• "ดีเอสไอ" แจ้งความดำเนินคดีกับ “เอก สายไหมต้องรอด กับพวก” ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา อ้างมี "เทวดา" ให้ความช่วยเหลือคดี "ดิไอคอน"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004196

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ดีเอสไอ" แจ้งความดำเนินคดีกับ “เอก สายไหมต้องรอด กับพวก” ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา อ้างมี "เทวดา" ให้ความช่วยเหลือคดี "ดิไอคอน" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004196 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 0 รีวิว
  • นับถอยหลัง เทวดาชั้น14 ขีดเส้นตาย 15 ม.ค.นี้ ป่วยทิพย์หรือไม่ได้รู้กัน

    #ทักษิณ #ชั้น14 #โรงพยาบาลตำรวจ #ทักษิณหนีคุก #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    นับถอยหลัง เทวดาชั้น14 ขีดเส้นตาย 15 ม.ค.นี้ ป่วยทิพย์หรือไม่ได้รู้กัน #ทักษิณ #ชั้น14 #โรงพยาบาลตำรวจ #ทักษิณหนีคุก #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1112 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • อย่าไปบ่นว่าไม่มีบุญ เทพ/เทวดาท่านไม่ให้พูด ึนเรามาเกิดได้เพราะบุญ มีน้อยก็ขยันทำเอาไว้ บุญวาสนาอยู่ี่เราทำ
    อย่าไปบ่นว่าไม่มีบุญ เทพ/เทวดาท่านไม่ให้พูด ึนเรามาเกิดได้เพราะบุญ มีน้อยก็ขยันทำเอาไว้ บุญวาสนาอยู่ี่เราทำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ
    นิติธรรม

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย

    ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล

    นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ

    นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน

    “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว

    ที่มา : แนวหน้า
    https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว ที่มา : แนวหน้า https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • แค่เรื่องตลก ปมทักษิณพูดปรับ ครม.(06/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นายกตัวจริง #เทวดาจะปรับ ครม.#ครม.พ่อนายกสั่งได้
    แค่เรื่องตลก ปมทักษิณพูดปรับ ครม.(06/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นายกตัวจริง #เทวดาจะปรับ ครม.#ครม.พ่อนายกสั่งได้
    Angry
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1048 มุมมอง 63 0 รีวิว
  • ร้อยศาสตร์พันศิลป์ พระอันดากู ถูกสลักขึ้นโดยไม่มีซ้ำกันเลย แต่ละองค์สลักขึ้นจากจินตนาการ ผสานพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระพุทธองค์ ช่างผู้สลักต้องใช้สมาธิขั้นสูง โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาแล้วเสร็จ จึงเป็นงานอกาลิโก ที่ถ่ายทอดจากจิตวิญญาณ ความวิริยะอุตสาหะ ความพากเพียร จินตนาการที่ยิ่งใหญ่เกินขอบจักรวาล จึงก่อเกิดเป็นงานพุทธศิลป์อจินไตย ที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่า ผู้ที่ได้ครอบงานพุทธศิลป์ที่สะอาด บริสุทธิ์นี้นับว่าท่านมีบุญบารมี และมีบุญสัมพันธ์กันกับพระอันดากู โดยพระอันดากู ทุกองค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตบริสุทธิ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงมีพลังงานและญาณเทวดารักษาทุกองค์
    ……..เนย์ อันดากู……..
    ร้อยศาสตร์พันศิลป์ พระอันดากู ถูกสลักขึ้นโดยไม่มีซ้ำกันเลย แต่ละองค์สลักขึ้นจากจินตนาการ ผสานพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระพุทธองค์ ช่างผู้สลักต้องใช้สมาธิขั้นสูง โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาแล้วเสร็จ จึงเป็นงานอกาลิโก ที่ถ่ายทอดจากจิตวิญญาณ ความวิริยะอุตสาหะ ความพากเพียร จินตนาการที่ยิ่งใหญ่เกินขอบจักรวาล จึงก่อเกิดเป็นงานพุทธศิลป์อจินไตย ที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่า ผู้ที่ได้ครอบงานพุทธศิลป์ที่สะอาด บริสุทธิ์นี้นับว่าท่านมีบุญบารมี และมีบุญสัมพันธ์กันกับพระอันดากู โดยพระอันดากู ทุกองค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตบริสุทธิ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงมีพลังงานและญาณเทวดารักษาทุกองค์ ……..เนย์ อันดากู……..
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • Credit: @พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์
    คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายอย่าหมายบรรพชา
    มาบวชอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา
    คนมั่วธรรม มนุษย์บางพวก (กเฬวราก จำนวนมาก)
    ยังนิยมชื่นชมเอาไว้ ก็หมายถึงว่า “รอด” อยู่ในช่วงหนึ่ง
    แต่เทวดาสัมมาทิฐิไม่นิยมเอาไว้ก็หมายถึงว่า “จอด” ทันที
    ทองเทียม แม้ไม่ถูกไฟลน นานไปมันก็กลายเป็นตะกั่ว
    เพราะความชั่วมันชอบโชว์เปิดเผยตัวของมันเสียเอง

    ก่อนข้าพเจ้าจะเขียนอธิบายขยายความที่จั่วหัวข้อแรกไว้ ปรารถนาให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้อ่านความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนาเปรียบเป็นมหาสมุทรข้อที่ ๓ สักหน่อย ดังนี้ : -

    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพที่ตายแล้ว ซากศพที่ตายแล้วใดมีอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรย่อมนำซากศพที่ตาย แล้วนั้นไปสู่ฝั่ง ซัดขึ้นบกโดยพลัน
    บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายในโชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมองก็เหมือนกัน สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน
    ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ ข้อที่บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณ ว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน โชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ
    แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัยนี้ เป็นข้อที่ ๓ ที่ภิกษุทั้งหลายพบเห็นแล้วพากันชื่นชมในธรรมวินัยนี้ ฯ”
    วิ.จุ. ๒/๑๘๔/๔๕๙-๔๖๑

    คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายในข้อกฎหมายคดีความทางโลกก็มีนัย (อ่านว่า “นัย (ะ) ไม่ควรเขียนเป็น “นัยยะ” คำนี้จะแปลว่า “ผู้ที่แนะนำพร่ำสอนได้คือ เนยยบุคคล”) อันเดียวกันกับกฎหมายพระวินัยบัญญัติคดีความทางธรรม ถูกต้องทุกประการด้วย

    ข้าพเจ้าขอพิมพ์ข้อความที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ประกาศอย่างเป็นทางการให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในข้อเท็จจริงนี้

    ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
    เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
    คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑
    กรมบังคับคดี
    กระทรวงยุติธรรม

    ด้วย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของนาย....จำเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๕๘๓ แล้ว

    จำเลย เลขประจำตัวประชาชน........มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่.....

    ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา ๑๗๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓

    อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้....และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔

    ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
    เบญจา สุภานนท์
    เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

    ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
    เรื่อง คำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย

    คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑
    ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี
    กระทรวงยุติธรรม

    ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาให้นาย....ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕
    ผู้ล้มละลาย เลขประจำตัวประชาชน....มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่....

    ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕
    อุโรวษา เพชรวารี
    เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

    จากข้อความที่ทางการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาว่า

    “บุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ....ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท...”

    คำเตือนที่ข้าพเจ้าเขียนบอกไว้ในบทความหนึ่งว่า
    “ระวังไว้ด้วยนะครับ จะพลอยฟ้าพลอยฝนโดนหางเลขกับเขาไปด้วย”
    และในเวลาต่อมาไม่นาน ข้าพเจ้าก็เขียนโพสต์ไว้ในหน้าวอลล์ว่า
    “ไม่มาเข้าคอร์สก็น่าจะได้ไปเข้าคุก”
    ส่อเค้าว่าจะเป็นจริง เห็นแสงรำไรๆ อยู่ในคุกที่จองจำนั้นเสียแล้ว

    เมื่อเย็นวานนี้ทนายความท่านหนึ่งได้โทรมาคุยสนทนากับข้าพเจ้าในเรื่องนี้ พร้อมกับส่งหลักฐานในราชกิจจานุเบกษามาให้ และเมื่อเช้าของวันนี้ในเวลา 10:00 น. ทนายความอีกท่านหนึ่งก็โทรมาคุยกับข้าพเจ้า และยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้ตรงกับทนายความท่านแรก ทนายความสองท่านนี้ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลมาเป็นอย่างดีแล้ว
    ข้าพเจ้าแสดงหลักฐานคดีความทางโลกให้เห็นปรากฏชัดเรียบร้อยแล้ว ก็จะเขียนเข้าสู่คดีความทางธรรม กฎหมายทางธรรม พระวินัยบัญญัติ ว่า มีข้อกำหนดอย่างไรกับผู้ติดคดีทางโลกมีหนี้สินท่วมหัว จนกระทั่งทางการต้องประกาศให้เป็นผู้ล้มละลาย ต่อจากนี้เขาก็ไม่สามารถทำธุรกิจ ธุรกรรม (เปิดรับบริจาค) ได้อีกแล้ว คนที่ไปบริจาคทรัพย์ให้แก่นายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี คนที่ไปรับทรัพย์จากนายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี ก็จะตกอยู่ในข่ายความผิดต้องโทษลักษณะเดียวกันไปโดยปริยาย
    กล่าวคือมีคติเป็น ๒ ไม่ถูกปรับก็ถูกจำ หรือทั้งปรับทั้งจำ

    พระวินัยบัญญัติกำหนดให้กุลบุตรผู้เป็นอุปสัมปทาเปกขะ (ต้องการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ) หากต้องโทษข้อใดข้อหนึ่ง ใน ๑๓ ข้อเหล่านี้ มิให้มาอยู่ในเพศของพระภิกษุในร่มเงาของพระพุทธศาสนา
    ถ้าหากว่าแอบเข้ามาบรรพชาอุปสมบททรงเพศเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทราบในภายหลัง สงฆ์ก็ต้องสั่งให้สิกขาลาพรต ว่า “สิกฺขํ ปจฺจกฺขาหิ เธอจงบอกคืนสิกขาบทเสียเถิด”
    กรณีตัวอย่างคือ นาคจำแลงแปลงกายเป็นมาณพมาขอบวชเป็นพระภิกษุกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งอยู่ในป่า พอคืนร่างเป็นนาคตามเดิม ความทราบไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็รับสั่งให้ภิกษุผู้เป็นนาคจำแลงแปลงกายนั้นบอกคืนสิกขาบท คือให้ลาสิกขาทันที

    ในทุกกรณีของผู้ที่ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่ง เช่น ทราบในภายหลังว่าเป็นบัณเฑาะก์ คือ ไม่ใช่บุรุษเพศชาย (ผู้ชายเต็มตัว) ก็สั่งให้ลาสิกขาเช่นเดียวกัน ให้อยู่ในเพศของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย จะสร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์องค์สามเณร (ข้าพเจ้าเขียนอธิบายในโพสต์ก่อนแล้ว ร่างเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นผู้หญิงก็จะกวนพระกวนเณรไม่ให้อยู่เป็นสุข)

    ถ้าผู้นั้นเป็นบัณเฑาะก์และรู้ว่าตนก็เป็นบัณเฑาะก์แท้ๆ แต่ปกปิดความเป็นบัณเฑาะก์ทรงเพศของพระภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนานี้ไว้ ถือว่าอยู่ในฐานะผู้หลอกลวง ลักขโมยเคี้ยวกลืนกินบิณฑะก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ท่านเรียกเป็นภาษาพระวินัยว่า “ลักเพศ” คือ ลักขโมยเพศของพระภิกษุ ลักขโมยอุดมเพศที่ครองผ้ากาสาวพัสตร์ธงชัยของพระอรหันต์

    เขาจะสั่งสมบาปอกุศลเอาไว้อยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเห็นได้ชัดใช่ไหมว่า บัณเฑาะก์ผู้นั้นที่ลักขโมยเพศพระภิกษุแอบอาศัยอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนานี้มาเป็นเวลายาวนาน ก็แพ้ภัยตัวเอง กระเด็นออกไปจากพระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนกเฬวราก ซากศพเน่า ต้องถูกคลื่นของมหาสมุทรซัดออกมาเกยตื้นติดอยู่กับฝั่งทะเล ฉะนั้น

    อันตรายิกธรรมเหล่านี้ คือ
    “โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เจ้าเป็นมนุษย์หรือ เป็นชายหรือ เป็นไทหรือ ไม่มีหนี้สินหรือ มิใช่ราชภัฏหรือ มารดาบิดาอนุญาตแล้วหรือ มีปีครบ ๒๐ แล้วหรือ บาตรจีวรของเจ้ามีครบแล้วหรือ เจ้าชื่ออะไร อุปัชฌาย์ของเจ้าชื่ออะไร”
    วิ.ม. ๑/๑๕๔/๑๔๒

    ปรากฏอยู่ในอุปสัมปทาวิธีว่า

    พระคู่สวดถาม สามเณรตอบ
    กุฏฐัง นัตถิ ภันเต
    คัณโฑ นัตถิ ภันเต
    กิลาโส นัตถิ ภันเต
    โสโส นัตถิ ภันเต
    อะปะมาโร นัตถิ ภันเต
    มะนุสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ปุริโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ภุชิสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    อะนะโณสิ๊ อามะ ภันเต
    นะสิ๊ราชะภะโฏ อามะ ภันเต
    อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ อามะ ภันเต
    ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ อามะ ภันเต
    ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง อามะ ภันเต
    กินนาโมสิ อะหัง ภันเต...(๑)....นามะ
    โก นามะ เต อุปัชฌาโย อุปัชฌาโย เมภันเต อายัสมา.... (๒).นามะ

    (๑) บอกฉายาของตนเอง
    (๒) บอกฉายาของพระอุปัชฌาย์

    ในคำตอบของสามเณร (นาค) หากผิดไปจาก อามะ ภันเต จาก นัตถิ ภันเต แม้ข้อเดียว เช่น “ปุริโสสิ๊ เจ้าเป็นบุรุษเพศชายจริงหรือเปล่า” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” “อะนะโณสิ๊ เธอไม่มีหนี้สินใช่ไหม” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” พระคู่สวดอาจจะต้องถามย้ำอีกสัก ๒ - ๓ ครั้ง นาคก็ยังตอบอยู่ในคำเดิม คือ นัตถิ ภันเต อุปสัมปทาวิธีก็ต้องล้มไป ยุติพิธีอุปสมบท ทันที อาจถึงกับขับไล่ผู้ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่งนี้ออกจากสีมา (เขตแดน) ของพระอุโบสถหลังนั้นไปเลย
    “อย่าแหลมหน้ามาขอบวชอีกเชียวนะ”.
    Credit: @พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายอย่าหมายบรรพชา มาบวชอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา คนมั่วธรรม มนุษย์บางพวก (กเฬวราก จำนวนมาก) ยังนิยมชื่นชมเอาไว้ ก็หมายถึงว่า “รอด” อยู่ในช่วงหนึ่ง แต่เทวดาสัมมาทิฐิไม่นิยมเอาไว้ก็หมายถึงว่า “จอด” ทันที ทองเทียม แม้ไม่ถูกไฟลน นานไปมันก็กลายเป็นตะกั่ว เพราะความชั่วมันชอบโชว์เปิดเผยตัวของมันเสียเอง ก่อนข้าพเจ้าจะเขียนอธิบายขยายความที่จั่วหัวข้อแรกไว้ ปรารถนาให้ท่านสาธุชนทั้งหลายได้อ่านความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนาเปรียบเป็นมหาสมุทรข้อที่ ๓ สักหน่อย ดังนี้ : - “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาสมุทรไม่ร่วมกับซากศพที่ตายแล้ว ซากศพที่ตายแล้วใดมีอยู่ในมหาสมุทร มหาสมุทรย่อมนำซากศพที่ตาย แล้วนั้นไปสู่ฝั่ง ซัดขึ้นบกโดยพลัน บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายในโชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมองก็เหมือนกัน สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ ข้อที่บุคคลนั้นใดเป็นผู้ทุศีล มีธรรมหยาบช้าลามก (ชอบออกกูออกมึง กูๆ มึงๆ) มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ ปิดบังการกระทำ มิใช่สมณะ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่พรหมจารีปฏิญาณ ว่าเป็นพรหมจารี เน่าภายใน โชกชุ่มด้วยกิเลส ผู้เศร้าหมอง สงฆ์ย่อมไม่ร่วมกับบุคคลนั้น ย่อมประชุมกันยกเธอเสียโดยพลัน ถึงแม้เธอนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เธอชื่อว่าไกลจากสงฆ์ และสงฆ์ก็ไกลจากเธอ แม้นี้ก็เป็นความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัยนี้ เป็นข้อที่ ๓ ที่ภิกษุทั้งหลายพบเห็นแล้วพากันชื่นชมในธรรมวินัยนี้ ฯ” วิ.จุ. ๒/๑๘๔/๔๕๙-๔๖๑ คนมีมลทินราคีติดหนี้ล้มละลายในข้อกฎหมายคดีความทางโลกก็มีนัย (อ่านว่า “นัย (ะ) ไม่ควรเขียนเป็น “นัยยะ” คำนี้จะแปลว่า “ผู้ที่แนะนำพร่ำสอนได้คือ เนยยบุคคล”) อันเดียวกันกับกฎหมายพระวินัยบัญญัติคดีความทางธรรม ถูกต้องทุกประการด้วย ข้าพเจ้าขอพิมพ์ข้อความที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ประกาศอย่างเป็นทางการให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในข้อเท็จจริงนี้ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ด้วย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของนาย....จำเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๕๘๓ แล้ว จำเลย เลขประจำตัวประชาชน........มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่..... ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา ๑๗๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้....และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เบญจา สุภานนท์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่.... กองบังคับคดีล้มละลาย ๑ ศาลล้มละลายกลาง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิพากษาให้นาย....ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ผู้ล้มละลาย เลขประจำตัวประชาชน....มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่.... ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ อุโรวษา เพชรวารี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จากข้อความที่ทางการประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาว่า “บุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ....ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวังโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท...” คำเตือนที่ข้าพเจ้าเขียนบอกไว้ในบทความหนึ่งว่า “ระวังไว้ด้วยนะครับ จะพลอยฟ้าพลอยฝนโดนหางเลขกับเขาไปด้วย” และในเวลาต่อมาไม่นาน ข้าพเจ้าก็เขียนโพสต์ไว้ในหน้าวอลล์ว่า “ไม่มาเข้าคอร์สก็น่าจะได้ไปเข้าคุก” ส่อเค้าว่าจะเป็นจริง เห็นแสงรำไรๆ อยู่ในคุกที่จองจำนั้นเสียแล้ว เมื่อเย็นวานนี้ทนายความท่านหนึ่งได้โทรมาคุยสนทนากับข้าพเจ้าในเรื่องนี้ พร้อมกับส่งหลักฐานในราชกิจจานุเบกษามาให้ และเมื่อเช้าของวันนี้ในเวลา 10:00 น. ทนายความอีกท่านหนึ่งก็โทรมาคุยกับข้าพเจ้า และยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้ตรงกับทนายความท่านแรก ทนายความสองท่านนี้ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลมาเป็นอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าแสดงหลักฐานคดีความทางโลกให้เห็นปรากฏชัดเรียบร้อยแล้ว ก็จะเขียนเข้าสู่คดีความทางธรรม กฎหมายทางธรรม พระวินัยบัญญัติ ว่า มีข้อกำหนดอย่างไรกับผู้ติดคดีทางโลกมีหนี้สินท่วมหัว จนกระทั่งทางการต้องประกาศให้เป็นผู้ล้มละลาย ต่อจากนี้เขาก็ไม่สามารถทำธุรกิจ ธุรกรรม (เปิดรับบริจาค) ได้อีกแล้ว คนที่ไปบริจาคทรัพย์ให้แก่นายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี คนที่ไปรับทรัพย์จากนายผู้ล้มละลายคนนี้ก็ดี ก็จะตกอยู่ในข่ายความผิดต้องโทษลักษณะเดียวกันไปโดยปริยาย กล่าวคือมีคติเป็น ๒ ไม่ถูกปรับก็ถูกจำ หรือทั้งปรับทั้งจำ พระวินัยบัญญัติกำหนดให้กุลบุตรผู้เป็นอุปสัมปทาเปกขะ (ต้องการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ) หากต้องโทษข้อใดข้อหนึ่ง ใน ๑๓ ข้อเหล่านี้ มิให้มาอยู่ในเพศของพระภิกษุในร่มเงาของพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าแอบเข้ามาบรรพชาอุปสมบททรงเพศเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทราบในภายหลัง สงฆ์ก็ต้องสั่งให้สิกขาลาพรต ว่า “สิกฺขํ ปจฺจกฺขาหิ เธอจงบอกคืนสิกขาบทเสียเถิด” กรณีตัวอย่างคือ นาคจำแลงแปลงกายเป็นมาณพมาขอบวชเป็นพระภิกษุกับพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งอยู่ในป่า พอคืนร่างเป็นนาคตามเดิม ความทราบไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็รับสั่งให้ภิกษุผู้เป็นนาคจำแลงแปลงกายนั้นบอกคืนสิกขาบท คือให้ลาสิกขาทันที ในทุกกรณีของผู้ที่ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่ง เช่น ทราบในภายหลังว่าเป็นบัณเฑาะก์ คือ ไม่ใช่บุรุษเพศชาย (ผู้ชายเต็มตัว) ก็สั่งให้ลาสิกขาเช่นเดียวกัน ให้อยู่ในเพศของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย จะสร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนาแก่พระสงฆ์องค์สามเณร (ข้าพเจ้าเขียนอธิบายในโพสต์ก่อนแล้ว ร่างเป็นผู้ชายแต่ใจเป็นผู้หญิงก็จะกวนพระกวนเณรไม่ให้อยู่เป็นสุข) ถ้าผู้นั้นเป็นบัณเฑาะก์และรู้ว่าตนก็เป็นบัณเฑาะก์แท้ๆ แต่ปกปิดความเป็นบัณเฑาะก์ทรงเพศของพระภิกษุผู้ประพฤติพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนานี้ไว้ ถือว่าอยู่ในฐานะผู้หลอกลวง ลักขโมยเคี้ยวกลืนกินบิณฑะก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ท่านเรียกเป็นภาษาพระวินัยว่า “ลักเพศ” คือ ลักขโมยเพศของพระภิกษุ ลักขโมยอุดมเพศที่ครองผ้ากาสาวพัสตร์ธงชัยของพระอรหันต์ เขาจะสั่งสมบาปอกุศลเอาไว้อยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเห็นได้ชัดใช่ไหมว่า บัณเฑาะก์ผู้นั้นที่ลักขโมยเพศพระภิกษุแอบอาศัยอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนานี้มาเป็นเวลายาวนาน ก็แพ้ภัยตัวเอง กระเด็นออกไปจากพระพุทธศาสนา เปรียบเหมือนกเฬวราก ซากศพเน่า ต้องถูกคลื่นของมหาสมุทรซัดออกมาเกยตื้นติดอยู่กับฝั่งทะเล ฉะนั้น อันตรายิกธรรมเหล่านี้ คือ “โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เจ้าเป็นมนุษย์หรือ เป็นชายหรือ เป็นไทหรือ ไม่มีหนี้สินหรือ มิใช่ราชภัฏหรือ มารดาบิดาอนุญาตแล้วหรือ มีปีครบ ๒๐ แล้วหรือ บาตรจีวรของเจ้ามีครบแล้วหรือ เจ้าชื่ออะไร อุปัชฌาย์ของเจ้าชื่ออะไร” วิ.ม. ๑/๑๕๔/๑๔๒ ปรากฏอยู่ในอุปสัมปทาวิธีว่า พระคู่สวดถาม สามเณรตอบ กุฏฐัง นัตถิ ภันเต คัณโฑ นัตถิ ภันเต กิลาโส นัตถิ ภันเต โสโส นัตถิ ภันเต อะปะมาโร นัตถิ ภันเต มะนุสโสสิ๊ อามะ ภันเต ปุริโสสิ๊ อามะ ภันเต ภุชิสโสสิ๊ อามะ ภันเต อะนะโณสิ๊ อามะ ภันเต นะสิ๊ราชะภะโฏ อามะ ภันเต อะนุญญาโตสิ๊ มาตาปิตูหิ อามะ ภันเต ปะริปุณณะวีสะติวัสโสสิ๊ อามะ ภันเต ปะริปุณณันเต ปัตตะจีวะรัง อามะ ภันเต กินนาโมสิ อะหัง ภันเต...(๑)....นามะ โก นามะ เต อุปัชฌาโย อุปัชฌาโย เมภันเต อายัสมา.... (๒).นามะ (๑) บอกฉายาของตนเอง (๒) บอกฉายาของพระอุปัชฌาย์ ในคำตอบของสามเณร (นาค) หากผิดไปจาก อามะ ภันเต จาก นัตถิ ภันเต แม้ข้อเดียว เช่น “ปุริโสสิ๊ เจ้าเป็นบุรุษเพศชายจริงหรือเปล่า” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” “อะนะโณสิ๊ เธอไม่มีหนี้สินใช่ไหม” นาคตอบว่า “นัตถิ ภันเต ไม่ใช่ครับ” พระคู่สวดอาจจะต้องถามย้ำอีกสัก ๒ - ๓ ครั้ง นาคก็ยังตอบอยู่ในคำเดิม คือ นัตถิ ภันเต อุปสัมปทาวิธีก็ต้องล้มไป ยุติพิธีอุปสมบท ทันที อาจถึงกับขับไล่ผู้ต้องอันตรายิกธรรมข้อใดข้อหนึ่งนี้ออกจากสีมา (เขตแดน) ของพระอุโบสถหลังนั้นไปเลย “อย่าแหลมหน้ามาขอบวชอีกเชียวนะ”.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดมาใหญ่ ก็ต้องใหญ่ - The Fortune Code - 富贵兵团 - 1990
    หนังโปรแกรมต้อนรับตรุษจีน 2533 ...

    ในยุคที่หนังจีนฮ่องกง บูมสุดขีด มีไม่กี่เรื่องที่จะได้เห็นนักแสดงร่วมสิบคน ในหนังเรื่องเดียวกัน
    "เกิดมาใหญ่ ก็ต้องใหญ่" ระดมนักแสดงสายพี่เตี้ย เจิ้งจื่อเหว่ย+หงจินเป่า มาแบบคับจอ แต่ละคนก็มีบทกันพอสมควร หลิวเต๋อหัว อลันทัม เหมยเยี่ยนฟาง ม่อเส้าชง หลินจุ้นเสียน แฟรงกี้ ชาน เฉินไป่เสียง โหลวหนันกวง เฉาชาลี โดยมี เจิ้งจั๊ดซื่อ ร่วมแสดงและทำหน้าที่ กำกับภาพยนตร์อีกด้วย

    ถือเป็นหนังนนทนันท์อีกเรื่อง ที่เปิดตัวปี 1990 อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งปี 2533 ก็ถือเป็นปีทอง เพราะหลังจากนั้นก็มีแต่หนังดี และ ทำเงินแทบจะทุกโปรแกรม อย่างเช่น
    ผู้หญิงแย่งสับ - WEB OF DECEPTION
    การ์ตูนญี่ปุ่นที่ขึ้นแท่นหนังคลาสสิกไปแล้วอย่าง อากีร่า...ไม่เหมือนคน - AKIRA
    ล้างบางไต้ปั้ก - FINAL RUN
    มังกรกระแทกเมือง - DRAGON FIGHTS หลี่เหลียนเจี๋ย พบ โจวซิงฉือ
    ดีเดือดกับเลือดบ้า - IN TO THE BLOOD
    สุดยอดหนังกำลังภายใน ที่เป็นต้นแบบหนังกำลังภายในยุค 90 เดชคัมภีร์เทวดา - SWORDMAN
    เสือผอม…มังกรอ้วน - SKINNY TIGER & FATTY DRAGON
    จางอวี้โหมว พบ กงลี่ ใน เทียนฟง…ฅนตรง 3,000 ปี - A TERA COTTA WARRIORS
    หนังปรากฎการณ์แห่งยุค ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ - A MOMENT OF ROMANCE
    โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า 2 - A Chinese Ghost Story 2
    และปิดท้ายปีด้วยหนังคู่หู หงจินเป่า อลันทัม ใน ขอเป็นฮีโร่โก้ทั้งคู่ - PANTY HOSE HERO

    คิดถึงความสนุกในยุคนั้นจริงๆนะ
    เกิดมาใหญ่ ก็ต้องใหญ่ - The Fortune Code - 富贵兵团 - 1990 หนังโปรแกรมต้อนรับตรุษจีน 2533 ... ในยุคที่หนังจีนฮ่องกง บูมสุดขีด มีไม่กี่เรื่องที่จะได้เห็นนักแสดงร่วมสิบคน ในหนังเรื่องเดียวกัน "เกิดมาใหญ่ ก็ต้องใหญ่" ระดมนักแสดงสายพี่เตี้ย เจิ้งจื่อเหว่ย+หงจินเป่า มาแบบคับจอ แต่ละคนก็มีบทกันพอสมควร หลิวเต๋อหัว อลันทัม เหมยเยี่ยนฟาง ม่อเส้าชง หลินจุ้นเสียน แฟรงกี้ ชาน เฉินไป่เสียง โหลวหนันกวง เฉาชาลี โดยมี เจิ้งจั๊ดซื่อ ร่วมแสดงและทำหน้าที่ กำกับภาพยนตร์อีกด้วย ถือเป็นหนังนนทนันท์อีกเรื่อง ที่เปิดตัวปี 1990 อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งปี 2533 ก็ถือเป็นปีทอง เพราะหลังจากนั้นก็มีแต่หนังดี และ ทำเงินแทบจะทุกโปรแกรม อย่างเช่น ผู้หญิงแย่งสับ - WEB OF DECEPTION การ์ตูนญี่ปุ่นที่ขึ้นแท่นหนังคลาสสิกไปแล้วอย่าง อากีร่า...ไม่เหมือนคน - AKIRA ล้างบางไต้ปั้ก - FINAL RUN มังกรกระแทกเมือง - DRAGON FIGHTS หลี่เหลียนเจี๋ย พบ โจวซิงฉือ ดีเดือดกับเลือดบ้า - IN TO THE BLOOD สุดยอดหนังกำลังภายใน ที่เป็นต้นแบบหนังกำลังภายในยุค 90 เดชคัมภีร์เทวดา - SWORDMAN เสือผอม…มังกรอ้วน - SKINNY TIGER & FATTY DRAGON จางอวี้โหมว พบ กงลี่ ใน เทียนฟง…ฅนตรง 3,000 ปี - A TERA COTTA WARRIORS หนังปรากฎการณ์แห่งยุค ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ - A MOMENT OF ROMANCE โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า 2 - A Chinese Ghost Story 2 และปิดท้ายปีด้วยหนังคู่หู หงจินเป่า อลันทัม ใน ขอเป็นฮีโร่โก้ทั้งคู่ - PANTY HOSE HERO คิดถึงความสนุกในยุคนั้นจริงๆนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีใหม่/สงการนต์ กราบเท้าพ่อแม่ขอพร เทวดาสองตน เขาจะดีไม่ดีเขาคือพ่อแม่เรา พรจากพ่อแม่นะดี
    ปีใหม่/สงการนต์ กราบเท้าพ่อแม่ขอพร เทวดาสองตน เขาจะดีไม่ดีเขาคือพ่อแม่เรา พรจากพ่อแม่นะดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน
    plew

    เปลว สีเงิน

    คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ
    สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน”
    บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ

    Anwar Ibrahim
    รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์

    รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน

    การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา

    เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า

    จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย
    ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค

    ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย

    หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน

    ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น
    แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง.

    นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง

    ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร”
    ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.)

    “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว”
    จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘

    โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า
    นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ?

    ในความรู้สึกผม….
    ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว

    ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์

    แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง

    กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน!

    ถามว่าผิดมั้ย?
    ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ”

    หรือพูดกันชัดๆ…
    นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย!

    เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง….
    หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้

    มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้?
    เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!?

    แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น
    น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”!

    ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้

    แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย

    “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้
    แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้!

    เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล
    “หยุดงาน-ลางาน” ได้

    แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์

    คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น

    อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”…….
    นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน”

    ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก

    ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น
    ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ

    เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง”
    เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ

    ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม”
    “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย

    คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด!
    นี่คือ “สำนึกผู้นำ”

    ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า…..

    จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ?

    โบราณท่านบอก….
    เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ”

    แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง”

    เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน
    คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา

    มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง

    พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง
    จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ

    ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง
    คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย

    หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์”

    อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕
    เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน

    ผมเล่าตามข่าวนะ …..
    “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี
    หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ?
    ลองทายกันดูซิ….

    เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน
    “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี?

    แค่บอกว่า
    “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล

    โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป

    จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท”

    ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก!

    แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร?

    อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ”

    แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย

    ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์
    พบ-พูดคุยกันแล้ว….
    อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย?

    อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร”
    จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ?

    -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย”

    ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ

    อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน”

    และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”!

    “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก”
    แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล?

    เปลว สีเงิน
    ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน plew เปลว สีเงิน คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน” บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ Anwar Ibrahim รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์ รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง. นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.) “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว” จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘ โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ? ในความรู้สึกผม…. ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์ แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน! ถามว่าผิดมั้ย? ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ” หรือพูดกันชัดๆ… นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย! เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง…. หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้ มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้? เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!? แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”! ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้ แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้ แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้! เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล “หยุดงาน-ลางาน” ได้ แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์ คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”……. นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน” ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง” เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม” “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด! นี่คือ “สำนึกผู้นำ” ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า….. จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ? โบราณท่านบอก…. เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ” แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง” เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์” อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน ผมเล่าตามข่าวนะ ….. “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ? ลองทายกันดูซิ…. เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี? แค่บอกว่า “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท” ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก! แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร? อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ” แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์ พบ-พูดคุยกันแล้ว…. อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย? อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร” จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ? -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย” ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน” และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”! “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก” แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล? เปลว สีเงิน ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นดรามาเดือดบนโลกออนไลน์ กรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ “ธนาคาร คันธี” วัย 21 ปี อินฟลูเอนเซอร์ที่ดังจากการแรปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย เสียชีวิตจากการช็อกดับ หลังถูกจ้างให้ดื่มเหล้าหมดแบน แลกเงิน 3 หมื่นบาท

    ด้านผกก.ชื่อดังอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่เคยมีประเด็นกับแบงค์ เลสเตอร์ในปี 66 ได้โพสต์ข้อความอาลัย ยอมรับตกใจที่เห็นข่าวนี้ “RIP เห็นข่าวแล้วตกใจเหมือนกัน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไรกับน้องเลย แต่เห็นน้องใช้ชีวิตแล้วน่าเป็นห่วงมาก เห็นในตต(ติ๊กต๊อก) บ่อยๆ เสียใจกับการจากไป ขออโหสิกรรมน้องด้วยที่เคยเป็นข่าวตอนนั้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรกับน้องเลยก็บอกไปตามตรงว่าไม่รู้ว่า ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาน้อยๆ นะน้องนะ น้องอยู่วัดไหนอยากส่งพวงหรีดไปให้ ใครรู้บอกหน่อยนะ!! อนิจจาชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ”อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.พ.ปี 66 พชร์ อานนท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงรายการตีสิบ หลังได้เชิญ แบงค์ เลสเตอร์ ซึ่งอ้างว่าได้เสนอขายพวงมาลัยให้กับพชร์ อานนท์ และร้องแรปให้พชร์ฟัง จนพชร์สนใจ บอกให้มาร่วมแคสติ้งงานหนังด้วยกัน จนกระทั่งแคสงานผ่าน ได้เล่นหนังของพชร์ อานนท์ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยืนยันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แล้วจะชวนเข้าวงการได้อย่างไร พร้อมฉะตีสิบก่อนเสนอข่าวให้หาข้อมูลหน่อยได้ไหม และขอให้น้องหยุดเอาชื่อตนเองไปแอบอ้าง

    #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    กลายเป็นดรามาเดือดบนโลกออนไลน์ กรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ “ธนาคาร คันธี” วัย 21 ปี อินฟลูเอนเซอร์ที่ดังจากการแรปขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย เสียชีวิตจากการช็อกดับ หลังถูกจ้างให้ดื่มเหล้าหมดแบน แลกเงิน 3 หมื่นบาท • ด้านผกก.ชื่อดังอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่เคยมีประเด็นกับแบงค์ เลสเตอร์ในปี 66 ได้โพสต์ข้อความอาลัย ยอมรับตกใจที่เห็นข่าวนี้ “RIP เห็นข่าวแล้วตกใจเหมือนกัน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไรกับน้องเลย แต่เห็นน้องใช้ชีวิตแล้วน่าเป็นห่วงมาก เห็นในตต(ติ๊กต๊อก) บ่อยๆ เสียใจกับการจากไป ขออโหสิกรรมน้องด้วยที่เคยเป็นข่าวตอนนั้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรกับน้องเลยก็บอกไปตามตรงว่าไม่รู้ว่า ขึ้นสวรรค์เป็นเทวดาน้อยๆ นะน้องนะ น้องอยู่วัดไหนอยากส่งพวงหรีดไปให้ ใครรู้บอกหน่อยนะ!! อนิจจาชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ”อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.พ.ปี 66 พชร์ อานนท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงรายการตีสิบ หลังได้เชิญ แบงค์ เลสเตอร์ ซึ่งอ้างว่าได้เสนอขายพวงมาลัยให้กับพชร์ อานนท์ และร้องแรปให้พชร์ฟัง จนพชร์สนใจ บอกให้มาร่วมแคสติ้งงานหนังด้วยกัน จนกระทั่งแคสงานผ่าน ได้เล่นหนังของพชร์ อานนท์ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยืนยันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แล้วจะชวนเข้าวงการได้อย่างไร พร้อมฉะตีสิบก่อนเสนอข่าวให้หาข้อมูลหน่อยได้ไหม และขอให้น้องหยุดเอาชื่อตนเองไปแอบอ้าง • #MGROnline #แบงค์เลสเตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครับ...!!!
    .
    ควรจัดการ แพทย์ ที่ออก ใบรับรองแพทย์ปลอม และ ให้ความเห็นปลอมๆ เพื่อช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใดโดยทุจริต ด้วยครับ...
    .
    ถ้า เทวดา ทำผิด ก็ควรจะจับมัน ยัดเข้าไปใน กรงขัง ตามคำพิพากษา ของ ศาล และ ทำให้กฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยำเกรงแก่คนชั่วครับ...!!!
    .
    กรง ไม่ควรจะมีไว้แค่ ขังหมา...!!!
    .
    แต่ต้องเอาไว้ ขังนักโทษ ที่หนีการลงโทษ ด้วย...!!!
    .
    หนีอะไร หนีได้
    .
    แต่...
    .
    หนีกรรม ไม่พ้นหรอก...
    ครับ...!!! . ควรจัดการ แพทย์ ที่ออก ใบรับรองแพทย์ปลอม และ ให้ความเห็นปลอมๆ เพื่อช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ใดโดยทุจริต ด้วยครับ... . ถ้า เทวดา ทำผิด ก็ควรจะจับมัน ยัดเข้าไปใน กรงขัง ตามคำพิพากษา ของ ศาล และ ทำให้กฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยำเกรงแก่คนชั่วครับ...!!! . กรง ไม่ควรจะมีไว้แค่ ขังหมา...!!! . แต่ต้องเอาไว้ ขังนักโทษ ที่หนีการลงโทษ ด้วย...!!! . หนีอะไร หนีได้ . แต่... . หนีกรรม ไม่พ้นหรอก...
    สั่งจัดการใบรับรองแพทย์ปลอม ป้องกันโรคระบาด (25/12/67) #news1 #ใบรับรองแพทย์ปลอม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์

    ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ

    คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง

    ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย

    เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว

    การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า

    เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ

    หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย

    บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์ ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 กรณี คอร์รัปชันแห่งปี 2567
    .
    1. กรณีลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ
    นักโทษชั้น 14 ที่ไม่เคยนอนเรือนจำ และนักโทษคดีจำนำข้าว เช่น นายบุญทรง เสี่ยเปี๋ยง ได้เป็นอิสระเร็วเกินคาด ขณะที่อดีตข้าราชการในคดีเดียวกันยังติดคุกอยู่ แม้ไม่เชื่อมโยงกับการทุจริตที่เป็นตัวเงิน แต่การลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ คือ “โกงซ้อนโกง”
    ถึงวันนี้นักการเมืองและข้าราชการบางคนยังจับมือกันปกปิดความจริง ปฏิเสธกระบวนการตรวจสอบ โดยไม่สนใจว่าจะค้านสายตาประชาชนและสังคมโลก

    2. กรณีไฟไหม้รถนำเที่ยวเด็กนักเรียน สูญเสีย 22 ชีวิต
    โศกนาฏกรรมนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเรื่องก็เงียบ ไม่มีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกคนใดต้องรับผิดชอบเลย! ไม่มีท่าทีของรัฐมนตรี และรัฐบาลที่จะหยุด “ส่วย-สินบน” ในหน่วยงานรัฐเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งที่เราต่างรู้แก่ใจว่าทุกวันนี้มีรถเถื่อน รถผิดกฎหมายวิ่งอยู่เต็มท้องถนน พร้อมจะนำความตายมาสู่ใครอีกก็ได้

    3. คดีนายอิทธิพล คุณปลื้ม
    ศาลคอร์รัปชันชี้ว่า “ผิดจริง” แต่ยกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ แถมตำหนิ “ป.ป.ช.” ว่า ไม่ใส่ใจทำคดี คำพิพากษานี้ยังทำให้เกิดประเด็นต้องติดตามอีกว่า เป็นการเปลี่ยนหลักกฎหมายเดิมที่กำหนดให้การหนีคดีของจำเลยทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ใช่หรือไม่?

    4. กรณีฮุบที่รถไฟ เขากระโดง
    หลักนิติธรรมของประเทศถูกทำลาย เมื่ออิทธิพลนักการเมืองใหญ่เหนือคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุด กรมที่ดินและการรถไฟฯ โยนเรื่องกันไปมา เลือกหยิบยกข้อกฎหมายไปตีความจนบิดเบี้ยว มาดูกันว่า สุดท้ายแล้วสมบัติของชาติจะได้รับการปกป้องหรือรัฐต้องจ่ายค่าโง่อะไร ก่อนที่ ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเหล่านั้นจะได้สิทธิ์เช่าระยะยาวบนที่ดินหลวงในราคาแสนถูก

    5. กรณีสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
    โครงการมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทนี้ พ่วงด้วยสิทธิ์บริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้งค์ และที่ดินย่านมักกะสัน แม้การประมูลจบไปแล้ว 5 ปี แต่รัฐยังเปิดให้เอกชนเจรจาแก้สัญญาไม่รู้จบ เฉือนประโยชน์รัฐเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขัดต่อหลักพื้นฐานการประมูลงานภาครัฐอย่างเป็นธรรม ถ่วงการพัฒนาโครงการ อีอีซี จนนักลงทุนต่างชาติเยาะหยันว่ามาทำธุรกิจเมืองไทย หากไม่มีพวกพ้องก็อยู่ไม่ได้ ความโปร่งใสเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน

    6. กรณีฮุบป่า รุกที่ ส.ป.ก. หลายแสนไร่ทั่วประเทศ
    เป็นดั่งยุคทองของพวกทำลายป่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบาย ส.ป.ก. ทองคำ แก้กฎหมายให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนดใช้ทำมาหากินได้แทบทุกอย่าง ซื้อขายสิทธิ์ง่าย จำนองธนาคารได้ วันนี้ ส.ป.ก. กว่าร้อยละ 30 อยู่ในมือนายทุน และยังคงถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสูญเสียเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น หากข้าราชการและนักการเมืองไม่มีเอี่ยว ความหวังยังพอมีเมื่อ ผอ.ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และข้าราชการจำนวนหนึ่งกล้าปะทะกับอดีต รมว. เกษตรฯ เพื่อให้พวกท่านเหล่านั้นมีพลังปกป้องผืนป่ามากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

    7. กรณีขุด/ขนย้ายกากแร่แคดเมียม
    สังคมตื่นตระหนกเพราะกากแร่อันตรายที่เคยถูกกลบฝังกลับขุดมาขายได้ ขนย้ายผ่านไปหลายจังหวัด โดยประชาชนไม่รู้อะไรเลยเพราะทุกอย่างถูกปิดบัง กฎหมายและนโยบายของรัฐเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมแอบถูกแก้ไขและบิดเบือน ถึงวันนี้ทุกอย่างเงียบหาย ไม่ปรากฏข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานใดถูกลงโทษจริงจัง

    8. กรณีหมูแช่แข็งเถื่อน
    มีผู้สมรู้ร่วมคิด 3 ฝ่าย หนึ่ง-เจ้าหน้าที่รัฐบางคนในกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง อาหารและยา สอง-กลุ่มนักการเมืองใหญ่ สาม-กลุ่มนายทุนนำเข้า บริษัทชิปปิ้ง ทั้งนายทุนรับซื้อสินค้าไปจำหน่ายหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เนื้อหมูแช่แข็งเถื่อนทำลายความมั่นคงทางอาหารของชาติ ผู้เลี้ยงหมูเดือดร้อนทั่วประเทศ ขณะที่คนไทยต้องเสี่ยงภัยกับเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง และเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมา

    9. กรณีปลาหมอคางดำ
    วิกฤตสัตว์น้ำขั้นรุนแรงกินวงกว้าง เกิดจากเอกชนรายใหญ่เห็นแก่ได้ ไร้ความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละมองข้ามความปลอดภัยของสังคม เกรงใจพ่อค้า โกงความคาดหวังของประชาชน

    10. กรณีดิ ไอคอน
    คดีดังที่แฉให้เห็นพฤติกรรมรุมกันเรียกรับสินบนของคนจากหลายหน่วยงานรัฐ นักการเมือง และบุคคลที่สังคมเคยไว้วางใจ คดีนี้ฉุดกระชากเหล่าซาตานในคราบเทวดาให้ตกสวรรค์ เผยให้สังคมเห็นคอร์รัปชันที่ทำให้ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อถูกรัฐทอดทิ้งยามเดือดร้อน

    ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
    23 ธันวาคม 2567
    10 กรณี คอร์รัปชันแห่งปี 2567 . 1. กรณีลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ นักโทษชั้น 14 ที่ไม่เคยนอนเรือนจำ และนักโทษคดีจำนำข้าว เช่น นายบุญทรง เสี่ยเปี๋ยง ได้เป็นอิสระเร็วเกินคาด ขณะที่อดีตข้าราชการในคดีเดียวกันยังติดคุกอยู่ แม้ไม่เชื่อมโยงกับการทุจริตที่เป็นตัวเงิน แต่การลดโทษ พักโทษ มอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาติ คือ “โกงซ้อนโกง” ถึงวันนี้นักการเมืองและข้าราชการบางคนยังจับมือกันปกปิดความจริง ปฏิเสธกระบวนการตรวจสอบ โดยไม่สนใจว่าจะค้านสายตาประชาชนและสังคมโลก 2. กรณีไฟไหม้รถนำเที่ยวเด็กนักเรียน สูญเสีย 22 ชีวิต โศกนาฏกรรมนี้ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเรื่องก็เงียบ ไม่มีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกคนใดต้องรับผิดชอบเลย! ไม่มีท่าทีของรัฐมนตรี และรัฐบาลที่จะหยุด “ส่วย-สินบน” ในหน่วยงานรัฐเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งที่เราต่างรู้แก่ใจว่าทุกวันนี้มีรถเถื่อน รถผิดกฎหมายวิ่งอยู่เต็มท้องถนน พร้อมจะนำความตายมาสู่ใครอีกก็ได้ 3. คดีนายอิทธิพล คุณปลื้ม ศาลคอร์รัปชันชี้ว่า “ผิดจริง” แต่ยกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ แถมตำหนิ “ป.ป.ช.” ว่า ไม่ใส่ใจทำคดี คำพิพากษานี้ยังทำให้เกิดประเด็นต้องติดตามอีกว่า เป็นการเปลี่ยนหลักกฎหมายเดิมที่กำหนดให้การหนีคดีของจำเลยทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ใช่หรือไม่? 4. กรณีฮุบที่รถไฟ เขากระโดง หลักนิติธรรมของประเทศถูกทำลาย เมื่ออิทธิพลนักการเมืองใหญ่เหนือคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุด กรมที่ดินและการรถไฟฯ โยนเรื่องกันไปมา เลือกหยิบยกข้อกฎหมายไปตีความจนบิดเบี้ยว มาดูกันว่า สุดท้ายแล้วสมบัติของชาติจะได้รับการปกป้องหรือรัฐต้องจ่ายค่าโง่อะไร ก่อนที่ ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเหล่านั้นจะได้สิทธิ์เช่าระยะยาวบนที่ดินหลวงในราคาแสนถูก 5. กรณีสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทนี้ พ่วงด้วยสิทธิ์บริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้งค์ และที่ดินย่านมักกะสัน แม้การประมูลจบไปแล้ว 5 ปี แต่รัฐยังเปิดให้เอกชนเจรจาแก้สัญญาไม่รู้จบ เฉือนประโยชน์รัฐเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขัดต่อหลักพื้นฐานการประมูลงานภาครัฐอย่างเป็นธรรม ถ่วงการพัฒนาโครงการ อีอีซี จนนักลงทุนต่างชาติเยาะหยันว่ามาทำธุรกิจเมืองไทย หากไม่มีพวกพ้องก็อยู่ไม่ได้ ความโปร่งใสเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน 6. กรณีฮุบป่า รุกที่ ส.ป.ก. หลายแสนไร่ทั่วประเทศ เป็นดั่งยุคทองของพวกทำลายป่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบาย ส.ป.ก. ทองคำ แก้กฎหมายให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนดใช้ทำมาหากินได้แทบทุกอย่าง ซื้อขายสิทธิ์ง่าย จำนองธนาคารได้ วันนี้ ส.ป.ก. กว่าร้อยละ 30 อยู่ในมือนายทุน และยังคงถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสูญเสียเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น หากข้าราชการและนักการเมืองไม่มีเอี่ยว ความหวังยังพอมีเมื่อ ผอ.ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และข้าราชการจำนวนหนึ่งกล้าปะทะกับอดีต รมว. เกษตรฯ เพื่อให้พวกท่านเหล่านั้นมีพลังปกป้องผืนป่ามากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 7. กรณีขุด/ขนย้ายกากแร่แคดเมียม สังคมตื่นตระหนกเพราะกากแร่อันตรายที่เคยถูกกลบฝังกลับขุดมาขายได้ ขนย้ายผ่านไปหลายจังหวัด โดยประชาชนไม่รู้อะไรเลยเพราะทุกอย่างถูกปิดบัง กฎหมายและนโยบายของรัฐเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมแอบถูกแก้ไขและบิดเบือน ถึงวันนี้ทุกอย่างเงียบหาย ไม่ปรากฏข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานใดถูกลงโทษจริงจัง 8. กรณีหมูแช่แข็งเถื่อน มีผู้สมรู้ร่วมคิด 3 ฝ่าย หนึ่ง-เจ้าหน้าที่รัฐบางคนในกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง อาหารและยา สอง-กลุ่มนักการเมืองใหญ่ สาม-กลุ่มนายทุนนำเข้า บริษัทชิปปิ้ง ทั้งนายทุนรับซื้อสินค้าไปจำหน่ายหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เนื้อหมูแช่แข็งเถื่อนทำลายความมั่นคงทางอาหารของชาติ ผู้เลี้ยงหมูเดือดร้อนทั่วประเทศ ขณะที่คนไทยต้องเสี่ยงภัยกับเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง และเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมา 9. กรณีปลาหมอคางดำ วิกฤตสัตว์น้ำขั้นรุนแรงกินวงกว้าง เกิดจากเอกชนรายใหญ่เห็นแก่ได้ ไร้ความรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละมองข้ามความปลอดภัยของสังคม เกรงใจพ่อค้า โกงความคาดหวังของประชาชน 10. กรณีดิ ไอคอน คดีดังที่แฉให้เห็นพฤติกรรมรุมกันเรียกรับสินบนของคนจากหลายหน่วยงานรัฐ นักการเมือง และบุคคลที่สังคมเคยไว้วางใจ คดีนี้ฉุดกระชากเหล่าซาตานในคราบเทวดาให้ตกสวรรค์ เผยให้สังคมเห็นคอร์รัปชันที่ทำให้ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อถูกรัฐทอดทิ้งยามเดือดร้อน ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) 23 ธันวาคม 2567
    Like
    Love
    6
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 1 รีวิว
  • จิตเรายามโกรธ โลภโมโทสันฯ มันก็เหมือนยักษ์ มาร ยามบ้าตัณหาราคะก็เหมือนหมาเดือน 12 ยามใจดีมีเมตตาก็เหมือนเทวดา
    จิตเรายามโกรธ โลภโมโทสันฯ มันก็เหมือนยักษ์ มาร ยามบ้าตัณหาราคะก็เหมือนหมาเดือน 12 ยามใจดีมีเมตตาก็เหมือนเทวดา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14

    เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL

    เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม?

    ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่!

    เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก!

    จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้?

    ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน

    ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก?

    หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ)
    22 ธันวาคม 67
    12.39 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14 เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม? ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่! เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก! จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้? ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก? หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ) 22 ธันวาคม 67 12.39 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/12/67

    ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ

    ฝึกสมาธิ
    สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที
    อานันตสมาธิ
    https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv
    ขอขมากรรม

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    3 จบ
    ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง
    (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์
    เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล
    บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้
    ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป
    ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ
    โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล
    ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้
    บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก
    พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ
    ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป
    กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา

    แผ่เมตตา
    สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
    ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ
    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
    cr:อ.กล้วย
    22/12/67 ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ ฝึกสมาธิ สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที อานันตสมาธิ https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv ขอขมากรรม นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้ ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้ บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา แผ่เมตตา สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด cr:อ.กล้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่อยากให้เพจคิงส์เป็นเพจเทวดา อยากให้คิงส์เป็นเพจธรรมดาๆ
    ฮือๆๆ ฮะฮะ โฮ๊ะโฮ๊ะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ไม่อยากให้เพจคิงส์เป็นเพจเทวดา อยากให้คิงส์เป็นเพจธรรมดาๆ ฮือๆๆ ฮะฮะ โฮ๊ะโฮ๊ะ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ด้อมสาวกป้าก็ยังเชื่อพี่ชายที่พิมพ์ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง
    เหนื่อยนะ วันๆ เพจคิงส์ เป็นเพจการเมือง
    เป็นเพจที่ทวงความยุติธรรมให้กับคนที่ถูกอธรรม
    ทำมาหลายปีดีดัก
    แต่พยายามจะให้ ชล เป็น คิงส์โพธิ์แดงให้ได้
    พาดพิงคนใกล้ตัวน้อง จนวันนี้กรรูสับสนไปหมดแล้ว
    ว่าตัวกรรูเป็นใคร
    ขอนอกเรื่องหน่อยนะ เออ ไอ่น้องชายเรานี่ก็จิตแข็งดีนะ
    พี่คิงส์ลองนึกทบทวนหลายๆอย่าง
    นี่ถ้าจิตไม่แข็งพอ เจอพี่ๆแบบนี้ ก็อาจจะเบลอๆ
    เหมือนอุปทานหมู่ ว่ากรรูคงเป็นคนไม่ดีจริงๆรึเปล่า
    สังคมทุกวันนี้ เป็นแบบนี้กันเยอะนะ
    คนซั่วรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน
    สร้างตรรกะบ๊องๆบวมๆ ไม่ดูแหดดูตี๋ที่มาที่ไป
    แฝด 2 ผ. มิจแทร้ ที่โGงคนไทย เอาไปเปย์สาวเกา
    พวกเมิงปกป้องมัน โดยไม่สนใจ ผสห ที่เป็นคนไทยด้วยกัน
    หรือจะเป็น ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์
    คาบข่าวเท๊จไปบอก ป้าเชื่อหมด จนเอาไปเผยแพร่ความเท๊จต่อ
    คนที่บอกว่า น้องชาไทยในหมู่บ้านพี่ เป็นจิตป๋วย
    ก็คือ ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์นี่แหละ ตัวแรกเลย
    แต่ก็ยังมีคนหลับหูหลับตา ไม่เชื่อกรรู ไม่ฟัง
    ถ้าหัดสังเกตุนิดเดียว ข่าวที่ผ่านมาใครคาบไป
    ใครตอนน้องชาไทยในหมู่บ้านพี่โดนให้ร้าย ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่
    นิ่ง เงียบ แต่พออีกฝั่งโดนบ้าง อินี่โผล่มาแก้ให้เป็นฉากๆ
    ยังไม่พอ ทุกคนที่ใกล้ชิด ผจกคนนี้ ทั้งอดีต จนปัจจุบันยัน 4 ป้าข้างบ้านพี่
    สุดท้ายเป็นไง มีใครคิดดีกับน้องชายไทยบ้าง
    ยังมีอีก สำนวนของ 4 ป้าข้างบ้านพี่ ทุกวันนี้ เหมือนเอาปากอิป้าเฉบติดดราม่ามาใส่ วลีเทวดา วลีนาซีซีส พวกเมิงเริ่มเห็นภาพชัดกันหรือยัง
    จนล่าสุด วางแผน ให้เพจบันเทิงยำน้องชาไทยเรา
    แล้วก็เผยหน้ามาว่า จะให้ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ ไปไลฟ์กับสาวเกา
    เพียงเพื่อเป็นเครื่องมือในการยืนยันความบริสุทธ์
    แล้วที่ผจก นิติหมู่บ้านพี่ ให้ 4 ป้าข้างบ้านไลฟ์ เอ็งเห็นกันหรือเปล่า
    เน้นขายของหรือเน้นดราม่า คิดเอา เปย์เยอะจำนวนที่ทำให้พี่หักกับน้องได้
    แต่ไม่เน้นขาย และที่เข้าไปปั่นว่าคนดูหลักพันเท่าม๋อยมดอะ บอทกี่ตัว ตัวจริงกี่ตัว แปลว่า ไม่สนใจยอดขาย แค่เลี้ยง 4 ป้า เป็น 4 หมา รอคอยการมาของสาวเกา เอามาเป็นเครื่องมือให้สาวเกาดูดี
    หัวมีแต่แผน ไม่เคยจริงใจกับใครเลย
    แม้กระทั่ง แฟนคลับสาวเกา ที่ไม่สามารถเปย์ของขวัญหนักๆได้
    เค้าเปย์ดอกไม้ที่อาจจะไม่แพงแต่มีคุณค่าทางใจ
    ป้าคุยหลังบ้าน ให้บล๊อกให้หมด เพียงเพื่อไม่ให้สาวเกาโดนตัดแต้ม
    ความจริงมันจะค่อยๆเปิดเผย
    เพราะถึงอย่างไร ความจริงก็คือความจริง
    เมื่อคืน น้องมันไลฟ์ คนดู3.3 หมื่น ตัดไปอีกภาพ ดึงดราม่าแทบตายคนดูยังม๋อยหมา ทุเร๊ศหว่ะ
    มีผู้ใหญ่วิจารณ์การไลฟ์ของ 4 ป้าว่า ไม่เน้นขายของ ทำตาหวานเหมื่อนหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายซะมากกว่า เฮ้อ เหนื่อยใจ
    แค่นี้หละ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ด้อมสาวกป้าก็ยังเชื่อพี่ชายที่พิมพ์ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง เหนื่อยนะ วันๆ เพจคิงส์ เป็นเพจการเมือง เป็นเพจที่ทวงความยุติธรรมให้กับคนที่ถูกอธรรม ทำมาหลายปีดีดัก แต่พยายามจะให้ ชล เป็น คิงส์โพธิ์แดงให้ได้ พาดพิงคนใกล้ตัวน้อง จนวันนี้กรรูสับสนไปหมดแล้ว ว่าตัวกรรูเป็นใคร ขอนอกเรื่องหน่อยนะ เออ ไอ่น้องชายเรานี่ก็จิตแข็งดีนะ พี่คิงส์ลองนึกทบทวนหลายๆอย่าง นี่ถ้าจิตไม่แข็งพอ เจอพี่ๆแบบนี้ ก็อาจจะเบลอๆ เหมือนอุปทานหมู่ ว่ากรรูคงเป็นคนไม่ดีจริงๆรึเปล่า สังคมทุกวันนี้ เป็นแบบนี้กันเยอะนะ คนซั่วรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน สร้างตรรกะบ๊องๆบวมๆ ไม่ดูแหดดูตี๋ที่มาที่ไป แฝด 2 ผ. มิจแทร้ ที่โGงคนไทย เอาไปเปย์สาวเกา พวกเมิงปกป้องมัน โดยไม่สนใจ ผสห ที่เป็นคนไทยด้วยกัน หรือจะเป็น ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์ คาบข่าวเท๊จไปบอก ป้าเชื่อหมด จนเอาไปเผยแพร่ความเท๊จต่อ คนที่บอกว่า น้องชาไทยในหมู่บ้านพี่ เป็นจิตป๋วย ก็คือ ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์นี่แหละ ตัวแรกเลย แต่ก็ยังมีคนหลับหูหลับตา ไม่เชื่อกรรู ไม่ฟัง ถ้าหัดสังเกตุนิดเดียว ข่าวที่ผ่านมาใครคาบไป ใครตอนน้องชาไทยในหมู่บ้านพี่โดนให้ร้าย ปู ผจก.นิติบุคคลหมู่บ้านพี่ นิ่ง เงียบ แต่พออีกฝั่งโดนบ้าง อินี่โผล่มาแก้ให้เป็นฉากๆ ยังไม่พอ ทุกคนที่ใกล้ชิด ผจกคนนี้ ทั้งอดีต จนปัจจุบันยัน 4 ป้าข้างบ้านพี่ สุดท้ายเป็นไง มีใครคิดดีกับน้องชายไทยบ้าง ยังมีอีก สำนวนของ 4 ป้าข้างบ้านพี่ ทุกวันนี้ เหมือนเอาปากอิป้าเฉบติดดราม่ามาใส่ วลีเทวดา วลีนาซีซีส พวกเมิงเริ่มเห็นภาพชัดกันหรือยัง จนล่าสุด วางแผน ให้เพจบันเทิงยำน้องชาไทยเรา แล้วก็เผยหน้ามาว่า จะให้ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ ไปไลฟ์กับสาวเกา เพียงเพื่อเป็นเครื่องมือในการยืนยันความบริสุทธ์ แล้วที่ผจก นิติหมู่บ้านพี่ ให้ 4 ป้าข้างบ้านไลฟ์ เอ็งเห็นกันหรือเปล่า เน้นขายของหรือเน้นดราม่า คิดเอา เปย์เยอะจำนวนที่ทำให้พี่หักกับน้องได้ แต่ไม่เน้นขาย และที่เข้าไปปั่นว่าคนดูหลักพันเท่าม๋อยมดอะ บอทกี่ตัว ตัวจริงกี่ตัว แปลว่า ไม่สนใจยอดขาย แค่เลี้ยง 4 ป้า เป็น 4 หมา รอคอยการมาของสาวเกา เอามาเป็นเครื่องมือให้สาวเกาดูดี หัวมีแต่แผน ไม่เคยจริงใจกับใครเลย แม้กระทั่ง แฟนคลับสาวเกา ที่ไม่สามารถเปย์ของขวัญหนักๆได้ เค้าเปย์ดอกไม้ที่อาจจะไม่แพงแต่มีคุณค่าทางใจ ป้าคุยหลังบ้าน ให้บล๊อกให้หมด เพียงเพื่อไม่ให้สาวเกาโดนตัดแต้ม ความจริงมันจะค่อยๆเปิดเผย เพราะถึงอย่างไร ความจริงก็คือความจริง เมื่อคืน น้องมันไลฟ์ คนดู3.3 หมื่น ตัดไปอีกภาพ ดึงดราม่าแทบตายคนดูยังม๋อยหมา ทุเร๊ศหว่ะ มีผู้ใหญ่วิจารณ์การไลฟ์ของ 4 ป้าว่า ไม่เน้นขายของ ทำตาหวานเหมื่อนหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายซะมากกว่า เฮ้อ เหนื่อยใจ แค่นี้หละ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กลอนก็มา #กวีจินตนาก็พาไป
    เรื่องของคนข้างบ้าน ในหมู่บ้านพี่
    ได้ถูกร้อยเรียงเป็นบทกลอน
    กลอนคิงส์คุณธรรม
    ตอน "ไม่อยากได้พี่เป็นซาตาน"
    สี่พี่รุม -ยำให้ร้าย- ไม่เว้นวัน
    ไลฟ์ไรกัน- ตามได้ทัน- เห็นดราม่า
    อยากได้น้อง- ที่ไม่ใช่- เทวดา
    อ้าวอิห่า -ขายของไป -ใยพาดพิง
    ถึงสี่พี่ -จะเล่นยับ- ยันซื้อสื่อ
    ฝั่งน้องคือ -นิ่งสงบ- เพราะแม่สอน
    ฝั่งอิป้า- เสพดราม่า- ไม่หลับนอน
    เชื่อคำสอน- ของแม่นั้น -เกราะคุ้มภัย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #กลอนก็มา #กวีจินตนาก็พาไป เรื่องของคนข้างบ้าน ในหมู่บ้านพี่ ได้ถูกร้อยเรียงเป็นบทกลอน กลอนคิงส์คุณธรรม ตอน "ไม่อยากได้พี่เป็นซาตาน" สี่พี่รุม -ยำให้ร้าย- ไม่เว้นวัน ไลฟ์ไรกัน- ตามได้ทัน- เห็นดราม่า อยากได้น้อง- ที่ไม่ใช่- เทวดา อ้าวอิห่า -ขายของไป -ใยพาดพิง ถึงสี่พี่ -จะเล่นยับ- ยันซื้อสื่อ ฝั่งน้องคือ -นิ่งสงบ- เพราะแม่สอน ฝั่งอิป้า- เสพดราม่า- ไม่หลับนอน เชื่อคำสอน- ของแม่นั้น -เกราะคุ้มภัย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนรุ่นใหม่ที่ไม่ทันระบอบทักษิณยุคแรกต้องอึ้ง
    ในวันที่น้องหลายคน เกิดไม่ทัน หรือโตไม่ทัน
    เวลาที่มีคนรุ่นก่อน เล่าว่าระบอบทักษิณมันยังงั้นอย่างงี้
    ก็จะมีกลุ่มอีกฝัง ใช้วาทะกรรมว่า ระบอบทักษิณ
    เป็นเพียงภาพวาดให้หวาด กลัว ตลอด ไม่มีอยู่จริง
    ............
    แต่วันนี้ คนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เริ่มอึ้งซ้ำๆ
    เมื่อทักษิณได้กลับมาบนแผ่นดินไทยอีกรอบ
    ไม่ว่าจะเป็นการที่รับโทษแบบเทวดา
    อ้าวป๋วย แต่ว่ายน้ำ ชกมวย เดินพบปะแฟนคลับ
    บินไปนั่นไปนี่ โดยไม่เกรงว่า คนที่ช่วยให้ออกมา
    โดยไม่ต้องเหยียบคูกแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องได้
    รับผลอย่างไร
    ทั้งๆที่ อ้างว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน
    แต่ทำทุกอย่าง ให้ระบบนิติรัฐเหมือนต้องพิกลพิการ
    ถามคนไทยที่ไม่ใช่แฟนคลับเค้า ทุกคนซิ
    มีใคร เชื่อว่าโทนี่ ป๋วยสาหััส ขนาดเส้นเอนเปื่อยยุ่ย
    หรือตามรายละเอียดที่ระบุอ้างบ้าง
    ก็เห็นอยู่ตำตา ป๋วยตรงไหนฟร๊ะ ว่ายน้ำ ร้องเพลง
    ร่อนไปทัว
    มันบาดใจกับความไม่เท่าเทียม ความไม่ยุติธรรม
    ที่คนรุ่นก่อน เคยเจอมาก่อน
    ยกตัวอย่างกรณีภาคใต้ ก่อนยุคลุงตู่ คนใต้รู้ดี
    ถนนภาคใต้ กากสุดละ ท่านชวนหลีกภัย
    เคยประสานผ่านชัชชาติ ซึ่งขณะนั้นดูแลคมนาคม
    ให้ช่วยจัดงบในการทำถนนให้คนใต้ด้วย
    คุณรู้มั๊ย ทักษิณว่าไง จังหวัดไหน ภาคไหน
    ไม่เลือกผม ก็เอาไว้ทีหลังละกัน
    ประโยคนี้ ที่ออกจากปากนายกที่ชื่อทักษิณในขณะนั้น
    และได้เคยลั่นอีกครั้ง ในการให้สัมภาษณ์หน้าตาลอย
    ผ่านโทรทัศน์มาแล้วเช่นกัน
    รวมถึง สัมปทาน การแข่งขันในการประมูลงาน
    พรรคพวกของโทนี่ แม้กระทั่งบริษัทของโอ๊ค คือฮาวคัม
    ชนะมันแทบทุกหน่วยงาน บริษัทธรรมดา ไม่มีทางที่จะได้ลืมตาอ้าปาก
    มันยังมีอีกเยอะ ค่อยดูๆไป แล้วจะกระจ่าย
    ว่าระบอบทักษิณ คือแบบไหน รับรอง หนำ จนนั่งไม่ติดครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คนรุ่นใหม่ที่ไม่ทันระบอบทักษิณยุคแรกต้องอึ้ง ในวันที่น้องหลายคน เกิดไม่ทัน หรือโตไม่ทัน เวลาที่มีคนรุ่นก่อน เล่าว่าระบอบทักษิณมันยังงั้นอย่างงี้ ก็จะมีกลุ่มอีกฝัง ใช้วาทะกรรมว่า ระบอบทักษิณ เป็นเพียงภาพวาดให้หวาด กลัว ตลอด ไม่มีอยู่จริง ............ แต่วันนี้ คนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เริ่มอึ้งซ้ำๆ เมื่อทักษิณได้กลับมาบนแผ่นดินไทยอีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นการที่รับโทษแบบเทวดา อ้าวป๋วย แต่ว่ายน้ำ ชกมวย เดินพบปะแฟนคลับ บินไปนั่นไปนี่ โดยไม่เกรงว่า คนที่ช่วยให้ออกมา โดยไม่ต้องเหยียบคูกแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องได้ รับผลอย่างไร ทั้งๆที่ อ้างว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ทำทุกอย่าง ให้ระบบนิติรัฐเหมือนต้องพิกลพิการ ถามคนไทยที่ไม่ใช่แฟนคลับเค้า ทุกคนซิ มีใคร เชื่อว่าโทนี่ ป๋วยสาหััส ขนาดเส้นเอนเปื่อยยุ่ย หรือตามรายละเอียดที่ระบุอ้างบ้าง ก็เห็นอยู่ตำตา ป๋วยตรงไหนฟร๊ะ ว่ายน้ำ ร้องเพลง ร่อนไปทัว มันบาดใจกับความไม่เท่าเทียม ความไม่ยุติธรรม ที่คนรุ่นก่อน เคยเจอมาก่อน ยกตัวอย่างกรณีภาคใต้ ก่อนยุคลุงตู่ คนใต้รู้ดี ถนนภาคใต้ กากสุดละ ท่านชวนหลีกภัย เคยประสานผ่านชัชชาติ ซึ่งขณะนั้นดูแลคมนาคม ให้ช่วยจัดงบในการทำถนนให้คนใต้ด้วย คุณรู้มั๊ย ทักษิณว่าไง จังหวัดไหน ภาคไหน ไม่เลือกผม ก็เอาไว้ทีหลังละกัน ประโยคนี้ ที่ออกจากปากนายกที่ชื่อทักษิณในขณะนั้น และได้เคยลั่นอีกครั้ง ในการให้สัมภาษณ์หน้าตาลอย ผ่านโทรทัศน์มาแล้วเช่นกัน รวมถึง สัมปทาน การแข่งขันในการประมูลงาน พรรคพวกของโทนี่ แม้กระทั่งบริษัทของโอ๊ค คือฮาวคัม ชนะมันแทบทุกหน่วยงาน บริษัทธรรมดา ไม่มีทางที่จะได้ลืมตาอ้าปาก มันยังมีอีกเยอะ ค่อยดูๆไป แล้วจะกระจ่าย ว่าระบอบทักษิณ คือแบบไหน รับรอง หนำ จนนั่งไม่ติดครับ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นไงไอ่พวกโลกสวย
    แหม่ มาบอกให้กรรูหยุด
    คือพวกเมิงก็เห็น ว่า4ป้าข้างบ้านพี่คิงส์
    มันร่วมมือกับอิป้า ยอมทิ้งศักดิ์ศรี
    เป็นหุ่นเชิดให้อิป้าเล่นงานน้องชายตัวเอง
    อิป้าแจกข่าวให้สื่อ ให้พี่เล่นน้องฉ่ำๆ
    #ถ้ากรูหยุด กรูเชื่อพวกเมิง ทีม NERAKUN ยิ้มฉ่ำเลยดิ
    เวลากรรูสู้ ขอนะ อย่าขวาง teen กรรู
    ............................................................................
    แล้วก็มาโพสแบบนี้ หมายถึงอะไร
    ไลฟ์เรียกน้ำตา รักน้องอย่างโน้นอย่างนี้
    ก็ไม่วายแซะ ว่าน้องเป็นเทวดา
    สำนวนอิป้าล้วนๆ กรรูรู้นะ ไม่ใช่ไม่รู้
    ผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้าน อิมิจแฝด 2 ผ.
    อิป้าเชื่อมจิต กับ 4 ป้า 1 ลุง
    คุยลับหลังถึงน้องชายยังไง
    ไอ่มายเซ็ตวันนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด
    แค่พวกเมิงไม่แสดง
    พี่เฮี้ยอะไร อิจฉ๋าน้องได้ขนาดนี้
    พวกเมิงไปตามน้ำ ยืนยันว่าน้องเมิงป๋วยจิต
    ไปตามอิป้า นี่แหละมีพี่ๆไร้น้ำยา
    ขายศักดิ์ศรีแดรก แม่ไม่ใช่ไม่เตือน
    แต่พวกเมิงไม่เคยฟัง
    บอกตรงๆ สิ่งที่พวกเมิงพิมพ์
    ใครอ่านก็ไม่เคลีย
    สิ่งเดี่ยวที่เป็นเรื่องดีๆในวันนี้คือ
    สิ่งที่กรรูพยายามบอกกับสังคมมานาน
    คนก็จะได้ตาสว่างซักที
    วัดแขกอะ เป็นที่นัดพบกันยังไง
    กรรูรู้หมดแหละ อิพวก NRK
    ฆวย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นไงไอ่พวกโลกสวย แหม่ มาบอกให้กรรูหยุด คือพวกเมิงก็เห็น ว่า4ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ มันร่วมมือกับอิป้า ยอมทิ้งศักดิ์ศรี เป็นหุ่นเชิดให้อิป้าเล่นงานน้องชายตัวเอง อิป้าแจกข่าวให้สื่อ ให้พี่เล่นน้องฉ่ำๆ #ถ้ากรูหยุด กรูเชื่อพวกเมิง ทีม NERAKUN ยิ้มฉ่ำเลยดิ เวลากรรูสู้ ขอนะ อย่าขวาง teen กรรู ............................................................................ แล้วก็มาโพสแบบนี้ หมายถึงอะไร ไลฟ์เรียกน้ำตา รักน้องอย่างโน้นอย่างนี้ ก็ไม่วายแซะ ว่าน้องเป็นเทวดา สำนวนอิป้าล้วนๆ กรรูรู้นะ ไม่ใช่ไม่รู้ ผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้าน อิมิจแฝด 2 ผ. อิป้าเชื่อมจิต กับ 4 ป้า 1 ลุง คุยลับหลังถึงน้องชายยังไง ไอ่มายเซ็ตวันนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แค่พวกเมิงไม่แสดง พี่เฮี้ยอะไร อิจฉ๋าน้องได้ขนาดนี้ พวกเมิงไปตามน้ำ ยืนยันว่าน้องเมิงป๋วยจิต ไปตามอิป้า นี่แหละมีพี่ๆไร้น้ำยา ขายศักดิ์ศรีแดรก แม่ไม่ใช่ไม่เตือน แต่พวกเมิงไม่เคยฟัง บอกตรงๆ สิ่งที่พวกเมิงพิมพ์ ใครอ่านก็ไม่เคลีย สิ่งเดี่ยวที่เป็นเรื่องดีๆในวันนี้คือ สิ่งที่กรรูพยายามบอกกับสังคมมานาน คนก็จะได้ตาสว่างซักที วัดแขกอะ เป็นที่นัดพบกันยังไง กรรูรู้หมดแหละ อิพวก NRK ฆวย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวานรวมหัวกับอิป้า แจกข่าวสื่อหวังให้คนด่าน้องฉ่ำ วันนี้ร้องไห้ รักน้อน ไม่อยากได้น้องเป็นเทวดา อยากได้น้อนคนธรรมดา ทุ๊ย!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เมื่อวานรวมหัวกับอิป้า แจกข่าวสื่อหวังให้คนด่าน้องฉ่ำ วันนี้ร้องไห้ รักน้อน ไม่อยากได้น้องเป็นเทวดา อยากได้น้อนคนธรรมดา ทุ๊ย! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts