• "อยากทำตัวราวกับไม่แก่" 100 ปีมหาเธร์ โมฮัมหมัด

    ใครจะเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีนักการเมืองอายุยืนถึงเลขสามหลัก เฉกเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด มีวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. แม้คำอวยพรจะล้นหลาม แต่เขายังคงทำงานตามปกติอยู่ในสำนักงานที่เมืองปุตราจายา แม้จะมีแขกผู้มาเยือนแต่ก็ไม่ได้จัดงานฉลองใหญ่โต มีเพียงคนในสำนักงานนำเค้กก้อนเล็กมอบให้พร้อมร้องเพลงวันเกิด ก่อนที่มหาเธร์จะให้แยกย้ายกลับไปทำงานตามปกติ เคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนเขาเชื่อว่ามาจากการไม่สูบบุหรี่ ไม่กินมากเกินไป และออกกำลังกายทั้งกายและใจ รวมทั้งสมอง แม้จะมีประวัติโรคหัวใจ รวมถึงการผ่าตัดบายพาสสองครั้งก็ตาม

    นัยยะที่ทำให้คอการเมืองและผู้สนใจมาเลเซียจับตามอง คือการที่เขากล่าวผ่านพอร์ตแคสต์ว่า ตราบใดที่ยังทำหน้าที่ได้ ก็อยากจะทำหน้าที่ต่อไป อยากจะทำตัวให้ราวกับว่ายังไม่แก่ พยายามใช้ชีวิตแบบเดียวกับตอนที่ยังเด็ก ทำงาน มาที่ออฟฟิศ ไปงานต่างๆ และอะไรต่อมิอะไร คิดว่าการได้ออกกำลังกายคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวา และว่า "ผมเป็นคนแอคทีฟมาตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงอยากพักผ่อน หมายความว่าไปเที่ยวพักผ่อน ทำอะไรสักอย่าง ไปเที่ยวพักผ่อนที่ได้ทำอะไรบางอย่าง แต่บางคนเกษียณแล้วอยากพักผ่อน การพักผ่อนหมายความว่ายังไง ไม่ทำอะไรเลยเหรอ"

    จากเด็กชายที่เกิดในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ ทางภาคเหนือของมาเลเซีย เขาคือนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย ปี 2524-2546 และ 2561-2563 สร้างความเปลี่ยนแปลงในมาเลเซีย โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนเหนือ-ใต้ สาย E1-E2 สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ตึกแฝดปิโตรนาสที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนา การแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งโทรคมนาคม ไฟฟ้า สายการบิน การสร้างแบรนด์รถยนต์แห่งชาติอย่างโปรตอน (Proton) กอบกู้ประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เลือกพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินทุนและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิต ไม่พึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

    ถึงกระนั้น การเมืองในมาเลเซียไม่ได้ขาวสะอาด เต็มไปด้วยเกมชิงอำนาจ เส้นทางการเมืองของมหาเธร์ไม่สวยงามนัก เคยถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้านและกลุ่มเอ็นจีโอถึงการรวมอำนาจทางการเมือง กำจัดฝ่ายตรงข้าม จำกัดเสรีภาพประชาชน รวมทั้งในสายตาคนรุ่นใหม่ เชื่อว่ามนต์ขลังของมหาเธร์หมดลงแล้ว เป็นเพียงอดีตผู้นำชราที่ไม่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในปัจจุบันท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขึ้นภาษี SST สงครามการค้ากับสหรัฐฯ การปฎิรูปการเมืองที่ล้มเหลว หากมหาเธร์จะกลับมาลงสนามเลือกตั้งในวัย 100 ปี จะไหวหรือไม่ ถามใจชาวมาเลเซียดู

    #Newskit
    "อยากทำตัวราวกับไม่แก่" 100 ปีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ใครจะเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีนักการเมืองอายุยืนถึงเลขสามหลัก เฉกเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด มีวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. แม้คำอวยพรจะล้นหลาม แต่เขายังคงทำงานตามปกติอยู่ในสำนักงานที่เมืองปุตราจายา แม้จะมีแขกผู้มาเยือนแต่ก็ไม่ได้จัดงานฉลองใหญ่โต มีเพียงคนในสำนักงานนำเค้กก้อนเล็กมอบให้พร้อมร้องเพลงวันเกิด ก่อนที่มหาเธร์จะให้แยกย้ายกลับไปทำงานตามปกติ เคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนเขาเชื่อว่ามาจากการไม่สูบบุหรี่ ไม่กินมากเกินไป และออกกำลังกายทั้งกายและใจ รวมทั้งสมอง แม้จะมีประวัติโรคหัวใจ รวมถึงการผ่าตัดบายพาสสองครั้งก็ตาม นัยยะที่ทำให้คอการเมืองและผู้สนใจมาเลเซียจับตามอง คือการที่เขากล่าวผ่านพอร์ตแคสต์ว่า ตราบใดที่ยังทำหน้าที่ได้ ก็อยากจะทำหน้าที่ต่อไป อยากจะทำตัวให้ราวกับว่ายังไม่แก่ พยายามใช้ชีวิตแบบเดียวกับตอนที่ยังเด็ก ทำงาน มาที่ออฟฟิศ ไปงานต่างๆ และอะไรต่อมิอะไร คิดว่าการได้ออกกำลังกายคือสิ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวา และว่า "ผมเป็นคนแอคทีฟมาตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงอยากพักผ่อน หมายความว่าไปเที่ยวพักผ่อน ทำอะไรสักอย่าง ไปเที่ยวพักผ่อนที่ได้ทำอะไรบางอย่าง แต่บางคนเกษียณแล้วอยากพักผ่อน การพักผ่อนหมายความว่ายังไง ไม่ทำอะไรเลยเหรอ" จากเด็กชายที่เกิดในเมืองอลอร์สตาร์ รัฐเคดะห์ ทางภาคเหนือของมาเลเซีย เขาคือนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งถึง 2 สมัย ปี 2524-2546 และ 2561-2563 สร้างความเปลี่ยนแปลงในมาเลเซีย โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนเหนือ-ใต้ สาย E1-E2 สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ตึกแฝดปิโตรนาสที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการพัฒนา การแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งโทรคมนาคม ไฟฟ้า สายการบิน การสร้างแบรนด์รถยนต์แห่งชาติอย่างโปรตอน (Proton) กอบกู้ประเทศจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เลือกพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินทุนและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิต ไม่พึ่งพากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ถึงกระนั้น การเมืองในมาเลเซียไม่ได้ขาวสะอาด เต็มไปด้วยเกมชิงอำนาจ เส้นทางการเมืองของมหาเธร์ไม่สวยงามนัก เคยถูกตั้งคำถามจากฝ่ายค้านและกลุ่มเอ็นจีโอถึงการรวมอำนาจทางการเมือง กำจัดฝ่ายตรงข้าม จำกัดเสรีภาพประชาชน รวมทั้งในสายตาคนรุ่นใหม่ เชื่อว่ามนต์ขลังของมหาเธร์หมดลงแล้ว เป็นเพียงอดีตผู้นำชราที่ไม่โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในปัจจุบันท่ามกลางปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น การขึ้นภาษี SST สงครามการค้ากับสหรัฐฯ การปฎิรูปการเมืองที่ล้มเหลว หากมหาเธร์จะกลับมาลงสนามเลือกตั้งในวัย 100 ปี จะไหวหรือไม่ ถามใจชาวมาเลเซียดู #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 เผยทหารพร้อมทำงานปกป้องอธิปไตย นายกฯ จะเป็นใครขอให้ชัดเจนทำเพื่อชาติ เผยเจรจาฝ่ายกัมพูชาปราศจากอาวุธสัปดาห์ละ 3 วันที่สามเหลี่ยมมรกต หลังประชุม RBC ปรับเวลาเปิดด่านตามขั้นตอน ย้ำไม่ต้องการปะทะ เชื่อจบลงก่อนเกษียณ เดินหน้าสร้าง-ซ่อม ถนนชายแดนภูมะเขือถึงรวงผึ้ง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064692

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    แม่ทัพภาคที่ 2 เผยทหารพร้อมทำงานปกป้องอธิปไตย นายกฯ จะเป็นใครขอให้ชัดเจนทำเพื่อชาติ เผยเจรจาฝ่ายกัมพูชาปราศจากอาวุธสัปดาห์ละ 3 วันที่สามเหลี่ยมมรกต หลังประชุม RBC ปรับเวลาเปิดด่านตามขั้นตอน ย้ำไม่ต้องการปะทะ เชื่อจบลงก่อนเกษียณ เดินหน้าสร้าง-ซ่อม ถนนชายแดนภูมะเขือถึงรวงผึ้ง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064692 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณไม่หวั่น ถอดถอนอุ๊งอิ๊ง เตรียมดันนั่งตำแหน่งใหญ่ประจำทำเนียบรัฐบาล อยู่ยาวยันเกษียณ ใครมาเป็นรัฐบาล แม่บ้านอิ๊งก็เข้าประชุมครม.ได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #แม่บ้านอิ๊ง
    #แม่บ้านสายลับ
    ทักษิณไม่หวั่น ถอดถอนอุ๊งอิ๊ง เตรียมดันนั่งตำแหน่งใหญ่ประจำทำเนียบรัฐบาล อยู่ยาวยันเกษียณ ใครมาเป็นรัฐบาล แม่บ้านอิ๊งก็เข้าประชุมครม.ได้ #คิงส์โพธิ์แดง #แม่บ้านอิ๊ง #แม่บ้านสายลับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อังเคิลกุ้ง”เดินทางร่วมกิจกรรมโรงเรียนเก่า ลั่นหลังเกษียณไม่เล่นการเมือง ส่วนเงินบริจาค 20 กว่าล้านบาทจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นกองทัพมีความคิดว่าจะนำไปพัฒนยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้เพื่อนทหารมีความปลอดภัยมากที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061614

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “อังเคิลกุ้ง”เดินทางร่วมกิจกรรมโรงเรียนเก่า ลั่นหลังเกษียณไม่เล่นการเมือง ส่วนเงินบริจาค 20 กว่าล้านบาทจากกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นกองทัพมีความคิดว่าจะนำไปพัฒนยุทโธปกรณ์ตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มสมรรถภาพให้เพื่อนทหารมีความปลอดภัยมากที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061614 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Love
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • การล่มสลายไม่ได้ถูกแสดงทางโทรทัศน์ แต่ได้รับการวางแผนไว้แล้ว ฟอรัมเศรษฐกิจโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราการที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของการปกครองแบบเทคโนแครต ถูกแฮ็ก รื้อถอน และเปิดโปงจากภายใน ไม่มีเรื่องอื้อฉาวใดๆ เกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการทำลายล้าง เจ้าหน้าที่หมวกขาวภายในเครื่องจักรของดาวอสได้ทำลายภาพลวงตาของความสามัคคีทั่วโลก และเปิดโปงว่าอาชญากรรมต่างๆ เช่น การแทรกแซงการเลือกตั้ง การบังคับให้ผู้คนเข้ารับการรักษาพยาบาล การยึดครองที่ดินภายใต้ข้ออ้างของนโยบายด้านสภาพอากาศ และการติดป้ายชื่อบุคคลแต่ละคนอย่างเงียบๆ เพื่อให้ตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ในช่วงต้นปี 2024 กลุ่มหมวกขาวได้ยึดเอกสารภายใน บันทึกเสียงลับ และการสื่อสารที่เป็นความลับ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้นำฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินกองทุน "ด้านสภาพอากาศ" กว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ผ่านองค์กรพัฒนาเอกชนปลอม กับดักหนี้ และการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัล โลกไม่เคยเป็นเป้าหมายของพวกเขา เป้าหมายของพวกเขาคือที่ดิน อาหาร และพลังงาน ภายใต้หน้ากากของ "ความยุติธรรม" พวกเขากดขี่ชาวนา ลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง และใช้องค์กรการกุศลปลอมเพื่อจัดการรัฐประหารทางการเมือง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ WEF ในยุค COVID-19 ซึ่งค้นพบในช่วงปลายปี 2024 แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนการล็อกดาวน์ไว้ล่วงหน้า มีเครือข่ายการทุจริตในสื่อ และมีแผนที่จะนำไบโอเมตริกส์มาใช้ตั้งแต่ปี 2017 วัคซีนเป็นเครื่องมือ วิกฤตได้รับการวางแผน

    ในช่วงต้นปี 2025 ผู้แจ้งเบาะแสเริ่มเปิดเผยด้านมืด: การทดสอบตัวตนดิจิทัลแบบลับในแคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมนี โปรแกรมนำร่องเหล่านี้ผสมผสานสถานะสุขภาพ พฤติกรรมเครดิต และการติดตามโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้ขออนุญาต ผู้คนไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นบุคคล แต่เป็นหน่วยที่ตั้งโปรแกรมได้ บันทึกการวางแผนภายในของฟอรัมเศรษฐกิจโลกเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "คลัสเตอร์พฤติกรรม" และ "โหนดการผลิตข้อมูล" คุกอัจฉริยะของชวาบมีอยู่จริงและเกือบจะพร้อมแล้ว

    ความเย่อหยิ่งครอบงำเมืองดาวอส เสียงจากการประชุมโต๊ะกลมในเดือนมกราคม 2024 เผยให้เห็นซีอีโอพูดเล่นเกี่ยวกับการล่มสลายของตลาด "ตามต้องการ" และการขู่กรรโชกเจ้าหน้าที่เพื่อให้ผ่านกฎหมายภาษีคาร์บอน ปัจจุบัน กลุ่มหมวกขาวมีหลักฐานว่า WEF ให้ทุนสนับสนุนการจลาจล การทุจริตการเลือกตั้ง และใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง กำแพงถูกพังทลายลงในเดือนมีนาคม 2025 การ "เกษียณอายุ" ของ Schwab เป็นการออกจากตำแหน่งโดยถูกบังคับ พันธมิตรที่สำคัญเปลี่ยนฝ่าย ประเทศต่างๆ มากกว่าสิบประเทศได้เริ่มการสอบสวนทางอาญา ภาพลักษณ์ของภูมิคุ้มกันของชนชั้นนำพังทลายลง

    ผลกระทบได้เริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 21 มิถุนายน ข้อตกลงการค้าที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของฟอรัมเศรษฐกิจโลกกำลังล้มเหลว การหลอกลวง ESG กำลังล้มเหลว การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการอยู่ที่ Deutsche Bank, HSBC และธนาคารใหญ่ๆ อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับ Davos ผู้ที่รับผิดชอบกำลังลาออก ระบบระบุตัวตนดิจิทัลกำลังปิดตัวลง ศูนย์กลางการประสานงานของกลุ่มลับสูญเสียไปแล้ว และความตื่นตระหนกกำลังแพร่กระจายไปทั่วห้องโถงของอำนาจระดับโลก

    นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้อมูลที่ได้มาหลังจากการยุบ WEF ถูกนำมาใช้โจมตี WHO, BIS และกลุ่มมนุษยธรรมปลอมทั้งหมดที่ร่วมมือกับ Davos เพื่อแสวงหากำไร การเปิดเผยนี้จะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมทั่วโลกและไม่อาจปฏิเสธได้ และจะเป็นเครื่องหมายจุดจบของระบบเก่า เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำงานในเงามืด ตอนนี้มันกลับถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา

    WEF ล่มสลาย ภาพลวงตาถูกทำลาย และจากเถ้าถ่านของมัน ยุคฟื้นฟูที่แท้จริงได้ถือกำเนิดขึ้น ยุคฟื้นฟูที่ไม่ได้เขียนโดยผู้เผด็จการ แต่เขียนโดยประชาชนที่เป็นอิสระ
    การล่มสลายไม่ได้ถูกแสดงทางโทรทัศน์ แต่ได้รับการวางแผนไว้แล้ว ฟอรัมเศรษฐกิจโลกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นปราการที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของการปกครองแบบเทคโนแครต ถูกแฮ็ก รื้อถอน และเปิดโปงจากภายใน ไม่มีเรื่องอื้อฉาวใดๆ เกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการทำลายล้าง เจ้าหน้าที่หมวกขาวภายในเครื่องจักรของดาวอสได้ทำลายภาพลวงตาของความสามัคคีทั่วโลก และเปิดโปงว่าอาชญากรรมต่างๆ เช่น การแทรกแซงการเลือกตั้ง การบังคับให้ผู้คนเข้ารับการรักษาพยาบาล การยึดครองที่ดินภายใต้ข้ออ้างของนโยบายด้านสภาพอากาศ และการติดป้ายชื่อบุคคลแต่ละคนอย่างเงียบๆ เพื่อให้ตรวจสอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ในช่วงต้นปี 2024 กลุ่มหมวกขาวได้ยึดเอกสารภายใน บันทึกเสียงลับ และการสื่อสารที่เป็นความลับ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้นำฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินกองทุน "ด้านสภาพอากาศ" กว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ผ่านองค์กรพัฒนาเอกชนปลอม กับดักหนี้ และการขโมยสินทรัพย์ดิจิทัล โลกไม่เคยเป็นเป้าหมายของพวกเขา เป้าหมายของพวกเขาคือที่ดิน อาหาร และพลังงาน ภายใต้หน้ากากของ "ความยุติธรรม" พวกเขากดขี่ชาวนา ลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง และใช้องค์กรการกุศลปลอมเพื่อจัดการรัฐประหารทางการเมือง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ WEF ในยุค COVID-19 ซึ่งค้นพบในช่วงปลายปี 2024 แสดงให้เห็นว่ามีการวางแผนการล็อกดาวน์ไว้ล่วงหน้า มีเครือข่ายการทุจริตในสื่อ และมีแผนที่จะนำไบโอเมตริกส์มาใช้ตั้งแต่ปี 2017 วัคซีนเป็นเครื่องมือ วิกฤตได้รับการวางแผน ในช่วงต้นปี 2025 ผู้แจ้งเบาะแสเริ่มเปิดเผยด้านมืด: การทดสอบตัวตนดิจิทัลแบบลับในแคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมนี โปรแกรมนำร่องเหล่านี้ผสมผสานสถานะสุขภาพ พฤติกรรมเครดิต และการติดตามโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้ขออนุญาต ผู้คนไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นบุคคล แต่เป็นหน่วยที่ตั้งโปรแกรมได้ บันทึกการวางแผนภายในของฟอรัมเศรษฐกิจโลกเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "คลัสเตอร์พฤติกรรม" และ "โหนดการผลิตข้อมูล" คุกอัจฉริยะของชวาบมีอยู่จริงและเกือบจะพร้อมแล้ว ความเย่อหยิ่งครอบงำเมืองดาวอส เสียงจากการประชุมโต๊ะกลมในเดือนมกราคม 2024 เผยให้เห็นซีอีโอพูดเล่นเกี่ยวกับการล่มสลายของตลาด "ตามต้องการ" และการขู่กรรโชกเจ้าหน้าที่เพื่อให้ผ่านกฎหมายภาษีคาร์บอน ปัจจุบัน กลุ่มหมวกขาวมีหลักฐานว่า WEF ให้ทุนสนับสนุนการจลาจล การทุจริตการเลือกตั้ง และใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง กำแพงถูกพังทลายลงในเดือนมีนาคม 2025 การ "เกษียณอายุ" ของ Schwab เป็นการออกจากตำแหน่งโดยถูกบังคับ พันธมิตรที่สำคัญเปลี่ยนฝ่าย ประเทศต่างๆ มากกว่าสิบประเทศได้เริ่มการสอบสวนทางอาญา ภาพลักษณ์ของภูมิคุ้มกันของชนชั้นนำพังทลายลง ผลกระทบได้เริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 21 มิถุนายน ข้อตกลงการค้าที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายของฟอรัมเศรษฐกิจโลกกำลังล้มเหลว การหลอกลวง ESG กำลังล้มเหลว การสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการอยู่ที่ Deutsche Bank, HSBC และธนาคารใหญ่ๆ อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับ Davos ผู้ที่รับผิดชอบกำลังลาออก ระบบระบุตัวตนดิจิทัลกำลังปิดตัวลง ศูนย์กลางการประสานงานของกลุ่มลับสูญเสียไปแล้ว และความตื่นตระหนกกำลังแพร่กระจายไปทั่วห้องโถงของอำนาจระดับโลก นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้อมูลที่ได้มาหลังจากการยุบ WEF ถูกนำมาใช้โจมตี WHO, BIS และกลุ่มมนุษยธรรมปลอมทั้งหมดที่ร่วมมือกับ Davos เพื่อแสวงหากำไร การเปิดเผยนี้จะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมทั่วโลกและไม่อาจปฏิเสธได้ และจะเป็นเครื่องหมายจุดจบของระบบเก่า เมื่อครั้งหนึ่งเคยทำงานในเงามืด ตอนนี้มันกลับถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา WEF ล่มสลาย ภาพลวงตาถูกทำลาย และจากเถ้าถ่านของมัน ยุคฟื้นฟูที่แท้จริงได้ถือกำเนิดขึ้น ยุคฟื้นฟูที่ไม่ได้เขียนโดยผู้เผด็จการ แต่เขียนโดยประชาชนที่เป็นอิสระ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล
    การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม

    นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ

    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด

    แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ

    ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ

    การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว

    ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย:

    – ทำลายเปโตรดอลลาร์
    – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก
    – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ”

    – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก
    – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม
    – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป

    กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล:

    – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน
    – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว
    – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

    ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก

    ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ

    นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก
    และครั้งนี้ คุณแพ้
    สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย: – ทำลายเปโตรดอลลาร์ – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล: – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก และครั้งนี้ คุณแพ้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กลาโหม" ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาพนายพลพบชาวจีน เจ้าตัวเกษียณปี 67 เคยมีสิทธิใช้ห้องรับรอง
    https://www.thai-tai.tv/news/19265/
    "กลาโหม" ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาพนายพลพบชาวจีน เจ้าตัวเกษียณปี 67 เคยมีสิทธิใช้ห้องรับรอง https://www.thai-tai.tv/news/19265/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้รู้สึกว่าอะดรีนาลีนมันหลั่ง แต่ก็ต้องกินน้ำมากไปจนต้องชิ่งเข้าสุขาอยู่บ่อยครัง แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นไม่คาดคิด นั่นก็คือคนในครอบครัวมองผมแค่ด้านเดียว ไม่เข้าใจผมมากพอ จนผมดันไปนึกถึงรายการที่คนรอบข้างชอบดูจนผมจินตนาการว่าพวกเราเหล่า คปท. ล้วนถูกรายการและข่าวโพยขี้ปากยิวไซออนิสต์ตีตราและใช้ศาลเตี้ยใส่ร้ายทั้งสิ้น ผมไม่อยากจะนึกถึงมัน พอเขาพูดจาแทงใจดำ ดูถูก Toxic ผมเสร็จ ผมก็รู้สึกว่าความคิดอันไม่พึงประสงค์ก็แว็บหลุดเข้ามาในหัวผมทันที และคอยกระตุ้นให้ผมปลดปล่อยความอึดอัดด้วยการออกอาการของขึ้น สุดท้ายเกือบเก็บทรงไม่อยู่ คือครอบครัวไม่จำเป็นต้องมาสอดแทรกเรื่องส่วนตัวผมหรอก ถ้าไม่เข้าใจแล้วยังดึงดันให้ผมเข้าสู่เส้นทางที่หาทางลงยากนั่นก็คือ รับราชการ ถ้าไม่หัดเลียก็เป็นได้แค่กี้กี้ไปจนเกษียณ แค่คิดก็หงุดหงิดเคืองขุ่นมากแล้ว
    วันนี้รู้สึกว่าอะดรีนาลีนมันหลั่ง แต่ก็ต้องกินน้ำมากไปจนต้องชิ่งเข้าสุขาอยู่บ่อยครัง แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นไม่คาดคิด นั่นก็คือคนในครอบครัวมองผมแค่ด้านเดียว ไม่เข้าใจผมมากพอ จนผมดันไปนึกถึงรายการที่คนรอบข้างชอบดูจนผมจินตนาการว่าพวกเราเหล่า คปท. ล้วนถูกรายการและข่าวโพยขี้ปากยิวไซออนิสต์ตีตราและใช้ศาลเตี้ยใส่ร้ายทั้งสิ้น ผมไม่อยากจะนึกถึงมัน พอเขาพูดจาแทงใจดำ ดูถูก Toxic ผมเสร็จ ผมก็รู้สึกว่าความคิดอันไม่พึงประสงค์ก็แว็บหลุดเข้ามาในหัวผมทันที และคอยกระตุ้นให้ผมปลดปล่อยความอึดอัดด้วยการออกอาการของขึ้น สุดท้ายเกือบเก็บทรงไม่อยู่ คือครอบครัวไม่จำเป็นต้องมาสอดแทรกเรื่องส่วนตัวผมหรอก ถ้าไม่เข้าใจแล้วยังดึงดันให้ผมเข้าสู่เส้นทางที่หาทางลงยากนั่นก็คือ รับราชการ ถ้าไม่หัดเลียก็เป็นได้แค่กี้กี้ไปจนเกษียณ แค่คิดก็หงุดหงิดเคืองขุ่นมากแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cisco ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี หลังความต้องการ AI เพิ่มสูงขึ้น

    Cisco ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี โดยอาศัยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก ลูกค้าด้านคลาวด์ที่ต้องการอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อรองรับ การเติบโตของ AI นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศว่า Scott Herren จะเกษียณจากตำแหน่ง CFO ในเดือนกรกฎาคม และจะถูกแทนที่โดย Mark Patterson ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer

    Cisco ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้เป็น 56.5-56.7 พันล้านดอลลาร์
    - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 56-56.5 พันล้านดอลลาร์

    บริษัทได้รับคำสั่งซื้อโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม
    - ทำให้ยอดรวมคำสั่งซื้อปีนี้ ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์

    Cisco ได้ปรับปรุงตำแหน่งในตลาดสวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูลคลาวด์
    - นักวิเคราะห์คาดว่า จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าด้านคลาวด์

    Scott Herren จะเกษียณจากตำแหน่ง CFO ในเดือนกรกฎาคม
    - Mark Patterson จะเข้ารับตำแหน่ง CFO คนใหม่ในวันที่ 27 กรกฎาคม

    Cisco รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 14.15 พันล้านดอลลาร์
    - สูงกว่าคาดการณ์ที่ 14.08 พันล้านดอลลาร์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/15/cisco-raises-full-year-results-forecast-shares-rise
    Cisco ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี หลังความต้องการ AI เพิ่มสูงขึ้น Cisco ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี โดยอาศัยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก ลูกค้าด้านคลาวด์ที่ต้องการอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อรองรับ การเติบโตของ AI นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศว่า Scott Herren จะเกษียณจากตำแหน่ง CFO ในเดือนกรกฎาคม และจะถูกแทนที่โดย Mark Patterson ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer ✅ Cisco ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้เป็น 56.5-56.7 พันล้านดอลลาร์ - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 56-56.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ บริษัทได้รับคำสั่งซื้อโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม - ทำให้ยอดรวมคำสั่งซื้อปีนี้ ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ✅ Cisco ได้ปรับปรุงตำแหน่งในตลาดสวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูลคลาวด์ - นักวิเคราะห์คาดว่า จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าด้านคลาวด์ ✅ Scott Herren จะเกษียณจากตำแหน่ง CFO ในเดือนกรกฎาคม - Mark Patterson จะเข้ารับตำแหน่ง CFO คนใหม่ในวันที่ 27 กรกฎาคม ✅ Cisco รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ 14.15 พันล้านดอลลาร์ - สูงกว่าคาดการณ์ที่ 14.08 พันล้านดอลลาร์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/15/cisco-raises-full-year-results-forecast-shares-rise
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cisco lifts annual forecast on AI boost, names insider Patterson as new CFO
    (Reuters) -Cisco Systems said on Wednesday that its finance chief Scott Herren will retire from the company in July, and raised its annual results forecast, betting on steady demand from cloud customers for its networking equipment, driven by the artificial intelligence boom.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เริ่มเร็ว…เกษียณก่อน!
    รับบำนาญสบายใจ แค่เริ่มต้นไว”

    วันนี้คุณอาจยังหนุ่มสาว กำลังทำงานอย่างหนัก
    แต่พรุ่งนี้… คุณจะขอบคุณตัวเองที่ “เริ่มวางแผนเร็ว”
    เพราะประกันบำนาญ AIA Annuity Sure
    จ่ายเบี้ยเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันแบบเห็นๆ!

    เริ่มไวตั้งแต่อายุ 20 – รับเงินบำนาญมากกว่า 12 ล้าน!
    ยิ่งเริ่มช้า ยิ่งรับน้อย… อย่ารอให้โอกาสดีหลุดมือ!

    เริ่มวันนี้ เพื่อชีวิตวัยเกษียณที่มั่นคงและมั่งคั่ง
    “เริ่มเร็ว…เกษียณก่อน! รับบำนาญสบายใจ แค่เริ่มต้นไว” วันนี้คุณอาจยังหนุ่มสาว กำลังทำงานอย่างหนัก แต่พรุ่งนี้… คุณจะขอบคุณตัวเองที่ “เริ่มวางแผนเร็ว” เพราะประกันบำนาญ AIA Annuity Sure จ่ายเบี้ยเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันแบบเห็นๆ! เริ่มไวตั้งแต่อายุ 20 – รับเงินบำนาญมากกว่า 12 ล้าน! ยิ่งเริ่มช้า ยิ่งรับน้อย… อย่ารอให้โอกาสดีหลุดมือ! เริ่มวันนี้ เพื่อชีวิตวัยเกษียณที่มั่นคงและมั่งคั่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าสงสารตัวเองแบบเราๆประชาชนคนธรรมดาจริงๆนะ ไม่มีบำนาญบำเหน็จสวัสดิการอะไรมากล้นเหลือมากมายแบบข้าราชการ,แต่ละวันพวกเราๆไทบ้านคนธรรมดา หาตังได้100บาทต่อวันจะได้จริงมั้ยนั้นยังแสนลำบากเลย,,หอบสังขารหายใจบนแผ่นดินไทยตนเองที่ถูกปล้นชิงของมีค่าทำตังมากมายบนแผ่นดินไทยตนจากพวกต่างชาติต่างประเทศกมากพอแล้ว&ไม่สมควรที่คนไทยถูกปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยแบบปล้นบ่อน้ำมันเราโดยใช้กฎหมายสัมปทานผูกขาดไป,ปล้นบ่อทองคำเราไปจากใบอนุญาตผีบ้าต่างๆผูกขาดไป,
    ..เป็นข้าราชการขุนนางนี้สบายจริงๆตังแต่ยุคศักดินา,ปัจจุบันร่ำรวยเงินทองนักในพวกหัวๆชนชั้นปกครองทัังหลาย,ระบบปกครองเรามีปัญหาจริงๆ&ผิดพลาดอย่างมากด้วย,โกงปล้นผูกขาดแย่งชิงประชาชนแบบใดๆชนชั้นปกครองใหญ่ๆโตๆรอดตายหมดแล้วก็กลับมาก่อชั่วเลวสร้างกระแสชั่ววงจรอุบาทก์ต่อเนื่องต่อไปมากมายบนสังคมชุมชนไทยเราเอง,
    ..ตัง100-300บาท มากมายประชาชนคนทัังประเทศใช้เลี้ยงคนในครอบครัวเขาต่อไปอาจหลายวัน,โดยเฉพาะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรับภาระเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานๆเขา,ชาติอื่นเหี้ยใดใครชั่งมันแต่ชาติไทยเราเอง ต้องสิ้นสุดความเหี้ยอัปรีย์จัญไรนี้จริงๆ,หนทางเดียวคือยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบสู่การพ้นยากจนและทำให้ทุกๆคนไทยเราร่ำรวยยั่งยืนได้กลับคืนมาอย่างจริงจัง,หากเป็นเพราะระบบล้มเหลวก็จำเป็นต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่.
    ..จริงๆข้าราชการไทยสมควรได้แค่เงินเดือนก็พอ,สวัสดิการใดๆสมควรเสมอเท่าประชาชนธรรมดา อาทิ30บาทรักษาทุกๆโรค เพียงตนในตำแหน่งหน้าที่พัฒนาการรักษาที่ดีปกติเสมอสม่ำไว้จะมารักษาสไตล์คนธรรมดาที่อยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกันก็ทำได้,ก็คนไทยธรรมดานี้เองเข้าไปทำงานในระบบราชการแค่นั้น,
    ..ปัจจุบันเลอะเทอะผีบ้ามาก,การบริหารตังก็ต้องบริหารเองสิ ใช้จ่ายเลอะเทอะใข่ที่ไหน,ประชาชนพ้น60เกษียณสถานะประชาชนมั้ย,ข้าราชการพ้น60หรือพ้น65หรือ70เอาแต่จะกำหนดก็ว่า,ก็กลับมาเป็นประชาชนนี้ถูกแล้ว ทำงานเพื่อประชาชนมันคือหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ประชาชนก็ร่วมกันสามัคคีปกป้องชาติไทยจากศัตรูเช่นกัน ใช่เหลือยามใดๆ,ต่างคนต่างร่วมด้วยช่วยกัน,แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้ว สุดท้ายซวยคือประชาชน สถานะยากจน ไร้ร่ำรวยมีตังใช้ดำรงชีพพอดีก็หามีไม่,ยามแก่ชราก็ต้องอาศัยลูกหลานกำลังคนรุ่นต่อไป เงินทองลูกหลานเลี้ยงดูที่หามาตามสไตล์บริหารจัดการชาวบ้าน,มีสติปัญญาดีก็ทำนั้นนี้มีตังเข้าบ้านมากมายตามปัจเจกใครมันทำ,
    ..อดีตวีระบุรุษคือราชการไทยจริงๆ แต่นึกว่าจะดีขึ้น ระบบราชการถูกสร้างขึ้นจากคณะกบฎ2475 จริงๆหากต้องการให้ชาติประชาชนคนในชาติอยู่ดีมีสุขมีสติปัญญาดีต้องปกครองมุ่งไปเพื่อความเจริญอย่างจริงใจต่อชาติประชาชนจริงๆ พบโอกาสใดๆ สามารถนำพาทุกๆคนไทยอัพเรเวลสู่พ้นฐานะยากจนสมควรเร่งรีบดำเนินการทำ,พบบ่อทองบ่อน้ำมันแม้อดีตเรายากจนจริง,อนาคตแสดงว่าเราจะร่ำรวยไปด้วยกันทุกๆคน ผู้ปกครองไม่ควรทรยศประชาชนยกความร่ำรวยพ้นยากจนนี้ให้ชาติอื่นเมืองอื่นคนอื่นไปแบบที่เห็นชัดเจนในปัจจุบัน,ซึ่งในอดีตที่กล้าทำเพราะมั่นใจว่าปกปิดการกระทำชั่วตนได้,และมากมายสาระพัดอย่างที่เป็นไปในทางเพิ่มบัตรคนจนแก่คนไทย.
    https://youtube.com/watch?v=wGTNUnR4QVs&si=Ne_NwpWyQeEAltGW
    ..น่าสงสารตัวเองแบบเราๆประชาชนคนธรรมดาจริงๆนะ ไม่มีบำนาญบำเหน็จสวัสดิการอะไรมากล้นเหลือมากมายแบบข้าราชการ,แต่ละวันพวกเราๆไทบ้านคนธรรมดา หาตังได้100บาทต่อวันจะได้จริงมั้ยนั้นยังแสนลำบากเลย,,หอบสังขารหายใจบนแผ่นดินไทยตนเองที่ถูกปล้นชิงของมีค่าทำตังมากมายบนแผ่นดินไทยตนจากพวกต่างชาติต่างประเทศกมากพอแล้ว&ไม่สมควรที่คนไทยถูกปล้นความมั่งคั่งร่ำรวยด้วยแบบปล้นบ่อน้ำมันเราโดยใช้กฎหมายสัมปทานผูกขาดไป,ปล้นบ่อทองคำเราไปจากใบอนุญาตผีบ้าต่างๆผูกขาดไป, ..เป็นข้าราชการขุนนางนี้สบายจริงๆตังแต่ยุคศักดินา,ปัจจุบันร่ำรวยเงินทองนักในพวกหัวๆชนชั้นปกครองทัังหลาย,ระบบปกครองเรามีปัญหาจริงๆ&ผิดพลาดอย่างมากด้วย,โกงปล้นผูกขาดแย่งชิงประชาชนแบบใดๆชนชั้นปกครองใหญ่ๆโตๆรอดตายหมดแล้วก็กลับมาก่อชั่วเลวสร้างกระแสชั่ววงจรอุบาทก์ต่อเนื่องต่อไปมากมายบนสังคมชุมชนไทยเราเอง, ..ตัง100-300บาท มากมายประชาชนคนทัังประเทศใช้เลี้ยงคนในครอบครัวเขาต่อไปอาจหลายวัน,โดยเฉพาะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรับภาระเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานๆเขา,ชาติอื่นเหี้ยใดใครชั่งมันแต่ชาติไทยเราเอง ต้องสิ้นสุดความเหี้ยอัปรีย์จัญไรนี้จริงๆ,หนทางเดียวคือยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบสู่การพ้นยากจนและทำให้ทุกๆคนไทยเราร่ำรวยยั่งยืนได้กลับคืนมาอย่างจริงจัง,หากเป็นเพราะระบบล้มเหลวก็จำเป็นต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่. ..จริงๆข้าราชการไทยสมควรได้แค่เงินเดือนก็พอ,สวัสดิการใดๆสมควรเสมอเท่าประชาชนธรรมดา อาทิ30บาทรักษาทุกๆโรค เพียงตนในตำแหน่งหน้าที่พัฒนาการรักษาที่ดีปกติเสมอสม่ำไว้จะมารักษาสไตล์คนธรรมดาที่อยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกันก็ทำได้,ก็คนไทยธรรมดานี้เองเข้าไปทำงานในระบบราชการแค่นั้น, ..ปัจจุบันเลอะเทอะผีบ้ามาก,การบริหารตังก็ต้องบริหารเองสิ ใช้จ่ายเลอะเทอะใข่ที่ไหน,ประชาชนพ้น60เกษียณสถานะประชาชนมั้ย,ข้าราชการพ้น60หรือพ้น65หรือ70เอาแต่จะกำหนดก็ว่า,ก็กลับมาเป็นประชาชนนี้ถูกแล้ว ทำงานเพื่อประชาชนมันคือหน้าที่ปกติอยู่แล้ว ประชาชนก็ร่วมกันสามัคคีปกป้องชาติไทยจากศัตรูเช่นกัน ใช่เหลือยามใดๆ,ต่างคนต่างร่วมด้วยช่วยกัน,แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้ว สุดท้ายซวยคือประชาชน สถานะยากจน ไร้ร่ำรวยมีตังใช้ดำรงชีพพอดีก็หามีไม่,ยามแก่ชราก็ต้องอาศัยลูกหลานกำลังคนรุ่นต่อไป เงินทองลูกหลานเลี้ยงดูที่หามาตามสไตล์บริหารจัดการชาวบ้าน,มีสติปัญญาดีก็ทำนั้นนี้มีตังเข้าบ้านมากมายตามปัจเจกใครมันทำ, ..อดีตวีระบุรุษคือราชการไทยจริงๆ แต่นึกว่าจะดีขึ้น ระบบราชการถูกสร้างขึ้นจากคณะกบฎ2475 จริงๆหากต้องการให้ชาติประชาชนคนในชาติอยู่ดีมีสุขมีสติปัญญาดีต้องปกครองมุ่งไปเพื่อความเจริญอย่างจริงใจต่อชาติประชาชนจริงๆ พบโอกาสใดๆ สามารถนำพาทุกๆคนไทยอัพเรเวลสู่พ้นฐานะยากจนสมควรเร่งรีบดำเนินการทำ,พบบ่อทองบ่อน้ำมันแม้อดีตเรายากจนจริง,อนาคตแสดงว่าเราจะร่ำรวยไปด้วยกันทุกๆคน ผู้ปกครองไม่ควรทรยศประชาชนยกความร่ำรวยพ้นยากจนนี้ให้ชาติอื่นเมืองอื่นคนอื่นไปแบบที่เห็นชัดเจนในปัจจุบัน,ซึ่งในอดีตที่กล้าทำเพราะมั่นใจว่าปกปิดการกระทำชั่วตนได้,และมากมายสาระพัดอย่างที่เป็นไปในทางเพิ่มบัตรคนจนแก่คนไทย. https://youtube.com/watch?v=wGTNUnR4QVs&si=Ne_NwpWyQeEAltGW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้

    ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย

    การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า

    Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม
    - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย
    - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์

    เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน
    - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ
    - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

    แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
    - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง
    - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า
    - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้ ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    WCCFTECH.COM
    China Has Recruited South Korean Semiconductor Researcher And Appointed Him Head Of Quantum Materials Research After He Was Unable To Find A Suitable Position In His Home Country
    After being unable to find a suitable research position in his home country, a South Korean semiconductor expert has been recruited by China
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย

    Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า

    Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย
    - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด
    - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ
    - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก
    - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50%

    Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด
    - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ
    - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า
    - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี

    การเปรียบเทียบฟีเจอร์
    - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
    - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก

    https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า ✅ Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50% ✅ Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี ✅ การเปรียบเทียบฟีเจอร์ - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    COMPUTERCITY.COM
    Monarch vs Quicken: Which Personal Finance App Is Best for You?
    Choosing between Monarch Money and Quicken (including Simplifi by Quicken) comes down to what kind of financial life you lead—and what kind of control you
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับพิรุธ สตง. ลากอดีตผู้ว่าเกษียณ 8 ปี มาแก้ตัวแทน เพราะเจ้าหน้าที่สตง.อับอาย ไม่กล้าออกทำงานตรวจเงินใคร
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    จับพิรุธ สตง. ลากอดีตผู้ว่าเกษียณ 8 ปี มาแก้ตัวแทน เพราะเจ้าหน้าที่สตง.อับอาย ไม่กล้าออกทำงานตรวจเงินใคร #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ..ต่อเรื่องปั่นข่าวไปเรื่อยจนถึงเวลาปัจจุบันก็ยังไม่จบสิ้นหรือทำให้จบจริง,วันนั้นวันนี้เลื่อนเวลาตลอด ,สงครามข่าวลวงข่าวโกหกจริงๆ รับส่งกันสนุกทั้งคนปล่อย ทั้งคนต่อยอดเขียนงานข่าวในแต่ละมุก,แต่สุดท้ายผลงานก็เลื่อน&เลื่อน ไม่จบสิ้นดั่งที่อ้างเลย,เป็นเพียงขยายข่าวตามน้ำตามสถานะเวลาที่ก่อเกิดเรื่องในข่าว.

    ..Q CLOCK สิ้นสุดในวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2025 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ KLAUS SCHWAB ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัยของ WEF ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกของกลุ่ม CABAL ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 เพื่อควบคุมวาระการประชุมระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับอุตสาหกรรม

    ซึ่งตรงกับช่วงที่ SCHWAB ลาออก JAMIE DIMON ซีอีโอของ JPMORGAN CHASE ได้ประกาศเกษียณอายุ และประธาน FDIC ก็ลาออกเช่นกัน

    พัฒนาการเหล่านี้ — ร่วมกับการแนะนำร่างกฎหมาย “ยุติการบังคับใช้เฟด” และการผ่านร่างกฎหมายบล็อคเชน — ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกกลับสู่ประชาชน
    ..ต่อเรื่องปั่นข่าวไปเรื่อยจนถึงเวลาปัจจุบันก็ยังไม่จบสิ้นหรือทำให้จบจริง,วันนั้นวันนี้เลื่อนเวลาตลอด ,สงครามข่าวลวงข่าวโกหกจริงๆ รับส่งกันสนุกทั้งคนปล่อย ทั้งคนต่อยอดเขียนงานข่าวในแต่ละมุก,แต่สุดท้ายผลงานก็เลื่อน&เลื่อน ไม่จบสิ้นดั่งที่อ้างเลย,เป็นเพียงขยายข่าวตามน้ำตามสถานะเวลาที่ก่อเกิดเรื่องในข่าว. ..Q CLOCK สิ้นสุดในวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2025 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ KLAUS SCHWAB ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของฟอรัมเศรษฐกิจโลก (WEF) ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัยของ WEF ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกของกลุ่ม CABAL ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 เพื่อควบคุมวาระการประชุมระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับอุตสาหกรรม ซึ่งตรงกับช่วงที่ SCHWAB ลาออก JAMIE DIMON ซีอีโอของ JPMORGAN CHASE ได้ประกาศเกษียณอายุ และประธาน FDIC ก็ลาออกเช่นกัน พัฒนาการเหล่านี้ — ร่วมกับการแนะนำร่างกฎหมาย “ยุติการบังคับใช้เฟด” และการผ่านร่างกฎหมายบล็อคเชน — ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกกลับสู่ประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นในพอดแคสต์ "People by WTF" ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานในหลายประเทศทั่วโลก โดยเขาเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานต่างๆ และเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในอนาคต

    AI จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู
    - เกตส์ระบุว่า AI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคและลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การจัดการเอกสาร
    - ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพด้าน AI อย่าง Suki และ Zephyr AI ได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานในโรงพยาบาล

    AI จะเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในสายงานอื่นๆ
    - เกตส์เชื่อว่า AI และหุ่นยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานก่อสร้างและงานบริการ
    - บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia กำลังลงทุนในหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานในคลังสินค้าและทำความสะอาด

    AI อาจช่วยให้คนทำงานน้อยลงและเกษียณเร็วขึ้น
    - เกตส์กล่าวว่า AI อาจช่วยลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ และทำให้คนมีเวลาว่างมากขึ้น
    - เขาอ้างถึงนักเศรษฐศาสตร์ John Maynard Keynes ที่เคยคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะลดชั่วโมงการทำงานลง

    AI จะช่วยเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - การศึกษาของ McKinsey ระบุว่า AI อาจเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรมได้ถึง $370 พันล้าน

    https://www.techspot.com/news/107603-bill-gates-ai-end-doctor-teacher-shortages-transform.html
    บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นในพอดแคสต์ "People by WTF" ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานในหลายประเทศทั่วโลก โดยเขาเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานต่างๆ และเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในอนาคต ✅ AI จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู - เกตส์ระบุว่า AI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคและลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การจัดการเอกสาร - ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพด้าน AI อย่าง Suki และ Zephyr AI ได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานในโรงพยาบาล ✅ AI จะเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในสายงานอื่นๆ - เกตส์เชื่อว่า AI และหุ่นยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานก่อสร้างและงานบริการ - บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia กำลังลงทุนในหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานในคลังสินค้าและทำความสะอาด ✅ AI อาจช่วยให้คนทำงานน้อยลงและเกษียณเร็วขึ้น - เกตส์กล่าวว่า AI อาจช่วยลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ และทำให้คนมีเวลาว่างมากขึ้น - เขาอ้างถึงนักเศรษฐศาสตร์ John Maynard Keynes ที่เคยคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะลดชั่วโมงการทำงานลง ✅ AI จะช่วยเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ - การศึกษาของ McKinsey ระบุว่า AI อาจเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรมได้ถึง $370 พันล้าน https://www.techspot.com/news/107603-bill-gates-ai-end-doctor-teacher-shortages-transform.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bill Gates says AI will end doctor and teacher shortages, transform the future of work
    "AI will come in and provide medical IQ, and there won't be a shortage," Gates said, pointing to nations like India and those across Africa where the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 11 การทำให้ “เงินทำงานรับใช้”
    .
    เมื่อพูดถึงเรื่องการหาเงินและการใช้เงิน คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าเป็นเรื่อง “หญ้าปากคอก” ที่ไม่ต้องเรียนรู้ก็ได้ อย่างไรก็ดี “หญ้าปากคอก”นี้ ได้กลายเป็น “หนามยอกอก” ที่ทิ่มแทงคนหลายคน จนบางคนต้องล้มตายจากไปทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ ดังที่ได้เห็นกันอยู่เนืองๆ การมีฐานะมั่นคงจากการใช้แรงงานของตนเองตลอดชีวิต ถึงแม้จะเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีหลักการบางอย่างเป็นตัวกำกับ การเข้าใจหลักการดังกล่าวจะช่วยให้ไม่เกิดสภาวะที่ทุ่มเททำงานหารายได้อย่างหนัก แต่ในบั้นปลายชีวิตก็ยังหาความมั่นคงทางการเงินไม่ได้
    .
    มนุษย์มีแนวโน้มโดยธรรมชาติที่จะใช้จ่ายเงินที่หามาได้อย่างตามใจตนเอง เพราะถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย จนละเลยที่จะเก็บเงินบางส่วนไว้ เพื่อทำให้งอกเงยสำหรับอนาคตที่สุขสบายยิ่งขึ้น หลายคนลืมคิดไปว่าถ้าใช้เงินที่หามาได้ไปทั้งหมด ความสุขที่ได้รับก็จะจบอยู่เพียงแค่นั้น ไม่มีอนาคตที่ว่าทำงานเท่าเดิม แต่ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น ไม่มีอนาคตของความมั่นคงทางการเงินซึ่งจะอำนวยให้เกิดความมั่นคงในชีวิตไปด้วย และไม่มีอนาคตที่จะมีชีวิตสุขสบายเมื่อพ้นวัยทำงานไปแล้ว
    .
    ถ้าใครเลือกเส้นทาง “สุขวันนี้และจบแค่นี้” ก็จำต้องยอมรับผลที่เกิดมา แต่ถ้าใครเลือกเส้นทาง “ไม่สุขวันนี้เต็มที่ แต่จะสุขยาวกว่านี้ไปในอนาคต” ก็จำเป็นต้องมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายเก็บไว้เป็นเงินออม หรือจะให้ดีกว่านั้นก็คือกันส่วนหนึ่งของรายได้ไว้แต่แรกก่อนใช้จ่าย เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ก่อนหักภาษี
    .
    เงินออมเป็น “ต้นน้ำ” สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการมีความมั่นคงในด้านการเงินต่อไปในอนาคต เงินออมเกิดขึ้นได้เพราะเจ้าของรายได้มีความมัธยัสถ์ กล่าวคือใช้จ่ายเฉพาะในเรื่องที่จำเป็น ไม่สุรุ่ยสุร่ายใช้จ่ายเงินอย่างเขลาในเรื่องต่างๆ ความมัธยัสถ์เป็นแผนหนึ่งของการดำเนินชีวิตที่มิได้ทำให้ใครเดือดร้อน และมิใช่การเอารัดเอาเปรียบคนอื่น การขาดความมัธยัสถ์ต่างหากที่จะทำให้ตนเองเดือดร้อน และอาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย เพราะอาจถูกรบกวนขอเงิน หรือขอยืมเงินเพราะตนเองมีเงินใช้ไม่พอ
    .
    ความมัธยัสถ์โยงใยกับการมีวินัยบังคับใจตนเอง และการมุ่งมั่นมีเป้าหมายในชีวิต ทำให้เกิดสภาวการณ์ที่สำคัญของชีวิต นั่นคือ “การอยู่กินต่ำกว่าฐานะ” ซึ่งนำไปสู่การมีเงินเหลือเพื่อเก็บออมนั่นเอง ผู้ที่อยู่กินตามฐานะของรายได้ หมายถึงการไม่มีเงินออม และผู้ที่อยู่กินเกินฐานะหมายถึง ใช้จ่ายเงินเกินรายได้ที่ตนเองมี นั่นก็คือต้องหยิบยืมส่วนที่ขาดไปจากผู้อื่น ซึ่งก็คือการเป็นหนี้นั่นเอง
    .
    เมื่ออยู่กินต่ำกว่าฐานะอย่างสม่ำเสมอก็จะเกิดเงินออมขึ้นอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน เงินออมจะสะสมเป็นเงินก้อน และเมื่อเอาไปลงทุนอย่างชาญฉลาดก็จะเกิดผลตอบแทนเป็นรายได้เพิ่มเติมจากรายได้ที่ได้รับจากการทำงานอยู่แล้ว ถ้าหากผลตอบแทนลักษณะนี้พอกพูนกันมากขึ้น ถึงแม้จะทำงานน้อยลงหรือไม่ได้ทำงานเลย อันเนื่งมาจากความเจ็บป่วยหรือพ้นวัยทำงานแล้ว ก็จะยังคงมีรายได้อยู่เช่นเดิม
    .
    ความมั่งคั่งเป็นผลพวงของ “การออกลูกออกหลาน” ของเงินตอบแทนจากการออมขั้นแรก กล่าวคือ เมื่อได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งแรกก็นำไปลงทุนต่อ และเมื่อได้รับผลตอบแทนอีกก็ลงทุนต่อไปอีกขั้นหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ จนสมทบพอกพูนเป็นความมั่งคั่ง
    .
    การกระทำเช่นนี้ ซึ่งเริ่มจากการมีเงินออมเป็นเบื้องต้นจนถึงการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง คือ การให้ “เงินทำงานรับใช้” นั่นเอง
    .
    ในชีวิตของผู้คน ทุกคนมีทั้งวัยทำงานที่หารายได้คล่องมือจากการออกแรงทำงาน และมีวัยพ้นทำงานที่ไม่มีรายได้จากการออกแรงทำงาน ดังนั้นการวางแผนการเงินเพื่อให้ “เงินทำงานรับใช้” ตั้งแต่อยู่ในวัยทำงานจนสามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำเผื่อไปถึงวัยที่ไม่อาจหารยได้ได้เต็มที่จากการทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
    .
    ตลอดชีวิตการทำงานซึ่งมีเวลา 30 ปีเศษๆ ถ้าบุคคลในช่วงวัยทำงานใช้จ่ายเงินอย่างขาดการวางแผนให้ “เงินทำงานรับใช้” แล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณอายุ คุณภาพชีวิตที่ได้รับก็จะไม่เหมือนเดิม หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าจะไม่ร่ำรวยตลอดชีวิตอย่างแน่นอน อย่างนี้เรียกว่า “รวยในวันนี้ เพื่อจนในวันข้างหน้า”
    .
    ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ตระหนักดีถึงการร่ำรวยตลอดชีวิต จะวางแผนให้เงินทำงานรับใช้เป็นอย่างดี โดยมีการดำเนินชีวิตพื้นฐานแบบ “อยู่กินต่ำกว่าฐานะ” การกระทำเช่นนี้ก็คือ “ยอมจนวันนี้ เพื่อร่ำรวยตลอดชีวิต” นั่นเอง
    .
    การยอมสละการบริโภคในปัจจุบันไปบ้าง เพื่อให้มีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง และสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอไปจนตลอดชีวิต คือ การมีวิสัยทัศน์
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 11 การทำให้ “เงินทำงานรับใช้” . เมื่อพูดถึงเรื่องการหาเงินและการใช้เงิน คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าเป็นเรื่อง “หญ้าปากคอก” ที่ไม่ต้องเรียนรู้ก็ได้ อย่างไรก็ดี “หญ้าปากคอก”นี้ ได้กลายเป็น “หนามยอกอก” ที่ทิ่มแทงคนหลายคน จนบางคนต้องล้มตายจากไปทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่ ดังที่ได้เห็นกันอยู่เนืองๆ การมีฐานะมั่นคงจากการใช้แรงงานของตนเองตลอดชีวิต ถึงแม้จะเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นศิลปะที่มีหลักการบางอย่างเป็นตัวกำกับ การเข้าใจหลักการดังกล่าวจะช่วยให้ไม่เกิดสภาวะที่ทุ่มเททำงานหารายได้อย่างหนัก แต่ในบั้นปลายชีวิตก็ยังหาความมั่นคงทางการเงินไม่ได้ . มนุษย์มีแนวโน้มโดยธรรมชาติที่จะใช้จ่ายเงินที่หามาได้อย่างตามใจตนเอง เพราะถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย จนละเลยที่จะเก็บเงินบางส่วนไว้ เพื่อทำให้งอกเงยสำหรับอนาคตที่สุขสบายยิ่งขึ้น หลายคนลืมคิดไปว่าถ้าใช้เงินที่หามาได้ไปทั้งหมด ความสุขที่ได้รับก็จะจบอยู่เพียงแค่นั้น ไม่มีอนาคตที่ว่าทำงานเท่าเดิม แต่ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น ไม่มีอนาคตของความมั่นคงทางการเงินซึ่งจะอำนวยให้เกิดความมั่นคงในชีวิตไปด้วย และไม่มีอนาคตที่จะมีชีวิตสุขสบายเมื่อพ้นวัยทำงานไปแล้ว . ถ้าใครเลือกเส้นทาง “สุขวันนี้และจบแค่นี้” ก็จำต้องยอมรับผลที่เกิดมา แต่ถ้าใครเลือกเส้นทาง “ไม่สุขวันนี้เต็มที่ แต่จะสุขยาวกว่านี้ไปในอนาคต” ก็จำเป็นต้องมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายเก็บไว้เป็นเงินออม หรือจะให้ดีกว่านั้นก็คือกันส่วนหนึ่งของรายได้ไว้แต่แรกก่อนใช้จ่าย เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้ก่อนหักภาษี . เงินออมเป็น “ต้นน้ำ” สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการมีความมั่นคงในด้านการเงินต่อไปในอนาคต เงินออมเกิดขึ้นได้เพราะเจ้าของรายได้มีความมัธยัสถ์ กล่าวคือใช้จ่ายเฉพาะในเรื่องที่จำเป็น ไม่สุรุ่ยสุร่ายใช้จ่ายเงินอย่างเขลาในเรื่องต่างๆ ความมัธยัสถ์เป็นแผนหนึ่งของการดำเนินชีวิตที่มิได้ทำให้ใครเดือดร้อน และมิใช่การเอารัดเอาเปรียบคนอื่น การขาดความมัธยัสถ์ต่างหากที่จะทำให้ตนเองเดือดร้อน และอาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปด้วย เพราะอาจถูกรบกวนขอเงิน หรือขอยืมเงินเพราะตนเองมีเงินใช้ไม่พอ . ความมัธยัสถ์โยงใยกับการมีวินัยบังคับใจตนเอง และการมุ่งมั่นมีเป้าหมายในชีวิต ทำให้เกิดสภาวการณ์ที่สำคัญของชีวิต นั่นคือ “การอยู่กินต่ำกว่าฐานะ” ซึ่งนำไปสู่การมีเงินเหลือเพื่อเก็บออมนั่นเอง ผู้ที่อยู่กินตามฐานะของรายได้ หมายถึงการไม่มีเงินออม และผู้ที่อยู่กินเกินฐานะหมายถึง ใช้จ่ายเงินเกินรายได้ที่ตนเองมี นั่นก็คือต้องหยิบยืมส่วนที่ขาดไปจากผู้อื่น ซึ่งก็คือการเป็นหนี้นั่นเอง . เมื่ออยู่กินต่ำกว่าฐานะอย่างสม่ำเสมอก็จะเกิดเงินออมขึ้นอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน เงินออมจะสะสมเป็นเงินก้อน และเมื่อเอาไปลงทุนอย่างชาญฉลาดก็จะเกิดผลตอบแทนเป็นรายได้เพิ่มเติมจากรายได้ที่ได้รับจากการทำงานอยู่แล้ว ถ้าหากผลตอบแทนลักษณะนี้พอกพูนกันมากขึ้น ถึงแม้จะทำงานน้อยลงหรือไม่ได้ทำงานเลย อันเนื่งมาจากความเจ็บป่วยหรือพ้นวัยทำงานแล้ว ก็จะยังคงมีรายได้อยู่เช่นเดิม . ความมั่งคั่งเป็นผลพวงของ “การออกลูกออกหลาน” ของเงินตอบแทนจากการออมขั้นแรก กล่าวคือ เมื่อได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งแรกก็นำไปลงทุนต่อ และเมื่อได้รับผลตอบแทนอีกก็ลงทุนต่อไปอีกขั้นหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ จนสมทบพอกพูนเป็นความมั่งคั่ง . การกระทำเช่นนี้ ซึ่งเริ่มจากการมีเงินออมเป็นเบื้องต้นจนถึงการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง คือ การให้ “เงินทำงานรับใช้” นั่นเอง . ในชีวิตของผู้คน ทุกคนมีทั้งวัยทำงานที่หารายได้คล่องมือจากการออกแรงทำงาน และมีวัยพ้นทำงานที่ไม่มีรายได้จากการออกแรงทำงาน ดังนั้นการวางแผนการเงินเพื่อให้ “เงินทำงานรับใช้” ตั้งแต่อยู่ในวัยทำงานจนสามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำเผื่อไปถึงวัยที่ไม่อาจหารยได้ได้เต็มที่จากการทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง . ตลอดชีวิตการทำงานซึ่งมีเวลา 30 ปีเศษๆ ถ้าบุคคลในช่วงวัยทำงานใช้จ่ายเงินอย่างขาดการวางแผนให้ “เงินทำงานรับใช้” แล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณอายุ คุณภาพชีวิตที่ได้รับก็จะไม่เหมือนเดิม หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าจะไม่ร่ำรวยตลอดชีวิตอย่างแน่นอน อย่างนี้เรียกว่า “รวยในวันนี้ เพื่อจนในวันข้างหน้า” . ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ตระหนักดีถึงการร่ำรวยตลอดชีวิต จะวางแผนให้เงินทำงานรับใช้เป็นอย่างดี โดยมีการดำเนินชีวิตพื้นฐานแบบ “อยู่กินต่ำกว่าฐานะ” การกระทำเช่นนี้ก็คือ “ยอมจนวันนี้ เพื่อร่ำรวยตลอดชีวิต” นั่นเอง . การยอมสละการบริโภคในปัจจุบันไปบ้าง เพื่อให้มีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง และสามารถดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอไปจนตลอดชีวิต คือ การมีวิสัยทัศน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 9 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (2)
    .
    1.ฝากเงินกับธนาคาร มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
    2.ซื้อตราสารหนี้ ซางหมายถึงสัญญาที่ออกโดยกิจการหนึ่งเพื่อกู้เงินจากผู้อื่น ถ้ารัฐบาลเป็นผู้กู้ ตราสารหรือสัญญานี้เรียกว่าตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเป็นเอกชน จะเรียกว่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือหุ้นกู้ การลงทุนซื้อตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยเปรียบเทียบ เพราะผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยที่จ่ายให้เงินกู้ซึ่งแตกต่างจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการประกอบการ
    .
    3.ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม หมายถึงการร่วมทุนกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตลาดตราสารหนี้ โดยมีบริษัทจัดการกองทุนตามกฏหมายเป็นผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีความรอบรู้เป็นพิเศษในเรื่องการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้
    .
    กองทุนแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ (1) กองทุนปิด ซึ่งมีมูลค่ากองทุน (เงินลงทุนร่วมกันครั้งแรก) แน่นอน มีอายุเวลาไถ่ถอนเมื่อครบกำหนดเวลาลงทุนชัดเจน หากผู้บริหารกองทุนมีความสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีเงินปันผลดี หน่วยลงทุนนั้นก็จะมีราคาสูงกว่าตอนซื้อครั้งแรก
    .
    (2) กองทุนเปิด ไม่กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนที่แน่นอน หากผู้ซื้อหน่วยลงทุนต้องการถอนการลงทุนเมื่อใดก็สามารถขายคืนให้บริษัทผู้จัดการกองทุนได้ โดยจะคำนวนราคาซื้อคืนตามมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในขณะนั้น ทางการกำหนดให้บริษัทผู้จัดการกองทุนรายงานตัวเลขแสดงสินทรัพย์สุทธิของกองทุนที่เรียกว่า NAV ( Net Asset Value ) เป็นประจำทุกเดือน เพื่อรายงานว่ามูลค่าสุทธิของแต่ละหน่วยลงทุนนั้นมัมูลค่าเท่าใด เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นกองทุนรวมกองหนึ่งกองใด สามารถตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือถือไว้ต่อไป
    .
    4.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่เรียกว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ( Retirement Mutual Fund ) เป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษ เพื่อส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ เงินที่ซื้อกองทุนนี้สามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 300,000 บาท ผู้ซื้อต้องซื้อติดต่อจนถึงอายุ 55 ปี หรือซื้อต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ในกรณีที่มีอายุ 55 ปี ขึ่นไปจึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี
    .
    5.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนที่เรียกว่า LTF ( Long Term Equity Fund ) หรือกองทุนหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษอีกกองทุนหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการลงทุนตลาดหุ้นระยะยาว มีเงื่อนไขคล้ายกับ RMF กล่าวคือ ซื้อได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เงินที่ซื้อกองทุนสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ลงทุนต้องซื้อติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมนี้ไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี
    .
    ผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิทางภาษีในการลดหย่อนภาษีของทั้ง RMF และ LMF กล่าวคือ ลดหย่อนได้สูงสุดด้วยการซื้อกองทุน RMF และ LMF อย่างละร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี โดยไม่เกินกองทุนละ 300,000 บาท รวมแล้วเป็นค่าลดหย่อนสูงสุด 600,000 บาทต่อปี
    .
    อนึ่ง ยอดเงินลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท ของ RMF ต้องรวมเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลูกจ้างและนายจ้างจ่ายรวมกันในแต่ละปีด้วย ผู้ซื้อกองทุน RMF สามารถเลือกกองทุนรวมประเภทซื้อหุ้นอย่างเดียว (เสี่ยงที่สุด) หรือซื้อตราสารหนี้อย่างเดียว (เสี่ยงน้อยที่สุด) หรือซื้อปนกันทั้งหั้นและตราสารหนี้ (ความเสี่ยงอยู่ระหว่างสองประเภทกองทุนข้างต้น) ก็ได้
    .
    LTF โดยทั่วไปมีความเสี่ยงสูงกว่า RMF (ยกเว้นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว) เนื่องจากเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว การลงทุนใน RMF และ LTF น่าสนใจเพราะเงินที่ซื้อกองทุนเป็นค่าลดหย่อนภาษี และยอดเงินนี้ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ผู้รู้ช่วยเลือกลงทุนให้ นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด ก็ยังสามารถถอนออกมาได้โดยไม่เสียภาษีอีกด้วย
    .
    6.ซื้อหุ้นโดยตรง ซึงหมายถึงการเข้าร่วมลงทุนหรือร่วมเป็นเจ้าของบริษัทนั้นๆ หากบริษัทประสบผลสำเร็จก็ได้ส่วนแบ่งกำไรในรูปของเงินปันผล และมีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาหุ้น ทั้งจากหุ้นที่ซื้อไปและหุ้นออกใหม่ที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาต่ำกว่าตลาด
    .
    7.ซื้อที่อยู่อาศัยไว้สำหรับเช่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือหอพักที่ตั้งอยู่ในทำเลดี มีผู้เช่าแน่นอน โดยใช้เงินออมเป็นเงินดาวน์ และใช้ค่าเช่าและบางส่วนของรายได้ประจำเป็นเงินผ่อนชำระเงินกู้นั้น การให้เช่าข้ามช่วงเวลาที่ยาวจนครบกำหนดเวลากู้ ก็จะได้อสังหาริมทรัพย์มาเป็นสมบัติของครอบครัว ในอนาคตลูกก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากค่าเช่าและมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นได้
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 9 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (2) . 1.ฝากเงินกับธนาคาร มีความเสี่ยงน้อยที่สุด 2.ซื้อตราสารหนี้ ซางหมายถึงสัญญาที่ออกโดยกิจการหนึ่งเพื่อกู้เงินจากผู้อื่น ถ้ารัฐบาลเป็นผู้กู้ ตราสารหรือสัญญานี้เรียกว่าตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเป็นเอกชน จะเรียกว่าตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือหุ้นกู้ การลงทุนซื้อตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยเปรียบเทียบ เพราะผลตอบแทนอยู่ในรูปของดอกเบี้ยที่จ่ายให้เงินกู้ซึ่งแตกต่างจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการประกอบการ . 3.ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม หมายถึงการร่วมทุนกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตลาดตราสารหนี้ โดยมีบริษัทจัดการกองทุนตามกฏหมายเป็นผู้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีความรอบรู้เป็นพิเศษในเรื่องการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้ . กองทุนแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ (1) กองทุนปิด ซึ่งมีมูลค่ากองทุน (เงินลงทุนร่วมกันครั้งแรก) แน่นอน มีอายุเวลาไถ่ถอนเมื่อครบกำหนดเวลาลงทุนชัดเจน หากผู้บริหารกองทุนมีความสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและมีเงินปันผลดี หน่วยลงทุนนั้นก็จะมีราคาสูงกว่าตอนซื้อครั้งแรก . (2) กองทุนเปิด ไม่กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนที่แน่นอน หากผู้ซื้อหน่วยลงทุนต้องการถอนการลงทุนเมื่อใดก็สามารถขายคืนให้บริษัทผู้จัดการกองทุนได้ โดยจะคำนวนราคาซื้อคืนตามมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนในขณะนั้น ทางการกำหนดให้บริษัทผู้จัดการกองทุนรายงานตัวเลขแสดงสินทรัพย์สุทธิของกองทุนที่เรียกว่า NAV ( Net Asset Value ) เป็นประจำทุกเดือน เพื่อรายงานว่ามูลค่าสุทธิของแต่ละหน่วยลงทุนนั้นมัมูลค่าเท่าใด เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นกองทุนรวมกองหนึ่งกองใด สามารถตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือถือไว้ต่อไป . 4.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่เรียกว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ( Retirement Mutual Fund ) เป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษ เพื่อส่งเสริมการออมเพื่อวัยเกษียณ เงินที่ซื้อกองทุนนี้สามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 300,000 บาท ผู้ซื้อต้องซื้อติดต่อจนถึงอายุ 55 ปี หรือซื้อต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ในกรณีที่มีอายุ 55 ปี ขึ่นไปจึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี . 5.ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนที่เรียกว่า LTF ( Long Term Equity Fund ) หรือกองทุนหุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมชนิดพิเศษอีกกองทุนหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการลงทุนตลาดหุ้นระยะยาว มีเงื่อนไขคล้ายกับ RMF กล่าวคือ ซื้อได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เงินที่ซื้อกองทุนสามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ลงทุนต้องซื้อติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถถอนเงินที่ซื้อกองทุนรวมนี้ไว้ทั้งหมดออกไปได้โดยไม่เสียภาษี . ผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิทางภาษีในการลดหย่อนภาษีของทั้ง RMF และ LMF กล่าวคือ ลดหย่อนได้สูงสุดด้วยการซื้อกองทุน RMF และ LMF อย่างละร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี โดยไม่เกินกองทุนละ 300,000 บาท รวมแล้วเป็นค่าลดหย่อนสูงสุด 600,000 บาทต่อปี . อนึ่ง ยอดเงินลดหย่อนสูงสุด 300,000 บาท ของ RMF ต้องรวมเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลูกจ้างและนายจ้างจ่ายรวมกันในแต่ละปีด้วย ผู้ซื้อกองทุน RMF สามารถเลือกกองทุนรวมประเภทซื้อหุ้นอย่างเดียว (เสี่ยงที่สุด) หรือซื้อตราสารหนี้อย่างเดียว (เสี่ยงน้อยที่สุด) หรือซื้อปนกันทั้งหั้นและตราสารหนี้ (ความเสี่ยงอยู่ระหว่างสองประเภทกองทุนข้างต้น) ก็ได้ . LTF โดยทั่วไปมีความเสี่ยงสูงกว่า RMF (ยกเว้นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว) เนื่องจากเป็นกองทุนที่ซื้อหุ้นอย่างเดียว การลงทุนใน RMF และ LTF น่าสนใจเพราะเงินที่ซื้อกองทุนเป็นค่าลดหย่อนภาษี และยอดเงินนี้ก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ผู้รู้ช่วยเลือกลงทุนให้ นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด ก็ยังสามารถถอนออกมาได้โดยไม่เสียภาษีอีกด้วย . 6.ซื้อหุ้นโดยตรง ซึงหมายถึงการเข้าร่วมลงทุนหรือร่วมเป็นเจ้าของบริษัทนั้นๆ หากบริษัทประสบผลสำเร็จก็ได้ส่วนแบ่งกำไรในรูปของเงินปันผล และมีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาหุ้น ทั้งจากหุ้นที่ซื้อไปและหุ้นออกใหม่ที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาต่ำกว่าตลาด . 7.ซื้อที่อยู่อาศัยไว้สำหรับเช่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือหอพักที่ตั้งอยู่ในทำเลดี มีผู้เช่าแน่นอน โดยใช้เงินออมเป็นเงินดาวน์ และใช้ค่าเช่าและบางส่วนของรายได้ประจำเป็นเงินผ่อนชำระเงินกู้นั้น การให้เช่าข้ามช่วงเวลาที่ยาวจนครบกำหนดเวลากู้ ก็จะได้อสังหาริมทรัพย์มาเป็นสมบัติของครอบครัว ในอนาคตลูกก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากค่าเช่าและมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 794 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์
    - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
    - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้

    การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
    - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า
    - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า

    ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม
    - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก
    - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ

    ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด
    - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

    ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม
    - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต
    - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่

    แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน
    - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
    - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์ - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า ✅ ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ℹ️ ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ℹ️ แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันสงกรานต์แต่ถึงเขามาเปลี่ยนผมตามที่เขาต้องการ ผมได้แค่ทนฟังและช่างมัน เดินทางส่วนตัวสบายใจกว่าเยอะ ใครจะด่าอะไรก็ช่างเขา เขาอยากไล่ผมผมก็พร้อมไป แต่ขอตั้งรกรากที่บางแสนดีกว่า บางทีถ้าได้รับราชการจริงๆแต่ไม่ต้องรอเกษียณ ทำไป 5-10 ปี ลาออก ไม่รับบำนาญ แต่บำนาญเราหาเองได้ เพราะตอนจัดสรรบำนาญก็ไม่แฟร์กับคนเกษียณ แต่ชีวิตที่เหลือของผมไม่มีวันเกษียณไปจากวงการนักพัฒนาเกมส์ครับ
    วันสงกรานต์แต่ถึงเขามาเปลี่ยนผมตามที่เขาต้องการ ผมได้แค่ทนฟังและช่างมัน เดินทางส่วนตัวสบายใจกว่าเยอะ ใครจะด่าอะไรก็ช่างเขา เขาอยากไล่ผมผมก็พร้อมไป แต่ขอตั้งรกรากที่บางแสนดีกว่า บางทีถ้าได้รับราชการจริงๆแต่ไม่ต้องรอเกษียณ ทำไป 5-10 ปี ลาออก ไม่รับบำนาญ แต่บำนาญเราหาเองได้ เพราะตอนจัดสรรบำนาญก็ไม่แฟร์กับคนเกษียณ แต่ชีวิตที่เหลือของผมไม่มีวันเกษียณไปจากวงการนักพัฒนาเกมส์ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจเมืองปากน้ำโพขอศาลออกหมายจับล่าแล้ว.. “ต้นกล้า” แก๊งเก๋งแดง-กระบะ ซิ่งแข่งท้านรกชน “ครูแม็ก” ครูเกษียณอายุ 82 ร่างขาดเสียชีวิตขณะยืนรอใส่บาตรหน้าบ้าน เผย ตร.พบยาเสพติดในรถด้วย ส่วนคู่หูถูกส่งฝากขัง-ค้านประกันด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035099

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจเมืองปากน้ำโพขอศาลออกหมายจับล่าแล้ว.. “ต้นกล้า” แก๊งเก๋งแดง-กระบะ ซิ่งแข่งท้านรกชน “ครูแม็ก” ครูเกษียณอายุ 82 ร่างขาดเสียชีวิตขณะยืนรอใส่บาตรหน้าบ้าน เผย ตร.พบยาเสพติดในรถด้วย ส่วนคู่หูถูกส่งฝากขัง-ค้านประกันด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035099 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 935 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน
    .
    งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ
    .
    ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม
    .
    การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน
    .
    เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
    .
    เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้
    .
    พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้”
    .
    สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้
    .
    ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ
    ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น
    .
    ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน . งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ . ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม . การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน . เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น . เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้ . พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้” . สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้ . ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น . ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรับพอร์ตเกษียณอย่างไรเพื่อรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอย ?
    ปรับพอร์ตเกษียณอย่างไรเพื่อรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอย ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 1 รีวิว
Pages Boosts