• มิติใหม่! สื่อต่างชาติตีข่าว ชื่นชมตำรวจไทยรับมือ นทท.เมาสุดจึ้ง ! 07/12/67 #สื่อต่างชาติ #ตำรวจไทย #นักท่องเที่ยว #ประเทศไทย
    มิติใหม่! สื่อต่างชาติตีข่าว ชื่นชมตำรวจไทยรับมือ นทท.เมาสุดจึ้ง ! 07/12/67 #สื่อต่างชาติ #ตำรวจไทย #นักท่องเที่ยว #ประเทศไทย
    Like
    Haha
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1142 มุมมอง 62 1 รีวิว
  • คนในวงการต่างรู้ดี ว่าไอสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT: The Foreign Correspondents' Club of Thailand) เป็นเครื่องมือของชา.ติมหาอำนา.จและนายทุ.นต่างชา.ติ ที่อยู่เบื้องหลัง และให้ทุ.นในการโ.จมตี บ่อ.นทำลาย และปกป้องผ.ลประโย.ชน์นายทุ.นต่างชา.ติ แต่พรรคการเมืองที่อ้างชื่อประช.าชนมาเป็นชื่อพรรค กลับสมคบ.คิดกับมัน เพื่อสร้างเวทีในการอวดอ้างผลงาน และโจ.มตีฝ่ายตรงข้าม ออกสู่สายตาชาวโลกแบบมีอ.คติ และยังจัดฉากเปิดข.ายบัตรหาร.ายได้จากการจัดงาน เพื่อตบตาว่าเงิ.นที่ได้มาจากการขา.ยบัตร แต่แท้จริงแล้วเป็นเงิ.นจากนายทุ.นต่างช.าติสนับสนุน ที่ผ่านมา สมาคมนี้ก็ใช้ความเป็นสื่อต่างชาติ หลอกหาแด.กเงิ.นจากหน่วยงานภาครัฐของไทย ที่อยากสร้างภาพลักษณ์ไปสู่ชาวโลกผ่านสื่อต่างชาติมาตลอด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คนในวงการต่างรู้ดี ว่าไอสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT: The Foreign Correspondents' Club of Thailand) เป็นเครื่องมือของชา.ติมหาอำนา.จและนายทุ.นต่างชา.ติ ที่อยู่เบื้องหลัง และให้ทุ.นในการโ.จมตี บ่อ.นทำลาย และปกป้องผ.ลประโย.ชน์นายทุ.นต่างชา.ติ แต่พรรคการเมืองที่อ้างชื่อประช.าชนมาเป็นชื่อพรรค กลับสมคบ.คิดกับมัน เพื่อสร้างเวทีในการอวดอ้างผลงาน และโจ.มตีฝ่ายตรงข้าม ออกสู่สายตาชาวโลกแบบมีอ.คติ และยังจัดฉากเปิดข.ายบัตรหาร.ายได้จากการจัดงาน เพื่อตบตาว่าเงิ.นที่ได้มาจากการขา.ยบัตร แต่แท้จริงแล้วเป็นเงิ.นจากนายทุ.นต่างช.าติสนับสนุน ที่ผ่านมา สมาคมนี้ก็ใช้ความเป็นสื่อต่างชาติ หลอกหาแด.กเงิ.นจากหน่วยงานภาครัฐของไทย ที่อยากสร้างภาพลักษณ์ไปสู่ชาวโลกผ่านสื่อต่างชาติมาตลอด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1233 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สาเหตุที่ส้มกลับลำมาเชียร์อิ๊งอวยแม๊ว
    เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าพี่คิงส์โพธิ์แดงได้รับรู้แล้ว
    รู้สึกไม่สบายใจพอสมควร เพราะเมื่อใดที่ส้ม
    และแม๊วมีการเอี้ยเซียะกัน ซึ่งในวันนี้ขนาดพรรคปชป
    แม๊วยังเอามาร่วมรัฐบาลได้ นับประสาอะไร
    กับการที่พรรคส้มฝ่ายค้านจะเอี้ยเซียะกับแม๊วไม่ได้
    ง่ายกว่า ปชป เยอะแยะมากมาย
    เพราะฐานเดิม โทนี่ ก็ถือเป็นผู้หมิ่นฟ้าตัวแรกของประเทศ
    และสั่งสอนให้คนเสื้อแดงบางกลุ่ม จัดหนักจัดเต็ม
    และยังไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ บิดเบือน
    ให้แปดเปื้อนต่อสถาบันมาโดยตลอด
    ดังนั้น กรณี 112 ที่ธนาธรและพรรคส้มตั้งเป้าหมายไว้
    จริงๆแม๊วก็ไม่ได้ติดอะไรหรอก
    แต่ถ้าจะไล่เรียง ว่าสาเหตุอะไรที่วันนี้ พรรคส้มออกตัว
    จะสนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทย พี่คิงส์จะเหลาให้ฟังนะ
    1. วันนี้โทนี่ยังติดบ่วงเรื่อง 112 ซึ่งยากยิ่งต่อการหลบเลี่ยง ดังนั้น การออกกฏหมายนิรโทษกรรม พ่วง 112 จึงไม่ใช่ความต้องการสูงสุดของพรรคส้มเท่านั้น แต่รวมไปถึงแม๊วด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้านิรโทษกรรมพ่วง 112 สำเร็จ สัมพเวสีที่ก่อกรรมต่อสถาบันจะหลุดทันที และกลับมาย่ำยีมากยิ่งขึ้นอย่างหยุดไม่ได้ ทั้งกลุ่มทะลุวัง และที่ถูกตัดสิทธิ์ทั้งหลาย จะรอดมาได้อย่างชิลๆ
    2. แม๊วมีเป้าอย่างแน่วแน่ในการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อปลอดล็อค ทั้งเรื่องจริยธรรม และส่วนอื่นๆที่รัฐธรรมนูญปี 60 ได้บล็อคอำนาจไม่ให้โทนี่ทำอะไรดั่งใจเหมือนในอดีต รวมถึงบรรดารัฐมนตรีที่มีมลทินอีกหลายตัวก็อยากแก้เช่นกัน ถ้าแก้ได้ แม๊วจะกลายเป็นอมตะทางการเมือง แบบสืบทอดยาวๆแก้ไขได้ยากมาก
    3. นโยบายเรื่องคอมเพล็กที่แม๊วรับเงินกินเปล่ามาแล้วจากต่างชาติบางส่วน อันนี้ พรรคส้มยิ้มเลยเชียว เพราะนโยบายสอดคล้อง คะหรี่เสรี ทำแท๊งเสรี เอ วีถูกกฏหมาย และบรรดาเรื่องโสมมที่ก้าวไกลรักและผลักดันจะบรรเจิดแน่นอน
    4. การแก้กฏหมายเพื่อลดอำนาจศาล เรื่องนี้ แม๊วธร ได้ประโยชน์อย่างยิ่งยวด เรียกว่าปิดตาระบบนิติรัฐ ทำให้นักการเมืองแบบแม๊วธร ไม่มีสิ่งใดที่จะคานอำนาจได้อีกต่อไป
    นี่คือ 4 เหตุผลหลักที่จะอธิบาย
    ถึงความร่วมมือแบบกลับลำของพรรคส้มและเพื่อไทย
    ที่จากนี้ไป จะเห็นอะไรเลี่ยนๆอีกเยอะ
    สงสารจัง ประเทศไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #สาเหตุที่ส้มกลับลำมาเชียร์อิ๊งอวยแม๊ว เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าพี่คิงส์โพธิ์แดงได้รับรู้แล้ว รู้สึกไม่สบายใจพอสมควร เพราะเมื่อใดที่ส้ม และแม๊วมีการเอี้ยเซียะกัน ซึ่งในวันนี้ขนาดพรรคปชป แม๊วยังเอามาร่วมรัฐบาลได้ นับประสาอะไร กับการที่พรรคส้มฝ่ายค้านจะเอี้ยเซียะกับแม๊วไม่ได้ ง่ายกว่า ปชป เยอะแยะมากมาย เพราะฐานเดิม โทนี่ ก็ถือเป็นผู้หมิ่นฟ้าตัวแรกของประเทศ และสั่งสอนให้คนเสื้อแดงบางกลุ่ม จัดหนักจัดเต็ม และยังไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ บิดเบือน ให้แปดเปื้อนต่อสถาบันมาโดยตลอด ดังนั้น กรณี 112 ที่ธนาธรและพรรคส้มตั้งเป้าหมายไว้ จริงๆแม๊วก็ไม่ได้ติดอะไรหรอก แต่ถ้าจะไล่เรียง ว่าสาเหตุอะไรที่วันนี้ พรรคส้มออกตัว จะสนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทย พี่คิงส์จะเหลาให้ฟังนะ 1. วันนี้โทนี่ยังติดบ่วงเรื่อง 112 ซึ่งยากยิ่งต่อการหลบเลี่ยง ดังนั้น การออกกฏหมายนิรโทษกรรม พ่วง 112 จึงไม่ใช่ความต้องการสูงสุดของพรรคส้มเท่านั้น แต่รวมไปถึงแม๊วด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้านิรโทษกรรมพ่วง 112 สำเร็จ สัมพเวสีที่ก่อกรรมต่อสถาบันจะหลุดทันที และกลับมาย่ำยีมากยิ่งขึ้นอย่างหยุดไม่ได้ ทั้งกลุ่มทะลุวัง และที่ถูกตัดสิทธิ์ทั้งหลาย จะรอดมาได้อย่างชิลๆ 2. แม๊วมีเป้าอย่างแน่วแน่ในการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อปลอดล็อค ทั้งเรื่องจริยธรรม และส่วนอื่นๆที่รัฐธรรมนูญปี 60 ได้บล็อคอำนาจไม่ให้โทนี่ทำอะไรดั่งใจเหมือนในอดีต รวมถึงบรรดารัฐมนตรีที่มีมลทินอีกหลายตัวก็อยากแก้เช่นกัน ถ้าแก้ได้ แม๊วจะกลายเป็นอมตะทางการเมือง แบบสืบทอดยาวๆแก้ไขได้ยากมาก 3. นโยบายเรื่องคอมเพล็กที่แม๊วรับเงินกินเปล่ามาแล้วจากต่างชาติบางส่วน อันนี้ พรรคส้มยิ้มเลยเชียว เพราะนโยบายสอดคล้อง คะหรี่เสรี ทำแท๊งเสรี เอ วีถูกกฏหมาย และบรรดาเรื่องโสมมที่ก้าวไกลรักและผลักดันจะบรรเจิดแน่นอน 4. การแก้กฏหมายเพื่อลดอำนาจศาล เรื่องนี้ แม๊วธร ได้ประโยชน์อย่างยิ่งยวด เรียกว่าปิดตาระบบนิติรัฐ ทำให้นักการเมืองแบบแม๊วธร ไม่มีสิ่งใดที่จะคานอำนาจได้อีกต่อไป นี่คือ 4 เหตุผลหลักที่จะอธิบาย ถึงความร่วมมือแบบกลับลำของพรรคส้มและเพื่อไทย ที่จากนี้ไป จะเห็นอะไรเลี่ยนๆอีกเยอะ สงสารจัง ประเทศไทย #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
    ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว
    แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้
    รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย
    นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น
    ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว
    ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย
    เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต !
    เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
    เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น
    นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
    และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก
    มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน
    อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง
    ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร
    ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 6 (ตอนจบ) ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้ รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต ! เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 674 มุมมอง 0 รีวิว