• ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา
    .
    เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน
    .
    รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา . เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน . รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด . ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ฮุน เซน ปฏิเสธข้อกล่าวหาจับคนไทยเป็นตัวประกัน ชี้เป็นการสั่งระงับการเดินทางข้ามแดนทางบกเท่านั้น อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์สู้รบ พร้อมย้ำการเดินทางทางอากาศยังทำได้ตามปกติ แนะคนไทยออกจากกัมพูชาผ่านสนามบินพนมเปญหรือเสียมราฐ ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำการจำกัดเสรีภาพการเดินทางของพลเรือนเข้าข่ายละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120288
    .
    #News1live #News1 #ฮุนเซน #ด่านปอยเปต #ชายแดนไทยกัมพูชา #สิทธิมนุษยชน #อนุสัญญาเจนีวา
    ฮุน เซน ปฏิเสธข้อกล่าวหาจับคนไทยเป็นตัวประกัน ชี้เป็นการสั่งระงับการเดินทางข้ามแดนทางบกเท่านั้น อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์สู้รบ พร้อมย้ำการเดินทางทางอากาศยังทำได้ตามปกติ แนะคนไทยออกจากกัมพูชาผ่านสนามบินพนมเปญหรือเสียมราฐ ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำการจำกัดเสรีภาพการเดินทางของพลเรือนเข้าข่ายละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120288 . #News1live #News1 #ฮุนเซน #ด่านปอยเปต #ชายแดนไทยกัมพูชา #สิทธิมนุษยชน #อนุสัญญาเจนีวา
    Like
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • เผยภาพความเสียหายอาคารกาสิโนทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ของกัมพูชา หลังถูกเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยเข้าปฏิบัติการโจมตีในช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามการเผยแพร่ของเพจ Army Military Force
    .
    กาสิโนทมอดาเป็นโครงการที่ฝ่ายกัมพูชาก่อสร้างรุกล้ำดินแดนไทยและเคยถูกแจ้งให้รื้อถอนหลายครั้งแต่ไม่ดำเนินการ ภายใต้สถานการณ์สู้รบตั้งแต่ 8 ธ.ค. กองทัพไทยเปิดยุทธการปกป้องอธิปไตย สนธิกำลังบก เรือ อากาศ โดยใช้ F-16 ทำลายเป้าหมายดังกล่าวตามแผนปฏิบัติการ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119763
    .
    #News1live #News1 #F16 #กองทัพอากาศไทย #กาสิโนทมอดา #ทมอดาซิตี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการทางทหาร #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    เผยภาพความเสียหายอาคารกาสิโนทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ของกัมพูชา หลังถูกเครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทยเข้าปฏิบัติการโจมตีในช่วงเช้ามืดวันนี้ ตามการเผยแพร่ของเพจ Army Military Force . กาสิโนทมอดาเป็นโครงการที่ฝ่ายกัมพูชาก่อสร้างรุกล้ำดินแดนไทยและเคยถูกแจ้งให้รื้อถอนหลายครั้งแต่ไม่ดำเนินการ ภายใต้สถานการณ์สู้รบตั้งแต่ 8 ธ.ค. กองทัพไทยเปิดยุทธการปกป้องอธิปไตย สนธิกำลังบก เรือ อากาศ โดยใช้ F-16 ทำลายเป้าหมายดังกล่าวตามแผนปฏิบัติการ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119763 . #News1live #News1 #F16 #กองทัพอากาศไทย #กาสิโนทมอดา #ทมอดาซิตี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปฏิบัติการทางทหาร #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Haha
    Wow
    5
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5
    .
    รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต
    .
    ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้
    .
    รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408
    .
    #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในเวลา 21.20 น. คืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ลากยาวเข้าสู่วันที่ 5 . รายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศได้อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีบทบาทเป็นคนกลางช่วยยุติการสู้รบในอดีต . ทรัมป์กล่าวในงานเลี้ยงของสภาคองเกรสว่า เขามองตนเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเชื่อว่าการโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำไทยและกัมพูชาอีกไม่กี่รอบ จะสามารถนำสถานการณ์กลับเข้าสู่เส้นทางหยุดยิงได้ . รอยเตอร์ระบุด้วยว่า การปะทะกันตลอดแนวชายแดนกว่า 817 กิโลเมตรในรอบนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปี มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บกว่า 200 คน และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพหนีการสู้รบ . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119408 . #News1live #News1 #ทรัมป์ #อนุทิน #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #การทูต #ความมั่นคง #การเมืองระหว่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • วันนี้(10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.18 น. เพจ กองทัพภาคที่ 2 #รายงานสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ 10 ธ.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 05.20 น. ถึงเวลานี้
    .
    **** จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 แนวรบหลัก :
    1. แนวรบช่องสายตะกู : เริ่มมีการปะทะกัน /ยังไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย/ เหตุการณ์ยังไม่ยุติ
    .
    **** จ.สุรินทร์ จำนวน 5 แนวรบหลัก :
    1. แนวรบช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    2. แนวรบปราสาทคนา : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    3. แนวรบปราสาทตาควาย : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    4. แนวรบช่องกร่าง : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    5. แนวรบปราสาทตาเมือนธม : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    .
    **** จ.ศรีสะเกษ จำนวน 4 แนวรบหลัก
    1. แนวรบพระวิหาร (ช่องซำแต-โดนตวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า) : มีการปะทะเป็นระยะด้วย / ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    2. แนวรบพระวิหาร (ปราสาทพระวิหาร-ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย) : มีการปะทะเป็นระยะ ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    3. แนวรบภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน : มีการปะทะเป็นระยะ ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    4. แนวรบช่องสะงำ : ยังไม่ได้รับรายงานการปะทะ
    .
    **** จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แนวรบหลัก
    1. แนวรบช่องบก : มีการปะทะเป็นระยะ /ไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    2. แนวรบช่องอานม้า : มีการปะทะเป็นระยะ / ยังไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118572

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้(10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.18 น. เพจ กองทัพภาคที่ 2 #รายงานสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ 10 ธ.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 05.20 น. ถึงเวลานี้ . **** จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 แนวรบหลัก : 1. แนวรบช่องสายตะกู : เริ่มมีการปะทะกัน /ยังไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย/ เหตุการณ์ยังไม่ยุติ . **** จ.สุรินทร์ จำนวน 5 แนวรบหลัก : 1. แนวรบช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 2. แนวรบปราสาทคนา : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 3. แนวรบปราสาทตาควาย : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 4. แนวรบช่องกร่าง : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 5. แนวรบปราสาทตาเมือนธม : มีการยิงเป็นระยะ / ยังไม่ปรากฏการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ . **** จ.ศรีสะเกษ จำนวน 4 แนวรบหลัก 1. แนวรบพระวิหาร (ช่องซำแต-โดนตวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า) : มีการปะทะเป็นระยะด้วย / ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 2. แนวรบพระวิหาร (ปราสาทพระวิหาร-ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย) : มีการปะทะเป็นระยะ ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 3. แนวรบภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน : มีการปะทะเป็นระยะ ยังไม่มีรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 4. แนวรบช่องสะงำ : ยังไม่ได้รับรายงานการปะทะ . **** จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แนวรบหลัก 1. แนวรบช่องบก : มีการปะทะเป็นระยะ /ไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ 2. แนวรบช่องอานม้า : มีการปะทะเป็นระยะ / ยังไม่ได้รับรายงานการสูญเสีย / ยังไม่ยุติ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118572 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 438 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา ยิง BM-21 ตกใกล้ รพ. พนมดงรัก ช่วงเช้าที่ผ่านมา เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-บุคลากรทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบังเกอร์ เพื่อความปลอดภัย
    .
    เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.68 กองทัพภาคที่2 รายงานสถานการณ์สู้รบชายแดนไทยกัมพูชา ในเวลา 08.40 กัมพูชา ยิงBM-12 ตกใกล้โรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบังเกอร์ เพื่อความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118527

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    กัมพูชา ยิง BM-21 ตกใกล้ รพ. พนมดงรัก ช่วงเช้าที่ผ่านมา เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-บุคลากรทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบังเกอร์ เพื่อความปลอดภัย . เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.68 กองทัพภาคที่2 รายงานสถานการณ์สู้รบชายแดนไทยกัมพูชา ในเวลา 08.40 กัมพูชา ยิงBM-12 ตกใกล้โรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบังเกอร์ เพื่อความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118527 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 390 Views 0 Reviews
  • ความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ห้า (28 ก.ค. 2568)

    ตั้งแต่เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสาม จนฟ้าเริ่มสาง กัมพูชายังคงโจมตีทุกรูปแบบต่อเนื่อง ทหารไทยยังไม่ได้พัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000071053

    #Thaitimes #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #กองทัพบกทันกระแส
    ความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ห้า (28 ก.ค. 2568) • ตั้งแต่เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ตีสาม จนฟ้าเริ่มสาง กัมพูชายังคงโจมตีทุกรูปแบบต่อเนื่อง ทหารไทยยังไม่ได้พัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000071053 • #Thaitimes #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯 #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กองทัพบกทันกระแส
    0 Comments 0 Shares 754 Views 0 Reviews
  • สรุปสถานการณ์ชายแดนเดือด! กัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่เข้าพื้นที่พลเรือน ไทยตอบโต้หนัก ยอดผู้อพยพพุ่งเฉียดแสน "ตราดพิฆาตไพรี 1" ตอบโต้สำเร็จ!
    https://www.thai-tai.tv/news/20563/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์สู้รบ #กองทัพไทย #ผู้อพยพ #จิตอาสาพระราชทาน #อาชญากรรมสงคราม #ละเมิดมนุษยธรรม #ตราดพิฆาตไพรี1 #ภูมะเขือ #ข่าวสารชายแดน #ไทยไท
    สรุปสถานการณ์ชายแดนเดือด! กัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่เข้าพื้นที่พลเรือน ไทยตอบโต้หนัก ยอดผู้อพยพพุ่งเฉียดแสน "ตราดพิฆาตไพรี 1" ตอบโต้สำเร็จ! https://www.thai-tai.tv/news/20563/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์สู้รบ #กองทัพไทย #ผู้อพยพ #จิตอาสาพระราชทาน #อาชญากรรมสงคราม #ละเมิดมนุษยธรรม #ตราดพิฆาตไพรี1 #ภูมะเขือ #ข่าวสารชายแดน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 577 Views 0 Reviews
  • ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดนเดือด! กัมพูชาพยายามรุก 6 จุดสำคัญ ยืนยันฝ่ายเราทำลายเป้าหมาย-กัมพูชาเสียชีวิต 100 นาย
    https://www.thai-tai.tv/news/20550/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #ศปกทภ2 #สถานการณ์สู้รบ #ผู้อพยพ #ข่าวปลอม #จิตอาสาพระราชทาน #ความมั่นคง #อุบลราชธานี #ศรีสะเกษ #สุรินทร์ #บุรีรัมย์
    ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดนเดือด! กัมพูชาพยายามรุก 6 จุดสำคัญ ยืนยันฝ่ายเราทำลายเป้าหมาย-กัมพูชาเสียชีวิต 100 นาย https://www.thai-tai.tv/news/20550/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพภาคที่2 #ศปกทภ2 #สถานการณ์สู้รบ #ผู้อพยพ #ข่าวปลอม #จิตอาสาพระราชทาน #ความมั่นคง #อุบลราชธานี #ศรีสะเกษ #สุรินทร์ #บุรีรัมย์
    0 Comments 0 Shares 566 Views 0 Reviews
  • ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
    .
    สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ . สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 1045 Views 0 Reviews
  • ไม่หวั่นตบโบนัสสอย F-16 ทัพฟ้าส่งบินรบใน 5 นาที : [THE MESSAGE]

    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เผยกรณีสภากลาโหมเตรียมแผนเผชิญเหตุสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หากเกิดสถานการณ์สู้รบสามารถนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการได้ภายใน 5 นาที ส่วนกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะให้โบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบของไทยตก ปฎิบัติการของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น หน้าที่ของเราเพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะเราไม่ได้รุกรานใคร แต่ต้องเตรียมความพร้อมสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ขอประชาชนมั่นใจในประสิทธิภาพกองทัพ
    ไม่หวั่นตบโบนัสสอย F-16 ทัพฟ้าส่งบินรบใน 5 นาที : [THE MESSAGE] พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เผยกรณีสภากลาโหมเตรียมแผนเผชิญเหตุสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หากเกิดสถานการณ์สู้รบสามารถนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการได้ภายใน 5 นาที ส่วนกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะให้โบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบของไทยตก ปฎิบัติการของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น หน้าที่ของเราเพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะเราไม่ได้รุกรานใคร แต่ต้องเตรียมความพร้อมสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ขอประชาชนมั่นใจในประสิทธิภาพกองทัพ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 890 Views 33 0 Reviews
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ งัดมาตรการชั่วคราว ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band มีผล 23-27 มิ.ย.68 ลดความผันผวนการซื้อขาย จากสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง หากตลาดผันผวนน้อยลง มีโอกาสจะปลดมาตรการก่อนครบกำหนด 27 มิ.ย.68 แนะนักลงทุน ท่ามกลางโลกป่วน ต้องกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร ก่อนตัดสินใจลงทุน
    ตลาดหลักทรัพย์ฯ งัดมาตรการชั่วคราว ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band มีผล 23-27 มิ.ย.68 ลดความผันผวนการซื้อขาย จากสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง หากตลาดผันผวนน้อยลง มีโอกาสจะปลดมาตรการก่อนครบกำหนด 27 มิ.ย.68 แนะนักลงทุน ท่ามกลางโลกป่วน ต้องกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร ก่อนตัดสินใจลงทุน
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 554 Views 17 0 Reviews
  • อะเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรีย หลุดจากการควบคุมของฝ่ายรัฐบาลเป็นครั้งแรก ภายหลังจากพวกกบฏอิสลามมิสต์เปิดการรุกใหญ่แบบเซอร์ไพรส์ กลุ่มติดตามสถานการณ์สู้รบกล่าวอ้างในวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ขณะที่กองทัพซีเรียยอมรับว่าทหารของฝ่ายตนถูกสังหารไปหลายสิบคน ส่วนรัสเซียแถลงส่งกำลังทางอากาศโจมตีใส่พวกกบฏอย่างดุเดือด สำหรับอิหร่านย้ำอเมริกาและอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการบุกสายฟ้าแลบ ด้านวอชิงตันโต้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะซีเรียมัวแต่พึ่งพิงมอสโกและเตหะราน
    .
    รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้นำกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส กลุ่มติดตามสถานการณ์การสู้รบในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน บอกกับเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) อ้างว่า ขณะนี้กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) หรือกลุ่มอัลนุสราฟรอนต์ ในอดีต และพันธมิตรกบฏกลุ่มอื่นๆ ในซีเรีย สามารถควบคุมเมืองอะเลปโปได้แล้ว ยกเว้นย่านที่อยู่อาศัยบางส่วนที่อยู่ในการควบคุมของกองกำลังเคิร์ด
    .
    เอชทีเอสยังเข้ายึดสนามบินเมืองอะเลปโปและเมืองเล็กๆ ใกล้เคียงอีกหลายสิบเมืองเมื่อวันเสาร์ (30 พ.ย.)
    .
    ก่อนที่จะเปิดการรุกครั้งนี้ เอชทีเอส หรือกลุ่มอัลนุสราฟรอนต์ ที่นำโดยอดีตอัลกออิดะห์สาขาซีเรีย และถูกตราหน้าว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยสหรัฐฯ รัสเซีย ตุรกี และประเทศอื่นๆ ก็เป็นผู้ควบคุมดินแดนผืนใหญ่หลายผืนในจังหวัดอิดลิบ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งถือเป็นพื้นที่สุดท้ายที่ยังอยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรอย่างอิหร่านและรัสเซีย
    .
    ข่าวระบุว่า เอชทีเอส และพวกพันธมิตรที่เป็นกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ได้เปิดฉากบุกฟ้าแลบในอะเลปโปตั้งแต่เมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) วันเดียวกับที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในประเทศเพื่อนบ้านคือเลบานอนมีผลบังคับใช้
    .
    ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกคำแถลงระบุว่า กองทัพอากาศของตนได้ออกโจมตีใส่พวกกบฏเพื่อสนับสนุนกองทัพซีเรีย โดยใช้ทั้งขีปนาวุธและลูกระเบิดถล่มใส่เป้าหมายที่เป็นจุดชุมพลของพวกนักรบ ที่ตั้งศูนย์บังคับบัญชา คลังสัมภาระ และที่ตั้งปืนใหญ่ ทั้งที่อะเลปโป และที่จังหวัดอิดลิบ
    .
    สำหรับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ยืนยันระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า จะจัดการ “ผู้ก่อการร้าย” ไม่ว่าจะถูกโจมตีหนักแค่ไหนก็ตาม
    .
    กลุ่มออบเซอร์วาทอรีระบุว่า การสู้รบระหว่างสองฝ่ายทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 327 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารและนักรบ และมีพลเรือนราว 44 คน และอ้างว่า เอชทีเอสและพันธมิตรยึดศูนย์กลางเมืองและที่ทำการรัฐบาลส่วนใหญ่ รวมทั้งเรือนจำในเมืองอะเลปโปโดยไม่มีการต้านทานมากนัก และไม่มีการต้านทานเลยในเมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญยุทธศาสตร์อีกหลายสิบเมือง
    .
    กลุ่มติดตามการสู้รบกลุ่มนี้กล่าวอีกว่า กองทัพซีเรียถอนออกจากฮามา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 4 และอยู่ห่างจากอะเลปโปทางใต้ราว 140 กม. หลังจากเผชิญหน้ากับกลุ่มกบฏ
    .
    ทว่า แหล่งข่าวในกองทัพซีเรียปฏิเสธเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า ทหารของรัฐบาลยังประจำอยู่ในที่มั่นบนเส้นทางที่กลุ่มกบฏเคลื่อนผ่าน
    .
    อย่างไรก็ดี กองทัพซีเรียยอมรับว่า กลุ่มกบฏบุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของอะเลปโป และทหารหลายสิบนายเสียชีวิตและบาดเจ็บ และสำทับว่า กลุ่มกบฏเปิดฉากโจมตีอะเลปโปและอิดลิบพร้อมกันจากหลายทิศทาง
    .
    รามี ผู้นำกลุ่มออบเซอร์วาทอรี ให้ความเห็นว่า ดูเหมือนตอนนี้ซีเรียถูกพันธมิตรหลักอย่างรัสเซียและอิหร่านทิ้ง และระบุว่า การโจมตีของรัสเซียเป็นการโจมตีทางสัญลักษณ์เท่านั้น
    .
    อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวหลายรายในกองทัพซีเรียบอกว่า เครื่องบินไอพ่นของรัสเซียและซีเรียได้ระดมโจมตีใส่พวกกบฏ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งพวกกบฏยึดไว้ในอิดลิบตั้งแต่วันเสาร์ ต่อมาในวันอาทิตย์ กองทัพซีเรียอ้างว่าสามารถยึดคืนเมือเล็กๆ หลายแห่งคืนจากฝ่ายกบฏ
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ รัสเซียได้ร่วมกับอิหร่านออกคำแถลงแสดงความกังวลต่อการสูญเสียของซีเรีย ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย กับอับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โดยที่รัสเซียยืนยันว่ายังคงให้การสนับสนุนแก่ซีเรียอย่างแข็งแกร่ง
    .
    ทางฝ่ายอารากชีเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเดินทางไปดามัสกัสเพื่อยืนยันการสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพซีเรีย และย้ำว่า การบุกจู่โจมสายฟ้าแลบของกลุ่มกบฏซีเรียเป็นการวางแผนของอเมริกาและอิสราเอล อย่างไรก็ตาม กองทัพซีเรียจะเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นได้เหมือนที่ผ่านมา
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกาแถลงว่า สถานการณ์ในขณะนี้ เกิดขึ้นจากการที่ซีเรียเอาแต่พึ่งพิงรัสเซียและอิหร่าน รวมทั้งไม่ยอมปฏิบัติตามกระบวนการสันติภาพที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ร่างขึ้นในปี 2015
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115647
    ..............
    Sondhi X
    อะเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรีย หลุดจากการควบคุมของฝ่ายรัฐบาลเป็นครั้งแรก ภายหลังจากพวกกบฏอิสลามมิสต์เปิดการรุกใหญ่แบบเซอร์ไพรส์ กลุ่มติดตามสถานการณ์สู้รบกล่าวอ้างในวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) ขณะที่กองทัพซีเรียยอมรับว่าทหารของฝ่ายตนถูกสังหารไปหลายสิบคน ส่วนรัสเซียแถลงส่งกำลังทางอากาศโจมตีใส่พวกกบฏอย่างดุเดือด สำหรับอิหร่านย้ำอเมริกาและอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการบุกสายฟ้าแลบ ด้านวอชิงตันโต้สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะซีเรียมัวแต่พึ่งพิงมอสโกและเตหะราน . รามี อับเดล เราะห์มาน ผู้นำกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส กลุ่มติดตามสถานการณ์การสู้รบในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน บอกกับเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ (1 ธ.ค.) อ้างว่า ขณะนี้กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) หรือกลุ่มอัลนุสราฟรอนต์ ในอดีต และพันธมิตรกบฏกลุ่มอื่นๆ ในซีเรีย สามารถควบคุมเมืองอะเลปโปได้แล้ว ยกเว้นย่านที่อยู่อาศัยบางส่วนที่อยู่ในการควบคุมของกองกำลังเคิร์ด . เอชทีเอสยังเข้ายึดสนามบินเมืองอะเลปโปและเมืองเล็กๆ ใกล้เคียงอีกหลายสิบเมืองเมื่อวันเสาร์ (30 พ.ย.) . ก่อนที่จะเปิดการรุกครั้งนี้ เอชทีเอส หรือกลุ่มอัลนุสราฟรอนต์ ที่นำโดยอดีตอัลกออิดะห์สาขาซีเรีย และถูกตราหน้าว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยสหรัฐฯ รัสเซีย ตุรกี และประเทศอื่นๆ ก็เป็นผู้ควบคุมดินแดนผืนใหญ่หลายผืนในจังหวัดอิดลิบ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งถือเป็นพื้นที่สุดท้ายที่ยังอยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรอย่างอิหร่านและรัสเซีย . ข่าวระบุว่า เอชทีเอส และพวกพันธมิตรที่เป็นกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ได้เปิดฉากบุกฟ้าแลบในอะเลปโปตั้งแต่เมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) วันเดียวกับที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในประเทศเพื่อนบ้านคือเลบานอนมีผลบังคับใช้ . ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกคำแถลงระบุว่า กองทัพอากาศของตนได้ออกโจมตีใส่พวกกบฏเพื่อสนับสนุนกองทัพซีเรีย โดยใช้ทั้งขีปนาวุธและลูกระเบิดถล่มใส่เป้าหมายที่เป็นจุดชุมพลของพวกนักรบ ที่ตั้งศูนย์บังคับบัญชา คลังสัมภาระ และที่ตั้งปืนใหญ่ ทั้งที่อะเลปโป และที่จังหวัดอิดลิบ . สำหรับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ยืนยันระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า จะจัดการ “ผู้ก่อการร้าย” ไม่ว่าจะถูกโจมตีหนักแค่ไหนก็ตาม . กลุ่มออบเซอร์วาทอรีระบุว่า การสู้รบระหว่างสองฝ่ายทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 327 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารและนักรบ และมีพลเรือนราว 44 คน และอ้างว่า เอชทีเอสและพันธมิตรยึดศูนย์กลางเมืองและที่ทำการรัฐบาลส่วนใหญ่ รวมทั้งเรือนจำในเมืองอะเลปโปโดยไม่มีการต้านทานมากนัก และไม่มีการต้านทานเลยในเมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญยุทธศาสตร์อีกหลายสิบเมือง . กลุ่มติดตามการสู้รบกลุ่มนี้กล่าวอีกว่า กองทัพซีเรียถอนออกจากฮามา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 4 และอยู่ห่างจากอะเลปโปทางใต้ราว 140 กม. หลังจากเผชิญหน้ากับกลุ่มกบฏ . ทว่า แหล่งข่าวในกองทัพซีเรียปฏิเสธเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า ทหารของรัฐบาลยังประจำอยู่ในที่มั่นบนเส้นทางที่กลุ่มกบฏเคลื่อนผ่าน . อย่างไรก็ดี กองทัพซีเรียยอมรับว่า กลุ่มกบฏบุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของอะเลปโป และทหารหลายสิบนายเสียชีวิตและบาดเจ็บ และสำทับว่า กลุ่มกบฏเปิดฉากโจมตีอะเลปโปและอิดลิบพร้อมกันจากหลายทิศทาง . รามี ผู้นำกลุ่มออบเซอร์วาทอรี ให้ความเห็นว่า ดูเหมือนตอนนี้ซีเรียถูกพันธมิตรหลักอย่างรัสเซียและอิหร่านทิ้ง และระบุว่า การโจมตีของรัสเซียเป็นการโจมตีทางสัญลักษณ์เท่านั้น . อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวหลายรายในกองทัพซีเรียบอกว่า เครื่องบินไอพ่นของรัสเซียและซีเรียได้ระดมโจมตีใส่พวกกบฏ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งพวกกบฏยึดไว้ในอิดลิบตั้งแต่วันเสาร์ ต่อมาในวันอาทิตย์ กองทัพซีเรียอ้างว่าสามารถยึดคืนเมือเล็กๆ หลายแห่งคืนจากฝ่ายกบฏ . ก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ รัสเซียได้ร่วมกับอิหร่านออกคำแถลงแสดงความกังวลต่อการสูญเสียของซีเรีย ภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย กับอับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โดยที่รัสเซียยืนยันว่ายังคงให้การสนับสนุนแก่ซีเรียอย่างแข็งแกร่ง . ทางฝ่ายอารากชีเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเดินทางไปดามัสกัสเพื่อยืนยันการสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพซีเรีย และย้ำว่า การบุกจู่โจมสายฟ้าแลบของกลุ่มกบฏซีเรียเป็นการวางแผนของอเมริกาและอิสราเอล อย่างไรก็ตาม กองทัพซีเรียจะเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นได้เหมือนที่ผ่านมา . ในอีกด้านหนึ่ง ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกาแถลงว่า สถานการณ์ในขณะนี้ เกิดขึ้นจากการที่ซีเรียเอาแต่พึ่งพิงรัสเซียและอิหร่าน รวมทั้งไม่ยอมปฏิบัติตามกระบวนการสันติภาพที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ร่างขึ้นในปี 2015 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115647 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 1100 Views 0 Reviews
  • #สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.

    เมื่อสงครามจบลงแล้ว

    นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

    ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย

    แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ

    ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่

    เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท

    หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม

    หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า:

    “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล”

    มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ

    สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา

    หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า:

    “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้”

    ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน

    ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน

    เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้

    ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี!

    นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ

    อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง

    นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว

    ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา

    ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน

    ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก

    เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย

    ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา

    ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก

    ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น

    นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม

    ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน

    ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้

    นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม

    ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี

    นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ

    ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ

    ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น

    หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย

    ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด

    ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม

    ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด

    เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก?

    แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น

    ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ

    แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป

    ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง

    เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง

    สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น

    ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป

    ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น

    ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠 😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่ เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า: “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล” มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า: “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้” ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้ ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี! นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ 😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎 นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก? แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 Comments 0 Shares 1241 Views 0 Reviews