• เรื่องเล่ห์เขมร หมู่บ้านไทยหาย https://www.youtube.com/live/ZqFCX_6wFFM?si=lujpkayYA9DAEno5
    เรื่องเล่ห์เขมร หมู่บ้านไทยหาย https://www.youtube.com/live/ZqFCX_6wFFM?si=lujpkayYA9DAEno5
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน:

    ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)**
    - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้
    - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน
    - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน)

    ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม**
    - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์
    - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ
    - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน

    ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน**
    - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร
    - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน)
    - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น

    ### 4. **คลื่นวิทยุ**
    - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต
    - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม.
    - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM)
    - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง

    ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน**
    - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล
    - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·)
    - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

    ### 6. **เครือข่ายชุมชน**
    - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ
    - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน
    - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน

    ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล**
    - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ
    - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา

    ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต
    - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer
    - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ
    - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach)

    > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน!

    แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน: ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)** - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้ - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน) ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม** - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์ - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน** - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน) - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น ### 4. **คลื่นวิทยุ** - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม. - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM) - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน** - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·) - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ### 6. **เครือข่ายชุมชน** - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล** - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach) > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน! แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซานโตรินี (Santorini) 🇬🇷 คือ “ราชินีแห่งทะเลอีเจียน” ที่หลายคนใฝ่ฝันจะไปให้ได้สักครั้งในชีวิต 🌊🏛️

    ---

    💙 ทำไมซานโตรินีถึงฮิตสุดๆ?

    🔹 วิวบ้านสีขาว–หลังคาฟ้า
    ไฮไลต์ที่ iconic มาก ถ่ายจากมุมไหนก็คือ *โคตรปัง* 📸
    โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน **Oia** (อียา)

    🔹 ชมพระอาทิตย์ตกสวยระดับโลก
    ที่หมู่บ้าน Oia คนจะมานั่งรอ Sunset ทุกเย็น
    🌅 แสงทองสาดลงตัวเมืองจนกลายเป็นสีทองอมชมพู

    🔹 สระว่ายน้ำ infinity + วิวทะเล
    โรงแรมบนหน้าผาในย่าน Fira หรือ Imerovigli คือ dream stay ของสาย honeymoon 💦

    🔹 หาดภูเขาไฟสุดแปลก
    เช่น Red Beach (หินสีแดง), Black Beach (ทรายดำ)
    🏖️ ไม่เหมือนทะเลที่ไหนเลย

    🔹 ไวน์ & อาหารอร่อย
    ไวน์ขาวจากองุ่นพันธุ์พื้นเมือง
    ของทะเลสดๆ + ชีส + น้ำมันมะกอก 🧀🍷

    ---
    ✈️ เที่ยวซานโตรินียังไง?
    📍 อยู่ทางใต้ของกรีซ ต้องนั่งเครื่องบินหรือล่องเรือจากเอเธนส์

    ✈️ ไฟลต์ในประเทศ ไปสนามบิน Santorini (JTR)
    🛳 เรือเฟอร์รี่ จากท่าเรือ Piraeus (เอเธนส์) ใช้เวลา 5–8 ชม.

    ---
    📌 ไปช่วงไหนดี?
    🗓️ เมษายน – ตุลาคม (ฤดูร้อน + พระอาทิตย์ตกดึก)
    ☀️ เดือน *.ค.–ก.ย. คือพีคสุด แดดดี ทะเลใส ฟ้าเปิด




    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ซานโตรินี (Santorini) 🇬🇷 คือ “ราชินีแห่งทะเลอีเจียน” ที่หลายคนใฝ่ฝันจะไปให้ได้สักครั้งในชีวิต 🌊🏛️ --- 💙 ทำไมซานโตรินีถึงฮิตสุดๆ? 🔹 วิวบ้านสีขาว–หลังคาฟ้า ไฮไลต์ที่ iconic มาก ถ่ายจากมุมไหนก็คือ *โคตรปัง* 📸 โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน **Oia** (อียา) 🔹 ชมพระอาทิตย์ตกสวยระดับโลก ที่หมู่บ้าน Oia คนจะมานั่งรอ Sunset ทุกเย็น 🌅 แสงทองสาดลงตัวเมืองจนกลายเป็นสีทองอมชมพู 🔹 สระว่ายน้ำ infinity + วิวทะเล โรงแรมบนหน้าผาในย่าน Fira หรือ Imerovigli คือ dream stay ของสาย honeymoon 💦 🔹 หาดภูเขาไฟสุดแปลก เช่น Red Beach (หินสีแดง), Black Beach (ทรายดำ) 🏖️ ไม่เหมือนทะเลที่ไหนเลย 🔹 ไวน์ & อาหารอร่อย ไวน์ขาวจากองุ่นพันธุ์พื้นเมือง ของทะเลสดๆ + ชีส + น้ำมันมะกอก 🧀🍷 --- ✈️ เที่ยวซานโตรินียังไง? 📍 อยู่ทางใต้ของกรีซ ต้องนั่งเครื่องบินหรือล่องเรือจากเอเธนส์ ✈️ ไฟลต์ในประเทศ ไปสนามบิน Santorini (JTR) 🛳 เรือเฟอร์รี่ จากท่าเรือ Piraeus (เอเธนส์) ใช้เวลา 5–8 ชม. --- 📌 ไปช่วงไหนดี? 🗓️ เมษายน – ตุลาคม (ฤดูร้อน + พระอาทิตย์ตกดึก) ☀️ เดือน *.ค.–ก.ย. คือพีคสุด แดดดี ทะเลใส ฟ้าเปิด LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข้อคิดจากข่าว
    ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม,
    ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที,
    ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น.

    https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    ..ข้อคิดจากข่าว ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม, ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที, ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น. https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    .
    วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย
    .
    เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4

    ทั้งนี้ สมาคมได้ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน
    ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 . วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย . เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4 ทั้งนี้ สมาคมได้ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    .
    วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย
    .
    เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4

    ทั้งนี้ สมาคมได้ ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดประกฏตามโปรแกรมการ แข่งขันแนบท้ายเอกสารนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขันตามกำหนดการดังกล่าว
    ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 . วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย . เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4 ทั้งนี้ สมาคมได้ ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดประกฏตามโปรแกรมการ แข่งขันแนบท้ายเอกสารนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขันตามกำหนดการดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
    .
    บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
    .
    หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525
    ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ
    .
    นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก
    .
    48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย
    .
    ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ
    .
    - สมภพ พอดี -
    ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย . บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ . หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525 ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ . นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก . 48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย . ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ . - สมภพ พอดี -
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌸 เวียดนามกลาง ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลส์
    ✈️ บินหรู Full Service กับ Emirates Airlines
    💸 ลดทันที 3,000.- เหลือเพียง 12,990.-

    📆 เดินทาง :
    • 11-14 ก.ค. 68
    • 25-28 ก.ค. 68

    📍โปรแกรมไฮไลท์
    🪨 หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน – ภูเขาหินอ่อน
    🚣‍♀️ ล่องเรือกระด้ง – เมืองโบราณฮอยอัน – สะพานญี่ปุ่น
    🪭 ชมร้านเยื้อไผ่ – สะพานมังกรสุดอลัง
    🚡 นั่งกระเช้าบานาฮิลส์ – สวนดอกไม้ – สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค
    🖐 สะพานมือยักษ์ – ป๊อปมาร์ท – พระพุทธรูปหลินอึ๋ง
    ☕️ จิบกาแฟ Café Palm Beach & SON TRA MARINA CAFE
    🎀 โบสถ์สีชมพู – ช้อปปิ้งฮาน มาร์เก็ต

    📌 ที่เดียว เที่ยวครบ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม คาเฟ่ และแลนด์มาร์ก
    จองเลยก่อนเต็ม!

    #เวียดนามกลาง #ดานังฮอยอัน #บานาฮิลส์ #สะพานมือยักษ์ #บินหรูEmirates #เที่ยวเวียดนาม #ลดแรงแซงทุกโปร #เที่ยวฟูลเซอร์วิส

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e2c73e

    ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/8d0826

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🌸 เวียดนามกลาง ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลส์ ✈️ บินหรู Full Service กับ Emirates Airlines 💸 ลดทันที 3,000.- เหลือเพียง 12,990.- 📆 เดินทาง : • 11-14 ก.ค. 68 • 25-28 ก.ค. 68 📍โปรแกรมไฮไลท์ 🪨 หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน – ภูเขาหินอ่อน 🚣‍♀️ ล่องเรือกระด้ง – เมืองโบราณฮอยอัน – สะพานญี่ปุ่น 🪭 ชมร้านเยื้อไผ่ – สะพานมังกรสุดอลัง 🚡 นั่งกระเช้าบานาฮิลส์ – สวนดอกไม้ – สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค 🖐 สะพานมือยักษ์ – ป๊อปมาร์ท – พระพุทธรูปหลินอึ๋ง ☕️ จิบกาแฟ Café Palm Beach & SON TRA MARINA CAFE 🎀 โบสถ์สีชมพู – ช้อปปิ้งฮาน มาร์เก็ต 📌 ที่เดียว เที่ยวครบ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม คาเฟ่ และแลนด์มาร์ก จองเลยก่อนเต็ม! #เวียดนามกลาง #ดานังฮอยอัน #บานาฮิลส์ #สะพานมือยักษ์ #บินหรูEmirates #เที่ยวเวียดนาม #ลดแรงแซงทุกโปร #เที่ยวฟูลเซอร์วิส ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e2c73e ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/8d0826 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #ฮาร์บิน #ปีใหม่ ❄☃

    🗓 จำนวนวัน 7วัน 5คืน
    ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐

    📍 เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน
    📍 หมู่บ้านหิมะ (Snow Town)
    📍 บ้านเห็ดหิมะ Dream Home
    📍 รูปปั้นตุ๊กตาหิมะ
    📍 โบสถ์เซนต์โซเฟีย
    📍 อนุสาวรีย์ฝั่งหง
    📍 คฤหาสน์วอลการ์

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #ฮาร์บิน #ปีใหม่ ❄☃ 🗓 จำนวนวัน 7วัน 5คืน ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน 📍 หมู่บ้านหิมะ (Snow Town) 📍 บ้านเห็ดหิมะ Dream Home 📍 รูปปั้นตุ๊กตาหิมะ 📍 โบสถ์เซนต์โซเฟีย 📍 อนุสาวรีย์ฝั่งหง 📍 คฤหาสน์วอลการ์ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้
    สัทธรรมลำดับที่ : 268
    ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=268
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้
    --คฤหบดี ! เปรียบเหมือนป่าใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านหรือนิคมนัก.
    ในป่าใหญ่นั้น มีต้นไม้ ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย,
    ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย.
    ครั้งนั้น
    -มีบุรุษผู้หนึ่งผ่านมา เป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยวแสวงหาผลไม้อยู่,
    เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้ว พบต้นไม้ต้นนั้นแล้วคิดว่า
    “ต้นไม้นี้มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย
    และเราก็รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้อยู่,
    ถ้าไฉน เราขึ้นสู่ต้นไม้นี้แล้ว จะพึงกินผลไม้ตามความพอใจด้วย
    จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย”
    ดังนี้แล้ว
    เขาก็ขึ้นสู่ต้นไม้นั้น เก็บกินตามความพอใจด้วย ห่อจนเต็มห่อด้วย.
    ในลำดับนั้นเอง
    -บุรุษคนที่สอง ซึ่งเป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยวแสวงหาผลไม้อย่างเดียวกัน
    ถือขวานคมผ่านมาที่นั้น,
    เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้วก็พบต้นไม้ต้นเดียวนั้น ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย,
    เขาจึง คิดว่า
    “ต้นไม้นี้ มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย
    และเราก็ไม่รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้,
    ถ้าไฉน เราจะโค่นมันที่โคน แล้วจะพึงกินผลไม้ตามความพอใจด้วย
    จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย”
    ดังนี้แล้ว เขาจึงโค่นต้นไม้นั้นที่โคน.
    --คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ?
    บุรุษผู้ขึ้นอยู่บนต้นไม้คนแรก,
    ถ้าเขาไม่รีบลงมาโดยเร็วไซร้,
    เมื่อต้นไม้นั้นล้มลง,
    เขาก็จะต้องมือหักบ้าง เท้าหักบ้าง
    หรืออวัยวะน้อยใหญ่ส่วนใดส่วนหนึ่งหักบ้าง โดยแท้.
    บุรุษผู้นั้น ก็จะถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย
    เพราะข้อนั้น เป็นเหตุ มิใช่หรือ ?
    --“อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ
    สาวกของพระอริยเจ้า ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ ว่า
    “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วว่า
    #มีอุปมาด้วยผลไม้ เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก
    http://etipitaka.com/read/pali/13/45/?keywords=รุกฺขผลูปมา+กามา
    ทำให้คับแค้นใจมาก และมีโทษ อย่างยิ่ง”
    ดังนี้,
    ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้แล้ว
    ก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า),
    แล้วเจริญซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว
    (เช่นเจริญอุเบกขาที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน)
    อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ อุปาทานอันมีอยู่ในเหยื่อโลก
    โดยประการทั้งปวง แล.-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/39/53.
    http://etipitaka.com/read/thai/13/39/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๔๔/๕๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/44/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=268
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=268
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้ สัทธรรมลำดับที่ : 268 ชื่อบทธรรม :- กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=268 เนื้อความทั้งหมด :- --กามเปรียบด้วยผลไม้บนต้นไม้ --คฤหบดี ! เปรียบเหมือนป่าใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านหรือนิคมนัก. ในป่าใหญ่นั้น มีต้นไม้ ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย, ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย. ครั้งนั้น -มีบุรุษผู้หนึ่งผ่านมา เป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยวแสวงหาผลไม้อยู่, เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้ว พบต้นไม้ต้นนั้นแล้วคิดว่า “ต้นไม้นี้มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย และเราก็รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้อยู่, ถ้าไฉน เราขึ้นสู่ต้นไม้นี้แล้ว จะพึงกินผลไม้ตามความพอใจด้วย จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย” ดังนี้แล้ว เขาก็ขึ้นสู่ต้นไม้นั้น เก็บกินตามความพอใจด้วย ห่อจนเต็มห่อด้วย. ในลำดับนั้นเอง -บุรุษคนที่สอง ซึ่งเป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยวแสวงหาผลไม้อย่างเดียวกัน ถือขวานคมผ่านมาที่นั้น, เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้วก็พบต้นไม้ต้นเดียวนั้น ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย, เขาจึง คิดว่า “ต้นไม้นี้ มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย และเราก็ไม่รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้, ถ้าไฉน เราจะโค่นมันที่โคน แล้วจะพึงกินผลไม้ตามความพอใจด้วย จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย” ดังนี้แล้ว เขาจึงโค่นต้นไม้นั้นที่โคน. --คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ? บุรุษผู้ขึ้นอยู่บนต้นไม้คนแรก, ถ้าเขาไม่รีบลงมาโดยเร็วไซร้, เมื่อต้นไม้นั้นล้มลง, เขาก็จะต้องมือหักบ้าง เท้าหักบ้าง หรืออวัยวะน้อยใหญ่ส่วนใดส่วนหนึ่งหักบ้าง โดยแท้. บุรุษผู้นั้น ก็จะถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้น เป็นเหตุ มิใช่หรือ ? --“อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ สาวกของพระอริยเจ้า ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ ว่า “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วว่า #มีอุปมาด้วยผลไม้ เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก http://etipitaka.com/read/pali/13/45/?keywords=รุกฺขผลูปมา+กามา ทำให้คับแค้นใจมาก และมีโทษ อย่างยิ่ง” ดังนี้, ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้แล้ว ก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า), แล้วเจริญซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว (เช่นเจริญอุเบกขาที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน) อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ อุปาทานอันมีอยู่ในเหยื่อโลก โดยประการทั้งปวง แล.- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/39/53. http://etipitaka.com/read/thai/13/39/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๔๔/๕๓. http://etipitaka.com/read/pali/13/44/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=268 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=268 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - กามเปรียบด้วยผลไม้
    -กามเปรียบด้วยผลไม้ คฤหบดี ! เปรียบเหมือนป่าใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลหมู่บ้านหรือนิคมนัก. ในป่าใหญ่นั้น มีต้นไม้ ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย, ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย. ครั้งนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งผ่านมา เป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยว แสวงหาผลไม้อยู่, เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้ว พบต้นไม้ต้นนั้นแล้วคิดว่า “ต้นไม้นี้มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย และเราก็รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้อยู่, ถ้าไฉน เราขึ้นสู่ต้นไม้นี้แล้ว จะพึงกินผลไม้ตามความพอใจ ด้วย จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย” ดังนี้แล้ว เขาก็ขึ้นสู่ต้นไม้นั้น เก็บกินตามความพอใจด้วย ห่อจนเต็มห่อด้วย. ในลำดับนั้นเอง บุรุษคนที่สอง ซึ่งเป็นผู้ต้องการด้วยผลไม้ เที่ยวแสวงหาผลไม้อย่างเดียวกัน ถือขวานคมผ่านมาที่นั้น, เขาเข้าไปยังป่านั้นแล้วก็พบต้นไม้ต้นเดียวนั้น ซึ่งมีผลน่ากินด้วย ดกด้วย, เขาจึง คิดว่า “ต้นไม้นี้ มีผลน่ากินด้วย ดกด้วย ส่วนผลที่หล่นอยู่ตามพื้นดินไม่มีเลย และเราก็ไม่รู้จักวิธีขึ้นต้นไม้, ถ้าไฉน เราจะโค่นมันที่โคน แล้วจะพึงกินผลไม้ตามความพอใจด้วย จะพึงยังห่อให้เต็มด้วย” ดังนี้แล้ว เขาจึงโค่นต้นไม้นั้นที่โคน. คฤหบดี ! ท่านจะสำคัญความข้อนั้นว่าอย่างไร ? บุรุษผู้ขึ้นอยู่บนต้นไม้คนแรก, ถ้าเขาไม่รีบลงมาโดยเร็วไซร้, เมื่อต้นไม้นั้นล้มลง, เขาก็จะต้องมือหักบ้าง เท้าหักบ้าง หรืออวัยวะน้อยใหญ่ส่วนใดส่วนหนึ่งหักบ้าง โดยแท้. บุรุษผู้นั้น ก็จะถึงซึ่งความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้น เป็นเหตุ มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” คฤหบดี ! ด้วยเหตุนี้แหละ สาวกของพระอริยเจ้า ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ ว่า “กามทั้งหลาย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วว่า มีอุปมาด้วยผลไม้ เป็นสิ่งที่ให้เกิดทุกข์มาก ทำให้คับแค้นใจมาก และมีโทษ อย่างยิ่ง” ดังนี้, ครั้นเห็นกามนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ แล้ว ก็เว้นเสียโดยเด็ดขาด ซึ่งความเพ่ง มีประการต่าง ๆ อันอาศัยอารมณ์ต่าง ๆ (กามคุณห้า), แล้วเจริญซึ่งความเพ่งอันเดียว อันอาศัยอารมณ์อันเดียว (เช่นเจริญอุเบกขาที่เป็นองค์ของจตุตถฌาน) อันเป็นที่ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือของ อุปาทานอันมีอยู่ในเหยื่อโลก โดยประการทั้งปวง แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน
    เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK)
    📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 67,888.-

    📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด
    🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก
    🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์
    🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น
    🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส
    ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช
    🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล

    #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป
    #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส
    #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/efcc39

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395
    🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK) 📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68 💸 ราคาเพียง 67,888.- 📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด 🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก 🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์ 🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น 🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช 🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/efcc39 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน
    เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK)
    📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 67,888.-

    📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด
    🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก
    🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์
    🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น
    🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส
    ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช
    🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล

    #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป
    #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส
    #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/efcc39

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🇦🇹🇩🇪🇨🇭 เที่ยว 3 ประเทศสุดคลาสสิก! 7 วัน 4 คืน เดินทางสบายกับ ✈️ Emirates Airlines (EK) 📅 เดินทาง: 10-16 ก.ย. 68 💸 ราคาเพียง 67,888.- 📍 ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด 🏞 หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบสุดโรแมนติก 🏰 ปราสาทนอยชวานสไตน์ แรงบันดาลใจดิสนีย์ 🏙 เมืองอินส์บรูค • เมืองฟุสเซน • เมืองซุก • เมืองลูเซิร์น 🗻 นั่งกระเช้าโรแตร์ 360° สู่ยอดเขาทิตลิส ❄️ เดินถ้ำน้ำแข็ง • ชมสะพานแขวนวิวสุดต๊าช 🦁 สิงโตหินลูเซิร์น • สะพานไม้ชาเปล #ออสเตรียเยอรมันสวิส #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวฟินอินยุโรป #ฮัลล์สตัทท์ #นอยชวานสไตน์ #เขาทิตลิส #โปรโมชั่นทัวร์ #เที่ยวคุ้มจบในทริปเดียว 🌍✈️🧳 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/efcc39 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล
    .
    คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี
    .
    พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม
    .
    โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม?
    .
    ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง?
    .
    แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา)
    .
    โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา...
    .
    มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน
    .
    - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น
    - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง
    .
    - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ
    - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า
    .
    อธิบายสักรอบ..
    .
    เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป..
    .
    ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม? เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปก็จะยึดถือหลักการและเหตุผลสามัญที่พวกเขาเรียนรู้กันมา แต่บางครั้งข้อจำกัดของหลักการเหล่านั้นก็สามารถขจัดออกไปได้
    .
    ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง
    .
    นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น
    .
    พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้
    .
    ผมจะเล่าตัวอย่างของทาเทมาเอะ-ฮอนเนะให้ฟังอีกเรื่อง เกี่ยวกับแหล่งน้ำในโลกที่กำลังลดน้อยลงทุกที ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้วในบทความที่พูดถึงเรื่องแม่น้ำไนล์และประเทศเอธิโอเปีย
    .
    ประเทศเอธิโอเปียเป็นประเทศที่ยากจนอย่างยิ่ง แห้งแล้งกันดารลำบากยากเข็ญ แม่น้ำไนล์นั้นมีต้นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย แต่คนเอธิโอเปียกลับไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้สำหรับทำเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพประชากรที่อดอยากได้ เพราะว่าถ้าทำเช่นนั้น ประเทศอียิปต์ซึ่งมีพร้อมทั้งจรวดและเครื่องบินรบทันสมัยก็จะมาถล่มเอธิโอเปียทันที เนื่องเพราะแม่น้ำไนล์ในวันนี้ปริมาณน้ำไม่พอใช้อยู่แล้ว ถ้าเอธิโอเปียทำเขื่อน ปริมาณน้ำที่ไหลไปถึงอียิปต์ก็จะน้อยลง ดังนั้นในสภาวะด้อยกว่าเช่นนี้เอธิโอเปียจึงต้องก้มหน้าเผชิญชะตากรรมอันยากเข็ญต่อไป ให้มีอีก 10 ไมเคิลแจ็กสันมาร้องเพลงวีอาร์เดอะเวิลด์อีก 10 รอบ ก็ไม่อาจช่วยเด็กเอธิโอเปียที่ล้มตายลงไปทุกวัน อย่างที่ผมได้พยายามเน้นมาก่อนหน้านี้ วันนึงการขาดแคลนน้ำจะก่อเป็นปัญหาซึ่งจะนำไปสู่สงคราม
    .
    ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ทาเทมาเอะกำลังดำเนินไปด้วยการโหมของสื่อ เน้นให้เห็นความน่าเห็นใจของชาวทิเบตและความโหดร้ายของรัฐบาลจีนที่เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ ยิ่งถ้าได้ดูหนังที่แบรทพิตต์แสดงให้เห็นความสะเทือนใจผ่านความสัมพันธ์ของเขากับดาไลลามะ ก็ยิ่งเห็นใจว่าทิเบตควรได้รับความเป็นเอกราช ผมเองก็เศร้าใจกับชะตากรรมนี้ แต่เมื่อมองจากมุมอื่นโดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความมั่งคงของชาติเราเอง ความเป็นจริงบางอย่างก็บีบบังคับเช่นกัน กรณีนี้มันเหมือนกับกันกับทาเทมาเอะของหนังเรื่องชินเลอร์ลิสท์และพรอพพาแกนดาของพวกไซออนนิสท์เลย ที่ความสะเทือนใจนี้อาจจะบรรเทาความขุ่นเคืองจากการสังหารหมู่ในปาเลสไตน์ได้ ซึ่งนี่เป็นฮอนเนะชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ ทาเทมาเอะในทิเบตหากสำเร็จ อาจจะนำมาซึ่งเหตุผลอันชอบธรรมในการที่ตะวันตกจะแทรกแซงเข้ามาช่วยเหลือและปลดปล่อยทิเบต จากนั้นก็จะวางอิทธิพลครอบงำไว้เช่นเดียวกับที่เกิดในติมอร์ ฮอนเนะที่แท้จริงของพวกมันคือการเข้ากุมอำนาจความได้เปรียบ หากสามารถควบคุมต้นน้ำที่มาจากภูเขาหิมาลัยในทิเบตได้ ก็จะสามารถควบคุมทั้งจีนและเอเชียอาคเนย์ทั้งหมดได้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะแหล่งน้ำสำคัญสำคัญในเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดในทิเบต เช่น แม่น้ำอิระวดี แม่น้ำโขง ส่วนจีนเอง แม่น้ำใหญ่อย่างฮวงโหวและแยงซีเกียงก็มาจากทิเบตเช่นกัน นี่คือเหตุที่ว่าทำไมจีนถึงต้องครอบครองดินแดนทิเบตไว้ให้ถึงที่สุด เพราะถ้าตกไปในอำนาจของฝั่งตะวันตก ทั้งประเทศจีนและหลายประเทศในเอเชียอาคเนย์จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้ใครก็ตามที่มากุมอำนาจในทิเบตเอาไว้ได้
    .
    ประเทศไทยยังโชคดี หากว่าวันนึงต้องประสบความเดือดร้อนเพราะแม่น้ำโขงถูกควบคุมโดยมหาอำนาจตะวันตก เรายังมีแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีต้นน้ำอยู่ในประเทศไทยเอง ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้ว บอกให้รู้ว่าสภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างนั้นเสียทั้งหมด ส่วนตอนกลางยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ตอนบนยังอยู่ในสภาพที่ดี ผมยังพูดถึงแม่น้ำโวลก้าในรัสเซียที่เคยเสียไปหมดทั้งเส้นด้วยมลพิษ แต่ในที่สุดด้วยความพยายามอย่างหนัก รัสเซียสามารถกู้แม่น้ำโวลก้าขึ้นมาได้ แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่สามารถใช้บริโภค แต่สัตว์น้ำก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น แม่น้ำเจ้าพระยาที่เสียไปบางส่วนนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะกู้คืนเสียแต่บัดนี้ และยังเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นนโยบายรัฐและถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะช่วยกันกอบกู้แม่น้ำนี้ขึ้นมาให้ใช้บริโภคได้เหมือนสมัยที่ผมยังเด็กเด็กสมัยที่อยู่บ้านคุณยายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรายังสามารถเอาน้ำขึ้นมาใส่ตุ่มแกว่งสารส้มแล้วนำมาต้มทำอาหารได้ นี่คือหลักประกันที่ว่าถ้าวันหนึ่งโลกได้มาถึงจุดคับขัน เราจะยังมีน้ำกินน้ำใช้ เพราะเราไม่รู้ว่าวันใดน้ำที่ใส่ขวดวางขายอยู่ตามห้างตามร้านของชำจะยังมีให้ซื้อกินอยู่ น้ำจึงเป็นปัจจัยคอขาดบาดตายของทุกคนที่จะต้องปกป้องไว้ให้ถึงที่สุด
    .
    ท่ามกลางการโอบล้อมของภัยจากทุกทิศทาง การโจมตีด้วยเจตนาร้ายเคลือบแฝงหลายรูปแบบที่ประดังเข้ามา มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นปลอดภัย เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะไปยืนที่กำแพงพระนคร แล้วพูดกับตัวเองว่า "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล . คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี . พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม . โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม? . ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง? . แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา) . โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา... . มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน . - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง . - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า . อธิบายสักรอบ.. . เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป.. . ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม? เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปก็จะยึดถือหลักการและเหตุผลสามัญที่พวกเขาเรียนรู้กันมา แต่บางครั้งข้อจำกัดของหลักการเหล่านั้นก็สามารถขจัดออกไปได้ . ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง . นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น . พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้ . ผมจะเล่าตัวอย่างของทาเทมาเอะ-ฮอนเนะให้ฟังอีกเรื่อง เกี่ยวกับแหล่งน้ำในโลกที่กำลังลดน้อยลงทุกที ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้วในบทความที่พูดถึงเรื่องแม่น้ำไนล์และประเทศเอธิโอเปีย . ประเทศเอธิโอเปียเป็นประเทศที่ยากจนอย่างยิ่ง แห้งแล้งกันดารลำบากยากเข็ญ แม่น้ำไนล์นั้นมีต้นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย แต่คนเอธิโอเปียกลับไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้สำหรับทำเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพประชากรที่อดอยากได้ เพราะว่าถ้าทำเช่นนั้น ประเทศอียิปต์ซึ่งมีพร้อมทั้งจรวดและเครื่องบินรบทันสมัยก็จะมาถล่มเอธิโอเปียทันที เนื่องเพราะแม่น้ำไนล์ในวันนี้ปริมาณน้ำไม่พอใช้อยู่แล้ว ถ้าเอธิโอเปียทำเขื่อน ปริมาณน้ำที่ไหลไปถึงอียิปต์ก็จะน้อยลง ดังนั้นในสภาวะด้อยกว่าเช่นนี้เอธิโอเปียจึงต้องก้มหน้าเผชิญชะตากรรมอันยากเข็ญต่อไป ให้มีอีก 10 ไมเคิลแจ็กสันมาร้องเพลงวีอาร์เดอะเวิลด์อีก 10 รอบ ก็ไม่อาจช่วยเด็กเอธิโอเปียที่ล้มตายลงไปทุกวัน อย่างที่ผมได้พยายามเน้นมาก่อนหน้านี้ วันนึงการขาดแคลนน้ำจะก่อเป็นปัญหาซึ่งจะนำไปสู่สงคราม . ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ทาเทมาเอะกำลังดำเนินไปด้วยการโหมของสื่อ เน้นให้เห็นความน่าเห็นใจของชาวทิเบตและความโหดร้ายของรัฐบาลจีนที่เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ ยิ่งถ้าได้ดูหนังที่แบรทพิตต์แสดงให้เห็นความสะเทือนใจผ่านความสัมพันธ์ของเขากับดาไลลามะ ก็ยิ่งเห็นใจว่าทิเบตควรได้รับความเป็นเอกราช ผมเองก็เศร้าใจกับชะตากรรมนี้ แต่เมื่อมองจากมุมอื่นโดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความมั่งคงของชาติเราเอง ความเป็นจริงบางอย่างก็บีบบังคับเช่นกัน กรณีนี้มันเหมือนกับกันกับทาเทมาเอะของหนังเรื่องชินเลอร์ลิสท์และพรอพพาแกนดาของพวกไซออนนิสท์เลย ที่ความสะเทือนใจนี้อาจจะบรรเทาความขุ่นเคืองจากการสังหารหมู่ในปาเลสไตน์ได้ ซึ่งนี่เป็นฮอนเนะชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ ทาเทมาเอะในทิเบตหากสำเร็จ อาจจะนำมาซึ่งเหตุผลอันชอบธรรมในการที่ตะวันตกจะแทรกแซงเข้ามาช่วยเหลือและปลดปล่อยทิเบต จากนั้นก็จะวางอิทธิพลครอบงำไว้เช่นเดียวกับที่เกิดในติมอร์ ฮอนเนะที่แท้จริงของพวกมันคือการเข้ากุมอำนาจความได้เปรียบ หากสามารถควบคุมต้นน้ำที่มาจากภูเขาหิมาลัยในทิเบตได้ ก็จะสามารถควบคุมทั้งจีนและเอเชียอาคเนย์ทั้งหมดได้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะแหล่งน้ำสำคัญสำคัญในเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดในทิเบต เช่น แม่น้ำอิระวดี แม่น้ำโขง ส่วนจีนเอง แม่น้ำใหญ่อย่างฮวงโหวและแยงซีเกียงก็มาจากทิเบตเช่นกัน นี่คือเหตุที่ว่าทำไมจีนถึงต้องครอบครองดินแดนทิเบตไว้ให้ถึงที่สุด เพราะถ้าตกไปในอำนาจของฝั่งตะวันตก ทั้งประเทศจีนและหลายประเทศในเอเชียอาคเนย์จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้ใครก็ตามที่มากุมอำนาจในทิเบตเอาไว้ได้ . ประเทศไทยยังโชคดี หากว่าวันนึงต้องประสบความเดือดร้อนเพราะแม่น้ำโขงถูกควบคุมโดยมหาอำนาจตะวันตก เรายังมีแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีต้นน้ำอยู่ในประเทศไทยเอง ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้ว บอกให้รู้ว่าสภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างนั้นเสียทั้งหมด ส่วนตอนกลางยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ตอนบนยังอยู่ในสภาพที่ดี ผมยังพูดถึงแม่น้ำโวลก้าในรัสเซียที่เคยเสียไปหมดทั้งเส้นด้วยมลพิษ แต่ในที่สุดด้วยความพยายามอย่างหนัก รัสเซียสามารถกู้แม่น้ำโวลก้าขึ้นมาได้ แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่สามารถใช้บริโภค แต่สัตว์น้ำก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น แม่น้ำเจ้าพระยาที่เสียไปบางส่วนนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะกู้คืนเสียแต่บัดนี้ และยังเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นนโยบายรัฐและถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะช่วยกันกอบกู้แม่น้ำนี้ขึ้นมาให้ใช้บริโภคได้เหมือนสมัยที่ผมยังเด็กเด็กสมัยที่อยู่บ้านคุณยายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรายังสามารถเอาน้ำขึ้นมาใส่ตุ่มแกว่งสารส้มแล้วนำมาต้มทำอาหารได้ นี่คือหลักประกันที่ว่าถ้าวันหนึ่งโลกได้มาถึงจุดคับขัน เราจะยังมีน้ำกินน้ำใช้ เพราะเราไม่รู้ว่าวันใดน้ำที่ใส่ขวดวางขายอยู่ตามห้างตามร้านของชำจะยังมีให้ซื้อกินอยู่ น้ำจึงเป็นปัจจัยคอขาดบาดตายของทุกคนที่จะต้องปกป้องไว้ให้ถึงที่สุด . ท่ามกลางการโอบล้อมของภัยจากทุกทิศทาง การโจมตีด้วยเจตนาร้ายเคลือบแฝงหลายรูปแบบที่ประดังเข้ามา มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นปลอดภัย เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะไปยืนที่กำแพงพระนคร แล้วพูดกับตัวเองว่า "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้ . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส"
    .
    กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน
    .
    มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
    •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10
    •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5
    •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3
    .
    โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
    .
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส" . กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน . มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10 •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5 •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3 . โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด . #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริชชี่เฝ้าบ้าน ลูก้าคงไปสมาคมชุมชนแมวท้ายหมู่บ้าน แมวแก่เหลืองมาเฝ้าแทน
    ริชชี่เฝ้าบ้าน ลูก้าคงไปสมาคมชุมชนแมวท้ายหมู่บ้าน แมวแก่เหลืองมาเฝ้าแทน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย.
    ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที,
    ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ.
    ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา.
    ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ.
    ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย. ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที, ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ. ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา. ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ. ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568
    ประเทศไทยไร้ทางออก คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคม...(uncut)
    สนธิ ลิ้มทองกุล

    สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน
    "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"
    คลิ๊กลิงค์ : https://shorturl.asia/ksaHh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 183 0 รีวิว
  • พระปิดตารุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อยุธยา ปี2541
    พระปิดตาเสาร์๕ รุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อำเภอมหาราช อยุธยา ปี2541 //พระดีพิธีใหญ๋ ที่ระลืกฉลองศาลาการเปรียญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภเพิ่มพูล เมตตาค้าขาย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง กันเสนียดจัญไร >>

    ** ...วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของ คุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูป ธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระภิกษุรูปแรกนั้นมีชื่อว่า ทรัพย์ ส่วนอีกรูปไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระปิดตารุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อยุธยา ปี2541 พระปิดตาเสาร์๕ รุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อำเภอมหาราช อยุธยา ปี2541 //พระดีพิธีใหญ๋ ที่ระลืกฉลองศาลาการเปรียญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภเพิ่มพูล เมตตาค้าขาย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง กันเสนียดจัญไร >> ** ...วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของ คุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูป ธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระภิกษุรูปแรกนั้นมีชื่อว่า ทรัพย์ ส่วนอีกรูปไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นึกถึงเสาเข็มเจาะ #เสาเข็มตอก #สปันไมโครไพล์ #เสาเข็มเจาะโคราช #เสาเข็มตอกโคราช #เสาเข็มเจาะภาคอีสาน #เสาเข็มตอกภาคอีสาน เลือก นันทพลเข็มเจาะนะครับ นันทพล รัตนมณี (ตึ๋ง) 086-6481898 และ 081-8790727 Fax 044-352010
    https://youtu.be/a3WObP5Vh84
    .
    คลิปการเจาะเสาเข็มของ หจก.นันทพลวิศวกรรม
    https://youtu.be/a3WObP5Vh84
    .
    คลิปการเจาะเสาเข็มแบบสามขาของ หจก.นันทพลวิศวกรรม
    https://youtu.be/3JmQrQWbIfo?si=IFk8h2akRg8DKlKD
    .
    คลิป SpunMicroPiles
    https://www.youtube.com/watch?v=C-k7cJvOQRw
    .
    ชุดรถสว่านช่างหนุ่มทำเข็มเจาะ สระว่ายน้ำ หมู่บ้าน เซ็นทรัลปาร์ค ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขนาด 0.35 x 6.00 ม. = 8 ต้น วันที่ 16 พฤษภาคม 2568
    #นึกถึงเสาเข็มเจาะ #เสาเข็มตอก #สปันไมโครไพล์ #เสาเข็มเจาะโคราช #เสาเข็มตอกโคราช #เสาเข็มเจาะภาคอีสาน #เสาเข็มตอกภาคอีสาน เลือก นันทพลเข็มเจาะนะครับ นันทพล รัตนมณี (ตึ๋ง) 086-6481898 และ 081-8790727 Fax 044-352010 https://youtu.be/a3WObP5Vh84 . คลิปการเจาะเสาเข็มของ หจก.นันทพลวิศวกรรม https://youtu.be/a3WObP5Vh84 . คลิปการเจาะเสาเข็มแบบสามขาของ หจก.นันทพลวิศวกรรม https://youtu.be/3JmQrQWbIfo?si=IFk8h2akRg8DKlKD . คลิป SpunMicroPiles https://www.youtube.com/watch?v=C-k7cJvOQRw . ชุดรถสว่านช่างหนุ่มทำเข็มเจาะ สระว่ายน้ำ หมู่บ้าน เซ็นทรัลปาร์ค ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขนาด 0.35 x 6.00 ม. = 8 ต้น วันที่ 16 พฤษภาคม 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️
    เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫
    📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68

    📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨

    * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰
    * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️
    * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧
    * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠
    * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡
    * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙
    * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵
    * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️

    📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์
    🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️ เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫 📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68 📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨ * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰 * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️ * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧 * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠 * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡 * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙 * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵ * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️ 📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️
    เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫
    📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68

    📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨

    * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰
    * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️
    * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧
    * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠
    * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡
    * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙
    * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵
    * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️

    📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์ #CinqueTerre #Milano #Rome #BlueGrotto #eTravelWay #ItalyTour #เที่ยวกับเราไม่เหงาแน่นอน 💖
    🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️ เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫 📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68 📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨ * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰 * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️ * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧 * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠 * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡 * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙 * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵ * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️ 📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์ #CinqueTerre #Milano #Rome #BlueGrotto #eTravelWay #ItalyTour #เที่ยวกับเราไม่เหงาแน่นอน 💖
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์ระเบิดร่อน FAB-500 จำนวน 7 ลูกของรัสเซีย โจมตีใส่ตำแหน่งของกองกำลังติดอาวุธของยูเครนในหมู่บ้านชายแดน Ryzhevka และ Atynske ภูมิภาค Sumy ดินแดนยูเครน ซึ่งเป็นทิศทางการบุกรุกเข้าสู่ Tetkino ดินแดนรัสเซีย
    ภาพเหตุการณ์ระเบิดร่อน FAB-500 จำนวน 7 ลูกของรัสเซีย โจมตีใส่ตำแหน่งของกองกำลังติดอาวุธของยูเครนในหมู่บ้านชายแดน Ryzhevka และ Atynske ภูมิภาค Sumy ดินแดนยูเครน ซึ่งเป็นทิศทางการบุกรุกเข้าสู่ Tetkino ดินแดนรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆร้านค้ากองทุนหมู่บ้านเรากว่า70,000บาททั่วประเทศบวกชุมชนด้วย สามารถเป็นรากฐานสารพัดมิให้ตังไหลออกจากหมู่บ้าน&ชุมนุนนั้นๆได้สบาย,ต่อยอดเป็นตลาดชุมชนหรือสาระพัดประยุกต์ได้หมด,เปรียบร้านค้ากองทุนหมู่บ้านคือร้านสะดวกซื้อทั่วไป รองรับฐานลูกค้ากลุ่มชุมชนหมู่บ้านนั้นๆทั้งจับจ่ายใช้สอยหรือแลกเปลี่ยนสินค้าซื้อขายได้อิสระเสรีด้วย.,ส่วนระดับอำเภออาจคือฮับมินิห้างหรือเปรียบตลาดอำเภอได้หรือมินิห้างได้,ศูนย์รวมสินค้าขนาดใหญ่ระดับอำเภอรองรับทุกๆหมู่บ้านคนในชุมชนทั้งอำเภอมาจับจ่ายใช้สอยในกิจการอำเภอตนเองที่ร่วมถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการร่วมกันด้วยและกระจายใน878อำเภอทั่วประเทศหรือสาขาก็ด้วย,ชาวบ้านจัดสรรเป็นตลาดสด&ตลาดหลากหลายในอำเภอได้หมด หมุนเวียนตังตรึม ไหลออกไปภายนอกแก่ต่างชาติยาก,แบบในคลิปนี้เราเสียประโยชน์แน่นอน,สาระพัดร้านต่างชาติมาดูดตังคนในชุมชนตนไป,กองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านแม้ที่จริงคือสุดยอดแห่งการพึ่งพาตนเองและต่อยอดได้มากมาย,นักลงทุนนายทุนจึงหวาดกลัวมาก เพราะหากไม่ถูกทำลายจะทำการตลาดใดๆเอาคนไทยมาซื้อในร้านค้าต่างชาติตนหรือร้านค้านายทุนตนไม่ได้,เมื่อร้านค้ากองทุนหมู่บ้านถูกทำลาย อีแร้งอีกาสามารถบินลงมาในไทยกัดกินเนื้อหนังคตไทยได้สบายขึ้นก็ว่า.


    .https://youtube.com/watch?v=Nz2kPySoBMI&si=MiwTzez09RywpJOR
    ..https://youtube.com/watch?v=Nz2kPySoBMI&si=MiwTzez09RywpJOR
    ..จริงๆร้านค้ากองทุนหมู่บ้านเรากว่า70,000บาททั่วประเทศบวกชุมชนด้วย สามารถเป็นรากฐานสารพัดมิให้ตังไหลออกจากหมู่บ้าน&ชุมนุนนั้นๆได้สบาย,ต่อยอดเป็นตลาดชุมชนหรือสาระพัดประยุกต์ได้หมด,เปรียบร้านค้ากองทุนหมู่บ้านคือร้านสะดวกซื้อทั่วไป รองรับฐานลูกค้ากลุ่มชุมชนหมู่บ้านนั้นๆทั้งจับจ่ายใช้สอยหรือแลกเปลี่ยนสินค้าซื้อขายได้อิสระเสรีด้วย.,ส่วนระดับอำเภออาจคือฮับมินิห้างหรือเปรียบตลาดอำเภอได้หรือมินิห้างได้,ศูนย์รวมสินค้าขนาดใหญ่ระดับอำเภอรองรับทุกๆหมู่บ้านคนในชุมชนทั้งอำเภอมาจับจ่ายใช้สอยในกิจการอำเภอตนเองที่ร่วมถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการร่วมกันด้วยและกระจายใน878อำเภอทั่วประเทศหรือสาขาก็ด้วย,ชาวบ้านจัดสรรเป็นตลาดสด&ตลาดหลากหลายในอำเภอได้หมด หมุนเวียนตังตรึม ไหลออกไปภายนอกแก่ต่างชาติยาก,แบบในคลิปนี้เราเสียประโยชน์แน่นอน,สาระพัดร้านต่างชาติมาดูดตังคนในชุมชนตนไป,กองทุนร้านค้าชุมชนหมู่บ้านแม้ที่จริงคือสุดยอดแห่งการพึ่งพาตนเองและต่อยอดได้มากมาย,นักลงทุนนายทุนจึงหวาดกลัวมาก เพราะหากไม่ถูกทำลายจะทำการตลาดใดๆเอาคนไทยมาซื้อในร้านค้าต่างชาติตนหรือร้านค้านายทุนตนไม่ได้,เมื่อร้านค้ากองทุนหมู่บ้านถูกทำลาย อีแร้งอีกาสามารถบินลงมาในไทยกัดกินเนื้อหนังคตไทยได้สบายขึ้นก็ว่า. .https://youtube.com/watch?v=Nz2kPySoBMI&si=MiwTzez09RywpJOR ..https://youtube.com/watch?v=Nz2kPySoBMI&si=MiwTzez09RywpJOR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์

    ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

    กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย

    สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด

    ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย

    #Newskit
    เปิดสะพานมหาสวัสดิ์ แก้คอขวดราชพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ เส้นทางหลักจากย่านที่อยู่อาศัยบางใหญ่ บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ไปยังสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน สู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสาทรและสีลม ปัจจุบันการใช้ที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีปริมาณการจราจรมากกว่า 120,000 คันต่อวัน แมัจะมีการขยายถนนเป็น 10 ช่องจราจร แต่ก็มีบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น หนึ่งในนั้นคือบริเวณสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างสะพาน จึงดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม. 12+850 ถึง กม. 15+100 งบประมาณ 1,181.515 ล้านบาท ลักษณะเป็นสะพานยกระดับขนาด 2 ช่องจราจร ขนานไปกับสะพานเดิม กว้าง 8.50 เมตร ฝั่งขาเข้ายาว 2.10 กิโลเมตร และฝั่งขาออกยาว 1.90 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และงานเบ็ดเตล็ด เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา โดยมีผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 30 ก.ย.2565 สิ้นสุดสัญญา 18 ธ.ค.2568 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เปิดใช้สะพานฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว รับรถจากวงเวียนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน และทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี ส่วนสะพานฝั่งขาออกกรุงเทพฯ จากสาทรมุ่งหน้าวงเวียนราชพฤกษ์ มีกำหนดจะเปิดในวันที่ 20 มิ.ย. ช่วยเพิ่มศักยภาพในการคมนาคมให้คล่องตัว ส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายถนนให้ครอบคลุมกับความต้องการในการเดินทาง อีกทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย สะพานดังกล่าวออกแบบมาพิเศษคล้ายทางยกระดับ เนื่องจากเขตทางเดิมไม่เพียงพอที่จะก่อสร้างทางขนานกับสะพานเดิมในรูปแบบทั่วไปได้ โดยใช้โครงสร้างเสาและส่วนบนเป็นโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็ว และกระทบกับการจราจรบนถนนราชพฤกษ์ให้น้อยที่สุด โดยทางขนานขนาด 2 ช่องจราจร วางตัวอยู่เหนือสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ (ทางหลัก) เดิม ซึ่งทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดสภาพเป็นคอขวด ถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 42 กิโลเมตร จากแยกตากสินเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ถนนบรมราชชนนี ถนนนครอินทร์ (ไปตัวเมืองนนทบุรี) ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ (ไปสะพานพระราม 4 และถนนแจ้งวัฒนะ) ถนนสาย 345 และจังหวัดปทุมธานี เป็นย่านที่อยู่อาศัยชานเมือง นอกจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งแล้ว ยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตีมอลล์อีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts