• อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 21 เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังแรง หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2–3 เมตร พื้นที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

    ไทยตอนบนอากาศเย็นลง มีลมแรง ภาคเหนือ–อีสานมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง กทม.–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า พร้อมเตือนระวังอัคคีภัยจากลมแรงและอากาศแห้ง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112604

    #อุตุนิยมวิทยา #เตือนภัยฝนตกหนัก #คลื่นลมแรง #อากาศเย็น #News1live #News1
    อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 21 เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังแรง หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2–3 เมตร พื้นที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง • ไทยตอนบนอากาศเย็นลง มีลมแรง ภาคเหนือ–อีสานมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง กทม.–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า พร้อมเตือนระวังอัคคีภัยจากลมแรงและอากาศแห้ง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112604 • #อุตุนิยมวิทยา #เตือนภัยฝนตกหนัก #คลื่นลมแรง #อากาศเย็น #News1live #News1
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar

    รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม
    เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก
    https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review

    iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ
    Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly

    NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย
    NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด
    https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud

    Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น
    Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop

    GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake
    เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs

    นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
    ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them

    Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้
    Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข”
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined

    รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี
    เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล
    https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ
    OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs

    ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know

    Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ
    ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน
    https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack

    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก
    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล
    https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past

    Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก
    Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills

    Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่
    Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach



    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar 🔋 รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review 🍎 iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly 🌐 NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud 📱 Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop 🖥️ GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs 🛡️ นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them ✨ Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข” 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined 🎶 รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล 🔗 https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it 🛍️ ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs 🔒 ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์ ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know 📉 Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack 📷 Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past 🤖 Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills ✈️ Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline

    จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor

    Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming
    จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น
    https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses

    Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก
    https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature

      Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon
    หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ
    https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones

    ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M
    Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์
    https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention

    CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389)
    เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน
    https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection

    CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด
    นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover

    ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files

    Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender
    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก
    https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status

    โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm
    นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน
    https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft

    ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure
    มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
    https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors

    📌🔒🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔒📌 #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline 🐉 จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 🔗 https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor 📝 Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses 💻 Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature 📱  Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones ☁️ ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention 🛡️ CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 💻 ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389) เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📷 ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน 🔗 https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection 📡 CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover 📧 ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files 🖥️ Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status 💰 โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft 🎭 ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS”

    Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake

    นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์

    การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน

    แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Nova Lake และ NPU6
    ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8)
    มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS)

    การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน
    1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake
    5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake

    สถาปัตยกรรมใหม่
    ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์)
    รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์

    การพัฒนาและทดสอบ
    พบข้อมูลใน Linux Kernel patch
    อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง

    ข้อกังวลและการแข่งขัน
    ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก
    ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    🖥️ “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS” Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์ การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Nova Lake และ NPU6 ➡️ ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ➡️ มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS) ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ 1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake ➡️ 5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake ✅ สถาปัตยกรรมใหม่ ➡️ ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์) ➡️ รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์ ✅ การพัฒนาและทดสอบ ➡️ พบข้อมูลใน Linux Kernel patch ➡️ อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง ‼️ ข้อกังวลและการแข่งขัน ⛔ ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก ⛔ ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake NPU6 Expected To Deliver 74 TOPS Of AI Performance
    As per the claim by a prominent leaker, the Intel Nova Lake will boast NPU6 that will deliver up to 74 AI TOPS performance.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า”

    แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น

    แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา

    ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว

    นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Surveillance Pricing
    ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า
    ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น
    คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด

    สถานะทางกฎหมาย
    การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย
    FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว

    การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ
    แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม
    นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้

    ข้อกังวลต่อผู้บริโภค
    รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ
    ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย

    ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม
    ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา
    อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    🕵️ “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า” แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Surveillance Pricing ➡️ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า ➡️ ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น ➡️ คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด ✅ สถานะทางกฎหมาย ➡️ การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย ➡️ FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว ✅ การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ ➡️ แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม ➡️ นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้ ‼️ ข้อกังวลต่อผู้บริโภค ⛔ รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ ⛔ ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย ‼️ ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ⛔ ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา ⛔ อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why 'surveillance pricing' strikes a nerve
    Surveillance pricing describes a practice in which a company sets a price for particular consumers based on what it gleans from their personal data.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ

    Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน

    หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง

    รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง
    PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้
    Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง
    Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย

    ฮาร์ดแวร์และการผลิต
    Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS

    สรุปสาระสำคัญ
    ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100%
    ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools
    ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้

    ระบบ Appstore แบบใหม่
    รองรับหลาย feed และ decentralized
    มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org

    ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น
    Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง
    เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา
    บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library)
    การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน
    ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที

    https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    🕰️ Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง ⚙️ รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง ⭐ PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้ ⭐ Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ⭐ Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย 🔧 ฮาร์ดแวร์และการผลิต Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100% ➡️ ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools ➡️ ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้ ✅ ระบบ Appstore แบบใหม่ ➡️ รองรับหลาย feed และ decentralized ➡️ มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org ✅ ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น ➡️ Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ➡️ เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา ⛔ บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library) ⛔ การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน ⛔ ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    ERICMIGI.COM
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • เปิดตัว Claude Opus 4.5 – ก้าวกระโดดด้าน AI Reasoning

    Anthropic ประกาศเปิดตัว Claude Opus 4.5 ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลที่ทรงพลังที่สุดในสายการพัฒนา Claude โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงด้าน reasoning, coding, และการทำงานแบบ agentic workflows พร้อมทั้งลดการใช้ token ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Sonnet 4.5)

    ฟีเจอร์และความสามารถใหม่
    การเขียนโค้ดและแก้บั๊ก: Claude Opus 4.5 สามารถจัดการงานซับซ้อน เช่น code migration และ refactoring ได้แม่นยำและเร็วขึ้น
    Agentic Workflows: รองรับการทำงานแบบ autonomous agents ที่สามารถวางแผนและแก้ปัญหาได้ต่อเนื่องยาวนาน
    ประสิทธิภาพสูงกว่า Sonnet 4.5: ใช้ token น้อยลงถึง 65% แต่ยังคงความแม่นยำและคุณภาพในการแก้ปัญหา
    การจัดการ Context และ Memory: รองรับ context window ขนาดใหญ่ (200K) และสามารถสรุปการสนทนาเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด
    การควบคุม Effort Parameter: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับงาน เช่น เน้นความเร็วหรือเน้นความละเอียด

    ผลกระทบต่อการใช้งานจริง
    Claude Opus 4.5 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานระดับองค์กร เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก, การสร้างระบบ multi-agent, การทำงานกับ Excel และ Chrome รวมถึงการสร้างเนื้อหายาว เช่น บทความ 10–15 หน้า ที่มีความสอดคล้องและจัดระเบียบได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้าน ความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกัน prompt injection attacks ทำให้ Claude Opus 4.5 เป็นหนึ่งในโมเดลที่มี alignment แข็งแกร่งที่สุดในตลาด AI frontier

    สรุปสาระสำคัญ
    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    เน้น reasoning, coding, และ agentic workflows
    ใช้ token น้อยลงแต่คุณภาพสูงขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับ context window 200K
    Effort parameter ปรับโหมดการทำงานได้
    สร้างเนื้อหายาวและซับซ้อนได้ดีขึ้น

    การใช้งานจริง
    เหมาะกับงานองค์กรและ multi-agent systems
    รองรับ Excel, Chrome และการทำงานอัตโนมัติ
    ปรับปรุงด้านความปลอดภัยจาก prompt injection

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การใช้ context ขนาดใหญ่ต้องระวังค่าใช้จ่าย token
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในช่วง early adoption
    การใช้งาน agentic workflows ต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกัน misalignment

    https://www.anthropic.com/news/claude-opus-4-5
    🤖 เปิดตัว Claude Opus 4.5 – ก้าวกระโดดด้าน AI Reasoning Anthropic ประกาศเปิดตัว Claude Opus 4.5 ซึ่งถูกยกให้เป็นโมเดลที่ทรงพลังที่สุดในสายการพัฒนา Claude โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงด้าน reasoning, coding, และการทำงานแบบ agentic workflows พร้อมทั้งลดการใช้ token ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (Sonnet 4.5) ⚙️ ฟีเจอร์และความสามารถใหม่ ⭐ การเขียนโค้ดและแก้บั๊ก: Claude Opus 4.5 สามารถจัดการงานซับซ้อน เช่น code migration และ refactoring ได้แม่นยำและเร็วขึ้น ⭐ Agentic Workflows: รองรับการทำงานแบบ autonomous agents ที่สามารถวางแผนและแก้ปัญหาได้ต่อเนื่องยาวนาน ⭐ ประสิทธิภาพสูงกว่า Sonnet 4.5: ใช้ token น้อยลงถึง 65% แต่ยังคงความแม่นยำและคุณภาพในการแก้ปัญหา ⭐ การจัดการ Context และ Memory: รองรับ context window ขนาดใหญ่ (200K) และสามารถสรุปการสนทนาเพื่อให้การทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด ⭐ การควบคุม Effort Parameter: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับงาน เช่น เน้นความเร็วหรือเน้นความละเอียด 🌍 ผลกระทบต่อการใช้งานจริง Claude Opus 4.5 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานระดับองค์กร เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก, การสร้างระบบ multi-agent, การทำงานกับ Excel และ Chrome รวมถึงการสร้างเนื้อหายาว เช่น บทความ 10–15 หน้า ที่มีความสอดคล้องและจัดระเบียบได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้าน ความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกัน prompt injection attacks ทำให้ Claude Opus 4.5 เป็นหนึ่งในโมเดลที่มี alignment แข็งแกร่งที่สุดในตลาด AI frontier 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว ➡️ เน้น reasoning, coding, และ agentic workflows ➡️ ใช้ token น้อยลงแต่คุณภาพสูงขึ้น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับ context window 200K ➡️ Effort parameter ปรับโหมดการทำงานได้ ➡️ สร้างเนื้อหายาวและซับซ้อนได้ดีขึ้น ✅ การใช้งานจริง ➡️ เหมาะกับงานองค์กรและ multi-agent systems ➡️ รองรับ Excel, Chrome และการทำงานอัตโนมัติ ➡️ ปรับปรุงด้านความปลอดภัยจาก prompt injection ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การใช้ context ขนาดใหญ่ต้องระวังค่าใช้จ่าย token ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในช่วง early adoption ⛔ การใช้งาน agentic workflows ต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกัน misalignment https://www.anthropic.com/news/claude-opus-4-5
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Introducing Claude Opus 4.5
    Anthropic is an AI safety and research company that's working to build reliable, interpretable, and steerable AI systems.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs

    AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม

    ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง
    Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น
    CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่
    Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2
    Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ
    Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ
    Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง:
    sudo dnf update

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1
    รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง
    เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น
    รองรับ x86_64_v2 processors

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์
    Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24
    อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5
    Performance enhancements และ frame pointers

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม
    รองรับ live, cloud และ container images
    อัปเกรดด้วย sudo dnf update

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง
    การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน
    ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์

    https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    📰 AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง 💠 Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น 💠 CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่ 💠 Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2 💠 Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ 💠 Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ 💠 Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย 💻 การติดตั้งและการอัปเกรด AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง: 👉 sudo dnf update 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1 ➡️ รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง ➡️ เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น ➡️ รองรับ x86_64_v2 processors ✅ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์ ➡️ Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 ➡️ อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 ➡️ Performance enhancements และ frame pointers ✅ การติดตั้งและการอัปเกรด ➡️ มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม ➡️ รองรับ live, cloud และ container images ➡️ อัปเกรดด้วย sudo dnf update ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง ⛔ การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน ⛔ ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์ https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    9TO5LINUX.COM
    AlmaLinux OS 10.1 Officially Released with Support for the Btrfs File System - 9to5Linux
    AlmaLinux OS 10.1 distribution is now available for download as a free alternative to Red Hat Enterprise Linux 10.1 with Btrfs support.
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025

    WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน

    องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่

    ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS
    DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่

    การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า

    ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว
    องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น

    Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การประกาศยุติ WINS
    Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS
    การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034

    ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS
    รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory
    มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี
    โครงสร้างแบบ distributed และ scalable

    แนวทางการปรับตัวขององค์กร
    ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS
    ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists
    ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย
    ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing
    การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures

    https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    🖥️ Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025 WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่ 🔐 ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่ การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า ⚠️ ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การประกาศยุติ WINS ➡️ Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS ➡️ การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034 ✅ ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS ➡️ รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory ➡️ มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี ➡️ โครงสร้างแบบ distributed และ scalable ✅ แนวทางการปรับตัวขององค์กร ➡️ ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS ➡️ ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists ➡️ ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย ⛔ ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing ⛔ การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    SECURITYONLINE.INFO
    WINS is Dead: Microsoft to Fully Retire WINS Name Resolution from Windows Server Post-2025
    Microsoft will fully retire the WINS name-resolution service after Windows Server 2025. Support for existing deployments ends in 2034, urging migration to DNS now.
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 7
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 7
    หลังจากเจอสงครามฝิ่น ราชวงศ์ชิงก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ พร้อมกับการเจริญเติบโตของต่างชาติในจีน โดยเฉพาะที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งพวกฝรั่งมาอยู่กันเต็ม พร้อมกับมีสิทธิพิเศษๆ รวมทั้งแบ่งเขตปกครองกันเอง ตามสัญญาที่บีบได้มาจากจีน ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการปลูกฝิ่นในจีน ไม่ต้องเสียเวลาขนมาจากที่อื่น การปลูก ผลิต และขายฝิ่น ขยายตัวเร็วยิ่งกว่าปลูกข้าว ในที่สุด จีนก็กลายเป็นแหล่งผลิตฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก และกองทัพจีนก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ
    มันเป็นยุทธศาสตร์ชั้นยอด สุดชั่วของอังกฤษทีเดียว ใช้แผ่นดินจีนปลูกฝิ่น ขายชาวจีน มอมเมาชาวจีน เพื่อยึดแผ่นดินจีน ผมเข้าใจหัวอกอาเฮีย แห่งแดนมังกรแล้ว
    เมื่อเกาหลีตีกันเอง ในปี ค.ศ.1894 ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างก็ส่งกองทัพไปช่วย เลยประลองกันเอง และกองทัพจีนภายใต้ฤทธิ์ฝิ่น แพ้หมดรูปกลับบ้าน รุ่งขึ้นในปี ค.ศ.1895 เริ่มมีชาวจีนที่ไม่พอใจ รู้สึกเสียหน้า และเห็นว่า ความพ่ายแพ้ของกองทัพมาจากการที่ต่างชาติแทรกแซงจีน จีงมีการรวมตัวกันเพื่อพยายามขับไล่พวกฝรั่งที่อยู่ในจีน และไล่ราชวงศ์ชิงที่อ่อนแอ ยอมให้ต่างชาติเข้ามาใหญ่อยู่ในจีน
    ปี ค.ศ.1898 ชาวจีนที่ต้องการไล่ฝรั่งออกไปจากประเทศ รวมตัวกันที่เมืองชานตุง ทางเหนือของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวเยอรมันอยู่แยะ เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟ และมีเหมืองถ่านหินอยู่ที่นั่น เยอรมันทำเหมือง สร้างทางรถไฟ กำไรมหาศาล แต่ใช้งานคนจีนอย่างกับทาส ค่าแรงต่ำ ความเป็นอยู่ของคนงานชาวจีนน่าอนาถ ชาวจีนจึงเริ่มออกเดินตามถนน พร้อมตะโกนไล่ …ผีปีศาจต่างชาติออกไป ออกไป…ชาวเยอรมัน ร่วมทั้งพวกสอนศาสนา มิชชั่นนารี และพวกเข้ารีต เริ่มถูกทำร้าย ถูกฆ่า
    ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คือ กลุ่มสมาคมลับ Yihequan หรือ I-ho-chuan หรือ ที่เรียกกันว่า พวกนักมวย เพราะเป็นพวกเล่นหมัดมวยทั้งนั้น ถึงปี ค.ศ.1900 กลุ่มนักมวยกระจายไปทั่วมณฑลทางเหนือ รวมทั้งที่เมืองหลวงปักกิ่ง พวกนักมวยต้องการขับไล่รัฐบาลของพวกแมนจู เพราะทำตัวเหมือนเป็นหุ่นชักให้กับพวกต่างชาติ พระนางซูซีไทเฮา อำนาจตัวจริงที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลแมนจู ขอเจรจากับพวกนักมวย ว่าให้ไปไล่พวกฝรั่งอย่างเดียวเถิด อย่าไล่รัฐบาลแมนจูเลย และพระนางจะสนับสนุนพวกนักมวยทุกอย่าง พวกนักมวยว่าง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เชื่อคำเจรจาของพระนางซูซี
    ในช่วงปี ค.ศ.1900 นั้น ฝรั่งปักหลักสร้างบ้านอยู่เต็มปักกิ่ง แต่เหยียดหยามดูถูกคนจีน พวกนักมวย จึงได้พรรคพวกเพิ่มขึ้นอีกมากที่ปักกิ่ง พวกฝรั่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักไม่ปลอดภัย ทูตเยอรมันที่จีน จึงจะไปยื่นคำประท้วงต่อรัฐบาลแมนจู ระหว่างเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ตัวทูตก็ถูกพวกนักมวยลากลงมาจากรถ และถูกทำร้ายจนตาย พวกฝรั่งรู้ข่าวก็ตาเหลือก รีบพากันอพยพ หลบไปอยู่ในสถานทูตอังกฤษ ที่มีทหารป้องกันประมาณ 400 คน
    ฝ่ายฝรั่งบอกว่า พวกนักมวยจำนวนเป็นหมื่น มาล้อมสถานทูตอังกฤษ การล้อมและต่อสู้ดำเนินอยู่ 55 วัน กว่ากองกำลังของพวกต่างชาติ จากเมืองเทียนสินจะมาถึง พร้อมด้วยปืนเล็กปืนใหญ่ และต่อสู้จนพวกนักมวย ที่มีแต่มีดและมือตีนพ่ายแพ้ไป
    ฝรั่งรายงานว่า มีพวกฝรั่งตายไป 66 คน บาดเจ็บ 150 คน แต่ไม่รู้ว่าพวกนักมวยเจ็บตายไปเท่าไหร่ พวกฝรั่งโกรธแค้นมาก จำต้องลงโทษชาวจีนให้จงหนัก ที่กำเริบเสิบสานนัก กองทัพต่างชาติไม่ให้เสียเวลา ฉวยโอกาสบุกเข้าไปในพระราชวังปักกิ่ง พวกหนึ่งก็ขนสมบัติของฮ่องเต้ อีกพวกหนึ่งก็ทำลายพระราชวัง เสียหายแทบไม่เหลือชิ้นดี ส่วนพระนางซูซี เมื่อพวกนักมวยเข้ามาในเมืองปักกิ่ง พระนางก็ประกาศสงครามกับพวกฝรั่ง แต่เมื่อเห็นพวกนักมวยทำท่าจะไปไม่รอด พระนางก็ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน หลบหนีจากวังไปอยู่เมืองซีอาน
    เมื่อพวกฝรั่งปราบพวกกบฏนักมวยราบจนไม่เหลือ พวกฝรั่งก็เรียกค่าเสียหายจากจีนเป็นจำนวนเงินถึง 500 ล้านเหรียญ และยกโทษให้พระนางซูซี ให้กลับมาอยู่วัง และทำหน้าที่เป็นหุ่นชักให้ฝรั่งต่อไป แล้วพวกฝรั่งก็กลับมามีอำนาจในจีน ตักตวงจีนเหมือนเดิม และมากกว่าเดิม ส่วนพวกกบฏนักมวย ถูกจับและถูกตัดหัวเสียบประจานกลางเมือง
    เรื่องของพวกกบฏนักมวย เป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์ ทั้งค่ายฝรั่ง และค่ายจีน นำมาศึกษา ต่างได้ข้อสรุป ไม่เหมือนกัน น่าสนใจ
    หลังจากนั้นราชวงศ์ชิงก็ยิ่งเสื่อม ลง กลุ่มก๊กเหล่าต่างๆ โผล่ขึ้นมาอีก ในที่สุด ราชวงศ์ชิง ก็ถูกโค่น ในปี ค.ศ.1910 โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง ของซุนยัดเซ็น ปฏิวัติสำเร็จ แต่ยังปกครองจีนไม่ได้ ภายในจีนยังแตกแยก แล้วอำนาจก็กลับไปอยู่ในมือของ ยวนสี่ไข นายทหารใหญ่ ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ชุบเลี้ยงจน มีอำนาจในปลายราชวงศ์ชิง การแย่งชิงอำนาจระหว่างก๊ก ดูซับซ้อน ไม่รู้ใครต้มใคร แต่ในที่สุด ยวนซีไข่ ก็ครองอำนาจไม่อยู่ ตายจากไป และซุนยัดเซ็น ก็ขึ้นมาปกครองจีน โดยตั้ง เจียงไคเช็ค น้องเขย เป็นมือขวา
    ย้อนกลับมาเรื่อง ฝิ่น อาวุธสำคัญที่ทำลายจีนเสียน่วมตามแผนของอังกฤษ ยังเป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาเป็นสาระพัดยาเสพติด ที่มีอานุภาพใช้ มีฤทธิ์สูงกว้างขวางไปทุกเนื้อที่ และยั่งยืนต่อมา จนถึงทุกวันนี้
    ในบรรดาเจ้าพ่อของจีน ที่ถือกำเนิดมาจากการค้าฝิ่น แก๊งเขียว หรือ Green Gang ซึ่งยึดหัวหาดอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ดูแลเขตปกครองของฝรั่งเศส และดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญในการ รับไม้ทุบจีนให้น่วมต่อ หัวหน้าแก๊งเขียว ชื่อ ตู้ หยูเช็ง (Tu Yueh-sen) ซึ่งตอนหลัง รวบรวมนักค้าฝิ่นขาใหญ่ๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดหมด ไอ้ตู้ จึงกลายเป็นเจ้าพ่อตู้
    ธุรกิจของเจ้าพ่อตู้ ดีวันดีคืน ในปี ค.ศ.1927 เจ้าพ่อตู้ ถึงกับมีกองทัพ(นักเลง) ส่วนตัว เมื่อพวกก๊กมินตั๋งของซุนยัดเซ็น มีนโยบายจะขจัดบรรดาก๊กเหล่าต่างๆ ซึ่งขณะนั้นมีมากมายให้หมดไป เจียงไคเช็ค ได้ยินชื่อเสียงของเจ้าพ่อตู้ นายพลเจียงจึงแอบจับมือกับเจ้าพ่อตู้ ให้ช่วยกำจัดพวกคอมมิวนิสต์ ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาในจีน และทำท่าจะเป็นดาวรุ่งมาแรง เจ้าพ่อ บอกไม่มีปัญหา เดี๋ยวจัดให้
    เมื่อพวกสหภาพกรรมกร ที่สังกัดพวกคอมมิวนิสต์ เดืนทางมาถึงเขตปกครองของฝรั่งเศส ก็ถูกพวกนักเลงรุมฆ่าฟันตายเป็นพันๆ คน รวมทั้งชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง แต่บังเอิญไปยืนอยู่แถวนั้น ก็โดนฆ่าไปด้วย ไอ้ตู้ สร้างผลงานได้เข้าตาคนจ้างจริงๆ
    หลังจากก๊กมินตั๋งครอบครองส่วนหนี่งของจีนได้ และตั้งรัฐบาลขึ้นมา นายพลเจียง ก็ยังคงใช้บริการของไอ้ตู้ต่อไป แถมตั้งไอ้ตู้และพวก เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล ตัวไอ้ตู้เอง ยังได้รับตำแหน่งเป็นพันเอกในกองทัพด้วย การค้าฝิ่นในจีน จึงยิ่งงอกงาม ไม่ใช่แค่ในจีน แต่งอกเงยไปถึงอเมริกา ซึ่งมีมาเฟียเซี่ยงไฮ้ ตู้ เป็นผู้จัดส่ง
    ในปี ค.ศ.1937 ที่ญี่ปุ่นบุกจีน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นมานานกิง กองทัพก๊กมินตั๋ง ก็ถอยไปอยู่ที่เมืองชงชิงในมณฑลเสฉวน หน้าฉาก เจียงไคเช็ค รบกับกองทัพญี่ปุ่น แต่หลังฉาก ทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันค้าฝิ่น บัดซบไหมครับ
    ญี่ปุ่นทำมาหาได้จากการค้าฝิ่น ฝิ่นเป็นรายได้หลักจากการบุกยึดและปักหลักอยู่ที่จีนของญี่ปุ่น และภายใต้การจัดการของไอ้ตู้ หรือท่านพันเอกตู้ นายพลเจียง ก็เป็นสายส่งฝิ่นให้แก่ญี่ปุ่น มณฑลเสฉวน และยูนนานของจีน กลายเป็นดงฝิ่น ทุกเนินเขาเต็มไปด้วยดอกฝิ่น สีแดง สีขาว สีชมพู ฝิ่นถูกขนส่งผ่านลงมาที่แม่น้ำแยงซี ทางหนี่งส่งไปที่เซี่ยงไฮ้ อีกทางส่งออกไปทางพม่า เพื่อมาเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    เมื่อญี่ปุ่นแพ้ในการสู้รบกับจีน ถอยทัพกลับ แต่สงครามกลางเมืองระหว่างก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ ยังดำเนินต่อไป เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ชนะ ไล่ตีลงมาถึงเซี่ยงไฮ้ ไอ้ตู้และแก๊งเขียว รีบเก็บของลงกระเป๋า เตลิดไปอยู่ฮ่องกง ส่วนนายพล เจียง ก็นำพวกตัว ข้ามไปปักหลักที่ไต้หวัน และพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนก็เกิดขึ้น
    เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มปกครองจีน มีชาวจีนติดฝิ่นเป็นหลายล้านคน จีนบอกคนพวกนี้คือ “เหยื่อ” ของรัฐบาลต่างชาติ คนติดฝิ่นเหล่านั้น ได้รับการดูแลรักษา และมีงานทำ โดยรัฐจัดหาให้ทั้งหมด จีนใช้เวลานาน กว่า จะล้างฝิ่น ที่อังกฤษพอกเอาไว้ให้ออกจากคน และออกจากประเทศ หมดเอาในปี ค.ศ.1956 อย่าได้ดูแคลนฝีมืออันชั่วร้ายของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายเชียว
    สำหรับฝิ่น ที่ส่งออกจากยูนาน เข้าทางพม่าผ่านรัฐฉาน ซึ่งอยู่คนละฝ่ายกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐฉานปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฝิ่น แม้จะมีข่าวว่า รัฐฉานเป็นแหล่งปลูกและผลิตฝิ่นแหล่งใหญ่ ภายใต้การอำนายการของหน่วยสืบราชการลับ ซีไอเอ ของอเมริกา และพวกฉานหลายคน ก็ทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับอเมริกา เกี่ยวกับกิจกรรมของจีนด้วย เรื่องนี้ มีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ
    เล่ามาถึงตรงนี้ คงพอเห็นกันแล้วว่า อังกฤษ อยู่เบื้องหลังพฤติกรรม และหลายเหตุการณ์ทั้งในญี่ปุ่น และที่จีน แต่อังกฤษ คงไม่ใช่นักล่ารายเดียว ที่วางแผนเคี้ยวจีน และอาจจะเคี้ยวญี่ปุ่นพร้อมๆ กันไปด้วย….
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 7 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 7 หลังจากเจอสงครามฝิ่น ราชวงศ์ชิงก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ พร้อมกับการเจริญเติบโตของต่างชาติในจีน โดยเฉพาะที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งพวกฝรั่งมาอยู่กันเต็ม พร้อมกับมีสิทธิพิเศษๆ รวมทั้งแบ่งเขตปกครองกันเอง ตามสัญญาที่บีบได้มาจากจีน ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการปลูกฝิ่นในจีน ไม่ต้องเสียเวลาขนมาจากที่อื่น การปลูก ผลิต และขายฝิ่น ขยายตัวเร็วยิ่งกว่าปลูกข้าว ในที่สุด จีนก็กลายเป็นแหล่งผลิตฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก และกองทัพจีนก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ มันเป็นยุทธศาสตร์ชั้นยอด สุดชั่วของอังกฤษทีเดียว ใช้แผ่นดินจีนปลูกฝิ่น ขายชาวจีน มอมเมาชาวจีน เพื่อยึดแผ่นดินจีน ผมเข้าใจหัวอกอาเฮีย แห่งแดนมังกรแล้ว เมื่อเกาหลีตีกันเอง ในปี ค.ศ.1894 ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างก็ส่งกองทัพไปช่วย เลยประลองกันเอง และกองทัพจีนภายใต้ฤทธิ์ฝิ่น แพ้หมดรูปกลับบ้าน รุ่งขึ้นในปี ค.ศ.1895 เริ่มมีชาวจีนที่ไม่พอใจ รู้สึกเสียหน้า และเห็นว่า ความพ่ายแพ้ของกองทัพมาจากการที่ต่างชาติแทรกแซงจีน จีงมีการรวมตัวกันเพื่อพยายามขับไล่พวกฝรั่งที่อยู่ในจีน และไล่ราชวงศ์ชิงที่อ่อนแอ ยอมให้ต่างชาติเข้ามาใหญ่อยู่ในจีน ปี ค.ศ.1898 ชาวจีนที่ต้องการไล่ฝรั่งออกไปจากประเทศ รวมตัวกันที่เมืองชานตุง ทางเหนือของจีน ซึ่งเป็นถิ่นที่มีชาวเยอรมันอยู่แยะ เนื่องจากเป็นเส้นทางรถไฟ และมีเหมืองถ่านหินอยู่ที่นั่น เยอรมันทำเหมือง สร้างทางรถไฟ กำไรมหาศาล แต่ใช้งานคนจีนอย่างกับทาส ค่าแรงต่ำ ความเป็นอยู่ของคนงานชาวจีนน่าอนาถ ชาวจีนจึงเริ่มออกเดินตามถนน พร้อมตะโกนไล่ …ผีปีศาจต่างชาติออกไป ออกไป…ชาวเยอรมัน ร่วมทั้งพวกสอนศาสนา มิชชั่นนารี และพวกเข้ารีต เริ่มถูกทำร้าย ถูกฆ่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้คือ กลุ่มสมาคมลับ Yihequan หรือ I-ho-chuan หรือ ที่เรียกกันว่า พวกนักมวย เพราะเป็นพวกเล่นหมัดมวยทั้งนั้น ถึงปี ค.ศ.1900 กลุ่มนักมวยกระจายไปทั่วมณฑลทางเหนือ รวมทั้งที่เมืองหลวงปักกิ่ง พวกนักมวยต้องการขับไล่รัฐบาลของพวกแมนจู เพราะทำตัวเหมือนเป็นหุ่นชักให้กับพวกต่างชาติ พระนางซูซีไทเฮา อำนาจตัวจริงที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลแมนจู ขอเจรจากับพวกนักมวย ว่าให้ไปไล่พวกฝรั่งอย่างเดียวเถิด อย่าไล่รัฐบาลแมนจูเลย และพระนางจะสนับสนุนพวกนักมวยทุกอย่าง พวกนักมวยว่าง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เชื่อคำเจรจาของพระนางซูซี ในช่วงปี ค.ศ.1900 นั้น ฝรั่งปักหลักสร้างบ้านอยู่เต็มปักกิ่ง แต่เหยียดหยามดูถูกคนจีน พวกนักมวย จึงได้พรรคพวกเพิ่มขึ้นอีกมากที่ปักกิ่ง พวกฝรั่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักไม่ปลอดภัย ทูตเยอรมันที่จีน จึงจะไปยื่นคำประท้วงต่อรัฐบาลแมนจู ระหว่างเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ตัวทูตก็ถูกพวกนักมวยลากลงมาจากรถ และถูกทำร้ายจนตาย พวกฝรั่งรู้ข่าวก็ตาเหลือก รีบพากันอพยพ หลบไปอยู่ในสถานทูตอังกฤษ ที่มีทหารป้องกันประมาณ 400 คน ฝ่ายฝรั่งบอกว่า พวกนักมวยจำนวนเป็นหมื่น มาล้อมสถานทูตอังกฤษ การล้อมและต่อสู้ดำเนินอยู่ 55 วัน กว่ากองกำลังของพวกต่างชาติ จากเมืองเทียนสินจะมาถึง พร้อมด้วยปืนเล็กปืนใหญ่ และต่อสู้จนพวกนักมวย ที่มีแต่มีดและมือตีนพ่ายแพ้ไป ฝรั่งรายงานว่า มีพวกฝรั่งตายไป 66 คน บาดเจ็บ 150 คน แต่ไม่รู้ว่าพวกนักมวยเจ็บตายไปเท่าไหร่ พวกฝรั่งโกรธแค้นมาก จำต้องลงโทษชาวจีนให้จงหนัก ที่กำเริบเสิบสานนัก กองทัพต่างชาติไม่ให้เสียเวลา ฉวยโอกาสบุกเข้าไปในพระราชวังปักกิ่ง พวกหนึ่งก็ขนสมบัติของฮ่องเต้ อีกพวกหนึ่งก็ทำลายพระราชวัง เสียหายแทบไม่เหลือชิ้นดี ส่วนพระนางซูซี เมื่อพวกนักมวยเข้ามาในเมืองปักกิ่ง พระนางก็ประกาศสงครามกับพวกฝรั่ง แต่เมื่อเห็นพวกนักมวยทำท่าจะไปไม่รอด พระนางก็ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน หลบหนีจากวังไปอยู่เมืองซีอาน เมื่อพวกฝรั่งปราบพวกกบฏนักมวยราบจนไม่เหลือ พวกฝรั่งก็เรียกค่าเสียหายจากจีนเป็นจำนวนเงินถึง 500 ล้านเหรียญ และยกโทษให้พระนางซูซี ให้กลับมาอยู่วัง และทำหน้าที่เป็นหุ่นชักให้ฝรั่งต่อไป แล้วพวกฝรั่งก็กลับมามีอำนาจในจีน ตักตวงจีนเหมือนเดิม และมากกว่าเดิม ส่วนพวกกบฏนักมวย ถูกจับและถูกตัดหัวเสียบประจานกลางเมือง เรื่องของพวกกบฏนักมวย เป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์ ทั้งค่ายฝรั่ง และค่ายจีน นำมาศึกษา ต่างได้ข้อสรุป ไม่เหมือนกัน น่าสนใจ หลังจากนั้นราชวงศ์ชิงก็ยิ่งเสื่อม ลง กลุ่มก๊กเหล่าต่างๆ โผล่ขึ้นมาอีก ในที่สุด ราชวงศ์ชิง ก็ถูกโค่น ในปี ค.ศ.1910 โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง ของซุนยัดเซ็น ปฏิวัติสำเร็จ แต่ยังปกครองจีนไม่ได้ ภายในจีนยังแตกแยก แล้วอำนาจก็กลับไปอยู่ในมือของ ยวนสี่ไข นายทหารใหญ่ ที่ฮ่องเต้เป็นผู้ชุบเลี้ยงจน มีอำนาจในปลายราชวงศ์ชิง การแย่งชิงอำนาจระหว่างก๊ก ดูซับซ้อน ไม่รู้ใครต้มใคร แต่ในที่สุด ยวนซีไข่ ก็ครองอำนาจไม่อยู่ ตายจากไป และซุนยัดเซ็น ก็ขึ้นมาปกครองจีน โดยตั้ง เจียงไคเช็ค น้องเขย เป็นมือขวา ย้อนกลับมาเรื่อง ฝิ่น อาวุธสำคัญที่ทำลายจีนเสียน่วมตามแผนของอังกฤษ ยังเป็นอาวุธที่ถูกพัฒนาเป็นสาระพัดยาเสพติด ที่มีอานุภาพใช้ มีฤทธิ์สูงกว้างขวางไปทุกเนื้อที่ และยั่งยืนต่อมา จนถึงทุกวันนี้ ในบรรดาเจ้าพ่อของจีน ที่ถือกำเนิดมาจากการค้าฝิ่น แก๊งเขียว หรือ Green Gang ซึ่งยึดหัวหาดอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ดูแลเขตปกครองของฝรั่งเศส และดูเหมือนจะมีส่วนสำคัญในการ รับไม้ทุบจีนให้น่วมต่อ หัวหน้าแก๊งเขียว ชื่อ ตู้ หยูเช็ง (Tu Yueh-sen) ซึ่งตอนหลัง รวบรวมนักค้าฝิ่นขาใหญ่ๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดหมด ไอ้ตู้ จึงกลายเป็นเจ้าพ่อตู้ ธุรกิจของเจ้าพ่อตู้ ดีวันดีคืน ในปี ค.ศ.1927 เจ้าพ่อตู้ ถึงกับมีกองทัพ(นักเลง) ส่วนตัว เมื่อพวกก๊กมินตั๋งของซุนยัดเซ็น มีนโยบายจะขจัดบรรดาก๊กเหล่าต่างๆ ซึ่งขณะนั้นมีมากมายให้หมดไป เจียงไคเช็ค ได้ยินชื่อเสียงของเจ้าพ่อตู้ นายพลเจียงจึงแอบจับมือกับเจ้าพ่อตู้ ให้ช่วยกำจัดพวกคอมมิวนิสต์ ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาในจีน และทำท่าจะเป็นดาวรุ่งมาแรง เจ้าพ่อ บอกไม่มีปัญหา เดี๋ยวจัดให้ เมื่อพวกสหภาพกรรมกร ที่สังกัดพวกคอมมิวนิสต์ เดืนทางมาถึงเขตปกครองของฝรั่งเศส ก็ถูกพวกนักเลงรุมฆ่าฟันตายเป็นพันๆ คน รวมทั้งชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง แต่บังเอิญไปยืนอยู่แถวนั้น ก็โดนฆ่าไปด้วย ไอ้ตู้ สร้างผลงานได้เข้าตาคนจ้างจริงๆ หลังจากก๊กมินตั๋งครอบครองส่วนหนี่งของจีนได้ และตั้งรัฐบาลขึ้นมา นายพลเจียง ก็ยังคงใช้บริการของไอ้ตู้ต่อไป แถมตั้งไอ้ตู้และพวก เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล ตัวไอ้ตู้เอง ยังได้รับตำแหน่งเป็นพันเอกในกองทัพด้วย การค้าฝิ่นในจีน จึงยิ่งงอกงาม ไม่ใช่แค่ในจีน แต่งอกเงยไปถึงอเมริกา ซึ่งมีมาเฟียเซี่ยงไฮ้ ตู้ เป็นผู้จัดส่ง ในปี ค.ศ.1937 ที่ญี่ปุ่นบุกจีน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นมานานกิง กองทัพก๊กมินตั๋ง ก็ถอยไปอยู่ที่เมืองชงชิงในมณฑลเสฉวน หน้าฉาก เจียงไคเช็ค รบกับกองทัพญี่ปุ่น แต่หลังฉาก ทั้ง 2 ฝ่ายจับมือกันค้าฝิ่น บัดซบไหมครับ ญี่ปุ่นทำมาหาได้จากการค้าฝิ่น ฝิ่นเป็นรายได้หลักจากการบุกยึดและปักหลักอยู่ที่จีนของญี่ปุ่น และภายใต้การจัดการของไอ้ตู้ หรือท่านพันเอกตู้ นายพลเจียง ก็เป็นสายส่งฝิ่นให้แก่ญี่ปุ่น มณฑลเสฉวน และยูนนานของจีน กลายเป็นดงฝิ่น ทุกเนินเขาเต็มไปด้วยดอกฝิ่น สีแดง สีขาว สีชมพู ฝิ่นถูกขนส่งผ่านลงมาที่แม่น้ำแยงซี ทางหนี่งส่งไปที่เซี่ยงไฮ้ อีกทางส่งออกไปทางพม่า เพื่อมาเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อญี่ปุ่นแพ้ในการสู้รบกับจีน ถอยทัพกลับ แต่สงครามกลางเมืองระหว่างก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ ยังดำเนินต่อไป เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ชนะ ไล่ตีลงมาถึงเซี่ยงไฮ้ ไอ้ตู้และแก๊งเขียว รีบเก็บของลงกระเป๋า เตลิดไปอยู่ฮ่องกง ส่วนนายพล เจียง ก็นำพวกตัว ข้ามไปปักหลักที่ไต้หวัน และพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนก็เกิดขึ้น เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มปกครองจีน มีชาวจีนติดฝิ่นเป็นหลายล้านคน จีนบอกคนพวกนี้คือ “เหยื่อ” ของรัฐบาลต่างชาติ คนติดฝิ่นเหล่านั้น ได้รับการดูแลรักษา และมีงานทำ โดยรัฐจัดหาให้ทั้งหมด จีนใช้เวลานาน กว่า จะล้างฝิ่น ที่อังกฤษพอกเอาไว้ให้ออกจากคน และออกจากประเทศ หมดเอาในปี ค.ศ.1956 อย่าได้ดูแคลนฝีมืออันชั่วร้ายของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายเชียว สำหรับฝิ่น ที่ส่งออกจากยูนาน เข้าทางพม่าผ่านรัฐฉาน ซึ่งอยู่คนละฝ่ายกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐฉานปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องฝิ่น แม้จะมีข่าวว่า รัฐฉานเป็นแหล่งปลูกและผลิตฝิ่นแหล่งใหญ่ ภายใต้การอำนายการของหน่วยสืบราชการลับ ซีไอเอ ของอเมริกา และพวกฉานหลายคน ก็ทำหน้าที่เป็นสายลับให้กับอเมริกา เกี่ยวกับกิจกรรมของจีนด้วย เรื่องนี้ มีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ เล่ามาถึงตรงนี้ คงพอเห็นกันแล้วว่า อังกฤษ อยู่เบื้องหลังพฤติกรรม และหลายเหตุการณ์ทั้งในญี่ปุ่น และที่จีน แต่อังกฤษ คงไม่ใช่นักล่ารายเดียว ที่วางแผนเคี้ยวจีน และอาจจะเคี้ยวญี่ปุ่นพร้อมๆ กันไปด้วย…. สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
18 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 6
    เล่าแต่เรื่องญี่ปุ่น ไม่เล่าถึงจีน ก็เหมือนดูหนังครึ่งจอ มันจะไปเห็นอะไรครบ แม้เรื่องมันดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆแล้ว มันเกี่ยวโยงกันทั้งนั้น
    จีนเป็นประเทศที่มีบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล แถมร่ำรวยด้วยทรัพยากรหลากหลาย ในช่วงปลายๆของศตวรรษที่ 18 จีนมีประชากรประมาณ 450 ล้านคน อยู่ในประเทศที่มีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 4 ล้านตารางไมล์ ชาติตะวันตก ต่างจ้องอยากจะกินจีนมานานแล้ว แต่ด้วยความเป็นชาติใหญ่ พลเมืองแยะ กินจีนคำเดียวคงกลืนยาก แถมจะติดคอหอยตายเอา แต่ละชาติ จึงใช้ยุทธศาสตร์เพื่อกินจีนต่างกัน มีทั้ง ร่วมมือกัน และหักหลังกันเอง
    อังกฤษ นักล่ารุ่นเก๋า เป็นพวกตะวันตกรุ่นแรกๆ ที่อยากได้จีน จนน้ำลายหกเต็มพื้น แต่อังกฤษ เป็นเกาะใหญ่ มีเนื้อที่แค่ปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จะกินจีนเข้าไปอย่างไร เหมือนงูเขียวคิดกลืนช้าง แต่ด้วยความเป็นนักล่ารุ่นเขี้ยวยาว จึงวางแผนล่าจีนอย่างมีขั้นตอน และใจเย็น สูตรสำเร็จตามสันดานของอังกฤษ ถ้าใช้อำนาจทางกองทัพและอาวุธ เข้าไปยึดเอามาทีเดียวไม่ได้ อังกฤษก็ใช้สูตร ทุบให้น่วมก่อน แล้วค่อยเข้ามาเคี้ยว ไม่ต่างกับวิธีการที่อังกฤษใช้กับจักรวรรดิออตโตมาน และจักรวรรดิรัสเซีย สำหรับจีน ก็เช่นเดียวกัน อังกฤษวางแผนที่จะทำให้จีนอ่อนแอจนน่วม ก่อนเข้าไปกิน
    ช่วงปี ค.ศ.1850 จีนปกครองโดยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นพวกแมนจู ที่รบชาวจีนชนะจึงปกครองจีนมาตั้งแต่ ประมาณปี ค.ศ.1644 จักรพรรดิแมนจู เปิดประเทศรูเล็กมาก สำหรับให้ต่างชาติแย่งกันรอดรูเข้ามาค้าขาย เพราะจีนเชื่อว่า ตนเองอยู่ได้เองโดยไม่ต้องพี่งต่างชาติ ไม่ว่าด้านสินค้า หรือด้านใด จีงเปิดทางเข้าอย่างเสียไม่ได้ ให้เพียงที่เดียว ที่ท่าเรือกวางตุ้ง
    อังกฤษเริ่มด้วยนำการค้าเข้ามาที่จีนก่อน แต่จีนบอก เราไม่ได้อยากได้อะไรจากพวกเจ้าเลย เราอยู่ของเราดีแล้ว ผ้าผ่อนแพรไหม กระเบื้องเครื่องใช้สวยงาม และแม้แต่ใบชาของเราก็ดีกว่าของพวกเจ้าทั้งนั้น
    แต่ชาวอังกฤษเอง ตอนนั้นเสพติด ต้องดื่มชาไปแล้ว เป็นอาการที่ติดเชื้อมาจากการที่ได้เหยื่อชื่ออินเดีย ใครที่ชอบดื่มชาอังกฤษ ถึงขนาดต้องจัดเทศกาลดื่มชาใน แดนสยาม ก็รู้ไว้ด้วยนะครับ ไม่ได้เดินตามก้นอังกฤษ แต่เดินตามก้นอาบัง ชาอินเดียมีแยะก็จริง แต่ชาของจีนก็ลือชื่อ มีตั้งแต่ชั้นดีหอมชื่นใจราคาแพง จนถึงชั้นเกือบดีและราคาไม่แพง พ่อค้าอังกฤษเลย ขนซื้อชา ผ้าไหม เครื่องกระเบื้องของจีน บรรทุกเต็มเรือ เอากลับไปขายได้กำไรบานที่อังกฤษ แต่ขามา เรือสินค้าอังกฤษว่างเปล่า เพราะคนจีนบอก ไม่เห็นมีอะไรของอังกฤษที่เราอยากได้เลย ยกเว้นแต่เงินแท่งอย่างดี ที่เราจะรับเป็นค่าชำระสินค้าให้เราเท่านั้น
    ค้าไปค้ามาแบบนี้อยู่พักใหญ่ อังกฤษ ที่ว่าจะมาล่าจีน ดูเหมือนจะถูกจีนล้วงกระเป๋าเสี ยละมากกว่า ตกลง อังกฤษรู้จักคำว่า เสียดุลยการค้า ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 17 ปิดเงียบเลยนะ ไหนคุยว่า ชาวเกาะใหญ่ นักล่าหมายเลขหนึ่ง เป็นต้นตำรับการเงินการค้า ฮาจริง(โว้ย) อังกฤษก็เลยต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์
    สมัยนั้นเจ้านาย ขุนนางจีน หรือชนชั้นสูงของจีน ก็ต้องสูบฝิ่นกันทั้งนั้น ถือเป็นเครื่องหมายวัดความร่ำรวยอย่างหนึ่ง เหมือนสมัยนี้ ที่ชาวสยามในสังคมคนรวยต้องดื่มไวน์ ยิ่งรวย ก็ยิ่งต้องดื่มยี่ห้อดีราคาแพง ขวดละ 2 แสน เอามาดื่มอวดแข่งกัน (จะ 2 แสน หรือ 200 มันก็เมาเท่ากันแหละครับ ผมยืนยัน)
    คนที่นำฝิ่นเข้ามาในจีนคร้ังแรก ก็คือ พ่อค้าปอร์ตุเกส ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1620 แต่พอถึงปี ค.ศ.1770 กว่า อังกฤษแก้เกม จากการเสียหน้า เสียดุลยการค้ากับจีน (ขอ ฮาอีกที) และที่สำคัญ อังกฤษหิวจัด อยากเคี้ยวจีนเต็มแก่แล้ว ยิ่งเห็นจีนมีแต่ทองแท่ง เงินแท่งเต็มท้องพระคลัง สินค้าที่อังกฤษนำติดเรือเข้ามาขายที่จีน จึงเป็นฝิ่น ที่ขนมาจนเต็มเรือเป็นฝิ่นที่อังกฤษเอามาจากตุรกีเสียส่วนใหญ่ ตอนนั้นยัง(หลอกว่า) รักกับตุรกี หรือ ออโตมานสมัยนั้นอยู่ ฝิ่นที่อังกฤษนำมา มีทั้งของดีราคาแพงขายไว้คนรวยชั้นสูง กับขี้ฝิ่น เอาไว้ขายคนทั่วไปที่ยังไม่เคยเสพ
    ผ่านไปไม่กี่สิบปี คนจีนไม่ว่าชั้นสูง ชั้นไม่สูง ต่างติดฝิ่นกันงอม เพราะอังกฤษเร่งเครื่องด้วยการจ่ายค่าแรงกุลีที่ขนของเป็นขี้ฝิ่น ถึงปี ค.ศ.1838 เจ้าหน้าที่ทำรายงานไปถึงฮ่องเต้ว่า ที่กวางตุ้งและฟูเจี้ยน มีจำนวนคนติดฝิ่นสูงมาก และการติดฝิ่นนี้ลามไปถึงขุนนาง และกองทัพ ประมาณว่า คนจีน 9 ใน 10 ติดฝิ่น ในรายงานบอกว่า ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปอีกไม่กี่ปี เราคงไม่เหลือทหาร และประชาชน ที่แข็งแรงพร้อมรบ และไม่มีเงินจะบำรุงกองทัพ หรือสร้างกองทัพใหม่ด้วย
    จักรพรรดิตังกวง สั่งปิดท่าเรือทันที ห้ามไม่ให้ต่างชาติขนฝิ่นเข้ามาขายอีกต่อไป พร้อมทั้งสั่งยึดฝิ่นที่ฝรั่งขนมาทั้งหมด ให้เอาไปเผาทิ้ง และเพื่อให้แน่ใจว่า ฝิ่นจะต้องหมดไปจากจีน ฮ่องเต้ แต่งตั้ง หลินซื่อ ผู้มีชื่อเสียงว่าเป็นคนซื่อสัตย์เอาจริง ให้ทำหน้าที่เป็นมือปราบฝิ่น
    ตัวแทนการค้าของอังกฤษ โดยบริษัทบริติชอีสท์อินเดีย ซึ่งจริงๆ คือตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษที่เป็นทั้งหูตามือตีน ขอเจรจากับหลินซื่อ ซี่งนอกจากไม่รับเจรจาด้วยแล้ว หลินซื่อยังสั่งทำลายโรงฝิ่น โกดังฝิ่น และควบคุมตัวพ่อค้าขายฝิ่น ให้มอบฝิ่นที่ซุกซ่อนออกมาทั้งหมด และนำมาเผาทิ้ง หลังจากนั้นสั่งปิดตายท่าเรือที่กวางตุ้ง
    อังกฤษควันออกทุกทวาร ประกาศว่า การที่จีนทำเช่นนี้เป็นการหยามหน้าอังกฤษ ว่าแล้วก็เอาเรือรบมาปิดปากน้ำของจีน เฮ้อ… เขียนมาถึงตรงนี้ แล้วคลื่นไส้จริงๆ มันเล่นเป็นแต่บทอย่างนี้หรือไง ไอ้พวกชาติมหาอำนาจ สร้างไมตรี สร้างการค้าขาย ที่เป็นธรรมจริงๆ ที่ไม่ใช่เป็นการเอาเปรียบและบ่อนทำลาย น่ะ ทำเป็นไหม(วะ)
    หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็บานปลาย กลายเป็นสงคราม ที่เรียกว่าสงครามฝิ่น Opium War ครั้งที่ 1 ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1839-1842 เมื่ออังกฤษเอากองทัพเรือมาถล่มจีน และยกพลบุกจีนไล่ยึดเข้าไปถึงซินเกียงทางใต้ของจีน ซึ่งเป็นบริเวณปลูกข้าวที่กว้างใหญ่ของจีน อังกฤษอ้างว่า เป็นการสอนบทเรียนการค้าเสรีให้แก่จีน ถุด
    แล้วฮ่องเต้ ก็จำใจลงนามในสนธิสัญญานานกิง เปิดประตูกว้างให้ต่างชาติเข้ามาค้าขาย มาตั้งบ้านเรือนฝังรกฝังรากตามสบาย พร้อมกับเปิดท่าเรือเพิ่มให้เรือต่างชาติอีก 4 ท่า และเสียเกาะฮ่องกงให้แก่อังกฤษตั้งแต่บัดนั้น ครั่งของตราประทับในสัญญายังไม่ทันแห้งดี อังกฤษก็นำกองทัพพ่อค้า ขนฝิ่นเข้ามาขาย… มากกว่าเดิม
    หลังจากอังกฤษนำทัพทำสัญญา อเมริกา ฝรั่งเศสก็ตามติดมาทำสัญญาโรเนียว เงื่อนไขเดียวกับอังกฤษ แค่เปลี่ยนชื่อประเทศ แล้วราชวงศ์ชิง ก็มีขุนนางติดฝิ่น ค้าฝิ่น ราชสำนัก กองทัพ และประชาชาอ่อนแอลงเรื่อยๆ หลินซื่อ คนเดียว สู้ไม่ไหว แถมถูกย้ายเข้ากรุ โทษฐานทำงานไม่สำเร็จ
    เวลาผ่านไปไม่กี่ปี อังกฤษ ก็ได้โอกาสเล่นงานจีนอีก ในปี ค.ศ.1856 เป็นสงครามฝิ่นหมายเลข 2 คราวนี้อังกฤษไม่มาเดี่ยว จับมือเอาฝรั่งเศสมาเล่นด้วย บีบให้จีนทำสนธิสัญญาเทียนสิน ค.ศ.1858 ให้จีนเปิดท่าเรือเพิ่ม รวมทั้งให้สิทธิต่างชาติเดินทางเข้าไปถึงด้านในของประเทศ เปิดทางให้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ได้ทั่ว รวมทั้งถือครองที่ดินสร้างวัดได้ หลังจากนั้น อเมริกา และรัสเซียก็เรียงแถวตามมา
    การมอมเมาจีนด้วยฝิ่น ถือเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมที่สุด ที่อังกฤษนำมาใช้กับจีน จีนที่ยิ่งใหญ่ถึงกับมืออ่อนขาอ่อน ยืนไม่อยู่ สมองเลิกทำงาน อยากแต่จะนอนซมดูดฝิ่น ผ่านมาร้อยกว่าปี การมอมเมาให้ประเทศชาติเป้าหมายอ่อนแอ ยังนำมาใช้กันอยู่ และใช้ได้แนบเนียนกว่าเดิม ขนาดคนถูกมอมเมา ไม่รู้ตัว น่าเศร้าใจครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 6 เล่าแต่เรื่องญี่ปุ่น ไม่เล่าถึงจีน ก็เหมือนดูหนังครึ่งจอ มันจะไปเห็นอะไรครบ แม้เรื่องมันดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆแล้ว มันเกี่ยวโยงกันทั้งนั้น จีนเป็นประเทศที่มีบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล แถมร่ำรวยด้วยทรัพยากรหลากหลาย ในช่วงปลายๆของศตวรรษที่ 18 จีนมีประชากรประมาณ 450 ล้านคน อยู่ในประเทศที่มีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 4 ล้านตารางไมล์ ชาติตะวันตก ต่างจ้องอยากจะกินจีนมานานแล้ว แต่ด้วยความเป็นชาติใหญ่ พลเมืองแยะ กินจีนคำเดียวคงกลืนยาก แถมจะติดคอหอยตายเอา แต่ละชาติ จึงใช้ยุทธศาสตร์เพื่อกินจีนต่างกัน มีทั้ง ร่วมมือกัน และหักหลังกันเอง อังกฤษ นักล่ารุ่นเก๋า เป็นพวกตะวันตกรุ่นแรกๆ ที่อยากได้จีน จนน้ำลายหกเต็มพื้น แต่อังกฤษ เป็นเกาะใหญ่ มีเนื้อที่แค่ปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จะกินจีนเข้าไปอย่างไร เหมือนงูเขียวคิดกลืนช้าง แต่ด้วยความเป็นนักล่ารุ่นเขี้ยวยาว จึงวางแผนล่าจีนอย่างมีขั้นตอน และใจเย็น สูตรสำเร็จตามสันดานของอังกฤษ ถ้าใช้อำนาจทางกองทัพและอาวุธ เข้าไปยึดเอามาทีเดียวไม่ได้ อังกฤษก็ใช้สูตร ทุบให้น่วมก่อน แล้วค่อยเข้ามาเคี้ยว ไม่ต่างกับวิธีการที่อังกฤษใช้กับจักรวรรดิออตโตมาน และจักรวรรดิรัสเซีย สำหรับจีน ก็เช่นเดียวกัน อังกฤษวางแผนที่จะทำให้จีนอ่อนแอจนน่วม ก่อนเข้าไปกิน ช่วงปี ค.ศ.1850 จีนปกครองโดยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นพวกแมนจู ที่รบชาวจีนชนะจึงปกครองจีนมาตั้งแต่ ประมาณปี ค.ศ.1644 จักรพรรดิแมนจู เปิดประเทศรูเล็กมาก สำหรับให้ต่างชาติแย่งกันรอดรูเข้ามาค้าขาย เพราะจีนเชื่อว่า ตนเองอยู่ได้เองโดยไม่ต้องพี่งต่างชาติ ไม่ว่าด้านสินค้า หรือด้านใด จีงเปิดทางเข้าอย่างเสียไม่ได้ ให้เพียงที่เดียว ที่ท่าเรือกวางตุ้ง อังกฤษเริ่มด้วยนำการค้าเข้ามาที่จีนก่อน แต่จีนบอก เราไม่ได้อยากได้อะไรจากพวกเจ้าเลย เราอยู่ของเราดีแล้ว ผ้าผ่อนแพรไหม กระเบื้องเครื่องใช้สวยงาม และแม้แต่ใบชาของเราก็ดีกว่าของพวกเจ้าทั้งนั้น แต่ชาวอังกฤษเอง ตอนนั้นเสพติด ต้องดื่มชาไปแล้ว เป็นอาการที่ติดเชื้อมาจากการที่ได้เหยื่อชื่ออินเดีย ใครที่ชอบดื่มชาอังกฤษ ถึงขนาดต้องจัดเทศกาลดื่มชาใน แดนสยาม ก็รู้ไว้ด้วยนะครับ ไม่ได้เดินตามก้นอังกฤษ แต่เดินตามก้นอาบัง ชาอินเดียมีแยะก็จริง แต่ชาของจีนก็ลือชื่อ มีตั้งแต่ชั้นดีหอมชื่นใจราคาแพง จนถึงชั้นเกือบดีและราคาไม่แพง พ่อค้าอังกฤษเลย ขนซื้อชา ผ้าไหม เครื่องกระเบื้องของจีน บรรทุกเต็มเรือ เอากลับไปขายได้กำไรบานที่อังกฤษ แต่ขามา เรือสินค้าอังกฤษว่างเปล่า เพราะคนจีนบอก ไม่เห็นมีอะไรของอังกฤษที่เราอยากได้เลย ยกเว้นแต่เงินแท่งอย่างดี ที่เราจะรับเป็นค่าชำระสินค้าให้เราเท่านั้น ค้าไปค้ามาแบบนี้อยู่พักใหญ่ อังกฤษ ที่ว่าจะมาล่าจีน ดูเหมือนจะถูกจีนล้วงกระเป๋าเสี ยละมากกว่า ตกลง อังกฤษรู้จักคำว่า เสียดุลยการค้า ตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 17 ปิดเงียบเลยนะ ไหนคุยว่า ชาวเกาะใหญ่ นักล่าหมายเลขหนึ่ง เป็นต้นตำรับการเงินการค้า ฮาจริง(โว้ย) อังกฤษก็เลยต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ สมัยนั้นเจ้านาย ขุนนางจีน หรือชนชั้นสูงของจีน ก็ต้องสูบฝิ่นกันทั้งนั้น ถือเป็นเครื่องหมายวัดความร่ำรวยอย่างหนึ่ง เหมือนสมัยนี้ ที่ชาวสยามในสังคมคนรวยต้องดื่มไวน์ ยิ่งรวย ก็ยิ่งต้องดื่มยี่ห้อดีราคาแพง ขวดละ 2 แสน เอามาดื่มอวดแข่งกัน (จะ 2 แสน หรือ 200 มันก็เมาเท่ากันแหละครับ ผมยืนยัน) คนที่นำฝิ่นเข้ามาในจีนคร้ังแรก ก็คือ พ่อค้าปอร์ตุเกส ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1620 แต่พอถึงปี ค.ศ.1770 กว่า อังกฤษแก้เกม จากการเสียหน้า เสียดุลยการค้ากับจีน (ขอ ฮาอีกที) และที่สำคัญ อังกฤษหิวจัด อยากเคี้ยวจีนเต็มแก่แล้ว ยิ่งเห็นจีนมีแต่ทองแท่ง เงินแท่งเต็มท้องพระคลัง สินค้าที่อังกฤษนำติดเรือเข้ามาขายที่จีน จึงเป็นฝิ่น ที่ขนมาจนเต็มเรือเป็นฝิ่นที่อังกฤษเอามาจากตุรกีเสียส่วนใหญ่ ตอนนั้นยัง(หลอกว่า) รักกับตุรกี หรือ ออโตมานสมัยนั้นอยู่ ฝิ่นที่อังกฤษนำมา มีทั้งของดีราคาแพงขายไว้คนรวยชั้นสูง กับขี้ฝิ่น เอาไว้ขายคนทั่วไปที่ยังไม่เคยเสพ ผ่านไปไม่กี่สิบปี คนจีนไม่ว่าชั้นสูง ชั้นไม่สูง ต่างติดฝิ่นกันงอม เพราะอังกฤษเร่งเครื่องด้วยการจ่ายค่าแรงกุลีที่ขนของเป็นขี้ฝิ่น ถึงปี ค.ศ.1838 เจ้าหน้าที่ทำรายงานไปถึงฮ่องเต้ว่า ที่กวางตุ้งและฟูเจี้ยน มีจำนวนคนติดฝิ่นสูงมาก และการติดฝิ่นนี้ลามไปถึงขุนนาง และกองทัพ ประมาณว่า คนจีน 9 ใน 10 ติดฝิ่น ในรายงานบอกว่า ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปอีกไม่กี่ปี เราคงไม่เหลือทหาร และประชาชน ที่แข็งแรงพร้อมรบ และไม่มีเงินจะบำรุงกองทัพ หรือสร้างกองทัพใหม่ด้วย จักรพรรดิตังกวง สั่งปิดท่าเรือทันที ห้ามไม่ให้ต่างชาติขนฝิ่นเข้ามาขายอีกต่อไป พร้อมทั้งสั่งยึดฝิ่นที่ฝรั่งขนมาทั้งหมด ให้เอาไปเผาทิ้ง และเพื่อให้แน่ใจว่า ฝิ่นจะต้องหมดไปจากจีน ฮ่องเต้ แต่งตั้ง หลินซื่อ ผู้มีชื่อเสียงว่าเป็นคนซื่อสัตย์เอาจริง ให้ทำหน้าที่เป็นมือปราบฝิ่น ตัวแทนการค้าของอังกฤษ โดยบริษัทบริติชอีสท์อินเดีย ซึ่งจริงๆ คือตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษที่เป็นทั้งหูตามือตีน ขอเจรจากับหลินซื่อ ซี่งนอกจากไม่รับเจรจาด้วยแล้ว หลินซื่อยังสั่งทำลายโรงฝิ่น โกดังฝิ่น และควบคุมตัวพ่อค้าขายฝิ่น ให้มอบฝิ่นที่ซุกซ่อนออกมาทั้งหมด และนำมาเผาทิ้ง หลังจากนั้นสั่งปิดตายท่าเรือที่กวางตุ้ง อังกฤษควันออกทุกทวาร ประกาศว่า การที่จีนทำเช่นนี้เป็นการหยามหน้าอังกฤษ ว่าแล้วก็เอาเรือรบมาปิดปากน้ำของจีน เฮ้อ… เขียนมาถึงตรงนี้ แล้วคลื่นไส้จริงๆ มันเล่นเป็นแต่บทอย่างนี้หรือไง ไอ้พวกชาติมหาอำนาจ สร้างไมตรี สร้างการค้าขาย ที่เป็นธรรมจริงๆ ที่ไม่ใช่เป็นการเอาเปรียบและบ่อนทำลาย น่ะ ทำเป็นไหม(วะ) หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็บานปลาย กลายเป็นสงคราม ที่เรียกว่าสงครามฝิ่น Opium War ครั้งที่ 1 ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1839-1842 เมื่ออังกฤษเอากองทัพเรือมาถล่มจีน และยกพลบุกจีนไล่ยึดเข้าไปถึงซินเกียงทางใต้ของจีน ซึ่งเป็นบริเวณปลูกข้าวที่กว้างใหญ่ของจีน อังกฤษอ้างว่า เป็นการสอนบทเรียนการค้าเสรีให้แก่จีน ถุด แล้วฮ่องเต้ ก็จำใจลงนามในสนธิสัญญานานกิง เปิดประตูกว้างให้ต่างชาติเข้ามาค้าขาย มาตั้งบ้านเรือนฝังรกฝังรากตามสบาย พร้อมกับเปิดท่าเรือเพิ่มให้เรือต่างชาติอีก 4 ท่า และเสียเกาะฮ่องกงให้แก่อังกฤษตั้งแต่บัดนั้น ครั่งของตราประทับในสัญญายังไม่ทันแห้งดี อังกฤษก็นำกองทัพพ่อค้า ขนฝิ่นเข้ามาขาย… มากกว่าเดิม หลังจากอังกฤษนำทัพทำสัญญา อเมริกา ฝรั่งเศสก็ตามติดมาทำสัญญาโรเนียว เงื่อนไขเดียวกับอังกฤษ แค่เปลี่ยนชื่อประเทศ แล้วราชวงศ์ชิง ก็มีขุนนางติดฝิ่น ค้าฝิ่น ราชสำนัก กองทัพ และประชาชาอ่อนแอลงเรื่อยๆ หลินซื่อ คนเดียว สู้ไม่ไหว แถมถูกย้ายเข้ากรุ โทษฐานทำงานไม่สำเร็จ เวลาผ่านไปไม่กี่ปี อังกฤษ ก็ได้โอกาสเล่นงานจีนอีก ในปี ค.ศ.1856 เป็นสงครามฝิ่นหมายเลข 2 คราวนี้อังกฤษไม่มาเดี่ยว จับมือเอาฝรั่งเศสมาเล่นด้วย บีบให้จีนทำสนธิสัญญาเทียนสิน ค.ศ.1858 ให้จีนเปิดท่าเรือเพิ่ม รวมทั้งให้สิทธิต่างชาติเดินทางเข้าไปถึงด้านในของประเทศ เปิดทางให้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ได้ทั่ว รวมทั้งถือครองที่ดินสร้างวัดได้ หลังจากนั้น อเมริกา และรัสเซียก็เรียงแถวตามมา การมอมเมาจีนด้วยฝิ่น ถือเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมที่สุด ที่อังกฤษนำมาใช้กับจีน จีนที่ยิ่งใหญ่ถึงกับมืออ่อนขาอ่อน ยืนไม่อยู่ สมองเลิกทำงาน อยากแต่จะนอนซมดูดฝิ่น ผ่านมาร้อยกว่าปี การมอมเมาให้ประเทศชาติเป้าหมายอ่อนแอ ยังนำมาใช้กันอยู่ และใช้ได้แนบเนียนกว่าเดิม ขนาดคนถูกมอมเมา ไม่รู้ตัว น่าเศร้าใจครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง
    ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top

    ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว
    ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed

    ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser
    บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news

    AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ
    การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage

    ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI
    บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure

    Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด
    มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years

    Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble"
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว
    https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know

    ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED
    เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย!
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs

    ChatGPT ฟรีสำหรับครู
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools

    แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa
    ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster

    DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา
    มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon

    Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น
    มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ ,
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone

    รัสเซียตั้งทีมชาติ AI
    รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce

    ศึก Router: TP-Link vs Netgear
    TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk

    AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง
    บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top 💬 ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed 🔒 ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news 🧳 AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage 🌐 ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure 🧮 Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years 💻 Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble" Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know 🚗 ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย! 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs 🎓 ChatGPT ฟรีสำหรับครู OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools 🎁 แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster 🚁 DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon 📱 Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ , 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone 🤖 รัสเซียตั้งทีมชาติ AI รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce 📡 ศึก Router: TP-Link vs Netgear TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk 📊 AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • "เกาหลีใต้ชี้มีช่องทางร่วมมือกับไต้หวันเรื่องภาษีชิปสหรัฐฯ"

    รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ Yeo Han-koo กล่าวว่ามีพื้นที่สำหรับความร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างอยู่ในสถานะที่ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน เขาย้ำว่าไต้หวันเองก็กำลังเจรจากับสหรัฐฯ และการร่วมมือกันอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

    ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
    เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 เกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษีชิป โดยแลกกับการลงทุนจำนวนมากในภาคส่วนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้ระบุว่า ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่สหรัฐฯ อาจให้กับประเทศอื่นในอนาคต ซึ่งหมายถึงการป้องกันไม่ให้ไต้หวันได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า

    ผลกระทบต่อการส่งออกและตลาดโลก
    ข้อมูลศุลกากรเผยว่า การส่งออกชิปของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 51% ในเดือนตุลาคม 2025 คิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปขั้นสูงที่ใช้ใน AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ และทำให้การเจรจาภาษีมีความสำคัญยิ่งขึ้น

    มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ
    แม้สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายภาษีชิปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็มีรายงานว่ารัฐบาลอาจชะลอการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของทั้งเกาหลีใต้และไต้หวัน การร่วมมือกันของสองประเทศเอเชียตะวันออกนี้จึงถูกมองว่าเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และลดความเสี่ยงจากการถูกกีดกันทางการค้า

    สรุปสาระสำคัญ
    ท่าทีของเกาหลีใต้
    เห็นโอกาสร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ
    ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน

    ข้อตกลงกับสหรัฐฯ
    เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงลดภาษีชิป แลกกับการลงทุนในสหรัฐฯ
    ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่ประเทศอื่นได้รับ

    ผลกระทบต่อการส่งออก
    การส่งออกชิปไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 51% ในเดือนตุลาคม 2025
    ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับ AI และเทคโนโลยีใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อกลยุทธ์การค้า
    การแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และไต้หวันยังคงเป็นความเสี่ยง แม้มีแนวโน้มร่วมมือกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/south-korea-sees-room-for-cooperation-with-taiwan-on-us-chip-tariffs-trade-minister-says
    📰 "เกาหลีใต้ชี้มีช่องทางร่วมมือกับไต้หวันเรื่องภาษีชิปสหรัฐฯ" รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ Yeo Han-koo กล่าวว่ามีพื้นที่สำหรับความร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างอยู่ในสถานะที่ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน เขาย้ำว่าไต้หวันเองก็กำลังเจรจากับสหรัฐฯ และการร่วมมือกันอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 💼 ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 เกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษีชิป โดยแลกกับการลงทุนจำนวนมากในภาคส่วนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้ระบุว่า ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่สหรัฐฯ อาจให้กับประเทศอื่นในอนาคต ซึ่งหมายถึงการป้องกันไม่ให้ไต้หวันได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า 📈 ผลกระทบต่อการส่งออกและตลาดโลก ข้อมูลศุลกากรเผยว่า การส่งออกชิปของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 51% ในเดือนตุลาคม 2025 คิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปขั้นสูงที่ใช้ใน AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ และทำให้การเจรจาภาษีมีความสำคัญยิ่งขึ้น 🌍 มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายภาษีชิปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็มีรายงานว่ารัฐบาลอาจชะลอการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของทั้งเกาหลีใต้และไต้หวัน การร่วมมือกันของสองประเทศเอเชียตะวันออกนี้จึงถูกมองว่าเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และลดความเสี่ยงจากการถูกกีดกันทางการค้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ท่าทีของเกาหลีใต้ ➡️ เห็นโอกาสร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ ➡️ ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน ✅ ข้อตกลงกับสหรัฐฯ ➡️ เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงลดภาษีชิป แลกกับการลงทุนในสหรัฐฯ ➡️ ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่ประเทศอื่นได้รับ ✅ ผลกระทบต่อการส่งออก ➡️ การส่งออกชิปไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 51% ในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับ AI และเทคโนโลยีใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อกลยุทธ์การค้า ⛔ การแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และไต้หวันยังคงเป็นความเสี่ยง แม้มีแนวโน้มร่วมมือกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/south-korea-sees-room-for-cooperation-with-taiwan-on-us-chip-tariffs-trade-minister-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea sees room for cooperation with Taiwan on US chip tariffs, trade minister says
    SEOUL (Reuters) -South Korea sees room for cooperation with Taiwan on U.S. President Donald Trump's tariffs on chips, the country's trade minister said on Monday.
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน"

    ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต

    คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย
    คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง

    มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่
    หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
    ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
    มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า
    ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง

    มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง
    Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง
    ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง
    การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก

    https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    📰 "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน" ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต ⚖️ คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล 🧠 ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง 🌍 มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่ หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ➡️ ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ➡️ มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ ✅ ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น ➡️ การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า ➡️ ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง ✅ มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง ➡️ Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง ➡️ ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง ⛔ การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    TIME.COM
    7 Allegations Against Meta in Newly Unsealed Filings
    Court filings allege Meta tolerated sex trafficking, hid harms to teens, and prioritized growth over user safety for years.
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ Isaac-GROOT: ภัยต่อหุ่นยนต์ยุคใหม่

    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงในแพลตฟอร์ม Isaac-GROOT ซึ่งเป็น foundation model สำหรับการ reasoning และทักษะของหุ่นยนต์ humanoid ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบคือ CVE-2025-33183 และ CVE-2025-33184 โดยทั้งคู่มีคะแนนความรุนแรงสูง (CVSS 7.8) และเกิดจากการจัดการโค้ดในคอมโพเนนต์ Python ที่ไม่ปลอดภัย

    กลไกการโจมตี
    ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อทำ Code Injection ซึ่งจะเปิดทางให้รันโค้ดอันตรายบนระบบที่ใช้ Isaac-GROOT ได้ทันที ผลลัพธ์คือการ ยกระดับสิทธิ์ (Privilege Escalation), การเปิดเผยข้อมูล (Information Disclosure) และ การแก้ไขข้อมูล (Data Tampering) ซึ่งอาจกระทบต่อการทำงานของหุ่นยนต์และระบบที่เชื่อมต่อ

    ผลกระทบต่อวงการ Robotics
    เนื่องจาก Isaac-GROOT ถูกใช้เป็นฐานในการพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ช่องโหว่นี้จึงเป็นภัยต่อทั้งนักวิจัยและนักพัฒนาในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ หากระบบถูกโจมตี หุ่นยนต์อาจถูกควบคุมจากระยะไกลหรือทำงานผิดพลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทั้งในโรงงาน, การแพทย์, โลจิสติกส์ และการใช้งานทั่วไป

    แนวทางแก้ไข
    NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดต Isaac-GROOT ไปยังเวอร์ชันที่มี commit 7f53666 ซึ่งเป็นการแก้ไขช่องโหว่แล้ว และควรตรวจสอบระบบที่ใช้งานอยู่เพื่อป้องกันการถูกโจมตีเพิ่มเติม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-33183 และ CVE-2025-33184
    เกิดจากคอมโพเนนต์ Python ที่ไม่ปลอดภัย

    ผลกระทบ
    รันโค้ดอันตรายผ่าน Code Injection
    ยกระดับสิทธิ์, เปิดเผยข้อมูล, แก้ไขข้อมูล

    แนวทางแก้ไข
    อัปเดต Isaac-GROOT ให้รวม commit 7f53666
    ตรวจสอบระบบที่ใช้งานอยู่

    คำเตือน
    หุ่นยนต์ที่ใช้ Isaac-GROOT เสี่ยงถูกควบคุมจากระยะไกล
    อุตสาหกรรมที่พึ่งพาหุ่นยนต์ เช่น โลจิสติกส์และการแพทย์ อาจได้รับผลกระทบ
    หากไม่อัปเดต อาจเกิดการโจมตีซ้ำและข้อมูลรั่วไหล

    https://securityonline.info/code-injection-flaws-threaten-nvidias-isaac-groot-robotics-platform/
    🤖 ช่องโหว่ Isaac-GROOT: ภัยต่อหุ่นยนต์ยุคใหม่ NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงในแพลตฟอร์ม Isaac-GROOT ซึ่งเป็น foundation model สำหรับการ reasoning และทักษะของหุ่นยนต์ humanoid ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบคือ CVE-2025-33183 และ CVE-2025-33184 โดยทั้งคู่มีคะแนนความรุนแรงสูง (CVSS 7.8) และเกิดจากการจัดการโค้ดในคอมโพเนนต์ Python ที่ไม่ปลอดภัย 🧩 กลไกการโจมตี ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อทำ Code Injection ซึ่งจะเปิดทางให้รันโค้ดอันตรายบนระบบที่ใช้ Isaac-GROOT ได้ทันที ผลลัพธ์คือการ ยกระดับสิทธิ์ (Privilege Escalation), การเปิดเผยข้อมูล (Information Disclosure) และ การแก้ไขข้อมูล (Data Tampering) ซึ่งอาจกระทบต่อการทำงานของหุ่นยนต์และระบบที่เชื่อมต่อ 🌐 ผลกระทบต่อวงการ Robotics เนื่องจาก Isaac-GROOT ถูกใช้เป็นฐานในการพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ช่องโหว่นี้จึงเป็นภัยต่อทั้งนักวิจัยและนักพัฒนาในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ หากระบบถูกโจมตี หุ่นยนต์อาจถูกควบคุมจากระยะไกลหรือทำงานผิดพลาด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทั้งในโรงงาน, การแพทย์, โลจิสติกส์ และการใช้งานทั่วไป 🔒 แนวทางแก้ไข NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดต Isaac-GROOT ไปยังเวอร์ชันที่มี commit 7f53666 ซึ่งเป็นการแก้ไขช่องโหว่แล้ว และควรตรวจสอบระบบที่ใช้งานอยู่เพื่อป้องกันการถูกโจมตีเพิ่มเติม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดช่องโหว่ ➡️ CVE-2025-33183 และ CVE-2025-33184 ➡️ เกิดจากคอมโพเนนต์ Python ที่ไม่ปลอดภัย ✅ ผลกระทบ ➡️ รันโค้ดอันตรายผ่าน Code Injection ➡️ ยกระดับสิทธิ์, เปิดเผยข้อมูล, แก้ไขข้อมูล ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ อัปเดต Isaac-GROOT ให้รวม commit 7f53666 ➡️ ตรวจสอบระบบที่ใช้งานอยู่ ‼️ คำเตือน ⛔ หุ่นยนต์ที่ใช้ Isaac-GROOT เสี่ยงถูกควบคุมจากระยะไกล ⛔ อุตสาหกรรมที่พึ่งพาหุ่นยนต์ เช่น โลจิสติกส์และการแพทย์ อาจได้รับผลกระทบ ⛔ หากไม่อัปเดต อาจเกิดการโจมตีซ้ำและข้อมูลรั่วไหล https://securityonline.info/code-injection-flaws-threaten-nvidias-isaac-groot-robotics-platform/
    SECURITYONLINE.INFO
    Code Injection Flaws Threaten NVIDIA's Isaac-GROOT Robotics Platform
    NVIDIA patches two high-severity code injection flaws (CVE-2025-33183/4) in Isaac-GROOT, risking code execution & privilege escalation in robotics.
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • อำเภอระแงะน้ำป่าหลาก-คลองตันหยงมัสล้นตลิ่ง ท่วมแล้ว 7 ตำบล เดือดร้อนกว่า 9,600 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว และประกาศเตือนเฝ้าระวังต่อเนื่องถึง 26 พ.ย. จากสถานการณ์ฝนตกหนักและระดับน้ำที่ยังคงเพิ่มขึ้น

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111939

    #น้ำท่วม #นราธิวาส #อำเภอระแงะ #อุทกภัย #News1live #News1
    อำเภอระแงะน้ำป่าหลาก-คลองตันหยงมัสล้นตลิ่ง ท่วมแล้ว 7 ตำบล เดือดร้อนกว่า 9,600 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว และประกาศเตือนเฝ้าระวังต่อเนื่องถึง 26 พ.ย. จากสถานการณ์ฝนตกหนักและระดับน้ำที่ยังคงเพิ่มขึ้น • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111939 • #น้ำท่วม #นราธิวาส #อำเภอระแงะ #อุทกภัย #News1live #News1
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • X เปิดตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+

    X (Twitter เดิม) เปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้ (username marketplace) ให้กับสมาชิก Premium+ โดยแบ่งชื่อออกเป็นสองประเภทคือ Priority และ Rare ซึ่งชื่อ Rare เช่น @memelord, @phone หรือ @AIchat มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขการใช้งานเข้มงวดมาก

    X ประกาศเปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้สำหรับสมาชิก Premium+ ที่จ่าย $40/เดือน หรือ $395/ปี โดยสามารถขอชื่อที่เคยถูกใช้งานแต่ปัจจุบันไม่ active แล้ว ระบบแบ่งชื่อออกเป็นสองกลุ่มคือ Priority และ Rare ซึ่งมีวิธีการเข้าถึงแตกต่างกัน

    ความแตกต่างระหว่าง Priority และ Rare
    Priority usernames: ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อจริง เช่น @kbell หรือ @karissa สามารถขอได้ทันที แต่มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์ขอเพียงครั้งเดียวตลอดอายุบัญชี

    Rare usernames: ชื่อสั้น ๆ หรือคำเดี่ยว เช่น @memelord, @phone, @AIchat ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุด ต้องผ่านกระบวนการพิเศษ เช่น public drops, merit-based application หรือการซื้อแบบเชิญเท่านั้น โดยราคามีตั้งแต่ $2,500 จนถึงหลายล้านดอลลาร์

    เงื่อนไขการใช้งานเข้มงวด
    ผู้ที่ได้ชื่อผู้ใช้ใหม่ต้องรักษาสถานะ Premium+, โพสต์เนื้อหาสม่ำเสมอ และห้ามปล่อยบัญชีให้ dormant หากละเมิดเงื่อนไข X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทันที ทั้งนี้ X ย้ำว่าชื่อผู้ใช้ทั้งหมดถือเป็นทรัพย์สินของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ของผู้ใช้

    ผลกระทบและข้อถกเถียง
    การเปิดตลาดนี้อาจสร้างรายได้ใหม่ให้ X แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเสี่ยงในการเก็งกำไรชื่อผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อราคาสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขที่เข้มงวดซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะลงทุน

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+
    ค่าสมัคร $40/เดือน หรือ $395/ปี
    เปิดให้ขอชื่อที่ inactive ได้

    ประเภทชื่อผู้ใช้
    Priority: ชื่อใกล้เคียงชื่อจริง ขอได้ทันที
    Rare: ชื่อสั้น/คำเดี่ยว ราคาสูงถึงหลักล้าน

    เงื่อนไขการใช้งาน
    ต้องรักษาสถานะ Premium+ และโพสต์สม่ำเสมอ
    X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทุกเมื่อ

    ผลกระทบ
    สร้างรายได้ใหม่ให้แพลตฟอร์ม
    อาจเกิดการเก็งกำไรและข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใส

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การลงทุนซื้อชื่อ Rare มีความเสี่ยงสูงและอาจถูกยึดคืน
    ราคาที่สูงเกินจริงอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรและตลาดที่ไม่ยั่งยืน

    https://securityonline.info/x-opens-username-marketplace-to-premium-users-rare-handles-cost-millions/
    📰 X เปิดตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+ X (Twitter เดิม) เปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้ (username marketplace) ให้กับสมาชิก Premium+ โดยแบ่งชื่อออกเป็นสองประเภทคือ Priority และ Rare ซึ่งชื่อ Rare เช่น @memelord, @phone หรือ @AIchat มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขการใช้งานเข้มงวดมาก X ประกาศเปิดตลาดซื้อขายชื่อผู้ใช้สำหรับสมาชิก Premium+ ที่จ่าย $40/เดือน หรือ $395/ปี โดยสามารถขอชื่อที่เคยถูกใช้งานแต่ปัจจุบันไม่ active แล้ว ระบบแบ่งชื่อออกเป็นสองกลุ่มคือ Priority และ Rare ซึ่งมีวิธีการเข้าถึงแตกต่างกัน 🎯 ความแตกต่างระหว่าง Priority และ Rare Priority usernames: ชื่อที่ใกล้เคียงกับชื่อจริง เช่น @kbell หรือ @karissa สามารถขอได้ทันที แต่มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์ขอเพียงครั้งเดียวตลอดอายุบัญชี Rare usernames: ชื่อสั้น ๆ หรือคำเดี่ยว เช่น @memelord, @phone, @AIchat ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุด ต้องผ่านกระบวนการพิเศษ เช่น public drops, merit-based application หรือการซื้อแบบเชิญเท่านั้น โดยราคามีตั้งแต่ $2,500 จนถึงหลายล้านดอลลาร์ ⚠️ เงื่อนไขการใช้งานเข้มงวด ผู้ที่ได้ชื่อผู้ใช้ใหม่ต้องรักษาสถานะ Premium+, โพสต์เนื้อหาสม่ำเสมอ และห้ามปล่อยบัญชีให้ dormant หากละเมิดเงื่อนไข X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทันที ทั้งนี้ X ย้ำว่าชื่อผู้ใช้ทั้งหมดถือเป็นทรัพย์สินของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ของผู้ใช้ 🌍 ผลกระทบและข้อถกเถียง การเปิดตลาดนี้อาจสร้างรายได้ใหม่ให้ X แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเสี่ยงในการเก็งกำไรชื่อผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อราคาสูงถึงหลักล้านดอลลาร์ และมีเงื่อนไขที่เข้มงวดซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ลังเลที่จะลงทุน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดชื่อผู้ใช้ Premium+ ➡️ ค่าสมัคร $40/เดือน หรือ $395/ปี ➡️ เปิดให้ขอชื่อที่ inactive ได้ ✅ ประเภทชื่อผู้ใช้ ➡️ Priority: ชื่อใกล้เคียงชื่อจริง ขอได้ทันที ➡️ Rare: ชื่อสั้น/คำเดี่ยว ราคาสูงถึงหลักล้าน ✅ เงื่อนไขการใช้งาน ➡️ ต้องรักษาสถานะ Premium+ และโพสต์สม่ำเสมอ ➡️ X มีสิทธิ์ยึดชื่อคืนได้ทุกเมื่อ ✅ ผลกระทบ ➡️ สร้างรายได้ใหม่ให้แพลตฟอร์ม ➡️ อาจเกิดการเก็งกำไรและข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใส ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การลงทุนซื้อชื่อ Rare มีความเสี่ยงสูงและอาจถูกยึดคืน ⛔ ราคาที่สูงเกินจริงอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรและตลาดที่ไม่ยั่งยืน https://securityonline.info/x-opens-username-marketplace-to-premium-users-rare-handles-cost-millions/
    SECURITYONLINE.INFO
    X Opens Username Marketplace to Premium+ Users: Rare Handles Cost Millions?
    X is now letting Premium+ subscribers request dormant usernames, dividing them into 'Priority' and 'Rare' categories with ambiguous rules and rumored costs up to millions.
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • Steam Machine แพงแน่ เพราะ Valve ยันไม่ลดราคา

    Valve ยืนยันว่า Steam Machine รุ่นใหม่ จะไม่ถูกอุดหนุนราคาเหมือนเครื่องคอนโซล ทำให้ราคาคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 800–900 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคอนโซลอย่าง PlayStation 5 ที่เริ่มต้นเพียง 399–499 ดอลลาร์

    Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Machine จะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ขายขาดทุนเพื่อดึงผู้ใช้เข้าสู่ระบบนิเวศเหมือนที่ Sony และ Microsoft ทำกับ PlayStation และ Xbox แต่จะตั้งราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนจริงของการสร้างพีซีเกมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง

    สเปกและคุณสมบัติ
    Steam Machine ใช้ซีพียู AMD Zen 4 แบบ 6 คอร์ 12 เธรด และจีพียู AMD RDNA3 28 CU พร้อมแรม DDR5 16GB และ VRAM GDDR6 8GB รองรับการแสดงผลสูงสุด 4K@240Hz หรือ 8K@60Hz มีฟีเจอร์เด่น เช่น ระบบระบายเสียงเงียบมาก, HDMI CEC, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 และรองรับการเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์หลายตัว

    ราคาและการแข่งขัน
    ด้วยการไม่อุดหนุนราคา Steam Machine อาจมีราคาสูงถึง 800–900 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้ใช้คอนโซลลังเล เพราะ PlayStation 5 และ Xbox Series X มีราคาถูกกว่าและยังทรงพลังพอสมควร อย่างไรก็ตาม Valve มองว่าจุดขายคือความยืดหยุ่นของพีซีและการเข้าถึงเกมมหาศาลบน Steam

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนว่า Valve ต้องการให้ Steam Machine เป็น “พีซีเกมขนาดเล็ก” ที่คุ้มค่ากับประสิทธิภาพ ไม่ใช่เครื่องคอนโซลราคาถูก หากผู้ใช้ต้องการความเงียบ ความยืดหยุ่น และการเข้าถึงเกมจำนวนมาก Steam Machine อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ราคาสูงอาจทำให้ตลาดจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้เล่นฮาร์ดคอร์

    สรุปสาระสำคัญ
    Valve ยืนยัน Steam Machine ไม่ถูกอุดหนุนราคา
    ตั้งราคาตามต้นทุนจริง ไม่ขายขาดทุนเหมือนคอนโซล
    คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 800–900 ดอลลาร์

    สเปกและคุณสมบัติ
    CPU AMD Zen 4, GPU AMD RDNA3
    รองรับ 4K@240Hz และ 8K@60Hz
    ระบบเสียงเงียบ, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3

    การแข่งขันกับคอนโซล
    PS5 ราคาเริ่มต้น 399–499 ดอลลาร์
    Steam Machine เน้นความยืดหยุ่นและเกมบน Steam

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เป็นพีซีเกมขนาดเล็กที่ทรงพลังและเงียบ
    ราคาสูงอาจจำกัดตลาดในกลุ่มผู้เล่นจริงจัง

    คำเตือนด้านข้อมูล
    ราคาสูงกว่าเครื่องคอนโซล อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่เลือกซื้อ
    หาก Valve ไม่สร้าง ecosystem ที่ชัดเจน อาจเสี่ยงต่อยอดขายต่ำ

    https://wccftech.com/steam-machine-isnt-going-to-be-subsidized-valve-confirms-prepare-for-high-price/
    🎮 Steam Machine แพงแน่ เพราะ Valve ยันไม่ลดราคา Valve ยืนยันว่า Steam Machine รุ่นใหม่ จะไม่ถูกอุดหนุนราคาเหมือนเครื่องคอนโซล ทำให้ราคาคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 800–900 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคอนโซลอย่าง PlayStation 5 ที่เริ่มต้นเพียง 399–499 ดอลลาร์ Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Machine จะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ขายขาดทุนเพื่อดึงผู้ใช้เข้าสู่ระบบนิเวศเหมือนที่ Sony และ Microsoft ทำกับ PlayStation และ Xbox แต่จะตั้งราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนจริงของการสร้างพีซีเกมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง ⚙️ สเปกและคุณสมบัติ Steam Machine ใช้ซีพียู AMD Zen 4 แบบ 6 คอร์ 12 เธรด และจีพียู AMD RDNA3 28 CU พร้อมแรม DDR5 16GB และ VRAM GDDR6 8GB รองรับการแสดงผลสูงสุด 4K@240Hz หรือ 8K@60Hz มีฟีเจอร์เด่น เช่น ระบบระบายเสียงเงียบมาก, HDMI CEC, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 และรองรับการเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์หลายตัว 💰 ราคาและการแข่งขัน ด้วยการไม่อุดหนุนราคา Steam Machine อาจมีราคาสูงถึง 800–900 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้ใช้คอนโซลลังเล เพราะ PlayStation 5 และ Xbox Series X มีราคาถูกกว่าและยังทรงพลังพอสมควร อย่างไรก็ตาม Valve มองว่าจุดขายคือความยืดหยุ่นของพีซีและการเข้าถึงเกมมหาศาลบน Steam 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนว่า Valve ต้องการให้ Steam Machine เป็น “พีซีเกมขนาดเล็ก” ที่คุ้มค่ากับประสิทธิภาพ ไม่ใช่เครื่องคอนโซลราคาถูก หากผู้ใช้ต้องการความเงียบ ความยืดหยุ่น และการเข้าถึงเกมจำนวนมาก Steam Machine อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ราคาสูงอาจทำให้ตลาดจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้เล่นฮาร์ดคอร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Valve ยืนยัน Steam Machine ไม่ถูกอุดหนุนราคา ➡️ ตั้งราคาตามต้นทุนจริง ไม่ขายขาดทุนเหมือนคอนโซล ➡️ คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 800–900 ดอลลาร์ ✅ สเปกและคุณสมบัติ ➡️ CPU AMD Zen 4, GPU AMD RDNA3 ➡️ รองรับ 4K@240Hz และ 8K@60Hz ➡️ ระบบเสียงเงียบ, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ✅ การแข่งขันกับคอนโซล ➡️ PS5 ราคาเริ่มต้น 399–499 ดอลลาร์ ➡️ Steam Machine เน้นความยืดหยุ่นและเกมบน Steam ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ เป็นพีซีเกมขนาดเล็กที่ทรงพลังและเงียบ ➡️ ราคาสูงอาจจำกัดตลาดในกลุ่มผู้เล่นจริงจัง ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ ราคาสูงกว่าเครื่องคอนโซล อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่เลือกซื้อ ⛔ หาก Valve ไม่สร้าง ecosystem ที่ชัดเจน อาจเสี่ยงต่อยอดขายต่ำ https://wccftech.com/steam-machine-isnt-going-to-be-subsidized-valve-confirms-prepare-for-high-price/
    WCCFTECH.COM
    The Steam Machine Isn't Going to Be Subsidized, Valve Confirms - Prepare for High Price
    Valve has now confirmed unequivocally that the Steam Machine will not be subsidized. As such, its pricing might be far steeper than a console
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • อาวุธใหม่ DragonFire ยิงโดรนความเร็วสูงตกได้

    กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร (MoD) ประกาศว่าเลเซอร์พลังสูง DragonFire สามารถยิงโดรนความเร็วสูงตกได้สำเร็จในการทดสอบที่ Hebrides Range ประเทศสกอตแลนด์ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียงประมาณ 13 ดอลลาร์ และเตรียมติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ตั้งแต่ปี 2027

    DragonFire เป็นระบบเลเซอร์พลังสูงที่พัฒนาโดยความร่วมมือของ MBDA UK, QinetiQ และ Leonardo ล่าสุด MoD ยืนยันว่าเลเซอร์นี้สามารถยิงโดรนที่บินด้วยความเร็วสูงถึง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ถือเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรทำการสกัดกั้นโดรนเหนือเส้นขอบฟ้าได้สำเร็จ

    การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45
    สหราชอาณาจักรได้ลงนามสัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK เพื่อเร่งการติดตั้ง DragonFire บนเรือพิฆาต Type 45 ภายในปี 2027 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี การติดตั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพกองทัพเรือในการป้องกันภัยคุกคามทางอากาศที่มีความเร็วสูงและซับซ้อนมากขึ้น

    ค่าใช้จ่ายต่อการยิงต่ำมาก
    หนึ่งในจุดเด่นของ DragonFire คือค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ซึ่งถูกกว่าการใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่มีราคาหลายแสนดอลลาร์ต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเล็งเป้าได้แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กิโลเมตร

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    DragonFire ถูกมองว่าเป็น “hard-kill solution” ที่จะเปลี่ยนแนวทางการป้องกันภัยทางอากาศของ NATO และพันธมิตร ด้วยต้นทุนต่ำและความแม่นยำสูง หากการทดสอบบนเรือในปี 2027 ประสบความสำเร็จ อาจมีการติดตั้งเพิ่มเติมในเรือรบหลายลำของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร

    สรุปสาระสำคัญ
    การทดสอบ DragonFire
    ยิงโดรนความเร็วสูง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ
    ถือเป็นครั้งแรกที่สกัดกั้นเหนือเส้นขอบฟ้า

    การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45
    สัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK
    ติดตั้งภายในปี 2027 เร็วกว่ากำหนดเดิม 5 ปี

    ค่าใช้จ่ายต่อการยิง
    เพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ต่อครั้ง
    แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กม.

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    เป็น hard-kill solution ที่ต้นทุนต่ำและแม่นยำสูง
    อาจขยายการติดตั้งในเรือรบหลายลำหากทดสอบสำเร็จ

    คำเตือนด้านข้อมูล
    ระบบเลเซอร์ต้องพึ่งพากำลังไฟฟ้าสูงและอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
    ข้อมูลเกี่ยวกับระยะยิงสูงสุดและกำลังเลเซอร์ยังไม่ถูกเปิดเผย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-dragonfire-laser-downs-high-speed-drones
    🔫 อาวุธใหม่ DragonFire ยิงโดรนความเร็วสูงตกได้ กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร (MoD) ประกาศว่าเลเซอร์พลังสูง DragonFire สามารถยิงโดรนความเร็วสูงตกได้สำเร็จในการทดสอบที่ Hebrides Range ประเทศสกอตแลนด์ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียงประมาณ 13 ดอลลาร์ และเตรียมติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ตั้งแต่ปี 2027 DragonFire เป็นระบบเลเซอร์พลังสูงที่พัฒนาโดยความร่วมมือของ MBDA UK, QinetiQ และ Leonardo ล่าสุด MoD ยืนยันว่าเลเซอร์นี้สามารถยิงโดรนที่บินด้วยความเร็วสูงถึง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ถือเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรทำการสกัดกั้นโดรนเหนือเส้นขอบฟ้าได้สำเร็จ ⚓ การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 สหราชอาณาจักรได้ลงนามสัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK เพื่อเร่งการติดตั้ง DragonFire บนเรือพิฆาต Type 45 ภายในปี 2027 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี การติดตั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพกองทัพเรือในการป้องกันภัยคุกคามทางอากาศที่มีความเร็วสูงและซับซ้อนมากขึ้น 💰 ค่าใช้จ่ายต่อการยิงต่ำมาก หนึ่งในจุดเด่นของ DragonFire คือค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ซึ่งถูกกว่าการใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่มีราคาหลายแสนดอลลาร์ต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเล็งเป้าได้แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กิโลเมตร 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ DragonFire ถูกมองว่าเป็น “hard-kill solution” ที่จะเปลี่ยนแนวทางการป้องกันภัยทางอากาศของ NATO และพันธมิตร ด้วยต้นทุนต่ำและความแม่นยำสูง หากการทดสอบบนเรือในปี 2027 ประสบความสำเร็จ อาจมีการติดตั้งเพิ่มเติมในเรือรบหลายลำของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทดสอบ DragonFire ➡️ ยิงโดรนความเร็วสูง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ➡️ ถือเป็นครั้งแรกที่สกัดกั้นเหนือเส้นขอบฟ้า ✅ การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ➡️ สัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK ➡️ ติดตั้งภายในปี 2027 เร็วกว่ากำหนดเดิม 5 ปี ✅ ค่าใช้จ่ายต่อการยิง ➡️ เพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ต่อครั้ง ➡️ แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กม. ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ เป็น hard-kill solution ที่ต้นทุนต่ำและแม่นยำสูง ➡️ อาจขยายการติดตั้งในเรือรบหลายลำหากทดสอบสำเร็จ ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ ระบบเลเซอร์ต้องพึ่งพากำลังไฟฟ้าสูงและอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ ⛔ ข้อมูลเกี่ยวกับระยะยิงสูงสุดและกำลังเลเซอร์ยังไม่ถูกเปิดเผย https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-dragonfire-laser-downs-high-speed-drones
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    DragonFire laser shoots down high‑speed drones traveling at 400mph, costs $13 per shot — UK Navy to begin deploying system on destroyers
    Ministry of Defence confirms the laser achieved live kills at its Hebrides range and will be fitted on a Type 45 destroyer from 2027.
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • IPv5 โปรโตคอลที่ถูกลืม

    IPv5 หรือ Internet Stream Protocol (ST) เป็นโปรโตคอลทดลองที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปลายยุค 1970 เพื่อรองรับการสตรีมข้อมูลแบบเรียลไทม์ แต่สุดท้ายถูกทิ้งไปเพราะเทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาแก้ปัญหาด้านแบนด์วิดท์และความหน่วงได้ดีกว่า

    หลายคนคุ้นเคยกับ IPv4 และ IPv6 แต่แทบไม่รู้จัก IPv5 ซึ่งจริง ๆ แล้วคือ Internet Stream Protocol (ST) ที่ MIT Lincoln Labs พัฒนาขึ้นในช่วงปลายยุค 70 เพื่อรองรับการสื่อสารแบบสตรีมมิ่ง เช่น เสียงและวิดีโอแบบเรียลไทม์ ถือเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น เพราะเปรียบเสมือน “Zoom ก่อน Zoom” แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านกลาโหมเป็นหลัก

    จุดเริ่มต้นของ VoIP
    IPv5 ถูกนำไปทดลองกับ Network Voice Protocol (NVP) เพื่อสร้างฮาร์ดแวร์โทรศัพท์ VoIP รุ่นแรก ๆ แม้จะไม่ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่ก็เป็นการปูทางให้เทคโนโลยีการสื่อสารเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตในอนาคต การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการสตรีมข้อมูลแบบต่อเนื่องสามารถทำได้จริง แม้จะยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและโครงสร้างเครือข่ายในยุคนั้น

    ทำไม IPv5 ถึงไม่ถูกใช้จริง
    แม้จะมีศักยภาพ แต่ IPv5 ไม่เคยถูกประกาศเป็นโปรโตคอลมาตรฐานสากล เพราะถูกมองว่าเป็น “กิ่งก้านที่ไม่จำเป็น” ของการพัฒนาอินเทอร์เน็ต เมื่อเทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาในยุค 1990 ปัญหาด้านแบนด์วิดท์และ latency ที่ IPv5 พยายามแก้ก็หมดความสำคัญไป ทำให้โลกอินเทอร์เน็ตข้ามจาก IPv4 ไปสู่ IPv6 โดยตรง

    บทเรียนจาก IPv5
    เรื่องราวของ IPv5 สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกการทดลองจะกลายเป็นมาตรฐาน แต่ก็มีคุณค่าในฐานะ “รากฐาน” ของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น VoIP และการสตรีมมิ่งที่เราใช้กันทุกวันนี้ หากไม่มีการทดลองเหล่านี้ อินเทอร์เน็ตอาจไม่ได้พัฒนาไปในทิศทางที่เราคุ้นเคย

    สรุปสาระสำคัญ
    IPv5 คือ Internet Stream Protocol (ST)
    พัฒนาขึ้นในปลายยุค 70 โดย MIT Lincoln Labs
    ออกแบบมาเพื่อการสตรีมข้อมูลแบบเรียลไทม์

    จุดเริ่มต้นของ VoIP
    ใช้ทดลองกับ Network Voice Protocol (NVP)
    เป็นพื้นฐานให้การสื่อสารเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตในอนาคต

    เหตุผลที่ไม่ถูกใช้จริง
    ไม่เคยถูกประกาศเป็นโปรโตคอลมาตรฐาน
    เทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาแทนที่และแก้ปัญหาได้ดีกว่า

    บทเรียนจาก IPv5
    แม้ไม่ถูกใช้งานจริง แต่เป็นแรงบันดาลใจให้เทคโนโลยีสตรีมมิ่งและ VoIP

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การพัฒนาโปรโตคอลใหม่ที่ไม่ถูกยอมรับอาจทำให้เกิดความสับสนในระบบเครือข่าย
    การพึ่งพาเทคโนโลยีที่ไม่เป็นมาตรฐานอาจเสี่ยงต่อความเข้ากันได้และความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/networking/ipv5-and-the-internet-stream-protocol-a-data-streaming-experiment-rendered-unnecessary-by-broadband
    🌐 IPv5 โปรโตคอลที่ถูกลืม IPv5 หรือ Internet Stream Protocol (ST) เป็นโปรโตคอลทดลองที่ถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปลายยุค 1970 เพื่อรองรับการสตรีมข้อมูลแบบเรียลไทม์ แต่สุดท้ายถูกทิ้งไปเพราะเทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาแก้ปัญหาด้านแบนด์วิดท์และความหน่วงได้ดีกว่า หลายคนคุ้นเคยกับ IPv4 และ IPv6 แต่แทบไม่รู้จัก IPv5 ซึ่งจริง ๆ แล้วคือ Internet Stream Protocol (ST) ที่ MIT Lincoln Labs พัฒนาขึ้นในช่วงปลายยุค 70 เพื่อรองรับการสื่อสารแบบสตรีมมิ่ง เช่น เสียงและวิดีโอแบบเรียลไทม์ ถือเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น เพราะเปรียบเสมือน “Zoom ก่อน Zoom” แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านกลาโหมเป็นหลัก 📞 จุดเริ่มต้นของ VoIP IPv5 ถูกนำไปทดลองกับ Network Voice Protocol (NVP) เพื่อสร้างฮาร์ดแวร์โทรศัพท์ VoIP รุ่นแรก ๆ แม้จะไม่ถูกใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่ก็เป็นการปูทางให้เทคโนโลยีการสื่อสารเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตในอนาคต การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการสตรีมข้อมูลแบบต่อเนื่องสามารถทำได้จริง แม้จะยังมีข้อจำกัดด้านความเร็วและโครงสร้างเครือข่ายในยุคนั้น 🚀 ทำไม IPv5 ถึงไม่ถูกใช้จริง แม้จะมีศักยภาพ แต่ IPv5 ไม่เคยถูกประกาศเป็นโปรโตคอลมาตรฐานสากล เพราะถูกมองว่าเป็น “กิ่งก้านที่ไม่จำเป็น” ของการพัฒนาอินเทอร์เน็ต เมื่อเทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาในยุค 1990 ปัญหาด้านแบนด์วิดท์และ latency ที่ IPv5 พยายามแก้ก็หมดความสำคัญไป ทำให้โลกอินเทอร์เน็ตข้ามจาก IPv4 ไปสู่ IPv6 โดยตรง 📜 บทเรียนจาก IPv5 เรื่องราวของ IPv5 สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกการทดลองจะกลายเป็นมาตรฐาน แต่ก็มีคุณค่าในฐานะ “รากฐาน” ของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น VoIP และการสตรีมมิ่งที่เราใช้กันทุกวันนี้ หากไม่มีการทดลองเหล่านี้ อินเทอร์เน็ตอาจไม่ได้พัฒนาไปในทิศทางที่เราคุ้นเคย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ IPv5 คือ Internet Stream Protocol (ST) ➡️ พัฒนาขึ้นในปลายยุค 70 โดย MIT Lincoln Labs ➡️ ออกแบบมาเพื่อการสตรีมข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ จุดเริ่มต้นของ VoIP ➡️ ใช้ทดลองกับ Network Voice Protocol (NVP) ➡️ เป็นพื้นฐานให้การสื่อสารเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตในอนาคต ✅ เหตุผลที่ไม่ถูกใช้จริง ➡️ ไม่เคยถูกประกาศเป็นโปรโตคอลมาตรฐาน ➡️ เทคโนโลยีบรอดแบนด์เข้ามาแทนที่และแก้ปัญหาได้ดีกว่า ✅ บทเรียนจาก IPv5 ➡️ แม้ไม่ถูกใช้งานจริง แต่เป็นแรงบันดาลใจให้เทคโนโลยีสตรีมมิ่งและ VoIP ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การพัฒนาโปรโตคอลใหม่ที่ไม่ถูกยอมรับอาจทำให้เกิดความสับสนในระบบเครือข่าย ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีที่ไม่เป็นมาตรฐานอาจเสี่ยงต่อความเข้ากันได้และความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/networking/ipv5-and-the-internet-stream-protocol-a-data-streaming-experiment-rendered-unnecessary-by-broadband
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The industry skipped from IPv4 to IPv6, leaving IPv5 and the Internet Stream Protocol to the annals of history — a data streaming experiment rendered unnecessary by broadband
    IPv5 wasn't a general purpose Internet Protocol like IPv4 or IPv6, and was never ratified as such, but it would give birth to the first VOIP hardware.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • ปชน.เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ “เท้ง-วีระยุทธ-ไหม”, ตั้งเป้าขอความไว้วางใจจากประชาชน 20 ล้านเสียง เพื่อให้ได้ ส.ส.เกินครึ่งและตั้งรัฐบาลพรรคเดียว พร้อมประกาศความพร้อมด้านนโยบายและทีมบริหารประเทศ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112060

    #การเมืองไทย #พรรคประชาชน #เลือกตั้ง #แคนดิเดตนายกฯ #News1live #News1
    ปชน.เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ “เท้ง-วีระยุทธ-ไหม”, ตั้งเป้าขอความไว้วางใจจากประชาชน 20 ล้านเสียง เพื่อให้ได้ ส.ส.เกินครึ่งและตั้งรัฐบาลพรรคเดียว พร้อมประกาศความพร้อมด้านนโยบายและทีมบริหารประเทศ ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112060 • #การเมืองไทย #พรรคประชาชน #เลือกตั้ง #แคนดิเดตนายกฯ #News1live #News1
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • O.P.K.

    คดีจอมผีดิบ

    การระบาดลึกลับในกรุงเทพ

    เหตุการณ์ไม่ปกติในโรงพยาบาล

    ร.ต.อ.สิงห์ได้รับแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลหลายแห่ง
    มีผู้ป่วยแสดงอาการแปลกๆ คล้าย"ผีดิบ" แต่เป็นทางการแพทย์

    ```mermaid
    graph TB
    A[ผู้ป่วยมีอาการ<br>ดุร้ายผิดมนุษย์] --> B[ตรวจพบ<br>ปรสิตในเลือด]
    B --> C[ติดต่อผ่าน<br>การสัมผัสเลือด]
    C --> D[ควบคุมอาการ<br>ด้วยยาปกติไม่ได้]
    D --> E[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานชีวภาพประหลาด]
    ```

    ลักษณะของปรสิตกลายพันธุ์

    แพทย์รายงานลักษณะประหลาด:
    "มันไม่ใช่ไวรัสหรือแบคทีเรียทั่วไป...
    แต่เป็นปรสิตที่มีสติปัญญา สามารถควบคุมสมองมนุษย์ได้
    และที่สยองคือ...มันพัฒนาต้านทานต่อยาทุกชนิด!"

    การสอบสวนทางวิทยาศาสตร์

    การตามหาต้นตอ

    ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีร่วมกับทีมแพทย์สืบสวน:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ตรวจสอบ<br>ผู้ป่วยรายแรก] --> B[ติดตามไปยัง<br>ใต้ดิน]
    B --> C[พบการทดลอง<br>ชีวภาพผิดกฎหมาย]
    C --> D[ค้นพบว่าเป็น<br>ปรสิตดัดแปลงพันธุกรรม]
    ```

    ลักษณะทางวิทยาศาสตร์

    ```python
    class MutatedParasite:
    def __init__(self):
    self.characteristics = {
    "origin": "ปรสิตดัดแปลงจากพยาธิตัวจี๊ด",
    "transmission": "ติดต่อผ่านเลือดและของเหลวร่างกาย",
    "incubation": "24-48 ชั่วโมง",
    "symptoms": [
    "ผิวหนังคล้ำเหมือนศพ",
    "ตาขาวกลายเป็นสีดำ",
    "ความดุร้ายเพิ่มขึ้น 300%",
    "ความแข็งแกร่งร่างกายเพิ่มขึ้น"
    ],
    "intelligence": "สามารถสื่อสารระหว่างปรสิตได้"
    }

    self.abilities = {
    "mind_control": "ควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง",
    "rapid_mutation": "ปรับตัวต่อยาอย่างรวดเร็ว",
    "hive_mind": "เชื่อมโยงความคิดระหว่างผู้ติดเชื้อ",
    "biological_enhancement": "เพิ่มความสามารถทางกายภาพ"
    }
    ```

    วิกฤตการณ์ระบาด

    การแพร่กระจายในเมือง

    การระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ:

    · ผู้ติดเชื้อ: แสดงพฤติกรรมคล้ายซอมบี้
    · การติดต่อ: ผ่านการกัด, การสัมผัสเลือด
    · อัตราการเสียชีวิต: 90% ภายใน 1 สัปดาห์

    ความน่าสะพรึงกลัว

    ผู้ติดเชื้อมีลักษณะ:

    · ผิวหนัง: หนาขึ้นเหมือนหนังศพ
    · ดวงตา: ไม่มีอารมณ์ ม่านตาขยายเต็มที่
    · พฤติกรรม: ดุร้าย โจมตีผู้ไม่ติดเชื้อ
    · เสียง: ส่งเสียงคำราม กัดฟัน

    การค้นพบวัคซีนสมุนไพรไทย

    ความหวังจากภูมิปัญญาโบราณ

    หนูดีและทีมแพทย์ค้นพบว่า:
    "ปรสิตนี้อ่อนแอต่อสมุนไพรไทยบางชนิด...
    โดยเฉพาะสูตรยาตำรับโบราณ!"

    สูตรสมุนไพรรักษา

    ```python
    class ThaiHerbalVaccine:
    def __init__(self):
    self.herbal_components = {
    "primary": [
    "ฟ้าทะลายโจร: ยับยั้งการแบ่งตัวของปรสิต",
    "ขมิ้นชัน: ลดการอักเสบและทำลายเซลล์ปรสิต",
    "กระเทียม: สร้างสภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่ปรสิต",
    "ว่านหางจระเข้: ซ่อมแซุเซลล์ที่เสียหาย"
    ],
    "secondary": [
    "มะระขี้นก: เพิ่มภูมิคุ้มกันเฉพาะ",
    "ตรีผลา: กำจัดพิษจากปรสิต",
    "เบญจกูล: ปรับสมดุลร่างกาย",
    "ย่านาง: ลดความดุร้ายจากปรสิต"
    ]
    }

    self.preparation = {
    "extraction": "สกัดด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิเหมาะสม",
    "combination": "ผสมในอัตราส่วนที่ถูกต้อง",
    "administration": "ฉีดและรับประทานร่วมกัน",
    "dosage": "ปรับตามน้ำหนักและระดับการติดเชื้อ"
    }
    ```

    กระบวนการผลิต

    ```mermaid
    graph TB
    A[เก็บสมุนไพร<br>คุณภาพสูง] --> B[สกัดสารสำคัญ<br>ด้วยวิธีดั้งเดิม]
    B --> C[ผสมสูตร<br>ตามตำรับโบราณ]
    C --> D[ทดสอบประสิทธิภาพ<br>ในห้องปฏิบัติการ]
    D --> E[ผลิตเป็น<br>วัคซีนและยารักษา]
    ```

    การรักษาและป้องกัน

    โปรโตคอลการรักษา

    พัฒนาระบบรักษาผู้ติดเชื้อ:

    1. กักกัน: ในพื้นที่ปลอดภัย
    2. ให้ยา: สมุนไพรสูตรพิเศษ
    3. บำบัด: ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ
    4. ติดตามผล: อย่างใกล้ชิด

    มาตรการป้องกัน

    สำหรับประชาชนทั่วไป:

    · วัคซีนป้องกัน: จากสมุนไพรไทย
    · การตรวจเลือด: เป็นประจำ
    · หลีกเลี่ยง: การสัมผัสเลือดผู้อื่น
    · รู้จักอาการ: เฝ้าระวังตั้งแต่เริ่มต้น

    ความร่วมมือระดับชาติ

    การระดมสรรพกำลัง

    รัฐบาลประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ:

    ```python
    class NationalResponse:
    def __init__(self):
    self.agencies_involved = [
    "กระทรวงสาธารณสุข: นำทางการแพทย์",
    "กระทรวงกลาโหม: ควบคุมสถานการณ์",
    "มหาวิทยาลัย: วิจัยและพัฒนา",
    "องค์การเภสัชกรรม: ผลิตยา"
    ]

    self.resources_mobilized = {
    "medical": "แพทย์ พยาบาล เภสัชกร",
    "security": "ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร",
    "research": "นักวิทยาศาสตร์ นักสมุนไพรศาสตร์",
    "production": "โรงงานผลิตยา ศูนย์สกัดสมุนไพร"
    }
    ```

    การจัดการวิกฤต

    ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน:

    · สถานที่: กรมควบคุมโรค
    · หน้าที่: ประสานงานทุกหน่วยงาน
    · เป้าหมาย: ยุติการระบาดภายใน 1 เดือน

    ผลการดำเนินงาน

    ความคืบหน้าของการรักษา

    หลังใช้สมุนไพรไทย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[สัปดาห์ที่ 1<br>ทดลองในสัตว์] --> B[สัปดาห์ที่ 2<br>ทดลองในมนุษย์]
    B --> C[สัปดาห์ที่ 3<br>ผลิตจำนวนมาก]
    C --> D[สัปดาห์ที่ 4<br>ควบคุมการระบาดได้]
    ```

    อัตราความสำเร็จ

    · ป้องกันการติดเชื้อ: 95%
    · รักษาผู้ติดเชื้อ: 85%
    · ลดอาการดุร้าย: ภายใน 24 ชั่วโมง
    · ฟื้นตัวสมบูรณ์: 70% ภายใน 2 สัปดาห์

    ความสำเร็จที่โดดเด่น

    จุดเปลี่ยนสำคัญ

    การค้นพบที่สำคัญ:

    · ฟ้าทะลายโจร: ยับยั้งการสื่อสารระหว่างปรสิต
    · ขมิ้นชัน: ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ปรสิต
    · สูตรรวม: สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว

    การได้รับการยอมรับ

    องค์การอนามัยโลกยกย่อง:
    "ประเทศไทยแสดงความเป็นผู้นำ...
    ในการใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมแก้ไขวิกฤตสมัยใหม่"

    บทเรียนจากวิกฤต

    สำหรับวงการแพทย์

    "เราเรียนรู้ว่า...
    ยาสมัยใหม่ไม่ใช่คำตอบเดียว
    และภูมิปัญญาโบราณสามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้"

    สำหรับสังคมไทย

    "วิกฤตนี้สอนเราให้เห็นคุณค่า...
    ของสมุนไพรไทยและความรู้ดั้งเดิม

    และแสดงให้เห็นว่า...
    เมื่อเราร่วมมือกัน เราสามารถ overcome ทุกวิกฤต"

    สำหรับอนาคต

    "การวิจัยสมุนไพรไทย...
    ควรได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง

    เพราะในวิกฤตครั้งต่อไป...
    ความรู้เหล่านี้อาจช่วยมนุษยชาติได้อีก"

    การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

    นวัตกรรมต่อยอด

    พัฒนาจากบทเรียนนี้:

    · คลังสมุนไพรชาติ: เก็บรักษาสมุนไพรสำคัญ
    · วิจัยสูตรยา: พัฒนาต่อยอดจากตำรับโบราณ
    · ฝึกบุคลากร: นักสมุนไพรศาสตร์รุ่นใหม่

    โครงการระยะยาว

    ตั้ง สถาบันวิจัยสมุนไพรไทย:

    · วัตถุประสงค์: ศึกษาวิจัยและพัฒนาสมุนไพร
    · ความร่วมมือ: ระหว่างภาครัฐและเอกชน
    · เป้าหมาย: เป็นศูนย์กลางสมุนไพรของอาเซียน

    ---

    คำคมสุดท้ายจากร.ต.อ.สิงห์:
    "วิกฤตครั้งนี้สอนเราว่า...
    บางครั้งคำตอบอยู่ใกล้ตัวเรามาก

    และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ...
    คือมรดกล้ำค่าที่เราต้องรักษาไว้"

    บทเรียนแห่งการอยู่รอด:
    "เมื่อวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาโบราณเดินควบคู่...
    ไม่มีวิกฤตใดที่มนุษย์จะ overcome ไม่ได้"

    มรดกจากวิกฤต:
    "จากผีดิบปรสิต...
    สู่การตื่นตัวเรื่องสมุนไพรไทย

    และจากความสยองขวัญ...
    สู่ความหวังใหม่แห่งการแพทย์ไทย"
    O.P.K. 🧟‍♂️ คดีจอมผีดิบ 🚨 การระบาดลึกลับในกรุงเทพ 🏥 เหตุการณ์ไม่ปกติในโรงพยาบาล ร.ต.อ.สิงห์ได้รับแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลหลายแห่ง มีผู้ป่วยแสดงอาการแปลกๆ คล้าย"ผีดิบ" แต่เป็นทางการแพทย์ ```mermaid graph TB A[ผู้ป่วยมีอาการ<br>ดุร้ายผิดมนุษย์] --> B[ตรวจพบ<br>ปรสิตในเลือด] B --> C[ติดต่อผ่าน<br>การสัมผัสเลือด] C --> D[ควบคุมอาการ<br>ด้วยยาปกติไม่ได้] D --> E[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานชีวภาพประหลาด] ``` 🧬 ลักษณะของปรสิตกลายพันธุ์ แพทย์รายงานลักษณะประหลาด: "มันไม่ใช่ไวรัสหรือแบคทีเรียทั่วไป... แต่เป็นปรสิตที่มีสติปัญญา สามารถควบคุมสมองมนุษย์ได้ และที่สยองคือ...มันพัฒนาต้านทานต่อยาทุกชนิด!" 🔬 การสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ 🕵️ การตามหาต้นตอ ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีร่วมกับทีมแพทย์สืบสวน: ```mermaid graph LR A[ตรวจสอบ<br>ผู้ป่วยรายแรก] --> B[ติดตามไปยัง<br>ใต้ดิน] B --> C[พบการทดลอง<br>ชีวภาพผิดกฎหมาย] C --> D[ค้นพบว่าเป็น<br>ปรสิตดัดแปลงพันธุกรรม] ``` 🧪 ลักษณะทางวิทยาศาสตร์ ```python class MutatedParasite: def __init__(self): self.characteristics = { "origin": "ปรสิตดัดแปลงจากพยาธิตัวจี๊ด", "transmission": "ติดต่อผ่านเลือดและของเหลวร่างกาย", "incubation": "24-48 ชั่วโมง", "symptoms": [ "ผิวหนังคล้ำเหมือนศพ", "ตาขาวกลายเป็นสีดำ", "ความดุร้ายเพิ่มขึ้น 300%", "ความแข็งแกร่งร่างกายเพิ่มขึ้น" ], "intelligence": "สามารถสื่อสารระหว่างปรสิตได้" } self.abilities = { "mind_control": "ควบคุมระบบประสาทส่วนกลาง", "rapid_mutation": "ปรับตัวต่อยาอย่างรวดเร็ว", "hive_mind": "เชื่อมโยงความคิดระหว่างผู้ติดเชื้อ", "biological_enhancement": "เพิ่มความสามารถทางกายภาพ" } ``` 🚨 วิกฤตการณ์ระบาด 🏙️ การแพร่กระจายในเมือง การระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ: · ผู้ติดเชื้อ: แสดงพฤติกรรมคล้ายซอมบี้ · การติดต่อ: ผ่านการกัด, การสัมผัสเลือด · อัตราการเสียชีวิต: 90% ภายใน 1 สัปดาห์ 💀 ความน่าสะพรึงกลัว ผู้ติดเชื้อมีลักษณะ: · ผิวหนัง: หนาขึ้นเหมือนหนังศพ · ดวงตา: ไม่มีอารมณ์ ม่านตาขยายเต็มที่ · พฤติกรรม: ดุร้าย โจมตีผู้ไม่ติดเชื้อ · เสียง: ส่งเสียงคำราม กัดฟัน 🌿 การค้นพบวัคซีนสมุนไพรไทย 🔍 ความหวังจากภูมิปัญญาโบราณ หนูดีและทีมแพทย์ค้นพบว่า: "ปรสิตนี้อ่อนแอต่อสมุนไพรไทยบางชนิด... โดยเฉพาะสูตรยาตำรับโบราณ!" 💊 สูตรสมุนไพรรักษา ```python class ThaiHerbalVaccine: def __init__(self): self.herbal_components = { "primary": [ "ฟ้าทะลายโจร: ยับยั้งการแบ่งตัวของปรสิต", "ขมิ้นชัน: ลดการอักเสบและทำลายเซลล์ปรสิต", "กระเทียม: สร้างสภาพแวดล้อมไม่เหมาะแก่ปรสิต", "ว่านหางจระเข้: ซ่อมแซุเซลล์ที่เสียหาย" ], "secondary": [ "มะระขี้นก: เพิ่มภูมิคุ้มกันเฉพาะ", "ตรีผลา: กำจัดพิษจากปรสิต", "เบญจกูล: ปรับสมดุลร่างกาย", "ย่านาง: ลดความดุร้ายจากปรสิต" ] } self.preparation = { "extraction": "สกัดด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิเหมาะสม", "combination": "ผสมในอัตราส่วนที่ถูกต้อง", "administration": "ฉีดและรับประทานร่วมกัน", "dosage": "ปรับตามน้ำหนักและระดับการติดเชื้อ" } ``` 🧪 กระบวนการผลิต ```mermaid graph TB A[เก็บสมุนไพร<br>คุณภาพสูง] --> B[สกัดสารสำคัญ<br>ด้วยวิธีดั้งเดิม] B --> C[ผสมสูตร<br>ตามตำรับโบราณ] C --> D[ทดสอบประสิทธิภาพ<br>ในห้องปฏิบัติการ] D --> E[ผลิตเป็น<br>วัคซีนและยารักษา] ``` 🏥 การรักษาและป้องกัน 💉 โปรโตคอลการรักษา พัฒนาระบบรักษาผู้ติดเชื้อ: 1. กักกัน: ในพื้นที่ปลอดภัย 2. ให้ยา: สมุนไพรสูตรพิเศษ 3. บำบัด: ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ 4. ติดตามผล: อย่างใกล้ชิด 🛡️ มาตรการป้องกัน สำหรับประชาชนทั่วไป: · วัคซีนป้องกัน: จากสมุนไพรไทย · การตรวจเลือด: เป็นประจำ · หลีกเลี่ยง: การสัมผัสเลือดผู้อื่น · รู้จักอาการ: เฝ้าระวังตั้งแต่เริ่มต้น 🌍 ความร่วมมือระดับชาติ 🤝 การระดมสรรพกำลัง รัฐบาลประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ: ```python class NationalResponse: def __init__(self): self.agencies_involved = [ "กระทรวงสาธารณสุข: นำทางการแพทย์", "กระทรวงกลาโหม: ควบคุมสถานการณ์", "มหาวิทยาลัย: วิจัยและพัฒนา", "องค์การเภสัชกรรม: ผลิตยา" ] self.resources_mobilized = { "medical": "แพทย์ พยาบาล เภสัชกร", "security": "ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร", "research": "นักวิทยาศาสตร์ นักสมุนไพรศาสตร์", "production": "โรงงานผลิตยา ศูนย์สกัดสมุนไพร" } ``` 📊 การจัดการวิกฤต ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน: · สถานที่: กรมควบคุมโรค · หน้าที่: ประสานงานทุกหน่วยงาน · เป้าหมาย: ยุติการระบาดภายใน 1 เดือน 🎯 ผลการดำเนินงาน 📈 ความคืบหน้าของการรักษา หลังใช้สมุนไพรไทย: ```mermaid graph LR A[สัปดาห์ที่ 1<br>ทดลองในสัตว์] --> B[สัปดาห์ที่ 2<br>ทดลองในมนุษย์] B --> C[สัปดาห์ที่ 3<br>ผลิตจำนวนมาก] C --> D[สัปดาห์ที่ 4<br>ควบคุมการระบาดได้] ``` 💪 อัตราความสำเร็จ · ป้องกันการติดเชื้อ: 95% · รักษาผู้ติดเชื้อ: 85% · ลดอาการดุร้าย: ภายใน 24 ชั่วโมง · ฟื้นตัวสมบูรณ์: 70% ภายใน 2 สัปดาห์ 🏆 ความสำเร็จที่โดดเด่น 🌟 จุดเปลี่ยนสำคัญ การค้นพบที่สำคัญ: · ฟ้าทะลายโจร: ยับยั้งการสื่อสารระหว่างปรสิต · ขมิ้นชัน: ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ปรสิต · สูตรรวม: สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว 🎖️ การได้รับการยอมรับ องค์การอนามัยโลกยกย่อง: "ประเทศไทยแสดงความเป็นผู้นำ... ในการใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมแก้ไขวิกฤตสมัยใหม่" 📚 บทเรียนจากวิกฤต 🧠 สำหรับวงการแพทย์ "เราเรียนรู้ว่า... ยาสมัยใหม่ไม่ใช่คำตอบเดียว และภูมิปัญญาโบราณสามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้" 💫 สำหรับสังคมไทย "วิกฤตนี้สอนเราให้เห็นคุณค่า... ของสมุนไพรไทยและความรู้ดั้งเดิม และแสดงให้เห็นว่า... เมื่อเราร่วมมือกัน เราสามารถ overcome ทุกวิกฤต" 🌿 สำหรับอนาคต "การวิจัยสมุนไพรไทย... ควรได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง เพราะในวิกฤตครั้งต่อไป... ความรู้เหล่านี้อาจช่วยมนุษยชาติได้อีก" 🔮 การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต 💊 นวัตกรรมต่อยอด พัฒนาจากบทเรียนนี้: · คลังสมุนไพรชาติ: เก็บรักษาสมุนไพรสำคัญ · วิจัยสูตรยา: พัฒนาต่อยอดจากตำรับโบราณ · ฝึกบุคลากร: นักสมุนไพรศาสตร์รุ่นใหม่ 🌱 โครงการระยะยาว ตั้ง สถาบันวิจัยสมุนไพรไทย: · วัตถุประสงค์: ศึกษาวิจัยและพัฒนาสมุนไพร · ความร่วมมือ: ระหว่างภาครัฐและเอกชน · เป้าหมาย: เป็นศูนย์กลางสมุนไพรของอาเซียน --- คำคมสุดท้ายจากร.ต.อ.สิงห์: "วิกฤตครั้งนี้สอนเราว่า... บางครั้งคำตอบอยู่ใกล้ตัวเรามาก และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ... คือมรดกล้ำค่าที่เราต้องรักษาไว้" บทเรียนแห่งการอยู่รอด: "เมื่อวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาโบราณเดินควบคู่... ไม่มีวิกฤตใดที่มนุษย์จะ overcome ไม่ได้"🌿✨ มรดกจากวิกฤต: "จากผีดิบปรสิต... สู่การตื่นตัวเรื่องสมุนไพรไทย และจากความสยองขวัญ... สู่ความหวังใหม่แห่งการแพทย์ไทย"🏥💚
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 5
    ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ญี่ปุ่นไปยึดเกาหลี ได้ในปี ค.ศ.1895 และตีจีนกระเจิงกลับบ้านพวกไกยิ่น ฝรั่งชาติต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ เริ่มหรี่ตามองญี่ปุ่น ไอ้หมอนี่ชักจะเรียนเร็วไปแล้ว แล้วอังกฤษ ก็หลอกญี่ปุ่นให้ทำสัญญามิตรภาพ เมื่อต้นปี ค.ศ.1902 เป็นสัญญาที่ดูเหมือนเอาไว้กันท่ากันชาวบ้าน และกันท่ากันเองด้วย ในสัญญาบอกว่า ญี่ปุ่นรับรู้ว่า อังกฤษมีผลประโยชน์ในจีน ส่วนอังกฤษก็รับรู้ว่า ญี่ปุ่นมีผลประโยชน์ในจีน และในเกาหลี และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไปรบกับใคร อีกฝ่ายก็จะส่งกำลังไปช่วย
    เป็นสัญญาที่แสดงความเก๋าของอังกฤษอย่างยิ่ง อังกฤษตาไว มองไกล เห็นหน่วยก้านญี่ปุ่นแล้ว ปล่อยให้ไปอยู่ข้างอื่นไม่ได้ ต้องเอามาอยู่ใกล้ตัว อังกฤษ เตรียมพร้อมที่จะกันท่าญี่ปุ่นเรื่องจีน และพร้อมที่หลอกใช้ญี่ปุ่นด้วย
    สำหรับอังกฤษ การทำสัญญากับญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์กันท่าอย่างเดียว แต่สำหรับญี่ปุ่น มันเป็นคนละเรื่องกัน ญี่ปุ่นปลาบปลื้มยิ่งนัก ญี่ปุ่นคิดว่า อังกฤษเป็นเพื่อนคนแรกของญี่ปุ่น ที่เห็นคุณค่า และความสามารถของญี่ปุ่น ที่สำคัญ เป็นเพื่อนผมทอง ตาน้ำข้าวที่ญี่ปุ่นปลื้มหนักหนา…
    ท่านที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษ คงจำกันได้ว่า ญี่ปุ่นลุกขึ้นไปรบรัสเซียในปี ค.ศ.1904 แต่ก่อนจะไปรบ ญี่ปุ่นไม่มีทุน คนที่ช่วยหาทุนให้ญี่ปุ่น คือ ชาวยิวชื่อ Jacob Schiff ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Kuhn Loeb & Co บริษัทการเงินใหญ่ แห่งวอลสตรีท ที่เป็นร่างทรงของ Rothschild ผู้ปกครองของรัฐบาลอังกฤษ Rothschild มีแผนจะคิดบัญชีซาร์นิโคลัส กษัตริย์ที่ปกครองรัสเซีย และยึดน้ำมันรัสเซีย จึงต้องสร้างปฏิวัติให้รัสเซียน่วมก่อน แต่ก่อนจะสร้างปฏิวัติรัสเซีย อังกฤษก็ยุให้ญี่ปุ่น ที่กำลังอยากแสดงฝีมือ ให้ไปรบให้รัสเซียเซเสียก่อน และทุกอย่างก็เป็นไปแผน ญี่ปุ่นบ้ายุ ไปรบรัสเซีย จนรัสเซียแพ้ เซแซดจริงๆ
    พอจะเห็นรางๆแล้วนะครับว่า ตั้งแต่เปลี่ยนนิสัย ไม่รักสันโดษ ญี่ปุ่นดูเหมือนไม่อยู่แบบเดี่ยวๆ และทำท่าจะเกี่ยวโยงกันไปหมด
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1914 อังกฤษ เปลี่ยนนโยบายกระทันหัน จากที่เคยคิดปิดล้อมรัสเซีย ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะรัสเซียเซแซดใกล้ล้ม อังกฤษเลยเปลี่ยน จากล้อมรัสเซีย เป็นเข้าไปต้ม หรือปล้นให้รู้แล้วรู้รอด และไปล้อมเยอรมันแทน
    เมื่อไม่ต้องรบรัสเซีย อังกฤษคิดไม่ตก ในอังกฤษเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งบอก ญี่ปุ่นเป็นคู่แค้นรัสเซีย ไม่รบรัสเซีย ก็ไม่ต้องชวนญี่ปุ่นเข้าร่วมก๊วน เพราะไม่ไว้ใจว่า ถ้าบอกให้ญี่ปุ่นคอยกันกองทัพเรือเยอรมัน ในแถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นอาจจะฉวยโอกาสแย่งงับเกาะเล็ก เกาะน้อยของเยอรมันแถวแปซิฟิกไป โดยอังกฤษ หันมางับไม่ทันก็เป็นได้ เหมือนกรณีงาบเกาหลีไปจากจีน นับว่า ฝ่ายนี้มองญี่ปุ่นได้ลึกซึ้ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือ หลอดวินสตัน เชอชิล บอกว่า เหลวไหล เราไม่ชวนญี่ปุ่น แปลว่า เรากลัวเขาจนตีนจิกละสิ แล้วอังกฤษก็เลยชวนญี่ปุ่นเล่นสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยกัน แปลว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กลัวญี่ปุ่นจนตีนจิกจริงๆ ฮาจริง (โว้ย)
    หลังจากออกคำชวนไปไม่ถึงสัปดาห์ ญี่ปุ่นไม่ให้เสียเวลา ส่งหนังสือถึงเยอรมัน ให้เยอรมันถอยเรือออกไปจากแปซืฟิกให้หมด เยอรมันไม่ตอบ แต่สั่งให้กองกำลังของตนที่เกาะชิงเตา Tsingtao เตรียมพร้อม วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1914 ญี่ปุ่นก็ประกาศสงครามกับเยอรมัน และเคลื่อนพลไปยึดบรรดาเกาะต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของเยอรมันเรียบหมด
    ญี่ปุ่นดูเหมือนจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่พักใหญ่ แต่หลังจากที่กวาดเอาเกาะของเยอรมันมาหมดแล้ว ญี่ปุ่นก็พักเหนื่อย เมื่ออังกฤษขอให้ญี่ปุ่นส่งเรือมาช่วยรบที่ทะเลเมดิเตอเรเนียนกับ ทะเลบอลติก ญี่ปุ่นก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ
    เมื่อถูกต่อว่า ญี่ปุ่นบอกมีปัญหาภายในกองทัพแก้ไม่ตก นายทหารเรือของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จบมาจากเยอรมันทั้งนั้น แถมเยอรมันยังมาช่าวทำการฝึก การรบ การใช้อาวุธให้อีก ใครจะอยากไปรบกับครู และในญี่ปุ่นเอง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 มาแล้ว มีเสียงบ่นว่า เราน่าจะเลิกสัญญาบ้าบอที่ไปทำกับอังกฤษเสีย แล้วมาผูกสัมพันธ์กับเยอรมันดีกว่า
    เรื่องที่ญี่ปุ่นคิดเอาใจออกห่างไปอยู่กับเยอรมัน มีหรือจะไม่ไปถึงหูอังกฤษ อังกฤษยังแค่ลงบัญชีไว้ ยังไม่ถึงคิดบัญชี ญี่ปุ่นก็เลยแสดงความกร่างต่อ ด้วยการยื่นข้อเสนอ 21 ข้อต่อจีน ในปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่อังกฤษกำลังวุ่นกับสงครามอยู่ในยุโรป เหมือนกับญี่ปุ่นฉวยโอกาสลองของ ก็รู้อยู่แล้วตามสัญญาที่ทำกับอังกฤษว่า อังกฤษก็เล็งจีนอยู่ แบบนี้อังกฤษจะรับไหวหรือ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่น ก็เริ่มหวานน้อยลง
    แต่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้สร้าง”รอย” ไว้แค่กับอังกฤษเท่านั้น
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายผู้ชนะสงคราม ได้จัดประชุมขึ้นที่ปารีส เมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1919 เพื่อจัดการแบ่งสมบัติของฝ่ายผู้แพ้ ปรับค่าทำสงคราม จัดหาบ้านให้ยิว ฯลฯ และเรื่องจัดตั้ง League of Nations (LON) เพื่อจะให้เป็นหน่วยงานสากลระหว่างประเทศ (ต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ในการดูแลแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ ฯลฯ
    ในเรื่องการแบ่งสมบัติ ญี่ปุ่นคิดว่าตนเองควรจะได้บรรดาสมบัติของเยอรมันในแปซิฟิก ที่ตัวไปออกแรงยึดมา แต่กรรมการแบ่ง นำโดยอังกฤษ กลับจัดให้ครึ่งเดียว อีกครึ่งยกให้ออสเตรเลียที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้รางวัล เพราะเป็นเครือเดียวกับอังกฤษ ญี่ปุ่น เลือดขึ้นหน้า แต่น้ำตาตกใน เพิ่งสำนึกถึงสถานะจริงของตัว แหม หลงนึกว่า เขานับเราเป็นเพื่อนซี๊ แบบนี้ไม่ให้จี๋หลวมได้ยังไง
    นอกจากได้ สมบัติมาครึ่งเดียว ระหว่างที่ประชุมเรื่อง League of Nations ญี่ปุ่นเกิดข้องใจ ไปเจอข้อความในร่างข้อบังคับของ LON ที่เขียนเหมือนเป็นการหมิ่น หรือกีดกันเชื่อชาติ คิดว่าตนก็เพิ่งโดนมา จึงออกอาการ ทำการประท้วงยาวเหยียด แต่อเมริกาโดยประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในฐานะประธาน และประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่า บอกว่า แม้จะมีการออกเสียงโดยเสียงข้างมากเห็นชอบ ให้แก้ไขตามที่ญี่ปุ่นเสนอ แต่พณฯ จากประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่าญี่ปุ่น เห็นว่าการแก้ไขต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ประเด็นคะแนนเสียงเอกฉันท์นี้ เป็นความเห็นพ้อง หรือสำทับมาจากอังกฤษ อเมริกาเอง กำลังจะอ่อนให้ญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยต้องแข็งกลับ ญี่ปุ่น ก็เลยเก็บของกลับบ้าน รีบมาหาใบบัวบกกิน แก้ช้ำใจ
    นักประวัติศาสตร์บอกว่า เรื่องที่ประชุมที่ปารีสนี้ คาใจญี่ปุ่นยิ่งนัก และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เชื้อความรุกรานของญี่ปุ่น รุนแรงขึ้นทุกวัน ในที่สุดก็พัฒนา มาเป็นการเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 5 ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ญี่ปุ่นไปยึดเกาหลี ได้ในปี ค.ศ.1895 และตีจีนกระเจิงกลับบ้านพวกไกยิ่น ฝรั่งชาติต่างๆ โดยเฉพาะอังกฤษ เริ่มหรี่ตามองญี่ปุ่น ไอ้หมอนี่ชักจะเรียนเร็วไปแล้ว แล้วอังกฤษ ก็หลอกญี่ปุ่นให้ทำสัญญามิตรภาพ เมื่อต้นปี ค.ศ.1902 เป็นสัญญาที่ดูเหมือนเอาไว้กันท่ากันชาวบ้าน และกันท่ากันเองด้วย ในสัญญาบอกว่า ญี่ปุ่นรับรู้ว่า อังกฤษมีผลประโยชน์ในจีน ส่วนอังกฤษก็รับรู้ว่า ญี่ปุ่นมีผลประโยชน์ในจีน และในเกาหลี และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องไปรบกับใคร อีกฝ่ายก็จะส่งกำลังไปช่วย เป็นสัญญาที่แสดงความเก๋าของอังกฤษอย่างยิ่ง อังกฤษตาไว มองไกล เห็นหน่วยก้านญี่ปุ่นแล้ว ปล่อยให้ไปอยู่ข้างอื่นไม่ได้ ต้องเอามาอยู่ใกล้ตัว อังกฤษ เตรียมพร้อมที่จะกันท่าญี่ปุ่นเรื่องจีน และพร้อมที่หลอกใช้ญี่ปุ่นด้วย สำหรับอังกฤษ การทำสัญญากับญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องยุทธศาสตร์กันท่าอย่างเดียว แต่สำหรับญี่ปุ่น มันเป็นคนละเรื่องกัน ญี่ปุ่นปลาบปลื้มยิ่งนัก ญี่ปุ่นคิดว่า อังกฤษเป็นเพื่อนคนแรกของญี่ปุ่น ที่เห็นคุณค่า และความสามารถของญี่ปุ่น ที่สำคัญ เป็นเพื่อนผมทอง ตาน้ำข้าวที่ญี่ปุ่นปลื้มหนักหนา… ท่านที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษ คงจำกันได้ว่า ญี่ปุ่นลุกขึ้นไปรบรัสเซียในปี ค.ศ.1904 แต่ก่อนจะไปรบ ญี่ปุ่นไม่มีทุน คนที่ช่วยหาทุนให้ญี่ปุ่น คือ ชาวยิวชื่อ Jacob Schiff ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Kuhn Loeb & Co บริษัทการเงินใหญ่ แห่งวอลสตรีท ที่เป็นร่างทรงของ Rothschild ผู้ปกครองของรัฐบาลอังกฤษ Rothschild มีแผนจะคิดบัญชีซาร์นิโคลัส กษัตริย์ที่ปกครองรัสเซีย และยึดน้ำมันรัสเซีย จึงต้องสร้างปฏิวัติให้รัสเซียน่วมก่อน แต่ก่อนจะสร้างปฏิวัติรัสเซีย อังกฤษก็ยุให้ญี่ปุ่น ที่กำลังอยากแสดงฝีมือ ให้ไปรบให้รัสเซียเซเสียก่อน และทุกอย่างก็เป็นไปแผน ญี่ปุ่นบ้ายุ ไปรบรัสเซีย จนรัสเซียแพ้ เซแซดจริงๆ พอจะเห็นรางๆแล้วนะครับว่า ตั้งแต่เปลี่ยนนิสัย ไม่รักสันโดษ ญี่ปุ่นดูเหมือนไม่อยู่แบบเดี่ยวๆ และทำท่าจะเกี่ยวโยงกันไปหมด เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1914 อังกฤษ เปลี่ยนนโยบายกระทันหัน จากที่เคยคิดปิดล้อมรัสเซีย ก็ไม่จำเป็นแล้ว เพราะรัสเซียเซแซดใกล้ล้ม อังกฤษเลยเปลี่ยน จากล้อมรัสเซีย เป็นเข้าไปต้ม หรือปล้นให้รู้แล้วรู้รอด และไปล้อมเยอรมันแทน เมื่อไม่ต้องรบรัสเซีย อังกฤษคิดไม่ตก ในอังกฤษเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งบอก ญี่ปุ่นเป็นคู่แค้นรัสเซีย ไม่รบรัสเซีย ก็ไม่ต้องชวนญี่ปุ่นเข้าร่วมก๊วน เพราะไม่ไว้ใจว่า ถ้าบอกให้ญี่ปุ่นคอยกันกองทัพเรือเยอรมัน ในแถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นอาจจะฉวยโอกาสแย่งงับเกาะเล็ก เกาะน้อยของเยอรมันแถวแปซิฟิกไป โดยอังกฤษ หันมางับไม่ทันก็เป็นได้ เหมือนกรณีงาบเกาหลีไปจากจีน นับว่า ฝ่ายนี้มองญี่ปุ่นได้ลึกซึ้ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือ หลอดวินสตัน เชอชิล บอกว่า เหลวไหล เราไม่ชวนญี่ปุ่น แปลว่า เรากลัวเขาจนตีนจิกละสิ แล้วอังกฤษก็เลยชวนญี่ปุ่นเล่นสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยกัน แปลว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ กลัวญี่ปุ่นจนตีนจิกจริงๆ ฮาจริง (โว้ย) หลังจากออกคำชวนไปไม่ถึงสัปดาห์ ญี่ปุ่นไม่ให้เสียเวลา ส่งหนังสือถึงเยอรมัน ให้เยอรมันถอยเรือออกไปจากแปซืฟิกให้หมด เยอรมันไม่ตอบ แต่สั่งให้กองกำลังของตนที่เกาะชิงเตา Tsingtao เตรียมพร้อม วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1914 ญี่ปุ่นก็ประกาศสงครามกับเยอรมัน และเคลื่อนพลไปยึดบรรดาเกาะต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของเยอรมันเรียบหมด ญี่ปุ่นดูเหมือนจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตรในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่พักใหญ่ แต่หลังจากที่กวาดเอาเกาะของเยอรมันมาหมดแล้ว ญี่ปุ่นก็พักเหนื่อย เมื่ออังกฤษขอให้ญี่ปุ่นส่งเรือมาช่วยรบที่ทะเลเมดิเตอเรเนียนกับ ทะเลบอลติก ญี่ปุ่นก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ เมื่อถูกต่อว่า ญี่ปุ่นบอกมีปัญหาภายในกองทัพแก้ไม่ตก นายทหารเรือของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จบมาจากเยอรมันทั้งนั้น แถมเยอรมันยังมาช่าวทำการฝึก การรบ การใช้อาวุธให้อีก ใครจะอยากไปรบกับครู และในญี่ปุ่นเอง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 มาแล้ว มีเสียงบ่นว่า เราน่าจะเลิกสัญญาบ้าบอที่ไปทำกับอังกฤษเสีย แล้วมาผูกสัมพันธ์กับเยอรมันดีกว่า เรื่องที่ญี่ปุ่นคิดเอาใจออกห่างไปอยู่กับเยอรมัน มีหรือจะไม่ไปถึงหูอังกฤษ อังกฤษยังแค่ลงบัญชีไว้ ยังไม่ถึงคิดบัญชี ญี่ปุ่นก็เลยแสดงความกร่างต่อ ด้วยการยื่นข้อเสนอ 21 ข้อต่อจีน ในปี ค.ศ.1915 ระหว่างที่อังกฤษกำลังวุ่นกับสงครามอยู่ในยุโรป เหมือนกับญี่ปุ่นฉวยโอกาสลองของ ก็รู้อยู่แล้วตามสัญญาที่ทำกับอังกฤษว่า อังกฤษก็เล็งจีนอยู่ แบบนี้อังกฤษจะรับไหวหรือ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่น ก็เริ่มหวานน้อยลง แต่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้สร้าง”รอย” ไว้แค่กับอังกฤษเท่านั้น เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายผู้ชนะสงคราม ได้จัดประชุมขึ้นที่ปารีส เมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1919 เพื่อจัดการแบ่งสมบัติของฝ่ายผู้แพ้ ปรับค่าทำสงคราม จัดหาบ้านให้ยิว ฯลฯ และเรื่องจัดตั้ง League of Nations (LON) เพื่อจะให้เป็นหน่วยงานสากลระหว่างประเทศ (ต้นกำเนิดของสหประชาชาติ) ในการดูแลแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ ฯลฯ ในเรื่องการแบ่งสมบัติ ญี่ปุ่นคิดว่าตนเองควรจะได้บรรดาสมบัติของเยอรมันในแปซิฟิก ที่ตัวไปออกแรงยึดมา แต่กรรมการแบ่ง นำโดยอังกฤษ กลับจัดให้ครึ่งเดียว อีกครึ่งยกให้ออสเตรเลียที่ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้รางวัล เพราะเป็นเครือเดียวกับอังกฤษ ญี่ปุ่น เลือดขึ้นหน้า แต่น้ำตาตกใน เพิ่งสำนึกถึงสถานะจริงของตัว แหม หลงนึกว่า เขานับเราเป็นเพื่อนซี๊ แบบนี้ไม่ให้จี๋หลวมได้ยังไง นอกจากได้ สมบัติมาครึ่งเดียว ระหว่างที่ประชุมเรื่อง League of Nations ญี่ปุ่นเกิดข้องใจ ไปเจอข้อความในร่างข้อบังคับของ LON ที่เขียนเหมือนเป็นการหมิ่น หรือกีดกันเชื่อชาติ คิดว่าตนก็เพิ่งโดนมา จึงออกอาการ ทำการประท้วงยาวเหยียด แต่อเมริกาโดยประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในฐานะประธาน และประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่า บอกว่า แม้จะมีการออกเสียงโดยเสียงข้างมากเห็นชอบ ให้แก้ไขตามที่ญี่ปุ่นเสนอ แต่พณฯ จากประเทศมหาอำนาจใหญ่กว่าญี่ปุ่น เห็นว่าการแก้ไขต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ประเด็นคะแนนเสียงเอกฉันท์นี้ เป็นความเห็นพ้อง หรือสำทับมาจากอังกฤษ อเมริกาเอง กำลังจะอ่อนให้ญี่ปุ่นอยู่แล้ว เลยต้องแข็งกลับ ญี่ปุ่น ก็เลยเก็บของกลับบ้าน รีบมาหาใบบัวบกกิน แก้ช้ำใจ นักประวัติศาสตร์บอกว่า เรื่องที่ประชุมที่ปารีสนี้ คาใจญี่ปุ่นยิ่งนัก และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เชื้อความรุกรานของญี่ปุ่น รุนแรงขึ้นทุกวัน ในที่สุดก็พัฒนา มาเป็นการเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • AMD ประกาศเปลี่ยน FidelityFX Super Resolution (FSR) ให้เหลือเพียง “FSR”

    AMD ยืนยันว่าแบรนด์ FidelityFX Super Resolution จะถูกยกเลิก และใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า FSR แทน แม้ชื่อเดิมจะมีความหมายชัดเจน แต่การเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนว่า FSR ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การ “อัปสเกลภาพ” อีกต่อไป แต่จะครอบคลุมหลายเทคโนโลยีกราฟิก

    Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation
    เทคโนโลยี FMF (Fluid Motion Frames) ที่เคยใช้ในการสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหล ถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น FSR Frame Generation เพื่อรวมเข้ากับชุด FSR Redstone ทำให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของ FSR ecosystem

    เทคโนโลยีใหม่ใน FSR Redstone
    AMD เปิดเผยว่า FSR Redstone จะมี 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่
    FSR 4 Upscaling – รุ่นใหม่ของการอัปสเกลภาพ
    FSR Ray Regeneration – คู่แข่งของ Nvidia DLSS Ray Reconstruction
    FSR Frame Generation – การสร้างเฟรมเสมือน (เดิม FMF)
    FSR Radiance Caching – ใช้ AI คำนวณการสะท้อนและการกระจายแสง

    ความหมายต่ออนาคตเกมกราฟิก
    การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่า AMD ต้องการสร้างแบรนด์ FSR ให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีกราฟิกทั้งหมด ไม่ใช่แค่การอัปสเกลภาพ แต่รวมถึงการเรนเดอร์แสง เฟรม และการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพภาพในเกมยุคใหม่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปลี่ยนชื่อแบรนด์
    FidelityFX Super Resolution → FSR
    ลดความยาวชื่อและรวมเทคโนโลยี

    การรีแบรนด์ FMF
    Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation
    รวมเข้ากับ FSR Redstone

    เทคโนโลยีใน FSR Redstone
    FSR 4 Upscaling
    FSR Ray Regeneration
    FSR Frame Generation
    FSR Radiance Caching

    ความหมายต่ออนาคต
    FSR กลายเป็นแบรนด์หลักของ AMD ด้านกราฟิก
    แข่งตรงกับ Nvidia DLSS และเทคโนโลยีเรนเดอร์ AI

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้ผู้ใช้สับสนว่า FSR หมายถึงอะไร
    คุณภาพของ FSR ยังถูกวิจารณ์ว่า “ด้อยกว่า DLSS” ในบางเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-ditches-fidelityfx-in-favor-of-apparently-meaningless-fsr-branding-fluid-motion-frames-also-renamed-to-fmf
    🥱 AMD ประกาศเปลี่ยน FidelityFX Super Resolution (FSR) ให้เหลือเพียง “FSR” AMD ยืนยันว่าแบรนด์ FidelityFX Super Resolution จะถูกยกเลิก และใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า FSR แทน แม้ชื่อเดิมจะมีความหมายชัดเจน แต่การเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนว่า FSR ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การ “อัปสเกลภาพ” อีกต่อไป แต่จะครอบคลุมหลายเทคโนโลยีกราฟิก 🎮 Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation เทคโนโลยี FMF (Fluid Motion Frames) ที่เคยใช้ในการสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหล ถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น FSR Frame Generation เพื่อรวมเข้ากับชุด FSR Redstone ทำให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของ FSR ecosystem ⚡ เทคโนโลยีใหม่ใน FSR Redstone AMD เปิดเผยว่า FSR Redstone จะมี 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ 🎗️ FSR 4 Upscaling – รุ่นใหม่ของการอัปสเกลภาพ 🎗️ FSR Ray Regeneration – คู่แข่งของ Nvidia DLSS Ray Reconstruction 🎗️ FSR Frame Generation – การสร้างเฟรมเสมือน (เดิม FMF) 🎗️ FSR Radiance Caching – ใช้ AI คำนวณการสะท้อนและการกระจายแสง 🔮 ความหมายต่ออนาคตเกมกราฟิก การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่า AMD ต้องการสร้างแบรนด์ FSR ให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีกราฟิกทั้งหมด ไม่ใช่แค่การอัปสเกลภาพ แต่รวมถึงการเรนเดอร์แสง เฟรม และการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพภาพในเกมยุคใหม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ ➡️ FidelityFX Super Resolution → FSR ➡️ ลดความยาวชื่อและรวมเทคโนโลยี ✅ การรีแบรนด์ FMF ➡️ Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation ➡️ รวมเข้ากับ FSR Redstone ✅ เทคโนโลยีใน FSR Redstone ➡️ FSR 4 Upscaling ➡️ FSR Ray Regeneration ➡️ FSR Frame Generation ➡️ FSR Radiance Caching ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ FSR กลายเป็นแบรนด์หลักของ AMD ด้านกราฟิก ➡️ แข่งตรงกับ Nvidia DLSS และเทคโนโลยีเรนเดอร์ AI ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้ผู้ใช้สับสนว่า FSR หมายถึงอะไร ⛔ คุณภาพของ FSR ยังถูกวิจารณ์ว่า “ด้อยกว่า DLSS” ในบางเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-ditches-fidelityfx-in-favor-of-apparently-meaningless-fsr-branding-fluid-motion-frames-also-renamed-to-fmf
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • บริษัท Tuxedo Computers ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก Linux ประกาศยุติโครงการพัฒนาเครื่องที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon X1 Elite

    Tuxedo Computers ระบุว่าการพัฒนา Linux บน Snapdragon X1E ใช้เวลานานเกินไป และพบปัญหาหลักหลายด้าน เช่น
    การจัดการพลังงานและอายุแบตเตอรี่ไม่สามารถเทียบกับ Windows ได้
    การอัปเดต BIOS บน Linux ทำได้ยาก
    การควบคุมพัดลม, การรองรับ KVM virtualization และการโอนถ่ายข้อมูล USB4 ความเร็วสูงยังไม่สมบูรณ์
    การถอดรหัสวิดีโอแม้จะรองรับในเชิงเทคนิค แต่ไม่สามารถใช้งานได้กับหลายแอปพลิเคชัน

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux
    ปัญหาเหล่านี้ทำให้เครื่องแทบจะใช้งานจริงไม่ได้ และหากแก้ไขได้ก็จะใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น Snapdragon X2 Elite จะเข้าสู่ตลาดแล้ว ทำให้ X1E กลายเป็นรุ่นตกยุคทันที

    ความหวังกับ Snapdragon X2 Elite
    แม้จะยุติโครงการ X1E แต่ Tuxedo Computers ยืนยันว่าจะยังติดตามการพัฒนา Snapdragon X2 Elite และอาจกลับมาพัฒนาโน้ตบุ๊ก Linux อีกครั้ง หากสามารถนำงานที่ทำไว้กับ X1E มาปรับใช้ได้ และหากชิปใหม่ตอบโจทย์การทำงานกับระบบเปิดมากกว่า

    ความหมายต่อวงการ Linux
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ ARM-based laptops จะมีศักยภาพสูงใน Windows แต่การนำมาใช้กับ Linux ยังมีอุปสรรคด้านไดรเวอร์และการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับในตลาด

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การยุติโครงการ
    Tuxedo Computers หยุดพัฒนาโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1E
    ใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือนแต่ยังไม่สมบูรณ์

    ปัญหาที่พบ
    อายุแบตเตอรี่ด้อยกว่า Windows
    BIOS update, fan control, virtualization, USB4 ยังไม่รองรับเต็มที่
    การถอดรหัสวิดีโอไม่ทำงานกับหลายแอป

    ผลกระทบ
    เครื่องแทบใช้งานจริงไม่ได้
    จะล้าสมัยทันทีเมื่อ Snapdragon X2 Elite เปิดตัว

    ความหวังในอนาคต
    อาจกลับมาพัฒนาบน Snapdragon X2 Elite
    ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้กับ Linux

    คำเตือนจากกรณีนี้
    ARM laptops อาจไม่พร้อมสำหรับ Linux ในเชิงใช้งานจริง
    การสนับสนุนไดรเวอร์จากผู้ผลิตชิปยังเป็นข้อจำกัดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/software/linux/snapdragon-x1-elite-linux-laptop-cancelled-due-to-performance-concerns-linux-pc-maker-says-qualcomm-is-less-suitable-for-linux-than-expected
    🐧 บริษัท Tuxedo Computers ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก Linux ประกาศยุติโครงการพัฒนาเครื่องที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon X1 Elite Tuxedo Computers ระบุว่าการพัฒนา Linux บน Snapdragon X1E ใช้เวลานานเกินไป และพบปัญหาหลักหลายด้าน เช่น ‼️ การจัดการพลังงานและอายุแบตเตอรี่ไม่สามารถเทียบกับ Windows ได้ ‼️ การอัปเดต BIOS บน Linux ทำได้ยาก ‼️ การควบคุมพัดลม, การรองรับ KVM virtualization และการโอนถ่ายข้อมูล USB4 ความเร็วสูงยังไม่สมบูรณ์ ‼️ การถอดรหัสวิดีโอแม้จะรองรับในเชิงเทคนิค แต่ไม่สามารถใช้งานได้กับหลายแอปพลิเคชัน ⚡ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux ปัญหาเหล่านี้ทำให้เครื่องแทบจะใช้งานจริงไม่ได้ และหากแก้ไขได้ก็จะใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น Snapdragon X2 Elite จะเข้าสู่ตลาดแล้ว ทำให้ X1E กลายเป็นรุ่นตกยุคทันที 🔮 ความหวังกับ Snapdragon X2 Elite แม้จะยุติโครงการ X1E แต่ Tuxedo Computers ยืนยันว่าจะยังติดตามการพัฒนา Snapdragon X2 Elite และอาจกลับมาพัฒนาโน้ตบุ๊ก Linux อีกครั้ง หากสามารถนำงานที่ทำไว้กับ X1E มาปรับใช้ได้ และหากชิปใหม่ตอบโจทย์การทำงานกับระบบเปิดมากกว่า 🌐 ความหมายต่อวงการ Linux เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ ARM-based laptops จะมีศักยภาพสูงใน Windows แต่การนำมาใช้กับ Linux ยังมีอุปสรรคด้านไดรเวอร์และการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับในตลาด 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การยุติโครงการ ➡️ Tuxedo Computers หยุดพัฒนาโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1E ➡️ ใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือนแต่ยังไม่สมบูรณ์ ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ อายุแบตเตอรี่ด้อยกว่า Windows ➡️ BIOS update, fan control, virtualization, USB4 ยังไม่รองรับเต็มที่ ➡️ การถอดรหัสวิดีโอไม่ทำงานกับหลายแอป ✅ ผลกระทบ ➡️ เครื่องแทบใช้งานจริงไม่ได้ ➡️ จะล้าสมัยทันทีเมื่อ Snapdragon X2 Elite เปิดตัว ✅ ความหวังในอนาคต ➡️ อาจกลับมาพัฒนาบน Snapdragon X2 Elite ➡️ ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้กับ Linux ‼️ คำเตือนจากกรณีนี้ ⛔ ARM laptops อาจไม่พร้อมสำหรับ Linux ในเชิงใช้งานจริง ⛔ การสนับสนุนไดรเวอร์จากผู้ผลิตชิปยังเป็นข้อจำกัดใหญ่ https://www.tomshardware.com/software/linux/snapdragon-x1-elite-linux-laptop-cancelled-due-to-performance-concerns-linux-pc-maker-says-qualcomm-is-less-suitable-for-linux-than-expected
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
More Results