• เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีวานนี้สาวแม่ค้าออนไลน์ป่วยซึมเศร้าจุดไฟเผาตัวหนีปัญหาครอบครัว หลังการใช้ชีวิตคู่ล้มเหลว ก่อนซื้อน้ำมันมาลาดตัวจุดไฟเผาพรึบลุกท่วมล้มทั้งยืน ขณะเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงเร่งคว้าถังน้ำมาช่วยดับ ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาล พบร่างกายถูกเพลิงเผาไหม้ไปแล้วถึงกว่าร้อยละ 60 อาการสาหัส
    ภูมิความรู้ผมยังไม่พร้อมพอที่จะดำเนินงานที่เป็นนายของตัวเอง ยิ่งงานประจำยิ่งไม่ค่อยมีเวลาเรียนรู้ที่จะเป็นนายตัวเอง เคยเป็นลูกจ้าง กกต. แต่แทบทั้งครอบครัวบรรจุเป็นพนักงาน กกต. หมดแล้ว แต่บางทีเจ็บสุดคือย้ายทะเบียนบ้านจนผมดาวน์ไปชั่วขณะ งานที่ทำใน กกต นี่งานเดิมๆซ้ำซาก จำเจ น่าเบื่อ ไม่พอคนสั่งงานปากนรกอีก ต่อไปนี้ถ้า กกต. ใช้งานผมเยี่ยงทาส ต่อไปนี้ขอปฏิเสธ และเดินจากไปไม่สนอะไร ไม่อยากสาปส่งก่อนจากไปเพราะไม่อยากสร้างเหตุปัจจัยแห่งวิบากกรรมอันร้ายแรง
    ผมไม่คิดลาโลกอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวิบากกรรมอันหนักหนาสาหัสสากัลป์อยู่แล้ว หลังดูคนตื่นธรรมได้ตอกย้ำธรรมที่เคยศึกษาที่ผ่านมาไม่ครบถ้วน แต่ค่อยๆเรียนรู้ธรรมจนกว่าจะครบถ้วน
    งานอิสระ เป็นนายตัวเอง ไปไหนก็ได้ โตแล้ว แต่ชอบออกเดินทางไปทำคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมที่ห่างไกลมากกว่า
    ที่มาของข่าว Nation TV
    https://www.nationtv.tv/news/378728834
    จากกรณีวานนี้สาวแม่ค้าออนไลน์ป่วยซึมเศร้าจุดไฟเผาตัวหนีปัญหาครอบครัว หลังการใช้ชีวิตคู่ล้มเหลว ก่อนซื้อน้ำมันมาลาดตัวจุดไฟเผาพรึบลุกท่วมล้มทั้งยืน ขณะเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงเร่งคว้าถังน้ำมาช่วยดับ ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาล พบร่างกายถูกเพลิงเผาไหม้ไปแล้วถึงกว่าร้อยละ 60 อาการสาหัส ภูมิความรู้ผมยังไม่พร้อมพอที่จะดำเนินงานที่เป็นนายของตัวเอง ยิ่งงานประจำยิ่งไม่ค่อยมีเวลาเรียนรู้ที่จะเป็นนายตัวเอง เคยเป็นลูกจ้าง กกต. แต่แทบทั้งครอบครัวบรรจุเป็นพนักงาน กกต. หมดแล้ว แต่บางทีเจ็บสุดคือย้ายทะเบียนบ้านจนผมดาวน์ไปชั่วขณะ งานที่ทำใน กกต นี่งานเดิมๆซ้ำซาก จำเจ น่าเบื่อ ไม่พอคนสั่งงานปากนรกอีก ต่อไปนี้ถ้า กกต. ใช้งานผมเยี่ยงทาส ต่อไปนี้ขอปฏิเสธ และเดินจากไปไม่สนอะไร ไม่อยากสาปส่งก่อนจากไปเพราะไม่อยากสร้างเหตุปัจจัยแห่งวิบากกรรมอันร้ายแรง ผมไม่คิดลาโลกอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวิบากกรรมอันหนักหนาสาหัสสากัลป์อยู่แล้ว หลังดูคนตื่นธรรมได้ตอกย้ำธรรมที่เคยศึกษาที่ผ่านมาไม่ครบถ้วน แต่ค่อยๆเรียนรู้ธรรมจนกว่าจะครบถ้วน งานอิสระ เป็นนายตัวเอง ไปไหนก็ได้ โตแล้ว แต่ชอบออกเดินทางไปทำคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมที่ห่างไกลมากกว่า ที่มาของข่าว Nation TV https://www.nationtv.tv/news/378728834
    WWW.NATIONTV.TV
    แม่ค้าออนไลน์ จุดไฟเผาตัวเอง เสียชีวิตแล้ว
    จากกรณีวานนี้สาวป่วยซึมเศร้าจุดไฟเผาตัวหนีปัญหาครอบครัว หลังการใช้ชีวิตคู่ล้มเหลว ก่อนซื้อน้ำมันมาลาดตัวจุดไฟเผาพรึบลุกท่วมล้มทั้งยืน ขณะเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงเร่งคว้าถังน้ำมาช่วยดับ ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาล พบร่างกายถูกเพลิงเผาไหม้ไปแล้วถึงกว่าร้อยละ 60 อาการสาหัส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC • หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาวสำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063597

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาวสำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063597 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ
    .
    สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ . สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มยุค พ่อ สำเร็จ ยุคลูก

    “ความเชื่อมโยงระหว่าง TOR การปักปันเขตแดน – การใช้แผนที่ – และความเสี่ยงเรื่องอธิปไตยของชาติ”

    สรุปพื้นฐานก่อน: TOR2003 กับการใช้แผนที่ 1:200,000

    1. TOR2003 (Terms of Reference ปี 2546)
    เป็นข้อตกลงที่ไทยใช้ในการเจรจาเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา
    โดยกำหนดว่า:

    “ให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นแผนที่หลักสำหรับอ้างอิงการปักปันเขตแดน”

    หลักการนี้ถูกใช้เพื่ออ้างอิงเส้นเขตแดนตามสนธิสัญญาเดิมและแนวปฏิบัติเดิม (เช่น สนธิสัญญาสมัยฝรั่งเศส)



    2. “แผนที่ทางอากาศ”
    มีความละเอียดสูง ใช้ในยุคปัจจุบันเพื่อการสำรวจภาพถ่ายดาวเทียม ระบบ GIS และแผนที่ 3D

    > แต่ยัง ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานทางกฎหมายหลัก ในการเจรจา หาก TOR ยังคงยึด 1:200,000






    ---

    การ “แก้ไข TOR เพื่อยึดแผนที่ทางอากาศ” มีความเสี่ยงหรือไม่?

    ใช่ เสี่ยงมาก ถ้าไม่มีกรอบป้องกันทางกฎหมาย

    ปัจจัย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

    1. แผนที่ทางอากาศมีความแม่นยำสูง อาจทำให้ “เส้นเขตแดนจริง” เลื่อนไป ตามภาพถ่าย โดยไม่สอดคล้องกับแนวเขตดั้งเดิมที่ปรากฏในแผนที่ 1:200,000

    2. ประเทศเพื่อนบ้านอาจใช้โอกาสนี้ผลักดันเส้นเขตแดนใหม่ เช่น อ้างว่า “หมุดหลักเขตที่เห็นจากแผนที่อากาศ” อยู่ในจุดที่ไทยไม่เคยรับรองมาก่อน

    3. ลดน้ำหนักทางกฎหมายของหลักฐานประวัติศาสตร์ เพราะแผนที่ 1:200,000 มักแนบมากับสนธิสัญญาเก่า เช่น ปี 1904, 1907 (ฝรั่งเศส-สยาม)

    4. เสี่ยงต่อการเสีย “พื้นที่ที่ครอบครองโดยพฤตินัย” หากแผนที่ใหม่แสดงว่าไทยอยู่ “นอกเขต” ที่ควรจะเป็นตามแผนที่อากาศ – อาจถูกนำไปใช้ในศาลระหว่างประเทศ



    เปรียบเทียบสถานการณ์:

    “กรณีเขาพระวิหาร” เป็นตัวอย่างคลาสสิก

    กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200,000 ซึ่งทำโดยฝรั่งเศส (แต่ไทยไม่เคยรับรองอย่างเป็นทางการ)

    ศาลโลกปี 1962 ตัดสินยึดตามแผนที่นั้น แม้ไทยจะอ้าง “เส้นแบ่งสันปันน้ำ” ตามภูมิประเทศจริง

    บทเรียนคือ: ใครควบคุมกรอบ TOR และแหล่งข้อมูลอ้างอิง = ควบคุมผลลัพธ์เขตแดน



    ---

    สรุปทางวิชาการและยุทธศาสตร์

    > “การแก้ไข TOR เพื่อใช้แผนที่ทางอากาศ หากไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศหรือกฎหมายรองรับ อาจเป็นช่องทางทำให้ไทยเสียเปรียบดินแดนโดยไม่ตั้งใจ”



    ควรใช้ “แผนที่ทางอากาศ” เพื่อ ยืนยันความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 เดิม
    ไม่ใช่เพื่อ แทนที่หรือสร้างกรอบใหม่โดยลำพัง

    หากจะแก้ TOR จริง ต้องมี คณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศ + ฝ่ายความมั่นคง + นักภูมิศาสตร์ + นักประวัติศาสตร์ + ฝ่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วม


    กัมพูชาในการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา

    ขั้นตอน รายละเอียด เป้าหมาย

    1. ยืนยัน TOR 2003 - ย้ำว่าไทยลงนาม TOR 2003 เมื่อปี 2546
    - ใช้เป็น “กรอบแม่บท” ที่ผูกพันสองฝ่ายโดยสมัครใจ ทำให้ไทยติดอยู่ในกลไก โดยไม่สามารถถอนตัวได้ง่าย

    2. ผลักดันการฟื้น JTSC / JBC - เรียกร้องให้ไทยกลับมาประชุม
    - กำหนดให้ TOR 2003 เป็นกรอบหลักในการเดินหน้า ใช้ช่องทางรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยตีความฝ่ายเดียว

    3. ร่าง Technical Instructions (TI) - เสนอให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ (LiDAR, GPS, Orthophoto)
    - แต่บังคับให้ “Overlay” กับแผนที่ 1:200,000 ตาม TOR 2003 บังคับให้พิกัดที่ไทยวัด ต้องสอดคล้องกับแผนที่อาณานิคม

    4. เห็นพ้อง 45 จุดร่วมกัน (JTSC #4) - ตกลงตำแหน่งพิกัดหลักเขต 45 จุด
    - เตรียมเสนอ TI ให้ JBC รับรอง ปักหมุดระยะทาง “ได้เปรียบ” ก่อนเข้าสู่กระบวนการปักเสาจริง

    5. รอให้ไทยร่วมลงนาม TI โดยไม่มีข้อสงวน - ผลักดันให้ไทยรับรอง TI เร็วที่สุด
    - หลีกเลี่ยงการเปิดเวทีอภิปรายสาธารณะในไทย ให้เส้นเขตที่จัดทำร่วมกัน “กลายเป็นแนวเขตถาวร” โดยไม่ต้องพิสูจน์ศาลโลกอีก

    6. ใช้ TI และผล JBC เป็นหลักฐานระหว่างประเทศ - หากเกิดข้อพิพาท → ใช้ TI / JBC / TOR 2003 เป็นหลักฐาน
    - อ้างว่าไทยยินยอมแล้วตามกระบวนการรัฐต่อรัฐ สร้างความได้เปรียบเชิงกฎหมายต่อศาลโลก หรือ UN




    แกนสำคัญของกลยุทธ์กัมพูชา:

    ใช้เอกสารที่ไทยลงนามเองเป็นเครื่องมือย้อนกลับมาเจรจา

    กดดันให้ไทย “นิ่ง” หรือ “ยอมรับโดยพฤติกรรม”

    ผูกข้อมูลปัจจุบัน (GPS, LiDAR) กับอดีต (แผนที่ 1:200,000) เพื่อสร้างกรอบใหม่แต่ได้ผลเก่าที่ฝรั่งเศสวางไว้


    หากไทยไม่ตอบโต้ทันเวลา

    เส้นเขตจากแผนที่ 1:200,000 จะ “สวมทับ” พิกัด GPS ของเรา

    ความได้เปรียบในหลักฐาน effectivités จะหมดประโยชน์

    แนวเขตเสี่ยง เช่น “ตาเมือนธม, ช่องสะงำ, ภูมะเขือ, เขาพระวิหาร” จะตกอยู่ในกระบวนการที่เรา ลงนามเอง


    เหลือขั้นตอนเดียวไทยก็จะเสียดินแดนอย่างไม่มีวันได้อะไรคืนมา
    เริ่มยุค พ่อ สำเร็จ ยุคลูก “ความเชื่อมโยงระหว่าง TOR การปักปันเขตแดน – การใช้แผนที่ – และความเสี่ยงเรื่องอธิปไตยของชาติ” 🔍 สรุปพื้นฐานก่อน: TOR2003 กับการใช้แผนที่ 1:200,000 1. TOR2003 (Terms of Reference ปี 2546) เป็นข้อตกลงที่ไทยใช้ในการเจรจาเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา โดยกำหนดว่า: “ให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นแผนที่หลักสำหรับอ้างอิงการปักปันเขตแดน” หลักการนี้ถูกใช้เพื่ออ้างอิงเส้นเขตแดนตามสนธิสัญญาเดิมและแนวปฏิบัติเดิม (เช่น สนธิสัญญาสมัยฝรั่งเศส) 2. “แผนที่ทางอากาศ” มีความละเอียดสูง ใช้ในยุคปัจจุบันเพื่อการสำรวจภาพถ่ายดาวเทียม ระบบ GIS และแผนที่ 3D > แต่ยัง ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานทางกฎหมายหลัก ในการเจรจา หาก TOR ยังคงยึด 1:200,000 --- ⚠️ การ “แก้ไข TOR เพื่อยึดแผนที่ทางอากาศ” มีความเสี่ยงหรือไม่? 🔺 ใช่ เสี่ยงมาก ถ้าไม่มีกรอบป้องกันทางกฎหมาย ปัจจัย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น 1. แผนที่ทางอากาศมีความแม่นยำสูง อาจทำให้ “เส้นเขตแดนจริง” เลื่อนไป ตามภาพถ่าย โดยไม่สอดคล้องกับแนวเขตดั้งเดิมที่ปรากฏในแผนที่ 1:200,000 2. ประเทศเพื่อนบ้านอาจใช้โอกาสนี้ผลักดันเส้นเขตแดนใหม่ เช่น อ้างว่า “หมุดหลักเขตที่เห็นจากแผนที่อากาศ” อยู่ในจุดที่ไทยไม่เคยรับรองมาก่อน 3. ลดน้ำหนักทางกฎหมายของหลักฐานประวัติศาสตร์ เพราะแผนที่ 1:200,000 มักแนบมากับสนธิสัญญาเก่า เช่น ปี 1904, 1907 (ฝรั่งเศส-สยาม) 4. เสี่ยงต่อการเสีย “พื้นที่ที่ครอบครองโดยพฤตินัย” หากแผนที่ใหม่แสดงว่าไทยอยู่ “นอกเขต” ที่ควรจะเป็นตามแผนที่อากาศ – อาจถูกนำไปใช้ในศาลระหว่างประเทศ 🧭 เปรียบเทียบสถานการณ์: “กรณีเขาพระวิหาร” เป็นตัวอย่างคลาสสิก กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200,000 ซึ่งทำโดยฝรั่งเศส (แต่ไทยไม่เคยรับรองอย่างเป็นทางการ) ศาลโลกปี 1962 ตัดสินยึดตามแผนที่นั้น แม้ไทยจะอ้าง “เส้นแบ่งสันปันน้ำ” ตามภูมิประเทศจริง บทเรียนคือ: ใครควบคุมกรอบ TOR และแหล่งข้อมูลอ้างอิง = ควบคุมผลลัพธ์เขตแดน --- ✅ สรุปทางวิชาการและยุทธศาสตร์ > “การแก้ไข TOR เพื่อใช้แผนที่ทางอากาศ หากไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศหรือกฎหมายรองรับ อาจเป็นช่องทางทำให้ไทยเสียเปรียบดินแดนโดยไม่ตั้งใจ” ควรใช้ “แผนที่ทางอากาศ” เพื่อ ยืนยันความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 เดิม ไม่ใช่เพื่อ แทนที่หรือสร้างกรอบใหม่โดยลำพัง หากจะแก้ TOR จริง ต้องมี คณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศ + ฝ่ายความมั่นคง + นักภูมิศาสตร์ + นักประวัติศาสตร์ + ฝ่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วม กัมพูชาในการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา ขั้นตอน รายละเอียด เป้าหมาย 1. ยืนยัน TOR 2003 - ย้ำว่าไทยลงนาม TOR 2003 เมื่อปี 2546 - ใช้เป็น “กรอบแม่บท” ที่ผูกพันสองฝ่ายโดยสมัครใจ ✅ ทำให้ไทยติดอยู่ในกลไก โดยไม่สามารถถอนตัวได้ง่าย 2. ผลักดันการฟื้น JTSC / JBC - เรียกร้องให้ไทยกลับมาประชุม - กำหนดให้ TOR 2003 เป็นกรอบหลักในการเดินหน้า ✅ ใช้ช่องทางรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยตีความฝ่ายเดียว 3. ร่าง Technical Instructions (TI) - เสนอให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ (LiDAR, GPS, Orthophoto) - แต่บังคับให้ “Overlay” กับแผนที่ 1:200,000 ตาม TOR 2003 ✅ บังคับให้พิกัดที่ไทยวัด ต้องสอดคล้องกับแผนที่อาณานิคม 4. เห็นพ้อง 45 จุดร่วมกัน (JTSC #4) - ตกลงตำแหน่งพิกัดหลักเขต 45 จุด - เตรียมเสนอ TI ให้ JBC รับรอง ✅ ปักหมุดระยะทาง “ได้เปรียบ” ก่อนเข้าสู่กระบวนการปักเสาจริง 5. รอให้ไทยร่วมลงนาม TI โดยไม่มีข้อสงวน - ผลักดันให้ไทยรับรอง TI เร็วที่สุด - หลีกเลี่ยงการเปิดเวทีอภิปรายสาธารณะในไทย ✅ ให้เส้นเขตที่จัดทำร่วมกัน “กลายเป็นแนวเขตถาวร” โดยไม่ต้องพิสูจน์ศาลโลกอีก 6. ใช้ TI และผล JBC เป็นหลักฐานระหว่างประเทศ - หากเกิดข้อพิพาท → ใช้ TI / JBC / TOR 2003 เป็นหลักฐาน - อ้างว่าไทยยินยอมแล้วตามกระบวนการรัฐต่อรัฐ ✅ สร้างความได้เปรียบเชิงกฎหมายต่อศาลโลก หรือ UN 🔍 แกนสำคัญของกลยุทธ์กัมพูชา: ใช้เอกสารที่ไทยลงนามเองเป็นเครื่องมือย้อนกลับมาเจรจา กดดันให้ไทย “นิ่ง” หรือ “ยอมรับโดยพฤติกรรม” ผูกข้อมูลปัจจุบัน (GPS, LiDAR) กับอดีต (แผนที่ 1:200,000) เพื่อสร้างกรอบใหม่แต่ได้ผลเก่าที่ฝรั่งเศสวางไว้ 🛡️ หากไทยไม่ตอบโต้ทันเวลา เส้นเขตจากแผนที่ 1:200,000 จะ “สวมทับ” พิกัด GPS ของเรา ความได้เปรียบในหลักฐาน effectivités จะหมดประโยชน์ แนวเขตเสี่ยง เช่น “ตาเมือนธม, ช่องสะงำ, ภูมะเขือ, เขาพระวิหาร” จะตกอยู่ในกระบวนการที่เรา ลงนามเอง เหลือขั้นตอนเดียวไทยก็จะเสียดินแดนอย่างไม่มีวันได้อะไรคืนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ตอนนี้รายต่อไป ทหารเราต้องให้บทเรียนเขมรจริงจังได้แล้ว,จัดการคนสมยอมกับเขมรในไทยแล้ว,ต่อไปคือจัดการตัวการผู้รับการสมยอมด้วยคือฮุนเซนคือเขมรทั้งประเทศ,เราไม่สามารถจะบอกว่าคนบริสุทธิ์คนดีในเขมรมีหรือไม่แต่เราจะบอกว่าคนดีคนบริสุทธิ์ของเขมรประชาชนเขมรไม่จัดการฮุนเซนใดๆเลยตลอดทหารเขมรที่ไม่ชอบฮุนเซนด้วยหรือประชาชนเองที่ไม่พอใจไม่ชอบฮุนเซนเองก็ไม่ออกมาประท้วงจัดการฮุนเซนที่คุกคามรุกรานอธิปไตยไทยแล้วมาแสดงตีเนียนให้คนไทยสงสารเมตตาคนเขมรประชาชนเขมรผู้บริสุทธิ์ทั้งประเทศว่าไม่เกี่ยวกับฮุนเซนนะ,นัยยะนี้คนเขมรตีเนียนเต็มๆคิดอยากได้ดินแดนไทยอธิปไตยไทยชัดเจน ไม่คัดค้านฮุนเซนอะไรใดๆหรือทหารฝ่ายที่ไม่พอใจฮุนเซนด้วย ไม่แสดงท่าทีต่อต้านใดๆเหมือนคนเขมรเหมือนประชาชนเขมร,เช่นนั้นทหารไทยจงใช้มาตราการกฎอัยการศึกเด็ดขาดเถอะ,ตัดยุทธปัจจัยที่เข้าข่ายเป็นการสนับสนุนคนเขมรและทหารเขมรทั้งหมดได้แล้ว,ตัดเสบียงตัดขนส่งอะไรใดๆเข้าเขมรทั้งหมดทันที,คือปิดด่านจริงถาวรลงโทษเขมรที่คุกคามอธิปไตยไทยชัดเจนจริงจังไปเลย,พรมแดนติดเขมรทั้งหมดปิดถาวรจริงทั้งหมด,ตัดน้ำตัดไฟฟ้าตัดน้ำมันจริงจัง ขนส่งใดๆห้ามผ่าน,ผลักดันคนเขมรกลับประเทศให้หมด กลับไปจัดการฮุนเซนของมรึงกันเอง,เรียกฑูตพนักงานกับทุกๆคน,ถีบฑูตเขมรกลับไป,ตัดซิมระงับซิมไทยในเขมรทั้งหมด,ตัดคลื่นมือถือคลื่นเน็ตจริงอย่าทำเล่นทำทีเล่นทีจริงอย่างที่ผ่านๆมา,มันน่าเสื่อมศรัทธามาก ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติทางทหารในด้านการปิดด่านเลย,กำหนดเวลาเปิดปิดอะไรไม่มียกเลิกหมด,นี้คือภาวะศัตรูเขมรคือภัยคุกคามรุกรานเรา,เสือกไปตามน้ำเหี้ยมันอีก,นายกฯสิ้นสถานะแล้วไม่มีเหี้ยตามน้ำเกรงใจกันอีกต่อไป,กฎอัยการศึกเต็มมือแล้ว,หากมันยิงมาก่อนต้องแหลกสถานเดียวอาจถึงที่อยู่ฮุนเซนพร้อมล็อกขีปนาวุธทันที,เมื่อคนเขมรสมยอมฮุนเซนเห็นดีเห็นงามในการรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยก็สิ้นเมตตากรุณากัน,ไม่เลี้ยงดูให้งานทำใดๆในประเทศไทยอีกต่อไป,ถีบคนประชาชนเขมรกลับไปจัดการฮุนเซนมรึงเท่านั้น,มรึงไปโทษฮุนเซนมรึงอย่างเดียว,คนเขมรทุกๆคนต้องรับผลการตัดสินใจร่วมกับรัฐบาลตนเองทันที,ต้องมีราคาของการคุกคามรุกรานอธิปไตยไทยเราก่อน,เขมรกวนตีนแต่แรกชัดเจน,ก่อกวนตอนแรกชัดเจน ,ต้องรับผลที่ตามมาในการลุแก่ใจตนบวกสันดานเลวเนรคุณทรยศสัมพันธ์ต่อเพื่อนบ้านติดกัน เรามิใช่เวียดนาม ฮุนเซนต้องถูกทหารไทยจับกุมตัวหรือทั้งหมดทันทีหากเกิดเหตุขึ้น,เราจะกำจัดสิ้นซากแน่นอน,เพราะฮุนเซนคือภัยคุกคามอาชญากรที่โลกต้องกำจัดแล้วในเวลานี้.,คนเขมรหากยังอยู่นิ่ง ประเทศไทยจะสิ้นสุดทุกๆมาตราต่อคนเขมรทั้งหมดทันที,เบื้องต้นคือปิดด่านถาวรไร้กำหนดการเปิดด่าน.
    ..เมื่อคนสมยอมในไทยเราโดนลงโทษแล้ว เรามิอาจให้ผู้รับสมยอมหลุดลอดไปได้,คนเขมรในประเทศไทยเตรียมกลับบ้านทั้งหมดไปจัดการฮุนเซนเองได้เลย ความเมตตากรุณาต่อคนเขมรที่อ้างว่าตนบริสุทธิ์สิ้นสุดกันทันที,ส่วนฝ่ายต่อต้านฮุนเซนปกติที่อยู่ในไปเตรียมออกจากประเทศเช่นกัน,จะไปประเทศอื่นใดก็ตามสบาย,
    ..ภัยคุกคามมารุกรานอธิปไตยไทยเราต้องมีราคาให้ไปอย่างสาสม.
    ..
    ..https://youtu.be/hLpJuLEDYNI?si=0zFZi6-ZLTOi1qmM
    ..ตอนนี้รายต่อไป ทหารเราต้องให้บทเรียนเขมรจริงจังได้แล้ว,จัดการคนสมยอมกับเขมรในไทยแล้ว,ต่อไปคือจัดการตัวการผู้รับการสมยอมด้วยคือฮุนเซนคือเขมรทั้งประเทศ,เราไม่สามารถจะบอกว่าคนบริสุทธิ์คนดีในเขมรมีหรือไม่แต่เราจะบอกว่าคนดีคนบริสุทธิ์ของเขมรประชาชนเขมรไม่จัดการฮุนเซนใดๆเลยตลอดทหารเขมรที่ไม่ชอบฮุนเซนด้วยหรือประชาชนเองที่ไม่พอใจไม่ชอบฮุนเซนเองก็ไม่ออกมาประท้วงจัดการฮุนเซนที่คุกคามรุกรานอธิปไตยไทยแล้วมาแสดงตีเนียนให้คนไทยสงสารเมตตาคนเขมรประชาชนเขมรผู้บริสุทธิ์ทั้งประเทศว่าไม่เกี่ยวกับฮุนเซนนะ,นัยยะนี้คนเขมรตีเนียนเต็มๆคิดอยากได้ดินแดนไทยอธิปไตยไทยชัดเจน ไม่คัดค้านฮุนเซนอะไรใดๆหรือทหารฝ่ายที่ไม่พอใจฮุนเซนด้วย ไม่แสดงท่าทีต่อต้านใดๆเหมือนคนเขมรเหมือนประชาชนเขมร,เช่นนั้นทหารไทยจงใช้มาตราการกฎอัยการศึกเด็ดขาดเถอะ,ตัดยุทธปัจจัยที่เข้าข่ายเป็นการสนับสนุนคนเขมรและทหารเขมรทั้งหมดได้แล้ว,ตัดเสบียงตัดขนส่งอะไรใดๆเข้าเขมรทั้งหมดทันที,คือปิดด่านจริงถาวรลงโทษเขมรที่คุกคามอธิปไตยไทยชัดเจนจริงจังไปเลย,พรมแดนติดเขมรทั้งหมดปิดถาวรจริงทั้งหมด,ตัดน้ำตัดไฟฟ้าตัดน้ำมันจริงจัง ขนส่งใดๆห้ามผ่าน,ผลักดันคนเขมรกลับประเทศให้หมด กลับไปจัดการฮุนเซนของมรึงกันเอง,เรียกฑูตพนักงานกับทุกๆคน,ถีบฑูตเขมรกลับไป,ตัดซิมระงับซิมไทยในเขมรทั้งหมด,ตัดคลื่นมือถือคลื่นเน็ตจริงอย่าทำเล่นทำทีเล่นทีจริงอย่างที่ผ่านๆมา,มันน่าเสื่อมศรัทธามาก ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติทางทหารในด้านการปิดด่านเลย,กำหนดเวลาเปิดปิดอะไรไม่มียกเลิกหมด,นี้คือภาวะศัตรูเขมรคือภัยคุกคามรุกรานเรา,เสือกไปตามน้ำเหี้ยมันอีก,นายกฯสิ้นสถานะแล้วไม่มีเหี้ยตามน้ำเกรงใจกันอีกต่อไป,กฎอัยการศึกเต็มมือแล้ว,หากมันยิงมาก่อนต้องแหลกสถานเดียวอาจถึงที่อยู่ฮุนเซนพร้อมล็อกขีปนาวุธทันที,เมื่อคนเขมรสมยอมฮุนเซนเห็นดีเห็นงามในการรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยก็สิ้นเมตตากรุณากัน,ไม่เลี้ยงดูให้งานทำใดๆในประเทศไทยอีกต่อไป,ถีบคนประชาชนเขมรกลับไปจัดการฮุนเซนมรึงเท่านั้น,มรึงไปโทษฮุนเซนมรึงอย่างเดียว,คนเขมรทุกๆคนต้องรับผลการตัดสินใจร่วมกับรัฐบาลตนเองทันที,ต้องมีราคาของการคุกคามรุกรานอธิปไตยไทยเราก่อน,เขมรกวนตีนแต่แรกชัดเจน,ก่อกวนตอนแรกชัดเจน ,ต้องรับผลที่ตามมาในการลุแก่ใจตนบวกสันดานเลวเนรคุณทรยศสัมพันธ์ต่อเพื่อนบ้านติดกัน เรามิใช่เวียดนาม ฮุนเซนต้องถูกทหารไทยจับกุมตัวหรือทั้งหมดทันทีหากเกิดเหตุขึ้น,เราจะกำจัดสิ้นซากแน่นอน,เพราะฮุนเซนคือภัยคุกคามอาชญากรที่โลกต้องกำจัดแล้วในเวลานี้.,คนเขมรหากยังอยู่นิ่ง ประเทศไทยจะสิ้นสุดทุกๆมาตราต่อคนเขมรทั้งหมดทันที,เบื้องต้นคือปิดด่านถาวรไร้กำหนดการเปิดด่าน. ..เมื่อคนสมยอมในไทยเราโดนลงโทษแล้ว เรามิอาจให้ผู้รับสมยอมหลุดลอดไปได้,คนเขมรในประเทศไทยเตรียมกลับบ้านทั้งหมดไปจัดการฮุนเซนเองได้เลย ความเมตตากรุณาต่อคนเขมรที่อ้างว่าตนบริสุทธิ์สิ้นสุดกันทันที,ส่วนฝ่ายต่อต้านฮุนเซนปกติที่อยู่ในไปเตรียมออกจากประเทศเช่นกัน,จะไปประเทศอื่นใดก็ตามสบาย, ..ภัยคุกคามมารุกรานอธิปไตยไทยเราต้องมีราคาให้ไปอย่างสาสม. .. ..https://youtu.be/hLpJuLEDYNI?si=0zFZi6-ZLTOi1qmM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง

    ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้

    หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ

    และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้

    ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง

    กิตตินันท์ นาคทอง
    ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit

    #Newskit
    ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้ หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง กิตตินันท์ นาคทอง ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการแก้ปัญหาชายแดนกับไทยว่า ประเทศไทยควรทำงานกับกัมพูชาเหมือนยุคสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในยุคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา-ไทยเปรียบเสมือนการเดินบนพรมแดง ไม่มีการขัดแย้งหรือโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

    ทั้งนี้ นายฮุนเซนเคยกล่าวในทำนองเดียวกันนี้ที่ศูนย์อพยพวัดโพธิ์ 5,000 ต้น อำเภอกุเลน จังหวัดพระวิหาร เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิ.ย. ว่า เขาประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์กับไทย ไม่ว่าจะภายใต้การนำของพลเรือนหรือทหาร อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมั่นคงที่สุดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

    “ผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยาวนานเกือบสิบปี ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นเลย” นายฮุนเซนกล่าวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.

    นายฮุนเซนกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกฯ ช่วงปี 2557 จนถึงปี 2566 แม้จะมาจากทหาร แต่ก็สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงกัมพูชาได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060623

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #ทักษิณ #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #กัมพูชา #ไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา
    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการแก้ปัญหาชายแดนกับไทยว่า ประเทศไทยควรทำงานกับกัมพูชาเหมือนยุคสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในยุคนั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา-ไทยเปรียบเสมือนการเดินบนพรมแดง ไม่มีการขัดแย้งหรือโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น • ทั้งนี้ นายฮุนเซนเคยกล่าวในทำนองเดียวกันนี้ที่ศูนย์อพยพวัดโพธิ์ 5,000 ต้น อำเภอกุเลน จังหวัดพระวิหาร เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิ.ย. ว่า เขาประสบช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์กับไทย ไม่ว่าจะภายใต้การนำของพลเรือนหรือทหาร อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมั่นคงที่สุดระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี • “ผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยาวนานเกือบสิบปี ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นเลย” นายฮุนเซนกล่าวเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. • นายฮุนเซนกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกฯ ช่วงปี 2557 จนถึงปี 2566 แม้จะมาจากทหาร แต่ก็สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงกัมพูชาได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060623 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #ทักษิณ #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี #กัมพูชา #ไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” ตัดพ้อกัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผ่านมาทางประเทศไทย เพราะไทยมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ นำแก๊งฉ้อโกงเข้ามา แล้วโยนผิดให้กัมพูชา โปรดหยุดใส่ร้ายกันได้แล้ว

    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ว่า กัมพูชาเป็นเหยื่อของไทยเท่านั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศ และนำคนโกงเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงขอร้องให้ไทยโปรดหยุดใส่ร้ายพวกเขา เพราะไทยเป็นคนสร้างปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา

    นายฮุนเซนกล่าวถึงการฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชาว่าเกิดจากประเทศไทย และกัมพูชาได้รับชื่อเสียงในทางลบเพราะประเทศไทย กัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกิดจากประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดและมีเที่ยวบินตรงจากทั่วโลก เอื้อต่อขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ จึงขอเรียกร้องให้จีน สหรัฐอเมริกา และประชาคมโลกพิจารณาปัญหานี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060602

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #เหยื่อ #ฉ้อโกงออนไลน์
    “ฮุนเซน” ตัดพ้อกัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผ่านมาทางประเทศไทย เพราะไทยมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ นำแก๊งฉ้อโกงเข้ามา แล้วโยนผิดให้กัมพูชา โปรดหยุดใส่ร้ายกันได้แล้ว • วันนี้ (27 มิ.ย.) นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการหลอกลวงออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ว่า กัมพูชาเป็นเหยื่อของไทยเท่านั้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศ และนำคนโกงเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงขอร้องให้ไทยโปรดหยุดใส่ร้ายพวกเขา เพราะไทยเป็นคนสร้างปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา • นายฮุนเซนกล่าวถึงการฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชาว่าเกิดจากประเทศไทย และกัมพูชาได้รับชื่อเสียงในทางลบเพราะประเทศไทย กัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกิดจากประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดและมีเที่ยวบินตรงจากทั่วโลก เอื้อต่อขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ จึงขอเรียกร้องให้จีน สหรัฐอเมริกา และประชาคมโลกพิจารณาปัญหานี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000060602 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #เหยื่อ #ฉ้อโกงออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่มละเมิดรุกล้ำมาหลายเดือน คนทรยศก็ปล่อยให้มันทำจนได้ใจ แทนที่จะฟ้องชาวโลกบ้าง ฟ้องเพื่อนบ้านอาเซียนบ้าน เสรือกไม่ทำ วางตัวให้เข้าทาง ให้เหมยชิงฟ้องได้เปรียบ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นายกขายชาติ
    #ที่อย่างนี้นะไม่ฟ้อง
    แม่มละเมิดรุกล้ำมาหลายเดือน คนทรยศก็ปล่อยให้มันทำจนได้ใจ แทนที่จะฟ้องชาวโลกบ้าง ฟ้องเพื่อนบ้านอาเซียนบ้าน เสรือกไม่ทำ วางตัวให้เข้าทาง ให้เหมยชิงฟ้องได้เปรียบ #คิงส์โพธิ์แดง #นายกขายชาติ #ที่อย่างนี้นะไม่ฟ้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE]

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ

    -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร

    -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม

    -ไม่ผลีผลามสละเรือ

    -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    คลิปเสียงเรื่องร้ายแรง ปั่น 2 ชาติแตกแยก : [NEWS UPDATE] นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยกรณีคลิปเสียงหลุดทำลายความเชื่อใจระหว่างกันอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ และความพยายามใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ปัญหาตามแนวปฏิบัติสากล เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งนี้ กัมพูชาใช้การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อปลุกระดมความนิยมจากประชาชน สร้างความแตกแยกให้สังคมของทั้งสองประเทศหรือประเทศอื่น แสดงถึงการไม่เคารพหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การกระทำเช่นนี้ไม่ควรได้รับการยอมรับ และความไว้วางใจจากประชาคมระหว่างประเทศ -สยบลือปฏิวัติรัฐประหาร -ไม่เคยขอโควตาเพิ่ม -ไม่ผลีผลามสละเรือ -กัมพูชาเสียมากกว่าได้
    Like
    Haha
    4
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 565 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • กต.เรียกทูตกัมพูชารับหนังสือประท้วง “ฮุนเซน” ปล่อยคลิปเสียงคุย “อุ๊งอิ๊งค์” ชี้ขัดจรรยามารยาทพื้นฐาน ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเพื่อนบ้าน ไม่เคารพแนวปฏิบัติสากล ย้ำเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่กัมพูชากลับปลุกระดมหาความนิยม สร้างความแตกแยก

    วันนี้(19 มิ.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาว่า ตามที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาต่อสาธารณชนเมื่อบ่ายวานนี้ โดยฝ่ายกัมพูชา

    ฝ่ายไทยเห็นว่าการกระทําดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นการทําลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย ตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057732

    #MGROnline #ทูตกัมพูชา #ฮุนเซน #คลิปเสียง #อุ๊งอิ๊งค์
    กต.เรียกทูตกัมพูชารับหนังสือประท้วง “ฮุนเซน” ปล่อยคลิปเสียงคุย “อุ๊งอิ๊งค์” ชี้ขัดจรรยามารยาทพื้นฐาน ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเพื่อนบ้าน ไม่เคารพแนวปฏิบัติสากล ย้ำเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่กัมพูชากลับปลุกระดมหาความนิยม สร้างความแตกแยก • วันนี้(19 มิ.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาว่า ตามที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาต่อสาธารณชนเมื่อบ่ายวานนี้ โดยฝ่ายกัมพูชา • ฝ่ายไทยเห็นว่าการกระทําดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นการทําลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย ตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000057732 • #MGROnline #ทูตกัมพูชา #ฮุนเซน #คลิปเสียง #อุ๊งอิ๊งค์
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    เอกสารรัฐบาลไทยประท้วงผู้นำกัมพูชา กรณีฮุนเซนเผยแพร่คลิปลับเสียงนายกฯแพทองธาร ชินวัตรว่า “กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาว่า “รัฐบาลไทยผิดหวังอย่างยิ่ง ที่การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองถือเป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความประพฤติปฏิบัติระหว่างประเทศต่าง ๆ.การกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับแนวปฏิบัติที่ยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยความสุจริตใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น

    คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล

    ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด

    "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง"

    ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง

    นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน

    #Newskit
    นิกรเดช พลางกูร นักการทูตที่ลิ่วล้อฮุน เซนดิ้น คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่เกินไปจากความเป็นจริง ชื่อของ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เมื่อนายเจีย ธิริธ โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จากบทบาทโฆษกที่เป็นตัวแทนรัฐบาล พูดจาแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อบนช่องเอ็นบีที กลายเป็นบุคคลที่ชาวเน็ตในโหมด "ไทยนี้รักสงบแต่พร้อมตบลุงข้างบ้าน" เชียร์ให้โต้กลับแบบนักการทูต แบบดูดีมีชาติตระกูล ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันนั้น นายนิกรเดชกล่าวว่า มาตรการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รวมถึงคำขู่ยื่นคำขาดว่าจะปิดด่านและจะห้ามนำเข้าสิ่งของจากไทย ขอเรียนโดยหลักการและความเชื่อว่า ไทยปฏิบัติตามหลักสากลว่า การเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี จะไม่ใช้การยื่นคำขาดต่อกัน (Ultimatum) โดยไม่ได้หารือเพื่อหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งจะมีผลเสียต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด "แนวทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถือว่าไม่ใช่ช่องทางที่เป็นทางการ การยื่นคำขาดอัลติเมตัมต่อกัน และข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดระดับประชาชนนั้น สะท้อนถึงว่ากัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี รัฐบาลใช้วิจารณญาณ ความมีสติในการออกมาตรการตอบโต้อย่างรอบคอบ และมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้อารมณ์ และจะไม่เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเป็นประเด็นทางการเมือง" ขณะที่โฆษกส่วนตัวของฮุน เซน ไปด่านายนิกรเดชว่าไร้ยางอาย ที่ว่าเพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ประเทศไทยกลับปิดพรมแดนฝ่ายเดียว เป็นพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่ดีหรือไม่ ไทยปิดพรมแดนของตัวเองและต้องการให้กัมพูชาเจรจา กลัวที่จะถูกทำให้ขายหน้าและต้องการเล่นการทูตที่สกปรกกับพวกเขา งานนี้ชาวเน็ตไทยถึงกับทัวร์ลง นิกรเดช พลางกูร มีชื่อเล่นว่า แจ็กกี้ เป็นบุตรชายของ นพ.พิลิปดา พลางกูร เจ้าของบ้านโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ย่านบางรัก จบรัฐศาสตรบัณฑิต (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Arts (International Affairs), The American University สหรัฐอเมริกา เคยมีผลงานเมื่อครั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูต ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย เมื่อครั้งเกิดสงครามกลางเมือง ปี 2554 ปัจจุบันสมรสกับคุณหน่า ภูมิจิต พลางกูร ผู้บริหารสื่อในเครือโพสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีเดีย มีลูกสาว 1 คน ชื่อว่าน้องซีรีน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับความจริงไม่ได้!!! โฆษก “ฮุน เซน” เตือน “นิกรเดช” ให้ระวังคำพูดจากวาทกรรม “เพื่อนบ้านที่ดี”
    https://www.thai-tai.tv/news/19471/
    รับความจริงไม่ได้!!! โฆษก “ฮุน เซน” เตือน “นิกรเดช” ให้ระวังคำพูดจากวาทกรรม “เพื่อนบ้านที่ดี” https://www.thai-tai.tv/news/19471/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนบ้านที่ดีต้องไม่ขู่ กัมพูชาเมินคุย 4 พื้นที่ : [NEWS UPDATE]

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กัมพูชาเลือกไม่หารือพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ในการประชุมเจบีซี ซึ่งไทยผิดหวังอย่างยิ่ง เพราะประเด็นเขตแดนทั้งหมดอยู่ในขอบเขตการทำงานของเจบีซี พร้อมรับมือกัมพูชาร้องศาลโลก การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีจะไม่ยื่นคำขาดโดยไม่หารือ มอง การนำเรื่องไปสู่ฝ่ายที่สาม มิใช่หนทางดีที่สุดที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐไว้ได้

    -ชี้แจงทูตต่างประเทศ

    -เปิดแผนอพยพแรงงาน

    -ตรึงน้ำมันสู้สงคราม

    -อาหารอีสานกู้เศรษฐกิจ
    เพื่อนบ้านที่ดีต้องไม่ขู่ กัมพูชาเมินคุย 4 พื้นที่ : [NEWS UPDATE] นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กัมพูชาเลือกไม่หารือพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ ช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ในการประชุมเจบีซี ซึ่งไทยผิดหวังอย่างยิ่ง เพราะประเด็นเขตแดนทั้งหมดอยู่ในขอบเขตการทำงานของเจบีซี พร้อมรับมือกัมพูชาร้องศาลโลก การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีจะไม่ยื่นคำขาดโดยไม่หารือ มอง การนำเรื่องไปสู่ฝ่ายที่สาม มิใช่หนทางดีที่สุดที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐไว้ได้ -ชี้แจงทูตต่างประเทศ -เปิดแผนอพยพแรงงาน -ตรึงน้ำมันสู้สงคราม -อาหารอีสานกู้เศรษฐกิจ
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • โฆษก กต.แถลงโต้ “ฮุนเซน” ยื่นคำขาดขู่ปิดด่านโดยไม่ร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่วิธีการของเพื่อนบ้านที่ดี ผลเสียจะเกิดกับประชาชนทั้งสองประเทศ ชี้การใช้ช่องทางไม่เป็นทางการทำให้เกิดความเข้าใจผิด สะท้อนกัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน ยืนยันกลไก JBC ยังใช้ได้ผล เตรียมประชุมรอบพิเศษที่ กทม.เดือน ก.ย.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056516

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    โฆษก กต.แถลงโต้ “ฮุนเซน” ยื่นคำขาดขู่ปิดด่านโดยไม่ร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่วิธีการของเพื่อนบ้านที่ดี ผลเสียจะเกิดกับประชาชนทั้งสองประเทศ ชี้การใช้ช่องทางไม่เป็นทางการทำให้เกิดความเข้าใจผิด สะท้อนกัมพูชาขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน ยืนยันกลไก JBC ยังใช้ได้ผล เตรียมประชุมรอบพิเศษที่ กทม.เดือน ก.ย.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056516 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 1 รีวิว
  • ผู้นำศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ ไม่กลัวศาลโลก แถมยังใช้เล่นงานเพื่อนบ้านเพื่อฮุบดินแดน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เขมรโจรไซเบอร์
    ผู้นำศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ ไม่กลัวศาลโลก แถมยังใช้เล่นงานเพื่อนบ้านเพื่อฮุบดินแดน #คิงส์โพธิ์แดง #เขมรโจรไซเบอร์
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฐมบท ไทยเสียดินแดน?

    7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป

    ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว

    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด

    พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์

    ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร

    #Newskit
    ปฐมบท ไทยเสียดินแดน? 7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯโพสต์ยังฝันหวานตั้งมั่นใช้เวทีJBC เจรจากัมพูชาพรุ่งนี้ คลี่คลายแบบสันติวิธี ย้ำเพื่อนบ้านคุยอย่างเป็นมิตร ชี้แสดงท่าทีผ่านโซเชียลอาจเพิ่มขัดแย้งแต่ไม่หวั่นไหว ยันมาตรการรักษาอธิปไตยประโยชน์ชาติรัดกุม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000055687

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นายกฯโพสต์ยังฝันหวานตั้งมั่นใช้เวทีJBC เจรจากัมพูชาพรุ่งนี้ คลี่คลายแบบสันติวิธี ย้ำเพื่อนบ้านคุยอย่างเป็นมิตร ชี้แสดงท่าทีผ่านโซเชียลอาจเพิ่มขัดแย้งแต่ไม่หวั่นไหว ยันมาตรการรักษาอธิปไตยประโยชน์ชาติรัดกุม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000055687 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 585 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่สุดของความเฮี้ย ผู้นำที่สร้างเรื่องยกยอตัวเอง แต่โยนความผิดให้คนอื่น ครองอำนาจยาวนาน แต่ชาวเหมนยิ่งตกต่ำลำบาก แล้วก็โยนความผิดให้เพื่อนบ้าน วันๆ คิดแต่จะฮุบอธิปไตยชาติอื่น ปกป้องแก๊งคอล-สแกมเมอร์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ฮุนเซน
    ที่สุดของความเฮี้ย ผู้นำที่สร้างเรื่องยกยอตัวเอง แต่โยนความผิดให้คนอื่น ครองอำนาจยาวนาน แต่ชาวเหมนยิ่งตกต่ำลำบาก แล้วก็โยนความผิดให้เพื่อนบ้าน วันๆ คิดแต่จะฮุบอธิปไตยชาติอื่น ปกป้องแก๊งคอล-สแกมเมอร์ #คิงส์โพธิ์แดง #ฮุนเซน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน

    ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้

    นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย

    สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง

    ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา

    #Newskit
    ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้ นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดไฟ-เน็ตเข้าบ่อน เส้นเลือดใหญ่เขมร : [NEWS UPDATE]
    กองทัพไทยออกเอกสารข่าวในนามศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน(ศอ.ปชด.) ระบุยังมีกลุ่มบุคคลกระทําผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การค้ามนุษย์ตามชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีมาตรการป้องกันปราบปราม ดังนี้ 1.ให้กัมพูชาเร่งปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทุกพื้นที่ทันที 2.จะยกระดับมาตรการ เช่น ตัดไฟฟ้า ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าพื้นที่บ่อนการพนันและสแกมเมอร์ ควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนําไปใช้ก่ออาชญากรรม โดยเอกสารข่าวมีขึ้นหลังการพูดคุยของไทยและกัมพูชาที่ได้ข้อยุติว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยจากจุดที่ปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 และให้กัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับพื้นที่คืนสภาพเดิม


    ตีหัวใจรายได้มหาศาล

    ภาพชัดช่องบกอยู่ในไทย

    ขอบคุณกองทัพอดทน

    หยุดเดินรถไทย-กัมพูชา
    ตัดไฟ-เน็ตเข้าบ่อน เส้นเลือดใหญ่เขมร : [NEWS UPDATE] กองทัพไทยออกเอกสารข่าวในนามศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน(ศอ.ปชด.) ระบุยังมีกลุ่มบุคคลกระทําผิดด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การค้ามนุษย์ตามชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีมาตรการป้องกันปราบปราม ดังนี้ 1.ให้กัมพูชาเร่งปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทุกพื้นที่ทันที 2.จะยกระดับมาตรการ เช่น ตัดไฟฟ้า ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าพื้นที่บ่อนการพนันและสแกมเมอร์ ควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนําไปใช้ก่ออาชญากรรม โดยเอกสารข่าวมีขึ้นหลังการพูดคุยของไทยและกัมพูชาที่ได้ข้อยุติว่า ทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยจากจุดที่ปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 และให้กัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับพื้นที่คืนสภาพเดิม ตีหัวใจรายได้มหาศาล ภาพชัดช่องบกอยู่ในไทย ขอบคุณกองทัพอดทน หยุดเดินรถไทย-กัมพูชา
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 39 0 รีวิว
Pages Boosts