• เซอร์เดวิด เบ็คแฮม 07/06/68 #เดวิด เบ็คแฮม #ท่านเซอร์ #ติดยศอัศวิน #วงการฟุตบอล
    เซอร์เดวิด เบ็คแฮม 07/06/68 #เดวิด เบ็คแฮม #ท่านเซอร์ #ติดยศอัศวิน #วงการฟุตบอล
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • อ้าวๆ ฝรั่งเดวิด เตะหลังหมอ
    จ่อนอนคุก 1 เดือน
    ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา
    ไม่รอลงอาญา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    อ้าวๆ ฝรั่งเดวิด เตะหลังหมอ จ่อนอนคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา ไม่รอลงอาญา #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าจะมาถึงไทยนานแล้วเช่นกัน,ดูแค่ปัจจุบัน ยังพากันเชิญชวนคนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อีกและน่าจะเป็นมุกmRNAเหมือนกัน,วัคซีนทุกๆชนิดทั่วไทย อาจป้องกันตนเองไว้ก่อนว่าอย่าฉีดมันเลย ดูต่อสุขภาพตนเองในอนาคตแน่นอน
    ..
    ..ปัจจุบันยาชาสำหรับฟันทั้งหมดดูเหมือนจะมีกราฟีนออกไซด์อยู่ด้วย ซึ่งทดสอบโดยห้องแล็บอิสระหลายแห่ง เช่น ดร. เดวิด นิกสัน, ลาควินตา คอลัมน์า และคนอื่นๆ

    ดร. นิกสันกล่าวว่าพวกเขากำลังเติมกราฟีนออกไซด์ลงในยาฉีดทุกชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (เช่น โบท็อกซ์ เป็นต้น) และมีแนวโน้มสูงสุดที่จะเติมลงในยาชาเฉพาะที่ทุกชนิด

    เราไม่มีข้อมูลใดๆ ว่าพวกเขาเติมกราฟีนลงในยาสลบทั่วไปและถุงน้ำเกลือหรือไม่... แต่มีความเป็นไปได้สูง

    วิธีเดียวที่จะใช้คือการใช้แม่เหล็กเพื่อยึดกราฟีนไว้ที่ก้นขวดก่อนจะใช้เฉพาะส่วนที่สะอาดเท่านั้น ดังที่แสดงในวิดีโอ

    ..น่าจะมาถึงไทยนานแล้วเช่นกัน,ดูแค่ปัจจุบัน ยังพากันเชิญชวนคนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อีกและน่าจะเป็นมุกmRNAเหมือนกัน,วัคซีนทุกๆชนิดทั่วไทย อาจป้องกันตนเองไว้ก่อนว่าอย่าฉีดมันเลย ดูต่อสุขภาพตนเองในอนาคตแน่นอน .. ..ปัจจุบันยาชาสำหรับฟันทั้งหมดดูเหมือนจะมีกราฟีนออกไซด์อยู่ด้วย ซึ่งทดสอบโดยห้องแล็บอิสระหลายแห่ง เช่น ดร. เดวิด นิกสัน, ลาควินตา คอลัมน์า และคนอื่นๆ ดร. นิกสันกล่าวว่าพวกเขากำลังเติมกราฟีนออกไซด์ลงในยาฉีดทุกชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (เช่น โบท็อกซ์ เป็นต้น) และมีแนวโน้มสูงสุดที่จะเติมลงในยาชาเฉพาะที่ทุกชนิด เราไม่มีข้อมูลใดๆ ว่าพวกเขาเติมกราฟีนลงในยาสลบทั่วไปและถุงน้ำเกลือหรือไม่... แต่มีความเป็นไปได้สูง วิธีเดียวที่จะใช้คือการใช้แม่เหล็กเพื่อยึดกราฟีนไว้ที่ก้นขวดก่อนจะใช้เฉพาะส่วนที่สะอาดเท่านั้น ดังที่แสดงในวิดีโอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สมาชิกรัฐสภาอังกฤษจากพรรคแรงงาน 2 คน คือ Yuan Yang (Earley และ Woodley) และ Abtisam Mohamed (Sheffield Central) ถูกควบคุมตัวและปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวหาว่าสมาชิกรัฐสภาทั้งสองตั้งใจเผยแพร่ "ความเกลียดชังต่ออิสราเอล" โดยอ้างว่าพวกเขาสนับสนุนให้มีการคว่ำบาตรอิสราเอล

    ส.ส. ทั้งสองเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนรัฐสภา แต่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศหลังจากถูกสอบปากคำ

    ทางด้านเดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ประณามการควบคุมตัวครั้งนี้ว่า “ไม่สามารถยอมรับได้ ไร้ประโยชน์ และน่ากังวลอย่างยิ่ง”
    สมาชิกรัฐสภาอังกฤษจากพรรคแรงงาน 2 คน คือ Yuan Yang (Earley และ Woodley) และ Abtisam Mohamed (Sheffield Central) ถูกควบคุมตัวและปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2025 เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวหาว่าสมาชิกรัฐสภาทั้งสองตั้งใจเผยแพร่ "ความเกลียดชังต่ออิสราเอล" โดยอ้างว่าพวกเขาสนับสนุนให้มีการคว่ำบาตรอิสราเอล ส.ส. ทั้งสองเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนรัฐสภา แต่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศหลังจากถูกสอบปากคำ ทางด้านเดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ประณามการควบคุมตัวครั้งนี้ว่า “ไม่สามารถยอมรับได้ ไร้ประโยชน์ และน่ากังวลอย่างยิ่ง”
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • กูละโว้ย กูนี่แหละคนไทย ไม่ใช่โกลิแอธที่ไหน แต่สามกีบไทยอยากเอาอย่างเดวิด ก็เป็นได้แค่วอนนาบี+กีกี้ จบนะ
    กูละโว้ย กูนี่แหละคนไทย ไม่ใช่โกลิแอธที่ไหน แต่สามกีบไทยอยากเอาอย่างเดวิด ก็เป็นได้แค่วอนนาบี+กีกี้ จบนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายวิดีโอที่อ้างว่าคือ "เดวิด โรเอต" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำออสเตรียในเมืองอินส์บรุคกำลังข่มขู่เจ้าหน้าที่ออสเตรียว่า:
    “เขาจะไปเล่นกอล์ฟในกาซ่า ไม่ว่าพวกคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม”

    คำพูดนี้บ่งบอกได้ว่า อิสราเอลมีแผนการเข้าครอบครองฉนวนกาซาเต็มรูปแบบโดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ความร่วมมือ
    ภาพถ่ายวิดีโอที่อ้างว่าคือ "เดวิด โรเอต" เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำออสเตรียในเมืองอินส์บรุคกำลังข่มขู่เจ้าหน้าที่ออสเตรียว่า: “เขาจะไปเล่นกอล์ฟในกาซ่า ไม่ว่าพวกคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม” คำพูดนี้บ่งบอกได้ว่า อิสราเอลมีแผนการเข้าครอบครองฉนวนกาซาเต็มรูปแบบโดยมีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ความร่วมมือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 1963 เคนเนดี (JFK) เตือนนายกรัฐมนตรีเดวิด เบน-กูเรียน ของอิสราเอล เกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เขายังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ลับ Dimona ของอิสราเอลอีกด้วย นอกจากนี้ JFK กำลังพิจารณาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิสราเอล เว้นแต่อิสราเอลจะเข้าร่วมมาตรการป้องกันที่ครอบคลุมตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์

    JFK ยังต้องการลงทะเบียน AZC (ปัจจุบันคือ AIPAC) ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการเมืองสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวแทนต่างประเทศ แต่หลังจากที่เขาถูกสังหาร ความพยายามนี้ก็สิ้นสุดลงตามไปด้วย ต่อมาอดีตประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน ก็ไม่ได้สนใจที่จะสานต่อความพยายามของ JFK เรื่องโรงงานนิวเคลียร์ Dimona ของอิสราเอล และเบี่ยงเบนความสนใจของโลก โดยนำสหรัฐเข้าสู่สงครามเวียตนาม

    จนถึงทุกวันนี้ อิสราเอลไม่เคยยอมรับมาตรการป้องกันที่ครอบคลุมตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และอิสราเอลไม่ได้ลงนามใน NPT และ AIPAC เป็นเพียงกลุ่มล็อบบี้เดียวที่ทำหน้าที่แทนรัฐบาลต่างประเทศที่ไม่ได้ลงทะเบียนภายใต้ FARA

    ภาพการชันสูตรพลิกศพ JFK หลังถูกลอบสังหาร เผยให้เห็นความเสียหายที่ศีรษะจนทำให้ส่วนของสมองเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งมีการกล่าวถึงกันในขณะนี้ว่า นี่เกิดจากการกระทำเพียงคนเดียว "จริงรือไม่!?!"
    ในปี 1963 เคนเนดี (JFK) เตือนนายกรัฐมนตรีเดวิด เบน-กูเรียน ของอิสราเอล เกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เขายังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ลับ Dimona ของอิสราเอลอีกด้วย นอกจากนี้ JFK กำลังพิจารณาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิสราเอล เว้นแต่อิสราเอลจะเข้าร่วมมาตรการป้องกันที่ครอบคลุมตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ JFK ยังต้องการลงทะเบียน AZC (ปัจจุบันคือ AIPAC) ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการเมืองสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวแทนต่างประเทศ แต่หลังจากที่เขาถูกสังหาร ความพยายามนี้ก็สิ้นสุดลงตามไปด้วย ต่อมาอดีตประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน ก็ไม่ได้สนใจที่จะสานต่อความพยายามของ JFK เรื่องโรงงานนิวเคลียร์ Dimona ของอิสราเอล และเบี่ยงเบนความสนใจของโลก โดยนำสหรัฐเข้าสู่สงครามเวียตนาม จนถึงทุกวันนี้ อิสราเอลไม่เคยยอมรับมาตรการป้องกันที่ครอบคลุมตามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และอิสราเอลไม่ได้ลงนามใน NPT และ AIPAC เป็นเพียงกลุ่มล็อบบี้เดียวที่ทำหน้าที่แทนรัฐบาลต่างประเทศที่ไม่ได้ลงทะเบียนภายใต้ FARA ภาพการชันสูตรพลิกศพ JFK หลังถูกลอบสังหาร เผยให้เห็นความเสียหายที่ศีรษะจนทำให้ส่วนของสมองเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งมีการกล่าวถึงกันในขณะนี้ว่า นี่เกิดจากการกระทำเพียงคนเดียว "จริงรือไม่!?!"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย
    .
    นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25%
    .
    ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน
    .
    สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด
    .
    เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ
    .
    เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ
    .
    เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่
    .
    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว
    .
    ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน
    .
    ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์
    .
    ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
    .
    ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง
    .
    ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ
    .
    นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย . นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย . ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25% . ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน . สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด . เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา . อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ . เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ . เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่ . โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว . ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน . ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์ . ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม . ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย . ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง . ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ . นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2864 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    NEWS.CH7.COM
    ข่าวชูวิทย์วิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาด ยกฟ้องตู้ห่าว
    ชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าว ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว…
    Like
    Angry
    2
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • 67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ

    ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา

    วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก

    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
    เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล

    📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้?
    📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้?
    📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น?

    ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์?
    เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน

    เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน

    กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง

    1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ
    2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง
    3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์

    ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง
    ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?"
    มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่

    🏁 "หิมะบนรันเวย์?"
    การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้

    🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?"
    ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า

    ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้

    23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม
    ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่

    ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป
    โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม
    เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent)
    เดวิด เพ็กก์ (David Pegg)
    มาร์ก โจนส์ (Mark Jones)
    บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan)
    เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman)
    ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor)
    ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน

    📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน
    📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน

    💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม
    แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
    🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน
    🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์
    🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้

    💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน

    โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน
    เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน

    ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน
    ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

    🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

    67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568

    #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น... เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล 📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้? 📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้? 📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น? ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์? เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง 1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ 2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง 3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์ ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?" มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ 🏁 "หิมะบนรันเวย์?" การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้ 🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?" ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้ 23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่ ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent) เดวิด เพ็กก์ (David Pegg) มาร์ก โจนส์ (Mark Jones) บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan) เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman) ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor) ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน 📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน 📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน 💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง 🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน 🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์ 🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้ 💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง 🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568 #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน
    .
    ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา
    .
    สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย
    .
    พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
    .
    ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย
    .
    นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้
    .
    ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา
    .
    ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน
    .
    สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน
    .
    แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
    .
    สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก
    .
    ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์
    .
    คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
    .
    ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้
    .
    วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน
    .
    กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย
    .
    อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน . ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา . สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย . พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ . ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย . นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง . ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน . อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้ . ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา . ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน . สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน . แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง . สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก . ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์ . คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ . ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้ . วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน . กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2348 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหภาพยุโรป (อียู) พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง จากคำประกาศของคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของกลุ่ม หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนโยบายรีดภาษีและจัดเก็บภาษีประเทศอื่นๆ ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    .
    "ถ้ามีความจำเป็นสำหรับปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของยุโรป เราพร้อมที่จะทำ" วัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ กรรมาธิการการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว หลังถูกถามเกี่ยวกับคำขู่ของทรัมป์ แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สดๆ ร้อนๆ ยังไม่แถลงมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ใดๆ กับบรรดาคู่หูทางการค้าของอเมริกา
    .
    ดอมบรอฟสกีส์ เน้นย้ำว่า อียู เคยตอบโต้ "ในแนวทางที่สมน้ำสมเนื้อ" ต่อมาตรการรีดภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม ที่รัฐบาลทรัมป์สมัยแรกระหว่างปี 2017-2021 กำหนดเล่นงานอียู ด้วยการเล็งเป้าเล่นงานสินค้านำเข้าต่างๆ จากสหรัฐฯ อย่างเช่นรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน และวิสกีเบอร์เบิ้น
    .
    ก่อนเข้ารับตำแหน่งสมัยล่าสุดนี้ ทรัมป์ขู่รีดภาษีอย่างครอบคลุม ในนั้นรวมถึงกับอียู คู่หูการค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับชาติเพื่อนบ้านอย่างแคนาดากับเม็กซิโก และ จีน คู่อริทางยุทธศาสตร์
    .
    ท่ามกลางเค้าลางแห่งความเสี่ยงถูกรีดภาษี อียูหันมาดำเนินยุทธศาสตร์ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอียูกับสหรัฐฯ มาเป็นนานหลายเดือน แทนการเผชิญหน้า
    .
    "อียูและสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะในบริบทท่ามกลางความยุ่งเหยิงทางภูมิรัฐศาสตร์นี้" ดอมบรอฟสกีส์เน้นย้ำ พร้อมเตือนว่าความขัดแย้งทางการค้า "จะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ทุกฝ่าย ในนั้นรวมถึงอเมริกาด้วย"
    .
    นอกจากนี้ เขาเตือนว่าอียู "ต้องทำงานด้านความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจของเรา" ในนั้นรวมถึงหาทางมีคู่หูทางการค้าที่หลากหลาย
    .
    อียูแถลงกระชับข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่ง และในวันจันทร์ (20 ม.ค.) พวกเขาแถลงว่ากำลังกลับมาเจรจสข้อตกลงการค้าเสรีกับมาเลเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006234
    ..............
    Sondhi X
    สหภาพยุโรป (อียู) พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง จากคำประกาศของคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของกลุ่ม หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนโยบายรีดภาษีและจัดเก็บภาษีประเทศอื่นๆ ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง . "ถ้ามีความจำเป็นสำหรับปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของยุโรป เราพร้อมที่จะทำ" วัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ กรรมาธิการการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว หลังถูกถามเกี่ยวกับคำขู่ของทรัมป์ แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สดๆ ร้อนๆ ยังไม่แถลงมาตรการรีดภาษีรอบใหม่ใดๆ กับบรรดาคู่หูทางการค้าของอเมริกา . ดอมบรอฟสกีส์ เน้นย้ำว่า อียู เคยตอบโต้ "ในแนวทางที่สมน้ำสมเนื้อ" ต่อมาตรการรีดภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม ที่รัฐบาลทรัมป์สมัยแรกระหว่างปี 2017-2021 กำหนดเล่นงานอียู ด้วยการเล็งเป้าเล่นงานสินค้านำเข้าต่างๆ จากสหรัฐฯ อย่างเช่นรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน และวิสกีเบอร์เบิ้น . ก่อนเข้ารับตำแหน่งสมัยล่าสุดนี้ ทรัมป์ขู่รีดภาษีอย่างครอบคลุม ในนั้นรวมถึงกับอียู คู่หูการค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับชาติเพื่อนบ้านอย่างแคนาดากับเม็กซิโก และ จีน คู่อริทางยุทธศาสตร์ . ท่ามกลางเค้าลางแห่งความเสี่ยงถูกรีดภาษี อียูหันมาดำเนินยุทธศาสตร์ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอียูกับสหรัฐฯ มาเป็นนานหลายเดือน แทนการเผชิญหน้า . "อียูและสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะในบริบทท่ามกลางความยุ่งเหยิงทางภูมิรัฐศาสตร์นี้" ดอมบรอฟสกีส์เน้นย้ำ พร้อมเตือนว่าความขัดแย้งทางการค้า "จะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ทุกฝ่าย ในนั้นรวมถึงอเมริกาด้วย" . นอกจากนี้ เขาเตือนว่าอียู "ต้องทำงานด้านความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจของเรา" ในนั้นรวมถึงหาทางมีคู่หูทางการค้าที่หลากหลาย . อียูแถลงกระชับข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่ง และในวันจันทร์ (20 ม.ค.) พวกเขาแถลงว่ากำลังกลับมาเจรจสข้อตกลงการค้าเสรีกับมาเลเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006234 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1117 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง

    การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple

    ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์

    การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้

    https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    บทความนี้กล่าวถึงการที่ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกฝังอยู่ในบล็อกเชนของบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยบริษัท Marathon Digital Holdings (MARA) ซึ่งเป็นผู้ขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีท ได้ฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกที่ 879613 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ที่กำลังจะมาถึง การฝังภาพนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ชุมชนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากทรัมป์เป็นผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีอย่างเปิดเผยคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะใช้บิตคอยน์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาได้เพื่อสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ทีมงานของทรัมป์ยังพิจารณาการสร้างกองทุนสำรองยุทธศาสตร์แบบ "America-first" ที่จะให้ความสำคัญกับเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เช่น Solana, USD Coin และ Ripple ในขณะเดียวกัน เดวิด แซคส์ ซึ่งจะเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและ AI ในรัฐบาลทรัมป์ จะจัดงาน Crypto Ball ครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยบัตร VIP สำหรับงานนี้มีราคาสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ และผู้เข้าร่วมสามารถรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวกับทรัมป์ได้ในราคา 1 ล้านดอลลาร์ การฝังภาพของทรัมป์ในบล็อกเชนของบิตคอยน์เป็นการแสดงความเคารพและการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตเคอเรนซี ซึ่งคาดหวังว่าทรัมป์จะสามารถทำให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตเคอเรนซีได้ https://wccftech.com/trump-immortalized-within-bitcoin-blockchain/
    WCCFTECH.COM
    Trump Immortalized Within Bitcoin Blockchain
    As a token of appreciation, a major Bitcoin miner has encoded Trump's portrait within the cryptocurrency's blockchain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 715 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวโรมาเนียมากกว่า 100,000 คน ออกมารวมตัวชุมนุมใจกลางกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย เพื่อประท้วงคำตัดสินของศาลจากการยกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก

    นับเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในโรมาเนีย ประเทศที่ถูกครอบงำโดยยุโรปและกลุ่มพันธมิตรนาโต้ และขณะนี้ชาวโรมาเนียกำลังส่งข้อความที่สำคัญอย่างยิ่งไปยังรัฐบาลของพวกเขา นักการเมืองยุโรป และทั่วโลก

    ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการยืนยันผลการเลือกตั้ง ซึ่ง "คอลิน จอร์เจสคู" (Călin Georgescu) ผู้สมัครฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก (โรมาเนียแบ่งการเลือกตั้งเป็นสองรอบ)

    ก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แต่อย่างใด โดยกล่าวหาว่าจอร์เจสคูมีส่วนพัวพันและเชื่อมโยงกับรัสเซียในแคมเปญช่วยหาเสียงของเขา ซึ่งศาลระบุว่าเป็นอิทธิพลจากภายนอกที่เป็นแรงจูงใจในการลงคะแนนของประชาชน แต่จากเอกสารของศาลที่เผยแพร่ออกมาก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ารัสเซียเกี่ยวข้องอย่างไร จนนำมาสู่การต่อต้านของประชาชนใในวันนี้

    ชัยชนะของจอร์เจสคูสร้างความไม่พอใจต่อยุโรปเป็นอย่างมาก โดยยุโรปเกรงว่าโรมาเนียจะหันหลังให้ตะวันตกและกลับไปหามอสโก เนื่องจากจอร์เจสคูมีแนวคิดชาตินิยมคล้ายคลึงกับปูติน และยังเคยกล่าวชมปูตินในเรื่องความรักชาติ จอร์เจสคูมักแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์นาโตและ EU อย่างรุนแรงบ่อยครั้งอีกด้วย

    หลังชัยชนะของจอร์เจสคู ยุโรปออกมาต่อต้านมากมาย โดยกล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

    “อย่ายุ่งกับการเลือกตั้งของโรมาเนีย!” “ประชาธิปไตยจะต้องเป็นผลงานของโรมาเนีย ไม่ใช่ผลงานของเครมลิน” เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวหารัสเซียอย่างรุนแรง

    เน้นย้ำกันอีกครั้ง โรมาเนียคือตำแหน่งยุทศาสตร์ของนาโต้ที่สำคัญที่สุด! จะต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือไปจากตะวันตก อย่างเช่นจอร์เจียในขณะนี้

    ลำดับช่วงเวลาการเลือกตั้งของโรมาเนีย:
    วันที่ 3 ธันวา 2567 ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งรอบแรก
    วันที่ 6 ธันวา 2567 ศาลตัดสินผลการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ เพียงสองวันก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะมีขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2567
    ชาวโรมาเนียมากกว่า 100,000 คน ออกมารวมตัวชุมนุมใจกลางกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย เพื่อประท้วงคำตัดสินของศาลจากการยกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก นับเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในโรมาเนีย ประเทศที่ถูกครอบงำโดยยุโรปและกลุ่มพันธมิตรนาโต้ และขณะนี้ชาวโรมาเนียกำลังส่งข้อความที่สำคัญอย่างยิ่งไปยังรัฐบาลของพวกเขา นักการเมืองยุโรป และทั่วโลก ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการยืนยันผลการเลือกตั้ง ซึ่ง "คอลิน จอร์เจสคู" (Călin Georgescu) ผู้สมัครฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก (โรมาเนียแบ่งการเลือกตั้งเป็นสองรอบ) ก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน ศาลรัฐธรรมนูญประกาศให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แต่อย่างใด โดยกล่าวหาว่าจอร์เจสคูมีส่วนพัวพันและเชื่อมโยงกับรัสเซียในแคมเปญช่วยหาเสียงของเขา ซึ่งศาลระบุว่าเป็นอิทธิพลจากภายนอกที่เป็นแรงจูงใจในการลงคะแนนของประชาชน แต่จากเอกสารของศาลที่เผยแพร่ออกมาก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ารัสเซียเกี่ยวข้องอย่างไร จนนำมาสู่การต่อต้านของประชาชนใในวันนี้ ชัยชนะของจอร์เจสคูสร้างความไม่พอใจต่อยุโรปเป็นอย่างมาก โดยยุโรปเกรงว่าโรมาเนียจะหันหลังให้ตะวันตกและกลับไปหามอสโก เนื่องจากจอร์เจสคูมีแนวคิดชาตินิยมคล้ายคลึงกับปูติน และยังเคยกล่าวชมปูตินในเรื่องความรักชาติ จอร์เจสคูมักแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์นาโตและ EU อย่างรุนแรงบ่อยครั้งอีกด้วย หลังชัยชนะของจอร์เจสคู ยุโรปออกมาต่อต้านมากมาย โดยกล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ “อย่ายุ่งกับการเลือกตั้งของโรมาเนีย!” “ประชาธิปไตยจะต้องเป็นผลงานของโรมาเนีย ไม่ใช่ผลงานของเครมลิน” เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวหารัสเซียอย่างรุนแรง เน้นย้ำกันอีกครั้ง โรมาเนียคือตำแหน่งยุทศาสตร์ของนาโต้ที่สำคัญที่สุด! จะต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือไปจากตะวันตก อย่างเช่นจอร์เจียในขณะนี้ ลำดับช่วงเวลาการเลือกตั้งของโรมาเนีย: วันที่ 3 ธันวา 2567 ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งรอบแรก วันที่ 6 ธันวา 2567 ศาลตัดสินผลการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ เพียงสองวันก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะมีขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2567
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 793 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น

    บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต
    นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า
    ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง
    พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“
    บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ"
    ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก
    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก
    บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023
    บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น
    บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท 
    ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา
    คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน
    ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน
    “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว
    “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย”
    สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้
    “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว
    ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง"
    “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม”
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น"
    “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว
    หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์
    นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้
    ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้
    นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
    “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”

    นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“ บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ" ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท  ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย” สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้ “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง" “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม” จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น" “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 941 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024 THAILAND VIRAL CALENDAR

    วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา

    มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ

    กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ

    มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ

    พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย

    มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก

    กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว

    สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน

    กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ

    ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด

    พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน

    ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง

    #Newskit
    2024 THAILAND VIRAL CALENDAR วันคืนล่วงไป มีอะไรเข้ามาบ้าง Newskit ขอนำเสนอปฎิทินไวรัลในรอบปี 2567 สะท้อนเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา มกราคม - จับศรีสุวรรณ จรรยา นักเคลื่อนไหวดัง หลังอธิบดีกรมการข้าวร้องเรียนตำรวจว่าถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท ปิดตำนานนักร้องเรียนหลังออกจากคุกแทบไม่มีข่าวออกสื่อ กุมภาพันธ์ - เดวิดถีบหมอ ชาวต่างชาติพักวิลล่าหรูริมทะเลภูเก็ตเตะแพทย์สาวนั่งชมพระจันทร์กับเพื่อน แถมพูดจาเหยียดหยาม ทำชาวบ้านไม่พอใจขับไล่ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ มีนาคม - วันกะเทยผ่านศึก กลุ่มกะเทยไทยปะทะฟิลิปปินส์ใจกลางสุขุมวิท เพราะฝ่ายปินส์ไปรุมเขาก่อน 20 รุม 2 กลายเป็นศึกศักดิ์ศรี ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เมษายน - น้องไนซ์ปีนเกลียว เด็กอายุ 8 ขวบฉายาเชื่อมจิตพาดพิงพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย แถมพ่วงด้วย แพรรี่ ไพรวัลย์ อดีตพระนักเทศน์ สุดท้ายกลายเป็นคดีความ พฤษภาคม - ข้าวเก่า 10 ปี ภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็น รมว.พาณิชย์ พาสื่อชมโกดังจำนำข้าวที่สุรินทร์ โชว์กินข้าวสีออกเหลือง การันตีกินได้แบบสังคมน่ากังขา ก่อนเปิดประมูลข้าวเก่าล็อตสุดท้าย มิถุนายน - ลิซ่า ลลิลา เปิดตัวเอ็ม.วี. ROCKSTAR ในฐานะศิลปินเดี่ยว ใช้กรุงเทพฯ เป็นฉากล้วนๆ โดยเฉพาะเยาวราช กลายเป็นจุดเช็กอินตามรอยซูปตาร์ฯ สาวระดับโลก กรกฎาคม - นาย-ใบเฟิร์นเลิกเป็นแฟน ฝ่ายชายขอถอยกลับมาเป็นเพื่อน ส่วนฝ่ายหญิงเจ็บปวดน้ำตาคลอ ท่ามกลางข่าวสะพัดแม่ฝ่ายชายไม่ปลื้ม แต่แม่หมูส่งทนายยื่นโนติสทุกสื่ออย่าโยงมั่ว สิงหาคม - เทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปารีส 2024 เหรียญที่สองในชีวิต ก่อนอำลาทีมชาติ ขอรักษาอาการบาดเจ็บและเปิดยิมเล็กๆ ส่งต่อความรู้สู่เยาวชน กันยายน - หมูเด้ง ฮิปโปแคระสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี โด่งดังระดับโลก จากคลิปความน่ารักที่พี่เลี้ยงถ่ายลงโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตติดงอมแงม แถมมีสินค้าลิขสิทธิ์ให้ซื้ออีกเพียบ ตุลาคม - ไฟไหม้รถบัส โศกเศร้าทั้งแผ่นดิน นักเรียนและครูจากอุทัยธานีมาทัศนศึกษา ออกมาไม่ได้ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 23 ราย พบมาจากก๊าซเอ็นจีวีรั่ว แถมลักลอบติดถังก๊าซนับสิบลูกเกินกว่าที่ขนส่งกำหนด พฤศจิกายน - จับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา หลังเศรษฐีนีแจ้งความ ถูกฉ้อโกงเงินทำแอปฯ หวย 71 ล้าน ทำไปทำมาคดีงอกทั้งเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ 39 ล้าน ออกแบบโรงแรม 9 ล้าน และส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้าน ธันวาคม - แบงค์ เลสเตอร์ เสียชีวิตเพราะรับคำท้าดื่มสุรารวดเดียวหมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท ในงานเปิดร้านสินค้าการเกษตร สลดใจกลายเป็นสวนสัตว์มนุษย์ของอินฟลูฯ ตลาดล่าง #Newskit
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2473 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อย่ายุ่งกับการเลือกตั้งของโรมาเนีย!”
    “ประชาธิปไตยจะต้องเป็นผลงานของโรมาเนีย ไม่ใช่ผลงานของเครมลิน”

    เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวหารัสเซียอย่างตรงไปตรงมาถึงการเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในโรมาเนียอย่างลับๆ
    “อย่ายุ่งกับการเลือกตั้งของโรมาเนีย!” “ประชาธิปไตยจะต้องเป็นผลงานของโรมาเนีย ไม่ใช่ผลงานของเครมลิน” เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวหารัสเซียอย่างตรงไปตรงมาถึงการเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในโรมาเนียอย่างลับๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง เดวิด แซคส์(David Sacks) เป็นหัวหน้าฝ่าย “ปัญญาประดิษฐ์และสกุลเงินดิจิทัลของทำเนียบขาว” (White House A.I. & Crypto Czar)

    แซคส์เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในซิลิคอนแวลลีย์ และยังเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ COO ของ PayPal

    ตำแหน่งของแซคส์เป็นตำแหน่งที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในทำเนียบขาวที่รับผิดชอบด้านคริปโทเคอร์เรนซี่โดยเฉพาะ

    ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งตัดสินใจเลือก พอล แอตกินส์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. (SEC) คนใหม่ ซึ่งจะเข้าเริ่มงานเดือนมกราคมนี้ พอลมีแนวคิดสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี่มาโดยตลอด หลังการประกาศของทรัมป์ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ

    - ขณะเดียวกันทางฝั่งรัสเซีย ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เพิ่งออกมากล่าวต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธว่า Bitcoin ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ซึ่งเป็นการยอมรับที่ชัดเจนที่สุดของเขาถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในขณะที่รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง

    - ในการพูดที่ฟอรั่มในมอสโก ปูตินได้กล่าวถึงการครอบงำของสกุลเงินดั้งเดิมเช่น USD ในขณะที่สังเกตเห็นการเกิดขึ้นของระบบการชำระเงินรุ่นใหม่ เขาอ้างถึง Bitcoin เป็นตัวอย่างสำคัญของสกุลเงินที่กระจายอำนาจซึ่งไม่สามารถถูกกดดันจากภายนอกได้

    โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง เดวิด แซคส์(David Sacks) เป็นหัวหน้าฝ่าย “ปัญญาประดิษฐ์และสกุลเงินดิจิทัลของทำเนียบขาว” (White House A.I. & Crypto Czar) แซคส์เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่าสองทศวรรษในซิลิคอนแวลลีย์ และยังเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ COO ของ PayPal ตำแหน่งของแซคส์เป็นตำแหน่งที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในทำเนียบขาวที่รับผิดชอบด้านคริปโทเคอร์เรนซี่โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งตัดสินใจเลือก พอล แอตกินส์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. (SEC) คนใหม่ ซึ่งจะเข้าเริ่มงานเดือนมกราคมนี้ พอลมีแนวคิดสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซี่มาโดยตลอด หลังการประกาศของทรัมป์ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ - ขณะเดียวกันทางฝั่งรัสเซีย ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เพิ่งออกมากล่าวต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธว่า Bitcoin ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ซึ่งเป็นการยอมรับที่ชัดเจนที่สุดของเขาถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในขณะที่รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่อง - ในการพูดที่ฟอรั่มในมอสโก ปูตินได้กล่าวถึงการครอบงำของสกุลเงินดั้งเดิมเช่น USD ในขณะที่สังเกตเห็นการเกิดขึ้นของระบบการชำระเงินรุ่นใหม่ เขาอ้างถึง Bitcoin เป็นตัวอย่างสำคัญของสกุลเงินที่กระจายอำนาจซึ่งไม่สามารถถูกกดดันจากภายนอกได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในการอภัยโทษ ฮันเตอร์ ลูกชายของเขา จะบ่อนทำลายความซื่อสัตย์สุจริตของอเมริกา จากเสียงประณามของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเทคโนโลยี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไบเดน เคยบ่งชี้ว่าเขาจะไม่เข้าแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่วข้องกับบุตรชายตนเอง
    .
    เมื่อเดือนมิถุนายน ฮันเตอร์ ไบเดน ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา 3 กระทง โทษฐานโกหกในประเด็นเดี่ยวกับการใช้สารเสพติดในใบเอกสารขอซื้ออาวุธปืน ครั้งที่เขาซื้อปืนพกลูกโม่กระบอกหนึ่งในปี 2018 ส่วนอีกคดีแยกกัน เขายอมรับสารภาพผิดในความผิดอาญาฐานหลีกเลี่ยงภาษี 3 กระทง และความผิดลหุโทษเกี่ยวเนื่องกับภาษีอีก 6 กระทง ในเดือนกันยายน โดยที่ศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนตุลาคม
    .
    ในข้อความที่เขียนตอบโพสต์ของ เดวิด มาร์คัส นักธุรกิจด้วยกัน บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) อีลอน มัสก์ ระบุว่า "ผมไม่แคร์อะไรกับเรื่องยาเสพติดหรอก แต่การบ่อนทำลายความซื่อสัตย์ของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเลย"
    .
    ไม่นานหลังจากได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์รายนี้ ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากระทรวงแห่งนี้จะดำเนินงานอยู่รอบนอกขอบเขตของรัฐบาลสหรัฐฯ
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ไบเดน แถลงว่าได้ลงนามคำสั่งอภัยโทษให้ฮันเตอร์ ไบเดน อย่างสมบูรณ์แบบและปราศจากเงื่อนไข ครอบคลุมทุกคดีความที่ลูกชายของเขาก่อหรืออาจก่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ในระหว่างช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2014 ถึง 1 ธันวาคม 2024 ในนั้นรวมถึงในทุกๆ ความผิดหรือทุกการดำเนินคดี
    .
    ประธานาธิบดีรายนี้อ้างว่าลูกชายของเขาถูกเจาะจงดำเนินคดีและดำเนินคดีอย่างไม่ยุติธรรม สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ทางครอบครัว พร้อมเน้นย้ำว่า "คนทั่วไปแทบไม่เคยถูกนำตัวเข้าสู่การพิจารณาคดีตามข้อกล่าวหาทางอาญาใดๆ เลย ในโทษฐานเพียงแค่คนเหล่านั้นกรอกแบบฟอร์มอาวุธปืน" พร้อมระบุว่าคดีที่เอาผิดกับฮันเตอร์นั้น เข้าข่าย "การดำเนินคดีโดยผิดพลาด (miscarriage of justice)" ซึ่งว่ากันว่าพวกฝ่ายค้านรีพับลิกันอยู่เบื้องหลัง
    .
    ด้านทำเนียบขาวระบุในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อภัยโทษให้ลูกชาย ส่วนหนึ่งสืบเนื่องเพราะกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขาจะยังคงตามประหัตประหาร ฮันเตอร์ ไบเดน ในอนาคต ในนั้นรวมถึงหลังจากที่เขาพ้นจากตำแหน่งแล้ว
    .
    นับตั้งแต่ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในปี 2021 เหล่านักการเมืองคนดังจากรีพับลิกันหลายคน กล่าวหาลูกชายของเขาทำตัวเหมือนกับเป็นพ่อค้าเร่ของประธานาธิบดี ในการต่อรองคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไบเดน ปฏิเสธคำกล่าวหานี้
    .
    ในความเห็นเกี่ยวกับการอภัยโทษครั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เขียนบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ (30 ธ.ย.) ว่าการตัดสินใจของไบเดน ถือเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม
    .
    "การอภัยโทษที่ โจ ให้ ฮันเตอร์ นั้นครอบคลุมถึงกลุ่ม J-6 Hostages ที่ต้องติดคุกมานานหลายปีแล้วด้วยไหม? ช่างเป็นการล่วงละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" ทรัมป์ โพสต์ โดยอ้างถึงกลุ่มผู้สนับสนุนตนเองที่ถูกตัดสินจำคุกจากการบุกเข้าไปก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
    .
    นอกจาก ทรัมป์ แล้ว สมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกันหลายคนก็แสดงความขุ่นเคืองต่อการตัดสินใจของไบเดนเช่นกัน ขณะเดียวกัน มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า การอภัยโทษครั้งนี้คือการล้อเลียนประชาธิปไตย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000116110
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในการอภัยโทษ ฮันเตอร์ ลูกชายของเขา จะบ่อนทำลายความซื่อสัตย์สุจริตของอเมริกา จากเสียงประณามของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเทคโนโลยี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไบเดน เคยบ่งชี้ว่าเขาจะไม่เข้าแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่วข้องกับบุตรชายตนเอง . เมื่อเดือนมิถุนายน ฮันเตอร์ ไบเดน ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา 3 กระทง โทษฐานโกหกในประเด็นเดี่ยวกับการใช้สารเสพติดในใบเอกสารขอซื้ออาวุธปืน ครั้งที่เขาซื้อปืนพกลูกโม่กระบอกหนึ่งในปี 2018 ส่วนอีกคดีแยกกัน เขายอมรับสารภาพผิดในความผิดอาญาฐานหลีกเลี่ยงภาษี 3 กระทง และความผิดลหุโทษเกี่ยวเนื่องกับภาษีอีก 6 กระทง ในเดือนกันยายน โดยที่ศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนตุลาคม . ในข้อความที่เขียนตอบโพสต์ของ เดวิด มาร์คัส นักธุรกิจด้วยกัน บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ เมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) อีลอน มัสก์ ระบุว่า "ผมไม่แคร์อะไรกับเรื่องยาเสพติดหรอก แต่การบ่อนทำลายความซื่อสัตย์ของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเลย" . ไม่นานหลังจากได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์รายนี้ ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากระทรวงแห่งนี้จะดำเนินงานอยู่รอบนอกขอบเขตของรัฐบาลสหรัฐฯ . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ไบเดน แถลงว่าได้ลงนามคำสั่งอภัยโทษให้ฮันเตอร์ ไบเดน อย่างสมบูรณ์แบบและปราศจากเงื่อนไข ครอบคลุมทุกคดีความที่ลูกชายของเขาก่อหรืออาจก่อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง ในระหว่างช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2014 ถึง 1 ธันวาคม 2024 ในนั้นรวมถึงในทุกๆ ความผิดหรือทุกการดำเนินคดี . ประธานาธิบดีรายนี้อ้างว่าลูกชายของเขาถูกเจาะจงดำเนินคดีและดำเนินคดีอย่างไม่ยุติธรรม สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ทางครอบครัว พร้อมเน้นย้ำว่า "คนทั่วไปแทบไม่เคยถูกนำตัวเข้าสู่การพิจารณาคดีตามข้อกล่าวหาทางอาญาใดๆ เลย ในโทษฐานเพียงแค่คนเหล่านั้นกรอกแบบฟอร์มอาวุธปืน" พร้อมระบุว่าคดีที่เอาผิดกับฮันเตอร์นั้น เข้าข่าย "การดำเนินคดีโดยผิดพลาด (miscarriage of justice)" ซึ่งว่ากันว่าพวกฝ่ายค้านรีพับลิกันอยู่เบื้องหลัง . ด้านทำเนียบขาวระบุในวันจันทร์ (2 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อภัยโทษให้ลูกชาย ส่วนหนึ่งสืบเนื่องเพราะกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขาจะยังคงตามประหัตประหาร ฮันเตอร์ ไบเดน ในอนาคต ในนั้นรวมถึงหลังจากที่เขาพ้นจากตำแหน่งแล้ว . นับตั้งแต่ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในปี 2021 เหล่านักการเมืองคนดังจากรีพับลิกันหลายคน กล่าวหาลูกชายของเขาทำตัวเหมือนกับเป็นพ่อค้าเร่ของประธานาธิบดี ในการต่อรองคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไบเดน ปฏิเสธคำกล่าวหานี้ . ในความเห็นเกี่ยวกับการอภัยโทษครั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เขียนบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ (30 ธ.ย.) ว่าการตัดสินใจของไบเดน ถือเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม . "การอภัยโทษที่ โจ ให้ ฮันเตอร์ นั้นครอบคลุมถึงกลุ่ม J-6 Hostages ที่ต้องติดคุกมานานหลายปีแล้วด้วยไหม? ช่างเป็นการล่วงละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" ทรัมป์ โพสต์ โดยอ้างถึงกลุ่มผู้สนับสนุนตนเองที่ถูกตัดสินจำคุกจากการบุกเข้าไปก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 . นอกจาก ทรัมป์ แล้ว สมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกันหลายคนก็แสดงความขุ่นเคืองต่อการตัดสินใจของไบเดนเช่นกัน ขณะเดียวกัน มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า การอภัยโทษครั้งนี้คือการล้อเลียนประชาธิปไตย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000116110 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1303 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พวกคุณจะบ้าเหรอ!! เราไม่ได้ส่งทหารไปยูเครน"
    เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ปฏิเสธการนำเสนอข่าวของสื่อฝรั่งเศสว่าทหารอังกฤษอาจถูกส่งไปยังยูเครน

    "เราไม่ได้ส่งทหารไปประจำการ เราแค่ฝึกและสนับสนุนทางทหารตามที่ปกติอย่างที่เคยทำ"
    "พวกคุณจะบ้าเหรอ!! เราไม่ได้ส่งทหารไปยูเครน" เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ปฏิเสธการนำเสนอข่าวของสื่อฝรั่งเศสว่าทหารอังกฤษอาจถูกส่งไปยังยูเครน "เราไม่ได้ส่งทหารไปประจำการ เราแค่ฝึกและสนับสนุนทางทหารตามที่ปกติอย่างที่เคยทำ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ
    .
    รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น
    .
    วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน
    .
    - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย
    .
    - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น
    .
    - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย
    .
    - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ
    .
    - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ
    .
    - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน
    .
    - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร
    .
    - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ
    .
    - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้
    .
    - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง
    ..............
    Sondhi X
    สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ . รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น . วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้ . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน . - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย . - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น . - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย . - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ . - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ . - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน . - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร . - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ . - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้ . - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2455 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน
    .
    สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน
    .
    กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน
    .
    ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์
    .
    สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน
    .
    ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น
    .
    มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน
    .
    รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19)
    .
    มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ
    .
    เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก
    .
    อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
    .
    ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449
    ..............
    อิสราเอลโจมตีทางอากาศย่านที่พักอาศัยที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงเบรุต ใกล้ๆ พวกอาคารที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตสำคัญๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ขณะที่อเมริกากำลังเร่งผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน . สำนักข่าวแห่งชาติของรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกถล่มย่านโซแกก อัล-แบลต ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่สหประชาชาติประจำเลบานอน อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอน . กองทัพอิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนระบุว่า นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ 24 คน . ปัจจุบัน หลายบริเวณทางตอนกลางของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงย่านโซแกก อัล-แบลต กลายเป็นที่หลบภัยของชาวเลบานอนราว 1 ล้านคนที่หลบหนีออกมาจากทางภาคใต้ของเลบานอน ตลอดจนชานเมืองด้านใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างกองทหารอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ . สำหรับเป้าหมายการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์ของรัฐยิวยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้น กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า . เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นวันที่สองติดต่อกันที่อิสราเอลโจมตีตอนกลางของเบรุตหลังจากหยุดมากว่าเดือน โดยในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) มีการโจมตีย่านราส เอล-นาบา ทำให้โมฮัมเหม็ด อาฟิก โฆษกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เสียชีวิตพร้อมเหยื่ออื่นๆ อีก 6 คน ที่รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่ง และวันเดียวกันนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 4 คนจากการโจมตีในย่านการค้ามาร์ เอเลียส . ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลระบุว่า ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดโจมตีอิสราเอลหลายสิบลูกเมื่อวันจันทร์ ทำให้ที่เมืองเชฟาราม ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บอีก 10 คน นอกจากนั้น ย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ก็ถูกโจมตีเช่นกันและมีผู้บาดเจ็บ 5 คน . ภายหลังการโจมตีกลางกรุงเบรุตเมื่อวันจันทร์ไม่นาน นาจิบ มิคาติ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ให้ทุกประเทศและผู้มีอำนาจตัดสินใจยุติการรุกรานเลบานอนของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายมากมายและเกิดความเสียหายรุนแรง รวมทั้งปฏิบัติตามมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น . มติดังกล่าวกำหนดให้กองกำลังทุกฝ่ายถอนออกจากชายแดนทางใต้ของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล ยกเว้นกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นและกองทัพเลบานอน และขณะนี้อเมริกานำเอามตินี้มาปัดฝุ่นอีกครั้งโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหยุดยิง 60 วันที่กำลังเร่งผลักดันเพื่อยุติการยิงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่ยืดเยื้อมา 13 เดือน . รายงานคาดว่า นาบีฮ์ เบอร์รี ผู้ไกล่เกลี่ยของฮิซบอลเลาะห์ จะพบกับอามอส ฮอชสตีน ผู้แทนของอเมริกาที่เดินทางถึงกรุงเบรุตแล้วเมื่อวันอังคาร (19) . มอสตาฟา เบย์รัม รัฐมนตรีแรงงานเลบานอนที่ได้พบเบอร์รีเมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า เลบานอนมองแง่ดีกับข้อเสนอล่าสุดของอเมริกา . อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิสราเอลยืนกรานว่า ต้องมีการรับประกันว่า ตนจะสามารถดำเนินปฏิบัติการทางทหารกับฮิซบอลเลาะห์ต่อไปหากจำเป็น ซึ่งไม่มีแนวโน้มว่า เลบานอนจะยอมรับ . เดวิด เมนเซอร์ โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลจะยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ ระหว่างที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ จัดการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังแถลงต่อรัฐสภาว่า แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอลจะยังคงโจมตีฮิซบอลเลาะห์ต่อไปเมื่อไม่ให้กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก . อนึ่ง นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอน พร้อมประกาศกวาดล้างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน . ทางการเลบานอนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,510 คนนับจากที่ฮิซบอลเลาะห์ปะทะกับอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทว่า ส่วนใหญ่เสียชีวิตนับจากปลายเดือนกันยายน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111449 ..............
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1675 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
    .
    อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น
    .
    เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ"
    .
    จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ
    .
    "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว
    .
    ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน"
    .
    รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์
    .
    ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว
    .
    เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078
    ..............
    Sondhi X
    สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ . อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น . เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ" . จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ . "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว . ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน" . รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ . ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว . เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    18
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ
    .
    เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง
    .
    ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU
    .
    การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ
    .
    มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022
    .
    บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี
    .
    หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
    .
    และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU . รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ . เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง . รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน . อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง . ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป . รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU . การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป . รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ . มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022 . บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู . รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี . หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ . และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1531 มุมมอง 0 รีวิว
  • #4
    มีรายงานขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูก ถูกยิงจากเลบานอนไปยังเทลอาวีฟ

    ขีปนาวุธที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงจากเลบานอนโจมตีพื้นที่ใกล้เมืองติรา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทลอาวีฟ หลังจากระบบป้องกัน "เดวิดสลิง" ของอิสราเอลไม่สามารถสกัดกั้นได้ แรงระเบิดทำให้ตึกได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    นอกจากนียังมีรายงาน จรวดที่เหลือหลายลูกกระจายตกลงมาในหลายพื้นที่ใน "ฮาชารอน" ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งอิสราเอลใน เนทันยา(Netanya) และ "เทลอาวีฟ" เมืองหลวง
    #4 มีรายงานขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูก ถูกยิงจากเลบานอนไปยังเทลอาวีฟ ขีปนาวุธที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงจากเลบานอนโจมตีพื้นที่ใกล้เมืองติรา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเทลอาวีฟ หลังจากระบบป้องกัน "เดวิดสลิง" ของอิสราเอลไม่สามารถสกัดกั้นได้ แรงระเบิดทำให้ตึกได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนียังมีรายงาน จรวดที่เหลือหลายลูกกระจายตกลงมาในหลายพื้นที่ใน "ฮาชารอน" ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งอิสราเอลใน เนทันยา(Netanya) และ "เทลอาวีฟ" เมืองหลวง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 49 0 รีวิว
Pages Boosts