• ด่วน! กกต. ฟัน 'สว.เกศกมล' ผิดอาญาฐานใช้คำว่า "ศาสตราจารย์" คุก 10 ปี-ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี
    https://www.thai-tai.tv/news/20426/
    .
    #กกต #สวเกศกมล #วุฒิการศึกษา #ศาสตราจารย์ปลอม #ทนายอั๋นบุรีรัมย์ #คดีอาญา #กฎหมายเลือกตั้ง #ศาลฎีกา #ข่าวการเมือง #เลือกตั้งสว

    ด่วน! กกต. ฟัน 'สว.เกศกมล' ผิดอาญาฐานใช้คำว่า "ศาสตราจารย์" คุก 10 ปี-ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี https://www.thai-tai.tv/news/20426/ . #กกต #สวเกศกมล #วุฒิการศึกษา #ศาสตราจารย์ปลอม #ทนายอั๋นบุรีรัมย์ #คดีอาญา #กฎหมายเลือกตั้ง #ศาลฎีกา #ข่าวการเมือง #เลือกตั้งสว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก,
    ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า.
    ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ.

    ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก, ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า. ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ. ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : กกต.เพิกถอน "หมอเกศ" เหตุหลอกลวงวุฒิการศึกษา สนธิถาม "อยากได้แสง??"

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #หมอเกศ
    Newsstory : กกต.เพิกถอน "หมอเกศ" เหตุหลอกลวงวุฒิการศึกษา สนธิถาม "อยากได้แสง??" #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #หมอเกศ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 2 0 รีวิว

  • ..นี้ก็ด้วย
    ..แผนสร้างความแตกแยก
    ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม.
    ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว,
    ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน,
    ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้.
    ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว,

    ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5

    ..นี้ก็ด้วย ..แผนสร้างความแตกแยก ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม. ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว, ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน, ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้. ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว, ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 945 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 734 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่นะ แต่ก็พยายามควบคุมความคิดลบๆที่วนเวียนอยู่ในหัวจนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ไปเยอะมาก จนผมต้องยอมรับความจริงในแบบของลูกผู้ชาย เป็นลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วจริงๆ แต่คนรอบข้างได้ยินแล้วคนรอบข้างคงรู้สึกเคืองขุ่นกับผมอยู่ แต่ผมไม่คิดขุ่นเคืองเพราะตัวผมก็ฝืดเคืองต้องขอญาติใจดีอีกคน ได้ทั้งเงินได้ทั้งกำลังใจ บางทีสมองชอบคิดลบมันคิดไว พอจะคิดบวก คิดจะตั้งสมาธิกับสิ่งที่ควรทำมันคิดช้า ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและไมน์เซ็ตใหม่ นึกว่าจะริบหรี่ลงแล้วนะ สอบท้องถิ่น ในที่สุดก็ได้วุฒิการศึกษาและได้วิธีคัดทะเบียนบ้านออกสำเนาสักที เห้อ ผ่านพ้นช่วงนี้ไปสักที
    วันนี้อย่างน้อยก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่นะ แต่ก็พยายามควบคุมความคิดลบๆที่วนเวียนอยู่ในหัวจนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ไปเยอะมาก จนผมต้องยอมรับความจริงในแบบของลูกผู้ชาย เป็นลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วจริงๆ แต่คนรอบข้างได้ยินแล้วคนรอบข้างคงรู้สึกเคืองขุ่นกับผมอยู่ แต่ผมไม่คิดขุ่นเคืองเพราะตัวผมก็ฝืดเคืองต้องขอญาติใจดีอีกคน ได้ทั้งเงินได้ทั้งกำลังใจ บางทีสมองชอบคิดลบมันคิดไว พอจะคิดบวก คิดจะตั้งสมาธิกับสิ่งที่ควรทำมันคิดช้า ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและไมน์เซ็ตใหม่ นึกว่าจะริบหรี่ลงแล้วนะ สอบท้องถิ่น ในที่สุดก็ได้วุฒิการศึกษาและได้วิธีคัดทะเบียนบ้านออกสำเนาสักที เห้อ ผ่านพ้นช่วงนี้ไปสักที
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากการศึกษาของ Pew Research ล่าสุด พบว่า 80% ของชาวอเมริกันไม่ใช้ AI ในที่ทำงาน โดยคนที่ใช้ก็ดูไม่ค่อยตื่นเต้นกับประโยชน์ของมันเท่าไร นอกจากนี้ยังมีการสำรวจอีกว่า คนทำงานส่วนน้อยกว่า 1 ใน 3 แสดงความ "ตื่นเต้น" กับการใช้ AI ในที่ทำงานในอนาคต เพียง 6% ของคนทำงานที่คิดว่า AI ในที่ทำงานจะนำไปสู่โอกาสในการทำงานมากขึ้นในระยะยาว

    การศึกษานี้สำรวจผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวน 5,273 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 65 ปี ที่มีงานทำประจำหรือนอกเวลา โดยผู้เข้าร่วมถูกถามเกี่ยวกับการมองเห็นการใช้ AI ในที่ทำงานรวมถึงประสบการณ์ของตนเองกับ AI ในการทำงาน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนทำงานส่วนใหญ่กังวลมากกว่าหวังเกี่ยวกับอนาคตของการใช้ AI ในที่ทำงาน โดย 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความ "กังวล" มากกว่า "หวัง" หรือ "ตื่นเต้น" ตามการศึกษาของ Pew

    พนักงานที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีแนวโน้มที่จะมอง AI ในที่ทำงานในแง่ร้ายมากกว่าผู้ที่มีรายได้สูง ผู้ที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะกล่าวว่าการใช้ AI ในที่ทำงานจะไม่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำงานของพวกเขา

    ถึงแม้ 51% ของผู้ใช้ AI ที่ทำการสำรวจมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า เทียบกับ 39% ของผู้ที่ไม่ใช้ AI แต่เพียง 31% เท่านั้นที่กล่าวว่างานของพวกเขาสามารถทำได้บางส่วนด้วย AI

    คนทำงานที่อายุน้อยกว่ามีแนวโน้มที่จะรู้สึก "กังวล" เกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในที่ทำงานในอนาคต พนักงานที่อายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปีมีแนวโน้มที่จะใช้ AI chatbots ในการทำงาน "อย่างน้อยสองสามครั้งต่อเดือน" เพื่อค้นคว้า สรุป และแก้ไขเนื้อหา แต่มีเพียงส่วนน้อยที่บอกว่าเทคโนโลยีนี้ "มีประโยชน์มาก" ในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของงาน

    Pew ยังพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI ในที่ทำงาน มีเพียง 24% เท่านั้นที่กล่าวว่าพวกเขาได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI การขาดการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจและกังวลในที่ทำงาน

    ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แตกต่างกันต่อการใช้ AI ในที่ทำงานของผู้คนในกลุ่มต่างๆ และความท้าทายในการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    https://www.zdnet.com/article/most-us-workers-dont-use-ai-at-work-yet-this-study-suggests-a-reason-why/
    จากการศึกษาของ Pew Research ล่าสุด พบว่า 80% ของชาวอเมริกันไม่ใช้ AI ในที่ทำงาน โดยคนที่ใช้ก็ดูไม่ค่อยตื่นเต้นกับประโยชน์ของมันเท่าไร นอกจากนี้ยังมีการสำรวจอีกว่า คนทำงานส่วนน้อยกว่า 1 ใน 3 แสดงความ "ตื่นเต้น" กับการใช้ AI ในที่ทำงานในอนาคต เพียง 6% ของคนทำงานที่คิดว่า AI ในที่ทำงานจะนำไปสู่โอกาสในการทำงานมากขึ้นในระยะยาว การศึกษานี้สำรวจผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวน 5,273 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 65 ปี ที่มีงานทำประจำหรือนอกเวลา โดยผู้เข้าร่วมถูกถามเกี่ยวกับการมองเห็นการใช้ AI ในที่ทำงานรวมถึงประสบการณ์ของตนเองกับ AI ในการทำงาน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนทำงานส่วนใหญ่กังวลมากกว่าหวังเกี่ยวกับอนาคตของการใช้ AI ในที่ทำงาน โดย 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความ "กังวล" มากกว่า "หวัง" หรือ "ตื่นเต้น" ตามการศึกษาของ Pew พนักงานที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีแนวโน้มที่จะมอง AI ในที่ทำงานในแง่ร้ายมากกว่าผู้ที่มีรายได้สูง ผู้ที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะกล่าวว่าการใช้ AI ในที่ทำงานจะไม่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำงานของพวกเขา ถึงแม้ 51% ของผู้ใช้ AI ที่ทำการสำรวจมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า เทียบกับ 39% ของผู้ที่ไม่ใช้ AI แต่เพียง 31% เท่านั้นที่กล่าวว่างานของพวกเขาสามารถทำได้บางส่วนด้วย AI คนทำงานที่อายุน้อยกว่ามีแนวโน้มที่จะรู้สึก "กังวล" เกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในที่ทำงานในอนาคต พนักงานที่อายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปีมีแนวโน้มที่จะใช้ AI chatbots ในการทำงาน "อย่างน้อยสองสามครั้งต่อเดือน" เพื่อค้นคว้า สรุป และแก้ไขเนื้อหา แต่มีเพียงส่วนน้อยที่บอกว่าเทคโนโลยีนี้ "มีประโยชน์มาก" ในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของงาน Pew ยังพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI ในที่ทำงาน มีเพียง 24% เท่านั้นที่กล่าวว่าพวกเขาได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ AI การขาดการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจและกังวลในที่ทำงาน ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แตกต่างกันต่อการใช้ AI ในที่ทำงานของผู้คนในกลุ่มต่างๆ และความท้าทายในการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน https://www.zdnet.com/article/most-us-workers-dont-use-ai-at-work-yet-this-study-suggests-a-reason-why/
    WWW.ZDNET.COM
    Most US workers don't use AI at work yet. This study suggests a reason why
    According to a new Pew Research study, 80% of Americans don't generally use AI at work, while those who do seem unenthusiastic about its benefits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น

    ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์

    การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร

    คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568
    การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

    คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
    - มีสัญชาติไทย
    - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ
    - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
    - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน
    - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568

    ข้อกำหนดพิเศษ
    - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ
    - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน

    ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป

    กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร
    ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน
    ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
    ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง
    ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว
    ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี
    ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี
    ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

    ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท

    ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ

    ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

    รายละเอียดการสอบ อปท. 2568
    การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่
    ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน
    - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ!

    ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน
    -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร

    ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร

    วิธีสมัครสอบ อปท. 2568
    สมัครผ่านทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์:
    https://dla-local2568.thaijobjob.com
    เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง

    เอกสารที่ต้องใช้สมัคร
    รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว
    สำเนาบัตรประชาชน
    สำเนาทะเบียนบ้าน
    สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript
    สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง
    เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9

    อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB

    ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ
    - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
    - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท
    รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้

    ช่องทางชำระเงิน:
    - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย
    - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง
    - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
    ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น!

    ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่
    เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com

    เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน!
    ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน
    อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ฝึกทำข้อสอบเก่า
    ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย

    ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง
    ท่องศัพท์
    ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า
    อ่านบทความภาษาอังกฤษ

    จัดตารางอ่านหนังสือ
    แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง

    พักผ่อนให้เพียงพอ
    นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ

    การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น

    ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่
    https://dla-local2568.thaijobjob.com

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568

    #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น 📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️ การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️ 🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568 การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร - มีสัญชาติไทย 🇹🇭 - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥 - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓 🚨 ข้อกำหนดพิเศษ - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨ - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน 📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป 🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล 📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท 🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ 🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ 📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568 การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่ 📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ! 📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร 🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร 📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568 🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์: ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com 📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง 🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸 ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔 ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠 ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓 ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖 📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB 💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท 📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้ 📍 ช่องทางชำระเงิน: - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦 - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲 - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย 🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น! 📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่ 📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com 🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน! 🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน 📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า 🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย 🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ✅ ท่องศัพท์ ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ 🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ 🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง 🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ 😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ 🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀 📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่ 🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568 📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3349 มุมมอง 0 รีวิว
  • กกต.ยื้อฟัน "สว.หมอเกศ" อีกรอบ สั่งสอบเพิ่มปมใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวง- ฮั้วเลือก สว. อ้างยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120724

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กกต.ยื้อฟัน "สว.หมอเกศ" อีกรอบ สั่งสอบเพิ่มปมใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวง- ฮั้วเลือก สว. อ้างยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120724 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 0 รีวิว
  • #มีคนพยายามให้ประเด็นดิไอคอนชุบตัว
    หนึ่งหนุ่มหิวแสง กับอีกหนึ่งสาวนายหน้ามือทอง
    เรื่องหนุ่มหิวแสงก็ทำเนื้อหาไปละ
    ส่วนอีกหนึ่งสาว อดีตสมาชิกตัวตึงพรรคส้ม
    เรียกตัวเองว่า อิอ้อปากจัด
    ตอนไปโผล่รายการโหน พี่คิงส์ก็ยังร้อง อุ๊ย
    เพราะอิอ้อ จริงๆก็ยังอยู่ในขั้นตอน พจรณคด
    นังคือนายหน้ามือทองจริงๆ วุฒิการศึกษาปะลอม
    เก้าอี้ กมธก แม้กระทั่ง ที่จอดรถในรัฐสภาพ นังยังขายได้
    ส่วนที่นังไปออกโหน เอาจริงๆ อิอ้อ มีความรู้ความสามารถ
    ระดับแม่ข่ายลูกโซ่ ที่เชิดมาแล้วหลายกอง 5555
    พี่คิงส์จะบอกให้นะ ยิ่งออกหน้ายิ่งเจ็บตัว
    อ้อ ไม่เชื่อ รอดู
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง
    #มีคนพยายามให้ประเด็นดิไอคอนชุบตัว หนึ่งหนุ่มหิวแสง กับอีกหนึ่งสาวนายหน้ามือทอง เรื่องหนุ่มหิวแสงก็ทำเนื้อหาไปละ ส่วนอีกหนึ่งสาว อดีตสมาชิกตัวตึงพรรคส้ม เรียกตัวเองว่า อิอ้อปากจัด ตอนไปโผล่รายการโหน พี่คิงส์ก็ยังร้อง อุ๊ย เพราะอิอ้อ จริงๆก็ยังอยู่ในขั้นตอน พจรณคด นังคือนายหน้ามือทองจริงๆ วุฒิการศึกษาปะลอม เก้าอี้ กมธก แม้กระทั่ง ที่จอดรถในรัฐสภาพ นังยังขายได้ ส่วนที่นังไปออกโหน เอาจริงๆ อิอ้อ มีความรู้ความสามารถ ระดับแม่ข่ายลูกโซ่ ที่เชิดมาแล้วหลายกอง 5555 พี่คิงส์จะบอกให้นะ ยิ่งออกหน้ายิ่งเจ็บตัว อ้อ ไม่เชื่อ รอดู #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2 #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 958 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น
    จากวีรสตรี สู่การเป็นกาลกิณี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง จากอดีตตัวตึงพรรคสีส้ม สู่ลุคจิตอาสา
    เกาะหนุ่มกรรชัย จนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับภารกิจล้มลัตติ๊เชี่อมจิตเชื่อมใจ
    แต่กลับพบวีรกรรมสุดแสบ ทั้งการใช้วุฒิการศึกษาที่ไม่มีอยู่จริง ปริญญาตึกแถว แถมอ้างว่าดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
    อย่างไม่มีความละอาย โดยวีรกรรมนี้ได้รับการยืนยันจากปลดกระทรวงศึกษาธิการ ชัดเจน ฟันธง
    และยังต่ออีกยาวๆด้วยการทำอาชีพที่แสนซับซ้อน ทั้งจำหน่ายวุฒิ ที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย เป็นคดีอาญา ทั้งเรื่องฉ้อโกง แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นนักขาย ทั้งตำแหน่ง แม้กระทั่งที่จอดรถ ในสภา ขอให้บอก ต้นอ้อจัดการได้หมด ถ้าเงินถึงอ้อก็พึ่งได้
    -แต่ความไม่ธรรมดา ทั้งที่คดียังอยู่คาศาล ต้นอ้อกลับได้รับเชิญ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ไปเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง “จะสร้างจิตอาสาได้อย่างไร” โอ้ว มาย ก๊อดดด เป็นที่กังขา ถึงการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัยของรัฐ ที่ใช้มาตรฐานใดในการพิจารณา คัดคนเข้าไปให้ความรู้กับนักศึกษา เป็นภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชน ชาวไทย ที่ต้องอึ้งกันไปทั้งแผ่นดิน
    และนี่ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โลกมีความบิดเบี้ยว อาจมองภาพเพียงฉาบฉวย แค่หน้าตาที่ผ่านการใช้แอพ จากเหี่ยวๆเป็นเปรี้ยวปริ๊ดปร๊าด ก็ไม่เป็นที่แปลกใจ ขนาด นช.กลับมาถึงแผ่นดินไทย ลงจากตึกรพ.ตร.ชั้น 14 บินไปเชียงใหม่ ยังมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ไปร่วมต้อนรับ ทั้งๆที่ในเวลานั้น ยังคงมีสถานการณ์เป็น นช.เต็มตัว
    หน้าตา ชื่อเสียง อำนาจ กลายเป็นสิ่งหอมหวนของกลุ่มคนที่ไร้ศักดิ์ศรี จนบางคนถึงขั้นคลานเข่าเข้ากราบนักโทษก็ยังมีให้เห็น
    นับประสาอะไร กับคนอย่างต้นอ้อ ที่มีวีรกรรม มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังต้องรอรับความยุติธรรมจากระบบตุลาการ แต่กลับได้รับเชิญให้ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่เรียกว่าราชภัฏสถาบันที่ผลิตครู บ่มเพาะเยาวชนของชาติสู่การพัฒนาประเทศในรุ่นต่อๆไป บัลลัยไส้จริงๆ
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ต้นอ้อเป็นหนึ่งรีเทิร์น จากวีรสตรี สู่การเป็นกาลกิณี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง จากอดีตตัวตึงพรรคสีส้ม สู่ลุคจิตอาสา เกาะหนุ่มกรรชัย จนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ กับภารกิจล้มลัตติ๊เชี่อมจิตเชื่อมใจ แต่กลับพบวีรกรรมสุดแสบ ทั้งการใช้วุฒิการศึกษาที่ไม่มีอยู่จริง ปริญญาตึกแถว แถมอ้างว่าดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง อย่างไม่มีความละอาย โดยวีรกรรมนี้ได้รับการยืนยันจากปลดกระทรวงศึกษาธิการ ชัดเจน ฟันธง และยังต่ออีกยาวๆด้วยการทำอาชีพที่แสนซับซ้อน ทั้งจำหน่ายวุฒิ ที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย เป็นคดีอาญา ทั้งเรื่องฉ้อโกง แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นนักขาย ทั้งตำแหน่ง แม้กระทั่งที่จอดรถ ในสภา ขอให้บอก ต้นอ้อจัดการได้หมด ถ้าเงินถึงอ้อก็พึ่งได้ -แต่ความไม่ธรรมดา ทั้งที่คดียังอยู่คาศาล ต้นอ้อกลับได้รับเชิญ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ไปเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง “จะสร้างจิตอาสาได้อย่างไร” โอ้ว มาย ก๊อดดด เป็นที่กังขา ถึงการพิจารณาจากสภามหาวิทยาลัยของรัฐ ที่ใช้มาตรฐานใดในการพิจารณา คัดคนเข้าไปให้ความรู้กับนักศึกษา เป็นภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชน ชาวไทย ที่ต้องอึ้งกันไปทั้งแผ่นดิน และนี่ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โลกมีความบิดเบี้ยว อาจมองภาพเพียงฉาบฉวย แค่หน้าตาที่ผ่านการใช้แอพ จากเหี่ยวๆเป็นเปรี้ยวปริ๊ดปร๊าด ก็ไม่เป็นที่แปลกใจ ขนาด นช.กลับมาถึงแผ่นดินไทย ลงจากตึกรพ.ตร.ชั้น 14 บินไปเชียงใหม่ ยังมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ไปร่วมต้อนรับ ทั้งๆที่ในเวลานั้น ยังคงมีสถานการณ์เป็น นช.เต็มตัว หน้าตา ชื่อเสียง อำนาจ กลายเป็นสิ่งหอมหวนของกลุ่มคนที่ไร้ศักดิ์ศรี จนบางคนถึงขั้นคลานเข่าเข้ากราบนักโทษก็ยังมีให้เห็น นับประสาอะไร กับคนอย่างต้นอ้อ ที่มีวีรกรรม มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังต้องรอรับความยุติธรรมจากระบบตุลาการ แต่กลับได้รับเชิญให้ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่เรียกว่าราชภัฏสถาบันที่ผลิตครู บ่มเพาะเยาวชนของชาติสู่การพัฒนาประเทศในรุ่นต่อๆไป บัลลัยไส้จริงๆ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หนักกว่าเคสน้องไนท์ก็คือโจมณทนี
    #เปิดเส้นทางสู่การเป็นนักต้มที่นี่ที่แรกที่เดียว
    หากเราเปรียบเทียบกับเคสน้องไนท์
    ที่ถึงจุดสิ้นสุดไปแล้วนั้น กรณีไนท์
    แม่น้องอาศัยศรัทธา และความเป็นผู้วิเศษ
    อุปโลกไนท์ เป็นพระพุทธเจ้าอนาคามี
    แต่ไม่มีการเรียกเก็บลักษณะเป็นคอส
    ยกเว้นกรณีมีการจัดอีเวนท์ที่ผู้จัดจะเป็นผู้รับเงิน
    แต่โจมณฑนี เปิดเป็นโรงเรียนอย่างเอิกเริก
    โดยมีรายละเอียดดังนี้
    -------------------------------------------------
    ยิ่งขุด ยิ่งอึ้ง กับบุคคลที่ทุยศรัทธา
    ภาพลักษณ์ของโจ มณฑนี ในสายตาของกลุ่มผู้คลั่งไคล้
    กามิจ กาฝาก สก็อยกิมจิ คือบุคคลที่ทุยศรัทธา
    จะป.ตรี ดร. ก็นั่งฟังสิ่งที่โจ บรรยายกันสลอน
    ยิ่งฟังยิ่งน่านับถือ ยิ่งฟังยิ่งน่าศรัทธา
    โดยหารู้ไม่ สามสี่ชม.ต่อวันที่นั่งฟัง
    คุณกำลังเจอนักต้มมืออาชีพ ที่รอดตัวมานาน
    นั่นคือพฤติกรรมเหิมเกริมต่อกฏบ้านกฏเมือง
    สร้างโรงเรียนเถี่อน สร้างหลักสูตรเถี่ยน
    มีการแอบอ้าง ตั้งสถานศึกษาโดยไม่ได้ขออนุญาต
    มีการแอบอ้าง การสร้างหลักสูตรโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน
    ซ้ำยังมีการเรียกรับค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว
    โดยอาศัยความศรัทธาที่บิดเบือน
    โดย โจ มณฑนี มีวุฒิการศึกษาเพียงม.ต้น
    จึงไม่สามารถจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเปิด
    สถานศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้
    นอกจากนั้น หลักสูตรที่ต้มพวกจิตอ่อน
    ล้วนไม่มีอยู่ในสารบบของกระทรวงศึกษา
    และนี่คือสิ่งที่โจทำไปโดยขาดความรู้
    ขาดความเข้าใจ เพราะการเรียนในระบบ วุฒิเพียงม.ต้นเท่านั้น
    รวมถึง ค่าเรียนที่เรียกรับผลประโยชน์
    ถึงหลักหมื่นถึงสองหมื่นกว่า ซึ่งเป็นรายได้
    ที่มหาศาล ทั้งๆที่ตนเ่อง แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ
    ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทำให้มีคนที่พลาดเชื่อ
    เข้ามา เพราะโจมณฑนี สร้างความเข้าใจผิด
    เพราะตัวโจเอง ไม่ได้จบแม้กระทั้ง ม.6 แม้บิดา
    จะพาไปเรียนสายอาชีพ คือปวช.1 โจก็ไม่เรียนให้สำเร็จ
    ไม่เคยคำนึงถึงความห่วงใยของบุพการี
    ส่งผลให้อาศัยเพียงแค่การเป็นคนที่ครูพักลักจำ
    รู้อย่างนู้นนิด อย่างนี้หน่อย ต่างประเทศยังไม่เคยไป
    แต่ก็อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แค่ไปเรียนคอส
    ภาษาอังกฤษในประเทศระยะสั้น เพียงแค่นั้นเอง
    ดังนั้น พฤติการมิฉฉ๋าชีพนี้ มีความชัดเจนมาก
    ไม่ต่างอะไรกับพวกเข้าทรง ที่เคยออกโหนกระแส
    ที่อ้างว่าตนเองมีพลังจิต หยั่งรู้ฟ้าดิน เราคนไทย
    ต่างได้เห็นและต่างแสดงความขบขัน
    แต่มันไม่ขำตรงที่ โจ วุฒิม.ต้น ยังคงเรียกแรงศรัทธา
    จากผู้งายงม และเข้าไปอยู่ในเครือข่ายการฟอก เงินดาร์ค
    รับงานเอเจนซี่ของเกาหลี โดยหนึ่งในแผนคือ
    การให้ร้ายแน๊กชาลี ดาราหนุ่มของไทย
    แบน โปรดักไทยที่ให้แน๊กชาลีเป็นพลีเซ็นเตอร์
    ด้วยกระบวนการไอโอ ยุซผี และเทรนทิพย์
    ที่ไม่ใช่วิถีทางของสุจริตชน
    จึงเรียนถึงหน่วยงานที่มมีส่วนเกี่ยวข้อง
    เพราะหากยังปล่อยให้โจมณฑนี ที่มีพฤติกรรม
    ที่เป็นโจน พัฒนาไปสู่กลุ่มฟอกข้ามชาติ
    จะเกิดความเสียหายกับคนไทยและประเทศ
    #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    #ปปง
    #DSi
    ต้องรวมพลังส่งข้อมูลให้กับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักพุทธ ทนายอนันตชัย กระทรวงศึกษาธิการ ดีเอสไอ สนช และปปง
    เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง เพื่อประชาชนไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #หนักกว่าเคสน้องไนท์ก็คือโจมณทนี #เปิดเส้นทางสู่การเป็นนักต้มที่นี่ที่แรกที่เดียว หากเราเปรียบเทียบกับเคสน้องไนท์ ที่ถึงจุดสิ้นสุดไปแล้วนั้น กรณีไนท์ แม่น้องอาศัยศรัทธา และความเป็นผู้วิเศษ อุปโลกไนท์ เป็นพระพุทธเจ้าอนาคามี แต่ไม่มีการเรียกเก็บลักษณะเป็นคอส ยกเว้นกรณีมีการจัดอีเวนท์ที่ผู้จัดจะเป็นผู้รับเงิน แต่โจมณฑนี เปิดเป็นโรงเรียนอย่างเอิกเริก โดยมีรายละเอียดดังนี้ ------------------------------------------------- ยิ่งขุด ยิ่งอึ้ง กับบุคคลที่ทุยศรัทธา ภาพลักษณ์ของโจ มณฑนี ในสายตาของกลุ่มผู้คลั่งไคล้ กามิจ กาฝาก สก็อยกิมจิ คือบุคคลที่ทุยศรัทธา จะป.ตรี ดร. ก็นั่งฟังสิ่งที่โจ บรรยายกันสลอน ยิ่งฟังยิ่งน่านับถือ ยิ่งฟังยิ่งน่าศรัทธา โดยหารู้ไม่ สามสี่ชม.ต่อวันที่นั่งฟัง คุณกำลังเจอนักต้มมืออาชีพ ที่รอดตัวมานาน นั่นคือพฤติกรรมเหิมเกริมต่อกฏบ้านกฏเมือง สร้างโรงเรียนเถี่อน สร้างหลักสูตรเถี่ยน มีการแอบอ้าง ตั้งสถานศึกษาโดยไม่ได้ขออนุญาต มีการแอบอ้าง การสร้างหลักสูตรโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ซ้ำยังมีการเรียกรับค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว โดยอาศัยความศรัทธาที่บิดเบือน โดย โจ มณฑนี มีวุฒิการศึกษาเพียงม.ต้น จึงไม่สามารถจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเปิด สถานศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้ นอกจากนั้น หลักสูตรที่ต้มพวกจิตอ่อน ล้วนไม่มีอยู่ในสารบบของกระทรวงศึกษา และนี่คือสิ่งที่โจทำไปโดยขาดความรู้ ขาดความเข้าใจ เพราะการเรียนในระบบ วุฒิเพียงม.ต้นเท่านั้น รวมถึง ค่าเรียนที่เรียกรับผลประโยชน์ ถึงหลักหมื่นถึงสองหมื่นกว่า ซึ่งเป็นรายได้ ที่มหาศาล ทั้งๆที่ตนเ่อง แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทำให้มีคนที่พลาดเชื่อ เข้ามา เพราะโจมณฑนี สร้างความเข้าใจผิด เพราะตัวโจเอง ไม่ได้จบแม้กระทั้ง ม.6 แม้บิดา จะพาไปเรียนสายอาชีพ คือปวช.1 โจก็ไม่เรียนให้สำเร็จ ไม่เคยคำนึงถึงความห่วงใยของบุพการี ส่งผลให้อาศัยเพียงแค่การเป็นคนที่ครูพักลักจำ รู้อย่างนู้นนิด อย่างนี้หน่อย ต่างประเทศยังไม่เคยไป แต่ก็อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แค่ไปเรียนคอส ภาษาอังกฤษในประเทศระยะสั้น เพียงแค่นั้นเอง ดังนั้น พฤติการมิฉฉ๋าชีพนี้ มีความชัดเจนมาก ไม่ต่างอะไรกับพวกเข้าทรง ที่เคยออกโหนกระแส ที่อ้างว่าตนเองมีพลังจิต หยั่งรู้ฟ้าดิน เราคนไทย ต่างได้เห็นและต่างแสดงความขบขัน แต่มันไม่ขำตรงที่ โจ วุฒิม.ต้น ยังคงเรียกแรงศรัทธา จากผู้งายงม และเข้าไปอยู่ในเครือข่ายการฟอก เงินดาร์ค รับงานเอเจนซี่ของเกาหลี โดยหนึ่งในแผนคือ การให้ร้ายแน๊กชาลี ดาราหนุ่มของไทย แบน โปรดักไทยที่ให้แน๊กชาลีเป็นพลีเซ็นเตอร์ ด้วยกระบวนการไอโอ ยุซผี และเทรนทิพย์ ที่ไม่ใช่วิถีทางของสุจริตชน จึงเรียนถึงหน่วยงานที่มมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหากยังปล่อยให้โจมณฑนี ที่มีพฤติกรรม ที่เป็นโจน พัฒนาไปสู่กลุ่มฟอกข้ามชาติ จะเกิดความเสียหายกับคนไทยและประเทศ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ปปง #DSi ต้องรวมพลังส่งข้อมูลให้กับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักพุทธ ทนายอนันตชัย กระทรวงศึกษาธิการ ดีเอสไอ สนช และปปง เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง เพื่อประชาชนไทย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1766 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เปิดเส้นทางสู่การเป็นนักต้มขุดที่นี่ที่แรกที่เดียว
    ยิ่งขุด ยิ่งอึ้ง กับบุคคลที่ทุยศรัทธา
    ภาพลักษณ์ของโจ มณฑนี ในสายตาของกลุ่มผู้คลั่งไคล้
    กามิจ กาฝาก สก็อยกิมจิ คือบุคคลที่ทุยศรัทธา
    จะป.ตรี ดร. ก็นั่งฟังสิ่งที่โจ บรรยายกันสลอน
    ยิ่งฟังยิ่งน่านับถือ ยิ่งฟังยิ่งน่าศรัทธา
    โดยหารู้ไม่ สามสี่ชม.ต่อวันที่นั่งฟัง
    คุณกำลังเจอนักต้มมืออาชีพ ที่รอดตัวมานาน
    นั่นคือพฤติกรรมเหิมเกริมต่อกฏบ้านกฏเมือง
    สร้างโรงเรียนเถี่อน สร้างหลักสูตรเถี่ยน
    มีการแอบอ้าง ตั้งสถานศึกษาโดยไม่ได้ขออนุญาต
    มีการแอบอ้าง การสร้างหลักสูตรโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน
    ซ้ำยังมีการเรียกรับค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว
    โดยอาศัยความศรัทธาที่บิดเบือน
    โดย โจ มณฑนี มีวุฒิการศึกษาเพียงม.ต้น
    จึงไม่สามารถจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเปิด
    สถานศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้
    นอกจากนั้น หลักสูตรที่ต้มพวกจิตอ่อน
    ล้วนไม่มีอยู่ในสารบบของกระทรวงศึกษา
    และนี่คือสิ่งที่โจทำไปโดยขาดความรู้
    ขาดความเข้าใจ เพราะการเรียนในระบบ วุฒิเพียงม.ต้นเท่านั้น
    รวมถึง ค่าเรียนที่เรียกรับผลประโยชน์
    ถึงหลักหมื่นถึงสองหมื่นกว่า ซึ่งเป็นรายได้
    ที่มหาศาล ทั้งๆที่ตนเ่อง แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ
    ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทำให้มีคนที่พลาดเชื่อ
    เข้ามา เพราะโจมณฑนี สร้างความเข้าใจผิด
    เพราะตัวโจเอง ไม่ได้จบแม้กระทั้ง ม.6 แม้บิดา
    จะพาไปเรียนสายอาชีพ คือปวช.1 โจก็ไม่เรียนให้สำเร็จ
    ไม่เคยคำนึงถึงความห่วงใยของบุพการี
    ส่งผลให้อาศัยเพียงแค่การเป็นคนที่ครูพักลักจำ
    รู้อย่างนู้นนิด อย่างนี้หน่อย ต่างประเทศยังไม่เคยไป
    แต่ก็อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แค่ไปเรียนคอส
    ภาษาอังกฤษในประเทศระยะสั้น เพียงแค่นั้นเอง
    ดังนั้น พฤติการมิฉฉ๋าชีพนี้ มีความชัดเจนมาก
    ไม่ต่างอะไรกับพวกเข้าทรง ที่เคยออกโหนกระแส
    ที่อ้างว่าตนเองมีพลังจิต หยั่งรู้ฟ้าดิน เราคนไทย
    ต่างได้เห็นและต่างแสดงความขบขัน
    แต่มันไม่ขำตรงที่ โจ วุฒิม.ต้น ยังคงเรียกแรงศรัทธา
    จากผู้งายงม และเข้าไปอยู่ในเครือข่ายการฟอก เงินดาร์ค
    รับงานเอเจนซี่ของเกาหลี โดยหนึ่งในแผนคือ
    การให้ร้ายแน๊กชาลี ดาราหนุ่มของไทย
    แบน โปรดักไทยที่ให้แน๊กชาลีเป็นพลีเซ็นเตอร์
    ด้วยกระบวนการไอโอ ยุซผี และเทรนทิพย์
    ที่ไม่ใช่วิถีทางของสุจริตชน
    จึงเรียนถึงหน่วยงานที่มมีส่วนเกี่ยวข้อง
    เพราะหากยังปล่อยให้โจมณฑนี ที่มีพฤติกรรม
    ที่เป็นโจน พัฒนาไปสู่กลุ่มฟอกข้ามชาติ
    จะเกิดความเสียหายกับคนไทยและประเทศ
    #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    #ปปง
    #DSi
    เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง เพื่อประชาชนไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เปิดเส้นทางสู่การเป็นนักต้มขุดที่นี่ที่แรกที่เดียว ยิ่งขุด ยิ่งอึ้ง กับบุคคลที่ทุยศรัทธา ภาพลักษณ์ของโจ มณฑนี ในสายตาของกลุ่มผู้คลั่งไคล้ กามิจ กาฝาก สก็อยกิมจิ คือบุคคลที่ทุยศรัทธา จะป.ตรี ดร. ก็นั่งฟังสิ่งที่โจ บรรยายกันสลอน ยิ่งฟังยิ่งน่านับถือ ยิ่งฟังยิ่งน่าศรัทธา โดยหารู้ไม่ สามสี่ชม.ต่อวันที่นั่งฟัง คุณกำลังเจอนักต้มมืออาชีพ ที่รอดตัวมานาน นั่นคือพฤติกรรมเหิมเกริมต่อกฏบ้านกฏเมือง สร้างโรงเรียนเถี่อน สร้างหลักสูตรเถี่ยน มีการแอบอ้าง ตั้งสถานศึกษาโดยไม่ได้ขออนุญาต มีการแอบอ้าง การสร้างหลักสูตรโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ซ้ำยังมีการเรียกรับค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว โดยอาศัยความศรัทธาที่บิดเบือน โดย โจ มณฑนี มีวุฒิการศึกษาเพียงม.ต้น จึงไม่สามารถจะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเปิด สถานศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการได้ นอกจากนั้น หลักสูตรที่ต้มพวกจิตอ่อน ล้วนไม่มีอยู่ในสารบบของกระทรวงศึกษา และนี่คือสิ่งที่โจทำไปโดยขาดความรู้ ขาดความเข้าใจ เพราะการเรียนในระบบ วุฒิเพียงม.ต้นเท่านั้น รวมถึง ค่าเรียนที่เรียกรับผลประโยชน์ ถึงหลักหมื่นถึงสองหมื่นกว่า ซึ่งเป็นรายได้ ที่มหาศาล ทั้งๆที่ตนเ่อง แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทำให้มีคนที่พลาดเชื่อ เข้ามา เพราะโจมณฑนี สร้างความเข้าใจผิด เพราะตัวโจเอง ไม่ได้จบแม้กระทั้ง ม.6 แม้บิดา จะพาไปเรียนสายอาชีพ คือปวช.1 โจก็ไม่เรียนให้สำเร็จ ไม่เคยคำนึงถึงความห่วงใยของบุพการี ส่งผลให้อาศัยเพียงแค่การเป็นคนที่ครูพักลักจำ รู้อย่างนู้นนิด อย่างนี้หน่อย ต่างประเทศยังไม่เคยไป แต่ก็อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา แค่ไปเรียนคอส ภาษาอังกฤษในประเทศระยะสั้น เพียงแค่นั้นเอง ดังนั้น พฤติการมิฉฉ๋าชีพนี้ มีความชัดเจนมาก ไม่ต่างอะไรกับพวกเข้าทรง ที่เคยออกโหนกระแส ที่อ้างว่าตนเองมีพลังจิต หยั่งรู้ฟ้าดิน เราคนไทย ต่างได้เห็นและต่างแสดงความขบขัน แต่มันไม่ขำตรงที่ โจ วุฒิม.ต้น ยังคงเรียกแรงศรัทธา จากผู้งายงม และเข้าไปอยู่ในเครือข่ายการฟอก เงินดาร์ค รับงานเอเจนซี่ของเกาหลี โดยหนึ่งในแผนคือ การให้ร้ายแน๊กชาลี ดาราหนุ่มของไทย แบน โปรดักไทยที่ให้แน๊กชาลีเป็นพลีเซ็นเตอร์ ด้วยกระบวนการไอโอ ยุซผี และเทรนทิพย์ ที่ไม่ใช่วิถีทางของสุจริตชน จึงเรียนถึงหน่วยงานที่มมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหากยังปล่อยให้โจมณฑนี ที่มีพฤติกรรม ที่เป็นโจน พัฒนาไปสู่กลุ่มฟอกข้ามชาติ จะเกิดความเสียหายกับคนไทยและประเทศ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ปปง #DSi เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง เพื่อประชาชนไทย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1612 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเรื่องโจ มีวุฒิม.5 เป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง เรียนแค่ม.5 วุฒิการศึกษาจึงแค่ม.3 เท่านั้น ขออภัยในความผิดพลาด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ข้อมูลเรื่องโจ มีวุฒิม.5 เป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง เรียนแค่ม.5 วุฒิการศึกษาจึงแค่ม.3 เท่านั้น ขออภัยในความผิดพลาด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1085 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ขอแก้ไขข้อมูลเพื่อความเป็นธรรมแด่โจมณฑนี
    #โจมณฑนีจบวุฒิมอห้านั่นไม่เป็นความจริง
    จากเมื่อวานนี้ เพจคิงส์โพธิ์แดงได้นำเสนอข้อมูล
    ที่มีความผิดพลาด กรณี โจ มณฑนี จบเพียงวุฒิม.5
    ซึ่งข้อมูลลักษณะนี้ มีความจำเป็นต้องถูกต้องและแม่นยำ
    เพราะที่ผ่านมา โจ มักอ้างว่าข้อมูลทางเพจ ไม่จริง
    ด้วยบทบาทของคุณ โจ มณฑนี ที่ผู้เป็นแฟนคลับ
    ของ กามิน นักแสดงตต.ชาวเกาหลี ให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง
    ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง จึงมีข้อมูลส่วนสำคัญที่ต้องแก้ไขคือ
    จากการที่ทางเพจ ได้ให้ข้อมูลว่า
    โจมณฑนี จบวุฒิการศึกษาม.5 นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
    เนื่องจาก ประวัติการศึกษาของ โจ
    โจเรียนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเรียนไม่จบเทอมแรก
    และการออกวุฒิการศึกษา ไม่มีวุฒิม.5
    หากจะให้ข้อมูลนี้ถูกต้องจริงๆก็
    คือ
    #โจมณฑนี
    #ไม่ได้จบวุฒิมอห้า
    #แต่โจได้รับวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่3เท่านั้น
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
    ขออภัยในความผิดพลาด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ขอแก้ไขข้อมูลเพื่อความเป็นธรรมแด่โจมณฑนี #โจมณฑนีจบวุฒิมอห้านั่นไม่เป็นความจริง จากเมื่อวานนี้ เพจคิงส์โพธิ์แดงได้นำเสนอข้อมูล ที่มีความผิดพลาด กรณี โจ มณฑนี จบเพียงวุฒิม.5 ซึ่งข้อมูลลักษณะนี้ มีความจำเป็นต้องถูกต้องและแม่นยำ เพราะที่ผ่านมา โจ มักอ้างว่าข้อมูลทางเพจ ไม่จริง ด้วยบทบาทของคุณ โจ มณฑนี ที่ผู้เป็นแฟนคลับ ของ กามิน นักแสดงตต.ชาวเกาหลี ให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง จึงมีข้อมูลส่วนสำคัญที่ต้องแก้ไขคือ จากการที่ทางเพจ ได้ให้ข้อมูลว่า โจมณฑนี จบวุฒิการศึกษาม.5 นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก ประวัติการศึกษาของ โจ โจเรียนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเรียนไม่จบเทอมแรก และการออกวุฒิการศึกษา ไม่มีวุฒิม.5 หากจะให้ข้อมูลนี้ถูกต้องจริงๆก็ คือ #โจมณฑนี #ไม่ได้จบวุฒิมอห้า #แต่โจได้รับวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่3เท่านั้น จึงเรียนมาเพื่อทราบ และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ขออภัยในความผิดพลาด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2293 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง

    พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน

    “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว

    ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว

    #Thaitimes
    14 กันยายน2567- พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เขียนหนังสือชื่อ“ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย”โดยมีการตีพิมพ์จำหน่ายทั้งแบบรูปเล่มหนังสือ และรูปแบบออนไลน์ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมกับมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ประกอบกับมีการนำข้อมูลในหนังสือที่ตนเองเขียนเองนั้น ไปบอกเล่าผ่านการเสวนา และการบรรยายในเวทีต่างๆ พร้อมกับได้มีการบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กอ.รมน. ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ไม่ได้มีคุณวุฒิการศึกษาและไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงโดยตรง อีกทั้งไม่ได้รับผิดชอบให้ทำการสอนในเรื่องดังกล่าว และไม่มีผลงานทางวิชาการในด้านความมั่นคงปรากฏให้เห็นมาตามลำดับ โดยหนังสือและผลงานทางวิชาการของผู้เขียน ก็ไม่ได้ทำการศึกษาวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัย แต่กลับใช้วิธีการเลือกนำข้อมูลเฉพาะที่สนับสนุนแนวคิดตนเองที่ตั้งไว้แล้ว นำมาเป็นข้อสรุปขึ้นเอง ประกอบกับไม่ได้มีการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลจากหน่วยงาน เช่น กอ.รมน. หรือ กองทัพโดยตรง รวมถึงไม่ได้ทำการศึกษากฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติราชการ จึงเกิดเป็นข้อสรุปย่อยที่เป็นเท็จจำนวนมาก นำมาสู่ข้อสรุปในภาพรวมถึงการแทรกซึมของกองทัพ โดยมี กอ.รมน. เป็นเครื่องมือเพื่อควบคุมสังคมไทย พล.ต.วินธัย กล่าวด้วยว่า การที่ผู้เขียนได้มีการนำข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนสูงในลักษณะนี้ ไปตีพิมพ์เผยแพร่จำหน่ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาที่สอน และกิจการการศึกษา จึงอาจเป็นการละเมิดข้อบังคับจริยธรรมของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง รวมถึงอาจเข้าข่ายความผิดในทางกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอเรียนว่า การนำหนังสือและบทความทางวิชาการที่มีข้อมูลในลักษณะที่เป็นเท็จ ไปเผยแพร่ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายเป็นแบบรูปเล่มหนังสือ และการไปร่วมเสวนาบันทึกนำไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน “กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ได้กรุณาพิจารณาในเรื่องของจริยธรรม รวมถึงอาจจำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ หากนักวิชาการ สื่อมวลชน หรือสังคมมีความสงสัย ต้องการทราบรายละเอียดในประเด็นใด สามารถติดต่อมาที่หน่วยงาน หรือทีมโฆษก กอ.รมน. ได้ตลอดเวลา” พล.ต.วินธัย กล่าว ส่วน รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงข้อความว่า “เฮ้ออออ หนังสืออิฉันเองค่ะ”พร้อมได้ลงปกหนังสือเล่มดังกล่าว #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 776 มุมมอง 0 รีวิว