• 🪸 ฟองน้ำกินเนื้อ “Death-Ball”

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบฟองน้ำสายพันธุ์ใหม่ในทะเลลึกแอนตาร์กติกา ที่ถูกเรียกว่า “death-ball sponge” เพราะมีลักษณะคล้ายลูกบอลและเป็นฟองน้ำกินเนื้อ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ที่ถูกบันทึกในการสำรวจครั้งนี้

    ฟองน้ำชนิดใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในสกุล Chondrocladia หรือที่รู้จักกันว่า “ping pong ball sponges” เพราะรูปร่างคล้ายลูกบอลเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บนก้าน แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูไม่อันตราย มันกลับมีตะขอจิ๋วที่ใช้จับสัตว์น้ำเล็ก ๆ เช่นครัสเตเชียนที่ว่ายผ่านไป

    การค้นพบในทะเลลึก
    การสำรวจโดยโครงการ Nippon Foundation–Nekton Ocean Census ในปี 2025 ใช้ยานควบคุมระยะไกล (ROV) ลงไปที่ความลึกกว่า 3,600 เมตร ใกล้เกาะ Montagu ในมหาสมุทรใต้ ผลลัพธ์คือการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ รวมถึงฟองน้ำกินเนื้อชนิดนี้ หนอนเกล็ดที่มีเกราะสะท้อนแสง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ

    ไฮไลท์ของภารกิจ
    นอกจากฟองน้ำแล้ว ทีมวิจัยยังบันทึกวิดีโอแรกของลูกหมึกยักษ์โคลอสซัลในวัยเด็ก และค้นพบระบบนิเวศใหม่ที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกออกจากธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา การค้นพบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่ยังไม่ถูกศึกษาในมหาสมุทรใต้

    ความหมายต่อวิทยาศาสตร์
    Michelle Taylor หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ Ocean Census ระบุว่า ปัจจุบันยังมีการวิเคราะห์ตัวอย่างเพียง 30% ของทั้งหมด แต่ก็สามารถยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่ได้แล้วกว่า 30 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความลึกลับและเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การค้นพบฟองน้ำกินเนื้อ
    ฟองน้ำ “death-ball” อยู่ในสกุล Chondrocladia
    ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน

    การสำรวจในมหาสมุทรใต้
    ใช้ ROV ลงไปที่ความลึก 3,601 เมตร
    พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์

    ไฮไลท์ของภารกิจ
    บันทึกวิดีโอลูกหมึกโคลอสซัลครั้งแรก
    พบระบบนิเวศใหม่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง

    ความหมายต่อวิทยาศาสตร์
    ยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์
    ยังมีตัวอย่างอีกมากที่รอการวิเคราะห์

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การค้นพบยังอยู่ในขั้นต้น ต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติม
    ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของฟองน้ำในระบบนิเวศยังไม่สมบูรณ์
    การสำรวจทะเลลึกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายสูง

    https://www.sciencealert.com/meet-the-latest-deep-sea-horror-meat-eating-death-ball-sponges
    🪸 ฟองน้ำกินเนื้อ “Death-Ball” นักวิทยาศาสตร์ค้นพบฟองน้ำสายพันธุ์ใหม่ในทะเลลึกแอนตาร์กติกา ที่ถูกเรียกว่า “death-ball sponge” เพราะมีลักษณะคล้ายลูกบอลและเป็นฟองน้ำกินเนื้อ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ที่ถูกบันทึกในการสำรวจครั้งนี้ ฟองน้ำชนิดใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในสกุล Chondrocladia หรือที่รู้จักกันว่า “ping pong ball sponges” เพราะรูปร่างคล้ายลูกบอลเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บนก้าน แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูไม่อันตราย มันกลับมีตะขอจิ๋วที่ใช้จับสัตว์น้ำเล็ก ๆ เช่นครัสเตเชียนที่ว่ายผ่านไป 🌊 การค้นพบในทะเลลึก การสำรวจโดยโครงการ Nippon Foundation–Nekton Ocean Census ในปี 2025 ใช้ยานควบคุมระยะไกล (ROV) ลงไปที่ความลึกกว่า 3,600 เมตร ใกล้เกาะ Montagu ในมหาสมุทรใต้ ผลลัพธ์คือการค้นพบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ รวมถึงฟองน้ำกินเนื้อชนิดนี้ หนอนเกล็ดที่มีเกราะสะท้อนแสง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ 🦑 ไฮไลท์ของภารกิจ นอกจากฟองน้ำแล้ว ทีมวิจัยยังบันทึกวิดีโอแรกของลูกหมึกยักษ์โคลอสซัลในวัยเด็ก และค้นพบระบบนิเวศใหม่ที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกออกจากธารน้ำแข็งในแอนตาร์กติกา การค้นพบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่ยังไม่ถูกศึกษาในมหาสมุทรใต้ 🔬 ความหมายต่อวิทยาศาสตร์ Michelle Taylor หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ Ocean Census ระบุว่า ปัจจุบันยังมีการวิเคราะห์ตัวอย่างเพียง 30% ของทั้งหมด แต่ก็สามารถยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่ได้แล้วกว่า 30 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความลึกลับและเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การค้นพบฟองน้ำกินเนื้อ ➡️ ฟองน้ำ “death-ball” อยู่ในสกุล Chondrocladia ➡️ ใช้ตะขอเล็ก ๆ จับสัตว์น้ำที่ว่ายผ่าน ✅ การสำรวจในมหาสมุทรใต้ ➡️ ใช้ ROV ลงไปที่ความลึก 3,601 เมตร ➡️ พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ ✅ ไฮไลท์ของภารกิจ ➡️ บันทึกวิดีโอลูกหมึกโคลอสซัลครั้งแรก ➡️ พบระบบนิเวศใหม่ใต้ภูเขาน้ำแข็ง ✅ ความหมายต่อวิทยาศาสตร์ ➡️ ยืนยันสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 30 สายพันธุ์ ➡️ ยังมีตัวอย่างอีกมากที่รอการวิเคราะห์ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การค้นพบยังอยู่ในขั้นต้น ต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติม ⛔ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของฟองน้ำในระบบนิเวศยังไม่สมบูรณ์ ⛔ การสำรวจทะเลลึกยังมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายสูง https://www.sciencealert.com/meet-the-latest-deep-sea-horror-meat-eating-death-ball-sponges
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Meet The Latest Deep-Sea Horror: Meat-Eating 'Death-Ball' Sponges
    Sponges are some of the simplest and least dangerous animals on Earth, but a new species seems to be shooting for a cooler reputation.
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • หนอนริบบิ้นอายุยืนที่สุดในโลก

    หนอนริบบิ้นสายพันธุ์ Baseodiscus punnetti ที่ชื่อเล่นว่า “B” กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea เท่าที่เคยบันทึกได้ โดยมีอายุราว 26–30 ปี การค้นพบนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อการศึกษาความยืนยาวของสัตว์ทะเล

    นักชีววิทยา Jon Allen จากมหาวิทยาลัย William & Mary ได้เลี้ยงหนอนริบบิ้นชื่อ “B” มาตั้งแต่ปี 2005 หลังจากได้รับมาจากมหาวิทยาลัย North Carolina ปัจจุบันการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมและการติดตามพฤติกรรมบ่งชี้ว่า B มีอายุอย่างน้อย 26 ปี และอาจใกล้ 30 ปี ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ที่เคยมีการบันทึก

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    ก่อนหน้านี้ ข้อมูลอายุของหนอนริบบิ้นแทบไม่มีการบันทึกเลย โดยตัวที่เคยมีรายงานมากที่สุดมีอายุเพียง 3 ปี การค้นพบนี้จึงเพิ่มขอบเขตความรู้ขึ้นถึงสิบเท่า และชี้ให้เห็นว่าหนอนริบบิ้นอาจมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทะเลในฐานะนักล่าที่มีอายุยืนยาวกว่าที่เคยเข้าใจ

    การเดินทางของ “B”
    ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา B ได้เดินทางไปหลายแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐวอชิงตันไปจนถึงเวอร์จิเนีย โดยถูกเลี้ยงในตู้ที่มีดินโคลนเพื่อให้มันเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมและสุขภาพของมันได้อย่างละเอียด

    ความหมายต่อการวิจัยอนาคต
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างความรู้เกี่ยวกับอายุขัยของสัตว์ทะเล แต่ยังอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต และนำไปสู่การศึกษาด้านชีววิทยาการชราภาพ รวมถึงการประเมินผลกระทบทางนิเวศวิทยาของสัตว์นักล่าที่มีอายุยืน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การค้นพบหนอนริบบิ้นอายุยืน
    “B” มีอายุราว 26–30 ปี
    เป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    เพิ่มข้อมูลอายุขัยจาก 3 ปีเป็น 30 ปี
    ชี้ให้เห็นบทบาทใหม่ในระบบนิเวศทะเล

    การเดินทางและการเลี้ยงดู
    ถูกเลี้ยงตั้งแต่ปี 2005 ในหลายรัฐของสหรัฐฯ
    ใช้ตู้ดินโคลนเพื่อจำลองสภาพธรรมชาติ

    ความหมายต่ออนาคตการวิจัย
    เปิดทางสู่การศึกษาเรื่องความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต
    อาจช่วยทำความเข้าใจชีววิทยาการชราภาพ

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ข้อมูลอายุยังคงเป็นการประมาณ ไม่ใช่วันเกิดที่แน่นอน
    การเลี้ยงในสภาพแวดล้อมควบคุมอาจไม่สะท้อนธรรมชาติทั้งหมด
    ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความยืนยาวในสายพันธุ์อื่น

    https://www.sciencealert.com/this-insanely-long-ribbon-worm-turns-out-to-be-the-oldest-on-record
    🪱 หนอนริบบิ้นอายุยืนที่สุดในโลก หนอนริบบิ้นสายพันธุ์ Baseodiscus punnetti ที่ชื่อเล่นว่า “B” กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea เท่าที่เคยบันทึกได้ โดยมีอายุราว 26–30 ปี การค้นพบนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อการศึกษาความยืนยาวของสัตว์ทะเล นักชีววิทยา Jon Allen จากมหาวิทยาลัย William & Mary ได้เลี้ยงหนอนริบบิ้นชื่อ “B” มาตั้งแต่ปี 2005 หลังจากได้รับมาจากมหาวิทยาลัย North Carolina ปัจจุบันการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมและการติดตามพฤติกรรมบ่งชี้ว่า B มีอายุอย่างน้อย 26 ปี และอาจใกล้ 30 ปี ซึ่งทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ที่เคยมีการบันทึก 🔬 ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ก่อนหน้านี้ ข้อมูลอายุของหนอนริบบิ้นแทบไม่มีการบันทึกเลย โดยตัวที่เคยมีรายงานมากที่สุดมีอายุเพียง 3 ปี การค้นพบนี้จึงเพิ่มขอบเขตความรู้ขึ้นถึงสิบเท่า และชี้ให้เห็นว่าหนอนริบบิ้นอาจมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศทะเลในฐานะนักล่าที่มีอายุยืนยาวกว่าที่เคยเข้าใจ 🌍 การเดินทางของ “B” ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา B ได้เดินทางไปหลายแห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่รัฐวอชิงตันไปจนถึงเวอร์จิเนีย โดยถูกเลี้ยงในตู้ที่มีดินโคลนเพื่อให้มันเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมและสุขภาพของมันได้อย่างละเอียด 🧩 ความหมายต่อการวิจัยอนาคต การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างความรู้เกี่ยวกับอายุขัยของสัตว์ทะเล แต่ยังอาจช่วยนักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต และนำไปสู่การศึกษาด้านชีววิทยาการชราภาพ รวมถึงการประเมินผลกระทบทางนิเวศวิทยาของสัตว์นักล่าที่มีอายุยืน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การค้นพบหนอนริบบิ้นอายุยืน ➡️ “B” มีอายุราว 26–30 ปี ➡️ เป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุมากที่สุดในกลุ่ม Nemertea ✅ ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ➡️ เพิ่มข้อมูลอายุขัยจาก 3 ปีเป็น 30 ปี ➡️ ชี้ให้เห็นบทบาทใหม่ในระบบนิเวศทะเล ✅ การเดินทางและการเลี้ยงดู ➡️ ถูกเลี้ยงตั้งแต่ปี 2005 ในหลายรัฐของสหรัฐฯ ➡️ ใช้ตู้ดินโคลนเพื่อจำลองสภาพธรรมชาติ ✅ ความหมายต่ออนาคตการวิจัย ➡️ เปิดทางสู่การศึกษาเรื่องความยืนยาวของสิ่งมีชีวิต ➡️ อาจช่วยทำความเข้าใจชีววิทยาการชราภาพ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ข้อมูลอายุยังคงเป็นการประมาณ ไม่ใช่วันเกิดที่แน่นอน ⛔ การเลี้ยงในสภาพแวดล้อมควบคุมอาจไม่สะท้อนธรรมชาติทั้งหมด ⛔ ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความยืนยาวในสายพันธุ์อื่น https://www.sciencealert.com/this-insanely-long-ribbon-worm-turns-out-to-be-the-oldest-on-record
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    This Insanely Long Ribbon Worm Turns Out to Be The Oldest on Record
    Biologist Jon Allen is the proud owner of the world's oldest ribbon worm on record.
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • โศกนาฏกรรมเพนกวินแอฟริกา 62,000 ตัวตายเพราะอดอาหาร

    งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นการลดลงอย่างรุนแรงของประชากร เพนกวินแอฟริกา (African penguin) บริเวณชายฝั่งแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2004–2011 มีเพนกวินโตเต็มวัยกว่า 62,000 ตัว เสียชีวิตจากการอดอาหาร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการทำประมงที่เข้มข้นเกินไป

    สาเหตุหลักของการอดอาหาร
    ปริมาณ ปลาซาร์ดีน (Sardinops sagax) ซึ่งเป็นอาหารหลักของเพนกวิน ลดลงเหลือเพียง 25% ของระดับสูงสุด
    การเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเล จากภาวะโลกร้อน ทำให้ปลาลดจำนวนลง
    อัตราการจับปลาซาร์ดีนสูงถึง 80% ในปี 2006 ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เพนกวินไม่สามารถสะสมพลังงานก่อนการผลัดขน (molt) ได้

    ผลกระทบต่อประชากรเพนกวิน
    การอดอาหารครั้งใหญ่ส่งผลให้ประชากรเพนกวินแอฟริกาลดลงถึง 95% ภายใน 8 ปี และในปี 2024 เหลือเพียง ไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ ทำให้ถูกจัดอยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ (Critically Endangered) หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าเพนกวินแอฟริกาอาจ สูญพันธุ์ภายในทศวรรษหน้า

    ความหมายต่อระบบนิเวศและมนุษย์
    การสูญเสียเพนกวินไม่ใช่เพียงการหายไปของสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่ยังสะท้อนถึงการล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลที่เชื่อมโยงกับมนุษย์โดยตรง ทั้งการประมง การท่องเที่ยว และความสมดุลของสิ่งแวดล้อม นักวิจัยเสนอว่าการจัดการประมงที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ทำเช่นนั้น เราอาจเห็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสัตว์ทะเลต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การตายหมู่ของเพนกวินแอฟริกา
    62,000 ตัวตายจากการอดอาหารระหว่างปี 2004–2011

    สาเหตุหลัก
    ปลาซาร์ดีนลดลงเหลือ 25% จากเดิม
    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำประมงเกินขนาด

    ผลกระทบต่อประชากร
    ลดลง 95% ใน 8 ปี เหลือไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ในปี 2024

    ความหมายต่อระบบนิเวศ
    สะท้อนถึงวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความจำเป็นในการจัดการประมงอย่างยั่งยืน

    คำเตือนจากนักวิจัย
    เพนกวินแอฟริกาอาจสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี หากไม่แก้ไขปัญหา

    ความเสี่ยงต่อมนุษย์
    การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลจะกระทบต่อการประมงและเศรษฐกิจโดยตรง

    https://www.sciencealert.com/62000-penguins-starved-to-death-off-south-africas-coast-last-decade-heres-why
    🐧 โศกนาฏกรรมเพนกวินแอฟริกา 62,000 ตัวตายเพราะอดอาหาร งานวิจัยใหม่เผยให้เห็นการลดลงอย่างรุนแรงของประชากร เพนกวินแอฟริกา (African penguin) บริเวณชายฝั่งแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2004–2011 มีเพนกวินโตเต็มวัยกว่า 62,000 ตัว เสียชีวิตจากการอดอาหาร เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการทำประมงที่เข้มข้นเกินไป 🌊 สาเหตุหลักของการอดอาหาร 💠 ปริมาณ ปลาซาร์ดีน (Sardinops sagax) ซึ่งเป็นอาหารหลักของเพนกวิน ลดลงเหลือเพียง 25% ของระดับสูงสุด 💠 การเปลี่ยนแปลงของ อุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเล จากภาวะโลกร้อน ทำให้ปลาลดจำนวนลง 💠 อัตราการจับปลาซาร์ดีนสูงถึง 80% ในปี 2006 ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ทำให้เพนกวินไม่สามารถสะสมพลังงานก่อนการผลัดขน (molt) ได้ ⚠️ ผลกระทบต่อประชากรเพนกวิน การอดอาหารครั้งใหญ่ส่งผลให้ประชากรเพนกวินแอฟริกาลดลงถึง 95% ภายใน 8 ปี และในปี 2024 เหลือเพียง ไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ ทำให้ถูกจัดอยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤติ (Critically Endangered) หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไป นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าเพนกวินแอฟริกาอาจ สูญพันธุ์ภายในทศวรรษหน้า 🌍 ความหมายต่อระบบนิเวศและมนุษย์ การสูญเสียเพนกวินไม่ใช่เพียงการหายไปของสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่ยังสะท้อนถึงการล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลที่เชื่อมโยงกับมนุษย์โดยตรง ทั้งการประมง การท่องเที่ยว และความสมดุลของสิ่งแวดล้อม นักวิจัยเสนอว่าการจัดการประมงที่ยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ทำเช่นนั้น เราอาจเห็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสัตว์ทะเลต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การตายหมู่ของเพนกวินแอฟริกา ➡️ 62,000 ตัวตายจากการอดอาหารระหว่างปี 2004–2011 ✅ สาเหตุหลัก ➡️ ปลาซาร์ดีนลดลงเหลือ 25% จากเดิม ➡️ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการทำประมงเกินขนาด ✅ ผลกระทบต่อประชากร ➡️ ลดลง 95% ใน 8 ปี เหลือไม่ถึง 10,000 คู่เพาะพันธุ์ในปี 2024 ✅ ความหมายต่อระบบนิเวศ ➡️ สะท้อนถึงวิกฤติสิ่งแวดล้อมและความจำเป็นในการจัดการประมงอย่างยั่งยืน ‼️ คำเตือนจากนักวิจัย ⛔ เพนกวินแอฟริกาอาจสูญพันธุ์ภายใน 10 ปี หากไม่แก้ไขปัญหา ‼️ ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ⛔ การล่มสลายของระบบนิเวศทางทะเลจะกระทบต่อการประมงและเศรษฐกิจโดยตรง https://www.sciencealert.com/62000-penguins-starved-to-death-off-south-africas-coast-last-decade-heres-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    62,000 Penguins Starved to Death Off South Africa's Coast Last Decade. Here's Why.
    A brutal confluence of environmental change and human fishing habits left tens of thousands of adult African penguins off South Africa's coast without enough food to survive, reducing their population by around 95 percent in just eight years, a new study reveals.
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน

    นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า

    วิธีการศึกษา
    ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้

    ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ
    การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน
    ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน

    การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้
    ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction

    การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ
    อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า

    การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต
    สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก

    ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    💡 “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า 🔬 วิธีการศึกษา ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้ 🐠 ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ 🚀 คำถามที่ยังค้างคา แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน ➡️ ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน ✅ การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction ✅ การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ ➡️ อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า ✅ การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต ➡️ สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก ‼️ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Bioluminescence on Earth Evolved Over 500 Million Years Ago, Study Finds
    In the darkest corners of the planet, where the light of the Sun never touches, eerie glows can yet be found, illuminating the shadows.
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • ข่าววิทยาศาสตร์: “ปลาหมึกแวมไพร์เผยรากเหง้าโบราณของหมึกและปลาหมึกยักษ์”

    นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเปิดเผยความลับจาก Vampyroteuthis infernalis หรือที่รู้จักกันว่า “ปลาหมึกแวมไพร์จากนรก” สิ่งมีชีวิตหายากในทะเลลึกที่ไม่ใช่ทั้งปลาหมึกหรือหมึกยักษ์ แต่เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ การวิเคราะห์จีโนมของมันพบว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์กลุ่มเซฟาโลพอดที่เคยถูกถอดรหัส โดยมีมากกว่า 11 พันล้านเบสเพียร์ ซึ่งใหญ่กว่าหมึกและหมึกยักษ์หลายเท่า

    สิ่งที่น่าทึ่งคือแม้ปลาหมึกแวมไพร์จะเป็นสัตว์แปดหนวด แต่ยังคงรักษาโครงสร้างโครโมโซมที่คล้ายกับสัตว์สิบหนวดอย่างปลาหมึกและหมึกกระดองไว้ได้ นักวิจัยเชื่อว่านี่คือหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า หมึกและหมึกยักษ์มีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อราว 300 ล้านปีก่อน และการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมในหมึกยักษ์อาจช่วยให้พวกมันพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เช่น ความฉลาดและการปรับตัวที่ซับซ้อน

    ปลาหมึกแวมไพร์ถูกจัดว่าเป็น “ฟอสซิลมีชีวิต” เพราะยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมจากบรรพบุรุษเมื่อกว่า 183 ล้านปีก่อน พร้อมทั้งปรับตัวให้สามารถอยู่รอดในทะเลลึกที่มืดและขาดออกซิเจนได้ การค้นพบนี้จึงเปรียบเสมือน “Rosetta Stone” ที่ช่วยไขความลับวิวัฒนาการของสัตว์กลุ่มเซฟาโลพอดทั้งหมด

    นักวิจัยยังพบว่า 62% ของจีโนมปลาหมึกแวมไพร์เป็นดีเอ็นเอซ้ำๆ ที่ไม่ได้สร้างโปรตีนใหม่ แต่ทำให้จีโนมมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมหาศาล การศึกษาเปรียบเทียบกับหมึกและหมึกยักษ์ชนิดอื่นๆ ยืนยันว่าโครงสร้างโครโมโซมของปลาหมึกแวมไพร์ยังคงใกล้เคียงกับบรรพบุรุษดั้งเดิมมากที่สุด ทำให้มันเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจวิวัฒนาการของสัตว์ทะเลลึกลับเหล่านี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบจีโนมปลาหมึกแวมไพร์
    มีจีโนมใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์เซฟาโลพอดกว่า 11 พันล้านเบสเพียร์
    62% ของจีโนมเป็นดีเอ็นเอซ้ำๆ

    ความสำคัญทางวิวัฒนาการ
    รักษาโครงสร้างโครโมโซมคล้ายสัตว์สิบหนวด
    บ่งชี้ว่าหมึกและหมึกยักษ์มีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อ 300 ล้านปีก่อน

    สถานะฟอสซิลมีชีวิต
    มีอายุทางสายวิวัฒนาการกว่า 183 ล้านปี
    ปรับตัวให้อยู่รอดในทะเลลึกที่มืดและขาดออกซิเจน

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การศึกษาอาศัยตัวอย่างที่หายากและได้จากการจับโดยบังเอิญ
    ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันบทบาทของโครโมโซมต่อการปรับตัวของหมึกยักษ์

    https://www.sciencealert.com/vampire-squid-from-hell-reveals-the-ancient-origins-of-octopuses
    🦑 ข่าววิทยาศาสตร์: “ปลาหมึกแวมไพร์เผยรากเหง้าโบราณของหมึกและปลาหมึกยักษ์” นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเปิดเผยความลับจาก Vampyroteuthis infernalis หรือที่รู้จักกันว่า “ปลาหมึกแวมไพร์จากนรก” สิ่งมีชีวิตหายากในทะเลลึกที่ไม่ใช่ทั้งปลาหมึกหรือหมึกยักษ์ แต่เป็นซากดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ การวิเคราะห์จีโนมของมันพบว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์กลุ่มเซฟาโลพอดที่เคยถูกถอดรหัส โดยมีมากกว่า 11 พันล้านเบสเพียร์ ซึ่งใหญ่กว่าหมึกและหมึกยักษ์หลายเท่า สิ่งที่น่าทึ่งคือแม้ปลาหมึกแวมไพร์จะเป็นสัตว์แปดหนวด แต่ยังคงรักษาโครงสร้างโครโมโซมที่คล้ายกับสัตว์สิบหนวดอย่างปลาหมึกและหมึกกระดองไว้ได้ นักวิจัยเชื่อว่านี่คือหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า หมึกและหมึกยักษ์มีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อราว 300 ล้านปีก่อน และการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมในหมึกยักษ์อาจช่วยให้พวกมันพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เช่น ความฉลาดและการปรับตัวที่ซับซ้อน ปลาหมึกแวมไพร์ถูกจัดว่าเป็น “ฟอสซิลมีชีวิต” เพราะยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมจากบรรพบุรุษเมื่อกว่า 183 ล้านปีก่อน พร้อมทั้งปรับตัวให้สามารถอยู่รอดในทะเลลึกที่มืดและขาดออกซิเจนได้ การค้นพบนี้จึงเปรียบเสมือน “Rosetta Stone” ที่ช่วยไขความลับวิวัฒนาการของสัตว์กลุ่มเซฟาโลพอดทั้งหมด นักวิจัยยังพบว่า 62% ของจีโนมปลาหมึกแวมไพร์เป็นดีเอ็นเอซ้ำๆ ที่ไม่ได้สร้างโปรตีนใหม่ แต่ทำให้จีโนมมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมหาศาล การศึกษาเปรียบเทียบกับหมึกและหมึกยักษ์ชนิดอื่นๆ ยืนยันว่าโครงสร้างโครโมโซมของปลาหมึกแวมไพร์ยังคงใกล้เคียงกับบรรพบุรุษดั้งเดิมมากที่สุด ทำให้มันเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจวิวัฒนาการของสัตว์ทะเลลึกลับเหล่านี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบจีโนมปลาหมึกแวมไพร์ ➡️ มีจีโนมใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์เซฟาโลพอดกว่า 11 พันล้านเบสเพียร์ ➡️ 62% ของจีโนมเป็นดีเอ็นเอซ้ำๆ ✅ ความสำคัญทางวิวัฒนาการ ➡️ รักษาโครงสร้างโครโมโซมคล้ายสัตว์สิบหนวด ➡️ บ่งชี้ว่าหมึกและหมึกยักษ์มีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อ 300 ล้านปีก่อน ✅ สถานะฟอสซิลมีชีวิต ➡️ มีอายุทางสายวิวัฒนาการกว่า 183 ล้านปี ➡️ ปรับตัวให้อยู่รอดในทะเลลึกที่มืดและขาดออกซิเจน ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การศึกษาอาศัยตัวอย่างที่หายากและได้จากการจับโดยบังเอิญ ⛔ ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันบทบาทของโครโมโซมต่อการปรับตัวของหมึกยักษ์ https://www.sciencealert.com/vampire-squid-from-hell-reveals-the-ancient-origins-of-octopuses
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Vampire Squid From Hell' Reveals The Ancient Origins of Octopuses
    The elusive 'vampire squid from hell' has just yielded the largest cephalopod genome ever sequenced, a monster clocking in at more than 11 billion base pairs – more than twice as large as the biggest squid genomes.
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • Kyocera พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารใต้น้ำด้วยเลเซอร์

    บริษัท Kyocera จากญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคโนโลยี Underwater Optical Communications (UWOC) ที่ใช้เลเซอร์ในการส่งข้อมูลใต้น้ำ ความเร็วสูงสุดถึง 5.2 Gbps ซึ่งเร็วกว่าระบบสื่อสารใต้น้ำแบบเสียงที่ทำได้เพียงไม่กี่ Mbps เท่านั้น จุดเด่นคือสามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโดรนใต้น้ำ เช่น ภาพถ่ายความละเอียดสูง วิดีโอสด และข้อมูลจากเซ็นเซอร์

    เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการตรวจสอบโครงสร้างใต้น้ำ เช่น ท่อส่งน้ำมัน สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือแม้แต่การติดตามสัตว์ทะเลที่ติดแท็กไว้ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการใช้งานทางทหาร เช่น การสื่อสารกับโดรนใต้น้ำจากเรือดำน้ำหรือเรือรบ

    อย่างไรก็ตาม UWOC มีข้อจำกัดคือระยะทางสั้น (ประมาณ 100 เมตร) และต้องใช้การมองเห็นตรง ๆ ระหว่างตัวส่งและตัวรับ หากมีสิ่งกีดขวาง เช่น ปลา หรือความขุ่นของน้ำ ก็อาจทำให้สัญญาณขาดหายได้ แต่ข้อดีคือยากต่อการดักฟังเมื่อเทียบกับสัญญาณเสียงที่กระจายไปทุกทิศทาง

    Kyocera พัฒนา UWOC ด้วยเลเซอร์ความเร็ว 5.2 Gbps
    เหมาะสำหรับโดรนใต้น้ำและการตรวจสอบโครงสร้าง

    มีศักยภาพใช้ในงานทหารและติดตามสัตว์ทะเล
    สามารถสื่อสารกับหลายเซ็นเซอร์พร้อมกัน

    ระยะทางจำกัดและต้องใช้ line-of-sight
    สิ่งกีดขวางหรือความขุ่นของน้ำอาจทำให้สัญญาณขาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/kyocera-develops-wireless-underwater-optical-communications-technology-uses-lasers-to-achieve-5-2-gbps-at-short-distances
    🌊 Kyocera พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารใต้น้ำด้วยเลเซอร์ บริษัท Kyocera จากญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคโนโลยี Underwater Optical Communications (UWOC) ที่ใช้เลเซอร์ในการส่งข้อมูลใต้น้ำ ความเร็วสูงสุดถึง 5.2 Gbps ซึ่งเร็วกว่าระบบสื่อสารใต้น้ำแบบเสียงที่ทำได้เพียงไม่กี่ Mbps เท่านั้น จุดเด่นคือสามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโดรนใต้น้ำ เช่น ภาพถ่ายความละเอียดสูง วิดีโอสด และข้อมูลจากเซ็นเซอร์ เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการตรวจสอบโครงสร้างใต้น้ำ เช่น ท่อส่งน้ำมัน สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือแม้แต่การติดตามสัตว์ทะเลที่ติดแท็กไว้ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการใช้งานทางทหาร เช่น การสื่อสารกับโดรนใต้น้ำจากเรือดำน้ำหรือเรือรบ อย่างไรก็ตาม UWOC มีข้อจำกัดคือระยะทางสั้น (ประมาณ 100 เมตร) และต้องใช้การมองเห็นตรง ๆ ระหว่างตัวส่งและตัวรับ หากมีสิ่งกีดขวาง เช่น ปลา หรือความขุ่นของน้ำ ก็อาจทำให้สัญญาณขาดหายได้ แต่ข้อดีคือยากต่อการดักฟังเมื่อเทียบกับสัญญาณเสียงที่กระจายไปทุกทิศทาง ✅ Kyocera พัฒนา UWOC ด้วยเลเซอร์ความเร็ว 5.2 Gbps ➡️ เหมาะสำหรับโดรนใต้น้ำและการตรวจสอบโครงสร้าง ✅ มีศักยภาพใช้ในงานทหารและติดตามสัตว์ทะเล ➡️ สามารถสื่อสารกับหลายเซ็นเซอร์พร้อมกัน ‼️ ระยะทางจำกัดและต้องใช้ line-of-sight ⛔ สิ่งกีดขวางหรือความขุ่นของน้ำอาจทำให้สัญญาณขาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/kyocera-develops-wireless-underwater-optical-communications-technology-uses-lasers-to-achieve-5-2-gbps-at-short-distances
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/watch?v=wlmgnMK0tXM
    เกมทายภาพสัตว์ทะเลสำหรับเด็ก ชุดที่ 1 | Sea Animals Guessing Game for Kids
    #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #สัตว์ทะเล
    https://www.youtube.com/watch?v=wlmgnMK0tXM เกมทายภาพสัตว์ทะเลสำหรับเด็ก ชุดที่ 1 | Sea Animals Guessing Game for Kids #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #สัตว์ทะเล
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 448 Views 0 Reviews
  • พบซากโลมาใกล้ซอยบางปู 104! เจ้าหน้าที่เร่งเก็บซาก...เตรียมพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
    https://www.thai-tai.tv/news/20838/
    .
    #โลมา #บางปู #สัตว์ทะเลหายาก #ข่าวบางปู #ไทยไท
    พบซากโลมาใกล้ซอยบางปู 104! เจ้าหน้าที่เร่งเก็บซาก...เตรียมพิสูจน์หาสาเหตุการตาย https://www.thai-tai.tv/news/20838/ . #โลมา #บางปู #สัตว์ทะเลหายาก #ข่าวบางปู #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • เกาะฟูก๊วก ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้
    ทะเลใส หาดสวย สนุก ครบจบในทริปเดียว!

    เดินทางได้ตั้งแต่ พ.ย. 68 - มี.ค. 69
    บินตรงสบาย ๆ กับ Thai VietJet Air (VZ)
    ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900.-

    ไฮไลท์ทริป
    นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก!
    พักผ่อนที่ Hon Thom Beach
    สนุกกับสวนสนุก + สวนน้ำระดับโลก VinWonders
    ชมสัตว์ทะเลที่ Vinpearl Aquarium
    สะพานจูบ Kiss Bridge + Mediterranean Town สุดโรแมนติก
    เดินตลาดกลางคืน Duong Dong
    ชมโชว์สุดตระการตาที่ Grand World Phu Quoc

    ไฟลท์บิน
    VZ980 BKK-PQC 09:20-10:40
    VZ981 PQC-BKK 11:45-13:05

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0b7a2

    ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/8d0826

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #PhuQuoc #เวียดนามใต้ #เที่ยวเวียดนาม #เกาะฟูก๊วก #กระเช้าทะเล #VinWonders #KissBridge #MediterraneanTown #DuongDongNightMarket #เที่ยวฟูก๊วก #GrandWorldPhuQuoc #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #กัมพูชา #สนธิ
    📣 เกาะฟูก๊วก ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ 🏝️✨ 🌊 ทะเลใส หาดสวย สนุก ครบจบในทริปเดียว! 📆 เดินทางได้ตั้งแต่ พ.ย. 68 - มี.ค. 69 ✈️ บินตรงสบาย ๆ กับ Thai VietJet Air (VZ) 💰 ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900.- 🌟 ไฮไลท์ทริป 🚠 นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก! 🏖️ พักผ่อนที่ Hon Thom Beach 🎢 สนุกกับสวนสนุก + สวนน้ำระดับโลก VinWonders 🐠 ชมสัตว์ทะเลที่ Vinpearl Aquarium 🌅 สะพานจูบ Kiss Bridge + Mediterranean Town สุดโรแมนติก 🌙 เดินตลาดกลางคืน Duong Dong 🎆 ชมโชว์สุดตระการตาที่ Grand World Phu Quoc 📍ไฟลท์บิน VZ980 BKK-PQC 09:20-10:40 VZ981 PQC-BKK 11:45-13:05 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0b7a2 ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/8d0826 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #PhuQuoc #เวียดนามใต้ #เที่ยวเวียดนาม #เกาะฟูก๊วก #กระเช้าทะเล #VinWonders #KissBridge #MediterraneanTown #DuongDongNightMarket #เที่ยวฟูก๊วก #GrandWorldPhuQuoc #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #กัมพูชา #สนธิ
    0 Comments 0 Shares 1218 Views 0 Reviews
  • การสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนเกิดภัยพิบัติเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเตือนภัยล่วงหน้าได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีการสังเกตตามประเภทภัยพิบัติ:

    ### **1. น้ำท่วม/ดินถล่ม**
    - **สังเกตระดับน้ำและสภาพน้ำ**:
    - น้ำในแม่น้ำ/ลำห้วยสูงขึ้นเร็วผิดปกติ หรือเปลี่ยนสีเป็นสีโคลนขุ่น
    - มีฟองอากาศหรือกลิ่นโคลนค่อนข้างฉุนบริเวณแหล่งน้ำ
    - **สภาพดินและสิ่งแวดล้อม**:
    - ดินบนภูเขาหรือทางลาดชันมีรอยแตกหรือนูนขึ้น
    - มีน้ำซึมออกมาจากเชิงเขาแม้ฝนไม่ตก
    - ต้นไม้เอียงล้มทิศทางเดียวกันหรือมีเสียงต้นไม้หัก
    - **พฤติกรรมสัตว์**:
    - หนู/งู อพยพขึ้นที่สูงผิดปกติ
    - มด/แมลงย้ายรังขึ้นที่สูง

    ### **2. แผ่นดินไหว**
    - **สัญญาณธรรมชาติ**:
    - **ท้องฟ้า**: แสงประหลาด (Earthquake Light) เช่น แสงสีฟ้า/เขียว (เกิดจากแรงเค้นทางธรณี)
    - **พฤติกรรมสัตว์**: สัตว์เลี้ยงตื่นตระหนก, นกบินวุ่นวาย, สัตว์เลื้อยคลานหนีออกมาจากรู
    - **ระดับน้ำ**: น้ำในบ่อ/บาดาลขุ่นหรือเปลี่ยนระดับกะทันหัน

    ### **3. สึนามิ**
    - **สัญญาณเตือนหลังแผ่นดินไหว**:
    - **น้ำทะเลถอยร่น**เร็วและไกลผิดปกติ (ชายหาดแห้งเกินปกติ)
    - ได้ยินเสียงคลื่นดังผิดปกติเหมือนรถไฟหรือเครื่องยนต์
    - **สัตว์ทะเล** เช่น ปลาหรือปูหนีขึ้นมาบนชายฝั่ง

    ### **4. พายุรุนแรง**
    - **สังเกตท้องฟ้าและบรรยากาศ**:
    - เมฆสีเขียวหรือดำคล้ำ (บ่งชี้ลูกเห็บหรือพายุทอร์นาโด)
    - ลมสงบกะทันหันก่อนพายุเข้า
    - **เมฆรูปฐานแบนเรียบ (Wall Cloud)** หรือเมฆหมุน

    ### **5. ภัยแล้ง**
    - **พืชพรรณธรรมชาติ**: ใบไม้เหี่ยว/เปลี่ยนสีเร็วกว่าฤดูกาล
    - **พฤติกรรมสัตว์**: สัตว์ป่าออกหาอาหารใกล้ชุมชน
    - **แหล่งน้ำ**: น้ำในบ่อ/หนองน้ำแห้งขอดเร็วผิดปกติ

    ### **แนวทางปฏิบัติเมื่อพบสัญญาณ**
    1. **ไม่ประมาท**: สัญญาณธรรมชาติไม่เสถียร 100% แต่ให้เตรียมพร้อม
    2. **ติดตามข้อมูล**: เช็คแอปฯ เตือนภัย (เช่น ThaiPBS, กรมอุตุนิยมวิทยา)
    3. **อพยพทันที** หาก:
    - ได้ยินเสียงคำรามใต้ดิน (ดินถล่ม)
    - น้ำทะเลถอยร่นผิดปกติ (สึนามิ)
    - แผ่นดินไหวรุนแรงจนยืนไม่ตรง

    ### **แหล่งข้อมูลไทย**
    - **แอปพลิเคชัน**: "THAI DISASTER ALERT" (โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
    - **เว็บไซต์**: [กรมอุตุนิยมวิทยา](https://www.tmd.go.th), [กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย](https://www.disaster.go.th)

    > **ข้อควรระวัง**: สัญญาณธรรมชาติเป็นเพียงเครื่องเตือนเบื้องต้น **ต้องผสมผสานกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์** และระบบเตือนภัยของทางการเสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด!
    การสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนเกิดภัยพิบัติเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเตือนภัยล่วงหน้าได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีการสังเกตตามประเภทภัยพิบัติ: ### **1. น้ำท่วม/ดินถล่ม** - **สังเกตระดับน้ำและสภาพน้ำ**: - น้ำในแม่น้ำ/ลำห้วยสูงขึ้นเร็วผิดปกติ หรือเปลี่ยนสีเป็นสีโคลนขุ่น - มีฟองอากาศหรือกลิ่นโคลนค่อนข้างฉุนบริเวณแหล่งน้ำ - **สภาพดินและสิ่งแวดล้อม**: - ดินบนภูเขาหรือทางลาดชันมีรอยแตกหรือนูนขึ้น - มีน้ำซึมออกมาจากเชิงเขาแม้ฝนไม่ตก - ต้นไม้เอียงล้มทิศทางเดียวกันหรือมีเสียงต้นไม้หัก - **พฤติกรรมสัตว์**: - หนู/งู อพยพขึ้นที่สูงผิดปกติ - มด/แมลงย้ายรังขึ้นที่สูง ### **2. แผ่นดินไหว** - **สัญญาณธรรมชาติ**: - **ท้องฟ้า**: แสงประหลาด (Earthquake Light) เช่น แสงสีฟ้า/เขียว (เกิดจากแรงเค้นทางธรณี) - **พฤติกรรมสัตว์**: สัตว์เลี้ยงตื่นตระหนก, นกบินวุ่นวาย, สัตว์เลื้อยคลานหนีออกมาจากรู - **ระดับน้ำ**: น้ำในบ่อ/บาดาลขุ่นหรือเปลี่ยนระดับกะทันหัน ### **3. สึนามิ** - **สัญญาณเตือนหลังแผ่นดินไหว**: - **น้ำทะเลถอยร่น**เร็วและไกลผิดปกติ (ชายหาดแห้งเกินปกติ) - ได้ยินเสียงคลื่นดังผิดปกติเหมือนรถไฟหรือเครื่องยนต์ - **สัตว์ทะเล** เช่น ปลาหรือปูหนีขึ้นมาบนชายฝั่ง ### **4. พายุรุนแรง** - **สังเกตท้องฟ้าและบรรยากาศ**: - เมฆสีเขียวหรือดำคล้ำ (บ่งชี้ลูกเห็บหรือพายุทอร์นาโด) - ลมสงบกะทันหันก่อนพายุเข้า - **เมฆรูปฐานแบนเรียบ (Wall Cloud)** หรือเมฆหมุน ### **5. ภัยแล้ง** - **พืชพรรณธรรมชาติ**: ใบไม้เหี่ยว/เปลี่ยนสีเร็วกว่าฤดูกาล - **พฤติกรรมสัตว์**: สัตว์ป่าออกหาอาหารใกล้ชุมชน - **แหล่งน้ำ**: น้ำในบ่อ/หนองน้ำแห้งขอดเร็วผิดปกติ ### **แนวทางปฏิบัติเมื่อพบสัญญาณ** 1. **ไม่ประมาท**: สัญญาณธรรมชาติไม่เสถียร 100% แต่ให้เตรียมพร้อม 2. **ติดตามข้อมูล**: เช็คแอปฯ เตือนภัย (เช่น ThaiPBS, กรมอุตุนิยมวิทยา) 3. **อพยพทันที** หาก: - ได้ยินเสียงคำรามใต้ดิน (ดินถล่ม) - น้ำทะเลถอยร่นผิดปกติ (สึนามิ) - แผ่นดินไหวรุนแรงจนยืนไม่ตรง ### **แหล่งข้อมูลไทย** - **แอปพลิเคชัน**: "THAI DISASTER ALERT" (โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) - **เว็บไซต์**: [กรมอุตุนิยมวิทยา](https://www.tmd.go.th), [กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย](https://www.disaster.go.th) > **ข้อควรระวัง**: สัญญาณธรรมชาติเป็นเพียงเครื่องเตือนเบื้องต้น **ต้องผสมผสานกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์** และระบบเตือนภัยของทางการเสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด!
    0 Comments 0 Shares 744 Views 0 Reviews
  • รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์
    ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์
    อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น:
    * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา
    * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป
    * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป
    * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์
    แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
    คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน ....
    ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน

    รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์ ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์ อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น: * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน .... ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน
    0 Comments 0 Shares 487 Views 0 Reviews
  • "ทราย สก๊อต"ไปเหยียบตีนใคร ที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ในทะเลไทย
    .
    “ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี อินฟลูเอนเซอร์หนุ่มลูกครึ่งไทย-สกอตต์แลนด์ ทายาทสิงห์รุ่น 4 หลานชายของคุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทรายเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านแอนิเมชันจากสหรัฐอเมริกาและเจ้าของสถิติว่ายน้ำทะเล 30 กม.ได้รับฉายาเป็น“อควาแมนเมืองไทย” ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯนายอรรถพล เจริญชันษา เมื่อต้นปี 2567 ด้วยภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ รักษ์ทะเล จริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม และสื่อสารเก่งผ่านโซเชียล
    .
    เขาทำงานเชิงรุกในภาคสนามอย่างเข้มข้น ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ผ่อนปรน ยอมหักไม่ยอมงอ ทั้งเตือนนักท่องเที่ยว ใช้กฎหมายจัดการผู้ละเมิดกฎอุทยาน ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเรือหรือไกด์ทัวร์ที่ให้อาหารสัตว์ทะเลหรือเหยียบปะการัง จนเกิดความไม่พอใจจากบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำคอนเทนต์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และพูดจาเหยียดหยามเจ้าหน้าที่
    .
    เหตุการณ์เริ่มต้นจากคลิป “หนีห่าว” ที่ทรายเข้าไปตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พูดจาเหยียดคนไทย ตามด้วยคดีฟ้องหมิ่นประมาทจากบริษัทเรือ ก่อกระแสโต้กลับหนักบนโซเชียลและในวงราชการ กระทั่งวันที่ 21 เม.ย. 2568 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาตินายอรรถพล เจริญชันษา มีคำสั่งปลดทรายออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า “มีความประพฤติไม่เหมาะสม เตือนแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุง ทำงานร่วมกับใครไม่ได้”
    .
    สังคมออนไลน์กลับมองต่าง ช่วยกันติดแฮชแท็ก #Saveทราย #คืนทรายให้ทะเล พร้อมตั้งคำถามว่า “เขาไปเหยียบตีนใครหรือเปล่า?” เพราะสิ่งที่ทรายพูดอาจเป็นการสะกิดรอยรั่วของระบบอุทยานฯ โดยเฉพาะพื้นที่ “ทำเงิน”ในอุทยานทางทะเล 4 แห่งคืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ก็ฟาดไปกว่าปีละ 500 ล้านบาท
    .
    ทรายยืนยันว่า “ไม่ได้ล้ำเส้น แค่ใช้กฎให้ถูกต้อง” พร้อมเปรยว่า “ผมเห็นเยอะเกินไป” เป็นประโยคที่หลายคนตีความว่า เขาอาจสัมผัสปัญหาหรือความหย่อนยานเชิงโครงสร้างในระบบราชการที่ไม่มีใครกล้าพูด
    .
    ขบวนการผลประโยชน์ที่ "ทราย สก๊อต" มองเห็นอยู่ ย่อมไม่มีผลดีต่อพวกที่คิดชั่ว ทำชั่วระบบเวียนตั๋ว-อุปถัมภ์-ผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช่แค่โกงตั๋ว ยังมีการจัดซื้อจัดจ้าง ส่อแววเอื้อพวกพ้อง ทั้งที่รายได้จากอุทยานทั่วประเทศปี 2567 พุ่งถึง 2,200 ล้านบาท แต่สวัสดิการพื้นฐานของเจ้าหน้าที่อุทยาน เช่น ประกันภัยยังแทบไม่มี “ทราย สก๊อต” เคยเสนอแนวคิดใช้เงินตรงนี้ดูแลคนทำงานจริง กลับถูกต้านจากระบบ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวจริงเป็น "ไอ้โม่ง" ที่อยู่ข้างหลัง คือตัวเบิ้มๆ ที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
    .
    นี่ล่ะ คือเบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณี "หนีห่าว" ของ "ทราย สก๊อต" ที่ไม่ได้จบแค่เรื่องการเหยียดคนไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเรื่องผลประโยชน์นับพันล้านของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเงื้อมมือของข้าราชการและนักการเมืองที่ตัดไม่ได้ขายไม่ออกด้วย
    .
    สำหรับคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั้น ท่านก็เคยมีวีรกรรมของท่านมากมายเหลือเกินสมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้วก็มีเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าการสั่งซื้อเรือราคาหลายร้อยล้านบาทนั้น มันออกมาจากคนไหน ท่านรัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย เป็นคนกระซิบคุณอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แต่ว่า คุณเฉลิมชัย อยู่ที่ไหน ที่นั่นไม่ค่อยจะสงบสุขเลย
    "ทราย สก๊อต"ไปเหยียบตีนใคร ที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ในทะเลไทย . “ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี อินฟลูเอนเซอร์หนุ่มลูกครึ่งไทย-สกอตต์แลนด์ ทายาทสิงห์รุ่น 4 หลานชายของคุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทรายเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านแอนิเมชันจากสหรัฐอเมริกาและเจ้าของสถิติว่ายน้ำทะเล 30 กม.ได้รับฉายาเป็น“อควาแมนเมืองไทย” ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯนายอรรถพล เจริญชันษา เมื่อต้นปี 2567 ด้วยภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ รักษ์ทะเล จริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม และสื่อสารเก่งผ่านโซเชียล . เขาทำงานเชิงรุกในภาคสนามอย่างเข้มข้น ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ผ่อนปรน ยอมหักไม่ยอมงอ ทั้งเตือนนักท่องเที่ยว ใช้กฎหมายจัดการผู้ละเมิดกฎอุทยาน ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเรือหรือไกด์ทัวร์ที่ให้อาหารสัตว์ทะเลหรือเหยียบปะการัง จนเกิดความไม่พอใจจากบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำคอนเทนต์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และพูดจาเหยียดหยามเจ้าหน้าที่ . เหตุการณ์เริ่มต้นจากคลิป “หนีห่าว” ที่ทรายเข้าไปตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พูดจาเหยียดคนไทย ตามด้วยคดีฟ้องหมิ่นประมาทจากบริษัทเรือ ก่อกระแสโต้กลับหนักบนโซเชียลและในวงราชการ กระทั่งวันที่ 21 เม.ย. 2568 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาตินายอรรถพล เจริญชันษา มีคำสั่งปลดทรายออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า “มีความประพฤติไม่เหมาะสม เตือนแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุง ทำงานร่วมกับใครไม่ได้” . สังคมออนไลน์กลับมองต่าง ช่วยกันติดแฮชแท็ก #Saveทราย #คืนทรายให้ทะเล พร้อมตั้งคำถามว่า “เขาไปเหยียบตีนใครหรือเปล่า?” เพราะสิ่งที่ทรายพูดอาจเป็นการสะกิดรอยรั่วของระบบอุทยานฯ โดยเฉพาะพื้นที่ “ทำเงิน”ในอุทยานทางทะเล 4 แห่งคืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ก็ฟาดไปกว่าปีละ 500 ล้านบาท . ทรายยืนยันว่า “ไม่ได้ล้ำเส้น แค่ใช้กฎให้ถูกต้อง” พร้อมเปรยว่า “ผมเห็นเยอะเกินไป” เป็นประโยคที่หลายคนตีความว่า เขาอาจสัมผัสปัญหาหรือความหย่อนยานเชิงโครงสร้างในระบบราชการที่ไม่มีใครกล้าพูด . ขบวนการผลประโยชน์ที่ "ทราย สก๊อต" มองเห็นอยู่ ย่อมไม่มีผลดีต่อพวกที่คิดชั่ว ทำชั่วระบบเวียนตั๋ว-อุปถัมภ์-ผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช่แค่โกงตั๋ว ยังมีการจัดซื้อจัดจ้าง ส่อแววเอื้อพวกพ้อง ทั้งที่รายได้จากอุทยานทั่วประเทศปี 2567 พุ่งถึง 2,200 ล้านบาท แต่สวัสดิการพื้นฐานของเจ้าหน้าที่อุทยาน เช่น ประกันภัยยังแทบไม่มี “ทราย สก๊อต” เคยเสนอแนวคิดใช้เงินตรงนี้ดูแลคนทำงานจริง กลับถูกต้านจากระบบ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวจริงเป็น "ไอ้โม่ง" ที่อยู่ข้างหลัง คือตัวเบิ้มๆ ที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ . นี่ล่ะ คือเบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณี "หนีห่าว" ของ "ทราย สก๊อต" ที่ไม่ได้จบแค่เรื่องการเหยียดคนไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเรื่องผลประโยชน์นับพันล้านของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเงื้อมมือของข้าราชการและนักการเมืองที่ตัดไม่ได้ขายไม่ออกด้วย . สำหรับคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั้น ท่านก็เคยมีวีรกรรมของท่านมากมายเหลือเกินสมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้วก็มีเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าการสั่งซื้อเรือราคาหลายร้อยล้านบาทนั้น มันออกมาจากคนไหน ท่านรัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย เป็นคนกระซิบคุณอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แต่ว่า คุณเฉลิมชัย อยู่ที่ไหน ที่นั่นไม่ค่อยจะสงบสุขเลย
    Like
    Love
    19
    1 Comments 0 Shares 2361 Views 0 Reviews
  • 91 ปี “เนสซี” เผยโฉม สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง?

    จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้

    ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ

    ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง...

    แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง?

    "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ

    จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น!

    ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย…

    ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม”

    พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง

    แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย

    ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น...

    โครงกระดูก

    ซากสัตว์

    ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100%

    DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่

    แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ

    รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์

    ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน

    โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ

    นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้

    ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง

    ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ

    ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ

    แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้

    จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด

    Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ

    ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง

    ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต

    ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น

    10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน
    1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร
    2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม
    3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก
    4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด
    5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ
    6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ
    7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง
    5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ
    9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี
    10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์

    ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568

    #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์
    #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง? จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้ ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️ ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง... แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง? 🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น! ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜 🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌ พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭 🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น... 🦴 โครงกระดูก 🐋 ซากสัตว์ 📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100% 🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่ แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์ ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้ 🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ 📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ 📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้ 🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด 🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต 🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น 📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน 1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร 2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม 3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก 4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด 5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ 6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ 7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง 5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ 9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี 10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰 🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍 แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568 📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์ #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    0 Comments 0 Shares 1485 Views 0 Reviews
  • เปิดโลกใต้ทะเลที่ Chimelong Ocean Kingdom

    Chimelong Ocean Kingdom
    เป็นหนึ่งใน Marine Theme Park ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
    ตั้งอยู่ที่เมืองจูไห่ ประเทศจีน

    มีโซนหลากหลายที่น่าสนใจ

    Ocean Avenue
    เป็นโซนแรกทางเข้าสวนสนุก มี Deep Sea Fantasy
    เป็นจอ LED ในท้องปลากระเบนขนาดใหญ่

    Dolphin Cove
    พบกับโลมาหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งการแสดงโลมา
    การให้อาหารโลมา และการว่ายน้ำกับโลมา

    Amazing Amazon
    โซนจำลองป่าฝนเขตร้อน มีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้น
    เช่น รถไฟเหาะนกแก้ว มีสัตว์ป่าหายากให้ชม

    Ocean Beauty
    สัมผัสประสบการณ์ท่องโลกใต้มหาสมุทร ราวกับได้นั่งอยู่ในเรือดำน้ำ
    ชมฉลามล่าเหยื่อในป่าสาหร่าย
    ตื่นตาตื่นใจกับอะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงเท่าตึก2ชั้น
    ชมปะการังหลากสีและพันธุ์ปลามากมาย

    Polar Horizon
    ผจญภัยขั้วโลกเหนือ นั่งเรือลอดธารน้ำแข็ง
    ชมเพนกวิ้น หมีขาว ชมโชว์พิเศษของวาฬเบลูกา

    Fun Zone
    โซนสวนสนุก โซนเครื่องเล่นต่างๆ

    Mountain Walrus
    ผจญภัย และใกล้ชิดกับสิงโตทะเล อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    ด้วยเครื่องเล่นสุดเร้าใจ และการแสดงแสนน่ารัก

    Hengqin Ocean
    ปิดท้ายวันอย่างอลังการกับโชว์สุดว้าว
    ชมขบวนพาเหรดสัตว์ทะเล ตื่นตาตื่นใจไปกับความน่ารัก

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จูไห่ #chimelongoceankingdom #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เปิดโลกใต้ทะเลที่ Chimelong Ocean Kingdom 💦 Chimelong Ocean Kingdom เป็นหนึ่งใน Marine Theme Park ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่เมืองจูไห่ ประเทศจีน มีโซนหลากหลายที่น่าสนใจ 📍 Ocean Avenue เป็นโซนแรกทางเข้าสวนสนุก มี Deep Sea Fantasy เป็นจอ LED ในท้องปลากระเบนขนาดใหญ่ 📍 Dolphin Cove พบกับโลมาหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งการแสดงโลมา การให้อาหารโลมา และการว่ายน้ำกับโลมา 📍 Amazing Amazon โซนจำลองป่าฝนเขตร้อน มีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้น เช่น รถไฟเหาะนกแก้ว มีสัตว์ป่าหายากให้ชม 📍 Ocean Beauty สัมผัสประสบการณ์ท่องโลกใต้มหาสมุทร ราวกับได้นั่งอยู่ในเรือดำน้ำ ชมฉลามล่าเหยื่อในป่าสาหร่าย ตื่นตาตื่นใจกับอะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงเท่าตึก2ชั้น ชมปะการังหลากสีและพันธุ์ปลามากมาย 📍 Polar Horizon ผจญภัยขั้วโลกเหนือ นั่งเรือลอดธารน้ำแข็ง ชมเพนกวิ้น หมีขาว ชมโชว์พิเศษของวาฬเบลูกา 📍 Fun Zone โซนสวนสนุก โซนเครื่องเล่นต่างๆ 📍 Mountain Walrus ผจญภัย และใกล้ชิดกับสิงโตทะเล อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเครื่องเล่นสุดเร้าใจ และการแสดงแสนน่ารัก 📍 Hengqin Ocean ปิดท้ายวันอย่างอลังการกับโชว์สุดว้าว ชมขบวนพาเหรดสัตว์ทะเล ตื่นตาตื่นใจไปกับความน่ารัก รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จูไห่ #chimelongoceankingdom #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 1266 Views 10 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/watch?v=Ez3RlCwzWOE
    เกมทายชื่อสัตว์ทะเลสำหรับเด็ก โดยจะมีภาพสัตว์ 10 รูปให้ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
    #เกมภาษาอังกฤษ #อังกฤษสำหรับเด็ก #เกมทายชื่อสัตว์
    https://www.youtube.com/watch?v=Ez3RlCwzWOE เกมทายชื่อสัตว์ทะเลสำหรับเด็ก โดยจะมีภาพสัตว์ 10 รูปให้ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ #เกมภาษาอังกฤษ #อังกฤษสำหรับเด็ก #เกมทายชื่อสัตว์
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 598 Views 0 Reviews
  • นักวิชาการสิ่งแวดล้อมตั้งคำถาม ตอนนี้โลกแย่มากๆยังคิดจะลอยกระทงอีกหรือ วอนอย่าซ้ำเติมแม่น้ำ ถามใครคิดลอยกระทงใน ชี้ทะเลสุโขทัยไม่ติดทะเลลอยทำไมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเล ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า ถึงวันนี้ ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องลอยกระทง เพราะสถานภาพของโลกตอนนี้แย่มากๆ การลอยกระทง เหมือนเป็นการซ้ำเติมแม่น้ำ คือ เติมขยะลงไปในน้ำ จึงไม่รู้จะลอยกระทงไปทำไมผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า การลอยกระทงที่เลวร้าย คือ ทำลายสภาพแวดล้อมนั้นมี 3 ลำดับ คือ 1.ลอยกระทงในทะเล เป็นความคิดที่ห่วยที่สุด ไม่รู้ว่าใคร เอาความคิดนี้มาจากไหน เท่าที่ตนทราบคือ ประเพณีลอยกระทงเริ่มที่ จ.สุโขทัย และเท่าที่ทราบ สุโขทัยก็ไม่ได้ติดทะเล 2.ลอยกระทงในแหล่งน้ำไหลที่ไม่มีคนเก็บ กระทงก็ลอยไปเรื่อยๆ บางอันออกทะเล สัตว์ทะเลไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กินเข้าไปก็ตาย และทรมานอย่างยิ่งก่อนจะตาย 3.ลอยกระทงขนมปังในบ่อน้ำปิด ปีที่แล้ว มีหลายแห่งปลาตายเกือบหมดบ่อ เพราะน้ำเน่า และขนมปังก็ไม่ใช่อาหารปลา” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า ต่อให้ลอย แล้วมีการเก็บ ก็แยกขยะยากเพราะมีแม็กซ์เย็บใบตองอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ โลกร้อนหญ้าทะเลตายจนพะยูนต้องย้ายหนีมาอยู่ที่ ภูเก็ต และพื้นที่หาดราไวย์ ที่มีเจ้าหลังขาวว่ายน้ำเล่น ชาวบ้านเห็นทุกวัน มีเจ้าหน้าที่ทดลองเอาผักไปปลูกในน้ำให้กิน มันก็ว่ายมากิน ถ้าใครเอากระทงไปลอย คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก“สำหรับเด็กน้อยที่อยากลอยกระทงกับพ่อแม่ ก็ลอยในอ่างที่บ้านได้ ลอยแล้วก็แยกขยะทิ้ง ไม่ต้องออกไปลอยนอกบ้าน หรืออยากจัดงานลอยกระทงก็จัดไป แต่ไม่ต้องลอย ไม่ต้องเอาขยะไปใส่ในน้ำปลาตายน้ำเน่า” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวhttps://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4898661
    นักวิชาการสิ่งแวดล้อมตั้งคำถาม ตอนนี้โลกแย่มากๆยังคิดจะลอยกระทงอีกหรือ วอนอย่าซ้ำเติมแม่น้ำ ถามใครคิดลอยกระทงใน ชี้ทะเลสุโขทัยไม่ติดทะเลลอยทำไมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเล ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า ถึงวันนี้ ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องลอยกระทง เพราะสถานภาพของโลกตอนนี้แย่มากๆ การลอยกระทง เหมือนเป็นการซ้ำเติมแม่น้ำ คือ เติมขยะลงไปในน้ำ จึงไม่รู้จะลอยกระทงไปทำไมผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า การลอยกระทงที่เลวร้าย คือ ทำลายสภาพแวดล้อมนั้นมี 3 ลำดับ คือ 1.ลอยกระทงในทะเล เป็นความคิดที่ห่วยที่สุด ไม่รู้ว่าใคร เอาความคิดนี้มาจากไหน เท่าที่ตนทราบคือ ประเพณีลอยกระทงเริ่มที่ จ.สุโขทัย และเท่าที่ทราบ สุโขทัยก็ไม่ได้ติดทะเล 2.ลอยกระทงในแหล่งน้ำไหลที่ไม่มีคนเก็บ กระทงก็ลอยไปเรื่อยๆ บางอันออกทะเล สัตว์ทะเลไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กินเข้าไปก็ตาย และทรมานอย่างยิ่งก่อนจะตาย 3.ลอยกระทงขนมปังในบ่อน้ำปิด ปีที่แล้ว มีหลายแห่งปลาตายเกือบหมดบ่อ เพราะน้ำเน่า และขนมปังก็ไม่ใช่อาหารปลา” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า ต่อให้ลอย แล้วมีการเก็บ ก็แยกขยะยากเพราะมีแม็กซ์เย็บใบตองอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ โลกร้อนหญ้าทะเลตายจนพะยูนต้องย้ายหนีมาอยู่ที่ ภูเก็ต และพื้นที่หาดราไวย์ ที่มีเจ้าหลังขาวว่ายน้ำเล่น ชาวบ้านเห็นทุกวัน มีเจ้าหน้าที่ทดลองเอาผักไปปลูกในน้ำให้กิน มันก็ว่ายมากิน ถ้าใครเอากระทงไปลอย คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก“สำหรับเด็กน้อยที่อยากลอยกระทงกับพ่อแม่ ก็ลอยในอ่างที่บ้านได้ ลอยแล้วก็แยกขยะทิ้ง ไม่ต้องออกไปลอยนอกบ้าน หรืออยากจัดงานลอยกระทงก็จัดไป แต่ไม่ต้องลอย ไม่ต้องเอาขยะไปใส่ในน้ำปลาตายน้ำเน่า” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวhttps://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4898661
    Like
    4
    1 Comments 1 Shares 1288 Views 0 Reviews
  • "ภาพที่สีสรรสดสวยแต่น่าสะพรึงมากแหล่งที่มา#ตต..10162024 จ.ชลบุรีTH. "ภาพที่สัตว์ทะเลตายจำนวนมากหลังเฮอริเคน ฟลอริดา :คุณคิดว่าเกิดจากธรรมชาติไหม?ต้องใช้ความถี่สูงขนาดไหนสัตว์ถึงมีเลือดออกปากออกจมูกได้ความดันที่รุนแรง ความเห็นผิดของคนที่ต้องการครองโลก ทั้งที่เป็นเพียงเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร รอรับผลสะท้อนกลับเป็นล้านๆเท่า!!!แต่ก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะคิดว่าตายแล้วสูญซินะ แล้วตะกอนที่นอนเนื่องในจิตมาจากไหนกันล่ะ???
    "ภาพที่สีสรรสดสวยแต่น่าสะพรึงมากแหล่งที่มา#ตต..10162024 จ.ชลบุรีTH. "ภาพที่สัตว์ทะเลตายจำนวนมากหลังเฮอริเคน ฟลอริดา :คุณคิดว่าเกิดจากธรรมชาติไหม?ต้องใช้ความถี่สูงขนาดไหนสัตว์ถึงมีเลือดออกปากออกจมูกได้ความดันที่รุนแรง ความเห็นผิดของคนที่ต้องการครองโลก ทั้งที่เป็นเพียงเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร รอรับผลสะท้อนกลับเป็นล้านๆเท่า!!!แต่ก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะคิดว่าตายแล้วสูญซินะ แล้วตะกอนที่นอนเนื่องในจิตมาจากไหนกันล่ะ???
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • 14-10-67/04 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.50 "FOUL-MOUTHED" ปากหมา ปากดี เป็นเหตุ เฮียสีจิ้นผิง ซัดอีเสี้ยน ผู้นำไต้หวัน ไล่ชิงเต๋อ คาตรีน ล่อการค้ายับ ตัดสิทธิ์ ไม่ส่ง ไม่เติม มรึงปากดีจริงเอาตัวให้รอดน่ะ ดีออก? อิหร่าน กร้าว จัดหนัก! ใครให้ไอ้อียิวสลัดหมาใช้น่านฟ้าโจมตีอิหร่าน กูจะล่อมรึงด้วย อยากตายหมู่ เดี๋ยวจัดให้! อีจอร์แดน อีคูเวต อีฟาโรห์ หายเงี่ยนทันที ใครอีแอบ กูตบไม่เลี้ยง? ข้ามมาวิกบางกอก ดุเดือดไม่แพ้กัน เสรีซัด พยานปากเอก กูเจอเหี้ยชั้น 14 ตัวเป็นๆ ไม่ได้เป็นห่าอะไรเลย อีตอแหล! โดนกันหมดทุกหน่วยงานอุ้ม โลกขอบคุณ เทพเจ้า "มิลตัน" ช่วยถล่มอีเหี้ยมะกันยับ ฟลอริด้าหายไปกว่าครึ่ง จมใต้บาดาล เสี้ยนจะรบต่อมุย? เสี้ยนจะเหี้ยต่อยัง? หากยังไม่หนำใจเหี้ย ยังเหี้ยไม่สุด เดี๋ยวเทพเจ้ารายใหม่จะมาเยือนน่ะจ๊ะ? ใครบอกล่ะว่า "ทำเหี้ยได้ดี" มีแต่ในกลียุคเท่านั้น ดิ ไอคอน พาเหรดนอนคุก ไม่ต้องแถ ความจริงสลัดไม่ได้ ใครกล้าอุ้ม เบื้องบนสั่งตรง แดร๊กเงินคนไทยง่ายไปมุย? อีเหลี่ยมยิ่งดิ้น ยิ่งเข้าทางตรีน หลักฐานมัดเพี๊ยบ เอี่ยวการเมือง โยงใยสั่งการ ที่มาว่า อีเรืองไกร จ้องตาไม่กระพริบ มรึงเสร็จกูแน่? ไม่ต้องถาม ใครส่งเข้าประกวด บู๊ทเขียวตรีนโตสั่งมา ข้ามโลกมาอีกฝั่ง : โปรดสังเกตุ ไม่ว่าจะเป็นอีทรัมปป์ หรืออีกมลา นโยบายเหมือนกันแค่เรื่องเดียวคือล่อจีน นัยยะคือ "ล่มสลาย" เพราะจีนคือเจ้ามือโลกคนใหม่ ใครไปแตะต้อง ฉิบหายชัวร์ อเมริกาต้องแตก เพราะมันตั้งใจจะแตกนานแล้ว! เจ้าหนี้เหี้ยเตรียมน้ำตาร่วงหลังพวงมาลัยได้เลย มันชักดาบมรึงแน่ ใครจะโง่จ่าย ทุกอย่างคือ "หนี้สูญ" ด้านโลกอาหรับประกาศศักดา เดินหน้าจูบปากรัสเซีย จีน โดดเดี่ยวเหี้ยทั้งคอก ผลลัพธ์คือ โลกอาหรับที่แบกดอลล่าร์ไว้มหาศาล หากเทพร้อมกันหมด เหี้ยจะเหลือเงินที่ไหนมาจ่าย โดมิโน่แอฟเฟคมาชัวร์! ทะเลทรายซาฮาร่า น้ำท่วมในรอบ 50 ปี ส่งสัญญานอากาศโลกแปรปรวน จะก่อสงครามนิวเคลียร์เหรอ? เอาภัยธรรมชาติให้รอดก่อนดีกว่ามุย? ทุกการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ มีผลต่อทุกสรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งมวล สัตว์ทะเลทรายจมน้ำตาย จริงดิ? อะไรน่ะ ยังไม่เข็ด! เหี้ยมะกันส่ง THAAD เพิ่มให้อียิว ขนาดไอรอนโดม ยังหมา มรึงหมดมุกแล้วสิน่ะ ก็มันเหลือแค่นี้ นี่หว่า? สกัดเหี้ยอะไรได้จ๊ะ อิหร่านถาม? ไอ้สัส! "หมูเด้ง" แบตหมด ก็เป็นข่าว SOFT THAI มรึงจะแรงไปป่ะ? ชาวโลกเสพฮิปโป ดีกว่าข่าวตอแหล เบื่อกันหมดแล้ว! แต่ควายยังเสพน่ะจ๊ะ? สุดยอดเปิดกะลาโลก ควายไทยบัดซบยังงง.. ฝรั่งตาค้าง? อีนายกร่าน ถามอย่าง ตอบอย่าง มรึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง เพราะพูดแต่ภาษาควายไงล่ะ? อีเนรคุณทันยาหมดท่า จี้ UN ให้ออกจากเลบานอน กูจะถล่มให้เละเทะ UN ถามกลับ มรึงเป็นใครฟ่ะ? แผนชั่วอียิวไม่สิ้นสุด หวังเลือกตั้งใหม่เลบานอน เตรียมยันนายพลเด็กเหี้ย C นั่งแท่นผู้นำ มันไม่ง่ายดอกน่ะ ฝ่ายการเมือง กองทัพ เลบานอน อยู่ใต้ตรีนเฮซบอเลาะห์ กองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หาใช่กองทัพไม่? และเฮซบอเลาะห์ก็มีพรรคเป็นของตัวเอง กระแสมาแรงโคตร หลังถล่มอียิวจนเรตติ้งกระฉูด ไม่ใช่จะส่งใครเข้ามาก็ทำได้ ถามตรีนอิหร่านยังจ๊ะ? งานนี้ อียิวจะถูกย้อนศร เพราะฝ่ายการเมืองมันเองก็แตกเละเทะแล้ว ดูทรง แผ่นดินแตกชัวร์ สภาอียิวแค่ไม้กันหมาเท่านั้น! สีสันบันเทิง : สมกับเป็น "ชวน" กรีดเลือดอาบ มรึงหนีทำไม "อีพิศาล" คดีตากใบ รับใบสั่งอีเหลี่ยมเหี้ยมา กล้าทำ ก็กล้ารับสิฟ่ะ? หลังปชป.ตกต่ำคะแนนเสียงภาคใต้ นายหัว "ชวน" ถึงต้องเรียกเรตติ้งคืนกลับมาบ้าง เรื่องแฉ เรื่องกรีด เบอร์ 1 ไทยเสมอมา ประเด็นฉาว! เลขา UN เตรียมร่วมประชุม BRICS เอ๊ะ..มันยังไง? แผนสอดไส้คาราเมลมาเต็ม ชัดน่ะ UN ของใคร เปลี่ยนมือซะงั้น? นายเก่าถังแตก ใครจะจ่ายเงินเดือนกูล่ะ ดอลล่าร์ขายไม่ออก รับหยวน รูเบิล หอมหวลกว่ามุย?

    ปล.สรุปแสงทำงานดีเกินปุยมุย? วาระสุดท้ายของไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย โผล่มาพร้อมกันให้เห็น รวบยอดลงขุมนรกทีเดียว! กูจะชี้ให้เห็นว่า "อะไรที่มรึงไม่คาดคิด ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้" ไม่คิดว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ไม่คิดว่าอำนาจจะเปลี่ยนมือ มรึงคิดผิด? หลาย 100000 ปี ที่แสงทำงาน ยังจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? จักรวาลใหญ่กว่าโลก นี่มันแค่สนามทดลองของเค้า? มรึงกับกู และทุกสรรพสิ่ง ต่างเป็น THE METRIX ในโลกที่พวกเค้าอุปโลกน์สร้างขึ้นมา ถึงได้พยายามจะบอกไงล่ะว่า "ทุกอย่างคือภาพมายา" ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีอะไรจริงแท้ซักกะอย่าง แค่บททดสอบ แค่วิบากกรรม เพื่อดูการตอบสนอง และการพัฒนายีนส์ในแต่ละเผ่าพันธุ์ พูดเยอะ เดี๋ยวจะออกนอกโลก เอาแค่ให้รู้ทันก็พอ? ความชั่ว มันก็มีหน้าที่ของมัน เฉกเช่นเดียวกับความดี "หยินหยาง" สอดประสาน ขาดสิ่งใดสิ่งนึงไปไม่ได้ เพื่อสมดุล เพื่อถ่วงดุล เวลาเหี้ยได้เกิดในกลียุค ความดีจะอ่อนแอ เวลากลียุคใกล้หมด แสงก็จะทำงานได้สว่างมากยิ่งขึ้น มันคือ "ช่วงเวลา" TIMING ที่เดินไปตามกลไกลจักรวาลเค้า เพราะโลกของจักรวาล "ไร้ขอบเขตกาลเวลา" เค้าถึงรู้ล่วงหน้าได้สบายตรีน แต่จะรู้ได้ยังไง ทุกการตัดสินใจ จะก่อเกิดการกระทำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ กำหนด ชะตากรรมทุกชีวิตบนโลกต่อไป สรุปคือสงครามมนุษย์เป็นผู้สร้าง สันติภาพจักรวาลเป็นผู้ให้ เข้าใจยัง? การลดจำนวนประชากรโลก ก็เป็นอีก 1 เหตุผลของจักรวาลเช่นกัน ไม่งั้นจะส่งพายุ น้ำท่วม สึนามิ โรคภัย ไฟป่า สงคราม โรคระบาด มาทำไมล่ะ? เพื่อควบคุม ให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ที่ปกครองโลก และทุกดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล มันเป็นเรื่องไกลเกินตัวมรึงและกู ดังนั้น วันนี้ ภาพที่เห็นคือ "กองทัพแห่งแสง ปะทะ กองทัพแห่งความมืด" ผลลัพธ์ต่างรู้กันดี ในกว่า 100000000 ปี ไม่มีใครไหน ที่แสงจะแพ้ความมืด มันถูกกำหนดมาเป็น DNA จักรวาลไปแล้วนั่นเอง รอบปฎิทิน 100 ปี ต้องชำระล้าง ยิ่งเทคโนโลยีไปไกลมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเข้าใกล้พระเจ้ามากยิ่งขึ้น นั่นเอง จบน่ะ? ไม่เสียเวลาพูดดอก กูรู้ มีคนเข้าใจ?

    หมี CNN(เอา เอา เอา เอาแน่ มันล่อกันแน่ ตาย ตาย ตาย ชัวร์แน่ โลกสวยก็หวังอีกแบบ โลกโสมม ก็หวังอีกแบบ มันไม่มีอะไรมากไปกว่า เก่าไปใหม่มา เข้าใจสัจธรรม คือเข้าใจธรรมชาติ ใครถอดรหัสธรรมชาติได้ก็บรรลุไงล่ะ เทวดา นางฟ้า ก็อยู่อีกมิตินึง คนเดินดินก็อีกมิตินึง เปรด สัดเดรัจฉาน ก็อีกมิตินึง ต่างคนต่างอยู่ แต่เสือกมีเหี้ยจัญไรบางตัวอยากจะเอาขึ้นมาปะปนกันเท่านั้นเอง แสงคือตัวแทนแห่งความจริง การตรัสรู้ ความถูกต้อง ชอบธรรม)
    14 ตุลาคม 67
    11.27 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172895953453127318
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    14-10-67/04 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.50 "FOUL-MOUTHED" ปากหมา ปากดี เป็นเหตุ เฮียสีจิ้นผิง ซัดอีเสี้ยน ผู้นำไต้หวัน ไล่ชิงเต๋อ คาตรีน ล่อการค้ายับ ตัดสิทธิ์ ไม่ส่ง ไม่เติม มรึงปากดีจริงเอาตัวให้รอดน่ะ ดีออก? อิหร่าน กร้าว จัดหนัก! ใครให้ไอ้อียิวสลัดหมาใช้น่านฟ้าโจมตีอิหร่าน กูจะล่อมรึงด้วย อยากตายหมู่ เดี๋ยวจัดให้! อีจอร์แดน อีคูเวต อีฟาโรห์ หายเงี่ยนทันที ใครอีแอบ กูตบไม่เลี้ยง? ข้ามมาวิกบางกอก ดุเดือดไม่แพ้กัน เสรีซัด พยานปากเอก กูเจอเหี้ยชั้น 14 ตัวเป็นๆ ไม่ได้เป็นห่าอะไรเลย อีตอแหล! โดนกันหมดทุกหน่วยงานอุ้ม โลกขอบคุณ เทพเจ้า "มิลตัน" ช่วยถล่มอีเหี้ยมะกันยับ ฟลอริด้าหายไปกว่าครึ่ง จมใต้บาดาล เสี้ยนจะรบต่อมุย? เสี้ยนจะเหี้ยต่อยัง? หากยังไม่หนำใจเหี้ย ยังเหี้ยไม่สุด เดี๋ยวเทพเจ้ารายใหม่จะมาเยือนน่ะจ๊ะ? ใครบอกล่ะว่า "ทำเหี้ยได้ดี" มีแต่ในกลียุคเท่านั้น ดิ ไอคอน พาเหรดนอนคุก ไม่ต้องแถ ความจริงสลัดไม่ได้ ใครกล้าอุ้ม เบื้องบนสั่งตรง แดร๊กเงินคนไทยง่ายไปมุย? อีเหลี่ยมยิ่งดิ้น ยิ่งเข้าทางตรีน หลักฐานมัดเพี๊ยบ เอี่ยวการเมือง โยงใยสั่งการ ที่มาว่า อีเรืองไกร จ้องตาไม่กระพริบ มรึงเสร็จกูแน่? ไม่ต้องถาม ใครส่งเข้าประกวด บู๊ทเขียวตรีนโตสั่งมา ข้ามโลกมาอีกฝั่ง : โปรดสังเกตุ ไม่ว่าจะเป็นอีทรัมปป์ หรืออีกมลา นโยบายเหมือนกันแค่เรื่องเดียวคือล่อจีน นัยยะคือ "ล่มสลาย" เพราะจีนคือเจ้ามือโลกคนใหม่ ใครไปแตะต้อง ฉิบหายชัวร์ อเมริกาต้องแตก เพราะมันตั้งใจจะแตกนานแล้ว! เจ้าหนี้เหี้ยเตรียมน้ำตาร่วงหลังพวงมาลัยได้เลย มันชักดาบมรึงแน่ ใครจะโง่จ่าย ทุกอย่างคือ "หนี้สูญ" ด้านโลกอาหรับประกาศศักดา เดินหน้าจูบปากรัสเซีย จีน โดดเดี่ยวเหี้ยทั้งคอก ผลลัพธ์คือ โลกอาหรับที่แบกดอลล่าร์ไว้มหาศาล หากเทพร้อมกันหมด เหี้ยจะเหลือเงินที่ไหนมาจ่าย โดมิโน่แอฟเฟคมาชัวร์! ทะเลทรายซาฮาร่า น้ำท่วมในรอบ 50 ปี ส่งสัญญานอากาศโลกแปรปรวน จะก่อสงครามนิวเคลียร์เหรอ? เอาภัยธรรมชาติให้รอดก่อนดีกว่ามุย? ทุกการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ มีผลต่อทุกสรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งมวล สัตว์ทะเลทรายจมน้ำตาย จริงดิ? อะไรน่ะ ยังไม่เข็ด! เหี้ยมะกันส่ง THAAD เพิ่มให้อียิว ขนาดไอรอนโดม ยังหมา มรึงหมดมุกแล้วสิน่ะ ก็มันเหลือแค่นี้ นี่หว่า? สกัดเหี้ยอะไรได้จ๊ะ อิหร่านถาม? ไอ้สัส! "หมูเด้ง" แบตหมด ก็เป็นข่าว SOFT THAI มรึงจะแรงไปป่ะ? ชาวโลกเสพฮิปโป ดีกว่าข่าวตอแหล เบื่อกันหมดแล้ว! แต่ควายยังเสพน่ะจ๊ะ? สุดยอดเปิดกะลาโลก ควายไทยบัดซบยังงง.. ฝรั่งตาค้าง? อีนายกร่าน ถามอย่าง ตอบอย่าง มรึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง เพราะพูดแต่ภาษาควายไงล่ะ? อีเนรคุณทันยาหมดท่า จี้ UN ให้ออกจากเลบานอน กูจะถล่มให้เละเทะ UN ถามกลับ มรึงเป็นใครฟ่ะ? แผนชั่วอียิวไม่สิ้นสุด หวังเลือกตั้งใหม่เลบานอน เตรียมยันนายพลเด็กเหี้ย C นั่งแท่นผู้นำ มันไม่ง่ายดอกน่ะ ฝ่ายการเมือง กองทัพ เลบานอน อยู่ใต้ตรีนเฮซบอเลาะห์ กองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หาใช่กองทัพไม่? และเฮซบอเลาะห์ก็มีพรรคเป็นของตัวเอง กระแสมาแรงโคตร หลังถล่มอียิวจนเรตติ้งกระฉูด ไม่ใช่จะส่งใครเข้ามาก็ทำได้ ถามตรีนอิหร่านยังจ๊ะ? งานนี้ อียิวจะถูกย้อนศร เพราะฝ่ายการเมืองมันเองก็แตกเละเทะแล้ว ดูทรง แผ่นดินแตกชัวร์ สภาอียิวแค่ไม้กันหมาเท่านั้น! สีสันบันเทิง : สมกับเป็น "ชวน" กรีดเลือดอาบ มรึงหนีทำไม "อีพิศาล" คดีตากใบ รับใบสั่งอีเหลี่ยมเหี้ยมา กล้าทำ ก็กล้ารับสิฟ่ะ? หลังปชป.ตกต่ำคะแนนเสียงภาคใต้ นายหัว "ชวน" ถึงต้องเรียกเรตติ้งคืนกลับมาบ้าง เรื่องแฉ เรื่องกรีด เบอร์ 1 ไทยเสมอมา ประเด็นฉาว! เลขา UN เตรียมร่วมประชุม BRICS เอ๊ะ..มันยังไง? แผนสอดไส้คาราเมลมาเต็ม ชัดน่ะ UN ของใคร เปลี่ยนมือซะงั้น? นายเก่าถังแตก ใครจะจ่ายเงินเดือนกูล่ะ ดอลล่าร์ขายไม่ออก รับหยวน รูเบิล หอมหวลกว่ามุย? ปล.สรุปแสงทำงานดีเกินปุยมุย? วาระสุดท้ายของไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย โผล่มาพร้อมกันให้เห็น รวบยอดลงขุมนรกทีเดียว! กูจะชี้ให้เห็นว่า "อะไรที่มรึงไม่คาดคิด ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้" ไม่คิดว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง ไม่คิดว่าอำนาจจะเปลี่ยนมือ มรึงคิดผิด? หลาย 100000 ปี ที่แสงทำงาน ยังจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? จักรวาลใหญ่กว่าโลก นี่มันแค่สนามทดลองของเค้า? มรึงกับกู และทุกสรรพสิ่ง ต่างเป็น THE METRIX ในโลกที่พวกเค้าอุปโลกน์สร้างขึ้นมา ถึงได้พยายามจะบอกไงล่ะว่า "ทุกอย่างคือภาพมายา" ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีอะไรจริงแท้ซักกะอย่าง แค่บททดสอบ แค่วิบากกรรม เพื่อดูการตอบสนอง และการพัฒนายีนส์ในแต่ละเผ่าพันธุ์ พูดเยอะ เดี๋ยวจะออกนอกโลก เอาแค่ให้รู้ทันก็พอ? ความชั่ว มันก็มีหน้าที่ของมัน เฉกเช่นเดียวกับความดี "หยินหยาง" สอดประสาน ขาดสิ่งใดสิ่งนึงไปไม่ได้ เพื่อสมดุล เพื่อถ่วงดุล เวลาเหี้ยได้เกิดในกลียุค ความดีจะอ่อนแอ เวลากลียุคใกล้หมด แสงก็จะทำงานได้สว่างมากยิ่งขึ้น มันคือ "ช่วงเวลา" TIMING ที่เดินไปตามกลไกลจักรวาลเค้า เพราะโลกของจักรวาล "ไร้ขอบเขตกาลเวลา" เค้าถึงรู้ล่วงหน้าได้สบายตรีน แต่จะรู้ได้ยังไง ทุกการตัดสินใจ จะก่อเกิดการกระทำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ กำหนด ชะตากรรมทุกชีวิตบนโลกต่อไป สรุปคือสงครามมนุษย์เป็นผู้สร้าง สันติภาพจักรวาลเป็นผู้ให้ เข้าใจยัง? การลดจำนวนประชากรโลก ก็เป็นอีก 1 เหตุผลของจักรวาลเช่นกัน ไม่งั้นจะส่งพายุ น้ำท่วม สึนามิ โรคภัย ไฟป่า สงคราม โรคระบาด มาทำไมล่ะ? เพื่อควบคุม ให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ที่ปกครองโลก และทุกดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล มันเป็นเรื่องไกลเกินตัวมรึงและกู ดังนั้น วันนี้ ภาพที่เห็นคือ "กองทัพแห่งแสง ปะทะ กองทัพแห่งความมืด" ผลลัพธ์ต่างรู้กันดี ในกว่า 100000000 ปี ไม่มีใครไหน ที่แสงจะแพ้ความมืด มันถูกกำหนดมาเป็น DNA จักรวาลไปแล้วนั่นเอง รอบปฎิทิน 100 ปี ต้องชำระล้าง ยิ่งเทคโนโลยีไปไกลมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเข้าใกล้พระเจ้ามากยิ่งขึ้น นั่นเอง จบน่ะ? ไม่เสียเวลาพูดดอก กูรู้ มีคนเข้าใจ? หมี CNN(เอา เอา เอา เอาแน่ มันล่อกันแน่ ตาย ตาย ตาย ชัวร์แน่ โลกสวยก็หวังอีกแบบ โลกโสมม ก็หวังอีกแบบ มันไม่มีอะไรมากไปกว่า เก่าไปใหม่มา เข้าใจสัจธรรม คือเข้าใจธรรมชาติ ใครถอดรหัสธรรมชาติได้ก็บรรลุไงล่ะ เทวดา นางฟ้า ก็อยู่อีกมิตินึง คนเดินดินก็อีกมิตินึง เปรด สัดเดรัจฉาน ก็อีกมิตินึง ต่างคนต่างอยู่ แต่เสือกมีเหี้ยจัญไรบางตัวอยากจะเอาขึ้นมาปะปนกันเท่านั้นเอง แสงคือตัวแทนแห่งความจริง การตรัสรู้ ความถูกต้อง ชอบธรรม) 14 ตุลาคม 67 11.27 น. https://linevoom.line.me/post/1172895953453127318 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 1238 Views 0 Reviews
  • ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม

    กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม

    สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน

    โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด

    ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม

    ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน”

    #Thaitimes
    ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน” #Thaitimes
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 1527 Views 0 Reviews
  • เกาะโลซิน แหล่งดำน้ำทรงคุณค่าแห่งอาณาจักรทะเลไทย

    หากใครไม่เคยรู้จักหรือเห็นภาพ “เกาะโลซิน” มาก่อน ก็คงนึกภาพไม่ออกว่าเกาะที่เป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของไทยแห่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร และอาจจะจินตนาการถึงเกาะในแบบที่คุ้นตาซึ่งต้องมีชายหาด ทิวมะพร้าว เรือหางยาวจอดสวยๆซักลำ

    ความจริงแล้วเกาะโลซิน เสมือนกองหินกลางทะเลที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำประมาณสิบเมตรเท่านั้น สิ่งเดียวที่เห็นคือแนวหินกับประภาคารเล็กๆโดดเดี่ยวตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดของอ่าวไทย ระยะประมาณ 72 กิโลเมตรจากชายฝั่งจังหวัดปัตตานี
    แต่ทว่าเกาะจิ๋วแห่งนี้ มีคุณค่าต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะตามหลักอาณาเขตน่านน้ำสากลแล้ว ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่จากจากเกาะโลซินออกไปอีกถึง 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่มิอาจประเมินค่าได้ และที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากท่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทยอีกด้วย

    ใต้ผืนน้ำของเกาะโลซินมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ เป็นบริเวณกว้าง ถ้านับแค่รอบๆเกาะก็มีพื้นที่ราว 2 สนามฟุตบอล มีฝูงปลา สัตว์ทะเลชนิดต่างๆจำนวนมาก เพราะยังไม่ค่อยถูกรบกวนจากการประมงมากนัก นักดำน้ำมีโอกาสสามารถพบฉลามวาฬได้ง่าย เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเรือประมงทำให้ฉลามวาฬเชื่องกับนักดำน้ำ มักว่ายมาวนให้ถ่ายรูปได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีปลาโรนิน หรือปลากระเบนท้องน้ำ ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ง่ายจากที่อื่น



    เกาะโลซิน แหล่งดำน้ำทรงคุณค่าแห่งอาณาจักรทะเลไทย หากใครไม่เคยรู้จักหรือเห็นภาพ “เกาะโลซิน” มาก่อน ก็คงนึกภาพไม่ออกว่าเกาะที่เป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของไทยแห่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร และอาจจะจินตนาการถึงเกาะในแบบที่คุ้นตาซึ่งต้องมีชายหาด ทิวมะพร้าว เรือหางยาวจอดสวยๆซักลำ ความจริงแล้วเกาะโลซิน เสมือนกองหินกลางทะเลที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำประมาณสิบเมตรเท่านั้น สิ่งเดียวที่เห็นคือแนวหินกับประภาคารเล็กๆโดดเดี่ยวตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดของอ่าวไทย ระยะประมาณ 72 กิโลเมตรจากชายฝั่งจังหวัดปัตตานี แต่ทว่าเกาะจิ๋วแห่งนี้ มีคุณค่าต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะตามหลักอาณาเขตน่านน้ำสากลแล้ว ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่จากจากเกาะโลซินออกไปอีกถึง 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่มิอาจประเมินค่าได้ และที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากท่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทยอีกด้วย ใต้ผืนน้ำของเกาะโลซินมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ เป็นบริเวณกว้าง ถ้านับแค่รอบๆเกาะก็มีพื้นที่ราว 2 สนามฟุตบอล มีฝูงปลา สัตว์ทะเลชนิดต่างๆจำนวนมาก เพราะยังไม่ค่อยถูกรบกวนจากการประมงมากนัก นักดำน้ำมีโอกาสสามารถพบฉลามวาฬได้ง่าย เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเรือประมงทำให้ฉลามวาฬเชื่องกับนักดำน้ำ มักว่ายมาวนให้ถ่ายรูปได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีปลาโรนิน หรือปลากระเบนท้องน้ำ ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ง่ายจากที่อื่น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 865 Views 0 Reviews
  • #คางดำเอเลี่ยนตัวจริง
    น้ำจืด,น้ำเค็ม,น้ำเสียอยู่ได้
    โตไว แดรกเก่งสัดๆ
    ว่ายอ้อมทะเลไประยอง
    นึกภาพดู ปลาชาวประมงทั้งบ่อไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
    แม่มแดรกเกลี้ยง
    น้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม แม่มอย่างชอบ
    22 วันวางไข่จำนวนมหาศาล
    เป็นปลาชนิดเดียวที่ว่ายจากน้ำจืดเมื่อแดรกไม่เหลือไปน้ำเค็ม
    แล้วว่ายอ้อมไประยอง น้ำทะเลนะ
    และเริ่มรุมแดรกปลาทะเล สัตว์ทะเล
    ชาวประมงค์ทำไง เหวี่ยงแหไปเจอแต่ไอ่คางดำ
    มันต้องเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ชาวไทยช่วยกันแดรกมันคืน
    ไม่งั้น สัตว์น้ำจืด สัตว์ทะเล จะเหลือชื่อแค่ ไอ่คางดำ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คางดำเอเลี่ยนตัวจริง น้ำจืด,น้ำเค็ม,น้ำเสียอยู่ได้ โตไว แดรกเก่งสัดๆ ว่ายอ้อมทะเลไประยอง นึกภาพดู ปลาชาวประมงทั้งบ่อไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว แม่มแดรกเกลี้ยง น้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม แม่มอย่างชอบ 22 วันวางไข่จำนวนมหาศาล เป็นปลาชนิดเดียวที่ว่ายจากน้ำจืดเมื่อแดรกไม่เหลือไปน้ำเค็ม แล้วว่ายอ้อมไประยอง น้ำทะเลนะ และเริ่มรุมแดรกปลาทะเล สัตว์ทะเล ชาวประมงค์ทำไง เหวี่ยงแหไปเจอแต่ไอ่คางดำ มันต้องเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ชาวไทยช่วยกันแดรกมันคืน ไม่งั้น สัตว์น้ำจืด สัตว์ทะเล จะเหลือชื่อแค่ ไอ่คางดำ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 564 Views 0 Reviews