• ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง

    ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ
    - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ
    - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน

    ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ
    - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน
    - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022

    ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
    - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง
    - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร
    - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์
    - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน
    - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ
    - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่

    https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์ - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่ https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How not to hire a North Korean IT spy
    CISOs are urged to carry out tighter vetting of new hires to ward off potential ‘moles’ — who are increasingly finding their way onto company payrolls and into their IT systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอยเตอร์ - เกาหลีใต้และเวียดนามเห็นพ้องกันในวันนี้ (14) ที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลังการประชุมระดับรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังเร่งเจรจาเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

    รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม ในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังพยายามเจรจาเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บที่ 25% และ 46% ตามลำดับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค. หลังจากการระงับขึ้นภาษีทั่วโลกสิ้นสุดลง

    บริษัทจากเกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นปลายทางการส่งออกอันดับ 3 ของเกาหลีใต้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035525

    #MGROnline #เกาหลีใต้ #เวียดนาม
    รอยเตอร์ - เกาหลีใต้และเวียดนามเห็นพ้องกันในวันนี้ (14) ที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลังการประชุมระดับรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศกำลังเร่งเจรจาเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ • รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม ในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังพยายามเจรจาเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บที่ 25% และ 46% ตามลำดับ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ค. หลังจากการระงับขึ้นภาษีทั่วโลกสิ้นสุดลง • บริษัทจากเกาหลีใต้เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นปลายทางการส่งออกอันดับ 3 ของเกาหลีใต้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035525 • #MGROnline #เกาหลีใต้ #เวียดนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!!!

    เกิดเหตุการณ์ไซต์ก่อสร้างรถไฟใต้ดินในเมืองกวางมยอง (Gwangmyeong) จังหวัดคยองกี (Gyeonggi) ประเทศเกาหลีใต้ พังถล่มลงมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.40 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้คนงาน 4 คนสูญหาย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจกวางมยอง


    เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้สั่งปิดเส้นทางจราจรใกล้เคียง หลังจากตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างรถไฟใต้ดินแล้วพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัว

    เบื้องต้นมีรายงานว่าคนงานบางส่วนไม่สามารถติดต่อได้

    ก่อนหน้านี้มีรายานว่าพบรอยร้าวในเสาค้ำยันกลางหลายต้นภายในอุโมงค์ใต้ดินที่กำลังก่อสร้าง
    ด่วน!!! เกิดเหตุการณ์ไซต์ก่อสร้างรถไฟใต้ดินในเมืองกวางมยอง (Gwangmyeong) จังหวัดคยองกี (Gyeonggi) ประเทศเกาหลีใต้ พังถล่มลงมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.40 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้คนงาน 4 คนสูญหาย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจกวางมยอง เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้สั่งปิดเส้นทางจราจรใกล้เคียง หลังจากตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างรถไฟใต้ดินแล้วพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัว เบื้องต้นมีรายงานว่าคนงานบางส่วนไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนหน้านี้มีรายานว่าพบรอยร้าวในเสาค้ำยันกลางหลายต้นภายในอุโมงค์ใต้ดินที่กำลังก่อสร้าง
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Greenpeace ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตชิป AI ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในปี 2030 โดยการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตชิป AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่สูงกว่าการใช้พลังงานของประเทศไอร์แลนด์

    == ข้อมูลสำคัญในข่าว ==
    ✅ การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น:
    - ในปี 2023 การผลิตชิป AI ใช้พลังงาน 218 GWh ทั่วโลก
    - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 984 GWh และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 37,238 GWh ภายในปี 2030

    ✅ การพึ่งพาพลังงานฟอสซิล:
    - รัฐบาลเกาหลีใต้อนุมัติโครงการพลังงาน LNG ขนาด 1.05 GW และ 3 GW เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของ SK hynix และ Samsung
    - อุตสาหกรรมในไต้หวันกำลังผลักดันการใช้พลังงาน LNG และพลังงานนิวเคลียร์

    ✅ ข้อเสนอของ Greenpeace:
    - เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ AMD ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต
    - แนะนำให้ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง:
    - บริษัทเทคโนโลยีควรเร่งเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะยาว

    ⚠️ การสร้างความร่วมมือ:
    - บริษัท AI ควรร่วมมือกับผู้ผลิตชิปในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและลงนามในสัญญาซื้อขายพลังงานระยะยาว (PPA)

    https://www.neowin.net/news/your-demand-for-ai-is-set-to-cause-massive-emissions-in-chip-manufacturing-industry/
    Greenpeace ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตชิป AI ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในปี 2030 โดยการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตชิป AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่สูงกว่าการใช้พลังงานของประเทศไอร์แลนด์ == ข้อมูลสำคัญในข่าว == ✅ การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น: - ในปี 2023 การผลิตชิป AI ใช้พลังงาน 218 GWh ทั่วโลก - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 984 GWh และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 37,238 GWh ภายในปี 2030 ✅ การพึ่งพาพลังงานฟอสซิล: - รัฐบาลเกาหลีใต้อนุมัติโครงการพลังงาน LNG ขนาด 1.05 GW และ 3 GW เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของ SK hynix และ Samsung - อุตสาหกรรมในไต้หวันกำลังผลักดันการใช้พลังงาน LNG และพลังงานนิวเคลียร์ ✅ ข้อเสนอของ Greenpeace: - เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ AMD ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต - แนะนำให้ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง: - บริษัทเทคโนโลยีควรเร่งเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะยาว ⚠️ การสร้างความร่วมมือ: - บริษัท AI ควรร่วมมือกับผู้ผลิตชิปในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและลงนามในสัญญาซื้อขายพลังงานระยะยาว (PPA) https://www.neowin.net/news/your-demand-for-ai-is-set-to-cause-massive-emissions-in-chip-manufacturing-industry/
    WWW.NEOWIN.NET
    Your demand for AI is set to cause massive emissions in chip manufacturing industry
    By 2030, the AI chip manufacturing sector is going to see a massive rise in its emissions, a Greenpeace report says. It's calling on firms to clean up their acts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ได้ประกาศความร่วมมือกับ Google เพื่อรวม Gemini AI เข้ากับหุ่นยนต์ AI สำหรับบ้านรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ballie โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงบทบาทของ AI ในชีวิตประจำวัน

    == ฟีเจอร์และความสามารถของ Ballie ==
    ✅ การสนทนาแบบธรรมชาติ:
    - Ballie สามารถพูดคุยกับผู้ใช้งานได้เหมือนการสนทนากับมนุษย์

    ✅ ฟังก์ชันอัจฉริยะในบ้าน:
    - ปรับแสงไฟ, ตั้งเตือนความจำส่วนตัว และจัดการตารางเวลา
    - ประเมินการเลือกเสื้อผ้า, ต้อนรับแขกที่ประตู และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ

    ✅ การรวม Gemini AI:
    - ใช้ Gemini AI บน Google Cloud เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลและการตอบสนอง

    ✅ การเปิดตัวในตลาด:
    - Ballie จะเปิดตัวในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้

    == ผลกระทบและความสำคัญ ==
    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ่นยนต์:
    - Ballie เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจสร้างความตื่นเต้นในตลาด เช่นเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

    ⚠️ ความท้าทายด้านราคา:
    - Ballie อาจมีราคาสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มลังเลในการซื้อ
    - มีรายงานว่าอาจมีการจำหน่ายผ่านระบบสมัครสมาชิกเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

    ⚠️ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว:
    - การใช้ AI ในบ้านอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัว

    https://www.neowin.net/news/samsungs-ballie-robot-is-set-to-be-a-smarty-pants-with-googles-gemini-ai/
    Samsung ได้ประกาศความร่วมมือกับ Google เพื่อรวม Gemini AI เข้ากับหุ่นยนต์ AI สำหรับบ้านรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ballie โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงบทบาทของ AI ในชีวิตประจำวัน == ฟีเจอร์และความสามารถของ Ballie == ✅ การสนทนาแบบธรรมชาติ: - Ballie สามารถพูดคุยกับผู้ใช้งานได้เหมือนการสนทนากับมนุษย์ ✅ ฟังก์ชันอัจฉริยะในบ้าน: - ปรับแสงไฟ, ตั้งเตือนความจำส่วนตัว และจัดการตารางเวลา - ประเมินการเลือกเสื้อผ้า, ต้อนรับแขกที่ประตู และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ ✅ การรวม Gemini AI: - ใช้ Gemini AI บน Google Cloud เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลและการตอบสนอง ✅ การเปิดตัวในตลาด: - Ballie จะเปิดตัวในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ == ผลกระทบและความสำคัญ == ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ่นยนต์: - Ballie เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจสร้างความตื่นเต้นในตลาด เช่นเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ⚠️ ความท้าทายด้านราคา: - Ballie อาจมีราคาสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มลังเลในการซื้อ - มีรายงานว่าอาจมีการจำหน่ายผ่านระบบสมัครสมาชิกเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ⚠️ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: - การใช้ AI ในบ้านอาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนตัว https://www.neowin.net/news/samsungs-ballie-robot-is-set-to-be-a-smarty-pants-with-googles-gemini-ai/
    WWW.NEOWIN.NET
    Samsung's Ballie robot is set to be a smarty pants with Google's Gemini AI
    Prepare yourself for a robot that's more than a smart home gadget as Samsung gets ready to launch Ballie, a robot powered by Google's multimodal Gemini AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mirai Botnet กำลังโจมตีช่องโหว่ของ DVR จาก TVT Digital Technology รุ่นที่ไม่ได้รับการอัปเดตใหม่ เหตุการณ์นี้ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการติดตั้งแพตช์อัปเดตและการเฝ้าระวังระบบ IoT เพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ที่ทรงพลัง

    ✅ ช่องโหว่ Authentication Bypass:
    - ช่องโหว่ถูกค้นพบในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยอุปกรณ์ NVMS9000 DVRs รุ่นที่ใช้ firmware ก่อนเวอร์ชัน 1.3.4 สามารถถูกเจาะระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน
    - ช่องโหว่เปิดโอกาสให้นักโจมตีสามารถสั่งการในระดับผู้ดูแลระบบได้ โดยไม่ถูกตรวจจับ

    ✅ การระบาดครั้งใหม่:
    - บริษัท GreyNoise รายงานว่าการโจมตีระบบ DVR ของ TVT มีความพีคสูงสุดในวันที่ 3 เมษายน 2025 โดยมีการใช้งาน IP ถึง 2,500 unique addresses เพื่อค้นหาอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่
    - DVRs ที่ถูกเจาะระบบถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวกับ Mirai Botnet เช่น การแทรกมัลแวร์เพื่อโจมตี IoT devices หรืออุปกรณ์สมาร์ททั่วโลก

    ✅ ขอบเขตของการแพร่ระบาด:
    - Mirai Botnet มุ่งเป้าอุปกรณ์ในประเทศสหรัฐฯ, อังกฤษ, และเยอรมัน โดยส่วนใหญ่มาจากแหล่ง IP ที่ถูกบันทึกในไต้หวัน, ญี่ปุ่น, และเกาหลีใต้

    https://www.techradar.com/pro/security/tvt-dvrs-become-prime-target-for-mirai-botnet
    Mirai Botnet กำลังโจมตีช่องโหว่ของ DVR จาก TVT Digital Technology รุ่นที่ไม่ได้รับการอัปเดตใหม่ เหตุการณ์นี้ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการติดตั้งแพตช์อัปเดตและการเฝ้าระวังระบบ IoT เพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ที่ทรงพลัง ✅ ช่องโหว่ Authentication Bypass: - ช่องโหว่ถูกค้นพบในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยอุปกรณ์ NVMS9000 DVRs รุ่นที่ใช้ firmware ก่อนเวอร์ชัน 1.3.4 สามารถถูกเจาะระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน - ช่องโหว่เปิดโอกาสให้นักโจมตีสามารถสั่งการในระดับผู้ดูแลระบบได้ โดยไม่ถูกตรวจจับ ✅ การระบาดครั้งใหม่: - บริษัท GreyNoise รายงานว่าการโจมตีระบบ DVR ของ TVT มีความพีคสูงสุดในวันที่ 3 เมษายน 2025 โดยมีการใช้งาน IP ถึง 2,500 unique addresses เพื่อค้นหาอุปกรณ์ที่มีช่องโหว่ - DVRs ที่ถูกเจาะระบบถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวกับ Mirai Botnet เช่น การแทรกมัลแวร์เพื่อโจมตี IoT devices หรืออุปกรณ์สมาร์ททั่วโลก ✅ ขอบเขตของการแพร่ระบาด: - Mirai Botnet มุ่งเป้าอุปกรณ์ในประเทศสหรัฐฯ, อังกฤษ, และเยอรมัน โดยส่วนใหญ่มาจากแหล่ง IP ที่ถูกบันทึกในไต้หวัน, ญี่ปุ่น, และเกาหลีใต้ https://www.techradar.com/pro/security/tvt-dvrs-become-prime-target-for-mirai-botnet
    WWW.TECHRADAR.COM
    TVT DVRs become prime target for Mirai botnet
    Mirai operators are actively scanning for vulnerable TVT DVRs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ได้ปล่อยอัปเดตใหม่สำหรับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮม SmartThings โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจและรองรับเทคโนโลยีล่าสุด Matter 1.4 ซึ่งขยายการรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ตั้งแต่เครื่องทำน้ำร้อน ปั๊มความร้อน ไปจนถึงแผงโซลาร์เซลล์และระบบแบตเตอรี่ นี่คือก้าวสำคัญที่ช่วยให้สมาร์ทโฮมมีความสะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากขึ้น

    ✅ รองรับ Matter 1.4:
    - SmartThings ได้เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะแบรนด์ Samsung แต่ยังครอบคลุมอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่น

    ✅ การจัดการพลังงานและเครือข่าย:
    - มีการปรับปรุงระบบบริหารพลังงานให้มีความยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างเครือข่ายสำหรับสมาร์ทโฮมที่เชื่อมโยงได้อย่างลื่นไหล

    ✅ Samsung Health Integration:
    - สำหรับผู้ใช้ Galaxy Watch และ Galaxy Ring อุปกรณ์สามารถติดตามข้อมูลการนอนหลับเพื่อปรับสภาพแวดล้อม เช่น แสงสว่างและอุณหภูมิ ให้เหมาะสมกับเวลานอน

    ✅ อัตโนมัติและสั่งงาน:
    - อัปเกรดระบบ Automation Routines ให้สามารถตั้งเวลาแบบซ้ำได้ (รายสัปดาห์, รายเดือน, หรือรายปี) และยังเชื่อมต่อกับ Samsung TV Plus เพื่อปรับความชอบด้านความบันเทิง

    ✅ ระบบ Calm Onboarding:
    - ช่วยให้การติดตั้งอุปกรณ์ใหม่สะดวกยิ่งขึ้น โดยขยายการรองรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมจากแบรนด์อื่น ซึ่งจะเปิดตัวในเกาหลีและขยายไปสู่ประเทศอื่นในภายหลัง

    https://www.neowin.net/news/smartthings-gets-a-new-update-with-support-for-matter-14-and-other-improvements/
    Samsung ได้ปล่อยอัปเดตใหม่สำหรับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮม SmartThings โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจและรองรับเทคโนโลยีล่าสุด Matter 1.4 ซึ่งขยายการรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ตั้งแต่เครื่องทำน้ำร้อน ปั๊มความร้อน ไปจนถึงแผงโซลาร์เซลล์และระบบแบตเตอรี่ นี่คือก้าวสำคัญที่ช่วยให้สมาร์ทโฮมมีความสะดวกสบายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากขึ้น ✅ รองรับ Matter 1.4: - SmartThings ได้เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะแบรนด์ Samsung แต่ยังครอบคลุมอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่น ✅ การจัดการพลังงานและเครือข่าย: - มีการปรับปรุงระบบบริหารพลังงานให้มีความยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างเครือข่ายสำหรับสมาร์ทโฮมที่เชื่อมโยงได้อย่างลื่นไหล ✅ Samsung Health Integration: - สำหรับผู้ใช้ Galaxy Watch และ Galaxy Ring อุปกรณ์สามารถติดตามข้อมูลการนอนหลับเพื่อปรับสภาพแวดล้อม เช่น แสงสว่างและอุณหภูมิ ให้เหมาะสมกับเวลานอน ✅ อัตโนมัติและสั่งงาน: - อัปเกรดระบบ Automation Routines ให้สามารถตั้งเวลาแบบซ้ำได้ (รายสัปดาห์, รายเดือน, หรือรายปี) และยังเชื่อมต่อกับ Samsung TV Plus เพื่อปรับความชอบด้านความบันเทิง ✅ ระบบ Calm Onboarding: - ช่วยให้การติดตั้งอุปกรณ์ใหม่สะดวกยิ่งขึ้น โดยขยายการรองรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมจากแบรนด์อื่น ซึ่งจะเปิดตัวในเกาหลีและขยายไปสู่ประเทศอื่นในภายหลัง https://www.neowin.net/news/smartthings-gets-a-new-update-with-support-for-matter-14-and-other-improvements/
    WWW.NEOWIN.NET
    SmartThings gets a new update with support for Matter 1.4 and other improvements
    Samsung has announced an update to SmartThings, adding support for Matter 1.4, a new broadcasting feature, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนสับมาตรการภาษีของอเมริกาว่าไม่ต่างอะไรกับการ “แบล็กเมล” พร้อมยืนยันจะสู้จนถึงที่สุด หลังทรัมป์ขู่โขกภาษีเพิ่มอีก 50% รวมเป็นกว่า 100% ถ้าปักกิ่งไม่ยกเลิกมาตรการตอบโต้ ขณะที่ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เลือกใช้ไม้นวม ส่งทีมเจรจาไปวอชิงตันหวังให้ผู้นำสหรัฐฯ ผ่อนปรนมาตรการภาษี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033669

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จีนสับมาตรการภาษีของอเมริกาว่าไม่ต่างอะไรกับการ “แบล็กเมล” พร้อมยืนยันจะสู้จนถึงที่สุด หลังทรัมป์ขู่โขกภาษีเพิ่มอีก 50% รวมเป็นกว่า 100% ถ้าปักกิ่งไม่ยกเลิกมาตรการตอบโต้ ขณะที่ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เลือกใช้ไม้นวม ส่งทีมเจรจาไปวอชิงตันหวังให้ผู้นำสหรัฐฯ ผ่อนปรนมาตรการภาษี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033669 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1469 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกซูเปอร์แมตช์กลับมาอีกครั้ง! สำหรับ วอลเลย์บอลออลสตาร์ไทยVSเกาหลีใต้ในรอบ 6 ปี

    ศึกซูเปอร์แมตช์กลับมาอีกครั้ง! สำหรับ วอลเลย์บอลออลสตาร์ไทยVSเกาหลีใต้ในรอบ 6 ปี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 66 0 รีวิว
  • เที่ยว #ญี่ปุ่น #เกาหลี #ฮอกไกโด #โซล 5วัน 3คืน 🔥🔥
    Autumn ต.ค. - พ.ย. 19,999 😍

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน
    ✈ 7C-เจจูแอร์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ศาลเจ้าฮอกไกโด
    📍 บ่อน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ
    📍 Ningle Terrace
    📍 น้ำตกชิราฮิเกะ
    📍 ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ
    📍 อิสระช้อปปิ้ง ย่านทานุกิโคจิ
    📍 ศูนย์รวมเครื่องสำอาง
    📍 ร้านละลายเงินวอน

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #ทัวร์เกาหลี #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #ญี่ปุ่น #เกาหลี #ฮอกไกโด #โซล 5วัน 3คืน 🔥🔥 Autumn ต.ค. - พ.ย. 19,999 😍 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน ✈ 7C-เจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ศาลเจ้าฮอกไกโด 📍 บ่อน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ 📍 Ningle Terrace 📍 น้ำตกชิราฮิเกะ 📍 ทุ่งดอกไม้ชิกิไซโนะโอกะ 📍 อิสระช้อปปิ้ง ย่านทานุกิโคจิ 📍 ศูนย์รวมเครื่องสำอาง 📍 ร้านละลายเงินวอน รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #ทัวร์เกาหลี #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ในปี 2000 มี 9 ประเทศที่ไม่มี
    ธนาคารกลางที่เป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยตระกูล Rothschild:

    1. อัฟกานิสถาน
    2. อิรัก
    3. ซูดาน
    4. ลิเบีย
    5. คิวบา
    6. เกาหลีเหนือ
    7. อิหร่าน
    8. ซีเรีย
    9. เวเนซุเอลา

    ในปี 2000 มี 9 ประเทศที่ไม่มี ธนาคารกลางที่เป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยตระกูล Rothschild: 1. อัฟกานิสถาน 2. อิรัก 3. ซูดาน 4. ลิเบีย 5. คิวบา 6. เกาหลีเหนือ 7. อิหร่าน 8. ซีเรีย 9. เวเนซุเอลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนเกาหลีใต้ ก็ไล่ผู้นำสำเร็จ คนวัยหนุ่มสาวไทย จะรู้ร้อนรู้หนาวว่าภัยประเทศกำลังเกิด

    คนอิตาลี เค้าก็ตื่นตัวตรวจสอบรัฐบาล
    คนเกาหลีใต้ ก็ไล่ผู้นำสำเร็จ คนวัยหนุ่มสาวไทย จะรู้ร้อนรู้หนาวว่าภัยประเทศกำลังเกิด คนอิตาลี เค้าก็ตื่นตัวตรวจสอบรัฐบาล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • FuriosaAI สตาร์ตอัปด้าน AI Semiconductor จากเกาหลีใต้ สร้างความประหลาดใจเมื่อปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ จาก Meta แม้ข้อเสนอจะสูงกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทถึง 300 ล้านดอลลาร์ FuriosaAI เลือกที่จะดำเนินธุรกิจอย่างอิสระ โดยชูเทคโนโลยี RNGD AI Chip ที่สามารถพลิกเกมในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    ✅ เหตุผลสำคัญที่ปฏิเสธข้อเสนอ
    - การเจรจาล้มเหลวเนื่องจาก วิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ระหว่าง Meta และ FuriosaAI โดยบริษัทเกาหลีใต้เลือกที่จะยืนหยัดใน เป้าหมายอิสระ แทนที่จะยอมรับการควบคุมจากองค์กรยักษ์ใหญ่

    ✅ เทคโนโลยี RNGD Chip ที่โดดเด่น
    - FuriosaAI เปิดตัว RNGD AI inference chip ในปี 2024 ซึ่งใช้ TSMC's 5nm process และ HBM3 memory
    - ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพ สูงกว่าการ์ดจอแบบดั้งเดิมถึงสองเท่า และประหยัดพลังงานมากถึง 75%
    - บริษัทกำลังเตรียมเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ทีมงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในตลาด
    - FuriosaAI มีทีมงานที่มีประสบการณ์จากบริษัทระดับโลก เช่น Google, Qualcomm และ Samsung
    - บริษัทได้รับการสนับสนุนทุนกว่า 52 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี

    ✅ Meta กับเป้าหมายลดการพึ่งพา Nvidia
    - Meta กำลังพัฒนา AI chip ของตัวเองและมอง FuriosaAI เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI
    - การปฏิเสธข้อเสนอของ FuriosaAI อาจทำให้ Meta ต้องมองหาทางเลือกใหม่ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.techradar.com/pro/south-koreas-hottest-ai-hardware-startup-reportedly-said-no-to-usd800m-acquisition-by-facebooks-meta
    FuriosaAI สตาร์ตอัปด้าน AI Semiconductor จากเกาหลีใต้ สร้างความประหลาดใจเมื่อปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ จาก Meta แม้ข้อเสนอจะสูงกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทถึง 300 ล้านดอลลาร์ FuriosaAI เลือกที่จะดำเนินธุรกิจอย่างอิสระ โดยชูเทคโนโลยี RNGD AI Chip ที่สามารถพลิกเกมในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ✅ เหตุผลสำคัญที่ปฏิเสธข้อเสนอ - การเจรจาล้มเหลวเนื่องจาก วิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ระหว่าง Meta และ FuriosaAI โดยบริษัทเกาหลีใต้เลือกที่จะยืนหยัดใน เป้าหมายอิสระ แทนที่จะยอมรับการควบคุมจากองค์กรยักษ์ใหญ่ ✅ เทคโนโลยี RNGD Chip ที่โดดเด่น - FuriosaAI เปิดตัว RNGD AI inference chip ในปี 2024 ซึ่งใช้ TSMC's 5nm process และ HBM3 memory - ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพ สูงกว่าการ์ดจอแบบดั้งเดิมถึงสองเท่า และประหยัดพลังงานมากถึง 75% - บริษัทกำลังเตรียมเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ทีมงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในตลาด - FuriosaAI มีทีมงานที่มีประสบการณ์จากบริษัทระดับโลก เช่น Google, Qualcomm และ Samsung - บริษัทได้รับการสนับสนุนทุนกว่า 52 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี ✅ Meta กับเป้าหมายลดการพึ่งพา Nvidia - Meta กำลังพัฒนา AI chip ของตัวเองและมอง FuriosaAI เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI - การปฏิเสธข้อเสนอของ FuriosaAI อาจทำให้ Meta ต้องมองหาทางเลือกใหม่ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://www.techradar.com/pro/south-koreas-hottest-ai-hardware-startup-reportedly-said-no-to-usd800m-acquisition-by-facebooks-meta
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump ได้ออกมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (wafer fabrication equipment - WFE) ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ โดยภาษีใหม่นี้ตั้งไว้ที่ 20%-32% ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของอุปกรณ์ มาตรการนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Intel, Samsung Foundry และ TSMC ซึ่งต้องรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจมีผลต่อต้นทุนการผลิตชิปในประเทศ

    ✅ ต้นทุนอุปกรณ์พุ่งสูงขึ้น
    - อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป เช่น เครื่องมือจาก ASML ในยุโรป ถูกตั้งภาษีที่ 20% ถึง 32%
    - ราคาของเครื่องมือสำคัญ เช่น Low-NA EUV Lithography จาก ASML จะเพิ่มขึ้นจาก $235 ล้านเป็น $282 ล้านต่อหน่วย

    ✅ อุปสรรคในการหาอุปกรณ์ทดแทนในสหรัฐฯ
    - ผู้ผลิตในสหรัฐฯ เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research มีความสามารถในการผลิตอุปกรณ์บางชนิด
    - อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ซับซ้อน เช่น EUV Lithography จาก ASML นั้น ไม่มีผู้ผลิตในสหรัฐฯ ทดแทนได้

    ✅ ผลกระทบต่อตลาดชิปในประเทศและระหว่างประเทศ
    - แม้จะมีการปรับขึ้นภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพื่อปกป้องตลาดในประเทศ แต่การเพิ่มต้นทุนผลิตในสหรัฐฯ อาจลดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
    - แผนการลงทุนที่ใช้เงินมหาศาลในโรงงานชิป เช่นของ Intel และ Samsung อาจต้องปรับเปลี่ยนหรือชะลอออกไป

    ✅ บทบาทของประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์
    - อุปกรณ์จากญี่ปุ่น (Tokyo Electron), เกาหลีใต้ และไต้หวัน กำลังเผชิญภาษีที่ทำให้อุปกรณ์ของพวกเขา แพงขึ้นถึง 24% ในตลาดสหรัฐฯ

    ✅ ทิศทางการผลิตในอนาคต
    - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้สหรัฐฯ ลงทุนในเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศ เพื่อแข่งขันในระยะยาว
    - แต่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตใหม่ใช้เวลามากและอาจเกิดการสะดุดในซัพพลายเชน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/trumps-tariffs-on-chipmaking-tools-could-make-processors-made-in-the-u-s-more-expensive
    Donald Trump ได้ออกมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (wafer fabrication equipment - WFE) ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ โดยภาษีใหม่นี้ตั้งไว้ที่ 20%-32% ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของอุปกรณ์ มาตรการนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Intel, Samsung Foundry และ TSMC ซึ่งต้องรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และอาจมีผลต่อต้นทุนการผลิตชิปในประเทศ ✅ ต้นทุนอุปกรณ์พุ่งสูงขึ้น - อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป เช่น เครื่องมือจาก ASML ในยุโรป ถูกตั้งภาษีที่ 20% ถึง 32% - ราคาของเครื่องมือสำคัญ เช่น Low-NA EUV Lithography จาก ASML จะเพิ่มขึ้นจาก $235 ล้านเป็น $282 ล้านต่อหน่วย ✅ อุปสรรคในการหาอุปกรณ์ทดแทนในสหรัฐฯ - ผู้ผลิตในสหรัฐฯ เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research มีความสามารถในการผลิตอุปกรณ์บางชนิด - อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ซับซ้อน เช่น EUV Lithography จาก ASML นั้น ไม่มีผู้ผลิตในสหรัฐฯ ทดแทนได้ ✅ ผลกระทบต่อตลาดชิปในประเทศและระหว่างประเทศ - แม้จะมีการปรับขึ้นภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพื่อปกป้องตลาดในประเทศ แต่การเพิ่มต้นทุนผลิตในสหรัฐฯ อาจลดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก - แผนการลงทุนที่ใช้เงินมหาศาลในโรงงานชิป เช่นของ Intel และ Samsung อาจต้องปรับเปลี่ยนหรือชะลอออกไป ✅ บทบาทของประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์ - อุปกรณ์จากญี่ปุ่น (Tokyo Electron), เกาหลีใต้ และไต้หวัน กำลังเผชิญภาษีที่ทำให้อุปกรณ์ของพวกเขา แพงขึ้นถึง 24% ในตลาดสหรัฐฯ ✅ ทิศทางการผลิตในอนาคต - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้สหรัฐฯ ลงทุนในเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศ เพื่อแข่งขันในระยะยาว - แต่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตใหม่ใช้เวลามากและอาจเกิดการสะดุดในซัพพลายเชน https://www.tomshardware.com/tech-industry/trumps-tariffs-on-chipmaking-tools-could-make-processors-made-in-the-u-s-more-expensive
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Intelligence ได้ขยายตัวครั้งใหญ่ด้วยการเพิ่มการรองรับ 10 ภาษาหลัก ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส สเปน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน รวมถึง ภาษาอังกฤษที่ปรับแต่งสำหรับสิงคโปร์และอินเดีย ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มใช้งานบน iOS 18.4 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานยังคงต้องรอการเปิดตัว Siri รุ่นใหม่ที่ใช้พลัง AI ซึ่งล่าช้าและคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในปีหน้า

    ✅ เพิ่มความสะดวกด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    - ฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานได้ส่วนใหญ่ ทำงานบนอุปกรณ์โดยตรง เช่น iPhone และ iPad เพื่อลดความจำเป็นในการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์
    - หากต้องการพลังการประมวลผลเพิ่มเติม ระบบสามารถเชื่อมต่อกับ Cloud ของ Apple ผ่านการเข้ารหัสที่ปลอดภัย

    ✅ ฟีเจอร์หลากหลาย—จากการสรุปข้อความถึงการสร้างอีโมจิแบบเฉพาะตัว
    - Apple Intelligence สามารถ สรุปอีเมลและข้อความ, สร้างอีโมจิแบบปรับแต่ง, รวมถึงค้นหาข้อมูลตามต้องการ
    - นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังมีตัวเลือกให้ OpenAI ChatGPT ตอบคำถามออนไลน์แทน

    ✅ การเริ่มต้นในยุโรปภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด
    - Apple ได้ปรับ AI เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) และ General Data Protection Regulation (GDPR) ของสหภาพยุโรป
    - แม้การปรับตัวจะใช้เวลานาน แต่ Apple ยืนยันว่า ฟีเจอร์ใหม่ในยุโรปจะเน้นความปลอดภัยสูงสุด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/apple039s-ai-suite-expanded-to-new-languages-but-new-siri-still-missing
    Apple Intelligence ได้ขยายตัวครั้งใหญ่ด้วยการเพิ่มการรองรับ 10 ภาษาหลัก ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส สเปน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน รวมถึง ภาษาอังกฤษที่ปรับแต่งสำหรับสิงคโปร์และอินเดีย ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มใช้งานบน iOS 18.4 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานยังคงต้องรอการเปิดตัว Siri รุ่นใหม่ที่ใช้พลัง AI ซึ่งล่าช้าและคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในปีหน้า ✅ เพิ่มความสะดวกด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว - ฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานได้ส่วนใหญ่ ทำงานบนอุปกรณ์โดยตรง เช่น iPhone และ iPad เพื่อลดความจำเป็นในการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ - หากต้องการพลังการประมวลผลเพิ่มเติม ระบบสามารถเชื่อมต่อกับ Cloud ของ Apple ผ่านการเข้ารหัสที่ปลอดภัย ✅ ฟีเจอร์หลากหลาย—จากการสรุปข้อความถึงการสร้างอีโมจิแบบเฉพาะตัว - Apple Intelligence สามารถ สรุปอีเมลและข้อความ, สร้างอีโมจิแบบปรับแต่ง, รวมถึงค้นหาข้อมูลตามต้องการ - นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังมีตัวเลือกให้ OpenAI ChatGPT ตอบคำถามออนไลน์แทน ✅ การเริ่มต้นในยุโรปภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวด - Apple ได้ปรับ AI เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) และ General Data Protection Regulation (GDPR) ของสหภาพยุโรป - แม้การปรับตัวจะใช้เวลานาน แต่ Apple ยืนยันว่า ฟีเจอร์ใหม่ในยุโรปจะเน้นความปลอดภัยสูงสุด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/apple039s-ai-suite-expanded-to-new-languages-but-new-siri-still-missing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple's AI suite expanded to new languages but new Siri still missing
    The iPhone manufacturer is taking longer than planned to roll out its improved Siri assistant software.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้ตกลงยอมทำตาม "คำขอ" ของสหรัฐฯ ในการส่งระบบป้องกันภัยทาวอากาศ Patriot จากเกาหลีใต้ ไปยังตะวันออกกลางเป็นการชั่วคราว
    เกาหลีใต้ตกลงยอมทำตาม "คำขอ" ของสหรัฐฯ ในการส่งระบบป้องกันภัยทาวอากาศ Patriot จากเกาหลีใต้ ไปยังตะวันออกกลางเป็นการชั่วคราว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ 8-0 ถอดถอน "ยุน ซอกยอล" พ้นประธานาธิบดีเกาหลีใต้
    https://www.thai-tai.tv/news/18040/
    ด่วน! ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ 8-0 ถอดถอน "ยุน ซอกยอล" พ้นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ https://www.thai-tai.tv/news/18040/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ประท้วงต่อต้านอดีตประธานาธิบดียุน ซอก-ยูล ออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงความยินดีหลังจากศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลียืนยันการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
    ประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ประท้วงต่อต้านอดีตประธานาธิบดียุน ซอก-ยูล ออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงความยินดีหลังจากศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลียืนยันการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • ไม่รอด!
    ยุน ซอกยอล ปธน.เกาหลีใต้ หลุดจากตำแหน่งแน่นอนแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินรับรองมติถอดถอนของสภา และให้เลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน


    คำพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ มีดังนี้:
    👉ยุน ไม่ได้ดำเนินตามกระบวนการที่ถูกต้อง
    👉ยุน ใช้อำนาจประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศโดยมิชอบ
    👉ยุน สั่งให้กองทัพดำเนินการเผชิญหน้ากับผู้ที่ตนเองมีหน้าที่ต้องพิทักษ์ ถือว่าเป็นการทำหน้าที่โดยมิชอบ
    👉กฎอัยการศึกของยุน ทำลายสิทธิทางการเมืองของประชาชน และละเมิดกฎหมายและประชาธิปไตย

    ผลจากศาลรัฐธรรมนูญมีฉันทามติถอดถอน "ยุน ซ็อก ย็อล" จากประธานาธิบดี ปมประกาศกฎอัยการศึก ทำให้เขาพ้นอำนาจทันที และเกาหลีใต้ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน
    ไม่รอด! ยุน ซอกยอล ปธน.เกาหลีใต้ หลุดจากตำแหน่งแน่นอนแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินรับรองมติถอดถอนของสภา และให้เลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน คำพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ มีดังนี้: 👉ยุน ไม่ได้ดำเนินตามกระบวนการที่ถูกต้อง 👉ยุน ใช้อำนาจประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศโดยมิชอบ 👉ยุน สั่งให้กองทัพดำเนินการเผชิญหน้ากับผู้ที่ตนเองมีหน้าที่ต้องพิทักษ์ ถือว่าเป็นการทำหน้าที่โดยมิชอบ 👉กฎอัยการศึกของยุน ทำลายสิทธิทางการเมืองของประชาชน และละเมิดกฎหมายและประชาธิปไตย ผลจากศาลรัฐธรรมนูญมีฉันทามติถอดถอน "ยุน ซ็อก ย็อล" จากประธานาธิบดี ปมประกาศกฎอัยการศึก ทำให้เขาพ้นอำนาจทันที และเกาหลีใต้ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขึ้นภาษีนำเข้าพีซีของทรัมป์ทำให้ราคาพีซีในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้น 20-25% โดยแบรนด์ที่ประกอบเครื่องในอเมริกาจะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากเอเชีย ซึ่งตอนนี้ถูกเพิ่มภาษีสูงสุดถึง 54% สำหรับสินค้าจากจีน ผู้ผลิตพีซีแบบกำหนดเองเช่น Maingear และ Falcon Northwest ไม่มีทางเลือกนอกจาก ผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีนี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย

    ✅ แบรนด์ใหญ่เช่น Dell และ HP อาจเลี่ยงผลกระทบได้บางส่วน
    - บริษัทขนาดใหญ่สามารถ ย้ายฐานผลิตไปยังประเทศที่ภาษีต่ำกว่า
    - ผู้ผลิตรายย่อยในสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือก ต้องรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ✅ ภาษีเพิ่มขึ้นสูงสุด 54% สำหรับชิ้นส่วนจากจีน
    - จีนได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยถูกเพิ่มภาษีอีก 34% ทำให้รวมเป็น 54%
    - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนักได้แก่ เวียดนาม (46%), ไต้หวัน (32%) และเกาหลีใต้ (26%)

    ✅ การขาดแคลน GPU อาจรุนแรงขึ้น
    - การที่โรงงานต้อง ย้ายฐานผลิตออกจากจีน กำลังทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลน GPU
    - ซัพพลายเออร์บางรายหยุดการผลิต ทำให้เกิดภาวะขาดตลาดและ FOMO (Fear of Missing Out)

    ✅ อุตสาหกรรมพีซีอาจไม่สามารถดูดซับต้นทุนเพิ่มขึ้นได้
    - ผู้ผลิตพีซีเป็นธุรกิจที่มีกำไรต่ำ ไม่สามารถแบกรับภาษีใหม่ได้โดยไม่ขึ้นราคา
    - คาดว่าผู้บริโภคจะต้องจ่ายเพิ่ม 20-45% ภายในเดือนมิถุนายน 2025

    ✅ สมาคมเทคโนโลยีเตือนว่าภาษีอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย
    - CEO ของ Consumer Technology Association กล่าวว่า ภาษีเหล่านี้เป็นภาระหนักต่อประชาชนและอาจเร่งให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

    https://www.tomshardware.com/desktops/gaming-pcs/pc-prices-up-at-least-15-percent-trump-tariffs-may-hurt-u-s-system-integrators-most
    การขึ้นภาษีนำเข้าพีซีของทรัมป์ทำให้ราคาพีซีในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้น 20-25% โดยแบรนด์ที่ประกอบเครื่องในอเมริกาจะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากเอเชีย ซึ่งตอนนี้ถูกเพิ่มภาษีสูงสุดถึง 54% สำหรับสินค้าจากจีน ผู้ผลิตพีซีแบบกำหนดเองเช่น Maingear และ Falcon Northwest ไม่มีทางเลือกนอกจาก ผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีนี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ✅ แบรนด์ใหญ่เช่น Dell และ HP อาจเลี่ยงผลกระทบได้บางส่วน - บริษัทขนาดใหญ่สามารถ ย้ายฐานผลิตไปยังประเทศที่ภาษีต่ำกว่า - ผู้ผลิตรายย่อยในสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือก ต้องรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ✅ ภาษีเพิ่มขึ้นสูงสุด 54% สำหรับชิ้นส่วนจากจีน - จีนได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยถูกเพิ่มภาษีอีก 34% ทำให้รวมเป็น 54% - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนักได้แก่ เวียดนาม (46%), ไต้หวัน (32%) และเกาหลีใต้ (26%) ✅ การขาดแคลน GPU อาจรุนแรงขึ้น - การที่โรงงานต้อง ย้ายฐานผลิตออกจากจีน กำลังทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลน GPU - ซัพพลายเออร์บางรายหยุดการผลิต ทำให้เกิดภาวะขาดตลาดและ FOMO (Fear of Missing Out) ✅ อุตสาหกรรมพีซีอาจไม่สามารถดูดซับต้นทุนเพิ่มขึ้นได้ - ผู้ผลิตพีซีเป็นธุรกิจที่มีกำไรต่ำ ไม่สามารถแบกรับภาษีใหม่ได้โดยไม่ขึ้นราคา - คาดว่าผู้บริโภคจะต้องจ่ายเพิ่ม 20-45% ภายในเดือนมิถุนายน 2025 ✅ สมาคมเทคโนโลยีเตือนว่าภาษีอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย - CEO ของ Consumer Technology Association กล่าวว่า ภาษีเหล่านี้เป็นภาระหนักต่อประชาชนและอาจเร่งให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย https://www.tomshardware.com/desktops/gaming-pcs/pc-prices-up-at-least-15-percent-trump-tariffs-may-hurt-u-s-system-integrators-most
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    PC prices up at least 20%: Trump Tariffs may hurt U.S. system integrators most
    Boutique PC builders like Maingear and Falcon Northwest bear the brunt of the costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวออกรายงานภาคผนวก แก้ตัวเลขภาษีเมื่อเช้าใหม่หลายประเทศ รวมทั้ง "ไทย" จากเดิม 36% บวกเพิ่มอีก 1% เป็น 37%



    นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวถึงมาตรการตอบโต้ภาษีที่ไม่มีรัสเซีย เบลารุส คิวบา และเกาหลีเหนือ อยู่ในรายชื่อด้วยนั้น เป็นเพราะว่าประเทศเหล่านี้อยู่ในมาตรการคว่ำบาตรทำให้ไม่สามารถทำการค้าขายกับพวกเขาได้อยู่แล้ว
    ทำเนียบขาวออกรายงานภาคผนวก แก้ตัวเลขภาษีเมื่อเช้าใหม่หลายประเทศ รวมทั้ง "ไทย" จากเดิม 36% บวกเพิ่มอีก 1% เป็น 37% นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวถึงมาตรการตอบโต้ภาษีที่ไม่มีรัสเซีย เบลารุส คิวบา และเกาหลีเหนือ อยู่ในรายชื่อด้วยนั้น เป็นเพราะว่าประเทศเหล่านี้อยู่ในมาตรการคว่ำบาตรทำให้ไม่สามารถทำการค้าขายกับพวกเขาได้อยู่แล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์ขโมยเงินคริปโตกว่า 1.67 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 เพิ่มขึ้นถึง 303% จากไตรมาสก่อน เหตุการณ์สำคัญคือ การแฮก ByBit ที่ทำให้สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยกลุ่ม Lazarus Group ของเกาหลีเหนือ เงินที่ถูกขโมยคืนได้เพียง 0.4% โดยมี Wallet Compromise เป็นวิธีแฮกที่พบบ่อยที่สุด นักวิเคราะห์เตือนว่า บริษัทคริปโตต้องลงทุนในมาตรการความปลอดภัยมากขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียมหาศาลในอนาคต

    ✅ เหตุการณ์สำคัญ—การแฮก ByBit เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด
    - ByBit ถูกโจมตีในเดือนกุมภาพันธ์ สูญเงินไป 1.5 พันล้านดอลลาร์ใน Ethereum
    - การแฮกเกิดขึ้นจาก Lazarus Group ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    ✅ ธุรกรรมที่ถูกขโมยคืนได้เพียง 0.4% เท่านั้น
    - เงินที่ถูกแฮกคืนได้เพียง 6.39 ล้านดอลลาร์
    - Blockchain มีข้อจำกัดด้านการย้อนธุรกรรม ทำให้การฟื้นเงินเป็นเรื่องยาก

    ✅ Wallet Compromise เป็นวิธีที่ถูกใช้โจมตีมากที่สุด
    - การสูญเสียคริปโตส่วนใหญ่มาจาก การแฮกกระเป๋าเงินดิจิทัล รองลงมาคือ การใช้ช่องโหว่ของโค้ด และการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง

    ✅ CertiK เตือนให้บริษัทคริปโตลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัย
    - การใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้าและ AI Security อาจช่วยลดความเสียหายจากแฮกเกอร์ในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/over-usd1-5-billion-of-crypto-was-lost-to-scams-or-theft-this-year
    แฮกเกอร์ขโมยเงินคริปโตกว่า 1.67 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 เพิ่มขึ้นถึง 303% จากไตรมาสก่อน เหตุการณ์สำคัญคือ การแฮก ByBit ที่ทำให้สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยกลุ่ม Lazarus Group ของเกาหลีเหนือ เงินที่ถูกขโมยคืนได้เพียง 0.4% โดยมี Wallet Compromise เป็นวิธีแฮกที่พบบ่อยที่สุด นักวิเคราะห์เตือนว่า บริษัทคริปโตต้องลงทุนในมาตรการความปลอดภัยมากขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียมหาศาลในอนาคต ✅ เหตุการณ์สำคัญ—การแฮก ByBit เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด - ByBit ถูกโจมตีในเดือนกุมภาพันธ์ สูญเงินไป 1.5 พันล้านดอลลาร์ใน Ethereum - การแฮกเกิดขึ้นจาก Lazarus Group ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ ✅ ธุรกรรมที่ถูกขโมยคืนได้เพียง 0.4% เท่านั้น - เงินที่ถูกแฮกคืนได้เพียง 6.39 ล้านดอลลาร์ - Blockchain มีข้อจำกัดด้านการย้อนธุรกรรม ทำให้การฟื้นเงินเป็นเรื่องยาก ✅ Wallet Compromise เป็นวิธีที่ถูกใช้โจมตีมากที่สุด - การสูญเสียคริปโตส่วนใหญ่มาจาก การแฮกกระเป๋าเงินดิจิทัล รองลงมาคือ การใช้ช่องโหว่ของโค้ด และการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง ✅ CertiK เตือนให้บริษัทคริปโตลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัย - การใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้าและ AI Security อาจช่วยลดความเสียหายจากแฮกเกอร์ในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/over-usd1-5-billion-of-crypto-was-lost-to-scams-or-theft-this-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • NordVPN เผยว่าแม้ผู้เดินทางทั่วโลกจะใช้ Wi-Fi สาธารณะบ่อยขึ้น แต่มีเพียง 17% เท่านั้นที่ใช้ VPN เพื่อป้องกันข้อมูล ขณะที่ 60% ของผู้ใช้ยังคงเชื่อมต่อเครือข่ายสาธารณะอย่างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่สูงถึง 80% แม้ผู้ใช้จะป้องกันด้วย รหัสผ่านแข็งแกร่งและฟิล์มกันแอบมอง แต่การไม่ใช้ VPN และการเปิดแอปที่มีข้อมูลสำคัญยังคงเป็นความเสี่ยงสูง นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ หลีกเลี่ยงการเข้าระบบธนาคารบน Wi-Fi สาธารณะ และเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเสริมความปลอดภัย

    ✅ พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ระหว่างเดินทางแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
    - ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดานิยม ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างเดินทาง
    - ญี่ปุ่นมักใช้เวลาเดินทางในการ ติดตามข่าวสาร
    - สเปนและอิตาลีเน้นการ พูดคุยและส่งข้อความกับเพื่อน

    ✅ 60% ของผู้เดินทางเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะเป็นครั้งคราว
    - 80% ของผู้ใช้ในเกาหลีใต้มักใช้ Wi-Fi สาธารณะ
    - แม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อไม่นาน (ประมาณ 30 นาที) แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล

    ✅ “Shoulder Surfing” เป็นภัยเงียบที่มักถูกมองข้าม
    - 20% ของผู้เดินทางใช้ ฟิล์มป้องกันหน้าจอ เพื่อป้องกันการมองเห็นข้อมูลโดยผู้อื่น
    - อย่างไรก็ตาม การไม่ใช้ VPN และการเข้าถึงข้อมูลสำคัญบน Wi-Fi สาธารณะยังคงเป็นจุดอ่อน

    ✅ คำแนะนำสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะอย่างปลอดภัย
    - หลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบธนาคาร แอปสุขภาพ หรือแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลสำคัญ
    - เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี
    - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและป้องกันการสอดแนมจากเครือข่ายไม่ปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/security/when-it-comes-to-security-public-wi-fi-could-be-a-risky-choice-for-commuters-worldwide
    NordVPN เผยว่าแม้ผู้เดินทางทั่วโลกจะใช้ Wi-Fi สาธารณะบ่อยขึ้น แต่มีเพียง 17% เท่านั้นที่ใช้ VPN เพื่อป้องกันข้อมูล ขณะที่ 60% ของผู้ใช้ยังคงเชื่อมต่อเครือข่ายสาธารณะอย่างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่สูงถึง 80% แม้ผู้ใช้จะป้องกันด้วย รหัสผ่านแข็งแกร่งและฟิล์มกันแอบมอง แต่การไม่ใช้ VPN และการเปิดแอปที่มีข้อมูลสำคัญยังคงเป็นความเสี่ยงสูง นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ หลีกเลี่ยงการเข้าระบบธนาคารบน Wi-Fi สาธารณะ และเปิดใช้งาน 2FA เพื่อเสริมความปลอดภัย ✅ พฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ระหว่างเดินทางแตกต่างกันในแต่ละประเทศ - ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดานิยม ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ระหว่างเดินทาง - ญี่ปุ่นมักใช้เวลาเดินทางในการ ติดตามข่าวสาร - สเปนและอิตาลีเน้นการ พูดคุยและส่งข้อความกับเพื่อน ✅ 60% ของผู้เดินทางเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะเป็นครั้งคราว - 80% ของผู้ใช้ในเกาหลีใต้มักใช้ Wi-Fi สาธารณะ - แม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อไม่นาน (ประมาณ 30 นาที) แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล ✅ “Shoulder Surfing” เป็นภัยเงียบที่มักถูกมองข้าม - 20% ของผู้เดินทางใช้ ฟิล์มป้องกันหน้าจอ เพื่อป้องกันการมองเห็นข้อมูลโดยผู้อื่น - อย่างไรก็ตาม การไม่ใช้ VPN และการเข้าถึงข้อมูลสำคัญบน Wi-Fi สาธารณะยังคงเป็นจุดอ่อน ✅ คำแนะนำสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะอย่างปลอดภัย - หลีกเลี่ยงการเข้าสู่ระบบธนาคาร แอปสุขภาพ หรือแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลสำคัญ - เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและป้องกันการสอดแนมจากเครือข่ายไม่ปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/security/when-it-comes-to-security-public-wi-fi-could-be-a-risky-choice-for-commuters-worldwide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts