• 11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก

    Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม

    ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน”

    ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr

    เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน

    รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย

    https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน” ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    Germany to prepare children for war – Handelsblatt
    The newspaper has described a Russian attack on NATO territory as “a realistic scenario,” despite Moscow’s reassurances and peace talks
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)

    ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป:
    - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล
    - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา

    ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่:
    - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์

    ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
    - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงจากแชทบ็อต Claude ประกาศการขยายตัวครั้งสำคัญในยุโรป โดยเตรียมสร้างตำแหน่งงานใหม่กว่า 100 ตำแหน่ง ในสำนักงานที่ ดับลินและลอนดอน พร้อมทั้งเปิดตัว Guillaume Princen เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ✅ การเติบโตในตลาดยุโรป: - Anthropic มุ่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งในด้าน การขาย, วิศวกรรม, การวิจัย, และ การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ AI ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ระบบดิจิทัล - Claude ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทถูกนำไปใช้งานโดย WPP ในวงการโฆษณา, BMW ในอุตสาหกรรมยานยนต์, และ Novo Nordisk ในอุตสาหกรรมยา ✅ การสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่: - Anthropic ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Amazon และ Google รวมถึงการระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีมูลค่า 61.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - Guillaume Princen มีประสบการณ์ด้านการขยายธุรกิจยุโรปของ Stripe และเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Mooncard เขาเชื่อว่า AI ของ Anthropic มีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจปรับตัวในยุคที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง - Claude ซึ่งแข่งขันกับ OpenAI's ChatGPT และ Google Gemini แสดงศักยภาพที่เหนือกว่าในหลายด้าน เช่น ความสามารถในการเข้าใจภาษาและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/ai-firm-anthropic-announces-100-roles-in-europe-new-emea-head
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI firm Anthropic announces 100 roles in Europe, new EMEA head
    LONDON (Reuters) - Anthropic, the U.S. AI company behind the Claude chatbot, said on Monday it would create more than 100 roles in Europe, including in Dublin and London, as it appointed Guillaume Princen as its Europe, Middle East and Africa head.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน

    พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง
    พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม
    พวกเขาเป็นปรสิต

    และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย

    เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า”

    แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว

    ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    พวกเขาล้มเหลว

    เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้
    กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง

    ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม

    ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้

    ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก
    ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    ผู้คนนับพันถูกจับกุม
    รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ

    ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก
    นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง

    “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA
    การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม
    เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล

    แต่ทรัมป์สู้กลับ
    เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก
    เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว

    และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย
    กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว

    ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS
    กรมสรรพากร? ถูกทำลาย
    สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา
    บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น

    ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด
    การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย
    วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร

    สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก
    ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก

    เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้

    นี่คือพระคัมภีร์

    นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้
    นี่คือพายุ

    และทรัมป์กำลังนำมัน

    ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
    และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว

    พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้!
    https://t.me/JFK_Q17

    รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน!

    https://t.me/BenjaminFulford✅️
    การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม พวกเขาเป็นปรสิต และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า” แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาล้มเหลว เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้ กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้ ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้คนนับพันถูกจับกุม รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล แต่ทรัมป์สู้กลับ เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS กรมสรรพากร? ถูกทำลาย สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้ นี่คือพระคัมภีร์ นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ นี่คือพายุ และทรัมป์กำลังนำมัน ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้! https://t.me/JFK_Q17 รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน! https://t.me/BenjaminFulford✅️
    T.ME
    John F. Kennedy Jr.
    If You Know You Know God Bless America
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • "เผื่อใจไว้หน่อย"

    ฟินแลนด์ควร "เตรียมเผื่อใจ" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย ประธานาธิบดีสตับบ์กล่าว


    ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ของฟินแลนด์กล่าวระหว่างการเจรจากับนายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษว่าในที่สุด ฟินแลนด์อาจต้อง "เตรียมตัวเตรียมใจ" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียหลังจากสงครามในยูเครนสิ้นสุดลง

    สตับบ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในลอนดอนตามรายงานของสำนักข่าว Ilta-Sanomat ว่า "ชาวฟินแลนด์ต้องเตรียมใจสำหรับความจริงที่ว่าในบางจุด ความสัมพันธ์กับรัสเซียจะเริ่มฟื้นตัว ไม่มีอะไรมาลบล้างความจริงที่ว่ารัสเซียเป็นและจะเป็นเพื่อนบ้านของฟินแลนด์ตลอดไป"

    อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าเงื่อนไขการคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและฟินแลนด์จะขึ้นอยู่กับการยุติสงครามกับยูเครน และการพูดคุยกันภายในฟินแลนด์เองเกี่ยวกับวิธีการต่อไป

    ก่อนที่สตับบ์จะเดินทางมาลอนดอน เขาเข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในฟลอริดามาก่อนแล้ว
    "เผื่อใจไว้หน่อย" ฟินแลนด์ควร "เตรียมเผื่อใจ" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย ประธานาธิบดีสตับบ์กล่าว ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ของฟินแลนด์กล่าวระหว่างการเจรจากับนายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษว่าในที่สุด ฟินแลนด์อาจต้อง "เตรียมตัวเตรียมใจ" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซียหลังจากสงครามในยูเครนสิ้นสุดลง สตับบ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในลอนดอนตามรายงานของสำนักข่าว Ilta-Sanomat ว่า "ชาวฟินแลนด์ต้องเตรียมใจสำหรับความจริงที่ว่าในบางจุด ความสัมพันธ์กับรัสเซียจะเริ่มฟื้นตัว ไม่มีอะไรมาลบล้างความจริงที่ว่ารัสเซียเป็นและจะเป็นเพื่อนบ้านของฟินแลนด์ตลอดไป" อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าเงื่อนไขการคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและฟินแลนด์จะขึ้นอยู่กับการยุติสงครามกับยูเครน และการพูดคุยกันภายในฟินแลนด์เองเกี่ยวกับวิธีการต่อไป ก่อนที่สตับบ์จะเดินทางมาลอนดอน เขาเข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในฟลอริดามาก่อนแล้ว
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • รัสเซียกล่าวหาว่าอังกฤษและฝรั่งเศสอยู่เบื้องหลังการสั่งโจมตีท่อส่งก๊าซในเขตซูดจา (Sudzha) ภูมิภาคเคิร์ส

    รัสเซียกล่าวว่าการโจมตีไปที่ท่อส่งก๊าซของสถานีวัดก๊าซ Sudzha ใกล้ชายแดนยูเครนด้วยขีปนาวุธ HIMARS ของยูเครนได้รับการประสานงานจากฝ่ายตะวันตก โดยมีดาวเทียมฝรั่งเศสคอยส่งข้อมูลให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งพิกัดขีปนาวุธที่ได้รับมาจากอังกฤษ

    “คำสั่งดังกล่าวมาจากลอนดอน” มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าว โดยเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้าย” ที่ได้รับการสนับสนุนจากนาโต้ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย

    การโจมตียูเครนช่วงสองวันที่ผ่านมา มอสโกอ้างเพื่อตอบสนองต่อการะเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้านพลังงานที่ทรัมป์เป็นตัวกลาง โดยกล่าวหาเคียฟว่าไม่ซื่อสัตย์ แม้จะให้คำมั่นสัญญาต่อสาธารณชนแล้วก็ตาม

    ยูเครนออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการโจมตีท่อส่งก๊าซครั้นี้ โดยอ้างว่าเป็นการจัดฉากของรัสเซีย
    รัสเซียกล่าวหาว่าอังกฤษและฝรั่งเศสอยู่เบื้องหลังการสั่งโจมตีท่อส่งก๊าซในเขตซูดจา (Sudzha) ภูมิภาคเคิร์ส รัสเซียกล่าวว่าการโจมตีไปที่ท่อส่งก๊าซของสถานีวัดก๊าซ Sudzha ใกล้ชายแดนยูเครนด้วยขีปนาวุธ HIMARS ของยูเครนได้รับการประสานงานจากฝ่ายตะวันตก โดยมีดาวเทียมฝรั่งเศสคอยส่งข้อมูลให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งพิกัดขีปนาวุธที่ได้รับมาจากอังกฤษ “คำสั่งดังกล่าวมาจากลอนดอน” มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าว โดยเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้าย” ที่ได้รับการสนับสนุนจากนาโต้ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย การโจมตียูเครนช่วงสองวันที่ผ่านมา มอสโกอ้างเพื่อตอบสนองต่อการะเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้านพลังงานที่ทรัมป์เป็นตัวกลาง โดยกล่าวหาเคียฟว่าไม่ซื่อสัตย์ แม้จะให้คำมั่นสัญญาต่อสาธารณชนแล้วก็ตาม ยูเครนออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการโจมตีท่อส่งก๊าซครั้นี้ โดยอ้างว่าเป็นการจัดฉากของรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 291 Views 0 Reviews
  • มหานครลอนดอน
    มหานครลอนดอน
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 268 Views 32 0 Reviews
  • สหราชอาณาจักรกำลังสำรวจทางเลือกต่างๆ ในการส่งตัวพวกผู้อพยพที่พวกเขาปฏิเสธให้ลี้ภัย ไปยัง "ศูนย์ส่งกลับ" ในประเทศต่างๆ ทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ตามรายงานของเดอะไทม์สในเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ อ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล ข้อเสนอนี้มีขึ้นในขณะที่ลอนดอนยังคงประสบปัญหาในการรับมือกับวิกฤตที่ยืดเยื้อมานานหลายปี เกี่ยวกับพวกผู้หวังลี้ภัย ที่ใช้เรือขนาดเล็กล่องข้ามช่องแคบอังกฤษเข้ามา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000027775
    สหราชอาณาจักรกำลังสำรวจทางเลือกต่างๆ ในการส่งตัวพวกผู้อพยพที่พวกเขาปฏิเสธให้ลี้ภัย ไปยัง "ศูนย์ส่งกลับ" ในประเทศต่างๆ ทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ตามรายงานของเดอะไทม์สในเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ อ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล ข้อเสนอนี้มีขึ้นในขณะที่ลอนดอนยังคงประสบปัญหาในการรับมือกับวิกฤตที่ยืดเยื้อมานานหลายปี เกี่ยวกับพวกผู้หวังลี้ภัย ที่ใช้เรือขนาดเล็กล่องข้ามช่องแคบอังกฤษเข้ามา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000027775
    Like
    Angry
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1238 Views 0 Reviews
  • 3/
    ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด

    เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน

    สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    3/ ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 508 Views 13 0 Reviews
  • 2/
    ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด

    เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน

    สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    2/ ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 498 Views 9 0 Reviews
  • 1/
    ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด

    เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน

    สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    1/ ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษเริ่มทำการสืบสวนเหตุไฟไหม้สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation)แห่งหนึ่ง ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่ ซึ่งทำให้สนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เหตุการณ์เพลิงไม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และส่งผลถึงสนามบินฮีทโธรว์ต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบถึงเที่ยวบิน 1,357 เที่ยวต้องหยุดให้บริการ และผู้โดยสารกว่า 220,000 คนต้องติดอยู่ที่สนามบิน สื่อในอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมครั้งนี้หรือไม่
    0 Comments 0 Shares 386 Views 0 Reviews
  • เมดเวเดฟ กล่าวถึงนาโต้ว่า “ยอมรับเถอะ พวกคุณต้องการสงคราม”

    ดมิทรี เมดเวเดฟกล่าวถึงฝรั่งเศสและอังกฤษว่าทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นด้วยการเป็นตัวตั้งตัวตีพยายามให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ ทั้งที่รัสเซียคัดค้านกองกำลังนาโต้ในยูเครนอย่างชัดเจน

    “มาครงและสตาร์เมอร์ทำเหมือนแกล้งโง่… ยอมรับมาเถอะว่าการที่พวกคุณต้องการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่พวกนีโอนาซีในเคียฟ นั่นหมายถึงต้องการให้เกิดสงครามรัสเซียกับนาโต้” รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซียกล่าว

    นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังแนะนำให้ปารีสและลอนดอนไปคุยกับทรัมป์ก่อนตัดสินใจกันเองซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งใหญ่โดยไม่ม่สหรัฐร่วมด้วย

    ขณะเดียวกัน มีรายงานจากหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษว่า อังกฤษเตรียมส่งทหาร 10,000 นายไปยูเครนภายใต้ภารกิจรักษาสันติภาพระยะยาว โดยไม่มีแผนการถอนทหารที่ชัดเจน

    โดยที่กองกำลังทหารอังกฤษจะประจำการอยู่ในอยู่เครนตราบเท่าที่จำเป็น โดยไม่กำหนดระยะเวลา ซึ่งจะทำหน้าที่ "รักษาข้อตกลงสันติภาพ" และ "ปกป้องยูเครนจากภัยคุกคามจากรัสเซีย"

    แนวคิดของอังกฤษที่ส่งกองกำลังหลายพันนายโดยไม่กำหนดระยะเวลา ทำให้เกิดคำถามว่านี่เป็นการ "ปกป้องหรือเข้ายึดครอง"
    เมดเวเดฟ กล่าวถึงนาโต้ว่า “ยอมรับเถอะ พวกคุณต้องการสงคราม” ดมิทรี เมดเวเดฟกล่าวถึงฝรั่งเศสและอังกฤษว่าทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นด้วยการเป็นตัวตั้งตัวตีพยายามให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ ทั้งที่รัสเซียคัดค้านกองกำลังนาโต้ในยูเครนอย่างชัดเจน “มาครงและสตาร์เมอร์ทำเหมือนแกล้งโง่… ยอมรับมาเถอะว่าการที่พวกคุณต้องการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่พวกนีโอนาซีในเคียฟ นั่นหมายถึงต้องการให้เกิดสงครามรัสเซียกับนาโต้” รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซียกล่าว นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังแนะนำให้ปารีสและลอนดอนไปคุยกับทรัมป์ก่อนตัดสินใจกันเองซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งใหญ่โดยไม่ม่สหรัฐร่วมด้วย ขณะเดียวกัน มีรายงานจากหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษว่า อังกฤษเตรียมส่งทหาร 10,000 นายไปยูเครนภายใต้ภารกิจรักษาสันติภาพระยะยาว โดยไม่มีแผนการถอนทหารที่ชัดเจน โดยที่กองกำลังทหารอังกฤษจะประจำการอยู่ในอยู่เครนตราบเท่าที่จำเป็น โดยไม่กำหนดระยะเวลา ซึ่งจะทำหน้าที่ "รักษาข้อตกลงสันติภาพ" และ "ปกป้องยูเครนจากภัยคุกคามจากรัสเซีย" แนวคิดของอังกฤษที่ส่งกองกำลังหลายพันนายโดยไม่กำหนดระยะเวลา ทำให้เกิดคำถามว่านี่เป็นการ "ปกป้องหรือเข้ายึดครอง"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 412 Views 0 Reviews
  • ด่วน!
    คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า แผนการส่ง "กองกำลังรักษาสันติภาพ" ไปยังยูเครนกำลังเข้าสู่ "ระยะปฏิบัติการ!!!"

    ทหารและเครื่องบินของอังกฤษอาจส่งกำลังไปประจำการในยูเครนภายใต้ภารกิจ "แนวร่วมแห่งความเต็มใจ" (COALITION OF THE WILLING)

    สตาร์เมอร์ ยังบอกอีกว่า ผู้นำกองทัพกำลังเตรียมสรุปแผนในลอนดอนในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ และยังมีกลุ่มพันธมิตรซึ่งรวมถึงผู้นำโลก 29 คน ได้ประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพและการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

    "เราเรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาล่าสุดว่า ปูตินไม่เคยเคารพข้อตกลงที่ไม่มีข้อตกลงด้านความปลอดภัยรวมอยู่"

    “เราไม่สามารถนั่งเฉยและรอได้ เราต้องก้าวไปข้างหน้าและเตรียมพร้อมสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืน”

    "ปูตินจะต้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจา โลกต้องการการกระทำ ไม่ใช่คำพูดและเงื่อนไขที่เลื่อนลอย ความกระหายความขัดแย้งและความวุ่นวายของรัสเซียกำลังทำลายความมั่นคงของเรา" สตาร์เมอร์ ร่ายยาวด้วยความมั่นใจ!
    ด่วน! คีร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า แผนการส่ง "กองกำลังรักษาสันติภาพ" ไปยังยูเครนกำลังเข้าสู่ "ระยะปฏิบัติการ!!!" ทหารและเครื่องบินของอังกฤษอาจส่งกำลังไปประจำการในยูเครนภายใต้ภารกิจ "แนวร่วมแห่งความเต็มใจ" (COALITION OF THE WILLING) สตาร์เมอร์ ยังบอกอีกว่า ผู้นำกองทัพกำลังเตรียมสรุปแผนในลอนดอนในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ และยังมีกลุ่มพันธมิตรซึ่งรวมถึงผู้นำโลก 29 คน ได้ประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพและการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย "เราเรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาล่าสุดว่า ปูตินไม่เคยเคารพข้อตกลงที่ไม่มีข้อตกลงด้านความปลอดภัยรวมอยู่" “เราไม่สามารถนั่งเฉยและรอได้ เราต้องก้าวไปข้างหน้าและเตรียมพร้อมสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืน” "ปูตินจะต้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจา โลกต้องการการกระทำ ไม่ใช่คำพูดและเงื่อนไขที่เลื่อนลอย ความกระหายความขัดแย้งและความวุ่นวายของรัสเซียกำลังทำลายความมั่นคงของเรา" สตาร์เมอร์ ร่ายยาวด้วยความมั่นใจ!
    Love
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 730 Views 26 0 Reviews
  • 20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค

    ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง

    เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨

    ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️

    👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย

    ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉

    ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷

    - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น
    - Southampton Technical College
    - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
    - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton
    - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷

    ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️

    เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄

    ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸

    ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️

    ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟

    ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞

    ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼
    - บริษัท CTO. Lines
    - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล
    - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน
    - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์
    - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป

    💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

    ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568

    #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨ ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️ 👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉 ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷 - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น - Southampton Technical College - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷 ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️ เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄 ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸 ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️ ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟 ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞 ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼 - บริษัท CTO. Lines - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป 💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568 #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    0 Comments 0 Shares 1067 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้

    == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet ==
    ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น:
    - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง
    - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล

    == Qilin Ransomware และผลกระทบ ==
    Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่:
    - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
    - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ
    - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง

    ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์

    Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    Microsoft ได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวใหม่ในโลกของภัยคุกคามไซเบอร์ โดยระบุว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในชื่อ Moonstone Sleet ได้เริ่มใช้ Qilin ransomware เพื่อโจมตีเป้าหมายในองค์กรต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงการขยายตัวของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจาก Qilin เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับการให้บริการแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถเช่าเครื่องมือโจมตีนี้ไปใช้งานได้ == การเคลื่อนไหวของ Moonstone Sleet == ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Moonstone Sleet ซึ่งเคยถูกเรียกว่า Storm-1789 มีพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนืออื่น ๆ แต่ได้พัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างการโจมตีของตัวเองในภายหลัง พวกเขาใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น: - การปล่อยซอฟต์แวร์ที่แฝงมัลแวร์ เช่น PuTTY และแพ็กเกจ npm ที่ถูกแอบแฝง - การสร้างบริษัทปลอม เช่น C.C. Waterfall และ StarGlow Ventures เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานใน LinkedIn หรือผ่านอีเมล == Qilin Ransomware และผลกระทบ == Qilin ransomware เปิดตัวในชื่อ "Agenda" ตั้งแต่ปี 2022 และเริ่มมีบทบาทสำคัญในปลายปี 2023 กลุ่มนี้มุ่งเป้าหมายที่ระบบเสมือน VMware ESXi และเรียกค่าไถ่ที่อาจสูงถึงหลายล้านดอลลาร์ เหยื่อที่สำคัญในอดีต ได้แก่: - angfeng, ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ - Lee Enterprises, บริษัทสื่อสหรัฐฯ - Synnovis, ซึ่งการโจมตีนี้ส่งผลให้โรงพยาบาลในลอนดอนต้องยกเลิกการผ่าตัดหลายร้อยครั้ง ในเดือนพฤษภาคม 2024 Moonstone Sleet ยังถูกจับโยงกับการโจมตีโดยใช้ FakePenny ransomware พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin จำนวน 6.6 ล้านดอลลาร์ Moonstone Sleet ไม่ใช่กลุ่มแรกจากเกาหลีเหนือที่มีบทบาทในเหตุการณ์ ransomware ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Lazarus Group เคยสร้างความเสียหายทั่วโลกด้วย WannaCry ransomware ในปี 2017 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อเนื่องของเกาหลีเหนือในการใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในยุทธศาสตร์ของรัฐ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/microsoft-north-korean-hackers-now-deploying-qilin-ransomware/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft: North Korean hackers join Qilin ransomware gang
    Microsoft says a North Korean hacking group tracked as Moonstone Sleet has deployed Qilin ransomware payloads in a limited number of attacks.
    0 Comments 0 Shares 518 Views 0 Reviews
  • เครื่องบินแอร์บัส A350-1000 ของเวอร์จิ้นแอตแลนติก (Virgin Atlantic) ออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าสนามบิน JFK นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ต้องบินกลับและลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ หลังระบบไฮดรอลิกขัดข้องทำให้ประตูล้อเปิดออกเองอัตโนมัติ
    เครื่องบินแอร์บัส A350-1000 ของเวอร์จิ้นแอตแลนติก (Virgin Atlantic) ออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าสนามบิน JFK นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ต้องบินกลับและลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ หลังระบบไฮดรอลิกขัดข้องทำให้ประตูล้อเปิดออกเองอัตโนมัติ
    0 Comments 0 Shares 375 Views 21 0 Reviews
  • "แรงตลอด!!"
    มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย บอกถึงเหตุผลที่ประเทศบอลติกไม่ได้รับเชิญไปร่วมประชุมสุดยอดที่ลอนดอน :

    "คงเพื่อประหยัดค่ากาแฟและแซนด์วิช สำหรับพวกที่ต้องนั่งรออยู่ที่ทางเดินระหว่างรอประชุม เพราะประเทศบอลติกพวกนี้ไม่มีอะไรพอที่จะช่วยเหลือได้"
    "แรงตลอด!!" มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย บอกถึงเหตุผลที่ประเทศบอลติกไม่ได้รับเชิญไปร่วมประชุมสุดยอดที่ลอนดอน : "คงเพื่อประหยัดค่ากาแฟและแซนด์วิช สำหรับพวกที่ต้องนั่งรออยู่ที่ทางเดินระหว่างรอประชุม เพราะประเทศบอลติกพวกนี้ไม่มีอะไรพอที่จะช่วยเหลือได้"
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • 2/
    "เตือนความจำให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ"

    👉(วิดีโอ-1) คลิปวิดีโอเกี่ยวกับภาพจำลองเหตุการณ์ กรณีกองทัพรัสเซียยิง “โพไซดอน” ตอร์ปิโดติดหัวรบนิวเคลียร์แถบเกาะอังกฤษ

    - ตอร์ปิโดใต้น้ำจะพุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่ความลึกหนึ่งกิโลเมตรด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. ไม่มีใครหยุดมันได้
    - หัวรบที่มีความจุมากถึง 100 เมกะตัน จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของอังกฤษ
    - จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 500 เมตร คลื่นน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยปริมาณรังสีมหาศาล จะพัดข้ามเกาะอังกฤษ และจะทำให้สิ่งที่เหลืออยู่บนเกาะอังกฤษกลายเป็นทะเลทรายที่มีแต่การปนเปื้อน

    .
    👉(วิดีโอ-2) อีกหนึ่งอาวุธหลักของรัสเซีย คือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง IRBM “Oreshnik” ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และถูกใช้งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โจมตีใส่เป้าหมายในภูมิภาค Dnipro ของยูเครน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นหัวรบเปล่า

    - ขีปนาวุธดังกล่าวมีความเร็วที่กล่าวอ้างไว้คือ 10 มัค (12,300 กม./ชม.; 7,610 ไมล์/ชม. หรือ 3.40 กม./วินาที) ซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดกั้น มีศักยภาพที่จะไปถึง "ลอนดอนและปารีส" ได้ไม่เกิน 20 นาที
    2/ "เตือนความจำให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ" 👉(วิดีโอ-1) คลิปวิดีโอเกี่ยวกับภาพจำลองเหตุการณ์ กรณีกองทัพรัสเซียยิง “โพไซดอน” ตอร์ปิโดติดหัวรบนิวเคลียร์แถบเกาะอังกฤษ - ตอร์ปิโดใต้น้ำจะพุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่ความลึกหนึ่งกิโลเมตรด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. ไม่มีใครหยุดมันได้ - หัวรบที่มีความจุมากถึง 100 เมกะตัน จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของอังกฤษ - จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 500 เมตร คลื่นน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยปริมาณรังสีมหาศาล จะพัดข้ามเกาะอังกฤษ และจะทำให้สิ่งที่เหลืออยู่บนเกาะอังกฤษกลายเป็นทะเลทรายที่มีแต่การปนเปื้อน . 👉(วิดีโอ-2) อีกหนึ่งอาวุธหลักของรัสเซีย คือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง IRBM “Oreshnik” ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และถูกใช้งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โจมตีใส่เป้าหมายในภูมิภาค Dnipro ของยูเครน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นหัวรบเปล่า - ขีปนาวุธดังกล่าวมีความเร็วที่กล่าวอ้างไว้คือ 10 มัค (12,300 กม./ชม.; 7,610 ไมล์/ชม. หรือ 3.40 กม./วินาที) ซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดกั้น มีศักยภาพที่จะไปถึง "ลอนดอนและปารีส" ได้ไม่เกิน 20 นาที
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • 1/
    "เตือนความจำให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ"

    👉(วิดีโอ-1) คลิปวิดีโอเกี่ยวกับภาพจำลองเหตุการณ์ กรณีกองทัพรัสเซียยิง “โพไซดอน” ตอร์ปิโดติดหัวรบนิวเคลียร์แถบเกาะอังกฤษ

    - ตอร์ปิโดใต้น้ำจะพุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่ความลึกหนึ่งกิโลเมตรด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. ไม่มีใครหยุดมันได้
    - หัวรบที่มีความจุมากถึง 100 เมกะตัน จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของอังกฤษ
    - จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 500 เมตร คลื่นน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยปริมาณรังสีมหาศาล จะพัดข้ามเกาะอังกฤษ และจะทำให้สิ่งที่เหลืออยู่บนเกาะอังกฤษกลายเป็นทะเลทรายที่มีแต่การปนเปื้อน

    .
    👉(วิดีโอ-2) อีกหนึ่งอาวุธหลักของรัสเซีย คือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง IRBM “Oreshnik” ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และถูกใช้งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โจมตีใส่เป้าหมายในภูมิภาค Dnipro ของยูเครน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นหัวรบเปล่า

    - ขีปนาวุธดังกล่าวมีความเร็วที่กล่าวอ้างไว้คือ 10 มัค (12,300 กม./ชม.; 7,610 ไมล์/ชม. หรือ 3.40 กม./วินาที) ซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดกั้น มีศักยภาพที่จะไปถึง "ลอนดอนและปารีส" ได้ไม่เกิน 20 นาที
    1/ "เตือนความจำให้ฝรั่งเศสและอังกฤษ" 👉(วิดีโอ-1) คลิปวิดีโอเกี่ยวกับภาพจำลองเหตุการณ์ กรณีกองทัพรัสเซียยิง “โพไซดอน” ตอร์ปิโดติดหัวรบนิวเคลียร์แถบเกาะอังกฤษ - ตอร์ปิโดใต้น้ำจะพุ่งเข้าสู่เป้าหมายที่ความลึกหนึ่งกิโลเมตรด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. ไม่มีใครหยุดมันได้ - หัวรบที่มีความจุมากถึง 100 เมกะตัน จะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของอังกฤษ - จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 500 เมตร คลื่นน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยปริมาณรังสีมหาศาล จะพัดข้ามเกาะอังกฤษ และจะทำให้สิ่งที่เหลืออยู่บนเกาะอังกฤษกลายเป็นทะเลทรายที่มีแต่การปนเปื้อน . 👉(วิดีโอ-2) อีกหนึ่งอาวุธหลักของรัสเซีย คือ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง IRBM “Oreshnik” ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และถูกใช้งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โจมตีใส่เป้าหมายในภูมิภาค Dnipro ของยูเครน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นหัวรบเปล่า - ขีปนาวุธดังกล่าวมีความเร็วที่กล่าวอ้างไว้คือ 10 มัค (12,300 กม./ชม.; 7,610 ไมล์/ชม. หรือ 3.40 กม./วินาที) ซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดกั้น มีศักยภาพที่จะไปถึง "ลอนดอนและปารีส" ได้ไม่เกิน 20 นาที
    0 Comments 0 Shares 361 Views 32 0 Reviews
  • ทรัมป์ด่าเซเลนสกีการพูดที่ลอนดอนของเขา เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดอีกครั้ง หลังจากเซเลนสกีพูดที่กล่าวว่า การยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นยังเป็นเรื่องที่ "ห่างไกลมากๆ" และยังจะหวังให้อเมริกาสนับสนุนอาวุธต่อไป คือคำพูดที่แย่ที่สุดที่เซเรนสกี้เคยพูดมา

    ทรัมป์บอกว่า อเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป! เพราะนี่มันหมายถึงเซเลนสกีไม่ได้ต้องการสันติภาพ ตราบใดที่ยังต้องการให้อเมริกาหนุนหลังเขาอยู่ และในการประชุมที่ยุโรป พวกเขายังบอกเองว่า ทำงานไม่ได้หากไม่มีสหรัฐช่วย คำพูดแบบนี้ไม่ใช่คำพูดที่ดี ในการแสดงความแข็งแกร่งต่อรัสเซีย พวกเขาคิดอะไรอยู่!?


    หลังจากโดนทรัมป์ตอกกลับในเรื่อง “สันติภาพที่ยังอยู่ห่างไกล” เซเลนสกีโพสต์ข้อความใหม่ว่า “เขาต้องการสันติภาพโดยเร็วที่สุด”


    ทรัมป์ด่าเซเลนสกีการพูดที่ลอนดอนของเขา เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดอีกครั้ง หลังจากเซเลนสกีพูดที่กล่าวว่า การยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นยังเป็นเรื่องที่ "ห่างไกลมากๆ" และยังจะหวังให้อเมริกาสนับสนุนอาวุธต่อไป คือคำพูดที่แย่ที่สุดที่เซเรนสกี้เคยพูดมา ทรัมป์บอกว่า อเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป! เพราะนี่มันหมายถึงเซเลนสกีไม่ได้ต้องการสันติภาพ ตราบใดที่ยังต้องการให้อเมริกาหนุนหลังเขาอยู่ และในการประชุมที่ยุโรป พวกเขายังบอกเองว่า ทำงานไม่ได้หากไม่มีสหรัฐช่วย คำพูดแบบนี้ไม่ใช่คำพูดที่ดี ในการแสดงความแข็งแกร่งต่อรัสเซีย พวกเขาคิดอะไรอยู่!? หลังจากโดนทรัมป์ตอกกลับในเรื่อง “สันติภาพที่ยังอยู่ห่างไกล” เซเลนสกีโพสต์ข้อความใหม่ว่า “เขาต้องการสันติภาพโดยเร็วที่สุด”
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามกับรัสเซีย "ยังอยู่ห่างไกลมากๆ" ได้เรียกปฏิกิริยาตอบโตอย่างดุเดือดมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมประนีประนอมใดๆ ทั้งที่เจ้าตัวยังคาดหวังได้รับแรงสนับสนุนจากอเมริกาต่อไป
    .
    "อเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนกล่าวหา เซเลนสกี ว่าไม่ต้องการสันติภาพ
    .
    ที่ประชุมซัมมิตของบรรดาผู้นำยุโรปส่วนใหญ่ในกรุงลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) เห็นพ้องในแผน 4 ข้อ สำหรับรับประกันการป้องกันตนเองของยูเครน ในกรณีที่มีข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกว่า "บางทีมันอาจไม่ใช่การป่าวประกาศที่ดีนัก ในแง่ของการพยายามโชว์ความเข้มแข็งให้รัสเซียเห็น พวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่?" ทรัมป์บอก ดูเหมือนเป็นการพาดพิงที่ประชุมซัมมิตที่จัดขึ้น 2 วันหลังจากเขาเปิดศึกวิวาทะกับเซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่
    .
    การประชุมนี้ ซึ่งมี เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เป็นเจ้าภาพ มีเจตนาเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน และพยายามลดความเห็นต่างในหมู่ประเทศตะวันตกเกี่ยวกับยูเครน ในขณะที่สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บอกว่าพวกเขากำลังทำงานหาทางออกที่นำโดยยุโรปต่อวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน
    .
    กระนั้นหลังการประชุม เซเลนสกี บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย "ยังคงห่างไกลมากๆ" แต่ระบุเขาคาดหมายว่าสหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนยูเครน แม้เขามีความสัมพันธ์มึนตึงกับทรัมป์
    .
    "ผมเชื่อว่ายูเครนมีความเป็นมิตรที่เข้มแข็งเพียงพอกับสหรัฐอเมริกา" เซเลนสกี บอกในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) แต่ในจันทร์ (3 ก.พ.) ทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการเน้นย้ำว่าจากมุมมองของเขา เซเลนสกีกำลังยืนขวางทางการเจรจาสันติภาพ
    .
    "มันเป็นถ้อยแถลงที่เลวร้ายที่สุดของเซเลนสกี และอเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูด ชายคนนี้ไม่ต้องการสันติภาพ ตราบใดที่เขามีสหรัฐฯ สนับสนุน" ทรัมป์เขียนบนทรัตช์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง
    .
    ระหว่างแถลงข่าวในเวลาต่อมาในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ทรัมป์เน้นย้ำมุมมองของเขาที่ว่า เซเลนสกี "ควรสำนึกบุญคุณมากกว่านี้" สำหรับความช่วยเหลือที่ได้รับจากสหรัฐฯ ในช่วง 3 ปี นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ
    .
    ระหว่างเผชิญหน้ากันต่อหน้ากล้องในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทั้ง ทรัมป์ และ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างขุ่นเคืองในสิ่งที่พวกเขามองว่า เซเลนสกี ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ
    .
    ศึกวิวาทะดังกล่าว นั่นหมายความว่าไม่มีการลงนามในข้อตกลงหนึ่งซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรแร่หายากของยูเครน อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรัมป์ ไม่เชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวปิดตายแล้ว และบอกว่าเขาจะให้ข้อมูลอัปเดตอีกครั้ง เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ในช่วงเย็นวันอังคาร (4 มี.ค.)
    .
    ตามหลังการประชุมซัมมิตในลอนดอน ทางสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บ่งชี้ว่า "พันธมิตรยุโรปมีความตั้งใจปกป้องยูเครน" แต่กลับไม่ให้รายละเอียดใดๆ
    .
    สตาร์เมอร์บอกว่าแนวคิดส่งกำลังพลเข้าไปยังยูเครน ซึ่งรวมถึงทหารราบในภาคพื้นและเครื่องบินบนอากาศ ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย แต่เขาพูดอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้แต่ละชาติไปพูดคุยหารือเป็นการภายในในประเด็นนี้
    .
    บรรดาชาติแถบสแกนดิเนเวีย ส่งสัญญาณว่าเขาสนับสนุนความคิดนี้ แต่มีเงื่อนไขว่ามันต้องได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
    .
    ความเคลื่อนไหวของยุโรป มีขึ้นตามหลังการกลับลำนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ เขาบอกว่าเขาต้องการยุติสงครามและได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ยืดยาวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และมีการเปิดโต๊ะเจรจากับมอสโก ที่กันไม่ให้ยูเครนเข้าร่วม
    .
    ทรัมป์ ก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรตะวันตก ด้วยการบอกว่าเขาไว้ใจปูติน และกล่าวหา เซเลนสกี เป็นเผด็จการและถึงขั้นชี้ว่ายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม ไม่ใช่รัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020860
    ..............
    Sondhi X
    ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามกับรัสเซีย "ยังอยู่ห่างไกลมากๆ" ได้เรียกปฏิกิริยาตอบโตอย่างดุเดือดมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมประนีประนอมใดๆ ทั้งที่เจ้าตัวยังคาดหวังได้รับแรงสนับสนุนจากอเมริกาต่อไป . "อเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนกล่าวหา เซเลนสกี ว่าไม่ต้องการสันติภาพ . ที่ประชุมซัมมิตของบรรดาผู้นำยุโรปส่วนใหญ่ในกรุงลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) เห็นพ้องในแผน 4 ข้อ สำหรับรับประกันการป้องกันตนเองของยูเครน ในกรณีที่มีข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกว่า "บางทีมันอาจไม่ใช่การป่าวประกาศที่ดีนัก ในแง่ของการพยายามโชว์ความเข้มแข็งให้รัสเซียเห็น พวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่?" ทรัมป์บอก ดูเหมือนเป็นการพาดพิงที่ประชุมซัมมิตที่จัดขึ้น 2 วันหลังจากเขาเปิดศึกวิวาทะกับเซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ . การประชุมนี้ ซึ่งมี เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เป็นเจ้าภาพ มีเจตนาเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน และพยายามลดความเห็นต่างในหมู่ประเทศตะวันตกเกี่ยวกับยูเครน ในขณะที่สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บอกว่าพวกเขากำลังทำงานหาทางออกที่นำโดยยุโรปต่อวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน . กระนั้นหลังการประชุม เซเลนสกี บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย "ยังคงห่างไกลมากๆ" แต่ระบุเขาคาดหมายว่าสหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนยูเครน แม้เขามีความสัมพันธ์มึนตึงกับทรัมป์ . "ผมเชื่อว่ายูเครนมีความเป็นมิตรที่เข้มแข็งเพียงพอกับสหรัฐอเมริกา" เซเลนสกี บอกในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) แต่ในจันทร์ (3 ก.พ.) ทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการเน้นย้ำว่าจากมุมมองของเขา เซเลนสกีกำลังยืนขวางทางการเจรจาสันติภาพ . "มันเป็นถ้อยแถลงที่เลวร้ายที่สุดของเซเลนสกี และอเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูด ชายคนนี้ไม่ต้องการสันติภาพ ตราบใดที่เขามีสหรัฐฯ สนับสนุน" ทรัมป์เขียนบนทรัตช์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง . ระหว่างแถลงข่าวในเวลาต่อมาในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ทรัมป์เน้นย้ำมุมมองของเขาที่ว่า เซเลนสกี "ควรสำนึกบุญคุณมากกว่านี้" สำหรับความช่วยเหลือที่ได้รับจากสหรัฐฯ ในช่วง 3 ปี นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ . ระหว่างเผชิญหน้ากันต่อหน้ากล้องในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทั้ง ทรัมป์ และ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างขุ่นเคืองในสิ่งที่พวกเขามองว่า เซเลนสกี ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ . ศึกวิวาทะดังกล่าว นั่นหมายความว่าไม่มีการลงนามในข้อตกลงหนึ่งซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรแร่หายากของยูเครน อย่างไรก็ตาม ระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรัมป์ ไม่เชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวปิดตายแล้ว และบอกว่าเขาจะให้ข้อมูลอัปเดตอีกครั้ง เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ในช่วงเย็นวันอังคาร (4 มี.ค.) . ตามหลังการประชุมซัมมิตในลอนดอน ทางสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บ่งชี้ว่า "พันธมิตรยุโรปมีความตั้งใจปกป้องยูเครน" แต่กลับไม่ให้รายละเอียดใดๆ . สตาร์เมอร์บอกว่าแนวคิดส่งกำลังพลเข้าไปยังยูเครน ซึ่งรวมถึงทหารราบในภาคพื้นและเครื่องบินบนอากาศ ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย แต่เขาพูดอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้แต่ละชาติไปพูดคุยหารือเป็นการภายในในประเด็นนี้ . บรรดาชาติแถบสแกนดิเนเวีย ส่งสัญญาณว่าเขาสนับสนุนความคิดนี้ แต่มีเงื่อนไขว่ามันต้องได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . ความเคลื่อนไหวของยุโรป มีขึ้นตามหลังการกลับลำนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ เขาบอกว่าเขาต้องการยุติสงครามและได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ยืดยาวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และมีการเปิดโต๊ะเจรจากับมอสโก ที่กันไม่ให้ยูเครนเข้าร่วม . ทรัมป์ ก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรตะวันตก ด้วยการบอกว่าเขาไว้ใจปูติน และกล่าวหา เซเลนสกี เป็นเผด็จการและถึงขั้นชี้ว่ายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม ไม่ใช่รัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020860 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1571 Views 0 Reviews
  • ชาติยุโรปแสดงท่าทีขึงขัง ประชุมซัมมิตกันโดยมีเซเลนสกีเข้าร่วมด้วยที่ลอนดอน ประกาศเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงและจัดตั้งแนวร่วมป้องกันสันติภาพในยูเครน พร้อมร่างเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ เตรียมยื่นเสนอต่ออเมริกา โดยที่มาครงแย้มว่า อาจมีการพักการสู้รบทางอากาศและทางทะเลนาน 1 เดือน ทว่าสหราชอาณาจักรกลับบอกว่าเป็นเพียง 1 ในข้อเสนอซึ่งยังไม่มีการลงมติ ส่วนในอีกด้านหนึ่งรัสเซียเยาะยุโรปไม่ได้มีแผนการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และสิ่งหนึ่งที่เคียฟแน่ใจได้ว่าเป็นความคืบหน้าหนึ่งเดียวอยู่ในขณะนี้ คือความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา
    .
    การหารือว่าด้วยวิกฤตยูเครนในกรุงลอนดอนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ของพวกผู้นำ 18 ชาติ ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นชาติยุโรป เกิดขึ้นในช่วงเวลาอ่อนไหวอย่างยิ่งสำหรับยูเครนที่กำลังเผชิญความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 4
    .
    วันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา ตำหนิโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนว่า ไม่ตระหนักบุญคุณอเมริกาและไม่พร้อมทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียต่อหน้าผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาว กระตุ้นความกังวลว่า เขากำลังบีบให้เคียฟทำข้อตกลงสันติภาพอโดยมอบสิ่งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียต้องการ
    .
    ทว่า ท่าทีของพวกผู้นำยุโรปเหล่านี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “กลุ่มพันธมิตรของผู้ที่เต็มใจร่วมมือกัน” (Coalition of the willing) ยังคงประกาศให้การสนับสนุนเคียฟเหนียวแน่น โดยเซเลนสกีโพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรมภายหลังการประชุมสุดยอดเมื่อวันอาทิตย์ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องผลักดันสันติภาพ และในอนาคตอันใกล้จะมีการร่างจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องบรรลุและเงื่อนไขที่จะไม่มีการประนีประนอมเพื่อเสนอต่ออเมริกา
    .
    นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักร เจ้าภาพการประชุมซิมมิตครั้งนี้ ขานรับว่า สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ จะร่วมมือกับยูเครนเพื่อทำให้สงครามยุติลง
    .
    สตาร์เมอร์สำทับว่า ยุโรปต้องพยายามมากขึ้น ขณะที่ไม่มีหลักประกันว่า อเมริกาจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่
    .
    กระนั้น สตาร์เมอร์ที่ได้พบกับทรัมป์ในบรรยากาศที่ชื่นมื่น วันสองวันก่อนหน้าเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว ยังคงยืนยันแก้ต่างให้สหรัฐฯ ว่า อเมริกาไม่ใช่พันธมิตรที่พึ่งพาไม่ได้ และข้อตกลงใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับยูเครน จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากอเมริกา
    .
    ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร หลังกลับถึงปารีสว่า ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรต้องการเสนอข้อตกลงหยุดยิงทางอากาศและทางทะเล รวมทั้งระงับการโจมตีพวกโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเวลานาน 1 เดือน และยังเตรียมพร้อมส่งทหารไปช่วยกำกับดูแลการหยุดยิงในยูเครน
    .
    มาครงอธิบายว่า สาเหตุที่ข้อตกลงหยุดยิงไม่ครอบคลุมการสู้รบภาคพื้นดินอย่างน้อยในระยะแรกนั้นเนื่องจากแนวรบที่ค่อนข้างกว้างจนยากที่จะบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงได้ ส่วนการส่งกองกำลังสันติภาพไปยูเครนคงยังไม่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้
    .
    ผู้นำฝรั่งเศสยังเสนอแนะให้ชาติยุโรปเพิ่มงบประมาณกลาโหมขึ้นสู่ระดับเท่ากับ 3-3.5% ของจีดีพีของประเทศตนเอง เพื่อรับมือการเปลี่ยนท่าทีของอเมริกาและปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (3) รัฐมนตรีทบวงกองทัพของสหราชอาณาจักร ลุก พอลลาร์ด กลับแสดงท่าทีไม่ยืนยันรับรองแนวความคิดเรื่องหยุดยิงที่มาครงพูด โดยเขากล่าวกับสื่อบีบีซีว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นแผนการที่สหราชอาณาจักรรับรองแล้วในเวลานี้ แต่เป็นหนึ่งในทางเลือกต่างๆ จำนวนหนึ่งที่กำลังมีการหารือกันเป็นการภายในระหว่างสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเหล่าพันธมิตรอีกจำนวนหนึ่ง
    .
    ขณะที่ภายหลังการประชุมผู้นำยุโรปเมื่อวันอาทิตย์ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นองค์กรบริหารของอียู ออกมาเตือนว่า ยุโรปต้องเร่งติดอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้ แดร์ ไลเอิน ได้ชื่อว่าเป็นพวกเหยี่ยวแข็งกร้าวกับรัสเซีย และไม่เป็นที่พอใจของทำเนียบขาวในปัจจุบัน
    .
    ทางฝ่ายนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสก์ ของโปแลนด์ เรียกร้องอเมริกาและยุโรปแสดงให้ปูตินเห็นว่า ตะวันตกไม่เคยคิดอ่อนข้อก่อนที่ผู้นำรัสเซียจะแบล็กเมล์และรุกรานยูเครน
    .
    อย่างไรก็ดี ทางด้านทรัมป์กลับกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า อเมริกาควรกังวลกับปูตินน้อยลง และกังวลกับอาชญากรรมในประเทศให้มากขึ้น
    .
    วันเดียวกันนั้น คอนสแตนติน โคซาเชฟ สมาชิกผู้ทรงอิทธิพลในรัฐสภารัสเซีย โพสต์บนเทเลแกรมว่า การประชุมที่ลอนดอน เป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนความล้มเหลวของนโยบายแห่งการเสี้ยมให้ยูเครนตีกับรัสเซีย ที่สหราชอาณาจักร และอเมริกาใช้มาเป็นเวลานาน 10 ปี ให้กลายเป็นความสำเร็จ
    .
    โคซาเชฟที่รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาสูงรัสเซีย สำทับว่า ยุโรปไม่มีแผนการอะไรเลย และสิ่งหนึ่งที่ยูเครนวางใจได้ก็คือ ความคืบหน้าหนึ่งเดียวขณะนี้คือความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา
    .
    นอกจากนั้น ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน ยังโพสต์บนเอ็กซ์ก่อนที่การประชุมที่ลอนดอนจะปิดฉากลงว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการตกลงสวามิภักดิ์ต่อพวกนาซีที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญใดๆ ในเคียฟ และเป็นความคิดที่น่าอัปยศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020856
    ..............
    Sondhi X
    ชาติยุโรปแสดงท่าทีขึงขัง ประชุมซัมมิตกันโดยมีเซเลนสกีเข้าร่วมด้วยที่ลอนดอน ประกาศเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงและจัดตั้งแนวร่วมป้องกันสันติภาพในยูเครน พร้อมร่างเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพที่อาจจะเกิดขึ้นมาได้ เตรียมยื่นเสนอต่ออเมริกา โดยที่มาครงแย้มว่า อาจมีการพักการสู้รบทางอากาศและทางทะเลนาน 1 เดือน ทว่าสหราชอาณาจักรกลับบอกว่าเป็นเพียง 1 ในข้อเสนอซึ่งยังไม่มีการลงมติ ส่วนในอีกด้านหนึ่งรัสเซียเยาะยุโรปไม่ได้มีแผนการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และสิ่งหนึ่งที่เคียฟแน่ใจได้ว่าเป็นความคืบหน้าหนึ่งเดียวอยู่ในขณะนี้ คือความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา . การหารือว่าด้วยวิกฤตยูเครนในกรุงลอนดอนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ของพวกผู้นำ 18 ชาติ ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นชาติยุโรป เกิดขึ้นในช่วงเวลาอ่อนไหวอย่างยิ่งสำหรับยูเครนที่กำลังเผชิญความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 4 . วันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา ตำหนิโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนว่า ไม่ตระหนักบุญคุณอเมริกาและไม่พร้อมทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียต่อหน้าผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาว กระตุ้นความกังวลว่า เขากำลังบีบให้เคียฟทำข้อตกลงสันติภาพอโดยมอบสิ่งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียต้องการ . ทว่า ท่าทีของพวกผู้นำยุโรปเหล่านี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “กลุ่มพันธมิตรของผู้ที่เต็มใจร่วมมือกัน” (Coalition of the willing) ยังคงประกาศให้การสนับสนุนเคียฟเหนียวแน่น โดยเซเลนสกีโพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรมภายหลังการประชุมสุดยอดเมื่อวันอาทิตย์ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องผลักดันสันติภาพ และในอนาคตอันใกล้จะมีการร่างจุดยืนร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องบรรลุและเงื่อนไขที่จะไม่มีการประนีประนอมเพื่อเสนอต่ออเมริกา . นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักร เจ้าภาพการประชุมซิมมิตครั้งนี้ ขานรับว่า สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ จะร่วมมือกับยูเครนเพื่อทำให้สงครามยุติลง . สตาร์เมอร์สำทับว่า ยุโรปต้องพยายามมากขึ้น ขณะที่ไม่มีหลักประกันว่า อเมริกาจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ . กระนั้น สตาร์เมอร์ที่ได้พบกับทรัมป์ในบรรยากาศที่ชื่นมื่น วันสองวันก่อนหน้าเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว ยังคงยืนยันแก้ต่างให้สหรัฐฯ ว่า อเมริกาไม่ใช่พันธมิตรที่พึ่งพาไม่ได้ และข้อตกลงใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับยูเครน จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากอเมริกา . ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร หลังกลับถึงปารีสว่า ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรต้องการเสนอข้อตกลงหยุดยิงทางอากาศและทางทะเล รวมทั้งระงับการโจมตีพวกโครงสร้างพื้นฐาน เป็นเวลานาน 1 เดือน และยังเตรียมพร้อมส่งทหารไปช่วยกำกับดูแลการหยุดยิงในยูเครน . มาครงอธิบายว่า สาเหตุที่ข้อตกลงหยุดยิงไม่ครอบคลุมการสู้รบภาคพื้นดินอย่างน้อยในระยะแรกนั้นเนื่องจากแนวรบที่ค่อนข้างกว้างจนยากที่จะบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงได้ ส่วนการส่งกองกำลังสันติภาพไปยูเครนคงยังไม่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ . ผู้นำฝรั่งเศสยังเสนอแนะให้ชาติยุโรปเพิ่มงบประมาณกลาโหมขึ้นสู่ระดับเท่ากับ 3-3.5% ของจีดีพีของประเทศตนเอง เพื่อรับมือการเปลี่ยนท่าทีของอเมริกาและปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย . อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (3) รัฐมนตรีทบวงกองทัพของสหราชอาณาจักร ลุก พอลลาร์ด กลับแสดงท่าทีไม่ยืนยันรับรองแนวความคิดเรื่องหยุดยิงที่มาครงพูด โดยเขากล่าวกับสื่อบีบีซีว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นแผนการที่สหราชอาณาจักรรับรองแล้วในเวลานี้ แต่เป็นหนึ่งในทางเลือกต่างๆ จำนวนหนึ่งที่กำลังมีการหารือกันเป็นการภายในระหว่างสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเหล่าพันธมิตรอีกจำนวนหนึ่ง . ขณะที่ภายหลังการประชุมผู้นำยุโรปเมื่อวันอาทิตย์ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นองค์กรบริหารของอียู ออกมาเตือนว่า ยุโรปต้องเร่งติดอาวุธเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้ แดร์ ไลเอิน ได้ชื่อว่าเป็นพวกเหยี่ยวแข็งกร้าวกับรัสเซีย และไม่เป็นที่พอใจของทำเนียบขาวในปัจจุบัน . ทางฝ่ายนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสก์ ของโปแลนด์ เรียกร้องอเมริกาและยุโรปแสดงให้ปูตินเห็นว่า ตะวันตกไม่เคยคิดอ่อนข้อก่อนที่ผู้นำรัสเซียจะแบล็กเมล์และรุกรานยูเครน . อย่างไรก็ดี ทางด้านทรัมป์กลับกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า อเมริกาควรกังวลกับปูตินน้อยลง และกังวลกับอาชญากรรมในประเทศให้มากขึ้น . วันเดียวกันนั้น คอนสแตนติน โคซาเชฟ สมาชิกผู้ทรงอิทธิพลในรัฐสภารัสเซีย โพสต์บนเทเลแกรมว่า การประชุมที่ลอนดอน เป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนความล้มเหลวของนโยบายแห่งการเสี้ยมให้ยูเครนตีกับรัสเซีย ที่สหราชอาณาจักร และอเมริกาใช้มาเป็นเวลานาน 10 ปี ให้กลายเป็นความสำเร็จ . โคซาเชฟที่รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาสูงรัสเซีย สำทับว่า ยุโรปไม่มีแผนการอะไรเลย และสิ่งหนึ่งที่ยูเครนวางใจได้ก็คือ ความคืบหน้าหนึ่งเดียวขณะนี้คือความสัมพันธ์รัสเซีย-อเมริกา . นอกจากนั้น ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน ยังโพสต์บนเอ็กซ์ก่อนที่การประชุมที่ลอนดอนจะปิดฉากลงว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการตกลงสวามิภักดิ์ต่อพวกนาซีที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญใดๆ ในเคียฟ และเป็นความคิดที่น่าอัปยศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020856 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1357 Views 0 Reviews
  • ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย:

    กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!
    ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย: กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
    .
    คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
    .
    ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา"
    .
    "และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน
    .
    ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย
    .
    ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี"
    .
    ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง"
    .
    ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์
    .
    ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา" . "และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน . ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย . ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" . ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง" . ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์ . ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1402 Views 0 Reviews
  • ฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส
    .
    ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ลา ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ทางมาครง บอกว่าอย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงการสู้รบในภาคพื้น
    .
    "ปัญหาคือ จะเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจสอบว่าข้อตกลงได้รับความเคารพหรือไม่ สืบเนื่องจากขนาดของแนวหน้า" เขากล่าว พร้อมระบุกองกำลังสันติภาพจะถูกส่งเข้าประจำการหลังจากนั้น "จะยังไม่มีทหารยุโรปในแผ่นดินของยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้"
    .
    มาครง แนะนำว่าบรรดาชาติยุโรปควรปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นระหว่าง 3.0% ถึง 3.5% ของจีดีพี ขานรับต่อลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปของวอชิงตัน และยุทธาภิวัฒน์ของรัสเซีย "สำหรับ 3 ปี รัสเซียใช้จ่ายเงินด้านกลาโหม 10% ของจีดีพี" เขาบอกกับสื่อท้องถิ่น "ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดจากนี้"
    .
    ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิตาลีแยกกัน มาครงบอกด้วยว่ายุโรปจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากอิตาลี ในการคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน
    .
    ณ ที่ประชุมวิกฤตเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี ดูเหมือนปฏิเสธแนวโน้มที่ประเทศของเธอจะสนับสนุนกองกำลังสันติภาพใดๆ ในยูเครน โดยบอกว่า "มันไม่เคยอยู่ในวาระการพิจารณา"
    .
    "เราต้องการอิตาลี อิตาลีที่ผู้เข้มแข็ง ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝรั่งเศส กับเยอรมนี" มาครงกล่าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..
    ..............
    Sondhi X
    ฝรั่งเศสและสหราอาณาจักร เสนอข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนในยูเครน "ทั้งทางอากาศ ทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน" ตามหลังการหารือฉุกเฉินในลอนดอน จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส . ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ลา ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ทางมาครง บอกว่าอย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงการสู้รบในภาคพื้น . "ปัญหาคือ จะเป็นเรื่องยากมากที่จะตรวจสอบว่าข้อตกลงได้รับความเคารพหรือไม่ สืบเนื่องจากขนาดของแนวหน้า" เขากล่าว พร้อมระบุกองกำลังสันติภาพจะถูกส่งเข้าประจำการหลังจากนั้น "จะยังไม่มีทหารยุโรปในแผ่นดินของยูเครน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้" . มาครง แนะนำว่าบรรดาชาติยุโรปควรปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นระหว่าง 3.0% ถึง 3.5% ของจีดีพี ขานรับต่อลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปของวอชิงตัน และยุทธาภิวัฒน์ของรัสเซีย "สำหรับ 3 ปี รัสเซียใช้จ่ายเงินด้านกลาโหม 10% ของจีดีพี" เขาบอกกับสื่อท้องถิ่น "ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดจากนี้" . ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิตาลีแยกกัน มาครงบอกด้วยว่ายุโรปจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากอิตาลี ในการคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน . ณ ที่ประชุมวิกฤตเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี ดูเหมือนปฏิเสธแนวโน้มที่ประเทศของเธอจะสนับสนุนกองกำลังสันติภาพใดๆ ในยูเครน โดยบอกว่า "มันไม่เคยอยู่ในวาระการพิจารณา" . "เราต้องการอิตาลี อิตาลีที่ผู้เข้มแข็ง ที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝรั่งเศส กับเยอรมนี" มาครงกล่าว . อ่านเพิ่มเติม.. .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 1308 Views 0 Reviews
  • บรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์
    .
    บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้
    .
    ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้
    .
    เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย
    .
    ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป
    .
    เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง"
    .
    ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม"
    .
    อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน
    .
    วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ"
    .
    วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    "ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ . บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้ . ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้ . เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย . ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป . เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง" . ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.) . ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม" . อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน . วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ" . วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) . "ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1287 Views 0 Reviews
More Results