• ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกจับกุมชายชาวจีน ตัวการเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติกว่า 500 ราย ให้ร่วมลงทุน สร้างความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
    .
    การตรวจสอบพบผู้ต้องหาใช้หนังสือเดินทางเม็กซิโกปลอมในการแสดงตน ทั้งที่ถือวีซ่า Thailand Privilege Card ถูกต้อง ก่อนพบว่ามีหมายแดงของอินเตอร์โพลจากทางการจีน และมีหนังสือเดินทางจีนฉบับจริงซุกซ่อนอยู่
    .
    จากการสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาตั้งฐานแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและโซเชียลมีเดียหลอกเหยื่อ ก่อนเชิดเงินและตัดการติดต่อ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย พร้อมประสานส่งตัวตามกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121299
    .
    #News1live #News1 #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ตม #สนามบินสุวรรณภูมิ #หมายแดงอินเตอร์โพล #หลอกลงทุน
    ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกจับกุมชายชาวจีน ตัวการเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติกว่า 500 ราย ให้ร่วมลงทุน สร้างความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท . การตรวจสอบพบผู้ต้องหาใช้หนังสือเดินทางเม็กซิโกปลอมในการแสดงตน ทั้งที่ถือวีซ่า Thailand Privilege Card ถูกต้อง ก่อนพบว่ามีหมายแดงของอินเตอร์โพลจากทางการจีน และมีหนังสือเดินทางจีนฉบับจริงซุกซ่อนอยู่ . จากการสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาตั้งฐานแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและโซเชียลมีเดียหลอกเหยื่อ ก่อนเชิดเงินและตัดการติดต่อ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย พร้อมประสานส่งตัวตามกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121299 . #News1live #News1 #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ตม #สนามบินสุวรรณภูมิ #หมายแดงอินเตอร์โพล #หลอกลงทุน
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • ซีไอเอ็มบีไทยขอลา ยกเลิกบริการบัตรเดบิตในไทย

    ผู้ใช้บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี พร้อมกับบัตรเดบิตชิลดี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดขายฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุบัตร ถอนเงินสดฟรีทุกตู้ ATM ทั่วไทยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และตู้ ATM ธนาคารในกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มากกว่า 5,900 เครื่อง รวมทั้งลูกค้าบัตรเดบิตซีไอเอ็มบีไทยทุกประเภท อาจต้องเตรียมเก็บบัตรไว้ในลิ้นชัก

    เมื่อธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทยอยแจ้งลูกค้าที่เข้ามาสอบถามผ่านเฟซบุ๊กของธนาคาร ว่า บัตรเดบิต ซีไอเอ็มบี ไทย จะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 3 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการทำธุรกรรมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย นอกจากการถอนเงินสดผ่านสาขาของธนาคารแล้ว สามารถใช้บริการแอปฯ CIMB THAI เพื่อทำธุรกรรมถอนเงินไม่ใช้บัตรที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป

    ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ออกบัตรเดบิตรองรับระบบวีซ่า เพย์เวฟ (VISA Paywave) เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2558 คิดค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 ชูจุดขายดอกเบี้ย 2% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตทุกอย่าง ยกเว้นกรณีบัตรหาย กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. 2563 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย และบัตรเดบิต ชิลดี ระหว่างนั้น ธนาคารก็ประกาศยกเลิกบริการตู้เอทีเอ็ม และเอทีเอ็มแบบทรีอินวันในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่บัตรเดบิตของธนาคารยังสามารถทำรายการได้ฟรีผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย ไม่มีค่าธรรมเนียม

    ผลกระทบที่ตามมา หนึ่งในนั้นคือนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียงอย่างมาเลเซีย ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่กลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ผ่านมาสามารถกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร CIMB และ CIMB Islamic ได้ฟรี แต่เมื่อไม่มีบัตรเดบิตซีไอเอ็มบี ไทย ในปีหน้า อาจต้องหาทางเลือกอื่น เช่น ใช้บัญชีและบัตรเดบิตธนาคารยูโอบี ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด หรือสอบถามยอดเงิน ได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารยูโอบีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องแลกเงินที่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ขั้นต่ำ 50 ริงกิต หรือที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเข้าประเทศมาเลเซีย

    #Newskit
    ซีไอเอ็มบีไทยขอลา ยกเลิกบริการบัตรเดบิตในไทย ผู้ใช้บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี พร้อมกับบัตรเดบิตชิลดี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดขายฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุบัตร ถอนเงินสดฟรีทุกตู้ ATM ทั่วไทยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และตู้ ATM ธนาคารในกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มากกว่า 5,900 เครื่อง รวมทั้งลูกค้าบัตรเดบิตซีไอเอ็มบีไทยทุกประเภท อาจต้องเตรียมเก็บบัตรไว้ในลิ้นชัก เมื่อธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทยอยแจ้งลูกค้าที่เข้ามาสอบถามผ่านเฟซบุ๊กของธนาคาร ว่า บัตรเดบิต ซีไอเอ็มบี ไทย จะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 3 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการทำธุรกรรมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย นอกจากการถอนเงินสดผ่านสาขาของธนาคารแล้ว สามารถใช้บริการแอปฯ CIMB THAI เพื่อทำธุรกรรมถอนเงินไม่ใช้บัตรที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ออกบัตรเดบิตรองรับระบบวีซ่า เพย์เวฟ (VISA Paywave) เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2558 คิดค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 ชูจุดขายดอกเบี้ย 2% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตทุกอย่าง ยกเว้นกรณีบัตรหาย กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. 2563 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย และบัตรเดบิต ชิลดี ระหว่างนั้น ธนาคารก็ประกาศยกเลิกบริการตู้เอทีเอ็ม และเอทีเอ็มแบบทรีอินวันในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่บัตรเดบิตของธนาคารยังสามารถทำรายการได้ฟรีผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย ไม่มีค่าธรรมเนียม ผลกระทบที่ตามมา หนึ่งในนั้นคือนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียงอย่างมาเลเซีย ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่กลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ผ่านมาสามารถกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร CIMB และ CIMB Islamic ได้ฟรี แต่เมื่อไม่มีบัตรเดบิตซีไอเอ็มบี ไทย ในปีหน้า อาจต้องหาทางเลือกอื่น เช่น ใช้บัญชีและบัตรเดบิตธนาคารยูโอบี ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด หรือสอบถามยอดเงิน ได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารยูโอบีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องแลกเงินที่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ขั้นต่ำ 50 ริงกิต หรือที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเข้าประเทศมาเลเซีย #Newskit
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 512 Views 0 Reviews
  • แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ

    เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ

    โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

    อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48%

    ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ

    อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่

    #Newskit
    แท็กซี่สนามบินเดือด ประณาม Grab ขายชาติ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. มีการชุมนุมของกลุ่มสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะแท็กซี่ เครือข่ายแท็กซี่ประเทศไทย นำโดย นายวรพล แกมขุนทด ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี 2560 และกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปี 2564 หลังอนุญาตให้แกร็บ (Grab) จัดตั้งจุดรับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมีผู้ใช้บริการมากกว่า ทำให้รถแท็กซี่เสียเปรียบ โดยกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ถามรัฐบาล ต้องชัดเจนว่าจะเลือกแกร็บหรือแท็กซี่ ถ้าเลือกแกร็บถือว่าขายชาติ เพราะไม่ใช่บริษัทคนไทย ยืนยันว่าไม่ได้โยงเรื่องการเมือง แต่เพื่อความเป็นอยู่ของทุกคน หากรัฐบาลยังดื้อดึงไม่มีข้อสรุป จะยกระดับการชุมนุม อาจรวมตัวปิดทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลัง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พิจารณาแนวทางการให้บริการรถสาธารณะ แก้ไขกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อน โดยยึดประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ อีกด้านหนึ่ง กระแสสังคมต่างวิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ เพราะแต่ละคนต่างมีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับรถแท็กซี่สนามบิน เช่น กลุ่มผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่งไม่รับ หรือไม่เต็มใจรับลูกค้าคนไทย รับแต่ชาวต่างชาติ และร้องขอไม่กดมิเตอร์กลางทาง โดยคิดราคาเหมาในอัตราที่สูง นอกจากนี้ รายงานจากสถาบันเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเสี่ยงถูกฉ้อโกงอย่างยิ่ง โดยพบว่ามีปัญหาฉ้อโกงจากแท็กซี่และบริการรถเช่า 48% ด้านบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ยืนยันว่าได้รับอนุญาตจาก ทอท.ให้ดำเนินการตั้งจุดให้บริการผู้โดยสารแกร็บอย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นคนละพื้นที่และแยกกันกับจุดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเปิดรับคนขับที่สนใจเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มคนขับรถแท็กซี่สาธารณะทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม แต่ยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติ อนึ่ง แกร็บและ ทอท.ร่วมกันตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 ประตู 4 และสนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 1 ประตู 12 อีกทั้งเมื่อปี 2566 แกร็บเปิดให้บริการจุดรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ #Newskit
    Like
    Love
    3
    1 Comments 0 Shares 926 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- ฆ่าโหดสาวประเภทสองหมกห้องเช่าในเกสต์เฮ้าส์ ย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจีนวัย 41 ปี ลงมือสุดเหี้ยมทั้งกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายจากร่าง หลังก่อเหตุยังพยายามจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่รอดถูกรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ​ เตรียมนำตัวกลับดำเนินคดีที่เมืองพัทยา

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 26 เม.ย.)​ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.(สส.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) แพทย์เวรโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา ได้เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมโหดภายในเกสต์เฮาส์​แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    ที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 201 พบศพสาวประเภทสอง (LGBTQ+) ทราบชื่อคือ นายวรนันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ได้แปลงเพศแล้ว สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ และมีบาดแผลถูกของมีคมกรีดตั้งแต่กลางหน้าอกจนถึงอวัยวะเพศ​ที่ได้รับการแปลงแล้ว รอยมีดกรีดลึกจนเห็นอวัยวะภายใน ส่วนหัวใจ ถูกควักออกมาวางอยู่ข้างร่าง และปอดด้านหนึ่งหายไปจากที่เกิดเหตุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000039177

    #MGROnline #ย่านพัทยากลาง #ชลบุรี
    ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- ฆ่าโหดสาวประเภทสองหมกห้องเช่าในเกสต์เฮ้าส์ ย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจีนวัย 41 ปี ลงมือสุดเหี้ยมทั้งกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายจากร่าง หลังก่อเหตุยังพยายามจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่รอดถูกรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ​ เตรียมนำตัวกลับดำเนินคดีที่เมืองพัทยา • เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 26 เม.ย.)​ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.(สส.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) แพทย์เวรโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา ได้เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมโหดภายในเกสต์เฮาส์​แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี • ที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 201 พบศพสาวประเภทสอง (LGBTQ+) ทราบชื่อคือ นายวรนันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ได้แปลงเพศแล้ว สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ และมีบาดแผลถูกของมีคมกรีดตั้งแต่กลางหน้าอกจนถึงอวัยวะเพศ​ที่ได้รับการแปลงแล้ว รอยมีดกรีดลึกจนเห็นอวัยวะภายใน ส่วนหัวใจ ถูกควักออกมาวางอยู่ข้างร่าง และปอดด้านหนึ่งหายไปจากที่เกิดเหตุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000039177 • #MGROnline #ย่านพัทยากลาง #ชลบุรี
    0 Comments 0 Shares 819 Views 0 Reviews
  • นักท่องเที่ยวนับล้าน เยือนหลวงพระบาง

    สถานีวิทยุแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ว่า แขวงหลวงพระบาง ทางตอนเหนือของประเทศลาว ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 1,167,581 คน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 722,679 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 162% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 แบ่งออกเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ 459,091 คน เพิ่มขึ้น 297,081 คน หรือ 183% จากปีก่อน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 708,490 คน เพิ่มขึ้น 425,661 คน คิดเป็น 232% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้กว่า 584,665,369 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (19,589.79 ล้านบาท)

    นางสุดาพอน คันทะวง หัวหน้าแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว แขวงหลวงพระบาง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในปี 2567 แขวงหลวงพระบาง ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 2,326,758 ล้านคน เกินเป้าหมายประจำปี 30.8% สร้างรายได้ 1,209,189,549 เหรียญสหรัฐฯ (40,532.02 ล้านบาท) ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า แขวงหลวงพระบางคาดการณ์ว่าในปีนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 2.3 ล้านคน โดยตั้งเป้าสร้างรายได้มากกว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (40,213 ล้านบาท)

    แขวงหลวงพระบาง ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 220 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในแขวงที่มีชื่อเสียงที่สุดของลาว และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีวัดเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และทิวทัศน์ชนบท โดยรัฐบาลลาวถือว่าการท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทในการสร้างงาน สร้างรายได้ และการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

    สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงได้แก่ วัดเชียงทอง หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง พระธาตุพูสี วัดใหม่สุวรรณภูมาราม น้ำตกตาดกวางสี ตลาดเช้าและตลาดมืด รวมทั้งกิจกรรมล่องเรือแม่น้ำโขง

    สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย การเดินทางสะดวกกว่าเมื่อก่อน เพราะมีรถไฟลาว-จีนให้บริการระหว่างสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ถึงสถานีหลวงพระบางวันละ 6 ขบวน เที่ยวแรก 07.20 น. เที่ยวสุดท้าย 16.05 น. รถไฟธรรมดาราคาเริ่มต้นที่ 234,000 กีบ (363 บาท) รถไฟ EMU ราคาเริ่มต้นที่ 330,000 กีบ (512 บาท) ซื้อตั๋วล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทางได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket สามารถใช้เบอร์มือถือไทยลงทะเบียน และชำระค่าตั๋วรถไฟผ่านบัตร VISA ได้

    นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินไปยังหลวงพระบาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ บางกอกแอร์เวย์บินทุกวัน ลาวแอร์ไลน์สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน จากสนามบินดอนเมือง ไทยแอร์เอเชียบินทุกวัน และสนามบินเชียงใหม่ ลาวแอร์ไลน์สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน

    #Newskit
    นักท่องเที่ยวนับล้าน เยือนหลวงพระบาง สถานีวิทยุแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ว่า แขวงหลวงพระบาง ทางตอนเหนือของประเทศลาว ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 1,167,581 คน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 722,679 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 162% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 แบ่งออกเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ 459,091 คน เพิ่มขึ้น 297,081 คน หรือ 183% จากปีก่อน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 708,490 คน เพิ่มขึ้น 425,661 คน คิดเป็น 232% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้กว่า 584,665,369 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (19,589.79 ล้านบาท) นางสุดาพอน คันทะวง หัวหน้าแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว แขวงหลวงพระบาง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในปี 2567 แขวงหลวงพระบาง ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 2,326,758 ล้านคน เกินเป้าหมายประจำปี 30.8% สร้างรายได้ 1,209,189,549 เหรียญสหรัฐฯ (40,532.02 ล้านบาท) ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า แขวงหลวงพระบางคาดการณ์ว่าในปีนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 2.3 ล้านคน โดยตั้งเป้าสร้างรายได้มากกว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (40,213 ล้านบาท) แขวงหลวงพระบาง ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 220 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในแขวงที่มีชื่อเสียงที่สุดของลาว และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีวัดเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และทิวทัศน์ชนบท โดยรัฐบาลลาวถือว่าการท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทในการสร้างงาน สร้างรายได้ และการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงได้แก่ วัดเชียงทอง หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง พระธาตุพูสี วัดใหม่สุวรรณภูมาราม น้ำตกตาดกวางสี ตลาดเช้าและตลาดมืด รวมทั้งกิจกรรมล่องเรือแม่น้ำโขง สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย การเดินทางสะดวกกว่าเมื่อก่อน เพราะมีรถไฟลาว-จีนให้บริการระหว่างสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ถึงสถานีหลวงพระบางวันละ 6 ขบวน เที่ยวแรก 07.20 น. เที่ยวสุดท้าย 16.05 น. รถไฟธรรมดาราคาเริ่มต้นที่ 234,000 กีบ (363 บาท) รถไฟ EMU ราคาเริ่มต้นที่ 330,000 กีบ (512 บาท) ซื้อตั๋วล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทางได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket สามารถใช้เบอร์มือถือไทยลงทะเบียน และชำระค่าตั๋วรถไฟผ่านบัตร VISA ได้ นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินไปยังหลวงพระบาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ บางกอกแอร์เวย์บินทุกวัน ลาวแอร์ไลน์สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน จากสนามบินดอนเมือง ไทยแอร์เอเชียบินทุกวัน และสนามบินเชียงใหม่ ลาวแอร์ไลน์สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 982 Views 0 Reviews
  • DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร" โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล

    https://www.thansettakij.com/business/624423
    DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร" โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล https://www.thansettakij.com/business/624423
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    DSI แถลงจับ "โบรคเกอร์" คดีหมอบุญ เผย จีนเนรเทศกลับหลังมีหมายแดง
    DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 597 Views 0 Reviews
  • ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ

    อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน

    จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย

    ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี

    "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น
    วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี
    วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย
    วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง

    คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย

    ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง
    เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์

    กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด

    เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

    บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง

    ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา

    หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

    มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย

    แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า

    "จิ้งเขียว"
    "สมียันดะ"
    "ยันดะ"

    ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง

    ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย

    ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง

    กลับมาเยือนเมืองไทย
    6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก

    ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง

    จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์

    บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา

    เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ

    หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ

    สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร"
    1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่
    2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก
    3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน
    4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย
    5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ
    6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย

    เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568

    #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    ปิดตำนาน เริงสวาทสีกา คาดาดฟ้า เรือเดินสมุทร “ยันตระ” เสียชีวิตที่อเมริกา หลังปลอมพาสปอร์ต หนีคดีจนหมดอายุความ 🚢⚖️ 🔵 อวสานตำนานพระชื่อดัง กับชีวิตที่กลับกลายเป็นประวัติศาสตร์สังคมไทย เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "ยันตระ อมโร" หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรู้จัก ไม่ใช่เพียงเพราะเคยเป็น พระภิกษุชื่อดัง ผู้มีผู้ศรัทธามากมาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ หากแต่เพราะชีวิตของยันตระ เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่า ฉาวโฉ่ และคดีความที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ไทย ในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะกรณี อาบัติปาราชิก จากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดสีกา รวมถึงภาพลักษณ์ ที่แวดล้อมไปด้วยความศรัทธา และความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งยังคงตามหลอกหลอน จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในต่างแดน ✨ 🔵 จากลูกชาวบ้าน สู่พระนักปฏิบัติชื่อดัง นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา ก่อนอุปสมบท ได้ใช้ชีวิตเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปี ได้รับการยกย่องว่าเป็น นักปฏิบัติธรรมผู้ทรงภูมิ ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสมากมาย ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในธรรมยุติกนิกาย ที่วัดรัตนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมตั้งนามให้ตัวเองว่า "ยันตระ อมโรภิกขุ" แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักพรตฤาษี 🧘‍♂️ "วัดสุญญตาราม" อาณาจักรแห่งความว่าง หลังจากนั้น พระยันตระได้รับการนิมนต์ ไปเผยแผ่ธรรมในหลายประเทศ มีการจัดตั้ง "สำนักวัดสุญญตาราม" ทั้งในไทยและต่างแดนหลายแห่ง เช่น ✅ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี ✅ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน ออสเตรเลีย ✅ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา บทสวดและคำสอน แนวกรรมฐานของพระยันตระ ถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในวงกว้าง หลายคนมองว่ายันตระเป็นพระที่มีความรู้ในพระไตรปิฎก และการปฏิบัติที่เข้มขลัง ✨ 🔵 คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระยันตระ ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในปี พ.ศ. 2537 วงการสงฆ์สะเทือน เมื่อสีกากลุ่มหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสมเด็จพระสังฆราช และอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวหาพระยันตระว่า มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ กับสีกาหลายคน โดยมีพยานหลักฐานสนับสนุนมากมาย 📂 ข้อกล่าวหาที่โด่งดัง 🚢 เหตุการณ์บนเรือเดินสมุทร กล่าวหาว่า ยันตระมีเพศสัมพันธ์กับสีกา บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างเดินทางจากสวีเดนไปฟินแลนด์ 🏡 กุฏิริมน้ำในออสเตรเลีย กล่าวหาว่า ยันตระมีพฤติกรรมจับต้องกายสตรี ด้วยความกำหนัด 🚐 เหตุการณ์ในรถตู้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหลักฐานว่า ยันตระเข้าไปหาสีกาในรถตู้ และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 📞 บทสนทนาทางโทรศัพท์ พร่ำพูดถึงความรัก และมีหลักฐานเทปเสียง 👧 ข้อกล่าวหาการมีบุตรสาว นางจันทิมา มายะรังษี นำเด็กหญิงที่อ้างว่า เป็นบุตรสาวของยันตระ มาแสดงตัว พร้อมภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ ฉันท์สามีภรรยา 💳 หลักฐานบัตรเครดิต รายการใช้จ่ายในสถานบริการทางเพศ ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 🔵 มติของมหาเถรสมาคม หลังการสืบสวนสอบสวน และตรวจสอบพยานหลักฐาน มหาเถรสมาคมมีมติให้ "พระยันตระ อมโรภิกขุ" ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ โดยปริยาย ❌ แต่แทนที่จะยอมรับคำตัดสิน ยันตระกลับประกาศไม่ยอมรับมติ และอ้างว่ายังเป็นพระภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว จนได้รับฉายาใหม่จากสื่อว่า 🦎 "จิ้งเขียว" 🦹‍♂️ "สมียันดะ" 🧘‍♂️ "ยันดะ" 🔵 ปลอมพาสปอร์ต หนีคดีข้ามโลก เมื่อพ้นจากสมณเพศ ยันตระได้ทำพาสปอร์ตปลอม หลบหนีออกจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง 📜 ตลอด 20 ปี ยันตระใช้ชีวิตที่วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย ⏳ ระยะเวลาผ่านไป คดีต่าง ๆ หมดอายุความ ทำให้ยันตระาสามารถกลับประเทศไทยได้อีกครั้ง 🔵 กลับมาเยือนเมืองไทย 🗓️ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ยันตระเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลูกศิษย์รอต้อนรับจำนวนมาก 🏠 ยันตระได้พบปะกับลูกศิษย์ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว ที่ท้องสนามหลวง 📍 จากนั้นได้กลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อกราบอดีตพระอุปัชฌาย์ บั้นปลายที่แคลิฟอร์เนีย สุดท้ายแล้ว ยันตระกลับไปยังวัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ แคลิฟอร์เนีย และเสียชีวิตในวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2568 สิริรวมอายุ 73 ปี 51 พรรษา 🕊️ 🔵 เสียงสะท้อนจากสังคม และศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีข้อกล่าวหาฉาวโฉ่ แต่ก็ยังมีศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาในคำสอน และการปฏิบัติธรรม องพระยันตระ 🧎‍♂️ หลายคนยังคงกราบไหว้และนับถือ 👉 แต่ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พระรูปอื่นๆ ยังคงกราบไหว้บุคคลที่ถูกถอดจากสมณเพศ 💬 🔵 สรุปเรื่องราวชีวิต "ยันตระ อมโร" 1️⃣ จากนักพรตสู่พระภิกษุผู้ยิ่งใหญ่ 2️⃣ คำสอนและแนวปฏิบัติที่มีผู้ศรัทธาทั่วโลก 3️⃣ คดีอื้อฉาวที่ทำลายชื่อเสียงและนำไปสู่การถอดถอน 4️⃣ การหลบหนีและใช้ชีวิตในฐานะผู้ลี้ภัย 5️⃣ การกลับบ้านเกิดหลังคดีหมดอายุความ 6️⃣ จบบั้นปลายชีวิตในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 🔵 ชีวิตของ "ยันตระ อมโร" เปรียบเหมือนนิยาย ที่มีทั้งช่วงรุ่งเรืองและตกต่ำ ด้วยพฤติกรรมและการกระทำ ที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาหนัก แต่ก็ยังคงมีคนศรัทธาไม่เสื่อมคลาย 💔✨ 👉 เรื่องราวของยันตระ จึงเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทย ในเรื่องศรัทธา ปัญญา และความรับผิดชอบต่อการกระทำ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 101152 มี.ค. 2568 🔵 #ยันตระอมโร #ข่าวดราม่า #ประวัติพระดัง #วัดสุญญตาราม #สีกาคาดาดฟ้า #ข่าวไทยวันนี้ #เรื่องเล่าพระดัง #ข่าวพระดัง #ยันตระเสียชีวิต #ข่าวด่วนไทย
    0 Comments 0 Shares 2421 Views 0 Reviews
  • สนามบินภูเก็ตเตรียมปิดรันเวย์ซ่อมทางขับสายคู่ขนานช่วง 00.30‐07.30 น. เริ่ม 1 เม.ย. 68 -30 ต.ค. 68 เป็นเวลา 7 เดือน บวท.ประสาน ทอท.ปรับแผนบริหารจราจรทางอากาศ ยันไม่กระทบเที่ยวบิน ไม่มียกเลิก หลังปรับ Slot ขึ้นลงในเวลาอื่นแทน

    นายเถลิงศักดิ์ ผาทอง ผู้อำนวยการใหญ่ (บริการการเดินอากาศส่วนภูมิภาค) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า สนามบินภูเก็ต ถือว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินเป็นอันดับสาม รองจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยมีขีดความสามารถรองรับได้ 25 เที่ยวบิน/ชั่วโมง สูงสุดประมาณ 30 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกายภาพที่มีทางวิ่ง (รันเวย์) 1 เส้น

    ปัจจุบันสนามบินภูเก็ต.ห้บริการ 24 ชม. โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีแผนปิดรันเวย์เพื่อซ่อมแซมทางขับสายคู่ขนาน และระบบไฟของรันเวย์ในช่วง Low season นี้ โดยจะเริ่มปิดรันเวย์ เพื่อดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2568-30 ต.ค. 2568 เป็นระยะเวลา 7 เดือน ปิดเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 00.30-07.30 น. เป็นเวลา 7 ชม. ทำให้เหลือเวลาให้บริการ 15 ชม.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000020825

    #MGROnline #สนามบินภูเก็ต
    สนามบินภูเก็ตเตรียมปิดรันเวย์ซ่อมทางขับสายคู่ขนานช่วง 00.30‐07.30 น. เริ่ม 1 เม.ย. 68 -30 ต.ค. 68 เป็นเวลา 7 เดือน บวท.ประสาน ทอท.ปรับแผนบริหารจราจรทางอากาศ ยันไม่กระทบเที่ยวบิน ไม่มียกเลิก หลังปรับ Slot ขึ้นลงในเวลาอื่นแทน • นายเถลิงศักดิ์ ผาทอง ผู้อำนวยการใหญ่ (บริการการเดินอากาศส่วนภูมิภาค) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า สนามบินภูเก็ต ถือว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินเป็นอันดับสาม รองจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยมีขีดความสามารถรองรับได้ 25 เที่ยวบิน/ชั่วโมง สูงสุดประมาณ 30 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกายภาพที่มีทางวิ่ง (รันเวย์) 1 เส้น • ปัจจุบันสนามบินภูเก็ต.ห้บริการ 24 ชม. โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีแผนปิดรันเวย์เพื่อซ่อมแซมทางขับสายคู่ขนาน และระบบไฟของรันเวย์ในช่วง Low season นี้ โดยจะเริ่มปิดรันเวย์ เพื่อดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2568-30 ต.ค. 2568 เป็นระยะเวลา 7 เดือน ปิดเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 00.30-07.30 น. เป็นเวลา 7 ชม. ทำให้เหลือเวลาให้บริการ 15 ชม. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000020825 • #MGROnline #สนามบินภูเก็ต
    0 Comments 0 Shares 624 Views 0 Reviews
  • บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา

    ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่

    1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน

    3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th

    • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง"

    • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099"

    • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142"

    • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230"

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099

    จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142

    จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์

    การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

    สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99

    #Newskit
    บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง 2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน 3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง" • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099" • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142" • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230" จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099 จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142 จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99 #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1200 Views 0 Reviews
  • เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน Aeroflot ประเทศรัสเซีย ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับชุดล้อ หลังบินออกจากภูเก็ต

    เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ทะเบียน RA-73158 เที่ยวบิน SU 277 ของสายการบิน Aeroflot ของรัสเซีย ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังบินขึ้นจากท่าอากาศยานภูเก็ต(HKT)เวลา 17.30 น.ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเยวา (SVO) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

    รายงานระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวเกิดปัญหาชุดล้อ Landing Gear ทำให้ต้องขอลงจอดฉุกเฉินโดยขับวนในทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยเป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อเผาน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้งให้สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยทางกัปตันประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    เที่ยวบิน SU 277 มีผู้โดยสารชาวรัสเซีย 327 คน , ชาวเบลารุส 3 คน , ชาวมาเลเซีย 3 คน , ชาวบริติช 1 คน และลูกเรือรัสเซียทั้งหมด 15 คน รวม 349 คน
    เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน Aeroflot ประเทศรัสเซีย ต้องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับชุดล้อ หลังบินออกจากภูเก็ต เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ทะเบียน RA-73158 เที่ยวบิน SU 277 ของสายการบิน Aeroflot ของรัสเซีย ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังบินขึ้นจากท่าอากาศยานภูเก็ต(HKT)เวลา 17.30 น.ไปยังท่าอากาศยานเชเรเมียตเยวา (SVO) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย รายงานระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวเกิดปัญหาชุดล้อ Landing Gear ทำให้ต้องขอลงจอดฉุกเฉินโดยขับวนในทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยเป็นเวลามากกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อเผาน้ำมันเชื้อเพลิงทิ้งให้สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยทางกัปตันประสานขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน SU 277 มีผู้โดยสารชาวรัสเซีย 327 คน , ชาวเบลารุส 3 คน , ชาวมาเลเซีย 3 คน , ชาวบริติช 1 คน และลูกเรือรัสเซียทั้งหมด 15 คน รวม 349 คน
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 522 Views 0 Reviews
  • เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดขัดข้อง บินวนอยู่เหนืออันดามัน แถวอ่าวไทย หลายชั่วโมง คาดนักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง เปลี่ยนเส้นทางไปจอดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว

    วันนี้ (10 ก.พ. 68) มีรายงานว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบิน SU277 บินออกจากภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ลงจอด

    โดยเครื่องบินได้บินวนอยู่เหนืออันดามันราว 3 ชั่วโมง และมาบินวนแถวอ่าวไทยระหว่างสนามบินชุมพรและสนามบินหัวหิน คาดว่านักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง แล้วจะเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ

    ล่าสุดเวลา 21.17 น. เครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000013479

    #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เกิดขัดข้อง บินวนอยู่เหนืออันดามัน แถวอ่าวไทย หลายชั่วโมง คาดนักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง เปลี่ยนเส้นทางไปจอดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว • วันนี้ (10 ก.พ. 68) มีรายงานว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เที่ยวบิน SU277 บินออกจากภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ลงจอด • โดยเครื่องบินได้บินวนอยู่เหนืออันดามันราว 3 ชั่วโมง และมาบินวนแถวอ่าวไทยระหว่างสนามบินชุมพรและสนามบินหัวหิน คาดว่านักบินต้องการบินเผาน้ำมันให้เครื่องน้ำหนักเบาลง แล้วจะเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ • ล่าสุดเวลา 21.17 น. เครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000013479 • #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 651 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (10 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า สายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต -มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยบินวนมาหลายชั่วโมงในทะเลอันดามัน ขณะนี้ย้ายบินมาบริเวณอ่าวไทย โดยมีรายงานว่าได้ติดต่อสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขอลงจอดฉุกเฉิน

    Cr. http://flightradar24.com

    #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    วันนี้ (10 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า สายการบิน Aeroflot เที่ยวบิน SU 277 ภูเก็ต -มอสโก หลังขึ้นบินจากสนามบินภูเก็ต ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยบินวนมาหลายชั่วโมงในทะเลอันดามัน ขณะนี้ย้ายบินมาบริเวณอ่าวไทย โดยมีรายงานว่าได้ติดต่อสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขอลงจอดฉุกเฉิน • Cr. http://flightradar24.com • #MGROnline #SU277 #ภูเก็ต #มอสโก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 627 Views 0 Reviews
  • เพจ กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal ได้โพสต์ภาพพร้อมฝุ่นหนาทึบแต่เช้า ได้บดบังทัศนวิสัย ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง จนทำให้เครื่องบินหลายลำต้องไปลงจอดที่อื่น ยกเว้นเครื่องบินที่ได้รับการ Certified

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008175

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เพจ กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal ได้โพสต์ภาพพร้อมฝุ่นหนาทึบแต่เช้า ได้บดบังทัศนวิสัย ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง จนทำให้เครื่องบินหลายลำต้องไปลงจอดที่อื่น ยกเว้นเครื่องบินที่ได้รับการ Certified อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008175 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Wow
    15
    0 Comments 0 Shares 1236 Views 0 Reviews
  • ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1

    เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก

    เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ

    ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792

    #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 • เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก • เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ • ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792 • #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    0 Comments 0 Shares 937 Views 0 Reviews
  • จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ติดตามกรณีนักแสดงจีนหายตัว เผยพบตัวแล้ว รอรับที่แม่สอด ไม่ปรากฏว่าถูกลักพาตัวแต่มีคนมารับผ่านช่องทางธรรมชาติ กำชับทำคดีให้ชัดหลังพฤติการณ์คล้ายขบวนการค้ามนุษย์

    วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ลงพื้นที่ด่วนไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ นายซิงซิง หรือ หวังซิง นักแสดงสัญชาติจีน จากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001716

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ติดตามกรณีนักแสดงจีนหายตัว เผยพบตัวแล้ว รอรับที่แม่สอด ไม่ปรากฏว่าถูกลักพาตัวแต่มีคนมารับผ่านช่องทางธรรมชาติ กำชับทำคดีให้ชัดหลังพฤติการณ์คล้ายขบวนการค้ามนุษย์ • วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ลงพื้นที่ด่วนไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ นายซิงซิง หรือ หวังซิง นักแสดงสัญชาติจีน จากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001716 • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 Comments 0 Shares 940 Views 0 Reviews
  • อุดรธานี-พ่อช็อกลูกสาวอยู่บนเครื่องบินไถลรันเวย์ที่เกาหลีเสียชีวิต เผยลูกสาวเดินทางไป-กลับไทย-เกาหลีใต้กับสายการบินนี้เป็นประจำ เพราะมีสามีเป็นชาวเกาหลี ส่วนลางสังหรณ์ก่อนเดินทางลูกสาวบอกถ้าไม่ส่งขึ้นเครื่องคราวนี้ก็จะไม่กลับมาอีก ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ไปส่งจริงๆ

    จากกรณีสายการบิน Jeju Air บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเมือง Muan ของเกาหลีใต้ แต่มีปัญหาเครื่องลงจอดฉุกเฉินแต่ล้อไม่กาง เอาท้องลงลากไปกับพื้นจนเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิตเกือบยกลำ ลูกเรือรอดชีวิต 2 คน โดย1ในผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทย จาก จ.อุดรธานี ทราบชื่อว่านางจงลักษณ์ ดวงมณี อายุ 45 เป็นชาวจังหวัดอุดรธานี ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งที่ บ.หนองแสง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ พบว่ามีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาสอบถามข่าวกันจำนวนมาก

    นายบุญช่วย ดวงมณีอายุ 70 ปี พ่อของนางจงลักณ์ เปิดเผยว่า ตอนแรกตนก็ยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิต หลังเกิดอุบัติเหตุชาวบ้านได้เอาข่าวมาให้ดูเห็นภาพข่าวก็เอะใจคิดว่าคงเป็นเครื่องบินที่ลูกสาวนั่งไปแน่ เพราะสายการบินนี้ลูกสาวเคยนั่งไปกลับเป็นประจำและเวลาก็ใช่ ล่าสุดตนได้เจอลูกสาวช่วงกลับมาที่จังหวัดอุดรธานี ตอนนั้นลูกสาวกลับมาประเทศไทยก็ได้ชวนตนไปเที่ยวเชียงใหม่แต่ตนก็ไม่ได้สะดวกไปด้วย

    ตนมีลูก 3 คน จงลักษณ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้อง นิสัยเป็นคนสนุกสนานร่าเริง เคยมีครอบครัวแต่งงานมีลูก 2 คน และหลานของตน 2 คนก็ไปอยู่กับสามีที่จังหวัดพิจิตร สำหรับลูกสาวไปอยู่เกาหลีได้ประมาณ 7 ปี ไปจดทะเบียนกับชาวเกาหลี หลังลูกสาวเสียชีวิตตอนนี้อยากให้ทางการช่วยนำศพลูกสาวกลับมาประเทศไทยเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ตอนนี้รู้สึกกังวลมากไม่รู้จะนำศพลูกกลับมาประเทศไทยได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000124901

    #MGROnline #เครื่องบินตก #JejuAir #SouthKorea
    อุดรธานี-พ่อช็อกลูกสาวอยู่บนเครื่องบินไถลรันเวย์ที่เกาหลีเสียชีวิต เผยลูกสาวเดินทางไป-กลับไทย-เกาหลีใต้กับสายการบินนี้เป็นประจำ เพราะมีสามีเป็นชาวเกาหลี ส่วนลางสังหรณ์ก่อนเดินทางลูกสาวบอกถ้าไม่ส่งขึ้นเครื่องคราวนี้ก็จะไม่กลับมาอีก ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ไปส่งจริงๆ • จากกรณีสายการบิน Jeju Air บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเมือง Muan ของเกาหลีใต้ แต่มีปัญหาเครื่องลงจอดฉุกเฉินแต่ล้อไม่กาง เอาท้องลงลากไปกับพื้นจนเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิตเกือบยกลำ ลูกเรือรอดชีวิต 2 คน โดย1ในผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทย จาก จ.อุดรธานี ทราบชื่อว่านางจงลักษณ์ ดวงมณี อายุ 45 เป็นชาวจังหวัดอุดรธานี ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งที่ บ.หนองแสง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ พบว่ามีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาสอบถามข่าวกันจำนวนมาก • นายบุญช่วย ดวงมณีอายุ 70 ปี พ่อของนางจงลักณ์ เปิดเผยว่า ตอนแรกตนก็ยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิต หลังเกิดอุบัติเหตุชาวบ้านได้เอาข่าวมาให้ดูเห็นภาพข่าวก็เอะใจคิดว่าคงเป็นเครื่องบินที่ลูกสาวนั่งไปแน่ เพราะสายการบินนี้ลูกสาวเคยนั่งไปกลับเป็นประจำและเวลาก็ใช่ ล่าสุดตนได้เจอลูกสาวช่วงกลับมาที่จังหวัดอุดรธานี ตอนนั้นลูกสาวกลับมาประเทศไทยก็ได้ชวนตนไปเที่ยวเชียงใหม่แต่ตนก็ไม่ได้สะดวกไปด้วย • ตนมีลูก 3 คน จงลักษณ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้อง นิสัยเป็นคนสนุกสนานร่าเริง เคยมีครอบครัวแต่งงานมีลูก 2 คน และหลานของตน 2 คนก็ไปอยู่กับสามีที่จังหวัดพิจิตร สำหรับลูกสาวไปอยู่เกาหลีได้ประมาณ 7 ปี ไปจดทะเบียนกับชาวเกาหลี หลังลูกสาวเสียชีวิตตอนนี้อยากให้ทางการช่วยนำศพลูกสาวกลับมาประเทศไทยเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ตอนนี้รู้สึกกังวลมากไม่รู้จะนำศพลูกกลับมาประเทศไทยได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000124901 • #MGROnline #เครื่องบินตก #JejuAir #SouthKorea
    0 Comments 0 Shares 1205 Views 0 Reviews
  • SALE!
    คอนโดสุขาภิบาล3 แมนชั่น SKB3 ชั้น4 ห้องสตูดิโอ ขนาดห้อง 52 ตรม. เพิ่งรีโนเวทเสร็จ​ เป็นห้องเปล่า​ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีแอร์ตัวใหม่ให้ค่ะ

    อยู่​ในซอยรามคำแหง​ 58/3​
    ขาย 1.89​ ล้านบาท​
    - มีระบบรักษาความปลอดภัย (รปภ.)
    - มีห้องฟิตเนตออกกำลังกาย

    การเดินทางสะดวกมากค่ะ
    ติดถนนใหญ่ เพียง 170 เมตร
    5​ นาที​ ถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง​ สถานี​ แยกลำสาลี
    5​ นาที​ The​Mall​ บางกะปิ
    5​ นาที​ ร​ พ​ รามคำแหง
    10​ นาที​ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    10​ นาที​ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์​ NIDA
    20​ นาที​ สนามบินสุวรรณภูมิ
    30​ นาที​ สนามบินดอนเมือง

    ห้องเงียบสงบ​ เย็น​สบาย​ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก​ มีระเบียงกว้าง2ด้าน​ ห้องอยู่​หัวมุม​ ด้านหลัง​ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก​ รับแดดตอนเช้า​ ตอนบ่ายจะร่มรื่น​ ไม่ร้อน
    SALE! คอนโดสุขาภิบาล3 แมนชั่น SKB3 ชั้น4 ห้องสตูดิโอ ขนาดห้อง 52 ตรม. เพิ่งรีโนเวทเสร็จ​ เป็นห้องเปล่า​ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีแอร์ตัวใหม่ให้ค่ะ อยู่​ในซอยรามคำแหง​ 58/3​ ขาย 1.89​ ล้านบาท​ - มีระบบรักษาความปลอดภัย (รปภ.) - มีห้องฟิตเนตออกกำลังกาย การเดินทางสะดวกมากค่ะ ติดถนนใหญ่ เพียง 170 เมตร 5​ นาที​ ถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง​ สถานี​ แยกลำสาลี 5​ นาที​ The​Mall​ บางกะปิ 5​ นาที​ ร​ พ​ รามคำแหง 10​ นาที​ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 10​ นาที​ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์​ NIDA 20​ นาที​ สนามบินสุวรรณภูมิ 30​ นาที​ สนามบินดอนเมือง ห้องเงียบสงบ​ เย็น​สบาย​ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก​ มีระเบียงกว้าง2ด้าน​ ห้องอยู่​หัวมุม​ ด้านหลัง​ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก​ รับแดดตอนเช้า​ ตอนบ่ายจะร่มรื่น​ ไม่ร้อน
    0 Comments 0 Shares 912 Views 0 Reviews
  • ปัญหาไฟไหม้รถบัส ต้นตอจากนโยบายรัฐ เอื้อประโยชน์ทุนพลังงาน
    .
    หากจะมีประเด็นให้พูดถึงอยู่บ้างสำหรับกรณีรถบัสเพลิงไหม้ที่คร่าครูและเด็กนักเรียนไปมากกว่า 20 ชีวิต นอกเหนือไปจากเรื่องคดีความแล้วนั้นน่าจะเป็นมาตรกระบวนการล้อมคอกของหน่วยงานภาครัฐ ที่เวลาดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้เป็นปรากฎการณ์ไฟไหม้ฟางมากขึ้นไปทุกที
    .
    โดยจากที่เคยขึงขังประกาศโรดแมปจัดระเบียบรถโดยสารขับเคลื่อนพลังก๊าซของ 'สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปรากฎว่าความขึงขังที่เคยมีนั้นกำลังมีแนวโน้มไปสู่การหย่อนยานมากขึ้นตามลำดับ
    .
    อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ความประมาทของเจ้าของรถบัสต้นเหตุแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่านโยบายของภาครัฐในภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้รถโดยสารใช้ก๊าซ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาไม่ต่างกัน โดยในเรื่องนี้มีการแสดงความคิดเห็นและให้แง่มุมมาจาก หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
    .
    โดยนักวิชาการด้านพลังงานรายนี้ เป็นคนแรกๆที่ออกมาฉายภาพของปัญหาผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เนื่องจากรัฐมุ่งโปรโมตขายก๊าซ NGV ใช้ในรถขนส่งผู้โดยสาร จนชะล่าใจ วางมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ โดยเฉพาะมาตรฐานวาล์วที่หัวถังอันตรายมาก ดังนั้นการโยนความผิดให้เอกชนฝ่ายเดียวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจว่า หลายประเทศในทวีปยุโรป นั้นใช้ก๊าซในยานยนต์มานานก่อนประเทศไทย ได้มีบทเรียนและสร้างมาตรฐานยุโรป ที่เรียกว่า ECE R110 ซึ่งกำหนดว่า ยานพาหนะที่ติดก๊าซ NGV ทุกชนิด จะต้องใช้วาล์วที่ต้องปิดเปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า โซลินอยด์ วาล์ว และเมื่อเกิดเหตุก๊าซรั่ว หรือปิดเครื่องยนต์ หรือใช้น้ำมัน จะต้องปิดวาล์ทันทีแบบอัตโนมัติ ซึ่งช้าสุดต้องไม่เกิน 2 วินาที
    .
    มาตรฐานการติดตั้งก๊าซ LPG ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น ได้ปรากฏเป็นประกาศกรมขนส่งทางบก ลงประกาศราชกิจจานุเบกษามีมาตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม 2551 กำหนดให้รถที่ติดก๊าซ LPG ใช้ “ลิ้นปิดเปิดอัตโนมัติ” ที่หัวถัง หากก๊าซรั่วแม้แต่เพียงเล็กน้อย หากสลับใช้น้ำมัน และหากดับเครื่องยนต์ วาล์วโซลินอยด์จะปิดอัตโนมัติทันที แต่การติดก๊าซ NGV ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น กลับเป็นเรื่องแปลกประหลาด
    .
    เพราะได้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยต่ำกว่ายุโรป และต่ำกว่าก๊าซ LPG ด้วย คือ กำหนดให้ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในยานยนต์เลือกได้ ว่าจะใช้วาล์วแบบไหนก็คือ จะเป็น “วาล์วแบบอัตโนมัติ” ก็ได้ หรือจะเป็น “วาล์วแบบใช้มือปิดเปิด” ก็ได้
    .
    "เมื่อกำหนดให้เลือกได้ว่าจะให้มีมาตรฐานความปลอดภัยปิดเปิดแก๊สอัตโนมัติตามแบบยุโรปก็ได้ หรือจะเป็นวาล์วที่ใช้มือปิดเปิดก็ได้ ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จึงเลือก “วาล์วอัตโนมือ - ที่ใช้มือปิดเปิด” เกือบทั้งหมด เพราะ ถูกกว่า-ประหยัดกว่า และภาครัฐอนุญาตให้ทำอย่างนั้น" ประเด็นสำคัญที่หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ชี้ให้เห็น
    .
    ไม่เพียงเท่านี้ นโยบายดังกล่าวยังได้มาซึ่งความอู้ฟู่อของปตท.อีกด้วยภายใต้แผนการขยายการใช้ NGV เพื่อเป็นทางเลือกเชื้อเพลิงในภาคขนส่งในปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้น โดยเป็นสารตั้งต้นที่นำมาซึ่งการส่งเสริมการใช้ก๊าซNGVครั้งใหญ่
    .
    โดยหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ อธิบายในประเด็นนี้ว่า สามารถทำให้รัฐบาลมีมาตรการสั่งไปได้หลายกระทรวง รวมถึงมาตรการบังคับ ให้ยานยนต์ขนส่งมวลชน ให้มาติดก๊าซ NGV ให้หมด คือ แท็กซี่ในกรุงเทพ, รถให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ, รถเมล์, รถบขส., รถตู้โดยสาร, รถบัส, รถเก็บขยะใน กทม., รถของหน่วยราชการ, รถของรัฐวิสากิจ ปตท. และรัฐบาลถึงขนาดประชาสัมพันธ์ว่า ก๊าซ NGV ทนความร้อนได้สูงกว่า ก๊าซลอยตัวขึ้นสูงจึงปลอดภัยกว่า ทำให้คนหลงเชื่อผิด ๆ และอยากติดก๊าซ NGV มากขึ้น
    .
    ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อคิดเห็นของหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ซึ่งมีความน่าสนใจและชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหานั้นจะไปถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ในยามที่เรื่องนี้กำลังจะเลือนหายไปจากสังคม หรือบางทีอาจจะไปถึงโต๊ะของรัฐมนตรี แต่ก็ถูกโยนทิ้งเพราะมองว่าเป็นข้อเสนอจากคนของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นคู่แข่งในทางการเมืองเท่านั้น
    ..............
    Sondhi X
    ปัญหาไฟไหม้รถบัส ต้นตอจากนโยบายรัฐ เอื้อประโยชน์ทุนพลังงาน . หากจะมีประเด็นให้พูดถึงอยู่บ้างสำหรับกรณีรถบัสเพลิงไหม้ที่คร่าครูและเด็กนักเรียนไปมากกว่า 20 ชีวิต นอกเหนือไปจากเรื่องคดีความแล้วนั้นน่าจะเป็นมาตรกระบวนการล้อมคอกของหน่วยงานภาครัฐ ที่เวลาดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้เป็นปรากฎการณ์ไฟไหม้ฟางมากขึ้นไปทุกที . โดยจากที่เคยขึงขังประกาศโรดแมปจัดระเบียบรถโดยสารขับเคลื่อนพลังก๊าซของ 'สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปรากฎว่าความขึงขังที่เคยมีนั้นกำลังมีแนวโน้มไปสู่การหย่อนยานมากขึ้นตามลำดับ . อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ความประมาทของเจ้าของรถบัสต้นเหตุแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่านโยบายของภาครัฐในภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้รถโดยสารใช้ก๊าซ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาไม่ต่างกัน โดยในเรื่องนี้มีการแสดงความคิดเห็นและให้แง่มุมมาจาก หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ . โดยนักวิชาการด้านพลังงานรายนี้ เป็นคนแรกๆที่ออกมาฉายภาพของปัญหาผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เนื่องจากรัฐมุ่งโปรโมตขายก๊าซ NGV ใช้ในรถขนส่งผู้โดยสาร จนชะล่าใจ วางมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ โดยเฉพาะมาตรฐานวาล์วที่หัวถังอันตรายมาก ดังนั้นการโยนความผิดให้เอกชนฝ่ายเดียวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจว่า หลายประเทศในทวีปยุโรป นั้นใช้ก๊าซในยานยนต์มานานก่อนประเทศไทย ได้มีบทเรียนและสร้างมาตรฐานยุโรป ที่เรียกว่า ECE R110 ซึ่งกำหนดว่า ยานพาหนะที่ติดก๊าซ NGV ทุกชนิด จะต้องใช้วาล์วที่ต้องปิดเปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า โซลินอยด์ วาล์ว และเมื่อเกิดเหตุก๊าซรั่ว หรือปิดเครื่องยนต์ หรือใช้น้ำมัน จะต้องปิดวาล์ทันทีแบบอัตโนมัติ ซึ่งช้าสุดต้องไม่เกิน 2 วินาที . มาตรฐานการติดตั้งก๊าซ LPG ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น ได้ปรากฏเป็นประกาศกรมขนส่งทางบก ลงประกาศราชกิจจานุเบกษามีมาตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม 2551 กำหนดให้รถที่ติดก๊าซ LPG ใช้ “ลิ้นปิดเปิดอัตโนมัติ” ที่หัวถัง หากก๊าซรั่วแม้แต่เพียงเล็กน้อย หากสลับใช้น้ำมัน และหากดับเครื่องยนต์ วาล์วโซลินอยด์จะปิดอัตโนมัติทันที แต่การติดก๊าซ NGV ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น กลับเป็นเรื่องแปลกประหลาด . เพราะได้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยต่ำกว่ายุโรป และต่ำกว่าก๊าซ LPG ด้วย คือ กำหนดให้ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในยานยนต์เลือกได้ ว่าจะใช้วาล์วแบบไหนก็คือ จะเป็น “วาล์วแบบอัตโนมัติ” ก็ได้ หรือจะเป็น “วาล์วแบบใช้มือปิดเปิด” ก็ได้ . "เมื่อกำหนดให้เลือกได้ว่าจะให้มีมาตรฐานความปลอดภัยปิดเปิดแก๊สอัตโนมัติตามแบบยุโรปก็ได้ หรือจะเป็นวาล์วที่ใช้มือปิดเปิดก็ได้ ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จึงเลือก “วาล์วอัตโนมือ - ที่ใช้มือปิดเปิด” เกือบทั้งหมด เพราะ ถูกกว่า-ประหยัดกว่า และภาครัฐอนุญาตให้ทำอย่างนั้น" ประเด็นสำคัญที่หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ชี้ให้เห็น . ไม่เพียงเท่านี้ นโยบายดังกล่าวยังได้มาซึ่งความอู้ฟู่อของปตท.อีกด้วยภายใต้แผนการขยายการใช้ NGV เพื่อเป็นทางเลือกเชื้อเพลิงในภาคขนส่งในปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้น โดยเป็นสารตั้งต้นที่นำมาซึ่งการส่งเสริมการใช้ก๊าซNGVครั้งใหญ่ . โดยหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ อธิบายในประเด็นนี้ว่า สามารถทำให้รัฐบาลมีมาตรการสั่งไปได้หลายกระทรวง รวมถึงมาตรการบังคับ ให้ยานยนต์ขนส่งมวลชน ให้มาติดก๊าซ NGV ให้หมด คือ แท็กซี่ในกรุงเทพ, รถให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ, รถเมล์, รถบขส., รถตู้โดยสาร, รถบัส, รถเก็บขยะใน กทม., รถของหน่วยราชการ, รถของรัฐวิสากิจ ปตท. และรัฐบาลถึงขนาดประชาสัมพันธ์ว่า ก๊าซ NGV ทนความร้อนได้สูงกว่า ก๊าซลอยตัวขึ้นสูงจึงปลอดภัยกว่า ทำให้คนหลงเชื่อผิด ๆ และอยากติดก๊าซ NGV มากขึ้น . ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อคิดเห็นของหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ซึ่งมีความน่าสนใจและชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหานั้นจะไปถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ในยามที่เรื่องนี้กำลังจะเลือนหายไปจากสังคม หรือบางทีอาจจะไปถึงโต๊ะของรัฐมนตรี แต่ก็ถูกโยนทิ้งเพราะมองว่าเป็นข้อเสนอจากคนของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นคู่แข่งในทางการเมืองเท่านั้น .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    5
    0 Comments 0 Shares 1966 Views 0 Reviews
  • วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี (Wat Suvarnabhumi Buddhajayanti) ตั้งอยู่ไม่ไกลกับสนามบินสุวรรณภูมิ วัดนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและทันสมัย รวมถึงมีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยและอินเดีย ไฮไลท์ของวัดมีพระมหาธาตุเจดีย์ที่จำลองแบบจากวัดพุทธคยาในอินเดีย นอกจากนี้ยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่มาจากอินเดีย บรรยากาศรอบวัดเงียบสงบ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรม ทำบุญ และสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เปิดให้เข้าชม : ทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งอยู่ที่ : ซ.จระเข้8 ต.ศรีษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ #ขึ้นฟีดเถอะ #วัดใกล้กรุงเทพ #เที่ยววัด #เข้าวัดทําบุญ #สายมูห้ามพลาด #วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี #สมุทรปราการ #บุ๊คชอบเที่ยว
    วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี (Wat Suvarnabhumi Buddhajayanti) ตั้งอยู่ไม่ไกลกับสนามบินสุวรรณภูมิ วัดนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและทันสมัย รวมถึงมีการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยและอินเดีย ไฮไลท์ของวัดมีพระมหาธาตุเจดีย์ที่จำลองแบบจากวัดพุทธคยาในอินเดีย นอกจากนี้ยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่มาจากอินเดีย บรรยากาศรอบวัดเงียบสงบ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรม ทำบุญ และสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เปิดให้เข้าชม : ทุกวันไม่เว้นวันหยุด 📍ตั้งอยู่ที่ : ซ.จระเข้8 ต.ศรีษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ #ขึ้นฟีดเถอะ #วัดใกล้กรุงเทพ #เที่ยววัด #เข้าวัดทําบุญ #สายมูห้ามพลาด #วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี #สมุทรปราการ #บุ๊คชอบเที่ยว📖🌤️🍃
    0 Comments 0 Shares 1323 Views 23 0 Reviews
  • จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

    28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22

    ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น
    – ระเบิด Bomb
    – อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm
    – การก่อการร้าย Terrorist
    – โรคระบาดร้ายแรง

    CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้

    ภาพจากข่าวสด

    #Thaitimes
    จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น – ระเบิด Bomb – อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm – การก่อการร้าย Terrorist – โรคระบาดร้ายแรง CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้ ภาพจากข่าวสด #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1698 Views 0 Reviews
  • Akesin Place : เอกสินเพลส, นนทบุรี

    คอนโดเอกสินเพลส ชั้น18 ห้องเลขที่ 181 เนื้อที่ 46 ตรม.ราคาขาย 2.75 ลบ. นนทบุรี ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน
    ขายคอนโด Akesin Place เอกสิน เพลส คอนโดหรูตกแต่งสวย พร้อมอยู่

    ➤ เฟอร์นิเจอร์ครบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย บนทำเลศักยภาพ

    ➤ ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน

    ➤ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ทั้งยังอยู่บนแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลในอนาคต สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลหน้าคอนโด(โครงการเริ่มปลายปี 68) เชื่อมต่อ 5 สาย สีแดง,สีม่วง,สีชมพู,สีเขียว,สีเหลือง

    ➤ พื้นที่ขนาด 46 ตรม. แยกเป็นสัดส่วน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น และครัว ชั้น18 ที่จอดรถ 100% (รวมจอดขวาง)

    ➤ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คีย์การ์ด, รปภ.กล้องวงจรปิด 24 ชม.

    ➤ สถานที่ใกล้เคียง เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน, โรงพยาบาลนนทเวช,โรงพยาบาลเกษมราษฏร์,โรงพยาบาลโรคทรวงอก,กระทรวงสาธารณะสุข, โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

    **อื่นๆ**
    ➤ สนามบินดอนเมือง : 16.7 กม.
    ➤ สนามบินสุวรรณภูมิ : 43 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Akesin Place : เอกสินเพลส, นนทบุรี คอนโดเอกสินเพลส ชั้น18 ห้องเลขที่ 181 เนื้อที่ 46 ตรม.ราคาขาย 2.75 ลบ. นนทบุรี ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน ขายคอนโด Akesin Place เอกสิน เพลส คอนโดหรูตกแต่งสวย พร้อมอยู่ ➤ เฟอร์นิเจอร์ครบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย บนทำเลศักยภาพ ➤ ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน ➤ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการนนทบุรี ทั้งยังอยู่บนแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลในอนาคต สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลหน้าคอนโด(โครงการเริ่มปลายปี 68) เชื่อมต่อ 5 สาย สีแดง,สีม่วง,สีชมพู,สีเขียว,สีเหลือง ➤ พื้นที่ขนาด 46 ตรม. แยกเป็นสัดส่วน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น และครัว ชั้น18 ที่จอดรถ 100% (รวมจอดขวาง) ➤ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คีย์การ์ด, รปภ.กล้องวงจรปิด 24 ชม. ➤ สถานที่ใกล้เคียง เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน, โรงพยาบาลนนทเวช,โรงพยาบาลเกษมราษฏร์,โรงพยาบาลโรคทรวงอก,กระทรวงสาธารณะสุข, โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต **อื่นๆ** ➤ สนามบินดอนเมือง : 16.7 กม. ➤ สนามบินสุวรรณภูมิ : 43 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 1320 Views 0 Reviews
  • ด่วน! เครื่องบินเล็ก Cessna 208B Grand Caravan ของรีสอร์ทหรู “โซเนวา“(Soneva Kiri)ตกที่บริเวณป่าชายเลน บางปะกง หลังจากบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปยังสนามบินเกาะไม้ชี้ ใกล้เกาะกูด จังหวัดตราด คร่าชีวิตนักบินและผู้โดยสาร 9 ราย

    22 สิงหาคม 2567- มีรายงานข่าวเมื่อเวลาประมาณ 15.00 ที่ผ่านมาว่ามีผู้แจ้งเหตุเครื่องบินตกที่เขาดิน ใกล้แม่น้ำบางปะกง ตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นอากาศยานแบบ Cessna 208B Grand Caravan ทะเบียน HS-SKR โดยเครื่องบินมีกำหนดเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินเกาะไม้ชี้หรือสนามบินโซเนวา คีรี (อังกฤษ: Koh Mai Si Airport) ตั้งอยู่ที่ เกาะไม้ซี้ อ.เกาะกูด จังหวัดตราด เป็นสนามบินส่วนตัวของเครือโรงแรมโซเนวา คีรี โดยบินขึ้นจากสุวรรณภูมิเมื่อ 14.46 น. และเกิดเหตุประมาณ 14.57 น.

    เวลาประมาณ 19.37 น. ตำรวจ สภ. บางปะกง ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทราบชื่อผู้เสียชีวิต ได้แก่นักบิน 2 คน คือ นายอนุชา อายุ 61 ปี ชาว จ. พิษณุโลก และ นายพรศักดิ์ อายุ 30 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ส่วนผู้โดยสาร 7 คน คือ น.ส.นภัค อายุ 34 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ , น.ส.สิริยุพา อายุ 25 ปี ชาว จ.พัทลุง , Ms.Jing Zhang อายุ 42 ปี สัญชาติจีน , Mr.Jinfeng Yin อายุ 38 ปี สัญชาติจีน , Ms.Yu Tang อายุ 33 ปี สัญชาติจีน , Miss.Hang,Yin อายุ 13 ปี สัญชาติจีน และ Miss.Jing Jing Zhang อายุ 12 ปี สัญชาติจีน

    สำหรับ Cessna 208B Grand Caravan เป็นเครื่องบินรุ่นหนึ่งในตระกูลหรือรุ่น Cessna 208 โดย Cessna 208B เป็นเครื่องบินใบพัดเทอร์โบพร็อพเครื่องยนต์เดียว ใช้งานได้เอนกประสงค์ แต่หากใช้เป็นเครื่องบินโดยสารจะใช้นักบิน 1-2 คนและผู้โดยสารได้อีก 9-11 คน

    ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Hflight และคนข่าวบางปะกง

    #Thaitimes
    ด่วน! เครื่องบินเล็ก Cessna 208B Grand Caravan ของรีสอร์ทหรู “โซเนวา“(Soneva Kiri)ตกที่บริเวณป่าชายเลน บางปะกง หลังจากบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปยังสนามบินเกาะไม้ชี้ ใกล้เกาะกูด จังหวัดตราด คร่าชีวิตนักบินและผู้โดยสาร 9 ราย 22 สิงหาคม 2567- มีรายงานข่าวเมื่อเวลาประมาณ 15.00 ที่ผ่านมาว่ามีผู้แจ้งเหตุเครื่องบินตกที่เขาดิน ใกล้แม่น้ำบางปะกง ตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นอากาศยานแบบ Cessna 208B Grand Caravan ทะเบียน HS-SKR โดยเครื่องบินมีกำหนดเดินทางจากสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินเกาะไม้ชี้หรือสนามบินโซเนวา คีรี (อังกฤษ: Koh Mai Si Airport) ตั้งอยู่ที่ เกาะไม้ซี้ อ.เกาะกูด จังหวัดตราด เป็นสนามบินส่วนตัวของเครือโรงแรมโซเนวา คีรี โดยบินขึ้นจากสุวรรณภูมิเมื่อ 14.46 น. และเกิดเหตุประมาณ 14.57 น. เวลาประมาณ 19.37 น. ตำรวจ สภ. บางปะกง ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทราบชื่อผู้เสียชีวิต ได้แก่นักบิน 2 คน คือ นายอนุชา อายุ 61 ปี ชาว จ. พิษณุโลก และ นายพรศักดิ์ อายุ 30 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ส่วนผู้โดยสาร 7 คน คือ น.ส.นภัค อายุ 34 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ , น.ส.สิริยุพา อายุ 25 ปี ชาว จ.พัทลุง , Ms.Jing Zhang อายุ 42 ปี สัญชาติจีน , Mr.Jinfeng Yin อายุ 38 ปี สัญชาติจีน , Ms.Yu Tang อายุ 33 ปี สัญชาติจีน , Miss.Hang,Yin อายุ 13 ปี สัญชาติจีน และ Miss.Jing Jing Zhang อายุ 12 ปี สัญชาติจีน สำหรับ Cessna 208B Grand Caravan เป็นเครื่องบินรุ่นหนึ่งในตระกูลหรือรุ่น Cessna 208 โดย Cessna 208B เป็นเครื่องบินใบพัดเทอร์โบพร็อพเครื่องยนต์เดียว ใช้งานได้เอนกประสงค์ แต่หากใช้เป็นเครื่องบินโดยสารจะใช้นักบิน 1-2 คนและผู้โดยสารได้อีก 9-11 คน ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Hflight และคนข่าวบางปะกง #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1055 Views 0 Reviews
  • ฟื้นซูบัง (SZB) สนามบินเก่ามาเลย์

    หากกล่าวถึงสนามบินเก่าในเมืองหลวง ถ้าประเทศไทยมีสนามบินดอนเมือง ที่เคยเป็นสนามบินหลักในกรุงเทพฯ ก่อนย้ายมาที่สนามบินสุวรรณภูมิในปี 2549 ที่ประเทศมาเลเซียก็มีสนามบินเก่าอย่าง ท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิซ ชาห์ หรือสนามบินซูบัง (SZB) ตั้งอยู่ที่เมืองซูบัง รัฐสลังงอร์ เปิดให้บริการเมื่อปี 2508 ก่อนย้ายสนามบินหลัก (KUL) ไปยังเมืองเซปัง ทางตอนใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ในปี 2541

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียกำลังฟื้นฟูสนามบินซูบัง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้กับเขตแคลงวัลเลย์ (Klang Valley) ที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 8 ล้านคน ล่าสุด สายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย จะเปิดให้บริการเส้นทาง ซูบัง-กูชิง และ ซูบัง-โคตาคินาบาลู เชื่อมระหว่างฝั่งแหลมมลายู กับเกาะบอร์เนียว ไป-กลับรวม 8 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

    ก่อนหน้านี้มีสายการบินประกาศทำการบินที่สนามบินซูบัง เริ่มจากวันที่ 1 สิงหาคม 2567 สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) จะกลับมาทำการบินเส้นทาง ซูบัง-ปีนัง ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะขยายเป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ขณะที่สายการบินทรานส์นูซา (TransNusa) จะทำการบินเส้นทางซูบัง-จาการ์ตา อินโดนีเซีย วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ส่วนสายการบินสกู๊ต จะกลับมาทำการบินเส้นทาง ซูบัง-สิงคโปร์ ในวันที่ 1 กันยายน 2567

    ด้านสายการบินซึ่งใช้เครื่องบินขนาดเล็กอย่าง ไฟร์ฟลาย (Firefly) ที่ทำการบินเส้นทางอลอร์สตาร์ ยะโฮร์บาห์รู โกตาบาห์รู กัวลาตรังกานู ลังกาวี ปีนัง ก็จะเปิดเส้นทาง ซูบัง-โคตาคินาบาลู ในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เช่นกัน ส่วนสายการบินเบอร์จายา แอร์ (Berjaya Air) ทำการบินแบบชาร์เตอร์ไฟล์ตไปยังหัวหิน เกาะสมุย ลังกาวี ปังกอร์ ปีนัง เรดัง และติโอมัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศให้บริการที่สนามบินซูบัง อาทิ มายเจ็ตเอ็กซ์เพรส (My Jet Xpress Airlines) และรายาแอร์เวย์ส (Raya Airways)

    สำหรับการเดินทางจากสถานีกลางกัวลาลัมเปอร์ (KL Sentral) ไปยังท่าอากาศยานซูบัง มีอยู่หลายช่องทาง อาทิ รถประจำทาง RapidKL สาย 772 จากป้ายหยุดรถประจำทาง KL1760 Suasana Sentral Loft ไปลงที่ป้าย SA909 Subang Skypark Terminal ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือรถไฟฟ้า LRT สาย Kelana Jaya (สายสีแดง) จากสถานี KL Sentral ไปลงที่สถานี Pasar Seni ต่อด้วยรถไฟฟ้าสาย Kajang (สายสีเขียว) ลงที่สถานี Kwasa Sentral จากนั้นต่อรถเมล์สาย T804 ไปลงที่ป้าย Subang Airport เป็นต้น

    #Newskit #SubangAirport #SZB
    ฟื้นซูบัง (SZB) สนามบินเก่ามาเลย์ หากกล่าวถึงสนามบินเก่าในเมืองหลวง ถ้าประเทศไทยมีสนามบินดอนเมือง ที่เคยเป็นสนามบินหลักในกรุงเทพฯ ก่อนย้ายมาที่สนามบินสุวรรณภูมิในปี 2549 ที่ประเทศมาเลเซียก็มีสนามบินเก่าอย่าง ท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิซ ชาห์ หรือสนามบินซูบัง (SZB) ตั้งอยู่ที่เมืองซูบัง รัฐสลังงอร์ เปิดให้บริการเมื่อปี 2508 ก่อนย้ายสนามบินหลัก (KUL) ไปยังเมืองเซปัง ทางตอนใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ในปี 2541 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมาเลเซียกำลังฟื้นฟูสนามบินซูบัง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้กับเขตแคลงวัลเลย์ (Klang Valley) ที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 8 ล้านคน ล่าสุด สายการบินแอร์เอเชีย มาเลเซีย จะเปิดให้บริการเส้นทาง ซูบัง-กูชิง และ ซูบัง-โคตาคินาบาลู เชื่อมระหว่างฝั่งแหลมมลายู กับเกาะบอร์เนียว ไป-กลับรวม 8 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้มีสายการบินประกาศทำการบินที่สนามบินซูบัง เริ่มจากวันที่ 1 สิงหาคม 2567 สายการบินบาติกแอร์ (Batik Air) จะกลับมาทำการบินเส้นทาง ซูบัง-ปีนัง ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะขยายเป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน ในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ขณะที่สายการบินทรานส์นูซา (TransNusa) จะทำการบินเส้นทางซูบัง-จาการ์ตา อินโดนีเซีย วันที่ 1 สิงหาคม 2567 ส่วนสายการบินสกู๊ต จะกลับมาทำการบินเส้นทาง ซูบัง-สิงคโปร์ ในวันที่ 1 กันยายน 2567 ด้านสายการบินซึ่งใช้เครื่องบินขนาดเล็กอย่าง ไฟร์ฟลาย (Firefly) ที่ทำการบินเส้นทางอลอร์สตาร์ ยะโฮร์บาห์รู โกตาบาห์รู กัวลาตรังกานู ลังกาวี ปีนัง ก็จะเปิดเส้นทาง ซูบัง-โคตาคินาบาลู ในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เช่นกัน ส่วนสายการบินเบอร์จายา แอร์ (Berjaya Air) ทำการบินแบบชาร์เตอร์ไฟล์ตไปยังหัวหิน เกาะสมุย ลังกาวี ปังกอร์ ปีนัง เรดัง และติโอมัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศให้บริการที่สนามบินซูบัง อาทิ มายเจ็ตเอ็กซ์เพรส (My Jet Xpress Airlines) และรายาแอร์เวย์ส (Raya Airways) สำหรับการเดินทางจากสถานีกลางกัวลาลัมเปอร์ (KL Sentral) ไปยังท่าอากาศยานซูบัง มีอยู่หลายช่องทาง อาทิ รถประจำทาง RapidKL สาย 772 จากป้ายหยุดรถประจำทาง KL1760 Suasana Sentral Loft ไปลงที่ป้าย SA909 Subang Skypark Terminal ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรือรถไฟฟ้า LRT สาย Kelana Jaya (สายสีแดง) จากสถานี KL Sentral ไปลงที่สถานี Pasar Seni ต่อด้วยรถไฟฟ้าสาย Kajang (สายสีเขียว) ลงที่สถานี Kwasa Sentral จากนั้นต่อรถเมล์สาย T804 ไปลงที่ป้าย Subang Airport เป็นต้น #Newskit #SubangAirport #SZB
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1507 Views 0 Reviews
  • XJ กลับดอนเมือง เหลือไฟล์ตกัวลาลัมเปอร์

    XJ คือรหัสเที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งทำการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ สู่เส้นทางโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และโซล ประเทศเกาหลีใต้ มาตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ล่าสุดประกาศว่า ย้ายทุกเที่ยวบินมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง 1 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ผู้โดยสารที่จองตั๋วไว้แล้วจะปรับเปลี่ยนเที่ยวบินโดยอัตโนมัติ

    เส้นทางที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นรหัสเที่ยวบินขึ้นต้นด้วย XJ ทั้งหมด ได้แก่ เที่ยวบินตรงเข้าออกกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

    เหตุผลที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายกลับจากสุวรรณภูมิมาดอนเมืองเพื่อลดต้นทุน เพราะรันเวย์และแท็กซี่เวย์ระยะสั้นกว่า และค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน กับค่าบริการที่เก็บอากาศยานถูกกว่า รวมทั้งเชื่อมต่อผู้โดยสารกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่มีเส้นทางบินรวมกว่า 93 เส้นทาง หรือ 1,250 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ช่วยให้มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเส้นทางสุวรรณภูมิ-กัวลาลัมเปอร์ ที่ดำเนินการโดย แอร์เอเชียเอ็กซ์ มาเลเซีย (รหัสเที่ยวบิน D7) ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิตามเดิม เช่นเดียวกับเที่ยวบิน FD เส้นทางจากสุวรรณภูมิ ไปเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่

    ปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งคนละส่วนกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย มีฝูงบินแอร์บัส เอ 330 รวม 8 ลำ และจะทยอยเพิ่มเป็น 11 ลำ ภายในสิ้นปี 2567 หลังจากนั้นวางแผนรับเครื่องบินเพิ่มปีละ 3-5 ลำ เพื่อเพิ่มความถี่เเละเปิดบินเส้นทางใหม่อย่างต่อเนื่อง

    #Newskit #AirasiaX #DMK
    XJ กลับดอนเมือง เหลือไฟล์ตกัวลาลัมเปอร์ XJ คือรหัสเที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งทำการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ สู่เส้นทางโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และโซล ประเทศเกาหลีใต้ มาตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ล่าสุดประกาศว่า ย้ายทุกเที่ยวบินมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง 1 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ผู้โดยสารที่จองตั๋วไว้แล้วจะปรับเปลี่ยนเที่ยวบินโดยอัตโนมัติ เส้นทางที่จะเปลี่ยนแปลง เป็นรหัสเที่ยวบินขึ้นต้นด้วย XJ ทั้งหมด ได้แก่ เที่ยวบินตรงเข้าออกกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เหตุผลที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายกลับจากสุวรรณภูมิมาดอนเมืองเพื่อลดต้นทุน เพราะรันเวย์และแท็กซี่เวย์ระยะสั้นกว่า และค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน กับค่าบริการที่เก็บอากาศยานถูกกว่า รวมทั้งเชื่อมต่อผู้โดยสารกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่มีเส้นทางบินรวมกว่า 93 เส้นทาง หรือ 1,250 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ช่วยให้มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเส้นทางสุวรรณภูมิ-กัวลาลัมเปอร์ ที่ดำเนินการโดย แอร์เอเชียเอ็กซ์ มาเลเซีย (รหัสเที่ยวบิน D7) ให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิตามเดิม เช่นเดียวกับเที่ยวบิน FD เส้นทางจากสุวรรณภูมิ ไปเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ ปัจจุบัน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งคนละส่วนกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย มีฝูงบินแอร์บัส เอ 330 รวม 8 ลำ และจะทยอยเพิ่มเป็น 11 ลำ ภายในสิ้นปี 2567 หลังจากนั้นวางแผนรับเครื่องบินเพิ่มปีละ 3-5 ลำ เพื่อเพิ่มความถี่เเละเปิดบินเส้นทางใหม่อย่างต่อเนื่อง #Newskit #AirasiaX #DMK
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 1745 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมในหน้าสื่อ หลายชาติ ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ และ ทีมฉุกเฉิน ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ไว และดีเยี่ยมในการรับมือ ถึงแม้มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 1 ชั่วโมง #สิงคโปร์แอร์ไลน์ #SQ321
    #SingaporeAirlines #Thailand
    ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมในหน้าสื่อ หลายชาติ ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ และ ทีมฉุกเฉิน ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ไว และดีเยี่ยมในการรับมือ ถึงแม้มีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 1 ชั่วโมง #สิงคโปร์แอร์ไลน์ #SQ321 #SingaporeAirlines #Thailand
    Like
    Yay
    5
    1 Comments 0 Shares 1659 Views 0 Reviews
More Results