• คลิปหาดูยาก!!! ส่งความช่วยเหลือผ่านเฮลิคอปเตอร์ (25/11/68)
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #เฮลิคอปเตอร์ #กู้ภัย #น้ำท่วม #อุทกภัย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    คลิปหาดูยาก!!! ส่งความช่วยเหลือผ่านเฮลิคอปเตอร์ (25/11/68) . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #เฮลิคอปเตอร์ #กู้ภัย #น้ำท่วม #อุทกภัย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กองทัพเรือส่งเรือ ร.ล.จักรีนฤเบศร พร้อมเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกเดินทางคืนนี้ (25 พ.ย.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ หลังสถานการณ์หลายจังหวัดยังวิกฤต มีประชาชนจำนวนมากติดค้าง รอการอพยพ และต้องการเสบียงด่วน

    ภารกิจเร่งด่วนของกองทัพเรือประกอบด้วย
    - ลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังพื้นที่เข้าถึงยาก
    - อพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง
    - สนับสนุนการฟื้นฟูและประเมินความเสียหาย

    เปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นได้ที่ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ โทร. 02-475-3023
    นาวาโท ประทีป ศรีโหมดสุข โทร. 089-605-8812
    เรือเอก เอนก ศิริพจนาทิพย์ โทร. 061-872-6972
    เรือโท ชลกร เหล่าใหญ่ โทร. 061-819-4592

    อ่านต่อ…https://news1live.com/detail/9680000112596

    #อุทกภัยใต้ #กองทัพเรือ #จักรีนฤเบศร #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #News1live #News1
    กองทัพเรือส่งเรือ ร.ล.จักรีนฤเบศร พร้อมเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกเดินทางคืนนี้ (25 พ.ย.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ หลังสถานการณ์หลายจังหวัดยังวิกฤต มีประชาชนจำนวนมากติดค้าง รอการอพยพ และต้องการเสบียงด่วน • ภารกิจเร่งด่วนของกองทัพเรือประกอบด้วย - ลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังพื้นที่เข้าถึงยาก - อพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง - สนับสนุนการฟื้นฟูและประเมินความเสียหาย • เปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นได้ที่ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ โทร. 02-475-3023 นาวาโท ประทีป ศรีโหมดสุข โทร. 089-605-8812 เรือเอก เอนก ศิริพจนาทิพย์ โทร. 061-872-6972 เรือโท ชลกร เหล่าใหญ่ โทร. 061-819-4592 • อ่านต่อ…https://news1live.com/detail/9680000112596 • #อุทกภัยใต้ #กองทัพเรือ #จักรีนฤเบศร #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #News1live #News1
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 2
    “ซามูไรแบกถาด”

    ตอน 2

    หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จเมื่อปลายเดือนเมษายน คุณพี่อาเบะ ก็รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น แกต้องมาจัดการเแก้ไข เรื่องภายในของญี่ปุ่นอีกหลายเรื่อง เพื่อให้บทบาทของหัวหมู่ทะลวงฟัน ดำเนินการได้ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ใน Grand Strategy อย่างเรียบร้อยโดยไม่มีอุปสรรค รัฐบาลของคุณพี่อาเบะ ต้องเสนอร่างกฏหมาย 2 ฉบับเข้าสภา มันเป็นกฏหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศทั้ง 2 ฉบับ

    กฏหมายฉบับหนึ่ง จะเป็นการแก้ไข กฏหมายอีก 10 ฉบับ ที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อยกเลิกข้อจำกัด เกี่ยวกับการปกป้องตนเองของญี่ปุ่น Self Defence Forces (SDF) และ สิทธิที่จะใช้กองกำลังของประเทศ ช่วยเหลือประเทศ “อื่น” ที่ถูกโจมตี “ใน” อาณาเขตของญี่ปุ่น ส่วนกฏหมายอีกฉบับ เป็นการสร้างอำนาจให้กับรัฐบาล ที่จะเอากองกำลังของประเทศ ไปใช้ต่อสู้ “นอก” อาณาเขตของญี่ปุ่นได้ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็ทำตามใบสั่งโดยไม่เกี่ยง ไม่งอน น่ารักซะไม่มีล่ะ

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพของญี่ปุ่นทั้งหมด ถูกให้ยกเลิก และอเมริกา โดยนายพลดักกลาส แมคอาเธอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นแปซิฟิก ก็จัดการให้ญี่ปุ่น จัดทำรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1947 และมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ เขียนไว้อย่างสวยหรู ตามถ้อยคำ ที่กำกับโดยท่านนายพล อ่านกันให้ซึ้งนะครับ

    ” ด้วยความปรารถนาอย่างจริงใจ ที่จะให้เกิดสันติภาพที่มีแบบแผนขึ้นในสากล เราประชาชนชาวญี่ปุ่น จึงขอปฏิเสธตลอดกาล ต่อการใช้อำนาจโดยชาติใดและการข่มขู่ใด หรือการใช้กำลังใด เพื่อตัดสินข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ และเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ ดังกล่าวข้างต้น เราจะไม่ดำรงกองกำลัง ไม่ว่า ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมทั้งไม่สร้างสงครามใด และจะไม่ถือสิทธิใดของรัฐ ที่จะก่อสงคราม”
    (“Aspiring sincerely to an international peace based on order, the Japanese people forever renounce war as a sovereign right of the nation and the threat or use of force as means of settling international disputes. In order to accomplish the aim of the preceding paragraph, land, sea and airforces, as well as other war potential, will never be maintained. The right of belligerency of the state will not be recognized.”)

    “ตลอดกาล” หรือ forever ของญี่ปุ่น ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก

    เมื่อเกิดสงครามเย็น และสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นก็ชักหน้าจ๋อย ขอผมมีกองกำลังไว้ป้องกันประเทศสักหน่อย ได้ไหมครับท่านนายพล การแสดงความปรารถนา อย่างตลอดกาลของญี่ปุ่น ตามมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการออกกฏหมายใน ปี ค.ศ.1954 ให้ญี่ปุ่นสามารถมีกองกำลังเพียงพอ ที่จะดูแลปกป้องตัวเองได้ Self Defence Forces (SDF) หลังจากนั้น ญี่ปุ่นพยายามแก้รัฐธรรมนูญ มาตรานี้มาหลายครั้ง เพื่อขยายกองกำลังขึ้นอีก แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำสำเร็จ เพราะประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุน ชาวญี่ปุ่นยังเข็ดขยาดกับสงคราม

    แต่ครั้งนี้ นายอาเบะไม่รู้ไปกินอะไรมา กำลังภายในสูงส่งมาก กฏหมายทั้ง 2 ฉบับ ที่จะนำทางไปสู่การแก้มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นด้วยนั้น สภาผู้แทนของญี่ปุ่น ว่าง่ายผ่านร่างกฏหมายทั้ง 2 ฉบับนี้เรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้เอง กฏหมายนี้ยังจะต้องส่งเข้าสภาสูงเพื่อพิจารณาด้วย โดยมีกำหนดการพิจารณาในฤดูร้อนของญี่ปุ่น (ประมาณเดือนกรกฏาคม) ข่าวว่า เดิมสภาสูงของญี่ปุ่น จะปิดสมัยประชุม สิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แต่เนื่องจากจะต้องผ่านกฏหมายสำคัญนี้ จึงจะมีการยืดสมัยประชุมออกไป เพื่อรอพิจารณากฏหมายดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น เพื่อให้กองทัพของญี่ปุ่นร่อนไปทำทั่วโลกได้
    ทั้งหมดนี้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณพี่อาเบะ ทุกอย่างเดินหน้าตามใบสั่ง สภาจะปิด ก็เปิดได้ แหม… ทำไมมันว่าง่ายกันยังนี้หนอ ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักจำมั่งหรือไร เขาทิ้งบอมบ์จนประชาชนคนชาติเดียวกันตายหมู่ที่ละเป็นแสนๆ นี่เขาหลอกเอาขึ้นแท่นเป็นหัวหมู่ ให้ไปตายแทน ไม่ใช่แต่ในเอเซีย ในตะวันออกกลาง ก็อาจจะต้องไปล้างปั้ม ชิงปั้ม ให้เขา ก็ยังรีบร้อนเดินหน้าทำให้เขาอีก เออ ผมละงงจริงๆ บุญหนักหนา ที่มันตัดขาดเรา ไม่ต้องเป็นขี้ข้า หัวซุกหัวซุนวิ่งรับใช้มัน ทำทุกอย่างตามที่มันต้องการ รวมทั้งไปตายแทนมัน…

    ผมเป็นอเมริกา ผมต้องตกรางวัลนายอาเบะเต็มอัตราเลย เพราะก่อนหน้าจะเอาร่างกฏหมายทั้งหลายนี่เข้าสภา นายอาเบะ ลงทุนเชิญนายทหารระดับสูงจากอเมริกา และยุโรปมาชมแสนยานุภาพของญี่ปุ่น อาวุธสุดทันสมัย ที่กองทัพเรือญี่ปุ่น “เตรียมพร้อม” ที่จะซื้อ ทันทีที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติ ทำงานล่วงหน้าแบบนี่ ไม่ให้โบนัส ก็ใจจืดไปหน่อย

    ยังไม่หมดครับ ย้อนไปก่อนหน้านี้ นายอาเบะ ได้ขอให้สภาอนุมัติเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง โดยเฉพาะ เพื่อตั้งฐานทัพติดตั้งเรดาร์ที่เกาะ Yonaguni ซึ่งเป็นดินแดนของญี่ปุ่น ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับจีน และตั้งหน่วยสะเทื้อนน้ำสะเทื้อนบก ตามรูปแบบของอังกฤษ ตามยุทธศาสตร์เอาติดแดนที่ถูกศัตรูยึดไปกลับคืน นี่กะดูถึงขนจมูกอาเฮียเลยซินะ

    อังกฤษ และญี่ปุ่น มีสภาพเป็นเกาะเหมือนกัน ท่านนายพล Richard Spencer อดีตผู้บัญชาการ กองทัพเรือของสหภาพยุโรป แต่ปัจจุบัน มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Self Defense Force (SDF) ของญี่ปุ่น ยุทธศาสตร์ที่เราแนะนำ เหมาะสมแล้ว …อ้อ นี่ เขาจัดส่งเป็นแพ๊กเกจเลยนะ เพื่อปั้นกองทัพเดนตายให้ญี่ปุ่น

    กองทัพญี่ปุ่นไม่ได้ยิงกระสุนอีกเลย แม้แต่นัดเดียว นับตั้งแต่ถูกอเมริกายึดครองในปี ค.ศ.1945 บริษัทผลิตอาวุธของญี่ปุ่นเอง หลายบริษัท ผันตัวเองไปผลิตสินค้า เพื่อความสดวกสบายของชีวิต แทนการผลิตอาวุธ และการผลิตอาวุธเพื่อส่งออกของญี่ปุ่น ถูกห้ามโดยเด็ดขาด และเปลี่ยนเป็นการผลิต รถถัง เครื่องบินรบ เรือรบ เรือดำน้ำ เฉพาะตามโครงการ SDF เท่านั้น
    แต่ในปีที่แล้ว นายอาเบะ ก็ปรับนโยบายด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นใหม่ ด้วยการเริ่มติดต่อกับผู้ผลิตอาวุธต่างประเทศ รวมทั้ง เครื่องบินรบ และเรือรบ เขาบอกว่า ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพของญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้ร่วมกับการป้องกันด้วยอาวุธทางทหาร… ยุทธศาสตร์เดียวกับลูกพี่เป๊ะเลย รักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง เสียจนทะลายราบเกือบหมดประเทศ

    เมื่อต้นปี ญี่ปุ่นเปิดตัวเรือรบลำใหม่ ชื่อ Izumo เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีรันเวย์ยาวถึง 250 เมตร บรรทุกเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เต็มอัตรา Izumo ยังมีพี่เลี้ยงประกบข้างอีก 2 ลำ เป็นเรือรบชนิดบรรทุกเครื่องบิน รายงานข่าวอ้างว่า ขณะนี้ กองทัพเรือของญี่ปุ่น ใหญ่กว่ากองทัพเรือของฝรั่งเศสบวกกับอังกฤษเสียด้วยซ้ำ …น่าสนใจ ไม่รู้ข่าวนี้ใส่สีเข้มหรือเปล่า ต้องกรองหน่อยนะครับ

    ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปสู่โตเกียว!

    MAST บริษัทนายหน้าค้าอาวุธใหญ่ของอังกฤษ ตีปีกฉีกยิ้ม กับนโยบายใหม่ของนาย อาเบะ หรือ ของ ไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ MAST รับหน้าที่ จัดรายการเชิญพ่อค้าขายอาวุธ มาแลกเปลียนความคิด ว่าจะ (ต้ม) ขายอาวุธให้ญี่ปุ่นอย่างไรดี ส่วนใหญ่ เห็นพ้องกันว่า ญี่ปุ่นเรื้อเวทีมานาน 70 ปี เราต้องใช้ นโยบายว่า อาวุธที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาตอนหลัง ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในการรบจริงเลยนะ ว่ามันจะใช้การได้ขนาดไหน นอกจากนี้พวกเขายังเล็งเหยื่อ ไปทั้งแถบ ตั้งแต่ เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ….อ้อ ไม่มีชื่อ ไทยแลนด์

    ท่านที่ปรึกษาใหญ่ นายพล Spencer บอกว่า การเปลี่ยนนโยบายของญี่ปุ่นด้านความมั่นคงนี้ อย่ามองว่าเป็นแค่การเปิดประตู ให้พวกนักค้าอาวุธเข้ามานะ มันเป็นการเปิดประตูของญี่ปุ่น ที่พาตัวเองออกไปสู่บทบาท ด้านการทหารระดับโลกต่างหาก… เยี่ยมครับ สมเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เขาส่งคน(ต้ม) มาถูกงานจริงๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 พ.ค. 2558
    ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 2 “ซามูไรแบกถาด” ตอน 2 หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จเมื่อปลายเดือนเมษายน คุณพี่อาเบะ ก็รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น แกต้องมาจัดการเแก้ไข เรื่องภายในของญี่ปุ่นอีกหลายเรื่อง เพื่อให้บทบาทของหัวหมู่ทะลวงฟัน ดำเนินการได้ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ใน Grand Strategy อย่างเรียบร้อยโดยไม่มีอุปสรรค รัฐบาลของคุณพี่อาเบะ ต้องเสนอร่างกฏหมาย 2 ฉบับเข้าสภา มันเป็นกฏหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศทั้ง 2 ฉบับ กฏหมายฉบับหนึ่ง จะเป็นการแก้ไข กฏหมายอีก 10 ฉบับ ที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อยกเลิกข้อจำกัด เกี่ยวกับการปกป้องตนเองของญี่ปุ่น Self Defence Forces (SDF) และ สิทธิที่จะใช้กองกำลังของประเทศ ช่วยเหลือประเทศ “อื่น” ที่ถูกโจมตี “ใน” อาณาเขตของญี่ปุ่น ส่วนกฏหมายอีกฉบับ เป็นการสร้างอำนาจให้กับรัฐบาล ที่จะเอากองกำลังของประเทศ ไปใช้ต่อสู้ “นอก” อาณาเขตของญี่ปุ่นได้ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็ทำตามใบสั่งโดยไม่เกี่ยง ไม่งอน น่ารักซะไม่มีล่ะ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพของญี่ปุ่นทั้งหมด ถูกให้ยกเลิก และอเมริกา โดยนายพลดักกลาส แมคอาเธอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นแปซิฟิก ก็จัดการให้ญี่ปุ่น จัดทำรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1947 และมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ เขียนไว้อย่างสวยหรู ตามถ้อยคำ ที่กำกับโดยท่านนายพล อ่านกันให้ซึ้งนะครับ ” ด้วยความปรารถนาอย่างจริงใจ ที่จะให้เกิดสันติภาพที่มีแบบแผนขึ้นในสากล เราประชาชนชาวญี่ปุ่น จึงขอปฏิเสธตลอดกาล ต่อการใช้อำนาจโดยชาติใดและการข่มขู่ใด หรือการใช้กำลังใด เพื่อตัดสินข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ และเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ ดังกล่าวข้างต้น เราจะไม่ดำรงกองกำลัง ไม่ว่า ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมทั้งไม่สร้างสงครามใด และจะไม่ถือสิทธิใดของรัฐ ที่จะก่อสงคราม” (“Aspiring sincerely to an international peace based on order, the Japanese people forever renounce war as a sovereign right of the nation and the threat or use of force as means of settling international disputes. In order to accomplish the aim of the preceding paragraph, land, sea and airforces, as well as other war potential, will never be maintained. The right of belligerency of the state will not be recognized.”) “ตลอดกาล” หรือ forever ของญี่ปุ่น ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก เมื่อเกิดสงครามเย็น และสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นก็ชักหน้าจ๋อย ขอผมมีกองกำลังไว้ป้องกันประเทศสักหน่อย ได้ไหมครับท่านนายพล การแสดงความปรารถนา อย่างตลอดกาลของญี่ปุ่น ตามมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการออกกฏหมายใน ปี ค.ศ.1954 ให้ญี่ปุ่นสามารถมีกองกำลังเพียงพอ ที่จะดูแลปกป้องตัวเองได้ Self Defence Forces (SDF) หลังจากนั้น ญี่ปุ่นพยายามแก้รัฐธรรมนูญ มาตรานี้มาหลายครั้ง เพื่อขยายกองกำลังขึ้นอีก แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำสำเร็จ เพราะประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุน ชาวญี่ปุ่นยังเข็ดขยาดกับสงคราม แต่ครั้งนี้ นายอาเบะไม่รู้ไปกินอะไรมา กำลังภายในสูงส่งมาก กฏหมายทั้ง 2 ฉบับ ที่จะนำทางไปสู่การแก้มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นด้วยนั้น สภาผู้แทนของญี่ปุ่น ว่าง่ายผ่านร่างกฏหมายทั้ง 2 ฉบับนี้เรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้เอง กฏหมายนี้ยังจะต้องส่งเข้าสภาสูงเพื่อพิจารณาด้วย โดยมีกำหนดการพิจารณาในฤดูร้อนของญี่ปุ่น (ประมาณเดือนกรกฏาคม) ข่าวว่า เดิมสภาสูงของญี่ปุ่น จะปิดสมัยประชุม สิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แต่เนื่องจากจะต้องผ่านกฏหมายสำคัญนี้ จึงจะมีการยืดสมัยประชุมออกไป เพื่อรอพิจารณากฏหมายดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น เพื่อให้กองทัพของญี่ปุ่นร่อนไปทำทั่วโลกได้ ทั้งหมดนี้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณพี่อาเบะ ทุกอย่างเดินหน้าตามใบสั่ง สภาจะปิด ก็เปิดได้ แหม… ทำไมมันว่าง่ายกันยังนี้หนอ ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักจำมั่งหรือไร เขาทิ้งบอมบ์จนประชาชนคนชาติเดียวกันตายหมู่ที่ละเป็นแสนๆ นี่เขาหลอกเอาขึ้นแท่นเป็นหัวหมู่ ให้ไปตายแทน ไม่ใช่แต่ในเอเซีย ในตะวันออกกลาง ก็อาจจะต้องไปล้างปั้ม ชิงปั้ม ให้เขา ก็ยังรีบร้อนเดินหน้าทำให้เขาอีก เออ ผมละงงจริงๆ บุญหนักหนา ที่มันตัดขาดเรา ไม่ต้องเป็นขี้ข้า หัวซุกหัวซุนวิ่งรับใช้มัน ทำทุกอย่างตามที่มันต้องการ รวมทั้งไปตายแทนมัน… ผมเป็นอเมริกา ผมต้องตกรางวัลนายอาเบะเต็มอัตราเลย เพราะก่อนหน้าจะเอาร่างกฏหมายทั้งหลายนี่เข้าสภา นายอาเบะ ลงทุนเชิญนายทหารระดับสูงจากอเมริกา และยุโรปมาชมแสนยานุภาพของญี่ปุ่น อาวุธสุดทันสมัย ที่กองทัพเรือญี่ปุ่น “เตรียมพร้อม” ที่จะซื้อ ทันทีที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติ ทำงานล่วงหน้าแบบนี่ ไม่ให้โบนัส ก็ใจจืดไปหน่อย ยังไม่หมดครับ ย้อนไปก่อนหน้านี้ นายอาเบะ ได้ขอให้สภาอนุมัติเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง โดยเฉพาะ เพื่อตั้งฐานทัพติดตั้งเรดาร์ที่เกาะ Yonaguni ซึ่งเป็นดินแดนของญี่ปุ่น ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับจีน และตั้งหน่วยสะเทื้อนน้ำสะเทื้อนบก ตามรูปแบบของอังกฤษ ตามยุทธศาสตร์เอาติดแดนที่ถูกศัตรูยึดไปกลับคืน นี่กะดูถึงขนจมูกอาเฮียเลยซินะ อังกฤษ และญี่ปุ่น มีสภาพเป็นเกาะเหมือนกัน ท่านนายพล Richard Spencer อดีตผู้บัญชาการ กองทัพเรือของสหภาพยุโรป แต่ปัจจุบัน มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Self Defense Force (SDF) ของญี่ปุ่น ยุทธศาสตร์ที่เราแนะนำ เหมาะสมแล้ว …อ้อ นี่ เขาจัดส่งเป็นแพ๊กเกจเลยนะ เพื่อปั้นกองทัพเดนตายให้ญี่ปุ่น กองทัพญี่ปุ่นไม่ได้ยิงกระสุนอีกเลย แม้แต่นัดเดียว นับตั้งแต่ถูกอเมริกายึดครองในปี ค.ศ.1945 บริษัทผลิตอาวุธของญี่ปุ่นเอง หลายบริษัท ผันตัวเองไปผลิตสินค้า เพื่อความสดวกสบายของชีวิต แทนการผลิตอาวุธ และการผลิตอาวุธเพื่อส่งออกของญี่ปุ่น ถูกห้ามโดยเด็ดขาด และเปลี่ยนเป็นการผลิต รถถัง เครื่องบินรบ เรือรบ เรือดำน้ำ เฉพาะตามโครงการ SDF เท่านั้น แต่ในปีที่แล้ว นายอาเบะ ก็ปรับนโยบายด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นใหม่ ด้วยการเริ่มติดต่อกับผู้ผลิตอาวุธต่างประเทศ รวมทั้ง เครื่องบินรบ และเรือรบ เขาบอกว่า ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพของญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้ร่วมกับการป้องกันด้วยอาวุธทางทหาร… ยุทธศาสตร์เดียวกับลูกพี่เป๊ะเลย รักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง เสียจนทะลายราบเกือบหมดประเทศ เมื่อต้นปี ญี่ปุ่นเปิดตัวเรือรบลำใหม่ ชื่อ Izumo เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีรันเวย์ยาวถึง 250 เมตร บรรทุกเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เต็มอัตรา Izumo ยังมีพี่เลี้ยงประกบข้างอีก 2 ลำ เป็นเรือรบชนิดบรรทุกเครื่องบิน รายงานข่าวอ้างว่า ขณะนี้ กองทัพเรือของญี่ปุ่น ใหญ่กว่ากองทัพเรือของฝรั่งเศสบวกกับอังกฤษเสียด้วยซ้ำ …น่าสนใจ ไม่รู้ข่าวนี้ใส่สีเข้มหรือเปล่า ต้องกรองหน่อยนะครับ ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปสู่โตเกียว! MAST บริษัทนายหน้าค้าอาวุธใหญ่ของอังกฤษ ตีปีกฉีกยิ้ม กับนโยบายใหม่ของนาย อาเบะ หรือ ของ ไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ MAST รับหน้าที่ จัดรายการเชิญพ่อค้าขายอาวุธ มาแลกเปลียนความคิด ว่าจะ (ต้ม) ขายอาวุธให้ญี่ปุ่นอย่างไรดี ส่วนใหญ่ เห็นพ้องกันว่า ญี่ปุ่นเรื้อเวทีมานาน 70 ปี เราต้องใช้ นโยบายว่า อาวุธที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาตอนหลัง ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในการรบจริงเลยนะ ว่ามันจะใช้การได้ขนาดไหน นอกจากนี้พวกเขายังเล็งเหยื่อ ไปทั้งแถบ ตั้งแต่ เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ….อ้อ ไม่มีชื่อ ไทยแลนด์ ท่านที่ปรึกษาใหญ่ นายพล Spencer บอกว่า การเปลี่ยนนโยบายของญี่ปุ่นด้านความมั่นคงนี้ อย่ามองว่าเป็นแค่การเปิดประตู ให้พวกนักค้าอาวุธเข้ามานะ มันเป็นการเปิดประตูของญี่ปุ่น ที่พาตัวเองออกไปสู่บทบาท ด้านการทหารระดับโลกต่างหาก… เยี่ยมครับ สมเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เขาส่งคน(ต้ม) มาถูกงานจริงๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และจากนั้นก็เป็นเครื่องบินขับไล่อีก 1 ลำ ที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ตกลงในทะเลจีนใต้ห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง ระหว่างการปฏิบัติภารกิจปกติเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) โดยลูกเรือทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ขณะที่ทรัมป์ตัดความเป็นไปได้เรื่องการโจมตี คาดสาเหตุอาจมาจากเชื้อเพลิงไม่ได้ประสิทธิภาพ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102684

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และจากนั้นก็เป็นเครื่องบินขับไล่อีก 1 ลำ ที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ตกลงในทะเลจีนใต้ห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง ระหว่างการปฏิบัติภารกิจปกติเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) โดยลูกเรือทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ขณะที่ทรัมป์ตัดความเป็นไปได้เรื่องการโจมตี คาดสาเหตุอาจมาจากเชื้อเพลิงไม่ได้ประสิทธิภาพ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102684 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจความพร้อมรบทางทะเล ผบ.ทรภ.3 นำกำลังเรือและเฮลิคอปเตอร์ฝึกทบทวน เตรียมความพร้อมทั้งคนและยุทโธปกรณ์ ตามนโยบาย “ปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100271

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจความพร้อมรบทางทะเล ผบ.ทรภ.3 นำกำลังเรือและเฮลิคอปเตอร์ฝึกทบทวน เตรียมความพร้อมทั้งคนและยุทโธปกรณ์ ตามนโยบาย “ปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100271 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สส.ปชน.” จี้ “กรมฝนหลวง” ตอบปมใช้ เฮลิคอปเตอร์ของกรมฯ ด้าน สส.ไอซ์ โผล่ถาม “ลำนี้หรือเปล่าคะที่คุณกันทำภารกิจ”
    https://www.thai-tai.tv/news/21962/
    .
    #ไทยไท #กรมฝนหลวง #ณรงเดชอุฬารกุล #กันจอมพลัง #การบินเกษตร #ภารกิจรัฐ

    “สส.ปชน.” จี้ “กรมฝนหลวง” ตอบปมใช้ เฮลิคอปเตอร์ของกรมฯ ด้าน สส.ไอซ์ โผล่ถาม “ลำนี้หรือเปล่าคะที่คุณกันทำภารกิจ” https://www.thai-tai.tv/news/21962/ . #ไทยไท #กรมฝนหลวง #ณรงเดชอุฬารกุล #กันจอมพลัง #การบินเกษตร #ภารกิจรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ Huntington Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 14:00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

    มีรายงานผู้บาดเจ็บหลายรายถูกส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว

    สาเหตุเบื้องต้นของอาจเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากนกชนเข้ากับใบพัดหางของเฮลิคอปเตอร์ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่
    ภาพเเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ Huntington Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 14:00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) มีรายงานผู้บาดเจ็บหลายรายถูกส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว สาเหตุเบื้องต้นของอาจเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากนกชนเข้ากับใบพัดหางของเฮลิคอปเตอร์ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 6
    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
    ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว
    แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้
    รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย
    นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น
    ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว
    ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย
    เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต !
    เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
    เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น
    นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
    และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก
    มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน
    อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง
    ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร
    ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก
    คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 6 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 6 (ตอนจบ) ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้ รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต ! เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน (GUR) ใช้โดรนพลีชีพโจมตีเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของรัสเซียส 2 ลำ ที่สนามบินซิมเฟโรปอล (Simferopol airport)

    ในวิดีโอ โดรนลำหนึ่งโจมตีเฮลิคอปเตอร์ลำที่สองพลาดไป

    -> จากข้อมูลเบื้องต้น โดรนถูกประกอบในโรงงานขนาดเล็กบนดินแดนของรัสเซีย และถูกขนส่งมาใกล้สนามบิน ก่อนจะบินขึ้นเพื่อโจมตีเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับปฏิบัติการ Spider Web ของยูเครนเมื่อหลายเดือนก่อน ที่โจมตีสนามบินของรัสเซียจนสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินหลายลำ
    หน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน (GUR) ใช้โดรนพลีชีพโจมตีเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของรัสเซียส 2 ลำ ที่สนามบินซิมเฟโรปอล (Simferopol airport) ในวิดีโอ โดรนลำหนึ่งโจมตีเฮลิคอปเตอร์ลำที่สองพลาดไป -> จากข้อมูลเบื้องต้น โดรนถูกประกอบในโรงงานขนาดเล็กบนดินแดนของรัสเซีย และถูกขนส่งมาใกล้สนามบิน ก่อนจะบินขึ้นเพื่อโจมตีเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับปฏิบัติการ Spider Web ของยูเครนเมื่อหลายเดือนก่อน ที่โจมตีสนามบินของรัสเซียจนสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินหลายลำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวจีน ไหหลำ 1แถม1 คนละ 7,500

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ DE-คอนดอร์
    พักโรงแรม

    นั่งเฮลิคอปเตอร์
    วัดหนานซาน
    ห้างสับปะรด
    ตลาดกลางคืนซานย่า

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #hainan #sanya #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวจีน ไหหลำ 🥰 1แถม1 คนละ 7,500 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ DE-คอนดอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 นั่งเฮลิคอปเตอร์ 📍 วัดหนานซาน 📍 ห้างสับปะรด 📍 ตลาดกลางคืนซานย่า รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #hainan #sanya #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ส่งตัว พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง เหยียบกับระเบิดจนข้อเท้าขวาขาดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ รักษาต่อที่
    รพ.สุรินทร์แล้ว ขณะที่เพื่อนทหารอีก 2 นายถูกแรงอัดระเบิดบาดเจ็บเล็กน้อยเผยเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างรมช.ก.ต่างประเทศนำคณะผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรปลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อีกด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081957

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ส่งตัว พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง เหยียบกับระเบิดจนข้อเท้าขวาขาดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ รักษาต่อที่ รพ.สุรินทร์แล้ว ขณะที่เพื่อนทหารอีก 2 นายถูกแรงอัดระเบิดบาดเจ็บเล็กน้อยเผยเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างรมช.ก.ต่างประเทศนำคณะผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรปลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อีกด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081957 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Sad
    Angry
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถาบันยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ International Institute for Strategic Studies (IISS) แห่งสหราชอาณาจักร ระบุไว้เมื่อต้นปี 2025 ขณะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับจำนวนกำลังพลของกองทัพทั่วโลก ว่า ไทยมี “กองทัพขนาดใหญ่และได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างดี"

    งบประมาณกลาโหมของไทยในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ กัมพูชา มีงบประมาณต่ำกว่ามาก อยู่ที่เพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ IISS

    1. กองทัพอากาศ
    IISS ระบุว่า “กองทัพอากาศของไทย ถือเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่มีอุปกรณ์และการฝึกอบรมดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

    ณ ต้นปี 2025 ไทยมี เครื่องบินรบที่พร้อมปฏิบัติการ 112 ลำ รวมถึง F-16 จำนวน 46 ลำ (หลายรุ่น)

    นอกจากนี้ ไทยยังมี เครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 4 แบบ Gripen ของสวีเดน จำนวนหนึ่ง
    แม้ Gripen และ F-16 จะไม่ใช่เครื่องบินรุ่นที่ 5 (เช่น F-35 หรือ F-22) แต่ถ้าบำรุงรักษาอย่างดี ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง

    ไทยกำลังทยอยปลดประจำการ F-16 รุ่นเก่า และเพิ่มจำนวน Gripen แทน
    กองทัพอากาศไทยที่มีกำลังพลประมาณ 46,000 นาย ยังมี เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าแบบ Erieye 2 ลำ ซึ่งทำงานร่วมกับ Gripen

    กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ภายใต้กองทัพอากาศขนาดเล็กเพียง 1,500 นาย แต่มี เฮลิคอปเตอร์ 26 ลำ หลายประเภท

    จอห์น เฮมมิงส์ รองผู้อำนวยการด้านภูมิรัฐศาสตร์แห่งสถาบัน Council on Geostrategy สหราชอาณาจักร กล่าวว่า:

    “กองทัพอากาศไทยมี F-16 จากสหรัฐฯ ซึ่งใช้โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเมื่อวันพุธโดยไม่มีแรงต้าน ขณะที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำการเลย”

    2. กองทัพบกและกองทัพเรือ
    ตามข้อมูลจาก IISS:

    กองทัพบกกัมพูชา มีทหารประมาณ 75,000 นาย และ รถถังราว 200 คัน

    ในจำนวนนี้มี รถถังหลักประมาณ 50 คัน เป็นรุ่น T-54 ของจีน (ซึ่งพัฒนาจากโซเวียตรุ่น T-54)

    อีก 150 คันขึ้นไป เป็นรถถังรุ่น T-54 และ T-55 (รุ่นเก่าจากยุค 1950)

    กัมพูชายังมี รถรบทหารราบแบบ BMP-1 จำนวน 70 คัน ซึ่งเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นโซเวียตที่เคยถูกใช้ในยุโรปตะวันออกโดยรัสเซียและยูเครน

    กองทัพบกไทย มีทหารประจำการ 130,000 นาย และมีเกณฑ์ทหารเพิ่มใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง

    มีรถถังหลักประมาณ 400 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถถังสัญชาติสหรัฐฯ รุ่นเก่า

    ไทยยังมี เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ และ เรือฟริเกต 7 ลำ

    กัมพูชาไม่มีเรือรบ หรือกองทัพเรือในเชิงยุทธศาสตร์

    เฮมมิงส์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า:

    “ไทยมีรถถังหลักที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค เช่น VT4 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่กัมพูชายังคงใช้ T-54 จากยุคปี 1950 เป็นหลัก”

    ทั้งสองประเทศมีอาวุธปืนใหญ่ในรูปแบบต่าง ๆ:

    ระบบจรวดนำวิถีแบบติดตั้งบนรถยนต์

    ปืนใหญ่ลากจูงทั่วไป

    “ระบบของกัมพูชาส่วนใหญ่ยังคงใช้ของเก่า เช่น BM-21 จากยุคสงครามเย็น และมีระบบจากจีนยุค 1990 ปะปนอยู่เล็กน้อย
    ส่วนของไทย มีส่วนผสมของระบบจากสหรัฐฯ อิสราเอล และจีน ซึ่งบางระบบเป็นของใหม่กว่า”

    ที่มา : How Thailand and Cambodia's Militaries Compare, Newsweek, Jul 25, 2025
    สถาบันยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ International Institute for Strategic Studies (IISS) แห่งสหราชอาณาจักร ระบุไว้เมื่อต้นปี 2025 ขณะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับจำนวนกำลังพลของกองทัพทั่วโลก ว่า ไทยมี “กองทัพขนาดใหญ่และได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างดี" งบประมาณกลาโหมของไทยในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ กัมพูชา มีงบประมาณต่ำกว่ามาก อยู่ที่เพียง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ IISS 1. กองทัพอากาศ IISS ระบุว่า “กองทัพอากาศของไทย ถือเป็นหนึ่งในกองทัพอากาศที่มีอุปกรณ์และการฝึกอบรมดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ณ ต้นปี 2025 ไทยมี เครื่องบินรบที่พร้อมปฏิบัติการ 112 ลำ รวมถึง F-16 จำนวน 46 ลำ (หลายรุ่น) นอกจากนี้ ไทยยังมี เครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 4 แบบ Gripen ของสวีเดน จำนวนหนึ่ง แม้ Gripen และ F-16 จะไม่ใช่เครื่องบินรุ่นที่ 5 (เช่น F-35 หรือ F-22) แต่ถ้าบำรุงรักษาอย่างดี ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง ไทยกำลังทยอยปลดประจำการ F-16 รุ่นเก่า และเพิ่มจำนวน Gripen แทน กองทัพอากาศไทยที่มีกำลังพลประมาณ 46,000 นาย ยังมี เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าแบบ Erieye 2 ลำ ซึ่งทำงานร่วมกับ Gripen กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ภายใต้กองทัพอากาศขนาดเล็กเพียง 1,500 นาย แต่มี เฮลิคอปเตอร์ 26 ลำ หลายประเภท จอห์น เฮมมิงส์ รองผู้อำนวยการด้านภูมิรัฐศาสตร์แห่งสถาบัน Council on Geostrategy สหราชอาณาจักร กล่าวว่า: “กองทัพอากาศไทยมี F-16 จากสหรัฐฯ ซึ่งใช้โจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเมื่อวันพุธโดยไม่มีแรงต้าน ขณะที่กัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำการเลย” 2. กองทัพบกและกองทัพเรือ ตามข้อมูลจาก IISS: กองทัพบกกัมพูชา มีทหารประมาณ 75,000 นาย และ รถถังราว 200 คัน ในจำนวนนี้มี รถถังหลักประมาณ 50 คัน เป็นรุ่น T-54 ของจีน (ซึ่งพัฒนาจากโซเวียตรุ่น T-54) อีก 150 คันขึ้นไป เป็นรถถังรุ่น T-54 และ T-55 (รุ่นเก่าจากยุค 1950) กัมพูชายังมี รถรบทหารราบแบบ BMP-1 จำนวน 70 คัน ซึ่งเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นโซเวียตที่เคยถูกใช้ในยุโรปตะวันออกโดยรัสเซียและยูเครน กองทัพบกไทย มีทหารประจำการ 130,000 นาย และมีเกณฑ์ทหารเพิ่มใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง มีรถถังหลักประมาณ 400 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถถังสัญชาติสหรัฐฯ รุ่นเก่า ไทยยังมี เรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ และ เรือฟริเกต 7 ลำ กัมพูชาไม่มีเรือรบ หรือกองทัพเรือในเชิงยุทธศาสตร์ เฮมมิงส์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า: “ไทยมีรถถังหลักที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค เช่น VT4 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่กัมพูชายังคงใช้ T-54 จากยุคปี 1950 เป็นหลัก” ทั้งสองประเทศมีอาวุธปืนใหญ่ในรูปแบบต่าง ๆ: ระบบจรวดนำวิถีแบบติดตั้งบนรถยนต์ ปืนใหญ่ลากจูงทั่วไป “ระบบของกัมพูชาส่วนใหญ่ยังคงใช้ของเก่า เช่น BM-21 จากยุคสงครามเย็น และมีระบบจากจีนยุค 1990 ปะปนอยู่เล็กน้อย ส่วนของไทย มีส่วนผสมของระบบจากสหรัฐฯ อิสราเอล และจีน ซึ่งบางระบบเป็นของใหม่กว่า” ที่มา : How Thailand and Cambodia's Militaries Compare, Newsweek, Jul 25, 2025
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย

    สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3

    คุณสมบัติหลักของ KS-1C:
    1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน

    2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร

    3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน

    4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system

    5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์

    การใช้งานในกองทัพ:
    • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ

    • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560

    • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3 👉คุณสมบัติหลักของ KS-1C: 1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน 2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร 3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน 4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system 5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์ 👉การใช้งานในกองทัพ: • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560 • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุการณ์ช่วงเช้าของวันนี้ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรืออิหร่านแจ้งเตือนเรือพิฆาตฟิตซ์เจอรัลด์ (Fitzgerald) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่พยายามเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียให้เปลี่ยนเส้นทาง
    เหตุการณ์ช่วงเช้าของวันนี้ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรืออิหร่านแจ้งเตือนเรือพิฆาตฟิตซ์เจอรัลด์ (Fitzgerald) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่พยายามเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียให้เปลี่ยนเส้นทาง
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เปิดภาพทบ.ส่ง เฮลิคอปเตอร์ MI 17 จากกองพันบินที่ 41 ลำเลียง จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด ทำให้ขาขวาขาด ถูกนำส่งโรงพยาบาลน้ำยืน

    ฮ.มารับตัว ที่ สนามหน้า อบต.โดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22)


    เครดิตภาพ: Wassana Nanuam
    เปิดภาพทบ.ส่ง เฮลิคอปเตอร์ MI 17 จากกองพันบินที่ 41 ลำเลียง จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด ทำให้ขาขวาขาด ถูกนำส่งโรงพยาบาลน้ำยืน ฮ.มารับตัว ที่ สนามหน้า อบต.โดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) เครดิตภาพ: Wassana Nanuam
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ"

    ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ

    แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย

    ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด:

    เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ

    เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ

    เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ

    เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ

    เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง

    เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง

    เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ

    บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ" ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด: 🔹เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ 🔹เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ 🔹เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ 🔹เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง 🔹เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ของเล่นเฮลิคอปเตอร์ไฟฟ้า L1 4DRC 1080P โรเตอร์เดี่ยวสี่ช่องกันการชนอัจฉริยะเป็นของขวัญสำหรับเด็ก
    พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.CALDt?cc
    ของเล่นเฮลิคอปเตอร์ไฟฟ้า L1 4DRC 1080P โรเตอร์เดี่ยวสี่ช่องกันการชนอัจฉริยะเป็นของขวัญสำหรับเด็ก พิกัด: https://s.lazada.co.th/s.CALDt?cc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจากเครื่องบินรบ J-10C แล้ว มีรายงานว่าอิหร่านยังสนใจระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน HQ-16 ของจีนอีกด้วย

    ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานพิสัยกลาง HQ-16 (HongQi-16 "Red Banner-16") ออกแบบมาเพื่อโจมตีเครื่องบินข้าศึก ขีปนาวุธร่อน เฮลิคอปเตอร์ และยานบินไร้คนขับในระยะไกลถึง 40 กม. ทั้งกลางวันและกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ
    นอกจากเครื่องบินรบ J-10C แล้ว มีรายงานว่าอิหร่านยังสนใจระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน HQ-16 ของจีนอีกด้วย ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานพิสัยกลาง HQ-16 (HongQi-16 "Red Banner-16") ออกแบบมาเพื่อโจมตีเครื่องบินข้าศึก ขีปนาวุธร่อน เฮลิคอปเตอร์ และยานบินไร้คนขับในระยะไกลถึง 40 กม. ทั้งกลางวันและกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยที่มา ทำไมวุ้นเส้นเพิ่งลงพื้นที่เยี่ยมทหารเหมน เพราะเฮลิคอปเตอร์ใช้การได้ลำเดียว ที่เหลือชำรุดถึงขั้นต้องใช้มือหมุนใบพัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เผยที่มา ทำไมวุ้นเส้นเพิ่งลงพื้นที่เยี่ยมทหารเหมน เพราะเฮลิคอปเตอร์ใช้การได้ลำเดียว ที่เหลือชำรุดถึงขั้นต้องใช้มือหมุนใบพัด #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพระยะใกล้ของโดรน Geran-2 ของรัสเซีย ซึ่งถ่ายไว้โดยฝ่ายยูเครนจากเฮลิคอปเตอร์ Mi-24 ระหว่างการพยายามสกัดกั้นของนักบินยูเครน
    ภาพระยะใกล้ของโดรน Geran-2 ของรัสเซีย ซึ่งถ่ายไว้โดยฝ่ายยูเครนจากเฮลิคอปเตอร์ Mi-24 ระหว่างการพยายามสกัดกั้นของนักบินยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • “นายกฯอิ๊งค์” ฝืนกระแสรุมต่อต้าน เตรียมลงพื้นที่ช่องบก 20 มิ.ย.นี้ ให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 พร้อมหารือมาตรการกดดันกัมพูชา

    เมื่อวันที่ (19 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชา ที่ยังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ มีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อพบหารือและให้กำลังใจพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2ในวันที่ 20 มิ.ย.เวลา 11.00 น. โดยเฮลิคอปเตอร์ทหาร ภาคกลางแม่ทัพภาคที่2 เพื่อให้กำลังใจแม่ทัพและกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงหารือมาตรการชายแดนในการกดดันทางกัมพูชา เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057780

    #MGROnline #แม่ทัพภาค2 #กัมพูชา
    “นายกฯอิ๊งค์” ฝืนกระแสรุมต่อต้าน เตรียมลงพื้นที่ช่องบก 20 มิ.ย.นี้ ให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 พร้อมหารือมาตรการกดดันกัมพูชา • เมื่อวันที่ (19 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชา ที่ยังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ มีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อพบหารือและให้กำลังใจพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2ในวันที่ 20 มิ.ย.เวลา 11.00 น. โดยเฮลิคอปเตอร์ทหาร ภาคกลางแม่ทัพภาคที่2 เพื่อให้กำลังใจแม่ทัพและกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงหารือมาตรการชายแดนในการกดดันทางกัมพูชา เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057780 • #MGROnline #แม่ทัพภาค2 #กัมพูชา
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮลิคอปเตอร์กองทัพบก ร่อนลงฉุกเฉิน ขณะบินสับเปลี่ยนกำลังพลและส่งเสบียงให้ฐานช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารบาดเจ็บเล็กน้อบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000057036

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เฮลิคอปเตอร์กองทัพบก ร่อนลงฉุกเฉิน ขณะบินสับเปลี่ยนกำลังพลและส่งเสบียงให้ฐานช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารบาดเจ็บเล็กน้อบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000057036 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขบวนรถของทหารเข้าสู่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิสตามคำสั่งของทรัมป์ ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนและการจลาจลที่ยังคงดำเนินต่อไปเข้าสู่วันที่สี่

    นายกเทศมนตรีคาเรน บาสส์ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 06.00 น. เพื่อระงับความไม่สงบ

    เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจประกาศว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย โดยส่งเสียงเตือนผ่านเครื่องขยายเสียงว่าใครก็ตามที่ยังคงอยู่ในบริเวณดังกล่าวคือผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและจะต้องถูกจับกุมทั้งหมด
    ขบวนรถของทหารเข้าสู่ใจกลางเมืองลอสแองเจลิสตามคำสั่งของทรัมป์ ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนและการจลาจลที่ยังคงดำเนินต่อไปเข้าสู่วันที่สี่ นายกเทศมนตรีคาเรน บาสส์ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 06.00 น. เพื่อระงับความไม่สงบ เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจประกาศว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย โดยส่งเสียงเตือนผ่านเครื่องขยายเสียงว่าใครก็ตามที่ยังคงอยู่ในบริเวณดังกล่าวคือผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและจะต้องถูกจับกุมทั้งหมด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022


    ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียยังคงเปิดฉากโจมตีตำแหน่งที่สำคัญของยูเครนหลายแห่ง รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของยูเครน รวมถึงชานเมืองและบริเวณโดยรอบ

    ทางด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียยืนยันว่าการโจมตีแบบผสมผสานโดยใช้โดรนและขีปนาวุธได้โจมตีอุตสาหกรรมการบิน ขีปนาวุธ ยานเกราะ และโรงงานต่อเรือของยูเครนในเคียฟเป็นผลสำเร็จ

    จากข้อมูลเบื้องต้น เฉพาะในเมืองเคียฟพบว่ามีการใช้โดรนของรัสเซียมากกว่า 200 ลำ และขีปนาวุธร่อนหลายลูกโจมตีเป้าหมาย

    การโจมตีกระจายไปทั่วเมืองหลวง โดยเน้นเป้าหมายที่สำคัญที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงและกองทัพ โดยมีรายงานการโจมตีในเขต Vyshgorod, Boryspil, Bila Tserkva

    เป้าหมายหลักของคืนนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ตั้งของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงานหุ้มเกราะเคียฟและโรงงาน Artem (เคยถูกโจมตีไปแล้วหลายครั้ง) ซึ่งเชี่ยวชาญในการประกอบชิ้นส่วนสำหรับขีปนาวุธต่อต้านเรือ Neptune โรงงานซ่อมเรือเคียฟและเขตอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในหลายพื้นที่ของเมืองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

    โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่ง คลังสินค้าของเมืองหลวงก็ถูกโจมตีเช่นกัน มีรายงานการโจมตีเส้นทางรถไฟหลายแห่ง ถนนหลายแห่ง รวมทั้งทางแยกต่างๆก็ถูกโจมตีทำลายเช่นกัน

    มีรายงานคลังน้ำมันขนาดใหญ่ในเขตบอริสปิล(Boryspil) ของเมืองเคียฟ ถูกโจมตีจากโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียจนได้รับความเสียหายอย่างมาก และยังไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ได้

    นอกจากนี้ มีข้อมูลเข้ามาว่าในบิลาเซอร์ควา (Bila Tserkva) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินของกองทัพยูเครน ก็ถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซียเช่นกัน

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นหน่วยข่าวกรองหลักของกระทรวงกลาโหมยูเครน ขณะกำลังใช้เฮลิคอปเตอร์ Ka-32 ดับไฟที่กำลังลุกไหม้ในเขตพื้นที่โรงงาน Artem ซึ่งเป็นส่วนของคลังเชื้อเพลิงจรวด กลางเมืองเคียฟ แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ หลังจากถูกโจมตีผานไปแล้วหลายชั่วโมง

    สถานที่ที่ถูกโจมตีซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว ได้แก่:

    อดีตโรงงานอุตสาหกรรม "โพลิเมอร์" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตสารเคมีและวัตถุระเบิด

    ฐานซ่อมบำรุงและหน่วยงานบำรุงรักษากองเรือ "Ukrrechflot" ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุนการขนส่งทางทหาร

    คลังเก็บหัวรถจักร "Darnitsa" ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์สำหรับการขนส่งทางทหารทางรางในเคียฟตะวันออก

    นอกจากนี้ โดรน "Geran" ของรัสเซียยังโจมตีฐานซ่อมแซมและบำรุงรักษาทางเทคนิคของยานเกราะในเคียฟ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บและซ่อมบำรุงอาวุธหนัก เช่น รถถังและยานเกราะอื่นๆ

    โรงงาน "Artem" ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกเปิดเผยว่าเป็นสถานที่สำคัญของโครงการขีปนาวุธและโดรนของยูเครน

    คลังน้ำมันบอริสปิล ซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื้อเพลิงสำคัญที่สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของยูเครนใกล้กับเมืองหลวง


    กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียยังคงเปิดฉากโจมตีตำแหน่งที่สำคัญของยูเครนหลายแห่ง รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของยูเครน รวมถึงชานเมืองและบริเวณโดยรอบ ทางด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียยืนยันว่าการโจมตีแบบผสมผสานโดยใช้โดรนและขีปนาวุธได้โจมตีอุตสาหกรรมการบิน ขีปนาวุธ ยานเกราะ และโรงงานต่อเรือของยูเครนในเคียฟเป็นผลสำเร็จ ▪️ จากข้อมูลเบื้องต้น เฉพาะในเมืองเคียฟพบว่ามีการใช้โดรนของรัสเซียมากกว่า 200 ลำ และขีปนาวุธร่อนหลายลูกโจมตีเป้าหมาย ▪️ การโจมตีกระจายไปทั่วเมืองหลวง โดยเน้นเป้าหมายที่สำคัญที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงและกองทัพ โดยมีรายงานการโจมตีในเขต Vyshgorod, Boryspil, Bila Tserkva ▪️ เป้าหมายหลักของคืนนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ตั้งของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงานหุ้มเกราะเคียฟและโรงงาน Artem (เคยถูกโจมตีไปแล้วหลายครั้ง) ซึ่งเชี่ยวชาญในการประกอบชิ้นส่วนสำหรับขีปนาวุธต่อต้านเรือ Neptune โรงงานซ่อมเรือเคียฟและเขตอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในหลายพื้นที่ของเมืองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ▪️ โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่ง คลังสินค้าของเมืองหลวงก็ถูกโจมตีเช่นกัน มีรายงานการโจมตีเส้นทางรถไฟหลายแห่ง ถนนหลายแห่ง รวมทั้งทางแยกต่างๆก็ถูกโจมตีทำลายเช่นกัน ▪️ มีรายงานคลังน้ำมันขนาดใหญ่ในเขตบอริสปิล(Boryspil) ของเมืองเคียฟ ถูกโจมตีจากโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียจนได้รับความเสียหายอย่างมาก และยังไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ได้ ▪️ นอกจากนี้ มีข้อมูลเข้ามาว่าในบิลาเซอร์ควา (Bila Tserkva) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินของกองทัพยูเครน ก็ถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซียเช่นกัน ▪️ ภาพวิดีโอเผยให้เห็นหน่วยข่าวกรองหลักของกระทรวงกลาโหมยูเครน ขณะกำลังใช้เฮลิคอปเตอร์ Ka-32 ดับไฟที่กำลังลุกไหม้ในเขตพื้นที่โรงงาน Artem ซึ่งเป็นส่วนของคลังเชื้อเพลิงจรวด กลางเมืองเคียฟ แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ หลังจากถูกโจมตีผานไปแล้วหลายชั่วโมง 👉สถานที่ที่ถูกโจมตีซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว ได้แก่: ➡️อดีตโรงงานอุตสาหกรรม "โพลิเมอร์" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตสารเคมีและวัตถุระเบิด ➡️ฐานซ่อมบำรุงและหน่วยงานบำรุงรักษากองเรือ "Ukrrechflot" ซึ่งเป็นบริษัทที่สนับสนุนการขนส่งทางทหาร ➡️คลังเก็บหัวรถจักร "Darnitsa" ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์สำหรับการขนส่งทางทหารทางรางในเคียฟตะวันออก ➡️นอกจากนี้ โดรน "Geran" ของรัสเซียยังโจมตีฐานซ่อมแซมและบำรุงรักษาทางเทคนิคของยานเกราะในเคียฟ ซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บและซ่อมบำรุงอาวุธหนัก เช่น รถถังและยานเกราะอื่นๆ ➡️โรงงาน "Artem" ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกเปิดเผยว่าเป็นสถานที่สำคัญของโครงการขีปนาวุธและโดรนของยูเครน ➡️คลังน้ำมันบอริสปิล ซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื้อเพลิงสำคัญที่สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของยูเครนใกล้กับเมืองหลวง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
    .
    บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
    .
    หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525
    ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ
    .
    นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก
    .
    48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย
    .
    ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ
    .
    - สมภพ พอดี -
    ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย . บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ . หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525 ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ . นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก . 48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย . ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ . - สมภพ พอดี -
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts