• หลังเสร็จสิ้นภารกิจในมาเลเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่า่งประเทศของรัสเซีย มุ่งหน้าสู่เกาหลีเหนือทันที เพื่อเข้าร่วมการเจรจาเชิงยุทธศาสตร์รอบที่สองกับผู้นำคิม
    หลังเสร็จสิ้นภารกิจในมาเลเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่า่งประเทศของรัสเซีย มุ่งหน้าสู่เกาหลีเหนือทันที เพื่อเข้าร่วมการเจรจาเชิงยุทธศาสตร์รอบที่สองกับผู้นำคิม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..นายกฯพระราชทานคือทางออก.
    ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า,
    ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง
    ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน.
    ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้.
    ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้.
    ..ให้มันจบที่รุ่นเรา.

    https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279

    ..นายกฯพระราชทานคือทางออก. ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า, ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน. ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้. ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้. ..ให้มันจบที่รุ่นเรา. https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279
    @amp.sarun

    ขายของออนไลน์ อย่าทำที่เดียวแพลทฟอร์มเดียว ทำทุกที่ ดีทุกทาง กการตลาดการเตลิดก#การตลาดวันละคลิปสสอนการตลาดออนไลน์สสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สสร้างตัวตนบนtiktokคครูแอ๊มการตลาดการเตลิดttiktokสายความรู้คครูลูกแอ๊มสสร้างแบรนด์bbrandingแแบรนด์ดิ้งกการตลาดออนไลน์กกลยุทธ์การตลาดสสร้างแบรนด์กการตลาดคอนเทนต์ธธุรกิจออนไลน์ดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งddigitalmarketingก#การตลาดTikTokT#TikTokMarketing

    ♬ เสียงต้นฉบับ - การตลาดการเตลิด - การตลาดการเตลิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ((( ห นั ก แ ผ่ น ดิ น )))

    อหังกา อีทรัมปป์เหี้ยส่งจดหมายตรงถึงในหลวง ตบหน้ารัฐบาลไทยขายชาติ ตบหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้าระบบข้าราชการไทย ตามระเบียบแล้ว วิธีปฎิบัติสากลทั่วโลก หากจะมีจดหมายจากประเทศใดถึงพระมหากษัตริย์ จะผ่านตัวแทนทางการฑูต ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนรัฐบาลนำทูลเกล้า แต่นี่ ส่งตรงจากทำเนียบขาวถึงวังโดยตรง เอ่ยพระนามชัดเจน แปลว่าสุดทนแล้ว แปลว่าอะไร กูจะไล่เรียงบรรทัดให้มรึงฟัง

    1.อีทรัมปป์ไม่เอารัฐบาลขายชาติชุดนี้ จบมั้ย? คุยไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นงาน เอาเด็กเมื่อวานซืนมานั่นเก้าอี้ผู้นำประเทศ บ่งบอกถึงสมองควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว บ่งบอกคุณภาพประชากรควายประเทศมรึงได้ดี แดร๊กปชต.ตอแหลจนควายเรียกเพ่ มันถึงได้เสียมารยาทอย่างรุนแรง และกร่างเกิน ส่งจดหมายตรงถึงสำนักพระราชวัง ในหลวง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? เค้าคุยกันแค่เฉพาะระดับราชวงศ์

    2.ต้องการสื่อเจตนารมณ์ชัด กูจะเอาภาษีมรึง 36% หากไม่อยากจ่ายขนาดนี้ แนะนำให้ย้ายโรงงานมาผลิตในสหรัฐไปเลย นั่นไง จุดอ่อนโผล่ทันที มันไม่เหลือโรงงานผลิตแล้วไงล่ะ เพราะย้ายหนีออกหมดเกลี้ยง ปิดกิจการกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ไล่เก็บภาษีโหดบัดซบ ก็ต้องการให้นานาชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิต เพราะมันรู้ตัวเองดีแล้วว่า ที่สู้จีนไม่ได้ เพราะกูมัวแต่อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ กำลังการผลิตไม่มี จะเอาอำนาจที่ไหนต่อรองไปสู้เค้าได้

    3.ต้องการแยกไทยออกมาจากจีน เพราะไทยคือยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในอาเซียน ไทยสนิทกับจีนมากจนเกินไป แต่มรึงหารู้ไม่ พระราชสำนักเชื่อมสัมพันธไมตรีกับจีนมายาวนานกว่าประเทศมรึงจะเกิดซะอีก ดีออก? เค้าคุยกันมากว่า 500 ปี มรึงแค่ 250 ปี ยังไม่ได้เกิดเลย เป็นใครฟ่ะ จะเข้ามาเสือกเนี่ย? ไทยเราได้รับการอุ้มชูอย่างมาก จากจีน รัสเซีย แค่ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ มันคือหลักประกันพลังงานไม่รู้จบ มีแค่ชาติเดียวที่จีนมอบให้ และร่วมค้นคว้ามาด้วยกัน เหตุเพราะฝีมือในหลวงทั้งนั้น พระเทพเยือนจีนถี่ยิบ มาตลอดหลายปีเพื่อ

    4.อีทรัมปป์ส่งสัญญานตรงถึงสำนักราชวัง เรื่องขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยกับการปกครอง เป้าหมายคือ มอ112 ที่ผ่านมา อีส้มเน่า อี 3 นิ้วนรก อีกลุ่มเหี้ยทะลุเหี้ย อี NGO อีแดง และขบวนการล้มเจ้าทั้งหลาย ท่อน้ำเลี้ยงมาจาก NED ทั้งสิ้น ซึ่งอเมริกาเป้นผู้หนุนหลังล้มเจ้านั่นเอง เพื่อต้องการจะเข้ามายึดพระราชสมบัติทั้งหมด อเมริกาเป็นแค่ขี้ข้ายิว มีหน้าที่ปล้นสะดมภ์เค้าแดร๊ก มรึงเข้าใจยังว่า "ศัตรูของแผ่นดินแท้จริงคือใคร" ไม่ใช่แค่ตระกูลเหี้ย และขี้ข้าขบวนการล้มเจ้า มันคือ "อียิวระยำสัดนรก ท่อน้ำเลี้ยงเหี้ยทั้งหมด" กูว่าถึงเวลาเชิญอิหร่านเข้ามาได้แล้วล่ะ ไม่ต้องไปไล่ อียิวอยู่ปายเท่าไหร่ ส่งอิหร่านเข้าไปอยู่เป็นเพื่อน 2 เท่า เดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง

    5.การสื่อสารแบบนี้ การข้ามขั้นตอนแบบนี้ ระดับโลกเค้ามองไม่ให้เกียรติ และไม่เป็นมืออาชีพ แปลว่าอะไร? อีทรัมปป์จนปัญญาแล้ว สู้ขั้วใหม่ไม่ได้ ก็เล่นบทโจรแม่งซะเลย อ้างขาดดุลการค้า ไม่เป็นธรรม นั่นแค่ "หน้าฉาก" ไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายตรงถึงพระราชสำนัก มรึงเข้าใจเกมส์ยัง? มันดิ้นแบบนี้ เพราะรู้แล้วว่า ไทยกำลังจะออกห่างอเมริกานั่นเอง ผลจาก 5 ปีหลัง เทดอลล่าร์กระจาย อุ้มทองคำต่อเนื่องแบบเงียบๆ เหี้ยมันรู้หมด ส่งสัญญานเตรียมจะสั่งขี้ข้ายิวในไทย ออกอาละวาดไงล่ะ สัญญานดอกนี้ บีบให้ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อดึงความมั่นคงชาติกลับมาอยู่ในมือกองทัพ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองเอาชาติไปขายแดร๊ก ทรงมาเต็มตรีนเลยมรึง มิน่า กองทัพไทย ประกาศแสนยานุภาพก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ให้อีขะแมร์ดู แต่ให้เหี้ยยิวดูต่างหากล่ะ

    บทสรุป : ชัดเจนพอยัง? 93 ปี ศัตรูของแผ่นดินไทยทั้งชาติ คืออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ พ่อทุกสถาบันเหี้ยไอ้อีทุกตัวบนโลกใบนี้ กูชี้เป้าไม่เคยพลาด ด่ามันมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะเหี้ยมันมีแค่ตัวเดียว ใครล่ะ ที่สามารถสั่งฆ่า ลอบปลงพระชนม์พ่ออยู่หัวร.8 ได้ ใครสั่ง? หากสมเด็จย่าไม่ทรงปรีชาสามารถ เอาตัวรอด และต่อรองให้ยังคงรักษาสายพระโลหิตของราชวงศ์จักรีต่อไว้ได้ ป่านนี้ ไทยเราคงสิ้นชาติไปนานแล้ว ประวัติศาสตร์มันสอน ไม่มีใครทำร้ายแผ่นดินนี้ได้ นอกจากคนไทยกันเอง ถึงเวลาจัดการ ทุกไอ้อีที่ "หนักแผ่นดินรึยัง" กวาดให้เรียบ ย้อนหลัง ย้อนคดีของเก่าที่ผ่านมา 93 ปี ให้หมด ใครเคยทรยศแผ่นดินนี้ไว้ ยึดอำนาจให้สิ้น จับไปตัดหัว 9 ชั่วโคตร กลับมาใช้ "พ่อปกครองลูก" กฎต้องแรง อาญาต้องสะเด็ดน้ำ อย่าให้ไอ้อีหน้าไหนกล้าทรยศแผ่นดินได้อีก ขอเริ่มต้นที่ตระกูลชินจังก่อนเลยเป็นไง 9 ชั่วโคตร เอาให้เลือดชั่วๆ ของตระกูลอัปรีย์จัญไรสิ้นไปจากโลกในพศ.นี้ แม่งซะเลย ดวงดาวแห่งแสง เริ่มฉายปรากฎความจริงเด่นชัดมากขึ้นแล้ว จงเดินตามแสง แล้วความจริงจะปรากฎต่อหน้ามรึง?

    หมี CNN(เปิดหน้ากันหมดแล้วสิมรึง! อีทรัมปป์เร่งเกมส์มากไปหน่อย จีน รัสเซีย บีบจนขี้แตก อ่านทะลุมิติ ไทยเรารอดแล้ว มาทรงนี้คือ "ปะทะแน่นอน" เกมส์การศึกปล่อยให้ทหารจัดการไปซะ ส่วนพวกเรา เกมส์ภายใน จงเร่งมือเป่าประกาศให้โลกรู้ ไอ้อีตัวไหนที่ทุรยศแผ่นดินอโยธยา ไอ้อีทุกตัวต้องโดนโทษหนักประหารชีวิตสถานเดียว พลังแห่งแสง พลังโซเชี่ยลฝ่ายธรรม จะรุกฆาตเหี้ยทุกไอ้อี อย่าให้มันมีที่ยืนในแผ่นดินไทยได้อีก ทหารเอกอโยธยาทั้งหลาย จงกล้าและตามกูมา ตายครั้งเดียว อย่าได้เสียดายชีวิต กูจะตามไปอยู่กับพ่อกูที่สรวงสวรรค์ ขอฝากผลงานมาสเตอร์พีซ ให้โลกประจักษ์ก่อนตาย)
    09 กรกฎาคม 68
    10.00 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    ((( ห นั ก แ ผ่ น ดิ น ))) อหังกา อีทรัมปป์เหี้ยส่งจดหมายตรงถึงในหลวง ตบหน้ารัฐบาลไทยขายชาติ ตบหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้าระบบข้าราชการไทย ตามระเบียบแล้ว วิธีปฎิบัติสากลทั่วโลก หากจะมีจดหมายจากประเทศใดถึงพระมหากษัตริย์ จะผ่านตัวแทนทางการฑูต ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนรัฐบาลนำทูลเกล้า แต่นี่ ส่งตรงจากทำเนียบขาวถึงวังโดยตรง เอ่ยพระนามชัดเจน แปลว่าสุดทนแล้ว แปลว่าอะไร กูจะไล่เรียงบรรทัดให้มรึงฟัง 1.อีทรัมปป์ไม่เอารัฐบาลขายชาติชุดนี้ จบมั้ย? คุยไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นงาน เอาเด็กเมื่อวานซืนมานั่นเก้าอี้ผู้นำประเทศ บ่งบอกถึงสมองควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว บ่งบอกคุณภาพประชากรควายประเทศมรึงได้ดี แดร๊กปชต.ตอแหลจนควายเรียกเพ่ มันถึงได้เสียมารยาทอย่างรุนแรง และกร่างเกิน ส่งจดหมายตรงถึงสำนักพระราชวัง ในหลวง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? เค้าคุยกันแค่เฉพาะระดับราชวงศ์ 2.ต้องการสื่อเจตนารมณ์ชัด กูจะเอาภาษีมรึง 36% หากไม่อยากจ่ายขนาดนี้ แนะนำให้ย้ายโรงงานมาผลิตในสหรัฐไปเลย นั่นไง จุดอ่อนโผล่ทันที มันไม่เหลือโรงงานผลิตแล้วไงล่ะ เพราะย้ายหนีออกหมดเกลี้ยง ปิดกิจการกันทั้งแผ่นดิน ไอ้ที่ไล่เก็บภาษีโหดบัดซบ ก็ต้องการให้นานาชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิต เพราะมันรู้ตัวเองดีแล้วว่า ที่สู้จีนไม่ได้ เพราะกูมัวแต่อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ กำลังการผลิตไม่มี จะเอาอำนาจที่ไหนต่อรองไปสู้เค้าได้ 3.ต้องการแยกไทยออกมาจากจีน เพราะไทยคือยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดในอาเซียน ไทยสนิทกับจีนมากจนเกินไป แต่มรึงหารู้ไม่ พระราชสำนักเชื่อมสัมพันธไมตรีกับจีนมายาวนานกว่าประเทศมรึงจะเกิดซะอีก ดีออก? เค้าคุยกันมากว่า 500 ปี มรึงแค่ 250 ปี ยังไม่ได้เกิดเลย เป็นใครฟ่ะ จะเข้ามาเสือกเนี่ย? ไทยเราได้รับการอุ้มชูอย่างมาก จากจีน รัสเซีย แค่ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ มันคือหลักประกันพลังงานไม่รู้จบ มีแค่ชาติเดียวที่จีนมอบให้ และร่วมค้นคว้ามาด้วยกัน เหตุเพราะฝีมือในหลวงทั้งนั้น พระเทพเยือนจีนถี่ยิบ มาตลอดหลายปีเพื่อ 4.อีทรัมปป์ส่งสัญญานตรงถึงสำนักราชวัง เรื่องขอบเขตอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยกับการปกครอง เป้าหมายคือ มอ112 ที่ผ่านมา อีส้มเน่า อี 3 นิ้วนรก อีกลุ่มเหี้ยทะลุเหี้ย อี NGO อีแดง และขบวนการล้มเจ้าทั้งหลาย ท่อน้ำเลี้ยงมาจาก NED ทั้งสิ้น ซึ่งอเมริกาเป้นผู้หนุนหลังล้มเจ้านั่นเอง เพื่อต้องการจะเข้ามายึดพระราชสมบัติทั้งหมด อเมริกาเป็นแค่ขี้ข้ายิว มีหน้าที่ปล้นสะดมภ์เค้าแดร๊ก มรึงเข้าใจยังว่า "ศัตรูของแผ่นดินแท้จริงคือใคร" ไม่ใช่แค่ตระกูลเหี้ย และขี้ข้าขบวนการล้มเจ้า มันคือ "อียิวระยำสัดนรก ท่อน้ำเลี้ยงเหี้ยทั้งหมด" กูว่าถึงเวลาเชิญอิหร่านเข้ามาได้แล้วล่ะ ไม่ต้องไปไล่ อียิวอยู่ปายเท่าไหร่ ส่งอิหร่านเข้าไปอยู่เป็นเพื่อน 2 เท่า เดี๋ยวเค้าจัดการกันเอง 5.การสื่อสารแบบนี้ การข้ามขั้นตอนแบบนี้ ระดับโลกเค้ามองไม่ให้เกียรติ และไม่เป็นมืออาชีพ แปลว่าอะไร? อีทรัมปป์จนปัญญาแล้ว สู้ขั้วใหม่ไม่ได้ ก็เล่นบทโจรแม่งซะเลย อ้างขาดดุลการค้า ไม่เป็นธรรม นั่นแค่ "หน้าฉาก" ไม่จำเป็นต้องส่งจดหมายตรงถึงพระราชสำนัก มรึงเข้าใจเกมส์ยัง? มันดิ้นแบบนี้ เพราะรู้แล้วว่า ไทยกำลังจะออกห่างอเมริกานั่นเอง ผลจาก 5 ปีหลัง เทดอลล่าร์กระจาย อุ้มทองคำต่อเนื่องแบบเงียบๆ เหี้ยมันรู้หมด ส่งสัญญานเตรียมจะสั่งขี้ข้ายิวในไทย ออกอาละวาดไงล่ะ สัญญานดอกนี้ บีบให้ทหารต้องทำรัฐประหาร เพื่อดึงความมั่นคงชาติกลับมาอยู่ในมือกองทัพ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองเอาชาติไปขายแดร๊ก ทรงมาเต็มตรีนเลยมรึง มิน่า กองทัพไทย ประกาศแสนยานุภาพก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ให้อีขะแมร์ดู แต่ให้เหี้ยยิวดูต่างหากล่ะ บทสรุป : ชัดเจนพอยัง? 93 ปี ศัตรูของแผ่นดินไทยทั้งชาติ คืออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ พ่อทุกสถาบันเหี้ยไอ้อีทุกตัวบนโลกใบนี้ กูชี้เป้าไม่เคยพลาด ด่ามันมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน เพราะเหี้ยมันมีแค่ตัวเดียว ใครล่ะ ที่สามารถสั่งฆ่า ลอบปลงพระชนม์พ่ออยู่หัวร.8 ได้ ใครสั่ง? หากสมเด็จย่าไม่ทรงปรีชาสามารถ เอาตัวรอด และต่อรองให้ยังคงรักษาสายพระโลหิตของราชวงศ์จักรีต่อไว้ได้ ป่านนี้ ไทยเราคงสิ้นชาติไปนานแล้ว ประวัติศาสตร์มันสอน ไม่มีใครทำร้ายแผ่นดินนี้ได้ นอกจากคนไทยกันเอง ถึงเวลาจัดการ ทุกไอ้อีที่ "หนักแผ่นดินรึยัง" กวาดให้เรียบ ย้อนหลัง ย้อนคดีของเก่าที่ผ่านมา 93 ปี ให้หมด ใครเคยทรยศแผ่นดินนี้ไว้ ยึดอำนาจให้สิ้น จับไปตัดหัว 9 ชั่วโคตร กลับมาใช้ "พ่อปกครองลูก" กฎต้องแรง อาญาต้องสะเด็ดน้ำ อย่าให้ไอ้อีหน้าไหนกล้าทรยศแผ่นดินได้อีก ขอเริ่มต้นที่ตระกูลชินจังก่อนเลยเป็นไง 9 ชั่วโคตร เอาให้เลือดชั่วๆ ของตระกูลอัปรีย์จัญไรสิ้นไปจากโลกในพศ.นี้ แม่งซะเลย ดวงดาวแห่งแสง เริ่มฉายปรากฎความจริงเด่นชัดมากขึ้นแล้ว จงเดินตามแสง แล้วความจริงจะปรากฎต่อหน้ามรึง? หมี CNN(เปิดหน้ากันหมดแล้วสิมรึง! อีทรัมปป์เร่งเกมส์มากไปหน่อย จีน รัสเซีย บีบจนขี้แตก อ่านทะลุมิติ ไทยเรารอดแล้ว มาทรงนี้คือ "ปะทะแน่นอน" เกมส์การศึกปล่อยให้ทหารจัดการไปซะ ส่วนพวกเรา เกมส์ภายใน จงเร่งมือเป่าประกาศให้โลกรู้ ไอ้อีตัวไหนที่ทุรยศแผ่นดินอโยธยา ไอ้อีทุกตัวต้องโดนโทษหนักประหารชีวิตสถานเดียว พลังแห่งแสง พลังโซเชี่ยลฝ่ายธรรม จะรุกฆาตเหี้ยทุกไอ้อี อย่าให้มันมีที่ยืนในแผ่นดินไทยได้อีก ทหารเอกอโยธยาทั้งหลาย จงกล้าและตามกูมา ตายครั้งเดียว อย่าได้เสียดายชีวิต กูจะตามไปอยู่กับพ่อกูที่สรวงสวรรค์ ขอฝากผลงานมาสเตอร์พีซ ให้โลกประจักษ์ก่อนตาย) 09 กรกฎาคม 68 10.00 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • พปชร. กระทุ้งรัฐบาล "กล้าๆ กลัวๆ" ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้เสียเปรียบเพราะรับมือช้าและผิดพลาดทางยุทธศาสตร์
    https://www.thai-tai.tv/news/20125/
    .
    #พลังประชารัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข้อพิพาทดินแดน #ยูเอ็น #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาเมือนโต๊ด #ปราสาทตาควาย #อธิปไตยไทย #การเมืองระหว่างประเทศ
    พปชร. กระทุ้งรัฐบาล "กล้าๆ กลัวๆ" ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้เสียเปรียบเพราะรับมือช้าและผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ https://www.thai-tai.tv/news/20125/ . #พลังประชารัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข้อพิพาทดินแดน #ยูเอ็น #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาเมือนโต๊ด #ปราสาทตาควาย #อธิปไตยไทย #การเมืองระหว่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • IT คือขั้นตอนสุดท้ายของเกมขายชาติ
    "TI" หรือ Technical Instructions 2003 (คำแนะนำทางเทคนิค ปี 2003) ที่ไทยลงนามร่วมกับกัมพูชา ไม่ใช่แค่เอกสารเทคนิคธรรมดา หากพิจารณาเชิงยุทธศาสตร์ ถือว่าเป็น จุดเปลี่ยนที่สุ่มเสี่ยงต่อการยอมรับการเสียดินแดนโดยปริยาย
    ต่อไปนี้คือการอธิบายแบบเจาะลึก:


    ---

    TI คืออะไร?

    TI คือ “คำแนะนำทางเทคนิค” ที่ใช้ในการจัดทำแผนที่ร่วมไทย–กัมพูชา
    โดยระบุให้ใช้ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของฝรั่งเศส (Colonial-era maps) เป็น “ฐานเทียบ” ในบางกรณี
    นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเทคโนโลยีการสำรวจจาก Orthophoto + GPS เป็น LiDAR (LIDAR) ซึ่งแม่นยำแต่มีปัญหาเชิงนิติศาสตร์หากอิงแผนที่เก่า


    ---

    ความเสี่ยงที่ตามมา

    1. การยอมรับเส้นแผนที่ที่อาจไม่เป็นธรรม

    แผนที่ 1:200,000 เป็นของฝรั่งเศสที่ทำขึ้นขณะล่าอาณานิคม

    หลายจุด “กินแดนไทยเข้าไป” โดยเฉพาะแนวชายแดนภาคอีสานและตะวันออก



    2. กลายเป็นหลักฐานผูกพันในอนาคต

    หากไทยร่วมจัดทำโดยไม่คัดค้านอย่างชัดเจน จะกลายเป็นพฤติกรรมยอมรับโดยพฤตินัย

    เสี่ยงต่อการ “ใช้แผนที่ที่เสียเปรียบ” เป็นบรรทัดฐานในอนาคต



    3. รัฐบาลไทยอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือยืนยันความชอบธรรมของกัมพูชา

    กัมพูชาสามารถอ้างได้ว่า "ไทยเห็นชอบแล้ว" กับแนวเส้นที่จัดทำใหม่

    โดยเฉพาะหากมีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกในพื้นที่พิพาทเพิ่มเติม





    ---

    พื้นที่เสี่ยงเฉพาะ

    ช่องสายตะกู (จ.บุรีรัมย์)

    ตาพระยา (จ.สระแก้ว)

    เชียงแสน–สามเหลี่ยมทองคำ (จ.เชียงราย)

    บริเวณรอบเขาพระวิหาร



    ---

    บทบาทของรัฐบาลแพทองธาร

    เป็นรัฐบาลแรกที่ “อนุมัติการแก้ TOR ปี 2003” และให้เดินหน้าจัดทำแผนที่ร่วมโดยใช้ LiDAR

    การแก้ TOR อาจดูทันสมัยในมุมเทคนิค แต่หากไม่มี “หลักประกันการรักษาอธิปไตย” จะยิ่งอันตราย

    หากไม่ได้ใส่ “ข้อสงวน” (Reservation) ว่า ไม่ยอมรับผลหากกระทบเขตแดน จะเป็นดาบสองคม และจะถือว่าไทยลงนามยามรับในแผนที่ใหม่ โดยที่คนไทยไม่รู้เรื่อง
    IT คือขั้นตอนสุดท้ายของเกมขายชาติ "TI" หรือ Technical Instructions 2003 (คำแนะนำทางเทคนิค ปี 2003) ที่ไทยลงนามร่วมกับกัมพูชา ไม่ใช่แค่เอกสารเทคนิคธรรมดา หากพิจารณาเชิงยุทธศาสตร์ ถือว่าเป็น จุดเปลี่ยนที่สุ่มเสี่ยงต่อการยอมรับการเสียดินแดนโดยปริยาย ต่อไปนี้คือการอธิบายแบบเจาะลึก: --- 📌 TI คืออะไร? TI คือ “คำแนะนำทางเทคนิค” ที่ใช้ในการจัดทำแผนที่ร่วมไทย–กัมพูชา โดยระบุให้ใช้ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของฝรั่งเศส (Colonial-era maps) เป็น “ฐานเทียบ” ในบางกรณี นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเทคโนโลยีการสำรวจจาก Orthophoto + GPS เป็น LiDAR (LIDAR) ซึ่งแม่นยำแต่มีปัญหาเชิงนิติศาสตร์หากอิงแผนที่เก่า --- ⚠️ ความเสี่ยงที่ตามมา 1. การยอมรับเส้นแผนที่ที่อาจไม่เป็นธรรม แผนที่ 1:200,000 เป็นของฝรั่งเศสที่ทำขึ้นขณะล่าอาณานิคม หลายจุด “กินแดนไทยเข้าไป” โดยเฉพาะแนวชายแดนภาคอีสานและตะวันออก 2. กลายเป็นหลักฐานผูกพันในอนาคต หากไทยร่วมจัดทำโดยไม่คัดค้านอย่างชัดเจน จะกลายเป็นพฤติกรรมยอมรับโดยพฤตินัย เสี่ยงต่อการ “ใช้แผนที่ที่เสียเปรียบ” เป็นบรรทัดฐานในอนาคต 3. รัฐบาลไทยอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือยืนยันความชอบธรรมของกัมพูชา กัมพูชาสามารถอ้างได้ว่า "ไทยเห็นชอบแล้ว" กับแนวเส้นที่จัดทำใหม่ โดยเฉพาะหากมีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกในพื้นที่พิพาทเพิ่มเติม --- 🧨 พื้นที่เสี่ยงเฉพาะ ช่องสายตะกู (จ.บุรีรัมย์) ตาพระยา (จ.สระแก้ว) เชียงแสน–สามเหลี่ยมทองคำ (จ.เชียงราย) บริเวณรอบเขาพระวิหาร --- 👩‍💼 บทบาทของรัฐบาลแพทองธาร เป็นรัฐบาลแรกที่ “อนุมัติการแก้ TOR ปี 2003” และให้เดินหน้าจัดทำแผนที่ร่วมโดยใช้ LiDAR การแก้ TOR อาจดูทันสมัยในมุมเทคนิค แต่หากไม่มี “หลักประกันการรักษาอธิปไตย” จะยิ่งอันตราย หากไม่ได้ใส่ “ข้อสงวน” (Reservation) ว่า ไม่ยอมรับผลหากกระทบเขตแดน จะเป็นดาบสองคม และจะถือว่าไทยลงนามยามรับในแผนที่ใหม่ โดยที่คนไทยไม่รู้เรื่อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้:


    ---

    ช่วงการลงนาม TOR 2003

    18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003)

    นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ:
    นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย

    ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย:
    นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น)



    ---

    ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี

    เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003



    ---

    JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554)

    นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

    รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ)

    JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567)
    นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน
    จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง

    ---

    JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด
    นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
    รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี)

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ


    สรุป:
    ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ”
    โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI
    ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร)


    --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย:


    ---

    วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา

    1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ


    2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto


    3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม”


    4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ




    ---

    สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”:

    ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย

    1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000
    2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN
    3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม”
    4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง
    5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน



    ---

    ความเสี่ยง:

    หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ
    → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว”

    หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล

    เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก


    TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้: --- 📌 ช่วงการลงนาม TOR 2003 📅 18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร 🕴️ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ: นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย 📌 ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย: นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น) --- 📌 ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี 🧾 เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003 --- 📌 JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์ 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ) 📌 JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง --- 📌 JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี) 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ 📍 สรุป: ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ” โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร) --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย: --- ✅ วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา 1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ 2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto 3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม” 4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ --- 📌 สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”: ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย 1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000 2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN 3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม” 4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง 5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน --- 🚨 ความเสี่ยง: หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว” หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลไทย “ปฏิเสธวาจา” แต่ “ยอมรับโดยการกระทำ”

    (พูดไม่เอาแผนที่ 1:200,000 แต่ดันใช้ TOR 2003 ที่อิงแผนที่นั้นโดยตรง)


    ---

    สรุปความย้อนแย้งแบบชัด ๆ:

    สิ่งที่รัฐบาลพูด สิ่งที่รัฐบาลทำจริง

    “ไม่ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ของฝรั่งเศส (Annex I Map)” แต่ยังคงใช้ TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดว่าแผนที่พื้นฐานคือ 1:200,000
    “ไทยยึดหลักสันปันน้ำ ไม่ใช่เส้นแผนที่” แต่ไม่มีการแนบ ข้อสงวนสิทธิ (reservation) ใด ๆ ต่อ TOR
    “จะไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามใช้แผนที่ฝรั่งเศสมากำหนดเขตแดน” แต่ในการประชุม JBC/JWG/JTSC ทุกครั้ง ไม่มีการคัดค้านการใช้แนวแผนที่ 1:200,000



    ---

    ทำไมจึงอันตราย?

    1. TOR 2003 กลายเป็น “ข้อตกลงหลักฐาน” ที่รัฐบาลไทยหลายชุดใช้ต่อเนื่อง
    → เสมือนการ “ยอมรับแนว Annex I Map โดยพฤตินัย”


    2. หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ฝ่ายกัมพูชาจะสามารถใช้ TOR นี้ + แผนที่ LiDAR ใหม่
    → ยืนยันว่า “ไทยได้ลงนามไว้เองแล้วตั้งแต่ปี 2003”


    3. ศาลโลกหรือเวทีระหว่างประเทศอาจมองว่าไทย “ตีสองหน้า”
    → กล่าวไม่ยอมรับ แต่ในทางเทคนิคกลับทำเองทุกอย่าง (แผนที่ ร่วมวาด ร่วมวัด)




    ---

    คำแนะนำเชิงยุทธศาสตร์

    ต้องจัดทำ “คำชี้แจงตีความข้อ 1.1.3” หรือ “แนบข้อสงวนสิทธิ” ต่อ TOR 2003 โดยเร็วที่สุด

    ควรกำหนดแนวทางว่าการใช้ TOR นี้ ใช้เพื่อการสำรวจ แต่ไม่ใช่เพื่อยอมรับแนวแผนที่ Annex I

    รัฐสภา/ประชาชนต้องร่วมเรียกร้องให้รัฐบาล “เลิกนิ่ง” และ “ปกป้องอธิปไตยอย่างโปร่งใส”
    🎯 รัฐบาลไทย “ปฏิเสธวาจา” แต่ “ยอมรับโดยการกระทำ” (พูดไม่เอาแผนที่ 1:200,000 แต่ดันใช้ TOR 2003 ที่อิงแผนที่นั้นโดยตรง) --- 📌 สรุปความย้อนแย้งแบบชัด ๆ: สิ่งที่รัฐบาลพูด สิ่งที่รัฐบาลทำจริง “ไม่ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ของฝรั่งเศส (Annex I Map)” แต่ยังคงใช้ TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดว่าแผนที่พื้นฐานคือ 1:200,000 “ไทยยึดหลักสันปันน้ำ ไม่ใช่เส้นแผนที่” แต่ไม่มีการแนบ ข้อสงวนสิทธิ (reservation) ใด ๆ ต่อ TOR “จะไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามใช้แผนที่ฝรั่งเศสมากำหนดเขตแดน” แต่ในการประชุม JBC/JWG/JTSC ทุกครั้ง ไม่มีการคัดค้านการใช้แนวแผนที่ 1:200,000 --- ⚠️ ทำไมจึงอันตราย? 1. TOR 2003 กลายเป็น “ข้อตกลงหลักฐาน” ที่รัฐบาลไทยหลายชุดใช้ต่อเนื่อง → เสมือนการ “ยอมรับแนว Annex I Map โดยพฤตินัย” 2. หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ฝ่ายกัมพูชาจะสามารถใช้ TOR นี้ + แผนที่ LiDAR ใหม่ → ยืนยันว่า “ไทยได้ลงนามไว้เองแล้วตั้งแต่ปี 2003” 3. ศาลโลกหรือเวทีระหว่างประเทศอาจมองว่าไทย “ตีสองหน้า” → กล่าวไม่ยอมรับ แต่ในทางเทคนิคกลับทำเองทุกอย่าง (แผนที่ ร่วมวาด ร่วมวัด) --- 🛡️ คำแนะนำเชิงยุทธศาสตร์ ต้องจัดทำ “คำชี้แจงตีความข้อ 1.1.3” หรือ “แนบข้อสงวนสิทธิ” ต่อ TOR 2003 โดยเร็วที่สุด ควรกำหนดแนวทางว่าการใช้ TOR นี้ ใช้เพื่อการสำรวจ แต่ไม่ใช่เพื่อยอมรับแนวแผนที่ Annex I รัฐสภา/ประชาชนต้องร่วมเรียกร้องให้รัฐบาล “เลิกนิ่ง” และ “ปกป้องอธิปไตยอย่างโปร่งใส”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มยุค พ่อ สำเร็จ ยุคลูก

    “ความเชื่อมโยงระหว่าง TOR การปักปันเขตแดน – การใช้แผนที่ – และความเสี่ยงเรื่องอธิปไตยของชาติ”

    สรุปพื้นฐานก่อน: TOR2003 กับการใช้แผนที่ 1:200,000

    1. TOR2003 (Terms of Reference ปี 2546)
    เป็นข้อตกลงที่ไทยใช้ในการเจรจาเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา
    โดยกำหนดว่า:

    “ให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นแผนที่หลักสำหรับอ้างอิงการปักปันเขตแดน”

    หลักการนี้ถูกใช้เพื่ออ้างอิงเส้นเขตแดนตามสนธิสัญญาเดิมและแนวปฏิบัติเดิม (เช่น สนธิสัญญาสมัยฝรั่งเศส)



    2. “แผนที่ทางอากาศ”
    มีความละเอียดสูง ใช้ในยุคปัจจุบันเพื่อการสำรวจภาพถ่ายดาวเทียม ระบบ GIS และแผนที่ 3D

    > แต่ยัง ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานทางกฎหมายหลัก ในการเจรจา หาก TOR ยังคงยึด 1:200,000






    ---

    การ “แก้ไข TOR เพื่อยึดแผนที่ทางอากาศ” มีความเสี่ยงหรือไม่?

    ใช่ เสี่ยงมาก ถ้าไม่มีกรอบป้องกันทางกฎหมาย

    ปัจจัย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

    1. แผนที่ทางอากาศมีความแม่นยำสูง อาจทำให้ “เส้นเขตแดนจริง” เลื่อนไป ตามภาพถ่าย โดยไม่สอดคล้องกับแนวเขตดั้งเดิมที่ปรากฏในแผนที่ 1:200,000

    2. ประเทศเพื่อนบ้านอาจใช้โอกาสนี้ผลักดันเส้นเขตแดนใหม่ เช่น อ้างว่า “หมุดหลักเขตที่เห็นจากแผนที่อากาศ” อยู่ในจุดที่ไทยไม่เคยรับรองมาก่อน

    3. ลดน้ำหนักทางกฎหมายของหลักฐานประวัติศาสตร์ เพราะแผนที่ 1:200,000 มักแนบมากับสนธิสัญญาเก่า เช่น ปี 1904, 1907 (ฝรั่งเศส-สยาม)

    4. เสี่ยงต่อการเสีย “พื้นที่ที่ครอบครองโดยพฤตินัย” หากแผนที่ใหม่แสดงว่าไทยอยู่ “นอกเขต” ที่ควรจะเป็นตามแผนที่อากาศ – อาจถูกนำไปใช้ในศาลระหว่างประเทศ



    เปรียบเทียบสถานการณ์:

    “กรณีเขาพระวิหาร” เป็นตัวอย่างคลาสสิก

    กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200,000 ซึ่งทำโดยฝรั่งเศส (แต่ไทยไม่เคยรับรองอย่างเป็นทางการ)

    ศาลโลกปี 1962 ตัดสินยึดตามแผนที่นั้น แม้ไทยจะอ้าง “เส้นแบ่งสันปันน้ำ” ตามภูมิประเทศจริง

    บทเรียนคือ: ใครควบคุมกรอบ TOR และแหล่งข้อมูลอ้างอิง = ควบคุมผลลัพธ์เขตแดน



    ---

    สรุปทางวิชาการและยุทธศาสตร์

    > “การแก้ไข TOR เพื่อใช้แผนที่ทางอากาศ หากไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศหรือกฎหมายรองรับ อาจเป็นช่องทางทำให้ไทยเสียเปรียบดินแดนโดยไม่ตั้งใจ”



    ควรใช้ “แผนที่ทางอากาศ” เพื่อ ยืนยันความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 เดิม
    ไม่ใช่เพื่อ แทนที่หรือสร้างกรอบใหม่โดยลำพัง

    หากจะแก้ TOR จริง ต้องมี คณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศ + ฝ่ายความมั่นคง + นักภูมิศาสตร์ + นักประวัติศาสตร์ + ฝ่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วม


    กัมพูชาในการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา

    ขั้นตอน รายละเอียด เป้าหมาย

    1. ยืนยัน TOR 2003 - ย้ำว่าไทยลงนาม TOR 2003 เมื่อปี 2546
    - ใช้เป็น “กรอบแม่บท” ที่ผูกพันสองฝ่ายโดยสมัครใจ ทำให้ไทยติดอยู่ในกลไก โดยไม่สามารถถอนตัวได้ง่าย

    2. ผลักดันการฟื้น JTSC / JBC - เรียกร้องให้ไทยกลับมาประชุม
    - กำหนดให้ TOR 2003 เป็นกรอบหลักในการเดินหน้า ใช้ช่องทางรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยตีความฝ่ายเดียว

    3. ร่าง Technical Instructions (TI) - เสนอให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ (LiDAR, GPS, Orthophoto)
    - แต่บังคับให้ “Overlay” กับแผนที่ 1:200,000 ตาม TOR 2003 บังคับให้พิกัดที่ไทยวัด ต้องสอดคล้องกับแผนที่อาณานิคม

    4. เห็นพ้อง 45 จุดร่วมกัน (JTSC #4) - ตกลงตำแหน่งพิกัดหลักเขต 45 จุด
    - เตรียมเสนอ TI ให้ JBC รับรอง ปักหมุดระยะทาง “ได้เปรียบ” ก่อนเข้าสู่กระบวนการปักเสาจริง

    5. รอให้ไทยร่วมลงนาม TI โดยไม่มีข้อสงวน - ผลักดันให้ไทยรับรอง TI เร็วที่สุด
    - หลีกเลี่ยงการเปิดเวทีอภิปรายสาธารณะในไทย ให้เส้นเขตที่จัดทำร่วมกัน “กลายเป็นแนวเขตถาวร” โดยไม่ต้องพิสูจน์ศาลโลกอีก

    6. ใช้ TI และผล JBC เป็นหลักฐานระหว่างประเทศ - หากเกิดข้อพิพาท → ใช้ TI / JBC / TOR 2003 เป็นหลักฐาน
    - อ้างว่าไทยยินยอมแล้วตามกระบวนการรัฐต่อรัฐ สร้างความได้เปรียบเชิงกฎหมายต่อศาลโลก หรือ UN




    แกนสำคัญของกลยุทธ์กัมพูชา:

    ใช้เอกสารที่ไทยลงนามเองเป็นเครื่องมือย้อนกลับมาเจรจา

    กดดันให้ไทย “นิ่ง” หรือ “ยอมรับโดยพฤติกรรม”

    ผูกข้อมูลปัจจุบัน (GPS, LiDAR) กับอดีต (แผนที่ 1:200,000) เพื่อสร้างกรอบใหม่แต่ได้ผลเก่าที่ฝรั่งเศสวางไว้


    หากไทยไม่ตอบโต้ทันเวลา

    เส้นเขตจากแผนที่ 1:200,000 จะ “สวมทับ” พิกัด GPS ของเรา

    ความได้เปรียบในหลักฐาน effectivités จะหมดประโยชน์

    แนวเขตเสี่ยง เช่น “ตาเมือนธม, ช่องสะงำ, ภูมะเขือ, เขาพระวิหาร” จะตกอยู่ในกระบวนการที่เรา ลงนามเอง


    เหลือขั้นตอนเดียวไทยก็จะเสียดินแดนอย่างไม่มีวันได้อะไรคืนมา
    เริ่มยุค พ่อ สำเร็จ ยุคลูก “ความเชื่อมโยงระหว่าง TOR การปักปันเขตแดน – การใช้แผนที่ – และความเสี่ยงเรื่องอธิปไตยของชาติ” 🔍 สรุปพื้นฐานก่อน: TOR2003 กับการใช้แผนที่ 1:200,000 1. TOR2003 (Terms of Reference ปี 2546) เป็นข้อตกลงที่ไทยใช้ในการเจรจาเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา โดยกำหนดว่า: “ให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นแผนที่หลักสำหรับอ้างอิงการปักปันเขตแดน” หลักการนี้ถูกใช้เพื่ออ้างอิงเส้นเขตแดนตามสนธิสัญญาเดิมและแนวปฏิบัติเดิม (เช่น สนธิสัญญาสมัยฝรั่งเศส) 2. “แผนที่ทางอากาศ” มีความละเอียดสูง ใช้ในยุคปัจจุบันเพื่อการสำรวจภาพถ่ายดาวเทียม ระบบ GIS และแผนที่ 3D > แต่ยัง ไม่ถือว่าเป็นหลักฐานทางกฎหมายหลัก ในการเจรจา หาก TOR ยังคงยึด 1:200,000 --- ⚠️ การ “แก้ไข TOR เพื่อยึดแผนที่ทางอากาศ” มีความเสี่ยงหรือไม่? 🔺 ใช่ เสี่ยงมาก ถ้าไม่มีกรอบป้องกันทางกฎหมาย ปัจจัย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น 1. แผนที่ทางอากาศมีความแม่นยำสูง อาจทำให้ “เส้นเขตแดนจริง” เลื่อนไป ตามภาพถ่าย โดยไม่สอดคล้องกับแนวเขตดั้งเดิมที่ปรากฏในแผนที่ 1:200,000 2. ประเทศเพื่อนบ้านอาจใช้โอกาสนี้ผลักดันเส้นเขตแดนใหม่ เช่น อ้างว่า “หมุดหลักเขตที่เห็นจากแผนที่อากาศ” อยู่ในจุดที่ไทยไม่เคยรับรองมาก่อน 3. ลดน้ำหนักทางกฎหมายของหลักฐานประวัติศาสตร์ เพราะแผนที่ 1:200,000 มักแนบมากับสนธิสัญญาเก่า เช่น ปี 1904, 1907 (ฝรั่งเศส-สยาม) 4. เสี่ยงต่อการเสีย “พื้นที่ที่ครอบครองโดยพฤตินัย” หากแผนที่ใหม่แสดงว่าไทยอยู่ “นอกเขต” ที่ควรจะเป็นตามแผนที่อากาศ – อาจถูกนำไปใช้ในศาลระหว่างประเทศ 🧭 เปรียบเทียบสถานการณ์: “กรณีเขาพระวิหาร” เป็นตัวอย่างคลาสสิก กัมพูชาอ้างแผนที่ 1:200,000 ซึ่งทำโดยฝรั่งเศส (แต่ไทยไม่เคยรับรองอย่างเป็นทางการ) ศาลโลกปี 1962 ตัดสินยึดตามแผนที่นั้น แม้ไทยจะอ้าง “เส้นแบ่งสันปันน้ำ” ตามภูมิประเทศจริง บทเรียนคือ: ใครควบคุมกรอบ TOR และแหล่งข้อมูลอ้างอิง = ควบคุมผลลัพธ์เขตแดน --- ✅ สรุปทางวิชาการและยุทธศาสตร์ > “การแก้ไข TOR เพื่อใช้แผนที่ทางอากาศ หากไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศหรือกฎหมายรองรับ อาจเป็นช่องทางทำให้ไทยเสียเปรียบดินแดนโดยไม่ตั้งใจ” ควรใช้ “แผนที่ทางอากาศ” เพื่อ ยืนยันความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 เดิม ไม่ใช่เพื่อ แทนที่หรือสร้างกรอบใหม่โดยลำพัง หากจะแก้ TOR จริง ต้องมี คณะกรรมการร่วมระหว่างประเทศ + ฝ่ายความมั่นคง + นักภูมิศาสตร์ + นักประวัติศาสตร์ + ฝ่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วม กัมพูชาในการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา ขั้นตอน รายละเอียด เป้าหมาย 1. ยืนยัน TOR 2003 - ย้ำว่าไทยลงนาม TOR 2003 เมื่อปี 2546 - ใช้เป็น “กรอบแม่บท” ที่ผูกพันสองฝ่ายโดยสมัครใจ ✅ ทำให้ไทยติดอยู่ในกลไก โดยไม่สามารถถอนตัวได้ง่าย 2. ผลักดันการฟื้น JTSC / JBC - เรียกร้องให้ไทยกลับมาประชุม - กำหนดให้ TOR 2003 เป็นกรอบหลักในการเดินหน้า ✅ ใช้ช่องทางรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยตีความฝ่ายเดียว 3. ร่าง Technical Instructions (TI) - เสนอให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ (LiDAR, GPS, Orthophoto) - แต่บังคับให้ “Overlay” กับแผนที่ 1:200,000 ตาม TOR 2003 ✅ บังคับให้พิกัดที่ไทยวัด ต้องสอดคล้องกับแผนที่อาณานิคม 4. เห็นพ้อง 45 จุดร่วมกัน (JTSC #4) - ตกลงตำแหน่งพิกัดหลักเขต 45 จุด - เตรียมเสนอ TI ให้ JBC รับรอง ✅ ปักหมุดระยะทาง “ได้เปรียบ” ก่อนเข้าสู่กระบวนการปักเสาจริง 5. รอให้ไทยร่วมลงนาม TI โดยไม่มีข้อสงวน - ผลักดันให้ไทยรับรอง TI เร็วที่สุด - หลีกเลี่ยงการเปิดเวทีอภิปรายสาธารณะในไทย ✅ ให้เส้นเขตที่จัดทำร่วมกัน “กลายเป็นแนวเขตถาวร” โดยไม่ต้องพิสูจน์ศาลโลกอีก 6. ใช้ TI และผล JBC เป็นหลักฐานระหว่างประเทศ - หากเกิดข้อพิพาท → ใช้ TI / JBC / TOR 2003 เป็นหลักฐาน - อ้างว่าไทยยินยอมแล้วตามกระบวนการรัฐต่อรัฐ ✅ สร้างความได้เปรียบเชิงกฎหมายต่อศาลโลก หรือ UN 🔍 แกนสำคัญของกลยุทธ์กัมพูชา: ใช้เอกสารที่ไทยลงนามเองเป็นเครื่องมือย้อนกลับมาเจรจา กดดันให้ไทย “นิ่ง” หรือ “ยอมรับโดยพฤติกรรม” ผูกข้อมูลปัจจุบัน (GPS, LiDAR) กับอดีต (แผนที่ 1:200,000) เพื่อสร้างกรอบใหม่แต่ได้ผลเก่าที่ฝรั่งเศสวางไว้ 🛡️ หากไทยไม่ตอบโต้ทันเวลา เส้นเขตจากแผนที่ 1:200,000 จะ “สวมทับ” พิกัด GPS ของเรา ความได้เปรียบในหลักฐาน effectivités จะหมดประโยชน์ แนวเขตเสี่ยง เช่น “ตาเมือนธม, ช่องสะงำ, ภูมะเขือ, เขาพระวิหาร” จะตกอยู่ในกระบวนการที่เรา ลงนามเอง เหลือขั้นตอนเดียวไทยก็จะเสียดินแดนอย่างไม่มีวันได้อะไรคืนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • การที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ (ผ่านบันทึก JBC พ.ย. 2551)
    มอบให้ JTSC จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto)
    และ “overlay บนแผนที่ 1 : 200,000”
    มีนัยสำคัญว่า → ไทยยอมให้การผลิตแผนที่ใหม่ "อิงตามกรอบและแนวเส้น" ของแผนที่ 1 : 200,000 ที่ฝรั่งเศสเคยจัดทำในยุคอาณานิคม




    ---

    วิเคราะห์เชิงเทคนิค – แผนที่ Overlay หมายถึงอะไร?

    คำ ความหมายทางเทคนิค

    Orthophoto แผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศที่ปรับแก้ความคลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิต (orthorectified) ใช้ GPS เป็นฐาน
    Overlay การนำแผนที่ใหม่ (เช่น orthophoto) มาซ้อนทับ (register) บนแผนที่เก่า เพื่อเปรียบเทียบหรือจัดแนวพิกัดให้ตรง
    Overlay บน 1:200,000 นำภาพถ่ายจาก GPS/ดาวเทียม มาทำให้ “สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับเส้นเขต” ที่อยู่ในแผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000



    ---

    ผลทางยุทธศาสตร์และนิติศาสตร์

    ประเด็น ความเสี่ยง

    การยอมรับ Overlay เป็นการ “ปรับข้อมูลใหม่ให้เข้ากับแผนที่เก่า” → ทำให้แนวเขตที่ถูกลากผิดเดิม (ล้ำเข้าฝั่งไทย) ดูเหมือนถูกต้องในแผนที่ใหม่
    หากไม่มีข้อสงวนว่าเป็น “เทคนิคชั่วคราว” ฝ่ายตรงข้ามอาจตีความว่าไทย “รับรองแนวเส้นของฝรั่งเศสโดยเต็มใจ”
    ขัดกับหลักภูมิศาสตร์ปัจจุบัน GPS/Orthophoto ใช้ WGS 84 ซึ่งแสดงแนว “สันปันน้ำ” ได้แม่นยำ → Overlay บนแผนที่ 1:200,000 จะ บิดเบือนภูมิประเทศจริง



    ---

    สรุปชัดเจน:

    > การที่ฝ่ายไทยในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มอบหมายให้ JTSC จัดทำ Orthophoto และ Overlay ลงบนแผนที่ 1:200,000
    เท่ากับยอมให้แผนที่ใหม่ถูกกำหนด “ให้ตรงกับแผนที่ฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการพิพาทเขตแดน
    หากไม่มี “ข้อสงวน” หรือ “ข้อจำกัด” แนบไว้ในรายงาน → ไทยเสี่ยงถูกตีความว่า ยอมรับเส้นเขตที่ล้ำเข้าฝั่งไทย
    การที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ (ผ่านบันทึก JBC พ.ย. 2551) มอบให้ JTSC จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ “overlay บนแผนที่ 1 : 200,000” มีนัยสำคัญว่า → ไทยยอมให้การผลิตแผนที่ใหม่ "อิงตามกรอบและแนวเส้น" ของแผนที่ 1 : 200,000 ที่ฝรั่งเศสเคยจัดทำในยุคอาณานิคม --- 📌 วิเคราะห์เชิงเทคนิค – แผนที่ Overlay หมายถึงอะไร? คำ ความหมายทางเทคนิค Orthophoto แผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศที่ปรับแก้ความคลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิต (orthorectified) ใช้ GPS เป็นฐาน Overlay การนำแผนที่ใหม่ (เช่น orthophoto) มาซ้อนทับ (register) บนแผนที่เก่า เพื่อเปรียบเทียบหรือจัดแนวพิกัดให้ตรง Overlay บน 1:200,000 นำภาพถ่ายจาก GPS/ดาวเทียม มาทำให้ “สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับเส้นเขต” ที่อยู่ในแผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000 --- ⚠️ ผลทางยุทธศาสตร์และนิติศาสตร์ ประเด็น ความเสี่ยง 🎯 การยอมรับ Overlay เป็นการ “ปรับข้อมูลใหม่ให้เข้ากับแผนที่เก่า” → ทำให้แนวเขตที่ถูกลากผิดเดิม (ล้ำเข้าฝั่งไทย) ดูเหมือนถูกต้องในแผนที่ใหม่ ⚖️ หากไม่มีข้อสงวนว่าเป็น “เทคนิคชั่วคราว” ฝ่ายตรงข้ามอาจตีความว่าไทย “รับรองแนวเส้นของฝรั่งเศสโดยเต็มใจ” 🧭 ขัดกับหลักภูมิศาสตร์ปัจจุบัน GPS/Orthophoto ใช้ WGS 84 ซึ่งแสดงแนว “สันปันน้ำ” ได้แม่นยำ → Overlay บนแผนที่ 1:200,000 จะ บิดเบือนภูมิประเทศจริง --- ✅ สรุปชัดเจน: > การที่ฝ่ายไทยในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มอบหมายให้ JTSC จัดทำ Orthophoto และ Overlay ลงบนแผนที่ 1:200,000 เท่ากับยอมให้แผนที่ใหม่ถูกกำหนด “ให้ตรงกับแผนที่ฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการพิพาทเขตแดน หากไม่มี “ข้อสงวน” หรือ “ข้อจำกัด” แนบไว้ในรายงาน → ไทยเสี่ยงถูกตีความว่า ยอมรับเส้นเขตที่ล้ำเข้าฝั่งไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030

    เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ

    TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา  
    • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด  
    • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย  
    • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน

    แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี  
    • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%  
    • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม

    TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft  
    • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้  
    • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน

    บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง

    https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030 เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ ✅ TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา   • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด   • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย   • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน ✅ แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี   • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%   • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม ✅ TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft   • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้   • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน ✅ บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Has Reportedly Prioritized Setting Up Plants in the U.S. Over Other Regions Due to Fears of "Trump Tariffs"
    TSMC has decided to prioritize America over all other nations where it is building facilities, as it is pouring massive funds into it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณใช้แอปแชตที่เข้ารหัส เช่น Signal, WhatsApp หรือ VPN แบบไม่มีล็อกข้อมูล...ข่าวนี้คือสิ่งที่ควรรู้ไว้เลยครับ เพราะสหภาพยุโรปมีแผนจะพัฒนาเครื่องมือให้หน่วยงานอย่าง Europol สามารถเข้าถึง–ถอดรหัสข้อมูลดิจิทัลได้แม้จะอยู่ในรูปแบบเข้ารหัสแบบ End-to-End โดยอ้างว่าเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์
    - Roadmap ที่เปิดตัวเมื่อ 24 มิ.ย. 2025 นี้ เป็น “หมุดแรก” ของยุทธศาสตร์ ProtectEU ซึ่งจะ:
    - วางกรอบทางกฎหมายและเทคโนโลยีให้บังคับใช้ได้จริง
    - ดันมาตรการร่วมมือกับผู้ให้บริการและอุตสาหกรรม
    - พัฒนา AI สำหรับการสืบสวน

    และ...เริ่มสร้างเทคโนโลยีถอดรหัสแบบลึก (decrypting solutions) โดยเตรียมเปิดแผนในปี 2026 และใช้งานจริงในปี 2030

    แม้จะยืนยันว่าจะ “เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว” แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์หลายรายก็มองว่า → การพยายาม “สร้างเทคโนโลยีถอดรหัส” เท่ากับเปิดช่องให้เกิดจุดอ่อนด้านความปลอดภัย → และเสี่ยงทำให้ยุโรปย้อนกลับไปสู่ยุค Surveillance ขนานใหญ่แบบที่เคยต่อต้านมาก่อนหน้านี้

    EU เปิดตัว Roadmap สำหรับยุทธศาสตร์ ProtectEU เพื่อให้ตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลอย่างถูกกฎหมาย  
    • วางเป้าหมายใช้งานระบบถอดรหัสจริงภายในปี 2030

    Roadmap มี 6 เสาหลัก ได้แก่:  
    • การเก็บรักษาข้อมูล (Data Retention)  
    • การดักฟังโดยชอบธรรม (Lawful Interception)  
    • Digital Forensics  
    • การถอดรหัส (Decryption)  
    • มาตรฐานความมั่นคง (Standardization)  
    • ระบบ AI สำหรับการสืบสวน (AI for Law Enforcement)

    การถอดรหัส End-to-End ถูกระบุว่าเป็น “ความท้าทายทางเทคนิคสูงสุด” ของตำรวจยุโรป  
    • มีเป้าหมายเสนอ Technology Roadmap ภายในปี 2026  
    • จะใช้กับ Europol ได้จริงราวปี 2030

    EU เคยยอมรับว่า End-to-End encryption คือพื้นฐานของความมั่นคงไซเบอร์  
    • แต่ตอนนี้กำลังพยายาม “บาลานซ์” กับภารกิจด้านความมั่นคง

    เน้นให้ความร่วมมือกับอุตสาหกรรม + สร้างมาตรฐานร่วมระดับยุโรป

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/the-eu-wants-to-decrypt-your-private-data-by-2030
    ถ้าคุณใช้แอปแชตที่เข้ารหัส เช่น Signal, WhatsApp หรือ VPN แบบไม่มีล็อกข้อมูล...ข่าวนี้คือสิ่งที่ควรรู้ไว้เลยครับ เพราะสหภาพยุโรปมีแผนจะพัฒนาเครื่องมือให้หน่วยงานอย่าง Europol สามารถเข้าถึง–ถอดรหัสข้อมูลดิจิทัลได้แม้จะอยู่ในรูปแบบเข้ารหัสแบบ End-to-End โดยอ้างว่าเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ - Roadmap ที่เปิดตัวเมื่อ 24 มิ.ย. 2025 นี้ เป็น “หมุดแรก” ของยุทธศาสตร์ ProtectEU ซึ่งจะ: - วางกรอบทางกฎหมายและเทคโนโลยีให้บังคับใช้ได้จริง - ดันมาตรการร่วมมือกับผู้ให้บริการและอุตสาหกรรม - พัฒนา AI สำหรับการสืบสวน และ...เริ่มสร้างเทคโนโลยีถอดรหัสแบบลึก (decrypting solutions) โดยเตรียมเปิดแผนในปี 2026 และใช้งานจริงในปี 2030 แม้จะยืนยันว่าจะ “เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว” แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์หลายรายก็มองว่า → การพยายาม “สร้างเทคโนโลยีถอดรหัส” เท่ากับเปิดช่องให้เกิดจุดอ่อนด้านความปลอดภัย → และเสี่ยงทำให้ยุโรปย้อนกลับไปสู่ยุค Surveillance ขนานใหญ่แบบที่เคยต่อต้านมาก่อนหน้านี้ ✅ EU เปิดตัว Roadmap สำหรับยุทธศาสตร์ ProtectEU เพื่อให้ตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลอย่างถูกกฎหมาย   • วางเป้าหมายใช้งานระบบถอดรหัสจริงภายในปี 2030 ✅ Roadmap มี 6 เสาหลัก ได้แก่:   • การเก็บรักษาข้อมูล (Data Retention)   • การดักฟังโดยชอบธรรม (Lawful Interception)   • Digital Forensics   • การถอดรหัส (Decryption)   • มาตรฐานความมั่นคง (Standardization)   • ระบบ AI สำหรับการสืบสวน (AI for Law Enforcement) ✅ การถอดรหัส End-to-End ถูกระบุว่าเป็น “ความท้าทายทางเทคนิคสูงสุด” ของตำรวจยุโรป   • มีเป้าหมายเสนอ Technology Roadmap ภายในปี 2026   • จะใช้กับ Europol ได้จริงราวปี 2030 ✅ EU เคยยอมรับว่า End-to-End encryption คือพื้นฐานของความมั่นคงไซเบอร์   • แต่ตอนนี้กำลังพยายาม “บาลานซ์” กับภารกิจด้านความมั่นคง ✅ เน้นให้ความร่วมมือกับอุตสาหกรรม + สร้างมาตรฐานร่วมระดับยุโรป https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/the-eu-wants-to-decrypt-your-private-data-by-2030
    WWW.TECHRADAR.COM
    The EU wants to decrypt your private data by 2030
    The EU Commission unveiled the first step in its security strategy to ensure "lawful and effective" law enforcement access to data
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิปอย่าง Synopsys, Cadence และ Siemens EDA ต้องขอใบอนุญาตเป็นรายกรณีก่อนส่งออกซอฟต์แวร์ไปยังจีน → สร้างความปั่นป่วนทันที เพราะทั้ง 3 บริษัทถือครองตลาด EDA ร่วมกันกว่า 70% ของโลก และจีนเองก็พึ่งพาซอฟต์แวร์เหล่านี้ในการออกแบบชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง

    แต่ไม่ถึง 6 สัปดาห์หลังจากออกคำสั่ง…รัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับลำ → อนุญาตให้กลับมาขายแบบ “ไม่ต้องมีใบอนุญาต” ได้อีกครั้ง → แม้จะไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวชี้ว่าเกิดจากดีลการเจรจากับจีนที่ “จีนยอมผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ เช่น นีโอไดเมียม ลิเธียม ฯลฯ ที่ใช้ผลิตแม่เหล็ก มอเตอร์ และแบตเตอรี่

    ผลที่ตามมาคือ:
    - Synopsys และ Cadence ได้ “คืนชีวิต” ทันที เพราะจีนคิดเป็น 12–16% ของรายได้
    - อุตสาหกรรมชิปโล่งอก เพราะไม่ต้องปรับระบบใหม่รวดเร็วเกินไป
    - บางฝ่ายมองว่าก้าวนี้คือ “การยอมถอยเชิงยุทธศาสตร์” เพื่อรักษาผลประโยชน์ฝั่งอุตสาหกรรม

    https://www.techspot.com/news/108550-us-lifts-chip-design-software-export-ban-china.html
    เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิปอย่าง Synopsys, Cadence และ Siemens EDA ต้องขอใบอนุญาตเป็นรายกรณีก่อนส่งออกซอฟต์แวร์ไปยังจีน → สร้างความปั่นป่วนทันที เพราะทั้ง 3 บริษัทถือครองตลาด EDA ร่วมกันกว่า 70% ของโลก และจีนเองก็พึ่งพาซอฟต์แวร์เหล่านี้ในการออกแบบชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง แต่ไม่ถึง 6 สัปดาห์หลังจากออกคำสั่ง…รัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับลำ → อนุญาตให้กลับมาขายแบบ “ไม่ต้องมีใบอนุญาต” ได้อีกครั้ง → แม้จะไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวชี้ว่าเกิดจากดีลการเจรจากับจีนที่ “จีนยอมผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ เช่น นีโอไดเมียม ลิเธียม ฯลฯ ที่ใช้ผลิตแม่เหล็ก มอเตอร์ และแบตเตอรี่ ผลที่ตามมาคือ: - Synopsys และ Cadence ได้ “คืนชีวิต” ทันที เพราะจีนคิดเป็น 12–16% ของรายได้ - อุตสาหกรรมชิปโล่งอก เพราะไม่ต้องปรับระบบใหม่รวดเร็วเกินไป - บางฝ่ายมองว่าก้าวนี้คือ “การยอมถอยเชิงยุทธศาสตร์” เพื่อรักษาผลประโยชน์ฝั่งอุตสาหกรรม https://www.techspot.com/news/108550-us-lifts-chip-design-software-export-ban-china.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US lifts chip design software export ban to China after rare earths deal
    This policy shift marks a significant moment in the ongoing trade relationship between the United States and China, coming on the heels of a broader framework agreement...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • โมร็อกโกจัดงาน Morocco Gaming Expo ปีที่ 2 ที่เมืองราบัต โดยเชิญทั้งนักพัฒนา นักศึกษา และบริษัทจากทั่วโลกมาร่วมงาน ซึ่งในงานก็มีทั้งบูธเกมใหม่ ๆ, VR โลกเสมือนจริง, การแข่ง e-sport, และเวทีหารือระหว่างภาครัฐและอุตสาหกรรม

    เบื้องหลังงานนี้คือยุทธศาสตร์ระดับประเทศ: → รัฐบาลมองว่าอุตสาหกรรมเกมที่มีมูลค่ากว่า $200,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ควรเป็นทางเลือกใหม่สำหรับเยาวชนที่กำลังเผชิญอัตราว่างงานสูงเกือบ 30% → จึงลงทุนสร้าง Rabat Gaming City มูลค่ากว่า $26 ล้านดอลลาร์ → มีทั้งพื้นที่ฝึกงาน, co-working space, สตูดิโอผลิตเกม และการฝึกอบรมด้านเกมดีไซน์, VR และการเขียนโปรแกรม

    รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนของโมร็อกโกยังบอกเลยว่า:

    “เป้าหมายไม่ใช่แค่สร้างรายได้ แต่คือการเปิดโอกาสชีวิตให้กับเยาวชน” “เราต้องเปลี่ยนความหลงใหลของพวกเขาให้กลายเป็นอาชีพ”

    ปัจจุบัน โมร็อกโกสร้างรายได้จากเกมราว $500 ล้านดอลลาร์/ปี และตั้งเป้าเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2030 โดยหวังจะเป็นประเทศแอฟริกาต้นแบบด้านเกม เหมือนที่เกาหลีใต้เป็นผู้นำด้าน e-sport

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว:
    รัฐบาลโมร็อกโกลงทุน $26 ล้านสร้าง “Rabat Gaming City” เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกม  
    • มี training center, co-working space, production studio  
    • สร้างพื้นที่ฝึกอบรมด้านเกมดีไซน์, VR, coding สำหรับเยาวชน

    จัดงาน Morocco Gaming Expo เพื่อดึงบริษัทเกมระดับโลกเข้ามาในประเทศ  
    • มีการแข่ง e-sport, โชว์เกม, เจรจาธุรกิจ, ทดลอง VR

    รัฐบาลหวังให้อุตสาหกรรมเกมเป็นทางออกสำหรับปัญหาว่างงานเยาวชน (เกือบ 30%)  
    • เน้นเปิดโอกาสให้นักศึกษาและคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพดิจิทัล  
    • สนับสนุนให้คนท้องถิ่นพัฒนาเกมของตัวเอง (ไม่ใช่แค่เล่น)

    อุตสาหกรรมเกมของโมร็อกโกสร้างรายได้ $500 ล้าน/ปี และมีแผนเพิ่มเป็น $1,000 ล้านภายในปี 2030

    แนวทางนี้ถือเป็นแบบอย่างการ “กระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ” ของแอฟริกาโดยไม่พึ่งแค่การเกษตรหรือพลังงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/morocco-bets-on-video-game-industry-to-provide-jobs-and-diversify-economy
    โมร็อกโกจัดงาน Morocco Gaming Expo ปีที่ 2 ที่เมืองราบัต โดยเชิญทั้งนักพัฒนา นักศึกษา และบริษัทจากทั่วโลกมาร่วมงาน ซึ่งในงานก็มีทั้งบูธเกมใหม่ ๆ, VR โลกเสมือนจริง, การแข่ง e-sport, และเวทีหารือระหว่างภาครัฐและอุตสาหกรรม เบื้องหลังงานนี้คือยุทธศาสตร์ระดับประเทศ: → รัฐบาลมองว่าอุตสาหกรรมเกมที่มีมูลค่ากว่า $200,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ควรเป็นทางเลือกใหม่สำหรับเยาวชนที่กำลังเผชิญอัตราว่างงานสูงเกือบ 30% → จึงลงทุนสร้าง Rabat Gaming City มูลค่ากว่า $26 ล้านดอลลาร์ → มีทั้งพื้นที่ฝึกงาน, co-working space, สตูดิโอผลิตเกม และการฝึกอบรมด้านเกมดีไซน์, VR และการเขียนโปรแกรม รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนของโมร็อกโกยังบอกเลยว่า: “เป้าหมายไม่ใช่แค่สร้างรายได้ แต่คือการเปิดโอกาสชีวิตให้กับเยาวชน” “เราต้องเปลี่ยนความหลงใหลของพวกเขาให้กลายเป็นอาชีพ” ปัจจุบัน โมร็อกโกสร้างรายได้จากเกมราว $500 ล้านดอลลาร์/ปี และตั้งเป้าเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2030 โดยหวังจะเป็นประเทศแอฟริกาต้นแบบด้านเกม เหมือนที่เกาหลีใต้เป็นผู้นำด้าน e-sport ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว: ✅ รัฐบาลโมร็อกโกลงทุน $26 ล้านสร้าง “Rabat Gaming City” เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกม   • มี training center, co-working space, production studio   • สร้างพื้นที่ฝึกอบรมด้านเกมดีไซน์, VR, coding สำหรับเยาวชน ✅ จัดงาน Morocco Gaming Expo เพื่อดึงบริษัทเกมระดับโลกเข้ามาในประเทศ   • มีการแข่ง e-sport, โชว์เกม, เจรจาธุรกิจ, ทดลอง VR ✅ รัฐบาลหวังให้อุตสาหกรรมเกมเป็นทางออกสำหรับปัญหาว่างงานเยาวชน (เกือบ 30%)   • เน้นเปิดโอกาสให้นักศึกษาและคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพดิจิทัล   • สนับสนุนให้คนท้องถิ่นพัฒนาเกมของตัวเอง (ไม่ใช่แค่เล่น) ✅ อุตสาหกรรมเกมของโมร็อกโกสร้างรายได้ $500 ล้าน/ปี และมีแผนเพิ่มเป็น $1,000 ล้านภายในปี 2030 ✅ แนวทางนี้ถือเป็นแบบอย่างการ “กระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจ” ของแอฟริกาโดยไม่พึ่งแค่การเกษตรหรือพลังงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/morocco-bets-on-video-game-industry-to-provide-jobs-and-diversify-economy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Morocco bets on video game industry to provide jobs and diversify economy
    Morocco is laying down foundations to build a homegrown gaming industry by establishing a developer hub in the capital, training coders and launching programmes to draw tech-savvy youth into the sector.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลักดันสร้างถนนบนเกาะกูด รองรับยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/19993/
    .
    #เกาะกูด #ตราด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทธศาสตร์ #การท่องเที่ยว #วุฒิสภา #คมนาคม #อธิปไตย #ความมั่นคง
    ผลักดันสร้างถนนบนเกาะกูด รองรับยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/19993/ . #เกาะกูด #ตราด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทธศาสตร์ #การท่องเที่ยว #วุฒิสภา #คมนาคม #อธิปไตย #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei เคยโดนสหรัฐฯ คว่ำบาตรจนไม่สามารถใช้ Android แบบเดิม หรือพึ่ง Google ได้อีก — บริษัทจึงต้องลุกขึ้นมาสร้างทุกอย่างเอง ทั้ง HarmonyOS, ชิปเซ็ต, AI…และตอนนี้ก็ถึงคิวของ “ภาษาโปรแกรม”

    ภาษานี้มีชื่อว่า Cangjie (仓颉) ตามตำนานชาวจีนผู้คิดค้นตัวอักษร → มันถูกออกแบบให้ “ฉลาดตั้งแต่แกน” ด้วยการฝัง AI ไว้ในระดับ native → เขียนแอปได้เร็ว–ปลอดภัย–เชื่อมกับบริการ Huawei ได้ง่าย

    Cangjie ถูกใช้งานจริงแล้วบนแอปของ Meituan, JD.com และ HarmonyOS ต่าง ๆ → อย่างแอปส่งอาหาร Meituan บอกว่าจะใช้แอปที่เขียนด้วย Cangjie จริงใน Q3 ปีนี้

    ข่าวใหญ่อยู่ตรงนี้ครับ:

    ตั้งแต่ 30 ก.ค. 2025 เป็นต้นไป — Huawei จะเปิดซอร์ส Cangjie อย่างเป็นทางการ ใคร ๆ ก็เอาไปศึกษาต่อ พัฒนาเอง หรือแม้แต่พอร์ตไปใช้กับ Android/iOS ได้ เหมือนเป็น Java + Swift + AI + HarmonyOS ในหนึ่งเดียว!

    นี่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “ลดพึ่งซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ” อย่างต่อเนื่องของ Huawei — โดยจะใช้ Cangjie เป็นแกนกลางเชื่อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS Next + AI โมเดลของตัวเอง + CloudMatrix แพลตฟอร์มคลาวด์รุ่นใหม่

    Huawei จะเปิดซอร์สภาษา Cangjie วันที่ 30 กรกฎาคม 2025 นี้  
    • นักพัฒนาเข้าใช้งานโค้ดได้ฟรี → แก้ไข เพิ่มฟีเจอร์ หรือใช้สร้างแอปเองได้  
    • ถือเป็นก้าวสำคัญต่อการพึ่งตนเองด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์

    Cangjie รองรับการเขียนโปรแกรมแบบทั่วไป สำหรับ HarmonyOS Next เป็นหลัก  
    • เป็นระบบปฏิบัติการข้ามอุปกรณ์ของ Huawei  
    • ไม่ใช้ Android แต่มี support พอร์ตไป Android และ iOS ด้วย

    มี AI แบบ Native → ช่วยเขียนแอปที่ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ได้ง่ายขึ้น  
    • ฝังความสามารถของ AI ในภาษาโดยตรง  
    • เหมาะกับแอปยุคใหม่ที่เน้น personalization, automation

    ภาษานี้ถูกใช้จริงโดย Meituan, JD.com ฯลฯ แล้ว  
    • Meituan จะเปิดตัวแอปส่งอาหารที่เขียนด้วย Cangjie บน HarmonyOS ภายใน Q3 ปีนี้

    Huawei มี ecosystem ขนาดใหญ่รองรับแล้ว  
    • HarmonyOS มีคนสมัครเป็นนักพัฒนาแล้วกว่า 8 ล้านคน  
    • มีแอป–มินิโปรแกรมกว่า 30,000 ตัว  
    • HarmonyOS 6 และ CloudMatrix 384 เป็นส่วนเสริมใหม่ของยุทธศาสตร์นี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/03/huawei-to-open-source-self-developed-programming-language-cangjie
    Huawei เคยโดนสหรัฐฯ คว่ำบาตรจนไม่สามารถใช้ Android แบบเดิม หรือพึ่ง Google ได้อีก — บริษัทจึงต้องลุกขึ้นมาสร้างทุกอย่างเอง ทั้ง HarmonyOS, ชิปเซ็ต, AI…และตอนนี้ก็ถึงคิวของ “ภาษาโปรแกรม” ภาษานี้มีชื่อว่า Cangjie (仓颉) ตามตำนานชาวจีนผู้คิดค้นตัวอักษร → มันถูกออกแบบให้ “ฉลาดตั้งแต่แกน” ด้วยการฝัง AI ไว้ในระดับ native → เขียนแอปได้เร็ว–ปลอดภัย–เชื่อมกับบริการ Huawei ได้ง่าย Cangjie ถูกใช้งานจริงแล้วบนแอปของ Meituan, JD.com และ HarmonyOS ต่าง ๆ → อย่างแอปส่งอาหาร Meituan บอกว่าจะใช้แอปที่เขียนด้วย Cangjie จริงใน Q3 ปีนี้ ข่าวใหญ่อยู่ตรงนี้ครับ: 🧑‍💻 ตั้งแต่ 30 ก.ค. 2025 เป็นต้นไป — Huawei จะเปิดซอร์ส Cangjie อย่างเป็นทางการ ใคร ๆ ก็เอาไปศึกษาต่อ พัฒนาเอง หรือแม้แต่พอร์ตไปใช้กับ Android/iOS ได้ เหมือนเป็น Java + Swift + AI + HarmonyOS ในหนึ่งเดียว! นี่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “ลดพึ่งซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ” อย่างต่อเนื่องของ Huawei — โดยจะใช้ Cangjie เป็นแกนกลางเชื่อมระบบปฏิบัติการ HarmonyOS Next + AI โมเดลของตัวเอง + CloudMatrix แพลตฟอร์มคลาวด์รุ่นใหม่ ✅ Huawei จะเปิดซอร์สภาษา Cangjie วันที่ 30 กรกฎาคม 2025 นี้   • นักพัฒนาเข้าใช้งานโค้ดได้ฟรี → แก้ไข เพิ่มฟีเจอร์ หรือใช้สร้างแอปเองได้   • ถือเป็นก้าวสำคัญต่อการพึ่งตนเองด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ✅ Cangjie รองรับการเขียนโปรแกรมแบบทั่วไป สำหรับ HarmonyOS Next เป็นหลัก   • เป็นระบบปฏิบัติการข้ามอุปกรณ์ของ Huawei   • ไม่ใช้ Android แต่มี support พอร์ตไป Android และ iOS ด้วย ✅ มี AI แบบ Native → ช่วยเขียนแอปที่ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ได้ง่ายขึ้น   • ฝังความสามารถของ AI ในภาษาโดยตรง   • เหมาะกับแอปยุคใหม่ที่เน้น personalization, automation ✅ ภาษานี้ถูกใช้จริงโดย Meituan, JD.com ฯลฯ แล้ว   • Meituan จะเปิดตัวแอปส่งอาหารที่เขียนด้วย Cangjie บน HarmonyOS ภายใน Q3 ปีนี้ ✅ Huawei มี ecosystem ขนาดใหญ่รองรับแล้ว   • HarmonyOS มีคนสมัครเป็นนักพัฒนาแล้วกว่า 8 ล้านคน   • มีแอป–มินิโปรแกรมกว่า 30,000 ตัว   • HarmonyOS 6 และ CloudMatrix 384 เป็นส่วนเสริมใหม่ของยุทธศาสตร์นี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/03/huawei-to-open-source-self-developed-programming-language-cangjie
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Huawei to open-source self-developed programming language Cangjie
    The language supports general programming for apps on HarmonyOS Next, Huawei's self-developed platform.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเคยคิดว่า “โรงงานผลิตแรม” จะมีขนาดใหญ่เท่าศูนย์ประชุม! Micron เปิดเผยว่าโรงงาน ID1 ที่ Boise, Idaho ซึ่งเป็นแห่งแรกในชุดนี้ กำลังสร้าง cleanroom ขนาด 600,000 ตารางฟุต — ใหญ่เทียบเท่าโรงงาน SK Hynix หรือ Samsung ในเกาหลีใต้เลย

    เป้าหมายคือภายใน 20 ปีข้างหน้า Micron จะลงทุนรวม $200,000 ล้าน (ประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท) ในการตั้งโรงงาน DRAM, สร้างแพ็กกิ้ง HBM ในเวอร์จิเนีย และขยาย R&D อย่างจริงจัง เพื่อให้สหรัฐฯ มีกำลังผลิต DRAM “อย่างน้อย 40%” อยู่ภายในประเทศ

    แผนนี้จะสร้างงานกว่า 90,000 ตำแหน่ง และทำให้สหรัฐฯ มีศูนย์กลางการผลิตหน่วยความจำแข่งกับเกาหลี–ญี่ปุ่น–ไต้หวันมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมาก

    แต่ในทางกลับกัน แม้ DRAM จะมีแผนลงหลักปักฐานในอเมริกาแล้ว — Micron ยังไม่ประกาศว่าจะย้ายการผลิต NAND มาในประเทศแต่อย่างใด ทำให้ “ศูนย์ถ่วงการผลิตแฟลช” อาจยังอยู่ที่เอเชียอีกนาน

    Micron ประกาศลงทุน $200,000 ล้านในสหรัฐฯ ตลอด 20 ปีข้างหน้า  
    • แบ่งเป็น $150B สำหรับผลิต DRAM และ $50B สำหรับงานวิจัย (R&D)  
    • ได้รับแรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมากมาย

    แผนประกอบด้วย:  
    • โรงงาน DRAM 2 แห่งใน Idaho  
    • โรงงาน DRAM 4 แห่งในนิวยอร์ก (Clay, NY)  
    • ส่วนแพ็กกิ้ง HBM (เช่น HBM5/6) ในเวอร์จิเนีย (Manassas)  
    • ตั้งเป้าผลิต DRAM ในสหรัฐฯ 40% ภายใน 10 ปี

    ID1 (โรงงานแรกในไอดาโฮ) จะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงครึ่งหลังปี 2027  
    • มี cleanroom ขนาด 600,000 ตร.ฟุต (ใหญ่พอ ๆ กับ Samsung/Hynix)  
    • ID2 จะสร้างติดกัน เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

    โรงงานในนิวยอร์กอยู่ระหว่างรอผลประเมินสิ่งแวดล้อม (EIA)  
    • คาดว่าเริ่มถมที่ปลายปี 2025

    Manassas, VA จะถูกอัปเกรดให้แพ็กกิ้ง HBM ได้เองในประเทศ  
    • แต่จะเริ่มหลังจากที่ DRAM แผ่นเวเฟอร์ในอเมริกาเพียงพอก่อน

    คาดว่าจะมีการจ้างงาน ~90,000 ตำแหน่ง (ตรง + อ้อม)  
    • ทั้งในสายงานวิศวกรรม, ก่อสร้าง, บริการ และ supply chain

    ตั้งเป้าให้ DRAM จากอเมริกาใช้ในระบบสำคัญ เช่น AI, คลาวด์, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เชิงยุทธศาสตร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-details-new-u-s-fab-projects-idaho-fab-1-comes-online-in-2h-2027-new-york-fabs-come-later-hbm-assembly-in-the-u-s
    ใครเคยคิดว่า “โรงงานผลิตแรม” จะมีขนาดใหญ่เท่าศูนย์ประชุม! Micron เปิดเผยว่าโรงงาน ID1 ที่ Boise, Idaho ซึ่งเป็นแห่งแรกในชุดนี้ กำลังสร้าง cleanroom ขนาด 600,000 ตารางฟุต — ใหญ่เทียบเท่าโรงงาน SK Hynix หรือ Samsung ในเกาหลีใต้เลย เป้าหมายคือภายใน 20 ปีข้างหน้า Micron จะลงทุนรวม $200,000 ล้าน (ประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท) ในการตั้งโรงงาน DRAM, สร้างแพ็กกิ้ง HBM ในเวอร์จิเนีย และขยาย R&D อย่างจริงจัง เพื่อให้สหรัฐฯ มีกำลังผลิต DRAM “อย่างน้อย 40%” อยู่ภายในประเทศ แผนนี้จะสร้างงานกว่า 90,000 ตำแหน่ง และทำให้สหรัฐฯ มีศูนย์กลางการผลิตหน่วยความจำแข่งกับเกาหลี–ญี่ปุ่น–ไต้หวันมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมาก แต่ในทางกลับกัน แม้ DRAM จะมีแผนลงหลักปักฐานในอเมริกาแล้ว — Micron ยังไม่ประกาศว่าจะย้ายการผลิต NAND มาในประเทศแต่อย่างใด ทำให้ “ศูนย์ถ่วงการผลิตแฟลช” อาจยังอยู่ที่เอเชียอีกนาน ✅ Micron ประกาศลงทุน $200,000 ล้านในสหรัฐฯ ตลอด 20 ปีข้างหน้า   • แบ่งเป็น $150B สำหรับผลิต DRAM และ $50B สำหรับงานวิจัย (R&D)   • ได้รับแรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมากมาย ✅ แผนประกอบด้วย:   • โรงงาน DRAM 2 แห่งใน Idaho   • โรงงาน DRAM 4 แห่งในนิวยอร์ก (Clay, NY)   • ส่วนแพ็กกิ้ง HBM (เช่น HBM5/6) ในเวอร์จิเนีย (Manassas)   • ตั้งเป้าผลิต DRAM ในสหรัฐฯ 40% ภายใน 10 ปี ✅ ID1 (โรงงานแรกในไอดาโฮ) จะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงครึ่งหลังปี 2027   • มี cleanroom ขนาด 600,000 ตร.ฟุต (ใหญ่พอ ๆ กับ Samsung/Hynix)   • ID2 จะสร้างติดกัน เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ✅ โรงงานในนิวยอร์กอยู่ระหว่างรอผลประเมินสิ่งแวดล้อม (EIA)   • คาดว่าเริ่มถมที่ปลายปี 2025 ✅ Manassas, VA จะถูกอัปเกรดให้แพ็กกิ้ง HBM ได้เองในประเทศ   • แต่จะเริ่มหลังจากที่ DRAM แผ่นเวเฟอร์ในอเมริกาเพียงพอก่อน ✅ คาดว่าจะมีการจ้างงาน ~90,000 ตำแหน่ง (ตรง + อ้อม)   • ทั้งในสายงานวิศวกรรม, ก่อสร้าง, บริการ และ supply chain ✅ ตั้งเป้าให้ DRAM จากอเมริกาใช้ในระบบสำคัญ เช่น AI, คลาวด์, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เชิงยุทธศาสตร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-details-new-u-s-fab-projects-idaho-fab-1-comes-online-in-2h-2027-new-york-fabs-come-later-hbm-assembly-in-the-u-s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ปาหี่แหกตาประชาชนคนไทยอีกแล้ว,ปิดด่านคือปิดด่าน,พอเถอะปิดครึ่งๆกลางๆปิดแบบให้มาการเข้าออกได้อยู่,รถเจ้าสัวกู รถนายกู รถพวกกู รถสาระพัดรถอีกล่ะ,เหี้ยเหมือนเดิม,เด็ดขาดคือเด็ดขาด,นี้สามารถลักลอบอะไรๆได้หมดเหมือนเดิมส่งเสบียงช่วยทัพศัตรูคนของชาติศัตรูเหมือนเดิม,ไม่ตัดลมตัดตอนตัดขาดลงโทษการคุกคามภัยรุกรานอธิปไตยชาติไทยห่าอะไรเลย,ส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวทำไมอีก,ปิดด่านคือปิดด่าน,ส่วนตัวถือว่าภัยนี้ร้ายแรง,คนไทยหรือใดๆใครๆห้ามผ่านทุกๆกรณี,ระเบิดถนนหนทาง ระเบิดเสาไฟฟ้าเชื่อมต่อสายส่งไปเขมรทั้งหมด,ตัดสายเคเบิลทะเลทิ้งที่ผ่านไทยไปเขมร ตัดคลื่นมือถือตัดเน็ต ระงับอายัดซิมไทยที่มีสัญญาณในเขมรทั้งหมด,อาชญากรรมใดๆสามารถเคลื่อนย้ายผ่านวัตถุที่ผ่านเข้าออกพรมแดนได้หมด, คำสั่งไม่เด็ดขาดอะไรเลย,ปิดด่านเพื่อลงโทษเขมร ต้องปิดด่านจริงๆแต่เล่นขายของแบบนี้เลี้ยงไข้เลี้ยงเชื้อแบบนี้ใช้ไม่ได้,ศึกสมควรจบเร็วเสือกไม่อยากให้จบเร็ว,เลี้ยงไข้ห่าอะไร,ตลอดพรมแดนต้องปิดการเข้าออกทุกๆรูปแบบ,อย่าใจอ่อนเด็ดขาด,นี้คือภัยคุกคาม,นี้คือภัยรุกราน,นี้ไม่ใช่เกมส์นี้คือชีวิตจริงและความปลอดภัยของคนไทยเราจริง,อย่าประมาท,ก็รู้อยู่ว่ามันมีโอกาสจะทำเราคืนทันทีแน่นอนคนสันดานแบบนี้จะใจอ่อนทำซากอะไรในคนเขมรเวลานี้,
    ..รถบรรทุกพวกนี้สร้างความแตกแยกแตกระเบียบแตกกฎเกณฑ์ในภาวะสงครามนะมิใช่ภาวะปกติ เห็นแก่ตัวอยากข้ามไปข้ามมาทำกำไรทำผลประโยชน์ ทหารไทยก็เสียหมาด้วย ออกคำสั่งบอกประชาชนไม่เป็นคำสั่งเพื่อลงโทษต่อภัยคุกคามเราจริง,ปิดด่านคือปิดด่านจริงๆเถอะห้ามการเข้าออกจริงๆสัก2-3เดือนจริงๆ ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟตัดเน็ตก็ทำจริงๆด้วย,สินค้าห้ามเข้าเขมรทุกๆกรณีทหารก็ต้องปฏิบัติจริงด้วย,สร้างว่าปิดด่านปิดด่าน ที่ไหนได้ เปิด8โมงปิด4โมงเย็นพะนะ,ปิดด่านเหี้ยอะไรแบบนี้,เลอะเทอะความหมายสั่งการ,คนไทยเขาเข้าใจชัดเจนทันทีว่า ปิดด่านคือการห้ามเข้าออกตลอดกลางวันและกลางคืนโน้นโดยสามัญความคิดพื้นฐาน นี้วลีบาลีมุกเลี่ยงคำชัดๆเลี่ยงความหมายการถือปฏิบัติอีก,คำสั่งที่บัดสบเพื่อตอบโต้เขมร เราเห็นประกาศนี้แหกตาเกินไปจริงๆ,ลงโทษศัตรูคุกคามอธิปไตยเราแบบกากๆยังใจอ่อนต่อศัตรูตนเอง หากใจอ่อนแล้วเกิดสงครามรบจริงทหารนายพลห่าเหวนี้ก็เรียกทหารกองหนุนกองใดๆจากประชาชนเข้าร่วมรบอีกเพราะเหี้ยไม่เด็ดขาดตัดไฟตัดตอนปัญหาจริงเด็ดขาดแก่ศัตรูเลี้ยงไข้จนมากำลังจากนั้นก็มาทำสงครามสู้รบกับมันล่ะ,,น่าผิดหวังนายพลผู้บังคับบัญชามาก ไม่เด็ดขาดลงโทษสั่งสอนเขมร,ปิดด่านคือปิดด่าน คนเขมรจะเป็นตายก็ชั่งหัวมันกับพวกเนรคุณทรยศประเทศไทยเหยียบธงชาติไทยเราด้วย,คนเขมรหากสำนึกดีชั่วเลวได้ โน้นต้องไปล้มฮุนเซนคนปกครองมันของคนเขมรมึงโน้น,อย่ามาอ้างให้ทหารไทยเมตตาสงสารตนคนเขมรผู้บริสุทธิ์ตาดำพะนะ,ตาหน้าสงสารใบหน้าดูซื่อก็ว่า,แล้วก็มาเหี้ยเปิดด่านตรงนั่นตรงนี้ปกติให้อีก,พอเถอะทหารไทยเราปิดด่านคือปืดด่านจริงๆ,หากขนอาหารไปช่วยศัตรูฮุนเซนก็บอกตรงๆไป,สร้างความแตกแยกภายในเขมรตรงๆเลย,ช่วยทหารเขมรทรยศออกจากเขมรก็ช่วยไปของสายการทหาร,แต่อย่าไม่เด็ดขาดให้มีการเข้าออกด่านเหมือนเป็นปกติส่งนั่นนี้เสบียงปกติให้ทัพศัตรูมีอดกมีกินมีแรงมาทำสงครามอีกเลี้ยงสงครามทำเหี้ยอะไรมายาวนานลากยาวขนาดนี้,อยากให้อีสานเหมือนสามจังหวัดชายแดนใต้เหรอทหารท่าน,สามจังหวัดอีสานชายแดนอีสานใต้พะนะ,เปิดยุทธศาสตร์สนามรบแห่งใหม่ ตังท่อน้ำเลี้ยงแห่งใหม่แทนสามจังหวัดชายแดนใต้คือแหล่งทำเงินแดกเงินภัยคุกคามแห่งใหม่แดกงบประมาณแผ่นดินที่ใหม่คืออีสานใต้นี้แทนสามจังหวัดชายแดนใต้พะนะก็ว่า,มันสมควรจบสงครามนี้จริงๆ,เหี้ยฮุนเซนเล่นหมากเล่นเกมส์กับทักษิณแค่นั้นไม่มีห่าอะไร,ผีบ้าที่ไหนชิงตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟตัดเน็ตตัวเองก่อน มุกแหกตาปาหี่หลอกลวงประชาชนผ่านสื่อทั้งนั่น,เตรียมกันหมดแล้ว ใช้สื่อปั่นกระแสช่วยอีก,ฮุนเซนกับโทนี่สนิทกันโคตรๆขนาดนั้นยากหรอกจะหักหลังกัน มันช่วยเหลือกันแน่นอน,นอกจากโทนี่คือตัวปลอม ฮุนเซนคือตัวปลอม เล่นละครเพื่อจบตัวเองทั้งสองฝ่าย,คือฮุนเซนตัวปลอมแฉโทนี่ตัวปลอม,โทนี่ตัวปลอมก็ทำฮุนเซนตัวปลอมล่มละลายเสื่อมอำนาจยุคฮุนเซน คือจุดจบตัวเองทั้งสองนั่นล่ะ ละครฉากจะจบตัวเองนั้นเอง,ฮุนเซนชิงตัดไฟตัดน้ำมันก่อนก็ผีบ้าพอแล้ว,มีอะไรตรึมที่ผีบ้าคนนี้คิดออกมาแต่ไม่ทำลายสัมพันธ์จริงกับไทย,ให้เกียรติไทยก่อน ไทยสั่งตัดน้ำตัดไฟก่อน ไทยอาจเสียภาพลักษณ์ก็ว่า,มุกกวนตีนกวนประสาทมากมายอีก,และรู้ว่าไปศาลโลกไม่ได้แต่ปั่นกระแสอีก,โทนี่ตัวปลอมไปหลอกลวงฮุนเซนโคตรๆก็ได้อีกจนออกมาแฉตัวเอง,
    ..มีคนจัดฉากและกำกับสองคนนี้เล่นบทแน่นอน.ฮุนเซนกับทักษิณ,ส่วนจะจบทางดีหรือไม่ดีคงขึ้นอยู่กับคนจัดบทจัดฉาก.

    ..https://youtube.com/watch?v=pFQeQ11fUoQ&si=vbcSLGBNj_yGzogE
    ..ปาหี่แหกตาประชาชนคนไทยอีกแล้ว,ปิดด่านคือปิดด่าน,พอเถอะปิดครึ่งๆกลางๆปิดแบบให้มาการเข้าออกได้อยู่,รถเจ้าสัวกู รถนายกู รถพวกกู รถสาระพัดรถอีกล่ะ,เหี้ยเหมือนเดิม,เด็ดขาดคือเด็ดขาด,นี้สามารถลักลอบอะไรๆได้หมดเหมือนเดิมส่งเสบียงช่วยทัพศัตรูคนของชาติศัตรูเหมือนเดิม,ไม่ตัดลมตัดตอนตัดขาดลงโทษการคุกคามภัยรุกรานอธิปไตยชาติไทยห่าอะไรเลย,ส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวทำไมอีก,ปิดด่านคือปิดด่าน,ส่วนตัวถือว่าภัยนี้ร้ายแรง,คนไทยหรือใดๆใครๆห้ามผ่านทุกๆกรณี,ระเบิดถนนหนทาง ระเบิดเสาไฟฟ้าเชื่อมต่อสายส่งไปเขมรทั้งหมด,ตัดสายเคเบิลทะเลทิ้งที่ผ่านไทยไปเขมร ตัดคลื่นมือถือตัดเน็ต ระงับอายัดซิมไทยที่มีสัญญาณในเขมรทั้งหมด,อาชญากรรมใดๆสามารถเคลื่อนย้ายผ่านวัตถุที่ผ่านเข้าออกพรมแดนได้หมด, คำสั่งไม่เด็ดขาดอะไรเลย,ปิดด่านเพื่อลงโทษเขมร ต้องปิดด่านจริงๆแต่เล่นขายของแบบนี้เลี้ยงไข้เลี้ยงเชื้อแบบนี้ใช้ไม่ได้,ศึกสมควรจบเร็วเสือกไม่อยากให้จบเร็ว,เลี้ยงไข้ห่าอะไร,ตลอดพรมแดนต้องปิดการเข้าออกทุกๆรูปแบบ,อย่าใจอ่อนเด็ดขาด,นี้คือภัยคุกคาม,นี้คือภัยรุกราน,นี้ไม่ใช่เกมส์นี้คือชีวิตจริงและความปลอดภัยของคนไทยเราจริง,อย่าประมาท,ก็รู้อยู่ว่ามันมีโอกาสจะทำเราคืนทันทีแน่นอนคนสันดานแบบนี้จะใจอ่อนทำซากอะไรในคนเขมรเวลานี้, ..รถบรรทุกพวกนี้สร้างความแตกแยกแตกระเบียบแตกกฎเกณฑ์ในภาวะสงครามนะมิใช่ภาวะปกติ เห็นแก่ตัวอยากข้ามไปข้ามมาทำกำไรทำผลประโยชน์ ทหารไทยก็เสียหมาด้วย ออกคำสั่งบอกประชาชนไม่เป็นคำสั่งเพื่อลงโทษต่อภัยคุกคามเราจริง,ปิดด่านคือปิดด่านจริงๆเถอะห้ามการเข้าออกจริงๆสัก2-3เดือนจริงๆ ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟตัดเน็ตก็ทำจริงๆด้วย,สินค้าห้ามเข้าเขมรทุกๆกรณีทหารก็ต้องปฏิบัติจริงด้วย,สร้างว่าปิดด่านปิดด่าน ที่ไหนได้ เปิด8โมงปิด4โมงเย็นพะนะ,ปิดด่านเหี้ยอะไรแบบนี้,เลอะเทอะความหมายสั่งการ,คนไทยเขาเข้าใจชัดเจนทันทีว่า ปิดด่านคือการห้ามเข้าออกตลอดกลางวันและกลางคืนโน้นโดยสามัญความคิดพื้นฐาน นี้วลีบาลีมุกเลี่ยงคำชัดๆเลี่ยงความหมายการถือปฏิบัติอีก,คำสั่งที่บัดสบเพื่อตอบโต้เขมร เราเห็นประกาศนี้แหกตาเกินไปจริงๆ,ลงโทษศัตรูคุกคามอธิปไตยเราแบบกากๆยังใจอ่อนต่อศัตรูตนเอง หากใจอ่อนแล้วเกิดสงครามรบจริงทหารนายพลห่าเหวนี้ก็เรียกทหารกองหนุนกองใดๆจากประชาชนเข้าร่วมรบอีกเพราะเหี้ยไม่เด็ดขาดตัดไฟตัดตอนปัญหาจริงเด็ดขาดแก่ศัตรูเลี้ยงไข้จนมากำลังจากนั้นก็มาทำสงครามสู้รบกับมันล่ะ,,น่าผิดหวังนายพลผู้บังคับบัญชามาก ไม่เด็ดขาดลงโทษสั่งสอนเขมร,ปิดด่านคือปิดด่าน คนเขมรจะเป็นตายก็ชั่งหัวมันกับพวกเนรคุณทรยศประเทศไทยเหยียบธงชาติไทยเราด้วย,คนเขมรหากสำนึกดีชั่วเลวได้ โน้นต้องไปล้มฮุนเซนคนปกครองมันของคนเขมรมึงโน้น,อย่ามาอ้างให้ทหารไทยเมตตาสงสารตนคนเขมรผู้บริสุทธิ์ตาดำพะนะ,ตาหน้าสงสารใบหน้าดูซื่อก็ว่า,แล้วก็มาเหี้ยเปิดด่านตรงนั่นตรงนี้ปกติให้อีก,พอเถอะทหารไทยเราปิดด่านคือปืดด่านจริงๆ,หากขนอาหารไปช่วยศัตรูฮุนเซนก็บอกตรงๆไป,สร้างความแตกแยกภายในเขมรตรงๆเลย,ช่วยทหารเขมรทรยศออกจากเขมรก็ช่วยไปของสายการทหาร,แต่อย่าไม่เด็ดขาดให้มีการเข้าออกด่านเหมือนเป็นปกติส่งนั่นนี้เสบียงปกติให้ทัพศัตรูมีอดกมีกินมีแรงมาทำสงครามอีกเลี้ยงสงครามทำเหี้ยอะไรมายาวนานลากยาวขนาดนี้,อยากให้อีสานเหมือนสามจังหวัดชายแดนใต้เหรอทหารท่าน,สามจังหวัดอีสานชายแดนอีสานใต้พะนะ,เปิดยุทธศาสตร์สนามรบแห่งใหม่ ตังท่อน้ำเลี้ยงแห่งใหม่แทนสามจังหวัดชายแดนใต้คือแหล่งทำเงินแดกเงินภัยคุกคามแห่งใหม่แดกงบประมาณแผ่นดินที่ใหม่คืออีสานใต้นี้แทนสามจังหวัดชายแดนใต้พะนะก็ว่า,มันสมควรจบสงครามนี้จริงๆ,เหี้ยฮุนเซนเล่นหมากเล่นเกมส์กับทักษิณแค่นั้นไม่มีห่าอะไร,ผีบ้าที่ไหนชิงตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟตัดเน็ตตัวเองก่อน มุกแหกตาปาหี่หลอกลวงประชาชนผ่านสื่อทั้งนั่น,เตรียมกันหมดแล้ว ใช้สื่อปั่นกระแสช่วยอีก,ฮุนเซนกับโทนี่สนิทกันโคตรๆขนาดนั้นยากหรอกจะหักหลังกัน มันช่วยเหลือกันแน่นอน,นอกจากโทนี่คือตัวปลอม ฮุนเซนคือตัวปลอม เล่นละครเพื่อจบตัวเองทั้งสองฝ่าย,คือฮุนเซนตัวปลอมแฉโทนี่ตัวปลอม,โทนี่ตัวปลอมก็ทำฮุนเซนตัวปลอมล่มละลายเสื่อมอำนาจยุคฮุนเซน คือจุดจบตัวเองทั้งสองนั่นล่ะ ละครฉากจะจบตัวเองนั้นเอง,ฮุนเซนชิงตัดไฟตัดน้ำมันก่อนก็ผีบ้าพอแล้ว,มีอะไรตรึมที่ผีบ้าคนนี้คิดออกมาแต่ไม่ทำลายสัมพันธ์จริงกับไทย,ให้เกียรติไทยก่อน ไทยสั่งตัดน้ำตัดไฟก่อน ไทยอาจเสียภาพลักษณ์ก็ว่า,มุกกวนตีนกวนประสาทมากมายอีก,และรู้ว่าไปศาลโลกไม่ได้แต่ปั่นกระแสอีก,โทนี่ตัวปลอมไปหลอกลวงฮุนเซนโคตรๆก็ได้อีกจนออกมาแฉตัวเอง, ..มีคนจัดฉากและกำกับสองคนนี้เล่นบทแน่นอน.ฮุนเซนกับทักษิณ,ส่วนจะจบทางดีหรือไม่ดีคงขึ้นอยู่กับคนจัดบทจัดฉาก. ..https://youtube.com/watch?v=pFQeQ11fUoQ&si=vbcSLGBNj_yGzogE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้:

    ---

    ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):**
    1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:**
    - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา)
    - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้

    2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:**
    - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา)
    - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา

    3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:**
    - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ

    ---

    ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):**
    1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:**
    - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย

    2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:**
    - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย

    3. **ภัยคุกคามทางทะเล:**
    - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน

    4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:**
    - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง

    ---

    ### **สรุป:**
    อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน:
    - การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
    - ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย
    - การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ

    ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้: --- ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):** 1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:** - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา) - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้ 2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:** - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา) - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา 3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:** - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ --- ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):** 1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:** - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย 2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:** - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย 3. **ภัยคุกคามทางทะเล:** - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน 4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:** - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง --- ### **สรุป:** อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน: - ✅ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - ✅ ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย - ✅ การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวความมั่งคงระบุ “ฮุนเซน” อ้างอาวุธกัมพูชาสามารถยิงไกลถึงกรุงเทพฯ เป็นแค่คำพูดเชิงยุทธศาสตร์ที่ไร้น้ำหนัก เพราะกัมพูชายังไม่มีอาวุธพิสัยไกลที่ยิงได้เกิน 200 กม.ไม่มีระบบควบคุมการยิงที่รองรับ ไม่มีเครื่องบินขับไล่ที่จะนำอาวุธไปปล่อยระยไกลได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060654

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แหล่งข่าวความมั่งคงระบุ “ฮุนเซน” อ้างอาวุธกัมพูชาสามารถยิงไกลถึงกรุงเทพฯ เป็นแค่คำพูดเชิงยุทธศาสตร์ที่ไร้น้ำหนัก เพราะกัมพูชายังไม่มีอาวุธพิสัยไกลที่ยิงได้เกิน 200 กม.ไม่มีระบบควบคุมการยิงที่รองรับ ไม่มีเครื่องบินขับไล่ที่จะนำอาวุธไปปล่อยระยไกลได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060654 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตีฐานยุทธศาสตร์ทางทหารของ “อิสราเอล” หลายครั้ง ซึ่งเรายังคงไม่มีโอกาสได้รายงาน ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ผู้คนไม่รู้ว่าขีปนาวุธอิหร่านแม่นยำแค่ไหน และสร้างความเสียหายไปมากเพียงใดในหลายๆ แห่ง”

    ช่อง 13 ของอิสราเอลกล่าวยอมรับ:
    “ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตีฐานยุทธศาสตร์ทางทหารของ “อิสราเอล” หลายครั้ง ซึ่งเรายังคงไม่มีโอกาสได้รายงาน ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ผู้คนไม่รู้ว่าขีปนาวุธอิหร่านแม่นยำแค่ไหน และสร้างความเสียหายไปมากเพียงใดในหลายๆ แห่ง” ช่อง 13 ของอิสราเอลกล่าวยอมรับ:
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1262 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีงานวิจัยจาก University of Georgia วิเคราะห์แผนยุทธศาสตร์ด้าน AI ของ 50 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นเรื่อง “การเตรียมคน” ผ่านนโยบายด้านการศึกษาและอาชีวะ ฝั่งยุโรป (เช่น เยอรมนี สเปน) ดูจะนำหน้าชัดเจน เพราะให้ความสำคัญสูงมากในเรื่อง lifelong learning และการฝึกอบรม AI สำหรับแรงงานทุกช่วงวัย

    ในขณะที่สหรัฐ, ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศอยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับกลาง” คือรู้ว่า AI สำคัญ แต่ยังไม่มีแผนจัดเต็มในระดับชาติเหมือนยุโรป

    สิ่งที่น่าสนใจคือ มีเพียง “13 จาก 50 ประเทศ” เท่านั้นที่ให้ AI training อยู่ในระดับความสำคัญสูงสุด — และมีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่กล้าเริ่มสอน AI ตั้งแต่ชั้นประถมหรืออนุบาลเลย

    แต่แม้จะพูดถึง AI เป็นเรื่องใหญ่ สิ่งหนึ่งที่กลับถูกมองข้ามคือ “soft skills” แบบมนุษย์ เช่น การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น — ซึ่งนักวิจัยเตือนว่าทักษะเหล่านี้คือสิ่งที่ AI แทนไม่ได้ และจะเป็น “จุดต่างสำคัญของมนุษย์ในที่ทำงานอนาคต”

    งานวิจัยสำรวจแผนพัฒนาทักษะ AI ของ 50 ประเทศ พบว่าเพียง 13 ประเทศให้ความสำคัญสูงสุด  
    • 11 ประเทศในยุโรป + เม็กซิโก + ออสเตรเลีย อยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับสูง”  
    • สหรัฐ, ญี่ปุ่น และอีก 22 ประเทศ จัดอยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับกลาง”

    เกณฑ์วัดระดับความพร้อม ได้แก่:  
    • เป้าหมายระดับชาติ, วิธีการดำเนินงาน, ตัวอย่างโครงการ, ตัวชี้วัดความสำเร็จ, เครื่องมือสนับสนุน, และแผนระยะเวลา

    ประเทศที่เตรียมพร้อมสูงจะมีแผนบูรณาการตั้งแต่ระดับประถม – มหาวิทยาลัย – ที่ทำงาน  
    • เยอรมนีสร้างวัฒนธรรมส่งเสริมความสนใจด้าน AI  
    • สเปนเริ่มสอนพื้นฐาน AI ตั้งแต่ระดับอนุบาล

    มากกว่าครึ่งของประเทศมีนโยบายฝึกอบรมพนักงานในองค์กรแบบเฉพาะอุตสาหกรรม  
    • หลายประเทศสร้างหลักสูตรฝึกอบรม AI สำหรับงานเฉพาะทาง เช่น การผลิต, การแพทย์, พลังงาน

    บางประเทศ (เช่นในเอเชีย) มุ่งเน้นด้านความมั่นคงและสาธารณสุข มากกว่าการพัฒนาทักษะแรงงานโดยตรง

    ทักษะ AI เริ่มกลายเป็น "ข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน" ระหว่างประเทศในอนาคต  
    • ใครเตรียมคนไว้ก่อน = พร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ก่อน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/the-world-is-preparing-for-the-age-of-ai-in-the-workplace-but-not-at-the-same-pace
    มีงานวิจัยจาก University of Georgia วิเคราะห์แผนยุทธศาสตร์ด้าน AI ของ 50 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นเรื่อง “การเตรียมคน” ผ่านนโยบายด้านการศึกษาและอาชีวะ ฝั่งยุโรป (เช่น เยอรมนี สเปน) ดูจะนำหน้าชัดเจน เพราะให้ความสำคัญสูงมากในเรื่อง lifelong learning และการฝึกอบรม AI สำหรับแรงงานทุกช่วงวัย ในขณะที่สหรัฐ, ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศอยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับกลาง” คือรู้ว่า AI สำคัญ แต่ยังไม่มีแผนจัดเต็มในระดับชาติเหมือนยุโรป สิ่งที่น่าสนใจคือ มีเพียง “13 จาก 50 ประเทศ” เท่านั้นที่ให้ AI training อยู่ในระดับความสำคัญสูงสุด — และมีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่กล้าเริ่มสอน AI ตั้งแต่ชั้นประถมหรืออนุบาลเลย แต่แม้จะพูดถึง AI เป็นเรื่องใหญ่ สิ่งหนึ่งที่กลับถูกมองข้ามคือ “soft skills” แบบมนุษย์ เช่น การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น — ซึ่งนักวิจัยเตือนว่าทักษะเหล่านี้คือสิ่งที่ AI แทนไม่ได้ และจะเป็น “จุดต่างสำคัญของมนุษย์ในที่ทำงานอนาคต” ✅ งานวิจัยสำรวจแผนพัฒนาทักษะ AI ของ 50 ประเทศ พบว่าเพียง 13 ประเทศให้ความสำคัญสูงสุด   • 11 ประเทศในยุโรป + เม็กซิโก + ออสเตรเลีย อยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับสูง”   • สหรัฐ, ญี่ปุ่น และอีก 22 ประเทศ จัดอยู่ในกลุ่ม “ให้ความสำคัญระดับกลาง” ✅ เกณฑ์วัดระดับความพร้อม ได้แก่:   • เป้าหมายระดับชาติ, วิธีการดำเนินงาน, ตัวอย่างโครงการ, ตัวชี้วัดความสำเร็จ, เครื่องมือสนับสนุน, และแผนระยะเวลา ✅ ประเทศที่เตรียมพร้อมสูงจะมีแผนบูรณาการตั้งแต่ระดับประถม – มหาวิทยาลัย – ที่ทำงาน   • เยอรมนีสร้างวัฒนธรรมส่งเสริมความสนใจด้าน AI   • สเปนเริ่มสอนพื้นฐาน AI ตั้งแต่ระดับอนุบาล ✅ มากกว่าครึ่งของประเทศมีนโยบายฝึกอบรมพนักงานในองค์กรแบบเฉพาะอุตสาหกรรม   • หลายประเทศสร้างหลักสูตรฝึกอบรม AI สำหรับงานเฉพาะทาง เช่น การผลิต, การแพทย์, พลังงาน ✅ บางประเทศ (เช่นในเอเชีย) มุ่งเน้นด้านความมั่นคงและสาธารณสุข มากกว่าการพัฒนาทักษะแรงงานโดยตรง ✅ ทักษะ AI เริ่มกลายเป็น "ข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขัน" ระหว่างประเทศในอนาคต   • ใครเตรียมคนไว้ก่อน = พร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ก่อน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/the-world-is-preparing-for-the-age-of-ai-in-the-workplace-but-not-at-the-same-pace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The world is preparing for the age of AI in the workplace, but not at the same pace
    There's no doubt that artificial intelligence will profoundly transform the job market in the coming decades. But how are governments preparing their citizens for this revolution?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวเยอรมันที่มาทำข่าวในอิสราเอลระบายให้ฟังว่า:

    “อิสราเอลไม่อนุญาตให้เราถ่ายทำหรือรายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ของความเสียหายที่เกิดจากขีปนาวุธอิหร่านต่อสถานที่ทางทหารและยุทธศาสตร์

    เราได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ผลกระทบเฉพาะในพื้นที่พลเรือนเท่านั้น”

    คุณไม่รู้หรอกว่าอิหร่านโจมตีเป้าหมายทางทหารไปกี่เป้าหมาย!
    นักข่าวเยอรมันที่มาทำข่าวในอิสราเอลระบายให้ฟังว่า: “อิสราเอลไม่อนุญาตให้เราถ่ายทำหรือรายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ของความเสียหายที่เกิดจากขีปนาวุธอิหร่านต่อสถานที่ทางทหารและยุทธศาสตร์ เราได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ผลกระทบเฉพาะในพื้นที่พลเรือนเท่านั้น” คุณไม่รู้หรอกว่าอิหร่านโจมตีเป้าหมายทางทหารไปกี่เป้าหมาย!
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 33 0 รีวิว
Pages Boosts