• ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน

    ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503
    ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร

    แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน

    การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา
    แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน

    การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร***

    ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง

    ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ

    หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง

    นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน

    พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก

    และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก***

    นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน

    และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง
    คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง

    ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย

    ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน

    ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ

    ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที

    และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน

    แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย

    และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

    แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ

    และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต

    ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว

    ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย
    ว่าไหม.

    CR. เดชา นฤนารท.
    15/6/68 10.32 น.
    ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503 ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร*** ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก*** นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย ว่าไหม. CR. เดชา นฤนารท. 15/6/68 10.32 น.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • 🔍 ปัญหาความเป็นส่วนตัว: กล้องวงจรปิดกว่า 40,000 ตัวทั่วโลกกำลังสตรีมภาพโดยไม่มีการป้องกัน
    บริษัท Bitsight ได้เปิดเผยว่า มีมากกว่า 40,000 กล้องวงจรปิดทั่วโลกที่กำลังสตรีมภาพแบบไม่มีการป้องกัน ซึ่งหมายความว่า ใครก็ตามสามารถเข้าถึงภาพสดจากกล้องเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือการเข้ารหัส

    Bitsight พบว่า กล้องเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่รู้ IP address และ มีการพูดคุยเกี่ยวกับฟีดวิดีโอเหล่านี้ในฟอรัมบนดาร์กเว็บ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Bitsight พบว่ามีมากกว่า 40,000 กล้องวงจรปิดทั่วโลกที่ไม่มีการป้องกัน
    - ในสหรัฐฯ มีประมาณ 14,000 กล้องที่เปิดเผยข้อมูล โดยรัฐที่มีจำนวนมากที่สุดคือ California, Texas, Georgia และ New York
    - ญี่ปุ่นมีประมาณ 7,000 กล้องที่ไม่มีการป้องกัน ตามมาด้วยออสเตรีย, เช็ก และเกาหลีใต้ที่มีประมาณ 2,000 กล้อง
    - บางกล้องถูกตั้งค่าให้สตรีมภาพโดยเจตนา เช่น ชายหาดหรือบ้านนก แต่บางกล้องอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น หน้าบ้าน, สวนหลังบ้าน และห้องนั่งเล่น
    - Bitsight พบว่ากล้องในสำนักงาน, โรงงาน และระบบขนส่งสาธารณะก็ได้รับผลกระทบ

    ⚠️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    Bitsight ระบุว่า ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่ากล้องของตนเอง และ ปิดการเข้าถึงระยะไกลหากไม่จำเป็น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่ากล้องของตนเปิดเผยหรือไม่โดยลองเข้าถึงจากเครือข่ายภายนอก
    - หากสามารถดูภาพจากกล้องโดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบหรือใช้ VPN แสดงว่ากล้องอาจเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต
    - ควรเปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเริ่มต้น เนื่องจากกล้องหลายตัวมาพร้อมกับข้อมูลล็อกอินที่ง่ายต่อการเจาะระบบ
    - ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ของกล้องเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบว่ามีการป้องกันผ่านไฟร์วอลล์หรือไม่

    Bitsight แนะนำว่า ผู้ผลิตกล้องควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การบังคับใช้รหัสผ่านและการเข้ารหัสข้อมูล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตระหนักถึงปัญหานี้และดำเนินการแก้ไขหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/massive-privacy-concern-over-40-000-security-cameras-are-streaming-unsecured-footage-worldwide
    🔍 ปัญหาความเป็นส่วนตัว: กล้องวงจรปิดกว่า 40,000 ตัวทั่วโลกกำลังสตรีมภาพโดยไม่มีการป้องกัน บริษัท Bitsight ได้เปิดเผยว่า มีมากกว่า 40,000 กล้องวงจรปิดทั่วโลกที่กำลังสตรีมภาพแบบไม่มีการป้องกัน ซึ่งหมายความว่า ใครก็ตามสามารถเข้าถึงภาพสดจากกล้องเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือการเข้ารหัส Bitsight พบว่า กล้องเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่รู้ IP address และ มีการพูดคุยเกี่ยวกับฟีดวิดีโอเหล่านี้ในฟอรัมบนดาร์กเว็บ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Bitsight พบว่ามีมากกว่า 40,000 กล้องวงจรปิดทั่วโลกที่ไม่มีการป้องกัน - ในสหรัฐฯ มีประมาณ 14,000 กล้องที่เปิดเผยข้อมูล โดยรัฐที่มีจำนวนมากที่สุดคือ California, Texas, Georgia และ New York - ญี่ปุ่นมีประมาณ 7,000 กล้องที่ไม่มีการป้องกัน ตามมาด้วยออสเตรีย, เช็ก และเกาหลีใต้ที่มีประมาณ 2,000 กล้อง - บางกล้องถูกตั้งค่าให้สตรีมภาพโดยเจตนา เช่น ชายหาดหรือบ้านนก แต่บางกล้องอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น หน้าบ้าน, สวนหลังบ้าน และห้องนั่งเล่น - Bitsight พบว่ากล้องในสำนักงาน, โรงงาน และระบบขนส่งสาธารณะก็ได้รับผลกระทบ ⚠️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว Bitsight ระบุว่า ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่ากล้องของตนเอง และ ปิดการเข้าถึงระยะไกลหากไม่จำเป็น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่ากล้องของตนเปิดเผยหรือไม่โดยลองเข้าถึงจากเครือข่ายภายนอก - หากสามารถดูภาพจากกล้องโดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบหรือใช้ VPN แสดงว่ากล้องอาจเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต - ควรเปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเริ่มต้น เนื่องจากกล้องหลายตัวมาพร้อมกับข้อมูลล็อกอินที่ง่ายต่อการเจาะระบบ - ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ของกล้องเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบว่ามีการป้องกันผ่านไฟร์วอลล์หรือไม่ Bitsight แนะนำว่า ผู้ผลิตกล้องควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การบังคับใช้รหัสผ่านและการเข้ารหัสข้อมูล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตระหนักถึงปัญหานี้และดำเนินการแก้ไขหรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/massive-privacy-concern-over-40-000-security-cameras-are-streaming-unsecured-footage-worldwide
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก**

    อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**:

    1. **คาบสมุทรเกาหลี**:
    - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่
    - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย

    2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**:
    - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร

    3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**:
    - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ)
    - เกาหลีใต้
    - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA)

    4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**:
    - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย)
    - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง

    5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**:
    - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ

    6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**:
    - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก
    - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ

    7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**:
    - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย

    ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง:
    - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม
    - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน
    - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน

    ### ข้อควรจำ:
    - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง
    - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย
    - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล

    แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก** อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**: 1. **คาบสมุทรเกาหลี**: - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่ - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย 2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**: - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร 3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**: - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ) - เกาหลีใต้ - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA) 4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**: - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย) - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง 5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**: - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ 6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**: - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ 7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**: - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง: - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน ### ข้อควรจำ: - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • กำลังรบกองเรือยุทธการ พร้อมปกป้องอธิปไตย : [NEWS UPDATE]

    พลเรือเอกณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เผยถึงการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกัมพูชา ได้รวบรวมข้อมูลข่าวกรองทราบว่าไม่ใช่การฝึกประเทศเดียว ย้ำ ขีดความสามารถของกองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งเรือ อาวุธสงคราม โดยหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน และหน่วยซีล ซึ่งได้ผ่านการฝึกแก้ปัญหาในที่บังคับการ ฝึกภาคทะเล ฝึกร่วมกับต่างประเทศ เช่น คอบร้าโกลด์ ฝึกร่วมกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จึงมีประสบการณ์ และมีความพร้อม กำลังพลมีความกล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย เราฝึกให้กำลังพลรู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน

    ตราดเตรียมแผนอพยพ

    กัมพูชาซ้อมกระสุนจริง

    ไม่เชื่อกาสิโนหนุนท่องเที่ยว

    ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสารพิษ
    กำลังรบกองเรือยุทธการ พร้อมปกป้องอธิปไตย : [NEWS UPDATE] พลเรือเอกณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เผยถึงการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกัมพูชา ได้รวบรวมข้อมูลข่าวกรองทราบว่าไม่ใช่การฝึกประเทศเดียว ย้ำ ขีดความสามารถของกองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งเรือ อาวุธสงคราม โดยหน่วยรบหลักของกองทัพเรือ มีเรือ อากาศยาน และหน่วยซีล ซึ่งได้ผ่านการฝึกแก้ปัญหาในที่บังคับการ ฝึกภาคทะเล ฝึกร่วมกับต่างประเทศ เช่น คอบร้าโกลด์ ฝึกร่วมกับสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จึงมีประสบการณ์ และมีความพร้อม กำลังพลมีความกล้าหาญ เสียสละ ไม่กลัวตาย เราฝึกให้กำลังพลรู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ตราดเตรียมแผนอพยพ กัมพูชาซ้อมกระสุนจริง ไม่เชื่อกาสิโนหนุนท่องเที่ยว ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสารพิษ
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 538 Views 27 0 Reviews
  • ถามสหรัฐหรือยัง...ยอมมั้ย!?!

    "อี แจ-มยอง" คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศจะทำหน้าที่ในการรวมประชาชนเป็นหนึ่ง และจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือโดยจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือให้ดีขึ้น และจะดำเนิน “การเจรจาและความร่วมมือ” ต่อไป โดยระบุว่า “สันติภาพย่อมดีกว่าสงคราม”
    ถามสหรัฐหรือยัง...ยอมมั้ย!?! "อี แจ-มยอง" คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศจะทำหน้าที่ในการรวมประชาชนเป็นหนึ่ง และจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือโดยจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือให้ดีขึ้น และจะดำเนิน “การเจรจาและความร่วมมือ” ต่อไป โดยระบุว่า “สันติภาพย่อมดีกว่าสงคราม”
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • 📱 สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล
    สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้

    แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น
    - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade"
    - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล

    นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้
    - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ
    - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ
    - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด
    - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล
    - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่

    เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ

    https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    📱 สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade" - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ✅ ข้อมูลจากข่าว - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้ - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่ เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    In North Korea, your phone secretly takes screenshots every 5 minutes for government surveillance
    The phone was featured in a BBC video, which showed it powering on with an animated North Korean flag waving across the screen. While the report did...
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้

    ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน:
    1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)**
    - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน"
    - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

    2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)**
    - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์
    - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง

    3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)**
    - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ
    - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง

    4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)**
    - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล
    - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย)

    ### ความท้าทายสำคัญ:
    - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ
    - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน
    - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน
    - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน

    ### กรณีศึกษาประเทศไทย:
    - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ
    - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ
    - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง

    ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ:
    1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law)
    2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI
    3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ
    4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

    > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน

    ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    การใช้ AI ปราบคอร์รัปชันในวงการเมืองเป็นแนวทางที่น่าสนใจและหลายประเทศกำลังทดลองใช้ โดยมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนี้ ### ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI ต้านคอร์รัปชัน: 1. **วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน (Financial Forensics)** - AI ตรวจสอบบัญชีธนาคาร ภาษี และรายงานทรัพย์สินของนักการเมืองเพื่อหา "รายได้ไม่สมทรัพย์สิน" - ตัวอย่าง: ยูเครนใช้ระบบ **ProZorro** + AI วิเคราะห์การจัดซื้อจัดจ้างรัฐ ส่งผลให้ประหยัดงบประมาณได้ 6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี 2. **ตรวจจับการทุจริตโครงการรัฐ (Public Procurement Monitoring)** - ระบบ Machine Learning วิเคราะห์ราคากลาง/ผู้ชนะประมูลซ้ำๆ เช่น หากพบบริษัทเดียวกันชนะประมูลเกิน 70% ในเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจส่อพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ - อินโดนีเซียใช้ **e-LPSE** + AI ตรวจจับความผิดปกติในโครงการก่อสร้าง 3. **เฝ้าระวังเครือข่ายทุจริต (Network Analysis)** - AI แมปความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมือง-ธุรกิจ-ข้าราชการผ่านข้อมูลธุรกรรม การโอนหุ้น หรือการประชุมลับ - เกาหลีใต้ใช้วิธีนี้สืบสวนคดีทุจริตระดับสูง 4. **แพลตฟอร์มรายงานแบบเปิด (Whistleblower Platforms)** - Chatbot ช่วยประชาชนรายงานการทุจริตแบบไม่เปิดเผยตัวตน พร้อม AI คัดกรองข้อมูล - ตัวอย่าง: **DoNotPay** (สหรัฐฯ) และ **I Paid a Bribe** (อินเดีย) ### ความท้าทายสำคัญ: - **ความแม่นยำของข้อมูล**: AI ต้องการข้อมูลเปิด (Open Data) ที่ครบถ้วน ในขณะที่หลายประเทศยังปิดบังข้อมูลสาธารณะ - **อคติของระบบ (Bias)**: หากข้อมูลฝึกสอนมาจากหน่วยงานทุจริต AI อาจถูกบิดเบือน - **การโจมตีทางไซเบอร์**: กลุ่มผลประโยชน์อาจแฮ็กระบบเพื่อทำลายหลักฐาน - **อุปสรรคทางกฎหมาย**: บางประเทศขาดกฎหมายรองรับการใช้ AI ในการสืบสวน ### กรณีศึกษาประเทศไทย: - **โครงการ "ไทยติดตาม" (Thai Open Data)**: ใช้ Data Visualization ตรวจสอบงบประมาณรัฐ - **สำนักงาน ป.ป.ช.**: ทดลอง AI วิเคราะห์รายงานทรัพย์สินส่อพิรุธ - **ความก้าวหน้า**: ยังต้องการการบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และปรับกฎหมายให้สอดคล้อง ### แนวทางเสริมประสิทธิภาพ: 1. **ออกกฎหมายบังคับเปิดข้อมูลภาครัฐ** (Open Data Law) 2. **สร้างระบบตรวจสอบอิสระ** เพื่อป้องกันการแทรกแซง AI 3. **พัฒนาความรู้ AI ให้ประชาชน** เพื่อร่วมเป็น "ตาทิพย์" ตรวจสอบ 4. **ผสานกับกลไกดั้งเดิม** เช่น สื่อมวลชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน > สรุป: AI ไม่ใช่ "ไม้เท้าวิเศษ" ที่แก้คอร์รัปชันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ต้องใช้ควบคู่กับ **ความโปร่งใสทางการเมือง (Political Will)** และ **การมีส่วนร่วมของประชาชน** เท่านั้นจึงจะได้ผลยั่งยืน ประเทศที่ประสบความสำเร็จเช่น **จอร์เจีย** และ **เอสโตเนีย** พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีช่วยลดคอร์รัปชันได้จริง หากมีเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน!
    0 Comments 0 Shares 285 Views 0 Reviews
  • 🌍 จีนปรับนโยบายส่งออกแร่หายากเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป หลังจากที่มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานานและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

    แร่หายากเป็น วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก การปรับนโยบายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่าง เจ้าหน้าที่จีนและสมาชิกหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง สายการผลิตในยุโรปอาจต้องหยุดชะงัก

    อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - จีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป
    - มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานาน และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมกับหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนจะได้รับผลตอบแทนอะไรจากยุโรป ในการผ่อนปรนนโยบายนี้
    - การเปลี่ยนแปลงนโยบายอาจทำให้เกิดความสับสนในกระบวนการศุลกากร และต้องใช้เวลาปรับตัว
    - สหรัฐฯ และจีนยังคงอยู่ในสงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกแร่หายากในอนาคต
    - บริษัทที่ต้องการนำเข้าแร่หายากยังต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อน แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนแล้ว

    🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    การปรับนโยบายของจีนอาจช่วยให้ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออก ซึ่งอาจทำให้ต้องหาทางเลือกอื่นในการจัดหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิป

    จีนกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับยุโรป ในขณะที่ยังคงควบคุมการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยี
    🌍 จีนปรับนโยบายส่งออกแร่หายากเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป หลังจากที่มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานานและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน แร่หายากเป็น วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก การปรับนโยบายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่าง เจ้าหน้าที่จีนและสมาชิกหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง สายการผลิตในยุโรปอาจต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - จีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป - มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานาน และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน - การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมกับหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนจะได้รับผลตอบแทนอะไรจากยุโรป ในการผ่อนปรนนโยบายนี้ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายอาจทำให้เกิดความสับสนในกระบวนการศุลกากร และต้องใช้เวลาปรับตัว - สหรัฐฯ และจีนยังคงอยู่ในสงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกแร่หายากในอนาคต - บริษัทที่ต้องการนำเข้าแร่หายากยังต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อน แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนแล้ว 🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การปรับนโยบายของจีนอาจช่วยให้ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออก ซึ่งอาจทำให้ต้องหาทางเลือกอื่นในการจัดหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิป จีนกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับยุโรป ในขณะที่ยังคงควบคุมการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยี
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • 🔥 อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรนในสนามรบเป็นครั้งแรก
    กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้ใช้ ระบบป้องกันด้วยเลเซอร์ ในการยิงโดรนของกลุ่ม Hezbollah เป็นครั้งแรกในสถานการณ์จริง โดยใช้ Lite Beam ซึ่งเป็นต้นแบบของ Iron Beam ที่จะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2025

    ระบบ Iron Beam เป็นเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศที่ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อครั้ง เทียบกับระบบป้องกันแบบเดิมที่มีค่าใช้จ่าย 50,000 - 100,000 ดอลลาร์ต่อการยิงหนึ่งครั้ง

    นอกจากนี้ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ก็กำลังพัฒนาอาวุธเลเซอร์สำหรับการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเฉพาะระบบ DragonFire ของอังกฤษที่สามารถยิงโดรนได้จากระยะ 1 กิโลเมตร ด้วยต้นทุนเพียง 13 ดอลลาร์ต่อครั้ง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรน Hezbollah เป็นครั้งแรก ในสนามรบจริง
    - Lite Beam เป็นต้นแบบของ Iron Beam ซึ่งจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2025
    - Iron Beam ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือไม่กี่ดอลลาร์
    - ระบบสามารถยิงเป้าหมายได้ที่ความเร็วแสง และมี "กระสุน" ไม่จำกัดตราบใดที่มีพลังงาน
    - Iron Beam จะถูกบูรณาการเข้ากับระบบป้องกัน Iron Dome

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ประสิทธิภาพของเลเซอร์ลดลงในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น หมอก, ฝนหนัก หรือพายุทราย
    - ระบบยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอการทดสอบเพิ่มเติม
    - การใช้เลเซอร์ในสนามรบอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน
    - ต้องจับตาดูว่าการใช้เลเซอร์จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศในอนาคต

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาวุธ
    การใช้เลเซอร์ในสนามรบจริงเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาอาวุธในอนาคต โดยเฉพาะการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ

    https://www.techspot.com/news/108105-first-ever-operational-use-israel-reveals-shot-down.html
    🔥 อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรนในสนามรบเป็นครั้งแรก กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้ใช้ ระบบป้องกันด้วยเลเซอร์ ในการยิงโดรนของกลุ่ม Hezbollah เป็นครั้งแรกในสถานการณ์จริง โดยใช้ Lite Beam ซึ่งเป็นต้นแบบของ Iron Beam ที่จะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2025 ระบบ Iron Beam เป็นเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศที่ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อครั้ง เทียบกับระบบป้องกันแบบเดิมที่มีค่าใช้จ่าย 50,000 - 100,000 ดอลลาร์ต่อการยิงหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ก็กำลังพัฒนาอาวุธเลเซอร์สำหรับการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเฉพาะระบบ DragonFire ของอังกฤษที่สามารถยิงโดรนได้จากระยะ 1 กิโลเมตร ด้วยต้นทุนเพียง 13 ดอลลาร์ต่อครั้ง ✅ ข้อมูลจากข่าว - อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรน Hezbollah เป็นครั้งแรก ในสนามรบจริง - Lite Beam เป็นต้นแบบของ Iron Beam ซึ่งจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2025 - Iron Beam ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือไม่กี่ดอลลาร์ - ระบบสามารถยิงเป้าหมายได้ที่ความเร็วแสง และมี "กระสุน" ไม่จำกัดตราบใดที่มีพลังงาน - Iron Beam จะถูกบูรณาการเข้ากับระบบป้องกัน Iron Dome ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ประสิทธิภาพของเลเซอร์ลดลงในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น หมอก, ฝนหนัก หรือพายุทราย - ระบบยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอการทดสอบเพิ่มเติม - การใช้เลเซอร์ในสนามรบอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน - ต้องจับตาดูว่าการใช้เลเซอร์จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศในอนาคต 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาวุธ การใช้เลเซอร์ในสนามรบจริงเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาอาวุธในอนาคต โดยเฉพาะการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ https://www.techspot.com/news/108105-first-ever-operational-use-israel-reveals-shot-down.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel confirms world-first combat use of laser-beam weapon, downs Hezbollah drones
    The 10kW Lite Beam prototype system that was used is a less powerful version of the Iron Beam laser interceptor, which is set to become operational sometime...
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ กำลังพิจารณาถอนทหารประมาณ 4,500 นายออกจากเกาหลีใต้ และเคลื่อนกำลังพลไปยังพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก

    - WSJ รายงาน
    สหรัฐฯ กำลังพิจารณาถอนทหารประมาณ 4,500 นายออกจากเกาหลีใต้ และเคลื่อนกำลังพลไปยังพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิก - WSJ รายงาน
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ซนฮึงมิน 20/05/68 #ซนฮึงมิน #นักฟุตบอล #เกาหลีใต้ #คดีทำสาวท้อง #แบล็กเมล์ซนฮึงมิน
    ซนฮึงมิน 20/05/68 #ซนฮึงมิน #นักฟุตบอล #เกาหลีใต้ #คดีทำสาวท้อง #แบล็กเมล์ซนฮึงมิน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 518 Views 22 0 Reviews
  • อดีตพนักงาน SK hynix ถูกจับกุมขณะพยายามลักลอบนำเทคโนโลยี HBM ไปยังจีน

    เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ จับกุมชายที่ถูกสงสัยว่าพยายามลักลอบนำเทคโนโลยี High-Bandwidth Memory (HBM) ของ SK hynix ไปยังจีน ขณะกำลังขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติอินชอน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีลักลอบนำเทคโนโลยี HBM ไปจีน
    ✅ ผู้ต้องสงสัยชื่อ "Mr. Kim" เคยเป็นพนักงานของบริษัทรับเหมาช่วงที่ทำงานกับ SK Hynix
    - เขาถูกกล่าวหาว่า ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ HBM และเทคนิค Hybrid Bonding

    ✅ ตำรวจพบหลักฐานเป็นภาพเอกสารกว่า 11,000 ภาพที่ถูกถ่ายและแก้ไขเพื่อซ่อนโลโก้ของ SK hynix
    - มีรายงานว่า Kim ใช้เอกสารเหล่านี้ในการสมัครงานกับบริษัทจีน รวมถึง Huawei HiSilicon

    ✅ การจับกุมเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ติดตามพฤติกรรมของ Kim มาหลายเดือน
    - หน่วยสืบสวนด้านความปลอดภัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของกรุงโซล ดำเนินการจับกุมก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่องบิน

    ✅ HBM เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ AI accelerators และเป็นที่ต้องการของบริษัทจีน
    - ทำให้ การขโมยข้อมูลนี้มีผลกระทบต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    ✅ เกาหลีใต้มีบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - ผู้กระทำผิด อาจถูกปรับสูงสุด 71,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และจำคุกสูงสุด 10 ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/suspected-sk-hynix-hbm-tech-leaker-arrested-boarding-flight-to-china
    อดีตพนักงาน SK hynix ถูกจับกุมขณะพยายามลักลอบนำเทคโนโลยี HBM ไปยังจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ จับกุมชายที่ถูกสงสัยว่าพยายามลักลอบนำเทคโนโลยี High-Bandwidth Memory (HBM) ของ SK hynix ไปยังจีน ขณะกำลังขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติอินชอน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีลักลอบนำเทคโนโลยี HBM ไปจีน ✅ ผู้ต้องสงสัยชื่อ "Mr. Kim" เคยเป็นพนักงานของบริษัทรับเหมาช่วงที่ทำงานกับ SK Hynix - เขาถูกกล่าวหาว่า ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ HBM และเทคนิค Hybrid Bonding ✅ ตำรวจพบหลักฐานเป็นภาพเอกสารกว่า 11,000 ภาพที่ถูกถ่ายและแก้ไขเพื่อซ่อนโลโก้ของ SK hynix - มีรายงานว่า Kim ใช้เอกสารเหล่านี้ในการสมัครงานกับบริษัทจีน รวมถึง Huawei HiSilicon ✅ การจับกุมเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ติดตามพฤติกรรมของ Kim มาหลายเดือน - หน่วยสืบสวนด้านความปลอดภัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของกรุงโซล ดำเนินการจับกุมก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่องบิน ✅ HBM เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ AI accelerators และเป็นที่ต้องการของบริษัทจีน - ทำให้ การขโมยข้อมูลนี้มีผลกระทบต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ✅ เกาหลีใต้มีบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - ผู้กระทำผิด อาจถูกปรับสูงสุด 71,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และจำคุกสูงสุด 10 ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/suspected-sk-hynix-hbm-tech-leaker-arrested-boarding-flight-to-china
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Suspected SK hynix HBM tech leaker arrested boarding flight to China
    ‘Mr Kim’ was apprehended moments before boarding a flight at South Korea’s Incheon International Airport.
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • TNG eWallet เติมเงินด้วยบัตรไทยได้แล้ว

    สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางไปเที่ยวประเทศมาเลเซียบ่อยครั้ง นอกจากจะต้องมีหัวแปลงปลั๊กไฟมาเลเซีย กับเบอร์มือถือมาเลเซียไว้เล่นเน็ตแทนการซื้อแพ็คเกจโรมมิ่งราคาแพงแล้ว บัตร Touch 'n Go สำหรับใช้บริการขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ จ่ายค่าทางด่วน ที่จอดรถ และร้านค้าก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชัน TNG eWallet ก็สามารถทำธุรกรรมกับบัตร Touch 'n Go รุ่น NFC ได้ทันที รวมทั้งใช้จ่ายที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ และประเทศไทยได้อีกด้วย

    การเติมเงินถ้าเป็นในประเทศมาเลเซีย มีช่องทางที่หลากหลาย โดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขั้นต่ำ 10 ริงกิตโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ คนที่อยู่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อาจเลือกใช้วิธีแลกเงินที่ร้านแลกเงิน แล้วซื้อรหัสเติมเงิน (Reload PIN) ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นฝั่งประเทศมาเลเซีย หรือหากอยู่ที่ต่างประเทศมักจะซื้อรหัสผ่านตัวแทนจำหน่าย เช่น เว็บไซต์ SEAGM ขั้นต่ำ 10 ริงกิต บวกค่าบริการ 0.10 ริงกิต สำหรับชาวไทยสามารถซื้อรหัสผ่านเว็บไซต์ เลือกสกุลเงิน MYR แล้วเลือกชำระผ่าน DuitNow QR สแกนจ่ายผ่านแอปฯ Krungthai NEXT หรือ CIMB THAI ได้

    อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ผู้ใช้งาน Touch N'Go e-Wallet ที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเติมเงินด้วยบัตร VISA, Mastercard และ AMEX ที่ออกจากต่างประเทศได้แล้วบางธนาคารในประเทศไทย ขั้นต่ำ 20 ริงกิต เช่น บัตร YouTrip ของธนาคารกสิกรไทย บัตร Krungthai Travel Debit Card ธนาคารกรุงไทย โดยคิดค่าธรรมเนียม 2.6% ของยอดที่เติม โดยจะเป็นยอดเงินแบบ Transferable สามารถโอนเงินระหว่างบุคคล (Peer-to-Peer) ได้ ต่างจากการเติมเงินผ่าน Reload PIN สามารถเลือกแบบ Non-Transferable สำหรับสแกนจ่ายร้านค้าเท่านั้น ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่หากโอนเงินระหว่างบุคคลจะถูกหัก 1% ต่อรายการ

    วิธีการเติมเงิน ให้เข้าไปที่ "Add money" เลือก "Credit Card" ใส่จำนวนเงินที่ต้องการลงไป (ขั้นต่ำ 20 ริงกิต) แล้วกด Continue จากนั้นกรอกเลขที่บัตรเครดิต (Card Number) เดือน/ปีที่หมดอายุบัตร (MM/YY) รหัสความปลอดภัย (CVV/CVV2) แล้วกด Next ระบบจะยืนยันการทำรายการ (Confirm amount) โดยจะแสดงจำนวนเงิน (Amount) และค่าธรรมเนียม (Convenience fee 2.6%) กด Continue ระบบจะเข้าสู่หน้าระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร กรอกรหัส OTP ลงไปเหมือนการช้อปปิ้งออนไลน์ เมื่อทำรายการสำเร็จจะมีข้อความแจ้งเตือนและหน้าธุรกรรมสำเร็จ (Successfully added)

    #Newskit
    TNG eWallet เติมเงินด้วยบัตรไทยได้แล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางไปเที่ยวประเทศมาเลเซียบ่อยครั้ง นอกจากจะต้องมีหัวแปลงปลั๊กไฟมาเลเซีย กับเบอร์มือถือมาเลเซียไว้เล่นเน็ตแทนการซื้อแพ็คเกจโรมมิ่งราคาแพงแล้ว บัตร Touch 'n Go สำหรับใช้บริการขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ จ่ายค่าทางด่วน ที่จอดรถ และร้านค้าก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชัน TNG eWallet ก็สามารถทำธุรกรรมกับบัตร Touch 'n Go รุ่น NFC ได้ทันที รวมทั้งใช้จ่ายที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ และประเทศไทยได้อีกด้วย การเติมเงินถ้าเป็นในประเทศมาเลเซีย มีช่องทางที่หลากหลาย โดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขั้นต่ำ 10 ริงกิตโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ คนที่อยู่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อาจเลือกใช้วิธีแลกเงินที่ร้านแลกเงิน แล้วซื้อรหัสเติมเงิน (Reload PIN) ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นฝั่งประเทศมาเลเซีย หรือหากอยู่ที่ต่างประเทศมักจะซื้อรหัสผ่านตัวแทนจำหน่าย เช่น เว็บไซต์ SEAGM ขั้นต่ำ 10 ริงกิต บวกค่าบริการ 0.10 ริงกิต สำหรับชาวไทยสามารถซื้อรหัสผ่านเว็บไซต์ เลือกสกุลเงิน MYR แล้วเลือกชำระผ่าน DuitNow QR สแกนจ่ายผ่านแอปฯ Krungthai NEXT หรือ CIMB THAI ได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ผู้ใช้งาน Touch N'Go e-Wallet ที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเติมเงินด้วยบัตร VISA, Mastercard และ AMEX ที่ออกจากต่างประเทศได้แล้วบางธนาคารในประเทศไทย ขั้นต่ำ 20 ริงกิต เช่น บัตร YouTrip ของธนาคารกสิกรไทย บัตร Krungthai Travel Debit Card ธนาคารกรุงไทย โดยคิดค่าธรรมเนียม 2.6% ของยอดที่เติม โดยจะเป็นยอดเงินแบบ Transferable สามารถโอนเงินระหว่างบุคคล (Peer-to-Peer) ได้ ต่างจากการเติมเงินผ่าน Reload PIN สามารถเลือกแบบ Non-Transferable สำหรับสแกนจ่ายร้านค้าเท่านั้น ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่หากโอนเงินระหว่างบุคคลจะถูกหัก 1% ต่อรายการ วิธีการเติมเงิน ให้เข้าไปที่ "Add money" เลือก "Credit Card" ใส่จำนวนเงินที่ต้องการลงไป (ขั้นต่ำ 20 ริงกิต) แล้วกด Continue จากนั้นกรอกเลขที่บัตรเครดิต (Card Number) เดือน/ปีที่หมดอายุบัตร (MM/YY) รหัสความปลอดภัย (CVV/CVV2) แล้วกด Next ระบบจะยืนยันการทำรายการ (Confirm amount) โดยจะแสดงจำนวนเงิน (Amount) และค่าธรรมเนียม (Convenience fee 2.6%) กด Continue ระบบจะเข้าสู่หน้าระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร กรอกรหัส OTP ลงไปเหมือนการช้อปปิ้งออนไลน์ เมื่อทำรายการสำเร็จจะมีข้อความแจ้งเตือนและหน้าธุรกรรมสำเร็จ (Successfully added) #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 528 Views 0 Reviews
  • Samsung SDI ลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ

    Samsung SDI ประกาศลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% หลังจากที่ราคาหุ้นของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยบริษัทได้ปรับราคาหุ้นใหม่สองครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม และล่าสุดกำหนดราคาขายที่ 140,000 วอน ($100.37) ต่อหุ้น ลดลงจากราคาเดิมที่ 169,200 วอน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการลดราคาหุ้นของ Samsung SDI
    ✅ Samsung SDI ลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% จากราคาเดิมที่ประกาศในเดือนมีนาคม
    - ราคาล่าสุดอยู่ที่ 140,000 วอน ($100.37) ต่อหุ้น

    ✅ บริษัทปรับราคาหุ้นใหม่สองครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม
    - ครั้งแรก ลดลงเหลือ 146,200 วอน ก่อนลดลงอีกครั้งเป็น 140,000 วอน

    ✅ แรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลต่อราคาหุ้นของ Samsung SDI
    - นักลงทุนกังวลว่า มาตรการภาษีอาจกระทบต่อยอดขายแบตเตอรี่ของบริษัท

    ✅ Samsung SDI เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก
    - มีโรงงานใน ฮังการี, เกาหลีใต้ และจีน

    ✅ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
    - นักลงทุนจับตาดู นโยบายการค้าของสหรัฐฯ และยุโรป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/samsung-sdi-cuts-pricing-of-new-shares-by-17-amid-tariff-driven-sell-off
    Samsung SDI ลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีสหรัฐฯ Samsung SDI ประกาศลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% หลังจากที่ราคาหุ้นของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยบริษัทได้ปรับราคาหุ้นใหม่สองครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม และล่าสุดกำหนดราคาขายที่ 140,000 วอน ($100.37) ต่อหุ้น ลดลงจากราคาเดิมที่ 169,200 วอน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการลดราคาหุ้นของ Samsung SDI ✅ Samsung SDI ลดราคาหุ้นใหม่ลง 17% จากราคาเดิมที่ประกาศในเดือนมีนาคม - ราคาล่าสุดอยู่ที่ 140,000 วอน ($100.37) ต่อหุ้น ✅ บริษัทปรับราคาหุ้นใหม่สองครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม - ครั้งแรก ลดลงเหลือ 146,200 วอน ก่อนลดลงอีกครั้งเป็น 140,000 วอน ✅ แรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลต่อราคาหุ้นของ Samsung SDI - นักลงทุนกังวลว่า มาตรการภาษีอาจกระทบต่อยอดขายแบตเตอรี่ของบริษัท ✅ Samsung SDI เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก - มีโรงงานใน ฮังการี, เกาหลีใต้ และจีน ✅ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ - นักลงทุนจับตาดู นโยบายการค้าของสหรัฐฯ และยุโรป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/samsung-sdi-cuts-pricing-of-new-shares-by-17-amid-tariff-driven-sell-off
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung SDI cuts pricing of new shares by 17% amid tariff-driven sell-off
    SEOUL (Reuters) -Samsung SDI on Monday slashed the pricing of its new share issue by 17% after its stock declined in a broad market sell-off sparked by concerns over potential U.S. tariffs.
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง,
    ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี.

    https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง, ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี. https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 Reviews
  • Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

    ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC
    - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung

    ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง
    - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60%
    - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว

    ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor
    - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้

    ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง
    - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น

    https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60% - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้ ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    WCCFTECH.COM
    Samsung's 2nm Will See Adoption By NVIDIA For Its Consumer/AI GPUs, Yield Rate Witnesses Phenmenonal Progress
    Samsung is now contending for the top spot in the chip industry, as according to reports, the firm has managed to gain massive ground.
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • ..อนาคต พม่า เขมร ลาว เวียดนาม จีน แขกอินเดีย แขกอาหรับ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มันก็จะอ้างเช่นกันว่า เงินของมันสร้างประเทศไทยนะ แรงงานของมันสร้างประเทศไทยนะ โรงงานของมันสร้างประเทศไทยนะ บริษัทของมันสร้างประเทศไทยนะ ,นี้ไง เราจึงสมควรพึ่งพาตนเองให้ได้รอบด้านทันที นั้นคือยึดคืนวัตถุดิบมีค่ามากมายที่ยกให้ต่างชาติไป อาทิบ่อน้ำมัน บ่อเหมืองทองคำ แค่สองอย่างนี้ก่อนนะไทยเราพลิกฟื้นทันที ต้นทุนพื้นฐานในการขับเคลื่อนประเทศจะถูกลงทันทึ,สามารถทำกำไรกลับคืนมหาศาลด้านตังด้านเงินทองอีก,พัฒนาคนไทย&ทักษะด้านศักยภาพด้านสัมมาอาชีพต่างๆแก่คนไทยทั่วประเทศจะไม่ยากอะไรอีกเลย,สู่การปรับตนยุคAIชีวภาพได้ลงตัวสบายๆ เตรียมเยาวชนคนไทยเติบโตสร้างชาติไทยรุ่นต่อไปคู่ขนานความล้ำสมัยด้านการเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศAIคงง่ายสบายด้วย คนพร้อม ตังสร้างนั้นนี้เตรียมวัตถุดิบการเรียนรู้มีพร้อมอีก คนไทยร่ำรวยมีตังย่อมเข้าถึงทุกๆนวัตกรรมต่างๆแบบล้ำไม่ยาก จ้างกูรูทั่วประเทศมาสอนในการสัมผัสจริงใดๆได้หมด ตลอดกูรูสายออนไลน์AIอีก ปรับประยุกต์สายจิตวิญญาณเชื่อมจิตต่างดาวที่อยู่ห่างไกลแลกเปลี่ยนวิวัฒนการก็ได้อีก,
    ..ผู้นำผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจเราหากยังเกรงกลัวขลาดเขลาโง่เหง้าตามตูนต่างชาติอยู่จะฝรั่งแขกจีนยุ่นใดๆอีก จะเสียของแบบในอดีตมาก,เราผ่านมากมายความยากลำบากพอแล้ว สถานะการณ์คนไทยเราเองก็พร้อมกว่ายุคอดีตอีก เราก็สร้างคนจากสถานศึกษาเราเองดีระดับหนึ่งแล้ว คนไทยมีองค์ความรู้ไม่ก้าวล่วงกันแบบป่าเถื่อนเหมือนสมัยก่อนๆแล้วแบบก่อนสงครามอินโดจีนก็ว่าหรือ50-60ปีที่แล้วยังเต็มตรึมทั่วไทยกรุงหรือชนบท,ตีฆ่ากันง่ายๆกว่ายุคสมัยนี้อีก,คนก็ไร้ความรู้ถูกผิดชอบชั่วดีเป็นอันมาก,เผด็จการจึงอาจเหมาะสมแก่ช่วงเวลานั้นๆในการควบคุมผู้คน,แต่อนาคตโลกเปลี่ยนไปกว่านี้อีก,อาจธรรมในใจคือกษัตริย์ปกครองทั้งตัวตนใครมันเอง ต่างเคารพในกษัตริย์ของตนใครตัวมันหรือปัจเจกกันและกันด้วยธรรมแล้ว อาทิขนาดสัตว์ต่างๆอาจไม่ฆ่ากันกิน รอให้ตายเอง ปลาตายเองจึงกินมันได้ก็ว่าในคนยุคสมัยระดับจิตใจเจริญอีกระดับหนึ่ง,ไม่ก้าวล่วงในชีวิตกันและกัน,เราสามารถสร้างชาติไทยสร้างชุมชนไทยเองแบบนั้นได้โดยมิใช่เอากฎหมายผีบ้าผีบอแบบปัจจุบันขีดเขียนบังคับผู้คนสไตล์มารซาตานฝ่ายมืดบังคับใช้ในหมู่สังคมมันที่สร้างทำขึ้น,
    ..ผู้นำจึงสำคัญมากๆ ประชาชนไทยเราก็สำคัญโคตรๆเช่นกัน ต่างเคียงคู่ร่วมกันสร้างชาติไทยให้สมบูรณ์สไตล์สมบัติมนุษย์โลกๆแบบเราๆได้ปกติร่มเย็นสงบสุขสันติก็ว่าได้อีก,ชาติเรา เราชวนกันมาพึ่งพากันและกันกันเองดีกว่า ภาคภูมิใจเองในหมู่เรา ดีชั่วก็ชาติไทยเรานี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครชื่นชมสรรเสริญอะไรหรอก มันจะดีจะชั่วจะลำบากยากจนหรือร่ำรวยมหาศาลโคตรๆแก่ทุกๆคนไทยก็ประชาชนคนไทยเราเองทั้งหมดจะร่วมกันสร้างมันขึ้นเอง,ไปไหนเราไปด้วยกันหมด.ชาติพังก็พังด้วยกันหมดเหมือนกันเพราะเราไม่ร่วมกันปกป้องเอง,ชาติเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ก็ใช่ผู้นำฝ่ายเดียวสร้างขึ้น หากประชาชนคือคนทรยศทั้งแผ่นดินผู้นำนั้นก็ถีบลงโดยง่าย,ประชาชนแม้เจริญรุ่งโรจน์เต็มแผ่นดินก็เช่นกัน หากผู้นำเลวชั่วขึ้นปกครองแม้วินาทีเดียวก็ตกอับลงเหวลงนรกยากไร้ยากจนในทันทีทั้งประเทศไทยในทุกๆคนไทยเช่นกัน,และจะดีมากๆคือเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์เราทั้งๆหมดทุกๆคนไทยทุกๆผู้นำก็ไปด้วยกันหมดเช่นกัน.

    https://youtube.com/watch?v=iOjiuOMAj7k&si=9OmR1YsgKE3QzoMx
    ..อนาคต พม่า เขมร ลาว เวียดนาม จีน แขกอินเดีย แขกอาหรับ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มันก็จะอ้างเช่นกันว่า เงินของมันสร้างประเทศไทยนะ แรงงานของมันสร้างประเทศไทยนะ โรงงานของมันสร้างประเทศไทยนะ บริษัทของมันสร้างประเทศไทยนะ ,นี้ไง เราจึงสมควรพึ่งพาตนเองให้ได้รอบด้านทันที นั้นคือยึดคืนวัตถุดิบมีค่ามากมายที่ยกให้ต่างชาติไป อาทิบ่อน้ำมัน บ่อเหมืองทองคำ แค่สองอย่างนี้ก่อนนะไทยเราพลิกฟื้นทันที ต้นทุนพื้นฐานในการขับเคลื่อนประเทศจะถูกลงทันทึ,สามารถทำกำไรกลับคืนมหาศาลด้านตังด้านเงินทองอีก,พัฒนาคนไทย&ทักษะด้านศักยภาพด้านสัมมาอาชีพต่างๆแก่คนไทยทั่วประเทศจะไม่ยากอะไรอีกเลย,สู่การปรับตนยุคAIชีวภาพได้ลงตัวสบายๆ เตรียมเยาวชนคนไทยเติบโตสร้างชาติไทยรุ่นต่อไปคู่ขนานความล้ำสมัยด้านการเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศAIคงง่ายสบายด้วย คนพร้อม ตังสร้างนั้นนี้เตรียมวัตถุดิบการเรียนรู้มีพร้อมอีก คนไทยร่ำรวยมีตังย่อมเข้าถึงทุกๆนวัตกรรมต่างๆแบบล้ำไม่ยาก จ้างกูรูทั่วประเทศมาสอนในการสัมผัสจริงใดๆได้หมด ตลอดกูรูสายออนไลน์AIอีก ปรับประยุกต์สายจิตวิญญาณเชื่อมจิตต่างดาวที่อยู่ห่างไกลแลกเปลี่ยนวิวัฒนการก็ได้อีก, ..ผู้นำผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจเราหากยังเกรงกลัวขลาดเขลาโง่เหง้าตามตูนต่างชาติอยู่จะฝรั่งแขกจีนยุ่นใดๆอีก จะเสียของแบบในอดีตมาก,เราผ่านมากมายความยากลำบากพอแล้ว สถานะการณ์คนไทยเราเองก็พร้อมกว่ายุคอดีตอีก เราก็สร้างคนจากสถานศึกษาเราเองดีระดับหนึ่งแล้ว คนไทยมีองค์ความรู้ไม่ก้าวล่วงกันแบบป่าเถื่อนเหมือนสมัยก่อนๆแล้วแบบก่อนสงครามอินโดจีนก็ว่าหรือ50-60ปีที่แล้วยังเต็มตรึมทั่วไทยกรุงหรือชนบท,ตีฆ่ากันง่ายๆกว่ายุคสมัยนี้อีก,คนก็ไร้ความรู้ถูกผิดชอบชั่วดีเป็นอันมาก,เผด็จการจึงอาจเหมาะสมแก่ช่วงเวลานั้นๆในการควบคุมผู้คน,แต่อนาคตโลกเปลี่ยนไปกว่านี้อีก,อาจธรรมในใจคือกษัตริย์ปกครองทั้งตัวตนใครมันเอง ต่างเคารพในกษัตริย์ของตนใครตัวมันหรือปัจเจกกันและกันด้วยธรรมแล้ว อาทิขนาดสัตว์ต่างๆอาจไม่ฆ่ากันกิน รอให้ตายเอง ปลาตายเองจึงกินมันได้ก็ว่าในคนยุคสมัยระดับจิตใจเจริญอีกระดับหนึ่ง,ไม่ก้าวล่วงในชีวิตกันและกัน,เราสามารถสร้างชาติไทยสร้างชุมชนไทยเองแบบนั้นได้โดยมิใช่เอากฎหมายผีบ้าผีบอแบบปัจจุบันขีดเขียนบังคับผู้คนสไตล์มารซาตานฝ่ายมืดบังคับใช้ในหมู่สังคมมันที่สร้างทำขึ้น, ..ผู้นำจึงสำคัญมากๆ ประชาชนไทยเราก็สำคัญโคตรๆเช่นกัน ต่างเคียงคู่ร่วมกันสร้างชาติไทยให้สมบูรณ์สไตล์สมบัติมนุษย์โลกๆแบบเราๆได้ปกติร่มเย็นสงบสุขสันติก็ว่าได้อีก,ชาติเรา เราชวนกันมาพึ่งพากันและกันกันเองดีกว่า ภาคภูมิใจเองในหมู่เรา ดีชั่วก็ชาติไทยเรานี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครชื่นชมสรรเสริญอะไรหรอก มันจะดีจะชั่วจะลำบากยากจนหรือร่ำรวยมหาศาลโคตรๆแก่ทุกๆคนไทยก็ประชาชนคนไทยเราเองทั้งหมดจะร่วมกันสร้างมันขึ้นเอง,ไปไหนเราไปด้วยกันหมด.ชาติพังก็พังด้วยกันหมดเหมือนกันเพราะเราไม่ร่วมกันปกป้องเอง,ชาติเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ก็ใช่ผู้นำฝ่ายเดียวสร้างขึ้น หากประชาชนคือคนทรยศทั้งแผ่นดินผู้นำนั้นก็ถีบลงโดยง่าย,ประชาชนแม้เจริญรุ่งโรจน์เต็มแผ่นดินก็เช่นกัน หากผู้นำเลวชั่วขึ้นปกครองแม้วินาทีเดียวก็ตกอับลงเหวลงนรกยากไร้ยากจนในทันทีทั้งประเทศไทยในทุกๆคนไทยเช่นกัน,และจะดีมากๆคือเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์เราทั้งๆหมดทุกๆคนไทยทุกๆผู้นำก็ไปด้วยกันหมดเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=iOjiuOMAj7k&si=9OmR1YsgKE3QzoMx
    0 Comments 0 Shares 397 Views 0 Reviews
  • OpenAI ขยายการรองรับ Data Residency ใน 4 ประเทศเอเชีย OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform จะรองรับ Data Residency ใน ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ตามข้อกำหนดด้าน Data Sovereignty

    นอกจากนี้ OpenAI ยังเน้นย้ำถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล เช่น การเข้ารหัสขั้นสูง, การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และการไม่ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล AI

    ✅ OpenAI รองรับ Data Residency ในญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน

    ✅ Data Residency รองรับ ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform
    - ลูกค้าสามารถ เลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับ API Platform ได้

    ✅ OpenAI ใช้การเข้ารหัส AES-256 สำหรับข้อมูลที่จัดเก็บ และ TLS 1.2+ สำหรับข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย
    - ช่วยให้ ข้อมูลมีความปลอดภัยทั้งขณะจัดเก็บและขณะส่งผ่านเครือข่าย

    ✅ OpenAI ไม่ใช้ข้อมูลจาก ChatGPT Business Plans หรือ API ในการฝึกโมเดล AI
    - ยกเว้นกรณีที่ ลูกค้าเลือกแชร์ข้อมูลกับ OpenAI

    ✅ OpenAI ปฏิบัติตามมาตรฐาน GDPR, CCPA และ CSA STAR
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว

    https://www.neowin.net/news/openai-announces-data-residency-support-in-asian-countries/
    OpenAI ขยายการรองรับ Data Residency ใน 4 ประเทศเอเชีย OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform จะรองรับ Data Residency ใน ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ตามข้อกำหนดด้าน Data Sovereignty นอกจากนี้ OpenAI ยังเน้นย้ำถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล เช่น การเข้ารหัสขั้นสูง, การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และการไม่ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล AI ✅ OpenAI รองรับ Data Residency ในญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ - ช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ✅ Data Residency รองรับ ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform - ลูกค้าสามารถ เลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับ API Platform ได้ ✅ OpenAI ใช้การเข้ารหัส AES-256 สำหรับข้อมูลที่จัดเก็บ และ TLS 1.2+ สำหรับข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย - ช่วยให้ ข้อมูลมีความปลอดภัยทั้งขณะจัดเก็บและขณะส่งผ่านเครือข่าย ✅ OpenAI ไม่ใช้ข้อมูลจาก ChatGPT Business Plans หรือ API ในการฝึกโมเดล AI - ยกเว้นกรณีที่ ลูกค้าเลือกแชร์ข้อมูลกับ OpenAI ✅ OpenAI ปฏิบัติตามมาตรฐาน GDPR, CCPA และ CSA STAR - ช่วยให้ องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว https://www.neowin.net/news/openai-announces-data-residency-support-in-asian-countries/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI announces data residency support in Asian countries
    This allows organizations in these regions to store their data locally, helping them comply with data sovereignty regulations.
    0 Comments 0 Shares 277 Views 0 Reviews
  • ยอนฮับนิวส์​ สื่อเกาหลีใต้เผย​ (8​ พ.ค.)​ ว่าตำรวจเกาหลีใต้ได้ดำเนินคดีหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่จูบสมาชิกวง BTS ในงานแฟนคลับ

    สำนักข่าว ยอนฮับ​(Yonhap)​ รายงานว่าคดีของหญิงสาวคนดังกล่าวถูกส่งไปยังอัยการในข้อหาละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ โดยระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเพิ่งเดินทางเข้าเกาหลีใต้และเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยสมัครใจ

    หญิงสาววัย 50 ปีรายนี้ถูกกล่าวหาว่าจูบแก้มของจิน สมาชิกวง BTS ในงาน "กอดฟรี" ซึ่งมีแฟนๆ เข้าร่วม 1,000 คนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วในกรุงโซล งานดังกล่าวจัดขึ้นหนึ่งวันหลังจากจินปลดประจำการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/japan/detail/9680000043166

    #MGROnline #จินBTS
    ยอนฮับนิวส์​ สื่อเกาหลีใต้เผย​ (8​ พ.ค.)​ ว่าตำรวจเกาหลีใต้ได้ดำเนินคดีหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่จูบสมาชิกวง BTS ในงานแฟนคลับ • สำนักข่าว ยอนฮับ​(Yonhap)​ รายงานว่าคดีของหญิงสาวคนดังกล่าวถูกส่งไปยังอัยการในข้อหาละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ โดยระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเพิ่งเดินทางเข้าเกาหลีใต้และเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยสมัครใจ • หญิงสาววัย 50 ปีรายนี้ถูกกล่าวหาว่าจูบแก้มของจิน สมาชิกวง BTS ในงาน "กอดฟรี" ซึ่งมีแฟนๆ เข้าร่วม 1,000 คนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วในกรุงโซล งานดังกล่าวจัดขึ้นหนึ่งวันหลังจากจินปลดประจำการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/japan/detail/9680000043166 • #MGROnline #จินBTS
    0 Comments 0 Shares 360 Views 0 Reviews
  • Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง

    แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
    - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
    - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง

    ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI
    - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI

    ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท)
    - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea presidential hopeful Han vows to create AI ministry
    The election comes at a critical time for Asia's fourth-largest economy as it faces slowing exports resulting from Donald Trump's sweeping tariffs campaign.
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน

    Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา

    แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ
    - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา
    - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ

    ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple
    - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา
    - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI

    ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา
    - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes
    - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple
    - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์

    ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา"

    ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย
    - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์
    - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์

    ✅ เป้าหมายของระบบ AI
    - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน
    - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ

    ✅ ข้อจำกัดของระบบ
    - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม
    - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา

    ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น
    - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม
    - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด

    https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา" ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์ ✅ เป้าหมายของระบบ AI - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ ✅ ข้อจำกัดของระบบ - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New York wants to use AI and cameras to detect subway crime before it happens
    MTA Chief Security Officer Michael Kemper said (via The Gothamist) that the agency is working with AI companies to develop the software that can analyze real-time subway...
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้

    ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย

    การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า

    ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม
    - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย
    - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์

    ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน
    - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ
    - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

    ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
    - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง
    - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า
    - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้ ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    WCCFTECH.COM
    China Has Recruited South Korean Semiconductor Researcher And Appointed Him Head Of Quantum Materials Research After He Was Unable To Find A Suitable Position In His Home Country
    After being unable to find a suitable research position in his home country, a South Korean semiconductor expert has been recruited by China
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป

    จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น
    - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024
    - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง

    ✅ การขยายตัวของโรงงานผลิต
    - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป
    - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ

    ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023
    - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
    - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma
    - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026

    https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 ขณะที่ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ใน สหรัฐฯ และยุโรป ส่วนญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ แม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนจะชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อ Huawei แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV ภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี laser-induced discharge plasma ซึ่งจะเริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 ✅ ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น - จีนมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2010 เป็น 38% ในปี 2024 - ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดลดลง ✅ การขยายตัวของโรงงานผลิต - ไต้หวันเริ่มสร้างโรงงานใน สหรัฐฯ และยุโรป - ญี่ปุ่นมีโครงการโรงงานใหม่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ว่า TSMC จะมีแผนสร้างโรงงานใน คุมาโมโตะ ✅ ผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ - การเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนชะลอตัวลงระหว่างปี 2019-2023 - Huawei ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จีนยังคงเติบโตที่ 9-10% ต่อปี ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ - จีนกำลังพัฒนา ระบบลิโทกราฟี EUV โดยใช้ laser-induced discharge plasma - เริ่มทดลองผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 และมีแผนผลิตจำนวนมากในปี 2026 https://www.techpowerup.com/336222/chinas-semiconductor-equipment-market-share-rises-as-taiwan-korea-and-japan-decline
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China's Semiconductor Equipment Market Share Rises as Taiwan, Korea and Japan Decline
    The global semiconductor industry is experiencing notable shifts, largely influenced by the rapid expansion of the Mainland China market. From 2010 to 2024, China's share of global semiconductor equipment sales rose significantly, from just 6% in 2010 to 38% in 2024. On the other side McKinsey repor...
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง

    สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43%

    ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24%

    ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37%

    ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน

    #Newskit
    สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43% ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24% ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37% ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 612 Views 0 Reviews
More Results