• ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 5

    J P Morgan ไม่ใช่เป็นบริษัทการเงินเล็กๆ เขาใหญ่ และดังคับโลก เขาสนใจ และรับงาน เฉพาะรายใหญ่ระดับชาติเท่านั้น และแม้ J P Morgan จะเป็นเจ้าพ่อ Wall Street แต่เขาก็สนิทสนม จนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ Rothschild เจ้าพ่อตัวจริงของฝั่งอังกฤษ ทำให้ผู้คนต่างพากันเดาถึงที่มาของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ 2 กลุ่มการเงิน ที่ไม่แน่ว่าจะมีใครรู้จริง

    นาย George Peabody เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน จาก Massachusetts เดินทางไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1837 เพื่อขายพันธบัตร กิจการสร้างคลอง Chesapeake Ohio ของอเมริกา ซึ่งขายได้ฝืดมากในอเมริกา เนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถอยหลัง เขาหวังว่าคนอังกฤษจะกระเป๋าหนักกว่าคนอเมริกัน แต่ประตูของตลาดลอนดอน ก็เปิดยากเอาการ แต่ Peabody มีความเพียร เขาพยายามเคาะประตูนักการเงินใหญ่ของลอนดอนไปทุกบาน ในที่สุดก็ขายพันธบัตรคลอง Ohio ได้หมด และได้กำไรไม่น้อย

    นาย Peabody ไม่เอาเงินกำไรกลับอเมริกา เขาเอาเงินนั้นไปลงทุน ตั้งบริษัททำธุรกิจตัวแทนเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก อยู่ที่ถนน Bond Street ในลอนดอน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้นักธุรกิจ ทั้ง 2 ฝั่ง ของมหาสมุทรแอตแลนติก ใครต้องการส่งสินค้า เขาส่งให้ ใครต้องการขาย เขาหาคนซื้อให้ ใครไม่มีเงิน เขาให้เงินกู้ มันคงเป็นจังหวะดี หรือนาย Peabody มีฝีมือจริง ธุรกิจในลอนดอนของเขา จึงก้าวหน้าไปลิ่ว

    คงมัวแต่ทำงานหนัก เลยไม่มีเวลาหาเมีย กว่าจะนึกออกก็คงดึกไปแล้ว แทนที่จะไปมองหาสาว เขาเลยมองหาคนที่จะมารับช่วงกิจการต่อไป ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามที่เขา ตั้งไว้ คือ ข้อที่ 1. ต้องเป็นคนเกิดที่อเมริกา ถึงยังไง นาย Peabody ก็ยังรักบ้านเกิด และที่สำคัญ เขาถือว่าบริษัทของเขา เป็นบริษัทอเมริกัน ข้อที่ 2 ต้องเป็นคนที่มีสัญชาตญาณ หรือวิญญาณอังกฤษสิงอยู่หน่อยๆ จะได้ต้อนรับลูกค้า ที่เป็นคนใหญ่คนโตของอังกฤษ ได้อย่างไม่เก้งก้าง ข้อที่ 3 คือต้องรู้จักธุรกิจการเงินของอังกฤษ อเมริกา (Anglo-American finance) เป็นอย่างดี และข้อที่ 4 Peabody จะต้องชอบคนนั้นด้วย
    เมื่อนาย Junius Morgan พ่อค้าชาว Boston เจอกับ Peabody ที่ London ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปี 1850 Junius Morgan ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูก Peabody เอากล้องส่องสำรวจอย่างละเอียด Peabody รู้สึกถูกชะตากับ Junius Morgan อย่างยิ่ง หลังจากไปสืบถามถึงภูมิหลังและชื่อเสียงจนเป็นที่พอใจ ปี 1854 Junius Morgan ก็อพยพครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่ London และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนกิจการ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Peabody, Morgan & Company

    นอกเหนือจากขายพันธบัตร ของธุรกิจของฝั่งอเมริกา และของรัฐบาลอเมริกันแล้ว บริษัทยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายเหนือ ในตอนสงครามระหว่างเหนือใต้ ของอเมริกาอีกด้วย งานนี้ทำกำไรให้กับบริษัทมากมาย จน Peabody ได้ขึ้นอันดับไปยืนอยู่แถวหน้าของตลาดเงิน London

    ปี 1864 Peabody ก็ขอเกษียณตัวเอง และยกธุรกิจทั้งหมดให้กับ Junius ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น J. S Morgan and Company

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 6

    ลูกชายของ Junius คือ นาย John Pierpont ที่โด่งดัง เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมของอังกฤษที่ Boston แต่ต่อมา การเรียน และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาอยู่แถวยุโรป เขาจึงมีลักษณะท่าทาง เป็นคนอังกฤษมากกว่าคนอเมริกัน ดูเหมือนเขาจะถูกสร้างให้เป็นตามแบบพิมพ์ที่ Peabody ตั้งใจ
    John Pierpont ถูกส่งไปฝึกงานกับบริษัทการเงินอื่น ก่อนจะมารับตำแหน่งหุ้นส่วนในกิจการ Dabney, Morgan & Company ซึ่งเป็นสาขา New York ของบริษัทที่ London
    ในปี 1871 บริษัทได้หุ้นส่วนใหม่อีกคนจาก Philadelphia คือ Anthony Drexel บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Drexel, Morgan & Company และในปี 1895 เมื่อ Drexel ตาย บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น J P Morgan & Company และมีสาขาที่ปารีส ชื่อ Morgan, Haries & Company

    หลังจาก Junius ตาย ไม่กี่ปีต่อมา Pierpont ก็ตัดสินใจปรับปรุงรูปโฉมของบริษัทที่ London ให้กลายเป็นบริษัทอังกฤษแท้ และแบ่งธุรกิจให้สาขาที่อเมริกา ก็รับแต่งานของฝั่งอเมริกาไป และก็เป็นโอกาสให้ J P Morgan Jr. ซึ่งเพื่อนฝูงเรียกว่า Jack ลูกชายของ Pierpont ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการธุรกิจที่อเมริกา และกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โลกนี้กลายเป็นแดนอธรรม หรือ ดงโจร

    ตามชีวประวัติของ Jack ซึ่งนาย John Forbes เขียนไว้ดังนี้ :

    J P Morgan, Jr. ได้เป็นหุ้นส่วนของ London House ของ J. P Morgan & Co เมื่อเดือนมกราคม 1898 และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตัวเขาพร้อมครอบครัว เมีย 1 ลูก 3 ก็ย้ายจาก New York มาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษนานถึง 8 ปี เขาถูกส่งให้มาอยู่อังกฤษ เพื่อมาทำภาระกิจสำคัญ 2 รายการ

    ภาระกิจแรก เพื่อเรียนรู้ภาคปฎิบัติว่า คนอังกฤษทำธุรกิจการธนาคารอย่างไร ภายใต้ระบบธนาคารกลาง ซึ่งกำหนดโดย Bank of England ซึ่ง Morgan คนพ่อ มีความหวังอยากจะตั้งระบบธนาคารกลางในอเมริกา และหวังจะให้คนของ Morgan รู้ไว้ก่อนว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร

    ภาระกิจที่สอง เพื่อทำความรู้จักกับนักธุรกิจการเงินของ London อย่างจริงจัง และเลือกหุ้นส่วนที่เป็นอังกฤษ ของแท้ ภาระที่สองนี้ ประสพผลสำเร็จชัดเจน เมื่อ Edward Grenfell ซึ่งเป็นกรรมการของ Bank of England มาเป็นเวลานาน ตกลงมาร่วมเป็นหุ้นส่วนอาวุโส และบริษัทก็เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้ง เป็น Morgan Grenfell & Company นับว่า Jack ตกได้ปลาตัวใหญ่จริง และสงสัยว่าเขาจะใช้เหยื่อตกปลาชนิดพิเศษ
    ผู้คนพากันสงสัยว่า เมื่อนักการเงินอเมริกา อาจหาญมาซ่าอยู่แถวตลาด London ซึ่งมีเขี้ยวลากกันทั้งนั้น จะไปรอดหรือ มันคงเอาเขี้ยวงัดกัดกันน่าดู นั่นแสดงว่าไม่รู้จัก ว่าคนเป็นเจ้าพ่อตัวจริง เขาคิดอย่างไร

    เมื่อ George Peabody มาถึง London ใหม่ๆ เขาแปลกใจมาก เรียกว่า ตกใจจะตรงกว่า เขาตกใจ ที่อยู่ดีๆ ได้รับคำสั่งให้ไปพบเจ้าพ่อ Baron Nathan Mayer Rothschild ใครจะกล้าเบี้ยวใบสั่งเจ้าพ่อ โดยเฉพาะกำลังมาหากิน อยู่กลางดงของเจ้าพ่อ

    แต่เรื่องกลับโอละพ่อ เจ้าพ่อก็มีวันต้องการมีสมุนนอกบัญชี

    Rothschild บอกกับนาย Peabody ว่า เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก ของพวกผู้ดีหัวสูงของสังคมอังกฤษ ในสายตาของพวกผู้ดีหลายคน เขาก็เป็นเพียงพวกกา หาใช่พันธุ์หงส์ เพราะฉะนั้น พวกสังคมชั้นสูง ก็ไม่ปลื้ม ไม่จริงใจ ในการคบค้าเขา สนใจแต่จะคบกับเงินของเขาเท่านั้น

    แล้วนาย Peabody ก็จัดงานฉลองวันชาติของอเมริกาที่ London โดยเชิญบรรดา ขุนนาง ผู้ดีอังกฤษ หัวสูง ยะโสทั้งหลายมาร่วมงาน แขกรับเชิญต่างชอบใจเจ้าภาพ และพอใจที่จะคบค้าด้วย เพราะยังไง ก็เป็น Anglo Saxon เผ่าพันธ์เดียวกัน คงไม่มีใครรู้ว่า ค่าอาหาร ค่าเหล้าในงานเลี้ยงคืน และอีกหลายๆครั้งต่อมา นาย Peabody ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน

    ปี 1857 เมื่อตลาด Wall Street เกือบล่ม นักเล่นหุ้นใช้สูตร ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เหมือนพวกเซียนใหญ่บ้านเรา Peabody และ Morgan คนพ่อ ถลาเข้าไปรับประกันชำระหนี้แทน นักเล่นหุ้น รวม ๆ แล้ว ประมาณ 2 ล้านปอนด์ หวังค่าคอมก้อนใหญ่ แต่ก็มีคนไม่แน่ใจว่า ถึงเวลา ถ้าลูกหนี้เบี้ยวหมด Peabody และ Morgan จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย

    ในประวัติของ The House of Morgan เขียนโดย Ron Chernow บอกว่า ขณะที่ข่าวลือชิ้นแรกว่อนไปทั่วว่า George Peabody น่าจะร่วงตามลูกหนี้ ข่าวลือชิ้นต่อมา ก็บอกว่า จะมีเจ้ามือใหญ่ของตลาดมาช่วยนาย Peabody โดยมีเงื่อนไข เขาจะต้องปิดกิจการบริษัทที่อังกฤษ และกลับอเมริกาไปภายใน 1 ปี
    ไม่นานหลังจากมีข่าวลือ ก็มีข่าวจริงออกมา ว่า Bank of England ประกาศให้เงินกู้ 8 แสนปอนด์ ด้วยดอกเบี้ยอัตราต่ำติดพื้นให้แก่ Peabody รวมทั้งให้ credit line อีก 1 ล้านปอนด์ ถ้าจำเป็นและต้องการ มันเป็นเรื่องผิดคาดของตลาดการเงินลอนดอน ที่ Thomas Hanley ผู้ว่าการธนาคาร Bank of England ซึ่งปฎิเสธ ที่จะช่วยเหลือบริษัทการเงินอเมริกันมาหลายรายแล้ว จะมาอุ้ม Peabody & Company ในขณะที่จมน้ำไปเกือบมิดหัวแล้ว

    แต่ถ้าลองไล่เรียง ความก้าวหน้าของ Peabody ใน London ตั้งแต่เริ่ม ปี 1837 มาจนถึงวันที่ J P Morgan & Co กลายเป็น Morgan Grenfell & Company หลัง ปี 1894 ก็น่าจะพอต่อเรื่องกันได้ว่า ฝีมือเขาดีจริง หรือน่าจะเพราะมีเจ้าพ่อหนุนหลัง หรือทั้ง 2 อย่าง แต่ฝีมือดีอย่างเดียว คงไม่น่ามาได้ไกลขนาดนี้

    Guaranty Trust ของ J P Morgan จึงรับบทสำคัญไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่า Jacob Schiff เสียด้วยซ้ำ ในละครลวงโลกปฏิวัติ Bolsheviks ปล้นรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 5 J P Morgan ไม่ใช่เป็นบริษัทการเงินเล็กๆ เขาใหญ่ และดังคับโลก เขาสนใจ และรับงาน เฉพาะรายใหญ่ระดับชาติเท่านั้น และแม้ J P Morgan จะเป็นเจ้าพ่อ Wall Street แต่เขาก็สนิทสนม จนเกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ Rothschild เจ้าพ่อตัวจริงของฝั่งอังกฤษ ทำให้ผู้คนต่างพากันเดาถึงที่มาของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ 2 กลุ่มการเงิน ที่ไม่แน่ว่าจะมีใครรู้จริง นาย George Peabody เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน จาก Massachusetts เดินทางไปอังกฤษในปี ค.ศ. 1837 เพื่อขายพันธบัตร กิจการสร้างคลอง Chesapeake Ohio ของอเมริกา ซึ่งขายได้ฝืดมากในอเมริกา เนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถอยหลัง เขาหวังว่าคนอังกฤษจะกระเป๋าหนักกว่าคนอเมริกัน แต่ประตูของตลาดลอนดอน ก็เปิดยากเอาการ แต่ Peabody มีความเพียร เขาพยายามเคาะประตูนักการเงินใหญ่ของลอนดอนไปทุกบาน ในที่สุดก็ขายพันธบัตรคลอง Ohio ได้หมด และได้กำไรไม่น้อย นาย Peabody ไม่เอาเงินกำไรกลับอเมริกา เขาเอาเงินนั้นไปลงทุน ตั้งบริษัททำธุรกิจตัวแทนเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก อยู่ที่ถนน Bond Street ในลอนดอน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้นักธุรกิจ ทั้ง 2 ฝั่ง ของมหาสมุทรแอตแลนติก ใครต้องการส่งสินค้า เขาส่งให้ ใครต้องการขาย เขาหาคนซื้อให้ ใครไม่มีเงิน เขาให้เงินกู้ มันคงเป็นจังหวะดี หรือนาย Peabody มีฝีมือจริง ธุรกิจในลอนดอนของเขา จึงก้าวหน้าไปลิ่ว คงมัวแต่ทำงานหนัก เลยไม่มีเวลาหาเมีย กว่าจะนึกออกก็คงดึกไปแล้ว แทนที่จะไปมองหาสาว เขาเลยมองหาคนที่จะมารับช่วงกิจการต่อไป ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามที่เขา ตั้งไว้ คือ ข้อที่ 1. ต้องเป็นคนเกิดที่อเมริกา ถึงยังไง นาย Peabody ก็ยังรักบ้านเกิด และที่สำคัญ เขาถือว่าบริษัทของเขา เป็นบริษัทอเมริกัน ข้อที่ 2 ต้องเป็นคนที่มีสัญชาตญาณ หรือวิญญาณอังกฤษสิงอยู่หน่อยๆ จะได้ต้อนรับลูกค้า ที่เป็นคนใหญ่คนโตของอังกฤษ ได้อย่างไม่เก้งก้าง ข้อที่ 3 คือต้องรู้จักธุรกิจการเงินของอังกฤษ อเมริกา (Anglo-American finance) เป็นอย่างดี และข้อที่ 4 Peabody จะต้องชอบคนนั้นด้วย เมื่อนาย Junius Morgan พ่อค้าชาว Boston เจอกับ Peabody ที่ London ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งในปี 1850 Junius Morgan ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูก Peabody เอากล้องส่องสำรวจอย่างละเอียด Peabody รู้สึกถูกชะตากับ Junius Morgan อย่างยิ่ง หลังจากไปสืบถามถึงภูมิหลังและชื่อเสียงจนเป็นที่พอใจ ปี 1854 Junius Morgan ก็อพยพครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่ London และมีตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนกิจการ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Peabody, Morgan & Company นอกเหนือจากขายพันธบัตร ของธุรกิจของฝั่งอเมริกา และของรัฐบาลอเมริกันแล้ว บริษัทยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายเหนือ ในตอนสงครามระหว่างเหนือใต้ ของอเมริกาอีกด้วย งานนี้ทำกำไรให้กับบริษัทมากมาย จน Peabody ได้ขึ้นอันดับไปยืนอยู่แถวหน้าของตลาดเงิน London ปี 1864 Peabody ก็ขอเกษียณตัวเอง และยกธุรกิจทั้งหมดให้กับ Junius ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น J. S Morgan and Company นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 6 ลูกชายของ Junius คือ นาย John Pierpont ที่โด่งดัง เริ่มเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมของอังกฤษที่ Boston แต่ต่อมา การเรียน และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาอยู่แถวยุโรป เขาจึงมีลักษณะท่าทาง เป็นคนอังกฤษมากกว่าคนอเมริกัน ดูเหมือนเขาจะถูกสร้างให้เป็นตามแบบพิมพ์ที่ Peabody ตั้งใจ John Pierpont ถูกส่งไปฝึกงานกับบริษัทการเงินอื่น ก่อนจะมารับตำแหน่งหุ้นส่วนในกิจการ Dabney, Morgan & Company ซึ่งเป็นสาขา New York ของบริษัทที่ London ในปี 1871 บริษัทได้หุ้นส่วนใหม่อีกคนจาก Philadelphia คือ Anthony Drexel บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Drexel, Morgan & Company และในปี 1895 เมื่อ Drexel ตาย บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น J P Morgan & Company และมีสาขาที่ปารีส ชื่อ Morgan, Haries & Company หลังจาก Junius ตาย ไม่กี่ปีต่อมา Pierpont ก็ตัดสินใจปรับปรุงรูปโฉมของบริษัทที่ London ให้กลายเป็นบริษัทอังกฤษแท้ และแบ่งธุรกิจให้สาขาที่อเมริกา ก็รับแต่งานของฝั่งอเมริกาไป และก็เป็นโอกาสให้ J P Morgan Jr. ซึ่งเพื่อนฝูงเรียกว่า Jack ลูกชายของ Pierpont ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการธุรกิจที่อเมริกา และกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โลกนี้กลายเป็นแดนอธรรม หรือ ดงโจร ตามชีวประวัติของ Jack ซึ่งนาย John Forbes เขียนไว้ดังนี้ : J P Morgan, Jr. ได้เป็นหุ้นส่วนของ London House ของ J. P Morgan & Co เมื่อเดือนมกราคม 1898 และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ตัวเขาพร้อมครอบครัว เมีย 1 ลูก 3 ก็ย้ายจาก New York มาใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษนานถึง 8 ปี เขาถูกส่งให้มาอยู่อังกฤษ เพื่อมาทำภาระกิจสำคัญ 2 รายการ ภาระกิจแรก เพื่อเรียนรู้ภาคปฎิบัติว่า คนอังกฤษทำธุรกิจการธนาคารอย่างไร ภายใต้ระบบธนาคารกลาง ซึ่งกำหนดโดย Bank of England ซึ่ง Morgan คนพ่อ มีความหวังอยากจะตั้งระบบธนาคารกลางในอเมริกา และหวังจะให้คนของ Morgan รู้ไว้ก่อนว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร ภาระกิจที่สอง เพื่อทำความรู้จักกับนักธุรกิจการเงินของ London อย่างจริงจัง และเลือกหุ้นส่วนที่เป็นอังกฤษ ของแท้ ภาระที่สองนี้ ประสพผลสำเร็จชัดเจน เมื่อ Edward Grenfell ซึ่งเป็นกรรมการของ Bank of England มาเป็นเวลานาน ตกลงมาร่วมเป็นหุ้นส่วนอาวุโส และบริษัทก็เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้ง เป็น Morgan Grenfell & Company นับว่า Jack ตกได้ปลาตัวใหญ่จริง และสงสัยว่าเขาจะใช้เหยื่อตกปลาชนิดพิเศษ ผู้คนพากันสงสัยว่า เมื่อนักการเงินอเมริกา อาจหาญมาซ่าอยู่แถวตลาด London ซึ่งมีเขี้ยวลากกันทั้งนั้น จะไปรอดหรือ มันคงเอาเขี้ยวงัดกัดกันน่าดู นั่นแสดงว่าไม่รู้จัก ว่าคนเป็นเจ้าพ่อตัวจริง เขาคิดอย่างไร เมื่อ George Peabody มาถึง London ใหม่ๆ เขาแปลกใจมาก เรียกว่า ตกใจจะตรงกว่า เขาตกใจ ที่อยู่ดีๆ ได้รับคำสั่งให้ไปพบเจ้าพ่อ Baron Nathan Mayer Rothschild ใครจะกล้าเบี้ยวใบสั่งเจ้าพ่อ โดยเฉพาะกำลังมาหากิน อยู่กลางดงของเจ้าพ่อ แต่เรื่องกลับโอละพ่อ เจ้าพ่อก็มีวันต้องการมีสมุนนอกบัญชี Rothschild บอกกับนาย Peabody ว่า เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก ของพวกผู้ดีหัวสูงของสังคมอังกฤษ ในสายตาของพวกผู้ดีหลายคน เขาก็เป็นเพียงพวกกา หาใช่พันธุ์หงส์ เพราะฉะนั้น พวกสังคมชั้นสูง ก็ไม่ปลื้ม ไม่จริงใจ ในการคบค้าเขา สนใจแต่จะคบกับเงินของเขาเท่านั้น แล้วนาย Peabody ก็จัดงานฉลองวันชาติของอเมริกาที่ London โดยเชิญบรรดา ขุนนาง ผู้ดีอังกฤษ หัวสูง ยะโสทั้งหลายมาร่วมงาน แขกรับเชิญต่างชอบใจเจ้าภาพ และพอใจที่จะคบค้าด้วย เพราะยังไง ก็เป็น Anglo Saxon เผ่าพันธ์เดียวกัน คงไม่มีใครรู้ว่า ค่าอาหาร ค่าเหล้าในงานเลี้ยงคืน และอีกหลายๆครั้งต่อมา นาย Peabody ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน ปี 1857 เมื่อตลาด Wall Street เกือบล่ม นักเล่นหุ้นใช้สูตร ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เหมือนพวกเซียนใหญ่บ้านเรา Peabody และ Morgan คนพ่อ ถลาเข้าไปรับประกันชำระหนี้แทน นักเล่นหุ้น รวม ๆ แล้ว ประมาณ 2 ล้านปอนด์ หวังค่าคอมก้อนใหญ่ แต่ก็มีคนไม่แน่ใจว่า ถึงเวลา ถ้าลูกหนี้เบี้ยวหมด Peabody และ Morgan จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ในประวัติของ The House of Morgan เขียนโดย Ron Chernow บอกว่า ขณะที่ข่าวลือชิ้นแรกว่อนไปทั่วว่า George Peabody น่าจะร่วงตามลูกหนี้ ข่าวลือชิ้นต่อมา ก็บอกว่า จะมีเจ้ามือใหญ่ของตลาดมาช่วยนาย Peabody โดยมีเงื่อนไข เขาจะต้องปิดกิจการบริษัทที่อังกฤษ และกลับอเมริกาไปภายใน 1 ปี ไม่นานหลังจากมีข่าวลือ ก็มีข่าวจริงออกมา ว่า Bank of England ประกาศให้เงินกู้ 8 แสนปอนด์ ด้วยดอกเบี้ยอัตราต่ำติดพื้นให้แก่ Peabody รวมทั้งให้ credit line อีก 1 ล้านปอนด์ ถ้าจำเป็นและต้องการ มันเป็นเรื่องผิดคาดของตลาดการเงินลอนดอน ที่ Thomas Hanley ผู้ว่าการธนาคาร Bank of England ซึ่งปฎิเสธ ที่จะช่วยเหลือบริษัทการเงินอเมริกันมาหลายรายแล้ว จะมาอุ้ม Peabody & Company ในขณะที่จมน้ำไปเกือบมิดหัวแล้ว แต่ถ้าลองไล่เรียง ความก้าวหน้าของ Peabody ใน London ตั้งแต่เริ่ม ปี 1837 มาจนถึงวันที่ J P Morgan & Co กลายเป็น Morgan Grenfell & Company หลัง ปี 1894 ก็น่าจะพอต่อเรื่องกันได้ว่า ฝีมือเขาดีจริง หรือน่าจะเพราะมีเจ้าพ่อหนุนหลัง หรือทั้ง 2 อย่าง แต่ฝีมือดีอย่างเดียว คงไม่น่ามาได้ไกลขนาดนี้ Guaranty Trust ของ J P Morgan จึงรับบทสำคัญไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่า Jacob Schiff เสียด้วยซ้ำ ในละครลวงโลกปฏิวัติ Bolsheviks ปล้นรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานอ้างว่าผู้นำสหรัฐฯสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียูเครนวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.คที่ผ่านมา ถามตรงไปตรงมา “โจมตีกรุงมอสโกได้ไหม?” ก่อนที่ในภายหลังจะปัดทางสาธารณะไม่อยากให้เคียฟโจมตีลึกถึงเมืองหลวงรัสเซีย ด้านสว.รีพับลิกันคนดัง ลินซีย์ แกรม ขู่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้โทรไปถามผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณอิหร่านว่าเป็นไงหากพลาดเส้นตายดีลสันติภาพ 50 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000067133

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    มีรายงานอ้างว่าผู้นำสหรัฐฯสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียูเครนวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.คที่ผ่านมา ถามตรงไปตรงมา “โจมตีกรุงมอสโกได้ไหม?” ก่อนที่ในภายหลังจะปัดทางสาธารณะไม่อยากให้เคียฟโจมตีลึกถึงเมืองหลวงรัสเซีย ด้านสว.รีพับลิกันคนดัง ลินซีย์ แกรม ขู่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้โทรไปถามผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณอิหร่านว่าเป็นไงหากพลาดเส้นตายดีลสันติภาพ 50 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000067133 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตราสัญลักษณ์ใหม่อย่างเป็นทางการของรัฐบาลซีเรีย รวมทั้งหนังสือเดินทางแบบใหม่ ซึ่งเปิดตัวในวันเดียวกับวันชาติสหรัฐอเมริกา 4 กรกฎาคม

    "นกอินทรีและดาว"

    หลายฝ่ายมองว่าเป็นการผสมผสานนระหว่างสัญลักษณ์ดาวของอิสราเอล และนกอินทรีของสหรัฐ
    ตราสัญลักษณ์ใหม่อย่างเป็นทางการของรัฐบาลซีเรีย รวมทั้งหนังสือเดินทางแบบใหม่ ซึ่งเปิดตัวในวันเดียวกับวันชาติสหรัฐอเมริกา 4 กรกฎาคม "นกอินทรีและดาว" หลายฝ่ายมองว่าเป็นการผสมผสานนระหว่างสัญลักษณ์ดาวของอิสราเอล และนกอินทรีของสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้..วันชาติอเมริกา Happy 4th. of July...ผมแต่งเพลงวันชาติอเมริกา...Happy Birthday America มาให้ครับ...รับชมและรับฟังร่วมกันครับ
    วันนี้..วันชาติอเมริกา Happy 4th. of July...ผมแต่งเพลงวันชาติอเมริกา...Happy Birthday America มาให้ครับ...รับชมและรับฟังร่วมกันครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เคียฟเช้าแล้ว
    4 กรกฎาคม วันชาติสหรัฐ! (Independence Day) 

    ผลลัพธ์ของการโจมตีในเคียฟ สื่อยูเครนรายงานเบื้องต้นว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Geran-2 มากกว่า 100 ลำ ขีปนาวุธพิสัยไกล Iskander-M เบื้องต้นนับได้ประมาณ 12 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhal" อีก 2 ลูก ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าหมายภายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และบริเวณพื้นที่โดยรอบเคียฟ
    เคียฟเช้าแล้ว 4 กรกฎาคม วันชาติสหรัฐ! (Independence Day)  ผลลัพธ์ของการโจมตีในเคียฟ สื่อยูเครนรายงานเบื้องต้นว่ากองทัพรัสเซียใช้โดรน Geran-2 มากกว่า 100 ลำ ขีปนาวุธพิสัยไกล Iskander-M เบื้องต้นนับได้ประมาณ 12 ลูก และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhal" อีก 2 ลูก ทั้งหมดนี้มุ่งเป้าหมายภายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และบริเวณพื้นที่โดยรอบเคียฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย - ตร.สงสัย 151 คนไทยถูกปล่อยพ้นคุกพม่าวันนี้ บางคนเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ พบบางรายลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ

    วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.เปิดเผยกรณีทางการเมียนมา จะปล่อยตัวคนไทยจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน หญิง 77 คน เนื่องในวันปลดปล่อยเอกราชหรือวันชาติเมียนมา 4 ม.ค.ของทุกปี

    หลังจากทั้งหมดถูกจับกุมระหว่างเมียนมากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก และถูกศาลจำคุกที่เชียงตุง

    พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่าตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผบ.ตร.ประเทศเมียนมา ขณะเดินทางไปประชุมที่กรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของเมียนมาและได้ขอให้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 151 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่ได้รับการลดโทษให้เหลือเวลา 10 เดือน กระทั่งได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทาง ผบ.ตร.เมียนมา ด้วย

    ทั้งนี้คนกลุ่มนี้เดิมมีจำนวน 154 คน แต่ได้เสียชีวิตขณะถูกจำคุก 1 คน และได้กลับมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน จึงเหลือ 151 คน ทั้งหมดส่วนใหญ่ออกนอกประเทศไทยด้วยการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่มีอยู่จำนวน 4 คนที่ไมได้ทำบัตรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืงอ (ตม.) แต่ออกไปตามช่องทางธรรมชาติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000962

    #MGROnline #เชียงราย #คุกพม่า #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #บ่อนพนันออนไลน์
    เชียงราย - ตร.สงสัย 151 คนไทยถูกปล่อยพ้นคุกพม่าวันนี้ บางคนเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ พบบางรายลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ • วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.เปิดเผยกรณีทางการเมียนมา จะปล่อยตัวคนไทยจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน หญิง 77 คน เนื่องในวันปลดปล่อยเอกราชหรือวันชาติเมียนมา 4 ม.ค.ของทุกปี • หลังจากทั้งหมดถูกจับกุมระหว่างเมียนมากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก และถูกศาลจำคุกที่เชียงตุง • พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่าตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผบ.ตร.ประเทศเมียนมา ขณะเดินทางไปประชุมที่กรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของเมียนมาและได้ขอให้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 151 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่ได้รับการลดโทษให้เหลือเวลา 10 เดือน กระทั่งได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทาง ผบ.ตร.เมียนมา ด้วย • ทั้งนี้คนกลุ่มนี้เดิมมีจำนวน 154 คน แต่ได้เสียชีวิตขณะถูกจำคุก 1 คน และได้กลับมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน จึงเหลือ 151 คน ทั้งหมดส่วนใหญ่ออกนอกประเทศไทยด้วยการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่มีอยู่จำนวน 4 คนที่ไมได้ทำบัตรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืงอ (ตม.) แต่ออกไปตามช่องทางธรรมชาติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000962 • #MGROnline #เชียงราย #คุกพม่า #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #บ่อนพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 985 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ติ่นส่าวิ่นจ่อ"นางแบบเซ็กซี่ชื่อดังของเมียนมา ถูกปล่อยตัวแล้วในวันชาติ 4 มกราคม หลังติดคุกนานกว่า 1 ปี ในข้อหาถ่ายภาพวาบหวิวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์

    วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของเมียนมา ซึ่งชาวเมียนมาทุกชาติพันธุ์ถือเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ และทุกปี รัฐบาลเมียนมาจะประกาศให้อภัยโทษแก่นักโทษจำนวนมากที่ถูกจำคุกอยู่ในทุกเรือนจำทั่วประเทศ

    ปีนี้ รัฐบาลทหารของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ได้ให้อภัยโทษแก่นักโทษรวม 5,864 คน และ 1 ในนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระในครั้งนี้ คือ ติ่นส่าวิ่นจ่อ อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง

    ช่วงบ่ายวันนี้ สื่อหลายแห่งในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพของติ่นส่าวิ่นจ่อสวมเสื้อยืดรัดรูปแขนยาวสีดำ คอกว้าง นุ่งซิ่นลายดอกสีน้ำตาล เดินหิ้วสัมภาระออกจากประตูเรือนจำ โดยมีผู้คุมหญิง 2 คนเดินออกมาส่ง ผู้คุมคนหนึ่งช่วยเธอหิ้วกระเป๋าสีเขียวอ่อน ส่วนอีกหนึ่งคนช่วยถือถุงกระดาษ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000000963

    #MGROnline #ติ่นส่าวิ่นจ่อ #นางแบบเซ็กซี่ #เมียนมา #วันชาติ #ถ่ายภาพวาบหวิว
    "ติ่นส่าวิ่นจ่อ"นางแบบเซ็กซี่ชื่อดังของเมียนมา ถูกปล่อยตัวแล้วในวันชาติ 4 มกราคม หลังติดคุกนานกว่า 1 ปี ในข้อหาถ่ายภาพวาบหวิวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ • วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของเมียนมา ซึ่งชาวเมียนมาทุกชาติพันธุ์ถือเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ และทุกปี รัฐบาลเมียนมาจะประกาศให้อภัยโทษแก่นักโทษจำนวนมากที่ถูกจำคุกอยู่ในทุกเรือนจำทั่วประเทศ • ปีนี้ รัฐบาลทหารของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ได้ให้อภัยโทษแก่นักโทษรวม 5,864 คน และ 1 ในนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระในครั้งนี้ คือ ติ่นส่าวิ่นจ่อ อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง • ช่วงบ่ายวันนี้ สื่อหลายแห่งในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพของติ่นส่าวิ่นจ่อสวมเสื้อยืดรัดรูปแขนยาวสีดำ คอกว้าง นุ่งซิ่นลายดอกสีน้ำตาล เดินหิ้วสัมภาระออกจากประตูเรือนจำ โดยมีผู้คุมหญิง 2 คนเดินออกมาส่ง ผู้คุมคนหนึ่งช่วยเธอหิ้วกระเป๋าสีเขียวอ่อน ส่วนอีกหนึ่งคนช่วยถือถุงกระดาษ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000000963 • #MGROnline #ติ่นส่าวิ่นจ่อ #นางแบบเซ็กซี่ #เมียนมา #วันชาติ #ถ่ายภาพวาบหวิว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 964 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย - ไทยเตรียมตั้งโต๊ะสอบ/คัดแยก เป็นเหยื่อค้ามนุษย์จริงหรือไม่ต่อ วันชาติเมียนมาปล่อยคนไทย 151 คน พ้นคุกเชียงตุงกลับแม่สาย หลังโดนจับกุมตามนโยบายกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์กลางท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นปี 67 คาดทั้งถึงท่าขี้เหล็กค่ำนี้

    วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานม้ตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย รอรับการปล่อยตัวคนไทยจากทางการเมียนมาจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน และหญิง 77 คน

    ซึ่งทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมช่วงที่ทางการเมียนมาปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายอย่างหนักใน จ.ท่าขี้เหล็ก ระหว่างวันที่ 23 ก.พ.-18 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา พร้อมกับชาวจีนและชาวเมียนมารวมกันหลายร้อยคน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000948

    #MGROnline #เชียงราย #เหยื่อค้ามนุษย์
    เชียงราย - ไทยเตรียมตั้งโต๊ะสอบ/คัดแยก เป็นเหยื่อค้ามนุษย์จริงหรือไม่ต่อ วันชาติเมียนมาปล่อยคนไทย 151 คน พ้นคุกเชียงตุงกลับแม่สาย หลังโดนจับกุมตามนโยบายกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์กลางท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นปี 67 คาดทั้งถึงท่าขี้เหล็กค่ำนี้ • วันนี้ (4 ม.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานม้ตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย รอรับการปล่อยตัวคนไทยจากทางการเมียนมาจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน และหญิง 77 คน • ซึ่งทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมช่วงที่ทางการเมียนมาปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายอย่างหนักใน จ.ท่าขี้เหล็ก ระหว่างวันที่ 23 ก.พ.-18 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา พร้อมกับชาวจีนและชาวเมียนมารวมกันหลายร้อยคน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000948 • #MGROnline #เชียงราย #เหยื่อค้ามนุษย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 956 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันพ่อ #วันชาติ #วันพ่อแห่งชาติ #ในหลวงรัชกาลที่9
    #วันพ่อ #วันชาติ #วันพ่อแห่งชาติ #ในหลวงรัชกาลที่9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 922 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • #วันพ่อแห่งชาติ #วันชาติ #ในหลวงรัชกาลที่9
    #วันพ่อแห่งชาติ #วันชาติ #ในหลวงรัชกาลที่9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 912 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • วันที่ ๕ ธันวาคมวันพ่อแห่งชาติ วันชาติไทย วันดินโลก
    วันที่ ๕ ธันวาคมวันพ่อแห่งชาติ วันชาติไทย วันดินโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๕ ธันวาคม
    วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ
    พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
    มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ
    น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท ไทย เวิลด์ มีเดีย จำกัด
    ๕ ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท ไทย เวิลด์ มีเดีย จำกัด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

    วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

    ข้าพระพุทธเจ้า ผู้จัดทำเพจ Newskit
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้จัดทำเพจ Newskit
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วันพ่อแห่งชาติ" ปีนี้ 2567 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม ซึ่งวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และเป็นวันที่ยกย่อง "พ่อ" ผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัววันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567ในปี 2563 เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจัด "วันพ่อแห่งชาติ" ขึ้น โดยผู้คิดริเริ่ม คือ คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา กำหนดให้ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม 2470 ซึ่งเป็นคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นเป็นต้นมาจึงเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี คือ "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อในครอบครัว "วันพ่อแห่งชาติ" ยังถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจำปีในประเทศไทย อีกด้วย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี วันชาติ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น "วันชาติ" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันชาติ 5 ธันวาคม 2567ในอดีต "วันชาติ" เคยมีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 และมีการฉลองวันชาติครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาถึง 21 ปี จนถึงสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการทบทวนว่าไม่ควรใช้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมหลายประการ มีการตั้งคณะกรรมการ พิจารณาและเสนอความเห็นว่าประเทศที่มี ระบอบประชาธิปไตย และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติหลายประเทศถือเอาวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ เป็นวันฉลองของชาติ เช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น เพื่อยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจ ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นวันฉลอง "วันชาติ" ตั้งแต่ 2503 เป็นต้นมา โดยภาครัฐและเอกชนจะจัดกิจกรรมกันทั่วประเทศ สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ "ดอกพุทธรักษา" เนื่องจากดอกพุทธรักษามีสีเหลืองตรงกับสีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ รัชกาลที่ 9 (วันจันทร์) นอกจากนี้ชาวพุทธยังมีความเชื่อว่า ดอกพุทธรักษา คือ ดอกไม้มงคล อีกด้วยพิธีสำคัญ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ในปี 2567 นี้ รัฐบาล จัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ดังนี้ช่วงเช้า เวลา 07.30 น. มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 189 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมคู่สมรสส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสมมีการ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนธันวาคม 2567 อีกด้วย
    "วันพ่อแห่งชาติ" ปีนี้ 2567 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม ซึ่งวันนี้ถูกกำหนดให้เป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และเป็นวันที่ยกย่อง "พ่อ" ผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัววันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567ในปี 2563 เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจัด "วันพ่อแห่งชาติ" ขึ้น โดยผู้คิดริเริ่ม คือ คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา กำหนดให้ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม 2470 ซึ่งเป็นคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้นเป็นต้นมาจึงเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี คือ "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ รัชกาลที่ 9 รวมถึงเป็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของพ่อในครอบครัว "วันพ่อแห่งชาติ" ยังถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการประจำปีในประเทศไทย อีกด้วย ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐบาลประกาศ "วันพ่อแห่งชาติ" ยังคงไว้ให้เป็นวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี วันชาติ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ยังถูกกำหนดให้เป็น "วันชาติ" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันชาติ 5 ธันวาคม 2567ในอดีต "วันชาติ" เคยมีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2481 และมีการฉลองวันชาติครั้งแรกวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาถึง 21 ปี จนถึงสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการทบทวนว่าไม่ควรใช้วันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เนื่องจากมีความไม่เหมาะสมหลายประการ มีการตั้งคณะกรรมการ พิจารณาและเสนอความเห็นว่าประเทศที่มี ระบอบประชาธิปไตย และมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติหลายประเทศถือเอาวันพระราชสมภพ ของพระมหากษัตริย์ เป็นวันฉลองของชาติ เช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น เพื่อยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจ ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นวันฉลอง "วันชาติ" ตั้งแต่ 2503 เป็นต้นมา โดยภาครัฐและเอกชนจะจัดกิจกรรมกันทั่วประเทศ สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ "ดอกพุทธรักษา" เนื่องจากดอกพุทธรักษามีสีเหลืองตรงกับสีวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ รัชกาลที่ 9 (วันจันทร์) นอกจากนี้ชาวพุทธยังมีความเชื่อว่า ดอกพุทธรักษา คือ ดอกไม้มงคล อีกด้วยพิธีสำคัญ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ในปี 2567 นี้ รัฐบาล จัดกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ดังนี้ช่วงเช้า เวลา 07.30 น. มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 189 รูป มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีพร้อมคู่สมรสส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสมมีการ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทย จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในเดือนธันวาคม 2567 อีกด้วย
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1535 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพจีนจัดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน โดยส่งทั้งเครื่องบินรบและเรือรบเข้าล้อมไต้หวัน ในปฏิบัติการที่แดนมังกรระบุว่าเป็นการส่งคำเตือนอย่างดุดัน ไปถึงกองกำลังของ “พวกนักแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งกำลังรณรงค์เรียกร้องเอกราชของเกาะแห่งนี้
    .
    กระทรวงกลาโหมของจีนยังสำทับว่าจะลงมือใช้ปฏิบัติการกับไต้หวันเพิ่มมากกว่านี้อีกถ้าหากเห็นว่าจำเป็น “จวบจนกระทั่งประเด็นปัญหาไต้หวันได้รับการแก้ไขคลี่คลายอย่างสมบูรณ์” พร้อมกับระบุว่าการซ้อมรบคราวนี้คือการเพิ่มแรงกดดันใส่พวกที่เรียกร้องให้ไต้หวันเป็นเอกราช
    .
    ไต้หวันซึ่งเพิ่งมีการปกครองแบบประชาธิปไตยตะวันตกโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและพวกชาติตะวันตกอื่นๆ เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ตั้งท่าเตรียมการรับมือกับการซ้อมรบแสดงความโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ของปักกิ่ง ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไล่ จิงเต๋อ กล่าวปราศรัยเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีน 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในลักษณะท้าทายจีน กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่า การปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในวันจันทร์ (14) ดูจะอยู่ในลักษณะผ่านการขบคิดไตร่ตรอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จีนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งเดือนเศษๆ ก็จะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายนแล้ว
    .
    คำปราศรัยของ ไล่ ถูกปักกิ่งประณามอย่างรุนแรงหลังจากเขากล่าวว่า จีนไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะเป็นตัวแทนของไต้หวัน ถึงแม้เวลาเดียวกันเขาก็เสนอที่จะร่วมมือกับปักกิ่งในประเด็นปัญหาระดับโลกต่างๆ
    .
    ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง กล่าวตอบโต้ไทเปในวันจันทร์ว่า การประกาศเอกราชของไต้หวันกับสันติภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถไปด้วยกันได้
    .
    ทางด้านกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเกาะไต้หวัน แถลงให้รายละเอียดว่า ปฏิบัติการซ้อมรบใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน-2024บี” (Joint Sword-2024B) จัดขึ้นในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งทางด้านเหนือ ใต้ และตะวันออกของเกาะไต้หวัน โดยมีเป้าหมายเป็นการเตือนอย่างขึงขังต่อการดำเนินการต่างๆ ของพวกแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน พร้อมย้ำว่า การซ้อมรบนี้ถูกกฎหมายและมีความจำเป็นสำหรับการปกป้องอธิปไตยแห่งรัฐและความเป็นเอกภาพของจีน
    .
    ในตอนแรกทางกองบัญชาการไม่มีการประกาศว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่เมื่อย่างเข้าคืนวันจันทร์ กองบัญชาการแห่งนี้ก็ประกาศว่าการซ้อมสิ้นสุดลงแล้ว อีกทั้งไม่ได้มีการประกาศจะมีการซ้อมรบขนาดใหญ่ใดๆ ต่อไปอีก
    .
    ก่อนหน้านั้น ทางกองบัญชาการแห่งนี้ได้เผยแพร่แผนที่ฉบับหนึ่งซึ่งแสดงพื้นที่ 9 แห่งรอบๆ เกาะไต้หวันที่เป็นพื้นที่ของการฝึกคราวนี้ โดย 2 พื้นที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ, 3 พิ้นที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตก, 1 พื้นที่อยู่ทางตอนเหนือ, และอีก 3 พื้นที่อยู่รอบๆ หมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งของจีนและไต้หวันเป็นผู้ควบคุมเอาไว้
    .
    คำแถลงของกองบัญชาการระบุอีกว่า เรือรบของจีนมีการจัดกระบวนหลายกระบวน รวมถึงพวกเรือพิฆาตและเครื่องบินมีการเคลื่อนกำลังเข้าใกล้เกาะไต้หวัน ใน “การเข้าไปประชิดใกล้ๆ จากทิศทางต่างๆ หลายทิศทาง”, โดยมุ่งโฟกัสที่การตรวจการณ์ความพร้อมรบของกองกำลังทางทะเล-ทางอากาศ, การเข้าปิดล้อมท่าเรือแห่งสำคัญๆ และพื้นที่สำคัญๆ, และการโจมตีใส่พวกเป้าหมายทั้งที่อยู่ในทะเลและทางภาคพื้นดิน
    .
    นอกจากนั้น เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ของจีนพร้อมหมู่เรือสนับสนุน ก็ได้เข้าร่วมการฝึกที่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน กองบัญชาการแห่งนี้ประกาศ โดยนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่กองทัพไต้หวันเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ
    .
    อย่างไรก็ดี ฝ่ายทหารของจีนไม่มีการประกาศว่า มีการฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริง หรือมีการประกาศเขตห้ามบินใดๆ และแหล่งข่าวความมั่นคงของไต้หวันรายหนึ่งบอกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่ามีการยิงขีปนาวุธ
    .
    ถึงแม้สื่อภาครัฐของจีนรายงานว่า กองกำลังจรวดของจีนได้จัดการฝึกยิงขีปนาวุธจำลอง เวลาเดียวกันนั้นพวกเครื่องบินขับไล่ก็ “ดำเนินการโจมตีเพื่อเปิดพื้นที่ระเบียงทางอากาศแห่งต่างๆ” ส่วนเครื่องบินทิ้งระเบิดดำเนินการตามภารกิจพิสัยไกล
    .
    ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งจีนโอบล้อมไต้หวันและเริ่มการลาดตระเวนใกล้เกาะหมาจู่และเกาะตงหยินของไต้หวัน และเข้าสู่น่านน้ำควบคุมของเกาะหมาจู่เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงการละเมิดพรมแดนที่ทางการไต้หวันกำหนดอย่างสมบูรณ์
    .
    เครือข่ายโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ในอนาคตปักกิ่งอาจทำการลาดตระเวนเพื่อบังคับใช้กฎหมายรอบเกาะหมาจู่เป็นประจำ
    .
    พันโทฟู่ เจิ้งหนาน นักวิจัยของสถาบันบัณฑิตวิทยาการทหารของจีน ชี้ว่า การซ้อมรบอาจเปลี่ยนจากการฝึกซ้อมเป็นการสู้รบได้ทุกเมื่อ หากไต้หวันยังยั่วยุอีก
    .
    ทางด้านไต้หวันนั้น ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ประกาศปกป้องประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ นอกจากนั้นไล่ยังเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงในวันจันทร์ว่า เกาะรอบนอกที่อยู่ภายใต้การปกครองของไต้หวันเตรียมพร้อมระดับสูงสุด และเครื่องบิน เรือรบ และทหาร รวมถึงหน่วยยามฝั่งจะตอบโต้สถานการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ตามกฎการปะทะ
    .
    อย่างไรก็ดี ผู้คนในไทเปส่วนใหญ่ดูเหมือนไม่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากจีนซ้อมรบอยู่บ่อยๆ
    .
    ส่วนที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า กำลังจับตาการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด
    .
    แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้จีนใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099218
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพจีนจัดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน โดยส่งทั้งเครื่องบินรบและเรือรบเข้าล้อมไต้หวัน ในปฏิบัติการที่แดนมังกรระบุว่าเป็นการส่งคำเตือนอย่างดุดัน ไปถึงกองกำลังของ “พวกนักแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งกำลังรณรงค์เรียกร้องเอกราชของเกาะแห่งนี้ . กระทรวงกลาโหมของจีนยังสำทับว่าจะลงมือใช้ปฏิบัติการกับไต้หวันเพิ่มมากกว่านี้อีกถ้าหากเห็นว่าจำเป็น “จวบจนกระทั่งประเด็นปัญหาไต้หวันได้รับการแก้ไขคลี่คลายอย่างสมบูรณ์” พร้อมกับระบุว่าการซ้อมรบคราวนี้คือการเพิ่มแรงกดดันใส่พวกที่เรียกร้องให้ไต้หวันเป็นเอกราช . ไต้หวันซึ่งเพิ่งมีการปกครองแบบประชาธิปไตยตะวันตกโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและพวกชาติตะวันตกอื่นๆ เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ตั้งท่าเตรียมการรับมือกับการซ้อมรบแสดงความโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ของปักกิ่ง ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไล่ จิงเต๋อ กล่าวปราศรัยเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีน 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในลักษณะท้าทายจีน กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่า การปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในวันจันทร์ (14) ดูจะอยู่ในลักษณะผ่านการขบคิดไตร่ตรอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จีนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งเดือนเศษๆ ก็จะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายนแล้ว . คำปราศรัยของ ไล่ ถูกปักกิ่งประณามอย่างรุนแรงหลังจากเขากล่าวว่า จีนไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะเป็นตัวแทนของไต้หวัน ถึงแม้เวลาเดียวกันเขาก็เสนอที่จะร่วมมือกับปักกิ่งในประเด็นปัญหาระดับโลกต่างๆ . ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง กล่าวตอบโต้ไทเปในวันจันทร์ว่า การประกาศเอกราชของไต้หวันกับสันติภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถไปด้วยกันได้ . ทางด้านกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเกาะไต้หวัน แถลงให้รายละเอียดว่า ปฏิบัติการซ้อมรบใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน-2024บี” (Joint Sword-2024B) จัดขึ้นในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งทางด้านเหนือ ใต้ และตะวันออกของเกาะไต้หวัน โดยมีเป้าหมายเป็นการเตือนอย่างขึงขังต่อการดำเนินการต่างๆ ของพวกแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน พร้อมย้ำว่า การซ้อมรบนี้ถูกกฎหมายและมีความจำเป็นสำหรับการปกป้องอธิปไตยแห่งรัฐและความเป็นเอกภาพของจีน . ในตอนแรกทางกองบัญชาการไม่มีการประกาศว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่เมื่อย่างเข้าคืนวันจันทร์ กองบัญชาการแห่งนี้ก็ประกาศว่าการซ้อมสิ้นสุดลงแล้ว อีกทั้งไม่ได้มีการประกาศจะมีการซ้อมรบขนาดใหญ่ใดๆ ต่อไปอีก . ก่อนหน้านั้น ทางกองบัญชาการแห่งนี้ได้เผยแพร่แผนที่ฉบับหนึ่งซึ่งแสดงพื้นที่ 9 แห่งรอบๆ เกาะไต้หวันที่เป็นพื้นที่ของการฝึกคราวนี้ โดย 2 พื้นที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ, 3 พิ้นที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตก, 1 พื้นที่อยู่ทางตอนเหนือ, และอีก 3 พื้นที่อยู่รอบๆ หมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งของจีนและไต้หวันเป็นผู้ควบคุมเอาไว้ . คำแถลงของกองบัญชาการระบุอีกว่า เรือรบของจีนมีการจัดกระบวนหลายกระบวน รวมถึงพวกเรือพิฆาตและเครื่องบินมีการเคลื่อนกำลังเข้าใกล้เกาะไต้หวัน ใน “การเข้าไปประชิดใกล้ๆ จากทิศทางต่างๆ หลายทิศทาง”, โดยมุ่งโฟกัสที่การตรวจการณ์ความพร้อมรบของกองกำลังทางทะเล-ทางอากาศ, การเข้าปิดล้อมท่าเรือแห่งสำคัญๆ และพื้นที่สำคัญๆ, และการโจมตีใส่พวกเป้าหมายทั้งที่อยู่ในทะเลและทางภาคพื้นดิน . นอกจากนั้น เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ของจีนพร้อมหมู่เรือสนับสนุน ก็ได้เข้าร่วมการฝึกที่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน กองบัญชาการแห่งนี้ประกาศ โดยนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่กองทัพไต้หวันเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ . อย่างไรก็ดี ฝ่ายทหารของจีนไม่มีการประกาศว่า มีการฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริง หรือมีการประกาศเขตห้ามบินใดๆ และแหล่งข่าวความมั่นคงของไต้หวันรายหนึ่งบอกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่ามีการยิงขีปนาวุธ . ถึงแม้สื่อภาครัฐของจีนรายงานว่า กองกำลังจรวดของจีนได้จัดการฝึกยิงขีปนาวุธจำลอง เวลาเดียวกันนั้นพวกเครื่องบินขับไล่ก็ “ดำเนินการโจมตีเพื่อเปิดพื้นที่ระเบียงทางอากาศแห่งต่างๆ” ส่วนเครื่องบินทิ้งระเบิดดำเนินการตามภารกิจพิสัยไกล . ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งจีนโอบล้อมไต้หวันและเริ่มการลาดตระเวนใกล้เกาะหมาจู่และเกาะตงหยินของไต้หวัน และเข้าสู่น่านน้ำควบคุมของเกาะหมาจู่เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงการละเมิดพรมแดนที่ทางการไต้หวันกำหนดอย่างสมบูรณ์ . เครือข่ายโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ในอนาคตปักกิ่งอาจทำการลาดตระเวนเพื่อบังคับใช้กฎหมายรอบเกาะหมาจู่เป็นประจำ . พันโทฟู่ เจิ้งหนาน นักวิจัยของสถาบันบัณฑิตวิทยาการทหารของจีน ชี้ว่า การซ้อมรบอาจเปลี่ยนจากการฝึกซ้อมเป็นการสู้รบได้ทุกเมื่อ หากไต้หวันยังยั่วยุอีก . ทางด้านไต้หวันนั้น ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ประกาศปกป้องประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ นอกจากนั้นไล่ยังเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ . กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงในวันจันทร์ว่า เกาะรอบนอกที่อยู่ภายใต้การปกครองของไต้หวันเตรียมพร้อมระดับสูงสุด และเครื่องบิน เรือรบ และทหาร รวมถึงหน่วยยามฝั่งจะตอบโต้สถานการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ตามกฎการปะทะ . อย่างไรก็ดี ผู้คนในไทเปส่วนใหญ่ดูเหมือนไม่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากจีนซ้อมรบอยู่บ่อยๆ . ส่วนที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า กำลังจับตาการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด . แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้จีนใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099218 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1664 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพจีนเริ่มทำการซ้อมรบครั้งใหม่ใกล้ไต้หวัน ระบุเป็นสัญญาณเตือนที่ส่งถึง "พฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังเอกราชไต้หวัน" โดยคราวนี้ไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดใดๆ ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามจากรัฐบาลไทเป
    .
    ไต้หวันซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย และถูกจีนกล่าวอ้างเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน อยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงต่อการซ้อมรบครั้งใหม่ใดๆ ของจีน นับตั้งแต่ประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    ในสุนทรพจน์ ไล่ ได้ประกาศกร้าวจะเดินหน้าต่อต้านการผนวกดินแดนของจีนแผ่นดินใหญ่ และบอกว่าปักกิ่งไม่มีสิทธิเป็นตัวแทนของไต้หวัน แม้อีกด้านหนึ่งเขาได้เสนอร่วมมือกับปักกิ่งก็ตาม
    .
    สุนทรพจน์ดังกล่าวเรียกเสียงปะณามมาจากปักกิ่ง และล่าสุดทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดเผยว่า การซ้อมรบ Joint Sword-2024B ได้เริ่มขึ้นแล้วและกำลังมีขึ้นในช่องแคบไต้หวัน และพื้นที่ต่างๆ ทางเหนือ ทางใต้และตะวันออกของไต้หวัน
    .
    "การซ้อมรบยังเป็นคำเตือนอย่างจริงจังต่อพฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังเอกราชไต้หวัน มันเป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตยและความเป็นหนึ่งเดียวกันของประเทศชาติ" ถ้อยแถลงของกองทัพจีนระบุ ทั้งนี้ ถ้อยแถลงนี้มีเผยแพร่ทั้งในรูปแบบภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
    .
    กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้เผยแพร่แผนที่หนึ่งซึ่งเผยให้เห็น 9 พื้นที่รอบไต้หวัน บริเวณที่มีการซ้อมรบ ในนั้น 2 จุดอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะ 3 จุดอยู่ทางชายฝั่งตะวันตก 1 จุดทางเหนือ และอีก 3 จุด แถวหมู่เกาะต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของไต้หวัน ใกล้กับชายฝั่งของจีน
    .
    "กองเรือและฝูงบินของจีนมุ่งหน้าเข้าหาไต้หวันในระยะประชิดจากทุกทิศทุกทาง มุ่งเน้นไปที่การฝึกซ้อมลาดตระเวนเพื่อความพร้อมด้านการสู้รบทั้งทางทะเลและอากาศ การปิดล้อมท่าเรือและพื้นที่สำคัญๆ การจู่โจมเป้าหมายทางทะเลและทางภาคพื้น รวมถึงฉวยความได้เปรียบอย่างครอบคลุม"
    .
    อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้แถลงว่ามีการฝึกซ้อมกระสุนจริงหรือกำหนดเขตห้ามบินใดๆ หรือไม่ ในขณะที่เมื่อปี 2022 ไม่นานหลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้นเดินทางเยือนไต้หวัน ทางจีนได้รัวยิงขีปนาวุธข้ามเกาะแห่งนี้
    .
    สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน กล่าวว่าการซ้อมรบล่าสุดของจีนและไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลัง คือการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งที่บ่อนทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง
    .
    อย่างไรก็ตาม สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน เน้นย้ำว่าแม้ถูกจีนยกระดับข่มขู่ทางการเมือง ทางทหารและเศรษฐกิจหนักหน่วงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ไต้หวันจะไม่ยอมจำนน "ประธานาธิบดีไล่ ได้แสดงออกถึงไมตรีจิตในคำกล่าวสุนทรพจน์เรื่องในวันชาติ และมีความตั้งใจแบกรับความรับผิดชอบธำรงไว้ซึ่งสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ร่วมกับคอมมิวนิสต์จีน"
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพวกเขาได้ส่งกองกำลังของตนเองออกไปเช่นกัน
    .
    เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงรายหนึ่งของไต้หวัน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหว เชื่อว่าจีนกำลังฝึกซ้อมปิดกั้นท่าเรือต่างๆ ของไต้หวันในทางเหนือและทางใต้ของเกาะ รวมถึงเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมสกัดการเดินทางเข้ามาของกองกำลังต่างชาติ
    .
    ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบินลำหนึ่งของจีน ล่องสู่ทางใต้ของเกาะ ผ่านช่องแคบยุทธศาสตร์ "บาชิ" ที่กั้นระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์ และเชื่อมทะเลจีนใต้ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก
    .
    นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว สื่อมวลชนแห่งรัฐจีนรายงานเรื่องราวต่างๆ และความคิดเห็นของบรรดาผู้สันทัดกรณี ที่ประณามคำกล่าวสุนทรพจน์ของไล่ และในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เผยแพร่วิดีโอหนึ่งซึ่งเป็นภาพที่อ้างว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ
    .
    จีนเคยจัดการซ้อมรบ Joint Sword-2024A รอบเกาะไต้หวัน เป็นเวลา 2 วัน ในเดือนพฤษภาคม ไม่นานหลังจาก ไล่ เข้ารับตำแหน่ง โดยบอกว่ามันเป็นการลงโทษต่อคำกล่าวสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไล่ ที่มีเนื้อหาแบ่งแยกดินแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098420
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพจีนเริ่มทำการซ้อมรบครั้งใหม่ใกล้ไต้หวัน ระบุเป็นสัญญาณเตือนที่ส่งถึง "พฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังเอกราชไต้หวัน" โดยคราวนี้ไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดใดๆ ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามจากรัฐบาลไทเป . ไต้หวันซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย และถูกจีนกล่าวอ้างเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน อยู่ในภาวะเฝ้าระวังขั้นสูงต่อการซ้อมรบครั้งใหม่ใดๆ ของจีน นับตั้งแต่ประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . ในสุนทรพจน์ ไล่ ได้ประกาศกร้าวจะเดินหน้าต่อต้านการผนวกดินแดนของจีนแผ่นดินใหญ่ และบอกว่าปักกิ่งไม่มีสิทธิเป็นตัวแทนของไต้หวัน แม้อีกด้านหนึ่งเขาได้เสนอร่วมมือกับปักกิ่งก็ตาม . สุนทรพจน์ดังกล่าวเรียกเสียงปะณามมาจากปักกิ่ง และล่าสุดทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดเผยว่า การซ้อมรบ Joint Sword-2024B ได้เริ่มขึ้นแล้วและกำลังมีขึ้นในช่องแคบไต้หวัน และพื้นที่ต่างๆ ทางเหนือ ทางใต้และตะวันออกของไต้หวัน . "การซ้อมรบยังเป็นคำเตือนอย่างจริงจังต่อพฤติกรรมแบ่งแยกดินแดนของกองกำลังเอกราชไต้หวัน มันเป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำเป็น เพื่อปกป้องอธิปไตยและความเป็นหนึ่งเดียวกันของประเทศชาติ" ถ้อยแถลงของกองทัพจีนระบุ ทั้งนี้ ถ้อยแถลงนี้มีเผยแพร่ทั้งในรูปแบบภาษาจีนและภาษาอังกฤษ . กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้เผยแพร่แผนที่หนึ่งซึ่งเผยให้เห็น 9 พื้นที่รอบไต้หวัน บริเวณที่มีการซ้อมรบ ในนั้น 2 จุดอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะ 3 จุดอยู่ทางชายฝั่งตะวันตก 1 จุดทางเหนือ และอีก 3 จุด แถวหมู่เกาะต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของไต้หวัน ใกล้กับชายฝั่งของจีน . "กองเรือและฝูงบินของจีนมุ่งหน้าเข้าหาไต้หวันในระยะประชิดจากทุกทิศทุกทาง มุ่งเน้นไปที่การฝึกซ้อมลาดตระเวนเพื่อความพร้อมด้านการสู้รบทั้งทางทะเลและอากาศ การปิดล้อมท่าเรือและพื้นที่สำคัญๆ การจู่โจมเป้าหมายทางทะเลและทางภาคพื้น รวมถึงฉวยความได้เปรียบอย่างครอบคลุม" . อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้แถลงว่ามีการฝึกซ้อมกระสุนจริงหรือกำหนดเขตห้ามบินใดๆ หรือไม่ ในขณะที่เมื่อปี 2022 ไม่นานหลังจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้นเดินทางเยือนไต้หวัน ทางจีนได้รัวยิงขีปนาวุธข้ามเกาะแห่งนี้ . สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน กล่าวว่าการซ้อมรบล่าสุดของจีนและไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลัง คือการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งที่บ่อนทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง . อย่างไรก็ตาม สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน เน้นย้ำว่าแม้ถูกจีนยกระดับข่มขู่ทางการเมือง ทางทหารและเศรษฐกิจหนักหน่วงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ไต้หวันจะไม่ยอมจำนน "ประธานาธิบดีไล่ ได้แสดงออกถึงไมตรีจิตในคำกล่าวสุนทรพจน์เรื่องในวันชาติ และมีความตั้งใจแบกรับความรับผิดชอบธำรงไว้ซึ่งสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ร่วมกับคอมมิวนิสต์จีน" . กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพวกเขาได้ส่งกองกำลังของตนเองออกไปเช่นกัน . เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงรายหนึ่งของไต้หวัน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหว เชื่อว่าจีนกำลังฝึกซ้อมปิดกั้นท่าเรือต่างๆ ของไต้หวันในทางเหนือและทางใต้ของเกาะ รวมถึงเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมสกัดการเดินทางเข้ามาของกองกำลังต่างชาติ . ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบินลำหนึ่งของจีน ล่องสู่ทางใต้ของเกาะ ผ่านช่องแคบยุทธศาสตร์ "บาชิ" ที่กั้นระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์ และเชื่อมทะเลจีนใต้ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก . นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว สื่อมวลชนแห่งรัฐจีนรายงานเรื่องราวต่างๆ และความคิดเห็นของบรรดาผู้สันทัดกรณี ที่ประณามคำกล่าวสุนทรพจน์ของไล่ และในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ทางกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เผยแพร่วิดีโอหนึ่งซึ่งเป็นภาพที่อ้างว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ . จีนเคยจัดการซ้อมรบ Joint Sword-2024A รอบเกาะไต้หวัน เป็นเวลา 2 วัน ในเดือนพฤษภาคม ไม่นานหลังจาก ไล่ เข้ารับตำแหน่ง โดยบอกว่ามันเป็นการลงโทษต่อคำกล่าวสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไล่ ที่มีเนื้อหาแบ่งแยกดินแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098420 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1737 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปักกิ่ง ประเทศจีน จัดพิธีเชิญธง เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติครบรอบ ๗๕ ปี
    .
    Beijing China holds flag-raising ceremony to mark 75th National Day
    .
    3:40 PM · Oct 3, 2024 · 10.4K Views
    https://x.com/RT_com/status/1841760098148094275
    ปักกิ่ง ประเทศจีน จัดพิธีเชิญธง เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติครบรอบ ๗๕ ปี . Beijing China holds flag-raising ceremony to mark 75th National Day . 3:40 PM · Oct 3, 2024 · 10.4K Views https://x.com/RT_com/status/1841760098148094275
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • 1 ตุลาคม - วันชาติจีน
    จีน กำลังเข้าสู่..เส้นชัย The Chinese Dream 中国梦
    ...........................................
    ในพัฒนาประเทศ ตามหลักของ Marxism-Communism
    จีน มีนโยบาย 2 PHASE ต่อเนื่องกัน คือ
    1) ต้องทำประเทศให้ร่ำรวย
    2) แบ่งเท่ากัน
    ...........................................
    PHASE-I #นโยบายจีนสร้างประเทศให้ร่ำรวย
    ตามแนวคิดของ Deng Xiao Ping ที่วางยุทธศาสตร์ ไว้ว่า
    " LET SOME PEOPLE GET RICH"
    แปลอังกฤษเป็นไทย ได้ว่า ต้องทำประเทศให้ร่ำรวย ด้วยการเปิดเสรี ให้คนจีนที่มีความสามารถ นำการพัฒนาความมั่งคั่งให้ประเทศจีน (ด้วยนโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ หรือ แมวสีอะไรก็ได้..ขอให้จับหนูได้)
    จีน..จึงกลายเป็นโรงงานของโลก ผลิตสินค้า ขายดี สร้างให้ประเทศร่ำรวย ดังที่ทุกคนในโลก..ได้รับรู้

    ขณะนี้..สถานการณ์Covid-19 ท่านจักรพรรดิ์ Xi JinPing ได้ทดลอง "ปิดประเทศ" แล้วใช้ระบบเศรษฐกิจแบบ Dual-Circulation กล่าวคือ จีน แบ่งเศรษฐกิจออกเป็นการหมุนเวียนภายในประเทศ และ การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ.
    ผลปรากฎว่า.. 1) ผลของเศรษฐกิจการหมุนเวียนภายในประเทศ จีนผลิต จีนใช้ จีนเจริญ (อยู่ได้..อย่างสบายมาก)อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพา การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ.
    2) การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ ยิ่งสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่. !!!
    ......................................................................

    ข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ท่านจักรพรรดิ์ Xi JinPing ตัดสินใจ
    นำประเทศจีน เข้าสู่ PHASE-II คือ นโยบาย COMMON PROSPERITY แปลเป็นไทยได้ว่า #ได้เวลาที่จะแบ่งความร่ำรวยให้ทุกคนเท่าเทียมกัน
    นี่แหละ..คือ ที่มาของ..นโยบายรัฐบาลจีน ที่สำคัญ 3 ประการ
    1) ควบคุมกิจการเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น ANT GROUP, TenCent, ALiBaBa...etc.
    2) ควบคุมการศึกษา เช่น ปราบ TUTOR ในเมืองใหญ่ เร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เน้นความเสมอภาค #ทำให้เด็กจีนได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน และ #รักชาติยิ่งชีพ
    3) ควบคุมอบายมุข เหล้า บุหรี่ และ เกมส์(ยาเสพติดยุคดิจิตอล เทียบเท่า ฝิ่น ในราชวงศ์ชิง)

    จากบทความข้างต้น ท่านคงเข้าใจแล้วนะ ว่า
    ต่อจากวินาที นี้.. " จีน กำลังเข้าสู่..เส้นชัย "

    แว๊ว---ช่าย หมาย ?
    .
    Pachäree Wõng
    October1st, 2024
    San Francisco, CA94108
    1 ตุลาคม - วันชาติจีน จีน กำลังเข้าสู่..เส้นชัย The Chinese Dream 中国梦 ........................................... ในพัฒนาประเทศ ตามหลักของ Marxism-Communism จีน มีนโยบาย 2 PHASE ต่อเนื่องกัน คือ 1) ต้องทำประเทศให้ร่ำรวย 2) แบ่งเท่ากัน ........................................... PHASE-I #นโยบายจีนสร้างประเทศให้ร่ำรวย ตามแนวคิดของ Deng Xiao Ping ที่วางยุทธศาสตร์ ไว้ว่า " LET SOME PEOPLE GET RICH" แปลอังกฤษเป็นไทย ได้ว่า ต้องทำประเทศให้ร่ำรวย ด้วยการเปิดเสรี ให้คนจีนที่มีความสามารถ นำการพัฒนาความมั่งคั่งให้ประเทศจีน (ด้วยนโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ หรือ แมวสีอะไรก็ได้..ขอให้จับหนูได้) จีน..จึงกลายเป็นโรงงานของโลก ผลิตสินค้า ขายดี สร้างให้ประเทศร่ำรวย ดังที่ทุกคนในโลก..ได้รับรู้ ขณะนี้..สถานการณ์Covid-19 ท่านจักรพรรดิ์ Xi JinPing ได้ทดลอง "ปิดประเทศ" แล้วใช้ระบบเศรษฐกิจแบบ Dual-Circulation กล่าวคือ จีน แบ่งเศรษฐกิจออกเป็นการหมุนเวียนภายในประเทศ และ การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ. ผลปรากฎว่า.. 1) ผลของเศรษฐกิจการหมุนเวียนภายในประเทศ จีนผลิต จีนใช้ จีนเจริญ (อยู่ได้..อย่างสบายมาก)อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพา การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ. 2) การหมุนเวียนเศรษฐกิจจีนนอกประเทศ ยิ่งสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่. !!! ...................................................................... ข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ท่านจักรพรรดิ์ Xi JinPing ตัดสินใจ นำประเทศจีน เข้าสู่ PHASE-II คือ นโยบาย COMMON PROSPERITY แปลเป็นไทยได้ว่า #ได้เวลาที่จะแบ่งความร่ำรวยให้ทุกคนเท่าเทียมกัน นี่แหละ..คือ ที่มาของ..นโยบายรัฐบาลจีน ที่สำคัญ 3 ประการ 1) ควบคุมกิจการเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น ANT GROUP, TenCent, ALiBaBa...etc. 2) ควบคุมการศึกษา เช่น ปราบ TUTOR ในเมืองใหญ่ เร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เน้นความเสมอภาค #ทำให้เด็กจีนได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกัน และ #รักชาติยิ่งชีพ 3) ควบคุมอบายมุข เหล้า บุหรี่ และ เกมส์(ยาเสพติดยุคดิจิตอล เทียบเท่า ฝิ่น ในราชวงศ์ชิง) จากบทความข้างต้น ท่านคงเข้าใจแล้วนะ ว่า ต่อจากวินาที นี้.. " จีน กำลังเข้าสู่..เส้นชัย " แว๊ว---ช่าย หมาย ? . Pachäree Wõng October1st, 2024 San Francisco, CA94108
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1087 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่องไวรัลมาเลเซีย 2024

    เฟซบุ๊กเพจ MGAG ในมาเลเซียเปิดเผยอินโฟกราฟิกที่ชื่อว่า "2024 Malaysia Meme Calender" รวบรวมประเด็นไวรัลเด่นที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนของประเทศมาเลเซีย จากการสืบค้นของ Newskit พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจดังนี้

    ม.ค. 2567 - Derrick Gan แฟนบอลทีมชาติมาเลเซีย ประกาศขายรถจักรยานยนต์ 4,500 ริงกิต (ประมาณ 34,000 บาท) เพื่อใช้เดินทางไปเชียร์ฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ประเทศกาตาร์ หลังกลับมา ค่าย Modenas มอบรถจักรยานยนต์คันใหม่ให้เขา

    ก.พ. 2567 - คลิปหญิงวัย 23 ปีจากอัมปัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าไปเที่ยวไนต์คลับตั้งแต่อายุ 18 ปี กลับบ้านกับผู้ชายถึงสองครั้ง ถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ภายหลังอ้างว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น คลิปดังกล่าวมีจุดประสงค์ทางการตลาดเท่านั้น

    มี.ค. 2567 - ชายชาวจีนที่อาศัยในมาเลเซีย เจ้าของร้านอาหารหมี่โกโล แต่งงานพร้อมกันกับภรรยา 2 คน ที่ทำงานในร้านเดียวกัน ที่เมืองกุชิง รัฐซาราวัก รัฐมนตรีวิจารณ์ว่าผู้ที่มิใช่ชาวมุสลิม ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว ไม่สามารถมีคู่สมรสหลายคนได้

    เม.ย. 2567 - Aliff Aziz นักร้องและนักแสดงชาวสิงคโปร์ ถูกกรมกิจการอิสลาม (JAWI) จับกุมพร้อมกับ Ruhainies Farehah นักแสดงสาว ขณะที่อดีตภรรยา Bella Astillah ชี้ว่า Aliff โกหกเรื่องเมียน้อยถึง 11 ครั้ง ยื่นฟ้องหย่าเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

    พ.ค. 2567 - แอดมินเพจร้านอาหารฟาสฟู้ด DarSA Fried Chicken (DFC) ในเมืองราวัง รัฐสลังงอร์ ตอบกลับลูกค้าใช้คำว่า "พวก Type C" ถูกมองว่าเหยียดเชื้อชาติจีนในมาเลเซีย ทางร้านขอโทษและยืนยันว่ายินดีต้อนรับลูกค้าทุกเชื้อชาติและศาสนา

    มิ.ย. 2567 - เจ้าของร้านขายของชำย่านเซเบอรัง จายา รัฐปีนัง กำราบลูกค้าขี้เมาด้วยคำว่า "One by One Gentleman" ภายหลังพบว่าเจ้าของร้านเคยเป็นครูสอนเทควันโดสายดำมาก่อน ส่วนลูกค้าขี้เมาก็กล่าวว่าตนเองเคยเป็นนักคาราเต้สายดำ

    ก.ค. 2567 - เครื่องแต่งกายนักกีฬาทีมชาติมาเลเซีย ที่จะไปแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกวิจารณ์ว่าดีไซน์น่าเกลียด ดูราคาถูก ล้าสมัย และไร้แรงบันดาลใจ ทำให้สภาโอลิมปิกมาเลเซีย ตัดสินใจทำเสื้อแจ็กเก็ตลายใหม่เพื่อลดเสียงวิจารณ์

    ส.ค. 2567 - ขบวนพาเหรดเนื่องในวันชาติมาเลเซีย 2024 ผู้คนให้ความสนใจผู้ชายในเครื่องแบบที่เรียกว่า Abang ปีนี้แข่งกันระหว่าง Abang Bomba ของดับเพลิงและกู้ภัย Abang JPJ ของกรมขนส่งทางบก และ Abang Askar จากกองทัพมาเลเซีย

    #Newskit #Viral #Malaysia
    ส่องไวรัลมาเลเซีย 2024 เฟซบุ๊กเพจ MGAG ในมาเลเซียเปิดเผยอินโฟกราฟิกที่ชื่อว่า "2024 Malaysia Meme Calender" รวบรวมประเด็นไวรัลเด่นที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนของประเทศมาเลเซีย จากการสืบค้นของ Newskit พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจดังนี้ ม.ค. 2567 - Derrick Gan แฟนบอลทีมชาติมาเลเซีย ประกาศขายรถจักรยานยนต์ 4,500 ริงกิต (ประมาณ 34,000 บาท) เพื่อใช้เดินทางไปเชียร์ฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ประเทศกาตาร์ หลังกลับมา ค่าย Modenas มอบรถจักรยานยนต์คันใหม่ให้เขา ก.พ. 2567 - คลิปหญิงวัย 23 ปีจากอัมปัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าไปเที่ยวไนต์คลับตั้งแต่อายุ 18 ปี กลับบ้านกับผู้ชายถึงสองครั้ง ถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ภายหลังอ้างว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น คลิปดังกล่าวมีจุดประสงค์ทางการตลาดเท่านั้น มี.ค. 2567 - ชายชาวจีนที่อาศัยในมาเลเซีย เจ้าของร้านอาหารหมี่โกโล แต่งงานพร้อมกันกับภรรยา 2 คน ที่ทำงานในร้านเดียวกัน ที่เมืองกุชิง รัฐซาราวัก รัฐมนตรีวิจารณ์ว่าผู้ที่มิใช่ชาวมุสลิม ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว ไม่สามารถมีคู่สมรสหลายคนได้ เม.ย. 2567 - Aliff Aziz นักร้องและนักแสดงชาวสิงคโปร์ ถูกกรมกิจการอิสลาม (JAWI) จับกุมพร้อมกับ Ruhainies Farehah นักแสดงสาว ขณะที่อดีตภรรยา Bella Astillah ชี้ว่า Aliff โกหกเรื่องเมียน้อยถึง 11 ครั้ง ยื่นฟ้องหย่าเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา พ.ค. 2567 - แอดมินเพจร้านอาหารฟาสฟู้ด DarSA Fried Chicken (DFC) ในเมืองราวัง รัฐสลังงอร์ ตอบกลับลูกค้าใช้คำว่า "พวก Type C" ถูกมองว่าเหยียดเชื้อชาติจีนในมาเลเซีย ทางร้านขอโทษและยืนยันว่ายินดีต้อนรับลูกค้าทุกเชื้อชาติและศาสนา มิ.ย. 2567 - เจ้าของร้านขายของชำย่านเซเบอรัง จายา รัฐปีนัง กำราบลูกค้าขี้เมาด้วยคำว่า "One by One Gentleman" ภายหลังพบว่าเจ้าของร้านเคยเป็นครูสอนเทควันโดสายดำมาก่อน ส่วนลูกค้าขี้เมาก็กล่าวว่าตนเองเคยเป็นนักคาราเต้สายดำ ก.ค. 2567 - เครื่องแต่งกายนักกีฬาทีมชาติมาเลเซีย ที่จะไปแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกวิจารณ์ว่าดีไซน์น่าเกลียด ดูราคาถูก ล้าสมัย และไร้แรงบันดาลใจ ทำให้สภาโอลิมปิกมาเลเซีย ตัดสินใจทำเสื้อแจ็กเก็ตลายใหม่เพื่อลดเสียงวิจารณ์ ส.ค. 2567 - ขบวนพาเหรดเนื่องในวันชาติมาเลเซีย 2024 ผู้คนให้ความสนใจผู้ชายในเครื่องแบบที่เรียกว่า Abang ปีนี้แข่งกันระหว่าง Abang Bomba ของดับเพลิงและกู้ภัย Abang JPJ ของกรมขนส่งทางบก และ Abang Askar จากกองทัพมาเลเซีย #Newskit #Viral #Malaysia
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1460 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป้อมปราการ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

    กำแพงเมืองพระนครกรุงรัตนโกสินทร์นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 รวมความยาวทั้งหมดประมาณ 7 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ มีป้อมสังเกตุการณ์จำนวนถึง 14 ป้อม ป้อมปราการที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งมี 14 ป้อม คือ

    1. ป้อมพระสุเมรุ ป้อมที่อยู่เหนือสุดของเกาะรัตนโกสินทร์
    2. ป้อมยุคุนธร ตรงหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร บัดนี้เหลือแต่กำแพงและประตูเมืองเท่านั้น
    3. ป้อมมหาปราบ ระหว่างสะพานเฉลิมวันชาติกับแยกผ่านฟ้าลีลาศ ตรงหัวโค้งถนนพระสุเมรุ
    4. ป้อมมหากาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
    5. ป้อมหมู่ทะลวง (ทลวง) ใกล้หัวถนนหลวง ตรงข้ามสวนรมณีนาถและร้านเครื่องหวายข้างสวนรมณีนาถ แต่ก่อนสวนรมณีนาถคือเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนถูกยุบเป็นสวนสาธารณะกับพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ ส่วนป้อมหมู่ทลวงโดนทุบทิ้งไปบางส่วนเมื่อเมื่อปี พ.ศ. 2440 เพื่อนำอิฐไปสร้างทางรถไฟจากอยุธยาไปบ้านภาชีและแก่งคอย
    6. ป้อมเสือทะยาน (ทยาน) อยู่ใกล้สะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็กบน) ตรงโรงแรมมิรามา
    7. ป้อมมหาไชย ปัจจุบันคือธนาคารทหารไทย สาขาวังบูรพา หัวถนนเยาวราช แถวสะพานหัน ทุบทิ้งเมื่อปลายธันวาคม พ.ศ. 2469
    8. ป้อมจักรเพชร ป้อมที่อยู่ใต้สุดของเกาะรัตนโกสินทร์ อยู่ตรงปากคลองรอบกรุง เชิงสะพานพุทธยอดฟ้า
    9. ป้อมผีเสื้อ ปัจจุบันปากคลองคูเมืองเดิมด้านใต้ ฝั่งปากคลองตลาด
    10. ป้อมมหาฤกษ์ ปัจจุบันอยู่ในบริเวณโรงเรียนราชินี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้อมวิชัยประสิทธิ์ซึ่งอยู่ฝั่งธนบุรี
    11. ป้อมมหายักษ์ อยู่บริเวณท่าเตียน แถว ๆ ตึกกรมการค้าภายใน เก่า
    12. ป้อมพระจันทร์ ปัจจุบันคือท่าพระจันทร์ ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    13. ป้อมพระอาทิตย์ ปัจจุบันคือเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ปากคลองคูเมืองเดิม
    14. ป้อมอิสินธร ปัจจุบันคือพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตรงข้ามซอยชนะสงคราม ทางลัดเข้าวัดชนะสงคราม

    โดยประตูเมืองและกำแพงเมือง ทางทิศเหนือนั้นกรมศิลปากรได้บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2524 เป็นประตูเมืองตามแบบในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นประตูยอด โดยแตกต่างจากประตูไม้ทาดินแดงในสมัยรัชกาลที่ 1 และประตูก่ออิฐข้างบนซึ่งใช้เป็นหอรบในสมัยรัชกาลที่ 3

    ส่วนกำแพงเมืองทางด้านป้อมมหากาฬนั้น ได้ถูกรื้อถอนออกเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างถนน และที่อยู่อาศัย จะเหลือให้เห็นเพียงระยะประมาณ 100 เมตร ติดต่อกับตัวป้อมมหากาฬ ด้านหลังกำแพงปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงเทพมหานครและนักท่องเที่ยว

    ทั้งนี้เนื่องจากรัชกาลที่ 1 ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้านความมั่นคงมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า และมีตำแหน่งเป็น “แม่ทัพ” เมื่อครั้งสมัยกรุงธนบุรี ทำให้ทรงเชี่ยวชาญการศึก และเข้าใจตำราพิไชยสงคราม การตั้งหลักเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีการอ้างอิงการตั้งทัพหรือแต่งทัพ ที่สอดคล้องกับภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม

    รัชกาลที่ 1 เข้าพระราชหฤทัยชัยภูมิของ “บางกอก” ที่มีลักษณะตรงกับการตั้งทัพตามคติ “นาคนาม” กล่าวคือ เป็นบริเวณที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ดังนั้น ในการเลือกที่ตั้งศูนย์กลางของเมือง และการตั้ง “หลักเมือง” พระองค์จึงทรงเล็งเห็นประเด็นของ “ชัยภูมิ” เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงดูฤกษ์ยาม วัน และเดือน ที่เหมาะสมตามคติ “โหราศาสตร์” ในการลงหลักเมืองตามมาเป็นลำดับ

    และเมื่อได้ดูลักษณะรูปร่างของการวางผังของ กำแพงเมืองพระนครจะเหมือนลักษณะคันธนู โดยยึดหลักฮวงจุ้ยของจีนมาประกอบการวางผังกำแพงเมือง หากสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าสายธนูจะง้างออกไปทางทิศตะวันออก ส่วนลูกธนูจะพุ่งไปทางทิศตะวันตกอันเป็นทิศที่ตั้งของคู่ปรับสำคัญนั่นคือเมืองอังวะ พม่านั่นเอง
    .
    อ้างอิง
    พินิจพระนคร 2475-2545, กรมแผนที่ทหาร, กองบัญชาการทหารสูงสุด, พ.ศ. 2549
    แผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ. 2450 - 2550, โดย บัณฑิต จุลาสัยและคณะ, กรุงเทพฯ : สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร, 2550
    เอกสารชุดกระทรวงนครบาล สมัยรัชกาลที่ 5
    เอกสารชุดกระทรวงนครบาล สมัยรัชกาลที่ 6
    เอกสารชุดกระทรวงมหาดไทย สมัยรัชกาลที่ 7
    เพจบางกอกไอเลิฟยู

    เรียบเรียงโดย เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2

    #Thaitimes
    ป้อมปราการ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ กำแพงเมืองพระนครกรุงรัตนโกสินทร์นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 รวมความยาวทั้งหมดประมาณ 7 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ มีป้อมสังเกตุการณ์จำนวนถึง 14 ป้อม ป้อมปราการที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งมี 14 ป้อม คือ 1. ป้อมพระสุเมรุ ป้อมที่อยู่เหนือสุดของเกาะรัตนโกสินทร์ 2. ป้อมยุคุนธร ตรงหน้าวัดบวรนิเวศวิหาร บัดนี้เหลือแต่กำแพงและประตูเมืองเท่านั้น 3. ป้อมมหาปราบ ระหว่างสะพานเฉลิมวันชาติกับแยกผ่านฟ้าลีลาศ ตรงหัวโค้งถนนพระสุเมรุ 4. ป้อมมหากาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ 5. ป้อมหมู่ทะลวง (ทลวง) ใกล้หัวถนนหลวง ตรงข้ามสวนรมณีนาถและร้านเครื่องหวายข้างสวนรมณีนาถ แต่ก่อนสวนรมณีนาถคือเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนถูกยุบเป็นสวนสาธารณะกับพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ ส่วนป้อมหมู่ทลวงโดนทุบทิ้งไปบางส่วนเมื่อเมื่อปี พ.ศ. 2440 เพื่อนำอิฐไปสร้างทางรถไฟจากอยุธยาไปบ้านภาชีและแก่งคอย 6. ป้อมเสือทะยาน (ทยาน) อยู่ใกล้สะพานดำรงสถิต (สะพานเหล็กบน) ตรงโรงแรมมิรามา 7. ป้อมมหาไชย ปัจจุบันคือธนาคารทหารไทย สาขาวังบูรพา หัวถนนเยาวราช แถวสะพานหัน ทุบทิ้งเมื่อปลายธันวาคม พ.ศ. 2469 8. ป้อมจักรเพชร ป้อมที่อยู่ใต้สุดของเกาะรัตนโกสินทร์ อยู่ตรงปากคลองรอบกรุง เชิงสะพานพุทธยอดฟ้า 9. ป้อมผีเสื้อ ปัจจุบันปากคลองคูเมืองเดิมด้านใต้ ฝั่งปากคลองตลาด 10. ป้อมมหาฤกษ์ ปัจจุบันอยู่ในบริเวณโรงเรียนราชินี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้อมวิชัยประสิทธิ์ซึ่งอยู่ฝั่งธนบุรี 11. ป้อมมหายักษ์ อยู่บริเวณท่าเตียน แถว ๆ ตึกกรมการค้าภายใน เก่า 12. ป้อมพระจันทร์ ปัจจุบันคือท่าพระจันทร์ ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 13. ป้อมพระอาทิตย์ ปัจจุบันคือเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ปากคลองคูเมืองเดิม 14. ป้อมอิสินธร ปัจจุบันคือพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตรงข้ามซอยชนะสงคราม ทางลัดเข้าวัดชนะสงคราม โดยประตูเมืองและกำแพงเมือง ทางทิศเหนือนั้นกรมศิลปากรได้บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2524 เป็นประตูเมืองตามแบบในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นประตูยอด โดยแตกต่างจากประตูไม้ทาดินแดงในสมัยรัชกาลที่ 1 และประตูก่ออิฐข้างบนซึ่งใช้เป็นหอรบในสมัยรัชกาลที่ 3 ส่วนกำแพงเมืองทางด้านป้อมมหากาฬนั้น ได้ถูกรื้อถอนออกเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างถนน และที่อยู่อาศัย จะเหลือให้เห็นเพียงระยะประมาณ 100 เมตร ติดต่อกับตัวป้อมมหากาฬ ด้านหลังกำแพงปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงเทพมหานครและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้เนื่องจากรัชกาลที่ 1 ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้านความมั่นคงมาตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า และมีตำแหน่งเป็น “แม่ทัพ” เมื่อครั้งสมัยกรุงธนบุรี ทำให้ทรงเชี่ยวชาญการศึก และเข้าใจตำราพิไชยสงคราม การตั้งหลักเมืองของกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีการอ้างอิงการตั้งทัพหรือแต่งทัพ ที่สอดคล้องกับภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม รัชกาลที่ 1 เข้าพระราชหฤทัยชัยภูมิของ “บางกอก” ที่มีลักษณะตรงกับการตั้งทัพตามคติ “นาคนาม” กล่าวคือ เป็นบริเวณที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ดังนั้น ในการเลือกที่ตั้งศูนย์กลางของเมือง และการตั้ง “หลักเมือง” พระองค์จึงทรงเล็งเห็นประเด็นของ “ชัยภูมิ” เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงดูฤกษ์ยาม วัน และเดือน ที่เหมาะสมตามคติ “โหราศาสตร์” ในการลงหลักเมืองตามมาเป็นลำดับ และเมื่อได้ดูลักษณะรูปร่างของการวางผังของ กำแพงเมืองพระนครจะเหมือนลักษณะคันธนู โดยยึดหลักฮวงจุ้ยของจีนมาประกอบการวางผังกำแพงเมือง หากสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าสายธนูจะง้างออกไปทางทิศตะวันออก ส่วนลูกธนูจะพุ่งไปทางทิศตะวันตกอันเป็นทิศที่ตั้งของคู่ปรับสำคัญนั่นคือเมืองอังวะ พม่านั่นเอง . อ้างอิง พินิจพระนคร 2475-2545, กรมแผนที่ทหาร, กองบัญชาการทหารสูงสุด, พ.ศ. 2549 แผนที่กรุงเทพฯ พ.ศ. 2450 - 2550, โดย บัณฑิต จุลาสัยและคณะ, กรุงเทพฯ : สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร, 2550 เอกสารชุดกระทรวงนครบาล สมัยรัชกาลที่ 5 เอกสารชุดกระทรวงนครบาล สมัยรัชกาลที่ 6 เอกสารชุดกระทรวงมหาดไทย สมัยรัชกาลที่ 7 เพจบางกอกไอเลิฟยู เรียบเรียงโดย เพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1774 มุมมอง 0 รีวิว
  • นูซันตารา เมืองหลวงใหม่อินโดฯ

    วันชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นอกจากเป็นการฉลองครบรอบ 79 ปี แห่งการประกาศตนเป็นอิสรภาพจากการปกครองของเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2488 แล้ว ยังมีแผนเปิดตัวเมืองหลวงแห่งชาติ (IKN) ที่ชื่อว่า "นูซันตารา" (Nusantara) ตั้งอยู่จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก แทนที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย

    โดยหลังจากนั้น นูซันตาราจะทำหน้าที่ศูนย์กลางการบริหารประเทศของอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีข้าราชการพลเรือนกว่า 11,916 คน จาก 38 กระทรวงและสถาบันต่างๆ ย้ายไปทำงานที่นั่น ส่วนกรุงจาการ์ตายังคงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจเช่นเดิม คล้ายกับประเทศออสเตรเลีย ที่มีแคนเบอราเป็นเมืองหลวง แต่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่ที่้ซิดนีย์

    จุดเริ่มต้นของเมืองหลวงแห่งใหม่ มาจากประธานาธิบดีโจโก วีโดโด ประกาศเมื่อปี 2562 ว่าจะย้ายศูนย์กลางการบริหารประเทศไปยังพื้นที่ชนบทในกาลีมันตันตะวันออก เนื่องจากกรุงจาการ์ตาที่มีประชากรหนาแน่นเกือบ 11 ล้านคน ประสบปัญหาแออัด มลพิษ เริ่มเผชิญวิกฤตน้ำท่วมรุนแรงขึ้น และคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นเสี่ยงจมบาดาล

    กระทั่งในปี 2565 รัฐสภาอินโดนีเซียมีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการย้ายเมืองหลวงของประเทศ โดยตั้งชื่อเมืองหลวงแห่งใหม่ว่า “นูซันตารา” ซึ่งมีความหมายว่า “หมู่เกาะ” ในภาษาอินโดนีเซีย มีความเป็นสากล เรียบง่าย สะท้อนถึงสภาพภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคำที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกภูมิภาคให้การยอมรับ

    เมืองใหม่ที่ชื่อว่านูซันตารา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองซามารินดา (Samarinda) กับเมืองบาลิกปาปัน (Balikpapan) บนเกาะบอร์เนียว ห่างจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินสุลตานอาจี มูฮาหมัด ซูลัยมาน (BPN) ในเมืองบาลิกปาปัน แต่ก็ได้สร้างสนามบินในเมืองนูซันตารา เพื่อรองรับเที่ยวบินพิเศษ (VIP) ไม่รองรับเที่ยวบินพาณิชย์

    การก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณราว 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยระยะแรกก่อสร้างทำเนียบประธานาธิบดี อาคารของกระทรวงต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน บ้านพักข้าราชการ แต่การก่อสร้างเมืองใหม่แห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2588 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเมืองโดยรอบ คือเมืองซามารินดา และเมืองบาลิกปาปัน

    ถึงกระนั้น โครงการเมืองหลวงแห่งใหม่ตรงนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า และคาดว่ากินเวลาที่ประธานาธิบดี ปราโบโว สุเบียนโต จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีวีโดโดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้

    #Newskit #Indonesia #Nusantara
    นูซันตารา เมืองหลวงใหม่อินโดฯ วันชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นอกจากเป็นการฉลองครบรอบ 79 ปี แห่งการประกาศตนเป็นอิสรภาพจากการปกครองของเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2488 แล้ว ยังมีแผนเปิดตัวเมืองหลวงแห่งชาติ (IKN) ที่ชื่อว่า "นูซันตารา" (Nusantara) ตั้งอยู่จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก แทนที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย โดยหลังจากนั้น นูซันตาราจะทำหน้าที่ศูนย์กลางการบริหารประเทศของอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีข้าราชการพลเรือนกว่า 11,916 คน จาก 38 กระทรวงและสถาบันต่างๆ ย้ายไปทำงานที่นั่น ส่วนกรุงจาการ์ตายังคงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจเช่นเดิม คล้ายกับประเทศออสเตรเลีย ที่มีแคนเบอราเป็นเมืองหลวง แต่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่ที่้ซิดนีย์ จุดเริ่มต้นของเมืองหลวงแห่งใหม่ มาจากประธานาธิบดีโจโก วีโดโด ประกาศเมื่อปี 2562 ว่าจะย้ายศูนย์กลางการบริหารประเทศไปยังพื้นที่ชนบทในกาลีมันตันตะวันออก เนื่องจากกรุงจาการ์ตาที่มีประชากรหนาแน่นเกือบ 11 ล้านคน ประสบปัญหาแออัด มลพิษ เริ่มเผชิญวิกฤตน้ำท่วมรุนแรงขึ้น และคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นเสี่ยงจมบาดาล กระทั่งในปี 2565 รัฐสภาอินโดนีเซียมีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการย้ายเมืองหลวงของประเทศ โดยตั้งชื่อเมืองหลวงแห่งใหม่ว่า “นูซันตารา” ซึ่งมีความหมายว่า “หมู่เกาะ” ในภาษาอินโดนีเซีย มีความเป็นสากล เรียบง่าย สะท้อนถึงสภาพภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคำที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกภูมิภาคให้การยอมรับ เมืองใหม่ที่ชื่อว่านูซันตารา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองซามารินดา (Samarinda) กับเมืองบาลิกปาปัน (Balikpapan) บนเกาะบอร์เนียว ห่างจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินสุลตานอาจี มูฮาหมัด ซูลัยมาน (BPN) ในเมืองบาลิกปาปัน แต่ก็ได้สร้างสนามบินในเมืองนูซันตารา เพื่อรองรับเที่ยวบินพิเศษ (VIP) ไม่รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ การก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณราว 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยระยะแรกก่อสร้างทำเนียบประธานาธิบดี อาคารของกระทรวงต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน บ้านพักข้าราชการ แต่การก่อสร้างเมืองใหม่แห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2588 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเมืองโดยรอบ คือเมืองซามารินดา และเมืองบาลิกปาปัน ถึงกระนั้น โครงการเมืองหลวงแห่งใหม่ตรงนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า และคาดว่ากินเวลาที่ประธานาธิบดี ปราโบโว สุเบียนโต จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีวีโดโดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ #Newskit #Indonesia #Nusantara
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1142 มุมมอง 0 รีวิว