• โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร
    ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย


    จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้

    มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย

    ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้)

    1. เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย
    กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น)
    - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก
    - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค
    - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135
    - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย
    “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย”

    2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ
    - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว)
    แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน”
    ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ

    ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท

    อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก”
    เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง



    ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง

    ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้ มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้) 1. 🇺🇸 เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น) - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135 - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย 📌 “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย” 2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว) แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน” ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท ❗ อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก” ❗ เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Patriot เหรอ เข้ามาสิ!!

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran-2 จนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง เป้าหมายคือครั้งนี้คือสถานีเรดาร์ของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเชอร์นิกอฟ (Chernigov region)
    Patriot เหรอ เข้ามาสิ!! กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran-2 จนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง เป้าหมายคือครั้งนี้คือสถานีเรดาร์ของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเชอร์นิกอฟ (Chernigov region)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ

    นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น

    ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง:

    - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม.
    - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม.

    พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย

    อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ

    เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ

    https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง: - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม. - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม. พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists summon ultrasonic tech that charges devices through water and even skin
    Thanks to new research, an ultrasonic tech has been developed that sneaks through skin and water to wirelessly charge devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกา ยุโรป กลุ่มประเทศ G7 และพันธมิตรทั้งหมดเร่งมือในการตัดสินใจสำหรับการปกป้องยูเครน หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียโจมตียูเครนด้วยโดรนกว่า 1,800 ลำ ระเบิดร่อนนำวิถีกว่า 1,200 ลูก และขีปนาวุธหลากหลายประเภทอีก 83 ลูก
    เซเลนสกีเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกา ยุโรป กลุ่มประเทศ G7 และพันธมิตรทั้งหมดเร่งมือในการตัดสินใจสำหรับการปกป้องยูเครน หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียโจมตียูเครนด้วยโดรนกว่า 1,800 ลำ ระเบิดร่อนนำวิถีกว่า 1,200 ลูก และขีปนาวุธหลากหลายประเภทอีก 83 ลูก
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อคืนที่ผ่านมา โดรน Geran-2 ของรัสเซีย 5 ลำ ได้โจมตีเมือง Shostka ในเขต Sumy Oblast โดยโดรนทั้ง 5 ลำได้โจมตีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ สถาบัน "NIIKhP"

    สถาบัน "NIIKhP" เป็นสถานรวบรวมอุปกรณ์ต้นแบบเพื่อพัฒนาสูตรและเทคโนโลยีสำหรับวัตถุระเบิดและดินปืน
    เมื่อคืนที่ผ่านมา โดรน Geran-2 ของรัสเซีย 5 ลำ ได้โจมตีเมือง Shostka ในเขต Sumy Oblast โดยโดรนทั้ง 5 ลำได้โจมตีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ สถาบัน "NIIKhP" สถาบัน "NIIKhP" เป็นสถานรวบรวมอุปกรณ์ต้นแบบเพื่อพัฒนาสูตรและเทคโนโลยีสำหรับวัตถุระเบิดและดินปืน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารเมียนมา ต้านกองกำลัง KNLA ไม่ไหว ฐานอุเกรทะ จ.เมียวดี ใกล้อำเภอพบพระ ตาก จนแตกหนีข้ามมาฝั่งไทยเกือบ 100 คน

    เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.ค.68 พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราขมนู) เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้ กกล.KNLA ได้รวมกำลังเข้าตีที่ตั้งของทหารเมียนมา ฐานอุเกรทะ ด้วยการใช้โดรนโจมตีทิ้งระเบิด และนำกำลังเข้าประชิดฐาน โดย ทหารเมียน มาพยายามยิงต่อสู้และร้องขออาวุธยิงสนับสนุนเพื่อป้องกันฐาน แต่ไม่สามารถต้านทานได้

    ส่งผลให้ทหารเมียนมา จำนวนเกือบ 100 คน ได้ทำการถอนตัวออกจาก ฐานอุเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมาข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณ บ.วาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
    โดย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร (กกล.นเรศวร) ได้ทำการควบคุมตัว, ปลดอาวุธ,ตรวจสอบความปลอดภัย ,รักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ, ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และดำเนินกรรมวิธีตามขั้นตอนต่อไป

    จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ข้ามมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 467 คน โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง , จนท.ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูและความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม

    ทั้งนี้ ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร ยังคงเพิ่มเติมกำลัง ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ , นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเต็มกำลังความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065626

    #Thaitimes #MGROnline #ทหารเมียนมา #กองกำลังKNLA
    ทหารเมียนมา ต้านกองกำลัง KNLA ไม่ไหว ฐานอุเกรทะ จ.เมียวดี ใกล้อำเภอพบพระ ตาก จนแตกหนีข้ามมาฝั่งไทยเกือบ 100 คน • เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.ค.68 พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราขมนู) เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้ กกล.KNLA ได้รวมกำลังเข้าตีที่ตั้งของทหารเมียนมา ฐานอุเกรทะ ด้วยการใช้โดรนโจมตีทิ้งระเบิด และนำกำลังเข้าประชิดฐาน โดย ทหารเมียน มาพยายามยิงต่อสู้และร้องขออาวุธยิงสนับสนุนเพื่อป้องกันฐาน แต่ไม่สามารถต้านทานได้ • ส่งผลให้ทหารเมียนมา จำนวนเกือบ 100 คน ได้ทำการถอนตัวออกจาก ฐานอุเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมาข้ามมายังฝั่งไทย บริเวณ บ.วาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร (กกล.นเรศวร) ได้ทำการควบคุมตัว, ปลดอาวุธ,ตรวจสอบความปลอดภัย ,รักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ, ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และดำเนินกรรมวิธีตามขั้นตอนต่อไป • จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ข้ามมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 467 คน โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง , จนท.ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูและความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม • ทั้งนี้ ฉก.ราชมนู กกล.นเรศวร ยังคงเพิ่มเติมกำลัง ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ , นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเต็มกำลังความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065626 • #Thaitimes #MGROnline #ทหารเมียนมา #กองกำลังKNLA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีครั้งใหญ่เมื่อคืนที่มาโดยกองทัพรัสเซีย พื้นที่ของเมืองลวอฟ (Lvov) ทางตะวันตกของยูเครน เขตติดต่อกับโปแลนด์ คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของรัสเซีย

    • เมื่อคืนที่ผ่านมา ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากมุ่งเป้าไปที่โรงงานแห่งหนึ่งโดยตรง
    • แหล่งข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าอาคารของโรงงานแห่งนี้เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
    การโจมตีครั้งใหญ่เมื่อคืนที่มาโดยกองทัพรัสเซีย พื้นที่ของเมืองลวอฟ (Lvov) ทางตะวันตกของยูเครน เขตติดต่อกับโปแลนด์ คือหนึ่งในเป้าหมายหลักของรัสเซีย • เมื่อคืนที่ผ่านมา ขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากมุ่งเป้าไปที่โรงงานแห่งหนึ่งโดยตรง • แหล่งข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าอาคารของโรงงานแห่งนี้เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย พุ่งชนโรงงานในเมืองคาร์คิฟเมื่อเช้าวันนี้
    ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย พุ่งชนโรงงานในเมืองคาร์คิฟเมื่อเช้าวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภาพสุดระทึก!
    โดรน Geran-2 ของรัสเซีย พุ่งชนศูนย์เกณฑ์ทหารของยูเครนในภูมิภาคโอเดสซาพร้อมๆกันหลายลำ

    ก่อนหน้านี้ทหารรัสเซียโชว์ภาพโดรน Geran-2 ที่มีข้อความ “นี่เพื่อหน่วยงานเกณฑ์ทหารของยูเครน” ก่อนที่จะใช้โจมตีอาคารสำนักงานคัดเลือกทหาร (TCC) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประชาชนชาวยูเครนและรัสเซีย "เรามีศัตรูร่วมกัน" นั่นคือเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารที่คอยบังคับจับตัวชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า!
    ภาพสุดระทึก! โดรน Geran-2 ของรัสเซีย พุ่งชนศูนย์เกณฑ์ทหารของยูเครนในภูมิภาคโอเดสซาพร้อมๆกันหลายลำ ก่อนหน้านี้ทหารรัสเซียโชว์ภาพโดรน Geran-2 ที่มีข้อความ “นี่เพื่อหน่วยงานเกณฑ์ทหารของยูเครน” ก่อนที่จะใช้โจมตีอาคารสำนักงานคัดเลือกทหาร (TCC) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประชาชนชาวยูเครนและรัสเซีย "เรามีศัตรูร่วมกัน" นั่นคือเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารที่คอยบังคับจับตัวชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า!
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีกล่าวในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เรียกร้องให้พันธมิตรกว่า 30 ประเทศที่มารวมตัวกันวันนี้ เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีของยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนการผลิตโดรน
    เซเลนสกีกล่าวในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เรียกร้องให้พันธมิตรกว่า 30 ประเทศที่มารวมตัวกันวันนี้ เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีของยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนการผลิตโดรน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ พบกันนอกรอบในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

    การพบกันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียโจมตียูเครนครั้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ด้วยโดรนมากถึง 728 ลำ และขีปนาวุธอีกมากกว่า 20 ลูก รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 6 ลูก ระหว่างคืนวันพุธถึงเช้าวันพฤหัสบดี

    ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ถึงกับออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประกาศพร้อมจะกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง
    รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ พบกันนอกรอบในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย การพบกันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียโจมตียูเครนครั้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ด้วยโดรนมากถึง 728 ลำ และขีปนาวุธอีกมากกว่า 20 ลูก รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 6 ลูก ระหว่างคืนวันพุธถึงเช้าวันพฤหัสบดี ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ถึงกับออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประกาศพร้อมจะกลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดรน Geran-2 ของรัสเซีย เขียนข้อความว่า “นี่เพื่อหน่วยงานเกณฑ์ทหารของยูเครน” ก่อนที่จะใช้โจมตีอาคารสำนักงานคัดเลือกทหาร (TCC) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประชาชนชาวยูเครนและรัสเซีย "เรามีศัตรูร่วมกัน" นั่นคือเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารที่คอยบังคับจับตัวชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า!
    โดรน Geran-2 ของรัสเซีย เขียนข้อความว่า “นี่เพื่อหน่วยงานเกณฑ์ทหารของยูเครน” ก่อนที่จะใช้โจมตีอาคารสำนักงานคัดเลือกทหาร (TCC) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประชาชนชาวยูเครนและรัสเซีย "เรามีศัตรูร่วมกัน" นั่นคือเจ้าหน้าที่คัดเลือกทหารที่คอยบังคับจับตัวชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพขีปนาวุธร่อน KH-101 ของรัสเซียปล่อยแฟลร์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสกัดกั้น ก่อนจะตกลงสู่เป้าหมายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ใช้โดรน 728 ลำ พร้อมด้วยขีปนาวุธร่อน Kh-101/Iskander-K จำนวน 7 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47 Khinzal จำนวน 6 ลูก โจมตีเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน โดยเฉพาะที่ฐานทัพอากาศ Ozerne ในเขตภูมิภาค Zhytomyr รวมทั้งภูมิภาค Lutsk ซึ่งโจมตีโดยตรงไปที่โรงงานมอเตอร์ ที่ไว้สำหรับซ่อมแซมเครื่องยนต์ของเครื่องบินและโดรน


    ภาพขีปนาวุธร่อน KH-101 ของรัสเซียปล่อยแฟลร์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสกัดกั้น ก่อนจะตกลงสู่เป้าหมายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้ใช้โดรน 728 ลำ พร้อมด้วยขีปนาวุธร่อน Kh-101/Iskander-K จำนวน 7 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-47 Khinzal จำนวน 6 ลูก โจมตีเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน โดยเฉพาะที่ฐานทัพอากาศ Ozerne ในเขตภูมิภาค Zhytomyr รวมทั้งภูมิภาค Lutsk ซึ่งโจมตีโดยตรงไปที่โรงงานมอเตอร์ ที่ไว้สำหรับซ่อมแซมเครื่องยนต์ของเครื่องบินและโดรน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากกลุ่มฮูตีจมเรือ “Magic Seas” พวกเขาโจมตีเรือบรรทุกสินค้าชื่อ “Eternity C” ภายใต้การดำเนินการของกรีกอีกหนึ่งลำ นอกชายฝั่งเยเมนด้วยโดรนและเรือเร็ว หลังจากที่สถานการณ์สงบมาหลายเดือน

    การโจมตีเรือ “Eternity C” ในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


    การโจมตีเรือทั้สองลำโดยกลุ่มฮูตี อาศัยการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธที่ใช้เรือเร็วแล่นเข้าและออกอย่างรวดเร็ว ฮูตีส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากอิสราเอล และหากท่าเรือโฮเดดาห์ของเยเมนยังคงถูกคุกคามจากการโจมตีของอิสราเอล คาดว่าการโจมตีด้วยเรือเร็วขนาดเล็กจากฮูตีจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและซับซ้อนขึ้น

    ทางด้านสหรัฐได้ออกมาประณามกา่รกระทำของกลุ่มฮูตีแล้วเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    2/ ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากกลุ่มฮูตีจมเรือ “Magic Seas” พวกเขาโจมตีเรือบรรทุกสินค้าชื่อ “Eternity C” ภายใต้การดำเนินการของกรีกอีกหนึ่งลำ นอกชายฝั่งเยเมนด้วยโดรนและเรือเร็ว หลังจากที่สถานการณ์สงบมาหลายเดือน การโจมตีเรือ “Eternity C” ในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา การโจมตีเรือทั้สองลำโดยกลุ่มฮูตี อาศัยการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธที่ใช้เรือเร็วแล่นเข้าและออกอย่างรวดเร็ว ฮูตีส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากอิสราเอล และหากท่าเรือโฮเดดาห์ของเยเมนยังคงถูกคุกคามจากการโจมตีของอิสราเอล คาดว่าการโจมตีด้วยเรือเร็วขนาดเล็กจากฮูตีจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและซับซ้อนขึ้น ทางด้านสหรัฐได้ออกมาประณามกา่รกระทำของกลุ่มฮูตีแล้วเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากกลุ่มฮูตีจมเรือ “Magic Seas” พวกเขาโจมตีเรือบรรทุกสินค้าชื่อ “Eternity C” ภายใต้การดำเนินการของกรีกอีกหนึ่งลำ นอกชายฝั่งเยเมนด้วยโดรนและเรือเร็ว หลังจากที่สถานการณ์สงบมาหลายเดือน

    การโจมตีเรือ “Eternity C” ในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


    การโจมตีเรือทั้สองลำโดยกลุ่มฮูตี อาศัยการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธที่ใช้เรือเร็วแล่นเข้าและออกอย่างรวดเร็ว ฮูตีส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากอิสราเอล และหากท่าเรือโฮเดดาห์ของเยเมนยังคงถูกคุกคามจากการโจมตีของอิสราเอล คาดว่าการโจมตีด้วยเรือเร็วขนาดเล็กจากฮูตีจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและซับซ้อนขึ้น

    ทางด้านสหรัฐได้ออกมาประณามกา่รกระทำของกลุ่มฮูตีแล้วเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    1/ ในช่วงเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากกลุ่มฮูตีจมเรือ “Magic Seas” พวกเขาโจมตีเรือบรรทุกสินค้าชื่อ “Eternity C” ภายใต้การดำเนินการของกรีกอีกหนึ่งลำ นอกชายฝั่งเยเมนด้วยโดรนและเรือเร็ว หลังจากที่สถานการณ์สงบมาหลายเดือน การโจมตีเรือ “Eternity C” ในครั้งนี้ ส่งผลให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา การโจมตีเรือทั้สองลำโดยกลุ่มฮูตี อาศัยการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธที่ใช้เรือเร็วแล่นเข้าและออกอย่างรวดเร็ว ฮูตีส่งสัญญาณชัดเจนว่าไม่เกรงกลัวการตอบโต้จากอิสราเอล และหากท่าเรือโฮเดดาห์ของเยเมนยังคงถูกคุกคามจากการโจมตีของอิสราเอล คาดว่าการโจมตีด้วยเรือเร็วขนาดเล็กจากฮูตีจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและซับซ้อนขึ้น ทางด้านสหรัฐได้ออกมาประณามกา่รกระทำของกลุ่มฮูตีแล้วเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    3/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 2/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    2/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    1/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนหลายแห่ง หลังจากพบว่ามีส่วนจัดหาชิ้นส่วนสำหรับการผลิตอาวุธของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรนพลีชีพ "Shahed" (โดรน Geran-2) ซึ่งยูเครนมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้

    นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนและผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดต่อกับอเมริกา หลังจากทรัมป์เผยว่าจะกลับมาส่งอาวุธ รวมทั้งระบบ Patriot ให้กับยูเครนอีกครั้ง
    เซเลนสกีประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนหลายแห่ง หลังจากพบว่ามีส่วนจัดหาชิ้นส่วนสำหรับการผลิตอาวุธของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรนพลีชีพ "Shahed" (โดรน Geran-2) ซึ่งยูเครนมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้ นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนและผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดต่อกับอเมริกา หลังจากทรัมป์เผยว่าจะกลับมาส่งอาวุธ รวมทั้งระบบ Patriot ให้กับยูเครนอีกครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่หลายประเทศเดินหน้าพัฒนาโดรนที่ “ฉลาดขึ้น” เพื่อลดการสูญเสียจากการใช้งานคนจริงในสนามรบ รัสเซียก็ไม่แพ้ใคร ล่าสุดทดสอบภาคสนามกับโดรน AI รุ่น MS001 ที่ → สามารถ “มอง, วิเคราะห์, ตัดสินใจ และโจมตี” ได้เอง → ไม่ต้องพึ่งคำสั่งจากศูนย์ควบคุม → พร้อมระบบ telemetry–ความร้อน–GPS ต่อต้านการสวมรอย

    สมองกลในโดรนตัวนี้คือ Nvidia Jetson Orin — คอมพิวเตอร์ AI ขนาดเล็กเพียงฝ่ามือ ราคาประมาณ $249 แต่แรงระดับ 67 TOPS (เทียบเท่าหลายล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) → ใช้ GPU จากสถาปัตยกรรม Ampere + ซีพียู ARM 6 คอร์ → เทียบได้กับการเอาพลังของ AI ระดับรถยนต์อัจฉริยะมาย่อส่วน

    แต่อย่าลืมว่า Nvidia ถูกห้ามส่งชิประดับนี้ให้รัสเซียตั้งแต่ปี 2022 แล้วนะครับ → สุดท้ายพบว่ามีการลักลอบผ่านเส้นทางค้าสีเทา เช่น “ปลอมเป็นอุปกรณ์ใช้ส่วนตัว–ส่งผ่านบริษัทบังหน้าในจีน–สิงคโปร์–ตุรกี” → สืบพบว่าในปี 2023 มีชิป Nvidia หลุดรอดเข้าสู่รัสเซียราว $17 ล้านเลยทีเดียว

    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เราจะควบคุมเทคโนโลยี AI อย่างไร เมื่อแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็หดตัวมาอยู่ในฝ่ามือ และหาทางเข้าสู่สนามรบได้แม้ถูกแบน?”

    รัสเซียทดสอบโดรน AI รุ่น MS001 ที่ควบคุมตัวเองได้เต็มรูปแบบ  
    • เห็นวัตถุ–วิเคราะห์–เล็ง–ตัดสินใจ–ยิง โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากศูนย์  
    • ใช้งานร่วมกับ swarm (ฝูงโดรน) และทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบาก

    สมองกลหลักคือ Nvidia Jetson Orin (เปิดตัวปลายปี 2024)  
    • 67 TOPS, หน่วยความจำ 102GB/s  
    • ใช้ GPU Ampere + ARM 6 คอร์  
    • ขนาดเล็กพกพาได้

    พบ MS001 ที่ถูกยิงตกมีเทคโนโลยีครบชุด:  
    • กล้องความร้อนสำหรับปฏิบัติการกลางคืน  
    • ระบบ GPS ป้องกันการ spoof (CRPA antenna)  
    • ชิป FPGA สำหรับ logic แบบปรับแต่งเอง  
    • โมเด็มวิทยุสำหรับส่งข้อมูลและประสานการโจมตีแบบฝูง

    มีการใช้งาน Jetson Orin ในโดรนรุ่น V2U เช่นกัน (โจมตีแบบพลีชีพ)  
    • ใช้บอร์ด Leetop A603 จากจีนในการติดตั้ง Jetson

    คาดว่า Nvidia hardware หลุดเข้ารัสเซียผ่านตลาดสีเทามูลค่ากว่า $17 ล้านในปี 2023  
    • ลักลอบผ่านบริษัทบังหน้าในฮ่องกง–จีน–ตุรกี–สิงคโปร์  
    • มีการปลอมเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น กล้อง, router ฯลฯ

    https://www.techspot.com/news/108579-russia-field-testing-new-ai-drone-powered-nvidia.html
    ในขณะที่หลายประเทศเดินหน้าพัฒนาโดรนที่ “ฉลาดขึ้น” เพื่อลดการสูญเสียจากการใช้งานคนจริงในสนามรบ รัสเซียก็ไม่แพ้ใคร ล่าสุดทดสอบภาคสนามกับโดรน AI รุ่น MS001 ที่ → สามารถ “มอง, วิเคราะห์, ตัดสินใจ และโจมตี” ได้เอง → ไม่ต้องพึ่งคำสั่งจากศูนย์ควบคุม → พร้อมระบบ telemetry–ความร้อน–GPS ต่อต้านการสวมรอย สมองกลในโดรนตัวนี้คือ Nvidia Jetson Orin — คอมพิวเตอร์ AI ขนาดเล็กเพียงฝ่ามือ ราคาประมาณ $249 แต่แรงระดับ 67 TOPS (เทียบเท่าหลายล้านล้านคำสั่งต่อวินาที) → ใช้ GPU จากสถาปัตยกรรม Ampere + ซีพียู ARM 6 คอร์ → เทียบได้กับการเอาพลังของ AI ระดับรถยนต์อัจฉริยะมาย่อส่วน แต่อย่าลืมว่า Nvidia ถูกห้ามส่งชิประดับนี้ให้รัสเซียตั้งแต่ปี 2022 แล้วนะครับ → สุดท้ายพบว่ามีการลักลอบผ่านเส้นทางค้าสีเทา เช่น “ปลอมเป็นอุปกรณ์ใช้ส่วนตัว–ส่งผ่านบริษัทบังหน้าในจีน–สิงคโปร์–ตุรกี” → สืบพบว่าในปี 2023 มีชิป Nvidia หลุดรอดเข้าสู่รัสเซียราว $17 ล้านเลยทีเดียว สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เราจะควบคุมเทคโนโลยี AI อย่างไร เมื่อแม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็หดตัวมาอยู่ในฝ่ามือ และหาทางเข้าสู่สนามรบได้แม้ถูกแบน?” ✅ รัสเซียทดสอบโดรน AI รุ่น MS001 ที่ควบคุมตัวเองได้เต็มรูปแบบ   • เห็นวัตถุ–วิเคราะห์–เล็ง–ตัดสินใจ–ยิง โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากศูนย์   • ใช้งานร่วมกับ swarm (ฝูงโดรน) และทนต่อสภาพแวดล้อมที่ลำบาก ✅ สมองกลหลักคือ Nvidia Jetson Orin (เปิดตัวปลายปี 2024)   • 67 TOPS, หน่วยความจำ 102GB/s   • ใช้ GPU Ampere + ARM 6 คอร์   • ขนาดเล็กพกพาได้ ✅ พบ MS001 ที่ถูกยิงตกมีเทคโนโลยีครบชุด:   • กล้องความร้อนสำหรับปฏิบัติการกลางคืน   • ระบบ GPS ป้องกันการ spoof (CRPA antenna)   • ชิป FPGA สำหรับ logic แบบปรับแต่งเอง   • โมเด็มวิทยุสำหรับส่งข้อมูลและประสานการโจมตีแบบฝูง ✅ มีการใช้งาน Jetson Orin ในโดรนรุ่น V2U เช่นกัน (โจมตีแบบพลีชีพ)   • ใช้บอร์ด Leetop A603 จากจีนในการติดตั้ง Jetson ✅ คาดว่า Nvidia hardware หลุดเข้ารัสเซียผ่านตลาดสีเทามูลค่ากว่า $17 ล้านในปี 2023   • ลักลอบผ่านบริษัทบังหน้าในฮ่องกง–จีน–ตุรกี–สิงคโปร์   • มีการปลอมเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น กล้อง, router ฯลฯ https://www.techspot.com/news/108579-russia-field-testing-new-ai-drone-powered-nvidia.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russia field-testing new AI drone powered by Nvidia's Jetson Orin supercomputer
    Russia is using the self-piloting abilities of AI in its new MS001 drone that is currently being field-tested. Ukrainian Major General Vladyslav Klochkov wrote in a LinkedIn...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีตำแหน่งทาวทหารของยูเครนในเมืองคาร์คิฟ
    ตามรายงานเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 27 รายจากการโจมตีดังกล่าว
    ภาพช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีตำแหน่งทาวทหารของยูเครนในเมืองคาร์คิฟ ตามรายงานเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 27 รายจากการโจมตีดังกล่าว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภาพช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีตำแหน่งทาวทหารของยูเครนในเมืองคาร์คิฟ

    ตามรายงานเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 27 รายจากการโจมตีดังกล่าว
    ภาพช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีตำแหน่งทาวทหารของยูเครนในเมืองคาร์คิฟ ตามรายงานเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 27 รายจากการโจมตีดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • แค่กองหนุนก็คนละเกรด
    อ.ปานเทพ ซื้อโดรนให้มทภ.2 ส่วนทหารเหมนได้ลูกอม 3 เม็ด ทุเรียน 2 ลูก รองเท้าแตะ 100 คู่
    #7ดอกจิก
    แค่กองหนุนก็คนละเกรด อ.ปานเทพ ซื้อโดรนให้มทภ.2 ส่วนทหารเหมนได้ลูกอม 3 เม็ด ทุเรียน 2 ลูก รองเท้าแตะ 100 คู่ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts