• ส่องไพ่ในมือจีน สู้ศึกภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 17-04-68

    #คนเคาะข่าว #ศึกภาษีทรัมป์ #จีนvsสหรัฐ #สงครามการค้า #ไพ่ในมือจีน #ภาษีนำเข้า #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #การเมืองโลก #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทรัมป์ #จีน #thaitimes #ข่าวต่างประเทศ #ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
    ส่องไพ่ในมือจีน สู้ศึกภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 17-04-68 #คนเคาะข่าว #ศึกภาษีทรัมป์ #จีนvsสหรัฐ #สงครามการค้า #ไพ่ในมือจีน #ภาษีนำเข้า #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #การเมืองโลก #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทรัมป์ #จีน #thaitimes #ข่าวต่างประเทศ #ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ข้อความคุ้นๆของนักการเมือง เหมือนเคยเห็นที่ไหน!?!

    ทรัมป์ไม่พอใจ “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (FED) ที่ไม่ยอมลดดอกเบี้ยเสียที!! ทั้งที่ควรจะประกาศลดเป็นครั้งที่ 7 ได้แล้ว เพราะตอนนี้ ราคาน้ำมันก็ลดลง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค (แม้แต่ไข่!) ก็ลดลง และสหรัฐฯ ก็เริ่มร่ำรวยจากภาษีศุลกากร

    แถมยังทิ้งท้ายว่าการปลดเขาออกจากตําแหน่งควรให้เร็วที่สุด
    ข้อความคุ้นๆของนักการเมือง เหมือนเคยเห็นที่ไหน!?! ทรัมป์ไม่พอใจ “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (FED) ที่ไม่ยอมลดดอกเบี้ยเสียที!! ทั้งที่ควรจะประกาศลดเป็นครั้งที่ 7 ได้แล้ว เพราะตอนนี้ ราคาน้ำมันก็ลดลง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค (แม้แต่ไข่!) ก็ลดลง และสหรัฐฯ ก็เริ่มร่ำรวยจากภาษีศุลกากร แถมยังทิ้งท้ายว่าการปลดเขาออกจากตําแหน่งควรให้เร็วที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ คนไทยหลงดีใจ ส่งรองนายกฯและรมว.คลังไปเจรจาภาษี แต่ทีมงานทรัมป์ลูบปากหวานหมู เพราะในสายตามะกัน ไทยส่งขี้ข้าทักษิณ รับใช้มาตั้งแต่ยุคแปรรูปปตท. ถึงพยานแก้ต่างจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ พัวพันคดีโดงปาล์มน้ำมันปตท. แถมตั้งอดีตนายแบงก์ร่วมขบวนการโกงกรุงไทย มาเป็นที่ปรึกษารมว.คลัง ไทยแลนด์ส่งคนแบบนี้มาก็หวานไอ้กันเลย
    #7ดอกจิก
    ♣ คนไทยหลงดีใจ ส่งรองนายกฯและรมว.คลังไปเจรจาภาษี แต่ทีมงานทรัมป์ลูบปากหวานหมู เพราะในสายตามะกัน ไทยส่งขี้ข้าทักษิณ รับใช้มาตั้งแต่ยุคแปรรูปปตท. ถึงพยานแก้ต่างจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ พัวพันคดีโดงปาล์มน้ำมันปตท. แถมตั้งอดีตนายแบงก์ร่วมขบวนการโกงกรุงไทย มาเป็นที่ปรึกษารมว.คลัง ไทยแลนด์ส่งคนแบบนี้มาก็หวานไอ้กันเลย #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะผู้แทนระดับสูงของยูเครนเดินทางถึงปารีสเพื่อพบกับตัวแทนของสหรัฐฯ

    ฝ่ายยูเครนประกอบด้วย:
    เยอร์มัค (คนนั่งกลาง) หัวหน้าสำนักงานเซเลนสกี
    ซิบิกา (คนซ้ายมือสุดของภาพ) รัฐมนตรีต่างประเทศ
    อูเมรอฟ (คนขวามือของภาพ) รัฐมนตรีกลาโหม

    โดยจะมีการหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ และสตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    นอกจากนี้ เยอร์มัค ยังโพสต์ข้อความว่า จะมีการจัดการประชุมกับตัวแทนของ "กลุ่มพันธมิตรผู้เต็มใจ" ซึ่งเป็นประเทศที่พร้อมให้การรับประกันความปลอดภัยแก่ยูเครน ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อีกด้วย
    คณะผู้แทนระดับสูงของยูเครนเดินทางถึงปารีสเพื่อพบกับตัวแทนของสหรัฐฯ ฝ่ายยูเครนประกอบด้วย: เยอร์มัค (คนนั่งกลาง) หัวหน้าสำนักงานเซเลนสกี ซิบิกา (คนซ้ายมือสุดของภาพ) รัฐมนตรีต่างประเทศ อูเมรอฟ (คนขวามือของภาพ) รัฐมนตรีกลาโหม โดยจะมีการหารือกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ และสตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ เยอร์มัค ยังโพสต์ข้อความว่า จะมีการจัดการประชุมกับตัวแทนของ "กลุ่มพันธมิตรผู้เต็มใจ" ซึ่งเป็นประเทศที่พร้อมให้การรับประกันความปลอดภัยแก่ยูเครน ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่น่าสนใจ:

    อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ โพสต์ข้อความ "ยูเครนตกลงหยุดยิงอย่างถาวรและไม่มีเงื่อนไข"

    และในช่วงเวลาเดียวกัน เซเลนสกี โพสต์ข้อความยืนยันมีการสนทนากับประธานาธิบดีฟินแลนด์จริง และพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง

    "ขณะนี้ผ่านมา 36 วันแล้วที่สหรัฐฯ เสนอให้หยุดการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข ยูเครนยอมรับข้อเสนอนี้ทันที เมื่อกว่าหนึ่งเดือนก่อน รัสเซียยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอนี้ และยังคงไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ นั่นคือปัญหาสำคัญ" ข้อความบางส่วนของเซเลนสกี

    เหตุการณ์นี้น่าสนใจตรงที่ เซเลนสกีกลับมาพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง หลังจากรัสเซียโจมตีอย่างหนักในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคซูมี ซึ่งส่งผลให้ทหารยูเครนกว่า 60 ราย รวมทั้งผู้บัญชาการทหารต้องเสียชีวิตในครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ปฏิเสธส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธห้กับยูเครนรวมกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะส่งอาวุธให้ยูเครน
    สิ่งที่น่าสนใจ: อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ โพสต์ข้อความ "ยูเครนตกลงหยุดยิงอย่างถาวรและไม่มีเงื่อนไข" และในช่วงเวลาเดียวกัน เซเลนสกี โพสต์ข้อความยืนยันมีการสนทนากับประธานาธิบดีฟินแลนด์จริง และพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง "ขณะนี้ผ่านมา 36 วันแล้วที่สหรัฐฯ เสนอให้หยุดการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข ยูเครนยอมรับข้อเสนอนี้ทันที เมื่อกว่าหนึ่งเดือนก่อน รัสเซียยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอนี้ และยังคงไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ นั่นคือปัญหาสำคัญ" ข้อความบางส่วนของเซเลนสกี เหตุการณ์นี้น่าสนใจตรงที่ เซเลนสกีกลับมาพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง หลังจากรัสเซียโจมตีอย่างหนักในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคซูมี ซึ่งส่งผลให้ทหารยูเครนกว่า 60 ราย รวมทั้งผู้บัญชาการทหารต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ปฏิเสธส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธห้กับยูเครนรวมกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะส่งอาวุธให้ยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนมีอำนาจ จะพูดอะไรก็ได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร (ทรัมป์เคยบอกจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ก่อนได้เป็นประธานาธิบดี) แต่พอมีอำนาจ มันมีอะไรหลายอย่างต้องแบกรับ จะตัดสินใจทำอะไรเลยต้องรอบคอบ

    ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธแผนของอิสราเอลที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
    ก่อนมีอำนาจ จะพูดอะไรก็ได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร (ทรัมป์เคยบอกจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน ก่อนได้เป็นประธานาธิบดี) แต่พอมีอำนาจ มันมีอะไรหลายอย่างต้องแบกรับ จะตัดสินใจทำอะไรเลยต้องรอบคอบ ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธแผนของอิสราเอลที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจมตีอิหร่านไม่ง่ายเหมือนเยเมน หรืออิรัก!!

    แหล่งข่าวรายงานว่า ช่วงที่เนทันยาฮูเดินทางเยือนสหรัฐ เป้าหมายสำคัญการร้องขอการสนับสนุนในการโจมตีอิหร่าน แต่ทีมของทรัมป์ยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับแผนการของเนทันยาฮู

    จากแหล่งข่าว:
    ระหว่างที่เนทันยาฮูเดินทางเยือนสหรัฐ อิสราเอลต้องการให้สหรัฐสนับสนุนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยตรง ซึ่งอิสราเอลตั้งใจว่าควรจะดำเนินการภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ทรัมป์ยังไม่ให้ไฟเขียวโจมตี และขอเลือกการเจรจาแทน ตามที่มีข่าวออกมา และการเจรจาได้เริ่มขึ้นไปแล้วในรอบที่หนึ่งที่โอมาน


    ทางด้านรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์, ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (DNI), และพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ยังไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าวของเนทันยาฮูเช่นกัน และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น เนื่องจากเนทันยาฮูพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้มีการอนุมัติจากทรัมป์


    ในที่สุดทรัมป์บอกกับเนทันยาฮูในช่วงระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า จะไม่มีการสนับสนุนจากอเมริกาในการโจมตีอิหร่าน (แต่ไม่ได้เอ่ยปากห้ามอิสราเอล) นั่นเป็นสาเหตุที่เนทันยาฮูประกาศหลังเดินทางกลับจากอเมริกาออกมาว่า จะโจมตีอิหร่านไม่ว่าจะมีสหรัฐร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม
    โจมตีอิหร่านไม่ง่ายเหมือนเยเมน หรืออิรัก!! แหล่งข่าวรายงานว่า ช่วงที่เนทันยาฮูเดินทางเยือนสหรัฐ เป้าหมายสำคัญการร้องขอการสนับสนุนในการโจมตีอิหร่าน แต่ทีมของทรัมป์ยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับแผนการของเนทันยาฮู จากแหล่งข่าว: ระหว่างที่เนทันยาฮูเดินทางเยือนสหรัฐ อิสราเอลต้องการให้สหรัฐสนับสนุนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยตรง ซึ่งอิสราเอลตั้งใจว่าควรจะดำเนินการภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ทรัมป์ยังไม่ให้ไฟเขียวโจมตี และขอเลือกการเจรจาแทน ตามที่มีข่าวออกมา และการเจรจาได้เริ่มขึ้นไปแล้วในรอบที่หนึ่งที่โอมาน ทางด้านรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์, ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (DNI), และพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ยังไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าวของเนทันยาฮูเช่นกัน และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น เนื่องจากเนทันยาฮูพยายามผลักดันอย่างหนักเพื่อให้มีการอนุมัติจากทรัมป์ ในที่สุดทรัมป์บอกกับเนทันยาฮูในช่วงระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า จะไม่มีการสนับสนุนจากอเมริกาในการโจมตีอิหร่าน (แต่ไม่ได้เอ่ยปากห้ามอิสราเอล) นั่นเป็นสาเหตุที่เนทันยาฮูประกาศหลังเดินทางกลับจากอเมริกาออกมาว่า จะโจมตีอิหร่านไม่ว่าจะมีสหรัฐร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยุโรปยังคงดำเนินแนวทางสันติภาพ เราไม่มีพวกพ้องหรือกลุ่มผู้มีอำนาจมากำหนดกฎเกณฑ์ เราไม่เคยรุกรานเพื่อนบ้าน และเราไม่เคยลงโทษพวกเขา”

    นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Zeit ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว และการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของทรัมป์
    “ยุโรปยังคงดำเนินแนวทางสันติภาพ เราไม่มีพวกพ้องหรือกลุ่มผู้มีอำนาจมากำหนดกฎเกณฑ์ เราไม่เคยรุกรานเพื่อนบ้าน และเราไม่เคยลงโทษพวกเขา” นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Zeit ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว และการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของทรัมป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทรัมป์” จวก “จีน” ผิดสัญญา หลังมีข่าวปักกิ่งสั่งสายการบินในประเทศระงับการรับมอบเครื่องบินจาก “โบอิ้ง” ของอเมริกา แต่ยังมั่นใจแดนมังกรเป็นฝ่ายเดือดร้อนที่ต้องขอเปิดเจรจาก่อน นอกจากนี้ประมุขทำเนียบขาวยังสั่งดำเนินการตรวจสอบที่อาจนำไปสู่การรีดภาษีสินค้าแรร์เอิร์ธของจีน ด้านปักกิ่งตอกวอชิงตันถ้าอยากแก้ปัญหาด้วยการเจรจา ต้องหยุดกดดัน ข่มขู่ และแบล็กเมล์ก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036078

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทรัมป์” จวก “จีน” ผิดสัญญา หลังมีข่าวปักกิ่งสั่งสายการบินในประเทศระงับการรับมอบเครื่องบินจาก “โบอิ้ง” ของอเมริกา แต่ยังมั่นใจแดนมังกรเป็นฝ่ายเดือดร้อนที่ต้องขอเปิดเจรจาก่อน นอกจากนี้ประมุขทำเนียบขาวยังสั่งดำเนินการตรวจสอบที่อาจนำไปสู่การรีดภาษีสินค้าแรร์เอิร์ธของจีน ด้านปักกิ่งตอกวอชิงตันถ้าอยากแก้ปัญหาด้วยการเจรจา ต้องหยุดกดดัน ข่มขู่ และแบล็กเมล์ก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036078 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางปิดสถานทูตและสถานกงสุลในต่างแดนเกือบ 30 แห่ง ในขณะที่พวกเขาเล็งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการปรากฎตัวทางการทูตในต่างประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036084

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางปิดสถานทูตและสถานกงสุลในต่างแดนเกือบ 30 แห่ง ในขณะที่พวกเขาเล็งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการปรากฎตัวทางการทูตในต่างประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036084 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Love
    Like
    7
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์

    ✅ EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ
    - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม
    - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม

    ✅ มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group
    - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้
    - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด

    ✅ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น
    - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง"
    - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013

    ✅ สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง
    - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง
    - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย

    https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์ ✅ EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม ✅ มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้ - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด ✅ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง" - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013 ✅ สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    EU provides burner phones to officials traveling to US amid espionage concerns
    An EU official told the Financial Times, The transatlantic alliance is over.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Shein และ Temu เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนโยบายของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าและการปิดช่องโหว่ทางการค้า ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น

    ✅ Shein และ Temu จะปรับขึ้นราคาสินค้าในวันที่ 25 เมษายน 2025
    - ทั้งสองบริษัทส่งจดหมายแจ้งลูกค้าให้รีบซื้อสินค้าก่อนราคาจะปรับขึ้น
    - การขึ้นราคาสินค้าเป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงกฎการค้าระหว่างประเทศและภาษีนำเข้า

    ✅ นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Shein และ Temu
    - ก่อนหน้านี้ Shein และ Temu อาศัย ข้อยกเว้น "de minimis" ที่อนุญาตให้สินค้าราคาไม่เกิน $800 เข้าสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี
    - คำสั่งบริหารใหม่ของทรัมป์ ปิดช่องโหว่นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2025

    ✅ ราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มก่อนการปรับขึ้น
    - Shein มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $6 ถึง $91
    - Temu มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $2.48 ถึง $210

    ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดอีคอมเมิร์ซ
    - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/shein-temu-to-get-pricier-as-trump-cracks-down-on-cheap-imports
    Shein และ Temu เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนโยบายของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าและการปิดช่องโหว่ทางการค้า ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น ✅ Shein และ Temu จะปรับขึ้นราคาสินค้าในวันที่ 25 เมษายน 2025 - ทั้งสองบริษัทส่งจดหมายแจ้งลูกค้าให้รีบซื้อสินค้าก่อนราคาจะปรับขึ้น - การขึ้นราคาสินค้าเป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงกฎการค้าระหว่างประเทศและภาษีนำเข้า ✅ นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Shein และ Temu - ก่อนหน้านี้ Shein และ Temu อาศัย ข้อยกเว้น "de minimis" ที่อนุญาตให้สินค้าราคาไม่เกิน $800 เข้าสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี - คำสั่งบริหารใหม่ของทรัมป์ ปิดช่องโหว่นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2025 ✅ ราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มก่อนการปรับขึ้น - Shein มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $6 ถึง $91 - Temu มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $2.48 ถึง $210 ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดอีคอมเมิร์ซ - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/shein-temu-to-get-pricier-as-trump-cracks-down-on-cheap-imports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Shein, Temu to get pricier as Trump cracks down on cheap imports
    (Reuters) -Chinese e-marketplace Temu and fast-fashion retailer Shein will raise prices next week as U.S. President Donald Trump's sweeping tariffs and crackdown on low-value imports push up costs for the companies known for their budget offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ้าว!
    ทำเนียบขาวปฏิเสธ ไม่ได้มีขยายอัตราการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนทั้งหมด 245% พร้อมชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดของ "สื่อ"

    เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมาชี้แจง หลังจากมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขยายอัตราภาษีใหม่ 245% กับจีน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากพาดหัวข่าวที่เข้าใจผิดได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และเกิดความวิตกกังวลของตลาดที่เกิดจากการรายงานข่าวที่ผิดพลาดของสื่อ

    เจ้าหน้าที่ชี้แจงต่ออีกว่า ตัวเลข 245% นั้นไม่ใช่การเรียกเก็บอัตราใหม่ โดยระบุว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์ไม่มีอัตราภาษีแบบเหมารวม แต่มุ่งเป้าจัดการไปที่การละเมิดทางการค้าแต่ละประเภท ซึ่งทำให้จีนต้องเผชิญกับภาษีที่มีหลากหลายรูปแบบ

    เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวสามารถแบ่งได้ดังนี้:

    — ภาษีศุลกากรตอบโต้ 125%
    — ภาษีศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิล 20%
    — ภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 สำหรับสินค้าเฉพาะเจาะจง จะมีตั้งแต่ 7.5% ถึง 100%



    แม้ว่าตลาดจะโล่งใจที่นี่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรใหม่ แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าภาษีศุลกากรล่าสุดที่เรียกเก็บกับจีนนั้นน่าสับสนเพียงใด แม้แต่ผู้สังเกตการณ์ตลาดที่ช่ำชองยังรู้สึกมึนงง

    .

    https://ca.investing.com/news/economy-news/245-china-tariff-causes-market-confusion-3959684?utm_medium=feed&utm_source=yahoo&utm_campaign=yahoo-ca

    อ้าว! ทำเนียบขาวปฏิเสธ ไม่ได้มีขยายอัตราการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนทั้งหมด 245% พร้อมชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดของ "สื่อ" เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมาชี้แจง หลังจากมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขยายอัตราภาษีใหม่ 245% กับจีน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากพาดหัวข่าวที่เข้าใจผิดได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และเกิดความวิตกกังวลของตลาดที่เกิดจากการรายงานข่าวที่ผิดพลาดของสื่อ เจ้าหน้าที่ชี้แจงต่ออีกว่า ตัวเลข 245% นั้นไม่ใช่การเรียกเก็บอัตราใหม่ โดยระบุว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์ไม่มีอัตราภาษีแบบเหมารวม แต่มุ่งเป้าจัดการไปที่การละเมิดทางการค้าแต่ละประเภท ซึ่งทำให้จีนต้องเผชิญกับภาษีที่มีหลากหลายรูปแบบ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวสามารถแบ่งได้ดังนี้: — ภาษีศุลกากรตอบโต้ 125% — ภาษีศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิล 20% — ภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 สำหรับสินค้าเฉพาะเจาะจง จะมีตั้งแต่ 7.5% ถึง 100% แม้ว่าตลาดจะโล่งใจที่นี่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรใหม่ แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าภาษีศุลกากรล่าสุดที่เรียกเก็บกับจีนนั้นน่าสับสนเพียงใด แม้แต่ผู้สังเกตการณ์ตลาดที่ช่ำชองยังรู้สึกมึนงง . https://ca.investing.com/news/economy-news/245-china-tariff-causes-market-confusion-3959684?utm_medium=feed&utm_source=yahoo&utm_campaign=yahoo-ca
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ปฏิเสธข้อตกลงมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญกับยูเครน โดยการปฏิเสธจัดส่งอาวุธให้ยูเครน แม้ว่าความช่วยเหลือรอบใหม่จะเป็นในรูปแบบที่ยูเครนเป็นหน้าและต้องใช้คืน

    ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะขายอาวุธให้ยูเครน

    ที่มา: — Bild ของเยอรมนี
    ทรัมป์ปฏิเสธข้อตกลงมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญกับยูเครน โดยการปฏิเสธจัดส่งอาวุธให้ยูเครน แม้ว่าความช่วยเหลือรอบใหม่จะเป็นในรูปแบบที่ยูเครนเป็นหน้าและต้องใช้คืน ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะขายอาวุธให้ยูเครน ที่มา: — Bild ของเยอรมนี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ"

    และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที
    ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg

    Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ:

    👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน

    👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน

    👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน

    สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.")

    คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง

    นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก


    เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ: 👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน 👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน 👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.") คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นัดประชุม “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รับมือภาษีทรัมป์ เห็นตรงกันเรื่องความไม่แน่นอนของตลาดโลกและไทยมีสูง เตรียมมาตราการรองรับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036016

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นัดประชุม “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รับมือภาษีทรัมป์ เห็นตรงกันเรื่องความไม่แน่นอนของตลาดโลกและไทยมีสูง เตรียมมาตราการรองรับ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036016 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชนนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

    พฤติกรรมของไบเดน "ยังคงเส้นคงวา" เขาเริ่มกล่าวประโยคแรกในขณะที่ เสียงเพลงยังไม่จบ ไบเดนจะรู้ไหมว่าเกิดเสียงเพลงยังไม่จบ และไม่มีใครได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
    โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชนนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง พฤติกรรมของไบเดน "ยังคงเส้นคงวา" เขาเริ่มกล่าวประโยคแรกในขณะที่ เสียงเพลงยังไม่จบ ไบเดนจะรู้ไหมว่าเกิดเสียงเพลงยังไม่จบ และไม่มีใครได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 16 เมษายน 2568-สำนักข่าว CNN รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะปิดสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงสถานกงสุลในต่างประเทศกว่า 30 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะลดบาทบาทของตัวเองในบางประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ CNN ได้รับเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ซึ่งข้อมูลในเอกสารมีการแนะนำให้รัฐบาลปิดสถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ 10 แห่ง และปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯ อีก 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและแอฟริกาประเทศที่ถูกระบุในเอกสารให้ปิดสถานทูต บางส่วนประกอบด้วย  มอลตา, ลักเซมเบิร์ก, เลโซโท, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง  และซูดานใต้ นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในฝรั่งเศสอีก 5 แห่ง, ในเยอรมนีอีก 2 แห่ง, ในบอสเนียอีก 2 แห่ง, ในอังกฤษ 1 แห่ง, ในเซาท์แอฟริกา 1 แห่ง และเกาหลีใต้ 1 แห่ง ที่กำลังถูกพิจารณาให้ปิดด้วย โดยหลังจากที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในประเทศเหล่านี้ถูกปิด ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจะต้องไปติดต่อสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศใกล้เคียงแทนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย แทมมี บรูซ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบกับทางทำเนียบขาวและตัวประธานาธิบดีโดยตรง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงบประมาณที่ส่งให้สภาคองเกรสพิจารณา ซึ่งการใช้งบประมาณในปีหน้าของสหรัฐฯ มีการเสนอให้ลดงบประมาณลงในหลายส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วยhttps://www.cnn.com/2025/04/15/politics/closing-embassies-consulates-document/index.html?cid=ios_app
    16 เมษายน 2568-สำนักข่าว CNN รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะปิดสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงสถานกงสุลในต่างประเทศกว่า 30 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ อาจจะลดบาทบาทของตัวเองในบางประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยหลังจากที่ CNN ได้รับเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่หลุดออกมา ซึ่งข้อมูลในเอกสารมีการแนะนำให้รัฐบาลปิดสถานเอกอัครราชทูตของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ 10 แห่ง และปิดสถานกงสุลของสหรัฐฯ อีก 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปและแอฟริกาประเทศที่ถูกระบุในเอกสารให้ปิดสถานทูต บางส่วนประกอบด้วย  มอลตา, ลักเซมเบิร์ก, เลโซโท, สาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐแอฟริกากลาง  และซูดานใต้ นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในฝรั่งเศสอีก 5 แห่ง, ในเยอรมนีอีก 2 แห่ง, ในบอสเนียอีก 2 แห่ง, ในอังกฤษ 1 แห่ง, ในเซาท์แอฟริกา 1 แห่ง และเกาหลีใต้ 1 แห่ง ที่กำลังถูกพิจารณาให้ปิดด้วย โดยหลังจากที่สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ในประเทศเหล่านี้ถูกปิด ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจะต้องไปติดต่อสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศใกล้เคียงแทนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดย แทมมี บรูซ โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบกับทางทำเนียบขาวและตัวประธานาธิบดีโดยตรง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงบประมาณที่ส่งให้สภาคองเกรสพิจารณา ซึ่งการใช้งบประมาณในปีหน้าของสหรัฐฯ มีการเสนอให้ลดงบประมาณลงในหลายส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วยhttps://www.cnn.com/2025/04/15/politics/closing-embassies-consulates-document/index.html?cid=ios_app
    WWW.CNN.COM
    Trump administration looking at closing nearly 30 overseas embassies and consulates | CNN Politics
    The Trump administration is looking at closing nearly 30 overseas embassies and consulates as it eyes significant changes to its diplomatic presence abroad, according to an internal State Department document obtained by CNN.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนใช้การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีที่กำลังดำเนินการอยู่ กดดันบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้จำกัดการคบค้าสมาคมกับจีน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้

    ความคิดนี้คือการกดดันรีดเอาคำสัญญาจากบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้โดดเดี่ยวเศรษฐกิจของจีน เพื่อแลกกับการลดอุปสรรคทางการค้าและการรีดภาษีที่กำหนดโดยทำเนียบขาว โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่อเมริกมีแผนใช้การเจรจากับประเทศต่างๆกว่า 70 ชาติ ขอให้ชาติต่างเหล่านั้นไม่อนุญาตให้จีนส่งออกสินค้าผ่านประเทศของพวกเขา ขัดขวางเหล่าบริษัทของจีนจากการโยกย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนของชาติต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ และไม่ยอมให้สินค้าอุตสาหกรรมราคาถูกของจีนแทรกซึมเข้าสู่เศรษฐกิจของพวกเขา

    มาตรการเหล่านี้มีเจตนาตอกลิ่มเข้าใส่เศรษฐกิจที่ง่อนแง่นอยู่ก่อนแล้วของจีน และบีบให้ปักกิ่งยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยอำนาจงัดข้อที่น้อยลง ในความเป็นไปได้ของการเจรจาระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทั้งนี้ข้อเรียกร้องอย่างเจาะจงอาจต่างกันไปในแต่ละชาติ เนื่องจากจากระดับความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนที่ต่างกันออกไป

    ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035822

    #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนใช้การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีที่กำลังดำเนินการอยู่ กดดันบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้จำกัดการคบค้าสมาคมกับจีน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้ • ความคิดนี้คือการกดดันรีดเอาคำสัญญาจากบรรดาคู่หูการค้าของสหรัฐฯ ให้โดดเดี่ยวเศรษฐกิจของจีน เพื่อแลกกับการลดอุปสรรคทางการค้าและการรีดภาษีที่กำหนดโดยทำเนียบขาว โดยวอลล์สตรีท เจอร์นัล บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่อเมริกมีแผนใช้การเจรจากับประเทศต่างๆกว่า 70 ชาติ ขอให้ชาติต่างเหล่านั้นไม่อนุญาตให้จีนส่งออกสินค้าผ่านประเทศของพวกเขา ขัดขวางเหล่าบริษัทของจีนจากการโยกย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนของชาติต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ และไม่ยอมให้สินค้าอุตสาหกรรมราคาถูกของจีนแทรกซึมเข้าสู่เศรษฐกิจของพวกเขา • มาตรการเหล่านี้มีเจตนาตอกลิ่มเข้าใส่เศรษฐกิจที่ง่อนแง่นอยู่ก่อนแล้วของจีน และบีบให้ปักกิ่งยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยอำนาจงัดข้อที่น้อยลง ในความเป็นไปได้ของการเจรจาระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ทั้งนี้ข้อเรียกร้องอย่างเจาะจงอาจต่างกันไปในแต่ละชาติ เนื่องจากจากระดับความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนที่ต่างกันออกไป • ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035822 • #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กชายชาวอเมริกัน จากวิสคอนซิน ถูกกล่าวหาว่าสังหารพ่อแม่ของตัวเอง เพื่อนำเงินไปใช้ในการสร้างโดรนพลีชีพ โดยมุ่งหวังจะลอบสังหารประธานาธิบดีทรัมป์ และถ้าหากทำสำเร็จ เจ้าตัวจะหลบหนีไปยูเครน

    จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนี้มีผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นกลุ่มคนบางกลุ่ม แต่ยังไม่ระบุชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด

    จากการรายงานของสื่อ คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Azov ซึ่งเป็นกลุ่มนาซีหัวรุนแรงในยูเครน
    เด็กชายชาวอเมริกัน จากวิสคอนซิน ถูกกล่าวหาว่าสังหารพ่อแม่ของตัวเอง เพื่อนำเงินไปใช้ในการสร้างโดรนพลีชีพ โดยมุ่งหวังจะลอบสังหารประธานาธิบดีทรัมป์ และถ้าหากทำสำเร็จ เจ้าตัวจะหลบหนีไปยูเครน จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนนี้มีผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นกลุ่มคนบางกลุ่ม แต่ยังไม่ระบุชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด จากการรายงานของสื่อ คาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Azov ซึ่งเป็นกลุ่มนาซีหัวรุนแรงในยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดูจะไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนยันว่าจีนจะต้องเป็นฝ่ายติดต่อเขาก่อน การเจรจาถึงจะเริ่มต้นได้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์สงครามการค้า


    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ได้กล่าวถึงสิ่งที่ทรัมป์บอก ซึ่งระบุว่า “จีนจำเป็นต้องทำข้อตกลงกับเรา เราไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเขา”

    “จีนไม่ได้มีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นแต่อย่างใด ยกเว้นแค่ว่าพวกเขามีขนาดใหญ่กว่าแค่นั้น จีนต้องการสิ่งที่เรามี เหมือนๆกับทุกประเทศที่ต้องการจากเรา นั่นคือผู้บริโภคชาวอเมริกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาต้องการเงินของเรา”
    สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดูจะไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนยันว่าจีนจะต้องเป็นฝ่ายติดต่อเขาก่อน การเจรจาถึงจะเริ่มต้นได้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์สงครามการค้า แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ได้กล่าวถึงสิ่งที่ทรัมป์บอก ซึ่งระบุว่า “จีนจำเป็นต้องทำข้อตกลงกับเรา เราไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเขา” “จีนไม่ได้มีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นแต่อย่างใด ยกเว้นแค่ว่าพวกเขามีขนาดใหญ่กว่าแค่นั้น จีนต้องการสิ่งที่เรามี เหมือนๆกับทุกประเทศที่ต้องการจากเรา นั่นคือผู้บริโภคชาวอเมริกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาต้องการเงินของเรา”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเชิญนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035704

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเชิญนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035704 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 649 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ประกาศระงับเงินอุดหนุนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) จำนวน 2,300 ล้านดอลลาร์ หลังทางสถาบันออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องหลายอย่างของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพวกเขาชี้ว่าเป็นการ “ยกอำนาจควบคุม” สถานศึกษาให้กับรัฐบาลอนุรักษนิยมที่มองมหาวิทยาลัยเป็นพวก “ฝ่ายซ้ายที่อันตราย”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035679

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สหรัฐฯ ประกาศระงับเงินอุดหนุนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) จำนวน 2,300 ล้านดอลลาร์ หลังทางสถาบันออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องหลายอย่างของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งพวกเขาชี้ว่าเป็นการ “ยกอำนาจควบคุม” สถานศึกษาให้กับรัฐบาลอนุรักษนิยมที่มองมหาวิทยาลัยเป็นพวก “ฝ่ายซ้ายที่อันตราย” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035679 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 903 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่:

    👉Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments)

    👉Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    👉Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production)

    👉Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines)

    👉Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts)

    👉Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    👉Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors)

    นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่: 👉Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments) 👉Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production) 👉Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines) 👉Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts) 👉Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors) นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

    เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ”

    “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า”

    อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641

    #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ • เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ” • “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า” • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641 • #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts