• Gigabyte ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของเจลระบายความร้อนในกราฟิกการ์ด RTX 50-series ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ ของสายการผลิต โดยเจลระบายความร้อนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบของส่วนประกอบ และสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย

    Gigabyte ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากการใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการรั่วไหลที่มองเห็นได้ แต่ยืนยันว่าปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่

    อย่างไรก็ตาม Gigabyte ยังไม่ได้ประกาศโปรแกรมเรียกคืนหรือเปลี่ยนสินค้า โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้าในภูมิภาคของตน

    ✅ การออกแบบเจลระบายความร้อน
    - เจลระบายความร้อนถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบ
    - สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย

    ✅ ปัญหาที่พบในสายการผลิต
    - การใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก
    - ปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งาน

    ✅ การตอบสนองของ Gigabyte
    - ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่
    - แนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
    - ปัญหานี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-addresses-rtx-50-series-thermal-gel-leak-blames-over-application-in-early-production-units
    Gigabyte ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของเจลระบายความร้อนในกราฟิกการ์ด RTX 50-series ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ ของสายการผลิต โดยเจลระบายความร้อนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบของส่วนประกอบ และสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย Gigabyte ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากการใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการรั่วไหลที่มองเห็นได้ แต่ยืนยันว่าปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม Gigabyte ยังไม่ได้ประกาศโปรแกรมเรียกคืนหรือเปลี่ยนสินค้า โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้าในภูมิภาคของตน ✅ การออกแบบเจลระบายความร้อน - เจลระบายความร้อนถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบ - สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย ✅ ปัญหาที่พบในสายการผลิต - การใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก - ปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งาน ✅ การตอบสนองของ Gigabyte - ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ - แนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้า ✅ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - ปัญหานี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-addresses-rtx-50-series-thermal-gel-leak-blames-over-application-in-early-production-units
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่สำหรับ AI โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI และการสร้างโซลูชันแบบครบวงจร (Full-stack solutions) ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ยังคงอยู่ในแผนคือ GPU ที่มีชื่อรหัสว่า Jaguar Shores ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค (Rack-level design) โดยใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    Intel ยังได้ปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI โดยแยกออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล และแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญต่อการประมวลผล

    นอกจากนี้ Intel ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเอง (Custom-built silicon) และกำลังประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI

    ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI
    - Intel มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI
    - GPU Jaguar Shores ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค

    ✅ การใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics
    - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ AI ในศูนย์ข้อมูล
    - Intel เป็นผู้ผลิตที่มีตัวเลือกโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีออปติก

    ✅ การปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI
    - แยกหน่วยงาน AI ออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล
    - แต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร
    - พัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเองและประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-redefines-ai-strategy-jaguar-shores-to-be-rack-level-design-with-focus-on-silicon-photonics
    Intel ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่สำหรับ AI โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI และการสร้างโซลูชันแบบครบวงจร (Full-stack solutions) ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ยังคงอยู่ในแผนคือ GPU ที่มีชื่อรหัสว่า Jaguar Shores ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค (Rack-level design) โดยใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน Intel ยังได้ปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI โดยแยกออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล และแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญต่อการประมวลผล นอกจากนี้ Intel ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเอง (Custom-built silicon) และกำลังประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI - Intel มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI - GPU Jaguar Shores ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค ✅ การใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ AI ในศูนย์ข้อมูล - Intel เป็นผู้ผลิตที่มีตัวเลือกโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีออปติก ✅ การปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI - แยกหน่วยงาน AI ออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล - แต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร - พัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเองและประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-redefines-ai-strategy-jaguar-shores-to-be-rack-level-design-with-focus-on-silicon-photonics
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • สหราชอาณาจักรได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่รวมถึงการห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกม (Gaming Controllers) ไปยังรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในทางทหาร รายงานระบุว่ากองทัพรัสเซียได้ดัดแปลงอุปกรณ์ควบคุมเกมที่ผลิตในตะวันตกเพื่อใช้ควบคุมโดรนในการโจมตีทางอากาศในยูเครน

    มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรทางการค้าใหม่จำนวน 150 รายการ ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับการค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ เช่น น้ำมันและก๊าซ รวมถึงเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องจักร และเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงานและการป้องกันประเทศ

    การประกาศมาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซียในกรุงเคียฟ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

    ✅ การห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกม
    - สหราชอาณาจักรห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกมไปยังรัสเซีย
    - อุปกรณ์เหล่านี้ถูกดัดแปลงเพื่อใช้ควบคุมโดรนในการโจมตีทางอากาศ

    ✅ มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
    - รวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับค้นหาแหล่งพลังงานใหม่
    - ครอบคลุมเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ โลหะ และเครื่องมือซอฟต์แวร์

    ✅ เป้าหมายของมาตรการ
    - ขัดขวางความสามารถทางทหารของรัสเซีย
    - ลดการใช้เทคโนโลยีตะวันตกในทางที่ผิด

    ✅ การตอบสนองต่อการโจมตีในยูเครน
    - มาตรการนี้ประกาศหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่ในกรุงเคียฟ

    https://www.techspot.com/news/107678-uk-bans-export-video-game-controllers-russia-hinder.html
    สหราชอาณาจักรได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่รวมถึงการห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกม (Gaming Controllers) ไปยังรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในทางทหาร รายงานระบุว่ากองทัพรัสเซียได้ดัดแปลงอุปกรณ์ควบคุมเกมที่ผลิตในตะวันตกเพื่อใช้ควบคุมโดรนในการโจมตีทางอากาศในยูเครน มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรทางการค้าใหม่จำนวน 150 รายการ ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับการค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ เช่น น้ำมันและก๊าซ รวมถึงเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องจักร และเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับภาคพลังงานและการป้องกันประเทศ การประกาศมาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซียในกรุงเคียฟ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ✅ การห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกม - สหราชอาณาจักรห้ามส่งออกอุปกรณ์ควบคุมเกมไปยังรัสเซีย - อุปกรณ์เหล่านี้ถูกดัดแปลงเพื่อใช้ควบคุมโดรนในการโจมตีทางอากาศ ✅ มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม - รวมถึงซอฟต์แวร์สำหรับค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ - ครอบคลุมเคมีภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ โลหะ และเครื่องมือซอฟต์แวร์ ✅ เป้าหมายของมาตรการ - ขัดขวางความสามารถทางทหารของรัสเซีย - ลดการใช้เทคโนโลยีตะวันตกในทางที่ผิด ✅ การตอบสนองต่อการโจมตีในยูเครน - มาตรการนี้ประกาศหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่ในกรุงเคียฟ https://www.techspot.com/news/107678-uk-bans-export-video-game-controllers-russia-hinder.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    UK bans gaming controller exports to Russia to hinder military use
    While the Pentagon now uses custom-built controllers to operate its systems, Russia continues to rely on off-the-shelf video game controllers manufactured in the West. Authorities in the...
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก

    Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน

    Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ

    สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
    - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ
    - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    ✅ การจัดสรรเงินทุน
    - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025
    - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน

    ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE)
    - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ
    - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp!
    - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025

    https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง ✅ การจัดสรรเงินทุน - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025 - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp! - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google bolsters its anti-scam efforts across Asia-Pacific
    In 2024, customers across Asia-Pacific lost 688 billion USD to scams. At Taiwan's Online Safety Dialogue, Google unveiled new partnerships, grants, and real-time tools to fight back.
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • 25 เมษายน 2568- รัฐบาลทรัมป์กลับลำ ยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯเผยแพร่วันที่ 25 เมษายน 2025 เวลา 11:23 น. (EDT)หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากศาลและถูกออกคำสั่งระงับซ้ำแล้วซ้ำเล่า รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระงับเนื่องจากข้อกฎหมายเล็กน้อยที่มักถูกเพิกเฉยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นเรื่องกลับคำตัดสินต่อศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันศุกร์ โดยชี้แจงว่าจะคืนสถานะการลงทะเบียนวีซ่านักเรียนให้กับนักศึกษาต่างชาติหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการกระทำผิดเพียงเล็กน้อยหรือเป็นกรณีที่ไม่ควรมีผลต่อสถานะการศึกษาการระงับวีซ่าครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักเรียนหลายพันคนตกอยู่ในความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียสถานะผู้อยู่อาศัยตามกฎหมาย และเสี่ยงถูกเนรเทศออกนอกประเทศอย่างกะทันหัน หลายคนที่ยื่นฟ้องต่อศาลระบุว่า สถาบันของตนได้ระงับสิทธิ์ในการเข้าชั้นเรียนหรือทำวิจัย แม้จะใกล้ถึงกำหนดสำเร็จการศึกษาเพียงไม่กี่สัปดาห์ศาลหลายแห่งมองว่าการระงับสถานะวีซ่าเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และได้ออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อปกป้องสิทธิของนักศึกษา ส่งผลให้รัฐบาลต้องพิจารณาถอยกลับจากมาตรการดังกล่าวในที่สุด
    25 เมษายน 2568- รัฐบาลทรัมป์กลับลำ ยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯเผยแพร่วันที่ 25 เมษายน 2025 เวลา 11:23 น. (EDT)หลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากศาลและถูกออกคำสั่งระงับซ้ำแล้วซ้ำเล่า รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกการยุติสถานะวีซ่านักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกระงับเนื่องจากข้อกฎหมายเล็กน้อยที่มักถูกเพิกเฉยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ยื่นเรื่องกลับคำตัดสินต่อศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันศุกร์ โดยชี้แจงว่าจะคืนสถานะการลงทะเบียนวีซ่านักเรียนให้กับนักศึกษาต่างชาติหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติการกระทำผิดเพียงเล็กน้อยหรือเป็นกรณีที่ไม่ควรมีผลต่อสถานะการศึกษาการระงับวีซ่าครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักเรียนหลายพันคนตกอยู่ในความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียสถานะผู้อยู่อาศัยตามกฎหมาย และเสี่ยงถูกเนรเทศออกนอกประเทศอย่างกะทันหัน หลายคนที่ยื่นฟ้องต่อศาลระบุว่า สถาบันของตนได้ระงับสิทธิ์ในการเข้าชั้นเรียนหรือทำวิจัย แม้จะใกล้ถึงกำหนดสำเร็จการศึกษาเพียงไม่กี่สัปดาห์ศาลหลายแห่งมองว่าการระงับสถานะวีซ่าเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และได้ออกคำสั่งชั่วคราวเพื่อปกป้องสิทธิของนักศึกษา ส่งผลให้รัฐบาลต้องพิจารณาถอยกลับจากมาตรการดังกล่าวในที่สุด
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าชิปบางประเภทจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลดภาษีตอบโต้ที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 125% โดยการยกเว้นนี้ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม (Integrated Circuits) แต่ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตภายในประเทศเอง

    บริษัทที่ได้ชำระภาษีสำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นระหว่างวันที่ 10-24 เมษายน สามารถยื่นขอคืนเงินภาษีได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนี้

    การยกเว้นภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านชิปขั้นสูงที่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

    ✅ การยกเว้นภาษีชิปบางประเภท
    - ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม
    - ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตเอง

    ✅ การคืนเงินภาษี
    - บริษัทที่ชำระภาษีระหว่างวันที่ 10-24 เมษายนสามารถยื่นขอคืนเงินได้

    ✅ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
    - อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

    ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การยกเว้นภาษีช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-reportedly-waives-tariffs-on-some-us-chip-imports-duties-paid-are-eligible-for-refunds
    จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าชิปบางประเภทจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลดภาษีตอบโต้ที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 125% โดยการยกเว้นนี้ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม (Integrated Circuits) แต่ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตภายในประเทศเอง บริษัทที่ได้ชำระภาษีสำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นระหว่างวันที่ 10-24 เมษายน สามารถยื่นขอคืนเงินภาษีได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนี้ การยกเว้นภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านชิปขั้นสูงที่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ✅ การยกเว้นภาษีชิปบางประเภท - ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม - ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตเอง ✅ การคืนเงินภาษี - บริษัทที่ชำระภาษีระหว่างวันที่ 10-24 เมษายนสามารถยื่นขอคืนเงินได้ ✅ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า - อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การยกเว้นภาษีช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-reportedly-waives-tariffs-on-some-us-chip-imports-duties-paid-are-eligible-for-refunds
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดเผยว่า นักวิจัยชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังพิจารณาย้ายไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากการลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัยและการแทรกแซงทางการเมืองในสหรัฐฯ ตัวเลขจากแพลตฟอร์ม Nature Careers ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 การสมัครงานในต่างประเทศจากนักวิจัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียที่มีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    การลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัย เช่น การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ และการตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของนักวิจัย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในยุโรป เช่น Aix-Marseille University ในฝรั่งเศส ได้เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science เพื่อรองรับนักวิจัยที่ได้รับผลกระทบ

    ✅ การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่น
    - การสมัครงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025
    - ความสนใจในงานวิจัยในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณ
    - การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ
    - การตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

    ✅ การตอบสนองของยุโรป
    - Aix-Marseille University เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science ด้วยงบประมาณ 15 ล้านยูโร
    - Max Planck Society ในเยอรมนีเปิดตัว Transatlantic Program เพื่อรองรับนักวิจัย

    ✅ ความสนใจในเอเชีย
    - ความสนใจในงานวิจัยในจีนเพิ่มขึ้น 30% ในการดูประกาศงาน

    https://www.techspot.com/news/107679-us-researchers-flee-overseas-funding-cuts-bite-politics.html
    รายงานล่าสุดเผยว่า นักวิจัยชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังพิจารณาย้ายไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากการลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัยและการแทรกแซงทางการเมืองในสหรัฐฯ ตัวเลขจากแพลตฟอร์ม Nature Careers ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 การสมัครงานในต่างประเทศจากนักวิจัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียที่มีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก การลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัย เช่น การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ และการตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของนักวิจัย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในยุโรป เช่น Aix-Marseille University ในฝรั่งเศส ได้เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science เพื่อรองรับนักวิจัยที่ได้รับผลกระทบ ✅ การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่น - การสมัครงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025 - ความสนใจในงานวิจัยในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณ - การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ - การตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ✅ การตอบสนองของยุโรป - Aix-Marseille University เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science ด้วยงบประมาณ 15 ล้านยูโร - Max Planck Society ในเยอรมนีเปิดตัว Transatlantic Program เพื่อรองรับนักวิจัย ✅ ความสนใจในเอเชีย - ความสนใจในงานวิจัยในจีนเพิ่มขึ้น 30% ในการดูประกาศงาน https://www.techspot.com/news/107679-us-researchers-flee-overseas-funding-cuts-bite-politics.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US researchers flee overseas as funding cuts bite and politics intrudes
    The exodus is largely driven by abrupt federal funding withdrawals and project cancellations. Last month, over 200 grants supporting HIV and AIDS research were terminated. The National...
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ เช่น Tesla ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ อนุญาตให้บริษัทสามารถขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยบางประการสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้เพื่อการวิจัยและการสาธิตเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ เพื่อลดความซับซ้อนและลดภาระของบริษัท

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในเดือนมิถุนายน โดย Tesla ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD

    ✅ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการพัฒนา
    - อนุญาตให้ขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ
    - ปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุเพื่อลดภาระของบริษัท

    ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง
    - สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศให้แข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน
    - ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี

    ✅ การเปิดตัวบริการใหม่ของ Tesla
    - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไร้คนขับ
    - Tesla เผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/us-to-loosen-rules-on-tesla-other-carmakers-taking-on-china-in-race-for-self-driving-cars
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ เช่น Tesla ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ อนุญาตให้บริษัทสามารถขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยบางประการสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้เพื่อการวิจัยและการสาธิตเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ เพื่อลดความซับซ้อนและลดภาระของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในเดือนมิถุนายน โดย Tesla ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD ✅ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการพัฒนา - อนุญาตให้ขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ - ปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุเพื่อลดภาระของบริษัท ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง - สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศให้แข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน - ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี ✅ การเปิดตัวบริการใหม่ของ Tesla - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ✅ การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไร้คนขับ - Tesla เผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/us-to-loosen-rules-on-tesla-other-carmakers-taking-on-china-in-race-for-self-driving-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US to loosen rules on Tesla, other carmakers taking on China in race for self-driving cars
    The Trump administration is loosening rules to help US automakers like Elon Musk's Tesla develop self-driving cars so they can take on Chinese rivals.
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Samsung Electronics ได้ประกาศลงทุนมูลค่า 117 ล้านดอลลาร์ ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย โดยโรงงานนี้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ และเครื่องซักผ้า ซึ่งคิดเป็น 20% ของยอดขายในอินเดีย ในปี 2022-2023 การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากโรงงานเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงาน โดยมีการประท้วงและการหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้นและการรับรองสหภาพแรงงาน

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของรัฐทมิฬนาฑูระบุว่าการลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแรงงานของรัฐ และ Samsung จะเพิ่มตำแหน่งงานอีก 100 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานยังคงกล่าวหาว่า Samsung ใช้กลยุทธ์ต่อต้านสหภาพแรงงาน

    ✅ การลงทุนในโรงงานที่อินเดีย
    - Samsung ลงทุนมูลค่า 117 ล้านดอลลาร์ในโรงงานที่รัฐทมิฬนาฑู
    - โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ และเครื่องซักผ้า

    ✅ ผลกระทบต่อแรงงานและเศรษฐกิจ
    - การลงทุนเพิ่มตำแหน่งงานอีก 100 ตำแหน่ง
    - โรงงานคิดเป็น 20% ของยอดขายในอินเดียในปี 2022-2023

    ✅ ความขัดแย้งด้านแรงงาน
    - โรงงานเผชิญการประท้วงและการหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น
    - สหภาพแรงงานกล่าวหาว่า Samsung ใช้กลยุทธ์ต่อต้านสหภาพแรงงาน

    ✅ การตอบสนองของรัฐทมิฬนาฑู
    - รัฐมนตรีระบุว่าการลงทุนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแรงงานของรัฐ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/samsung-to-invest-117-million-in-southern-indian-facility-minister-says
    Samsung Electronics ได้ประกาศลงทุนมูลค่า 117 ล้านดอลลาร์ ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย โดยโรงงานนี้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ และเครื่องซักผ้า ซึ่งคิดเป็น 20% ของยอดขายในอินเดีย ในปี 2022-2023 การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากโรงงานเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งด้านแรงงาน โดยมีการประท้วงและการหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้นและการรับรองสหภาพแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของรัฐทมิฬนาฑูระบุว่าการลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแรงงานของรัฐ และ Samsung จะเพิ่มตำแหน่งงานอีก 100 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานยังคงกล่าวหาว่า Samsung ใช้กลยุทธ์ต่อต้านสหภาพแรงงาน ✅ การลงทุนในโรงงานที่อินเดีย - Samsung ลงทุนมูลค่า 117 ล้านดอลลาร์ในโรงงานที่รัฐทมิฬนาฑู - โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ และเครื่องซักผ้า ✅ ผลกระทบต่อแรงงานและเศรษฐกิจ - การลงทุนเพิ่มตำแหน่งงานอีก 100 ตำแหน่ง - โรงงานคิดเป็น 20% ของยอดขายในอินเดียในปี 2022-2023 ✅ ความขัดแย้งด้านแรงงาน - โรงงานเผชิญการประท้วงและการหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น - สหภาพแรงงานกล่าวหาว่า Samsung ใช้กลยุทธ์ต่อต้านสหภาพแรงงาน ✅ การตอบสนองของรัฐทมิฬนาฑู - รัฐมนตรีระบุว่าการลงทุนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแรงงานของรัฐ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/samsung-to-invest-117-million-in-southern-indian-facility-minister-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung to invest $117 million in southern Indian facility, minister says
    (Reuters) -South Korea's Samsung Electronics will invest 10 billion rupees ($117.09 million) in its facility in southern India, a minister said on Friday, months after the plant faced worker protests following employee suspensions.
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการใช้งานแอป Windows Maps โดยแอปนี้จะถูกลบออกจาก Microsoft Store ในเดือนกรกฎาคม 2025 และจะมีการอัปเดตครั้งสุดท้ายที่ทำให้แอปไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Microsoft ได้ยกเลิกการรองรับแผนที่แบบออฟไลน์ และไม่ได้รวมแอปนี้ไว้ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ติดตั้งใหม่

    Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps เวอร์ชันเว็บแทน ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านลิงก์ที่ Microsoft ให้ไว้

    ✅ การยุติการใช้งาน Windows Maps
    - แอปจะถูกลบออกจาก Microsoft Store ในเดือนกรกฎาคม 2025
    - การอัปเดตครั้งสุดท้ายจะทำให้แอปไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ การเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps
    - Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps เวอร์ชันเว็บ
    - ข้อมูลส่วนตัวหรือไฟล์ที่บันทึกไว้ในแอปจะไม่ถูกลบ แต่จะไม่สามารถใช้งานได้ในแอปอีกต่อไป

    ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Windows 11
    - Windows Maps ไม่ได้รวมอยู่ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ติดตั้งใหม่

    ✅ การยุติฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้อง
    - Microsoft ได้ยุติการใช้งาน Windows UWP Map control และ Windows Maps platform APIs

    https://www.neowin.net/news/microsoft-kills-windows-maps-app/
    Microsoft ได้ประกาศยุติการใช้งานแอป Windows Maps โดยแอปนี้จะถูกลบออกจาก Microsoft Store ในเดือนกรกฎาคม 2025 และจะมีการอัปเดตครั้งสุดท้ายที่ทำให้แอปไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Microsoft ได้ยกเลิกการรองรับแผนที่แบบออฟไลน์ และไม่ได้รวมแอปนี้ไว้ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ติดตั้งใหม่ Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps เวอร์ชันเว็บแทน ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านลิงก์ที่ Microsoft ให้ไว้ ✅ การยุติการใช้งาน Windows Maps - แอปจะถูกลบออกจาก Microsoft Store ในเดือนกรกฎาคม 2025 - การอัปเดตครั้งสุดท้ายจะทำให้แอปไม่สามารถใช้งานได้ ✅ การเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps - Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้ Bing Maps เวอร์ชันเว็บ - ข้อมูลส่วนตัวหรือไฟล์ที่บันทึกไว้ในแอปจะไม่ถูกลบ แต่จะไม่สามารถใช้งานได้ในแอปอีกต่อไป ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Windows 11 - Windows Maps ไม่ได้รวมอยู่ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ติดตั้งใหม่ ✅ การยุติฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้อง - Microsoft ได้ยุติการใช้งาน Windows UWP Map control และ Windows Maps platform APIs https://www.neowin.net/news/microsoft-kills-windows-maps-app/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft kills Windows Maps app
    Time to say goodbye to the Windows Maps application. Microsoft is killing it for good later this year.
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!"

    ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!!

    ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024”

    จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป

    ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้

    ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว

    นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว

    จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!" ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!! ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024” จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้ ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง

    Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่
    - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า
    - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake

    ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต
    - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7
    - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม

    ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร
    - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027

    ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม
    - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2
    - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน
    - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล

    ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล
    - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025

    ✅ การตอบสนองของตลาด
    - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027 ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2 - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2 - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025 ✅ การตอบสนองของตลาด - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย

    ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย
    - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด
    - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์
    - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต
    - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
    - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump tariffs push top PC makers Lenovo, HP, and Dell toward Saudi Arabia
    The so-called "reciprocal tariffs" imposed by the Trump administration could push major PC manufacturers to find new production hubs, and it likely won't be in the US....
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน

    ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน
    - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
    - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง

    ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน
    - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน
    - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ
    - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้
    - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่

    ✅ เป้าหมายของนโยบาย
    - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่ ✅ เป้าหมายของนโยบาย - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google tells some remote workers to return to the office or face termination
    Google was one of the companies who decided to play it safe when it came to bringing workers back following the pandemic. It introduced hybrid work models...
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025

    ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet
    - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้
    - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads)
    - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม

    ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025
    - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity

    ✅ การแข่งขันในตลาด
    - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google
    - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity ✅ การแข่งขันในตลาด - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    WWW.NEOWIN.NET
    Perplexity wants to collect data on everything users do online for 'hyper personalized' ads
    On TBPN, Perplexity's CEO outlined plans to tackle challenges by tracking users online and using that data for ads.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC

    นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก

    ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM
    - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้
    - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน

    ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI
    - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI
    - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies

    ✅ การสนับสนุน LibTorch
    - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้ - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies ✅ การสนับสนุน LibTorch - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64 - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings native PyTorch Arm support to Windows devices
    The Windows on Arm developer tent just got bigger, as Microsoft has announced native PyTorch builds for the platform.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+

    ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X
    - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025
    - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft
    - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่
    - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X
    - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm
    - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro

    ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต
    - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED

    https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่ - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    COMPUTERCITY.COM
    Microsoft Has Officially Discontinued The Surface Pro X Line
    The Surface Pro X—Microsoft’s ambitious experiment with ARM-based computing—has officially reached the end of its road. While there hasn’t been a grand
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ฟูดเดลิเวอรี ถึงยุคกึ่งผูกขาด

    การประกาศปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) แพลตฟอร์มสั่งอาหารและของกินของใช้ออนไลน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2568 นับเป็นการปิดฉากหนึ่งในผู้แข่งขันฟูดเดลิเวอรี (Food Delivery) ที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคชาวไทยมานานถึง 13 ปี นับตั้งแต่สตาร์ทอัพจากประเทศเยอรมนี เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกในไทยเมื่อปี 2555 ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ให้บริการรายอื่น ตั้งแต่อูเบอร์อีท (Uber Eats) แกร็บฟู้ด (Grab Food) ไลน์แมน (LINE MAN) โกเจ็ก (Gojek) โรบินฮู้ด (Robinhood) และช้อปปี้ฟู้ด (Shopee Food) ซึ่งแต่ละรายต่างช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้บริโภคด้วยวิธีแตกต่างกันไป

    หากย้อนไปถึงงบกำไรขาดทุนของฟู้ดแพนด้าย้อนหลัง 9 ปี พบว่าขาดทุนสุทธิทุกปี โดยในช่วงแรกมีรายได้รวมหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิเกือบ 100 ล้านบาท แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนไม่ออกจากบ้าน พบว่าปี 2563 มีรายได้รวมกว่า 4,375.12 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,595.90 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 6,786.56 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิถึง 4,721.59 ล้านบาท มาถึง 2 ปีหลังล่าสุด รายได้ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยปีที่ส่งงบการเงินล่าสุด 2566 รายได้รวม 3,843.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 522.48 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันเหลือเพียง 5%

    การปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า ทำให้แพลตฟอร์มฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่สองเจ้าอย่าง LINE MAN Wongnai และ Grab ต่างสะท้อนมุมมองว่าการแข่งขันอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขันแบบกึ่งผูกขาดอย่างชัดเจน ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจากสงครามราคา สู่สงครามคุณภาพ โดยจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะที่ จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับกลยุทธ์โดยรักษาสมดุลวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก และสามารถทำกำไรต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี

    "จากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างเฟกดีมานด์ (อุปสงค์เทียม) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ" จันต์สุดา จากแกร็บ ประเทศไทย ระบุ

    อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของไรเดอร์ (Rider) เฟซบุ๊กเพจสหภาพไรเดอร์กลับมองว่า การที่ผู้บริหารฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่ระบุว่าจากสงครามราคามาเป็นสงครามคุณภาพ คนแบกรับเงื่อนไขการทำธุรกิจที่แสนเอาเปรียบคือไรเดอร์ ที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกกดค่ารอบไรเดอร์ พ่วงงานให้ลูกค้ารอไป 1-2 ชั่วโมง ทำงานแล้วเงินลดทุกปีเพราะอ้างว่าขาดทุน

    #Newskit
    ฟูดเดลิเวอรี ถึงยุคกึ่งผูกขาด การประกาศปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) แพลตฟอร์มสั่งอาหารและของกินของใช้ออนไลน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2568 นับเป็นการปิดฉากหนึ่งในผู้แข่งขันฟูดเดลิเวอรี (Food Delivery) ที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคชาวไทยมานานถึง 13 ปี นับตั้งแต่สตาร์ทอัพจากประเทศเยอรมนี เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกในไทยเมื่อปี 2555 ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ให้บริการรายอื่น ตั้งแต่อูเบอร์อีท (Uber Eats) แกร็บฟู้ด (Grab Food) ไลน์แมน (LINE MAN) โกเจ็ก (Gojek) โรบินฮู้ด (Robinhood) และช้อปปี้ฟู้ด (Shopee Food) ซึ่งแต่ละรายต่างช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้บริโภคด้วยวิธีแตกต่างกันไป หากย้อนไปถึงงบกำไรขาดทุนของฟู้ดแพนด้าย้อนหลัง 9 ปี พบว่าขาดทุนสุทธิทุกปี โดยในช่วงแรกมีรายได้รวมหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิเกือบ 100 ล้านบาท แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนไม่ออกจากบ้าน พบว่าปี 2563 มีรายได้รวมกว่า 4,375.12 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,595.90 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 6,786.56 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิถึง 4,721.59 ล้านบาท มาถึง 2 ปีหลังล่าสุด รายได้ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยปีที่ส่งงบการเงินล่าสุด 2566 รายได้รวม 3,843.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 522.48 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันเหลือเพียง 5% การปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า ทำให้แพลตฟอร์มฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่สองเจ้าอย่าง LINE MAN Wongnai และ Grab ต่างสะท้อนมุมมองว่าการแข่งขันอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขันแบบกึ่งผูกขาดอย่างชัดเจน ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจากสงครามราคา สู่สงครามคุณภาพ โดยจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะที่ จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับกลยุทธ์โดยรักษาสมดุลวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก และสามารถทำกำไรต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี "จากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างเฟกดีมานด์ (อุปสงค์เทียม) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ" จันต์สุดา จากแกร็บ ประเทศไทย ระบุ อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของไรเดอร์ (Rider) เฟซบุ๊กเพจสหภาพไรเดอร์กลับมองว่า การที่ผู้บริหารฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่ระบุว่าจากสงครามราคามาเป็นสงครามคุณภาพ คนแบกรับเงื่อนไขการทำธุรกิจที่แสนเอาเปรียบคือไรเดอร์ ที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกกดค่ารอบไรเดอร์ พ่วงงานให้ลูกค้ารอไป 1-2 ชั่วโมง ทำงานแล้วเงินลดทุกปีเพราะอ้างว่าขาดทุน #Newskit
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ปากีสถานประกาศตอบโต้อินเดียขั้นสูงสุด!

    หลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของปากีสถานสิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญ:

    ➡️ปากีสถานตัดความสัมพันธ์กับอินเดียทุกช่องทาง

    ➡️ยุติการค้าตามแนวพรมแดนของสองประเทศอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผ่านประเทศที่สามก็ถูกสั่งห้ามด้วย

    ➡️ปิดกั้นน่านฟ้าทั้งหมดของเครื่องบินที่จะผ่านเข้าสู่อินเดีย

    ➡️ยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่อินเดีย รวมทั้งพลเมืองทั้งหมด และมีคำสั่งให้ต้องออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ยกเว้นผู้แสวงบุญชาวซิกข์
    ปากีสถานประกาศตอบโต้อินเดียขั้นสูงสุด! หลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของปากีสถานสิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญ: ➡️ปากีสถานตัดความสัมพันธ์กับอินเดียทุกช่องทาง ➡️ยุติการค้าตามแนวพรมแดนของสองประเทศอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผ่านประเทศที่สามก็ถูกสั่งห้ามด้วย ➡️ปิดกั้นน่านฟ้าทั้งหมดของเครื่องบินที่จะผ่านเข้าสู่อินเดีย ➡️ยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่อินเดีย รวมทั้งพลเมืองทั้งหมด และมีคำสั่งให้ต้องออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ยกเว้นผู้แสวงบุญชาวซิกข์
    0 Comments 0 Shares 187 Views 13 0 Reviews
  • สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย


    👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

    ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้:
    👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง
    👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ
    👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน
    👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)
    👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย 👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้: 👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง 👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ 👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน 👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) 👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน:

    1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน
    2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)

    เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน

    กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น

    หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen

    ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด

    สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม

    สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ

    อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม

    หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน: 1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน 2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ได้ประกาศว่าจะออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส โดย Pavel Durov CEO ของ Telegram ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่แลกเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรปพยายามผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจเข้าถึงข้อความส่วนตัวและข้อความที่เข้ารหัส

    ✅ Telegram ยืนยันความมุ่งมั่นในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
    - Telegram ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
    - Pavel Durov ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่สร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส

    ✅ การผลักดันกฎหมาย backdoor ในยุโรป
    - กฎหมายที่เสนอในฝรั่งเศสถูกปฏิเสธ เนื่องจากอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง
    - Cryptographers ระบุว่า backdoor อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์และหน่วยงานต่างประเทศ

    ✅ ผลกระทบต่อการใช้งาน Telegram
    - Telegram อาจออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor
    - การประกาศนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    ✅ ความสำคัญของการเข้ารหัสในยุคดิจิทัล
    - การเข้ารหัสช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/telegram-pledges-to-exit-the-market-rather-than-undermine-encryption-with-backdoors
    Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ได้ประกาศว่าจะออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส โดย Pavel Durov CEO ของ Telegram ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่แลกเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรปพยายามผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจเข้าถึงข้อความส่วนตัวและข้อความที่เข้ารหัส ✅ Telegram ยืนยันความมุ่งมั่นในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน - Telegram ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา - Pavel Durov ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่สร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส ✅ การผลักดันกฎหมาย backdoor ในยุโรป - กฎหมายที่เสนอในฝรั่งเศสถูกปฏิเสธ เนื่องจากอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง - Cryptographers ระบุว่า backdoor อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์และหน่วยงานต่างประเทศ ✅ ผลกระทบต่อการใช้งาน Telegram - Telegram อาจออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor - การประกาศนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ✅ ความสำคัญของการเข้ารหัสในยุคดิจิทัล - การเข้ารหัสช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/telegram-pledges-to-exit-the-market-rather-than-undermine-encryption-with-backdoors
    WWW.TECHRADAR.COM
    Telegram pledges to exit the market rather than "undermine encryption with backdoors"
    "We don’t trade privacy for market share," said Telegram's CEO, Pavel Durov
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • AWS และ Microsoft ได้ประกาศหยุดโครงการศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทไม่ได้ยกเลิกโครงการที่ได้ลงนามไว้แล้ว โดย AWS ยังคงเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ Generative AI และงานพื้นฐานบนแพลตฟอร์มของตน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน

    ✅ AWS หยุดการเจรจาเช่าศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ
    - การหยุดนี้เป็นการจัดการความจุที่เป็นกิจวัตร ไม่ใช่การลดความสนใจใน AI
    - โครงการที่ลงนามแล้วจะยังคงดำเนินการต่อไป

    ✅ Microsoft หยุดโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในโอไฮโอ
    - การหยุดนี้เป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

    ✅ การลงทุนในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป
    - AWS ลงทุน 8.3 พันล้านดอลลาร์ในรัฐมหาราษฏระ อินเดีย และ 11 พันล้านดอลลาร์ในจอร์เจีย
    - Microsoft ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคต่างๆ

    ✅ ผลกระทบจากภาษีของทรัมป์
    - ภาษีที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ

    https://www.techradar.com/pro/aws-joins-microsoft-in-pausing-data-center-projects-is-ai-demand-falling-off
    AWS และ Microsoft ได้ประกาศหยุดโครงการศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทไม่ได้ยกเลิกโครงการที่ได้ลงนามไว้แล้ว โดย AWS ยังคงเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ Generative AI และงานพื้นฐานบนแพลตฟอร์มของตน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ✅ AWS หยุดการเจรจาเช่าศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ - การหยุดนี้เป็นการจัดการความจุที่เป็นกิจวัตร ไม่ใช่การลดความสนใจใน AI - โครงการที่ลงนามแล้วจะยังคงดำเนินการต่อไป ✅ Microsoft หยุดโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในโอไฮโอ - การหยุดนี้เป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ✅ การลงทุนในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป - AWS ลงทุน 8.3 พันล้านดอลลาร์ในรัฐมหาราษฏระ อินเดีย และ 11 พันล้านดอลลาร์ในจอร์เจีย - Microsoft ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคต่างๆ ✅ ผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ - ภาษีที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ https://www.techradar.com/pro/aws-joins-microsoft-in-pausing-data-center-projects-is-ai-demand-falling-off
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Avicena บริษัทเทคโนโลยีจาก Sunnyvale, CA ได้ประกาศความร่วมมือกับ TSMC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี LightBundle ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อแบบ microLED ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm และลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกล

    ✅ LightBundle รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูง
    - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่ความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm
    - ลดการใช้พลังงานด้วยประสิทธิภาพต่ำกว่า 1pJ/bit

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ TSMC
    - TSMC ใช้เทคโนโลยี CMOS image sensor (CIS) เพื่อพัฒนา photodetector (PD) arrays
    - การผลิต PD arrays ที่เหมาะสมกับแสงที่ส่งผ่าน microLED

    ✅ การใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่
    - รองรับการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกลกว่า 10 เมตร
    - ลดข้อจำกัดของการเชื่อมต่อด้วยสายทองแดงในปัจจุบัน

    ✅ การนำเสนอเทคโนโลยีในงาน TSMC 2025 North America Technology Symposium
    - Avicena จะจัดแสดงเทคโนโลยี LightBundle ในงานนี้

    https://www.techpowerup.com/335873/avicena-works-with-tsmc-to-enable-pd-arrays-for-lightbundle-microled-based-interconnects
    Avicena บริษัทเทคโนโลยีจาก Sunnyvale, CA ได้ประกาศความร่วมมือกับ TSMC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี LightBundle ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อแบบ microLED ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm และลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกล ✅ LightBundle รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูง - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่ความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm - ลดการใช้พลังงานด้วยประสิทธิภาพต่ำกว่า 1pJ/bit ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ TSMC - TSMC ใช้เทคโนโลยี CMOS image sensor (CIS) เพื่อพัฒนา photodetector (PD) arrays - การผลิต PD arrays ที่เหมาะสมกับแสงที่ส่งผ่าน microLED ✅ การใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ - รองรับการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกลกว่า 10 เมตร - ลดข้อจำกัดของการเชื่อมต่อด้วยสายทองแดงในปัจจุบัน ✅ การนำเสนอเทคโนโลยีในงาน TSMC 2025 North America Technology Symposium - Avicena จะจัดแสดงเทคโนโลยี LightBundle ในงานนี้ https://www.techpowerup.com/335873/avicena-works-with-tsmc-to-enable-pd-arrays-for-lightbundle-microled-based-interconnects
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Avicena Works with TSMC to Enable PD Arrays for LightBundle MicroLED-Based Interconnects
    Avicena, headquartered in Sunnyvale, CA, announced today that the company will work with TSMC to optimize photodetector (PD) arrays for Avicena's revolutionary LightBundle microLED-based interconnects. LightBundle supports > 1Tbps/mm shoreline density and extends ultra-high density die-to-die (D2D) ...
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
More Results