• สื่อญี่ปุ่นรายงาน​ (20​ ก.พ.)​ กระแสไวรัล​ เมื่อขวดแยมที่ผลิตโดย Aohata หนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมในญี่ปุ่น เมื่อวางฝากลับจะขยับหมุนปิดได้เอง

    “นี่คืออะไร ฝาขวดมีชีวิตหรือเปล่า”
    “โอ้พระเจ้า นี่มันน่าทึ่งมาก”
    “มันเหมือนกับว่ามันถูกควบคุมโดยพลังของพลัง!”
    “ว้าว ฉันสงสัยว่าอะไรทำให้เป็นอย่างนี้”

    ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรทำให้ฝาขวดขยับตามความสมัครใจ และอาโอฮาตะก็ยังไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เราไม่รู้ว่ามันถูกออกแบบมาให้ปิดเองโดยอัตโนมัติหรือไม่

    ใครที่ทดลองก็พบว่าฝาขวดปิดเองได้จริงๆ บางครั้งปิดช้า บางครั้งปิดเร็ว แค่วางฝาขวดไว้บนขวดโดยไม่บิดเลย และฝาขวดก็หมุนและปิดด้วยความเร็วที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง รู้สึกเหมือนมีแรงแม่เหล็กเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าจะไม่มีแม่เหล็กเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000016988

    #MGROnline #ญี่ปุ่น #ขวดแยม #Aohata
    สื่อญี่ปุ่นรายงาน​ (20​ ก.พ.)​ กระแสไวรัล​ เมื่อขวดแยมที่ผลิตโดย Aohata หนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมในญี่ปุ่น เมื่อวางฝากลับจะขยับหมุนปิดได้เอง • “นี่คืออะไร ฝาขวดมีชีวิตหรือเปล่า” “โอ้พระเจ้า นี่มันน่าทึ่งมาก” “มันเหมือนกับว่ามันถูกควบคุมโดยพลังของพลัง!” “ว้าว ฉันสงสัยว่าอะไรทำให้เป็นอย่างนี้” • ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรทำให้ฝาขวดขยับตามความสมัครใจ และอาโอฮาตะก็ยังไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เราไม่รู้ว่ามันถูกออกแบบมาให้ปิดเองโดยอัตโนมัติหรือไม่ • ใครที่ทดลองก็พบว่าฝาขวดปิดเองได้จริงๆ บางครั้งปิดช้า บางครั้งปิดเร็ว แค่วางฝาขวดไว้บนขวดโดยไม่บิดเลย และฝาขวดก็หมุนและปิดด้วยความเร็วที่แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง รู้สึกเหมือนมีแรงแม่เหล็กเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าจะไม่มีแม่เหล็กเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000016988 • #MGROnline #ญี่ปุ่น #ขวดแยม #Aohata
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านเปิดใหม่ ถวายน้ำมันเครื่อง บูชาหุ่นยนต์ “ออฟติมัส ไพรม์” ปรากฎขายดีจนต้องจ้างนางรำไปรำถวาย กลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล
    ร้านเปิดใหม่ ถวายน้ำมันเครื่อง บูชาหุ่นยนต์ “ออฟติมัส ไพรม์” ปรากฎขายดีจนต้องจ้างนางรำไปรำถวาย กลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล
    Haha
    Like
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 739 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • ไวรัล ชุดปีกผีเสื้อ (16/02/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #AI #แต่งรูปจากapp #ไวรัล ai เปลี่ยนชุด
    ไวรัล ชุดปีกผีเสื้อ (16/02/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #AI #แต่งรูปจากapp #ไวรัล ai เปลี่ยนชุด
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 834 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งตรวจสอบ หนุ่มรับส่ง “ลูกสิงโต“ พร้อมเผยการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่านั้นมีกฎหมายกำหนดอยู่ และการขนย้ายจะต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์

    จากกรณี ไวรัลในออนไลน์ประเด็นของหนุ่มรับจ็อบขับรถส่งของผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง ที่มีลูกค้าประจำให้ขนส่ง “ลูกสิงโต“ จนกลายเป็นข่าวดังในโซเชียล

    ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งตรวจสอบ กรณีหนุ่มขับรถรับจ้างส่งของโพสต์คลิปลูกค้าประจำจ้างให้ส่ง ลูกสิงโต โดยไม่มีกรง ซึ่งเจ้าของยันน้องไม่งอแง นิ่งเหมือนหมา ไม่กัดแน่นอน แต่สุดท้ายสุดซนเดินป่วนทั่วรถ จนกลายเป็นไวรัลดัง ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวต้องลบโพสต์ออกไปแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000005250

    #MGROnline #ลูกสิงโต
    อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งตรวจสอบ หนุ่มรับส่ง “ลูกสิงโต“ พร้อมเผยการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่านั้นมีกฎหมายกำหนดอยู่ และการขนย้ายจะต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ • จากกรณี ไวรัลในออนไลน์ประเด็นของหนุ่มรับจ็อบขับรถส่งของผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง ที่มีลูกค้าประจำให้ขนส่ง “ลูกสิงโต“ จนกลายเป็นข่าวดังในโซเชียล • ล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งตรวจสอบ กรณีหนุ่มขับรถรับจ้างส่งของโพสต์คลิปลูกค้าประจำจ้างให้ส่ง ลูกสิงโต โดยไม่มีกรง ซึ่งเจ้าของยันน้องไม่งอแง นิ่งเหมือนหมา ไม่กัดแน่นอน แต่สุดท้ายสุดซนเดินป่วนทั่วรถ จนกลายเป็นไวรัลดัง ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวต้องลบโพสต์ออกไปแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000005250 • #MGROnline #ลูกสิงโต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2025 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการท้าทายของ TikTok และบริษัทแม่ ByteDance ต่อกฎหมายที่ลงนามโดยประธานาธิบดี Joe Biden ซึ่งจะบังคับให้ขายหรือแบนแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้ภายในวันที่ 19 มกราคมในสหรัฐอเมริกา

    กฎหมายนี้จะส่งผลให้ผู้ใช้ใหม่ไม่สามารถดาวน์โหลด TikTok จากร้านแอปได้ และผู้ใช้ปัจจุบันจะไม่สามารถอัปเดตแอปได้ เนื่องจากกฎหมายห้ามไม่ให้มีการดาวน์โหลดหรือบำรุงรักษาแอปพลิเคชัน TikTok ผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 170 ล้านคนจะยังคงสามารถใช้แอปได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป แอปจะไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากไม่มีการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัย

    ผู้สร้างเนื้อหาที่ใช้ TikTok ในการสร้างธุรกิจของตนกำลังเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เช่น Nadya Okamoto ผู้ก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนของผู้หญิง August ซึ่งกล่าวว่า TikTok ช่วยให้ธุรกิจของเธอเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติผ่านวิดีโอไวรัล

    นอกจากนี้ พนักงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 7,000 คนกำลังพยายามหาทางออกเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐอเมริกายืนยันกฎหมายขายหรือแบนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม

    ทาง TikTok ได้กล่าวซ้ำๆ ว่าไม่สามารถขายจาก ByteDance ได้ แต่ Frank McCourt นักธุรกิจมหาเศรษฐีได้กล่าวว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญาจากกลุ่มนักลงทุนมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสนอซื้อ TikTok

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/11/explainer-what-happens-after-the-tiktok-ban
    เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2025 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการท้าทายของ TikTok และบริษัทแม่ ByteDance ต่อกฎหมายที่ลงนามโดยประธานาธิบดี Joe Biden ซึ่งจะบังคับให้ขายหรือแบนแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้ภายในวันที่ 19 มกราคมในสหรัฐอเมริกา กฎหมายนี้จะส่งผลให้ผู้ใช้ใหม่ไม่สามารถดาวน์โหลด TikTok จากร้านแอปได้ และผู้ใช้ปัจจุบันจะไม่สามารถอัปเดตแอปได้ เนื่องจากกฎหมายห้ามไม่ให้มีการดาวน์โหลดหรือบำรุงรักษาแอปพลิเคชัน TikTok ผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 170 ล้านคนจะยังคงสามารถใช้แอปได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป แอปจะไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากไม่มีการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัย ผู้สร้างเนื้อหาที่ใช้ TikTok ในการสร้างธุรกิจของตนกำลังเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เช่น Nadya Okamoto ผู้ก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนของผู้หญิง August ซึ่งกล่าวว่า TikTok ช่วยให้ธุรกิจของเธอเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติผ่านวิดีโอไวรัล นอกจากนี้ พนักงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 7,000 คนกำลังพยายามหาทางออกเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐอเมริกายืนยันกฎหมายขายหรือแบนเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ทาง TikTok ได้กล่าวซ้ำๆ ว่าไม่สามารถขายจาก ByteDance ได้ แต่ Frank McCourt นักธุรกิจมหาเศรษฐีได้กล่าวว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญาจากกลุ่มนักลงทุนมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสนอซื้อ TikTok https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/11/explainer-what-happens-after-the-tiktok-ban
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Explainer-What happens after the TikTok ban?
    (Reuters) -The U.S. Supreme Court justices on Friday expressed skepticism about a challenge from TikTok and its Chinese parent company ByteDance against a law signed by President Joe Biden, which would force the sale or ban of the popular short-video app by Jan. 19 in the United States.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพ AI ที่กำลังเป็นไวรัลเกี่ยวกับการ "ล้อเลียนเสียดสี" เหตุการณ์ไฟป่าในแอลเอ สหรัฐอเมริกา

    โพสต์ใน FB ไม่ได้แน่ๆ 😂😂
    ภาพ AI ที่กำลังเป็นไวรัลเกี่ยวกับการ "ล้อเลียนเสียดสี" เหตุการณ์ไฟป่าในแอลเอ สหรัฐอเมริกา โพสต์ใน FB ไม่ได้แน่ๆ 😂😂
    Like
    Haha
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 50 0 รีวิว
  • ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย

    ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก

    ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา

    ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

    แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์

    มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่

    1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

    2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น

    3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต

    4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้

    5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป

    #Newskit
    ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์ มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่ 1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น 2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น 3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต 4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้ 5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป #Newskit
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 987 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้ไอเดียมาจากสื่อมาเลเซีย เอาเรื่องที่เป็นกระแสหรือไวรัลในแต่ละเดือนมาทำเป็นปฎิทิน

    ทีแรกจะใช้คำว่า THAILAND MEME CALENDAR แต่ปีนี้มีเรื่องทั้งหัวเราะและน้ำตา เลยใช้คำว่า THAILAND VIRAL CALENDAR แทน

    ขอให้มีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ครับ
    ได้ไอเดียมาจากสื่อมาเลเซีย เอาเรื่องที่เป็นกระแสหรือไวรัลในแต่ละเดือนมาทำเป็นปฎิทิน ทีแรกจะใช้คำว่า THAILAND MEME CALENDAR แต่ปีนี้มีเรื่องทั้งหัวเราะและน้ำตา เลยใช้คำว่า THAILAND VIRAL CALENDAR แทน ขอให้มีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ครับ
    2024 THAILAND VIRAL CALENDAR

    วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา

    มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ

    กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ

    มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ

    พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย

    มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก

    กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว

    สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน

    กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ

    ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด

    พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน

    ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง

    #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024 THAILAND VIRAL CALENDAR

    วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา

    มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ

    กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ

    มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ

    พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย

    มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก

    กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว

    สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน

    กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ

    ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด

    พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน

    ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง

    #Newskit
    2024 THAILAND VIRAL CALENDAR วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง #Newskit
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1317 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำกันได้ไหมคลิปแม่สักคู่ลูกชาย ล่าสุดเป็นไวรัลสุดซึ้ง “เมื่อแม่ทำงานวันสุดท้าย” ลูกชายมารับกลับบ้านเอง
    จำกันได้ไหมคลิปแม่สักคู่ลูกชาย ล่าสุดเป็นไวรัลสุดซึ้ง “เมื่อแม่ทำงานวันสุดท้าย” ลูกชายมารับกลับบ้านเอง
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 874 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • ไวรัลคลิป! ถูกใจชาวเน็ต หลังสาวใต้ชาวจังหวัดตรังตัดพ้อ อยากกลับบ้านที่ตรัง ช่วงปีใหม่ แต่ตั๋วเครื่องบินแพงมาก จนตั้งคำถามแพงเพราะอะไร? เผยพบราคาสูงถึง 7-8 พันบาท เท่าราคาไปต่างประเทศได้เลย

    วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้ใช้ติ๊กต็อก “poonchuu”ได้โพสต์คลิป เพื่อตัดพ้อระบายความในใจจากเหตุที่ตนเองอยากเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดตรังในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตั๋วเครื่องบินแพงมาก จนตั้งคำถามว่า “แพงเพราะอะไร? โดยระบุว่า“อันนี้คือจะต้องกลับในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาล แล้วกลับไปทำไม อยากกลับช่วงเทศกาลอยู่กับพ่อกับแม่ กับพี่กับน้อง ไอ้นี่ 7-8 พัน ไปญี่ปุ่นไหม อิรัชชัยมาเสะ ไม่ต้องแหลงภาษาใต้กันแล้ว ไปเกาหลีไหม ต้องใช้พาสปอร์ตป่ะเข้าจังหวัดตรัง คือต้องไปทำวีซ่าเลยหรือเปล่า นี่นอนแลค่าตั๋วเครื่องบิน ยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิปเลย นับวันจะยิ่งแพงขึ้นบทสรุป ปีใหม่ก็ไม่ได้กลับ ตรุษจีนก็ไม่ได้กลับ สงกรานต์ก็ไม่ได้กลับ แพงแค่Xxxx”

    ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก ให้ความสนใจจนคลิปกลายเป็นไวรัล ซึ่งชาวเน็ตต่างเข้าใจ และมีหลายรายระบุว่าไม่ใช่แค่จังหวัดตรังแต่จังหวัดอื่นในภาคใต้ก็แพงเช่นกัน

    #MGROnline #จังหวัดตรัง
    ไวรัลคลิป! ถูกใจชาวเน็ต หลังสาวใต้ชาวจังหวัดตรังตัดพ้อ อยากกลับบ้านที่ตรัง ช่วงปีใหม่ แต่ตั๋วเครื่องบินแพงมาก จนตั้งคำถามแพงเพราะอะไร? เผยพบราคาสูงถึง 7-8 พันบาท เท่าราคาไปต่างประเทศได้เลย • วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้ใช้ติ๊กต็อก “poonchuu”ได้โพสต์คลิป เพื่อตัดพ้อระบายความในใจจากเหตุที่ตนเองอยากเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดตรังในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตั๋วเครื่องบินแพงมาก จนตั้งคำถามว่า “แพงเพราะอะไร? โดยระบุว่า“อันนี้คือจะต้องกลับในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาล แล้วกลับไปทำไม อยากกลับช่วงเทศกาลอยู่กับพ่อกับแม่ กับพี่กับน้อง ไอ้นี่ 7-8 พัน ไปญี่ปุ่นไหม อิรัชชัยมาเสะ ไม่ต้องแหลงภาษาใต้กันแล้ว ไปเกาหลีไหม ต้องใช้พาสปอร์ตป่ะเข้าจังหวัดตรัง คือต้องไปทำวีซ่าเลยหรือเปล่า นี่นอนแลค่าตั๋วเครื่องบิน ยกโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิปเลย นับวันจะยิ่งแพงขึ้นบทสรุป ปีใหม่ก็ไม่ได้กลับ ตรุษจีนก็ไม่ได้กลับ สงกรานต์ก็ไม่ได้กลับ แพงแค่Xxxx” • ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาก ให้ความสนใจจนคลิปกลายเป็นไวรัล ซึ่งชาวเน็ตต่างเข้าใจ และมีหลายรายระบุว่าไม่ใช่แค่จังหวัดตรังแต่จังหวัดอื่นในภาคใต้ก็แพงเช่นกัน • #MGROnline #จังหวัดตรัง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • #“อาเล็ก ธีรเดช” เผย “โบว์” เป็นคนหัวไวและชอบตบมุก บอกตนก็คิดคำเดียวกัน แต่ไม่ได้พูดออกไป แต่พอแฟนสาวพูดก็เป็นตัวตนอยู่แล้ว และเชื่อว่ายุคนี้คนน่าจะเข้าใจว่าการแสดงกับชีวิตจริงเป็นยังไง พร้อมบอกได้ไปเที่ยวบ้านญาติแฟนสาวครั้งแรก โดนเรียกหลานเขย ยอมรับดีใจ แต่รอให้เกิดขึ้นจริงก่อน เพราะยังต้องผ่านด่าน “แม่โบว์” อีกคน

    ทำเอากลายเป็นไวรัลไปเลย กรณีนางเอกสาว “โบว์ เมลดา สุศรี” ปล่อยมุกเด็ดคำว่า “ดอยหมึง” ในงานแจกปฏิทินช่อง 3 จนหลายคนมองว่าอาจจะเสียภาพลักษณ์นางเอกหรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวแฟนหนุ่มอย่าง “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เจ้าตัวเผยว่าไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะเป็นความตลกและหัวใจของแฟนสาวอยู่แล้ว เชื่อว่าคนคงเข้าใจและมองเป็นเรื่องตลกมากกว่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119835

    #MGROnline #อาเล็กธีรเดช #โบว์เมลดา
    #“อาเล็ก ธีรเดช” เผย “โบว์” เป็นคนหัวไวและชอบตบมุก บอกตนก็คิดคำเดียวกัน แต่ไม่ได้พูดออกไป แต่พอแฟนสาวพูดก็เป็นตัวตนอยู่แล้ว และเชื่อว่ายุคนี้คนน่าจะเข้าใจว่าการแสดงกับชีวิตจริงเป็นยังไง พร้อมบอกได้ไปเที่ยวบ้านญาติแฟนสาวครั้งแรก โดนเรียกหลานเขย ยอมรับดีใจ แต่รอให้เกิดขึ้นจริงก่อน เพราะยังต้องผ่านด่าน “แม่โบว์” อีกคน • ทำเอากลายเป็นไวรัลไปเลย กรณีนางเอกสาว “โบว์ เมลดา สุศรี” ปล่อยมุกเด็ดคำว่า “ดอยหมึง” ในงานแจกปฏิทินช่อง 3 จนหลายคนมองว่าอาจจะเสียภาพลักษณ์นางเอกหรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวแฟนหนุ่มอย่าง “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เจ้าตัวเผยว่าไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะเป็นความตลกและหัวใจของแฟนสาวอยู่แล้ว เชื่อว่าคนคงเข้าใจและมองเป็นเรื่องตลกมากกว่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119835 • #MGROnline #อาเล็กธีรเดช #โบว์เมลดา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดฮิตที่สุดแห่งปี 2567 “Thank you Kateyki” : [News story]

    คุณออน สมฤทัย เจ้าของคำพูดสุดฮิต “Thank you Kateyki” กลายเป็นไวรัลจน แบมแบม-ลิซ่า เล่นตาม
    คำพูดฮิตที่สุดแห่งปี 2567 “Thank you Kateyki” : [News story] คุณออน สมฤทัย เจ้าของคำพูดสุดฮิต “Thank you Kateyki” กลายเป็นไวรัลจน แบมแบม-ลิซ่า เล่นตาม
    Like
    Yay
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 891 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • กับปรากฏการณ์ข่าวฉาวๆที่กลายเป็นไวรัลและได้รับการจับจ้องติดตามกระแสกันอย่างต่อเนื่อง เวลานี้คงไม่พ้นประเด็นข่าวเทาๆของผู้มีชื่อเสียงที่ติดร่างแหถูกฟ้องร้องในคดีความร้อนๆอยู่อีกหลายคดี จะถูกหรือผิดยังคงต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินจึงไม่ขอก้าวล่วง

    แต่จะขอนำประเด็นอีกมุมมองหนึ่งเพื่อวิเคราะห์ถึงข่าวฉาวๆเทาๆว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กระแสพลังดาวประจำยุคกับกระแสพลังดาวประจำปีจรที่สอดรับกับผังภูมิ 8 ทิศ“八卦”(โป๊ยข่วย) จะส่งอิทธิพลกระทบจนเกิดปรากฏการณ์ในครั้งนี้

    ในปีพ.ศ.2567 นี้ เข้าสู่ยุคที่ 9 มีดาว 5 สถิตที่ภูมิ 7 จึงขออนุญาตนำ“易经”(อี้จิง) ศาสตร์วิชาตำราอันเก่าแก่ของจีนมาอรรถาธิบายความเป็นไปตามลักษณะ Keyword ดังนี้

    ยุค 9 หรือ ดาวเก้าม่วง“九紫”(เก๋าจี้) ดาวชื่อเสียง เกียรติยศ ประจำที่ภูมิทิศใต้ “离卦”(ลี้ข่วย) ธาตุไฟ สัญลักษณ์คือ พระอาทิตย์ ลักษณะทั่วไปคือ แสงสว่าง เปิดเผย

    ดาว 5 หรือ ดาวห้าเหลือง“五黃”(โหงวอึ๊ง) ดาววิบาก ประจำที่ภูมิกลาง ธาตุดิน ลักษณะทั่วไปหมายถึง ผิดกฎหมาย ฟ้องร้อง คดีความ เอาแต่ใจตัวเอง คิดเป็นใหญ่เกินตัว กระทำการเกินปกติ สร้างความเสียหายถึงลูกหลานและบริวาร

    ภูมิ 7 หรือ ดาวเจ็ดแสด“七赤”(ชิ๊กเฉียะ) ดาวแตกหัก ขัดแย้ง ประจำที่ภูมิทิศตะวันตก“兑卦”(ต่วยข่วย) ธาตุทอง ลักษณะอาชีพคือ ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง นักขาย นักพูด นักบรรยาย แพทย์ ดารา พิธีกร หมอดู หมอดูฮวงจุ้ย ฯลฯ

    โดยสามารถอรรถาธิบายได้ว่า ในปีพ.ศ.2567 นี้ ผู้ที่มีชื่อเสียงเกียรติยศในแวดวง ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง นักขาย นักพูด นักบรรยาย แพทย์ ดารา พิธีกร หมอดู หมอดูฮวงจุ้ย ฯลฯ ที่ประพฤติผิดนอกลู่นอกทางหรือมีธุรกรรมอำพรางปกปิด จะถูกเปิดเผยฟ้องร้องฟ้องศาลจนเป็นคดีความติดตัว สร้างความเสียหายให้แก่คนรอบข้างแม้แต่ลูกหลานและบริวาร

    ดั่ง“ดวงดาวพิสูจน์ฟ้า กาลเวลาพิสูจน์คน” หากครองตนบนความซื่อสัตย์ เปิดเผย ซื่อตรง มีคุณธรรมและจริยธรรม ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไม่ว่าจะสวมบทบาทอาชีพใดก็ตาม อาทิตย์ย่อมฉายแสงส่องสว่างถึงคุณงามความดีให้ปรากฏบนเวทีในยุคที่ 9 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    กับปรากฏการณ์ข่าวฉาวๆที่กลายเป็นไวรัลและได้รับการจับจ้องติดตามกระแสกันอย่างต่อเนื่อง เวลานี้คงไม่พ้นประเด็นข่าวเทาๆของผู้มีชื่อเสียงที่ติดร่างแหถูกฟ้องร้องในคดีความร้อนๆอยู่อีกหลายคดี จะถูกหรือผิดยังคงต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินจึงไม่ขอก้าวล่วง แต่จะขอนำประเด็นอีกมุมมองหนึ่งเพื่อวิเคราะห์ถึงข่าวฉาวๆเทาๆว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่กระแสพลังดาวประจำยุคกับกระแสพลังดาวประจำปีจรที่สอดรับกับผังภูมิ 8 ทิศ“八卦”(โป๊ยข่วย) จะส่งอิทธิพลกระทบจนเกิดปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ในปีพ.ศ.2567 นี้ เข้าสู่ยุคที่ 9 มีดาว 5 สถิตที่ภูมิ 7 จึงขออนุญาตนำ“易经”(อี้จิง) ศาสตร์วิชาตำราอันเก่าแก่ของจีนมาอรรถาธิบายความเป็นไปตามลักษณะ Keyword ดังนี้ ยุค 9 หรือ ดาวเก้าม่วง“九紫”(เก๋าจี้) ดาวชื่อเสียง เกียรติยศ ประจำที่ภูมิทิศใต้ “离卦”(ลี้ข่วย) ธาตุไฟ สัญลักษณ์คือ พระอาทิตย์ ลักษณะทั่วไปคือ แสงสว่าง เปิดเผย ดาว 5 หรือ ดาวห้าเหลือง“五黃”(โหงวอึ๊ง) ดาววิบาก ประจำที่ภูมิกลาง ธาตุดิน ลักษณะทั่วไปหมายถึง ผิดกฎหมาย ฟ้องร้อง คดีความ เอาแต่ใจตัวเอง คิดเป็นใหญ่เกินตัว กระทำการเกินปกติ สร้างความเสียหายถึงลูกหลานและบริวาร ภูมิ 7 หรือ ดาวเจ็ดแสด“七赤”(ชิ๊กเฉียะ) ดาวแตกหัก ขัดแย้ง ประจำที่ภูมิทิศตะวันตก“兑卦”(ต่วยข่วย) ธาตุทอง ลักษณะอาชีพคือ ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง นักขาย นักพูด นักบรรยาย แพทย์ ดารา พิธีกร หมอดู หมอดูฮวงจุ้ย ฯลฯ โดยสามารถอรรถาธิบายได้ว่า ในปีพ.ศ.2567 นี้ ผู้ที่มีชื่อเสียงเกียรติยศในแวดวง ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง นักขาย นักพูด นักบรรยาย แพทย์ ดารา พิธีกร หมอดู หมอดูฮวงจุ้ย ฯลฯ ที่ประพฤติผิดนอกลู่นอกทางหรือมีธุรกรรมอำพรางปกปิด จะถูกเปิดเผยฟ้องร้องฟ้องศาลจนเป็นคดีความติดตัว สร้างความเสียหายให้แก่คนรอบข้างแม้แต่ลูกหลานและบริวาร ดั่ง“ดวงดาวพิสูจน์ฟ้า กาลเวลาพิสูจน์คน” หากครองตนบนความซื่อสัตย์ เปิดเผย ซื่อตรง มีคุณธรรมและจริยธรรม ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไม่ว่าจะสวมบทบาทอาชีพใดก็ตาม อาทิตย์ย่อมฉายแสงส่องสว่างถึงคุณงามความดีให้ปรากฏบนเวทีในยุคที่ 9 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออังกฤษปลดแอก เลิกใช้แพลตฟอร์ม X

    แม้โซเชียลมีเดียจะทำให้พฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป สื่อดั้งเดิมต่างพึ่งพาโซเชียลมีเดียเผยแพร่ผลงาน แต่สำหรับเดอะการ์เดียน (The Guardian) สื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่ยึดมั่นในแนวทางเสรีนิยม ตัดสินใจประกาศเลิกเผยแพร่เนื้อหาข่าวผ่านแพลตฟอร์ม X (หรือ Twitter เดิม) เช่น บัญชีหลัก @guardian มีผู้ติดตามกว่า 10.8 ล้านบัญชี โดยให้เหตุผลว่า จากแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า X คือแพลตฟอร์มสื่อที่เป็นพิษ

    "เราอยากให้ผู้อ่านทราบว่า เราจะไม่โพสต์เนื้อหาในบัญชีทางการของ The Guardian บน X อีกต่อไป เราคิดว่าข้อดีของการอยู่ใน X นั้นถูกชดเชยด้วยข้อเสียไปแล้ว และทรัพยากรต่างๆ สามารถนำมาใช้ส่งเสริมการสื่อสารมวลชนของเราในทางอื่นได้ดีกว่า"

    "นี่เป็นสิ่งที่เราพิจารณามาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องมาจากเนื้อหาที่มักจะสร้างความรำคาญใจ ที่ได้รับการส่งเสริมหรือพบเห็นบนแพลตฟอร์ม รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายขวาจัด และการเหยียดเชื้อชาติ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงสิ่งที่พิจารณามาเป็นเวลานาน นั่นคือ X เป็นแพลตฟอร์มสื่อที่เป็นพิษ และเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างอีลอน มัสก์ สามารถใช้อิทธิพลของแพลตฟอร์มนี้เพื่อกำหนดทิศทางทางการเมืองได้"

    เดอะการ์เดียน ยังกล่าวอีกว่า โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรข่าว และช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ แต่ในขณะนี้ X มีบทบาทน้อยลงในการส่งเสริมผลงาน ข่าวสารต่างๆ สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์ อยากให้ทุกคนเข้าไปที่เว็บไซต์ theguardian.com และสนับสนุนผลงานที่นั่น ซึ่งรูปแบบธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาไวรัลที่ปรับแต่งตามอัลกอริทึม (Algorithm) ของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ แต่ได้รับเงินทุนโดยตรงจากผู้อ่าน

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ X ยังสามารถแชร์บทความจากเว็บไซต์ได้ และกองบรรณาธิการจะฝังเนื้อหาจาก X ไว้ในบทความเป็นครั้งคราว รวมทั้งผู้สื่อข่าวสามารถรวบรวมข่าวได้เช่นเดียวกันกับเครือข่ายโซเชียลอื่นๆ ที่องค์กรไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการ

    พร้อมกันนี้ ข้อความโฆษณาที่ให้ผู้อ่านสนับสนุนเริ่มต้นที่ 1 ปอนด์ หรือ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ระบุว่า สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ คือ ระบบนิเวศสื่อที่ถูกครอบงำโดยเจ้าของมหาเศรษฐีเพียงไม่กี่คน การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางออนไลน์เพื่อปลุกปั่นความไม่ยอมรับผู้อื่น ทีมทนายความจากเหล่าคนรวยและผู้ทรงอิทธิพล พยายามหยุดยั้งไม่ให้เผยแพร่เรื่องราวที่พวกเขาไม่อยากให้ผู้อ่านเห็น กลุ่มล็อบบี้ที่ได้รับเงินทุนไม่โปร่งใส และรัฐเผด็จการที่ไม่คำนึงถึงเสรีภาพของสื่อมวลชน

    #Newskit #X #TheGuardian
    สื่ออังกฤษปลดแอก เลิกใช้แพลตฟอร์ม X แม้โซเชียลมีเดียจะทำให้พฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป สื่อดั้งเดิมต่างพึ่งพาโซเชียลมีเดียเผยแพร่ผลงาน แต่สำหรับเดอะการ์เดียน (The Guardian) สื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่ยึดมั่นในแนวทางเสรีนิยม ตัดสินใจประกาศเลิกเผยแพร่เนื้อหาข่าวผ่านแพลตฟอร์ม X (หรือ Twitter เดิม) เช่น บัญชีหลัก @guardian มีผู้ติดตามกว่า 10.8 ล้านบัญชี โดยให้เหตุผลว่า จากแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า X คือแพลตฟอร์มสื่อที่เป็นพิษ "เราอยากให้ผู้อ่านทราบว่า เราจะไม่โพสต์เนื้อหาในบัญชีทางการของ The Guardian บน X อีกต่อไป เราคิดว่าข้อดีของการอยู่ใน X นั้นถูกชดเชยด้วยข้อเสียไปแล้ว และทรัพยากรต่างๆ สามารถนำมาใช้ส่งเสริมการสื่อสารมวลชนของเราในทางอื่นได้ดีกว่า" "นี่เป็นสิ่งที่เราพิจารณามาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องมาจากเนื้อหาที่มักจะสร้างความรำคาญใจ ที่ได้รับการส่งเสริมหรือพบเห็นบนแพลตฟอร์ม รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดของฝ่ายขวาจัด และการเหยียดเชื้อชาติ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงสิ่งที่พิจารณามาเป็นเวลานาน นั่นคือ X เป็นแพลตฟอร์มสื่อที่เป็นพิษ และเจ้าของแพลตฟอร์มอย่างอีลอน มัสก์ สามารถใช้อิทธิพลของแพลตฟอร์มนี้เพื่อกำหนดทิศทางทางการเมืองได้" เดอะการ์เดียน ยังกล่าวอีกว่า โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรข่าว และช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ แต่ในขณะนี้ X มีบทบาทน้อยลงในการส่งเสริมผลงาน ข่าวสารต่างๆ สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์ อยากให้ทุกคนเข้าไปที่เว็บไซต์ theguardian.com และสนับสนุนผลงานที่นั่น ซึ่งรูปแบบธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาไวรัลที่ปรับแต่งตามอัลกอริทึม (Algorithm) ของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ แต่ได้รับเงินทุนโดยตรงจากผู้อ่าน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ X ยังสามารถแชร์บทความจากเว็บไซต์ได้ และกองบรรณาธิการจะฝังเนื้อหาจาก X ไว้ในบทความเป็นครั้งคราว รวมทั้งผู้สื่อข่าวสามารถรวบรวมข่าวได้เช่นเดียวกันกับเครือข่ายโซเชียลอื่นๆ ที่องค์กรไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ ข้อความโฆษณาที่ให้ผู้อ่านสนับสนุนเริ่มต้นที่ 1 ปอนด์ หรือ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ระบุว่า สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ คือ ระบบนิเวศสื่อที่ถูกครอบงำโดยเจ้าของมหาเศรษฐีเพียงไม่กี่คน การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางออนไลน์เพื่อปลุกปั่นความไม่ยอมรับผู้อื่น ทีมทนายความจากเหล่าคนรวยและผู้ทรงอิทธิพล พยายามหยุดยั้งไม่ให้เผยแพร่เรื่องราวที่พวกเขาไม่อยากให้ผู้อ่านเห็น กลุ่มล็อบบี้ที่ได้รับเงินทุนไม่โปร่งใส และรัฐเผด็จการที่ไม่คำนึงถึงเสรีภาพของสื่อมวลชน #Newskit #X #TheGuardian
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1253 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดของรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ กลับมาเป็นไวรัลในโซเลียลอีกครั้ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งเขากล่าวไว้เมื่อฤดูร้อนปี 2023:

    "เราสร้างนโยบายต่างประเทศที่เอาแต่คอยกดดัน บงการ จับผิด และสั่งสอนให้พวกเค้าทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ต่อประเทศที่ไม่ได้ต้องการเกี่ยวข้องใดๆกับสหรัฐฯ แต่จีนกลับมีนโยบายต่างประเทศในการสร้างถนน สะพาน และสร้างอาหารให้แก่ประเทศที่ยากจน"

    ผมคิดว่า เราควรดำเนินนโยบายทางการทูตที่เคารพในผลประโยชน์ของประเทศเหล่านี้"
    คำพูดของรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ กลับมาเป็นไวรัลในโซเลียลอีกครั้ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งเขากล่าวไว้เมื่อฤดูร้อนปี 2023: "เราสร้างนโยบายต่างประเทศที่เอาแต่คอยกดดัน บงการ จับผิด และสั่งสอนให้พวกเค้าทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ต่อประเทศที่ไม่ได้ต้องการเกี่ยวข้องใดๆกับสหรัฐฯ แต่จีนกลับมีนโยบายต่างประเทศในการสร้างถนน สะพาน และสร้างอาหารให้แก่ประเทศที่ยากจน" ผมคิดว่า เราควรดำเนินนโยบายทางการทูตที่เคารพในผลประโยชน์ของประเทศเหล่านี้"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ดังภายในข้ามคืน ใครฉุดก็ไม่อยู่ 19/10/67 #ชญานนท์ #แข้งบอล 7 สี #ไวรัลทั่วโลกออนไลน์
    ดังภายในข้ามคืน ใครฉุดก็ไม่อยู่ 19/10/67 #ชญานนท์ #แข้งบอล 7 สี #ไวรัลทั่วโลกออนไลน์
    Like
    Haha
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1301 มุมมอง 503 0 รีวิว
  • วิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง : [News story]

    ไวรัลวิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง พอเห็นแม่ค้าสาธิตให้ดู ที่ผ่านมาเราใช้ผิดมาตลอดเลยหรือนี่ แถมแม่ค้าสาธิตดีจริงใจ
    วิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง : [News story] ไวรัลวิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง พอเห็นแม่ค้าสาธิตให้ดู ที่ผ่านมาเราใช้ผิดมาตลอดเลยหรือนี่ แถมแม่ค้าสาธิตดีจริงใจ
    Like
    Love
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1708 มุมมอง 315 0 รีวิว
  • วิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง

    ไวรัลวิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง พอเห็นแม่ค้าสาธิตให้ดู ที่ผ่านมาเราใช้ผิดมาตลอดเลยหรือนี่ แถมแม่ค้าสาธิตดีจริงใจ
    วิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง ไวรัลวิธีใช้ร่มพับที่ถูกต้อง พอเห็นแม่ค้าสาธิตให้ดู ที่ผ่านมาเราใช้ผิดมาตลอดเลยหรือนี่ แถมแม่ค้าสาธิตดีจริงใจ
    Like
    Wow
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 87 0 รีวิว
  • กระแสคลิปเสียงของ “บอสพอล” ที่หลุด ขณะที่คุยกับนักการเมืองท่านหนึ่ง คล้ายพยายามเจรจาเงินเพื่อเคลียร์ปัญหา โดยคลิปเสียงกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก ต่อมาในรายการโหนกระแส“บอสพอล” ยอมรับคลิปเสียงหลุด ‘เป็นเสียงผมเองจริง มีการให้เงินจริง’ แต่ไม่ขอยืนยันว่าใคร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000098822

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กระแสคลิปเสียงของ “บอสพอล” ที่หลุด ขณะที่คุยกับนักการเมืองท่านหนึ่ง คล้ายพยายามเจรจาเงินเพื่อเคลียร์ปัญหา โดยคลิปเสียงกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก ต่อมาในรายการโหนกระแส“บอสพอล” ยอมรับคลิปเสียงหลุด ‘เป็นเสียงผมเองจริง มีการให้เงินจริง’ แต่ไม่ขอยืนยันว่าใคร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000098822 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1730 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม

    กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม

    สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน

    โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด

    ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม

    ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน”

    #Thaitimes
    ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน” #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1009 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความน่าสนใจในเพจเฟซบุ๊กBrandThinkได้ตอบข้อสงสัยว่า “ทำไม The Voice ไทยปีนี้ไม่มี 'เพลงสากล'?และทำไม YouTube ถึงบล็อกเพลง Nirvana ในอเมริกา? ทั้งหมดเกี่ยวกันอย่างไร?

    เนื้อหาในบทความนี้มีดังต่อไปนี้
    “เรื่องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องชวนปวดหัวที่หลายคนไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยนัก อย่างไรก็ดีในหลายๆ ครั้งมันก็ส่งผลมาสู่สิ่งที่เรา 'รู้สึก' ได้ในชีวิตประจำวัน
    .
    ถ้าใครได้ดูรายการ ‘The Voice Thailand’ ปีนี้ สิ่งหนึ่งที่อาจสังเกตได้คือ ปีนี้ไม่มีเพลงสากล ทั้งนี้หลังจากมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตั้งคำถามนี้ ทางผู้จัดรายการ The Voice จึงมาตอบให้ ซึ่งคำตอบนี้นักดนตรีมีชื่ออย่าง ‘หนึ่ง Mr. Drummer’ ก็ได้โพสต์บน Facebook ของตัวเอง จนคนแชร์เป็นไวรัลโพสต์ในวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งโพสต์ยาวมาก แต่สามารถสรุปใจความได้ว่า
    .
    ในปีก่อนๆ The Voice เวลาจะ 'เคลียร์ลิขสิทธิ์' เพลงสากล สมัยก่อนจะติดต่อผ่าน 'ตัวแทนลิขสิทธิ์' ในไทยเจ้าเดียวจบ แต่ปัจจุบัน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว จะขอเพลงมาร้องในรายการก็ต้องไปไล่ติดต่อ 'นักแต่งเพลง' โดยตรง ซึ่งกระบวนการ 'เคลียร์' นั้นยุ่งยากและใช้เวลามาก เพราะต้องไปหาคอนแท็กนักแต่งเพลงเป็นคนๆ และบางเพลงมีนักแต่งหลายคนก็ต้องไปไล่ขอทุกคนด้วย สุดท้ายเคลียร์ไม่ได้ทันเวลา ก็เลยต้องระงับการใช้ 'เพลงสากล' ในรายการ
    .
    ต่อมาไม่นาน วิชัย มาตกุล ผู้เป็น Creative Director แห่งบริษัทโฆษณาชื่อดัง Salmon House ก็ดูเหมือนจะโพสต์ขึ้นมาเพื่อเสริมประเด็นบทสนทนานี้ โดยเน้นไปที่ประเด็นค่าลิขสิทธิ์ในการใช้เพลงดังๆ ของต่างประเทศที่แพงมาก ซึ่งได้ยกตัวอย่างว่า หากเขาจะทำโฆษณาสักชิ้นหนึ่ง จะมีการใช้เพลงสากลสั้นๆ แบบให้คนในโฆษณาร้องเฉพาะท่อนฮุกของเพลงดังกล่าวเท่านั้น แต่หลังจากติดต่อไปที่เจ้าของลิขสิทธิ์ เขาเคาะมาว่าค่าใช้จ่ายลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงโดยนำท่อนฮุกไปร้องในโฆษณาสั้นๆ อยู่ที่ 2.5 ล้านบาท ซึ่งแพงว่าค่าโปรเจกต์โฆษณาทั้งหมด แผนการเลยยุติไป
    .
    ทั้งนี้ถ้าใครตามข่าวต่างประเทศด้านดนตรี เราก็จะพบโดยบังเอิญว่าในวันเดียวกันนี้มีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งว่า อยู่ดีๆ คนอเมริกันก็เข้าดู YouTube เพลงของวงดนตรีดังๆ อย่าง Nirvana, Green Day และนักร้องอีกจำนวนมากไม่ได้ สืบสาวราวเรื่องก็คือ YouTube ไม่สามารถดีลกับองค์กรบริหารลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงที่เป็นตัวแทนในการดีลเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ 'บทประพันธ์เพลง' เหล่านี้บน YouTube ได้ และพอดีลไม่สำเร็จ YouTube ก็จำต้องถอนเพลงออกจากแพลตฟอร์ม เพราะถ้าไม่ได้รับอนุญาตก่อนก็ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
    .
    เรื่องทั้งหมดอาจฟังดูไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ มันเป็น 'เรื่องเดียวกัน' เลย แต่ก่อนอื่นเราอาจต้องย้อนทำความเข้าใจเบสิกเรื่องลิขสิทธิ์งานดนตรีกันก่อน
    .
    โดยทั่วๆ ไปในโลกปัจจุบัน ลิขสิทธิ์งานดนตรีจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ‘ลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลง’ ที่อยู่กับตัวนักประพันธ์เพลง กับ ‘ลิขสิทธิ์งานบันทึกเสียง’ ที่มักจะอยู่กับค่ายเพลงหรือบริษัทที่ผลิตงานบันทึกเสียงออกมาขาย
    .
    ในระบบไทยจะง่าย เพราะปกติค่ายเพลงจะรวบลิขสิทธิ์ทั้งสองมาเป็นของตัวเอง ทำให้เคลียร์ง่ายเวลามีคนเอาไปใช้ แต่จะมีปัญหาเวลานักร้องไปร้องเพลงตัวเองตามคอนเสิร์ต ก็ต้องขออนุญาตค่ายก่อน ซึ่งในไทยก็จะมีปัญหาถกเถียงกันว่า 'ไม่เป็นธรรม'
    .
    ระบบอเมริกาและโลกตะวันตกไม่เป็นแบบนั้น ลิขสิทธิ์ตัวบทประพันธ์เพลงโดยทั่วไปจะอยู่กับตัวผู้แต่งเพลงเสมอ ทำให้คนเหล่านี้ใช้เพลงที่ตนเองแต่งไปเล่นสดได้เสมอแบบไม่ต้องขออนุญาตใคร หรือถ้าแตกกับค่ายเพลงเดิม ก็ยังสามารถนำเพลงตัวเองมาบันทึกเสียงใหม่ให้เป็นของตัวเองโดยตรงได้ ดังในกรณีที่โด่งดังของ Taylor Swift
    .
    ลิขสิทธิ์เป็นของนักแต่งเพลงมีข้อดีในแบบที่ว่ามานี้เอง แต่จากมุมผู้อื่นที่ต้องการนำเอาบทประพันธ์เพลงไปใช้ มันจะยุ่งยากมาก คือต้องไปขอนักแต่งเพลงโดยตรงจึงจะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้อยากลองให้นึกถึงสมัยก่อนที่ไม่มีเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารแบบปัจจุบัน เราจะไปตามตัวขอใช้บทเพลงยังไง? ไม่ต้องพูดถึงเพลงในประเทศอื่น เพราะแค่เพลงในประเทศตัวเองยังยากเลย เพราะถึงเรารู้ว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้ๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อเขาได้อย่างไรอยู่ดี
    .
    จึงทำให้เกิดระบบ 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' (Performance Right Society) ขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ระบบนี้ก็ง่ายๆ คือพวกนักแต่งเพลงก็ไปรวมตัวกันเป็นสมาคมและมอบอำนาจการ 'เก็บค่าลิขสิทธิ์' ทั้งประเทศให้กับสมาคมฯ และสมาคมฯ ก็จะไปไล่เก็บค่าลิขสิทธิ์แล้วนำมาแจกจ่ายให้นักแต่งเพลงที่เป็นสมาชิกอีกที
    .
    บางคนอาจมีคำถามว่า เราจะเชื่อใจสมาคมฯ ได้อย่างไร? แต่ความเป็นจริงคือระบบนี้อยู่มาเกิน 100 ปี และประเทศส่วนใหญ่ในโลกก็จะเชื่อใจสมาคมฯ ในประเทศตัวเองให้ไปไล่เก็บค่าลิขสิทธิ์ให้ โดยแทบทุกประเทศในโลก สมาคมแบบนี้จะมีเพียงแห่งเดียว ทำให้ง่ายต่อการจัดการ ใครต้องการจะ 'เคลียร์ค่าลิขสิทธิ์เพลง’ ของนักแต่งเพลงในประเทศนี้ก็ติดต่อสมาคมฯ จบ สมาคมฯ ก็จะมีเรตมาให้ ถ้าโอเคก็ลุยต่อ ไม่โอเค ถ้าไม่ถอยเลย ก็อาจไปคุยกับตัวนักแต่งเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงก็ได้
    .
    และสมาคมฯ พวกนี้ในแต่ละประเทศก็จะมีดีลกันพอสมควร ทำให้การติดต่อเคลียร์ค่าลิขสิทธิ์เป็นไปโดยง่าย เช่นถ้าเราเป็นคนฝรั่งเศส อยากใช้เพลงของนักแต่งเพลงเยอรมัน เราก็ติดต่อ SACEM ของฝรั่งเศส แล้วเขาก็จะให้คอนแท็ก GEMA มา เป็นต้น
    .
    ระบบแบบนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เทคโนโลยีเริ่มเปลี่ยน คือในตอนแรก 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' เป้าหมายหลักที่ตั้งมาแรกสุดตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 คือการเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงตามร้านอาหารและร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นักแต่งเพลงตามไปตรวจสอบและเก็บเองไม่ไหว เลยมอบอำนาจให้สมาคมฯ ไปจัดการแทน
    .
    แต่ในยุคปัจจุบัน บทประพันธ์เพลงไม่ได้ถูกใช้แค่เล่นตามร้านอาหารและร้านเหล้า แต่ยังถูกใช้ในโฆษณา ใช้ในหนัง ไปจนถึงใช้ในรายการทีวี ซึ่งเราไม่ต้องมีความรู้อะไรก็น่าจะพอเดาออกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของกิจกรรมพวกนี้มันสูงมาก จึงทำให้บรรดานักแต่งเพลงเริ่ม 'ถอนสิทธิ์' ในการดีลเพลงเพื่อใช้ในการทำสื่อต่างๆ จากสมาคมฯ แล้วนำมาจัดการเอง เพราะพวกนักแต่งเพลงคิดว่าการดีลเองตรงๆ จะทำให้พวกเขาได้เงินเยอะกว่า และนี่เรากำลังพูดถึงอุตสาหกรรมดนตรีในยุค 'ขาลง' ที่ทุกฝ่ายต่างดิ้นรนหารายได้เพิ่ม
    .
    นี่จึงเป็นการตอบประเด็นที่ทั้ง หนึ่ง Mr. Drummer และ วิชัย มาตกุล พูดถึงว่าทำไมปัจจุบันลิขสิทธิ์ตัวบทประพันธ์เพลงฝั่งอเมริกาถึงดีลยาก และทำไมมันจึงแพงนัก
    .
    แต่มากกว่านั้น ในกรณีของ YouTube ที่ไม่สามารถดีลกับ 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' ได้ ก็เป็นภาพสะท้อนถึงปรากฏการณ์เดียวกัน คือพวกนักแต่งเพลงทั่วๆ ไปถึงจะโด่งดังแค่ไหน ก็มักจะไม่ห้าวหาญขนาดจะดีลกับ YouTube เองตรงๆ แต่เลือกดีลผ่านสมาคมฯ เหมือนเดิม เพราะดีลแบบนี้ 'อำนาจต่อรอง' มากกว่า แต่การที่ดีลไม่ผ่านล่าสุดที่เป็นข่าว ถ้าให้เดาก็คือ YouTube น่าจะยืนยันขอจ่ายค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเท่าเดิมแบบที่เคยจ่ายทุกปี แต่ฝั่งสมาคมฯ นั้นไม่ยอมอีกแล้ว จะเอาค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม เพราะสมาชิกเรียกร้องมา ดีลเลยล่ม YouTube เลยต้องถอนเพลงจำนวนมากที่เคลียร์ลิขสิทธิ์ส่วนบทประพันธ์เพลงไม่สำเร็จออกจากแพลตฟอร์ม (โดยมีข้อยกเว้นสำคัญคือพวกบันทึกการแสดงสด เพราะในระบบกฎหมายลิขสิทธิ์อเมริกา นักแต่งเพลงไม่มีอำนาจลิขสิทธิ์เหนือ 'บันทึกการแสดงสด' ของเพลงตัวเอง)
    .
    ดังนั้นสรุปง่ายๆ เรื่องราวของความติดขัดในการใช้บทเพลงทั้งหมด เกิดจากฝั่ง 'นักแต่งเพลง' เรียกร้องอำนาจ (และผลตอบแทน) ในการควบคุมลิขสิทธิ์บทเพลงตัวเองมากขึ้นนั่นเอง
    .
    ถ้าจะถามว่ามันถูกต้องและเป็นธรรมหรือไม่ เราอาจต้องเข้าสู่บทสนทนาทางปรัชญาและนโยบายสาธารณะเกี่ยวกับ 'สมดุล' ของลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาโดยรวมๆ ซึ่งจะวุ่นวายมาก แต่สิ่งที่เดาได้เลยแบบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากก็คือ ต่อจากนี้ไปจากมุมของไทย การใช้เพลงต่างประเทศจากฝั่งอเมริกาจะวุ่นวายและมีค่าใช้จ่ายเยอะมากๆ จนทั้งนักโฆษณา คนทำหนัง รวมถึงคนทำรายการทีวีจะหลีกเลี่ยงไม่ใช้กันอีก แบบที่เราเห็นในรายการ The Voice Thailand ปีนี้“

    ที่มา : BrandThink https://www.facebook.com/share/8qKxnfVpQJ7WooWB/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    บทความน่าสนใจในเพจเฟซบุ๊กBrandThinkได้ตอบข้อสงสัยว่า “ทำไม The Voice ไทยปีนี้ไม่มี 'เพลงสากล'?และทำไม YouTube ถึงบล็อกเพลง Nirvana ในอเมริกา? ทั้งหมดเกี่ยวกันอย่างไร? เนื้อหาในบทความนี้มีดังต่อไปนี้ “เรื่องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องชวนปวดหัวที่หลายคนไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยนัก อย่างไรก็ดีในหลายๆ ครั้งมันก็ส่งผลมาสู่สิ่งที่เรา 'รู้สึก' ได้ในชีวิตประจำวัน . ถ้าใครได้ดูรายการ ‘The Voice Thailand’ ปีนี้ สิ่งหนึ่งที่อาจสังเกตได้คือ ปีนี้ไม่มีเพลงสากล ทั้งนี้หลังจากมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตั้งคำถามนี้ ทางผู้จัดรายการ The Voice จึงมาตอบให้ ซึ่งคำตอบนี้นักดนตรีมีชื่ออย่าง ‘หนึ่ง Mr. Drummer’ ก็ได้โพสต์บน Facebook ของตัวเอง จนคนแชร์เป็นไวรัลโพสต์ในวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งโพสต์ยาวมาก แต่สามารถสรุปใจความได้ว่า . ในปีก่อนๆ The Voice เวลาจะ 'เคลียร์ลิขสิทธิ์' เพลงสากล สมัยก่อนจะติดต่อผ่าน 'ตัวแทนลิขสิทธิ์' ในไทยเจ้าเดียวจบ แต่ปัจจุบัน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว จะขอเพลงมาร้องในรายการก็ต้องไปไล่ติดต่อ 'นักแต่งเพลง' โดยตรง ซึ่งกระบวนการ 'เคลียร์' นั้นยุ่งยากและใช้เวลามาก เพราะต้องไปหาคอนแท็กนักแต่งเพลงเป็นคนๆ และบางเพลงมีนักแต่งหลายคนก็ต้องไปไล่ขอทุกคนด้วย สุดท้ายเคลียร์ไม่ได้ทันเวลา ก็เลยต้องระงับการใช้ 'เพลงสากล' ในรายการ . ต่อมาไม่นาน วิชัย มาตกุล ผู้เป็น Creative Director แห่งบริษัทโฆษณาชื่อดัง Salmon House ก็ดูเหมือนจะโพสต์ขึ้นมาเพื่อเสริมประเด็นบทสนทนานี้ โดยเน้นไปที่ประเด็นค่าลิขสิทธิ์ในการใช้เพลงดังๆ ของต่างประเทศที่แพงมาก ซึ่งได้ยกตัวอย่างว่า หากเขาจะทำโฆษณาสักชิ้นหนึ่ง จะมีการใช้เพลงสากลสั้นๆ แบบให้คนในโฆษณาร้องเฉพาะท่อนฮุกของเพลงดังกล่าวเท่านั้น แต่หลังจากติดต่อไปที่เจ้าของลิขสิทธิ์ เขาเคาะมาว่าค่าใช้จ่ายลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงโดยนำท่อนฮุกไปร้องในโฆษณาสั้นๆ อยู่ที่ 2.5 ล้านบาท ซึ่งแพงว่าค่าโปรเจกต์โฆษณาทั้งหมด แผนการเลยยุติไป . ทั้งนี้ถ้าใครตามข่าวต่างประเทศด้านดนตรี เราก็จะพบโดยบังเอิญว่าในวันเดียวกันนี้มีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งว่า อยู่ดีๆ คนอเมริกันก็เข้าดู YouTube เพลงของวงดนตรีดังๆ อย่าง Nirvana, Green Day และนักร้องอีกจำนวนมากไม่ได้ สืบสาวราวเรื่องก็คือ YouTube ไม่สามารถดีลกับองค์กรบริหารลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงที่เป็นตัวแทนในการดีลเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ 'บทประพันธ์เพลง' เหล่านี้บน YouTube ได้ และพอดีลไม่สำเร็จ YouTube ก็จำต้องถอนเพลงออกจากแพลตฟอร์ม เพราะถ้าไม่ได้รับอนุญาตก่อนก็ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ . เรื่องทั้งหมดอาจฟังดูไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ มันเป็น 'เรื่องเดียวกัน' เลย แต่ก่อนอื่นเราอาจต้องย้อนทำความเข้าใจเบสิกเรื่องลิขสิทธิ์งานดนตรีกันก่อน . โดยทั่วๆ ไปในโลกปัจจุบัน ลิขสิทธิ์งานดนตรีจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ‘ลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลง’ ที่อยู่กับตัวนักประพันธ์เพลง กับ ‘ลิขสิทธิ์งานบันทึกเสียง’ ที่มักจะอยู่กับค่ายเพลงหรือบริษัทที่ผลิตงานบันทึกเสียงออกมาขาย . ในระบบไทยจะง่าย เพราะปกติค่ายเพลงจะรวบลิขสิทธิ์ทั้งสองมาเป็นของตัวเอง ทำให้เคลียร์ง่ายเวลามีคนเอาไปใช้ แต่จะมีปัญหาเวลานักร้องไปร้องเพลงตัวเองตามคอนเสิร์ต ก็ต้องขออนุญาตค่ายก่อน ซึ่งในไทยก็จะมีปัญหาถกเถียงกันว่า 'ไม่เป็นธรรม' . ระบบอเมริกาและโลกตะวันตกไม่เป็นแบบนั้น ลิขสิทธิ์ตัวบทประพันธ์เพลงโดยทั่วไปจะอยู่กับตัวผู้แต่งเพลงเสมอ ทำให้คนเหล่านี้ใช้เพลงที่ตนเองแต่งไปเล่นสดได้เสมอแบบไม่ต้องขออนุญาตใคร หรือถ้าแตกกับค่ายเพลงเดิม ก็ยังสามารถนำเพลงตัวเองมาบันทึกเสียงใหม่ให้เป็นของตัวเองโดยตรงได้ ดังในกรณีที่โด่งดังของ Taylor Swift . ลิขสิทธิ์เป็นของนักแต่งเพลงมีข้อดีในแบบที่ว่ามานี้เอง แต่จากมุมผู้อื่นที่ต้องการนำเอาบทประพันธ์เพลงไปใช้ มันจะยุ่งยากมาก คือต้องไปขอนักแต่งเพลงโดยตรงจึงจะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งนี้อยากลองให้นึกถึงสมัยก่อนที่ไม่มีเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารแบบปัจจุบัน เราจะไปตามตัวขอใช้บทเพลงยังไง? ไม่ต้องพูดถึงเพลงในประเทศอื่น เพราะแค่เพลงในประเทศตัวเองยังยากเลย เพราะถึงเรารู้ว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้ๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อเขาได้อย่างไรอยู่ดี . จึงทำให้เกิดระบบ 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' (Performance Right Society) ขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ระบบนี้ก็ง่ายๆ คือพวกนักแต่งเพลงก็ไปรวมตัวกันเป็นสมาคมและมอบอำนาจการ 'เก็บค่าลิขสิทธิ์' ทั้งประเทศให้กับสมาคมฯ และสมาคมฯ ก็จะไปไล่เก็บค่าลิขสิทธิ์แล้วนำมาแจกจ่ายให้นักแต่งเพลงที่เป็นสมาชิกอีกที . บางคนอาจมีคำถามว่า เราจะเชื่อใจสมาคมฯ ได้อย่างไร? แต่ความเป็นจริงคือระบบนี้อยู่มาเกิน 100 ปี และประเทศส่วนใหญ่ในโลกก็จะเชื่อใจสมาคมฯ ในประเทศตัวเองให้ไปไล่เก็บค่าลิขสิทธิ์ให้ โดยแทบทุกประเทศในโลก สมาคมแบบนี้จะมีเพียงแห่งเดียว ทำให้ง่ายต่อการจัดการ ใครต้องการจะ 'เคลียร์ค่าลิขสิทธิ์เพลง’ ของนักแต่งเพลงในประเทศนี้ก็ติดต่อสมาคมฯ จบ สมาคมฯ ก็จะมีเรตมาให้ ถ้าโอเคก็ลุยต่อ ไม่โอเค ถ้าไม่ถอยเลย ก็อาจไปคุยกับตัวนักแต่งเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงก็ได้ . และสมาคมฯ พวกนี้ในแต่ละประเทศก็จะมีดีลกันพอสมควร ทำให้การติดต่อเคลียร์ค่าลิขสิทธิ์เป็นไปโดยง่าย เช่นถ้าเราเป็นคนฝรั่งเศส อยากใช้เพลงของนักแต่งเพลงเยอรมัน เราก็ติดต่อ SACEM ของฝรั่งเศส แล้วเขาก็จะให้คอนแท็ก GEMA มา เป็นต้น . ระบบแบบนี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เทคโนโลยีเริ่มเปลี่ยน คือในตอนแรก 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' เป้าหมายหลักที่ตั้งมาแรกสุดตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 คือการเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงตามร้านอาหารและร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นักแต่งเพลงตามไปตรวจสอบและเก็บเองไม่ไหว เลยมอบอำนาจให้สมาคมฯ ไปจัดการแทน . แต่ในยุคปัจจุบัน บทประพันธ์เพลงไม่ได้ถูกใช้แค่เล่นตามร้านอาหารและร้านเหล้า แต่ยังถูกใช้ในโฆษณา ใช้ในหนัง ไปจนถึงใช้ในรายการทีวี ซึ่งเราไม่ต้องมีความรู้อะไรก็น่าจะพอเดาออกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของกิจกรรมพวกนี้มันสูงมาก จึงทำให้บรรดานักแต่งเพลงเริ่ม 'ถอนสิทธิ์' ในการดีลเพลงเพื่อใช้ในการทำสื่อต่างๆ จากสมาคมฯ แล้วนำมาจัดการเอง เพราะพวกนักแต่งเพลงคิดว่าการดีลเองตรงๆ จะทำให้พวกเขาได้เงินเยอะกว่า และนี่เรากำลังพูดถึงอุตสาหกรรมดนตรีในยุค 'ขาลง' ที่ทุกฝ่ายต่างดิ้นรนหารายได้เพิ่ม . นี่จึงเป็นการตอบประเด็นที่ทั้ง หนึ่ง Mr. Drummer และ วิชัย มาตกุล พูดถึงว่าทำไมปัจจุบันลิขสิทธิ์ตัวบทประพันธ์เพลงฝั่งอเมริกาถึงดีลยาก และทำไมมันจึงแพงนัก . แต่มากกว่านั้น ในกรณีของ YouTube ที่ไม่สามารถดีลกับ 'สมาคมเก็บค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเพื่อการแสดง' ได้ ก็เป็นภาพสะท้อนถึงปรากฏการณ์เดียวกัน คือพวกนักแต่งเพลงทั่วๆ ไปถึงจะโด่งดังแค่ไหน ก็มักจะไม่ห้าวหาญขนาดจะดีลกับ YouTube เองตรงๆ แต่เลือกดีลผ่านสมาคมฯ เหมือนเดิม เพราะดีลแบบนี้ 'อำนาจต่อรอง' มากกว่า แต่การที่ดีลไม่ผ่านล่าสุดที่เป็นข่าว ถ้าให้เดาก็คือ YouTube น่าจะยืนยันขอจ่ายค่าลิขสิทธิ์บทประพันธ์เพลงเท่าเดิมแบบที่เคยจ่ายทุกปี แต่ฝั่งสมาคมฯ นั้นไม่ยอมอีกแล้ว จะเอาค่าลิขสิทธิ์เพิ่ม เพราะสมาชิกเรียกร้องมา ดีลเลยล่ม YouTube เลยต้องถอนเพลงจำนวนมากที่เคลียร์ลิขสิทธิ์ส่วนบทประพันธ์เพลงไม่สำเร็จออกจากแพลตฟอร์ม (โดยมีข้อยกเว้นสำคัญคือพวกบันทึกการแสดงสด เพราะในระบบกฎหมายลิขสิทธิ์อเมริกา นักแต่งเพลงไม่มีอำนาจลิขสิทธิ์เหนือ 'บันทึกการแสดงสด' ของเพลงตัวเอง) . ดังนั้นสรุปง่ายๆ เรื่องราวของความติดขัดในการใช้บทเพลงทั้งหมด เกิดจากฝั่ง 'นักแต่งเพลง' เรียกร้องอำนาจ (และผลตอบแทน) ในการควบคุมลิขสิทธิ์บทเพลงตัวเองมากขึ้นนั่นเอง . ถ้าจะถามว่ามันถูกต้องและเป็นธรรมหรือไม่ เราอาจต้องเข้าสู่บทสนทนาทางปรัชญาและนโยบายสาธารณะเกี่ยวกับ 'สมดุล' ของลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาโดยรวมๆ ซึ่งจะวุ่นวายมาก แต่สิ่งที่เดาได้เลยแบบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากก็คือ ต่อจากนี้ไปจากมุมของไทย การใช้เพลงต่างประเทศจากฝั่งอเมริกาจะวุ่นวายและมีค่าใช้จ่ายเยอะมากๆ จนทั้งนักโฆษณา คนทำหนัง รวมถึงคนทำรายการทีวีจะหลีกเลี่ยงไม่ใช้กันอีก แบบที่เราเห็นในรายการ The Voice Thailand ปีนี้“ ที่มา : BrandThink https://www.facebook.com/share/8qKxnfVpQJ7WooWB/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 795 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thai
    เด็กหญิงวัย 5 ขวบจากแอฟริกาใต้ ลูกสาวของแม่เลี้ยงเดียว แม่ของเธอส่งเธอไปที่ร้านเพื่อซื้อขนมปังหนึ่งก้อน

    ระหว่างทางกลับ มีคนแปลกหน้าถ่ายรูป
    เธอไว้ ภาพดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโชเชียลมีเดีย ถ่ายทอดความสุขที่แท้จริงของเธอ ภายใต้แรงกดดันจากสาธารณชน

    บริษัทผลิตขนมปังได้แต่งตั้งตั้งให้เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ปัจจุบันภาพของเธอเป็นป้ายโฆษณาขนมปังทั่วแอฟริกาใต้

    ในทางกลับกัน แม่ลูกคู่นี้ได้รับบ้านสองห้องและบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของเด็กหญิงจนกว่า
    จะสำเร็จการศึกษา

    *นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจที่
    บอกเล่าถึงช่วงเวลาแห่งความสุขง่ายๆ ที่บันทึกเอาไว้ในภาพถ่าย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน คนหนึ่งให้ดีขึ้นได้ไป
    Thai เด็กหญิงวัย 5 ขวบจากแอฟริกาใต้ ลูกสาวของแม่เลี้ยงเดียว แม่ของเธอส่งเธอไปที่ร้านเพื่อซื้อขนมปังหนึ่งก้อน ระหว่างทางกลับ มีคนแปลกหน้าถ่ายรูป เธอไว้ ภาพดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโชเชียลมีเดีย ถ่ายทอดความสุขที่แท้จริงของเธอ ภายใต้แรงกดดันจากสาธารณชน บริษัทผลิตขนมปังได้แต่งตั้งตั้งให้เธอเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ปัจจุบันภาพของเธอเป็นป้ายโฆษณาขนมปังทั่วแอฟริกาใต้ ในทางกลับกัน แม่ลูกคู่นี้ได้รับบ้านสองห้องและบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของเด็กหญิงจนกว่า จะสำเร็จการศึกษา *นี่คือเรื่องราวสุดประทับใจที่ บอกเล่าถึงช่วงเวลาแห่งความสุขง่ายๆ ที่บันทึกเอาไว้ในภาพถ่าย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน คนหนึ่งให้ดีขึ้นได้ไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • แส่ทุกเรื่อง!!

    PETA ชวนบอยคอต ‘สวนสัตว์เขาเขียว’
    อ้างเอา “หมูเด้ง” มาหากิน
    ชาวเน็ตสวนกลับ อเมริกาไม่มีสวนสัตว์เหรอ ?
    .
    นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นเดือดที่ทำเอาคนไทยหัวร้อนมากทีเดียว หลัง PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ ไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความชวนผู้คนบอยคอต “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” หลังความน่ารักของ “น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระประจำสวนสัตว์กลายเป็นไวรัลดัง จนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะสื่อเล็ก สื่อใหญ่ หรือสื่อระดับตำนาน ต่างก็หยิบยกเรื่องราวของน้องหมูเด้งไปนำเสนอจนเจ้าหมูเด้ง พี่เบนซ์ ผู้ทำหน้าที่ดูแลเจ้าหมูเด้ง และสวนสัตว์เขาเขียวของประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
    .
    โดย PETA ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง ๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน!!”
    .
    แน่นอนว่าหลังจากเรื่องนี้ไปเข้าหูเข้าตาชาวเน็ต หลายคนต่างก็มองว่า ประเทศไหน ๆ ก็มีสวนสัตว์ทั้งนั้น หรืออเมริกาไม่มีสวนสัตว์ ?
    .
    อีกทั้งต่างก็พูดถึงการทำงานของทาง PETA ที่ควรรีเสิร์ชข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อนจะออกมาโจมตีหรือชวนคนบอยคอตทางสวนสัตว์ เพราะทาง Zookeeper ประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่ได้เลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นเพราะเป็นแค่เพียงอาชีพหรือหน้าที่ แต่พวกเขาต่างก็เลี้ยงสัตว์เหล่านั้นด้วยความรัก ดูแลสัตว์ในความดูแลของตัวเองประดุจคนในครอบครัว ถึงขนาดที่ Zookeeper บางท่านแม้จะเกษียณอายุการทำงานไปแล้ว ก็ยังหาเวลากลับมาดูแลสัตว์ที่ตนเคยเลี้ยงและดูแล เพราะมันคือความผูกพันที่ดูแลกันมาหลายปี
    .
    @ThePublisher

    https://www.facebook.com/share/p/mPPuEJUAFPkyc9tF/?mibextid=oFDknk
    แส่ทุกเรื่อง!! PETA ชวนบอยคอต ‘สวนสัตว์เขาเขียว’ อ้างเอา “หมูเด้ง” มาหากิน ชาวเน็ตสวนกลับ อเมริกาไม่มีสวนสัตว์เหรอ ? . นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นเดือดที่ทำเอาคนไทยหัวร้อนมากทีเดียว หลัง PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ ไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความชวนผู้คนบอยคอต “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” หลังความน่ารักของ “น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระประจำสวนสัตว์กลายเป็นไวรัลดัง จนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะสื่อเล็ก สื่อใหญ่ หรือสื่อระดับตำนาน ต่างก็หยิบยกเรื่องราวของน้องหมูเด้งไปนำเสนอจนเจ้าหมูเด้ง พี่เบนซ์ ผู้ทำหน้าที่ดูแลเจ้าหมูเด้ง และสวนสัตว์เขาเขียวของประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก . โดย PETA ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง ๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน!!” . แน่นอนว่าหลังจากเรื่องนี้ไปเข้าหูเข้าตาชาวเน็ต หลายคนต่างก็มองว่า ประเทศไหน ๆ ก็มีสวนสัตว์ทั้งนั้น หรืออเมริกาไม่มีสวนสัตว์ ? . อีกทั้งต่างก็พูดถึงการทำงานของทาง PETA ที่ควรรีเสิร์ชข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อนจะออกมาโจมตีหรือชวนคนบอยคอตทางสวนสัตว์ เพราะทาง Zookeeper ประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่ได้เลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นเพราะเป็นแค่เพียงอาชีพหรือหน้าที่ แต่พวกเขาต่างก็เลี้ยงสัตว์เหล่านั้นด้วยความรัก ดูแลสัตว์ในความดูแลของตัวเองประดุจคนในครอบครัว ถึงขนาดที่ Zookeeper บางท่านแม้จะเกษียณอายุการทำงานไปแล้ว ก็ยังหาเวลากลับมาดูแลสัตว์ที่ตนเคยเลี้ยงและดูแล เพราะมันคือความผูกพันที่ดูแลกันมาหลายปี . @ThePublisher https://www.facebook.com/share/p/mPPuEJUAFPkyc9tF/?mibextid=oFDknk
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา
    “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย

    ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว

    เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก

    เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้

    แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย

    แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว)

    เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด

    เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ

    ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ

    ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น

    ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards

    เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police)

    ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น

    ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด

    นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ

    และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้

    ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี

    ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ

    ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร

    ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก

    แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น

    เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย

    นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง

    ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ

    ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่

    แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่

    เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู

    หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น

    - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม

    - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์

    - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน

    - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี'

    คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา

    วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส

    เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์

    เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน

    เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน

    และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก

    และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน

    - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก

    - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่

    - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์

    - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ"

    เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก

    โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน

    สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน

    เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้

    หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs

    ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน

    แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น

    นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

    รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย

    สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

    สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน

    แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่

    สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้

    หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ

    โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

    มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า

    ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด

    สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว

    และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป

    บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที”

    ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E
    ภาพ

    #Thaitimes
    รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้ แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว) เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police) ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้ ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่ เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี' คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์ เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่ - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์ - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ" เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้ หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่ สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้ หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที” ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E ภาพ #Thaitimes
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1612 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts