• เรื่องเล่าจากข่าว: Apple กับภารกิจไล่ตาม AI—เปิดรับ M&A, ปรับทีม, และอาจซื้อ Perplexity เพื่อเติมช่องว่าง

    Apple เคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม แต่ในสนาม AI กลับถูกมองว่า “ตามหลัง” คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ OpenAI อย่างชัดเจน Tim Cook จึงประกาศในงานแถลงผลประกอบการล่าสุดว่า Apple “เปิดรับการซื้อกิจการทุกขนาด” หากช่วยเร่งแผน AI ได้

    ปีนี้ Apple ซื้อกิจการไปแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่มีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity—สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ซึ่งจะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple หากเกิดขึ้นจริง

    นอกจากการซื้อกิจการ Apple ยังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI และเพิ่มงบลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโมเดล AI ขนาดใหญ่

    Tim Cook ประกาศว่า Apple “เปิดรับ M&A ทุกขนาด” เพื่อเร่งแผน AI
    ไม่จำกัดขนาดบริษัท หากช่วยเร่ง roadmap ได้
    ปีนี้ซื้อกิจการแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับ AI

    Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน
    จะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ Apple
    มีการเจรจาระหว่างผู้บริหารระดับสูงแล้ว

    Apple ปรับโครงสร้างองค์กรโดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI
    เน้นพัฒนา machine learning และฟีเจอร์ใหม่ใน ecosystem
    รวมถึงการออกแบบชิปด้วย generative AI

    Apple เพิ่มงบลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง แม้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    CapEx ปีนี้อยู่ที่ ~$13–14 พันล้าน
    เทียบกับ Google $85B, Meta $72B, Microsoft $80B

    Apple มองว่า AI คือ “เทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุดในยุคของเรา” และจะฝังอยู่ในทุกอุปกรณ์
    เน้นการทำให้ AI ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้
    เป็นหัวใจของกลยุทธ์ระยะยาว

    รายได้ไตรมาสล่าสุดของ Apple อยู่ที่ $94 พันล้าน กำไรสุทธิ $23.4 พันล้าน
    iPhone ยังเป็นรายได้หลักที่ $44.6 พันล้าน
    รายได้จากบริการโตต่อเนื่องที่ $27.4 พันล้าน

    Apple ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ AI แบบ generative ที่เด่นชัดเหมือนคู่แข่ง
    Siri รุ่นใหม่ถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026
    ยังไม่มีโมเดล LLM ที่แข่งขันกับ GPT หรือ Claude ได้

    การซื้อกิจการขนาดใหญ่เช่น Perplexity อาจขัดกับแนวทางเดิมของ Apple ที่เน้นการเติบโตภายใน
    เสี่ยงต่อการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
    ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีภายนอกอย่างรวดเร็ว

    การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเน้น AI อาจกระทบต่อทีมงานเดิมและโครงการอื่น
    อาจเกิดความไม่ชัดเจนในบทบาทของทีม
    เสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรที่ไม่เห็นด้วย

    งบลงทุนด้าน AI ของ Apple ยังน้อยกว่าคู่แข่งหลายเท่า อาจทำให้ตามไม่ทันในระยะกลาง
    โครงสร้างพื้นฐานยังไม่เทียบเท่า Google หรือ Microsoft
    ต้องเร่งลงทุนใน data center และโมเดลขนาดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/apples-tim-cook-very-open-to-m-and-a-that-accelerates-our-road-map-for-ai-company-increasing-spending-on-ai-initiatives-reorganizing-teams-to-address-expansion
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Apple กับภารกิจไล่ตาม AI—เปิดรับ M&A, ปรับทีม, และอาจซื้อ Perplexity เพื่อเติมช่องว่าง Apple เคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม แต่ในสนาม AI กลับถูกมองว่า “ตามหลัง” คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ OpenAI อย่างชัดเจน Tim Cook จึงประกาศในงานแถลงผลประกอบการล่าสุดว่า Apple “เปิดรับการซื้อกิจการทุกขนาด” หากช่วยเร่งแผน AI ได้ ปีนี้ Apple ซื้อกิจการไปแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่มีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity—สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ซึ่งจะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple หากเกิดขึ้นจริง นอกจากการซื้อกิจการ Apple ยังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI และเพิ่มงบลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโมเดล AI ขนาดใหญ่ ✅ Tim Cook ประกาศว่า Apple “เปิดรับ M&A ทุกขนาด” เพื่อเร่งแผน AI ➡️ ไม่จำกัดขนาดบริษัท หากช่วยเร่ง roadmap ได้ ➡️ ปีนี้ซื้อกิจการแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับ AI ✅ Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ➡️ จะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ Apple ➡️ มีการเจรจาระหว่างผู้บริหารระดับสูงแล้ว ✅ Apple ปรับโครงสร้างองค์กรโดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI ➡️ เน้นพัฒนา machine learning และฟีเจอร์ใหม่ใน ecosystem ➡️ รวมถึงการออกแบบชิปด้วย generative AI ✅ Apple เพิ่มงบลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง แม้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ CapEx ปีนี้อยู่ที่ ~$13–14 พันล้าน ➡️ เทียบกับ Google $85B, Meta $72B, Microsoft $80B ✅ Apple มองว่า AI คือ “เทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุดในยุคของเรา” และจะฝังอยู่ในทุกอุปกรณ์ ➡️ เน้นการทำให้ AI ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ ➡️ เป็นหัวใจของกลยุทธ์ระยะยาว ✅ รายได้ไตรมาสล่าสุดของ Apple อยู่ที่ $94 พันล้าน กำไรสุทธิ $23.4 พันล้าน ➡️ iPhone ยังเป็นรายได้หลักที่ $44.6 พันล้าน ➡️ รายได้จากบริการโตต่อเนื่องที่ $27.4 พันล้าน ‼️ Apple ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ AI แบบ generative ที่เด่นชัดเหมือนคู่แข่ง ⛔ Siri รุ่นใหม่ถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026 ⛔ ยังไม่มีโมเดล LLM ที่แข่งขันกับ GPT หรือ Claude ได้ ‼️ การซื้อกิจการขนาดใหญ่เช่น Perplexity อาจขัดกับแนวทางเดิมของ Apple ที่เน้นการเติบโตภายใน ⛔ เสี่ยงต่อการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ⛔ ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีภายนอกอย่างรวดเร็ว ‼️ การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเน้น AI อาจกระทบต่อทีมงานเดิมและโครงการอื่น ⛔ อาจเกิดความไม่ชัดเจนในบทบาทของทีม ⛔ เสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรที่ไม่เห็นด้วย ‼️ งบลงทุนด้าน AI ของ Apple ยังน้อยกว่าคู่แข่งหลายเท่า อาจทำให้ตามไม่ทันในระยะกลาง ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่เทียบเท่า Google หรือ Microsoft ⛔ ต้องเร่งลงทุนใน data center และโมเดลขนาดใหญ่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/apples-tim-cook-very-open-to-m-and-a-that-accelerates-our-road-map-for-ai-company-increasing-spending-on-ai-initiatives-reorganizing-teams-to-address-expansion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “EU ไม่เก็บค่าธรรมเนียมจาก Big Tech” แล้วจะเอาเงินจากไหนมาลงทุนโครงข่าย?

    หลายปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในยุโรป เช่น Deutsche Telekom, Orange, Telefonica และ Telecom Italia เรียกร้องให้ EU บังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ (Google, Meta, Netflix, Microsoft, Amazon ฯลฯ) จ่าย “ค่าธรรมเนียมเครือข่าย” เพราะพวกเขาใช้แบนด์วิดธ์มหาศาลจากโครงข่ายที่ผู้ให้บริการต้องลงทุนเอง

    แนวคิดนี้ถูกเรียกว่า “fair share funding” แต่ Big Tech โต้กลับว่าเป็น “ภาษีอินเทอร์เน็ต” และชี้ว่าพวกเขาก็ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองเช่นกัน

    ล่าสุด EU ออกมายืนยันว่า “ไม่เห็นด้วย” กับแนวคิดนี้ โดยอ้างอิงจาก White Paper ที่ตีพิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งสรุปว่า “การเก็บค่าธรรมเนียมเครือข่ายไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน”

    แทนที่จะเก็บเงินจาก Big Tech EU เตรียมออกกฎหมายใหม่ชื่อ Digital Networks Act ในเดือนพฤศจิกายน 2025 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย รองรับ 5G, 6G, cloud และ edge computing โดยเน้นการลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ และส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน

    EU ปฏิเสธแนวคิดเก็บค่าธรรมเนียมเครือข่ายจาก Big Tech เพื่อสนับสนุนการลงทุนใน 5G และ broadband
    อ้างอิงจาก White Paper ปี 2024 ที่สรุปว่าแนวคิดนี้ไม่ยั่งยืน
    Big Tech มองว่าเป็น “ภาษีอินเทอร์เน็ต” และไม่เป็นธรรม

    ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในยุโรปเรียกร้องให้ Big Tech จ่าย “fair share” เพราะใช้แบนด์วิดธ์จำนวนมาก
    เช่น Deutsche Telekom, Orange, Telefonica, Telecom Italia
    ชี้ว่า Big Tech สร้างภาระให้กับโครงข่ายโดยไม่ช่วยลงทุน

    EU เตรียมออกกฎหมายใหม่ชื่อ Digital Networks Act ในไตรมาส 4 ปี 2025
    มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย
    ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ และส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน

    Digital Networks Act จะเป็น “regulation” ที่มีผลบังคับใช้โดยตรงในทุกประเทศสมาชิก EU
    คล้ายกับ GDPR, Digital Services Act และ AI Act
    ไม่ใช่ “directive” ที่ต้องรอการนำไปใช้ในแต่ละประเทศ

    เป้าหมายของ Digital Networks Act คือการสร้างตลาดเดียวด้านการเชื่อมต่อ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยุโรป
    ปรับปรุงการจัดสรรคลื่นความถี่, ลดความซับซ้อนของการอนุญาต
    ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เครือข่ายแบบ cloud และ edge computing

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/network-fee-on-big-tech-not-a-viable-solution-to-boost-eu-digital-rollout-eu-says
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “EU ไม่เก็บค่าธรรมเนียมจาก Big Tech” แล้วจะเอาเงินจากไหนมาลงทุนโครงข่าย? หลายปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในยุโรป เช่น Deutsche Telekom, Orange, Telefonica และ Telecom Italia เรียกร้องให้ EU บังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ (Google, Meta, Netflix, Microsoft, Amazon ฯลฯ) จ่าย “ค่าธรรมเนียมเครือข่าย” เพราะพวกเขาใช้แบนด์วิดธ์มหาศาลจากโครงข่ายที่ผู้ให้บริการต้องลงทุนเอง แนวคิดนี้ถูกเรียกว่า “fair share funding” แต่ Big Tech โต้กลับว่าเป็น “ภาษีอินเทอร์เน็ต” และชี้ว่าพวกเขาก็ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองเช่นกัน ล่าสุด EU ออกมายืนยันว่า “ไม่เห็นด้วย” กับแนวคิดนี้ โดยอ้างอิงจาก White Paper ที่ตีพิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งสรุปว่า “การเก็บค่าธรรมเนียมเครือข่ายไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน” แทนที่จะเก็บเงินจาก Big Tech EU เตรียมออกกฎหมายใหม่ชื่อ Digital Networks Act ในเดือนพฤศจิกายน 2025 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย รองรับ 5G, 6G, cloud และ edge computing โดยเน้นการลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ และส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน ✅ EU ปฏิเสธแนวคิดเก็บค่าธรรมเนียมเครือข่ายจาก Big Tech เพื่อสนับสนุนการลงทุนใน 5G และ broadband ➡️ อ้างอิงจาก White Paper ปี 2024 ที่สรุปว่าแนวคิดนี้ไม่ยั่งยืน ➡️ Big Tech มองว่าเป็น “ภาษีอินเทอร์เน็ต” และไม่เป็นธรรม ✅ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในยุโรปเรียกร้องให้ Big Tech จ่าย “fair share” เพราะใช้แบนด์วิดธ์จำนวนมาก ➡️ เช่น Deutsche Telekom, Orange, Telefonica, Telecom Italia ➡️ ชี้ว่า Big Tech สร้างภาระให้กับโครงข่ายโดยไม่ช่วยลงทุน ✅ EU เตรียมออกกฎหมายใหม่ชื่อ Digital Networks Act ในไตรมาส 4 ปี 2025 ➡️ มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย ➡️ ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ และส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน ✅ Digital Networks Act จะเป็น “regulation” ที่มีผลบังคับใช้โดยตรงในทุกประเทศสมาชิก EU ➡️ คล้ายกับ GDPR, Digital Services Act และ AI Act ➡️ ไม่ใช่ “directive” ที่ต้องรอการนำไปใช้ในแต่ละประเทศ ✅ เป้าหมายของ Digital Networks Act คือการสร้างตลาดเดียวด้านการเชื่อมต่อ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยุโรป ➡️ ปรับปรุงการจัดสรรคลื่นความถี่, ลดความซับซ้อนของการอนุญาต ➡️ ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เครือข่ายแบบ cloud และ edge computing https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/network-fee-on-big-tech-not-a-viable-solution-to-boost-eu-digital-rollout-eu-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Network fee on Big Tech not a viable solution to boost EU digital rollout, EU says
    BRUSSELS (Reuters) -The European Commission does not think that imposing a network fee on Big Tech companies is a viable solution to the debate over who should fund the rollout of 5G and broadband, a spokesman for the EU executive said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากใต้ดิน: เมื่อ Microsoft ใช้ “ขี้” เพื่อชดเชยคาร์บอนจาก AI

    Microsoft กำลังขยายศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับโมเดล AI ขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมหาศาลและปล่อยคาร์บอนจำนวนมาก แต่แทนที่จะลดการปล่อยจริง บริษัทเลือกใช้วิธีซื้อ carbon credits จาก Vaulted Deep ซึ่งมีเทคนิคเฉพาะคือ:
    - นำของเสียอินทรีย์ เช่น มูลมนุษย์, เศษอาหาร, กระดาษเปียก, มูลสัตว์ และเศษเกษตร
    - ปั๊มลงใต้ดินลึกหลายพันฟุตในชั้นหินที่ไม่ซึมผ่าน
    - อ้างว่าเทคนิคนี้สามารถ “กักเก็บคาร์บอน” ได้อย่างถาวรถึง 1,000 ปี

    Microsoft วางแผนจะใช้วิธีนี้เพื่อชดเชยคาร์บอน 4.9 ล้านตันในช่วง 12 ปีข้างหน้า โดยยังคงเดินหน้าสร้างศูนย์ข้อมูล AI ต่อไป

    Vaulted Deep ระบุว่า:
    - ได้กักเก็บ CO₂ ไปแล้ว 18,000 ตัน
    - เบี่ยงเบนของเสียจากหลุมฝังกลบและเตาเผาไปกว่า 69,000 ตัน
    - ทุก carbon credit เป็น “การกำจัดคาร์บอนถาวรที่ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์”

    แต่กลุ่มสิ่งแวดล้อมหลายแห่งไม่เห็นด้วย โดยเตือนว่า:
    - การฝังของเสียใต้ดินอาจปนเปื้อนน้ำใต้ดิน
    - การตรวจสอบระยะยาวยังไม่มีความชัดเจน
    - เป็นการ “ซื้อภาพลักษณ์สีเขียว” มากกว่าการลดคาร์บอนจริง

    Microsoft ลงนามข้อตกลงกับ Vaulted Deep เพื่อซื้อ carbon credits จากการฝังของเสียอินทรีย์ใต้ดิน
    ใช้เพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนจากศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานสูง

    ของเสียที่ใช้รวมถึงมูลมนุษย์, เศษอาหาร, มูลสัตว์, กระดาษเปียก และเศษเกษตร
    ปั๊มลงใต้ดินลึกหลายพันฟุตในชั้นหินที่ไม่ซึมผ่าน

    Vaulted อ้างว่ากักเก็บ CO₂ ได้แล้ว 18,000 ตัน และเบี่ยงเบนของเสีย 69,000 ตัน
    ทุก carbon credit เป็นการกำจัดคาร์บอนถาวรที่ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

    Microsoft ตั้งเป้าชดเชยคาร์บอน 4.9 ล้านตันในช่วง 12 ปี
    โดยยังคงเดินหน้าขยายศูนย์ข้อมูล AI ต่อไป

    วิธีการนี้ได้รับการรับรองในกรอบ climate framework ระดับสากล
    จึงถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย แม้จะมีข้อถกเถียง

    https://www.techspot.com/news/108756-microsoft-turns-underground-waste-storage-offset-ai-carbon.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากใต้ดิน: เมื่อ Microsoft ใช้ “ขี้” เพื่อชดเชยคาร์บอนจาก AI Microsoft กำลังขยายศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับโมเดล AI ขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมหาศาลและปล่อยคาร์บอนจำนวนมาก แต่แทนที่จะลดการปล่อยจริง บริษัทเลือกใช้วิธีซื้อ carbon credits จาก Vaulted Deep ซึ่งมีเทคนิคเฉพาะคือ: - นำของเสียอินทรีย์ เช่น มูลมนุษย์, เศษอาหาร, กระดาษเปียก, มูลสัตว์ และเศษเกษตร - ปั๊มลงใต้ดินลึกหลายพันฟุตในชั้นหินที่ไม่ซึมผ่าน - อ้างว่าเทคนิคนี้สามารถ “กักเก็บคาร์บอน” ได้อย่างถาวรถึง 1,000 ปี Microsoft วางแผนจะใช้วิธีนี้เพื่อชดเชยคาร์บอน 4.9 ล้านตันในช่วง 12 ปีข้างหน้า โดยยังคงเดินหน้าสร้างศูนย์ข้อมูล AI ต่อไป Vaulted Deep ระบุว่า: - ได้กักเก็บ CO₂ ไปแล้ว 18,000 ตัน - เบี่ยงเบนของเสียจากหลุมฝังกลบและเตาเผาไปกว่า 69,000 ตัน - ทุก carbon credit เป็น “การกำจัดคาร์บอนถาวรที่ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์” แต่กลุ่มสิ่งแวดล้อมหลายแห่งไม่เห็นด้วย โดยเตือนว่า: - การฝังของเสียใต้ดินอาจปนเปื้อนน้ำใต้ดิน - การตรวจสอบระยะยาวยังไม่มีความชัดเจน - เป็นการ “ซื้อภาพลักษณ์สีเขียว” มากกว่าการลดคาร์บอนจริง ✅ Microsoft ลงนามข้อตกลงกับ Vaulted Deep เพื่อซื้อ carbon credits จากการฝังของเสียอินทรีย์ใต้ดิน ➡️ ใช้เพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนจากศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานสูง ✅ ของเสียที่ใช้รวมถึงมูลมนุษย์, เศษอาหาร, มูลสัตว์, กระดาษเปียก และเศษเกษตร ➡️ ปั๊มลงใต้ดินลึกหลายพันฟุตในชั้นหินที่ไม่ซึมผ่าน ✅ Vaulted อ้างว่ากักเก็บ CO₂ ได้แล้ว 18,000 ตัน และเบี่ยงเบนของเสีย 69,000 ตัน ➡️ ทุก carbon credit เป็นการกำจัดคาร์บอนถาวรที่ผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ✅ Microsoft ตั้งเป้าชดเชยคาร์บอน 4.9 ล้านตันในช่วง 12 ปี ➡️ โดยยังคงเดินหน้าขยายศูนย์ข้อมูล AI ต่อไป ✅ วิธีการนี้ได้รับการรับรองในกรอบ climate framework ระดับสากล ➡️ จึงถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย แม้จะมีข้อถกเถียง https://www.techspot.com/news/108756-microsoft-turns-underground-waste-storage-offset-ai-carbon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft's climate math gets creative: AI emissions are out, sludge is in
    Microsoft has signed a long-term deal with Vaulted Deep to purchase carbon credits in an effort to offset emissions from its growing fleet of AI data centers....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากกฎเกณฑ์ด้านเน็ต: เมื่อ “ความเร็วสูง” กลายเป็นเรื่องการเมืองและการพัฒนาเทคโนโลยี

    ในปี 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ โดยฝ่ายบริหาร Biden เสนอให้มีการตั้งเป้าหมายระยะยาวเรื่อง “gigabit internet” สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม — โดยใช้เป็นกรอบในการออกนโยบายด้าน universal access และสนับสนุนผู้ให้บริการ

    แต่ในเอกสาร Fact Sheet ของ FCC เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2025 ที่เกี่ยวกับการทบทวนการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมขั้นสูง (ตาม Section 706) Brendan Carr ได้แสดงความกังวลว่า:

    เป้าหมาย gigabit อาจเป็นการ “เลือกปฏิบัติต่อเทคโนโลยี” เช่นดาวเทียมหรือ wireless ที่ยังไม่สามารถวิ่งที่ 1,000/500 Mbps ได้

    อาจผิดหลัก “เทคโนโลยีเป็นกลาง” ที่กฎหมายกำหนดไว้

    ควรปรับเป้าหมายตาม “ความคืบหน้าเชิงเทคโนโลยี” ไม่ใช่กำหนดล่วงหน้าว่าทุกคนต้องใช้ความเร็วเดียวกัน

    นอกจากนี้ Carr ยังไม่เห็นด้วยกับการใช้เกณฑ์หลายด้านในการประเมิน เช่น:
    - ความสามารถในการเข้าถึง
    - ความสามารถในการใช้งาน
    - ความเท่าเทียมกัน
    - ราคาและการยอมรับใช้งาน

    โดยมองว่าอาจเบี่ยงเบนจากเจตนารมณ์ดั้งเดิมของ Section 706 ที่เน้นความคืบหน้าในการเข้าถึงอย่างแท้จริง

    FCC เตรียมลงคะแนนข้อเสนอของ Brendan Carr ในวันที่ 7 สิงหาคม 2025
    เพื่อตัดสินใจว่าจะปรับเป้าหมาย gigabit internet หรือไม่

    Carr เสนอให้ยกเลิกการกำหนดเป้าหมายระยะยาว 1,000/500 Mbps
    โดยมองว่าไม่ควรเลือกปฏิบัติต่อเทคโนโลยีบางประเภทที่ยังไม่ถึงระดับนั้น

    FCC ระบุว่าการกำหนดเป้าหมายเร็วไปอาจขัดหลัก “เทคโนโลยีเป็นกลาง”
    เช่น satellite และ fixed wireless อาจได้รับผลกระทบทางนโยบาย

    เป้าหมาย gigabit มาจากแผนของรัฐบาล Biden ปี 2024 ที่เน้น universal access
    โดยใช้เป็นกรอบสำหรับการสนับสนุนเงินทุนจากภาครัฐ

    Carr เสนอให้การประเมินของ FCC เน้น “ความคืบหน้าในการ deploy” มากกว่า “การเข้าถึงครบ”
    เพื่อสะท้อนความจริงของการพัฒนาระบบแทนการตั้งมาตรฐานล่วงหน้า

    FCC ต้องทำการสอบสวนทุกปีตามกฎหมาย Telecommunications Act of 1996, Section 706
    การเปลี่ยนเป้าหมายในปีนี้อาจมีผลต่อการสนับสนุน ISP และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/fcc-proposal-aims-to-nix-long-term-gigabit-internet-speed-goals-pricing-analysis
    🎙️ เรื่องเล่าจากกฎเกณฑ์ด้านเน็ต: เมื่อ “ความเร็วสูง” กลายเป็นเรื่องการเมืองและการพัฒนาเทคโนโลยี ในปี 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ โดยฝ่ายบริหาร Biden เสนอให้มีการตั้งเป้าหมายระยะยาวเรื่อง “gigabit internet” สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม — โดยใช้เป็นกรอบในการออกนโยบายด้าน universal access และสนับสนุนผู้ให้บริการ แต่ในเอกสาร Fact Sheet ของ FCC เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2025 ที่เกี่ยวกับการทบทวนการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมขั้นสูง (ตาม Section 706) Brendan Carr ได้แสดงความกังวลว่า: เป้าหมาย gigabit อาจเป็นการ “เลือกปฏิบัติต่อเทคโนโลยี” เช่นดาวเทียมหรือ wireless ที่ยังไม่สามารถวิ่งที่ 1,000/500 Mbps ได้ อาจผิดหลัก “เทคโนโลยีเป็นกลาง” ที่กฎหมายกำหนดไว้ ควรปรับเป้าหมายตาม “ความคืบหน้าเชิงเทคโนโลยี” ไม่ใช่กำหนดล่วงหน้าว่าทุกคนต้องใช้ความเร็วเดียวกัน นอกจากนี้ Carr ยังไม่เห็นด้วยกับการใช้เกณฑ์หลายด้านในการประเมิน เช่น: - ความสามารถในการเข้าถึง - ความสามารถในการใช้งาน - ความเท่าเทียมกัน - ราคาและการยอมรับใช้งาน โดยมองว่าอาจเบี่ยงเบนจากเจตนารมณ์ดั้งเดิมของ Section 706 ที่เน้นความคืบหน้าในการเข้าถึงอย่างแท้จริง ✅ FCC เตรียมลงคะแนนข้อเสนอของ Brendan Carr ในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ➡️ เพื่อตัดสินใจว่าจะปรับเป้าหมาย gigabit internet หรือไม่ ✅ Carr เสนอให้ยกเลิกการกำหนดเป้าหมายระยะยาว 1,000/500 Mbps ➡️ โดยมองว่าไม่ควรเลือกปฏิบัติต่อเทคโนโลยีบางประเภทที่ยังไม่ถึงระดับนั้น ✅ FCC ระบุว่าการกำหนดเป้าหมายเร็วไปอาจขัดหลัก “เทคโนโลยีเป็นกลาง” ➡️ เช่น satellite และ fixed wireless อาจได้รับผลกระทบทางนโยบาย ✅ เป้าหมาย gigabit มาจากแผนของรัฐบาล Biden ปี 2024 ที่เน้น universal access ➡️ โดยใช้เป็นกรอบสำหรับการสนับสนุนเงินทุนจากภาครัฐ ✅ Carr เสนอให้การประเมินของ FCC เน้น “ความคืบหน้าในการ deploy” มากกว่า “การเข้าถึงครบ” ➡️ เพื่อสะท้อนความจริงของการพัฒนาระบบแทนการตั้งมาตรฐานล่วงหน้า ✅ FCC ต้องทำการสอบสวนทุกปีตามกฎหมาย Telecommunications Act of 1996, Section 706 ➡️ การเปลี่ยนเป้าหมายในปีนี้อาจมีผลต่อการสนับสนุน ISP และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/fcc-proposal-aims-to-nix-long-term-gigabit-internet-speed-goals-pricing-analysis
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    FCC proposal aims to nix long-term gigabit internet speed goals, pricing analysis
    An FCC proposal seeks to undo the Biden administration's efforts to encourage increased availability of gigabit download speeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพชาวยูเครนหลายพันคนออกมาประท้วงบนถนนในกรุงเคียฟเพื่อต่อต้านเซเลนสกี หลังทำสงครามกับรัสเซียมากว่าสามปี และมีท่าทีจะพ่ายแพ้ รวมทั้งยังเบื่อหน่ายกับข่าวการทุจริตเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ

    ล่าสุดถึงขั้นทนไม่ไหว เมื่อรัฐบาลเซเลนสกีพยายามออกกฎหมายที่นักวิจารณ์มองว่าเป็นการบ่อนทำลายหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของยูเครน


    ประเด็นสำคัญของกฎหมายฉบับใหม่นี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและมีรายงานว่าลงนามโดยเซเลนสกีแล้ว ซึ่งจะทำให้อัยการสูงสุด (ได้รับการแต่งตั้งจากเซเลนสกี) มีอำนาจสั่งการเหนือสำนักงานป้องกันการทุจริตแห่งชาติยูเครน (NABU - National Anti-Corruption Bureau of Ukraine) และสำนักงานอัยการพิเศษเฉพาะกิจเพื่อต่อต้านการทุจริต (SAPO - Specialized Anti-Corruption Prosecutor's Office) ซึ่งจะทำให้ทั้งสององค์กรขาดความเป็นอิสระและความสามารถในการสืบสวนและดำเนินคดีการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับการตกอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายการเมือง

    การประท้วงต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ของเซเลนสกี นับเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งตั้งแต่ปี 2022 ที่รัสเซียเริ่มบุกยูเครน

    มีประชาชน นักเคลื่อนไหว ทหารผ่านศึก และหน่วยงานเฝ้าระวังการทุจริต เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวาง เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย โดยเรียกร้องให้เซเลนสกีใช้อำนาจยับยั้งการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว เพื่อรักษาระบบการต่อต้านและตรวจสอบการทุจริตของยูเครนให้มีอิสระต่อไป

    การประท้วงสะท้อนให้เห็นถึงความคับข้องใจและความโกรธแค้นในหมู่ชาวยูเครนที่เหนื่อยล้าจากสงคราม โดยการนำของเซเลนสกีที่อ้างมาตลอดว่ากำลังสู้เพื่อประชาธิปไตยของยูเครน

    ทางด้านสหภาพยุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายฉบับดังกล่าวเช่นกัน โดยกรรมาธิการการขยายอำนาจของสหภาพยุโรปเรียกกฎหมายนี้ว่าเป็น "การก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ของยูเครน" ซึ่งอาจส่งผลความปรารถนาของยูเครนที่จะเข้าร่วมสหภาพยุโรป รวมทั้งยังคงได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่สำคัญจากชาติตะวันตกต่อไป

    สถานการณ์ขณะนี้มีความไม่แน่นอนและวุ่นวายอย่างมากในยูเครน หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าเซเลนสกีจะจัดการกับการประท้วงและข้อกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับกฎหมายใหม่นี้อย่างไร
    ภาพชาวยูเครนหลายพันคนออกมาประท้วงบนถนนในกรุงเคียฟเพื่อต่อต้านเซเลนสกี หลังทำสงครามกับรัสเซียมากว่าสามปี และมีท่าทีจะพ่ายแพ้ รวมทั้งยังเบื่อหน่ายกับข่าวการทุจริตเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ ล่าสุดถึงขั้นทนไม่ไหว เมื่อรัฐบาลเซเลนสกีพยายามออกกฎหมายที่นักวิจารณ์มองว่าเป็นการบ่อนทำลายหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของยูเครน 👉ประเด็นสำคัญของกฎหมายฉบับใหม่นี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและมีรายงานว่าลงนามโดยเซเลนสกีแล้ว ซึ่งจะทำให้อัยการสูงสุด (ได้รับการแต่งตั้งจากเซเลนสกี) มีอำนาจสั่งการเหนือสำนักงานป้องกันการทุจริตแห่งชาติยูเครน (NABU - National Anti-Corruption Bureau of Ukraine) และสำนักงานอัยการพิเศษเฉพาะกิจเพื่อต่อต้านการทุจริต (SAPO - Specialized Anti-Corruption Prosecutor's Office) ซึ่งจะทำให้ทั้งสององค์กรขาดความเป็นอิสระและความสามารถในการสืบสวนและดำเนินคดีการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับการตกอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายการเมือง 👉การประท้วงต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ของเซเลนสกี นับเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งตั้งแต่ปี 2022 ที่รัสเซียเริ่มบุกยูเครน 👉มีประชาชน นักเคลื่อนไหว ทหารผ่านศึก และหน่วยงานเฝ้าระวังการทุจริต เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวาง เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย โดยเรียกร้องให้เซเลนสกีใช้อำนาจยับยั้งการประกาศใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว เพื่อรักษาระบบการต่อต้านและตรวจสอบการทุจริตของยูเครนให้มีอิสระต่อไป 👉การประท้วงสะท้อนให้เห็นถึงความคับข้องใจและความโกรธแค้นในหมู่ชาวยูเครนที่เหนื่อยล้าจากสงคราม โดยการนำของเซเลนสกีที่อ้างมาตลอดว่ากำลังสู้เพื่อประชาธิปไตยของยูเครน 👉ทางด้านสหภาพยุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับกฎหมายฉบับดังกล่าวเช่นกัน โดยกรรมาธิการการขยายอำนาจของสหภาพยุโรปเรียกกฎหมายนี้ว่าเป็น "การก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ของยูเครน" ซึ่งอาจส่งผลความปรารถนาของยูเครนที่จะเข้าร่วมสหภาพยุโรป รวมทั้งยังคงได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่สำคัญจากชาติตะวันตกต่อไป 👉สถานการณ์ขณะนี้มีความไม่แน่นอนและวุ่นวายอย่างมากในยูเครน หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าเซเลนสกีจะจัดการกับการประท้วงและข้อกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับกฎหมายใหม่นี้อย่างไร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามการเมือง: Altman จากนักวิจารณ์ Trump กลายเป็นพันธมิตรด้าน AI

    ก่อนหน้านี้ Altman เคยเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างชัดเจน และวิจารณ์ Trump อย่างเผ็ดร้อนว่าเป็น “ภัยต่อประเทศ” แต่ในปี 2024–2025 เขาเริ่ม “ห่างจากฝั่งซ้าย” ด้วยเหตุผลหลายด้าน เช่น:
    - ไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยุคโควิด
    - ไม่พอใจกฎหมาย CHIPS และการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์
    - กังวลว่าสหรัฐอาจตามหลังจีนในด้าน AI

    เขาจึงประกาศเลิกเป็นเดโมแครตและเรียกตัวเองว่า “politically homeless” พร้อมเริ่มสร้างพันธมิตรกับฝ่ายขวาอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย AI และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน — ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการแตกหักระหว่าง Musk และ Trump

    ในเดือนกรกฎาคม Altman ปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟของ Trump พร้อมรับการแนะนำต่อกลุ่มผู้บริจาคของพรรครีพับลิกันว่าเป็น “ชายผู้ฉลาดมาก” และ “หวังว่าเขาจะพูดเรื่อง AI ถูกต้อง”

    เบื้องหลังคือ OpenAI กำลังผลักดันข้อเสนอใหญ่ ๆ เช่น:
    - การลงทุนรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI
    - การเปิดทางให้ใช้ไฟฟ้าจำนวนมหาศาลเพื่อรันโมเดล
    - การเร่งรัดการขออนุญาตสร้างศูนย์ข้อมูลระดับ gigawatt
    - การผลักดันโมเดลระดับ Sora, DALL-E, และ text-to-video ให้เป็น “ทรัพย์สินชาติ”

    ภายใน Oval Office Altman ประกาศ “Stargate Initiative” — ความร่วมมือมูลค่า $500B กับ Oracle และ SoftBank เพื่อสร้างโครงสร้างข้อมูล AI ทั่วโลก ซึ่งเป็นดีลที่ Musk เคยพยายามขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ

    Sam Altman กลายเป็นที่ปรึกษา Trump ด้านนโยบาย AI หลังจาก Musk แยกตัว
    ปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟของ Trump และประกาศความร่วมมือในระดับชาติ

    Altman ประกาศเลิกสนับสนุนพรรคเดโมแครต พร้อมบอกว่า “ไม่ฝักฝ่ายการเมือง”
    กล่าวว่าพรรคเดโมแครต “ขยับซ้ายจนเขาไม่มีที่ยืนทางการเมือง”

    OpenAI ผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ผ่าน Stargate Initiative
    ความร่วมมือ $500B กับ SoftBank และ Oracle โดยมี Trump หนุนเต็มตัว

    Altman ขัดแย้งกับเดโมแครตเรื่อง CHIPS Act และข้อจำกัดการส่งออก
    มองว่านโยบายเหล่านั้นทำให้สหรัฐเสียเปรียบจีนในด้าน AI

    นโยบายของ Trump เริ่มสะท้อนคำพูดของ Altman เช่นเน้นการลดข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและการสร้างศูนย์ข้อมูล
    เตรียมแปลงที่ดินของรัฐให้เหมาะกับการตั้งโครงสร้างพื้นฐาน AI

    Altman ยืนยันว่าเขายังเชื่อใน techno-capitalism แต่ควรมีระบบแบ่งปันผลประโยชน์
    แสดงว่าเป้าหมายไม่ใช่การสนับสนุนพรรคใด แต่เน้นผลลัพธ์และโอกาส

    https://www.techspot.com/news/108731-sam-altman-steps-political-power-vacuum-after-musk.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากสนามการเมือง: Altman จากนักวิจารณ์ Trump กลายเป็นพันธมิตรด้าน AI ก่อนหน้านี้ Altman เคยเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างชัดเจน และวิจารณ์ Trump อย่างเผ็ดร้อนว่าเป็น “ภัยต่อประเทศ” แต่ในปี 2024–2025 เขาเริ่ม “ห่างจากฝั่งซ้าย” ด้วยเหตุผลหลายด้าน เช่น: - ไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยุคโควิด - ไม่พอใจกฎหมาย CHIPS และการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ - กังวลว่าสหรัฐอาจตามหลังจีนในด้าน AI เขาจึงประกาศเลิกเป็นเดโมแครตและเรียกตัวเองว่า “politically homeless” พร้อมเริ่มสร้างพันธมิตรกับฝ่ายขวาอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย AI และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน — ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการแตกหักระหว่าง Musk และ Trump ในเดือนกรกฎาคม Altman ปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟของ Trump พร้อมรับการแนะนำต่อกลุ่มผู้บริจาคของพรรครีพับลิกันว่าเป็น “ชายผู้ฉลาดมาก” และ “หวังว่าเขาจะพูดเรื่อง AI ถูกต้อง” เบื้องหลังคือ OpenAI กำลังผลักดันข้อเสนอใหญ่ ๆ เช่น: - การลงทุนรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI - การเปิดทางให้ใช้ไฟฟ้าจำนวนมหาศาลเพื่อรันโมเดล - การเร่งรัดการขออนุญาตสร้างศูนย์ข้อมูลระดับ gigawatt - การผลักดันโมเดลระดับ Sora, DALL-E, และ text-to-video ให้เป็น “ทรัพย์สินชาติ” ภายใน Oval Office Altman ประกาศ “Stargate Initiative” — ความร่วมมือมูลค่า $500B กับ Oracle และ SoftBank เพื่อสร้างโครงสร้างข้อมูล AI ทั่วโลก ซึ่งเป็นดีลที่ Musk เคยพยายามขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ ✅ Sam Altman กลายเป็นที่ปรึกษา Trump ด้านนโยบาย AI หลังจาก Musk แยกตัว ➡️ ปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟของ Trump และประกาศความร่วมมือในระดับชาติ ✅ Altman ประกาศเลิกสนับสนุนพรรคเดโมแครต พร้อมบอกว่า “ไม่ฝักฝ่ายการเมือง” ➡️ กล่าวว่าพรรคเดโมแครต “ขยับซ้ายจนเขาไม่มีที่ยืนทางการเมือง” ✅ OpenAI ผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ผ่าน Stargate Initiative ➡️ ความร่วมมือ $500B กับ SoftBank และ Oracle โดยมี Trump หนุนเต็มตัว ✅ Altman ขัดแย้งกับเดโมแครตเรื่อง CHIPS Act และข้อจำกัดการส่งออก ➡️ มองว่านโยบายเหล่านั้นทำให้สหรัฐเสียเปรียบจีนในด้าน AI ✅ นโยบายของ Trump เริ่มสะท้อนคำพูดของ Altman เช่นเน้นการลดข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและการสร้างศูนย์ข้อมูล ➡️ เตรียมแปลงที่ดินของรัฐให้เหมาะกับการตั้งโครงสร้างพื้นฐาน AI ✅ Altman ยืนยันว่าเขายังเชื่อใน techno-capitalism แต่ควรมีระบบแบ่งปันผลประโยชน์ ➡️ แสดงว่าเป้าหมายไม่ใช่การสนับสนุนพรรคใด แต่เน้นผลลัพธ์และโอกาส https://www.techspot.com/news/108731-sam-altman-steps-political-power-vacuum-after-musk.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sam Altman steps into political power vacuum after Musk breaks with Trump
    Less than a month after Musk – formerly a fixture in Trump's inner circle – dramatically split with the president, Altman appeared at Trump's New Jersey golf...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ถ้าเราซื้อทุกอย่างโดยไม่มีการผลิตใช้เอง รัสเซียจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และสูญเสียอธิปไตยไปในที่สุด"

    "นี่คือเหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่แนะนำให้ซื้อทุกอย่างจากต่างประเทศ"

    — นี่คือแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
    "ถ้าเราซื้อทุกอย่างโดยไม่มีการผลิตใช้เอง รัสเซียจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และสูญเสียอธิปไตยไปในที่สุด" "นี่คือเหตุผลที่ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่แนะนำให้ซื้อทุกอย่างจากต่างประเทศ" — นี่คือแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..เยาวชนไทยเราธรรมดาที่ไหน,แนวใครแนวมันและสนุกไม่แพ้ของจริง.,เด็กไทยเราเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกนะ,ถ้าเราได้คนดีคนเก่งมีความสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำนะจะก้าวกระโดดโคตรๆ เม็ดเงินส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนไทยสาระพัดหลากหลายมิติจะพร้อมเหลือล้นในการอุดหนุนความสามารถของเยาวชนไทยเรารุ่นต่อไป,มิใช่ชูสามนิ้วล้มสถาบันช่วยต่างชาติทำลายแผ่นดินไทยตนเอง,เราสามารถสร้างความสงบสุขดำรงรักษาภายในประเทศไทยเราได้แม้ทั่วโลกจะโกลาหลเดือดร้อนพังพินาศทางเศรษฐกิจหรือสงครามตัวแทนใดๆ,ด้วยความสามารถของผู้นำคนดีคนเก่งๆของเราเอาอยู่สบายโดยมีแรงหนุนประชาชนสามัคคีในชาติเป็นฐานรับมือร่วมกันอย่างสบายๆแน่นอน.,บ้านเมืองเราสงบสุขร่มเย็น ประชาชนอิ่มปากอิ่มท้องร่ำรวยไม่ยากจนเหมือนปัจจุบัน สติและปัญญาคิดอ่านสาระพัดให้ชาติไทยรอดพ้นภัยใดๆจะไหลมามากมายสานะทิศแล้วลงมือขจัดกำจัดร่วมกันทั้งประเทศในภัยนั้นๆไม่ยากเย็นอะไรก็ว่า.,ตลอดนวัตกรรมล้ำๆจะมากมายเต็มแผ่นดินไทยด้วย เพราะแต่ละคนไทยความคิดอ่านโคตรประยุกต์ใช้ธรรมดาที่ไหน,ยิ่งมีตังซื้อหาวัตถุดิบมาต่อยอดความคิดการเป็นรูปเป็นร่างได้จริงอีก ไม่มีกฎหมายผีบ้ามากมายของคนบ้าอำนาจบ้าปกครองเขียนออกมาหมายควบคุมคนไทยเป็นทาสไร้อิสระเสรีที่ตีตราใช้บังคับตรึมสาระพัด,ดูง่ายๆที่สุดคือ ไม่ใส่หมวกกันน็อคปรับ2,000บาทนั้นล่ะ,ควบคุมตรึม,ผู้นำที่ดีๆเท่านั้นจึงสามารถฉีกกฎหมายผีบ้ามากมายที่ออกมาทิ้งไปได้,นี้คือวิธีปกครองเผด็จการในหน้าตาอ้างประชาธิปไตย,ไม่ช่องทางที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นคัดค้านหรือลงชื่อยกเลิกได้นะหากไม่เห็นด้วยที่กระทรวงทบวงกรมตีตราเขียนออกมาบังคับใช้ เช่นมีองค์กรหน่วยงานรัฐส่วนกลางรับลงชื่อออนไลน์เปิดหัวข้อของประชาชนอยากร่วมยกเลิกกฎหมายอะไรทางตรงได้เช่นกฎหมายสัมปทานปิโตรเลียมต้องการยกเลิกสัมปทานที่ไม่เป็นธรรม ประเทศไทยในนามรัฐบาลสมควรขุดเจาะทำเองขายเองถูกๆในไทยแต่ไม่ทำ ตั้งเป็นหัวข้อในแพลตฟอร์มแล้วประชาชนลงชื่อลงมติทุบกฎหมายนั้นทิ้งจนครบเกณฑ์ที่กำหนด สามารถให้กฎหมายนั้นเป็นยกเลิกไปทันทีได้โมฆะทันทีได้เช่นต้องลงชื่อลงมติใช้ประชาชน20ล้านคนที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตััง มาร่วมลงชื่อลงมติยกเลิกทุบทิ้งได้ พอครบคนไทยตามเกณฑ์ก็ยกเลิกทันทีได้,นี้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมตรงได้แบบนี้,เพราะอย่างไรเวลานี้น้ำมันก็ยังสำคัญ สงครามก็ยังใช้ปกติในเครื่องจักรรบต่างๆ.รถต้องเติมน้ำมัน เครื่องบินรบเรือรบก็ต้องเติมน้ำมันโดยปกติพื้นฐานในเวลาเปลี่ยนยุคนี้.
    ..เยาวชนไทยเราคืออนาคตคนของแผ่นดินไทยเรารุ่นต่อไปนะ,พรรคแบบอนาคตใหม่พรรคก้าวไกลที่ถูกยุบพรรคเพราะหมายล้มสถาบันเอยตลอดนักวิชาการครูสายอาจารย์มหาลัยเป็นอันมากเป็นคนล้างสมองเยาวชนไทยเราและเข้าทียศแผ่นดินไทยเหมือนพรรคที่ว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยในโรงเรียนมหาลัยไทยเรา,พวกนี้ต้องกำจัดให้สิ้นซากจริงๆ.,พวกรีตตาเดียวอิลูมินาติพวกซาตานฝ่ายมืดก็ว่า,มันทำสัญลักษณ์มือโชว์ว่าเป็นขี้ข้าฝ่ายมืดชัดเจนขนาดนั้นแล้วก็ว่า.,ศัตรูและคนทรยศแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทย ทำไมยังเก็บรักษาลอยหน้าลอยตาถึงปัจจุบันนี้นะ.


    https://youtu.be/kgbOabQqgb0?si=p9Em0Q-_XPWypFIA
    ..เยาวชนไทยเราธรรมดาที่ไหน,แนวใครแนวมันและสนุกไม่แพ้ของจริง.,เด็กไทยเราเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกนะ,ถ้าเราได้คนดีคนเก่งมีความสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำนะจะก้าวกระโดดโคตรๆ เม็ดเงินส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนไทยสาระพัดหลากหลายมิติจะพร้อมเหลือล้นในการอุดหนุนความสามารถของเยาวชนไทยเรารุ่นต่อไป,มิใช่ชูสามนิ้วล้มสถาบันช่วยต่างชาติทำลายแผ่นดินไทยตนเอง,เราสามารถสร้างความสงบสุขดำรงรักษาภายในประเทศไทยเราได้แม้ทั่วโลกจะโกลาหลเดือดร้อนพังพินาศทางเศรษฐกิจหรือสงครามตัวแทนใดๆ,ด้วยความสามารถของผู้นำคนดีคนเก่งๆของเราเอาอยู่สบายโดยมีแรงหนุนประชาชนสามัคคีในชาติเป็นฐานรับมือร่วมกันอย่างสบายๆแน่นอน.,บ้านเมืองเราสงบสุขร่มเย็น ประชาชนอิ่มปากอิ่มท้องร่ำรวยไม่ยากจนเหมือนปัจจุบัน สติและปัญญาคิดอ่านสาระพัดให้ชาติไทยรอดพ้นภัยใดๆจะไหลมามากมายสานะทิศแล้วลงมือขจัดกำจัดร่วมกันทั้งประเทศในภัยนั้นๆไม่ยากเย็นอะไรก็ว่า.,ตลอดนวัตกรรมล้ำๆจะมากมายเต็มแผ่นดินไทยด้วย เพราะแต่ละคนไทยความคิดอ่านโคตรประยุกต์ใช้ธรรมดาที่ไหน,ยิ่งมีตังซื้อหาวัตถุดิบมาต่อยอดความคิดการเป็นรูปเป็นร่างได้จริงอีก ไม่มีกฎหมายผีบ้ามากมายของคนบ้าอำนาจบ้าปกครองเขียนออกมาหมายควบคุมคนไทยเป็นทาสไร้อิสระเสรีที่ตีตราใช้บังคับตรึมสาระพัด,ดูง่ายๆที่สุดคือ ไม่ใส่หมวกกันน็อคปรับ2,000บาทนั้นล่ะ,ควบคุมตรึม,ผู้นำที่ดีๆเท่านั้นจึงสามารถฉีกกฎหมายผีบ้ามากมายที่ออกมาทิ้งไปได้,นี้คือวิธีปกครองเผด็จการในหน้าตาอ้างประชาธิปไตย,ไม่ช่องทางที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นคัดค้านหรือลงชื่อยกเลิกได้นะหากไม่เห็นด้วยที่กระทรวงทบวงกรมตีตราเขียนออกมาบังคับใช้ เช่นมีองค์กรหน่วยงานรัฐส่วนกลางรับลงชื่อออนไลน์เปิดหัวข้อของประชาชนอยากร่วมยกเลิกกฎหมายอะไรทางตรงได้เช่นกฎหมายสัมปทานปิโตรเลียมต้องการยกเลิกสัมปทานที่ไม่เป็นธรรม ประเทศไทยในนามรัฐบาลสมควรขุดเจาะทำเองขายเองถูกๆในไทยแต่ไม่ทำ ตั้งเป็นหัวข้อในแพลตฟอร์มแล้วประชาชนลงชื่อลงมติทุบกฎหมายนั้นทิ้งจนครบเกณฑ์ที่กำหนด สามารถให้กฎหมายนั้นเป็นยกเลิกไปทันทีได้โมฆะทันทีได้เช่นต้องลงชื่อลงมติใช้ประชาชน20ล้านคนที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตััง มาร่วมลงชื่อลงมติยกเลิกทุบทิ้งได้ พอครบคนไทยตามเกณฑ์ก็ยกเลิกทันทีได้,นี้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมตรงได้แบบนี้,เพราะอย่างไรเวลานี้น้ำมันก็ยังสำคัญ สงครามก็ยังใช้ปกติในเครื่องจักรรบต่างๆ.รถต้องเติมน้ำมัน เครื่องบินรบเรือรบก็ต้องเติมน้ำมันโดยปกติพื้นฐานในเวลาเปลี่ยนยุคนี้. ..เยาวชนไทยเราคืออนาคตคนของแผ่นดินไทยเรารุ่นต่อไปนะ,พรรคแบบอนาคตใหม่พรรคก้าวไกลที่ถูกยุบพรรคเพราะหมายล้มสถาบันเอยตลอดนักวิชาการครูสายอาจารย์มหาลัยเป็นอันมากเป็นคนล้างสมองเยาวชนไทยเราและเข้าทียศแผ่นดินไทยเหมือนพรรคที่ว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยในโรงเรียนมหาลัยไทยเรา,พวกนี้ต้องกำจัดให้สิ้นซากจริงๆ.,พวกรีตตาเดียวอิลูมินาติพวกซาตานฝ่ายมืดก็ว่า,มันทำสัญลักษณ์มือโชว์ว่าเป็นขี้ข้าฝ่ายมืดชัดเจนขนาดนั้นแล้วก็ว่า.,ศัตรูและคนทรยศแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทย ทำไมยังเก็บรักษาลอยหน้าลอยตาถึงปัจจุบันนี้นะ. https://youtu.be/kgbOabQqgb0?si=p9Em0Q-_XPWypFIA
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับป้า คนในบ้านพระอาทิตย์ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดแบบป้านะครับ ในเรื่องนี้
    ผมขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับป้า คนในบ้านพระอาทิตย์ส่วนใหญ่ไม่ได้คิดแบบป้านะครับ ในเรื่องนี้
    ถ้าหวังดีก็ควรตักเตือนก่อนกระทำผิด มิใช่มาขอให้เมตตาตอนรับโทษ อ้างไปเรียนเพื่อจะหลบหนีลี้ภัย เซลล์สมองป้าไม่เหลือแล้วล่ะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปล่อยแพตช์ประจำเดือนกรกฎาคม 2025 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 (KB5062553), 23H2 และ 22H2 (KB5062552) → แก้ปัญหาความปลอดภัยเป็นหลัก แต่อัปเดตนี้ยังรวมการแก้บั๊กจากเดือนก่อนที่หลายคนบ่นกันไว้แล้วด้วย! → เช่น ปัญหาเวลาเล่นเกม “เต็มจอ” แล้วกด ALT+Tab ไปโปรแกรมอื่น แล้วกลับมาเกมจะหลุดตำแหน่งเมาส์ → หรือเสียงพวก Volume Change, Sign-in, Notification ไม่ดัง → แถมยังมีบั๊กเล็ก ๆ ในระบบ Firewall ที่ Event Viewer แจ้ง “Config Read Failed” อยู่เป็นระยะ ก็ถูกแก้แล้วเหมือนกัน

    ที่พิเศษคือ Microsoft ยังอัปเดต ส่วน AI เบื้องหลัง เช่น Image Search, Content Extraction, Semantic Analysis → นี่คือส่วนที่ทำให้ Copilot ใช้ข้อมูลภาพและข้อความได้ฉลาดขึ้น → ถึงจะไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ประสิทธิภาพโดยรวมจะดีขึ้น (เหมือนเปลี่ยนสมองให้ Windows แบบเงียบ ๆ เลยล่ะ)

    อัปเดตสำคัญจาก Patch Tuesday กรกฎาคม 2025:
    อัปเดต KB5062553 สำหรับ Windows 11 24H2 → Build 26100.4652  
    • แก้บั๊กเกม full screen สลับ ALT+Tab แล้วเมาส์หลุดตำแหน่ง  
    • แก้บั๊กเสียง Notification และเสียงระบบ  
    • แก้บั๊ก Event 2042 “Config Read Failed” ของ Firewall ใน Event Viewer  
    • อัปเดตส่วน AI:
      – Image Search: v1.2506.707.0
      – Content Extraction: v1.2506.707.0
      – Semantic Analysis: v1.2506.707.0

    อัปเดต KB5062552 สำหรับ Windows 11 23H2/22H2 → Build 22631.5624 / 22621.5624  
    • แก้ปัญหาจอดำตอนเสียบ/ถอดจอ (เฉพาะผู้ใช้บางรายจาก KB5060826)  
    • แก้ไขและปรับปรุงคุณภาพโดยรวม  
    • ใช้ EKB KB5027397 หากต้องการอัปเดตจาก 22H2 → 23H2

    อัปเดต Servicing Stack (SSU) เพื่อให้ระบบอัปเดตได้ลื่นไหล:  
    • 24H2: SSU KB5063666 (build 26100.4651)  
    • 23H2/22H2: SSU KB5063707 (build 22631.5619)

    ไม่มี Known issues ที่ประกาศในตอนนี้ — คาดว่าเสถียรมากขึ้นจากรอบก่อน

    https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5062553-kb5062552-july-2025-patch-tuesday-out/
    Microsoft ปล่อยแพตช์ประจำเดือนกรกฎาคม 2025 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 (KB5062553), 23H2 และ 22H2 (KB5062552) → แก้ปัญหาความปลอดภัยเป็นหลัก แต่อัปเดตนี้ยังรวมการแก้บั๊กจากเดือนก่อนที่หลายคนบ่นกันไว้แล้วด้วย! → เช่น ปัญหาเวลาเล่นเกม “เต็มจอ” แล้วกด ALT+Tab ไปโปรแกรมอื่น แล้วกลับมาเกมจะหลุดตำแหน่งเมาส์ → หรือเสียงพวก Volume Change, Sign-in, Notification ไม่ดัง → แถมยังมีบั๊กเล็ก ๆ ในระบบ Firewall ที่ Event Viewer แจ้ง “Config Read Failed” อยู่เป็นระยะ ก็ถูกแก้แล้วเหมือนกัน ที่พิเศษคือ Microsoft ยังอัปเดต ส่วน AI เบื้องหลัง เช่น Image Search, Content Extraction, Semantic Analysis → นี่คือส่วนที่ทำให้ Copilot ใช้ข้อมูลภาพและข้อความได้ฉลาดขึ้น → ถึงจะไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ประสิทธิภาพโดยรวมจะดีขึ้น (เหมือนเปลี่ยนสมองให้ Windows แบบเงียบ ๆ เลยล่ะ) ☸️ อัปเดตสำคัญจาก Patch Tuesday กรกฎาคม 2025: ✅ อัปเดต KB5062553 สำหรับ Windows 11 24H2 → Build 26100.4652   • แก้บั๊กเกม full screen สลับ ALT+Tab แล้วเมาส์หลุดตำแหน่ง   • แก้บั๊กเสียง Notification และเสียงระบบ   • แก้บั๊ก Event 2042 “Config Read Failed” ของ Firewall ใน Event Viewer   • อัปเดตส่วน AI:   – Image Search: v1.2506.707.0   – Content Extraction: v1.2506.707.0   – Semantic Analysis: v1.2506.707.0 ✅ อัปเดต KB5062552 สำหรับ Windows 11 23H2/22H2 → Build 22631.5624 / 22621.5624   • แก้ปัญหาจอดำตอนเสียบ/ถอดจอ (เฉพาะผู้ใช้บางรายจาก KB5060826)   • แก้ไขและปรับปรุงคุณภาพโดยรวม   • ใช้ EKB KB5027397 หากต้องการอัปเดตจาก 22H2 → 23H2 ✅ อัปเดต Servicing Stack (SSU) เพื่อให้ระบบอัปเดตได้ลื่นไหล:   • 24H2: SSU KB5063666 (build 26100.4651)   • 23H2/22H2: SSU KB5063707 (build 22631.5619) ✅ ไม่มี Known issues ที่ประกาศในตอนนี้ — คาดว่าเสถียรมากขึ้นจากรอบก่อน https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5062553-kb5062552-july-2025-patch-tuesday-out/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 (KB5062553, KB5062552) July 2025 Patch Tuesday out
    Microsoft has released Patch Tuesday updates for Windows 11 (KB5062553, KB5062552) for July 2025. Here's what's included.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..พูดอย่างจริงใจ,แบบเปิดอกเลยนะ,
    ...แน่นอนบังเอิญมิใช่บังเอิญ มีใครพูดกระซิบข้างหูมั้ยนะต้องจำเป็นไปชุมนุมสถานที่ซาตานนี้นะ,เคยเตือนว่าอย่าไปเลย,ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นศูนย์รวมการเก็บเกี่ยวพลังงานจิตเชิงลบหรือบวกได้หมดเลยล่ะ,มันเอาไปขายทั่วจักรวาลทัังเชิงลบเชิงบวกล่ะ,เชิงลบแน่นอนสร้างหายนะได้เพิ่มมากขึ้นในหลายๆช่องทางที่มันมีพลังชั่วแล้ว จะไปทำลายที่ไหนก็ได้,ปกติผู้คนที่จราจรให้มันเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว,ประเทศไทยเราสมควรทำลายสถานที่นี้เถอะ,มันชัดเจนขนาดนี้แล้วสัญลักษณ์ชัดๆฝ่ายมืด,ขออย่าเป็นฝ่ายมืดเลย,ที่ครอบงำเดอะแก๊งนี้เดอะคณะนี้,อดีตแกนนำพันธมิตรอาจเปลี่ยนสัญลักษณ์ไปเลยเป็นอันใหม่ก็ดีนะ,เหมือนตาปีศาจอย่างไงมันรู้,เมื่อพันธมิตรทิ้งจบอดีตนั้นแล้ว,ทิ้งโลโก้ไปเลยด้วยเถอะอย่าเสียดาย,เราติดตามสัญลักษณ์พวกซาตานมาเห็นแล้วไม่คอยสบายใจ,ตอนแลกบอกสถานที่จะชุมนุนว่าที่นี้ ก็ไม่เห็นด้วยในตอนต้นอยู่แล้ว,บ้านนี้มีคนอ่านน้อยก็ว่า,เลยไม่มีลำโพงดังไกลนักในการเตือน,เห็นสีรุ่งในเพจข่าวออนไลน์ของที่นี้ก็ยังไม่ค่อยสบายใจ,จนมองว่าเป็นพวกซาตานไปด้วยเลยนะ,มาใช้แอปซาตานคุมหลังฉากมั้ยนะยังคิดเลยthaitimeนี้,ผู้จัดการและทีมงานจะไม่รู้เรื่องdeep stateซาตานแรปทีเลี่ยนagenda2030เบื้องต้นเลยเหรอ,นี้คือตางูตาปีศาจตาสัตว์เลื้อยคลานชัดๆอิลูมินาติก็ว่า,
    ..พวกมันไม่ปะปนในแอปนี้ด้วยนะ ในเพจผู้จัดการออนไลน์ด้วยนะ,
    ..ถ้าthatimeเป็นพวกมันด้วยก็บอกด้วยนะ เปิดเผยให้ชัดเจนแบบพิธานั้นล่ะพรรคก้าวไกลโน้น.,ฝ่ายมืดปัจจุบันนี้ก็ชัดเจนหมดแล้วเช่นกัน เพื่อคัดเลือกคนมาเข้าพวกก็ว่าแบบเปิดเผยได้ ไม่ปิดบังแบบอดีตแล้ว,เพราะพระเจ้าเมื่อเลิกอนุญาตจะหาสมาชิกไปเป็นฝ่ายมารสะดวกๆแบบนี้ไม่ได้อีก,คือฝ่ายแสงก็เลือกคัดคนดึดดูดชาวโลกไปเป็นพวกตนมากๆอย่างเสรีได้เต็มที่เช่นอนุญาตฝ่ายมืดแบบนี้ในยุคนี้,เมื่อโลกระเบิดในอนาคต ฝ่ายมืดก็ดึงวิญญาณนัันๆไปด้วยทั้งหมดทันทีเช่นกันเหมือนสัญญาซาตานที่ลงนามกันไว้นั้นล่ะ,
    ..เคสนี้รูปนี้อธิบายชัดมาก,ตาชัดๆ,ตาเดียวแบบตาปีศาจในหนังเดอะลอร์ดนั้นล่ะ,หอคอยตาปีศาจ,คณะแกนร่วมรวมพลังแผ่นดินไทย หากจะสร้างสัญลักษณ์ตนขึ้นมาใหม่ อย่าไปทางสัญลักษณ์พวกปีศาจซาตานฝ่ายมืดเน้อ,มันจะน่าผิดหวังมาก,พันธมิตรจะสิ้นค่าทันทีเลยของยุคสมันอดีตเรา,เหมือนถูกหลอกไปเป็นเครื่องสังเวยบูชายันต์ให้พวกซาตานมารปีศาจมัน,
    ..ถ้าแฟนพันธ์แท้สายกูรูซาตานจริง เขาชี้ชัดเลยว่าคณะร่วมนี้เป็นฝ่ายมืดด้วย,ไปเพิ่มพลังงานใก้มันเลย ในที่ของๆมันด้วยเต็มๆ.ตาปีศาจชัดเจนมาก,ใครนะบินโดรนถ่ายรูปจนเห็นชัดขนาดนีั.นี้คือมุมมองบริบทด้านสัญลักษณ์ดวงตาปีศาจ,ส่วนในด้านคนไม่สนใจก็คือเพื่อไล่รัฐบาลนั้นล่ะ,ทหารไทยอยู่ฝ่ายตรงข้ามเรานะคุณลุงอังเคิลฮุนเซน อยากได้อะไรเกี๋ยวจัดให้.
    ..พูดอย่างจริงใจ,แบบเปิดอกเลยนะ, ...☝️แน่นอนบังเอิญมิใช่บังเอิญ มีใครพูดกระซิบข้างหูมั้ยนะต้องจำเป็นไปชุมนุมสถานที่ซาตานนี้นะ,เคยเตือนว่าอย่าไปเลย,ส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นศูนย์รวมการเก็บเกี่ยวพลังงานจิตเชิงลบหรือบวกได้หมดเลยล่ะ,มันเอาไปขายทั่วจักรวาลทัังเชิงลบเชิงบวกล่ะ,เชิงลบแน่นอนสร้างหายนะได้เพิ่มมากขึ้นในหลายๆช่องทางที่มันมีพลังชั่วแล้ว จะไปทำลายที่ไหนก็ได้,ปกติผู้คนที่จราจรให้มันเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว,ประเทศไทยเราสมควรทำลายสถานที่นี้เถอะ,มันชัดเจนขนาดนี้แล้วสัญลักษณ์ชัดๆฝ่ายมืด,ขออย่าเป็นฝ่ายมืดเลย,ที่ครอบงำเดอะแก๊งนี้เดอะคณะนี้,อดีตแกนนำพันธมิตรอาจเปลี่ยนสัญลักษณ์ไปเลยเป็นอันใหม่ก็ดีนะ,เหมือนตาปีศาจอย่างไงมันรู้,เมื่อพันธมิตรทิ้งจบอดีตนั้นแล้ว,ทิ้งโลโก้ไปเลยด้วยเถอะอย่าเสียดาย,เราติดตามสัญลักษณ์พวกซาตานมาเห็นแล้วไม่คอยสบายใจ,ตอนแลกบอกสถานที่จะชุมนุนว่าที่นี้ ก็ไม่เห็นด้วยในตอนต้นอยู่แล้ว,บ้านนี้มีคนอ่านน้อยก็ว่า,เลยไม่มีลำโพงดังไกลนักในการเตือน,เห็นสีรุ่งในเพจข่าวออนไลน์ของที่นี้ก็ยังไม่ค่อยสบายใจ,จนมองว่าเป็นพวกซาตานไปด้วยเลยนะ,มาใช้แอปซาตานคุมหลังฉากมั้ยนะยังคิดเลยthaitimeนี้,ผู้จัดการและทีมงานจะไม่รู้เรื่องdeep stateซาตานแรปทีเลี่ยนagenda2030เบื้องต้นเลยเหรอ,นี้คือตางูตาปีศาจตาสัตว์เลื้อยคลานชัดๆอิลูมินาติก็ว่า, ..พวกมันไม่ปะปนในแอปนี้ด้วยนะ ในเพจผู้จัดการออนไลน์ด้วยนะ, ..ถ้าthatimeเป็นพวกมันด้วยก็บอกด้วยนะ เปิดเผยให้ชัดเจนแบบพิธานั้นล่ะพรรคก้าวไกลโน้น.,ฝ่ายมืดปัจจุบันนี้ก็ชัดเจนหมดแล้วเช่นกัน เพื่อคัดเลือกคนมาเข้าพวกก็ว่าแบบเปิดเผยได้ ไม่ปิดบังแบบอดีตแล้ว,เพราะพระเจ้าเมื่อเลิกอนุญาตจะหาสมาชิกไปเป็นฝ่ายมารสะดวกๆแบบนี้ไม่ได้อีก,คือฝ่ายแสงก็เลือกคัดคนดึดดูดชาวโลกไปเป็นพวกตนมากๆอย่างเสรีได้เต็มที่เช่นอนุญาตฝ่ายมืดแบบนี้ในยุคนี้,เมื่อโลกระเบิดในอนาคต ฝ่ายมืดก็ดึงวิญญาณนัันๆไปด้วยทั้งหมดทันทีเช่นกันเหมือนสัญญาซาตานที่ลงนามกันไว้นั้นล่ะ, ..เคสนี้รูปนี้อธิบายชัดมาก,ตาชัดๆ,ตาเดียวแบบตาปีศาจในหนังเดอะลอร์ดนั้นล่ะ,หอคอยตาปีศาจ,คณะแกนร่วมรวมพลังแผ่นดินไทย หากจะสร้างสัญลักษณ์ตนขึ้นมาใหม่ อย่าไปทางสัญลักษณ์พวกปีศาจซาตานฝ่ายมืดเน้อ,มันจะน่าผิดหวังมาก,พันธมิตรจะสิ้นค่าทันทีเลยของยุคสมันอดีตเรา,เหมือนถูกหลอกไปเป็นเครื่องสังเวยบูชายันต์ให้พวกซาตานมารปีศาจมัน, ..ถ้าแฟนพันธ์แท้สายกูรูซาตานจริง เขาชี้ชัดเลยว่าคณะร่วมนี้เป็นฝ่ายมืดด้วย,ไปเพิ่มพลังงานใก้มันเลย ในที่ของๆมันด้วยเต็มๆ.ตาปีศาจชัดเจนมาก,ใครนะบินโดรนถ่ายรูปจนเห็นชัดขนาดนีั.นี้คือมุมมองบริบทด้านสัญลักษณ์ดวงตาปีศาจ,ส่วนในด้านคนไม่สนใจก็คือเพื่อไล่รัฐบาลนั้นล่ะ,ทหารไทยอยู่ฝ่ายตรงข้ามเรานะคุณลุงอังเคิลฮุนเซน อยากได้อะไรเกี๋ยวจัดให้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราเคยได้ยินคำว่า AI ถูกฝึกจาก “อินเทอร์เน็ต” หรือ “ฐานข้อมูลสาธารณะ” ใช่ไหมครับ แต่ข่าวนี้แฉว่า Anthropic ซื้อ “หนังสือเล่มจริง” มาจำนวนมหาศาลแล้ว “ตัดสัน ฉีกสแกน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลเทรน AI โดยที่ ไม่มีแผนเผยแพร่ digital copy นั้นต่อสาธารณะ ด้วยซ้ำ

    ที่พีคคือ ในคดีความล่าสุด ศาลบางส่วนกลับเห็นว่า “การทำลายหนังสือแล้วแปลงเป็นดิจิทัล” แบบนี้ถือเป็น “การเปลี่ยนรูปแบบที่เพียงพอ” (transformative) ตามหลัก fair use — คือใช้แล้วไม่ละเมิดลิขสิทธิ์

    ฝั่งนักวิจารณ์ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า AI อย่าง Claude แม้จะดูฉลาด แต่บางครั้งก็ “หลุดโควตจากหนังสือแบบคำต่อคำ” ซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิด

    ที่สำคัญกว่านั้นคือ คดีนี้ไม่ใช่จบแค่นี้ — ศาลยังให้ Anthropic “ต้องไปขึ้นศาลอีกรอบ” ในเดือนธันวาคมนี้ ฐานนำ “ไฟล์หนังสือเถื่อน” (pirated eBook library) ไปฝึกโมเดล โดยอาจถูกปรับ สูงสุด $150,000 ต่อเล่ม

    https://www.techspot.com/news/108463-anthropic-destroyed-millions-physical-books-train-ai-court.html
    เราเคยได้ยินคำว่า AI ถูกฝึกจาก “อินเทอร์เน็ต” หรือ “ฐานข้อมูลสาธารณะ” ใช่ไหมครับ แต่ข่าวนี้แฉว่า Anthropic ซื้อ “หนังสือเล่มจริง” มาจำนวนมหาศาลแล้ว “ตัดสัน ฉีกสแกน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลเทรน AI โดยที่ ไม่มีแผนเผยแพร่ digital copy นั้นต่อสาธารณะ ด้วยซ้ำ ที่พีคคือ ในคดีความล่าสุด ศาลบางส่วนกลับเห็นว่า “การทำลายหนังสือแล้วแปลงเป็นดิจิทัล” แบบนี้ถือเป็น “การเปลี่ยนรูปแบบที่เพียงพอ” (transformative) ตามหลัก fair use — คือใช้แล้วไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ฝั่งนักวิจารณ์ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า AI อย่าง Claude แม้จะดูฉลาด แต่บางครั้งก็ “หลุดโควตจากหนังสือแบบคำต่อคำ” ซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิด ที่สำคัญกว่านั้นคือ คดีนี้ไม่ใช่จบแค่นี้ — ศาลยังให้ Anthropic “ต้องไปขึ้นศาลอีกรอบ” ในเดือนธันวาคมนี้ ฐานนำ “ไฟล์หนังสือเถื่อน” (pirated eBook library) ไปฝึกโมเดล โดยอาจถูกปรับ สูงสุด $150,000 ต่อเล่ม https://www.techspot.com/news/108463-anthropic-destroyed-millions-physical-books-train-ai-court.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Anthropic destroyed millions of physical books to train its AI, court documents reveal
    Buried in the details of a recent split ruling against Anthropic is a surprising revelation: the generative AI company destroyed millions of physical books by cutting off...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
    ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้
    การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก
    เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์
    แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น
    เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว
    ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี
    นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่
    เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์
    https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in
    20/6/2025
    IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้ การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่ เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์ https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in 20/6/2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ

    แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร

    Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน

    NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม

    สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว

    Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน  
    • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat  
    • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้

    NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม  
    • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ  
    • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน

    Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน  
    • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น

    การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ  
    • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง

    ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส  
    • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง  
    • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน  
    • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม

    https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว ✅ Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน   • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat   • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้ ✅ NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม   • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ   • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน ✅ Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน   • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น ‼️ การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน   • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ   • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง ‼️ ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส   • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง   • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า ‼️ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน   • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    WWW.NEOWIN.NET
    Watchdog finds Microsoft guilty of confusing advertising when it comes to Copilot
    A U.S. watchdog has criticized Microsoft for making statements about Copilot that are not a "good fit" for making objective claims regarding increased productivity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากผลสำรวจของ Economist/YouGov พบว่าชาวอเมริกัน 60% ไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ในขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่สนับสนุน
    จากผลสำรวจของ Economist/YouGov พบว่าชาวอเมริกัน 60% ไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ในขณะที่มีเพียง 16% เท่านั้นที่สนับสนุน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI กับอนาคตของงาน: มุมมองที่แตกต่าง
    Jensen Huang และ Dario Amodei มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะงานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาว

    มุมมองของ Dario Amodei
    - Amodei เตือนว่า AI อาจทำให้ งานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาวหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
    - เขาคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน
    - เขาเสนอให้มี มาตรฐานความโปร่งใสระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนและผู้กำหนดนโยบายเข้าใจความสามารถและความเสี่ยงของ AI

    มุมมองของ Jensen Huang
    - Huang ไม่เห็นด้วยกับคำเตือนของ Amodei และมองว่า AI จะสร้างงานใหม่ เช่น วิศวกรด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งค่าระบบ
    - เขาเชื่อว่า การเรียนรู้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่งจะมีความสำคัญน้อยลง และควรเน้นไปที่ทักษะอื่น เช่น ชีววิทยา การศึกษา การผลิต และเกษตรกรรม
    - Huang เน้นว่า AI ควรพัฒนาอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในลักษณะที่ปิดกั้นโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

    ข้อควรระวัง
    - การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด ทำให้บางอาชีพหายไปก่อนที่ระบบเศรษฐกิจจะปรับตัวทัน
    - Universal Basic Income (UBI) อาจไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะ Amodei มองว่าเป็นแนวคิดที่ "ดิสโทเปีย" และไม่ใช่โลกที่เราควรตั้งเป้าหมายไว้
    - การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างผู้ที่สามารถปรับตัวได้กับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    ข้อพิพาทระหว่าง Nvidia และ Anthropic
    ความขัดแย้งเกี่ยวกับการควบคุม AI
    - Anthropic สนับสนุน กฎควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน
    - Nvidia โต้แย้งว่า ชิปของบริษัทไม่เคยถูกลักลอบนำเข้าจีน ผ่านวิธีแปลกๆ เช่น ซ่อนในท้องปลาหรือพุงปลอมของหญิงตั้งครรภ์

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุม AI
    - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก
    - การพัฒนา AI ในลักษณะที่ปิดกั้นอาจทำให้เกิดการผูกขาด และลดโอกาสในการแข่งขันของบริษัทอื่นๆ
    - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกพัฒนาอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ

    แนวโน้มของ AI และตลาดแรงงาน
    โอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น
    - AI อาจช่วยให้เกิด อาชีพใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เช่น นักออกแบบการโต้ตอบกับ AI
    - การใช้ AI ในภาคการศึกษาอาจช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - AI อาจช่วยให้ การผลิตและเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับอนาคตของ AI
    - ต้องมีการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด
    - ต้องมีการเตรียมความพร้อมของแรงงาน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
    - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกนำมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    https://www.techspot.com/news/108317-jensen-huang-hits-back-anthropic-ceo-warning-ai.html
    🤖 AI กับอนาคตของงาน: มุมมองที่แตกต่าง Jensen Huang และ Dario Amodei มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะงานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาว ✅ มุมมองของ Dario Amodei - Amodei เตือนว่า AI อาจทำให้ งานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาวหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า - เขาคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน - เขาเสนอให้มี มาตรฐานความโปร่งใสระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนและผู้กำหนดนโยบายเข้าใจความสามารถและความเสี่ยงของ AI ✅ มุมมองของ Jensen Huang - Huang ไม่เห็นด้วยกับคำเตือนของ Amodei และมองว่า AI จะสร้างงานใหม่ เช่น วิศวกรด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งค่าระบบ - เขาเชื่อว่า การเรียนรู้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่งจะมีความสำคัญน้อยลง และควรเน้นไปที่ทักษะอื่น เช่น ชีววิทยา การศึกษา การผลิต และเกษตรกรรม - Huang เน้นว่า AI ควรพัฒนาอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในลักษณะที่ปิดกั้นโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ‼️ ข้อควรระวัง - การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด ทำให้บางอาชีพหายไปก่อนที่ระบบเศรษฐกิจจะปรับตัวทัน - Universal Basic Income (UBI) อาจไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะ Amodei มองว่าเป็นแนวคิดที่ "ดิสโทเปีย" และไม่ใช่โลกที่เราควรตั้งเป้าหมายไว้ - การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างผู้ที่สามารถปรับตัวได้กับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 🔍 ข้อพิพาทระหว่าง Nvidia และ Anthropic ✅ ความขัดแย้งเกี่ยวกับการควบคุม AI - Anthropic สนับสนุน กฎควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน - Nvidia โต้แย้งว่า ชิปของบริษัทไม่เคยถูกลักลอบนำเข้าจีน ผ่านวิธีแปลกๆ เช่น ซ่อนในท้องปลาหรือพุงปลอมของหญิงตั้งครรภ์ ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุม AI - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก - การพัฒนา AI ในลักษณะที่ปิดกั้นอาจทำให้เกิดการผูกขาด และลดโอกาสในการแข่งขันของบริษัทอื่นๆ - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกพัฒนาอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ 🌍 แนวโน้มของ AI และตลาดแรงงาน ✅ โอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น - AI อาจช่วยให้เกิด อาชีพใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เช่น นักออกแบบการโต้ตอบกับ AI - การใช้ AI ในภาคการศึกษาอาจช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - AI อาจช่วยให้ การผลิตและเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับอนาคตของ AI - ต้องมีการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด - ต้องมีการเตรียมความพร้อมของแรงงาน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกนำมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม https://www.techspot.com/news/108317-jensen-huang-hits-back-anthropic-ceo-warning-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Jensen Huang hits back at Anthropic CEO's warning that AI will eliminate half of white-collar jobs
    Amodei made his ominous prediction about AI's impact on entry-level, white-collar jobs in May, warning that the eradication of these positions will lead to unemployment spikes of 20%.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านประกาศยิงเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 ของอิสราเอลลำที่ 3 เหนือน่านฟ้าตะวันตกใกล้ชายแดนอิรัก!
    นักบินสามารถดีดตัวออกไปได้!

    (วิดีโอประกอบ)เมื่อวานนี้สื่ออิหร่านรายงานว่าเครื่องบิน F-35 ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านยิงตกไป 2 ลำ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากเครื่องบิน F-35 ไม่ใช่เครื่องบินรบธรรมดาทั่วไป แต่ผลิตโดย Lockheed Martin บริษัทอวกาศชั้นนำของสหรัฐฯ เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก คุณสมบัติหลักของเครื่องบินรุ่นนี้คือความสามารถในการล่องหน ซึ่งหมายความว่าได้รับการออกแบบให้แทบมองไม่เห็นด้วยเรดาร์ ทำให้สามารถเข้าไปในดินแดนของศัตรู ปฏิบัติภารกิจ และจากไปโดยที่ไม่ถูกตรวจจับได้
    อิหร่านประกาศยิงเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 ของอิสราเอลลำที่ 3 เหนือน่านฟ้าตะวันตกใกล้ชายแดนอิรัก! 🔥 นักบินสามารถดีดตัวออกไปได้! 👉(วิดีโอประกอบ)เมื่อวานนี้สื่ออิหร่านรายงานว่าเครื่องบิน F-35 ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านยิงตกไป 2 ลำ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากเครื่องบิน F-35 ไม่ใช่เครื่องบินรบธรรมดาทั่วไป แต่ผลิตโดย Lockheed Martin บริษัทอวกาศชั้นนำของสหรัฐฯ เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินรบที่ทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก คุณสมบัติหลักของเครื่องบินรุ่นนี้คือความสามารถในการล่องหน ซึ่งหมายความว่าได้รับการออกแบบให้แทบมองไม่เห็นด้วยเรดาร์ ทำให้สามารถเข้าไปในดินแดนของศัตรู ปฏิบัติภารกิจ และจากไปโดยที่ไม่ถูกตรวจจับได้
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ประชุมแพทยสภามีมติเกิน 2 ใน 3 ลงโทษแพทย์ 3 คนประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม กรณีการรักษาเอื้ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หมอประสิทธิ์แจงดำเนินการได้เลย ถ้าไม่เห็นด้วยร้องศาลปกครองได้ ย้ำรับฟังความเห็นสมศักดิ์วีโต้แล้ว เล็งพิจารณาลงโทษเพิ่มเติม สอนแพทย์รุ่นใหม่คงมาตรฐานการรักษา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000055252

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ที่ประชุมแพทยสภามีมติเกิน 2 ใน 3 ลงโทษแพทย์ 3 คนประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม กรณีการรักษาเอื้ออดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หมอประสิทธิ์แจงดำเนินการได้เลย ถ้าไม่เห็นด้วยร้องศาลปกครองได้ ย้ำรับฟังความเห็นสมศักดิ์วีโต้แล้ว เล็งพิจารณาลงโทษเพิ่มเติม สอนแพทย์รุ่นใหม่คงมาตรฐานการรักษา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000055252 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ว่าก็ว่านะ.
    ..เมื่อผู้ปกครองไทยเราสมยอมสมคบคิดหรือเข้าด้วยกับประเทศเขมร เรามีกฎลงโทษผู้ปกครองเราแบบไหน อย่างไรเพื่อมิให้ผู้ปกครองคนต่อไปมาปกครองเหี้ยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่โคตรสำคัญทางอธิปไตยของชาติ.
    ..น่าจะระบุชัดเจนว่าผู้นำคนนั้นของไทยในช่วงเวลานั้นคือใครเป็นใครอย่างชัดเจนด้วย,นี้คือกฎหมายไทยอีกตัวที่เขียนมิให้เปิดเผยคนผิดหรือคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆอย่างเปิดเผย,กฎหมายไทยเขียนเล่นงานลงโทษประชาชนใต้ปกครองตีตราออกมาบังคับใช้สาระพัดจากคนร่วมประชุมกันเขียนไม่กี่คน,และสมควรยกเลิกได้ด้วยเช่นกันจากคนประชุมขอยกเลิกไม่เห็นด้วยไม่กี่คนได้.
    ..มีบริบทมากมายของผู้นำผู้ปกครองไทยเราในอดีตสมควรต้องความผิดจากลักษณะเช่นนี้เป็นอันมาก ทั้งรู้เห็นชัดเจนไม่รีบดำเนินการแก้ไขก็ด้วย จงใจปล่อยปะละเลยก็ด้วย,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจนั้นเองทัังกระทำเป็นทีมคณะและบุคคลก็เป็นไปได้หมด,ละเว้นไม่ปฏิบัติในหน้าที่ตำแหน่งในตอนนั้นก็ด้วย.
    ..https://youtube.com/shorts/f2oyQ_ehcE4?si=2yh-gBOVkIRh_w0s
    ..ว่าก็ว่านะ. ..เมื่อผู้ปกครองไทยเราสมยอมสมคบคิดหรือเข้าด้วยกับประเทศเขมร เรามีกฎลงโทษผู้ปกครองเราแบบไหน อย่างไรเพื่อมิให้ผู้ปกครองคนต่อไปมาปกครองเหี้ยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่โคตรสำคัญทางอธิปไตยของชาติ. ..น่าจะระบุชัดเจนว่าผู้นำคนนั้นของไทยในช่วงเวลานั้นคือใครเป็นใครอย่างชัดเจนด้วย,นี้คือกฎหมายไทยอีกตัวที่เขียนมิให้เปิดเผยคนผิดหรือคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆอย่างเปิดเผย,กฎหมายไทยเขียนเล่นงานลงโทษประชาชนใต้ปกครองตีตราออกมาบังคับใช้สาระพัดจากคนร่วมประชุมกันเขียนไม่กี่คน,และสมควรยกเลิกได้ด้วยเช่นกันจากคนประชุมขอยกเลิกไม่เห็นด้วยไม่กี่คนได้. ..มีบริบทมากมายของผู้นำผู้ปกครองไทยเราในอดีตสมควรต้องความผิดจากลักษณะเช่นนี้เป็นอันมาก ทั้งรู้เห็นชัดเจนไม่รีบดำเนินการแก้ไขก็ด้วย จงใจปล่อยปะละเลยก็ด้วย,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจนั้นเองทัังกระทำเป็นทีมคณะและบุคคลก็เป็นไปได้หมด,ละเว้นไม่ปฏิบัติในหน้าที่ตำแหน่งในตอนนั้นก็ด้วย. ..https://youtube.com/shorts/f2oyQ_ehcE4?si=2yh-gBOVkIRh_w0s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนาโต้กลับ! AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในการเขียนโค้ด
    ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Meta และ Anthropic กำลังผลักดันให้ AI เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโค้ด Salvatore Sanfilippo ผู้สร้าง Redis ได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า มนุษย์ยังคงเหนือกว่า AI ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

    Sanfilippo ได้ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อช่วยแก้ไขบั๊กในระบบของ Redis แต่พบว่า AI ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ และ ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่ามนุษย์

    เขาอธิบายว่า AI มีประโยชน์ในการตรวจสอบแนวคิดที่มนุษย์คิดขึ้นมา แต่ ไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญของ Large Language Models (LLMs)

    ข้อมูลจากข่าว
    - Sanfilippo ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อแก้ไขบั๊กใน Redis
    - AI สามารถช่วยตรวจสอบแนวคิดของมนุษย์ แต่ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้
    - LLMs ยังไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้
    - Meta และ Anthropic เชื่อว่า AI สามารถแทนที่นักพัฒนาโค้ดได้ แต่ Sanfilippo ไม่เห็นด้วย
    - Microsoft รายงานว่า นักพัฒนารุ่นใหม่พึ่งพา AI มากเกินไป จนอาจขาดความเข้าใจพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจช่วยเร่งกระบวนการเขียนโค้ด แต่ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์
    - นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไป อาจขาดทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
    - บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งเริ่มลดจำนวนพนักงานด้านการพัฒนาโค้ดเพื่อแทนที่ด้วย AI
    - ต้องติดตามว่า AI จะสามารถพัฒนาให้คิดนอกกรอบได้หรือไม่ในอนาคต

    แม้ว่า AI จะช่วยให้การเขียนโค้ดเร็วขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพามนุษย์ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาควร ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย แต่ ไม่ควรพึ่งพามากเกินไปจนสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/07/human-coders-are-still-better-than-ai-says-this-expert-developer
    🖥️ นักพัฒนาโต้กลับ! AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ในการเขียนโค้ด ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Meta และ Anthropic กำลังผลักดันให้ AI เข้ามาแทนที่นักพัฒนาโค้ด Salvatore Sanfilippo ผู้สร้าง Redis ได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า มนุษย์ยังคงเหนือกว่า AI ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน Sanfilippo ได้ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อช่วยแก้ไขบั๊กในระบบของ Redis แต่พบว่า AI ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ และ ไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่ามนุษย์ เขาอธิบายว่า AI มีประโยชน์ในการตรวจสอบแนวคิดที่มนุษย์คิดขึ้นมา แต่ ไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญของ Large Language Models (LLMs) ✅ ข้อมูลจากข่าว - Sanfilippo ทดลองใช้ Google Gemini AI เพื่อแก้ไขบั๊กใน Redis - AI สามารถช่วยตรวจสอบแนวคิดของมนุษย์ แต่ไม่สามารถคิดนอกกรอบได้ - LLMs ยังไม่สามารถสร้างแนวทางแก้ไขที่ดีกว่ามนุษย์ได้ - Meta และ Anthropic เชื่อว่า AI สามารถแทนที่นักพัฒนาโค้ดได้ แต่ Sanfilippo ไม่เห็นด้วย - Microsoft รายงานว่า นักพัฒนารุ่นใหม่พึ่งพา AI มากเกินไป จนอาจขาดความเข้าใจพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจช่วยเร่งกระบวนการเขียนโค้ด แต่ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์ - นักพัฒนาที่พึ่งพา AI มากเกินไป อาจขาดทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน - บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งเริ่มลดจำนวนพนักงานด้านการพัฒนาโค้ดเพื่อแทนที่ด้วย AI - ต้องติดตามว่า AI จะสามารถพัฒนาให้คิดนอกกรอบได้หรือไม่ในอนาคต แม้ว่า AI จะช่วยให้การเขียนโค้ดเร็วขึ้น แต่ยังต้องพึ่งพามนุษย์ในการคิดแก้ปัญหาที่ซับซ้อน นักพัฒนาควร ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย แต่ ไม่ควรพึ่งพามากเกินไปจนสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/07/human-coders-are-still-better-than-ai-says-this-expert-developer
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Human coders are still better than AI, says this expert developer
    Some AI supporters, and even a few big tech CEOs are already replacing some of their coding workforce with AI systems. But maybe they're being premature.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความขัดแย้งเรื่องกฎหมายเฝ้าระวังในสวิตเซอร์แลนด์: Infomaniak vs. Proton
    บริษัท Infomaniak และ Proton กำลังเผชิญหน้ากันเกี่ยวกับ การแก้ไขกฎหมายเฝ้าระวังของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ VPN, แอปส่งข้อความ และโซเชียลมีเดีย โดยกำหนดให้ ต้องระบุตัวตนและเก็บข้อมูลผู้ใช้

    จุดยืนของแต่ละฝ่าย
    Proton และ NymVPN คัดค้านกฎหมายนี้อย่างหนัก โดยระบุว่า หากกฎหมายผ่าน พวกเขาจะย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจาก กฎหมายใหม่อาจทำให้บริการ VPN แบบไม่เก็บล็อกข้อมูลต้องยุติลง

    Infomaniak ซึ่งเป็น ผู้ให้บริการคลาวด์และอีเมลเข้ารหัส ได้วิจารณ์ Proton โดยกล่าวว่า การสนับสนุนความเป็นนิรนามออนไลน์อาจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม Infomaniak ยืนยันว่าพวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ในรูปแบบปัจจุบัน

    ข้อมูลจากข่าว
    - กฎหมายใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์จะบังคับให้ VPN และแอปส่งข้อความต้องระบุตัวตนและเก็บข้อมูลผู้ใช้
    - Proton และ NymVPN เตรียมย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์หากกฎหมายผ่าน
    - Infomaniak วิจารณ์ Proton ว่าการสนับสนุนความเป็นนิรนามออนไลน์อาจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
    - Infomaniak ยืนยันว่าพวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ในรูปแบบปัจจุบัน
    - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลเมตาดาตาอาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - กฎหมายนี้อาจทำให้บริการ VPN แบบไม่เก็บล็อกข้อมูลต้องยุติลง
    - การเก็บข้อมูลเมตาดาตาอาจทำให้รัฐบาลสามารถติดตามพฤติกรรมของประชาชนได้
    - การบังคับให้เก็บข้อมูลล่วงหน้าอาจเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
    - ต้องติดตามว่ากฎหมายนี้จะถูกแก้ไขหรือถูกยกเลิกในรัฐสภาสวิตเซอร์แลนด์หรือไม่

    หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจส่งผลกระทบต่อบริการ VPN และแอปส่งข้อความที่เน้นความเป็นส่วนตัว และ อาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงต้านจากภาคธุรกิจและนักการเมืองที่อาจทำให้กฎหมายนี้ถูกแก้ไขหรือยกเลิก

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/cloud-service-infomaniak-steps-up-fight-with-proton-over-controversial-swiss-surveillance-law
    🔍 ความขัดแย้งเรื่องกฎหมายเฝ้าระวังในสวิตเซอร์แลนด์: Infomaniak vs. Proton บริษัท Infomaniak และ Proton กำลังเผชิญหน้ากันเกี่ยวกับ การแก้ไขกฎหมายเฝ้าระวังของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ VPN, แอปส่งข้อความ และโซเชียลมีเดีย โดยกำหนดให้ ต้องระบุตัวตนและเก็บข้อมูลผู้ใช้ 🔥 จุดยืนของแต่ละฝ่าย Proton และ NymVPN คัดค้านกฎหมายนี้อย่างหนัก โดยระบุว่า หากกฎหมายผ่าน พวกเขาจะย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจาก กฎหมายใหม่อาจทำให้บริการ VPN แบบไม่เก็บล็อกข้อมูลต้องยุติลง Infomaniak ซึ่งเป็น ผู้ให้บริการคลาวด์และอีเมลเข้ารหัส ได้วิจารณ์ Proton โดยกล่าวว่า การสนับสนุนความเป็นนิรนามออนไลน์อาจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม Infomaniak ยืนยันว่าพวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ในรูปแบบปัจจุบัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - กฎหมายใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์จะบังคับให้ VPN และแอปส่งข้อความต้องระบุตัวตนและเก็บข้อมูลผู้ใช้ - Proton และ NymVPN เตรียมย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์หากกฎหมายผ่าน - Infomaniak วิจารณ์ Proton ว่าการสนับสนุนความเป็นนิรนามออนไลน์อาจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม - Infomaniak ยืนยันว่าพวกเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ในรูปแบบปัจจุบัน - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลเมตาดาตาอาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - กฎหมายนี้อาจทำให้บริการ VPN แบบไม่เก็บล็อกข้อมูลต้องยุติลง - การเก็บข้อมูลเมตาดาตาอาจทำให้รัฐบาลสามารถติดตามพฤติกรรมของประชาชนได้ - การบังคับให้เก็บข้อมูลล่วงหน้าอาจเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน - ต้องติดตามว่ากฎหมายนี้จะถูกแก้ไขหรือถูกยกเลิกในรัฐสภาสวิตเซอร์แลนด์หรือไม่ หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจส่งผลกระทบต่อบริการ VPN และแอปส่งข้อความที่เน้นความเป็นส่วนตัว และ อาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องย้ายออกจากสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงต้านจากภาคธุรกิจและนักการเมืองที่อาจทำให้กฎหมายนี้ถูกแก้ไขหรือยกเลิก https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/cloud-service-infomaniak-steps-up-fight-with-proton-over-controversial-swiss-surveillance-law
    WWW.TECHRADAR.COM
    Cloud service Infomaniak steps up fight with Proton over controversial Swiss surveillance law
    Infomaniak's comments have caused a stir across the Swiss privacy tech sector
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาได้ยืนยันอีกครั้งว่าในส่วนของปัญหาชายแดนนั้น แม้ว่าฝ่ายไทยจะไม่เห็นด้วย แต่กัมพูชาจะยังคงยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ​ (ICJ) เพื่อแก้ไขและยุติปัญหาอย่างเด็ดขาด โดยผู้นำกัมพูชาได้แสดงความเห็นดังกล่าวในการประชุมร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎรและพฤฒสภา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051713

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาได้ยืนยันอีกครั้งว่าในส่วนของปัญหาชายแดนนั้น แม้ว่าฝ่ายไทยจะไม่เห็นด้วย แต่กัมพูชาจะยังคงยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ​ (ICJ) เพื่อแก้ไขและยุติปัญหาอย่างเด็ดขาด โดยผู้นำกัมพูชาได้แสดงความเห็นดังกล่าวในการประชุมร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎรและพฤฒสภา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051713 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11%


    ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด

    สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ

    อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย

    เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025

    แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป

    แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!

    คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11% ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025 👉แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป 👉แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • หวนกลับมาอีกแล้วเสียงสนับสนุน ความเห็นไม่เห็นด้วยสร้างกระเช้าภูกระดึง กว่า 40ปียังคงถกเถียงในประเด็นเดิม โดยปัดฝุ่นโครงการรอบใหม่นี้ ก.ท่องเที่ยวและกีฬาบอกว่าใช้งบสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างเสร็จเปิดให้บริการ พ.ย.ปี 70

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000048878

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    หวนกลับมาอีกแล้วเสียงสนับสนุน ความเห็นไม่เห็นด้วยสร้างกระเช้าภูกระดึง กว่า 40ปียังคงถกเถียงในประเด็นเดิม โดยปัดฝุ่นโครงการรอบใหม่นี้ ก.ท่องเที่ยวและกีฬาบอกว่าใช้งบสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างเสร็จเปิดให้บริการ พ.ย.ปี 70 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000048878 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts