Recent Updates
  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กริมฯได้ตามสามีไปดูงานเทศกาลดาราศาตร์ที่เมือง Essen เยอรมนี จากเบลเยียม ระหว่างทางผ่านจะไป Essen ต้องขับผ่านเมืองชายแดนทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ ได้เห็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ตั้งโดดเด่นอยู่ริมทาง จากหนังสือ Sapiens กริมฯ ได้รู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบช่วงระหว่างเวลาที่นักเล่นแร่แปรธาตชาวจีน (Alchemists)ค้นพบดินปืนกับชาวเติร์กใช้ลูกปืนใหญ่ยิงทำลายกำแพงเมืองคอนแสตนติโนเบิลนั้น กินเวลาถึง 600 ปี แต่ช่วงเวลาจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบว่ามวลใดก็ตามอาจเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้ตามสมการ E=mc2 และข่วงเวลาที่ระเบิดนิวเคลียร์ทำลายฮิโรชิมาและนางาซากิจนสิ้นซากรวมไปถึงเกิดโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ผุดเป็นดอกเห็ดไปทั่วโลกนั้นกินเวลาเพียงแค่ 40 ปีเท่านั้น กริมฯขอเก็บภาพและความคิดจากหนังสือมาฝากทุกท่านในวันหยุดยาว
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กริมฯได้ตามสามีไปดูงานเทศกาลดาราศาตร์ที่เมือง Essen เยอรมนี จากเบลเยียม ระหว่างทางผ่านจะไป Essen ต้องขับผ่านเมืองชายแดนทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ ได้เห็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ตั้งโดดเด่นอยู่ริมทาง จากหนังสือ Sapiens กริมฯ ได้รู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบช่วงระหว่างเวลาที่นักเล่นแร่แปรธาตชาวจีน (Alchemists)ค้นพบดินปืนกับชาวเติร์กใช้ลูกปืนใหญ่ยิงทำลายกำแพงเมืองคอนแสตนติโนเบิลนั้น กินเวลาถึง 600 ปี แต่ช่วงเวลาจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบว่ามวลใดก็ตามอาจเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้ตามสมการ E=mc2 และข่วงเวลาที่ระเบิดนิวเคลียร์ทำลายฮิโรชิมาและนางาซากิจนสิ้นซากรวมไปถึงเกิดโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ผุดเป็นดอกเห็ดไปทั่วโลกนั้นกินเวลาเพียงแค่ 40 ปีเท่านั้น กริมฯขอเก็บภาพและความคิดจากหนังสือมาฝากทุกท่านในวันหยุดยาว
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์
    ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์
    อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น:
    * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา
    * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป
    * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป
    * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์
    แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
    คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน ....
    ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน

    รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์ ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์ อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น: * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน .... ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก

    และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก"

    • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว

    เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง

    ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว

    • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย

    แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ

    ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น

    เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล

    ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ

    สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ...

    มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม

    ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน
    ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร
    มายา
    ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก" • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ... มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร มายา
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • Xi " เรามาแบ่งโลกแล้วกินใครกันมันเถอะ"
    Trump "อั๊วจะกินก่อนแบ่ง"
    Putin "(อืม..กูกำลังแดกยูเครนอยู่)

    Trump" ก็มันหิวนี่"
    Xi (หึหึ มึงฝันลมๆแล้งๆ)
    Putin (คริคริ..มุขเดิมๆตลกแดก)

    อ้างอิงจาก นสพ De Morgan
    Xi " เรามาแบ่งโลกแล้วกินใครกันมันเถอะ" Trump "อั๊วจะกินก่อนแบ่ง" Putin "(อืม..กูกำลังแดกยูเครนอยู่) Trump" ก็มันหิวนี่" Xi (หึหึ มึงฝันลมๆแล้งๆ) Putin (คริคริ..มุขเดิมๆตลกแดก) อ้างอิงจาก นสพ De Morgan
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • วันที่ 20 ก.ค 1969 นีล อาร์มตรอง และบัซ อัลดรินลงเหยียบดวงจันทร์ ก่อนหน้านี้การสำรวจนั้นหลายเดือน นีกบินอวกาศนานอพอลโล 11 ต้องฝึกอยู่ในทะเลทรายที่ห่างไกลทางด้านตะวันตกของสหรัฐฯอเมริกาซึ่งท่ลักษณะคล้ายดวงจันทร์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านของชุมชนอเมริกันพื้นเมืองหลายกลุ่ม และก็มีเรื่องราวหรือตำนานที่เผชิญหน้าระหว่างนักบินอวกาศกับคนท้องถิ่น
    วันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังฝึกกันอยู่นั้น พวกนักบินอวกาศเดินผ่านคนอเมริกันพื้นเมืองอายุมากคนหนึ่ง ขายผู้นั้นถามว่า ทำอะไรกันอยู่ พวกเขาตอบแบบสั้นๆว่า ที่ทำอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจวิจัยซึ่งกำลังเดินทางไปดวงจันทร์ เมื่อชายแก่ได้ยินเช่นนั้น เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนขอให้นักบินอวกาศช่วยทำอะไรให้สักอย่าง
    "จะให้พวกเราทำอะไรครับ?" พวกเขาถาม
    "เอ่อ" ชายแก่พูดตอบ "คนในเผ่าของข้าเชื่อว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ข้าเลยสงสัยว่า พวกท่านจะช่วยส่งข้อความสำคัญจากคนของข้าไปให้พสกเขาได้หรือไม่"
    "ข้อความใดครับ" นักบินอวกาศถาม
    ชายผู้นั้นกล่าวบางอย่างออกมาเป็นภาษาประจำเผ่าของตน จากนั้นจึงขอให้นักบินอวกาศกล่าวทวนซ้ำๆ จนมั่นใจว่าจดตำได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว
    "แล้วข้อความนี้หมายความว่าเช่นไร" นักบินอวกาศถาม
    "โอว ข้าบอกพวกท่านไม่ได้หรอก มันเป็นความลับเฉพาะของคนในเผ่าเรา และวิญญาณบนดวงจันทร์เท่านั้นที่จะรู้ได้"
    พวกนั้นกลับมาถึงฐานปฎิบัติการ นักบินอวกาศพยายามหาคนที่จะพอพูดภาษาประจำเผ่า ซึ่งแม้หาไม่ได้ง่ายนัก แต่พวกเขาก็หาพบจนได้ แล้วจึงขอให้ชายผู้นั้นแปลข้อความลับนั้น เมื่อพวกเขาท่องข้อความนั้นออกมา ล่ามก็หัวเราะเสียงดังอยู่นาน จนเมื่อเขาสงบลงแล้ว พวกนักบินอวกาศถามเขาว่า ข้อความหมายความเช่นไรกันแน่ ชายผู้นั้นอธิบายว่า ประโยคที่พวกเขาตั้งใจท่องจำมานั้นหมายความว่า *** อย่าไปเชื่อคำพูดที่คนพวกนี้บอกท่านแม่แต่คำเดียว พวกเขามาเพื่อขโมยแผ่นดินของพวกท่าน***
    วันที่ 20 ก.ค 1969 นีล อาร์มตรอง และบัซ อัลดรินลงเหยียบดวงจันทร์ ก่อนหน้านี้การสำรวจนั้นหลายเดือน นีกบินอวกาศนานอพอลโล 11 ต้องฝึกอยู่ในทะเลทรายที่ห่างไกลทางด้านตะวันตกของสหรัฐฯอเมริกาซึ่งท่ลักษณะคล้ายดวงจันทร์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านของชุมชนอเมริกันพื้นเมืองหลายกลุ่ม และก็มีเรื่องราวหรือตำนานที่เผชิญหน้าระหว่างนักบินอวกาศกับคนท้องถิ่น วันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังฝึกกันอยู่นั้น พวกนักบินอวกาศเดินผ่านคนอเมริกันพื้นเมืองอายุมากคนหนึ่ง ขายผู้นั้นถามว่า ทำอะไรกันอยู่ พวกเขาตอบแบบสั้นๆว่า ที่ทำอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจวิจัยซึ่งกำลังเดินทางไปดวงจันทร์ เมื่อชายแก่ได้ยินเช่นนั้น เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนขอให้นักบินอวกาศช่วยทำอะไรให้สักอย่าง "จะให้พวกเราทำอะไรครับ?" พวกเขาถาม "เอ่อ" ชายแก่พูดตอบ "คนในเผ่าของข้าเชื่อว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ข้าเลยสงสัยว่า พวกท่านจะช่วยส่งข้อความสำคัญจากคนของข้าไปให้พสกเขาได้หรือไม่" "ข้อความใดครับ" นักบินอวกาศถาม ชายผู้นั้นกล่าวบางอย่างออกมาเป็นภาษาประจำเผ่าของตน จากนั้นจึงขอให้นักบินอวกาศกล่าวทวนซ้ำๆ จนมั่นใจว่าจดตำได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว "แล้วข้อความนี้หมายความว่าเช่นไร" นักบินอวกาศถาม "โอว ข้าบอกพวกท่านไม่ได้หรอก มันเป็นความลับเฉพาะของคนในเผ่าเรา และวิญญาณบนดวงจันทร์เท่านั้นที่จะรู้ได้" พวกนั้นกลับมาถึงฐานปฎิบัติการ นักบินอวกาศพยายามหาคนที่จะพอพูดภาษาประจำเผ่า ซึ่งแม้หาไม่ได้ง่ายนัก แต่พวกเขาก็หาพบจนได้ แล้วจึงขอให้ชายผู้นั้นแปลข้อความลับนั้น เมื่อพวกเขาท่องข้อความนั้นออกมา ล่ามก็หัวเราะเสียงดังอยู่นาน จนเมื่อเขาสงบลงแล้ว พวกนักบินอวกาศถามเขาว่า ข้อความหมายความเช่นไรกันแน่ ชายผู้นั้นอธิบายว่า ประโยคที่พวกเขาตั้งใจท่องจำมานั้นหมายความว่า *** อย่าไปเชื่อคำพูดที่คนพวกนี้บอกท่านแม่แต่คำเดียว พวกเขามาเพื่อขโมยแผ่นดินของพวกท่าน***
    1 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • มีใครขมวดคิ้วกับการใช้แอพฯ ไทยไทม์เหมือนเรามั๊ย? 😄😄
    มีใครขมวดคิ้วกับการใช้แอพฯ ไทยไทม์เหมือนเรามั๊ย? 😄😄
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • เมื่อม้ากับกริมเจอกัน 🐎+😺
    เมื่อม้ากับกริมเจอกัน 🐎+😺
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • ภาพนี้ยืมมาจากภาพข่าวเวปศิลปะรวมภาพถ่ายของดวงจันทร์
    ภาพนี้ยืมมาจากภาพข่าวเวปศิลปะรวมภาพถ่ายของดวงจันทร์
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • ปั่นจักรยานชมทุ่งเจอฝูงวัวนมและม้าเล็มหญ้าท่ามกลางแดดอุ่น
    ปั่นจักรยานชมทุ่งเจอฝูงวัวนมและม้าเล็มหญ้าท่ามกลางแดดอุ่น
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • 2 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
More Stories