• "ชัชชาติ" รับมอบ "ธงแดง" ข้ามทางม้าลายจาก สสส. เล็งใช้หน้าโรงเรียนสังกัด กทม. ก่อนสร้างความปลอดภัย
    https://www.thai-tai.tv/news/20687/
    .
    #ไทยไท #ชัชชาติ #กทม #สสส #ความปลอดภัยทางถนน #ทางม้าลาย #อุบัติเหตุ #ธงแดงข้ามถนน #รณรงค์ #ลดความสูญเสีย
    "ชัชชาติ" รับมอบ "ธงแดง" ข้ามทางม้าลายจาก สสส. เล็งใช้หน้าโรงเรียนสังกัด กทม. ก่อนสร้างความปลอดภัย https://www.thai-tai.tv/news/20687/ . #ไทยไท #ชัชชาติ #กทม #สสส #ความปลอดภัยทางถนน #ทางม้าลาย #อุบัติเหตุ #ธงแดงข้ามถนน #รณรงค์ #ลดความสูญเสีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ยันข้อตกลงไทย-กัมพูชาหยุดยิงไม่มีคุยเปิดด่าน เน้นลดความสูญเสียของพลเมือง 160,000 คนจะได้ไม่ต้องระเหเร่ร่อน ย้ำจุดยืนรักษาอธิปไตยไม่ให้ใครรุกล้ำ ยันหารือฝ่ายทหารแล้ว มอบผู้นำทหาร 2 ฝ่ายหาข้อยุติร่วมกันพรุ่งนี้ เชื่อผลสำเร็จจากการพูดคุยครั้งนี้ ประชาคมโลกเข้าใจเรา รู้ว่าเราถูกกระทำ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071313

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    "ภูมิธรรม" ยันข้อตกลงไทย-กัมพูชาหยุดยิงไม่มีคุยเปิดด่าน เน้นลดความสูญเสียของพลเมือง 160,000 คนจะได้ไม่ต้องระเหเร่ร่อน ย้ำจุดยืนรักษาอธิปไตยไม่ให้ใครรุกล้ำ ยันหารือฝ่ายทหารแล้ว มอบผู้นำทหาร 2 ฝ่ายหาข้อยุติร่วมกันพรุ่งนี้ เชื่อผลสำเร็จจากการพูดคุยครั้งนี้ ประชาคมโลกเข้าใจเรา รู้ว่าเราถูกกระทำ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071313 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรแดงตามแนวพรมแดนไร้มนุษยธรรมทหารไทยเราใช้โดรนจัดการทุกๆตัวได้ทันทีดีที่สุดอย่าเอาชีวิตทหารไทยเราไปเสี่ยง,ทหารจัดงบสั่งซื้อโดรนพลีชีพเลยทำลายเขมรที่ไร้มนุษยธรรมนี้กระหายการฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่าเก็บไว้รกโลก,
    ..ตลอดขีปนาวุธจรวดทำลายล้างเราสามารถยิงถึงบ้านฮุนเซนฮุนมาเน็ตจริงล็อกเป้าgpsผ่านดาวเทียมได้ด้วย อิหร่านอิสราเอลยังกระทำเป็นสากลได้ ต้องจบสงครามคืนนี้ยิงดี,ส่วนถ้าฮุนเซนหนีไปเกาหลีใต้หรือจีนจริง ยิ่งสะดวกต่อการไล่ล่าสังหารอาชญากรทางสงครามที่กระทำต่อไทยชัดเจนได้,สังหารนอกราชาอาณาจักรยิ่งง่าย,หรือเจรจาทางการฑูตส่งมาประหารชีวืตที่ไทยทันทีด้วย,หรือบินไปมาดีๆเครื่องบินส่วนตัวตกระเบิดตายตามธรรมชาติก็ว่าไปด้วย,คือแอ็คชั่นจากสายทหารไทยตำรวจไทยสากลต้องมี จากฝ่ายรัฐบาลยิ่งต้องชัดเจน,ใครปกป้องอาชญากรสงครามก็พร้อมถูกประจานประฌามทั่วโลกจากนักเลงคีย์บอร์ดไทยเรา ,ทหารโซเชียลไทย,

    ..ต้องจบศึกจริงๆอย่างรวดเร็วด้วย,เราลดความสูญเสียฝั่งเราได้,
    https://youtube.com/watch?v=WthIbUtVY9s&si=SCUD2jFrk0EmQI4k
    เขมรแดงตามแนวพรมแดนไร้มนุษยธรรมทหารไทยเราใช้โดรนจัดการทุกๆตัวได้ทันทีดีที่สุดอย่าเอาชีวิตทหารไทยเราไปเสี่ยง,ทหารจัดงบสั่งซื้อโดรนพลีชีพเลยทำลายเขมรที่ไร้มนุษยธรรมนี้กระหายการฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่าเก็บไว้รกโลก, ..ตลอดขีปนาวุธจรวดทำลายล้างเราสามารถยิงถึงบ้านฮุนเซนฮุนมาเน็ตจริงล็อกเป้าgpsผ่านดาวเทียมได้ด้วย อิหร่านอิสราเอลยังกระทำเป็นสากลได้ ต้องจบสงครามคืนนี้ยิงดี,ส่วนถ้าฮุนเซนหนีไปเกาหลีใต้หรือจีนจริง ยิ่งสะดวกต่อการไล่ล่าสังหารอาชญากรทางสงครามที่กระทำต่อไทยชัดเจนได้,สังหารนอกราชาอาณาจักรยิ่งง่าย,หรือเจรจาทางการฑูตส่งมาประหารชีวืตที่ไทยทันทีด้วย,หรือบินไปมาดีๆเครื่องบินส่วนตัวตกระเบิดตายตามธรรมชาติก็ว่าไปด้วย,คือแอ็คชั่นจากสายทหารไทยตำรวจไทยสากลต้องมี จากฝ่ายรัฐบาลยิ่งต้องชัดเจน,ใครปกป้องอาชญากรสงครามก็พร้อมถูกประจานประฌามทั่วโลกจากนักเลงคีย์บอร์ดไทยเรา ,ทหารโซเชียลไทย, ..ต้องจบศึกจริงๆอย่างรวดเร็วด้วย,เราลดความสูญเสียฝั่งเราได้, https://youtube.com/watch?v=WthIbUtVY9s&si=SCUD2jFrk0EmQI4k
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..เขมรเป็นประเทศที่ทั้งอาเชียนไม่เอาไม่คบด้วย,มีแต่คนทรยศประจำประเทศไทยคบและเดอะแก๊งฝรั่งชั่วเลวคบเพื่อยึดบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา,UNคือบ้านเดอะแก๊งโจรระดับโลกองค์กรซุ่มโจรสากลขนาดใหญ่ปล้นอย่างชอบธรรมทั่วโลก,ดูบริบทที่เข้าข้างอิสราเอลนั้นล่ะชัดเจนสุด,ไม่มีความยุติธรรมห่าจริงอะไรหรอก,ขี้ข้าdeep stateตระกูลรอธไชล์ผู้ร่วมหลักในการก่อตั้งUNแค่นั้น,สมุนโจรไม่ฟ้องหัวหน้าโจร,ไทยเราจะมีความยุติธรรมอะไร,อเมริกาผีบ้าเสือกมาบอกให้เราหยุดยิงโน้น ทั้งที่เขมรแท้ๆเปิดก่อน,นี้คือความระยำสันดานของอเมริกาชัดเจน,ผลประโยชน์ต้องเอาให้อเมริกาก่อนด้วยแบบฐานทัพอเมริกาในพังงาจะเอาให้ได้ ยึดแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระทันที,เสือกบอกอีกว่าไทยตะค้าขายกับใครต้องขออนุญาตอเมริกาก่อนนี้จะยึดปกครองอธิปไตยไทยเลยนะ,
    ..ประเทศไทยเรามาปกครองระบบใหม่กันเถอะ ทิ้งระบบฝรั่งมันไป มันอ้างบุญคุณว่าใช้ระบบมันปกครองประเทศอยู่ตลอดเวลา,เรามาเปลี่ยนเป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขกันเถอะ,ทหารยึดอำนาจปฏิวัติผ่านกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเราเลย รวมอำนาจปกครองใหม่หมดในภาวะสงครามนี้,รัฐบาลนีัไม่มีความน่าไว้วางใจอีกต่อไปแล้วในการปกครอง,งบฉุกเฉินทางทหารเราสามารถบริหารให้คล่องตัวทันทีเพราะรัฐบาลมันไม่ใส่ใจแล้วไม่สนใจอธิปไตยไทยจะเป็นห่าอะไรหรอกเพราะคดีพ่อมันชั้น14วุ่นวายเป็นอันมากตลอดสส.ทั้งสภาอาจสิ้นสถานะด้วยทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ต้นเดือนหน้าก็ว่า,เห็นชัดว่าก่อการหาจังหวะก่อการก่อนวันที่28ก.ค.68ชัดเจน วันเกิดฟ้าเรานั่นเอง,เหี้ยมันพยายามสมคบกับเขมรเอาทุกๆทางหักหน้าฟ้าเราตลอดแม้เล็กๆน้อยๆก็เอาด้วยกระทบให้ได้ด้วย,
    ..ยุทธวิธีกลศึกตลอดช่วงสงครามกับเขมรด้วย เครื่องมือเครื่องไม้เราต้องพร้อมเสริมทัพตลอดลดความสูญเสียทหารราบเรา คือโดรนลาดตะเวนสำรวจและโดรนจู่โจมต้องมี ตลอดแนวชายแดนต้องไม่ต่ำกว่าจังหวัดละ1,000ตัว ตีให้โดรนพลีชีพด้วย รวม10,000ตัวพร้อมปฏิบัติการทันที,ถ้าสั่งจากรัฐบาลจีนหรือรัสเชีย จีนอาจตัวละ5-6ล้านบาทแบบGtG,ก็5-6หมื่นล้านบาทถือว่าคุ้มมาก,และอนาคตเราสามารถดัดแปลงตกแต่งโดรนนี้ให้ปลอดภัยด้านความมั่นคงข้อมูลได้ตลอดอัพเรเวลให้ดียิ่งๆขึ้นได้หรือไทยเราสร้างโดรนพลีชีพโดรนลาดตะเวนสำรวจโดรนจู่โจมได้มากขนาดไหนทันแล้วก็สามารถนำเข้าสั่งมาลงหน้างานเลย,,ลดการปะทะการสูญเสียทหารเราทันที10,000คนแต่ประสิทธิภาพการรุกศัตรู1:20คือเทียบ200,000พลทหารเราได้สบาย.,งบฉุกเฉินเบิกล่วงหน้าได้เลย,การยึดอำนาจจึงสำคัญมาก ไม่ต้องมาห่วงการหักหลังของคนทรยศภายในตนเองอีกต่อไป,สร้างระบบปกครองใหม่ด้วย,เจรจาการอเมริกาเรื่องตั้งฐานทัพกองทัพอเมริกาในพังงาก็สามารถปฏิเสธได้เพื่อเป็นกลางทางสงครามโลกหากอเมริการบกับจีนจริง.

    https://youtube.com/watch?v=dfsn6-6TunQ&si=f9NBhnXn7I4wwq5y
    https://youtube.com/watch?v=dfsn6-6TunQ&si=f9NBhnXn7I4wwq5y
    ..เขมรเป็นประเทศที่ทั้งอาเชียนไม่เอาไม่คบด้วย,มีแต่คนทรยศประจำประเทศไทยคบและเดอะแก๊งฝรั่งชั่วเลวคบเพื่อยึดบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา,UNคือบ้านเดอะแก๊งโจรระดับโลกองค์กรซุ่มโจรสากลขนาดใหญ่ปล้นอย่างชอบธรรมทั่วโลก,ดูบริบทที่เข้าข้างอิสราเอลนั้นล่ะชัดเจนสุด,ไม่มีความยุติธรรมห่าจริงอะไรหรอก,ขี้ข้าdeep stateตระกูลรอธไชล์ผู้ร่วมหลักในการก่อตั้งUNแค่นั้น,สมุนโจรไม่ฟ้องหัวหน้าโจร,ไทยเราจะมีความยุติธรรมอะไร,อเมริกาผีบ้าเสือกมาบอกให้เราหยุดยิงโน้น ทั้งที่เขมรแท้ๆเปิดก่อน,นี้คือความระยำสันดานของอเมริกาชัดเจน,ผลประโยชน์ต้องเอาให้อเมริกาก่อนด้วยแบบฐานทัพอเมริกาในพังงาจะเอาให้ได้ ยึดแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระทันที,เสือกบอกอีกว่าไทยตะค้าขายกับใครต้องขออนุญาตอเมริกาก่อนนี้จะยึดปกครองอธิปไตยไทยเลยนะ, ..ประเทศไทยเรามาปกครองระบบใหม่กันเถอะ ทิ้งระบบฝรั่งมันไป มันอ้างบุญคุณว่าใช้ระบบมันปกครองประเทศอยู่ตลอดเวลา,เรามาเปลี่ยนเป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขกันเถอะ,ทหารยึดอำนาจปฏิวัติผ่านกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเราเลย รวมอำนาจปกครองใหม่หมดในภาวะสงครามนี้,รัฐบาลนีัไม่มีความน่าไว้วางใจอีกต่อไปแล้วในการปกครอง,งบฉุกเฉินทางทหารเราสามารถบริหารให้คล่องตัวทันทีเพราะรัฐบาลมันไม่ใส่ใจแล้วไม่สนใจอธิปไตยไทยจะเป็นห่าอะไรหรอกเพราะคดีพ่อมันชั้น14วุ่นวายเป็นอันมากตลอดสส.ทั้งสภาอาจสิ้นสถานะด้วยทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ต้นเดือนหน้าก็ว่า,เห็นชัดว่าก่อการหาจังหวะก่อการก่อนวันที่28ก.ค.68ชัดเจน วันเกิดฟ้าเรานั่นเอง,เหี้ยมันพยายามสมคบกับเขมรเอาทุกๆทางหักหน้าฟ้าเราตลอดแม้เล็กๆน้อยๆก็เอาด้วยกระทบให้ได้ด้วย, ..ยุทธวิธีกลศึกตลอดช่วงสงครามกับเขมรด้วย เครื่องมือเครื่องไม้เราต้องพร้อมเสริมทัพตลอดลดความสูญเสียทหารราบเรา คือโดรนลาดตะเวนสำรวจและโดรนจู่โจมต้องมี ตลอดแนวชายแดนต้องไม่ต่ำกว่าจังหวัดละ1,000ตัว ตีให้โดรนพลีชีพด้วย รวม10,000ตัวพร้อมปฏิบัติการทันที,ถ้าสั่งจากรัฐบาลจีนหรือรัสเชีย จีนอาจตัวละ5-6ล้านบาทแบบGtG,ก็5-6หมื่นล้านบาทถือว่าคุ้มมาก,และอนาคตเราสามารถดัดแปลงตกแต่งโดรนนี้ให้ปลอดภัยด้านความมั่นคงข้อมูลได้ตลอดอัพเรเวลให้ดียิ่งๆขึ้นได้หรือไทยเราสร้างโดรนพลีชีพโดรนลาดตะเวนสำรวจโดรนจู่โจมได้มากขนาดไหนทันแล้วก็สามารถนำเข้าสั่งมาลงหน้างานเลย,,ลดการปะทะการสูญเสียทหารเราทันที10,000คนแต่ประสิทธิภาพการรุกศัตรู1:20คือเทียบ200,000พลทหารเราได้สบาย.,งบฉุกเฉินเบิกล่วงหน้าได้เลย,การยึดอำนาจจึงสำคัญมาก ไม่ต้องมาห่วงการหักหลังของคนทรยศภายในตนเองอีกต่อไป,สร้างระบบปกครองใหม่ด้วย,เจรจาการอเมริกาเรื่องตั้งฐานทัพกองทัพอเมริกาในพังงาก็สามารถปฏิเสธได้เพื่อเป็นกลางทางสงครามโลกหากอเมริการบกับจีนจริง. https://youtube.com/watch?v=dfsn6-6TunQ&si=f9NBhnXn7I4wwq5y https://youtube.com/watch?v=dfsn6-6TunQ&si=f9NBhnXn7I4wwq5y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผย”สงกรานต์” วันแรก โครงข่าย”คมนาคม”เกิดอุบัติเหตุรวม 207 ครั้ง ลดลง10% มีเสียชีวิต 29 คน ประชาชนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะกว่า 2.5 ล้านคน จราจร บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทางเข้า-ออก กทม.กว่า 1.1 ล้านคัน ย้ำทุกโหมดดูแลการเดินทางอย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับเพียงพอ - ไม่มีตกค้าง

    กระทรวงคมนาคม รายงานการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ครอบคลุมทุกมิติทั้งทางบก - ราง - น้ำ - อากาศ โดยเน้นย้ำการป้องกันและลดอุบัติเหตุ และที่สำคัญคือความปลอดภัยขั้นสูงสุด ในการลดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ภายใต้หัวข้อรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” นั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000034989

    #MGROnline #สงกรานต์ #คมนาคม
    เผย”สงกรานต์” วันแรก โครงข่าย”คมนาคม”เกิดอุบัติเหตุรวม 207 ครั้ง ลดลง10% มีเสียชีวิต 29 คน ประชาชนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะกว่า 2.5 ล้านคน จราจร บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทางเข้า-ออก กทม.กว่า 1.1 ล้านคัน ย้ำทุกโหมดดูแลการเดินทางอย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับเพียงพอ - ไม่มีตกค้าง • กระทรวงคมนาคม รายงานการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ครอบคลุมทุกมิติทั้งทางบก - ราง - น้ำ - อากาศ โดยเน้นย้ำการป้องกันและลดอุบัติเหตุ และที่สำคัญคือความปลอดภัยขั้นสูงสุด ในการลดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ภายใต้หัวข้อรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” นั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000034989 • #MGROnline #สงกรานต์ #คมนาคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)**

    ### **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**:
    1. **ความเร็วในการตรวจจับ**:
    - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง
    - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง

    2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**:
    - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert**
    - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน**
    - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน

    3. **ความแม่นยำสูง**:
    - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ

    4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**:
    - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)**

    ### **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**:
    - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน
    - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้
    - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า
    - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ### **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**:
    - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที)
    - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น
    - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน)

    ### **สรุป**:
    ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)** ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**: 1. **ความเร็วในการตรวจจับ**: - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง 2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**: - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert** - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน** - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน 3. **ความแม่นยำสูง**: - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ 4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**: - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)** ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**: - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้ - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**: - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที) - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน) ### 🚨 **สรุป**: ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tencent กำลังเตรียมเปิดตัว Hunyuan T1 โมเดล AI ขนาดใหญ่สุดล้ำที่ใช้สถาปัตยกรรม Mamba ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานประมวลผลข้อมูลระดับสูง โมเดลนี้ต่อยอดจาก Hunyuan Turbo S ที่ติดอันดับในแพลตฟอร์มการจัดอันดับ AI และอาจกลายเป็นเกมเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม

    ความสามารถของโมเดล Hunyuan T1:
    - มุ่งเน้นการประมวลผลเชิงการให้เหตุผลที่มีความซับซ้อนสูงและรวดเร็ว ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันและบริการหลากหลาย เช่น แชทบอท, การค้นหา, และระบบวิเคราะห์ข้อมูล.

    การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI:
    - Hunyuan Turbo S ของ Tencent เคยติดอันดับที่ 15 ใน Chatbot Arena LLM Leaderboard ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จัดอันดับโมเดลจากการโหวตของผู้ใช้จริงในเรื่องคุณภาพการตอบกลับ โดยอันดับปัจจุบันของ DeepSeek R1 อยู่อันดับที่ 7.

    จุดเด่นของ Mamba Architecture:
    - สถาปัตยกรรมนี้เน้นการกระจายการประมวลผลและลดความสูญเสียของข้อมูลในระหว่างการคำนวณ ทำให้เหมาะกับการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่และการทำงานร่วมกับข้อมูลปริมาณมหาศาล.

    เป้าหมายของ Tencent ในอนาคต:
    - Tencent วางแผนที่จะขยายการใช้งานโมเดล Hunyuan T1 ในหลายธุรกิจ ตั้งแต่เทคโนโลยีการศึกษา ระบบสุขภาพ ไปจนถึงบริการอีคอมเมิร์ซ.

    https://www.techpowerup.com/334375/tencent-will-launch-hunyuan-t1-inference-model-on-march-21
    Tencent กำลังเตรียมเปิดตัว Hunyuan T1 โมเดล AI ขนาดใหญ่สุดล้ำที่ใช้สถาปัตยกรรม Mamba ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานประมวลผลข้อมูลระดับสูง โมเดลนี้ต่อยอดจาก Hunyuan Turbo S ที่ติดอันดับในแพลตฟอร์มการจัดอันดับ AI และอาจกลายเป็นเกมเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม ความสามารถของโมเดล Hunyuan T1: - มุ่งเน้นการประมวลผลเชิงการให้เหตุผลที่มีความซับซ้อนสูงและรวดเร็ว ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันและบริการหลากหลาย เช่น แชทบอท, การค้นหา, และระบบวิเคราะห์ข้อมูล. การแข่งขันในอุตสาหกรรม AI: - Hunyuan Turbo S ของ Tencent เคยติดอันดับที่ 15 ใน Chatbot Arena LLM Leaderboard ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จัดอันดับโมเดลจากการโหวตของผู้ใช้จริงในเรื่องคุณภาพการตอบกลับ โดยอันดับปัจจุบันของ DeepSeek R1 อยู่อันดับที่ 7. จุดเด่นของ Mamba Architecture: - สถาปัตยกรรมนี้เน้นการกระจายการประมวลผลและลดความสูญเสียของข้อมูลในระหว่างการคำนวณ ทำให้เหมาะกับการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่และการทำงานร่วมกับข้อมูลปริมาณมหาศาล. เป้าหมายของ Tencent ในอนาคต: - Tencent วางแผนที่จะขยายการใช้งานโมเดล Hunyuan T1 ในหลายธุรกิจ ตั้งแต่เทคโนโลยีการศึกษา ระบบสุขภาพ ไปจนถึงบริการอีคอมเมิร์ซ. https://www.techpowerup.com/334375/tencent-will-launch-hunyuan-t1-inference-model-on-march-21
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Tencent Will Launch Hunyuan T1 Inference Model on March 21
    Tencent's large language model (LLM) specialist division has announced the imminent launch of their T1 AI inference model. The Chinese technology giant's Hunyuan social media accounts revealed a grand arrival, scheduled to take place on Friday (March 21). A friendly reminder was issued to interested...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด

    เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง
    ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

    "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง
    กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง

    ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น

    เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
    เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น

    การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ

    ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง
    ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา
    - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ
    - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง
    - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง
    - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ
    - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน

    แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง

    แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ
    รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน

    ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา
    ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน

    บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย
    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก

    จุดยืนของประเทศไทย
    การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน

    ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่
    การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา

    25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต
    เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568

    #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก จุดยืนของประเทศไทย การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา 25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568 #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1084 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ในแคว้นทิเบตของจีน เมื่อวันอังคาร (7 ม.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 126 คน อาคารบ้านเรือนมากมายถล่ม และแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเนปาล ภูฏาน และตอนเหนือของอินเดีย
    .
    ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีน (ซีอีเอ็นซี) รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 9.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางเหนือแผ่นดินไหวอยู่ที่อำเภอติงกริ ที่รู้จักกันว่า เป็นประตูด้านเหนือสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ ขณะที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 10 กม. ซึ่งถือว่าตื้นและมักก่อความเสียหายได้สูง ทางด้านสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯนั้น ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรง 7.1
    .
    อำเภอติงกริ ยังเป็นส่วนหนึ่งของเขตซีกัตเซ ซึ่งมีประชากรราว 800,000 คน และอยู่ในการบริหารปกครองของนครซีกัตเซ ที่ตามประเพณีแล้วเป็นที่ประทับของปันเชนลามะ หนึ่งในพระลามะสำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายทิเบต
    .
    ภาพวิดีโอของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เผยให้เห็นบ้านเรือนมากมายเสียหาย ผนังอาคารแยกออกจากกัน ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตได้รับการปรับให้สูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งถึงเวลาตอนดึกวันอังคาร สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ให้ตัวเลขว่าเฉพาะในทิเบต มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 126 คน และบาดเจ็บอีก 188 คน
    .
    ทั้งนี้ พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งครอบคลุมถึงทิเบต ที่มีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองระดับมณฑลของแดนมังกร เนปาล และตอนเหนือของอินเดีย เป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซียที่มาบรรจบกัน
    .
    ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารอยู่ห่างจากด้านเหนือของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกและจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักปีนเขาและนักเดินป่าราว 80 กม.
    .
    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในรัศมี 20 กม.จากพื้นที่เหนือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีเมืองตั้งอยู่ 3 เมือง และหมู่บ้าน 27 หมู่บ้าน จำนวนประชากรทั้งหมดประมาณ 6,900 คน ขณะนี้มีรายงานว่าบ้านเรือนกว่า 1,000 หลังได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยท้องถิ่นกว่า 1,500 คนถูกส่งไปยังพื้นที่ประสบภัย นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังนำเต็นต์ผ้าฝ้าย เสื้อคลุมผ้าฝ้าย ผ้าห่ม และเตียงพับ ไปแจกจ่ายในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
    .
    ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นได้ประสานกับเมืองใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบผลกระทบจากแผ่นดินไหว และค้นหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนั้น หลังเกิดเหตุจีนยังห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณยอดเขาเอเวอเรสต์จากฝั่งทิเบต
    .
    สื่อจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งการให้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในการค้นหาและกู้ภัยเพื่อลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งให้จัดหาที่พักอาศัยใหม่แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และทำให้ผู้ประสบภัยปลอดภัยและอบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นติดลบ 8 องศาในติงกริ อีกทั้งคาดว่า จะลดลงอยู่ที่ -18 องศาในค่ำวันอังคาร
    .
    หมู่บ้านต่างๆ ในติงกริที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 4,000-5,000 เมตร รายงานว่า มีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกหลายสิบครั้ง ครั้งที่รุนแรงนั้นวัดความแรงได้ 4.4
    .
    แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในทิเบตยังรับรู้ได้ถึงกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล ที่อยู่ห่างจากพื้นที่เหนือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 400 กม. ทำให้มีประชาชนจำนวนมากพากันวิ่งหนีออกจากบ้าน และผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคนเป็นชายที่กระโดดลงจากชั้นบนของบ้าน
    .
    กาฐมาณฑุเคยเผชิญแผ่นดินไหวความแรง 7.8 ในปี 2015 ที่มีผู้เสียชีวิตราว 9,000 คน และบาดเจ็บหลายพันคน ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประเทศนี้
    .
    นอกจากนั้น ประชาชนในกรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน และที่รัฐพิหาร ตอนเหนือของอินเดียที่ติดกับพรมแดนเนปาล ก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในทิเบตคราวนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวตามแนวเทือกเขาบริเวณชายแดนจีน-คีร์กีซถาน วัดความแรงได้ 7.0 มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บหลายสิบคน
    .
    และก่อนหน้านั้นขึ้นไปอีกคือในเดือนธันวาคม 2023 เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีผู้เสียชีวิต 148 คน ถือเป็นแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในจีนนับจากปี 2014 ที่เหตุธรณีพิโรธในมณฑลยูนนานคร่าชีวิตประชาชนกว่า 600 คน
    .
    แผ่นดินไหวในเดือนธันวาคม 2023 ยังเกิดขึ้นท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือยิ่งท้าทายมากขึ้น โดยผู้รอดชีวิตต้องผิงไฟกลางแจ้งเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001959
    ..............
    Sondhi X
    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ในแคว้นทิเบตของจีน เมื่อวันอังคาร (7 ม.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 126 คน อาคารบ้านเรือนมากมายถล่ม และแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงเนปาล ภูฏาน และตอนเหนือของอินเดีย . ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีน (ซีอีเอ็นซี) รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 9.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางเหนือแผ่นดินไหวอยู่ที่อำเภอติงกริ ที่รู้จักกันว่า เป็นประตูด้านเหนือสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ ขณะที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 10 กม. ซึ่งถือว่าตื้นและมักก่อความเสียหายได้สูง ทางด้านสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯนั้น ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรง 7.1 . อำเภอติงกริ ยังเป็นส่วนหนึ่งของเขตซีกัตเซ ซึ่งมีประชากรราว 800,000 คน และอยู่ในการบริหารปกครองของนครซีกัตเซ ที่ตามประเพณีแล้วเป็นที่ประทับของปันเชนลามะ หนึ่งในพระลามะสำคัญที่สุดในศาสนาพุทธนิกายทิเบต . ภาพวิดีโอของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เผยให้เห็นบ้านเรือนมากมายเสียหาย ผนังอาคารแยกออกจากกัน ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตได้รับการปรับให้สูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งถึงเวลาตอนดึกวันอังคาร สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ให้ตัวเลขว่าเฉพาะในทิเบต มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 126 คน และบาดเจ็บอีก 188 คน . ทั้งนี้ พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งครอบคลุมถึงทิเบต ที่มีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองระดับมณฑลของแดนมังกร เนปาล และตอนเหนือของอินเดีย เป็นพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลกอินเดียและยูเรเซียที่มาบรรจบกัน . ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารอยู่ห่างจากด้านเหนือของยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกและจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักปีนเขาและนักเดินป่าราว 80 กม. . สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในรัศมี 20 กม.จากพื้นที่เหนือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีเมืองตั้งอยู่ 3 เมือง และหมู่บ้าน 27 หมู่บ้าน จำนวนประชากรทั้งหมดประมาณ 6,900 คน ขณะนี้มีรายงานว่าบ้านเรือนกว่า 1,000 หลังได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยท้องถิ่นกว่า 1,500 คนถูกส่งไปยังพื้นที่ประสบภัย นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังนำเต็นต์ผ้าฝ้าย เสื้อคลุมผ้าฝ้าย ผ้าห่ม และเตียงพับ ไปแจกจ่ายในพื้นที่ดังกล่าวด้วย . ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นได้ประสานกับเมืองใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบผลกระทบจากแผ่นดินไหว และค้นหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนั้น หลังเกิดเหตุจีนยังห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณยอดเขาเอเวอเรสต์จากฝั่งทิเบต . สื่อจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งการให้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในการค้นหาและกู้ภัยเพื่อลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งให้จัดหาที่พักอาศัยใหม่แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และทำให้ผู้ประสบภัยปลอดภัยและอบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นติดลบ 8 องศาในติงกริ อีกทั้งคาดว่า จะลดลงอยู่ที่ -18 องศาในค่ำวันอังคาร . หมู่บ้านต่างๆ ในติงกริที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 4,000-5,000 เมตร รายงานว่า มีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกหลายสิบครั้ง ครั้งที่รุนแรงนั้นวัดความแรงได้ 4.4 . แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในทิเบตยังรับรู้ได้ถึงกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล ที่อยู่ห่างจากพื้นที่เหนือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 400 กม. ทำให้มีประชาชนจำนวนมากพากันวิ่งหนีออกจากบ้าน และผู้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งคนเป็นชายที่กระโดดลงจากชั้นบนของบ้าน . กาฐมาณฑุเคยเผชิญแผ่นดินไหวความแรง 7.8 ในปี 2015 ที่มีผู้เสียชีวิตราว 9,000 คน และบาดเจ็บหลายพันคน ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประเทศนี้ . นอกจากนั้น ประชาชนในกรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน และที่รัฐพิหาร ตอนเหนือของอินเดียที่ติดกับพรมแดนเนปาล ก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในทิเบตคราวนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด . ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวตามแนวเทือกเขาบริเวณชายแดนจีน-คีร์กีซถาน วัดความแรงได้ 7.0 มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บหลายสิบคน . และก่อนหน้านั้นขึ้นไปอีกคือในเดือนธันวาคม 2023 เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีผู้เสียชีวิต 148 คน ถือเป็นแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในจีนนับจากปี 2014 ที่เหตุธรณีพิโรธในมณฑลยูนนานคร่าชีวิตประชาชนกว่า 600 คน . แผ่นดินไหวในเดือนธันวาคม 2023 ยังเกิดขึ้นท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือยิ่งท้าทายมากขึ้น โดยผู้รอดชีวิตต้องผิงไฟกลางแจ้งเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001959 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1876 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถเมล์แอร์สาย 49 (2-43) เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณจุดกลับรถแยกประชานุกูล ปากซอยรัชดาภิเษก 62 ทับสาวแบงก์คนขี่และคนซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ตาย2ราย

    26 กันยายน 2567 จากการสอบสวนเบื้องต้น ขณะเกิดเหตุ น.ส.มนัสสนันท์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาพร้อมกับ น.ส.พิมพ์นิภา บนถนนรัชดาขาเข้า เพื่อที่จะไปทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาวงศ์สว่าง

    ระหว่างที่กำลังยูเทิร์นกลับรถที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกประชานุกูล ได้ถูกรถเมล์สาย 49 ที่วิ่งอยู่เลนขวาเบียดที่ด้านท้ายจนล้มและถูกรถเมล์คันดังกล่าวทับจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

    พ.ต.ท.จตุรพิทย์ กล่าวว่า นายจำนงค์ ให้การว่า ขณะขับรถมาตามเส้นทางบนถนนรัชดาขาเข้ามุ่งหน้า แยกประชานุกูล ถึงที่เกิดเหตุได้วิ่งเลนขวาเพื่อที่จะรอเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่น

    จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังที่บริเวณล้อหน้าด้านขวา ลักษณะเหยียบเข้ากับวัตถุอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงได้จอดรถลงมาดู ก็พบว่าได้ขับรถชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต

    อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องสอบปากคำคนขับและตรวจกล้องวงจรปิดหน้ารถและบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพทั้งสองได้ให้ทางมูลนิธิดำเนินการส่งนิติเวชโรงบาลตำรวจ เพื่อรอญาติประสานรับศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

    ต่อมา มีแถลงการณ์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
    เรื่อง ขอแสดงความเสียใจและขออภัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุว่าจากกรณีรถโดยสารปรับอากาศ สาย 49 (2 – 43) หมายเลข 8 - 55073 เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณจุดกลับรถแยกประชานุกูล ปากซอยรัชดาภิเษก 62 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 08.25 น. เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

    องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ ขสมก. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่อุบัติเหตุเขตการเดินรถที่ 8 ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมทั้ง ประสานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการชดเชยค่าเสียหาย และเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งในส่วนของความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองผู้ประสบภัยที่ ขสมก. ได้จัดทำไว้ และเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว ขสมก. จะร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพให้กับผู้เสียชีวิตต่อไป

    ทั้งนี้ ขสมก. จะเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตได้รับการชดเชยและการเยียวยาอย่างครบถ้วน โดย ขสมก. จะปรับปรุงระบบการทำงานและการให้บริการที่ดีขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และจะเข้มงวดกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของการเดินรถ ให้มีความระมัดระวังต่อการปฏิบัติงานให้มากขึ้น เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ลงชื่อ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
    วันที่ 26 กันยายน 2567

    #Thaitimes
    รถเมล์แอร์สาย 49 (2-43) เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณจุดกลับรถแยกประชานุกูล ปากซอยรัชดาภิเษก 62 ทับสาวแบงก์คนขี่และคนซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ตาย2ราย 26 กันยายน 2567 จากการสอบสวนเบื้องต้น ขณะเกิดเหตุ น.ส.มนัสสนันท์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาพร้อมกับ น.ส.พิมพ์นิภา บนถนนรัชดาขาเข้า เพื่อที่จะไปทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาวงศ์สว่าง ระหว่างที่กำลังยูเทิร์นกลับรถที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกประชานุกูล ได้ถูกรถเมล์สาย 49 ที่วิ่งอยู่เลนขวาเบียดที่ด้านท้ายจนล้มและถูกรถเมล์คันดังกล่าวทับจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.จตุรพิทย์ กล่าวว่า นายจำนงค์ ให้การว่า ขณะขับรถมาตามเส้นทางบนถนนรัชดาขาเข้ามุ่งหน้า แยกประชานุกูล ถึงที่เกิดเหตุได้วิ่งเลนขวาเพื่อที่จะรอเลี้ยวขวาเข้าถนนประชาชื่น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังที่บริเวณล้อหน้าด้านขวา ลักษณะเหยียบเข้ากับวัตถุอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงได้จอดรถลงมาดู ก็พบว่าได้ขับรถชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องสอบปากคำคนขับและตรวจกล้องวงจรปิดหน้ารถและบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพทั้งสองได้ให้ทางมูลนิธิดำเนินการส่งนิติเวชโรงบาลตำรวจ เพื่อรอญาติประสานรับศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ต่อมา มีแถลงการณ์องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เรื่อง ขอแสดงความเสียใจและขออภัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุว่าจากกรณีรถโดยสารปรับอากาศ สาย 49 (2 – 43) หมายเลข 8 - 55073 เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณจุดกลับรถแยกประชานุกูล ปากซอยรัชดาภิเษก 62 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 08.25 น. เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ ขสมก. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่อุบัติเหตุเขตการเดินรถที่ 8 ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมทั้ง ประสานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการชดเชยค่าเสียหาย และเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งในส่วนของความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองผู้ประสบภัยที่ ขสมก. ได้จัดทำไว้ และเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว ขสมก. จะร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพให้กับผู้เสียชีวิตต่อไป ทั้งนี้ ขสมก. จะเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตได้รับการชดเชยและการเยียวยาอย่างครบถ้วน โดย ขสมก. จะปรับปรุงระบบการทำงานและการให้บริการที่ดีขึ้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และจะเข้มงวดกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของการเดินรถ ให้มีความระมัดระวังต่อการปฏิบัติงานให้มากขึ้น เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ลงชื่อ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ วันที่ 26 กันยายน 2567 #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1622 มุมมอง 0 รีวิว