• นักท่องเที่ยวชาวไทยพาครอบครัวร่วมส่งแสงสุดท้ายของปี 2568 บริเวณชายหาดบางสัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ท่ามกลางบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นที่กลับมาคึกคัก
    .
    วันนี้ (31 ธ.ค. 2568) นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อน กางเต้นท์ริมชายหาด และเดินเล่นถ่ายภาพแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือทะเลอันดามัน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้พื้นที่ชายหาดบางสักกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
    .
    นายเลิศศักดิ์ ป่นกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ระบุว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นเป็นไปในทิศทางที่ดี โรงแรมในพื้นที่เขาหลักมียอดการจองกว่า 80–90% พร้อมจัดกิจกรรมร่วมกับภาครัฐเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดพังงาอย่างต่อเนื่อง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000126529
    .
    #News1live #News1 #พังงา #หาดบางสัก #ท่องเที่ยวไฮซีซั่น #ส่งท้ายปี2568
    นักท่องเที่ยวชาวไทยพาครอบครัวร่วมส่งแสงสุดท้ายของปี 2568 บริเวณชายหาดบางสัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ท่ามกลางบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นที่กลับมาคึกคัก . วันนี้ (31 ธ.ค. 2568) นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อน กางเต้นท์ริมชายหาด และเดินเล่นถ่ายภาพแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือทะเลอันดามัน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้พื้นที่ชายหาดบางสักกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง . นายเลิศศักดิ์ ป่นกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ระบุว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นเป็นไปในทิศทางที่ดี โรงแรมในพื้นที่เขาหลักมียอดการจองกว่า 80–90% พร้อมจัดกิจกรรมร่วมกับภาครัฐเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดพังงาอย่างต่อเนื่อง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000126529 . #News1live #News1 #พังงา #หาดบางสัก #ท่องเที่ยวไฮซีซั่น #ส่งท้ายปี2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลมหวน ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน”
    ตอน 3 (จบ)
    ลมหวนอียิปต์รัสเซีย นี่ มันมีเรื่องเหลือเชื่อแยะจริง
    ไม่รู้จำกันได้ไหมครับ เมื่อปี ค.ศ.2010 รัสเซีย จ้างฝรั่งเศสต่อเรือรบ Mistral 2 ลำ
    Mistral ซึ่งเป็นเรือรบแบบทันสมัยมาก เป็นระบบ amphibious สะเทินน้ำสะเทินบก ท๊อปคลาส มีอุปกรณ์ ระบบ อาวุธติดตั้งชั้นเยี่ยมยอดทั้งนั้น บรรจุกำลังพลได้ ถึง 900 กองร้อย รวมทั้งรถถัง และเฮลิคอปเตอร์ 16-25 ลำ เรือแต่ละลำ ยังสามารถรองรับคนได้อีกถึง 25,000 คน คุณพี่ปูตินจะเอาไปทำอะไรครับ เรือขนาดใหญ่อย่างนี้
    เมื่ออเมริกา อียู นาโต้ รู้ข่าวนี้ ก็ช่วยกันรุมด่าฝรั่งเศสให้ล้มเลิกการรับจ้างต่อเรือ มันเหมือนสร้างกระบองให้ยักษ์ เข้าใจไหม แต่ฝรั่งเศสกำลังถังแตก การต่อเรือให้รัสเซีย จะเป็นการหางานให้กับช่างต่อเรือ ฝรั่งเศส 2,500 คน ซึ่งระยะหลัง ไม่มีใครใจถึงจ้างต่อเรือรบ มีแต่ตัดงบ อู่ต่อเรือรบของฝรั่งเศส และยุโรป จึงใกล้จะล้มละลาย หรือทิ้งร้างเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อไหร่ที่ฝรั่งเศสต้องการจะต่อเรือรบของตัวเอง จะไปเอาช่างต่อเรือมาจากไหน คิดแบบนี้ ฝรั่งเศสจึงเมินคำด่าของพรรคพวก
    หลังจากการต่อรองอย่างยืดยาว ในที่สุด ฝรั่งเศสตกลงคิดราคา 2 ลำ รวมแล้วประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญ กำหนดส่งมอบเรือลำแรก ในปี ค.ศ.2014 เรือสร้างเสร็จตามกำหนด ในเดือนกันยายน 2014 แต่ฝรั่งเศสส่งมอบเรือให้รัสเชียไม่ได้ เพราะอเมริกา อียู ดันเสนอให้สหประชาชาติ ลงมติคว่ำบาตรห้ามค้าขายกับรัสเซียจากกรณียูเครน เรือรบก็เลยค้างส่ง ค่าจ้างก็เลยค้างรับ เหงื่อหัวล้านลุงโอลองแตกพลั่ก
    รัสเซียบอก ถ้าไม่ส่งมอบเรือรบ นอกจากจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือแล้ว ตามสัญญา ฝรั่งเศสก็ต้องจ่ายค่าปรับให้รัสเซีย ประมาณ 1.53 พันล้านเหรียญ ลุงโอลอง ร้อง อ๊วกแน่กู ค่าจ้างก็ได้ไม่ครบ ค่าปรับก็ต้องจ่าย งบประมาณกูตูดขาดแน่ ฝรั่งเศสจึงบินไปบินมา เจรจากับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ตั้งแต่กลางปี 2014 สื่อเดาว่านี่จะเป็นคู่รักใหม่ คุณพี่ปูตินจะหอมกรุ่นไปหน่อยไหม เปล่าหรอกครับ ฝรั่งเศสลูกหนี้ ไปขอต่อรองรัสเซียเจ้าหนี้ ทั้งขอผ่อนเวลา และราคาค่าปรับ สื่อตะวันตกลงข่าวแบบนี้ให้อ่านกันไหม ไม่ลงหรอกน่า เพราะเสียหน้าฝรั่งเศสหมด
    อเมริการู้ข่าว บอกอย่างนี้ นาโต้ควรรับซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ไว้ใช้เอง อย่าให้หลุดมือไปถึงรัสเซียเป็นอันขาด ดีแต่สั่ง แล้วเงินล่ะใครจ่าย มีทั้งค่าซื้อ ค่าปรับ สมาชิกนาโต้ บางคนบอกเรื่องอะไร เราต้องควักกระเป๋าจนๆของเรา ไปให้ฝรั่งเศสรวย แล้วเรื่องนาโต้ซื้อเรือแทน ก็เลยเงียบหายไป
    แต่ฝรั่งเศส เป็นคนคิดสร้างคลองสุเอซให้อียิปต์รวย และได้เป็นเจ้าของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่ภายหลัง อียิปต์เสียรู้ สันดานขี้โกงของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ต้องขายหุ้นคลองสุเอซให้กับอังกฤษ จนนายพลนัสเซอร์ มายึดคลองสุเอซกลับมาเป็นของประเทศอียิปต์อีกที และเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาและอังกฤษ เกลียดนัสเซอร์เข้ากระดูกดำที่รู้ทัน และตามประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียน นัสเซอร์ก็กลายเป็นไอ้ตัวร้ายในสายตาของตะวันตก แต่ระหว่างอียิปต์กับฝรั่งเศส ยังนับว่า มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
    ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) อย่างเงียบๆ ระหว่างที่โลกกำลังตื่นเต้นเรื่องคุณพี่ปูตินนำทัพเข้าไปในซีเรีย อียิปต์ก็ลงนามกับฝรั่งเศส ตกลงซื้อเรือรบ Mistral เจ้าปัญหาทั้ง 2 ลำ มาจากฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเดือนกว่า การตกลงเรื่องจำนวนค่าชดเชย ระยะเวลาการจ่าย ระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ก็สรุปกันได้ ลุงโอลอง เช็ดเหงื่อหัวล้าน โล่งอก ท่ามกลางความงุนงงในความรวดเร็วของการทำดีลรายการนี้ คุณพี่ปูตินแกแบ่งภาคเข้าฉากได้เก่งนะ
    จริงๆ ฝรั่งเศสปวดหัวกับเรื่องรบ 2 ลำนี้มาก Vladivostok กับ Sevastopol ได้ถูกออกแบบให้มีระบบการติดต่อ ระบบการยิงจรวด และฐานขึ้นลงของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ตามสเปคและระบบ ที่จะให้เข้ากับระบบอื่นๆของรัสเซียได้ ใครที่จะซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ ก็ต้องมีระบบที่เข้า หรือรองรับได้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ก็ขนมาดูแลการต่อเรืออย่างใกล้ชิด ทั้งในการก่อสร้าง และการติดตั้งระบบ ทำความรู้จักระบบนี้อย่างดี เพื่อสร้างความชำนาญในการใช้ และบำรุงรักษาต่อไป และน่าจะถึงขนาดสร้างเองได้ ไม่ต้องจ้างใครอีก…
    แล้วแบบนี้ รัสเซียจะอยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำ นี้ไป ใครได้ไป ก็เท่ากับรู้ระบบของรัสเซียหมด ขณะเดียวกัน คนซื้อก็คงเสียวไส้ เพราะกลัวรัสเซียที่รู้ระบบ จะสามารถเจาะเข้ามาสกัดการใช้งานของระบบเรือได้หมด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะขายเรือรบเจ้าปัญหานี้ได้ ฝรั่งเศสอาจต้องรื้อระบบทั้งหลายนี้ออก และนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายอีกมหึมา และราคาเรือก็ตก ค่าปรับก็ต้องจ่ายเต็ม วุ้ย คิดทางไหน ก็มีแต่ปวดหัวล้านทั้งนั้น
    รัสเซียไม่อยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำนี้ไป ไม่แปลกนะ เพราะรัสเซียลงทุนให้สร้างเอง เพื่อเข้ากับระบบของรัสเซีย แต่ดันมีคนที่ไม่อยากให้รัสเซีย ได้เรือรบ ที่มีระบบชั้นเยี่ยมนี่ไปด้วยเหมือนกัน คงเอากันออกนะครับว่า เป็นใคร
    ไอ้ที่ส่งมอบเรือรบไม่ได้ มาจากไหนล่ะ การแซงชั่นเริ่มจากใครล่ะ ใครเริ่มเรื่องที่ยูเครน (ของจริง) มันโยงกันหมด กลับไปหานิทานเรื่องก่อนๆมาอ่านหน่อยนะครับ เล่าซ้ำไม่ไหว
    แต่อียิปต์ บอกเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับเรา เพราะเราใช้ระบบความมั่นคงหลายอย่าง ที่คล้ายกับของรัสเซียอยู่แล้ว เอาละ สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง แล้วอียิปต์จะเอาเงินมาจากไหนมาซื้อ รวยนักหรือ ตอนแรกมีข่าวลือว่า อียิปต์อาจจะกู้เงินจากซาอุดิอารเบีย โดยซาอุจะใช้เองลำนึง อีกลำให้อียิปต์ใช้ เอาไว้ช่วยป้องกันคลองสุเอซ ที่ก็มีความหมายกับซาอุไม่น้อยเหมือนกัน ก็เป็นเส้นทางส่งน้ำมันของเสี่ยปั๊มใหญ่ออกทะเลแดง ขึ้นเหนือผ่านสุเอซไปให้ยุโรป แต่ข่าวลือนี้ ตัดทิ้งไปได้เลย น่าจะเป็นข่าวปล่อยดูทีท่า ถ้าซาอุให้อียิปต์กู้เพื่อไปซื้อเรือรบนี้ และหรือซาอุจะใช้เรือรบนี้เอง ผมว่าน่าจะมีใครกลับไปเลี้ยงอูฐอย่างเดิมดีกว่า
    เขาว่าคนกลาง ที่จัดการให้การเจรจาซื้อขายรายนี้เกิดขึ้น คือ บริษัท Sistemy Upravleniya ซึ่งผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาลรัสเซีย !
    นอกจากนี้ มีข่าวว่า เนื่องจากรัสเซีย ได้สร้างเฮลิคอปเตอร์รุ่นพิเศษ Ka-52k ที่จะใช้กับเรือ 2 ลำนี้ไว้แล้ว ดูเหมือนอียิปต์ก็เลยเตรียมสั่งซื้อ คอปเตอร์รุ่นพิเศษนี้ด้วย
    พอนึกออกไหมครับว่า ในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นเจ้าของเรือรบ 2 ลำนี้กันแน่….
    รายการนี้ มันเป็นรายการพิเศษจริงๆ น่าจะเป็นอย่างที่เขาเรียกว่า ได้ด้วยกันหมด ฝรั่งเศสก็ขายเรือได้ ตูดไม่ขาด ไม่เสียหน้า ไม่เสียเงิน แต่เป็นหนี้บุญคุณบางคน ส่วนอียิปต์ก็ได้เพื่อน ได้อาวุธ และรัสเซีย ก็(น่า) จะได้ใช้เรือที่ตัวเองสั่งต่อ โดยมีระบบพิเศษ เข้ากับระบบอื่นๆของตัวเอง รวมทั้งได้เพื่อน และได้บุญคุณ
    ที่สำคัญ รัสเซีย ได้สร้างเครือข่ายสำคัญเพิ่มขึ้น ในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ จุดรัดคอ 3 จุด choke points ในบริเวณตะวันออกกลาง
    จุดสำคัญแรก ที่อ่าวโอมาน น่าจะอยู่มือแล้ว ภายใต้การดูแลของอิหร่าน โดยมีโอมานที่อยู่อีกฟาก ทิ้งชาวอ่าวโหนสิบล้อเกาะท้ายอิหร่านไปเรียบร้อย
    จุดบน ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียคุมด้านบน จากฐานทัพของตัวที่ริมฝั่งของซีเรียแล้ว ตอนนี้ ถ้าจับมือกับอียิปต์ จะคุมคลองสุเอซได้อีกด้วย เรื่องนี้มีความสำคัญมาก
    เหลือจุดสุดท้ายคือ ที่เยเมน ที่ตอนนี้เสี่ยปั๊มใหญ่และพรรคพวก กำลังระดมพรรคพวกไปชิง เพราะถ้าเสียเยเมน กลุ่มอ่าวอาจหัวทิ่มทรายตายทั้งเป็นและตายทั้งก๊วน ขึ้นบนก็ลำบาก ลงล่างก็เหนื่อย แล้วจะส่งออกน้ำมันทางไหนคร้าบ
    แบบนี้ รายการสกัดลมหวน จึงรุนแรงเหลือเกิน แต่เรื่องของอียิปต์ รัสเซียจะมีเพียงเท่านี้หรือ….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ย. 2558
    ลมหวน ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน” ตอน 3 (จบ) ลมหวนอียิปต์รัสเซีย นี่ มันมีเรื่องเหลือเชื่อแยะจริง ไม่รู้จำกันได้ไหมครับ เมื่อปี ค.ศ.2010 รัสเซีย จ้างฝรั่งเศสต่อเรือรบ Mistral 2 ลำ Mistral ซึ่งเป็นเรือรบแบบทันสมัยมาก เป็นระบบ amphibious สะเทินน้ำสะเทินบก ท๊อปคลาส มีอุปกรณ์ ระบบ อาวุธติดตั้งชั้นเยี่ยมยอดทั้งนั้น บรรจุกำลังพลได้ ถึง 900 กองร้อย รวมทั้งรถถัง และเฮลิคอปเตอร์ 16-25 ลำ เรือแต่ละลำ ยังสามารถรองรับคนได้อีกถึง 25,000 คน คุณพี่ปูตินจะเอาไปทำอะไรครับ เรือขนาดใหญ่อย่างนี้ เมื่ออเมริกา อียู นาโต้ รู้ข่าวนี้ ก็ช่วยกันรุมด่าฝรั่งเศสให้ล้มเลิกการรับจ้างต่อเรือ มันเหมือนสร้างกระบองให้ยักษ์ เข้าใจไหม แต่ฝรั่งเศสกำลังถังแตก การต่อเรือให้รัสเซีย จะเป็นการหางานให้กับช่างต่อเรือ ฝรั่งเศส 2,500 คน ซึ่งระยะหลัง ไม่มีใครใจถึงจ้างต่อเรือรบ มีแต่ตัดงบ อู่ต่อเรือรบของฝรั่งเศส และยุโรป จึงใกล้จะล้มละลาย หรือทิ้งร้างเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อไหร่ที่ฝรั่งเศสต้องการจะต่อเรือรบของตัวเอง จะไปเอาช่างต่อเรือมาจากไหน คิดแบบนี้ ฝรั่งเศสจึงเมินคำด่าของพรรคพวก หลังจากการต่อรองอย่างยืดยาว ในที่สุด ฝรั่งเศสตกลงคิดราคา 2 ลำ รวมแล้วประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญ กำหนดส่งมอบเรือลำแรก ในปี ค.ศ.2014 เรือสร้างเสร็จตามกำหนด ในเดือนกันยายน 2014 แต่ฝรั่งเศสส่งมอบเรือให้รัสเชียไม่ได้ เพราะอเมริกา อียู ดันเสนอให้สหประชาชาติ ลงมติคว่ำบาตรห้ามค้าขายกับรัสเซียจากกรณียูเครน เรือรบก็เลยค้างส่ง ค่าจ้างก็เลยค้างรับ เหงื่อหัวล้านลุงโอลองแตกพลั่ก รัสเซียบอก ถ้าไม่ส่งมอบเรือรบ นอกจากจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือแล้ว ตามสัญญา ฝรั่งเศสก็ต้องจ่ายค่าปรับให้รัสเซีย ประมาณ 1.53 พันล้านเหรียญ ลุงโอลอง ร้อง อ๊วกแน่กู ค่าจ้างก็ได้ไม่ครบ ค่าปรับก็ต้องจ่าย งบประมาณกูตูดขาดแน่ ฝรั่งเศสจึงบินไปบินมา เจรจากับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ตั้งแต่กลางปี 2014 สื่อเดาว่านี่จะเป็นคู่รักใหม่ คุณพี่ปูตินจะหอมกรุ่นไปหน่อยไหม เปล่าหรอกครับ ฝรั่งเศสลูกหนี้ ไปขอต่อรองรัสเซียเจ้าหนี้ ทั้งขอผ่อนเวลา และราคาค่าปรับ สื่อตะวันตกลงข่าวแบบนี้ให้อ่านกันไหม ไม่ลงหรอกน่า เพราะเสียหน้าฝรั่งเศสหมด อเมริการู้ข่าว บอกอย่างนี้ นาโต้ควรรับซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ไว้ใช้เอง อย่าให้หลุดมือไปถึงรัสเซียเป็นอันขาด ดีแต่สั่ง แล้วเงินล่ะใครจ่าย มีทั้งค่าซื้อ ค่าปรับ สมาชิกนาโต้ บางคนบอกเรื่องอะไร เราต้องควักกระเป๋าจนๆของเรา ไปให้ฝรั่งเศสรวย แล้วเรื่องนาโต้ซื้อเรือแทน ก็เลยเงียบหายไป แต่ฝรั่งเศส เป็นคนคิดสร้างคลองสุเอซให้อียิปต์รวย และได้เป็นเจ้าของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่ภายหลัง อียิปต์เสียรู้ สันดานขี้โกงของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ต้องขายหุ้นคลองสุเอซให้กับอังกฤษ จนนายพลนัสเซอร์ มายึดคลองสุเอซกลับมาเป็นของประเทศอียิปต์อีกที และเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาและอังกฤษ เกลียดนัสเซอร์เข้ากระดูกดำที่รู้ทัน และตามประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียน นัสเซอร์ก็กลายเป็นไอ้ตัวร้ายในสายตาของตะวันตก แต่ระหว่างอียิปต์กับฝรั่งเศส ยังนับว่า มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) อย่างเงียบๆ ระหว่างที่โลกกำลังตื่นเต้นเรื่องคุณพี่ปูตินนำทัพเข้าไปในซีเรีย อียิปต์ก็ลงนามกับฝรั่งเศส ตกลงซื้อเรือรบ Mistral เจ้าปัญหาทั้ง 2 ลำ มาจากฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเดือนกว่า การตกลงเรื่องจำนวนค่าชดเชย ระยะเวลาการจ่าย ระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ก็สรุปกันได้ ลุงโอลอง เช็ดเหงื่อหัวล้าน โล่งอก ท่ามกลางความงุนงงในความรวดเร็วของการทำดีลรายการนี้ คุณพี่ปูตินแกแบ่งภาคเข้าฉากได้เก่งนะ จริงๆ ฝรั่งเศสปวดหัวกับเรื่องรบ 2 ลำนี้มาก Vladivostok กับ Sevastopol ได้ถูกออกแบบให้มีระบบการติดต่อ ระบบการยิงจรวด และฐานขึ้นลงของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ตามสเปคและระบบ ที่จะให้เข้ากับระบบอื่นๆของรัสเซียได้ ใครที่จะซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ ก็ต้องมีระบบที่เข้า หรือรองรับได้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ก็ขนมาดูแลการต่อเรืออย่างใกล้ชิด ทั้งในการก่อสร้าง และการติดตั้งระบบ ทำความรู้จักระบบนี้อย่างดี เพื่อสร้างความชำนาญในการใช้ และบำรุงรักษาต่อไป และน่าจะถึงขนาดสร้างเองได้ ไม่ต้องจ้างใครอีก… แล้วแบบนี้ รัสเซียจะอยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำ นี้ไป ใครได้ไป ก็เท่ากับรู้ระบบของรัสเซียหมด ขณะเดียวกัน คนซื้อก็คงเสียวไส้ เพราะกลัวรัสเซียที่รู้ระบบ จะสามารถเจาะเข้ามาสกัดการใช้งานของระบบเรือได้หมด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะขายเรือรบเจ้าปัญหานี้ได้ ฝรั่งเศสอาจต้องรื้อระบบทั้งหลายนี้ออก และนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายอีกมหึมา และราคาเรือก็ตก ค่าปรับก็ต้องจ่ายเต็ม วุ้ย คิดทางไหน ก็มีแต่ปวดหัวล้านทั้งนั้น รัสเซียไม่อยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำนี้ไป ไม่แปลกนะ เพราะรัสเซียลงทุนให้สร้างเอง เพื่อเข้ากับระบบของรัสเซีย แต่ดันมีคนที่ไม่อยากให้รัสเซีย ได้เรือรบ ที่มีระบบชั้นเยี่ยมนี่ไปด้วยเหมือนกัน คงเอากันออกนะครับว่า เป็นใคร ไอ้ที่ส่งมอบเรือรบไม่ได้ มาจากไหนล่ะ การแซงชั่นเริ่มจากใครล่ะ ใครเริ่มเรื่องที่ยูเครน (ของจริง) มันโยงกันหมด กลับไปหานิทานเรื่องก่อนๆมาอ่านหน่อยนะครับ เล่าซ้ำไม่ไหว แต่อียิปต์ บอกเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับเรา เพราะเราใช้ระบบความมั่นคงหลายอย่าง ที่คล้ายกับของรัสเซียอยู่แล้ว เอาละ สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง แล้วอียิปต์จะเอาเงินมาจากไหนมาซื้อ รวยนักหรือ ตอนแรกมีข่าวลือว่า อียิปต์อาจจะกู้เงินจากซาอุดิอารเบีย โดยซาอุจะใช้เองลำนึง อีกลำให้อียิปต์ใช้ เอาไว้ช่วยป้องกันคลองสุเอซ ที่ก็มีความหมายกับซาอุไม่น้อยเหมือนกัน ก็เป็นเส้นทางส่งน้ำมันของเสี่ยปั๊มใหญ่ออกทะเลแดง ขึ้นเหนือผ่านสุเอซไปให้ยุโรป แต่ข่าวลือนี้ ตัดทิ้งไปได้เลย น่าจะเป็นข่าวปล่อยดูทีท่า ถ้าซาอุให้อียิปต์กู้เพื่อไปซื้อเรือรบนี้ และหรือซาอุจะใช้เรือรบนี้เอง ผมว่าน่าจะมีใครกลับไปเลี้ยงอูฐอย่างเดิมดีกว่า เขาว่าคนกลาง ที่จัดการให้การเจรจาซื้อขายรายนี้เกิดขึ้น คือ บริษัท Sistemy Upravleniya ซึ่งผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาลรัสเซีย ! นอกจากนี้ มีข่าวว่า เนื่องจากรัสเซีย ได้สร้างเฮลิคอปเตอร์รุ่นพิเศษ Ka-52k ที่จะใช้กับเรือ 2 ลำนี้ไว้แล้ว ดูเหมือนอียิปต์ก็เลยเตรียมสั่งซื้อ คอปเตอร์รุ่นพิเศษนี้ด้วย พอนึกออกไหมครับว่า ในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นเจ้าของเรือรบ 2 ลำนี้กันแน่…. รายการนี้ มันเป็นรายการพิเศษจริงๆ น่าจะเป็นอย่างที่เขาเรียกว่า ได้ด้วยกันหมด ฝรั่งเศสก็ขายเรือได้ ตูดไม่ขาด ไม่เสียหน้า ไม่เสียเงิน แต่เป็นหนี้บุญคุณบางคน ส่วนอียิปต์ก็ได้เพื่อน ได้อาวุธ และรัสเซีย ก็(น่า) จะได้ใช้เรือที่ตัวเองสั่งต่อ โดยมีระบบพิเศษ เข้ากับระบบอื่นๆของตัวเอง รวมทั้งได้เพื่อน และได้บุญคุณ ที่สำคัญ รัสเซีย ได้สร้างเครือข่ายสำคัญเพิ่มขึ้น ในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ จุดรัดคอ 3 จุด choke points ในบริเวณตะวันออกกลาง จุดสำคัญแรก ที่อ่าวโอมาน น่าจะอยู่มือแล้ว ภายใต้การดูแลของอิหร่าน โดยมีโอมานที่อยู่อีกฟาก ทิ้งชาวอ่าวโหนสิบล้อเกาะท้ายอิหร่านไปเรียบร้อย จุดบน ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียคุมด้านบน จากฐานทัพของตัวที่ริมฝั่งของซีเรียแล้ว ตอนนี้ ถ้าจับมือกับอียิปต์ จะคุมคลองสุเอซได้อีกด้วย เรื่องนี้มีความสำคัญมาก เหลือจุดสุดท้ายคือ ที่เยเมน ที่ตอนนี้เสี่ยปั๊มใหญ่และพรรคพวก กำลังระดมพรรคพวกไปชิง เพราะถ้าเสียเยเมน กลุ่มอ่าวอาจหัวทิ่มทรายตายทั้งเป็นและตายทั้งก๊วน ขึ้นบนก็ลำบาก ลงล่างก็เหนื่อย แล้วจะส่งออกน้ำมันทางไหนคร้าบ แบบนี้ รายการสกัดลมหวน จึงรุนแรงเหลือเกิน แต่เรื่องของอียิปต์ รัสเซียจะมีเพียงเท่านี้หรือ…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลมหวน ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน”
    ตอน 2
    เขาว่าคนเราคบเพื่อนดี ย่อมเป็นศรีแก่ตัว
    ตั้งแต่ลมเริ่มหวน ชวนเพื่อนเก่ามานั่งนึกถึงความหลัง อีอิปต์ก็เหมือนชะตาจะเริ่มเปลี่ยน
    เมื่อประมาณ วันที่ 30 สิงหาคม นี้เอง (ค.ศ.2015) บริษัท ENI ยักษ์ใหญ่ทางด้านน้ำมันของอิตาลี ออกข่าวว่า ENI ได้เจอแหล่งแก๊สใหญ่มหึมา Zohr ที่อ่าวลึกของอียิปต์ ในเมดิเตอร์เรเนียน แหล่งแก๊ส Zohr นี้ อาจจะเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกที่เจอก็ได้ อาจจะทำเอาแหล่งแก๊ส Leviathan ของอิสราเอล ที่ตีปี๊บตอนประกาศไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ว่าใหญ่ที่สุด กลายเป็นของเล่นเด็กไปเลย
    แหล่ง Zohr อยู่ห่างจากริมฝั่งอียิปต์ ประมาณ 100 ไมล์ และอยู่ลึกประมาณ 1,450 เมตร ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 100 ตาราง กม ประเมินว่า จะมีแก๊สประมาณ 850 พันล้านคิวบิกเมตร หรือเท่ากับน้ำมัน 5.5 พันล้านบาเรล
    ENI บอกว่า นอกจากเจอแก๊สแล้ว อาจจะเจอแหล่งน้ำมันในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ในปริมาณที่อาจสูงถึง 1.1 ล้านล้านคิวบิกเมตร
    ENI ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของอิตาลี และเป็นผู้ผลิตน้ำมัน และแก๊สรายใหญ่ของอียิปต์ ตั้งแต่ ค.ศ.1954 โดยทำผ่าน IEOC บริษัทลูกได้ทำสัญญากับรัฐบาลอียิปต์ เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ โดยตกลงจ่ายเงินให้อิยิปต์ เป็นจำนวน 2 พันล้านเหรียญ สำหรับการสำรวจแหล่งพลังงานในแถบไซนาย อ่าวสุเอซ และแถบเมดิเตอร์เรเนียน และตรงบริเวณสามเหลี่ยมไนล์
    การพบแหล่งแก๊ส Zohr ถือเป็นข่าวดีของทั้ง อิตาลีและอียิปต์ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ ที่กำลังอ่วม ลืมตาอ้าปากกับเขาได้เสียที และสำหรับอียิปต์ จะเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าแก๊ส เป็นผู้ส่งออกแก๊สเสียด้วยซ้ำ
    แต่ข่าวการพบแหล่งแก๊ส Zohr ของอียิปต์ ก็สร้างความแรงกระเพื่อมเอาเรื่อง
    รายแรกที่ออกมาส่งเสียง คงเดากันออก เป็นอิสราเอล ที่เพิ่งนอนฝันหวาน หลังเจอแหล่งแก๊ส Leviathan กับ Tamar รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอล บอกว่า การเจอแหล่ง Zohr ของอียิปต์อาจทำให้แผนส่งออกแก๊สของอิสราเอล กลายเป็นฝันร้าย หรือฝันสลายเลยก็ได้ จะทนไหวหรือครับ ลงทุนกันไปเยอะแยะ ค่าวิ่งล้อบบี้ ค่าหัวคิวก็จ่ายไปแล้ว
    หุ้นส่วนของอิสราเอล ในการสำรวจและผลิตแก๊ส คือ Noble Energy และ Delek Group รายแรกเป็นบริษัทฝั่งอเมริกา รายหลังฝั่งอิสราเอล
    Noble Energy ฝั่งอเมริกา มีชื่อผู้ถือหุ้นน่าสนใจ ชื่อ จอห์น แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศ ของใครไม่รู้ ซึ่งอ้างว่าถือมานานแล้ว ข่าวบอกว่า มูลค่าหุ้นในปี ค.ศ.2013 อยู่ที่ประมาณล้านกว่าเหรียญเอง จิ๊บจ๊อยมาก ก็นั่นมันคงเป็นราคาก่อนประกาศว่าอิสราเอลเจอแก็ส เมื่อถูกสื่อคุ้ยเจอว่าถือหุ้น คุณรัฐมนตรี ก็ตอบแบบโรเนียวว่า ผมมีสมบัติแยะ จำไม่ได้ว่า มีอะไรที่ไหนบ้าง
    นอกจาก Noble Energy จะมีชื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกาถือหุ้นแล้ว ยังมีกองทุนชื่อ BDS ถือหุ้นในมูลค่า ณ ต้นปี ค.ศ.2015 ประมาณ 118 ล้านเหรียญ เขาว่า เจ้าของกองทุนตัวจริง ชื่อ จอร์จ โซรอส เบื่อหูกับชื่อนี้ไหมครับ กองทุนนี้ เป็นที่สังเกตกันว่า เอาไว้ล่อแมงเม่าในตลาดหุ้น จากสถานการณ์เกี่ยวกับบริษัท
    ตั้งแต่มีข่าวว่าเจอแก๊ส ยังไม่ทันขุดได้ Noble Energy กับ Delek Group ก็มีแต่ข่าวว่ากัดกัน เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ และส่วนแบ่งมาตลอดเวลา ทำให้หุ้นขึ้น หุ้นลงสนุกสนาน แต่ฝ่ายทางการอิสราเอลชักไม่สนุกด้วย แสดงว่ากำลังมีใครคิดจับมือเล่นกลกันหรือยังไง
    ปลายปี ค.ศ.2014 อิสราเอลทำสัญญาว่าจะส่งแก๊สให้จอร์แดน เป็นเวลา 15 ปี ในราคา 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ จากแหล่ง Leviathan ถือเป็นข้อตกลงทางการค้าระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน ที่ใหญ่ที่สุด แต่แล้วในเดือนธันวาคม ทางการอิสราเอลประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้ Noble Energy กับ Delek เป็นผู้ดำเนินการขายแก๊ส ไม่ว่าจากแหล่ง Leviathan หรือ Tamar เพราะมีทีท่าว่า 2 บริษัท กำลังสมคบกันครอบงำตลาดแก๊ส แปลว่า ไอ้ 2 บริษัทจะฮั้วกันน่ะครับ ชาวบ้านก็จุกสิ และสัญญาที่ทำกับจอร์แดน ก็อาจจะต้องยกเลิกด้วย
    อย่างนี้ คุณหน้าตก จอห์น แครี่ ก็ต้องขยับ เดี๋ยวขาดทุนฉิบหาย พณ.ท่าน บอกกับอิสราเอลว่า สัญญาที่ Noble ทำกับจอร์แดนและอียิปต์ น่าจะเป็นผลดีกับอิสราเอลนะ มันเป็นเรื่องความมั่นคงของภูมิภาค เข้าใจไหม อูย….. นานๆที จะเห็นบทเข้มของคุณหน้าตก แต่ไม่ใช่มีแต่ท่านผู้ถือหุ้นหน้าตกที่เข้ามายุ่งนะ เขาว่า ที่จุ้นมาก่อนหน้านั้นคือ คุณผัวเมียคลินตัน ที่ผมยังหาโยงใยชัดๆไม่เจอ ซ่อนเก่งจัง ก็เป็นอดีตทนายทั้งคู่ มีแต่สื่อลงว่า ผัวเมียคู่นี้ ลุ้นเรื่อง Noble จนออกนอกหน้า อ้อ เล่นบทนักล๊อบบี้มีระดับ
    คราวนี้ เนทันยาฮู เข้าใจ มันเป็นเรื่องของความความมั่นคงนี่นะ เพราะฉะนั้น กฏหมายเรื่องการฮั้วกัน ก็เอามาใช้ไม่ได้สิ อย่างนี้ Noble ก็ทำสัญญาได้เหมือนเดิม หารูออกได้เก่งจังคุณยิว
    แต่เรื่องนี้ ทำให้นาย Steinitz รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอลบอกว่า การล่าช้าอย่างไม่เป็นเรื่องของอิสราเอล ทำให้เราเห็นโอกาสวิ่งผ่านหน้า และเลยเราไปแล้ว
    เดิม อิสราเอลมีแผนจะขายแก๊สส่วนหนึ่งให้อียิปต์ เพื่อเป็นการร่วมทุน ให้อียิปต์ไปขายต่อทางยุโรปใต้ เพราะอิยิปต์มีท่อส่งกับอิตาลี แต่ยังติดปัญหาว่า อิสราเอลจะเอาแก๊สจากแหล่ง Leviathan หรือ Tamar ไปขายให้อียิปต์ดีนะ ซึ่งตอนนั้น ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 แหล่ง น่าจะกำลังเล่นละครทะเลาะกันให้แมงเม่าดูอยู่ จนในที่สุด อเมริกา เข้ามาบีบอิสราเอลว่า ให้เอาจากแหล่ง Leviathan (ที่ฝั่งอเมริกาถือหุ้นมากกว่า) ทั้งๆที่ ระยะทางจากแหล่ง Tamar มาถึงอียิปต์ใกล้กว่า และประหยัดต้นทุนให้อียิปต์มากกว่า
    มาถึงตอนนี้ อียิปต์เจอแก๊สเองแล้ว เรื่องแก๊สอิสราเอล จึงน่าจะกลายเป็นไข่ฝ่อฝันค้าง แบบนี้คงมีคนฮึดฮัดขัดใจ
    ตกลงแล้วมันเกี่ยวกับคู่รักลมหวนเขายังไงนะลุง เกี่ยวสิครับ จำไม่ได้หรือ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลางมี 3 ราย อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และ อิสราเอล แต่ละโจกก็พยายามหาพวกลำแข็งๆ มาสนับสนุนตัวทั้งนั้น ยามนี่ใครจะอยากได้พันธุ์ไม้เลี้อย
    อียิปต์ เคยรุ่ง และก็เคยร่วง ตอนร่วงก็ไม่มีใครสนใจ แถมจะถีบให้ห่างตัวเสียด้วยซ้ำ อิสราเอลส้มหล่นเจอแก๊ส กะจะมาขายอียิปต์ที่อยู่บ้านใกล้กัน เผื่ออียิปต์จะได้หือไม่ออก เพราะเห็นใครๆ ก็กลัวคนมีน้ำมัน คนมีแก๊สกันทั้งนั้น อิสราเอลมีแต่ปากกับเงา คราวนี้ขอใช้ของจริงบ้าง หนอย… อียิปต์ดันเจอแก๊สบ้าง อย่างนี้อิสราเอลก็อ้าปากค้าง อดงับ
    แค่นี้เหมือนยังจะไม่พอให้เห็นชัด อยู่ดีๆ เขาก็ลมหวนกัน แม้ยังไม่รู้ชัดว่าทำไม แต่ธรรมดา ลมมันไม่ค่อยพัดหวนนะครับ ยิ่งหวนแรงๆ ฮู้ย ขนลุกเลยครับ
    อัสสาดของซีเรียกำลังจะหล่น รัสเซียยังยกทัพเข้ามาช่วย ไม่ใช่รัสเซียดีจริง ซีเรียก็ต้องมีของดี คราวนี้ก็เช่นกัน อยู่ดีๆ Sisi บินถี่ ไปคุยกับคุณพี่ปูติน หลังจากนั้น ข่าวของคู่รักลมหวนก็ทยอยออกมา 2-3 เดือนมานี้ ไอ้ลูกกะตาที่จับจ้องอยู่แถวซีเรีย ก็ต้องคงตาแหกกว้าง กวาดไปถึงอียิปต์ด้วย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ย. 2558
    ลมหวน ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน” ตอน 2 เขาว่าคนเราคบเพื่อนดี ย่อมเป็นศรีแก่ตัว ตั้งแต่ลมเริ่มหวน ชวนเพื่อนเก่ามานั่งนึกถึงความหลัง อีอิปต์ก็เหมือนชะตาจะเริ่มเปลี่ยน เมื่อประมาณ วันที่ 30 สิงหาคม นี้เอง (ค.ศ.2015) บริษัท ENI ยักษ์ใหญ่ทางด้านน้ำมันของอิตาลี ออกข่าวว่า ENI ได้เจอแหล่งแก๊สใหญ่มหึมา Zohr ที่อ่าวลึกของอียิปต์ ในเมดิเตอร์เรเนียน แหล่งแก๊ส Zohr นี้ อาจจะเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกที่เจอก็ได้ อาจจะทำเอาแหล่งแก๊ส Leviathan ของอิสราเอล ที่ตีปี๊บตอนประกาศไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ว่าใหญ่ที่สุด กลายเป็นของเล่นเด็กไปเลย แหล่ง Zohr อยู่ห่างจากริมฝั่งอียิปต์ ประมาณ 100 ไมล์ และอยู่ลึกประมาณ 1,450 เมตร ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 100 ตาราง กม ประเมินว่า จะมีแก๊สประมาณ 850 พันล้านคิวบิกเมตร หรือเท่ากับน้ำมัน 5.5 พันล้านบาเรล ENI บอกว่า นอกจากเจอแก๊สแล้ว อาจจะเจอแหล่งน้ำมันในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ในปริมาณที่อาจสูงถึง 1.1 ล้านล้านคิวบิกเมตร ENI ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของอิตาลี และเป็นผู้ผลิตน้ำมัน และแก๊สรายใหญ่ของอียิปต์ ตั้งแต่ ค.ศ.1954 โดยทำผ่าน IEOC บริษัทลูกได้ทำสัญญากับรัฐบาลอียิปต์ เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ โดยตกลงจ่ายเงินให้อิยิปต์ เป็นจำนวน 2 พันล้านเหรียญ สำหรับการสำรวจแหล่งพลังงานในแถบไซนาย อ่าวสุเอซ และแถบเมดิเตอร์เรเนียน และตรงบริเวณสามเหลี่ยมไนล์ การพบแหล่งแก๊ส Zohr ถือเป็นข่าวดีของทั้ง อิตาลีและอียิปต์ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ ที่กำลังอ่วม ลืมตาอ้าปากกับเขาได้เสียที และสำหรับอียิปต์ จะเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าแก๊ส เป็นผู้ส่งออกแก๊สเสียด้วยซ้ำ แต่ข่าวการพบแหล่งแก๊ส Zohr ของอียิปต์ ก็สร้างความแรงกระเพื่อมเอาเรื่อง รายแรกที่ออกมาส่งเสียง คงเดากันออก เป็นอิสราเอล ที่เพิ่งนอนฝันหวาน หลังเจอแหล่งแก๊ส Leviathan กับ Tamar รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอล บอกว่า การเจอแหล่ง Zohr ของอียิปต์อาจทำให้แผนส่งออกแก๊สของอิสราเอล กลายเป็นฝันร้าย หรือฝันสลายเลยก็ได้ จะทนไหวหรือครับ ลงทุนกันไปเยอะแยะ ค่าวิ่งล้อบบี้ ค่าหัวคิวก็จ่ายไปแล้ว หุ้นส่วนของอิสราเอล ในการสำรวจและผลิตแก๊ส คือ Noble Energy และ Delek Group รายแรกเป็นบริษัทฝั่งอเมริกา รายหลังฝั่งอิสราเอล Noble Energy ฝั่งอเมริกา มีชื่อผู้ถือหุ้นน่าสนใจ ชื่อ จอห์น แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศ ของใครไม่รู้ ซึ่งอ้างว่าถือมานานแล้ว ข่าวบอกว่า มูลค่าหุ้นในปี ค.ศ.2013 อยู่ที่ประมาณล้านกว่าเหรียญเอง จิ๊บจ๊อยมาก ก็นั่นมันคงเป็นราคาก่อนประกาศว่าอิสราเอลเจอแก็ส เมื่อถูกสื่อคุ้ยเจอว่าถือหุ้น คุณรัฐมนตรี ก็ตอบแบบโรเนียวว่า ผมมีสมบัติแยะ จำไม่ได้ว่า มีอะไรที่ไหนบ้าง นอกจาก Noble Energy จะมีชื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกาถือหุ้นแล้ว ยังมีกองทุนชื่อ BDS ถือหุ้นในมูลค่า ณ ต้นปี ค.ศ.2015 ประมาณ 118 ล้านเหรียญ เขาว่า เจ้าของกองทุนตัวจริง ชื่อ จอร์จ โซรอส เบื่อหูกับชื่อนี้ไหมครับ กองทุนนี้ เป็นที่สังเกตกันว่า เอาไว้ล่อแมงเม่าในตลาดหุ้น จากสถานการณ์เกี่ยวกับบริษัท ตั้งแต่มีข่าวว่าเจอแก๊ส ยังไม่ทันขุดได้ Noble Energy กับ Delek Group ก็มีแต่ข่าวว่ากัดกัน เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ และส่วนแบ่งมาตลอดเวลา ทำให้หุ้นขึ้น หุ้นลงสนุกสนาน แต่ฝ่ายทางการอิสราเอลชักไม่สนุกด้วย แสดงว่ากำลังมีใครคิดจับมือเล่นกลกันหรือยังไง ปลายปี ค.ศ.2014 อิสราเอลทำสัญญาว่าจะส่งแก๊สให้จอร์แดน เป็นเวลา 15 ปี ในราคา 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ จากแหล่ง Leviathan ถือเป็นข้อตกลงทางการค้าระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน ที่ใหญ่ที่สุด แต่แล้วในเดือนธันวาคม ทางการอิสราเอลประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้ Noble Energy กับ Delek เป็นผู้ดำเนินการขายแก๊ส ไม่ว่าจากแหล่ง Leviathan หรือ Tamar เพราะมีทีท่าว่า 2 บริษัท กำลังสมคบกันครอบงำตลาดแก๊ส แปลว่า ไอ้ 2 บริษัทจะฮั้วกันน่ะครับ ชาวบ้านก็จุกสิ และสัญญาที่ทำกับจอร์แดน ก็อาจจะต้องยกเลิกด้วย อย่างนี้ คุณหน้าตก จอห์น แครี่ ก็ต้องขยับ เดี๋ยวขาดทุนฉิบหาย พณ.ท่าน บอกกับอิสราเอลว่า สัญญาที่ Noble ทำกับจอร์แดนและอียิปต์ น่าจะเป็นผลดีกับอิสราเอลนะ มันเป็นเรื่องความมั่นคงของภูมิภาค เข้าใจไหม อูย….. นานๆที จะเห็นบทเข้มของคุณหน้าตก แต่ไม่ใช่มีแต่ท่านผู้ถือหุ้นหน้าตกที่เข้ามายุ่งนะ เขาว่า ที่จุ้นมาก่อนหน้านั้นคือ คุณผัวเมียคลินตัน ที่ผมยังหาโยงใยชัดๆไม่เจอ ซ่อนเก่งจัง ก็เป็นอดีตทนายทั้งคู่ มีแต่สื่อลงว่า ผัวเมียคู่นี้ ลุ้นเรื่อง Noble จนออกนอกหน้า อ้อ เล่นบทนักล๊อบบี้มีระดับ คราวนี้ เนทันยาฮู เข้าใจ มันเป็นเรื่องของความความมั่นคงนี่นะ เพราะฉะนั้น กฏหมายเรื่องการฮั้วกัน ก็เอามาใช้ไม่ได้สิ อย่างนี้ Noble ก็ทำสัญญาได้เหมือนเดิม หารูออกได้เก่งจังคุณยิว แต่เรื่องนี้ ทำให้นาย Steinitz รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอลบอกว่า การล่าช้าอย่างไม่เป็นเรื่องของอิสราเอล ทำให้เราเห็นโอกาสวิ่งผ่านหน้า และเลยเราไปแล้ว เดิม อิสราเอลมีแผนจะขายแก๊สส่วนหนึ่งให้อียิปต์ เพื่อเป็นการร่วมทุน ให้อียิปต์ไปขายต่อทางยุโรปใต้ เพราะอิยิปต์มีท่อส่งกับอิตาลี แต่ยังติดปัญหาว่า อิสราเอลจะเอาแก๊สจากแหล่ง Leviathan หรือ Tamar ไปขายให้อียิปต์ดีนะ ซึ่งตอนนั้น ผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 แหล่ง น่าจะกำลังเล่นละครทะเลาะกันให้แมงเม่าดูอยู่ จนในที่สุด อเมริกา เข้ามาบีบอิสราเอลว่า ให้เอาจากแหล่ง Leviathan (ที่ฝั่งอเมริกาถือหุ้นมากกว่า) ทั้งๆที่ ระยะทางจากแหล่ง Tamar มาถึงอียิปต์ใกล้กว่า และประหยัดต้นทุนให้อียิปต์มากกว่า มาถึงตอนนี้ อียิปต์เจอแก๊สเองแล้ว เรื่องแก๊สอิสราเอล จึงน่าจะกลายเป็นไข่ฝ่อฝันค้าง แบบนี้คงมีคนฮึดฮัดขัดใจ ตกลงแล้วมันเกี่ยวกับคู่รักลมหวนเขายังไงนะลุง เกี่ยวสิครับ จำไม่ได้หรือ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลางมี 3 ราย อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และ อิสราเอล แต่ละโจกก็พยายามหาพวกลำแข็งๆ มาสนับสนุนตัวทั้งนั้น ยามนี่ใครจะอยากได้พันธุ์ไม้เลี้อย อียิปต์ เคยรุ่ง และก็เคยร่วง ตอนร่วงก็ไม่มีใครสนใจ แถมจะถีบให้ห่างตัวเสียด้วยซ้ำ อิสราเอลส้มหล่นเจอแก๊ส กะจะมาขายอียิปต์ที่อยู่บ้านใกล้กัน เผื่ออียิปต์จะได้หือไม่ออก เพราะเห็นใครๆ ก็กลัวคนมีน้ำมัน คนมีแก๊สกันทั้งนั้น อิสราเอลมีแต่ปากกับเงา คราวนี้ขอใช้ของจริงบ้าง หนอย… อียิปต์ดันเจอแก๊สบ้าง อย่างนี้อิสราเอลก็อ้าปากค้าง อดงับ แค่นี้เหมือนยังจะไม่พอให้เห็นชัด อยู่ดีๆ เขาก็ลมหวนกัน แม้ยังไม่รู้ชัดว่าทำไม แต่ธรรมดา ลมมันไม่ค่อยพัดหวนนะครับ ยิ่งหวนแรงๆ ฮู้ย ขนลุกเลยครับ อัสสาดของซีเรียกำลังจะหล่น รัสเซียยังยกทัพเข้ามาช่วย ไม่ใช่รัสเซียดีจริง ซีเรียก็ต้องมีของดี คราวนี้ก็เช่นกัน อยู่ดีๆ Sisi บินถี่ ไปคุยกับคุณพี่ปูติน หลังจากนั้น ข่าวของคู่รักลมหวนก็ทยอยออกมา 2-3 เดือนมานี้ ไอ้ลูกกะตาที่จับจ้องอยู่แถวซีเรีย ก็ต้องคงตาแหกกว้าง กวาดไปถึงอียิปต์ด้วย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลมหวน ตอนที่ 1

    เรื่องนี้ผมเขียนตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ ที่ 13 พย ตั้งใจจะเอาลงให้อ่านเช้าวันเสาร์ มาเจอเหตุการณ์ ศุกร์ 13 ที่ปารีส เลยต้องชลอไว้ แต่เห็นว่าเรื่องราวมันต่อเนื่องกัน และต่อเร็วเหลือเกิน เลยเอามาลงให้อ่านรวดเดียว และคงเห็นกันแล้วว่า รายการสกัดลมหวน รวมทั้งคิดบัญชี มันรุนแรงจริงๆ แล้วอย่างนี้ เรื่องมันจะจบ แบบต่างคนต่างอยู่ ได้หรือ……
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน”
    ตอน 1
    วันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 เครื่องบินโดยสารรัสเซียที่มีผู้โดยสารจำนวน 224 คน บินขึ้นจากเมือง Sharm El-Sheikh ในอิยิปต์ มุ่งหน้าไป St Petersburg เกิดเหตุร่วงลงพื้นดิน ผู้โดยสารลูกเรือเสียชีวิตหมด ข่าวสับสนอยู่หลายวัน ถึงสาเหตุของเครื่องบินตก ล่าสุดบอกว่า ถูกระเบิดจากในหรือนอกเครื่อง โดยอังกฤษออกมาปูดก่อนว่า เครื่องบินโดนระเบิด หลังจากนั้น อเมริการับลูก บอกมีความเป็นไปได้สูงมาก แต่อียิปต์ เจ้าของสถานที่ และรัสเซียผู้เสียหายยังไม่เห็นด้วย
    ทำไมต้องเป็นเครื่องบินรัสเซีย ที่มีชาวรัสเซียนั่งมาเต็มเครื่อง และทำไมต้องเกิดเหตุที่อียิปต์
    สื่อตะวันตกหัวรุนแรงบอกว่า นี่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่ฝัก
    ฝ่ายการ์ตา และมักจะก่อเรื่องวุ่นวายแถบไซนายของในอียิปต์ ถ้าเป็นเรื่องจริง อียิปต์กับการ์ตา คงมองหน้ากันไม่สนิท
    อียิปต์ แม้จะถูกลากไปร่วมรายการถล่มเยเมนกับก๊วนเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบียตั้งแต่เดือนมีนาคมต้นปี แต่ในเรื่องเกี่ยวกับซีเรีย อียิปต์ไม่ได้คอเดียวกับก๊วนเสี่ยปั๊มใหญ่ และ Adbel Fattah el-Sisi ประธานาธิบดีของอียิปต์ ออกจะไม่เห็นด้วยกับซาอุและการ์ต้าด้วยซ้ำ ที่มุ่งหน้าจะแก้ปัญหาซีเรีย ด้วยการเขี่ยอัสสาดให้พ้นไปจากซีเรียอย่างเดียว
    แต่เรื่องนี้ คงไม่น่าจะทำให้อียิปต์ถึงกับตกเป็น “เป้า”
    อียิปต์ มี “เรื่อง” ที่ทำให้มีคนขัดใจมากกว่านั้น
    นาย Abdel Fattah el- Sisi อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอียิปต์ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอียิปต์ ด้วยคะแนนเสียงถล่มทะลายเกือบเอกฉันท์ เมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2014 และแค่ในช่วง 3 เดือนแรก จากที่รับตำแหน่ง เขาเดินทางไปพบกับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ถึง 3 ครั้ง หลังจากนั้น สัมพันธ์อียิปต์-รัสเซีย ก็ถูกสื่อตะวันตกจับจ้อง และตีข่าวว่า หรือ ลมกำลังหวน…
    รัสเซีย (สหภาพโซเวียตในขณะนั้น) กับอียิปต์ เคยเป็นมิตรรักกันมาก่อน ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะสมัยนายพลนัสเซอร์ เป็นประธานาธิบดีอียิปต์ แต่สัมพันธ์อียิปต์-รัสเซีย มาจางลงหลังจากที่ประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัด ที่สังกัดฝ่ายอเมริกาเต็มตัว ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทนนัสเซอร์ ท่ามกลางข่าวลือว่า ซาดัต ที่เป็นมือขวาของนัสเซอร์ ดัดหลัง วางยาพิษนัสเซอร์จนเสียชีวิต แต่สื่อออกข่าวว่านัสเซอร์หัวใจวายตาย
    เมื่อซาดัตขึ้นปกครองอียิปต์ รายการแรกๆที่เขาทำคือ สั่งปลดที่ปรึกษาด้านการทหารชาวรัสเซียจำนวน 15,000 คน ส่งกลับบ้านหมด และหลังจากนั้นซาดัต ก็ประกาศสิ้นสุดสนธิสัญญาว่าด้วยความสัมพันธ์กับรัสเซีย ในปึ ค.ศ.1976 และกองทัพอียิปต์ก็กลายเป็นกองทัพ (ยุค) ของอเมริกา
    Sisi เป็นประธานาธิบดีได้แค่ 3 เดือน ไปจู๋จี๋กับคุณพี่ปูตินบ่อยขนาดนั้น ก็ต้องมีคนเขม็งมองจนตาคว่ำ เขาไปคุยอะไรกันนักหนา
    คู่รักลมหวนบอกว่า อียิปต์เป็นประเทศที่นำเข้าข้าวสาลีสูงสุดประเทศหนึ่ง ส่วนรัสเซียก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ ปลูกข้าวสาลีส่งให้อียิปต์ถึง 1 ใน 4 ของจำนวนที่อียิปต์ต้องการ เราก็ไปคุยกันเรื่องข้าวสาลี … ไม่จริงมั้ง ซื้อข้าวขายข้าว มันจะต้องบินไปบินมา ไปซื้อขายด้วยตัวเองบ่อยงั้นเชียวหรือ เด็กๆ มันก็ทำได้
    คู่รักลมหวนบอก แล้วเราก็คุยเรื่องอาวุธ อย่าลืมว่า อียิปต์เคยมีกองทัพใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกกลาง ตั้งแต่สมัยที่ใครๆยังเลี้ยงอูฐอยู่เลย แต่ตอนนี้เหตุการณ์แถวบ้านเรา มันห่างกับคำว่า “สงบ” มากมาย เราจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านกองทัพ และรัสเซียก็มีอาวุธทันสมัยเหมาะกับการใช้ของกองทัพเรา …
    แล้วอียิปต์ก็เลยทำสัญญาซื้ออาวุธจากรัสเซีย รอบแรกประมาณ 3.5 พันล้านเหรียญเท่านั้นเอง อียิปต์ไม่ได้รวยเหมือนเพื่อนบ้านนะ อาวุธที่ซื้อก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ระบบสกัดจรวดอันโด่งดัง จนถึงเครื่องบินรุ่น Sukhoi ที่บางกองทัพ ได้ยินชื่อแล้วขยาด ถึงขนาดมีทหารยื่นใบลาออกน่ะ … แน่ะ หลุดมาแล้ว เรื่องอาวุธ มีอะไรอีก บอกมาให้หมด
    อียิปต์ไม่รวยน้ำมัน ไม่มีพลังงานพอสร้างความสว่างให้ประเทศ ที่กำลังต้องฟื้นฟูเรื่องการท่องเที่ยว หลังจากไอ้ชั่วตัวไหนไม่รู้ มันมาจัดเทศกาลอาหรับสปริงแถวนี้ จนฉิบหายไปหมด อียิปต์เลยคิดจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดย Rosatom ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย รับงานนี้ไปแล้ว … โอ้โห ชิ้นปลามัน นี่เขาคงคู่รักลมหวนจริง ๆนะ เล่นเอามีคนกินแห้วกันเป็นแถวๆ อย่างนี้ คู่รักคู่ขุด มิหงุดหงิด อิจฉาแย่หรือครับ
    มีอีกมั้ย รายการช๊อปปิ้ง ยังอมอะไรไว้ … อ้อ เราก็สั่งซื้อแก๊สจาก Rosnet ของรัสเซียด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดานี่นะ เพราะรัสเซียเขาเจ้าพ่อแก๊สอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องตื่นเต้นกันเลย
    สำหรับ Sisi การเป็นเพื่อนกับรัสเซีย มีความหมายกับอียิปต์ ในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง อย่าลืมว่า สหภาพโซเวียตเป็นคนช่วยสร้างเขื่อนอัสวานให้อียิปต์ หลังจากที่อเมริกาทิ้งอียิปต์ในช่วงนัสเซอร์เป็นประธานาธิบดี สหภาพโซเวียตยังช่วยสร้างอู่ต่อเรือใหญ่ที่อเล็กซานเดรีย โรงถลุงเหล็ก และศูนย์อุตสาหกรรมอลูมิเนียมให้อียิปต์อีกด้วย
    สื่อตะวันตกค่ายชาวเกาะใหญ่บอกว่า ทั้งรัสเซียและอียิปต์ ต่างเจอความขมของตะวันตกเหมือนกัน และคงอยากจะสร้างสัมพันธ์ระหว่างพวกขม ด้วยกัน รัสเซียเจอเรื่องแซงชั่น อียิปต์เจอพิษอาหรับสปริง และ Sisi คงซึ้งในวิธีการโยนทิ้งพรมเช็ดเท้าของอเมริกา จากกรณี มูบารัคและมอร์ซิ ของกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่อเมริกาส่งเสริม เปรียบเทียบกับการที่รัสเซียเข้ามาช่วยเพื่อนเก่าอย่างซีเรีย แบบนี้ Sisi ก็คงไม่ต้องคิดมาก ในการเลือกใช้นโยบายลมหวลกับรัสเซีย
    และอียิปต์ก็มีความหมายกับรัสเซีย ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
    ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียมีฐานทัพเรืออยู่ที่ซีเรียประเทศเดียว นี่ถ้าเหตุการณ์ในซีเรียมันยกระดับขึ้นเรื่อยๆ มีอียิปต์เป็นเพื่อนอยู่ริมทะเลแถบนั้นอีกราย มันก็ไม่เลว จะได้มานั่งรำลึกเรื่องความหลังด้วยกัน
    แน่นอนรายการลมหวนนี้ น่าจะสร้างความกังวล และหงุดหงิดให้แก่หลายคน และหลายมุม
    ขอแถมสักหน่อยครับ อาหรับสปริงในอียิปต์ ก็มาจากการจัดรายการของอเมริกานั่นเอง และเมื่อมอร์ซิ ของกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่อเมริกาก็เป็นฝ่ายหนุนอีกนั่นแหละ ขึ้นมาปกครองอียิปต์ อเมริกาก็ตัดความช่วยเหลือทางทหารที่เคยมีให้อียิปต์ทิ้งเสีย เพราะอ้างว่า อิยิปต์ไม่เป็นประชาธิปไตย มอร์ซิ ไม่ยอมจัดการเลือกตั้ง จริงๆ ไอ้มาตรการหลังเขาแบบนี้ของอเมริกา ก็มีดีเหมือนกันนะ ทำให้ท่านใบตองแห้ง มีอาชีพเสริม ทำหน้าที่เป็นพนักงานช่วยขายอาวุธรัสเซียให้คุณพี่ปูติน หมดเทอมเมื่อไหร่ ไปสมัครเป็นพนักงานประจำ ขายอาวุธของรัสเซียได้เลย ฮา
    ท่านใบตองแห้ง อย่าลืมไปทวงค่าคอมจากคุณพี่ปูตินนะครับ แต่จะได้ค่าคอมมาเป็นอะไร ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ย. 2558
    ลมหวน ตอนที่ 1 เรื่องนี้ผมเขียนตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ ที่ 13 พย ตั้งใจจะเอาลงให้อ่านเช้าวันเสาร์ มาเจอเหตุการณ์ ศุกร์ 13 ที่ปารีส เลยต้องชลอไว้ แต่เห็นว่าเรื่องราวมันต่อเนื่องกัน และต่อเร็วเหลือเกิน เลยเอามาลงให้อ่านรวดเดียว และคงเห็นกันแล้วว่า รายการสกัดลมหวน รวมทั้งคิดบัญชี มันรุนแรงจริงๆ แล้วอย่างนี้ เรื่องมันจะจบ แบบต่างคนต่างอยู่ ได้หรือ…… นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน” ตอน 1 วันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 เครื่องบินโดยสารรัสเซียที่มีผู้โดยสารจำนวน 224 คน บินขึ้นจากเมือง Sharm El-Sheikh ในอิยิปต์ มุ่งหน้าไป St Petersburg เกิดเหตุร่วงลงพื้นดิน ผู้โดยสารลูกเรือเสียชีวิตหมด ข่าวสับสนอยู่หลายวัน ถึงสาเหตุของเครื่องบินตก ล่าสุดบอกว่า ถูกระเบิดจากในหรือนอกเครื่อง โดยอังกฤษออกมาปูดก่อนว่า เครื่องบินโดนระเบิด หลังจากนั้น อเมริการับลูก บอกมีความเป็นไปได้สูงมาก แต่อียิปต์ เจ้าของสถานที่ และรัสเซียผู้เสียหายยังไม่เห็นด้วย ทำไมต้องเป็นเครื่องบินรัสเซีย ที่มีชาวรัสเซียนั่งมาเต็มเครื่อง และทำไมต้องเกิดเหตุที่อียิปต์ สื่อตะวันตกหัวรุนแรงบอกว่า นี่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่ฝัก ฝ่ายการ์ตา และมักจะก่อเรื่องวุ่นวายแถบไซนายของในอียิปต์ ถ้าเป็นเรื่องจริง อียิปต์กับการ์ตา คงมองหน้ากันไม่สนิท อียิปต์ แม้จะถูกลากไปร่วมรายการถล่มเยเมนกับก๊วนเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบียตั้งแต่เดือนมีนาคมต้นปี แต่ในเรื่องเกี่ยวกับซีเรีย อียิปต์ไม่ได้คอเดียวกับก๊วนเสี่ยปั๊มใหญ่ และ Adbel Fattah el-Sisi ประธานาธิบดีของอียิปต์ ออกจะไม่เห็นด้วยกับซาอุและการ์ต้าด้วยซ้ำ ที่มุ่งหน้าจะแก้ปัญหาซีเรีย ด้วยการเขี่ยอัสสาดให้พ้นไปจากซีเรียอย่างเดียว แต่เรื่องนี้ คงไม่น่าจะทำให้อียิปต์ถึงกับตกเป็น “เป้า” อียิปต์ มี “เรื่อง” ที่ทำให้มีคนขัดใจมากกว่านั้น นาย Abdel Fattah el- Sisi อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอียิปต์ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอียิปต์ ด้วยคะแนนเสียงถล่มทะลายเกือบเอกฉันท์ เมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2014 และแค่ในช่วง 3 เดือนแรก จากที่รับตำแหน่ง เขาเดินทางไปพบกับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ถึง 3 ครั้ง หลังจากนั้น สัมพันธ์อียิปต์-รัสเซีย ก็ถูกสื่อตะวันตกจับจ้อง และตีข่าวว่า หรือ ลมกำลังหวน… รัสเซีย (สหภาพโซเวียตในขณะนั้น) กับอียิปต์ เคยเป็นมิตรรักกันมาก่อน ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะสมัยนายพลนัสเซอร์ เป็นประธานาธิบดีอียิปต์ แต่สัมพันธ์อียิปต์-รัสเซีย มาจางลงหลังจากที่ประธานาธิบดีอันวาร์ ซาดัด ที่สังกัดฝ่ายอเมริกาเต็มตัว ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทนนัสเซอร์ ท่ามกลางข่าวลือว่า ซาดัต ที่เป็นมือขวาของนัสเซอร์ ดัดหลัง วางยาพิษนัสเซอร์จนเสียชีวิต แต่สื่อออกข่าวว่านัสเซอร์หัวใจวายตาย เมื่อซาดัตขึ้นปกครองอียิปต์ รายการแรกๆที่เขาทำคือ สั่งปลดที่ปรึกษาด้านการทหารชาวรัสเซียจำนวน 15,000 คน ส่งกลับบ้านหมด และหลังจากนั้นซาดัต ก็ประกาศสิ้นสุดสนธิสัญญาว่าด้วยความสัมพันธ์กับรัสเซีย ในปึ ค.ศ.1976 และกองทัพอียิปต์ก็กลายเป็นกองทัพ (ยุค) ของอเมริกา Sisi เป็นประธานาธิบดีได้แค่ 3 เดือน ไปจู๋จี๋กับคุณพี่ปูตินบ่อยขนาดนั้น ก็ต้องมีคนเขม็งมองจนตาคว่ำ เขาไปคุยอะไรกันนักหนา คู่รักลมหวนบอกว่า อียิปต์เป็นประเทศที่นำเข้าข้าวสาลีสูงสุดประเทศหนึ่ง ส่วนรัสเซียก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ ปลูกข้าวสาลีส่งให้อียิปต์ถึง 1 ใน 4 ของจำนวนที่อียิปต์ต้องการ เราก็ไปคุยกันเรื่องข้าวสาลี … ไม่จริงมั้ง ซื้อข้าวขายข้าว มันจะต้องบินไปบินมา ไปซื้อขายด้วยตัวเองบ่อยงั้นเชียวหรือ เด็กๆ มันก็ทำได้ คู่รักลมหวนบอก แล้วเราก็คุยเรื่องอาวุธ อย่าลืมว่า อียิปต์เคยมีกองทัพใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกกลาง ตั้งแต่สมัยที่ใครๆยังเลี้ยงอูฐอยู่เลย แต่ตอนนี้เหตุการณ์แถวบ้านเรา มันห่างกับคำว่า “สงบ” มากมาย เราจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านกองทัพ และรัสเซียก็มีอาวุธทันสมัยเหมาะกับการใช้ของกองทัพเรา … แล้วอียิปต์ก็เลยทำสัญญาซื้ออาวุธจากรัสเซีย รอบแรกประมาณ 3.5 พันล้านเหรียญเท่านั้นเอง อียิปต์ไม่ได้รวยเหมือนเพื่อนบ้านนะ อาวุธที่ซื้อก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ระบบสกัดจรวดอันโด่งดัง จนถึงเครื่องบินรุ่น Sukhoi ที่บางกองทัพ ได้ยินชื่อแล้วขยาด ถึงขนาดมีทหารยื่นใบลาออกน่ะ … แน่ะ หลุดมาแล้ว เรื่องอาวุธ มีอะไรอีก บอกมาให้หมด อียิปต์ไม่รวยน้ำมัน ไม่มีพลังงานพอสร้างความสว่างให้ประเทศ ที่กำลังต้องฟื้นฟูเรื่องการท่องเที่ยว หลังจากไอ้ชั่วตัวไหนไม่รู้ มันมาจัดเทศกาลอาหรับสปริงแถวนี้ จนฉิบหายไปหมด อียิปต์เลยคิดจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดย Rosatom ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย รับงานนี้ไปแล้ว … โอ้โห ชิ้นปลามัน นี่เขาคงคู่รักลมหวนจริง ๆนะ เล่นเอามีคนกินแห้วกันเป็นแถวๆ อย่างนี้ คู่รักคู่ขุด มิหงุดหงิด อิจฉาแย่หรือครับ มีอีกมั้ย รายการช๊อปปิ้ง ยังอมอะไรไว้ … อ้อ เราก็สั่งซื้อแก๊สจาก Rosnet ของรัสเซียด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดานี่นะ เพราะรัสเซียเขาเจ้าพ่อแก๊สอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องตื่นเต้นกันเลย สำหรับ Sisi การเป็นเพื่อนกับรัสเซีย มีความหมายกับอียิปต์ ในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง อย่าลืมว่า สหภาพโซเวียตเป็นคนช่วยสร้างเขื่อนอัสวานให้อียิปต์ หลังจากที่อเมริกาทิ้งอียิปต์ในช่วงนัสเซอร์เป็นประธานาธิบดี สหภาพโซเวียตยังช่วยสร้างอู่ต่อเรือใหญ่ที่อเล็กซานเดรีย โรงถลุงเหล็ก และศูนย์อุตสาหกรรมอลูมิเนียมให้อียิปต์อีกด้วย สื่อตะวันตกค่ายชาวเกาะใหญ่บอกว่า ทั้งรัสเซียและอียิปต์ ต่างเจอความขมของตะวันตกเหมือนกัน และคงอยากจะสร้างสัมพันธ์ระหว่างพวกขม ด้วยกัน รัสเซียเจอเรื่องแซงชั่น อียิปต์เจอพิษอาหรับสปริง และ Sisi คงซึ้งในวิธีการโยนทิ้งพรมเช็ดเท้าของอเมริกา จากกรณี มูบารัคและมอร์ซิ ของกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่อเมริกาส่งเสริม เปรียบเทียบกับการที่รัสเซียเข้ามาช่วยเพื่อนเก่าอย่างซีเรีย แบบนี้ Sisi ก็คงไม่ต้องคิดมาก ในการเลือกใช้นโยบายลมหวลกับรัสเซีย และอียิปต์ก็มีความหมายกับรัสเซีย ไม่น้อยเช่นเดียวกัน ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียมีฐานทัพเรืออยู่ที่ซีเรียประเทศเดียว นี่ถ้าเหตุการณ์ในซีเรียมันยกระดับขึ้นเรื่อยๆ มีอียิปต์เป็นเพื่อนอยู่ริมทะเลแถบนั้นอีกราย มันก็ไม่เลว จะได้มานั่งรำลึกเรื่องความหลังด้วยกัน แน่นอนรายการลมหวนนี้ น่าจะสร้างความกังวล และหงุดหงิดให้แก่หลายคน และหลายมุม ขอแถมสักหน่อยครับ อาหรับสปริงในอียิปต์ ก็มาจากการจัดรายการของอเมริกานั่นเอง และเมื่อมอร์ซิ ของกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่อเมริกาก็เป็นฝ่ายหนุนอีกนั่นแหละ ขึ้นมาปกครองอียิปต์ อเมริกาก็ตัดความช่วยเหลือทางทหารที่เคยมีให้อียิปต์ทิ้งเสีย เพราะอ้างว่า อิยิปต์ไม่เป็นประชาธิปไตย มอร์ซิ ไม่ยอมจัดการเลือกตั้ง จริงๆ ไอ้มาตรการหลังเขาแบบนี้ของอเมริกา ก็มีดีเหมือนกันนะ ทำให้ท่านใบตองแห้ง มีอาชีพเสริม ทำหน้าที่เป็นพนักงานช่วยขายอาวุธรัสเซียให้คุณพี่ปูติน หมดเทอมเมื่อไหร่ ไปสมัครเป็นพนักงานประจำ ขายอาวุธของรัสเซียได้เลย ฮา ท่านใบตองแห้ง อย่าลืมไปทวงค่าคอมจากคุณพี่ปูตินนะครับ แต่จะได้ค่าคอมมาเป็นอะไร ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567
    .
    จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน
    .
    ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว
    .
    ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803
    .
    #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567 . จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน . ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว . ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803 . #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 5 (จบ)
    สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง
    ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร
    และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ
    ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย
    เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด
    แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย
    ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน
    ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย
    แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน
    ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่
    กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้
    เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ
    นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด
    ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ
    โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย
    คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม
    บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์
    แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด
    ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ
    นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์
    ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat
    ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด
    ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย
    เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย
    ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก
    กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่
    คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา
    ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น
    อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ
    สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่
    ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา
    สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ
    รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ
    ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป
    ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ
    เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ
    อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก
    หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย
    หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป
    แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก
    แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง
    ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ
    ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย
    แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน
    ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง
    ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน
    เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว
    จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR
    หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ
    ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ
    แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 5 (จบ) สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่ กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้ เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์ แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์ ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่ คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่ ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 3
    เรื่องความมั่นคงของอัสสาดในซีเรีย และเรื่องแก๊สของซีเรียและอิหร่านในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รัสเซีย ตัดสินใจยกกองทัพเข้าไปในซีเรีย เพราะทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวพันกับความมั่นคงของฝ่ายรัสเซียและเพื่อน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่องลองเชิง) แต่สาเหตุที่รัสเซียยาตราเข้าไป ตะวันออกกลาง คงไม่ได้มีเพียงเท่านั้น
    คงจำกันได้ ผมได้เล่าให้ฟังแล้วว่า ในตะวันออกกลาง มีหัวโจกอยู่ 3 ราย คือ อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และอิสราเอล ซึ่งก็ชัดเจนว่า รายแรก สังกัดกลุ่มรัสเซีย และ 2 รายหลังสังกัดกลุ่มอเมริกา
    แต่ 2 รายหลัง แม้จะสังกัดกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่รักกัน การมาจับร่วมมือทำกิจกรรมเกี่ยวกับซีเรียกัน ก็เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการไล่
    อัสสาด ที่เอาอิหร่านและรัสเซีย ให้พ้นไปจากซีเรีย เพื่อที่กลุ่มพวกตัวจะได้ส่งตัวเลือกของกลุ่มเข้าไปปกครองซีเรียแทน และแน่นอน ต้องเป็นคนที่ไม่เอาอิหร่านและรัสเซีย ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ซีเรีย ที่เป็นเหมือนด่านหน้าของอิหร่าน แตกกับอิหร่าน และอิหร่าน ที่ไม่มีซีเรียเป็นกันชนให้ ก็จะตกอยู่ในสภาพที่อาจจะล้มได้ง่ายขึ้น
    หากอิหร่านล้มไป ทั้งซาอุดิอารเบียและอิสราเอล ก็จะแข่งกันเอง เพื่อเป็นลูกพี่ใหญ่ควบคุมตะวันออกกลางแต่ผู้เดียว แม้จะดูเป็นความหวังที่ค่อนข้างฝันเฟื่อง แต่ทั้ง 2 นักฝัน ก็พร้อมทำ เพราะได้รับประทานลูกยุ จากพี่เบิ้มอเมริกาเสียจนพุงกางทั้งคู่
    คิดจะเป็นใหญ่ ตามตำราเขาว่า ก็ต้องมีพลังงานเป็นของตัวเอง ไม่มีเอง ก็ต้องหาทางครอบครองให้ได้ อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ เพ้อมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องนี้ จึงทำให้ ซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่กระหยิ่มหน้าเชิด ก็มีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก จะไม่ให้เชิดเลยหรือ ในเมื่อใครๆก็วิ่งเหงื่อซกสร้างท่อ ขุดบ่อหาน้ำมันกันทั้งนั้น แต่เสี่ยปั๊มใหญ่ แค่นั่งเฉยๆ ก็มีคนมาคุกเข่า สอพลอขอน้ำมัน อย่างนี้จะไม่ให้ตัวพองได้อย่างไร แต่คงไม่มีใครกล้าเตือนเสี่ยปั๊มใหญ่นะครับว่า การมีของดีมากๆ แต่ไม่ฉลาดรักษา (ทั้งตัว ทั้งของดี) ก็อาจนำมาซึ่งเภทภัยและหายนะ ให้ตัวเองเอวังได้เหมือนกัน
    ส่วนอิสราเอล นอกจากจะเป็นข้าวนอกนา ทรายพลัดถิ่น มาอยู่ในตะวันออกกลางแล้ว ยังไม่เคยถูกรางวัลใหญ่ เจาะเจอน้ำมันอะไรกับเขาเลย ต้องนับถือสายตาอันคมกริบของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่ช่างเลือกที่ให้ชาวยิวมาอยู่ในตะวันออกกลางจริงๆ ใครที่คิดว่ายิวคุมอังกฤษ ก็ลองทบทวนความจริงเรื่องนี้ หลายๆรอบหน่อยครับ มันเป็นเรื่องการผลัดกันหลอก ลวงกันใช้เสียละมากกว่า แต่ยิวฉลาด “สร้างเงา” คนที่มองเห็นแต่เงา ก็คงหลงเชื่อเป็นธรรมดา
    อิสราเอล เพิ่งมาโชคดีเจอหลุมแก๊สในทะเลหน้าบ้านเอาเมื่อในปี ค.ศ.2010 นี้เอง และคราวนี้ ก็มาเจอน้ำมัน shale oil เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ด้วย คราวนี้ ถึงตาอิสราเอลเชิดหน้าบ้างสิ ยิวมีน้ำมันแล้ววว แบบนี้มันต้องตีปีบ ให้โลกรู้กันหน่อย เดียวเขาจะว่าจ๋อย ไม่มีทางสู้เสี่ยปั๊มใหญ่ได้
    การถูตะเกียงให้คุณจินนี่ปรากฏตัวในช่วงจังหวะนี้ จึงน่าคิด เรื่องการค้นพบน้ำมันในที่ราบสูงโกลานที่อ้างว่า น่าจะมีปริมาณมหึมา เหมือนจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น้ำมันตั้งแยะ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็น่าจะตาถล่นร้อนฉ่าด้วยความอิจฉา และหมั่นไส้
    ยิ่งดูจากรายชื่อที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของคุณจินนี่แล้ว ผมละขนหัวลุก สยองขวัญเหลือเกิน ขุดมาแต่ละชื่อ ยังกับเอาเทียนลนให้ผีดิบคืนชีพ แบบนี้แปลว่าขาใหญ่ทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษจับมือกันเล่น หรือไง!? ยิ่งแถมเอานาย Kho คู่แค้นคุณพี่ปูตินมาด้วย แปลว่าต้องการยั่วพยาธิคุณพี่ปูตินขนาดหนัก และแถมยังได้แหย่ต่อมหลอนของเสี่ยปั๊มได้ด้วย เสี่ยปั๊มใหญ่เห็นภาพหลอนง่ายจะตาย หลอนเรื่องอิหร่านทุกวันทุกคืนอยู่แล้ว เพิ่มยิวหลอนตอนเช้าไปอีกมื้อ เดี๋ยวเสี่ยปั้มใหญ่ก็ดิ้นพล่าน ลุกขึ้นมาไล่ถล่มอะไรแก้กลุ้ม ไม่มีปัญหาสำหรับเสี่ยปั๊มใหญ่ เงินเหลือใช้ คนล้นประเทศ หลอกให้ไปรบแทนเสีย 3,4 แสน
    อย่างนี้ คนหลอก คนยุ ก็ไม่ต้องออกแรงมาก ประหยัดทั้งกระเป๋า ประหยัดทั้งคนของตัว สบายไป…
    แต่นั่นแหละนะ อะไรที่มันตีปีบแรงไป ของจริงมันมักจะตรงข้าม ของดีไม่ต้องโฆษณามาก ยิ่งมีดีมากต้องยิ่งกบไต๋ ผมเลยเกรงว่า รายการถูตะเกียง เอาจินนี่ออกมาขู่คราวนี้ มันเหมือนการตีปีบ ตีเกราะเคาะไม้ หลอกไล่พระราหูที่กำลังอมพระจันทร์ ไล่รัสเซียที่กำลังปักหลักพักค้าง ทำท่าจะอยู่ยาวในตะวันออกกลางเสียมากกว่า
    นอกจากนี้ น้ำมันที่บริษัทในเครือของคุณจินนี่ประกาศว่าเจอ เป็นน้ำมันชนิดที่เรียกว่า shale oil ที่อยู่ในชั้นหินดินดาน การขุดเจาะต้องใช้แรงน้ำผสมสารเคมี กระแทกให้หินแตก เพื่อดูดน้ำมันออกมา ยิ่งบอกว่าชั้นหินดินดานที่โกลาน หนากว่าปกติถึง 10 เท่า ไม่รู้ว่า แปลว่าดีหรือไม่ดี ที่สำคัญ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ราบสูงโกลานเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ การใช้วิธีกระแทกหินใช้สารเคมีใส่เข้าไป จะมีผลกับแหล่งน้ำจืดมากน้อยแค่ไหน และเป็นแหล่งน้ำจืด ที่ทั้งอิสราเอลและซีเรียยังต้องพึ่งอยู่ จึงน่าคิดว่า การตีข่าวเอาจีนนี่ออกมา ไม่น่าจะใช่เรื่องน้ำมันเสียทีเดียว
    ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว นับแต่วันที่คุณพี่ปูติน พาพรรคพวกเข้าไปเดินเล่นอยู่ในซีเรีย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเมืองโลก และทั้งโลก ก็กำลังจับตาดูปฏิกริยาของอเมริกาในเรื่องนี้ แต่อเมริกายังเงียบผิดปรกติ ผิดมาดของผู้ที่อ้างตัวเอง และมีผู้คนก้มหัวยกให้เป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่มักจะส่งเสียงทุกครั้งที่เห็นใบตองแห้งไหว
    จิ๊กโก๋คุมซอยเพลิดเพลินอยู่คนเดียวมานาน 70 ปี วันดีคืนดี มีหนุ่มห้าวเดินเข้ามาในซอย ตั้งใจจะมาจัดระเบียบวินมอร์ไซด์ปากซอยเสียใหม่ เพราะมีคนไปบอกว่า ไอ้อาด เพื่อนเก่าของหนุ่มห้าว ที่ขี่มอร์ไซด์อยู่เส้นทางนี้มาตั้งนานแล้ว กำลังถูกรุม ไล่ให้ออกไปจากวิน สาเหตุเพราะไอ้อาดขี่มานานเกินไป แต่มอร์ไซด์ของไอ้อาดยังดูเอี่ยมอ่อง
    หนุ่มห้าวไม่พูดมากความ บอก ไอ้อาดมึงขี่ต่อไป แต่ห้ามร่วงนะมึง ต่อไปนี้ ใครรุมมึง ใครซ่ามาก กูตบกกหูร่วงอย่าว่ากูใจดำ มึงอยู่กันดีๆไม่เป็นหรือไง ว่าแล้วก็ตบกกหูไอ้ปื๊ด ลูกน้องตัวสำคัญของจิ๊กโก๋คุมซอยให้ดูเป็นอย่าง
    ลูกน้องถูกตบ จนกกหูบวมเป่งมา 2 เดือนกว่า แถมหนุ่มห้าวยังไม่ไปไหน ทุกเช้า 8 โมงยังมายืนกอดอกดูอยู่ปากซอย แต่จิ๊กโก๋คุมซอย ยังไม่โผล่หัวเข้ามาในซอยอีกเลยตั้งแต่ลูกน้องถูกตบกกหู ได้แต่ส่งเสียงสลับใบตองแห้งปลิว ผ่านลูกกระเป๋งหลากหน้าว่า มึงมีสิทธิอะไรมายุ่งในซอยที่กูคุมมม ๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา อยู่แค่นั้น
    แบบนี้แปลว่าอะไรครับ แปลว่า เป็นจิ๊กโก๋พันธุ์ใบตองแห้งจริงๆ มีแต่ปาก หรือจิ๊กโก๋กำลังซุ่ม เตรียมสมัครพรรคพวก ไว้แอบเฉาะกระบานไอ้หนุ่มห้าวเอาให้หงายเก๋ง ค้างแห้งอยู่กลางทะเลทรายเสียเลย
    จิ๊กโก๋คุมซอยมา 70 ปี คงไม่ยอมเสียตำแหน่งให้ใครง่ายๆ กะแค่หนุ่มห้าวตบกกหูไอ้ปื้ด จิ๊กโก๋บอกไม่มีปัญหา กูมีไอ้ปื้ดเป็นแสนๆ อยู่แถบนั้น เข้าใจไหม ปั่นหัวแผลบเดียว เดี๋ยวก็ดาหน้าเข้ามาใส่ไอ้หนุ่มห้าว จนมึงนั่นแหละ จะเผ่นออกจากตะวันออกกลางไม่ทัน….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 3 เรื่องความมั่นคงของอัสสาดในซีเรีย และเรื่องแก๊สของซีเรียและอิหร่านในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้รัสเซีย ตัดสินใจยกกองทัพเข้าไปในซีเรีย เพราะทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวพันกับความมั่นคงของฝ่ายรัสเซียและเพื่อน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่องลองเชิง) แต่สาเหตุที่รัสเซียยาตราเข้าไป ตะวันออกกลาง คงไม่ได้มีเพียงเท่านั้น คงจำกันได้ ผมได้เล่าให้ฟังแล้วว่า ในตะวันออกกลาง มีหัวโจกอยู่ 3 ราย คือ อิหร่าน ซาอุดิอารเบีย และอิสราเอล ซึ่งก็ชัดเจนว่า รายแรก สังกัดกลุ่มรัสเซีย และ 2 รายหลังสังกัดกลุ่มอเมริกา แต่ 2 รายหลัง แม้จะสังกัดกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่รักกัน การมาจับร่วมมือทำกิจกรรมเกี่ยวกับซีเรียกัน ก็เพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการไล่ อัสสาด ที่เอาอิหร่านและรัสเซีย ให้พ้นไปจากซีเรีย เพื่อที่กลุ่มพวกตัวจะได้ส่งตัวเลือกของกลุ่มเข้าไปปกครองซีเรียแทน และแน่นอน ต้องเป็นคนที่ไม่เอาอิหร่านและรัสเซีย ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ซีเรีย ที่เป็นเหมือนด่านหน้าของอิหร่าน แตกกับอิหร่าน และอิหร่าน ที่ไม่มีซีเรียเป็นกันชนให้ ก็จะตกอยู่ในสภาพที่อาจจะล้มได้ง่ายขึ้น หากอิหร่านล้มไป ทั้งซาอุดิอารเบียและอิสราเอล ก็จะแข่งกันเอง เพื่อเป็นลูกพี่ใหญ่ควบคุมตะวันออกกลางแต่ผู้เดียว แม้จะดูเป็นความหวังที่ค่อนข้างฝันเฟื่อง แต่ทั้ง 2 นักฝัน ก็พร้อมทำ เพราะได้รับประทานลูกยุ จากพี่เบิ้มอเมริกาเสียจนพุงกางทั้งคู่ คิดจะเป็นใหญ่ ตามตำราเขาว่า ก็ต้องมีพลังงานเป็นของตัวเอง ไม่มีเอง ก็ต้องหาทางครอบครองให้ได้ อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ เพ้อมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องนี้ จึงทำให้ ซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่กระหยิ่มหน้าเชิด ก็มีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก จะไม่ให้เชิดเลยหรือ ในเมื่อใครๆก็วิ่งเหงื่อซกสร้างท่อ ขุดบ่อหาน้ำมันกันทั้งนั้น แต่เสี่ยปั๊มใหญ่ แค่นั่งเฉยๆ ก็มีคนมาคุกเข่า สอพลอขอน้ำมัน อย่างนี้จะไม่ให้ตัวพองได้อย่างไร แต่คงไม่มีใครกล้าเตือนเสี่ยปั๊มใหญ่นะครับว่า การมีของดีมากๆ แต่ไม่ฉลาดรักษา (ทั้งตัว ทั้งของดี) ก็อาจนำมาซึ่งเภทภัยและหายนะ ให้ตัวเองเอวังได้เหมือนกัน ส่วนอิสราเอล นอกจากจะเป็นข้าวนอกนา ทรายพลัดถิ่น มาอยู่ในตะวันออกกลางแล้ว ยังไม่เคยถูกรางวัลใหญ่ เจาะเจอน้ำมันอะไรกับเขาเลย ต้องนับถือสายตาอันคมกริบของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ที่ช่างเลือกที่ให้ชาวยิวมาอยู่ในตะวันออกกลางจริงๆ ใครที่คิดว่ายิวคุมอังกฤษ ก็ลองทบทวนความจริงเรื่องนี้ หลายๆรอบหน่อยครับ มันเป็นเรื่องการผลัดกันหลอก ลวงกันใช้เสียละมากกว่า แต่ยิวฉลาด “สร้างเงา” คนที่มองเห็นแต่เงา ก็คงหลงเชื่อเป็นธรรมดา อิสราเอล เพิ่งมาโชคดีเจอหลุมแก๊สในทะเลหน้าบ้านเอาเมื่อในปี ค.ศ.2010 นี้เอง และคราวนี้ ก็มาเจอน้ำมัน shale oil เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้ด้วย คราวนี้ ถึงตาอิสราเอลเชิดหน้าบ้างสิ ยิวมีน้ำมันแล้ววว แบบนี้มันต้องตีปีบ ให้โลกรู้กันหน่อย เดียวเขาจะว่าจ๋อย ไม่มีทางสู้เสี่ยปั๊มใหญ่ได้ การถูตะเกียงให้คุณจินนี่ปรากฏตัวในช่วงจังหวะนี้ จึงน่าคิด เรื่องการค้นพบน้ำมันในที่ราบสูงโกลานที่อ้างว่า น่าจะมีปริมาณมหึมา เหมือนจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น้ำมันตั้งแยะ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็น่าจะตาถล่นร้อนฉ่าด้วยความอิจฉา และหมั่นไส้ ยิ่งดูจากรายชื่อที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของคุณจินนี่แล้ว ผมละขนหัวลุก สยองขวัญเหลือเกิน ขุดมาแต่ละชื่อ ยังกับเอาเทียนลนให้ผีดิบคืนชีพ แบบนี้แปลว่าขาใหญ่ทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษจับมือกันเล่น หรือไง!? ยิ่งแถมเอานาย Kho คู่แค้นคุณพี่ปูตินมาด้วย แปลว่าต้องการยั่วพยาธิคุณพี่ปูตินขนาดหนัก และแถมยังได้แหย่ต่อมหลอนของเสี่ยปั๊มได้ด้วย เสี่ยปั๊มใหญ่เห็นภาพหลอนง่ายจะตาย หลอนเรื่องอิหร่านทุกวันทุกคืนอยู่แล้ว เพิ่มยิวหลอนตอนเช้าไปอีกมื้อ เดี๋ยวเสี่ยปั้มใหญ่ก็ดิ้นพล่าน ลุกขึ้นมาไล่ถล่มอะไรแก้กลุ้ม ไม่มีปัญหาสำหรับเสี่ยปั๊มใหญ่ เงินเหลือใช้ คนล้นประเทศ หลอกให้ไปรบแทนเสีย 3,4 แสน อย่างนี้ คนหลอก คนยุ ก็ไม่ต้องออกแรงมาก ประหยัดทั้งกระเป๋า ประหยัดทั้งคนของตัว สบายไป… แต่นั่นแหละนะ อะไรที่มันตีปีบแรงไป ของจริงมันมักจะตรงข้าม ของดีไม่ต้องโฆษณามาก ยิ่งมีดีมากต้องยิ่งกบไต๋ ผมเลยเกรงว่า รายการถูตะเกียง เอาจินนี่ออกมาขู่คราวนี้ มันเหมือนการตีปีบ ตีเกราะเคาะไม้ หลอกไล่พระราหูที่กำลังอมพระจันทร์ ไล่รัสเซียที่กำลังปักหลักพักค้าง ทำท่าจะอยู่ยาวในตะวันออกกลางเสียมากกว่า นอกจากนี้ น้ำมันที่บริษัทในเครือของคุณจินนี่ประกาศว่าเจอ เป็นน้ำมันชนิดที่เรียกว่า shale oil ที่อยู่ในชั้นหินดินดาน การขุดเจาะต้องใช้แรงน้ำผสมสารเคมี กระแทกให้หินแตก เพื่อดูดน้ำมันออกมา ยิ่งบอกว่าชั้นหินดินดานที่โกลาน หนากว่าปกติถึง 10 เท่า ไม่รู้ว่า แปลว่าดีหรือไม่ดี ที่สำคัญ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ราบสูงโกลานเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ การใช้วิธีกระแทกหินใช้สารเคมีใส่เข้าไป จะมีผลกับแหล่งน้ำจืดมากน้อยแค่ไหน และเป็นแหล่งน้ำจืด ที่ทั้งอิสราเอลและซีเรียยังต้องพึ่งอยู่ จึงน่าคิดว่า การตีข่าวเอาจีนนี่ออกมา ไม่น่าจะใช่เรื่องน้ำมันเสียทีเดียว ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว นับแต่วันที่คุณพี่ปูติน พาพรรคพวกเข้าไปเดินเล่นอยู่ในซีเรีย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเมืองโลก และทั้งโลก ก็กำลังจับตาดูปฏิกริยาของอเมริกาในเรื่องนี้ แต่อเมริกายังเงียบผิดปรกติ ผิดมาดของผู้ที่อ้างตัวเอง และมีผู้คนก้มหัวยกให้เป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่มักจะส่งเสียงทุกครั้งที่เห็นใบตองแห้งไหว จิ๊กโก๋คุมซอยเพลิดเพลินอยู่คนเดียวมานาน 70 ปี วันดีคืนดี มีหนุ่มห้าวเดินเข้ามาในซอย ตั้งใจจะมาจัดระเบียบวินมอร์ไซด์ปากซอยเสียใหม่ เพราะมีคนไปบอกว่า ไอ้อาด เพื่อนเก่าของหนุ่มห้าว ที่ขี่มอร์ไซด์อยู่เส้นทางนี้มาตั้งนานแล้ว กำลังถูกรุม ไล่ให้ออกไปจากวิน สาเหตุเพราะไอ้อาดขี่มานานเกินไป แต่มอร์ไซด์ของไอ้อาดยังดูเอี่ยมอ่อง หนุ่มห้าวไม่พูดมากความ บอก ไอ้อาดมึงขี่ต่อไป แต่ห้ามร่วงนะมึง ต่อไปนี้ ใครรุมมึง ใครซ่ามาก กูตบกกหูร่วงอย่าว่ากูใจดำ มึงอยู่กันดีๆไม่เป็นหรือไง ว่าแล้วก็ตบกกหูไอ้ปื๊ด ลูกน้องตัวสำคัญของจิ๊กโก๋คุมซอยให้ดูเป็นอย่าง ลูกน้องถูกตบ จนกกหูบวมเป่งมา 2 เดือนกว่า แถมหนุ่มห้าวยังไม่ไปไหน ทุกเช้า 8 โมงยังมายืนกอดอกดูอยู่ปากซอย แต่จิ๊กโก๋คุมซอย ยังไม่โผล่หัวเข้ามาในซอยอีกเลยตั้งแต่ลูกน้องถูกตบกกหู ได้แต่ส่งเสียงสลับใบตองแห้งปลิว ผ่านลูกกระเป๋งหลากหน้าว่า มึงมีสิทธิอะไรมายุ่งในซอยที่กูคุมมม ๆๆๆ ซ้ำไปซ้ำมา อยู่แค่นั้น แบบนี้แปลว่าอะไรครับ แปลว่า เป็นจิ๊กโก๋พันธุ์ใบตองแห้งจริงๆ มีแต่ปาก หรือจิ๊กโก๋กำลังซุ่ม เตรียมสมัครพรรคพวก ไว้แอบเฉาะกระบานไอ้หนุ่มห้าวเอาให้หงายเก๋ง ค้างแห้งอยู่กลางทะเลทรายเสียเลย จิ๊กโก๋คุมซอยมา 70 ปี คงไม่ยอมเสียตำแหน่งให้ใครง่ายๆ กะแค่หนุ่มห้าวตบกกหูไอ้ปื้ด จิ๊กโก๋บอกไม่มีปัญหา กูมีไอ้ปื้ดเป็นแสนๆ อยู่แถบนั้น เข้าใจไหม ปั่นหัวแผลบเดียว เดี๋ยวก็ดาหน้าเข้ามาใส่ไอ้หนุ่มห้าว จนมึงนั่นแหละ จะเผ่นออกจากตะวันออกกลางไม่ทัน…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ

    ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย
    วันนี้เราขอนำเสนอ…
    ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100%

    ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง
    แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก

    เตือนก่อนนะ
    ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้
    ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน!

    ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า

    ปลากระพงทุบ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/

    ปลากระพงทุบ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/TJpZ2pJ

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ 📢 ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย วันนี้เราขอนำเสนอ… ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100% 🐟💥 ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง 🤔 แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก 😳 เตือนก่อนนะ ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้ ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม 🤪 ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย 📦✨ กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน! ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า 💛 ปลากระพงทุบ 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ ปลากระพงทุบ 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/TJpZ2pJ เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก

    ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ

    จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่

    ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

    แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า
    ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง
    ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ

    จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี
    การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก
    แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที

    ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง
    แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี
    จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม

    ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค
    เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
    แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า

    การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง
    ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน
    ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    ⚡ แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า ➡️ ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง ➡️ ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ ✅ จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี ➡️ การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก ➡️ แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที ✅ ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง ➡️ แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี ➡️ จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม ‼️ ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค ⛔ เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ⛔ แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า ‼️ การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง ⛔ ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน ⛔ ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Once a gamble in the desert, electric grid batteries are everywhere
    An early grid battery was installed in the Atacama Desert in Chile 15 years ago. Now, as prices have tumbled, they are increasingly being used around the world.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 1
    ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ….
    จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่
    เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights
    … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น
    อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้
    ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ
    ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน
    อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ
    ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก
    โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ
    นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว
    ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ)
    ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น
    แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง
    ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก
    ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง
    โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967
    และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ
    แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 1 ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ…. จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้ ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ) ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 พ.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายกัมพูชายอมรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนบริเวณชายแดนทะเล หลังฝ่ายไทยส่งสัญญาณกดดันขั้นเด็ดขาด หากไม่ดำเนินการจะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงบริเวณสะพานเกาะกง ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ
    .
    กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราดได้โดยสมบูรณ์ พร้อมเร่งเสริมฐานที่มั่นรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างเขื่อนดักตะกอนยื่นลงทะเล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ส่งผลให้ทิศทางกระแสน้ำเปลี่ยนและเกิดการกัดเซาะพื้นที่ฝั่งไทย
    .
    ฝ่ายไทยได้เปิดการเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา พร้อมแจ้งเงื่อนไขชัดเจนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวทันที โดยล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
    .
    ทั้งนี้ ฝ่ายไทยจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าการรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนความยาวประมาณ 300 เมตรจะแล้วเสร็จครบถ้วน และสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122822
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #ความมั่นคง #นาวิกโยธิน
    ฝ่ายกัมพูชายอมรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนบริเวณชายแดนทะเล หลังฝ่ายไทยส่งสัญญาณกดดันขั้นเด็ดขาด หากไม่ดำเนินการจะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงบริเวณสะพานเกาะกง ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ . กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราดได้โดยสมบูรณ์ พร้อมเร่งเสริมฐานที่มั่นรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง . เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างเขื่อนดักตะกอนยื่นลงทะเล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ส่งผลให้ทิศทางกระแสน้ำเปลี่ยนและเกิดการกัดเซาะพื้นที่ฝั่งไทย . ฝ่ายไทยได้เปิดการเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา พร้อมแจ้งเงื่อนไขชัดเจนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวทันที โดยล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาเริ่มดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา . ทั้งนี้ ฝ่ายไทยจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าการรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนความยาวประมาณ 300 เมตรจะแล้วเสร็จครบถ้วน และสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122822 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #ความมั่นคง #นาวิกโยธิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์

    รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW)

    โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ

    แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม.
    เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม.
    ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี

    PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต
    บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร
    มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย

    โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์
    ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam
    เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    🚁 รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม. ➡️ เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม. ➡️ ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี ✅ PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต ➡️ บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร ➡️ มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย ✅ โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์ ➡️ ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam ➡️ เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 5
    กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ)
    จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ)
    จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน
    จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ
    หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย
    รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด
    รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ)
    สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม
    เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่
    อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี
    ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ
    แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ
    แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ
    เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 5 กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ) จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ) จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ) สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่ อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 4

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 4
    เยเมน ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทางใต้ของซาอุดิอารเบีย มีทะเลแดงอยู่ทางทิศตะวันตก มีอ่าวเอเดนอยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน อ่าวเอเดน เป็นจุดที่มีเรือบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมากที่สุด รองจาก ช่องแคบฮอร์มุส ที่อิหร่านคุมอยู่ แม้จะเทียบกับฮอร์มุสไม่ได้ ในด้านการเป็นเส้นทางส่งน้ำมันที่แออัด แต่อเมริกาก็จะปล่อยให้ใครมาคุมอ่าวเอเดน และเยเมนไม่ได้อยู่ดี เพราะเยเมนยังมีความสำคัญในเชิงภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะในยามนี้….
    ความสำคัญของเยเมน คือสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่เรารู้กันแล้วว่า เยเมนคุมจุดรัดคอ choke point ที่ทะเลแดง Bab el-Mandeb อันเป็นเส้นทางส่งน้ำมันสำคัญของซาอุดิอารเบีย ที่จะออกมาสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อส่งให้ลูกค้าทางตะวันออกและแปซิฟิก และวิ่งขึ้นเหนือไปยังคลองสุเอซของอิยิปต์ เพื่อข้ามไปเมดิเตอร์เรเนียน ส่งให้กับลูกค้าทางยุโรป
    ความไม่สงบแถบจุดรัดคอ อาจทำให้เส้นทางไปคลองสุเอซเป็นอัมพาต รวมทั้งเส้นทางที่จะออกทางทะเลแดงด้วย เคยมีการประมาณว่า น้ำมันที่ผ่านช่องแคบนี้ไปยุโรป อเมริกาและเอเซีย ตกประมาณ 3.8 ล้านบาเรลต่อวัน
    นอกจากมีความสำคัญในด้านการส่งออกน้ำมันแล้ว ขณะนี้เยเมนยังอยู่ในสภาพที่เหมือนฝังไว้ด้วยระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกวัน เยเมนเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองมากถึง 26 ล้านคน และ 63% ของพลเมือง เป็นคนวัย 20 กว่า แบ่งเป็นสุนนี่ 65 % เป็นชีอะ 35 % ทั้ง 2 ฝ่ายยากจน กว่าครึ่งไม่มีงานทำ จึงเป็นเรื่องไม่ยาก ที่เยเมนกำลังถูกใช้เป็นสายชนวน ให้เกิดสงครามระหว่างนิกายของอิสลาม
    ถ้าสายชนวนนี้จุดติด เยเมนจะมีสภาพไม่ต่างกับอิรัคหรือซีเรีย และด้วยการมีอาณาเขตที่ยาวติดกับซาอุดิอารเบียถึงประมาณ 1 พันกิโลเมตร เยเมนที่เละวุ่นวาย คงไม่ใช่สิ่งที่ซาอุดิอารเบียต้องการ แต่ไม่แน่ว่า เป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการหรือไม่
    แต่เดิม อเมริกาอาจต้องการเยเมนที่เละ และซาอุดิอารเบียที่เละ ตามทฤษฏีที่น่าเชื่อว่า อเมริกาตั้งใจสร้างสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยการสร้างเรื่องต่างๆ ตั้งแต่กำจัดผู้นำเผด็จการ การสร้างเทศกาลอาหรับสปริง การสร้างผู้ก่อการร้ายสาระพัดพันธุ์ จนถึงสงครามระหว่างนิกาย เพื่อจะเอาแต่ปั้มน้ำมัน ไม่เอาคน
    แต่ตะวันออกกลาง ในวันที่อเมริกาคิดจะเอาแต่ปั้ม ไม่เอาคน กับตะวันออกกลางหลังวันนี้ ต่างกันคนละเรื่องแล้ว
    ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.2015 วันที่คุณพี่ปูติน ส่งฝูงบินและกองเรือ เข้าไปในซีเรีย เพื่อจะไปช่วยซีเรียปราบกบฏและผู้ก่อการร้าย จะพันธุ์ไหนก็ตาม มันเป็นวันที่อำนาจการต่อรองในโลกนี้ เปลี่ยนจนเกือบจะกลับหลังหัน ถ้าเป็นวงการพนันขันต่อ เจ้ามืออาจเจ๊งเป็นแถวๆ
    วันนั้น ทำเนียบขาวน่าจะเงียบผิดปรกติ มันคงเกินฝรั่งออกงิ้ว อเมริการู้ว่า รัสเซียฟื้นเร็วเกิดคิด จีนโตเร็วเกินคาด และอิหร่านฉลาดกว่าที่(อเมริกา)
    จะหลอกซ้ำ และอเมริการู้ว่า ทั้ง 3 เขี้ยว จับมือกัน อเมริกาจึงวางแผนสาระพัด ที่จะเสี้ยม จะแยง จะอะไรก็ได้ ที่ให้ 3 เขี้ยวหลุดมือกัน อเมริกาเสียเวลาหลอกล่อเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์อยู่เกือบ 2 ปี และระหว่างนั้น อเมริกาก็วางแผนทำลายซีเรีย จุดสำคัญของ 3 เขี้ยวในตะวันออกกลาง
    แต่อเมริกา นึกไม่ถึงว่า แผนที่อเมริกาคิด และแผนที่อเมริกาจะใช้ ก็มีคนอื่นคิด และใช้เป็น และใช้ได้ผลกว่าอเมริกา วันนี้ ถ้าอเมริกาทิ้งคนในตะวันออกกลาง เพื่อเอาแต่ปั้ม รับรองมีคนเอาปั้มไปก่อนอเมริกาแน่
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 4 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 4 เยเมน ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทางใต้ของซาอุดิอารเบีย มีทะเลแดงอยู่ทางทิศตะวันตก มีอ่าวเอเดนอยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน อ่าวเอเดน เป็นจุดที่มีเรือบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมากที่สุด รองจาก ช่องแคบฮอร์มุส ที่อิหร่านคุมอยู่ แม้จะเทียบกับฮอร์มุสไม่ได้ ในด้านการเป็นเส้นทางส่งน้ำมันที่แออัด แต่อเมริกาก็จะปล่อยให้ใครมาคุมอ่าวเอเดน และเยเมนไม่ได้อยู่ดี เพราะเยเมนยังมีความสำคัญในเชิงภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะในยามนี้…. ความสำคัญของเยเมน คือสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่เรารู้กันแล้วว่า เยเมนคุมจุดรัดคอ choke point ที่ทะเลแดง Bab el-Mandeb อันเป็นเส้นทางส่งน้ำมันสำคัญของซาอุดิอารเบีย ที่จะออกมาสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อส่งให้ลูกค้าทางตะวันออกและแปซิฟิก และวิ่งขึ้นเหนือไปยังคลองสุเอซของอิยิปต์ เพื่อข้ามไปเมดิเตอร์เรเนียน ส่งให้กับลูกค้าทางยุโรป ความไม่สงบแถบจุดรัดคอ อาจทำให้เส้นทางไปคลองสุเอซเป็นอัมพาต รวมทั้งเส้นทางที่จะออกทางทะเลแดงด้วย เคยมีการประมาณว่า น้ำมันที่ผ่านช่องแคบนี้ไปยุโรป อเมริกาและเอเซีย ตกประมาณ 3.8 ล้านบาเรลต่อวัน นอกจากมีความสำคัญในด้านการส่งออกน้ำมันแล้ว ขณะนี้เยเมนยังอยู่ในสภาพที่เหมือนฝังไว้ด้วยระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกวัน เยเมนเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองมากถึง 26 ล้านคน และ 63% ของพลเมือง เป็นคนวัย 20 กว่า แบ่งเป็นสุนนี่ 65 % เป็นชีอะ 35 % ทั้ง 2 ฝ่ายยากจน กว่าครึ่งไม่มีงานทำ จึงเป็นเรื่องไม่ยาก ที่เยเมนกำลังถูกใช้เป็นสายชนวน ให้เกิดสงครามระหว่างนิกายของอิสลาม ถ้าสายชนวนนี้จุดติด เยเมนจะมีสภาพไม่ต่างกับอิรัคหรือซีเรีย และด้วยการมีอาณาเขตที่ยาวติดกับซาอุดิอารเบียถึงประมาณ 1 พันกิโลเมตร เยเมนที่เละวุ่นวาย คงไม่ใช่สิ่งที่ซาอุดิอารเบียต้องการ แต่ไม่แน่ว่า เป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการหรือไม่ แต่เดิม อเมริกาอาจต้องการเยเมนที่เละ และซาอุดิอารเบียที่เละ ตามทฤษฏีที่น่าเชื่อว่า อเมริกาตั้งใจสร้างสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยการสร้างเรื่องต่างๆ ตั้งแต่กำจัดผู้นำเผด็จการ การสร้างเทศกาลอาหรับสปริง การสร้างผู้ก่อการร้ายสาระพัดพันธุ์ จนถึงสงครามระหว่างนิกาย เพื่อจะเอาแต่ปั้มน้ำมัน ไม่เอาคน แต่ตะวันออกกลาง ในวันที่อเมริกาคิดจะเอาแต่ปั้ม ไม่เอาคน กับตะวันออกกลางหลังวันนี้ ต่างกันคนละเรื่องแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.2015 วันที่คุณพี่ปูติน ส่งฝูงบินและกองเรือ เข้าไปในซีเรีย เพื่อจะไปช่วยซีเรียปราบกบฏและผู้ก่อการร้าย จะพันธุ์ไหนก็ตาม มันเป็นวันที่อำนาจการต่อรองในโลกนี้ เปลี่ยนจนเกือบจะกลับหลังหัน ถ้าเป็นวงการพนันขันต่อ เจ้ามืออาจเจ๊งเป็นแถวๆ วันนั้น ทำเนียบขาวน่าจะเงียบผิดปรกติ มันคงเกินฝรั่งออกงิ้ว อเมริการู้ว่า รัสเซียฟื้นเร็วเกิดคิด จีนโตเร็วเกินคาด และอิหร่านฉลาดกว่าที่(อเมริกา) จะหลอกซ้ำ และอเมริการู้ว่า ทั้ง 3 เขี้ยว จับมือกัน อเมริกาจึงวางแผนสาระพัด ที่จะเสี้ยม จะแยง จะอะไรก็ได้ ที่ให้ 3 เขี้ยวหลุดมือกัน อเมริกาเสียเวลาหลอกล่อเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์อยู่เกือบ 2 ปี และระหว่างนั้น อเมริกาก็วางแผนทำลายซีเรีย จุดสำคัญของ 3 เขี้ยวในตะวันออกกลาง แต่อเมริกา นึกไม่ถึงว่า แผนที่อเมริกาคิด และแผนที่อเมริกาจะใช้ ก็มีคนอื่นคิด และใช้เป็น และใช้ได้ผลกว่าอเมริกา วันนี้ ถ้าอเมริกาทิ้งคนในตะวันออกกลาง เพื่อเอาแต่ปั้ม รับรองมีคนเอาปั้มไปก่อนอเมริกาแน่ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 3
    เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น
    ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง
    ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้
    และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน
    ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์
    ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น
    ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่
    แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่….
    อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ
    ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์
    แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา
    (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ )
    การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง
    ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ
    (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ)
    ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร…
    ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง
    แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 3 เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้ และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์ ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่ แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่…. อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ ) การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ) ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร… ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นร้านเงียบๆ ฟาดเรียบนะเคิฟราชาข้าวผัดปู(ทะเลซีฟู้ด) #อุดมสุข #ร้านอาหารใกล้ฉัน #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    🧡เห็นร้านเงียบๆ ฟาดเรียบนะเคิฟ✨ราชาข้าวผัดปู(ทะเลซีฟู้ด)🥰 #อุดมสุข #ร้านอาหารใกล้ฉัน #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา สร้าง ปี2540 เนื้อผงพุทธคุณ // พระดีพิธีใหญ๋ เสกสองวัด ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านฉิ้นสร้าง ปลุกเสก 2 วัด 2วาระ (วัดช้างให้-วัดเมืองยะลา) โดยมี อาจารย์นองวัดทรายขาว อาจารย์ทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น โชติโก เจ้าอาวาสวัดเมืองผู้จัดสร้าง และเกจิสายเขาอ้อ ...

    เกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้
    1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง
    2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
    3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว
    4. พ่อท่านสุก วัดตุยง
    5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่
    6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา
    8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา

    “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ **

    ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา สร้าง ปี2540 เนื้อผงพุทธคุณ // พระดีพิธีใหญ๋ เสกสองวัด ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านฉิ้นสร้าง ปลุกเสก 2 วัด 2วาระ (วัดช้างให้-วัดเมืองยะลา) โดยมี อาจารย์นองวัดทรายขาว อาจารย์ทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น โชติโก เจ้าอาวาสวัดเมืองผู้จัดสร้าง และเกจิสายเขาอ้อ ... เกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ ** ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปลาทะเล ปลาข้าวสาร แบบยังไม่ทอด … อร้อย อร่อย…สะอาด ถูกหลักอนามัย … ทอดทาน เคี้ยวทานได้ทั้งตัว.. อร่อย ส่งไว ได้ของคุณภาพ ต้องร้านกินจุ๊บจิ๊บค่าาา

    ปลาข้าวสาร ใน Tiktok
    https://vt.tiktok.com/ZSABRmQnS/

    ปลาข้าวสาร ใน Shopee
    https://s.shopee.co.th/3LGs3t1n7B

    ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยยยยย

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ

    ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง

    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา

    #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา
    ปลาทะเล ปลาข้าวสาร แบบยังไม่ทอด … อร้อย อร่อย…สะอาด ถูกหลักอนามัย … ทอดทาน เคี้ยวทานได้ทั้งตัว.. อร่อย ส่งไว ได้ของคุณภาพ ต้องร้านกินจุ๊บจิ๊บค่าาา ปลาข้าวสาร ใน Tiktok https://vt.tiktok.com/ZSABRmQnS/ ปลาข้าวสาร ใน Shopee https://s.shopee.co.th/3LGs3t1n7B ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยยยยย 😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8
    “ข่าวลือ ข่าวลวง”

    ตอน 8

    เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว

    อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป

    เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย

    แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้….

    เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย

    สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน

    เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด

    สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ

    แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ

    อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน

    การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ

    ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง

    …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก…
    และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว

    และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย

    สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย

    การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง…

    อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง….

    นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน

    และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ

    …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ

    ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น…

    ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน
    ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป…

    ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 8 เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้…. เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก… และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง… อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง…. นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น… ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป… ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เสธ.ทร.” ชี้แจงชัด กองทัพเรือไม่ได้ปฏิบัติการยึดเกาะกงหรือเกาะยอ ตามกระแสข่าวที่เผยแพร่ออกมา แต่เป็นการดำเนินการทำลายภัยคุกคาม เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อกำลังพลและประชาชนไทยในพื้นที่
    .
    พลเรือเอก ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารเรือ ระบุว่า สิ่งใดที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย จะต้องถูกทำลาย โดยยึดหลักการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยเป็นสำคัญ
    .
    ขณะเดียวกัน ที่ประชุมสภากลาโหมได้เห็นชอบให้ขยายพื้นที่ควบคุมอาณาเขตทางทะเลเพิ่มอีก 5 จังหวัด คือ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี และระยอง ในรัศมี 12 ไมล์ทะเล เพื่อสกัดการขนส่งน้ำมันและยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา
    .
    มาตรการดังกล่าวย้ำชัดว่า ควบคุมเฉพาะเรือของไทยเท่านั้น โดยจะดำเนินการในกรอบเวลาที่เหมาะสม และไม่กระทบผู้ประกอบการ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121749
    .
    #News1live #News1 #กองทัพเรือ #เสธทร #สภากลาโหม #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงทางทะเล
    #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    “เสธ.ทร.” ชี้แจงชัด กองทัพเรือไม่ได้ปฏิบัติการยึดเกาะกงหรือเกาะยอ ตามกระแสข่าวที่เผยแพร่ออกมา แต่เป็นการดำเนินการทำลายภัยคุกคาม เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อกำลังพลและประชาชนไทยในพื้นที่ . พลเรือเอก ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารเรือ ระบุว่า สิ่งใดที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย จะต้องถูกทำลาย โดยยึดหลักการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยเป็นสำคัญ . ขณะเดียวกัน ที่ประชุมสภากลาโหมได้เห็นชอบให้ขยายพื้นที่ควบคุมอาณาเขตทางทะเลเพิ่มอีก 5 จังหวัด คือ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี และระยอง ในรัศมี 12 ไมล์ทะเล เพื่อสกัดการขนส่งน้ำมันและยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา . มาตรการดังกล่าวย้ำชัดว่า ควบคุมเฉพาะเรือของไทยเท่านั้น โดยจะดำเนินการในกรอบเวลาที่เหมาะสม และไม่กระทบผู้ประกอบการ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121749 . #News1live #News1 #กองทัพเรือ #เสธทร #สภากลาโหม #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงทางทะเล #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เสธ.ทร.” ยัน ไทย ไม่ยึด เกาะกง-เกาะยอ แค่ทำลายภัยคุกคาม เผย “สภากลาโหม” ประกาศ เพิ่ม 5 จังหวัด จำกัดอาณาเขตทางทะเล 12 ไมล์ สะกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย เข้ากัมพูชา ย้ำ เฉพาะเรือไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000121754

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “เสธ.ทร.” ยัน ไทย ไม่ยึด เกาะกง-เกาะยอ แค่ทำลายภัยคุกคาม เผย “สภากลาโหม” ประกาศ เพิ่ม 5 จังหวัด จำกัดอาณาเขตทางทะเล 12 ไมล์ สะกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย เข้ากัมพูชา ย้ำ เฉพาะเรือไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000121754 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • Livorno Cruise Port — ประตูสู่ฟลอเรนซ์และปิซา เมืองศิลปะระดับโลกของอิตาลี
    เมืองลิโวร์โน เป็นท่าเรือสำคัญบนชายฝั่ง Tuscany
    และเป็น พอร์ตหลักของเรือสำราญยุโรป เช่น MSC, Costa, Royal Caribbean, Norwegian
    ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ Top Bucket List ของอิตาลี ทั้งฟลอเรนซ์และหอเอนปิซา!

    Terrazza Mascagni เทอราซซา มาสคาญี
    ลานจัตุรัสลายกระเบื้องหมากรุกสีขาว-ดำริมทะเล สร้างในช่วงปี 1920 ตั้งชื่อตามนักประพันธ์โอเปร่า Pietro Mascagni ชาวลิวอร์โน จุดเด่นคือ แนวราวระเบียงโค้งกว่า 4,000 เสา

    Venezia Nuova เวนิสใหม่
    ย่านนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็น ศูนย์กลางการค้าและท่าเรือในสมัยเมดิชี มีคลองที่เชื่อมต่อไปยังทะเล คล้ายเวนิส

    Fortezza Nuova ป้อมปราการนูโวว่า
    สร้างขึ้นโดยตระกูล Medici ในปี 1590 เพื่อป้องกันเมือง รูปแบบป้อมเป็น ดาวแปดแฉก มีคูน้ำรอบๆ และสะพานหิน ภายในเป็นสวนสาธารณะ

    Chiesa di San Ferdinando โบสถ์ซานเฟอร์ดินานโด
    สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Giovanni Battista Foggini ตั้งชื่อตามนักบุญ Saint Ferdinand และยังเป็นการสดุดีดยุคเฟอร์ดินานโดด้วย

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #LivornoCruisePort #Italy #TerrazzaMascagni #VeneziaNuova #FortezzaNuova #ChiesadiSanFerdinando #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    ⚓ Livorno Cruise Port — ประตูสู่ฟลอเรนซ์และปิซา เมืองศิลปะระดับโลกของอิตาลี 🌟 เมืองลิโวร์โน เป็นท่าเรือสำคัญบนชายฝั่ง Tuscany และเป็น พอร์ตหลักของเรือสำราญยุโรป เช่น MSC, Costa, Royal Caribbean, Norwegian ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ Top Bucket List ของอิตาลี ทั้งฟลอเรนซ์และหอเอนปิซา! 🇮🇹✨ ✅ Terrazza Mascagni ✨ เทอราซซา มาสคาญี ลานจัตุรัสลายกระเบื้องหมากรุกสีขาว-ดำริมทะเล สร้างในช่วงปี 1920 ตั้งชื่อตามนักประพันธ์โอเปร่า Pietro Mascagni ชาวลิวอร์โน จุดเด่นคือ แนวราวระเบียงโค้งกว่า 4,000 เสา ✅ Venezia Nuova ✨ เวนิสใหม่ ย่านนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็น ศูนย์กลางการค้าและท่าเรือในสมัยเมดิชี มีคลองที่เชื่อมต่อไปยังทะเล คล้ายเวนิส ✅ Fortezza Nuova ✨ ป้อมปราการนูโวว่า สร้างขึ้นโดยตระกูล Medici ในปี 1590 เพื่อป้องกันเมือง รูปแบบป้อมเป็น ดาวแปดแฉก มีคูน้ำรอบๆ และสะพานหิน ภายในเป็นสวนสาธารณะ ✅ Chiesa di San Ferdinando ✨ โบสถ์ซานเฟอร์ดินานโด สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Giovanni Battista Foggini ตั้งชื่อตามนักบุญ Saint Ferdinand และยังเป็นการสดุดีดยุคเฟอร์ดินานโดด้วย ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #LivornoCruisePort #Italy #TerrazzaMascagni #VeneziaNuova #FortezzaNuova #ChiesadiSanFerdinando #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2568 ประกาศให้ ยาเฟนทานิล ถูกจัดเป็น “อาวุธทำลายล้างสูง” (Weapon of Mass Destruction – WMD) อย่างเป็นทางการ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาเสพติดถูกยกระดับสถานะเทียบเท่าอาวุธเคมี
    .
    ทรัมป์ระบุว่า เฟนทานิลไม่ใช่แค่วิกฤตสาธารณสุข แต่เป็น ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ หลังคร่าชีวิตชาวอเมริกันจากการใช้ยาเกินขนาดปีละหลายหมื่นราย พร้อมกล่าวว่าแก๊งค้ายาเสพติดกำลังพยายาม “ทำลายประเทศสหรัฐฯ จากภายใน”
    .
    การจัดสถานะใหม่นี้เปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขยายอำนาจการปราบปราม ทั้งด้านกฎหมาย ความมั่นคง และข่าวกรอง โดยอนุญาตให้กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) และหน่วยข่าวกรอง ใช้เครื่องมือระดับเดียวกับการต่อต้านการแพร่กระจายอาวุธร้ายแรง เพื่อจัดการกับเครือข่ายค้ายา
    .
    ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้กำหนดให้ แก๊งค้ายาเสพติดเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ และตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีปฏิบัติการโจมตีเรือต้องสงสัยขนยาในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิกมากกว่า 20 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 ราย
    .
    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทางทหาร โดยกังวลเรื่องความชอบธรรมทางกฎหมายและความเสี่ยงขยายความขัดแย้งข้ามพรมแดน
    .
    ทรัมป์ยังส่งสัญญาณพร้อม ยกระดับปฏิบัติการบนภาคพื้นดิน ในประเทศต้นทางและเส้นทางค้ายา เช่น เม็กซิโก โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา โดยชี้ว่า เฟนทานิลที่ระบาดในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ผลิตในเม็กซิโก ขณะที่สารเคมีตั้งต้นจำนวนมากมาจากจีน
    .
    คำสั่งดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2568 เวลา 04.59 น. และสะท้อนท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ ที่มองสงครามยาเสพติดเป็น “สงครามความมั่นคงระดับชาติ” มากกว่าปัญหาสุขภาพเพียงอย่างเดียว
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000120874
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #เฟนทานิล #ยาเสพติด #อาวุธทำลายล้างสูง #WMD #สงครามยา #ความมั่นคงสหรัฐ
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2568 ประกาศให้ ยาเฟนทานิล ถูกจัดเป็น “อาวุธทำลายล้างสูง” (Weapon of Mass Destruction – WMD) อย่างเป็นทางการ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาเสพติดถูกยกระดับสถานะเทียบเท่าอาวุธเคมี . ทรัมป์ระบุว่า เฟนทานิลไม่ใช่แค่วิกฤตสาธารณสุข แต่เป็น ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ หลังคร่าชีวิตชาวอเมริกันจากการใช้ยาเกินขนาดปีละหลายหมื่นราย พร้อมกล่าวว่าแก๊งค้ายาเสพติดกำลังพยายาม “ทำลายประเทศสหรัฐฯ จากภายใน” . การจัดสถานะใหม่นี้เปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขยายอำนาจการปราบปราม ทั้งด้านกฎหมาย ความมั่นคง และข่าวกรอง โดยอนุญาตให้กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) และหน่วยข่าวกรอง ใช้เครื่องมือระดับเดียวกับการต่อต้านการแพร่กระจายอาวุธร้ายแรง เพื่อจัดการกับเครือข่ายค้ายา . ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้กำหนดให้ แก๊งค้ายาเสพติดเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ และตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีปฏิบัติการโจมตีเรือต้องสงสัยขนยาในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิกมากกว่า 20 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 ราย . อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทางทหาร โดยกังวลเรื่องความชอบธรรมทางกฎหมายและความเสี่ยงขยายความขัดแย้งข้ามพรมแดน . ทรัมป์ยังส่งสัญญาณพร้อม ยกระดับปฏิบัติการบนภาคพื้นดิน ในประเทศต้นทางและเส้นทางค้ายา เช่น เม็กซิโก โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา โดยชี้ว่า เฟนทานิลที่ระบาดในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ผลิตในเม็กซิโก ขณะที่สารเคมีตั้งต้นจำนวนมากมาจากจีน . คำสั่งดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2568 เวลา 04.59 น. และสะท้อนท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ ที่มองสงครามยาเสพติดเป็น “สงครามความมั่นคงระดับชาติ” มากกว่าปัญหาสุขภาพเพียงอย่างเดียว . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000120874 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #เฟนทานิล #ยาเสพติด #อาวุธทำลายล้างสูง #WMD #สงครามยา #ความมั่นคงสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝนทำลายสถิติในดินแดนแห้งแล้ง

    หลังฝนตกหนักทำลายสถิติใน Death Valley สหรัฐฯ ทะเลสาบยุคน้ำแข็ง Lake Manly ได้กลับมาปรากฏอีกครั้ง แม้จะตื้นเพียงระดับข้อเท้า แต่ถือเป็นการฟื้นคืนของภูมิทัศน์ที่หายไปกว่า 10,000 ปี

    Death Valley ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ได้รับฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) และเฉพาะเดือนพฤศจิกายนก็มีฝนถึง 1.76 นิ้ว ทำลายสถิติเดิมที่ 1.7 นิ้ว ปริมาณฝนนี้เทียบเท่ากับเกือบหนึ่งปีเต็มในเวลาเพียงเดือนเดียว

    การกลับมาของ Lake Manly
    Lake Manly ตั้งอยู่ใน Badwater Basin จุดต่ำสุดของทวีปอเมริกาเหนือ เคยมีความลึกกว่า 300 เมตรและทอดยาวเกือบ 100 ไมล์เมื่อ 128,000–186,000 ปีก่อน ปัจจุบันแม้จะกลับมาเพียงน้ำตื้น ๆ ที่ “สูงไม่เกินข้อเท้า” แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง

    ผลกระทบต่อระบบนิเวศ
    นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่าปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติจะส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าอย่างไร แม้ฝนจะช่วยให้พืชงอกงาม แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นอุณหภูมิและดินที่ต้องพิจารณา ขณะเดียวกันถนนหลายสายในอุทยานถูกน้ำท่วมและเศษซากปิดกั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังในการเดินทาง

    สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า สภาพอากาศสุดขั้วจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อโลกยังคงร้อนขึ้น ภูมิทัศน์ที่เราเห็นในปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่นเดียวกับ Death Valley ที่เคยเป็นทะเลสาบใหญ่ในยุคน้ำแข็ง และวันนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้เพียงชั่วคราว

    สรุปสาระสำคัญ
    ปริมาณฝนทำลายสถิติ
    Death Valley ได้ฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในฤดูใบไม้ร่วง และ 1.76 นิ้วในเดือนพฤศจิกายน

    การกลับมาของ Lake Manly
    ทะเลสาบยุคน้ำแข็งกลับมา แม้ตื้นเพียงระดับข้อเท้า

    ผลกระทบต่อระบบนิเวศ
    อาจส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ และถนนหลายสายถูกน้ำท่วม

    สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    เหตุการณ์นี้สะท้อนความถี่และความรุนแรงของสภาพอากาศสุดขั้ว

    ความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยว
    ถนนหลายสายในอุทยานไม่สามารถสัญจรได้จากเศษซากและน้ำท่วม

    ความไม่แน่นอนทางนิเวศวิทยา
    ยังไม่ชัดเจนว่าปริมาณฝนจะส่งผลต่อการออกดอกของพืชในปีหน้าอย่างไร

    https://www.sciencealert.com/ice-age-lake-reappears-in-death-valley-following-record-rains
    🌧️ ฝนทำลายสถิติในดินแดนแห้งแล้ง หลังฝนตกหนักทำลายสถิติใน Death Valley สหรัฐฯ ทะเลสาบยุคน้ำแข็ง Lake Manly ได้กลับมาปรากฏอีกครั้ง แม้จะตื้นเพียงระดับข้อเท้า แต่ถือเป็นการฟื้นคืนของภูมิทัศน์ที่หายไปกว่า 10,000 ปี Death Valley ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งที่สุดในโลก ได้รับฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน) และเฉพาะเดือนพฤศจิกายนก็มีฝนถึง 1.76 นิ้ว ทำลายสถิติเดิมที่ 1.7 นิ้ว ปริมาณฝนนี้เทียบเท่ากับเกือบหนึ่งปีเต็มในเวลาเพียงเดือนเดียว 🏞️ การกลับมาของ Lake Manly Lake Manly ตั้งอยู่ใน Badwater Basin จุดต่ำสุดของทวีปอเมริกาเหนือ เคยมีความลึกกว่า 300 เมตรและทอดยาวเกือบ 100 ไมล์เมื่อ 128,000–186,000 ปีก่อน ปัจจุบันแม้จะกลับมาเพียงน้ำตื้น ๆ ที่ “สูงไม่เกินข้อเท้า” แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง 🌼 ผลกระทบต่อระบบนิเวศ นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่าปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติจะส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าอย่างไร แม้ฝนจะช่วยให้พืชงอกงาม แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นอุณหภูมิและดินที่ต้องพิจารณา ขณะเดียวกันถนนหลายสายในอุทยานถูกน้ำท่วมและเศษซากปิดกั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังในการเดินทาง 🌍 สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า สภาพอากาศสุดขั้วจะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อโลกยังคงร้อนขึ้น ภูมิทัศน์ที่เราเห็นในปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่นเดียวกับ Death Valley ที่เคยเป็นทะเลสาบใหญ่ในยุคน้ำแข็ง และวันนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้เพียงชั่วคราว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปริมาณฝนทำลายสถิติ ➡️ Death Valley ได้ฝนมากกว่า 2.41 นิ้วในฤดูใบไม้ร่วง และ 1.76 นิ้วในเดือนพฤศจิกายน ✅ การกลับมาของ Lake Manly ➡️ ทะเลสาบยุคน้ำแข็งกลับมา แม้ตื้นเพียงระดับข้อเท้า ✅ ผลกระทบต่อระบบนิเวศ ➡️ อาจส่งผลต่อดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ และถนนหลายสายถูกน้ำท่วม ✅ สัญญาณจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ➡️ เหตุการณ์นี้สะท้อนความถี่และความรุนแรงของสภาพอากาศสุดขั้ว ‼️ ความเสี่ยงต่อการท่องเที่ยว ⛔ ถนนหลายสายในอุทยานไม่สามารถสัญจรได้จากเศษซากและน้ำท่วม ‼️ ความไม่แน่นอนทางนิเวศวิทยา ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าปริมาณฝนจะส่งผลต่อการออกดอกของพืชในปีหน้าอย่างไร https://www.sciencealert.com/ice-age-lake-reappears-in-death-valley-following-record-rains
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Ice Age Lake Reappears in Death Valley Following Record Rains
    Death Valley, part of the Mojave Desert stretching across California and Nevada, is known for its extreme weather – but in recent weeks, it has broken records for rain rather than high temperatures.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts