• ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) ว่าที่ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน) ซึ่งจะเข้ารับหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ โพสต์ข้อความข่มขู่ ICC กรณีออกหมายจับเนทันยาฮู

    "ศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความน่าเชื่อถือและข้อกล่าวหาดังกล่าวได้รับการหักล้างโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

    อิสราเอลทำหน้าที่ปกป้องประชาชนและพรมแดนของตนจากผู้ก่อการร้ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณรอรับการตอบโต้ที่รุนแรงต่ออคติต่อต้านชาวยิวของ ICC และสหประชาชาติได้ในเดือนมกราคมนี้ได้เลย"
    ไมค์ วอลท์ซ (Mike Waltz) ว่าที่ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Adviser) (ตำแหน่งของเจค ซัลลิแวน ในรัฐบาลไบเดน) ซึ่งจะเข้ารับหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ โพสต์ข้อความข่มขู่ ICC กรณีออกหมายจับเนทันยาฮู "ศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความน่าเชื่อถือและข้อกล่าวหาดังกล่าวได้รับการหักล้างโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อิสราเอลทำหน้าที่ปกป้องประชาชนและพรมแดนของตนจากผู้ก่อการร้ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณรอรับการตอบโต้ที่รุนแรงต่ออคติต่อต้านชาวยิวของ ICC และสหประชาชาติได้ในเดือนมกราคมนี้ได้เลย"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจาก ICC อนุมัติหมายจับเนทันยาฮูหรือกัลแลนต์ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกที่กล้าประกาศอย่างเป็นทางการว่า "พร้อมจับกุม" ทันที

    "แคสปาร์ เฟลด์แคมป์" (Caspar Veldkamp) รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาพร้อมที่จะดำเนินการตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ [ICC]

    “เมื่อไหร่ตามที่เนทันยาฮูหรือกัลแลนต์เหยียบบนแผ่นดินของเรา พวกเขาจะถูกจับกุมทันที”
    หลังจาก ICC อนุมัติหมายจับเนทันยาฮูหรือกัลแลนต์ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกที่กล้าประกาศอย่างเป็นทางการว่า "พร้อมจับกุม" ทันที "แคสปาร์ เฟลด์แคมป์" (Caspar Veldkamp) รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาพร้อมที่จะดำเนินการตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ [ICC] “เมื่อไหร่ตามที่เนทันยาฮูหรือกัลแลนต์เหยียบบนแผ่นดินของเรา พวกเขาจะถูกจับกุมทันที”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇱 ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลในข้อหา "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม"
    .
    JUST IN: 🇮🇱 International Criminal Court issues arrest warrant for Israeli Prime Minister Netanyahu for "crimes against humanity & war crimes."
    .
    7:34 PM · Nov 21, 2024 · 99.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1859576227373174946
    🇮🇱 ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลในข้อหา "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม" . JUST IN: 🇮🇱 International Criminal Court issues arrest warrant for Israeli Prime Minister Netanyahu for "crimes against humanity & war crimes." . 7:34 PM · Nov 21, 2024 · 99.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1859576227373174946
    Love
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!
    ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) ออกหมายจับ เนทันยาฮูและโยอัฟ กัลลันต์ แล้วในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงครามที่ก่อขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นวันที่อัยการยื่นคำร้องขอหมายจับ

    ก่อนหน้านี้ อิสราเอลโต้แย้งว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจเขตศาล แต่หลังจาก ICC พิจารณาแล้ว และมีคำตัดสินออกมาว่าเขตอำนาจศาลในสถานการณ์ดังกล่าวนั้น ขยายไปถึงกาซาและเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออก จนนำไปสู่การออกหมายจับในครั้งนี้

    นอกจากนี้ หมายจับถูกจัดให้อยู่ในประเภท "ความลับ" เพื่อปกป้องพยานและปกป้องการดำเนินการสอบสวนอีกด้วย
    ด่วน! ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) ออกหมายจับ เนทันยาฮูและโยอัฟ กัลลันต์ แล้วในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงครามที่ก่อขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นวันที่อัยการยื่นคำร้องขอหมายจับ ก่อนหน้านี้ อิสราเอลโต้แย้งว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจเขตศาล แต่หลังจาก ICC พิจารณาแล้ว และมีคำตัดสินออกมาว่าเขตอำนาจศาลในสถานการณ์ดังกล่าวนั้น ขยายไปถึงกาซาและเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเล็มตะวันออก จนนำไปสู่การออกหมายจับในครั้งนี้ นอกจากนี้ หมายจับถูกจัดให้อยู่ในประเภท "ความลับ" เพื่อปกป้องพยานและปกป้องการดำเนินการสอบสวนอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) และ คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลแห่งนี้ ควรถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร หากว่ายังคงเดินหาทางจับกุมพวกผู้นำอิสราเอล จากเสียงขู่ของ จอห์น ธูน ว่าที่ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาอเมริกา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์
    .
    ข่าน แถลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าเขากำลังหาทางเดินหน้าดำเนินคดีกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม ณ ขณะนั้น เช่นเดียวกับพวกผู้นำฮามาส 3 คน โทษฐานก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติในกาซา
    .
    "ถ้าไอซีซีและอัยการของศาลแห่งนี้ ไม่กลับลำการกระทำที่น่าโมโหและไม่ชอบด้วยกฎหมายของพวกเขา ในการหาทางออกหมายจับพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอล วุฒิสภาควรเดินหน้าออกกฎหมายคว่ำบาตรในทันที ในขณะที่สภาผู้แทนราษฏร ได้ดำเนินการไปแล้ว บนพื้นฐานความร่วมมือของทั้ง 2 พรรค" ธูนกล่าวในช่วงเย็นวันจันทร์(18พ.ย.)
    .
    "ถ้า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากไม่ลงมือ วุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล พันธมิตรสำคัญของเรา และจะทำให้เรื่องนี้ และกฎหมายสนับสนุนอื่นๆ มีความสำคัญลำดับต้นๆในสภาคองเกรสชุดใหม่" เขากล่าว
    .
    ธูน สมาชิกรีพับลิกันจากเซาท์ ดาโคตา ได้รับเลือกเป็นการภายในให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าพันธมิตรของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขามีความใกล้ชิดกับสถาบันดั้งเดิมมากเกินไป
    .
    ชูเมอร์ สมาชิกเดโมแครตจากนิวยอร์ก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามสภาแห่งนี้เตรียมตกไปอยู่ภายใต้การนำของรีพับลิกัน ครั้งที่บรรดาวุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งหนล่าสุด เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
    .
    ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จะยกเลิกวีซ่าและกำหนดข้อจำกัดทางการเงินกับบรรดาเจ้าหน้าที่ไอซีซีรายใดก็ตามที่ดำเนินคดีกับเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 247 ต่อ 155 เสียง โดยมีสมาชิกเดโมแครต 42 ราย ข้ามฟากยกมือเห็นชอบ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าเขาคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อร่างกฎหมายนี้
    .
    อ้างอิงกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2022 ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีอำนาจในการใช้ "ทุกวิถีทางที่จำเป็นและเหมาะสม ในการปลดปล่อยบุคคลกรสหรัฐฯหรือพันธมิตรรายใดก็ตาม ที่ถูกควบคุมหรือกังขัง ภายในนามหรือตามคำร้องขอของไอซซี" กฎหมายฉบับนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "The Hague Invasion Act"
    .
    ปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของอัยการข่าน ในการออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนท์ และนับตั้งแต่นั้น อิสราเอล ได้สังหารพวกผู้นำฮามาสทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ กัลแลนท์ ถูก เนทันยาฮู ตะเพิดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111856
    ..............
    Sondhi X
    ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) และ คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการของศาลแห่งนี้ ควรถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร หากว่ายังคงเดินหาทางจับกุมพวกผู้นำอิสราเอล จากเสียงขู่ของ จอห์น ธูน ว่าที่ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาอเมริกา เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ . ข่าน แถลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าเขากำลังหาทางเดินหน้าดำเนินคดีกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม ณ ขณะนั้น เช่นเดียวกับพวกผู้นำฮามาส 3 คน โทษฐานก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติในกาซา . "ถ้าไอซีซีและอัยการของศาลแห่งนี้ ไม่กลับลำการกระทำที่น่าโมโหและไม่ชอบด้วยกฎหมายของพวกเขา ในการหาทางออกหมายจับพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอล วุฒิสภาควรเดินหน้าออกกฎหมายคว่ำบาตรในทันที ในขณะที่สภาผู้แทนราษฏร ได้ดำเนินการไปแล้ว บนพื้นฐานความร่วมมือของทั้ง 2 พรรค" ธูนกล่าวในช่วงเย็นวันจันทร์(18พ.ย.) . "ถ้า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากไม่ลงมือ วุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล พันธมิตรสำคัญของเรา และจะทำให้เรื่องนี้ และกฎหมายสนับสนุนอื่นๆ มีความสำคัญลำดับต้นๆในสภาคองเกรสชุดใหม่" เขากล่าว . ธูน สมาชิกรีพับลิกันจากเซาท์ ดาโคตา ได้รับเลือกเป็นการภายในให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าพันธมิตรของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขามีความใกล้ชิดกับสถาบันดั้งเดิมมากเกินไป . ชูเมอร์ สมาชิกเดโมแครตจากนิวยอร์ก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามสภาแห่งนี้เตรียมตกไปอยู่ภายใต้การนำของรีพับลิกัน ครั้งที่บรรดาวุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งหนล่าสุด เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม . ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จะยกเลิกวีซ่าและกำหนดข้อจำกัดทางการเงินกับบรรดาเจ้าหน้าที่ไอซีซีรายใดก็ตามที่ดำเนินคดีกับเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯ ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 247 ต่อ 155 เสียง โดยมีสมาชิกเดโมแครต 42 ราย ข้ามฟากยกมือเห็นชอบ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าเขาคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อร่างกฎหมายนี้ . อ้างอิงกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2022 ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีอำนาจในการใช้ "ทุกวิถีทางที่จำเป็นและเหมาะสม ในการปลดปล่อยบุคคลกรสหรัฐฯหรือพันธมิตรรายใดก็ตาม ที่ถูกควบคุมหรือกังขัง ภายในนามหรือตามคำร้องขอของไอซซี" กฎหมายฉบับนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "The Hague Invasion Act" . ปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของอัยการข่าน ในการออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนท์ และนับตั้งแต่นั้น อิสราเอล ได้สังหารพวกผู้นำฮามาสทั้ง 3 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ กัลแลนท์ ถูก เนทันยาฮู ตะเพิดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111856 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล.

    วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215

    #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล. • วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที • นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ • นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215 • #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น”

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน

    โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี

    ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร

    ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว

    #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น” • อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน • โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี • ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร • ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว • #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ยื่นหนังสือลาออกสมาชิกพรรคพลังประชารัฐกับ กกต.แล้ว หลังมีคลิปเสียงหลุด เรียกรับเงินบอสดิไอคอน จับตาจะมีหมายจับ-หมายเรียกจากตำรวจหรือไม่•วันนี้(18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีตรองโฆษก และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นการยื่นลาออกต่อ กกต. หลังมีคลิปเสียงพัวพันการแอบอ้างชื่อพิธีกรรายการข่าวดังกรณีดิไอคอนกรุ๊ป•พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่า วันนี้ (18 พ.ย. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนว่าจะออกหมายเรียกหรือออกหมายจับนายรัฐภูมิ หรือไม่ อีกด้วย•#MGROnline #ดิไอคอน #ฟิมล์รัฐภูมิ
    'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ยื่นหนังสือลาออกสมาชิกพรรคพลังประชารัฐกับ กกต.แล้ว หลังมีคลิปเสียงหลุด เรียกรับเงินบอสดิไอคอน จับตาจะมีหมายจับ-หมายเรียกจากตำรวจหรือไม่•วันนี้(18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีตรองโฆษก และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นการยื่นลาออกต่อ กกต. หลังมีคลิปเสียงพัวพันการแอบอ้างชื่อพิธีกรรายการข่าวดังกรณีดิไอคอนกรุ๊ป•พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่า วันนี้ (18 พ.ย. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนว่าจะออกหมายเรียกหรือออกหมายจับนายรัฐภูมิ หรือไม่ อีกด้วย•#MGROnline #ดิไอคอน #ฟิมล์รัฐภูมิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทาง‘สุรเชชษฐ์’หลังศาลยกคำร้องอุทธรณ์.เผอิญมันก็มีข่าวกระฉ่อนเลย ทุกวงการ ว่ามีคนทำเงินตก 100 ล้านบ้าง 200 ล้านบ้าง 250 ล้านบ้าง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่มีผลทำให้ท่านประธานศาลปกครองสูงสุดเรียกประชุมองค์คณะใหญ่ทันที และเอาเรื่องที่องค์คณะเล็กพิจารณาแล้ว เข้าเลย ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมีมติไม่รับคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วมิหนำซ้ำ คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากตำรวจนั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ก็ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้ว รอเพียงการแถลงของเจ้าของคดีอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง.วัตถุประสงค์ของสุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ต้องการกลับไป มีอยู่ข้อเดียว ต้องการไปใช้สิทธิ์ของตัวเองในฐานะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสอันดับหนึ่งที่เขาภูมิใจมาก เขาน่าจะรู้ดีว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั้น อย่างไรก็ยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ โดยที่ไม่มีใครสามารถจะโค่นล้มได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย .จะเริ่มมีปัญหาก็ตอนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะเกษียณอายุ แล้วต้องเสนอรายชื่อคนที่จะเข้าไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป ซึ่งผมคิดว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มองประเด็นนี้มากกว่า เพราะความเป็นคนช่างฟ้อง และภูมิใจมากกับการเป็นผู้อาวุโสอันดับหนึ่ง แต่ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ เอง ก็ลืมนึกไปว่า ในพระราชบัญญัติตำรวจชุดใหม่นี้ เขาไม่ได้ห้ามให้คณะกรรมการสามารถคัดเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่อาวุโสอันดับหนึ่งได้ เปิดช่องเอาไว้.ในกรณีนี้ผมคิดว่าไม่สำเร็จ เพราะว่า พ.ร.บ.ตำรวจ ชัดเจนว่า นอกจากอาวุโสแล้ว ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม คุณเอาตำรวจซึ่งถูกคดีอาญา ถูกหมายจับจากศาล แล้วมีคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. ถึงแม้จะยังไม่มีการชี้มูลว่าผิดหรือไม่ผิด แต่มีการกล่าวหาไปแล้ว ส่งเข้าไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา แค่นี้ก็เป็นตำหนิที่สำคัญมากแล้ว คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ก็ต้องคำนึงถึง "ความเหมาะสม" ตรงนี้ด้วย.ณ วันนี้ สุรเชชษฐ์ หักพาล ไม่ได้กลับเข้าตำรวจ และไม่ได้มีอำนาจเหมือนแต่ก่อน ตำรวจซึ่งเป็นลูกน้อง สุรเชชษฐ์ หักพาล รวมไปถึงสื่อมวลชนที่ยืนข้างสุรเชชษฐ์ มาตลอด ก็คือคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ตีปี๊บขยับปีกดีอกดีใจจังว่านายกูจะกลับมาแล้ว แต่พวกนี้ลืมไปอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกเขาจะต้องแช่แข็งเด็กสาย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ลูกน้องคุณสุรเชชษฐ์ หักพาล และผมยังเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หน่วยงานที่จะต้องรื้อถึงรากถึงโคนเลยก็คือ สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะนั่นเป็นฐานอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล.แล้วพอคนใหม่ขึ้นมาอีก หลังจากที่สุรเชชษฐ์ ฟ้องแล้ว ผมเชื่อว่าศาลปกครองเมื่อดูข้อมูล ดู พ.ร.บ.แล้ว ดูคำว่า "เหมาะสม" ว่าอาวุโสอันดับหนึ่งไม่เหมาะสม เพราะโดนหมายจับ โดนคดีอาญา โดนร้องไปที่ ป.ป.ช. ตั้ง 3-4 คดี เขาก็บอกว่าคนนี้ไม่เหมาะสม ให้ไปที่คนที่สอง ถ้าคนที่สองขึ้นมา เขาก็อยู่อีก 2 ปี ก็เช่นกัน สองปีนี้ตำรวจสายสุรเชชษฐ์ หักพาล ก็จะถูกแช่แข็งต่อไปอีก 2 ปี สรุปแล้วแช่แข็งไป 4 ปี นี่ผมเตือนด้วยความหวังดี
    เส้นทาง‘สุรเชชษฐ์’หลังศาลยกคำร้องอุทธรณ์.เผอิญมันก็มีข่าวกระฉ่อนเลย ทุกวงการ ว่ามีคนทำเงินตก 100 ล้านบ้าง 200 ล้านบ้าง 250 ล้านบ้าง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่มีผลทำให้ท่านประธานศาลปกครองสูงสุดเรียกประชุมองค์คณะใหญ่ทันที และเอาเรื่องที่องค์คณะเล็กพิจารณาแล้ว เข้าเลย ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมีมติไม่รับคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วมิหนำซ้ำ คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากตำรวจนั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ก็ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้ว รอเพียงการแถลงของเจ้าของคดีอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง.วัตถุประสงค์ของสุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ต้องการกลับไป มีอยู่ข้อเดียว ต้องการไปใช้สิทธิ์ของตัวเองในฐานะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสอันดับหนึ่งที่เขาภูมิใจมาก เขาน่าจะรู้ดีว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั้น อย่างไรก็ยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ โดยที่ไม่มีใครสามารถจะโค่นล้มได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย .จะเริ่มมีปัญหาก็ตอนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะเกษียณอายุ แล้วต้องเสนอรายชื่อคนที่จะเข้าไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป ซึ่งผมคิดว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มองประเด็นนี้มากกว่า เพราะความเป็นคนช่างฟ้อง และภูมิใจมากกับการเป็นผู้อาวุโสอันดับหนึ่ง แต่ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ เอง ก็ลืมนึกไปว่า ในพระราชบัญญัติตำรวจชุดใหม่นี้ เขาไม่ได้ห้ามให้คณะกรรมการสามารถคัดเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่อาวุโสอันดับหนึ่งได้ เปิดช่องเอาไว้.ในกรณีนี้ผมคิดว่าไม่สำเร็จ เพราะว่า พ.ร.บ.ตำรวจ ชัดเจนว่า นอกจากอาวุโสแล้ว ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม คุณเอาตำรวจซึ่งถูกคดีอาญา ถูกหมายจับจากศาล แล้วมีคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. ถึงแม้จะยังไม่มีการชี้มูลว่าผิดหรือไม่ผิด แต่มีการกล่าวหาไปแล้ว ส่งเข้าไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา แค่นี้ก็เป็นตำหนิที่สำคัญมากแล้ว คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ก็ต้องคำนึงถึง "ความเหมาะสม" ตรงนี้ด้วย.ณ วันนี้ สุรเชชษฐ์ หักพาล ไม่ได้กลับเข้าตำรวจ และไม่ได้มีอำนาจเหมือนแต่ก่อน ตำรวจซึ่งเป็นลูกน้อง สุรเชชษฐ์ หักพาล รวมไปถึงสื่อมวลชนที่ยืนข้างสุรเชชษฐ์ มาตลอด ก็คือคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ตีปี๊บขยับปีกดีอกดีใจจังว่านายกูจะกลับมาแล้ว แต่พวกนี้ลืมไปอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกเขาจะต้องแช่แข็งเด็กสาย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ลูกน้องคุณสุรเชชษฐ์ หักพาล และผมยังเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หน่วยงานที่จะต้องรื้อถึงรากถึงโคนเลยก็คือ สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะนั่นเป็นฐานอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล.แล้วพอคนใหม่ขึ้นมาอีก หลังจากที่สุรเชชษฐ์ ฟ้องแล้ว ผมเชื่อว่าศาลปกครองเมื่อดูข้อมูล ดู พ.ร.บ.แล้ว ดูคำว่า "เหมาะสม" ว่าอาวุโสอันดับหนึ่งไม่เหมาะสม เพราะโดนหมายจับ โดนคดีอาญา โดนร้องไปที่ ป.ป.ช. ตั้ง 3-4 คดี เขาก็บอกว่าคนนี้ไม่เหมาะสม ให้ไปที่คนที่สอง ถ้าคนที่สองขึ้นมา เขาก็อยู่อีก 2 ปี ก็เช่นกัน สองปีนี้ตำรวจสายสุรเชชษฐ์ หักพาล ก็จะถูกแช่แข็งต่อไปอีก 2 ปี สรุปแล้วแช่แข็งไป 4 ปี นี่ผมเตือนด้วยความหวังดี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับขบวนการ‘แก๊งตั้ม’สุมหัวฉ้อโกง 39 ล้าน.เรื่องคดีฉ้อโกงคุณจตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีคนปากช่องที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยฝีมือของคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกนั้น มันมีความซับซ้อนและเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ จนกระทั่ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตำรวจต้องดำเนินคดี "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" คือพูดภาษาแถวบ้านผมเขาเรียกว่า "ฉ้อโกงจนเป็นสันดาน" ในการโกง โกงแล้วโกงอีกๆ .ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวบรวมกฎหมายอาญา คือคดีฉ้อโกง กับกฎหมายคดีฟอกเงิน บูรณาการเข้ามา เป็นมาตรการดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะได้ถือโอกาสยึด อายัดทรัพย์สิน.พฤติการณ์การฉ้อโกงที่มีการเปิดเผยกันตอนนี้มีอยู่ 4 คดี เรื่องแรกคือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอกให้คุณอ้อยทำแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ จำนวน 71 ล้านบาท หรือ 2 ล้านยูโร เรื่องที่สอง คือ เงินส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ G400 จำนวน 1.5 ล้านบาท (นี่คือเงินส่วนต่าง) เรื่องที่สาม อ้างกรณีสแกมเมอร์คริปโต จำนวน 39 ล้านบาท เรื่องที่สี่ ค่าจ้างออกแบบโรงแรม จำนวน 9 ล้านบาท.ผมคิดว่าการฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท นั้น ในภาพรวมท่านผู้ชมน่าจะกระจ่าง สิ้นข้อสงสัยแล้ว จากการชี้แจงของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการโหนกระแส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา.ประเด็นต่อมา คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเงิน 39 ล้านบาท คุณเกี่ยวข้องเข้าไปเต็มเท้าสองเท้าเลย เรื่องนี้มาโป๊ะแตก เพราะคณะทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "บิ๊กก้อง" สืบสวนสอบสวนพบความจริงว่า คนที่โอนเงินคริปโตให้พี่อ้อยคือ นายนุ นุวัฒน์ ไม่ใช่ "แซน" สารินี ซึ่งเป็นภรรยา ตามที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ นายนุ นุวัฒน์ ไม่เคยถูกระงับบัญชีเงินดิจิทัลใดๆ ทั้งสิ้น และ แซน สารินี ก็ไม่เคยโอนเงินคริปโตให้พี่อ้อย 7 ครั้ง จนถูกระงับบัญชีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นแล้ว ความเสียหายที่อ้างว่า 39 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น.ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบความผิดปกติ สืบค้นได้จริง ออกหมายจับ นุ นุวัฒน์ และ แซน สารินี ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับทนายตั้ม ษิทรา ซึ่งอยู่ในเรือนจำด้วย.ถ้า พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับสถานีตำรวจตำรวจบางซื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวจริง และเมื่อรู้ว่าข้อความการบันทึกประจำวันซ่อนรูปในรูปของการแจ้งความเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นแล้ว ท่านผู้กำกับ สน.บางซื่อ ควรดำเนินคดีกับคนที่มาเกี่ยวข้องทั้งหมดในการลงบันทึกประจำวันปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แซน สารินี หรือ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ตาม
    จับขบวนการ‘แก๊งตั้ม’สุมหัวฉ้อโกง 39 ล้าน.เรื่องคดีฉ้อโกงคุณจตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีคนปากช่องที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยฝีมือของคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกนั้น มันมีความซับซ้อนและเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ จนกระทั่ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตำรวจต้องดำเนินคดี "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" คือพูดภาษาแถวบ้านผมเขาเรียกว่า "ฉ้อโกงจนเป็นสันดาน" ในการโกง โกงแล้วโกงอีกๆ .ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวบรวมกฎหมายอาญา คือคดีฉ้อโกง กับกฎหมายคดีฟอกเงิน บูรณาการเข้ามา เป็นมาตรการดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะได้ถือโอกาสยึด อายัดทรัพย์สิน.พฤติการณ์การฉ้อโกงที่มีการเปิดเผยกันตอนนี้มีอยู่ 4 คดี เรื่องแรกคือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอกให้คุณอ้อยทำแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ จำนวน 71 ล้านบาท หรือ 2 ล้านยูโร เรื่องที่สอง คือ เงินส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ G400 จำนวน 1.5 ล้านบาท (นี่คือเงินส่วนต่าง) เรื่องที่สาม อ้างกรณีสแกมเมอร์คริปโต จำนวน 39 ล้านบาท เรื่องที่สี่ ค่าจ้างออกแบบโรงแรม จำนวน 9 ล้านบาท.ผมคิดว่าการฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท นั้น ในภาพรวมท่านผู้ชมน่าจะกระจ่าง สิ้นข้อสงสัยแล้ว จากการชี้แจงของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการโหนกระแส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา.ประเด็นต่อมา คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเงิน 39 ล้านบาท คุณเกี่ยวข้องเข้าไปเต็มเท้าสองเท้าเลย เรื่องนี้มาโป๊ะแตก เพราะคณะทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "บิ๊กก้อง" สืบสวนสอบสวนพบความจริงว่า คนที่โอนเงินคริปโตให้พี่อ้อยคือ นายนุ นุวัฒน์ ไม่ใช่ "แซน" สารินี ซึ่งเป็นภรรยา ตามที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ นายนุ นุวัฒน์ ไม่เคยถูกระงับบัญชีเงินดิจิทัลใดๆ ทั้งสิ้น และ แซน สารินี ก็ไม่เคยโอนเงินคริปโตให้พี่อ้อย 7 ครั้ง จนถูกระงับบัญชีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นแล้ว ความเสียหายที่อ้างว่า 39 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น.ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบความผิดปกติ สืบค้นได้จริง ออกหมายจับ นุ นุวัฒน์ และ แซน สารินี ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับทนายตั้ม ษิทรา ซึ่งอยู่ในเรือนจำด้วย.ถ้า พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับสถานีตำรวจตำรวจบางซื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวจริง และเมื่อรู้ว่าข้อความการบันทึกประจำวันซ่อนรูปในรูปของการแจ้งความเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นแล้ว ท่านผู้กำกับ สน.บางซื่อ ควรดำเนินคดีกับคนที่มาเกี่ยวข้องทั้งหมดในการลงบันทึกประจำวันปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แซน สารินี หรือ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ตาม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทาง‘สุรเชชษฐ์’หลังศาลยกคำร้องอุทธรณ์
    .
    เผอิญมันก็มีข่าวกระฉ่อนเลย ทุกวงการ ว่ามีคนทำเงินตก 100 ล้านบ้าง 200 ล้านบ้าง 250 ล้านบ้าง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่มีผลทำให้ท่านประธานศาลปกครองสูงสุดเรียกประชุมองค์คณะใหญ่ทันที และเอาเรื่องที่องค์คณะเล็กพิจารณาแล้ว เข้าเลย ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมีมติไม่รับคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วมิหนำซ้ำ คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากตำรวจนั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ก็ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้ว รอเพียงการแถลงของเจ้าของคดีอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
    .
    วัตถุประสงค์ของสุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ต้องการกลับไป มีอยู่ข้อเดียว ต้องการไปใช้สิทธิ์ของตัวเองในฐานะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสอันดับหนึ่งที่เขาภูมิใจมาก เขาน่าจะรู้ดีว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั้น อย่างไรก็ยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ โดยที่ไม่มีใครสามารถจะโค่นล้มได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย
    .
    จะเริ่มมีปัญหาก็ตอนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะเกษียณอายุ แล้วต้องเสนอรายชื่อคนที่จะเข้าไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป ซึ่งผมคิดว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มองประเด็นนี้มากกว่า เพราะความเป็นคนช่างฟ้อง และภูมิใจมากกับการเป็นผู้อาวุโสอันดับหนึ่ง แต่ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ เอง ก็ลืมนึกไปว่า ในพระราชบัญญัติตำรวจชุดใหม่นี้ เขาไม่ได้ห้ามให้คณะกรรมการสามารถคัดเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่อาวุโสอันดับหนึ่งได้ เปิดช่องเอาไว้
    .
    ในกรณีนี้ผมคิดว่าไม่สำเร็จ เพราะว่า พ.ร.บ.ตำรวจ ชัดเจนว่า นอกจากอาวุโสแล้ว ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม คุณเอาตำรวจซึ่งถูกคดีอาญา ถูกหมายจับจากศาล แล้วมีคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. ถึงแม้จะยังไม่มีการชี้มูลว่าผิดหรือไม่ผิด แต่มีการกล่าวหาไปแล้ว ส่งเข้าไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา แค่นี้ก็เป็นตำหนิที่สำคัญมากแล้ว คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ก็ต้องคำนึงถึง "ความเหมาะสม" ตรงนี้ด้วย
    .
    ณ วันนี้ สุรเชชษฐ์ หักพาล ไม่ได้กลับเข้าตำรวจ และไม่ได้มีอำนาจเหมือนแต่ก่อน ตำรวจซึ่งเป็นลูกน้อง สุรเชชษฐ์ หักพาล รวมไปถึงสื่อมวลชนที่ยืนข้างสุรเชชษฐ์ มาตลอด ก็คือคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ตีปี๊บขยับปีกดีอกดีใจจังว่านายกูจะกลับมาแล้ว แต่พวกนี้ลืมไปอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกเขาจะต้องแช่แข็งเด็กสาย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ลูกน้องคุณสุรเชชษฐ์ หักพาล และผมยังเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หน่วยงานที่จะต้องรื้อถึงรากถึงโคนเลยก็คือ สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะนั่นเป็นฐานอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล
    .
    แล้วพอคนใหม่ขึ้นมาอีก หลังจากที่สุรเชชษฐ์ ฟ้องแล้ว ผมเชื่อว่าศาลปกครองเมื่อดูข้อมูล ดู พ.ร.บ.แล้ว ดูคำว่า "เหมาะสม" ว่าอาวุโสอันดับหนึ่งไม่เหมาะสม เพราะโดนหมายจับ โดนคดีอาญา โดนร้องไปที่ ป.ป.ช. ตั้ง 3-4 คดี เขาก็บอกว่าคนนี้ไม่เหมาะสม ให้ไปที่คนที่สอง ถ้าคนที่สองขึ้นมา เขาก็อยู่อีก 2 ปี ก็เช่นกัน สองปีนี้ตำรวจสายสุรเชชษฐ์ หักพาล ก็จะถูกแช่แข็งต่อไปอีก 2 ปี สรุปแล้วแช่แข็งไป 4 ปี นี่ผมเตือนด้วยความหวังดี
    เส้นทาง‘สุรเชชษฐ์’หลังศาลยกคำร้องอุทธรณ์ . เผอิญมันก็มีข่าวกระฉ่อนเลย ทุกวงการ ว่ามีคนทำเงินตก 100 ล้านบ้าง 200 ล้านบ้าง 250 ล้านบ้าง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่มีผลทำให้ท่านประธานศาลปกครองสูงสุดเรียกประชุมองค์คณะใหญ่ทันที และเอาเรื่องที่องค์คณะเล็กพิจารณาแล้ว เข้าเลย ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดมีมติไม่รับคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วมิหนำซ้ำ คำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากตำรวจนั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ก็ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้ว รอเพียงการแถลงของเจ้าของคดีอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง . วัตถุประสงค์ของสุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ต้องการกลับไป มีอยู่ข้อเดียว ต้องการไปใช้สิทธิ์ของตัวเองในฐานะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสอันดับหนึ่งที่เขาภูมิใจมาก เขาน่าจะรู้ดีว่าในช่วง 2 ปีจากนี้ไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นั้น อย่างไรก็ยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ โดยที่ไม่มีใครสามารถจะโค่นล้มได้ เพราะถูกต้องตามกฎหมาย . จะเริ่มมีปัญหาก็ตอนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะเกษียณอายุ แล้วต้องเสนอรายชื่อคนที่จะเข้าไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไป ซึ่งผมคิดว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มองประเด็นนี้มากกว่า เพราะความเป็นคนช่างฟ้อง และภูมิใจมากกับการเป็นผู้อาวุโสอันดับหนึ่ง แต่ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ เอง ก็ลืมนึกไปว่า ในพระราชบัญญัติตำรวจชุดใหม่นี้ เขาไม่ได้ห้ามให้คณะกรรมการสามารถคัดเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่อาวุโสอันดับหนึ่งได้ เปิดช่องเอาไว้ . ในกรณีนี้ผมคิดว่าไม่สำเร็จ เพราะว่า พ.ร.บ.ตำรวจ ชัดเจนว่า นอกจากอาวุโสแล้ว ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม คุณเอาตำรวจซึ่งถูกคดีอาญา ถูกหมายจับจากศาล แล้วมีคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. ถึงแม้จะยังไม่มีการชี้มูลว่าผิดหรือไม่ผิด แต่มีการกล่าวหาไปแล้ว ส่งเข้าไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา แค่นี้ก็เป็นตำหนิที่สำคัญมากแล้ว คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ก็ต้องคำนึงถึง "ความเหมาะสม" ตรงนี้ด้วย . ณ วันนี้ สุรเชชษฐ์ หักพาล ไม่ได้กลับเข้าตำรวจ และไม่ได้มีอำนาจเหมือนแต่ก่อน ตำรวจซึ่งเป็นลูกน้อง สุรเชชษฐ์ หักพาล รวมไปถึงสื่อมวลชนที่ยืนข้างสุรเชชษฐ์ มาตลอด ก็คือคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ตีปี๊บขยับปีกดีอกดีใจจังว่านายกูจะกลับมาแล้ว แต่พวกนี้ลืมไปอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกเขาจะต้องแช่แข็งเด็กสาย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ลูกน้องคุณสุรเชชษฐ์ หักพาล และผมยังเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า หน่วยงานที่จะต้องรื้อถึงรากถึงโคนเลยก็คือ สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะนั่นเป็นฐานอำนาจของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล . แล้วพอคนใหม่ขึ้นมาอีก หลังจากที่สุรเชชษฐ์ ฟ้องแล้ว ผมเชื่อว่าศาลปกครองเมื่อดูข้อมูล ดู พ.ร.บ.แล้ว ดูคำว่า "เหมาะสม" ว่าอาวุโสอันดับหนึ่งไม่เหมาะสม เพราะโดนหมายจับ โดนคดีอาญา โดนร้องไปที่ ป.ป.ช. ตั้ง 3-4 คดี เขาก็บอกว่าคนนี้ไม่เหมาะสม ให้ไปที่คนที่สอง ถ้าคนที่สองขึ้นมา เขาก็อยู่อีก 2 ปี ก็เช่นกัน สองปีนี้ตำรวจสายสุรเชชษฐ์ หักพาล ก็จะถูกแช่แข็งต่อไปอีก 2 ปี สรุปแล้วแช่แข็งไป 4 ปี นี่ผมเตือนด้วยความหวังดี
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับขบวนการ‘แก๊งตั้ม’สุมหัวฉ้อโกง 39 ล้าน
    .
    เรื่องคดีฉ้อโกงคุณจตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีคนปากช่องที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยฝีมือของคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกนั้น มันมีความซับซ้อนและเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ จนกระทั่ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตำรวจต้องดำเนินคดี "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" คือพูดภาษาแถวบ้านผมเขาเรียกว่า "ฉ้อโกงจนเป็นสันดาน" ในการโกง โกงแล้วโกงอีกๆ
    .
    ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวบรวมกฎหมายอาญา คือคดีฉ้อโกง กับกฎหมายคดีฟอกเงิน บูรณาการเข้ามา เป็นมาตรการดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะได้ถือโอกาสยึด อายัดทรัพย์สิน
    .
    พฤติการณ์การฉ้อโกงที่มีการเปิดเผยกันตอนนี้มีอยู่ 4 คดี เรื่องแรกคือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอกให้คุณอ้อยทำแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ จำนวน 71 ล้านบาท หรือ 2 ล้านยูโร เรื่องที่สอง คือ เงินส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ G400 จำนวน 1.5 ล้านบาท (นี่คือเงินส่วนต่าง) เรื่องที่สาม อ้างกรณีสแกมเมอร์คริปโต จำนวน 39 ล้านบาท เรื่องที่สี่ ค่าจ้างออกแบบโรงแรม จำนวน 9 ล้านบาท
    .
    ผมคิดว่าการฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท นั้น ในภาพรวมท่านผู้ชมน่าจะกระจ่าง สิ้นข้อสงสัยแล้ว จากการชี้แจงของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการโหนกระแส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
    .
    ประเด็นต่อมา คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเงิน 39 ล้านบาท คุณเกี่ยวข้องเข้าไปเต็มเท้าสองเท้าเลย เรื่องนี้มาโป๊ะแตก เพราะคณะทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "บิ๊กก้อง" สืบสวนสอบสวนพบความจริงว่า คนที่โอนเงินคริปโตให้พี่อ้อยคือ นายนุ นุวัฒน์ ไม่ใช่ "แซน" สารินี ซึ่งเป็นภรรยา ตามที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ นายนุ นุวัฒน์ ไม่เคยถูกระงับบัญชีเงินดิจิทัลใดๆ ทั้งสิ้น และ แซน สารินี ก็ไม่เคยโอนเงินคริปโตให้พี่อ้อย 7 ครั้ง จนถูกระงับบัญชีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นแล้ว ความเสียหายที่อ้างว่า 39 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น
    .
    ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบความผิดปกติ สืบค้นได้จริง ออกหมายจับ นุ นุวัฒน์ และ แซน สารินี ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับทนายตั้ม ษิทรา ซึ่งอยู่ในเรือนจำด้วย
    .
    ถ้า พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับสถานีตำรวจตำรวจบางซื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวจริง และเมื่อรู้ว่าข้อความการบันทึกประจำวันซ่อนรูปในรูปของการแจ้งความเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นแล้ว ท่านผู้กำกับ สน.บางซื่อ ควรดำเนินคดีกับคนที่มาเกี่ยวข้องทั้งหมดในการลงบันทึกประจำวันปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แซน สารินี หรือ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ตาม
    จับขบวนการ‘แก๊งตั้ม’สุมหัวฉ้อโกง 39 ล้าน . เรื่องคดีฉ้อโกงคุณจตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีคนปากช่องที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยฝีมือของคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกนั้น มันมีความซับซ้อนและเกิดขึ้นหลายกรรมหลายวาระ จนกระทั่ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าตำรวจต้องดำเนินคดี "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" คือพูดภาษาแถวบ้านผมเขาเรียกว่า "ฉ้อโกงจนเป็นสันดาน" ในการโกง โกงแล้วโกงอีกๆ . ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวบรวมกฎหมายอาญา คือคดีฉ้อโกง กับกฎหมายคดีฟอกเงิน บูรณาการเข้ามา เป็นมาตรการดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด จะได้ถือโอกาสยึด อายัดทรัพย์สิน . พฤติการณ์การฉ้อโกงที่มีการเปิดเผยกันตอนนี้มีอยู่ 4 คดี เรื่องแรกคือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอกให้คุณอ้อยทำแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ จำนวน 71 ล้านบาท หรือ 2 ล้านยูโร เรื่องที่สอง คือ เงินส่วนต่างซื้อรถเบนซ์ G400 จำนวน 1.5 ล้านบาท (นี่คือเงินส่วนต่าง) เรื่องที่สาม อ้างกรณีสแกมเมอร์คริปโต จำนวน 39 ล้านบาท เรื่องที่สี่ ค่าจ้างออกแบบโรงแรม จำนวน 9 ล้านบาท . ผมคิดว่าการฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท นั้น ในภาพรวมท่านผู้ชมน่าจะกระจ่าง สิ้นข้อสงสัยแล้ว จากการชี้แจงของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการโหนกระแส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา . ประเด็นต่อมา คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเงิน 39 ล้านบาท คุณเกี่ยวข้องเข้าไปเต็มเท้าสองเท้าเลย เรื่องนี้มาโป๊ะแตก เพราะคณะทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "บิ๊กก้อง" สืบสวนสอบสวนพบความจริงว่า คนที่โอนเงินคริปโตให้พี่อ้อยคือ นายนุ นุวัฒน์ ไม่ใช่ "แซน" สารินี ซึ่งเป็นภรรยา ตามที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อ นายนุ นุวัฒน์ ไม่เคยถูกระงับบัญชีเงินดิจิทัลใดๆ ทั้งสิ้น และ แซน สารินี ก็ไม่เคยโอนเงินคริปโตให้พี่อ้อย 7 ครั้ง จนถูกระงับบัญชีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นแล้ว ความเสียหายที่อ้างว่า 39 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น . ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบความผิดปกติ สืบค้นได้จริง ออกหมายจับ นุ นุวัฒน์ และ แซน สารินี ตั้งแต่วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567 และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับทนายตั้ม ษิทรา ซึ่งอยู่ในเรือนจำด้วย . ถ้า พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับสถานีตำรวจตำรวจบางซื่อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวจริง และเมื่อรู้ว่าข้อความการบันทึกประจำวันซ่อนรูปในรูปของการแจ้งความเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นแล้ว ท่านผู้กำกับ สน.บางซื่อ ควรดำเนินคดีกับคนที่มาเกี่ยวข้องทั้งหมดในการลงบันทึกประจำวันปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แซน สารินี หรือ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็ตาม
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • 16-11-67/01 : หมี CNN / THE RIVER OF NO RETURN & TIME NEVER WALK BACKWARD ยึดแล้วใครจะโง่คืน มีแต่ยึดต่อ? สารตรงจากเครมลิน อยากเจรจายุติสงคราม ทำได้แค่ "ยอมปล่อยวาง แล้วทำตามเงื่อนไขผู้ชนะเท่านั้น" ไม่มีการต่อรอง เพราะหาไม่ กูจะยึดแม่งให้หมดเกลี้ยง! ชัดเจน ตรงไปตรงมายิ่งกว่า 9G แล้วมรึงจะคุยเพื่อ? มันคือแผนซ้อนแผน บีบให้เหี้ยยอมแบบไร้เงื่อนไข กับสู้อย่างเทหมดหน้าตัก แล้วยกทุกสรรพสิ่งให้เครมลิน เชื่อว่าปูติน ชอบอย่างหลังมากกว่า สั่งสอนไอ้อีทรยศเผ่าพันธุ์ สั่งสอนไอ้อีเนรคุณพลังงานที่พวกมรึงเกิดขึ้นมาได้? อีเบียร์อย่างหมา อีเศษฝรั่งอย่างควาย รัสเซียคุมเกมส์นี้ หมากกระดานนี้รัสเซียชนะท่วมท้นไปนานแล้ว NATO เหรอ จนป่านนี้ ยังไม่มีใครส่งทหารเติม เทเงินให้ เหมือนที่คุยกันไว้ เพราะทุกชาติสมาชิกนาโต้ ต่างประเมินแล้วว่า "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" เก็บเเงินไปพัฒนาประเทศ เลี้ยงปากท้องประชากรควายคุ้มกว่าเยอะ! ล่าสุด อียิว จนตรอก ทิ้งระเบิดใส่สนามบินเบรุต ทำได้แต่ชาวบ้าน เก่งกับพื้นที่สีเขียว แน่จริงบุกเข้ามาสิฟ่ะ? ดอกนี้ เลบานอนเฉยๆ เพราะยามศึกสงคราม มันต้องมีแลก แล้วอะไรล่ะ ที่แลกคุ้มกว่า นั่นคือฐานทัพเหี้ยยิวทั้งหมดที่มีในตะวันออกกลาง หลายคนสงสัย ทำไม เลบานอนถึงยอมปล่อยให้เหี้ยยิวมันกร่าง เพราะสิ่งที่มันทำ ผิดกฎหมายสากล ที่โจมตี ขณะมีเครื่อบินโดนสาร ชีวิตผู้บริสุทธิ์อยู่ ทำไมมันจะไม่รู้ว่า "ผิดและเหี้ยเต็มตรีน" มันต้องการแค่ WWIII แต่สิ่งที่เลบานอนจะได้กลับมาคือ "มติสหประชาชาติขั้นเด็ดขาด" คือถอนรากถอนโคนอิสราเอลทั้งแผ่นดิน ด้วยส้นตรีนชาวโลก! ถึงดอกนั้น เฮซบอเลาะห์ถึงจะโชว์อาวุธแท้จริง ที่ไล่ฆ่าเหี้ยยิวอย่างไร้ความปราณี พ่วงโลกสมน้ำหน้า ความช่วยเหลือไม่มี มีแต่ความสะใจ! อียิวมันสร้างศัตรูไว้ทั้งโลก มันคิดว่าจะสร้างรัฐยิวใหม่ โดยไม่มีอุปสรรค์เหรอ? มรึงถูกโลกพิพากษาไปเรียบร้อยแล้ว ว่าคือ "ไอ้เสนียดอัปรีย์จัญไรโลก" อยู่ยาก หมายจับตรึม ไม่มีใครคบ ไม่มีใครค้าขายด้วย แค่มุสลิมทั้งโลกลงแขก มรึงก็หมาแล้ว ข้ามวิกแป๊บ : อีเด หลอน ผวา เพ่สนธิ เอาสุดซอย ปานเทพกระทืบซ้ำ ถูกแฉ ลากยาวคดีถุงดำ งานนี้ถึงคุก อยู่ดีดี ปากหมา ได้ขี้แตก เสียหมา ออกสื่อแน่มรึงเอ๋ย? อีเด สายเหลือง ฮาแตก! เด็กแถวบ้านเรียกกัน 555+ กองแช่งเฮลั่น! กิตติรัตน์โดน! ครม.รับรองโดนคุกระนาว อีอุ้งอุ้ง ทูลเกล้า โดนถอดด้วย ไปหมดทั้งคอกเหี้ย? นั่นแค่น้ำจิ้ม ไอ้ดอกใหญ่มีอีกหลายเรื่องเป็นหางว่าว กูบอกแล้วไงล่ะว่า สุดท้าย "เผ่นหมดยกคอกเหี้ย แผ่นดินสะอาดทันตาเห็น" ศาลเตรียมฟัน ไคฟงผงาดอีกแล้ว! อีเหลี่ยม หลักฐานมัดตราสังข์ทุกดอก คุกยังน้อยไป "ประหารชีวิต" บีบให้เผ่น มอบเงินแผ่นดินคืน เหี้ย C เผ่นด้วย เพราะแหล่งฟอกเงินถูกไล่จับเกลื่อน หน่วยข่าวกรองสากลไล่เก็บแล้ว ตำหนวดไทยไม่ต้อง ขายตัวกันเยอะ อย่าเสือก ระดับโลก ให้ระดับโลกจัดการ งวดนี้ใช้บริการ KGB เก่า ทำให้เงียบเข้าไว้ ไม่ต้องส่งกลับบ้าน ฝังมันตรงนี้แหละ! ผู้ใหญ่หลับตา ขอบคุณที่ช่วยกำจัดเสนียดแผ่นดิน ด้านอีโจ๊กคนอร์เละเป็นโจ๊กสมชื่อ หลังปปช.พลิกลิ้น เปลี่ยนสี เพราะอีหัวหน้าเดิมที่คุ้มกะลาหัวอีโจ๊กไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้คือไล่เช็คบิลของเก่า เก็บลิ่วล้ออีโจ๊กเกลี้ยง ใครเคยมีเอี่ยวดิ้นหนีตายกันหมด มันโยงแทบจะทุกคดีในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรื่องเหี้ยๆ ดังๆ ใหญ่ๆ อีโจ๊กมีเอี่ยวหมด แล้วใครรับใช้ แล้วใครได้ประโยชน์ มรึงจะได้เห็นในไม่ช้า ด้านปปง. ยิ้มทันที เงินหลายหมื่นล้าน จะเข้าสู่คลังหลวงซักกะที ผู้ใหญ่สั่งให้เก็บทุกดอก อย่าให้เหลือรอดไปได้ กลับมาสู่โลกตอแหลอีกครั้ง : เหี้ยมะกันช็อค 8 เดือนกว่า เยเมน ไม่มีหยุด ไม่ผ่อน อาวุธ คลังแสงมหึมา มรึงไปเอามาจากไหน ถล่มเหี้ยวันนึงใช้เป็น 100 ลูก เหี้ยยังทำไม่ได้ หน้าฉากคือเยเมน หลังฉากคือขั้วใหม่ มรึงจะสู้ยังไง ดีออก? อาวุธมีไม่อั้น กระสุนมีเป็นล้าน กองหนุนมีเป็น 10 ล้าน ยังเสี้ยนจะตายห่าอยู่อีกมั้ย? อะไรที่พวกมรึงโจมตีมา บอกตรง "ขี้หมา" แค่ต้องการให้เป็นข่าว ว่ายังเหลือเขี้ยวเล็บอยู่ เค้าถล่มมรึง 10 ครั้ง มรึงโต้กลับ 2 ครั้ง ใครจะตายห่าก่อนกันล่ะ? ยังช็อคต่อ ถล่มเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือรบเหี้ย 8 ชม.ติด NON STOP ห่ากระสุนลง โดรนถล่ม ขีปนาวุธร่อนเป็นฝูง มรึงจะเทพไปไหน? ยิ่งขนมาเท่าไหร่ ก็จบเร็วเท่านั้น อียิวกวักมือเรียกเยอะๆ กูหิวศพเหี้ย! ปล.สังคมอังกฤษแตกแยกแล้ว ผู้คนหมดหวัง ภาษีแพง สวัสดิการหดหาย หาแดร๊กไปวันวัน สภาพเดียวกับอเมริกา และชาติยุโรปอื่น นี่คือสังคมทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ที่เน้นเอาแต่ผลกำไร โดยไม่สนการอยู่กินของชาวบ้าน สินค้ามีแต่ขึ้นราคา เงินเฟ้อ น้ำ ไฟ แพง สุดท้ายบีบให้อยู่ไม่ได้ คนแห่ออกนอกกันหมด หันมาเอเซียตั้งรกราน อะไรทำให้พวกมรึงต้องเจอสภาพนี้ คำตอบเดียว "ปชต.ตอแหลไงล่ะ" ที่มรึงได้แต่ขี้ข้ายิว นักการเมืองทาสทุนสามานย์ ออกกฎหมายเอาเปรียบชาวบ้าน การเมืองมีไปทำไม ทั้งๆ ที่มรึงเลือกตรงได้ หรือโหวตเลือกผู้นำมรึงได้เอง โดยไม่ต้องผ่านขบวนการทางการเมือง พรรคการเมืองรับใช้ใคร นักการเมืองรับใช้ใคร วิธีแก้ง่ายนิดเดียว แค่มรึงต้องหาคนที่ทำเพื่อส่วนรวม ไม่เป็นขี้ข้ายิว และขบวนการเกาะแดร๊กแผ่นดิน ซึ่งมันหาไม่ได้ดอก เพราะอียิวมันคุมทุกอย่างไว้หมดแล้ว จะรอดต้องกำจัดอิทธิพลยิว แหล่งเงินยิว และขี้ข้ายิวตามหน่วยงานทั้งหมด หัวไม่ดี จะหวังอนาคตจากไหน? ยุโรปโง่มาเป้นศตวรรษ มรึงหวังจะให้มันฉลาดทันทีคงยาก เพราะ EGO มันแรง ขนาดถึงตายยังยอม? ล่าสุด อีลอน มัสก์ แอบคุยอิหร่าน มรึงคิดว่า ใครส่งมาให้คุยกันล่ะ? โครงการสเปซ X ของมัน จะไปไหนไม่ได้ไกล หากไม่ร่วมกับขั้วใหม่ อิหร่านถูกจับตาว่าคุยง่ายที่สุด เพราะพลังงาน และเทคโนโลยีอวกาศ สามารถเชื่อมต่อกันได้ พูดง่ายๆ คือ มรึงมาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ขั้วใหม่ นัยยะคือ ขอความปราณีอียิวสิน่ะ อยู่ที่อิหร่านว่า "จำเป็นต้องคบมรึงมั้ย?" โครงการอีลอน มัสก์ มันได้แค่นั้นแหละ จะไปไกลกว่านี้ จำเป็นต้องพึ่งพาเครือข่ายระดับโลก อย่างจีน รัสเซีย ถึงได้พยายามผ่านมาทางอิหร่าน ควายยังรู้? เพื่อลดกระแสต่อต้านยิว และได้เทคโนโลยีเชื่อมต่อ เพราะดาวเทียมอิหร่านเชื่อมต่อทั้งรัสเซีย จีน โสมแดง ดอกนี้ จับตาดูว่า มันจะทำสำเร็จหรือไม่? อิหร่านไม่โง่ อะไรล่ะ? ที่อิหร่านต้องการมาโดยตลอด? อีทรัมปป์ เอา อีลอน มัสก์ เข้าพวก ย่อมต้องรู้ดีว่า เพื่อประโยชน์อะไร? เกมส์โลกเตรียมพลิก กูเคยบอกแล้วไงล่ะว่า อะไรที่มรึงไม่เชื่อ ไม่คาดคิด อาจจะเกิดขึ้นได้หมด จากเหี้ยกลายร่างเป็นคนดี ขึ้นมา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะแสงทำงาน เหี้ยยังไง ก็ต้องรู้เอาตัวรอด? ยังจะมีอะไรให้มรึงช็อคแดร๊กอีกเรื่อยๆ ข่าวดีจะมาเรื่อยๆ จนมรึงแปลกใจ!หมี CNN(สงครามกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ การเมืองกลายเป็นเรื่องน่าชัง ผู้คนทั้งโลกจะจับมือกัน ไม่เอาเหี้ย ไม่เอาสงคราม ไม่เอามาเฟีย ศาลเตี้ย ขั้วใหม่จะเกิดเต็มอัตราศึก ผู้คนเบื่อหน่าย ผู้คนหิวโหย ผู้คนมีความหวัง โลกเดินตามรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เพื่อหวังอนาคตใหม่ที่สดใสกว่า โลกจะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว กฎหมาจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป BRICS เชื่อมโลกแล้ว)16 พฤศจิกายน 6715.58 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    16-11-67/01 : หมี CNN / THE RIVER OF NO RETURN & TIME NEVER WALK BACKWARD ยึดแล้วใครจะโง่คืน มีแต่ยึดต่อ? สารตรงจากเครมลิน อยากเจรจายุติสงคราม ทำได้แค่ "ยอมปล่อยวาง แล้วทำตามเงื่อนไขผู้ชนะเท่านั้น" ไม่มีการต่อรอง เพราะหาไม่ กูจะยึดแม่งให้หมดเกลี้ยง! ชัดเจน ตรงไปตรงมายิ่งกว่า 9G แล้วมรึงจะคุยเพื่อ? มันคือแผนซ้อนแผน บีบให้เหี้ยยอมแบบไร้เงื่อนไข กับสู้อย่างเทหมดหน้าตัก แล้วยกทุกสรรพสิ่งให้เครมลิน เชื่อว่าปูติน ชอบอย่างหลังมากกว่า สั่งสอนไอ้อีทรยศเผ่าพันธุ์ สั่งสอนไอ้อีเนรคุณพลังงานที่พวกมรึงเกิดขึ้นมาได้? อีเบียร์อย่างหมา อีเศษฝรั่งอย่างควาย รัสเซียคุมเกมส์นี้ หมากกระดานนี้รัสเซียชนะท่วมท้นไปนานแล้ว NATO เหรอ จนป่านนี้ ยังไม่มีใครส่งทหารเติม เทเงินให้ เหมือนที่คุยกันไว้ เพราะทุกชาติสมาชิกนาโต้ ต่างประเมินแล้วว่า "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" เก็บเเงินไปพัฒนาประเทศ เลี้ยงปากท้องประชากรควายคุ้มกว่าเยอะ! ล่าสุด อียิว จนตรอก ทิ้งระเบิดใส่สนามบินเบรุต ทำได้แต่ชาวบ้าน เก่งกับพื้นที่สีเขียว แน่จริงบุกเข้ามาสิฟ่ะ? ดอกนี้ เลบานอนเฉยๆ เพราะยามศึกสงคราม มันต้องมีแลก แล้วอะไรล่ะ ที่แลกคุ้มกว่า นั่นคือฐานทัพเหี้ยยิวทั้งหมดที่มีในตะวันออกกลาง หลายคนสงสัย ทำไม เลบานอนถึงยอมปล่อยให้เหี้ยยิวมันกร่าง เพราะสิ่งที่มันทำ ผิดกฎหมายสากล ที่โจมตี ขณะมีเครื่อบินโดนสาร ชีวิตผู้บริสุทธิ์อยู่ ทำไมมันจะไม่รู้ว่า "ผิดและเหี้ยเต็มตรีน" มันต้องการแค่ WWIII แต่สิ่งที่เลบานอนจะได้กลับมาคือ "มติสหประชาชาติขั้นเด็ดขาด" คือถอนรากถอนโคนอิสราเอลทั้งแผ่นดิน ด้วยส้นตรีนชาวโลก! ถึงดอกนั้น เฮซบอเลาะห์ถึงจะโชว์อาวุธแท้จริง ที่ไล่ฆ่าเหี้ยยิวอย่างไร้ความปราณี พ่วงโลกสมน้ำหน้า ความช่วยเหลือไม่มี มีแต่ความสะใจ! อียิวมันสร้างศัตรูไว้ทั้งโลก มันคิดว่าจะสร้างรัฐยิวใหม่ โดยไม่มีอุปสรรค์เหรอ? มรึงถูกโลกพิพากษาไปเรียบร้อยแล้ว ว่าคือ "ไอ้เสนียดอัปรีย์จัญไรโลก" อยู่ยาก หมายจับตรึม ไม่มีใครคบ ไม่มีใครค้าขายด้วย แค่มุสลิมทั้งโลกลงแขก มรึงก็หมาแล้ว ข้ามวิกแป๊บ : อีเด หลอน ผวา เพ่สนธิ เอาสุดซอย ปานเทพกระทืบซ้ำ ถูกแฉ ลากยาวคดีถุงดำ งานนี้ถึงคุก อยู่ดีดี ปากหมา ได้ขี้แตก เสียหมา ออกสื่อแน่มรึงเอ๋ย? อีเด สายเหลือง ฮาแตก! เด็กแถวบ้านเรียกกัน 555+ กองแช่งเฮลั่น! กิตติรัตน์โดน! ครม.รับรองโดนคุกระนาว อีอุ้งอุ้ง ทูลเกล้า โดนถอดด้วย ไปหมดทั้งคอกเหี้ย? นั่นแค่น้ำจิ้ม ไอ้ดอกใหญ่มีอีกหลายเรื่องเป็นหางว่าว กูบอกแล้วไงล่ะว่า สุดท้าย "เผ่นหมดยกคอกเหี้ย แผ่นดินสะอาดทันตาเห็น" ศาลเตรียมฟัน ไคฟงผงาดอีกแล้ว! อีเหลี่ยม หลักฐานมัดตราสังข์ทุกดอก คุกยังน้อยไป "ประหารชีวิต" บีบให้เผ่น มอบเงินแผ่นดินคืน เหี้ย C เผ่นด้วย เพราะแหล่งฟอกเงินถูกไล่จับเกลื่อน หน่วยข่าวกรองสากลไล่เก็บแล้ว ตำหนวดไทยไม่ต้อง ขายตัวกันเยอะ อย่าเสือก ระดับโลก ให้ระดับโลกจัดการ งวดนี้ใช้บริการ KGB เก่า ทำให้เงียบเข้าไว้ ไม่ต้องส่งกลับบ้าน ฝังมันตรงนี้แหละ! ผู้ใหญ่หลับตา ขอบคุณที่ช่วยกำจัดเสนียดแผ่นดิน ด้านอีโจ๊กคนอร์เละเป็นโจ๊กสมชื่อ หลังปปช.พลิกลิ้น เปลี่ยนสี เพราะอีหัวหน้าเดิมที่คุ้มกะลาหัวอีโจ๊กไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้คือไล่เช็คบิลของเก่า เก็บลิ่วล้ออีโจ๊กเกลี้ยง ใครเคยมีเอี่ยวดิ้นหนีตายกันหมด มันโยงแทบจะทุกคดีในอดีตจนถึงปัจจุบัน เรื่องเหี้ยๆ ดังๆ ใหญ่ๆ อีโจ๊กมีเอี่ยวหมด แล้วใครรับใช้ แล้วใครได้ประโยชน์ มรึงจะได้เห็นในไม่ช้า ด้านปปง. ยิ้มทันที เงินหลายหมื่นล้าน จะเข้าสู่คลังหลวงซักกะที ผู้ใหญ่สั่งให้เก็บทุกดอก อย่าให้เหลือรอดไปได้ กลับมาสู่โลกตอแหลอีกครั้ง : เหี้ยมะกันช็อค 8 เดือนกว่า เยเมน ไม่มีหยุด ไม่ผ่อน อาวุธ คลังแสงมหึมา มรึงไปเอามาจากไหน ถล่มเหี้ยวันนึงใช้เป็น 100 ลูก เหี้ยยังทำไม่ได้ หน้าฉากคือเยเมน หลังฉากคือขั้วใหม่ มรึงจะสู้ยังไง ดีออก? อาวุธมีไม่อั้น กระสุนมีเป็นล้าน กองหนุนมีเป็น 10 ล้าน ยังเสี้ยนจะตายห่าอยู่อีกมั้ย? อะไรที่พวกมรึงโจมตีมา บอกตรง "ขี้หมา" แค่ต้องการให้เป็นข่าว ว่ายังเหลือเขี้ยวเล็บอยู่ เค้าถล่มมรึง 10 ครั้ง มรึงโต้กลับ 2 ครั้ง ใครจะตายห่าก่อนกันล่ะ? ยังช็อคต่อ ถล่มเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือรบเหี้ย 8 ชม.ติด NON STOP ห่ากระสุนลง โดรนถล่ม ขีปนาวุธร่อนเป็นฝูง มรึงจะเทพไปไหน? ยิ่งขนมาเท่าไหร่ ก็จบเร็วเท่านั้น อียิวกวักมือเรียกเยอะๆ กูหิวศพเหี้ย! ปล.สังคมอังกฤษแตกแยกแล้ว ผู้คนหมดหวัง ภาษีแพง สวัสดิการหดหาย หาแดร๊กไปวันวัน สภาพเดียวกับอเมริกา และชาติยุโรปอื่น นี่คือสังคมทุนนิยมเหี้ยสามานย์ ที่เน้นเอาแต่ผลกำไร โดยไม่สนการอยู่กินของชาวบ้าน สินค้ามีแต่ขึ้นราคา เงินเฟ้อ น้ำ ไฟ แพง สุดท้ายบีบให้อยู่ไม่ได้ คนแห่ออกนอกกันหมด หันมาเอเซียตั้งรกราน อะไรทำให้พวกมรึงต้องเจอสภาพนี้ คำตอบเดียว "ปชต.ตอแหลไงล่ะ" ที่มรึงได้แต่ขี้ข้ายิว นักการเมืองทาสทุนสามานย์ ออกกฎหมายเอาเปรียบชาวบ้าน การเมืองมีไปทำไม ทั้งๆ ที่มรึงเลือกตรงได้ หรือโหวตเลือกผู้นำมรึงได้เอง โดยไม่ต้องผ่านขบวนการทางการเมือง พรรคการเมืองรับใช้ใคร นักการเมืองรับใช้ใคร วิธีแก้ง่ายนิดเดียว แค่มรึงต้องหาคนที่ทำเพื่อส่วนรวม ไม่เป็นขี้ข้ายิว และขบวนการเกาะแดร๊กแผ่นดิน ซึ่งมันหาไม่ได้ดอก เพราะอียิวมันคุมทุกอย่างไว้หมดแล้ว จะรอดต้องกำจัดอิทธิพลยิว แหล่งเงินยิว และขี้ข้ายิวตามหน่วยงานทั้งหมด หัวไม่ดี จะหวังอนาคตจากไหน? ยุโรปโง่มาเป้นศตวรรษ มรึงหวังจะให้มันฉลาดทันทีคงยาก เพราะ EGO มันแรง ขนาดถึงตายยังยอม? ล่าสุด อีลอน มัสก์ แอบคุยอิหร่าน มรึงคิดว่า ใครส่งมาให้คุยกันล่ะ? โครงการสเปซ X ของมัน จะไปไหนไม่ได้ไกล หากไม่ร่วมกับขั้วใหม่ อิหร่านถูกจับตาว่าคุยง่ายที่สุด เพราะพลังงาน และเทคโนโลยีอวกาศ สามารถเชื่อมต่อกันได้ พูดง่ายๆ คือ มรึงมาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ขั้วใหม่ นัยยะคือ ขอความปราณีอียิวสิน่ะ อยู่ที่อิหร่านว่า "จำเป็นต้องคบมรึงมั้ย?" โครงการอีลอน มัสก์ มันได้แค่นั้นแหละ จะไปไกลกว่านี้ จำเป็นต้องพึ่งพาเครือข่ายระดับโลก อย่างจีน รัสเซีย ถึงได้พยายามผ่านมาทางอิหร่าน ควายยังรู้? เพื่อลดกระแสต่อต้านยิว และได้เทคโนโลยีเชื่อมต่อ เพราะดาวเทียมอิหร่านเชื่อมต่อทั้งรัสเซีย จีน โสมแดง ดอกนี้ จับตาดูว่า มันจะทำสำเร็จหรือไม่? อิหร่านไม่โง่ อะไรล่ะ? ที่อิหร่านต้องการมาโดยตลอด? อีทรัมปป์ เอา อีลอน มัสก์ เข้าพวก ย่อมต้องรู้ดีว่า เพื่อประโยชน์อะไร? เกมส์โลกเตรียมพลิก กูเคยบอกแล้วไงล่ะว่า อะไรที่มรึงไม่เชื่อ ไม่คาดคิด อาจจะเกิดขึ้นได้หมด จากเหี้ยกลายร่างเป็นคนดี ขึ้นมา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะแสงทำงาน เหี้ยยังไง ก็ต้องรู้เอาตัวรอด? ยังจะมีอะไรให้มรึงช็อคแดร๊กอีกเรื่อยๆ ข่าวดีจะมาเรื่อยๆ จนมรึงแปลกใจ!หมี CNN(สงครามกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ การเมืองกลายเป็นเรื่องน่าชัง ผู้คนทั้งโลกจะจับมือกัน ไม่เอาเหี้ย ไม่เอาสงคราม ไม่เอามาเฟีย ศาลเตี้ย ขั้วใหม่จะเกิดเต็มอัตราศึก ผู้คนเบื่อหน่าย ผู้คนหิวโหย ผู้คนมีความหวัง โลกเดินตามรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เพื่อหวังอนาคตใหม่ที่สดใสกว่า โลกจะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว กฎหมาจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป BRICS เชื่อมโลกแล้ว)16 พฤศจิกายน 6715.58 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดมูลเหตุสุดพีค!ที่มาหมายจับ"กฤษอนงค์"ทำไม?ต้องเป็นศาลอาญาทุจริตฯ 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    เปิดมูลเหตุสุดพีค!ที่มาหมายจับ"กฤษอนงค์"ทำไม?ต้องเป็นศาลอาญาทุจริตฯ 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    Love
    14
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1452 มุมมอง 128 1 รีวิว
  • หวยออกแล้ว!ศาลอนุมัติหมายจับ “เจ๊พัช กฤษอนงค์” 2 ข้อหาหนัก! 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    หวยออกแล้ว!ศาลอนุมัติหมายจับ “เจ๊พัช กฤษอนงค์” 2 ข้อหาหนัก! 16/11/67 #กฤษอนงค์ #เจ๊พัช #กรรโชกทรัพย์ #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1435 มุมมอง 108 1 รีวิว
  • ใกล้ออกหมายจับเต็มที บิ๊กเต่าหวั่น นักร้องสาวหลบหนี 15/11/67 #นักร้อง ก. #กฤษอนงค์ #คดีตบทรัพย์ #บอสพอล
    ใกล้ออกหมายจับเต็มที บิ๊กเต่าหวั่น นักร้องสาวหลบหนี 15/11/67 #นักร้อง ก. #กฤษอนงค์ #คดีตบทรัพย์ #บอสพอล
    Like
    Love
    19
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1595 มุมมอง 163 0 รีวิว
  • เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ
    .
    มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล
    .
    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ
    .
    บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด
    .
    "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ
    .
    ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ
    .
    ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น"
    ..............
    Sondhi X
    เตรียมปราบแก๊งตบทรัพย์ 'บิ๊กเต่า' สอบเข้มทุกกรณี คาดมีบอสโดนไถอีกเพียบ . มหากาพย์ข่าว The Icon เวลานี้ถือว่าขยายวงไปไกลมาก โดยไม่ได้มีเพียงเฉพาะการเอาผิดกับกลุ่มผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังพบขบวนการตบทรัพย์ของบรรดาของบุคคลที่สวมสูทแสร้งทำตัวเป็นคนดีด้วย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ที่มีการเรียกรับเงิน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล . พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคึบหน้าในการสอบสวนนักตบทรัพย์ว่า กรณีคลิปเสียงของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสพอล จำนวน 300,000 บาท และ 450,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้วถึง 80-90% และจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นในส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือหมายจับ . บิ๊กเต่า ระบุอีกว่า ส่วนกรณีเรื่องต่อมาคือเรื่องใหม่ที่ทนายของ นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีระหว่าง น.ส.กฤษอนงค์ กับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ที่มีการกล่าวอ้างชื่อหนุ่ม กรรชัย และรายการโหนกระแสไปเรียกรับเงินจากบอสปันและบอสพอล จำนวน 20 ล้านบาทนั้น ในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของ กก.1 บก.ป. เบื้องต้นในส่วนที่หนุ่ม กรรชัย แจ้งความเอาผิด 2 บุคคลดังกล่าวในข้อหาพยายามฉ้อโกงและหมิ่นประมาท และจากหลักฐานที่ได้มายืนยันว่าคลิปเสียงไม่ได้มีการตัดต่อแต่อย่างใด และขณะนี้ก็ได้มีการประสานทนายบอสพอลเพื่อให้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทนายบอสพอลยืนยันว่าจะดำเนินคดีด้วย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด . "คาดว่ายังมีบอสอีกหลายคนที่ถูกกระทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นเรื่องๆ ไปก่อน" บิ๊กเต่า ระบุ . ด้าน นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเสียงผู้หญิงในคลิปบันทึกเสียงดังกล่าวเป็นตัวเองจริง แต่คลิปเสียงมีการตัดตอนออกบางช่วง ส่วนจำนวนเงิน 20 ล้านบาทนั้น เป็นค่าแผนงานโครงสร้างธุรกิจ เช่น งบประชาสัมพันธ์, เงินเยียวยาผู้เสียหาย โดยเงินจำนวนนี้เกิดจากพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทดิไอคอน ที่ประเมินมูลค่าแผนงานดังกล่าวมาจากขนาดธุรกิจ . ไที่ตัวเองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน จำนวน 89 คน ให้ได้รับเงินเยียวยา จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์มีความแค้น" .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 0 รีวิว
  • ️ประธานาธิบดีคนใหม่ ทรัมป์ ได้วางแผน 10 ประการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของ Deep State

    1. ฟื้นคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต

    2. ไล่ผู้กระทำทุจริตออกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรอง
    3. ปฏิรูปศาล FISA ซึ่ง "ทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจว่าศาลจะโกหกหรือไม่เมื่อศาลออกหมายจับ

    4. จัดตั้งคณะกรรมการความจริงและการปรองดองเพื่อเปิดเผยและเผยแพร่เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสอดส่อง การเซ็นเซอร์ และการทุจริตของ Deep State

    5. ปราบปรามผู้รั่วไหลข้อมูลของรัฐบาลที่สมคบคิดกับข่าวปลอมเพื่อสร้างเรื่องราวเท็จโดยเจตนาและล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตยของเรา

    6. ทำให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระและแยกออกจากแผนกที่พวกเขากำกับดูแล

    7. ขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบหน่วยข่าวกรองของเราและให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้สอดส่องพลเมืองของเราหรือดำเนินการรณรงค์ข้อมูลเท็จต่อชาวอเมริกัน

    8. ย้ายส่วนต่างๆ ของระบบราชการของรัฐบาลกลางที่ขยายตัวออกไปไปยังสถานที่ใหม่นอกวอชิงตัน "เช่นเดียวกับที่ฉันย้ายสำนักงานจัดการที่ดินไปที่โคโลราโด"

    9. ห้ามข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วย และห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางควบคุมดูแล "เช่นเดียวกับบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่"

    10. ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา

    ไม่มีเวลาให้เสียเปล่า!

    ทรัมป์สัญญาที่จะปราบปรามกลุ่มคนข้ามเพศ:

    1. คำสั่งฝ่ายบริหารที่จะห้ามหน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งเสริมหรือให้ทุนสนับสนุน "การเปลี่ยนเพศ" สำหรับทุกวัย

    2. เรียกร้องให้รัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันผ่านร่างกฎหมายที่:

    - หยุดการให้ทุนเพื่อจ่ายสำหรับ "การผ่าตัดแปลงเพศ"

    - ห้าม "การผ่าตัดแปลงเพศ" สำหรับเด็กทั่วประเทศ

    - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟ้องร้อง "แพทย์" ที่เรียกตัวเองว่า "แพทย์" ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศกับเด็กได้

    - กำหนดให้รัฐบาลกลางรับรองเฉพาะเพศ "ชาย" และ "หญิง" ที่กำหนดตั้งแต่แรกเกิดเท่านั้น

    3. สั่งให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (เช่น คลีฟแลนด์คลินิก เมโยคลินิก จอห์นฮอปกินส์) เพื่อพิจารณาว่า "การดูแลที่ยืนยันเพศ" ที่เรียกว่านั้นส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่
    ️ประธานาธิบดีคนใหม่ ทรัมป์ ได้วางแผน 10 ประการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของ Deep State 1. ฟื้นคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต 2. ไล่ผู้กระทำทุจริตออกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรอง 3. ปฏิรูปศาล FISA ซึ่ง "ทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจว่าศาลจะโกหกหรือไม่เมื่อศาลออกหมายจับ 4. จัดตั้งคณะกรรมการความจริงและการปรองดองเพื่อเปิดเผยและเผยแพร่เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสอดส่อง การเซ็นเซอร์ และการทุจริตของ Deep State 5. ปราบปรามผู้รั่วไหลข้อมูลของรัฐบาลที่สมคบคิดกับข่าวปลอมเพื่อสร้างเรื่องราวเท็จโดยเจตนาและล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตยของเรา 6. ทำให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระและแยกออกจากแผนกที่พวกเขากำกับดูแล 7. ขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบหน่วยข่าวกรองของเราและให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้สอดส่องพลเมืองของเราหรือดำเนินการรณรงค์ข้อมูลเท็จต่อชาวอเมริกัน 8. ย้ายส่วนต่างๆ ของระบบราชการของรัฐบาลกลางที่ขยายตัวออกไปไปยังสถานที่ใหม่นอกวอชิงตัน "เช่นเดียวกับที่ฉันย้ายสำนักงานจัดการที่ดินไปที่โคโลราโด" 9. ห้ามข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วย และห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางควบคุมดูแล "เช่นเดียวกับบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่" 10. ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา ไม่มีเวลาให้เสียเปล่า! ทรัมป์สัญญาที่จะปราบปรามกลุ่มคนข้ามเพศ: 1. คำสั่งฝ่ายบริหารที่จะห้ามหน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งเสริมหรือให้ทุนสนับสนุน "การเปลี่ยนเพศ" สำหรับทุกวัย 2. เรียกร้องให้รัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันผ่านร่างกฎหมายที่: - หยุดการให้ทุนเพื่อจ่ายสำหรับ "การผ่าตัดแปลงเพศ" - ห้าม "การผ่าตัดแปลงเพศ" สำหรับเด็กทั่วประเทศ - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟ้องร้อง "แพทย์" ที่เรียกตัวเองว่า "แพทย์" ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศกับเด็กได้ - กำหนดให้รัฐบาลกลางรับรองเฉพาะเพศ "ชาย" และ "หญิง" ที่กำหนดตั้งแต่แรกเกิดเท่านั้น 3. สั่งให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (เช่น คลีฟแลนด์คลินิก เมโยคลินิก จอห์นฮอปกินส์) เพื่อพิจารณาว่า "การดูแลที่ยืนยันเพศ" ที่เรียกว่านั้นส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาทีนี้คดีสแกมเมอร์ทิพย์ สามสิบเก้าล้าน กําลังเป็นที่สนใจของประชาชนมากที่สุด มีแต่คนอยากรู้ว่า เมื่อไหร่กองปราบปรามจะออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่แบ่งหน้าที่กันหลอกลวงพี่อ้อย จตุพร
    คนที่อยู่ในข่ายแน่นอนแล้วก็คือนางสาวสาริณี นุชฌนาถ แล้วก็นายนุ สามีของ สาริณีซึ่งเป็นเพื่อนกับทนายตั้ม ตอนแรกพี่อ้อยเองก็สงสัยแค่สองสามีภรรยานี้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับทนายตั้ม ส่งผลให้ทนายตั้มรอดคดีนี้มาได้ในการออกหมายจับครั้งที่ผ่านมา โดนเพียงแค่สามคดีคือฉ้อโกงแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้าน คดีรถเบนซ์สิบสามล้านและคดีออกแบบโรงแรมเก้าล้าน
    แต่ตอนนี้กองปราบปรามได้หลักฐานแน่นอนแล้วว่าทนายตั้มรับเงินส่วนแบ่งจากแผนการครั้งนี้อีกทั้งคําให้การของพันตํารวจเอกภูวดล อุ่นโภช เพื่อนรักของบิ๊กโจ๊ก ก็ระบุว่าทนายตั้มเป็นคนโทรมาแจ้งเองเลยว่าจะส่งคนมาแจ้งความที่สน บางซื่อในวันดังกล่าวเป็นเบาะแสสําคัญมากที่ยืนยันถ้านายตั้มรู้เห็นกับขบวนการแจ้งความทิพย์เพื่อสร้างเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ไปหลอกลวงพี่อ้อย
    โดยน่าจะเป็นคนวางแผนและบงการเองเพราะฉะนั้นหมายจับระลอกสองจะออกมาอย่างแน่นอนในไม่กี่วันนี้ โดยทนายตั้มจะโดนอีกข้อหาพร้อมกับสาริณีและนุ อย่างต่ํา3 คน อาจมีมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ขึ้นอยู่กับเส้นเงินจะโยงไปถึงใครมาว่ากันถึงคดีโกงดื้อดื้อเจ็ดสิบเอ็ดล้าน ตอนนี้แนวทางการต่อสู้คดีของทนายตั้มซึ่งพูดผ่านทนายลูกน้องของเขาเองอย่างทนายสายหยุด แล้วก็เพื่อนรักที่ช่วยเป็นโฆษกประโคมข่าวให้อย่างทนายเดชาจะเป็นแนวพลิกลิ้นกลับคําไม่เอาแล้วได้เงิน 71ล้านโดยเสน่หา คงประเมินแล้วมีแต่แพ้กับแพ้เปลี่ยนมาเป็นพี่อ้อยให้เงินทนายตั้มไปลงทุนโดยไม่ได้เสน่หา ส่วนที่ทนายตั้มเคยเที่ยวไปพูดออกสื่อหลายครั้งว่าได้มาโดยเสน่หานั้นโทรโข่งเดชา โม้ว่าทนายตั้มพูดเพื่อสับขาหลอกเท่านั้นจริงจริงวางแผนมาแต่แรกแล้วจะสู้คดีว่าเป็นเงินลงทุน แหม ช่างกล้าพูดราวคนฟังเค้ากินหญ้ามั้ง จุกกรู้ ถามว่าการพลิกเกมสู้คดีจากเงินเสน่หาเป็นเงินลงทุนจะช่วยให้คดีนี้หลุดจากคดีอาญาไปเป็นคดีแพ่งอย่างที่ทนายตั้มต้องการหรือไม่ คําตอบก็คือไม่มีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะการฉ้อโกงในลักษณะหลอกลงทุน ทนายตั้มมาขายฝันให้พี่อ้อยอ้างว่าตัวเองจะได้โควตาหวยรัฐมา มันเป็นเรื่องโกหกล้วนๆเป็นแค่โควตาหวยทิพย์ซึ่งไม่เคยมีจริงแม้แต่การไปติดต่อบริษัทโปรแกรมเมอร์ ทนายสายหยุดยังแก้ต่างคดีซื้อรถเบนซ์ด้วยว่าส่วนต่าง 1,500,000 ที่ทนายตั้มได้ไปนั้นเป็นค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายรถ ต้องบอกว่าเป็นแนวทางสู้คดีที่ปัญญาอ่อนฟังไม่ขึ้นเพราะปกติแล้วคนที่จ่ายค่าคอมมิชชั่น คือผู้ขายซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นบริษัทขายรถนั่นเองแต่นี่ ทนายตั้มอ้างว่าได้ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อหน้าตาเฉย
    ทนายตั้มเองก็เป็นที่ปรึกษากฎหมายของพี่อ้อยต้องคอยรักษาผลประโยชน์ของพี่อ้อยไม่ใช่มาฉกเงินไปโดยพลการ ไม่ได้แจ้งให้เจ้าของเงินรับทราบแล้วมาแก้ตัวทีหลังว่าเป็นค่าคอมมิชชั่น การแถสีข้างถลอกว่าได้รับค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อนั้นเหมือนใครกันน้า ติดตามข่าวซีฟแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    นาทีนี้คดีสแกมเมอร์ทิพย์ สามสิบเก้าล้าน กําลังเป็นที่สนใจของประชาชนมากที่สุด มีแต่คนอยากรู้ว่า เมื่อไหร่กองปราบปรามจะออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่แบ่งหน้าที่กันหลอกลวงพี่อ้อย จตุพร คนที่อยู่ในข่ายแน่นอนแล้วก็คือนางสาวสาริณี นุชฌนาถ แล้วก็นายนุ สามีของ สาริณีซึ่งเป็นเพื่อนกับทนายตั้ม ตอนแรกพี่อ้อยเองก็สงสัยแค่สองสามีภรรยานี้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับทนายตั้ม ส่งผลให้ทนายตั้มรอดคดีนี้มาได้ในการออกหมายจับครั้งที่ผ่านมา โดนเพียงแค่สามคดีคือฉ้อโกงแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้าน คดีรถเบนซ์สิบสามล้านและคดีออกแบบโรงแรมเก้าล้าน แต่ตอนนี้กองปราบปรามได้หลักฐานแน่นอนแล้วว่าทนายตั้มรับเงินส่วนแบ่งจากแผนการครั้งนี้อีกทั้งคําให้การของพันตํารวจเอกภูวดล อุ่นโภช เพื่อนรักของบิ๊กโจ๊ก ก็ระบุว่าทนายตั้มเป็นคนโทรมาแจ้งเองเลยว่าจะส่งคนมาแจ้งความที่สน บางซื่อในวันดังกล่าวเป็นเบาะแสสําคัญมากที่ยืนยันถ้านายตั้มรู้เห็นกับขบวนการแจ้งความทิพย์เพื่อสร้างเรื่องสแกมเมอร์ทิพย์ไปหลอกลวงพี่อ้อย โดยน่าจะเป็นคนวางแผนและบงการเองเพราะฉะนั้นหมายจับระลอกสองจะออกมาอย่างแน่นอนในไม่กี่วันนี้ โดยทนายตั้มจะโดนอีกข้อหาพร้อมกับสาริณีและนุ อย่างต่ํา3 คน อาจมีมากกว่านี้ก็เป็นไปได้ขึ้นอยู่กับเส้นเงินจะโยงไปถึงใครมาว่ากันถึงคดีโกงดื้อดื้อเจ็ดสิบเอ็ดล้าน ตอนนี้แนวทางการต่อสู้คดีของทนายตั้มซึ่งพูดผ่านทนายลูกน้องของเขาเองอย่างทนายสายหยุด แล้วก็เพื่อนรักที่ช่วยเป็นโฆษกประโคมข่าวให้อย่างทนายเดชาจะเป็นแนวพลิกลิ้นกลับคําไม่เอาแล้วได้เงิน 71ล้านโดยเสน่หา คงประเมินแล้วมีแต่แพ้กับแพ้เปลี่ยนมาเป็นพี่อ้อยให้เงินทนายตั้มไปลงทุนโดยไม่ได้เสน่หา ส่วนที่ทนายตั้มเคยเที่ยวไปพูดออกสื่อหลายครั้งว่าได้มาโดยเสน่หานั้นโทรโข่งเดชา โม้ว่าทนายตั้มพูดเพื่อสับขาหลอกเท่านั้นจริงจริงวางแผนมาแต่แรกแล้วจะสู้คดีว่าเป็นเงินลงทุน แหม ช่างกล้าพูดราวคนฟังเค้ากินหญ้ามั้ง จุกกรู้ ถามว่าการพลิกเกมสู้คดีจากเงินเสน่หาเป็นเงินลงทุนจะช่วยให้คดีนี้หลุดจากคดีอาญาไปเป็นคดีแพ่งอย่างที่ทนายตั้มต้องการหรือไม่ คําตอบก็คือไม่มีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะการฉ้อโกงในลักษณะหลอกลงทุน ทนายตั้มมาขายฝันให้พี่อ้อยอ้างว่าตัวเองจะได้โควตาหวยรัฐมา มันเป็นเรื่องโกหกล้วนๆเป็นแค่โควตาหวยทิพย์ซึ่งไม่เคยมีจริงแม้แต่การไปติดต่อบริษัทโปรแกรมเมอร์ ทนายสายหยุดยังแก้ต่างคดีซื้อรถเบนซ์ด้วยว่าส่วนต่าง 1,500,000 ที่ทนายตั้มได้ไปนั้นเป็นค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายรถ ต้องบอกว่าเป็นแนวทางสู้คดีที่ปัญญาอ่อนฟังไม่ขึ้นเพราะปกติแล้วคนที่จ่ายค่าคอมมิชชั่น คือผู้ขายซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นบริษัทขายรถนั่นเองแต่นี่ ทนายตั้มอ้างว่าได้ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อหน้าตาเฉย ทนายตั้มเองก็เป็นที่ปรึกษากฎหมายของพี่อ้อยต้องคอยรักษาผลประโยชน์ของพี่อ้อยไม่ใช่มาฉกเงินไปโดยพลการ ไม่ได้แจ้งให้เจ้าของเงินรับทราบแล้วมาแก้ตัวทีหลังว่าเป็นค่าคอมมิชชั่น การแถสีข้างถลอกว่าได้รับค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อนั้นเหมือนใครกันน้า ติดตามข่าวซีฟแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบช.ก.เผยยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่มร่วม "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" เผยยึดเงินสดในบัญชี 28 ล้าน และ บ้านหรู 43 ล้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108477

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบช.ก.เผยยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่มร่วม "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" เผยยึดเงินสดในบัญชี 28 ล้าน และ บ้านหรู 43 ล้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108477 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 987 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมายจับระลอกสอง จะออกมาอย่างแน่นอนในไม่กี่วันนี้ โดยทนายตั้ม จะโดนอีกข้อหา พร้อมคนในขบวนการ

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #39ล้าน #คดีสแกมเมอร์ทิพย์
    หมายจับระลอกสอง จะออกมาอย่างแน่นอนในไม่กี่วันนี้ โดยทนายตั้ม จะโดนอีกข้อหา พร้อมคนในขบวนการ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายตั้ม #39ล้าน #คดีสแกมเมอร์ทิพย์
    Like
    Haha
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 460 0 รีวิว
  • ลือสะพัด"ซินแส"เผ่นหนีกบดาน สปป.ลาว กองปราบ-สืบหนองคายระดมทีมหาข่าว ขณะที่เหยื่อทะลุ 66 ราย ยอดเสียหายพุ่ง 107 ล้านบาท รอง ผบก.ป.เร่งสอบจนท.ธนาคาร ปมเส้นเงิน ปัดข่าวลือหมายเรียก-หมายจับ ชี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108226

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ลือสะพัด"ซินแส"เผ่นหนีกบดาน สปป.ลาว กองปราบ-สืบหนองคายระดมทีมหาข่าว ขณะที่เหยื่อทะลุ 66 ราย ยอดเสียหายพุ่ง 107 ล้านบาท รอง ผบก.ป.เร่งสอบจนท.ธนาคาร ปมเส้นเงิน ปัดข่าวลือหมายเรียก-หมายจับ ชี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108226 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Yay
    25
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1217 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดจบ “ทนายษิทรา”? ฉ้อโกงโยงแก๊งฟอกเงิน
    .
    ผมเคยพูดมาตลอดว่าเวรกรรมมันมีจริง และปล่อยให้กรรมทำงานของมันไปดีกว่า ผมถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้วางแผนการ ทั้งๆที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งผมอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังไปแล้ว
    .
    นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดนหมายจับครั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนเขาได้ระบุชัดเจนเลยว่า "จากหลักฐานที่มีอยู่" เขาอนุมานและประเมินเรื่องราวต่างๆ ได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา มีส่วนร่วมกันฉ้อโกง
    .
    นั่นคือตำรวจทำคดีนี้ ไม่ได้มองว่างานนี้นายษิทราคนเดียวที่ทำ แต่ทำเป็นขบวนการ ตรงนี้ที่นายษิทราแพ้ แล้วยังมีทีเด็ดอีก ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ เอาเป็นว่ามันมีหลักฐานพิสูจน์ว่านายษิทรา เบี้ยบังเกิดนั้นรับรู้ในเรื่องเงิน 39 ล้านและก็ได้ส่วนแบ่งไปด้วย
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว จากการฉ้อโกงส่วนบุคคล กลายเป็นฉ้อโกงเป็นขบวนการ เมื่อฉ้อโกงเป็นขบวนการแล้ว ข้อหาฉ้อโกงธรรมดาก็ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เพิ่มข้อหาเป็น "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงอย่างเป็นสันดานนั่นเอง เจอเรื่องอะไรก็ฉ้อโกงมันหมดทุกเรื่อง
    .
    ผมอ่านตามหน้าไพ่ว่า ข้อแรก ข้อหาที่ตำรวจตั้งนั้นเป็นข้อหาที่รุนแรงหนัก ไม่ใช่ข้อหาธรรมดา "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงจนเป็นสันดาน เมื่อบวกการฟอกเงินเป็นข้อหาที่หนักมาก
    .
    ข้อที่สอง การที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิดปากเสีย ไปที่หน้ากองปราบ ไปโชว์ตัวและออกมาพูดถึงเนื้อหาในคดี ซึ่งข้างในอาคารเขากำลังสอบสวนอยู่ แล้วอ้างว่าตัวเองไม่ผิด อย่างโน้นอย่างนี้ นี่คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เหมือนกับข่มขู่คนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือข่มขู่พยานที่กำลังให้ปากคำอยู่
    .
    ข้อที่สามก็คือ แทนที่จะอยู่เพื่อให้จับ กลับขับรถหนีอ้างว่าไปไหว้หลวงพ่อโสธร
    .
    เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุสามข้อนี้ ตามที่ผมอ่านตามหน้าไพ่ ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวตามมูลเหตุดังที่ผมพูดมานี้ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่า ยื่นประกันตัวต่อไปในอนาคตก็ไม่ได้
    .
    มิหนำซ้ำ ระหว่างที่ฝากขังและสอบสวนษิทราอยู่ ตำรวจก็หาข้อมูล ก็อาจจะมีหมายจับออกมาเรื่อยๆ เพราะมันมีไม่ใช่เฉพาะ ษิทราและภรรยาเท่านั้น มีพี่ภรรยาอีก ซึ่งจะโดนหรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่ถ้าโดนผมก็ไม่ประหลาดใจ มีนายณุ และภรรยาชื่อ สา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน 39 ล้าน ก็อาจจะโดนหมายจับเช่นกัน แล้วผมยังมั่นใจว่าหมายจับยังจะต้องมีเพิ่มอีก
    .
    เชื่อหรือยังว่าเวรกรรมนั้นมันมีจริง ทำความชั่ว ทำร้ายผู้คนจำนวนมากจากการหลอกลวง ฉ้อโกงเขา ตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่นแล้ว เคยมีคดีลวนลามผู้หญิง หรือว่าพรากผู้เยาว์ ผมมีประวัติเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม เอาไว้วันหลังผมจะเรียบเรียงให้ฟัง
    จุดจบ “ทนายษิทรา”? ฉ้อโกงโยงแก๊งฟอกเงิน . ผมเคยพูดมาตลอดว่าเวรกรรมมันมีจริง และปล่อยให้กรรมทำงานของมันไปดีกว่า ผมถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กล่าวหาว่าผมอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้วางแผนการ ทั้งๆที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งผมอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังไปแล้ว . นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดนหมายจับครั้งนี้เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนเขาได้ระบุชัดเจนเลยว่า "จากหลักฐานที่มีอยู่" เขาอนุมานและประเมินเรื่องราวต่างๆ ได้ว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา มีส่วนร่วมกันฉ้อโกง . นั่นคือตำรวจทำคดีนี้ ไม่ได้มองว่างานนี้นายษิทราคนเดียวที่ทำ แต่ทำเป็นขบวนการ ตรงนี้ที่นายษิทราแพ้ แล้วยังมีทีเด็ดอีก ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ เอาเป็นว่ามันมีหลักฐานพิสูจน์ว่านายษิทรา เบี้ยบังเกิดนั้นรับรู้ในเรื่องเงิน 39 ล้านและก็ได้ส่วนแบ่งไปด้วย . เพราะฉะนั้นแล้ว จากการฉ้อโกงส่วนบุคคล กลายเป็นฉ้อโกงเป็นขบวนการ เมื่อฉ้อโกงเป็นขบวนการแล้ว ข้อหาฉ้อโกงธรรมดาก็ไม่ได้ใช้แล้ว ก็เพิ่มข้อหาเป็น "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงอย่างเป็นสันดานนั่นเอง เจอเรื่องอะไรก็ฉ้อโกงมันหมดทุกเรื่อง . ผมอ่านตามหน้าไพ่ว่า ข้อแรก ข้อหาที่ตำรวจตั้งนั้นเป็นข้อหาที่รุนแรงหนัก ไม่ใช่ข้อหาธรรมดา "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" ก็คือฉ้อโกงจนเป็นสันดาน เมื่อบวกการฟอกเงินเป็นข้อหาที่หนักมาก . ข้อที่สอง การที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิดปากเสีย ไปที่หน้ากองปราบ ไปโชว์ตัวและออกมาพูดถึงเนื้อหาในคดี ซึ่งข้างในอาคารเขากำลังสอบสวนอยู่ แล้วอ้างว่าตัวเองไม่ผิด อย่างโน้นอย่างนี้ นี่คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เหมือนกับข่มขู่คนที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือข่มขู่พยานที่กำลังให้ปากคำอยู่ . ข้อที่สามก็คือ แทนที่จะอยู่เพื่อให้จับ กลับขับรถหนีอ้างว่าไปไหว้หลวงพ่อโสธร . เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุสามข้อนี้ ตามที่ผมอ่านตามหน้าไพ่ ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว และถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวตามมูลเหตุดังที่ผมพูดมานี้ ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่า ยื่นประกันตัวต่อไปในอนาคตก็ไม่ได้ . มิหนำซ้ำ ระหว่างที่ฝากขังและสอบสวนษิทราอยู่ ตำรวจก็หาข้อมูล ก็อาจจะมีหมายจับออกมาเรื่อยๆ เพราะมันมีไม่ใช่เฉพาะ ษิทราและภรรยาเท่านั้น มีพี่ภรรยาอีก ซึ่งจะโดนหรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่ถ้าโดนผมก็ไม่ประหลาดใจ มีนายณุ และภรรยาชื่อ สา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน 39 ล้าน ก็อาจจะโดนหมายจับเช่นกัน แล้วผมยังมั่นใจว่าหมายจับยังจะต้องมีเพิ่มอีก . เชื่อหรือยังว่าเวรกรรมนั้นมันมีจริง ทำความชั่ว ทำร้ายผู้คนจำนวนมากจากการหลอกลวง ฉ้อโกงเขา ตั้งแต่หนุ่มตั้งแต่แน่นแล้ว เคยมีคดีลวนลามผู้หญิง หรือว่าพรากผู้เยาว์ ผมมีประวัติเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม เอาไว้วันหลังผมจะเรียบเรียงให้ฟัง
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 1 รีวิว
  • คดีทนายตั้ม ไม่ได้มีแค่คุณอ้อย

    กรณีที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน พร้อมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน

    คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์หลอกลวง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหาย โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริง เป็นเหตุให้คุณอ้อยหลงเชื่อส่งมอบเงินให้ต่างกรรมต่างวาระ ได้แก่ 1. หลอกลวงให้ลงทุนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ อ้างว่าต้องจ่ายค่าจ้างเขียนโปรแกรม 2 ล้านยูโร หรือกว่า 71 ล้านบาท 2. การจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ รุ่น จี 400 หลอกลวงว่าซื้อรถในราคา 12.93 ล้านบาท ทั้งที่ราคาเพียง 11.4 ล้านบาท คิดเป็นส่วนต่าง 1.53 ล้านบาท

    และ 3. หลอกลวงว่าได้ว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม มีค่าเขียนแบบ 9 ล้านบาท ทั้งที่ไปว่าจ้างบริษัทอื่นเขียนแบบเพียง 3.5 ล้านบาท ผู้เสียหายโอนเงินให้บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนถอนเงินไปมอบให้ ได้ส่วนต่าง 5.5 ล้านบาท ทั้ง 3 กรณีความเสียหายรวมกว่า 78 ล้านบาท

    ยังมีผู้เสียหายที่ชื่อ "เตอร์" โปรแกรมเมอร์ และ "มี่" ภรรยา ซึ่ง อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า นายษิทราว่าจ้างให้เขียนโปรแกรมลอตเตอรีออนไลน์ "นาคี" จำนวน 20 ล้านบาท แต่ให้เขียนสัญญาอีกฉบับ ระบุจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร อ้างว่าเป็นค่าซื้อสลาก ปรากฎว่าถึงกำหนดชำระเงิน 15 ก.พ. 2566 ไม่มีเงินเข้า แต่ไม่รู้ว่าสัญญาอีกฉบับ คุณอ้อยโอนเงินให้นายษิทราไปแล้ว 2 ล้านยูโร เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566

    ต่อมานายษิทราบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหน จะให้ก่อสร้างโรงแรม แต่ต้องเขียนแบบก่อน จึงทำใบเสนอราคา 9 ล้านบาท คุณอ้อยโอนเงินไปที่บริษัทของเตอร์และมี่ ก่อนส่งมอบเงินสดให้นายษิทรา ปรากฎว่าไม่ได้งาน เพราะนายษิทราจ้างบริษัทอื่นเขียนแบบในราคา 3.5 ล้านบาท ก่อนชักจูงให้ก่อสร้าง แต่คุณอ้อยพบความผิดปกติจึงยกเลิก นายษิทราสั่งให้เดินหน้า ภายหลังคุณอ้อยขอบอกเลิกสัญญา 2 ครั้ง นายษิทรากลับเสนอให้เตอร์และมี่ยื่นโนติสเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท ซึ่งเตอร์และมี่ให้การกับตำรวจในฐานะผู้เสียหายแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งมี "นุ" คนสนิทนายษิทรา และ "สาริณี" ภรรยาที่อ้างว่าถูกสแกมเมอร์หลอก และรับแคชเชียร์เช็คจากคุณอ้อย อยู่ในระหว่างการสืบสวนของตำรวจ

    #Newskit
    คดีทนายตั้ม ไม่ได้มีแค่คุณอ้อย กรณีที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน พร้อมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์หลอกลวง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหาย โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดข้อความจริง เป็นเหตุให้คุณอ้อยหลงเชื่อส่งมอบเงินให้ต่างกรรมต่างวาระ ได้แก่ 1. หลอกลวงให้ลงทุนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ อ้างว่าต้องจ่ายค่าจ้างเขียนโปรแกรม 2 ล้านยูโร หรือกว่า 71 ล้านบาท 2. การจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ รุ่น จี 400 หลอกลวงว่าซื้อรถในราคา 12.93 ล้านบาท ทั้งที่ราคาเพียง 11.4 ล้านบาท คิดเป็นส่วนต่าง 1.53 ล้านบาท และ 3. หลอกลวงว่าได้ว่าจ้างบริษัทแห่งหนึ่งเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม มีค่าเขียนแบบ 9 ล้านบาท ทั้งที่ไปว่าจ้างบริษัทอื่นเขียนแบบเพียง 3.5 ล้านบาท ผู้เสียหายโอนเงินให้บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนถอนเงินไปมอบให้ ได้ส่วนต่าง 5.5 ล้านบาท ทั้ง 3 กรณีความเสียหายรวมกว่า 78 ล้านบาท ยังมีผู้เสียหายที่ชื่อ "เตอร์" โปรแกรมเมอร์ และ "มี่" ภรรยา ซึ่ง อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวว่า นายษิทราว่าจ้างให้เขียนโปรแกรมลอตเตอรีออนไลน์ "นาคี" จำนวน 20 ล้านบาท แต่ให้เขียนสัญญาอีกฉบับ ระบุจำนวนเงิน 2 ล้านยูโร อ้างว่าเป็นค่าซื้อสลาก ปรากฎว่าถึงกำหนดชำระเงิน 15 ก.พ. 2566 ไม่มีเงินเข้า แต่ไม่รู้ว่าสัญญาอีกฉบับ คุณอ้อยโอนเงินให้นายษิทราไปแล้ว 2 ล้านยูโร เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 ต่อมานายษิทราบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหน จะให้ก่อสร้างโรงแรม แต่ต้องเขียนแบบก่อน จึงทำใบเสนอราคา 9 ล้านบาท คุณอ้อยโอนเงินไปที่บริษัทของเตอร์และมี่ ก่อนส่งมอบเงินสดให้นายษิทรา ปรากฎว่าไม่ได้งาน เพราะนายษิทราจ้างบริษัทอื่นเขียนแบบในราคา 3.5 ล้านบาท ก่อนชักจูงให้ก่อสร้าง แต่คุณอ้อยพบความผิดปกติจึงยกเลิก นายษิทราสั่งให้เดินหน้า ภายหลังคุณอ้อยขอบอกเลิกสัญญา 2 ครั้ง นายษิทรากลับเสนอให้เตอร์และมี่ยื่นโนติสเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท ซึ่งเตอร์และมี่ให้การกับตำรวจในฐานะผู้เสียหายแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งมี "นุ" คนสนิทนายษิทรา และ "สาริณี" ภรรยาที่อ้างว่าถูกสแกมเมอร์หลอก และรับแคชเชียร์เช็คจากคุณอ้อย อยู่ในระหว่างการสืบสวนของตำรวจ #Newskit
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts