ ลำ จัดเป็น ๕ ริ้ว ความยาวรวม ๑,๒๐๐เมตร กว้าง ๙๐ เมตร โดยมีกำลังพลประจำเรือรวม ๒,๒๐๐ นาย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อให้การจัดพระราชพิธีครั้งนี้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ

    #กรมศิลปากรบูรณะเรือพระราชพิธี
    กรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะเรือพระราชพิธีทั้ง ๕๒ ลำ ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า โดยมีการลงรักปิดทอง ประดับกระจก ด้วยฝีมือช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ เพื่อให้เรือแต่ละลำคงความงดงามและทรงคุณค่าตามแบบศิลปะดั้งเดิม

    #กองทัพเรือฝึกซ้อมฝีพาย
    กองทัพเรือได้ดำเนินการฝึกซ้อมฝีพายเรือพระราชพิธีอย่างเข้มข้น เพื่อให้การพายเรือเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงและสง่างาม อีกทั้งยังคงไว้ซึ่งท่วงท่าตามโบราณราชประเพณี โดยมีการนำเทคนิคสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามและความแม่นยำในการพายเรือ

    เรือพระที่นั่งสำคัญ ๔ ลำ
    * เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์: เรือพระที่นั่งชั้นสูงสุด โขนเรือเป็นรูปหงส์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชินี
    * เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์: เรือพระที่นั่งรอง โขนเรือลงรักปิดทองลายรูปงูตัวเล็ก ๆ จำนวนมาก สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้เป็นที่ประทับเปลื้องเครื่องหรือเปลื้องพระชฎามหากฐินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    * เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช: หัวเรือจำหลักรูปพญานาค ๗ เศียร สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖ ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ หรือผ้าพระกฐิน
    * เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙: โขนเรือจำหลักรูปพระวิษณุทรงครุฑ สร้างขึ้นใหม่เพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยปกติแล้วใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ หรือผ้าพระกฐิน

    เรือพระราชพิธีอื่นๆ
    * เรือรูปสัตว์: มีโขนเรือเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น เรืออสุรวายุภักษ์ (รูปยักษ์), เรือครุฑเหินเห็จ (รูปครุฑ), เรือกระบี่ปราบเมืองมาร (รูปขุนกระบี่), เรือเอกชัยเหินหาว (รูปจระเข้หรือเหรา)
    * เรือดั้ง: เรือที่มีลักษณะเป็นเรือยาว หัวเรือและท้ายเรือโค้งงอนขึ้น ประดับลวดลายสวยงาม
    * เรือแซง: เรือที่มีลักษณะคล้ายเรือดั้ง แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้สำหรับพายนำหน้าขบวนเรือพระที่นั่ง
    สืบสานประเพณีอันทรงคุณค่า

    การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็นการสืบสานและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่สืบไป
    ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ

    พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันทรงเกียรติและงดงามตระการตา ซึ่งจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยสืบไป

    เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
    ขบวนพยุหยาตราเพชรพวงทางชลมารค ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจัดขบวนเป็น ๕ ตอน
    ๑. ขบวนนอกหน้าประกอบด้วย เรือพิฆาต ๓ คู่ เรือแซ ๕ คู่ เรือชัย ๑๐ คู่ เรือรูปสัตว์ ๒ คู่
    และมีเรือรูปสัตว์อีก ๑ คู่ เป็นเรือประตูหน้าชั้นนอก คั่นขบวนนอกหน้ากับขบวนในหน้า
    ๒. ขบวนในหน้า มีเรือรูปสัตว์ ๑๒ คู่ เรือเอกชัย ๒ คู่ เป็นเรือประตูหน้าชั้นในคั่นขบวนในหน้า
    กับขบวนเรือพระราชยาน มีเรือโขมดยา [ขะ-โหฺมด-ยา] ซ้อนสายนอก ๕ คู่
    ๓. ขบวนเรือพระราชยาน มีเรือพระที่นั่ง ๕ ลำ เป็นเรือดั้งนำเรือพระที่นั่งศรีสมรรถชัย
    [สี-สะ-หฺมัด-ถะ-ไช] ลำทรง และเรือพระที่นั่งไกรสรมุข [ไกฺร-สอ-ระ-มุก] ที่ใช้เป็นเรือพระที่นั่งรอง ขบวนเรือ
    พระราชยานเป็นเรือพระที่นั่งกิ่งทั้งหมด
    ๔. ขบวนในหลัง แบ่งเป็น ๓ สาย สายกลางมีเรือพระที่นั่งเอกชัย ๒ ลำ สายในซ้ายและในขวา
    เป็นเรือรูปสัตว์ ๒ คู่ อีก ๑ คู่ เป็นเรือประตูหลังชั้นนอก คั่นขบวนในหลังกับขบวนนอกหลัง
    ๕. ขบวนนอกหลัง ประกอบด้วยเรือแซ ๓ คู่ เรือพิฆาต ๒ คู่ และมีม้าแซงเดินริมตลิ่งอีกด้วย

    ภายใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมเรือพระราชพิธี ๔ ลำ และเรือรูปสัตว์ ๔ ลำ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี และชมการฝึกฝีพาย ณ บ่อเรือแผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ ในวันราชการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

    อ้างอิง
    ๑. Phralan: https://phralan.in.th/Coronation/vocabdetail.php?id=844
    ๒. Thai PBS: https://www.thaipbs.or.th/news/content/341376
    กองทัพเรือเตรียมพร้อมเต็มที่ รับพระราชพิธีเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินทางชลมารค กองทัพเรือได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ #ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคอันยิ่งใหญ่ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ จะประกอบด้วยเรือพระราชพิธีทั้งหมด ๕๒ ลำ จัดเป็น ๕ ริ้ว ความยาวรวม ๑,๒๐๐เมตร กว้าง ๙๐ เมตร โดยมีกำลังพลประจำเรือรวม ๒,๒๐๐ นาย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อให้การจัดพระราชพิธีครั้งนี้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ #กรมศิลปากรบูรณะเรือพระราชพิธี กรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะเรือพระราชพิธีทั้ง ๕๒ ลำ ซึ่งถือเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า โดยมีการลงรักปิดทอง ประดับกระจก ด้วยฝีมือช่างจากสำนักช่างสิบหมู่ เพื่อให้เรือแต่ละลำคงความงดงามและทรงคุณค่าตามแบบศิลปะดั้งเดิม #กองทัพเรือฝึกซ้อมฝีพาย กองทัพเรือได้ดำเนินการฝึกซ้อมฝีพายเรือพระราชพิธีอย่างเข้มข้น เพื่อให้การพายเรือเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงและสง่างาม อีกทั้งยังคงไว้ซึ่งท่วงท่าตามโบราณราชประเพณี โดยมีการนำเทคนิคสมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามและความแม่นยำในการพายเรือ เรือพระที่นั่งสำคัญ ๔ ลำ * เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์: เรือพระที่นั่งชั้นสูงสุด โขนเรือเป็นรูปหงส์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชินี * เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์: เรือพระที่นั่งรอง โขนเรือลงรักปิดทองลายรูปงูตัวเล็ก ๆ จำนวนมาก สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ ใช้เป็นที่ประทับเปลื้องเครื่องหรือเปลื้องพระชฎามหากฐินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว * เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช: หัวเรือจำหลักรูปพญานาค ๗ เศียร สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖ ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ หรือผ้าพระกฐิน * เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙: โขนเรือจำหลักรูปพระวิษณุทรงครุฑ สร้างขึ้นใหม่เพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยปกติแล้วใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ หรือผ้าพระกฐิน เรือพระราชพิธีอื่นๆ * เรือรูปสัตว์: มีโขนเรือเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น เรืออสุรวายุภักษ์ (รูปยักษ์), เรือครุฑเหินเห็จ (รูปครุฑ), เรือกระบี่ปราบเมืองมาร (รูปขุนกระบี่), เรือเอกชัยเหินหาว (รูปจระเข้หรือเหรา) * เรือดั้ง: เรือที่มีลักษณะเป็นเรือยาว หัวเรือและท้ายเรือโค้งงอนขึ้น ประดับลวดลายสวยงาม * เรือแซง: เรือที่มีลักษณะคล้ายเรือดั้ง แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้สำหรับพายนำหน้าขบวนเรือพระที่นั่ง สืบสานประเพณีอันทรงคุณค่า การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็นการสืบสานและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่สืบไป ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันทรงเกียรติและงดงามตระการตา ซึ่งจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยสืบไป เกร็ดความรู้เพิ่มเติม ขบวนพยุหยาตราเพชรพวงทางชลมารค ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจัดขบวนเป็น ๕ ตอน ๑. ขบวนนอกหน้าประกอบด้วย เรือพิฆาต ๓ คู่ เรือแซ ๕ คู่ เรือชัย ๑๐ คู่ เรือรูปสัตว์ ๒ คู่ และมีเรือรูปสัตว์อีก ๑ คู่ เป็นเรือประตูหน้าชั้นนอก คั่นขบวนนอกหน้ากับขบวนในหน้า ๒. ขบวนในหน้า มีเรือรูปสัตว์ ๑๒ คู่ เรือเอกชัย ๒ คู่ เป็นเรือประตูหน้าชั้นในคั่นขบวนในหน้า กับขบวนเรือพระราชยาน มีเรือโขมดยา [ขะ-โหฺมด-ยา] ซ้อนสายนอก ๕ คู่ ๓. ขบวนเรือพระราชยาน มีเรือพระที่นั่ง ๕ ลำ เป็นเรือดั้งนำเรือพระที่นั่งศรีสมรรถชัย [สี-สะ-หฺมัด-ถะ-ไช] ลำทรง และเรือพระที่นั่งไกรสรมุข [ไกฺร-สอ-ระ-มุก] ที่ใช้เป็นเรือพระที่นั่งรอง ขบวนเรือ พระราชยานเป็นเรือพระที่นั่งกิ่งทั้งหมด ๔. ขบวนในหลัง แบ่งเป็น ๓ สาย สายกลางมีเรือพระที่นั่งเอกชัย ๒ ลำ สายในซ้ายและในขวา เป็นเรือรูปสัตว์ ๒ คู่ อีก ๑ คู่ เป็นเรือประตูหลังชั้นนอก คั่นขบวนในหลังกับขบวนนอกหลัง ๕. ขบวนนอกหลัง ประกอบด้วยเรือแซ ๓ คู่ เรือพิฆาต ๒ คู่ และมีม้าแซงเดินริมตลิ่งอีกด้วย ภายใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมเรือพระราชพิธี ๔ ลำ และเรือรูปสัตว์ ๔ ลำ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี และชมการฝึกฝีพาย ณ บ่อเรือแผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ ในวันราชการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ อ้างอิง ๑. Phralan: https://phralan.in.th/Coronation/vocabdetail.php?id=844 ๒. Thai PBS: https://www.thaipbs.or.th/news/content/341376
    Like
    Love
    2
    0 Comments 1 Shares 797 Views 0 Reviews
  • ประสบการณ์สายมู: พระตรีมูรติและวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก)

    ผมได้มีโอกาสสักการะพระตรีมูรติที่ศาลพระตรีมูรติ หน้าตึก Empire Tower เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าประทับใจมาก! 🙏✨


    เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณศาล รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่ต่างจากความวุ่นวายของถนน #สาทร กลับกลายเป็นความสงบ มีกลิ่นธูปหอมๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้จิตใจผ่อนคลายอย่างมาก ได้กราบไหว้และ #ขอพร ทั้งพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ ซึ่งรวมอยู่ในร่างของพระตรีมูรติ ขอโชคลาภทั้งในเรื่องงาน เงิน และความรัก 😆 


    สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสบายใจและกำลังใจเพิ่มขึ้น เหมือนมีพลังบวกเติมเต็มหัวใจ ❤️


    หลังจากสักการะพระตรีมูรติที่ตึก Empire Tower เสร็จ ก็ไปเติม #พลังศรัทธา ต่อที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม "วัดแขก“ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน 😁 ที่นี่ได้กราบไหว้องค์เทพสำคัญในศาสนาฮินดูหลายองค์


    🔹 พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ เทพสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง รักษา และทำลายล้าง

    🔹 พระพิฆเนศ เทพแห่ง #การขจัดอุปสรรค
    🔹 พระนางลักษมี เทพีแห่ง #ความมั่งคั่งและ #โชคลาภ
    🔹 พระนางอุมาเทวี (มเหสีของพระศิวะ) เทพีแห่ง #พลังอำนาจ

    การขอพรครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการเงิน การงาน และความรัก ขอให้ชีวิตราบรื่นและประสบความสำเร็จในทุกด้าน 💖💼💰

    
รู้สึกอิ่มเอมใจ มีพลังบวกเต็มเปี่ยม พร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น! ใครที่มีเวลาว่าง แนะนำให้ลองแวะมากันนะ อาจจะได้พบกับความสงบและพลังศรัทธาที่จะช่วยเสริมพลังใจให้เราก้าวต่อไป 💪🌟


    ถ้าคุณชอบเนื้อหาแบบนี้ อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดการอัปเดตประสบการณ์ดีๆ ที่จะช่วยเติมพลังใจให้คุณได้ทุกวัน! 🌈✨

    #ความศรัทธา #เสริมดวง
    ประสบการณ์สายมู: พระตรีมูรติและวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) ผมได้มีโอกาสสักการะพระตรีมูรติที่ศาลพระตรีมูรติ หน้าตึก Empire Tower เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าประทับใจมาก! 🙏✨
 เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณศาล รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่ต่างจากความวุ่นวายของถนน #สาทร กลับกลายเป็นความสงบ มีกลิ่นธูปหอมๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้จิตใจผ่อนคลายอย่างมาก ได้กราบไหว้และ #ขอพร ทั้งพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ ซึ่งรวมอยู่ในร่างของพระตรีมูรติ ขอโชคลาภทั้งในเรื่องงาน เงิน และความรัก 😆 
 สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสบายใจและกำลังใจเพิ่มขึ้น เหมือนมีพลังบวกเติมเต็มหัวใจ ❤️
 หลังจากสักการะพระตรีมูรติที่ตึก Empire Tower เสร็จ ก็ไปเติม #พลังศรัทธา ต่อที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม "วัดแขก“ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน 😁 ที่นี่ได้กราบไหว้องค์เทพสำคัญในศาสนาฮินดูหลายองค์
 🔹 พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ เทพสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง รักษา และทำลายล้าง
 🔹 พระพิฆเนศ เทพแห่ง #การขจัดอุปสรรค 🔹 พระนางลักษมี เทพีแห่ง #ความมั่งคั่งและ #โชคลาภ
 🔹 พระนางอุมาเทวี (มเหสีของพระศิวะ) เทพีแห่ง #พลังอำนาจ การขอพรครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการเงิน การงาน และความรัก ขอให้ชีวิตราบรื่นและประสบความสำเร็จในทุกด้าน 💖💼💰 
รู้สึกอิ่มเอมใจ มีพลังบวกเต็มเปี่ยม พร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น! ใครที่มีเวลาว่าง แนะนำให้ลองแวะมากันนะ อาจจะได้พบกับความสงบและพลังศรัทธาที่จะช่วยเสริมพลังใจให้เราก้าวต่อไป 💪🌟
 ถ้าคุณชอบเนื้อหาแบบนี้ อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดการอัปเดตประสบการณ์ดีๆ ที่จะช่วยเติมพลังใจให้คุณได้ทุกวัน! 🌈✨ 
#ความศรัทธา #เสริมดวง

    0 Comments 0 Shares 541 Views 0 Reviews
  • #วิษนุหมดความขลังยอมรับเข้าใจผิดเรื่องนายกนิดมีสิทธิ์ประกาศยุบสภา
    เหตุเกิดก็หลังจากที่เสี่ยหนูได้พูดถึงมติพรรคร่วมอื่นๆ
    ที่ดูจะเป็นเอกราช ไม่ได้ยอมเพื่อไทยไปซะทุกเรื่องอีกแล้ว
    โทนี่ก็เลยส่ง วิษนุออกมาปราม ด้วยการพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
    นี่ ถ้านายกนิดถูกถอดจากการเป็นนายก ก็ยังมีสิทธิ์โดยชอบธรรม
    ที่จะประกาศยุบสภา โดยคิดว่า สิ่งนี้จะเป็นการปรามทั้งเสี่ยหนูและพรรคร่วม
    ว่าอย่าแตกแถวนะ แตกปุ๊บ ให้นิดยุบปั๊บ
    แต่ไม่เป็นเช่นนั้น
    มีนักกฏหมายรุ่นใหญ่ ออกมาแจงชัดว่า รอบนี้ วิษนุ "มั่ว" และชี้ข้อกฏหมายเป็นฉากๆ จนวิษนุ ดันต่อไม่ไหว ออกอาการเขินๆ ตอบกลับว่า โอๆ ผมเข้าใจผิดเอง คิดว่านั่้น คิดว่านี่ สุดท้ายก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี
    ดูเหมือนโทนี่ จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
    ว่าการประเมินสถานการณ์ของตนเองนั้น ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง
    คิดผิดว่าตัวเองยังเป็นหัวนิ้วโป้งมือ เป็นจ่าฝูง
    แต่แท้ที่จริงเป็นแค่หัวนิ้วแม่โป้งทรีน เป็นแค่สุนัขหลงฝูงที่ยังหลงตัวเองว่าเป็นจ่าฝูง
    ดังนั้น พี่คิงส์โพธิ์แดงจะสรุปแบบไม่กั๊กเลยนะ ชอบแบบตรงๆง่ายๆ
    นายกนิดหลุด เพราะโทนี่หวังให้อิ๊งเป็นแทน
    แต่โทนี่โดนซ้อนแผนพรรคน้ำเงินไม่เห็นด้วยกับหลายๆนโยบายที่เข้าข่ายขายทำลายชาติ และเจรจาพรรคร่วมสำเร็จ
    โทนี่จึงตอบโต้ด้วยหวังให้นิดยุบสภาแม้จะถูกถอดถอน
    แต่มาดูตัวบทกฏหมาย ด้วยข้อหาที่นายกนิดถูกโทนี่จัดให้
    ถ้าถูกถอดคือหมดสิทธิ์รักษาการโดยทันที
    และสัญญาณนี้ ทำให้คดีย์ต่างๆที่โทนี่ทำให้ระบบนิติรัฐบิดเบี้ยว
    กำลังจะกลับมาอยู่ในที่ในทาง ผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการลงโทษ
    แต่โทนี่ ยอมไม่ได้จริงๆ ให้เข้าไปในซังเตแค่นาทีเดียวก็ไม่ได้
    ดังนั้น โทนี่ หนีแน่นอน
    คนที่ตัวเองเคยวางไว้ ต่างกระจัดกระจาย จัดทัพกลับมารองมือรองเท้าไม่ทัน
    ข้าราชการก็เริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ โทนี่ไม่ได้มีบารมีเหมือนที่เคย
    โดยเฉพาะจากการที่ขอศาลบินไปดูไบกระทันหัน แล้วศาลไม่อนุมัติ
    จากที่ผ่านมาตั้งกลับมา ทำตัวกร่างไม่เกรงใจคนช่วย
    เอ็นเปื่อยยุ่ยไปตีกกอล์ฟ กระดูกคอเคลื่อน ไปว่ายน้ำ
    กระดูกทับเส้นแรดไปยันเชียงใหม่ สุดท้ายบรรดาหมอ และอธิบดีกรมคุกต้องถูกสอบสวน ว่าช่วยนช.โทนี่อย่างไม่น่าให้อภัย
    จบข่าวสารด้วยข้อความสุดท้ายว่า่
    โทนี่ จบไม่สวย เพราะความกร่างและความหลงตัวเอง
    ราตรีสวัสดิ์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #วิษณุ
    #วิษนุหมดความขลังยอมรับเข้าใจผิดเรื่องนายกนิดมีสิทธิ์ประกาศยุบสภา เหตุเกิดก็หลังจากที่เสี่ยหนูได้พูดถึงมติพรรคร่วมอื่นๆ ที่ดูจะเป็นเอกราช ไม่ได้ยอมเพื่อไทยไปซะทุกเรื่องอีกแล้ว โทนี่ก็เลยส่ง วิษนุออกมาปราม ด้วยการพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า นี่ ถ้านายกนิดถูกถอดจากการเป็นนายก ก็ยังมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ที่จะประกาศยุบสภา โดยคิดว่า สิ่งนี้จะเป็นการปรามทั้งเสี่ยหนูและพรรคร่วม ว่าอย่าแตกแถวนะ แตกปุ๊บ ให้นิดยุบปั๊บ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น มีนักกฏหมายรุ่นใหญ่ ออกมาแจงชัดว่า รอบนี้ วิษนุ "มั่ว" และชี้ข้อกฏหมายเป็นฉากๆ จนวิษนุ ดันต่อไม่ไหว ออกอาการเขินๆ ตอบกลับว่า โอๆ ผมเข้าใจผิดเอง คิดว่านั่้น คิดว่านี่ สุดท้ายก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี ดูเหมือนโทนี่ จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าการประเมินสถานการณ์ของตนเองนั้น ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง คิดผิดว่าตัวเองยังเป็นหัวนิ้วโป้งมือ เป็นจ่าฝูง แต่แท้ที่จริงเป็นแค่หัวนิ้วแม่โป้งทรีน เป็นแค่สุนัขหลงฝูงที่ยังหลงตัวเองว่าเป็นจ่าฝูง ดังนั้น พี่คิงส์โพธิ์แดงจะสรุปแบบไม่กั๊กเลยนะ ชอบแบบตรงๆง่ายๆ นายกนิดหลุด เพราะโทนี่หวังให้อิ๊งเป็นแทน แต่โทนี่โดนซ้อนแผนพรรคน้ำเงินไม่เห็นด้วยกับหลายๆนโยบายที่เข้าข่ายขายทำลายชาติ และเจรจาพรรคร่วมสำเร็จ โทนี่จึงตอบโต้ด้วยหวังให้นิดยุบสภาแม้จะถูกถอดถอน แต่มาดูตัวบทกฏหมาย ด้วยข้อหาที่นายกนิดถูกโทนี่จัดให้ ถ้าถูกถอดคือหมดสิทธิ์รักษาการโดยทันที และสัญญาณนี้ ทำให้คดีย์ต่างๆที่โทนี่ทำให้ระบบนิติรัฐบิดเบี้ยว กำลังจะกลับมาอยู่ในที่ในทาง ผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการลงโทษ แต่โทนี่ ยอมไม่ได้จริงๆ ให้เข้าไปในซังเตแค่นาทีเดียวก็ไม่ได้ ดังนั้น โทนี่ หนีแน่นอน คนที่ตัวเองเคยวางไว้ ต่างกระจัดกระจาย จัดทัพกลับมารองมือรองเท้าไม่ทัน ข้าราชการก็เริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ โทนี่ไม่ได้มีบารมีเหมือนที่เคย โดยเฉพาะจากการที่ขอศาลบินไปดูไบกระทันหัน แล้วศาลไม่อนุมัติ จากที่ผ่านมาตั้งกลับมา ทำตัวกร่างไม่เกรงใจคนช่วย เอ็นเปื่อยยุ่ยไปตีกกอล์ฟ กระดูกคอเคลื่อน ไปว่ายน้ำ กระดูกทับเส้นแรดไปยันเชียงใหม่ สุดท้ายบรรดาหมอ และอธิบดีกรมคุกต้องถูกสอบสวน ว่าช่วยนช.โทนี่อย่างไม่น่าให้อภัย จบข่าวสารด้วยข้อความสุดท้ายว่า่ โทนี่ จบไม่สวย เพราะความกร่างและความหลงตัวเอง ราตรีสวัสดิ์ #คิงส์โพธิ์แดง #วิษณุ
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • Newsstory : ถึงเวลาตาสว่าง คนเสื่อมศรัทธา "วิษณุ เครืองาม" ทำเอาโจ๊กปลุกไม่ตื่น
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลา #ถึงเวลาตาสว่าง #วิษณุเครืองาม #โจ๊ก
    Newsstory : ถึงเวลาตาสว่าง คนเสื่อมศรัทธา "วิษณุ เครืองาม" ทำเอาโจ๊กปลุกไม่ตื่น #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลา #ถึงเวลาตาสว่าง #วิษณุเครืองาม #โจ๊ก
    Like
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 1591 Views 92 0 Reviews
  • 🇹🇭พิธีเปิดบ่อลูกรังวัดบ่อทอง บุญฤทธิ์ขันน้ำมนต์ปู่หลักเมืองนิมิตรอักขระอักษร "โอม" สัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ขจัดอุปสรรค์ทั้งหลาย และความโชคดี
    🇹🇭คำว่า โอม หมายถึง การเรียกขานพระนามของ 3 มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่
    🇹🇭โอม ยังสามารถแยกออกเป็นคำๆ ซึ่งมีที่มาโดยการเปล่งเสียงแต่ละคำของมหาเทพได้อีก ดังนี้
    1. ตัว อะ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศเหนือของมหาเทพ
    2. ตัว อุ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศตะวันตกของมหาเทพ
    3. ตัว มะ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศใต้ของมหาเทพ
    4. ตัว . (พินทุ) ออกจากพระพักตร์ ทางทิศตะวันออกของมหาเทพ
    5. เสียง นาท (เสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินและเข้าใจได้) ออกจากกลางพระพักตร์ของมหาเทพ
    🇹🇭เมื่อท่านผู้ศรัทธาเดินผ่านเทวาลัย หรือมหาเทพองค์ใดๆ ควรพนมมือขึ้นเพื่อทำความเคารพ และให้เอ่ยคำว่า โอม สั้นๆ เพียงคำเดียว ฉะนั้นในบทสวดมนต์ของเทพทุกองค์ในศาสนาพราหมณ์ จะขึ้นต้นด้วยคำว่า โอม และในรูปวาดมหาเทพเกือบทุกรูป จะปรากฏเครื่องหมาย โอม อยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งในภาพ ซึ่งเครื่องหมาย โอม อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ปรากฏคู่กับเครื่องหมาย พินทุ เสมออันจะเป็นเครื่องหมายที่นำความปรารถนา สุขสมหวังมาให้สามารถขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้หมดสิ้น และชี้นำเหล่าโยคีไปสู่ปรีชาญาณ
    🇹🇭ข้าพเจ้าขอน้อมสักการะเครื่องหมาย โอม อันศักดิ์สิทธิ์นี้….จะขอพร จะกราบหรือกระทำสิ่งใดก็ตามแต่ ให้เอ่ยคำว่า โอม เสมอหัวใจหลักของศาสนาเลยทีเดียว!!
    🇹🇭อักขระ โอม เกิดจากการเรียกพระนามของพระตรีมูรติทั้ง 3 รวมกันเป็นคำเดียว ซึ่งแยกได้ดังนี้
    - พระศิวะ อะ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระศิวะ (อะ)
    - พระวิษณุ อุ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระวิษณุ (อุ)
    - พระพรหม มะ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระพรหมมะ (มะ)
    🇹🇭อย่างไรก็ตาม ในการใช้ โอม แทนคำว่า สาธุ ก็จะถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ ดังนั้น โอม เป็นพยางค์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคำที่ถูกเอ่ยถี่ที่สุด
    🇹🇭ในการสวดมนต์ทุกบทของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ให้เอ่ยคำว่า โอม

    --------------------------------------------------------- #โชคลาภ #พระพิฆเนศ #โอม #บ่อลูกรังวัดบ่อทอง #หลวงพ่อเกตุสุวรรณ #วัดบ่อทอง
    🇹🇭พิธีเปิดบ่อลูกรังวัดบ่อทอง บุญฤทธิ์ขันน้ำมนต์ปู่หลักเมืองนิมิตรอักขระอักษร "โอม" สัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ขจัดอุปสรรค์ทั้งหลาย และความโชคดี 🇹🇭คำว่า โอม หมายถึง การเรียกขานพระนามของ 3 มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ 🇹🇭โอม ยังสามารถแยกออกเป็นคำๆ ซึ่งมีที่มาโดยการเปล่งเสียงแต่ละคำของมหาเทพได้อีก ดังนี้ 1. ตัว อะ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศเหนือของมหาเทพ 2. ตัว อุ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศตะวันตกของมหาเทพ 3. ตัว มะ ออกจากพระพักตร์ ทางทิศใต้ของมหาเทพ 4. ตัว . (พินทุ) ออกจากพระพักตร์ ทางทิศตะวันออกของมหาเทพ 5. เสียง นาท (เสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินและเข้าใจได้) ออกจากกลางพระพักตร์ของมหาเทพ 🇹🇭เมื่อท่านผู้ศรัทธาเดินผ่านเทวาลัย หรือมหาเทพองค์ใดๆ ควรพนมมือขึ้นเพื่อทำความเคารพ และให้เอ่ยคำว่า โอม สั้นๆ เพียงคำเดียว ฉะนั้นในบทสวดมนต์ของเทพทุกองค์ในศาสนาพราหมณ์ จะขึ้นต้นด้วยคำว่า โอม และในรูปวาดมหาเทพเกือบทุกรูป จะปรากฏเครื่องหมาย โอม อยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งในภาพ ซึ่งเครื่องหมาย โอม อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ปรากฏคู่กับเครื่องหมาย พินทุ เสมออันจะเป็นเครื่องหมายที่นำความปรารถนา สุขสมหวังมาให้สามารถขจัดอุปสรรคทั้งหลายให้หมดสิ้น และชี้นำเหล่าโยคีไปสู่ปรีชาญาณ 🇹🇭ข้าพเจ้าขอน้อมสักการะเครื่องหมาย โอม อันศักดิ์สิทธิ์นี้….จะขอพร จะกราบหรือกระทำสิ่งใดก็ตามแต่ ให้เอ่ยคำว่า โอม เสมอหัวใจหลักของศาสนาเลยทีเดียว!! 🇹🇭อักขระ โอม เกิดจากการเรียกพระนามของพระตรีมูรติทั้ง 3 รวมกันเป็นคำเดียว ซึ่งแยกได้ดังนี้ - พระศิวะ อะ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระศิวะ (อะ) - พระวิษณุ อุ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระวิษณุ (อุ) - พระพรหม มะ มาจากเสียงสุดท้ายของคำว่า พระพรหมมะ (มะ) 🇹🇭อย่างไรก็ตาม ในการใช้ โอม แทนคำว่า สาธุ ก็จะถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ ดังนั้น โอม เป็นพยางค์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคำที่ถูกเอ่ยถี่ที่สุด 🇹🇭ในการสวดมนต์ทุกบทของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ให้เอ่ยคำว่า โอม --------------------------------------------------------- #โชคลาภ #พระพิฆเนศ #โอม #บ่อลูกรังวัดบ่อทอง #หลวงพ่อเกตุสุวรรณ #วัดบ่อทอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 571 Views 0 Reviews
  • ♣ บิดาแห่งการยกเว้น ผู้อยู่เบื้องหลังทำผิดให้เป็นถูก ยังกล้าพูดว่า "ไทยคุ้นชินกับการทุจริตทุกรูปแบบมานาน"
    #7ดอกจิก
    #วิษณุ
    #บิดาแห่งการยกเว้น
    #ช่างกล้าพูด
    ♣ บิดาแห่งการยกเว้น ผู้อยู่เบื้องหลังทำผิดให้เป็นถูก ยังกล้าพูดว่า "ไทยคุ้นชินกับการทุจริตทุกรูปแบบมานาน" #7ดอกจิก #วิษณุ #บิดาแห่งการยกเว้น #ช่างกล้าพูด
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • กูรูเผย ถ้าหมอเกศให้วิษณุช่วยรอดแน่
    จะคำนำหน้าแบบไหนไม่ใช่ปัญหา
    ขนาดคำนำหน้า นช.
    12 สิงหาคมนี้ ยังจะได้เป็นประธานที่ปรึกษานายก
    และมีอำนาจเหนือนายกได้สบาย
    ทำไมหมอเกศไมใช้บริการวิษณุนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หมอเกศ
    #วิษณุ
    กูรูเผย ถ้าหมอเกศให้วิษณุช่วยรอดแน่ จะคำนำหน้าแบบไหนไม่ใช่ปัญหา ขนาดคำนำหน้า นช. 12 สิงหาคมนี้ ยังจะได้เป็นประธานที่ปรึกษานายก และมีอำนาจเหนือนายกได้สบาย ทำไมหมอเกศไมใช้บริการวิษณุนะ #คิงส์โพธิ์แดง #หมอเกศ #วิษณุ
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • คิงส์การการ์ตูน ตอน: วิษณุ ช่วยแมวโจ๊ก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์การการ์ตูน
    #วิษณุ
    #แมว
    #โจ๊ก
    คิงส์การการ์ตูน ตอน: วิษณุ ช่วยแมวโจ๊ก #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์การการ์ตูน #วิษณุ #แมว #โจ๊ก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 458 Views 42 0 Reviews
  • ไตก็ไม่ค่อยจะดีนะ ณุ
    จะกินหรือจะเท ต้องคิดให้ดีๆ
    ต้องหยุดบริโภคของเน่าเสียนะ ณุ
    โจ๊กมันก็บูดไปแล้ว
    กินไป ไม่รอดนะ ณุ นะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #วิษณุ
    #โจ๊กหมดอายุ
    ไตก็ไม่ค่อยจะดีนะ ณุ จะกินหรือจะเท ต้องคิดให้ดีๆ ต้องหยุดบริโภคของเน่าเสียนะ ณุ โจ๊กมันก็บูดไปแล้ว กินไป ไม่รอดนะ ณุ นะ #คิงส์โพธิ์แดง #วิษณุ #โจ๊กหมดอายุ
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • วิษณุ ไม่ได้บอกว่า โจ๊กไม่ผิดตั้งแต่แรก
    วิษณุ แค่บอกว่า ขั้นตอนมันยังไม่ครบตามระเบียบ
    วิธีแก้ ก็แค่ย้อนกลับไปแก้ใหม่ ลงมติให้มันถูกต้อง
    แล้วมติ ก็ออกมาเหมือนเดิม ปลอดโจ๊กออกจากราชการ ถูกต้องแล้ว
    จับตาให้ดูให้ดี เมื่อออกจากราชการแบบมีนักกฏหมายอย่างวิษณุ
    ที่เศรษฐาต้องตื้อให้มาช่วยเคลีย ออกมาจัดให้มันไม่มีช่องโหว่
    โจ๊ก หมดลุ้นอีกต่อไป เศรษฐาเองก็เตรียมแต่งตั้ง รอง ผบตร.คนใหม่ 2 คนเรียบร้อย
    คดีย์ใน ปปช กำลังจะเป็น อย่างที่ควรจะเป็น
    คดีย์ที่ค้างไว้ในศาลอาญากรุงเทพใต้ กำลังจะเป็นอย่างที่ควรจะเป็น
    เว็บออนไลน์ มินนี่ และอื่นๆ จะถูกย้อนเกล็ดทุกๆคดีย์
    ที่ให้จับตาคือ ไอ่โจ๊ก มันจะตามไอ่กวิ้น รุ้ง ไมค์ระยำ ไปวันไหนแค่นั้นเอง
    แต่ปลายทางอะ คนละที่ เพราะหวานใจโจ๊ก ได้จัดเตรียมทุกอย่างรอแสตนบายแล้ว
    งานนี้ แม้กระทั่ง เสรีพิสุทธิ์ เจ้าของโมเดล ไม่รับหมายเรียก เพื่อให้คดีย์หมดอายุ ยังไม่กล้าแสดงตัว
    อยากเห็นหน้า ไอ่ตั้ม พาร์ทเนอร์เว็บออนไลน์ ทนายหิวแสง กับหมาแก่ดนัย ลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์จัง ว่าพรุ่งนี้ จะทำหน้ายังไง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    วิษณุ ไม่ได้บอกว่า โจ๊กไม่ผิดตั้งแต่แรก วิษณุ แค่บอกว่า ขั้นตอนมันยังไม่ครบตามระเบียบ วิธีแก้ ก็แค่ย้อนกลับไปแก้ใหม่ ลงมติให้มันถูกต้อง แล้วมติ ก็ออกมาเหมือนเดิม ปลอดโจ๊กออกจากราชการ ถูกต้องแล้ว จับตาให้ดูให้ดี เมื่อออกจากราชการแบบมีนักกฏหมายอย่างวิษณุ ที่เศรษฐาต้องตื้อให้มาช่วยเคลีย ออกมาจัดให้มันไม่มีช่องโหว่ โจ๊ก หมดลุ้นอีกต่อไป เศรษฐาเองก็เตรียมแต่งตั้ง รอง ผบตร.คนใหม่ 2 คนเรียบร้อย คดีย์ใน ปปช กำลังจะเป็น อย่างที่ควรจะเป็น คดีย์ที่ค้างไว้ในศาลอาญากรุงเทพใต้ กำลังจะเป็นอย่างที่ควรจะเป็น เว็บออนไลน์ มินนี่ และอื่นๆ จะถูกย้อนเกล็ดทุกๆคดีย์ ที่ให้จับตาคือ ไอ่โจ๊ก มันจะตามไอ่กวิ้น รุ้ง ไมค์ระยำ ไปวันไหนแค่นั้นเอง แต่ปลายทางอะ คนละที่ เพราะหวานใจโจ๊ก ได้จัดเตรียมทุกอย่างรอแสตนบายแล้ว งานนี้ แม้กระทั่ง เสรีพิสุทธิ์ เจ้าของโมเดล ไม่รับหมายเรียก เพื่อให้คดีย์หมดอายุ ยังไม่กล้าแสดงตัว อยากเห็นหน้า ไอ่ตั้ม พาร์ทเนอร์เว็บออนไลน์ ทนายหิวแสง กับหมาแก่ดนัย ลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์จัง ว่าพรุ่งนี้ จะทำหน้ายังไง #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 535 Views 0 Reviews
  • Newsstory : "วิษณุ เครืองาม" เนติบริกร ลงสนามช่วยโจ๊ก ทวงตำแหน่ง ผบ.ตร.คืน
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #วิษณุเครืองาม #โจ๊ก #บิ๊กโจ๊ก
    Newsstory : "วิษณุ เครืองาม" เนติบริกร ลงสนามช่วยโจ๊ก ทวงตำแหน่ง ผบ.ตร.คืน #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #วิษณุเครืองาม #โจ๊ก #บิ๊กโจ๊ก
    0 Comments 0 Shares 857 Views 68 0 Reviews
  • Newsstory : วิษณุ สัมพันธ์ลึก โจ๊ก เป็นเบื้องหลัง หนุนโจ๊กกลับมาเป็นตร.
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #วิษณุ #โจ๊ก #เบื้องหลัง
    Newsstory : วิษณุ สัมพันธ์ลึก โจ๊ก เป็นเบื้องหลัง หนุนโจ๊กกลับมาเป็นตร. #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #วิษณุ #โจ๊ก #เบื้องหลัง
    0 Comments 0 Shares 599 Views 20 0 Reviews
  • ♣ เงินสดลดไปเป็นล้าน แต่ทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็นเครื่องฟอกไต
    #7ดอกจิก
    #วิษณุ
    ♣ เงินสดลดไปเป็นล้าน แต่ทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็นเครื่องฟอกไต #7ดอกจิก #วิษณุ
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • เงินสดลดไปเป็นล้าน แต่ทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็นเครื่องฟอกไต
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #วิษณุ
    #เครื่องฟอกไต
    เงินสดลดไปเป็นล้าน แต่ทรัพย์สินเพิ่มเติม เป็นเครื่องฟอกไต #คิงส์โพธิ์แดง #วิษณุ #เครื่องฟอกไต
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews