• -รายงานข่าว 21 กุมภาพันธ์ 2568-พอวันพฤหัสบดีได้รับโหวตจากสภาเซเนทด้วยมติชนะ 51:49 ศุกร์วันนี้ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ก็เดินทางไปสาบาลตนเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ คนที่ 9 ทันที โดยมีหัวหน้าใหญ่คือคุณ แพม บอนดิ อัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางเทียบเท่ารัฐมนตรีของกระทรวงยุติธรรม เจ้านายเขา เป็นผู้นำกล่าวคำสาบานตนให้กับเขา แคช ปาเทล อายุ 45 ปี เป็นหัวหน้าสำนักงานเอฟบีไอคนแรกที่มีเชื้อสายเป็นคนอินเดีย อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าใหญ่เอฟบีไอคนแรกที่เป็นคนชาติพันธุ์เอเซียอีกด้วย พ่อแม่เขาเป็นคนอินเดียย้ายไปทำมาหากินที่ประเทศอูกานด้า แล้วหนีภ้ยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากอีดี้ อามิน ผู้นำเผด็จการไปแคนาดาก่อน แล้วอพยพเข้ามาอเมริกาอาศัยอยู่ที่เมืองการ์เด้น ซิตี้ เขตลองไอแลนด์รัฐนิวยอร์ค เขาเกิดและเติบโตที่นิวยอร์ค จบการศึกษาปริญญาตรีด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์รัฐเวอร์จิเนีย ไปต่อด้านกฏหมายอีกที่อังกฤษ แล้วมาต่อปริญญาโทด้านกฏหมายที่ Pace University งานแรกทำงานเป็นทนายช่วยคนจน Public Defend Lawyer ให้กับศาลไมอามีรัฐฟลอริด้า แล้วย้ายมาว่าความให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางที่วอชิงตัน ดี.ซี.ช่วงทรัมป์ 1.0 เทอมแรกปี 2016 เขาช่วยทำงานด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายให้กับทรัมป์ในหน่วยงานสภาความมั่นคง ต่อมาได้ตำแหน่งเป็น Chief of Staff กับรัฐมนตรีกลาโหม เขาช่วยเหลือทรัมป์อย่างเด็ดเดี่ยวในช่วงวิกฤติ Jan6 ปี 2021 มาตลอด อยู่เคียงข้างทรัมป์เสมอมา พอสมัยทรัมป์ 2.0 เขาได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตอนช่วง Senate Confirmation Hearing มีการพิจารณาไต่สวนอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนจากวุฒิสมาชิกสายพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้าม เขาโต้ตอบคำถามอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน และยังบอกอีกว่ารายชื่อ Enemy List 60 คน ที่อยู่ในหนังสือที่เขาเขียน Government Gangster เขาจะตามล่าให้ถึงที่สุด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้พวก Deep State สายเดโมแครตถึงกับโกรธควันออกหูหลังจบการไต่สวนของวุฒิสมาชิกสมาชิก เขาเอ่ยวลีเป็นภาฮินดีว่า...Jai Shri Krishna ขออวยชัยให้กับพระองค์กฤษณะด้วยเทอญ
    -รายงานข่าว 21 กุมภาพันธ์ 2568-พอวันพฤหัสบดีได้รับโหวตจากสภาเซเนทด้วยมติชนะ 51:49 ศุกร์วันนี้ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ก็เดินทางไปสาบาลตนเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ คนที่ 9 ทันที โดยมีหัวหน้าใหญ่คือคุณ แพม บอนดิ อัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางเทียบเท่ารัฐมนตรีของกระทรวงยุติธรรม เจ้านายเขา เป็นผู้นำกล่าวคำสาบานตนให้กับเขา แคช ปาเทล อายุ 45 ปี เป็นหัวหน้าสำนักงานเอฟบีไอคนแรกที่มีเชื้อสายเป็นคนอินเดีย อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าใหญ่เอฟบีไอคนแรกที่เป็นคนชาติพันธุ์เอเซียอีกด้วย พ่อแม่เขาเป็นคนอินเดียย้ายไปทำมาหากินที่ประเทศอูกานด้า แล้วหนีภ้ยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากอีดี้ อามิน ผู้นำเผด็จการไปแคนาดาก่อน แล้วอพยพเข้ามาอเมริกาอาศัยอยู่ที่เมืองการ์เด้น ซิตี้ เขตลองไอแลนด์รัฐนิวยอร์ค เขาเกิดและเติบโตที่นิวยอร์ค จบการศึกษาปริญญาตรีด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์รัฐเวอร์จิเนีย ไปต่อด้านกฏหมายอีกที่อังกฤษ แล้วมาต่อปริญญาโทด้านกฏหมายที่ Pace University งานแรกทำงานเป็นทนายช่วยคนจน Public Defend Lawyer ให้กับศาลไมอามีรัฐฟลอริด้า แล้วย้ายมาว่าความให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางที่วอชิงตัน ดี.ซี.ช่วงทรัมป์ 1.0 เทอมแรกปี 2016 เขาช่วยทำงานด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายให้กับทรัมป์ในหน่วยงานสภาความมั่นคง ต่อมาได้ตำแหน่งเป็น Chief of Staff กับรัฐมนตรีกลาโหม เขาช่วยเหลือทรัมป์อย่างเด็ดเดี่ยวในช่วงวิกฤติ Jan6 ปี 2021 มาตลอด อยู่เคียงข้างทรัมป์เสมอมา พอสมัยทรัมป์ 2.0 เขาได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตอนช่วง Senate Confirmation Hearing มีการพิจารณาไต่สวนอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนจากวุฒิสมาชิกสายพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้าม เขาโต้ตอบคำถามอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน และยังบอกอีกว่ารายชื่อ Enemy List 60 คน ที่อยู่ในหนังสือที่เขาเขียน Government Gangster เขาจะตามล่าให้ถึงที่สุด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้พวก Deep State สายเดโมแครตถึงกับโกรธควันออกหูหลังจบการไต่สวนของวุฒิสมาชิกสมาชิก เขาเอ่ยวลีเป็นภาฮินดีว่า...Jai Shri Krishna ขออวยชัยให้กับพระองค์กฤษณะด้วยเทอญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm

    สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm

    จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    TSMC Set to Benefit from Estimated 22 Million Apple iPhone 16e Unit Sales
    On Wednesday (February 19), Apple announced the upcoming launch of its "budget-friendly" iPhone 16e smartphone model. The Cupertino, California-based company has refreshed its entry level product tier—starting at $599—with modernized internals. Apple's new design houses an A18 chipset, as well as th...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ประกาศว่าขั้นตอนการผลิตชิปที่เรียกว่า Intel 18A พร้อมสำหรับโปรเจกต์สำหรับลูกค้าภายนอกแล้ว โดยโปรเจกต์แรกจะเริ่มต้นในครึ่งแรกของปี 2025 มีการกล่าวว่า 18A มีคุณสมบัติล้ำสมัยเช่น SRAM Density Scaling ที่เทียบเท่ากับ TSMC's N2, ประสิทธิภาพต่อวัตต์เพิ่มขึ้น 15%, และความหนาแน่นของชิปเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ Intel 3 ซึ่งใช้ใน Intel Xeon 6 นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี PowerVia สำหรับการส่งพลังงานด้านหลังที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยี RibbonFET ที่ใช้แทนทรานซิสเตอร์แบบ FinFET เพื่อควบคุมการรั่วของเกตให้เข้มงวดขึ้น

    ผลิตภัณฑ์แรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A นี้คือ Panther Lake และ Clearwater Forest Xeon CPUs สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกค้าภายนอกที่ใช้ 18A ได้แก่ Amazon's AWS, Microsoft สำหรับ Azure, และ Broadcom ที่กำลังพัฒนาดีไซน์ตามเทคโนโลยี 18A

    การได้ลูกค้าสำหรับการผลิตขั้นสูงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เนื่องจากลูกค้าของ Samsung และ TSMC ที่มีอยู่ไม่ต้องการเสี่ยงกับการส่งกำลังการผลิตและสัญญาที่มีอยู่ หากลูกค้ารายแรกของ Intel ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอื่น ๆ อาจหันมาสนใจโรงงานของ Intel มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อความเป็นไปได้ของโมเดลการจัดหาชิปในอนาคต

    หากบริษัทและสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ตัดสินใจร่วมงานกับ Intel ในการผลิตชิป Intel อาจฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มที่

    https://www.techpowerup.com/332917/intel-18a-is-officially-ready-for-customer-projects
    Intel ได้ประกาศว่าขั้นตอนการผลิตชิปที่เรียกว่า Intel 18A พร้อมสำหรับโปรเจกต์สำหรับลูกค้าภายนอกแล้ว โดยโปรเจกต์แรกจะเริ่มต้นในครึ่งแรกของปี 2025 มีการกล่าวว่า 18A มีคุณสมบัติล้ำสมัยเช่น SRAM Density Scaling ที่เทียบเท่ากับ TSMC's N2, ประสิทธิภาพต่อวัตต์เพิ่มขึ้น 15%, และความหนาแน่นของชิปเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับ Intel 3 ซึ่งใช้ใน Intel Xeon 6 นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี PowerVia สำหรับการส่งพลังงานด้านหลังที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยี RibbonFET ที่ใช้แทนทรานซิสเตอร์แบบ FinFET เพื่อควบคุมการรั่วของเกตให้เข้มงวดขึ้น ผลิตภัณฑ์แรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A นี้คือ Panther Lake และ Clearwater Forest Xeon CPUs สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกค้าภายนอกที่ใช้ 18A ได้แก่ Amazon's AWS, Microsoft สำหรับ Azure, และ Broadcom ที่กำลังพัฒนาดีไซน์ตามเทคโนโลยี 18A การได้ลูกค้าสำหรับการผลิตขั้นสูงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เนื่องจากลูกค้าของ Samsung และ TSMC ที่มีอยู่ไม่ต้องการเสี่ยงกับการส่งกำลังการผลิตและสัญญาที่มีอยู่ หากลูกค้ารายแรกของ Intel ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอื่น ๆ อาจหันมาสนใจโรงงานของ Intel มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อความเป็นไปได้ของโมเดลการจัดหาชิปในอนาคต หากบริษัทและสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ตัดสินใจร่วมงานกับ Intel ในการผลิตชิป Intel อาจฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มที่ https://www.techpowerup.com/332917/intel-18a-is-officially-ready-for-customer-projects
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel 18A Is Officially Ready for Customer Projects
    Intel has updated its 18A node website with the message, "Intel 18A is now ready for customer projects with the tape outs beginning in the first half of 2025: contact us for more information." The contact hyperlink includes an email where future customers can direct their questions to Intel. Designe...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ

    ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ

    ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้

    นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม

    Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก

    Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้

    https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้ นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้ https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists spent 10 years on a superbug mystery - Google's AI solved it in 48 hours
    Professor José R Penadés told the BBC that Google's tool reached the same hypothesis that his team had – that superbugs can create a tail that allows...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้ทำลุง Surprise อีกแล้วครับ !!

    จากการศึกษาของ BBC เผยให้เห็นว่า Dark Mode ที่เราเคยเชื่อว่าจะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นจริง ๆ การศึกษาใหม่นี้ท้าทายความเชื่อที่แพร่หลาย โดยเสนอว่า Dark Mode อาจใช้พลังงานมากขึ้นแทน โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่เพิ่มความสว่างของหน้าจอสูงขึ้นเพื่อปรับปรุงการมองเห็น

    ทีมวิจัยของ BBC ได้ทำการทดลองให้ผู้เข้าร่วมปรับความสว่างหน้าจอของอุปกรณ์ในโหมดแสงสว่างและโหมดมืดบนหน้าโฮมเพจของ BBC Sounds ผลการทดลองพบว่า 80% ของผู้เข้าร่วมเพิ่มความสว่างหน้าจอสูงขึ้นเมื่อใช้ Dark Mode ซึ่งทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับโหมดแสงสว่าง

    Zak Datson, วิศวกรวิจัยของ BBC, กล่าวว่า "คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับความยั่งยืนมักจะง่ายเกินไปและไม่สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีในโลกแห่งความจริงของผู้คน" งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Joule และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยต่อเนื่องของ BBC ที่มุ่งเน้นการทำเว็บไซต์และแอปที่ใช้พลังงานต่ำ

    นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการประหยัดพลังงานคือ:
    1) ลดความสว่างหน้าจอ: การใช้หน้าจอที่ความสว่างสูงสุดสามารถเพิ่มการใช้พลังงานได้เป็นสองเท่า
    2) เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์พกพา (laptops)
    3) ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เก่า: เนื่องจากการผลิตอุปกรณ์ใหม่มีต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมสูง

    งานวิจัยนี้ยังพบว่า การทำเว็บไซต์ให้ตอบสนองได้ดีขึ้นไม่ได้แปลว่าจะมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น ข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการประหยัดพลังงานในโลกดิจิทัลต้องการความเข้าใจเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการใช้งานของผู้ใช้ในสถานการณ์จริง

    ดังนั้น แม้ว่าการใช้ Dark Mode อาจไม่ได้ช่วยประหยัดพลังงานในทุกกรณี การปรับลดความสว่างหน้าจอและการใช้หน้าจอขนาดเล็กยังคงเป็นวิธีที่ดีในการลดการใช้พลังงาน

    https://www.techspot.com/news/106873-unexpected-findings-show-dark-mode-could-battery-hog.html
    บทความนี้ทำลุง Surprise อีกแล้วครับ !! จากการศึกษาของ BBC เผยให้เห็นว่า Dark Mode ที่เราเคยเชื่อว่าจะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นจริง ๆ การศึกษาใหม่นี้ท้าทายความเชื่อที่แพร่หลาย โดยเสนอว่า Dark Mode อาจใช้พลังงานมากขึ้นแทน โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่เพิ่มความสว่างของหน้าจอสูงขึ้นเพื่อปรับปรุงการมองเห็น ทีมวิจัยของ BBC ได้ทำการทดลองให้ผู้เข้าร่วมปรับความสว่างหน้าจอของอุปกรณ์ในโหมดแสงสว่างและโหมดมืดบนหน้าโฮมเพจของ BBC Sounds ผลการทดลองพบว่า 80% ของผู้เข้าร่วมเพิ่มความสว่างหน้าจอสูงขึ้นเมื่อใช้ Dark Mode ซึ่งทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับโหมดแสงสว่าง Zak Datson, วิศวกรวิจัยของ BBC, กล่าวว่า "คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับความยั่งยืนมักจะง่ายเกินไปและไม่สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีในโลกแห่งความจริงของผู้คน" งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Joule และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยต่อเนื่องของ BBC ที่มุ่งเน้นการทำเว็บไซต์และแอปที่ใช้พลังงานต่ำ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการประหยัดพลังงานคือ: 1) ลดความสว่างหน้าจอ: การใช้หน้าจอที่ความสว่างสูงสุดสามารถเพิ่มการใช้พลังงานได้เป็นสองเท่า 2) เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดเล็ก เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์พกพา (laptops) 3) ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เก่า: เนื่องจากการผลิตอุปกรณ์ใหม่มีต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมสูง งานวิจัยนี้ยังพบว่า การทำเว็บไซต์ให้ตอบสนองได้ดีขึ้นไม่ได้แปลว่าจะมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น ข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการประหยัดพลังงานในโลกดิจิทัลต้องการความเข้าใจเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการใช้งานของผู้ใช้ในสถานการณ์จริง ดังนั้น แม้ว่าการใช้ Dark Mode อาจไม่ได้ช่วยประหยัดพลังงานในทุกกรณี การปรับลดความสว่างหน้าจอและการใช้หน้าจอขนาดเล็กยังคงเป็นวิธีที่ดีในการลดการใช้พลังงาน https://www.techspot.com/news/106873-unexpected-findings-show-dark-mode-could-battery-hog.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Dark mode could drain more battery than light mode, BBC study says
    The surprising findings come from the BBC's R&D team, who examined how real users interact with their devices in both dark and light modes. Participants were asked...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วัดธาตุทอง
    #กรุงเทพมหานครฯ

    วัดธาตุ​ทอง​ -​ ผมว่าหลาย​ ๆ​ ท่านที่โดยสารรถไฟฟ้า​ BTS.​ เป็น​ประจำ​ เมื่อผ่านสถานีเอกมัย​ มองไปจะเห็นเจดีย์​สีทองอร่าม​ ประดิษฐาน​ อยู่​ไกล​ๆ​ สวยงามมาก ที่สำคัญ​ดู​ contrast. กับตึกรามห้างสรรพสินค้า​ที่ตั้งตรงข้ามราวกับ​ โลกในอดีตกับปัจจุบัน​ประจันหน้ากันแบบ​ ไม่เกรงใจ

    ส่วนตัว​ จำได้ว่าเคยลงภาพและเรื่องราวของวัดธาตุทองไปแล้ว​ แต่ตอนนั้น​ พระมหาเจดีย์​กำลัง​บูรณะ​ วันนี้ขอแก้ตัว​ นำภาพสวย​ ๆ​ และเรื่องราววัดในเมือง​ ของชาวสุขุมวิท​แห่งนี้กลับมาอีกครั้ง​ มาฟังกันครับ​ วัดธาตุทอง

    พื้นที่แห่งนี้​ แต่เดิมเป็นที่ตั้งของวัดหน้าพระธาตุกับวัดทองล่าง ซึ่งวัดหน้าพระธาตุเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่มาของชื่อวัดก็มาจากหน้าวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ส่วนวัดทองล่างนั้นเดิมทีเป็นสวนผลไม้ที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสวน เจ้าของสวนเห็นว่าต้นโพธิ์ควรเป็นต้นไม้ในวัดมากกว่าที่จะปลูกไว้ในบ้าน ประกอบกับไม่ต้องการโค่นทิ้ง เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและครอบครัว จึงได้บริจาคที่ดินในบริเวณนั้นเพื่อสร้างเป็นวัดเล็ก ๆ ขึ้นมาและตั้งชื่อว่า วัดโพธิ์สุวรรณาราม หรือ วัดโพธิ์ทอง ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นเรียกชื่ออย่างสั้น ๆ ว่า วัดทอง แต่ทว่าตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่างมีวัดทองอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดทองล่าง นั่นเอง

    ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลในสมัยนั้นต้องการขอเวนคืนพื้นที่วัดหน้าพระธาตุและวัดทองล่าง เพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ โดยชดเชยเงินให้ทั้ง 2 วัด เพื่อไปรวมกับวัดอื่นหรือสร้างวัดใหม่ขึ้นมา ทำให้คณะสงฆ์มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้น และมีความเห็นพ้องต้องกันในการซื้อที่ดินปัจจุบัน พร้อมกับย้ายเสนาสนะถาวรวัตถุของทั้ง 2 วัดมาปลูกสร้างรวมกันที่ตำบล คลองบ้านกล้วย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์อุปถัมภ์ และตั้งชื่อว่า วัดธาตุทอง โดยมีที่มาจากการนำชื่อของทั้ง 2 วัดรวมเข้าด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2481

    ในปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับวัดธาตุทองไว้ในพระอุปถัมภ์ และประทานตราสัญลักษณ์ใหม่ให้แก่วัด จากนั้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกให้ วัดธาตุทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มาจนถึงปัจจุบัน

    สิ่งที่ห้ามพลาด​ ไปกราบพระในพระอุโบสถ ภายใน​ ประดิษฐาน พระสัพพัญญู พระประธานประจำพระอุโบสถ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 70 นิ้ว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2495 พระพุทธชินินทร ที่เป็นพระประจำอุโบสถ สมัยอู่ทอง และพระพุทธมนต์ปรีชา สุโขทัย ที่เป็นพระประธานหอประชุม

    ถัดจากนั้น​เดินไปด้านหลัง​ ไปสักการะ​ พระมหาเจดีย์ 84 พรรษา ราชนครินทร์ เป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปจากทั่วโลก รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุจากหลวงพ่อไจทีเซา เจ้าอาวาสวัดไจทีเซา ในประเทศพม่าด้วยครับ​

    เป็น​ไงครับ​ แค่ลงรถไฟฟ้า​ สถานีเอกมัย​ มาไม่กี่ก้าว​ ก็จะพบกับ ความยิ่งใหญ่​ ความงาม​ และ​ความสงบ​ วัดธาตุ​ทอง​ ใกล้แค่นี้เอง

    #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    #วัดธาตุทอง #กรุงเทพมหานครฯ วัดธาตุ​ทอง​ -​ ผมว่าหลาย​ ๆ​ ท่านที่โดยสารรถไฟฟ้า​ BTS.​ เป็น​ประจำ​ เมื่อผ่านสถานีเอกมัย​ มองไปจะเห็นเจดีย์​สีทองอร่าม​ ประดิษฐาน​ อยู่​ไกล​ๆ​ สวยงามมาก ที่สำคัญ​ดู​ contrast. กับตึกรามห้างสรรพสินค้า​ที่ตั้งตรงข้ามราวกับ​ โลกในอดีตกับปัจจุบัน​ประจันหน้ากันแบบ​ ไม่เกรงใจ ส่วนตัว​ จำได้ว่าเคยลงภาพและเรื่องราวของวัดธาตุทองไปแล้ว​ แต่ตอนนั้น​ พระมหาเจดีย์​กำลัง​บูรณะ​ วันนี้ขอแก้ตัว​ นำภาพสวย​ ๆ​ และเรื่องราววัดในเมือง​ ของชาวสุขุมวิท​แห่งนี้กลับมาอีกครั้ง​ มาฟังกันครับ​ วัดธาตุทอง พื้นที่แห่งนี้​ แต่เดิมเป็นที่ตั้งของวัดหน้าพระธาตุกับวัดทองล่าง ซึ่งวัดหน้าพระธาตุเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่มาของชื่อวัดก็มาจากหน้าวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายใน ส่วนวัดทองล่างนั้นเดิมทีเป็นสวนผลไม้ที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางสวน เจ้าของสวนเห็นว่าต้นโพธิ์ควรเป็นต้นไม้ในวัดมากกว่าที่จะปลูกไว้ในบ้าน ประกอบกับไม่ต้องการโค่นทิ้ง เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและครอบครัว จึงได้บริจาคที่ดินในบริเวณนั้นเพื่อสร้างเป็นวัดเล็ก ๆ ขึ้นมาและตั้งชื่อว่า วัดโพธิ์สุวรรณาราม หรือ วัดโพธิ์ทอง ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นเรียกชื่ออย่างสั้น ๆ ว่า วัดทอง แต่ทว่าตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่างมีวัดทองอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดทองล่าง นั่นเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลในสมัยนั้นต้องการขอเวนคืนพื้นที่วัดหน้าพระธาตุและวัดทองล่าง เพื่อสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ โดยชดเชยเงินให้ทั้ง 2 วัด เพื่อไปรวมกับวัดอื่นหรือสร้างวัดใหม่ขึ้นมา ทำให้คณะสงฆ์มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้น และมีความเห็นพ้องต้องกันในการซื้อที่ดินปัจจุบัน พร้อมกับย้ายเสนาสนะถาวรวัตถุของทั้ง 2 วัดมาปลูกสร้างรวมกันที่ตำบล คลองบ้านกล้วย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์อุปถัมภ์ และตั้งชื่อว่า วัดธาตุทอง โดยมีที่มาจากการนำชื่อของทั้ง 2 วัดรวมเข้าด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2481 ในปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับวัดธาตุทองไว้ในพระอุปถัมภ์ และประทานตราสัญลักษณ์ใหม่ให้แก่วัด จากนั้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกให้ วัดธาตุทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ห้ามพลาด​ ไปกราบพระในพระอุโบสถ ภายใน​ ประดิษฐาน พระสัพพัญญู พระประธานประจำพระอุโบสถ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 70 นิ้ว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2495 พระพุทธชินินทร ที่เป็นพระประจำอุโบสถ สมัยอู่ทอง และพระพุทธมนต์ปรีชา สุโขทัย ที่เป็นพระประธานหอประชุม ถัดจากนั้น​เดินไปด้านหลัง​ ไปสักการะ​ พระมหาเจดีย์ 84 พรรษา ราชนครินทร์ เป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปจากทั่วโลก รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุจากหลวงพ่อไจทีเซา เจ้าอาวาสวัดไจทีเซา ในประเทศพม่าด้วยครับ​ เป็น​ไงครับ​ แค่ลงรถไฟฟ้า​ สถานีเอกมัย​ มาไม่กี่ก้าว​ ก็จะพบกับ ความยิ่งใหญ่​ ความงาม​ และ​ความสงบ​ วัดธาตุ​ทอง​ ใกล้แค่นี้เอง #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧘‍♂️ วิธีรักเป็น ผ่านการเจริญสติและเข้าใจความผูกพัน 🧘‍♀️


    ---

    🔹 ความผูกพันไม่ใช่ความเข้าใจ

    📌 หลายคนเข้าใจผิดว่า "อยู่ด้วยกันมานาน" = "เข้าใจกันดี"
    ❌ แต่ความจริง… ความคุ้นเคยอาจทำให้มองข้ามกัน
    ❌ ความผูกพันที่ไม่มีสติ อาจกลายเป็นความเฉยชาต่อกัน
    ✅ การมีสติในความรัก = รู้ตัวว่าเรามีอะไร และมีค่าขนาดไหน

    💡 "อยู่กันไปนานๆ ไม่ใช่ปัญหา... อยู่แล้วไม่เห็นค่ากันต่างหากที่เป็นปัญหา"


    ---

    🔹 กำแพงของความเป็นอื่น

    💭 คนสองคนถูกกั้นด้วย "กำแพงของความอยาก"
    👉 อยากให้เขาเป็นแบบที่เราคิด
    👉 อยากให้เขาเข้าใจเราก่อน
    👉 อยากให้เขาปรับตัวให้พอดีกับเรา

    💡 ถ้าคนหนึ่งอยากอย่าง อีกคนอยากอีกอย่าง → เดินไปกันคนละทางโดยไม่รู้ตัว

    ✅ ทางออก:
    ✔ ลดความคาดหวัง → เปิดใจรับอีกฝ่ายในสิ่งที่เขาเป็น
    ✔ เห็นค่าของกันและกัน → หมั่นสำรวจว่า "วันนี้เรามีอะไรดีๆ อยู่บ้าง"
    ✔ สื่อสารอย่างเข้าใจ → ถาม ไม่ใช่เดา / ฟัง ไม่ใช่รอพูด


    ---

    🔹 เมื่อมีสติ เราจะรักเป็น

    ✅ รักที่แท้จริง = ความพร้อมจะแบ่งปัน
    ✔ แบ่งปัน "ใจเดียว" ให้กัน
    ✔ แบ่งปัน "เวลา" เพื่อใช้ร่วมกัน
    ✔ แบ่งปัน "ความฝัน" แล้วเดินไปด้วยกัน

    💡 "รักเป็น = มองข้ามข้อบกพร่อง หมั่นเห็นใจ และเข้าใจ"
    ❌ ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจเรา


    ---

    🔹 อย่ารอให้สายเกินไป

    📌 "การทำความเข้าใจกัน… ถ้าไม่รีบ อาจช้าเกินไป"
    ❌ หลายคนตระหนักถึงคุณค่าของคนรัก "เมื่อเขาหายไปแล้ว"
    ✅ แต่คนที่มีสติ… จะตระหนักได้ตั้งแต่วันนี้ ว่าอะไรมีค่า และต้องให้เวลาอะไร

    💡 "อย่าเอาคำว่า 'ไม่มีเวลา' ไปใช้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต"
    เพราะความรัก… เติบโตได้ ด้วยเวลาที่ให้กัน ❤️

    🧘‍♂️ วิธีรักเป็น ผ่านการเจริญสติและเข้าใจความผูกพัน 🧘‍♀️ --- 🔹 ความผูกพันไม่ใช่ความเข้าใจ 📌 หลายคนเข้าใจผิดว่า "อยู่ด้วยกันมานาน" = "เข้าใจกันดี" ❌ แต่ความจริง… ความคุ้นเคยอาจทำให้มองข้ามกัน ❌ ความผูกพันที่ไม่มีสติ อาจกลายเป็นความเฉยชาต่อกัน ✅ การมีสติในความรัก = รู้ตัวว่าเรามีอะไร และมีค่าขนาดไหน 💡 "อยู่กันไปนานๆ ไม่ใช่ปัญหา... อยู่แล้วไม่เห็นค่ากันต่างหากที่เป็นปัญหา" --- 🔹 กำแพงของความเป็นอื่น 💭 คนสองคนถูกกั้นด้วย "กำแพงของความอยาก" 👉 อยากให้เขาเป็นแบบที่เราคิด 👉 อยากให้เขาเข้าใจเราก่อน 👉 อยากให้เขาปรับตัวให้พอดีกับเรา 💡 ถ้าคนหนึ่งอยากอย่าง อีกคนอยากอีกอย่าง → เดินไปกันคนละทางโดยไม่รู้ตัว ✅ ทางออก: ✔ ลดความคาดหวัง → เปิดใจรับอีกฝ่ายในสิ่งที่เขาเป็น ✔ เห็นค่าของกันและกัน → หมั่นสำรวจว่า "วันนี้เรามีอะไรดีๆ อยู่บ้าง" ✔ สื่อสารอย่างเข้าใจ → ถาม ไม่ใช่เดา / ฟัง ไม่ใช่รอพูด --- 🔹 เมื่อมีสติ เราจะรักเป็น ✅ รักที่แท้จริง = ความพร้อมจะแบ่งปัน ✔ แบ่งปัน "ใจเดียว" ให้กัน ✔ แบ่งปัน "เวลา" เพื่อใช้ร่วมกัน ✔ แบ่งปัน "ความฝัน" แล้วเดินไปด้วยกัน 💡 "รักเป็น = มองข้ามข้อบกพร่อง หมั่นเห็นใจ และเข้าใจ" ❌ ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจเรา --- 🔹 อย่ารอให้สายเกินไป 📌 "การทำความเข้าใจกัน… ถ้าไม่รีบ อาจช้าเกินไป" ❌ หลายคนตระหนักถึงคุณค่าของคนรัก "เมื่อเขาหายไปแล้ว" ✅ แต่คนที่มีสติ… จะตระหนักได้ตั้งแต่วันนี้ ว่าอะไรมีค่า และต้องให้เวลาอะไร 💡 "อย่าเอาคำว่า 'ไม่มีเวลา' ไปใช้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต" เพราะความรัก… เติบโตได้ ด้วยเวลาที่ให้กัน ❤️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันอาทิตย์ที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันอาทิตย์ที่ 23 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨เหรียญเหนือดวง หลวงปู่อิ่ม ปัญญาวุโธ วัดทุ่งนาใหม่ จังหวัดนครศรีธรรมราช วาระครบ9รอบ 108 ปี เนื้อตะปูสังฆวานร หมายเลข 88

    หลวงปู่อิ่ม เป็นหลาน และศิษย์สืบทอดพุทธาคมของ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน

    ปัจจุบันท่านมีอายุหนึ่งร้อยแปดปีแล้ว ความอยู่อย่างเรียบง่าย เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ และปฏิปทาเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูง
    ✨เหรียญเหนือดวง หลวงปู่อิ่ม ปัญญาวุโธ วัดทุ่งนาใหม่ จังหวัดนครศรีธรรมราช วาระครบ9รอบ 108 ปี เนื้อตะปูสังฆวานร หมายเลข 88 หลวงปู่อิ่ม เป็นหลาน และศิษย์สืบทอดพุทธาคมของ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ปัจจุบันท่านมีอายุหนึ่งร้อยแปดปีแล้ว ความอยู่อย่างเรียบง่าย เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ และปฏิปทาเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • "การตายอย่างไม่รู้จบในสนามรบเป็นสิ่งที่ผิด และใครก็ตามที่ยังคงผลักดันเรื่องนี้ต่อไปก็ขาดทั้งความเห็นอกเห็นใจและสมอง"

    อีลอน มัสก์ ตอบคำถามคนที่นำข้อความของมัสก์ช่วงเริ่มต้นสงครามยูเครน ซึ่งเป็นช่วงที่เวลานั้นใครๆก็เห็นใจยูเครน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราทุกคนควรอยู่ในความเป็นจริง ใช่มั้ย "เจษฎา"
    "การตายอย่างไม่รู้จบในสนามรบเป็นสิ่งที่ผิด และใครก็ตามที่ยังคงผลักดันเรื่องนี้ต่อไปก็ขาดทั้งความเห็นอกเห็นใจและสมอง" อีลอน มัสก์ ตอบคำถามคนที่นำข้อความของมัสก์ช่วงเริ่มต้นสงครามยูเครน ซึ่งเป็นช่วงที่เวลานั้นใครๆก็เห็นใจยูเครน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราทุกคนควรอยู่ในความเป็นจริง ใช่มั้ย "เจษฎา"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนสูญเสียการผลิตก๊าซไปถึง 40% จากการโจมตีของรัสเซีย

    ▪️ ขณะนี้เคียฟจะต้องนำเข้าก๊าซมากถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจากยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และก่อนจะถึงฤดูหนาวหน้า ประเทศจำเป็นต้องสะสมก๊าซประมาณ 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
    “จริงๆแล้วเราอาจอยู่ได้โดยไม่ต้องนำเข้าก๊าซในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่การโจมตีของรัสเซียไปที่โรงงานผลิต ทำให้เราต้องพิจารณานำเข้าก๊าซเพื่อชดเชยการสูญเสียกำลังการผลิตในประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว

    ▪️ ยูเครนเริ่มเพิ่มการนำเข้าก๊าซในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปริมาณการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า และเกิน 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

    ▪️ จากวิดีโอ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียเพิ่งโจมตีโรงงานแปรรูปก๊าซ Gnedintsevsky ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน ในภูมิภาคเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv)
    ยูเครนสูญเสียการผลิตก๊าซไปถึง 40% จากการโจมตีของรัสเซีย ▪️ ขณะนี้เคียฟจะต้องนำเข้าก๊าซมากถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจากยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และก่อนจะถึงฤดูหนาวหน้า ประเทศจำเป็นต้องสะสมก๊าซประมาณ 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร “จริงๆแล้วเราอาจอยู่ได้โดยไม่ต้องนำเข้าก๊าซในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่การโจมตีของรัสเซียไปที่โรงงานผลิต ทำให้เราต้องพิจารณานำเข้าก๊าซเพื่อชดเชยการสูญเสียกำลังการผลิตในประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว ▪️ ยูเครนเริ่มเพิ่มการนำเข้าก๊าซในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปริมาณการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า และเกิน 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ▪️ จากวิดีโอ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียเพิ่งโจมตีโรงงานแปรรูปก๊าซ Gnedintsevsky ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน ในภูมิภาคเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv)
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมอนามัย ลงพื้นที่เชียงใหม่มอบหน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย และมุ้งสู้ฝุ่น

    วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2568) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย
    แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์นิธิรัตน์ บุญตานนท์ ผู้อำนวยการ
    ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ และทีมงานกรมอนามัย ได้ลงพื้นที่มอบหน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย
    และมุ้งสู้ฝุ่นให้แก่กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และพี่น้องประชาชน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
    แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ ที่พบว่ามีค่าสูงเกินมาตรฐานในระดับสีแดง คือ มากกว่า 75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องติดกันหลายวัน และคาดว่าจะยาวนานจนถึงวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในเขตสุขภาพที่ 1 ทั้ง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ในปี 2567 พบว่า มีผู้ป่วยเข้ารับบริการแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคอัมพาตฉับพลัน (Stroke) และโรคหืด (Asthma) ที่เกิดจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น

    ด้าน แพทย์หญิงนงนุช รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อสั่งการในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม รองรับภาวะฉุกเฉินกรมอนามัย (HPEHOC) ให้เตรียมรับมือในการดูแลสุขภาพประชาชน กรมอนามัยจึงได้จัดให้มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยส่งเสริมให้เกิดห้องปลอดฝุ่น และมุ้งสู้ฝุ่น ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตลอดจนส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับประชาชนเพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้แก่การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม อาทิ 1) การปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่บ้านเรือน
    2) กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็นในช่วงวิกฤตฝุ่นควัน 3) หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ คือ หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 4) งดออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกลางแจ้ง ในช่วงที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีผลกระทบต่อสุขภาพ 5) ลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยลดการเผาทุกชนิด 6) การทำความสะอาดบ้านเพื่อลดความเข้มข้นของฝุ่น โดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แทนการใช้ไม้กวาดที่จะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย กรมอนามัยมีความห่วงใยประชาชน จึงลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มอบ หน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย ให้กับกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ และ มอบมุ้งสู้ฝุ่นให้กับกลุ่มเปราะบางเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5
    @Say_May
    กรมอนามัย / 21 กุมภาพันธ์ 2568
    กรมอนามัย ลงพื้นที่เชียงใหม่มอบหน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย และมุ้งสู้ฝุ่น วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2568) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์นิธิรัตน์ บุญตานนท์ ผู้อำนวยการ ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ และทีมงานกรมอนามัย ได้ลงพื้นที่มอบหน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย และมุ้งสู้ฝุ่นให้แก่กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และพี่น้องประชาชน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ ที่พบว่ามีค่าสูงเกินมาตรฐานในระดับสีแดง คือ มากกว่า 75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องติดกันหลายวัน และคาดว่าจะยาวนานจนถึงวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในเขตสุขภาพที่ 1 ทั้ง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา และแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ในปี 2567 พบว่า มีผู้ป่วยเข้ารับบริการแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคอัมพาตฉับพลัน (Stroke) และโรคหืด (Asthma) ที่เกิดจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น ด้าน แพทย์หญิงนงนุช รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อสั่งการในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม รองรับภาวะฉุกเฉินกรมอนามัย (HPEHOC) ให้เตรียมรับมือในการดูแลสุขภาพประชาชน กรมอนามัยจึงได้จัดให้มีมาตรการเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยส่งเสริมให้เกิดห้องปลอดฝุ่น และมุ้งสู้ฝุ่น ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ตลอดจนส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับประชาชนเพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้แก่การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม อาทิ 1) การปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่บ้านเรือน 2) กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็นในช่วงวิกฤตฝุ่นควัน 3) หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ คือ หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 4) งดออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกลางแจ้ง ในช่วงที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีผลกระทบต่อสุขภาพ 5) ลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยลดการเผาทุกชนิด 6) การทำความสะอาดบ้านเพื่อลดความเข้มข้นของฝุ่น โดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แทนการใช้ไม้กวาดที่จะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย กรมอนามัยมีความห่วงใยประชาชน จึงลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มอบ หน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย ให้กับกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ และ มอบมุ้งสู้ฝุ่นให้กับกลุ่มเปราะบางเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 @Say_May กรมอนามัย / 21 กุมภาพันธ์ 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมตาอนุมัติโบนัสสูงสุด 200% ของเงินเดือนผู้บริหารบริษัท หลังเลิกจ้างพนักงาน 3,600 คน 1 สัปดาห์https://fortune.com/2025/02/21/meta-approves-bonuses-200-company-executives-salaries-laying-off-3600/
    เมตาอนุมัติโบนัสสูงสุด 200% ของเงินเดือนผู้บริหารบริษัท หลังเลิกจ้างพนักงาน 3,600 คน 1 สัปดาห์https://fortune.com/2025/02/21/meta-approves-bonuses-200-company-executives-salaries-laying-off-3600/
    FORTUNE.COM
    Meta approves bonuses of up to 200% of company executives’ salaries a week after laying off 3,600 employees
    Meta has approved a plan that could see company executives earning bonuses of up to 200% of their salaries.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอวรงค์เตือนนานแล้ว ล่าสุดก็มาย้ำเตือนเรื่องนี้ เอาเข้าจริงหมอแกเป็นห่วงบ้านเมืองแหละ
    หมอวรงค์เตือนนานแล้ว ล่าสุดก็มาย้ำเตือนเรื่องนี้ เอาเข้าจริงหมอแกเป็นห่วงบ้านเมืองแหละ
    “หมอวรงค์” ชี้เหตุ ตำรวจไซเบอร์นำกำลังนับ 10 นาย บุกคุมตัวผู้ประกาศข่าวช่องยูทูปไปสอบสวน ราวกับบุกจับแก๊งคอลเซนเตอร์ติดอาวุธ คือสัญญาณระบอบทักษิณคืนชีพ คุกคามคนเห็นต่าง แต่วันนี้จะไม่สามารถปิดปากใครได้ง่ายๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017397

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI เข้าควบคุมข่าวสารทั่วโลก อาจส่งผลทั้งด้านบวกและลบต่อสังคม ดังนี้

    ### ด้านบวก:
    1. **การกรองข้อมูล**: AI สามารถกรองข่าวปลอมและข้อมูลผิดๆ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
    2. **การปรับเนื้อหาให้ตรงกับผู้ใช้**: AI สามารถปรับข่าวสารให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน ทำให้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
    3. **การวิเคราะห์ข้อมูล**: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้เข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
    4. **การเข้าถึงข้อมูล**: AI ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำกัดด้วยภาษาและเวลา

    ### ด้านลบ:
    1. **การควบคุมข้อมูล**: หาก AI ถูกควบคุมโดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจ อาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์หรือบิดเบือนข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    2. **การละเมิดความเป็นส่วนตัว**: AI อาจรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากเกินไป ทำให้ความเป็นส่วนตัวถูกคุกคาม
    3. **การสูญเสียงาน**: AI อาจเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในวงการข่าวสาร ทำให้เกิดการว่างงานในอุตสาหกรรมสื่อ
    4. **การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป**: การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเอง

    ### สรุป:
    การที่ AI เข้าควบคุมข่าวสารทั่วโลกมีทั้งโอกาสและความท้าทาย สิ่งสำคัญคือต้องมีการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่า AI ถูกใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะและไม่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล
    เมื่อ AI เข้าควบคุมข่าวสารทั่วโลก อาจส่งผลทั้งด้านบวกและลบต่อสังคม ดังนี้ ### ด้านบวก: 1. **การกรองข้อมูล**: AI สามารถกรองข่าวปลอมและข้อมูลผิดๆ ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง 2. **การปรับเนื้อหาให้ตรงกับผู้ใช้**: AI สามารถปรับข่าวสารให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน ทำให้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น 3. **การวิเคราะห์ข้อมูล**: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้เข้าใจแนวโน้มและสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น 4. **การเข้าถึงข้อมูล**: AI ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำกัดด้วยภาษาและเวลา ### ด้านลบ: 1. **การควบคุมข้อมูล**: หาก AI ถูกควบคุมโดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจ อาจนำไปสู่การเซ็นเซอร์หรือบิดเบือนข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 2. **การละเมิดความเป็นส่วนตัว**: AI อาจรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากเกินไป ทำให้ความเป็นส่วนตัวถูกคุกคาม 3. **การสูญเสียงาน**: AI อาจเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ในวงการข่าวสาร ทำให้เกิดการว่างงานในอุตสาหกรรมสื่อ 4. **การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป**: การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเอง ### สรุป: การที่ AI เข้าควบคุมข่าวสารทั่วโลกมีทั้งโอกาสและความท้าทาย สิ่งสำคัญคือต้องมีการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่า AI ถูกใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะและไม่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 พืช "ห้ามใส่ตู้เย็น"

    1. หัวหอม เก็บไว้ในตู้เย็นทำให้เกิดเชื้อรา ความชื้นที่มากเกินไปบนหัวหอมทำให้เกิดสภาพแวดล้อมสำหรับการเจริญเติบโตของสปอร์ของเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียได้หากรับประทาน ดังนั้น จึงควรเก็บไว้ในที่เย็น มืด และแห้ง เช่น ตู้ในครัว

    2. กระเทียม "กระเทียมสามารถแตกหน่อและแข็งได้เมื่อแช่เย็น ทำให้สูญเสียรสชาติและคุณประโยชน์ไป อาจมีรสขมและไม่สวย และอาจเกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้"

    3. มันฝรั่ง การแช่เย็นจะทำให้แป้งเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ทำให้เกิดรสชาติที่หวานขึ้นและมีเนื้อสัมผัสที่หยาบ การปรุงมันฝรั่งหล่านี้ที่อุณหภูมิสูงสามารถสร้างอะคริลาไมด์ซึ่งเป็นสารประกอบที่อาจเป็นอันตรายได้ การเก็บมันฝรั่งดิบไว้ในตู้เย็นอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้

    4. กล้วย อุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้กล้วย "เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเละ" เนื่องจากขัดขวางกระบวนการสุก

    5. ขิง จะคงความสดได้นานขึ้นเมื่อเก็บนอกตู้เย็น สาเหตุเป็นเพราะการแช่เย็นอาจทำให้ขิงแห้ง สูญเสียความสดและรสชาติ ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการปรุงอาหาร
    5 พืช "ห้ามใส่ตู้เย็น" 1. หัวหอม เก็บไว้ในตู้เย็นทำให้เกิดเชื้อรา ความชื้นที่มากเกินไปบนหัวหอมทำให้เกิดสภาพแวดล้อมสำหรับการเจริญเติบโตของสปอร์ของเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียได้หากรับประทาน ดังนั้น จึงควรเก็บไว้ในที่เย็น มืด และแห้ง เช่น ตู้ในครัว 2. กระเทียม "กระเทียมสามารถแตกหน่อและแข็งได้เมื่อแช่เย็น ทำให้สูญเสียรสชาติและคุณประโยชน์ไป อาจมีรสขมและไม่สวย และอาจเกิดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้" 3. มันฝรั่ง การแช่เย็นจะทำให้แป้งเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ทำให้เกิดรสชาติที่หวานขึ้นและมีเนื้อสัมผัสที่หยาบ การปรุงมันฝรั่งหล่านี้ที่อุณหภูมิสูงสามารถสร้างอะคริลาไมด์ซึ่งเป็นสารประกอบที่อาจเป็นอันตรายได้ การเก็บมันฝรั่งดิบไว้ในตู้เย็นอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ 4. กล้วย อุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้กล้วย "เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเละ" เนื่องจากขัดขวางกระบวนการสุก 5. ขิง จะคงความสดได้นานขึ้นเมื่อเก็บนอกตู้เย็น สาเหตุเป็นเพราะการแช่เย็นอาจทำให้ขิงแห้ง สูญเสียความสดและรสชาติ ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการปรุงอาหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินพืช...ป้องกันผมหงอก

    งานวิจัยชี้ชัด ลูทีโอลิน (luteolin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักบางชนิด ช่วยแก้ไขปัญหาการส่งสัญญาณระหว่างเอนโดทีลินส์ในเซลล์ต้นกำเนิดเคราติโนไซต์และตัวรับในเซลล์ต้นกำเนิดเมลาโนไซต์ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของผมหงอก

    พืชที่มีลูทีโอลินสูงในประเทศไทย
    1. พริกเขียว รวมถึงพริกหวานสีเขียว
    2. ฟักทอง – เป็นแหล่งลูทีโอลินที่ดี และยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผม
    3. ขึ้นฉ่าย (Celery) – อุดมไปด้วยลูทีโอลินและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ.



    กินพืช...ป้องกันผมหงอก งานวิจัยชี้ชัด ลูทีโอลิน (luteolin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในผักบางชนิด ช่วยแก้ไขปัญหาการส่งสัญญาณระหว่างเอนโดทีลินส์ในเซลล์ต้นกำเนิดเคราติโนไซต์และตัวรับในเซลล์ต้นกำเนิดเมลาโนไซต์ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของผมหงอก พืชที่มีลูทีโอลินสูงในประเทศไทย 1. พริกเขียว รวมถึงพริกหวานสีเขียว 2. ฟักทอง – เป็นแหล่งลูทีโอลินที่ดี และยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเส้นผม 3. ขึ้นฉ่าย (Celery) – อุดมไปด้วยลูทีโอลินและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก:

    ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ**
    - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน

    ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่**
    - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง

    ### 3. **ตลาดทองคำ**
    - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
    - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

    ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
    - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
    - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
    - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์
    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย

    ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก**
    - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก
    - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก: ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ** - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่** - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง ### 3. **ตลาดทองคำ** - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ** - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก** - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทวี" แจงมีผู้ร้องเลือก สว.2567 ไม่สุจริต มอบ "ดีเอสไอ" เป็นผู้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ยืนยันไม่เกี่ยวการเมืองว่ากันตามพยานหลักฐาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017456

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทวี" แจงมีผู้ร้องเลือก สว.2567 ไม่สุจริต มอบ "ดีเอสไอ" เป็นผู้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ยืนยันไม่เกี่ยวการเมืองว่ากันตามพยานหลักฐาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017456 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • จักรพรรดิถงจื้อ (同治帝)​ เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ชิง
    ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุ 4 พรรษา ถึงแม้ว่าพระองค์จะครองราชย์ได้เพียง 12 ปี พระองค์ก็จัดได้ว่าเป็นจักรพรรดิที่พยายามจะบริหารประเทศให้ดีองค์หนึ่ง

    ช่วงเวลานั้น ซูสีไทเฮา มีอำนาจครอบงำมาก
    ทำให้พระองค์ไม่สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่
    เพราะพระนางซูสีไทเฮาเห็นว่าพระองค์นั้นไร้ซึ่งความสามารถ
    🔸พระราชสมภพ 27 เมษายน ค.ศ. 1856
    🔸สวรรคต 12 มกราคม ค.ศ. 1875 (18 ปี)
    🔸ครองราชย์ (11 พย. 1861 – 12 มค. 1875) ( 13ปี 62วัน)
    จักรพรรดิถงจื้อ (同治帝)​ เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ชิง ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุ 4 พรรษา ถึงแม้ว่าพระองค์จะครองราชย์ได้เพียง 12 ปี พระองค์ก็จัดได้ว่าเป็นจักรพรรดิที่พยายามจะบริหารประเทศให้ดีองค์หนึ่ง ช่วงเวลานั้น ซูสีไทเฮา มีอำนาจครอบงำมาก ทำให้พระองค์ไม่สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ เพราะพระนางซูสีไทเฮาเห็นว่าพระองค์นั้นไร้ซึ่งความสามารถ 🔸พระราชสมภพ 27 เมษายน ค.ศ. 1856 🔸สวรรคต 12 มกราคม ค.ศ. 1875 (18 ปี) 🔸ครองราชย์ (11 พย. 1861 – 12 มค. 1875) ( 13ปี 62วัน)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัท AI ชื่อดังของจีนวางแผนที่จะเผยแพร่โค้ดและข้อมูลสำคัญต่อสาธารณชนตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ธรรมดาในการแบ่งปันเทคโนโลยีหลักมากกว่าคู่แข่งอย่าง OpenAIสตาร์ทอัพอายุ 20 เดือนรายนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับซิลิคอนวัลเลย์ด้วยความซับซ้อนของโมเดล AI เมื่อเดือนที่แล้ว วางแผนที่จะเผยแพร่คลังโค้ดของตนให้กับนักพัฒนาและนักวิจัยทุกคน ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดและสร้างหรือปรับปรุงโค้ดเบื้องหลัง R1 หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับได้ โดยบริษัทได้ระบุไว้ในโพสต์บน Xhttps://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-21/deepseek-promises-to-share-even-more-ai-code-in-a-rare-step?srnd=homepage-asia
    DeepSeek ซึ่งเป็นบริษัท AI ชื่อดังของจีนวางแผนที่จะเผยแพร่โค้ดและข้อมูลสำคัญต่อสาธารณชนตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ธรรมดาในการแบ่งปันเทคโนโลยีหลักมากกว่าคู่แข่งอย่าง OpenAIสตาร์ทอัพอายุ 20 เดือนรายนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับซิลิคอนวัลเลย์ด้วยความซับซ้อนของโมเดล AI เมื่อเดือนที่แล้ว วางแผนที่จะเผยแพร่คลังโค้ดของตนให้กับนักพัฒนาและนักวิจัยทุกคน ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดและสร้างหรือปรับปรุงโค้ดเบื้องหลัง R1 หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับได้ โดยบริษัทได้ระบุไว้ในโพสต์บน Xhttps://www.bloomberg.com/news/articles/2025-02-21/deepseek-promises-to-share-even-more-ai-code-in-a-rare-step?srnd=homepage-asia
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์เตือนนักท่องเที่ยวอิสราเอลให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น หลังจากเกิดเหตุการณ์หลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจของชาวไทยในโซเชียลมีเดีย

    สำหรับข้อความจากประกาศของสถานทูตอิสราเอล ระบุว่า:

    ชาวอิสราเอลที่รัก,
    ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอิสราเอล ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจของชาวไทยในบางสถานที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอิสราเอล และทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อชาวอิสราเอลในประเทศไทย
    เราเรียกร้องให้คุณ เคารพกฎเกณฑ์และพฤติกรรมของคนท้องถิ่น เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนอิสราเอลและชุมชนไทย

    และเราขอให้ทำสิ่งต่อไปนี้:

    ✅รักษาความเงียบและหลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังหรือพูดเสียงดังบนท้องถนน โรงแรม และในที่สาธารณะ

    ✅เคารพพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงการรบกวนผู้อื่นหรือบุกรุกพื้นที่ของผู้อื่น

    ✅ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการก่อปัญหาหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย

    ✅ให้ความสำคัญกับการแต่งกายที่เหมาะสมและสุภาพในที่สาธารณะ

    ✅ปฏิบัติตามกฎของสถานที่ต่างๆ เช่น วัด ตลาด และพื้นที่สาธารณะ

    ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวนมากถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและการละเมิดกฎระเบียบ

    คนไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอิสราเอลอย่างดีเสมอ กรุณาอย่าทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจทำลายความสัมพันธ์ที่ดีนี้ การกระทำของแต่ละคนสามารถส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของชาวอิสราเอลทั้งหมด

    จงทำตัวให้เหมาะสม ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และให้เกียรติคนในท้องถิ่น
    ด้วยความเคารพ,

    ทีมสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย
    .
    https://www.facebook.com/share/p/14pjcQkEoP/
    สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์เตือนนักท่องเที่ยวอิสราเอลให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น หลังจากเกิดเหตุการณ์หลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจของชาวไทยในโซเชียลมีเดีย สำหรับข้อความจากประกาศของสถานทูตอิสราเอล ระบุว่า: ชาวอิสราเอลที่รัก, ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอิสราเอล ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจของชาวไทยในบางสถานที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวอิสราเอล และทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อชาวอิสราเอลในประเทศไทย เราเรียกร้องให้คุณ เคารพกฎเกณฑ์และพฤติกรรมของคนท้องถิ่น เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนอิสราเอลและชุมชนไทย และเราขอให้ทำสิ่งต่อไปนี้: ✅รักษาความเงียบและหลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังหรือพูดเสียงดังบนท้องถนน โรงแรม และในที่สาธารณะ ✅เคารพพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ หลีกเลี่ยงการรบกวนผู้อื่นหรือบุกรุกพื้นที่ของผู้อื่น ✅ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการก่อปัญหาหรือพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย ✅ให้ความสำคัญกับการแต่งกายที่เหมาะสมและสุภาพในที่สาธารณะ ✅ปฏิบัติตามกฎของสถานที่ต่างๆ เช่น วัด ตลาด และพื้นที่สาธารณะ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจำนวนมากถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและการละเมิดกฎระเบียบ คนไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอิสราเอลอย่างดีเสมอ กรุณาอย่าทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจทำลายความสัมพันธ์ที่ดีนี้ การกระทำของแต่ละคนสามารถส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของชาวอิสราเอลทั้งหมด จงทำตัวให้เหมาะสม ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และให้เกียรติคนในท้องถิ่น ด้วยความเคารพ, ทีมสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย . https://www.facebook.com/share/p/14pjcQkEoP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ

    Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม

    Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้

    แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว

    Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน

    หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน

    Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ

    Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”

    นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม” นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meet Wang Xingxing, the young Chinese robotics star from Unitree at Xi Jinping’s symposium
    Wang, 35, is the founder and CEO of Unitree – one of China's top developers of quadrupedal and humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้อมกราบอนุโมทามิภะวันตุเมสาธุๆๆๆๆๆๆกับทุกบุญกิริยาของทุกรูปทุกนามทุกจิตในวันนี้ค่ะ

    กฤษณ์จรัส วัทฒโก
    เอเฮร่า ลูกแก้วไอยคุปต์63 โทร.089-2466495
    Line : 0920929299 พลัมเฮร่า 6363
    TikTok : พลัมเฮร่า
    #บันทึกบุญ
    #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์

    *6363 รหัสลัภ
    น้อมกราบอนุโมทามิภะวันตุเมสาธุๆๆๆๆๆๆกับทุกบุญกิริยาของทุกรูปทุกนามทุกจิตในวันนี้ค่ะ กฤษณ์จรัส วัทฒโก เอเฮร่า ลูกแก้วไอยคุปต์63 โทร.089-2466495 Line : 0920929299 พลัมเฮร่า 6363 TikTok : พลัมเฮร่า #บันทึกบุญ #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์ *6363 รหัสลัภ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุญกิริยาทุกชนิด ทุกประเภทของฉัน
    ตั้งแต่ต้นอดีตชาติจนถึงปัจจุบันและตลอดไปจนกว่าจะถึงพระนิพพาน
    *ผู้ใดต้องการส่วนบุญ..ฉันขอแผ่ไปไม่มีประมาณ...ให้ท่านจงได้รับและรับได้ตลอดเวลาและตลอดไปเถิด...
    #อนุโมทามิภะวันตุเมสาธุๆๆๆๆๆค่ะ
    #บันทึกบุญ

    กฤษณ์จรัส วัทฒโก
    เอเฮร่า ลูกแก้วไอยคุปต์63
    Line : 0920929299 พลัมเฮร่า6363
    TikTok : พลัมเฮร่า
    โทร.089-2466495
    #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์

    *6363 รหัสลัภ
    บุญกิริยาทุกชนิด ทุกประเภทของฉัน ตั้งแต่ต้นอดีตชาติจนถึงปัจจุบันและตลอดไปจนกว่าจะถึงพระนิพพาน *ผู้ใดต้องการส่วนบุญ..ฉันขอแผ่ไปไม่มีประมาณ...ให้ท่านจงได้รับและรับได้ตลอดเวลาและตลอดไปเถิด... #อนุโมทามิภะวันตุเมสาธุๆๆๆๆๆค่ะ #บันทึกบุญ กฤษณ์จรัส วัทฒโก เอเฮร่า ลูกแก้วไอยคุปต์63 Line : 0920929299 พลัมเฮร่า6363 TikTok : พลัมเฮร่า โทร.089-2466495 #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์ *6363 รหัสลัภ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts